รายการ อนุบาลปีท่ี ๑
คณติ ศาสตร์
- นบั และแสดงจำนวน ๑ - ๕ - นบั และแ
วทิ ยาศาสตร์
- เปรียบเทียบจำนวนของสง่ิ ต่ำง ๆ สองกล่มุ - เปรียบเท
โดยแต่ละกลมุ่ มจี ำนวนไม่เกิน 5 ว่ำมจี ำนวน โดยแตล่ ะ
หรือไม่เทำ่ กนั ว่ำมจี ำนว
- บอกจำนวนที่เหลือเมือ่ แยกกลุ่มย่อย - บอกจำน
ออกกล่มุ ใหญ่ทม่ี จี ำนวนไมเ่ กิน 5 จำกกลมุ่ ใ
- กำรสงั เกตส่ิงตำ่ ง ๆ และสถำนทีจ่ ำกมุมมอง - บอกตำแ
ทตี่ ่ำงกัน จำแนกภำพด้ำนตรง ด้ำนขำ้ ง คำขำ้ งบน
ข้ำงหน้ำ ข
ตำมตำแห
- สำรวจกำรใชพ้ ลังงำนในชีวิตประจำวัน และ - สำรวจก
สื่อสำร ผลกำรสำรวจดว้ ยวธิ ีกำรที่เหมำะสม สอ่ื สำรผล
กับวัย กับวัย
- แสดงวิธ
ไฟฟ้ำ อย
ประหยดั พ
อนุบาลปีที่ ๒ อนบุ าลปีท่ี ๓
แสดงจำนวน 1 - 10 - นบั และแสดงจำนวน 1 - 17
ทียบจำนวนของส่งิ ต่ำง ๆ สองกล่มุ - เปรยี บเทียบจำนวนของส่ิงต่ำง ๆ สองกลุม่
ะกลมุ่ มีจำนวนไมเ่ กนิ 10 โดยแต่ละกล่มุ มีจำนวนไมเ่ กิน 17 ว่ำมี
วนเท่ำกนั หรือไมเ่ ทำ่ กนั จำนวนเทำ่ กันหรือไม่เทำ่ กัน
นวนท่ีเหลอื เม่ือแยกกลุ่มยอ่ ยออก - บอกจำนวนทเ่ี หลอื เม่ือแยกกลมุ่ ยอ่ ยออก
ใหญท่ มี่ ีจำนวนไมเ่ กิน 10 จำกกลุ่มใหญท่ ม่ี ีจำนวนไม่เกิน 17
แหนง่ ของส่ิงตำ่ ง ๆ ทก่ี ำหนด โดยใช้ - สังเกตส่งิ ของหรือสำรวจสถำนท่ีต่ำง ๆ
น ขำ้ งลำ่ ง ขำ้ งใน ขำ้ งนอก บอกหรือวำดภำพเกยี่ วกับลกั ษณะและ
ขำ้ งหลังและแสดงสิ่งต่ำง ๆ ตำแหน่งของส่งิ ของสถำนท่ีจำกมุมมองต่ำง ๆ
หนง่ ทก่ี ำหนด
กำรใช้พลังงำนในชีวิตประจำวนั และ - สำรวจกำรใช้พลังงำนในชวี ิตประจำวันและ
ลกำรสำรวจด้วยวิธกี ำรทีเ่ หมำะสม สอ่ื สำรผลกำรสำรวจด้วยวธิ กี ำรท่เี หมำะสม
กับวยั
ธกี ำรใช้สง่ิ ของเคร่อื งใช้ที่ใชพ้ ลงั งำน - แสดงวิธกี ำรใช้ส่งิ ของเคร่ืองใช้ท่ีใชพ้ ลังงำน
ยำ่ งถูกตอ้ งเหมำะสม ปลอดภัยและ ไฟฟำ้ อยำ่ งถกู ต้องเหมำะสม ปลอดภยั และ
พลังงำน ประหยัดพลงั งำน
- สบื ค้นข้อมูล เกีย่ วกับประโยชนแ์ ละโทษ
ที่เกดิ จำกกำรใช้พลงั งำน
รายการ อนบุ าลปที ่ี ๑ ๑. กำรฟัง
๒. กำรอำ่
พฒั นาการทางภาษา ๑. กำรฟงั และปฏบิ ัตติ ำมคำแนะนำ ๓. กำรเห
และการรหู้ นังสอื ๒. กำรฟังเพลง นิทำน คำคล้องจอง ๔. กำรรอ
๓. กำรอำ่ นหนงั สอื ภำพ ๕. รูจ้ กั ส่ว
ปกใน ช่ือผ
๖. กำรเห
อนุบาลปีที่ ๒ อนบุ าลปีที่ ๓
๑. การฟังและปฏิบัติตามคาแนะนา
งและปฏิบตั ิตำมคำแนะนำ
ำนหนงั สือภำพ นิทำน ๒. กำรคำดคะเน เรือ่ งจำกปกหนงั สอื
หน็ แบบอยำ่ งกำรอำ่ นท่ถี ูกต้อง ๓. กำรอ่ำนหนังสือภำพ นทิ ำน
อจังหวะที่เหมำะสมในกำรพูด ๔. กำรเห็นแบบอย่ำงกำรอ่ำนท่ถี กู ต้อง
วนประกอบหนงั สือ ปกหนำ้ ๕. กำรรอจังหวะท่เี หมำะสมในกำรพดู
ผู้แตง่ ผวู้ ำดภำพ เนื้อเรอื่ ง ๖. รู้จักสว่ นประกอบหนังสอื ปกหน้ำ ปกใน
ห็นแบบอย่ำงกำรเขียนทถ่ี ูกต้อง ช่ือผ้แู ตง่ ผวู้ ำดภำพ เนอื้ เร่ือง
๗. กำรต้งั คำถำมในเร่อื งท่ีสนใจ
๘. กำรเห็นแบบอยำ่ งกำรเขียนท่ถี กู ต้อง
หนว่ ยการจัดประสบการณ์ท่ี 32 แรงและพ
แนวคดิ
กำรออกแรงกระทำต่อสิง่ ของดว้ ยวิธีต่ำง ๆ เช่น ผลัก ดงึ บีบ ทบุ ตี เป่ำ เข
เชน่ เสยี งแบบตำ่ ง ๆ แสง และไฟฟำ้ ไดจ้ ำกแหลง่ พลงั งำน เชน่ ดวงอำทติ ย์ ลม น้ำ เช
มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จุดป
มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ 1.เคลอื่ น
มาตรฐานที่ 2 คล่องแค
กลำ้ มเนือ้ ใหญ่และ 2.1 เคลอื่ นไหวรำ่ งกำย ๒.๑.๓ ว่ิงหลบหลกี สง่ิ กีด และทรง
กล้ำมเนื้อเล็กแข็งแรง
ใช้ได้อย่ำงคลอ่ งและ อย่ำงคล่องแคล่วประสำน ขวำงได้
ประสำนสมั พนั ธก์ นั
สัมพันธ์และทรงตวั ได้
2.2 ใช้มือ-ตำประสำน 2.2.1 ใช้กรรไกรตดั 2. ใช้กร
สมั พนั ธ์กัน กระดำษตำมแนวเสน้ ตรง กจิ กรรม
ได้
พลงั งานในชวี ิตประจาวัน ช้ันอนุบาลปีท่ี ๒
ขยำ่ ดีด สิ่งของจะมีกำรเปลยี่ นแปลงรูปรำ่ ง กำรเคลือ่ นทแี่ ละกำรเกดิ สงิ่ ใหม่ขนึ้ ได้
ชอ้ื เพลงิ หรือจำกสิ่งมชี วี ติ เช่น คน สัตว์
ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้
นไหวร่ำงกำยอย่ำง ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้
คล่วประสำนสมั พนั ธ์
งตวั ได้ 1.1.1 กำรใช้กล้ำมเน้อื ใหญ่ ๑. ในชวี ิตประจำวันมีกำรออก
รรไกรตัดกระดำษใน (1) กำรเคลื่อนไหวอยู่กับที่ แรงกระทำสงิ่ ตำ่ ง ๆ ด้วย
มตำ่ งๆได้
(2) กำรเคล่ือนไหวเคลื่อนที่ วธิ ีกำรท่ีหลำกหลำย
(4) กำรเคลื่อนไหวที่ใชก้ ำรประสำน ๒. แรงมผี ลทำให้ส่ิงตำ่ ง ๆ
สมั พนั ธ์ของกำรใช้กล้ำมเนื้อใหญ่ใน เปลีย่ นแปลงรปู ร่ำงและ
กำรขวำ้ ง กำรจบั กำรโยน กำรเตะ กำรเคลื่อนท่ี
1.1.2 กำรใช้กล้ำมเนื้อเลก็ ๓. แสงและไฟฟำ้ ได้มำจำก
(5) กำรหยบิ จบั กำรจบั ใช้กรรไกร แหล่งพลงั งำน เชน่
กำรฉกี กำรปะ และกำรร้อยวัสดุ ดวงอำทิตย์ ลม น้ำ เช้ือเพลงิ
๔. แสงช่วยใหเ้ รำมองเหน็
เมอื่ มีสง่ิ ต่ำง ๆ ไปบังแสงจะ
เกดิ เงำ
๕. ไฟฟ้ำทำใหส้ ง่ิ ของเครอ่ื งใช้
บำงอย่ำงทำงำนได้
มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จดุ ประส
มาตรฐาน ตัวบง่ ช้ี สภาพท่ีพึงประสงค์
มาตรฐานที่ 3
มีสุขภำพจิตดแี ละมี 3.2 มคี วำมร้สู ึกทดี่ ตี อ่ 3.2.2 แสดงควำมพอใจใน 3. แสดง
ควำมสุข
ตนเองและผอู้ น่ื ผลงำนและควำมสำมำรถ และควำ
ของตนเอง ได้
มาตรฐานที่ 5 มี ๕.๒ มีควำมเมตตำกรุณำ ๕.๒.๒ ช่วยเหลือและ ๔. ช่วยเ
ไดเ้ มื่อมผี
คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และ มีน้ำใจและช่วยเหลือ แบง่ ปันผอู้ นื่ ได้เม่ือมผี ู้
แบง่ ปัน ชแี้ นะ
มีจติ ใจทดี่ งี ำม
5.4 มีควำมรบั ผดิ ชอบ 5.4.1 ทำงำนทีไ่ ด้รับ ๕. ทำงำ
มอบหมำยจนสำเร็จ เม่ือมี จนสำเร็จ
ผชู้ ้ีแนะ
สงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ สาระทีค่ วรเรียนรู้
ประสบการณ์สาคญั
งควำมพอใจในผลงำน 1.2.4 กำรแสดงออกทำงอำรมณ์
ำมสำมำรถของตนเอง (1) กำรพูดสะท้อนควำมรสู้ ึก
ของตนเองและผอู้ ืน่
1.2.5 กำรมีอัตลกั ษณ์เฉพำะตนและ
เช่อื วำ่ ตนเองมีควำมสำมำรถ
(1) กำรปฏบิ ัติกจิ กรรมตำ่ ง ๆ ตำม
ควำมสำมำรถของตนเอง
เหลือและแบง่ ปนั ผอู้ นื่ ๑.๒.๓ คณุ ธรรม จริยธรรม
ผ้ชู แ้ี นะ (๒) กำรฟังนิทำนเกี่ยวกบั คุณธรรม
จรยิ ธรรม
ำนท่ีไดร้ บั มอบหมำย 1.3.4กำรมปี ฏิสัมพันธ์ มีวนิ ัย
จ เมอ่ื มผี ู้ช้ีแนะ มสี ว่ นร่วมและบทบำทสมำชิกของ
สังคม
(2) กำรปฏบิ ัตติ นเปน็ สมำชิกทดี่ ีของ
หอ้ งเรยี น
(3) กำรให้ควำมร่วมมอื ในกำรปฏิบตั ิ
กิจกรรม
(2) กำรเลน่ และทำงำนร่วมกับผอู้ ่ืน
มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จุดป
มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ ๖. เขำ้ แถ
มาตรฐานที่ 6 กอ่ นหลัง
มที ักษะชวี ติ และปฏบิ ตั ิ 6.2 มีวินัยในตนเอง 6.2.2 เขำ้ แถวตำมลำดับ
ตนตำมหลักปรัชญำของ
เศรษฐกิจพอเพียง ก่อนหลงั ได้ ดว้ ยตนเอง
มาตรฐานที่ 8 8.2 มีปฏสิ ัมพนั ธ์ที่ดีกบั 8.2.1 เลน่ หรือทำงำน ๗. เล่นห
อยรู่ ว่ มกบั ผอู้ น่ื ได้อยำ่ งมี ผู้อน่ื ร่วมกบั เพื่อนเป็นกลุ่ม เพอ่ื นเป็น
ควำมสุขและปฏบิ ัติตน
เปน็ สมำชิกท่ีดขี องสงั คม
ในระบอบประชำธิปไตย
อนั มีพระมหำกษัตริย์ทรง
เปน็ ประมขุ
ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้
ถวตำมลำดบั ตวั บ่งชี้ สภาพทพ่ี ึงประสงค์
งได้ ดว้ ยตนเอง
1.1.๕ กำรตระหนกั รเู้ กย่ี วกบั รำ่ งกำย
ตนเอง
(1) กำรเคลื่อนไหว โดยควบคมุ
ตนเองไปในทิศทำงระดบั และพ้นื ที่
หรือทำงำนรว่ มกับ ๑.๓.๔ กำรมีปฏสิ ัมพนั ธ์ มีวนิ ยั
นกลุ่มได้ มีส่วนรว่ มและบทบำทสมำชกิ ของ
สังคม
(๒) กำรปฏิบตั ิตนเปน็ สมำชิกท่ดี ี
ของห้องเรียน
(๓) กำรให้ควำมร่วมมือในกำรปฏิบตั ิ
กิจกรรมตำ่ งๆ
๑.๓.๕ กำรเล่นและทำงำนแบบร่วมมือ
รว่ มใจ
(๑) กำรรว่ มสนทนำและแลกเปล่ยี น
ควำมคดิ เหน็
(๒) กำรเล่นและทำงำนร่วมกับผอู้ ่นื
(๓) กำรทำศลิ ปะแบบรว่ มมอื
มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จดุ ป
มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพท่พี งึ ประสงค์ ๘. สือ่ สำ
มาตรฐานที่ ๙ สอดคลอ้
ใช้ภำษำสื่อสำรได้ ๙.๑ สนทนำโตต้ อบและ ๙.๑.๑ ฟังผอู้ ื่นพดู จนจบ ทฟ่ี ังได้
เหมำะสมกับวยั
เล่ำเรื่องใหผ้ ูอ้ ื่นเขำ้ ใจ และสนทนำโต้ตอบ
สอดคล้องกับเรื่องท่ีฟงั
๙.๑.๒ เลำ่ เร่อื งเป็น ๙. เลำ่ เร
ประโยคอยำ่ งตอ่ เน่ืองได้ ตอ่ เนอ่ื งใ
๙.๒ อำ่ น เขียน ภำพและ ๙.๒.๒ เขยี นคล้ำยตวั อกั ษร ๑๐. เขีย
สญั ลกั ษณ์ได้ แบบ เขีย
ตัวอักษร
ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ สาระท่ีควรเรียนรู้
ำร สนทนำโต้ตอบ
องอยำ่ งเขำ้ ใจกบั เรื่อง ประสบการณส์ าคญั
รื่องเป็นประโยคอย่ำง ๑.๔.๑ กำรใชภ้ ำษำ
ใหผ้ ้อู ่ืนเขำ้ ใจได้ (๒) กำรฟังและปฏิบัติตำมคำแนะนำ
(๓) กำรฟงั เพลง นิทำน
ยนช่ือของตนเองตำม (๔) กำรพดู แสดงควำมคดิ ควำมรสู้ ึก
ยนข้อควำมคลำ้ ย ควำมต้องกำร
รได้ (๕) กำรพดู กับผ้อู ่นื เกี่ยวกบั
ประสบกำรณ์ของตนเอง หรอื พูดเล่ำ
เรื่องรำวเก่ยี วกับตนเอง
(๘) กำรรอจังหวะทเี่ หมำะสมในกำร
พดู
(๑๓) กำรสังเกตทิศทำงกำรอ่ำน
ตวั อกั ษร คำ และข้อควำม
(๑๙) กำรเห็นแบบอย่ำงของกำรเขยี น
ท่ีถกู ต้อง
(๒๐) กำรเขียนร่วมกันตำมโอกำสและ
กำรเขียนอสิ ระ
(๒๑) กำรเขียนคำท่มี ีควำมหมำยกบั
ตวั เดก็ /คำคุ้นเคย
มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จดุ ป
มาตรฐาน ตัวบ่งช้ี สภาพทพี่ ึงประสงค์ ๑๑. จบั ค
มาตรฐานท่ี ๑๐ ควำมแต
มีควำมสำมำรถในกำรคิด ๑๐.๑ มีควำมสำมำรถใน ๑๐.๑.๒ จบั คแู่ ละ เหมอื นข
ทเ่ี ปน็ พืน้ ฐำนในกำร ลักษณะท
เรยี นรู้ กำรคิดรวบยอด เปรียบเทียบควำมแตกตำ่ ง ลกั ษณะเ
หรอื ควำมเหมือนของส่งิ
ต่ำงๆ โดยลักษณะท่ีสังเกต
พบเพียงลักษณะเดียว
๑๐.๑.๓ จำแนกและจัด ๑๒. จำแ
กล่มุ สิ่งต่ำงๆโดยใช้อย่ำง จำนวนข
น้อยหนง่ึ ลักษณะข้นึ ไปเป็น
เกณฑ์
๑๐.๒ มคี วำมสำมำรถใน ๑๐.๒.๑ ระบุสำเหตหุ รอื ๑๓. อธบิ
กำรคดิ เชงิ เหตผุ ล ผลท่เี กดิ ขน้ึ ในเหตุกำรณ์ เกิดขึ้นข
หรอื กำรกระทำเม่ือมีผู้ สอดคลอ้
ชีแ้ นะ ช้ีแนะ
ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ สาระท่คี วรเรยี นรู้
ประสบการณ์สาคัญ
คแู่ ละเปรียบเทยี บ ๑.๔.๒ กำรคิดรวบยอด กำรคิดเชิง
ตกตำ่ งหรือควำม เหตุผล กำรตดั สนิ ใจและแกป้ ัญหำ
ของสง่ิ ตำ่ งๆ โดย (๕) กำรคัดแยก กำรจัดกลุ่มและ
ทีส่ ังเกตพบเพยี ง กำรจำแนกส่ิงต่ำงๆ ตำมลักษณะและ
เดยี วได้ รปู ร่ำง รปู ทรง
(๘) กำรนับและแสดงจำนวนของสิ่ง
แนกและจดั กลุ่ม ต่ำง ๆ ในชีวิตประจำวนั
ของส่งิ ต่ำงๆได้ (๑๓) กำรจบั คู่ กำรเปรยี บเทียบและ
กำรเรยี งลำดบั สงิ่ ต่ำง ๆ ตำมลกั ษณะ
ควำมยำว/ควำมสูง
บำยกำรทำงำนที่ (๑๖) กำรอธบิ ำยเชื่อมโยงสำเหตแุ ละ
ของตนเองได้ ผลทีเ่ กดิ ขน้ึ ในเหตุกำรณห์ รือกำร
องกบั ผลงำนไดเ้ ม่ือมผี ู้ กระทำ
มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จุดป
มาตรฐาน ตัวบง่ ช้ี สภาพทีพ่ ึงประสงค์
มาตรฐานที่ ๑๑
มีจินตนำกำรและ ๑๑.๑ ทำงำนศลิ ปะตำม ๑๑.๑.๑ สร้ำงผลงำนศิลปะ ๑๔. กำร
ควำมคิดสร้ำงสรรค์
จินตนำกำรและควำมคิด เพอื่ สื่อสำรควำมคดิ อยำ่ งอิสร
สร้ำงสรรค์ ควำมร้สู กึ ของตนเองโดยมี ควำมคิด
กำรดดั แปลงและแปลก
ใหม่จำกเดิมหรอื มี
รำยละเอียดเพ่มิ ขึ้น
๑๑.๒ แสดงท่ำทำง/ ๑๑.๒.๑ เคล่อื นไหวท่ำทำง ๑๕. เคล
เคลอ่ื นไหวตำมจนิ ตนำกำร เพ่อื สื่อสำรควำมคิด ทำ่ ทำงต
อย่ำงสร้ำงสรรค์ ควำมรูส้ กึ ของตนเองอย่ำง กำรประส
หลำกหลำยหรือแปลกใหม่ กลำ้ มเนอื้
ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ สาระทีค่ วรเรียนรู้
ประสบการณส์ าคัญ
รสร้ำงผลงำนศลิ ปะ 1.2.1 สุนทรยี ภำพ ดนตรี
ระเพื่อสื่อสำร (5) กำรทำกจิ กรรมศลิ ปะต่ำง ๆ
ดควำมร้สู กึ ของตนได้ (6) กำรสร้ำงสรรคส์ ิง่ สวยงำม
ลอ่ื นไหวร่ำงกำยแสดง ๑.๔.๓ จนิ ตนำกำรและควำมคดิ
ตำมคำบรรยำยโดยใช้ สร้ำงสรรค์
สำนสมั พนั ธ์ (๑) กำรรบั รู้ และแสดงควำมคิด
อและทรงตวั ได้ ควำมรสู้ กึ ผำ่ นสื่อ วสั ดุ ของเลน่ และ
ชิ้นงำน
(2) กำรแสดงควำมคิดสรำ้ งสรรค์ผำ่ น
ภำษำท่ำทำงกำรเคล่อื นไหวและศลิ ปะ
มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จุดป
มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพทพี่ ึงประสงค์ 1๖. ค้นห
มาตรฐานท่ี 12 สงสยั ตำ่
มีเจตคติทดี่ ี 12.2 มคี วำมสำมำรถใน 12.2.1 คน้ หำคำตอบ ขอ้ ตนเองได
ตอ่ กำรเรยี นรู้และ
มีควำมสำมำรถ กำรแสวงหำควำมรู้ สงสัยตำ่ ง ๆ ตำมวธิ ีกำร
ในกำรแสวงหำควำมรู้
ได้เหมำะสมกับวยั ของตนเอง
๑๒.๒.๒ ใช้ประโยคคำถำม ๑๗. ใชป้
วำ่ “ทไ่ี หน” “ทำไม”ใน “ทไ่ี หน”
กำรคน้ หำคำตอบ ค้นหำคำ
ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ สาระทีค่ วรเรียนรู้
ประสบการณ์สาคัญ
หำคำตอบของขอ้ 1.4.4 เจตคติท่ดี ตี ่อกำรเรยี นร้แู ละ
ำง ๆ ตำมวธิ ีกำรของ กำรแสวงหำควำมรู้
ด้ (1) กำรสำรวจสงิ่ ตำ่ ง ๆ และแหลง่
เรียนรรู้ อบตวั
ประโยคคำถำมว่ำ (3) กำรสืบเสำะหำควำมรเู้ พื่อค้นหำ
” “ทำไม”ในกำร คำตอบของข้อสงสยั ตำ่ ง ๆ
ำตอบได้ (4) กำรมีส่วนร่วมในกำรรวบรวม
ข้อมลู และนำเสนอขอ้ มูลจำกกำรสบื
เสำะหำควำมรู้ในรปู แบบตำ่ ง ๆ และ
แผนภูมอิ ย่ำงงำ่ ย
ผงั ความคิดแผนการจัดประสบการณ์ หนว่ ย
กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ กิจก
๑. เคลื่อนไหวแสดงท่ำทำงตำมคำส่ัง ๑. ในชีวติ ประจำวนั มกี
๒. เคลอ่ื นไหวแสดงท่ำทำงประกอบอุปกรณ์ ทีห่ ลำกหลำย
๓. เคลื่อนไหวแสดงท่ำทำงประกอบคำบรรยำย ๒. แรงมีผลทำใหส้ ิ่งต่ำ
๔. เคลอื่ นไหวแสดงทำ่ ทำงกำรเป็นผนู้ ำ-ผู้ตำม เคล่ือนที่ กำรทำกังหัน
๕. เคลอื่ นไหวแสดงท่ำทำงประกอบเพลง ๓. แสงและไฟฟำ้ ไดม้ ำ
นำ้ เช้อื เพลงิ กำรทำก
๔. แสงช่วยให้เรำมอง
กำรใชแ้ สงผำ่ นเลนสเ์ ว
๕. ไฟฟำ้ ทำใหส้ งิ่ ของเ
กิจกรรมกลางแจ้ง กิจ
1. เลน่ เครอื่ งเล่นสนำม ๑. มุมหนงั สือ
2. เล่นนำ้ เล่นทรำย และพลังงำน
3. กำรเลน่ เกมตกั น้ำใสข่ วด ๒. มมุ สรำ้ งสรร
4. กำรละเลน่ พ้นื บ้ำน แข่งเรือบก กบั สีนำ้ ตำ่ งๆ
5. เกมกำรโยนบอลลกู โบวล์ งิ่ ๓. มมุ วทิ ยำศำ
๔. มุมบลอ็ ก
แรง และพลงั งานในชีวติ ประจาวนั ชน้ั อนบุ าลปที ี่ ๒
กรรมเสริมประสบการณ์ กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์
กำรออกแรงกระทำสิ่งต่ำง ๆ ด้วยวธิ ีกำร
๑. กำรประดษิ ฐ์กังหนั กระดำษ
ำง ๆ เปลย่ี นแปลงรปู ร่ำงและกำร กำรปน้ั อสิ ระ
นหมนุ ยำง ๒. กำรเปำ่ สี กำรกลง้ิ สี
ำจำกแหล่งพลังงำน เช่น ดวงอำทิตย์ ลม ๓. กำรประดษิ ฐก์ ังหันรองน้ำ
กังหันรองน้ำ ๔. กำรหยดสี กำรปั้นอิสระ
งเหน็ เมื่อมีสงิ่ ต่ำง ๆ ไปบงั แสงจะเกิดเงำ ๕. กำรประดิษฐ์หุ่นเงำ
วำ้
เครอื่ งใชบ้ ำงอยำ่ งทำงำนได้
หน่วย กจิ กรรมเกมการศึกษา
แรงและพลังงาน
ในชีวติ ประจาวนั ๑. ตำรำงสมั พนั ธ์กำรบวกไม่เกิน๑๐
๒. เกมพ้นื ฐำนกำรบวกจำนวนไม่เกิน ๑๐
จกรรมเล่นตามมุม ๒.เกมพ้นื ฐำนกำรบวกจำนวนไม่เกิน ๑๘
แนะนำหนังสือเกย่ี วกับแรง ๓. เกมพืน้ ฐำนกำรลบจำนวนไม่เกิน ๑๐
รค์ จัดวำงอปุ กรณ์ กำรเล่น ๔. เกมพื้นฐำนกำรลบจำนวนไมเ่ กนิ ๑๘
ำสตร์ ๕. เกมจบั คู่บัตรภำพกับสัญลกั ษณ์ตำแหนง่ ของ
เครือ่ งใช้ไฟฟ้ำ
การวางแผนกจิ กรรมรายหน่วยการจดั ประสบการณ์ ชน้ั
วนั ที่ เคลอื่ นไหวและจงั หวะ เสริมประสบการณ์ ศิลปะสรา้ งสรรค
๑ กำรเคลอื่ นไหวแสดง ๑. ในชีวติ ประจำวนั มีกำร ๑. กจิ กรรมปั้นดิน
ทำ่ ทำงตำมคำสงั่ และ ออกแรงกระทำสง่ิ ตำ่ ง ๆ นำ้ มันอย่ำงอิสระ
ข้อตกลง ดว้ ยวธิ กี ำรทีห่ ลำกหลำย ๒. กจิ กรรมประดษิ
๒. แรงมผี ลทำใหส้ ง่ิ ต่ำง ๆ กังหันกระดำษ
เปลยี่ นแปลงรปู ร่ำงและ
กำรเคล่ือนที่
๒ กำรเคล่ือนไหวเชงิ ๑. ในชวี ิตประจำวันมีกำร กำรเป่ำสี
สรำ้ งสรรคป์ ระกอบ ออกแรงกระทำส่ิงตำ่ ง ๆ กำรกล้งิ สี
อปุ กรณ์ ดว้ ยวธิ ีกำรที่หลำกหลำย
๒. แสงและไฟฟำ้ ไดม้ ำจำก
แหลง่ พลงั งำน เช่นแรง ลม
๓ กำรเคล่อื นไหวแสดง ๑. ในชีวติ ประจำวนั มกี ำร กำรเปำ่ สี
ท่ำทำงตำมคำบรรยำย ออกแรงกระทำสิง่ ตำ่ ง ๆ กำรประดิษฐ์
ด้วยวิธีกำรท่ีหลำกหลำย กงั หันนำ้
๒. แสงและไฟฟำ้ ได้มำจำก
แหล่งพลงั งำน เช่น แรงนำ้
นอนบุ าลปีท่ี ๒ หน่วยแรงและพลังงานในชีวิตประจาวนั
กิจกรรม กลางแจ้ง เกมการศึกษา
เล่นเคร่ืองเล่นสนำม ตำรำงสมั พนั ธก์ ำรบวก
ค์ เลน่ ตามมุม ไม่เกนิ ๑๐
น ๑. มมุ หนงั สอื แนะนำ ๑. เกมพ้นื ฐำนกำรบวก
หนงั สือเกีย่ วกบั แรงและ จำนวนไม่เกนิ ๑๐
๒. เกมพ้ืนฐำนกำรบวก
ษฐ์ พลงั งำน จำนวนไมเ่ กิน ๑๘
๒. มมุ สรำ้ งสรรค์ จดั วำง
อุปกรณ์ สีน้ำตำ่ งๆ เกมพน้ื ฐำนกำรลบ
๓. มุมวิทยำศำสตร์ จำนวนไม่เกิน ๑๐
๔. มุมบล็อก
๑. มุมหนังสือ แนะนำ เลน่ น้ำ เล่นทรำย
หนงั สอื เกย่ี วกบั แรงและ
พลงั งำน
๒ มมุ สร้ำงสรรค์ จัดวำง
อปุ กรณ์ สีน้ำต่ำงๆ
๓. มุมวทิ ยำศำสตร์
๔. มมุ บลอ็ ก
๑. มุมหนงั สอื แนะนำ กำรเล่นเกมตักนำ้ ใส่
หนังสือเกยี่ วกับแรงและ ขวด
พลังงำน
๒ มมุ สรำ้ งสรรค์ จดั วำง
อปุ กรณ์ สนี ้ำต่ำงๆ
วนั ที่ เคล่ือนไหวและจังหวะ เสริมประสบการณ์ ศลิ ปะสร้างสรรค
๔ กำรเคลือ่ นไหวแสดง แหล่งพลังงำนมจี ำกหลำย หยดสี
ท่ำทำงกำรเป็นผ้นู ำ แหลง่ เชน่ พลงั งำนจำก กำรปั้นอิสระ
ผู้ตำม ดวงอำทิตย์
๕ กำรเคล่อื นไหวแสดง ๑. แสงช่วยใหเ้ รำมองเหน็ กำรประดิษฐ์หนุ่ เง
ทำ่ ทำงประกอบตำมบท เม่อื มีสิ่งต่ำง ๆ ไปบังแสง
เพลง จะเกิดเงำ
๒. กำรใช้แสงผำ่ นเลนส์เวำ้
กจิ กรรม กลางแจ้ง เกมการศกึ ษา
ค์ เลน่ ตามมมุ
๓. มุมวทิ ยำศำสตร์
๔. มุมบลอ็ ก
๑. มุมหนังสือ แนะนำ กำรละเลน่ พ้นื บ้ำนแข่ง เกมพ้นื ฐำนกำรลบ
หนังสอื เกี่ยวกับแรงและ เรือบก จำนวนไม่เกนิ ๑๘
พลังงำน
๒. มุมสร้ำงสรรค์ จดั วำง
อปุ กรณ์ สีน้ำตำ่ งๆ
๓. มุมวิทยำศำสตร์
๔. มมุ บล็อก
งำ ๑. มุมหนงั สือ แนะนำ เกมกำรโยนบอล เกมจบั คู่บัตรภำพกบั
หนงั สือเกีย่ วกบั แรงและ ลกู โบวล์ ิง่ สญั ลกั ษณต์ ำแหน่งของ
พลังงำน เครือ่ งใช้ไฟฟ้ำ
๒. มมุ สรำ้ งสรรค์ จัดวำง
อปุ กรณ์ สนี ้ำตำ่ งๆ
๓. มมุ วิทยำศำสตร์
๔. มมุ บลอ็ ก
แผนการจัดประสบการณร์ ายวนั วันท่ี 1 หน่วย 32
จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้
การเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรเรียนรู้
กจิ กรรมเคลื่อนไหว (1) กำรเคลื่อนไหวอยกู่ บั ๑. กิจกรรมเค
ร่ำงกำยไปท่วั
และจังหวะ ที่ เม่อื ไดย้ นิ สัญ
๒.กำรเคลอ่ื น
1.เคลื่อนไหว (2) กำรเคล่ือนไหว ขอ้ ตกลง เป็น
กิจกรรม เชน่
รำ่ งกำยอย่ำง เคลอื่ นที่ - ครเู คำะจัง
คลอ่ งแคลว่ ประสำน (10) เคลือ่ นไหวท่ำทำง ตำมทิศทำง ร
สัมพนั ธแ์ ละทรงตวั เพอ่ื สื่อสำรควำมคดิ - ครเู คำะจัง
ได้ ควำมรู้สกึ ของตนเองได้ กำรวงิ่ เยำะตำ
- ครเู ขยำ่ รัว
ครูสำธิตกำรเ
ให้เดก็ เร่มิ เคล
กอ่ นและค่อย
๓. ทำตำมข้อ
๔. เดก็ นั่งผอ่ น
แรงและพลงั งานในชีวติ ประจาวนั ชัน้ อนุบาลปีที่ ๒
กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ
คลื่อนไหวพน้ื ฐำนให้เด็กเคลื่อนไหว เครอื่ งเคำะจังหวะ สงั เกต
วบรเิ วณอยำ่ งอสิ ระตำมจงั หวะ กำรเคลือ่ นไหวรำ่ งกำย
ญญำณหยุดใหห้ ยุดเคลื่อนไหวในท่ำนัน้ อย่ำงคล่องแคลว่ ประสำน
นไหว กำรปฏบิ ัติตำมคำสงั่ และ สัมพนั ธ์และทรงตวั
นกำรเคลือ่ นไหวท่ตี กลงกนั ก่อนเริม่
น
งหวะสมำ่ เสมอใหเ้ คลื่อนไหวไปรอบๆ
ระดับ พ้ืนท่ีไปเรื่อยๆ
งหวะเร็วๆๆใหเ้ คลือ่ นไหวไปรอบๆด้วย
ำมทิศทำง ระดบั พื้นทีไ่ ปเรื่อยๆ
วๆและเคำะ๓คร้ังใหห้ ยุดอยู่กับที่
เคลื่อนไหวร่ำงกำยแบบต่ำงๆให้เด็กดู
ลอื่ นไหวตำมคำส่ังและข้อตกลงช้ำๆ
ยๆเพ่มิ จงั หวะใหเ้ รว็ ข้นึ
อ ๒ ซ้ำอกี 4 - 5 ครง้ั
นคลำยสบำย ๆ
จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้
การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้
กจิ กรรมเสริม (1) สำรวจสง่ิ ต่ำง ๆ และ ๑. ในชวี ิตประจำวัน ๑. ครูนำของ
ประสบการณ์ ของเลน่ ต่ำงๆ
๑. สอ่ื สำร สนทนำ แหล่งเรยี นรรู้ อบตวั มีกำรออกแรงกระทำ ๒. สนทนำกบั
โต้ตอบสอดคล้อง - ของเล่นน
อยำ่ งเข้ำใจกบั เรื่อง (2) กำรสืบเสำะหำควำมรู้ สง่ิ ต่ำง ๆดว้ ยวิธีกำร ๓. ให้เดก็ ทดล
ทฟี่ ังได้ เพือ่ ค้นหำคำตอบ ที่หลำกหลำย - ทำไมของ
2. เล่ำเร่ืองดว้ ย (4) กำรพูดแสดงควำมคิด ๒. แรงมีผลทำให้สิ่ง ๔. ใหเ้ ดก็ เลำ่
ประโยคส้นั ๆ ได้ ควำมรูส้ ึกและ อะไรบ้ำงและ
ต่ำง ๆ เปลีย่ นแปลง ๕. เด็กและค
ควำมตอ้ งกำร อยำ่ งไร
รูปรำ่ งและกำร
เคลือ่ นท่ี
กจิ กรรมศิลปะ (2) กำรแสดงควำมคดิ ใหเ้ ดก็ เลือกท
สร้างสรรค์ สรำ้ งสรรค์ผ่ำนภำษำ ๑. กจิ กรรมป
๑.สรำ้ งผลงำน ท่ำทำงและศลิ ปะ ๒. กจิ กรรมป
ศลิ ปะเพ่อื ส่ือสำร ๒.๑ ให้เด็ก
ควำมคดิ ควำมรสู้ ึก ๒.๒ ใช้ดินส
ของตนเองได้ ด้ำน จำกน้ันส
๒.อธิบำยกำร ๒.๓ เอำปล
ทำงำนท่ีเกิดข้ึนของ หรอื ให้เพ่ือนช
ตนเองไดส้ อดคลอ้ ง หมุนกระดำษ
แนน่ ตึง
กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ
งเล่นท่เี คล่ือนที่ได้มำให้เดก็ ดู เชน่ รถ 1. รถของเลน่ สังเกต
1. กำรส่อื สำร สนทนำ
ๆ กังหันกระดำษ 2. กงั หนั กระดำษ โต้ตอบสอดคล้องอยำ่ ง
เข้ำใจกบั เร่ืองที่ฟัง
บเด็ก อำจใชค้ ำถำมเช่น หมนุ 2. กำรเล่ำเร่อื ง
ดว้ ยประโยคส้นั ๆ
นี้เคยเล่นหรอื ไม่ เล่นอย่ำงไร
ลองเล่นของเลน่ ที่ครนู ำมำ
งเล่นเคลื่อนท่ีได้
ำให้ครแู ละเพื่อน ๆ ฟังทีบ่ ้ำนมีของเล่น
ะเดก็ เล่นอย่ำงไร
ครูร่วมกันสรุปว่ำของเลน่ เคลื่อนท่ีได้
ทำกจิ กรรมทสี่ นใจ ๑. กระดำษโปสเตอร์ สังเกต
ปั้นดินน้ำมันอย่ำงอสิ ระ
ประดิษฐ์กงั หันกระดำษ สชี นิดหนำสตี ่ำงๆ ๑.กำรสรำ้ งผลงำนศิลปะ
กเลอื กกระดำษสีตำมชอบ ขนำดกวำ้ ง ๘ ซ.ม
สอเจำะรูท่ีปลำยกระดำษแข็งท้ังสอง ยำว๒๐ ซ.ม เทำ่ เพ่อื สื่อสำรควำมคดิ
สอดยำงเขำ้ ไปแลว้ ผูกเป็นหว่ ง จำนวนเดก็ ควำมรสู้ ึกของตนเอง
ลำยหว่ งยำงดำ้ นหนึ่งคลอ้ งกบั ตะขอ ๒. ยำงวง ๒ เส้นต่อ ๒.อธิบำยกำรทำงำนที่
ชว่ ยถือ ใชม้ ือดึงยำงอีกเสน้ ไวข้ ณะท่ี ๑ ชุด เกิดข้ึนของตนเอง
ษแข็งไปรอบๆจนห่วงยำงเปน็ เกลยี ว
๓. ดนิ สอแหลมๆ ๑ สอดคล้องกับผลงำนเม่ือมี
แท่งหรอื เคร่อื งเจำะ ผู้ชีแ้ นะ
กระดำษ
จุดประสงค์ การ สาระการเรยี นรู้ ก
เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้
๒.๔ ใหป้ ลอ่ ย
กบั ผลงำนไดเ้ ม่ือมผี ู้ สงั เกตดวู ่ำเกิดอ
ชี้แนะ ยำงคลำยเกลีย
เปรียบเทียบ ท
กิจกรรมเล่นตามมุม (๒) กำรเล่นรำยบคุ คล ๒.๕ เดก็ จบั ก
๑. เล่นหรอื ทำงำน กล่มุ ยอ่ ย กลุ่มใหญ่ เพอื่ นในกลุม่ ฟงั
รว่ มกบั เพ่ือนเปน็ (๓) กำรเล่นตำมมุม ๒.๖ เดก็ เก็บอ
ประสบกำรณ์
กล่มุ ได้ (๒) กำรปฏบิ ตั ิตนเป็น มมุ ประสบกำร
สมำชกิ ทด่ี ีของห้องเรยี น เด็กเลือกกจิ กร
๒. ชว่ ยเหลือและ (๓) กำรใหค้ วำมรว่ มมือ สนใจ ได้แก่
แบ่งปันผูอ้ ืน่ ได้เมื่อมี ในกำรปฏบิ ตั กิ ิจกรรม 1.๑ มมุ หนังส
ผู้ชี้แนะ แผ่นพบั ต่ำงๆส
เร่อื งแรงและพ
ต่ำงๆ ๑.๒ มมุ สรำ้ ง
ฉกี ตัดปะ และก
๑.๓ มุมบลอ็ ก
๑.๔ มมุ วทิ ยำ
เก่ยี วกบั กำรทด
พลังงำนตำ่ งๆ
2. เมือ่ หมดเวล
กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ
ยมอื ที่หมนุ กระดำษออก และ
อะไรขนึ้ กับกระดำษขณะทห่ี ว่ ง
ยว ทดลองเลน่ หลำยๆครง้ั ให้
ทำไมหมนุ เร็ว หมนุ ช้ำ
กลมุ่ ตำมสมคั รใจนำผลงำนเลำ่ ให้
งและนำเสนอต่อกลุ่มใหญ่
อุปกรณเ์ ข้ำที่ให้เรยี บร้อย
รณ์ควรมีอย่ำงน้อย ๔ มุม อปุ กรณ์มุมประสบกำรณ์ สงั เกต
รรมในมุมประสบกำรณ์ตำมควำม ในห้องเรยี น ๑. กำรเล่นหรอื ทำงำน
สอื วำงหนังสือนทิ ำน หนงั สอื ภำพ ร่วมกบั เพื่อนเป็นกลุ่ม
สีสันงดงำมดึงดูดใจเด็ก เก่ียวกับ
พลังงำนตำ่ งๆ ๒. กำรชว่ ยเหลอื และ
แบ่งปันผอู้ ื่น
งสรรค์ จัดวำงอุปกรณ์ เกีย่ วกบั
กำรสรำ้ งงำนจำกกำรใชส้ ีน้ำตำ่ งๆ
ก
ำศำสตร์ วำงอปุ กรณข์ องจรงิ
ดลองประดิษฐ์ของเลน่ ดว้ ย
ลำเดก็ เก็บของเข้ำทีใ่ ห้เรยี บร้อย
จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้
กิจกรรมกลางแจ้ง (๔) กำรเคลื่อนไหวท่ีใช้ ๑. ครูพำเด็กไป
๑. เล่นหรือทำงำน กำรประสำนสมั พนั ธข์ อง เล่นเครอื่ งเลน่
๒. ใหเ้ ดก็ เลน่ เค
รว่ มกับเพ่ือนเปน็ กำรใชก้ ลำ้ มเนื้อใหญ่ใน ๓. เม่อื หมดเวล
กลุ่มได้ กำรจบั กำรโยน กำรเตะ สนำม ล้ำงมอื ก
(๕) กำรเลน่ เครื่องเลน่
๑. ครูแนะนำแล
สนำมอยำ่ งอสิ ระ บวกไม่เกิน ๑๐
(๓) กำรเล่นเครื่องเลน่ ๒. ครูแบง่ เด็กเป
อย่ำงปลอดภยั และเกมท่ีเคยเล
๓. เม่อื ครบกำห
เกมการศึกษา (๘) กำรนับและแสดง กำรเล่นตำรำง ควำมรู้สึกเก่ยี วก
สัมพันธก์ ำรบวกไม่ ๔. ครใู หเ้ ด็กชว่
๑. เล่นเกมจับคู่และ จำนวนของส่ิงต่ำงๆ ใน เกนิ ๑๐
ชวี ติ ประจำวนั
เปรยี บเทยี บ
(๑๓) กำรจับคู่
จำนวนได้
๒. จำแนกและจดั กำรเปรยี บเทียบ
กลุ่มจำนวนของส่ิง (๕) กำรคัดแยก
ตำ่ งๆได้ กำรจดั กลุ่มและ
กำรจำแนกสิ่งต่ำงๆ
ตำมลักษณะและรปู รำ่ ง
รปู ทรง
กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ
เครอ่ื งเล่นสนำม
ปสนำมเล่น ทบทวนกติกำในกำร สงั เกต
กำรเลน่ และทำกจิ กรรม
ครอ่ื งเล่นอย่ำงอสิ ระ พรอ้ มกบั ผูอ้ น่ื
ลำ ช่วยกันเก็บทำควำมสะอำด
กลับเข้ำห้องเรียน
ละสำธติ กำรเลน่ ตำรำงสมั พันธก์ ำร 1. กำรเลน่ ตำรำง สังเกต
๐ สมั พันธก์ ำรบวก ๑. เล่นเกมจับคู่และ
ปน็ กลุ่มย่อยๆ ให้เด็กเล่นเกมใหม่ ไม่เกนิ ๑๐ เปรยี บเทียบ จำนวน
ล่นมำแล้ว สลับหมนุ เวียนกัน ๒. เกมท่ีเคยเล่นมำแลว้ ๒. จำแนกและจัดกลุ่ม
หนดเวลำ ครูนำเดก็ สนทนำบอก
กับเกมท่เี ล่น จำนวนของสิง่ ต่ำงๆ
วยกนั เกบ็ เกมเข้ำทใ่ี ห้เรยี บร้อย
แผนการจัดประสบการณร์ ายวัน วนั ท่ี 2 หน่วยท่ี 32
จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้ ก
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้
กิจกรรมเคลอื่ นไหว (3) กำรเคลื่อนไหว พร้อม 1. กจิ กรรมเคล
และจังหวะ วสั ดุอุปกรณ์ ร่ำงกำยไปทวั่ บ
เคลื่อนไหว (4) กำรเคล่ือนไหว ทใี่ ช้ ไดย้ นิ สัญญำณห
แสดงท่ำทำง กำรประสำนสมั พนั ธข์ อง ทนั ที
ประกอบอปุ กรณ์ กำรใชก้ ล้ำมเนื้อใหญ่ 2. ครูใหเ้ ดก็ หย
เพ่อื สื่อสำรควำมคดิ ในกำรจบั กำรโยน ไปตำมจังหวะพ
ควำมรสู้ กึ ตนเองได้ กำรเตะ เคำะจังหวะใหเ้
ใหจ้ ับกล่มุ ตำมท
สนทนำกบั เดก็ แ
จับกล่มุ
3. ทำกิจกรรมข
4. เดก็ นง่ั ผ่อนค
2 แรงและพลงั งานในชวี ติ ประจาวัน ชั้นอนุบาลปที ี่ ๒
กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ
ลอ่ื นไหวพน้ื ฐำนให้เดก็ เคลื่อนไหว 1. เคร่ืองเคำะจงั หวะ สังเกต
บริเวณอยำ่ งอิสระตำมจงั หวะ เมือ่ 2. ลูกโป่งที่เป่ำลมขนำด กำรเคลือ่ นไหว
หยุดให้หยุดเคลอ่ื นไหวในท่ีนน้ั พอประมำณท่เี ด็กถือ แสดงทำ่ ทำงประกอบ
อปุ กรณ์ เพื่อสอื่ สำร
สะดวก ควำมคดิ ควำมร้สู ึก
ยิบลูกโป่งคนละ๑ลูกและเคลื่อนที่ ๓. บตั รคำจำนวนตัวเลข ของตนเอง
พร้อมกับลกู โปง่ อยำ่ งอิสระ ครู
เด็กเดินเม่ือได้ยนิ สัญญำณหยดุ
ที่ครูยกบตั รคำจำนวนตวั เลข
แต่ละกลมุ่ ใช้เกณฑ์อะไรในกำร
ข้อ 2 ซ้ำอีก 2 - 3 ครั้ง
คลำยสบำย ๆ
จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ก
การเรยี นรู้
กิจกรรมเสริม ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ ๑. เด็กทกุ คนมีล
ประสบการณ์ เด็ก - อะไรอยู่ใ
๑.สอ่ื สำร สนทนำ (4) กำรมีสว่ นร่วมในกำร แหล่งพลังงำนมีจำก - จะเกดิ อะไรขึน้
โตต้ อบอย่ำงเข้ำใจ รวบรวมขอ้ มูลและ หลำยแหล่ง เชน่ - อธิบำยให้เดก็
ควำมหมำยได้ นำเสนอข้อมูล จำกกำร แรงลม สำธิตกำรแกะย
๒.ค้นหำคำตอบ สบื เสำะ หำควำมรู้ใน ปำกลูกโปง่ เข้ำห
ของขอ้ สงสัยตำ่ ง ๆ รปู แบบ ต่ำง ๆ พรอ้ มๆกัน
ตำมวิธกี ำรของ 2. ให้เด็ก ๆ ทด
ตนเองได้ (2) กำรเลน่ กับสี ครัง้ ว่ำเหมือนห
(2) กำรแสดงควำมคดิ 3. ให้เดก็ ๆถอื ล
กิจกรรมศลิ ปะ สร้ำงสรรคศ์ ิลปะ ลูกโป่ง เป็นอย่ำ
สรา้ งสรรค์ (1) กำรพูดสะท้อน 4. รว่ มกันสรปุ
1. สรำ้ งผลงำน ควำมรสู้ กึ ของตนเอง และคนสรำ้ งขน้ึ
ศลิ ปะเพื่อสื่อสำร เกดิ พลังงำนไฟฟ
ควำมคดิ ควำมรูส้ ึก ให้เด็กเลอื กทำก
ของตนเองได้
กจิ กรรมการก
การเปา่ สี
๑. ใหเ้ ดก็ เลือกก
๒. ถำมเดก็ เวลำ
อย่ำงไร
๓. ทำเสรจ็ นำเส
เล่ำตำมแบบแล
กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ
ลูกโปง่ คนละลูก ครูสนทนำกบั ๑. ลูกโป่ง สังเกต
ในลูกโปง่ ๒. รูปพลังทเี่ กดิ จำก ๑. กำรสอื่ สำร สนทนำ
นถ้ำเรำเปดิ ปำกลูกโป่งออก แรงลมเช่น รูปพัดลมสรำ้ ง โต้ตอบอยำ่ งเข้ำใจ
ก ๆ ทดลองปล่อยลกู โปง่ โดยครู กระแส ไฟฟ้ำ รูปกงั หนั ลม ควำมหมำย
ยำงท่ีรัดปำกลูกโปง่ ไว้ ให้ถอื ด้ำน วดิ น้ำ ๒. กำรค้นหำคำตอบ
หำตัว แลว้ จงึ ปลอ่ ยลูกโป่ง
ของขอ้ สงสยั ตำ่ ง ๆ
ดลองเปำ่ ลูกโป่งเองและปล่อยอีก ตำมวธิ กี ำร ของตนเอง
หรือตำ่ งกันอย่ำงไร
ลูกโป่งไว้ นำพัดลมมำเปิดเป่ำใส่
ำงไร
ลม ท้งั ท่ีเกดิ เองตำมธรรมชำติ
น เป็นพลงั ทำให้ของเคลื่อนท่ีได้
ฟำ้ ได้
กจิ กรรมท่ีสนใจ 1. สีน้ำ 3 สี สังเกต
กลง้ิ สี 2. หลอดดดู นำ้ 1. กำรสร้ำงผลงำนศลิ ปะ
เพอ่ื ส่ือสำร ควำมคิด
3. จำนสี ควำมร้สู กึ ของตนเอง
2. กำรแสดงควำมพอใจ
กิจกรรมตำมควำมสนใจ ๑ อยำ่ ง 4. น้ำ ในผลงำนของตนเอง
ำเลือกกจิ กรรมคิดตดั สนิ ใจ 5. กระดำษ เอ 4
สนอผลงำนทส่ี ำเรจ็ เขยี นคำที่
ละชอ่ื ตนเองตำมแบบ
จดุ ประสงค์ การ สาระการเรยี นรู้
เรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรียนรู้
2. แสดงควำมพอใจ 4. เดก็ ๆ ช่วยก
เกบ็ ของเข้ำทไี่ ด
ในผลงำนของตนเอง
มมุ ประสบกำรณ
๓. เขียนชอื่ ของ เด็กเลือกกจิ กรร
สนใจ ไดแ้ ก่
ตนเองตำมแบบ 1.๑ มุมหนงั ส
แผน่ พบั ตำ่ งๆสสี
เขียนข้อควำมคล้ำย เร่อื งแรงและพล
๑.๒ มุมสร้ำงส
ตัวอกั ษรได้ ฉีกตัดปะ และก
๑.๓ มุมบลอ็ ก
กิจกรรมเล่นตามมุม (2) กำรเล่นและทำงำน ๑.๔ มุมวิทยำ
เกย่ี วกบั กำรทด
๑. ช่วยเหลอื และ รว่ มกบั ผอู้ นื่ ต่ำงๆ
แบง่ ปันผอู้ ่นื ได้เม่ือมผี ู้ (3) กำรเลน่ ตำมมุม 2. เมอื่ หมดเวล
ช้แี นะ ประสบกำรณ์
๒. เกบ็ ของเลน่ ของ
ใช้เข้ำทด่ี ้วยตนเอง
กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ
กนั ทำควำมสะอำดจำนสี และ ๓.กำรเขยี นชอ่ื ของตนเอง
ดเ้ รยี บร้อย ตำมแบบ เขยี นข้อควำม
คลำ้ ยตวั อักษร
ณ์ควรมอี ย่ำงน้อย ๔ มุม 1. มุมประสบกำรณ์ สงั เกต
รมในมุมประสบกำรณ์ตำมควำม ในหอ้ งเรียน ๑.กำรช่วยเหลือและ
แบ่งปนั ผอู้ ื่นเม่ือมีผู้ชแี้ นะ
สือ วำงหนงั สอื นิทำน หนงั สอื ภำพ ๒.กำรเก็บของเลน่ ของใช้
สันงดงำมดึงดูดใจเด็ก เกี่ยวกับ เข้ำท่ดี ว้ ยตนเอง
ลังงำนต่ำงๆ
สรรค์ จดั วำงอปุ กรณ์ เกย่ี วกับ
กำรสรำ้ งงำนจำกกำรใชส้ ีนำ้ ตำ่ งๆ
ก
ำศำสตร์ วำงอุปกรณ์ของจริง
ดลองประดิษฐข์ องเล่นด้วยพลังงำน
ลำเด็กเกบ็ ของเขำ้ ท่ีใหเ้ รยี บร้อย
จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้
กิจกรรมกลางแจ้ง (๔) กำรเคล่ือนไหว ๑. ครพู ำเดก็ ไป
เล่นทรำย และแ
เลน่ และทำกจิ กรรม ทใ่ี ชก้ ำรประสำน ทรำย และแจก
กำรเลน่ น้ำเล่นทรำย สัมพนั ธข์ องกำรใช้ ๒. ครูใหเ้ ด็กเลอื
อยำ่ งปลอดภยั ได้ กล้ำมเน้ือใหญใ่ นกำร สนใจ
จบั กำรโยน กำรเตะ ๓.เมื่อหมดเวลำ
อปุ กรณ์ และทำ
(๓) กำรเล่นเคร่ือง ห้องเรยี น
เลน่ อย่ำงปลอดภยั ๑. ครแู นะนำแล
กำรบวกจำนวน
เกมการศกึ ษา (13) กำรจบั คู่ เกมพน้ื ฐำนกำรบวก บวกจำนวนไมเ่ ก
๒. ครูแบง่ เดก็ เป
๑. เลน่ เกมจับคู่และ เปรียบเทียบส่ิงต่ำง ๆ และเกมที่เคยเล
๓. เมอื่ ครบกำห
เปรียบเทียบ (๘) กำรนบั และแสดง ควำมรู้สกึ เกย่ี วก
๔. เดก็ ช่วยกันเ
จำนวนได้ จำนวนของส่งิ ต่ำงๆ
๒. จำแนกและจดั ในชีวติ ประจำวัน
กลุม่ จำนวนของส่ิง (๑๓) กำรจับคู่
ต่ำงๆได้ กำรเปรยี บเทียบ
(๕) กำรคดั แยก
กำรจดั กลุ่มและ
กำรจำแนกสง่ิ ต่ำงๆ
ตำมลักษณะและ
รูปร่ำง รปู ทรง
กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ
ปสนำม ทบทวนข้อตกลง เลน่ น้ำ- ๑. บริเวณเล่นทรำย สงั เกต
แบง่ เดก็ เป็น 2 กลมุ่ ใหเ้ ลน่ น้ำ เล่น ๒. บริเวณเล่นน้ำ กำรเลน่ และทำกจิ กรรม
กอุปกรณข์ องแต่ละกลมุ่ ๓. สนำมเด็กเลน่ พรอ้ มกบั ผู้อ่ืนอย่ำง
อก เลน่ น้ำ เล่นทรำย ตำมควำม ๔. อปุ กรณ์ในกำรเล่นนำ้ ปลอดภัย
เลน่ ทรำย เช่น วัสดุ จม
ำ ชว่ ยกันเกบ็ ทำควำมสะอำด ลอย พล่ัวตักทรำย
ำควำมสะอำดร่ำงกำย กลบั เข้ำ
ละสำธติ วธิ ีกำรเลน่ เกมพนื้ ฐำน 1. เกมพนื้ ฐำนกำรบวก สังเกต
นไม่เกิน๑๐ และเกมพนื้ ฐำนกำร 2. เกมชดุ เดมิ ในมมุ ๑. กำรเลน่ เกมจับคู่
กนิ ๑๘ เกมกำรศึกษำ เปรยี บเทียบจำนวน
ป็นกลุ่มยอ่ ยๆ ใหเ้ ดก็ เลน่ เกมใหม่ ๒. จำแนกและจดั กลุ่ม
ล่นมำแล้ว สลบั หมุนเวยี นกัน
หนดเวลำ ครนู ำเดก็ สนทนำบอก จำนวนของส่งิ ตำ่ งๆ
กับเกมท่เี ลน่
เก็บเกมเขำ้ ท่ีใหเ้ รยี บร้อย
แผนการจดั ประสบการณ์รายวนั วนั ท่ี ๓ หน่วย 32
จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้
การเรียนรู้
ประสบการณ์ สาระท่คี วรเรยี นรู้
สาคญั
กิจกรรมเคลือ่ นไหว (2) กำรแสดง 1. กิจกรรมเคล
รำ่ งกำยไปทั่วบร
และจังหวะ ควำมคิดสรำ้ งสรรค์ เมือ่ ได้ยินสัญญำ
เคลือ่ นไหวรำ่ งกำย ผำ่ นภำษำ ท่ำทำง 2. เด็กทำท่ำทำ
กำรเคลื่อนไหว คำบรรยำย “คำ
แสดงท่ำทำงตำมคำ (๑) กำรเคลื่อนไหว กับเร่ืองแรงและ
บรรยำยโดยใชก้ ำร วันนี้เรำมำโรงเร
ประสำนสมั พันธ์ อยกู่ บั ที่ เดนิ มำและปนั่ จ
กลำ้ มเนอื้ และทรงตัว มำก เรำร้สู ึกเย็น
ได้ (๒) กำรเคล่ือนไหว
เคลื่อนท่ี
3. หำอำสำสมัค
4. ให้เดก็ ฟังผอ่
แรงและพลังงานในชีวิตประจาวนั ชัน้ อนบุ าลปีที่ ๒
กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ
ล่อื นไหวพนื้ ฐำนใหเ้ ด็กเคล่ือนไหว 1. เคร่ืองเคำะจังหวะ สงั เกต
รเิ วณอย่ำงอสิ ระตำมจงั หวะ 2. คำบรรยำย กำรเคลื่อนไหวรำ่ งกำย
ำณหยุดเคลอื่ นไหวในทำ่ นัน้ ทันที แสดงท่ำทำงตำมคำ
บรรยำยโดยใช้กำร
ำงตำมจินตนำกำรโดยฟงั ประสำนสัมพนั ธ์
ำบรรยำยควรเป็นเรื่องท่ีเกย่ี วขอ้ ง กล้ำมเนอ้ื และทรงตวั
ะพลงั งำนในชีวิตประจำวัน เชน่
รยี นดว้ ยแรงทเี่ กิดจำกตัวเรำคือ
จักรยำนมำ ถงึ โรงเรยี นเรำ มีต้นไม้
นสบำย นั่งพกั หำยเหนอ่ื ย”
ครมำบรรยำยบ้ำง อกี ๒ – ๓ คน
อนคลำยสบำย ๆ
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ก
การเรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้
กิจกรรมเสรมิ (1) กำรสำรวจ แหลง่ พลังงำนมีจำกหลำย 1. ครพู ำเด็กไปท
ประสบการณ์ สงิ่ ตำ่ ง ๆ และ แหลง่ เชน่ แรงนำ้ กำรทำ มอื รองใต้กอ๊ กนำ้
1. ค้นหำคำตอบ แหล่งเรยี นร้รู อบตัว กงั หนั รองน้ำ คอ่ ยๆเพม่ิ ขึ้น เด
ของขอ้ สงสัยตำ่ ง ๆ (4) กำรมีส่วนร่วม ๒. ครนู ำกงั หนั น
ตำมวธิ กี ำรของ ในกำรรวบรวมขอ้ มูล และใช้คำถำมเช
ตนเอง และนำเสนอข้อมูล จะเล่นได้ไหม เล
2. เล่ำเรอื่ งดว้ ย (4) กำรพูด ๓. จะเกดิ อะไรข
ประโยคสน้ั ๆ ได้ แสดงควำมคิด น้ำ
ควำมรสู้ กึ และ ๔. ใหเ้ ด็กทำกำร
ควำมตอ้ งกำร 5. ครแู ละเด็กสร
ส่งิ ที่ไดจ้ ำกแรงน
กจิ กรรมศลิ ปะ (2) กำรเขยี นภำพ ใหเ้ ด็กเลือกทำก
สรา้ งสรรค์ (2) กำรแสดง การเปา่ สี และ ก
สรำ้ งผลงำนศลิ ปะ ควำมคดิ สร้ำงสรรค์ การประดิษฐ์กัง
เพอื่ ส่ือสำร ศิลปะ ปั้นดินน้ำมันเป็น
ควำมคิด (๓) กำรทำศิลปะ เสียบลูกชิ้นโดยร
ควำมรสู้ ึก แบบร่วมมอื ในดินน้ำมัน เสร
ของตนเองได้ (5) กำรทำงำนศิลปะ กอ๊ กนำ้ ได้ คอยด
๑. ให้เด็กเลือกก
๒. ถำมเด็กเวลำ
กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ
ทก่ี ๊อกนำ้ ทดลองเปิดน้ำแล้วให้เอำ ๑. กงั หนั รองนำ้ สงั เกต
1. กำรคน้ หำคำตอบของ
ำ รสู้ กึ อย่ำงไรเริ่มเปดิ เบำๆและ ๒. รูปท่ีเกิดจำกแรงน้ำ ขอ้ สงสยั ต่ำง ๆ ตำม
ด็กเหน็ ควำมแตกตำ่ งหรือไม่ วธิ กี ำรของตนเอง
นำ้ มำใหเ้ ด็กดู ใหจ้ ับสมั ผัส เช่น รูปเขอื่ นพลงั นำ้ 2. กำรเล่ำเรอื่ ง
ช่น เด็กคิดวำ่ คืออะไร ใชท้ ำอะไร ต่ำงๆ ด้วยประโยคส้ัน ๆ
ลน่ อย่ำงไรไดบ้ ้ำง
ขน้ึ ถำ้ เอำกังหันนำ้ ไปรองใตก้ ๊อก
รทดลอง และเลำ่ สง่ิ ทเี่ กิดขึ้น 1. สีน้ำ แมส่ ี ๓ สี สงั เกต
รุปร่วมกนั ถึงแรงนำ้ พรอ้ มให้ดูรูป 2. ดนิ นำ้ มนั
น้ำ ๓. แผ่นพลำสตกิ ขนำด กำรสร้ำงผลงำนศลิ ปะ
กิจกรรมท่สี นใจ กว้ำง ๓ ซ.ม ยำว ๕ ซ.ม เพอ่ื ส่ือสำรควำมคิด
๔. หลอดกำ้ นลกู โป่ง ควำมร้สู ึกของตนเอง
การประดษิ ฐ์กงั หนั นา้ หรือไมเ้ สยี บลูกชิน้ ยำว
ประมำณ ๑๕ ซ.ม
งหันน้า
นก้อนกลมรีหุ้มตอนกลำงของไม้
รอบ กดแผน่ พลำสตกิ ให้ติดแน่น
ร็จแลว้ ก็นำกงั หันน้ำไปรองใต้
ดูมนั หมนุ หรอื ไม่
กจิ กรรมตำมควำมสนใจ ๑ อยำ่ ง
ำเลือกกิจกรรมคดิ ตดั สนิ ใจอยำ่ งไร
จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้
การเรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้
๓. ทำเสร็จนำเส
ทำควำมสะอำด
กจิ กรรมเลน่ ตามมุม (2) กำรเล่นและ มุมประสบกำรณ
๑. ช่วยเหลอื และ ทำงำนร่วมกับผู้อ่นื เด็กเลือกกจิ กรร
แบ่งปันผอู้ ่นื ไดเ้ ม่ือมีผู้ (3) กำรเล่นตำมมุม สนใจ ไดแ้ ก่
ชี้แนะ ประสบกำรณ์ 1.๑ มมุ หนังส
๒. เก็บของเล่นของ แผน่ พบั ตำ่ งๆสสี
ใชเ้ ข้ำทด่ี ว้ ยตนเอง เร่ืองแรงและพล
๑.๒ มมุ สร้ำงส
ฉีกตัดปะ และก
๑.๓ มุมบลอ็ ก
๑.๔ มุมวิทยำ
เก่ยี วกับกำรทด
ตำ่ งๆ
2. เม่อื หมดเวล
กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ
สนอผลงำนทส่ี ำเรจ็ เด็ก ๆ ช่วยกนั สงั เกต
ดอุปกรณ์ และ เกบ็ ของเข้ำที่ ๑.กำรช่วยเหลือและ
แบง่ ปนั ผู้อื่นได้เมื่อมีผู้
ณ์ควรมอี ย่ำงน้อย ๔ มมุ 1. มมุ ประสบกำรณ์ ชแ้ี นะ
๒.กำรเก็บของเล่นของใช้
รมในมุมประสบกำรณ์ตำมควำม ในห้องเรียน เขำ้ ทด่ี ว้ ยตนเอง
สอื วำงหนงั สอื นทิ ำน หนงั สือภำพ
สนั งดงำมดึงดูดใจเด็ก เกี่ยวกับ
ลังงำนตำ่ งๆ
สรรค์ จัดวำงอุปกรณ์ เกี่ยวกับ
กำรสรำ้ งงำนจำกกำรใช้สนี ำ้ ต่ำงๆ
ก
ำศำสตร์ วำงอุปกรณ์ของจรงิ
ดลองประดิษฐ์ของเล่นด้วยพลังงำน
ลำเดก็ เก็บของเขำ้ ท่ีให้เรียบร้อย
จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ก
การเรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรเรียนรู้ ๑. ครพู ำเด็กไปส
และแบ่งเด็กเป็น
กิจกรรมกลางแจง้ (๔) กำรเคล่ือนไหวที่ เกมตักน้ำใส่ขวด
๒. กตกิ ำ วำงถงั
เลน่ หรือทำงำน ใช้กำรประสำน จำกจดุ วำงถังน้ำ
ร่วมกับเพื่อนเปน็ สัมพนั ธข์ องกำรใช้ เรยี งหน่งึ
กล่มุ ได้ กล้ำมเน้ือใหญใ่ นกำร ๓. เร่ิมเลน่ เด็กค
ไดค้ นละ ๕ ชอ้ น
จบั กำรโยน กำรเตะ เพอ่ื นคนตอ่ ไป ก
๔. เสรจ็ กจิ กรรม
(2) กำรเลน่ และ ๕. เม่ือหมดเวลำ
อุปกรณ์ และทำ
กำรทำงำนร่วมกับ หอ้ งเรยี น
ผอู้ ่ืน 1. ครสู ำธติ เกมพ
๒. ครูแบ่งเดก็ เป
เกมการศกึ ษา (13) กำรจบั คู่ เกมพ้นื ฐำนกำรลบ และเกมทเ่ี คยเล
๑. เลน่ เกมจบั คู่ เปรยี บเทยี บส่งิ ต่ำงๆ ๓. เม่อื ครบกำห
และเปรยี บเทียบ (๘) กำรนับและแสดง ควำมร้สู ึกเกี่ยวก
จำนวนได้ จำนวนของสง่ิ ต่ำงๆ ๔. เดก็ ชว่ ยกนั เก
ในชวี ิตประจำวนั
กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ
สนำม ทบทวนขอ้ ตกลงในกำรเล่น ๑. ขวดนำ้ ดื่มขนำด สังเกต
นกลุ่มประมำณ ๓ – ๕ คน ให้เล่น ๓๐๐ มิลลลิ ิตร กำรเลน่ หรอื ทำงำน
ด และแจกอุปกรณ์ของแต่ละกล่มุ ๒. ถังใส่น้ำ ร่วมกับเพ่ือนเป็นกลุ่ม
งน้ำ ขวดอยู่คู่กัน ใหเ้ ดก็ ยนื หำ่ ง ๓. ช้อนรับประทำน
ำ ประมำณ ๕ เมตร เขำ้ แถวตอน อำหำร
คนท่ี ๑ ถือช้อนวิ่งไปตักน้ำใส่ขวด
น ครบแลว้ วิ่งกลบั ไปสง่ ช้อนให้
กลมุ่ ไหนเตม็ ขวดกอ่ นเป็นผูช้ นะ
มเดก็ เลือกเล่นอสิ ระในสนำม
ำ ช่วยกนั เก็บทำควำมสะอำด
ำควำมสะอำดร่ำงกำย กลับเข้ำ
พนื้ ฐำนกำรลบจำนวนไมเ่ กนิ ๑๐ 1. เกมพนื้ ฐำนกำรลบ สังเกต
ป็นกลุ่มย่อยๆ ใหเ้ ด็กเลน่ เกมใหม่ จำนวนไมเ่ กนิ ๑๐
ล่นมำแลว้ สลบั หมนุ เวยี นกัน 2. เกมชุดเดมิ ในมุม ๑.เลน่ เกมจบั คู่และ
เกมกำรศึกษำ เปรียบเทยี บ จำนวน
หนดเวลำ ครนู ำเด็กสนทนำบอก ๒.จำแนกและจัดกล่มุ
กับเกมท่ีเล่น
จำนวนของสิ่งตำ่ งๆ
กบ็ เกมเข้ำท่ีใหเ้ รียบร้อย
จดุ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้ ก
การเรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้
๒. จำแนกและจดั (๑๓) กำรจบั คู่
กลุ่มจำนวนของสง่ิ กำรเปรียบเทียบ
ตำ่ งๆได้ (๕) กำรคดั แยก
กำรจัดกลุม่ และ
กำรจำแนกส่งิ ต่ำงๆ
ตำมลักษณะและ
รูปร่ำง รปู ทรง
กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ