The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by achirapong.art, 2022-09-22 05:01:42

รวมคำวินิจฉัย ของประธานศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ



บริษัทโอชำยะ กรุ๊ป จ�ำกัด ด้วย ได้ขอใช้บริกำรพ้นท่กับห้ำงสรรพสินค้ำโรบินสัน จ�ำกัด (มหำชน)
สำขำร้อยเอ็ด มีก�ำหนด ๓ ปี นับแต่วันที่ ๓ ตุลำคม ๒๕๕๗ ถึงวันที่ ๒ ตุลำคม ๒๕๖๐ เพื่อ




ประกอบกิจกำรค้ำประเภทเคร่องด่ม โดยใช้ช่อทำงกำรค้ำว่ำ Ochaya โจทก์ได้ท�ำบันทึกข้อตกลง




เข้ำใช้พ้นท่ดังกล่ำวแทนจ�ำเลยเพ่อประกอบกิจกำรจ�ำหน่ำยชำนมไข่มุกภำยใต้เคร่องหมำยกำรค้ำ
COOL OCHAYA หรือ OCHAYA มีก�ำหนดระยะเวลำ ๑ ปี นับแต่วันที่ ๒๔ กันยำยน ๒๕๕๗
ครบก�ำหนดวันที่ ๒๓ กันยำยน ๒๕๕๘ ในอัตรำค่ำใช้พื้นที่บริกำรเดือนละ ๔๑,๙๔๔ บำท รวม



ภำษีมูลค่ำเพ่ม ช�ำระทุกวันท่ ๑ ของเดือน และในวันท่ท�ำบันทึกข้อตกลง โจทก์ได้ช�ำระค่ำเช่ำ
ล่วงหน้ำให้แก่จ�ำเลยเป็นเวลำ ๓ เดือน เป็นเงิน ๑๒๕,๘๓๒ บำท รวมภำษีมูลค่ำเพ่ม และ



วำงเงินประกันในกำรปฏิบัติตำมบันทึกข้อตกลงกำรเข้ำใช้พ้นท่บริกำรอีกเป็นเงิน ๒๕๑,๖๖๔ บำท
รวมภำษีมูลค่ำเพิ่ม รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๓๗๗,๔๙๖ บำท โดยบันทึกข้อตกลงระบุว่ำ หำกโจทก์
เข้ำใช้พื้นที่บริกำรจนครบก�ำหนดและโจทก์ได้ขนย้ำยทรัพย์สินและบริวำรออกจำกพื้นที่ ส่งมอบ


พ้นท่คืนในสภำพเรียบร้อย จ�ำเลยจะคืนเงินประกันให้แก่โจทก์ โจทก์บอกกล่ำวจ�ำเลยล่วงหน้ำ



แล้วว่ำ โจทก์ไม่ประสงค์จะใช้พ้นท่บริกำรต่อไปเม่อครบก�ำหนดเวลำตำมบันทึกข้อตกลง


และเม่อครบก�ำหนดระยะเวลำตำมบันทึกข้อตกกลงโจทก์ได้ส่งมอบพ้นท่เข้ำใช้บริกำรใน

สภำพเรียบร้อยคืนแก่จ�ำเลยแล้ว จ�ำเลยจึงต้องคืนเงินประกันกำรเข้ำใช้พ้นท่บริกำรเป็นเงิน


๒๕๑,๖๖๔ บำท แก่โจทก์ แต่จ�ำเลยไม่ปฏิบัติตำมสัญญำ โจทก์ทวงถำมให้จ�ำเลยคืนเงินประกัน
กำรเข้ำใช้พ้นท่หลำยคร้ง แต่จ�ำเลยเพิกเฉย กำรกระท�ำของจ�ำเลยท�ำให้โจทก์ได้รับควำม





เสยหำยไม่ได้รับคืนเงนประกนกำรเข้ำใช้พนท่ให้บรกำรเป็นเงิน ๒๕๑,๖๖๔ บำท พร้อมดอกเบ้ยอัตรำ






ร้อยละ ๑๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๒๓ กันยำยน ๒๕๕๘ จนถึงวันฟ้องเป็นเวลำ ๒๖๖ วัน คิดเป็น
ดอกเบี้ย ๒๗,๕๑๐ บำท รวมเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นเงิน ๒๗๙,๑๗๔ บำท ขอให้บังคับจ�ำเลย
ช�ำระเงิน ๒๗๙,๑๗๔ บำท พร้อมดอกเบี้ยอัตรำร้อยละ ๑๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๒๕๑,๑๗๔ บำท
นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ำจะช�ำระเสร็จแก่โจทก์

จ�ำเลยให้กำรและแก้ไขคำให้กำรว่ำ โจทก์เป็นฝ่ำยผดสัญญำ โจทก์มิได้บอกกล่ำว


จ�ำเลยล่วงหน้ำเพ่อแจ้งต่อจ�ำเลยว่ำเม่อครบก�ำหนดระยะเวลำตำมบันทึกข้อตกลงแล้ว โจทก์



ไม่ประสงค์จะใช้พ้นท่ให้บริกำรต่อไป ตำมสัญญำแฟรนไชส์และบันทึกข้อตกลง โจทก์มีหน้ำท ี ่
ต้องช�ำระค่ำใช้จ่ำยในกำรใช้สถำนท่ท่ได้รับอนุญำตให้ใช้จำกจ�ำเลย ได้แก่ ค่ำบริกำรใช้สถำนท ่ ี



ค่ำภำษีโรงเรือน ค่ำน้ำประปำ ค่ำไฟและอ่น ๆ แต่ในระหว่ำงท่โจทก์ใช้สถำนท่ดังกล่ำว โจทก์ไม่ช�ำระ



ค่ำใช้จ่ำยจนเกิดหนี้ค้ำงช�ำระกับบริษัทห้ำงสรรพสินค้ำโรบินสัน จ�ำกัด (มหำชน) สำขำร้อยเอ็ด
73

รวมเป็นเงิน ๑๘๒,๙๐๓ บำท บริษัทห้ำงสรรพสินค้ำโรบินสัน จ�ำกัด (มหำชน) จึงหักหนี้ที่ค้ำง

ช�ำระจำกเงินประกันไปจำกจ�ำเลย เหลือเงินประกันหลังหักช�ำระหนี้ค้ำงเป็นเงิน ๖๘,๗๖๐ บำท










และตำมบนทกข้อตกลงระบว่ำ หำกโจทก์เข้ำใช้พนทบรกำรจนครบกำหนดตำมบนทกข้อตกลง




และระยะเวลำได้ส้นสุดแล้ว โจทก์ได้ขนย้ำยทรัพย์สินและบริวำรออกจำกพ้นท่ ส่งมอบพ้นท่คืน



ในสภำพเรียบร้อยจ�ำเลยจะคืนเงินประกันให้แก่โจทก์ แต่เมื่อระยะเวลำตำมบันทึกข้อตกลงสิ้นสุดลง




เม่อวันท่ ๒๓ กันยำยน ๒๕๕๘ โจทก์ไม่ได้ท�ำกำรขนย้ำยทรัพย์สินออกจำกพ้นท่และส่งมอบ
พ้นท่คืนจ�ำเลยในสภำพเรียบร้อย จ�ำเลยต้องบอกกล่ำวให้โจทก์เข้ำไปด�ำเนินกำรร้อถอนทรัพย์สิน



หลำยคร้งจนโจทก์ด�ำเนินกำรแล้วเสร็จในวันท่ ๒๐ ธันวำคม ๒๕๕๘ ซ่งเกินก�ำหนดเวลำต้อง







ส่งมอบพนทคนเป็นระยะเวลำ ๘๘ วน จงถอว่ำโจทก์ผดนด และทำให้จำเลยต้องตกเป็นฝ่ำย








ผิดสัญญำกับบริษัทห้ำงสรรพสินค้ำโรบินสัน จ�ำกัด (มหำชน) ท�ำให้บริษัทห้ำงสรรพสินค้ำ
โรบินสัน จ�ำกัด (มหำชน) ริบเงินประกันส่วนท่เหลือ ๖๘,๗๖๐.๕๙ บำท เพ่อชดเชยควำมเสียหำย







ท่เกิดข้น สัญญำระหว่ำงโจทก์กับจ�ำเลยเป็นสัญญำท่เก่ยวเน่องกับกำรใช้สิทธิในเคร่องหมำย

กำรค้ำจึงอยู่ในเขตอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำคดีของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศกลำง ขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดพิจำรณำของศำลจังหวัดพระโขนงพิจำรณำแล้ว เห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำคดีนี้
อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่
จึงส่งส�ำนวนให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษวินิจฉัยตำมพระรำชบัญญัติจัดต้ง

ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำ
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙








วนิจฉยว่ำ คดน้เป็นคดแพ่งเก่ยวกับสัญญำอนุญำตให้ใช้สทธในเครองหมำยกำรค้ำ



ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำ
คดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓) หรือไม่

เห็นว่ำ ตำมค�ำฟ้องและค�ำให้กำร คดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยถึงสิทธิ หน้ำท่ และควำมรับผิด
ระหว่ำงโจทก์กับจ�ำเลยตำมบันทึกข้อตกลงในกำรใช้พ้นท่บริกำรบริเวณห้ำงสรรพสินค้ำโรบินสัน




สำขำร้อยเอ็ด ซ่งโจทก์กล่ำวอ้ำงว่ำโจทก์เข้ำใช้พ้นท่บริกำรตำมข้อตกลงจนครบก�ำหนด



ระยะเวลำและส่งมอบพ้นท่คืนจ�ำเลยแล้ว จ�ำเลยจึงต้องคืนเงินประกันกำรปฏิบัติตำมบันทึก
ข้อตกลงให้แก่โจทก์ ส่วนจ�ำเลยให้กำรโต้แย้งว่ำ โจทก์ไม่ช�ำระค่ำใช้จ่ำยต่ำง ๆ จนเกิด
หน้ค้ำงช�ำระกับบริษัทห้ำงสรรพสินค้ำโรบินสัน จ�ำกัด (มหำชน) สำขำร้อยเอ็ด และไม่ส่งมอบ

74



พ้นท่คืนในสภำพเรียบร้อยตำมก�ำหนดเวลำเป็นเหตุให้บริษัทห้ำงสรรพสินค้ำโรบินสัน จ�ำกัด



(มหำชน) หักหน้ท่ค้ำงช�ำระและริบเงินประกันท้งหมด กรณีจึงมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่ำ โจทก์


เป็นฝ่ำยผิดสัญญำในกำรเข้ำใช้พ้นท่บริกำรหรือไม่ และจ�ำเลยต้องคืนเงินประกันให้แก่โจทก์
หรือไม่ เพียงใด แม้โจทก์จะได้ท�ำสัญญำแฟรนไชส์ในกำรขอใช้สิทธิในเคร่องหมำยกำรค้ำ


COOL OCHAYA หรือ OCHAYA กับบริษัทโอชำยะ กรุ๊ป จ�ำกัด ซ่งมีกรรมกำรผู้มีอ�ำนำจ
กระท�ำกำรแทนเป็นบุคคลเดียวกับกรรมกำรผู้มีอ�ำนำจกระท�ำกำรแทนจ�ำเลยแต่ก็เป็นเพียง


กำรระบถงสทธิของโจทก์ในกำรใช้เครองหมำยกำรค้ำ COOL OCHAYA หรอ OCHAYA





ในกำรประกอบกิจกำรจ�ำหน่ำยเคร่องด่มประเภทชำนมไข่มุกภำยใต้เคร่องหมำยกำรค้ำดังกล่ำว





ในบริเวณพ้นท่ท่โจทก์ท�ำข้อตกลงขอใช้บริกำรจำกจ�ำเลยเท่ำน้น ประกอบกับปรำกฏจำก

ค�ำให้กำรว่ำ โจทก์เป็นผู้ขอใช้สิทธิในเครื่องหมำยกำรค้ำ COOL OCHAYA หรือ OCHAYA กับ
บริษัทโอชำยะ กรุ๊ป จ�ำกัด ตำมสัญญำแฟรนไชส์ กรณีจึงไม่มีประเด็นพิพำทเกี่ยวข้องกับสัญญำ



อนญำตให้ใช้สิทธในเคร่องหมำยกำรค้ำแต่อย่ำงใด คดีนจงมิใช่คดีแพ่งเก่ยวกับสญญำอนุญำต





ให้ใช้สิทธิในเคร่องหมำยกำรค้ำ ท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำง


ปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำมบทบัญญัตมำตรำ ๗ (๓) แห่งพระรำชบัญญัตจัดตง




ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์ทำงปัญญำและ
กำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ.๒๕๓๙
วินิจฉัยว่ำ คดีน้อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ

กำรค้ำระหว่ำงประเทศ
วินิจฉัย ณ วันที่ ๓ เดือน พฤศจิกำยน พุทธศักรำช ๒๕๕๙
เมทินี ชโลธร
(นำงเมทินี ชโลธร)

ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ



สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ

นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ






75

ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ บริษัทยูโรสปอร์ต อีเวนต์ส

ที่ วทป ๕๐/๒๕๖๑ ลิมิเต็ด โจทก์

รำชยำนยนต์สมำคม
แห่งประเทศไทย หรือ

รำชยำนยนต์สมำคม

แห่งประเทศไทยในพระบรมรำชูปถัมภ์
สมำคมกีฬำ จ�ำเลย





โจทก์เพียงเรียกร้องให้จ�ำเลยช�ำระค่ำธรรมเนียมตำมสัญญำพิพำทเท่ำน้น


หำได้ท�ำให้คดีมีประเด็นท่จะต้องวินิจฉัยเก่ยวกับกำรให้ควำมคุ้มครองงำนอันม ี



ลิขสิทธ์หรือกำรกระท�ำละเมิดลิขสิทธ์ตำม พ.ร.บ. ลิขสิทธ พ.ศ. ๒๕๓๗ คดีน้จึงไม่ใช่


คดีแพ่งเกี่ยวกับลิขสิทธิ์และคดีพิพำทตำมสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธิ์
_____________________________

โจทก์ฟ้องว่ำ โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจ�ำกัดตำมกฎหมำยของสหรำชอำณำจักร

ซึ่งได้รับสิทธิเป็นผู้จัดกำรแข่งขันรถยนต์นำนำชำติ (FIA World Touring Car Championship


มีช่อย่อว่ำ WTCC) จำกสหพันธ์ยำนยนต์นำนำชำติ (Fédération Internationale de l’Automobile
มีชื่อย่อว่ำ FIA) เมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกำยน ๒๕๕๗ จ�ำเลยมีหนังสืออย่ำงเป็นทำงกำรถึงโจทก์

ขอให้โจทก์พิจำรณำจัดกำรแข่งขันรำยกำร WTCC ประจ�ำปี ๒๕๕๘ ประมำณเดือนตุลำคม
ณ สนำมช้ำง อินเตอร์เนช่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ประเทศไทย พร้อมเสนอเง่อนไข


ทำงธุรกิจในส่วนค่ำใช้จ่ำย รำยได้ ผลตอบแทนของโจทก์จ�ำเลยแต่ละฝ่ำยจะได้รับจำกกำร









ร่วมกันจดงำน รวมถึงค่ำธรรมเนยมจดกำรแข่งขนในรูปแบบของกำรให้บรษทในกลุ่มบรษท

ทรู วิช่น กรุ๊ป เข้ำซ้อรำยกำรยูโรสปอร์ตเอเชียจำกบริษัทในกลุ่มของยูโรสปอร์ตเพ่อถ่ำยทอด


สัญญำณแข่งขันรำยกำร WTCC ประจ�ำปี ๒๕๕๘ และ ๒๕๕๙ ในช่องโทรทัศน์ของกลุ่ม
บริษัททรู วิชั่น กรุ๊ป ในรำคำ ๘๐๐,๐๐๐ ดอลลำร์สหรัฐ ให้ถือเป็นค่ำธรรมเนียมที่โจทก์ได้รับจำก
จ�ำเลย ดังนั้น หำกบริษัทในกลุ่มบริษัททรู วิชั่น กรุ๊ป เข้ำมำเป็นผู้สนับสนุน จ�ำเลยไม่ต้องช�ำระ


ค่ำธรรมเนียมน้ แต่หำกบริษัทในกลุ่มบริษัททรู วิช่น กรุ๊ป ไม่เข้ำมำเป็นผู้สนับสนุน จ�ำเลยม ี

หน้ำท่ต้องช�ำระค่ำธรรมเนียมจ�ำนวนดังกล่ำวให้กับโจทก์ ต่อมำวันท่ ๒๗ ตุลำคม ๒๕๕๘

76

โจทก์ให้สิทธิจ�ำเลยร่วมจัดกำรแข่งขันรำยกำร WTCC ประจ�ำปี ๒๕๕๘ ตำมสัญญำงำนดับเบิ้ลยู

ทีซีซี แชมเปี้ยนชิป (WTCC Champianship Event Contract) โดยจ�ำเลยตกลงโอนลิขสิทธิ์และ



สิทธิในทรัพย์สินทำงปัญญำประเภทอ่น ๆ ท้งปวงในเทปบันทึกภำพของ WTCC ให้แก่โจทก์
ส่วนโจทก์ตกลงให้สิทธิจ�ำเลยถ่ำยทอดสัญญำณภำพระหว่ำงประเทศและสิทธิใช้สัญญำณภำพ


และภำพน่งกำรแข่งขันเฉพำะท่โจทก์มอบให้เพ่อโฆษณำประชำสัมพันธ์สนำม และอ่น ๆ หลังจำก


ท�ำสัญญำแล้ว โจทก์บรรจุกำรแข่งขันรำยกำร WTCC ในประเทศไทยไว้ในปฏิทินกำรแข่งขัน
รำยกำร WTCC ประจ�ำปี ๒๕๕๘ ของ FIA ก�ำหนดกำรแข่งขันในวันท่ ๓๑ ตุลำคม ถึง

๑ พฤศจิกำยน ๒๕๕๘ ปรำกฏว่ำกำรเจรจำระหว่ำงบริษัทในกลุ่มยูโรสปอร์ต คือ บริษัทยูโรสปอร์ต

เอเชีย แปซิฟิก จ�ำกัด กับกลุ่มบริษัททรู วิช่น กรุ๊ป คือ บริษัทแพนเทอร์ เอ็นเทอร์เทนเมนส์


จ�ำกัด ไม่สำมำรถเจรจำตกลงกันได้ จ�ำเลยจึงมีหน้ำท่ต้องช�ำระเงินค่ำธรรมเนียมกำรจัดงำน

๘๐๐,๐๐๐ ดอลลำร์สหรัฐ พร้อมใบแจ้งหน้เรียกเก็บก�ำหนดช�ำระวันท่ ๒๐ มกรำคม ๒๕๕๙

พร้อมดอกเบี้ยถึงวันฟ้อง ๑๔๗,๑๑๘.๗๖ ดอลลำร์สหรัฐ รวมเป็นเงิน ๙๕๓,๘๖๙.๔๔ ดอลลำห์สหรัฐ
อัตรำแลกเปลี่ยน ณ วันที่ ๙ เมษำยน ๒๕๖๑ ดอลลำร์สหรัฐละ ๓๑.๔๑๗๒ บำท คิดเป็นเงิน


๒๙,๙๖๗,๙๐๖.๙๗ บำท โจทก์ทวงถำมแล้วจ�ำเลยเพิกเฉย ท้งน้ โจทก์ให้สิทธิจ�ำเลยจัดกำร

แข่งขันรำยกำร WTCC “2015 Race of Thailand” ร่วมกันกับโจทก์ในประเทศไทย อันเป็น
สัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิ และจ�ำเลยผิดสัญญำไม่ช�ำระค่ำสิทธิให้แก่โจทก์ ขอให้บังคับจ�ำเลย

ช�ำระเงิน ๒๙,๙๖๗,๙๐๖.๙๗ บำท พร้อมดอกเบ้ยอัตรำร้อยละ ๘ บวกอัตรำดอกเบ้ยประกำศ


โดยธนำคำรแห่งสหรำชอำณำจักรของต้นเงิน ๘๐๐๐,๐๐๐ ดอลลำร์สหรัฐ นับถัดจำกวันฟ้อง

เป็นต้นไปจนกว่ำจะช�ำระเสร็จแก่โจทก์
จ�ำเลยให้กำรและฟ้องแย้งว่ำ จ�ำเลยไม่เคยมีหนังสือลงวันที่ ๒๙ พฤศจิกำยน ๒๕๕๗


ในนำมจ�ำเลย และไม่เคยท�ำสัญญำงำนดับเบ้ลยูทีซีซี แชมเปี้ยนชิปกับโจทก์ตำมฟ้อง อีกท้ง

ไม่เคยตกลงโอนลิขสิทธิ์ในทรัพย์สินทำงปัญญำกับโจทก์ กำรที่โจทก์จะบรรจุกำรแข่งขันรำยกำร
พิพำทของบุคคลใดเป็นกรณีของโจทก์ฝ่ำยเดียวไม่ผูกพันจ�ำเลย จ�ำเลยไม่เคยร่วมจัดกำรแข่งขัน


ตำมฟ้อง ส่วนกำรเจรจำระหว่ำงกลุ่มยูโรสปอร์ตกับกลุ่มบริษัททรู วิช่น กรุ๊ป เป็นกรณีของ
บุคคลภำยนอกท่อยู่นอกเหนือควำมรับผิดชอบของจ�ำเลย เป็นกรณีท่โจทก์ด�ำเนินกำร


ฝ่ำยเดียวไม่เกี่ยวข้องกับจ�ำเลย จ�ำเลยไม่มีหน้ำที่หรือควำมรับผิดตำมใบแจ้งหนี้ จ�ำเลยไม่เคยได้รับ




กำรทวงถำมจำกโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนำจฟ้องเพรำะจ�ำเลยไม่อยู่ภำยใต้บทบญญตของกฎหมำย

สหรำชอำณำจักร คดีตำมฟ้องเป็นกำรเรียกร้องให้จ�ำเลยช�ำระค่ำธรรมเนียมอันเกิดจำกกำร

77

ผิดสัญญำ ไม่อยู่ในเขตอ�ำนำจศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ และโจทก์



กล่ำวอ้ำงมูลเหตุท่ไม่มีอยู่จริงมำฟ้องจ�ำเลย ท�ำให้จ�ำเลยได้รับควำมเสียหำยต่อช่อเสียงและ
ทำงท�ำมำหำได้ ขอให้ยกฟ้องและบังคับโจทก์ชดใช้ค่ำสินไหมทดแทน ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บำท

พร้อมดอกเบ้ยอัตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินจ�ำนวนดังกล่ำวนับแต่วันฟ้องแย้งเป็นต้นไป
จนกว่ำจะช�ำระเสร็จแก่จ�ำเลย

ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำงมีค�ำสั่งไม่รับฟ้องแย้ง

ในวันนัดช้สองสถำน ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำงพิจำรณำ

แล้ว เห็นว่ำ มีปัญหำว่ำคดีน้อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ

กำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่ จึงให้รอกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีไว้ช่วครำว แล้วเสนอปัญหำ


ดงกล่ำวให้ประธำนศำลอทธรณ์คดีชำนญพิเศษเป็นผู้วนจฉย ตำมพระรำชบญญติจดตง










ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและ
กำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙



วินิจฉัยว่ำ คดีน้เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับลิขสิทธ์และคดีพิพำทตำมสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธ ิ
ท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำม


พระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคด ี
ทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓) หรือไม่ เห็นว่ำ
โจทก์กล่ำวอ้ำงว่ำเป็นผู้ได้รับสิทธิจัดกำรแข่งขันรถยนต์นำนำชำติจำกสหพันธ์ยำนยนต์นำนำชำต ิ
แล้วโจทก์ให้สิทธิจ�ำเลยจัดกำรแข่งขันร่วมกับโจทก์ตำมสัญญำงำนดับเบ้ลยูทีซีซี แชมเปี้ยนชิป

โดยโจทก์บรรจุกำรแข่งขันรำยกำรดับเบิ้ลยูทีซีซี ในประเทศไทยไว้ในปฏิทินกำรแข่งขันดับเบิ้ลยู

ทีซีซีประจ�ำปี ๒๕๕๘ ของเอฟไอเอ ก�ำหนดกำรแข่งขันระหว่ำงวันท่ ๓๑ ตุลำคม ถึง ๑ พฤศจิกำยน ๒๕๕๘

โดยมีข้อตกลงว่ำให้บริษัทในกลุ่มบริษัททรู วิช่น กรุ๊ป ถ่ำยทอดสัญญำณกำรแข่งขัน
ุ๊
พร้อมช�ำระค่ำธรรมเนียมแก่โจทก์ ๘๐๐,๐๐๐ ดอลลำร์สหรัฐ หำกบริษัทในกลุ่มบริษัททรู วิช่น กรป


เข้ำเป็นผู้สนับสนุน จ�ำเลยไม่ต้องช�ำระค่ำธรรมเนียม มิฉะน้นจ�ำเลยมีหน้ำท่ช�ำระค่ำธรรมเนียม

จ�ำนวนดังกล่ำวให้แก่โจทก์ แต่จ�ำเลยให้กำรปฏิเสธว่ำ ไม่เคยตกลงท�ำสัญญำดังกล่ำวกับโจทก์




กล่มบริษัททร วิชน กร๊ป เป็นบคคลภำยนอก จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดช�ำระค่ำธรรมเนียมท่กลุ่ม




บริษัทดังกล่ำวไม่ช�ำระให้แก่โจทก์ตำมฟ้อง ท�ำให้โจทก์ได้รับควำมเสียหำยและคดีไม่อยู่ในเขต
อ�ำนำจศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ คดีน้จึงมีประเด็นให้ต้องวินิจฉัย


เพียงว่ำ จ�ำเลยผิดสัญญำงำนดับเบ้ลยูทีซีซี แชมเปี้ยนชิป ด้วยกำรไม่ช�ำระค่ำธรรมเนียม
78

กำรจัดงำนให้แก่โจทก์หรือไม่ และค่ำเสียหำยมีเพียงใด แม้ตำมค�ำฟ้องของโจทก์อ้ำงถึงควำมเป็น



เจ้ำของลิขสิทธ์ในกำรบันทึกภำพกำรแข่งขันรำยกำรดับเบ้ลยูทีซีซีในประเทศไทยในฐำนะโจทก์
ได้รับสิทธิให้เป็นผู้จัดกำรแข่งขันรถยนต์จำกสหพันธ์ยำนยนต์นำนำชำติ แต่จ�ำเลยได้สิทธิถ่ำยทอด


สัญญำณภำพระหว่ำงประเทศ และสิทธิใช้สัญญำณภำพและภำพน่งกำรแข่งขันเพ่อโฆษณำ
ประชำสัมพันธ์สนำมโดยคู่ควำมมิได้โต้เถียงถึงสิทธิในควำมเป็นเจ้ำของลิขสิทธ์หรือกำรกระท�ำ





ละเมิดลิขสิทธ์ในภำพเคล่อนไหวและภำพน่งกำรแข่งขันรำยกำรพิพำทตำมสัญญำท่โจทก์
กล่ำวอ้ำงแต่ประกำรใด โจทก์เพียงเรียกร้องให้จ�ำเลยช�ำระค่ำธรรมเนียมตำมสัญญำพิพำทเท่ำน้น


หำได้ท�ำให้คดีมีประเด็นท่จะต้องวินิจฉัยเก่ยวกับกำรให้ควำมคุ้มครองงำนอันมีลิขสิทธ์หรือ


กำรกระท�ำละเมิดลิขสิทธิ์ตำมพระรำชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ คดีนี้จึงไม่ใช่คดีแพ่งเกี่ยวกับ


ลิขสิทธ์และคดีพิพำทตำมสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิในลิขสิทธ์อันอยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำ
ของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศตำมมำตรำ ๗ (๓) แห่งพระรำชบัญญัติ

จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำ
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙

วินิจฉัยว่ำ คดีน้ไม่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ

กำรค้ำระหว่ำงประเทศ




วินิจฉัย ณ วันที่ ๓๐ เดือน สิงหำคม พุทธศักรำช ๒๕๖๑




เมทินี ชโลธร
(นำงเมทินี ชโลธร)

ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ




สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ

นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ














79

ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ นำงสำวสมบูรณ์ ทั่วถวิล โจทก์

ที่ วทป ๘๓/๒๕๖๒ นำยมำโนช ลี้ธีระกุล ในฐำนะ

ผู้จัดกำรมรดกของนำงรัตนำ
ลี้ธีระกุล กับพวก จ�ำเลย











กำรจะวนิจฉยว่ำ คดีน้เป็นคดแพ่งเก่ยวกับเคร่องหมำยกำรค้ำหรอไม่นน



เน่องจำกค�ำฟ้องของโจทก์สรุปได้ใจควำมว่ำ โจทก์ฟ้องจ�ำเลยท้งสำมให้เพิกถอนนิติกรรม
กำรโอนเคร่องหมำยกำรค้ำจำกกองมรดกของผู้ตำยให้กลับมำเป็นของกองมรดกตำมเดิม








และชดใช้ค่ำเสยหำย เนองจำกเป็นกำรโอนเครองหมำยกำรค้ำทไม่ชอบด้วยกฎหมำย


จึงเห็นได้ชัดเจนว่ำ เป็นกรณีท่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมกำรโอนเคร่องหมำย
กำรค้ำระหว่ำงจ�ำเลยที่ ๑ ในฐำนะผู้จัดกำรมรดกและจ�ำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นกำรโอนที่ไม่ชอบ

ด้วยกฎหมำย และเป็นนิติกรรมท่เป็นปฏิปักษ์ต่อกองมรดก อันเป็นกำรฟ้องเรียกคืน
ทรัพย์มรดก และเป็นคดีมรดก ตำมบรรพ ๖ แห่ง ป.พ.พ. แม้ตำมค�ำฟ้องดังกล่ำวอ้ำงถึง
กำรโอนเครื่องหมำยกำรค้ำ แต่ไม่มีประเด็นให้ต้องวินิจฉัยถึงกำรให้ควำมคุ้มครองสิทธิ










ในเครองหมำยกำรคำหรอกำรละเมดเครองหมำยกำรคำ ตำม พ.ร.บ. เคร่องหมำยกำรคำ
พ.ศ. ๒๕๓๔ แต่อย่ำงใด คดีนี้จึงไม่ใช่คดีแพ่งเกี่ยวกับเครื่องหมำยกำรค้ำ ตำมบทบัญญัติ
มำตรำ ๗ (๓) แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและ
วิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
_____________________________

โจทก์ฟ้องว่ำ โจทก์เป็นบุตรของนำงรัตนำ ผู้ตำยซ่งเป็นทำยำทโดยธรรม ผู้มีสิทธิรับ


มรดกของผู้ตำย และผู้ตำยถึงแก่ควำมตำยเม่อวันท่ ๑๐ พฤศจิกำยน ๒๕๓๘ ส่วนจ�ำเลยท่ ๑


เป็นทำยำทโดยธรรมผู้มีสิทธิได้รับมรดกและเป็นผู้จัดกำรมรดกของผู้ตำยตำมค�ำส่งศำลแพ่งธนบุร ี

คดีหมำยเลขแดงท่ ๒๐๘๖/๒๕๓๙ จ�ำเลยท่ ๒ มีฐำนะเป็นนิติบุคคลประเภทห้ำงหุ้นส่วนจ�ำกัด




โดยมีจ�ำเลยท่ ๓ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดกำรมีอ�ำนำจกระท�ำกำรแทนจ�ำเลยท่ ๒ ก่อนท่ผู้ตำยถึงแก่


ควำมตำยมิได้ท�ำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้แก่ผู้ใด โดยผู้ตำยมีทรัพย์มรดกคือเคร่องหมำยกำรค้ำ








จำนวน ๔ เครองหมำย ซ่งได้จดทะเบยนไว้แล้วและกิจกำรเก่ยวเนองกับเครองหมำยกำรค้ำ


ดังกล่ำว ต่อมำเมื่อวันที่ ๒๓ กันยำยน ๒๕๔๐ จ�ำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นผู้จัดกำรมรดกของผู้ตำยได้
80










จดทะเบียนโอนเคร่องหมำยกำรค้ำทงส่เคร่องหมำยให้แก่จ�ำเลยท่ ๒ ซงเป็นบคคลภำยนอก

มิใช่ทำยำทและกำรโอนดังกล่ำวไม่ได้ท�ำเพ่อประโยชน์แก่กองมรดกประกำรใด และถือว่ำเป็นกำร
ท�ำนิติกรรมที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกองมรดก เป็นกำรกระท�ำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมำย นิติกรรมกำรโอน
ดังกล่ำวจึงตกเป็นโมฆะ นอกจำกน้กำรโอนดังกล่ำวมีกำรปลอมลำยมือช่อโจทก์ในกำรให้ควำม



ยินยอมในกำรโอนเคร่องหมำยกำรค้ำดังกล่ำวด้วย กำรกระท�ำของจ�ำเลยท้งสำมท�ำให้โจทก์





ได้รับควำมเสียหำย ขอให้พิพำกษำเพิกถอนนิติกรรมกำรโอนเคร่องหมำยกำรค้ำท้งส่เคร่องหมำย


ให้จ�ำเลยท้งสำมร่วมกันหรือแทนกันไปจดทะเบียนเพิกถอนเคร่องหมำยกำรค้ำ (ตรำตกเบ็ด)
ค�ำขอจดทะเบียนเลขท่ ๒๕๓๒๙๔ ทะเบียนเลขท่ ๘๔๗๓ เคร่องหมำยกำรค้ำ (กล่องยำ)



ค�ำขอจดทะเบียนที่ ๒๓๓๐๑๕ ทะเบียนเลขที่ ๑๖๑๙๗ เครื่องหมำยกำรค้ำ (ยำดมต�ำหนักไทย

กล่นส้มอมมือ) ค�ำขอจดทะเบียนเลขท่ ๒๓๔๕๓๙ ทะเบียนเลขท่ ๙๓๔๒ และเคร่องหมำยกำรค้ำ



(ตรำต�ำหนักไทย) ค�ำขอจดทะเบียนเลขที่ ๒๙๐๖๕๕ ทะเบียนเลขที่ ๕๕๓๖๙ และให้จ�ำเลยที่ ๒


และท่ ๓ ร่วมกันหรือแทนกันช�ำระค่ำเสียหำย ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บำท พร้อมดอกเบ้ยในอัตรำ
ร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่ำวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ำจะช�ำระเสร็จแก่โจทก์
จ�ำเลยที่ ๑ ขำดนัดยื่นค�ำให้กำร
จ�ำเลยที่ ๒ และที่ ๓ ให้กำรท�ำนองเดียวกันว่ำ จ�ำเลยที่ ๓ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดกำรของ
จ�ำเลยที่ ๒ จริง ส�ำหรับเครื่องหมำยกำรค้ำทั้งสี่เครื่องหมำย เป็นเครื่องหมำยกำรค้ำที่จ�ำเลยที่ ๒
ได้รับโอนมำจำกผู้จัดกำรมรดกของผู้ตำยโดยชอบด้วยกฎหมำย ด้วยควำมยินยอมของบรรดำ
ทำยำทของผู้ตำยรวมทั้งโจทก์ด้วย โดยในขณะท�ำสัญญำโอนกัน นำงสำวอำรี ซึ่งเป็นพี่สำวของ











โจทก์กลงลำยมอชอเป็นพยำนในสญญำโอนด้วย สำหรบค่ำเสียหำยทโจทก์ฟ้องเรยกร้องมำนน


เป็นค่ำเสียหำยท่ไม่ได้ค�ำนึงถึงควำมเป็นจริงและไม่ถูกต้อง กำรฟ้องเรียกค่ำเสียหำยและ

กำรฟ้องขอให้เพิกถอนกำรโอนเครื่องหมำยกำรค้ำของโจทก์ขำดอำยุควำม ขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดพิจำรณำ ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำง เห็นว่ำ

กรณีมีปัญหำว่ำ คดีน้อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศหรือไม่ จึงให้รอกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีไว้ช่วครำว แล้วเสนอปัญหำดังกล่ำว










ให้ประธำนศำลอทธรณ์คดชำนญพเศษเป็นผ้วนจฉย ตำมพระรำชบญญตจดตงศำลทรพย์สน








ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙
81





วินิจฉัยว่ำ คดีน้เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับเคร่องหมำยกำรค้ำตำมพระรำชบัญญัติจัดต้ง
ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำ
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓) หรือไม่ เห็นว่ำ ค�ำฟ้องของโจทก์


สรุปได้ใจควำมว่ำ โจทก์ฟ้องจ�ำเลยท้งสำมให้เพิกถอนนิติกรรมกำรโอนเคร่องหมำยกำรค้ำ
จำกกองมรดกของผู้ตำยให้กลับมำเป็นของกองมรดกตำมเดิม และชดใช้ค่ำเสียหำย เน่องจำก







เป็นกำรโอนเครองหมำยกำรค้ำทไม่ชอบด้วยกฎหมำย จึงเห็นได้ชดเจนว่ำ เป็นกรณทโจทก์


ฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมกำรโอนเคร่องหมำยกำรค้ำระหว่ำงจ�ำเลยท่ ๑ ในฐำนะผู้จัดกำร





มรดกและจ�ำเลยท่ ๒ ซ่งเป็นกำรโอนท่ไม่ชอบด้วยกฎหมำย และเป็นนิติกรรมท่เป็นปฏิปักษ์

ต่อกองมรดก อันเป็นกำรฟ้องเรียกคืนทรัพย์มรดกและเป็นคดีมรดก ตำมบรรพ ๖ แห่ง

ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์ แม้ตำมค�ำฟ้องดังกล่ำวอ้ำงถึงกำรโอนเคร่องหมำยกำรค้ำ

แต่ไม่มีประเด็นให้ต้องวินิจฉัยถึงกำรให้ควำมคุ้มครองสิทธิในเคร่องหมำยกำรค้ำหรือกำรละเมิด

เคร่องหมำยกำรค้ำ ตำมพระรำชบัญญัติเคร่องหมำยกำรค้ำ พ.ศ. ๒๕๓๔ แต่อย่ำงใด คดีน ้ ี

จึงไม่ใช่คดีแพ่งเกี่ยวกับเครื่องหมำยกำรค้ำ ตำมบทบัญญัติมำตรำ ๗ (๓) แห่งพระรำชบัญญัติ
จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำ

และกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙

วินิจฉัยว่ำ คดีน้ไม่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ
กำรค้ำระหว่ำงประเทศ



วินิจฉัย ณ วันที่ ๑๓ เดือน มกรำคม พุทธศักรำช ๒๕๖๓



ไมตรี สุเทพำกุล

(นำยไมตรี สุเทพำกุล)
ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ







ฐิติ สุเสำรัจ - ย่อ

นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ






82

ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ บริษัทอินเทอร์เน็ตประเทศไทย

ที่ วทป ๑๑/๒๕๖๓ จ�ำกัด (มหำชน) โจทก์

บริษัทนิภำ เทคโนโลยี
จ�ำกัด จ�ำเลย



โจทก์ฟ้องว่ำจ�ำเลยจงใจกระท�ำละเมิดต่อโจทก์โดยกำรกล่ำวหรือไขข่ำว

แพร่หลำยซ่งข้อควำมอันฝ่ำฝืนต่อควำมจริงว่ำ โจทก์ลอกเลียนและละเมิดงำนอันม ี



ลิขสิทธ์ของจ�ำเลยโดยกำรตกแต่งภำพไม่ให้ปรำกฏช่อทำงกำรค้ำและเคร่องหมำยกำรค้ำ

จนเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับควำมเสียหำย จึงไม่ใช่กรณีท่โจทก์กล่ำวอ้ำงว่ำจ�ำเลย


กระท�ำกำรละเมิดงำนอันมีลิขสิทธ์ของโจทก์ คดีน้จึงไม่เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับ

เครื่องหมำยกำรค้ำและลิขสิทธิ์
_____________________________



โจทก์ฟ้องว่ำ เมื่อวันที่ ๒๒ ถึง ๒๓ พฤศจิกำยน ๒๕๖๑ และวันที่ ๘ ถึง ๑๐ ธันวำคม
๒๕๖๑ จ�ำเลยซ่งเป็นเจ้ำของและผู้ดูแลเว็บไซต์ http://www.nipa.cloud รวมถึงเจ้ำของและ


ผู้ดูแลบัญชีใช้บริกำรท่ช่อ “nipa.cloud” ในเว็บไซต์ facebook.com ได้จงใจกระท�ำละเมิดต่อ


โจทก์โดยกำรกล่ำวหรือไขข่ำวแพร่หลำยซ่งข้อควำมอันฝ่ำฝืนต่อควำมจริงว่ำโจทก์ลอกเลียน
และละเมิดงำนอันมีลิขสิทธ์ของจ�ำเลยจนเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับควำมเสียหำยแก่ช่อเสียง


เกียรติคุณ ทำงท�ำมำหำได้และทำงเจริญของโจทก์ ขอให้บังคับจ�ำเลยลงข้อควำมขอโทษและ

ช้แจงต่อสำธำรณชนว่ำ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่จ�ำเลยกล่ำวอ้ำงว่ำมีกำรลอกเลียนแบบน้น


เป็นโปรแกรมของบริษัทโอเพ่นแลนด์สเคป จ�ำกัด ไม่ใช่โปรแกรมคอมพิวเตอร์ของโจทก์ ลงใน


เว็บไซต์ตำมท่โจทก์จะเป็นผู้จัดท�ำร่ำงประกำศข้อควำมในหน้ำแรกของบัญชีผู้ใช้บริกำรท่ช่อว่ำ

Nipa.cloud ของจ�ำเลยในเว็บไซต์ facebook และลงประกำศโฆษณำค�ำพิพำกษำของศำล









ลงในหนงสอพมพรำยวนทแพรหลำยในประเทศจำนวน ๔ ฉบบ หำกจำเลยเพกเฉยไมกระทำกำร





ขอให้จ�ำเลยช�ำระเงินแก่โจทก์ ๗๐๑,๐๖๔ บำท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จนกว่ำจะช�ำระ
เสร็จสิ้นเพื่อเป็นค่ำประกำศโฆษณำในหนังสือพิมพ์
จ�ำเลยให้กำรว่ำ ผู้ท่อำจถูกอ้ำงว่ำกล่ำวหรือไขข่ำวแพร่หลำยอันเป็นกำรโต้แย้งสิทธ ิ


คือบริษัทโอเพ่นแลนด์สเคป จ�ำกัด หำใช่โจทก์ กำรกระท�ำตำมท่โจทก์อ้ำงก็หำเป็นกำรกล่ำว
83


หรือไขข่ำวแพร่หลำยอันจะเป็นกำรกระท�ำละเมิดไม่ เน่องจำกเป็นกำรใช้สิทธิของจ�ำเลยโดยสุจริต
ตำมคลองธรรมเพื่อปกป้องสิทธิของจ�ำเลยอันชอบธรรม ขอให้ยกฟ้อง

ในชั้นพิจำรณำ ศำลแพ่งกรุงเทพใต้เห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำ คดีนี้อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำ
พิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่ จึงให้รอกำรพิจำรณำ


พิพำกษำคดีไว้ช่วครำว แล้วเสนอปัญหำดังกล่ำวให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ



เป็นผู้วินิจฉัย ตำมพระรำชบัญญัตจัดต้งศำลทรพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
และวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙













วนจฉยว่ำ คดีน้เป็นคดีแพ่งเกยวกบเครองหมำยกำรค้ำและลขสิทธ ตำมพระรำชบัญญต ิ

จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำ
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓) หรือไม่ เห็นว่ำ โจทก์ฟ้องว่ำจ�ำเลยจงใจ
กระท�ำละเมิดต่อโจทก์โดยกำรกล่ำวหรือไขข่ำวแพร่หลำยซ่งข้อควำมอันฝ่ำฝืนต่อควำมจริงว่ำ


โจทก์ลอกเลียนและละเมิดงำนอันมีลิขสิทธ์ของจ�ำเลยจนเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับควำมเสียหำย
แก่ช่อเสียง เกียรติคุณ ทำงท�ำมำหำได้และทำงเจริญของโจทก์ แต่ตำมค�ำฟ้องของโจทก์

บรรยำยข้อควำมไว้แล้วว่ำ จ�ำเลยโพสต์โดยมีกำรตกแต่งภำพไม่ให้ปรำกฏช่อทำงกำรค้ำและ


เคร่องหมำยกำรค้ำของบริษัทโอเพ่นแลนด์สเคป จ�ำกัด อย่ำงชัดเจน เพียงแต่อำจท�ำให้บุคคลโดยท่วไป

ในวงกำรคอมพิวเตอร์ย่อมเข้ำใจว่ำ โปรแกรมและรูปท่จ�ำเลยโพสต์หมำยถึงโปรแกรมให้บริกำร

ระบบคอมพิวเตอร์คลำวด์ของบริษัทโอเพ่นแลนด์สเคป จ�ำกัด โจทก์จึงไม่ได้อ้ำงว่ำจ�ำเลยละเมิดสิทธิ
ใด ๆ เกี่ยวกับเครื่องหมำยกำรค้ำของโจทก์ ส่วนที่โจทก์อ้ำงว่ำจ�ำเลยกล่ำวหรือไขข่ำวแพร่หลำย


ซ่งข้อควำมอันฝ่ำฝืนต่อควำมจริงว่ำโจทก์ลอกเลียนและละเมิดงำนอันมีลิขสิทธ์ของจ�ำเลยก ็



เป็นเพียงข้อควำมท่จ�ำเลยอ้ำงอิงถึงคดีท่จ�ำเลยในคดีน้ฟ้องโจทก์เป็นจ�ำเลยต่อศำลทรัพย์สิน
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำง หมำยเลขคดีด�ำ ทป ๑๘๙/๒๕๖๑ จึงไม่ใช่กรณ ี

ท่โจทก์กล่ำวอ้ำงว่ำจ�ำเลยกระท�ำกำรละเมิดงำนอันมีลิขสิทธ์ของโจทก์ และคดีไม่มีปัญหำ



โดยตรงท่ต้องพิจำรณำถึงสิทธิในลิขสิทธ์ระหว่ำงโจทก์กับจ�ำเลย คดีน้จึงไม่เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับ


เคร่องหมำยกำรค้ำและลิขสิทธ์ท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ



กำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำมมำตรำ ๗ (๓) แห่งพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำ

และกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
พ.ศ. ๒๕๓๙




84


วินิจฉัยว่ำ คดีน้ไม่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ
กำรค้ำระหว่ำงประเทศ



วินิจฉัย ณ วันที่ ๒๖ เดือน มีนำคม พุทธศักรำช ๒๕๖๓




ไมตรี สุเทพำกุล
(นำยไมตรี สุเทพำกุล)

ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ







สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ

นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ















































85

ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ บริษัทเฟเวอร์เทรด จ�ำกัด

ที่ วทป ๑๒/๒๕๖๓ กับพวก โจทก์

บริษัทร้อยดวงดำว
จ�ำกัด จ�ำเลย






โจทก์ท้งสองอ้ำงว่ำ จ�ำเลยจงใจกระท�ำละเมิดต่อโจทก์ท้งสองโดยแจ้งควำม


ร้องทุกข์ต่อเจ้ำพนักงำนต�ำรวจโดยมิชอบในข้อหำละเมิดลิขสิทธ แต่ในกำรฟ้องคดีน ้ ี










โจทก์ทงสองไม่ได้อ้ำงว่ำจำเลยละเมดสทธในลขสทธหรอเครองหมำยกำรค้ำใด ๆ ของ



โจทก์ท้งสอง ท้งในระหว่ำงโจทก์ท้งสองกับจ�ำเลยก็ไม่ได้มีนิติสัมพันธ์ในลักษณะเป็น






สัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิต่อกัน คดีน้จึงไม่เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับเคร่องหมำยกำรค้ำ
ลิขสิทธิ์ หรือสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิ
_____________________________



โจทก์ฟ้องว่ำ เม่อวันท่ ๑๗ กุมภำพันธ์ ๒๕๖๒ จ�ำเลยได้มอบอ�ำนำจให้ว่ำท่ร้อยตร ี

ภศวัชร ไปแจ้งกับเจ้ำพนักงำนต�ำรวจชุดจับกุมว่ำมีกำรขำยสินค้ำละเมิดลิขสิทธ์ของจ�ำเลย




เก่ยวกับบัตรอวยพร บัตรเชิญ ซ่งเป็นลิขสิทธ์และมีเคร่องหมำยกำรค้ำของฮอลล์มำร์ค (HALLMARK)


ท่ร้ำนบีทูเอสในห้ำงสรรพสินค้ำเซ็นทรัลภูเก็ต เจ้ำพนักงำนต�ำรวจชุดจับกุมไปตรวจสอบร้ำน
ดังกล่ำวพบโจทก์ที่ ๒ เป็นพนักงำนขำยอยู่ และพบบัตรเชิญบัตรอวยพรของฮอลล์มำร์ค จ�ำนวน
๒๓ ใบ โจทก์ที่ ๒ แจ้งว่ำสินค้ำดังกล่ำวเป็นของโจทก์ที่ ๑ ที่เช่ำพื้นที่ขำย เจ้ำพนักงำนต�ำรวจชุด
จับกุมเชิญตัวโจทก์ที่ ๒ พร้อมของกลำงไปยังสถำนีต�ำรวจและได้แจ้งข้อหำและท�ำกำรสอบสวน
โจทก์ที่ ๒ ต่อมำโจทก์ที่ ๑ ได้ส่งเอกสำรหนังสือรับรองกำรได้รับอนุญำตและท�ำหนังสือขอควำม
เป็นธรรมต่อพนักงำนสอบสวนจนพนักงำนสอบสวนมีควำมเห็นไม่ฟ้องส่งไปยังพนักงำนอัยกำร



พร้อมท้งคืนของกลำงและเงินประกันแก่โจทก์ท่ ๒ กำรกระท�ำของจ�ำเลยท�ำให้โจทก์ท้งสอง



เสียหำย เน่องจำกร้ำนบีทูเอสให้งดกำรจ�ำหน่ำยสินค้ำของโจทก์ท่ ๑ ไว้จนกว่ำคดีจะยุติ โจทก์ท่ ๑
ได้รับควำมเสียหำยจำกค่ำใช้จ่ำยในกำรต่อสู้คดี กำรท่โจทก์ท่ ๒ ถูกน�ำตัวและควบคุมไปยังสถำน ี


ต�ำรวจท�ำให้โจทก์ทั้งสองได้รับควำมเสื่อมเสียและรู้สึกอับอำย ได้รับผลกระทบจำกควำมเชื่อมั่น
ของผู้ถือหุ้น โจทก์ท่ ๒ สูญเสียอิสรภำพและรู้สึกตกใจกลัว ขอให้บังคับจ�ำเลยช�ำระค่ำเสียหำย

จ�ำนวน ๕,๐๐๐,๐๐๐ บำท พร้อมดอกเบี้ยอัตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จำกต้นเงินดังกล่ำวนับถัดจำก

86


วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ำจะช�ำระเสร็จแก่โจทก์ท่ ๑ และช�ำระค่ำเสียหำยจ�ำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บำท

พร้อมดอกเบ้ยอัตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปี จำกต้นเงินดังกล่ำวนับถัดจำกวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ำ
จะช�ำระเสร็จแก่โจทก์ที่ ๒
ในชั้นพิจำรณำ ศำลแพ่งพระโขนงเห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำ คดีนี้อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำ

พิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่ จึงให้รอกำรพิจำรณำ


พิพำกษำคดีไว้ช่วครำว แล้วเสนอปัญหำดังกล่ำวให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ


เป็นผู้วินิจฉัย ตำมพระรำชบัญญัตจัดต้งศำลทรพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ

และวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙




วินิจฉัยว่ำ คดีน้เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับเคร่องหมำยกำรค้ำ ลิขสิทธ์ หรือสัญญำอนุญำต

ให้ใช้สิทธิ ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและ
วิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓)
หรือไม่ เห็นว่ำ โจทก์ทั้งสองฟ้องอ้ำงว่ำ จ�ำเลยจงใจกระท�ำละเมิดต่อโจทก์ทั้งสองโดยแจ้งควำม

ร้องทุกข์ต่อเจ้ำพนักงำนต�ำรวจโดยมิชอบ เป็นเหตุให้เจ้ำพนักงำนต�ำรวจเข้ำตรวจค้นและ




น�ำตัวโจทก์ท่ ๒ พร้อมของกลำงซ่งเป็นสินค้ำของโจทก์ท่ ๑ ไปยังสถำนีต�ำรวจ แต่ต่อมำพนักงำน








สอบสวนมควำมเหนสงไม่ฟ้องเนองจำกเหนว่ำ จำเลยไม่ใช่ตวแทนทมสทธจำหน่ำยสนค้ำ








โดยเด็ดขำดแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยจึงไม่มีอ�ำนำจร้องทุกข์ด�ำเนินคดีอำญำได้เอง กำร

กระท�ำของจ�ำเลยท�ำให้โจทก์ท้งสองได้รับควำมเสียหำยหลำยประกำร แม้ข้อหำท่โจทก์ท้งสอง


อ้ำงว่ำจ�ำเลยแจ้งควำมร้องทุกข์ต่อเจ้ำพนักงำนต�ำรวจโดยมิชอบจะเป็นข้อหำเก่ยวด้วยกำร













ละเมดลขสทธ แต่ในกำรฟ้องคดีนโจทก์ท้งสองไม่ได้อ้ำงว่ำจ�ำเลยละเมิดสิทธิในลขสทธ์หรอ


เคร่องหมำยกำรค้ำใด ๆ ของโจทก์ท้งสอง ท้งในระหว่ำงโจทก์ท้งสองกับจ�ำเลยก็ไม่ได้มีนิติสัมพันธ์


ในลักษณะเป็นสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิต่อกัน คดีจึงไม่มีปัญหำโดยตรงท่ต้องพิจำรณำถึงสิทธ ิ

ในลิขสิทธ์หรือเคร่องหมำยกำรค้ำ หรือสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิระหว่ำงโจทก์ท้งสองกับจ�ำเลย



คดีน้จึงไม่เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับเคร่องหมำยกำรค้ำ ลิขสิทธ์ หรือสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธ ิ




ท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำม


มำตรำ ๗ (๓) แห่งพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
และวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
87


วินิจฉัยว่ำ คดีน้ไม่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ
กำรค้ำระหว่ำงประเทศ



วินิจฉัย ณ วันที่ ๒๖ เดือน พฤษภำคม พุทธศักรำช ๒๕๖๓




ไมตรี สุเทพำกุล
(นำยไมตรี สุเทพำกุล)

ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ




สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ

นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ


















































88

ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ นำงสำวกริษฐำพัชร

ที่ วทป ๑๔/๒๕๖๓ อภิโชคไพศำลกิจ โจทก์

นำยนิพนธ์ สุริยล�้ำเลิศ จ�ำเลย



ตำมสภำพแห่งข้อหำและข้ออ้ำงท่อำศัยเป็นหลักแห่งข้อหำในค�ำฟ้องของโจทก์

เป็นกำรกล่ำวอ้ำงว่ำ จ�ำเลยไม่ปฏิบัติตำมข้อตกลงท่ต้องให้ส่วนลดร้อยละ ๑๐ ของ








ยอดกำรสงซอสนค้ำ อนเป็นกำรตกลงกันภำยหลงระหว่ำงโจทก์และจำเลยผ่ำน
แอปพลิเคชันไลน์นอกเหนือจำกสัญญำแฟรนไชส์ ส่วนจ�ำเลยให้กำรปฏิเสธอ้ำงว่ำ โจทก์
ยอมรับกำรยกเลิกส่วนลดดังกล่ำวแล้ว ท้งตำมค�ำฟ้องข้อ ๓ โจทก์บรรยำยฟ้องยอมรับ


ว่ำข้อตกลงเร่องส่วนลดดังกล่ำวเป็นข้อตกลงต่ำงหำกนอกเหนือจำกสัญญำแฟรนไชส์
ตำมเอกสำรท้ำยค�ำฟ้องหมำยเลข ๑ ประกอบกับไม่ปรำกฏว่ำมีข้อตกลงข้อใดในสัญญำ
แฟรนไชส์ท่ก�ำหนดเร่องส่วนลดไว้ ดังน้น แม้สัญญำใช้ช่อว่ำสัญญำแฟรนไชส์อันอำจ




เข้ำกรณเป็นสัญญำอนุญำตให้ใช้สทธกตำม แต่เม่อข้ออ้ำงและข้อเถียงไม่มีประเดน






ข้อพิพำทอันมีสำระส�ำคัญที่ต้องวินิจฉัยเกี่ยวกับสิทธิ หน้ำที่ และควำมรับผิดที่เกี่ยวข้อง

กับกำรอนุญำตให้ใช้สิทธิในทรัพย์สินทำงปัญญำรวมอยู่ด้วย คดีน้จึงไม่เป็นคดีแพ่ง
เกี่ยวกับเครื่องหมำยกำรค้ำ ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร หรือสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิ ตำม พ.ร.บ.

จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สิน
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓) และไม่อยู่ในอ�ำนำจ
พิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
_____________________________





โจทก์ฟ้องว่ำ เม่อวันท่ ๒๗ กันยำยน ๒๕๖๒ โจทก์ตกลงท�ำสัญญำธุรกิจแฟรนไชส์
THE FIRE BEAR หมีพ่นไฟ กับจ�ำเลย โดยจ�ำเลยซ่งเป็นผู้ให้สิทธิยินยอมให้โจทก์ซ่งเป็น





ผู้รับสิทธิประกอบกิจกำรเพ่อจ�ำหน่ำยสินค้ำเคร่องด่มประเภทชำนมไข่มุกลำวำพ่นไฟ THE FIRE

BEAR หมีพ่นไฟ ภำยใต้สิทธิและเคร่องหมำยกำรค้ำของผู้ให้สิทธิ โดยโจทก์จ�ำหน่ำยสินค้ำ
ดังกล่ำวเม่อวันท่ ๑๒ ตุลำคม ๒๕๖๒ ต้งอยู่ท่นิคมอุตสำหกรรม ๓๐๔ ซ่งเป็นสำขำแรกใน





จังหวัดปรำจีนบุรี นอกจำกข้อตกลงตำมสัญญำแฟรนไชส์ดังกล่ำวแล้ว โจทก์และจ�ำเลยตกลงกัน

ผ่ำนแอปพลิเคชันไลน์มีเน้อหำว่ำ โจทก์จ�ำหน่ำยสินค้ำของจ�ำเลยเป็นสำขำแรกของจังหวัด
89

ปรำจีนบุรี หำกโจทก์สั่งซื้อแก้วจำกจ�ำเลย จะได้รับส่วนลดร้อยละ ๑๐ ของยอดกำรสั่งซื้อ และ



ทุกสำขำของกำรจ�ำหน่ำยสินค้ำดังกล่ำวในจังหวัดปรำจีนบุรีจะต้องส่งซ้อแก้วจำกโจทก์เท่ำน้น




และโจทก์มีหน้ำท่จัดส่งแก้วให้ทุกสำขำในจังหวัดปรำจีนบุรีแทนจ�ำเลย ต่อมำเม่อวันท่ ๑๑
พฤศจิกำยน ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๑๙ พฤศจิกำยน ๒๕๖๒ โจทก์สั่งซื้อแก้วจำกจ�ำเลย ๖๗,๕๐๐ บำท
และวันที่ ๒๐ พฤศจิกำยน ๒๕๖๒ โจทก์จ�ำหน่ำยแก้วให้แก่สำขำที่สองของโจทก์ ๕๐,๐๐๐ บำท

ซ่งโจทก์ได้รับส่วนลดร้อยละ ๑๐ จำกจ�ำเลย ๕,๔๐๐ บำท ปัจจุบันมีสำขำกำรจ�ำหน่ำยสินค้ำ
ดังกล่ำวในจังหวัดปรำจีนบุรีรวม ๔ แห่ง ต่อมำเมื่อวันที่ ๒๙ ธันวำคม ๒๕๖๒ จ�ำเลยส่งข้อควำม

ผ่ำนแอปพลิเคชันไลน์ยกเลิกกำรให้ส่วนลดร้อยละ ๑๐ แก่โจทก์ โดยอ้ำงว่ำมีมติท่ประชุม

ให้ยกเลิกอันเป็นกำรผิดสัญญำ ท�ำให้โจทก์ได้รับควำมเสียหำย ขอให้บังคับจ�ำเลยมีหนังสอแจ้ง








ไปยงทกสำขำทได้รบสทธตำมสญญำแฟรนไชส์ให้สงซอแก้วจำกโจทก์ และให้จำเลยให้ส่วนลด






ร้อยละ ๑๐ แก่โจทก์ กับคืนเงินส่วนลดจำกกำรที่โจทก์ได้สั่งซื้อแก้วจำกจ�ำเลยไปแล้ว ๑๗,๘๔๐ บำท
จ�ำเลยให้กำรว่ำ จ�ำเลยตกลงท�ำสัญญำธุรกิจแฟรนไชส์ THE FIRE BEAR หมีพ่นไฟ



กับโจทก์ และตกลงกันให้โจทก์ได้รับส่วนลดร้อยละ ๑๐ ของยอดส่งซ้อในแต่ละคร้งเร่อยมำ

ต่อมำเม่อวันท่ ๒๙ ธันวำคม ๒๕๖๒ จ�ำเลยส่งข้อควำมผ่ำนแอปพลิเคชนไลน์ไปยังโจทก์เพอ






ยกเลิกส่วนลดร้อยละ ๑๐ ดังกล่ำว โจทก์รับทรำบและยอมรับกำรยกเลิกส่วนลดท้งหมด นอกจำกน ี ้

โจทก์ยังได้ช�ำระค่ำแก้วภำยใต้เง่อนไขใหม่ให้แก่จ�ำเลยเร่อยมำ โจทก์และจ�ำเลยจึงไม่มีหน ี ้

ที่ต้องช�ำระต่อกัน ขอให้ยกฟ้องโจทก์
ในวันนัดช้สองสถำนและนัดสืบพยำนโจทก์ ศำลจังหวัดชลบุรีพิจำรณำแล้วเห็นว่ำ

กรณีมีปัญหำว่ำ คดีน้อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ


ระหว่ำงประเทศหรือไม่ จึงให้รอกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีไว้ช่วครำว แล้วเสนอปัญหำดังกล่ำว















ให้ประธำนศำลอทธรณ์คดชำนญพเศษเป็นผ้วนจฉย ตำมพระรำชบญญตจดตงศำลทรพย์สน


ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙

วินิจฉัยว่ำ กรณีมีปัญหำต้องวินิจฉัยว่ำ คดีน้เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับเคร่องหมำยกำรค้ำ




ลิขสิทธ์ สิทธิบัตร หรือสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิ ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สิน
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวธีพจำรณำคดีทรัพย์สนทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำง



ประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓) หรือไม่ เห็นว่ำ ตำมสภำพแห่งข้อหำและข้ออ้ำงที่อำศัย



เป็นหลกแห่งข้อหำในคำฟ้องของโจทก์เป็นกำรกล่ำวอ้ำงว่ำ จ�ำเลยไม่ปฏบัตตำมข้อตกลงท ่ ี

90

ต้องให้ส่วนลดร้อยละ ๑๐ ของยอดกำรสั่งซื้อสินค้ำ หำกโจทก์สั่งซื้อแก้วจำกจ�ำเลย อันเป็นกำร

ตกลงกันภำยหลังระหว่ำงโจทก์และจ�ำเลยผ่ำนแอปพลิเคชันไลน์นอกเหนือจำกสัญญำแฟรนไชส์









ส่วนจำเลยให้กำรปฏเสธอ้ำงว่ำ โจทก์ยอมรบกำรยกเลกส่วนลดดงกล่ำวแล้ว ทงตำมคำฟ้อง
ข้อ ๓ โจทก์บรรยำยฟ้องยอมรับว่ำข้อตกลงเร่องส่วนลดดังกล่ำวเป็นข้อตกลงต่ำงหำกนอกเหนือ

จำกสัญญำแฟรนไชส์ ตำมเอกสำรท้ำยค�ำฟ้องหมำยเลข ๑ ประกอบกับไม่ปรำกฏว่ำมีข้อตกลง
ข้อใดในสัญญำแฟรนไชส์ท่ก�ำหนดเร่องส่วนลดไว้ ดังน้น แม้สัญญำใช้ช่อว่ำสัญญำแฟรนไชส์





อันอำจเข้ำกรณีเป็นสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิก็ตำม แต่เม่อข้ออ้ำงและข้อเถียงไม่มีประเด็น
















ข้อพพำทอนมสำระสำคญทต้องวนจฉยเกยวกบสทธิ หน้ำท และควำมรบผดท่เก่ยวข้องกบ






กำรอนุญำตให้ใช้สิทธิในทรัพย์สินทำงปัญญำรวมอยู่ด้วย คดีน้จึงไม่เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับ

เครื่องหมำยกำรค้ำ ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร หรือสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิ ตำมพระรำชบัญญัติจัดตั้ง
ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำ
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓)
วินิจฉัยว่ำ คดีน้ไม่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ

กำรค้ำระหว่ำงประเทศ
วินิจฉัย ณ วันที่ ๒๑ เดือน กรกฎำคม พุทธศักรำช ๒๕๖๓
ไมตรี สุเทพำกุล
(นำยไมตรี สุเทพำกุล)
ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ
ณัฐจิรำ ขันทอง - ย่อ
นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ

















91

ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ บริษัทโฟร์โนล็อค จ�ำกัด โจทก์

ที่ วทป ๒๕/๒๕๖๓ บริษัทเซ็นทรัลเทรดดิ้ง

จ�ำกัด จ�ำเลย





สัญญำว่ำจ้ำง PRESENTER (ผู้น�ำเสนอ) น้น โจทก์มีหน้ำท่ติดต่อประสำนงำน


จัดให้ศิลปินเป็นผู้น�ำเสนอผลิตภัณฑ์และถ่ำยท�ำช้นงำนเพ่อโฆษณำประชำสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์




ภำยใต้เคร่องหมำยกำรค้ำเท่ำน้น กรณีมิใช่ปัญหำเร่องลิขสิทธ เคร่องหมำยกำรค้ำและ


สัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิแต่อย่ำงใด
_____________________________

โจทก์ฟ้องว่ำ โจทก์และจ�ำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจ�ำกัด จดทะเบียนจัดต้ง






และประกอบกิจกำรในประเทศไทย เมอวนท่ ๑๙ พฤศจิกำยน ๒๕๖๑ จำเลยทำสญญำว่ำจ้ำง


PRESENTER (ผู้น�ำเสนอ) กับโจทก์ ในรำคำ ๔,๐๐๐,๐๐๐ บำท โดยโจทก์จะด�ำเนินกำร
ติดต่อประสำนงำนจัดให้ศิลปินนำยกันต์พิมุกต์ “แบมแบม GOT7” หรือ “BAMBAM GOT7”

ซ่งเป็นศิลปินในควำมรับผิดชอบดูแลผลประโยชน์โดย “JYP Entertainment Corporation”
ที่เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจ�ำกัดตำมกฎหมำยสำธำรณรัฐเกำหลี ให้เป็นผู้น�ำเสนอผลิตภัณฑ์
Lee Jeans Thailand Description และถ่ำยท�ำช้นงำนเพ่อโฆษณำประชำสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์


(Urban Riders และ Logo Tee) ภำยใต้เครื่องหมำยกำรค้ำ “Lee Jeans Thailand” มีขอบเขต
งำนตำมสัญญำ ได้แก่ กำรถ่ำยภำพนิ่งและภำพเคลื่อนไหวที่สำธำรณรัฐเกำหลีหรือประเทศไทย

กำรถ่ำยภำพนิ่งและภำพเคลื่อนไหว (เบื้องหลัง) กำรท�ำกิจกรรมส่งเสริมกำรขำยที่ประเทศไทย



โดยภำพน่งและภำพเคล่อนไหวใช้ส�ำหรับทุกส่อ รวมถึงกำรโฆษณำในหนังสือพิมพ์ นิตยสำร


เว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย โปสเตอร์ (POP) ส่อโฆษณำในร้ำนค้ำ ห้ำงสรรพสินค้ำ ส่อโฆษณำ
ภำยนอก (OHO) เช่น ป้ำยหรือกระดำนใช้ส�ำหรับโฆษณำ รถไฟฟ้ำ รถไฟฟ้ำใต้ดิน และอื่น ๆ
เริ่มสัญญำวันแรกหลังจำกวันถ่ำยงำน (Shooting day) ไม่เกิน ๓๐ วัน เป็นระยะเวลำ ๓ เดือน

และสำมำรถใช้ภำพประชำสัมพันธ์ต่อเน่องได้อีก ๑ เดือน ๙ วัน รวมเป็นระยะเวลำ ๔ เดือน
๙ วัน หลังท�ำสัญญำโจทก์ส่งมอบงำนและจ�ำเลยช�ำระเงินให้แก่โจทก์ตำมสัญญำครบถ้วน


แล้ว แต่ภำยหลังสัญญำว่ำจ้ำงส้นสุดลงในวันท่ ๒๒ เมษำยน ๒๕๖๒ จ�ำเลยกลับน�ำช้นงำน

ของศิลปินนำยกันต์พิมุกต์ “แบมแบม GOT7” หรือ “BAMBAM GOT7” ไปใช้เพื่อกำรโฆษณำ
ประชำสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์และหรือประโยชน์ทำงกำรค้ำ (Urban Riders และ Logo Tee) ภำยใต้
เครื่องหมำยกำรค้ำ “Lee Jeans Thailand” เรื่อยมำโดยไม่ได้รับอนุญำตและไม่ได้ต่ออำยุสัญญำ


92

กับโจทก์อันเป็นกำรละเมิดท�ำให้โจทก์ได้รับควำมเสียหำย ขอให้บังคับจ�ำเลยช�ำระค่ำเสียหำย

แก่โจทก์ ๑๔,๙๕๐,๐๐๐ บำท พร้อมดอกเบี้ยอัตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันถัดจำกวันฟ้อง
ไปจนกว่ำจะช�ำระเสร็จ กับให้จ�ำเลยช�ำระค่ำปรับอัตรำวันละ ๕๐,๐๐๐ บำท นับถัดจำกวันฟ้อง

เป็นต้นไปจนกว่ำจ�ำเลยจะยุติกำรกระท�ำละเมิด

จ�ำเลยให้กำรว่ำฟ้องโจทก์เคลือบคลุมและโจทก์ไม่มีอ�ำนำจฟ้องเน่องจำกโจทก์ไม่ใช่
ผู้เสียหำยหรือตัวแทนรับมอบอ�ำนำจจำก JYP Entertainment Corporation สำธำรณรัฐเกำหลี
ให้ด�ำเนินคดีแทน สิทธิหน้ำที่ระหว่ำงโจทก์และจ�ำเลยตำมสัญญำพิพำทสิ้นสุดแล้ว จ�ำเลยมีสิทธิ

จ�ำหน่ำยสินค้ำที่มีเครื่องหมำย “LEE X BAMBAM” ซึ่งเป็นรูปแบบชิ้นงำนที่เกิดขึ้นตำมสัญญำ
และผลิตในช่วงเวลำตำมสัญญำว่ำจ้ำงที่ยังจ�ำหน่ำยไม่หมดในฐำนะเจ้ำของกรรมสิทธิ์โดยไม่ต้อง



ได้รับอนญำตจำกโจทก์ โจทก์ใช้สิทธโดยไม่สุจริต จ�ำเลยไม่ได้ผิดสัญญำและกระทำละเมิด

ต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่ำงพิจำรณำ ศำลแพ่งกรุงเทพใต้พิจำรณำแล้วเห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำ คดีน ้ ี

อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่
จึงให้รอกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีไว้ช่วครำว แล้วเสนอปัญหำดังกล่ำวให้ประธำนศำลอุทธรณ์

คดีช�ำนัญพิเศษเป็นผู้วินิจฉัยตำม พระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ

ระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙

มำตรำ ๙




วินิจฉัยว่ำ คดีน้เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับลิขสิทธ์ เคร่องหมำยกำรค้ำ และสัญญำอนุญำต

ให้ใช้สิทธิท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำง

ประเทศ ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและ

วิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓)
หรือไม่ เห็นว่ำ โจทก์ฟ้องว่ำจ�ำเลยท�ำสัญญำว่ำจ้ำง PRESENTER (ผู้น�ำเสนอ) กับโจทก์

โดยโจทก์เป็นผู้ติดต่อประสำนงำนจดให้ศิลปินนำยกันต์พิมุกต์ “แบมแบม GOT7” หรือ
“BAMBAM GOT7” ซึ่งเป็นศิลปินในควำมรับผิดชอบดูแลผลประโยชน์โดย “JYP Entertainment

Corporation” ให้เป็นผู้น�ำเสนอผลิตภัณฑ์ Lee Jeans Thailand Description และถ่ำยท�ำ

ช้นงำนภำพน่งและภำพเคล่อนไหวเพ่อโฆษณำประชำสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ (Urban Riders และ





Logo Tee) ภำยใต้เคร่องหมำยกำรค้ำ “Lee Jeans Thailand” ส�ำหรับส่อทุกประเภทและ

ท�ำกิจกรรมส่งเสริมกำรขำยท่ประเทศไทย ส่วนจ�ำเลยให้กำรว่ำ จ�ำเลยมีสิทธิในกำรจ�ำหน่ำย

สินค้ำท่มีเคร่องหมำย “LEE X BAMBAM” ซ่งเป็นรูปแบบช้นงำนท่เกิดข้นตำมสัญญำและ






ผลิตในช่วงเวลำตำมสัญญำว่ำจ้ำงท่ยังจ�ำหน่ำยไม่หมดในฐำนะเจ้ำของกรรมสิทธ์ โดยไม่ต้อง

93












ได้รบอนญำตจำกโจทก์ ดงน ตำมคำฟ้องโจทก์และคำให้กำรจำเลยมประเดนต้องพจำรณำว่ำ
จ�ำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ตำมฟ้องหรือไม่เพียงใด โดยโจทก์กล่ำวอ้ำงว่ำสัญญำส้นสุดลงแล้ว










แต่จำเลยกระทำผดต่อโจทก์ตำมข้อตกลงเรองระยะเวลำในสญญำ เมอสญญำว่ำจ้ำง
PRESENTER (ผู้น�ำเสนอ) น้น โจทก์มีหน้ำท่ติดต่อประสำนงำนจัดให้ศิลปิน นำยกันต์พิมุกต์


“แบมแบม GOT7” หรือ “BAMBAM GOT7” ให้เป็นผู้น�ำเสนอผลิตภัณฑ์ Lee Jeans

Thailand Description และถ่ำยท�ำช้นงำนเพ่อโฆษณำประชำสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ (Urban

Riders และ Logo Tee) ภำยใต้เคร่องหมำยกำรค้ำ “Lee Jeans Thailand” เท่ำน้น คดีจึงม ี


ประเด็นต้องพิจำรณำเพียงว่ำ จ�ำเลยกระท�ำละเมิดต่อโจทก์ภำยหลังจำกสัญญำจ้ำงท�ำของ




ดังกล่ำวส้นสุดลงแล้วหรือไม่ กรณีมิใช่ปัญหำเร่องลิขสิทธ์ เคร่องหมำยกำรค้ำ และสัญญำอนุญำต
ให้ใช้สิทธิแต่อย่ำงใด



คดีน้จึงไม่เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับลิขสิทธ์ เคร่องหมำยกำรค้ำ และสัญญำอนุญำตให้ใช้

สทธทอย่ในอำนำจพจำรณำพพำกษำของศำลทรพย์สนทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ











ตำมบทบัญญัติมำตรำ ๗ (๓) แห่งพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
วินิจฉัยว่ำ คดีน้ไม่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ

กำรค้ำระหว่ำงประเทศ
วินิจฉัย ณ วันที่ ๑ เดือน ธันวำคม พุทธศักรำช ๒๕๖๓
ภำวนำ สุคันธวณิช
(นำงสำวภำวนำ สุคันธวณิช)
ผู้พิพำกษำศำลฎีกำ ช่วยท�ำงำนชั่วครำวในต�ำแหน่ง
ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ
สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ
นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ









94

ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ บริษัทจีเอเบิล จ�ำกัด โจทก์

ที่ วทป ๔๓/๒๕๖๔ บริษัทเงินทุน แอ็ดวำนซ์

จ�ำกัด (มหำชน) จ�ำเลย



ตำมข้ออ้ำงท่อำศัยเป็นหลักแห่งข้อหำในค�ำฟ้องของโจทก์เป็นกำรกล่ำวอ้ำง


ว่ำจ�ำเลยไม่ช�ำระค่ำจ้ำงอันเป็นกำรผิดสัญญำว่ำจ้ำงติดต้งระบบเงินทุนซ่งเป็นโปรแกรม


















สำเรจรป สวนจำเลยใหกำรปฏเสธอำงวำโจทกสงมอบงำนตดตงโปรแกรมดงกลำวไมเปน

ไปตำมสัญญำ และฟ้องแย้งเรียกค่ำเสียหำยจำกกำรท่จ�ำเลยต้องจ้ำงบุคคลภำยนอก
แก้ไขและด�ำเนินกำรแทนโจทก์ ดังนั้น ตำมค�ำฟ้อง ค�ำให้กำรและฟ้องแย้ง กับค�ำให้กำร

แก้ฟ้องแย้งจึงมีประเด็นข้อพิพำทให้ต้องวินิจฉัยถึงสิทธ หน้ำท และควำมรับผิดอันเกิด



จำกสัญญำติดต้งระบบเงินทุนอันมีลักษณะเป็นสัญญำจ้ำงท�ำของซ่งอยู่ภำยใต้บังคับของ


ประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์เท่ำน้น แม้กำรอนุญำตให้ใช้สิทธิเป็นส่วนหน่งของ

ข้อตกลงตำมสัญญำว่ำจ้ำงติดต้งระบบเงินทุนดังกล่ำวก็ตำม แต่ไม่ปรำกฏว่ำมีประเด็น

ข้อพิพำทให้ต้องวินิจฉัยถึงข้อตกลงกำรอนุญำตให้ใช้สิทธิในทรัพย์สินทำงปัญญำ




แต่อย่ำงใด คดีน้จึงไม่เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับเคร่องหมำยกำรค้ำ ลิขสิทธ สิทธิบัตร หรือ


คดีพิพำทตำมสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิตำม พ.ร.บ. จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ
กำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ






พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓) และไม่อย่ในอำนำจพจำรณำพพำกษำของศำลทรพย์สน
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
_____________________________



โจทก์ฟ้องว่ำ เม่อวันท่ ๔ พฤษภำคม ๒๕๖๐ จ�ำเลยว่ำจ้ำงโจทก์ติดต้งระบบเงินทุน

(modern f inance system) เพื่อปฏิบัติงำนในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่บริษัทจ�ำเลยระหว่ำงวันที่ ๑
พฤษภำคม ๒๕๖๐ ถึง ๓๐ กันยำยน ๒๕๖๑ เป็นเงินค่ำจ้ำง ๓๒,๓๐๔,๕๐๐ บำท ตกลงแบ่ง
ช�ำระ ๑๑ งวด โดยโปรแกรมดังกล่ำวได้รับกำรออกแบบพร้อมใช้งำนซึ่งประกอบด้วยโปรแกรม
ระบบเงินทุนและอุปกรณ์เคร่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ำยและซอฟต์แวร์ส่วนเพ่มเติม ในกำรปฏิบัต ิ


งำนตำมสัญญำว่ำจ้ำงดังกล่ำว จ�ำเลยมีหน้ำที่อ�ำนวยควำมสะดวกให้โจทก์เข้ำไปติดตั้งโปรแกรม
ที่ส�ำนักงำนของจ�ำเลย ต่อมำระหว่ำงวันที่ ๕ ตุลำคม ๒๕๖๐ ถึงวันที่ ๑๐ ธันวำคม ๒๕๖๒ โจทก์
และจ�ำเลยตกลงท�ำบันทึกข้อตกลงแก้ไขเพิ่มเติมสัญญำดังกล่ำว จ�ำเลยรับมอบงำนและช�ำระเงิน
95

ให้โจทก์เรื่อยมำรวมเป็นเงิน ๒๔,๕๑๓,๐๒๑.๘๙ บำท ต่อมำประมำณเดือนกุมภำพันธ์ ๒๕๖๓




โจทก์ไม่สำมำรถติดต้งโปรแกรมส่วนท่เหลือให้แก่จ�ำเลยได้ เน่องจำกจ�ำเลยไม่อนุมัติแผนงำน

ท่โจทก์น�ำเสนอและไม่ช�ำระเงินค่ำจ้ำงอันเป็นกำรผิดสัญญำดังกล่ำว โจทก์บอกกล่ำวทวงถำม



จ�ำเลยหลำยคร้ง แต่จ�ำเลยเพิกเฉย เม่อวันท่ ๑๐ กันยำยน ๒๕๖๓ โจทก์จึงบอกเลิกสัญญำ
แก่จ�ำเลย ขอให้จ�ำเลยช�ำระเงิน ๓,๗๕๔,๑๓๙.๗๕ บำท พร้อมดอกเบี้ยอัตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปี
ของต้นเงินดังกล่ำวนับถัดจำกวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ำจะช�ำระเสร็จแก่โจทก์

จ�ำเลยให้กำรและฟ้องแย้งว่ำ โจทก์ฟ้องให้จ�ำเลยรับผิดตำมสัญญำว่ำจ้ำงติดต้งระบบ


เงินทุนซ่งเป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่โจทก์อนุญำตให้จ�ำเลยใช้สิทธิในโปรแกรมระบบเงินทุน





โดยไม่จำกดระยะเวลำ เป็นเงน ๑๒,๖๗๕,๐๐๐ บำท สญญำดงกล่ำวจงเป็นสญญำอนญำต



ให้ใช้สิทธิ คดีน้จึงอยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ

ระหว่ำงประเทศกลำง และค�ำฟ้องโจทก์เคลือบคลุม เนื่องจำกโจทก์ไม่บรรยำยฟ้องให้ชัดแจ้งว่ำ
จ�ำเลยไม่ยอมรับมอบงำนในช่วงเวลำใด นอกจำกน้ จ�ำเลยไม่ได้ผิดสัญญำดังกล่ำว โจทก์เป็นฝ่ำย








ผดสัญญำ เนองจำกโจทก์ไม่สำมำรถส่งมอบงำนติดตงโปรแกรมตำมสัญญำดงกล่ำวได้ จำเลย
ไม่เคยตกลงว่ำจ้ำงให้โจทก์ท�ำงำนเพิ่ม จ�ำเลยจึงไม่จ�ำต้องช�ำระเงินค่ำจ้ำงส่วนที่เหลือ เมื่อโจทก์



ตดต้งและส่งมอบงำนไม่เป็นไปตำมสัญญำ ทำให้จำเลยได้รับควำมเสยหำย จ�ำเลยจงว่ำจ้ำง



บุคคลภำยนอกให้จัดท�ำโปรแกรมระบบเงินทุนให้แก่จ�ำเลย คิดเป็นค่ำเสียหำยหลำยรำยกำร
ได้แก่ ค่ำเสียหำยจำกกำรที่โปรแกรมระบบเงินทุนไม่สำมำรถใช้กำรได้ ค่ำขำดประโยชน์ ค่ำจ้ำง


บุคคลภำยนอกติดต้งโปรแกรมระบบเงินทุน และค่ำดูแลรักษำโปรแกรมท่เกิดจำกโจทก์

ไม่ถอนกำรติดต้ง ขอให้ยกฟ้อง และขอให้บังคับโจทก์ช�ำระเงิน ๖๔,๒๓๓,๓๘๑.๐๖ บำท แก่จ�ำเลย
โจทก์ให้กำรแก้ฟ้องแย้งว่ำ โจทก์ไม่ได้ผิดสัญญำว่ำจ้ำงติดต้งระบบเงินทุนตำมท ่ ี

จ�ำเลยฟ้องแย้ง จ�ำเลยเป็นฝ่ำยผิดสัญญำดังกล่ำวและบอกเลิกสัญญำไม่ชอบ โจทก์จึงไม่ต้อง
รับผิดชดใช้ค่ำเสียหำยตำมฟ้องแย้ง และคดีน้ไม่เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธ ิ


จึงไม่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำง
ขอให้ยกฟ้องแย้ง

ในช้นช้สองสถำนศำลแพ่งกรุงเทพใต้พิจำรณำแล้ว เห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำคดีน้อยู่


ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สนทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่


จึงให้รอกำรพิจำรณำพิพำกษำไว้ช่วครำว แล้วเสนอปัญหำดังกล่ำวให้ประธำนศำลอุทธรณ์

คดีช�ำนัญพิเศษเป็นผู้วินิจฉัยตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
มำตรำ ๙

96




วินิจฉัยว่ำ กรณีมีปัญหำต้องวินิจฉัยว่ำ คดีน้เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับเคร่องหมำยกำรค้ำ
ตำมบทบัญญัติมำตรำ ๗ (๓) แห่งพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ

ระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙

หรือไม่ เห็นว่ำ ตำมข้ออ้ำงท่อำศัยเป็นหลักแห่งข้อหำในค�ำฟ้องของโจทก์เป็นกำรกล่ำวอ้ำงว่ำ










จำเลยไม่ชำระค่ำจ้ำงอนเป็นกำรผดสญญำว่ำจ้ำงตดตงระบบเงนทนซงเป็นโปรแกรมสำเรจรป





ส่วนจ�ำเลยให้กำรปฏิเสธอ้ำงว่ำโจทก์ส่งมอบงำนติดต้งโปรแกรมดังกล่ำวไม่เป็นไปตำมสัญญำ





และฟ้องแย้งเรยกค่ำเสียหำยจำกกำรท่จ�ำเลยต้องจ้ำงบคคลภำยนอกแก้ไขและดำเนนกำรแทน

โจทก์ ดังนั้น ตำมค�ำฟ้อง ค�ำให้กำรและฟ้องแย้ง กับค�ำให้กำรแก้ฟ้องแย้งจึงมีประเด็นข้อพิพำท
ให้ต้องวินิจฉัยถึงสิทธิ หน้ำที่ และควำมรับผิดเกิดอันจำกสัญญำติดตั้งระบบเงินทุนอันมีลักษณะ




เปนสญญำจำงทำของซงอยภำยใตบงคบของประมวลกฎหมำยแพงและพำณชยเทำนน แมกำร
















อนุญำตให้ใช้สิทธิเป็นส่วนหน่งของข้อตกลงตำมสัญญำว่ำจ้ำงติดต้งระบบเงินทุนดังกล่ำวก็ตำม
แต่ไม่ปรำกฏว่ำมีประเด็นข้อพิพำทให้ต้องวินิจฉัยถึงข้อตกลงกำรอนุญำตให้ใช้สิทธิในทรัพย์สิน
ทำงปัญญำแต่อย่ำงใด คดีน้จึงไม่เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับเคร่องหมำยกำรค้ำ ลิขสิทธ์ สิทธิบัตร




หรือคดีพิพำทตำมสัญญำอนุญำตให้ใช้สิทธิตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำ

และกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓)
วินิจฉัยว่ำ คดีน้ไม่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ

กำรค้ำระหว่ำงประเทศ

วินิจฉัย ณ วันที่ ๔ เดือน พฤศจิกำยน พุทธศักรำช ๒๕๖๔
อโนชำ ชีวิตโสภณ
(นำงอโนชำ ชีวิตโสภณ)
อธิบดีผู้พิพำกษำศำลเยำวชนและครอบครัวกลำง
ช่วยท�ำงำนชั่วครำวในต�ำแหน่งประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ
ณัฐจิรำ ขันทอง - ย่อ
นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ
97

ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ บริษัทโปรเตอุส เทคโนโลยี

ที่ วทป ๕๘/๒๕๖๔ สิงคโปร์ จ�ำกัด กับพวก โจทก์

นำยคิริท ไกย์ ซำเลนสไมนดย์
(Mr. Kirit Geir Salensminde)


กบพวก ผู้ร้องสอด
บริษัทเร้ด แองเคอร์ เทรดดิ้ง
จ�ำกัด กับพวก จ�ำเลย















แม้ปัญหำทเสนอให้ประธำนศำลอทธรณ์คดชำนญพเศษวนจฉยว่ำคดนอย่ใน



อ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่
จะสืบเน่องมำจำกค�ำร้องสอดของผู้ร้องสอดท้งสำมและค�ำให้กำรแก้ค�ำร้องสอดของ


จ�ำเลยท้งสอง แต่กำรพิจำรณำเร่องอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลจะต้องพิจำรณำจำก


ค�ำฟ้องและค�ำให้กำรเป็นหลัก


สัญญำระหว่ำงโจทก์ท้งสำมกับจ�ำเลยท้งสองมีลักษณะเป็นสัญญำต่ำงตอบแทนท ี ่
โจทก์ท้งสำมตกลงจะโอนสิทธิในทรัพย์สินหลำยรำยกำรและพัฒนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์

ให้แก่จ�ำเลยท้งสอง ส่วนจ�ำเลยท้งสองจะช�ำระรำคำและออกหุ้นบุริมสิทธิให้แก่โจทก์





ท้งสำมเป็นกำรตอบแทน แม้สิทธิในทรัพย์สินท่โจทก์ท้งสำมจะโอนให้แก่จ�ำเลยท้งสอง

จะรวมถงสทธในทรพย์สนทำงปัญญำและลขสทธในโปรแกรมคอมพวเตอร์อย่ด้วย













แต่ก็ไม่มีประเด็นท่จะต้องวินิจฉัยเก่ยวกับลิขสิทธ เคร่องหมำยกำรค้ำ หรือสิทธิบัตร



แต่อย่ำงใด และแม้จะมีประเด็นเก่ยวกับควำมเป็นเจ้ำของลิขสิทธ์โปรแกรมคอมพิวเตอร์


แต่ประเด็นในส่วนนี้ก็สืบเนื่องมำจำกเรื่องกำรช�ำระรำคำ กำรพัฒนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ตำมฟ้องของโจทก์ทงสำมกเป็นไปในลกษณะทม่งหมำยให้โจทก์ทงสำมจดทำโปรแกรม












คอมพิวเตอร์ให้ส�ำเร็จเพ่อท่จ�ำเลยท้งสองจะได้น�ำโปรแกรมท่ท�ำส�ำเร็จแล้วไปใช้ในทำง




ธุรกิจ มิได้มีลักษณะของกำรถ่ำยทอดองค์ควำมรู้ให้จ�ำเลยท้งสองเพ่อน�ำองค์ควำมรู้

น้นไปใช้ประโยชน์ จึงมิใช่สัญญำถ่ำยทอดเทคโนโลย คดีน้ในส่วนฟ้องเดิมจึงมิใช่คด ี







เก่ยวกับเคร่องหมำยกำรค้ำ ลิขสิทธ สิทธิบัตร หรือคดีพิพำทตำมสัญญำถ่ำยทอด
เทคโนโลยี
_____________________________
98



โจทก์ท้งสำมฟ้องและแก้ไขค�ำฟ้องว่ำ โจทก์ท่ ๑ เป็นนิติบุคคลตำมกฎหมำยสิงคโปร์
โจทก์ที่ ๓ เป็นนิติบุคคลตำมกฎหมำยของหมู่เกำะเนวิส จ�ำเลยที่ ๑ เป็นนิติบุคคลตำมกฎหมำย

ของหมู่เกำะบริติช เวอร์จิน ส่วนโจทก์ที่ ๒ และจ�ำเลยที่ ๒ เป็นนิติบุคคลตำมกฎหมำยไทย เมื่อ
วันที่ ๕ ตุลำคม ๒๕๖๑ โจทก์ทั้งสำมท�ำสัญญำขำยทรัพย์สินให้แก่จ�ำเลยทั้งสอง ประกอบไปด้วย

เครื่องมือเครื่องใช้ อุปกรณ์ ทรัพย์สินทำงปัญญำ ข้อมูลทำงธุรกิจ ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในธุรกิจ รวม





ท้งสิทธิท้งหมดท่เก่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ รวมไปถึงให้โจทก์ท้งสำมจัดท�ำและพัฒนำโปรแกรม


คอมพิวเตอร์ท้งระบบ พัฒนำแพลตฟอร์มไอจีเอและเทรดดิงแพลตฟอร์ม ซ่งหมำยถึง แพลตฟอร์ม




โฆษณำในเกม เพ่อส่งมอบให้แก่จ�ำเลยท้งสองและเพ่อใช้ในกิจกำรของจ�ำเลยท้งสองโดยเฉพำะ

และให้ลิขสิทธ์โปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่พัฒนำดังกล่ำวตกเป็นของจ�ำเลยท้งสอง จ�ำเลยท้งสอง




ตกลงช�ำระรำคำเป็นเงิน ๑๑,๐๐๐,๐๐๐ ดอลลำร์สหรัฐ ช�ำระเงินครำวแรกเมื่อปิดกำรซื้อขำยคือ
วันที่ ๕ พฤศจิกำยน ๒๕๖๑ เป็นเงิน ๒,๔๐๐,๐๐๐ ดอลลำร์สหรัฐ และจ�ำเลยทั้งสองจะออกหุ้น

















บรมสทธของจำเลยทงสองใหแกโจทกทงสำมเปนมลคำ ๗,๐๐๐,๐๐๐ ดอลลำรสหรฐ กำรชำระเงน


ในครำวหลังจะแบ่งช�ำระเป็นงวด งวดแรกช�ำระ ๘๐๐,๐๐๐ ดอลลำร์สหรัฐ ภำยใน ๑๐ วัน นับจำก
วนทแพลตฟอรมไอจเอดำเนนกำรแลวเสรจ คอ วนท ๑๓ พฤษภำคม ๒๕๖๒ และงวดทสองชำระ
















๘๐๐,๐๐๐ ดอลลำร์สหรัฐ ภำยใน ๑๐ วัน นับจำกวันที่เทรดดิงแพลตฟอร์มด�ำเนินกำรแล้วเสร็จ
คือ วันที่ ๑๓ พฤษภำคม ๒๕๖๒ โจทก์ทั้งสำมปฏิบัติตำมสัญญำครบถ้วนแล้ว แต่จ�ำเลยทั้งสอง



ผิดนัด ไม่ออกหุ้นให้แก่โจทก์ท้งสำมและไม่ช�ำระเงินในครำวหลังให้โจทก์ท้งสำม จ�ำเลยทงสองจึง

ต้องรับผิดช�ำระค่ำตอบแทนให้โจทก์ทั้งสำมคิดเป็นมูลค่ำ ๗,๐๐๐,๐๐๐ ดอลลำร์สหรัฐ และช�ำระ
เงินให้โจทก์ทั้งสำม ๑,๖๐๐,๐๐๐ ดอลลำร์สหรัฐ รวมเป็นเงิน ๘,๖๐๐,๐๐๐ ดอลลำร์สหรัฐ คิดเป็น
เงินไทยโดยใช้อัตรำแลกเปลี่ยน ณ วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ ๔ สิงหำคม ๒๕๖๓) ที่อัตรำ ๓๑.๔ บำท

ต่อ ๑ ดอลลำร์สหรัฐ จะได้เป็นเงินไทยเท่ำกับ ๒๙๓,๒๖๐,๐๐๐ บำท และยังต้องรับผิดในดอกเบ้ย
อัตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่ำว นับแต่วันถัดจำกวันฟ้องเป็นต้นไป ขอให้บังคับจ�ำเลย
ทั้งสองช�ำระเงิน ๘,๖๐๐,๐๐๐ ดอลลำร์สหรัฐ พร้อมดอกเบี้ยอัตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงิน
ดังกล่ำวนับแต่วันถัดจำกวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ำจะช�ำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสำม


จ�ำเลยท้งสองให้กำรและฟ้องแย้งว่ำ จ�ำเลยท้งสองไม่ได้เป็นฝ่ำยผิดสัญญำโจทก์ท้งสำม


หลอกลวง ฉ้อฉล และประพฤติผิดสัญญำต่อจ�ำเลยท้งสอง โดยร่วมกันซ่อนเร้นและสอดแทรก








ซอฟต์แวรของโจทก์ทงสำมเข้ำมำในแพลตฟอร์มไอจีเอของจ�ำเลยทงสอง และอ้ำงกบจำเลยท้งสอง






วำรหสคอมพวเตอรบำงสวนยงเปนสทธของโจทกทงสำมอย และหำมจำเลยทงสองนำไปจำหนำย















99



หรือถ่ำยโอนในทำงกำรค้ำของจ�ำเลยท้งสอง ท�ำให้จ�ำเลยท้งสองได้รับควำมเสียหำย สัญญำ









ซอขำยทรพย์สนตำมฟ้องมใช่สญญำซอขำยกจกำรของโจทก์ทงสำม แต่เป็นกำรซอทรัพย์สน






สิทธิ กรรมสิทธ์ ผลประโยชน์ในงำนลิขสิทธ์ตำมท่ระบุในสัญญำเท่ำน้น รวมไปถึงกำรรับโอน




พนักงำนของโจทก์ท้งสำมเข้ำเป็นลูกจ้ำงของจ�ำเลยท้งสองด้วย สัญญำดังกล่ำวจึงเป็นกำร




ซ้อขำยเก่ยวกับทรัพย์บำงส่วนท่ก�ำหนดไว้เป็นกำรเฉพำะส่ง ภำยหลังจำกท่จ�ำเลยท้งสองช�ำระเงิน



๒,๔๐๐,๐๐๐ ดอลลำร์สหรัฐ โจทก์ทั้งสำมกลับเป็นฝ่ำยเพิกเฉย ไม่ลงนำมส่งมอบทรัพย์สินและ
ลงนำมบันทึกปิดสัญญำตำมข้อตกลง ภำยหลังกำรพัฒนำแพลตฟอร์มไอจีเอเสร็จแล้ว จ�ำเลย

ท้งสองพบว่ำ งำนดังกล่ำวยังมีข้อบกพร่องและไม่สมบูรณ์เพียงพอท่จ�ำเลยท้งสองจะน�ำไปจ�ำหน่ำย



ให้แก่ลูกค้ำได้ ต่อมำโจทก์ท้งสำมกลับแจ้งต่อจ�ำเลยท้งสองว่ำ โจทก์ท้งสำมยังไม่ได้โอนสิทธ ิ



ในทรัพย์สินทำงปัญญำให้แก่จ�ำเลยท้งสอง และห้ำมจ�ำเลยท้งสองน�ำแพลตฟอร์มดังกล่ำวไปใช้งำน


หรือจ�ำหน่ำย ท�ำให้จ�ำเลยท้งสองไม่สำมำรถน�ำแพลตฟอร์มไปร่วมลงทุนกับบริษัทอ่นได้ กำร





ออกหุ้นบุริมสิทธิให้แก่โจทก์ท้งสำมน้นมีเง่อนไขบังคับก่อน คือ โจทก์ท้งสำมต้องโอนทรัพย์สิน


งำนสร้ำงสรรค์โปรแกรมฯ ให้เป็นสิทธของจ�ำเลยของท้งสองก่อน ในส่วนของมูลคำหุ้นน้น เป็น





เง่อนไขเหตุกำรณ์ในอนำคต ไม่ใช่หน้เงินท่ก�ำหนดจ�ำนวนไว้แน่นอน และมีเง่อนไขบังคับก่อนคือ

ต้องน�ำจ�ำเลยที่ ๑ ไปจดทะเบียนในตลำดหลักทรัพย์ เมื่อเงื่อนไขยังไม่ส�ำเร็จ จ�ำเลยทั้งสองจึงยัง







ไม่ผกพนทจะต้องออกห้นให้แก่โจทก์ทงสำม ในส่วนเงนทจำเลยทงสองต้องชำระ ๑,๖๐๐,๐๐๐









ดอลลำร์สหรัฐน้น เป็นกำรช�ำระหน้ต่ำงตอบแทน เม่อโจทก์ท้งสำมยังท�ำแพลตฟอร์มไอจีเอ


ไม่เสร็จ และจ�ำเลยทั้งสองบอกเลิกสัญญำกับโจทก์ทั้งสำมแล้ว โจทก์ทั้งสำมจึงไม่มีสิทธิได้รับเงิน
ดังกล่ำว เมื่อโจทก์ทั้งสำมเป็นฝ่ำยผิดสัญญำ โจทก์ทั้งสำมจึงต้องคืนเงิน ๒,๔๐๐,๐๐๐ ดอลลำร์สหรัฐ

แก่จ�ำเลยท้งสอง จ�ำเลยท้งสองรับโอนตัวกรรมกำรและพนักงำนของโจทก์ท้งสำมนับแต่


วันท�ำสัญญำ เป็นเหตุให้ต้องเสียค่ำใช้จ่ำยและเงินเดือนนับแต่เดือนตุลำคม ๒๕๖๑ จนถึงวันท ่ ี




กรรมกำรและลกจำงดงกลำวลำออก และจำเลยทงสองยงตองจำงนกโปรแกรมเมอรชดใหมเขำมำ














ท�ำงำนเพ่อแก้ไขงำนท่พนักงำนของโจทก์ท้งสำมท�ำเสียหำยไว้ก่อนลำออก คิดเป็นค่ำเสียหำย
๑๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บำท และยังได้รับควำมเสียหำยทำงธุรกิจคิดเป็นเงิน ๓๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บำท









ขอใหยกฟอง และบงคบโจทก์ทงสำมร่วมกนคนเงน ๒,๔๐๐,๐๐๐ ดอลลำรสหรฐ แกจ�ำเลยท้งสอง














กบร่วมกนชำระเงนค่ำเสยหำย ๔๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บำท แก่จำเลยทงสอง พร้อมดอกเบยอตรำ

ร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่ำวนับแต่วันให้กำรและฟ้องแย้งเป็นต้นไปจนกว่ำจะช�ำระเสร็จ
แก่จ�ำเลยทั้งสอง
100

โจทก์ทั้งสำมให้กำรแก้ฟ้องแย้งว่ำ โจทก์ทั้งสำมไม่ได้เป็นฝ่ำยผิดสัญญำ สัญญำพิพำท





มีวัตถุประสงค์เพ่อซ้อขำยกิจกำรของโจทก์ท้งสำมตำมรำยกำรทรัพย์สินท่ระบุในสัญญำ โจทก์
ท้งสำมไม่เคยขัดขวำง หวงห้ำม มิให้จ�ำเลยท้งสองใช้ประโยชน์จำกแพลตฟอร์มท่พิพำท โจทก์




ท้งสำมปฏิบัติตำมสัญญำส่งมอบทรัพย์สินและพัฒนำแพลตฟอร์มไอจีเอจนแล้วเสร็จ ใช้งำนได้
โดยสมบูรณ์ และจ�ำเลยท้งสองก็ใช้สอยแพลตฟอร์มดังกล่ำวในกิจกำรของจ�ำเลยท้งสองตลอดมำ





นำยเบนจำมินมีควำมเห็นว่ำเม่อจ�ำเลยท้งสองยังไม่ช�ำระเงินให้โจทก์ท้งสำมตำมสัญญำ


จึงไม่ควรน�ำแพลตฟอร์มพิพำทไปขำยให้บุคคลอ่นเพรำะจะท�ำให้โจทก์ท้งสำมได้รับควำมเสียหำย
มิได้เป็นกำรหวงกันหรือห้ำมมิให้จ�ำเลยทั้งสองใช้สิทธิควำมเป็นเจ้ำของแต่อย่ำงใด โจทก์ทั้งสำม


จึงไม่ต้องคืนเงิน ๒,๔๐๐,๐๐๐ ดอลลำร์สหรัฐ กำรท่จ�ำเลยท้งสองบอกเลิกสัญญำ จ�ำเลย


ท้งสองจะต้องคืนทรัพย์สินท่ได้รับโอนกรรมสิทธ์ไปแล้วและต้องเสนอชดใช้ค่ำกำรงำนท่ท�ำข้น









ให้แก่โจทก์ท้งสำม เม่อจ�ำเลยท้งสองมิได้เสนอช�ำระหนตอบแทน จ�ำเลยท้งสองจึงไม่มีอ�ำนำจ


ฟ้องแย้ง จ�ำเลยทงสองเป็นฝ่ำยเลิกจ้ำงนำยเบนจำมนกรรมกำรของโจทก์ทงสำมโดยไม่บอก





กล่ำวล่วงหน้ำ อันเป็นกำรเลิกจ้ำงท่ไม่เป็นธรรม ส่วนพนักงำนอ่นสมัครใจท่จะลำออกเอง มิใช่

ควำมผิดของโจทก์ท้งสำม ค่ำเสียหำยทำงธุรกิจท่จ�ำเลยท้งสองอ้ำงไม่มีอยู่จริง หำกมีจริง



ก็สูงเกินส่วน คงมีควำมเสียหำยเพียง ๕,๐๐๐ บำท ขอให้ยกฟ้องแย้ง

ระหว่ำงพิจำรณำ ผู้ร้องสอดท่ ๑ ถึงท่ ๓ ย่นค�ำร้องขอเข้ำเป็นคู่ควำมโดยมีใจควำมท�ำนอง



เดียวกันว่ำ สัญญำซ้อขำยทรัพย์สินตำมฟ้องมีข้อตกลงว่ำจะรับผู้ร้องท้งสำมเข้ำท�ำงำน จ�ำเลย

ทั้งสองจะจัดให้ผู้ร้องสอดที่ ๑ และที่ ๒ ได้รับหุ้นคนละร้อยละ ๐.๘๗ และผู้ร้องสอดที่ ๓ ได้รับ
หุ้นร้อยละ ๐.๒๖ ณ วันท่ปิดกำรซ้อขำยคือวันท่ ๕ พฤศจิกำยน ๒๕๖๑ เป็นมูลค่ำส�ำหรับ



ผู้ร้องสอดท่ ๑ เป็นมูลค่ำ ๓๘๕,๐๐๑.๕๓ ดอลลำร์สหรัฐ ส�ำหรับผู้ร้องสอดท่ ๒ เป็นมูลค่ำ




๖๖๐,๓๗๙.๙๙ ดอลลำร์สหรัฐ และส�ำหรับผู้ร้องสอดท่ ๓ เป็นมลค่ำ ๑๑๐,๖๓๒.๖๒ ดอลลำร์สหรัฐ



ค�ำนวณเป็นเงินไทยโดยใช้อัตรำแลกเปล่ยน ณ วันย่นค�ำร้องสอด (ย่นค�ำร้องสอดวันท่ ๒๒

กรกฎำคม ๒๕๖๔) อัตรำ ๓๒.๔๘ บำท ต่อ ๑ ดอลลำร์สหรัฐ ส�ำหรับผู้ร้องสอดที่ ๑ จะได้เท่ำกับ
๑๒,๕๐๔,๘๔๙.๖๙ บำท ส�ำหรับผู้ร้องสอดที่ ๒ จะได้เท่ำกับ ๒๑,๔๔๙,๑๔๒ บำท และส�ำหรับ

ผู้ร้องสอดท่ ๓ จะได้เท่ำกับ ๓,๕๙๓,๓๔๗.๕๐ บำท ต่อมำผู้ร้องสอดท้งสำมเข้ำท�ำงำนเป็นลูกจ้ำง





ของจ�ำเลยท้งสองแต่จ�ำเลยท้งสองผิดสัญญำ ไม่จัดสรรหุ้นให้ผู้ร้องท้งสำมท�ำให้ผู้ร้องท้งสำม
ได้รับควำมเสียหำย ขอให้บังคับจ�ำเลยท้งสองจัดสรรหุ้นให้ผู้ร้องสอดท่ ๑ และท่ ๒ คนละ



ร้อยละ ๐.๘๗ ส�ำหรับผู้ร้องสอดที่ ๑ เป็นมูลค่ำ ๓๘๕,๐๐๑.๕๓ ดอลลำร์สหรัฐ ผู้ร้องสอดที่ ๒
101


เป็นมูลค่ำ ๖๖๐,๓๗๙.๙๙ ดอลลำร์สหรัฐ และจัดสรรหุ้นให้ผู้ร้องสอดท่ ๓ ร้อยละ ๐.๒๖ เป็น

มูลค่ำ ๑๑๐,๖๓๒.๖๒ ดอลลำร์สหรัฐ หำกจ�ำเลยท้งสองไม่ปฏิบัติตำมหรือปฏิบัติไม่ได้ให้

ช�ำระเงินแก่ผู้ร้องสอดท่ ๑ เป็นเงิน ๑๒,๕๐๔,๘๔๙.๖๙ บำท ผู้ร้องสอดท่ ๒ เป็นเงิน


๒๑,๔๔๙,๑๔๒ บำท ผู้ร้องสอดท่ ๓ เป็นเงิน ๓,๕๙๓,๓๔๗.๕๐ บำท พร้อมดอกเบ้ยอัตรำ

ร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่ำวนับแต่วันย่นค�ำร้องสอดเป็นต้นไปจนกว่ำจะช�ำระเสร็จ

แก่ผู้ร้องสอดท่ ๑ ถึงท่ ๓ ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำงมีค�ำส่ง



อนุญำต
จ�ำเลยทั้งสองให้กำรแก้ค�ำร้องสอดของผู้ร้องทั้งสำมว่ำ ผู้ร้องทั้งสำมไม่มีสิทธิเรียกร้อง






หุ้นจำกจ�ำเลยท้งสองเพรำะไม่เข้ำเง่อนไขท่จะได้รับหุ้น กำรท่โจทก์ท้งสำมอ้ำงว่ำยังมีสิทธ ิ
ในซอฟต์แวร์อยู่ท�ำให้วันปิดธุรกรรมกำรซ้อขำยตำมท่ระบุไว้ยังไม่เกิดข้น จึงยังไม่เกิดสิทธิท ่ ี







จะเรียกร้องหุ้นจำกจ�ำเลยท้งสอง เม่อโจทก์ท้งสำมผิดสัญญำ สิทธิเรียกร้องของผู้ร้องท้งสำม






จงสนไปด้วย ข้ออ้ำงตำมคำร้องสอดของผ้ร้องสอดทงสำมเป็นประเดนข้อพพำทเรองแรงงำน





ไม่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
ขอให้ยกค�ำร้องสอด
ระหว่ำงพิจำรณำ ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำง เห็นว่ำ
กรณีมีปัญหำตำมค�ำให้กำรแก้ค�ำร้องสอดของจ�ำเลยท้งสองว่ำ คดีน้อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำ


ของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่ จึงให้รอกำรพิจำรณำพิพำกษำ




คดไว้ชวครำว แล้วเสนอปัญหำดงกล่ำวให้ประธำนศำลอทธรณ์คดชำนญพเศษเป็นผ้วนจฉย










ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำ
คดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙

วินิจฉัยว่ำ แม้ปัญหำท่เสนอให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษวินิจฉัยว่ำ คดีน ้ ี
อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่




ู้

จะสบเนองมำจำกค�ำร้องสอดของผร้องสอดท้งสำมและค�ำให้กำรแกค�ำร้องสอดของจำเลยท้งสอง



แต่กำรพิจำรณำเร่องอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลจะต้องพิจำรณำจำกค�ำฟ้องและค�ำให้กำร
เป็นหลัก กรณีจึงมีปัญหำต้องวินิจฉัยว่ำ คดีนี้ในส่วนฟ้องเดิมเป็นคดีแพ่งเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ หรือ

คดีพิพำทตำมสัญญำถ่ำยทอดเทคโนโลยีตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำ
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓) หรือไม่ เห็นว่ำ โจทก์ทั้งสำมฟ้องว่ำ โจทก์ทั้งสำมท�ำสัญญำตกลง
102


ขำยทรัพย์สินให้แก่จ�ำเลยท้งสองหลำยรำยกำรและตกลงจะพัฒนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้แก่



จ�ำเลยท้งสองด้วย ในกำรน้ จ�ำเลยท้งสองจะต้องช�ำระเงินและออกหุ้นบุริมสิทธิให้แก่โจทก์ท้งสำม

















จำนวนหนง โจทก์ทงสำมปฏบตหน้ำทตำมสญญำครบถ้วนแล้ว ต่อมำจำเลยทงสองผดสญญำ

ไม่ช�ำระหน้ตำมสัญญำแก่โจทก์ท้งสำม ส่วนจ�ำเลยท้งสองให้กำรและฟ้องแย้งว่ำ จ�ำเลยท้งสอง












ไม่ได้เป็นฝ่ำยผดสญญำ โจทก์ทงสำมเองปฏิบตหน้ำทตำมสัญญำไม่ครบถ้วน ไม่โอนสทธิใน

โปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้จ�ำเลยท้งสอง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่โจทก์ท้งสำมท�ำข้นไม่สำมำรถ




ใช้งำนได้ จนจ�ำเลยท้งสองบอกเลิกสัญญำแก่โจทก์ท้งสำมแล้ว โจทก์ท้งสำมจึงไม่มีสิทธิได้รับ


ช�ำระหนี้จำกจ�ำเลยทั้งสอง และโจทก์ทั้งสำมยังต้องร่วมกันคืนเงินและชดใช้ค่ำเสียหำยแก่จ�ำเลย
ทั้งสอง ซึ่งโจทก์ทั้งสำมให้กำรแก้ฟ้องแย้งว่ำ โจทก์ทั้งสำมปฏิบัติหน้ำที่ตำมสัญญำครบถ้วนแล้ว
เม่อจ�ำเลยท้งสองยังช�ำระรำคำไม่ครบ โจทก์ท้งสำมจึงยังคงมีสิทธิในโปรแกรมคอมพิวเตอร์อยู่



ส่วนผู้ร้องสอดทั้งสำมยื่นค�ำร้องสอดว่ำ ตำมสัญญำระหว่ำงโจทก์ทั้งสำมกับจ�ำเลยทั้งสอง จ�ำเลย

ท้งสองต้องออกหุ้นให้แก่ผู้ร้องสอดท้งสำม แต่จ�ำเลยท้งสองผิดสัญญำไม่ออกหุ้นให้ผู้ร้องสอด


ท้งสำม ขอให้บังคับจ�ำเลยท้งสองจัดให้ผู้ร้องสอดท้งสำมได้รับหุ้นของจ�ำเลยท้งสอง หำกไม่ปฏิบัต ิ




หรือปฏิบัติไม่ได้ให้ช�ำระเงินพร้อมดอกเบี้ยแทน ซึ่งจ�ำเลยทั้งสองก็ให้กำรแก้ค�ำร้องสอดว่ำ กรณี
ยังไม่เข้ำเงื่อนไขบังคับก่อนที่จ�ำเลยทั้งสองจะต้องออกหุ้นให้ผู้ร้องสอดทั้งสำม ผู้ร้องสอดทั้งสำม
ไม่มีสิทธิเรียกร้องต่อจ�ำเลยทั้งสอง ดังนี้ สัญญำระหว่ำงโจทก์ทั้งสำมกับจ�ำเลยทั้งสองมีลักษณะ


เป็นสัญญำต่ำงตอบแทนท่โจทก์ท้งสำมตกลงจะโอนสิทธิในทรัพย์สินหลำยรำยกำรและพัฒนำ


โปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้แก่จ�ำเลยท้งสอง ส่วนจ�ำเลยท้งสองจะช�ำระรำคำและออกหุ้นบุริมสิทธ ิ


ให้แก่โจทก์ท้งสำมเป็นกำรตอบแทน แม้สิทธิในทรัพย์สินท่โจทก์ท้งสำมจะโอนให้แก่จ�ำเลยท้งสอง


จะรวมถึงสิทธิในทรัพย์สินทำงปัญญำและลิขสิทธ์ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์อยู่ด้วย แต่ก็ไม่ม ี


ประเด็นท่จะต้องวินิจฉัยเก่ยวกับลิขสิทธ์ เคร่องหมำยกำรค้ำ หรือสิทธิบัตร แต่อย่ำงใด และ




แม้จะมีประเด็นเก่ยวกับควำมเป็นเจ้ำของลิขสิทธ์โปรแกรมคอมพิวเตอร์ แต่ประเด็นในส่วนน ้ ี

ก็สืบเนื่องมำจำกเรื่องกำรช�ำระรำคำ ไม่มีประเด็นว่ำบุคคลใดเป็นผู้สร้ำงสรรค์หรือละเมิดลิขสิทธิ์
แต่อย่ำงใด อีกท้งกำรพัฒนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตำมฟ้องของโจทก์ท้งสำมก็เป็นไปในลักษณะ
















ทม่งหมำยให้โจทก์ทงสำมจดทำโปรแกรมคอมพวเตอร์ให้สำเร็จเพอทจำเลยทงสองจะได้นำ




โปรแกรมท่ท�ำส�ำเร็จแล้วไปใช้ในทำงธุรกิจ มิได้มีลักษณะของกำรถ่ำยทอดองค์ควำมรู้ให้จ�ำเลย



ท้งสองเพ่อน�ำองค์ควำมรู้น้นไปใช้ประโยชน์ จึงมิใช่สัญญำถ่ำยทอดเทคโนโลยี นอกจำกน ี ้
ประเด็นแห่งคดีในส่วนของค�ำร้องสอดของผู้ร้องสอดท้งสำมก็คงเป็นข้อพิพำทเร่องค่ำตอบแทน


103












ทผ้ร้องสอดทงสำมจะได้รบตำมสญญำต่ำงตอบแทนระหว่ำงโจทก์ทงสำมกบจำเลยทงสอง มได้



มีข้อพิพำทในเรื่องทรัพย์สินทำงปัญญำหรือกำรถ่ำยทอดเทคโนโลยีเช่นกัน คดีนี้ในส่วนฟ้องเดิม


จึงมิใช่คดีเก่ยวกับเคร่องหมำยกำรค้ำ ลิขสิทธ์ สิทธิบัตร หรือคดีพิพำทตำมสัญญำถ่ำยทอด




เทคโนโลย อนอยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำง

ประเทศ ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและ
วิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓)
และท�ำให้คดีในส่วนฟ้องแย้งและค�ำร้องสอดเป็นคดีท่ไม่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของ

ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สิน

ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๓) เช่นกัน

วินิจฉัยว่ำ คดีน้ไม่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ
กำรค้ำระหว่ำงประเทศ
วินิจฉัย ณ วันที่ ๑๑ เดือน มกรำคม พุทธศักรำช ๒๕๖๕



อโนชำ ชีวิตโสภณ

(นำงอโนชำ ชีวิตโสภณ)

อธิบดีผู้พิพำกษำศำลเยำวชนและครอบครัวกลำง

ช่วยท�ำงำนชั่วครำวในต�ำแหน่งประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ



สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ

นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ




















104

ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ นำงสำวกมลวรรณ

ที่ วทป ๒๓/๒๕๖๐ จีรวงศ์สุนทร โจทก์

นำงสำวสุจินันท์
กำนมเขียว จ�ำเลย





โจทก์บรรยำยฟ้องอ้ำงว่ำ จ�ำเลยใช้ช่อทำงกำรค้ำและใช้ป้ำยช่อกิจกำรร้ำน

คล้ำยคลึงกับโจทก์ในกำรประกอบกิจกำรประเภทเดียวกัน เพ่อให้ประชำชนเกิดควำม









สบสนว่ำสถำนประกอบกจกำรของจำเลยเป็นสถำนทเดยวกนกบสถำนประกอบกจกำร

ของโจทก์ และเรียกค่ำเสียหำยจำกจ�ำเลย พร้อมท้งมีค�ำขอให้จ�ำเลยยุติกำรใช้ช่อและ

ปลดป้ำยกิจกำรที่คล้ำยคลึงและเหมือนกับกิจกำรของโจทก์ คดีจึงมีประเด็นข้อพิพำทว่ำ

จ�ำเลยได้เอำช่อ รูป รอยประดิษฐ์หรือข้อควำมใด ๆ ในกำรประกอบกำรค้ำของโจทก์


มำใช้เพ่อให้ประชำชนหลงเช่อว่ำเป็นกำรค้ำของจ�ำเลย และจ�ำเลยเลียนป้ำยของโจทก์



จนประชำชนน่ำจะหลงเช่อว่ำสถำนท่กำรค้ำของจ�ำเลยเป็นสถำนท่กำรค้ำของโจทก์

ท่ต้งอยู่ใกล้เคียงกันจนเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับควำมเสียหำยหรือไม่ ซ่งเป็นประเด็น










ข้อพิพำทให้ต้องวนิจฉัยเกยวกับกำรละเมดสทธในกำรใช้ชอทำงกำรค้ำและป้ำยทำง

กำรค้ำของโจทก์ ตำม ป.อ. มำตรำ ๒๗๒ (๑) (๒) เม่อคดีมีประเด็นข้อพิพำทให้ต้องวินิจฉัย
เกี่ยวกับกำรกระท�ำของจ�ำเลย อันเป็นกำรโต้แย้งสิทธิของโจทก์ดังกล่ำวเช่นนี้ย่อมท�ำให้
คดีน้เป็นคดีแพ่งอันเน่องมำจำกกำรกระท�ำควำมผิดตำม ป.อ. มำตรำ ๒๗๒ ถึงมำตรำ


๒๗๕ และเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับข้อพิพำทในช่อทำงกำรค้ำ ตำมบทบัญญัติมำตรำ ๗ (๔) (๙)


แห่ง พ.ร.บ. จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำ

คดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
_____________________________

โจทก์ฟ้องว่ำ โจทก์ประกอบกิจกำรน�ำเที่ยว ทัวร์ บริกำรด้ำนกำรท่องเที่ยว แลกเปลี่ยน
เงินตรำ และรถรับจ้ำง โดยใช้ชื่อว่ำ “อลิซัน โกลเด้นท์ โค้ช ทัวร์” ใช้ป้ำยกิจกำรร้ำนพื้นสีน�้ำเงิน
และมีอักษรภำษำอังกฤษว่ำ “ALISAN” กับรูปพระจันทร์เส้ยวสีเหลือง เม่อประมำณเดือนเมษำยน




๒๕๕๙ จ�ำเลยเปิดร้ำนประกอบกิจกำรธุรกิจจัดทัวร์และบริกำรด้ำนกำรท่องเท่ยวโดยใช้ช่อ
ทำงกำรค้ำว่ำ “นิว อลิซัน โกลเด้น โค้ซ เอ็กเพลส แอนด์ ทัวร์” และใช้ป้ำยกิจกำรร้ำนพื้นสีน�้ำเงิน


















ตวอกษรภำษำองกฤษ “ALISAN” กบรปพระจนทร์เสยวสเหลอง ซงเปนชอและลกษณะปำยกจกำร
105










คล้ำยคลึงกบโจทก์ในกิจกำรประเภทเดยวกนและตงอยบริเวณใกลเคยงกัน กำรกระทำของจ�ำเลย

เป็นกำรจงใจใช้ช่อกิจกำรและป้ำยร้ำนให้คล้ำยคลึงกับโจทก์ เพ่อให้ประชำชนเกิดควำมสับสน






คดว่ำสถำนประกอบกำรของจำเลยเป็นสถำนประกอบกำรเดยวกนกบโจทก์ อนเป็นกำรละเมด



ต่อโจทก์ เป็นเหตุให้ผู้ใช้บริกำรของโจทก์ลดลง ท�ำให้โจทก์ได้รับควำมเสียหำยต้งแต่เดือน

เมษำยน ๒๕๕๙ จนถึงเดือนกรกฎำคม ๒๕๕๙ เป็นเงิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บำท โจทก์มอบอ�ำนำจให้

ทนำยควำมมีหนังสือบอกกล่ำวให้จ�ำเลยยุติกำรกระท�ำอันเป็นกำรละเมิดต่อโจทก์ยุติกำรใช้ช่อและ

ป้ำยกิจกำรซ่งเหมือนและคล้ำยกับของโจทก์ แต่จ�ำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับจ�ำเลยช�ำระเงินค่ำเสีย
หำย ๑,๐๐๐,๐๐๐ บำท พร้อมดอกเบี้ยอัตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปีนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ำจะ
ช�ำระเสร็จแก่โจทก์ และช�ำระค่ำเสียหำยในอัตรำเดือนละ ๓๐,๐๐๐ บำท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป


จนกว่ำจ�ำเลยจะยุติกำรใช้ช่อและปลดป้ำยกิจกำรร้ำนให้จ�ำเลยยุติกำรใช้ช่อและปลดป้ำยกิจกำร

ท่คล้ำยคลึงและเหมือนกับกิจกำรของโจทก์หำกจ�ำเลยไม่ด�ำเนินกำรให้โจทก์เป็นผู้ด�ำเนินกำร
โดยจ�ำเลยเป็นผู้ออกค่ำใช้จ่ำย


จ�ำเลยให้กำรว่ำ แต่เดิมท่ต้งและท่ประกอบกิจกำรร้ำนของโจทก์มีนำยตันหรือ


นำยเดวิน บุคคลสัญชำติมำเลเซียเป็นเจ้ำของ มีส�ำนักงำนหรือบริษัทแม่อยู่ท่ประเทศมำเลเซีย
ชื่อบริษัทอลิซันโกลเด้นโค้ช (เอ็ม) จ�ำกัด ต่อมำเปลี่ยนชื่อเป็น อลิซันโกลเด้นโคชแอนด์แทรเวล
บริษัท จ�ำกัด โดยให้บังมินเป็นตัวแทนในกำรประกอบกิจกำร ต่อมำนำยโทน่ สำมีโจทก์

ซ่งเป็นคนสัญชำติมำเลเซียเข้ำมำด�ำเนินกำรต่อแทน โดยนำยตัน เป็นผู้จ่ำยค่ำตอบแทน

แต่บังมินและนำยโทน่ได้ติดต่อซ้อขำยสถำนท่ประกอบกิจกำรกันเอง โดยนำยตันไม่ทรำบ




และไม่ยอมรับ นำยตันจึงมำเปิดสถำนท่ประกอบกำรใหม่และตกลงให้จ�ำเลยเป็นตัวแทน
แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ใช้ช่อในกำรประกอบกิจกำรว่ำ “นิว ออลิซัน โกลเด้น โค้ซ

เอ็กเพลส แอนด์ ทัวร์” โดยให้จ�ำเลยหำสถำนที่ประกอบกิจกำรในอ�ำเภอหำดใหญ่ จังหวัดสงขลำ
จ�ำเลยจึงไม่ได้กระท�ำละเมิดต่อโจทก์ ค่ำเสียหำยที่โจทก์เรียกร้องมำนั้นสูงเกินจริง โจทก์ใช้สิทธิ
ในกำรด�ำเนินคดีไม่สุจริต ขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดพิจำรณำ ศำลจังหวัดสงขลำพิจำรณำแล้ว เห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำคดีนี้อยู่ใน

อ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่ จึงให้

รอกำรพิจำรณำพิพำกษำคดีไว้ช่วครำว แล้วเสนอปัญหำดังกล่ำวให้ประธำนศำลอุทธรณ์


คดีช�ำนัญพิเศษเป็นผู้วินิจฉัยตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙

มำตรำ ๙




106



วินิจฉัยว่ำ คดีน้เป็นคดีแพ่งอันเน่องมำจำกกำรกระท�ำควำมผิดตำมประมวลกฎหมำย
อำญำ มำตรำ ๒๗๑ ถึงมำตรำ ๒๗๕ และเป็นคดีแพ่งเกี่ยวกับข้อพิพำทในชื่อทำงกำรค้ำ ตำม

พระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคด ี
ทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๔) และ (๙) หรือไม่
เห็นว่ำ โจทก์บรรยำยฟ้องอ้ำงว่ำ จ�ำเลยใช้ชื่อทำงกำรค้ำและใช้ป้ำยชื่อกิจกำรร้ำนคล้ำยคลึงกับ



โจทกในกำรประกอบกิจกำรประเภทเดียวกัน เพื่อให้ประชำชนเกิดควำมสับสนวำสถำนประกอบ
กิจกำรของจ�ำเลยเป็นสถำนท่เดียวกันกับสถำนประกอบกิจกำรของโจทก์ และเรียกค่ำเสียหำย

จำกจ�ำเลย พร้อมท้งมีค�ำขอให้จ�ำเลยยุติกำรใช้ช่อและปลดป้ำยกิจกำรท่คล้ำยคลึงและเหมือนกับ




กิจกำรของโจทก์ คดีจึงมีประเด็นข้อพิพำทว่ำ จ�ำเลยได้เอำช่อ รูป รอยประดิษฐ์หรือข้อควำมใด ๆ


ในกำรประกอบกำรค้ำของโจทก์มำใช้เพอให้ประชำชนหลงเชอว่ำเป็นกำรค้ำของจำเลย และ




จ�ำเลยเลียนป้ำยของโจทก์จนประชำชนน่ำจะหลงเช่อว่ำสถำนท่กำรค้ำของจ�ำเลยเป็นสถำนท ี ่











กำรค้ำของโจทก์ทตงอย่ใกล้เคยงกนจนเป็นเหตให้โจทก์ได้รบควำมเสยหำยหรอไม่ ซงเป็น





ประเด็นข้อพิพำทให้ต้องวินิจฉัยเก่ยวกับกำรละเมิดสิทธิในกำรใช้ช่อทำงกำรค้ำและป้ำย
ทำงกำรค้ำของโจทก์ ตำมประมวลกฎหมำยอำญำมำตรำ ๒๗๒ (๑) และ (๒) เมื่อคดีมีประเด็น
ข้อพิพำทให้ต้องวินิจฉัยเก่ยวกับกำรกระท�ำของจ�ำเลยอันเป็นกำรโต้แย้งสิทธิของโจทก์ดังกล่ำว


เช่นน้ย่อมท�ำให้คดีน้เป็นคดีแพ่งอันเน่องมำจำกกำรกระท�ำควำมผิดตำมประมวลกฎหมำย




อำญำมำตรำ ๒๗๒ ถึงมำตรำ ๒๗๕ และเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับข้อพิพำทในช่อทำงกำรค้ำ ตำม
บทบัญญัติมำตรำ ๗ (๔) และ (๙) แห่งพระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
คดีน้จึงอยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ











วนจฉยวำ คดนอยในอำนำจพจำรณำพพำกษำของศำลทรพยสนทำงปญญำและกำรคำ







ระหว่ำงประเทศ
วินิจฉัย ณ วันที่ ๒๕ เดือน พฤษภำคม พุทธศักรำช ๒๕๖๐
เมทินี ชโลธร
(นำงเมทินี ชโลธร)
ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ

สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ
นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ
107

ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ บริษัทฟูโซ่ทรัค (ประเทศไทย)

ที่ วท ๑๐/๒๕๕๙ จ�ำกัด โจทก์

บริษัทมิตซูบิชิ ฟูโซ่ ทรัค
แอนด์ บัส คอร์เปอร์เรชั่น

จ�ำกัด จ�ำเลย




ในประเด็นท่จ�ำเลยให้กำรต่อสู้ว่ำ ข้อพิพำทตำมฟ้องมีข้อตกลงเป็นหนังสือ
ให้ต้องระงับข้อพิพำทโดยอนุญำโตตุลำกำรนั้น ได้ควำมตำมค�ำร้องขอแก้ไขค�ำฟ้องของ



โจทก์ฉบับลงวันท ๑๔ พฤศจิกำยน ๒๕๕๙ ว่ำ โจทก์และจ�ำเลยน�ำข้อพิพำทระหว่ำงกัน
เข้ำสู่กระบวนกำรอนุญำโตตุลำกำรที่ประเทศญี่ปุ่น ปรำกฏว่ำข้อพิพำทในกำรรับประกัน













สนค้ำในคดนมบำงส่วนทเกยวพนกบข้อพพำททนำเข้ำส่กระบวนกำรอนญำโตตลำกำร









ท่ประเทศญ่ปุ่นดังกล่ำว และอนุญำโตตุลำกำรท่ประเทศญ่ปุ่นมีค�ำส่งโดยสรุปว่ำ ใน



กำรรับประกันกำรซ้อสินค้ำจำกจ�ำเลยน้น แบ่งออกเป็นกำรรับประกันสินค้ำท่ส่งมำ

จำกประเทศอินเดียและสินค้ำท่ส่งมำจำกประเทศญ่ปุ่น ซ่งตำมสัญญำแต่งต้งให้โจทก์







เป็นตวแทนจำหน่ำยรถยนต์บรรทกย่ห้อ ฟโซ่ แต่เพยงผู้เดยวในประเทศไทยนน กำร








รับประกันสินค้ำของจ�ำเลยท่เข้ำข้อก�ำหนดในสัญญำท่จะต้องน�ำข้อพิพำทเข้ำสู่กระบวนกำร




อนุญำโตตุลำกำรท่ประเทศญ่ปุ่นคือสินค้ำท่ส่งมำจำกประเทศญ่ปุ่นเท่ำน้นมิได้รวมถึง

สินค้ำท่ส่งมำจำกประเทศอินเดียด้วย โจทก์จึงย่นค�ำร้องขอแก้ไขค�ำฟ้องเรียกร้อง



ค่ำเสียหำยเฉพำะส่วนกำรรับประกันสินค้ำท่ส่งมำจำกประเทศอินเดีย ดังน้น ในช้นน ี ้





กรณีจึงยังไม่เป็นท่ยุติว่ำ ข้อพิพำทในคดีน้อยู่ในบังคับข้อตกลงท่ต้องเข้ำสู่กระบวนกำร










อนญำโตตลำกำรก่อนหรอไม่ จงเหนสมควรวนจฉยในเรองเขตอำนำจศำลไปได้ โดย


เหนวำ แม้คดีน้โจทกฟ้องจำเลยให้รับผดชำระเงนค่ำรบประกนสนคำ แต่กเปนกรณีพิพำท













เก่ยวกับเงินค่ำรับประกันสินค้ำท่ซ้อขำยกันระหว่ำงโจทก์กับจ�ำเลย คดีตำมฟ้องโจทก์





จงต้องพิจำรณำถึงสิทธ หน้ำท และควำมรับผิดของค่สญญำตำมสัญญำซอขำยซ่ง










เปนกำรซื้อขำยระหวำงผูซื้อในประเทศไทยและผูขำยในตำงประเทศ อันเปนกำรซื้อขำย



ระหว่ำงประเทศ คดีน้จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับกำรซ้อขำยระหว่ำงประเทศท่อยู่ในอ�ำนำจ




พิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำมบทบัญญัต ิ
มำตรำ ๗ (๕) แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและ
วิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
_____________________________
108

โจทก์ฟ้องและแก้ไขค�ำฟ้องว่ำ ตั้งแต่วันที่ ๑ เมษำยน ๒๕๕๓ เป็นต้นมำ จ�ำเลยซึ่งเป็น

นิติบุคคลประเภทบริษัทจ�ำกัด จดทะเบียนตำมกฎหมำยของประเทศญี่ปุ่น ได้ท�ำสัญญำให้โจทก์


เป็นผู้แทนจ�ำหน่ำยรถยนต์บรรทุกย่ห้อ ฟูโซ่ (Fuso) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยโจทก์





จะส่งซ้อรถยนต์บรรทุกย่ห้อ ฟูโซ่พร้อมท้งอะไหล่รถยนต์บรรทุกต่ำงๆ ไปยังจ�ำเลย เม่อจ�ำเลย


ได้รับค�ำเสนอซ้อแล้ว จ�ำเลยจะจัดส่งรถยนต์บรรทุกหรืออะไหล่ต่ำงๆ มำให้แก่โจทก์เพ่อโจทก์


จะได้จัดจ�ำหน่ำยในประเทศไทย โดยจ�ำเลยตกลงว่ำหำกโจทก์ขำยรถยนต์บรรทุกท่ซ้อไปจำกจ�ำเลย

ให้แก่ลกค้ำของโจทก์แล้ว ปรำกฏว่ำรถยนต์บรรทุกหรืออะไหล่รถยนต์บรรทุกต่ำงๆ เกิดควำม
เสยหำยชำรดบกพร่องใดๆ ตำมทตกลงกน จำเลยจะรับผดชอบต่อโจทก์ โดยโจทก์ต้องทำกำร












สรุปควำมเสียหำยภำยในระยะเวลำท่จ�ำเลยตกลงรับประกันพร้อมท้งกำรต้งเบิกไปยังจ�ำเลย

ภำยในตำรำงเวลำท่จ�ำเลยก�ำหนดมำให้ และเม่อจ�ำเลยท�ำกำรตรวจสอบแล้วและอนุมัติตำมท ี ่

โจทก์แจ้ง จ�ำเลยจะจ่ำยเงินให้แก่โจทก์ โดยกำรโอนเงินให้โจทก์ภำยในเดือนถัดไปนับแต่วันท ่ ี
โจทก์ท�ำกำรตั้งเบิก แต่ปรำกฏว่ำจ�ำเลยไม่ช�ำระเงินให้แก่โจทก์จำกควำมเสียหำยช�ำรุดบกพร่อง
ท่โจทก์สรุปควำมเสียหำยให้จ�ำเลยในเดือนมีนำคมและเดือนเมษำยน ๒๕๕๙ โจทก์จึงมอบหมำย

ให้ทนำยควำมมีหนังสือทวงถำมไปยังจ�ำเลย แต่จ�ำเลยเพิกเฉย กำรกระท�ำของจ�ำเลยเป็นกำร
ผิดสัญญำต่อโจทก์ ท�ำให้โจทก์ได้รับควำมเสียหำยเป็นเงิน ๒,๗๐๒,๘๘๗.๓๔ บำท แต่โจทก์
ติดใจเรียกร้องค่ำเสียหำยจำกจ�ำเลยเพียงในส่วนกำรรับประกันสินค้ำที่ส่งมำจำกประเทศอินเดีย
เป็นเงิน ๑,๓๗๖,๒๖๕.๒๐ บำท ขอให้บังคับจ�ำเลยช�ำระเงิน ๑,๓๙๔,๒๗๐.๒๙ บำท พร้อมดอกเบ้ย

อัตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๑,๓๗๖,๒๖๕.๒๐ บำท นับถัดจำกวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ำ
จะช�ำระเสร็จแก่โจทก์









จ�ำเลยใหกำรวำ สัญญำผูแทนจ�ำหนำยระหวำงโจทกกับจ�ำเลยไมใชกำรแตงตั้งใหโจทก ์


เป็นผู้แทนจ�ำหน่ำยรถบรรทุกย่ห้อ ฟูโซ่แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ข้อพิพำทตำมฟ้องม ี
ข้อตกลงเป็นหนังสือให้ต้องระงับข้อพิพำทโดยอนุญำโตตุลำกำร โจทก์จึงไม่มีอ�ำนำจฟ้อง โจทก์
บรรยำยฟ้องว่ำ ข้อพิพำทระหว่ำงโจทก์และจ�ำเลยเป็นข้อพิพำทตำมสัญญำผู้แทนจ�ำหน่ำย
อันมีลักษณะเป็นกำรตกลงซ้อขำยและ/หรือให้บริกำรระหว่ำงคู่สัญญำระหว่ำงประเทศ ข้อพิพำท




ในคดีน้จึงเป็นคดีพิพำททำงแพ่งเก่ยวกับกำรซ้อขำยสินค้ำระหว่ำงประเทศ หรือกำรให้บริกำร
ระหว่ำงประเทศ หรือนิติกรรมอ่นท่เก่ยวข้อง ตำมมำตรำ ๗ (๕) แห่งพระรำชบัญญัติจัดต้ง




ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและ

กำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ คดีน้จึงอยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สิน
109


ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำง จ�ำเลยไม่ต้องช�ำระหน้ตำมฟ้องแก่โจทก์ เพรำะโจทก์



มีหน้ค้ำงช�ำระต่อจ�ำเลยในจ�ำนวนท่สูงกว่ำยอดหน้ตำมฟ้อง และจ�ำเลยได้ใช้สิทธิหักกลบลบหน ้ ี
ดังกล่ำวแล้วในชั้นอนุญำโตตุลำกำร ขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดพิจำรณำศำลจังหวัดปทุมธำนีพิจำรณำแล้ว เห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำคดีน้อยู่


ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สนทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่
จึงส่งส�ำนวนมำให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษวินิจฉัยตำมพระรำชบัญญัติจัดต้ง

ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและ

กำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙





วินิจฉัยว่ำ กรณีมีปัญหำท่ต้องวินิจฉัยว่ำ คดีน้เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับกำรซ้อขำยสินค้ำ


ระหว่ำงประเทศ หรือกำรให้บริกำรระหว่ำงประเทศ หรือนิติกรรมอ่นท่เก่ยวข้อง ตำมพระรำชบัญญัต ิ

จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สิน

ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๕) หรือไม่ในประเด็นที่จ�ำเลยให้กำร

ต่อสู้ว่ำ ข้อพิพำทตำมฟ้องมีข้อตกลงเป็นหนังสือให้ต้องระงับข้อพิพำทโดยอนุญำโตตุลำกำรน้น

ได้ควำมตำมค�ำร้องขอแก้ไขค�ำฟ้องของโจทก์ฉบับลงวันท่ ๑๔ พฤศจิกำยน ๒๕๕๙ ว่ำ โจทก์
และจ�ำเลยน�ำข้อพิพำทระหว่ำงกันเข้ำสู่กระบวนกำรอนุญำโตตุลำกำรที่ประเทศญี่ปุ่น ปรำกฏว่ำ

ข้อพิพำทในกำรรับประกันสินค้ำในคดีนี้มีบำงส่วนที่เกี่ยวพันกับข้อพิพำทที่น�ำเข้ำสู่กระบวนกำร



อนุญำโตตุลำกำรท่ประเทศญ่ปุ่นดังกล่ำว และอนุญำโตตุลำกำรท่ประเทศญ่ปุ่นมีค�ำส่งโดย






สรุปว่ำ ในกำรรับประกันกำรซ้อสินค้ำจำกจ�ำเลยน้น แบ่งออกเป็นกำรรับประกันสินค้ำท่ส่ง
มำจำกประเทศอินเดียและสินค้ำท่ส่งมำจำกประเทศญ่ปุ่น ซ่งตำมสัญญำแต่งต้งให้โจทก์เป็น






ตัวแทนจ�ำหน่ำยรถยนต์บรรทุกย่ห้อ ฟูโซ่ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยน้น กำรรับประกันสินค้ำ

ของจ�ำเลยท่เข้ำข้อก�ำหนดในสัญญำท่จะต้องน�ำข้อพิพำทเข้ำสู่กระบวนกำรอนุญำโตตุลำกำรท ี ่






ประเทศญ่ปุ่น คือสินค้ำท่ส่งมำจำกประเทศญ่ปุ่นเท่ำน้น มิได้รวมถึงสินค้ำท่ส่งมำจำกประเทศ
อินเดียด้วย โจทก์จึงย่นค�ำร้องขอแก้ไขค�ำฟ้องเรียกร้องค่ำเสียหำยเฉพำะส่วนกำรรับประกัน



สินค้ำท่ส่งมำจำกประเทศอินเดีย ดังน้น ในช้นน้กรณีจึงยังไม่เป็นท่ยุติว่ำ ข้อพิพำทในคดีน้อยู่




ในบังคับข้อตกลงที่ต้องเข้ำสู่กระบวนกำรอนุญำโตตุลำกำรก่อนหรือไม่ จึงเห็นสมควรวินิจฉัยใน
เรองเขตอ�ำนำจศำลไปได้ โดยเห็นว่ำ แม้คดน้โจทก์ฟ้องจ�ำเลยให้รับผิดช�ำระเงินค่ำรับประกัน





สินค้ำ แต่ก็เป็นกรณีพิพำทเก่ยวกับเงินค่ำรับประกันสินค้ำท่ซ้อขำยกันระหว่ำงโจทก์กับจ�ำเลย



คดีตำมฟ้องโจทก์จึงต้องพิจำรณำถึงสิทธิ หน้ำท่ และควำมรับผิดของคู่สัญญำตำมสัญญำซ้อขำย

110




ซ่งเป็นกำรซ้อขำยระหว่ำงผู้ซ้อในประเทศไทยและผู้ขำยในต่ำงประเทศ อันเป็นกำรซ้อขำยระหว่ำง





ประเทศ คดีน้จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับกำรซ้อขำยระหว่ำงประเทศท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำ
ของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำมบทบัญญัติมำตรำ ๗ (๕) แห่ง
พระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำ

คดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
วินิจฉัยว่ำ คดีน้อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ

กำรค้ำระหว่ำงประเทศ




วินิจฉัย วันที่ ๑๓ เดือน ธันวำคม พุทธศักรำช ๒๕๕๙




เมทินี ชโลธร
(นำงเมทินี ชโลธร)

ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ




สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ

นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ




































111

ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ บริษัทเอฟเอส อินเตอร์

ที่ วท ๑๔/๒๕๕๙ โลจิสติคส์ จ�ำกัด โจทก์

บริษัทโต ฟำ (ไทยแลนด์)
จ�ำกัด จ�ำเลย




ข้อหำและข้ออ้ำงตำมค�ำฟ้องโจทก์กล่ำวอ้ำงว่ำ จ�ำเลยว่ำจ้ำงโจทก์ให้ขนส่ง



สนค้ำอลูมเนียมเส้นและดำเนินพธีกำรศุลกำกรโดยโจทก์ออกค่ำบริกำรและค่ำใช้จ่ำย


























แทนไปกอน ซงเปนคดทมขอพพำทเกยวกบนตกรรมอนทเกยวเนองกบกำรขนสงระหวำง


ประเทศโดยล�ำพัง ไม่มีข้อพิพำทเก่ยวกับกำรขนส่งระหว่ำงประเทศแต่อย่ำงใด และ
จ�ำเลยก็ยอมรับหน้ท่โจทก์ฟ้องไม่ได้ต่อสู้หรือปฏิเสธฟ้อง คดีตำมฟ้องเดิมจึงไม่ใช่คดีแพ่ง



เก่ยวกับกำรขนส่งระหว่ำงประเทศตำมมำตรำ ๗ (๕) แห่ง พ.ร.บ. จดตงศำลทรพย์สิน




ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ แต่ที่จ�ำเลยฟ้องแย้งให้โจทก์รับผิดตำมสัญญำขนส่งซีเมนต์
จำกหน้ำโรงงำนในประเทศสำธำรณรัฐประชำชนจีนไปยังท่ท�ำกำรจังหวัดสมุทรสำคร

ประเทศไทย และเรียกร้องค่ำเสียหำยหลังจำกหักกลบแล้วคงเหลือ ๔๐๐,๐๐๐ บำทเศษน้น

เม่อโจทก์ให้กำรแก้ฟ้องแย้งปฏเสธว่ำ โจทก์ไม่ได้ปฏิบัตผิดสญญำ คดีตำมฟ้องแย้ง





จึงมีประเด็นข้อพิพำทว่ำ โจทก์ผิดสัญญำขนส่งซีเมนต์ให้แก่จ�ำเลยหรือไม่ ซ่งต้องวินิจฉัย
เกี่ยวกับเงื่อนไขและควำมรับผิดของคู่สัญญำตำมสัญญำขนส่งทำงทะเล ซึ่งส่งสินค้ำจำก
ต่ำงประเทศมำยังประเทศไทย อันเป็นกำรขนส่งสินค้ำระหว่ำงประเทศ คดีตำมฟ้องแย้ง
จึงเป็นคดีแพ่งเกี่ยวกับกำรขนส่งระหว่ำงประเทศ ตำมมำตรำ ๗ (๕) แห่ง พ.ร.บ. จัดตั้ง





ศำลทรพย์สนทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวธพจำรณำคดทรพย์สน



ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ ดังน้น แม้ศำลจังหวัดพระโขนง


จะรับฟ้องแย้งของจ�ำเลยไว้พิจำรณำและช้ขำดเข้ำด้วยกันกับฟ้องเดิม แต่เม่อ


ศำลจังหวัดพระโขนงไม่มีอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำคดีแพ่งเก่ยวกับกำรขนส่ง
ระหว่ำงประเทศตำมฟ้องแย้งได้ จ�ำเลยจึงต้องแยกไปฟ้องเป็นคดีใหม่ต่ำงหำกยัง
ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศต่อไป
_____________________________
112

โจทก์ฟ้องว่ำ ระหว่ำงเดือนธันวำคม ๒๕๕๘ ถึงเดือนมีนำคม ๒๕๕๙ จ�ำเลยว่ำจ้ำงโจทก์

น�ำสินค้ำออกจำกท่ำเรือในรำชอำณำจักรและขนส่งสินค้ำให้แก่จ�ำเลย จ�ำเลยรับมอบสินค้ำ

ครบถ้วนแล้ว โจทก์และจ�ำเลยตกลงให้โจทก์ส�ำรองจ่ำยเงินค่ำภำษี ค่ำธรรมเนียมและค่ำใช้จ่ำย



อ่นๆ ท่เก่ยวข้อง โดยจ�ำเลยจะช�ำระเงินดังกล่ำวแก่โจทก์ภำยใน ๗ วัน นับแต่วันท่ได้รับ

ใบแจ้งหน้ โจทก์คิดค่ำจ้ำงด�ำเนินกำรออกสินค้ำจำกท่ำเรือและขนส่งสินค้ำอลูมิเนียมเส้น

เตำเผำแท่งอลูมิเนียม ตะแกรงมุ้งพลำสติก และเงินค่ำธรรมเนียมสั่งปล่อยสินค้ำพร้อมดอกเบี้ย
ถึงวันฟ้องรวม ๖๙๙,๖๓๒.๘๔ บำท ขอให้บังคับจ�ำเลยช�ำระเงิน ๖๙๙,๖๓๒.๘๔ บำท พร้อม

ดอกเบี้ยอัตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงิน ๖๘๘,๐๔๐.๕๐ บำท นับถัดจำกวันฟ้องเป็นต้นไป

จนกว่ำจะช�ำระเสร็จแก่โจทก์


จ�ำเลยให้กำรและฟ้องแย้งว่ำ โจทก์ไม่มีอ�ำนำจฟ้องจ�ำเลยท่ศำลจังหวัดพระโขนง
เพรำะจ�ำเลยมีภูมิล�ำเนำอยู่ในเขตศำลจังหวัดสมุทรสำคร และสัญญำระหว่ำงโจทก์กับจ�ำเลย
เป็นสัญญำรับขนทำงทะเล เพรำะนอกจำกโจทก์จะด�ำเนินกำรทำงพิธีกำรศุลกำกรแล้ว โจทก์


ยังต้องรับขนสินค้ำจำกประเทศสำธำรณรัฐประชำชนจีนไปยังประเทศไทยด้วย ซ่งโจทก์จะต้อง
ฟ้องคดีท่ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ จ�ำเลยตกลงให้โจทก์น�ำสินค้ำ

อลูมิเนียมเส้นรวม ๕ ตู้ บรรทุกมำทำงเรือ โจทก์มีหน้ำท่เพียงน�ำเรือเข้ำเทียบท่ำ น�ำของออกจำก


ท่ำเรือแหลมฉบัง จงหวัดชลบุรี โดยผ่ำนพิธีกำรทำงศุลกำกร แล้วขนส่งสินค้ำไปให้จ�ำเลย
ณ ที่ท�ำกำรของจ�ำเลยในจังหวัดสมุทรสำคร และอีกส่วนเป็นสินค้ำซีเมนต์ทนควำมร้อน ๑ ตู้ สินค้ำนี้

มีอำยุใช้งำนเพียง ๔๕ วัน นับจำกวันผลิต โดยจ�ำเลยตกลงให้โจทก์ขนซีเมนต์จำกหน้ำโรงงำนและ



ผ่ำนพธกำรศลกำกรในประเทศสำธำรณรฐประชำชนจีน ลงเรือต่อขนส่งผ่ำนพธกำรศลกำกร





ท่ท่ำเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย แล้วขนส่งโดยรถบรรทุกไปยังภูมิล�ำเนำของจ�ำเลย

จังหวัดสมุทรสำคร แต่โจทก์บกพร่องและประมำทเลินเล่ออย่ำงร้ำยแรงส่งมอบซีเมนต์ให้จ�ำเลย
ล่ำช้ำจนซีเมนต์หมดอำยุใช้งำน จ�ำเลยต้องจ่ำยค่ำซีเมนต์ให้แก่ผู้ขำยในประเทศสำธำรณรัฐ
ประชำชนจีน ๑,๑๐๐,๐๐๐ บำท จ�ำเลยแจ้งให้โจทก์ชดใช้ค่ำเสียหำยดังกล่ำว แต่โจทก์เพิกเฉย


เม่อน�ำค่ำเสียหำยของจ�ำเลยหักกลบกับเงินท่โจทก์ฟ้องเรียก โจทก์ยังต้องชดใช้คืนให้แก่
จ�ำเลยอีก ๔๐๐,๐๐๐ บำทเศษ จ�ำเลยไม่ได้ผิดนัดผิดสัญญำ ขอให้ยกฟ้อง และขอให้โจทก์ช�ำระ

ค่ำเสียหำย ๑,๑๐๐,๐๐๐ บำท พร้อมดอกเบ้ยอัตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงินดังกล่ำว

นับถัดจำกวันฟ้องแย้งจนกว่ำจะช�ำระเสร็จแก่จ�ำเลย






113

โจทก์ให้กำรแก้ฟ้องแย้งว่ำ จ�ำเลยติดต่อว่ำจ้ำงโจทก์ให้เป็นตัวแทนด�ำเนินพิธีกำร

ศุลกำกรและรับขนสินค้ำของจ�ำเลยตำมฟ้องโดยทำงจดหมำยอิเล็กทรอนิกส์ สัญญำว่ำจ้ำง



ตกลงกัน ณ ท่ท�ำกำรโจทก์ จ�ำเลยผิดนัดไม่ช�ำระหน้ค่ำบริกำร ไม่ช�ำระคืนเงินค่ำภำษี ค่ำธรรมเนียม

และค่ำใช้จ่ำยอ่น ๆ ตำมฟ้อง โจทก์จึงมีอ�ำนำจฟ้องจ�ำเลยท่ศำลจังหวัดพระโขนง โจทก์รับขน

และท�ำพิธีกำรศุลกำกรในรำชอำณำจักร ส่วนสินค้ำซีเมนต์ท่บรรจุผ่ำนเรือบรรทุกสินค้ำ MATHU

BHUM เลขประจ�ำตู้สินค้ำ REGU ๔๒๒๑๓๒๗๑ เป็นเรือบรรทุกสินค้ำคนละล�ำและเป็นตู้สินค้ำ
คนละตู้กับที่โจทก์ฟ้อง โดยโจทก์ได้ด�ำเนินกำรฟ้องจ�ำเลยเป็นคดีหมำยเลขด�ำที่ ม. ๗๖/๒๕๕๙

ของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำง ซ่งสินค้ำซีเมนต์ตำมฟ้องแย้งน ี ้

โจทก์ได้มอบหมำยให้บริษัทชิงเต่ำ เฮดเวย์ อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ จ�ำกัด ขนส่งสินค้ำและ

ผ่ำนพิธีกำรศุลกำกรในประเทศสำธำรณรัฐประชำชนจีน ต่อมำสินค้ำมำถึงท่ำเรือในรำชอำณำจักร

โจทก์จึงได้ด�ำเนินพิธีกำรทำงศุลกำกรน�ำสินค้ำออกจำกท่ำเรือในรำชอำณำจักรและส่งมอบให้กับ
จ�ำเลยรับไปเรียบร้อยแล้ว เหตุขัดข้องในกำรขนส่งสินค้ำดังกล่ำวไม่ได้เกิดจำกควำมบกพร่อง

ในหน้ำท่ของโจทก์หรือตัวแทนโจทก์ แต่เกิดจำกควำมบกพร่องของจ�ำเลยและตัวแทนจ�ำเลย

ท่ไม่ระบุรำยละเอียดให้ครบถ้วนถูกต้อง เป็นเหตุให้ศุลกำกรของประเทศสำธำรณรัฐประชำชนจีน


ตรวจยึดตู้สินค้ำซีเมนต์ไว้ จ�ำเลยไม่มีอ�ำนำจฟ้องแย้งโจทก์เรียกค่ำเสียหำยเก่ยวกับกำรขนส่ง
สินค้ำระหว่ำงประเทศต่อศำลจังหวัดพระโขนง แต่ต้องฟ้องหรือฟ้องแย้งเป็นคดีต่อศำลทรัพย์สิน


ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศกลำง ขอให้ศำลวินิจฉัยเร่องอ�ำนำจฟ้องและจ�ำหน่ำยคด ี
ในส่วนฟ้องแย้งและพิพำกษำยกฟ้องแย้ง



ในช้นช้สองสถำน ศำลจังหวัดพระโขนงเห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำคดีน้อยู่ในอ�ำนำจของ

ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่ จึงให้รอกำรพิจำรณำพิพำกษำคด ี

ไว้ช่วครำว แล้วเสนอปัญหำดงกล่ำวให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษเป็นผู้วินิจฉัย ตำม

พระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคด ี

ทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙


วินิจฉัยว่ำ กรณีมีปัญหำต้องวินิจฉัยว่ำ คดีน้เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับกำรขนส่งระหว่ำง

ประเทศและนิติกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่องตำมมำตรำ ๗ (๕) แห่งพระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลทรัพย์สิน

ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ

ระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ หรือไม่ เห็นว่ำ ข้อหำและข้ออ้ำงตำมค�ำฟ้องโจทก์กล่ำวอ้ำงว่ำ
จ�ำเลยว่ำจ้ำงโจทก์ให้ขนส่งสินค้ำอลูมิเนียมเส้นและด�ำเนินพิธีกำรศุลกำกร โดยโจทก์ออก




114

ค่ำบริกำรและค่ำใช้จ่ำยแทนไปก่อน ซึ่งเป็นคดีที่มีข้อพิพำทเกี่ยวกับนิติกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับ

กำรขนส่งระหว่ำงประเทศโดยล�ำพัง ไม่มีข้อพิพำทเกี่ยวกับกำรขนส่งระหว่ำงประเทศแต่อย่ำงใด



และจ�ำเลยก็ยอมรับหน้ท่โจทก์ฟ้องไม่ได้ต่อสู้หรือปฏิเสธฟ้อง คดีตำมฟ้องเดิมจึงไม่ใช่คดีแพ่ง

เก่ยวกับกำรขนส่งระหว่ำงประเทศตำมมำตรำ ๗ (๕) แห่งพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สิน


ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ แต่ท่จ�ำเลยฟ้องแย้งให้โจทก์รับผิดตำมสัญญำ
ขนส่งซีเมนต์จำกหน้ำโรงงำนในประเทศสำธำรณรัฐประชำชนจีนไปยังท่ท�ำกำรจังหวัดสมุทรสำคร

ประเทศไทย และเรียกร้องค่ำเสียหำยหลังจำกหักกลบแล้วคงเหลือ ๔๐๐,๐๐๐ บำทเศษน้น


เม่อโจทก์ให้กำรแก้ฟ้องแย้งปฏิเสธว่ำ โจทก์ไม่ได้ปฏิบัติผิดสัญญำ คดีตำมค�ำฟ้องแย้งจึงม ี
ประเด็นข้อพิพำทว่ำโจทก์ผิดสัญญำขนส่งซีเมนต์ให้แก่จ�ำเลยหรือไม่ ซ่งต้องวินิจฉัยเก่ยวกับ




เง่อนไขและควำมรับผิดของคู่สัญญำตำมสัญญำขนส่งทำงทะเล ซ่งส่งสินค้ำจำกต่ำงประเทศ

มำยงประเทศไทย อนเป็นกำรขนส่งสินค้ำระหว่ำงประเทศ คดตำมฟ้องแย้งจึงเป็นคดีแพ่ง



เก่ยวกับกำรขนส่งระหว่ำงประเทศตำมมำตรำ ๗ (๕) แห่งพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สิน

ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ

ระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ ดังน้นแม้ศำลจังหวัดพระโขนงจะรับฟ้องแย้งของจ�ำเลยไว้พิจำรณำ

และช้ขำดเข้ำด้วยกันกับฟ้องเดิม แต่เม่อศำลจังหวัดพระโขนงไม่มีอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำคด ี


แพ่งเก่ยวกับกำรขนส่งระหว่ำงประเทศตำมฟ้องแย้งได้ จ�ำเลยจึงต้องแยกไปฟ้องเป็นคดีใหม่
ต่ำงหำกยังศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศต่อไป

วินิจฉัยว่ำ คดีตำมฟ้องแย้งอยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำ

และกำรค้ำระหว่ำงประเทศ



วินิจฉัย ณ วันที่ ๓๐ เดือน ธันวำคม พุทธศักรำช ๒๕๕๙



เมทินี ชโลธร

(นำงเมทินี ชโลธร)

ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ




สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ

นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ



115

ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ นำยศักดิ์ดำ

ที่ วทป ๔/๒๕๖๐ ศิริภัทรโสภณ โจทก์

บริษัทสำยกำรบินนกแอร์
จ�ำกัด (มหำชน) จ�ำเลย







ค�ำฟ้องโจทก์กล่ำวอ้ำงว่ำโจทก์ได้รับควำมเสียหำยจำกกำรท่จ�ำเลยผิดสัญญำ
ให้บริกำรด้ำนกำรบินจำกต่ำงประเทศมำยังประเทศไทย โดยให้บริกำรล่ำช้ำ และจ�ำเลย


ให้กำรต่อสู้ว่ำ ควำมล่ำช้ำของเท่ยวบินเกิดจำกเหตุสุดวิสัย จ�ำเลยในฐำนะผู้ขนส่งได้




ด�ำเนินมำตรกำรท่ควรต้องท�ำเพ่อหลีกเล่ยงควำมเสียหำยแล้ว อีกท้งเหตุแห่งกำรล่ำช้ำ
บำงส่วนยังเป็นกำรพ้นวิสัยที่จ�ำเลยจะสำมำรถด�ำเนินมำตรกำรทั้งปวงที่ควรต้องกระท�ำ





เพ่อหลีกเล่ยงควำมเสียหำยน้นได้ กรณีจึงมีประเด็นข้อพิพำทท่ต้องวินิจฉัยถึงสิทธ หน้ำท ี ่

รวมท้งควำมรับผิดของจ�ำเลยซงตองพิจำรณำตำมสัญญำขนส่งผโดยสำรระหว่ำงประเทศ

ู้


คดีน้จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับกำรขนส่งระหว่ำงประเทศอันอยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำ


ของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศตำมบทบัญญัติมำตรำ ๗ (๕)
แห่ง พ.ร.บ. จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำ

คดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
_____________________________

โจทก์ฟ้องว่ำ โจทก์จองซ้อต๋วเคร่องบินจำกจ�ำเลยให้ภรรยำและบุตร ๒ คน เดินทำง


จำกประเทศเวียดนำมมำประเทศไทยในวันท่ ๒ สิงหำคม ๒๕๕๙ เพ่อเดินทำงพร้อมโจทก์ไป


ท่องเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นตำมที่โจทก์จองซื้อทัวร์ไว้ระหว่ำงวันที่ ๒ ถึงวันที่ ๖ สิงหำคม ๒๕๕๙


แต่เม่อถึงเวลำเดินทำงเจ้ำหน้ำท่ของจ�ำเลยแจ้งว่ำเท่ยวบินเกิดเหตุขัดข้องไม่สำมำรถท�ำกำรบินได้

จึงเลื่อนเที่ยวบินออกไปเป็นวันที่ ๓ สิงหำคม ๒๕๕๙ ท�ำให้ครอบครัวโจทก์ไม่สำมำรถเดินทำง


ไปกับโจทก์ตำมโปรแกรมท่องเท่ยวของบริษัททัวร์ได้ เน่องจำกก�ำหนดกำรท่องเท่ยวตำมสถำนท ี ่



ส�ำคัญต่ำงๆ ในประเทศญ่ปุ่นได้ส้นสุดลงแล้วในวันท่ครอบครัวโจทก์เดินทำงไปถึง หลังจำกน้น



โจทก์ต้องเสียค่ำใช้จ่ำยในกำรเดินทำงท่องเท่ยวเองจนกว่ำจะถึงก�ำหนดเดินทำงกลับ โจทก์
ได้มีหนังสือแจ้งจ�ำเลยให้รับผิดชอบในกำรบริกำรล่ำช้ำ และเรียกค่ำเสียหำย แต่จ�ำเลยปฏิเสธ

116

กำรกระท�ำของจ�ำเลยเป็นกำรผิดสัญญำ ท�ำให้โจทก์ได้รับควำมเสียหำยเป็นเงิน ๒๔๐,๐๐๐ บำท

ขอให้บังคับจ�ำเลยช�ำระเงิน ๒๔๐,๐๐๐ บำท พร้อมดอกเบี้ยอัตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปี ของต้นเงิน

ดังกล่ำว นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ำจะช�ำระเสร็จแก่โจทก์
จ�ำเลยให้กำรว่ำ ค�ำฟ้องของโจทก์เป็นกำรกล่ำวอ้ำงว่ำโจทก์ได้รับควำมเสียหำยจำก

กำรให้บริกำรของสำยกำรบิน ข้อพิพำทในคดีนี้จึงเกี่ยวกับกำรรับขนทำงอำกำศระหว่ำงประเทศ

อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศตำม

พระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำ
คดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๕) โจทก์ไม่มีอ�ำนำจฟ้อง





เพรำะโจทก์ไม่ได้เป็นผู้จองซ้อต๋วเคร่องบินจำกจ�ำเลยและไม่ได้เป็นผู้โดยสำรในเท่ยวบินพิพำท
ของจ�ำเลย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ถูกโต้แย้งสิทธิ ควำมล่ำช้ำของเที่ยวบินเกิดจำกเหตุสุดวิสัยเนื่องจำก
อำกำศยำนถูกตรวจพบว่ำมีควำมขัดข้องจึงต้องท�ำกำรซ่อมแซมและไม่สำมำรถซ่อมแซม

ได้ทนเวลำ ประกอบกบชวโมงบินของนักบนของจำเลยใกลจะครบตำมทองค์กรกำรบนพลเรือน









ระหว่ำงประเทศก�ำหนดแล้ว จึงเห็นสมควรแจ้งยกเลิกเที่ยวบินเพื่อประโยชน์และควำมปลอดภัย
ของผู้โดยสำร จ�ำเลยได้ปฏิบัติตำมหลักกำรบินสำกลท่วไปในกำรดูแลผู้โดยสำรในระหว่ำง

เที่ยวบินล่ำช้ำแล้ว กำรที่ภรรยำและบุตรทั้งสองของโจทก์จองเที่ยวบินเดินทำงต่อไปยังประเทศ



ญ่ปุ่นในเวลำกระช้นชิดกับเท่ยวบินท่เดินทำงจำกประเทศเวียดนำมมำยังประเทศไทยเป็นควำม


ประมำทเลินเล่อของภรรยำและบุตรของโจทก์เอง ค่ำเสียหำยท่โจทก์เรียกร้องมำไม่มีอยู่จริง
และสูงเกินจริง ขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดพิจำรณำศำลแขวงพระนครใต้พิจำรณำแล้ว เห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำคดีน ี ้
อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่

จึงส่งส�ำนวนมำให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษวินิจฉัยตำมพระรำชบัญญัติจัดต้ง
ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำ
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙



วินิจฉัยว่ำ กรณีมีปัญหำท่ต้องวินิจฉัยว่ำ คดีน้เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับกำรขนส่งระหว่ำง

ประเทศท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ


ตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำ
คดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๗ (๕) หรือไม่ เห็นว่ำ

ค�ำฟ้องโจทก์กล่ำวอ้ำงว่ำโจทก์ได้รับควำมเสียหำยจำกกำรท่จ�ำเลยผิดสัญญำให้บริกำรด้ำน



117

กำรบินจำกต่ำงประเทศมำยังประเทศไทยโดยให้บริกำรล่ำช้ำ และจ�ำเลยให้กำรต่อสู้ว่ำ ควำมล่ำช้ำ



ของเท่ยวบินพิพำทเกิดจำกเหตุสุดวิสัย จ�ำเลยในฐำนะผู้ขนส่งได้ด�ำเนินมำตรกำรท่ควรต้องท�ำ




เพ่อหลีกเล่ยงควำมเสียหำยแล้ว อีกท้งเหตุแห่งกำรล่ำช้ำบำงส่วนยังเป็นกำรพ้นวิสัยท่จ�ำเลย






จะสำมำรถดำเนนมำตรกำรท้งปวงท่ควรต้องกระท�ำเพ่อหลีกเล่ยงควำมเสยหำยน้นได้ กรณีจง







มีประเด็นข้อพิพำทท่ต้องวินิจฉัยถึงสิทธิ หน้ำท่ รวมท้งควำมรับผิดของจ�ำเลยซ่งต้องพิจำรณำ


ตำมสัญญำขนส่งผู้โดยสำรระหว่ำงประเทศ คดีน้จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับกำรขนส่งระหว่ำงประเทศ
อันอยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศตำม
บทบัญญัติมำตรำ ๗ (๕) แห่งพระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำง
ประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙

วินิจฉัยว่ำ คดีน้อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ
กำรค้ำระหว่ำงประเทศ
วินิจฉัย ณ วันที่ ๓๑ เดือน มกรำคม พุทธศักรำช ๒๕๖๐

เมทินี ชโลธร

(นำงเมทินี ชโลธร)

ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ



สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ

นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ

























118

ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ บริษัทซูมิโตโม รับเบอร์

ที่ วทป ๕/๒๕๖๐ (ไทยแลนด์) จ�ำกัด โจทก์

บริษัทไชน่ำ ชิปปิ้ง (กรุงเทพ)
จ�ำกัด จ�ำเลย






โจทก์ฟ้องบังคับให้จ�ำเลยในฐำนะตัวแทนกำรขนส่งสินค้ำท่โจทก์ซ้อจำกผู้ขำยใน

ต่ำงประเทศให้คืนเงินค่ำมัดจ�ำตู้สินค้ำท่โจทก์วำงไว้ขณะน�ำออกจำกท่ำเรือแหลมฉบัง
รวม ๖ ครั้ง ส่วนจ�ำเลยให้กำรต่อสู้ว่ำ คดีโจทก์ขำดอำยุควำม ๙ เดือน นับแต่วันที่เรือเข้ำ


เทียบท่ำและขนถ่ำยตู้สินค้ำลงท่ำเรือแหลมฉบังแต่ละคร้ง ตำม พ.ร.บ. กำรขนส่งต่อเน่อง

หลำยรูปแบบ พ.ศ. ๒๕๔๘ เพรำะโจทก์เป็นผู้รับตรำส่งหรือผู้รับสินค้ำตำมสัญญำรับขน

สินค้ำทำงทะเล คดีจึงมีประเด็นข้อพิพำทถึงสิทธิหน้ำที่และควำมรับผิดระหว่ำงโจทก์กับ

จ�ำเลยตำมสัญญำขนส่งระหว่ำงประเทศ จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับกำรขนส่งระหว่ำงประเทศ

ตำมบทบัญญัติมำตรำ ๗ (๕) แห่ง พ.ร.บ. จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ
ระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ
พ.ศ. ๒๕๓๙

_____________________________




โจทก์ฟ้องว่ำ โจทก์และจ�ำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจ�ำกัด โจทก์ประกอบกิจกำร








ผลิตเพ่อขำยปลกและขำยส่งผลตภัณฑ์ยำง รวมท้งแม่พมพ์ผลตยำง จ�ำเลยประกอบกจกำร

นำยหน้ำตัวแทนขนส่ง ขนถ่ำยสินค้ำทำงเรือเดินทะเลท้งในประเทศและระหว่ำงประเทศ ตลอดจน


เป็นผู้ครอบครองดูแลและเก็บรักษำตู้สินค้ำของบริษัทไชน่ำ ชิปปิ้ง จ�ำกัด ท้งหมดท่อยู่ใน


ประเทศไทยระหว่ำงเดือนพฤษภำคมถึงเดือนพฤศจิกำยน ๒๕๕๘ โจทก์ส่งซ้อสินค้ำจำก


ผ้ขำยในประเทศสำธำรณรฐประประชำชนจน ผ้ขำยด�ำเนนกำรจัดส่งสนค้ำมำให้โจทก์ทท่ำเรือ














แหลมฉบง อำเภอศรรำชำ จงหวดชลบร โดยผ้ขำยนำสนค้ำบนทกใส่ต้สนค้ำของบรษทไชน่ำ








ชิปปิ้ง (ประเทศจีน) จ�ำกัด ขนส่งทำงเรือมำให้กับโจทก์ เม่อสินค้ำมำถึงท่ำเรือแหลมฉบัง

โจทก์ด�ำเนินพิธีกำรศุลกำกรเพ่อน�ำสินค้ำออก พร้อมวำงเงินค่ำมัดจ�ำในกำรน�ำตู้สินค้ำออกจำก

ท่ำเรือแหลมฉบังให้แก่จ�ำเลยรวม ๖ คร้ง นับแต่วันท่ ๙ มิถุนำยน ๒๕๕๘ ถึงวันท่ ๒๒ ธันวำคม ๒๕๕๘



เป็นเงิน ๑๑๙,๐๐๐ บำท และตำมข้อตกลง จ�ำเลยต้องส่งมอบเงินค่ำมัดจ�ำตู้สินค้ำคืน
119



แก่โจทก์ภำยในก�ำหนดเวลำตำมระบุในแต่ละคร้งเม่อโจทก์ส่งมอบตู้สินค้ำในสภำพเรียบร้อย

สมบูรณ์แล้ว ต่อมำโจทก์น�ำตู้สินค้ำออกจำกท่ำเรือแหลมฉบังไปยังโรงงำนของโจทก์ท่จังหวัด
ระยองและขนถ่ำยสินค้ำออกจำกตู้เสร็จสินแล้ว โจทก์ส่งมอบคืนตู้สินค้ำในสภำพเรียบร้อยสมบูรณ์
แก่จ�ำเลย แต่จ�ำเลยไม่คืนเงินค่ำมัดจ�ำตู้สินค้ำแก่โจทก์ตำมข้อตกลง ท�ำให้โจทก์ได้รับควำม


เสียหำย ขอให้บังคับจ�ำเลยช�ำระเงิน ๑๑๙,๐๐๐ บำท พร้อมดอกเบ้ยอัตรำร้อยละ ๗.๕ ต่อปี
ของต้นเงินดังกล่ำว นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่ำจะช�ำระเสร็จแก่โจทก์
จ�ำเลยให้กำรว่ำ โจทก์เป็นผู้รับตรำส่งหรือผู้รับสินค้ำตำมใบตรำส่งตำมสัญญำรับ



ขนสินค้ำทำงทะเล ซ่งใบมัดจ�ำตู้ท้ง ๖ คร้ง ตำมฟ้อง นับแต่เรือเทียบท่ำและขนถ่ำยตู้สินค้ำ

ลงท่ำเรือแหลมฉบังเมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภำคม ๒๕๕๘ วันที่ ๓, ๓๐ ตุลำคม ๒๕๕๘ วันที่ ๗, ๑๔
พฤศจิกำยน ๒๕๕๘ และวันท่ ๒๒ ธันวำคม ๒๕๕๘ ตำมล�ำดับ นับถึงวันฟ้องท่ ๓๑ ตุลำคม ๒๕๕๙



เป็นเวลำเกินกว่ำ ๙ เดือน คดีโจทก์ขำดอำยุควำม โจทก์ไม่มีอ�ำนำจฟ้อง และคดีน้พิพำทตำม


เง่อนไขข้อตกลงระหว่ำงโจทก์กับจ�ำเลย จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับกำรขนส่งระหว่ำงประเทศ



และนิติกรรมอันท่เก่ยวเน่อง อันอยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำ
และกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ขอให้ยกฟ้อง
ในวันนัดพิจำรณำ ศำลแขวงพระนครใต้เห็นว่ำ กรณีมีปัญหำว่ำคดีน้อยู่ในอ�ำนำจ

พิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศหรือไม่ จึงให้รอกำร


พิจำรณำพิพำกษำไว้ช่วครำว แล้วเสนอปัญหำดังกล่ำวให้ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ
เป็นผู้วินิจฉัยตำมพระรำชบัญญัติจัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ

และวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ มำตรำ ๙

วินิจฉัยว่ำ กรณีมีปัญหำต้องวินิจฉัยว่ำ คดีน้เป็นคดีแพ่งเก่ยวกับกำรขนส่งระหว่ำง



ประเทศและนิติกรรมอ่นท่เก่ยวเน่องท่อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สิน



ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศตำมบทบัญญัติ มำตรำ ๗ (๕) แห่งพระรำชบัญญัติจัดตั้ง
ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและ
กำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙ หรือไม่ เห็นว่ำ โจทก์ฟ้องบังคับให้จ�ำเลยในฐำนะตัวแทน

กำรขนส่งสินค้ำท่โจทก์ซ้อจำกผู้ขำยในต่ำงประเทศให้คืนเงินค่ำมัดจ�ำตู้สินค้ำท่โจทก์วำงไว้



ขณะน�ำออกจำกท่ำเรือแหลมฉบังรวม ๖ ครั้ง ส่วนจ�ำเลยให้กำรต่อสู้ว่ำ คดีโจทก์ขำดอำยุควำม
๙ เดือน นับแต่วันท่เรือเข้ำเทียบท่ำและขนถ่ำยตู้สินค้ำลงท่ำเรือแหลมฉบังแต่ละคร้ง ตำม


พระรำชบัญญัติกำรขนส่งต่อเน่องหลำยรูปแบบ พ.ศ. ๒๕๕๘ เพรำะโจทก์เป็นผู้รับตรำส่ง



120


หรือรับสินค้ำตำมสัญญำรับขนสินค้ำทำงทะเล คดีจึงมีประเด็นข้อพิพำทถึงสิทธิหน้ำท่และ

ควำมรับผิดระหว่ำงโจทก์กับจ�ำเลยตำมสัญญำขนส่งระหว่ำงประเทศ จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับ
กำรขนส่งระหว่ำงประเทศ ตำมบทบัญญัติมำตรำ ๗ (๕) แห่งพระรำชบัญญัติจัดตั้งศำลทรัพย์สิน
ทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคดีทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำ

ระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙

วินิจฉัยว่ำ คดีน้อยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและ

กำรค้ำระหว่ำงประเทศ




วินิจฉัย ณ วันที่ ๑ เดือน กุมภำพันธ์ พุทธศักรำช ๒๕๖๐




เมทินี ชโลธร
(นำงเมทินี ชโลธร)

ประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ




สุธรรม สุธัมนำถพงษ์ - ย่อ

นิภำ ชัยเจริญ - ตรวจ




































121

ค�ำวินิจฉัยของประธำนศำลอุทธรณ์คดีช�ำนัญพิเศษ บริษัทสยำมลัคกี้มำรีน

ที่ วทป ๑๕/๒๕๖๐ จ�ำกัด โจทก์

บริษัทคิวบีอี ประกันภัย
(ประเทศไทย) จ�ำกัด (มหำชน)

กับพวก จ�ำเลย




โจทก์ฟ้องให้จ�ำเลยท้งสองรับผิดชดใช้ค่ำสินไหมทดแทนควำมเสียหำยอันเกิด
จำกควำมเสียหำยที่เกิดขึ้นกับเรือเซนนำ ปริ้นเซส ซึ่งเป็นเรือที่ใช้รับบริกำรขนส่งน�้ำมัน


เช้อเพลิง ก๊ำซปิโตรเลียมเหลว และผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมทุกชนิด ท้งในประเทศและ

ระหว่ำงประเทศภำยใต้สัญญำประกันภัย จ�ำเลยท้งสองให้กำรว่ำ มีกำรตกลงกันไว้ชัดแจ้ง


ในกรมธรรม์ประกันภัยว่ำ ให้สัญญำประกันภัยทำงทะเลท่พิพำทน้ตกอยู่ภำยใต้บังคับ

แห่งข้อก�ำหนดของสถำบันว่ำด้วยควำมคุ้มครองตัวเรือตำมก�ำหนดระยะเวลำ ฉบับท ่ ี


๑.๑๐.๘๓ (Institute Time Clauses Hulls ๑.๑๐.๘๓) ซ่งเป็นข้อตกลงมำตรฐำนท่ใช้กัน
แพร่หลำยท่วโลก ข้อก�ำหนดดังกล่ำวระบุไว้ว่ำ กำรประกันภัยน้อยู่ภำยใต้บังคับแห่ง


กฎหมำยและวิธีปฏิบัติของประเทศอังกฤษ กรณีจึงต้องน�ำกฎหมำยประกันภัยทำงทะเล
รวมท้งวิธีปฏิบัติของประเทศอังกฤษมำปรับใช้กับนิติสัมพันธ์ตำมสัญญำประกันภัย



ทำงทะเลระหวำงประเทศระหว่ำงโจทกกับจ�ำเลยทั้งสอง ดังนั้น สัญญำประกันภัยระหว่ำง





โจทก์กับจำเลยท้งสองจึงเป็นสญญำประกนภัยเรอสินค้ำเดินทะเลอนเป็นสัญญำประกน





















ภยทำงทะเลประเภทหนง เมอคดมประเดนขอพพำทใหตองวนจฉยเกยวกบสญญำประกน

ภัยทำงทะเล โดย ป.พ.พ. มำตรำ ๘๖๘ บัญญัติให้บังคับสัญญำประกันภัยทำงทะเลตำม
บทบัญญัติแห่งกฎหมำยทะเล ซ่งย่อมต้องพิจำรณำถึงกฎหมำย หลักเกณฑ์และธรรมเนียม

ปฏิบัติระหว่ำงประเทศด้วย คดีน้จึงเป็นคดีแพ่งเก่ยวกับกำรขนส่งระหว่ำงประเทศ


กำรประกันภัยและนิติกรรมอ่นท่เก่ยวเน่อง อันอยู่ในอ�ำนำจพิจำรณำพิพำกษำของ




ศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ ตำมบทบัญญัติมำตรำ ๗ (๕) แห่ง

พ.ร.บ. จัดต้งศำลทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศและวิธีพิจำรณำคด ี
ทรัพย์สินทำงปัญญำและกำรค้ำระหว่ำงประเทศ พ.ศ. ๒๕๓๙
_____________________________

122


Click to View FlipBook Version