The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Library Wiengsra, 2020-04-29 07:13:18

ลิขิตฟ้าชะตารัก เล่ม1


ยินหานสือพูดว่า เมอเหล่าขุนนางได้ยินข่าวเรื องอาการ



ประชวรของไทเฮาก็รีบเข้าวังมาเยยม หลิงอ๋องเองก็คง




อยูทนด้วยเช่นกัน







































































65




ตอนท 89 ให้เรารอเสียนานเชยว
























วังหลวงในยามนั นต่างมรถม้ามาชุมนุมอยูไม่น้อย น่าจะ

เปนเพราะทุกคนได้ยินข่าวแล้วจึงรีบรดหน้าเข้ามาทันท















ฉูปายกวาดสายตามองไปในกลุมคนและรถม้าทอยูราย




ล้อม นํ าเสียงสงบเอ่ยขึ นว่า “เข้าไปกันเถด”









66




เมออวี อาเหราได้ยินเช่นนั นก็ตามเข้าไป โดยทหานสือ


เดินเข้ามาเปนคนสุดท้าย















หลังจากเดินไปตามถนนทอยูห่างจากพระตําหนักร่หวง
ของไทเฮาไม่ไกลนั น อว อาเหราก็มองไปยังชายหนุ่มท ี





ร่างกายสันเทาเล็กน้อยเบ องหน้า หัวใจก็อดไม่ได้ทจะ



สันไหวขึ นมา มองไปยังแผ่นหลังนั นแล้วนางก็กะพริบตา


ปริบๆ ก่อนจะก้าวเดินไปข้างหน้าให้ทันเขา “ตอนน แผล






ของเจ้าเปนอย่างไรบ้าง เมอคร่ก็นังรถม้ามานานขนาด






นั น ตอนน ก็ยังต้องเดินเท้าไกลถึงเพยงน อก ร่างกายจะ

รับไม่ไหวเอานะ”















“ไม่เปนไร” แม้ว่าสีหน้าของฉูปายจะซดขาว ทว่าทมุม



67



ปากของเขานั นยังคงมรอยยิ มจางๆ “เจ้าเปนห่วงข้า


หรือ”













“แน่นอนสิ ก็เจ้าได้รับบาดเจ็บเพราะข้าน แล้วจะไม่ให้





เปนห่วงได้อย่างไร” อว อาเหราตอบกลับอย่างเปนเหตุ

เปนผล












ฉับพลันนั นสีหน้าของฉูปายก็พลันกลายเปนความเยอก






เย็นขึ นมา แต่ดูเหมอนว่าจะเปนเพยงชัวพริบตาเท่านั น



ผ่านไปไม่นานท่าทของเขาก็กลับมาเปนปกติ “ข้าไม่ได้


เปนอะไร ไปเถด อย่าได้ชักช้าอยูเลย พระอาการประชวร




ของไทเฮาไม่ใช่เรื องทจะรั งรอได้”

















68







อว อาเหราเบ้ริมฝปาก เมอคร่ก็ยังดๆ อยูเลยมิใช่หรือ





แล้วเหตุใดพูดเพยงคําสองคําก็เปลียนจากหน้ามอเปน

หลังมอเสียแล้วเล่า นางก็ไม่เข้าใจนัก ทว่าก็ได้แต่เก็บ


เอาไว้ในใจไม่ได้สนใจอะไรอก ก่อนจะเงยหน้าขึ นมอง


แผ่นป้ายทแขวนเอาไว้ด้านบน ทมอักษรเขยนไว้ว่า ‘พระ







ตําหนักร่หวง’ เช่นนั นในใจของนางก็ยิงหนักอึ งขึ นเรื อยๆ









เมอพวกเขาเข้ามาด้านในแล้วก็เห็นว่าฝาบาทและหมอ




หลวงจํานวนหนึ งก็ได้อยูทพระตําหนักแห่งน สีหน้าของ




ทุกคนฉายแววหนักใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความวิตก











ฮ่องเต้เงยพระพักตร์ขึ นเล็กน้อย จากนั นถึงได้ทอดพระ




เนตรเห็นว่าพวกเขาเข้ามาในห้อง ทันใดนั นก็พระสรวล






ขึ นอย่างยินด “เซินซอจอ ในทสุดเจ้าก็มาแล้ว ปล่อยให้





69

เรารอเสียตั งนาน!”

















“เปนพระมหากรณาธคุณทฝาบาททรงรอพ่ะย่ะค่ะ



กระหม่อมมิกล้า” ฉูปายถวายบังคม กล่าววาจาขึ นอย่าง
สํารวม













ฮ่องเต้รับตรัสขึ นว่า “รีบเข้าไปในห้องบรรทมเพอดู


อาการไทเฮาเถด ไม่เช่นนั นจะยิงประชวรหนักเข้าไป




ใหญ”












ตรัสจบ ฮ่องเต้ก็พระดําเนนนําเข้าไปในห้องพระบรรทม










ของไทเฮาทันท โดยทไม่ได้สนใจอว อาเหราทอยูด้าน
หลังแม้แต่น้อย







70

ยังไม่ทันได้เข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงร้องโอดโอยด้วยความ






เจ็บปวดดังเข้ามาจากทไกลๆ ฮ่องเต้ทได้ยินเข้าก็รีบรด






เข้าไปในทันท ตะคอกถามหมอหลวงกลุมหนึ งทกําลังดู
อาการอยู “ไทเฮาเปนอะไร”














“ทูลฝาบาท จากการตรวจชพจรของไทเฮาแล้ว ไม่อาจ



วินจฉัยได้ว่าประชวรเปนโรคอะไรพ่ะย่ะค่ะ...”











หมอหลวงชราทเปนหัวหน้าเอ่ยตอบขึ นด้วยท่าทลนลาน



ทําให้ฮ่องเต้ทรงพิโรธหนัก “เจ้าเปนหมอภาษาอะไร เหตุ



ใดจึงวินจฉัยโรคไม่ได้! แล้วเราจะเลี ยงพวกเจ้าให้สิ น





เปลืองต่อไปอกทําไมกัน?!”










71



“ฝาบาททรงไว้ชวิตด้วยพ่ะย่ะค่ะ!” เหล่าหมอหลวงตน




ตระหนก สองขาสันเทาเสียจนแทบทรดลงกับพ น









อว อาเหรามองไปยังร่างของไทเฮาแล้วถึงได้เห็นว่าเสื อ









ผ้าหรหราทพระนางเคยสวมอยูด้านนอกนั นบัดน ก็ดูยุง

เหยิงไม่เรียบร้อย เส้นผมและเสื อผ้าถูกดึงทึ งจนเละเทะ



แต่กลับพยายามยกมอขึ นกุมศรษะตนเอง ใบหน้าบิด


เบ ยวไม่น่าดู ส่งเสียงร้องออกมาไม่หยุด จนทําให้นางตก




ตะลึง











ฮ่องเต้เองก็คร้านจะจัดการกับเหล่าหมอหลวงพวกน แล้ว







พระองค์จึงประทับลงทข้างเตยงของไทเฮา “เสด็จแม่ทรง

เจ็บตรงไหนหรือ บอกลูกให้ชัดเจนเถดพ่ะย่ะค่ะ พวกเรา





72

จะได้หาหนทางรักษา ลูกเห็นแล้วก็เจ็บปวดใจยิงนัก...”











ไทเฮายังคงร้องครวญครางอย่างเจ็บปวด ค่อยๆ เอ่ย




ออกมาอย่างช้าๆ “แม่เจ็บไปทั งร่าง เกรงว่าคงจะอยูได้





อกไม่นานแล้ว หวังว่าฮ่องเต้จะดูแลองค์รัชทายาทให้ด




แม่ร้ว่าตัวเองตามใจเขาจนเสียนสัย จนทําให้เขาหนออก




ไปจากวังตะวันออก แต่นก็เปนความปรารถนาเดยวของ

แม่ ฝาบาทจะต้อง...”












“เสด็จแม่ได้โปรดวางพระทัย และรักษาพระวรกายให้ด ี








เถด เซินซอจอมาถึงแล้ว มเขาอยูจะต้องไม่เปนอะไรแน่





พ่ะย่ะค่ะ”













73



ฮ่องเต้ปดปากไม่พูดเรื องรัชทายาท ทําเพยงปลอบ


พระทัยไทเฮาเท่านั น



























ตอนท 90 คุณหนูรองเปนหมอเทวดา























ไทเฮาทรงนงไป ก่อนจะเอ่ยปากขึ นด้วยความเจ็บปวด




“ฝาบาท พระองค์...”













“เซินซอจอ รีบมาดูพระอาการไทเฮาเร็วเข้า” ยากนักทจะ





74



เอ่ยวาจา ฮ่องเต้จึงหันมาตรัสกับฉูปายแทน













“พ่ะย่ะค่ะ ฝาบาท” ฉูปายได้สติขึ นมาก็พลันเดินเข้าไป




วางมอลงบนข้อมอของไทเฮาเพอตรวจชพจร สีหน้าของ


เขาไม่แปรเปลียนเลยแม้แต่น้อย ราวกับสูญเสียอารมณ์






ความร้สึกไปทั งหมดแล้ว ใบหน้าซดขาว แววตานงขรึม



จนทําให้ไม่มผู้ใดกล้าทจะเข้าไปรบกวน ผ่านไปเนนนาน


ก็ยังไม่มความเคลอนไหวใด

















“เปนอย่างไรบ้าง เซินซอจอ?” ฮ่องเต้อดไม่ได้ทจะเอ่ย


ปากถาม








“มิอาจวินจฉัยได้...” ฉูปายมองไทเฮาคราหนึ ง ทําได้










75


เพยงส่ายหน้าออกมา












“อะไรนะ” ฮ่องเต้ตกตะลึง “แม้แต่เจ้าก็วินจฉัยไม่ได้


หรือ”















“พ่ะย่ะค่ะ” ฉูปายหยักหน้าลงเปนการยนยัน












คนทอยูในทแห่งนั นล้วนตกตะลึงจนหน้าถอดสี แม้แต่





เซินซอจอก็ยังไม่สามารถวินจฉัยโรคได้ เช่นนั นก็เกรงว่า



คงจะไม่มผู้ใดสามารถรักษาพระอาการของไทเฮาได้

แล้วกระมัง ทันใดนั นคนทั งหลายต่างก็มสีหน้าวิตกกังวล
















เมอได้ยินเช่นนั น ไทเฮาก็ยิงแสดงท่าทเจ็บปวดมากขึ น



76




ไปอก “โอย เราเจ็บจะตายอยูแล้ว ฝาบาท แม้แต่คําขอ

ร้องสุดท้ายพระองค์ก็ไม่ทรงรับปากกับแม่ อย่างนั นก็ให้




แม่ตายไปเสียพ้นๆ เถด แม่อยากจะไปพบหน้าฮองเฮา



แล้ว เฮ้อ...”












ความสงสัยของอว อาเหรายิงทวมากขึ นเรื อยๆ อาการ





ปวยของฮองเฮาน ก็ช่างแปลกประหลาดยิงนัก











เมอเหล่าหมอหลวงเห็นดังนั นก็มองไปยังอว อาเหราทยน








อยูด้านหลังฉูปาย ทันใดนั นก็กราบทูลฮ่องเต้ว่า “ทูลฝา





บาท เมอวานน เซินซอจอได้รับบาดเจ็บเสียจนแทบจะ




เอาชวิตไม่รอด สุดท้ายทําได้แต่เพยงนอนรอความตาย




ทว่าคุณหนูรองตระกูลหลิงกลับได้ช่วยชวิตซอจอไว้จน







ฟนคน ฝมอของนางราวกับหมอเทวดา ยามน ไทเฮา

77

ประชวรหนักยิงนัก มิเช่นนั นแล้วก็ลองให้คุณหนูรอง




รักษาดูดหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”










กลุมคนทั งหมดต่างตกตะลึง อ้าปากค้างเสียจนกราม




แทบจะติดพ น













อว อาเหรากลายเปนหมอเทวดาไปตั งแต่เมอใดกันเล่า?


ไม่ใช่สิ นางไปเรียนวิชาแพทย์มาตอนไหนกัน















หลิงอ๋องทยนอยูท่ามกลางเหล่าขุนนางใหญได้ยินดังนั น


ก็หันไปถามเอาความกับอว อาเหราทันท “อาเหรา เหตุ



ใดเจ้าถึง...”















78


“ไม่คิดเลยว่าคุณหนูรองจะมวิชาทางการแพทย์ด้วย”





ฮ่องเต้มองไปทนาง













อว อาเหราทถูกจับจ้องนั นก็ร้สึกขนลุกชันไปเสียทั งร่าง


มองไปยังเหล่าหมอหลวงทเผยความลับของนางออกมา

อย่างดุดัน นางก็บอกเอาไว้แล้วมิใช่หรือว่าห้ามพูด? คํา




พูดทนางเคยได้ยินมานั นก็ถูกเผงเลย ไม่ว่าจะยุคสมัย





ไหนคนในวังก็ไม่อาจรักษาความลับได้ ก็ไม่ร้ว่าตอนน จะ




มคนมองนางด้วยความประหลาดใจมากน้อยเพยงใด


แล้ว












แต่เดิมนางมนสัยอ่อนแอ ไหนเลยจะได้รํ าเรียนวิชา







แพทย์ ตัวนางในตอนน ก็ราวกับเปนก้อนเน อทถูกตรึงอยู ่

กับไม้กระดาน รอคนมาเฉอนเอาตามใจชอบ






79







ฉูปายกวาดตามองคนทยนอยู แล้วเอ่ยตอบขึ นว่า “ฝา

บาท นางไม่ได้มฝมอทางการแพทย์อะไรหรอกพ่ะย่ะค่ะ





นางเพยงแต่อยูกับกระหม่อมสองวันแล้วได้เรียนร้แบบ




ผิวเผิน วันนั นทนางสามารถช่วยชวิตกระหม่อมได้ก็เปน






เพราะแผ่นหยกทเสด็จแม่ทิ งเอาไว้ให้ก็เท่านั น นถอเปน

เรื องแปลกแต่ไม่เปนอันตราย หากนางเปนหมอเทวดา





จริง เกรงว่าเหล่าหมอหลวงทุกท่านในทีน คงเปนฮัวโต๋[1]


กลับชาติมาเกดแล้วพ่ะย่ะค่ะ”











กลุมคนเหล่าน พากันถอนหายใจออกมา ทแท้ก็เปนเช่น





น เอง...












หมอหลวงเหล่านั นไม่กล้าพูดอะไรออกมาอก เรื องราว




80




ในวันนั นมเพยงพวกเขาเท่านั นทได้เห็นกับตา ย่อม


มองออกตั งแต่แรกแล้วว่าหากอว อาเหราไม่มความ


สามารถทางการแพทย์จริง นันก็เกรงว่านางคงไม่อาจ










ช่วยชวิตเซินซอจอได้ เรื องทั งหมดน ก็ไม่ใช่เพยงอาศัยแค่

พลังอํานาจของหยกเลือดแน่ แต่เมอเห็นสีหน้าไม่ใคร่



ยินดนักของทั งฉูปายและอว อาเหราแล้วก็พากันเงยบไม่




พูดจา














ฮ่องเต้พยักพระพักตร์ลง “ในเมอเปนเช่นน คุณหนูรองก็

ลองมาดูอาการของไทเฮาหน่อยเถด เจ้าอาจจะพอช่วย


ได้...”












อว อาเหราเบิกตาโต จ้องมองไปยังหลิงอ๋องทยนอยูด้าน





ข้าง






81



หลิงอ๋องตบมอของนางเบาๆ เปนการปลอบประโลม “ไม่


ต้องกลัว ช่วยดูพระอาการของไทเฮานั นเปนเรื องด หาก





วินจฉัยโรคไม่ได้ก็ไม่โทษเจ้า ทําตามพระบัญชาของฝา

บาทแล้วเข้าไปดูพระอาการเถด”


























------















[1] ฮัวโต๋ หนึ งในตัวละครในเรื องสามกก เปนผู้มฝมอ

ทางการแพทย์สูง














82



ตอนท 91 เขาทีไร้ความสามารถและไร้คุณธรรมถึง



เพยงน

























เมอได้ยินเขาพูดเช่นน นัยน์ตาของอว อาเหราก็ลํ าลึกลง

ก้าวฝเท้าแล้วเดินเข้าไปหาไทเฮา










ดูท่าแล้วหากวันน นางไม่ทําอะไรเลยแม้แต่น้อย พวกเขา




ก็คงไม่ยอมปล่อยนางไปแน่ ในเมอเปนเช่นน นางก็คงไม่





อาจหลีกเลยงได้แล้ว











เมอยนมอออกไปตรวจชพจรของไทเฮาแล้วนางก็นง








เงยบไปคร่หนึ ง เวลาผ่านไปชัวคร่นางก็ก้มหน้าลง ทํา


1



ให้เส้นผมทปรกลงมานั นบดบังความตนตะลึงในดวงตา



ของนาง ชพจรของไทเฮานั นเต้นอย่างสมําเสมอและ


หนักแน่นด เดิมทก็ไม่เหมอนกับท่าทางของพระองค์ท ี



ร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวดหนักหนาเลย ไม่ว่าจะตรวจ



อย่างไรก็ไม่อาจตรวจพบความผิดปกติใดๆ ได้ แม้นาง





จะได้รํ าเรียนวิชาแพทย์มาเพยงแค่ผิวเผิน แต่ไม่ว่าอย่าง






ไรก็ไม่มทางทจะตรวจชพจรผิดไปแน่







นางลืมดวงตาขึ น จ้องมองไปยังไทเฮาทร้องครวญคราง






และยกมอขึ นกุมศรษะอย่างพิจารณา












ทแท้แล้วนเปนการแกล้งปวยหรือว่านางตรวจไม่พบเอง



กันแน่?












2





“คุณหนูรอง ตรวจพบอะไรหรือไม่” ฮ่องเต้ทยนอยูด้าน
ข้างเอ่ยถาม















อว อาเหราลังเลอยูชัวขณะ “ชพจรของไทเฮานั น...”







ในยามนั นเองก็บังเกดเสียงกระแอมไอดังขึ นมาจากด้าน




ข้างกาย ฉูปายปดปากเอาไว้แล้วช้อนดวงตาขึ นมองมา




ยังนาง











“ฝาบาทโปรดอภัยด้วยเพคะ พระอาการประชวรของ



ไทเฮานั นหม่อมฉันก็ไม่สามารถวินจฉัยได้เพคะ...” อว ี





อาเหรารีบกลับคําในทันท















3


“อ้อ? เจ้าเองก็วินจฉัยไม่ได้หรือ” ฮ่องเต้เลิกพระขนงขึ น




ด้วยความสงสัย แท้จริงแล้วไทเฮาทรงประชวรเปนโรค



อะไรกันแน่ ถึงไม่อาจวินิจฉัยอาการออกมาได้เช่นน














“เพคะ” อว อาเหราพยักหน้าเปนการยนยัน











กลุมคนทคอยดูอยูนั นต่างก็พากันโล่งใจ ในใจคิดว่าใน


เมอเซินซอจอและเหล่าหมอหลวงในวังยังไม่อาจวินิจฉัย










โรคได้ แล้วหญงสาวทมชอเสียงฉาวโฉเช่นนางน จะไป



ทําได้อย่างไรกัน





ฮ่องเต้กวาดพระเนตรมองไปยังกลุมของหมอหลวงด้วย





โทสะอยูบ้าง “พวกเจ้าก็ล้วนไร้ประโยชน์ยิงนัก ไทเฮา




ทรงประชวรเปนอะไรพวกเจ้าก็ยังไม่ทราบ แล้วเราจะ




4


เลี ยงพวกเจ้าไปเพออะไรกัน?”










“ฝาบาทโปรดอภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ พวกกระหม่อม...”




หมอหลวงเอ่ยปากพูดเสียงสันเครือ “พวกกระหม่อมคิด



ว่าไทเฮาอาจประชวรเปนไข้ใจ เพราะอย่างนั นจึงไม่อาจ




วินจฉัยโรคได้ ไทเฮาทรงให้ความรักความเมตตาองค์




รัชทายาทเสมอมา ยามน รัชทายาทไร้ซึงคุณธรรม จน



ทําให้ไทเฮาทรงปวดศรษะ ทําให้เกดไข้ใจ เช่นนั นฝา




บาทได้โปรดทรงให้โอกาสองค์รัชทายาทหน่อยเถดพ่ะ



ย่ะค่ะ เพอให้ไทเฮาได้รักษาพระวรกายอย่างสบาย




พระทัย”













ในทสุดหัวข้อนั นก็ถูกเบนมายังเรื องของจวินฉางอวิน










5

ฮ่องเต้แค่นพระสุรเสียง “เขาไร้ความสามารถและทั งยัง






ไร้คุณธรรมถึงเพยงน เราให้โอกาสไปตั งหลายครั งแล้ว


แต่ผลสุดท้ายเล่า?”












หมอหลวงคนนั นไม่กล้าเอ่ยวาจาขึ นมาอก เขาคุกเข่าลง



กับพ น “อาการประชวรของไทเฮานั นไม่อาจรั งรอเวลา




ได้อกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”











หรือหากจะกล่าวให้ชัดเจนก็คอ เนองด้วยพระอาการ



ประชวรของไทเฮานั น อย่างไรเสียก็จําต้องเมตตาต่อ




องค์รัชทายาท














อว อาเหรามองดูสิ งทเกดขึ นตรงหน้าด้วยความมึนงง







6






ร้สึกได้อยูตลอดเวลาว่ามอะไรบางอย่างทผิดปกติ











ไทเฮาทนอนอยูบนเตยงนั นกัดฟนแน่นด้วยท่าทางอดทน
ต่อความเจ็บปวด เอ่ยขึ นด้วยนํ าเสียงแหบแห้งว่า




“หากฮ่องเต้ไม่ทรงเมตตา แม่ก็คงไม่อาจบบบังคับ องค์





รัชทายาทนั นเปนดังชวิตของแม่ หากแม่ตายไปก็คงไม่


เปนกระไร เพราะแม่ก็ไม่อาจทําให้ฝาบาทหนักพระทัย



ได้”











“เสด็จแม่ ท่านกล่าวอะไรออกมา” ฮ่องเต้ก้าวเข้าไปกุม






มอไทเฮาด้วยท่าทไม่สบายใจ แล้วถอนหายใจออกมา



“ลูกรับปาก แม้รัชทายาทจะกําเริบเสิบสาน แต่มใจ


กตัญ ูนัก แม้ลูกจะไม่เห็นแก่เสด็จแม่ แต่ไม่ว่าอย่างไร






ก็ต้องคิดถึงฮองเฮาทล่วงลับไปแล้ว”





7



“ในเมอฮ่องเต้ตรัสเช่นน แม่ก็สบายใจ”










เมอเหล่าหมอหลวงเห็นเช่นนั นก็รีบนํายามาให้ไทเฮา


พร้อมทั งตรวจอาการ ความเจ็บปวดก็ค่อยๆ ทุเลาลง













และในขณะนั นเอง ฉูปายก็ได้ถวายบังคมฮ่องเต้ “ใน


เมอพระอาการประชวรของไทเฮาดขึ นแล้ว และยามน ี




ร่างกายของกระหม่อมยังคงอ่อนเพลียอยูบ้าง เช่นนั นจํา



ต้องขอทูลลาก่อยพ่ะย่ะค่ะ”













“อม ร่างกายของซอจอยังไม่หายดนัก รีบกลับไปพัก







ผ่อนเถด” ฮ่องเต้โบกพระหัตถ์เปนเชงอนุญาต






8


ทางด้านหลิงอ๋องนั นก็หันมากุมมออวี อาเหรา “อา








เหรากลับไปกับซอจอก่อนเถด พ่อจะรอให้พระอาการ

ของไทเฮาดขึ นกว่าน แล้วจึงค่อยกลับจวน เดินทางระวัง



ด้วย”

























ตอนท 92 ร่างราชโองการปลดรัชทายาท






















“เพคะ ลูกขอทูลลา” อว อาเหราตอบรับแต่โดยด ก่อน









9



จะเดินตามฉูปายออกจากนอกตําหนักไป











เมอเหลือบสายตามองไปร่างกายผอมบางของเขาแล้ว





อว อาเหราก็อดไม่ได้ทจะเอ่ยปากถามขึ นว่า “ชพจรของ





ไทเฮาเมอคร่น ...”







“ชู่ว ระวังหน่อย หน้าต่างมหูประตูมช่อง รอให้ถึงรถม้า



ก่อนแล้วค่อยว่ากัน” ฉูปายใช้น วช ขาวราวหิมะแตะลง





บนริมฝปากสีแดงสด ก่อนจะปรายตามองนางเล็กน้อย



แล้วสาวเท้าเดินออกไป



















“ซอจอ” หานสือยนรออยูทหน้าประตูตําหนักร่หวง เขา





ก็ไม่ได้เข้าไปในห้องบรรทมเมอคร่น ด้วย เมอเห็นว่าทั ง


สองเดินออกมาจากตําหนักพร้อมกันจึงได้ถวายความ
10

เคารพ













“ไปกันเถด” ฉูปายเหลือบสายตามองมาน้อยๆ










ทั งสามออกจากวังไป ภายในรถม้านั นในทสุดอว อาเหรา


ก็เอ่ยปากขึ นถามด้วยความทนไม่ไหว “เมอคร่น ชพจร









ของไทเฮาเปนเช่นไรเจ้าก็คงร้ดอยูแก่ใจ ทั งหนักแน่น


และสมําเสมอ ไม่เหมอนกับคนปวยหนักเช่นนั นเลยแม้





แต่น้อย นมันเกดอะไรขึ นกันแน่ เปนเพราะวินจฉัยผิด


ไปหรือว่า...”














“เจ้าไม่ได้วินจฉัยผิดหรอก” แววตาของฉูปายลํ าลึก



“เจ้าร้หรือไม่ว่าหลังจากทองค์รัชทายาทหนออกไปจาก

วังตะวันออกในยามเช้าแล้ว ฮ่องเต้ททรงอยูในห้อง





11



บรรทมเพยงลําพังเปนเวลาสองชัวยามนั นทรงทําอะไร


อยู”













“ข้าจะไปร้ได้อย่างไรว่าพระองค์ทําอะไรอยู เจ้ามอะไรก็





รีบๆ พูดมาเถด!” อว อาเหราคร้านทจะเล่นทายปญหา

กับเขา จึงถามขึ นอย่างหมดความอดทน











“พระองค์ทรงร่างราชโองการปลดองค์ทายาท”













“นหมายความว่าอย่างไร”











ฉูปายอธบายขึ นว่า “เดิมทฝาบาทก็ทรงไม่พอพระทัยท ี








องค์รัชทายาทไร้คุณธรรมอยูแล้ว เมอถูกขังเอาไว้ทวัง



12







ตะวันออกแต่ก็ยังหนออกไปอกเช่นน นก็เปนการยัว

ยุพระอารมณ์ของฮ่องเต้ให้โกรธเคองยิงนัก แต่ไทเฮานั น






มหูตากว้างไกล เมอร้ข่าวเรื องการปลดรัชทายาทน

พระองค์ก็ทรงแสร้งว่าปวย ไม่อย่างนั นแล้ว...”











“เพราะเช่นนั น นก็หมายความว่าไทเฮาทรงแกล้งปวย





เพอปกป้องรัชทายาท ทําให้ฮ่องเต้ไม่อาจปลด



รัชทายาทในช่วงเวลาน ได้เพราะจะเปนการทําร้ายไทเฮา




ทําให้พอจะยดเวลาเรื องน ไปได้ก่อนใช่หรือไม่”










“ไม่ผิด” เขาพยักหน้า












“นก็โชคดยิงนักทเจ้าเอ่ยเตอนข้าขึ นมาเสียก่อน ไม่





อย่างนั นแล้วหากหลุดปากพูดออกไปต่อหน้าพระพักตร์



13



ฮ่องเต้ เมอถึงเวลานั นก็ไม่แน่ว่าไทเฮาอาจจะเอาเรื องข้า




ททําให้องค์รัชทายาทถูกปลดก็ได้”













“เจ้าร้ก็ดแล้ว” ฉูปายแย้มยิ มออกมาเล็กน้อย เลิกคิ ว


แล้วเอ่ยถามว่า “เจ้ายังมอะไรจะถามอกหรือไม่”









“ไม่มอะไรแล้ว” อว อาเหราส่ายหน้า ช่วงเวลาทนางก้ม




หน้าลงนั นก็ราวกับคิดอะไรขึ นมาได้ เช่นนั นจึงเงยหน้า






ขึ นมองเขาอย่างรวดเร็ว “ข้าจําได้ว่าเมอเช้าน ก็ไม่เห็น





เจ้าทําอะไรเลย แล้วเหตุใดเจ้าถึงได้ร้เรื องทฮ่องเต้ทรง

ร่างพระราชโองการปลดรัชทายาทในห้องบรรทมเล่า”










“เจ้าอย่าได้สนใจเรื องน เลย ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่บอก









เจ้าหรอก” หลังจากทฉูปายพูดจบก็ปดเปลือกตาลง
14

ค่อยๆ พิงกายกับเบาะรถแล้วพักผ่อน












บางทอาจจะเปนเพราะร่างกายได้รับบาดเจ็บหนัก ทํา




ให้ใบหน้าของเขาจึงขาวซดมากกว่าปกติ ริมฝปากสี



แดงกําราวกับทาบทาไว้ด้วยสีเลือดจนดูน่ากลัว ทใต้ตา







ของเขาหมองคลํ าเช่นน ก็คงเปนเพราะเมอคนไม่ได้นอน
หลับพักผ่อนเพยงพอสินะ หากมองแค่เพยงผิวเผินท่าท ี







ของเขาในยามน ก็ช่างไม่เหมอนกับคนทได้รับบาดเจ็บ


หนักเลยแม้แต่น้อย แต่คงไม่มใครทราบว่าท่าทเช่นน ี







ของเขานั นก็สิ งทเขาฝนทนจนถึงทสุดแล้ว










ยามน เขานังเอนกายพิงเบาะรถม้าเพอพักผ่อนด้วยท่าท ี


แสนอ่อนเพลีย เห็นแล้วก็ช่างบบหัวใจยิงนัก











15

หลังจากรถม้าออกเดินทางได้ราวครึงชัวยาม ก็ค่อยๆ


หยุดลง ด้านนอกมเสียงของหานสือร้องบอกขึ นว่า “ซอ





จอ ถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”











อว อาเหราเมยงมองออกไปด้านนอกเล็กน้อย ก่อนจะ




หันมามองชายหนุ่มข้างกายทกําลังนอนหลับสนท เช่น

นั นจึงดึงผ้าห่มนวมขึ นคลุมให้เขา แล้วออกคําสังกับ







หานสือด้วยนํ าเสียงอ่อนโยน “ซอจอของเจ้าหลับไป







แล้ว รออยูทนสักพักหนึ งก่อนเถด ส่วนเจ้าก็ไปหารถม้า
จะได้ไปส่งข้าและเจาเอ๋อร์กลับก่อนไป”










“ขอรับ”











“คุณหนู ท่านอ๋องจะกลับตําหนักไปก่อนหรือไม่เจ้าคะ”





16




เมอหานสือจากไปแล้ว เจาเอ๋อร์ก็กล่าวขึ นโดยขณะทม ี

ผ้าม่านขวางกั น














































































17



ตอนท 93 คําขออภัยของคุณหนูใหญ























“มิได้ เสด็จพ่อยังอยูในวังเพอดูอาการไทเฮา”









“อ้อ”











เจาเอ๋อร์พยักหน้าลง จากนั นก็เอ่ยตอบด้วยท่าทางยินด



“คุณหนู หานสือนํารถม้ามาแล้ว พวกเราไปกันเถดเจ้า




ค่ะ”








18



อว อาเหรามองไปทางชายหนุ่มทกําลังหลับใหลอย่าง






เงยบๆ ผู้นั น สุดท้ายก็ลงมาจากรถม้า ในวินาททนางลง
จากรถนั นก็ไม่ได้สังเกตเลยแม้แต่น้อยว่าเปลือกตาของ









ชายหนุ่มทหลับนงมาโดยตลอดนั นกลับเคลอนไหวขึ น

มาเสียแล้ว











นายบ่าวทั งสองนังรถม้าแล้วมุงหน้าไปยังจวนหลิงอ๋อง









เจาเอ๋อร์แตะโดนมอนางเข้าอย่างไม่ได้ตั งใจ ทําให้ตกใจ




จนต้องร้องออกมา “คุณหนู เหตุใดมอของท่านถึงได้







เย็นเฉยบถึงเพยงน เจ้าคะ!”








“ไม่เปนไร รอจนกลับจวนแล้วค่อยกุมเตาอุนมอก็คงจะ





19



ดขึ น” อว อาเหรามองไปข้างหน้าอย่างไม่ใคร่ใส่ใจนัก












จวนเซินอ๋องห่างจากจวนหลิงอ๋องไปไม่กช่วงถนนเท่านั น


เพยงไม่นานพวกนางก็มาถึงแล้ว นายบ่าวทั งสองลง


จากรถม้ากลับเข้าไปยังเรือนยังไม่ทันไร สาวใช้ทสวมชุด





สีชมพูอ่อนผู้หนึ งก็วิงพรวดพราดเข้ามาในเรือนด้วยท่าท ี



เร่งร้อน














อว อาเหราฟงการเคลอนไหวภายนอกแล้วถึงหันไปหา

เจาเอ๋อร์ “ใครมาทําเสียงดังอยูด้านนอก เจ้าไปพาตัว



เข้ามาซิ”











“เจ้าค่ะ” เจาเอ๋อร์รีบพาตัวสาวใช้ผู้นั นเข้ามาในห้อง







เมอนางเห็นอว อาเหราแล้วก็คุกเข่าลงกับพ นเสียงดังตึง


20




โขกศรษะลงกับพ นแล้วเอ่ยขึ นว่า “บ่าวเปนสาวใช้ของ



คุณหนูใหญนามว่าเหลียงเอ๋อร์เจ้าค่ะ วันน บ่าวมาจาก



หนานย่วนเพอมาขอเข้าพบคุณหนูรองแทนคุณหนูใหญ ่


และอนุรองเจ้าค่ะ”













“เจ้าเปนสาวใช้ข้างกายของคุณหนูใหญอย่างนั นหรือ”








อว อาเหรานงไปเล็กน้อย ก่อนจะดมนํ าชาบนโตะต่อ

ด้วยท่าทผ่อนคลาย “คุณหนูของเจ้าเกลียดข้าอย่างกับ




อะไรด แล้วเหตุใดถึงได้ส่งเจ้ามาพบข้าได้ นก็ไม่ร้ว่า




พวกนางจะมแผนการอะไรซ่อนอยูอก!”








ขณะทพูดนั นก็โยนถ้วยนํ าชาลงบนพ น ทําให้เหลียง





เอ๋อร์ตกใจจนคลานหน “ก่อนหน้าน คุณหนูของบ่าวเคย


ทําเรื องทไม่ควรทําต่อคุณหนูรองมากมาย หลายวันท ี







21




คุณหนูถูกขังอยูทหนานย่วนน ก็ได้สํานึกผิดแล้วเจ้าค่ะ


เพราะอย่างนั นครั งน จึงได้สังบ่าวให้มาเชญคุณหนูรอง


ไปพบหน้าสักครั ง เพอกล่าวคําขอโทษในเรื องทกระทํา




ผิดไป ขอให้คุณหนูรองโปรดเมตตา ตามบ่าวไปเถดนะ



เจ้าคะ”










“กล่าวคําขอโทษหรือ” อว อาเหราแค่นเสียงเย็น “เจ้า






คิดว่าข้าจะเชอเจ้าหรืออย่างไร ข้าไม่ไป!”














นสัยของอว จอเหยยนเปนเช่นไรเหตุใดนางจะยังไม่เข้า


ใจอกเล่า คนเช่นนั นเพยงถูกจับขังแค่สามสวันแล้วจะ



ชําระล้างจตใจได้จริงหรือ แน่นอนว่าจะต้องมเรื องไม่





ชอบมาพากลแฝงอยูในน แน่











22


“คุณหนูใหญสํานึกผิดแล้วจริงๆ นะเจ้าคะ ในจวนอ๋อง







นั นแต่เดิมก็ยกยอคนทสูงส่งกว่า และถบหัวส่งคนทตก




ตํากว่า การมชวิตอยูเช่นน ก็ไม่ใช่เรื องง่ายเลย ตอนน ี






คุณหนูใหญก็ร้แล้วว่าเมอก่อนนั นตนเองได้กระทําผิดไป



มากเพยงใด ทําให้คุณหนูใหญร้สึกผิดบาปในใจ เพราะ

อย่างนั นครั งน จึงขอเชญคุณหนูรองด้วยความจริงใจ ไม่



ได้มใจเปนอนเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าคุณหนูรองจะไม่






อยากพบหน้าคุณหนูของบ่าว แต่เปนเพยงแค่การ


ทักทายสักเล็กน้อยก็ยังดเจ้าค่ะ คุณหนูใหญสังความ



บ่าวเอาไว้ว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเชญคุณหนูรองมาเพอ




รับคําขอโทษต่อหน้าให้จงได้เจ้าค่ะ”














ใบหน้าของเหลียงเอ๋อร์เต็มไปด้วยหยาดนํ าตา ท่าทซอ

สัตย์ดูจริงใจยิงนัก









23







อว อาเหรานงคิดเล็กน้อย ทสาวใช้ผู้น พูดมาก็ไม่ผิด แม้


ว่านางจะไม่อยากไปพบอว จอเยยน แต่อย่างไรเสียก็


ควรจะคํานึงถึงฐานะของจวนหลิงอ๋องบ้าง อย่างน้อยๆ



ก็ไปพบหน้าลูกอนุผู้ไร้อํานาจผู้นั นบ้างเพอป้องกันไม่ให้








คําครหาเกยวกับจวนหลิงอ๋องนั นยําแย่ไปมากกว่าน







“เช่นนั นก็ได้ ข้าจะไปกับเจ้า”











เมอเจาเอ๋อร์ได้ยินดังนั นก็เกดความกังวลขึ นมา “คุณ







หนู ท่านก็ร้ดนเจ้าคะว่าคุณหนูใหญจตใจอํามหิตมาก







มายเพยงใด นเกรงว่าจะต้องเกดเรื องร้ายขึ นเปนแน่
ท่านอย่าไปเลยนะเจ้าคะ”











24




“ไม่เปนไร หากนางกล้าทจะใช้แผนร้ายอะไรขึ นมาจริงๆ


ข้าก็จะทําให้นางเจ็บจนต้องจดจําไปอกนานเลยท ี




เดยว!”











อว อาเหราไม่ฟงคําของเจาเอ๋อร์อก เดินตามเหลียงเอ๋อร์



ออกไปข้างนอก เช่นนั นมุมปากของสาวใช้ก็ค่อยๆ




เผยออกมาเปนรอยยิ ม


























ตอนท 94 มายังสถานทสุดแสนทุรกันดาร



















25


เจาเอ๋อร์เพยงมองเล็กน้อย ก่อนจะขมวดคิ วแล้วเดิน




จากไปโดยไม่กล่าวอะไรอก










อว อาเหราเดินตามเหลียงเอ๋อร์ไปตลอดทาง จนเข้าสู ่








หนานย่วน สถานททตั งอยูปลีกวิเวกออกมา






หลังจากมาถึงหนานย่วนแล้ว เหลียงเอ๋อร์ก็พานางเข้า







ไปในห้องห้องหนึ งทค่อนข้างมดอย่างเห็นได้ชัด นางยัง
ไม่ทันได้มองด้านในให้ชัดเจน เหลียงเอ๋อร์ก็ทําความ










เคารพ “คุณหนูรอง ได้โปรดรออยูทนก่อนสักคร่นะเจ้า

คะ บ่าวจะไปตามคุณหนูใหญก่อน เกรงว่านางอาจจะ





อยูอน เพยงไม่นานก็คงจะกลับมาแล้วเจ้าค่ะ”









26




“อม” อว อาเหราร้สึกได้ถึงความผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้พูด

อะไรออกมา














ด้านในน ทั งมดทั งอับ หากไม่เดินเข้าไปใกล้ๆ เดิมทก็ไม่

สามารถมองเห็นสิ งใดได้เลย สถานการณ์เช่นน ชัดเจน




ว่าไม่ค่อยดนัก นางสัมผัสได้ถึงความประสงค์ร้ายของอ





ว จอเยยน ในใจก็นึกอยากจะหัวเราะออกมาอยูบ้าง คิด



หรือว่าทําเช่นน แล้วจะสามารถกําจัดนางได้ นางก็ไม่ม ี





ทางหลงกลอย่างง่ายดายเพยงน หรอก









ในขณะทนางกําลังจะก้าวเท้าเดินนั น ทันใดนั นเองอวี







จอเยยนก็เดินนําสาวใช้กลุมหนึ งเข้ามา















27

“คุณหนูรองกําลังคิดจะไปไหนหรือ”














อว อาเหราเงยหน้าขึ นมองก็พบว่าไม่เพยงแต่อว จอเยยน





และอนุรองเท่านั น แม้แต่อนุสามและอนุสีทไม่ค่อยได้


ปรากฏกายออกมาให้เห็นก็มายังอยูทนด้วย นางชะงัก





ไปเล็กน้อย เมอเห็นสถานการณ์เช่นน แล้วก็อดไม่ได้ท ี


จะหัวเราะเสียงเย็น













“พวกเจ้านมัน...”
















อนุรองทกําลังกุมมออวี จอเยยนอยูทางด้านหนึ งนั น
หัวเราะหึๆ พลางกล่าวกับนางขึ นว่า “ข้าน้อยคารวะ




คุณหนูรอง หลายวันทได้มาอยูทหนานย่วนน ก็ร้สึก








แปลกทแปลกทางและเปล่าเปลียวอยูบ้างจริงๆ โชคดท ี

28





วันน อนุสามและอนุสีมาเยยมเยยน และก็ไม่คิดว่าจะได้
พบกับคุณหนูรองด้วย”















อว จอเหยยนเดินเข้าไปหานาง “เจ้าเปนบุตรสาวสาย



ตรงผู้สูงศักดิ แล้วเหตุใดถึงได้มายังสถานททแสน



ทุรกันดารเช่นน ได้เล่า”










ในใจของอวี อาเหราเกดเปนความตกตะลึง นางทพูด




ออกมามาเช่นน ก็ช่างเหนอความคาดหมายของตนยิง





นัก ชัดเจนว่าเมอคร่นางเปนคนบอกให้สาวใช้ข้างกาย


ไปเรียกนางมาเอง แล้วเหตุใดตอนน กลับมาถามเอากับ




นางได้?


















29






เรื องน มันต้องมใครทโกหกเปนแน่!












“อว จอเยยน เจ้าจะเสแสร้งไปเพอเหตุใดกัน เจ้าเองมิ


ใช่ทส่งคนไปเรียกข้ามา”












“ข้าเรียกเจ้ามา?” อว จอเยยนพูดขึ นอย่างน่าขัน


นางกวาดตามองไปยังเหล่าอนุภรรยาและสาวใช้ทอยู ่



ด้านหลัง “คุณหนูใหญผู้ตกทุกข์ได้ยากเช่นข้าน จะไปม ี




ความสามารถอะไรทจะเรียกเจ้ามาได้ พวกเจ้าเชอหรือ


ไม่”














“มบางอย่างท...ผิดปกติ” อนุสามเอ่ยรับขึ นมา













30



กลุมคนเหล่าน ใช้สายตาสํารวจตรวจตรามองไปยังร่าง



ของอว อาเหรา















อว จอเหยยนโคลงศรษะพลางก้าวเข้ามาด้านหน้า ทัน
ใดนั นก็หันไปพูดกับอนุรอง “ท่านแม่ ท่านว่าคุณหนู




รองเดินทางมายังสถานททุรกันดารเพยงลําพัง แม้แต่


สาวใช้ข้างกายอย่างเจาเอ๋อร์ก็ไม่ได้มาด้วย ไม่ร้ว่าคิด





จะทําอะไรกันแน่ เช่นนั นมิสู้พวกเราลองเข้าไปดูกันเถด




เจ้าค่ะ ไม่แน่ว่าด้านในอาจจะซ่อนอะไรเอาไว้ก็เปนได้”











ซ่อนอะไรเอาไว้? ดวงตาของอว อาเหราฉายแววตก




ตะลึง ทันใดนั นก็ร้สึกว่าภายในห้องน มของบางอย่างท ี



ไม่ควรอยู












31



รอยยิ มบนใบหน้าของอวี จอเยยนดูอ่อนโยนขึ น นางดึง

แขนของอนุรองให้เข้ามาในห้อง ส่วนอนุอกสองคน



แหละเหล่าสาวใช้ต่างก็เดินตามสองแม่ลูกเข้ามาด้วย





ความสงสัยใคร่ร้










“พวกเจ้าจะทําอะไรน่ะ” อว อาเหราก้าวเท้าเข้ามาขวาง




ทางพวกนางอย่างทันถ่วงท มองด้วยสายตาเย็นชา













“หมายความว่าอย่างไรกัน” รอยยิ มของอว จอเยยนยิง



อ่อนโยนมากขึ น “คุณหนูรองก็ช่างกล่าววาจาล้อเล่นยิง



นัก ข้าจะกล้าทําอะไรเจ้าได้ หรือว่าเจ้าคิดว่าข้าก็ไม่




กลัวว่าเจ้าจะไปฟ้องเสด็จพ่อมาจัดการข้าและท่านแม่






หรอกหรือ ข้าเพยงเห็นว่าด้านในน มดทึบมากไปหน่อย

จึงอยากจะเข้ามาดูก็เท่านั น”







32


Click to View FlipBook Version