จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้
การเรยี นรู้
ประสบการณ์ สาระท่คี วรเรียนรู้
สาคัญ พชื ผกั ผลไ
ใบเตย
(4) การมสี ว่ นร่วม ดอกอญั ชนั
ในการรวบรวม
ข้อมูลจากการ
สบื เสาะหาความรู้
ในรูปแบบตา่ งๆ
และแผนภมู ิอย่าง
งา่ ยๆ
ขม้ิน
แตงโม
7. เด็กแต่กล
มาห่นั ใหม้ ชี ิ้น
แลว้ เทน้าใส่แ
8. เดก็ แตล่ ะ
ของพชื ท่ีตนไ
เปน็ ไปตามทคี่
ลงในแบบบนั
9. ครอู ธิบาย
สามารถน้าไป
3
กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ
ไม้ สที ่ีคาดคะเน สีที่ไดจ้ รงิ พัฒนาการ
น
ล่มุ นา้ ส่วนประกอบของพืชที่ไดร้ บั
นเล็กลง น้าไปต้าและน้ามาค้นั น้า
แกว้
ะกลุ่มออกมานา้ เสนอว่าสว่ นประกอบ
ได้รับเม่ือคน้ั น้าออกมาได้สีอะไรและ
คาดคะเนไวห้ รือไม่ โดยระบาย
นทึกชอ่ งสุดทา้ ย
ยเพ่มิ เติมถึงสที ี่ได้จากธรรมชาติ
ปใชป้ ระกอบอาหารได้
32
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ 1. ครเู ตรยี มอ
การเรียนรู้ วาดภาพระบ
ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ตามจนิ ตนาก
กจิ กรรมศลิ ปะ สาคญั 2. ครูแนะนา้
สรา้ งสรรค์ ในการปฏบิ ัต
1. สร้างผลงานศิลปะ (2) การเขียนภาพ ชุบสี
เพือ่ ส่ือสารความคดิ และการเลน่ กับสี 3. เดก็ ท้ากจิ ก
ความรู้สึกของตนเอง (1) การรับรู้ และ ตามความสน
โดยมกี ารดัดแปลงและ แสดงความคิด 4. เด็กร่วมกัน
แปลกใหมจ่ ากเดิมหรือ ความรูส้ กึ ผ่านสื่อ พรอ้ มเล่าผลง
มรี ายละเอยี ดเพ่ิมข้นึ ได้ วัสดุ ของเลน่ และ 5. ครนู า้ ผลง
2. แสดงความพอใจ ชิน้ งาน เพื่อใหเ้ ดก็ ๆไ
ในผลงานและ (2) การแสดง ของเพื่อน
ความสามารถ ความคดิ สร้างสรรค์
ของตนเอง ผา่ นภาษาท่าทาง
การเคลอ่ื นไหว
และศลิ ปะ
(๕) การทา้ งาน
ศลิ ปะ
กจิ กรรมเลน่ ตามมุม (1) การเลน่ 1. ครแู นะน้า
เล่นหรอื ท้างานร่วมกับ เครือ่ งเลน่ สมั ผัส ตามมมุ ต่างๆต
เพือ่ นเป็นกลมุ่ ได้ และการสร้าง 2. เด็กเลอื กก
จากแทง่ ไมบ้ ล็อก ตามความสน
(2) การเลน่ เช่น
รายบุคคล - มมุ ธรรมชา
กลุ่มยอ่ ย กลุ่มใหญ่ - มมุ บล็อก
(3) การเล่นตาม - มุมบทบาทส
มมุ ประสบการณ์/
3
กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
พัฒนาการ
อุปกรณก์ ิจกรรม 2 กจิ กรรม ได้แก่ 1. กระดาษ เอ 4 สงั เกต
บายสีด้วยสจี ากธรรมชาติ ส้าหรบั ท้า 2กิจกรรม 1. การสรา้ งผลงาน
การและดงึ เชือกชุบสี 2. สีธรรมชาติ เช่น ศลิ ปะเพอ่ื สื่อสาร
าอุปกรณ์ วธิ กี ารปฏบิ ตั ิและข้อตกลง สีเขียวจากใบเตย ความคดิ ความรสู้ กึ
ติกจิ กรรม พร้อมสาธติ วธิ ีการดงึ เชือก สสี ม้ จากแครอท ของตนเองโดยมี
สีนา้ เงนิ การดัดแปลงและ
กรรมสร้างสรรค์ทั้ง 2 กจิ กรรม จากดอกอัญชัน แปลกใหมจ่ ากเดิม
นใจ สีเหลอื งจากขมนิ้ หรอื มรี ายละเอียด
นเก็บอปุ กรณ์และน้าเสนอผลงาน 3. พกู่ ัน เพิ่มข้นึ
งาน 4. จานสี 2. การแสดงความ
งานของเด็กทุกคนแสดงหนา้ ชัน้ เรยี น 5. แก้วนา้ พอใจในผลงานและ
ไดช้ น่ื ชมผลงานของตนเองและ 6. เชือก ความสามารถของ
ตนเอง
าการเลน่ การปฏบิ ตั ิตนในการเล่น มุมประสบการณ์ สงั เกต
ตามข้อตกลง ในห้องเรียน การเลน่ หรอื ท้างาน
กิจกรรมตามมุมประสบการณ์ รว่ มกบั เพ่ือนเป็นกลุ่ม
นใจ ซง่ึ ควรจดั ไว้อย่างนอ้ ย ๔ มุม
าติศึกษา - มมุ หนงั สือ
- มุมเกมการศกึ ษา
สมมติ - มมุ เคร่อื งเลน่ สัมผสั
33
สาระการเรียนรู้
จดุ ประสงค์ ประสบการณ์ สาระที่ควรเรยี นรู้
การเรียนรู้ สาคญั
มมุ เลน่ ตา่ ง ๆ 3. เด็กเล่นตา
(๒) การเลน่ และ 4. เมือ่ หมดเว
การท้างาน
รว่ มกบั ผอู้ น่ื
กจิ กรรมกลางแจง้ (5) การเล่นเคร่ือง 1. เด็กเขา้ แถ
เล่นหรอื ทา้ งาน เล่นสนามอย่าง เดก็ ผูห้ ญิง
ร่วมกบั เพื่อนเป็นกลุ่มได้ อิสระ 2. เด็กเตรยี ม
(1) การเคล่ือนไหว รอบสนามเด็ก
ในการควบคุม 3. ครสู ร้างขอ้
ตนเองไปในทิศทาง เลน่ สนาม แน
ระดบั และพน้ื ที่ อยา่ งถูกวธิ ีให
(4) การเลน่ นอก 4. เดก็ เล่นเค
ห้องเรียน 5. เมอ่ื หมดเว
(2) การเลน่ และ รา่ งกายก่อนเ
ทา้ งานร่วมกับผู้อน่ื
กิจกรรมเกมการศึกษา (๑๓) การจบั คู่ สีไล่ระดบั ความเขม้ 1. ครแู นะนา้
เรียงล้าดบั สอี อ่ นและแก่ การเปรยี บเทยี บ จากสีอ่อนไปหา เกมเรยี งล้าดบั
อย่างน้อย 4 ล้าดบั ได้ และการเรยี งลา้ ดบั สแี ก่ หรอื สแี ก่ไปหา 2. แบ่งเด็กเป
สงิ่ ต่าง ๆ ตาม สีออ่ น ทแ่ี นะน้าใหม
ลักษณะความยาว/ ชุดเดิม
ความสงู น้าหนัก 3. เดก็ เลน่ เก
ปริมาตร ในแตล่ ะกลุ่ม
เรียงล้าดบั สอี
4. เด็กเก็บเกม
3
กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน
พฒั นาการ
ามมมุ อย่างอสิ ระ
วลาเดก็ เก็บของเข้าท่ีใหเ้ รียบร้อย
ถวตอน โดยเด็กผู้ชายยืนขา้ งหนา้ 1. เคร่ืองเลน่ สนาม สังเกต
2. นกหวีด การเลน่ หรอื ทา้ งาน
ร่วมกับเพื่อนเป็นกลุ่ม
มความพรอ้ มของร่างกาย โดยการวิ่ง
กเลน่ ของโรงเรียน 1 รอบ
อตกลงขอ้ ควรระวังในการเล่นเคร่ือง
นะนา้ การเล่นเคร่ืองเลน่ สนาม
ห้เดก็ ทราบ
คร่ืองเล่นสนามอยา่ งอิสระ
วลาเดก็ เขา้ แถวและท้าความสะอาด
เข้าช้นั เรยี น
าอุปกรณ์พรอ้ มท้ังสาธติ วิธกี ารเล่น 1. เกมเรียงล้าดับ สังเกต
บสีออ่ นและแก่ สีอ่อนและแก่ การเรยี งล้าดบั สีอ่อน
ปน็ 5 กลมุ่ ให้เด็ก 1 กลุ่มรบั เกม 2. เกมการศึกษาชดุ และแก่อย่างน้อย
มไ่ ปเลน่ กลุ่มอ่ืนๆ เลน่ เกมการศึกษา เดิม 4 ล้าดับ
กมโดยหมุนเวยี นสลับเปลี่ยนกัน
มโดยทุกกลุ่มต้องไดเ้ ลน่ เกม
อ่อนและแก่
มการศึกษาเข้าทีห่ ลังเลิกเล่นแล้ว
34
แผนการจัดประสบการณ์รายวัน วันที่ 5 หน
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ 1. กิจกรรมพ
การเรยี นรู้ ไม่เคลื่อนท่ี เช
ประสบการณ์ สาระที่ควรเรียนรู้ และแบบเคล
กจิ กรรมเคลอื่ นไหวและ สาคัญ กระโดด ย้่าเท
จงั หวะ ได้ยินสญั ญาณ
เคลื่อนไหวท่าทาง (1) การเคล่ือนไหว ทนั ที
เพ่อื สื่อสารความคิด อยกู่ ับท่ี 2. ครสู นทนา
ความรสู้ กึ ของตนเอง (2) การเคลื่อนไหว รา่ งกายประก
อยา่ งหลากหลาย เคลื่อนที่ สีน้าเงนิ สเี หล
หรอื แปลกใหมไ่ ด้ (3) การเคลื่อนไหว ยนื อสิ ระรอบ
พรอ้ มวัสดุอปุ กรณ์ บรรเลงให้เดก็
(3) การเคล่ือนไหว ตามจนิ ตนาก
ตามเสียงเพลง/ ตามจังหวะชา้
ดนตรี ใหเ้ ดก็ หยดุ เค
(1) การฟังเพลง ดงั นี้
การร้องเพลง และ
การแสดงปฏิกิรยิ า - รวมกลุ่มท
โตต้ อบเสียงดนตรี - วางรบิ บ้นิ
(2) การแสดง - แลกรบิ บ
ความคดิ สรา้ งสรรค์ - ชรู บิ บ้นิ ส
ผา่ นภาษาท่าทาง - สะบดั รบิ
การเคลอื่ นไหว 3. หลังปฏิบัต
และศิลปะ กลา้ มเน้ือในท
3
น่วยที่ ๓๐ โลกสวยด้วยสีสนั ช้ันอนบุ าลปที ี่ 2
กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน
พฒั นาการ
พนื้ ฐาน เดก็ เคลื่อนไหวแบบ 1. เครอ่ื งเคาะจงั หวะ สงั เกต
ชน่ สะบัดมือ ยักไหล่ ย่้าเท้า ฯลฯ
ลื่อนที่ เชน่ เดินก้าวชดิ กา้ ว เขยง่ กา้ ว 2. ริบบ้ินสีเขยี ว การเคลือ่ นไหวทา่ ทาง
ท้าตามจังหวะท่ีครเู คาะ และเมื่อ
ณหยุดให้หยุดเคลื่อนไหวในท่านนั้ สีน้าเงนิ สเี หลอื ง เพอ่ื สื่อสารความคดิ
าแนะนา้ กจิ กรรมการเคลือ่ นไหว และสีแดง ความรู้สึกของตนเอง
กอบอปุ กรณร์ ิบบิ้นสีเขยี ว
ลอื ง และสีแดงใหเ้ ดก็ ฟัง โดยใหเ้ ด็ก 3. นกหวดี อย่างหลากหลายหรือ
บๆห้องเรียน เม่อื ไดย้ นิ เสยี งเพลง
กเคล่ือนไหวรา่ งกาย 4. เพลงบรรเลง แปลกใหม่
การประกอบรบิ บ้ินสไี ปรอบๆห้อง
า – เรว็ และเมอ่ื ได้ยินเสียงนกหวีด
คลื่อนไหวทนั ที และฟังค้าสัง่ จากครู
ที่มีสีรบิ บิ้นสีเดยี วกัน
นสลี งทพี่ ืน้
บน้ิ สกี ับเพ่อื นทีอ่ ยู่ใกล้
สขี น้ึ เหนือศีรษะ
บบิน้ สีไปมา
ตกิ ิจกรรมเสรจ็ แลว้ ให้เด็กพกั ผ่อน
ทา่ ท่ีสบาย ก่อนปฏิบัตกิ จิ กรรมต่อไป
35
จุดประสงค์ สาระการเรียนรู้
การเรยี นรู้
ประสบการณ์ สาระท่คี วรเรยี นรู้
กิจกรรมเสรมิ
ประสบการณ์ สาคัญ
1. ฟงั ผูอ้ นื่ พดู จนจบ
และสนทนาโต้ตอบ (2) การฟังและ การทาวุ้นสี 1. ครูและเด็ก
สอดคลอ้ งกับเร่ือง
ท่ฟี งั ได้ การปฏิบัตติ าม จากสธี รรมชาติ ที่ไดม้ าจากพืช
2. กระตอื รือร้นในการ
เขา้ ร่วมกิจกรรม ค้าแนะน้า สีธรรมชาติสามารถ 2. ครนู ้าสีธร
(๓) การฟังเพลง น้ามารบั ประทาน สีน้าเงินจากด
นิทาน ค้าคล้องจอง ได้ เชน่ สีเขียว สีเหลืองจากข
บทรอ้ ยกรองหรือ จากใบเตย สนี า้ เงนิ จากสธี รรมชา
เรอ่ื งราวตา่ ง ๆ จากดอกอัญชนั - สธี รรมชาติท
(๖) การพูดอธบิ าย สีแดงจากแตงโม - เดก็ ๆคิดวา่ ส
เกี่ยวกับส่ิงของ และสเี หลือง - สธี รรมชาตมิ
เหตกุ ารณ์และ จากขมิน้ โดยการ - สีธรรมชาตเิ
ความสมั พนั ธ์ นา้ มาผสมใสล่ งไป ครอู ธบิ ายเสร
ของส่งิ ต่างๆ ในอาหารท้าให้ น้ามารบั ประ
(3) การให้ อาหารมีสีสนั จากสีธรรมชา
ความร่วมมือในการ สวยงามและนา่ 3. ครูแนะน้า
ปฏิบัตกิ ิจกรรม รบั ประทานมาก จากสธี รรมชา
ตา่ งๆ ยงิ่ ข้นึ เชน่ ขนมช้นั ทา้ ว้นุ สีจากส
ขนมบวั ลอย วนุ้ สี ๓.1 ท้าความ
เป็นต้น และเปลือกแต
๓.2 นา้ ใบเต
น้าไปป่ันในเค
ทลี ะอย่าง
๓.3 เมอ่ื ปั่น
ในแตล่ ะสี
3
กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน
พฒั นาการ
กร่วมกันสนทนาทบทวนเรอ่ื งสีต่างๆ 1. สธี รรมชาติ จาก
สังเกต
ช ผัก ท่ีได้ทา้ การทดลองมาแลว้ ใบเตย ดอกอญั ชัน 1. การฟังผู้อ่นื พดู
จนจบและสนทนา
รรมชาติ เช่น สเี ขยี วจากใบเตย แตงโม และขมิ้น โตต้ อบสอดคล้อง
กบั เรอ่ื งที่ฟัง
ดอกอญั ชัน สีแดงจากแตงโม และ 2. ใบเตย ดอก 2. ความกระตือรอื ร้น
ในการเข้าร่วม
ขม้ินมาใหเ้ ดก็ สังเกตสี และดมกลิ่น อัญชนั และแตงโม กจิ กรรม
าติ และสนทนาซักถาม 3. เครอ่ื งปัน่
ท่ีเหน็ มีสีอะไรบ้าง 4. ถ้วย
สีธรรมชาตเิ หลา่ นไ้ี ดม้ าจากอะไร 5. หม้อ
มีกลิน่ หรอื ไม่ กลิ่นเป็นอย่างไร 6. ผงวุ้น
เอาไปทา้ อะไรได้บา้ ง 7. นา้ ตาลทราย
ริมเพ่ิมเติมว่าสธี รรมชาติสามารถ 8. น้าเปลา่
ทานได้ และวันนี้เราจะทา้ ขนมวนุ้ สี 9. แม่พมิ พ์
าตเิ หลา่ น้ี
าวสั ดุ อุปกรณท์ ่ใี ช้ในการทา้ วุน้ สี
าติ พร้อมอธิบายขนั้ ตอนในการ
สธี รรมชาติ ดังน้ี
มสะอาดใบเตย ดอกอญั ชัน ขมิน้
ตงโม
ตยหน่ั เปน็ ท่อนๆยาว 2 น้วิ แล้ว
คร่อื งป่นั น้าวัสดทุ ่ีเตรียมไว้มาป่ัน
นเสร็จใหเ้ ทใส่ถว้ ยท่เี ตรียมไว้
36
จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้ ๓.4 เทน้าใส
การเรยี นรู้ ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรียนรู้ ลงไปเติมนา้ ต
ผงวนุ้ ละลายจ
กจิ กรรมศลิ ปะ สาคญั ๓.5 ตักแบง่
สร้างสรรค์ จากสีธรรมชา
เขยี นรปู ส่ีเหลย่ี มตาม (19) การเห็น รอให้เย็นและ
แบบได้อย่างมีมุมชัดเจน แบบอยา่ งการเขยี น ไดเ้ ลย
ได้ ทีถ่ กู ต้อง 4. ครแู ละนัก
(5) การหยบิ จับ แต่ละสที ไ่ี ดจ้
การใช้กรรไกร - วุ้นสีเขียวไ
- วนุ้ สีน้าเงิน
- วนุ้ สีแดงได
- วุ้นสีเหลอื ง
ใหเ้ ดก็ ๆชิมรส
เหมอื นกันหร
อะไรมากทีส่ ุด
1. ครเู ตรยี มอ
ตดั กระดาษส
จากรูปส่ีเหลยี่
2. ครแู นะนา้
ในการปฏิบัต
กระดาษสีเปน็
ภาพจากรปู ส
3. เด็กท้ากจิ ก
3
กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมิน
พฒั นาการ
สห่ มอ้ ตงั้ ไฟพอนา้ เดือดแล้วใสผ่ งวนุ้
ตาล คนใหน้ ้าตาลและ
จนหมด
งใส่ถว้ ย 4 ถ้วย เพอ่ื นา้ ไปผสมสี
าติท่ีเตรยี มไว้ แลว้ เทใสแ่ มพ่ ิมพ์
ะวนุ้ แขง็ ตวั กส็ ามารถรบั ประทาน
กเรียนสนทนารวมกันเก่ียวกับวนุ้ 1. กระดาษสีส้าหรับ สงั เกต
จากธรรมชาติ ตัดเปน็ รปู สเ่ี หล่ียม การเขียนรปู สเ่ี หลยี่ ม
ได้จากใบเตย 2. กาว ตามแบบได้อย่างมีมุม
นไดจ้ ากดอกอัญชัน 3. ดนิ สอ ชดั เจน
ด้จากแตงโม 4. กรรไกร
งไดจ้ ากขมิ้น 5. กระดาษ เอ 4
สชาตขิ องว้นุ แตล่ ะสีวา่ มีรสชาติ
รือแตกตา่ งกนั อย่างไร และชอบวนุ้ สี
ด
อุปกรณก์ ิจกรรม 2 กิจกรรม ได้แก่
สีเปน็ รูปสีเ่ หลีย่ มและสร้างสรรค์ภาพ
ยม
าอปุ กรณ์ วิธีการปฏิบัติและข้อตกลง
ติกจิ กรรม พร้อมทง้ั สาธิตวธิ ีการตดั
นรูปสี่เหลยี่ มและการสรา้ งสรรค์
ส่ีเหล่ยี ม
กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ทั้ง 2
37
จดุ ประสงค์ สาระการเรียนรู้
การเรยี นรู้
ประสบการณ์ สาระท่คี วรเรียนรู้
กจิ กรรมเลน่ ตามมุม สาคัญ
เล่นหรอื ท้างานร่วมกบั
เพือ่ นเปน็ กลุม่ ได้ กิจกรรมตามค
4. เด็กร่วมกัน
5. ครูนา้ ผลง
หนา้ ชน้ั เรยี นเ
ตนเองและขอ
(1) การเลน่ เครื่อง 1. ครแู นะน้า
เลน่ สัมผัสและ ตามมุมต่างๆต
การสร้างจาก 2. เดก็ เลอื กก
แทง่ ไม้บล็อก ตามความสน
(2) การเลน่ เช่น
รายบุคคล - มุมธรรมชา
กลุ่มย่อย กลุ่มใหญ่ - มุมบล็อก
(3) การเลน่ ตาม - มมุ บทบาทส
มุมประสบการณ์/ 3. เดก็ เล่นตา
มมุ เล่นต่าง ๆ 4. เมือ่ หมดเว
(๒) การเล่นและ
การทา้ งานรว่ มกบั
ผู้อ่นื
กิจกรรมกลางแจ้ง (2) การเคลื่อนไหว 1. เดก็ ยืนเปน็
1. ว่งิ หลบหลกี สง่ิ กดี หลบหลกี รา่ งกายด้วยท
ขวางได้ สิ่งกีดขวาง หมนุ ข้อเท้า ว
2. กระตือรือร้นในการ (3) การใหค้ วาม 2. เด็กและค
3
กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ
พฒั นาการ
ความสนใจ มมุ ประสบการณ์
นเกบ็ อุปกรณ์และนา้ เสนอผลงาน ในหอ้ งเรยี น สงั เกต
งานของเด็กทุกคนแขวนแสดง การเลน่ หรือทา้ งาน
เพอ่ื ใหเ้ ด็กๆไดช้ ่ืนชมผลงานของ ร่วมกบั เพื่อนเปน็ กลุ่ม
องเพื่อนๆ
าการเล่นการปฏบิ ัตติ นในการเลน่
ตามข้อตกลง
กจิ กรรมตามมุมประสบการณ์
นใจ ซึ่งควรจัดไว้อย่างน้อย ๔ มมุ
าตศิ ึกษา - มุมหนงั สอื
- มุมเกมการศึกษา
สมมติ - มมุ เครอื่ งเล่นสัมผสั
ามมมุ อยา่ งอิสระ
วลาเด็กเกบ็ ของเขา้ ทีใ่ ห้เรียบร้อย
นรูปวงกลมแล้วเตรียมความพร้อม 1. ลูกบอล สังเกต
ท่าตา่ งๆ ดังน้ี สลดั มอื หมุนเขา่ 2. กรวยพลาสตกิ 1. การวง่ิ หลบหลีก
ว่ิงอยู่กบั ท่ี หรอื ตะกร้าพลาสติก สง่ิ กดี ขวาง
ครรู ่วมกันออกแบบสร้างข้อตกลง 3. นกหวดี 2. ความกระตือรือร้น
38
จุดประสงค์ สาระการเรยี นรู้ และกติกาก่อ
การเรียนรู้ 3. แบง่ เด็กเป
ประสบการณ์ สาระทค่ี วรเรยี นรู้ โดยใหค้ นแรก
เขา้ ร่วมกิจกรรม สาคญั วง่ิ ซกิ แซกหล
และว่ิงกลบั เ
รว่ มมือในการ เพ่อื นคนต่อไป
ปฏิบตั กิ ิจกรรม ทมี ใดท่วี ่งิ ได้ห
ต่างๆ 4. เมื่อหมดเว
ทา้ ความสะอ
กิจกรรมเกมการศึกษา (13) การจับคู่ ความคิดรวบยอด 1. ครแู นะน้า
จับคหู่ รอื เปรียบเทียบ การเปรียบเทยี บ เรอ่ื งจา้ นวน 1 - 9 เกมพนื้ ฐานก
ความแตกต่างหรือความ และการเรยี งล้าดบั 2. แบ่งเดก็ เป
เหมือนของสแี ละจา้ นวน สิ่งต่างๆ ตาม 1 กลมุ่ รับเกม
ได้ ลักษณะ ความยาว/ เล่นเกมการศ
ความสูง น้าหนัก 3. เด็กเลน่ เก
ปรมิ าตร ในแตล่ ะกลมุ่
(8) การนบั การบวกจา้ นว
และแสดงจา้ นวน 4. เดก็ เก็บเก
ส่งิ ต่างๆ ใน
ชวี ิตประจ้าวนั
(10) การรวม และ
การแยกสิง่ ต่างๆ
3
กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ
พัฒนาการ
อนการเลน่ ในการเข้ารว่ ม
ป็นกล่มุ ๆละเทา่ ๆกัน เขา้ แถวตอน กจิ กรรม
กของทีมถือลูกบอลไว้ในมือ
ลบหลีกกรวยทค่ี รูวางไวท้ ัง้ ว่งิ ไป สงั เกต
เม่ือมาถงึ ให้สง่ บอลใหเ้ พื่อนคนต่อไป การจับค่หู รอื
ปก็ทา้ เชน่ เดียวกันจนครบทงั้ ทีม เปรยี บเทยี บความ
หมดผเู้ ล่นกอ่ นจะเปน็ ผู้ชนะ แตกต่างหรือความ
วลาเด็กเกบ็ ลูกบอล และเขา้ แถว เหมือนของสี
อาดรา่ งกายกอ่ นเข้าชั้นเรียน และจ้านวน
าอุปกรณ์พร้อมท้ังสาธิตวิธีการเลน่ 1. เกมพ้ืนฐาน
การบวกจ้านวน 1 - 9 การบวกจา้ นวน
ป็นกลมุ่ ตามความเหมาะสม ให้เด็ก 1-9
มท่ีแนะน้าใหม่ไปเลน่ กล่มุ อื่นๆ 2. เกมการศึกษา
ศึกษาชุดเดิม ชุดเดิม
กมโดยหมนุ เวียนสลบั เปลย่ี นกนั
มโดยทกุ กลุ่มต้องไดเ้ ลน่ เกมพื้นฐาน
วน 1 - 9
กมการศึกษาเข้าท่หี ลังเลิกเล่นแลว้
39
1. เลขที่ ชื่อ - สกลุ
2.
3. 1. การวงิ่ หลบหลกี ส่ิงกดี ขวาง ดา้ นรา่ งกาย แบบสงั เกตพฤติกรรมเด็ก หน่วยการจดั ประสบก
4.
5. 2. การเขียนรปู สี่เหลยี่ มตามแบบได้ อยา่ งมีมุมชัดเจน ดา้ น
6. อารมณ์
7. 3. การแสดงความพอใจในผลงานและความสามารถของ
8. ตนเอง ด้าน
9. 4. การเลน่ หรือท้างานรว่ มกับเพื่อนเปน็ กลุ่ม สังคม
10.
5. การฟังผอู้ น่ื พดู จนจบและสนทนาโตต้ อบสอดคล้องกบั
4 เรอ่ื งท่ฟี งั
6. การอา่ นภาพสญั ลักษณ์ คา้ พรอ้ มท้งั ชแ้ี ละกวาดตามอง
ข้อความตามบรรทัด
40 การณท์ ี่ 30 โลกสวยดว้ ยสสี นั ชั้นอนุบาลปีที่ 2
7. การบอกลักษณะและส่วนประกอบ ของส่ิงตา่ งๆจาก ประเมินพัฒนาการ
การสังเกตโดยใช้ ประสาทสัมผัส ด้านสติปัญญา
8. การจบั ค่หู รอื เปรยี บเทียบความเหมอื นภาพประเภท
ของสที ่ีมคี วามสัมพนั ธแ์ บบตอ่ เนือ่ ง
9. การจับคหู่ รอื เปรยี บเทยี บความแตกต่าง หรือความเหมอื น
ของสแี ละจา้ นวน
10. การจา้ แนก จดั กลุ่มสแี ละประเภทของสี โดยใช้เกณฑ์
อย่างนอ้ ยหนง่ึ ลกั ษณะ
11. การเรยี งลา้ ดับสีออ่ นและแก่อยา่ งนอ้ ย 4 ล้าดับ
12. การสรา้ งผลงานศิลปะเพอ่ื ส่ือสารความคดิ ความรู้สกึ ของ
ตนเองโดยมกี ารดดั แปลงและแปลกใหมจ่ ากเดมิ หรอื มี
รายละเอยี ดเพม่ิ ขนึ้
13. การเคล่ือนไหวท่าทางเพอ่ื สอ่ื สารความคิดความรสู้ กึ ของ
ตนเองอย่างหลากหลายหรอื แปลกใหม่
14. ความกระตอื รือร้นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม
15 การค้นหาคา้ ตอบของขอ้ สงสัยตา่ งๆ ตามวิธกี ารของ
ตนเอง
หมายเหตุ
1๑. เลขท่ี ชอ่ื - สกลุ
๑2.
๑3.
๑4.
๑5.
๑6.
๑7.
๑8.
๑9.
๒0.
คาอธบิ าย
ครสู ังเกตพฤติกรรมเด็กรายบุคคล จดบนั ทกึ สรปุ เป็นรายสัปดาหร์ ะบ 1. การว่ิงหลบหลกี สิ่งกีดขวาง ดา้ นร่างกาย
ระดบั ๓ ดี ระดับ ๒ ปานกลาง ระดบั
2. การเขียนรปู สเ่ี หลย่ี มตามแบบได้ อยา่ งมมี มุ ชัดเจน ด้าน ดา้ น
อารมณ์ สงั คม
3. การแสดงความพอใจในผลงานและความสามารถของ
4 ตนเอง
4. การเล่นหรือทา้ งานรว่ มกับเพื่อนเป็นกลุ่ม
5. การฟังผู้อน่ื พูดจนจบและสนทนาโตต้ อบสอดคลอ้ ง
กบั เร่อื งทฟ่ี ัง
6. การอา่ นภาพสญั ลกั ษณ์ ค้า พร้อมทั้งชแ้ี ละกวาดตามอง
ขอ้ ความตามบรรทดั
บุระดบั คณุ ภาพเปน็ ๓ ระดับ คือ 7. การบอกลักษณะและส่วนประกอบ ของส่งิ ตา่ งๆจาก ประเมินพฒั นาการ
๑ ต้องสง่ เสรมิ การสังเกตโดยใช้ ประสาทสัมผัส ด้านสตปิ ญั ญา
41 8. การจบั ค่หู รอื เปรยี บเทียบความเหมอื นภาพประเภท
ของสที ่ีมคี วามสัมพนั ธแ์ บบตอ่ เนือ่ ง
9. การจับคหู่ รอื เปรยี บเทยี บความแตกต่าง หรอื ความเหมอื น
ของสแี ละจา้ นวน
10. การจา้ แนก จดั กลุ่มสแี ละประเภทของสี โดยใช้เกณฑ์
อย่างนอ้ ยหนง่ึ ลกั ษณะ
11. การเรยี งลา้ ดับสีออ่ นและแก่อยา่ งน้อย 4 ลา้ ดับ
12. การสรา้ งผลงานศิลปะเพอ่ื ส่ือสารความคดิ ความรู้สึกของ
ตนเองโดยมกี ารดดั แปลงและแปลกใหมจ่ ากเดิมหรอื มี
รายละเอยี ดเพม่ิ ขนึ้
13. การเคล่ือนไหวท่าทางเพอ่ื สอ่ื สารความคิดความรสู้ กึ ของ
ตนเองอย่างหลากหลายหรอื แปลกใหม่
14. ความกระตอื รือร้นในการเขา้ รว่ มกจิ กรรม
15 การค้นหาคา้ ตอบของขอ้ สงสัยตา่ งๆ ตามวธิ ีการของ
ตนเอง
หมายเหตุ
หนว่ ยท่ี 31 ฤดูหนาว
นางสาวนันทนา มาตรเลงิ
ครปู ระจาชนั้ อนบุ าล ๒
โรงเรียนบ้านทา่ เยย่ี มวทิ ยายล
สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษานครราชสมี า เขต ๗
สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน
การวเิ คราะห์โครงสร้างหนว่ ยการจดั ประสบการณ์ต
หนว่ ยที่ 32 ฤดหู นาว ชน้ั อนบุ
รายการ อนบุ าลปที ่ี 1
สาระท่คี วรเรยี นรู้
1. ฤดกู าลตา่ ง ๆ ในประเทศไทย 3 ฤดู 1. ฤดูกาล
ฤดรู อ้ น ฤดฝู น ฤดูหนาว ลักษณะท
2. สภาพอากาศในฤดูหนาว การป้องกัน 2. สภาพอ
อากาศหนาวเย็น ลม
๓. สภาพภูมอิ ากาศในฤดูหนาวแหง้ ลมแรง ๓. อากาศ
การทดลอง ไฟฟ้าสถิต อากาศ
๔. การดูแลสขุ ภาพรา่ งกายในฤดูหนาว ๔. การรัก
๕. ความแตกต่างของฤดูหนาวในแตล่ ะภูมิภาค ๕. การเป
ของประเทศไทย หนาว พชื
มาตรฐาน มาตรฐานท่ี 1 ตบช 1.3 (1.3.1) มาตรฐาน
ตัวบ่งชี้ มาตรฐานที่ 2 ตบช 2.1 (2.1.3) มาตรฐาน
สภาพทพี่ งึ ประสงค์ มาตรฐานที่ 3 ตบช 3.2 (3.2.1)
มาตรฐานที่ 4 ตบช 4.1 (4.1.1) (4.1.3) มาตรฐาน
มาตรฐานที่ 5 ตบช 5.4 (5.4.1) มาตรฐาน
มาตรฐานที่ 6 ตบช 6.2 (6.2.1) มาตรฐาน
มาตรฐานท่ี 7 ตบช 7.1 (7.1.1) (7.1.2) มาตรฐาน
มาตรฐานท่ี 8 ตบช 7.1 (8.3.1) (8.3.2) มาตรฐาน
มาตรฐาน
ตามหลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวัย พุทธศกั ราช 2560
บาลปที ี่ 1 - 3 ภาคเรียนที่ 2
อนบุ าลปที ่ี 2 อนบุ าลปที ่ี 3
ล 3 ฤดู ฤดูรอ้ น ฤดูฝน ฤดูหนาว 1. ฤดกู าล 3 ฤดู ฤดรู ้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว
ท่วั ไปของฤดูหนาว ช่วงเดือนท่เี กิดฤดกู าลต่าง ๆ ในรอบปี การเกดิ
อากาศในฤดูหนาว ลมหนาว การเกิด ฤดกู าล
2. สภาพอากาศในต่าง ๆ และปรากฏการณท์ ่ี
ศร้อน อากาศเยน็ การเคล่ือนตวั ของ เกดิ ขึ้นในฤดหู นาว
๓. แรงลมและการเคลือ่ นท่ีของลม กระแสลม
กษาสุขภาพของตนเองในฤดหู นาว ๔. การรักษาสุขภาพของตนเองในฤดูหนาว
ปล่ียนแปลงของสภาพแวดลอ้ มในฤดู วิธีการทาให้ร่างกายอบอ่นุ ในฤดูหนาว
ช ผัก ผลไมใ้ นฤดหู นาว ๕. สภาพแวดลอ้ มรอบตัวในภูมภิ าคตา่ ง ๆของ
ประเทศเรา และของโลก
นท่ี 1 ตบช 1.3 (1.3.1) มาตรฐานที่ 1 ตบช 1.3 (1.3.1)
นที่ 2 ตบช 2.1 (2.1.3) มาตรฐานที่ 2 ตบช 2.1 (2.1.2)
ตบช 2.2 (2.2.1) ตบช 2.2 (2.2.3)
นท่ี 3 ตบช 3.2 (3.2.1) มาตรฐานท่ี 3 ตบช 3.2 (3.2.1) (3.2.2)
นที่ 4 ตบช 4.1 (4.1.1) (4.1.3) มาตรฐานท่ี 4 ตบช 4.1 (4.1.1) (4.1.3)
นที่ 5 ตบช 5.4 (5.4.1) มาตรฐานที่ 5 ตบช 5.4 (5.4.1)
นท่ี 6 ตบช 6.2 (6.2.1) มาตรฐานท่ี 6 ตบช 6.2 (6.2.1)
นที่ 7 ตบช 7.1 (7.1.1) มาตรฐานที่ 7 ตบช 7.1 (7.1.1)
นท่ี 8 ตบช 7.1 (8.3.1) (8.3.2) มาตรฐานที่ 8 ตบช 7.1 (8.3.1) (8.3.2)
มาตรฐานที่ 9 ตบช 9.1 (9.1.1) มาตรฐาน
มาตรฐานท่ี 10 ตบช 10.1 (10.1.2)
มาตรฐาน
ตบช 10.2 (10.2.2)
มาตรฐานที่ 11 ตบช 11.1 (11.1.2) มาตรฐาน
ตบช 11.2 (11.2.1) มาตรฐาน
มาตรฐานที่ 12 ตบช 12.1 (12.1.2)
ด้านรา่ งก
ประสบการณส์ าคัญ ด้านรา่ งกาย 1.1.1 กา
1.1.1 การใช้กล้ามเนือ้ ใหญ่ (1) การเค
(2) การเคล่ือนไหวเคล่ือนท่ี (2) การเค
(5) การเล่นเคร่ืองเลน่ สนามอยา่ งอิสระ (5) การเล
1.1.2 การใชก้ ล้ามเนอ้ื เล็ก 1.1.2 กา
(1) การเล่นเคร่ืองเล่นสัมผัสและการสรา้ งส่งิ (1) การเล
ตา่ ง ๆ จากแท่งไม้ บล็อก ตา่ ง ๆ จา
(2) การเขยี นภาพและการเล่นกบั สี (2) การเข
(3) การป้ัน (3) การป
(4) การป
1.1.5 การตระหนักร้เู กี่ยวกับรา่ งกายตนเอง (5) การห
(2) การเคล่ือนไหวโดยควบคุมตนเองไปใน การปะ แล
ทิศทาง ระดับ และพน้ื ที่ 1.1.4 กา
(1) การป
ประจาวัน
นที่ 9 ตบช 9.1 (9.1.1) มาตรฐานท่ี 9 ตบช 9.1 (9.1.1)
ตบช 9.2 (9.2.2) ตบช 9.2 (9.2.2)
นท่ี10 ตบช 10.1 (10.1.2) มาตรฐานที่10 ตบช 10.1(10.1.2) (10.1.3)
(10.1.4) (10.1.4)
ตบช 10.2 (10.2.2) ตบช 10.2 (10.2.2)
นที่ 11 ตบช 11.1 (11.1.2) มาตรฐานท่ี 11 ตบช 11.1 (11.1.2)
ตบช 11.2 (11.2.1) ตบช 11.2 (11.2.1)
นท่ี 12 ตบช 12.1 (12.1.2)
มาตรฐานที่ 12 ตบช 12.1 (12.1.2)
กาย ด้านร่างกาย
ารใชก้ ลา้ มเนือ้ ใหญ่ 1.1.1 การใช้กล้ามเนื้อใหญ่
คลื่อนไหวอยู่กบั ที่ (1) การเคล่ือนไหวอยู่กบั ท่ี
คลื่อนไหวเคล่ือนที่ (2) การเคลื่อนไหวเคล่ือนที่
ล่นเคร่ืองเลน่ สนามอย่างอิสระ (5) การเลน่ เครื่องเลน่ สนามอย่างอสิ ระ
ารใช้กล้ามเนือ้ เล็ก 1.1.2 การใชก้ ลา้ มเนือ้ เล็ก
ล่นเครื่องเล่นสมั ผสั และการสร้างสิ่ง (1) การเล่นเคร่ืองเล่นสมั ผัสและการสรา้ งสง่ิ
ากแท่งไม้ บล็อก ตา่ ง ๆ จากแท่งไม้ บล็อก
ขยี นภาพและการเล่นกับสี (2) การเขียนภาพและการเล่นกับสี
ปัน้ (3) การปนั้
ประดิษฐส์ ิง่ ตา่ ง ๆดว้ ยเศษวสั ดุ (4) การประดษิ ฐส์ ่ิงตา่ ง ๆดว้ ยเศษวัสดุ
หยิบจบั การใช้กรรไกร การฉกี การตัด 1.1.4 การรกั ษาความปลอดภยั
ละการร้อยวตั ถุ (1) การปฏิบัตติ นให้ปลอดภยั ในกจิ วตั ร
ารรกั ษาความปลอดภยั ประจาวนั
ปฏิบัตติ นใหป้ ลอดภยั ในกจิ วัตร (4) การเล่นบทบาทสมมุติเหตกุ ารณต์ า่ ง ๆ
น
ด้านอารมณ์ จติ ใจ 1.1.5 กา
1.2.1 สุนทรีภาพ ดนตรี (2) การเค
(1) การฟังเพลง การรอ้ งเพลง และการแสดง ทิศทาง ระ
ปฏิกริ ิยาโตต้ อบเสยี งดนตรี ด้านอารม
(3) การเคล่ือนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี 1.2.1 สุน
(5) การทากจิ กรรมศิลปะต่าง ๆ (1) การฟ
1.2.2 การเล่น ปฏิกิรยิ าโ
(1)การเล่นอสิ ระ (3) การเค
(2) การเลน่ รายบุคคล กลุ่มย่อย และกลุ่มใหญ่ (5) การท
(3) การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์/มมุ เล่นต่าง ๆ 1.2.2 กา
(4) การเลน่ นอกหอ้ งเรยี น (1)การเล
1.2.4 การแสดงออกทางอารมณ์ (2) การเล
(3) การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี (3) การเล
(4) การร้องเพลง (4) การเล
1.2.4 กา
(3) การเค
(4) การรอ้
ดา้ นสังคม ด้านสังคม
1.3.4 การมีปฏสิ ัมพันธ์ มีวินยั มสี ่วนร่วมและ 1.3.2 กา
บทบาทสมาชิกของสังคม สงิ่ แวดล้อ
(1) การให้ความร่วมมือในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม (2) การใช
ต่าง ๆ
ารตระหนักร้เู กีย่ วกับรา่ งกายตนเอง 1.1.5 การตระหนกั รู้เก่ยี วกับรา่ งกายตนเอง
คล่ือนไหวโดยควบคุมตนเองไปใน (2) การเคล่ือนไหวโดยควบคุมตนเองไปใน
ะดบั และพ้ืนที่ ทศิ ทาง ระดบั และพื้นที่
มณ์ จิตใจ ด้านอารมณ์ จิตใจ
นทรีภาพ ดนตรี 1.2.1 สุนทรภี าพ ดนตรี
ฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดง (1) การฟังเพลง การร้องเพลง และการแสดง
โต้ตอบเสียงดนตรี ปฏิกิริยาโตต้ อบเสียงดนตรี
คลื่อนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี (3) การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
ทากิจกรรมศิลปะต่าง ๆ (4) การเลน่ บทบาทสมมุติ
ารเลน่ (5) การทากจิ กรรมศลิ ปะต่าง ๆ
ลน่ อิสระ 1.2.2 การเลน่
ลน่ รายบุคคล กล่มุ ย่อย และกลมุ่ ใหญ่ (2) การเลน่ รายบคุ คล กล่มุ ย่อย และกลมุ่ ใหญ่
ล่นตามมุมประสบการณ์/มมุ เลน่ ตา่ ง ๆ (3) การเลน่ ตามมุมประสบการณ์/มุมเล่นต่าง ๆ
ลน่ นอกห้องเรยี น (4) การเลน่ นอกหอ้ งเรยี น
ารแสดงออกทางอารมณ์ 1.2.4 การแสดงออกทางอารมณ์
คล่ือนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี (1) การพูดสะท้อนความรสู้ ึกของตนเองและ
องเพลง ผอู้ น่ื
(3) การเคลื่อนไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี
ม ดา้ นสังคม
ารดแู ลรักษาธรรมชาติและ 1.3.2 การดูแลรักษาธรรมชาติและ
อม สิ่งแวดล้อม
ช้วสั ดุและสงิ่ ของเครื่องใช้อย่างคมุ้ ค่า (3) การทางานศลิ ปะท่นี าวัสดุหรอื สงิ่ ของ
เคร่อื งใชท้ ี่ใช้แลว้ มาใชซ้ า้ หรือแปรรปู แลว้ นา
กลบั มาใชใ้ หม่
1.3.5 การเลน่ และทางานแบบรว่ มมือร่วมใจ 1.3.4 กา
(๒) การเลน่ และการทางานร่วมกบั ผู้อืน่ และบทบ
(1) การให
ต่าง ๆ
1.3.5 กา
(1) การรว่
ความคิดเ
(๒) การเล
ด้านสติป
ด้านสตปิ ญั ญา 1.4.1 กา
1.4.1 การใชภ้ าษา (1) การฟ
(1) การฟังเสยี งตา่ ง ๆในสิง่ แวดล้อม (2) การฟ
(2) การฟังและปฏบิ ตั ติ ามตาแนะนา (3) การฟ
(3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง บทรอ้ ย กรองหรือ
กรองหรือเรอื่ งราวตา่ งๆ (4) การพ
1.4.2 การคิดรวบยอด การคดิ เชงิ เหตผุ ล การ ความต้อง
ตดั สนิ ใจและแก้ปัญหา (15) การ
(3) การบอกและแสดงตาแหนง่ ทศิ ทาง และ คุ้นเคย
ระยะทางของสง่ิ ต่างๆ ดว้ ยการกระทา ภาพวาด 1.4.2 กา
ภาพถ่าย และรูปภาพ การตัดสิน
(8) การนบั และแสดงจานวนของสงิ่ ต่าง ๆใน (3) การบ
ชีวิตประจาวัน ระยะทาง
(17) การคาดเดาหรอื การคาดคะเนส่ิงท่อี าจจะ ภาพวาด
เกิดข้นึ อยา่ งมีเหตุผล การจดั กล
ารมีปฏสิ ัมพนั ธ์ มีวินยั มสี ่วนรว่ ม 1.3.4 การมีปฏสิ ัมพันธ์ มีวินยั มสี ่วนรว่ ม
บาทสมาชิกของสังคม และบทบาทสมาชิกของสงั คม
ห้ความร่วมมือในการปฏิบตั กิ จิ กรรม (1) การให้ความรว่ มมือในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม
ตา่ ง ๆ
ารเลน่ และทางานแบบรว่ มมือรว่ มใจ 1.3.5 การเลน่ และทางานแบบร่วมมือรว่ มใจ
วมสนทนาและแลกเปลย่ี น (1) การรว่ มสนทนาแลกเปลยี่ นความคิดเห็น
เหน็ (๒) การเล่นและการทางานรว่ มกับผูอ้ ื่น
ล่นและการทางานรว่ มกับผอู้ ื่น
ปัญญา ด้านสติปัญญา
ารใช้ภาษา 1.4.1 การใช้ภาษา
ฟังเสยี งตา่ ง ๆในสิง่ แวดล้อม (1) การฟังเสยี งตา่ ง ๆในส่ิงแวดล้อม
ฟังและปฏิบตั ติ ามตาแนะนา (2) การฟังและปฏบิ ตั ติ ามตาแนะนา
ฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง บทรอ้ ย (3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง บทร้อย
อเรื่องราวต่างๆ กรองหรือเรือ่ งราวต่างๆ
พูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก และ (4) การพูดแสดงความคิดเหน็ ความร้สู กึ และ
งการ ความต้องการ
รสงั เกตตัวอักษรในช่ือของตนหรอื คา (5) การพูดกบั ผู้อนื่ เกีย่ วกับประสบการณ์ของ
ตนเองหรือพูดเล่าเรื่องราวเก่ียวกับตัวเอง
ารคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตุผล 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคดิ เชิงเหตผุ ล
นใจและแก้ปญั หา การตดั สินใจและแกป้ ญั หา
บอกและแสดงตาแหน่ง ทิศทาง และ (3) การบอกและแสดงตาแหนง่ ทศิ ทาง และ
งของสิง่ ต่างๆ ด้วยการกระทา ระยะทางของส่ิงต่างๆ ด้วยการกระทา
ภาพถ่าย และรูปภาพ (5)การคัดแยก ภาพวาด ภาพถา่ ย และรปู ภาพ
ลุม่ และการจาแนกส่ิงตา่ ง ๆตาม (5) การคัดแยก การจดั กล่มุ และการจาแนกส่งิ
1.4.3 จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ ลักษณะแ
(2) การแสดงความคิดสรา้ งสรรค์ผา่ น (8) การน
สื่อวสั ดตุ า่ งๆผ่านภาษาท่าทางการเคล่อื นไหว ชีวติ ประจ
และศิลปะ (14) การ
1.4.4 เจตคตทิ ีด่ ตี อ่ การเรยี นรแู้ ละการ เหตกุ ารณ
แสวงหาความรู้ (16) การ
(1) การสารวจส่งิ ต่างๆ และแหล่งเรียนรู้รอบตวั เกิดขนึ้ ใน
(17) การ
เกดิ ข้นึ อย
1.4.3 จิน
(1) การรบั
สือ่ วัสดุ ข
(2) การแ
ส่ือวสั ดุตา่
และศลิ ปะ
1.4.4 เจ
แสวงหาค
(1) การส
รอบตัว
(3) การส
ของข้อสง
และรูปรา่ ง รูปทรง ต่าง ๆตามลกั ษณะและรปู ร่าง รูปทรง
นบั และแสดงจานวนของสงิ่ ตา่ ง ๆใน (8) การนบั และแสดงจานวนของสงิ่ ตา่ ง ๆใน
จาวนั ชวี ิตประจาวัน
รบอกและเรียงลาดบั กิจกรรมหรือ (14) การบอกและเรียงลาดับ กิจกรรมหรือ
ณต์ ามช่วงเวลา เหตกุ ารณต์ ามชว่ งเวลา
รอธบิ ายเช่ือมโยงสาเหตแุ ละผลที่ (16) การอธิบายเช่ือมโยงสาเหตุและผลท่ี
นเหตุการณห์ รือการกระทา เกิดขึ้นในเหตุการณ์หรือการกระทา
รคาดเดาหรอื การคาดคะเนส่งิ ทอ่ี าจจะ (17) การคาดเดาหรือการคาดคะเนสงิ่ ที่อาจจะ
ยา่ งมเี หตุผล เกดิ ข้นึ อย่างมเี หตุผล
นตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ (18) การมีส่วนร่วมในการลงความเห็นจาก
บรแู้ ละแสดงความคิด ความรสู้ ึกผ่าน ข้อมูลอย่างมเี หตผุ ล
ของเลน่ และชนิ้ งาน 1.4.3 จนิ ตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์
แสดงความคิดสรา้ งสรรคผ์ ่าน (1) การรบั รู้และแสดงความคิด ความรู้สึกผา่ น
างๆผ่านภาษาทา่ ทางการเคลื่อนไหว สอ่ื วัสดุ ของเล่น และชน้ิ งาน
ะ (2) การแสดงความคิดสร้างสรรคผ์ า่ น
จตคติทีด่ ีตอ่ การเรยี นรแู้ ละการ ส่อื วัสดตุ ่างๆผ่านภาษาท่าทางการเคลื่อนไหว
ความรู้ และศิลปะ
สารวจส่งิ ตา่ งๆ และแหล่งเรียนรู้ 1.4.4 เจตคตทิ ่ดี ีต่อการเรียนร้แู ละการ
แสวงหาความรู้
สบื เสาะหาความรู้เพ่ือคน้ หาคาตอบ (1) การสารวจส่ิงต่างๆ และแหล่งเรยี นรู้
งสัยตา่ ง ๆ รอบตัว
(3) การสืบเสาะหาความรเู้ พ่ือคน้ หาคาตอบ
ของขอ้ สงสยั ตา่ ง ๆ
คณติ ศาสตร์ นบั และแสดงจานวน 5 นับและ
วทิ ยาศาสตร์ เปรยี บเทียบจานวนของส่ิงตา่ งๆ สองกล่มุ เปรยี บ
โดยแตล่ ะกล่มุ มีจานวนไมเ่ กิน 5 ว่ามีจานวน โดยแต
เทา่ กันหรอื ไมเ่ ทา่ กนั จานวน
บอกจานวนทั้งหมดที่เกดิ จากการรวมสงิ่ บอกจา
ตา่ งๆ สองกลุ่มท่มี ผี ลรวมไม่เกนิ 5 ตา่ งๆ
เรยี งลาดบั ท่ขี องสงิ่ ตา่ งๆ จานวนไมเ่ กิน 3 เรียงลา
เรยี งลาดับเหตกุ ารณ์ในชวี ติ ประจาวนั จาแนก เรียงลา
เหตุการณท์ ี่เกดิ ในเวลากลางวนั และกลางคืน ชวี ิตปร
ช่วงเวล
1. การสังเกตลักษณะ การเปล่ียนแปลงและ 1. การสงั
ความสมั พนั ธ์ของสง่ิ ตา่ งๆ โดยใชป้ ระสาทสัมผัส การเปล่ยี น
2. การคาดคะเนสิง่ ที่อาจจะเกิดขน้ึ จากทดลอง โดยใช้ประ
ไฟฟา้ สถิต 2. การคา
และมสี ่วน
จากการท
3. การเป
รอ้ น ความ
ะแสดงจานวน 10 นบั และแสดงจานวน 16
บเทียบจานวนของส่งิ ต่างๆ สองกลมุ่ เปรยี บเทียบจานวนของสง่ิ ตา่ งๆ สองกลมุ่
ต่ละกลมุ่ มจี านวนไมเ่ กนิ 10 ว่ามี
นเทา่ กนั หรอื ไมเ่ ท่ากนั โดยแต่ละกล่มุ มจี านวนไมเ่ กิน 16 วา่ มี
านวนทัง้ หมดทีเ่ กดิ จากการรวมสิ่ง จานวนเท่ากนั หรือไม่เท่ากัน
สองกลมุ่ ท่ีมผี ลรวมไมเ่ กิน 10 ยอกจานวนทง้ั หมดที่เกิดจากการรวมสงิ่
าดับทีข่ องสิ่งต่างๆ จานวนไม่เกิน 5 ต่างๆ สองกลุ่มทมี่ ีผลรวมไมเ่ กิน 16
าดบั เหตุการณห์ รือกจิ กรรมใน เรยี งลาดับท่ีของสิ่งตา่ งๆ จานวนไมเ่ กนิ 7
ระจาวนั จาแนกเหตุการณต์ าม เรยี งลาดบั เหตกุ ารณห์ รือกิจกรรมใน
ลา เชา้ สาย เท่ยี ง บ่าย เยน็ ชวี ิตประจาวนั จาแนกเหตกุ ารณล์ าดบั เวลา
เม่อื วานน้ี วนั นี้ พรุง่ น้ี
งเกตลักษณะส่วนประกอบ 1. การสงั เกตลักษณะสว่ นประกอบ
นแปลงและความสัมพนั ธข์ องส่งิ ต่างๆ การเปล่ียนแปลงและความสัมพนั ธข์ องสงิ่ ตา่ งๆ
ะสาทสัมผัส โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั
าดเดาหรือคาดคะเนสิ่งทอ่ี าจจะเกิดข้นึ 2. การเปรยี บเทียบความแตกตา่ งอากาศร้อน
นรว่ มในการลงความเห็นจากข้อมูล อากาศเย็น
ทดลองการเคล่ือนตวั ของอากาศ 3. การคาดคะเนส่งิ ท่ีอาจจะเกิดขึน้ และมสี ่วน
ปรียบเทียบความแตกตา่ งของความ รว่ มในการลงความเห็นจากข้อมูลอยา่ งมีเหตุผล
มเยน็ ขณะทาการทดลอง
4. การทดลองการสรา้ งกระแสลม
พฒั นาการทางภาษา 1. การฟังเพลง นทิ าน คาคล้องจอง 1. การฟัง
2. การพูด อธบิ ายเกย่ี วกับสงิ่ ของ เหตุการณ์ 2. การพูด
และการรู้หนังสือ และความสัมพันธ์ของสง่ิ ตา่ ง ๆ และความ
งเพลง นทิ าน คาคล้องจอง 1. การฟังเพลง นทิ าน คาคล้องจอง
ด อธบิ ายเกย่ี วกบั ส่งิ ของ เหตุการณ์ 2. การเห็นแบบอย่างของการเขียนท่ถี ูกตอ้ ง
มสมั พนั ธ์ของสง่ิ ตา่ ง ๆ
แนวคดิ หนว่ ยการจดั ประสบการณท์ ี่ 3
ประเทศไทยมฤี ดูกาล 3 ฤดู คือฤดรู อ้ น ฤดฝู น ฤดูหนาว จะเกดิ ข้ึนในช่วงเด
อากาศเยน็ อนภุ าคของอากาศจะเคล่ือนตวั แตกตา่ งกนั ในฤดหู นาวอุณหภูมิจะลดลง ม
เราควรป้องกนั ไม่ใหร้ ่างกายหนาวเยน็ มากเกินไปเราจาเปน็ ตอ้ งรกั ษาสุขภาพของตนเอ
มาตรฐาน มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จดุ ประสงคก์ า
ตวั บง่ ช้ี สภาพท่ีพงึ ประสงค์
มาตรฐานที่ 1 1.3 รักษาความ 1.3.1 เลน่ และทา 1. เล่นและทาก
รา่ งกาย ปลอดภยั ของ กิจกรรมอย่างปลอดภัย ได้ดว้ ยตนเองอ
เจรญิ เตบิ โตตามวยั ตนเองและผอู้ ื่น ด้วยตนเอง ปลอดภัย
และมสี ุขนิสัยท่ีดี
มาตรฐานท่ี 2 2.1 เคลอื่ นไหว 2.1.3 วิง่ หลบหลีกส่ิง 2. วิ่งหลบหลกี
กล้ามเน้อื ใหญ่และ ร่างกายอย่าง
กลา้ มเนื้อเล็ก คล่องแคลว่ กีดขวางได้ กดี ขวางได้
แขง็ แรง ใช้ได้อยา่ ง ประสานสมั พันธ์
คล่องแคลว่ และ และทรงตัวได้
ประสานสัมพันธ์
กนั
32 ฤดูหนาว ชนั้ อนุบาลปีท่ี 2
ดอื นต่าง ๆ ในรอบปี ในแต่ละฤดูอณุ หภูมิของอากาศจะไม่เท่ากัน อากาศร้อนและ
มีผลใหส้ ภาพแวดล้อมรอบตัวเราเกิดการเปล่ียนแปลง พชื ผักบางชนิดเตบิ โตไดด้ ี
องในฤดูหนาวการ
ารเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระการเรยี นรู้ สาระทค่ี วรเรยี นรู้
กจิ กรรม 1.1.5 การตระหนักรู้เกี่ยวกับ 1. ฤดูกาล 3 ฤดู ฤดรู ้อน ฤดูฝน
อย่าง รา่ งกายตนเอง ฤดูหนาว ลักษณะทว่ั ไปของฤดูหนาว
(2) การเคลื่อนไหวโดยควบคุมตนเอง 2. สภาพอากาศในฤดูหนาว ลมหนาว
ไปในทิศทาง ระดบั และพ้ืนท่ี การเกิดลม
๓. อากาศร้อน อากาศเยน็ การเคลื่อนตวั
กสงิ่ 1.1.1 การใช้กลา้ มเน้อื ใหญ่ ของอากาศ
(2) การเคล่ือนไหวเคล่ือนท่ี ๔. การรกั ษาสขุ ภาพของตนเองใน
(5) การเล่นเครื่องเล่นสนามอย่าง ฤดูหนาวการเกิดลม
อิสระ ๕. การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมใน
1.1.2 การใช้กลา้ มเนอื้ เลก็ ฤดหู นาว พืช ผกั ผลไมใ้ นฤดูหนาว
(1) การเล่นเครื่องเลน่ สมั ผสั และการ
สรา้ งส่งิ ตา่ ง ๆจากแทง่ ไมบ้ ล็อก
(2) การเขียนภาพและการเล่นกบั สี
(3) การปน้ั
มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จุดประสงคก์ า
มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสงค์
มาตรฐานที่ 3 3.2 มคี วามรู้สกึ ท่ดี ี 3.2.1 กล้าพดู กลา้ 3. รว่ มสนทนา
มสี ขุ ภาพจติ ดแี ละ ตอ่ ตนเองและผู้อื่น แสดงออกอย่าง แสดงความคดิ เ
มคี วามสขุ เหมาะสมบาง เหมาะสมกับสถ
สถานการณ์
3.2.2 แสดงความ 4. เลา่ เรื่องเกีย่
พอใจในผลงานและ ผลงานของตนเ
ความสามารถของ
ตนเอง
มาตรฐานท่ี 4 4.1 สนใจมี 4.1.1 สนใจมคี วามสขุ 5. สร้างสรรคง์
ชื่นชมและ ความสขุ และ และแสดงออกผา่ นงาน ไดอ้ ย่างมคี วาม
แสดงออกทาง แสดงออกผ่านงาน ศิลปะ
ศลิ ปะ ดนตรี และ ศลิ ปะ ดนตรี และ 4.1.3 สนใจ มี 6. แสดงทา่ ทา
การเคลอื่ นไหว การเคลื่อนไหว ความสุขและแสดง เคล่ือนไหวประ
ท่าทาง/เคลือ่ นไหว เพลง จังหวะแล
ประกอบเพลง จังหวะ ได้
และดนตรี
ารเรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระการเรยี นรู้ สาระที่ควรเรียนรู้
า และพดู 1.3.5 การเลน่ และทางานแบบ
เห็นได้ ร่วมมือร่วมใจ
ถานการณ์ (1) การรว่ มสนทนาและแลกเปลีย่ น
ความคดิ เห็น
ยวกับ 1.4.1 การใชภ้ าษา
เองได้ (4) การพูดแสดงความคดิ ความรูส้ ึก
และความต้องการ
งานศิลปะ 1.4.3 จนิ ตนาการและความคิด
มสุข สรา้ งสรรค์
(1) การรบั รู้และแสดงความคิด
าง ความรู้สกึ ผ่านสือ่ วสั ดุ ของเล่น และ
ะกอบ ช้ินงาน
ละดนตรี (2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์
ผ่าน
สอ่ื วัสดตุ า่ งๆผา่ นภาษาท่าทาง
การเคลอ่ื นไหวและศลิ ปะ
1.2.1 สุนทรีภาพ ดนตรี
(5) การทากิจกรรมศลิ ปะต่าง ๆ
มาตรฐาน มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย สภาพทพี่ งึ ประสงค์ จดุ ประสง
ตวั บง่ ชี้
7.ทางานท
มาตรฐานที่ 5 5.4 มีความ 5.4.1 ทางานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย
โดยครูชแี้ น
มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม รบั ผดิ ชอบ มอบหมายจนสาเร็จ
และมจี ติ ใจทีด่ ีงาม เมอ่ื มีผชู้ ี้แนะ
มาตรฐานที่ 6 6.2 มีวินยั ในตวั เอง 6.2.1 เก็บของเลน่ ของ 8.เก็บของ
ใชเ้ ขา้ ทด่ี ว้ ยตนเอง ใชส้ ว่ นตวั เ
มที กั ษะชีวติ และปฏบิ ตั ิ
ตนตามหลกั ปรชั ญา
ของเศรษฐกิจพอเพียง
มาตรฐานที่ 7 7.1 ดูแลรักษา 7.1.1มสี ว่ นรว่ มดูแล 9.มีส่วนร่ว
รกั ษาธรรมชาติและ ธรรมชาตสิ
รกั ธรรมชาติ ธรรมชาตแิ ละ ส่งิ แวดลอ้ มเม่ือมผี ู้ เม่อื มผี ู้ชแ้ี น
ชแ้ี นะ
สงิ่ แวดล้อม วฒั นธรรม สิง่ แวดล้อม
และความเปน็ ไทย
มาตรฐานที่ 8 8.3 ปฏบิ ัตติ นเปน็ 8.3.1 มีสว่ นรว่ มสร้าง 10. ปฏิบัต
ข้อตกลงและปฏิบัติ ข้อตกลงใน
อยู่ร่วมกับผูอ้ นื่ ได้อย่าง เบือ้ งต้นในการเป็น ตามข้อตกลงเมื่อมีผู้ กิจกรรมแล
มคี วามสขุ และปฏบิ ตั ิ สมาชิกที่ดีของสังคม ชี้แนะ ผูอ้ ื่นได้
ตนเป็นสมาชิกท่ีดีของ 8.3.2 ปฏบิ ตั ิตนเปน็ 11. ปฏบิ ัต
ผูน้ าและผตู้ ามได้ด้วย และผ้ตู ามไ
สงั คมในระบอบ ตวั เอง
ประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตรยิ ์
ทรงเปน็ ประมุข
งคก์ ารเรยี นรู้ ประสบการณ์สาคญั สาระการเรียนรู้ สาระท่ีควรเรียนรู้
ทไี่ ด้รับ 1.2.2 การเล่น
ยจนสาเร็จ (1) การเล่นอสิ ระ
นะได้ (2) การเล่นรายบคุ คล กลุ่มย่อย
และกลุ่มใหญ่
งเลน่ และของ (3) การเล่นตามมุม
เข้าท่ไี ด้ ประสบการณ/์ มมุ เลน่ ตา่ ง ๆ
(4) การเลน่ นอกห้องเรียน
1.2.4 การแสดงออกทาง
อารมณ์
(3) การเคลื่อนไหวตาม
วมดแู ลรกั ษา เสียงเพลง/ดนตรี
ส่งิ แวดลอ้ ม (4) การร้องเพลง
นะได้ ด้านสงั คม
1.3.4 การมปี ฏสิ ัมพันธ์ มีวินัย
มสี ่วนร่วมและบทบาทสมาชิก
ตติ าม ของสังคม
นการทา (1) การให้ความรว่ มมือในการ
ละเลน่ กบั ปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ ง ๆ
1.3.5 การเล่นและทางานแบบ
ติตนเป็นผู้นา รว่ มมือร่วมใจ
ได้ (๒) การเลน่ และการทางาน
รว่ มกบั ผู้อ่ืน
มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จดุ ประสง
มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพท่พี งึ ประสงค์
มาตรฐานที่ 9 12. สนทน
9.1 สนทนาโต้ตอบ 9.1.1 ฟังผู้อน่ื พูดจน ขณะรว่ มท
ใช้ภาษาสอ่ื สารให้
เลา่ เรอ่ื งให้ผอู้ ่ืนเขา้ ใจ จบและสนทนาโต้ตอบ
เหมาะสมกบั วัย
สอดคล้องกับเรื่องท่ีฟงั
มาตรฐานที่ 10 10.1 10.1.2 จับคูห่ รอื 13. จบั ค่หู
เปรียบเทยี
มคี วามสามารถใน มคี วามสามารถในการ เปรียบเทยี บสิ่งตา่ ง ๆ ตามลกั ษณ
การคิดทเี่ ป็นพน้ื ฐานใน คดิ รวบยอด โดยใชล้ ักษณะหรือ
การเรยี นรู้ หน้าที่การใช้งานเพยี ง
อยา่ งเดยี ว
10.2 10.2.2 คาดเดาหรอื 14. ลงคว
มีความสามารถในการ คาดคะเนสง่ิ ที่อาจจะ คาดเดาส่ิง
คดิ เชิงเหตผุ ล เกิดขน้ึ หรือมสี ่วนร่วม ในการทดล
ในการลงความเห็นจาก
ขอ้ มูล
งคก์ ารเรียนรู้ ประสบการณ์สาคัญ สาระการเรียนรู้ สาระที่ควรเรยี นรู้
นาโตต้ อบ ดา้ นสติปญั ญา
ทากจิ กรรมได้ 1.4.1 การใชภ้ าษา
(1) การฟังเสยี งต่าง ๆในสิ่งแวดลอ้ ม
(2) การฟังและปฏิบัตติ ามตาแนะนา
(3) การฟังเพลง นิทาน คาคล้องจอง
บทรอ้ ยกรองหรือเรื่องราวต่างๆ
หรอื 1.4.2 การคดิ รวบยอด การคิดเชิง
ยบสิง่ ตา่ ง ๆ เหตุผล การตดั สินใจและแก้ปัญหา
ณะได้ (3) การบอกและแสดงตาแหน่ง
ทศิ ทาง และระยะทางของส่งิ ต่างๆ
ด้วยการกระทา ภาพวาด ภาพถ่าย
และรปู ภาพ
วามเหน็ เพ่ือ (8) การนับและแสดงจานวนของส่ิง
งที่อาจเกดิ ขึน้ ตา่ ง ๆ ในชวี ิตประจาวัน
ลองได้ (17) การคาดเดาหรอื การคาดคะเน
ส่งิ ทอี่ าจจะเกิดขึ้นอย่างมเี หตุผล
มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จุดประสงค์กา
มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพท่ีพึงประสงค์ 15. สรา้ งผลงา
ศิลปะตามความ
มาตรฐานที่ 11 11.1 ทางานศลิ ปะ 11.1.1 สรา้ งผลงาน สรา้ งสรรค์ได้
มจี ินตนาการและ ตามจินตนาการและ ศิลปะเพื่อส่ือสาร 16. แสดงทา่ ท
ความคิดและจนิ
ความคดิ ความคิดสร้างสรรค์ ความคดิ ความรู้สึก ได้
สรา้ งสรรค์ 11.2 แสดงทา่ ทาง/ ของตนเอง โดยมีการ 17. มคี วาม
กระตือรือรน้ ใน
เคลือ่ นไหวตาม ดดั แปลงและแปลก กิจกรรม
จนิ ตนาการอย่าง ใหม่จากเดิมหรอื มี
สรา้ งสรรค์ รายละเอยี ดเพมิ่ ขน้ึ
11.2.1 เคล่ือนไหว
ท่าทางเพอ่ื สื่อสาร
ความคดิ ความรู้สึก
ของตนเองอยา่ ง
หลากหลายหรอื แปลก
ใหม่
มาตรฐานท่ี12 12.1 มเี จตคตทิ ดี่ ี 12.1.2 กระตอื รือร้น
มีเจตคติท่ีดีตอ่ ต่อการเรียนรู้ ในการรว่ มกจิ กรรม
การเรียนรู้ และมี
ความสามารถใน
การแสวงหา
ความรูไ้ ด้
เหมาะสมกับวัย
ารเรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระการเรยี นรู้ สาระท่คี วรเรยี นรู้
านทาง 1.4.3 จนิ ตนาการและความคิด
มคิด สรา้ งสรรค์
(2) การแสดงความคิดสร้างสรรค์
ผา่ น
ส่อื วสั ดุตา่ งๆผ่านภาษาท่าทางการ
ทางตาม เคลือ่ นไหวและศิลปะ
นตนาการ
นการร่วม 1.4.4 เจตคตทิ ดี่ ีต่อการเรยี นร้แู ละ
การแสวงหาความรู้
(3) การสารวจส่ิงตา่ งๆ และแหลง่
เรยี นรูร้ อบตัว
ผงั ความคดิ แผนการจดั ประสบการณ
๑. กจิ กรรมเคล่ือนไหวและจังหวะ ๒. กจิ กรรมเ
1.เคลื่อนไหวตามข้อตกลง 1. ฤดกู าล 3 ฤดู ฤดูรอ้ น ฤ
2.เคลือ่ นไหวร่างกายประกอบคาคลอ้ งจอง ลักษณะท่วั ไปของฤดหู น
3.เคล่ือนไหวรา่ งกายปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้นาผ้ตู าม
4.การเคล่อื นไหวตามคาบรรยาย 2. สภาพอากาศในฤดูหนาว
5.การเคลอ่ื นไหวพร้อมอุปกรณ์ ๓. อากาศร้อน อากาศเย็น
๔. การรกั ษาสุขภาพของตน
๕. การเปลยี่ นแปลงของสภ
ผลไม้ในฤดหู นาว
๔. กิจกรรมเลน่ ตามมุม หน
ฤดูห
เล่นตามมุมประสบการณ์ ช้นั อนุบา
- มุมหนังสือ
- มมุ บลอ็ ก ๕. กจิ กรรมก
- มมุ บทบาทสมมตุ ิ
- มุมเครอ่ื งเล่นสมั ผสั 1. เกมวิง่ เกบ็ ของ
2. เลน่ เครื่องเล่นสนาม
3. การเคล่อื นไหวร่างกาย
(สมมุติตนเองเป็นอากา
4. เกมแข่งขนั กันแต่งชุดก
5. การทาทา่ ทางกายบรหิ
ณ์หนว่ ยฤดูหนาว ชั้นอนบุ าลปที ี่ 2
เสริมประสบการณ์ ๓. กิจกรรมศลิ ปะสร้างสรรค์
ฤดูฝน ฤดูหนาว 1. การปะตดิ ภาพดว้ ยเศษวสั ดุ
นาว 2. การประดษิ ฐ์งเู ตน้ ระบา
ว ลมหนาว การเกิดลม 3. การกลง้ิ สี
4. การพบั กระดาษ
การเคล่อื นตัวของอากาศ 5. การพบั สี
นเองในฤดหู นาว 6. ปั้นดินน้ามัน
ภาพแวดลอ้ มในฤดูหนาว พืช ผกั
๖. กจิ กรรมเกมการศึกษา
นว่ ย
หนาว 1. เกมภาพตดั ต่อภาพฤดูหนาว
าลปีท่ี 2 2. เกมจับค่ภู าพกับสัญลกั ษณ์ 1 - 5
3. เกมจับคภู่ าพกับเงาเคร่ืองแตง่ กายใน
กลางแจ้ง
ฤดูหนาว
ยตามข้อตกลง 4. เกมเรียงลาดบั ส่ิงต่าง ๆ ตามขนาด
าศร้อน อากาศเยน็ ) 5. เกมจบั คูภ่ าพกับโครงร่างของใชส้ ว่ นตัว
กนั หนาว
หารอบอุน่ รา่ งกาย
การวางแผนกจิ กรรมรายหน่วยการจดั ประส
วนั ท่ี เคล่ือนไหวและจังหวะ เสริมประสบการณ์ ศิลปะสรา้ งสร
1 เคลอ่ื นไหวตามข้อตกลง ฤดกู าล 3 ฤดู ฤดรู ้อน - การปะติดภาพด
ฤดูฝน ฤดหู นาว เศษวัสดุ
ลกั ษณะทัว่ ไปของฤดู - ปั้นดินน้ามนั
หนาว
2 เคลอ่ื นไหวร่างกาย สภาพอากาศในฤดู - การประดิษฐง์ ูเต
ประกอบคาคลอ้ งจอง หนาว ลมหนาว ระบา
การเกิดลม - ปั้นดินนา้ มัน
3 เคล่อื นไหวรา่ งกาย อากาศรอ้ น อากาศเยน็ - การกล้งิ สี
ปฏิบัติตนเปน็ ผนู้ า
ผตู้ าม การเคลือ่ นตัว - ปั้นดินน้ามัน
ของอากาศ
4 การเคลื่อนไหวตามคา -การรกั ษาสุขภาพของ - การพบั กระดาษ
บรรยาย คนเองในฤดูหนาว - ปั้นดินน้ามนั
-ทดลองการเกดิ ลม
5 การเคลอื่ นไหวพร้อม การเปลย่ี นแปลงของ - การพับสี
อุปกรณ์ สภาพแวดลอ้ มในฤดู - ปั้นดินน้ามัน
หนาว พืช ผกั ผลไม้ใน
ฤดหู นาว
สบการณ์ชน้ั อนบุ าลปที ี่ 2 หนว่ ยฤดูหนาว
กิจกรรม กลางแจ้ง เกมการศกึ ษา
รรค์ เล่นตามมุม เกมวง่ิ เกบ็ ของ เกมภาพตัดตอ่ ภาพฤดู
ด้วย - เลน่ ตามมมุ ได้แก่
หนาว
มมุ หนังสอื มมุ บลอ็ ก
มมุ บทบาทสมมตุ ิ เล่นเครือ่ งเล่นสนาม เกมจับคู่ภาพกับ
มมุ เครื่องเล่นสัมผสั สัญลกั ษณ์ 1-5
ตน้ - เล่นตามมุม ได้แก่ - การเคล่ือนไหวร่างกาย เกมจับค่ภู าพกับเงา
มุมหนงั สือ มมุ บลอ็ ก
มุมบทบาทสมมตุ ิ ตามข้อตกลง(สมมตุ ิ เครือ่ งแตง่ กายในฤดู
มมุ เครื่องเล่นสัมผัส
ตนเองเปน็ อากาศรอ้ น หนาว
- เลน่ ตามมมุ ไดแ้ ก่
มุมหนังสือ มุมบล็อก อากาศเยน็ )
มมุ บทบาทสมมุติ
มมุ เครื่องเลน่ สัมผัส เกมแขง่ ขนั กันแตง่ ชดุ เกมเรียงลาดบั ส่ิงต่าง ๆ
ษ - เล่นตามมมุ ได้แก่ กันหนาว ตามขนาด
มมุ หนังสือ มมุ บล็อก
มมุ บทบาทสมมุติ การทาทา่ ทางกาย เกมจบั คู่ภาพกบั
มมุ เครื่องเล่นสัมผัส บริหารอบอุ่นร่างกาย โครงรา่ งของใช้ส่วนตวั
- เลน่ ตามมุม ได้แก่
มุมหนังสอื มุมบลอ็ ก
มุมบทบาทสมมตุ ิ
มมุ เครื่องเล่นสมั ผัส
แผนการจดั ประสบการณ์รายวัน วันที่ 1
จุดประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ กจิ
เรียนรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้
1. เด็กเคลื่อนไหว
กจิ กรรม (๓) การเคล่ือนไหว เคล่อื นที่ เมื่อได้ย
เคลอ่ื นไหวและ ตามข้อตกลง ทนั ที
จังหวะ 2. ครสู นทนากับเ
สนใจมคี วามสุข ไทย วา่ มี ๓ ฤดู ไ
และแสดงท่าทาง/ 2. สอบถามเกีย่ ว
เคลอ่ื นไหวตาม มากท่สี ดุ แล้วให้เ
ขอ้ ตกลงได้ เหมือนกัน โดยแ
3. สร้างข้อตกลงร
กันแลว้ เคล่อื นท่ีเป
ครยู ืนเป็นประเทศ
ฤดกู าลเคลื่อนทีผ่
ฤดูรอ้ น ฤดูฝน ฤ
๔. ระหว่างเคล่ือน
ฤดกู าลตา่ ง ๆ เคา
๕. สรุปร่วมกันถงึ
ประเทศไทย