The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kim.pongsakorn.26081998, 2019-06-10 12:45:47

tmp

เหี้ย แต่ด ้วยความรักเพื่อนกูต ้องท าไงครับ นั่งขัดสมาธิจก

แดกอยู่หน้าทีวีให ้มันสบายใจ ตายตาหลับมั้ยล่ะมึง




“เอาอีกมั้ย ต ้มย ากุ้งนี่ของโปรดมึงเลย”



“ครั้งหน้ากูขอหมูสับ” ครั้งนี้เค็มจนกระพุ้งแก ้มกูชา




แก๊งโหดชอบมีของกินประจ ากลุ่มเวลาเรารวมตัวกันที่

ห ้องเสมอ ดูหนังทีไรเมื่อมีแอลกอฮอล์ก็มักจะมีของกินเล่น

ซึ่งไอ ้มาม่าดิบนี่ก็เป็นของกินยอดฮิตในกลุ่มเหมือนกัน ยิ่ง


ไอ ้โบนยิ่งไม่ต ้องพูดถึง เลียแดกยันถุงข ้างใน โรคไตพร ้อม

จะถามหาอยู่รอมร่อ



และเนื่องจากมันเป็นของกินเล่นชนิดเดียวที่เรามีบ่อยๆ


ไอ ้ค่ายมันเลยทึกทักเอาว่าผมก็ชอบเหมือนกัน เลยซื้อติดตู้

ทีเป็นสี่ห ้าแพ็ค มึงจะเก็บไว ้ท าสังฆทานหมู่เหรอ



“ได ้เสมอ ถ ้ามึงต ้องการอะไร”




“มันก็ควรเป็นแบบนั้นมั้ย กูอุตส่าห์ช่วยมึงขนาดนี้” จริงๆ

ไม่ได ้ช่วยเลย กูท าเพื่อตัวเองล ้วนๆ แต่ในเมื่อมันเข ้าใจผิด

...เออก็ได ้ ช่างแม่งไป




ไอ ้ค่ายมันก็หัวเราะมีความสุข ก่อนจะนั่งลงข ้างๆ ผม

พร ้อมกับค าพูดพราวด์ๆ ของมัน




“แต่ความจริงถึงมึงไม่เสนอวิธีจีบ กูก็มีปัญญาจีบว่ะ”



“จ ้าไอ ้คนหล่อ พ่อคนฮอตของสังคัง”



“สังคมมั้ยมึง คารมกูดี ลีลากูก็ไม่เบา” ผมหันไปหรี่ตาใส่


มันอย่างเหนื่อยใจ เกลียดความผีบ ้าของมันฉิบหายแต่ท า

อะไรไม่ได ้ เพราะไม่เคยเถียงชนะมันสักที




“กูยอมใจในความเหี้ยของมึง”



“ผู้หญิงชอบคนเลวเว ้ย” อย่าว่าแต่ผู้หญิงเลย กูเอง...กู

ชอบ




“แล ้วน้องคนที่มึงจะจีบล่ะ ชื่ออะไรวะ” หลังเจ็บใจจาก

น้องมิลค์ที่เล่นไปคุยซ ้ อนกับเดือนมอ ไอ ้ค่ายก็ตัดอกตัดใจ

อย่างรวดเร็ว อาจเป็นเพราะมันเล่นๆ แบบนี้กับทุกคนด ้วย


มั้ง ผมเลยเห็นมันเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยและไม่คิดจริงจังหรือ

อยู่กับใครนานๆ สักที



“น้องกิ่ง พยาบาลปีสอง”




“เจอกันได ้ยังไง”

“เพื่อนของเพื่อนของเพื่อนอีกที เห็นนมใหญ่ดีกูเลย

ชอบ”




“แฟนมึงนี่นมใหญ่ทุกคนเนอะ เห็นแล ้วใจแตกแบบปุบ

ปับ”



“คนนี้ไม่ได ้กะคบเป็นแฟนว่ะ เหนื่อยแล ้ว”




“ฮะ!” พูดเชี่ยอะไรของมันเนี่ย ไม่คบเป็นแฟนแล ้วมึงจะ

จีบเขาเพื่ออะไร ค าตอบนี้ดูย ้อนแย ้งมากครับ แต่ก็ไม่คิด


ถามออกไปอีกนอกจากเงียบ แล ้วรอให ้เจ ้าตัวชี้แจ ้งแถลง

ไขด ้วยตัวเอง



“กูกะไม่สร ้างความสัมพันธ์หรือมีสถานะแบบผูกมัดกับใคร


แล ้ว มีแฟนก็เหนื่อยตามเอาใจ แถมต ้องล าบากรายงาน

สถานการณ์ตลอด เล่นอยู่แบบควงคนอื่นไปเรื่อย ไม่ผูกมัด

กัน ถึงเวลาก็แยกย ้ายมันดีกว่าเยอะ”




โอ ้โห! ทุกวันนี้ก็ว่าหนักแล ้วนะ ต่อไปไอ ้ค่ายมันจะ

กลายเป็นผู้ชายพันเมียที่โด่งดังของคณะมั้ย แค่คิดผมก็

เสียวสันหลังวาบๆ ไอ ้ตอนมีอะไรป้องกันตลอดก็จริงแต่กูก็

ไม่ชอบให ้มันยุ่งกับคนอื่นอยู่ดี




แม ้การไม่ตั้งสถานะของมันกับใครจะพอท าให ้ผมใจชื้น

ขึ้นมาบ ้างก็ตาม




“มึงคิดว่าไง กูท าแบบนี้ดีมั้ย”



“เหี้ยดี ชอบๆ” ผมต ้องไปบอกไอ ้ทูว่ายังไงดีวะ ‘ตอนนี้ไอ ้

ค่ายมันอาการหนักแล ้วนะเว ้ย’ อย่างนี้เหรอ




“รับรู้แต่เรื่องรักของกู ว่าแต่มึงเหอะปฏิเสธคนจนชิน ไม่

คิดจะมีใครบ ้างเหรอ” ร ้อยวันพันปีไม่เคยคิดจะเสือกเรื่องนี้

ของกูเลยนะ แต่ผมก็ยินดีจะตอบกลับไปด ้วยค าโกหก


กลวงๆ ของตัวเอง



“ไม่ว่ะ”




“มึงเคยชอบใครป่ ะวะ”



“เคย” มึงไงไอ ้สัด เสือกโง่ ให ้บอกโต ้งๆ อีกก็คงไม่ท า

แล ้ว พอดีเป็นคนหน้าบาง...




“ได ้บอกชอบไปมั้ย”



“ไม่”




“ท าไม”

“เป็นมึงก็คงไม่กล ้าบอกหรอก”




“ไอ ้เติร์ด นี่มึง...”



“…”



“ชอบเมียคนอื่นเหรอวะ”




โอ ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยไอ ้เวร พอเหอะ รักใคร

ไม่ได ้ของกูก็ไม่ได ้หมายถึงเมียคนอื่นมั้ย ท าไมสมองแม่


งคิดได ้แต่เรื่องอัปรีย์แบบนี้วะ



“กูไม่ได ้รักหรือบอกรักใครง่ายๆ อย่างมึงนะ”




“กูก็ไม่ได ้รักใครง่าย ที่มึงเห็นนี่แค่ความชอบส่วนบุคคล”



จ ้า เอาที่มึงสบายใจเลยจ ้า




ได ้แต่นั่งท าหน้าเอื่อมระอา แดกมาม่าดิบเสร็จก็เดินจาก

มาอย่างหงุดหงิดใจ ซึ่งเหตุผลนี้ก็ควรยอมรับได ้แล ้ว เพราะ

ไม่งั้นคงแอบชอบแบบนี้ถึงสองปีไม่ได ้ และเมื่อกลับถึงห ้อง

ตัวเองผมก็เห็นว่าไอ ้ทูก าลังนั่งมีความหวังอยู่ตรงโซฟา


พร ้อมประโยคโคตรเสือกของมัน

“เป็นไงบ ้างมึง สมหวังมั้ย แชร์กูด ้วย”




“สมหวังเหี้ยไรล่ะ ตอนนี้มันจะไปจีบคนใหม่แล ้วเนี่ย”



“เอ ้า ไอ ้เวร ไหงเป็นงั้นวะ”



“มึงก็ไลน์ไปถามมันสิ” จัดการดีดรองเท ้าใส่ข ้างฝาเสร็จ


ก็สาวเท ้าไปยังโซฟาแล ้วนอนหมดอาลัยตายอยากอยู่ใกล ้ๆ

หนุ่มเซอร์ของกลุ่ม




หมดกันที่วางแผนกันมา



“อะไรยังไง เล่าให ้กูฟังหน่อยเดี๋ยวกูช่วย”




“แผนแอดวานซ์มึงยังไม่รอดเลย น่าจะเอะใจแต่แรกว่าไอ ้

ค่ายมันโง่ แม่งเสือกเข ้าใจว่าที่กูไปเคาะประตูสารภาพรัก

นั่นคือวิธีบอกรักที่กูเสนอให ้มันเอาไว ้ใช ้ จีบสาวเฉย”




“โง่ฉิบหาย”



“ใช่มั้ย”




“กูหมายถึงมึงเนี่ย มันเข ้าใจผิดก็รีบแก ้สิไม่ใช่เออออไป

ตามมัน”

“ตอนนั้นสมองกูตื้อไปหมด คิดห่าไรไม่ออกสักอย่าง ที่

ส าคัญคือตอนนี้มันดันมาบอกกูอีกว่าจะไม่ผูกมัดกับใคร จะ


แรดไปเรื่อยๆ แบบทัวร์นาเมนท์ มึงก็คิดดูแล ้วกันว่ากูจะไป

อยู่ตรงไหนในเวิล์ดทัวร์ของมัน”



“ไม่ผูกมัดก็ดีสิวะ อย่างน้อยมึงก็ไม่ต ้องรู้สึกผิดที่มันมี

เมีย”




“ปลอบใจกูโคตรดีเลยไอ ้เหี้ย”




“กูจะคิดแผนใหม่ให ้มึง รับรองได ้ผล”



“แผนเหี้ยอะไรอีก แค่นี้มันยังด ้านไม่พอดีเหรอ”




“ทิ้งความบางของหน้ามึงออกไปแล ้วจะดีเอง เชื่อกู”



ไอ ้ทูมันไม่สนเรื่องวิธีการหรอกครับ มันสนใจแต่ผลลัพธ์

แล ้วสุดท ้ายมันก็ช่วยคิดแผนให ้ผมไปใช ้ จริงๆ พร ้อมกับแอ


คติ้งความตอแหลเต็มขั้นในเช ้ าวันถัดมา...



“เป็นอะไรวะไอ ้เติร์ด”




“คือกู...”

“มีอะไร ท าหน้าเหมือนไม่ได ้ขี้” ไอ ้ค่ายถามอีก พร ้อมกับ

การกระหน ่าตีนของไอ ้ทูอยู่ใต ้โต๊ะ นี่คือจะให ้กูพูดออกมา


จริงดิ ละอายใจตัวเองเหลือเกินครับพี่น้อง



“คือช่วงนี้ที่บ ้านกูมีปัญหาทางการเงินเลยไม่มีเงินจ่ายค่า

เช่าคอนโด แล ้วตอนนี้เจ ้าของห ้องเลยให ้ผู้เช่ารายใหม่เข ้า

มาแล ้ว” ผมพูดด ้วยสีหน้าเศร ้าสลดตามแบบฉบับรายการวง


เวียนชีวิต เกิดมาก็เพิ่งสร ้างเรื่องเป็นตุเป็นตะขนาดนี้เนี่ย

แหละ




“เชี่ย ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ แล ้วท าไมมึงไม่บอกเพื่อน” คราว

นี้ไอ ้โบนเป็นทุกข์เป็นร ้อนขึ้นมาบ ้าง กูอยากจะบอก

เหลือเกินว่ามันเกิดขึ้นเมื่อคืนตอนกูคิดแผนกับไอ ้ทู แต่ด ้วย

ความร ้ายของหัวใจนั้นกูเลยต ้องตอบกลับไปว่า...




“เกือบเดือนแล ้วมึง”



เศร ้าอีก ท าหน้าให ้เสมือนทุกคนบนโลกได ้ตายห่าตาย


เหวลงตรงหน้า ถึงแม ้ไม่ได ้เรียนการแสดงแต่เด็กภาพยนตร์

ก็ควรมีทักษะและฟิลลิ่งจากข ้างในบ ้าง



ปีนี้อย่าลืมมอบออสการ์ให ้กูนะ ลาลาแลนด์จะต ้องหลั่ง


น ้าตา

“เก็บไว ้ท าไมวะ มึงไม่เห็นพวกกูเป็นเพื่อนเหรอ” ไอ ้ทูจัด

เต็มบ ้าง ปีนี้สาขานักแสดงสมทบอย่าลืมเสนอชื่อมันให ้เข ้า


ชิงด ้วยนะครับ กูกราบ



“ไม่อยากให ้ล าบากกัน แต่ตอนนี้กูจะไม่มีที่ซุกหัวนอน

แล ้วเลยจะมาขออาศัยพวกมึงสามคนสลับกันไปอาทิตย์ละ

วันสองวัน จนกว่าบ ้านกูจะพ ้นวิกฤต”




“ห ้องไอ ้ค่ายมั้ยล่ะ คอนโดมึงมีตั้งสองห ้องนอน” ไอ ้โบน

โพล่งขึ้น เจ ้าของชื่อมันเลยกรอกตาคิดอยู่พักนึง




คือมันไม่ใช่คนไม่เอื้อเฟื้อเพื่อนครับ กับไอ ้นี่มันให ้เต็ม

ร ้อยหมด แต่ที่เห็นคิดนานๆ นี่กลัวจะเป็นเพราะผู้หญิงที่แม่

งชอบพามาที่ห ้องมากกว่า เหยด กูไม่อยากเจ็บแต่กูต ้องไป


ให ้สุดทาง



“ถ ้ามึงล าบากใจก็ไม่เป็นไรเว ้ยไอ ้ค่าย เดี๋ยวกูจะขออยู่กับ

ไอ ้เหี้ยทูกับไอ ้โบนไปก่อน ถึงแม ้ว่าของของกูมันอาจ


กระจัดกระจายไปตามห ้องของพวกมึงบ ้าง อะไรหายก็ช่าง

มันเถอะเดี๋ยวซื้อใหม่”



เนียนมั้ย น่าสงสารพอยัง




แต่เมื่อเห็นสีหน้าเห็นอกเห็นใจของไอ ้ค่ายผมก็นึกยิ้มกริ่ม

ในอก ไอ ้ทูบอกความใกล ้ชิดเป็นบ่อเกิดของความรัก แค่นี้กู

ก็ชิดจนแทบไม่เหลือที่ว่างละ แต่ไม่เป็นไร อยากชิดอีก




“หรือกูจะขายรถแล ้วเอาเงินมาจ่ายค่าห ้องดี แต่ช่างเหอะ

กูยอมเหนื่อย นั่งแท็กซี่กับขึ้น BTS ก็สบายเหมือนกัน” พูด

ไปก็เหลือบตามองไอ ้หนุ่มฮอตข ้างๆ ไป ตกหลุมพรางกู

หรือยังว ้า???




“เออๆ มาอยู่กับกู”




“ไอ ้ค่ายมึงพูดจริงดิ” เยสๆ



“จริง กูคงไม่ปล่อยให ้มึงไปตกระก าล าบากหรอกเพื่อน

ยาก แต่มึงต ้องท าใจเรื่องผู้หญิงของกูหน่อยนะ”




“สบ๊าย”



“งั้นวันนี้ไปช่วยขนของ”




“กูด ้วย!” ไอ ้เพื่อนรักสองคนที่เหลือพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว



“โห...มันจะดีนะ” แต่เมื่อคืนกูเก็บของรอไว ้แล ้ว เหลือแต่


ขนย ้ายอย่างเดียว เหยดดดด

หลังเลิกเรียนเราเลยขนทัพย ้ายของจากห ้องผมไปยัง

คอนโดไอ ้ค่าย สถานที่ซึ่งเป็นรังรักของมันกับใครไม่รู้ ผม


คงท าใจยากมากถ ้ามันพาผู้หญิงเข ้าห ้อง แต่ก็เอาเถอะ

ไหนๆ ก็ไหนๆ แล ้ว



ไอ ้ทูกับไอ ้โบนช่วยขนของเสร็จมันก็แยกย ้ายกลับห ้อง

ของตัวเอง คงเหลือผมกับไอ ้ค่ายที่ช่วยกันจัดของให ้เข ้าที่


เข ้าทางร่วมชั่วโมง รู้ตัวอีกทีร่างสูงของเพื่อนรักก็ไม่อยู่ใน

ห ้องนี้แล ้ว ผมเลยเดินออกไปดูเห็นมันยืนสูบบุหรี่ท าตัวคูลๆ

อยู่ตรงระเบียง




“ช่วยกูจัดของแค่นี้เครียดเลยเหรอมึง”



“ก าลังคิดอยู่ว่าถ ้าผู้หญิงกูเข ้ามาในห ้องมึงจะรู้สึกอึด


อัดมั้ย”



“มึงเป็นเพื่อนกับกูมากี่ปีแล ้ววะ อีกอย่างกูนอนคนละห ้อง

กับมึง ไม่ต ้องห่วงหรอกน่า”




“แต่ห ้องน ้ามีห ้องเดียวไงครับเพื่อนเติร์ด” แถมอยู่ใน

ห ้องนอนมันด ้วย




ผมยื่นมือไปขอบุหรี่จากมัน เจ ้าตัวเลยส่งต่อมวนที่อยู่ใน

ปากมาให ้ ซึ่งผมก็รับมาสูบต่อโดยไม่พูดอะไรนอกจากพ่น

ควันออกมา พอดีหัวตื้อเหมือนกัน เออว่ะ! ถ ้าแม่งก าลังเอา

กับผู้หญิงตอนกูปวดขี้ขึ้นมาล่ะ ใจสลายเลยนะคราวนี้




“กูลงไปเข ้าข ้างล่างได ้เว ้ย”



“ได ้ไงล่ะไอ ้สัด ช่างเหอะ ถึงเวลาค่อยว่ากัน”




“เออ”



“อาบน ้ามั้ย”




“บ ้า มึงมาชวนกูอาบน ้าท าไม”



“คิดอะไรของมึงเนี่ยไอ ้ควาย กูใช ้ ให ้มึงไปอาบก่อน


ไม่ได ้จะอาบด ้วยกัน”



“เหรอๆ” นึกว่าจะได ้อาบดูแม่งซะแล ้ว เสียดาย~




“เอาบุหรี่มา จะสูบต่อ”



“จุดมวนใหม่ดิ”




“ขี้เกียจ มึงก็สูบแค่นั้นพอแล ้ว อย่าเยอะ”

“อ่ะๆ ขี้หวงจริงโว ้ย” ผมท าอะไรไม่ได ้นอกจากยื่นบุหรี่สี

ขาวในมือให ้กับเจ ้าของ ความจริงมันก็ชอบสั่งผมเหมือนกัน


ถ ้าวันไหนที่เราสูบบุหรี่ มันสูบสอง ผมจะถูกจ ากัดเหลือ

เพียงหนึ่งมวน ลดหลั่นไปตามปริมาณในแต่ละวัน



ผมถอดเสื้อผ ้าทิ้งไว ้ในตะกร ้า ก่อนจะหยิบผ ้าขนหนู

ออกมาพันแล ้วเดินเข ้าห ้องน ้า พร ้อมกับไอ ้ค่ายที่ก าลังเดิน


เข ้าห ้องตัวเองเหมือนกัน ผมเองก็ไม่ได ้เริ่มอาบน ้าหรอก

เพราะก าลังจ ้องมองของใช ้ ที่อยู่ตรงเคาน์เตอร์ล ้างหน้า

อย่างสนใจ ปกติเวลามาห ้องมันก็ไม่ได ้มีเวลามาจ ้องหรอ


กว่าแม่งซื้ออะไรมาใช ้ บ ้าง จนกระทั่งได ้ร่วมชายคาเดียวกัน

ในวันนี้



“สกินแคร์นี่ขอแบ่งครึ่งใช ้ กับมึงได ้ป่ ะ” ผมถามติดตลก


ร่างสูงที่ชะโงกหน้าเข ้ามาในส ้ วมเลยตอบกลับอย่างรวดเร็ว



“ตามสบาย”




“น ้าหอมก็ดี”



“พ่นได ้เต็มที่ แต่อย่าท าให ้ผู้หญิงกูงงว่าคนไหนมึง คน

ไหนกูแล ้วกัน”




“เจลเซตผม เชร ้ดดดด”

“จะขอใช ้ ?”




“อ่าฮะ”



“แชร์กับกูทุกอย่างขนาดนี้ เดี๋ยวเอาตัวมึงมาแลกเลยนะ”



“โอ ้โหได ้เลยครับ มึงจะเอาตัวหรือจะเอาหัวใจด ้วย” ผม


พูดเป็นทีเล่นทีจริง ไอ ้ค่ายมันเลยส่ายหัวไปมาด ้วยใบหน้า

ยิ้มๆ หน้าเหี้ยนี่แม่งโคตรเลว อารมณ์แบบพร ้อมจะฟันสาว

ได ้ตลอดเวลาอ่ะ




“อ่อยสัด”



“ไม่ได ้อ่อย กูพูดเล่นมั้ย”




“อย่าไปท าแบบนี้กับใครนะ”



“ท าไมวะ”




“เดี๋ยวเขาจะหลงเอา”



ง่อววววววววววว ทุกคนหลงกูครับยกเว ้นมึง ไอ ้เหยดเข ้


ของพี่!

คืนนี้เป็นคืนแรกที่ผมได ้ใช ้ ชีวิตในห ้องไอ ้ค่ายแบบไม่มี


ก าหนด ปกติมักจะนอนอยู่ห ้องมันไม่เกินสองวันตอนแฮงก์

เหล ้ากับท าโปรเจ็กต์ แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป

บรรยากาศทุกอย่างเริ่มคุกรุ่นด ้วยความรู้สึกหลากหลาย

แผนของไอ ้ทูผุดขึ้นมาในหัวมากมาย แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่

คิดเอามาใช ้ นอกจากรอดูสถานการณ์ไปก่อน




ยังไงไอ ้ค่ายมันก็เพื่อนผม เพราะงั้นผมเลยไม่อยากเสีย

มันไป




เช ้ าวันแรกอากาศสดชื่นมากครับ ผู้หญิงคนแรกเคาะ

ประตูห ้องตอนหกโมงเศษๆ ด ้วยชุดนิสิตรัดนมของเธอ แถม

กระโปรงทรงเอยังสั้นกุดจนแทบเห็นกางเกงในอยู่รอมร่อ


เกิดมาเคยได ้ยินแต่แม่เดินมาปลุกตอนเช ้ า นี่ผู้หญิงนมโต

ครับผลัดกันมาปลุกไม่ซ ้าหน้าในแต่ละวัน เจ็ดวันก็เจ็ดคน

มาแบบทุกเฉดสีประหนึ่งทีโอเอ




แถมผมยังได ้เห็นความเสือของมันขึ้นเรื่อยๆ ผู้หญิงของ

ไอ ้ค่ายเด็ดดวงทุกคน แต่ถ ้าวันไหนที่ผมไม่ได ้ออกไปดู

หนังหรือเที่ยวเล่นกับไอ ้โบนและไอ ้ทู ผมก็จะไม่เห็นผู้หญิง

ของมันในห ้องเลย เว ้นแต่ตอนเช ้ าที่ยืนอยู่หน้าประตูปลุก


เท่านั้น แตกต่างจากวันนี้

ก๊อกๆ




ผมขมวดคิ้วอยู่พักหนึ่งก่อนจะมองหาเจ ้าของห ้อง แต่

เสียงจากฝักบัวท าให ้รู้ว่าเจ ้าตัวก าลังอาบน ้าอยู่ แถมตอนนี้

ก็สามทุ่มแล ้ว ปกติถ ้าไอ ้โหดสองตัวโผล่มามันจะโทรบอก

พวกผมก่อน เพราะงั้นตัดประเด็นนี้ไปได ้เลย




ด ้วยไม่อยากตะโกนถามไอ ้ค่าย ผมเลยเป็นฝ่ ายลุกจาก

โซฟาเดินไปเปิดประตูต ้อนรับคนด ้านนอกแทน




“ขุนพล ฮั๊ลโหล่~”



ฉิบหายแล ้ว ใครวะเนี่ย เพราะพอเปิดประตูออกไปเท่านั้น

แหละบึ้มเลย ไม่ใช่ระเบิดนะครับ นม! นมใหญ่กว่าหัวกูอีก


ไม่อยากจะพูด



“เอ่อ...”




“อ ้าวเติร์ด ขุนพลไปไหนเหรอ” รู้จักกูด ้วย แต่จะบอกว่า

กิ๊กกับไอ ้ค่ายแล ้วไม่รู้จักสมาชิกโหดมันก็แปลกเกินไป

หน่อย เอาไงดีวะ




“ไอ ้ค่ายอาบน ้าอยู่”

“หวายยยยย ท าไมเพิ่งอาบน ้าอ่า ขอเข ้าไปข ้างในได ้มั้ย”




“ก็...ได ้มั้ง” ร่างสมส่วนนมเป็นนมตูดเป็นตูดเดินนวยนาด

เข ้าไปภายในห ้อง ก่อนจะทิ้งแก ้มก ้นสวยๆ ลงบนโซฟาแล ้ว

หันมาส่งยิ้มให ้ผม แหม่...ตาถึงฉิบหาย คนนี้ดีที่สุดตั้งแต่

เคยเห็นมาละ




“เอาน ้ามั้ย” ผมถาม ตั้งท่าจะหมุนตัวแต่ก็ต ้องชะงักเท ้า

ฉับพลัน




“ไม่เป็นไรค่า เดี๋ยวรอขุนพลออกมาก่อน ว่าจะออกไป

พร ้อมกัน” อ ้าว นัดกันไว ้เหรอวะเนี่ย แต่ก็นั่นแหละครับ

เรื่องผู้หญิงของมันผมจะไม่ยุ่ง ได ้แต่แอบชอบอยู่ห่างๆ

อย่างห่วงๆ แบบนี้




เราเข ้าสู่สภาวะเดดแอร์เกือบสิบห ้านาที เสียงประตู

ห ้องน ้าก็ดังขึ้น ก่อนผมจะเห็นร่างสูงของไอ ้ค่ายเดินออกมา

จากห ้องนอนในสภาพผ ้าขนหนูคาดเอวเพียงตัวเดียว




“ขุนพล อุ๊บส์!” สาวของมันก็กระแดะฉิบหาย รีบยกมือปิด

ปากแต่ตานี่โตเป็นไข่ห่าน




“มาได ้ไงเนี่ย เคยบอกแล ้วว่าถ ้าจะมาให ้โทรบอกก่อน”

เสียงทุ้มพูดอย่างเครียดๆ ซึ่งผมก็ไม่เคยเห็นเพื่อนอย่างมัน

พูดแบบนี้กับผู้หญิงสักทีนะครับ




“ก็อยากมาเจอ เธอบอกว่าอยู่ที่ห ้องนี่”



“อยู่แต่ไม่ได ้หมายความว่าจะเข ้ามาเวลาไหนก็ได ้ บอก

แล ้วว่าออกไปเจอข ้างนอกไง แต่ที่ห ้องเพื่อนอยู่”




“เฮ ้ ย กูไม่เป็นไร ตามสบายเลย” กูจะนั่งจ ้องอยู่ตรงนี้

แหละ ดูซิว่ามันจะกล ้าฟิตทะลึ่งกันต่อหน้ากูมั้ย เพราะถ ้า

กล ้าจริงก็คงใจหมาสุดๆ แล ้วล่ะครับ




“เห็นมั้ย เติร์ดไม่แคร์”



“เพื่อนไม่แคร์แต่เราแคร์ไง เธออย่าล ้าเส ้ นเราสิ”




“ไหนเธอบอกว่าชอบเรา”



“เราชอบเธอ แต่เราก็ชอบคนอื่นด ้วย” โคตรเหี้ยเลยกู


ยอมแล ้ว ยอมล ้าวววววววววว นี่มึงบอกชอบใครไปบ ้างแล ้ว

วะเนี่ย หรือชี้เอาก็ได ้เลย



แต่ตอนนี้สนใจผู้หญิงก่อนครับ ท าหน้างอคอหักอยู่ตรงนี้


ละ

“แล ้วตกลงจะออกไปข ้างนอกมั้ย”




“ท าไมต ้องหงุดหงิด ปกติค่ายไม่พูดกับเราแบบนี้”



“เราหงุดหงิดเธอเพราะเธอล ้าเส ้ น ต่อไปถ ้าเราไม่บอกก็

อย่าเข ้ามาในห ้องโดยพละการอีก”




“งั้นวันนี้เราไม่ไปละ งอน”



“โอเค ตกลงตามนั้น”




จากนั้นไอ ้ค่ายมันก็เดินลากตีนเข ้าไปในห ้องแล ้วปิดประตู

ขังตัวเองทันที เกิดมาไม่เคยเห็นโมเมนต์เกรี้ยวกราดของ

เพื่อนรักขนาดนี้มาก่อน ไอ ้ค่ายมันรักเพื่อน แคร์ทุกคนใน


กลุ่มก็จริง แต่ไม่คิดว่าจะหวงพื้นที่ห ้องให ้เพื่อนขออาศัย

อย่างผมมากขนาดนี้



หรือเป็นเพราะว่าช่วงหลังมานี้มันไม่คิดปักใจคบใครเป็น


จริงเป็นจัง เงื่อนไขและการเอาใจบางอย่างเลยเปลี่ยนไป

กลายเป็นอย่างที่เห็น



“เอ่อ...”




“เรากลับแล ้วนะ ไว ้เจอกันวันหลัง” ไม่ทันได ้ตอบอะไร

เธอก็เดินจากไปอีกคน คงเหลือผมที่นั่งเคว ้งอยู่หน้าทีวี

เพียงล าพัง ซึ่งไม่เกินห ้านาทีหลังจากนั้นร่างสูงก็เดิน


ออกมาพร ้อมกับเสื้อผ ้าที่ผลัดเปลี่ยนเรียบร ้อย



“ป่ ะ”



“ไปไหนวะ”




“โทรบอกไอ ้โบนกับไอ ้ทูละ ไปหาข ้าวแดกกัน”




“ที่ไหน”



“ร ้านเหล ้า”




“พ่องสิ”



“ถึงอารมณ์กูจะไม่ดี แต่น้องโคโยตี้ต ้องมีกิน”




“ไม่ออกไปกับคนเมื่อกี้วะ”



“กูไม่ชอบคนไม่เคารพกฎ เลิกพูด”




“ตั้งแต่กูมาอยู่ด ้วย กูท าให ้มึงล าบากใช่มั้ย” พูดแล ้วก็

รู้สึกผิดเลย หรือจะตัดใจยกเลิกแผนการที่ท ามาทั้งหมดดี

เพราะตอนนี้ผมทั้งสงสารและเห็นใจไอ ้ค่ายมากๆ




“มึงเห็นกูเป็นคนยังไงวะ”



“ก็คนเหี้ยๆ คนนึง”



“สัด”




“กูพูดตามที่เห็น”




“แล ้วมึงก็น่าจะเห็นมาตลอดว่าถ ้าให ้กูเลือกระหว่างเพื่อน

กับผู้หญิง กูจะเลือกใคร”



“มึงเลือกเพื่อนเหรอ”




“เปล่า กูเลือกผู้หญิง”



“พูดท าไมครับไอ ้ควาย”




“แต่ถ ้าให ้กูเลือกระหว่างมึงกับผู้หญิง”



“มึงเลือกกูเหรอ”




“กูก็เลือกผู้หญิงเหมือนเดิม”

“สัด! พูดเพื่อ? แล ้วกูอยู่ตรงไหนไม่ทราบ”




“อยู่ที่เดิม ขึ้นอยู่กับการใช ้ สอย”



“ยังไง”




“ผู้หญิงใช้ร่างกาย กับมึงต้องใช้หัวใจ”



“ง่อววววววววว”




“พอใจยังครับ เร็วๆ รีบออกไป ถ ้าไอ ้สองตัวมันรอนาน มึง

จ่ายนะ เห็นมันบอกจะคุยเรื่องกิจกรรมคณะด ้วยหนิ”




“เออ!”



คารมเชี่ยนี่ดีเสมอแหละครับ รู้ทั้งรู้ว่ามันชอบพูดกับคนอื่น

เหมือนกันแต่กูไม่สนหรอก แค่ได ้ฟังก็ดีใจแล ้ว



ชีวิตของเด็กปีสามเต็มไปด ้วยความวุ่นวาย ปีๆ หนึ่งนิเทศ

ศาสตร์จัดงานหนักราวกับว่านิสิตไม่ได ้จ่ายค่าเทอมเข ้ามา

เรียน แต่เปย์เงินเผื่อท ากิจกรรมกลุ่มซะมากกว่า อย่าง

ตารางที่ลิสต์ไว ้ตั้งแต่ต ้นเทอมซึ่งก าหนดวันแน่ชัดเลยก็คือ


ละครเวทีนิเทศฯ หนังสั้นชั้นปีของแต่ละกลุ่ม กิจกรรมงาน

สงกรานต์คอมอาร์ต นี่ยังไม่ได ้รวมงานปลีกย่อยที่ไม่ได ้

ก าหนดในตารางอีกมากมาย เรียกได ้ว่าปาดเหงื่อตายกันไป

ตามๆ กัน




อย่างสัปดาห์นี้เจองานช ้ างอีกหนึ่งครับ นั่นคือ ‘Nitade

Fair’ งานกิจกรรมที่รวมเอาเด็กนิเทศฯ มาออกบูทจัด

กิจกรรมและเอนเตอร์เทนเด็กในมหา’ลัย หาเงินเข ้า

กองกลางสโมสรคณะส าหรับหาทุนท าละครเวทีประจ าปี


ดังนั้นแก๊งโหดเลยไม่พลาดต ้องท าบูทกับเขาด ้วย



“ได ้เลขอะไรวะ” ไอ ้โบนถาม ก่อนได ้ทูจะเปิดหน้าจอ


โทรศัพท์ที่ปรากฏภาพถ่ายให ้ดู



“บูท B17 อยู่ติดอัฒจันทร์ ขนาบข ้างด ้วยบูทสอยดาว

ของพี่บรีสปีสี่ กับสาวน้อยตกน ้าของน้องปีหนึ่ง”




“ฉิบหายเลยไอ ้เหี้ย เราจะแพ ้เขาไม่ได ้” ไอ ้ค่ายเริ่มผสม

โรง




ที่เราต ้องออกมาคิดอะไรจริงจังแบบนี้เพราะมีการแข่งขัน

เรื่องยอดเงินหลังหักค่าใช ้ จ่ายแล ้วด ้วย ประโยชน์ของมัน

คือร ้านที่ชนะยอดสูงสุดห ้าอันดับแรกจะได ้รับเลือกให ้ขึ้นไป

อยู่ในนิตยสารรายเดือนของคณะ และมีสิทธิ์ใช ้ สตูดิโอโดย


ไม่ต ้องจองหรือต่อคิวเป็นระยะเวลาสามเดือน

ของแบบนี้ไม่ใช่ขี้ๆ ชิงรักหักสวาทกันมาหลายปีไม่ใช่

เพราะแย่งห ้อง แต่มันเป็นเรื่องศักดิ์ศรีที่ต ้องประกาศกร ้าว


ให ้พี่น้องชาวนิเทศฯ รู้ว่า กูนี่แหละคือตัวจริงของคณะ

ต่างหาก



“กูพอไปสืบมา พวกไอ ้เดือนชั้นปีส่วนใหญ่ขายของเว ้ย

ขายน ้า ขายลูกชิ้น ขายขนม ท าบูทถ่ายภาพ แบบเจ๋งๆ


หน่อยก็ถึงกับเปิดหมวกหาตังค์กันเลยนะ” ผมพูดด ้วย

น ้าเสียงจริงจัง




“เชร ้ดดดดดดดดด แล ้วเราจะท าอะไร”



“รีวิวหนังฉบับโหดๆ มั้ย” ผมเสนออีก เพื่อนมันเลยถาม

ต่ออย่างสงสัย




“แบบไหนวะ” ไม่รอให ้อีกฝ่ ายถาม ผมหันไปมองหน้า

เพื่อนรักอย่างไอ ้ค่ายที่เป็นเจ ้าประจ าโรงหนังรอบดึก ไม่

ต ้องพูดอะไรมากแต่ก็รู้กันดีว่าจะต ้องท ายังไง ดังนั้นผมจึง


รีบปรับอารมณ์ตัวเองก่อนจะส่งยิ้มตอแหลสัดๆ ไปให ้ไอ ้

โบนกับไอ ้ทู



“สวัสดีครับทุกคน นิเทศแฟร์ได ้มาเยือนทุกคนอีกครั้งใน


รอบหนึ่งปี วันนี้ผมมากับแขกรับเชิญที่ทุกคนไม่ได ้ตั้งตารอ

เขาคือ ขุนพล อน...อน...อน...”

“สวัสดีคร ้าบ” ไอ ้ค่ายยกมือไหว ้ ข ้างกายมีองครักษ์

พิทักษ์ความอัปรีย์อยู่สองคนนั่นคือไอ ้ทูกับไอ ้โบนที่ต ้อง


มาทนฝืนปรบมือประกอบรายการให ้อย่างงงๆ



“เอาล่ะครับ จะบอกว่าเมื่อวันก่อนมีโอกาสได ้ไปดูหนัง

เรื่องหนึ่ง ซึ่งผมก็ได ้ไปดูตามกระแสโลกโซเชียล เลยเกิด

กิจกรรมรีวิวหนังฉบับฮาร์ตคอร์ขึ้น แค่เสียเงินคนละห ้าบาท


มาท ากิจกรรมกับเรา ตอบถูกรับไปเลยตุ๊กตา ตอบผิดเสีย

เงินฟรี เรามาเริ่มกันเลยมั้ยครับ” ผมมองหน้าไอ ้ทูซึ่งรับบท

เป็นคนร่วมกิจกรรมในครั้งนี้




“อ่ะจัดมา”



“คุณต ้องตอบให ้ได ้ ว่าหนังที่คุณค่ายพูดอยู่ตอนนี้คือ


เรื่องอะไร เริ่ม!” ผมโยนหน้าที่ไปให ้ไอ ้หน้าหล่อข ้างๆ ก่อน

มันจะรับมุกฉึบฉับและตอบกลับอย่างฉะฉาน



“หนังเรื่องนี้ส าหรับผมเหรอ ดีครับ ดีออก”




“…”



“แม่งอยากจะเดินไปลูบหลังคนที่ดูแล ้วบอกว่าไม่เป็นไร


นะ มันก็แค่หลุมด าในชีวิต มึงต ้องก ้าวต่อไป แสงสว่างยังรอ

อยู่แค่ต ้องผ่านฝันร ้ายนี้ไปให ้ได ้”

“มันขนาดนั้นเลยเหรอครับ”




“คุณมึงครับ หนังเหี้ยมาก พล็อตกลวงสัดหมา หนังห่า

อะไรให ้นางเอกต่อเรือออกแม่น ้าหวงโห มึงคิดว่าอะแด็ปไท

ทานิคแล ้วมันโรแมนติกเหรอ นี่กูเสียดายตังค์ฉิบหาย ขนาด

ได ้บัตรลดราคามาครึ่งนึงกูยังต ้องหลั่งน ้าตา” ไอ ้ค่ายพูดจบ

ผมก็รับช่วงต่อในทันที




“อ่า จบไปแล ้วส าหรับการรีวิวคุณต ้องตอบแล ้วครับคุณทู

หนังเรื่องนี้ชื่อว่า...อะไร”




“ไอ ้ฉิบหาย”



“ผิดครับ หนังชื่อเรื่องว่าโสดเหงา เขาไม่เข ้าใจครับ”




“กูไม่ได ้ทายชื่อหนัง กูด่ามึงอยู่เนี่ยไอ ้ฉิบหาย กิจกรรม

หัวฟวยอะไรวะ เลิกๆ”




และกิจกรรมแรกนั้น...ก็ล่มไม่เป็นท่าเหมือนอย่างเคย



คิดหาวิธีด ้วยกันเกือบครั้งชั่วโมงก็หาข ้อสรุปไม่ได ้ ไอ ้

โบนมันเลยปิดประเด็นแบบง่ายๆ ด ้วยการบังคับ




“ขายของไปเถอะสัด เรื่องมาก”

“มันไม่ซิกเนเจอร์ มันต ้องมีสตอรี่ดิ”




“สตอรี่เหี้ยอะไร ร ้านนี้ไม่เน้นของ เน้นหน้าตาล ้วนๆ แค่กู

คนเดียวสาวก็แห่กันมาซื้อครึ่งมอละ” ไอ ้หลงตัวเอง ไอ ้บ ้าน

ไม่มีกระจกส่อง



“ถ ้าขายแบบนี้มันก็เหมือนร ้านอื่นดาษๆ ทั่วไป ใครมันจะ


ไปอยากซื้อ ของอย่างนี้มันต ้องมีแรงจูงใจ” ไอ ้ทูพูดต่อ แต่

สีหน้ามันนั้นค่อนข ้างมั่นใจว่าได ้ไอเดียใหม่ให ้ท ามาหากิน

แล ้ว




“แรงจูงใจยังไง”



“มันต ้องเอาตัวเข ้าแลกนิดหน่อยนะ”




ตอนแรกผมก็ไม่ได ้คิดหรอกครับว่าเอาตัวเข ้าแลกของมัน

หมายถึงอะไร จนกระทั่งวันงานมาถึงทุกอย่างก็กระจ่างแจ ้ง

...






‘ร้านชายฉะกัน ขายไส ้ กรอกทุกชนิด สั้นๆ พอดีค า หรือ

ฟุตลองอร่อยสาด โดยคนขายที่อร่อยสาดจนต ้องร้องขอ


เพิ่มอีก’

นี่มันสโลแกนขายของหรือโฆษณาขายดิลโด ้วะ เข ้าข่าย

เรท ฉ 18+ มาก เคยได ้ยินแต่ผู้ชายขายน ้า กูนี่ผู้ชายขาย


ไส ้ กรอก แต่เพื่อห ้าอันดับแรกเราก็จ าต ้องแลกกับอะไร

หลายๆ อย่างแม ้กระทั่ง...



“กรี๊ดดดดดดพี่โหด ขอถ่ายรูปหน่อยนะคะ”




“ได ้คร ้าบ” ไอ ้ค่ายยื่นหน้าแนบกับน้องผู้หญิงน่ารักคน

หนึ่งพร ้อมกับฉีกยิ้มจนปากแทบแหกถึงใบหู ไอ ้ทูกับไอ ้

โบนก็โดนสาวเขียนเสื้ออยู่ ส่วนกูนั้นมีหน้าที่เดียวคือปิ้งไส ้


กรอก ไอ ้สัด ไอ ้แดกแรงเพื่อน



“พี่เติร์ด เท่าไหร่เหรอคะ” น้องผู้หญิงที่ยืนอยู่ด ้านหน้ายิ้ม

อ่อน แถมท่าทางยังดูขี้อายแบบสุดๆ อีก เธอไม่ได ้มาคน


เดียวครับ เพราะได ้พ่วงเพื่อนสาวอีกสองคนมายืนขวยเขิน

ด ้วย



“ถุงนี้สี่สิบบาทครับ” ว่าแล ้วก็รีบยื่นถุงไส ้ กรอกไปให ้น้อง


เขาทันที



“อะไรนะค ้า”




“สี่สิบ” ผมตอบห ้วนๆ

“ไม่ได ้ยินเลยอ่า”




“จะกินไม่กินครับ เดี๋ยวพี่แดกเองนะ” พูดเท่านั้นแหละ

น้องแม่งรีบยัดเงินใส่มือกูทันที อย่าอ่อยครับเดี๋ยวของขึ้น

ยิ่งโมโหเพื่อนที่มันกินแรงอยู่



ผมเคยขึ้นชื่อว่าปฏิเสธคนอื่นโหดแค่ไหนในวันนั้น วันนี้ก็


ยังคงเป็นเหมือนเดิม แต่ถ ้าใครจะมาขอให ้เซอร์วิสอะไรผม

ก็ท าตามอย่างว่าง่าย ขอแค่อย่าเยอะเท่านั้นพอ




หลักการตลาดที่ไอ ้ทูเป็นคนคิดคือนอกจากขายไส ้ กรอก

แล ้วยังต ้องขายหน้าตาแถมต ้องเปลืองตัวกันนิดหน่อย อัน

เนื่องมาจากพวกแม่งสามตัวมีแฟนคลับเยอะ ทุกคนสามารถ

ขอให ้มันท าอะไรก็ได ้ เช่นร ้องเพลงให ้ฟัง ถ่ายรูปเซลฟี่


ด ้วยกัน ขอกอด ขอหอม หลังๆ มีคนมาขอเขียนเสื้อ ตอนนี้

บอกเลยว่าเสื้อนิสิตขาวๆ ลายพร ้อยเป็นเสื้อสงกรานต์แฟน

ตาซีไปละ




ไอ ้ค่ายโดนหนักสุดจนไม่มีพื้นที่เขียนบนเสื้อ ส่วนใหญ่ก็

บอกความในใจที่มีมาแต่นานนม ผมเองก็ไม่น้อยหน้าโดน

เหมือนกัน น้องแม่งเขียนจนปลายหมึกแทบจะจิ้มลงร่องตูด

กูหลายที ดีที่เบรกทันก่อน




“พี่ค่ายร ้องเพลงให ้ฟังหน่อยค่า” เสียงเซ็งแซ่ที่ดังขึ้น

ใกล ้ๆ หู ท าให ้ผมต ้องปิ้งไส ้ กรอกไป เงี่ยหูฟังไป




“เธอสวย~ ทุกนาทีที่เคยสัมผัส”



“กรี๊ดดดดดดดดดดดด พี่ค่าย บ ้า!”



“ฮ่าๆ” หยอดได ้เป็นหยอด บอกกูขี้อ่อยมันแม่งคูณสิบไป


เลยครับพี่น้อง



คุยกับลูกค ้าได ้สักพัก ร่างสูงก็กลับมาช่วยผมปิ้งไส ้ กรอก


ต่อ ทิ้งไอ ้ทูกับไอ ้โบนให ้ร่วมด ้วยช่วยกันเปลืองตัวกันอยู่

สองคน



“ขายดีฉิบหายเลย” เจ ้าตัวพูดอย่างภูมิใจ




“ฝีมือกูล ้วนๆ”



“เพราะกูเหอะ แต่มึงปิ้ง กูเลยยอมก็ได ้”




“ดีใจตายห่ามากๆ เลยครับ”



“ปากดีกับกูจัง อ่ะให ้ขออะไรได ้หนึ่งอย่าง เลือกมาเลย


ครับคุณเติร์ด”

“เล่นเหี้ยอะไรมึงเนี่ย”




“เอาน่ะ เลือกมา”



“ร ้องเพลงให ้ฟังหน่อย” มันกรอกตาไปมาเหมือนใช ้

ความคิด ก่อนจะกระแอมไอเล็กน้อยเปล่งเสียงอันกวนตีน

ออกมา




“ทะเลสีด า ไม่มีเสาไฟ~”




“เสาไฟพ่อง!”



“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ ไม่ฮาเหรอ”




“ฮากริบเลยมึง”



“น้องค่าย น้องเติร์ด พี่ขอไส ้ กรอกหน่อยค่า ขอแบบยาวๆ

ตามขนาดน้องสองคนเลยนะ”




“เดี๋ยวนะครับ ขนาดอะไร”



“ขนาดตัวค่า เห็นสูงชะลูดตูดปอดกันขนาดนี้จะให ้พี่


คิดถึงอะไร บัดสีบัดเถลิงที่สุด เดี๋ยวขอเขียนเสื้อน้องค่าย

ด ้วยนะคะ”

“เต็มแล ้วดีออก ขอเขียนเสื้อเติร์ดแทนได ้มั้ย”




“จัดเลยครับ”



“โฮร่ลลลลลลลลลลล”



หลังจากแก๊งพี่กะเทยมาบุกรัง พวกผมสี่คนจากแก๊งโหด


ก็แทบไม่ได ้หายใจหายคอกันอีกเลย กิจกรรมนิเทศแฟร์จัด

ขึ้นตั้งแต่หกโมงเย็นจนถึงสี่ทุ่ม เราจัดกันสองวันเต็มๆ

แน่นอนว่าพรุ่งนี้กูก็ต ้องมาอีก เรียกได ้ว่าขายกันจนไม่มี


อะไรจะขายกันเลยล่ะ



ตรงเวทีกลางมีการแสดงของเด็กเอกการแสดงที่ก าลัง

สร ้างเสียงฮือฮาเป็นระยะ กิจกรรมนันทนาการหรือเกมส์


สนุกสนานรายล ้อมอยู่เต็มพื้นที่ ทุกคนมาเพื่อชิงความเป็น

หนึ่งและโกยเงินเข ้าบูทเป็นกอบเป็นก า ชายฉะกันก็ไม่ต่าง

ตอนนี้แค่สองทุ่มเองไส ้ กรอกเราก็ขายหมดเกลี้ยง เหลืออยู่

ชิ้นเดียวที่มีคนลืมมาเอา ผมเลยต ้องยืนแดกระหว่างรอเก็บ


ร ้าน



“อร่อยมั้ย ขอกัดค านึง” ไอ ้ค่ายถามเสียงเรียบ




“กูกัดไปละ พรุ่งนี้ค่อยรอแดกใหม่เหอะ”

“กินได ้” ว่าแล ้วมันก็คว ้าไส ้ กรอกที่ถูกไม ้เสียบในมือของ

ผมยัดใส่ปากเข ้าไปแบบหน้าด ้านๆ




“กูถุยน ้าลายใส่ละ ลืมบอก” หน้ามันเปลี่ยนสีทันที แต่ก็

ยังไม่วายตอบกลับทันควัน



“ไม่เป็นไร กินน ้าลายมึงกูไม่รังเกียจ”




โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย ฆ่ากูเถอะสัด! ฆ่ากูให ้ตายตรงนี้

แล ้วจะให ้ผมเลิกชอบมันได ้ยังไง ที่ผ่านมาแม่งเสือกท าตัว


แบบนี้ตลอดเลยไง ยกมือทาบอก ยกตีนทาบหน้า ร ้องเหี้ย

หนักมากแต่ก็ฟินเหลือเกิน ฮือออออออ



งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ปลาร ้าย่อมมีวันหนอนไช




หลังจากผมได ้รวบรวมเก็บของใส่รถไอ ้โบนเรียบร ้อยแล ้ว

ทุกคนก็เตรียมแยกย ้าย พอดีว่าไอ ้ค่ายติดรถผมมาด ้วย

เนื่องจากกลัวชาวีลูกรักโดนอุ้มเพราะไม่มีที่จอดรถเป็น


สัดส่วน ส่วนไอ ้ทูมากับไอ ้โบน มันสองตัวกลับไปก่อน

เพราะต ้องรีบไปหมักไส ้ กรอก คงเหลือผมกับไอ ้ค่ายที่ก าลัง

จะเดินกลับไปที่รถ แต่เท ้าก็เป็นอันต ้องชะงัก



“ค่าย” โอ ้ฉิบลอส สาวคนใหม่หน้าตาไฉไล ไฮไลท์ผมสี


ชมพู

“ครับผม” ไอ ้ควายเพื่อนรักมันก็ตอบด ้วยน ้าเสียงแพรว


พราว ขนาดขายไส ้ กรอกเสร็จยังจะมีศึกวันธงชัยกันอีก

จิตใจของไอ ้เติร์ดนั้นเลยห่อเหี่ยวเป็นไส ้ กรอกข ้ามปีในทันที



“ที่คุยกันไว ้อ่าว่าจะไปส่ง”




“พอดีมากับไอ ้ลิง” มันชี้มาที่ผม คือกูเป็นลิงไปละ



“เสียใจ”




“แต่จริงๆ ก็ไปได ้ ไอ ้เติร์ดมึงไปที่รถก่อนเลยนะ” ท ้าย

ประโยคหันมาคุยกับผม ซึ่งกูก็ห ้ามอะไรไม่ได ้นอกจากพยัก

หน้าเข ้าใจแล ้วเดินผละออกมาด ้วยอาการคอตก




ไอ ้ทู เผื่อมึงยังไม่รู้



วันนี้มันไปกับผู้หญิงผมสีชมพูอีกคนแล ้วว่ะ




คือที่ผ่านมาคิดเข ้าข ้างตัวเองหมด บอกจะไม่เสียใจที่มัน

ไปกับคนอื่นแต่สุดท ้ายก็ห ้ามความรู้สึกไม่ได ้อยู่ดี เป็นงี้

ตลอดตั้งแต่เริ่มชอบมันจนถึงปัจจุบัน กูไม่ได ้แกร่งขึ้นเลย


จริงๆ

ผมเดินไปเรื่อยๆ คิดทุกอย่างอยู่ในหัว มันตื้อไปหมด

คล ้ายกับถูกคนปิดสวิตช์ลง แต่จู่ๆ มันก็ถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง


จากน ้าเสียงกึ่งเรียกกึ่งตะโกนจากใครคนหนึ่งที่ดังเข ้ามาใน

โสตประสาท



“ไอ ้เติร์ด มึงเดินเลยรถแล ้วครับ”




“หา”



“อีกนิดเดียวมึงถึงปทุมธานีละไอ ้สัด” ประชดกูจัง




“ยังไม่ไปอีกเหรอวะ” ผมถามด ้วยความสงสัย



“ไปแล ้ว แค่ส่งเขาที่รถ”




“แค่นี้?”



“ถามมากน่า เร็วๆ กูอยากกลับไปอาบน ้าแล ้ว เหนียวตัว


ฉิบหาย” ความเสียใจที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครู่อันตรธานหายไป

จนไม่หลงเหลือ ดีใจอ่ะที่สุดท ้ายมันก็เลือกผม



เราเลยจ าต ้องเดินย ้อนกลับไปที่รถ โดยมีไอ ้ค่ายนั่ง


ประจ าต าแหน่งคนขับ ขามากูขับ ขากลับให ้มันจัดเถอะครับ

เพราะแขนกูเปลี้ยจากการปิ้งไส ้ กรอกไปหมดแล ้ว

“เหี้ยฉิบหาย เสื้อพังไปตัวนึง” ยังไม่ทันสตาร์ทรถมันก็

บ่นอีก แถมมือยังเอื้อมไปเปิดไฟในรถเพื่อส ารวจลายเส ้ น


สุดแอ็บสแตรกบนเสื้อนิสิตสีขาวด ้วย



“บ่นเพื่อ มึงดูกูก่อน”



“ฮอตเว่อร์”




“ของกูอ่ะนิดเดียว แต่ที่ลามมาจักแร ้น่ะเขาเขียนถึงมึง”

เพราะเสื้อไอ ้ค่ายไม่มีพื้นที่เหลือให ้เขียนแล ้วครับ แม ้แต่


กระดุมเม็ดใสแฟนคลับมันก็ยังพยายามบรรจงเขียนลงไป

จนได ้



แล ้วสุดท ้ายล าบากที่ใคร ก็ผมไง




“ก็หล่อ”



“หน้าหม ้อด ้วยมึงอ่ะ”




“เขาเรียกเพลย์บอยครับเพื่อน ไม่งั้นจะมีคนบอกรักกูบน

เสื้อมึงเหรอ” มือหนาพยายามดึงปกเสื้อด ้านหลังขึ้นมา ผม

เองที่เหลือบตามองถึงได ้เห็นรางๆ ว่าเป็นข ้อความอย่างที่


ไอ ้มั่นหน้ามันว่าจริงๆ

‘รักขุนพล’




“ใครมันหน้ามืดตามัววะ โดนของแน่ๆ”



“ต ้องเข ้าใจนะครับว่ากูฮอต ไก่อ่อนอย่างมึงคงต ้องฝึก

ฝีมือไปอีกนาน ยังไงก็อย่าเพิ่งรีบซักนะครับ ฝากเก็บค าว่า

รักให ้กูไว ้ก่อน”




“กูไม่ได ้ไก่อ่อนครับ มึงดูนี่ก่อนเลย” เรื่องเกทับก็อย่าคิด

สู ้ ผมรีบโชว์ตัวหนังสือสีชมพูที่เขียนไว ้ตรงกระเป๋ าเสื้อให ้


อีกฝ่ ายดูทันที



“ชอบพี่เติร์ด แค่เนี๊ยะ!”




“มีอีก เดี๋ยวก่อนมึง” ผมกวาดตามองรอบเสื้อตัวเองแต่ก็

มองไม่ออกเท่าไหร่เพราะต ้องอ่านแบบกลับหัว กระทั่งเสียง

ทุ้มของเพื่อนรักโพล่งขึ้นมาอีกครา




“พี่เติร์ดน่ารัก” ดูอีน้องลูกค ้าชมกูเข ้า...



“แล ้วไง”




“เออก็จริง” ไอ ้ค่ายย ้าอีก ใจสั่นเลยกู แต่ผมต ้องพยายาม

บอกกับตัวเองว่าค าพูดพวกนี้เป็นสิ่งที่มันมักพูดเป็นนิสัยอยู่

แล ้ว ไม่มีอะไรแตกต่างออกไป




“ปากดี”



“ปากดีอยู่ละ”



“เดี๋ยวมึงก็ไปชมคนอื่นต่อ”




“แล ้วไง”




“คนน่ารักมีเป็นร ้อย กูรู้ไอ ้ควาย”



“ไม่นะ”




“...”



“แค่มึงคนเดียวก็พอ”




ตอนนั้นเองที่หัวใจของผม...



บึ้ม!!




ระเบิดตายห่าไปเลย แค่-มึง-คน-เดียว-ก็-พอออออออออ

อออออออออออออออ

ตอนที่ 3

เป็นคนตลกไม่ใช่ตัวตลก



นิเทศแฟร์วันที่สองเริ่มต ้นขึ้น




เหมือนอะไรๆ ที่คิดว่าจะดีกว่าเดิมกลับวุ่นวายเป็นเท่าตัว

เมื่อเพื่อนรักอย่างไอ ้ค่ายและไอ ้โบนผนึกก าลังเสนอ

โปรโมชั่นเรียกเงินเข ้าบูท แน่นอนว่า ‘ชายฉะกัน’ ย่อมไม่


ท าให ้สาวๆ ผิดหวัง ซื้อครบสองร ้อยเมื่อไหร่รับสิทธิพิเศษ

หอมแก ้มฟรีหนึ่งครั้ง



แล ้วคนเหี้ยอะไรจะแดกไส ้ กรอกตั้งสองร ้อยวะ ประสาท




“พี่เติร์ดคะ ขอไส ้ กรอกสองร ้อยค่ะ”



“หา!”




“น้องเติร์ดลูก ไอ ้กรอกสองร ้อยจ ้า”



“ที่รักขา ไส ้ กรอกหกร ้อย พอดีมาสามคน”




ไอ ้ฉิบหาย! ลงทุนกันขนาดนี้ถือได ้ว่าแผนการตลาดบ ้าๆ

นี่ได ้ผลอย่างดีเยี่ยม เกิดมาไม่เคยซื้อไส ้ กรอกต ้นทุนยี่สิบ

บาทในราคาสองร ้อยสักที เป็นบุญไอ ้เติร์ดแล ้วที่ได ้ท าเรื่อง


ยิ่งใหญ่ แถมยังมีส่วนร่วมทุกส่วนไม่ว่าจะย่าง ขาย ทอนเงิน

กูท าเองหมด ส่วนไอ ้สามตัวที่เหลือก็ปล่อยให ้มันเต ้นเป็น

โคโยตี้เรียกแขกกันไป




บันเทิงเริงใจฉิบหายเลยครับกู



“พี่ค่ายหอมแก ้มทีนะคะ” น้องผู้หญิงน่ารักคนหนึ่งพูด

เสียงหวาน สายตากับน ้าเสียงนั้นมันท าให ้เคลิ้มเหมือนอยู่


ในฝันเลยจริงๆ



นี่ไม่ใช่เหยื่อรายแรกของไอ ้ค่าย แต่เป็นคนที่เท่าไหร่ไม่รู้


ที่มันก าลังเซอร์วิสอยู่ ได ้หมดทั้งแก ้มซ ้ ายแก ้มขวา ขอเบอร์

หรือไลน์มันท าหมด เหลืออย่างเดียวคือพากันไปที่ห ้องซึ่ง

ไม่แน่ว่าคืนนี้อาจจะมี




ผมไม่เห็นว่าเราจะเสียประโยชน์ตรงไหนนอกจากได ้กับ

ได ้ เงินก็มี เบอร์หญิงก็ได ้มาครอบครอง บรรลุแล ้วล่ะครับ

งานนี้




“ข ้างไหนครับ”



“สองข ้างได ้มั้ยคะ ขอถ่ายเซลฟี่ด ้วย”




“อ่ะจัดมา”

ไอ ้ค่ายคือบิดาแห่งการอ่อยทุกสถาบัน มันไม่ได ้อ่อยแค่

ผมหรอกครับ แต่มันท ากับทุกคนไม่เลือกหน้า แค่ช่วงหลัง


นี้มาลงที่ผมหนักไปหน่อย แล ้วเป็นไง คนอย่างไอ ้เติร์ดก็

เจ็บอีกตามเคย ได ้แต่เก็บเกี่ยวกับความสุขในตอนนั้นมา

เป็นก าลังใจในการแอบชอบ ทั้งที่ไม่รู้ว่าสิ่งไหนกันแน่ที่เป็น

ความจริงกับความฝัน




“ไอ ้เติร์ดใกล ้ยังวะ ลูกค ้าต่อคิวยาวมาก” ไอ ้ทูหันมาถาม

ผม แต่สีหน้าก็ระริกระรี้กับสาวๆ ที่ก าลังยกนมเบียดแขนแม่

งอยู่ พอกันทั้งแก๊ง จะมีก็แต่ไอ ้โบนเนี่ยแหละที่เห็นใจเดิน


เข ้ามาช่วย



“ขอบใจมึงมากเลยว่ะ”




“อืม ชิ้นนี้สุกยัง”



“ยัง อีกนิดนึง”




“ท ายังไงให ้สุกเร็วๆ วะ กูจะเอาไปให ้น้องคนนั้น แม่งเอ็กซ์

ฉิบหายเลยโว ้ย”



“...” โอ ้โห! กูก็นึกว่ามึงมีน ้าใจไอ ้สัด




เอาที่มึงทั้งสามสบายใจเลยนะ ไอ ้เติร์ดไม่ขัดศรัทธาเพราะ

งานนี้กูเป็นขี้ข ้าให ้แบบไม่หวังทุนคืน เนื่องจากใครมาขอ

ถ่ายรูปขอหอมผมก็ปัดปฏิเสธหมด ไม่ได ้ฟรีกับทุกเรื่องเพื่อ


เงินขนาดนั้น



ร ้านไส ้ กรอก ‘ชายฉะกัน’ ของเราขายดีมาก ไม่ถึงครึ่ง

ชั่วโมงของก็หมด เป็นอันยุติสงครามการหาก าไรภายใน

คณะเพียงเท่านี้ จะรอสรุปผลอีกทีก็พรุ่งนี้ถึงจะได ้รู้ผู้ชนะ


ดังนั้นผมกับเพื่อนจึงรีบเก็บของทั้งหมดให ้เสร็จ ก่อนไอ ้ทู

จะดึงตัวผมแยกออกมาเพื่อพูดคุยอะไรบางอย่าง




“กูว่าจะคุยกับมึงหลายทีละ”



“มีไร”




“ช่วงนี้กูว่ามีบางอย่างมันแปลกๆ ว่ะ”



“ยังไง”




“เหมือนไอ ้ค่ายกับไอ ้โบนมีความลับอะไรสักอย่างที่ไม่ได ้

บอกเรา มึงลองจับตาดูแล ้วกัน”



“ความลับอะไร ท าไมกูไม่เคยสังเกตเห็นอะไรแปลกๆ


ของมึงสักที”

“กูก็ไม่แน่ใจ ช่วงหลังมานี้มันชอบปรึกษาห่าอะไรกันไม่รู้

บางวันก็โทรมากระซิบกระซาบท าตัวลับลมคมใน นี่กูเพิ่งรู้


ตอนไปนั่งเล่นที่ห ้องมันเมื่อคืนเนี่ยแหละ” ผมเริ่มขมวดคิ้ว

ไม่รู้เป็นเพราะการหยอดของไอ ้ค่ายที่มีมากขึ้นหรือเปล่า

แต่สุดท ้ายก็เลือกไม่พูดออกไป



“ยังไงมึงช่วยดูอีกแรงแล ้วกัน ส่วนกูจะหลอกถามไอ ้ค่าย


อีกที บางทีอาจเป็นเรื่องผู้หญิงที่มันหวังฟัน”



“เอาตามนั้น”




“โอเค” พูดจบคนตรงหน้าก็ยกกล ้อง DSLR ที่คล ้องคออยู่

ขึ้นมาจ่อที่ดวงตาอย่างรวดเร็ว




“จะถ่ายกูเหรอ”



“ใครมันจะอยากถ่ายวะ มึงบังนมน้องเขา ไปไกลๆ”




“ขอให ้มึงชวดไอ ้ควาย”



“เดี๋ยวมันจะเข ้าตัวเอง หลบไป”




ผมได ้แต่ถอนหายใจและเดินออกมาจากโฟกัสของเพื่อน

รัก บางทีกูก็สงสัยนะครับว่าถ ้าให ้เลือกระหว่างผมกับผู้หญิง

นมใหญ่พวกมันสามตัวจะเลือกอะไร แต่ในใจเกรงว่ามันจะ

เลือกผู้หญิงกันทั้งหมดมากกว่า




ผมยืนเคว ้งมองบรรยากาศของงานนิเทศฯ ได ้ไม่นาน ร่าง

สูงของใครคนหนึ่งก็ถลาเข ้ามาเกี่ยวคอพร ้อมกับเอ่ยชวนให ้

ไปท าอะไรสักอย่างด ้วยประโยคขี้เล่นของมัน




“เติร์ดจ๋า ดูหนังกลางแปลงกันมั้ยครับ”



“เชี่ย ขนลุกว่ะ เรียกชื่อกูดีๆ ก็ได ้มั้ง”




“ให ้เรียกไร ไอ ้สัดเหมือนเดิมมั้ย”



“ปากดีฉิบหายเลย ว่าแต่หนังเรื่องอะไรล่ะ”




“แฟนฉัน โอ ้เย...โอ ้เยโอ ้ๆ เย” แค่ได ้ฟังเสียงฮัมเพลง

จากล าคอของคุณชายขุนพล ผมก็คิดถึงบรรยากาศที่ตัวเอง

ปั่นจักรยานเล่นตามหมู่บ ้านทันที และคงไม่มีเหตุผลอะไรที่


ผมต ้องปฏิเสธ ไม่ใช่เพราะอยากร าลึกความทรงจ าในวัย

เด็กหรอก แต่นี่จะท าให ้ผมได ้ใช ้ เวลาอยู่กับไอ ้ค่ายมากขึ้น

ต่างหาก




“สองตัวนั่นล่ะ”

“เหี้ยทูถ่ายรูป ส่วนไอ ้โบนก าลังสนุกกับการปาบอลซุ ้ ม

สาวน้อยตกน ้าอยู่ มึงไม่ต ้องไปสนใจมันหรอก มากับกูนี่


ดีกว่า” มือหนาคว ้าข ้อมือของผมแน่น ก่อนจะพาเดินไปยัง

ฝั่งตรงข ้ามของเวทีการแสดง ซึ่งบริเวณนี้มีการขึงจอสีขาว

ขึ้นมา พร ้อมกับปูเสื่อแบบบ ้านๆ เพื่อให ้ชาวนิเทศฯ และ

นิสิตได ้มานั่งดูหนังกัน




“ต ้องซื้อตั๋วมั้ยวะ” ผมถาม คนข ้างๆ เลยส่ายหน้าไปมา



“ไม่ต ้อง แต่ต ้องเล่นเกมเพื่อรับบัตรเข ้าชมฟรี” พูดแค่นั้น


มันก็ลากผมให ้เดินไปยังโต๊ะเล็กๆ ด ้านข ้างที่มีทีมงานยืน

ประจ าอยู่ รุ่นพี่ปีสี่ส่งยิ้มมาให ้ก่อนจะทักทายพวกเราอย่าง

สนิทสนม พร ้อมกับแนะน าวิธีการเล่นเกมเพื่อแลกตั๋วเข ้าชม

และชิงของรางวัลไก่กาอาราเล่




“เป็นเด็กฟิล์ม ค าถามยากหน่อยน้า”



“เบย์ๆ”




“บอกชื่อหนังไทยที่เข ้าฉายในปี 2546 โดยห ้ามบอกชื่อ

แฟนฉัน” เหยดแหม่มึงเอ๊ย ปีนั้นหนังดังมีไม่กี่เรื่องหรอก ยัง

มาลิดรอนสิทธิ์ในการตอบของคนดูอีก




“กุมภาพันธ์มะ?”

“ถูก” ไอ ้ค่ายพูดจบ รุ่นพี่ก็ยื่นบัตรหนังให ้กับมันในทันที




“คิดเหมือนกูไอ ้สัด”



“ว ้ายยยยย ก็มึงช ้ าเอง” ผมได ้แต่ท าหน้าเอือมระอา กรอก

ตายืนระลึกชาติไปอีกพักหนึ่งถึงค่อยตอบ




“Sexphone”



“ขอชื่อเต็มค่ะ” ใครมันจะไปจ าได ้วะ ตั้งแต่เรียนรู้ที่จะดูหนัง


ผมเสพหนังไทยน้อยมากซึ่งไอ ้เพื่อนรักที่ยืนอยู่ข ้างๆ ก็คงรู้

ดีเมื่อเห็นท่าทีอึกอัก จึงอาสาตอบให ้อย่างภูมิใจ



“Sexphone คลื่นเหงา สาวหน้าบ ้าน”




“สาวข ้างบ ้านค่ะน้องค่าย”



“เชี่ยเอ๊ยยยยยยยยยยยย”




หมดกันที่กูคาดหวังในตัวมึง ปล่อยให ้รุ่นพี่แม่งหัวเราะจน

สะใจถึงได ้ยื่นบัตรหนังอีกใบให ้กับผม ก่อนเราจะเริ่ม

กิจกรรมชิงรางวัลตามค าเชื่อเชิญของพี่ปีสี่




“รับกระดาษไปคนละใบแล ้วเขียนค าตอบลงในนั้นค่ะ

เนื่องจากวันนี้เราฉายหนังรักเลยอยากให ้น้องเขียนชื่อหนัง

รักในดวงใจของตัวเองมาหนึ่งเรื่อง แล ้วส่งกลับมาให ้พี่


หนังฉายจบเมื่อไหร่เรามีรางวัลส าหรับคนที่ตอบชื่อหนัง

เหมือนกันด ้วยน้า อย่าลอกกันล่ะ”



ก็ไม่ได ้อยากได ้เท่าไหร่หรอกไอ ้รางวัลเนี่ย แถมไม่เซียน

แนวนี้ซะด ้วยเพราะดูน้อย ดังนั้นผมแทบไม่ต ้องคิดด ้วยซ ้า


ว่าจะเขียนชื่อหนังรักอะไรลงไป ไอ ้ค่ายเองก็เหมือนกัน

หลังจากเขียนเสร็จเราทั้งคู่ก็มานั่งอยู่ด ้านหน้าเพื่อรอการ

ฉายหนังในวัยเด็กของเรา




“มึงเขียนเรื่องอะไร”



“กูเหรอ ท าไมกูต ้องบอกมึงด ้วยวะ”




“กูเขียนเรื่อง one day แล ้วมึงล่ะ” คนตัวสูงพูดความในใจ

ออกมา แต่ผมเองก็ไม่คิดว่าคนอย่างมันจะชอบอะไรแบบนี้

เอาจริงตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมาสามปีใช่จะไม่รู้เลยว่ามันเป็น


คนยังไง และ...ชอบอะไร



“มึงอย่ามาตอแหล กูรู้หรอกมึงไม่ได ้เขียนเรื่องนี้”




“ฉลาดเป็นกรด ให ้กูทายมึงมั้ย”

“ไม่ต ้อง กูชอบ Love, Rosie”




“โรแมนติกมากครับเพื่อน เชื่อตายแหละ”



“หนังฉายแล ้ว”




ผมรีบตัดปัญหาด ้วยการบุ้ยปากไปยังจอขนาดใหญ่ที่ตั้ง

ตระหง่านอยู่ตรงหน้า ข ้างกายเรารายล ้อมไปด ้วยผู้คนมาก

หน้าหลายตาที่ต่างพากันมาย ้อนร าลึกวันเก่าๆ ไปด ้วยกัน


วันที่ผมได ้รู้จักเจี๊ยบกับน้อยหน่า ก่อนหน้าจะรู้จักกับไอ ้ค่าย

ตั้งหลายสิบปี



“เจี๊ยบตัดยางเราท าไม” ผมพูดติดตลก




“ยังไม่ตัดไอ ้สัด”



“แล ้วมึงเสือกอะไร”




เราเป็นแบบนี้เสมอ ตีกันบ ้าง เถียงกันบ ้าง ทะเลาะกันบ ้าง

แต่ไม่เคยนาน ไอ ้ค่ายเป็นเพื่อนสนิทของผม เราสนิทกันจน

รู้สึกกลัวว่าถ ้าเผลอบอกความในใจกับอีกฝ่ ายออกไป ทุก


อย่างก็จะไม่เหมือนเดิม นั่นเท่ากับว่า...ผมคงเสียมันไป

แล ้ว

ซึ่งแม่งคงเป็นเรื่องที่ท าใจไม่ได ้เลย




แฟนฉันเล่าเรื่องราวของเด็กชายและเด็กหญิงข ้างบ ้านที่

เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก โดยที่บ ้านของทั้งคู่ห่างกันเพียง

คูหาเดียว เรานั่งดูกันอย่างเงียบๆ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

อีกนอกจากจดจ่ออยู่กับหน้าจอของหนังเก่าที่สีฟิล์มเองก็

ผิดเพี้ยนไปตามเวลาที่หนังถ่ายท า




จนกระทั่งฉากไคลแม็กซ์ซึ่งอยู่เกือบตอนจบของเรื่องมาถึง

ผมจ าไม่ได ้แล ้วว่าครั้งสุดท ้ายที่ดูหนังเรื่องนี้คือเมื่อไหร่ แต่


มันคงนานมาแล ้ว เมื่อก่อนตอนเพิ่งมาเรียนฟิล์มแรกๆ ผม

ย ้อนดูบ่อยมากนับสิบครั้งแต่ก็ไม่ชินกับฉากนี้สักที



ฉากที่เจี๊ยบวิ่งตามรถของน้อยหน่าเพื่อคืนยาง...




“ขี้แยจังวะ”



“อะไร” ผมหันไปเผชิญกับใบหน้าเจ ้าเล่ห์ ก่อนจะพบว่า


มันก าลังยิ้มสนุกใส่อยู่



“ร ้องไห ้”




“ประสาทเหรอ ฝุ่ นเข ้าตา”

“โอ๋ๆ เพื่อนผมฝุ่ นเข ้าตาเลยร ้องไห ้ ไหนมาให ้กูดูฝุ่ นหน่อย

เร๊ว”




“เสือกกูจัง”



ผมดันหัวของมันออกห่างก่อนจะยกแขนเสื้อขึ้นมาปาด

น ้าตาออกจากแก ้ม แม่งน่าอายฉิบหาย แต่พอหันไปดูข ้าง


หลังผมก็พบว่าคนดูส่วนใหญ่ก็มีความรู้สึกไม่ต่างกัน จะมี

ตายด ้านก็เพื่อนกูเนี่ยแหละที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ โคตรโรค

จิตฉิบหายเลยครับ




“ถ ้ามึงเป็นเจี๊ยบมึงจะท ายังไง หมายถึง...ถ ้าวันนึงมึง

ได ้รับการ์ดแต่งงานจากน้อยหน่า” ค าถามนี้ดูมีสาระที่สุด

แล ้วตั้งแต่นั่งดูกับไอ ้ตัวเหี้ยนี่มา




“กูคง...ปล่อยให ้เขาได ้เจอคนดีๆ ส่วนตัวเองก็จะยินดีอยู่

ตรงนี้”




“โคตรพระเอก”



“แล ้วมึงอ่ะ”




“กูเหรอ กูจะล่มงานแต่ง”


Click to View FlipBook Version