คำนิยม
ภาระหนาที่สำคัญประการหนึ่งของประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษที่กำหนดไว
ตามกฎหมายวาดวยการจัดตั้งศาลชำนัญพิเศษตาง ๆ คือ การวินิจฉัยชี้ขาดในกรณีมีปญหาวา
คดีใดอยูในอำนาจพิจารณาพิพากษาของคดีชำนัญพิเศษหรือศาลยุติธรรมอื่น แมคำวินิจฉัยดังกลาว
จะมีลักษณะเปนการวินิจฉัยเฉพาะคดีและไมมีผลผูกพันคดีอื่นใหตองถือปฏิบัติตาม แตคำวินิจฉัย
ที่มีมาตรฐานและเปนไปในแนวบรรทัดฐานเดียวกันยอมเปนสิ่งสำคัญที่ผูเกี่ยวของสามารถ
ใชยึดถือเปนแนวทางในการดำเนินคดีที่มีปญหาทำนองเดียวกันไดในระดับหนึ่ง เนื่องจาก
ประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษมีคำวินิจฉัยไวจำนวนมากแตยังไมมีการรวบรวมคำวินิจฉัย
ของประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษอยางเปนระบบ เมื่อมีโอกาสมาดำรงตำแหนงประธาน
ศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษจึงมีแนวความคิดวาการรวบรวมคำวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ
คดีชำนัญพิเศษเพื่อเผยแพรจะเปนการสงเสริมสนับสนุนภาระหนาที่ดังกลาวของประธาน
ศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษ ตลอดจนเปนแหลงขอมูลในการสืบคนของผูที่เกี่ยวของไดเปนอยางดี
จึงแตงตั้งคณะทำงานขึ้นมาดำเนินการรวบรวมคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษ
ที่วินิจฉัยไวตั้งแตศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษเริ่มเปดทำการมาจัดหมวดหมู จัดทำและเผยแพร
อยางเปนรูปธรรมในหลากหลายรูปแบบ ซึ่งการจัดทำหนังสือรวมคำวินิจฉัยของประธาน
ศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษเลมนี้ถือเปนรูปแบบหนึ่งที่เกิดจากผลงานแหงความพากเพียร
นาชื่นชมของคณะทำงานฯ ซึ่งเชื่อมั่นไดวาจะเปนประโยชนแกผูที่เกี่ยวของในการจัดทำคำวินิจฉัย
ของประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษและผูที่สนใจตอไป
ทั้งนี้ ดิฉันขอขอบคุณสำนักงานศาลยุติธรรมที่เล็งเห็นถึงความสำคัญและสนับสนุน
งบประมาณในการจัดทำหนังสือเลมนี้ ขอชื่นชมและขอบคุณคณะทำงานฯ ที่ปรึกษาของคณะทำงานฯ
และผูที่เกี่ยวของที่รวมแรงรวมใจกันจัดทำใหหนังสือเลมนี้สำเร็จขึ้นดวยความวิริยอุตสาหะ
ขอขอบคุณทานรองประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษทั้งหาแผนกที่ใหคำแนะนำทรงคุณคา
แกคณะทำงานฯ สงผลใหหนังสือเลมนี้มีความสมบูรณบรรลุตามวัตถุประสงคทุกประการ
(นางอโนชา ชีวิตโสภณ)
ประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษ
คำนำ
ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลชำนัญพิเศษ ไดแก ศาลเยาวชนและครอบครัว ศาลแรงงาน
ศาลลมละลาย ศาลภาษีอากร และศาลทรัพยสินทางปญญาและการคาระหวางประเทศ ลวนแต
มีบทบัญญัติใหอำนาจประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษเปนผูวินิจฉัยในกรณีมีปญหาวาคดีใด
จะอยูในอำนาจของศาลชำนัญพิเศษนั้นหรือไม ไมวาปญหานั้นจะเกิดขึ้นในศาลชำนัญพิเศษนั้นเอง
หรือศาลยุติธรรมอื่น ศาลนั้นไมสามารถดำเนินกระบวนพิจารณาตอไปได ตองรอการพิจารณา
พิพากษาคดีไวชั่วคราวจนกวาประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษจะมีคำวินิจฉัยในปญหา
เชนวานั้นเสียกอนและเมื่อประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษมีคำวินิจฉัยแลว คำวินิจฉัยของ
ประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษใหเปนที่สุด การเผยแพรคำวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ
คดีชำนัญพิเศษทั้งหาแผนกคดีที่สำคัญไวในหนังสือเลมเดียวกันจึงเปนประโยชนอยางยิ่งแก
ผูพิพากษา นักกฎหมาย และผูสนใจทั่วไป
ครั้นทานอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษเขารับตำแหนง
เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ไดมีนโยบายใหรวบรวมคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษ
และคำวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษที่ไดรับแจงการอานแลวตั้งแตวันที่
ศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษเปดทำการจนถึงปจจุบัน ตอมาจึงมีคำสั่งแตงตั้งคณะทำงานรวบรวม
คำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษและคำวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ
คดีชำนัญพิเศษ ที่ ๓๒/๒๕๖๕ ลงวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๖๕ และคำสั่งที่ ๓๔/๒๕๖๕ ลงวันที่ ๑๙
พฤษภาคม ๒๕๖๕ โดยมีกรอบระยะเวลาดำเนินการใหเสร็จภายในเดือนสิงหาคม ๒๕๖๕
บัดนี้ การจัดทำหนังสือรวบรวมคำวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษ
ทั้งหาแผนกคดีตั้งแตวันที่ศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษเปดทำการวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ จนถึง
ปจจุบัน (เดือนมิถุนายน ๒๕๖๕) ตามคำสั่งประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษ ที่ ๓๒/๒๕๖๕
และ ๓๔/๒๕๖๕ ไดเสร็จสิ้นลงแลว คณะทำงานฯ หวังวาหนังสือรวบรวมคำวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ
คดีชำนัญพิเศษเลมนี้จะเปนประโยชนตอผูพิพากษาตลอดจนนักกฎหมายและผูสนใจทั่วไป
ขอขอบพระคุณประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษ คณะทำงานฯ ที่ปรึกษา และผูที่เกี่ยวของ
ทุกทานที่ทุมเทเสียสละในการจัดทำหนังสือรวบรวมคำวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษ
ทั้งหาแผนกคดีจนบรรลุวัตถุประสงคซึ่งเปนประโยชนอยางยิ่งตอราชการศาลยุติธรรมสืบไป
(นายพิทักษ หลิมจานนท)
ประธานกรรมการรวบรวมคำพิพากษาหรือคำสั่ง
ศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษและคำวินิจฉัย
ของประธานศาลอุทธรณคดีชำนัญพิเศษ
สารบัญรวมค�าวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ์คดีช�านัญพิเศษ
คดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
หน้า
ี
๑. คดีอาญาเก่ยวกับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๗๑ ถึงมาตรา ๒๗๕
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๗๕/๒๕๖๒ ๒
๒. คดีแพ่งเกี่ยวกับเครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร และ
คดีพิพาทตามสัญญาถ่ายทอดเทคโนโลยี หรือสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๖/๒๕๕๙ ๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๙/๒๕๕๙ ๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๑๓/๒๕๕๙ ๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๑/๒๕๖๐ ๑๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๘/๒๕๖๐ ๑๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๙/๒๕๖๐ ๑๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๓๒/๒๕๖๐ ๒๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๓๔/๒๕๖๐ ๒๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๓๕/๒๕๖๐ ๒๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๓๖/๒๕๖๐ ๓๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๕๑/๒๕๖๐ ๓๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๖/๒๕๖๑ ๓๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๕/๒๕๖๑ ๔๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๓/๒๕๖๒ ๔๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๒/๒๕๖๒ ๔๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๘/๒๕๖๒ ๕๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๓๐/๒๕๖๒ ๕๔
หน้า
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๐/๒๕๖๓ ๕๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๖/๒๕๖๓ ๖๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๖/๒๕๖๓ ๖๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๙/๒๕๖๓ ๖๔
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๕/๒๕๖๔ ๖๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๕๙/๒๕๖๔ ๗๐
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๒/๒๕๕๙ ๗๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๕๐/๒๕๖๑ ๗๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๘๓/๒๕๖๒ ๘๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๑/๒๕๖๓ ๘๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๒/๒๕๖๓ ๘๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๔/๒๕๖๓ ๘๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๕/๒๕๖๓ ๙๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๓/๒๕๖๔ ๙๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๕๘/๒๕๖๔ ๙๘
�
๓. คดีแพ่งอันเนื่องมาจากการกระทาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา ๒๗๑ ถึงมาตรา ๒๗๕
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๓/๒๕๖๐ ๑๐๕
๔. คดีแพ่งเกี่ยวกับการซื้อขาย แลกเปลี่ยนสินค้า หรือตราสารการเงินระหว่างประเทศ
หรือการให้บริการระหว่างประเทศ การขนส่งระหว่างประเทศ การประกันภัย
และนิติกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่อง
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๑๐/๒๕๕๙ ๑๐๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๑๔/๒๕๕๙ ๑๑๒
หน้า
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔/๒๕๖๐ ๑๑๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๕/๒๕๖๐ ๑๑๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๕/๒๕๖๐ ๑๒๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๖/๒๕๖๐ ๑๒๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๗/๒๕๖๐ ๑๒๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๐/๒๕๖๐ ๑๓๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๖/๒๕๖๐ ๑๓๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๓/๒๕๖๐ ๑๓๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๖/๒๕๖๐ ๑๔๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๗/๒๕๖๐ ๑๔๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๗/๒๕๖๑ ๑๔๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๙/๒๕๖๑ ๑๕๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๓๖/๒๕๖๒ ๑๕๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๓๘/๒๕๖๒ ๑๖๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๖๙/๒๕๖๒ ๑๖๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๗๗/๒๕๖๒ ๑๖๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑/๒๕๖๓ ๑๗๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๗/๒๕๖๓ ๑๗๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๘/๒๕๖๔ ๑๗๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๖/๒๕๖๔ ๑๗๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๕/๒๕๖๔ ๑๘๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๗/๒๕๖๔ ๑๘๔
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๑/๒๕๕๙ ๑๘๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๔/๒๕๕๙ ๑๙๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๗/๒๕๕๙ ๑๙๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๘/๒๕๕๙ ๒๐๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๑๕ - ๑๖/๒๕๕๙ ๒๐๕
หน้า
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๔/๒๕๖๐ ๒๑๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๔/๒๕๖๐ ๒๑๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๕/๒๕๖๐ ๒๒๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๗/๒๕๖๐ ๒๒๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๖๐/๒๕๖๐ ๒๒๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๙/๒๕๖๑ ๒๓๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๕๒/๒๕๖๑ ๒๓๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๑/๒๕๖๒ ๒๓๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๓/๒๕๖๒ ๒๔๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๗/๒๕๖๒ ๒๔๔
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๕๓/๒๕๖๒ ๒๔๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๖๘/๒๕๖๒ ๒๕๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๗๐/๒๕๖๒ ๒๕๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๘/๒๕๖๓ ๒๕๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๕/๒๕๖๓ ๒๖๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๗/๒๕๖๓ ๒๖๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๔/๒๕๖๓ ๒๗๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๓๐/๒๕๖๓ ๒๗๔
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๖๑/๒๕๖๓ ๒๗๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๓๒/๒๕๖๔ ๒๘๑
๕. คดีแพ่งเกี่ยวกับเลตเตอร์ออฟเครดิตที่ออกเกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมตาม (๕)
การส่งเงินเข้ามาในราชอาณาจักรหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ทรัสต์รีซีท
รวมทั้งการประกันเกี่ยวกับกิจการดังกล่าว
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๙/๒๕๖๒ ๒๘๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๑/๒๕๖๔ ๒๘๙
หน้า
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๑/๒๕๕๙ ๒๙๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๔/๒๕๕๙ ๒๙๔
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๘/๒๕๕๙ ๒๙๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๓/๒๕๖๐ ๒๙๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๔/๒๕๖๐ ๓๐๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๔/๒๕๖๑ ๓๐๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๗๐/๒๕๖๒ ๓๐๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๔/๒๕๖๓ ๓๐๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๖๑/๒๕๖๓ ๓๐๙
๖. คดีแพ่งเกี่ยวกับการทุ่มตลาด และการอุดหนุนสินค้าหรือการให้บริการ
จากต่างประเทศ
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๓๔/๒๕๖๑ ๓๑๐
๗. คดีแพ่งหรือคดีอาญาที่เกี่ยวกับข้อพิพาทในการออกแบบวงจรรวม
การค้นพบทางวิทยาศาสตร์ ชื่อทางการค้า ชื่อทางภูมิศาสตร์ที่แสดงถึง
�
แหล่งกาเนิดของสินค้า ความลับทางการค้า และการคุ้มครองพันธุ์พืช
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๑๑/๒๕๕๙ ๓๑๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วท ๑๒/๒๕๕๙ ๓๑๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๓/๒๕๖๐ ๓๑๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๓๒/๒๕๖๐ ๓๑๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๑/๒๕๖๐ ๓๒๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๙/๒๕๖๑ ๓๒๔
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๖๒/๒๕๖๒ ๓๒๗
หน้า
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๕๕/๒๕๖๓ ๓๒๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๖๗/๒๕๖๔ ๓๓๒
�
๘. คดีแพ่งหรือคดีอาญาที่มีกฎหมายบัญญัติให้อยู่ในอานาจ
ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๐/๒๕๖๐ ๓๓๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๓๑/๒๕๖๐ ๓๓๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๔/๒๕๖๐ ๓๔๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๕๓/๒๕๖๐ ๓๔๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๕/๒๕๖๒ ๓๔๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๓/๒๕๖๒ ๓๕๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๕/๒๕๖๒ ๓๕๔
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๑๓/๒๕๖๓ ๓๕๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๕/๒๕๖๔ ๓๕๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๖๐/๒๕๖๔ ๓๖๐
๙. คดีแพ่งเกี่ยวกับอนุญาโตตุลาการเพื่อระงับข้อพิพาทตาม (๓) ถึง (๑๐)
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๐/๒๕๖๓ ๓๖๓
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๖๗/๒๕๖๑ ๓๖๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๒๒/๒๕๖๓ ๓๗๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วทป ๔๔/๒๕๖๔ ๓๗๔
สารบัญรวมค�าวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ์คดีช�านัญพิเศษ
คดีภาษีอากร
หน้า
หมวดที่ ๑ ประมวลรัษฎากร
๑. การบังคับช�าระหนี้ภาษีอากรค้างตามมาตรา ๑๒
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลภาษีอากร
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๖/๒๕๖๑ ๓๗๗
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลภาษีอากร
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๑/๒๕๖๐ ๓๘๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๒/๒๕๖๑ (คู่ควำมเดียวกับคดี วภ ๔/๒๕๖๐) ๓๘๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๒/๒๕๖๒ ๓๘๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๕/๒๕๖๓ ๓๙๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๒/๒๕๖๔ ๓๙๘
๒. ขอคืนภาษีตามมาตรา ๒๗ ตรี, ๖๓
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลภาษีอากร
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๓/๒๕๖๐ (ภำษีเงินได้นิติบุคคล) ๔๐๐
๓. ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลภาษีอากร
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๑/๒๕๖๕ ๔๐๔
๔. ภาษีมูลค่าเพิ่ม
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลภาษีอากร
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๕/๒๕๖๑ ๔๐๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๖/๒๕๖๓ ๔๐๙
หมวดที่ ๒ พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลภาษีอากร
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๑/๒๕๖๑ ๔๑๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๓/๒๕๖๑ ๔๑๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๑/๒๕๖๒ ๔๒๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๓/๒๕๖๒ ๔๒๔
หน้า
หมวดที่ ๓ พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. ๒๕๒๗
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลภาษีอากร
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๔/๒๕๖๒ ๔๒๖
หมวดที่ ๔ อื่น ๆ
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลภาษีอากร
๑. พระรำชบัญญัติแร่ พ.ศ. ๒๕๑๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๓/๒๕๖๓ ๔๒๙
๒. ฟ้องเรียกเงินในคดีแพ่งที่มีภำษีมูลค่ำเพิ่มรวมอยู่ด้วย
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๑/๒๕๖๓ (เรียกค่ำสินค้ำ) ๔๓๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วภ ๒/๒๕๖๓ (เรียกค่ำจ้ำง) ๔๓๕
สารบัญรวมค�าวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ์คดีช�านัญพิเศษ
คดีแรงงาน
หน้า
๑. ค่าจ้างและเงินอื่น
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลแรงงาน
หักและอำยัดเงินค่ำจ้ำงไม่ชอบ
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓๕/๒๕๕๙ ๔๓๘
จ่ำยค่ำชดเชยไม่ครบถ้วน
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๔๒/๒๕๕๙ ๔๔๐
ขำยโฆษณำแล้วเก็บเงินไม่ได้
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๔๓/๒๕๕๙ ๔๔๒
ทวงคืนค่ำจ้ำง
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓๔/๒๕๖๐ ๔๔๔
ทวงคืนทรัพย์สิน
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓๙/๒๕๖๐ ๔๔๖
นำยจ้ำงเอำเงินเดือนลูกจ้ำงไปใช้ประโยชน์
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๔๐/๒๕๖๐ ๔๔๘
ขอคืนเงินตกเบิก
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๙/๒๕๖๑ ๔๕๐
ลูกจ้ำงรัฐวิสำหกิจขำดคุณสมบัติถูกเรียกค่ำจ้ำงคืน
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๔๙/๒๕๖๓ ๔๕๓
เรียกเงินทดรองจ่ำยคืนจำกนำยจ้ำงสองบริษัท
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๖๗/๒๕๖๓ ๔๕๕
เรียกค่ำมัดจ�ำค่ำเช่ำบ้ำนเป็นค่ำเสียหำยจำกกำรถูกเลิกจ้ำง
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๖๘/๒๕๖๓ ๔๕๘
เรียกค่ำเสียหำยที่ต้องกู้ยืมเงินบุคคลภำยนอกมำใช้จ่ำย
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓๔/๒๕๖๔ ๔๖๐
หน้า
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลแรงงาน
ฟ้องคดีอำญำท้ำย พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงำน พ.ศ. ๒๕๔๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๔๒/๒๕๖๐ ๔๖๓
ฟ้องคดีอำญำท้ำย พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงำน พ.ศ. ๒๕๔๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓๒/๒๕๖๔ ๔๖๕
๒. สัญญาค้าแข่ง
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลแรงงาน
ผิดสัญญำค้ำแข่ง
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓๗/๒๕๕๙ ๔๖๘
ข่มขู่ให้ลงชื่อในสัญญำห้ำมค้ำแข่ง
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๔๘/๒๕๕๙ ๔๗๐
ตั้งบริษัทค้ำแข่ง
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓๘/๒๕๖๐ ๔๗๒
ห้ำมเปิดเผยข้อมูล
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๑๐/๒๕๖๑ ๔๗๖
ดึงตัวลูกค้ำและพนักงำนไปท�ำงำนที่อื่น
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๒๖/๒๕๖๑ ๔๗๘
ใช้ข้อมูลของลูกค้ำนำยจ้ำงไปหำประโยชน์
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๔๐/๒๕๖๒ ๔๘๑
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลแรงงาน
กรรมกำรบริษัท
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๑๑๗/๒๕๖๑ ๔๘๓
๓. ละเมิด
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลแรงงาน
ลูกจ้ำงลักทรัพย์นำยจ้ำง
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓๖/๒๕๕๙ ๔๘๗
หน้า
ลูกจ้ำงโพสต์ข้อควำม
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓๘/๒๕๕๙ ๔๘๙
กล่ำวหำว่ำลูกจ้ำงรับผลประโยชน์
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๔๕ - ๔๖/๒๕๖๐ ๔๙๑
ขอให้นำยจ้ำงร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิด
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๔๘/๒๕๖๐ ๔๙๔
กรรมกำรบริษัทฉ้อฉลกำรช�ำระหนี้ตำมค�ำพิพำกษำแก่ลูกจ้ำง
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๒๕/๒๕๖๒ ๔๙๖
ละเมิดลูกจ้ำงกับลูกจ้ำง
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๒/๒๕๖๓ ๔๙๙
กล่ำวหำว่ำล่วงละเมิดทำงเพศ
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓๑/๒๕๖๔ ๕๐๑
สัญญำชดใช้ค่ำเสียหำยจำกกำรท�ำละเมิด
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓๕/๒๕๖๔ ๕๐๔
นำยจ้ำงแจ้งอำคำรชุดว่ำลูกจ้ำงเป็นโควิด
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๖๖/๒๕๖๔ ๕๐๖
ลูกจ้ำงเล่นกีฬำตำมที่นำยจ้ำงมีค�ำสั่ง
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๖/๒๕๖๕ ๕๐๙
จ่ำยค่ำจ้ำงไม่ตรงเวลำท�ำให้ขำดควำมน่ำเชื่อถือ
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๘/๒๕๖๕ ๕๑๒
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลแรงงาน
กรรมกำรสหภำพแรงงำนท�ำละเมิดต่อกันเป็นส่วนตัว
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๘๓/๒๕๖๐ ๕๑๔
ละเมิดจำกกำรร้องทุกข์ให้ด�ำเนินคดีอำญำ
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๔๓/๒๕๖๐ ๕๑๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๘๘/๒๕๖๐ ๕๑๙
ลูกจ้ำงนำยจ้ำงอื่น
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๖๓/๒๕๖๑ ๕๒๑
หน้า
ไล่ออกแล้วด�ำเนินคดีอำญำ
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๕/๒๕๖๒ ๕๒๓
เบิกควำมเท็จ
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๑๒/๒๕๖๓ ๕๒๕
นิติบุคคลฟ้องนิติบุคคล
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๗๔/๒๕๖๔ ๕๒๘
บริษัทในเครือไม่ถือเป็นนำยจ้ำง
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๗๗/๒๕๖๔ ๕๓๑
๔. สัญญาจ้าง
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลแรงงาน
ผู้ฝึกสอนฟุตบอล
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓๙/๒๕๕๙ ๕๓๓
จ้ำงแพทย์
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๔๔/๒๕๖๐ ๕๓๕
จ้ำงที่ปรึกษำ
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๑๒๐/๒๕๖๐ ๕๓๘
ลูกจ้ำงมหำวิทยำลัยของรัฐ
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๖/๒๕๖๑ ๕๔๑
ข้อตกลงส่งลูกจ้ำงไปท�ำงำนที่ต่ำงประเทศ
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๘/๒๕๖๑ ๕๔๔
ลูกจ้ำงมหำวิทยำลัยเอกชน
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓๐/๒๕๖๑ ๕๔๖
หมอเสริมควำมงำม
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๗๕/๒๕๖๑ ๕๔๙
ผู้จัดกำรประกันภัย
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๒/๒๕๖๒ ๕๕๒
หน้า
ผู้จัดกำรอำคำรชุด
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๖/๒๕๖๒ ๕๕๔
ทนำยควำม
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๗/๒๕๖๒ ๕๕๗
ผู้จัดกำรหมู่บ้ำนจัดสรร
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๑๐/๒๕๖๓ ๕๖๐
สัญญำรับจ้ำงโพสต์
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓๑/๒๕๖๓ ๕๖๒
จ้ำงบริหำรโรงพยำบำล
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๕/๒๕๖๕ ๕๖๕
แสดงคุณสมบัติกำรท�ำงำนที่ไม่ตรงตำมควำมจริง
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๗/๒๕๖๕ ๕๖๘
อบรมแล้วส่งไปท�ำงำนกับหน่วยงำนอื่น
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๒๐/๒๕๖๕ ๕๗๑
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลแรงงาน
ฟ้องว่ำเป็นลูกจ้ำงแต่แถลงเป็นอย่ำงอื่น
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๒๙/๒๕๖๑ ๕๗๔
สัญญำจ้ำงแพทย์
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๑๙/๒๕๖๕ ๕๗๖
ทนำยควำมไม่อยู่ในบังคับบัญชำ
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓๐/๒๕๖๕ ๕๘๒
๕. สวัสดิการ
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลแรงงาน
กู้ยืมเงินนำยจ้ำง
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๔๖/๒๕๕๙ ๕๘๕
กองทุนเงินหลังเกษียณอำยุ
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๒๕/๒๕๖๑ ๕๘๗
หน้า
โครงกำรร่วมลงทุนระหว่ำงนำยจ้ำงลูกจ้ำง
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๑๒/๒๕๖๒ ๕๙๐
สัญญำกู้ยืม
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๒๘/๒๕๖๒ ๕๙๓
สัญญำกู้ยืมและจ�ำนอง
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๑๓/๒๕๖๓ ๕๙๕
พยำบำลรับทุนกำรศึกษำแล้วผิดสัญญำใช้ทุน
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๑๑/๒๕๖๕ ๕๙๗
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลแรงงาน
แปลงหนี้ใหม่เป็นสัญญำกู้ยืม
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓/๒๕๖๑ ๖๐๐
ฟ้องเรียกเงินยืมคืน
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๕๓/๒๕๖๑ ๖๐๒
สัญญำฝึกอบรมบุคคลภำยนอก
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓/๒๕๖๓ ๖๐๕
ฟ้องลูกจ้ำงและมำรดำลูกจ้ำง
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๑/๒๕๖๕ ๖๐๙
๖. สหกรณ์
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลแรงงาน
กรรมกำรสหกรณ์
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๑๖/๒๕๖๐ ๖๑๒
กำรบินไทยหักเงินลูกจ้ำงไปช�ำระหนี้สหกรณ์
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓/๒๕๖๕ ๖๑๘
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลแรงงาน
กรรมกำรสมำคมฌำปนกิจสงเครำะห์
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๒๖/๒๕๖๕ ๖๒๓
หน้า
๗. กฎหมายแรงงานอื่น
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลแรงงาน
กฎหมำยว่ำด้วยครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำ
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๑๘ - ๓๒/๒๕๖๐ ๖๒๗
กฎหมำยว่ำด้วยกำรส่งเสริมและพัฒนำคุณภำพชีวิตคนพิกำร
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๔/๒๕๖๑ ๖๓๒
กฎหมำยว่ำด้วยกองทุนส�ำรองเลี้ยงชีพ
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๑๓๐/๒๕๖๑ ๖๓๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๘๐/๒๕๖๔ ๖๓๘
กฎหมำยว่ำด้วยควำมปลอดภัยในกำรท�ำงำน
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๓๑/๒๕๖๒ ๖๔๑
กฎหมำยว่ำด้วยสถำบันอุดมศึกษำเอกชน
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๕๒/๒๕๖๔ ๖๔๔
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลแรงงาน
ลูกจ้ำงฟ้องบริษัทประกันภัย
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๔๖/๒๕๖๓ ๖๔๙
สัญญำจ้ำงศิลปินนักร้อง
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๒๓/๒๕๖๕ ๖๕๒
๘. คดีเกี่ยวเนื่องกับคดีเดิมที่เคยฟ้องกันมา
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๔๓/๒๕๖๓ ๖๕๖
๙. กรณีไม่รับวินิจฉัย
ค�ำวินิจฉัยที่ วร ๒๗/๒๕๖๕ ๖๖๐
สารบัญรวมค�าวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ์คดีช�านัญพิเศษ
คดีล้มละลาย
หน้า
๑. การฟ้องบังคับจ�านองหรือการขอรับช�าระหนี้บุริมสิทธิในทรัพย์จ�านอง
ก่อนเจ้าหนี้รายอื่น
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลล้มละลาย
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๓/๒๕๕๙ ๖๖๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๒/๒๕๖๒ ๖๖๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๒๔/๒๕๖๔ ๖๖๘
๒. การขอรับช�าระหนี้จ�านองในส่วนของผู้ถือกรรมสิทธิ์รวมกับลูกหนี้ในคดีล้มละลาย
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลล้มละลาย
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑๑/๒๕๖๒ ๖๗๑
๓. ค�าร้องขอครอบครองปรปักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ในคดีล้มละลาย
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลล้มละลาย
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑/๒๕๖๐ ๖๗๔
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑๐/๒๕๖๔ ๖๗๖
๔. ฟ้องมูลละเมิด
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลล้มละลาย
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑/๒๕๕๙ ๖๗๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑๑/๒๕๖๐ ๖๘๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๘/๒๕๖๑ ๖๘๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑๐/๒๕๖๑ ๖๘๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๕/๒๕๖๒ ๖๙๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑๕/๒๕๖๒ ๖๙๕
หน้า
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลล้มละลาย
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑๕/๒๕๖๐ ๖๙๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๖/๒๕๖๓ ๗๐๐
๕. ฟ้องขับไล่จ�าเลยซึ่งเป็นบุคคลล้มละลาย
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลล้มละลาย
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๒/๒๕๖๕ ๗๐๒
๖. ค�าร้องขอให้งดหรือเพิกถอนการขายทอดตลาด
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลล้มละลาย
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑๑/๒๕๖๑ ๗๐๔
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑๖/๒๕๖๒ ๗๐๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑๒/๒๕๖๓ ๗๑๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๓/๒๕๖๔ ๗๑๓
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลล้มละลาย
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๖/๒๕๖๐ ๗๑๖
๗. ค�าร้องขอเพิกถอนการบังคับคดี
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลล้มละลาย
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๔/๒๕๖๐ ๗๑๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑๓/๒๕๖๕ ๗๒๒
๘. หนี้ที่เกิดขึ้นหลังจากศาลมีค�าสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลล้มละลาย
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๖/๒๕๖๒ ๗๒๕
๙. ค�าฟ้องเกี่ยวกับแผนฟื้นฟูกิจการ
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลล้มละลาย
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑๖/๒๕๖๐ ๗๒๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑๒/๒๕๖๒ ๗๓๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๘/๒๕๖๓ ๗๓๔
หน้า
๑๐. ฟ้องขอให้จ�าเลยช�าระหนี้ภายหลังศาลมีค�าสั่งให้ยกเลิกการฟื้นฟูกิจการของจ�าเลย
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลล้มละลาย
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๒/๒๕๕๙ ๗๓๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑๒/๒๕๖๐ ๗๓๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑๓/๒๕๖๐ ๗๔๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๔/๒๕๖๓ ๗๔๔
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๔/๒๕๖๔ ๗๔๗
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลล้มละลาย
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑๓/๒๕๖๒ ๗๕๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๙/๒๕๖๓ ๗๕๒
๑๑. การฟ้องคดีอาญา
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลล้มละลาย
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๓/๒๕๖๓ ๗๕๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๖/๒๕๖๕ ๗๕๗
๑๒. ข้อพิพาทตามกฎหมายอื่นซึ่งมิใช่คดีล้มละลาย
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑/๒๕๖๒ ๗๕๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๓/๒๕๖๒ ๗๖๒
๑๓. คดีที่มิได้โอนมาที่ศาลล้มละลายกลางภายใน ๑๘๐ วัน
นับแต่วันที่ศาลล้มละลายกลางเปิดท�าการ
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๑/๒๕๖๔ ๗๖๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วล ๕/๒๕๖๑ ๗๖๘
สารบัญรวมค�าวินิจฉัยของประธานศาลอุทธรณ์คดีช�านัญพิเศษ
คดีเยาวชนและครอบครัว
หน้า
หมวดที่ ๑ คดีแพ่ง
๑. สถานะและความสามารถของบุคคล
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลเยาวชนและครอบครัว
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๘๙/๒๕๖๒ ๗๗๒
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลเยาวชนและครอบครัว
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๓๔/๒๕๖๒ ๗๗๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๖/๒๕๖๓ ๗๗๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๓๙/๒๕๖๓ ๗๗๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๒๑/๒๕๖๔ ๗๘๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๔๒/๒๕๖๔ ๗๘๔
๒. การหมั้น สินสอด และเงื่อนไขของการสมรส
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลเยาวชนและครอบครัว
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๒๒/๒๕๖๓ ๗๘๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๔๐/๒๕๖๔ ๗๘๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๓๘/๒๕๖๕ ๗๙๐
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลเยาวชนและครอบครัว
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๔๙/๒๕๖๑ ๗๙๓
๓. ทรัพย์สินระหว่างสามีภริยา
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลเยาวชนและครอบครัว
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๔๗/๒๕๖๑ ๗๙๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๒/๒๕๖๔ ๗๙๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๒/๒๕๖๔ ๘๐๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๒๐/๒๕๖๔ ๘๐๓
หน้า
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๕๑/๒๕๖๔ ๘๐๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๕๗/๒๕๖๔ ๘๐๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๖๖/๒๕๖๔ ๘๑๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๗๐/๒๕๖๔ ๘๑๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๗๔/๒๕๖๔ ๘๑๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๙๐/๒๕๖๔ ๘๒๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๙๓/๒๕๖๔ ๘๒๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๐๐/๒๕๖๔ ๘๒๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๐๖/๒๕๖๔ ๘๒๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๑๗/๒๕๖๔ ๘๓๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑/๒๕๖๕ ๘๓๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๕/๒๕๖๕ ๘๓๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๗/๒๕๖๕ ๘๓๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๙/๒๕๖๕ ๘๔๑
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลเยาวชนและครอบครัว
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๔๖/๒๕๖๒ ๘๔๔
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๓๔/๒๕๖๓ ๘๔๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๗๗/๒๕๖๓ ๘๔๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๙๑/๒๕๖๓ ๘๕๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๘/๒๕๖๔ ๘๕๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๔๙/๒๕๖๔ ๘๕๘
๔. ความเป็นโมฆะและการสิ้นสุดแห่งการสมรส การแบ่งทรัพย์สินและ
ความรับผิดในหนี้เมื่อสิ้นสุดการสมรส สิทธิเรียกค่าทดแทน
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลเยาวชนและครอบครัว
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๑/๒๕๖๐ ๘๖๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๓๗/๒๕๖๐ ๘๖๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๒๗/๒๕๖๑ ๘๖๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๕๗/๒๕๖๑ ๘๖๗
หน้า
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๘๔/๒๕๖๑ ๘๗๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๔/๒๕๖๒ ๘๗๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๘/๒๕๖๒ ๘๗๔
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๘๐/๒๕๖๒ ๘๗๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๒๗/๒๕๖๔ ๘๗๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๕๘/๒๕๖๔ ๘๘๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๘๒/๒๕๖๔ ๘๘๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๘๗/๒๕๖๔ ๘๘๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๙๗/๒๕๖๔ ๘๘๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๙๙/๒๕๖๔ ๘๙๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๐๔/๒๕๖๔ ๘๙๔
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลเยาวชนและครอบครัว
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๓๓/๒๕๖๒ ๘๙๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๕๑/๒๕๖๒ ๘๙๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๖๔/๒๕๖๔ ๙๐๑
๕. ความสัมพันธ์ระหว่างบิดามารดากับบุตร บุตรบุญธรรม
- คดีที่อยู่ในอ�านาจของศาลเยาวชนและครอบครัว
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๖/๒๕๖๓ ๙๐๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๘๖/๒๕๖๔ ๙๐๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๙๔/๒๕๖๔ ๙๑๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๑๐/๒๕๖๔ ๙๑๔
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๑๑/๒๕๖๔ ๙๑๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๘/๒๕๖๕ ๙๑๙
- คดีที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลเยาวชนและครอบครัว
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๐/๒๕๖๐ ๙๒๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๒๕/๒๕๖๒ ๙๒๔
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๘๗/๒๕๖๒ ๙๒๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๘๓/๒๕๖๓ ๙๒๘
หน้า
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๑๓/๒๕๖๓ ๙๓๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๕๙/๒๕๖๔ ๙๓๓
๖. กรณีมูลความแห่งคดีเกี่ยวข้องกัน
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๖๗/๒๕๖๐ ๙๓๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๙๒/๒๕๖๔ ๙๓๙
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๑๙/๒๕๖๔ ๙๔๔
๗. กรณีบางส่วนเป็นคดีครอบครัว บางส่วนไม่เป็นคดีครอบครัว
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๖๘/๒๕๖๔ ๙๔๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๒๐/๒๕๖๔ ๙๕๐
๘. กรณีไม่รับวินิจฉัย
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๘๓/๒๕๖๔ ๙๕๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๖/๒๕๖๕ ๙๕๖
๙. กรณีอื่น ๆ
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๗๒/๒๕๖๒ ๙๕๙
หมวดที่ ๒ คดีอาญา
๑. คดีอาญาที่อยู่ในอ�านาจของศาลเยาวชนและครอบครัว
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๙/๒๕๕๙ ๙๖๒
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๒๕/๒๕๖๓ ๙๖๔
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๐๗/๒๕๖๓ ๙๖๗
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๔/๒๕๖๔ ๙๗๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๐๙/๒๕๖๔ ๙๗๕
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๒๑/๒๕๖๔ ๙๘๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๔๙/๒๕๖๕ ๙๘๙
หน้า
๒. คดีอาญาที่ไม่อยู่ในอ�านาจของศาลเยาวชนและครอบครัว
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๓/๒๕๖๕ ๙๙๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๔/๒๕๖๕ ๑,๐๐๐
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๕๕/๒๕๖๕ ๑,๐๐๓
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๕๘/๒๕๖๕ ๑,๐๐๙
หมวดที่ ๓ คดีคุ้มครองสวัสดิภาพ
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๒๖/๒๕๖๔ ๑,๐๑๓
หมวดที่ ๔ คดีตามกฎหมายอื่น
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๖๖/๒๕๖๓ ๑,๐๑๖
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๑๖/๒๕๖๔ ๑,๐๑๘
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๖๒/๒๕๖๔ ๑,๐๒๑
ค�ำวินิจฉัยที่ วยช ๘๙/๒๕๖๔ ๑,๐๒๔
รวมค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ
คดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
1
ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ พนักงำนอัยกำร
ที่ วทป ๗๕/๒๕๖๒ จังหวัดยโสธร โจทก ์
นำงอุไรวรรณ บุตรวุธ จ�ำเลย
ื
ึ
ผู้เสียหำยเป็นหน่วยงำนรำชกำร เคร่องหมำยตรำสัญลักษณ์ก�ำหนดข้นไว้
ึ
ใช้ในรำชกำรของผู้เสียหำย ซ่งไม่ปรำกฏเลยว่ำ ผู้เสียหำยเป็นผู้ประกอบกำรกำรค้ำ
ื
และเคร่องหมำยตรำสัญลักษณ์ดังกล่ำวมีไว้ใช้ในกำรประกอบกำรค้ำของผู้เสียหำย
คดีในส่วนนี้จึงไม่ใช่คดีอำญำเกี่ยวกับควำมผิดตำม ป.อ. มำตรำ ๒๗๑ ถึงมำตรำ ๒๗๕
_____________________________
โจทก์ฟ้องว่ำ เมื่อระหว่ำงวันที่ ๓ ตุลำคม ๒๕๕๖ เวลำกลำงวัน ถึงวันที่ ๓ มีนำคม ๒๕๕๗
ี
เวลำกลำงวัน ต่อเน่องกัน จ�ำเลยกับพวกท่ยังไม่ได้ตัวมำฟ้องร่วมกันกระท�ำควำมผิดต่อ
ื
ื
กฎหมำยหลำยกรรมต่ำงกัน จ�ำเลยกับพวกร่วมกันปลอมหรือเลียนเคร่องหมำยตรำสัญลักษณ์
ภำพพระแม่โพสพสีเหลืองน่งบนท้องนำมือขวำถือรวงข้ำวแบกไว้บนบ่ำภำยในวงกลมสีเหลือง
ั
่
็
�
ี
้
ึ
ื
ื
่
ู
ี
่
ทมีลักษณะบ่งเฉพำะและอำจเหนได้ว่ำเป็นเครองหมำย ช่อ รป และรอยประดิษฐ์ทกำหนดขน
ไว้ใช้ในรำชกำรของกรมกำรข้ำว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้เสียหำย โดยท�ำให้ปรำกฏท ี ่
ื
ถุงพลำสติกสำนบรรจุเมล็ดพันธุ์ข้ำวเปลือกของจ�ำเลยกับพวก เพ่อให้เทศบำลต�ำบลตำดทอง
และประชำชนหลงเช่อว่ำถุงพลำสติกดังกล่ำวเป็นของผู้เสียหำย จ�ำเลยกับพวกร่วมกันรวบรวม
ื
เมล็ดพันธุ์ข้ำวเปลือกเหนียว พันธุ์ กข๖ บรรจุในถุงพลำสติกดังกล่ำวโดยมีเมล็ดพันธุ์บริสุทธ ิ ์
ต�่ำกว่ำร้อยละ ๙๘ มีเมล็ดพันธุ์อื่นปน ๗๙ เมล็ด ในน�้ำหนักเมล็ดพันธุ์ข้ำว ๕๐๐ กรัม เกินกว่ำ
ี
ค่ำมำตรฐำนท่ก�ำหนด อันเป็นเมล็ดพันธุ์ควบคุมปลอมปนตำมประกำศกระทรวงเกษตรและ
สหกรณ์ เรื่อง ก�ำหนดมำตรฐำน คุณภำพและวิธีเก็บรักษำเมล็ดพันธุ์ควบคุม พ.ศ. ๒๕๕๖ และ
จ�ำเลยกับพวกร่วมกันเสนอจ�ำหน่ำย จ�ำหน่ำยถุงพลำสติกสำนบรรจุเมล็ดพันธุ์ข้ำวปลอมปน
ดังกล่ำว โดยเอำช่อ รูป และรอยประดิษฐ์ในกำรประกอบกำรค้ำของผู้เสียหำย คือ ตรำสัญลักษณ์
ื
ภำพพระแม่โพสพดังกล่ำวข้ำงต้นมำใช้โดยท�ำให้ปรำกฏท่สินค้ำดังกล่ำวเพ่อให้ประชำชน
ื
ี
หลงเชื่อว่ำสินค้ำดังกล่ำวเป็นของผู้เสียหำย เหตุทั้งหมดเกิดที่ต�ำบลตำดทอง อ�ำเภอเมืองยโสธร
จังหวัดยโสธร และต�ำบลมะบ้ำ อ�ำเภอทุ่งเขำหลวง กับต�ำบลขวัญเมือง อ�ำเภอเสลภูมิ จังหวัด
ี
ร้อยเอ็ด เก่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษตำมพระรำชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. ๒๕๑๘ มำตรำ ๓, ๓๕,
2
๓๗, ๖๕, ๗๑ พระรำชบัญญัติเครื่องหมำยรำชกำร พ.ศ. ๒๔๘๒ มำตรำ ๗, ๘, ๙ และประมวล
กฎหมำยอำญำ มำตรำ ๘๓, ๙๑, ๒๗๒, ๒๗๕ ริบถุงพลำสติกสำนบรรจุเมล็ดพันธุ์ข้ำว ๖ กระสอบ
ของกลำง ให้ตกเป็นของกรมวิชำกำรเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
จ�ำเลยให้กำรปฏิเสธ
ในชั้นพิจำรณำ ศำลจังหวัดยโสธรเห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำ คดีนี้อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำ
พิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่ จึงให้รอกำรพิจำรณำ
ั
พิพำกษำคดีไว้ช่วครำว แล้วเสนอปัญหำดังกล่ำวให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษเป็น
ั
ผู้วินิจฉัย ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและ
วิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙
วินิจฉัยว่ำ คดีน้เป็นคดีอำญำท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สิน
ี
ี
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ
ั
กำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
มำตรำ ๗ (๒), (๙), (๑๐) หรือไม่ เห็นว่ำ ส�ำหรับควำมผิดต่อพระรำชบัญญัติเครื่องหมำยรำชกำร
พ.ศ. ๒๔๘๒ และพระรำชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. ๒๕๑๘ ตำมที่โจทก์ฟ้องมำในข้อ ๒ (ก), (ข) นั้น
ั
พระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคด ี
ทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ และพระรำชบัญญัติดังกล่ำวมิได้
บัญญัติให้คดีอยู่ในอ�ำนำจของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ จึงมิใช่คด ี
ท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำม
ี
พระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคด ี
ั
ทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๙), (๑๐) ส่วนควำมผิด
ต่อกำรค้ำตำมท่โจทก์ฟ้องมำในข้อ ๒ (ค) น้น แม้โจทก์จะบรรยำยฟ้องว่ำ จ�ำเลยร่วมกันเสนอ
ั
ี
จ�ำหน่ำย จ�ำหน่ำยถุงพลำสติกสำนบรรจุเมล็ดพันธุ์ข้ำวปลอมปนโดยเอำชื่อ รูป และรอยประดิษฐ์
คือ ตรำสัญลักษณ์ภำพพระแม่โพสพในกำรประกอบกำรค้ำของผู้เสียหำยมำใช้ โดยท�ำให้ปรำกฏ
ื
ื
ท่สินค้ำดังกล่ำวเพ่อให้ประชำชนหลงเช่อว่ำสินค้ำดังกล่ำวเป็นของผู้เสียหำย และมีค�ำขอให้
ี
ลงโทษจำเลยตำมประมวลกฎหมำยอำญำ มำตรำ ๒๗๒, ๒๗๕ แต่โจทก์บรรยำยฟ้องปรำกฏ
�
เพียงว่ำ ผู้เสียหำยเป็นหน่วยงำนรำชกำร เครื่องหมำยตรำสัญลักษณ์ภำพพระแม่โพสพสีเหลือง
ั
น่งบนท้องนำมือขวำถือรวงข้ำวแบกไว้บนบ่ำภำยในวงกลมสีเหลืองเป็นเคร่องหมำย ช่อ รูป
ื
ื
ึ
ึ
ี
และรอยประดิษฐ์ท่ก�ำหนดข้นไว้ใช้ในรำชกำรของผู้เสียหำย ซ่งไม่ปรำกฏเลยว่ำ ผู้เสียหำยเป็น
ื
ผู้ประกอบกำรกำรค้ำ และเคร่องหมำยตรำสัญลักษณ์ดังกล่ำวมีไว้ใช้ในกำรประกอบกำรค้ำของ
3
ี
ผู้เสียหำย คดีในส่วนน้จึงไม่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำ
ั
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
มำตรำ ๗ (๒) เช่นกัน
ี
วินิจฉัยว่ำ คดีน้ไม่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ
กำรค้ำระหว่ำงประเทศ
วินิจฉัย ณ วันที่ ๑๓ เดือน ธันวำคม พุทธศักรำช ๒๕๖๒
ไมตรี สุเทพำกุล
(นำยไมตรี สุเทพำกุล)
ผู้พิพำกษำศำลฎีกำ ช่วยท�ำงำนชั่วครำวในต�ำแหน่ง
ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ
สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ
นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ
4
ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ เดอะ ฟำวน์ดรี้ วิชั่นมองเกอร์
ที่ วท ๖/๒๕๕๙ แอลทีดี โจทก์
บริษัทเซอร์เรียล สตูดิโอ จ�ำกัด
�
กับพวก จำเลย
ิ
ั
�
ตำมค�ำฟ้องและคำให้กำรมีประเด็นโต้แย้งกันเก่ยวกบโปรแกรมคอมพวเตอร์
ี
ี
ึ
ิ
ี
ิ
ี
์
ซ่งเป็นงำนวรรณกรรมอันมีลิขสิทธ คดีน้จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับลิขสิทธ์ท่อยู่ในอ�ำนำจ
พิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศตำม พ.ร.บ.
จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สิน
ั
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓)
_____________________________
ี
ี
โจทก์ฟ้องว่ำ โจทก์ตรวจสอบพบว่ำจ�ำเลยท่ ๑ โดยจ�ำเลยท่ ๒ กรรมกำร ได้ใช้งำน
โปรแกรมคอมพิวเตอร์อันเป็นลิขสิทธ์ของโจทก์เพ่อหำประโยชน์ โดยไม่ได้รับอนุญำตให้ใช้สิทธ ์ ิ
ิ
ื
ี
ั
ในซอฟท์แวร์น้น ต่อมำจ�ำเลยท่ ๑ โดยจ�ำเลยท่ ๒ ตกลงส่งซ้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ดังกล่ำว
ี
ื
ั
ี
จำกโจทก์เพ่อประนีประนอมยอมควำมกรณีท่จ�ำเลยท่ ๑ ติดต้งและใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ของ
ี
ื
ั
โจทก์โดยไม่ได้รับอนุญำต จ�ำนวน ๔ โปรแกรม รำคำ ๑,๖๒๐,๐๐๐ บำท (๔๕,๐๐๐ ดอลลำร์สหรัฐ
ค�ำนวณอัตรำแลกเปลี่ยนดอลลำร์สหรัฐละ ๓๖ บำท) แบ่งช�ำระ ๓ งวด งวดละ ๕๔๐,๐๐๐ บำท
ก�ำหนดช�ำระภำยในวันท่ ๒๕ พฤศจิกำยน ๒๕๕๘, ๒๕ ธันวำคม ๒๕๕๘ และ ๒๕ มกรำคม ๒๕๕๙
ี
ตำมล�ำดับ แต่จ�ำเลยทั้งสองไม่ช�ำระ ขอให้บังคับจ�ำเลยทั้งสองช�ำระเงิน ๑,๗๐๓,๗๗๓.๙๗ บำท
พร้อมดอกเบ้ยในอัตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๑,๖๒๐,๐๐๐ บำท นับถัดจำกวันฟ้องจนกว่ำ
ี
จะช�ำระเสร็จแก่โจทก์
ี
ี
ั
จ�ำเลยท้งสองให้กำรท�ำนองเดียวกันว่ำ คดีน้เป็นคดีพิพำทเก่ยวกับกำรละเมิดลิขสิทธ ิ ์
และจ�ำเลยท้งสองตกลงส่งซ้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์จำกโจทก์ ซ่งมีภูมิล�ำเนำอยู่ในประเทศ
ั
ึ
ื
ั
ี
สหรำชอำณำจักร จึงเป็นคดีพิพำทท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำ
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศ โจทก์ไม่มีอ�ำนำจฟ้องคดีน้ต่อศำลแพ่ง โจทก์มิใช่เจ้ำของลิขสิทธ ิ ์
ี
โปรแกรมคอมพิวเตอร์พิพำท โจทก์มิใช่ผู้สร้ำงสรรค์ งำนพิพำทไม่เคยเผยแพร่โฆษณำ มิใช่
ี
ิ
งำนอันมีลิขสิทธ์ท่ได้รับกำรคุ้มครองโดยชอบ กำรมอบอ�ำนำจและหนังสือมอบอ�ำนำจให้โจทก์
5
ี
ี
ฟ้องคดีไม่ชอบ โจทก์จึงไม่มีอ�ำนำจฟ้อง จ�ำเลยท่ ๒ ลงนำมและประทับตรำจ�ำเลยท่ ๑ เพียงคนเดียว
ในใบสั่งซื้อ จึงไม่ผูกพันจ�ำเลยที่ ๑ ให้ต้องรับผิด ส่วนจ�ำเลยที่ ๒ เป็นกรรมกำรผู้มีอ�ำนำจของจ�ำเลย
ื
ี
ั
ท่ ๑ จึงไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว โจทก์มิได้ส่งมอบสินค้ำตำมใบส่งซ้อให้แก่จ�ำเลยท่ ๑ โดยพลัน
ี
หรืออย่ำงช้ำภำยในเดือนตุลำคม ๒๕๕๘ เพื่อให้จ�ำเลยที่ ๑ ทดลองใช้งำนก่อนจะมีกำรช�ำระเงิน
ั
ื
ื
ั
ี
ี
ตำมเง่อนไขในใบส่งซ้อ จ�ำเลยท่ ๑ จึงไม่มีหน้ำท่ต้องช�ำระเงินค่ำสินค้ำ จ�ำเลยท้งสองไม่ม ี
หนี้ใด ๆ กับโจทก์ ค�ำฟ้องเคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
ในชั้นชี้สองสถำน ศำลแพ่งเห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำคดีนี้อยู่ในอ�ำนำจของศำลทรัพย์สิน
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่ จึงให้รอกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีไว้ช่วครำว
ั
แล้วเสนอปัญหำดังกล่ำวให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษเป็นผู้วินิจฉัย ตำมพระรำชบัญญัต ิ
จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำ
ั
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙
วินิจฉัยว่ำ กรณีมีปัญหำต้องวินิจฉัยว่ำคดีน้เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับลิขสิทธ์ตำมพระรำชบัญญัต ิ
ี
ี
ิ
ั
จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำ
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓) หรือไม่ เห็นว่ำ ตำมค�ำฟ้องและค�ำให้กำร
ี
ิ
มีประเด็นโต้แย้งกันเก่ยวกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์ซ่งเป็นงำนวรรณกรรมอันมีลิขสิทธ์ คดีน ้ ี
ึ
ิ
ี
จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับลิขสิทธ์ท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำ
ี
ั
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
มำตรำ ๗ (๓)
ิ
ั
ิ
ั
วนจฉยวำ คดนอยในอำนำจพจำรณำพพำกษำของศำลทรพยสนทำงปญญำและกำรคำ
้
ั
์
ิ
�
ี
่
ี
้
ู
่
ิ
ิ
ระหว่ำงประเทศ
วินิจฉัย ณ วันที่ ๒๔ เดือน พฤศจิกำยน พุทธศักรำช ๒๕๕๙
เมทินี ชโลธร
(นำงเมทินี ชโลธร)
ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ
สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ
นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ
6
ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ นำงสำวสิรัชชำ
ที่ วท ๙/๒๕๕๙ พัชรโสภำชัย โจทก์
นำยศรุต
นพทวีโภค จ�ำเลย
ื
ี
คดีน้มีประเด็นข้อพิพำทให้ต้องวินิจฉัยถึงข้อตกลงกำรใช้สิทธิในเคร่องหมำยกำรค้ำ
ึ
ื
(เคร่องหมำยบริกำร) ซ่งเป็นข้อตกลงตำมเง่อนไขท่ก�ำหนดไว้ในสัญญำแฟรนไชส์
ี
ื
ื
ตำมฟ้อง เม่อสัญญำแฟรนไชส์พิพำทเป็นสัญญำประเภทสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิใน
ี
เคร่องหมำยกำรค้ำและช่อทำงกำรค้ำ คดีน้จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับเคร่องหมำยกำรค้ำ
ี
ื
ื
ื
ื
่
�
ิ
หรือสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิในเครองหมำยกำรค้ำท่อยู่ในอำนำจพจำรณำพิพำกษำของ
ี
ั
ศำลทรพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศตำมบทบัญญัต มำตรำ ๗ (๓) แห่ง
ิ
ั
พ.ร.บ. จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำ
คดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
_____________________________
โจทก์ฟ้องว่ำ โจทก์เป็นเจ้ำของเครื่องหมำยบริกำร จดทะเบียนส�ำหรับบริกำร ย้อมผ้ำ
ี
(เส้อผ้ำ ขนเฟอร์ และหนัง) ทะเบียนเลขท่ บ๕๕๗๖๕ ค�ำขอเลขท่ ๘๒๔๘๔๐ โจทก์ประกอบ
ี
ื
ื
กิจกำรภำยใต้เคร่องหมำยกำรค้ำ “MOMOKO” โดยใช้ช่อทำงกำรค้ำว่ำ “แบ๊ก แอนด์ ชูส์
ื
สปำ บำย โมโมโกะ” เมื่อวันที่ ๒๙ มกรำคม ๒๕๕๘ โจทก์และจ�ำเลยตกลงท�ำสัญญำแฟรนไชส์
แบ่งรำยได้กันภำยใต้ชื่อทำงกำรค้ำดังกล่ำว และโจทก์อนุญำตให้จ�ำเลยใช้เครื่องหมำยบริกำรได้
ิ
ณ สำขำเมเจอร์ซนเพลกซ์รชโยธน กรงเทพมหำนคร สถำนทประกอบกำรของจำเลยตำมท ี ่
่
ี
ี
ุ
็
ี
�
ั
ก�ำหนดไว้ ต่อมำวันที่ ๓๐ มีนำคม ๒๕๕๙ จ�ำเลยได้ต่อสัญญำแฟรนไชส์ กับโจทก์ มีก�ำหนด ๑ ปี
นับแต่วันที่ ๑ กุมภำพันธ์ ๒๕๕๙ ถึงวันที่ ๓๑ มกรำคม ๒๕๖๐ โดยจ�ำเลยช�ำระค่ำสิทธิในกำร
ใช้เครื่องหมำยบริกำรให้โจทก์ ๕๐๐,๐๐๐ บำท ภำยหลังจ�ำเลยปฏิบัติผิดสัญญำต่อโจทก์ ท�ำให้
โจทก์ได้รับควำมเสียหำย ขอให้บังคับจ�ำเลยช�ำระค่ำเสียหำย ๓,๗๗๖,๒๑๑.๓๔ บำท พร้อม
ี
ดอกเบ้ยอัตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่ำว นับถัดจำกวันฟ้องจนกว่ำจะช�ำระเสร็จ
แก่โจทก์
7
ื
ี
ี
จ�ำเลยให้กำรว่ำ โจทก์ฟ้องผิดศำล คดีน้เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับเคร่องหมำยกำรค้ำอยู่
ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ สัญญำ
่
ี
่
็
้
์
ั
ิ
ั
้
แฟรนไชสตำมฟองเปนโมฆะ จำเลยไมตองรบผด โจทกไมเสยหำย กำรบอกเลกสญญำไมชอบ
่
์
ิ
�
ขอให้ยกฟ้อง
ศำลแพ่งธนบุรีพิจำรณำแล้ว เห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำคดีน้อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำ
ี
ของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่ จึงให้รอกำรพิจำรณำพิพำกษำ
ี
ั
คดีน้ไว้ช่วครำว แล้วเสนอปัญหำดังกล่ำวให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ เป็นผู้วินิจฉัย
ั
ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำ
คดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙
วินิจฉัยว่ำ กรณีมีปัญหำต้องวินิจฉัยว่ำ คดีน้เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับสัญญำอนุญำตให้ใช้
ี
ี
สิทธิในเครื่องหมำยกำรค้ำ ตำมบทบัญญัติมำตรำ ๗ (๓) แห่งพระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลทรัพย์สิน
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำง
ประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ หรือไม่ เห็นว่ำ คดีนี้มีประเด็นข้อพิพำทให้ต้องวินิจฉัยถึงข้อตกลงกำรใช้
ึ
้
ิ
ิ
่
่
ื
สทธในเคร่องหมำยกำรคำ (เครองหมำยบริกำร) ซงเป็นขอตกลงตำมเงอนไขทกำหนดไว้ในสญญำ
่
�
ี
ื
่
ั
้
ื
ื
แฟรนไชส์ตำมฟ้อง เม่อสัญญำแฟรนไชส์พิพำทเป็นสัญญำประเภทสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธ ิ
่
ื
ี
ี
ี
ื
่
ื
ในเคร่องหมำยกำรค้ำและชอทำงกำรค้ำ คดน้จึงเป็นคดีแพ่งเกยวกับเคร่องหมำยกำรค้ำหรือ
ื
ี
สัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิในเคร่องหมำยกำรค้ำท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สิน
ั
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศตำมบทบัญญัติมำตรำ ๗ (๓) แห่งพระรำชบัญญัติจัดต้ง
ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและ
กำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
ิ
้
ิ
ั
วนจฉยวำ คดนอยในอำนำจพจำรณำพพำกษำของศำลทรพยสนทำงปญญำและกำรคำ
ั
์
ิ
้
ี
ิ
ู
่
่
ั
ิ
�
ี
ระหว่ำงประเทศ
วินิจฉัย ณ วันที่ ๗ เดือน ธันวำคม พุทธศักรำช ๒๕๕๙
เมทินี ชโลธร
(นำงเมทินี ชโลธร)
ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ
สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ
นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ
8
ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ บริษัทพรีเมียร์ โซลูชั่น
ที่ วท ๑๓/๒๕๕๙ จ�ำกัด โจทก์
นำงสำวพิมตะวัน
ปัญญำธรรม จ�ำเลย
ี
โจทก์บรรยำยฟ้องว่ำ รำยงำนกำรตรวจประเมินทำงกฎหมำยท่โจทก์ว่ำจ้ำงให้
ึ
ึ
ื
บุคคลอ่นจัดท�ำข้นน้นเป็นงำนวรรณกรรมอันมีลิขสิทธ์ของโจทก์ จ�ำเลยซ่งเป็นลูกจ้ำง
ั
ิ
ิ
�
ของโจทก์กระท�ำกำรอันเป็นกำรละเมิดลิขสิทธ์ในงำนวรรณกรรมของโจทก์โดยกำรท�ำซ้ำ
ด้วยกำรคัดลอก ดัดแปลงบำงส่วนบำงตอนในส่วนอันเป็นสำระสำคัญของรำยงำน
�
กำรตรวจประเมินดังกล่ำวและน�ำออกเผยแพร่โดยกำรน�ำออกจ�ำหน่ำยหรือขำยหำก�ำไร
ในทำงกำรค้ำ โดยไม่ได้รับอนุญำตจำกโจทก์ อันเป็นกำรฟ้องให้จ�ำเลยรับผิดจำกกำร
ี
กระท�ำละเมดต่อโจทก โดยข้ออ้ำงทอำศัยเป็นหลกแห่งข้อหำของโจทก์เก่ยวพันโดยตรง
ิ
ั
ี
่
์
ี
ิ
์
กับงำนท่โจทก์กล่ำวอ้ำงว่ำโจทก์เป็นเจ้ำของลิขสิทธ ท้งจ�ำเลยก็ให้กำรว่ำงำนตำมค�ำฟ้อง
ั
ของโจทก์ไม่ใช่งำนอันมีลิขสิทธ ตำมค�ำฟ้องและค�ำให้กำรจึงมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่ำ
์
ิ
งำนตำมฟ้องโจทก์เป็นงำนอันมีลิขสิทธ์หรือไม่ และกำรกระท�ำของจ�ำเลยเป็นกำรละเมิด
ิ
ื
ี
์
ิ
ี
ิ
ลิขสิทธ์ของโจทก์หรือไม่ เพียงใด อันเป็นกำรพิพำทเก่ยวกับเร่องลิขสิทธ ส่วนท่จ�ำเลย
ี
ื
ให้กำรต่อสู้ว่ำ ข้อพิพำทในคดีน้เป็นข้อพิพำทอันเน่องมำจำกกำรท�ำงำนของจ�ำเลยท ่ ี
ี
ปฏิบัติไปตำมหน้ำท่ในสัญญำจ้ำงแรงงำน โจทก์จึงไม่มีอ�ำนำจฟ้องจ�ำเลยต่อศำลทรัพย์สิน
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศนั้น เห็นว่ำ โจทก์บรรยำยฟ้องเพียงว่ำ จ�ำเลยเป็น
�
็
�
ั
ิ
�
้
้
์
่
่
ู
่
ลกจำงของโจทก แตไมไดบรรยำยฟองวำ กำรกระทำของจำเลยเปนกำรกระทำผดสญญำ
้
จ้ำงแรงงำนหรือไม่ อย่ำงไร ตำมค�ำฟ้องของโจทก์จึงไม่มีประเด็นข้อพิพำทเกี่ยวเนื่องกับ
สัญญำจ้ำงแรงงำน ฉะน้น คดีน้จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับลิขสิทธ์ท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำ
ี
ี
ิ
ี
ั
พิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำมบทบัญญัต ิ
มำตรำ ๗ (๓) แห่ง พ.ร.บ. จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
ั
และวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
_____________________________
9
โจทก์ฟ้องว่ำ จ�ำเลยเป็นลูกจ้ำงโจทก์ท�ำงำนในต�ำแหน่งผู้บริหำรฝ่ำยกำรตลำด โจทก์
ี
ลงทุนโครงกำรโรงงำนไฟฟ้ำพลังงำนแสงอำทิตย์ในประเทศญ่ปุ่น ก่อนกำรลงทุนในโครงกำรต่ำง ๆ
ี
โจทก์ว่ำจ้ำงบริษัทส�ำนักงำนกฎหมำยอำซูมิซำไก จ�ำกัด ในประเทศญ่ปุ่นท�ำกำรศึกษำสถำนะ
ทำงกฎหมำยและจัดท�ำรำยงำนกำรตรวจประเมินทำงเทคนิค โดยศึกษำ ส�ำรวจ และเก็บข้อมูล
ื
ี
เพ่อเสนอแนวทำงกำรท�ำธุรกิจประเภทโรงไฟฟ้ำพลังงำนแสงอำทิตย์ในประเทศญ่ปุ่น เพ่อน�ำ
ื
ั
ั
�
ู
ิ
ิ
�
ข้อมลไปเสนอต่อคณะกรรมกำรบรหำรของโจทก์ บรษทสำนกงำนกฎหมำยอำซมซำไก จำกด
ิ
ั
ู
จัดท�ำรำยงำนกำรตรวจประเมินทำงกฎหมำยเป็นหนังสือ มีชื่อว่ำ Legal Due Diligence Report
ซึ่งประกอบด้วยรำยงำน ๖ ฉบับ ส่งให้แก่โจทก์ โดยโจทก์เป็นผู้ว่ำจ้ำงจึงเป็นงำนวรรณกรรมอัน
มีลิขสิทธิ์ของโจทก์ ระหว่ำงวันที่ ๑๒ มีนำคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๘ กรกฎำคม ๒๕๕๗ จ�ำเลยได้
�
น�ำรำยงำนกำรตรวจประเมินทำงกฎหมำยไปท�ำซ้ำด้วยกำรคัดลอกดัดแปลงบำงส่วนบำงตอน
ี
ี
ในส่วนท่เป็นสำระส�ำคัญท่เก็บรักษำไว้ในรูปแบบข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยไม่ได้รับอนุญำต และ
ึ
ส่งรำยงำนกำรตรวจประเมินดังกล่ำวทำงจดหมำยอิเล็กทรอนิกส์ให้แก่นำยยุทธ ซ่งเป็นกรรมกำร
ผู้มีอ�ำนำจของบริษัทโรงพิมพ์ตะวันออก จ�ำกัด (มหำชน) อันเป็นบริษัทคู่แข่งทำงกำรค้ำของโจทก์
และนำยยุทธได้น�ำรำยงำนกำรตรวจประเมินทำงกฎหมำยท่จ�ำเลยส่งให้ไปใช้ในกำรลงทุน
ี
ในโครงกำรโรงไฟฟ้ำพลังงำนแสงอำทิตย์ก่อนโจทก์ กำรกระท�ำของจ�ำเลยเป็นกำรท�ำซ้ำ หรือ
�
ื
ดัดแปลงงำนอันมีลิขสิทธ์ของโจทก์ เพ่อเผยแพร่และน�ำออกจ�ำหน่ำยหรือขำยหำก�ำไรในทำง
ิ
ี
ั
ิ
กำรค้ำ ท้งน้โดยไม่ได้รับอนุญำตจำกโจทก์ เป็นกำรละเมิดลิขสิทธ์ของโจทก์ ท�ำให้โจทก์ได้รับ
ควำมเสียหำย กล่ำวคือ ค่ำใช้จ่ำยในกำรศึกษำข้อมูลโครงกำรและว่ำจ้ำงบริษัทส�ำนักงำนกฎหมำย
อำซูมิซำไก จ�ำกัด ให้ศึกษำและจัดท�ำรำยงำนกำรตรวจประเมินทำงกฎหมำยแก่โจทก์เป็นเงิน
๕๔,๐๐๐,๐๐๐ บำท ค่ำใช้จ่ำยในกำรว่ำจ้ำงบริษัทเอินส์ท แอนด์ ยัง จ�ำกัด ในกำรสืบหำกำร
กระท�ำผิดและด�ำเนินกำรทำงกฎหมำยเพ่อด�ำเนินคดีจ�ำเลยเป็นเงิน ๖,๐๐๐,๐๐๐ บำท และ
ื
ค่ำเสียหำยรำยเดือน เดือนละ ๕๐๐,๐๐๐ บำท จำกกำรกระท�ำละเมิดอย่ำงต่อเนื่องจนกว่ำจ�ำเลย
ิ
ี
จะเลิกใช้งำนอันมีลิขสิทธ์ของโจทก์ ขอให้บังคับจ�ำเลยช�ำระเงิน ๖๐,๐๐๐,๐๐๐ บำท พร้อมดอกเบ้ย
�
�
ั
ั
ั
อตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นบแต่วนถดจำกวนฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ำจำเลยจะชำระเสรจแก่โจทก์
ั
็
ั
ื
ค่ำเสียหำยอัตรำเดือนละ ๕๐๐,๐๐๐ บำท จำกกำรท�ำละเมิดอย่ำงต่อเน่องจนกว่ำจ�ำเลยจะเลิก
ิ
ใช้งำนอันมีลิขสิทธ์ของโจทก์ ให้จ�ำเลยลงประกำศโฆษณำยุติกำรใช้งำนสร้ำงสรรค์ประเภท
วรรณกรรมของโจทก์ในหนังสือพิมพ์ท่แพร่หลำยในประเทศไทย และขอให้ศำลมีค�ำส่งห้ำม
ี
ั
จ�ำเลยใช้และยุ่งเกี่ยวกับรำยงำนกำรตรวจประเมินทำงกฎหมำยอันเป็นงำนมีลิขสิทธิ์ของโจทก์
10
จ�ำเลยให้กำรว่ำ จ�ำเลยเป็นพนักงำนของโจทก์ ปฏิบัติงำนต�ำแหน่งผู้บริหำรฝ่ำยกำรตลำด
ุ
ั
ู
ิ
ื
่
ิ
ี
ิ
ั
มหน้ำทตดต่อประสำนงำนกบลกค้ำนกลงทนเพอขำยโครงกำร โจทก์ไม่ได้เป็นเจ้ำของลขสทธ ์ ิ
ี
่
งำนตำมฟ้องเพรำะโจทก์ไม่ได้เป็นผู้สร้ำงสรรค์ ข้อมูลในรำยงำนเป็นข้อมูลเปิดเผยและไม่ใช่
ิ
งำนอันมีลิขสิทธ์ ฟ้องโจทก์ขำดอำยุควำม จ�ำเลยได้ท�ำกำรส่งข้อมูลของโจทก์จริงแต่กระท�ำไป
ั
ื
ในฐำนะพนักงำนของโจทก์และตำมค�ำส่งของโจทก์โดยได้รับอนุญำตจำกโจทก์เพ่อเสนอข้อมูล
ดังกล่ำวให้ลูกค้ำของโจทก์ ข้อพิพำทในคดีนี้เป็นข้อพิพำทอันเนื่องมำจำกกำรท�ำงำนของจ�ำเลย
ที่ปฏิบัติไปตำมหน้ำที่ในสัญญำจ้ำงแรงงำน โจทก์จึงไม่มีอ�ำนำจฟ้องจ�ำเลยต่อศำลทรัพย์สินทำง
ี
ปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำ ค่ำเสียหำยท่โจทก์เรียกร้องมำมิใช่
�
ค่ำเสียหำยที่เกิดขึ้นจริง และโจทก์ก�ำหนดขึ้นมำเอง ขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดพิจำรณำศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำงพิจำรณำแล้ว
ี
เห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำคดีน้อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ
กำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่ จึงส่งส�ำนวนมำให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษวินิจฉัย
ั
ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำ
คดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙
ี
ี
ิ
ี
วินิจฉัยว่ำ คดีน้เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับลิขสิทธ์ท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของ
ั
ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สิน
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓) หรือไม่ เห็นว่ำ โจทก์บรรยำยฟ้องว่ำ รำยงำน
ั
กำรตรวจประเมินทำงกฎหมำยท่โจทก์ว่ำจ้ำงให้บุคคลอ่นจัดท�ำข้นน้นเป็นงำนวรรณกรรม
ื
ึ
ี
ิ
อันมีลิขสิทธ์ของโจทก์ จ�ำเลยซ่งเป็นลูกจ้ำงของโจทก์กระท�ำกำรอันเป็นกำรละเมิดลิขสิทธ์ในงำน
ิ
ึ
วรรณกรรมของโจทก์โดยกำรท�ำซ้ำด้วยกำรคัดลอก ดัดแปลงบำงส่วนบำงตอนในส่วนอันเป็น
�
สำระส�ำคัญของรำยงำนกำรตรวจประเมินดังกล่ำวและน�ำออกเผยแพร่โดยกำรน�ำออกจ�ำหน่ำย
หรือขำยหำก�ำไรในทำงกำรค้ำ โดยไม่ได้รับอนุญำตจำกโจทก์ อันเป็นกำรฟ้องให้จ�ำเลยรับผิด
จำกกำรกระท�ำละเมิดต่อโจทก์ โดยข้ออ้ำงท่อำศัยเป็นหลักแห่งข้อหำของโจทก์เก่ยวพันโดยตรงกับ
ี
ี
งำนที่โจทก์กล่ำวอ้ำงว่ำโจทก์เป็นเจ้ำของลิขสิทธิ์ ทั้งจ�ำเลยก็ให้กำรว่ำ งำนตำมค�ำฟ้องของโจทก์
ไม่ใช่งำนอันมีลิขสิทธ์ ตำมค�ำฟ้องและค�ำให้กำรจึงมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่ำ งำนตำมฟ้องโจทก์
ิ
ิ
เป็นงำนอันมีลิขสิทธ์หรือไม่ และกำรกระท�ำของจ�ำเลยเป็นกำรละเมิดลิขสิทธ์ของโจทก์
ิ
หรือไม่ เพยงใด อนเป็นกำรพิพำทเกยวกบเรองลิขสทธ์ ส่วนทจ�ำเลยให้กำรต่อส้ว่ำ ข้อพพำท
ู
ิ
ั
ี
ิ
ั
่
ื
ิ
ี
่
่
ี
11
ี
ี
ี
ในคดีน้เป็นข้อพิพำทอันเน่องมำจำกกำรท�ำงำนของจ�ำเลยท่ปฏิบัติไปตำมหน้ำท่ในสัญญำจ้ำง
ื
แรงงำน โจทก์จึงไม่มีอ�ำนำจฟ้องจ�ำเลยต่อศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศน้น
ั
เห็นว่ำ โจทก์บรรยำยฟ้องเพียงว่ำ จำเลยเป็นลูกจ้ำงของโจทก์ แต่ไม่ได้บรรยำยฟ้องว่ำ กำรกระท�ำ
�
ของจ�ำเลยเป็นกำรกระท�ำผิดสัญญำจ้ำงแรงงำนหรือไม่ อย่ำงไร ตำมค�ำฟ้องของโจทก์จึงไม่ม ี
ี
ี
ื
ประเด็นข้อพิพำทเก่ยวเน่องกับสัญญำจ้ำงแรงงำน ฉะน้น คดีน้จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับลิขสิทธ ิ ์
ี
ั
ท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำม
ี
บทบัญญัติมำตรำ ๗ (๓) แห่งพระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำง
ประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
ิ
�
ิ
ั
์
ิ
้
ั
ี
ิ
ี
่
ั
ิ
ู
วนจฉยวำ คดนอยในอำนำจพจำรณำพพำกษำของศำลทรพยสนทำงปญญำและกำรคำ
่
้
ระหว่ำงประเทศ
วินิจฉัย ณ วันที่ ๑๖ เดือน ธันวำคม พุทธศักรำช ๒๕๕๙
เมทินี ชโลธร
(นำงเมทินี ชโลธร)
ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ
สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ
นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ
12
ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ บริษัทโคแมนซี่
ที่ วท ๑/๒๕๖๐ อินเตอร์เนชั่นแนล
จ�ำกัด (มหำชน) โจทก์
บริษัทเพิร์ลวิลเลจ จ�ำกัด จ�ำเลย
คดีมีประเด็นข้อพิพำทต้องวินิจฉัยว่ำ สัญญำตำมฟ้องเป็นสัญญำอนุญำตให้
ึ
จ�ำเลยใช้สิทธิในซอฟต์แวร์พิพำทซ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ส�ำเร็จรูปของโจทก์
ี
ี
ท่ติดต้งให้จ�ำเลยใช้งำนหรือไม่ และโจทก์มีสิทธิได้รับช�ำระหน้ตำมสัญญำดังกล่ำว
ั
ี
หรือไม่ เพียงใด กับจ�ำเลยได้รับควำมเสียหำยหรือไม่ เพียงใด จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับ
ึ
สัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธ ซ่งอยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำ
ิ
ั
ิ
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำมบทบัญญัต มำตรำ ๗ (๓) แห่ง พ.ร.บ. จัดต้งศำลทรัพย์สิน
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
_____________________________
่
ื
ี
ั
ิ
่
ั
้
โจทก์ฟ้องว่ำ เมอวนท ๒๑ สงหำคม ๒๕๕๘ จำเลยว่ำจ้ำงโจทก์ตดตงชดซอฟต์แวร์
ุ
�
ิ
ี
ิ
ั
�
่
ั
ื
่
ุ
หรอชดค�ำสงเกยวกบกำรจดกำรและบรหำรโรงแรมของจำเลย (โคแมนช ซอฟต์แวร์
ั
ี
่
Comanche Software) เป็นเงิน ๒,๐๖๙,๔๗๘ (ท่ถูก ๒,๐๖๙,๔๘๗) บำท ตกลงแบ่งช�ำระ
ี
ื
ั
ี
๒ งวด งวดท่ ๑ จ�ำเลยต้องช�ำระร้อยละ ๕๐ ของเงินจ�ำนวนดังกล่ำวเม่อจ�ำเลยมีใบส่งซ้อ
ื
ื
ถึงโจทก์ และงวดท่ ๒ ช�ำระส่วนท่เหลือเม่อโจทก์ส่งมอบงำนให้แก่จ�ำเลย จ�ำเลยช�ำระเงิน
ี
ี
งวดท่ ๑ แก่โจทก์ ๑,๐๓๔,๗๔๓.๕๐ บำท แล้ว ต่อมำโจทก์ติดต้งพร้อมฝึกอบรมพนักงำน
ั
ี
ของจ�ำเลยในกำร ใช้งำนซอฟต์แวร์ดังกล่ำวตำมข้อตกลงให้แก่จ�ำเลยแล้วเสร็จ และส่งมอบงำน
ให้แก่จ�ำเลยเมื่อวันที่ ๑๒ ตุลำคม ๒๕๕๘ และ ๑๙ ตุลำคม ๒๕๕๙ (ที่ถูก ๒๕๕๘) จ�ำเลยรับมอบ
ไว้เรียบร้อยแล้ว ตำมใบแจ้งหนี้งวดที่ ๒ ซึ่งถึงก�ำหนดช�ำระเมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกำยน ๒๕๕๘
ี
แต่จ�ำเลยเพิกเฉยไม่ช�ำระ ขอให้จ�ำเลยช�ำระเงิน ๑,๐๙๕,๙๗๗.๖๔ บำท พร้อมดอกเบ้ยอัตรำ
ร้อยละ ๗.๕ ต่อปีของต้นเงิน ๑,๐๓๔,๗๔๓.๕๐ บำท นับถัดจำกวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ำจะ
ช�ำระเสร็จแก่โจทก์
13
จ�ำเลยให้กำรและฟ้องแย้งว่ำ จ�ำเลยไม่ได้ค้ำงช�ำระค่ำจ้ำงหรือค่ำบริกำรต่อโจทก์ โจทก์
ไม่มีอ�ำนำจฟ้อง จ�ำเลยไม่ได้ว่ำจ้ำงโจทก์ติดตั้งซอฟต์แวร์พิพำท แต่กำรน�ำซอฟต์แวร์ดังกล่ำวมำ
ิ
ิ
ิ
็
�
�
้
ั
�
ุ
ิ
ู
ิ
ิ
ตดตงให้จำเลยเป็นกำรอนญำตให้จำเลยใช้สทธในโปรแกรมคอมพวเตอร์สำเรจรปทเป็นลขสทธ ิ ์
่
ี
ี
ของโจทก์เพ่อให้จ�ำเลยใช้งำนท่โรงแรมของจ�ำเลย ซ่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์ส�ำเร็จรูปของโจทก์
ื
ึ
แต่ละชุดใช้งำนได้และใช้งำนได้ดีกว่ำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จ�ำเลยใช้งำนอยู่เดิม ซึ่งจ�ำเลยเชื่อ
ว่ำซอฟต์แวร์ท่โจทก์เสนอดังกล่ำวสำมำรถใช้งำนในกำรประกอบกิจกำรโรงแรมของจ�ำเลยได้ด ี
ี
ตำมที่โจทก์รับรอง จึงได้ตกลงด้วยและออกใบสั่งซื้อไปยังโจทก์ พร้อมกับช�ำระเงินล่วงหน้ำงวดที่ ๑
ให้แก่โจทก์ไป จ�ำเลยเริ่มใช้งำนโปรแกรมของโจทก์เมื่อวันที่ ๑ ตุลำคม ๒๕๕๘ เป็นต้นไป แต่
่
้
่
์
้
้
ปรำกฏว่ำโปรแกรมของโจทกหลำยรำยกำรไมสำมำรถใช้งำนไดและโจทก์ไมไดจัดกำรแกไขปัญหำ
ั
ี
ให้แก่จ�ำเลย จ�ำเลยจึงบอกเลิกสัญญำและหยุดใช้โปรแกรมของโจทก์ท่ติดต้งแบบอนุญำตให้จ�ำเลย
ใช้งำนได้ครำวละ ๑ เดือน แล้วกลับมำใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่จ�ำเลยเคยใช้งำนอยู่ตำมเดิม
ี
แต่โจทก์น�ำคดีมำฟ้องให้จ�ำเลยรับผิดเสมือนหน่งว่ำจ�ำเลยใช้โปรแกรมของโจทก์มำจนถึงปัจจุบัน
ึ
่
ี
ี
่
ึ
�
เรยกร้องให้จ�ำเลยช�ำระเงนงวดท่ ๒ อกร้อยละ ๕๐ กำรทโจทก์นำซอฟต์แวร์ซงเป็นโปรแกรม
ี
ิ
ี
คอมพิวเตอร์ส�ำเร็จรูปของโจทก์มำติดต้งให้จ�ำเลยใช้งำน มีลักษณะเป็นสัญญำอนุญำตให้จ�ำเลยใช้
ั
ิ
สิทธิในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ของโจทก์ ซ่งเป็นงำนอันมีลิขสิทธ์ของโจทก์อย่ำงมีก�ำหนดระยะเวลำ
ึ
ิ
ี
คดีน้จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับลิขสิทธ์หรือสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิ อันอยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำ
ี
พิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำง ไม่ใช่ศำลจังหวัดภูเก็ต
เมื่อโจทก์ติดตั้งและส่งมอบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้แก่จ�ำเลยไม่เป็นไปตำมสัญญำ ท�ำให้จ�ำเลย
ได้รับควำมเสียหำย คิดเป็นเงินค่ำว่ำจ้ำงบุคคลภำยนอกมำตรวจสอบ โอนถ่ำยข้อมูล และ
ื
ี
ื
ื
เช่อมต่อโปรแกรมท่จ�ำเลยมีอยู่เดิมกับโปรแกรมของโจทก์ ค่ำซ้อโปรแกรมอ่นมำติดต้งร่วมกับ
ั
โปรแกรมของโจทก์ ฯลฯ ขอให้โจทก์ช�ำระเงิน ๑,๙๙๖,๒๘๕.๔๐ บำท พร้อมดอกเบ้ยอัตรำ
ี
ร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๑,๘๙๘,๒๖๗.๕๘ บำท นับถัดจำกวันฟ้องแย้งเป็นต้นไปจนกว่ำ
จะช�ำระเสร็จแก่จ�ำเลย
โจทก์ให้กำรแก้ฟ้องแย้งว่ำ โจทก์ไม่ได้ผิดสัญญำตำมท่จ�ำเลยฟ้องแย้ง ฟ้องแย้ง
ี
ั
ิ
ื
ิ
เคลอบคลุม จ�ำเลยไม่มีสทธิบอกเลกสัญญำกบโจทก์ ฟ้องแย้งของจ�ำเลยเป็นกำรด�ำเนินกำร
ของจ�ำเลยเองแต่เพียงฝ่ำยเดียวเพรำะโจทก์มีกำรรับประกันกำรติดต้งซอฟต์แวร์เป็นเวลำ ๑ ปี
ั
ให้แก่จ�ำเลย โดยจ�ำเลยไม่แจ้งเหตุขัดข้องและโจทก์ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นท่จ�ำเลยไปจ้ำงบุคคลภำยนอก
ี
มำตรวจสอบและโอนถ่ำยข้อมูล โจทก์ไม่ต้องรับผิดตำมฟ้องแย้ง ค่ำเสียหำยท่จ�ำเลยกล่ำวอ้ำง
ี
14
ี
ตำมฟ้องแย้งสูงเกินกว่ำควำมเป็นจริง ค่ำเสียหำยตำมฟ้องแย้งไม่ใช่ค่ำเสียหำยโดยตรงท่เกิดจำก
ระบบซอฟต์แวร์ของโจทก์ ขอให้ยกฟ้องแย้ง
ี
ั
ี
ในช้นช้สองสถำน ศำลจังหวัดภูเก็ตเห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำคดีน้อยู่ในอ�ำนำจของ
ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่ จึงให้รอกำรพิจำรณำพิพำกษำคด ี
ั
ไว้ช่วครำวแล้วเสนอปัญหำดังกล่ำวให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษเป็นผู้วินิจฉัย ตำม
ั
พระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคด ี
ทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙
วินิจฉัยว่ำ คดีนี้เป็นคดีแพ่งเกี่ยวกับสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิ ที่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำ
พิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำมมำตรำ ๗ (๓) แห่ง
พระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำ
ั
คดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ หรือไม่ เห็นว่ำ ตำมค�ำฟ้อง
ค�ำให้กำรและฟ้องแย้ง กับค�ำให้กำรแก้ฟ้องแย้งมีประเด็นข้อพิพำทให้ต้องวินิจฉัยว่ำ สัญญำตำม
ั
ั
ี
ฟ้องของโจทก์ท่กล่ำวอ้ำงว่ำเป็นสัญญำว่ำจ้ำงติดต้งซอฟต์แวร์น้นเป็นสัญญำอนุญำตให้จ�ำเลย
ึ
ี
ใช้สิทธิในซอฟต์แวร์พิพำทซ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ส�ำเร็จรูปของโจทก์ท่ติดต้งให้จ�ำเลย
ั
ี
ใช้งำนหรือไม่ และโจทก์มีสิทธิได้รับช�ำระหน้ตำมสัญญำดังกล่ำวหรือไม่ เพียงใด กับจ�ำเลย
ื
ุ
่
ึ
ั
ี
ู
ิ
ี
่
ได้รับควำมเสยหำยหรอไม่ เพียงใด จงเป็นคดีแพ่งเกยวกับสญญำอนญำตให้ใช้สทธิ ซงอย่ใน
ึ
อ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำมบทบัญญัต ิ
ั
มำตรำ ๗ (๓) แห่งพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและ
วิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
ั
ิ
ิ
้
ั
์
ี
่
ี
้
ิ
วนจฉยวำ คดนอยในอำนำจพจำรณำพพำกษำของศำลทรพยสนทำงปญญำและกำรคำ
ั
ิ
�
ิ
่
ู
ระหว่ำงประเทศ
วินิจฉัย ณ วันที่ ๑๖ เดือน มกรำคม พุทธศักรำช ๒๕๖๐
เมทินี ชโลธร
(นำงเมทินี ชโลธร)
ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ
สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ
นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ
15
ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ บริษัทไอ โชว์ เอ็นเตอร์เทนเม็นท์
ที่ วทป ๘/๒๕๖๐ จ�ำกัด โจทก์
นำยณัฐ จำรุธรรมกร จ�ำเลย
ตำมค�ำฟ้องโจทก์กล่ำวอ้ำงสัญญำว่ำจ้ำงจ�ำเลยเป็นนักจัดรำยกำรของโจทก์
ื
และกล่ำวถึงกำรกระท�ำละเมิดของจ�ำเลยต่อโจทก์ว่ำ จ�ำเลยใช้ช่อสังกัด 111 Weekend
และสัญลักษณ์โลโก้รูปดำว 111 Weekend ของโจทก์โฆษณำประชำสัมพันธ์กิจกรรม
วีเจในสังกัดและประกำศรับสมัครวีเจให้กับเว็บไซต์ hallostar ซึ่งเป็นธุรกิจประเภทเดียว
ิ
กับโจทก์ผ่ำนทำงเฟซบุ๊กซ่งเป็นงำนอันมีลิขสิทธ์ของโจทก์ ส่วนจ�ำเลยให้กำรต่อสู้ว่ำ
ึ
ิ
ื
จ�ำเลยเป็นเจ้ำของลิขสิทธ์ตำมฟ้องแต่เพียงผู้เดียว กรณีจึงเป็นกำรโต้แย้งเร่องควำมเป็น
ี
้
่
ิ
ิ
เจ้ำของลขสิทธ์ทแท้จรง และในกำรพิจำรณำคดีนจึงมีปัญหำต้องวินิจฉัยถึงควำมเป็น
ิ
ี
เจ้ำของลิขสิทธิ์ในชื่อและสัญลักษณ์โลโก้ตำมฟ้อง คดีนี้จึงเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวกับลิขสิทธิ์
อันอยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำง
ประเทศตำมบทบัญญัต มำตรำ ๗ (๓) แห่ง พ.ร.บ. จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ
ั
ิ
กำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
พ.ศ. ๒๕๓๙
_____________________________
โจทก์ฟ้องว่ำ โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจ�ำกัด มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจกำร
บริกำร ภำพยนตร์ วิดีโอ เพลง เสียง สื่อบันเทิงและนันทนำกำรทำงอินเทอร์เน็ตแก่สมำชิกและ
บุคคลทั่วไป เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลำคม ๒๕๕๘ โจทก์ท�ำสัญญำว่ำจ้ำงจ�ำเลยเป็นนักจัดรำยกำร โดย
ให้สิทธิจ�ำเลยเป็นหัวหน้ำสังกัด ท�ำกำรบริหำรจัดกำรนักจัดรำยกำรในสังกัด ช่อง 111 Weekend
ั
ี
ให้แก่โจทก์เป็นเวลำ ๑ ปี นับต้งแต่วันท่ ๑ พฤศจิกำยน ๒๕๕๘ ถึงวันท่ ๑ พฤศจิกำยน
ี
๒๕๕๙ ต่อมำวันที่ ๒๓ กุมภำพันธ์ ๒๕๕๙ จ�ำเลยกระท�ำละเมิดต่อโจทก์ โดยจงใจใช้ชื่อสังกัด 111
ึ
Weekend และสัญลักษณ์โลโก้รูปดำว 111 Weekend ซ่งเป็นช่อและสัญลักษณ์โลโก้อันเป็น
ื
ิ
ื
ิ
ิ
ิ
ลขสทธผลงำนสร้ำงสรรค์ในกำรออกแบบเพอใช้ในเวบไซต์ของ I SHOW หรอกจกำรบรกำร
ิ
์
็
ื
่
ถ่ำยทอดสัญญำณเสียง ภำพ รำยกำรทุกรูปแบบทำงอินเทอร์เน็ตของโจทก์ จ�ำเลยใช้ช่อสังกัดและ
ื
โลโก้ดังกล่ำวโฆษณำประชำสัมพันธ์กิจกรรมวีเจในสังกัดและประกำศรับสมัครวีเจให้กับเว็บไซต์
16
ึ
WWW.hallostar.in.th ซ่งเป็นธุรกิจประเภทเดียวกับโจทก์ผ่ำนทำงเฟซบุ๊กของจ�ำเลย ท�ำให้
ื
ื
บุคคลอ่นหลงเช่อและเข้ำใจผิดว่ำจ�ำเลยยังคงเป็นพนักงำนหรือหัวหน้ำสังกัดของโจทก์หลังจำก
โจทก์บอกเลิกสัญญำว่ำจ้ำงจ�ำเลยและมีผลทันทีต้งแต่เม่อวันท่ ๕ มกรำคม ๒๕๕๙ ไปแล้ว
ั
ื
ี
้
้
้
่
็
ั
ั
�
ิ
ั
นอกจำกนนจำเลยยงกระทำผดสญญำขอ ๗ ขอหำมเปนคแขงทำงกำรคำกบโจทก ทำใหโจทก์
�
้
ู
์
ั
้
�
่
้
ได้รับควำมเสียหำย ขอให้บังคับจ�ำเลยหยุดกำรกระท�ำเป็นคู่แข่งทำงกำรค้ำหรือกระท�ำกำร
่
ี
ิ
อนใดทเกยวข้องกบธรกจประเภทเดียวกนกบโจทก์ และให้จ�ำเลยช�ำระเงน ๓๐๐,๐๐๐ บำท
ั
ุ
่
ั
่
ั
ื
ี
ิ
พร้อมดอกเบี้ยอัตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่ำว นับถัดจำกวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ำ
จะช�ำระเสร็จแก่โจทก์
จ�ำเลยให้กำรว่ำ โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหำย ไม่มีอ�ำนำจฟ้อง ชื่อสังกัด 111 Weekend และ
สัญลักษณ์โลโก้รูปดำว 111 Weekend โจทก์ไม่ได้เป็นเจ้ำของลิขสิทธ์ และมิได้เป็นเจ้ำของ
ิ
ื
ิ
เคร่องหมำยกำรค้ำ แต่เป็นของจ�ำเลยเพียงผู้เดียว โดยจ�ำเลยเป็นผู้ริเร่มสร้ำงสรรค์ด้วยตนเอง
�
ู่
ั
ื
ื
เพ่อใช้ประชำสัมพนธ์หรือส่อออกสสำธำรณะในกำรหำวีเจเข้ำมำร่วมงำนกับจำเลย เพียงแต่จ�ำเลย
ได้เผยแพร่ในเว็บไซต์ของโจทก์เท่ำน้น จ�ำเลยจึงมิได้กระท�ำละเมิดต่อโจทก์ นอกจำกน้นกลุ่มลูกค้ำ
ั
ั
ี
ท่บริษัทจ�ำเลยร่วมงำนเป็นคนละกลุ่มคนละประเภทมิได้แย่งลูกค้ำหรือมีลักษณะเป็นคู่แข่งทำง
กำรค้ำกับโจทก์ ส�ำหรับค่ำเสียหำยตำมฟ้อง เม่อโจทก์เป็นผู้ท�ำสัญญำว่ำจ้ำงกับวีเจและโจทก์
ื
เป็นผู้ควบคุมดูแลระบบกำรท�ำงำนของแอปพลิเคชัน (Application) ของโจทก์ โจทก์ได้เรียกคืน
ชื่อผู้ใช้งำน (ID) และรหัสผ่ำน (Password) จำกจ�ำเลยแล้ว จ�ำเลยไม่ได้ท�ำให้โจทก์เสียหำยหรือ
ท�ำให้รำยได้โจทก์ลดน้อยถอยลง โจทก์บอกเลิกสัญญำกับจ�ำเลยแล้ว สัญญำตำมฟ้องย่อมไม่ม ี
ผลผูกพันใดๆ ต่อกันและท�ำให้จ�ำเลยกลับคืนสู่ฐำนะเดิม กำรกระท�ำของจ�ำเลยจึงไม่เป็นกำรกระท�ำ
ผิดสัญญำ และไม่เป็นกำรละเมิดต่อโจทก์ ข้อตกลงหรือสัญญำในข้อ ๗ ตำมฟ้องเป็นข้อสัญญำที่
ไม่เป็นธรรมและตกเป็นโมฆะ ท�ำให้จ�ำเลยเสียเปรียบโจทก์เกินสมควร ขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดพิจำรณำ ศำลจังหวัดมีนบุรีเห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำคดีน้อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำ
ี
พิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่ จึงให้รอกำรพิจำรณำ
ั
พิพำกษำคดีไว้ช่วครำว แล้วเสนอปัญหำดังกล่ำวให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษเป็น
ั
ผู้วินิจฉัยตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและ
วิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙
ี
ี
วินิจฉัยว่ำ คดีน้เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับลิขสิทธ์ท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำล
ี
ิ
ทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศตำมบทบัญญัติ มำตรำ ๗ (๓) แห่งพระรำชบัญญัติ
ั
จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สิน
17
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ หรือไม่ เห็นว่ำ ตำมค�ำฟ้องโจทก์กล่ำวอ้ำง
สัญญำว่ำจ้ำงจ�ำเลยเป็นนักจัดรำยกำรของโจทก์และกล่ำวถึงกำรกระท�ำละเมิดของจ�ำเลยต่อ
โจทก์ว่ำ จ�ำเลยใช้ชื่อสังกัด 111 Weekend และสัญลักษณ์โลโก้รูปดำว 111 Weekend ของโจทก์
โฆษณำประชำสัมพันธ์กิจกรรมวีเจในสังกัดและประกำศรับสมัครวีเจให้กับเว็บไซต์ hallostar
ิ
ึ
ึ
ซ่งเป็นธุรกิจประเภทเดียวกับโจทก์ผ่ำนทำงเฟซบุ๊กซ่งเป็นงำนอันมีลิขสิทธ์ของโจทก์ ส่วน
�
ี
ู
�
ู
จำเลยให้กำรต่อส้ว่ำ จำเลยเป็นเจ้ำของลิขสทธตำมฟ้องแต่เพยงผ้เดยว กรณจงเป็นกำรโต้แย้ง
ี
ิ
ึ
ี
ิ
์
เรื่องควำมเป็นเจ้ำของลิขสิทธิ์ที่แท้จริง และในกำรพิจำรณำคดีนี้จึงมีปัญหำต้องวินิจฉัยถึงควำม
เป็นเจ้ำของลิขสิทธิ์ในชื่อและสัญลักษณ์โลโก้ตำมฟ้อง อันเป็นมูลที่จะต้องวินิจฉัยด้วยว่ำ จ�ำเลย
ี
ิ
ี
ี
ิ
กระท�ำละเมิดลิขสิทธ์ตำมฟ้องของโจทก์หรือไม่ คดีน้จึงเป็นคดีแพ่งท่เก่ยวกับลิขสิทธ์อันอยู่ใน
อ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศตำมบทบัญญัต ิ
ั
มำตรำ ๗ (๓) แห่งพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและ
วิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
วินิจฉัยว่ำ คดีน้อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำ และกำรค้ำ
ี
ระหว่ำงประเทศ
วินิจฉัย ณ วันที่ ๒๓ เดือน กุมภำพันธ์ พุทธศักรำช ๒๕๖๐
เมทินี ชโลธร
(นำงเมทินี ชโลธร)
ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ
สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ
นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ
18
ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ นำยจีรวัฒน์ วิริยะสกุลชัยพร
ที่ วทป ๑๙/๒๕๖๐ กับพวก โจทก์
นำงสำวภัทรภร
รัตนสินทวีกุล จ�ำเลย
ิ
ิ
ั
ิ
�
�
็
ี
ั
ตำมคำฟ้องและคำให้กำรมประเดนข้อพพำทให้ต้องวนจฉยว่ำ จำเลยปฏบต ิ
�
ิ
ผิดสัญญำไม่ด�ำเนินกำรให้เป็นไปตำมวัตถุประสงค์ของสัญญำหรือต้องปฏิบัติตำมสัญญำ
ภำยในก�ำหนด ๕ ปี หลังสัญญำเลิกหรือไม่ และโจทก์ท้งสองมีสิทธิบังคับจ�ำเลยตำม
ั
ค�ำขอหรือไม่ เพียงใด กรณีต้องพิจำรณำถึงสิทธิหน้ำที่และควำมรับผิดของคู่สัญญำตำม
ั
ี
ื
สัญญำท่โจทก์ท้งสองกล่ำวอ้ำง เม่อสัญญำพิพำทเป็นสัญญำแฟรนไชส์ลักษณะอนุญำต
ื
ให้ใช้สิทธิในเคร่องหมำยกำรค้ำร้ำนกุ้งถัง ในกำรประกอบกิจกำรร้ำนในรูปแบบและ
ั
ี
ั
ี
ี
ระบบร้ำนอำหำรกุ้งถง อนเป็นสิทธิในทรัพย์สินทำงปัญญำ คดีนจึงเป็นคดแพ่งเก่ยวกบ
ั
้
สัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำง
ี
ปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำมมำตรำ ๗ (๓) แห่ง พ.ร.บ. จัดต้งศำลทรัพย์สิน
ั
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
_____________________________
โจทก์ทั้งสองฟ้องว่ำ โจทก์ทั้งสองจดทะเบียนเป็นเจ้ำของเครื่องหมำยกำรค้ำร้ำนกุ้งถัง
ี
ื
ั
เม่อวันท่ ๙ สิงหำคม ๒๕๕๘ โจทก์ท้งสองตกลงกับจ�ำเลยท�ำสัญญำธุรกิจแฟรนไชส์ร้ำนกุ้งถัง
และจะให้ควำมช่วยเหลือในลักษณะสัญญำกำรค้ำแบบแฟรนไชส์ ไม่ก�ำหนดวันหมดอำยุสัญญำ
์
่
จนกวำจ�ำเลยจะเลิกกิจกำรเอง โดยจ�ำเลยตกลงจำยคำตอบแทนแกโจทกทั้งสอง ๓๕๐,๐๐๐ บำท
่
่
่
เม่อประมำณต้นเดือนมีนำคม ๒๕๕๙ จ�ำเลยกระท�ำกำรอันเป็นปรปักษ์ต่อโจทก์ท้งสอง ท�ำให้
ั
ื
เกิดควำมเสียหำยต่อธุรกิจแฟรนไชส์ร้ำนกุ้งถัง แต่สำมำรถปรับควำมเข้ำใจกันได้ เมื่อวันที่ ๑๑
มีนำคม ๒๕๕๙ จ�ำเลยแจ้งบอกเลิกสัญญำดังกล่ำว แต่จ�ำเลยปฏิบัติผิดเง่อนไขภำยในก�ำหนด
ื
ี
ื
๕ ปี หลังเลิกสัญญำ โดยยังคงประกอบกิจกำรร้ำนอำหำรเช่นเดิมต่อไปเพียงแต่เปล่ยนช่อ
ร้ำนอำหำรใหม่ เมื่อวันที่ ๑๙ มีนำคม ๒๕๕๙ เป็นชื่อ ซีฟูด ดิป (Seafood Dip) และ กุ้งซ่ำ
(Krung Zaa) ตำมล�ำดับ ท�ำให้โจทก์ท้งสองได้รับควำมเสียหำย ขอให้บังคับจ�ำเลยและบริวำรหยุด
ั
19
ั
ู
้
้
่
ี
�
ประกอบกิจกำรรำนอำหำรทมีลกษณะ รปแบบ กำรนำเสนออำหำรเหมือนหรือคลำยกับร้ำนอำหำร
กุ้งถังตำมสัญญำธุรกิจแฟรนไชส์ร้ำนกุ้งถังมีก�ำหนดเวลำ ๕ ปี นับแต่วันที่ ๑ เมษำยน ๒๕๕๙
้
�
่
้
ิ
็
ี
้
ี
้
ั
�
ิ
้
เปนตนไป ให้จำเลยชำระเงน ๑,๕๐๐,๐๐๐ บำท พรอมดอกเบยอตรำรอยละ ๗.๕ ตอป ของตนเงน
จ�ำนวนดังกล่ำวนับถัดจำกวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ำจะช�ำระเสร็จแก่โจทก์ท้งสอง และให้จ�ำเลย
ั
ช�ำระเงินแก่โจทก์ทั้งสองเดือนละ ๒๐๐,๐๐๐ บำท นับถัดจำกวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ำจ�ำเลยและ
บริวำรจะหยุดประกอบกิจกำรร้ำนอำหำรท่มีลักษณะ รูปแบบ กำรน�ำเสนออำหำรเหมือนหรือ
ี
คล้ำยกับร้ำนอำหำรกุ้งถังตำมสัญญำธุรกิจแฟรนไชส์ร้ำนกุ้งถัง
จ�ำเลยให้กำรว่ำ จ�ำเลยมิได้กระท�ำกำรอันเป็นปรปักษ์ต่อธุรกิจแฟรนไชส์ร้ำนกุ้งถัง
ั
ั
ของโจทก์ท้งสอง จ�ำเลยบอกเลิกสัญญำธุรกิจแฟรนไชส์ร้ำนกุ้งถังกับโจทก์ท้งสองแล้ว เม่อ
ื
วันที่ ๑๔ พฤษภำคม ๒๕๕๙ จ�ำเลยปิดกิจกำรร้ำนอำหำรซีฟูด ดิป และได้ขำยทรัพย์สินในร้ำน
ให้บุคคลอื่นโดยมิได้เข้ำไปยุ่งเกี่ยวใด ๆ อีกเลย จ�ำเลยไม่ได้ประพฤติผิดสัญญำธุรกิจแฟรนไชส์
ร้ำนกุ้งถังต่อโจทก์ทั้งสอง จึงไม่ต้องรับผิดชอบต่อโจทก์ทั้งสองตำมฟ้องขอให้ยกฟ้อง
ระหว่ำงพิจำรณำ ศำลแพ่งมีค�ำส่งเสนอปัญหำว่ำ คดีน้อยู่ในอ�ำนำจของศำลทรัพย์สิน
ั
ี
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่ ไปให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษเป็น
ผู้วินิจฉัย ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและ
ั
วิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙
วินิจฉัยว่ำ คดีนเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับเคร่องหมำยกำรค้ำหรือสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธ ิ
้
ี
ี
ื
ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำ
ั
คดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓) หรือไม่ เห็นว่ำ
ตำมค�ำฟ้องและค�ำให้กำรมีประเด็นข้อพิพำทให้ต้องวินิจฉัยว่ำ จ�ำเลยปฏิบัติผิดสัญญำไม่
ด�ำเนินกำรให้เป็นไปตำมวัตถุประสงค์ของสัญญำหรือต้องปฏิบัติตำมสัญญำภำยในก�ำหนด
๕ ปี หลังสัญญำเลิกหรือไม่ และโจทก์ทั้งสองมีสิทธิบังคับจ�ำเลยตำมค�ำขอหรือไม่ เพียงใด กรณี
ี
ี
ต้องพิจำรณำถึงสิทธิหน้ำท่และควำมรับผิดของคู่สัญญำตำมสัญญำท่โจทก์ท้งสองกล่ำวอ้ำง
ั
ื
ื
เม่อสัญญำพิพำทเป็นสัญญำแฟรนไชส์ลักษณะอนุญำตให้ใช้สิทธิในเคร่องหมำยกำรค้ำร้ำน
กุ้งถัง ในกำรประกอบกิจกำรร้ำนในรูปแบบและระบบร้ำนอำหำรกุ้งถัง อันเป็นสิทธิในทรัพย์สิน
ี
ี
ี
ทำงปัญญำ คดีน้จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำ
ของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศตำมมำตรำ ๗ (๓) แห่งพระรำชบัญญัติ
จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำ
ั
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
20
�
ิ
ู
้
่
ิ
ั
้
ิ
ั
์
ั
่
ิ
ิ
ี
ี
วนจฉยวำ คดนอยในอำนำจพจำรณำพพำกษำของศำลทรพยสนทำงปญญำและกำรคำ
ระหว่ำงประเทศ
วินิจฉัย ณ วันที่ ๓ เดือน พฤษภำคม พุทธศักรำช ๒๕๖๐
เมทินี ชโลธร
(นำงเมทินี ชโลธร)
ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ
สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ
นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ
21
ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ เดอะ บู้ทส์ คัมปะนี พีแอลซี
ที่ วทป ๓๒/๒๕๖๐ กับพวก โจทก์
บริษัทบู๊ทส์ รีเทล จ�ำกัด
กับพวก จ�ำเลย
ี
ั
่
ตำมค�ำฟ้องของโจทก์ท้งสองและค�ำให้กำรของจ�ำเลยท ๓ มีประเด็นข้อพิพำท
ื
ื
ี
ให้ต้องวินิจฉัยว่ำ โจทก์ท ๑ เป็นเจ้ำของช่อทำงกำรค้ำ เคร่องหมำยกำรค้ำและ
่
เครื่องหมำยบริกำร ค�ำว่ำ “BOOTS” อ่ำนว่ำ “บู้ทส์” หรือ “บู๊ทส์” และมีโจทก์ที่ ๒ เป็น
่
ี
ี
บริษัทในเครือเดียวกันหรือไม่ กำรท่จ�ำเลยท ๒ น�ำค�ำว่ำ “บู๊ทส์” และ “BOOTS” และ
ื
ี
่
ื
น�ำค�ำว่ำ “บู๊ทส์ รีเทล” และ “BOOTS RETAIL” ช่อของโจทก์ท ๒ ไปย่นขอจองช่อและ
ื
่
ี
ี
ั
ี
ี
่
่
่
ั
จดทะเบียนจัดต้งบริษัทจ�ำเลยท ๑ ต่อจ�ำเลยท ๓ น้น จ�ำเลยท ๑ และท ๒ มีสิทธิใช้ได้
ื
โดยชอบหรือเป็นกำรใช้ช่อโดยล่วงละเมิดสิทธิในช่อทำงกำรค้ำ เคร่องหมำยกำรค้ำ
ื
ื
ิ
ั
และเคร่องหมำยบรกำรของโจทก์ท้งสองและกำรกระท�ำดังกล่ำวท�ำให้โจทก์ทงสองได้
ื
ั
้
รับควำมเสียหำยหรือไม่ เพียงใด ซ่งเป็นประเด็นข้อพิพำทท่ต้องวินิจฉัยถึงสิทธิในช่อ
ึ
ื
ี
ทำงกำรค้ำ เคร่องหมำยกำรค้ำ เคร่องหมำยบริกำร และกำรล่วงละเมิดสิทธิดังกล่ำว คดีน ี ้
ื
ื
ี
ื
จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับเคร่องหมำยกำรค้ำและคดีแพ่งท่เก่ยวกับข้อพิพำทในช่อทำงกำรค้ำ
ี
ื
ี
ท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
ี
ตำมบทบัญญัต มำตรำ ๗ (๓) (๙) แห่ง พ.ร.บ. จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ
ิ
ั
กำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
พ.ศ. ๒๕๓๙
_____________________________
โจทก์ทั้งสองฟ้องและแก้ไขค�ำฟ้องว่ำ โจทก์ที่ ๑ เป็นเจ้ำของชื่อทำงกำรค้ำเครื่องหมำย
กำรค้ำและเครื่องหมำยบริกำร ค�ำว่ำ “BOOTS” อ่ำนว่ำ “บู้ทส์” หรือ “บู๊ทส์” โจทก์ที่ ๑ ประกอบ
ื
ึ
ธุรกิจจ�ำหน่ำยสินค้ำและให้บริกำรร้ำนจ�ำหน่ำยปลีกสินค้ำภำยใต้ช่อร้ำนว่ำ BOOTS ซ่ง
จ�ำหน่ำยสินค้ำอุปโภคบริโภค ยำรักษำโรค เคมีภัณฑ์ เวชภัณฑ์ เคร่องส�ำอำง อุปกรณ์เสริมสวย
ื
อำหำรเสริม และสินค้ำอ่น มีโจทก์ท่ ๒ เป็นบริษัทในเครือเดียวกันซ่งเป็นท่รู้จักแพร่หลำย
ี
ี
ึ
ื
ในต่ำงประเทศนำนกว่ำ ๑๖๐ ปี และในประเทศไทยนำนเกือบ ๒๐ ปี ตำมล�ำดับ ระหว่ำง
ื
ึ
วันท่ ๔ ถึง ๑๒ กุมภำพันธ์ ๒๕๕๘ จ�ำเลยท่ ๒ น�ำค�ำว่ำ “บู๊ทส์” และ “BOOTS” ซ่งเป็นช่อทำงกำรค้ำ
ี
ี
22