จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้
เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรยี นรู้
กจิ กรรมศลิ ปะ (2) การเขยี นภาพ 1. แนะน้าขันต
หลอดกาแฟ
สร้างสรรค์ และการเลน่ กับสี 2. เดก็ ปฏบิ ตั ิก
หลอดกาแฟ เม
สรา้ งผลงานศลิ ปะ (5) การหยบิ จับ นา้ สง่ ครู
2. การพบั กระ
เพ่ือส่ือความคิด การพับกระดาษ กระดาษเอ4 ให
3. แนะนา้ เดก็ พ
ความรสู้ ึกของตนเอง (2) การแสดง กระดาษออกรอ
กระดาษรปู สเี่ ห
โดยมีการดัดแปลง ความคิดสรา้ งสรรค์ สมมาตร จะเห
4. เดก็ พับกระด
และแปลกใหม่จาก ผา่ นภาษา ทา่ ทาง 5. เดก็ พับกระด
กระดาษซ้ายมือ
เดมิ หรือมี และศลิ ปะ 6. พบั กน้ ถงุ ติด
รายละเอยี ดเพิ่มขนึ 1. เดก็ เลอื กกจิ
สนใจมุมประสบ
ได้ - มมุ วทิ ยาศาส
- มมุ หนงั สอื
กจิ กรรมเล่นตามมุม (3) การใหค้ วาม - มุมบล็อก
เกบ็ ของเล่นของใช้ ร่วมมือในการปฏิบัติ - มมุ บทบาทสม
เขา้ ท่ีดว้ ยตนเอง กิจกรรมต่าง ๆ อาชีพต่างๆ ท่ีใ
ได้
26
กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน
พฒั นาการ
ตอนในการหยดสแี ละเป่าสดี ว้ ย 1. สีน้า สงั เกต
การสรา้ งผลงานศิลปะ
2. กระดาษ เพอื่ สื่อความคดิ
ความรู้สกึ ของตนเอง
กจิ กรรมการหยดสี และเป่าสดี ้วย 3. พกู่ นั โดยมกี ารดัดแปลง
และแปลกใหม่จาก
มื่อเสรจ็ แล้วใหน้ ้าไปผ่งึ แดดใหแ้ หง้ ก่อน 4. หลอดกาแฟ เดิมหรอื มรี ายละเอยี ด
เพม่ิ ขนึ
5. สเี ทยี น
สังเกต
ะดาษเปน็ ถุงใส่ของโดยครูแจก 6. กาว การเกบ็ ของเล่นของ
ใช้เขา้ ทดี่ ้วยตนเอง
หเ้ ด็กทุกคน ๆ ละ 1 แผน่
พบั คร่ึงกระดาษเอ4 (ดา้ นยาว) เมือ่ คลี่
อยพับตรงกลางเรยี กวา่ “แกนสมมาตร”
หลย่ี มทงั ดา้ นซ้ายและด้านขวาของแกน
หมือนกันและเท่ากนั
ดาษด้านซา้ ยมือใหต้ รงกบั แกนสมมาตร
ดาษด้านขวามือใหเ้ หลื่อมเข้าไปบน
อเลก็ น้อยแล้วใช้กาวทาตดิ กันเป็นถุง
ดกาว วาดภาพระบายสใี หส้ วยงาม
จกรรมเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์ตามความ อปุ กรณ์มมุ
บการณ์ควรมีอยา่ งน้อย ๔ มมุ เชน่ ประสบการณ์ใน
สตร์ ห้องเรยี น
มมติ (มุมบ้าน เครอ่ื งแตง่ กายบุคคล
ใช้แล้ว เช่น ชดุ เครื่องแบบทหาร ต้ารวจ
จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้
เรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้
กจิ กรรมกลางแจง้ (2) การเล่นร่วมกบั พยาบาล หมอ
เลน่ รว่ มกับเพ่ือน ผู้อื่น รองเท้า)
เป็นกลมุ่ ได้ 2. ชมเชยเด็กท
1. เดก็ เลอื กเล่น
ความสนใจอย่า
2. เม่ือหมดเวล
ล้างมอื กลบั เข
เกมการศึกษา (13) การจับคู่ การจบั ค่ภู าพทส่ี มมาตรกัน 1. ครแู นะนา้ ภ
จบั ค่ภู าพที่สมมาตร การเปรยี บเทยี บ -ภ
กันได้ ความเหมือนความ -ภ
ตา่ ง
-ภ
-ภ
27
กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
สนามเด็กเลน่ พฒั นาการ
อ ชุดเสือผ้าผ้ชู าย - ผูห้ ญงิ ถงุ เทา้
สังเกต
ทเี่ กบ็ ของเข้าที่ได้เรยี บร้อยเมื่อเลิกเล่น การเล่นรว่ มกบั เพอ่ื น
เปน็ กลุ่ม
นอปุ กรณ์ในสนามเดก็ เลน่ ตาม
างอิสระ
ลา ช่วยกนั เก็บทา้ ความสะอาดสนาม
ข้าชันเรยี น
ภาพทสี่ มมาตรกันและเส้นสมมาตร 1. เกมจับคภู่ าพที่ สงั เกต
สมมาตรกนั การจับคภู่ าพที่
∆ภาพ 2. กระดาษตดั เปน็ สมมาตรกนั
รปู เรขาคณติ
ภาพ สามเหล่ียม
ส่เี หลีย่ ม วงกลม
ภาพ ◊ จ้านวนตามความ
ภาพ ○ เหมาะสมกบั
นักเรียน
จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้
เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้
2. เดก็ ทดลองพ
วงกลม ใหส้ มม
นักเรียน)
3. ครูแนะน้าเก
4. เดก็ เลน่ เกม
5. หมุนเวียนก
ชอบหรอื ไมช่ อบ
6. เมอื่ เล่นเสร็จ
กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื 28
พบั กระดาษรปู สามเหลย่ี ม สเ่ี หล่ยี ม 3. เกมชุดเดิมในมุม การประเมนิ
มาตรกนั (ครเู ตรยี มไวใ้ หพ้ อดีกับจา้ นวน เกมการศึกษา พัฒนาการ
กมจับคภู่ าพทสี่ มมาตรกนั
มชดุ ใหม่และเกมทเี่ คยเล่นมาแลว้
กันเลน่ และร่วมกันสนทนาเกย่ี วกับเกมว่า
บเพราะเหตุใด
จเด็กเก็บเกมการศกึ ษาเขา้ ท่เี ดิม
แผนการจัดประสบการณ์รายวัน วันที่ ๓ หน่ว
จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจ
เรยี นรู้
ประสบการณ์สาคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ 1. กิจกรรมพืนฐา
กจิ กรรม บริเวณอย่างอสิ ระ
เคลอ่ื นไหวและ (2) การเคล่ือนไหว เม่อื ได้ยนิ สญั ญาณ
จังหวะ เคลื่อนที่ ทนั ที
เคล่อื นไหวท่าทาง (2) การแสดงความคดิ 2. เด็กเข้าแถวเป
เพือ่ สื่อสาร สร้างสรรค์ ผา่ นภาษา คา้ คลอ้ งจอง “ขา้
ความคดิ ทา่ ทาง การ 3. ให้เด็กอาสาสม
ความร้สู ึกของ เคลื่อนไหว ประกอบค้าคลอ้ ง
ตนเองอย่าง เพอื่ นทา้ ตาม
หลากหลายหรอื 4. ผลัดเปลี่ยนเด็ก
แปลกใหม่ได้ กายบรหิ ารประกอ
และใหเ้ พื่อนท้าตา
5. เด็กหยุดพกั ผอ่
29
วยที่ 2๔ เศรษฐกจิ พอเพียง ชัน้ อนบุ าลปีท่ี 2
จกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ
าน เดก็ เคลอ่ื นไหวร่างกายไปท่วั 1. เครือ่ งเคาะจังหวะ สังเกต
ะตามจงั หวะชา้ เร็วทค่ี รูเคาะ 2. ค้าคล้องจอง การเคล่ือนไหวทา่ ทางเพ่ือ
ณหยุดใหห้ ยุดเคล่ือนไหวในทา่ นนั “ข้าวทุกจาน” สอ่ื สารความคดิ ความรูส้ กึ
ของตนเองอย่าง
ปน็ รปู วงกลมและท่อง หลากหลายหรอื แปลกใหม่
าวทุกจาน”
มคั รมาเป็นผู้น้าท้าทา่ กายบรหิ าร
งจอง “ขา้ วทุกจาน” และให้
กอืน่ ออกมาเปน็ ผู้นา้ ท้าท่า
อบค้าคล้องจอง “ขา้ วทกุ จาน”
าม
อนคลายกลา้ มเนอื
จุดประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กจิ
เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ 1. พฒั นาการทา
๑.๑ เดก็ และครูอ
กิจกรรมเสรมิ (3) การฟังเพลง 1. พฒั นาการทาง เศรษฐกจิ พอเพียง
จบ ฝึกเติมคา้ ดว้ ย
ประสบการณ์ นิทาน คา้ คล้องจอง ภาษาและการรู้หนังสือ บอ่ ย
๑.๒ ทา้ กจิ กรรมเ
1. เลา่ เร่อื งเป็น (4) การพูดแสดง 1.1 อา่ นรว่ มกนั จาก
ว่า- (วา่ น)
ประโยคอย่าง ความคิด ความรู้สึก หนังสือส่งเสรมิ ลักษณะ 1.3 ครอู า่ นหนังส
พอเพยี งเรื่องว่าน
ตอ่ เนอื่ งได้ และความต้องการ นิสยั เศรษฐกิจพอเพยี ง ค้าถามดังนี
- ข้าวทกุ เมลด็ ม
2. รับประทาน (5) การพูดเลา่ เรื่องว่านผู้น่ารกั - ทา้ ไมว่านจงึ พ
2.เดก็ และครูรว่ ม
อาหารดว้ ยตนเองได้ เร่อื งราวเกีย่ วกบั 1.2 เติมคา้ ดว้ ย แล้วใชค้ ้าถาม
- คา้ คลอ้ งจองก
ตนเอง ปากเปลา่ - กินอยา่ งไรท่เี
- ถา้ เด็ก ๆ รบั ป
(10) การอ่าน 2. การพง่ึ พาตนเอง เปน็ อยา่ งไร
- เด็ก ๆ จะต้อ
หนงั สอื ภาพนทิ าน - การรบั ประทาน ทิงกนิ ขวา้ ง
3. เด็กและครรู ว่ ม
(11) การอ่าน อาหารและดมื่ นมให้ คือรับประทานอา
ร่วมกนั และอ่าน หมดไม่เหลือทงิ
อสิ ระ
(12) การเหน็
แบบอย่างของ
การอ่านทีถ่ กู ต้อง
(๑) การชว่ ยเหลือ
ตนเองในกจิ วัตร
ประจ้าวัน
(2) การปฏิบัตติ น
ตามแนวทางหลกั
ปรชั ญาของ
30
จกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ
างภาษาและการรหู้ นังสือ 1. หนงั สือนิทานเร่ือง สังเกต
อ่านหนงั สอื ส่งเสรมิ ลักษณะนิสยั ว่านผ้นู า่ รกั 1. การเลา่ เร่อื งเปน็
งเรื่องว่านผ้นู ่ารัก พรอ้ มกนั จน 2. แถบกระดาษเลื่อน ประโยคอย่างตอ่ เน่ือง
ยปากเปลา่ เม่ืออา่ นถึงคา้ ท่ีพบ ปิดค้า 2. การรบั ประทานอาหาร
ดว้ ยตนเอง
เติมตัวอกั ษรในคา้ ท่ีพบบ่อย เช่น 3. การรับประทานอาหาร
และด่ืมนมจนหมด
สือสง่ เสริมลักษณะนิสัยเศรษฐกจิ
นผู้น่ารักใหเ้ ด็กฟังอกี ครงั แล้วใช้
มีคา่ หมายความว่าอยา่ งไร
พดู ว่า “ว่านจะไม่กินทงิ กินขวา้ ง”
มท่องค้าคล้องจอง“ข้าวทกุ จาน”
กล่าวถงึ เร่ืองอะไร
เรียกว่า “ กนิ ทงิ กนิ ขว้าง ”
ประทานข้าวหกเลอะเทอะจะ
องทา้ อยา่ งไร จงึ จะไดช้ ่ือวา่ ไม่กิน
มกนั สรุป “ ไม่กินทิงกินขว้าง”
าหารใหห้ มดและดื่มนมใหห้ มดไม่
จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กจิ
เหลอื ทงิ รินนา้ พอ
เรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้ โดยครแู ละเพ่ือนช
รับประทานอาหา
เศรษฐกิจพอเพียง ๑. เตรียมจดั สือ่ ว
เปน็ สร้อยคอและ
กจิ กรรมศิลปะ (5) การหยิบจับและ ๒. สนทนาขันตอน
ปฏิบัติทงั 2 กิจก
สรา้ งสรรค์ การรอ้ ยวัสดุ ๓. เด็กเลา่ ผลงาน
4. เดก็ เก็บอปุ กรณ
1. ร้อยวัสดทุ มี่ รี ู (2) การเขยี นภาพ
ขนาด และการเล่นกบั สี 1. เดก็ เลอื กกิจกร
เสน้ ผา่ ศนู ย์กลาง (2) การแสดง ตามความสนใจมุม
0.5 ซม.ได้ ๔ มมุ เช่น
ความคดิ สรา้ งสรรค์ - มุมวิทยาศาสตร
2. สร้างผลงาน ผา่ นภาษา ทา่ ทาง - มมุ บลอ็ ก
ศลิ ปะเพ่ือส่ือสาร และศลิ ปะ - มมุ บทบาทสมม
ความคดิ ความรสู้ ึก
ของตนเองโดยมกี าร
ดดั แปลงและแปลก
ใหม่จากเดมิ และมี
รายละเอียดเพิม่ ขนึ
ได้
กจิ กรรมเล่นตามมุม (3) การใหค้ วาม
เก็บของเล่นของใช้ รว่ มมอื ในการปฏิบัติ
เข้าที่ดว้ ยตนเองได้ กิจกรรมตา่ ง ๆ
31
จกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ
อประมาณ แล้วดื่มให้หมด 1. อปุ กรณใ์ นการรอ้ ย สงั เกต
ช่วยกนั สงั เกตพฤติกรรมในช่วง ลูกปัด 1. การรอ้ ยวัสดทุ ม่ี รี ูขนาด
ารและด่มื นม 2. สเี ทียน เส้นผา่ ศนู ย์กลาง 0.5 ซม.
วัสดุ อปุ กรณ์ในการร้อยลูกปดั 3. กระดาษ 2. การสร้างผลงานศลิ ปะ
ะการวาดภาพอิสระ เพอ่ื ส่ือสารความคดิ
นการท้ากิจกรรมและเดก็ ลงมือ ความรู้สกึ ของตนเองโดยมี
กรรม การดดั แปลงและแปลก
น ครบู นั ทึกค้าพูดเด็ก ใหม่จากเดิมและมี
ณ์เขา้ ท่ีใหเ้ รียบร้อย รายละเอียดเพ่ิมขึน
รรมเล่นตามมุมประสบการณ์ มุมประสบการณ์ใน สงั เกต
มประสบการณ์ควรมีอยา่ งนอ้ ย หอ้ งเรียน การเกบ็ ของเลน่ ของใช้เขา้
ทด่ี ้วยตนเอง
ร์ - มมุ หนังสือ
- มุมเกมการศึกษา
มติ - มุมเครอื่ งเล่นสัมผสั
จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจ
เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรียนรู้
กจิ กรรมกลางแจ้ง - มมุ บ้าน ภาพถ่า
ว่งิ หลบหลกี สิ่งกดี
ขวางได้ 2. เมอ่ื หมดเวลาเ
เกมการศกึ ษา (1) การเคล่ือนไหว 1. ครดู ูแลให้เด็กเ
1. บอกลักษณะ
และส่วนประกอบ เคลอ่ื นท่ี 2. เดก็ เดินเขา้ แถ
ของสงิ่ ตา่ ง ๆ จาก
การสงั เกตโดยใช้ 3. เดก็ จัดแถวตอ
ประสาทสัมผัสได้
2. เล่นเกมโดมโิ น วิง่ อยกู่ บั ทหี่ มนุ ไห
ภาพเหมอื นได้
ข้างพร้อมกนั กระ
4. จดั เด็กเป็นกลุ่ม
หลบหลีกสิง่ กีดขว
กะละมงั ฯลฯ
5. เด็กทดลองวง่ิ จ
6. ให้เดก็ เล่นอิสร
(1) การสงั เกต 1. ลักษณะและ 1. แนะนา้ เกมโดม
ลักษณะและ ส่วนประกอบของ 2. เดก็ บอกลกั ษณ
สว่ นประกอบของ สิง่ ตา่ ง ๆ จากการสงั เกต แต่ละภาพ
สงิ่ ตา่ ง ๆ โดยใช้ 2. การเล่นเกม 3. เดก็ วางชินสว่ น
ประสาทสมั ผสั อยา่ ง โดมโิ นภาพเหมอื น มภี าพเหมือนกันม
เหมาะสม จะต่อเป็นแนวตงั ห
(13) การจับคู่ 4. เด็กเลน่ เกมชดุ
การเปรียบเทยี บ 5. หมนุ เวยี นกนั เ
ความเหมือนความ เกมว่าชอบหรือไม
ตา่ ง 6. เมอ่ื เลน่ เสร็จเด
32
จกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ
ายและรายการอาหาร 1. นกหวีด สังเกต
เด็กเก็บของเขา้ ท่ีใหเ้ รียบร้อย 2. โต๊ะ การวง่ิ หลบหลีกสิง่ กดี ขวาง
3. เกา้ อี
เขา้ แถวตามล้าดับได้ดว้ ยตนเอง 4. ถงั นา้
ถวไปท่ีสนามเดก็ เล่น 5. กะละมงั
อนลึก 2 แถว อบอนุ่ ร่างกาย
หล่ขวา หมุนไหล่ซา้ ย หมนุ 2 ฯลฯ
ะโดดตบ 10 ครงั
มตามความเหมาะสม ฝึกการว่ิง
วาง เช่น โต๊ะ เก้าอี ถังน้า
จนครบทุกคน 1. เกมโดมโิ น สังเกต
ระ และเล่นเครื่องเล่นสนาม ภาพเหมอื น 1. การบอกลกั ษณะและ
มโิ นภาพเหมือน 2. เกมทเ่ี คยเลน่ มาแล้ว ส่วนประกอบของสงิ่ ตา่ ง ๆ
ณะและสว่ นประกอบของภาพ จากการสังเกตโดยใช้
ประสาทสมั ผัส
นใดชินส่วนหนงึ่ แล้วหาชินอ่ืนท่ี 2. การเลน่ เกมโดมิโน
มาตอ่ ท่ีปลายดา้ นใดด้านหน่ึง ภาพเหมือน
หรือแนวนอนกไ็ ด้
ดใหม่และเกมทเ่ี คยเลน่ มาแลว้
เลน่ และร่วมกันสนทนาเก่ยี วกับ
ม่ชอบเพราะเหตใุ ด
ด็กเก็บเกมการศึกษาเข้าท่เี ดมิ
แผนการจัดประสบการณ์รายวัน วนั ท่ี ๔ หนว่
จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ ก
เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ 1. กจิ กรรมพืนฐ
ทวั่ บรเิ วณอยา่ งอ
เคลื่อนไหวและ (2) การเคล่ือนไหว เมื่อได้ยินสัญญาณ
ท่านนั ทันที
จังหวะ เคล่ือนท่ี 2. ใหเ้ ด็กจับกล่มุ
เพลงเริม่ สมมตุ
เคลอ่ื นไหวทา่ ทาง (2) การแสดง น้าไหล ลอยไปเร
กับเรอื ล้าอ่ืน เมอื่
เพอ่ื สื่อสารความคดิ ความคดิ สรา้ งสรรค์ พร้อมกนั
3. ปฏิบตั กิ ิจกรร
ความรู้สกึ ของตนเอง ผา่ นภาษา ทา่ ทาง 4. เดก็ น่งั พกั ผ่อน
ในทา่ สบาย หาย
อยา่ งหลากหลายหรือ การเคล่ือนไหว
แปลกใหม่ได้
33
วยท่ี 2๔ เศรษฐกจิ พอเพียง ชั้นอนบุ าลปที ่ี 2
กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ
ฐาน เด็กเคลื่อนไหวรา่ งกายไป 1. เคร่อื งเคาะจังหวะ สังเกต
อสิ ระตามจังหวะช้า เรว็ ทค่ี รเู คาะ 2. เทปเพลงบรรเลง การเคล่ือนไหวทา่ ทางเพ่ือ
ณหยุด ใหห้ ยุดเคลอ่ื นไหวใน ส่อื สารความคดิ ความรสู้ ึก
ของตนเองอยา่ ง
ม 3 คนจับมือเปน็ วงกลม เม่ือ หลากหลายหรอื แปลกใหม่
ติให้แต่ละกล่มุ เปน็ เรือลอยไปตาม
ร่ือย ๆ ลอยไปในทะเล โดยไม่ชน
อเพลงหยุดให้ทกุ คนรีบนั่งลง
รมในข้อ 2 ซา้ อกี
นคลายกล้ามเนอื โดยนง่ั หลบั ตา
ยใจเข้าออกช้า ๆ
จุดประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กจิ
เรียนรู้
ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ 1. พฒั นาการทาง
กจิ กรรมเสริม 1.1 เด็กและครอู ่า
ประสบการณ์ (3) การฟังเพลง นิทาน ๑. พัฒนาการทาง เศรษฐกจิ พอเพียงเ
๑. เลา่ เรือ่ งเปน็ รอบ
ประโยคอยา่ ง (4) การพูดแสดง ภาษาและการรู้ 1.2 อ่านพร้อมกัน
ต่อเนอื่ งได้ ให้เด็กทาย เม่อื อ่า
2. อา่ นภาพ ความคดิ ความรสู้ ึก หนงั สือ ถกู ต้องหรอื ไม่
สญั ลักษณ์ ค้า 1.3 ใหเ้ ด็กเลอื กป
พรอ้ มทังชหี รอื และความต้องการ 1.1 อา่ นรว่ มกนั จาก 2. ครูอ่านหนงั สือส
กวาดตามอง พอเพียงเร่ืองวา่ นผ
ขอ้ ความตาม (5) การพูดเลา่ เร่ืองราว หนงั สือสง่ เสรมิ คา้ ถามดังนี
บรรทดั ได้ - เด็ก ๆ คดิ วา่ วา่
3. เก็บของเล่น เก่ยี วกบั ตนเอง ลักษณะนิสัย แมท่ า้ อะไรบา้ ง เด
ของใช้เขา้ ที่ด้วย 3. ครูสรา้ งสถานก
ตนเองได้ (8) การรอจังหวะที่ เศรษฐกิจพอเพียง ใช้ ตามมุมประสบก
กระจายทัว่ บริเวณ
เหมาะสมในการพูด เร่อื ง วา่ นผู้ - เด็ก ๆ รสู้ กึ อย
- ใครเคยเหยยี บ
(10) การอา่ นหนังสือ น่ารกั รสู้ กี อย่างไร
- เด็ก ๆ จะท้าอ
ภาพ นิทาน 1.2 ทายค้าที่ปดิ ไว้ ไม่มีอันตราย
(11) การอ่านร่วมกนั 2. อ่านภาพ
และอ่านอสิ ระ สญั ลักษณ์ ค้า
(12) การเหน็ แบบอย่าง 3. การพึ่งพาตนเอง
ของการอา่ นทถี่ ูกตอ้ ง - การเก็บของเล่น
(3) การใหค้ วามรว่ มมือ ของใชเ้ ขา้ ที่ดว้ ย
ในการปฏิบตั กิ จิ กรรม ตนเอง
ต่าง ๆ
(1) การช่วยเหลอื ตนเอง
ในกจิ วัตรประจ้าวัน
34
จกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ
งภาษาและการรู้หนังสอื 1. หนงั สอื นทิ านเรื่อง สังเกต
1. การเล่าเรอ่ื งเปน็
านหนังสือส่งเสริมลักษณะนิสัย ว่านผ้นู า่ รกั ประโยคอย่างตอ่ เน่ือง
2. การอ่านภาพ
เรื่องว่านผนู้ า่ รักพร้อมกันจนจบ 1 2. กระดาษขาวเทา สัญลกั ษณ์
คา้ พรอ้ มทงั ชหี รือกวาด
3. ของเลน่ ของใช้ตาม ตามองขอ้ ความตาม
บรรทัด
นอีกครงั โดยครูใช้กระดาษปิดคา้ มมุ ประสบการณ์ตา่ ง ๆ 3. การเก็บของเลน่ ของใช้
เข้าทด่ี ้วยตนเอง
านคา้ ทท่ี ายแลว้ ให้เดก็ เปิดดวู า่ ในห้องเรยี น
4. ทีน่ อน
ปิดค้าเองและใหเ้ พื่อนทาย 5. เพลงเกบ็ ของ
สง่ เสรมิ ลักษณะนสิ ยั เศรษฐกิจ
ผนู้ ่ารกั อกี 1 ครงั จนจบแล้วใช้
านทา้ งานเก่งหรอื ไม่ ว่านช่วยพอ่
ด็กๆ ทา้ อะไรด้วยตนเองไดบ้ ้าง
การณจ์ า้ ลอง โดยนา้ ของเลน่ ของ
การณ์ตา่ ง ๆ มาวางกระจัด
ณพืนห้อง แล้วใช้คา้ ถาม
ยา่ งไร ชอบหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
บของเล่นแลว้ ลนื่ ล้มบ้าง
อยา่ งไร หอ้ งเรียนจงึ จะนา่ อยู่และ
จดุ ประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กจิ
เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้
4. เด็กและครูรว่ ม
5. เด็กนา้ อุปกรณข์
6. ครูสาธติ วธิ ีพบั ท
ตนเอง โดยให้ขอบ
เก็บไว้ในตูเ้ กบ็ ที่นอ
7. เด็กและครูร่วม
ของเลน่ ของใช้เข้าท
35
จกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ
มร้องเพลง “ เกบ็ ของ”
ของเลน่ ของใช้เก็บเข้าท่ี
ท่ีนอน เด็กทุกคนพบั ท่ีนอนด้วย
บรมิ ที่นอนตรงกนั เรยี บรอ้ ย และ
อน
มกนั สรปุ ถึงประโยชนข์ องการเกบ็
ทด่ี ว้ ยตนเอง
จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจ
เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้ ๑. ครแู นะนา้ ขันตอ
แกนทชิ ชู(เดก็ น้าม
กจิ กรรมศิลปะ (3) การปั้น ๒. เดก็ น้ากระดาษ
๓. ครแู จกกระดาษ
สร้างสรรค์ (4) การประดิษฐ์สง่ิ ตา่ งๆ เสน้ ผา่ ศนู ย์กลาง 4
4 แผ่น ให้เด็กใช้ท
สรา้ งผลงานศิลปะ ดว้ ยเศษวสั ดุ 4. เดก็ น้าลอ้ รถไป
เลน่ จากแกนทชิ ชู
เพ่อื สื่อสาร (2) การแสดงความคดิ 5. เด็กปน้ั ดนิ นา้ มนั
6. เด็กท้าทงั 2 กิจ
ความคดิ สร้างสรรค์ผา่ นภาษา
ความรู้สกึ ของ ทา่ ทาง และศิลปะ
ตนเองโดยมีการ
ดัดแปลงและ
แปลกใหม่จากเดมิ
หรือมีรายละเอียด
เพมิ่ ขนึ ได้
กิจกรรมเลน่ ตาม (3) การใหค้ วามร่วมมือ 1. เด็กเลือกกิจกรร
มุม ในการปฏิบัติกิจกรรม ตามความสนใจมุม
เก็บของเล่นของใช้ ต่างๆ มุม เชน่
เขา้ ที่ดว้ ยตนเองได้ - มุมวิทยาศาสตร์
- มุมบลอ็ ก
- มุมบทบาทสมมต
2. เมื่อหมดเวลาเด
3. ครูชมเชยเด็กท
เล่นเสรจ็
36
จกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ
อนในการประดษิ ฐ์รถของเล่นจาก 1. แกนทิชชู สงั เกต
การสร้างผลงานศลิ ปะเพ่ือ
มาจากบา้ น) 2. กระดาษสีโปสเตอร์ ส่อื สารความคิด ความร้สู ึก
ของตนเองโดยมีการ
ษสีโปสเตอร์มาตดิ รอบแกนทชิ ชู บางขนาด 10 x 15 ดัดแปลงและแปลกใหม่
จากเดมิ หรือมีรายละเอยี ด
ษแข็งรปู วงกลมขนาด ซม. เพ่ิมขนึ
4.5 ซม.และ 2 ซม. อยา่ งละ ๓. กาว
ทา้ ลอ้ รถ 4. กระดาษแขง็ รปู
ปตดิ แกนทิชชู (ตวั รถ) จะไดร้ ถของ วงกลมขนาด
เส้นผ่าศูนย์กลาง 4.5
นอิสระ ซม.และ 2 ซม.
จกรรม เสรจ็ แล้วนา้ เสนอผลงาน 5. ดนิ นา้ มนั
6. แผ่นรองปั้น
รมเลน่ ตามมุมในมุมประสบการณ์ มุมประสบการณใ์ น สงั เกต
มประสบการณค์ วรมีอยา่ งนอ้ ย ๔ หอ้ งเรยี น การเกบ็ ของเลน่ ของใช้เข้า
ที่ดว้ ยตนเอง
- มมุ หนงั สอื
- มุมเกมการศึกษา
ติ - มุมเคร่อื งเลน่ สัมผสั
ด็กเกบ็ ของเข้าทใี่ ห้เรยี บร้อย
ที่เก็บของเขา้ ท่ไี ด้เรยี บร้อยเมื่อ
จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กิจ
เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรเรยี นรู้ 1. ครแู นะน้าวิธีเล
ปลอดภัย
กิจกรรมกลางแจง้ (2) การเลน่ ร่วมกบั ผู้อ่ืน ๒. แบ่งเดก็ เปน็ 2
๓. หมนุ เวยี นสลบั ก
เลน่ รว่ มกับเพ่ือน (4) การเลน่ นอก ๔. เมอื่ ได้ยินสญั ญา
อปุ กรณ์ เขา้ แถวไ
เป็นกลมุ่ ได้ ห้องเรียน
เกมการศึกษา (1) การสงั เกตลกั ษณะ 1. ลกั ษณะและ 1. แนะน้าเกมเรียง
1. บอกลกั ษณะ และส่วนประกอบของ ส่วนประกอบของ รักสุขภาพ)
และสว่ นประกอบ สงิ่ ต่าง ๆ จากการ ส่ิงต่าง ๆ จาก 2. เด็กเรียงล้าดับภ
ของสง่ิ ตา่ ง ๆจาก สงั เกตโดยใช้ประสาท การสงั เกต สขุ ภาพ) และบอก
การสงั เกตโดยใช้ สมั ผัสอย่างเหมาะสม 2. การเรียงล้าดับ 3. เด็กเล่นเกมชุดใ
ประสาทสมั ผสั ได้ (14) การบอกและ ภาพต่อเน่ือง(การ 4. หมนุ เวยี นกันเล
2. เรยี งล้าดับ เรียงล้าดบั เหตุการณ์ ปลูกผักรกั สขุ ภาพ) วา่ ชอบหรือไมช่ อบ
ภาพตอ่ เนื่อง(การ ตามช่วงเวลา 5. เม่อื เล่นเสรจ็ เด
ปลูกผกั รกั สุขภาพ)
ได้
37
จกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ
ลน่ นา้ และเล่นทรายที่ถูกต้องและ 1. พนื ที่เลน่ น้า – เลน่ สงั เกต
ทราย การเลน่ ร่วมกบั เพือ่ นเป็น
กล่มุ เล่นนา้ และเลน่ ทราย 2. อุปกรณ์เล่นน้า –เล่น กลมุ่
กนั เลน่ ทัง 2 กจิ กรรม ทราย เช่น ขวด
าณหมดเวลาใหท้ ุกคนชว่ ยกันเก็บ กระป๋อง กรวย เหยือก
ไปลา้ งมือและเข้าชันเรยี น ทต่ี ักทราย
ฯลฯ
งล้าดับภาพตอ่ เนอื่ ง (การปลูกผกั 1. เกมเรยี งลา้ ดับ สังเกต
1. การบอกลกั ษณะและ
ภาพต่อเนื่อง (การ ส่วนประกอบของสิ่งต่าง
ๆ จากการสังเกตโดยใช้
ภาพตอ่ เนอื่ ง(การปลูกผักรัก ปลกู ผักรกั สุขภาพ) ประสาทสมั ผสั
2. การเรยี งลา้ ดับ
กเหตุผล 2. เกมที่เล่นมาแล้ว ภาพตอ่ เน่ือง(การปลกู ผัก
รกั สขุ ภาพ)
ใหมแ่ ละเกมทเี่ คยเลน่ มาแล้ว
ล่นและรว่ มกนั สนทนาเกีย่ วกับเกม
บเพราะเหตุใด
ด็กเก็บเกมการศึกษาเขา้ ที่เดมิ
แผนการจดั ประสบการณ์รายวัน วันท่ี ๕ หนว่
จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ ก
เรียนรู้
ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ 1. กิจกรรมพืนฐา
เคลอื่ นไหวและ บรเิ วณอย่างอสิ ระ
จงั หวะ (2) การเคล่ือนไหว ไดย้ ินสัญญาณหย
1. เคล่ือนไหว เคลอ่ื นท่ี 2. แบ่งเด็กเปน็ 7
ท่าทางเพอ่ื ส่ือสาร (2) การแสดงความคดิ โดยการนับ 1 –
ความคดิ สรา้ งสรรค์ผ่านภาษา เดียวกนั กา้ หนดใ
ความรู้สกึ ของ ทา่ ทาง การเคลื่อนไหว ผเี สือและปลา โด
ตนเองอย่าง (8) การนบั และแสดง กระต่าย ผีเสือ แล
หลากหลายหรอื จ้านวนของสิ่งต่างๆ ใน ๓. ใหแ้ ตล่ ะกลุม่ ค
แปลกใหม่ได้ ชีวติ ประจา้ วนั สัตว์ทค่ี าดศีรษะ เ
2. นับและแสดง ๔. เม่อื ครูเคาะจัง
จา้ นวน 1 – 7 ได้ บริเวณ โดยไมช่ น
ปฏบิ ัติตามค้าสงั่ เช
จบั กลุ่ม 3 คน(สัต
คนละชนิด) จับกล
6 คน(สัตวค์ นละช
ชนดิ )
7. เดก็ นง่ั บนพืนห
พรอ้ มกนั แลว้ นัง่ พ
38
วยท่ี 2๔ เศรษฐกิจพอเพียง ช้นั อนุบาลปีที่ 2
กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ
าน เดก็ เคลอ่ื นไหวรา่ งกายไปท่ัว ๑. เครอื่ งเคาะ สงั เกต
ะตามจังหวะช้า เร็วท่ีครเู คาะเมื่อ จงั หวะ 1. การเคลอ่ื นไหวทา่ ทาง
ยุด ใหห้ ยุดเคลื่อนไหวในท่านนั ทนั ที ๒. ท่ีคาดศรี ษะรูปนก เพอื่ ส่ือสารความคิด
7 กลมุ่ ตามความเหมาะสม ไก่ แมว หมู กระต่าย ความรูส้ ึกของตนเองอยา่ ง
7 คนที่นบั เลขเดียวกนั อยู่กลุ่ม ผเี สือ และปลา หลากหลายหรือแปลกใหม่
ใหเ้ ปน็ กลุม่ นก ไก่ แมว หมู กระต่าย 2. การนบั และแสดง
ดยสวมทคี่ าดศีรษะรูปนก ไก่ แมว หมู จา้ นวน 1 – 7
ละปลา
คิดท่าทางการเคล่ือนท่ี เลยี นแบบ
เพื่อแสดงให้กลุ่มอ่ืนดู
งหวะ ให้ทกุ กลุ่มเคล่อื นไหวไปทั่ว
นกนั เมื่อได้ยินสัญญาณหยุดให้
ช่น จบั กลุ่ม 2 คน(สตั ว์คนละชนดิ )
ตว์คนละชนิด) จบั กล่มุ 4 คน(สัตว์
ลุม่ 5 คน(สตั ว์คนละชนิด) จับกลุ่ม
ชนดิ ) และจับกลุ่ม 7 คน(สัตวค์ นละ
ห้องแลว้ นบั ปากเปลา่ 1 – 10
พักผ่อนคลายกลา้ มเนอื
จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก
เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้
กจิ กรรมเสรมิ (4) การพูดแสดง 1. พัฒนาการทาง ๑. พัฒนาการทา
ประสบการณ์ ความคดิ ความรู้สกึ และ ภาษาและการรู้ ๑.๑ เดก็ และครูอ
1. เล่าเร่อื งเป็น ความตอ้ งการ หนังสือ เศรษฐกิจพอเพยี ง
ประโยคอยา่ ง (5) การพูดเล่าเรื่องราว 1.1 อา่ นร่วมกนั จาก ๑ รอบ
ตอ่ เนื่องได้ เก่ยี วกบั ตนเอง หนังสอื ส่งเสรมิ ๑.๒ ใหเ้ ด็กอาสาอ
2. อ่านภาพ (10) การอ่านหนังสอื ลกั ษณะนสิ ัยเศรษฐกิจ อา่ นไปพร้อมกัน
สัญลกั ษณ์ค้าพร้อม
ทงั ชหี รือกวาดตา ภาพ นิทาน พอเพยี งเรื่อง 2. สนทนาเกย่ี วก
มองข้อความตาม
บรรทัดได้ (11) การอา่ นรว่ มกนั วา่ นผู้นา่ รัก - ทา้ ไมพ่อกับแม
3. มีเหตผุ ลรจู้ กั
เลอื กรบั ประทาน และอา่ นอสิ ระ 1.2 อาสาสมคั รผลัด - วา่ นแบง่ ไข่ใหเ้
อาหารทมี่ ี
ประโยชน์ด้วย (12) การเห็นแบบอย่าง กนั อ่านนา้ - เดก็ ๆ เคยช่วย
ตนเองได้ ของการอ่านท่ีถูกต้อง
4. ชว่ ยเหลอื และ (2) การปฏบิ ตั ติ นตาม 2. มเี หตุผล ท้าอย่างไร รู้สึก
แบง่ ปันผอู้ ืน่ ได้เม่ือ แนวทางหลกั ปรชั ญา
มผี ู้ชีแนะ ของเศรษฐกจิ พอเพียง - รจู้ กั เลอื ก 3. พาเด็กไปดูแป
5. ทา้ งานที่ได้รบั (2) การฟังนทิ าน
มอบหมายจน เกย่ี วกับคุณธรรม รับประทานอาหารท่ี แปลงปลูกผัก ให้ใ
ส้าเรจ็ เม่อื มผี ชู้ ีแนะ จริยธรรม
(1) การปฏิบตั กิ จิ กรรม มีประโยชน์ - ผกั อะไร มีลัก
ตา่ ง ๆ ตาม
ความสามารถของตน 3. มีน้าใจและ บ้าง รสชาตเิ ป็นอ
ชว่ ยเหลือแบง่ ปัน - บอกประโยชน
4. มคี วามรับผดิ ชอบ (ปลอดสารพิษ ให
รา่ งกาย)
- เด็ก ๆ อยากป
ชนดิ นนั
4. ครูสาธติ การเพ
ได้ โตเรว็ และให้คณุ
39
กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ
างภาษาและการรู้หนังสอื 1. หนังสอื ส่งเสริม สงั เกต
อ่านหนงั สอื ส่งเสรมิ ลกั ษณะนิสยั ลักษณะนสิ ัย
งเร่ืองวา่ นผู้น่ารกั พร้อมกันจนจบ เศรษฐกจิ พอเพียง 1. การเล่าเร่อื งเปน็
เรอ่ื งว่านผนู้ า่ รัก ประโยคอย่างต่อเนื่อง
ออกมาอ่านพร้อมชีข้อความใหเ้ พอ่ื น 2. แปลงปลูกผกั ของ 2. การอ่านภาพ
โรงเรยี น/รูปภาพ สัญลกั ษณค์ ้าพร้อมทังชี
กบั เร่ืองท่ีอ่านโดยใชค้ า้ ถามดังนี แปลงผกั หรอื กวาดตามองขอ้ ความ
ม่วา่ นจึงปลกู ผกั ไวร้ บั ประทานเอง 3. ถวั่ งอกและ ตามบรรทัด
เพื่อนบา้ นดีหรือไม่ เพราะเหตุใด อปุ กรณ์ในการเพาะ 3. มเี หตผุ ลรจู้ กั เลือก
ยเหลอื และแบ่งปนั เพ่ือนหรือไม่ รับประทานอาหารท่ีมี
กอย่างไร ประโยชนด์ ว้ ยตนเอง
ปลงปลกู ผักของโรงเรยี นหรือถ้าไม่มี 4. การชว่ ยเหลือและ
ใช้รปู แทนแลว้ ถามดงั นี แบ่งปนั ผอู้ ืน่ เม่ือมีผู้ชแี นะ
กษณะอย่างไร ใครเคยรบั ประทาน 5. การทา้ งานที่ไดร้ ับ
อยา่ งไร มอบหมายจนสา้ เร็จเมื่อมผี ู้
นข์ องการรับประทานผักทป่ี ลกู เอง ชีแนะ
หม่ สด หวาน กรอบ มวี ิตามินบ้ารงุ
ปลกู ผักอะไร ท้าไมจงึ เลอื กปลูกผัก
พาะถว่ั งอก ซงึ่ เปน็ พชื ท่ปี ลูกง่าย
ณค่าอาหารสูง
จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก
เรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระทีค่ วรเรียนรู้
5. แบง่ กล่มุ ใหเ้ ดก็
ขอ้ ตกลงวา่ เด็กแ
การเจริญเติบโตข
ของกล่มุ ควบคู่กัน
กิจกรรมเสนอแน
รบั ประทานได้ คร
ถวั่ งอกทเ่ี ด็กปลูก
สนทนาถึงรสชาต
การดแู ลถัว่ งอกขอ
กจิ กรรมศิลปะ (๒) การเขยี นภาพ 1. เด็กวาดภาพแ
2. เด็กปน้ั ดนิ น้าม
สรา้ งสรรค์ (3) การปั้น 3. เด็กทา้ ทัง 2 ก
๔. เดก็ น้าเสนอผล
สรา้ งผลงานศลิ ปะ (2) การแสดงความคิด
เพอื่ ส่ือสาร สร้างสรรค์ผา่ นภาษา
ความคิด ทา่ ทาง และศลิ ปะ
ความรสู้ กึ ของ
ตนเองโดยมีการ
ดดั แปลงและแปลก
ใหมจ่ ากเดิมหรือมี
รายละเอยี ด
เพิม่ ขนึ ได้
40
กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ
กแตล่ ะกลมุ่ เพาะถ่วั งอก โดยมี สงั เกต
แต่ละกลุ่ม จะต้องดแู ลรดน้า สงั เกต การสร้างผลงานศลิ ปะเพื่อ
ของถวั่ งอก ซึ่งเปน็ ของทังห้องและ สื่อสารความคดิ ความร้สู กึ
น ของตนเองโดยมีการ
นะ เมื่อถ่วั งอกของทุกกลมุ่ โตพอที่จะ ดัดแปลงและแปลกใหม่
รคู วรจดั กิจกรรมทา้ อาหารจาก จากเดมิ หรือมรี ายละเอียด
เพม่ิ ขึน
เพื่อจงู ใจให้เดก็ รับประทานถัว่ งอก
ตขิ องถวั่ งอก และประสบการณจ์ าก
องกล่มุ
และระบายสีภาพอย่างอสิ ระ 1. กระดาษ
มนั อย่างอสิ ระ 2. สเี ทียน
กิจกรม 3. ดินนา้ มนั
ลงานและนา้ ไปวางทเ่ี ก็บผลงาน 4. แผน่ รองป้ัน
จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก
เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ 1. เด็กเลือกกจิ กร
ความสนใจมมุ ปร
กิจกรรมเล่นตาม (3) การให้ความรว่ มมือ เช่น
- มุมวทิ ยาศาสตร
มุม ในการปฏิบตั ิกจิ กรรม - มมุ บลอ็ ก
- มมุ บทบาทสมม
เก็บของเล่นของใช้ ต่าง ๆ 2. เม่ือหมดเวลาเ
3.ครูชมเชยเด็กท
เขา้ ทด่ี ว้ ยตนเองได้ (3) การเลน่ ตามมุม เสร็จ
ประสบการณ์
กจิ กรรมกลางแจง้ (2) การเลน่ รว่ มกับผู้อนื่ 1. เด็กเลอื กเลน่ อ
สนใจอยา่ งอิสระ
เล่นร่วมกบั เพ่ือน (4) การเล่นนอก 2. เมอ่ื หมดเวลา
ล้างมือ กลับเข้าห
เป็นกลมุ่ ได้ หอ้ งเรียน
41
กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ
รรมเล่นตามมมุ ประสบการณต์ าม มมุ ประสบการณใ์ น สังเกต
ระสบการณค์ วรมีอย่างน้อย ๔ มุม
ห้องเรียน การเก็บของเลน่ ของใชเ้ ข้า
ร์ - มมุ หนังสอื
- มุมเกมการศกึ ษา ที่ด้วยตนเอง
มติ - มุมเคร่ืองเลน่ สัมผัส
เดก็ เก็บของเข้าท่ใี ห้เรยี บร้อย
ทเ่ี ก็บของเขา้ ท่ไี ดเ้ รียบร้อยเม่ือเลน่
อุปกรณ์ในสนามเด็กเล่นตามความ สนามเด็กเลน่ สังเกต
การเล่นรว่ มกบั เพอื่ นเปน็
ช่วยกนั เก็บทา้ ความสะอาดสนาม กล่มุ
หอ้ งเรยี น
จดุ ประสงค์การ สาระการเรียนรู้ ก
เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้
เกมการศกึ ษา (5) การคัดแยก การจัด 1. การจ้าแนกและจดั 1. แนะนา้ เกมพนื
1. จา้ แนกและจดั กล่มุ และการจ้าแนก กลุ่มส่งิ ต่าง ๆ โดยใช้ 2. แบ่งเด็กเลน่ เก
กลมุ่ ส่ิงต่าง ๆ โดย ส่งิ ต่าง ๆ ตามลกั ษณะ อย่างน้อยหนึ่ง หมุนเวยี นกัน
ใช้ อยา่ งนอ้ ยหน่ึง และรปู ร่างรปู ทรง ลักษณะเปน็ เกณฑ์ 3. หมดเวลา เด็ก
ลักษณะเปน็ เกณฑ์ 2. เกมพนื ฐานการ
ได้ บวก 1 - 7
2. เล่นเกมพืนฐาน
การบวก 1 – 7
ได้
42
กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ
นฐานการบวก 1 - 7
กมใหม่ และเกมเดมิ ท่ีมีอยู่แลว้ 1. เกมพนื ฐานการ สังเกต
บวก 1 – 7 1. การจา้ แนกและจัดกลุม่
กเก็บเกมการศกึ ษาเขา้ ท่ี 2. เกมท่เี คยเลน่ ส่งิ ต่าง ๆ โดยใชอ้ ย่างน้อย
มาแล้ว หนงึ่ ลกั ษณะเปน็ เกณฑ์
2. การเล่นเกมพืนฐาน
การบวก 1 - 7
1. เลขที่ ช่อื -สกลุ
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
1. การวิง่ หลบหลกี สง่ิ กีดขวาง ดา้ นรา่ งกาย ดา้ นอารมณแ์ ละ แบบสังเกตพฤตกิ รรมเดก็ หนว่ ยการจัดประสบก
2. การร้อยวสั ดทุ มี่ รี ูขนาด จิตใจ
เสน้ ผา่ ศนู ย์กลาง0.5 ซม.
ด้านสังคม
3. การชว่ ยเหลือและแบ่งปนั ผู้อื่นไดเ้ มอื่ มี
ผชู้ ีแนะ
4. การทา้ งานทไี่ ด้รับมอบหมายจนส้าเรจ็
เมอื่ มผี ู้ชแี นะ
5. การแต่งตวั ด้วยตนเอง
6. การรบั ประทานอาหารดว้ ยตนเอง
7. การเก็บของเล่นของใช้เข้าทีด่ ว้ ยตนเอง
8. การใช้สิ่งของเคร่อื งใชอ้ ย่างประหยัด
และพอเพียงเมอื่ มีผ้ชู ีแนะ การณท์ ่ี 2๔ เศรษฐกิจพอเพยี งชัน้ อนบุ าลปที ี่ 2
ประเมนิ พฒั นาการ
9. การเล่นรว่ มกับเพือ่ นเป็นกลมุ่
ดา้ นสติปัญญา
10. การเลา่ เร่ืองเป็นประโยคอยา่ ง
ตอ่ เนอ่ื ง
11. การอา่ นภาพ สญั ลักษณ์ ค้า พร้อมทงั
ชหี รอื กวาดตามองขอ้ ความตามบรรทัด
12. การบอกลักษณะและส่วนประกอบ
ของสิ่งต่าง ๆจากการสังเกตโดยใช้
ประสาทสมั ผสั
13. การจบั คู่และเปรียบเทียบ
14. การจ้าแนกและจัดกลุม่
15. การเรยี งลา้ ดับเหตุการณ์
16. การสร้างผลงานศลิ ปะเพอ่ื สอ่ื สาร
ความคดิ ความรสู้ ึกของตนเองมี
รายละเอียดเพิ่มขนึ
1ดด7ย.ใกชา้ รเคลอ่ื นไหวทา่ ทางเพื่อส่อื สาร
ความคิด ความร้สู กึ ของตนเองอยา่ ง
หลากหลาย
43
หมาย
เหตุ
11. เลขท่ี ชอ่ื -สกุล
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.
คาอธิบาย
ระดบั ๓ ดี ครูสังเกตพฤตกิ รรมเด็กรายบคุ คล จดบันทึกสรุปเปน็ รายสปั ดาหร์ ะบรุ ะด 1. การว่งิ หลบหลีกสิ่งกดี ขวาง ด้านรา่ งกาย ด้านอารมณแ์ ละ
2. การรอ้ ยวัสดุทม่ี ีรูขนาดเส้นผา่ ศูนยก์ ลาง จติ ใจ
ระดับ ๒ ปานกลาง 0.5 ซม.
3. การชว่ ยเหลือและแบง่ ปนั ผู้อ่นื ไดเ้ มอ่ื มผี ู้ ดา้ นสงั คม
ชีแนะ
4. การท้างานที่ได้รับมอบหมายจนสา้ เรจ็
เมอ่ื มผี ชู้ ีแนะ
5. การแตง่ ตวั ดว้ ยตนเอง
6. การรบั ประทานอาหารดว้ ยตนเอง
7. การเกบ็ ของเล่นของใชเ้ ข้าที่ด้วยตนเอง
8. การใช้สิง่ ของเครอื่ งใชอ้ ยา่ งประหยัดและ
ดบั คุณภาพเปน็ ๓ ระดบั คือ พอเพียงเมือ่ มผี ู้ชีแนะ ประเมนิ พัฒนาการ
ระดบั ๑ ตอ้ งส่งเสริม
9. การเล่นร่วมกบั เพ่ือนเปน็ กลมุ่ ด้านสติปญั ญา
10. การเล่าเรื่องเป็นประโยคอยา่ งต่อเน่ือง
11. การอ่านภาพ สญั ลักษณ์ ค้า พร้อมทงั
ชหี รือกวาดตามองข้อความตามบรรทัด
12. การบอกลักษณะและสว่ นประกอบของ
สิ่งต่าง ๆจากการสงั เกตโดยใชป้ ระสาท
สัมผสั
13. การจับคู่และเปรียบเทียบ
14. การจา้ แนกและจดั กลมุ่
15. การเรยี งลา้ ดับเหตุการณ์
16. การสรา้ งผลงานศลิ ปะเพอ่ื สื่อสาร
ความคิด ความรู้สกึ ของตนเองมรี ายละเอยี ด
เพิม่ ขึน
ด1ด7ย.ใกชา้ ร
เคล่ือนไหวทา่ ทางเพอ่ื สือ่ สารความคดิ
ความรสู้ ึกของตนเองอย่างหลากหลาย
44
หมาย
เหตุ
หน่วยที่ 25 การติดตอ่ สื่อสาร
นางสาวนนั ทนา มาตรเลงิ
ครปู ระจาช้ันอนบุ าล ๒
โรงเรยี นบา้ นทา่ เย่ยี มวิทยายล
สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต ๗
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน
การวเิ คราะห์โครงสร้างหนว่ ยการจดั ประสบการณ์ต
หน่วยท่ี ๒๕ เทคโนโลยีและการสอื่ สาร
รายการ อนุบาลปีท่ี 1 1. การสอื่ สาร
สาระที่ควรเรียนรู้ 2. การเดินทา
1. การสอ่ื สารโดยใช้การพูดและการฟัง 3. การประดิษ
2. การสอ่ื สารโดยใช้โทรโข่ง ของตนเองเพอื่
3. หน้าทข่ี องโทรโขง่ 4. การทดสอ
4. การทดสอบความดังของโทรโขง่ กระดาษทปี่ ระ
ประดิษฐ์จากกระดาษโดยเปรียบเทียบ รปู รา่ ง,ความย
ขนาด ความยาว 5. การสอ่ื สาร
5. การทางานของโทรโขง่
6. เครือ่ งมอื สื่อสารชนิดตา่ งๆ
มาตรฐาน มฐ 1 ตบช 1.3 (1.3.1) มฐ 1 ตบช
ตวั บ่งช้ี มฐ 2 ตบช 2.1 (2.1.1) มฐ 2 ตบช
สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ มฐ 4 ตบช 4.1 (4.1.1) (4.1.3) มฐ 4 ตบช
มฐ 8 ตบช 8.2 (8.2.1) มฐ 8 ตบช
มฐ 9 ตบช 9.1 (9.1.1) มฐ 9 ตบช
มฐ 10 ตบช 10.1 (10.1.๑) (10.1.2) มฐ 10 ตบช
(10.1.3) (10.1.4) มฐ 12 ตบช.
มฐ 12 ตบช. 12.2 (12.2.1)
ตามหลักสตู รการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐
ร ชน้ั อนบุ าลปีที่ 1 – 3 ภาคเรียนที่ 2
อนบุ าลปที ่ี 2 อนุบาลปีท่ี 3
รทางโทรศัพท์ 1. ชนดิ ของจดหมาย
างของเสียงผา่ นโทรศพั ท์ 2. ลักษณะของจดหมาย
ษฐโ์ ทรศัพท์ตามวิธีการ ข้อสงสัย 3. หน้าท่ขี องบุรุษไปรษณีย์
อหาคาตอบจากวสั ดทุ กี่ าหนดให้ 4. การเดินทางของจดหมาย
อบการไดย้ ินเสียงของโทรศัพท์ 5. ขัน้ ตอนการสง่ จดหมาย
ะดษิ ฐจ์ ากกรวยทีม่ ีขนาด, 6. การสอ่ื สารทางอืน่ ๆ ได้แก่ วทิ ยุ โทรทศั น์
ยาวของเชอื กต่างกนั
รทางอน่ื ๆ ได้แก่ วิทยุ โทรทัศน์
1.3 (1.3.1) มฐ 1 ตบช 1.3 (1.3.1)
2.1 (2.1.1) (2.1.2) มฐ 2 ตบช 2.1 (2.1.3)
4.1 (4.1.1) (4.1.3) มฐ 4 ตบช 4.1 (4.1.1) (4.1.3)
8.2 (8.2.1) มฐ 8 ตบช 8.2 (8.2.1)
9.1 (9.1.1) มฐ 9 ตบช 9.1 (9.1.1)
10.1 (10.1.๑) (10.1.2) มฐ 10 ตบช 10.1 (10.1.๑) (10.1.2)
(10.1.3) (10.1.4)
. 12.2 (12.2.1) (10.1.3) (10.1.4)
มฐ 12 ตบช. 12.2 (12.2.1)
รายการ อนบุ าลปีท่ี 1 ร่างกาย
ประสบการณ์สาคัญ รา่ งกาย 1.1.1 การใช
1.1.1 การใชก้ ล้ามเนื้อใหญ่ (1) การเคลื่อ
(1) การเคล่ือนไหวอยกู่ บั ที่ (2) การเคลื่อ
(2) การเคลื่อนไหวเคล่ือนท่ี (3) การเคล่ือ
(3) การเคล่ือนไหวพรอ้ มวสั ดุ อปุ กรณ์ (5) การเล่นเค
(5) การเล่นเครื่องเลน่ สนามอยา่ งอสิ ระ 1.1.2 การใช
1.1.2 การใชก้ ล้ามเนือ้ เลก็ (2) การเขยี น
(2) การเขียนภาพ (3) การป้นั
(3) การปนั้ (5) การหยิบจ
(4) การประดษิ ฐ์สิ่งต่างๆ ดว้ ยเศษวสั ดุ การปะ และก
อารมณ์ จิตใจ
อารมณ์ จติ ใจ ๑.๒.๒ การเล
๑.๒.๒ การเลน่ (๓) การเลน่ ต
(๓) การเลน่ ตามมุมประสบการณ์ ๑.๒.๔ การแส
๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ (๔) การรอ้ งเพ
(๔) การร้องเพลง (5) การทางา
(5) การทางานศลิ ปะ สังคม
สังคม ๑.3.7 การยอ
๑.3.7 การยอมรบั ในความเหมอื นและ ความแตกต่าง
ความแตกต่างระหว่างบุคคล (1) การเลน่ ห
(1) การเลน่ หรือทากจิ กรรมร่วมกันกบั เพอ่ื น
กลุ่มเพ่ือน
อนุบาลปที ี่ 2 อนบุ าลปีที่ 3
ร่างกาย
ช้กล้ามเนื้อใหญ่ 1.1.1 การใชก้ ลา้ มเนอ้ื ใหญ่
อนไหวอย่กู บั ที่ (1) การเคลื่อนไหวอยูก่ ับท่ี
อนไหวเคล่ือนที่ (2) การเคล่ือนไหวเคล่ือนที่
อนไหวพรอ้ มวัสดุ อปุ กรณ์ (3) การเคล่ือนไหวพรอ้ มวัสดุ อุปกรณ์
ครื่องเล่นสนามอยา่ งอิสระ (5) การเล่นเคร่ืองเลน่ สนามอยา่ งอสิ ระ
ชก้ ลา้ มเน้ือเล็ก 1.1.2 การใช้กล้ามเน้ือเลก็
นภาพ (2) การเขยี นภาพ
(3) การปน้ั
จบั การใช้กรรไกร การฉกี การตัด (5) การหยิบจบั การใชก้ รรไกร การฉีก การตัด
การร้อยวัสดุ การปะ และการร้อยวัสดุ
จ อารมณ์ จติ ใจ
ลน่ ๑.๒.๒ การเลน่
ตามมมุ ประสบการณ์ (๓) การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์
สดงออกทางอารมณ์ ๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์
พลง (๔) การรอ้ งเพลง
านศิลปะ (5) การทางานศลิ ปะ
สงั คม
อมรบั ในความเหมอื นและ ๑.3.7 การยอมรบั ในความเหมอื นและ
งระหว่างบุคคล ความแตกต่างระหวา่ งบุคคล
หรอื ทากิจกรรมร่วมกันกับกลุ่ม (1) การเล่นหรอื ทากิจกรรมร่วมกนั กับกลุ่ม
เพอ่ื น
รายการ อนบุ าลปที ี่ 1
สติปญั ญา
1.4.1 การใชภ้ าษา สตปิ ญั ญา
(6) การพูดอธิบายเกีย่ วกับสงิ่ ของ 1.4.1 การใช
เหตกุ ารณแ์ ละความสมั พนั ธ์ของส่ิงต่างๆ (6) การพูดอธ
1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชิง ความสมั พันธ
เหตผุ ลการตดั สินใจและแก้ปัญหา (10) การอ่าน
(1) การสงั เกตลกั ษณะสว่ นประกอบ ประเภท
การเปลย่ี นแปลงและความสมั พนั ธ์ของ 1.4.๒ การคิด
สิ่งต่างๆ โดยใชป้ ระสาทสมั พันธ์อยา่ ง การตดั สินใจแ
เหมาะสม (1) การสงั เกต
(5) การคัดแยกการจดั กลุม่ และ การเปล่ียนแป
การจาแนกสิ่งต่างๆตามลักษณะและ โดยใชป้ ระสา
รปู ร่าง รูปทรง (5) การคดั แย
(6) การต่อของชิน้ เลก็ เตมิ ในชน้ิ ใหญ่ ส่งิ ตา่ งๆตามล
ให้สมบรู ณแ์ ละการแยกชนิ้ สว่ น (8) การนับแล
(8) การนับและแสดงจานวนของสง่ิ ตา่ งๆ
ในชีวิตประจา
ในชวี ติ ประจาวัน
(9) การเปรียบ
(13) การจับคู่ การเปรยี บเทียบ และ ของสิง่ ตา่ งๆ
(13) การจบั ค
การเรยี งลาดับสง่ิ ตา่ งๆตามลักษณะ การเรยี งลาดับ
ความสงู นา้ ห
ความยาว/ความสงู นา้ หนัก ปริมาตร (17) การคาด
เกิดขน้ึ อยา่ งม
(17) การคาดเดาหรอื การคาดคะเนสิ่งท่ี
อาจจะเกิดขึน้ อยา่ งมีเหตผุ ล
อนบุ าลปีที่ 2 อนบุ าลปีท่ี 3
ช้ภาษา สติปญั ญา
1.4.1 การใชภ้ าษา
ธิบายเก่ียวกบั สง่ิ ของเหตุการณ์และ (6) การพูดอธบิ ายเกย่ี วกับสิง่ ของเหตุการณ์
ธข์ องสิง่ ต่างๆ และความสมั พันธข์ องสิง่ ตา่ งๆ
นหนังสือภาพ นิทานหลากหลาย (14) การอ่านและช้ีข้อความ โดยกวาดสายตา
ดรวบยอด การคิดเชงิ เหตุผล ตามบรรทดั จากซา้ ยไปขวาจากบนลงล่าง
และแกป้ ัญหา 1.4.๒ การคิดรวบยอด การคิดเชงิ เหตุผล
ตลักษณะสว่ นประกอบ การตัดสินใจและแกป้ ญั หา
ปลงและความสัมพนั ธ์ของส่งิ ต่างๆ (1) การสงั เกตลกั ษณะสว่ นประกอบ
าทสัมพันธ์อย่างเหมาะสม การเปลี่ยนแปลงและความสัมพนั ธ์ของส่งิ ต่างๆ
ยก การจดั กลุ่มและการจาแนก โดยใช้ประสาทสัมพนั ธ์อยา่ งเหมาะสม
ลักษณะและรปู ร่าง รูปทรง (5) การคัดแยก การจดั กลมุ่ และการจาแนก
สง่ิ ตา่ งๆตามลักษณะและรปู ร่าง รปู ทรง
ละแสดงจานวนของสงิ่ ตา่ งๆ (6) การต่อของชน้ิ เลก็ เตมิ ในชนิ้ ใหญ่ใหส้ มบรู ณ์
าวัน และการแยกชนิ้ สว่ น
บเทียบและเรียงลาดบั จานวน (8) การนบั และแสดงจานวนของสิง่ ต่างๆใน
คู่ การเปรยี บเทียบ และ ชวี ิตประจาวนั
บสิ่งตา่ งๆตามลักษณะความยาว/ (13) การจบั คู่ การเปรียบเทียบ และ
หนัก ปรมิ าตร การเรยี งลาดบั สิง่ ต่างๆตามลักษณะความยาว/
ดเดาหรือการคาดคะเนส่ิงท่ีอาจจะ ความสูง นา้ หนกั ปริมาตร
มเี หตผุ ล (14) การบอกและเรยี งลาดบั กจิ กรรมหรือ
เหตุการณต์ ามช่วงเวลา
รายการ อนุบาลปีท่ี 1 1.4.4 เจตคต
คณิตศาสตร์ แสวงหาความ
วทิ ยาศาสตร์ 1.4.4 เจตคติทีด่ ตี อ่ การเรยี นรแู้ ละ (3) การสืบเส
การแสวงหาความรู้ ขอ้ สงสัยตา่ งๆ
(3) การสืบเสาะหาความรเู้ พื่อค้นหา (4) การมสี ว่ น
คาตอบของข้อสงสัยต่างๆ นาเสนอข้อมลู
(4) การมีส่วนรว่ มในการรวบรวมขอ้ มูล รปู แบบต่างๆแ
และนาเสนอขอ้ มูลจากการสืบเสาะหา
ความรูใ้ นรปู แบบต่างๆและแผนภูมอิ ย่าง
งา่ ย
นบั และแสดงจานวน 1 – 4 นับและแสด
ระบตุ ัวเลขฮินดูอารบิก แสดงจานวน ระบุตัวเลขฮ
ตา่ งๆ 1 –
ของสิง่ ต่างๆ ต้ังแต่ 1 – 5 เปรยี บเทยี บ
บอกจานวนทงั้ หมดทเ่ี กิดจาการรวมสิ่ง ละกลมุ่ มีจาน
บอกอนั ดับท
ต่างๆ สองกลุ่มทีม่ ีผลรวมไม่เกนิ 4 บอกจานวน
เรยี งลาดบั กจิ กรรมหรือเหตุการณใ์ น สองกล่มุ ทม่ี
เรียงลาดบั ก
ชวี ิตประจาวนั ที่เกิดขนึ้ ในชว่ งเวลา ชวี ิตประจาว
กลางวนั
- ทกั ษะการส
- ทกั ษะการสงั เกต - ทักษะการจ
- ทักษะการจาแนก - ทกั ษะการจ
- ทกั ษะการจดั กระทาและสื่อ
อนบุ าลปที ี่ 2 อนบุ าลปีที่ 3
ตทิ ี่ดีต่อการเรียนรู้และการ (17) การคาดเดาหรอื การคาดคะเนส่ิงทอี่ าจจะ
มรู้ เกิดขนึ้ อย่างมเี หตุผล
สาะหาความรเู้ พ่ือคน้ หาคาตอบของ 1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ตี อ่ การเรียนรแู้ ละการ
ๆ แสวงหาความรู้
นรว่ มในการรวบรวมข้อมลู และ (3) การสบื เสาะหาความรู้เพ่ือคน้ หาคาตอบของ
ลจากการสบื เสาะหาความรใู้ น ข้อสงสัยต่างๆ
และแผนภูมิอย่างง่าย (4) การมสี ่วนรว่ มในการรวบรวมขอ้ มูลและ
นาเสนอข้อมลู จากการสืบเสาะหาความรู้ใน
รูปแบบต่างๆและแผนภูมิอย่างง่าย
ดงจานวน 8 นับและแสดงจานวน 13
ฮินดูอารบิก แสดงจานวนของสง่ิ ระบตุ ัวเลขฮนิ ดูอารบิก แสดงจานวนของสิง่
8
บจานวนของสิ่งต่างๆ สองกลุม่ แต่ ต่างๆ 1 – 13
นวนไมเ่ กิน 8 เปรียบเทียบจานวนของส่ิงตา่ งๆ สองกลมุ่ แต่
ท่ีของสิง่ ตา่ งๆ ไม่เกนิ 4 สิง่
นท้ังหมดทเี่ กิดจากการรวมสิง่ ตา่ งๆ ละกลุ่มมีจานวนไมเ่ กิน 13
มีผลรวมไม่เกิน 8 บอกจานวนท้ังหมดท่ีเกดิ จากการรวมสิง่ ต่างๆ
กิจกรรมหรือเหตุการณใ์ น
วันตามช่วงเวลา เชา้ เท่ียง เยน็ ของกลุ่มทีม่ ผี ลรวมไม่เกิน 13
บอกลาดับที่ของสิ่งตา่ งๆ ไมเ่ กนิ 5 สิง่
สังเกต เรียงลาดับกิจกรรมหรือเหตุการณท์ เี่ กดิ ขึ้น
จาแนก
จดั กระทาและสือ่ ความหมาย ตามช่วงเวลา เมื่อวานน้ี วันนี้ พร่งุ น้ี
- ทักษะการสงั เกต
- ทักษะการจาแนก
- ทกั ษะการจดั กระทาและสอ่ื ความหมาย
รายการ อนุบาลปที ่ี 1
พัฒนาการทางภาษา ความหมาย - ทักษะการล
และการรู้หนังสือ
- ทักษะการลงความเห็น
1. ฟงั ผอู้ น่ื พูดและพูดโต้ตอบเกย่ี วกบั เรื่อง 1. ฟงั ผอู้ ืน่ พูด
ท่ฟี งั ได้ ทีฟ่ งั
2. เล่าประสบการณ์ของตนเอง 2. เลา่ เร่อื งปร
3. อา่ นหนังสือภาพ นทิ านหลากหลาย 3. การเห็นแบ
ประเภท
อนบุ าลปที ี่ 2 อนบุ าลปีที่ 3
ลงความเห็น - ทักษะการลงความเหน็
ดจนจบและพูดโตต้ อบเกยี่ วกับเร่อื ง 1. ฟงั ผู้อน่ื พดู จนจบและสนทนาโตต้ อบอยา่ ง
ต่อเนือ่ งเช่อื มโยงกบั เรื่องท่ฟี ัง
ระโยคอย่างต่อเนื่อง 2. พูดอธิบายเกีย่ วกบั สงิ่ ของ เหตุการณ์ และ
บบอยา่ งของการอา่ นท่ีถูกต้อง ความสมั พนั ธข์ องส่ิงต่างๆ
3. สังเกตตวั อกั ษรในชื่อของตนหรอื คาคุ้นเคย
หน่วยการจัดประสบการณ์ท่ี ๒๕ เทคโ
แนวคิด
การสอ่ื สารเปน็ การติดต่อส่ือสารหรอื สง่ ข้อความระหว่างผสู้ ่งสารและผรู้ ับสาร
คอมพิวเตอร์ หนังสือพมิ พ์
มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จดุ
มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพท่พี ึงประสงค์
มาตรฐานที่ 1 1.3 รักษาความ 1.3.1 เล่นและทา 1. เลน่ แล
ร่างกายเจริญเตบิ โตตาม ปลอดภยั ของ กิจกรรมอยา่ งปลอดภัย ปลอดภยั ด
วัยและมสี ุขนสิ ยั ท่ดี ี ตนเองและผู้อ่ืน ดว้ ยตนเอง
มาตรฐานท่ี ๒ ๒.๑ เคลือ่ นไหว ๒.๑.2 กระโดดขาเดียว 2. กระโด
ข้นึ ลงอยูก่ ับท่ีไดโ้ ดยไม่ โดยไม่เสีย
กล้ามเน้ือใหญแ่ ละ รา่ งกายอย่าง เสยี การทรงตวั
กลา้ มเนอื้ เล็กแข็งแรง คลอ่ งแคลว่
ใชไ้ ด้อย่างคลอ่ งแคลว่ และ ประสานสมั พันธ์
ประสานสมั พันธ์กัน และทรงตวั ได้