The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kim.pongsakorn.26081998, 2019-06-10 12:45:47

tmp

อินทะโลดักฉัน



“สวัสดีครับ กลับมาเจอกันอีกครั้งทุกวันพฤหัส เวลาสอง

ทุ่มเป๊ ะๆ ไม่ขาดไม่เกิน หลายคนอาจจะสงสัยว่าท าไมช่วงนี้


ผมไม่ค่อยได ้ตอบแฟนเพจเลย ต ้องขอโทษจริงๆ ครับ

พอดีว่าผมติดภารกิจเรื่องเรียนนิดหน่อยแต่ตอนนี้ก็ได ้

เคลียร์ตัวเองมาเป็นที่เรียบร ้อย”




สัดกล ้องเบี้ยว ไอ ้ห่ากล ้องเบี้ยวเพิ่งสังเกต แต่ด ้วยความ

ที่ขี้เกียจลุกออกจากเตียงเดินไปปรับให ้เสียเวลา เลย

จ าต ้องถ่ายมันทั้งอย่างนี้นี่แหละ




“มาเริ่มกันเลยดีกว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนน้องที่คณะหรือ

แม ้แต่เพื่อนๆ เองก็ตามได ้บิ๊วให ้ผมไปดูหนังเรื่องหนึ่ง”

ผมหยุดชะงักไปชั่วครู่ สร ้างบรรยากาศให ้คนดูรู้สึก


ตื่นเต ้นอยู่นิดหน่อย ติ๊กต่อก ติ๊กต่อก...



“ใช่แล ้วครับ หนังเรื่องนั้นก็คือ...The girl that never

stopped laughing 2 หรือชื่อไทยที่ทุกคนคุ้นหูกันดีอย่าง


‘เด็กหญิงผู้ฮาดั้น’ ภาคสองครับ”



รัวมือสิไอ ้สัด! เดี๋ยวคลิปกร่อย




แต่ก็เหมือนว่าหน้าม ้าที่อุตส่าห์ไปกอดเข่าขอร ้องให ้มา

ช่วยจะหายไปจากสารระบบหรือไม่ก็ตายห่าไปก่อนแล ้ว ผม

เลยต ้องรีบขึ้นประเด็นใหม่อย่างเร็วรี่




“ตอนแรกเรื่องนี้มันไม่ได ้ดึงดูดผมเลยนะ แถมเขาบอกว่า

เรื่องราวไม่ได ้เกี่ยวกับภาคแรกด ้วย แล ้วมึงจะท าภาคต่อ

ท าเชี่ยอะไร แต่พอไปดูเท่านั้นแหละรู้เรื่อง! หนังเล่า

เรื่องราวของเด็กหญิงไฮสคูลปีสุดท ้ายคนหนึ่งที่ชื่อเอมี่ ซึ่ง

เธอมีอาการป่ วยติดตัวมาตั้งแต่เด็ก เวลาที่ได ้หัวเราะจะ


หยุดไม่ได ้ครับ จริงๆ จะเรียกว่าโรคกรามค ้างก็คงไม่ผิด แต่

ผมจะไม่สปอยต่อว่ามันเป็นยังไง ทุกคนต ้องไปโดนกันเอง

มาพูดถึงบท ภาพ และเพลงประกอบก่อน...”




หลังจากนั้นกระบวนการร่ายยาวก็เริ่มต ้นขึ้นผ่านการเล่า

เรื่องของผม




งงกันล่ะสิว่าผมเป็นใคร ถ ้าไม่รู้ก็จะย ้าให ้ฟังชัดๆ อีกครั้ง

ผมชื่อ ‘เติร์ด’ เป็นยูทูบเบอร์มือสมัครเล่น แต่จะบอกว่ามือ

สมัครเล่นก็คงไม่ถูกซะทีเดียวเพราะผมได ้สร ้างแอคเคาท์นี้

มาเกือบปีแล ้ว และถือว่าประสบความส าเร็จพอสมควร


เพราะมียอดสับตะไคร ้อยู่ที่สามหมื่นกว่าคน ส่วนแฟนเพจที่

บอกไปก่อนหน้ามียอดไลค์ปัจจุบันอยู่ที่สามหมื่นสี่พันคน

ถ ้วน




รู้สึกเป็นไอดอลเว่อร์

หลังจากอัดคลิปพูดคุยเรื่องหนังกันไปก็จะเข ้าสู่

กระบวนการตัดต่อ ใส่เสียง ใส่เพลง และอัพโหลดลงยูทูบ


ให ้ทุกคนได ้ดูกันเสร็จสรรพ นี่ถือเป็นงานอดิเรกของผม

และบุคคลส าคัญที่มักมีส่วนช่วยในงานอดิเรกเสมอก็คือ

เพื่อนรักคนนี้...



“มึง คลิปก่อนมีคนดูกูเยอะมากกกกกก” ถ ้าถามว่ามันช่วย


อะไรผม ก็ทุกอย่างนั่นแหละครับ แต่หลักๆ เห็นจะเป็นการ

นั่งฟังคนอย่างกูพล่ามเป็นน ้าไหลไฟดับเหมือนวันนี้




“สามร ้อยวิว”



“ฮะ”




“สามร ้อยวิว กูเพิ่งเปิดเข ้าไปดูเมื่อสิบห ้านาทีก่อน



“ยูทูบมึงมีปัญหาแน่นอน ลองดูใหม่นะ”




“ชื่อชาแนลมึงเลย รีวิวหนังเด็กหญิงผู้ฮาดั้น คนดูปัจจุบัน

314 วิว นี่คือเยอะของมึง?”



ห่า กูนึกว่ายังไม่กดเข ้าไปดู




“ถ ้าอยากให ้คนดูหลักหมื่นวันหลังมึงก็มาช่วยกูรีวิวสิวะ

เห็นมีมึงในคลิปทีไรยอดคนดูพุ่งพรวดๆ ตลอด” และค าพูด

นี้ก็มักเป็นจริงเสมอ




เราทั้งคู่เรียนนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์ ใครๆ ต่างก็

เรียกเราว่าเด็กฟิล์ม ตอนนี้ผมก็อยู่ปีสามแล ้วทั้งเรียนและท า

กิจกรรมจนแทบไม่มีเวลาว่าง แต่แปลก...มีสิ่งหนึ่งที่ผมกับ

เพื่อนสนิทอย่างมันมักท าด ้วยกันแบบไม่ขาดตกบกพร่อง


นั่นคือการตีตั๋วเข ้าไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ นั่งดูจนกว่า

หน้าจอที่ปรากฎเอนด์เครดิตจะเปลี่ยนเป็นสีด าเราถึงจะเดิน

ออกโรง พร ้อมกับค าวิจารณ์และการแลกเปลี่ยนทัศนคติ


อย่างออกรสออกชาติ



ผลพลอยได ้จากการท าอะไรแบบนี้ ท าให ้ผมต ้องเจียด

เวลามาท าช่องยูทูบเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับคนดู


ผมแค่อยากรู้ว่าชาวบ ้านเขาจะคิดเหมือนกันมั้ยหลังจากดู

หนังเรื่องนั้นจบ เหมือนทุกอย่างจะเป็นไปได ้สวยใช่มั้ยครับ

เออ...แต่บางครั้งก็เหมือนจะไปได ้แบบง่อยๆ ซะมากกว่า




วิดีโอของผมมักมีคนสนใจเข ้ามาดูไม่มาก แต่ที่มากเป็น

ปกติเห็นจะเป็นวิดีโอที่มีเพื่อนของผมเข ้ามามีส่วนร่วมด ้วย

ถ ้าเรื่องไหนมีมันมานั่งข ้างๆ รีวิวหนังด ้วย ฟันธงไว ้เลยว่าวิว

หลักหมื่นขึ้นแน่นอน




“ช่องมึง มึงก็รีวิวเองสิสัด”

“ก็ถ ้ามีมึงมันก็ดังกว่ามั้ยล่ะ”




“อย่ามาเกาะกระแสกูดังครับคุณเติร์ด กูไม่ใช่คนหล่อใจดี

ส าหรับมึง” ผมถูกมือหนาผลักหัวแรงๆ ไปที ก่อนเพื่อนรัก

หักเหลี่ยมโหดจะเดินจ ้าอ ้าวไปยังทางเดินเชื่อมตึก เร่งให ้

ผมต ้องรีบสับเท ้าตามอีกฝ่ ายไปไม่ห่าง




“แล ้วมึงหล่อส าหรับใครไม่ทราบ”



“หล่อส าหรับแฟนกูดิ”




จึ่ก! เหมือนโดนมีดปักลงตรงกลางใจ ความรู้สึกที่ว่าเจ็บ

จนพูดไม่ออกมันเป็นอย่างนี้นี่เอง




“แล ้ววันนี้ว่างป่ ะ จะชวนไปดูหนัง” ผมรีบเปลี่ยนเรื่อง

ทันที



“ไม่ว่ะ พอดีกูนัดกับแจมไว ้ว่าจะพาไปกินข ้าว ยังไงถ ้ามึง


อยากดูเรื่องไหนก็ดูไปก่อนได ้เลย” เคว ้ง คงเป็นประโยค

เดียวที่อธิบายความรู้สึกตอนนี้ได ้



ส าหรับผม...ค าว่าเพื่อนสนิทมันก็แค่สถานะที่เราสร ้าง


เอาไว ้เพื่อปกปิดความรู้สึกอะไรบางอย่างของตัวเองเท่านั้น

แหละ ความจริงกูเกลียดค านี้จะตาย ถ ้ามันหายไปจากโลก

นี้ได ้ก็คงดี เพราะผม...ก าลังแอบชอบเพื่อนสนิทข ้างเดียว

อยู่




ซึ่งบุคคลคนนี้ก็ใช่ว่าจะเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปเสีย

เมื่อไหร่ ไอ ้นี่มันมีสิ่งที่เหนือกว่าชาวบ ้านเขาอีกเยอะ และ

ผมก็รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับมันไปซะหมด




เพื่อนสนิทผมคนนี้ชื่อ ‘ค่าย’ ชื่อจริงชื่อนายขุนพล กริช

ภิรมย์ เกิดวันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน พ.ศ.เกิดขอไม่บอก

แต่ พ.ศ. ตายคือปีนี้แน่นอนเพราะกูจะฆ่ามัน




ไอ ้ค่ายเป็นคนกวนตีน มีพฤติกรรมแปลกประหลาดบาง

อย่างเช่น ชอบกินข ้าวกลางวันเวลาเที่ยงตรง เพราะ

กระเพาะของมันเป็นอวัยวะที่เที่ยงตรงที่สุดในโลก




“เฮีย! เหมือนเดิม”



“รอก่อนอาค่าย วันนี้ลูกค ้าเยอะ”




“ท ้องผมร ้องหนักมาก นี่เที่ยงแล ้วเฮีย”



“งั้นวันนี้ลื้อก็ต ้องไปแดกร ้านอื่น ขี้เกียจลัดคิว”




“เฮียมีอะไรเหลือบ ้าง แบบที่ตักกินเลยโดยไม่ต ้องท าให ้

เสียเวลาอ่ะ”




“เฮ่อออออ~”



“มีใช่มั้ยเฮีย”



“อากิมฮวย ลื้อไปเอาข ้าวเปล่าคลุกน ้าปลาให ้อาค่ายที”




“อีกแล ้วเหรอ เดือนนี้เฮียค่ายกินน ้าปลาหมดไปสองขวด

แล ้วนะเตี่ย”




แต่ทุกครั้งที่ผมเห็นมันกินข ้าวคลุกน ้าปลา เจ ้าตัวก็ไม่เคย

บ่นให ้ได ้ยินสักครั้งว่าไม่อร่อย มีแต่บอกว่าโชคดีที่ยังกิน

ทันเวลาซะอย่างนั้น ผมกลัวจริงๆ กลัวว่ามันจะตายห่าด ้วย


โรคไตมากกว่าแก่ตายไปพร ้อมกัน



ไอ ้ค่ายเป็นหนุ่มฮอต ถึงแม ้ไม่ได ้มีต าแหน่งการันตี แต่

ด ้วยความเจ ้าชู ้ ประตูดินบวกกับหน้าตาที่เข ้าขั้นอปป้าของ


สาวๆ ก็ท าให ้มันมีแฟนมาแล ้วเกือบทุกคณะ



“มึง ถามจริง ตั้งแต่คบกันมาเนี่ย มึงได ้นับมั้ยว่าเคยมี

แฟนมาแล ้วกี่คน”




“ไม่ว่ะ เยอะเกิน”

“สักนิดก็จ าไม่ได ้เหรอ”




“แล ้วมึงมาเสือกเรื่องเมียกูท าไมเนี่ยไอ ้เติร์ด”



“เอ ้า เพื่อนสนิทไม่มีสิทธิ์รู้เลยหรือไง”



“กูจ าไม่ได ้”




“เอางี้ ถ ้ากูพูดชื่อคณะอะไรมา มึงพอจะบอกกูได ้มั้ยว่า

เคยมีแฟนอยู่คณะนี้หรือเปล่า” เพราะกับบางคน บาง


ช่วงเวลา ผมก็ไม่รู้ไงว่ามันซุกกิ๊กเอาไว ้อีกหรือเปล่า ที่ควง

ออกหน้าออกตาว่าเยอะแล ้ว แต่ที่ไม่บอกอีกนี่คงมีอีกเป็น

ขบวน




“ว่ามาสิ”



“บริหาร”




“สามคนอ่ะ ชอบสุดคือน้อยหน่า” ฉาก ‘เจี๊ยบ ตัดยางเรา

ท าไม’ ผุดขึ้นมาในหัวทันที



“สถาปัตย์”




“เด็กเออาร์ ติสท์ดีแต่ขี้อ่อย ไม่ชอบ”

“ศึกษา”




“ดาวคณะที่ชื่อปอยไง”



“เกษตรล่ะเกษตร” เท่าที่รู้จักกับมันมา ผมไม่เคยเห็นมัน

ควงสาวคณะนี้เลย




“นางงามคันไถปีก่อนอ่ะ”



จึ่ก! ขนาดนางงามคันไถมึงยังฟาดเขามาแล ้วเลยเหรอ




“สายสุขภาพล่ะ แพทย์ ทันตะ เภสัช สหเวช พยาบาล”



“น่าจะครบแล ้วนะ”




“นิติ สังคม วิศวะ วิทยา”



“อืม”




“อืมคือส ้ นตีนไรวะ”



“คบหมดแล ้ว”




“ไอ ้ค่าย นี่มึงล่าแต ้มเหรอไอ ้สัด”

“แต่มีคณะเดียวและเมเจอร์เดียวที่กูไม่คบนะ”




“อะไร” ผมถามอย่างตื่นเต ้น เพราะนี่อาจเป็นความหวังที่

ท าให ้ผมได ้รู้ว่าจริงๆ แล ้วมันก็เป็นคนเลือกคบคนเหมือนกัน

...



“เด็กฟิล์ม กูถือคติไม่แดกเพื่อนร่วมเมเจอร์ว่ะ เข ้าใจกู


ใช่มั้ย”



อีกฝ่ ายตบบ่าผมปุๆ พร ้อมกับรอยยิ้มทรงเสน่ห์เหมือน


อย่างเคย จะให ้กูเข ้าใจอะไร เข ้าใจว่าถึงแม ้จะแอบชอบ

เพื่อนสนิทแค่ไหนแต่ก็ไม่มีวันได ้ลงเอยอยู่วันยังค ่าน่ะเหรอ

เจ็บสัด แต่ท าอะไรไม่ได ้นอกจากพยักหน้าเข ้าใจทั้ง...

น ้าตา




ไอ ้ค่ายเป็นคนไม่หวงของ แต่มีสิ่งหนึ่งที่มันหวงมากๆ

และใครก็แตะต ้องไม่ได ้นอกจากสาวๆ ในสต๊อกของมัน นั่น

คือบิ๊กไบค์ KTM 1190 ลูกรักที่ชื่อว่าชาร์ล




“สรุปวันนี้ไปดูหนังด ้วยกันมั้ย”



“ไปดิ”




“เอารถใครไป”

“มึงก็ขับรถของมึง ส่วนกูจะเอาชาวีไป”




“ชาวีไหน”



“ชาร์ลเป็นชื่อเล่น ชาวีเป็นชื่อจริง”



“มึงตลกเหรอ”




“กูจริงจัง”




“ขอซ ้ อนท ้ายชาวีมึงไปได ้มั้ย”



“คงไม่ได ้ว่ะ คันนี้ให ้ได ้แค่สาวนั่งเท่านั้น เข ้าใจตรงกันนะ

ครับเพื่อน”




เหมือนจะงงนิดหน่อยนะครับ แต่กูไม่เข ้าใจมากๆ



ไอ ้ค่ายเคยบอกกับผมว่า...การจะรักใครสักคน ถ ้าเขา


ชอบเราจริงเขาก็ต ้องมาหาเรา นั่นเลยเป็นเหตุผลที่มันไม่

เคยจู่โจมเข ้าหาเป้าหมายก่อน มีเพียงอีกฝ่ ายเท่านั้นที่ตบ

เท ้าเข ้ามาให ้มันไม่ขาดสาย




“มนุษย์เมียไลค์ว่ะ”

“ไลค์อะไร”




“รูปสาวที่กูคุย”



“นั่นไง แชทเด ้งละ ตอบซะสิ”



Mint Supreeya พี่คะ นี่ใครอ่ะคะ ไลค์รูปพี่เต็มไปหมด


เลย แถมมีเพื่อนร่วมกันกับพี่ด ้วย

Khunpol Krichpirom อ๋อ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันอ่ะครับ






ปลิ้นปล ้อนกะล่อนตอแหลนี่แหละนิสัยของมัน



และที่ส าคัญ...มันเป็นคนสลัดทุกอย่างในชีวิตได ้ง่ายมาก


กกกกก มากจนผมคิดว่าคนทั้งมหา’ลัยคงไม่มีใครเกิน



Rrrrrrr..!




“ครับ ก าลังไปเดี๋ยวนี้แหละครับ” เสียงเรียกเข ้าจาก

โทรศัพท์ของเพื่อนรักดังเข ้ามาในโสตประสาท ท าให ้ผม

ตื่นจากภวังค์ที่คิดย ้อนกลับไปไกลโขกลับมาที่ปัจจุบันอีก

ครั้ง




ใช่ ตอนนี้เราก าลังอยู่ตรงทางเดินเชื่อมตึก อีกสิบเมตร

ข ้างหน้าเป็นลานจอดรถและผมกับไอ ้ค่ายก็ต ้องแยกย ้ายกัน

ไปคนละทาง




“แจมมีอะไร”



“...”




“มันใช่เหรอ อย่างี่เง่าดิ”



“...”




“อย่าชวนทะเลาะ เบื่อ” เอาแล ้วไงพ่อมึงเอ๊ย หนังม ้วน

เดิม เล่นมาจนถึงฉากเดิมซ ้าๆ ไม่ไปไหน ผมว่าผมเคยดู

ฉากนี้มามากว่าสิบรอบแล ้วนะ ซึ่งทุกครั้งไอ ้ค่ายก็จะเป็น


เหมือนเดิมนั่นคือ…



“ท ้าเลิกอีกแล ้วเหรอ เอองั้นไปเลยครับพี่ไม่ว่า” จากนั้น

มันก็วางสายไป คงเป็นผมที่ต ้องเดินเข ้าไปตบบ่าปลอบใจ


เหมือนอย่างเคย



“มึง...โอเคป่ ะวะ”




“ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่” มันพูดด ้วยสีหน้าเศร ้าสลด ไม่เป็นไร

นะมึง กูยังอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน ถ ้ามึงไม่มีใครก็ยังมีกูเนี่ย

แหละที่คอยปลอบใจ กู...รัก...มึง




ติ๊ง!



เสียงไลน์เด ้ง อย่านะมึง อย่าหยิบมือถือขึ้นมานะไอ ้เพื่อน

เหี้ย อย่า!!




“น้องมิลค์บัญชีว่ะ” กูว่าตอนนี้หน้าของตัวเองคงเจื่อนกว่า

ไอ ้ค่ายเป็นร ้อยเท่า ขณะที่มือยังคาบ่าอีกฝ่ ายอยู่เลย




“แล ้ว...แล ้วท าไมวะ”



“ส่องอยู่”




“แต่มึงเพิ่งเลิกกับแจม อย่าบอกนะว่า...”



“กูไม่ได ้คบซ ้ อนเว ้ย ยังไม่ทันจีบน้องเขาเลย แต่ตอนนี้

โสดคิดว่าจีบได ้แล ้ว”




“...!!”



“กูไปก่อนนะ ขอตัวไปสร ้างสัมพันธ์กับความรักครั้งใหม่


แป๊ บ เจอกันพรุ่งนี้เช ้ า ฝากซื้อมาม่าคัพรสต ้มย ากุ้งให ้กูด ้วย

โคตรรักมึงเลยว่ะ”

“เดี๋ยวไอ ้ค่าย ไอ ้เหี้ย!” สุดท ้ายก็เหลือตัวคนเดียว


เหมือนเดิม



ผมจ าไม่ได ้แล ้วว่าตัวเองต ้องเผชิญกับเหตุการณ์แบบนี้

เป็นครั้งที่เท่าไหร่ ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผมชอบมันไม่

เคยมีวันไหนเลยที่มันจะหันกลับมามอง อาจเป็นเพราะผม


ไม่กล ้าที่จะบอกความใจในให ้อีกฝ่ ายรู้ด ้วยล่ะมั้งเรื่องมัน

เลยจบลงตรงที่ผมเสียใจอยู่ฝ่ ายเดียว




พรุ่งนี้มันก็จะมีคนใหม่ซ ้ อนท ้ายมอเตอร์ไซค์ของมัน

เหมือนอย่างเคย พรุ่งนี้จะมีเพียงผมที่เดินเข ้าไปหามัน

พร ้อมกับของกินที่มันชอบ แต่มันไม่เคยรับรู้ว่าคนให ้รู้สึก

ยังไง




พรุ่งนี้ความลับยังคงเป็นเพียงความลับ ถ ้าไม่อยากเสียมัน

ไปผมก็คงท าได ้แค่ปิดปากเงียบและแอบรักข ้างเดียวอย่าง

ที่เคยท ามาตลอด เศร ้าว่ะ แต่ท าอะไรไม่ได ้นอกจากเดินคอ


ตกกลับไปที่รถ



และทุกครั้งอีกเช่นกันที่เวลารู้สึกหดหู่ ผมจะกลับมาที่

ห ้องเพื่อเปิดเพลงในแล็ปท็อปเครื่องเก่าของตัวเอง แล ้ว


เดินตรงดิ่งไปยังห ้องน ้าทันที

ปล่อยให ้เพลงเศร ้าค่อยๆ ดังคลอเข ้าไปในหู ผมร ้องไห ้

ไม่ได ้ฟูมฟายแต่ก็ยังเสียใจ มือข ้างหนึ่งดันผนังเอาไว ้ ส่วน


อีกข ้างหมุนวาว์ลเปิดน ้าเพื่อให ้ความเย็นช่วยคลายความ

เศร ้า



เอ็มวีมา!




“ไอ ้สัด น ้าไม่ไหล”



หมดมู้ดละไอ ้เวร ต ้องรีบวิ่งออกไปรีพีทเพลงเก่าก่อนหัน


ไปหยิบขวดน ้าในตู้เย็นออกมา น ้าไม่ไหลก็แกะจากขวดน ้า

ดื่มเนี่ยแหละ สาดลงมา เอาให ้ใจพังกันไปเลย



ซ่า!!




ไอ ้ค่ายมึงควรรู้ไว ้ ว่ามึงท าให ้กูสูญเสียน ้าดื่มไปแล ้ว

เท่าไหร่ เปลืองบรรลัยเลยว่ะ...






ตอนที่ 1

Love Actually



ผมกับไอ ้ค่ายเป็นเพื่อนกันมานาน นับแล ้วตอนนี้ก็สองปี สี่

เดือน กับอีกสิบหกวัน มันช่างเป็นเวลาที่ยาวนาน...นานจน

เพื่อนที่เคยแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งได ้เสียกันจนเตียงหักไป

หลายหลัง ส่วนตัวเองนั้น...ยังไม่เฉียดกลายค าว่า ‘แฟน’

ส าหรับมันเลยสักนิด



คิดแล ้วก็เศร ้า เดินน ้าตาตกกลับเข ้ามาในห ้อง หยิบเอาขวด

น ้าจากในตู้เย็นมาสาดย ้อมใจไปก่อน เทไปได ้สองขวดน ้าก็

หมด หากแต่ความเสียใจยังคงตกค ้างไม่หายไปไหน ผม

เลยรีบหาทางออกให ้กับตัวเองด ้วยการคว ้าโทรศัพท์บ ้านที่ ิ

อยู่ตรงหัวเตียงขึ้นมาต่อสายหาใครคนหนึ่ง



“พี่...น ้าไม่ไหลมาซ่อมหน่อย”



“…”



“ก าลังเศร ้าอยู่ครับ อยากสาดน ้าย ้อมใจ”



“…”



“พี่รีบพาช่างมาเร็วๆ เลยนะครับเดี๋ยวผมจะรีพีทเพลงรอ”

พูดจบก็รีบตัดบทด ้วยการวางสายก่อนทิ้งตัวลงบนเตียง

อย่างหมดอาลัยตายอยาก ชื้นไปหมดแล ้วเตียงกู...



วันนี้ไอ ้ค่ายก าลังเดินหน้าจีบใครคนใหม่อยู่ ถามว่าเจ็บมั้ย

จะตอบว่าไม่เจ็บมันก็คงโกหกกันเกินไป แต่ระยะเวลาสองปี

ไม่ได ้ท าให ้ผมเข็ดหลาบกับแอบการรักข ้างเดียวเลยสักนิด

ก็เคยบอกกับตัวเองเป็นสิบๆ ครั้งเหมือนกันว่าพอละ เลิก

ชอบ หนีไปอเมริกาเหมือนในละครดีกว่า แต่ในความเป็น

จริงกูก็ยังเรียนไม่จบ



ลองหายไปจากชีวิตอีกฝ่ ายดูเผื่อมันจะคิดถึง แต่อีกวันแม่ง

ก็เสือกเจอกันในคลาสตอนแปดโมงเช ้ าแบบมึนๆ



ถ ้าย ้ายคณะ แล ้วกูจะไปเรียนเหี้ยอะไร



อยากไปหาคนชอบใหม่เผื่อจะได ้ลืมๆ ไปบ ้างก็ไปไม่รอด

เหมือนอย่างเคย



วันไหนอยากหากิจกรรมท าเพื่อไม่ให ้ตัวเองฟุ้งซ่าน ผม

กลับพบว่ากิจกรรมนั้นมักมีไอ ้ค่ายเข ้าไปมีส่วนร่วมด ้วยเสมอ

เช่นไปดูหนัง มันก็มักโผล่ไปด ้วย กินข ้าว เราก็มีร ้านประจ า

ร ้านเดียวกัน ยิ่งแอลกอฮอล์ยิ่งไม่ต ้องพูดถึง พี่ค่ายโต๊ะสิบ

แปด ส่วนพี่เติร์ดแน่นอน...



โต๊ะสิบแปดเหมือนกัน ร าคาญไอ ้สัด!



สรุปแล ้วก็อยู่นี่แหละ อยู่ดูหนามต าใจตัวเองไปเรื่อยๆ



เบื่อค าว่าเพื่อนสนิทแต่ท าอะไรไม่ได ้ เหมือนมันเป็นค าที่

ยิ่งใหญ่ส าหรับผู้ชายมาก และถ ้าเป็นไอ ้ค่ายด ้วยแล ้ว ผม

บอกเลยว่ามันบูชาค านี้เอาไว ้เหนือหัว ใครก็ห ้ามเปลี่ยน

สถานะมัน ไม่ว่าจะจากเพื่อนเป็นคนรัก หรือแม ้แต่เพื่อน

กลายเป็นศัตรูก็ตาม

ผมกับมันเรียนนิเทศฯ เราคบกันหมดไม่ว่าจะเป็นเพศไหน

เพราะต ้องท างานร่วมกัน ยิ่งปีท ้ายๆ ยิ่งไม่ต ้องพูดถึง งาน

กลุ่ม โปรเจ็กต์กลุ่มดาหน้าเข ้ามาให ้ท าจนล ้นมือ



ติ๊ง! โทรศัพท์มือถือที่ถูกปาลงบนเตียงดังขึ้น ผมหันขวับไป

มองชั่วครู่พร ้อมกับบอกตัวเองซ ้าๆ ว่าห ้ามกดเข ้าไปดู

เด็ดขาด ที่ท าได ้คือรอช่างมาซ่อมท่อกับเปิดเพลงเดิมๆ วน

ไปเพื่อบิ๊วอารมณ์เท่านั้น



ติ๊ง! ติ๊ง! ติ๊ง!



ร ้องเพลง กูต ้องร ้องเพลง ต ้องไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นใน

นั้น



“เก็บอารมณ์ เก็บเอาเรื่องราวนั้นทิ้งไป

เก็บเอาแรงที่จะใช ้ รักใครไว ้กับตัวเอง

ดีกว่าเอาไปเสียน ้าตา…”



หนึ่งนาทีผ่านไป...ช่างยังไม่มา



“เก็บเอาใจ เก็บเอารักที่ให ้เขาไป

เก็บเอาความตั้งใจ

และฝันที่เคยวาดไว ้กับเขา

เก็บคืนมาอย่าเปลืองหัวใจ”



ห ้านาทีผ่านไป...กูฟังเพลงเดิมไปสองรอบ…

“ฝืนใจเอาหน่อย ถึงยังรักแต่เขาไม่รัก

เราคงต ้องปล่อย ปล่อยให ้เขาไปดีกว่า



แล ้วมันจะผ่านไปด ้วยดี

แล ้วใจของเธอจะเปลี่ยนไป

แล ้ววันหนึ่งเขาจะหายไป

แม ้วันนี้จะยังรู้สึก แม ้จะยังคิดถึงเขาอยู่ทุกลมหายใจ…”



ตอนนี้สิบนาทีละ กูทนไม่ไหวแล ้วโว ้ยยยยยยยยยยย

ตัดสินใจเป็นครั้งสุดท ้ายด ้วยการหยิบมือถือบนเตียงขึ้น

มาแล ้วกดปุ่ มโฮมตามสเต็ป เสือกแม่งให ้ตายกันไปเลย



แน่นอน คนที่อยู่ในแจ ้งเตือนเมื่อสิบนาทีก่อนยังคงเป็น

เพื่อนสนิทของผม เพราะกรุ๊ปไลน์ ‘ชายฉะกัน’ ก าลังสนุก

กับการคุยประเด็นของไอ ้ค่ายกันอย่างเมามันแม ้จะมีสมาชิก

อยู่เพียงสี่คนก็ตาม





BoneChone

มึงโสดทีไรนี่แอดสาวระนาวเลยนะเชี่ยค่าย



Tatt’oo

เรียกได ้ว่านั่งไล่แอดแบบเป็นจริงเป็นจังจะดีกว่าไอ ้สัด



BoneChone

ประกาศเพื่อนโสดโปรดรับแอด

แล ้วดูไอ ้ตัวดีมันตอบ เคยปฏิเสธอะไรกับเขาซะที่ไหน



K.Khunpol

อะไร กูไม่ได ้แอด เค ้ามาเอง



Tatt’oo

กูว่าเดี๋ยวมึงก็ไม่โสดอีก ไอ ้เติร์ดมึงหัดปรามที่รักมึงบ ้าง



ซึ่งประโยคที่ผมตอบได ้ก็มีแค่...



เติร์ดที่แปลว่าสาม

เกี่ยวไรกับกูวะสัด



มันจะรักกับใครไม่เห็นเกี่ยวกับกูเลย ผมไม่ใช่แฟนมันซะ

หน่อยแม ้ในใจจะแอบหวังมานานแล ้วก็ตาม แถมยังเคยฝัน

อีกว่าวันหนึ่งมันอาจแชทมาบอกชอบผมในกรุ๊ปไลน์ ฝันมา

นานตั้งสองปีจนตอนนี้ไอ ้ค่ายเปลี่ยนเมียไปเป็นสิบ กว่าจะ

ตกมาถึงกูได ้คงเหลือแต่กระดูก



K.Khunpol

เกี่ยวดิ

มึงคือเพื่อนที่อยู่กับกูเสมอตอนที่ไม่เหลือใครนะ



เติร์ดที่แปลว่าสาม

มึงไม่ต ้องมาพูดดีไอ ้เหี้ย

มีช่วงที่มึงไม่เหลือใครด ้วยเหรอ กูจ าไม่ได ้

Tatt’oo

555555555555555555555




บทสนทนาถูกตัดไปหลังจากเลขห ้านับไม่ถ ้วนถูกพิมพ์

กลับมา ผมไม่ลืมหรอกว่าวันนี้มันหนีไปคุยกับใครบ ้าง

เพราะงั้นถึงต ้องถอยกลับมารักษาแผลใจก่อน แม ้มันจะ

เกิดขึ้นปีละหลายครั้งก็ตาม




Rrrrrr...!




สิ้นเสียงเตือนจากไลน์ไม่เท่าไหร่ผมก็ต ้องขมวดคิ้วกับเสียง

เรียกเข ้าจากมือถือแทน ซึ่งเจ ้าของเบอร์ก็คงไม่ใช่ใครที่

ไหน หากแต่เป็นไอ ้เพื่อนรักหน้าหม ้อที่ผมก าลังนึกด่าในใจ

เมื่อครู่นี่เอง




แปลกดี ผมไม่สามารถห ้ามใจตัวเองไม่ให ้ปฏิเสธสายของ

มันได ้เลยสักครั้ง ไม่รู้ไอ ้ค่ายมันท าเสน่ห์เอาไว ้หรือเปล่า

แต่ทั้งน ้าเสียง ทั้งค าพูด ทั้งเสียงหัวเราะที่ได ้ยินแม่งก็ท า


ให ้คนฟังหลงไปตามๆ กัน ไม่ใช่แค่ผู้หญิงหรอก กูก็คือหนึ่ง

ในนั้น!



“มีไร” ทันทีที่รับสายเสร็จ ก็กรอกเสียงลงไปห ้วนๆ ทันที จะ


ท าตัวอ่อนโยนกับมันไม่ได ้ เดี๋ยวแม่งก็ได ้ใจอีก

[ว่างป่ ะ อยากชวนออกมาข ้างนอก]




“อะไรของมึง ไหนบอกจะไปสร ้างความสัมพันธ์ใหม่กับน้อง

มิลค์บัญชีไง”



[ก็เออไง แต่เหมือนกูจะเจอเรื่องทะแม่งๆ ว่ะ] เสียงทุ้มตอบ

กลับอย่างเร็วรี่




“ทะแม่งตรงไหน”




[ยังไม่ชัวร์ ตอนนี้กูนัดเจอกับน้องแล ้ว เลยอยากให ้มึงแวะ

มาหาหน่อย]



“นัดเจอน้องแล ้วจะเรียกกูไปเป็นก ้างขวางคอท าไม แค่นี้นะ


ที่ห ้องน ้าไม่ไหล” จากนั้นผมก็รีบวางสาย ไม่เปิดโอกาสให ้

มันได ้พูดอะไรออกมาอีก แค่นี้ก็เจ็บสัดๆ อยู่แล ้ว มีคนปกติ

ที่ไหนบ ้างที่จะมานั่งดูคนที่ตัวเองชอบจีบคนอื่นอย่างหน้า

ชื่อตาบาน มึงไปหาในเอ็มวีเพลงไทยเถอะไอ ้สัด




รักแท ้ไม่ใช่การครอบครอง ไม่ใช่พ่อง!



ถ ้าไม่รักแล ้วมีความรู้สึกว่าไม่ได ้อยากเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต


เขามันไม่เรียกว่ารักหรอก มันก็แค่ค าพูดของคนที่รักไม่

พอแล ้วพูดว่าตัวเองเป็นคนดีเท่านั้น หรืออีกอย่างหนึ่งก็คือ

มึงโกหกตัวเองเหมือนที่ผมมักท า

ตบบ่าปลอบใจ พร ่าแต่พูดไม่เป็นไรทุกครั้งตอนที่ไอ ้ค่าย


เลิกกับคนเก่า แล ้วได ้แต่ยิ้มปั้นหน้าน ้าตาตกในตอนมัน

เปิดตัวแฟนใหม่ในอีกไม่กี่วันต่อมา ทุกอย่างในชีวิตผมวน

ลูปแบบนี้ไม่มีที่สิ้นสุด ถามว่าอยากหาใหม่มั้ยมันก็มี

ความคิดนี้ผุดขึ้นมาบ่อยเหมือนกัน แต่สุดท ้ายผมก็ไปไม่

รอดเพราะความซื่อตรงของตัวเอง




ถ ้าเป็นคนลืมอะไรง่ายๆ เหมือนไอ ้ค่าย ตอนนี้ผมคงมี

ความสุขไปแล ้ว ไม่ต ้องจมปรักกับคนๆ เดียวมาถึงสองปี


หรอก



คิดแล ้วก็ได ้แต่นอนซึม รอให ้ช่างมาซ ้ อมท่อและร ้องเพลง

ต่อไป




“เป็นทุกอย่างให ้เธอแล ้วแม ้ว่าเธอไม่เคยเป็นอะไรกับฉัน

เลย...”




พูดแล ้วก็เปลี่ยนไปเปิดเพลงใหม่ เอาให ้ชอกช ้าระก าใจแล ้ว

พรุ่งนี้ผมจะกลับไปเป็นไอ ้เติร์ดคนเดิมที่ยอมรับทุกอย่างได ้

และท าตัวเท่ๆ ของกูต่อไป




เช ้ าวันรุ่งขึ้นผมมาเรียนตามปกติ เด็กนิเทศฯ ชอบมีที่สิง

สถิตอยู่ไม่กี่ที่ หนึ่งโรงอาหารนิเทศฯ และสองใต ้ต ้นไม ้หน้า

ลานกิจกรรมที่จะมีโต๊ะไม ้เรียงรายเต็มไปหมด ทุกคนคือเจ ้า

ที่!




พวกผมจะมีโต๊ะประจ าอยู่ เช ้ ามาก็ต ้องมานั่งที่นี่ กินข ้าวก็

กินที่นี่ ท าทุกอย่างเสมือนเป็นพื้นที่ส่วนตัว อย่างที่บอกว่า

กลุ่มผมมีกันอยู่สี่คน คบกันมาตั้งแต่ปีหนึ่งแต่กว่าจะเหวี่ยง

คนมาครบได ้ขนาดนี้ก็ใช ้ เวลาเกือบหมดเทอมถึงจะลงตัว




เมื่อก่อนผมไม่ได ้อยู่แก๊งนี้หรอก แต่คนที่นิสัยเหมือนกัน

มักจะอยู่ด ้วยกันได ้ เพราะงั้นหลังจากอยู่กับแก๊งเก่าไม่รอด


ผมเลยต ้องวิ่งมาซบอกกลุ่มใหม่ ซึ่งก็คือไอ ้พวกนี้แหละ



หลายคนชอบเรียกเราว่า ‘แก๊งโหด’




หน้าตาเราไม่ได ้โหด แต่นิสัยเฉพาะบางอย่างของแต่ละคน

ต่างหากที่โหดจนเป็นที่กล่าวขาน รุ่นพี่และรุ่นน้องในมหา’

ลัยส่วนใหญ่ที่ไม่สนิทด ้วยแทบไม่เรียกชื่อพวกเราเลยด ้วย

ซ ้า แต่จะใช ้ ค าว่าโหดแทนชื่อทั้งสี่คนแทน สรุปแล ้วผมสี่


คนแม่งชื่อโหดหมด สัด!



แต่ถ ้ามองดีๆ เรียกไอ ้โหดก็ดีกว่าเรียกไอ ้เหี้ยไปหลายขุม

เวลามีข่าวลือหนาหูเรื่องไอ ้โหดทีไรก็จ าต ้องมาวิเคราะห์


แล ้วแหละว่าหมายถึงใครคนไหน เพราะแต่ละคนก็รวมพวก

คนดีที่สังคมหวาดกลัวทั้งนั้น

“ไอ ้สัด มึงมาสาย” เสียงที่เอ่ยขึ้นเป็นเชิงล ้อเลียนนี้เป็นของ

‘ไอ ้ทู’ สมาชิกคลาส VIP ของความโหด




เจ ้าของทรงผมสุดเซอร์ที่ยาวจนต ้องมัดเป็นมวยไว ้ด ้านหลัง

วันนี้มันสวมชุดนิสิตแขนสั้นมาแถมยังไม่ชอบผูกไทด์

เหมือนเดิม เอาจริงในกลุ่มเราแทบไม่รู้จักการผูกไทด์ด ้วย

ซ ้าหลังจากขึ้นปีสอง




ไอ ้ทูเป็นคนมีความสามารถ โดยเฉพาะเรื่องถ่ายภาพต ้องยก

ให ้มันเป็นอันดับหนึ่งของรุ่น ความโหดที่ทุกคนกล่าวขาน


ไม่ได ้อยู่ที่ความเก่งของแม่งหรอก หากแต่อยู่ที่รสนิยมใน

การถ่ายภาพมากกว่า เพราะคุณทูเขาถ่ายแต่แนวเซ็กซี่ เน้น

ผู้หญิงทรงตู้มสะบึ้มฮึ่มเท่านั้น ภาพธรรมชาติ วิว ต ้นไม ้ห่า

อะไรอย่าถามมัน ไอ ้นี้รู้อย่างเดียวคือการหามุมหน้าและมุม


นม



นิสัยส่วนตัวคือกินจุ ขี้เรื้อน แต่สาวก็ติดมันตรึมเพราะขึ้นชื่อ

ว่าเป็นหนุ่มเซอร์มีเสน่ห์หาตัวจับยาก แถมในแกลอรี่ผลงาน


ภาพถ่ายของมันยังเต็มไปด ้วยนางแบบสวยๆ ซึ่งส่วนใหญ่

นั้น...เคยเป็นแฟนของมันมาก่อน



“โทษทีว่ะมึง เมื่อคืนกว่าช่างจะซ่อมท่อน ้าได ้ก็เอาซะดึก”


ผมพูดพลางนั่งลงตรงเก ้าอี้ ก่อนคนที่นั่งฝั่งตรงข ้ามซึ่ง

ก าลังก ้มหน้าแดกข ้าวอยู่นั้นจะเงยขึ้นมาถามบ ้าง

“ซ ้ อมท่อหรือซ่อมแอร์ในต านาน”




“ไอ ้โบน ไอ ้เหี้ย”



“ฮ่าๆๆ ผมไม่เล็กนะครับคุณเติร์ด”



ไอ ้ปากหมานี่ชื่อ ‘โบน’ หนึ่งในสมาชิกยุคแรกที่ก่อตั้งแก๊ง


โหดขึ้นมา จริงๆ มันสนิทกับไอ ้ค่ายมากกว่าผมอีก เพราะ

เป็นคนไปไหนไปกันได ้ทุกที่ ถ ้าเขาบอกให ้ไปนรกมันก็จะ

ไป




ไอ ้โบนเป็นผู้ชายผิวแทนที่ตัดสกินเฮดคนเดียวในกลุ่ม

ด ้วยลุคแบดบอยประกอบกับนิสัยยียวนกวนตีนท าให ้ใคร

หลายๆ คนตกหลุมพรางมานักต่อนัก




การหลีสาวคืองานอดิเรกของมัน แต่แปลกเหมือนกันที่มัน

ไม่เคยลงมือจีบใครสักคน ไม่ใช่เพราะก าลังรอคอยรักแท ้

หรอก หากแต่ผู้หญิงไม่เปิดโอกาสให ้มันได ้จีบเพราะมัก


เป็นฝ่ ายเดินเข ้าหาเองเสียมากกว่า



“แล ้วนี่คุณชายขุนพลไม่มาอีกเหรอ”




“ไม่รู้มัน สงสัยติดสาวอยู่เลยนอนตื่นสาย”

“ต ิดสาวหรือติดสัด” ไอ ้ทูเสริมทันที




“คงพอๆ กับมึงนั่นแหละ ปล่อยๆ มันไปเหอะ” ปลงละ ไม่

อยากเอาใจเข ้าไปยุ่ง...



“พูดถึงกูอยู่เหรอ”




ตายยากตายเย็นฉิบหายเลยเว ้ย เจ ้าของเสียงทุ้มที่ก าลัง

เดินตรงดิ่งมาที่โต๊ะท าให ้ผมกับเพื่อนอีกสองคนต ้องหันไป

มอง วันนี้ไอ ้ค่ายสวมชุดนิสิตแขนยาวที่พับแขนเสื้อไป


ครึ่งหนึ่งกับกางเกงยีนลูกรักตัวละหลายหมื่นของมัน แม่ง

เคยบอกกับผมเว ้ยว่าใส่แล ้วเป้าจะมีเสน่ห์ และทุกวันนี้เป้า

มหาประลัยของมันก็โคตรมีเสน่ห์ต่อทุกเพศจริงๆ




ส าหรับไอ ้ค่าย ผมรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวของมัน ฝันเปียก

ครั้งแรกในชีวิต แฟนคนแรก อกหักครั้งแรก และสารพัดที่

เป็นเรื่องส่วนตัวผมก็เสือกจนรู้หมด มันเป็นเจ ้าของรูปร่าง

สูงโปร่ง ผิวขาวเนื่องจากมีเสี้ยวจีนอยู่ แต่ทรงผมและการ


แต่งตัวของมันบอกเลยว่าห่างไกลจากค าว่าตี๋เยอะ



ไอ ้นี่ก็สายโหดของกลุ่มเหมือนกันในเรื่องของความหน้า

หม ้อ เจ ้าชู ้ ดีที่หล่อและมีตังค์เยอะ ดูเหมือนจะเป็นผู้ชาย


เพอร์เฟ็กต์แต่บอกเลยว่ามันโง่ครับ โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่

ควรโง่

“มึงมาก็ดีละไอ ้ค่าย ไหนมาให ้เพื่อนสัมภาษณ์หน่อยเร๊ว”

เมื่อมากันครบองค์ บทสนทนาถามตอบเรื่องสาวๆ ก็ถูกจุด


ประเด็นขึ้นอย่างรวดเร็ว



“สัมภาษณ์เหี้ยอะไรล่ะ”



“เมื่อคืนได ้จึ๊กๆ กันยัง” ไอ ้โบนถาม ใจผมก็เหมือนถูกมีด


คมๆ ปักลงกลางใจ



“ไม่ได ้ว่ะ”




“ห่า ไอ ้คนไม่มีน ้ายา”



“จับได ้ซะก่อน น้องแม่งคุยกับคนอื่นอยู่เว ้ย มึงก็รู้ว่ากูไม่


ชอบเป็นตัวส ารองของใคร” ใช่! ทุกคนรู้ดี ไอ ้ค่ายค่อนข ้าง

มีความมั่นใจในเสน่ห์ของตัวเองพอสมควร ทุกครั้งที่มันเดิน

เข ้าหาใครก็แทบไม่เคยถูกปฏิเสธ แล ้วยิ่งถ ้ามารู้ว่าคนที่คุย

อยู่ก าลังจัดมันเข ้าไปอยู่ในโหมดคุยเผื่อเลือกล่ะก็...




อย่าหวังเลยว่าจะได ้คุยกับมันอีก



“แล ้วท าไง”




“เทสิถามได ้ เจ็บใจฉิบหาย บอกรุ่นพี่คนนั้นเขาก็ดี เออ...ดี

สินั่นเดือนมอ” มันสบถเสียงเครียด นานมาแล ้วที่ผมไม่เห็น

ท่าทางแบบนี้




“เดือนมอแล ้วไง เดือนมอกากๆ ก็เยอะ” ผมปลอบใจเพื่อน

รักด ้วยการพูดให ้ก าลังใจ แม ้ลึกๆ จะแอบรู้สึกดีที่เจ ้าตัว

ไม่ได ้สานต่อความสัมพันธ์กับน้องเขา




“ไม่เหมือนมึงเนอะ ไม่เป็นเหี้ยอะไรก็ยังกาก”



“สัด” กูล่ะเกลียดไอ ้ทูฉิบหาย มีห่าอะไรก็แซะกูหมด




ผมเป็นสมาชิกคนที่สี่ของแก๊งโหด ตอนแรกก็สงสัยว่ากู

โหดตรงไหน แต่พอไปถามน้องรหัสหรือเพื่อนรหัสดูทุกคน

ก็ตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า ผมโหดในเรื่องชอบท าร ้ายจิตใจ


คนอื่น



เอาตามจริงตั้งแต่เข ้ามาเรียนปีหนึ่ง มีคนเข ้ามาในชีวิตผม

ค่อนข ้างมาก และทุกคนก็หวังประโยชน์ว่าจะได ้พัฒนา


ความสัมพันธ์ แต่สุดท ้ายผมก็มักตัดเขาออกจากชีวิตด ้วย

การปฏิเสธตรงๆ ทุกคนเลยชอบด่าว่าผมมันเหี้ยที่ท าให ้เขา

เสียใจ




ก็ถ ้าไม่ติดว่ากูชอบไอ ้ค่าย กูมีเมียไปเป็นร ้อยละไอ ้เหี้ย!

เวลารักหรือชอบใครผมจะไม่แสดงอาการ ไม่บอก ไม่พูด

อะไรทั้งนั้น บางครั้งเหมือนจะเป็นพวกปากแข็งแต่เมื่อดู


สถานการณ์แล ้วประเมินว่าคนคนนั้นไม่มีทางชอบเราผมจะ

ไม่เอาตัวเข ้าไปเสี่ยงด ้วยการบอกชอบ เหมือนที่ผมก าลัง

ท าอยู่กับไอ ้ค่ายทุกวันนี้



เพราะถ ้าบอกชอบมันในวันที่มันยังไม่หยุดตัวเอง และก็ไม่


แน่ใจว่าจะพร ้อมเปิดรับเราหรือเปล่า สุดท ้ายผมอาจจะเสีย

มันไป




“วันนี้โดดมั้ย...” ไอ ้ค่ายพูดออกมาสั้นๆ เราสามคนที่

เหลือเลยมองหน้ากันลอกแลก



“ก็ดีนะ กูไม่อยากเรียนของสมพงษ์พอดี”




“กูก็ด ้วย”



“เอาก็เอาวะ”




เราสี่คนเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก และความคิดหลายอย่าง

ก็ตรงกันอย่างน่าใจหาย เวลาใครขอโดดเราก็พากันยกไป

ทั้งก๊วน ไม่เคยมีคนใดคนหนึ่งห ้ามหรือทักท ้วงอะไร เจริญ


มันเข ้าไปสิมึง

ดังนั้นหลังจากเรียนในคาบเช ้ าเสร็จพวกผมก็โดดกันมา

เดินเล่นห ้างให ้สบายอารมณ์ นั่งแดกข ้าว หลีสาว แชร์เฟ


ซบุ๊ก แอดไลน์ผู้หญิงกันอย่างมีความสุข ใกล ้ค ่าหน่อยทุก

คนก็แยกย ้ายเพราะมีนัดส่วนตัว คงเหลือผมกับไอ ้ค่าย

เท่านั้นที่นั่งมองหน้ากันอยู่สองคน

“ไอ ้เติร์ด”




“ไร”



“ไปตัดผมกัน กูอยากเปลี่ยนลุค” ไม่รู้เป็นเหี้ยอะไร แต่


ผมคิดว่าสาเหตุอาจมาจากการที่มันรู้สึกเสียเซลฟ์ กับผู้หญิง

คนนั้น ซึ่งผมก็ไม่สามารถขัดมันได ้นอกจากพยักหน้าแล ้ว

เดินตามมันเข ้าไปที่ร ้านท าผม




เดิมทีไอ ้ค่ายผมค่อนข ้างยาวเพราะมันกะเลี้ยงไว ้แข่งกับ

ไอ ้ทูด ้วยภารกิจพิชิตส ้ นตีนอะไรของมันก็ได ้รู้ แต่วันนี้ทุก

อย่างก าลังจะเปลี่ยนไปเมื่อมันได ้ย ้ายก ้นตัวเองไปนั่งบน

เขียง




ใช ้ เวลานั่งๆ นอนๆ อยู่ที่ร ้านเป็นชั่วโมงสุดท ้ายไอ ้ค่ายคน

เก่าก็ได ้ตายไปทันทีที่เจ ้าตัวลุกออกจากเก ้าอี้ หลังจาก

พนักงานท าการสระไดร์ทุกอย่างให ้เสร็จสรรพ




“เป็นไง” มันถามพลางยักคิ้วหลิ่วตาให ้

“ดูสารเลวกว่าเดิมร ้อยเท่า” ผมจ ้องหน้ามันอยู่อย่างนั้น

จ ้องจนแทบจะแดกหัวอีกฝ่ ายอยู่รอมร่อ อาจเพราะไม่ชิน


หรือการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มันเร็วเกินไป โลกของผมถึงได ้

โคลงเคลงไปมาไม่หยุด



ไม่มีแล ้วนายขุนพลที่ตั้งใจเลี้ยงผมยาวๆ เพราะต ้องการ

จะคีปลุคเซอร์ เหลือเพียงไอ ้ค่ายผู้ชายหน้าเลวๆ คนหนึ่ง


เท่านั้น



ไม่รู้มันพูดกับที่ร ้านว่ายังไง แต่อันเดอร์คัตสูงแถมยังท า


straight line ตรงบริเวณที่ไถผมออกยิ่งสร ้างลุคแบดบอย

ของมันได ้เป็นอย่างดี จิวหูสีด าที่เจาะขึ้นไปสามรูติดสร ้าง

เสน่ห์ให ้กับเจ ้าของเป็นอย่างมาก ท าเอาคนในร ้านหันมาชื่น

ชมมันไม่ขาดปาก




น้องดีอย่างงั้น งานดีอย่างนี้ เออ! ยอมรับก็ได ้


“ไปดูหนังกัน”




“ฮะ” มันเอ่ยชวนผมแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย



“ไปดูหนัง พอดีวันนี้ตัดผมแล ้วอารมณ์ดี” แล ้วพรุ่งนี้มึงก็

จะไปหลีหญิงใหม่ กูรู้หรอก แต่ด ้วยความที่ผมคือไอ ้เติร์ด


ไอ ้เติร์ดที่ชอบไอ ้ค่ายอยู่ข ้างเดียวก็คงไม่กล ้าปฏิเสธ

“ไปดิ”




“วันนี้มีเรื่องอะไรเข ้าฉายบ ้างวะ”



“ไม่แน่ใจ ไปดูโปรแกรมก่อนแล ้วกัน”



สุดท ้ายเราก็มานั่งในโรงหนังเรียบร ้อย ที่นั่ง E9 กับ E10


มักเป็นมุมประจ าในวันที่พื้นที่ในโรงหนังเหลือเยอะ

เหมือนกับวันนี้เพราะเป็นรอบสุดท ้ายของวัน เราทั้งคู่

ตัดสินใจเลือกหนังรอมคอมจากอังกฤษเรื่องหนึ่งด ้วย


เหตุผลที่เกิดจากความเบื่อหน่ายหนังแนวอื่น



กิจกรรมที่เรามักท าในโรงภาพยนตร์ก็คือดู...ดูกันอย่าง

เงียบๆ รอจนเอนด์เครดิตขึ้นเราก็จะนั่งอ่านชื่อของทีม


ผู้สร ้าง แล ้วมาถกเถียงกันในวันต่อมาว่าหนังดีหรือไม่ดี ไอ ้

ค่ายบันทึกทุกอย่างไว ้ด ้วยสมุดจดของมันหลังจากดูจบ

ส่วนผมบันทึกทุกอย่างด ้วยวิดีโอแล ้วอัพโหลดลงยูทูบ




แม ้ช่อง ‘มูฟวี่ซี้เว่อร์’ จะมีคนดูเพียงน้อยนิดก็ตาม



“ป๊ อปคอร์นของมึง” มือหนายื่นกล่องกระดาษมาให ้ ขณะ

จอด ้านหน้ายังอยู่ในช่วงโฆษณา




“ถือไป กูขี้เกียจ” ผมตอบสั้นๆ ก่อนมันจะถามอีก

“จะเอาชีสหรือหวาน”




“ชีส” พูดแค่นั้นป๊ อปคอร์นรสชีสจ านวนมากในฝ่ ามือของ

ไอ ้ค่ายก็ประกบปากผมเข ้าให ้ เรามักท าแบบนี้ประจ า มัน

ป้อนป๊ อปคอร์น ผมป้อนน ้าให ้ เหมือนคู่รักแต่เหตุผลไม่ใช่

คู่รัก




ซื้อมาทีไรก็แดกไม่หมด เปลือง!



จบมั้ย ถ ้ามันบอกว่าจบกูก็จบ หลังๆ ยัดใส่ปากกันจนติด


คอแต่ก็แดกหมดทุกที



“หนังเริ่มละ ภาพเหมือนหนังหว่องเลยว่ะ”




“เออ”



แล ้วทุกเสียงก็เงียบลงถนัดตา เราทั้งคู่นั่งดูกันเงียบๆ แม ้

ทั้งโรงจะไม่มีคนเลยก็ตาม มีหันมาคุยกับบางเล็กน้อยแต่ก็


กลับมาสนใจกับตัวหนังต่อ



หนังเล่าเรื่องราวของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่แอบชอบเพื่อน

สนิทของตัวเองแต่ไม่กล ้าบอก สัด! ตรงกับชีวิตกูฉิบหาย ดู


ไปก็อินไป ตรงข ้ามกับไอ ้ค่ายที่ดูจะไม่สบอารมณ์กับตรรกะ

ของตัวละครเท่าไหร่

“เบื่อนางเอกว่ะ”




“เป็นอะไรของมึง” ผมถาม



“แม่งปากแข็งฉิบหาย”



“...”




“ชอบก็บอกว่าชอบสิวะ จะเก็บไว ้ท าซากอะไร” ผมหันขวับ

ไปมองคนข ้างๆ ทันที




“มึงคิดอย่างนั้นเหรอ”



“เออดิ ถ ้าไม่บอกแล ้วไอ ้พระเอกมันจะรู้มั้ย ถ ้าไม่บอกจะมี


โอกาสสมหวังเหรอ ประสาทว่ะ”

“แต่เขาอาจจะไม่อยากเสียอีกฝ่ ายไปไงมึง สองคนนี้เป็น

เพื่อนกันนะเว ้ย” พูดไปก็เหมือนชีวิตตัวเองสัดๆ ไอ ้ผู้ก ากับ

นี่มานั่งอยู่ตรงกลางใจกูแน่ๆ พูดไปก็แทบสะอื้น




“ก็ต ้องลองเสี่ยงดู ดีกว่าไม่ท าอะไรเลย”



“เหรอวะ” แม ้ไอ ้ค่ายจะเคยบอกกับผมว่าไม่ชอบเพื่อนหรือ


คนในคณะเดียวกัน แต่กูก็อยากเสี่ยงดูสักตั้ง แม ้จะไม่แน่ใจ

ว่าตัวเองจะสมหวังในรักครั้งนี้หรือเปล่า

โอเค...ถ ้ามึงพูดแบบนี้ ถ ้ามึงบอกกับกูว่าควรพยายาม




กูจะบอกชอบมึง



ผมคิดจนหัวแทบแตกว่าจะหาวิธีบอกชอบไอ ้ค่ายมันยังไง

ให ้ดูจริงใจและมันไม่โกรธ วิธีการที่พอจะหาได ้ก็มาจาก

แผ่นหนังที่ผมมักซื้อมาเก็บไว ้ในห ้องเนี่ยแหละ นี่ก็นั่งดูจน


ตาแฉะมาได ้สามวันแล ้วจนกระทั่งเจอหนังเรื่องหนึ่ง ชื่อว่า

Love actually ผมเลยหยิบมันมาปัดฝุ่ นและนั่งดูอีกครั้ง




หนังเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ตกหลุมรักแฟน

ของเพื่อนสนิทตัวเอง ท าให ้ไม่สมหวังในความรัก ดูเหมือน

จะเป็นหนังเศร ้าๆ แต่จริงๆ แล ้วกลับเป็นความเศร ้าที่

สวยงาม




ผมหยิบเอาความทรงจ าทุกอย่างที่เคยท ากับไอ ้ค่ายขึ้นมา

ภาพถ่ายทุกช่วงเวลาในอัลบั้มที่เอาไปอัด ตั๋วหนังทุกใบที่

แปะอยู่ในสมุดอาร์ตเล่มหนา พร ้อมกับความรู้สึกที่ได ้ดูหนัง


เรื่องนั้น ไฟล์ฟุตเทจที่เก็บเอาไว ้ในแล็ปท็อปเมื่อสมัยท า

หนังสั้นกากๆ ด ้วยกันตอนปีหนึ่ง



ทุกอย่างที่เป็นมัน ผมเก็บเอาไว ้หมด




ก๊อกๆๆ

เสียงเคาะประตูห ้องท าให ้ผมสะดุ้ง รีบตะโกนกลับไปด ้วย

น ้าเสียงลนลานเล็กน้อย




“ใครคร ้าบบบบบบ”



“กูเอง” คนด ้านนอกตอบเสียงเรียบ




“ไอ ้ทูเหรอ”



“เออ เปิดประตูที” พอรู้ว่าเพื่อนรักมาเยือนถึงห ้องผมก็รีบใช ้


ตีนเขี่ยๆ ความทรงจ าทุกอย่างเกี่ยวกับไอ ้ค่ายไว ้ใต ้โซฟา

พร ้อมกับโยนอัลบั้มรูปซ่อนไว ้ใต ้ผ ้าห่มผืนบางด ้วย พอเห็น

ว่าทุกอย่างเรียบร ้อยดีแล ้วถึงได ้เดินไปเปิดประตูตามล าดับ




“ช ้ าจังวะไอ ้เหี้ย” มันท าหน้าหงุดหงิดพลางเดินเข ้ามานั่ง

ตรงพื้น ใช ้ หลังพิงโซฟาจ ้องมองดูหนังตรงหน้าไม่กะพริบ



“มาท าไมดึกดื่นวะ”




“ห ้องมึงอยู่บนหัวกูมั้ย ท าไมกูจะขึ้นมาหาไม่ได ้”



“เวรเถอะ” มึงจะขึ้นมาตอนไหนก็ได ้ครับ แต่ต ้องไม่ใช่


ตอนนี้!!

แก๊งโหดสามคนเช่าอยู่คอนโดเดียวกันหมดแต่คนละชั้น

ยกเว ้นไอ ้ค่ายที่แม่มันซื้อคอนโดให ้ไปอยู่เดี่ยวๆ แถมไกล


โพ ้น เวลาว่างไอ ้สองตัวมักจะชอบเดินมาเคาะประตูห ้องผม

เสมอ จุดประสงค์ก็มีหลายอย่าง คุยเรื่องสาว ลอกการบ ้าน

ท ารายงาน ชวนดูหนัง หาแดกของฟรี รวมถึงใช ้ ส ้ วม



แต่วันนี้ไม่รู้ว่าไอ ้ทูมันมีจุดประสงค์อะไร




“มีอะไรว่ามา อย่าอ ้อมค ้อม”




“ยืมคอมหน่อย ของกูเจ๊งไปแล ้ว”



“สัด” เห็นบ่นมาหลายวันว่ามีปัญหาก็ไม่ยอมซ่อมสักที ดัน

ทุรังใช ้ จนเกิดเรื่องเลยมั้ยล่ะ




เด็กนิเทศฯ กับคอมก็เป็นอะไรที่ขาดกันไม่ได ้ เพราะงาน

ส่วนใหญ่เราก็ต ้องพึ่งพามัน ไอ ้ทูมึงมีคอมตัวนึงกับแลปท็อ

ปลูกรักอีกเครื่อง แต่เมื่อสัปดาห์ก่อนน้องแมคบุ๊กลูกรักได ้


เดินไปเซย์ฮัลโหลช่างที่ไอสตูดิโอเรียบร ้อย มันเลยจ าต ้อง

บากหน้ามาหาผม



“เร็วดิมึง สาวๆ จะเอารูปแล ้วกูต ้องรีบแต่ง”




“กับการเรียนมึงทุ่มเทขนาดนี้มั้ย”

“เรียนก็แค่ได ้เกรด รักมันได ้หัวใจมึงว่าอย่างไหนน่าลงทุน

กว่ากัน” อ ้วกแป๊ บ กูไม่เห็นมึงจะรักใครจริงจังสักคน มีแต่


ผ่านมาแล ้วก็ผ่านไป



“เอาแล็ปท็อปกูไปแล ้วกัน”



“เออ” ไอ ้ทูแบมือรอรับอย่างจดจ่อ แต่พอหยิบขึ้นมาผมก็


เพิ่งรู้ว่าตัวเองก าลังเปิดดูวิดีโอฟุตเทจที่บันทึกเรื่องราวของ

ไอ ้ค่ายเอาไว ้อยู่




ฉิบหายละ!



“มึงท าอะไรเชี่ยเติร์ด เปิดดูวิดีโอเก่าๆ เหรอ”




“เออ” ผมรีบปิดหน้าจอทันทีก่อนจะยื่นให ้มัน ไอ ้ทูก็รับมา

แบบไม่สงสัยอะไรนอกจากนั่งพิงโซฟาอยู่ที่เดิมเพื่อดูหนัง



“ไม่รีบไปแต่งรูปให ้สาววะ”




“ก าลังคิดอยู่ ท าไมมึงชอบดูหนังรักจังวะ แอบชอบ

ใครป่ ะเนี่ย” ผมสะดุ้งเฮือก รีบปฏิเสธเสียงลนลาน




“ไม่ๆ กูไม่ได ้ชอบใครเลย กูก็มีอารมณ์อยากดูอะไรอย่างนี้

บ ้างสิวะ ไม่เคยอ่ะ...โมเมนต์แอบชอบอะไรแบบนี้”

“เออเข ้าใจ ร ้อนตัวท าไมเนี่ย” ว่าแล ้วก็ยกแขนวางไว ้ตรง

โซฟาอย่างสบายอารมณ์ ขณะตาคู่นั้นยังจับต ้องไปที่


หน้าจอโทรทัศน์อยู่



“มึงวางอะไรไว ้แถวนี้วะ” พูดเพียงเท่านั้น มือหนาก็จับผ ้า

ห่มผืนบางทิ้งลงพื้น ก่อนจะคว ้าเอาอัลบั้มรูปที่ผมอัดขึ้นมา

ดูอย่างสงสัย




โอ๊ยยยยยยยยยยยไอ ้ทู ไอ ้เหี้ยยยยยยยยยย




“มึงอย่า!” พูดไปแต่ก็ไม่ทันซะแล ้ว เมื่ออีกฝ่ ายคว ้าอัลบั้ม

นั้นไปพลิกดูเรียบร ้อย นอกเหนือจากนั้นมันยังมองซอกแซก

ไปทั่ว ก่อนก็ยิ้มกริ่มหยิบเอาสมุดอาร์ตที่สอดอยู่ใต ้โซฟา

ออกมาด ้วย




“อะไรของมึงวะเชี่ยเติร์ด”



“...” ผมไม่ได ้ตอบอะไรกลับไป นอกจากยืนหลังชื้นเหงื่อ


อยู่จุดเดิม



“มึง...ชอบไอ ้ค่ายเหรอ”




“คะ...ใครบอกวะ กู...กูไม่ได ้ชอบมันเว ้ย”

“แล ้วนี่ควายตัวไหนมันเขียน ดูก็รู้ว่ามันเป็นตัวหนังสือของ

มึง”




ผมทรุดตัวนั่งยองๆ มองไปที่หน้าไอ ้ทูอย่างขอร ้อง



“อย่าบอกมันนะ”




“มึงก็รู้ว่าไอ ้ค่ายมันมีกฎไม่ชอบเพื่อน แต่มึงก็ยัง...”



“ก็นั่นไง กูถึงปิดไว ้ตลอด ตอนนี้มึงรู้ความจริงแล ้วก็ช่วยกู


ป ิดเถอะ” พูดไปก็เหมือนจะร ้องไห ้ มีหลายครั้งที่ผมอยากมี

ความกล ้าที่จะบอกชอบมัน แต่ก็มีอีกหลายครั้งเช่นกันที่ผม

ไม่กล ้าแม ้แต่อ ้าปากพูดกับมัน




“นานเท่าไหร่แล ้ววะ” ไอ ้ทูท าหน้าจริงจัง ไม่มีเสี้ยวของ

ความขี้เล่นเหมือนทุกที บอกตามตรงว่ามันคงอึ้งไม่น้อย อยู่

มาวันหนึ่งต ้องมารับรู้เรื่องไม่เหมาะไม่ควรในกลุ่มเพื่อน




“ก็ไม่นานหรอก”



“กูถามว่านานเท่าไหร่ไอ ้สัด ช่วยตอบให ้ตรงค าถามกูด ้วย

ไอ ้เติร์ด”




“สองปีกว่าแล ้ว”

“ฮะ!”




“ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอมัน”



“แล ้วมึงก็เก็บไว ้ทั้งที่ไม่แสดงออกเนี่ยนะ ถ ้าวันนี้กูไม่มา

เห็นกูก็คงไม่รู้ เชี่ยเก็บโคตรเก่ง ถึกสัด”




“นี่มึงจะชมหรือจะด่ากูเนี่ย”



“ไอ ้เติร์ดอันนี้กูจริงจังนะ มึงรู้ใช่มั้ยว่าไอ ้ค่ายชอบผู้หญิง”




“อืม...” ผมพยักหน้าอย่างเข ้าใจ เหตุผลนี้อีกข ้อที่ท าให ้

ความรักของผมกับไอ ้ค่ายไม่มีทางลงเอยกัน คิดแล ้วก็เจ็บ

เหี้ยๆ




“แล ้วมึงเคยคิดมั้ยว่าจะปิดมันไปตลอดรอดฝั่ง”



“เดี๋ยวก็จบแล ้วป่ ะวะ สองปีกูยังเก็บมาได ้เลย”




“มึงก็รู้ว่าวงการมันแคบ เราสี่คนยังไม่มีใครตัดสินใจว่าจะไป

เรียนต่อ ค าสัญญาของแก๊งโหดคือเป็นเพื่อนกันไปจนวัน

ตายนะเว ้ย ไม่ใช่เพื่อนกันแค่ตอนเรียนมหา’ลัย”




“...” ซึมไปเลยกู เหมือนมีพ่อมานั่งสอนอยู่ในห ้อง

“เอางี้ เดี๋ยวกูช่วย”




“ฮะ!!”



“การชอบใครแล ้วบอกไม่ได ้นี่มันทรมานว่ะ กูถึงตัดสินใจ

บอกชอบผู้หญิงที่กูเลือกไง”




“แต่มึงบอกชอบทุกคนที่เป็นนางแบบของมึงไอ ้เหี้ย”



“เอาน่า มึงเชื่อโหดอย่างกู แล ้วโหดอย่างมึงจะสมหวังเอง”




“มึงมาช่วยกูท าไมวะ มึงยอมรับได ้เหรอที่กูเป็นแบบนี้”



“ยอมรับได ้ดิ เพราะมึงเป็นเพื่อนกูไง”




“แล ้วไอ ้ค่ายล่ะ”



“ไอ้ค่ายก็เพื่อนกู มันไม่เคยรักใครจริง กูก็แค่อยากรู้


ว่าถ้ามันรักใครจริงจังขึ้นมา คนคนนั้นจะเป็ นมึงได้มั้ย”



“แล ้วจะช่วยกูยังไง ตอนนี้กูไม่กล ้าแม ้แต่จะแสดงออกว่า

ชอบมัน”




“บอกไปเลยกล ้าๆ หน่อยเพื่อน” ไอ ้ทูตบบ่าให ้ก าลังใจ

“บอกแบบไหนวะ”




“ก็แบบนี้ไง...”



เราทั้งคู่หันไปมองยังจอโทรทัศน์ซึ่งยังฉายหนัง Love

actually อยู่ หรือวิธีนี้อาจเป็นการบอกรักที่แม ้ไม่ต ้องพูด

อะไรแต่ก็แสดงความรู้สึกได ้ทั้งหมดกัน




ก๊อกๆๆ




ผมสูดลมหายใจเข ้าปอดขณะยืนอยู่หน้าห ้องของไอ ้ค่าย ไอ ้

ทูตัดสินใจต่อสายหามันเมื่อสิบห ้านาทีก่อนถึงได ้รู้ว่าเจ ้าตัว

ยังคงอยู่ในห ้อง




ทุกวินาทีเต็มไปด ้วยความตื่นเต ้น ปกติเวลาเคาะห ้องแล ้วรอ

อีกฝ่ ายมาเปิดไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวขนาดนี้ จนกระทั่งวันที่

ตัดสินใจว่าจะบอกชอบมัน แถมยังลุยเดี่ยวมาเองอีก

ต่างหากเพราะถูกไอ ้ทูทิ้งไว ้กลางทาง




เอาวะ ตายเป็นตาย



แกร๊ก!




“อ ้าว! ไอ ้เติร์ด มึงมาท าไมเนี่ย” ใบหน้าหล่อเหลามองมา

อย่างสงสัย




แต่ผมไม่พูดอะไรทั้งนั้น นอกจากยิ้มแล ้วถือแผ่นบอร์ดสีขาว

หลายใบเอาไว ้ในมือ และค่อยๆ เปิดมันออกทีละแผ่นด ้วย

มือสั่นเทา เมื่อคืนไอ ้ทูมันนอนเขียนให ้ ยอมสละความนิยม

ที่ต ้องรีบส่งรูปให ้สาวของมันมาช่วยผม




แผ่นที่หนึ่งมีข ้อความเขียนว่า...



‘หวัดดี’




ผมเลื่อนแผ่นบอร์ดวางไว ้กับพื้น ก่อนข ้อความแผ่นที่สอง

สาม และต่อๆ มาจะปรากฏ




‘วันนี้เป็นเหมือนวันธรรมดา แต่กูมีสิ่งที่ไม่ธรรมดาจะบอกมึง’



‘มึงเป็นเหมือนสิ่งพิเศษ’




‘ไม่ได ้พิเศษแบบนี้นะ’



ป้ายต่อมาปรากฏรูปยอดมนุษย์หลายตัว เช่น แบทแมน

ซูปเปอร์แมน หรือแม ้แต่กัปตันอเมริกา

‘แต่มึงพิเศษกว่านั้น’




‘วันนี้กูเลยอยากจะบอกกับมึงถึงสิ่งพิเศษส าหรับกู’



บอร์ดสามแผ่นสุดท ้ายที่อยู่ในมือบอกความรู้สึกทุกอย่างที่

ผมมีต่อไอ ้ค่ายหมดแล ้ว




‘กู’



‘ชอบ’




‘มึง’



หลังจากเปิดผ่านป้ายทุกแผ่นหมด ผมท าได ้แค่ยืนนิ่งแล ้ว


ส่งยิ้มให ้มัน ดูเหมือนคนตัวสูงกว่าตรงหน้าจะอึ้งอยู่หน่อยๆ

ก่อนจะเอ่ยน ้าเสียงบางเบาออกมา



“ไอ ้เติร์ดมึง...”




“มึงรับรู้ถึงความรู้สึกกูแล ้วใช่มั้ยไอ ้ค่ายกู...”



“…”




“โคตรเจ๋งเลยไอ ้สัด! กูขอยืมมุกนี้ไปจีบสาวนะ ก็คิดอยู่นาน

ว่าจะจีบด ้วยวิธีแหวกแนวแบบไหนดี”




“เอ่อ...”



“มึงรู้จากไอ ้โบนใช ้ มั้ยว่ากูก าลังหาวิธีจีบสาวอยู่ ขอบใจมาก

เพื่อนเติร์ด มึงท าให ้กูนึกถึง love actually เลยว่ะ”




มึงก็ท าให ้กูนึกถึงความพังพินาศเหมือนกัน



“รักมึงนะเว ้ย”




แต่กูโคตรเกลียดมึงเลยสัด






แต่สิ่งที่ตอบได ้กลับมีแค่...



“ไม่เป็นไร” และถูกมันดึงเข ้าไปกอดอย่างรักใคร่




โอ ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ยย ไอ ้เวร! ผมเชื่อแล ้วครับว่าคนโง่อย่างมันบอกอะไรไปมัน

ก็คงโง่อยู่อย่างนั้น กูล่ะอยากเดินเข ้าไปในส ้ วมแล ้วเอาหัว

มุดคอห่านตาย ไอ ้ค่าย ไอ ้ส ้ นตีน นี่กูชอบมึงได ้ยังไงวะถาม


จริง!!

เพลีย...


ตอนที่ 2


สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่ามึง



รักหนอแท ้จริงหน้าตาเป็นยังไง หน้าโง่ๆ แบบไอ ้ค่ายมั้ย

ผมอยากรู้




หลังจากคิดแผนและท าบอร์ดกับไอ ้ทูมาทั้งคืน ผล

สุดท ้ายกลับจบเห่ไม่เหลือซากแห่งความหวัง แถมมันยังดึง

ผมเข ้าไปกอดด ้วยความดีใจอีกต่างหาก มึงคิดว่าที่ยอมให ้

กอดนี่คือยินดีเหรอไอ ้สัด แม่มมมมมมม




พอกอดจนหน าใจมันก็ชักจูงผมเข ้าไปในห ้องครับ ไม่ได ้

กะท ามิดีมิร ้ายอะไรกันหรอก เพราะไอ ้นี่มันแอดวานซ์กว่า

คนอื่นเยอะ แม่งเล่นเดินเข ้าครัว หยิบมาม่ามาถุงใหญ่แถม


ใช ้ เวลาปรุงอย่างพิถีพิถัน เสร็จสรรพเดินมายื่นให ้ด ้วย

สายตามุ่งมั่นและเต็มเปี่ยมไปด ้วยความใส่ใจ



ผมนี่ปริ่มในอกจนแทบร ้องไห ้โฮออกมา




ให ้กูแดกมาม่าดิบ



สัด! ท าอะไรให ้เกียรติกระเพาะอันอ่อนโยนของกูด ้วยไอ ้


Click to View FlipBook Version