The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาล 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nmatroeng1, 2022-05-21 10:13:46

แผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาล 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565

แผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาล 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565

จกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ

มกันสงั เกตสิ่งรอบตัวในห้องเรียน 1. หอ้ งเรยี น สงั เกต
ความคดิ เหน็ ถงึ หอ้ งของเราวา่ มี 2. แผน่ ป้ายจุดอันตราย การบอกวธิ ีปฎิบตั ติ นให้
นอนั ตรายท่เี ด็ก ๆ ควรระมดั ระวงั ปลอดภัย
นตรายมาตดิ ไว้
ถานการณ์และชแี้ นะให้เด็ก ๆ
งภัยทช่ี ัดเจนขึ้น โดย
ทีว่ างซ้อนกันสูง ๆ อาจหล่นลง

งพัดลมทผ่ี ดิ ปกติ ใบพัดอาจหลุด

ไหม้ อาจมีไฟฟ้าช็อต หรือ

กวา่ ในบา้ นของเด็กมจี ุดทีเ่ ด็กคิด
รือไม่ เพราะเหตใุ ด
ะสบการณอ์ ุบัตภิ ัยที่บา้ นของตน
งการปฏิบัตติ ัวเม่ือมเี หตุเตือนภัย
งเด็กๆควรแจ้งผ้ใู หญใ่ หท้ ราบไม่
นเอง

5

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก
เรยี นรู้
ประสบการณส์ าคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ ๑. สนทนารว่ มกนั
กิจกรรมศลิ ปะ ตา่ ง ๆ ทเี่ ดก็ เคยพ
สรา้ งสรรค์ (2) การบอกแสดง เขา้ ใกล้ หรอื ต้องใ
1. วาดภาพตาม ตาแหนง่ ทศิ ทางและ บรเิ วณก่อสร้าง ถ
ประสบการณ์เดมิ ระยะทางสิ่งต่าง ๆด้วย เดก็ จะเหน็ สญั ลัก
ของตนเองได้ การกระทา ภาพวาด 2. ครูอธบิ ายการ
2. ปั้นดินน้ามัน ภาพถา่ ย และรปู ภาพ ภาพเกีย่ วกบั สญั ล
ตามจนิ ตนาการ (3) การป้ัน อันตรายทเี่ คยพบ
4. ปั้นดินน้ามันต
๔. เด็กทากิจกรรม

กิจกรรมเลน่ ตาม (1) การเลน่ หรอื ทา 1. เดก็ เลือกกจิ กร
มมุ กิจกรรมรว่ มกับกลุ่ม ความสนใจมุมปร
1. เลน่ ร่วมกบั ผอู้ ่ืน เพ่อื น ๔ มุม เช่น
ได้ - มุมธรรมชาตศิ ึก
2. เกบ็ ของเลน่ - มมุ บล็อก
ของใชเ้ ขา้ ที่อย่าง - มมุ บทบาทสมม
เรยี บรอ้ ยดว้ ย 2. สัปดาหน์ เี้ พิม่ ข
ตนเองได้ ปลอดภยั เช่น ฝึก
ประตูรถยนต์ ฯลฯ
3. เมอื่ หมดเวลาเ
4. ครูชมเชยเด็กท

26

กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ

นเก่ียวกับจุดอนั ตรายในสถานที่ 1. กระดาษ สังเกต
พบเหน็ ซงึ่ เป็นจุดที่เด็กๆ ไมค่ วร 2. ดนิ สอสี การปั้นดนิ นา้ มันตาม
ใช้ความระมัดระวงั เป็นพเิ ศษ เช่น 3. ดนิ น้ามนั จนิ ตนาการ
ถนนชารุด บอ่ นา้ ลกึ เป็นต้น 4. แผ่นรองป้ัน
กษณ์อย่างไรบา้ ง
รทากิจกรรมวาดภาพระบายสี
ลักษณห์ รือเครื่องหมายแสดงจุด
บเห็น ยกตัวอยา่ งประกอบ
ตามจินตนาการ
มเสรจ็ แล้วนาเสนอเล่าเร่ืองผลงาน

รรมเสรีในมุมประสบการณ์ตาม - มมุ ประสบการณ์ใน สงั เกต
ระสบการณค์ วรมีอย่างนอ้ ย
หอ้ งเรียน - การเล่นรว่ มกบั ผอู้ น่ื
กษา - มุมหนังสือ
- มุมเกมการศึกษา - การเกบ็ ของเลน่ ของใช้

มติ - มุมเครอื่ งเลน่ สมั ผสั เข้าที่อยา่ งเรยี บร้อยด้วย
ของเลน่ สาหรับฝึกทักษะดา้ นความ
กถอดกลอนประตู หมุนลูกบิด เปดิ ตนเอง

เดก็ เกบ็ ของเขา้ ท่ใี ห้เรยี บร้อย
ทเี่ ก็บของเข้าทีไ่ ดเ้ รียบร้อย

6

จดุ ประสงคก์ าร สาระการเรียนรู้ ก

เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ 1. ครูแนะนาข้อต
พรอ้ มทั้งแนะนาว
กจิ กรรมกลางแจ้ง (๒) การเลน่ รายบุคคล 2. เด็กเล่นเคร่ือง

เลน่ อยา่ งปลอดภยั กลุ่มยอ่ ย กลุ่มใหญ่ ดูแลและแนะนาก

เมอื่ มีผ้ชู ี้แนะได้ (5) การเลน่ เครื่องเล่น 3. เด็กเลน่ เคร่ือง
4. ทาความสะอา
สนามอยา่ งอิสระ ช้ันเรียน

กจิ กรรมเกม (13) การสงั เกต เกมจัดหมวดหมูภ่ าพ 1. นาเกมเกมจดั ห
การศึกษา รายละเอยี ดภาพ เชิงซ้อน สังเกตและสนทน
นาภาพสิง่ เดียวกัน สาธติ เกมใหม่
กับภาพหลกั มา 2. ครแู ละเด็กร่วม
จัดเรียงเปน็ พวก และวิธีการเลน่ เก
เดยี วกันได้ กลมุ่ ตามความเหม
คดิ วางแผนเล่นเก
เกบ็ เกมเมอ่ื เลน่ เส
๓. เด็กเล่นเกมชดุ
หมนุ เวยี นกนั จนค
๔. รว่ มกนั สนทนา
เชิงซอ้ น

27

กิจกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ

ตกลงในการเล่นเครือ่ งเลน่ สนาม 1. เครอื่ งเลน่ สนาม สังเกต
การเล่นและทากิจกรรม
วธิ กี ารเลน่ อย่างปลอดภัย 2. บอ่ ทราย อยา่ งปลอดภัยเมอื่ มี
ผ้ชู แี้ นะ
งเล่นสนามและบ่อทราย โดยมีครู

การเล่น

งเล่นสนามอยา่ งอิสระ ครูดแู ลแนะนา

าดรา่ งกาย และพาเด็กกลับ

หมวดหมภู่ าพเชงิ ซอ้ นมาให้เด็ก 1. เกมจัดหมวดหมู่ สังเกต
นาเกย่ี วกับภาพในเกมแนะนาและ ภาพเชิงซ้อน การจัดหมวดหมูภ่ าพ
2. เกมชดุ เดมิ ในมมุ
มกันสร้างขอ้ ตกลงเกีย่ วกับข้ันตอน เกมการศึกษา
กมการศึกษาโดยแบง่ กล่มุ เด็กเป็น
มาะสม แตล่ ะกลุม่ ร่วมกัน
กม รู้จักแบง่ ปันรอคอยและชว่ ยกัน
สร็จ
ดใหมแ่ ละเกมที่เคยเล่นมาแลว้
ครบทุกเกม
าสรปุ เกยี่ วกับเกมจดั หมวดหมู่ภาพ

7

แผนการจัดประสบการณ์รายวัน วันที่ ๕ หน

จุดประสงคก์ าร สาระการเรยี นรู้ ก
เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรยี นรู้
(1) การเปน็ ผู้นาผ้ตู าม 1. กิจกรรมพื้นฐา
กจิ กรรม บรเิ วณอยา่ งอสิ ระ
เคลอื่ นไหวและ หยดุ ใหห้ ยดุ ในท่า
จังหวะ ๒. แบง่ กลุ่มเด็กอ
1. สนใจมคี วามสขุ 3. สมมุติใหเ้ ด็กไป
และแสดงท่าทาง คลองซึ่งมนี า้ เตม็ แ
/เคลอื่ นไหว 4. ขออาสาสมัคร
2. การทาท่าทาง คิดหาวธิ ขี ้ามคลอ
เปน็ ผนู้ าผู้ตาม เดินขา้ ม วา่ ยน้าข
ใหค้ นอน่ื ในกลมุ่ ส
กจิ กรรมเสรมิ (๔) การพูดแสดงความ การปฏบิ ัติตน เรยี งลาดับข้ามไป
ประสบการณ์ คิดเห็นความรสู้ ึกและ การป้องกันภัยท่ีอาจ 5. ทากจิ กรรมซา้
1. สนทนาตอบขอ้ ความต้องการ เกิดข้นึ กบั เด็กเมือ่ อยู่ 6. พักคลายกลา้ ม
ซักถามและร่วม (5) การพูดกบั ผู้อ่ืน ในสถานทสี่ าธารณะ 1. ครสู อบถามเด
แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกบั ประสบการณ์ ภาคเรยี น ขออาส
ได้ ของตนเองหรือพดู เลา่ 2. เด็กหลายคนได
2. เล่าเรือ่ งจาก เร่ืองราวเก่ยี วกับตวั เอง เมือ่ ต้องอย่ใู นสถา
ประสบการณ์ หนา้ จานวนมาก เ
ของตนเองได้ แก้ปญั หา
3. ยกตัวอยา่ งขา่ ว
เกิดข้ึนกับเด็ก เพ
ปอ้ งกนั ร่วมกนั

28

น่วยท่ี 1 รู้รอบ ปลอดภัย ช้นั อนุบาลปที ่ี 2

กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมินพัฒนาการ
สงั เกต
านใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายไปท่ัว 1. เครื่องเคาะ 1. ความสนใจและ
แสดงออกผ่านการ
ะตามจังหวะ เม่อื ได้ยนิ สญั ญาณ จังหวะ เคลือ่ นไหว
2. การเป็นผูน้ าผู้ตาม
าน้ันทันที 2. นกหวีด
สงั เกต
ออกเปน็ 3 กลุ่ม 1. การฟังผู้อ่นื พดู จนจบ
และสนทนาโต้ตอบอย่าง
ปเทีย่ วในสวนกับคุณพ่อ เดนิ ไปถงึ ต่อเนื่องเชอื่ มโยงกบั เรื่องที่
ฟังได้
และจะตอ้ งข้ามคลองน้ี 2. การเล่าเรอื่ งจาก
ประสบการณ์
รออกมาเปน็ ผนู้ า สมมตุ เิ ปน็ คุณพ่อ

องอย่างอิสระ เชน่ ใชไ้ มพ้ าดแลว้

ข้ามไป พายเรือข้ามไป เปน็ ต้น โดย

สมมุตเิ ปน็ ลูกทาตาม โดยเขา้ แถว

ปทลี ะคน



มเนอื้ เตรยี มทากจิ กรรมต่อไป

ด็กถงึ กจิ กรรมทเ่ี ด็กไดท้ าในชว่ งปดิ ข่าวเหตกุ ารณ์

สาสมัครเด็กออกมาเล่าเร่ือง ต่าง ๆ

ดไ้ ปเทีย่ วสถานท่ีต่างๆ กับผปู้ กครอง

านท่ที เี่ ราไม่ค้นุ เคยและมผี คู้ นแปลก

เม่ือพลัดหลงกับผปู้ กครองจะแก้การ

วเหตกุ ารณ์ตา่ ง ๆ ทเี่ กี่ยวกับภยั ท่ี
พอ่ื แสดงความคดิ เห็นและหาวิธรี ะวัง

8

กิจกรรม (3) การปัน้ 4. เดก็ ฝกึ การจดจ
4. สรุปรว่ มกนั ถึง
สรา้ งสรรค์ (2) การเขยี นภาพและ เกดิ ขน้ึ กับเด็กเม่อื

สนใจมคี วามสุข การเล่นกบั สี 1. แบ่งกลุ่มเด็ก ส
ร่วมกัน
และแสดงออกผ่าน 2. ครแู นะนาอุปก
ปฏิบัติการพับสแี ล
งานศิลปะ 3. แจกอุปกรณ์แ
และสอบถามวา่ เป
กิจกรรมเล่นตาม (1) การเลน่ หรือทา ใหเ้ ป็นภาพที่สมบ
มุม กิจกรรมรว่ มกับกลมุ่ 4. ปั้นดินน้ามัน
1. เลน่ รว่ มกบั ผู้อ่ืน เพื่อน 5. เด็กทากิจกรรม
ได้ 6. สนทนาเกย่ี วก
2. เก็บของเลน่
ของใช้เข้าท่ีอยา่ ง 1. เดก็ เลือกกิจกร
เรยี บรอ้ ยด้วย ความสนใจมมุ ปร
ตนเองได้ ๔ มมุ เชน่
- มุมธรรมชาติศึก
- มุมบลอ็ ก
- มมุ บทบาทสมม
2. เม่อื หมดเวลาเ
3. ครูชมเชยเด็กท

29

จาเบอรโ์ ทรศพั ท์ของผู้ปกครอง
งการปฏิบตั ิตน การปอ้ งกันภัยทอ่ี าจ
ออยู่ในสถานทส่ี าธารณะ

สร้างข้อตกลงในการทากิจกรรม 1. ดนิ นา้ มัน สงั เกต
ความสนใจมคี วามสุขและ
2. สีน้า แสดงออกผ่านงานศลิ ปะ

กรณ์และสาธติ ขนั้ ตอนในการ 3. แผ่นรองป้นั

ล้วตอ่ เติมภาพ

แต่ละกล่มุ เด็กลงมือพบั สี ครดู แู ล

ป็นภาพอะไร และจะต่อเติมอยา่ งไร

บรู ณ์มากขน้ึ

มศิลปะสร้างสรรคท์ ัง้ 2 กิจกรรม
กบั ผลงาน เก็บอปุ กรณ์

รรมเสรีในมุมประสบการณต์ าม - มุมประสบการณใ์ น สังเกต
ระสบการณ์ควรมีอยา่ งนอ้ ย
ห้องเรยี น 1. การเล่นรว่ มกบั ผ้อู ื่น
กษา - มุมหนงั สือ
- มุมเกมการศกึ ษา 2. การเก็บของเล่นของใช้

มติ - มุมเครื่องเลน่ สัมผสั เข้าท่ีอย่างเรยี บร้อยดว้ ย
เด็กเก็บของเขา้ ท่ีใหเ้ รียบร้อย
ทีเ่ กบ็ ของเข้าท่ไี ด้เรยี บร้อย ตนเอง

9

จุดประสงค์การ สาระการเรียนรู้ กจิ

เรยี นรู้ ประสบการณส์ าคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ 1. สรา้ งข้อตกลงเ
นาเด็กไปทสี่ นาม
กิจกรรมกลางแจง้ (2) การเคลื่อนไหว 2. เดก็ ยืนเปน็ วงก
3. ครูจัดแสดงป้า
1. เคล่อื นไหว เคลอ่ื นท่ี ขนาดใหญ่วางไวบ้
4. ขออาสาสมัคร
รา่ งกาย (2) การเล่น ล้อมรอบป้ายแป้น
5. ครอู ธบิ ายและ
ไดอ้ ย่างคลอ่ งแคล่ว รายบุคคล กลมุ่ ย่อย ยกป้ายหมายเลขโ
ไปเลอื กยนื บนหม
2. เลน่ ตามกตกิ าได้ กลมุ่ ใหญ่ 6. เด็กคนอื่นรว่ ม
อา่ นหมายเลขตัวใ
กิจกรรมเกม (18) การเลน่ เกม การจับคู่ภาพกับ กระโดด
การศึกษา ภาษา สญั ลกั ษณ์ 7. สรุปรว่ มกันถึง
จบั คู่ภาพกับ หมายเลขโทรศัพท
สัญลักษณ์ได้ 8. เดก็ ช่วยกันเกบ็
รา่ งกาย
1. นาเกมจบั คภู่ า
และสนทนาเกี่ยวก
เกมใหม่
2. ครูและเด็กรว่ ม
ขนั้ ตอนและวิธีกา
กลุ่มเดก็ ตามความ

30

จกรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ
สงั เกต
เกี่ยวกบั การปฏิบตั ติ นร่วมกนั ก่อน 1. นกหวีด 1. การเคล่ือนไหวร่างกาย
2. แผ่นปา้ ยแปน้ กด 2. การปฏบิ ตั ติ ามกติกา

กลมเดก็ ทาท่าบรหิ ารรา่ งกาย หมายเลขโทรศัพท์ สงั เกต
ายแป้นกดหมายเลขโทรศัพท์ การจับคแู่ ละเปรยี บเทียบ
บนพ้ืนสนามกลางวงกลม ความแตกตา่ งและความ
รเด็ก ชดุ ละ 10 คน มายนื เหมอื นของสง่ิ ตา่ งๆ
นกดหมายเลขโทรศพั ท์
ะสาธิตการทากิจกรรม โดยเมื่อครู
โทรศัพท์ ให้เดก็ อาสาสมัครเล่น
มายเลขตามท่คี รแู สดง
มกันอ่านหมายเลขโทรศพั ท์ เมือ่
ใดใหค้ นทีป่ ระจาหมายเลขน้ัน

งประโยชน์ของการจดจา
ท์ของผ้ปู กครอง
บอปุ กรณ์ ทาความสะอาด

าพกบั สญั ลกั ษณม์ าใหเ้ ด็กสงั เกต เกมจับคู่ภาพกับ
กับภาพในเกมแนะนาและสาธติ สญั ลักษณ์

มกนั สร้างข้อตกลงเกย่ี วกบั
ารเลน่ เกมการศึกษาโดยแบ่ง
มเหมาะสม แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกัน

0

จดุ ประสงค์การ สาระการเรยี นรู้ ก
เรียนรู้ ประสบการณส์ าคัญ สาระทีค่ วรเรยี นรู้
คดิ วางแผนเล่นเก
เก็บเกมเมอ่ื เล่นเส
๓. เด็กเลน่ เกมจบั
เลน่ มาแล้วหมนุ เว
4. เด็กเก็บเกมกา

31

กจิ กรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ พฒั นาการ

กม รจู้ ักแบง่ ปันรอคอยและช่วยกนั
สรจ็
บคภู่ าพกบั สัญลักษณ์และเกมทีเ่ คย
วียนกนั จนครบทุกเกม
ารศึกษาเขา้ ที่

1

1. เลขที่ ช่อื – สกลุ
2.
3. 1. การเล่นและทากิจกรรมอย่าง ดา้ นรา่ งกาย แบบสงั เกตพฤติกรรมเดก็ หน่วยการจดั ประสบ
4. ปลอดภัย
5. ดา้ นอารมณ์
6. 2. การเคล่อื นไหวร่างกายตามคา และจติ ใจ
7. บรรยาย
8. ประเ
9. 3. ตัดการดาษแนวเส้นตรงเป็น ด้านสัง
10. รูปร่างตา่ ง ๆ

32 4. แสดงท่าทาง / เคลือ่ นไหว
ประกอบเพลง จงั หวะ และดนตรไี ด้

5. สนใจมคี วามสุขและแสดงออก
ผ่านงานศิลปะ

6. การปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาณและ
ข้อตกลง

2 7. การเก็บของเล่นของใชเ้ ข้าท่อี ยา่ ง เมินพฒั นาการ บการณ์ที่ 19 รรู้ อบ ปลอดภัย ช้นั อนบุ าลปีท่ี 2
เรยี บร้อยด้วยตนเอง งคม
8. การฟังผอู้ ืน่ จนจบและสนทนา
โต้ตอบอย่างตอ่ เน่ืองเชือ่ มโยงกับเร่ือง ด้านสตปิ ญั ญา
ทฟี่ งั

9. การคาดเดาหรือการคาดคะเนสิง่
ทอี่ าจจะเกิดขนึ้ อย่างมเี หตผุ ล
10. การเรยี งลาดับภาพเหตุการณ์

11. การตอ่ ภาพชน้ิ สว่ นย่อยเป็น
ภาพทสี่ มบรู ณ์

12. การใช้ประสาทสมั ผสั สงั เกต
สญั ญาณอันตราย

13. การเล่าเร่ืองจากประสบการณ์

14. การจดั หมวดหมู่สิง่ ภาพ

หมายเหตุ

11. เลขท่ี ชื่อ – สกลุ
12.
13.
14.
15.
16.
17.
18.
19.
20.

คาอธบิ าย

ครูสังเกตพฤติกรรมเด็กรายบุคคล จดบนั ทกึ สรปุ เป็นรายสัปดาหร์ ะบ 1. การเล่นและทากิจกรรมอย่าง ดา้ นร่างกาย
ระดบั ๓ ดี ระดับ ๒ ปานกลาง ระดับ ปลอดภัย
ด้านอารมณ์
2. การเคล่อื นไหวร่างกายตามคา และจติ ใจ
บรรยาย
33 ประเ
3. ตัดการดาษแนวเส้นตรงเป็น ดา้ นสงั
รูปร่างตา่ ง ๆ

4. แสดงท่าทาง / เคลือ่ นไหว
ประกอบเพลง จงั หวะ และดนตรไี ด้

5. สนใจมคี วามสุขและแสดงออก
ผ่านงานศิลปะ

6. การปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาณและ
ข้อตกลง

บุระดับคณุ ภาพเป็น ๓ ระดบั คือ 7. การเก็บของเล่นของใชเ้ ข้าท่อี ยา่ ง เมินพัฒนาการ
๑ ตอ้ งส่งเสรมิ เรยี บร้อยด้วยตนเอง งคม
8. การฟังผอู้ ืน่ จนจบและสนทนา
3 โต้ตอบอย่างตอ่ เน่ืองเชือ่ มโยงกับเร่ือง ด้านสตปิ ัญญา
ทฟี่ งั

9. การคาดเดาหรือการคาดคะเนสิง่
ทอี่ าจจะเกิดขนึ้ อย่างมเี หตผุ ล
10. การเรยี งลาดับภาพเหตุการณ์

11. การตอ่ ภาพชน้ิ สว่ นย่อยเป็น
ภาพทสี่ มบรู ณ์

12. การใช้ประสาทสมั ผสั สงั เกต
สญั ญาณอันตราย

13. การเล่าเร่ืองจากประสบการณ์

14. การจดั หมวดหมู่สิง่ ภาพ

หมายเหตุ

หนว่ ยที่ 20 ลอยกระทง

นางสาวนนั ทนา มาตรเลงิ
ครปู ระจาชน้ั อนุบาล ๒

โรงเรียนบา้ นทา่ เย่ียมวิทยายล

สานักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษานครราชสมี า เขต ๗
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน

การวเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งหนว่ ยการจดั ประสบการณต์

หนว่ ยท่ี 20 ลอยกระทง ช้ันอน

รายการ อนุบาลปีที่ 1 1. ความเป็นม
สาระทีค่ วรเรยี นรู้ กระทง
1. ความเป็นมาและความสาคัญของ 2. กิจกรรมใน
มาตรฐาน ประเพณลี อยกระทง 3. การดูแลรกั
ตวั บ่งชี้ 2. การดูแลรกั ษาสงิ่ แวดล้อมในแม่นา 4. สว่ นประก
สภาพที่พึงประสงค์ 3. วัตถุบางชนดิ ลอยนาไดแ้ ละบางชนิด 5. ลกั ษณะรปู
จมนา 6. รปู ร่าง ขน
4. วัสดทุ ่ใี ช้ทาฐานกระทงใหล้ อยนาได้ การจมการลอ

มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3.1) มฐ 1 ตบช.
มฐ 2 ตบช. 2.1 (2.1.1) มฐ 2 ตบช.
มฐ 4 ตบช. 4.1 (4.1.1) (4.1.3) มฐ 4 ตบช.
มฐ 6 ตบช. ๖.2 (6.2.1) มฐ 6 ตบช.
มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.1) มฐ 9 ตบช.
มฐ 10 ตบช. 10.1 (10.1.๑) (10.1.2) มฐ 10 ตบช.

(10.1.3) มฐ 12 ตบช.
มฐ 12 ตบช. 12.2 (12.2.1)

ตามหลกั สตู รการศึกษาปฐมวัย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐

นบุ าลปที ่ี 1 – 3 ภาคเรยี นท่ี 2

อนบุ าลปีที่ 2 อนบุ าลปที ่ี 3
มาและความสาคญั ของวันลอย
1. ความเปน็ มาและความสาคญั ของประเพณี
นวนั ลอยกระทง ลอยกระทง
กษาส่ิงแวดลอ้ มในแม่นา 2. กลบี และฐานกระทง
กอบของกระทง 3. การจม - ลอยโดยการทดลองหาจานวนกลบี
ปร่างฐานกระทง กระทงท่มี ากท่สี ุดที่กระทงไม่จม
นาด พนื ทขี่ องฐานกระทงทม่ี ผี ลต่อ 4. การดูแลรักษาธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มใน
อย แมน่ า

. 1.3 (1.3.1) มฐ 1 ตบช. 1.3 (1.3.1)
. 2.1 (2.1.1) (2.1.2) มฐ 2 ตบช. 2.1 (2.1.1) (2.1.2)
. 4.1 (4.1.1) (4.1.3) มฐ 4 ตบช. 4.1 (4.1.1) (4.1.3)
. ๖.2 (6.2.1) มฐ 6 ตบช. ๖.2 (6.2.1)
. 9.1 (9.1.1) มฐ 7 ตบช. 7.1 (๗.๗.1)
. 10.1 (10.1.๑) (10.1.2) มฐ 9 ตบช. 9.1 (9.1.1)
(10.1.3) มฐ 10 ตบช. 10.1 (10.1.๑) (10.1.2)
. 12.2 (12.2.1)
(10.1.3)
มฐ 12 ตบช. 12.2 (12.2.1)

รายการ อนุบาลปที ี่ 1 รา่ งกาย
ประสบการณ์สาคัญ รา่ งกาย 1.1.1 การใช
1.1.1 การใช้กล้ามเนื้อใหญ่ (1) การเคล่ือ
(1) การเคล่ือนไหวอยู่กับท่ี (2) การเคล่ือ
(2) การเคล่ือนไหวเคลื่อนที่ (3) การเคลื่อ
(3) การเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุ อุปกรณ์ (5) การเล่นเ
(5) การเลน่ เคร่ืองเล่นสนามอย่างอิสระ 1.1.2 การใช
1.1.2 การใช้กล้ามเนือ้ เล็ก (2) การเขียน
(2) การเขียนภาพ (3) การป้ัน
(3) การปน้ั (5) การหยบิ
(4) การประดิษฐ์สิ่งตา่ งๆ ด้วยเศษวัสดุ การปะ และก
อารมณ์ จติ ใจ
อารมณ์ จิตใจ ๑.๒.๒ การเล
๑.๒.๒ การเล่น (๓) การเลน่ ต
(๓) การเลน่ ตามมุมประสบการณ์ ๑.๒.๔ การแส
๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์ (๔) การร้องเ
(๔) การรอ้ งเพลง (5) การทางา
(5) การทางานศลิ ปะ สงั คม
สังคม 1.3.4 การม
1.3.4 การมีปฏิสัมพนั ธ์ มีวินัย มสี ่วน และบทบาทส
รว่ มและบทบาทสมาชิกของสงั คม (4) การดแู ล
(4) การดแู ลหอ้ งเรียนร่วมกัน

อนบุ าลปที ่ี 2 อนบุ าลปีที่ 3

รา่ งกาย

ชก้ ลา้ มเน้อื ใหญ่ 1.1.1 การใชก้ ล้ามเนื้อใหญ่

อนไหวอยู่กับท่ี (1) การเคล่ือนไหวอยู่กับที่

อนไหวเคล่ือนท่ี (2) การเคล่ือนไหวเคลื่อนที่

อนไหวพร้อมวสั ดุ อปุ กรณ์ (3) การเคลื่อนไหวพร้อมวสั ดุ อุปกรณ์

เครื่องเลน่ สนามอย่างอสิ ระ (5) การเลน่ เครื่องเลน่ สนามอยา่ งอสิ ระ

ช้กลา้ มเน้อื เล็ก 1.1.2 การใชก้ ลา้ มเนื้อเลก็

นภาพ (2) การเขยี นภาพ

(3) การปนั้

บจับ การใชก้ รรไกร การฉกี การตัด (5) การหยบิ จบั การใช้กรรไกร การฉกี การตัด

การร้อยวัสดุ การปะ และการร้อยวสั ดุ

จ อารมณ์ จิตใจ

ล่น ๑.๒.๒ การเล่น

ตามมุมประสบการณ์ (๓) การเล่นตามมุมประสบการณ์

สดงออกทางอารมณ์ ๑.๒.๔ การแสดงออกทางอารมณ์

เพลง (๔) การรอ้ งเพลง

านศลิ ปะ (5) การทางานศิลปะ

สังคม

มีปฏสิ ัมพนั ธ์ มีวินยั มีส่วนร่วม 1.3.2 การดแู ลรักษาธรรมชาตแิ ละ

สมาชิกของสงั คม สิง่ แวดล้อม

ลหอ้ งเรียนร่วมกัน (6) การสนทนาข่าวและเหตุการณ์ทเ่ี ก่ียวข้อง

กบั ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมในชีวติ ประจาวนั

รายการ อนบุ าลปีท่ี 1

สตปิ ัญญา สตปิ ัญญา

1.4.1 การใช้ภาษา 1.4.1 การใช

(6) การพดู อธบิ ายเก่ียวกบั สิง่ ของ (6) การพูดอ

เหตกุ ารณแ์ ละความสมั พนั ธข์ องส่ิงตา่ งๆ และความสมั พ

1.4.2 การคดิ รวบยอด การคิดเชิง 1.4.2 การค

เหตุผล การตดั สินใจและแก้ปญั หา การตดั สินใจแ

(1) การสงั เกตลักษณะ สว่ นประกอบ (1) การสังเก

การเปล่ยี นแปลงและความสมั พนั ธ์ของสง่ิ การเปลยี่ นแป

ตา่ งๆโดยใชป้ ระสาทสมั พันธ์อยา่ ง โดยใช้ประสา

เหมาะสม (5) การคัดแ

(5) การคดั แยก การจดั กล่มุ และ การ ตา่ งๆตามลักษ

จาแนกสิง่ ตา่ งๆ ตามลกั ษณะและรูปรา่ ง (6) การต่อข

รปู ทรง และการแยกช
(6) การต่อของชินเล็กในชินใหญ่ให้
สมบรู ณแ์ ละการแยกชนิ (8) การนับแ
(8) การนับและแสดงจานวนของส่ิงตา่ งๆ ในชวี ิตประจา
(13) การจบั

อนบุ าลปที ี่ 2 อนุบาลปที ี่ 3
1.3.3 การปฏบิ ัติตามวัฒนธรรมทอ้ งถน่ิ และ
ช้ภาษา ความเป็นไทย
อธิบายเก่ยี วกับส่งิ ของเหตุการณ์ (2) การเล่นบทบาทสมมติการปฏิบตั ติ นใน
พันธข์ องส่ิงต่างๆ ความเป็นคนไทย
คิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผล 1.3.4 การมปี ฏสิ ัมพันธ์ มีวินยั มีส่วนรว่ ม
และแก้ปญั หา และบทบาทสมาชิกของสงั คม
กตลักษณะส่วนประกอบ (4) การดูแลห้องเรยี นร่วมกัน
ปลงและความสมั พันธข์ องสง่ิ ต่างๆ สติปญั ญา
าทสัมพนั ธ์อยา่ งเหมาะสม 1.4.1 การใช้ภาษา
แยก การจัดกลมุ่ และการจาแนกส่ิง (6) การพูดอธิบายเก่ียวกับส่ิงของเหตุการณ์
ษณะและรูปรา่ ง รปู ทรง และความสัมพันธ์ของส่ิงตา่ งๆ
ของชินเล็กในชนิ ใหญ่ใหส้ มบูรณ์ 1.4.2 การคิดรวบยอด การคิดเชงิ เหตผุ ล
ชิน การตดั สนิ ใจและแก้ปัญหา
และแสดงจานวนของสง่ิ ต่างๆ (1) การสังเกตลักษณะส่วนประกอบ
าวนั การเปล่ยี นแปลงและความสัมพันธข์ องสง่ิ ต่างๆ
บคู่ การเปรียบเทียบ และ โดยใช้ประสาทสัมพนั ธ์อย่างเหมาะสม
(5) การคดั แยก การจัดกลมุ่ และการจาแนกสิ่ง
ตา่ งๆตามลักษณะและรูปรา่ ง รูปทรง
(6) การต่อของชินเล็กในชินใหญ่ให้สมบูรณ์

และการแยกชนิ

(8) การนับและแสดงจานวนของสงิ่ ต่างๆ

ในชวี ติ ประจาวัน

(13) การจับคู่ การเปรยี บเทียบ และ การ

รายการ อนบุ าลปีท่ี 1 การเรยี งลาดับ
คณติ ศาสตร์ ในชวี ิตประจาวนั ความสูง นาห
(17) การคา
(13) การจับคู่ การเปรยี บเทียบ และ เกิดขนึ อยา่ งม
1.4.4 เจตคต
การเรียงลาดบั สิ่งต่างๆตามลักษณะ แสวงหาความ
(2) การตังคา
ความยาว/ความสงู นาหนัก ปรมิ าตร (3) การสบื เส
ของขอ้ สงสยั ต
(17) การคาดเดาหรือการคาดคะเนสง่ิ ที่ (4) การมีส่ว
อาจจะเกดิ ขนึ อย่างมเี หตผุ ล นาเสนอข้อมลู
1.4.4 เจตคติทดี่ ตี อ่ การเรยี นรูแ้ ละการ รปู แบบต่างๆแ
แสวงหาความรู้
(2) การตังคาถามในเรื่องที่สนใจ  นับปากเป
(3) การสบื เสาะหาความรเู้ พื่อคน้ หา  นบั และแส
คาตอบของข้อสงสัยต่างๆ  อา่ นตัวเลข
(4) การมสี ว่ นร่วมในการรวบรวมข้อมูล  เปรียบเทยี
และนาเสนอขอ้ มูลจากการสืบเสาะหา
ความร้ใู นรูปแบบตา่ งๆและแผนภมู ิ แตล่ ะกลุ่ม
อย่างงา่ ย  บอกจานว
 นับปากเปลา่ 1 – 5
 นับและแสดงจานวน 1 – 4 ต่างๆ สอง
 อา่ นตัวเลขฮนิ ดูอารบิก 1 – 4  เรียงลาดบั
 เปรยี บเทียบจานวนของส่งิ ต่างๆ

สองกลุม่ แตล่ ะกลุ่มมจี านวนไมเ่ กิน 3
 บอกได้วา่ เม่ือนาสิ่งต่างๆ สองกล่มุ มา

รวมกนั จะมีจานวนของส่งิ ต่างๆ
มากขึน

อนบุ าลปีท่ี 2 อนบุ าลปที ี่ 3

บส่ิงตา่ งๆตามลักษณะความยาว/ เรยี งลาดบั สงิ่ ตา่ งๆตามลกั ษณะความยาว/ความ

หนัก ปรมิ าตร สงู นาหนกั ปรมิ าตร

าดเดาหรือการคาดคะเนสง่ิ ทอ่ี าจจะ (17) การคาดเดาหรือการคาดคะเนสง่ิ ที่

มีเหตุผล อาจจะเกดิ ขึนอยา่ งมีเหตุผล

ติท่ดี ีตอ่ การเรียนรู้และการ 1.4.4 เจตคติทด่ี ีต่อการเรยี นร้แู ละการ

มรู้ แสวงหาความรู้

าถามในเรอื่ งทส่ี นใจ (2) การตังคาถามในเร่ืองที่สนใจ

สาะหาความร้เู พื่อคน้ หาคาตอบ (3) การสืบเสาะหาความรู้เพื่อคน้ หาคาตอบ

ตา่ งๆ ของข้อสงสยั ตา่ งๆ

วนรว่ มในการรวบรวมขอ้ มลู และ (4) การมสี ว่ นรว่ มในการรวบรวมขอ้ มูลและ

ลจากการสบื เสาะหาความรู้ใน นาเสนอข้อมูลจากการสืบเสาะหาความรู้ใน

และแผนภูมิอย่างงา่ ย รปู แบบต่างๆ และแผนภูมอิ ย่างง่าย

ปล่า 1 – 10  นบั ปากเปล่า 1 – 20
สดงจานวน 6  บอกและแสดงจานวน 1 – 10
ขฮินดอู ารบิก 1 – 6  อา่ นและเขียนตัวเลขฮินดูอารบกิ 1 – 10
ยบจานวนของสิง่ ตา่ งๆ สองกล่มุ  เปรยี บเทียบจานวนของส่งิ ตา่ งๆ สองกลมุ่
มมีจานวนไม่เกนิ 6
วนทงั หมดที่เกดิ จากการรวมสงิ่ แตล่ ะกลุ่มมีจานวนไมเ่ กนิ 10
งกลมุ่ ทมี่ ีผลรวมไม่เกนิ 5  บอกอันดับที่ของสงิ่ ต่างๆ ไม่เกนิ 5
บนาหนกั ของสิง่ ตา่ งๆ ไมเ่ กิน 3 ส่ิง  บอกจานวนทงั หมดทเ่ี กดิ จากการรวมส่ิง

ต่างๆ สองกลมุ่ ท่มี ผี ลรวมไม่เกิน 10

รายการ อนบุ าลปที ่ี 1

 เปรียบเทียบนาหนกั ของส่ิงต่างๆ  ชัง่ และบอ
โดยใช้คาหนักกว่า เบากว่า โดยใชเ้ ครื่อ
หนักเทา่ กัน มาตรฐาน

 ตวงทรายหรือนา โดยใช้ภาชนะต่างๆ
เชน่ ช้อน แกว้ ขวด และบอกจานวน
ทต่ี วง

วิทยาศาสตร์ - ทักษะการสังเกต - ทกั ษะการ

- ทกั ษะการจาแนก - ทกั ษะการ

- ทักษะการจดั การทาและสื่อความหมาย - ทกั ษะการ

- ทักษะการลงความเหน็ - ทกั ษะการ

พัฒนาการทางภาษา 1. ฟงั ผู้อน่ื พดู และพูดโต้ตอบเกี่ยวกับเร่ือง 1. ฟังผู้อืน่ พูด
และการรูห้ นงั สือ
ทฟี่ ังได้ ที่ฟัง

2. เลา่ ประสบการณ์ 2. เลา่ เร่ืองโด

อนบุ าลปที ี่ 2 อนบุ าลปที ี่ 3

อกนาหนักของสง่ิ ตา่ งๆ ที่กาหนดให้  ช่งั นาหนกั สิ่งต่างๆ เช่น ผลไม้ ขนม โดยใช้
องมือและหนว่ ยที่ไม่ใช่หน่วย ตาชง่ั สองแขนอยา่ งงา่ ย และบอกได้ว่าสง่ิ ใด
หนกั กว่า เบากวา่ หรอื หนักเทา่ กัน

รสงั เกต - ทกั ษะการสังเกต
รจาแนก - ทกั ษะการจาแนก
รจัดการทาและส่ือความหมาย - ทกั ษะการจดั ทาและสื่อความหมาย
รลงความเหน็ - ทกั ษะการลงความเห็น

ดจนจบและพูดโตต้ อบเกย่ี วกับเร่ือง 1. ฟังผอู้ ่นื พดู จนจบและสนทนาโต้ตอบอยา่ ง

ตอ่ เนอ่ื งเช่ือมโยงกบั เรอื่ งทฟี่ ัง

ดยใช้ประโยคอย่างต่อเนื่อง 2. การพูดอธิบายเกีย่ วกับสง่ิ ของ เหตุการณ์

และความสัมพนั ธ์ของสงิ่ ตา่ งๆ

หน่วยการจัดประสบการณท์ ี่ 20
แนวคิด

วันลอยกระทง เป็นวันสาคญั ของคนไทย ที่ยึดถือ ปฏิบัติกันมานานตังแต่สม
ใส่ดอกไม้ ธูปเทยี น ไปลอยทแ่ี มน่ าเพื่อขอขมาพระแม่คงคา ท่ีทิงส่ิงสกปรกลงไปทาใหแ้

มาตรฐานหลักสูตรปฐมวัย จดุ

มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพท่พี ึงประสงค์ 1. เล่นแล
ปลอดภัยด
มาตรฐานที่ 1 1.3 รกั ษาความ 1.3.1 เล่นและทา

ร่างกายเจริญเตบิ โต ปลอดภยั ของตนเอง กจิ กรรมอย่างปลอดภัย

ตามวยั และมสี ุขนิสยั และผูอ้ นื่ ด้วยตนเอง

ทด่ี ี

มาตรฐานที่ ๒ ๒.๑ เคลื่อนไหว ๒.๑.1 เดินต่อเท้าไป 2. เดนิ ต่อ
กล้ามเนือใหญแ่ ละ รา่ งกายอย่าง ขา้ งหน้าเปน็ เสน้ ตรงได้ โดยไมต่ ้อ
กลา้ มเนือเล็กแข็งแรง คล่องแคล่วประสาน โดยไมต่ ้องกางแขน
ใชไ้ ดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคล่ว สมั พนั ธ์และทรงตวั
และ ประสานสัมพนั ธ์ ได้
กัน

0 ลอยกระทง ช้ันอนบุ าลปีที่ 2

มัยกรุงสุโขทัย ตรงกับวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวง เดือนพฤศจิกายน ผู้คนจะทากระทง
แมน่ าเน่าเสยี

ดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้

ประสบการณ์สาคญั สาระที่ควรเรียนรู้

ละทากจิ กรรมอยา่ ง 1.1.1. การใช้กล้ามเนื้อใหญ่ 1. ความเปน็ มาและ

ด้วยตนเองได้ (5) การเล่นเคร่ืองเล่นสนามอย่าง ความสาคญั ของวันลอย

อิสระ กระทง

1.1.4 การรกั ษาความปลอดภยั 2. กจิ กรรมในวนั ลอย

(3) การเล่นเครื่องเล่นอย่าง กระทง

ปลอดภยั 3. การดูแลรักษา

1.1.5 การตระหนกั รเู้ กย่ี วกับ ส่งิ แวดลอ้ มในแมน่ า

ร่างกายตนเอง 4. ส่วนประกอบของ

(1) การเคล่ือนไหวโดยควบคุม กระทง

ตนเองไปในทิศทาง ระดบั และ 5. ลักษณะรูปร่างฐาน

พืนท่ี กระทง

อเทา้ ไปขา้ งหนา้ เปน็ เส้นตรง 1.1.1. การใช้กลา้ มเน้อื ใหญ่ 6. รปู รา่ ง ขนาด พืนท่ี

งกางแขนได้ (1) การเคลื่อนไหวอย่กู ับท่ี ของฐานกระทงท่ีมีผลต่อ

(2) การเคลื่อนไหวเคล่ือนที่ การจมการลอย

(3) การเคล่ือนไหวพร้อมวัสดุ

อุปกรณ์

มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จุดป

มาตรฐาน ตัวบ่งช้ี สภาพทพ่ี ึงประสงค์

มาตรฐานท่ี ๔ ๔.๑ สนใจและ 4.1.1 สนใจมี ๓. สนใจมีคว

ชนื่ ชมและแสดงออก มีความสุขกับศลิ ปะ ความสุขและ งานศลิ ปะได้

ทางศลิ ปะ ดนตรี และ ดนตรี และการ แสดงออกผ่านงาน

การเคลื่อนไหว เคลอ่ื นไหว ศิลปะ

4.1.3 สนใจ มี ๔. สนใจ มีคว

ความสุขและแสดง เคลื่อนไหวปร

ทา่ ทาง/เคลอื่ นไหว ดนตรีได้

ประกอบเพลง

จังหวะและดนตรี

ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียน สาระทค่ี วรเรยี นรู้
วามสุขและแสดงออกผา่ น
ประสบการณส์ าคญั
วามสุขและแสดงท่าทาง /
ระกอบเพลง จงั หวะ และ 1.1.2 การใช้กล้ามเนือ้ เล็ก
(2) การเขียนภาพและการเล่นกบั สี
(3) การป้นั
(4) การประดษิ ฐ์ส่งิ ต่างๆ ดว้ ยเศษวัสดุ
1.2.1 สุนทรียภาพ ดนตรี
(3) การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง/
ดนตรี
1.2.4 การแสดงออกทางอารมณ์
(4) การรอ้ งเพลง
(5) การทางานศิลปะ
1.1.5 การตระหนกั รูเ้ กี่ยวกับร่างกาย
ตนเอง
(1) การเคลื่อนไหวโดยควบคุมตนเอง
ไปในทิศทาง ระดับและพืนที่

มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จุดป

มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพท่ีพึงประสงค์

มาตรฐานที่ ๖ 6.2 มีวินยั ในตนเอง 6.2.1 เก็บของเลน่ ๕. เกบ็ ของเล

มีทกั ษะชวี ติ และ ของใช้เขา้ ท่ดี ว้ ย

ปฏบิ ัตติ นตามหลกั ตนเอง

ปรชั ญาของเศรษฐกจิ

พอเพียง

มาตรฐานท่ี ๙ ๙.๑ สนทนาโตต้ อบ ๙.1.1 ฟงั ผู้อืน่ พูด ๖. ฟังผอู้ น่ื พูด
ใชภ้ าษาสื่อสารได้ และเล่าเรื่องใหผ้ ู้อน่ื จนจบและสนทนา สอดคล้องกบั
เหมาะสมกบั วยั เขา้ ใจ โต้ตอบสอดคล้องกบั

เรอื่ งท่ีฟัง

ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้
ลน่ เข้าท่ดี ว้ ยตนเองได้
ประสบการณส์ าคญั สาระที่ควรเรียนรู้
ดจนจบและสนทนาโตต้ อบ
บเร่ืองที่ฟงั ได้ ๑.๒.๒ การเลน่

(๓) การเลน่ ตามมุม

ประสบการณ์

1.3.4 การมีปฏสิ ัมพันธ์ มีวินยั

มีส่วนร่วมและบทบาทสมาชิก

ของสังคม

(4) การดูแลห้องเรยี นร่วมกัน

1.4.1 การใช้ภาษา

(6) การพูดอธบิ ายเกยี่ วกบั

สงิ่ ของเหตุการณ์และ

ความสมั พันธข์ องส่งิ ตา่ งๆ

มาตรฐานหลกั สตู รปฐมวัย จุดป

มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พงึ ประสงค์

มาตรฐานท่ี ๑๐ ๑๐.1 มี ๑๐.1.1 บอก ๗. บอกลกั ษณ

มคี วามสามารถใน ความสามารถใน ลักษณะและ สิง่ ต่างๆจากก

การคิดที่เป็นพนื ฐาน การคิดรวบยอด ส่วนประกอบของสงิ่ สมั ผัสได้

ในการเรียนรู้ ต่างๆจากการสังเกต

โดยใชป้ ระสาทสมั ผัส

๑๐.1.2 จบั คแู่ ละ ๘. จบั คแู่ ละเ

เปรียบเทียบความ หรือความเหม

แตกตา่ งหรือความ ลักษณะทีส่ ังเ

เหมือนของสง่ิ ต่างๆ ได้

โดยใชล้ ักษณะที่

สังเกตพบเพียง

ลักษณะเดยี ว

ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้
ณะและสว่ นประกอบของ
การสงั เกตโดยใช้ประสาท ประสบการณส์ าคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้

เปรยี บเทียบความแตกต่าง 1.4.2 การคิดรวบยอด
มือนของส่งิ ต่างๆ โดยใช้
เกตพบเพยี งลักษณะเดียว การคิดเชิงเหตผุ ล

การตัดสนิ ใจและแก้ปญั หา

(1) การสงั เกตลักษณะ

สว่ นประกอบ การเปลี่ยนแปลง

และความสัมพนั ธข์ องสิ่งตา่ งๆ

โดยใชป้ ระสาทสัมพันธ์อยา่ ง

เหมาะสม

(๕) การคัดแยก การจดั กลมุ่

และการจาแนกส่งิ ต่างๆตาม

ลักษณะ และรปู ร่างรปู ทรง

(6) การต่อของชนิ เล็กในชิน

ใหญใ่ หส้ มบูรณ์และการแยกชิน

มาตรฐานหลักสตู รปฐมวัย จดุ ป

มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพท่พี ึงประสงค์

มาตรฐานท่ี ๑๐ ๑๐.1 ๑๐.1.3 จาแนกและ ๙. จาแนกแล

มคี วามสามารถในการ มีความสามารถใน จดั กลุ่มส่งิ ต่างๆ อยา่ งน้อยหน

คดิ ที่เปน็ พืนฐานใน การคดิ รวบยอด โดยใช้อยา่ งนอ้ ยหนึง่

การเรียนรู้ ลกั ษณะเปน็ เกณฑ์

ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้

ละจัดกลมุ่ สง่ิ ตา่ งๆ โดยใช้ ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรเรียนรู้
น่ึงลกั ษณะเป็นเกณฑ์ได้
(8) การนบั และแสดงจานวน

ของส่งิ ตา่ งๆในชวี ติ ประจาวัน

(13) การจับคู่ การเปรียบเทียบ

และการเรียงลาดับสิ่งต่างๆ

ตามลักษณะความยาว/ความสูง

นาหนกั ปรมิ าตร

มาตรฐานหลกั สูตรปฐมวัย จุดป

มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพทีพ่ ึงประสงค์

มาตรฐานท่ี ๑๒ ๑๒.๒ ๑๒.๒.1 ค้นหา 10. คน้ หาคา

มีเจตคติท่ดี ีต่อการ มีความสามารถใน คาตอบของข้อสงสัย ตามวธิ ีการขอ

เรยี นรู้ และการ การแสวงหาความรู้ ตา่ งๆตามวิธีการของ

แสวงหาความรู้ ตนเอง

ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้

าตอบของข้อสงสัยต่างๆ ประสบการณ์สาคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้
องตนเองได้
1.4.2 การคิดรวบยอด

การคิดเชิงเหตุผล การตัดสิน

และแก้ปัญหา

(17) การคาดเดาหรอื การ

คาดคะเนสิง่ ที่อาจจะเกดิ ขึน

อยา่ งมเี หตผุ ล

1.4.4 เจตคตทิ ด่ี ีตอ่ การเรียนรู้

และการแสวงหาความรู้

(2) การตงั คาถามในเร่ืองท่ี

สนใจ

(3) การสบื เสาะหาความรู้เพ่ือ

คน้ หาคาตอบของข้อสงสยั ตา่ งๆ

(4) การมสี ว่ นร่วมใน

การรวบรวมขอ้ มลู และนาเสนอ

ข้อมูลจากการสืบเสาะหาความรู้

ในรูปแบบตา่ งๆ และแผนภูมิ

อยา่ งงา่ ย

ผงั ความคดิ แผนการจัดประสบการณ

๑. กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ ๒. กจิ กรรมเสร
1. การทาท่าประกอบเพลงวันเพญ็ เดือนสิบสอง
2. การปฏิบตั ติ นเปน็ ผนู้ าผู้ตาม 1. ความเป็นมาและความ
3. การเคล่ือนไหวตามคาสั่ง 2. กิจกรรมในวันลอยกระ
4. การเคลือ่ นไหวตามคาบรรยาย 3. การดูแลรกั ษาสิง่ แวดล
5. การเคลือ่ นไหวสร้างสรรค์ประกอบกระทง 4. สว่ นประกอบของกระท
5. ลกั ษณะรูปรา่ งฐานกระ
๔. กิจกรรมเลน่ ตามมุม 6. รปู ร่าง ขนาด พืนท่ีของ
จมการลอย
- การเลน่ ตามมุมประสบการณ์
หน
ลอยก
ช้นั อนบุ า

๕. กจิ กรรมกลางแจ

๑. การเล่นเคร่อื งเลน่ สนาม
๒. การเลน่ นา – เล่นทราย
๓. เดนิ ตอ่ เท้าไปขา้ งหนา้ เปน็ เส้นตรง
4. เกมนาขนึ – นาลง
๕. กระโดดขาเดยี วอยู่กบั ท่ี

ณ์หนว่ ยลอยกระทง ช้นั อนบุ าลปที ่ี 2

รมิ ประสบการณ์ ๓. กจิ กรรมศิลปะสร้างสรรค์
มสาคญั ของวันลอยกระทง 1. วาดรปู ระบายสีกระทงที่เคยเห็นหรอื ท่ีชอบ
ะทง 2. วาดภาพฐานกระทงที่คดิ ว่าจะลอยนาได้ดี และ
ลอ้ มในแม่นา ตอ่ เติมรายละเอยี ดตามจนิ ตนาการของตนเอง
ทง 3. ปั้นดินนามันเป็นรูปทรงต่างๆเรยี งตอ่ กันตาม
ะทง จินตนาการ
งฐานกระทงทมี่ ผี ลต่อการ 4. วาดรูปกระทงตามจินตนาการโดยใชร้ ปู รา่ ง
เรขาคณิต
น่วย 5. ประดษิ ฐ์กระทงจากเศษวัสดุ
กระทง
าลปที ่ี 2 ๖. กิจกรรมเกมการศกึ ษา

จ้ง 1. เกมภาพตดั ต่อกระทง
2. เกมจับคูภ่ าพกระทงกับจานวนตวั เลข 1 - 6
ง 3. เกมจบั คภู่ าพกระทงทม่ี ีจานวนเทา่ กนั
4. เกมจัดหมวดหมภู่ าพกับสญั ลักษณ์
5. เกมจัดหมวดหมู่ภาพวัสดุนามาทากระทง

การวางแผนกิจกรรมรายหน่วยการจดั ประส

วันที่ เคล่อื นไหวและจังหวะ เสริมประสบการณ์

1 - เคลื่อนไหวร่างกาย - ความเป็นมาและความสาคัญของประเพณี

พนื ฐาน ลอยกระทง

- ทาทา่ ประกอบ - กิจกรรมในวนั ลอยกระทง

เพลงวนั เพญ็ เดือน - การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในแมน่ า

สบิ สอง - สว่ นประกอบของกระทง

2 - เคลื่อนไหวรา่ งกาย ลักษณะรปู รา่ งฐานกระทง
พืนฐาน - เลา่ ประสบการณท์ เ่ี คยเห็นเกย่ี วกับฐาน
- ปฏิบัตติ นเปน็ ผ้นู า กระทงว่ามลี กั ษณะอย่างไร
ผูต้ าม - คาดคะเนว่าฐานกระทงจะลอยนาได้ดคี วรมี
รูปร่างอย่างไร

3 - เคลอ่ื นไหวร่างกาย รูปรา่ งขนาดพืนทข่ี องฐานกระทงท่ีมผี ลตอ่
พืนฐาน การจมและลอย
- เคล่ือนไหวตามคาสง่ั - ทดสอบการปน้ั ดนิ นามนั แผ่เป็นรูปฐานกระทง
(รปู รา่ ง พืนที่ ความหนา)

สบการณ์ ชัน้ อนบุ าลปีท่ี 2 หน่วยลอยกระทง

กจิ กรรม

สรา้ งสรรค์ เลน่ ตามมมุ กลางแจ้ง เกมการศกึ ษา

วาดรปู ระบายสีกระทงทีเ่ คย เลน่ ตามมมุ เล่นเคร่ืองเลน่ เกมภาพตัดต่อ
สนาม กระทง
เห็นหรอื ทีช่ อบ ประสบการณ์

วาดภาพฐานกระทงที่คดิ วา่ เล่นตามมุม เลน่ นาเลน่ ทราย เกมจับค่ภู าพกระทง
จะลอยนาได้ดี และตอ่ เติม ประสบการณ์ กับจานวนตัวเลข
รายละเอียดตามจินตนาการ 1-6
ของตนเอง

ปั้นดินนามันเป็น เล่นตามมุม เดินต่อเทา้ ไป เกมจบั คูภ่ าพกระทง
ขา้ งหนา้ เปน็ ท่ีมจี านวนเทา่ กนั
รปู ทรงตา่ งๆ เรยี งต่อกนั ตาม ประสบการณ์ เส้นตรง

จินตนาการ

วนั ที่ เคลื่อนไหวและจังหวะ เสรมิ ประสบการณ์

4 - เคลื่อนไหวรา่ งกาย - รปู รา่ งขนาดพนื ที่ของฐานกระทงท่ีมีผลตอ่

พนื ฐาน การจมและลอย

- เคล่อื นไหวตามคา - สังเกตและบรรยายการลอยของฐานกระทง

บรรยาย ที่ทาจากดนิ นามันรูปร่างต่างกัน พนื ทต่ี า่ งกนั

ความหนาตา่ งกัน

- สงั เกตการลอยจมแต่ละแบบตา่ งกนั อยา่ งไร

5 เคลอ่ื นไหวสร้างสรรค์ รปู ร่างขนาดพนื ทีข่ องฐานกระทงท่ีมผี ลตอ่

ประกอบกระทง การจมและลอยสรปุ และอภปิ รายผล

- รปู ร่างแบบใดลอยนาได้ดที ่ีสุด

- พนื ที่กว้าง/แคบแบบใดลอยนาได้ดีท่ีสุด

- ฐานกระทงแบบใดจะลอยนาไดด้ ีท่สี ดุ

กจิ กรรม เลน่ ตามมมุ กลางแจ้ง เกมการศึกษา

สรา้ งสรรค์ เลน่ ตามมมุ เกมนาขึนนาลง เกมจัดหมวดหม่ภู าพ
ประสบการณ์ กบั สญั ลักษณ์
วาดรปู กระทงตาม
จนิ ตนาการโดยใชร้ ูปร่าง
เรขาคณติ

ประดิษฐก์ ระทงจากเศษวสั ดุ เล่นตามมุม กระโดดขาเดยี ว เกมจัดหมวดหมภู่ าพ

ประสบการณ์ อยูก่ ับที่ วสั ดุนามาทากระทง

แผนการจัดประสบการณ์รายวนั วนั ท่ี 1

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้

ประสบการณส์ าคัญ สาระที่ควรรู้

กิจกรรมเคลอื่ นไหวและจังหวะ (3) การเคล่ือนไหวตาม
สนใจ มคี วามสขุ และแสดง เสยี งเพลงและดนตรี
ทา่ ทาง / เคล่ือนไหวประกอบ

จงั หวะ และดนตรีได้

กิจกรรมเสริมประสบการณ์ (1) การสงั เกตลกั ษณะ 1. ความเป็นมา
และความสาคญั
1. บอกลักษณะและ สว่ นประกอบการเปล่ยี นแปลง ของประเพณีลอย
กระทง
ส่วนประกอบของสิง่ ต่างๆจาก และความสมั พนั ธ์ของสิง่ ต่างๆ

การสังเกตโดยใช้ประสาทสมั ผัส โดยใชป้ ระสาทสัมผสั อยา่ ง

ได้ เหมาะสม

หนว่ ยที่ 20 ลอยกระทง ชัน้ อนุบาลปีท่ี 2

กิจกรรมการเรียนรู้ สอ่ื การประเมนิ
พฒั นาการ
1. กจิ กรรมพืนฐานให้เด็กเคลื่อนไหว 1. เคร่อื งเคาะ สงั เกต
สนใจ มีความสขุ และ
รา่ งกายไปทว่ั บรเิ วณอยา่ งอิสระตามจังหวะ จงั หวะ แสดงท่าทาง /
เคลือ่ นไหวประกอบ
เมอื่ ได้ยินสัญญาณหยุด ใหห้ ยดุ เคล่ือนไหว 2. เพลงวนั เพญ็ จังหวะ และดนตรี

คา้ งไวใ้ นท่านนั ทันที เดอื นสบิ สอง สังเกต
1. การบอกลกั ษณะ
2. เด็กตบมือพร้อมยา่ เท้าอยู่กบั ที่ 10 ครงั และส่วนประกอบของ
สงิ่ ต่างๆจากการสงั เกต
3. เดก็ จบั คทู่ าท่าประกอบเพลงวันเพ็ญ โดยใชป้ ระสาทสมั ผัส

เดอื นสบิ สอง เม่ือเสยี งเพลงหยุดให้เปลย่ี นคู่

ทันที

4. เด็กปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามข้อ 3 ไปเรื่อยๆ

จนหมดเวลา ครูสังเกตความสนใจ การ

แสดงออก

5. เด็กผ่อนคลายกลา้ มเนือนวดสว่ นตา่ งๆ

ของรา่ งกายเรม่ิ จากศีรษะ แขน ขอ้ มือ มอื

และเท้าอยา่ งละ 10 ครัง

1. ครเู ลา่ ความเปน็ มาและความสาคญั ของ 1. ภาพประเพณี

วนั ลอยกระทงและสนทนากบั เด็กเกี่ยวกบั วันลอยกระทง

กจิ กรรมในวนั ลอยกระทงว่ามีอะไรบา้ งโดย 2. ภาพกิจกรรม

ใช้ภาพประกอบ ในวนั ลอยกระทง

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ สาระการเรียนรู้

2. ฟงั ผู้อืน่ พดู จนจบและ ประสบการณ์สาคัญ สาระที่ควรรู้
สนทนาโตต้ อบสอดคลอ้ งกับ
เรื่องท่ีฟังได้ (6) การพูดอธิบาย 2. กจิ กรรมในวันลอย

เก่ียวกับสิง่ ของ กระทง

เหตกุ ารณ์และ 3. สว่ นประกอบของ

ความสัมพันธข์ องส่งิ กระทงไดแ้ ก่ ฐานกระทง

ต่างๆ และกลีบกระทง

กจิ กรรมศลิ ปะสร้างสรรค์ (2) การเขยี นภาพและ

สนใจมีความสขุ และแสดงออก การเลน่ กับสี

ผา่ นงานศิลปะได้ (5) การทางานศิลปะ

กจิ กรรมการเรยี นรู้ สอ่ื การประเมิน
พฒั นาการ
2. ครูนากระทงของจริงมาให้เดก็ ๆสังเกต 3. กระทงของ
รปู รา่ ง ลกั ษณะ และบอกส่วนประกอบของ จริง 2. การฟงั ผอู้ ืน่ พูดจน
กระทงมีอะไร ทามาจากอะไร จบและสนทนาโต้ตอบ
3. เดก็ เลา่ ประสบการณเ์ กีย่ วกับกระทงที่ สอดคลอ้ งกบั เรื่องท่ีฟงั
เคยเหน็ หรอื เคยนาไปลอยวา่ ใสอ่ ะไรลงใน
กระทงบ้าง แล้วทาไมกระทงจึงลอยนาได้
ขนาดของฐานกระทงแบบใดจะลอยนาได้ดี
4 .เด็กทบทวนเพลงวนั เพ็ญเดอื นสบิ สอง

1. ครเู ตรยี มอปุ กรณ์กิจกรรมวาดภาพ 1. สีเทียน สงั เกต
ความสนใจมีความสุข
สีเทยี นตามจนิ ตนาการ 2. กระดาษขาว และแสดงออกผา่ นงาน
ศลิ ปะ
2. ครแู นะนาอปุ กรณ์ วิธีการปฏบิ ัตแิ ละ

ขอ้ ตกลงในการปฏิบตั ิกิจกรรม

3. เดก็ วาดภาพระบายสีเกีย่ วกับกระทงของ

ตนเองทีเ่ คยทาหรือเคยเหน็ แล้วรสู้ กึ ชอบ

ที่สุด

4. เด็กรว่ มกนั เก็บอปุ กรณ์และนาเสนอ

ผลงาน


Click to View FlipBook Version