The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาล 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nmatroeng1, 2022-05-21 10:13:46

แผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาล 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565

แผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาล 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565

จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ กิจ
เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้
- มุมบทบาทสมม
เด็ก ตุก๊ ตาไทย ขอ
ทอ้ งถิ่นของไทย น
2. เม่อื หมดเวลาเ
3. ครชู มเชยเด็กท

กจิ กรรมกลางแจง้ (2) การเล่นร่วมกบั 1. กาหนดขอ้ ตกล
เล่นรว่ มกบั เพ่ือน ผอู้ ืน่ เลน่ ทรายดงั นี
เปน็ กลุ่มได้ - เขา้ แถวตามลา
- ขณะเล่น ต้อง
- เมอื่ ไดย้ ินสัญญ
2. แนะนาวิธีการ
ปลอดภยั
3. เด็กเลน่ นา -
4. เม่อื หมดเวลาเ
เล่นทราย ลา้ งอุป

เกมการศึกษา (13) การจบั คู่ การจับคู่ภาพจานวนที่ 1. แนะนาเกมจับ
จบั ค่ภู าพจานวนท่ี การเปรียบเทยี บสิง่ เทา่ กัน 1 – 7 2. เด็กเลน่ เกมชุด
เท่ากนั 1 – 7 ได้ ตา่ งๆ 3. หมนุ เวียนกนั เ
เกมวา่ ชอบหรือไม
4. เม่อื เล่นเสรจ็ เด

20

จกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ

มตใิ นสปั ดาห์นี ควรมีชุดไทยของ
องเลน่ ของใชท้ ีท่ ามาจากวัสดุ
นามาให้เด็กเล่น
เด็กเก็บของเข้าท่ีให้เรียบร้อย
ทีเ่ กบ็ ของเขา้ ท่ีได้เรียบร้อย

ลงในการปฏิบัตติ นกอ่ นเลน่ นา - 1. พนื ทเ่ี ลน่ นา - สังเกต
การเลน่ ร่วมกับเพอื่ น
เล่นทราย เป็นกลุ่ม

าดับก่อนหลังทงั ไป - กลับ 2. อปุ กรณ์เล่นนา -

งไม่เลน่ แกล้งเพื่อน เลน่ ทราย

ญาณหยดุ ให้หยุดเล่น

รเลน่ นา - เลน่ ทรายทถ่ี ูกต้องและ

เล่นทรายอย่างอสิ ระ
เดก็ เกบ็ อปุ กรณก์ ารเล่นนา –
ปกรณ์และลา้ งมอื เขา้ หอ้ งเรยี น

บคภู่ าพจานวนท่เี ท่ากัน 1 - 7 1. เกมจบั ค่ภู าพจานวน สังเกต
ดใหม่และเกมทีเ่ คยเล่นมาแล้ว ท่ีเทา่ กัน 1 – 7 การจบั ค่ภู าพจานวนที่
เลน่ และรว่ มกันสนทนาเก่ียวกับ 2. เกมที่เล่นมาแลว้ เทา่ กนั 1 - 7
มช่ อบเพราะเหตใุ ด
ด็กเก็บเกมการศึกษาเขา้ ท่เี ดิม

แผนการจดั ประสบการณ์รายวนั วนั ท่ี 2 ห

จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้

เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้

กิจกรรมเคลื่อนไหว (2) การเคล่ือนไหว 1. กจิ กรรมพนื
บรเิ วณอย่างอิส
และจังหวะ เคลือ่ นที่ ยินสญั ญาณหย
2. เด็กและครรู
เคลอ่ื นไหวทา่ ทาง (2) การแสดงความคิด ธงชาตทิ ี่ประดษิ
จนิ ตนาการและ
เพื่อส่ือสารความคิด สรา้ งสรรค์ผ่านภาษา 3. เด็กปฏิบัตกิ
4. เดก็ พกั ผ่อน
ความร้สู กึ ของตนเอง ทา่ ทาง การเคล่ือนไหว พนื แขนแนบล

อย่างหลากหลาย

หรือแปลกใหม่ได้

21

หนว่ ยท่ี 22 ค่านยิ มไทย ชน้ั อนบุ าลปีท่ี 2

กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน
พัฒนาการ

นฐาน ให้เด็กเคล่อื นไหวร่างกายไปทว่ั 1. เคร่ืองเคาะจังหวะ สงั เกต

สระตามจังหวะชา้ - เร็วที่ครเู คาะ เม่อื ได้ 2. เพลงไตรรงค์ การเคลือ่ นไหวทา่ ทาง

ยุด ใหห้ ยุดเคล่ือนไหวในท่านนั ทันที ธงไทย เพือ่ สื่อสารความคิด

รว่ มรอ้ งเพลง “ไตรรงค์ธงไทย” พร้อมถือ 3. ธงชาติทีเ่ ด็กทา ความรสู้ กึ ของตนเอง

ษฐเ์ อง ทาท่าทางประกอบเพลงตาม เอง อยา่ งหลากหลายหรือ

ะความคิดสรา้ งสรรค์ของตน แปลกใหม่

กิจกรรมข้อ 2 ซาอีก

นคลายกลา้ มเนือ โดยการนอนราบไปกบั

ลาตวั

จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ 1. เด็กและครรู
เรียนรู้ แล้วใช้คาถามด
ประสบการณ์สาคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้
กิจกรรมเสริม - เด็กบอกได
ประสบการณ์ (2) การฟังและ 1. ฉันภมู ใิ จในความเปน็ - ชมุ ชนของเ
1. เล่าเรอ่ื งเปน็ ปฏิบตั ิตามคาแนะนา ไทย ทมี่ ีวนั สาคัญของชาติ รว่ มกนั อย่างสง
ประโยคอยา่ ง (3) การฟังเพลง ศาสนาและ วา่ คนไทยมลี ักษ
ต่อเนื่องได้ นทิ าน คาคล้องจอง พระมหากษัตรยิ ์ - สง่ิ ทเี่ ด็กภมู
2. บอกไดว้ า่ ชมุ ชน (4) การพูดแสดง 2. ชุมชนของเรามี เพราะเหตุใด
ของเรามีสง่ิ แวดลอ้ ม ความคดิ ความรูส้ ึก ส่ิงแวดลอ้ มแตกต่างกนั - วันสาคัญข
แตกตา่ งกนั แต่เราอยู่ และความต้องการ แต่เราอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสงบ อะไรในวนั นัน
ร่วมกนั อยา่ งสงบสุข (5) การพูดเล่า สุข เพราะเราทุกคนเปน็ - เดก็ ไปทาบ
ได้ เรอื่ งราวเกย่ี วกับ คนไทย 2. นาพระบรม
3. ยนื ตรงเมอื่ ได้ยิน ตนเอง กรุงรัตนโกสินท
เพลงสรรเสริญพระ (8) การรอจังหวะท่ี พระมหากษัตร
บารมีได้ เหมาะสมกบั การพูด ปัจจุบัน ทรงพฒั
ดมี ีสุข คนไทย
เทดิ ทูนสถาบัน
- เดก็ เคยไดย้
เราควรทาอย่าง
- เราควรแสด
พระมหากษัตร
ของพระเจ้าอย

22

กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ
พฒั นาการ

ร่วมท่องคาคลอ้ งจอง “เมืองไทยแสนดี” 1. คาคล้องจอง สงั เกต

ดงั นี เมืองไทยแสนดี 1. การเล่าเรอื่ งเป็น

ด้ไหม เมืองไทยแสนดีอยา่ งไร 2. พระบรมฉายา ประโยคอยา่ งตอ่ เนื่อง

เรามีสงิ่ แวดล้อมแตกตา่ งกัน แต่เราอยู่ ลักษณข์ อง 2. การบอกวา่ ชมุ ชน

งบสุขเพราะเราทุกคนเป็นคนไทย แสดง พระมหากษัตริย์ ของเรามีสิง่ แวดลอ้ ม

ษณะนสิ ยั อยา่ งไร ไทยแห่งกรงุ แตกตา่ งกนั แตเ่ ราอยู่

มใิ จมากทส่ี ดุ ในความเป็นคนไทยคืออะไร รัตนโกสนิ ทร์ ร่วมกันอยา่ งสงบสุข

3. ธงสัญลกั ษณ์ 3. การยืนตรงเมื่อได้

ของชาติทีเ่ ดก็ รู้จกั คือวันอะไร เด็กทา ของในหลวงรัชกาล ยนิ เพลงสรรเสริญพระ

ที่ 10 บารมี

บุญและเวยี นเทียนในวนั อะไรบ้าง 4. ธงสญั ลักษณ์ของ

มฉายาลักษณ์ของพระมหากษตั รยิ ์ไทยแห่ง สมเดจ็

ทร์มาใหเ้ ดก็ ดู บอกให้เดก็ รวู้ ่า พระบรมราชินนี าถ

รยิ ไ์ ทยทกุ พระองค์ ตังแต่อดีตจนถึง ในรัชกาลที่ 9

ฒนาประเทศและดแู ลคนไทยทุกคนให้อยู่

ยทกุ คนควรแสดงความจงรักภักดแี ละ

นพระมหากษตั ริย์ โดยใชค้ าถามดังนี

ยินเพลงสรรเสริญพระบารมีที่ไหน เมอื่ ไร

งไรเม่ือไดย้ ินเพลงนี

ดงความจงรักภกั ดี และเทิดทนู สถาบัน

ริย์ดว้ ยวิธใี ดบ้าง (ตดิ พระบรมฉายาลักษณ์

ยู่หัวไวใ้ นสถานที่เหมาะสม ทาความเคารพ

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้

เรียนรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระท่ีควรเรียนรู้

กจิ กรรมศิลปะ (2) การเขียนภาพ ด้วยการยนื ตรง
ไม่พูดจาใหร้ ้าย
สรา้ งสรรค์ และการเล่นกบั สี 3. นาธงสัญลกั
สญั ลกั ษณข์ องพ
สร้างผลงานศลิ ปะ (2) การแสดง ใหเ้ ด็กร่วมกันป
พระองคเ์ พื่อเป
เพื่อสื่อความคดิ ความคดิ สรา้ งสรรค์ สถาบนั พระมห

ความรู้สกึ ของตนเอง ผา่ นภาษา ทา่ ทาง 1. แนะนาขันต
วงกลมและส่เี ห
โดยมกี ารดดั แปลง และศลิ ปะ และส่เี หลีย่ มให
กระดาษ เอ4
และแปลกใหม่จาก 2. เด็กนาฟองน
ส่ีเหลย่ี ม เมื่อเ
เดมิ หรือมี ครู
3. เดก็ ปัน้ ดนิ น
รายละเอยี ดเพมิ่ ขนึ วงกลม หรอื ส่เี ห
4. เดก็ ทาทังสอ
ได้
1. เดก็ เลอื กกิจ
กจิ กรรมเลน่ ตามมุม (3) การให้ความ สนใจมุมประสบ
เก็บของเล่นของใช้ รว่ มมือในการปฏบิ ัติ
เข้าท่ีดว้ ยตนเอง กจิ กรรมตา่ ง ๆ - มมุ วิทยา

23

กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน
พฒั นาการ
งเมื่อไดย้ ินเพลงสรรเสริญพระบารมี และ
ยหรอื กลา่ วหาสถาบันพระมหากษตั รยิ ์)
กษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 10 และธง
พระบรมราชนิ ีนาถมาให้เด็กดู เชิญชวน
ประดับธงทังสองในวนั เฉลิมของทงั สอง
ปน็ การแสดงความจงรกั ภักดีและเทิดทนู
หากษตั ริย์

ตอนในการพมิ พ์ภาพจากกระดาษเจาะรปู 1. กระดาษเจาะรปู สังเกต

หลยี่ มโดยครูแจกกระดาษเจาะรปู วงกลม วงกลมและสีเ่ หลยี่ ม การสร้างผลงานศิลปะ

หเ้ ด็กคนละ 1 แผน่ ใหเ้ ดก็ วางซ้อนทบั บน 2. กระดาษ เอ4 เพอ่ื สื่อความคิด

3. ฟองนา ความรสู้ ึกของตนเอง

นาจมุ่ สี มาพมิ พบ์ นรปู วงกลมและ 4. สนี า โดยมีการดัดแปลง

เสร็จแล้วให้นาไปผง่ึ แดดให้แหง้ ก่อนนาส่ง 5. ดนิ นามนั และแปลกใหม่จาก

6. แผน่ รองปนั้ เดิมหรอื มีรายละเอยี ด

นามนั เปน็ รูปสิ่งของท่ีมีลักษณะเหมือน เพิ่มขึน

หลีย่ ม

องกิจกรรมและนาเสนอผลงาน

จกรรมเลน่ ตามมมุ ประสบการณต์ ามความ อุปกรณ์มุม สังเกต
การเกบ็ ของเล่นของ
บการณ์ควรมีอยา่ งนอ้ ย ๔ มุม เช่น ประสบการณ์ใน ใช้เข้าทดี่ ว้ ยตนเอง

าศาสตร์ ห้องเรียน

จุดประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้
เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระท่คี วรเรยี นรู้

ได้ - มุมหนงั ส
- มมุ บล็อก
- มมุ บทบ
เดก็ ตกุ๊ ตาไทย
ของไทย นามา
2. ชมเชยเด็กท

กิจกรรมกลางแจ้ง (2) การเลน่ ร่วมกับ 1. เด็กเลอื กเลน่
เลน่ ร่วมกับเพ่ือน ผูอ้ ืน่ ความสนใจอย่า
เปน็ กลุม่ ได้ 2. เมอื่ หมดเวล
ล้างมอื กลบั เข

เกมการศกึ ษา (13) การจบั คู่ การจบั คู่และเปรียบเทยี บ 1. อาสาสมัครอ
จบั คแู่ ละ การเปรียบเทียบ ความแตกต่างหรือความ จานวน ครูบอ
เปรยี บเทยี บความ ความเหมือนความ เหมือน 2 คน 3 คน 4
แตกตา่ งหรือความ ตา่ ง ทีเ่ หลอื วา่ มจี าน
เหมอื นได้ (จานวนจะลดล
2. ครแู นะนาเก
3. เดก็ เล่นเกม
4. หมุนเวยี นก
ชอบหรอื ไม่ชอบ
5. เมือ่ เล่นเสร็จ

24

กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ
พฒั นาการ
สือ

บาทสมมตใิ นสัปดาห์นี ควรมชี ดุ ไทยของ
ของเลน่ ของใช้ทท่ี ามาจากวัสดุท้องถนิ่
าให้เดก็ เล่น
ทเี่ ก็บของเขา้ ท่ีได้เรยี บร้อยเมื่อเลกิ เลน่

นอปุ กรณ์ในสนามเดก็ เลน่ ตาม สนามเดก็ เล่น สังเกต
างอิสระ การเลน่ รว่ มกับเพ่อื น
ลา ชว่ ยกนั เก็บทาความสะอาดสนาม เปน็ กลมุ่
ข้าชันเรยี น

ออกมายืนหน้าชนั 7 คน ให้เพอื่ นๆ นับ 1. เกมพนื ฐานการ สงั เกต

อกให้เด็กเดินออกไปนอกห้องครังละ 1 คน ลบไม่เกนิ 7 การจบั คแู่ ละ

4 คน 5 คนหรอื 6 คน ให้เพ่ือน ๆ นับเดก็ 2. เกมชดุ เดมิ ในมมุ เปรียบเทียบความ

นวนเท่าไร บอกเดก็ วา่ นีค่ อื พนื ฐานการลบ เกมการศึกษา แตกตา่ งหรือความ

ลง) เหมือน

กมพืนฐานการลบไม่เกิน 7

มชดุ ใหมแ่ ละเกมท่ีเคยเลน่ มาแลว้

กนั เลน่ และร่วมกันสนทนาเกย่ี วกับเกมวา่

บเพราะเหตใุ ด

จเด็กเก็บเกมการศกึ ษาเขา้ ทเ่ี ดมิ

แผนการจัดประสบการณ์รายวนั วันที่ ๓ หน

จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ
เรียนรู้
ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ 1. กจิ กรรมพืนฐา
กิจกรรม บริเวณอย่างอิสระ
เคลือ่ นไหวและ (2) การเคลื่อนไหว เมอื่ ได้ยนิ สญั ญาณ
จังหวะ เคลอื่ นท่ี ทนั ที
เคลอ่ื นไหวท่าทาง (2) การแสดงความคดิ 2. แบ่งมมุ ในหอ้ ง
เพอ่ื ส่ือสาร สรา้ งสรรค์ ผา่ นภาษา มมุ ภาคกลาง มุมภ
ความคดิ ท่าทาง การเคลอ่ื นไหว 3. เด็กเคลื่อนไหว
ความรูส้ กึ ของ จินตนาการและค
ตนเองอยา่ ง ตามเสยี งเพลงบร
หลากหลายหรือ ให้ปฏิบตั ิตามคาส
แปลกใหม่ได้ ภาคเหนอื ไปกนิ
ส้มตาที่ภาคอีสาน
4. ปฏิบตั ิตามข้อ
5. เด็กพกั ผอ่ นร่า
ผอ่ นคลาย

25

นว่ ยที่ 22 ค่านยิ มไทย ชนั้ อนบุ าลปีท่ี 2

จกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ

าน เดก็ เคล่อื นไหวรา่ งกายไปทวั่ 1. เคร่อื งเคาะจังหวะ สังเกต
ะตามจงั หวะช้า เรว็ ทค่ี รูเคาะ 2. เทปเพลงบรรเลง การเคลือ่ นไหวทา่ ทางเพ่ือ
ณหยุดใหห้ ยุดเคล่อื นไหวในท่านนั ส่อื สารความคิด ความรูส้ กึ
ของตนเองอย่าง
งเป็น 4 มุม คอื มุมภาคเหนือ หลากหลายหรือแปลกใหม่
ภาคอีสาน และมมุ ภาคใต้
วรา่ งกายอย่างอสิ ระตาม
ความคิดสรา้ งสรรค์ของตนเอง
รรเลง เมือ่ เพลงหยุดในแต่ละครงั
สัง่ เช่น ไปกนิ ขนมจีนนาเงียวที่
นนาพริกปลาทูท่ีภาคกลาง ไปกนิ
น และไปกินข้าวยาทีภ่ าคใต้
2 – 3 ซาอีก
างกายอย่างอิสระ พร้อมฟังดนตรี

จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ
เรียนรู้
ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้ 1. เด็กและครูรว่ ม
กจิ กรรมเสรมิ คนไทย”
ประสบการณ์ (2) การฟังและ 1. คนไทยใชภ้ าษาไทย 2. ให้เดก็ ช่วยบอก
1. เลา่ เรอื่ งเป็น 3. ครแู ละเด็กร่ว
ประโยคอยา่ ง ปฏบิ ัตติ ามคาแนะนา เปน็ ภาษาประจาชาติ ไทย ที่สงั เกตเหน็
ต่อเน่ืองได้ (3) การฟังเพลง มีวฒั นธรรม ประเพณี คาถามดังนี
2. บอกลักษณะ นทิ าน คาคล้องจอง
นิสัยของคนไทยได้ (4) การพูดแสดง ประจาชาติและทอ้ งถิ่น - นอกจากธงชา
ความคดิ ความรสู้ ึก 2. ลกั ษณะนิสยั ของคน อะไรบ้างท่ีแสดงค
และความต้องการ ไทย ภาษาไทย พยญั ช
วฒั นธรรม ประเพ
(5) การพูดเลา่ 3. ใหเ้ ด็กดูภาพก
ละภาค ภาพอาห
เรื่องราวเกยี่ วกับ 4 ภาค โดยใช้คา

ตนเอง - เด็กเปน็ คนจัง
ประเทศ
(2) การปฏิบัติตน 4. ให้อาสาสมัคร
ท้องถน่ิ ของตน อา
ตามวฒั นธรรมท้อง เฉพาะท้องถิ่น
5. ครแู นะนาเคร่ือ
ถิ่นท่อี าศยั และ ของทอ้ งถิน่ เช่น ผ

ประเพณไี ทย

(3) การประกอบ

อาหารไทย

26

จกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ

มท่องคาคล้องจอง “เราเป็น 1. คาคลอ้ งจอง สงั เกต

“เราเป็นคนไทย” 1. การเล่าเรอื่ งเป็น

กลักษณะนิสัยคนไทย 2. ภาพการแตง่ กาย ประโยคอย่างต่อเนื่อง

วมสนทนาถึงส่ิงที่แสดงความเปน็ ตามประเพณี 4 ภาค 2. การบอกลักษณะนสิ ัย

นได้ในชวี ติ ประจาวนั โดยใช้ 3. ภาพอาหารไทย 4 ของคนไทย

ภาค

าตไิ ทยแลว้ เรามสี ญั ลักษณ์ 4. ภาพประเพณี 4 ภาค

ความเปน็ ไทย (เพลงชาติ 5. ผ้าถุง โจงกระเบน

ชนะไทย เลขไทย มารยาทไทย และผ้าขาวมา้

พณีประจาชาตแิ ละท้องถิ่น) 6. อาหารประจาท้องถน่ิ

การแต่งกายตามประเพณีของแต่

หารไทย 4 ภาคและภาพประเพณี

าถามดงั นี

งหวดั อะไร อยู่ภาคไหนของ

รออกมาเล่าประเพณีไทยใน
าหารไทย ตลอดจนการแต่งกาย

องแต่งกาย ท่ีเปน็ ลกั ษณะเฉพาะ
ผ้าถงุ โจงกระเบน ผ้าขาวมา้

จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กิจ
เรยี นรู้
ประสบการณ์สาคัญ สาระทคี่ วรเรียนรู้ ๑. เตรียมจดั ส่ือ ว
กิจกรรมศลิ ปะ ระบายสีและการป
สรา้ งสรรค์ (2) การเขียนภาพ ๒. ใหเ้ ดก็ วาดภาพ
สรา้ งผลงานศลิ ปะ และการเล่นกับสี ความคดิ ของเด็ก
เพือ่ ส่อื สารความคิด (3) การป้ัน ระบายสีภาพ
ความรู้สึกของตนเอง (2) การแสดง 3. ป้ันผลไมไ้ ทยท
โดยมกี ารดดั แปลง ความคดิ สรา้ งสรรค์ 4. สนทนาขนั ตอน
และแปลกใหม่จาก ผา่ นภาษา ทา่ ทาง ปฏิบัติทงั 2 กจิ ก
เดิมและมี และศิลปะ 5. เด็กเล่าผลงาน
รายละเอยี ดเพมิ่ ขึน 6. เด็กเกบ็ อปุ กรณ
ได้

กจิ กรรมเลน่ ตามมุม (3) การใหค้ วาม 1. เด็กเลอื กกจิ กร
เกบ็ ของเล่นของใช้ รว่ มมือในการปฏบิ ัติ ตามความสนใจมุม
เข้าที่ดว้ ยตนเองได้ กิจกรรมต่าง ๆ ๔ มมุ เช่น
- มุมวทิ ยาศาสตร
- มุมบล็อก
- มมุ บทบาทสมม
- มมุ บ้าน ภาพถ่า
2. เม่อื หมดเวลาเ

จกรรมการเรียนรู้ สอ่ื 27

วัสดุ อปุ กรณ์ในการวาดภาพ 1. สเี ทยี น การประเมนิ พฒั นาการ
ปัน้ ดินนามัน 2. กระดาษ
พการละเล่นไทยในท้องถ่นิ ตาม 3. ดินนามนั สังเกต
เช่น เล่นแม่งู , วา่ ว ฯลฯ และ 4. แผ่นรองปน้ั การสรา้ งผลงานศิลปะ
เพอ่ื สื่อสารความคิด
ท่ชี อบ ความร้สู กึ ของตนเองโดยมี
นการทากจิ กรรมและเดก็ ลงมือ การดัดแปลงและแปลก
กรรม ใหมจ่ ากเดิมและมี
น ครูบันทกึ คาพดู เด็ก รายละเอยี ดเพมิ่ ขึน
ณ์เขา้ ท่ีใหเ้ รียบรอ้ ย

รรมเล่นตามมมุ ประสบการณ์ มมุ ประสบการณ์ใน สงั เกต
มประสบการณ์ควรมีอย่างนอ้ ย หอ้ งเรยี น การเกบ็ ของเล่นของใช้เข้า
ทด่ี ้วยตนเอง
ร์ - มุมหนังสอื
- มุมเกมการศึกษา

มติ - มมุ เคร่อื งเลน่ สัมผัส
ายและรายการอาหาร
เด็กเก็บของเขา้ ทีใ่ หเ้ รียบร้อย

จุดประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ กิจ

เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ 1. กาหนดข้อตกล
ดังนี
กิจกรรมกลางแจง้ (2) การเลน่ ร่วมกับ
- เข้าแถวตามล
1. เลน่ ร่วมกบั เพอื่ น ผู้อน่ื - ขณะเลน่ ต้อง
- ไม่แย่งของเล
เป็นกลมุ่ ได้ ต้องการสิ่งของขอ
- เมอ่ื ได้ยินสญั
2. เรียงลาดับ 2. แบง่ เด็กเปน็ กล
แข่งขันกันกรอกน
ปรมิ าตรของนาจาก 3. ครูเปา่ นกหวดี
มาเรยี งลาดบั ปริม
นอ้ ย – มากได้ 4. เดก็ แขง่ ขนั ทลี
5. ให้เด็กเลน่ อสิ ร
3. ขออนุญาตหรือ หมายเหตุ : ถ้าเด
การแบง่ กลมุ่ และ
รอคอยเมื่อต้องการ ได้
1. แนะนาเกมเรยี
สงิ่ ของของผู้อืน่ เมื่อ น้อย – มาก
2. เดก็ เล่นเกมชดุ
มีผูช้ แี นะได้ 3. หมนุ เวยี นกันเ
เกมวา่ ชอบหรอื ไม
เกมการศึกษา (13) การเรยี งลาดับ การเรยี งลาดบั ปรมิ าตร 4. เม่อื เลน่ เสรจ็ เด
เลน่ เกมเรยี งลาดับ ปริมาตร ของนาจากนอ้ ย – มาก
ภาพปรมิ าตรของนา
จากน้อย – มากได้

28

จกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ

ลงในการปฏิบัตติ นกอ่ นเล่นนา 1. พืนท่ีเล่นนา สังเกต
1. การเล่นร่วมกับเพื่อน
2. อุปกรณเ์ ลน่ นาเชน่ เปน็ กลมุ่
2. การเรียงลาดบั ปริมาตร
ลาดับก่อนหลังทังไปและกลบั กรวย แก้ว ขวด เหยือก ของนาจากน้อย – มาก
3. การขออนุญาตหรอื รอ
งไมเ่ ลน่ แกลง้ เพ่อื น กะละมังใสน่ า 4 ใบ คอยเมื่อต้องการสิง่ ของ
ของผู้อื่นเม่ือมผี ูช้ ีแนะ
ลน่ กัน ขออนุญาตหรือรอคอยเม่ือ ช้อน 4 คัน แก้วนา

องผู้อ่ืน หรอื ขวดนาที่เหมือนกัน

ญญาณหยุด ใหห้ ยุดเลน่ และมีขนาดเทา่ กัน 4ใบ

ลมุ่ ๆละ 4 คน ให้เด็กทุกคน ฯลฯ

นาใส่ขวดโดยใช้ชอ้ น 3. นกหวีด

ดหมดเวลา เด็กนาขวดนา 4 ใบ

มาตรจากน้อย – มาก

ละกลุ่ม ๆ ละ 4 คนจนครบทกุ คน

ระ

ดก็ มจี านวนน้อยสามารถปรับ

ะจัดจานวนอุปกรณ์ใหเ้ หมาะสม

ยงลาดับภาพปริมาตรของนาจาก 1. เกมเรยี งลาดบั ภาพ สงั เกต

ปรมิ าตรของนาจากน้อย การเลน่ เกมเรยี งลาดบั ภาพ

ดใหมแ่ ละเกมท่เี คยเลน่ มาแล้ว – มาก ปริมาตรของนาจากน้อย –

เลน่ และร่วมกนั สนทนาเก่ียวกับ 2. เกมท่ีเคยเล่นมาแลว้ มาก

มช่ อบเพราะเหตุใด

ด็กเก็บเกมการศกึ ษาเข้าทีเ่ ดมิ

แผนการจัดประสบการณ์รายวนั วนั ที่ ๔ ห

จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ ก

เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทค่ี วรเรียนรู้ 1. กิจกรรมพนื ฐ
ทวั่ บริเวณอย่างอ
เคลอ่ื นไหวและ (2) การเคลื่อนไหว เมอื่ ได้ยินสัญญาณ
ทา่ นนั ทันที
จงั หวะ เคล่ือนที่ 2. ครูแจกบตั รภ
วงกลมให้เด็กคน
เคลอื่ นไหวทา่ ทาง (2) การแสดง ร่างกายอย่างอสิ ร
โดยนาบตั รภาพต
เพือ่ ส่ือสารความคิด ความคดิ สร้างสรรค์ หยุด ให้จบั คูบ่ ัตร
ก่อนให้น่ังลง ครูต
ความรสู้ ึกของตนเอง ผ่านภาษา ทา่ ทาง 3. ปฏบิ ัตกิ ิจกรร
บตั รภาพสงิ่ ของท
อยา่ งหลากหลายหรือ การเคลื่อนไหว 4. เด็กพกั คลายก
ในทา่ สบาย
แปลกใหม่ได้

29

หนว่ ยที่ 22 ค่านยิ มไทย ชั้นอนุบาลปีท่ี 2

กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ

ฐาน เด็กเคลื่อนไหวร่างกายไป 1. เครื่องเคาะจงั หวะ สังเกต
อิสระตามจงั หวะชา้ เรว็ ทค่ี รูเคาะ 2. บตั รภาพสง่ิ ของที่มี การเคล่ือนไหวทา่ ทางเพ่ือ
ณหยุด ให้หยดุ เคลอื่ นไหวใน ลกั ษณะเหมือนวงกลม สอ่ื สารความคดิ ความรสู้ ึก
3. บัตรภาพส่ิงของท่ีมี ของตนเองอยา่ ง
ภาพสงิ่ ของที่มีลกั ษณะเหมือน ลักษณะเหมือนส่ีเหลย่ี ม หลากหลายหรอื แปลกใหม่
นละ 1 ภาพ เดก็ เคล่ือนไหว
ระตามจังหวะช้า เร็วท่คี รเู คาะ
ตดิ ตวั ไปดว้ ย เมอื่ ได้ยินสัญญาณ
รภาพทเ่ี หมอื นกัน ใครจบั คู่ได้
ตรวจดูความถูกต้อง
รมในข้อ 2 ซาอกี แต่เปล่ียนเป็น
ที่มีลักษณะเหมือนสีเ่ หลยี่ ม
กล้ามเนือ โดยให้นอนหลับตาอยู่

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจ
ประสบการณ์สาคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้

กิจกรรมเสริม (2) การฟังและ 1. คนไทยมีมารยาทดี 1. เด็กและครรู ่วม

ประสบการณ์ ปฏบิ ัตติ ามคาแนะนา 2. เราทกุ คนตอ้ ง ไทยในเรื่องการทา

1. เล่าเรอ่ื งเปน็ (4) การพูดแสดง ชว่ ยกนั ดแู ลรกั ษา ขอบคุณ การใช้วา

ประโยคอย่างต่อเน่ือง ความคิด ความรู้สึก สง่ิ แวดลอ้ มรอบตัว 2. อาสาสมคั รแส

ได้ และความต้องการ 3. ชมุ ชนของเราม

2. ปฏิบตั ติ นตาม (5) การพูดเลา่ อย่รู ่วมกนั อย่างสง

มารยาทไทยได้ดว้ ย เร่อื งราวเกีย่ วกับ ไทย เด็ก ๆ จะรัก

ตนเอง ตนเอง เมอื งไทยของเรา

(8) การรอจังหวะท่ี ทรพั ยากรของไทย

เหมาะสมในการพูด เกบ็ ขยะและทงิ ขย

กิจกรรมศลิ ปะ (2) การเขียนภาพ ๑. ครูแจกกระดา
เสน้ ผ่าศนู ยก์ ลาง
สรา้ งสรรค์ และการเล่นกบั สี แขง็ รูปสเ่ี หล่ยี มผนื
คนใช้เป็นแบบ
1. สรา้ งผลงานศลิ ปะ (3) การปั้น ๒. เด็กเขยี นรปู วง
แจกบนกระดาษ
เพอ่ื ส่ือสารความคดิ (2) การแสดง ๓. เดก็ ต่อเติมรูปว
และระบายสีตาม
ความร้สู ึกของตนเอง ความคดิ สรา้ งสรรค์ 4. เด็กปัน้ ดนิ นาม
แลว้ นามาประกอ
โดยมกี ารดดั แปลงและ ผา่ นภาษา ทา่ ทาง 5. เด็กทาทัง 2 ก
ผลงาน
แปลกใหม่จากเดมิ หรือ และศิลปะ

มีรายละเอียดเพ่ิมขึน

ได้

2. เขยี นรูปสเี่ หลี่ยม

ตามแบบได้อย่างมีมุม

ชัดเจน

30

จกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ

มสนทนาถึงกริ ยิ ามารยาทของคน สังเกต
าความเคารพ การแสดงความ 1. การเลา่ เรื่องเปน็
าจา การแสดงความอ่อนน้อม ประโยคอยา่ งตอ่ เนื่อง
สดงการไหว้ และการกราบท่ีถกู วธิ ี 2. การปฏิบตั ติ นตาม
มสี ิง่ แวดลอ้ มแตกตา่ งกนั แต่เรา มารยาทไทยดว้ ยตนเอง
งบสขุ เพราะเราทุกคนเปน็ คน
กษาส่ิงแวดล้อมรอบตัวอยา่ งไร
จึงจะสะอาดสวยงาม และใช้
ยอยา่ งคุ้มคา่ ตลอดไป (ชว่ ยกวาด
ยะได้ถกู ที่)

าษโปสเตอรแ์ ขง็ รปู วงกลมขนาด 1. กระดาษโปสเตอร์ สังเกต
1. การสรา้ งผลงานศลิ ปะ
5 ซม. และกระดาษโปสเตอร์ แขง็ รปู วงกลมขนาด เพื่อสื่อสารความคิด
ความรสู้ กึ ของตนเองโดยมี
นผ้าขนาด 5 X 8 ซม. ให้เด็กทุก เสน้ ผ่าศนู ย์กลาง 5 ซม. การดัดแปลงและแปลก
ใหม่จากเดิมหรือมี
2. กระดาษโปสเตอร์ รายละเอียดเพม่ิ ขนึ
2. การเขยี นรปู สเี่ หลยี่ ม
งกลมและรปู สเ่ี หลีย่ มตามแบบท่ี แข็งรปู ส่ีเหล่ียมผนื ผ้า ตามแบบอย่างมีมุมชัดเจน

เอ4 ขนาด 5 X 8 ซม.

วงกลมและส่ีเหลี่ยมใหเ้ ป็นภาพ ๓. กระดาษ เอ4

มความคดิ ของเดก็ 4. สเี ทยี น

มนั เปน็ รปู ส่เี หลี่ยมและวงกลม 5. ดนิ นามนั

อบเป็นรถยนต์ 6. แผน่ รองปั้น

กจิ กรรม เสรจ็ แล้วนาเสนอ

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ ก
ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรียนรู้
1. เดก็ เลือกกิจกร
กิจกรรมเลน่ ตามมุม (3) การให้ความ ตามความสนใจมุม
มุม เช่น
เก็บของเล่นของใช้เข้า รว่ มมือในการปฏิบตั ิ - มมุ วทิ ยาศาสตร
- มุมบล็อก
ทด่ี ้วยตนเองได้ กิจกรรมต่างๆ - มุมบทบาทสมม
2. เมอ่ื หมดเวลาเ
3. ครชู มเชยเดก็ ท
เล่นเสรจ็

กิจกรรมกลางแจ้ง (2) การเลน่ ร่วมกับ 1. พาเด็กเดินเข้า
๒. เด็กจัดแถวตอ
รบั ลูกบอลโดยใช้มอื ทงั ผอู้ นื่ กบั ที่ สะบัดมือทงั
๓. เด็กจัดแถวเปน็
สองข้างได้ (4) การเคลื่อนไหวที่ ลูกบอล แล้วโยนล
คน (เด็กต้องรบั ล
ใช้การประสาน ห้ามใช้ลาตัวช่วย)
๔. เด็กเลน่ เครื่อง
สัมพนั ธ์ของการใช้ สญั ญาณหมดเวล
เขา้ แถวไปลา้ งมือ
กลา้ มเนือใหญ่ในการ

ขว้าง การจับ การ

โยน การเตะ

31

กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ

รรมเลน่ ตามมมุ ในมุมประสบการณ์ มุมประสบการณใ์ น สังเกต
มประสบการณค์ วรมีอยา่ งนอ้ ย ๔ ห้องเรยี น การเก็บของเล่นของใช้
เข้าท่ีดว้ ยตนเอง
ร์ - มุมหนังสอื
- มุมเกมการศึกษา

มติ - มุมเคร่อื งเลน่ สมั ผสั
เด็กเกบ็ ของเข้าท่ีใหเ้ รียบร้อย
ท่ีเกบ็ ของเขา้ ทไ่ี ดเ้ รียบร้อยเมื่อ

าแถวไปท่สี นามเดก็ เลน่ 1. สนามเดก็ เล่น สงั เกต
อนลึก 2 แถว อบอนุ่ รา่ งกาย ว่ิงอยู่ 2. ลูกบอล การรับลกู บอลโดยใช้มือทงั
งสองข้าง 10 ครงั สองขา้ ง
นรูปวงกลม ครยู ืนอยกู่ ลางวงมือถือ
ลกู บอลใหเ้ ด็กรับทีละคนจนครบทุก
ลกู บอลโดยใช้มือทงั สองข้างเทา่ นนั
)
งเล่นสนามอย่างอิสระ เมื่อได้ยิน
ลาใหท้ ุกคนช่วยกนั เก็บอุปกรณ์
อและเขา้ ชนั เรยี น

จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ ก
ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้
1. แนะนาเกมจา
เกมการศกึ ษา (5) การจาแนกสิง่ การจาแนกภาพหรือ เหมือนวงกลมและ
2. เด็กเลน่ เกมชดุ
จาแนกภาพหรือ ต่าง ๆ ตามลกั ษณะ สิง่ ของทีม่ ีลกั ษณะ 3. หมนุ เวยี นกันเ
ว่าชอบหรือไมช่ อบ
สิ่งของทม่ี ลี กั ษณะ และรูปร่าง รูปทรง เหมอื นวงกลมและ 4. เม่ือเล่นเสร็จเด

เหมือนวงกลมและ สเี่ หลี่ยม

สีเ่ หลย่ี มได้

32

กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ

แนกภาพหรือสิ่งของทีม่ ีลักษณะ 1. เกมจาแนกภาพ สงั เกต
ะส่เี หล่ียม หรอื ส่งิ ของทม่ี ี การจาแนกภาพหรอื
ดใหมแ่ ละเกมที่เคยเลน่ มาแล้ว ลกั ษณะเหมือน สง่ิ ของทีม่ ีลกั ษณะเหมือน
เลน่ และร่วมกันสนทนาเกีย่ วกับเกม วงกลมและสเี่ หลยี่ ม วงกลมและส่เี หล่ยี ม
อบเพราะเหตุใด 2. เกมที่เล่นมาแล้ว
ด็กเกบ็ เกมการศกึ ษาเขา้ ทเี่ ดิม

แผนการจดั ประสบการณ์รายวัน วันท่ี ๕ ห

จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ ก

เรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระท่คี วรเรียนรู้ 1. กิจกรรมพืนฐา
บริเวณอยา่ งอสิ ระ
เคล่ือนไหวและ (2) การเคลื่อนไหว ได้ยินสญั ญาณหย
2. เดก็ ทาท่าทางต
จังหวะ เคลื่อนท่ี “เดก็ ตื่นนอนแตเ่ ช
เดินออกไปนอกบ
เคลื่อนไหวท่าทาง (2) การแสดงความคดิ ผ่านบึงนาซ่งึ มดี อ
เดินไปเรอื่ ย ๆ เห
เพือ่ สื่อสาร สร้างสรรคผ์ ่านภาษา ช่วยปลกู ผกั เหนื่อ
เสียงนกร้อง จึงมอ
ความคิด ท่าทาง การเคลือ่ นไหว ปอ้ นอาหารให้ลกู
บา้ น”
ความรสู้ กึ ของ 3. เดก็ นงั่ พกั ผ่อน
ทา่ สบายหายใจเข
ตนเองอย่าง

หลากหลายหรอื

แปลกใหม่ได้

33

หน่วยท่ี 22 ค่านิยมไทย ช้นั อนบุ าลปีที่ 2

กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ
เคร่อื งเคาะจังหวะ
าน เดก็ เคลื่อนไหวรา่ งกายไปทวั่ สงั เกต
ะตามจงั หวะชา้ เรว็ ท่คี รเู คาะเมื่อ การเคลอ่ื นไหวทา่ ทางเพ่ือ
ยุด ให้หยุดเคล่อื นไหวในทา่ นนั ทนั ที สือ่ สารความคดิ ความรสู้ กึ
ตามจินตนาการ โดยฟังคาบรรยาย ของตนเองอย่าง
ช้า ล้างหน้า แปรงฟนั เปิดประตู หลากหลายหรอื แปลกใหม่
บ้าน อากาศสดช่ืน เด็กเดนิ ไปช้า ๆ
อกบวั และปลาอาศยั อยมู่ ากมาย เด็ก
หน็ พ่อกบั แมก่ าลงั ปลูกผัก เดก็ เดนิ ไป
อยแลว้ นง่ั พักใตต้ น้ ไมใ้ หญ่ เด็กได้ยนิ
องขึนไปบนตน้ ไม้เหน็ แมน่ กกาลัง
กนก หายเหนื่อยแลว้ เด็กเดนิ กลบั

นคลายกล้ามเนือ โดยนั่งหลบั ตาใน
ข้าออกชา้ ๆ

จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ ก
เรยี นรู้
ประสบการณส์ าคัญ สาระท่ีควรเรียนรู้ 1. ครูเล่าการปฏบิ
กิจกรรมเสริม ญาติผใู้ หญ่ของคร
ประสบการณ์ (4) การพูดแสดง 1. คนไทยมีความ รบั ประทาน การบ
1. เลา่ เรอื่ งเป็น หนงั สอื ใหฟ้ ัง อาบ
ประโยคอย่าง ความคิด ความรู้สึกและ ซอ่ื สัตย์ มีวินยั มคี วาม พาไปหาหมอ
ต่อเน่อื งได้ กตญั ญู 2. ครูนาขา่ วจากห
2. ชว่ ยเหลอื และ ความต้องการ เก่ียวกับเด็กทีม่ คี ว
แบง่ ปนั ผอู้ น่ื ไดเ้ มื่อ (5) การพูดเล่าเร่ืองราว 2. เราควรใช้ 3. ใหเ้ ดก็ เล่าประ
มีผชู้ แี นะ ทรพั ยากรอยา่ งคุม้ ค่า ผ้ปู กครอง ญาตผิ
เก่ยี วกับตนเอง 4. ครูเล่านิทานเร
คาถามดงั นี
(2) การฟังนิทาน
- ทองพนั ช่ัง คือ
เก่ียวกบั คุณธรรม เสยี สละชีวติ เพือ่ ใ
สิ่งแวดลอ้ มตามธร
จริยธรรม
- เด็กบอกประโ
(ตน้ ไม้ ดวงอาทติ

- นอ้ งกระตา่ ย
ทังสองเป็นคนเชน่

- การกระทาใด
- ทาไมเสือจึงไม
นาใจ และชว่ ยเห

34

กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพฒั นาการ

บตั ติ นของครูในการดแู ลบดิ ามารดา นิทานเรื่องลูกกตญั ญู สังเกต
รูให้เด็กฟังเช่น การทาอาหารให้
บบี นวด พาไปออกกาลังกาย อ่าน 1. การเล่าเรอ่ื งเป็น
บนาให้ เชด็ ตัวใหเ้ ม่ือไม่สบาย และ ประโยคอย่างต่อเนื่อง
2. การช่วยเหลอื และ
หนังสือพมิ พ์ หรือในโทรทศั น์ แบ่งปนั ผู้อืน่ เม่ือมีผู้ชีแนะ
วามกตัญญูต่อพ่อแม่มาเลา่ ใหเ้ ด็กฟัง
ะสบการณ์ในการตอบแทนบุญคณุ
ผใู้ หญ่ ให้เพือ่ น ๆ ฟงั
รือ่ ง “ลกู กตัญญ”ู ใหเ้ ด็กฟงั แลว้ ใช้

ออะไร ทาไมลกู กระต่ายจงึ ต้องยอม
ให้ไดม้ า ( สมุนไพรซงึ่ เปน็
รรมชาติ )
โยชน์ของสิง่ แวดล้อมตามธรรมชาติ
ตย์ นา ดิน ฯลฯ)
2 ตัว เชอื่ ฟังพี่ดแู ลพอ่ แสดงว่าน้อง
นไร ( มีวินยั กตัญญู)
ดทแี่ สดงว่าลูกกระตา่ ยมคี วามกตญั ญู
มก่ ินลูกกระตา่ ย (มีเมตตา กรุณา มี
หลือแบ่งปัน)

จดุ ประสงค์การ สาระการเรียนรู้ ก
เรยี นรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้
- เด็ก ๆ ทาอะไ
ต่อพ่อแม่
5. เดก็ และครูรว่ ม
บญุ คณุ ผ้ปู กครอง
คาสั่งสอน ไม่ดอื ร
ภาระของพ่อแม่ ก
ปลูกตน้ ไม้และรด

กิจกรรมศลิ ปะ (3) การปั้น 1. แบ่งเด็กเปน็ กล
สรา้ งสรรค์ (4) การประดษิ ฐ์ 2. แนะนาขันตอน
สร้างผลงานศลิ ปะ สิ่งต่าง ๆดว้ นเศษวสั ดุ และกระดาษโปสเ
เพื่อสื่อสาร (2) การแสดงความคดิ 3. แจกกงิ่ ไม้แห้ง
ความคิด สรา้ งสรรค์ผา่ นภาษา แต่ละกลุม่
ความร้สู กึ ของ ทา่ ทาง และศลิ ปะ 4. เด็กขยากระดา
ตนเองโดยมี ไมแ้ หง้ แล้วนาไป
การดัดแปลงและ 5. เด็กป้นั ดินนาม
แปลกใหมจ่ ากเดมิ ตน้ ไม้
หรือมรี ายละเอยี ด 6. เด็กทาทัง 2 ก
เพม่ิ ขนึ ได้ 7. เดก็ นาเสนอผล

35

กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ
ไรบา้ งท่ีแสดงว่ามีความกตัญญู

มสรปุ การปฏิบัตติ นในการตอบแทน
ง ญาตผิ ู้ใหญ่ ด้วยการเคารพเช่ือฟัง
รัน ช่วยเหลืองานบ้านเพื่อแบง่ เบา
กวาดบ้าน ถูบา้ น ทิงขยะใหถ้ ูกที่
ดนาตน้ ไมเ้ ป็นตน้

ลุ่มตามความเหมาะสม 1. กิง่ ไมแ้ ห้ง สงั เกต

นในการประดิษฐต์ ้นไม้จากก่งิ ไม้แห้ง 2. กระดาษโปสเตอร์ การสร้างผลงานศลิ ปะเพื่อ

เตอร์บางสีเขียว บางสเี ขียว ส่อื สารความคดิ ความร้สู กึ

และกระดาษโปสเตอร์บางสเี ขยี วให้ 3. กาว ของตนเองโดยมีการ

4. ดนิ นามนั ดัดแปลงและแปลกใหม่

าษเปน็ ก้อนแลว้ ใช้กาวทาแปะบนกงิ่ 5. แผน่ รองป้นั จากเดมิ หรือมรี ายละเอียด

ปตงั บนฐานท่ีเปน็ ดินนามัน เพ่มิ ขนึ

มันเปน็ สตั ว์แสนรกั และนาไปวางใต้

กจิ กรรม
ลงานและนาไปวางทเ่ี ก็บผลงาน

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก
เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้
1. เดก็ เลือกกิจกร
กจิ กรรมเลน่ ตาม (3) การให้ความร่วมมือ ความสนใจมุมปร
เช่น
มมุ ในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม - มุมวทิ ยาศาสตร
- มมุ บลอ็ ก
เกบ็ ของเล่นของใช้ ตา่ ง ๆ - มุมบทบาทสมม
2. เม่อื หมดเวลาเ
เข้าท่ีด้วยตนเองได้ 3.ครูชมเชยเด็กท
เสร็จ

กิจกรรมกลางแจ้ง (2) การเล่นรว่ มกบั ผู้อื่น การละเลน่ ของไทย 1. พาเด็กไปเล่นง
1. เล่นร่วมกับ (5) การละเล่นพืนบ้าน แม่งู 2. เลือกเด็กชายค
เพ่อื นเป็นกล่มุ ได้ ของไทย คนหน่งึ เปน็ แม่งู
2. เล่นการละเล่น 3. พอ่ งยู นื หันหน
ของไทยแมง่ ูได้ เอวกันเป็นแถวยา
4. พอ่ งถู ามแมง่ วู

บทรอ้ งประกอบ

36

กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ

รรมเล่นตามมมุ ประสบการณต์ าม มุมประสบการณใ์ น สงั เกต
ระสบการณค์ วรมีอยา่ งน้อย ๔ มุม
ห้องเรียน การเกบ็ ของเล่นของใช้เขา้
ร์ - มมุ หนังสอื
- มมุ เกมการศกึ ษา ทด่ี ว้ ยตนเอง

มติ - มุมเครื่องเลน่ สมั ผัส
เดก็ เกบ็ ของเขา้ ท่ใี ห้เรียบร้อย
ท่เี กบ็ ของเขา้ ท่ไี ดเ้ รียบร้อยเม่ือเล่น

งูกินหาง ท่ีสนามเดก็ เลน่ สนามเด็กเล่น สงั เกต
1. การเล่นรว่ มกบั เพอื่ น
คนหนึง่ เปน็ พอ่ งู และเลือกเด็กหญิง เปน็ กล่มุ
2. การเลน่ การละเลน่ ของ
นา้ เขา้ หาแม่งู นอกนนั เปน็ ลกู งู จับ ไทยแม่งู
าวตอ่ จากเอวแมง่ ู
วา่
อบ พอ่ งู : แม่งูเอ๋ย

แม่งู : เอ๋ย (ลูกงชู ว่ ยตอบ)
พ่องู : กนิ นาบ่อไหน
แม่งู : กินนาบอ่ โศก
ลูกงู : โยกไปกโ็ ยกมา
แม่งู : กนิ นาบอ่ ทราย

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก

เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรียนรู้

ตลอดตวั
5. พอ่ งจู ะขออาห
ปลายแถวขึนมาห
ไม่ให้พอ่ งู เอาลูกง
ไมใ่ หแ้ ตกแถว
6. ใหเ้ ด็กเลน่ อสิ ร
สะอาดร่างกายก่อ

เกมการศึกษา (13) การจับคู่ การจบั คู่ภาพสัมพนั ธ์ 1. แนะนาเกมจับ
จับคูภ่ าพสัมพันธ์ ส่ิงแวดลอ้ ม
ประโยชนข์ อง การเปรยี บเทยี บสงิ่ ตา่ งๆ ประโยชน์ของ 2. แบง่ เดก็ เลน่ เก
สิ่งแวดล้อม หมุนเวยี นกัน
ได้ สงิ่ แวดลอ้ ม 3. หมดเวลา เด็ก

37

กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พัฒนาการ

ลกู งู : ยา้ ยไปกย็ ้ายมา
แม่งู : กินนาบอ่ หนิ
ลูกงู : บนิ ไปก็บนิ มา
พอ่ งู : กินหัว กนิ หาง กนิ กลาง

หาร แม่งไู ม่ให้ พอ่ งจู ะไล่จบั ลูกงจู าก
หัวแถว แม่งตู ้องพยายามป้องกนั
งไู ป ลูกงูตอ้ งคอยวิง่ หนแี ตต่ ้องระวงั

ระประมาณ 5 นาที แล้วทาความ
อนเขา้ ชนั เรยี น

บคู่ภาพสมั พันธ์ประโยชน์ของ 1. เกมจบั คภู่ าพ สงั เกต
กมใหม่ และเกมเดิมท่ีมีอยู่แลว้ สมั พนั ธ์ประโยชน์ การจบั คู่ภาพสัมพันธ์
กเก็บเกมการศึกษาเข้าท่ี ของสง่ิ แวดล้อม ประโยชนข์ องสงิ่ แวดล้อม
2. เกมท่เี คยเลน่
มาแล้ว

1. เลขที่ ชอื่ -สกุล
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.

1. การรบั ลูกบอลโดยใช้มือทงั สองขา้ ง ดา้ นรา่ งกาย ด้านอารมณแ์ ละ แบบสังเกตพฤติกรรมเด็ก หน่วยการจัดประส
จติ ใจ
2. การเขยี นรปู สเ่ี หล่ียมตามแบบได้อยา่ งมี
มมุ ชัดเจน ด้านส

3. การขออนญุ าตหรอื รอคอยเมอื่ ตอ้ งการ
ส่งิ ของของผอู้ ่ืนเม่ือมผี ้ชู แี นะ

4. การช่วยเหลอื และแบง่ ปันผู้อ่นื เม่อื มีผู้
ชีแนะ

5. การเก็บของเลน่ ของใชเ้ ข้าที่ดว้ ยตนเอง

6. การมสี ว่ นร่วมดแู ลรกั ษาธรรมชาติและ
สิ่งแวดลอ้ มเมอื่ มผี ชู้ ีแนะ
7. การทิงขยะได้ถกู ที่

8. การปฏบิ ตั ิตนตามมารยาทไทยด้วยตนเอง

9. การกล่าวคาขอบคุณและขอโทษด้วย สบการณ์ท่ี 22 คา่ นิยมไทย ชั้นอนบุ าลปีท่ี 2
ตนเอง ประเมนิ พฒั นาการ
10. การยืนตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาตไิ ทยและ สังคม ดา้ นสตปิ ัญญา
เพลงสรรเสรญิ พระบารมี
11. การเล่นรว่ มกับเพ่ือนเปน็ กลมุ่

12. การเลา่ เรอ่ื งเปน็ ประโยคอยา่ งตอ่ เนอื่ ง

13. การจับคแู่ ละเปรียบเทียบส่ิงต่าง ๆ

14. การจาแนกและจัดกล่มุ สง่ิ ตา่ ง ๆ

15. การเรยี งลาดบั สง่ิ ของ

16. การสร้างผลงานศิลปะเพือ่ สอ่ื สาร
ความคดิ ความรสู้ กึ ของตนเองมรี ายละเอยี ด
เพม่ิ ขนึ
1ดด7ย.ใกชา้ รเคลอื่ นไหวท่าทางเพ่ือสือ่ สาร
ความคิด ความร้สู กึ ของตนเองอยา่ ง
หลากหลาย

38

หมาย
เหตุ

11. ดา้ นรา่ งกาย ด้านอารมณแ์ ละ
12. จิตใจ
13.
14. เลขที่ ช่อื -สกลุ
15.
16.
17.
18.
19.
20.
คาอธบิ าย

ระดบั ๓ ดี ครสู งั เกตพฤติกรรมเด็กรายบุคคล จดบันทึกสรุปเปน็ รายสปั ดาห์ระบรุ ะด 1. การรบั ลกู บอลโดยใช้มือทงั สองข้าง

ระดับ ๒ ปานกลาง 2. การเขยี นรปู สเ่ี หลย่ี มตามแบบอยา่ งมมี ุม
ชัดเจน
ดา้ น
3. การขออนุญาตหรือรอคอยเมื่อตอ้ งการ
สง่ิ ของของผู้อ่นื เมื่อมผี ูช้ แี นะ

4. การช่วยเหลอื และแบง่ ปันผ้อู ่ืนเม่ือมผี ู้
ชีแนะ

5. การเก็บของเลน่ ของใช้เข้าทด่ี ้วยตนเอง

6. การมสี ่วนร่วมดูแลรกั ษาธรรมชาตแิ ละ
ส่งิ แวดล้อมเม่ือมผี ู้ชแี นะ
7. การทิงขยะไดถ้ ูกท่ี

8. การปฏบิ ตั ิตนตามมารยาทไทยด้วย

ดบั คณุ ภาพเปน็ ๓ ระดบั คือ ตนเอง ประเมินพัฒนาการ
ระดับ ๑ ต้องสง่ เสริม 9. การกลา่ วคาขอบคุณและขอโทษดว้ ย นสังคม
ตนเอง
10. การยืนตรงเมอ่ื ไดย้ ินเพลงชาตไิ ทยและ ด้านสตปิ ญั ญา
เพลงสรรเสรญิ พระบารมี

11. การเลน่ รว่ มกับเพ่อื นเปน็ กลมุ่

12. การเล่าเรื่องเป็นประโยคอยา่ งตอ่ เน่ือง

13. การจบั คูแ่ ละเปรียบเทียบสิ่งตา่ ง ๆ

14. การจาแนกและจดั กลุ่มส่ิงต่าง ๆ

15. การเรยี งลาดับส่ิงของ

16. การสร้างผลงานศิลปะเพอื่ ส่อื สาร
ความคิด ความรู้สกึ ของตนเองมรี ายละเอยี ด
เพ่ิมขนึ
ด1ด7ย.ใกชา้ รเคล่อื นไหวทา่ ทางเพ่อื สอ่ื สาร
ความคิด ความรู้สึกของตนเองอยา่ ง
หลากหลาย

39

หมาย
เหตุ

หน่วยที่ 23 วนั ชาติ

นางสาวนนั ทนา มาตรเลงิ
ครปู ระจาชั้นอนุบาล ๒

โรงเรียนบ้านทา่ เยย่ี มวิทยายล

สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๗
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน

การวิเคราะห์โครงสร้างหนว่ ยการจดั ประสบการณ์ต
หน่วยที่ 23 วันชาติ ชน้ั อนุบ

รายการ อนุบาลปีท่ี ๑
สาระที่ควรเรยี นรู้
๑. วนั ชาติของประเทศไทยตรงกบั ๑. วันชา

วันท่ี ๕ ธันวาคมของทุกปีซงึ่ เปน็ วนั ธนั วา

พระบรมราชสมภพ (วันเกิด) ของ ราชส

พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว พระเจ

รัชกาลที่ ๙ ๒. วันที่

๒. วนั ที่ ๕ ธนั วาคมถอื เป็นวันพ่อแห่งชาติ เนอ่ื งจ

เนื่องจากพระบาทสมเด็จ รัชกา

พระเจ้าอยหู่ วั รชั กาลท่ี ๙ ทรงเป็นผู้ เปรีย

มพี ระคุณแก่ชาติเปรียบเสมือนพอ่ ๓. ความ

ของชาวไทยทุกคน ๔. ความ

๕. การรัก

มาตรฐาน มฐ ๒ ตบช ๒.๑ (๒.๑.๒) มฐ ๒ ต
ตวั บ่งช้ี ตบช.๒.๒ (๒.๒.๑) ต
สภาพท่ีพึงประสงค์
มฐ ๔ ตบช ๔.๑ (๔.๑.๑) (๔.๑.๓) มฐ ๔ ต
มฐ ๕ ตบช ๕.๒ (๕.๒.๑) มฐ ๕ ต
มฐ ๘ ตบช ๘.๒ (๘.๒.๑) มฐ ๗ ต
มฐ ๙ ตบช ๙.๑ (๙.๑.๑) มฐ ๘ ต
มฐ ๙ ต
ตบช ๙.๒ (๙.๒.๑)
มฐ ๑๐ ตบช ๑๐.๑ (๑๐.๑.๒) (๑๐.๑.๓) ต
มฐ ๑๐ ต

ตามหลักสูตรการศกึ ษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560
บาลปที ี่ 1 – 3 ภาคเรียนท่ี 2

อนบุ าลปีท่ี ๒ อนุบาลปที ่ี ๓

าตขิ องประเทศไทยตรงกบั วนั ท่ี ๕ ๑. วันชาตขิ องประเทศไทยตรงกับวันที่ ๕
าคมของทกุ ปีซึ่งเป็นวันพระบรม ธันวาคมของทุกปีซง่ึ เปน็ วันพระบรม
สมภพ(วันเกดิ )ของพระบาทสมเดจ็ ราชสมภพ(วันเกดิ )ของพระบาทสมเด็จ
จ้าอย่หู วั รชั กาลที่ ๙ พระเจ้าอยูห่ ัวรัชกาลท่ี ๙
๕ ธนั วาคมถือเป็นวันพ่อแห่งชาติ
จากพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั ๒. วนั ท่ี ๕ ธันวาคมถือเปน็ วนั พ่อแห่งชาติ
าลท่ี ๙ ทรงเป็นผมู้ พี ระคุณแกช่ าติ เน่ืองจากพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว
ยบเสมือนพอ่ ของชาวไทยทุกคน รัชกาลที่ ๙ ทรงเปน็ ผู้มพี ระคุณแกช่ าติ
มสาคัญของวันชาติและพระคุณพ่อ เปรยี บเสมอื นพอ่ ของชาวไทยทกุ คน
มกตัญญตู ่อผู้มีพระคุณ
กษาส่ิงแวดล้อมในชุมชน ๓. ความสาคญั ของวันชาติและพระคุณพ่อ
๔. ความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ
๕. พระราชกรณยี กิจที่สาคัญ
๖. การรักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชน

ตบช ๒.๑ (๒.๑.๒) มฐ ๒ ตบช ๒.๑ (๒.๑.๒)
ตบช ๒.๒ (๒.๒.๑) ตบช ๒.๒ (๒.๒.๑)
ตบช ๔.๑ (๔.๑.๑) (๔.๑.๓)
ตบช ๕.๒ (๕.๒.๑) มฐ ๔ ตบช ๔.๑ (๔.๑.๑) (๔.๑.๓)
ตบช ๗.๑ (๗.๑.๑) มฐ ๕ ตบช ๕.๒ (๕.๒.๑)
ตบช ๘.๒ (๘.๒.๑) มฐ ๗ ตบช ๗.๑ (๗.๑.๑)
ตบช ๙.๑ (๙.๑.๑) มฐ ๘ ตบช ๘.๒ (๘.๒.๑)
ตบช ๙.๒ (๙.๒.๑) มฐ ๙ ตบช ๙.๑ (๙.๑.๑)
ตบช ๑๐.๑ (๑๐.๑.๒)
ตบช ๙.๒ (๙.๒.๑)
มฐ ๑๐ ตบช ๑๐.๑ (๑๐.๑.๒)

ประสบการณส์ าคญั รา่ งกาย รา่ งกาย
๒.๑.๒ (๑) การเคล่ือนไหวอยู่กับที่ ๒.๑.๒ (๑

(๒) การเคลื่อนไหว เคลือ่ นท่ี (๒
(๓) การเคลอื่ นไหวพร้อมอุปกรณ์ (๓
1.1.๒ (๒) การเขยี นภาพและการเล่น 1.1.๒ (๒
กับสี (3
(3) การปั้น (๔
(๔) การประดิษฐ์สง่ิ ต่างๆ ด้วยเศษว
ด้วยเศษวัสดุ (๕
(๕) การหยบิ จับและ
การใชก้ รรไกร อารมณ์
อารมณ์ ๔.๑.๓ (๑
๔.๑.๓ (๑) การฟงั เพลง การร้องเพลง แสดงปฏ
และแสดงปฏิกริ ยิ าโต้ตอบเสียงดนตรี
(๒) การเคลอื่ นไหว (๒
ตามเสยี งเพลง/ดนตรี ดนตรี
สังคม สังคม
๑.๒.๓ (๒) การฟังนิทานเกีย่ วกับ ๑.๒.๓ (๒
คุณธรรมจริยธรรม (ความเมตตากรุณา คุณธรรม
ความกตญั ญู) ความกต
(๓) การร่วมสนทนาและ
แลกเปลยี่ นความคิดเห็นเชงิ จริยธรรม (๓
๑.๓.๔ (๑) การปฏิบัตติ นเปน็ สมาชิกที่ แลกเปล่ีย
ของห้องเรยี น ๑.๓.๔ (๑
(๔) การดูแลหอ้ งเรียนร่วมกนั ของห้องเ
๑.๓.๗ (๑) เล่นรว่ มกบั กลุ่มเพื่อน
(๔
(๕
-

รา่ งกาย

๑) การเคลื่อนไหวอยู่กบั ท่ี ๑.๑.๑ (๑) การเคล่อื นไหวอยู่กับที่

๒) การเคลือ่ นไหว เคล่อื นท่ี (๒) การเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นที่

๓) การเคลือ่ นไหวพร้อมอุปกรณ์ (๓) การเคล่อื นไหวพร้อมอุปกรณ์

๒) การเขียนภาพและการเล่นกับสี 1.1.๒ (๒) การเขยี นภาพและการเล่นกับสี

3) การป้ัน (3) การปัน้

๔) การประดิษฐ์สิง่ ตา่ งๆ (๔) การประดิษฐส์ ิ่งต่างๆ

วัสดุ ด้วยเศษวัสดุ

๕) การหยบิ จับและการใชก้ รรไกร (๕) การหยิบจับและการใชก้ รรไกร

อารมณ์

๑) การฟังเพลง การร้องเพลง และ ๔.๑.๓ (๑) การฟงั การร้อง และแสดง

ฏิกริ ิยาโต้ตอบเสียงดนตรี ปฏิกริ ยิ าโต้ตอบเสียดนตรี

๒) การเคลอ่ื นไหวตามเสียงเพลง/ (๒) การเคลอ่ื นไหวตามเสยี งเพลง/

ดนตรี

สงั คม

๒) การฟังนิทานเก่ียวกับ ๑.๒.๓ (๒) การฟังนิทานเกีย่ วกับคณุ ธรรม

ม จรยิ ธรรม (ความเมตตากรุณา จรยิ ธรรม (ความเมตตากรุณา

ตัญญู) ความกตัญญู)

๓) การรว่ มสนทนาและ (๓) การร่วมสนทนาและ

ยนความคิดเห็นเชิงจริยธรรม แลกเปลีย่ นความคิดเหน็ เชงิ จริยธรรม

๑) การปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชิกทด่ี ี ๑.๓.๔ (๑) การปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชกิ ทด่ี ี

เรยี น ของห้องเรยี น

๔) การดแู ลหอ้ งเรียนร่วมกนั (๔) การดูแลหอ้ งเรยี นร่วมกัน

๕) การรว่ มกิจกรรมวันสาคัญ (๕) การรว่ มกจิ กรรมวันสาคญั

การปฏิบัติตนในวันชาติ - การปฏบิ ัติตนในวนั ชาติ

๑.๓.๗ (๑

สตปิ ญั ญา สติปญั ญ

1.4.1 (2)การฟงั และปฏิบัติตามคาแนะนา 1.4.1 (2

(3) การฟังเพลง คาคล้องจอง (3

หรือเร่ืองราวตา่ ง ๆ หรือเรือ่ ง

(๔) การพดู และแสดงความคดิ (๔

ความรูส้ กึ และความต้องการ ความรูส้ ึก

(๑๐) การอา่ นหนงั สือภาพ (๑

หลากหลายรปู แบบ หลากหล

(๑๒) การเหน็ แบบอย่างของการ (๑

อา่ นที่ถูกต้อง ท่ีถูกต้อง

1.4.2 (๘) การนับและแสดงจานวนของ 1.4.2 (๘

สิ่งตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั ตา่ งๆ ใน

(๙) การเปรยี บเทียบและเรยี งลาดบั (๙

จานวนของสิ่งต่างๆ จานวนข

(๑๓) การจบั คู่ การเปรียบเทยี บและ (๑

เรียงลาดับสิง่ ตา่ งๆตามลักษณะความยาว/ เรียงลาด

ความสงู นาหนกั ปริมาตร ความสูง

ทักษะพืน้ ฐาน ๑. นบั และแสดงจานวน 1 – 5 ๑. นบั แล
คณติ ศาสตร์
๒. ระบตุ วั เลขฮินดูอารบิกแสดงจานวน ๒. ระบุต

ของสงิ่ ตา่ งๆ 1 – 5 ของสงิ่ ตา่

๓. บอกจานวนทังหมดที่เกดิ จากการรวม ๓. เปรียบ

สิ่งตา่ งๆ สองกลุ่มทีม่ ผี ลรวมไม่เกนิ 3 สองกลุ่ม

๔. เปรียบเทยี บนาหนกั ของส่งิ ต่าง ๆ ๔. บอกต

โดยใชค้ าหนักกว่า เบากว่า หนกั เท่ากัน โดยใชค้ า

๕. บอกตาแหน่งของสิ่งต่าง ๆ ทก่ี าหนด ขา้ งหนา้

โดยใชค้ าขา้ งบน ข้างล่าง ข้างใน ข้างนอก ตามตาแห

๑) เลน่ รว่ มกับกลุม่ เพ่ือน ๑.๓.๗ (๑) เลน่ ร่วมกบั กลุ่มเพื่อน

ญา สตปิ ญั ญา

2) การฟงั และปฏบิ ตั ิตามคาแนะนา 1.4.1 (2) การฟังและปฏิบตั ิตามคาแนะนา

3) การฟังเพลง คาคลอ้ งจอง (3) การฟงั เพลง คาคล้องจอง

งราวตา่ ง ๆ หรอื เร่ืองราวตา่ ง ๆ

๔) การพูดและแสดงความคิด (๔) การพดู และแสดงความคดิ

กและความต้องการ ความรสู้ ึกและความต้องการ

๑๐) การอา่ นหนงั สือภาพ (๑๐) การอา่ นหนังสอื ภาพ

ลายรปู แบบ หลากหลายรูปแบบ

๑๒) การเหน็ แบบอยา่ งของการอา่ น (๑๒) การเหน็ แบบอย่างของการอ่าน

ง ท่ีถูกต้อง

๘) การนบั และแสดงจานวนของส่ิง 1.4.2 (๘) การนับและแสดงจานวนของสงิ่

นชีวติ ประจาวนั ตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวัน

๙) การเปรียบเทยี บและเรียงลาดับ (๙) การเปรยี บเทียบและเรยี งลาดับ

ของส่ิงตา่ งๆ จานวนของส่งิ ตา่ งๆ

๑๓) การจับคู่ การเปรียบเทียบและ (๑๓) การจบั คู่ การเปรียบเทียบและ

ดับสงิ่ ตา่ งๆตามลักษณะ ความยาว/ เรยี งลาดับสง่ิ ตา่ งๆตามลักษณะ ความยาว/

นาหนกั ปริมาตร ความสงู นาหนกั ปรมิ าตร

ละแสดงจานวน 1 - 7 ๑. นบั และแสดงจานวน 12

ตวั เลขฮนิ ดูอารบิกแสดงจานวน ๒. อ่านและเขยี นตวั เลขฮนิ ดู

างๆ 1 – 7 อารบกิ 1 -12

บเทียบจานวนของส่งิ ต่างๆ ๓. เปรยี บเทียบจานวนของสง่ิ ต่างๆ

มแต่ละกลุ่มมีจานวนไมเ่ กนิ 7 สองกล่มุ แตล่ ะกลุ่มมจี านวนไมเ่ กิน 12

ตาแหนง่ ของส่งิ ต่างๆ ทีก่ าหนด ๔. บอกจานวนทังหมดท่ีเกิดจากการรวม

า ข้างบน ขา้ งลา่ ง ข้างใน ขา้ งนอก สิง่ ตา่ ง ๆ สองกลุ่มทมี่ ผี ลรวมไม่เกนิ 12

ขา้ งหลัง และแสดงสิ่งต่าง ๆ ๕. บอกตาแหน่ง ทิศทาง และระยะทาง

หน่งท่กี าหนด ของสง่ิ ตา่ งๆ ท่ีกาหนด โดยใชค้ าข้างบน

๖. สารวจสงิ่ ตา่ งๆ ในห้องเรียน บอก ๕.สารวจ
ตาแหน่งทิศทางที่ตงั ของส่ิงนัน แสดงตาแ

ทกั ษะพ้นื ฐาน สารวจพระบรมฉายาลกั ษณข์ องในหลวง สารวจ ส
วทิ ยาศาสตร์
รชั กาลท่ี ๙ ภายในบา้ นและห้องเรยี นหรือ ฉายาลักษ

สถานทีต่ า่ ง ๆ ใกลต้ วั ท่ีประชา

พัฒนาการทางภาษา ๑.๔.๑ พฒั นาการทางภาษาและ ๑.๔.๑ พ
และการรู้หนงั สือ การรหู้ นังสือ หนังสอื
๑. การฟังและปฏบิ ัตติ ามคาแนะนา ๑. การฟ
๒. การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง ๒. การฟ
บทร้อยกรองหรือเรอ่ื งราวตา่ งๆ บทร้อยก
๓. การพูดแสดงความคิด ความรูส้ กึ และ ๓. การพ
ความต้องการ ความตอ้
๔. การรอจังหวะที่เหมาะสมในการพูด ๔. การพ
๕. การอ่านหนังสอื ภาพ นิทาน และความ
หลากหลายประเภท/รูปแบบ ๕. การรอ
๖. การเห็นแบบอย่างของการอ่านท่ี ๖. การอ
ถกู ต้อง หลากหล
๗. การอ
๘. การเห
๙. การส
คา และข

จสง่ิ ตา่ งๆ ในห้องเรยี น วาดภาพ ข้างลา่ ง ข้างใน ขา้ งนอก ขา้ งหน้า ขา้ งหลัง

แหน่งหรือทิศทางทีต่ ังของสิ่งนนั ระหว่าง ขา้ งซา้ ย ขา้ งขวา ใกล้ ไกล และ

แสดงสิง่ ต่าง ๆ ตามตาแหน่ง ทศิ ทางและ

ระยะทางที่กาหนด

๖. สารวจสถานท่ีต่างๆ วาดภาพหรอื เขียน

แผนผังสถานทีน่ นั พร้อมทังอธบิ าย

ตาแหน่ง ทิศทางของสถานท่ี

สงั เกตและบันทึกเก่ียวกับพระบรม ๑. สบื ค้นจากครูและผู้ปกครองเกี่ยวกับ

ษณข์ องในหลวงรชั กาลที่ ๙ พระราชกรณยี กิจของในหลวงรชั กาลท่ี ๙

าชนนามาตดิ ไวใ้ นสถานทตี่ ่าง ๆ ๒. บนั ทึกสง่ิ ทีส่ ืบค้นโดยสรา้ งสรรคช์ ินงาน

ด้วยตนเอง

พฒั นาการทางภาษาและการรู้ ๑.๔.๑ พัฒนาการทางภาษาและการรู้

หนงั สอื

ฟังและปฏิบตั ติ ามคาแนะนา ๑. การฟังและปฏิบัตติ ามคาแนะนา

ฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง ๒. การฟังเพลง นทิ าน คาคล้องจองหรอื

กรองหรือเรอ่ื งราวต่างๆ เรือ่ งราวต่างๆ

พูดแสดงความคดิ ความรสู้ กึ และ ๓. การพูดแสดงความคิด ความรสู้ กึ และ

องการ ความต้องการ

พูดอธบิ ายเก่ยี วกบั สงิ่ ของเหตุการณ์ ๔. การพูดอธบิ ายเกี่ยวกบั สิง่ ของเหตุการณ์

มสัมพันธข์ องส่ิงต่างๆ และความสัมพนั ธข์ องสงิ่ ตา่ งๆ

อจังหวะท่เี หมาะสมในการพดู ๕. การพูดอย่างสร้างสรรค์ในการเล่นและ

อ่านหนังสือ ภาพ นทิ าน กระทาสง่ิ ต่างๆ

ลายประเภท/รปู แบบ ๖. การรอจงั หวะที่เหมาะสมในการพูด

อ่านรว่ มกัน ๗. การอ่านหนงั สือ ภาพ นทิ าน

ห็นแบบอย่างของการอ่านที่ถูกต้อง หลากหลายประเภท/รปู แบบ

สังเกตทศิ ทางการอา่ นตัวอกั ษร ๘. การอ่านรว่ มกัน

ข้อความ ๙. การอ่านโดยมผี ชู้ แี นะ


Click to View FlipBook Version