เร่อื ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้อื หา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชว่ั โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
3. จัดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติ การเขียน
โครงการอาชีพ
4. ก ำ�หนดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการประเมิน
ความเหมาะสมและสอดคล้องของ
โครงการอาชีพ
5. จ ัดให้ผู้เรียนปรับปรุงโครงการอาชีพ
ให้มีความเหมาะสมและถูกต้อง
6. กำ�หนดให้ผู้เรียนเขียนโครงการ
อาชีพของตนเอง เพ่ือเสนอขอรับ
การสนบั สนนุ งบประมาณด�ำ เนนิ งาน
อาชีพ และใช้ในการดำ�เนินการ
ประกอบอาชีพตอ่ ไป
443
444
หลกั สตู รช่างซ่อมรถจกั รยานยนต์เบอ้ื งต้น
จำ�นวน 90 ชว่ั โมง
กลุ่มอาชพี เฉพาะทาง
ความเปน็ มา
ในปัจจุบันรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะที่มีความสำ�คัญและความจำ�เป็นต่อชีวิตประจำ�วันของสังคมไทย
ทกุ ครวั เรอื น ทง้ั ในสงั คมเมอื งและชนบท เพราะมคี วามคลอ่ งตวั สะดวก และประหยดั แตเ่ มอ่ื ใชง้ านไดร้ ะยะหนง่ึ
เครอ่ื งยนตก์ จ็ ะช�ำ รดุ ขดั ขอ้ ง และสกึ หรอ สว่ นใหญผ่ ใู้ ชร้ ถจกั รยานยนตก์ ม็ กั จะสง่ เขา้ ตามรา้ นซอ่ ม ซงึ่ มคี า่ บรกิ าร
ค่อนขา้ งสงู รายได้ของร้านซอ่ มจงึ มีมาก หากให้บริการได้วันละ 2 - 3 คนั กจ็ ะมรี ายได้ 700 – 800 บาท หกั คา่
วัสดุอะไหล่ ค่าสถานที่ และค่าใช้จ่ายท่ัวไปก็มีเพียงเล็กน้อย การเปิดร้านซ่อมรถจักรยานยนต์มีต้นทุนไม่สูง
ขอเพยี งมกี ารบรกิ ารทด่ี ี สะดวก รวดเรว็ ซอ่ื สตั ย ์ และพยายามตอ่ ยอดเพมิ่ เตมิ ความรอู้ ยเู่ สมอ กจ็ ะสามารถดงึ ดดู
ผใู้ ช้บริการไดอ้ ย่างประทับใจ
หลกั การของหลักสูตร
1. เป็นหลักสูตรที่จัดทำ�ขึ้นเพ่ือเพ่ิมโอกาสการสร้างรายได้ให้กับผู้ท่ีกำ�ลังมองหาอาชีพเสริมหรือนำ�ไป
ประกอบอาชพี
2. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการเรียนรู้เกี่ยวกับส่วนประกอบต่างๆ และการทำ�งานของรถจักรยานยนต์
การซ่อมบ�ำ รงุ และการบริการลกู ค้าในรูปแบบต่าง ๆ ท่สี ามารถน�ำ ไปใช้ประกอบอาชพี
จุดหมาย
การจัดการศึกษาตามหลกั สตู รน้ีมุง่ ปลูกฝังใหผ้ ้เู รยี นมีคุณลกั ษณะดงั น้ี
1. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรู้ ทกั ษะพนื้ ฐานในการเปน็ ชา่ งซอ่ มรถจกั รยานยนต์ รกั การทำ�งานและสามารถ
ทำ�งานร่วมกบั ผู้อนื่ ได้
2. เพื่อใหผ้ ูเ้ รยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับโครงสรา้ งสว่ นประกอบต่างๆ และระบบการท�ำ งานของ
รถจกั รยานยนต์ การบ�ำ รุงดแู ลรักษา และการบรกิ ารลกู ค้าในรปู แบบต่างๆ
3. เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง และแลกเปล่ียนเรียนรู้ ประสบการณ์ต่างๆ ท่ีผู้เรียน
ไดเ้ รียนรู้ในสถาณการณ์จรงิ
กลมุ่ เป้าหมาย
กลมุ่ เป้าหมายคอื ประชาชนกลุม่ เป้าหมายนอกระบบโรงเรยี น
1. ผูท้ ไี่ มม่ ีอาชีพ
2. ผ้ทู ม่ี ีอาชพี และต้องการพัฒนาอาชพี
ระยะเวลา จ�ำ นวน 90 ชว่ั โมง
โครงสรา้ งหลักสูตร 445
จำ�นวน 1 ชัว่ โมง
1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ
1.1 ความส�ำ คญั ของการประกอบอาชพี ชา่ งซอ่ มรถจกั รยานยนต์ จ�ำ นวน 75 ชว่ั โมง
1.2 ความเป็นไปไดใ้ นการประกอบอาชีพช่างซ่อมรถจกั รยานยนต์ จำ�นวน 5 ชั่วโมง
1.2.1 ความตอ้ งการ จ�ำ นวน 42 ชั่วโมง
1.2.2 แรงงาน
1.2.3 เครอื่ งมือ จ�ำ นวน 4 ชั่วโมง
1.2.4 ทำ�เล / พื้นท่ี จำ�นวน 20 ชว่ั โมง
1.2.5 ทนุ จ�ำ นวน 4 ชัว่ โมง
1.3 แหลง่ เรียนรกู้ ารซอ่ มรถจักรยานยนต์
1.4 ทิศทางการประกอบอาชพี
2. ทกั ษะการประกอบอาชีพ จ�ำ นวน 2 ช่วั โมง
2.1 ขนั้ ฝึกทักษะการประกอบอาชพี ชา่ งซอ่ มรถจกั รยานยนต์
2.1.1 การใชเ้ ครื่องมอื และอุปกรณก์ ารซอ่ มรถจักรยานยนต ์
2.1.2 โครงสรา้ งรถจกั รยานยนต์
1) ล้อและยาง
2) โซแ่ ละเสตอร์
3) ระบบเบรคและระบบกนั สะเทือน
4) ระบบไฟ
5) ระบบเชอื้ เพลิงและคาบูเรเตอร์
6) ระบบหัวฉีด
2.1.3 หลักการทำ�งานของเครือ่ งรถจกั รยานยนต์
1) เครอ่ื งยนต์ 2 จงั หวะ
2) เคร่ืองยนต ์ 4 จงั หวะ
2.1.4 ทกั ษะการถอดประกอบเครื่องยนต ์
1) การถอดประกอบเครอื่ งยนต์ 2 จังหวะ
2) การถอดประกอบเคร่อื งยนต์ 4 จังหวะ
2.2 ขัน้ ดแู ลรักษารถจักรยานยนต์
2.2.1 การบ�ำ รุงดแู ลรกั ษารถจกั รยานยนต์
2.2.2 การขบั ขี่รถจักรยานยนต์อย่างปลอดภยั
3. การบริหารจดั การในการประกอบอาชพี
3.1 คณุ สมบตั ขิ องช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ท่ดี ี
3.2 เทคนิคผปู้ ระกอบการร้านซ่อมรถจกั รยานยนต์
446
4. โครงการประกอบอาชพี จ�ำ นวน 12 ชวั่ โมง
4.1 ความส�ำ คัญของโครงการประกอบอาชีพ
4.2 ประโยชนข์ องโครงการประกอบอาชีพ
4.3 องคป์ ระกอบของโครงการประกอบอาชพี
4.4 การเขยี นโครงการ
4.5 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการ
การจัดกระบวนการเรียนรู้
1. ศกึ ษาข้อมูลจากแหลง่ เรยี นรแู้ ละภมู ปิ ัญญา
2. การศกึ ษาดูงานจากแหลง่ เรียนรู้ / สถานประกอบการ
3. แลกเปล่ยี นเรยี นร้เู พ่อื สรา้ งองค์ความรใู้ หม่
4. การสาธติ
5. ฝึกปฏบิ ตั ิจรงิ ในสถานประกอบการ
6. สัมมนาอาชพี
ส่อื การเรียนรู้
1. สิง่ พิมพ์ ชุดตำ�รา ใบงาน ใบความรู้
2. เครอ่ื งมอื / อุปกรณ์ / อะไหล่ รถจกั รยานยนต์
3. รถจกั รยานยนต์
4. วซี ดี ี
5. แหล่งการเรียนรู้ / สถานประกอบการ
6. ผู้ประกอบการ / ผรู้ ู้
การวดั และประเมินผล
1. การประเมนิ ความร้ภู าคทฤษฎีระหวา่ งเรยี นและจบหลกั สูตร
2. การประเมินผลงานระหว่างเรียนจากการปฏิบัติ ได้ผลงานที่มีคุณภาพสามารถสร้างรายได้ และ
จบหลักสตู ร
การจบหลกั สูตร
1. มเี วลาเรียน ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80
2. มผี ลการประเมินตลอดหลักสูตร ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 60
3. มผี ลงานท่มี ีคณุ ภาพ
4. ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานจากกระทรวงแรงงาน
447
เอกสารหลักฐานการศึกษา
1. หลกั ฐานการประเมนิ ผล
2. ทะเบียนคุมวฒุ ิบัตร
3. วฒุ บิ ัตรการศกึ ษา ออกโดยสถานศกึ ษา
4. ใบแสดงผลการเรียน
5. ใบรับรองมาตรฐานฝมี ือแรงงานจากกระทรวงแรงงาน
การเทียบโอน
ผู้เรียนที่จบหลักสูตรนี้สามารถนำ�ไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ
การศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี วชิ าเลือกทีส่ ถานศึกษาได้จดั ท�ำ ขนึ้
รายละเอียดโครงสร้างหลักสูตรช่างซ่อมรถจกั รยานยนต์ 448
เรอ่ื ง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้ือหา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนช่วั โมง
ทฤษฎี ปฏิบัติ
1. ช อ่ งทางการประกอบ 1.1 บ อกความสำ�คัญของการประกอบ 1.1 ค วามส�ำ คญั ของการประกอบอาชพี 1.1 ศ ึกษาข้อมูลจากเอกสาร สื่อ 1 -
อาชพี อาชพี ช่างซ่อมรถจกั รยานยนต์ ช่างซ่อมรถจกั รยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ สถานประกอบการ
1.2 บอกความเปน็ ไปไดใ้ นการประกอบ 1.2 ค วามเป็นไปได้ในการประกอบ สื่อของจริง เพื่อนำ�ข้อมูลมา
อาชพี ช่างซอ่ มรถจักรยานยนต์ อาชพี ชา่ งซอ่ มรถจักรยานยนต์ วิเคราะห์และใช้ในการประกอบ
1.3 บอกแหล่งเรียนรู้การซ่อมรถ 1.2.1 ความต้องการ อาชพี ชา่ งซ่อมรถจักรยานยนต์
จกั รยานยนต์ 1.2.2 การใชแ้ รงงาน 1.2 ว ิเคราะห์อาชีพการประกอบอาชีพ
1.4 บ อกทศิ ทางการประกอบอาชพี ชา่ ง 1.2.3 การหาวัสดุ อปุ กรณ์ ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ในชุมชน
ซ่อมรถจกั รยานยนต์ 1.2.4 เลอื กท�ำ เลทีต่ ัง้ จากข้อมูลต่างๆ
1.2.5 ทนุ 1.3 ศ ึกษาดูงานในสถานประกอบการ
1.3 แหลง่ เรยี นรู้ แหลง่ เรียนรูใ้ นชมุ ชน
1.4 ทศิ ทางการประกอบอาชพี ชา่ งซอ่ ม 1.4 ครู ผเู้ รยี น และผรู้ ู้ รว่ มกนั อภปิ ราย
รถจกั รยานยนต์ เกยี่ วกบั ทศิ ทางการประกอบอาชพี
ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ในรูปแบบ
ที่เหมาะสมกับตนเอง เช่น ลูกจ้าง
เจ้าของกิจการ ร่วมทุน ฯลฯ โดย
คำ�นึงถึงศักยภาพ 5 ด้าน ได้แก่
ศักยภาพทรัพยากรธรรมชาติใน
แตล่ ะพน้ื ท ี่ ศกั ยภาพของพน้ื ทตี่ าม
ลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของ
ภมู ปิ ระเทศและท�ำ เลทต่ี งั้ ศกั ยภาพ
ของศลิ ปะ วฒั นธรรมประเพณแี ละ
วถิ ชี วี ติ ของแตล่ ะพนื้ ที่ และศกั ยภาพ
ของทรพั ยากรมนุษยใ์ นแต่ละพ้ืนที่
เรอ่ื ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนชวั่ โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
2. ท ักษะการประกอบ 2.1 ฝึกทักษะการประกอบอาชีพช่าง 2.1 ข้ันฝึกทักษะการประกอบอาชีพ - ศ ึกษาตัวอย่างเครื่องมือและอุปกรณ์ 21 54
อาชพี ซ่อมรถจกั รยานยนต์ ช่างซอ่ มรถจกั รยานยนต์ การซ่อมรถจักรยานยนตจ์ ริง
2.1.1 บ อกการใช้เคร่ืองมือและ 2.1.1 การใชเ้ ครอ่ื งมอื และอปุ กรณ์ - ศ กึ ษาข้อมลู เอกสาร ส่ืออเิ ล็กทรอนกิ ส์
อุ ป ก ร ณ์ ก า ร ซ่ อ ม ร ถ การซอ่ มรถจักรยานยนต์ เคร่ืองมือและอุปกรณ์การซ่อม
จักรยานยนตไ์ ด้ รถจกั รยานยนต์
- ส าธิตการใช้เคร่ืองมือและอุปกรณ์
การซ่อม
2.1.2 อ ธิบายโครงสร้างของรถ 2.1.2 โ ครงสรา้ งของรถจกั รยานยนต์ - บรรยายโครงสร้างต่างๆ ของ
จักรยานยนต์ได้ 1) ล้อและยาง รถจักรยานยนต์
2) โซ่และเสตอร์ - ศึกษาตัวอย่างอุปกรณ์และอะไหล่
3) ร ะบบเบรคและกนั สะเทอื น รถจักรยานยนตข์ องจริง
4) ระบบไฟ - ศ กึ ษาขอ้ มูลเอกสาร ส่อื อิเล็กทอรนิกส์
5) ระบบเช้ือเพลิงและ โครงสรา้ งของรถจักรยานยนต์
คาบูเรเตอร์ - การก�ำ หนดและควบคุมการปฏบิ ตั ิ
6) ระบบหวั ฉดี - ฝึกทกั ษะ
2.1.3 อธิบายหลักการทำ�งานของ 2.1.3 ห ลักการทำ�งานของเครื่อง - สาธิตการทำ�งานของระบบต่างๆ ใน
เครือ่ งรถจักรยานยนต์ได้ รถจกั รยานยนต์ โครงสร้างรถจกั รยานยนต์
1) เครื่องยนต ์ 2 จังหวะ - บ รรยายหลักการทำ�งานของเคร่ือง
2) เครอ่ื งยนต ์ 4 จงั หวะ รถจักรยานยนต์
2.1.4 ท กั ษะการถอดประกอบเครอ่ื งยนต์ 2.1.4 การถอดประกอบเครอื่ งยนต์ - ศ ึกษาขอ้ มลู เอกสาร ส่อื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
449
เร่ือง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้ือหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนชวั่ โมง 450
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
1) ก ารถอดประกอบเครอ่ื งยนต์ - บ รรยายขั้นตอนการถอดประกอบ
2 จงั หวะ เครื่องยนต์
2) ก ารถอดประกอบเครอ่ื งยนต์ - การกำ�หนดและควบคมุ การปฏบิ ตั ิ
2.2 ดูแลรักษารถจกั รยานยนต ์ 4 จังหวะ - ฝ กึ ทักษะการถอดประกอบเครอ่ื งยนต์
2.2.1 สามารถบำ�รุงดูแลรักษา 2.2 การดูแลรักษารถจักรยานยนต์ - บรรยายขั้นตอนการดูแลรักษา
รถจักรยานยนตไ์ ด้ 2.2.1 ว ิธีการบำ�รุงดูแลรักษา รถจกั รยานยนต์
2.2.2 สามารถขบั ขรี่ ถจกั รยานยนต์ รถจกั รยานยนต์ - การก�ำ หนดและควบคุมการปฏบิ ตั ิ
ไดอ้ ยา่ งปลอดภยั 2.2.2 ก ารขับข่ีรถจักรยานยนต์ - ฝ ึกทักษะวิธีการบำ�รุงดูแลรักษา
อย่างปลอดภยั รถจักรยานยนต์
- สมั มนาอาชีพ
3. ก ารบริหารจัดการใน 3.1 บ อ ก คุ ณ ส ม บั ติ ข อ ง ช่ า ง ซ่ อ ม 3.1 ค ณุ สมบตั ขิ องชา่ งซอ่ มรถจกั รยานยนต์ 3.1 ศึกษาข้อมูลจากเอกสาร ส่ือ 2 -
การประกอบอาชพี รถจักรยานยนตท์ ีด่ ีได้ ท่ดี ี อิเล็กทรอนกิ ส์ สถานประกอบการ
3.2 บอกเทคนคิ ผปู้ ระกอบการรา้ นซอ่ ม 3.2 เ ทคนิคผู้ประกอบการร้านซ่อม สอื่ ของจรงิ เพอ่ื น�ำ ขอ้ มลู มาวเิ คราะห์
รถจักรยานยนต์ รถจกั รยานยนต์ 3.2 การแลกเปลย่ี นเรยี นรปู้ ระสบการณ์
จากของจริง
3.3 ร่วมกันแสดงความคิดเห็น และ
อภปิ รายรว่ มกัน
4. โครงการประกอบ 4.1 บอกความสำ�คัญของโครงการ 4.1 ความส�ำ คญั ของโครงการอาชพี 4.1 จัดให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจาก 3 9
อาชพี อาชพี ได้ 4.2 ประโยชน์ของโครงการอาชพี การ ใบความรู้ เรื่อง ความสำ�คัญของ
4.2 บอกประโยชน์ของโครงการอาชพี ได้ 4.3 องคป์ ระกอบของโครงการประกอบ โครงการอาชีพ ประโยชน์ของ
4.3 บ อกองคป์ ระกอบของโครงการอาชพี ได้ อาชพี โครงการอาชพี องคป์ ระกอบของ
เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนื้อหา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนชั่วโมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
4.4 อ ธบิ ายความหมายขององคป์ ระกอบ 4.4 การเขียนโครงการอาชพี โครงการอาชีพ แล้วจัดกิจกรรม
ของโครงการอาชพี ได้ 4.5 ก ารประเมินความเหมาะสมและ การสนทนาแลกเปล่ียนข้อมูล
4.5 อธิบายลักษณะการเขียนท่ีดีของ สอดคลอ้ งของโครงการอาชพี ความคิดเห็น เพ่ือสร้างแนวคิดใน
องคป์ ระกอบของโครงการอาชพี ได้ การด�ำ เนินกจิ กรรมการเรยี นรู้
4.6 เขียนโครงการในแต่ละองค์ประกอบ 4.2 จัดให้ผู้เรียนศึกษาสาระข้อมูลจาก
ให้เหมาะสมและถูกต้องได้ ใบความรู้ เรื่อง ตัวอย่างการเขียน
4.7 ตรวจสอบความเหมาะสมและ โครงการอาชีพท่ีดี เหมาะสม และ
สอดคล้องของโครงการอาชพี ได้ ถกู ตอ้ ง พรอ้ มจดั การอภปิ ราย เพือ่
สรุปแนวคิดเป็นแนวทางในการ
เขียนโครงการอาชีพท่ีดี เหมาะสม
และถกู ตอ้ ง
4.3 จ ัดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติ การเขียน
โครงการอาชีพ
4.4 ก ำ�หนดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการ
ป ร ะ เ มิ น ค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม แ ล ะ
สอดคล้องของโครงการอาชีพ
4.5 จ ัดใหผ้ ู้เรียนปรบั ปรุงโครงการอาชีพ
ให้มีความเหมาะสมและถูกต้อง
4.6 กำ�หนดให้ผู้เรียนเขียนโครงการ
อาชีพของตนเอง เพ่ือเสนอขอรับ
การสนับสนุนงบประมาณดำ�เนิน
งานอาชพี และใชใ้ นการด�ำ เนนิ การ
ประกอบอาชีพตอ่ ไป 451
452
หลกั สตู รการดแู ลสตรีหลังคลอด
จ�ำ นวน 130 ช่ัวโมง
กล่มุ อาชพี เฉพาะทาง
ความเป็นมา
การคลอดบุตรเป็นเรื่องของธรรมชาติ มิใช่เร่ืองของการเจ็บป่วย แต่เน่ืองจากสตรีท่ีตั้งครรภ์ จะมี
การเปล่ียนแปลงของร่างกายทั้งภายในและภายนอก ต้ังแต่เริ่มต้ังครรภ์กระท่ังหลังคลอดจะมีการขยายตัว และ
การเปล่ียนแปลงอวัยวะต่างๆ แม้กระทั่งผิวหนังก็ยังมีการเปล่ียนแปลง บางแห่งจะมีสีผิวที่คล้�ำกว่าปกติหรือ
เกิดฝ้าที่ใบหน้าและหลังจากการคลอดบุตรเป็นช่วงท่ีร่างกายมีความอ่อนแอ ขาดภูมิคุ้มกันจ�ำเป็นต้องได้รับ
การดแู ลเปน็ พเิ ศษ สตรที กุ คนยอ่ มตอ้ งการสขุ ภาพทแี่ ขง็ แรงเพอ่ื จะไดด้ แู ลบตุ ร นอกจากนยี้ งั เลง็ เหน็ ความส�ำคญั
ของเรือนร่างท่ีงดงามสมส่วนการดูแลสตรีหลังคลอดด้วยการนวดประคบ มีความส�ำคัญ และมีความจ�ำเป็น
ต่อสตรหี ลงั คลอดใหม้ ีรูปรา่ งงดงามสมสว่ น
อาชพี การดแู ลสตรหี ลงั คลอด จงึ เปน็ อาชพี ทมี่ คี วามส�ำ คญั ตอ่ การประกอบอาชพี เพอื่ เปน็ การเพมิ่ รายได้
ให้กบั ตนเอง และเปน็ การสรา้ งความสุขกายสุขใจให้แกผ่ ู้รบั บรกิ ารอกี ด้วย
หลกั การของหลกั สตู ร
การจดั การศึกษาอาชีพเพอ่ื การมงี านท�ำ กำ�หนดหลกั การดังน้ี
1. เปน็ หลักสตู รท่ีเน้นการบรกิ ารเกี่ยวกับการดแู ลสตรหี ลงั คลอด
2. เปน็ หลกั สตู รที่มงุ่ เน้นให้มีการต่อยอดจากการนวดพืน้ ฐาน
3. เนน้ การเรียนรู้ทฤษฎคี วบคูก่ ับการฝึกปฏบิ ตั ิจริงตามแนวทางการแพทยแ์ ผนไทย
จดุ หมาย
1. เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะและเจตคตทิ ีด่ ใี นการดแู ลสตรหี ลงั คลอด
2. เพ่ือให้ผู้เรียนนำ�ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสตรีหลังคลอดไปประกอบอาชีพสร้างรายได้ให้กับตนเอง
อยา่ งมคี ณุ ธรรมและม่นั คง รวมทั้งถกู ต้องตามหลักการแพทย์แผนไทย
3. เพ่อื ปลูกฝังให้ผู้เรยี นมนี สิ ยั รกั กการท�ำ งานด้านบรกิ าร
กลุ่มเปา้ หมาย
กลมุ่ เปา้ หมายคอื สตรี (ชว่ งอายุ 20-45 ป)ี ทมี่ คี วามพรอ้ มและมใี จรกั ในการประกอบอาชพี การใหบ้ รกิ าร
การดูแลสตรหี ลงั คลอดดว้ ยการแพทยแ์ ผนไทย
ระยะเวลา
จ�ำ นวน 130 ช่ัวโมง
- ภาคทฤษฎี 29 ชัว่ โมง
453
- ภาคปฏบิ ตั ิ 101 ชวั่ โมง
ฝึกประสบการณ์ตรง จำ�นวน 3 ราย
โครงสร้างหลกั สตู ร จ�ำ นวน 11 ช่วั โมง
1. ช่องทางการประกอบอาชพี การนวดประคบดูแลสตรหี ลังคลอด
1.1 ความสำ�คญั และความจ�ำ เปน็ ในการประกอบอาชีพการดูแลสตรหี ลังคลอด
จ�ำ นวน 1 ชวั่ โมง
1.2 ความเป็นไปไดใ้ นการเข้าสู่อาชพี การดแู ลสตรหี ลงั คลอด จ�ำ นวน 5 ชวั่ โมง
1.2.1 การลงทุน
1.2.2 การก�ำ หนดราคา
1.2.3 การก�ำ หนดทิศทางการตลาด
1.2.4 กระบวนการดำ�เนินการประกอบอาชพี การดแู ลสตรหี ลงั คลอด
1.3 ทิศทางและความก้าวหน้าในการประกอบอาชพี จำ�นวน 5 ช่ัวโมง
1.3.1 ความพร้อมของผดู้ �ำ เนินการการดูแลสตรีหลงั คลอด
1.3.2 จรรยาบรรณของนกั การดแู ลสตรีหลังคลอด
1.3.3 ความตอ้ งการของตลาด
1.3.3 สถานท่ตี ้งั ธรุ กจิ
1.3.4 แรงงานทีเ่ กี่ยวข้องกบั การดูแลสตรหี ลังคลอด
1.3.5 เงินลงทุน
1.3.6 การวเิ คราะห์คู่แข่ง
2. ทกั ษะการประกอบอาชีพการดแู ลสตรีหลังคลอด จำ�นวน 30 ชว่ั โมง
(ทฤษฎี 10 ชว่ั โมง ปฏิบัติ 20 ชวั่ โมง)
2.1 ความรพู้ ื้นฐานเกยี่ วกบั การดูแลสตรหี ลงั คลอด
2.1.1 สรรี ะของสตรหี ลังคลอด
2.1.2 ประเภทของการดแู ลสตรหี ลงั คลอด
1) นวดเพือ่ สง่ เสริมสุขภาพ
2) นวดเพ่ือแก้อาการ
2.1.3 รูปแบบการใหบ้ รกิ ารการดูแลสตรีหลงั คลอด
1) การนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
2) การทับหมอ้ เกลอื
3) การน่ังอฐิ
4) การประคบสมุนไพร
5) การอบตัวด้วยสมนุ ไพร
6) การอาบน�้ำดว้ ยสมุนไพร
454
7) การดื่มสมุนไพรปรบั ธาตแุ ละบ�ำ รงุ
8) การคาดชุดไฟหลวง
3. การบริหารจัดการในการประกอบอาชพี การดแู ลสตรหี ลงั คลอด จำ�นวน 77 ชว่ั โมง
(ทฤษฎี 5 ช่วั โมง ปฏบิ ตั ิ 72 ชว่ั โมง)
3.1 การควบคุมการใหบ้ ริการธรุ กจิ การดูแลสตรหี ลังคลอด จ�ำ นวน 9 ชว่ั โมง
3.1.1 การควบคุมคณุ ภาพ
3.1.2 การดูแลธุรกิจสตรีหลงั คลอด
1) การหาหมอนวดมืออาชีพ
2) การใหบ้ ริการระหว่างและหลงั การนวด
3) การจดั ท�ำ ฐานข้อมลู ลกู ค้า/เครือขา่ ยโครงงานผู้ดแู ลสตรหี ลังคลอด
4) การนำ�ขอ้ มูลไปใช้
3.1.3 การตอ่ ยอดธรุ กจิ การดแู ลสตรหี ลงั คลอดพรอ้ มการท�ำ ลกู ประคบ/ยาดม/ยาหมอ่ ง ฯลฯ
3.2 การตลาด จ�ำ นวน 8 ชัว่ โมง
3.2.1 การโฆษณาประชาสมั พันธ์
3.2.2 การสำ�รวจตลาด/ผ้รู บั บริการ/ผใู้ หบ้ รกิ าร
3.2.3 การส่งเสริมการขาย
3.3 ฝกึ ประสบการณเ์ ปน็ นกั การดแู ลสตรหี ลังคลอด จำ�นวน 60 ชั่วโมง
(ประมาณ 3 ราย ๆ ละ 20 ชัว่ โมง)
4. โครงการประกอบอาชีพธรุ กิจการดแู ลสตรีหลงั คลอด จ�ำ นวน 12 ช่วั โมง
4.1 ความสำ�คญั ธรุ กจิ โครงการอาชีพ
4.2 ประโยชน์ของโครงการอาชีพ
4.3 องคป์ ระกอบของโครงการอาชพี
4.4 การเขียนโครงการอาชีพ
4.5 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการ
การจดั กระบวนการเรยี นรู้
1. การบรรยายจากวทิ ยากร
2. ศกึ ษาข้อมลู จากเอกสาร สื่ออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ สถานประกอบการ สอื่ ของจรงิ
3. ศกึ ษาดงู านในสถานประกอบการ แหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆ ในอาชีพท่ีตัดสนิ ใจเลือก
4. แลกเปลี่ยนเรียนรูก้ บั ผ้ปู ระกอบธรุ กิจการดูแลสตรีหลงั คลอดเพอ่ื สร้างองค์ความร้ใู หม่
5. ฝกึ ปฏบิ ตั จิ ริง
6. สมั มนาอาชพี กอ่ นจบ
455
ส่ือการเรยี นรู้
- เอกสารสิง่ พมิ พ์
- VCD
- อินเทอรเ์ น็ต
- ผู้ประกอบการธุรกิจการดูแลสตรหี ลงั คลอด
- สถานประกอบการธรุ กจิ การดแู ลสตรีหลังคลอด
- ภมู ิปัญญาแพทยแ์ ผนไทยทเี่ ปน็ ปราชญ์ชุมชน
- สื่อของจรงิ
- วัสดุอุปกรณส์ ำ�หรบั ฝึกปฏิบัตกิ าร
การวัดและประเมนิ ผล
1. การประเมินความรู้ภาคทฤษฏีระหวา่ งเรยี นและจบหลักสูตร
2. ประเมินผลงานระหว่างเรียนจากการปฏิบัติ ได้ผลงานท่ีมีคุณภาพสามารถสร้างรายได้ และ
จบหลักสูตร
3. การประเมินจากการฝกึ ปฏบิ ตั ิในประสบการณ์จริง(ประเมนิ จากผรู้ ับบรกิ าร)
การจบหลักสตู ร
1. มีเวลาเรียนและฝกึ ปฏิบตั ิตามหลกั สูตร ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80
2. มผี ลการประเมินตลอดหลกั สตู รไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 60
3. มีผลงานการให้บริการธุรกิจการนวดประคบดูแลสตรีหลังคลอดที่ได้มาตรฐานเป็นท่ีพึงพอใจ
อยา่ งนอ้ ย 3 คน และผา่ นการทำ�แผน
4. ผ่านการทดสอบรบั รองมาตรฐานจากกระทรวงสาธารณสขุ
เอกสารหลักฐานการศกึ ษา
1. วฒุ ิบัตร ออกโดยสถานศกึ ษา
2. ใบแสดงผลการเรยี นจากสถานศกึ ษา
3. ใบรบั รองประกอบโรคศิลป์การดแู ลสตรหี ลงั คลอดดว้ ยการแพทยแ์ ผนไทย
การเทยี บโอน
ผเู้ รยี นหลกั สตู รนสี้ ามารถนำ�ไปเทยี บโอนผลการเรยี นกบั หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษา
ข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลือกของสถานศกึ ษาได้
รายละเอียดโครงสรา้ งหลกั สตู รการดแู ลสตรหี ลงั คลอด 456
เรือ่ ง จุดประสงค์การเรยี นรู้ เน้อื หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ช่ัวโมง
ทฤษฏี ปฏบิ ตั ิ
1. ช อ่ งทางการประกอบ 1.1 อ ธิบายความสำ�คัญ และความ 1.1 ค วามสำ�คัญ และความจำ�เป็นใน 1.1 บรรยายองค์ความรู้เก่ียวกับความ 11 -
อาชีพดูแลสตรีหลัง จำ�เป็นในการประกอบอาชีพธุรกิจ การประกอบอาชีพการดูแลสตรี สำ�คญั ความจำ�เปน็ ในการประกอบ
คลอด การดแู ลสตรหี ลังคลอดได้ หลังคลอด อาชีพการดูแลสตรีหลังคลอดและ
1.2 อ ธิบายความเป็นไปได้ในการเข้าสู่ 1.2 ค วามเป็นไปได้ในการเข้าสู่อาชีพ ความเป็นไปได้ของลักษณะการ
อาชีพการดูแลสตรีหลังคลอด การดแู ลสตรีหลังคลอด ประกอบธรุ กิจ
1.3 อธบิ ายถงึ ปจั จยั ทมี่ ผี ลตอ่ การตดั สนิ 1.2.1 การลงทนุ 1.2 ศกึ ษาดงู านสถานประกอบการดแู ล
ใจเลือกอาชีพการดูแลสตรีหลัง 1.2.2 การกำ�หนดราคา สตรีหลังคลอดทีไ่ ด้มาตรฐาน
คลอดได้ 1.2.3 การกำ�หนดทิศทางการตลาด 1.3 ผ เู้ รยี นวเิ คราะหค์ วามเปน็ ไปไดข้ องตน
1.2.4 ก ระบวนการดำ�เนินงานดแู ล ที่จะตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพ
สตรีหลงั คลอด การดูแลสตรีหลังคลอดในเบ้ืองต้น
1.3 ทิศทางการประกอบอาชพี จากองค์ประกอบของความพร้อม
1.3.1 ค วามพรอ้ มของผดู้ �ำ เนนิ การ ด้านตลาด สถานที่ตั้ง แรงงาน
ดแู ลสตรหี ลังคลอด เงินลงทุน ความพรอ้ มของตนเอง
1.3.2 จรรยาบรรณของนกั การดแู ล 1.4 ค รู ผเู้ รยี น และผรู้ ู้ รว่ มกนั อภปิ ราย
สตรหี ลงั คลอด เกยี่ วกบั ทศิ ทางการประกอบอาชพี
1.3.3 ความตอ้ งการของตลาด การดูแลสตรีหลังคลอดในรูปแบบ
1.3.4 สถานท่ีตงั้ ธุรกิจ ท่ีเหมาะสมกับตนเอง เช่น ลูกจ้าง
1.3.5 แ รงงานท่ีเก่ียวข้องกับการ เจ้าของกิจการ ร่วมทุน ฯลฯ โดย
ดแู ลสตรีหลังคลอด คำ�นึงถึงศักยภาพ 5 ด้าน ได้แก่
เรอื่ ง จุดประสงค์การเรียนรู้ เนอ้ื หา การจัดกระบวนการเรียนรู้ ช่วั โมง
ทฤษฏี ปฏบิ ตั ิ
1.3.6 เงนิ ลงทุน ศักยภาพทรัพยากรธรรมชาติใน
1.3.7 การวิเคราะหค์ แู่ ขง่ แตล่ ะพนื้ ท ่ี ศกั ยภาพของพน้ื ทต่ี าม
ลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของ
ภูมิประเทศ และทำ�เลที่ตั้งของ
แต่ละประเทศ ศกั ยภาพของศลิ ปะ
วฒั นธรรมประเพณแี ละวถิ ชี วี ติ ของ
แต่ละพ้ืนที่ และศักยภาพของ
ทรพั ยากรมนษุ ย์ในแต่ละพื้นที่
2. ท ักษะการประกอบ 2.1 อ ธิบายรายละเอียดประเภทการ 2.1 ความรู้พ้ืนฐานเกี่ยวกับการดูแล 2.1 บ รรยายความรู้เก่ียวกับความรู้ 10 20
อาชีพการดูแลสตรี ดูแลสตรีหลงั คลอดได้ สตรหี ลงั คลอด พื้ น ฐ า น เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร ดู แ ล ส ต รี
หลังคลอด 2.2 จ ำ�แนกประเภทการดูแลสตรี 2.2 ประเภทการดูแลสตรีหลังคลอด หลังคลอด
หลงั คลอดได้ 1) นวดเพอ่ื สุขภาพ 2.2 ส าธติ การดแู ลสตรหี ลงั คลอดแตล่ ะ
2.3 เข้าใจรูปแบบการให้บริการดูแล 2) นวดเพอ่ื แกอ้ าการ ประเภทและแต่ละรูปแบบ
สตรีหลงั คลอดแบบตา่ งๆได้ 2.3 ร ูปแบบการให้บริการการดูแลสตรี 2.3 ฝ ึกปฏิบัติการดูแลสตรีหลังคลอด
หลังคลอด เปน็ รายบคุ คล
1) การนวดผอ่ นคลายกลา้ มเนือ้ 2.4 จ บั คฝู่ กึ ปฏบิ ตั กิ ารดแู ลสตรหี ลงั คลอด
2) การทับหมอ้ เกลือ
3) การนง่ั อฐิ
4) การประคบสมนุ ไพร
5) การอบตัวดว้ ยสมุนไพร
6) การอาบน�้ำดว้ ยสมุนไพร
7) ก ารดมื่ สมนุ ไพรปรบั ธาตแุ ละบ�ำ รงุ
8) การคาดชุดไฟหลวง
457
เรอ่ื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนือ้ หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ชัว่ โมง 458
ทฤษฏี ปฏบิ ตั ิ
3. ก ารบริหารจัดการใน 3.1 อ ธิบายองค์ประกอบและวิธีการ 3.1 ก ารควบคมุ การใหบ้ รกิ ารธรุ กจิ การ 3.1 บรรยายองค์ความรู้เก่ียวกับการ 5 72
การประกอบอาชีพ ควบคุมการให้บริการดูแลสตรี ดูแลสตรีหลังคลอด ควบคุมการดำ�เนินธุรกิจและการ
การดแู ลสตรหี ลงั คลอด หลังคลอดได้ 3.1.1 การควบคมุ คุณภาพ บรหิ ารการตลาด
3.2 บอกปจั จยั ในการบรหิ ารการตลาดได้ 3.1.2 การดแู ลธรุ กจิ สตรหี ลงั คลอด 3.2 ผู้เรียนอภิปรายร่วมกันจากความรู้
3.3 วางแผนการตลาดได้ 1) การหาหมอนวดมอื อาชพี ท่ีได้รับจากการบรรยาย การสาธิต
3.4 ม ีประสบการณ์ในการเป็นนักการ 2) การให้บริการระหว่าง และการฝึกปฏบิ ัติ
ดแู ลสตรีหลังคลอด และหลงั การนวด 3.3 ฝึกวางแผนการตลาดและนำ�เสนอ
3) ก ารจดั ท�ำ ฐานขอ้ มลู ลกู คา้ / ต่อกลมุ่
เครอื ขา่ ยโครงงานผดู้ แู ล 3.4 ฝกึ ประสบการณเ์ ปน็ นกั การดแู ลสตรี
สตรหี ลังคลอด หลังคลอดกับสถานประกอบการ
4) การน�ำ ขอ้ มลู ไปใช้ 3.5 ส มั มนาอาชพี การดแู ลสตรหี ลงั คลอด
3.1.3 การต่อยอดธุรกิจการดูแล
สตรหี ลงั คลอดพรอ้ มการท�ำ
ลกู ประคบ/ยาดม/ยาหมอ่ ง
ฯลฯ
3.2 การตลาด
3.2.1 การโฆษณาประชาสัมพันธ์
3.2.2 การส�ำ รวจตลาด/ผ้รู ับบรกิ าร/
ผู้ใหบ้ ริการ
3.2.3 การสง่ เสริมการขาย
3.3 ฝ ึกประสบการณ์เป็นนักการดูแล
สตรหี ลังคลอด
เรือ่ ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้ือหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ ชัว่ โมง
ทฤษฏี ปฏบิ ตั ิ
4. โ ครงการประกอบ 4.1 บ อกความสำ�คัญของโครงการ 4.1 ความส�ำ คัญของโครงการอาชพี 4.1 ผู้เรียนศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ 3 9
อาชีพการดูแลสตรี อาชพี ได้ 4.2 ประโยชนข์ องโครงการอาชีพ เรอื่ ง ความส�ำ คญั ของโครงการอาชพี
หลังคลอด 4.2 บ อกประโยชน์ของโครงการอาชีพได้ 4.3 องคป์ ระกอบของโครงการอาชพี ประโยชน์ของโครงการอาชีพ
4.3 บ อกองค์ประกอบของโครงการ 4.4 การวางแผนประกอบอาชีพ องคป์ ระกอบการเขยี นโครงการอาชพี
อาชพี ได้ 4.5 การเขยี นโครงการอาชพี ทีด่ เี หมาสมและถูกต้อง
4.4 อ ธิ บ า ย ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง อ ง ค์ 4.6 การประเมินความเหมาะสมและ 4.2 จ ัดกิจกรรมสนทนาแลกเปลี่ยน
ประกอบของโครงการอาชพี ได้ สอดคลอ้ งของโครงการ ข้อมูลความคิดเห็น เพ่ือสร้าง
4.5 อ ธิบายการวางแผนการประกอบ แนวคิดในการดำ�เนินการกิจกรรม
อาชีพ การเรียนรู้
4.6 อธิบายลักษณะการเขียนท่ีดีของ 4.3 อ ภิปราย เพ่ือสรุปแนวคิดเป็น
องคป์ ระกอบของโครงการอาชพี ได้ แนวทางการเขียนโครงการอาชพี ที่
4.7 เ ขียนโครงการในแต่ละองค์ประกอบ ดี เหมาะสมถูกต้อง
ให้เหมาะสมและถกู ตอ้ งได้ 4.4 ผ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั ิ การเขยี นโครงการ
4.8 ต รวจสอบความเหมาะสมและ อาชีพและปรับปรงุ โครงการ
สอดคลอ้ งของโครงการอาชีพได้ 4.5 ผเู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารประเมนิ ความ
เ ห ม า ะ ส ม แ ล ะ ส อ ด ค ล้ อ ง ข อ ง
โ ค ร ง ก า ร อ า ชี พ เ พื่ อ ข อ รั บ ก า ร
สนับสนุนงบประมาณดำ�เนินงาน
อาชพี เพอ่ื การประกอบอาชพี ตอ่ ไป
459
460
หลกั สูตรการซอ่ มกระเปา๋ –รองเทา้
จำ�นวน 70 ชวั่ โมง
กลุ่มวชิ าอาชีพเฉพาะทาง
ความเป็นมา
ในสภาพสังคมปัจจุบัน กระเป๋าและรองเท้าถือว่าเป็นเครื่องประดับและเคร่ืองแต่งกายที่มีความสำ�คัญ
ยิ่งกับการใชช้ วี ติ ในประจำ�วนั ของทกุ ๆ คน เมือ่ ใชแ้ ลว้ ยอ่ มเกดิ ความช�ำ รุดเสียหายรวดเรว็ กว่าเครือ่ งประดบั และ
เครื่องแต่งกายประเภทอ่ืนๆ ประกอบกับราคาของกระเป๋าและรองเท้านั้นมีราคาค่อนข้างสูง การซ่อมกระเป๋า
และรองเท้าจึงเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งที่ทำ�ให้ผู้บริโภคหันมาใช้บริการเพ่ือเป็นการลดค่าใช่จ่ายของตนเองและ
ครอบครัว อาชีพการซ่อมกระเป๋าและรองเท้านั้นเป็นอาชีพที่ใช้งบประมาณในการลงทุนไม่มากนัก แต่มี
ผลตอบแทนค่อนข้างสูงจึงเป็นอีกทางเลือกหน่ึงของการประกอบอาชีพที่น่าสนใจซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับ
ตนเองและครอบครวั ในการยึดเป็นอาชีพหลกั หรือประกอบเป็นอาชพี เสรมิ ได้
หลักการของหลักสูตร
1. มุ่งเน้นการเรยี นรทู้ ฤษฎีควบคู่กบั การปฏบิ ัติ
2. มุง่ เนน้ ใหผ้ ้เู รียนนำ�ความรู้ ประสบการณ์และทกั ษะไปใชใ้ นการประกอบอาชพี
3. มุ่งให้ผู้เรยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจและทกั ษะในการประกอบอาชีพ ซอ่ มกระเป๋าและรองเท้า
จดุ หมาย
1. เพื่อใหผ้ เู้ รียนมคี วามร้ ู ความเข้าใจ ทักษะและเจตคตทิ ด่ี ีในการเป็นชา่ งซ่อมกระเปา๋ และรองเท้า
2. เพ่ือให้ผู้เรียนนำ�ความรู้เก่ียวกับการซ่อมกระเป๋าและรองเท้า ไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับ
ตนเองและครอบครัว อย่างมคี ุณธรรมและมน่ั คง
3. เพ่ือปลูกฝังใหผ้ ู้เรยี นมนี ิสัยรกั การทำ�งานดา้ นบริการ
กลุ่มเปา้ หมาย
กลุ่มเปา้ หมายคือประชาชนกลมุ่ เปา้ หมายนอกระบบโรงเรียน
1. ผู้ท่ไี มม่ ีอาชีพ
2. ผู้ท่ีมอี าชพี และตอ้ งการพฒั นาอาชพี
3. ผ้ทู ี่มอี าชพี และต้องการเปล่ียนอาชีพ
ระยะเวลา จำ�นวน 70 ช่วั โมง
461
โครงสร้างหลักสตู ร
1. ช่องทางการประกอบอาชพี (ทฤษฎี 3 ช่ัวโมง / ปฏบิ ตั ิ 12 ชัว่ โมง)
1.1 การวิเคราะหต์ นเอง (ความสามารถ/ทุน/ความชอบ/โอกาส)
1.2 ต้นทุนและแหล่งทนุ
1.3 การสำ�รวจสถานท่แี ละท�ำ เลท่ตี ้ัง
1.4 สถานทแี่ ละแหลง่ จ�ำ หนา่ ยวัสดแุ ละอุปกรณ์
1.5 คณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในการประกอบอาชพี
2. ทักษะการประกอบอาชีพ จำ�นวน 45 ช่ัวโมง (ทฤษฎี 10 ช่ัวโมง สาธิต 5 ชั่วโมง ปฏิบัติ
30 ช่วั โมง)
2.1 ความรู้เบ้อื งต้นเกีย่ วกับการซอ่ มกระเป๋าและรองเทา้
2.1.1 ความปลอดภัยในการทำ�งาน (ทฤษฎี 1 ช่วั โมง)
2.1.2 การใชเ้ ครื่องมอื วัสดุ อุปกรณ์ ทใ่ี ชใ้ นการซอ่ มกระเปา๋ และรองเท้า (ทฤษฎี 1 ชั่วโมง)
2.1.3 การจดั เก็บรกั ษา วัสดุ อุปกรณ์ (ทฤษฎี 1 ชวั่ โมง)
2.2 วธิ กี ารซอ่ มกระเป๋าและรองเท้า
2.2.1 การตรวจสภาพชิ้นงานก่อนซ่อม (ทฤษฎี 1 ชัว่ โมง)
2.2.2 วิธกี ารเย็บเขม็ ขอ(เย็บด้วยมือ) (สาธติ 1 ช่วั โมง / ปฏบิ ตั ิ 3 ชว่ั โมง)
2.2.3 วิธกี ารซ่อมเปลี่ยนซบั ในพ้ืนรองเท้าและการซ่อมหนังหนา้ รองเท้า
(ทฤษฎี 1 ชว่ั โมง/สาธิต 1 ชัว่ โมง / ปฏบิ ัติ 4 ชว่ั โมง)
2.2.4 วธิ ีการซ่อมพน้ื รองเทา้ / การตอกตะปู / ตดิ กาว / เย็บมอื ด้วยเขม็ ขอ
(ทฤษฎี 1 ชั่วโมง/สาธิต 1ช่วั โมง / ปฏบิ ัติ 8 ชว่ั โมง)
2.2.5 วธิ ีการซอ่ มสน้ รองเทา้ สตรี / บรุ ุษ การเจียสน้ รองเทา้ / ตดิ กาว / ตอกตะปู
(ทฤษฎี 1 ชั่วโมง /สาธิต 2ชว่ั โมง/ ปฏบิ ตั ิ 8 ช่วั โมง)
2.2.6 วธิ กี ารซ่อมสรี องเทา้ (ทฤษฎี 1 ชั่วโมง / ปฏบิ ัติ 1 ชัว่ โมง)
2.2.7 ว ิธีการซ่อมกระเป๋า / เปล่ียนซิป / การเย็บด้วยเข็มขอ (ทฤษฎี 1 ช่ัวโมง / ปฏิบัติ
4 ชั่วโมง)
2.2.8 วิธีการเก็บรายละเอียดและตกแต่งช้ินงานระยะสุดท้าย (ทฤษฎี 1 ช่ัวโมง / ปฏิบัติ
2 ชว่ั โมง)
3. การบรหิ ารจัดการในการประกอบอาชีพ จำ�นวน 4 ชัว่ โมง (ทฤษฎี 3 ชัว่ โมง ปฏิบัติ 1 ชว่ั โมง)
3.1 การประมาณการราคา ซ่อมกระเป๋าและรองเทา้ (ทฤษฎี 2 ช่วั โมง)
3.1.1 การประมาณราคาซอ่ มสี
3.1.2 การประมาณราคาซอ่ มเปลย่ี นพ้นื
3.1.3 การประมาณราคาซอ่ มซบั ในพื้น
3.1.4 การประมาณราคาซอ่ มการเย็บดว้ ยมือ
3.1.5 การประมาณราคาการเปลย่ี นส้นรองเท้าสตรี / บรุ ุษ
3.1.6 การประมาณราคาซ่อมเปล่ียนซิปกระเป๋า
462
3.2 การจดั ท�ำ บญั ชี รายรับ – รายจา่ ย (ทฤษฎี 1 ชัว่ โมง / ปฏิบัติ 1 ชัว่ โมง)
3.2.1 การลงบญั ชี
3.2.2 การวเิ คราะหต์ ้นทนุ / กำ�ไร
4. โครงการประกอบอาชีพ (ทฤษฎี 2 ชวั่ โมง / ปฏิบตั ิ 4 ช่ัวโมง)
4.1 ความสำ�คญั ของโครงการประกอบอาชพี
4.2 ประโยชนข์ องโครงการประกอบอาชพี
4.3 องค์ประกอบของโครงการประกอบอาชพี
4.4 การเขียนโครงการ
4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการ
การจัดกระบวนการเรยี นรู้
1. เรยี นรดู้ ้วยตนเองจากสอ่ื และแหลง่ เรียนรูใ้ นท้องถนิ่
2. เรียนรู้ด้วยการแลกเปลยี่ นจากกระบวนการกลุม่ /เพื่อน
3. เรียนรู้ด้วยการถ่ายทอดความรแู้ ละชมการสาธติ จากวิทยากร ครภู มู ิปญั ญาและสถานประกอบการ
4. เรยี นรู้ดว้ ยการสังเกต สอบถาม สัมภาษณแ์ ละศกึ ษาดูงาน
5. เรียนรดู้ ว้ ยการลงมอื ฝึกปฏิบตั ิ
สือ่ การเรยี นรู้
1. เอกสารใบความรู้
2. ใบงาน / แบบฝกึ
3. VCD
การวัดและประเมนิ ผล
1. การประเมินความรู้ภาคทฤษฎีระหว่างเรียนและจบหลักสูตร
2. การประเมินผลงานระหว่างเรียนจาการปฏิบัติ ได้ผลงานที่มีคุณภาพสามารถสร้างรายได้ และ
จบหลักสตู ร
การจบหลักสูตร
1. มีเวลาเรียน ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 80
2. มผี ลการประเมินตลอดหลักสูตร ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 60
3. มีผลงานท่มี คี ุณภาพ
463
เอกสารหลกั ฐานการศึกษา
1. หลกั ฐานการประเมนิ ผล
2. ทะเบียนคมุ วฒุ ิบตั ร
3. วุฒิบัตรการศึกษา ออกโดยสถานศึกษา
การเทยี บโอน
ผู้เรียนท่ีจบหลักสูตรน้ีสามารถนำ�ไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับ
การศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลอื กทีส่ ถานศกึ ษาได้จัดท�ำ ขึ้น
รายละเอยี ดโครงสร้างหลักสูตรการซอ่ มกระเปา๋ – รองเท้า 464
เรือ่ ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนือ้ หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชั่วโมง
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
1. ชอ่ งทางการประกอบ 1.1 เ พ่ือให้ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์ 1.1 ก ารวเิ คราะหต์ นเอง (ความสามรถ/ 1.1 ศ กึ ษาเนอ้ื หาจากเอกสารใบความรู้ 3 12
อาชีพ ตนเองได้ ทุน/นสิ ยั /ความชอบ/และโอกาส) 1.2 ผู้เรียนสำ�รวจการจัดและบันทึก
1.2 เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์ 1.2 ต้นทนุ และแหล่งทนุ ข้อมูลตนเอง ด้านความสามารถ
ต้นทุนและหาแหลง่ ทุนทเ่ี หมาะสม 1.3 การส�ำ รวจสถานที่และทำ�เลท่ีตง้ั ทุน ความสนใจ ความชอบและ
กับตนเองได้ 1.4 ส ถานที่และแหล่งจำ�หน่ายวัสดุ – โอกาส
1..3 เ พอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นส�ำ รวจหาสถานทแี่ ละ อปุ กรณ์ 1.3 วิเคราะห์ข้อมูลทุกด้านของตนเอง
ทำ�เลที่ต้งั ได้ 1.5 คุณธรรมและจริยธรรมในการ ตามใบงาน
1.4 เ พ่ือให้ผู้เรียนสามารถเลือกหา ประกอบอาชีพ 1.4 ส �ำ รวจสถานทแ่ี ละท�ำ เลทตี่ ง้ั รา้ นซอ่ ม
สถานทแ่ี ละแหลง่ จ�ำ หนา่ ยวสั ดแุ ละ แหลง่ จ�ำ หนา่ ยวสั ดุ อปุ กรณ ์ ส�ำ หรบั
อุปกรณ์ได้ ซอ่ มกระเปา๋ รองเทา้ ตามใบงาน
1.5 เ พ่ือให้ผู้เรียนสามารถอธิบายถึง 1.5 ว เิ คราะหต์ น้ ทนุ /คา่ ใชจ้ า่ ย ส�ำ หรบั
คุณธรรมและจริยธรรมในการ การลงทุนตามใบงาน
ประกอบอาชพี ได้ 1.6 ส รุปผลการเรียนรู้ร่วมกับวิทยากร
และเพอื่ นในกลุ่ม
2. ทกั ษะการประกอบ 2.1 เ พื่อให้ผู้เรียนอธิบายถึงความ 2.1 ค วามรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับการซ่อม 2.1 ผู้เรยี นศึกษาเนอื้ หาจากใบความรู้ 15 30
อาชีพ ปลอดภัยในการท�ำ งาน กระเปา๋ และรองเทา้ 2.2 ผ เู้ รยี นชมการสาธติ วธิ กี ารใชเ้ ครอื่ งมอื
2.2 เ พื่อให้ผู้เรียนบอกเคร่ืองมือ วัสดุ 2.1.1 ความปลอดภยั ในการท�ำ งาน วสั ดุ อปุ กรณ์ และวธิ กี ารจดั เกบ็ รกั ษา
อปุ กรณท์ ใ่ี ชใ้ นการซอ่ มกระเปา๋ และ 2.1.2 เครอ่ื งมอื วสั ดุ อปุ กรณท์ ใี่ ช้ 2.3 ผ ู้เรียนฝึกใช้และจัดเก็บรักษาเครื่องมือ
รองเทา้ ได้ ในการซอ่ มกระเปา๋ และรองเทา้ วัสดุ อปุ กรณ์
เร่อื ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้ือหา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชวั่ โมง
ทฤษฎี ปฏิบัติ
2.3 เพื่อให้ผู้เรียนบอกวิธีการจัดเก็บ 2.1.3 การจดั เกบ็ รกั ษาวสั ดุ อปุ กรณ์ 2.4 ผู้เรียนสรุปผลการเรียนรู้ร่วมกับ
รักษาวัสดุ อุปกรณ์ท่ีใช้ซ่อม 2.2 วิธกี ารซ่อมกระเปา๋ และรองเท้า วทิ ยากรและเพื่อน
กระเป๋าและรองเท้าได้ 2.2.1 ก ารตรวจสภาพชนิ้ งานกอ่ น 2.5 ผู้เรยี นศกึ ษาเนือ้ หาจากใบความรู้
2.4 เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถตรวจสภาพ ซอ่ ม 2.6 ผู้เรียนชมการสาธิต วิธีการตรวจ
ช้นิ งานก่อนซ่อมได้ 2.2.2 วิธีการเยบ็ เขม็ ขอ (เยบ็ ดว้ ย สภาพชน้ิ งานกอ่ นซ่อม วธิ ีการซ่อม
2.5 ผ เู้ รยี นสามารถบอกวธิ กี ารเยบ็ เขม็ ขอ มือ) การตัดหนังบริเวณท่ี เปลี่ยนซับใน วิธีการซ่อมพื้นรองเท้า
ด้วยมือได้ ช�ำ รุด การตอกตะปู การติดกาว วิธีการ
2.6 ผ ู้เรียนสามารถบอกวิธีการซ่อม/ 2.2.3 วธิ กี ารซอ่ มเปลี่ยนซบั ใน เย็บเข็มขอ วิธีการซ่อมส้นรองเท้า
เปล่ียนซบั ในรองเท้าได้ 2.2.4 ว ธิ กี ารซอ่ มพนื้ รองเทา้ /การ วิธีการซ่อมกระเป๋า เปล่ียนซิป
2.7 ผเู้ รยี นสามารถบอกวธิ กี ารซอ่ มพนื้ ตอกตะป/ู การติดกาว การเย็บด้วยเข็มขอวิธีการเก็บ
รองเทา้ /การตอกตะป/ู การตดิ กาวได้ 2.2.5 ว ธิ กี ารซอ่ มสน้ รองเทา้ สตร/ี รายละเอยี ดและตกแต่งชนิ้ งาน
2.8 ผ ู้เรียนสามารถบอกวิธีการซ่อม บรุ ุษ การเจยี สน้ รองเท้า 2.7 ผ เู้ รยี นฝกึ ซอ่ มกระเปา๋ รองเทา้ ตาม
ส้นรองเท้าสตรี/บุรุษ และการเจีย 2.2.6 วิธีการซอ่ มสีรองเทา้ ใบงาน
สน้ รองเท้าได้ 2.2.7 วิธีการซอ่ มกระเปา๋ 2.8 ผเู้ รยี นและวทิ ยากรรว่ มกนั ประเมนิ
2.9 ผู้เรียนสามารถบอกวิธีการซ่อมสี 2.2.8 วธิ กี ารเกบ็ รายละเอยี ด และ ชน้ิ งาน
รองเท้าได้ ตกแตง่ ชนิ้ งานระยะสดุ ทา้ ย
2.10 ผ ู้เรียนสามรถบอกวิธีการซ่อม
กระเปา๋ ได้
2.11 ผเู้ รยี นสามารถบอกวธิ กี ารเกบ็ ราย
ละเอียดและตกแตง่ ชิน้ งานได้
465
เรอ่ื ง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้ือหา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนชวั่ โมง 466
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
3. ก ารบรหิ ารจดั การใน 3.1 ผ ู้เรียนสามารถประมาณการราคา 3.1 การประมาณการราคาซอ่ มกระเปา๋ 3.1 ผ ู้เรียนศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ 3 1
การประกอบอาชีพ การซ่อมสีรองเท้า / เปลี่ยนพ้ืน / และรองเท้า และวิทยากร
ซ่อมซับใน / การเยบ็ ด้วยมือ / การ 3.1.1 การประมาณราคาซ่อมสี 3.2 ผ ู้เรียนฝึกประมาณราคาค่าซ่อม
เปลี่ยนส้นรองเท้า สตร/ี บรุ ุษ 3.1.2 การประมาณราคาซ่อม ชนิ้ งานแตล่ ะประเภท ตามใบงาน
3.2 ผู้เรยี นทำ�บัญชีรายรับ-รายจ่ายได้ เปลย่ี นพ้นื 3.3 ผ เู้ รยี นและวทิ ยากรรว่ มกนั ประเมนิ
3.3 ผ ู้เรียนสามารถวิเคราะห์ต้นทุน/ 3.1.3 ก ารประมาณราคาซ่อม ผลการประเมินราคาทุกประเภท
กำ�ไรได้ ซบั ในพ้ืน ของงาน
3.1.4 การประมาณราคาซ่อม 3.4 ผู้เรียนศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้
การเย็บดว้ ยมื และวทิ ยากร
3.1.5 การประมาณราคาซอ่ มการ 3.5 ผู้เรียนฝึกทำ�บัญชีรายรับ รายจ่าย
เปลย่ี นสน้ รองเทา้ สตร/ี บรุ ษุ ตามใบงาน
3.1.6 การประมาณราคาซ่อม 3.6 ผู้เรียนฝึกวิเคราะห์ต้นทุน-กำ�ไร
เปล่ียนซิปกระเป๋า ตามใบงาน
3.2 การท�ำ บญั ชรี ายรับ – รายจา่ ย 3.7 ผู้เรียนและวิทยากร สรุปผลการ
3.2.1 การท�ำ บญั ชีประจำ�วัน เรยี นรู้
- การวเิ คราะหต์ ้นทุน/ก�ำ ไร
เรื่อง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชวั่ โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
4. โครงการประกอบ 4.1 บ อกความสำ�คัญของโครงการ 4.1 ความสำ�คญั ของโครงการอาชพี 4.1 ผู้เรียนศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ 2 4
อาชีพ อาชีพได 4.2 ประโยชนข์ องโครงการอาชพี การ และจากวิทยากร
4.2 บอกประโยชน์ของโครงการอาชีพได้ 4.3 อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ข อ ง โ ค ร ง ก า ร 4.2 แ ลกเปล่ียนความคิดเห็นกับ
4.3 บ อกองค์ประกอบของโครงการ ประกอบอาชพี วทิ ยากรและเพอ่ื นในกลมุ่ เกย่ี วกบั
อาชพี ได้ 4.4 การเขยี นโครงการอาชีพ แนวทางการเขยี นโครงการ
4.4 อธบิ ายความหมายขององคป์ ระกอบ 4.5 ก ารประเมินความเหมาะสมและ 4.3 ศึกษาข้อมูลและตัวอย่างโครงการ
ของโครงการอาชีพได้ สอดคล้องของโครงการอาชพี จากตัวอย่างโครงการ รวมท้ังหา
4.5 อธิบายลักษณะการเขียนที่ดีของ ขอ้ มลู ทใ่ี ชใ้ นการเขยี นโครงการ
องคป์ ระกอบของโครงการอาชพี ได้ 4.4 ฝึกเขียนโครงการอย่างน้อย 1
4.6 โ ครงการในแต่ละองค์ประกอบให้ โครงการ และประเมนิ ความเหมาะสม
เหมาะสมและถกู ต้องได้ สอดคลอ้ งของโครงการจากใบงาน
4.7 ตรวจสอบความเหมาะสมและ 4.5 ผู้เรียนและวิทยากร ร่วมกันสรุป
สอดคลอ้ งของโครงการอาชีพได้ แนวทางการเขยี นโครงการท่ถี กู ตอ้ ง
467
468
หลกั สูตรขายข้าวราดแกงเงินล้าน
จำ�นวน 46 ช่ัวโมง
กลุม่ อาชีพเฉพาะทาง
ความเปน็ มา
ข้าวแกงหรือข้าวราดแกง เป็นอาหารจานเด็ดของคนไทยมานาน และยังเป็นอาหารจานด่วนท่ีมีคุณค่า
ทางโภชนาการเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายท่ีมีอยู่ในจานเดียวกันและที่สำ�คัญ ซ้ือง่าย-ขายคล่อง
มาทุกยคุ ทุกสมัย
การประกอบอาชพี ขายขา้ วแกงจงึ เปน็ อาชพี ทส่ี ามารถสรา้ งก�ำ ไรใหแ้ กเ่ จา้ ของรา้ นจ�ำ นวนมากเพราะผคู้ น
ในปจั จุบนั เวลาในการใชช้ วี ติ มจี �ำ นวนจ�ำ กัด จึงต้องการความสะดวกและรวดเรว็ ในการหงุ หาอาหาร และอาหาร
จานด่วนแบบง่ายๆ ก็เป็นอีกทางเลือกหน่ึง ท่ีให้ผู้บริโภคหันมาใช้บริการกันมากและบ่อยคร้ัง เพราะนอกจาก
จะเป็นการประหยัดเวลาแล้ว ยังมีรสชาติอร่อย มีความสะดวกและรวดเร็วโดยที่เราไม่ต้องใช้เวลาทำ�กินเอง
สามารถเลือกกับข้าวได้หลายอย่างในจานเดียวซ้ือใส่ถุงกลับไปทานที่บ้านก็ได้และมีอาหารมากมายให้เราเลือก
รับประทาน
การเปิดร้านขายข้าวแกงสามารถทำ�ได้หลายรูปแบบ เช่น แบบขายบนรถเข็นแล้วมีโต๊ะเก้าอี้มาวาง
เป็นร้านเล็กๆ ให้ลูกค้านั่งรับประทานอาหาร หรือเป็นแบบรถเข็นขายไปทุกท่ีและเปิดเป็นร้านขายข้าวแกง
อยู่กับท่ีโดยเฉพาะ ที่สามารถขายได้ต้ังแต่เช้าถึงเย็น ก่อนท่ีจะขายข้าวแกงต้องมองดู ทำ�เล ให้ดี ว่ามีคนอาศัย
อยู่ในย่านนั้นหนาแน่นขนาดไหน ปากซอย กลางซอย ก้นซอย มีอะไร มีผู้คนเข้า-ออก หรืออยู่ติดกับหน่วยงาน
อะไร หรือมีโรงงานอะไรอยู่ในบริเวณแถวนั้นบ้างหรือไม่เป็นต้น และส่ิงสำ�คัญของการขายข้าวแกง จะต้องมี
ฝีมือในการปรุงอาหารรสชาติมีมาตรฐาน แกงอร่อยถูกปากถูกใจลูกค้าแล้ว ไม่ต้องโฆษณาประชาสัมพันธ์
อะไรกันมากก็จะมีลูกค้าขาประจำ�และขาจรมาอุดหนุน พูดกันไปปากต่อปาก รู้กันโดยอัตโนมัติ แล้วต้องรู้จัก
ดัดแปลงอาหารใหน้ า่ รับประทานอย่เู สมอด้วย
อาชีพขายข้าวแกงจึงเป็นทางเลือกอีกทางหน่ึงของอาชีพท่ีสามารถสร้างรายได้หลัก รายได้เสริม
ผู้ท่ีตัดสินใจเลือกอาชีพนี้จึงจำ�เป็นจะต้องศึกษา หรือทำ�ความเข้าใจพอสมควร และจำ�เป็นท่ีจะต้องได้ผู้ท่ีมี
ประสบการณจ์ รงิ มาถา่ ยทอดความรู้ หรอื เปน็ จดุ เรม่ิ ตน้ ทเี่ รยี กวา่ เปน็ “คร”ู มาชแี้ นะแนวทางให้ ส�ำ นกั งาน กศน.
จึงได้จัดทำ�หลักสูตรร้ายขายข้าวแกงเงินล้านข้ึน ซึ่งเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการร้านขายข้าวแกง
และเทคนิคในการประกอบอาหารที่ถูกสุขอนามัยและมีรสชาติมาตรฐาน ท่ีสามารถนำ�ความรู้ไปใช้ในการสร้าง
รายได้ทมี่ นั่ คงและยั่งยนื อย่างมีประสิทธภิ าพ โดยมหี ลกั การดังน้ี
หลักการของหลักสตู ร
1. เป็นหลักสูตรท้องถิ่นท่ีเปิดโอกาสให้ผู้รู้หรือปัญญาในท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมเป็นวิทยากร
จดั การเรียนการสอนรว่ มกับสถานศึกษา
2. เปน็ หลกั สตู รทมี่ ุง่ ให้ผู้เรยี นนำ�ประสบการณ์จากการเรยี นไปใช้ประโยชน์ในการด�ำ รงชีวติ ประจ�ำ วนั
469
3. เป็นหลักสูตรที่พัฒนาข้ึนเพ่ือเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ให้กับผู้ที่กำ�ลังมองหาอาชีพเสริมหรือ
อาชพี หลัก และเปน็ ผ้ทู ่ีมใี จรักในการประกอบอาหารเพ่ือประกอบอาชพี ขายข้าวแกง
4. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการเรียนรู้เกี่ยวกับการประกอบอาชีพขายข้าวแกง การบริหารจัดการร้านขาย
ข้าวแกง เคล็ดลับการปรุงอาหารให้มีรสชาติมาตรฐาน การบริการลูกค้า ที่สามารถนำ�ไปใช้ประกอบอาชีพ
ขายขา้ วแกง
จดุ หมาย
การจัดการศึกษาตามหลักสตู รนี้มุง่ ปลูกฝงั ให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะดังน้ี
1. มีความรู้ ทักษะพื้นฐานในการทำ�งานมีนิสัยรกั การท�ำ งานและสามารถท�ำ งานร่วมกบั ผู้อื่นได้
2. มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับอาชีพขายข้าวแกง ในปัจจุบัน การบริหารจัดการร้านขายข้าวแกง
เคลด็ ลบั การประกอบอาหาร การบริการลกู ค้า ท่ีสามารถนำ�ไปใช้ประกอบอาชีพขายข้างแกงได้
3. สามารถ บริหารจัดการร้านขายข้าวแกง การเตรียมและหลักการเลือกซื้อวัตถุดิบต่างๆ การปรุง
อาหารให้มีรสชาติมาตรฐาน การบริการลูกค้า และความตระหนักถึงคุณค่าของอาหารตามหลักโภชนาการ
ทม่ี คี ณุ ภาพมาตรฐาน
กลุ่มเป้าหมาย
กลุม่ เป้าหมาย คอื ประชาชนกลุ่มเปา้ หมายนอกระบบโรงเรียน
1. ผูท้ ไี่ มม่ ีอาชีพ
2. ผ้ทู ่ีมอี าชีพ และตอ้ งการพัฒนาอาชพี หรือเปลี่ยนอาชีพ
ระยะเวลา จ�ำ นวน 46 ชั่วโมง
โครงสรา้ งเน้อื หา
หลักสูตรกลุ่มวิชาอาชีพ เรื่อง ขายข้าวราดแกงเงินล้าน มีแนวการจัดเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ และ
เกิดทักษะและมีคุณลักษณะท่ีดีในการทำ�งาน เพ่ือเป็นพ้ืนฐานในการพัฒนาตน พัฒนาอาชีพ และพัฒนาสังคม
จงึ ก�ำ หนดโครงสร้างของเนื้อหาให้ผูเ้ รียนได้เรยี นตามล�ำ ดบั ดังนี้
1. ช่องทางการประกอบอาชีพ
1.1 สำ�รวจและวิเคราะห์ตนเองและชุมชน ทรัพยากร ส่ิงแวดล้อม อาชีพ และความต้องการ
ของตลาด (ผู้บริโภค)
1.2 ความร้เู บ้ืองต้นเกย่ี วกับช่องทางประกอบอาชีพการขายขา้ วแกง
1.3 ลักษณะท่วั ไปของการประกอบอาชีพขายขา้ วแกง
1.4 ประโยชน์ และความเป็นไปได้หรือโอกาสในการประกอบอาชพี ขายขา้ วแกง
1.5 คุณสมบัตขิ องพอ่ คา้ แมค่ ้าขายขา้ วแกงท่ดี ี
สาระที่ 1 ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับช่องทางประกอบอาชีพการขายข้าวแกง เป็นเน้ือหาท่ีจัดข้ึน เพื่อ
มุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับ สำ�รวจและวิเคราะห์ตนเองและชุมชน ทรัพยากร สิ่งแวดล้อม อาชีพ
470
และความต้องการของตลาด (ผู้บริโภค) ลักษณะทั่วไปของการประกอบอาชีพขายข้าวแกง ประโยชน์ และ
ความเปน็ ไปไดห้ รอื โอกาสในการประกอบอาชพี ขายขา้ วแกง ทส่ี ามารถน�ำ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจ�ำ วนั เพอ่ื การประกอบ
อาชีพขายข้าวแกง และคุณสมบตั ิของพ่อคา้ แม่คา้ ขายข้าวแกงที่ดี จ�ำ นวน 11 ช่วั โมง
2. ทักษะการประกอบอาชีพการขายขา้ วแกง
2.1 เครือ่ งมือเคร่อื งใชใ้ นการปรงุ อาหาร
2.2 การเตรียมและหลกั การเลือกซ้ือวตั ถดุ ิบตา่ งๆ มาปรงุ ขา้ วแกง
2.3 แหล่งจ�ำ หนา่ ยวตั ถุดิบในการทำ�ขา้ วแกง
2.4 การปรุงอาหารใหม้ รี สชาตมิ าตรฐาน และการรักษาคณุ ค่าของสารอาหารที่ปรงุ
2.5 เมนูมาตรฐาน 10 อยา่ ง
2.6 เทคนิคการขายและวธิ ีการจูงใจลูกคา้
สาระท่ี 2 ทักษะการประกอบอาชีพการขายข้าวแกง เป็นเน้ือหาที่มุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ
และมีทักษะ เพียงพอท่ีจะน�ำไปประกอบอาชีพขายข้าวแกง เช่น การปรุงอาหารให้มีรสชาติมาตรฐาน และ
การรักษาคุณค่าของสารอาหารท่ีปรุง เครื่องมือเคร่ืองใช้ในการปรุงอาหาร วิธีการปรุงอาหาร อุปกรณ์และ
ถ้วยจานต่างๆ ที่จะใช้ในการประกอบอาชีพ การเตรียมและหลักการเลือกซ้ือวัตถุดิบต่างๆ เพื่อการปรุงและ
การประกอบอาหารเพื่อขายข้าวแกง อาหารคาว และ หวาน (เมนูมาตรฐาน 10 อย่าง อาหารว่าง 1 อย่าง
ประกอบด้วย แกงเขียวหวานไก่ แกงส้มมะละกอปลาช่อน หรอื กุ้ง พะแนงหมู ตม้ จดื มะระยดั ไส้ ตม้ ย�ำซโ่ี ครงหมู
ผัดเผ็ดไก่/หมู แกงป่าไก่ ลาบหมู หมูทอดกระเทียมสูตรโบราณ ผัดผักรวมมิตรกุ้งสด แถมน้�ำพริกปลาทู
ชะอมทอด) จ�ำนวน 21 ช่ัวโมง
3. การบรหิ ารจัดการรา้ นขายขา้ วแกง
3.1 การบริหารจดั การร้านขายข้าวแกง
3.2 การควบคณุ คุณภาพร้านขายขา้ วแกง
3.3 การวางแผน การลงทนุ และคู่แขง่ เก่ยี วกับการขายขา้ วแกง
3.4 การตอ่ ยอดและโอกาสขยายรา้ นขา้ วแกง
สาระที่ 3 การบริหารจัดการร้านขายข้าวแกง เป็นเน้ือหาท่ีมุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะ
ในการบริหารจัดการ ร้านขายข้าวแกง การควบคุณคุณภาพร้านขายข้าวแกง การวางแผน การลงทุนและคู่แข่ง
เกย่ี วกับการขายขา้ วแกง และการต่อยอดและโอกาสขยายร้านข้าวแกง จ�ำ นวน 12 ชวั่ โมง
4. โครงการประกอบอาชีพขายขา้ วแกง
4.1 ความสำ�คญั และประโยชนข์ องโครงการอาชีพ
4.2 องคป์ ระกอบของโครงการประกอบอาชีพ
4.3 ตัวอยา่ งการเขียนโครงการอาชพี ท่ดี ี
4.4 การเขยี นโครงการอาชีพ
4.5 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการอาชพี
สาระท่ี 4 โครงการประกอบอาชีพขายข้าวแกง เป็นเน้ือหามุ่งให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีทักษะ
ในการตระหนกั ถงึ ความส�ำ คญั ของการเขยี นโครงการประกอบอาชพี ประโยชน์ องคป์ ระกอบของการเขยี นโครงการ
ประกอบอาชีพ และการประเมินความเหมาะสมสอดคล้องของโครงการ จำ�นวน 12 ชวั่ โมง
471
การจดั กระบวนการเรยี นรู้
เพื่อให้การจัดกระบวนการเรียนการสอน หลักสูตรกลุ่มอาชีพ เรื่อง ขายข้าวราดแกงเงินล้าน ประสบ
ความส�ำ เร็จตามจดุ มุง่ หมายทีก่ ำ�หนดไวข้ า้ งตน้ จงึ ก�ำ หนดแนวการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไว้ดงั นี้
1. การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ให้ยดื หยนุ่ ตามสภาพและความเหมาะสมของทอ้ งถนิ่
2. การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ยดึ ผเู้ รยี นเปน็ ส�ำ คญั ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความสนใจ ความถนดั และใหโ้ อกาส
เท่าเทียมกันในการพัฒนาตนเองตามความสามารถของผู้เรียน และเน้นให้ผู้เรียนได้แลกเปล่ียนความคิดเห็น
ซ่ึงกนั และกันและนำ�หลักทฤษฎไี ปใชใ้ นทางปฏิบตั จิ รงิ ให้มากท่ีสดุ
3. กิจกรรมสำ�รวจและวิเคราะห์ตนเองและชุมชน ทรัพยากรส่ิงแวดล้อม อาชีพ และความต้องการ
ของตลาด (ผู้บริโภค) ด้วยกระบวนการคิดเป็นโดยใช้ข้อมูล 3 ด้านได้แก่ ข้อมูลด้านตนเอง ข้อมูลด้านวิชาการ
และข้อมลู ด้านสังคม สิ่งแวดล้อม
4. ฝกึ ทักษะอาชีพขายขา้ วราดแกงเงินล้าน
4.1 เรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง จากส่อื ต่างๆ แหลง่ เรยี นรู้ ผรู้ ู้ ภมู ปิ ัญญาชาวบา้ น
4.2 เรยี นรู้ด้วยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ดว้ ยกระบวนการกล่มุ
4.3 วิทยากร/ผ้สู อน/สถานประกอบการร้านขายขา้ วแกง เปน็ ผถู้ ่ายทอดความรู้
4.4 การลงมอื ฝึกปฏิบตั ิ
5. ฝกึ ปฏิบตั ิการขายข้าวแกง ในศนู ยก์ ารเรยี น
6. จดั ท�ำ โครงการประกอบอาชีพขายขา้ วแกงเงนิ ลา้ น
- เขียนโครงการ/เสนอโครงการ/อนุมัติโครงการ
7. ด�ำ เนนิ โครงการ/ประเมนิ โครงการ/ปรับปรงุ และพัฒนา
ส่ือการเรยี นรู้
1. เอกสารประกอบการเรยี นวชิ าอาชีพขายขา้ วแกงเงนิ ลา้ น ประกอบด้วยเน้ือหา 3 เรอ่ื ง
2. ศกึ ษาดงู านสถานประกอบการอาชีพขายข้าวแกง
3. ใบความร/ู้ ใบงาน/วารสารเกยี่ วกับการทำ�อาหารตา่ งๆ
4. อปุ กรณ์ในการท�ำ อาหารรา้ นขา้ วแกง
5. แหล่งเรียนร้ใู นชมุ ชน
การวดั ผลและประเมนิ ผล
วธิ กี ารวัดและประเมนิ ผลการเรยี น ประกอบดว้ ย
1. การสงั เกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ / การรับรู้ /การฝึกปฏิบัติ/ การมีส่วนร่วม
2. การทดสอบ
3. การสังเกตการเรยี นรู้จากการปฏิบตั ิ
4. ประเมินการท�ำ โครงการประกอบอาชีพ
472
การจบหลกั สตู ร
ผู้เข้ารับการอบรมที่มีเวลาเรียนไม่น้อยกว่า 80% ของเวลาเรียนท้ังหมด และผ่านการทำ�แผนธุรกิจ
(โครงการอาชีพ) จงึ จะไดร้ ับวฒุ ิบัตร
เอกสารหลักฐานการศึกษา
1. หลกั ฐานการประเมินผล
2. ทะเบียนคมุ วุฒิบัตร
3. วฒุ บิ ัตร ออกโดยสถานศึกษา
การเทยี บโอน
ผู้เรียนที่จบหลักสูตรนี้สามารถนำ�ไปเทียบโอนกับหลักสูตรสถานศึกษา ศูนย์การศึกษานอกระบบ
และการศกึ ษาตามอัธยาศัยอำ�เภอ หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551
ในสาระการประกอบอาชีพวชิ าเลือกของสถานศกึ ษาได้
รายละเอียดโครงสรา้ งหลักสตู รขายขา้ วราดแกงเงินล้าน
เรือ่ ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เนื้อหา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนช่วั โมง
ทฤษฎี ปฏิบัติ
1. ช อ่ งทางการประกอบ 1. ต ระหนักและเห็นความสำ�คัญของการ 1. สำ�รวจและวิเคราะห์ตนเองและชุมชน 1. ใ ช้กิจกรรม SWOT เพ่ือสำ�รวจและ 1 2
อาชีพ สำ�รวจชุมชน ทรัพยากร สงิ่ แวดล้อม ทรัพยากร ส่ิงแวดล้อม อาชีพ และ วเิ คราะหต์ นเองและชมุ ชน ทรพั ยากร
อาชีพ และความต้องการของตลาด ความตอ้ งการของตลาด (ผ้บู ริโภค) สง่ิ แวดลอ้ ม อาชพี และความตอ้ งการ 1 1
(ผ้บู ริโภค) 2. ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับช่องทาง ของตลาด (ผู้บรโิ ภค) 1 1
2. อ ธบิ ายความหมายและความรเู้ บอื้ งตน้ ประกอบอาชีพการขายข้าวแกง 2. ศ กึ ษาขอ้ มลู จากเอกสารและกจิ กรรม 1 1
เก่ียวกับช่องทางประกอบอาชีพ 3. ลกั ษณะทวั่ ไปของการประกอบอาชพี ก า ร แ ล ก เ ป ล่ี ย น เ รี ย น รู้ ด้ ว ย 1 1
การขายข้าวแกงได้ ขายขา้ วแกง กระบวนการกลุ่ม
3. อธิบายลักษณะทั่วไปของการ 4. ป ระโยชน์ และความเป็นไปได้หรือ 3. ศกึ ษาขอ้ มลู จากเอกสารและกจิ กรรม
ประกอบอาชพี ขายขา้ วแกง โอกาสในการประกอบอาชีพขาย ก า ร แ ล ก เ ป ลี่ ย น เ รี ย น รู้ ด้ ว ย
4. อธบิ ายประโยชน์ และความเปน็ ไปได้ ขา้ วแกง กระบวนการกลมุ่
หรอื โอกาสในการประกอบอาชพี ขาย 5. ค ณุ สมบตั ขิ องพอ่ คา้ แมค่ า้ ขายขา้ วแกง 4. ศกึ ษาขอ้ มลู จากเอกสารและกจิ กรรม
ข้าวแกงได้ ท่ีดี ก า ร แ ล ก เ ป ลี่ ย น เ รี ย น รู้ ด้ ว ย
5. อ ธบิ ายและยกตวั อยา่ งคณุ สมบตั ขิ อง กระบวนการกลุ่ม
พ่อค้าแม่คา้ ขายข้าวแกงทีด่ ี 5. ศกึ ษาขอ้ มลู จากเอกสารและกจิ กรรม
ก า ร แ ล ก เ ป ล่ี ย น เ รี ย น รู้ ด้ ว ย
กระบวนการกลุ่ม
2. ทักษะการประกอบ 1. อ ธิบาย และยกตัวอย่างเกี่ยวกับ 1. เครือ่ งมอื เครอ่ื งใชใ้ นการปรงุ อาหาร 1. ฟ งั การบรรยาย และศกึ ษาขอ้ มลู จาก 1 1
อาชพี เครอื่ งมอื เครอื่ งใชใ้ นการปรงุ อาหารได้ เอกสารและกจิ กรรมการแลกเปลย่ี น
เรียนรู้ดว้ ยกระบวนการกล่มุ
473
เรือ่ ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชว่ั โมง 474
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
2. บ อกเกยี่ วกบั การเตรยี มและหลกั การ 2. ก ารเตรียมและหลักการเลือกซื้อ 2. ฟ ังการบรรยาย และกิจกรรมการ 1 3
เลือกซอื้ วัตถุดบิ ต่างๆ เพือ่ มาท�ำ ข้าว วตั ถุดบิ ต่างๆ มาปรงุ ข้าวแกง แลกเปล่ียนเรียนรู้ด้วยกระบวนการ 1 -
แกงได้ กลุ่ม 1 12
3. บ อกแหลง่ จ�ำ หนา่ ยวตั ถดุ บิ ในการท�ำ 3. แหล่งจำ�หน่ายวัตถุดิบในการทำ� 3. กิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วย
ข้าวแกงได้ ข้าวแกง กระบวนการกลมุ่ 1 2
4. อ ธิบายวิธีการปรุงอาหารและสามารถ 4. การปรงุ อาหารใหม้ ีรสชาติมาตรฐาน 4. ฟ ังการบรรยาย และกิจกรรมการฝกึ
ปรงุ อาหารใหม้ รี สชาตมิ าตรฐาน และ และการรักษาคุณค่าของสารอาหาร ทักษะการปรุงอาหาร การแลก
การรกั ษาคณุ คา่ ของสารอาหารทปี่ รงุ ท่ีปรุง (เมนูมาตรฐาน 10 อย่าง เปลย่ี นเรียนรดู้ ว้ ยกระบวนการกลมุ่
ได้ (เมนมู าตรฐาน 10 อย่าง อาหาร อาหารว่าง 1 อย่าง ประกอบด้วย
วา่ ง 1 อยา่ ง ประกอบดว้ ย แกงเขียว แกงเขียวหวานไก่ แกงส้มมะละกอ
หวานไก่ แกงส้มมะละกอปลาช่อน ปลาช่อน หรือกุ้ง พะแนงหมู ต้มจืด
หรอื กงุ้ พะแนงหมู ตม้ จดื มะระยดั ไส้ มะระยัดไส้ ต้มย�ำซ่ีโครงหมู ผัดเผ็ด
ต้มย�ำซ่ีโครงหมู ผัดเผ็ดไก่/หมู แกง ไก่/หมู แกงป่าไก่ ลาบหมู หมูทอด
ปา่ ไก่ ลาบหมู หมทู อดกระเทยี มสตู ร กระเทยี มสตู รโบราณ ผดั ผกั รวมมติ ร
โบราณ ผดั ผกั รวมมติ รกงุ้ สด แถมนำ้� กงุ้ สด แถมนำ�้ พรกิ ปลาทู ชะอมทอด)
พริกปลาทู ชะอมทอด)
5. บ อกเทคนิคการขายและอธิบาย 5. เทคนคิ การขายและวธิ กี ารจงู ใจลกู คา้ 5. ฟังการบรรยาย กิจกรรมการแลก
วธิ กี ารจงู ใจลกู คา้ ได้ เปลยี่ นเรียนรดู้ ้วยกระบวนการกลมุ่
3. การบริหารจัดการใน 1. บอกหรอื อธบิ ายความส�ำ คญั ของการ 1. การบรหิ ารจดั การรา้ นขายข้าวแกง 1. ฟังการบรรยายจากวิทยากร ศึกษา 2 1
การประกอบอาชพี บริหารจดั การรา้ นขายขา้ วแกงได้ ใบความรู้ และท�ำ กจิ กรรมการแลกเปลย่ี น
เรียนรู้ดว้ ยกระบวนการกลุ่ม
เร่อื ง จุดประสงค์การเรียนรู้ เน้อื หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชัว่ โมง
ทฤษฎี ปฏิบัติ
2. อ ธบิ ายหรอื บอกเกย่ี วกบั การควบคมุ 2. การควบคณุ คณุ ภาพรา้ นขายขา้ วแกง 2. ฟ งั การบรรยาย ศกึ ษาใบความรู้ และ 1 1
คณุ ภาพรา้ นขายขา้ วแกงได้ ทำ�กิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 1 1
3. อธิบายเก่ียวกับการวางแผน การ 3. ก ารวางแผน การลงทุนและคู่แข่ง ดว้ ยกระบวนการกล่มุ 1 1
ลงทุนและคู่แข่งเก่ียวกับการขาย เก่ียวกบั การขายขา้ วแกง 3. ฟงั การบรรยาย ศกึ ษาใบความรู้ และ 3
ข้าวแกงได้ ทำ�กิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
4. อธิบายและบอกวิธีการต่อยอดและ 4. การต่อยอดและโอกาสขยายร้าน ดว้ ยกระบวนการกลุม่
โอกาสขยายร้านขา้ วแกงได้ ขา้ วแกง 4. ฟ งั การบรรยาย ศกึ ษาใบความรู้ และ
ทำ�กิจกรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ด้วยกระบวนการกลุม่
5. กิจกรรมการสำ�รวจตลาดและการ
ขยายรา้ นข้าวแกง
4. โครงการประกอบ 1. บอกความสำ�คัญและประโยชน์ของ 1. ความสำ�คัญและประโยชน์ของ 1. จัดให้ผู้เรียนศึกษาเนื้อหาจากใบ 0.5 -
อาชพี โครงการอาชพี ได้ โครงการอาชพี ความรู้ เร่ือง ความสำ�คัญของ -
2. บอกองค์ประกอบของการเขียน 2. องค์ประกอบของโครงการประกอบ โครงการอาชีพ ประโยชน์ของ 0.5 -
โครงการอาชพี ได้ อาชีพ โครงการอาชีพ องค์ประกอบของ 6
3. อ ธิบายลักษณะและเขียนโครงการ 3. ตวั อยา่ งการเขยี นโครงการอาชีพท่ีดี โครงการอาชพี แลว้ จดั กิจกรรมการ 1
อาชพี ทด่ี ไี ด้ 4. การเขยี นโครงการอาชีพ สนทนาแลกเปล่ียนข้อมูลความคิด
4. ส ามารถเขียนองค์ประกอบของ 5. การประเมินความเหมาะสมและ เห็น เพื่อสร้างแนวคิดในการดำ�เนิน 1
โครงการอาชพี ได้ถูกตอ้ งได้ สอดคลอ้ งของโครงการอาชีพ กจิ กรรมการเรยี นรู้
475
เรื่อง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนือ้ หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนชัว่ โมง 476
5. ตรวจสอบความเหมาะสมและ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
สอดคลอ้ งของโครงการอาชพี ได้
2. จ ัดให้ผู้เรียนศึกษาสาระข้อมูลจาก - 3
ใบความรู้ เรื่อง ตัวอย่างการเขียน
โครงการอาชีพท่ีดี เหมาะสม และ
ถูกต้อง พร้อมจัดการอภิปราย เพ่ือ
สรปุ แนวคดิ เปน็ แนวทางในการเขยี น
โครงการอาชีพที่ดี เหมาะสม และ
ถกู ต้อง
3. จัดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติ การเขียน
โครงการอาชีพ
4. ก�ำ หนดใหผ้ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารประเมนิ
ความเหมาะสมและสอดคล้องของ
โครงการอาชีพ
5. จัดให้ผู้เรียนปรับปรุงโครงการอาชีพ
ให้มีความเหมาะสมและถูกต้อง
6. ก�ำ หนดใหผ้ เู้ รยี นเขยี นโครงการอาชพี
ของตนเอง เพ่ือเสนอขอรับการ
สนบั สนนุ งบประมาณด�ำ เนนิ งานอาชีพ
และใช้ในการดำ�เนินการประกอบ
อาชีพต่อไป
477
หลกั สตู รการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์
จำ�นวน 56 ช่ัวโมง
กล่มุ วิชาอาชีพเฉพาะทาง
ความเปน็ มา
การทำ�งานหรือการติดต่อส่ือสารข้อมูลในปัจจุบันนั้น จำ�เป็นต้องใช้เทคโนโลยีทางด้านอินเทอร์เน็ต
เขา้ มามสี ว่ นเกย่ี วขอ้ งเปน็ อยา่ งมาก ไมว่ า่ จะเปน็ การเผยแพรข่ อ้ มลู ขา่ วสาร ขอ้ มลู การบรกิ าร ขอ้ มลู ประชาสมั พนั ธ ์
ข้อมูลสารสนเทศประเภทต่างๆ ล้วนแล้วแต่อยู่ในรูปแบบของเว็บไซต์ท้ังส้ิน เนื่องจากทำ�ให้การส่ือสารไปถึง
เป้าหมายปลายทางเกิดความรวดเร็วและทั่วถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทุกเพศ ทุกวัยอย่างทั่วถึง การพัฒนาเว็บไซต์
ให้มีความโดดเด่นและสามารถนำ�เสนอขอ้ มูลได้อยา่ งครบถว้ นมปี ระสทิ ธิภาพนั้น ถือวา่ เป็นเครือ่ งมอื การสือ่ สาร
ช่องทางหน่ึงที่ช่วยในการสร้างภาพลักษณ์ ท่ีดีให้กับองค์กรหรือหน่วยงานให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย การพัฒนา
เวบ็ ไซตต์ อ้ งอาศยั ความสามารถเฉพาะตวั ในการออกแบบทางศลิ ปะ ตอ้ งใชค้ วามคดิ รเิ รม่ิ สรา้ งสรรคใ์ นการพฒั นา
เว็บไซต์ นอกจากน้ีสิ่งสำ�คัญยิ่งคือจะต้องมีความรู้ หรือทักษะทางด้านการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์อีกด้วย
จึงจะสามารถสร้างเว็บไซต์ด้วยตนเองได้ ดังน้ันการพัฒนา เว็บไซต์ขึ้นใช้เอง จำ�เป็นต้องใช้เวลาในการสร้างนาน
แต่ปัจจุบันได้มีซอฟต์แวร์สำ�เร็จรูปจำ�นวนมากท่ีสามารถนำ�มาใช้ในการสร้างเว็บไซต์ให้มีความสะดวกรวดเร็ว
มากยิง่ ขนึ้
ปัจจุบันมีผู้ผลิตซอฟท์แวร์สำ�เร็จรูปเพ่ือพัฒนาเว็บไซต์มาใช้ในการเพ่ิมช่องทางการแข่งขันการประกอบ
อาชีพ เช่น ช่วยในการประชาสัมพันธ์ ข้อมูลข่าวสารเก่ียวกับสินค้า การหาลูกค้า หาเครือข่ายและพันธมิตร
รว่ มทนุ เพราะการประชาสัมพนั ธธ์ ุรกจิ ผา่ นทางเว็บไซตจ์ ะชว่ ยลดตน้ ทนุ มีคา่ ใชจ้ ่ายไม่สูง สามารถสอ่ื สารเขา้ ถงึ
กลุ่มเปา้ หมายไดร้ วดเรว็ ทนั เวลา
หลกั สตู รการออกแบบและพฒั นาเวบ็ ไซต ์ เปน็ การจดั กจิ กรรมการเรยี นรใู้ หผ้ เู้ รยี นมคี วามร ู้ และมที กั ษะ
การออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ การทำ�เว็บไซต์ด้วยโปรแกรมสำ�เร็จรูป การพัฒนา การประชาสัมพันธ์เว็บไซต์
กฎหมาย ICT วา่ ด้วยการกระท�ำ ความผิดทางคอมพวิ เตอร์ ตลอดจนเปน็ ชอ่ งทางและเพมิ่ โอกาสทางการแขง่ ขัน
ในการประกอบอาชพี ได ้
หลักการของหลกั สตู ร
1. ม่งุ เนน้ การปฏบิ ตั จิ รงิ โดยใหผ้ เู้ รียนออกแบบและสรา้ งเว็บไซต์ตามความตอ้ งการของผูเ้ รยี น
2. มุ่งเน้นการนำ�ความรู้ ประสบการณ์และทักษะไปใช้ในการเพ่ิมโอกาสการพัฒนาอาชีพท่ีทำ�อยู่เดิม
ใหส้ ามารถแขง่ ขันสตู่ ลาดได้กวา้ งขวางขนึ้
3. ส่งเสริมให้มีการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ เข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ
การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551
478
จดุ หมาย
1. เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ และทักษะเก่ียวกับหลักการของการออกแบบ และสร้างเว็บไซต์
ดว้ ยโปรแกรมสำ�เรจ็ รูปได้
2. เพ่ือใหผ้ ู้เรียนน�ำ ความรู้ไปใช้ในการเพิ่มโอกาสการแขง่ ขนั ทางธุรกจิ และประกอบอาชีพได้
กลุ่มเป้าหมาย
1. ผทู้ ไ่ี มม่ ีอาชพี และตอ้ งการมอี าชพี
2. ผทู้ ี่มีอาชีพและตอ้ งการพัฒนาอาชีพเพอ่ื เพิ่มโอกาสทางการแข่งขัน
ระยะเวลา จำ�นวน 56 ช่ัวโมง
ภาคทฤษฎี 20 ช่วั โมง
ภาคปฏิบัติ 36 ช่วั โมง
โครงสร้างหลกั สูตร
1. ช่องทางการประกอบอาชพี 4 ½ ชัว่ โมง (ทฤษฎี 3 ช่วั โมง ปฏิบตั ิ 1 ½ ชว่ั โมง )
1.1 การวเิ คราะห์ชอ่ งทางการตลาด ตามหลกั 4 P
- place
- product
- promotion
- price
1.2 วเิ คราะห์ SWOT ทางการตลาด
- จุดอ่อน
- จุดแข็ง
- อุปสรรค
- โอกาส
1.3 การวเิ คราะห์ตนเองในการตัดสนิ ใจเลอื กประกอบอาชพี ออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์
1.3.1 ความพร้อม
1.3.2 ความต้องการของตลาด
1.3.3 ความรู้ทกั ษะและเทคนิคต่างๆ
1.3.4 สถานท่ี
1.3.5 แรงงาน
1.4 แหล่งการเรยี นรทู้ ่เี ก่ยี วข้องกับการออกแบบและพัฒนาเวบ็ ไซต์
479
2. ทกั ษะการประกอบอาชีพ 32 ชั่วโมง (ทฤษฎี 11 ½ ช่วั โมง ปฏบิ ตั ิ 20 ½ ช่ัวโมง)
2.1 ความรู้เบอื้ งตน้ เกย่ี วกบั การออกแบบโครงสร้างและการสรา้ งเวบ็ เพจ
2.1.1 ความหมายของเวบ็ ไซต์
2.1.2 องคป์ ระกอบของการออกแบบเว็บไซต์
2.1.3 หลักในการออกแบบโครงสรา้ งเวบ็ ไซต์
2.1.4 ข้นั ตอนการออกแบบและพฒั นาเวบ็ ไซต์
2.2 การทำ�เวบ็ ไซตด์ ้วยโปรแกรมสำ�เรจ็ รูปผ่าน www.igetweb.com
2.2.1 การเตรยี มตัวก่อนทำ�เวบ็ ไซต์
2.2.2 ข้นั ตอนการท�ำ เวบ็ ไซต์ดว้ ยโปรแกรมสำ�เร็จรปู ผ่าน www.igetweb.com
2.2.3 วธิ สี ร้างเวบ็ ไซต์ ดว้ ยโปรแกรมสำ�เร็จรูปผา่ น www.igetweb.com
1) ขัน้ ตอนการเขา้ สรู่ ะบบสมาชกิ
2) การบริหารหน้าแรกเวบ็ ไซต์
3) จดั รูปแบบการแสดงผล
4) ระบบบริหารเมนขู องเวบ็ ไซต์
5) ระบบจดั การเวบ็
6) เทคนคิ การตกแต่งภาพเพิ่มเติม
2.2.4 การจัดการทรัพยากรบนเว็บ
2.2.4.1 การบรหิ ารจัดการความจุของพื้นทเี่ ว็บไดเ้ หมาะสมกบั เนอื้ หาของเว็บไซต์
1) การทำ�ฐานขอ้ มูล และจัดการข้อมลู ที่มีคณุ ภาพและเหมาะสม
2) การอพั โหลดและการแก้ไขไฟล์ในเว็บ
3) การสรา้ งฟอรม์ เพอ่ื รองรับขอ้ มลู จากผู้ใช้
2.2.4.2 การน�ำ เสนอเว็บไซตแ์ ละพัฒนาเวบ็ สเู่ ครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ น็ต
1) การน�ำ ขา่ วสารเขา้ สเู่ วบ็ อยา่ งสรา้ งสรรค์ มจี ติ ส�ำ นกึ และมคี วามรบั ผดิ ชอบ
2) การอัพโหลดเว็บเพจสู่เครือข่ายอินเตอร์เน็ตกับผู้ให้บริการแบบไม่เก็บ
ค่าบริการและแบบเกบ็ คา่ บรกิ ารรายปี
3) การน�ำ เสนอเวบ็ ไซตแ์ ละพัฒนาเว็บสู่เครอื ข่ายอินเตอร์เนต็
3. การบรหิ ารจดั การในการประกอบอาชพี 3 ชว่ั โมง (ทฤษฎี 1 ช่วั โมง ปฏิบัติ 2 ช่วั โมง)
3.1 การจดั การความเสย่ี งในการประกอบอาชพี
1) การละเมดิ สทิ ธิ์ เช่น การเผยแพรข่ ้อมลู ขา่ วสารโดยไมไ่ ดร้ บั อนุญาต
2) การแกป้ ญั หาความเสี่ยง
- พระราชบัญญตั ิวา่ ดว้ ยการกระทำ�ผิดเก่ยี วกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ.2550 (กฎหมาย ICT)
3.2 การประมาณราคาในการให้บริการและการจดั ทำ�บญั ชี
4. โครงการประกอบอาชีพ 10 ชว่ั โมง (ทฤษฎี 2 ชว่ั โมง ปฏบิ ัติ 8 ชั่วโมง)
4.1 ความส�ำ คัญและความหมายของโครงการประกอบอาชพี
4.2 ประโยชนข์ องโครงการประกอบอาชีพ
480
4.3 องคป์ ระกอบของโครงการประกอบอาชพี
4.4 การเขยี นโครงการ
4.5 การตรวจสอบความเป็นไปได้ของโครงการประกอบอาชีพ
การจัดกระบวนการเรยี นรู้
1. การบรรยาย
2. การฝึกปฏิบตั ิเปน็ รายบุคคล
สอ่ื การเรยี นรู้
1. คมู่ อื ประกอบการอบรม การออกแบบและพฒั นา web site
2. ใบงาน / ใบความรู้
3. คอมพิวเตอร์
4. อนิ เตอร์เนต็
5. ซอฟทแ์ วรท์ างดา้ นมัลตมิ ีเดยี ตา่ งๆ
การวดั และประเมนิ ผล
1. การประเมนิ ความรจู้ ากแบบทดสอบกอ่ นและหลงั เขา้ รับการอบรม
2. ประเมนิ ระหวา่ งเรียนจากการปฏบิ ตั ิ
3. ประเมินจากผลงานของผู้เรยี น
4. เกณฑ์การประเมินท่ีกำ�หนด
เกณฑ์การใหค้ ะแนนการออกแบบและพฒั นาเว็บไซต์ คะแนนเตม็ 100 คะแนน
1. ความถูกตอ้ ง ความสมบรู ณ์ของขอ้ มูล (10 คะแนน) เวบ็ เพจแตล่ ะหน้า
2. ความสมบรู ณ์เชงิ โครงสร้างของเวบ็ เพจ (10 คะแนน)
3. แทรกภาพเคลอ่ื นไหวหรอื รูปภาพเหมาะสมและสอดคล้องกับเนอ้ื หา (10 คะแนน)
4. มีระบบ web Gallery (10 คะแนน)
5. ความคดิ สรา้ งสรรค/์ เทคนคิ พิเศษ (30 คะแนน)
6. ความสวยงามและมกี ารปรับเปลยี่ นเหตกุ ารณท์ นั ต่อเวลา (10 คะแนน)
7. สามารถเช่ือมโยงเนื้อหาทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับลิงคต์ ่างๆ ได้ (10 คะแนน)
8. สามารถแทรกเนื้อหาเพ่มิ เติมจากเรอื่ งทที่ �ำ ได ้ (10 คะแนน)
การจบหลักสตู ร
1. มีเวลาเรยี น ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 80
2. มีผลการประเมินตลอดหลกั สตู ร ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80
3. มผี ลงานท่ีมีคณุ ภาพและผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ทกี่ �ำ หนด
481
เอกสารหลักฐานการศกึ ษา
1. หลักฐานการประเมินผล
2. วุฒบิ ตั รการศึกษา ออกโดยสถานศึกษา
การเทียบโอน
ผู้เรียนที่จบหลักสูตรนี้สามารถนำ�ไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับ
การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี รายวชิ าเลอื กที่สถานศกึ ษาไดจ้ ัดท�ำ ขึ้น
รายละเอยี ดโครงสรา้ งหลักสตู รการออกแบบและพฒั นาเวบ็ ไซต์ 482
เรอ่ื ง จุดประสงค์การเรียนรู้ เนอื้ หา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ชัว่ โมง
ทฤษฎี ปฏิบัติ
1. ก ารวเิ คราะหช์ อ่ งทาง 1. ผเู้ รยี นสามารถตดั สนิ ใจทจ่ี ะประกอบ 1.1 ก ารวิเคราะห์ช่องทางการตลาด 1. ผ ู้เรียนศึกษาใบความรู้ เรื่อง การ 3 1½
การประกอบอาชีพ อาชีพพัฒนาเว็บไซต์ได้เหมาะสมกับ ตามหลัก 4 P วเิ คราะหช์ อ่ งทางการตลาด ตามหลกั
พฒั นาเวบ็ ไซต์ ตนเอง - place 4 P, การวิเคราะห์ SWOT, รูปแบบ
- product ของการประกอบธรุ กจิ
- promotion 2. ผ้เู รียนนำ�ขอ้ มลู และผลการวเิ คราะห์
- price จากเรื่องที่ศึกษามาประกอบในการ
1.2 วเิ คราะห ์ SWOT ทางการตลาด วเิ คราะหข์ อ้ มลู ตนเองในการตดั สนิ ใจ
- จดุ อ่อน เลือกประกอบอาชีพออกแบบและ
- จุดแข็ง พัฒนาเว็บไซต์ตามใบงาน โดยมี
- อปุ สรรค วทิ ยากรดแู ลใหค้ �ำ แนะน�ำ ช่วยเหลือ
- โอกาส
1.3 การวเิ คราะหต์ นเองในการตดั สนิ ใจ
เลือกประกอบอาชีพออกแบบและ
พฒั นาเว็บไซต์
1.3.1 ความพรอ้ ม
1.3.2 ความตอ้ งการของตลาด
1.3.3 ความรทู้ กั ษะและเทคนคิ ตา่ งๆ
1.3.4 สถานที่
1.3.5 แรงงาน
เร่ือง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนือ้ หา การจัดกระบวนการเรียนรู้ ชว่ั โมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
1.4. ห ลกั การในการตดั สนิ ใจเลอื กรปู แบบ
ของธรุ กิจ
1.5 แ หล่งการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้องกับการ
ออกแบบและพฒั นาเว็บไซต์
2. ท ักษะการประกอบ 1. อ ธิบายความหมาย ความสำ�คัญ 2.1 ค วามรเู้ บอ้ื งตน้ เกยี่ วกบั การออกแบบ 1. จ ัดให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ 11 20½
อาชพี การพฒั นาเวบ็ ไซต์ องคป์ ระกอบ ของการออกแบบสรา้ ง โครงสรา้ งและการสร้างเวบ็ เพจ เรื่อง ความหมายและหลักการ การ
ความรเู้ บอื้ งตน้ เกย่ี วกบั เวบ็ ไซต์ได้ 2.1.1 ความหมายของเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์ องค์ประกอบของ
การออกแบบโครงสรา้ ง 2. อ ธิบายหลักการ ในการออกแบบ 2.1.2 องคป์ ระกอบของการออกแบบ การออกแบบ ขั้นตอนการออกแบบ
และการสรา้ งเวบ็ เพจ เวบ็ ไซต์ได้ เวบ็ ไซต์ เวบ็ ไซต์
3. อ ธิบายข้ันตอนในการออกแบบและ 2.1.3 หลกั ในการออกแบบโครงสรา้ ง 2. ผ ู้เรียนสนทนาร่วมกันและแลกเปล่ียน
พัฒนาเว็บไซต์ด้วยโปรแกรมสำ�เร็จรูป เวบ็ ไซต์ ความคดิ เห็น
ผา่ น www.igetweb.com ได้ 2.1.4 ข้ันตอนการออกแบบและ 3. สรุปความรูบ้ ันทกึ ผลตามใบงาน
4. สามารถสร้างเว็บไซต์ด้วยโปรแกรม พฒั นาเว็บไซต์
ส�ำ เร็จรูปได้ 2.2 การทำ�เว็บไซต์ด้วยโปรแกรมสำ�เร็จรูป 1. ผ เู้ รยี นศกึ ษาคมู่ อื ใบงานความร ู้ และ
5. อธิบายวิธีการบริหารจัดการความจุ ผา่ น www.igetweb.com ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต เกี่ยวกับการ
ของพื้นท่ีเว็บได้เหมาะสมกับเนื้อหา 2.2.1 การเตรยี มตวั กอ่ นท�ำ เวบ็ ไซต์ สร้างเวบ็ ไซต์ดว้ ยโปรแกรมสำ�เร็จรปู
ของเว็บไซต์ 2.2.2 ข ั้นตอนการทำ�เว็บไซต์ 2. ผู้เรียนชมการสาธิตของวิทยากรใน
6. จัดทำ�ฐานข้อมูล และจัดการข้อมูล ดว้ ยโปรแกรมส�ำ เรจ็ รปู ผา่ น การสร้างเวบ็ ไซต์
ท่มี ีคุณภาพได้ www.igetweb.com 3. ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการทำ�เว็บไซต์ด้วย
7. การอัพโหลดและการแก้ไขไฟล์ใน 2.2.3 ว ิธีสร้างเว็บไซต์ ด้วย โปรแกรมสำ�เรจ็ รูป
เว็บไซตแ์ ละการสร้างแบบฟอรม์ เพอ่ื โปรแกรมสำ�เร็จรูปผ่าน 4. เรยี นร้ดู ้วยตนเอง (ฝึกปฏิบตั ิออกแบบ
รองรับขอ้ มลู จากผใู้ ช้ www.igetweb.com เวบ็ ไซตด์ ว้ ยตนเอง 2 สปั ดาห)์
483
เร่อื ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เนอ้ื หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ ชว่ั โมง 484
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
8. อธิบายกฎหมาย ICT ว่าด้วยการ 1. ขน้ั ตอนการเข้าสู่ระบบสมาชิก 5. วทิ ยากรนดั หมายผเู้ รยี นใหน้ �ำ ผลงาน
กระทำ�ผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 2. การบริหารหน้าแรกเว็บไซต์ มานำ�เสนอ
พ.ศ.2550 ทเี่ ก่ียวขอ้ งได้ 3. จัดรูปแบบการแสดงผล
4. ระบบบรหิ ารเมนูของเว็บไซต์
5. ระบบจดั การเว็บ
6. เทคนคิ การตกแต่งภาพเพิ่มเติม
9. อธิบายหลักการการประมาณราคา 2.2.4 การจดั การทรพั ยากรบนเวบ็ 1. ผ ู้เรียนศึกษาใบความรู้ เร่ืองการ
ในการใหบ้ รกิ ารได้ 2.2.4.1 การบรหิ ารจดั การ จัดการฐานข้อมลู
10. ส ามารถจดั ท�ำ บญั ชีเบอื้ งต้นได้ ค วามจุของพ้ืนท่ีเว็บได้ 2. ผู้เรียนฝึกจัดทำ�ฐานข้อมูล อัพโหลด
เหมาะสมกับเนื้อหาของ แก้ไขไฟล์ในเว็บ และสร้างฟอร์ม
เวบ็ ไซต์ รองรับข้อมูลจากผู้ใช้ รวมท้ังการ
1) การทำ�ฐานข้อมูลและ พัฒนาเว็บไซต์สู่อนิ เตอร์เนต็
จดั การขอ้ มลู ทม่ี คี ณุ ภาพ 3. ผูเ้ รยี นฝึกปฏิบัตกิ ารประเมินเวบ็ ไซต์
เหมาะสม ที่ตนเองทำ�ขึ้นตามเกณฑ์ที่กำ�หนด
2) การอัพโหลดและการ และปรับปรุงแก้ไข (รูปแบบ, ความ
แก้ไขไฟล์ในเวบ็ เหมาะสมในแตล่ ะเนอ้ื หาและการจดั
3) ก ารสร้างฟอร์มเพื่อ วางในเว็บไซต์ , ความสวยงาม ฯลฯ)
รองรบั ขอ้ มลู จากผู้ใช้ 4. ว ทิ ยากรและผเู้ รยี นรว่ มกนั สรปุ ความรู้
และปฏบิ ตั ิ
เรื่อง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เนอื้ หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ ชั่วโมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
2.2.4.2 การน�ำ เสนอเวบ็ ไซต์ 1. ชมการสาธิตของวิทยากรเกี่ยวกับ
และพัฒนาเว็บสู่เครือข่าย รูปแบบการนำ�เสนอเว็บไซต์ สู่เครือข่าย
อินเตอรเ์ น็ต อินเตอร์เน็ต
1) การอัพโหลดเว็บเพจสู่ 2. ผ ู้เรียนฝึกปฏิบัติการในการนำ�เสนอ
เครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ นต็ กบั เวบ็ ไซต์ ตามหวั ข้อดังตอ่ ไปน้ี
ผู้ให้บริการแบบไม่เก็บ - ก ารแลกเปลี่ยนลิงค์กับเว็บไซต์
ค่าบรกิ ารและแบบเก็บ พนั ธมติ ร
ค่าบริการรายปี - การแลกเปลี่ยนแบนเนอร์
2) การนำ�เสนอเว็บไซต์ - การจัดท�ำ จดหมายข่าว
และพฒั นาเวบ็ สเู่ ครอื ขา่ ย - การใส่ key word ลงใน Tag โดย
อินเตอรเ์ นต็ มีวทิ ยากรคอยใหค้ �ำ แนะน�ำ
3. การบริหารจัดการใน 1. ส ามารถจัดการความเส่ียงในการ 3.1 การจัดการความเสี่ยงในการ 1. ผ ู้เรียนศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ 3 5½
การประกอบอาชีพ ประกอบอาชพี ได้ ประกอบอาชพี เร่ือง พระราชบัญญัติว่าด้วยการ
2. สามารถจัดท�ำ บัญชไี ด้ 1) การละเมิดสิทธ์ิ เช่น การ กระท�ำ ผดิ เกย่ี วกบั คอมพวิ เตอร์ พ.ศ.
เผยแพรข่ อ้ มลู ขา่ วสารโดยไมไ่ ด้ 2550 (กฎหมาย ICT) พร้อมทั้งจัด
รบั อนุญาต กิจกรรมให้ผู้เรียนร่วมกันสรุปประเด็น
2) การแกป้ ัญหาความเสยี่ ง (ใบงาน)
- การนำ�ข่าวสารเข้าสู่เว็บไซต์ 2. ผ ู้เรียนปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์
อย่างสร้างสรรค์ มีจิตสำ�นึก ให้มีความเหมาะสม ความถูกต้อง
และมคี วามรับผดิ ชอบ ความสวยงาม เพื่อเพิ่มความสนใจ
มากย่ิงข้ึน โดยมีวิทยากรคอยให้
คำ�แนะนำ�ชว่ ยเหลือ
485
เรื่อง จุดประสงค์การเรยี นรู้ เนื้อหา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ช่วั โมง 486
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
3.2 ประมาณราคาในการใหบ้ รกิ ารและ 3. รับฟังการบรรยายของวิทยากร
การจดั ทำ�บญั ชี เกยี่ วกบั การก�ำ หนดราคาในการบรกิ าร
1) หลกั การการประมาณราคา ใน รบั ออกแบบและพฒั นาเวบ็ ไซต์ และ
การให้บริการออกแบบและ รูปแบบของการท�ำ บัญชเี บ้อื งต้น
พัฒนาเวบ็ ไซต์ 4. ผ ู้เรียนฝึกการคิดราคาเว็บไซต์ของ
2) การจดั ท�ำ บัญชี ตนเองจากเกณฑท์ ก่ี �ำ หนดให้ พรอ้ มทงั้
ฝึกทำ�บัญชีเบ้อื งต้น
5. ว ิทยากรและผู้เรียนร่วมกันสรุป
ประเดน็ ความรูท้ ่ไี ดร้ ับ
4. โ ครงการประกอบ 1. บอกความสำ�คัญของโครงการ 4.1 ความสำ�คัญและความหมายของ 4.1 จัดให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจาก 3 9
อาชพี ประกอบอาชีพได้ โครงการประกอบอาชีพ ใบความรู้ เร่ือง ความสำ�คัญของ
2. บ อกประโยชนข์ องโครงการประกอบ 4.2 ประโยชน์ของโครงการประกอบ โครงการประกอบอาชพี ประโยชน์
อาชีพได้ อาชีพ ข อ ง โ ค ร ง ก า ร ป ร ะ ก อ บ อ า ชี พ
3. บ อกองค์ประกอบของโครงการ 4.3 องคป์ ระกอบของโครงการประกอบ องคป์ ระกอบของโครงการประกอบ
ประกอบอาชีพได้ อาชีพ อาชีพ แลว้ จดั กจิ กรรมการสนทนา
4. อ ธบิ ายความหมายขององคป์ ระกอบ 4.4 การเขยี นโครงการประกอบอาชพี แลกเปลย่ี นขอ้ มลู ความคดิ เหน็ เพอื่
ของโครงการประกอบอาชีพได้ 4.5 ก ารตรวจสอบความเป็นไปได้ของ สรา้ งแนวคดิ ในการด�ำ เนนิ กจิ กรรม
5. อ ธิบายลักษณะการเขียนที่ดีของ โครงการประกอบอาชพี การเรยี นรู้
องค์ประกอบของโครงการประกอบ
อาชพี ได้
เร่อื ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้ือหา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ชั่วโมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
6. เขียนโครงการประกอบอาชีพใน 4.2 จัดให้ผู้เรียนศึกษาสาระข้อมูลจาก
แต่ละองค์ประกอบให้เหมาะสมและ ใบความรู้ เร่ือง ตัวอย่างการเขียน
ถกู ตอ้ งได้ โครงการประกอบอาชีพท่ีดี เหมาะสม
7. ตรวจสอบความเป็นไปได้ของ และถกู ตอ้ ง พร้อมจัดการอภิปราย
โครงการประกอบอาชพี ได้ เพื่อสรุปแนวคิดเป็นแนวทางใน
การเขียนโครงการประกอบอาชีพ
ท่ดี ี เหมาะสม และถกู ตอ้ ง
4.3 จัดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติ การเขียน
โครงการประกอบอาชพี
4.4 ก�ำ หนดใหผ้ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารประเมนิ
ความเหมาะสมและสอดคล้องของ
โครงการประกอบอาชพี
4.5 จ ัดให้ผู้เรียนปรับปรุงโครงการ
ประกอบอาชีพ ให้มีความเหมาะสม
และถูกต้อง
4.6 ก ำ�หนดให้ผู้เรียนเขียนโครงการ
อาชีพของตนเอง เพื่อเสนอขอรับ
การสนับสนุนงบประมาณดำ�เนิน
งานอาชพี และใชใ้ นการด�ำ เนนิ การ
ประกอบอาชพี ต่อไป
487
488
หลกั สตู รการดูแลผู้สูงอายเุ บอื้ งตน้
จ�ำ นวน 160 ชว่ั โมง
กลมุ่ วชิ าอาชีพเฉพาะทาง
ความเปน็ มา
“ผสู้ งู อาย”ุ เปน็ บคุ คลทสี่ งั คมใหค้ วามเคารพนบั ถอื และเปน็ บคุ คลทท่ี รงคณุ คา่ ไดร้ บั การยกยอ่ งวา่ เปน็
ปชู นยี บคุ คล สังคมไทยจงึ ให้ความสำ�คญั กับผ้สู งู อายเุ บอื้ งตน้ ตลอดมา เมือ่ เขา้ สวู่ ัยสูงอายุ ผู้สูงอายทุ กุ คนจำ�เปน็
ต้องเอาใจใส่ดูแลตนเองให้มากข้ึน ไม่ใช่แต่ตัวผู้สูงอายุเองเท่าน้ัน ลูกหลานก็ต้องเอาใจใส่ในการดูแลผู้สูงอายุ
เปน็ อยา่ งดดี ว้ ยเชน่ กนั เพราะวยั ผสู้ งู อายเุ ปน็ วยั ทมี่ กี ารเปลย่ี นแปลงทง้ั ทางดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ ์ และสงั คม
ผู้สูงอายุจึงควรได้รับการดูแลเป็นพิเศษทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ กอรปกับในปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนแปลง
ของสภาพเศรษฐกิจ และสังคมอยู่ตลอดเวลา ลูกหลานของผู้สูงอายุต้องออกไปทำ�งานหรือประกอบอาชีพ
นอกบ้านทำ�ให้ผู้สูงอายุไม่มีคนดูแล ทำ�ให้เกิดความเหงา เป็นโรคซึมเศร้า และไม่มีคนดูแล ดังนั้นหลักสูตร
การดูแลผู้สูงอายุ จึงเป็นหลักสูตรท่ีสามารถตอบสนองความต้องการพัฒนาอาชีพให้กับผู้ดูแลผู้สูงอายุเบื้องต้น
หรอื ผทู้ ตี่ อ้ งการประกอบอาชพี ดา้ นการดแู ลผสู้ งู อายเุ บอื้ งตน้ ไดน้ �ำ ความรไู้ ปใชป้ ระโยชนเ์ พอ่ื สรา้ งงาน สรา้ งอาชพี
สร้างรายได้และการมีงานท�ำ ตอ่ ไปได้
หลักการของหลักสูตร
1. เปน็ หลักสตู รท่มี ุง่ เนน้ ให้ผเู้ รียนมคี วามรคู้ วามเขา้ ใจหลักการดูแลผ้สู งู อายเุ บอ้ื งตน้
2. เป็นหลกั สูตรท่ีมงุ่ เน้นให้ผเู้ รยี นมีจิตบริการ มีความอดทนในการทำ�งานดา้ นการบริการ
3. เป็นหลกั สูตรทส่ี ง่ เสรมิ ใหผ้ ู้เรียน เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัตจิ ริง
4. เป็นหลักสูตรที่มีโครงสร้างยืดหยุ่นท้ังด้านเน้ือหาสาระ การจัดกระบวนการเรียนรู้ การวัดผล
ประเมนิ ผล ดา้ นการจัดการและการบรกิ าร
5. เป็นหลักสูตรท่ีสามารถนำ�ความรู้และประสบการณ์ท่ีได้รับไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพ
การดูแลผู้สูงอายเุ บ้ืองตน้
6. เปน็ หลักสตู รท่ีสง่ เสรมิ ให้มีการเทยี บโอนความรแู้ ละประสบการณเ์ ขา้ สู่การศึกษาขั้นพ้นื ฐาน
จดุ หมาย
หลกั สตู รน้ีให้ความรแู้ ละประสบการณ์เพื่อใหผ้ ู้จบหลกั สูตรมคี ณุ ลกั ษณะ ดังนี้
1. มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการประกอบอาชีพการดแู ลผู้สงู อายุเบื้องตน้
2. มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการบริหารจัดการในอาชีพการดูแลผู้สูงอายุเบ้ืองต้นได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ
3. ตระหนกั ถงึ ความส�ำ คญั ในการดแู ลผสู้ งู อายเุ บอ้ื งตน้ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม ในหนา้ ทกี่ ารดแู ลผสู้ งู อายุ
เบ้ืองต้น
489
กลมุ่ เป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายคือประชาชนกลมุ่ เป้าหมายนอกระบบโรงเรียน
1. ผู้ที่ไม่มีอาชีพ
2. ผู้ทีม่ อี าชีพและต้องการพัฒนาอาชีพ
3. ผู้ท่มี ีใจรักในงานบรกิ ารและมีความอดทน
ระยะเวลา จ�ำ นวน 160 ชว่ั โมง
ภาคทฤษฎ ี จำ�นวน 42 ชั่วโมง
ภาคปฏิบัต ิ จำ�นวน 118 ช่วั โมง
โครงสรา้ งหลกั สูตร จำ�นวน 9 ช่วั โมง
1. ช่องทางการประกอบอาชีพการดแู ลผู้สูงอายุเบื้องต้น
1.1 ความสำ�คัญและความจ�ำ เปน็ ของการประกอบอาชพี การดแู ลผ้สู ูงอายุเบ้ืองต้น
จ�ำ นวน 1 ช่ัวโมง
1.2 ความเปน็ ไปได้ในการเข้าส่อู าชีพการดูแลผูส้ ูงอายุเบ้ืองตน้ จำ�นวน 1 ชั่วโมง
1.2.1 ความตอ้ งการของตลาด
1.2.2 การใชแ้ รงงาน
1.3 การศกึ ษาดงู านสถานประกอบการทเี่ กี่ยวขอ้ งกับการดูแลผสู้ ูงอายุ จำ�นวน 6 ชวั่ โมง
1.4 ทศิ ทางและความกา้ วหนา้ ในการประกอบอาชีพการดแู ลผูส้ ูงอายุเบื้องต้น
จ�ำ นวน 1 ช่ัวโมง
1.4.1 ความพรอ้ มของผ้ปู ระกอบอาชพี การดแู ลผูส้ ูงอายุ
1.4.2 จรรยาบรรณของผดู้ แู ลผู้สงู อายุ
1.4.3 ความต้องการของตลาด
1.4.4 การวเิ คราะห์คู่แข่ง
2. ทกั ษะการประกอบอาชีพการดูแลผ้สู ูงอายเุ บ้อื งต้น จ�ำ นวน 43 ชว่ั โมง
2.1 บทบาทและจริยธรรมของผดู้ แู ลผู้สงู อายุ จ�ำ นวน 3 ชั่วโมง
2.1.1 คุณสมบัติของผู้ดแู ลผสู้ ูงอายุ
2.1.2 กฎหมายท่เี กย่ี วข้อง วนิ ัยและจริยธรรมของผู้ดูแลผ้สู งู อายุ
2.1.3 บทบาทและหนา้ ท่ขี องผดู้ ูแลผูส้ งู อายุ
2.1.4 การพัฒนาบุคลิกภาพเพอ่ื การดูแลผ้สู ูงอายุ
2.2 จติ วิทยาผ้สู ูงอายุ จำ�นวน 6 ชวั่ โมง
2.2.1 การเปลยี่ นแปลงทางดา้ นร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ และสังคม
2.2.2 แนวทางการปฏบิ ตั ติ นส�ำ หรับผูส้ งู อายุ
2.2.3 หลกั การจงู ใจผู้สูงอายุ
2.2.4 สุขภาพจิตและการสง่ เสริม
490
2.3 หลกั การดูแลผ้สู ูงอายเุ บือ้ งต้น จำ�นวน 20 ชัว่ โมง
2.3..1 การวางแผนกจิ วตั รประจ�ำ วนั สำ�หรับผู้สงู อายุ
2.3.2 การดแู ลสุขภาพร่างกายทัว่ ไปของผูส้ งู อายุ
2.3.3 การพักผอ่ นและการนอน
2.3.4 การเปลย่ี นแปลงอริยบทตา่ งๆ
2.3.5 การดูแลอปุ กรณ์ เครือ่ งใช้ และการจดั ส่งิ แวดลอ้ มสำ�หรับผูส้ งู อายุ
2.3.6 โรคท่ีพบบอ่ ยในผสู้ งู อายุ
2.3.7 การช่วยเหลือผูส้ งู อายเุ บ้ืองตน้
2.3.8 อุบัตเิ หตุและการปอ้ งกันอุบตั เิ หตุในผสู้ ูงอายุ
2.4 กจิ กรรมและนันทนาการส�ำ หรบั ผู้สงู อาย ุ จำ�นวน 4 ช่ัวโมง
2.4.1 การประเมนิ ความสามารถในการท�ำ กจิ กรรมและนนั ทนาการของผูส้ งู อายุ
2.4.2 กจิ กรรมของผู้สงู อายุ
2.4.3 นันทนาการของผูส้ งู อายุ
2.4.4 ข้อควรค�ำ นึงในการท�ำ กิจกรรมและนันทนาการของผสู้ ูงอายุ
2.5 อาหารสำ�หรบั ผสู้ งู อายุ จ�ำ นวน 10 ช่วั โมง
2.5.1 ความต้องการสารอาหารของผสู้ งู อายุ
2.5.2 ปัจจัยท่ีมผี ลต่อความตอ้ งการสารอาหารของผูส้ งู อายุ
2.5.3 สาเหตุของการเบือ่ อาหารและแนวทางการแก้ไข
2.5.4 การจดั เตรยี มและการเตรียมอาหารส�ำ หรับผ้สู งู อายุ
3. การบริหารจดั การในการประกอบอาชีพการดูแลผูส้ ูงอายุเบือ้ งตน้ จ�ำ นวน 96 ชั่วโมง
3.1 การควบคมุ การให้บรกิ ารการดูแลผูส้ ูงอายุเบอ้ื งต้น จ�ำ นวน 1 ชั่วโมง
- การควบคุมคณุ ภาพ
3.2 การบริหารการตลาด จ�ำ นวน 3 ช่วั โมง
3.2.1 การโฆษณาประชาสัมพนั ธ์
3.2.2 การสำ�รวจตลาด
3.3.3 การจัดท�ำ บัญชี
3.3 การจัดการความเสย่ี งในการประกอบอาชีพการดแู ลผสู้ งู อายุเบ้อื งต้น จำ�นวน 2 ช่ัวโมง
3.3.1 การวิเคราะหศ์ กั ยภาพในการประกอบอาชีพการดแู ลผ้สู ูงอายุเบื้องต้น
1) ตน้ ทนุ ในการประกอบอาชพี
2) การคดิ ค่าบริการและผลก�ำ ไรทไ่ี ด้จากการด�ำ เนินการ
3) คแู่ ขง่
3.3.2 การแก้ไขปัญหาความเส่ยี งในการประกอบอาชีพการดูแลผู้สงู อายเุ บอื้ งตน้
3.4 การฝกึ ประสบการณ์เป็นผ้ดู ูแลผสู้ ูงอายุเบอื้ งตน้ จำ�นวน 90 ชว่ั โมง
491
4. โครงการประกอบอาชพี การดูแลผสู้ ูงอายเุ บ้ืองตน้ จ�ำ นวน 12 ชวั่ โมง
4.1 ความสำ�คัญของโครงการประกอบอาชีพการดูแลผสู้ งู อายุเบ้อื งตน้ จำ�นวน ½ ช่ัวโมง
4.2 ประโยชน์ของโครงการประกอบอาชีพการดแู ลผู้สูงอายุเบ้ืองตน้ จำ�นวน ½ ช่ัวโมง
4.3 องค์ประกอบของโครงการประกอบอาชพี การดแู ลผู้สงู อายุเบ้อื งต้น จำ�นวน 1 ชั่วโมง
4.4 การเขียนโครงการการดแู ลผู้สงู อายุเบื้องต้น จ�ำ นวน 7 ชัว่ โมง
4.5 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการการดแู ลผ้สู ูงอายเุ บื้องต้น
จ�ำ นวน 3 ชวั่ โมง
การจัดกระบวนการเรียนรู้
1. การบรรยายจากวิทยากร
2. ศึกษาขอ้ มลู จากเอกสาร,สื่ออิเลก็ ทรอนกิ ส์,สอ่ื อินเตอรเ์ นต็
3. ศึกษาดูงานจากสถานประกอบการ แหล่งเรยี นรตู้ ่างๆ
4. การอภปิ ราย แลกเปลยี่ นเรยี นรู้
5. ฝึกปฏิบัติจริงในสถานประกอบการจนเกิดความชำ�นาญ โดยทำ�ความตกลงร่วมมือกันในการจัด
การศกึ ษาร่วมกันกับสถานประกอบการ
ส่อื การเรยี นรู้
1. สอ่ื ส่งิ พมิ พ์ เช่น หนังสือ เอกสาร ใบความรู้
2. สื่ออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เชน่ VCD, สื่ออนิ เตอรเ์ น็ต
4. วทิ ยากร/ผู้ประกอบอาชพี ดแู ลผ้สู ูงอายเุ บ้อื งตน้ /ผู้รู้
5. สถานประกอบการ
การวดั และประเมนิ ผล
1. การประเมินความรูภ้ าคทฤษฎีก่อนเรียน ระหวา่ งเรยี น หลงั เรียน และจบหลกั สูตร
2. การประเมินผลงานระหว่างเรียนจากการปฏิบัติ ได้ผลงานท่ีมีคุณภาพสามารถสร้างรายได้และ
ผรู้ ับบริการพึงพอใจ
การจบหลักสตู ร
1. มเี วลาเรียน ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 80
2. มีผลการประเมินตลอดหลกั สูตร ไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 80
3. มผี ลงานการให้บรกิ ารดูแลผ้สู งู อายเุ บอื้ งตน้ ทีไ่ ด้มาตรฐานเปน็ ที่พึงพอใจของลกู คา้ อยา่ งนอ้ ย 5 คน
4. ผ่านการฝึกอบรมจากสถานประกอบการ
492
เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา
1. หลกั ฐานการประเมนิ ผล
2. วุฒบิ ตั รการศกึ ษา ออกโดยสถานศกึ ษา
การเทียบโอน
ผู้เรียนท่ีจบหลักสูตรน้ีสามารถนำ�ไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ
การศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลอื กทีส่ ถานศึกษาไดจ้ ดั ท�ำ ขึน้