เร่อื ง จุดประสงค์การเรียนรู้ เน้ือหา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชั่วโมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจ การดูแลรักษาดอกไม้ 1. วิทยากรบรรยายให้ความรู้ พร้อมสาธิต 0.5 0.5
เกี่ยวกับการดแู ลรกั ษาดอกไมส้ ด - cleaning วิธีการ cleaning, cutting under water
- cutting under water และ conditioning out of refrigeration
- conditioning out of refrigeration 2. ผู้เรียนฝึกปฏิบัติ การ cleaning, cutting
under water และ conditioning out
of refrigeration
3. ผ้เู รยี นศกึ ษาความรู้เพมิ่ เติม จากใบความรู้
เรอ่ื งการดูแลรกั ษาดอกไม้
4. วิทยากรและผู้เรียนร่วมสรุปผลการฝึก
ปฏบิ ัติ
เพือ่ ให้ผูเ้ รียนมคี วามร้คู วามเข้าใจ การฟ้ืนตัวของดอกไม้ 1. วิทยากรบรรยายให้ความรู้ พร้อมสาธิต 0.5 0.5
การฟ้นื ตวั ของดอกไม้ - กลว้ ยไม้ชอ่ วิธีการ cleaning, cutting under
- ดอกบวั water และ conditioning out of
- ดอกคริสซานตมิ มั (มมั ) refrigeration
- ดอกกหุ ลาบ
- ดอกเยอร์บรี ่า 2. ผูเ้ รยี นฝึกปฏบิ ัติ การ cleaning, cutting
- ดอกยปิ โซฟิลลา under water และ conditioning out of
refrigeration
293
3. ผู้เรยี นศกึ ษาความร้เู พม่ิ เติม จากใบความรู้
เร่อื งการดแู ลรกั ษาดอกไม้
เรอ่ื ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เน้ือหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนชัว่ โมง 294
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
- วัสดุ-อุปกรณ์ในการ เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับการ วสั ดุ-อุปกรณ์ในการจัดดอกไม้ 1. วิทยากรบรรยายให้ความรู้ พร้อมน�ำวัสดุ 0.5
จัดดอกไม้ เลือกใช้อุปกรณ์ที่ใช้ตัดแต่งดอกไม้ อุปกรณ์ให้ผู้เรียนได้เห็น พร้อมทั้งให้
และใบไม้ ใบความรู้ เรื่อง วัสดุ อุปกรณ์ ในการจัด
ดอกไม้
2. ผเู้ รยี นและวทิ ยากรรว่ มสนทนาแลกเปลย่ี น
ขอ้ มลู ความคดิ เหน็
เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถออกแบบสนิ คา้ 2. ข้ันตอนการผลิต 1. วิทยากรถ่ายทอด วิธีการ เทคนิคการ 0.5 -
ไดต้ ามวัตถุประสงคข์ องลูกคา้ วัตถุประสงค์ของการใช้ดอกไม้ สัมภาษณ์ การสอบถาม การวิเคราะห์
ของลูกค้า ข้อมลู พื้นฐาน ความต้องการของลูกค้า
- โอกาส 2. ผเู้ รยี นและวทิ ยากรรว่ มสนทนาแลกเปลยี่ น
- งบประมาณ ขอ้ มลู ความคิดเห็น
- ผู้รับ
- ความชอบ/ความพเิ ศษ
เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถเตรียมวัสดุ เทคนคิ การเตรยี มวสั ดุ อปุ กรณก์ าร 1. วิทยากรบรรยายให้ความรู้ การเตรียม 15 -
อุปกรณ์ ท่ีใช้ในการจัดดอกไม้ใน จัดดอกไม้ในรูปแบบต่างๆ วัสดุ อุปกรณ์ ในการจัดดอกไม้ในรูปแบบ นาที
แตล่ ะรูปแบบได้ ต่างๆ
2. ผเู้ รยี นและวทิ ยากรรว่ มสนทนาแลกเปลยี่ น
ขอ้ มูลความคดิ เหน็
เร่อื ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนอ้ื หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนช่วั โมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
เพื่อให้ผู้เรียนสามารถเตรียมดอกไม้ การเตรียมดอกไม้ 1. วิทยากรให้ความรู้และสาธิต การเตรียม 15 1
ใบไม้ ท่ใี ช้ในการจดั ดอกไม้ในแตล่ ะ - การเดด็ ใบ ดอกไม้ ใบไม้ ส�ำหรับการจัดดอกไม้ใน นาที
รูปแบบได้ - การตัดกา้ นดอก แตล่ ะรูปแบบ
- การแยกสดี อกไม้
2. ผเู้ รียนฝกึ ปฏิบตั กิ ารเตรยี มดอกไม้ ส�ำหรับ
การจัดดอกไมใ้ นรปู แบบต่างๆ
3. ผู้เรียนและวิทยากรสนทนาแลกเปล่ียน
ความคิดเหน็
เพ่ือให้ผู้เรียนอธิบายหลักเกณฑ์การ หลักเกณฑก์ ารจดั ดอกไมส้ ด 1. วิทยากรบรรยายให้ความรู้ หลักการจัด 0.5 -
จัดดอกไม้สดได้ ดอกไม้สด
2. ผเู้ รยี นและวทิ ยากรรว่ มสนทนาแลกเปลย่ี น
ขอ้ มลู ความคิดเหน็
3. ผเู้ รยี นศึกษาเพ่ิมเติมจากใบความรู้
เพ่ือให้ผู้เรียนอธิบายวิธีการจัด วธิ กี ารจัดดอกไม้สด 1. วิทยากรบรรยายให้ความรู้ วิธีการจัด 0.5 -
ดอกไม้สดได้ ดอกไมส้ ด
2. ผเู้ รยี นและวทิ ยากรรว่ มสนทนาแลกเปลยี่ น
ขอ้ มูลความคิดเห็น
3. ผูเ้ รยี นศกึ ษาเพิม่ เติมจากใบความรู้
295
เร่ือง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้ือหา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชว่ั โมง 296
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
การจดั ดอกไมแ้ บบช่อ เพ่ือให้ผู้เรยี นสามารถจัดดอกไมแ้ บบ 3. รปู แบบการจดั ดอกไมส้ ด 1. วิทยากรสาธิตการจัดดอกไม้แบบช่อกลม 1 9
ชอ่ ได้ รูปแบบการจัดดอกไมแ้ บบช่อ ชอ่ เปดิ หนา้ ช่อปิดหนา้ โบเก้ชอ่ ยาว
- ชอ่ กลม 2. ใ ห้ ผู้ เรี ย น ฝึ ก ป ฏิ บั ติ ก า ร จั ด ด อ ก ไ ม้
- ชอ่ เปดิ หนา้ แบบช่อกลม ช่อเปิดหน้า ช่อปิดหน้า
- ช่อปิดหนา้ โบเก้ชอ่ ยาว
- โบเกช้ อ่ ยาว
3. วิทยากรแนะนำ�เทคนิค วธิ กี ารจัดดอกไม้
4. ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเติมจากใบความรู้ และ
แหล่งเรยี นรู้
การจดั ดอกไมแ้ บบแจกัน เพ่อื ใหผ้ ู้เรียนสามารถจดั ดอกไมแ้ บบ รปู แบบการจดั ดอกไมแ้ บบแจกนั 1. วิทยากรสาธิตการจัดดอกไม้แบบแจกัน 1 9
แจกันได้ - การจัดแบบทรงสูง แบบทรงสูง แบบทรงเต้ีย แบบทรง
- การจดั แบบทรงเตีย้ สามเหล่ยี ม
- การจัดแบบทรงสามเหลี่ยม
2. ให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการจัดดอกไม้แบบ
แจกนั แบบทรงสูง แบบทรงเตีย้ แบบทรง
สามเหลีย่ ม
3. วิทยากรแนะน�ำ เทคนคิ วธิ กี ารจดั ดอกไม้
4. ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเติมจากใบความรู้ และ
แหลง่ เรยี นรู้
เรือ่ ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้ือหา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนชัว่ โมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
การจดั ดอกไมแ้ บบกระเชา้ เพอื่ ใหผ้ ู้เรยี นสามารถจดั ดอกไมแ้ บบ รปู แบบการจัดดอกไมแ้ บบกระเช้า 1. วิทยากรสาธิตการจัดดอกไม้แบบกระเช้า 1 9
กระเช้าได้ - การจดั แบบทรงสูง แบบทรงสงู แบบทรงเต้ีย
- การจดั แบบทรงเตีย้
2. ให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการจัดดอกไม้แบบ
กระเช้า แบบทรงสูง แบบทรงเตย้ี
3. วทิ ยากรแนะนำ�เทคนคิ วิธกี ารจัดดอกไม้
4. ผู้เรียนศึกษาเพิ่มเติมจากใบความรู้ และ
แหล่งเรยี นรู้
การจดั พานพุ่มดอกไมส้ ด เพื่อให้ผู้เรียนสามารถจัดพานพุ่ม รปู แบบการจัดพานพมุ่ ดอกไมส้ ด 1. วทิ ยากรสาธิตการจดั พานพมุ่ ดอกไม ้ 1 9
ดอกไมส้ ดได้ 2. ให้ผู้เรียนฝกึ ปฏิบัติการจัดพานพุ่มดอกไม้
3. วิทยากรแนะน�ำ เทคนิค วิธีการจดั ดอกไม้
4. ผู้เรียนศึกษาเพ่ิมเติมจากใบความรู้ และ
แหลง่ เรยี นรู้
การจดั พวงหรีดและการ เพอื่ ให้ผเู้ รียนสามารถจัดพวงหรดี รูปแบบการจดั พวงหรดี และดอกไม้ 1. วิทยากรสาธิตการจัดพวงหรีดและการจัด 1 14
จดั หน้าศพ และดอกไม้หนา้ งานศพได้ หนา้ งานศพ ดอกไม้หน้างานศพ
- พวงหรีดวงกลม
- พวงหรีดหยดน้ำ� 2. ใหผ้ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารจดั พวงหรดี และการ
การจัดดอกไมห้ นา้ ศพ จดั ดอกไม้หนา้ งานศพ
- การจัดแบบสวนดอกไม้
- การจัดแบบนำ้� ตก 3. วทิ ยากรแนะนำ�เทคนคิ วิธีการจัดพวงหรดี
และการจดั ดอกไมห้ น้างานศพ
297
4. ผู้เรียนศึกษาเพ่ิมเติมจากใบความรู้ และ
แหลง่ เรียนรู้
เร่ือง จุดประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชั่วโมง 298
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
การจัดดอกไม้สดในงาน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถ ทำ�บายศรีขัน รปู แบบการจัดดอกไมส้ ดในงาน 1. วิทยากรสาธิตการทำ�บายศรีขันผูกมือ 5 50
แตง่ งาน(ภาคเหนอื ) ผกู มอื พวงมาลยั บา่ ว-สาว ซมุ้ แตง่ งาน แต่งงาน(ภาคเหนอื ) พวงมาลัยบ่าว-สาว ซุ้มแต่งงาน ดอกไม้
ดอกไม้ประดับเวที ได้ - บายศรีขันผกู มือ ประดับเวท ี
- พวงมาลัยบ่าว-สาว 2. ให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการทำ�บายศรีขันผูกมือ
- ซุม้ แต่งงาน พวงมาลัยบ่าว-สาว ซุ้มแต่งงาน ดอกไม้
- ดอกไมป้ ระดับงานบนเวที ดอกไม้ ประดับเวที
ในรปู แบบต่างๆ ของลูกคา้ 3. วทิ ยากรแนะนำ�เทคนคิ วธิ กี ารจัดดอกไม้
4. ผู้เรียนศึกษาเพ่ิมเติมจากใบความรู้ และ
แหลง่ เรยี นรู้
3. การบริหารจัดการใน เพอื่ ให้ผูเ้ รยี นสามารถเลือกท�ำ เลท่ีตัง้ การเลือกทำ�เลท่ตี ั้งรา้ น 1. วิทยากรอธิบายถึงความสำ�คัญและหลัก 0.5 -
การประกอบอาชีพ ร้านค้าที่เหมาะสมในการคา้ ขายได้ 1. ความสำ�คัญของการเลอื กที่ตง้ั เกณฑ์ ของการเลอื กทำ�เลในการตัง้ ร้าน
1. การเลือกทำ�เล ที่ 2. หลักเกณฑใ์ นการเลือกทำ�เลทต่ี ง้ั 2. ผเู้ รยี นและวทิ ยากรรว่ มสนทนาแลกเปลยี่ น
ตงั้ รา้ นและการจดั ขอ้ มูลความคิดเห็น
ตกแตง่ หนา้ รา้ น 3. ผ้เู รียนศึกษาขอ้ มลู เพ่ิมเติมจากใบความรู้
เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถจดั และตกแตง่ หนา้ การจัดและตกแตง่ หน้ารา้ น 1. วิทยากรนำ�แผนผัง รูปภาพ การจัดและ 0.5 0.5
รา้ นใหม้ คี วามสะอาดและสวยงามได้ ตกแตง่ หนา้ รา้ น ใหผ้ เู้ รยี นไดร้ ว่ มกนั วเิ คราะห์
ถงึ ความเหมาะสม
2. ผเู้ รยี นฝกึ ออกแบบการจดั หนา้ รา้ นของตนเอง
3. ผู้เรียนและวิทยากรร่วมสนทนาแลกเปล่ียน
ขอ้ มลู ความคิดเห็น
4. ผเู้ รยี นศึกษาขอ้ มลู เพิ่มเตมิ จากใบความรู้
เรื่อง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนอ้ื หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชั่วโมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
2. การวิเคราะห์กลุ่ม เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถวิเคราะห์กลุ่ม การวเิ คราะห์กล่มุ ลูกค้า 3 ระดบั 1. วทิ ยากรบรรยายการวเิ คราะหก์ ลมุ่ เปา้ หมาย 0.5
ลูกค้าและการแสวง ลกู คา้ ได้ 1. ระดบั ล่าง 2. ให้ผู้เรียนวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายในพ้ืนท่ี/
หาลูกคา้ 2. ระดบั กลาง
3. ระดบั สงู ชมุ ชน
3. วิทยากรและผู้เรยี นร่วมกันสรุป
เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นบอกกลมุ่ เปา้ หมาย ลกู คา้ 1. การวิเคราะหก์ ลมุ่ เป้าหมาย 1. วทิ ยากรแนะน�ำ เทคนคิ ในการเสนอขายดอกไม้ 0.5
ในพนื้ ท่ี/ชมุ ชนได้ 2. การเข้าถึงกลุม่ เปา้ หมาย 2. วทิ ยากรแนะนำ� เทศกาล วันสำ�คญั ทน่ี ิยม
ใชด้ อกไม้
3. ให้ผู้เรียนและวิทยากรร่วมสนทนาแลก
เปล่ยี นขอ้ มลู ความคดิ เหน็
3. การกำ�หนดราคและ เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถกำ�หนดราคา การคิดราคาตน้ ทุนและการก�ำ หนด 1. วทิ ยากรอธบิ ายรายละเอยี ด วธิ กี ารค�ำ นวณ 0.5 0.5
การท�ำ บัญชรี า้ น ขายสนิ ค้าได้ ราคาสินค้า ราคาและการก�ำ หนดราคาสนิ คา้
2. ใหผ้ เู้ รยี นฝกึ การก�ำ หนดราคาการจดั ดอกไม้
3. วิทยากรและผู้เรียนร่วมกันสรุปความ
เหมาะสมในการก�ำ หนดราคา
เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นสามารถท�ำ บญั ชรี า้ นคา้ ได้ การท�ำ บญั ชีรับ -จา่ ย 1. วทิ ยากรใหค้ วามรเู้ กย่ี วกบั การท�ำ บญั ชรี า้ นคา้ 0.5
2. ผเู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารท�ำ บญั ชรี ้านคา้ อยา่ งงา่ ย
4. การพัฒนารูปแบบ เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนสามารถออกแบบการ การจัดดอกไม้ตามสมยั นยิ ม 1. วทิ ยากรแนะน�ำ การจดั ดอกไมใ้ นรปู แบบใหม่ 0.5 299
สินคา้ จัดดอกไม้รปู แบบใหมๆ่ ไดร้ ู้เกีย่ วกบั 2. ให้ผู้เรียนศึกษา หาความรู้จาก แหล่งเรียนรู้
การท�ำ บัญชีรา้ นค้าจดั ดอกไม้สด
สอ่ื อนิ เทอรเ์ น็ต
เร่อื ง จุดประสงค์การเรยี นรู้ เนือ้ หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนช่ัวโมง 300
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
5. คุณธรรม จริยธรรม เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นตระหนกั ถงึ ความส�ำ คญั - ค วามหมายของจรรยาบรรณ 1. ให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ 0.5
และจรรยาบรรณใน และสร้างนิสัยท่ีดีในการประกอบ ผปู้ ระกอบธรุ กจิ เรื่อง คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณ
การประกอบอาชีพ ธุรกิจ - ความสำ�คัญของจรรยาบรรณ ผ้ปู ระกอบธรุ กิจ
6. การบรหิ ารความเสยี่ ง เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้เกี่ยวกับการ - ประเภทและแหล่งของความเส่ียง 1. วทิ ยากรใหค้ วามรเู้ รอ่ื งการบรหิ ารความเสย่ี ง 0.5
บริหารความเส่ียง - ขั้นตอนการบรหิ ารความเสย่ี ง 2. ผู้เรยี นศกึ ษาหาความร้เู พม่ิ เตมิ จากใบความรู้
- การสร้างแผนจดั การความเสี่ยง
7. จิตบรกิ าร เพ่ือให้ผู้เรียนมีความตระหนัก และมี - ความหมายของจิตบรกิ าร 1. วทิ ยากรใหค้ วามรเู้ รอ่ื ง จติ บรกิ าร 0.5
จติ บริการ - ลักษณะของจิตบริการ 2. ผู้เรียนศึกษาหาความรู้เพมิ่ เตมิ จากใบความรู้
4. โครงการประกอบอาชพี 1. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นบอกความส�ำ คญั ของ 1. ความสำ�คัญของโครงการอาชีพ 1. ให้ผู้เรียนศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ เร่ือง 1 2
จ�ำ นวน 12 ชวั่ โมง โครงการอาชพี ได้ 2. ประโยชนข์ องโครงการอาชพี ความสำ�คัญของโครงการอาชีพ ประโยชน์
4.1 ความรู้เบื้องต้น 2. เพ่ือให้ผู้เรียนบอกประโยชน์ของ 3. องคป์ ระกอบของโครงการอาชีพ ของโครงการอาชีพ และองค์ประกอบของ
เก่ียวกับโครงการ โครงการอาชีพได้ โครงการอาชพี
อาชพี การวางแผน 3. เพ่ือให้ผู้เรียนบอกองค์ประกอบ 2. ผเู้ รยี นและวทิ ยากรรว่ มสนทนาแลกเปลยี่ น
แผนธุรกิจ และ ของโครงการอาชีพได้ ขอ้ มูลความคดิ เห็น
การน�ำ ไปใชใ้ นการ 4. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นอธบิ ายองคป์ ระกอบ 3. ผเู้ รยี นสรปุ ความรู้
ประกอบอาชีพ ของโครงการอาชพี ได้
เรอื่ ง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เนื้อหา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนชัว่ โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
4.2 ก ารเขยี นโครงการ 1. เพื่อให้ผู้เรียนอธิบายลักษณะการ 1. การเขยี นโครงการอาชพี 1. ให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ 2 7
แผนธุรกิจ และ เขียนโครงการอาชพี ทีด่ ี 2. การประเมินความเหมาะสมและ เรอื่ งการเขียนโครงการอาชีพ
ก า ร ป ร ะ เ มิ น 2. เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถเขียน ความสอดคล้องของโครงการ 2. ผเู้ รยี นและวทิ ยากรรว่ มสนทนาแลกเปลยี่ น
โครงการอาชีพ โครงการอาชีพได้เหมาะสมและ อาชพี ขอ้ มูลความคิดเห็น
และแผนธุรกิจ ถูกต้อง 3. ใหผ้ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารเขยี นโครงการอาชพี
เพ่ือนำ�ไปสู่การ 3. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถตรวจสอบ 4. ให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการประเมินความ
ปฏิบัตจิ รงิ ความเหมาะสมและความสอดคลอ้ ง เหมาะสมและสอดคล้องของโครงการ
ของโครงการอาชีพได้ อาชพี
5. วิทยากรประเมินโครงการอาชีพ แล้วให้
ผู้เรียนปรับปรุงโครงการอาชีพให้มีความ
เหมาะสมและถกู ต้อง
6. ให้ผู้เรียนเขียนโครงการอาชีพของตนเอง
เพ่ือเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ
ด�ำ เนนิ งานอาชพี และใช้ในการดำ�เนินการ
ประกอบอาชีพตอ่ ไป
301
302
หลกั สูตรธุรกิจเสริมสวย
จำ�นวน 160 ช่วั โมง
กลุม่ อาชพี พาณชิ ยกรรมและบรกิ าร
ความเปน็ มา
สืบเนืองจากกระทรวงศึกษาธิการได้กำ�หนดยุทธศาสตร์ 2555 ภายใต้กรอบเวลา 2 ปี ที่จะพัฒนา
5 ศักยภาพของพ้ืนที่ใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลก “รู้เขา รู้เรา เท่าทัน
เพอ่ื แขง่ ขนั ได้ในเวทโี ลก” ตลอดจนก�ำ หนดภารกิจทจ่ี ะยกระดบั การจัดการศกึ ษาเพื่อเพิ่มศกั ยภาพและขดี ความ
สามารถใหป้ ระชาชนไดม้ อี าชพี ทสี่ ามารถสรา้ งรายไดท้ ม่ี นั่ คง มง่ั คงั่ มงุ่ พฒั นาคนไทยใหไ้ ดร้ บั การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นา
อาชีพและการมงี านทำ�อยา่ งมีคณุ ภาพอย่างท่วั ถงึ และเท่าเทียมกัน ประชาชนมีรายได้ มงี านทำ�อย่างยัง่ ยนื และ
มคี วามสามารถเชงิ การแขง่ ขนั ทงั้ ในระดบั ภมู ภิ าคอาเซยี นและระดบั สากล ดงั นน้ั การจดั การศกึ ษาอาชพี ในปจั จบุ นั
จะตอ้ งมงุ่ พฒั นาประชากรของประเทศใหม้ คี วามรคู้ วามสามารถ และทกั ษะในการประกอบอาชพี เนน้ การบรู ณา
การให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่างๆ ซ่ึงเป็นการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในรูปแบบใหม่ท่ีสร้างความมั่นคงให้
แก่ประชาชนและประเทศชาติ ตลอดจนสามารถแก้ปัญหาการว่างงานและส่งเสริมความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจ
ชมุ ชน
จากนโยบายและจุดเน้นในการดำ�เนินงานประจำ�ปีงบประมาณ 2555 ของกระทรวงศึกษาธิการ และ
สำ�นักงาน กศน. ท่ีมุ่งเน้นการจัดการศึกษาอาชีพเพ่ือการมีงานทำ�ใน 5 กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วย กลุ่มอาชีพ
ด้านเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรม ด้านพาณิชยกรรม ด้านความคิดสร้างสรรค์ และด้านอำ�นวยการและ
อาชีพเฉพาะทาง ซ่ึงเปน็ การศึกษาต่อเนือ่ งเพื่อการพฒั นายัง่ ยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
การเลือกประกอบอาชีพในภาวะเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน จำ�เป็นต้องมีข้อมูลพ้ืนฐานในหลักสูตรใน หลาย ๆ
ด้าน ทั้งด้านการผลิต และความต้องการของตลาดแรงงานในสาขาอาชีพต่างๆ กลุ่มอาชีพสาขาพาณิชยกรรมก็
เปน็ ทางเลอื กหนงึ่ ในการเลอื กประกอบอาชพี ส�ำ นกั งาน กศน.ไดด้ �ำ เนนิ การคดั เลอื กหลกั สตู รการประกอบอาชพี
ด้านพาณิชยกรรมมานำ�เสนอไว้เป็นตัวอย่างให้ผู้เรียนได้เลือกเรียนตามความสนใจ ฝึกปฏิบัติและนำ�ไปประกอบ
อาชพี สร้างรายได้อย่างทั่วถึงมีความม่นั ใจในการนำ�ความรู้และทกั ษะไปประกอบอาชีพ
การกำ�หนดเน้ือหาและชั่วโมงในการเรียนหลักสูตรจะประกอบไปด้วยจำ�นวนชั่วโมงของเน้ือหาความรู้
และการปฏิบัติเม่ือผู้เรียนเรียนจบหลักสูตรแล้วสามารถนำ�ความรู้และทักษะไปประกอบอาชีพสร้างรายได้
รวมท้ังสามารถนำ�จำ�นวนชั่วโมงที่ได้เรียนไปเทียบโอน เป็นผลการเรียนในรายวิชาเลือกของสาระการประกอบ
อาชพี ตามหลกั สูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขั้นพนื้ ฐานพทุ ธศกั ราช 2551
การประกอบอาชีพธุรกิจเสริมสวย เป็นอาชีพหน่ึงที่เน้นการให้บริการและให้การเสริมแต่งความงามให้
กับผู้มาใช้บริการ ท้ังบรุ ุษและสตรีเน้อื หาครอบคลุมทั้งการออกแบบทรงผม ตัดผม สระผม ซอยผม ย้อมผม และ
การเสริมสวย อ่ืนๆ รวมท้ัง การตกแต่งร้าน เข้ากับสมัยนิยม เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าและหากสามารถ
ท�ำ ได้ครบวงจรกจ็ ะสามารถดงึ ดูดลูกคา้ ได้มากยิ่งขน้ึ ประกอบกับปจั จบุ นั สภาพสังคมได้เปลย่ี นแปลงไป ผคู้ นให้
ความสำ�คัญกับความสวยงามและบุคลิกภาพท่ีดีของตนเองมากขึ้น อาชีพความสวยความงามจึงเข้ามามีบทบาท
ในการเปน็ สว่ นหนง่ึ ของการสรา้ งบุคลิกภาพใหผ้ ูค้ นไดม้ ากขนึ้
303
ปจั จบุ นั ธรุ กจิ เสรมิ สวยครบวงจรไดข้ ยายการเปดิ ในท�ำ เลธรุ กจิ ตา่ งๆ มากขนึ้ ทง้ั ในอาคารส�ำ นกั งานใหเ้ ชา่ และ
ที่อยู่อาศัยคอนโดมีเนียม บริเวณโรงแรม บริเวณซูเปอร์มาร์เก็ต เพื่ออำ�นวยความสะดวกต่อผู้ท่ีทำ�ธุรกิจหรือพนักงาน
ขององคก์ รเหลา่ นนั้ ท�ำ ใหค้ วามตอ้ งการทางดา้ นปรมิ าณของชา่ งเสรมิ สวย ขยายตวั มากขน้ึ เปน็ อาชพี หนง่ึ ทค่ี นในสงั คม
ใหค้ วามสนใจทัง้ จากนักลงทนุ ใหมท่ ไ่ี มม่ ีความร้แู ละประสบการณ์ในด้านการทำ�ผม มาก่อนเลย และผู้ทีผ่ า่ นการเรยี น
วชิ าชพี เสริมสวยแลว้ อยากจะเป็นเจา้ ของกจิ การ เพราะเป็นธุรกิจทไี่ ม่มคี วามซบั ซ้อน ซ่งึ สามารถเปดิ ด�ำ เนินกจิ การได้
โดยง่าย อีกทั้งยังเปน็ ธุรกจิ ทสี่ ามารถสร้างรายไดอ้ ย่างเป็นกอบเปน็ ก�ำ หากได้ทำ�เลทตี่ ้ังกจิ การท่ีดี และนบั เปน็ ธุรกจิ ท่ี
มีศักยภาพสูงสามารถสรา้ งรายไดใ้ ห้แกผ่ ้ทู ีป่ ระกอบอาชีพนเ้ี ปน็ อย่างดี
หลักการของหลกั สูตร
1. เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำ� ท่ีเน้นการบูรณาการเนื้อหาสาระภาค
ทฤษฎีควบค่ไู ปกบั การฝกึ ปฏิบตั จิ ริง ผเู้ รียนสามารถน�ำ ความรู้และทักษะไปประกอบอาชพี ได้จรงิ อย่างมีคุณภาพ
และมคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม
2. เปน็ หลกั สตู รทเี่ นน้ การด�ำ เนนิ งานรว่ มกบั เครอื ขา่ ย สถานประกอบการ เพอื่ ประโยชนใ์ นการประกอบ
อาชีพและการศกึ ษาดูงาน
3. เปน็ หลกั สตู รทผี่ เู้ รยี นสามารถน�ำ ผลการเรยี นรไู้ ปเทยี บโอนเขา้ สหู่ ลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั
การศึกษาขั้นพน้ื ฐานพทุ ธศักราช 2551 ในรายวชิ าเลือกของสาระการประกอบอาชพี
4. เป็นหลักสูตรที่เน้นการใช้ศักยภาพ 5 ด้านในการประกอบอาชีพ ได้แก่ ศักยภาพด้านทรัพยากร
ภมู อิ ากาศ ภมู ปิ ระเทศและท�ำ เลทต่ี ง้ั ศลิ ปวฒั นธรรมประเพณแี ละวถิ ชี วี ติ และดา้ นทรพั ยากรมนษุ ยใ์ นแตล่ ะพนื้ ที่
จดุ หมาย
เพ่ือให้ผูเ้ รียนมีคณุ ลักษณะดงั นี้
1. มคี วามรแู้ ละทกั ษะในการประกอบอาชีพ สามารถสรา้ งรายได้ท่ีมน่ั คง มั่งค่งั
2. ตัดสินใจประกอบอาชีพให้สอดคล้องกับศักยภาพของตนเอง ชุมชน สังคม และส่ิงแวดล้อมอย่างมี
คุณธรรมจรยิ ธรรม
3. มีเจตคตทิ ่ีดีในการประกอบอาชีพ
4. มีความรูค้ วามเข้าใจและฝึกทกั ษะการบรหิ ารจดั การในอาชพี ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ
5. มโี ครงการประกอบอาชีพเพอ่ื ใช้เปน็ แนวทางในการพฒั นาอาชีพของตนเอง
กลุ่มเปา้ หมาย
มี 2 กลุม่ เปา้ หมาย คอื
1. ผทู้ ่ีไม่มอี าชีพ
2. ผู้ทม่ี ีอาชพี และตอ้ งการพฒั นาอาชีพ
ระยะเวลา 160 ช่ัวโมง
76 ช่วั โมง
จ�ำ นวน 84 ช่ัวโมง
ภาคทฤษฎี
ภาคปฏบิ ตั ิ
304
โครงสรา้ งหลกั สูตร
เรือ่ งท่ี 1 ชอ่ งทางการประกอบอาชพี ธุรกจิ เสรมิ สวย จำ�นวน 6 ช่วั โมง
1. ความส�ำ คัญในการเลอื กประกอบอาชีพ จ�ำ นวน 1 ชวั่ โมง
2. ความเป็นไปไดใ้ นการประกอบอาชีพธรุ กจิ จ�ำ นวน 2 ชว่ั โมง
3. แหลง่ เรียนร้ใู นการประกอบอาชพี ธุรกิจเสรมิ สวย จำ�นวน 1 ชวั่ โมง
4. ทศิ ทางการพัฒนาการประกอบอาชีพ จ�ำ นวน 2 ช่วั โมง
เรอื่ งท่ี 2 ทกั ษะการประกอบอาชีพธรุ กจิ เสรมิ สวย จ�ำ นวน 136 ชัว่ โมง
1. จรรยาบรรณการเป็นชา่ งเสรมิ สวยทด่ี ี จำ�นวน 2 ชัว่ โมง
2. ข้อมลู พนื้ ฐานของธุรกจิ ชา่ งเสริมสวย จำ�นวน 4 ช่วั โมง
3. ความรู้พ้นื ฐานและเทคนิคต่างๆของการท�ำ ผม จำ�นวน 76 ช่วั โมง
- แนะนำ�อปุ กรณต์ า่ งๆที่ใชใ้ นการท�ำ ผม
- การปฏบิ ตั ิตอ่ เสน้ ผม และดูแลหนังศรี ษะ
- การสระผมอย่างถกู วธิ ี
- การเซท็ ผม การหวี และไดร์ผม ดว้ ยวธิ ีการต่างๆ
- การถกั เปยี เปยี เกลียว เปยี นูน เปยี วน เปยี สอดรบิ บน้ิ
- การดัดผม แบบรอ้ น แบบเยน็ การดดั ดว้ ยแกนธรรมดา และแกนพิเศษชนิดตา่ งๆ
- การย้อม โกรกผม และการเปลี่ยนสีตามแนวนยิ ม
- การยืดผมถาวร(REBONDING)
- การตดั ซอยผมเปน็ ทรงต่างๆ ด้วย กรรไกรซอย มีดโกน และปดั ตะเลย่ี น
- การเกล้าผมตามสมัยนยิ ม การทำ�ผมเจา้ สาว และการท�ำ ผมผูเ้ ขา้ ประกวด
4. ความรพู้ ้นื ฐานและเทคนิคต่างๆของการแตง่ หนา้ จำ�นวน 12 ชัว่ โมง
- แนะนำ�อปุ กรณต์ า่ งๆที่ใช้ในการแต่งหนา้
- การแต่งหนา้ แบบแฟชน่ั งานกลางวัน-กลางคืน เจา้ สาวและแฟนซี
5. ความรพู้ ้นื ฐานและเทคนิคตา่ งๆของการบ�ำ รงุ ผวิ พรรณ จ�ำ นวน 12 ชั่วโมง
- แนะนำ�อปุ กรณต์ า่ งๆท่ีใชใ้ นการบ�ำ รุงผิวพรรณ
- การบ�ำ รงุ ผิวพรรณด้วย เครื่องสำ�อาง สมุนไพร และสารธรรมชาติตา่ งๆ
- การนวด อบ และขัดหน้า-ตวั ดว้ ยสมุนไพร
6. ความรพู้ ื้นฐานและเทคนคิ ตา่ งๆของการทำ�เล็บ จำ�นวน 6 ชั่วโมง
- แนะนำ�อปุ กรณ์ต่างๆทีใ่ ชใ้ นการทำ�เล็บ
- การท�ำ เล็บและแตง่ เลบ็ ท่ีถกู วธิ ี
7. ฝกึ ประสบการณบ์ รหิ ารธรุ กิจการบรกิ ารร้านเสรมิ สวยและการเปน็ ชา่ งเสรมิ สวย จำ�นวน 24 ชว่ั โมง
305
เรอ่ื งท่ี 3 การบรหิ ารจดั การในการประกอบอาชพี ธรุ กิจเสรมิ สวย จ�ำ นวน 6 ชั่วโมง
1. การเลือกทำ�เลท่ตี งั้ รา้ น
2. การจดั และตกแตง่ หนา้ รา้ น
3. การคิดราคาต้นทนุ และการวเิ คราะหจ์ ุดคุ้มทุน
4. ประเภทและแหล่งความเสยี่ ง
5. จติ บริการ
6. การขาย/การให้บรกิ าร
7. การส่งเสรมิ การขาย /การบริการ
8. การท�ำ บัญชีร้านคา้ อย่างง่าย
เรื่องท่ี 4 โครงการประกอบอาชพี ธุรกจิ เสริมสวย จ�ำ นวน 12 ชั่วโมง
1. ความรเู้ บอ้ื งตน้ เกยี่ วกบั โครงการการประกอบอาชพี การวางแผน แผนธรุ กจิ และการเขยี นโครงการ
2. การเขียนโครงการ และประเมินความสอดคล้องของโครงการ
การจดั กระบวนการเรยี นรู้
1. การบรรยาย
2. การสาธติ ทดลอง
3. การฝึกปฏิบัตจิ ริง
4. ศกึ ษาจากเอกสารสิ่งพิมพ์ /ใบความรู/้ CVD DVD
5. ศึกษาจากผ้รู ู้ และวิทยากร
สื่อการเรียนรู้
1. เอกสาร / ใบความรู้ / VCD DVD
2. แหลง่ เรียนรูใ้ นชมุ ชน / วิทยากร
การวัดและประเมนิ ผล
1. การประเมินความรู้ภาคทฤษฎรี ะหว่างเรยี นและจบหลักสูตร
2. การประเมนิ ผลระหวา่ งเรยี นจากการปฏบิ ตั งิ านทม่ี คี ณุ ภาพเพยี งพอ สามารถสรา้ งรายไดใ้ หก้ บั ตนเอง
ความสำ�เรจ็ ของการปฏิบตั ิและจบหลักสูตร
306
การจบหลกั สตู ร
1. มีเวลาเรียนและฝึกปฏิบตั ติ ามหลักสูตรไม่น้อยกว่าร้อยละ 80
2. มผี ลการประเมินผ่านตลอดหลกั สตู ร ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80
3. มีผลงานผ่านการประเมินทดสอบที่มีคุณภาพตามหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจเสริมสวยกับ
กลุม่ ลูกค้าจริงอย่างนอ้ ย 20 คน และไดร้ บั ความพึงพอใจจากกลุ่มลกู ค้าไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ 80
เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา
1. หลกั ฐานการประเมินผล
2. วุฒิบัตรออกโดยสถานศกึ ษา
3. ทะเบียนคมุ วุฒบิ ตั ร
การเทียบโอน
ผเู้ รยี นทจี่ บหลกั สตู รนสี้ ามารถน�ำ ความรไู้ ปเทยี บโอนผลการเรยี นรกู้ บั หลกั สตู รการศกึ ษานอกระบบระดบั
การศกึ ษา พทุ ธศกั ราช 2551 สาระการประกอบอาชพี รายวชิ าเลอื กทส่ี ถานศกึ ษาไดจ้ ดั ท�ำ ขน้ึ ในระดบั ใดระดบั หนงึ่
รายละเอยี ดโครงสร้างหลักสตู รธุรกจิ เสริมสวย
เรอื่ ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้ือหา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชั่วโมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
1. ช่องทางการประกอบ 1. บอกและอธิบายความส�ำคัญใน 1. ความส�ำคัญในการเลือกประกอบ 1.1 วิทยากรอธิบายความสำ�คัญในการ 1 -
อาชพี ธรุ กจิ เสรมิ สวย การประกอบอาชพี ธรุ กจิ เสรมิ สวย อาชพี ธุรกจิ เสรมิ สวย ประกอบอาชีพธุรกิจเสริมสวย``และให้ผู้ 1 1
ได้ เรยี นรว่ มแสดงความคิดเหน็ 1 -
2. วิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการ 2. ความเป็นไปได้ในการประกอบ 1.2 วิทยากรอธิบายความเป็นไปได้ในการ
ประกอบอาชพี ธุรกิจเสรมิ สวย อาชีพธรุ กิจเสรมิ สวย ประกอบอาชีพธุรกิจเสริมสวย และให้ผู้ 1 1
3. บอกและหาแหล่งเรียนรู้ในการ เรยี นฝึกปฏิบตั ิวเิ คราะห์
ประกอบอาชีพธุรกจิ เสรมิ สวย 3. แหล่งเรียนรู้การประกอบอาชีพ 1.3 ให้ผู้เรียนศึกษาจากผู้ประกอบธุรกิจร้าน
ธุรกิจเสริมสวย เสริมสวยท่ีประสบความสำ�เร็จ แหล่ง
เรียนรู้อื่นๆ นำ�มาแลกเปล่ียนเรียนรู้กัน
และสรุปเพ่ือเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ
เลอื กประกอบอาชีพธรุ กิจเสริมสวย
4. บอกทิศทางในการพัฒนาการ 4. ทศิ ทางในการพฒั นาการประกอบ 1.4 วทิ ยากรและผเู้ รยี นรว่ มกนั วเิ คราะหว์ เิ คราะห์
ประกอบอาชพี ธุรกจิ เสรมิ สวย อาชีพธุรกิจเสรมิ สวย ทิศทางในการพัฒนาการประกอบอาชีพ
ธรุ กจิ เสรมิ สวย
2. ทักษะการประกอบ 1. บอกจรรยาบรรณการเป็นช่าง 1. จรรยาบรรณการเปน็ ชา่ งเสรมิ สวย 1. วทิ ยากรบรรยายจรรยาบรรณของการเปน็ 2
อาชพี ธรุ กิจเสริมสวย เสรมิ สวยที่ดีได้ ทดี่ ี ช่างเสริมสวยท่ีดี เปิดโอการให้ผู้เรียนร่วม 4
2. บอกข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับธุรกิจ 2. ข้อมูลพ้ืนฐานของอาชีพธุรกิจ แสดงความคิดเห็นและร่วมกันสรุปองค์
เสรมิ สวยได้ ช่างเสรมิ สวย ความร้ทู ี่ได้
3. อธิบาย และปฏิบัติตามเทคนิค 2. วทิ ยากรบรรยายขอ้ มลู พนื้ ฐานเกย่ี วกบั ธรุ กจิ
ตา่ งๆของการท�ำผม การแต่งหน้า เสริมสวย เปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงความ
การบ�ำรงุ ผวิ พรรณ การท�ำเลบ็ ได้ คดิ เห็นและรว่ มกันสรปุ องค์ความร้ทู ีไ่ ด้
307
เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนื้อหา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนช่วั โมง 308
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
3. อปุ กรณแ์ ละเทคนคิ ตา่ งๆ การท�ำผม 3. วิทยากรบรรยายความรู้และเทคนิคต่างๆ 56
การแต่งหน้า การบ�ำรุงผิวพรรณ ของการท�ำผม การแต่งหน้า การบ�ำรุงผิว
และการท�ำเล็บ พรรณ การท�ำเล็บ พร้อมทั้งสาธิตข้ันตอน
3.1 การท�ำผม และใหผ้ เู้ รียนฝึกปฏบิ ตั ิจรงิ รวมทงั้ ร่วมกนั 22
- การปฏิบัติต่อเส้นผม และ แสดงความคดิ เหน็ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ และ
ดูแลหนงั ศีรษะ สรปุ องคค์ วามรู้ทีไ่ ด้
- การสระผมอย่างถกู วธิ ี 4. ฝึกปฏิบัติจริงกับสถานประกอบการ ที่
- ก ารเซท็ ผม การหวี และไดร์ ด�ำเนินการเกีย่ วกับเร่อื งธุรกจิ เสริมสวย
ผม ด้วยวธิ กี ารต่างๆ
- การถกั เปีย เปยี เกลียว เปีย
นนู เปียวน เปียสอดริบบ้นิ
- การดดั ผม แบบรอ้ น แบบเยน็
การดัดด้วยแกนธรรมดา
และแกนพิเศษชนิดต่างๆ
- ก ารย้อม โกรกผม และการ
เปลีย่ นสตี ามแนวนิยม
- ก ารยดื ผมถาวร(REBONDING)
- ก ารตัดซอยผมเป็นทรง
ต่างๆ ด้วย กรรไกรซอย
มดี โกน และปัดตะเลี่ยน
- การเกล้าผมตามสมัยนิยม
การท�ำผมเจา้ สาว และการ
ท�ำผมผ้เู ขา้ ประกวด
เรือ่ ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้ือหา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชวั่ โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
3.2 ก ารแต่งหน้าแบบแฟช่ัน งาน 24
กลางวัน-กลางคืน เจ้าสาวและ
แฟนซี
3.3 ก ารบ�ำรุงผิวพรรณด้วยเครื่อง
ส�ำอาง สมุนไพร สารธรรมชาติ
ต่างๆ และ-การนวด อบ ขัด
หน้า-ตัวดว้ ยสมุนไพร
3.4 การท�ำเล็บและแตง่ เลบ็ ทถี่ ูกวธิ ี
3. การบรหิ ารจดั การใน 1. สามารถบริหารจัดการในการ 1. การเลอื กท�ำเลที่ตั้งร้าน 1. วิทยากรอธิบายความแตกต่างการเลือก 2 2
การประกอบอาชีพ ประกอบอาชีพธุรกิจเสริมสวย 2. การจัดและตกแต่งรา้ น ท�ำเลท่ีตั้งร้าน การจัด ตกแต่งหน้าร้าน 1 2
ธรุ กจิ เสริมสวย 2. สามารถก�ำหนดรูปแบบในการ 3. การคิดราคาต้นทุนและการ การคิดราคาต้นทุน การวิเคราะห์จุดคุ้ม
ประกอบอาชีพธุรกิจเสรมิ สวยได้ วิเคราะหจ์ ดุ คุ้มทุน ทุน ประเภทและแหล่งของความเสี่ยง จิต
4. ประเภทและแหลง่ ของความเสยี่ ง บริการ การตลาดความแตกต่างระหว่าง
5. จิตบรกิ าร การขายและการใหบ้ ริการ
6. การขาย/การบรกิ าร 2. ผู้เรียนฝึกปฏิบัติก�ำหนดรูปแบบในการ
7. การสง่ เสรมิ การขาย /การบริการ ประกอบอาชีพธุรกจิ เสริมสวย
8. การท�ำบญั ชีร้านค้าอยา่ งง่าย
9. รูปแบบการประกอบอาชีพธุรกิจ
เสริมสวย
309
เรื่อง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนอื้ หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชัว่ โมง 310
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
4. โครงการประกอบ 1. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นบอกความส�ำคญั ของ 1. ความส�ำคัญของโครงการอาชีพ 1. ให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ เรื่อง 1 2
อาชีพธุรกิจเสรมิ สวย โครงการอาชีพได้ 2. การวางแผนและการเขียนโครงการ ความส�ำคญั ของโครงการอาชีพ ประโยชน์
4.1 ความรู้เบ้ืองต้น 2. เพื่อให้ผู้เรียนวางแผนการเขียน แผนธรุ กจิ ของโครงการอาชพี และองคป์ ระกอบของ
เ ก่ี ย ว กั บ โครงการ แผนธุรกิจได้ 3. ประโยชน์ของโครงการอาชพี โครงการอาชีพ
โครงการอาชีพ 3. เพ่ือให้ผู้เรียนบอกประโยชน์ของ 4. องคป์ ระกอบของโครงการอาชพี 2. ผเู้ รยี นและวทิ ยากรรว่ มสนทนาแลกเปลยี่ น
ก า ร ว า ง แ ผ น โครงการอาชีพได้ ข้อมลู ความคดิ เหน็ พรอ้ มท้งั ฝึกปฏิบัติ
และแผนธุรกจิ 4. เพื่อให้ผู้เรียนบอกองค์ประกอบ 3. วทิ ยากรและผเู้ รยี นรว่ มกนั สรปุ องคค์ วามรู้
ของโครงการอาชพี ได้ ทไ่ี ด้
5. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นอธบิ ายองคป์ ระกอบ
ของโครงการอาชพี ได้
4.2 ก ารเขียนและ 1. เพ่ือให้ผู้เรียนอธิบายลักษณะการ 1. การเขยี นโครงการอาชีพ 1. ให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ เรื่อง 2 7
ก า ร ป ร ะ เ มิ น เขยี นโครงการอาชพี ท่ดี ี 2. การประเมินความเหมาะสมและ การเขยี นโครงการอาชพี
โครงการอาชพี 2. เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถเขียน ความสอดคล้องของโครงการ 2. ผเู้ รยี นและวทิ ยากรรว่ มสนทนาแลกเปลยี่ น
โครงการอาชีพได้เหมาะสมและ อาชพี ข้อมลู ความคดิ เหน็
ถกู ต้อง 3. ใหผ้ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารเขยี นโครงการอาชพี
3. เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถตรวจ 4. ให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการประเมินความเหมาะ
สอบความเหมาะสมและความ สมและสอดคลอ้ งของโครงการอาชพี
สอดคลอ้ งของโครงการอาชพี ได้ 5. วิทยากรประเมินโครงการอาชีพ แล้วให้
ผู้เรียนปรับปรุงโครงการอาชีพให้มีความ
เหมาะสมและถกู ต้อง
6. ให้ผู้เรียนเขียนโครงการอาชีพของตนเอง
เพื่อเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ
ด�ำเนนิ งานอาชีพ และใชใ้ นการด�ำเนินการ
ประกอบอาชีพต่อไป
311
หลกั สตู รรับจัดงานมืออาชีพ
จ�ำ นวน 80 ช่ัวโมง
กลุ่มอาชพี พาณชิ ยกรรมและบริการ
ความเป็นมา
สืบเนืองจากกระทรวงศึกษาธิการได้กำ�หนดยุทธศาสตร์ 2555 ภายใต้กรอบเวลา 2 ปี ท่ีจะพัฒนา
5 ศักยภาพของพื้นท่ีใน 5 กลุ่มอาชีพใหม่ให้สามารถแข่งขันได้ใน 5 ภูมิภาคหลักของโลก “รู้เขา รู้เรา เท่าทัน
เพ่ือแขง่ ขันได้ในเวทโี ลก” ตลอดจนกำ�หนดภารกจิ ทีจ่ ะยกระดับการจัดการศึกษาเพอ่ื เพ่ิมศกั ยภาพและขดี ความ
สามารถใหป้ ระชาชนไดม้ อี าชพี ทสี่ ามารถสรา้ งรายไดท้ มี่ น่ั คง มงั่ คง่ั มงุ่ พฒั นาคนไทยใหไ้ ดร้ บั การศกึ ษาเพอ่ื พฒั นา
อาชพี และการมงี านทำ�อยา่ งมีคณุ ภาพอยา่ งท่วั ถงึ และเทา่ เทียมกนั ประชาชนมรี ายได้ มีงานท�ำ อย่างยงั่ ยืน และ
มคี วามสามารถเชงิ การแขง่ ขนั ทงั้ ในระดบั ภมู ภิ าคอาเซยี นและระดบั สากล ดงั นนั้ การจดั การศกึ ษาอาชพี ในปจั จบุ นั
จะตอ้ งมงุ่ พฒั นาประชากรของประเทศใหม้ คี วามรคู้ วามสามารถ และทกั ษะในการประกอบอาชพี เนน้ การบรู ณาการ
ให้สอดคล้องกับศักยภาพด้านต่างๆ ซ่ึงเป็นการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในรูปแบบใหม่ท่ีสร้างความม่ันคงให้แก่
ประชาชนและประเทศชาติ ตลอดจนสามารถแกป้ ญั หาการวา่ งงานและสง่ เสรมิ ความเขม้ แขง็ ใหแ้ กเ่ ศรษฐกจิ ชมุ ชน
จากนโยบายและจุดเน้นในการดำ�เนินงานประจำ�ปีงบประมาณ 2555 ของกระทรวงศึกษาธิการ และ
สำ�นกั งาน กศน. ทมี่ งุ้ เนน้ การจดั การศกึ ษาอาชพี เพอ่ื การมงี านท�ำ ใน 5 กลมุ่ อาชพี ประกอบดว้ ย กลมุ่ อาชพี ดา้ น
เกษตรกรรม ดา้ นอตุ สาหกรรม ดา้ นพาณชิ ยกรรม ดา้ นความคดิ สรา้ งสรรค์ และดา้ นอ�ำ นวยการและอาชพี เฉพาะทาง
ซงึ่ เปน็ การศึกษาต่อเนื่องเพือ่ การพฒั นายง่ั ยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
การเลือกประกอบอาชพี ในภาวะเศรษฐกิจยคุ ปัจจุบัน จ�ำ เป็นต้องมขี อ้ มลู พ้นื ฐานในหลกั สูตรในหลายๆ
ด้าน ทั้งด้านการผลิต และความต้องการของตลาดแรงงานในสาขาอาชีพต่างๆ กลุ่มอาชีพสาขาพาณิชยกรรม
กเ็ ปน็ ทางเลอื กหนง่ึ ในการเลอื กประกอบอาชพี ส�ำ นกั งาน กศน.ไดด้ �ำ เนนิ การคดั เลอื กหลกั สตู รการประกอบอาชพี
ด้านพาณิชยกรรมมานำ�เสนอไว้เป็นตัวอย่างให้ผู้เรียนได้เลือกเรียนตามความสนใจ ฝึกปฏิบัติและนำ�ไปประกอบ
อาชพี สรา้ งรายได้อย่างทว่ั ถึงมคี วามมัน่ ใจในการน�ำ ความรู้และทักษะไปประกอบอาชีพ
การกำ�หนดเน้ือหาและช่ัวโมงในการเรียนหลักสูตรจะประกอบไปด้วยจำ�นวนช่ัวโมงของเนื้อหาความรู้
และการปฏิบัติเม่ือผู้เรียนเรียนจบหลักสูตรแล้วสามารถนำ�ความรู้และทักษะไปประกอบอาชีพสร้างรายได้ รวมทั้ง
สามารถน�ำ จ�ำ นวนชว่ั โมงทไี่ ดเ้ รยี นไปเทยี บโอน เปน็ ผลการเรยี นในรายวชิ าเลอื กของสาระการประกอบอาชพี ตาม
หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551
ปัจจุบันการดำ�เนินชีวิตประจำ�วันของกลุ่มคนส่วนใหญ่ มีเวลาจำ�กัดในการใช้ชีวิต และการท่ีจะต้องหา
รายไดเ้ ลยี้ งครอบครวั ดงั นน้ั หากมงี านพธิ กี ารตา่ ง ๆ ทจ่ี �ำ เปน็ ตอ้ งจดั เตรยี ม จงึ เปน็ ภาระทที่ �ำ ใหต้ อ้ งเสยี เวลาและ
ยงุ่ ยากในการจดั เตรยี มพธิ กี ารตา่ ง ๆ ท�ำ ใหบ้ คุ คลเหลา่ นนั้ หนั มาอาศยั กลมุ่ คนทมี่ คี วามรคู้ วามสามารถเฉพาะดา้ น
มาช่วยแก้ไขหรือดำ�เนนิ กิจกรรมแทนตามความต้องการของตนเองใหส้ �ำ เรจ็ ลงได้ อาชีพหรือธุรกิจรบั จัดงานตา่ ง ๆ
หรอื ทเี่ รยี กวา่ “ออแกไนซ”์ จงึ เปน็ ทนี่ ยิ มท�ำ กนั อยา่ งแพรห่ ลายในประเทศไทย ไมว่ า่ จะเปน็ งานมงคล งานอวมงคล
และงานเปดิ ตวั สนิ ค้า ฯลฯ นบั ไดว้ า่ เปน็ อาชพี หนง่ึ ทสี่ ามารถท�ำ รายไดใ้ หแ้ กต่ นเองและครอบครวั ตอ่ ไปในอนาคต
312
หลักการของหลกั สูตร
เปน็ หลกั สตู รทเ่ี นน้ การจดั การศกึ ษาอาชพี เพอื่ การมงี านท�ำ ทเ่ี นน้ การบรู ณาการเนอื้ หาสาระภาคทฤษฎี
ควบคู่ไปกับการฝึกปฏิบัติจริง ผู้เรียนสามารถนำ�ความรู้และทักษะไปประกอบอาชีพได้จริงอย่างมีคุณภาพและ
มีคณุ ธรรมจริยธรรม
เป็นหลักสูตรท่ีเน้นการดำ�เนินงานร่วมกับเครือข่าย สถานประกอบการ เพ่ือประโยชน์ในการประกอบ
อาชีพและการศึกษาดงู าน
เป็นหลักสูตรที่ผู้เรียนสามารถนำ�ผลการเรียนรู้ไปเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ
การศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ในรายวชิ าเลือกของสาระการประกอบอาชพี
เป็นหลักสูตรที่เน้นการใช้ศักยภาพ 5 ด้านในการประกอบอาชีพ ได้แก่ ศักยภาพด้านทรัพยากร
ภูมอิ ากาศ ภมู ิประเทศและทำ�เลท่ีตั้ง ศลิ ปวฒั นธรรมประเพณแี ละวถิ ีชีวติ และด้านทรัพยากรมนษุ ย์
จดุ หมาย
เพือ่ ให้ผู้เรยี นมคี ณุ ลักษณะดงั นี้
1. มคี วามรูแ้ ละทักษะในการประกอบอาชีพ สามารถสร้างรายไดท้ ม่ี น่ั คง มง่ั ค่งั
2. ตัดสินใจประกอบอาชีพให้สอดคล้องกับศักยภาพของตนเอง ชุมชน สังคม และส่ิงแวดล้อมอย่างมี
คุณธรรมจริยธรรม
3. มเี จตคติที่ดีในการประกอบอาชพี
4. มคี วามรูค้ วามเข้าใจและฝกึ ทักษะการบรหิ ารจดั การในอาชพี ไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ
5. มโี ครงการประกอบอาชีพเพ่อื ใชเ้ ปน็ แนวทางในการพัฒนาอาชพี ของตนเอง
กลุม่ เป้าหมาย
มี 2 กลมุ่ เป้าหมาย คอื
1. ผู้ท่ีไมม่ อี าชีพ
2. ผู้ท่มี ีอาชีพและต้องการพัฒนาอาชพี
ระยะเวลา 80 ชั่วโมง
30 ชั่วโมง
จ�ำ นวน 50 ชัว่ โมง
ภาคทฤษฎ ี
ภาคปฏิบัติ
313
โครงสร้างหลกั สตู ร
เรื่องท่ี 1 ช่องทางการประกอบอาชีพรับจัดงานมืออาชีพ จำ�นวน 6 ชว่ั โมง
1. ความสำ�คญั ในการเลอื กประกอบอาชีพ จ�ำ นวน 2 ชว่ั โมง
2. ความเปน็ ไปไดใ้ นการประกอบอาชีพอาชีพรับจัดงานมืออาชพี จำ�นวน 2 ชว่ั โมง
3. แหล่งเรยี นรใู้ นการประกอบอาชพี จ�ำ นวน 1 ช่ัวโมง
4. ทิศทางการพัฒนาการประกอบอาชพี รับจดั งานมอื อาชีพ จำ�นวน 1 ชว่ั โมง
เรอ่ื งท่ี 2 ทักษะการประกอบอาชีพอาชพี รบั จดั งานมืออาชีพ จำ�นวน 42 ชวั่ โมง
1. รปู แบบการจดั งาน จ�ำ นวน 16 ชั่วโมง
2. การโฆษณาประชาสัมพันธ ์ จ�ำ นวน 16 ชัว่ โมง
3. การน�ำ เสนอ จ�ำ นวน 10 ชั่วโมง
เร่อื งท่ี 3 การบรหิ ารจดั การในการประกอบอาชีพรบั จดั งานมอื อาชพี จ�ำ นวน 20 ช่ัวโมง
1. การบริหารจัดการ จำ�นวน 8 ชัว่ โมง
2. การตลาด จ�ำ นวน 6 ชั่วโมง
3. การเงนิ การบญั ชี จ�ำ นวน 6 ชว่ั โมง
เรอื่ งท่ี 4 โครงการประกอบอาชีพรับจดั งานมืออาชพี จ�ำ นวน 12 ช่ัวโมง
1. ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับการวางแผน แผนธุรกิจ การเขียนโครงการประกอบอาชีพเพื่อนำ�ไปสู่การ
ปฏิบตั ิจริง
2. การเชียนโครงการอาชีพ การตรวจสอบความเป็นไปได้ของโครงการประเมินโครงการและปรับปรุง
โครงการ
การจดั กระบวนการเรยี นรู้
1. การบรรยาย
2. การแลกเปล่ียนเรียนรู้
3. การศึกษาดงู าน
4. การฝกึ ปฏิบตั ิ
5. ศกึ ษาจากเอกสารสงิ่ พิมพ์ /ใบความรู้
6. ศกึ ษาจากผรู้ ู้ และภมู ปิ ญั ญาท้องถ่ิน
314
ส่ือการเรยี นรู้
1. เอกสาร / ใบความรู้
2. แหล่งเรียนร้ใู นชุมชน / วทิ ยากร / ภูมปิ ัญญาทอ้ งถิน่
3. Website
4. VCD
การวัดและประเมนิ ผล
1. การประเมนิ ความรภู้ าคทฤษฎีระหว่างเรยี นและจบหลักสูตร
2. การประเมนิ ผลระหวา่ งเรยี นจากการปฏบิ ตั งิ านทม่ี คี ณุ ภาพเพยี งพอ สามารถสรา้ งรายไดใ้ หก้ บั ตนเอง
ความส�ำ เร็จของการปฏบิ ตั แิ ละจบหลักสูตร
การจบหลักสูตร
1. มเี วลาเรยี นและฝกึ ปฏบิ ัติตามหลักสูตรไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80
2. มีผลการประเมินผ่านตลอดหลกั สตู ร ไม่น้อยกวา่ ร้อยละ 80
เอกสารหลักฐานการศกึ ษา
1. หลกั ฐานการประเมินผล
2. วุฒบิ ัตรออกโดยสถานศึกษา
3. ทะเบยี นคุมวุฒิบตั ร
การเทยี บโอน
ผู้เรียนท่ีจบหลักสูตรน้ีสามารถนำ�ไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ
การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 สาระการประกอบอาชพี รายวชิ าเลอื กทส่ี ถานศกึ ษาไดจ้ ดั ท�ำ ขนึ้ ในระดบั
ระดับหนง่ึ
รายละเอยี ดโครงสรา้ งหลกั สตู รบรกิ ารรบั จัดงานอย่างมอื อาชีพ
เรือ่ ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เน้ือหา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชัว่ โมง
ทฤษฎี ปฏิบัติ
1. ช่องทางการประกอบ 1.1 เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้/ทักษะ 1.1 ความส�ำ คญั ในการเลอื กประกอบ 1.1 วทิ ยากรอธบิ ายในการเลอื กชอ่ งทางอาชพี 2 -
อาชพี รบั จดั งานอยา่ ง และมีความพร้อมในการประกอบ อาชีพ ในอาชีพบริการรับจัดงานอย่างมืออาชีพ 2 -
มอื อาชพี อาชีพรับจัดงานอย่างมืออาชีพ 1.2 ความเป็นไปได้ในการประกอบ 1.2 วิทยากรอธิบายเก่ียวกับธุรกิจจัดงาน
ได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ อาชีพธุรกิจบริการรับจัดงาน อย่างมืออาชีพสามารถสร้างรายได้อย่าง 1 -
อยา่ งมืออาชีพ มน่ั คง 1 -
1.3 แหล่งเรียนรู้การประกอบอาชีพ 1.3 วทิ ยากรอธิบายแหล่งสำ�รวจขอ้ มลู เบื้องตน้
รบั จดั งานอยา่ งมืออาชพี 1.4 ครูและผู้เรียนร่วมกันอภิปรายเก่ียวกับ
1.3 ทิศทางในการเลือกประกอบ ทิศทางไปสูการพัฒนาอาชีพอย่างถูกวิธี
อาชพี รับจัดงานอยา่ งมืออาชีพ และสรุปองคค์ วามรทู้ ่ไี ด้
2. ทักษะการประกอบ 2.1 สามารถอธบิ ายรายละเอยี ดสว่ น 2.1 การจัดเตรียมข้อมูลรูปแบบการ 2.1 วิทยากรปฏิบัติและนำ�เข้าสู่เนื้อหาในการ 4 10
อาชพี รบั จดั งานอยา่ ง ประกอบและประเภท ประโยชน์ จัดงานต่าง ๆ ปฏิบตั จิ ริง 4 10
มอื อาชพี ของอาชพี การรบั จดั งานอยา่ งมอื 2.2 การเตรียมเอกสารประกอบการ 2.2 วทิ ยากรบรรยายพรอ้ มกระตนุ้ ใหเ้ กดิ ความ
อาชพี โฆษณา/ประชาสมั พนั ธ์ มนั่ ใจในการปฏิบัตจิ รงิ 4 10
2.2 อธบิ ายรปู แบบของการโฆษณา/
ประชาสมั พนั ธ์
2.3 บอกวิธีการนำ�เสนอรูปแบบการ 2.3 การเตรียมเอกสาร/สื่อประกอบ 2.3 ให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติจริงจนเกิดทักษะและ
จดั งานต่าง ๆ ได้อยา่ งถกู ต้อง การน�ำ เสนองาน สามารถใช้เอกสารและสื่อวัสดุ/อุปกรณ์
อนื่ ๆ ไดใ้ นการน�ำ เสนอตามรูปแบบของ
การจดั งานต่าง ๆ ได้
315
เร่อื ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนอ้ื หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนช่ัวโมง 316
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
3. การบรหิ ารจดั การใน 3.1 สามารถบรหิ ารจดั การการรับจดั 3.1 การบรหิ ารจดั การการรับจดั งาน 3.1 วทิ ยากรบรรยายสาระความรใู้ หเ้ กดิ ความ 4 4
การรับจัดงานอย่าง งานอย่างมืออาชีพได้อย่างมี อยา่ งมืออาชพี ชดั เจนในการปฏิบัตจิ รงิ 3 3
มอื อาชพี ประสทิ ธภิ าพ 3.2 การบรหิ ารจดั การการตลาดกลมุ่ 3.2 วิทยากรบรรยายการบริหารจัดการการ 3 3
3.2 สามารถบริหารจัดการการตลาด เปา้ หมาย และการจดั ระบบฐาน ตลาดและการจัดทำ�ฐานข้อมูลของกลุ่ม
การรับจัดงานอยา่ งมอื อาชพี ได้ ข้อมูล เปา้ หมาย
3.3 บอกแหล่งท่ีมาของทรัพยากร 3.3 การสำ�รวจและศึกษาตลาด 3.3 วิทยากรบอกแหล่งจัดหาทรัพยากรและ
และวสั ดุ/อุปกรณ์ได้ ทรพั ยากร วัสดุ/อุปกรณ์ พร้อมทั้งบรรยายรูปแบบ
3.4 สามารถบริหารการเงินและการ 3.4 การบรหิ ารการเงนิ และการบญั ชี ต่าง ๆ ของบริการที่สามารถพัฒนา
บญั ชีได้ ในการรับจดั งานอยา่ งมืออาชีพ ออกแบบขนึ้ มาใหม่ได้
4. โครงการประกอบ 1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นบอกความส�ำ คญั ของ 1. ความสำ�คญั ของโครงการอาชพี 1. ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเนอ้ื หาจากใบความร ู้ เรอ่ื ง 1 2
อาชีพการรับจัดงาน โครงการอาชพี ได้ 2. การวางแผนและการเขียน ความสำ�คัญของโครงการอาชีพ ประโยชน์
มอื อาชพี 2. เพ่ือให้ผู้เรียนวางแผนการเขียน โครงการ แผนธุรกจิ ของโครงการอาชีพ และองค์ประกอบของ
4.1 ค วามรู้เบ้ืองต้น โครงการ แผนธรุ กจิ ได้ 3. ประโยชน์ของโครงการอาชพี โครงการอาชพี
เ ก่ี ย ว กั บ ก า ร 3. เพ่ือให้ผู้เรียนบอกประโยชน์ของ 4. องคป์ ระกอบของโครงการอาชพี 2. ผเู้ รยี นและวทิ ยากรรว่ มสนทนาแลกเปลย่ี น
วางแผน แผน โครงการอาชพี ได้ ขอ้ มลู ความคดิ เหน็
ธุรกิจ การเขียน 4. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นบอกองคป์ ระกอบของ 3. ผเู้ รยี นสรปุ ความรู้
โครงการประกอบ โครงการอาชพี ได้
อาชีพเพ่อื นำ�ไป 5. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นอธบิ ายองค์ -ประกอบ
สกู่ ารปฏบิ ตั จิ รงิ ของโครงการอาชพี ได้
เร่อื ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนอื้ หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชั่วโมง
ทฤษฎี ปฏิบัติ
4.2 การเขียนและ 1. เพื่อให้ผู้เรียนอธิบายลักษณะการ 1. การเขียนโครงการอาชีพ 1. ให้ผู้เรียนศึกษาเนื้อหาจากใบความรู้ 2 7
ก า ร ป ร ะ เ มิ น เขียนโครงการอาชพี ท่ีดี 2. การประเมินความเหมาะสม เร่ืองการเขยี นโครงการอาชพี
โครงการอาชพี 2. เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถเขียน และความสอดคลอ้ งของโครงการ 2. ผเู้ รยี นและวทิ ยากรรว่ มสนทนาแลกเปลย่ี น
โครงการอาชีพได้เหมาะสมและ อาชพี ขอ้ มูลความคิดเห็น
ถกู ต้อง 3. ใหผ้ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารเขยี นโครงการอาชพี
3. เพื่อให้ผู้เรียนสามารถตรวจสอบ 4. ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการประเมินความเหมาะ
ความเหมาะสมและความ สมและสอดคลอ้ งของโครงการอาชีพ
สอดคล้องของโครงการอาชีพได้ 5. วิทยากรประเมินโครงการอาชีพ แล้วให้
ผู้เรียนปรับปรุงโครงการอาชีพให้มีความ
เหมาะสมและถูกต้อง
6. ให้ผู้เรียนเขียนโครงการอาชีพของตนเอง
เพื่อเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ
ดำ�เนินงานอาชีพ และใชใ้ นการดำ�เนนิ การ
ประกอบอาชีพต่อไป
317
กล่มุ อาชพี ความคดิ สร้างสรรค์
319
หลักสูตร การออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์สินคา้
จำ�นวน 60 ช่วั โมง
กลุ่มอาชพี ความคดิ สร้างสรรค์
ความเปน็ มา
ในปัจจุบันการบรรจุภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามามีบทบาทในการผลิตสินค้าโดยมีการคิดค้นและประดิษฐ์
บรรจภุ ณั ฑใ์ นรปู แบบตา่ งๆเพอ่ื สนองความตอ้ งการในแตล่ ะกรณี เชน่ ใชใ้ บไมม้ าท�ำ กระทงหอ่ ขนมไทย น�ำ กง่ิ ไม/้
เปลอื กไมม้ าสานเปน็ ชะลอม ตะกรา้ เปน็ ตน้ ซง่ึ บรรจภุ ณั ฑเ์ หลา่ นเ้ี ปน็ พนื้ ฐานมาจากการคดิ คน้ จากวสั ดธุ รรมชาติ
ปัจจุบันการแข่งขันทางธุรกิจเก่ียวกับการขายสินค้ามีมากขึ้น จึงต้องมีการพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อให้มีความ
แปลกใหมแ่ ละดึงดูดความสนใจของผผู้ ลติ สนิ ค้าและบคุ คลทว่ั ไป
ดังนั้น สถานศึกษาจึงได้เห็นความสำ�คัญในเร่ืองการออกแบบบรรจุภัณฑ์ จึงสนับสนุนและส่งเสริมให้
กลมุ่ เปา้ หมายใหม้ คี วามรเู้ รอื่ งการออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ โดยการพฒั นาหลกั สตู ร ใหผ้ เู้ รยี นไดม้ คี วามรแู้ ละออกแบบ
บรรจภุ ัณฑ์ เพื่อเพ่มิ มลู ค่าให้กับสนิ ค้าและเพิม่ ความสามารถในการแขง่ ขนั ทางธรุ กจิ การผลติ สนิ ค้า
หลกั การของหลักสตู ร
1. เปน็ หลกั สตู รทีเ่ น้นความคดิ สร้างสรรค์ดา้ นการออกแบบบรรจภุ ัณฑ์เพอ่ื เพม่ิ มูลค่าสินคา้
2. เป็นหลักสูตรทีส่ ามารถน�ำ ไปประกอบอาชพี และสร้างรายได้
3. เปน็ หลักสตู รสง่ เสริมการพัฒนาด้านศิลปะ
จุดหมาย
1. เพื่อให้ผู้เรียนมคี วามรคู้ วามเข้าใจงานศลิ ปะและการออกแบบ
2. เพอ่ื ใหส้ ามารถออกแบบผลติ ภัณฑ์ให้เหมาะสมกับผลติ ภัณฑ/์ สนิ คา้
3. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมที กั ษะอาชพี ทส่ี ามารถสรา้ งรายไดใ้ หก้ บั ตนเองและครอบครวั ไดอ้ ยา่ งมง่ั คง่ั และมน่ั คง
กลุ่มเปา้ หมาย
กลมุ่ เป้าหมายคือประชาชนกลมุ่ เป้าหมายนอกระบบโรงเรียน
1. ผทู้ ี่ไม่มอี าชพี
2. ผทู้ ี่มีอาชีพและตอ้ งการพฒั นาอาชีพ
3. ผู้ท่ีมีอาชพี หรือต้องการเปลยี่ นอาชีพ
ระยะเวลา จำ�นวน 60 ชั่วโมง
320
โครงสรา้ งหลักสูตร จ�ำ นวน 10 ชั่วโมง
1. ช่องทางการประกอบอาชีพ
1.1 วิธกี ารออกแบบบรรจภุ ัณฑ ์
1.2 ศกึ ษาดงู านสถานทีอ่ อกแบบบรรจภุ ณั ฑ์
1.3 ความส�ำ คัญของการออกแบบบรรจุภณั ฑ์
2. ทักษะการประกอบอาชีพ จ�ำ นวน 30 ชวั่ โมง
2.1 ความรู้เบอื้ งตน้ เก่ยี วกับการออกแบบบรรจภุ ัณฑ์
2.1.1 ความสำ�คญั ของการบรรจุภณั ฑ์
2.1.2 หลักการออกแบบบรรจุภัณฑ์แตล่ ะประเภท
2.2 การจำ�แนกและชนดิ ของบรรจภุ ณั ฑต์ ามการใช้งาน
2.2.1 วัสดุประเภทกระดาษ ขวดพลาสตกิ กระป๋องโลหะ ขวดแก้ว
2.2.2 การเลือกวสั ดุในการทำ�บรรจภุ ณั ฑ์
2.2.3 ใชว้ ัตถุดิบสำ�หรบั สร้างบรรจุภณั ฑ์
2.3 แนวทางการออกแบบบรรจภุ ัณฑ์
- การออกแบบรปู ทรงบรรจุภัณฑ์
2.4 การออกแบบตวั อักษร
2.5 การออกแบบฉลาก
2.6 การออกแบบภาพประกอบ
2.7 การออกแบบสแี ละลวดลาย
3. การบริหารจดั การในการประกอบอาชพี จำ�นวน 10 ช่ัวโมง
3.1 ความรเู้ กีย่ วกับการบริหารจดั การ
3.1.1 กฎหมายท่ีเก่ยี วข้อง
3.1.2 คณุ ธรรมของผปู้ ระกอบการ
3.1.3 การตลาด
3.2 การสำ�รวจและการวิเคราะหก์ ลุ่มเปา้ หมาย
3.3 การส่งเสรมิ การผลิต/การขาย
3.4 ท�ำ เล และแหล่งประกอบอาชีพ
3.5 การประชาสมั พนั ธ์
3.6 การจัดการทรัพยากร
3.6.1 การคัดแยกวสั ดุเหลือใช้
3.6.2 การทำ�ลายและการน�ำ กลบั มาใชใ้ หม่
3.7 การจดั การความเสยี่ ง
321
4. โครงการประกอบอาชีพ จ�ำ นวน 10 ชั่วโมง
4.1 ความส�ำ คัญของโครงการประกอบอาชีพการบรรจุภัณฑ์สินคา้
4.2 ประโยชนข์ องโครงการประกอบอาชีพการบรรจุภณั ฑส์ ินค้า
4.3 องค์ประกอบของโครงการประกอบอาชีพการบรรจุภณั ฑส์ ินคา้
4.4 การเขยี นโครงการการบรรจภุ ัณฑ์สินค้า
4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของโครงการการบรรจุภัณฑ์สนิ ค้า
การจัดกระบวนการเรียนรู้
1. ช่องทางการประกอบอาชีพ
1.1 วิทยากรให้ความรูห้ ลักการ/วธิ กี ารออกแบบบรรจุภณั ฑ์
1.2 ศึกษาขอ้ มลู จากแหล่เรยี นร้ตู ่างๆ เชน่ หา้ งสรรพสนิ คา้ งานแสดงสนิ ค้า
1.3 วิเคราะหข์ อ้ มูลและสรุปความรทู้ ่ีไดจ้ ากการศึกษาดงู านจากแหลง่ เรียนรู้
2. ทกั ษะการประกอบอาชพี
2.1 วทิ ยากรใหค้ วามรู้/สาธติ การออกแบบบรรจุภณั ฑ์สนิ ค้า
2.2 ให้ผเู้ รยี นฝกึ ปฎิบัติการออกแบบบรรจุภัณฑ์สนิ ค้าแบบต่างๆ
2.3 ให้ผเู้ รียนได้แลกเปลยี่ นเรียนรู้รว่ มกัน
3. การบรหิ ารจัดการอาชีพ
3.1 ศกึ ษาข้อมลู การตลาด วเิ คราะห์ความตอ้ งการของตลาด
- ส�ำ นักงานพาณชิ ยจ์ งั หวัด/อตุ สาหกรรม/หอการคา้
- งานแสดงสินค้า
3.2 การประชาสัมพนั ธ์
- แผ่นพับโฆษณา
- เว็บไซดจ์ ังหวัด
3.3 การท�ำ บญั ชี
- การคิดราคาตน้ ทุนก�ำ ไร
- การท�ำ บัญชรี ายรบั – รายจ่าย
- การเพ่มิ ทนุ /กำ�ไร
3.4 การจัดการความเส่ยี ง
ส่ือการเรียนรู้
1. สอื่ บคุ คล ไดแ้ ก่ นักออกแบบผลิตภณั ฑ์
2. แหล่งเรียนรใู้ นทอ้ งถิน่ /สถานประกอบการ
3. สงิ่ พิมพ์ ไดแ้ ก่ หนังสือการออกแบบ แผ่นพับ
4. เว็บไซดก์ ารออกแบบ
322
การวดั และประเมนิ ผล
1. การประเมนิ ความร้ภู าคทฤษฎีกอ่ นเรียนและหลังเรียน
2. การประเมนิ ความรูภ้ าคทฤษฎรี ะหว่างเรยี นและจบหลกั สูตร
3. การประเมินผลงานระหว่างเรียนจาการปฏิบัติ ได้ผลงานที่มีคุณภาพสามารถสร้างรายได้ และ
จบหลักสูตร
การจบหลกั สูตร
1. มเี วลาเรียน ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80
2. มีผลการประเมินตลอดหลักสตู ร ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 60
3. มผี ลงานท่ีมีคุณภาพ
เอกสารหลักฐานการศึกษา
1. หลกั ฐานการประเมินผล
2. ทะเบยี นคมุ วุฒิบัตร
3. วุฒบิ ตั รการศึกษา ออกโดยสถานศึกษา
การเทียบโอน
ผู้เรียนท่ีจบหลักสูตรนี้สามารถนำ�ไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ
การศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี วิชาเลือกท่สี ถานศึกษาไดจ้ ดั ท�ำ ขึ้น
รายละเอยี ดโครงสรา้ งหลกั สูตรการออกแบบบรรจุภณั ฑ์สนิ ค้า
เร่อื ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนื้อหา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนช่วั โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
1. ช่องทางการประกอบ 1. ผู้เรียนสามารถบอกความสำ�คัญของ 1. วิธีการออกแบบบรรจุภณั ฑ ์ 1. ว ิทยากรให้ความรู้วิธีการออกแบบ 3 7
อาชพี การประกอบอาชีพการออกแบบ 2. ศ กึ ษาดูงานสถานท่อี อกแบบบรรจภุ ัณฑ์ บรรจภุ ณั ฑ์
บรรจุภณั ฑ์ 3. ค วามส�ำ คญั ของการออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์ 2. ศ ึกษาขอ้ มลู จากแหล่งเรยี นรู้ ภมู ปิ ญั ญา
2. สามารถอธิบายวิธีการออกแบบ สอ่ื อเิ ลค็ ทรอนคิ ส์ เอกสาร สถาน-
บรรรจภุ ณั ฑไ์ ด้ ประกอบการ สถานท่ีจัดจำ�หน่าย
3. ส รุปความรู้ท่ีได้จากการศึกษาดูงาน
จากแหลง่ เรียนรู้ /ศูนย์แสดงสนิ คา้
2. ท ักษะการประกอบ 1. ผ ู้เรียนสามารถบอกความสำ�คัญของ 1. ค วามรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับการออกแบบ 1. วิทยากรให้ความรู้หลักการ/วิธีการ 9 21
อาชพี บรรจภุ ัณฑ์ได้ บรรจภุ ัณฑ์ ออกแบบบรรจภุ ัณฑ์สินค้า
2. ผ ู้เรียนสามารถบอกหลักการออกแบบ 1.1 ความส�ำ คญั ของการบรรจภุ ณั ฑ์ 2. ว ทิ ยากรสาธติ วธิ กี ารออกแบบบรรจภุ ณั ฑ์
บรรจุภัณฑ์แตล่ ะประเภท 1.2 ห ลักการออกแบบบรรจุภัณฑ์ สินค้า
3. ผ ู้เรียนสามารถบอกความสำ�คัญใน แตล่ ะประเภท 3. ให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการออกแบบ
การออกแบบบรรจุภัณฑไ์ ด้ 2. การจำ�แนกและชนิดของบรรจุภัณฑ์ บรรจุภณั ฑ์สนิ ค้าแบบอยา่ ง
4. สามารถเลอื กวสั ดุการบรรจุภัณฑ์ได้ ตามการใชง้ าน 4. ใ ห้ผู้เรียนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน
2.1 ว สั ดปุ ระเภทกระดาษ ขวดพลาสตกิ เช่นการออกแบบรปู ทรงต่างๆ เช่น
กระปอ๋ งโลหะ ขวดแก้ว สามเหล่ยี ม ส่ีเหลย่ี ม
2.2 ก ารเลอื กวสั ดใุ นการท�ำ บรรจภุ ณั ฑ์
2.3 ใช้วตั ถุดิบส�ำ หรับสร้างบรรจุภณั ฑ์
323
เรื่อง จุดประสงค์การเรียนรู้ เน้อื หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชวั่ โมง 324
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
3. แนวทางการออกแบบบรรจุภณั ฑ์
3.1 การออกแบบรปู ทรงบรรจภุ ณั ฑ์
3.2 การออกแบบตัวอักษร
3.3 การออกแบบฉลาก
3.4 การออกแบบภาพประกอบ
3.5 การออกแบบสี
3. ก ารบริหารจัดการใน 1. ส ามารถบริหารจัดการในการประกอบ 1. ความรเู้ กี่ยวกับการบริหารจดั การ 1. ศกึ ษาขอ้ มลู การตลาด วเิ คราะหค์ วาม 5 5
การประกอบอาชีพ อาชีพออกแบบบรรจภุ ัณฑ์ได้ 1.1 ก ฎหมายทเี่ กยี่ วขอ้ ง เชน่ ลขิ สทิ ธิ์ ต้องการของตลาด
- ก ฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง เช่นลิขสิทธิ์ การเสยี ภาษี - ศูนย์ 0 T0P
การเสยี ภาษี 1.2 คณุ ธรรมของผู้ประกอบการ - ศนู ยฝ์ กึ อาชีพในชุมชน
- คณุ ธรรมของผปู้ ระกอบการ 1.3 การตลาด 2. ประชาสัมพันธ์
- การตลาด 2. ก ารสำ�รวจและการวิเคราะห์ กลุ่ม - แผ่นพบั โฆษณา
2. สำ �รว จ แ ล ะ กา รวิ เครา ะ ห์ กลุ่ม เปา้ หมาย - เวบ็ ไซดอ์ �ำ เภอ
เปา้ หมายได้ 3. การสง่ เสรมิ การผลติ /การขาย 3. ทำ�บญั ชี
3. ส่งเสรมิ การผลิต/การขายได้ 4. ท�ำ เล และแหล่งประกอบอาชพี - การคดิ ราคาต้นทุนกำ�ไร
4. เลอื กท�ำ เล และแหลง่ ประกอบอาชพี ได้ 5. การประชาสมั พนั ธ์ - การท�ำ บญั ชีรายรบั – รายจา่ ย
5. ประชาสัมพนั ธ์ได้ 6. การจัดการทรพั ยากร 4. ว ทิ ยากรอธบิ ายการควบคุมและจดั การ
6. จดั การทรัพยากรได้ 6.1 การคัดแยกวัสดเุ หลือใช้ ความเส่ียงในอาชีพการออกแบบ
- คัดแยกวัสดเุ หลอื ใช้ 6.2 การท�ำ ลายและการน�ำ กลบั มาใช้ บรรจภุ ณั ฑ์
- ท�ำ ลายและการน�ำ กลับมาใชใ้ หม่ ใหม่
7. ส ามารถควบคมุ และจดั การความเสยี่ ง 7. การจัดการความเสยี่ ง
ในอาชีพการออกแบบบรรจุภัณฑ์ได้
เรื่อง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้อื หา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนช่วั โมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
4. โครงการประกอบ 1. บ อกความสำ�คัญของโครงการอาชีพ 1. ความสำ�คัญของโครงการอาชีพ 1. จ ดั ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเนือ้ หาจากใบความรู้ 6 4
อาชพี การบรรจุภณั ฑส์ ินค้าได้ การบรรจภุ ัณฑส์ นิ คา้ เรื่อง ความสำ�คัญของโครงการอาชีพ
2. บอกประโยชน์ของโครงการอาชีพ 2. ป ระโยชน์ของโครงการอาชีพ การบรรจภุ ณั ฑส์ นิ คา้ และประโยชนข์ อง
การบรรจุภัณฑส์ ินคา้ ได้ การบรรจภุ ัณฑ์สินคา้ โครงการอาชพี องคป์ ระกอบของโครงการ
3. บ อกองคป์ ระกอบของโครงการอาชพี 3. องค์ประกอบของโครงการประกอบ อาชีพ แล้วจัดกิจกรรมการสนทนา
การบรรจภุ ณั ฑส์ นิ คา้ ไดก้ ารบรรจภุ ณั ฑ์ อาชีพการบรรจุภณั ฑ์สินค้า แลกเปลี่ยนข้อมูลความคิดเห็น เพื่อสร้าง
สินคา้ ได้ 4. การเขยี นโครงการอาชีพ การบรรจภุ ณั ฑ์ แนวคดิ ในการด�ำ เนนิ กจิ กรรมการเรยี นรู้
4. อธบิ ายความหมายขององคป์ ระกอบ สินค้า 2. จ ัดให้ผู้เรียนศึกษาสาระข้อมูลจากใบ
ของโครงการอาชีพการบรรจุภัณฑ์ 5. การประเมินความเหมาะสมและ ความรู้ เร่ืองตัวอย่างการเขียนโครงการ
สินคา้ ได้ สอดคล้องของโครงการอาชีพการ อาชพี ทดี่ ี เหมาะสม และถกู ตอ้ ง พรอ้ ม
5. อ ธิบายลักษณะการเขียนท่ีดีของ บรรจุภณั ฑ์สินคา้ จดั การอภปิ ราย เพ่ือสรุปแนวคิดเป็น
องคป์ ระกอบของโครงการอาชพี การ แนวทางในการเขียนโครงการอาชีพ
บรรจุภณั ฑส์ ินคา้ ได้ ทด่ี ี เหมาะสม และถูกตอ้ ง
6. เขียนโครงการในแต่ละองค์ประกอบ 3. จัดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติ การเขียน
ให้เหมาะสมและถูกตอ้ งได้ โครงการอาชพี การบรรจุภณั ฑ์สินคา้
7. ต รวจสอบความเหมาะสมและ 4. ก �ำ หนดใหผ้ ูเ้ รยี นฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารประเมิน
ส อ ด ค ล้ อ ง ข อ ง โ ค ร ง ก า ร อ า ชี พ ความเหมาะสมและสอดคล้องของ
การบรรจุภัณฑ์สินคา้ ได้ โครงการอาชีพการบรรจภุ ัณฑ์สนิ ค้า
5. จัดให้ผู้เรียนปรับปรุงโครงการอาชีพ
ให้มคี วามเหมาะสมและถูกตอ้ ง
6. ก�ำ หนดใหผ้ เู้ รยี นเขยี นโครงการอาชพี
ของตนเอง เพ่ือเสนอขอรับการสนบั สนุน
งบประมาณดำ�เนินงานอาชีพ และใช้
ในการดำ�เนนิ การประกอบอาชีพต่อไป 325
326
หลักสตู ร การสรา้ งโอ่งก๊าชชวี ภาพ
จ�ำ นวน 142 ชวั่ โมง
กลมุ่ อาชีพความคดิ สรา้ งสรรค์
ความเป็นมา
ปัจจุบันทั่วโลกมีการเจริญเติบโตทั้งทางด้านเศรษฐกิจและมีการเพ่ิมข้ึนของประชากร ส่งผลให้มี
ความต้องการใช้พลังงานเพ่ิมมากข้ึน ก่อให้เกิดปัญหาการขาดแคลนพลังงานและเกิด ปัญหามลพิษจากการ
ใช้พลังงาน ซึ่งมีผลกระทบต่อดิน น�้ำ และอากาศ ท้ังน้ีของเสียส่วนหนึ่งท่ีนับวันจะมีปริมาณเพ่ิมข้ึน คือ ของ
เสียจากชุมชน การท�ำฟาร์มปศุสัตว์ การท�ำการเกษตร และจากภาคอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งของเสียเหล่านี้
สว่ นใหญเ่ ปน็ อนิ ทรยี ว์ ตั ถุ ในสภาวะไรอ้ ากาศในสภาวะธรรมชาตจิ ลุ นิ ทรยี ส์ ามารถยอ่ ยสลายอนิ ทรยี ว์ ตั ถเุ หลา่ นไี้ ด้
และเกิดเป็นก๊าซชีวภาพท่ีประกอบด้วยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซมีเทน การย่อยสลายตามธรรมชาติใน
ภาวะเปิดนี้ ก๊าซชีวภาพท่ีเป็นก๊าซมีเทนถูกปลดปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้เกิดภาวะเรอื นกระจกท�ำใหโ้ ลก
มอี ณุ หภมู สิ งู ขนึ้ แตถ่ า้ มกี ารกกั เกบ็ กา๊ ซมเี ทนดว้ ยการใชร้ ะบบการผลติ แบบปดิ ไว้เพ่ือน�ำกลับมาใช้ เป็นเช้ือเพลิง
ในรูปแบบของก๊าซชีวภาพ ซ่ึงจัดเป็นพลังงานทดแทนก็จะช่วยลดปัญหาภาวะเรือนกระจก และตอบสนอง
ความต้องการพลังงานของมนุษย์ได้อีกด้วย โดยเฉพาะในทุกวันน้ีโลกก�ำลังเผชิญวิกฤติปัญหาสิ่งแวดล้อมและ
วกิ ฤติพลังงาน กา๊ ซชวี ภาพจงึ มีความส�ำคัญมากขน้ึ เพราะเป็นการช่วยแก้ปัญหาดังกลา่ ว
ก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์ จัดว่าเป็นทางเลือกใหม่ของของพลังงานเช้ือเพลิงท่ีได้จากการแปรรูปมูลสัตว์
ซ่ึงมีความส�ำคัญเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากน�้ำมันเชื้อเพลิงมีปริมาณลดลงทุกวัน ในขณะท่ีพลังงานทดแทน
อ่ืนๆ บางชนิดยังอยู่ในขั้นทดลองหรือบางชนิดก็มีกระบวนการผลิตท่ียุ่งยากซับซ้อน แต่ก๊าซชีวภาพจากมูลสัตว์
พสิ จู น์ได้แล้วว่าสามารถผลติ ได้จรงิ ในระดบั ไรน่ า โดยทีเ่ กษตรกรน�ำมลู สตั วม์ าเตมิ ในถังหมกั แลว้ ผสมนำ�้ จากนัน้
ท�ำการเติมมูลสัตว์เป็นประจ�ำก็จะได้ก๊าซชีวภาพท่ีสามารถน�ำมาใช้เป็นเช้ือเพลิงหุงต้มในครัวเรือนได้ ในขณะที่
กากมลู สัตวท์ ีเ่ ป็นสว่ นทเ่ี หลือจากกระบวนการผลิตน้นั เกษตรกรสามารถน�ำมาใช้น�ำมาใชเ้ ปน็ ปยุ๋ อินทรยี ส์ �ำหรับ
ปรับปรุงดินเพื่อเพ่ิมผลผลิต และลดต้นทุนการผลิตของการเกษตร ด้วยการเล็ง เห็นความส�ำคัญของการใช้ก๊าซ
ชวี ภาพจากมูลสตั ว์ จึงจัดท�ำหลกั สตู รการสร้างโอ่งก๊าซชวี ภาพ ส�ำหรบั ประชาชนและ ผู้สนใจ
หลักการของหลักสูตร
1. เป็นหลกั สูตรการประกอบอาชีพทส่ี ง่ เสรมิ และอนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม
2. เปน็ หลกั สตู รการประกอบอาชพี ทเ่ี ปดิ โอกาสใหผ้ รู้ ใู้ นทอ้ งถนิ่ มสี ว่ นรว่ มในการใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ
ท่ีมอี ยู่ในชุมชนให้เกดิ ประโยชน์สูงสดุ
3. เป็นหลกั สตู รทย่ี ดื หยุ่นทัง้ เนอ้ื หา ระยะเวลาเรยี น การจัดกระบวนการเรยี นรู้ โดยบูรณาการเนอื้ หา
ให้สอดคล้องกับการด�ำ เนนิ ชีวติ ความแตกตา่ งของแต่ละบคุ คล
4. เป็นหลักสูตรการประกอบอาชีพที่สามารถเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรสถานศึกษาของศูนย์การศึกษา
นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ในหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
2551 ในสาระการประกอบอาชีพวชิ าเลือกท่ีสถานศกึ ษาจัดทำ�ขน้ึ ได้
327
จดุ หมาย
1. เพ่อื ใหม้ ีความรคู้ วามเข้าใจและเกดิ ทักษะในการสร้างโอ่งกา๊ ซชีวภาพ
2. เพ่ือให้ผู้ประกอบอาชีพการเล้ียงสัตว์ได้ใช้มูลสัตว์ท่ีเหลือจากการสร้างโอ่งก๊าซชีวภาพนำ�ไปใช้
ประโยชน์ในการปรบั ปรุงดนิ เพื่อเพ่มิ ผลผลิตใหก้ ับพชื ผล และผกั ได้
3. เพอ่ื ให้สามารถแสวงหาความรูเ้ พอ่ื พฒั นากระบวนการผลติ กา๊ ซชีวภาพใชใ้ นครวั เรอื น
4. มีความรคู้ วามเข้าใจ และฝกึ ทกั ษะการประกอบอาชพี ไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
5. เปน็ การตดั สนิ ใจประกอบอาชีพให้สอดคล้องกับศักยภาพตนเอง ชุมชน สงั คมและสิง่ แวดล้อม
6. มคี ุณธรรม จริยธรรม และมจี ติ ส�ำ นกึ ความรบั ผดิ ชอบต่อตนเอง ผอู้ ่ืน และสงั คม
กลุม่ เปา้ หมาย
กลุม่ เป้าหมายคอื ประชาชนกลุ่มเปา้ หมายนอกระบบโรงเรียน
1. ผ้ทู ไ่ี ม่มอี าชพี
2. ผูท้ ีม่ อี าชพี และตอ้ งการพัฒนาอาชพี
3. ผทู้ ต่ี ้องการเปลี่ยนอาชีพ
ระยะเวลาการเรียนรูข้ องหลกั สูตร จ�ำ นวน 142 ชั่วโมง
ภาคทฤษฎ ี จำ�นวน 33 ช่ัวโมง
ภาคปฎบิ ตั ิ จำ�นวน 109 ช่วั โมง
โครงสร้างหลกั สูตร จ�ำ นวน 30 ชว่ั โมง
จำ�นวน 5 ชว่ั โมง
1. ช่องทางการประกอบอาชพี จำ�นวน 5 ชว่ั โมง
1.1 ความหมายและความส�ำ คัญก๊าซชวี ภาพ จำ�นวน 10 ชั่วโมง
1.2 ขั้นตอนการเกิดก๊าซชีวภาพ จ�ำ นวน 5 ช่วั โมง
1.3 การผลิตกา๊ ซชวี ภาพ จำ�นวน 5 ชว่ั โมง
1.4 การนำ�กา๊ ซชีวภาพไปใช้ จำ�นวน 70 ชวั่ โมง
1.5 ปัจจัยทีม่ ผี ลต่อการผลิตกา๊ ซชีวภาพ จ�ำ นวน 10 ชั่วโมง
2. ทกั ษะการประกอบอาชพี จำ�นวน 5 ชว่ั โมง
2.1 ขดุ หลมุ ฝงั โอง่ จำ�นวน 5 ช่ัวโมง
2.2 ฝงั โอ่ง จ�ำ นวน 15 ชว่ั โมง
2.3 เจาะรู จำ�นวน 15 ชั่วโมง
2.4 กอ่ อิฐบล็อก (บอ่ ระบายกาก2.มูล) จ�ำ นวน 10 ชั่วโมง
2.5 เจาะรู วางทอ่ บอ่ เตมิ มูล จำ�นวน 10 ชว่ั โมง
2.6 บอ่ มูลลน้
2.7 ปิดฝาตอ่ ท่อนำ�ก๊าซ
328
3. การบรหิ ารจัดการในการประกอบอาชพี จำ�นวน 30 ช่วั โมง
3.1 การจดั หาวสั ดุอปุ กรณ์ที่มีอยใู่ นทอ้ งถ่ิน จ�ำ นวน 5 ช่ัวโมง
3.2 ลดตน้ ทนุ ในการผลิตก๊าชชีวภาพ จำ�นวน 5 ชว่ั โมง
3.3 กระบวนการสร้างโอ่งกา๊ ชชวี ภาพ จ�ำ นวน 5 ชั่วโมง
3.4 การน�ำ ผลผลติ กา๊ ชชวี ภาพไปใชป้ ระโยชน์ จำ�นวน 5 ชั่วโมง
3.5 การพัฒนาผลผลติ และการแปรรูป จ�ำ นวน 5 ชั่วโมง
3.6 การดูแลรกั ษา จำ�นวน 5 ชว่ั โมง
4. โครงการประกอบอาชพี จ�ำ นวน 12 ช่วั โมง
4.1 ความสำ�คญั ของโครงการประกอบอาชพี จ�ำ นวน 0.5 ช่ัวโมง
4.2 ประโยชน์ของโครงการประกอบอาชพี จ�ำ นวน 0.5 ชั่วโมง
4.3 องคป์ ระกอบของโครงการประกอบอาชพี จำ�นวน 1 ชว่ั โมง
4.4 การเขียนโครงการ จำ�นวน 7 ชว่ั โมง
4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของโครงการ จำ�นวน 3 ชว่ั โมง
การจัดกระบวนการเรียน
1. ชอ่ งการประกอบอาชีพ
1.1 วทิ ยากรใหค้ วามรพู้ น้ื ฐานเกีย่ วกบั การสรา้ งโอง่ ชวี ภาพ
1.2 วทิ ยากรและผเู้ รยี นสนทนาแลกเปลี่ยนเรยี นรรู้ ว่ มกนั
1.3 ผเู้ รยี นศึกษาขอ้ มูลเพมิ่ เตมิ จากเอกสาร สอ่ื อินเตอรเ์ นต็ สถานประกอบการ ส่อื ของจริง
2. การฝึกทักษะอาชพี
2.1 วิทยากรใหค้ วามรู้เบ้อื งต้นเกีย่ วกับการสร้างโอ่งกา๊ ชชวี ภาพ
- การเลือกสถานที่ในการก่อสรา้ ง
- เตรยี มวสั ดุอุปกรณ์ในการประกอบ
- เตรียมวสั ดอุ ปุ กรณ์ในการหมัก
2.2 วิทยากรใหค้ วามรู้ข้นั ตอนการสร้างโอ่งก๊าชชวี ภาพ
- การขดุ หลมุ
- การฝงั โอง่
- การเจาะร ู
- การก่ออฐิ บลอ็ ก (บอ่ ระบายกากมลู )
- การเจาะรู วางท่อ บ่อเติมมูล
- การบ่อมลู ลน้
- การปิดฝาต่อทอ่ น�ำ กา๊ ซ
2.3 วทิ ยากรให้ความรขู้ ้ันตอนการดูแลรักษาโอง่ กา๊ ชชวี ภาพ
329
ส่ือการเรียนรู้
1. ใบความรเู้ น้ือหาการสรา้ งโอง่ กา๊ ซชีวภาพ
2. สื่อส่งิ พมิ พ ์ ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ สอ่ื บคุ คล
3. แหล่งเรียนร้ ู 109/10 หมทู่ ี่ 7 ต.บ้านพระ อ.เมืองปราจีนบรุ ี จ.ปราจนี บุรี
การวดั และประเมนิ ผล
1. การประเมนิ ความรภู้ าคทฤษฎรี ะหว่างเรยี นและจบหลกั สูตร
2. การประเมินผลงานระหว่างเรียนจาการปฏิบัติ ได้ผลงานท่ีมีคุณภาพสามารถสร้างรายได้ และ
จบหลกั สูตร
การจบหลักสตู ร
1. มเี วลาเรยี น ไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80
2. มผี ลการประเมนิ ตลอดหลกั สตู ร ไม่นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 60
3. มีผลงานทีม่ ีคณุ ภาพ
เอกสารหลักฐานการศึกษา
1. หลกั ฐานการประเมนิ ผล
2. ทะเบียนคมุ วุฒิบตั ร
3. วุฒบิ ัตรการศกึ ษา ออกโดยสถานศกึ ษา
การเทียบโอน
ผู้เรียนท่ีจบหลักสูตรนี้สามารถนำ�ไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ
การศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี วิชาเลอื กทส่ี ถานศึกษาไดจ้ ดั ท�ำ ข้ึน
รายละเอียดโครงสร้างหลกั สตู รการสร้างโอ่งก๊าชชีวภาพ 330
เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้อื หา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนช่ัวโมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
1. ช ่องทางการประกอบ 1.1 สามารถบอกความหมายและความ 1.1 ความสำ�คัญของการสร้างโอ่งก๊าช 1.1 วทิ ยากรใหค้ วามรพู้ น้ื ฐานเกยี่ วกบั 5 -
อาชีพ ส�ำ คัญก๊าซชวี ภาพ ชีวภาพ การสร้างโอ่งชวี ภาพ 5 -
1.2 ส ามารถบอกขั้นตอนการเกิดก๊าซ 1.2 ก ารจัดหาทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชน 1.2 ว ิทยากรและผู้เรียนสนทนาแลก 5 -
ชีวภาพ มาใช้ในการผลิต เปลย่ี นเรยี นรูร้ ่วมกนั - 10
1.3 ส ามารถบอกข้ันตอนการผลิตก๊าซ 1.3 ค วามเป็นไปได้ในการลงทุนและ 1.3 ผ ู้เรียนศึกษาข้อมูลเพ่ิมเติมจาก 5 -
ชีวภาพ การตดั สินใจในการเลือกอาชีพ เอกสาร สื่ออินเตอร์เน็ต สถาน
1.4 ส ามารถบอกขั้นตอนการนำ�ก๊าซ 1.4 กระบวนการสร้างโอ่งกา๊ ชชีวภาพ ประกอบการ สอื่ ของจริง 2 -
ชีวภาพไปใช้ 1.5 ป ัจจยั ทีม่ ีผลตอ่ การผลติ ก๊าซชวี ภาพ 2 -
1.5 สามารถบอกปัจจัยท่ีมีผลต่อการ 2 -
ผลิตก๊าซชีวภาพ - 4
2. ทักษะการประกอบ 2.1. ผ ู้เรียนอธิบายความรู้พ้ืนฐานการ 2.1 ความรู้พ้นื ฐานดา้ นการสร้างโอง่ 2.1 วทิ ยากรใหค้ วามรเู้ บอื้ งตน้ เกย่ี วกบั - 5
อาชีพ สรา้ งโอ่งกา๊ ซชวี ภาพได้ 2.1.1 การเลือกพ้ืนทีส่ ร้างโอ่ง การสร้างโอง่ ก๊าชชวี ภาพ - 5
2.1.2 เลือกวัสดุอุปกรณ์ในการ - การเลอื กสถานท่ใี นการกอ่ สร้าง
สรา้ งโอ่งก๊าชชีวภาพ - เตรียมวัสดอุ ุปกรณ์ในการท�ำ
- เตรยี มวัสดุอุปกรณใ์ นการหมกั
2.2. อธิบายข้ันตอนการสร้างโอ่งก๊าช 2.2 ขนั้ ตอนการสร้างโอ่งกา๊ ชชีวภาพ 2.2 วิทยากรให้ความรู้ขั้นตอนการ
ชีวภาพได้ สรา้ งโอ่งกา๊ ชชีวภาพ
- ขน้ั ตอน การขดุ หลุม
- ข้นั ตอนการฝังโอง่
- ขั้นตอนการเจาะรู
เร่ือง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนอื้ หา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนช่ัวโมง
ทฤษฎี ปฏิบัติ
2.3 สามารถบอกขั้นตอนการดูแล 2.3 ขัน้ ตอนการดูแลรกั ษา - การกอ่ อฐิ บลอ็ ก (บอ่ ระบายกากมลู ) - 15
รกั ษาโอ่งก๊าชชวี ภาพได ้ - การเจาะรู วางท่อ บ่อเติมมลู - 15
- วิธีกาสร้างบอ่ มูลล้น - 10
- การปิดฝาตอ่ ท่อน�ำ กา๊ ซ - 8
2.3 วทิ ยากรใหค้ วามรเู้ กย่ี วกบั การดแู ล 2 -
รักษา
- การเตมิ มูลสตั ว์
- การปอ้ งกนั การแตกร้าวของโอง่
- ก ารน�ำ ไปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ
3. ก ารบรหิ ารจดั การ 3.1 ส ามารถจัดหาวัสดุอุปกรณ์ที่มีอยู่ใน 3.1 วิธีการสร้างโอ่งก๊าชชวี ภาพ 3.1 ใ หค้ วามรู้ในการเกยี่ วกับการสร้างโอ่ง 2 -
ในกาประกอบ ทอ้ งถน่ิ มาประกอบการสรา้ งโอง่ ได้ 3.2 ต้นทุนการผลติ 3.1.1 แ นะน�ำ เทคนคิ วธิ กี ารออกแบบ - 3
อาชพี 3.2 ส ามารถลดต้นทุนในการผลิตก๊าช 3.3 ประโยชน์ของการสร้างโอ่งกา๊ ช การสร้าง - 3
ชวี ภาพ 3.4 แกไ้ ขปัญหาในขณะการสร้างโอ่ง 3.1.2 ว ทิ ยากรให้ศกึ ษาแหล่งวสั ด ุ - 3
3.3 ก ระบวนการสร้างโอง่ ก๊าชชวี ภาพ 3.5 การพฒั นานำ�ผลผลิตก๊าชชวี ภาพ อุปกรณ์เพื่อเป็นการลดต้นทุน - 3
3.4 การนำ�ผลผลิตก๊าชชีวภาพไปใช้ 3.6 ค ุณธรรม จริยธรรมการประกอบ ในการสร้างโอ่ง - 3
ประโยชน์ อาชีพ 3.2 จ ัดให้ผู้เรียนศึกษาแนวทางในการ
3.5 ก ารพฒั นาผลผลติ และการแปรรปู ประกอบอาชพี การสรา้ งโอง่ กา๊ ชชวี ภาพ
3.6 การดูแลรกั ษา 3.3 จัดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติลงมือการ
สรา้ งโอ่งกา๊ ช
3.4 ให้ผู้เรียนสามารถรู้จักคุณธรรม
จริยธรรมใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อ
สังคม และชุมชน
331
เร่ือง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนอื้ หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชวั่ โมง 332
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
4. โ ครงการประกอบ 4.1 บอกความสำ�คัญของโครงการ 4.1 ความสำ�คญั ของโครงการอาชีพ 4.1 จัดให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจากใบ 0.5 -
อาชีพ อาชพี ได้ 4.2 ประโยชน์ของโครงการอาชีพการ ความรู้ เรื่อง ความสำ�คัญของ 0.5 -
4.2 บ อกประโยชน์ของโครงการอาชีพ 4.3 อ งค์ประกอบของโครงการประกอบ โครงการอาชีพ ประโยชน์ของ 1 -
ได้ อาชีพ โครงการอาชพี องคป์ ระกอบของ
4.3 บ อกองค์ประกอบของโครงการ 4.4 การเขยี นโครงการอาชีพ โครงการอาชีพ แล้วจัดกิจกรรม 1 6
อาชพี ได้ 4.5 ก ารประเมินความเหมาะสมและ การสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูล - 3
4.4 อ ธบิ ายความหมายขององคป์ ระกอบ สอดคล้องของโครงการอาชีพ ความคิดเห็น เพ่ือสร้างแนวคิด
ของโครงการอาชีพได้ ในการด�ำ เนินกจิ กรรมการเรียนรู้
4.5 อธิบายลักษณะการเขียนท่ีดีของ 4.2 จ ดั ให้ผ้เู รียนศึกษาสาระข้อมลู จาก
องคป์ ระกอบของโครงการอาชพี ได้ ใบความรู้ เรื่อง ตัวอย่างการเขียน
4.6 ส ามารถ เขียนโครงการประกอบ โครงการอาชพี ทดี่ ี เหมาะสม และ
อาชพี ได้ ถูกต้อง พร้อมจัดการอภิปราย เพ่ือ
4.7 ต รวจสอบความเหมาะสมและ สรปุ แนวคดิ เปน็ แนวทางในการเขยี น
สอดคล้องของโครงการอาชพี ได้ โครงการอาชีพท่ดี ี เหมาะสม และ
ถูกต้อง
4.3 จ ัดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติ การเขียน
โครงการอาชีพ
4.4 ก �ำ หนดใหผ้ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารประเมนิ
ความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของ
โครงการอาชพี
เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนื้อหา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนช่ัวโมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
4.5 จ ดั ใหผ้ เู้ รยี นปรบั ปรงุ โครงการอาชพี
ใหม้ คี วามเหมาะสมและถกู ตอ้ ง
4.6 ก ำ�หนดให้ผู้เรียนเขียนโครงการ
อาชพี ของตนเอง เพอ่ื เสนอขอรบั
การสนบั สนนุ งบประมาณด�ำ เนนิ งาน
อาชีพ และใช้ในการดำ�เนินการ
ประกอบอาชพี ต่อไป
333
334
หลกั สตู รการออกแบบเส้ือผา้ ส�ำ เรจ็ รปู
จ�ำ นวน 164 ชว่ั โมง
กลุ่มวิชาอาชีพความคดิ สร้างสรรค์
ความเป็นมา
เสอื้ ผา้ เครอ่ื งแตง่ กายเปน็ หนง่ึ ในปจั จยั สที่ ม่ี นษุ ยท์ กุ คนตอ้ งแสวงหามาเพอ่ื หอ่ หมุ้ รา่ งกาย ในขณะเดยี วกนั
ก็ต้องการความสวยงาม ช่วยสร้างบุคลิกภาพให้กับผู้สวมใส่ เสื้อผ้าเคร่ืองแต่งกายจึงมีบทบาทในชีวิตประจำ�วัน
ของคนเรา ซ่งึ เส้ือผ้าเครอื่ งแตง่ กายท่ผี ้บู ริโภคจดั หามาตกแต่งใหก้ ับตัวเอง มีแหล่งท่มี า 2 แหง่ คือ เสอ้ื ผ้าสัง่ ตัด
กับเส้ือผ้าสำ�เร็จรูป เสื้อผ้าส่ังตัดจะได้รูปทรงดี แบบ สี ขนาดพอเหมาะกับผู้สวมใส่ แต่ราคาค่อนข้างแพง
และต้องใช้เวลาสั่งตัด ปัจจุบันผู้บริโภคจึงหันมานิยมใช้เสื้อผ้าสำ�เร็จรูปมากกว่าเส้ือผ้าสั่งตัด เพราะสะดวก
รวดเร็ว ราคาไม่แพงมากนัก มีให้เลือกหลายระดับ ตามความพอใจของผู้บริโภค จึงเป็นปัจจัยสำ�คัญที่ทำ�ให้เกิด
การประกอบอาชพี ออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้าสำ�เรจ็ รปู ขึน้
นอกจากความสำ�คัญดังกล่าวข้างต้น จากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของโลกยุคปัจจุบันท่ีมีการแข่งขัน
กันคอ่ นข้างสูง การพัฒนาหลกั สูตรโดยเน้นการบรู ณาการและการสรา้ งสรรคผ์ ลิตภณั ฑ์ชุมชนเพ่ือเพิ่มมลู ค่าและ
พัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะส่งเสริมสนับสนุนกลุ่มอาชีพต่างๆ ในชุมชนได้ ดังนั้น
หลักสูตรการออกแบบเส้ือผ้าสำ�เร็จรูปนี้ จึงน่าจะเป็นหลักสูตรท่ีสามารถตอบสนองความต้องการพัฒนาอาชีพ
ของกลมุ่ อาชพี ตดั เยบ็ เสอื้ ผา้ กลมุ่ อาชพี สงิ่ ทอทกุ ประเภท หรอื ผทู้ ตี่ อ้ งการประกอบอาชพี ดา้ นการออกแบบเสอ้ื ผา้
สำ�เร็จรปู ไดค้ วามรไู้ ปใช้ประโยชนเ์ พ่ือสร้างงาน สรา้ งอาชีพ สร้างรายไดแ้ ละการมงี านท�ำ ตอ่ ไปได้
หลักการของหลกั สูตร
1. เปน็ หลกั สตู รเพื่อช่วยสง่ เสริมอาชพี และพัฒนาอาชีพท่สี ามารถสร้างรายไดท้ ่มี น่ั คง
2. เป็นหลกั สูตรที่ส่งเสรมิ ให้ผเู้ รียนเรียนรจู้ ากการลงมือปฏิบัตจิ รงิ
3. เปน็ หลักสตู รที่มีโครงสรา้ งยดื หยนุ่ ทัง้ ดา้ นเนื้อหาสาระ เวลา และการจดั การเรียนรู้
3. เปน็ หลักสตู รทีส่ ามารถน�ำ ความร้แู ละประสบการณ์ท่ไี ด้รับไปประยุกตใ์ ช้ในการประกอบอาชีพ
4. เปน็ หลกั สูตรทีส่ ง่ เสรมิ ให้มกี ารเทียบโอนความรู้และประสบการณ์เข้าส่กู ารศกึ ษาขั้นพื้นฐาน
จดุ หมาย
หลักสูตรน้ีให้ความรแู้ ละประสบการณเ์ พื่อให้ผู้จบหลกั สตู รมีคณุ ลกั ษณะ ดังน้ี
1. สามารถตดั สนิ ใจเลอื กประกอบอาชพี ไดส้ อดคลอ้ งกบั ศกั ยภาพตนเอง ชมุ ชน สงั คม และสง่ิ แวดลอ้ ม
2. มีความรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะการประกอบอาชพี การออกแบบเสอื้ ผา้ สำ�เร็จรปู
3. มีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะการบริหารจัดการในอาชีพการออกแบบเสื้อผ้าสำ�เร็จรูปได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ
4. มีคุณธรรม จริยธรรม และจติ ส�ำ นึกความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเอง ผู้อ่นื และสงั คม
5. สามารถจัดท�ำ โครงการประกอบอาชีพและนำ�ส่กู ารปฏบิ ตั ิจริงได้
335
กลมุ่ เปา้ หมาย
กลุ่มเปา้ หมาย คือ ประชาชนกลุ่มเป้าหมายนอกระบบโรงเรยี น
1. ผทู้ ่ไี ม่มอี าชพี
2. ผทู้ มี่ ีอาชีพและต้องการพัฒนาอาชพี
ระยะเวลา จ�ำ นวน 164 ช่ัวโมง
โครงสรา้ งหลักสูตร (ทฤษฎี 40 ชั่วโมง และปฏบิ ตั ิ 124 ช่ัวโมง) จำ�นวน 12 ช่วั โมง
1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ
1.1 การวเิ คราะหศ์ ักยภาพของข้อมลู ตนเอง ชุมชน สังคม ส่งิ แวดลอ้ ม และขอบข่ายในงานอาชพี
การออกแบบเสอื้ ผ้าสำ�เรจ็ รูป
1.2 ความเป็นไปไดใ้ นการประกอบอาชีพการออกแบบเสือ้ ผา้ สำ�เรจ็ รปู
1.3 ทิศทางการประกอบอาชีพการออกแบบเส้อื ผ้าสำ�เร็จรูป
2. ทักษะการประกอบอาชพี จ�ำ นวน 120 ชั่วโมง
2.1 หลกั การพื้นฐานในการออกแบบเสอื้ ผา้ ส�ำ เร็จรปู จ�ำ นวน 15 ชัว่ โมง
2.1.1 วสั ดุอุปกรณ์ท่ีจำ�เป็นตอ้ งใชใ้ นงานออกแบบและตัดเย็บเสอื้ ผ้าสำ�เร็จรปู
2.1.2 ความรู้พนื้ ฐานเกี่ยวกับเส้น
2.1.3 หลักการนำ�เส้นมาใชใ้ นการออกแบบเสื้อผ้าส�ำ เรจ็ รูป
2.1.4 การฝกึ ทกั ษะการเขยี นลายเสน้
2.1.5 ความรพู้ ้ืนฐานเกี่ยวกบั สี
2.1.6 หลกั การนำ�สมี าใชใ้ นการออกแบบเสอ้ื ผ้าสำ�เรจ็ รปู
2.1.7 การฝึกทักษะการระบายสี
2.1.8 หลักการเลือกผ้าเพื่อใช้ในการออกแบบเสื้อผ้าสำ�เร็จรูป
2.2 หลักการออกแบบเส้ือผา้ ส�ำ เร็จรูป จ�ำ นวน 18 ช่ัวโมง
2.2.1 หลกั การออกแบบคอเสื้อ
2.2.2 หลักการออกแบบปกเสือ้
2.2.3 หลักการออกแบบแขนเสือ้
2.2.4 หลกั การออกแบบข้อมอื เสื้อ
2.2.5 หลกั การออกแบบสาบเสื้อ
2.2.6 หลักการออกแบบสว่ นประกอบต่าง ๆ เพอ่ื การตกแตง่ ตวั เสอื้
2.3 วธิ กี ารสรา้ งแนวคดิ ในงานออกแบบและกระบวนการก�ำ หนดแนวคดิ รปู แบบสนิ คา้ (PRODUCT
CONCEPT) จำ�นวน 6 ชว่ั โมง
2.4 การก�ำ หนดขนาดเส้ือผา้ มาตรฐาน (STANDARD SIZE SET) การลดและขยายแบบตัดเสือ้ ผ้า
สำ�เรจ็ รปู จำ�นวน 6 ชว่ั โมง
2.5 หลกั การสรา้ งแบบและแยกแบบตดั เส้อื ผา้ ส�ำ เรจ็ รปู จ�ำ นวน 30 ชวั่ โมง
336
2.6 กระบวนการวางแบบตัดและตัดเย็บเสื้อผ้าสำ�เร็จรปู จำ�นวน 45 ช่วั โมง
2.6.1 เสอื้ คอโปโล (15 ชัว่ โมง)
2.6.2 เสือ้ แจ็กเกต (15 ช่วั โมง)
2.6.3 เสื้อแบบสมยั นิยม (15 ชวั่ โมง)
3. การบรหิ ารจดั การในการประกอบอาชีพ จ�ำ นวน 20 ช่ัวโมง
3.1 การบรหิ ารจดั การการผลิต
3.1.1 การสำ�รวจแหล่งเงนิ ทุน และแหล่งวัตถุดบิ ในทอ้ งถน่ิ
3.1.2 การก�ำ หนดมาตรฐานชน้ิ งาน และการควบคุมคุณภาพผลผลติ
3.1.3 คุณธรรมในการประกอบอาชีพ
3.2 การบริหารจดั การการตลาด
3.2.1 หลกั การจัดการการตลาด
3.2.2 ระบบการตลาดและพฤติกรรมผู้บรโิ ภค
3.2.3 ข้อมลู ทางการตลาด (วิธีการหาข้อมลู การเกบ็ รวบรวมข้อมลู และการนำ�ขอ้ มลู ไปใช้)
3.2.4 การวิเคราะหค์ วามตอ้ งการของตลาดในชุมชน และประเทศ
3.2.5 การทำ�บัญชรี ายรบั – รายจ่าย
3.2.6 การคำ�นวณตน้ ทุนกำ�ไรในการผลิต และการกำ�หนดราคาขาย
3.2.7 การส่งเสรมิ การขาย และช่องทางการจัดจำ�หนา่ ย
4. โครงการประกอบอาชีพ จ�ำ นวน 12 ชวั่ โมง
4.1 ความสำ�คัญของโครงการประกอบอาชพี
4.2 ประโยชน์ของโครงการประกอบอาชีพ
4.3 องค์ประกอบของโครงการประกอบอาชพี
4.4 การเขียนโครงการ
4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคล้องของโครงการ
การจัดกระบวนการเรียนรู้
1. ศึกษาดูงาน
2. บรรยาย
3. สาธติ
4. ฝึกปฏิบตั ิ
5. แลกเปลี่ยนเรยี นรู้
หมายเหตุ ก่อนการจัดกระบวนการเรียนรู้ในเน้ือหาเรื่องวิธีการสร้างแนวคิดในงานออกแบบและ
กระบวนการกำ�หนดแนวคิดรูปแบบสินค้า (PRODUCT CONCEPT) การกำ�หนดขนาดเสื้อผ้ามาตรฐาน
(STANDARD SIZE SET) การลดและขยายแบบตัดเส้ือผ้าสำ�เร็จรูป หลักการสร้างแบบและแยกแบบตัดเส้ือผ้า
ส�ำ เรจ็ รปู และกระบวนการตดั เยบ็ เสอ้ื ผา้ ส�ำ เรจ็ รปู ผเู้ รยี นจะตอ้ งผา่ นการจดั กระบวนการเรยี นรใู้ นเนอ้ื หาเรอ่ื งการบรหิ าร
จดั การในการประกอบอาชีพ เพือ่ นำ�ความรู้และข้อมลู ทางการตลาดมาเปน็ พ้ืนฐานในการเรยี นร้เู ร่อื งดังกลา่ ว
337
สอื่ การเรยี นรู้
1. สอื่ สงิ่ พิมพ์ ได้แก่ นิตยสารแฟชั่น หนังสอื เก่ยี วกับการออกแบบเสอ้ื ผา้ ฯลฯ
2. สอ่ื อิเล็กทรอนิกส์ ไดแ้ ก่ เวบ็ ไซด์เกี่ยวกับการออกแบบเส้อื ผ้า การขายเสื้อผา้ สำ�เร็จรปู ออนไลน์
3. สอ่ื บุคคล ไดแ้ ก่ ผู้รู้ ภมู ิปญั ญา
4. แหลง่ เรยี นรู้ ไดแ้ ก่ สถานประกอบการ หา้ งสรรพสนิ ค้า ร้านขายเส้ือผา้ ส�ำ เรจ็ รปู ฯลฯ
5. วสั ดุ อุปกรณท์ เ่ี กย่ี วกับการฝกึ ทกั ษะการออกแบบเสื้อส�ำ เรจ็ รูป
การวดั และประเมินผล
1. การประเมินความรูภ้ าคทฤษฎีจากการทำ�แบบทดสอบ
2. การประเมนิ ทักษะการปฏบิ ตั ิจากผลงานระหวา่ งเรยี น ได้ผลงานทมี่ ีคณุ ภาพ
3. การประเมนิ ผลจากโครงการประกอบอาชพี
การจบหลักสตู ร
1. มเี วลาเรยี น ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 80
2. มีผลการเรียนตลอดหลกั สตู ร ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 60
3. มผี ลงานทม่ี คี ณุ ภาพ
เอกสารหลักฐานการศึกษา
1. หลกั ฐานการประเมินผล
2. ทะเบียนคุมวฒุ ิบัตร
3. วฒุ บิ ตั รการศกึ ษา ออกโดยสถานศกึ ษา
การเทยี บโอน
ผู้เรียนที่จบหลักสูตรน้ีสามารถนำ�ไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ
การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี วชิ าเลอื กทส่ี ถานศกึ ษาไดจ้ ดั ท�ำ ขน้ึ
รายละเอยี ดโครงสร้างหลักสตู รการออกแบบเสื้อผ้าส�ำ เรจ็ รูป 338
เรอ่ื ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เนอื้ หา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนช่วั โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
1. ช ่องทางการประกอบ 1.1 สามารถวิเคราะห์ศักยภาพของ 1.1 การวิเคราะห์ศักยภาพของข้อมูล 1.1 ศ ึกษาดูงานในสถานประกอบการ 3 3
อาชพี ข้อมูลตนเอง ชุมชน สังคม ตนเอง ชุมชน สังคม สิ่งแวดล้อม แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวกับการ - 6
สิ่งแวดล้อม และขอบข่ายในงาน และขอบข่ายในงานอาชีพการ ออกแบบเสอื้ ผา้ ส�ำ เรจ็ รปู การผลติ
อาชีพได้ ออกแบบเสอ้ื ผ้าสำ�เรจ็ รูป เส้ือผ้าสำ�เร็จรูป โดยศึกษาใน
1.2 ว ิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการ 1.2 ค วามเป็นไปได้ในการประกอบ
ประกอบอาชพี อาชพี ประเด็นตอ่ ไปน้ี
1.3 ท ิศทางการประกอบอาชีพการ 1.3 ทิศทางการประกอบอาชีพการ 1) ต้นทุน/รายได้
2) การจดั การการตลาด
ออกแบบเส้ือผ้าสำ�เร็จรูป โดยใช้ ออกแบบเสอ้ื ผา้ ส�ำ เร็จรูป 3) ค วามตอ้ งการของตลาด/ผู้บริโภค
กระบวนการคิดเป็นและมีความ 4) คแู่ ข่งทางการคา้
เป็นไปได้ตามศักยภาพ 5 ด้าน 5) แหล่งวัตถดุ ิบ
ได้แก่ ศักยภาพของทรัพยากร 6) ช่องทางการจัดจ�ำ หน่าย
ธรรมชาติในแต่ละพ้ืนท่ี ศักยภาพ
ของพื้นท่ีตามลักษณะภูมิอากาศ 7) ค ุณสมบัตขิ องนกั ออกแบบเสือ้ ผ้า
1.2 ให้ผู้เรียนศึกษาข้อมูลจากเอกสาร
ศกั ยภาพของภมู ปิ ระเทศ ศกั ยภาพ
ของศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี สอื่ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ผรู้ ู้ ภมู ปิ ญั ญาใน
และวิถีชีวิตของแต่ละพื้นที่ และ
ทรัพยากรมนษุ ยใ์ นแต่ละพน้ื ที่ ชุมชน และประเทศ
1.3 น �ำ ขอ้ มูลทไี่ ด้มาแลกเปล่ียนเรียนรู้
และวิเคราะห์ความเป็นไปได้ในการ
ประกอบอาชพี ทเี่ กยี่ วกบั การออกแบบ
เส้ือผ้าสำ�เร็จรูป ท่ีสอดคล้องกับ
เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนื้อหา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนชว่ั โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
ศักยภาพ 5 ด้าน ได้แก่ ศักยภาพ
ของทรัพยากรธรรมชาติในแต่ละ
พ้ืนที่ ศักยภาพของพ้ืนที่ตาม
ลักษณะภูมิอากาศ ศักยภาพของ
ภูมิประเทศ ศักยภาพของศิลปะ
วัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิต
ของแต่ละพื้นท่ี และทรัพยากร
มนษุ ยใ์ นแตล่ ะพน้ื ที่ ตดั สนิ ใจเลอื ก
ประกอบอาชีพที่เก่ียวกับการ
ออกแบบเสื้อผา้ สำ�เรจ็ รปู
1.4 ผู้เรียนและวิทยากรร่วมกันสรุป
องคค์ วามรู้
2. ท ักษะการประกอบ 2.1 เ ลือกวัสดุอุปกรณ์ท่ีจำ�เป็นต้องใช้ 2.1 ห ลักการพ้ืนฐานในการออกแบบ 2.1 ห ลักการพื้นฐานในการออกแบบ 9 6
อาชีพ ในงานออกแบบและตดั เยบ็ เสอื้ ผา้ เสอ้ื ผา้ สำ�เรจ็ รปู เสื้อผา้ ส�ำ เรจ็ รปู
ส�ำ เร็จรูปได้ 1) ว สั ดอุ ปุ กรณท์ จ่ี �ำ เปน็ ตอ้ งใชใ้ น
2.2 อ ธิบายหลักการนำ�เส้นมาใช้ใน งานออกแบบและตดั เยบ็ เสอ้ื ผา้ 1) วทิ ยากรอธบิ ายใหค้ วามรเู้ กยี่ วกบั
การออกแบบเส้อื ผา้ สำ�เรจ็ รปู ได้ ส�ำ เร็จรปู วัสดุ อุปกรณ์ท่ีใช้ในงาน
ออกแบบและตัดเย็บเสื้อผ้า
สำ�เร็จรูป โดยการนำ�วัสดุ
อุปกรณ์มาสาธิตและบอก
วิธีการใช้งาน
339
เร่อื ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้ือหา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชว่ั โมง 340
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ
2.3 สามารถเขียนลายเส้นได้ถูกต้อง 2) ความร้พู ื้นฐานเก่ียวกบั เส้น 2) ว ทิ ยากรอธบิ ายถงึ เสน้ พน้ื ฐาน
ตามหลักการ 3) หลักการนำ�เส้นมาใช้ในการ ท่ีใช้ในการออกแบบ พร้อม
2.4 อธิบายหลักการนำ�สีมาใช้ในการ ออกแบบเสอ้ื ผ้าสำ�เร็จรูป วาดรปู สาธติ บนกระดาน และ
ออกแบบเสอ้ื ผา้ สำ�เรจ็ รปู ได้ 4) การฝกึ ทกั ษะการเขยี นลายเสน้ ให้ผู้เรียนฝึกวาดเส้นลงใน
2.5 สามารถระบายสีได้ถูกต้องตาม 5) ความรพู้ น้ื ฐานเกยี่ วกบั สี กระดาษ A4
หลักการ 6) ห ลกั การน�ำ สมี าใชใ้ นการออกแบบ
2.6 เ ลือกสีมาใช้ในการออกแบบเสื้อผ้า เสือ้ ผ้าส�ำ เร็จรูป 3) วทิ ยากรอธบิ ายเสน้ ทใี่ ชใ้ นการ
ออกแบบเส้ือผ้าสำ�เร็จรปู โดย
สำ�เร็จรปู ไดอ้ ย่างเหมาะสม 7) การฝึกทักษะการระบายสี วาดรปู สาธติ เสน้ รอบนอกและ
2.7 อ ธิบายหลักการออกแบบเส้ือผ้า 8) ห ลกั การเลอื กผา้ เพอื่ ใชใ้ นการ เส้นด้านในเป็นรูปแบบเส้ือทรง 6 12
ส�ำ เร็จรปู ได้ ออกแบบเส้อื ผา้ สำ�เร็จรูป ต่างๆ บนกระดาน พร้อมให้
2.8 สามารถออกแบบคอเสื้อ ปกเสื้อ 2.2 หลกั การออกแบบเส้อื ผ้าส�ำ เรจ็ รูป ผู้เรียนฝึกวาดลงในกระดาษ A4 1 5
แขนเสอ้ื ข้อมอื เสือ้ สาบเส้อื และ 1) หลักการออกแบบคอเสอื้ 1 5
สว่ นประกอบตา่ ง ๆ เพอ่ื การตกแตง่ 2) หลักการออกแบบปกเส้อื 4) วิทยากรอธิบายและสาธิตวิธี
ตวั เสื้อได้ 3) หลักการออกแบบแขนเส้อื การฝกึ ทกั ษะในการเขยี นลายเสน้
2.9 สามารถสร้างแนวคิดในงาน 4) หลักการออกแบบข้อมือเสือ้ ด้วยดินสอ ปลายพู่กัน และ
ออกแบบและกำ�หนดแนวคิด 5) หลักการออกแบบสาบเสื้อ การฝกึ ขดี เขยี่ ปากกาในลกั ษณะ
รูปแบบสินค้า (PRODUCT 6) ห ลกั การออกแบบสว่ นประกอบ ต่างๆ เพ่ือสร้างลักษณะผิวที่
CONCEPT) ได้ ตา่ งๆ เพ่ือการตกแต่งตัวเส้อื แตกตา่ งกนั
2.10 ส ามารถก�ำ หนดขนาดเสอ้ื ผา้ มาตรฐาน 2.3 วิธีการสร้างแนวคิดในงานออกแบบ
(STANDARD SIZE SET) ได้ และกระบวนการกำ�หนดแนวคิด 5) ว ทิ ยากรอธบิ ายเกยี่ วกบั พนื้ ฐาน
และประเภทของสีตามวงจรสี
พร้อมให้ผู้เรียนได้ดูภาพการ
เร่อื ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนชัว่ โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
2.11 บ อกวิธีการลดและขยายแบบตัด รปู แบบสนิ คา้ (PRODUCT CONCEPT) อ อกแบบเส้ือผ้าส�ำเร็จรูปท่ีมี 6 24
เสอ้ื ผ้าส�ำ เร็จรปู ได้ 2.4 ก ารกำ�หนดขนาดเส้ือผา้ มาตรฐาน นำ�้ หนกั ของสแี ตกตา่ งกนั สที ม่ี ี - 45
2.12 ส ามารถสร้างแบบและแยกแบบ (STANDARD SIZE SET) การลด ความเข้มขน้ ใกล้เคียงกนั และ
ตดั เสอื้ ผา้ ส�ำ เร็จรปู ได้ และขยายแบบตัดเสอ้ื ผา้ ส�ำ เรจ็ รูป สีทีม่ วี รรณะของสแี ตกต่างกนั
2.13 ส ามารถวางแบบตัดและตัดเย็บ 2.5 หลักการสร้างแบบและแยกแบบ
เส้ือผ้าสำ�เร็จรูปประเภทเส้ือคอ ตัดเสื้อผา้ ส�ำ เรจ็ รูป 6) วิทยากรอธิบายหลักการของ
การนำ�สีมาใช้ร่วมกันในการ
โปโล เสื้อแจ็กเกต และเส้ือแบบ 2.6 กระบวนการวางแบบตดั และตดั เยบ็ ออกแบบ โดยการใชส้ ีคูป่ ระกบ
สมัยนิยมได้อย่างมีคุณภาพตาม เสอื้ ผ้าส�ำ เรจ็ รปู การใชส้ ีขา้ งเคยี ง การใชส้ สี ามสี
มาตรฐานช้นิ งาน 1) เสอ้ื คอโปโล การใช้สีเอกรงค์ และการใช้สี
2) เสอ้ื แจก็ เกต ลวงตาวิธีต่างๆ เพื่ออำ�พราง
3) เสอื้ แบบสมัยนิยม รูปร่าง พรอ้ มทง้ั ให้ผเู้ รยี นได้ดู
ภาพประกอบ
7) ว ทิ ยากรอธบิ ายขนั้ ตอนการฝกึ
ทักษะในการระบายสี โดยให้
ผู้เรียนร่างภาพนางแบบด้วย
ดินสอ แล้วฝึกทักษะในการ 341
ระบายสีตามขั้นตอนต่างๆ
พรอ้ มทงั้ ใหผ้ เู้ รยี นดภู าพประกอบ
8) วทิ ยากรอธบิ ายหลกั การเลอื ก
ผ้าในการออกแบบ โดยยึด
เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้อื หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชั่วโมง 342
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ
ห ลกั การพจิ ารณาตามความเหมาะ
สมของโอกาสท่ีใช้ พิจารณาการ
ลายผ้าและพื้นผิวของผ้า พร้อมให้
ผเู้ รยี นดภู าพประกอบ
2.2 ห ลกั การออกแบบเสื้อผา้ สำ�เร็จรูป
1) ว ิทยากรอธิบายหลักการ
ออกแบบคอเส้ือแบบต่างๆ
พร้อมสาธิตการวาดคอเสื้อ
แบบต่างๆ และให้ผู้เรียนฝึก
ปฏิบัติการออกแบบคอเส้ือ
รูปทรง ต่างๆ
2) วิทยากรอธิบายหลักการ
ออกแบบปกเส้ือแบบต่างๆ
พร้อมสาธิตการวาดปกเสื้อ
แบบต่างๆ และให้ผู้เรียน
ฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารออกแบบปกเสอื้
รูปทรงต่างๆ
3) ว ิทยากรอธิบายหลักการ
ออกแบบแขนเสื้อแบบต่าง ๆ
พร้อมสาธิตการวาดแขนเสื้อ
แบบต่างๆ และให้ผู้เรียนฝึก
ปฏิบัติการออกแบบแขนเส้ือ
รปู ทรงตา่ งๆ