The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาล 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nmatroeng1, 2022-05-21 10:13:46

แผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาล 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565

แผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาล 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้

กจิ กรรมเลน่ ตามมุม ประสบการณ์สาคัญ สาระทีค่ วรรู้
เก็บของเลน่ เขา้ ทด่ี ว้ ย
ตนเองได้ (3) การเล่นตามมมุ

ประสบการณ์

(4) การดแู ลห้องเรียน

ร่วมกัน

กิจกรรมกลางแจ้ง (2) การเลน่ รายบคุ คล
เล่นและทากิจกรรมอย่าง กลุ่มย่อยและกลุ่มใหญ่
ดว้ ยปลอดภยั ด้วยตนเองได้ (5) การเลน่ เคร่ืองเล่น
สนามอย่างอิสระ

กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน
พัฒนาการ
1. ครแู นะนากิจกรรมตามมุมประสบการณ์ มมุ ประสบการณ์ สังเกต
การเก็บของเล่นเขา้ ที่
2. เด็กเลอื กกิจกรรมตามมุมประสบการณ์ ในห้องเรยี น ด้วยตนเอง

ตามความสนใจซึ่งควรจัดไว้ อย่างน้อย ๔ สังเกต
การเลน่ และทา
มมุ เช่น กจิ กรรมอยา่ งปลอดภัย
ดว้ ยตนเอง
- มุมหนังสอื - มมุ บล็อก

- มมุ เกมการศึกษา - บทบาทสมมติ

- มมุ เคร่อื งเลน่ สัมผสั - มุมธรรมชาติศกึ ษา

3. เม่อื หมดเวลาเดก็ เก็บของเขา้ ท่ใี ห้

เรียบร้อย

1. ครแู นะนาข้อตกลงในการเล่นเคร่อื งเลน่ เครื่องเล่นสนาม

สนามแตล่ ะชนดิ พร้อมทังแนะนาวิธกี ารเล่น

อย่างปลอดภัย

2. เด็กเล่นเครอ่ื งเล่นสนามโดยมคี รดู แู ล

อย่างใกลช้ ิด

3. เมื่อหมดเวลาเดก็ เขา้ แถวทาความ

สะอาดรา่ งกายกอ่ นเข้าชนั เรียน

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้

กจิ กรรมเกมการศกึ ษา ประสบการณส์ าคญั สาระทคี่ วรรู้
บอกลักษณะและ
สว่ นประกอบของสิง่ ต่างๆ (6) การต่อของชินเลก็ การสังเกตสิง่ ทีเ่ หมือนกนั
จากการสังเกตโดยใช้
ประสาทสมั ผสั ได้ เติมในชินใหญใ่ ห้ หรือต่างกันเกีย่ วกบั สี

สมบรู ณ์และการแยก รปู ร่าง ฯลฯ

ชนิ ส่วน

กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
พฒั นาการ
1. ครูแนะนาอุปกรณ์พรอ้ มทังสาธิตวิธกี าร 1. เกมภาพตดั ต่อ
เลน่ เกมภาพตัดตอ่ กระทง กระทง สังเกต
2. แบง่ เดก็ เป็น 5 กลุ่ม ให้เด็ก 1 กลุ่มรับ 2. เกมการศึกษา การบอกลกั ษณะและ
เกมท่แี นะนาใหมไ่ ปเลน่ กล่มุ อนื่ ๆ เล่นเกม ชุดอื่นๆทเ่ี คยเล่น สว่ นประกอบของ
การศึกษาชดุ เดิม มาแลว้ สิ่งต่างๆจากการสงั เกต
3. เดก็ เล่นเกมโดยหมุนเวยี นสลบั เปล่ยี น โดยใช้ประสาทสัมผสั
กนั ในแตล่ ะกลุ่มโดยทุกกลมุ่ ต้องได้เล่นเกม
ภาพตดั ต่อกระทง
4. เด็กเกบ็ เกมการศึกษาเขา้ ทห่ี ลังเลิกเลน่
แล้ว

แผนการจดั ประสบการณ์รายวนั วนั ที่

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
ประสบการณส์ าคญั สาระทคี่ วรรู้

กิจกรรมเคลอ่ื นไหวและ (3) การเคลื่อนไหวตาม 1. เด็กป
จงั หวะ เสียงเพลงและดนตรี บรเิ วณร
สนใจ มคี วามสุขและแสดง เสยี งดน
“หยดุ ”
ทา่ ทาง / เคลื่อนไหว 2. เด็กแ
ประกอบ จังหวะ และดนตรี กล่มุ ออก
ได้ ใหเ้ พ่อื น
ใหค้ นถดั
กจิ กรรมเสริมประสบการณ์ (1) การสงั เกตลักษณะ ลกั ษณะรปู รา่ ง ทกุ คน
ฐานกระทง 3. หลงั ป
บอกลกั ษณะและ สว่ นประกอบ อริ ยิ าบถ
ต่อไป
ส่วนประกอบของสิ่งต่างๆ การเปล่ียนแปลงและ
1. เดก็ เ
จากการสงั เกตโดยใช้ ความสมั พันธข์ องสง่ิ กระทงแ
กลม แบ
ประสาทสมั ผสั ได้ ต่างๆโดยใชป้ ระสาท 2. ครทู บ
โดยใช้ภ

สัมพันธอ์ ย่างเหมาะสม

2 หนว่ ยท่ี 20 ลอยกระทง ชนั้ อนุบาลปีที่ 2

กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน
พัฒนาการ
ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเคลื่อนไหวร่างกายไปท่วั ๆ 1. เพลงวันเพญ็
สงั เกต
รอบๆหอ้ งเรยี นอยา่ งอิสระตามจังหวะ เดือนสิบสอง ความสนใจ มคี วามสขุ
และแสดงท่าทาง /
นตรหี รือเสยี งเคาะจังหวะเมอื่ ได้ยนิ สัญญาณ 2. เพลงบรรเลง เคลือ่ นไหวประกอบ
จังหวะ และดนตรี
ใหห้ ยดุ เคลื่อนไหวในทา่ นันทนั ที หรือเครื่องเคาะ

แบ่งกลุ่มเข้าแถวตอนลึกใหห้ ัวแถวของแต่ละ จงั หวะ

กมาทาท่าประกอบเพลงวนั เพ็ญเดือนสิบสอง

นๆทาตามเม่ือเพลงหยุดใหไ้ ปต่อทา้ ยแถวแลว้

ดไปออกมาเปน็ ผนู้ าต่อไปจนได้เปน็ ผนู้ าครบ

ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมเสรจ็ แล้ว เดก็ พกั ผอ่ น
ถ 2 – 3 นาที เพอ่ื เตรียมปฏบิ ตั ิกิจกรรม

เลา่ ประสบการณ์ทีเ่ คยเห็นเกยี่ วกบั ฐาน 1. กระทงของ สังเกต
การบอกลักษณะและ
แบบตา่ งๆว่ามีลกั ษณะอยา่ งไร (สามเหลย่ี ม จรงิ สว่ นประกอบของส่งิ
ต่างๆ จากการสังเกต
บน หนา บาง กว้าง) 2. ฐานกระทง โดยใช้ประสาทสัมผัส

บทวนเกีย่ วกบั รูปรา่ งเรขาคณิตว่ามีอะไรบ้าง รูปรา่ งตา่ งๆ

ภาพประกอบ ๓. รปู ภาพ

เรขาคณิต

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรรู้
2. ครนู า
(17) การคาดเดาหรอื วงรี สีเ่ ห
การคาดคะเนสิ่งท่ี เด็กวา่ ฐา
อาจจะเกิดขึนอยา่ งมี เด็กสนใ
เหตุผล คาถาม
3. เด็กๆ
กจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ (2) การเขียนภาพและ ควรมีรปู
แคบ
สนใจมคี วามสุขและ การเล่นกบั สี 4. เดก็ น
โดยหาว
แสดงออกผ่านงานศิลปะได้ (5) การทางานศลิ ปะ
1. ครเู ต
จนิ ตนาก
2. ครูแน
การปฏบิ
3. เดก็ ว
และตอ่ เ
4. เด็กร

กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน
พัฒนาการ
าฐานกระทงทีม่ รี ปู ร่างตา่ งกันไดแ้ ก่ วงกลม
หล่ียม แบน หนา บาง มาใหเ้ ด็กดู และถาม
านกระทงทเ่ี หน็ แตกต่างกันหรอื ไม่ กระตุน้ ให้
ใจและหาคาตอบเกยี่ วกบั ฐานกระทง โดยใช้
“ฐานกระทงแบบใดจะลอยนาได้ดีกว่ากนั ”
ๆ ช่วยกนั คิดว่า ฐานกระทงถ้าจะลอยนาได้ดี
ปร่างอย่างไร ควรหนาหรอื บาง กว้างหรือ

นาฐานกระทงรปู แบบตา่ งๆ มาชัง่ นาหนกั 1. สีเทยี น สังเกต
วธิ ีชงั่ แบบไมต่ อ้ งใช้เครื่องชั่ง 2. กระดาษขาว ความสนใจมีความสุข
และแสดงออกผ่านงาน
ตรียมอุปกรณก์ จิ กรรมวาดภาพสีเทยี นตาม ศิลปะ
การ
นะนาอปุ กรณ์ วธิ กี ารปฏิบัตแิ ละข้อตกลงใน
บตั ิกจิ กรรม
วาดภาพฐานกระทงที่คิดว่าจะลอยนาไดด้ ี
เติมรายละเอียดตามจินตนาการของตนเอง
รว่ มกนั เก็บอุปกรณ์และนาเสนอผลงาน

จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้

กจิ กรรมเลน่ ตามมุม ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรรู้
เกบ็ ของเล่นเข้าทด่ี ว้ ย
ตนเองได้ (3) การเลน่ ตามมมุ

ประสบการณ์

(4) การดูแลห้องเรยี น

รว่ มกัน

กิจกรรมกลางแจง้ (1) การเคลื่อนไหวโดย
เล่นและทากิจกรรมอยา่ ง ควบคุมตนเองไปใน
ปลอดภยั ดว้ ยตนเองได้ ทิศทาง ระดับและพืนท่ี
(2) การเล่นกลุ่มย่อย

กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ
พัฒนาการ
1. ครแู นะนากจิ กรรมตามมมุ ประสบการณ์ มมุ ประสบการณ์
สังเกต
2. เดก็ เลอื กกิจกรรมเลน่ ตามมุม ในหอ้ งเรียน การเก็บของเล่นเข้าท่ี
ดว้ ยตนเอง
ประสบการณ์ตามความสนใจซึง่ ควรจัดไว้

อย่างน้อย ๔ มุม เช่น

- มุมหนงั สือ - มมุ บลอ็ ก

- มุมเกมการศึกษา - บทบาทสมมติ

- มมุ เครือ่ งเลน่ สัมผสั - มุมธรรมชาตศิ ึกษา

3. เมื่อหมดเวลาเด็กเกบ็ ของเข้าทีใ่ ห้

เรยี บร้อย

1. ครูแนะนาข้อตกลงและอปุ กรณใ์ นการ อุปกรณ์เล่นนา สังเกต
เลน่ นาเล่นทรายแต่ละชนิด เช่น เครือ่ งมือ เลน่ ทราย เลน่ และทากิจกรรม
ตวงชนดิ ตา่ งๆ กรวย พลว่ั หรืออปุ กรณ์อืน่ ๆ อยา่ งปลอดภัยด้วย
พร้อมทงั แนะนาวิธีการเล่นอย่างปลอดภยั ตนเอง
2. เด็กเลน่ นาเล่นทรายโดยมีครูดูแลอย่าง
ใกล้ชดิ
3. ครูใหส้ ญั ญาณหมดเวลาเด็กเกบ็ อปุ กรณ์
ทาความสะอาดอุปกรณ์ เขา้ แถวทาความ
สะอาดรา่ งกาย

จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้

ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรรู้

กิจกรรมเกมการศกึ ษา (8) การนบั และแสดง การจับค่จู านวนภาพกับ

จับคแู่ ละเปรยี บเทียบความ จานวนของสง่ิ ต่างๆใน ตัวเลข 1 - 6

แตกตา่ งหรือความเหมอื น ชวี ิตประจาวนั

ของสิ่งตา่ งๆ โดยใช้ลกั ษณะ (13) การจบั คู่ ตาม
ทส่ี ังเกตพบเพยี งลกั ษณะ ลักษณะ รปู รา่ ง และ
เดียวได้ จานวน

กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ
พฒั นาการ
1. ครแู นะนาอุปกรณ์พร้อมทังสาธิตวิธีการ
เล่นเกมการจับคภู่ าพจานวนกระทงกบั 1. เกมการศึกษา สงั เกต
ตวั เลข 1 - 6
2. แบ่งเดก็ เปน็ 5 กลมุ่ ใหเ้ ดก็ 1 กลุ่มรบั จับคูภ่ าพจานวน การจบั คแู่ ละ
เกมทแ่ี นะนาใหมไ่ ปเลน่ กลุม่ อ่ืนๆ เล่นเกม
การศกึ ษาชดุ เดมิ กระทงกับตวั เลข เปรียบเทยี บความ
3. เด็กเลน่ เกมโดยหมนุ เวียนสลับเปลี่ยน
กนั ในแตล่ ะกลมุ่ โดยทุกกลุ่มต้องได้เล่นเกม 1 - 6 แตกตา่ งหรือความ
จับคู่ภาพจานวนกระทงกับตัวเลข1-6
4. เดก็ เก็บเกมการศึกษาเข้าทห่ี ลังเลกิ เล่น 2. เกมการศึกษา เหมือนของสิ่งต่างๆ
แลว้
ชดุ อ่ืนๆ ท่เี คยเล่น โดยใช้ลักษณะทสี่ ังเกต

มาแลว้ พบเพยี งลักษณะเดียว

แผนการจดั ประสบการณ์รายวัน วันท่ี 3 ห

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ 1.
กิจกรรมเคลือ่ นไหวและ ประสบการณส์ าคัญ สาระทคี่ วรรู้ บร
จังหวะ 2.
สนใจ มคี วามสุขและแสดง (3) การเคล่ือนไหวตาม บร
ท่าทาง / เคลื่อนไหว เสียงเพลงและดนตรี กร
ประกอบ จงั หวะ และดนตรี -
ได้ (3) การสบื เสาะหา รูปร่าง ขนาด พนื ท่ี -
ความรู้เพ่ือค้นหา ของฐานกระทงทีม่ ีผล -
กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์ คาตอบของข้อสงสยั ตอ่ การจมและลอย -
คน้ หาคาตอบของข้อสงสยั ตา่ งๆ 3.
ต่างๆตามวธิ ีการของตนเอง 4.
ได้ อิร
ตอ่

1.
คดิ
อย
กว
ช่ว
2.
คา

หน่วยที่ 20 ลอยกระทง ชั้นอนบุ าลปีท่ี 2

กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ
พฒั นาการ
กจิ กรรมพนื ฐานให้เด็กเคลื่อนไหวรา่ งกายไปท่วั 1. เคร่ืองเคาะ สงั เกต
รเิ วณอยา่ งอิสระตามจังหวะ ช้า เร็ว หยุด จงั หวะ สนใจมคี วามสุข
เดก็ เคลอ่ื นไหวร่างกายอย่างอสิ ระตามเพลง 2. รปู ภาพกระทง และแสดงท่าทาง
รรเลง เมื่อไดย้ ินสัญญาณหยุดแตล่ ะครังครชู ูภาพ - ใบตอง / เคลือ่ นไหว
ระทงขนึ ให้ทาตามคาสง่ั ดังนี - ขนมปัง ประกอบจงั หวะ
ภาพกระทงใบตอง ยา่ เท้าอย่กู ับที่ 6 ครัง - ผลไม้ และดนตรี
ภาพกระทงขนมปัง กระโดดเท้าคู่ 6 ครัง - กระดาษ
ภาพกระทงผลไม้ ปรบมือ 6 ครงั 3. เพลงบรรเลง สงั เกต
ภาพกระทงกระดาษ เดินไปข้างหน้า 6กา้ ว การค้นหาคาตอบ
ให้ปฏิบตั ิตามขอ้ 2 ซาอกี 2 - 3 ครัง 1. ดนิ นามัน ของขอ้ สงสัย
หลงั ปฏิบตั กิ ิจกรรมเสรจ็ แล้ว เดก็ พักผ่อน 2. อา่ งใสน่ า ตา่ งๆตามวิธีการ
ริยาบถ 2 – 3 นาที เพื่อเตรียมปฏบิ ัติกิจกรรม 3. โฟม ของตนเอง
อไป

ครทู บทวนกจิ กรรมวนั ท่ี 2 ที่ให้เดก็ ๆ ช่วยกัน
ดวา่ ฐานกระทงถา้ จะลอยนาไดด้ คี วรมรี ปู ร่าง
ยา่ งไร วงกลม วงรี ส่ีเหลย่ี ม ควรหนาหรอื บาง
วา้ งหรือแคบโดยให้เดก็ แบง่ กลมุ่ แตล่ ะกลมุ่
วยกนั คิด นาเสนอวิธกี ารหาคาตอบของตนเอง
ครูและเด็กสรปุ ร่วมกนั เก่ียวกบั ขนั ตอนการหา
าตอบ และวิธกี ารวัดเพ่ือตัดสนิ ว่าแบบใดลอยนา

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้
ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรรู้

ไดด้ ที
จมน
นาห
3. เด
แผ่เป
กลมุ่
ส่ีเหล
กลุ่ม
กลุ่ม
(หนา
หมา
นักเร
4. ส
จากด
- รูป
-พ
- คว

กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
พฒั นาการ
ทสี่ ุด (เช่น ใชก้ ารวางเหรียญบาทจนกวา่ จะ
นา ถา้ แบบใดใส่เหรยี ญได้มาก แสดงวา่ รับ
หนักได้ดีที่สุด)
ดก็ แต่ละกลุ่มทดสอบโดยการปนั้ ดินนามนั
ป็นรปู ฐานกระทงเปรยี บเทยี บกนั ดังนี
มท่ี 1 ทดลองเปรียบเทยี บรปู รา่ ง (วงกลม
ลีย่ ม รี)
มที่ 2 ทดลองเปรยี บเทยี บพนื ท่ี (มาก นอ้ ย)
มท่ี 3 ทดลองเปรียบเทยี บความหนา
า บาง)
ายเหตุ ปรบั เปลี่ยนได้ขึนอยู่กับจานวน
รียน
สงั เกตและบรรยายการลอยของกระทงท่ีทา
ดนิ นามัน ในกรณี
ปร่างต่างกัน
พนื ทต่ี ่างกัน
วามหนาต่างกนั เหมือนกันหรือ ไม่อย่างไร

จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ 1. ครเู ต
ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรรู้ ต่างๆ ได
กจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ 2. ครแู น
สนใจมีความสขุ และ (3) การปน้ั การปฏิบ
แสดงออกผ่านงานศิลปะได้ (5) การทางานศิลปะ 3. เด็กน
และตงั ช
4. เด็กร

กจิ กรรมเลน่ ตามมุม (3) การเลน่ ตามมมุ 1. ครแู น
เก็บของเล่นเขา้ ท่ดี ้วย ประสบการณ์ 2. เดก็ เ
ตนเองได้ (4) การดแู ล ความสน
ห้องเรียนรว่ มกนั - มมุ หน
- มุมเกม
- มมุ เคร
3. เมื่อห

กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน
พฒั นาการ
ตรยี มอุปกรณ์กจิ กรรมปั้นดินนามันเป็นรูปทรง 1. ดินนามนั
ดแ้ ก่ สีเ่ หล่ียม วงกลม สามเหล่ียม วงรี 2. ทีร่ องป้ัน สังเกต
นะนาอปุ กรณ์ วิธกี ารปฏบิ ตั ิและข้อตกลงใน ความสนใจมีความสุข
บัตกิ จิ กรรม และแสดงออกผา่ นงาน
นาดินนามันทป่ี ั้นมาต่อเรียงกันตามจินตนาการ ศิลปะ
ชือ่ ผลงาน
รว่ มกนั เก็บอปุ กรณ์และนาเสนอผลงาน

นะนากิจกรรมตามมุมประสบการณ์ มุมประสบการณ์ สังเกต
เลอื กกิจกรรมเล่นตามมมุ ประสบการณต์ าม ในหอ้ งเรียน การเกบ็ ของเลน่ เขา้ ที่
นใจซ่งึ ควรจดั ไว้ อย่างนอ้ ย ๔ มุม เช่น
นงั สอื - มุมบล็อก ด้วยตนเอง
มการศึกษา - บทบาทสมมติ
ร่อื งเล่นสมั ผัส - มุมธรรมชาติศึกษา
หมดเวลาเดก็ เก็บของเขา้ ทใี่ ห้เรยี บร้อย

จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ 1.
ประสบการณ์สาคญั สาระสาคญั วงก
กจิ กรรมกลางแจ้ง 2.
เดนิ ต่อเท้าไปข้างหนา้ เปน็ (1) การเคลื่อนไหว เสน้
เสน้ ตรงไดโ้ ดยไม่ต้องกาง เคล่อื นที่ -
แขน (3) การเคล่ือนไหว 5
พรอ้ มวัสดุ อุปกรณ์ -
-
กจิ กรรมเกมการศึกษา (8) การนับและแสดง การสังเกตภาพท่ีมี ไป
จบั คแู่ ละเปรยี บเทยี บความ จานวนของส่งิ ตา่ งๆใน จานวนเท่ากนั 3.
แตกต่างหรือความเหมือน ชวี ิตประจาวนั รา่ ง
ของส่งิ ตา่ งๆ โดยใชล้ กั ษณะ (13) การจับคู่ ตาม
ท่ีสังเกตพบเพยี งลกั ษณะ ลักษณะ รูปรา่ ง 1.
เดียวได้ และจานวน เกม
2.
แน
ชดุ
3.
แต
กร
4.

กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ
เชือก พฒั นาการ
เด็กเตรียมความพร้อมร่างกายโดยเดินเป็น สงั เกต
กลมไปรอบๆสนาม 2 รอบ 1. เกมจบั คภู่ าพ การเดินต่อเท้าไป
ครูอธิบายการเดนิ ต่อเท้าไปข้างหนา้ เป็น กระทงทม่ี ีจานวน ข้างหนา้ เปน็ เสน้ ตรง
นตรงโดยไม่ต้องกางแขนดังนี เทา่ กัน โดยไม่ต้องกางแขน
วางเชือกบนพืนความยาวของเชอื กประมาณ 2. เกมการศึกษา
เมตร ชดุ อื่นๆทเี่ คยเล่น สังเกต
ให้เด็กๆเดนิ จากต้นเชือกไปสุดปลายเชือก มาแล้ว การจับคแู่ ละ
เรม่ิ เดินทีละคนโดยคนท่ีเดินเสร็จแล้วจะต้อง เปรยี บเทยี บความ
ปต่อท้ายแถว แตกต่างหรือความ
เม่ือหมดเวลาเด็กเข้าแถวทาความสะอาด เหมือนของสิ่งต่างๆ
งกายก่อนเข้าชนั เรยี น โดยใชล้ ักษณะทสี่ ังเกต
ครูแนะนาอุปกรณ์พรอ้ มทังสาธติ วิธีการเล่น พบเพียงลกั ษณะเดียว
มจับคู่ภาพกระทงทีม่ ีจานวนเท่ากนั
แบ่งเดก็ เปน็ 5 กล่มุ ให้เด็ก 1 กลมุ่ รบั เกมท่ี
นะนาใหมไ่ ปเลน่ กลุม่ อ่นื ๆ เลน่ เกมการศกึ ษา
ดเดมิ
เด็กเล่นเกมโดยหมุนเวียนสลบั เปลย่ี นกนั ใน
ต่ละกลุ่มโดยทุกกลุ่มต้องไดเ้ ล่นเกมจับคูภ่ าพ
ระทงที่มีจานวนเท่ากัน
เด็กเก็บเกมการศึกษาเขา้ ท่หี ลังเลกิ เล่นแลว้

แผนการจดั ประสบการณร์ ายวนั วันที่ 4 ห

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้
ประสบการณ์สาคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้

กิจกรรมเคลอื่ นไหวและ (1) การเคล่ือนไหว
จงั หวะ อยกู่ บั ที่
สนใจ มีความสขุ และแสดง (2) การเคลื่อนไหว

ท่าทาง / เคลื่อนไหว เคล่อื นที่
ประกอบ จังหวะ และ (3) การเคลื่อนไหวตาม
ดนตรไี ด้ เสียงเพลงและดนตรี

กจิ กรรมเสริม (4) การมีส่วนรว่ มใน รูปรา่ ง ขนาด พืนทีข่ อง

ประสบการณ์ การรวบรวมข้อมลู และ ฐานกระทงทม่ี ีผลตอ่ การ

คน้ หาคาตอบของข้อสงสยั นาเสนอข้อมลู จากการ จมและลอย

ต่างๆ ตามวิธีการของ สบื เสาะหาความรู้ใน

ตนเองได้ รปู แบบต่างๆและแผนภมู ิ

อย่างง่าย

หนว่ ยท่ี 20 ลอยกระทง ช้ันอนุบาลปีท่ี 2

กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ
1. เครอ่ื งเคาะ พฒั นาการ
1. กจิ กรรมพืนฐานให้เด็กเคล่ือนไหว จงั หวะ สงั เกต
ร่างกายไปทั่วบรเิ วณอยา่ งอิสระตามจงั หวะ 2. เพลงบรรเลง สนใจ มีความสขุ และ
เพลง ชา้ เรว็ และเมอื่ ไดย้ ินสัญญาณหยดุ แสดงท่าทาง /
ใหห้ ยดุ ในทา่ นนั ทนั ที 1. แบบบนั ทึกผล เคลื่อนไหวประกอบ
2. ให้เดก็ ทาท่าตามคาบรรยายจากเรอ่ื งท่ี การทดลอง จงั หวะ และดนตรี
ฟงั ดังนี 2. ภาพหนา้ ยิม
“เด็กขับรถตกุ๊ ๆ ไปลอยกระทงทแ่ี ม่นา และไมย่ ิม สังเกต
ขณะท่ีขับรถมีคนจานวนมาก รถเลียวขวา 3. กรรไกร การคน้ หาคาตอบของ
เลียวซา้ ย ตรงไป ขึนเนินสูง จากนันกม็ าถึง 4. กาว ขอ้ สงสัยตา่ งๆตาม
จอดรถเดินไปท่แี ม่นาขอขมาพระแม่ วิธีการของตนเอง
คงคาแลว้ นากระทงลอยไปตามแมน่ า”
3. ใหป้ ฏิบตั ติ ามขอ้ 2 ซาอีก 2 - 3 ครงั
1. ครแู ละเด็กทบทวนกจิ กรรมทดลองใน
วันที่ 3 การจมลอยของฐานกระทงท่ีมี
รูปร่างตา่ งกนั พืนท่ีต่างกนั ความหนา
ตา่ งกนั
2. เดก็ บันทกึ ผลการทดลองโดยแปะภาพ
หน้ายมิ ทล่ี อย/แปะภาพไม่ยิมทจี่ ม
3. เดก็ นาเสนอบนั ทกึ ผลการทดลอง

จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้
ประสบการณส์ าคัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้

กจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ (2) การเขยี นภาพ 1. ค
จนิ ต
สนใจมคี วามสุขและ และการเลน่ กบั สี 2. ค
ข้อต
แสดงออกผ่านงานศิลปะ (5) การทางานศลิ ปะ 3. เด
จนิ ต
ได้ 4. เด

กิจกรรมเล่นตามมุม (3) การเล่นตามมุม 1. ค
เก็บของเล่นเข้าท่ดี ้วย ประสบการณ์ 2. เด
ตนเองได้ (4) การดแู ล ความ
หอ้ งเรียนรว่ มกัน - มมุ
- มุม
- มมุ
3. เม

กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
พัฒนาการ
ครูเตรียมอปุ กรณ์กจิ กรรมวาดรปู กระทงตาม 1. สีเทียน
สังเกต
ตนาการโดยใชร้ ูปรา่ งเรขาคณติ 2. กระดาษขาว ความสนใจมคี วามสุข
และแสดงออกผา่ นงาน
ครแู นะนาอุปกรณ์ วิธกี ารปฏิบัตแิ ละ 3. ดนิ นามนั ศลิ ปะ

ตกลงในการปฏิบัติกจิ กรรม

ด็กนาดินนามันท่ปี ้ันมาต่อเรียงกันตาม

ตนาการและตังช่ือผลงาน

ดก็ รว่ มกนั เก็บอปุ กรณ์และนาเสนอผลงาน

ครแู นะนากจิ กรรมตามมุมประสบการณ์ มุมประสบการณใ์ น สังเกต
ห้องเรียน การเก็บของเลน่ เขา้ ที่
ด็กเลือกกจิ กรรมตามมมุ ประสบการณ์ตาม ดว้ ยต้นเอง

มสนใจซ่ึงควรจัดไว้ อยา่ งนอ้ ย ๔ มมุ เช่น

มหนังสอื - มมุ บลอ็ ก

มเกมการศึกษา - บทบาทสมมติ

มเครอื่ งเลน่ สมั ผัส - มุมธรรมชาตศิ ึกษา

ม่ือหมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเข้าทใ่ี ห้เรียบร้อย

จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ 1.
ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ กา
กจิ กรรมกลางแจง้ นก
เลน่ และทากิจกรรมอยา่ ง (1) การเคลื่อนไหวโดย 2.
ปลอดภยั ด้วยตนเองได้ ควบคุมตนเองไปใน -
ทศิ ทาง ระดบั และพนื ท่ี โดย
(2) การเลน่ กลุ่มใหญ่ -
เดก็
-
ขณ
หล
ปล
3.
ก่อ

กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ
พฒั นาการ
เดก็ เตรยี มความพร้อมร่างกายโดยทาท่า 1. กระทง
ารบรหิ ารส่วนต่างๆของร่างกายตามสัญญาณ 2. เพลงวันเพญ็ สงั เกต
กหวีด เดือนสิบสอง การเล่นและทา
ครูอธบิ ายการเล่นเกมสง่ กระทงดงั นี กิจกรรมอยา่ งปลอดภัย
เดก็ ยนื เปน็ วงกลมขนาดใหญพ่ อสมควร ดว้ ยตนเอง
ยจบั มือกันไว้
ครอู ธิบายขอ้ ตกลงวา่ ถา้ ครูพดู วา่ นาขึนให้
กว่งิ เข้าไปหากันกลางวง
ถา้ ครูพดู ว่านาลงใหเ้ ด็กวงิ่ ออกจากกลางวง
ณะว่งิ ใหจ้ ับมอื กันเป็นวงกลม อย่าให้มอื
ลดุ จากกันครูต้องดูแลให้เดก็ ระวงั ความ
ลอดภัยขณะวิ่งเขา้ – ออก จากวง
เมื่อหมดเวลาเด็กไปทาความสะอาดรา่ งกาย
อนกลบั หอ้ งเรยี น

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้

กจิ กรรมเกมการศึกษา ประสบการณ์สาคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้
จาแนกและจัดกลมุ่ สง่ิ ตา่ งๆ
โดยใช้อย่างนอ้ ยหนึ่ง (5) การคดั แยก การสังเกตความเหมือน
ลกั ษณะเป็นเกณฑ์ได้
การจดั กลมุ่ และ และความแตกตา่ งภาพ

การจาแนกสงิ่ ต่างๆ และสัญลักษณ์

ตามลกั ษณะและรปู รา่ ง

รปู ทรง

กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ
พัฒนาการ
1. ครูแนะนาอปุ กรณ์พรอ้ มทังสาธิตวธิ ีการ 1. เกมจัด
เล่นเกมจดั หมวดหมู่ภาพและสัญลกั ษณ์ หมวดหมภู่ าพ สงั เกต
2. แบง่ เดก็ เป็น 5 กลมุ่ ใหเ้ ด็ก 1 กลุม่ รับ และสัญลกั ษณ์ การจาแนกและจัดกลมุ่
เกมท่แี นะนาใหมไ่ ปเลน่ กลุม่ อนื่ ๆ เล่นเกม 2. เกมการศึกษา
การศึกษาชุดเดมิ ชดุ อื่นๆ ที่เคยเล่น สิ่งตา่ งๆ โดยใช้อยา่ ง
3. เด็กเลน่ เกมโดยหมุนเวยี นสลับเปลีย่ น มาแล้ว
กนั ในแต่ละกลุ่มโดยทุกกลุ่มต้องได้เล่นเกม นอ้ ยหนง่ึ ลกั ษณะเป็น
จัดหมวดหม่ภู าพและสญั ลักษณ์
4. เดก็ เก็บเกมการศึกษาเขา้ ท่หี ลงั เลิกเลน่ เกณฑ์
แลว้

แผนการจัดประสบการณ์รายวนั วันที่ 5 ห

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้
ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรเรียนรู้

กจิ กรรมเคลือ่ นไหวและ (1) การเคลื่อนไหวโดย
จงั หวะ ควบคุมตนเองไปใน
สนใจ มีความสขุ และแสดง ทิศทาง ระดบั และพนื ที่

ท่าทาง / เคล่ือนไหว (3) การเคลื่อนไหวตาม

ประกอบ จังหวะ และดนตรี เสยี งเพลงและดนตรี

ได้

หนว่ ยที่ 20 ลอยกระทง ชน้ั อนบุ าลปีที่ 2

กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
พฒั นาการ
1. กจิ กรรมพนื ฐานให้เด็กเคล่ือนไหว 1. เครือ่ งเคาะ
ร่างกายไปทัว่ บริเวณอย่างอิสระตามจงั หวะ จงั หวะ สังเกต
ชา้ เร็ว หยุด 2. เพลงบรรเลง สนใจ มีความสุขและ
2. เด็กหาพนื ท่โี ดยยืนท่วั บริเวณห้องเรยี น แสดงท่าทาง /
ใหม้ รี ะยะห่างพอดี จากนันครูเปิดเพลง เคลื่อนไหวประกอบ
บรรเลง ใหเ้ ด็กเคลื่อนไหวร่างกาย จังหวะ และดนตรี
สร้างสรรค์ตามจนิ ตนาการพร้อมกับกระทง
ท่ถี อื ครูกระตนุ้ ใหเ้ คลื่อนไหวอยา่ งมีพืนที่
ทศิ ทาง จงั หวะ ระดับ และทา่ ทางท่แี ปลก
ไมซ่ าเพอ่ื นเมือ่ ได้ยินสญั ญาณหยุดให้หยดุ
ในทา่ นันทันที
3. ให้เดก็ จับกลมุ่ 2 คน 3 คนหรอื 4 คน
ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมตามข้อ ๒
4. เด็กนั่งลงแล้วผอ่ นคลายกล้ามเนือ
หายใจเขา้ - ออกช้าๆ

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้

กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้
ประสบการณ์
ฟังผู้อนื่ พดู จนจบและ (6) การพูดอธิบาย รูปรา่ ง ขนาด พืนทีข่ องฐาน
สนทนาโตต้ อบ
สอดคลอ้ งกบั เร่ืองที่ฟงั เก่ียวกับส่ิงของ กระทงทีม่ ผี ลต่อการจมและ
ได้
เหตกุ ารณ์ และ ลอย

ความสัมพันธข์ องสง่ิ

ตา่ งๆ

กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
พฒั นาการ
1. ครแู ละเดก็ ร้องเพลงลอยกระทงพรอ้ มกัน 2 จบ เพลงลอย
2. ครูและเดก็ ช่วยกนั สรปุ ผลการทดลองโดยให้ กระทง สังเกต
เด็กตอบคาถามดงั นี การฟงั ผู้อ่ืนพูดจน
- ขนาดของฐานกระทงแบบใด ลอยนาได้ดีกว่ากนั จบ และสนทนา
เด็กหาคาตอบอย่างไร โตต้ อบสอดคล้อง
- เดก็ ไดค้ น้ พบว่า รูปร่างแบบใดลอยนาได้ดีทส่ี ดุ กบั เร่ืองทีฟ่ ัง
- พืนทก่ี ว้าง/แคบ แบบใดลอยนาได้ดีที่สุด
- ความหนาแบบใดลอยนาได้ดีทสี่ ดุ
- เด็กคิดวา่ เราควรจะออกแบบฐานกระทงแบบใด
ทจ่ี ะลอยนาได้ดีที่สุด
- ฐานกระทงท่ลี อยนาได้ดี เหมือนหรอื ต่างจากที่
เด็กๆ ท่คี ิด/วาดภาพไวต้ อนแรก

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ 1
ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรียนรู้ ไ
กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ 2
สนใจมีความสขุ และ (4) การประดษิ ฐ์ส่ิง ข
แสดงออกผ่านงานศิลปะได้ ต่างๆ ด้วยเศษวสั ดุ 3
(5) การทางานศิลปะ โ

4


กจิ กรรมเล่นตามมุม (3) การเล่นตามมมุ 1
เก็บของเลน่ เขา้ ทดี่ ว้ ย ประสบการณ์ 2
ตนเองได้ (4) การดูแลห้องเรียน ป
ร่วมกนั อ
-
-
-
3
เร

กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน
พัฒนาการ
1. ครเู ตรยี มอุปกรณ์กิจกรรมประดษิ ฐ์กระทง 1. กรวยไอศกรีม
ได้แก่ กรวยไอศกรีม จานกระดาษ กาว 2. จานกระดาษ สังเกต
2. ครูแนะนาอุปกรณ์ วิธีการปฏบิ ตั แิ ละ 3. กาว สนใจมีความสุขและ
ขอ้ ตกลงในการปฏบิ ัติกจิ กรรม แสดงออกผ่านงาน
3. เด็กประดษิ ฐ์กระทงทีส่ ามารถลอยนาได้ ศิลปะ
โดยใช้วสั ดุท่ีกาหนดให้ตามจนิ ตนาการของ
ตนเอง
4. เดก็ ร่วมกันเกบ็ อปุ กรณ์และนาเสนอ
ผลงาน

1. ครูแนะนากิจกรรมตามมุมประสบการณ์ มมุ ประสบการณ์ สงั เกต
ในห้องเรียน การเก็บของเลน่ เขา้ ที่
2. เด็กเลือกกจิ กรรมเล่นตามมมุ
ดว้ ยตนเอง
ประสบการณ์ตามความสนใจซงึ่ ควรจัดไว้

อย่างน้อย ๔ มมุ เชน่

- มมุ หนงั สอื - มุมบล็อก

- มมุ เกมการศึกษา - บทบาทสมมติ

- มุมเครอื่ งเลน่ สัมผสั - มมุ ธรรมชาติศกึ ษา

3. เมอ่ื หมดเวลาเดก็ เกบ็ ของเข้าทีใ่ ห้

รยี บรอ้ ย

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ 1. เด็ก
ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ รา่ งกา
กิจกรรมกลางแจง้ ครู
เลน่ และทากจิ กรรมอยา่ ง (1) การเคลื่อนไหวอยกู่ ับที่ 2. คร
ปลอดภยั ดว้ ยตนเองได้ (1) การเคลื่อนไหวโดย เดยี วอ
- ให้เด
ควบคมุ ตนเองไปใน - ครูเ
ขาเดีย
ทศิ ทาง ระดบั และพืนที่ - เดก็
จากนัน
แตะเพ
ทาท่าก
ทุกคน
3. เมอ่ื
กอ่ นก

กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ
นกหวีด
กเข้าแถวเดินลงสนามเตรียมพรอ้ ม สังเกต
ายโดยบรหิ ารส่วนตา่ งๆของรา่ งกายตาม การเล่นและทากิจกรรม
อย่างปลอดภยั ดว้ ยตนเอง

รูอธิบายและสาธิตการเล่นเกมกระโดดขา
อยู่กบั ที่ ดงั นี
ด็กจับมอื เปน็ วงกลม
เปา่ นกหวดี ใหส้ ัญญาณ ให้เดก็ ๆ กระโดด
ยวขนึ ลงอยู่กบั ที่ จนคล่องแคลว่
กๆ ผลดั เปลย่ี นกันออกมายืนตรงกลาง
นกระโดดขาเดยี วขึนลง 5 ครังแลว้ วิง่ ไป
พอ่ื นคนไหนก็ได้ เพอ่ื นท่ีโดนแตะออกมา
กระโดดขาเดยี วอยกู่ บั ที่ตอ่ ไปจนครบ

อหมดเวลาเดก็ ทาความสะอาดรา่ งกาย
กลบั หอ้ งเรยี น

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้
ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้
กิจกรรมเกมการศึกษา
จาแนกและจัดกลุ่มส่ิงต่างๆ (5) การคดั แยก การจัด การจาแนกภาพวสั ดนุ ามา
โดยใช้อยา่ งน้อยหนึ่ง กลุม่ และการจาแนกส่งิ ทากระทง
ลกั ษณะเป็นเกณฑ์ได้ ต่างๆตามลักษณะและ
รปู รา่ ง รูปทรง

กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน
พัฒนาการ
1. ครูแนะนาอปุ กรณ์พรอ้ มทังสาธติ วิธกี าร 1. เกมจดั หมวดหมู่ สังเกต
เล่นเกมจดั หมวดหมู่ภาพวัสดุนามาทา ภาพวสั ดุนามาทา การจาแนกและ
กระทง กระทง
2. แบง่ เดก็ เป็น 5 กลุ่ม ให้เด็ก 1 กล่มุ รับ 2. เกมการศึกษาชุด จัดกลุ่มสง่ิ ต่างๆ
เกมท่แี นะนาใหมไ่ ปเล่น กลมุ่ อ่ืนๆ เลน่ เกม อื่นๆทเ่ี คยเลน่ มาแลว้
โดยใชอ้ ย่างน้อย
การศกึ ษาชดุ เดิม
หนึ่งลกั ษณะเป็น
3. เด็กเล่นเกมโดยหมนุ เวียนสลับเปลยี่ น
กนั ในแตล่ ะกลุม่ โดยทุกกลุม่ ต้องได้เลน่ เกม เกณฑ์
จัดหมวดหมู่ภาพวัสดุนามาทากระทง
4. เดก็ เก็บเกมการศึกษาเขา้ ทห่ี ลังเลกิ เล่น

แล้ว

๑. เลขท่ี ชือ่ -สกลุ
๒.
๓.
๔.
๕.

6.
7.
8.
9.
10.

๑. การเล่นและทากิจกรรมอยา่ ง แบบสงั เกตพฤติกรรมเด็ก หนว่ ยการจดั ประส
ปลอดภัยด้วยตนเอง ดา้ นรา่ งกาย ดา้ นอารมณแ์ ละจิตใจ ด้าน

๒. การเดินต่อเท้าไปข้างหนา้ เป็น
เสน้ ตรงไดโ้ ดยไมต่ ้องกางแขน

3. ความสนใจมคี วามสขุ และ
แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ

4. ความสนใจมีความสขุ และแสดง
ทา่ ทาง/เคลอื่ นไหวประกอบเพลง
จังหวะ และดนตรี

5. การเก็บของเลน่ เขา้ ที่ดว้ ยตนเอง ประเมินพัฒนาการ สบการณท์ ่ี 2๐ ลอยกระทง ชั้นอนบุ าลปที ่ี 2
นสังคม
6. การฟงั ผูอ้ นื่ พูดจนจบ และสนทนา
โต้ตอบสอดคลอ้ งกบั เรอ่ื งท่ฟี ัง ด้านสตปิ ญั ญา
7. การบอกลกั ษณะของสิง่ ตา่ งๆ จาก
การสังเกตโดยใชป้ ระสาทสัมผสั

8. การจบั คแู่ ละเปรยี บเทยี บความ
แตกตา่ ง หรือความเหมอื นของสง่ิ
ตา่ งๆ โดยใชล้ กั ษณะทสี่ งั เกตพบเพยี ง
ลกั ษณะเดยี ว
9. การจาแนกและจดั กลมุ่ ส่งิ ตา่ งๆ
โดยใช้อยา่ งนอ้ ยหนงึ่ ลกั ษณะเป็น
เกณฑ์
10. การค้นหาคาตอบ ของข้อสงสัย
ตา่ งๆ ตามวิธีการทีข่ องตนเอง

หมายเหตุ

1๑. เลขท่ี ชอื่ -สกลุ
1๒.
1๓.
1๔.
1๕.
16.
17.
18.
19.
20.

คาอธิบาย

ระดับ ๓ ดี ครูสังเกตพฤติกรรมเด็กรายบุคคล จดบนั ทกึ สรปุ เป็นรายสัปดาหร์ ะบ

ระดับ ๒ ปานกลาง ๑. การเล่นและทากิจกรรมอยา่ ง ด้านรา่ งกาย ดา้ นอารมณ์และจติ ใจ ด้าน
ปลอดภัยด้วยตนเอง

๒. การเดินต่อเท้าไปข้างหนา้ เป็น
เสน้ ตรงไดโ้ ดยไมต่ ้องกางแขน

3. ความสนใจมคี วามสขุ และ
แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ

4. ความสนใจมีความสขุ และแสดง
ทา่ ทาง/เคลอื่ นไหวประกอบเพลง
จังหวะ และดนตรี

บุระดบั คุณภาพเปน็ ๓ ระดบั คือ 5. การเก็บของเลน่ เขา้ ที่ด้วยตนเอง ประเมินพัฒนาการ
ระดับ ๑ ตอ้ งสง่ เสริม นสังคม
6. การฟงั ผูอ้ นื่ พูดจนจบ และสนทนา
โต้ตอบสอดคลอ้ งกบั เร่ืองท่ฟี ัง ดา้ นสตปิ ญั ญา
7. การบอกลกั ษณะของสิง่ ตา่ งๆ จาก
การสังเกตโดยใชป้ ระสาทสัมผัส

8. การจบั คแู่ ละเปรยี บเทยี บความ
แตกตา่ ง หรือความเหมอื นของสง่ิ
ตา่ งๆ โดยใชล้ กั ษณะทสี่ งั เกตพบเพยี ง
ลกั ษณะเดยี ว
9. การจาแนกและจดั กลมุ่ ส่งิ ตา่ งๆ
โดยใช้อยา่ งนอ้ ยหนงึ่ ลกั ษณะเปน็
เกณฑ์
10. การค้นหาคาตอบ ของขอ้ สงสัย
ตา่ งๆ ตามวิธีการทีข่ องตนเอง

หมายเหตุ

หน่วยท่ี 21 กลางวัน กลางคนื

นางสาวนันทนา มาตรเลงิ
ครปู ระจาช้นั อนบุ าล ๒

โรงเรยี นบ้านทา่ เยีย่ มวิทยายล

สานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสีมา เขต ๗
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน

การวิเคราะห์โครงสรา้ งหน่วยการจัดประสบการณ
หนว่ ยที่ 21 กลางวัน กลางคืน ช

รายการ อนบุ าลปที ี่ ๑ 1. ลักษณะขอ
สาระท่ีควรเรียนรู้ 2. ลักษณะขอ
๑. ความแตกตา่ งระหว่างกลางวัน กลางคืน 3. ความแตกต
2. ลกั ษณะของดวงอาทิตย์ กลางคนื
3. ลกั ษณะของดวงจนั ทร์ 4. การปฏบิ ัติก
4. การปฏบิ ตั ิกิจวตั รประจาวัน กลางวันและก
5. สตั ว์ท่ีหากนิ ในเวลากลางวันและกลางคนื 5. สตั วท์ อี่ อกห
กลางคนื

มาตรฐาน มฐ. 1 ตบช ๑.๓ (๑.๓.๑) มฐ. 1 ตบช ๑
ตบช ๑
ตัวบ่งชี้ มฐ. 2 ตบช 2.1 (2.1.1) (๒.๑.๔)
มฐ. 2 ตบช 2
สภาพทพ่ี ึงประสงค์ มฐ. ๓ ตบช ๓.1 (๓.1.๑) ตบช 2

ตบช ๓.๒ (๓.๒.2) มฐ. ๓ ตบช ๓
มฐ. 4 ตบช 4
มฐ. 4 ตบช 4.1 (4.1.1) (๔.๑.๓) มฐ. ๕ ตบช ๕

มฐ. ๕ ตบช ๕.๒ (๕.๒.๒) ตบช ๕
มฐ. 6 ตบช ๖
ตบช ๕.4 (๕.4.1) มฐ. ๗ ตบช ๗
มฐ. ๘ ตบช ๘
มฐ. 6 ตบช ๖.๒ (๖.๒.๑) (๖.๒.๒) มฐ ๙ ตบช ๙
มฐ ๑๐ ตบช ๑
ตบช ๖.3 (๖.3.๑)
(1
มฐ. ๗ ตบช๗.๑ (๗.๑.๑)

มฐ. ๘ ตบช ๘.๒ (๘.๒.๑)

ตบช ๘.๓ (๘.๓.๒)

มฐ 9 ตบช 9.1 (9.1.๑)

ตบช 9.2 (9.2.๑)

ณ์ตามหลักสูตรการศกึ ษาปฐมวัย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐
ชั้นอนุบาลปที ่ี ๑ – ๓ ภาคเรยี นท่ี 2

อนบุ าลปที ่ี ๒ อนบุ าลปที ่ี ๓
องดวงอาทติ ย์
องดวงจันทร์ 1. ความแตกต่างของเวลากลางวัน-กลางคืน
ตา่ งระหว่างกลางวนั และ 2. ลกั ษณะของดวงอาทิตย์ ดวงจนั ทร์ ดวงดาว
3. การปฏบิ ัตกิ ิจวตั รประจาวนั ตามหนา้ ทคี่ วาม
กจิ วัตรประจาวนั ในเวลา รบั ผดิ ชอบ
กลางคนื 4. ความสัมพันธข์ องคน พชื สัตว์ และ
หากินในเวลากลางวันและ การเจรญิ เติบโตของพชื
5. สัตว์ที่ออกหากินในเวลากลางคนื และสตั ว์มีพิษ

๑.2 (๑.2.3) มฐ.1 ตบช. 1.2 (1.2.3)
๑.๓ (๑.๓.๑) ตบช. 1.3 (1.3.1)
2.1 (2.1.1) (2.1.2) (๒.๑.๔)
2.2 (2.2.1) (2.2.3) มฐ.2 ตบช. 2.1 (2.1.1) (2.1.4)
๓.๒ (๓.๒.๑) (3.2.2) ตบช. 2.2 (2.2.1) (2.2.2)
4.1 (4.1.1) (๔.๑.๓)
๕.๒ (๕.๒.๒) มฐ.3 ตบช. 3.1 (3.1.1)
๕.4 (๕.4.1) ตบช. 3.2 (3.2.2)
๖.๒ (๖.๒.๑)
๗.๑ (๗.๑.๑) มฐ.4 ตบช. 4.1 (4.1.3)
๘.๒ (๘.๒.๑) มฐ.5 ตบช. 5.2 (5.2.2)
๙.๑ (๙.๑.๑)
๑๐.๑ (๑๐.๑.๑) (๑๐.๑.๒) ตบช. 5.4 (5.4.1)
10.1.3) มฐ.6 ตบช. 6.2 (6.2.1)

ตบช. 6.3 (6.3.1)
มฐ.7 ตบช. 7.1 (7.1.1)
มฐ.8 ตบช. 8.1 (8.1.1)

ตบช. 8.2 (8.2.2)

มฐ ๑๐ ตบช ๑๐.1 (๑๐.๑.๒) (๑๐.๑.๔) มฐ ๑2 ตบช 1
ตบช ๑๐.2 (๑๐.2.๒)
ตบช ๑๐.3 (๑๐.3.๒)

มฐ ๑1 ตบช ๑1.1 (๑1.๑.1) (๑๐.๑.๔)
มฐ ๑2 ตบช ๑2.1 (๑2.๑.๒)

ตบช ๑2.2 (๑2.2.๒)

ประสบการณ์ รา่ งกาย รา่ งกาย
สาคัญ
1.1.1 (๑) การเคลอื่ นไหวอยู่กบั ที่ 1.1.1 การใช้ก

(2) การเคลอื่ นไหว เคลอ่ื นที่ (1) การเค

(๓) การเคลื่อนไหวพร้อมวสั ดอุ ปุ กรณ์ (2) การเค

(๔) การเคล่ือนไหวที่ใช้การประสาน (3) การเค

สัมพนั ธข์ องการใช้กล้ามเน้ือใหญ่ในการจับ (4) การเค

การโยน สัมพนั ธ์ของกา

(๕) การเล่นเคร่ืองเล่นสนามอย่าง การจับ การโย

อสิ ระ 1.1.2 การใช้ก

1.1.2 (2) การเขยี นภาพและการเลน่ กับสี (2) การเข

(3) การปนั้ (3) การปน้ั

(๕) การฉกี ปะ (4) การปร

๑.๑.๔ (๓) การเลน่ เครอื่ งเลน่ อยา่ งปลอดภยั (5) การหย

การตดั การปะ

1.1.3 การรัก

(1) การปฏ

ท่ีดีในกจิ วตั รป

12.2 (12.2.1) ตบช. 8.3 (8.3.2)
มฐ.9 ตบช. 9.1 (9.1.2)

ตบช. 9.2 (9.2.1,9.2.2)
มฐ.10 ตบช. 10.1(10.1.1,10.1.2,10.1.3)

ตบช. 10.2 (10.2.1)
ตบช. 10.3 (10.3.2)
มฐ.11 ตบช.11.2 (11.2.1)

กล้ามเนื้อใหญ่ ร่างกาย
คลื่อนไหวอยู่กับที่ 1.1.2 การใช้กล้ามเนอื้ เลก็
คลอื่ นไหวเคล่ือนที่
คลอื่ นไหวพร้อมวัสดอุ ปุ กรณ์ (2) การเขยี นภาพ
คลอ่ื นไหวที่ใช้การประสาน (5.) การหยิบจับการใช้กรรไกร การฉีก การตัด
ารใช้กล้ามเนื้อใหญใ่ นการขวา้ ง การปะ และการร้อยวสั ดุ
ยน การเตะ 1.1.3 การรักษาสขุ ภาพอนามัย
กล้ามเน้ือเลก็ (1) การปฏบิ ัติตนตามสุขอนามยั สุขนิสยั ท่ดี ี
ขียนภาพและการเลน่ กบั สี ในกจิ วตั รประจาวนั
น 1.1.4 การรักษาความปลอดภยั
ระดิษฐส์ ่ิงต่างๆด้วยเศษวัสดุ (1) การปฏิบัตติ นใหป้ ลอดภยั ในกิจวัตร
ยบิ จับ การใช้กรรไกร การฉีก ประจาวนั
ะ 1.1.5 การตระหนกั รู้เกย่ี วกับร่างกายของตนเอง
กษาสขุ ภาพอนามัยส่วนตน (1) การเคล่อื นไหวโดยควบคุมตนเองไปใน
ฏบิ ัติตนตามสุขอนามัย สขุ นิสยั ทิศทางระดับและพ้ืนที่
ประจาวัน

อารมณ์ อารมณ์
1.2.๑ สุนทรียภาพ ดนตรี 1.2.1 สนุ ทรีย

(๓) การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ (1) การฟงั
ดนตรี ปฏิกิรยิ าโต้ตอ

(๕) การทากจิ กรรมศลิ ปะต่างๆ (3) การเค
๑.๒.๒ (๓) การเล่นตามมุมประสบการณ์/มุม (4) การเล
เลน่ ต่างๆ (5) การทา
๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ 1.2.1 สนุ ทรภี
(1) การฟงั
(1) การพูดสะท้อนความรู้สึกของตน ปฏิกิรยิ าโต้ตอ
และผอู้ ่ืน 1.2.2 การเล่น
(1) การเล
(๕) การทางานศิลปะ (2) การเล
๑.๒.5 (1) การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมต่างๆตาม กลุม่ ใหญ่
(3) การเล
ความสามารถของตนเอง มมุ เลน่ ต่าง ๆ
(4) การเล
สงั คม 1.2.3 คณุ ธรร
๑.๓.๔ (๒) การปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชกิ ท่ดี ีของ (2) ฟังนทิ
(3) การสน
หอ้ งเรียน คดิ เห็นเชงิ จรยิ
(3) การให้ความร่วมมือในการปฏบิ ัติ สงั คม
1.3.2 การดูแ
กจิ กรรมต่างๆ ส่ิงแวดล้อม
(4) การดูแลห้องเรยี นรว่ มกนั (1) การมสี
ส่ิงแวดล้อมท้งั
1.3.4 การมีป

ยภาพ ดนตรี อารมณ์
งเพลง ร้องเพลง และแสดง 1.2.4 การแสดงออกทางอารมณ์
อบเสยี งดนตรี
คลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี (1) การพูดสะท้อนความรู้สกึ ของตนเองและ
ล่นบทบาทสมมติ ผู้อ่นื
ากจิ กรรมศิลปะต่างๆ
ภาพ ดนตรี (3) การเคล่อื นไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี
งเพลงร้องเพลง และการแสดง (5) การทางานศิลปะ
อบเสียงดนตรี 1.2.2 การเลน่
น (1) การเลน่ อิสระ
ล่นอสิ ระ (2) การเล่นรายบคุ คล
ล่นรายบุคคล กลมุ่ ย่อย และ (3) การเลน่ ตามมุมประสบการณ์/มุมเลน่
ตา่ งๆ

ล่นตามมมุ ประสบการณ์/

ลน่ นอกห้องเรียน สงั คม
รมจรยิ ธรรม 1.3.1 การปฏิบัตกิ ิจวัตรประจาวัน
ทานเกี่ยวกับคุณธรรมจรยิ ธรรม
นทนาและแลกเปลีย่ นความ (1) การชว่ ยเหลือตนเองในกจิ วตั รประจาวนั
ยธรรม (2) การปฏบิ ตั ติ นตามแนวทางหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
แลรกั ษาธรรมชาตแิ ละ 1.3.2 การดูแลรักษาธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม

ส่วนร่วมรบั ผิดชอบดแู ลรักษา
งภายในและภายนอกห้องเรยี น
ปฏิสัมพนั ธ์ วนิ ัยมีส่วนรว่ มและ

๑.๓.๕ (๒) การเลน่ และทางานรว่ มกบั ผ้อู ื่น บทบาทสมาชกิ

(3) การทาศิลปะแบบร่วมมอื (2) การปฏ

๑.๓.๗ (๑) การเลน่ หรอื ทากจิ กรรมร่วมกบั ห้องเรียน

กลมุ่ เพ่ือน (3) การใช้ค

กจิ กรรมต่าง ๆ

สติปัญญา สตปิ ญั ญา

1.4.1 การใชภ้ าษา 1.4.1 การใช้ภ

(3) การฟังเพลง คาคลอ้ งจอง (2) การฟงั แ

(๔) การพดู แสดงความคิดเห็น (4) การพูดแ

ความรูส้ กึ (๕) การพดู อ

(16) การสงั เกตตัวอักษรทปี่ ระกอบเปน็ ความสมั พันธ์ข

คาผ่านการอ่าน 1.4.2 การคิด

1.4.2 (๒) การสังเกตสิ่งต่างๆ จากมมุ มองที่ ตดั สินใจและแ

ตา่ งกัน (1) การสัง

(5) การจาแนกสงิ่ ต่างๆตามลักษณะ ใชป้ ระสาทสมั

(6) การตอ่ ของช้ินเล็กเติมในชน้ิ ใหญ่ (5) การคัดแ

ให้สมบรู ณ์ การจาแนกสงิ่ ต

(8) การนับและแสดงจานวนของสิ่ง รปู ทรง

ตา่ งๆ (6) การต่อ

(13) จบั คู่เปรยี บเทียบและ สมบูรณ์ และก

เรียงลาดบั สิง่ ตา่ ง ๆ ตามลักษณะความยาว/ (8) การนบั

ความสงู น้าหนัก ในชีวิตประจาว

ปริมาตร (17) คาดเด

(14) การบอกและเรียงลาดับ เกิดข้ึนอยา่ งมีเ

กิจกรรมหรือเหตกุ ารณ์ตามช่วงเวลา

1.4.3 จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

(2) การแสดงความคดิ สร้างสรรค์ผ่าน


Click to View FlipBook Version