เร่อื ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เน้ือหา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ชั่วโมง
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
2.11 สามารถทอผ้าไหม ได้แก่ ขั้นตอน 2.11 การทอผ้าไหม - 30
การทอผา้ ไหม การเตรยี มกี่ การน�ำ - ขั้นตอนการทอผา้ ไหม
หลอดพุ่งใส่กระสวย การเหยียบ - การเตรยี มกี่
ตะกอ การพุ่งกระสวย การจัด - การน�ำ หลอดพงุ่ ใสก่ ระสวย
ลวดลายและแต่งริมขอบผ้า การ - การเหยียบตะกรอ
กระแทกฟืม การขึงหน้าผ้าให้ตึง - การพุ่งกระสวย
การต่อเส้นไหมยืนและเส้นไหมพุ่ง - การจดั ลวดลายและแตง่ รมิ ขอบผา้
เมื่อเส้นไหมขาด การปรับและ - การกระแทกฟมื
ปล่อยเส้นไหมยืน การหวีเส้นยืน - การขงึ หนา้ ผา้ ให้ตงึ
ขณะทอ และ การเก็บกี่เมื่อหยุด - การตอ่ เสน้ ไหมยนื และเสน้ ไหมพงุ่
พกั การทอ ได้ เม่ือเส้นไหมขาด
- การปรบั และปล่อยเสน้ ไหมยนื
- การหวีเสน้ ยนื ขณะทอ
- การเก็บกเี่ มือ่ หยุดพักการทอ
2.12 สามารถประยุกต์รูปแบบการขาย 2.12 รูปแบบการขายเป็นผ้าแบบต่างๆ - 10
เป็นผ้าแบบต่างๆ ท่ีสามารถนำ�ไป ท่สี ามารถน�ำ ไปใชไ้ ด้อยา่ งเหมาะสม
ใช้ได้อย่างเหมาะสม ได้แก่การทอ - การทอผา้ คลุมไหล่
ผ้าคลุมไหล่ การทอผ้าพันคอ - การทอผ้าพนั คอ
ผ้าปโู ตะ๊ ผา้ ตกแต่งผนัง และอื่นๆ - ก ารทอผ้ารูปแบบต่างๆ เช่น
ผ้าปโู ตะ๊ ผ้าตกแต่งผนัง และอ่นื ๆ
393
เรอื่ ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนือ้ หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ ช่ัวโมง 394
ทฤษฎี ปฏิบัติ
3. การบรหิ ารจดั การใน 3.1 ส ามารถบริหารจัดการอาชีพการ 3.1 ก ารบริหารจัดการอาชีพการทอ 3.1 การบรหิ ารจดั การจัดใหผ้ ูเ้ รียน 1 2
การประกอบอาชีพ ทอผ้าไหม ได้แก่ การควบคุม ผา้ ไหม 3.1.1 ศ ึกษาเอกสารเกี่ยวกับการ 1 1
การทอผา้ ไหมสรุ นิ ทร์ คุณภาพ และการลดต้นทุนการ 3.1.1 ก ารดแู ลรกั ษาคณุ ภาพของ บริหารจดั การ
ผลติ ได้ ผา้ ไหม 3.1.2 ว ทิ ยากรบรรยายการก�ำ หนด
3.1.2 ก ารลดต้นทุนในการผลิต และควบคมุ คณุ ภาพผลติ ภณั ฑ์
ของผ้าไหม ที่ตอ้ งการ
3.1.3 ก ารเพิ่มมูลค่าสินค้า เช่น 3.1.3 ผ เู้ รยี นรว่ มกนั วเิ คราะหก์ าร
การแปรรูป การออกแบบ ล ด ต้ น ทุ น ก า ร ผ ลิ ต แ ต่
การประยกุ ต์ใช้ คุณภาพคงเดิม
3.1.4 ว ทิ ยากรและผเู้ รยี นรว่ มกนั
วิเคราะห์ปัจจัยความเส่ียงที่
คาดวา่ จะเกดิ ขน้ึ และมแี นวทาง
ในการจัดการความเสี่ยง
3.2 ส ามารถจัดการการตลาด ได้แก่ 3.2 จัดการการตลาด 3.2 การบริหารจดั การการตลาด
การจัดทำ�ฐานข้อมูลลูกค้า/คู่แข่ง 3.2.1 ท ำ�ฐานข้อมูลลูกค้าท่ีใช้ 3.2.1 ผู้เรียนศึกษาข้อมูลการ
ทางการตลาด การประชาสมั พนั ธ์ บรกิ าร/คแู่ ขง่ ทางการตลาด ตลาดและวิเคราะห์ความ
การส่งเสริมการขายและการบริการ 3.2.2 ประชาสัมพนั ธ์ ต้ อ ง ก า ร ข อ ง ต ล า ด จ า ก
และการขอมาตรฐานผลิตภณั ฑ์ได้ 3.2.3 ส่งเสริมการขายและการ แหลง่ เรยี นรแู้ ละภมู ปิ ญั ญา
บริการ 3.2.2 ก ำ�หนดทิศทาง เป้าหมาย
3.2.4 การขอมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์ กลยทุ ธ์ และแผนการตลาด
เร่อื ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ ชว่ั โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
3.2.3 ผู้ เรี ย น ฝึ ก ป ฏิ บั ติ ต า ม
กระบวนการจัดการตลาด
เชน่ การคดิ ตน้ ทนุ การผลติ
ก�ำ หนดราคาขาย การสง่ เสรมิ
การขาย และการกระจาย
สินค้า
3.3 สามารถจัดการความเสี่ยง ได้แก่ 3.3 จัดการความเสย่ี ง 3.3 การจดั การความเสยี่ ง 11
วเิ คราะหศ์ กั ยภาพในการประกอบ 3.3.1 วิเคราะห์ศักยภาพในการ 3.3.1 ผู้เรียนสำ�รวจและศึกษา
อาชีพการทอผ้าไหม และการ ป ร ะ ก อ บ อ า ชี พ ก า ร ท อ แหลง่ วสั ดุ อปุ กรณ์ เพอื่ ลด
แ ก้ ปั ญ ห า ค ว า ม เ สี่ ย ง ใ น ก า ร ผา้ ไหม ตน้ ทนุ การผลติ และควบคมุ
ประกอบอาชีพการทอผ้าไหม ได้ 3.3.2 แกป้ ญั หาความเสย่ี งในการ คุณภาพสนิ คา้ จากผู้จ�ำ หนา่ ย
ป ร ะ ก อ บ อ า ชี พ ก า ร ท อ ท่หี ลากหลาย
ผา้ ไหม 3.3.2 ผ เู้ รยี นรว่ มกนั อภปิ รายและ
วเิ คราะหป์ จั จยั เสยี่ งในดา้ น
ต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดข้ึน
จากการประกอบอาชพี
3.3.3 อภิปรายแสวงหาแนวทาง
จั ด ก า ร ค ว า ม เ ส่ี ย ง จ า ก
ภูมปิ ัญญาและผเู้ ชยี่ วชาญ
395
เรื่อง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เน้ือหา การจดั กระบวนการเรียนรู้ ช่วั โมง 396
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
4. โ ครงการประกอบ 4.1 บ อกความส�ำ คญั ของโครงการอาชพี ได้ 4.1 ค วามส�ำ คญั ของโครงการอาชพี การ 4.1 จ ดั ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเนอ้ื หาจากใบความรู้ 1 -
อาชีพการทอผ้าไหม 4.2 บอกประโยชน์ของโครงการอาชีพ ทอผ้าไหมสรุ นิ ทร์ เร่ืองความสำ�คัญของโครงการอาชีพ -
สรุ นิ ทร์ ได้ 4.2 ป ระโยชน์ของโครงการอาชีพการ ประโยชน์ของโครงการอาชีพ 0.5 -
4.3 บ อกองค์ประกอบของโครงการ ทอผ้าไหมสรุ ินทร์ องคป์ ระกอบของโครงการอาชพี แลว้ 6
อาชีพได้ 4.3 อ งค์ประกอบของโครงการอาชีพ จดั กจิ กรรมสนทนาแลกเปลยี่ นขอ้ มลู 0.5 3
4.4 อ ธบิ ายความหมายขององคป์ ระกอบ การทอผ้าไหมสุรินทร์ ความคิดเห็นเพ่ือสรา้ งแนวคดิ ในการ
ของโครงการอาชีพได้ 4.4 การเขียนโครงการอาชีพการทอ ดำ�เนนิ กจิ กรรมการเรียนรู้ 1
4.5 อธิบายลักษณะการเขียนท่ีดีของ ผา้ ไหมสรุ ินทร์ 4.2 จ ัดให้ผู้เรียนศึกษาสาระข้อมูลจาก
องค์ประกอบของโครงการอาชีพ 4.5 ก ารประเมินความเหมาะสมและ ใบความรู้ เร่ืองตัวอย่างการเขียน -
ทดี่ ไี ด้ สอดคล้องของโครงการอาชีพการ โครงการอาชีพที่ดี เหมาะสมและ
4.6 เขี ย น โ ค ร ง ก า ร ใ น แ ต่ ล ะ อ ง ค์ ทอผ้าไหมสรุ ินทร์ ถูกต้อง พร้อมจัดการอภิปรายเพ่ือ
ประกอบไดเ้ หมาะสมและถูกต้อง สรปุ แนวคดิ เปน็ แนวทางในการเขยี น
4.7 ตรวจสอบความเหมาะสมและ โครงการอาชพี ทด่ี เี หมาะสมและถกู ตอ้ ง
สอดคลอ้ งของโครงการอาชพี ได้ 4.3 จ ัดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการเขียน
โครงการอาชพี
4.4 ก �ำ หนดใหผ้ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารประเมนิ
ความเหมาะสมและสอดคล้องของ
โครงการอาชพี
4.5 จัดให้ผู้เรียนปรับปรุงโครงการอาชีพ
ใหม้ ีความเหมาะสมและถกู ตอ้ ง
4.6 ก ำ�หนดให้ผู้เรียนเขียนโครงการ
อาชีพของตนเองเพื่อเสนอขอรับ
การสนบั สนนุ งบประมาณด�ำ เนนิ งาน
อาชีพและใช้ในการดำ�เนินการ
ประกอบอาชีพต่อไป
397
หลักสตู รการทำ�ผลิตภัณฑจ์ ากใยสบั ปะรด
จ�ำ นวน 108 ชว่ั โมง
กลุ่มอาชีพความคดิ สร้างสรรค์
ความเป็นมา
เกษตรกรไทยมีการปลูกสับปะรดเป็นพืชเศรษฐกิจในทุกภูมิภาคของประเทศ สับปะรดนอกจากจะใช้
ในการบรโิ ภคแลว้ ยงั น�ำ ไปขายทง้ั ภายในประเทศและสง่ ออกตา่ งประเทศ น�ำ รายไดเ้ ขา้ สปู่ ระเทศเปน็ จ�ำ นวนมาก
หลงั การเกบ็ เกย่ี วผลสบั ปะรด สว่ นใหญใ่ ยสบั ปะรดจะถกู ทง้ิ ไป บางสว่ นจะถกู เผาทงิ้ บางสว่ นถกู ไถกลบ
เป็นปุ๋ยพืชสดเพื่อการปลูกสับปะรดในรุ่นถัดไป ดังนั้นการนำ�ใยสับปะรดไปแปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์กระดาษและ
บรรจุภัณฑ์รูปแบบต่างๆ จะช่วยเพิ่มมูลค่าและใช้ประโยชน์จากวัสดุธรรมชาติที่เหลือใช้ได้อย่างคุ้มค่า ซ่ึงการ
แปรรูปใยสับปะรด สามารถหาวัตถุดิบได้ง่าย ใช้เทคนิคไม่ซับซ้อน ต้นทุนไม่มาก นอกจากนี้ยังเป็นการรักษา
สภาพแวดล้อมและชว่ ยแกไ้ ขปญั หาการขาดแคลนวัตถุดบิ ในอสุ าหกรรมการผลิตกระดาษดว้ ย
การนำ�ใยสับปะรดมาทำ�เป็นกระดาษ นับเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ซ่ึงกระดาษจากใยสับปะรดจะมี
ความสวยงาม แตกต่างจากกระดาษอ่นื เปน็ ทชี่ ื่นชอบของชาวตา่ งชาตมิ าก
ทั้งนี้ กระดาษจากใยสับปะรดสามารถนำ�ไปทำ�ผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายประเภท ดังนั้นการแปรรูป
ผลิตภัณฑ์จากใยสับปะรดสามารถนำ�ไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับตนเอง ครอบครัวและชุมชนได้และ
ยงั เป็นการลดภาระการก�ำ จัดใยสับปะรดของเกษตรกรอกี ดว้ ย
หลักการของหลักสตู ร
หลกั สตู รการประกอบอาชีพ การทำ�ผลติ ภัณฑ์จากใยสับปะรด มหี ลักการ ดังนี้
1. เน้นการนำ�วัสดุธรรมชาติที่มีมากและเหลือใช้ในท้องถ่ินมาสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อให้ประชาชนเกิด
รายได้
2. เน้นการใช้ความรู้ในการออกแบบและความคิดสรา้ งสรรคใ์ นการแปรรูปผลิตภัณฑจ์ ากใยสับปะรด
3. เน้นการผลิตชิ้นงาน/ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มีรูปแบบหลากหลาย สอดคล้องกับความต้องการ
ของตลาด
จุดหมาย
หลกั สตู รการประกอบอาชีพ การท�ำ ผลิตภัณฑ์จากใยสบั ปะรด มจี ุดหมาย ดังน้ี
1. เพอ่ื ใหผ้ ้เู รียนมีความรู้และมที กั ษะในการท�ำ กระดาษจากใยสบั ปะรด
2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถออกแบบและสรา้ งผลติ ภณั ฑท์ แี่ ปรรปู จากกระดาษใยสบั ปะรดเปน็ ผลติ ภณั ฑ์
รูปแบบตา่ งๆ ที่สวยงาม สอดคล้องกับความต้องการของตลาด
3. เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รียนสามารถน�ำ ความรไู้ ปใชป้ ระกอบอาชพี สรา้ งรายไดใ้ หก้ ับตนเองและครอบครวั ได้
398
กลมุ่ เปา้ หมาย
กลุม่ เป้าหมายผูใ้ ช้หลกั สูตรการประกอบอาชพี การทำ�ผลติ ภณั ฑจ์ ากใยสับปะรด มีดงั นี้
1. ผู้ทีไ่ ม่มีอาชีพ
2. ผู้ทม่ี ีอาชพี และตอ้ งการพฒั นาอาชีพ เพอ่ื สร้างรายไดเ้ พม่ิ
3. ผ้ทู ่อี ยใู่ นทอ้ งถ่ินท่ีมกี ารเพาะปลูกสบั ปะรดหรอื สามารถหาวัตถุดบิ ไดง้ ่าย
ระยะเวลา จ�ำ นวน 108 ช่วั โมง
1. ภาคทฤษฎี 37 ชั่วโมง
2. ภาคปฏบิ ัต ิ 71 ช่วั โมง
โครงสรา้ งหลกั สตู ร
1. ช่องทางการประกอบอาชพี จ�ำ นวน 9 ชวั่ โมง
1.1 ความเป็นไปได้ในการประกอบอาชพี จ�ำ นวน 2 ชว่ั โมง
1.2 ความส�ำ คญั ในการท�ำ ผลติ ภณั ฑ์จากใยสับปะรด จำ�นวน 3 ช่ัวโมง
1.3 แหล่งเรยี นรแู้ ละแหล่งจำ�หน่ายผลติ ภณั ฑจ์ ากใยสับปะรด จ�ำ นวน 4 ชัว่ โมง
2. ทักษะอาชีพ จำ�นวน 63 ชัว่ โมง
2.1 การท�ำ กระดาษจากใยสับปะรด จ�ำ นวน 37 ชั่วโมง
2.2 การทำ�ผลิตภณั ฑ์จากกระดาษใยสบั ปะรดรูปแบบตา่ งๆ จำ�นวน 26 ชวั่ โมง
3. การบริหารจัดการอาชีพ จ�ำ นวน 24 ชัว่ โมง
3.1 การวางแผนการผลติ จำ�นวน 6 ช่วั โมง
3.2 การควบคมุ คุณภาพ จ�ำ นวน 3 ช่ัวโมง
3.3 การตลาด จ�ำ นวน 15 ช่ัวโมง
4. โครงการประกอบอาชพี การท�ำ ผลติ ภณั ฑจ์ ากใยสบั ปะรด จำ�นวน 12 ชั่วโมง
4.1 ความสำ�คัญของโครงการอาชพี การทำ�ผลติ ภณั ฑจ์ ากใยสับปะรด
4.2 ประโยชนข์ องโครงการอาชีพ การท�ำ ผลิตภณั ฑจ์ ากใยสับปะรด
4.3 องคป์ ระกอบของโครงการอาชีพ การทำ�ผลติ ภณั ฑ์จากใยสบั ปะรด
4.4 การเขยี นโครงการอาชีพ การท�ำ ผลติ ภัณฑจ์ ากใยสบั ปะรด
4.5 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของโครงการอาชพี การท�ำ ผลติ ภณั ฑจ์ ากใยสบั ปะรด
การจัดกระบวนการเรยี นรู้
- วิทยากรให้ความรู้ถึงความสำ�คัญและความเป็นไปได้ในการประกอบอาชีพทำ�ผลิตภัณฑ์จาก
ใยสบั ปะรด
- ศึกษาข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญา ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร สถานประกอบการสถานที่จัด
จ�ำ หนา่ ย
- การบรรยาย
399
- การสาธิต
- การออกแบบผลติ ภณั ฑ์
- การฝกึ ปฏบิ ตั สิ รา้ งสรรคช์ ิ้นงานแบบต่าง ๆ
- การแลกเปลย่ี นเรียนรู้ระหวา่ งผเู้ รยี นและภมู ปิ ัญญา
- ศกึ ษาดูงานและฝึกปฏบิ ัติด้วยตนเองเพมิ่ เตมิ
- วทิ ยาบรรยายและร่วมอภปิ ราย วิเคราะห์เกีย่ วกบั
- ผูเ้ รยี นศึกษาข้อมูลการตลาด และวิเคราะห์ความตอ้ งการของตลาดจากสภาพจรงิ
- วิเคราะหแ์ ละวางแผนการโฆษณาประชาสมั พนั ธ์ผา่ นชอ่ งทางสอ่ื ต่างๆ
- ฝกึ ปฏบิ ตั จิ รงิ การคิดราคาตน้ ทุนกำ�ไร ทำ�บัญชีรายรบั -รายจา่ ย
สอ่ื การเรยี นรู้
1. ใบความรู้
2. ภมู ิปญั ญาทอ้ งถนิ่ /วิทยากร
3. ตวั อยา่ งชิ้นงาน
4. วสั ดุ อปุ กรณ์ ทใี่ ชใ้ นการฝึกปฏบิ ตั ิ
5. แหลง่ เรียนรู้ ทศี่ ึกษาดงู าน
6. ส่อื ICT
การวดั และประเมนิ ผล
1. ภาคทฤษฎี
1.1 ประเมินผลจากการทดสอบความรูค้ วามเขา้ ใจ ร้อยละ 20
2. ภาคปฏิบตั ิ ประเมนิ จากชนิ้ งานท่มี คี ณุ ภาพเพยี งพอทจ่ี ะจำ�หนา่ ยได ร้อยละ 70
2.1 ประเมนิ จากความสวยงาม รอ้ ยละ 30
2.2 ความคิดสร้างสรรค์ รอ้ ยละ 30
2.3 ความคงทนแข็งแรง รอ้ ยละ 10
3. ประเมินพฤติกรรมการมสี ่วนร่วมของผู้เรยี น ร้อยละ 10
การจบหลกั สตู ร
1. มเี วลาเรียนไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 80
2. ผา่ นการประเมินผลท้งั ภาคทฤษฎี และภาคปฏบิ ตั ิไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 80
3. ผูเ้ รียนสามารถเขยี นโครงการอาชพี ของตนเองได้ และผา่ นเกณฑ์ความเป็นไปได้ของโครงการ
400
เอกสารหลกั ฐานการศึกษา
1. หลกั ฐานแสดงผลการเรียน
2. วุฒิบตั ร ออกโดยสถานศกึ ษาในสังกดั ส�ำ นักงาน กศน.
3. ทะเบียนคุมวุฒิบัตรทส่ี ถานศกึ ษาออกให้กับผู้เรียนที่จบหลักสตู ร
การเทยี บโอน
ผเู้ รยี นทจี่ บหลกั สตู รนส้ี ามารถน�ำ ไปเทยี บโอนผลการเรยี นรหู้ ลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษา
ข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพเลือกท่ีสถานศกึ ษาไดจ้ ดั ทำ�ขนึ้ ได้
รายละเอียดโครงสรา้ งหลักสตู รผลติ ภัณฑจ์ ากใยสับปะรด
เร่อื ง จุดประสงค์การเรยี นรู้ เนื้อหา การจดั กระบวนการเรียนรู้ ชัว่ โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
1. ชอ่ งทางการประกอบ 1. ผ เู้ รยี นสามารถบอกความเปน็ ไปไดใ้ น 1. ความสำ�คัญในการทำ�ผลิตภัณฑ์จาก 1. วิทยากรบรรยายให้ความรู้ประกอบ 2 -
อาชีพการทำ�ผลิตภัณฑ์ การประกอบอาชีพการท�ำ ผลิตภณั ฑ์ ใยสบั ปะรด กบั ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาจากใบความรเู้ รอ่ื ง 3 -
จากใยสับปะรด จากใยสบั ปะรด 2. แ หล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการทำ�ผลิตภัณฑ์ ความสำ�คัญของการทำ�ผลิตภัณฑ์ 4 -
2. ผ ู้เรียนสามารถบอกความสำ�คัญใน จากใยสบั ปะรด จากใยสบั ปะรด
การทำ�ผลติ ภณั ฑจ์ ากใยสบั ปะรดได้ 3. แ หล่งจำ�หน่ายผลิตภัณฑ์จากใย 2. ศ ึกษาจากแหล่งเรียนรู้ และภูมิปัญญา
3. ผู้เรียนสามารถบอกแหล่งเรียนรู้ สบั ปะรด ในการทำ�ผลิตภณั ฑ์จากใยสบั ปะรด
แหล่งจำ�หน่ายผลิตภัณฑ์จากใย 4. แนวโนม้ ความตอ้ งการของตลาด 3. ศ กึ ษาดงู านจากแหลง่ จ�ำ หนา่ ยผลติ ภณั ฑ์
สับปะรด - ร ูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความ จากใยสับปะรด
ต้องการของกลมุ่ ลกู ค้าวัยตา่ งๆ 4. วิทยากรกับผู้เรียนร่วมกันวิเคราะห์
- การตดั สนิ ใจเลอื กท�ำ ผลติ ภณั ฑจ์ าก รูปแบบ และสอดคล้องกับความ
ใยสับปะรด ตอ้ งการของกลุม่ ลูกค้า
5. ผู้เรียนตัดสินใจเลือกทำ�ผลิตภัณฑ์
จากใยสับปะรดตามความพร้อมและ
ศกั ยภาพของตนเอง
2. ทักษะอาชีพการทำ� 1. ผเู้ รยี นสามารถบอกวสั ดแุ ละอปุ กรณ์ 1. วัสดุและอุปกรณ์ในการทำ�กระดาษ 1. วิทยากรบรรยายถึงคุณลักษณะ 2 -
ผลิตภัณฑ์จากใย ทใ่ี ชใ้ นการท�ำ กระดาษใยสบั ปะรดได้ จากใยสบั ปะรด คณุ สมบตั ิ และวธิ กี ารใชว้ สั ดอุ ปุ กรณ์ 3 -
สบั ปะรด 2. ผู้เรียนสามารถคัดเลือกใบสับปะรด 2. วตั ถดุ บิ และการเตรยี มวตั ถดุ บิ ในการ แต่ละชนิด พร้อมท้ังแสดงตัวอย่าง
ท่ีจะนำ�มาใช้ท�ำ กระดาษได้ ท�ำ กระดาษจากใยสับปะรด ของวัสดุอุปกรณ์ชน้ิ น้นั
3. ผ ู้เรียนสามารถบอกแหลง่ วัตถุดิบได้ - การคดั เลือกใบสบั ปะรด
401
เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้อื หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ชั่วโมง 402
ทฤษฎี ปฏิบัติ
4. ผู้เรียนสามารถทำ�กระดาษจากใย - สารเคมที ใ่ี ชแ้ ละการปอ้ งกนั อนั ตราย 2. วิทยากรบรรยายถึงวัตถุดิบท่ีต้องใช้
สับปะรดได้สวยงาม คงทน และ - ป รมิ าณการใชว้ ตั ถดุ บิ และสารเคมี การหาแหล่งวตั ถุดิบ สารเคมีที่ตอ้ งใช้
ใชง้ านได้ 3. ข ั้นตอนการทำ�กระดาษจากใย และการปอ้ งกนั อนั ตราย การเตรยี ม
สับปะรด วตั ถดุ บิ พรอ้ มทง้ั บอกคณุ สมบตั ขิ อง
- การล้างและหน่ั ใบสบั ปะรด ใยสับปะรดท่ีใช้ทำ�กระดาษและ 4 -
- การตม้ ใบสับปะรดดว้ ยโซดาไฟ สาธติ การคัดเลือกใบสับปะรด - 6
- การลา้ งใยสบั ปะรด 3. วทิ ยากรสาธติ พร้อมกบั ใหผ้ ู้เรียนฝึก - 3
- การฟอกขาวใยสบั ปะรด ปฏิบัติตามลำ�ดับข้ันตอนการทำ� - 4
- การย้อมสีใยสบั ปะรด กระดาษจากใยสบั ปะรด - 4
- การปนั่ ใยสบั ปะรด - 4
- การหลอ่ กระดาษ - 3
- การตากกระดาษ
1. ผู้เรียนสามารถบอกวัสดุอุปกรณ์ใน 1. ว สั ดแุ ละอปุ กรณใ์ นการท�ำ ผลติ ภณั ฑ์ 1. วิทยากรบรรยายถึงวิธีใช้วัสดุอุปกรณ์ 2 -
การทำ�ผลิตภัณฑ์จากกระดาษใย ตา่ งๆ จากกระดาษใยสับปะรด แต่ละชนิดพร้อมทั้งยกตัวอย่างของ 3 -
สบั ปะรดแบบต่างๆได้ 2. ฝ กึ ปฏบิ ตั กิ ารออกแบบและสรา้ งสรรค์ วสั ดุอุปกรณ์ชน้ิ นน้ั
2. ผ เู้ รยี นสามารถน�ำ กระดาษใยสบั ปะรด ผลติ ภัณฑจ์ ากกระดาษใยสบั ปะรด 2. วิทยากรสาธิตพร้อมให้ผู้เรียนฝึก - 4
มาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์แบบ - กลอ่ งกระดาษทิชชู ปฏบิ ตั ติ ามขนั้ ตอนการท�ำ ผลติ ภณั ฑ์
ต่างๆ เพ่ือเพม่ิ มูลค่าให้กบั กระดาษได้ - โคมไฟกระดาษ ประเภทตา่ งๆจากกระดาษใยสบั ปะรด
- กรอบรูป ดังต่อไปน้ี
- ถุงกระดาษ 1) กล่องกระดาษทิชชู
- กล่องกระดาษเอนกประสงค์ - ฝึกปฏบิ ัตกิ ับวทิ ยากร
ฯลฯ - ฝึกปฏบิ ัตดิ ว้ ยตนเอง
เรอื่ ง จุดประสงค์การเรยี นรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ชวั่ โมง
ทฤษฎี ปฏิบัติ
2) โคมไฟกระดาษ -5
- ฝกึ ปฏิบตั ิกับวทิ ยากร -4
- ฝึกปฏบิ ัตดิ ว้ ยตนเอง -4
3) กรอบรปู -4
- ฝึกปฏบิ ัตกิ บั วิทยากร
- ฝึกปฏิบตั ดิ ว้ ยตนเอง
4) ถงุ กระดาษ
- ฝกึ ปฏบิ ตั กิ ับวทิ ยากร
- ฝึกปฏบิ ัตดิ ้วยตนเอง
5) กล่องกระดาษเอนกประสงค์
- ฝกึ ปฏิบัติกบั วทิ ยากร
- ฝกึ ปฏิบตั ดิ ้วยตนเอง
ฯลฯ
3. ฝกึ ทกั ษะเพมิ่ เติมทบ่ี า้ น
3. ก ารบริหารจัดการ 1. ผ เู้ รยี นสามารถบรหิ ารจดั การ การท�ำ 1. การผลิต 1. ว ิทยากรบรรยายให้ความรู้และ 3 -
อาชีพ ผลติ ภณั ฑจ์ ากใยสบั ปะรดได้ 1.1 สำ�รวจแหลง่ ทนุ ผู้เรียนศกึ ษาจากเอกสาร ใบความรู้ - 3
2. ผ ู้เรียนสามารถควบคุมคุณภาพ 1.2 ส�ำ รวจแหล่งวัตถุดบิ ในทอ้ งถิ่น
มาตรฐานของชน้ิ งานได้ 2. ก ารควบคุมคุณภาพกำ�หนดมาตรฐาน 2. วิทยากรและผู้เรียนร่วมกันกำ�หนด
3. ผู้เรียนสามารถบริหารจัดการการ ของช้ินงาน คุณภาพและมาตรฐานของชิ้นงาน
ตลาดได้ 2.1 ความสวยงาม ด้านความสวยงาม ความทนทาน
2.2 ความทนทานแข็งแรง แข็งแรง
403
เรอื่ ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้ือหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ ช่วั โมง 404
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
3. การตลาด 3. ว ิทยาการบรรยายให้ความรู้เรื่อง 3 3
3.1 ก ารศึกษาข้อมูล วิเคราะห์ การตลาดและการศกึ ษาดงู าน 3 3
ความตอ้ งการของตลาด - ศูนย์ OTOP 2 4
- ศูนย์ OTOP - ศนู ยฝ์ กึ อาชพี ชุมชน
- ศนู ย์ฝึกอาชีพชมุ ชน - แหลง่ ท่องเทีย่ ว
- แหล่งท่องเท่ียว 4. วิทยากรบรรยายให้ความรู้เก่ียวกับ
3.2 การโฆษณาประชาสมั พนั ธ์ โฆษณาประชาสัมพันธ์และผู้เรียน
- เ ว็บไซต์กศน.ตำ�บล กศน. ฝึกปฏิบัติ
อำ�เภอ กศน.จังหวดั - การขึ้นเวบ็ ไซต์
- แผ่นพับโฆษณา - การท�ำ แผน่ พับ
3.3 การท�ำ บัญชี 5. วิทยากรบรรยายให้ความรู้เร่ือง
- การคดิ ต้นทนุ /ก�ำ ไร การท�ำ บัญชแี ละผเู้ รียนฝกึ ปฏิบตั ิ
- บัญชรี ายรับ – รายจ่าย - การคดิ ตน้ ทนุ /กำ�ไร
- บญั ชีรายรบั - รายจา่ ย
4. โ ครงการประกอบ 1. ส ามารถบอกความสำ�คัญของ 1. ค วามสำ�คัญของโครงการประกอบ 1. ว ทิ ยากรบรรยายและใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษา 3 9
อาชีพผลิตภัณฑ์จาก โครงการประกอบอาชีพ ผลิตภัณฑ์ อาชพี ผลิตภณั ฑ์จากใยสบั ปะรด เนอ้ื หาจากใบความรู้ เรอื่ ง ความส�ำ คญั
ใยสับปะรด จากใยสับปะรดได้ 2. ป ระโยชน์ของโครงการประกอบ ของโครงการอาชีพ ประโยชน์ของ
2. ส ามารถบอกประโยชน์ของโครงการ อาชพี ผลิตภณั ฑ์จากใยสับปะรด โครงการอาชีพ องค์ประกอบของ
ประกอบอาชีพ ผลิตภัณฑ์จากใย 3. องค์ประกอบของโครงการประกอบ โครงการอาชพี และอภปิ รายสนทนา
สับปะรดได้ อาชีพผลติ ภณั ฑ์จากใยสับปะรด แลกเปล่ียนข้อมูลความคิดเห็น เพื่อ
สร้างแนวคิดในการดำ�เนินกิจกรรม
การเรยี นรู้
เร่อื ง จุดประสงค์การเรียนรู้ เนอื้ หา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ช่วั โมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
3. ส ามารถบอกองค์ประกอบของ 4. ก ารเขียนโครงการประกอบอาชีพ 2. จ ัดให้ผู้เรียนศึกษาสาระข้อมูลจาก
โครงการประกอบอาชีพ ผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์จากใยสับปะรด ใบความรู้ เร่ือง ตัวอย่างการเขียน
จากใยสบั ปะรดได้ 5. การประเมินความเหมาะสมและ โครงการอาชีพที่ดี เหมาะสม และ
4. สามารถอธิบายความหมายของ สอดคล้องของโครงการประกอบ ถูกต้อง พร้อมจัดการอภิปราย เพ่ือ
องค์ประกอบของโครงการอาชีพ อาชพี ผลิตภัณฑจ์ ากใยสับปะรด สรปุ แนวคดิ เปน็ แนวทางในการเขยี น
ผลิตภัณฑ์จากใยสบั ปะรดได้ โครงการอาชีพที่ดี เหมาะสม และ
5. ส ามารถอธิบายลักษณะการเขียน ถกู ตอ้ ง
โครงการที่ดีตามองค์ประกอบของ 3. จัดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติ การเขียน
โครงการอาชีพได้ โครงการอาชพี
6. ส ามารถเขียนโครงการประกอบอาชีพ 4. ก �ำ หนดใหผ้ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารประเมนิ
ท่ีเหมาะสมได้ ความเหมาะสมและสอดคล้องของ
7. สามารถประเมนิ ความเหมาะสมและ โครงการอาชพี
สอดคล้องของโครงการประกอบ 5. จัดให้ผู้เรียนปรับปรุงโครงการอาชีพ
อาชีพได้ ให้มคี วามเหมาะสม
6. ก�ำ หนดใหผ้ เู้ รยี นเขยี นโครงการอาชพี
ของตนเอง เพื่อเสนอขอรับการ
สนับสนุนงบประมาณดำ�เนินงาน
อาชีพ และใช้ในการดำ�เนินการ
ประกอบอาชีพตอ่ ไป
405
406
หลกั สตู รบา้ นดนิ ทางเลือกใหม่ของคนอยากมีบ้าน
จ�ำ นวน 120 ชั่วโมง
กลุม่ อาชีพความคิดสร้างสรรค์
ความเป็นมา
เป็นท่ีทราบกันดีว่าความต้องการท่ีอยู่อาศัยเพ่ิมมากข้ึน ตามอัตราการเพ่ิมข้ึนของประชากรในประเทศ
ขณะนี้วัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างมีราคาสูงข้ีนอย่างมากทำ�ให้ราคาบ้านสูงข้ึนตามไปด้วย การมีท่ีอยู่อาศัย
เป็นของตวั เองจึงเปน็ ไปคอ่ นขา้ งยากสำ�หรับผู้มรี ายไดน้ ้อย
ปัจจุบันแนวคิดด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติ กำ�ลังได้รับความสนใจโดยมีการปรับเปล่ียนวิถีชีวิตให้อยู่
ร่วมกับธรรมชาติอย่างกลมกลืน ไม่ทำ�ลายสิ่งแวดล้อม เลือกใช้วัสดุธรรมชาติมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำ�วัน
มากย่งิ ขึ้นตงั้ แตเ่ สื้อผา้ เคร่ืองนงุ่ หม่ สิ่งของเครอ่ื งใช้ ตลอดจนทีอ่ ยู่อาศยั การปลูกสรา้ งทอ่ี ย่อู าศยั ที่สอดคลอ้ งกับ
สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติของไทยเรา ซ่ึงมีภูมิอากาศร้อนเป็นส่วนใหญ่น้ัน แต่เดิมมาประชาชนจะใช้ไม้เป็น
วัสดุก่อสร้างเป็นหลัก แต่เนื่องจากไม้มีราคาแพงและหายาก จึงมีแนวคิดการสร้างบ้านด้วยดิน ซึ่งเป็น
วสั ดธุ รรมชาติ หางา่ ยไมต่ อ้ งลงทนุ มาก การกอ่ สรา้ งไมย่ งุ่ ยาก เพยี งใชภ้ มู ปิ ญั ญาชาวบา้ นและความคดิ สรา้ งสรรค์
ท่ีไม่จำ�กัด ก็จะได้บ้านหลากหลายรูปแบบ อยู่สบาย ไม่ร้อน ทั้งแข็งแรง ทนทาน ราคาประหยัด เหมาะสำ�หรับ
ผู้มรี ายไดไ้ มม่ าก หรือผู้ทรี่ ักในธรรมชาติ ดังนนั้ หลกั สตู รบา้ นดิน ทางเลือกใหมข่ องคนอยากมบี า้ น จะชว่ ยให้ฝัน
ของคนทยี่ งั ไมม่ บี า้ นเปน็ ของตนเอง เปน็ จรงิ ได้ และสามารถสรา้ งอาชพี สรา้ งรายได้ แกผ่ ทู้ จ่ี ะน�ำ ไปประกอบอาชพี
อยา่ งแน่นอน
หลกั การของหลักสูตร
หลักสูตรบ้านดินทางเลอื กใหม่ ของคนอยากมีบา้ น ของสำ�นักงาน กศน. มหี ลกั การดังนี้
1. เป็นหลักสูตรที่เน้นการบูรณาการให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่างๆ 5 ด้าน ได้แก่ ศักยภาพของ
ทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละพื้นท่ี ศักยภาพของพ้ืนท่ีตามลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพภูมิประเทศและทำ�เล
ท่ีตั้งของแต่ละประเทศ ศักยภาพของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของแต่ละพื้นที่และศักยภาพของ
ทรัพยากรมนุษย์ในแตล่ ะพน้ื ที่
2. การจดั การศึกษาการประกอบอาชีพ “บา้ นดนิ ” ทางเลือกใหม่ของคนอยากมีบ้านมุ่งพฒั นาคนไทย
ใหม้ อี าชพี ไดร้ บั การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาอาชพี และการมงี านท�ำ อยา่ งมคี ณุ ภาพทว่ั ถงึ และเทา่ เทยี มกนั สามารถสรา้ ง
รายได้ที่มั่นคง และเป็นบุคคลท่ีมีวินัยเป่ียมไปด้วยคุณธรรม จริยธรรม มีจิตสำ�นึกความรับผิดชอบต่อตนเอง
ผู้อนื่ และสังคม
3. ส่งเสริมให้มีความร่วมมือในการดำ�เนินงานร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับ
กลุ่มเป้าหมายใหม้ คี วามมั่นคง
4. เน้นการฝึกปฏิบัติจริงเพื่อให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนำ�ไปประกอบอาชีพ
ใหเ้ กดิ รายได้ท่มี ั่นคง ม่ังคงั่
5. สง่ เสรมิ ให้มีการเทยี บโอนความร้แู ละประสบการณเ์ ข้าสู่หลักสตู รการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน
407
จดุ หมาย
หลักสตู รบ้านดนิ ทางเลอื กใหม่ ของคนอยากมีบา้ น ของส�ำ นกั งาน กศน. มจี ดุ มุง่ หมายดังนี้
1. เพ่อื ให้ผู้เรียนมีความร้คู วามเข้าใจในการกอ่ สรา้ งทอี่ ย่อู าศยั ด้วยดินไดอ้ ย่างม่นั คงแขง็ แรง
2. เพื่อให้ผู้เรียนได้น�ำ ความรู้ไปใช้ประกอบอาชพี รบั สร้างบา้ นดนิ ได้
3. เพ่อื ให้ผเู้ รยี นเลือกใชว้ ัสดุการกอ่ สร้างอย่างเหมาะสมกบั ภูมปิ ระเทศ ภูมิอากาศและท�ำ เลท่ีตง้ั
กลุ่มเปา้ หมาย
มี 3 กลมุ่ เป้าหมาย คือ
1. ผ้ทู ีไ่ มม่ อี าชีพ
2. ผ้ทู ่มี ีอาชพี และต้องการพฒั นาอาชีพ
3. ผปู้ ระสบภัยธรรมชาตหิ รอื ผู้ท่ียงั ไมม่ ีบ้านเป็นของตนเอง
ระยะเวลา
หลกั สตู รบ้านดนิ ทางเลอื กใหม่ ของคนอยากมีบา้ น ใช้ระยะเวลาเรียน 120 ชั่วโมง
- ภาคทฤษฎี 30 ช่วั โมง
- ภาคปฏบิ ตั ิ 90 ชว่ั โมง
โครงสรา้ งหลักสูตร
1. ชอ่ งทางการประกอบอาชพี บา้ นดนิ ทางเลอื กใหม่ ของคนอยากมบี า้ น (จ�ำ นวน 7 ช่วั โมง)
1.1 ประโยชน์และความสำ�คัญของบ้านดินกับภูมิประเทศ ภูมิอากาศและวิถีการดำ�เนินชีวิต
แบบพอเพียง
1.2 ศึกษาข้อมูลจากเอกสาร สื่ออิเล็กทรอนิคส์ ผู้ประกอบการ บุคคลในชุมชน เพื่อนำ�ข้อมูล
ความคิด วเิ คราะห์ และใช้ในการประกอบอาชพี
1.3 ศึกษาความเปน็ ไปไดใ้ นการประกอบอาชพี สรา้ งบ้านดิน
1.4 การตัดสินใจเลอื กประกอบอาชีพรับสรา้ งบ้านดินการรับสรา้ งบา้ นดิน การออกแบบ รบั จ้าง
2. ทักษะการประกอบอาชพี บ้านดนิ ทางเลอื กใหม่ ของคนอยากมบี ้าน (จำ�นวน 96 ช่วั โมง)
2.1 คุณสมบัตขิ องดนิ
2.2 การวเิ คราะหท์ ำ�เลท่ีตั้งและภูมิประเทศ
2.3 แบบบ้านดิน
2.4 การเตรียมพน้ื ทใ่ี นการก่อสร้าง
2.5 การทำ�อฐิ ดนิ
2.6 การท�ำ ฐานราก
2.7 การทำ�ผนังดนิ
2.8 การจัดท�ำ สาธารณปู โภค
2.9 การทำ�ชอ่ งหน้าต่างประตแู ละช่องลม
408
2.10 การฉาบผนัง
2.11 การทำ�สีเคลือบผนังดนิ
2.12 การทำ�พื้นบ้านดนิ
2.13 การท�ำ หลังคา
2.14 การท�ำ เฟอรน์ เิ จอร์
3. การบริหารจดั การอาชีพบ้านดนิ ทางเลอื กใหม่ ของคนอยากมีบ้าน(จำ�นวน 5 ชั่วโมง)
3.1 การวางแผนการสรา้ งบา้ นดิน
3.2 การประเมนิ ราคาในการสรา้ งบ้านดนิ
3.3 การประชาสัมพันธ์
4. โครงการประกอบอาชีพบ้านดนิ ทางเลอื กใหม่ ของคนอยากมีบ้าน(จำ�นวน 12 ชั่วโมง)
4.1 ความสำ�คัญของโครงการประกอบอาชพี บา้ นดนิ
4.2 ประโยชนข์ องโครงการประกอบอาชีพบา้ นดนิ
4.3 องค์ประกอบของโครงการประกอบอาชพี บ้านดิน
4.4 การเขียนองคป์ ระกอบในแต่ละองค์ประกอบของโครงการประกอบอาชีพบ้านดิน
4.5 การเขียนโครงการประกอบอาชพี รับสรา้ งบา้ นดิน เพอื่ การมงี านท�ำ อย่าง มัน่ คง
4.6 การตรวจสอบความถูกต้อง ความเป็นไปได้ ของโครงการเพ่ือการประเมินความเหมาะสม
สอดคลอ้ งของโครงการบา้ นดิน
การจดั กระบวนการเรียนรู้
1. ศกึ ษาข้อมูลจากเอกสาร สือ่ อเิ ลก็ ทรอนคิ ส์ ผู้ประกอบการ บคุ คลในชุมชน เพ่ือน�ำ ขอ้ มูล
2. ศกึ ษาดงู านจากผปู้ ระกอบอาชพี และแหลง่ เรยี นรตู้ า่ งๆ เพอื่ การตดั สนิ ใจเลอื กรปู แบบการประกอบ
อาชีพโดยกระบวนการคิดเป็น และความเป็นไปได้โดยดูจากศักยภาพของตนเอง เงินทุน การตลาด ของตนเอง
และพ้นื ทที่ ่ีจะดำ�เนินการประกอบอาชพี
3. วทิ ยากรใหค้ วามรู้ในเรอื่ งทฤษฎีเกยี่ วกับการสรา้ งบ้านดินฯลฯ
4. จัดทำ�แผนการฝกึ ทกั ษะตามลำ�ดบั ขั้นตอน
5. ผเู้ รียนฝึกปฏิบตั ิ และฝึกทักษะตามหลักสูตรบ้านดิน
6. ดำ�เนนิ การกอ่ สรา้ งบา้ นดินเพือ่ การประเมนิ
สื่อการเรียนรู้
ในการจัดการเรียนรู้ สามารถใช้ส่ือท่ีหลากหลาย เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ ส่ืออิเล็กทรอนิคส์ ตัวอย่างของจริง
สอื่ บคุ คล ภูมิปญั ญา แหล่งเรียนรู้ทงั้ ในท้องถิ่นหรือที่ตา่ งๆ
409
การวดั และประเมินผล
1. การประเมนิ ความรภู้ าคทฤษฎีระหวา่ งเรียนและจบหลกั สตู ร
2. การประเมินผลงานระหว่างเรียนจากการปฏิบัติ ได้ผลงานท่ีมีคุณภาพสามารถสร้างรายได้ และ
จบหลักสตู ร
3. ประเมินจากผลงานท่ีผู้เรียนได้สร้างข้ึนอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานที่ผู้สอนกำ�หนด และผลงาน
ทมี่ คี วามคดิ สรา้ งสรรค์
4. เครอ่ื งมือวดั และประเมนิ ผล
- แบบประเมนิ ผลก่อน – หลงั เรียน
- แบบสังเกตพฤติกรรม
- แบบประเมนิ ผลช้ินงาน
การจบหลกั สูตร
1. ผู้เรยี นตอ้ งผา่ นการประเมนิ ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏบิ ตั ไิ ม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80
2. ผเู้ รียนต้องมเี วลาเรยี นไม่นอ้ ยกว่า รอ้ ยละ 80
3. มผี ลงานการสร้างบ้านดนิ ท่มี ีคุณภาพและไดม้ าตรฐาน
เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา
1. หลักฐานการประเมินผลการเรยี น
2. วฒุ ิบัตร ออกโดยสถานศึกษา
3. ทะเบียนคมุ วุฒิบตั ร
การเทียบโอน
หลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทำ� ผู้เรียนท่ีจบหลักสูตรน้ีแล้ว สามารถนำ�ผลการเรียน
มาเทยี บโอนกบั หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั การศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ในสาระการประกอบ
อาชพี วิชาเลือกทส่ี ถานศึกษาไดจ้ ดั ท�ำ ขึน้
รายละเอียดโครงสรา้ งหลกั สูตรบ้านดิน ทางเลือกใหม่ของคนอยากมีบ้าน 410
เรอื่ ง จดุ ประสงค์ เนือ้ หา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ช่วั โมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
1. ชอ่ งทางการประกอบ 1. บอกลักษณะความสำ�คัญของการ 1.1 ล ักษณะสำ�คัญและ ประโยชน์ใน 1. ศ กึ ษาขอ้ มูลจากสถานทจ่ี รงิ เอกสาร 7 -
อาชีพบ้านดิน ทาง สรา้ งบ้านด้วยดนิ การสร้างบ้านดินกับภูมิประเทศ ส่ืออิเล็กทรอนิคส์ ผู้ประกอบการ
เลือกใหม่ของคน 2. บอกความเป็นไปได้ในการประกอบ ภูมิอากาศและวิถีการดำ�เนินชีวิต บุคคลในชุมชน เพื่อนำ�ข้อมูลความคิด
อยากมบี า้ น อาชีพบ้านดิน แบบพอเพียง วิเคราะห์ และใช้ในการประกอบ
3. บอกแหลง่ การเรยี นรทู้ เ่ี กย่ี วกบั อาชพี 1.2 ค วามเป็นไปได้ในการประกอบ อาชีพ ที่มีความเป็นไปได้
บ้านดนิ อาชพี บา้ นดิน 2. ลักษณะสำ�คัญของบ้านดิน
4. บ อกการตัดสินใจเลือกการประกอบ 1.2.1 การลงทนุ 3. ประโยชนใ์ นการสร้างบ้านดิน
อาชพี บ้านดนิ 1.2.2 การผลติ 4. ศ ึกษาดูงานจากผู้ประกอบอาชีพ
1.2.3 การเพิม่ มูลคา่ และแหล่งเรียนรตู้ ่าง ๆ
1.3 แ หล่งการเรียนรู้ที่เก่ียวกับอาชีพ 5. ตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพโดย
บ้านดนิ กระบวนการคิดเป็น และความเป็น
1.4 ก ารตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพ ไปได้โดยดูจากศักยภาพของตนเอง
บา้ นดนิ และพ้ืนที่ท่ีจะดำ�เนินการประกอบ
1.4.1 ความพร้อม อาชีพ
1.4.2 ความต้องการของตลาด
1.4.3 ความรู้พื้นฐาน ทักษะและ
เทคนคิ
1.4.4 เงนิ ทุน
เร่อื ง จดุ ประสงค์ เน้อื หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ชัว่ โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
2. ท ักษะการประกอบ 1. เ ข้าใจวิธีการสร้างบ้านดินแบบ 2.1 การสรา้ งบา้ นดนิ แบบตา่ งๆ 1. วิทยากรให้ความรู้ในเรื่องการสร้าง 9 87
อาชีพบ้านดิน ทาง ต่างๆ ได้ 2.1.1 ก ารทดสอบคณุ สมบตั ขิ องดนิ บา้ นดนิ แบบต่างๆ
เลือกใหม่ของคน 2. ส ามารถอธิบายข้ันตอนการสร้าง 2.1.2 การเลอื กวเิ คราะหท์ �ำ เลทตี่ งั้ 2. จ ัดทำ�แผนการฝึกทักษะตามลำ�ดับ
อยากมบี า้ น บ้านดินได้ สภาพภมู ปิ ระเทศ ภมู อิ ากาศ ขนั้ ตอน
3. ส ามารถสรา้ งฟอรน์ เิ จอรพ์ นื้ ฐานของ กับการก่อสร้างบ้านดินให้ 3. ผู้เรียนฝึกปฏิบัติ และฝึกทักษะตาม
บา้ นดนิ ได้ เหมาะสม หลกั สตู รบา้ นดิน
2.1.3 บ้านดนิ แบบก้อนดินแห้ง 4. เ ก็บและเปรียบเทียบการพัฒนา
(ADOBE HOMES) ผลงานจากการฝกึ ทักษะ
2.1.4 บ ้านดนิ แบบดินปัน้ 5. ศกึ ษาดงู านในแหลง่ เรยี นรู้ ภมู ปิ ญั ญา
(COB HOMES) กลุ่มอาสาสรา้ งบ้านดิน
2.1.5 บา้ นดนิ แบบโครงไม้ 6. ดำ�เนินการสร้างบ้านดิน เพื่อการ
(wattle &daub) ประเมิน
2.1.6 บา้ นดนิ แบบใชด้ ินอดั 7. ฝึกปฏิบัติสร้างบ้านดินเพ่ิมเติมโดย
(rammed earth) สรา้ งบา้ นของตนเอง ญาตพิ น่ี อ้ ง หรอื
2.1.7 บ ้านดินแบบใช้ท่อนไม้หรือหิน คนในชมุ ชนอยา่ งนอ้ ย 1 หลงั
(cord wood or stones) 8. ว ัดและประเมินผลตามที่หลักสูตร
2.1.8 บา้ นดนิ แบบกระสอบทราย กำ�หนด
(sand bag)
2.2 การเตรยี มพนื้ ท่ใี นการก่อสร้าง
411
เร่อื ง จุดประสงค์ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ ชั่วโมง 412
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
2.3 การทำ�อฐิ ดิน
2.3.1 การทดสอบดนิ
2.3.2 อัตราส่วนผสมของดนิ
2.3.3 การสรา้ งบล็อก
2.4 การท�ำ ฐานรากของโครงสรา้ งบา้ นดนิ
2.4.1 การท�ำ คานคอดนิ แบบมาตรฐาน
2.4.2 การท�ำ คานคอดนิ แบบราคาถกู
2.5 การทำ�ผนงั ดินบ้านดนิ
2.5.1 แบบอฐิ ดบิ
2.5.2 แบบโครงไม้
2.6 การจดั ท�ำ สาธารณปู โภคของบา้ นดนิ
2.6.1 การขดุ บอ่ สว้ ม
2.6.2 ก ารเดนิ ระบบไฟฟา้ ทอ่ นำ้� ดี
ทอ่ น�ำ้ เสีย
2.7 วิธีการทำ�ช่องหน้าต่างประตูและ
ชอ่ งลมแบบตา่ งๆ
2.7.1 แบบไม้
2.7.2 แบบคาน
2.7.3 แบบโมเดริ ์น
2.8 การฉาบผนงั บ้านดนิ
2.8.1 ฉาบดว้ ยมือ
2.8.2 ฉาบด้วยเกยี งฉาบปนู
เรื่อง จดุ ประสงค์ เน้ือหา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ ช่วั โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
2.9 การทำ�สีเคลือบผนังดิน
2.10 การทำ�พื้นบ้าน
2.10.1 พ้นื คอนกรีต
2.10.2 พน้ื ดนิ
2.10.3 พน้ื หนิ
2.11 การทำ�หลังคา
2.11.1 หลังคาดนิ
2.11.2 หลังคาหญา้
2.11.3 หลังคาเมทัลชที
2.12 การทำ�เฟอรน์ เิ จอร์บา้ นดนิ
2.13 ก ารสร้างบ้านดินเพื่อการประเมิน
จบหลกั สตู ร
3. การบริหารจัดการ 1. สามารถวางแผนการสรา้ งบา้ นดินได้ 3.1 การวางแผนการสรา้ งบ้านดนิ 1. ก ารบริหารจัดการประกอบอาชีพ 5 -
อาชีพรับสร้างบ้าน 2. ส ามารถประเมินราคาในการสร้าง 3.2 ก ารคิดคำ�นวณต้นทุน และการ รับสร้างบา้ นดนิ ดังน้ี
ดิน ทางเลือกใหม่ บ้านดินได้ ก�ำ หนดราคาในการสรา้ งบา้ นดิน 1.1 ก ารส�ำ รวจและศกึ ษาแหลง่ วสั ดุ
ของคนอยากมีบา้ น 3. ส ามารถบอกวิธีการ/ช่องทางการ 3.3 การประชาสัมพันธ์ อุปกรณ์ และการใช้ประโยชน์
ประชาสัมพันธ์บ้านดนิ ได้ แหลง่ ทรพั ยากรต่าง ๆ
1.2 การกำ�หนด และควบคุม
คณุ ภาพของบา้ นดิน
1.3 ก ารลดต้นทุนการผลิต การ
ก�ำ หนดราคาในการสร้างบ้านดิน
413
เรื่อง จดุ ประสงค์ เนอ้ื หา การจัดกระบวนการเรียนรู้ ชัว่ โมง 414
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
4. โครงการอาชีพรับ 1. บ อกความหมายของการประกอบ 1. ค วามสำ�คัญของโครงการประกอบ 1. จ ดั ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเนอ้ื หาความส�ำ คญั 3 9
สร้างบา้ นดนิ อาชพี บ้านดนิ ได้ อาชีพบ้านดนิ ของโครงการอาชีพ ประโยชน์
2. บอกองค์ประกอบของอาชีพบ้านดิน 2. บ อกประโยชนข์ องโครงการประกอบ องค์ประกอบ แล้วจัดกิจกรรมสนทนา
ได้ อาชีพรบั สรา้ งบา้ นดิน แลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็น เพ่ือ
3. ส ามารถเขียนโครงการประกอบ 3. อ งค์ประกอบของโครงการประกอบ สร้างแนวคิดในการจัดกิจกรรม
อาชพี รบั สรา้ งบา้ นดินได้ อาชีพรบั สร้างบา้ นดิน การเรยี นรู้
4. บอกความเป็นไปได้ของโครงการ 4. ก ารเขียนองค์ประกอบในแต่ละ 2. จ ัดให้ผู้เรียนศึกษาสาระข้อมูล
บ้านดนิ ได้ องค์ประกอบของโครงการประกอบ ความรู้การเขียนโครงการท่ีดีพร้อม
อาชีพบ้านดนิ จัดอภปิ รายผล
5. ก ารเขียนโครงการประกอบอาชีพ 3. จัดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการเขียน
บ้านดิน โครงการอาชีพ
6. การตรวจสอบความเป็นไปได้ของ 4. ก ำ�หนดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติ ประเมิน
โครงการบา้ นดิน ความเหมาะสมให้สอดคล้องกับ
โครงการอาชพี
5. จัดให้ผู้เรียนปรับปรุงโครงการอาชีพ
ให้มคี วามเหมาะสม
6. ก �ำ หนดใหผ้ เู้ รยี นเขยี นโครงการอาชพี
ของตนเอง เพ่ือเสนอขอรับทุน
สนับสนุนงบประมาณในการประกอบ
อาชีพต่อไป
415
หลกั สตู ร การสรา้ งแอนิเมชัน 2 มิติ (2D Animation) เพอื่ ธรุ กจิ
จำ�นวน 60 ช่วั โมง
กลมุ่ อาชีพความคดิ สรา้ งสรรค์
ความเป็นมา
ในปัจจุบัน เทคโนโลยีสารสนเทศก้าวเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำ�วันของมนุษย์มากขึ้น สิ่งหน่ึงท่ีเห็น
ได้เด่นชัดและกำ�ลังเป็นที่นิยมกันมากนั่นคือ ธุรกิจแอนิเมชัน 2 มิติ ซึ่งธุรกิจนี้เป็นกรรมวิธีในการผลิตภาพนิ่ง
ให้กลายเป็นภาพเคล่ือนไหวต่อเนื่องกัน โดยการวาดภาพหรือสร้างภาพ ลงสี ด้วยโปรแกรมหรือวัสดุท่ีมีเพียง
2 มติ ิ คอื มคี วามกวา้ งและความยาว เชน่ การวาดภาพบนกระดาษ การวาดบนแผน่ ใส การวาดภาพบนแผน่ ผา้ ใบ
หรือแผ่นกระดาษตดั เปน็ ต้น ทำ�การสรา้ งใหเ้ กดิ เร่ืองราวต่างๆ ขน้ึ ตัวอย่างแอนิเมชัน 2 มติ ทิ เ่ี หน็ อยเู่ ปน็ ประจ�ำ
ได้แก่ การต์ นู สอ่ื โฆษณาประชาสมั พนั ธ์ตา่ งๆ ซ่งึ จะเห็นวา่ เทคโนโลยีน้เี ข้าไปมีบทบาทอยู่ในธรุ กิจแทบทกุ แขนง
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจบันเทิงต่างๆ ทั้ง โทรทัศน์, เพลง, ภาพยนตร์, เกม, เว็บไซต์, การโฆษณา - ประชาสัมพันธ์,
อตุ สาหกรรมสอ่ื สง่ิ พมิ พ,์ อตุ สาหกรรมดา้ นการสอื่ สาร, อตุ สาหกรรมดา้ นการออกแบบแขนงตา่ งๆ หรอื แมก้ ระทง่ั
อุตสาหกรรมท่ีเกี่ยวกับการศึกษา เป็นต้น โดยได้มีการนำ�แอนิเมชันมาเป็นตัวเสริมเพ่ือเพิ่มความน่าสนใจของ
ผลงาน จงึ นบั ไดว้ า่ ธรุ กจิ การนำ�เสนอสอื่ ดว้ ยแอนเิ มชนั เปน็ อกี หนงึ่ ธรุ กจิ ทส่ี ามารถนำ�มาประยกุ ตใ์ ชแ้ ละตอ่ ยอด
ในธุรกจิ ด้านตา่ งๆ ได้อยา่ งหลากหลายและไม่จำ�กัด
สำ�หรับกระแสธุรกิจแอนิเมชันในประเทศไทย ถือว่ามีแนวโน้มสูงขึ้นท้ังในภาคการผลิตและการบริโภค
โดยในส่วนของกลุ่มการ์ตูน 2 มิติ นั้นมีการผลิตมากขึ้น และเป็นท่ีนิยมในกลุ่มเด็กและเยาวชนไทย ดังจะเห็น
ได้จากปริมาณท่ีเพ่ิมขึ้นของการ์ตูนไทยท่ีออกแพร่ภาพทางโทรทัศน์ นับตั้งแต่ปี 2545-2550 ของไทย
ออกเผยแพร่ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 64 ของจ�ำ นวนผลงานทง้ั หมด นอกจากนย้ี งั ไดร้ บั ความสนใจจากนกั ลงทนุ และผผู้ ลติ
งานจากตา่ งประเทศในการวา่ จา้ ง รว่ มผลติ และรว่ มลงทนุ เพมิ่ ขน้ึ ดว้ ย ซงึ่ อาจกลา่ วไดว้ า่ ธรุ กจิ แอนเิ มชนั เปน็ ธรุ กจิ
ทส่ี ร้างผลประโยชน์อนั มหาศาลแกป่ ระเทศ (2550, สำ�นักงานส่งเสรมิ อตุ สาหกรรมซอฟทแ์ วรแ์ หง่ ชาต)ิ
จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงได้ทำ�การพัฒนาหลักสูตร การสร้างแอนิเมชัน 2 มิติ (2D Animation)
เพอ่ื ธรุ กจิ ขน้ึ เพอื่ ใหผ้ สู้ นใจทจี่ ะประกอบอาชพี หรอื พฒั นาอาชพี ทเี่ กยี่ วขอ้ งสามารถน�ำ ความรไู้ ปใชใ้ นการประกอบ
อาชพี ได้
หลักการของหลักสูตร
1. เป็นหลักสตู รท่เี นน้ การใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์ในการสร้างแอนเิ มชัน 2 มิติ เพ่อื น�ำ ไปใช้ประกอบ
การน�ำ เสนอผลงานให้มคี วามนา่ สนใจย่งิ ขน้ึ และตรงตามความต้องการของลูกค้า
2. เป็นหลักสตู รที่มุง่ เน้นใหผ้ เู้ รยี นมีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการใช้ความคดิ สรา้ งสรรคอ์ อกแบบ
และจดั ทำ�แอนิเมชนั 2 มิติ และสามารถตอบสนองความตอ้ งการเรียนรู้ของผูเ้ รยี น เพ่อื ประกอบอาชีพ
3. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นให้ผู้เรียนนำ�ความรู้และทักษะด้านคอมพิวเตอร์ไปใช้ในการประกอบอาชีพ
เพอ่ื สรา้ งรายได้
416
จดุ หมาย
1. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมองเหน็ ชอ่ งทางและการตดั สนิ ใจเลอื กประกอบอาชพี สรา้ งแอนเิ มชนั 2 มติ ใิ นสว่ นตา่ ง
ไดค้ วามรคู้ วามสามารถของตน
2. เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ สามารถออกแบบและปฏิบัติการสร้างแอนิเมชัน 2 มิติ
ด้วยโปรแกรม Flash
3. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นมีความรู้ ความสามารถในการประกอบอาชพี อย่างมคี ณุ ธรรมและจริยธรรม
4. เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นสามารถเขียนโครงการประกอบอาชพี ได้
กล่มุ เปา้ หมาย
กลมุ่ เปา้ หมาย คือ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายนอกระบบโรงเรียน
1. ผทู้ ่ไี ม่มอี าชพี หรอื
2. ผู้ทมี่ ีอาชพี และตอ้ งการพัฒนาอาชพี
3. ผู้ทีต่ ้องการเปลยี่ นอาชพี
4. ตอ้ งเปน็ ผู้ทม่ี ีความรหู้ รอื ผ่านการอบรมหลักสตู รคอมพิวเตอรเ์ บอื้ งตน้ โปรแกรม Photoshop หรอื
โปรแกรม Illustrator
ระยะเวลา จ�ำ นวน 80 ช่วั โมง (ทฤษฎี 15 ชัว่ โมง ปฏบิ ัติ 65 ชว่ั โมง)
โครงสรา้ งหลักสูตร
1. ช่องทางการประกอบอาชพี (ทฤษฎี 3 ชัว่ โมง / ปฏิบตั ิ 6 ชวั่ โมง)
1.1 ขอ้ มลู ความตอ้ งการของตลาด และทิศทางในการประกอบอาชีพแอนิเมชัน
1.2 ความหมาย ความส�ำ คญั และประโยชนข์ องการคดิ เชิงสร้างสรรค์
1.3 เทคนิคการไดม้ าซ่ึงการคดิ เชิงสรา้ งสรรค์
1.4 ศึกษาดูงานด้านแอนิเมชัน
2. ทกั ษะการประกอบอาชีพ (ทฤษฎี 5 ชวั่ โมง / ปฏิบตั ิ 48 ช่วั โมง)
2.1 ความรู้เบอ้ื งตน้ เกีย่ วกับแอนิเมชนั
2.1.1) ประวตั คิ วามเป็นมาของแอนเิ มชนั
2.2.2) ประเภทของงานแอนิเมชนั
2.2 ความรู้เบอ้ื งต้นเกีย่ วกับโปรแกรม Flash
2.2.1) รู้จกั กบั โปรแกรม Flash
- โปรแกรม Flash คอื อะไร
- ความตอ้ งการระบบของโปรแกรม Flash
- ขน้ั ตอนการตดิ ต้งั โปรแกรม Flash
2.2.2) เรม่ิ ต้นการใชโ้ ปรแกรม Flash
- เข้าสู่โปรแกรม Flash
417
- ส่วนประกอบของโปรแกรม Flash
2.2.3) การทำ�งานด้วยโปรแกรม Flash
- การวาดรูปและลงสี
- การจัดการวัตถุ
- ทฤษฎสี ี และการใชส้ ี
- การสรา้ งข้อความ
- การสร้างซิมบอลและอินสแตนซ์ (Symbol and Instance)
- การใชง้ านภาพ
2.3 การออกแบบ และการสรา้ งงานแอนเิ มชัน
2.3.1) การออกแบบงานแอนเิ มชนั
- การคน้ หาไอเดยี และแรงบนั ดาลใจ
- เขียนบท (Script)
- การออกแบบตวั ละครและอุปกรณ์ (Character & Prop Design)
- บทภาพนิง่ (Story board)
2.3.2) การสร้างงานแอนเิ มชนั
- การสร้างงานแอนเิ มชัน
- การแตง่ วัตถุ
- การใชง้ านเสยี ง
- การใชง้ านวดิ ีโอ
2.3.3) การเผยแพร่ช้นิ งานทีส่ รา้ ง
- การ Publish ช้ินงานเพื่อน�ำ ไปเผยแพร่
- รูปแบบการ Publish
2.3.4) การฝกึ ปฏิบตั ิสรา้ งแอนเิ มชัน (Animation Workshop)
3. การบรหิ ารจดั การในการประกอบอาชีพ (ทฤษฎี 4 ชัว่ โมง/ปฏบิ ตั ิ 2 ช่ัวโมง)
3.1 หลักการตลาด
3.2 การทำ�บัญชตี น้ ทนุ ประกอบอาชพี
3.3 จรรยาบรรณ และกฎหมายพาณิชย์อิเลก็ ทรอนิกส์
4. โครงการประกอบอาชพี (ทฤษฎี 3 ช่ัวโมง / ปฏิบัติ 9 ช่วั โมง)
4.1 ความสำ�คญั ของโครงการประกอบอาชีพ
4.2 ประโยชนข์ องโครงการประกอบอาชพี
4.3 องคป์ ระกอบของโครงการประกอบอาชพี
4.4 การเขียนโครงการ
4.5 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการ
418
การจัดกระบวนการเรียนรู้
1. วิทยากรบรรยาย/สาธติ แลกเปลีย่ นเรียนรรู้ ะหว่างผู้เรยี น
2. ศึกษาข้อมูลจากเอกสารประกอบการสอน สือ่ ตา่ งๆ และอินเตอรเ์ น็ต
3. ศึกษาดงู านจากแหล่งเรียนรู้
4. ฝกึ ปฏบิ ัติ
ส่อื การเรยี นรู้
1. วทิ ยากร
2. เอกสารประกอบการสอน
3. แหลง่ เรียนรู้ / สถานทีศ่ ึกษาดงู าน
4. โปรแกรม Macromedia Flash
5. Power Point ประกอบการสอน
6. คอมพวิ เตอร์
ความตอ้ งการระบบ
ระบบปฏิบตั กิ าร Windows
• Intel® Pentium® 4 or AMD Athlon® 64 processor
• Microsoft® Windows® XP มี Service Pack 2 (Service Pack 3 ที่แนะน�ำ ); Windows
Vista® Home Premium, Business, Ultimate, หรือ Enterprise with Service Pack 1;
หรือ Windows 7
• 1GB of RAM (2GB แนะน�ำ )
• 3 .5GB ของพื้นท่ีว่างบนฮาร์ดดิสก์สามารถใช้ได้สำ�หรับการติดตั้ง; พื้นที่ว่างเพ่ิมเติมท่ีจำ�เป็น
ในการติดตง้ั (ไม่สามารถตดิ ต้ังในท่ถี อดออกอุปกรณ์จดั เก็บข้อมูล)
• 1024x768 แสดง (1280x800 แนะน�ำ ) กบั การด์ จอ 16 - bit
• QuickTime 7.6.2 ซอฟตแ์ วร์ท่ีจำ�เป็นส�ำ หรบั คณุ สมบตั ิด้านมลั ตมิ เี ดีย
การวัดและประเมินผล
1. การประเมินความรูภ้ าคทฤษฎีก่อนเรยี นและจบหลกั สตู ร
2. การประเมินผลงานระหว่างเรียนจากการปฏิบัติ
3. ประเมินจากผลงานทมี่ คี ุณภาพสามารถสร้างรายได้
การจบหลกั สูตร
1. มีเวลาเรยี น ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80
2. มผี ลการประเมินตลอดหลกั สูตร ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 80
3. มผี ลงานท่มี คี ณุ ภาพตามทผี่ ้สู อนกำ�หนด
419
เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา
1. หลักฐานการประเมินผล
2. ทะเบียนคุมวฒุ นิ ียบตั ร
3. วุฒิบตั ร ออกโดยสถานศกึ ษา
การเทียบโอน
ผู้เรียนที่จบหลักสูตรน้ีสามารถนำ�ไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบ ระดับ
การศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 ในสาระการประกอบอาชีพวิชาเลอื กทีส่ ถานศึกษาไดจ้ ัดท�ำ ขึ้น
รายละเอยี ดโครงสรา้ งหลกั สตู ร การสร้างแอนิเมชนั 2 มิติ (2D Animation) เพอ่ื ธุรกจิ 420
เรอื่ ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนอื้ หา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชว่ั โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
1. ชอ่ งทางการประกอบ 1. ส ามารถจำ�แนกข้อมูลความต้องการ 1. ข้อมูลความต้องการของตลาด และ - วิทยากร/ผู้เรียนแลกเปล่ียนเรียนรู้ 3 6
อาชีพ ของตลาดและบอกทิศทางการ ทิศทางในการประกอบอาชีพ วเิ คราะหข์ อ้ มลู ความตอ้ งการของตลาด
ประกอบอาชพี ได้ แอนิเมชนั ทศิ ทางในการประกอบอาชพี แอนเิ มชนั
2. ส ามารถบอกความหมาย ความส�ำ คญั 2. ความหมาย ความสำ�คัญ และ และจำ�แนกประเภทข้อมูลร่วมกนั
และประโยชน์ของการคิดเชิง ประโยชนข์ องการคิดเชงิ สรา้ งสรรค์ - ผู้เรียนศึกษาจากข้อมูลงานวิจัย
สรา้ งสรรคไ์ ด้ ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ส่ือต่างๆ
เกยี่ วกบั ความตอ้ งการของตลาดดา้ น
แอนิเมชนั แล้วสรปุ ผลการเรยี นรู้
3. อธบิ ายเทคนิคการคดิ เชงิ สรา้ งสรรค์ 3. เ ทคนิคการได้มาซึ่งการคิดเชิง - ว ิทยากรอธิบายเก่ียวกับการคิดเชิง
สรา้ งสรรค์ สรา้ งสรรค์
4. มีเจตคติที่ดีและเห็นถึงช่องทางใน - ผู้เรียนบันทกึ การเรยี นรู้ และสรปุ ผล
การประกอบอาชพี ด้านแอนิเมชนั 4. เ ปดิ โลกอาชพี ศกึ ษาดงู านดา้ นแอนนเิ มชนั การเรียนรู้
- ผ เู้ รยี นศกึ ษาดงู านดา้ นแอนเิ มชนั จาก
แหล่งเรียนรู้ แล้วสรุปผลการเรยี นรู้
- วิทยากรตรวจผลการเรียนรู้จากการ
ศกึ ษาดงู าน พรอ้ มทงั้ ใหข้ อ้ เสนอแนะ
เพมิ่ เติม
เรื่อง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้ือหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนช่ัวโมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
2. ทักษะการประกอบ 1. บ อกความเป็นมา และประเภทของ 1. ความรู้เบ้อื งต้นเกยี่ วกบั แอนิเมชนั - ผ ู้เรียนศึกษาจากเอกสารประกอบ 5 48
อาชีพ งานแอนิเมชันได้ 1.1) ป ระวตั คิ วามเปน็ มาของแอนเิ มชนั การสอน พรอ้ มฟงั บรรยายจากวทิ ยากร
1.2) ประเภทของงานแอนิเมชัน เรอื่ งประวตั คิ วามเปน็ มาของแอนเิ มชนั
และประเภทของงานแอนเิ มชนั
2. ส ามารถบอกความสามารถ และ 2. ค วามรูเ้ บอื้ งตน้ เก่ียวกับโปรแกรม Flash - วิทยากรอธิบายเก่ียวกับโปรแกรม
ตดิ ต้ังโปรแกรม Flash ได้ 2.1) รู้จกั กับโปรแกรม Flash Flash และสาธติ การตดิ ตง้ั โปรแกรม
- โปรแกรม Flash คืออะไร Flash
- ค วามต้องการระบบของ - ผ ู้เรียนบันทึกการเรียนรู้ และฝึก
โปรแกรม Flash ปฏบิ ตั ติ ดิ ตั้งโปรแกรม Flash
- ข้ันตอนการติดต้ังโปรแกรม
Flash
3. อ ธิบายส่วนประกอบของโปรแกรม 2.2) เรมิ่ ต้นการใชโ้ ปรแกรม Flash - วทิ ยากรอธบิ ายวธิ กี ารเขา้ สโู่ ปรแกรม
Flash ได้ - เข้าสโู่ ปรแกรม Flash Flash และสว่ นประกอบของโปรแกรม
- ส ่วนประกอบของโปรแกรม Flash
Flash - ผ ้เู รียนสงั เกต/บนั ทกึ การเรยี นรู้ และ
ฝกึ ปฏบิ ัตติ าม
4. ใ ช้เครือ่ งมือโปรแกรม Flash ในการ 2.3) ก ารท�ำ งานด้วยโปรแกรม Flash - ว ิทยากรบรรยาย/สาธิตวิธีการใช้
ท�ำ งานได้ - การวาดรูปและลงสี โปรแกรม Flash ในการวาดรูปและ
- การจดั การวตั ถุ ลงสี, การจัดการวัตถุ, ทฤษฎีสี และ
- ทฤษฎีสี และการใชส้ ี การใช้สี, การสร้างขอ้ ความ, การสรา้ ง
- การสร้างขอ้ ความ ซมิ บอลและอนิ สแตนซ์ (Symbol and
- ก ารสรา้ งซมิ บอลและอนิ สแตนซ์ Instance) และการใชง้ านภาพ
(Symbol and Instance) - ผู้เรียนฝึกปฏิบัติตาม และบันทึก
- การใชง้ านภาพ การเรียนรู้ 421
เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนื้อหา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชั่วโมง 422
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
5. ส ามารถออกแบบและปฏิบัติการ 3. ก ารออกแบบ และการสรา้ งงานแอนเิ มชนั - วิทยากรอธิบายพร้อมยกตัวอย่าง
สรา้ งงานแอนเิ มชันได้ 3.1) การออกแบบงานแอนิเมชัน ผลงาน การเขียนบท, การออกแบบ
- ก ารค้นหาไอเดียและแรง ตวั ละครและอปุ กรณ์ และบทภาพนงิ่
บนั ดาลใจ - ผเู้ รียนบันทึกการเรียนรู้
- เขยี นบท (Script)
- การออกแบบตัวละครและ
อุปกรณ์ (Character &
Prop Design)
- บทภาพนิ่ง (Story board)
3.2) การสรา้ งงานแอนเิ มชนั - วิทยากรอธิบาย พร้อมยกตัวอย่าง
- การสรา้ งงานแอนเิ มชนั ผลงานแอนิเมชัน และสาธิตการ
- การแต่งวัตถุ สรา้ งงานแอนิเมชัน
- การใชง้ านเสยี ง - ผู้เรียนฝึกปฏิบัติตาม และบันทึก
- การใช้งานวิดีโอ การเรียนรู้
3.3) การเผยแพร่ชิ้นงานทส่ี รา้ ง - วิทยากรสาธิตวิธีการเผยแพร่ชนิ้ งาน
- ก าร Publish ชน้ิ งานเพอ่ื น�ำ ที่สร้าง
ไปเผยแพร่ - ผ ู้เรียนฝึกปฏิบัติตาม และบันทึก
- รูปแบบการ Publish การเรยี นรู้
3.4) การฝึกปฏิบัติสร้างแอนิเมชัน - ผ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั สิ รา้ งแอนเิ มชนั ตาม
(Animation Workshop) ทีว่ ทิ ยากรกำ�หนดให้
- ว ิทยากรให้คำ�ปรึกษา แนะนำ�
ระหว่างปฏิบตั ิ
เรื่อง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เนื้อหา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนชวั่ โมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
3. การบริหารจัดการใน 1. อธิบายหลักการตลาดได้ 1. หลักการตลาด - ว ิทยากรบรรยายหลักการตลาด 4 2
การประกอบอาชพี 1.1 Price (ราคา) พรอ้ มยกตัวอยา่ งผลงานแอนเิ มชันท่ี
1.2 P lace (สถานท,่ี ชอ่ งทางการจดั ใชส้ ว่ นผสมทางการตลาดแตกตา่ งกนั
จำ�หน่าย) ประกอบการบรรยาย
1.3 Product (สนิ ค้า) - ผเู้ รียนบนั ทกึ การเรียนรู้
1.4 Promotion (การส่งเสริม
การตลาด)
2. ส ามารถจัดทำ� การทำ�บัญชีต้นทุน 2. การทำ�บัญชีต้นทุนประกอบอาชีพ - วิทยากรอธิบายวิธีการกำ�หนดราคา
ประกอบอาชพี ได้ อาชีพ ผลงาน การทำ�บัญชีรับ-จ่าย เพ่ือ
บนั ทกึ ตน้ ทนุ การประกอบอาชพี
- ผเู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั กิ �ำ หนดราคาผลงาน/
ชิ้นงาน และการลงบัญชรี บั -จ่าย
3. บ อกจรรยาบรรณและอธิบาย 3. จรรยาบรรณและกฎหมายพาณิชย์ - ผ ู้เรียนศึกษาจากเอกสารเร่ือง
กฎหมายพาณิชย์เล็กทรอนิกสไ์ ด้ อิเล็กทรอนิกส์ จรรยาบรรณและกฎหมายพาณิชย์
อิเล็กทรอนิกส์ ที่วิทยากรจัดเตรียม
ให้ แล้วสรุปผลการเรียนรู้
- วทิ ยากรอธบิ ายเพม่ิ เติม และสรปุ
4. โครงการประกอบ 1. บ อกความส�ำ คญั ของโครงการอาชพี ได้ 1. ความสำ�คัญของโครงการอาชพี 1. ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ 3 9
อาชพี 2. บ อกองคป์ ระกอบของโครงการอาชพี ได้ 2. ประโยชนข์ องโครงการอาชพี การ เรอื่ ง ความส�ำ คญั ของโครงการอาชพี
3. อธิบายลักษณะการเขียนที่ดีของ 3. องค์ประกอบของโครงการประกอบ ประโยชน์ของโครงการอาชีพ
องค์ประกอบของโครงการอาชีพได้ อาชีพ องค์ประกอบของโครงการอาชีพ
423
เร่อื ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนชัว่ โมง 424
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
4. บอกประโยชนข์ องโครงการอาชพี ได้ 4. การเขยี นโครงการอาชพี แล้วจัดกิจกรรมการสนทนาแลก
5. เขียนโครงการในแต่ละองค์ประกอบ 5. การประเมินความเหมาะสมและ เปลย่ี นขอ้ มลู ความคดิ เหน็ เพื่อสร้าง
ใหเ้ หมาะสมและถกู ตอ้ งได้ สอดคลอ้ งของโครงการอาชีพ แนวคิดในการดำ�เนินกิจกรรมการ
6. ตรวจสอบความเหมาะสมและ เรียนรู้
สอดคลอ้ งของโครงการอาชพี ได้ 2. ผ ู้เรียนศึกษาสาระขอ้ มลู จากใบความรู้
เรอ่ื งตวั อยา่ งการเขยี นโครงการอาชพี
ที่ดี เหมาะสม และถูกต้อง พร้อม
จัดการอภิปราย เพื่อสรุปแนวคิด
เป็นแนวทางในการเขียนโครงการ
อาชีพทดี่ ี เหมาะสม และถูกต้อง
3. ผ ู้เรียนฝึกปฏิบัติ การเขยี นโครงการ
อาชพี
4. ก ำ�หนดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการ
ป ร ะ เ มิ น ค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม แ ล ะ
สอดคล้องของโครงการอาชีพ
5. ผู้เรียนฝึกการพัฒนาหรือปรับปรุง
โครงการอาชีพ ให้มีความเหมาะสม
และถูกต้อง
6. ใ ห้ผู้เรียนเขียนโครงการอาชีพของ
ตนเอง เพอ่ื เสนอขอรบั การสนบั สนนุ
งบประมาณด�ำ เนนิ งานอาชพี และใช้
ในการด�ำ เนนิ การประกอบอาชพี ตอ่ ไป
กล่มุ อาชีพเฉพาะทาง
426
หลกั สูตรช่างปะผุ เคาะพน่ สรี ถยนต์
จำ�นวน 190 ช่ัวโมง
กล่มุ อาชพี เฉพาะทาง
ความเปน็ มา
การจัดการอาชีพในปัจจุบันมีความสำ�คัญมาก เพราะว่าเป็นการพัฒนาประชากรของประเทศให้มี
ความรคู้ วามสามารถและทกั ษะในการประกอบอาชพี เปน็ ปญั หาการวา่ งงานและสง่ เสรมิ ความเขม้ แขง็ ใหเ้ ศรษฐกจิ
ชมุ ชน ซึง่ กระทรวงศึกษาธิการไดก้ �ำ หนดยทุ ธศาสตร์ 2555 ภายใตก้ รอบระยะเวลา 2 ปที ีจ่ ะพัฒนา 5 ศกั ยภาพ
ของพน้ื ที่ใน 5 กลมุ่ อาชพี ใหม่ โดยยกระดับการศกึ ษาเพอื่ เพ่ิมศกั ยภาพและความสามารถให้ประชากรได้มอี าชีพ
มีรายได้ที่ม่ันคงและย่ังยืน ซ่ึงจะเป็นการศึกษาตลอดชีวิตในรูปแบบใหม่ท่ีสร้างความม่ันคงให้แก่ประชาชนและ
ประเทศชาติ
สภาพสังคมในปัจจุบันนั้นรถยนต์ถือได้ว่าเป็นปัจจัยส�ำคัญอย่างหนึ่ง ท่ีส�ำคัญจะเห็นได้จากยอดขาย
ของรถยนต์ที่เพิ่มสูงข้ึนอย่างต่อเน่ือง อีกทั้งรัฐบาลยังด�ำเนินนโยบายสนับสนุนให้ประชาชนได้มีโอกาสมีรถยนต์
เปน็ ของตนเอง โดยมกี ารลดภาษรี ถคนั แรกหรอื แมก้ ระทงั่ ลดภาษใี หผ้ ปู้ ระสบภยั นำ�้ ทว่ ม แตก่ ารเพม่ิ ขน้ึ ของรถยนต์
ในท้องตลาดก็ตามมาด้วยจ�ำนวนอุบัติเหตุท่ีสูงมากขึ้นเหมือนเงาตามตัว ไม่ว่าจะเทศกาลใดๆ จ�ำนวนอุบัติเหตุ
กไ็ มไ่ ด้ลดลงเลย
ดังน้ันเพ่ือให้ตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานที่มีไม่เพียงพอ สำ�นักงานส่งเสริมการศึกษา
นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำ�นักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ จึงได้จัดทำ�หลักสูตรช่างปะผุ
เคาะพ่นสีรถยนตเ์ พือ่ น�ำ มาใช้ในการจัดการศึกษา นอกระบบตามหลกั สตู รการศึกษานอกระบบ ระดับการศกึ ษา
ข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 สาระทักษะการประกอบอาชีพเพ่ือให้ผู้เรียนได้มีหลักในการปฏิบัติและสามารถ
น�ำ ความรู้ท่ีไดม้ าประกอบอาชีพ สรา้ งรายไดใ้ ห้มีความมน่ั คงและยงั่ ยนื
หลักการของหลกั สูตร
1. เป็นหลักสูตรที่จัดทำ�ขึ้นเพื่อเพ่ิมโอกาสการสร้างรายได้ให้กับผู้ที่กำ�ลังมองหาอาชีพเสริมหรือนำ�ไป
ประกอบอาชีพ มุ่งพัฒนาให้ผู้เรียนมีงานทำ� มีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน และเป็นบุคคลที่มีคุณภาพเปี่ยมไปด้วย
คุณธรรม จริยธรรม มจี ิตสำ�นึกความรับผิดชอบตอ่ ตนเองและผ้อู ื่น
2. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการเรียนรู้เก่ียวกับส่วนประกอบต่างๆท้ังหลักการทำ�งานและวิธีการเคาะ พ่นสี
รถยนตเ์ นน้ การฝกึ จากการปฏิบตั จิ ริงจากแหล่งเรียนรู้
3. ส่งเสริมให้มคี วามรว่ มมอื ในการทำ�งานรว่ มกบั ภาคเี ครือข่าย
4. เปน็ หลกั สตู รทส่ี ามารถน�ำ ไปใชเ้ ทยี บโอนความรแู้ ละประสบการณเ์ ขา้ สหู่ ลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบ
ระดบั การศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551
427
จุดหมาย
การจัดการศกึ ษาตามหลกั สูตรนี้มุ่งปลกู ฝังใหผ้ ูเ้ รียนมีคณุ ลกั ษณะดังน้ ี
1. มีความรู้พ้ืนฐานในการเป็นช่างปะผุ เคาะ พ่นสีรถยนต์ รักการทำ�งานและสามารถทำ�งานร่วมกับ
ผ้อู น่ื ได้
2. มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับส่วนประกอบต่างๆเกี่ยวกับโครงสร้างของตัวรถยนต์ หลักการทำ�งาน
ของเครอื่ งมือ อปุ กรณ์ และประมาณราคาได้
3. เพอ่ื ให้ผ้เู รียนสามารถนำ�ความรทู้ ี่ไดน้ �ำ ไปใช้ใหเ้ กิดประโยชนใ์ นชวี ติ ประจ�ำ วัน
4. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ รยี นรจู้ ากแหลง่ ปฏบิ ตั จิ รงิ มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจมเี จตคตทิ ดี่ ใี นงานอาชพี มจี รยิ ธรรม
คณุ ธรรมในอาชพี และมองหาชอ่ งทางในการประกอบอาชพี ได้
กล่มุ เปา้ หมาย
กลุ่มเปา้ หมายคอื ประชาชนกลมุ่ เปา้ หมายนอกระบบโรงเรยี น
1. ผู้ทไ่ี ม่มีอาชพี
2. ผทู้ ี่มอี าชีพและต้องการพัฒนาอาชพี
3. ผู้ทมี่ ีอาชพี แต่ตอ้ งการมองหาอาชีพใหม่
ระยะเวลา จ�ำ นวน 190 ชั่วโมง
โครงสร้างหลกั สูตร
1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ จ�ำ นวน 5 ชัว่ โมง
1.1 บอกความส�ำ คญั ของการประกอบอาชพี ช่างปะผุ เคาะ พน่ สีรถยนตไ์ ด้
1.2 ศกึ ษาความเปน็ ไปได้และชอ่ งทางการพฒั นาอาชพี ช่างปะผุ เคาะพ่นสีรถยนต์
- ปจั จัยภายนอก เช่น นโยบายรฐั บาล ความต้องการของตลาดแรงงาน กลุ่มลกู คา้ ฯลฯ
- ปัจจยั ภายใน เชน่ ท�ำ เล/ที่ตง้ั วสั ดุอุปกรณ์ ทนุ ฯลฯ
1.3 ศึกษาจากแหล่งเรยี นรู้หรือสถานประกอบการ
1.4 ศึกษาทิศทางของการประกอบอาชีพชา่ งปะผุ เคาะ พ่นสีรถยนต์ในอนาคต
2. ทักษะการประกอบอาชพี จำ�นวน 165 ช่ัวโมง
2.1 อธบิ ายส่วนประกอบของโครงสรา้ งรถยนต์และการประมาณราคา
- ฝากระโปรง
- ประตรู ถยนต์
- กนั ชนรถยนต์
- กระบะรถยนตพ์ ร้อมฝาทา้ ย
- ฝาขา้ งรถยนต์
- เกง่ /หลังคารถยนต์
- คัทซรี ถยนต์
428
2.2 อธิบายเครื่องมอื อปุ กรณ์ทีใ่ ชใ้ นการเคาะ พน่ สรี ถยนต์ได้
2.3 อธิบายระบบของสีรถยนต์
- สพี นื้ เกาะเหล็ก 2k
- สีพน้ื อะคุลิค
- สีพ่นรถยนต์
- แล็คเกอร์
2.4 ฝกึ ปฏิบัติ
- การเชอ่ื ม ตดั ปะผุ เคาะ
- ขึ้นรปู ตวั ถังรถยนต์
- การยดื คัทซี
- ขดั พ้นื ตัวถงั เพ่ือทำ�พ้นื เกาะเหล็กโดยการพ่นสี
- การลอกสโี ป๊วและทำ�ความสะอาด
2.5 ฝึกปฏบิ ัตกิ ารโปว๊ สี
- หลกั การของการโป๊วสีพลาสติกและข้นั ตอนการโปว๊ สีพลาสตกิ
- หลักการของการขดั สโี ป๊วแบบแหง้ และขน้ั ตอนการขัดสีโปว๊ แบบแห้ง
- หลักการของการขดั สีโปว๊ แบบน้�ำและขัน้ ตอนการขดั สีโปว๊ แบบน�้ำ
- การพ่นพน้ื สีโป๊ว(อะคลู ิค)
- การโป๊วโจม่าหรือโปว๊ แดง/การขัดแห้งและขัดเปียกซ�้ำอีกหนง่ึ ครงั้
- การพน่ พืน้ อะคูลิกทบั สโี ป๊วโจม่าหรอื โปว๊ แดง
- การขัดพื้นอะคลู คิ (กระดาษทรายเบอร์320และเบอร์1000)
2.6 ฝึกปฏบิ ตั ิการพ่นสรี ถยนต์
- บอกคณุ สมบตั ิของสี
- การผสมสี
- การพ่นสรี ถยนต์
- การพน่ แล็คเกอร์
2.7 ฝึกปฏิบัติการขัดเงารถยนต์
- บอกคุณสมบัตขิ องน้�ำยาท่ีใช้ในการขดั ได้
- วิธกี ารขัดมนั สรี ถยนต์
3. การบรหิ ารจัดการในการประกอบอาชพี ดา้ นการพัฒนาเขา้ สอู่ าชีพ จำ�นวน 8 ชั่วโมง
3.1 การบรหิ ารจัดการดา้ นผลติ ภณั ฑ ์
- การจัดการควบคุมคุณภาพของผลติ ภัณฑ์
- การจดั การด้นการลดตน้ ทุนในการผลิต
- การจัดการบริหารพนกั งานทใ่ี หบ้ รกิ ารใหม้ มี ีจรยิ ธรรม คุณธรรมในอาชีพ
3.2 การจัดการดา้ นการตลาด
- การจดั ท�ำ ฐานข้อมูลของกลมุ่ ลูกคา้
429
- การตดิ ตอ่ ลูกคา้ และบรกิ ารหลังการขาย
- การวางแผนการตลาด
3.3 การจดั การด้านความเส่ยี ง
- ว เิ คราะห์ ขอ้ ดี ขอ้ เสยี โอกาส และอปุ สรรคในการประกอบอาชพี ชา่ งปะผุ เคาะ พน่ สรี ถยนต์
โดยนำ�ปจั จัยต่างๆ เช่น กล่มุ ลูกค้า คู่แขง่ ฯลฯ มาเปน็ ปจั จยั ในการวเิ คราะห์
- ด�ำ เนนิ การ คดิ วางแผนธุรกิจ โดยจ�ำ ลองสถานการณ์
4. โครงการประกอบอาชีพ จำ�นวน 12 ชั่วโมง
4.1 ความสำ�คัญของโครงการประกอบอาชีพ
4.2 ประโยชน์ของโครงการประกอบอาชีพ
4.3 องค์ประกอบของโครงการประกอบอาชีพ
4.4 การเขียนโครงการ
4.5 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของโครงการ
การจัดกระบวนการเรยี นรู้
1. ศึกษาขอ้ มูลจากเอกสาร
2. ศกึ ษาดูงานจากแหล่งเรยี นรู้
3. เรยี นรู้ปฏิบตั ิจรงิ จากสถานประกอบการ
สอ่ื การเรียนรู้
1. ชดุ ป๊ัมลม/หวั พน่ สีรถยนต์
2. สี 2k
3. กระดาษทรายละเอียด/หยาบ กระดาษกาว
4. แม่สี/แบบด้านและแบบเคลอื บเงา
5. ทินเนอร/์ แบบอะคูลิกและแบบ3A
6. สพี น้ื /แบบอะคูลิกและแบบ 2k
7. เครอ่ื งเปา่ ลม
8. ไมข้ ดั สี/เครื่องขัดสีรถยนต์
9. เกรยี งโปว๊ สี 7 นว้ิ และ 4 นิว้
10. ผ้าจับฝนุ่
11. สีโป๊ว
การวัดและประเมินผล
1. การประเมินความรภู้ าคทฤษฎีระหวา่ งเรยี นและจบหลกั สูตร
2. การประเมินผลงานระหว่างเรียนจากการปฏิบัติ ได้ผลงานท่ีมีคุณภาพสามารถสร้างรายได้ และ
จบหลกั สตู ร
430
การจบหลกั สตู ร
1. มีเวลาเรียน ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 80
2. มีผลการประเมินตลอดหลักสตู ร ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 60
3. มผี ลงานทมี่ ีคุณภาพ
เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา
1. หลกั ฐานการประเมนิ ผล
2. ทะเบยี นคุมวุฒิบัตร
3. วุฒบิ ัตรการศกึ ษา ออกโดยสถานศกึ ษา
การเทียบโอน
ผู้เรียนท่ีจบหลักสูตรน้ีสามารถนำ�ไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ
การศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี วชิ าเลอื กท่สี ถานศกึ ษาไดจ้ ัดทำ�ขนึ้
รายละเอยี ดโครงสร้างหลักสตู รช่างปะผุ เคาะ พน่ สรี ถยนต์
เรื่อง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนอ้ื หา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนชั่วโมง
ทฤษฎี ปฏิบัติ
1. ช อ่ งทางการประกอบ 1.1 บอกความสำ�คัญของการประกอบ 1.1 ค วามส�ำ คญั ของการประกอบอาชพี 1.1 ศ ึกษาข้อมูลจากเอกสาร ส่ือ 1 -
อาชีพ อาชพี ชา่ งปะผุ เคาะ พ่นสีรถยนต์ได้ ชา่ งปะผุ เคาะ พน่ สรี ถยนตไ์ ด้ อิเล็กทรอนิค สถานประกอบการ 2 -
1.2 บ อกความเป็นไปได้และช่องทาง 1.2 ศ ึกษาความเป็นไปได้และช่องทาง เพื่อนำ�ข้อมูลมาประกอบการเรียน
การพัฒนาอาชีพช่างปะผุ เคาะ การพัฒนาอาชีพช่างปะผุ เคาะ การสอน 2 1
พน่ สีรถยนต์ พน่ สรี ถยนต์ 1.2 ศ ึกษาดูงานจากแหล่งเรียนรู้ หรือ
- ป ัจจัยภายนอก เช่น นโยบาย สถานประกอบการจริง
รัฐบาล ความต้องการของตลาด 1.3 เ ชญิ วทิ ยากรมารว่ มบรรยาย โดยครู
แรงงาน กล่มุ ลกู ค้า ฯลฯ และผเู้ รยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกยี่ วกบั
- ป ัจจัยภายใน เช่น ทำ�เล/ที่ตั้ง ทศิ ทางของการประกอบอาชีพชา่ ง
วัสดอุ ปุ กรณ์ ทุน ฯลฯ ปะผุ เคาะ พ่นสีรถยนต์ในอนาคต
1.3 บ อ ก แ ห ล่ ง เรี ย น รู้ ห รื อ ส ถ า น 1.3 ศ ึกษาจากแหล่งเรียนรู้หรือสถาน โดยค�ำ นงึ ถงึ ศกั ยภาพ 5 ดา้ น ไดแ้ ก่
ประกอบการ ประกอบการ - ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาตใิ นแตล่ ะ
1.4 บอกทศิ ทางของการประกอบอาชพี 1.4 ศ ึกษาทิศทางของการประกอบ พืน้ ที่
ช่างปะผุ เคาะ พ่นสีรถยนต์ใน อาชีพช่างปะผุ เคาะ พ่นสีรถยนต์ - ด้านลกั ษณะภูมิอากาศ
อนาคต ในอนาคต - ดา้ นภมู ปิ ระเทศและท�ำ เลท่ตี ัง้
- ด ้านศิลปะ วัฒนธรรมประเพณี
และวิถชี วี ิตแต่ละพ้ืนท่ี
- ดา้ นทรพั ยากรมนษุ ยแ์ ตล่ ะพน้ื ท่ี
431
เร่อื ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชั่วโมง 432
ทฤษฎี ปฏิบัติ
2. ท ักษะการประกอบ 2.1 เ ข้าใจหลกั การของ 2.1 อ ธบิ ายสว่ นประกอบของโครงสรา้ ง 2.1 จ ัดให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจาก 3 -
อาชีพ - โ ครงสร้างรถยนต์และการ รถยนต์และการประมาณราคา ใบความรู้ โครงสร้างของรถยนต์ 2 -
ประมาณราคา - ฝากระโปรง ประมารการราคา เพอ่ื สรา้ งแนวคดิ
2.2 บอกเครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการ - ประตรู ถยนต์ ในการดำ�เนนิ กิจกรรมการเรียนรู้
เคาะ พ่นสีรถยนต์ได้ - กนั ชนรถยนต์ - จ ดั ท�ำ แบบฝกึ การประมาณราคา
2.3 รู้ เขา้ ใจ ระบบของสรี ถยนต์ - กระบะรถยนตพ์ ร้อมฝาท้าย โครงสรา้ งของรถยนตใ์ หก้ บั ผเู้ รยี น
2.4 ร ู้ เข้าใจวิธีการ การเช่ือม ตัดปะผุ - ฝาขา้ งรถยนต์ - ด�ำ เนนิ การวดั ผลประเมนิ ผลจาก
เคาะ - เก๋ง/หลงั คารถยนต์ การทำ�แบบทดสอบ
2.5 รู้ เขา้ ใจวิธีการโปว๊ สี - คัทซรี ถยนต์
2.2 อ ธบิ ายเครอ่ื งมอื อปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นการ 2.2 จ ดั ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเนอ้ื หาจากใบความรู้
เคาะ พน่ สีรถยนต์ได้ เครื่องมืออุปกรณ์ที่ใช้ในการเคาะ
2.3 อธิบายระบบของสรี ถยนต์ พ่นสีรถยนต์ เพื่อสร้างแนวคิดใน
- สพี ้ืนเกาะเหลก็ 2k การด�ำ เนินกจิ กรรมการเรียนรู้
- สพี ้ืนอะคลู ิค - จ ัดทำ�แบบฝึกเครื่องมืออุปกรณ์
- สีพน่ รถยนต์ ท่ีใช้ในการเคาะ พ่นสีรถยนต์ให้
- แลค็ เกอร์ กับผูเ้ รียน
2.4 ฝึกปฏบิ ัติ - พาไปดูงานที่แหล่งเรียนรู้หรือ
- การเช่ือม ตัดปะผุ เคาะ สถานท่ีจรงิ
- ขึ้นรปู ตวั ถังรถยนต์ - ด �ำ เนนิ การวดั ผลประเมนิ ผลจาก
- การยืดคัทซี การท�ำ แบบทดสอบ
เร่อื ง จุดประสงค์การเรยี นรู้ เนอ้ื หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชั่วโมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
2.6 รู้ เขา้ ใจวธิ กี ารพน่ สีรถยนต์ - ขดั พนื้ ตวั ถงั เพอื่ ท�ำ พนื้ เกาะเหลก็ 2.3 จ ดั ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเนอ้ื หาจากใบความรู้ 2 -
2.7 รู้ เขา้ ใจวิธีการขดั เงารถยนต์ โดยการพน่ สี ระบบของสีรถยนต์เพื่อสร้างแนวคิด 4 50
- การลอกสโี ปว๊ และท�ำ ความสะอาด ในการด�ำ เนนิ กจิ กรรมการเรียนรู้ 4 60
2.5 ฝกึ ปฏิบัตกิ ารโป๊วสี - จ ดั ท�ำ แบบฝกึ ระบบของสรี ถยนต์
- หลักการของการโป๊วสีพลาสติก ใหก้ บั ผเู้ รียน
และขัน้ ตอนการโป๊วสพี ลาสตกิ - พาไปดูงานที่แหล่งเรียนรู้หรือ
- หลกั การของการขดั สโี ปว๊ แบบแหง้ สถานท่ีจริง
และขน้ั ตอนการขดั สโี ปว๊ แบบแหง้ - ด �ำ เนนิ การวดั ผลประเมนิ ผลจาก
- ห ลกั การของการขดั สโี ปว๊ แบบนำ�้ การท�ำ แบบทดสอบ
และขน้ั ตอนการขดั สโี ปว๊ แบบนำ�้ 2.4 จัดให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจาก
- การพ่นพน้ื สีโป๊ว(อะคลู คิ ) ใบความรู้ การเชื่อม ตดั ปะผุ เคาะ
- การโป๊วโจม่าหรือโป๊วแดง/การ ใหก้ บั ผูเ้ รยี น
ขดั แหง้ และขดั เปยี กซำ�้ อกี หนง่ึ ครงั้ - น�ำ ผเู้ รยี นไปเรยี นรปู้ ฏบิ ตั จิ รงิ จาก
- การพน่ พน้ื อะคลู กิ ทบั สโี ปว๊ โจมา่ สถานประกอบการจรงิ
หรอื โป๊วแดง - ดำ�เนินการวัดผลประเมินผลจาก
- ก ารขดั พืน้ อะคลู ิค (กระดาษทราย การท�ำ ผลงานทที่ ำ�
เบอร์ 320 และเบอร์ 1000) 2.5 จ ัดให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจาก
2.6 ฝกึ ปฏิบัติการพ่นสรี ถยนต์ ใบความรู้ วธิ กี ารโปว๊ สี ใหก้ บั ผเู้ รยี น
- บอกคุณสมบตั ขิ องสี - น�ำ ผเู้ รยี นไปเรยี นรปู้ ฏบิ ตั จิ รงิ จาก
- การผสมสี สถานประกอบการจรงิ
- การพน่ สีรถยนต์ - ด �ำ เนนิ การวดั ผลประเมนิ ผลจาก
- การพ่นแลค็ เกอร์ การท�ำ ผลงานทท่ี �ำ
433
เร่ือง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เน้อื หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนช่วั โมง 434
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
2.7 ฝึกปฏบิ ัติการขดั เงารถยนต์ 2.6 จดั ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเนอื้ หาจากใบความรู้ 2 30
- บ อกคุณสมบัติของน้�ำยาที่ใช้ใน วธิ กี ารพ่นสรี ถยนตใ์ ห้กับผู้เรียน 2 -
การขัดได้ - น�ำ ผเู้ รยี นไปเรยี นรปู้ ฏบิ ตั จิ รงิ จาก
- วิธีการขดั มันสรี ถยนต์ สถานประกอบการจรงิ
- ดำ�เนินการวัดผลประเมินผลจาก
การทำ�ผลงานทท่ี ำ�
2.7 จดั ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเนอื้ หาจากใบความรู้
วิธกี ารขดั เงารถยนต์ใหก้ บั ผเู้ รยี น
- น�ำ ผเู้ รยี นไปเรยี นรปู้ ฏบิ ตั จิ รงิ จาก
สถานประกอบการจรงิ
- ด�ำ เนนิ การวดั ผลประเมนิ ผลจาก
การทำ�ผลงานทท่ี �ำ
3. การบริหารจัดการใน 3.1 เขา้ ใจวธิ กี าร การบรหิ ารจดั การดา้ น 3.1 การบรหิ ารจดั การดา้ นผลติ ภัณฑ์ 3.1 ศกึ ษาขอ้ มลู และวเิ คราะหก์ ารบรหิ าร
การประกอบอาชพี ผลิตภณั ฑ์ - การจัดการควบคุมคุณภาพของ ทงั้ ทางดา้ นผลติ ภณั ฑ์ ดา้ นการตลาด
ผลิตภณั ฑ์ และดา้ นความเสยี่ งจากสอ่ื ตา่ งๆ ทงั้
- การจัดการด้นการลดต้นทุนใน เอกสาร ส่อื บุคคล สือ่ อิเลค็ ทรอนคิ
การผลิต 3.2 ฝึกปฏิบัติคิดคำ�นวณ ต้นทุน กำ�ไร
- การจัดการบริหารพนักงานท่ีให้ การก�ำ หนดราคาและสง่ เสรมิ การขาย
บรกิ ารใหม้ มี จี รยิ ธรรม คณุ ธรรม โดยฝกึ จ�ำ ลองเหตกุ ารณ์
ในอาชีพ
เรอื่ ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนชัว่ โมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
3.2 เ ข้าใจวิธีการ การจัดการด้าน 3.2 การจัดการด้านการตลาด 3.3 เ ชิญวิทยากรด้านการตลาดมา 2 -
การตลาด - การจัดทำ�ฐานข้อมูลของกลุ่ม บรรยายและให้นักศึกษาแบ่งกลุ่ม
ลกู คา้ ระดมความคดิ และอภปิ รายเกย่ี วกบั
- ก ารติดต่อลูกค้าและบริการหลัง การบริหารจดั การด้านต่างๆ
การขาย
- การวางแผนการตลาด
3.3 เข้าใจวิธีการ การจัดการด้าน 3.3 การจดั การด้านความเส่ียง 22
ความเส่ยี ง - วิเคราะห์ ข้อดี ข้อเสีย โอกาส
และอปุ สรรคในการประกอบอาชพี
ช่างปะผุ เคาะ พน่ สรี ถยนต์ โดย
นำ�ปัจจัยต่างๆ เช่น กลุ่มลูกค้า
คู่แข่ง ฯลฯ มาเป็นปัจจัยในการ
วิเคราะห์
- ด�ำ เนนิ การ คดิ วางแผนธรุ กจิ โดย
จำ�ลองสถานการณ์
4. โ ครงการประกอบ 4.1 บอกความสำ�คัญของโครงการ 4.1 ความสำ�คญั ของโครงการอาชีพ 4.1 จ ดั ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเนอ้ื หาจากใบความรู้ 0.5 -
อาชพี อาชีพได้ 4.2 ประโยชนข์ องโครงการอาชพี เรอ่ื ง ความส�ำ คญั ของโครงการอาชพี 0.5 -
4.2 บอกประโยชน์ของโครงการอาชพี ได้ 4.3 อ งคป์ ระกอบของโครงการประกอบ ประโยชน์ของโครงการอาชีพ 1 -
4.3 บอกองค์ประกอบของโครงการ อาชีพ องค์ประกอบของโครงการอาชีพ
อาชพี ได้ 4.4 การเขียนโครงการอาชพี แลว้ จดั กจิ กรรมการสนทนาแลกเปลย่ี น 1 6
435
เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เนื้อหา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนช่ัวโมง 436
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
4.4 อ ธบิ ายความหมายขององคป์ ระกอบ 4.5 ก ารประเมินความเหมาะสมและ ข ้อมูลความคิดเห็น เพื่อสร้าง - 3
ของโครงการอาชีพได้ สอดคลอ้ งของโครงการอาชพี แนวคิดในการดำ�เนินกิจกรรมการ
4.5 อ ธิบายลักษณะการเขียนที่ดีของ เรยี นรู้
องคป์ ระกอบของโครงการอาชพี ได้ 4.2 จัดให้ผู้เรียนศึกษาสาระข้อมูลจาก
4.6 เ ขียนโครงการในแต่ละองค์ประกอบ ใบความรู้ เร่ือง ตัวอย่างการเขียน
ให้เหมาะสมและถูกต้องได้ โครงการอาชีพท่ีดี เหมาะสม และ
4.7 ต รวจสอบความเหมาะสมและ ถกู ตอ้ ง พรอ้ มจดั การอภปิ ราย เพอื่
สอดคลอ้ งของโครงการอาชพี ได้ สรปุ แนวคดิ เปน็ แนวทางในการเขยี น
โครงการอาชีพท่ีดี เหมาะสม และ
ถูกต้อง
4.3 จ ัดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติ การเขียน
โครงการอาชีพ
4.4 ก ำ�หนดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการ
ป ร ะ เ มิ น ค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม แ ล ะ
สอดคล้องของโครงการอาชีพ
4.5 จ ัดให้ผู้เรียนปรับปรุงโครงการอาชีพ
ใหม้ ีความเหมาะสมและถูกตอ้ ง
4.6 กำ�หนดให้ผู้เรียนเขียนโครงการ
อาชีพของตนเอง เพ่ือเสนอขอรับ
การสนบั สนนุ งบประมาณด�ำ เนนิ งาน
อาชีพ และใช้ในการดำ�เนินการ
ประกอบอาชีพตอ่ ไป
437
หลกั สตู รช่างปกู ระเบ้ือง
จำ�นวน 48 ช่วั โมง
กลมุ่ อาชพี เฉพาะทาง
ความเป็นมา
อาชีพช่างปูกระเบ้ืองเป็นอาชีพอิสระท่ีผู้เรียนสามารถน�ำมาเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพรองได้ เน่ืองจาก
เป็นอาชีพที่ผู้สนใจสามารถเรียนรู้ได้ง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่มีต้นทุนในการประกอบอาชีพ เพราะเป็นอาชีพท่ีใช้ฝีมือ
และทักษะในการประกอบอาชีพ และในปัจจุบันท่ีพักอาศัยของประชาชนส่วนใหญ่ก่อสร้างจากวัสดุคอนกรีต
ซึ่งการตกแต่งภายในและภายนอกจะนิยมใช้กระเบ้ืองเป็นส่วนประกอบทั้งพื้นบ้าน ผนัง ห้องน�้ำ และปัจจุบัน
ครอบครัวของสังคมไทยเป็นครอบครัวขยาย จึงมีการปลูกที่พักอาศัยมากข้ึน ท�ำให้ผู้ประกอบอาชีพด้าน
ชา่ งปกู ระเบ้ืองขาดแคลน อาชีพชา่ งปูกระเบอื้ งเปน็ อาชพี หนึ่งท่ีเป็นชอ่ งทางในการประกอบอาชพี ของผูท้ ีย่ ังไม่มี
งานท�ำหรือผทู้ ่ีต้องการเปลย่ี นอาชพี ที่เป็นงานอิสระและมั่นคงได้
หลกั การของหลักสตู ร
1. เปน็ หลักสูตรท่เี น้นการจดั การศกึ ษาอาชพี เพอ่ื การมงี านท�ำ
2. เปน็ หลกั สตู รทเี่ น้นการเรยี นรู้จากการปฏิบตั ิจริง เพอ่ื ประโยชน์ในการประกอบอาชีพไดจ้ ริง
จุดหมาย
ผูเ้ รียนมคี วามรู้ มีทักษะในการปกู ระเบอ้ื ง และประกอบอาชีพอย่างมีคณุ ธรรม สามารถประกอบอาชพี
เลย้ี งตนเองและครอบครวั ได้
กล่มุ เป้าหมาย
กล่มุ เปา้ หมายคอื ประชาชนกลุ่มเปา้ หมายนอกระบบโรงเรยี น
1. ผู้ทีไ่ มม่ ีอาชีพ
2. ผู้ทมี่ ีอาชีพและต้องการพฒั นาอาชีพ
ระยะเวลา จ�ำ นวน 48 ช่ัวโมง
โครงสรา้ งหลกั สูตร จ�ำ นวน 2 ชัว่ โมง
1. ช่องทางการประกอบอาชีพ
1.1 ความส�ำ คญั และประโยชนข์ องการปูกระเบือ้ ง
1.2 การประกอบอาชพี ช่างปกู ระเบ้อื ง
- คณุ ธรรม จริยธรรมส�ำ หรบั อาชีพช่างปูกระเบือ้ ง
438
1.3 ความรู้เบอื้ งต้นเก่ยี วกบั การปกู ระเบอื้ ง
1.3.1 ชนดิ ของกระเบื้อง
1) กระเบื้องปพู น้ื
2) กระเบอ้ื งปฝู าผนงั
3) กระเบอ้ื งดินเผา
1.3.2 ชนดิ ของวัสดปุ กู ระเบื้อง
1) กาวซเี มนตส์ ำ�หรับปกู ระเบอื้ ง
2) ปนู ปกู ระเบื้อง (ปนู ส�ำ เร็จรูป)
3) ปูนทรายผสมเอง
1.4 ประเภทของเครื่องมือท่ีใชป้ ูกระเบอื้ ง และวิธีใช้
1.5 ความปลอดภัยในการใช้เคร่ืองมอื อปุ กรณ์
2. ทกั ษะการประกอบอาชพี จ�ำ นวน 24 ช่ัวโมง
(ทฤษฎี 4 ชว่ั โมง ปฏบิ ัติ 20 ชวั่ โมง)
2.1 การเตรียมพ้ืนที่
2.2 การเตรียมกระเบ้ือง และวัสดอุ ปุ กรณ์
2.3 วธิ ปี ูพน้ื
2.4 วธิ ปี ฝู าผนงั
2.5 วิธีปกู ระเบ้ืองดนิ เผา
2.6 วิธีการเก็บรายละเอยี ดของชน้ิ งาน
3. การบรหิ ารจัดการในการประกอบอาชีพ จำ�นวน 10 ช่ัวโมง
(ทฤษฎี 3 ช่วั โมง ปฏิบตั ิ 7 ชั่วโมง)
3.1 การคำ�นวณพืน้ ที่ และคำ�นวณราคาในการปพู ื้น/ปูผนงั /ปกู ระเบื้องดินเผาได้
3.2 การประชาสมั พนั ธ์ และการหาลูกคา้
3.3 การควบคมุ มาตรฐานของการบริการ
3.4 การเจรจาตอ่ รองราคากบั ลูกค้า
4. โครงการประกอบอาชีพ จำ�นวน 12 ชั่วโมง
4.1 ความสำ�คญั ของโครงการ
4.2 ประโยชนข์ องโครงการ
4.3 องค์ประกอบของโครงการ
4.4 การเขียนโครงการ
4.5 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการ
การจดั กระบวนการเรยี นรู้
1. จดั กจิ กรรมส�ำ รวจและวเิ คราะหต์ นเอง ทรพั ยากร อาชพี และความตอ้ งการของตลาด เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี น
ได้เห็นชอ่ งทางการประกอบอาชีพ
439
2. จัดกิจกรรมวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้กระบวนการ SWOT รวมทั้งการศึกษาดูงาน เพ่ือกำ�หนดทิศทาง
การพัฒนาประกอบอาชีพ
3. ฝึกทกั ษะการประกอบอาชพี
- เรียนร้จู ากวิทยากร
- เรียนรจู้ ากการลงมอื ปฏิบตั ิจรงิ
ส่ือการเรียนรู้
1. เอกสารการประเภทกระเบ้อื ง/การปูกระเบ้ือง/การตรวจรับงานปูกระเบ้ือง
2. วิทยากรผเู้ ช่ยี วชาญ
3. วสั ดุจริง
การวดั และประเมนิ ผล
1. การประเมนิ ความรูภ้ าคทฤษฎรี ะหวา่ งเรยี นและจบหลักสูตร
2. การประเมินผลงานระหว่างเรียนจากการปฏิบัติ ได้ผลงานที่มีคุณภาพสามารถสร้างรายได้ และ
จบหลักสูตร
การจบหลกั สูตร
1. มีเวลาเรียน ไม่นอ้ ยกว่าร้อยละ 80
2. มีผลการประเมนิ ตลอดหลักสูตร ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60
3. มผี ลงานทีม่ คี ุณภาพ
เอกสารหลักฐานการศกึ ษา
1. หลกั ฐานการประเมนิ ผล
2. ทะเบยี นคมุ วุฒิบตั ร
3. วฒุ ิบตั รการศกึ ษา ออกโดยสถานศึกษา
การเทยี บโอน
ผู้เรียนท่ีจบหลักสูตรนี้สามารถนำ�ไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ
การศึกษาขั้นพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี วชิ าเลือกที่สถานศกึ ษาได้จดั ท�ำ ข้ึน
รายละเอยี ดโครงสร้างหลักสูตชา่ งปกู ระเบื้อง 440
เรอื่ ง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนช่ัวโมง
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
1. ช อ่ งทางการประกอบ 1. ผ ู้เรียนบอกความสำ�คัญและประโยชน์ 1. ช่องทางการประกอบอาชีพ 1. ผ ู้เรียนศึกษาส่ือเอกสาร ใบความรู้ 2 -
อาชพี ของการปูกระเบ้ืองทั้งในและนอก 1.1 ค วามสำ�คัญและประโยชน์ของ สื่ออินเทอเน็ต เก่ียวกับความสำ�คัญ
อาคารได้ การปูกระเบ้ืองท้ังในและนอก ประโยชน์ ความรเู้ บื้องต้น คณุ ธรรม
2. วิเคราะห์ตนเองในการประกอบอาชีพ อาคาร จรยิ ธรรมเก่ยี วกับการปูกระเบอื้ ง
ชา่ งปกู ระเบอ้ื งสามารถบอกคณุ ธรรม 1.2 ว เิ คราะหต์ นเองในการประกอบ 2. ผเู้ รยี นสอบถาม สมั ภาษณ์ พดู คยุ กบั
จรยิ ธรรม ส�ำ หรบั อาชพี ชา่ งปกู ระเบอ้ื ง อาชีพช่างปูกระเบ้ือง และ ช่างปูกระเบื้อง เก่ียวกับอาชีพ
ได้ คุณธรรม จริยธรรมสำ�หรับ ชา่ งปกู ระเบ้ือง
3. บ อกชนิดกระเบื้อง วัสดุปูกระเบื้อง อาชพี ช่างปูกระเบื้อง 3. น ำ�ข้อมูลจากการศึกษาส่ือ และจาก
และประเภทของเครอื่ งมอื ทใี่ ชใ้ นการ 2. ค วามรเู้ บอื้ งตน้ เกย่ี วกบั การปกู ระเบอ้ื ง การสัมภาษณ์ มาวิเคราะห์ตนเอง
ปูกระเบื้องได้ 2.1 ชนิดของกระเบื้อง เพอื่ ตัดสนิ ใจประกอบอาชีพ
4. อธิบายวิธีการรักษาความปลอดภัย 1) กระเบื้องปูพ้นื 4. น�ำ ผลการวเิ คราะหม์ าแลกเปลยี่ นกบั
จากการใช้เคร่อื งมอื วสั ดุ อปุ กรณไ์ ด้ 2) กระเบ้อื งปผู นัง ผูร้ ู้ เพือ่ นในกลุ่มและวิทยากร
3) กระเบื้องดนิ เผา 5. สรุปชอ่ งทางการประกอบอาชีพและ
2.2 ชนดิ ของวสั ดปุ กู ระเบือ้ ง ตดั สินใจของตนเอง
1) กาวซเี มนตส์ �ำ หรบั ปกู ระเบอ้ื ง
2) ปูนส�ำ เร็จรูป
3) ปูนทรายผสมเอง
2.3 ประเภทของเคร่ืองมือท่ีใช้
ปกู ระเบื้อง และวธิ ีใช้
2.4 ค วามปลอดภยั ในการใชเ้ ครอื่ งมอื
อุปกรณ์
เรือ่ ง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เนอ้ื หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนชัว่ โมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
2. ท ักษะการประกอบ 1. เตรยี มพ้นื ท่ี กระเบ้ือง วสั ดอุ ุปกรณ์ 1. การเตรยี มพนื้ ที่ 1. ผ เู้ รยี นศกึ ษาใบความรเู้ กย่ี วกบั ประเภท 4 20
อาชพี และเคร่อื งมือในการปกู ระเบ้ืองได้ 2. การเตรียมกระเบ้อื ง ของกระเบื้อง วิธีการปูกระเบ้ือง
2. ป ูพื้น ปูฝาผนัง และปูกระเบ้ือง 3. การเตรยี มวัสดุอุปกรณ์เครื่องมอื ทุกวิธี
ดินเผาได้ถกู ต้อง 4. วธิ ีการปูพน้ื
3. เกบ็ รายละเอยี ดของงานไดเ้ รยี บรอ้ ย 5. วธิ กี ารปูฝาผนงั 2. ผู้เรียนศึกษาดูงานและสัมภาษณ์/
สวยงาม 6. วธิ กี ารปูกระเบ้อื งดนิ เผา สนทนากับผ้ปู ระกอบ
4. ส รุปขั้นตอนและเทคนิคการทำ�งาน 7. วิธกี ารเกบ็ รายละเอียดของงาน
ได้ครบทุกขน้ั ตอน 3. ผู้เรียนชมการสาธิตของวิทยากร
พร้อมสัมภาษณ์ข้ันตอนและวิธีการ
ปูพื้นทกุ วธิ ี
4. ผู้เรียนฝึกปูพื้นทุกวิธี และฝึกเก็บ
รายละเอียดของงานตามใบงาน
จนช�ำ นาญ
5. ผ ู้เรียนและผู้สอน ร่วมกันสรุป
ข้ันตอนและเทคนิคการทำ�งานได้
ครบทกุ ข้นั ตอน
3. การบรหิ ารจดั การใน 1. ค ำ�นวณพื้นท่ีและราคาค่าแรง ค่าวัสดุ 1. ก ารค�ำ นวณพนื้ ทแ่ี ละการค�ำ นวณราคา 1. ผเู้ รยี นศกึ ษาใบความรเู้ รอ่ื งการค�ำ นวณ 3 7
การประกอบอาชีพ ปูพื้น ปูฝาผนัง และปูกระเบื้อง 1) การคำ�นวณพื้นท่ีและการคำ�นวณ พื้นที่และการคำ�นวณราคาค่าแรงและ
ดินเผาได้ ราคาในการปูพื้น วัสดุ การหาลูกค้า การประชาสัมพันธ์
2. หาลูกค้าและประชาสัมพันธ์งาน 2) การคำ�นวณพื้นที่และการคำ�นวณ มาตรฐานของการบริการ และการ
ปูกระเบ้ืองได้ ราคาในการปฝู าผนัง เจรจาต่อรองราคา
3. อธิบายมาตรฐานของการบริการ 3) การคำ�นวณพื้นท่ีและการคำ�นวณ
ปูกระเบอื้ งได้ ราคาในการปูกระเบื้องดนิ เผา
441
เร่อื ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้ือหา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนชว่ั โมง 442
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
4. เ จรจาต่อรองราคากับลูกค้าได้อย่าง 2. การประชาสมั พนั ธแ์ ละการหาลกู คา้ 2. ผ ู้เรียนฝึกคำ�นวณพ้ืนที่ ราคาค่าแรง
ราบรืน่ และเปน็ ทพี่ งึ พอใจของลูกค้า 3. การควบคมุ มาตรฐานของการบรกิ าร และวัสดุ การหาลูกค้า และวิธีการ
5. สรุปกระบวนการบริหารจัดการใน 4. การเจรจาตอ่ รองราคากบั ลกู ค้า ประชาสัมพันธ์
การประกอบอาชีพช่างปูกระเบื้องท่ี 3. ผ ู้เรียนฝึกรับงาน และฝึกเจรจา
พงึ ประสงค์ของลูกค้าได้ ตอ่ รองราคากบั ลกู คา้ โดยใชบ้ ทบาท
สมมติ และสถานการณจ์ รงิ
4. ผ ้เู รยี น และผสู้ อน สรปุ กระบวนการ
บรหิ ารจดั การในการประกอบอาชพี
ช่างปูกระเบ้ืองได้
4. โ ครงการประกอบ 1. บ อกความส�ำ คญั ของโครงการอาชพี ได้ 1. ความสำ�คญั ของโครงการอาชพี 1. จ ดั ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเนอ้ื หาจากใบความรู้ 3 9
อาชพี 2. บอกประโยชนข์ องโครงการอาชพี ได้ 2. ประโยชน์ของโครงการอาชพี การ เรอื่ ง ความส�ำ คญั ของโครงการอาชพี
3. บ อกองค์ประกอบของโครงการ 3. องค์ประกอบของโครงการประกอบ ประโยชน์ของโครงการอาชีพ
อาชีพได้ อาชพี องคป์ ระกอบของโครงการอาชพี แลว้
4. อ ธบิ ายความหมายขององคป์ ระกอบ 4. การเขยี นโครงการอาชีพ จัดกิจกรรมการสนทนาแลกเปล่ียน
ของโครงการอาชีพได้ 5. การประเมินความเหมาะสมและ ขอ้ มลู ความคดิ เหน็ เพอื่ สรา้ งแนวคดิ
5. อ ธบิ ายลกั ษณะการเขยี นทดี่ ขี ององค์ สอดคลอ้ งของโครงการอาชพี ในการด�ำ เนนิ กิจกรรมการเรยี นรู้
ประกอบของโครงการอาชพี ได้ 2. จ ัดให้ผู้เรียนศึกษาสาระข้อมูลจาก
6. เ ขยี นโครงการในแตล่ ะองคป์ ระกอบ ใบความรู้ เรื่อง ตัวอย่างการเขียน
ให้เหมาะสมและถกู ต้องได้ โครงการอาชพี ทด่ี ี เหมาะสม และถกู ตอ้ ง
7. ตรวจสอบความเหมาะสมและ พร้อมจัดการอภิปราย เพื่อสรุป
สอดคลอ้ งของโครงการอาชพี ได้ แนวคิดเป็นแนวทางในการเขียนโครงการ
อาชพี ท่ดี ี เหมาะสม และถกู ตอ้ ง