หลักสูตรการจัดการศึกษาอาชีพเพื่อการมีงานทำ ชุดที่ 2

เร่อื ง จุดประสงค์การเรยี นรู้ เน้อื หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชั่วโมง
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ

4) ว ิทยากรอธิบายหลักการ 343
ออกแบบข้อมือเส้ือแบบต่างๆ
พรอ้ มสาธติ การวาดข้อมอื เสอ้ื
แบบต่างๆ และให้ผู้เรียนฝึก
ปฏบิ ตั กิ ารออกแบบขอ้ เสอื้ รปู
ทรงตา่ งๆ

5) ว ิทยากรอธิบายหลักการ
ออกแบบสาบเส้ือแบบต่างๆ
พร้อมสาธิตการวาดสาบเส้ือ
แบบต่างๆ และให้ผู้เรียนฝึก
ปฏิบัติการออกแบบสาบเสื้อ
รปู ทรงต่างๆ

6) วิทยากรอธิบายหลักการ
ออกแบบส่วนประกอบต่างๆ
เพ่ือการตกแต่งตัวเส้ือ พร้อม
สาธิตการออกแบบตกแต่งตัว
เสื้อแบบต่างๆ และให้ผู้เรียน
ฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารออกแบบตกแตง่
ตวั เส้ือแบบตา่ งๆ และให้ผู้เรยี น
ฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารออกแบบตกแตง่
ตัวเส้ือแบบตา่ งๆ

เร่อื ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้อื หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนช่วั โมง 344
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ

**ก่อนการจัดกระบวนการเรียนรู้ใน
เนื้อหาเรื่องวิธีการสร้างแนวคิดในงาน
ออกแบบและกระบวนการก�ำ หนดแนวคดิ
รปู แบบสนิ คา้ (PRODUCT CONCEPT)
การกำ�หนดขนาดเส้ือผ้ามาตรฐาน
(STANDARD SIZE SET) การลดและ
ขยายแบบตัดเสื้อผ้าสำ�เร็จรูป หลักการ
สรา้ งแบบและแยกแบบตดั เสอ้ื ผา้ ส�ำ เรจ็ รปู
และกระบวนการตดั เยบ็ เสอื้ ผา้ ส�ำ เรจ็ รปู
ผู้เรียนจะต้องผ่านการจัดกระบวนการ
เรียนรู้ในเน้ือหาเรื่องการบริหารจัดการ
ในการประกอบอาชีพ เพ่ือนำ�ความรู้
และข้อมูลทางการตลาดมาเป็นพื้นฐาน
ในการเรยี นรเู้ รอื่ งดังกลา่ ว
2.3 วิธีการสร้างแนวคิดในงานออกแบบ

และกระบวนการกำ�หนดแนวคิด
รูปแบบสินค้า (PRODUCT
CONCEPT)

เร่อื ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้อื หา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนชัว่ โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ

1) วทิ ยากรอธบิ ายใหค้ วามรเู้ กย่ี วกบั 345
วิธีการสร้างแนวคิดในงาน
ออกแบบและกระบวนการ
กำ�หนดแนวคิดรูปแบบสินค้า
(PRODUCT CONCEPT) โดย
คำ�นึงถึงความต้องการของ
ตลาดในชมุ ชน และประเทศ

2) ผ ู้เรียนฝึกปฏิบัติสร้างแนวคิด
ในงานออกแบบและกำ�หนด
แนวคดิ รปู แบบสนิ คา้ (PRODUCT
CONCEPT) โดยใช้ข้อมูล
ทางการตลาดที่ได้รวบรวบ
และวิเคราะหไ์ วแ้ ลว้

2.4 การกำ�หนดขนาดเสื้อผา้ มาตรฐาน
(STANDARD SIZE SET) การลด
และขยายแบบตัดเสอ้ื ผ้าส�ำ เร็จรปู

1) ว ทิ ยากรอธบิ ายใหค้ วามรเู้ กยี่ วกบั
การก�ำ หนดขนาดเสอื้ ผา้ มาตรฐาน
(STANDARD SIZE SET) การ
ลดและขยายแบบตัดเสื้อผ้า
ส�ำ เร็จรปู พรอ้ มสาธิต

เร่อื ง จุดประสงค์การเรยี นรู้ เน้อื หา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนชั่วโมง 346
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ

2) ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการลดและ
ขยายแบบตัดเส้ือผ้าสำ�เร็จรูป
ใหไ้ ดต้ ามขนาดเสอ้ื ผา้ มาตรฐาน
(STANDARD SIZE SET)

2.5 หลักการสร้างแบบและแยกแบบ
ตดั เสอื้ ผา้ ส�ำ เรจ็ รูป

1) ว ทิ ยากรอธบิ ายใหค้ วามรเู้ กยี่ วกบั
หลักการสร้างแบบและแยก
แบบตดั เสอ้ื ผา้ ส�ำ เรจ็ รปู พรอ้ ม
สาธิตวิธีการสร้างแบบและ
แยกแบบตัดเส้ือผ้าสำ�เร็จรูป
(เสอ้ื คอโปโล เสอื้ แจก็ เกต และ
เส้ือแบบสมยั นิยม)

2) ผ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารสรา้ งแบบ
และแยกแบบตัดเส้ือผ้าสำ�เร็จรูป
(เสอื้ คอโปโล เสอ้ื แจก็ เกต และ
เสอื้ แบบสมยั นิยม)

2.6 กระบวนการวางแบบตดั และตดั เยบ็
เส้อื ผ้าส�ำ เร็จรปู

เรือ่ ง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เนอ้ื หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนช่ัวโมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ

1) ผเู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารวางแบบตดั
และตัดเย็บเส้ือคอโปโล เส้ือ
แจ็กเก็ต และเสอื้ แบบสมยั นยิ ม

2) ผ เู้ รยี นนำ�เสนอผลงานการปฏบิ ตั ิ
3) ว ิทยากรตรวจสอบคุณภาพ

ผลงานตามมาตรฐานชิ้นงาน
พรอ้ มทง้ั ใหผ้ เู้ รยี นแกไ้ ขผลงาน
ใหไ้ ดค้ ณุ ภาพตามมาตรฐานชน้ิ งาน

3. ก ารบรหิ ารจดั การใน 3.1 บ อกวิธีการสำ�รวจแหล่งเงินทุน 3.1 การบรหิ ารจดั การการผลติ 3.1 การบรหิ ารจัดการการผลิต 2 3
การประกอบอาชพี และแหลง่ วัตถดุ ิบในทอ้ งถิ่นได้ 1) การสำ�รวจแหล่งเงินทุน และ 1) ผู้เรียนสำ�รวจและศึกษาแหล่ง 9 6
3.2 สามารถก�ำ หนดมาตรฐานชนิ้ งานได้ แหล่งวัตถดุ บิ ในท้องถ่ิน วัสดุ อุปกรณ์ แหล่งเงินทุน
3.3 บ อกวิธีการควบคุมคุณภาพ 2) ก ารกำ�หนดมาตรฐานชิ้นงาน แหล่งวัตถุดิบในท้องถิ่น และ
ผลผลติ ได้ และการควบคมุ คณุ ภาพผลผลติ การใช้ประโยชน์ของแหล่ง
3.4 ส ามารถบริหารจัดการในการ 3) คณุ ธรรมในการประกอบอาชพี วตั ถุดบิ ในทอ้ งถน่ิ
ประกอบอาชพี ไดอ้ ยา่ งมคี ณุ ธรรม 3.2 การบรหิ ารจัดการการตลาด 2) ผ ู้เรียนร่วมกันสรุปข้อมูลที่
3.5 อธิบายเกี่ยวกับหลักการจัดการ 1) หลักการจดั การการตลาด รวบรวมไดจ้ ากการส�ำ รวจ และ
ตลาด ระบบการตลาดและพฤตกิ รรม 2) ร ะบบการตลาดและพฤตกิ รรม สรปุ วธิ กี ารส�ำ รวจแหลง่ เงนิ ทนุ
ผูบ้ รโิ ภคได้ ผูบ้ รโิ ภค และแหล่งวตั ถุดบิ ในท้องถน่ิ
3.6 บ อกวิธีการหาข้อมูล การเก็บ 3) ข อ้ มลู ทางการตลาด (วธิ กี ารหา 3) วิทยากรอธิบายความสำ�คัญ
รวบรวมข้อมูล และนำ�ข้อมูลมา ข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูล ของการก�ำ หนดมาตรฐานชน้ิ งาน
ใช้ได้ และการน�ำ ข้อมูลไปใช้) และการควบคมุ คณุ ภาพผลผลติ
347

เร่อื ง จุดประสงค์การเรียนรู้ เนอ้ื หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนช่วั โมง 348
ทฤษฎี ปฏิบัติ

3.7 น ำ � ข้ อ มู ล ท า ง ก า ร ต ล า ด ม า 4) การวเิ คราะหค์ วามตอ้ งการของ 4) ผ เู้ รยี นรว่ มกนั ก�ำ หนดมาตรฐาน
วิเคราะห์ความต้องการของตลาด ตลาดในชุมชน และประเทศ ชนิ้ งาน และวางแผนการควบคมุ
ในชมุ ชน และประเทศได้ 5) การทำ�บญั ชีรายรับ – รายจ่าย คณุ ภาพผลผลิต
3.8 วางแผนผลิตสินค้าให้สอดคล้อง 6) การคำ�นวณต้นทุนกำ�ไรใน 5) วทิ ยากรอธบิ ายใหค้ วามรเู้ กี่ยวกบั
กับความตอ้ งการของตลาดได้ การผลติ และการก�ำ หนดราคา คณุ ธรรมในการประกอบอาชพี
3.9 อธิบายความหมายและประโยชน์ ขาย 6) ผ ู้เรียนยกตัวอย่างการบริหาร
ของการท�ำ บญั ชีได้ 7) ก ารส่งเสริมการขาย และ จัดการในการประกอบอาชีพ
3.10 อธิบายขั้นตอนในการทำ�บัญชี ช่องทางการจดั จ�ำ หน่าย ไดอ้ ย่างมีคุณธรรม
รายรบั – รายจา่ ยได้ 3.2 การบรหิ ารจัดการการตลาด
3.11 จัดทำ�บัญชีรายรบั – รายจ่ายได้ 1) ว ทิ ยากรอธบิ ายใหค้ วามรเู้ กย่ี ว
3.12 ค�ำ นวณตน้ ทนุ ก�ำ ไรในการผลติ ได้ กับหลักการจัดการการตลาด
3.13 กำ�หนดราคาขายได้อย่างเหมาะ ระบบการตลาด พฤติกรรมผู้
สมกับตัวสินค้าและสอดคล้องกับ บริโภค และข้อมูลทางการ
ต้นทุนและเวลารอบจำ�หน่าย ตลาด (วิธีการหาข้อมูล การ
สินคา้ เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู และการน�ำ
3.14 อ ธิบายแนวทางการส่งเสริมการ ขอ้ มลู ไปใช้)
ขายและช่องทางการจัดจำ�หน่าย 2) ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการหาข้อมูล
ได้ ทางการตลาด
3) ผู้เรียนนำ�ข้อมูลทางการตลาด
ที่เก็บรวมรวมได้มาวิเคราะห์
ความต้องการของตลาดใน
ชมุ ชน และประเทศ

เร่อื ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชัว่ โมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ

4) ผ ู้เรียนฝึกปฏิบัติวางแผนผลิต
สินค้าให้สอดคล้องกับความ
ตอ้ งการของตลาด

5) วิทยากรอธิบายให้ความร้เู ก่ยี วกบั
ความหมายและประโยชน์ของ
การทำ�บัญชี ข้ันการทำ�ตอน
บญั ชรี ายรับ – รายจา่ ย

6) ผ ู้เรียนฝึกปฏิบัติการทำ�บัญชี
รายรบั – รายจ่าย

7) วทิ ยากรอธบิ ายใหค้ วามรเู้ กี่ยวกบั
วิธีการคำ�นวณต้นทุนกำ�ไรใน
การผลติ การก�ำ หนดราคาขาย
การส่งเสริมการขาย และ
ช่องทางการจดั จ�ำ หน่าย

8) ผ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั คิ �ำ นวณตน้ ทนุ
กำ�ไรในการผลิต และกำ�หนด
ราคาขาย

9) ผ ู้เรียนร่วมกันสรุปแนวทาง
ส่งเสริมการขาย และช่องทาง
การจัดจ�ำ หน่าย

349

เรื่อง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนื้อหา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชวั่ โมง 350
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ

4. โครงการประกอบ 4.1 บอกความสำ�คัญของโครงการ 4.1 ความส�ำ คญั ของโครงการประกอบ 4.1 จัดให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจากใบ 0.5 -
อาชีพ อาชีพได้ อาชีพ ความรู้เรื่อง ความสำ�คัญของ 0.5 -
4.2 บ อกประโยชน์ของโครงการอาชีพ 4.2 ป ระโยชน์ของโครงการประกอบ โครงการอาชีพ ประโยชน์ของ 1 -
ได้ อาชีพ โครงการอาชีพ องค์ประกอบของ 1 6
4.3 บ อกองค์ประกอบของโครงการ 4.3 อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ข อ ง โ ค ร ง ก า ร โครงการอาชีพ แล้วจัดกิจกรรม - 3
อาชีพได้ ประกอบอาชพี การสนทนา แลกเปลี่ยนข้อมูล
4.4 อ ธบิ ายความหมายขององคป์ ระกอบ 4.4 การเขยี นโครงการ ความคิดเห็นเพื่อสร้างแนวคิดใน
ของโครงการอาชีพได้ 4.5 ก ารประเมินความเหมาะสมและ การดำ�เนนิ กิจกรรมการเรยี นรู้
4.5 อธิบายลักษณะของการเขียน สอดคล้องของโครงการ 4.2 จดั ใหผ้ ู้เรยี นศึกษาสาระขอ้ มลู จาก
โ ค ร ง ก า ร ป ร ะ ก อ บ อ า ชี พ ที่ มี ใบงานความรู้ เร่ือง ตัวอย่าง
อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ข อ ง โ ค ร ง ก า ร โครงการการเขียนโครงการอาชีพ
ครบถ้วนได้ ที่ดี เหมาะสม และถูกต้อง พร้อม
4.6 สามารถขียนโครงการประกอบ จัดการอภิปรายเพื่อสรุปแนวคิด
อาชพี ได้ถกู ต้อง เป็นแนวทางในการเขียนโครงการ
4.7 ต รวจสอบความเหมาะสมและ อาชีพท่ดี ี เหมาะสมและถกู ตอ้ ง
สอดคลอ้ งของโครงการอาชพี ได้ 4.3 จัดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการเขียน
โครงการอาชีพ
4.4 ก ำ�หนดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการ
ป ร ะ เ มิ น ค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม แ ล ะ
สอดคล้องของโครงการอาชีพ

เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนช่วั โมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ

4.5 จ ัดให้ผู้เรียนปรับปรุงโครงการ
อาชพี ให้เหมาะสมและถกู ตอ้ ง

4.6 ก ำ�หนดให้ผู้เรียนเขียนโครงการ
อาชีพของตนเองเพ่ือเสนอขอรับ
การสนับสนุน งบประมาณดำ�เนิน
งานอาชีพ และใช้ในการดำ�เนิน
การประกอบอาชีพตอ่ ไป

351

352

หลกั สูตรการจดั และตกแตง่ สวนหย่อม
จำ�นวน 60 ชั่วโมง

กลุม่ อาชีพความคดิ สร้างสรรค์

ความเปน็ มา

การจัดและตกแต่งสวนหย่อมเป็นอีกอาชีพหนึ่งท่ีมีความต้องการมากในปัจจุบัน เพราะสวนหย่อมเป็น
ส่วนหน่ึงของการตกแต่งอาคารสถานที่ทั้งภายในและภายนอกไม่ว่าจะเป็น บ้าน ที่ทำ�งาน สถานประกอบการ
หรือในพืน้ ท่สี าธารณะต่าง ๆ เพอ่ื การพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ ซึ่งเกดิ จากความ สวยงาม รม่ รนื่ ของสวนหยอ่ มน้ันๆ แต่
พบวา่ ผู้ประกอบอาชพี น้ยี ังมจี ำ�นวนไมม่ ากนัก ทง้ั ที่เป็นอาชพี ทีส่ ามารถสรา้ งรายได้สงู
การจัดและตกแต่งสวนหย่อมมีหลายรูปแบบ เช่น สวนแบบไทย แบบจีน แบบญ่ีปุ่น แบบบาหลี และ
สวนหิน เปน็ ตน้ ดังนนั้ หากผู้สนใจศึกษาหาความรูเ้ รือ่ งการจดั และตกแต่งสวนหยอ่ ม ก็จะสามารถน�ำ ความรู้นนั้
มาประกอบอาชพี เพือ่ สรา้ งรายไดใ้ ห้กับตนเองและครอบครวั ได้
การลงทุนในการประกอบอาชีพจัดและตกแต่งสวนหย่อม ขึ้นอยู่กับขนาดของพ้ืนท่ีวัสดุอุปกรณ์ และ
พันธไ์ มช้ นิดต่างๆ ท่มี ีอย่ใู นท้องถน่ิ หรอื พนื้ ที่ใกลเ้ คยี ง ซึง่ สามารถเลือกใช้ พนั ธุไ์ มห้ รือทรพั ยากรธรรมชาตทิ ม่ี ีอยู่
มาปรบั ใช้ใหเ้ หมาะสมกับสวนหยอ่ มแตล่ ะประเภท
ด้านการตลาด ในปัจจุบันพบว่า อาชีพการจัดและตกแต่งสวนหย่อมเป็นที่ต้องการของตลาดเป็น
อย่างมาก เพียงแต่ผู้ประกอบอาชีพนี้ ต้องแสวงหาความรู้อย่างต่อเน่ือง และพัฒนารูปแบบการจัดสวนหย่อม
ชนดิ ต่างๆ ให้ลูกค้าเหน็ และประทบั ใจในผลงานโดยอาจออกแบบหรือสร้างแบบจำ�ลองใหล้ กู ค้าได้มโี อกาสเลือก
พิจารณา เลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับสวนหย่อมท่ีลูกค้าต้องการ รวมทั้งการกำ�หนดราคาท่ีทำ�ให้ลูกค้าพึงพอใจ
ในและสามารถตัดสินใจได้
จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้นจึงได้ทำ�การพัฒนาหลักสูตร การจัดและตกแต่งสวนหย่อมขึ้น เพื่อให้ผู้สนใจ
ที่จะประกอบอาชีพนี้ ได้เห็นช่องทางและสามารถตัดสินใจเลือกประกอบอาชีพการจัดและตกแต่งสวนหย่อม
ไดอ้ ยา่ งถกู ต้องเหมาะสมกบั ตนเอง

หลกั การของหลกั สูตร

1. เพื่อใหเ้ กิดความคดิ สร้างสรรค์ในการประกอบอาชพี อย่างมีคุณภาพ
2. เพือ่ ใหเ้ ห็นช่องทางในการประกอบอาชพี และพัฒนาอาชีพเดมิ ทมี่ อี ยู่
3. สง่ เสริมใหม้ ีการน�ำ เอาวสั ดุธรรมชาติทมี่ ใี นทอ้ งถ่ินมาใชใ้ ห้เกิดประโยชน์มากท่สี ดุ

จุดหมาย

1. เพื่อใหผ้ เู้ รียนมคี วามรู้ และความเขา้ ใจในงานอาชีพ
2. เพอื่ ให้ผู้เรียนเกดิ ทักษะ และสามารถพฒั นาอาชพี การจัดและตกแต่งสวนหย่อมได้
3. เพอ่ื สร้างรายได้ให้กบั ตนเองและครอบครวั

353

กล่มุ เปา้ หมาย

กลุม่ เปา้ หมายคอื ประชาชนกล่มุ เป้าหมายนอกระบบโรงเรยี น
1. ผทู้ ่ีไมม่ อี าชพี
2. ผูท้ ม่ี ีอาชพี และตอ้ งการพัฒนาอาชพี

ระยะเวลา จ�ำ นวน 60 ชั่วโมง (ทฤษฎี 19 ชัว่ โมง ปฏิบัติ 41 ช่วั โมง)

โครงสร้างหลกั สูตร
1. ช่องทางการประกอบอาชพี (ทฤษฎี 5 ชัว่ โมง/ปฏิบตั ิ - ชั่วโมง)
1.1 ความสำ�คัญในการประกอบอาชพี การจัดและตกแต่งสวนหย่อม
1.2 ขอ้ มลู ความต้องการในการตกแตง่ สวนหยอ่ ม
1.3 การวิเคราะหก์ ารตลาด
1.4 ทิศทางการประกอบอาชพี
2. ทกั ษะการประกอบอาชีพการจัดตกแต่งสวนหย่อม (ทฤษฎี 10 ชวั่ โมง/ปฏิบัติ 27 ช่วั โมง)
2.1 ความร้เู บือ้ งตน้ เก่ียวกบั การตกแตง่ สวนหย่อม
2.1.1 ความรู้ ความเขา้ ใจและสามารถออกแบบ เขยี นแบบ และการอา่ นแบบสวนหยอ่ มชนดิ
ต่างๆ
2.1.2 ความรเู้ รอื่ งพนั ธุ์ไมช้ นิดต่างๆ
2.1.3 ความรูเ้ รอ่ื งการจัดองค์ประกอบ
2.1.4 ความพรอ้ มในการประกอบอาชีพ เชน่ แหลง่ เงนิ ทนุ แรงงาน เปน็ ต้น
2.2 ความรใู้ นการตกแต่งสวนหย่อมเพอ่ื การประกอบอาชีพ
2.2.1 การออกแบบ
2.2.2 การเขียนแบบ
2.2.3 ความรู้ในการเลอื กใชว้ สั ดใุ นการตกแต่งสวนหยอ่ ม
1) การคดั เลือกพันธไุ์ มป้ ระดับ(ไม้ดอก – ไมใ้ บ)
2) การเลือกหินประดับ
3) ส่วนประกอบอืน่ ๆ ท่ีน�ำ มาประดบั ในสวนหย่อม
2.2.4 ความร้ใู นการค�ำ นวณพน้ื ที่และผลกระทบตอ่ สิง่ แวดล้อม
2.2.5 ความรเู้ รือ่ งการตลาด
2.3 ความรู้เร่อื งรูปแบบการจัดสวนหย่อมชนดิ ตา่ งๆ ได้แก่
- สวนไทย หรือสวนพรรณไม้เขตรอ้ นชื้น
- สวนจีน
- สวนญี่ป่นุ
- สวนบาหลี
- สวนหิน

354

2.3.1 องคป์ ระกอบการตกแต่งสวนหย่อม
1) การเตรยี มประกอบอาชพี
2) ศึกษาเรียนรใู้ นการจัดสวนหย่อม
3) ออกแบบ และเขยี นแบบสวนหย่อม
2.3.2 การปฏบิ ตั ิการจัดตกแตง่ สวนหย่อม
1) การปรับพนื้ ที่
2) การเลอื กพรรณไม้
3) การปรบั หลมุ ปลกู ตน้ ไม้
4) การดูแลรักษาสวนและกำ�จดั วชั พืช
2.4 แหลง่ เรียนรู้และภูมิปญั ญาที่มใี นท้องถิ่น หรอื พืน้ ท่ีใกลเ้ คยี ง
3. การบรหิ ารจดั การในการประกอบอาชีพการตกแต่งสวนหยอ่ ม
(ทฤษฎี 3 ช่ัวโมง/ปฏบิ ตั ิ 6 ช่วั โมง)
3.1 จดั การเร่อื งการตลาด
3.1.1 การประชาสมั พนั ธ์
3.1.2 การหาผู้รบั บริการ
3.1.3 การวิจยั การตลาดการจัดสวน
3.2 จัดการเรอ่ื งทุน – กำ�ไร
3.3 การใช้สอ่ื เทคโนโลยมี าประกอบการจดั สวน
4. โครงการประกอบอาชพี (ทฤษฎี 1 ชว่ั โมง/ปฏิบัต ิ 8 ชั่วโมง)
4.1 ความส�ำ คัญของโครงการประกอบอาชีพ
4.2 ประโยชนข์ องโครงการประกอบอาชีพ
4.3 องค์ประกอบของโครงการประกอบอาชพี
4.4 การเขยี นโครงการ
4.5 การประเมนิ ความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของโครงการ

การจดั กระบวนการเรียนรู้

1. ศกึ ษาข้อมูลจากเอกสาร หนังสือวารสารการตกแต่งสวนหย่อม
2. ศกึ ษาจาก VCD การตกแตง่ สวนหยอ่ ม
3. ศึกษาจากส่อื อนิ เตอร์เนท็
4. ศึกษาดงู านจากสถานที่จรงิ

ส่ือการเรียนรู้

1. สือ่ เอกสาร หนงั สอื วารสาร
2. VCD การตกแต่งสวนหยอ่ ม
3. สถานทีจ่ รงิ

355

การวดั และประเมินผล

1. การประเมนิ ความรูภ้ าคทฤษฎีก่อนเรยี นและจบหลักสตู ร
2. การประเมินผลงานระหว่างเรียนจาการปฏิบัติ ได้ผลงานท่ีมีคุณภาพสามารถสร้างรายได้ และ
จบหลกั สูตร

การจบหลักสูตร

1. มีเวลาเรียน ไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 80
2. มีผลการประเมินตลอดหลักสูตร ไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 60
3. มผี ลงานทม่ี คี ุณภาพ

เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา

1. หลักฐานการประเมินผล
2. ทะเบียนคุมวฒุ ิบัตร
3. วุฒิบัตรการศึกษา ออกโดยสถานศึกษา

การเทียบโอน

ผู้เรียนที่จบหลักสูตรน้ีสามารถนำ�ไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ
การศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี วิชาเลอื กทีส่ ถานศึกษาไดจ้ ัดท�ำ ข้นึ

รายละเอยี ดโครงสร้างหลกั สูตรการจัดตกแตง่ สวนหย่อม 356

เร่อื ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนอื้ หา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนชัว่ โมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ

1. ชอ่ งทางการประกอบ 1. เพื่อให้ผู้เรียนบอกความสำ�คัญของ 1. ความสำ�คญั ของสวนหย่อม - ใ ห้ผู้เรียนศึกษาจากข้อมูลงานวิจัย 5 -
อาชีพ อาชพี การจัดและตกแตง่ สวนหยอ่ ม 2. ข้อมูลความต้องการในการจัดและ ขอ้ มลู จากอนิ เทอรเ์ นต็ เวปไซดต์ า่ งๆ 27
2. ส ามารถจำ�แนกข้อมูลความต้องการ ตกแต่งสวนหย่อม ใบความรู้พร้อมฟังบรรยายผู้จาก
การจัดและตกแตง่ สวนหย่อมได้ 3. การวิเคราะห์ขอ้ มลู การตลาด ผสู้ อน
3. บ อกทศิ ทางการประกอบอาชพี ไดแ้ ก่ 4. ทิศทางการประกอบอาชีพ - ค ร/ู ผเู้ รยี นแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ วเิ คราะห์
ทุน ความต้องการของตลาด วัสดุ ข้อมลู ร่วมกนั
อปุ กรณ์ ชอ่ งทางการจัดจ�ำ หน่าย

2. ทักษะการประกอบ 1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ 1. ค วามรู้เบื้องต้นเก่ียวกับการตกแต่ง - ใ ห้ผู้เรียนศึกษาจากใบความรู้พร้อม 10
อาชีพ เก่ียวกับการตกแต่งสวนหย่อม สวนหย่อม ฟังบรรยายจากครูผู้สอนเพื่อให้เกิด
2. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจใน 1.1 ความรู้ ความเข้าใจและ กระบวนการเรยี นรู้ได้อย่างถกู ตอ้ ง
การจัดและตกแต่งสวนหยอ่ ม ได้แก ่ สามารถออกแบบ เขียนแบบ - ผู้สอนอธิบายเร่ืองการออกแบบ
ออกแบบ เขียนแบบ เลือกใช้วัสดุ และการอ่านแบบสวนหย่อม สวนหยอ่ มพรอ้ มชมสอ่ื ประกอบการ
การคำ�นวณพืน้ ท่ี และการตลาด ชนดิ ตา่ งๆ บรรยาย
3. เ พ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้เรื่องรูปแบบ 1.2 ความรเู้ รอื่ งพันธ์ุไมช้ นดิ ตา่ งๆ - ผ สู้ อนสาธติ การออกแบบ สวนหยอ่ ม
การจดั สวนหย่อมชนิดตา่ ง ๆ 1.3 ความรเู้ รือ่ งการจดั องค์ประกอบ - ผ ู้เรียนฝึกปฏิบัติการออกแบบ การ
4. เ พื่อให้ผู้เรียนสามารถเลือกใช้แหล่ง 1.4 ค วามพร้อมในการประกอบอาชีพ เขยี น
เรียนรู้และภูมิปัญญาในท้องถ่ินหรือ เชน่ แหล่งเงนิ ทนุ แรงงาน - ศกึ ษาเรยี นรจู้ ากสถานที่จริง
พนื้ ทใ่ี กลเ้ คยี งได้ 2. ความรู้ในการตกแต่งสวนหย่อมเพื่อ - ผู้เรียนฝึกปฏิบัติจริงจากสถานที่
การประกอบอาชีพ ท่กี ำ�หนดให้

เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนอ้ื หา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนช่วั โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ

2.1 การออกแบบ - ใ ห้ผู้เรียนฝึกพัฒนารูปแบบการจัด
2.2 การเขียนแบบ สวนหย่อมชนดิ ตา่ ง ๆ
2.3 ความรู้ในการเลือกใช้วัสดุใน - แลกเปลยี่ นเรยี นรแู้ นวคดิ การเลอื ก
การตกแต่งสวนหย่อม วัสดุ พันธุ์ไม้ชนิดต่างๆ และปรับ
1) ก ารคดั เลอื กพนั ธไ์ุ มป้ ระดบั ประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสวนหย่อม
(ไม้ดอก – ไม้ใบ) ชนิดตา่ งๆ
2) การเลอื กหนิ ประดับ
3) สว่ นประกอบอนื่ ๆ ทน่ี �ำ มา
ประดับในสวนหยอ่ ม
2.4 ความรใู้ นการค�ำ นวณพน้ื ทแ่ี ละ
ผลกระทบตอ่ สงิ่ แวดล้อม
2.5 ความรู้เร่อื งการตลาด
3. ความรู้เร่ืองรูปแบบการจัดสวนหย่อม
ชนิดตา่ งๆ ไดแ้ ก่
- ส วนไทย หรือสวนพรรณไม้เขต
รอ้ นชืน้
- สวนจีน
- สวนญป่ี ุ่น
- สวนบาหลี
- สวนหิน
357

เรอ่ื ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนอื้ หา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชัว่ โมง 358
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ

3.1 องค์ประกอบการตกแต่ง
สวนหย่อม
1) การเตรียมประกอบอาชพี

2) ศกึ ษาเรียนรู้ในการจัดสวน
หย่อม

3) ออกแบบ และเขียนแบบ
สวนหยอ่ ม

3.2 ก ารปฏิบัติการจัดตกแต่ง
สวนหย่อม

1) การปรบั พ้นื ท่ี
2) การเลอื กพรรณไม้
3) การปรบั หลมุ ปลกู ต้นไม้
4) การดูแลรักษาสวนและ

ก�ำ จัดวัชพชื
4. แ หล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาที่มีใน

ท้องถิ่น หรอื พื้นท่ใี กลเ้ คยี ง

3. การบรหิ ารจดั การใน 1. ผเู้ รยี นสามารถจดั การเรอื่ งการตลาด 1. การจัดการเร่ืองการตลาด - ให้ผ้เู รียนไดศ้ กึ ษาจากใบงานความรู้ 3 6
การประกอบอาชพี ได้ 1.1 การประชาสัมพันธ์ - ครูผู้สอนบรรยาย พร้อมนำ�เสนอ
- ประชาสมั พนั ธ์ 1.2 การหาผูร้ ับบริการ ข้อมูลการตลาด
- การหาผูร้ บั บริการ 1.3 การวจิ ยั การตลาดการจัดสวน - ใช้สื่อ VCD ประกอบการเรียนรู้

เรอ่ื ง จุดประสงค์การเรียนรู้ เน้อื หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชว่ั โมง
ทฤษฎี ปฏิบัติ

- การวิจัยการตลาดการจดั สวน 2. จดั การเรอื่ งทนุ – กำ�ไร - ฝ ึกปฏิบัติการทำ�บัญชี คำ�นวณ
2. ผ ู้เรียนสามารถจัดการเร่ืองทุน - 3. ก ารใชส้ อ่ื เทคโนโลยมี าประกอบการ ตน้ ทนุ -ก�ำ ไร ประชาสมั พันธ์ การหา
กำ�ไรได้ จดั สวน ผรู้ บั บริการ และการวจิ ัยตลาด
3. ผ ู้เรียนสามารถใช้สื่อเทคโนโลยีมา
ประกอบการจัดสวน

4. โ ครงการประกอบ 1. บอกความส�ำ คญั ของโครงการอาชพี 1. ความส�ำ คญั ของโครงการอาชพี 1. ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจากใบความรู้ 0.5 -
อาชพี ได 2. ประโยชน์ของโครงการอาชีพการ เรอื่ ง ความส�ำ คญั ของโครงการอาชพี -
2. บ อกองค์ประกอบของโครงการ 3. อ งค์ประกอบของโครงการประกอบ ประโยชน์ของโครงการอาชีพ 3
อาชีพได้ อาชีพ องคป์ ระกอบของโครงการอาชพี แลว้
3. อ ธิบายลักษณะการเขียนท่ีดีของ 4. ก ารเขยี นโครงการอาชพี จัดกิจกรรมการสนทนาแลกเปล่ียน
องคป์ ระกอบของโครงการอาชพี ได้ 5. ก ารประเมินความเหมาะสมและ ขอ้ มลู ความคดิ เหน็ เพอื่ สรา้ งแนวคดิ
4. บอกประโยชนข์ องโครงการอาชพี ได้ สอดคล้องของโครงการอาชีพ ในการดำ�เนนิ กจิ กรรมการเรียนรู้
5. เขยี นโครงการในแตล่ ะองคป์ ระกอบ 2. ผ ู้เรียนศึกษาสาระข้อมูลจากใบความรู้ 0.5
ใหเ้ หมาะสมและถกู ต้องได้ เรื่องตัวอย่างการเขียนโครงการอาชีพ
6. ตรวจสอบความเหมาะสมและ ท่ีดี เหมาะสม และถูกต้อง พร้อม
สอดคลอ้ งของโครงการอาชพี ได้ จดั การอภปิ ราย เพือ่ สรปุ แนวคดิ เปน็
แนวทางในการเขียนโครงการอาชีพ
ทดี่ ี เหมาะสม และถกู ตอ้ ง
3. ผ ู้เรียนฝึกปฏิบัติ การเขยี นโครงการ
อาชีพ
359

เร่อื ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้อื หา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชั่วโมง 360
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ

4. กำ�หนดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการ 1
ประ เ มิ น ค ว าม เ ห ม าะ ส ม แล ะ 1
สอดคล้องของโครงการอาชพี 3

5. ผ ู้เรียนฝึกการพัฒนาหรือปรับปรุง
โครงการอาชีพ ให้มีความเหมาะสม
และถูกต้อง

6. ใ ห้ผู้เรียนเขียนโครงการอาชีพของ
ตนเอง เพื่อเสนอขอรับการสนับสนุน
งบประมาณดำ�เนินงานอาชีพ และ
ใช้ในการดำ�เนินการประกอบอาชีพ
ต่อไป

361

หลักสูตรงานใบตอง
จำ�นวน 100 ชั่วโมง
กลุ่มอาชพี ความคดิ สรา้ งสรรค์

ความเปน็ มา

ในสมัยโบราณ ใบตองมีบทบาทมากในชีวิตประจำ�วัน เช่น การนำ�ใบตองมาห่ออาหารห่อขนม ช่วยให้
อาหารขนมมกี ลน่ิ หอมนา่ รบั ประทาน ใชห้ อ่ ผกั หอ่ ดอกไมช้ ว่ ยใหส้ ดทนนาน ตลอดจนน�ำ มาประดษิ ฐเ์ ปน็ ชน้ิ งาน
ที่ใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรคใ์ หม้ ีรูปรา่ ง รูปทรงสวยงามประณตี ยง่ิ ขึน้ เพอ่ื เปน็ ภาชนะบรรจสุ งิ่ ของ เช่น กระทง ถาด
กระเช้า สำ�หรับบรรจุหรือจัดวางอาหาร ขนม ผลไม้ ดอกไม้ นำ�ไปให้บุคคลซึ่งเป็นท่ีเคารพนับถือในวันปีใหม่
วนั ขน้ึ บ้านใหม่ วนั ส�ำ คญั ต่างๆ เป็นต้น
ปัจจุบันการจัดงานมงคลต่างๆ เช่น ขึ้นบ้านใหม่ บวช แต่งงาน งานต้อนรับ งานตกแต่งสถานที่ ฯลฯ
และงานประเพณีต่างๆ เช่น ลอยกระทง แห่เทียนพรรษา การไหว้ครู งานใบตองยังมีส่วนเก่ียวข้องกับพิธีกรรม
ต่างๆ เหล่านั้น และทำ�ให้เกิดอาชีพรับประดิษฐ์งานใบตองในรูปแบบต่างๆ เป็นอาชีพทำ�รายได้ให้กับ
ผ้ปู ระกอบการได้เป็นอยา่ งด ี
ตามมติคณะรัฐมนตรีเม่ือวันที่ 16 สิงหาคม 2554 ได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานดำ�เนินงานตาม
พระราชเสาวนียส์ มเด็จพระนางเจา้ ฯ พระบรมราชนิ นี าถ จ�ำ นวน 6 ประเดน็ โดยประเดน็ ท่ี 3 เป็นเรอื่ งเกีย่ วกบั
การทำ�นุบำ�รุงศิลปวัฒนธรรมไทยและการส่งเสริมงานศิลปาชีพ สำ�นักงาน กศน. จึงได้น้อมนำ�พระราชเสาวนีย์
มาดำ�เนินการจัดทำ�หลักสูตรงานใบตองขึ้น ซ่ึงเป็นหลักสูตรที่บูรณาการต้นทุนทางด้านวัฒนธรรมการจัดดอกไม้
แบบไทยและขนบประเพณีของไทย เพ่ือให้ประชาชนท่ีสนใจได้นำ�ความรู้ไปใช้ในการประกอบอาชีพ อีกท้ัง
สง่ เสรมิ ใหม้ เี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ งานศลิ ปวฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ และของชาตเิ หน็ แนวทางในการอนรุ กั ษส์ ง่ เสรมิ สนบั สนนุ และ
สืบทอด รวมท้ังส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการคิดค้นพัฒนาลักษณะรูปแบบของงานใบตองให้เข้ากับยุคสมัย
และตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ยังคงความสวยงามแบบไทยไว้ อีกท้ังเน้นให้ผู้เรียนได้มีความรู้เร่ือง
การประกอบอาชพี และการจดั การอาชพี อย่างมีคณุ ธรรมจรยิ ธรรม

หลักการของหลกั สตู ร

1. เป็นหลักสูตรที่ตอบสนองความต้องการการเรียนรู้ของประชาชนในเรื่องศิลปะงานใบตองเพื่อ
การประกอบอาชีพ
2. เป็นหลักสูตรท่ีมุ่งเน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจและทักษะรวมทั้งความคิดสร้างสรรค์ในการ
ประดษิ ฐง์ านใบตอง
3. เปน็ หลกั สตู รทผ่ี เู้ รยี นมสี ว่ นรว่ มในการอนรุ กั ษส์ ง่ เสรมิ สนบั สนนุ และสบื ทอดศลิ ปวฒั นธรรมของชาติ

จุดหมาย

1. เพื่อใหผ้ ้เู รียนมีความรู้ความเขา้ ใจและมีทักษะในการจัดท�ำ ศิลปะงานใบตอง
2. เพ่อื ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรูค้ วามเข้าใจเกย่ี วกบั การบรหิ ารจัดการอาชพี การจดั ท�ำ ศลิ ปะงานใบตอง

362

3. เพอ่ื ให้ผูเ้ รยี นมคี วามร้คู วามเขา้ ใจสามารถเขยี นโครงการอาชีพได้
4. เพ่อื ใหผ้ เู้ รียนมคี วามรู้ความเขา้ ใจตระหนักถึงการประเปน็ ผปู้ ระกอบการที่ดี

กลุ่มเปา้ หมาย

กลุ่มเป้าหมายคอื ประชาชนกลมุ่ เปา้ หมายนอกระบบโรงเรียน
1. ผทู้ ไ่ี ม่มอี าชพี
2. ผู้ท่มี ีอาชีพและตอ้ งการพฒั นาอาชพี
3. ผ้ทู ี่ตอ้ งการเปล่ียนอาชพี

ระยะเวลา จ�ำ นวน 100 ชั่วโมง

ภาคทฤษฎ ี 82 ชัว่ โมง
ภาคปฏบิ ตั ิ 18 ชว่ั โมง

โครงสรา้ งหลักสูตร จำ�นวน 4 ชั่วโมง
จ�ำ นวน 1 ชั่วโมง
1. ช่องทางการประกอบอาชีพ จ�ำ นวน 1 ชั่วโมง
1.1 ความสำ�คัญของงานใบตอง จำ�นวน 1 ชั่วโมง
1.2 ความเป็นไปไดใ้ นการประกอบอาชพี จ�ำ นวน 1 ชั่วโมง
1.3 แหลง่ เรียนรเู้ ก่ียวกบั งานใบตอง จำ�นวน 74 ชว่ั โมง
1.4 การตัดสนิ ใจเลือกอาชีพรบั จดั ทำ�งานใบตอง จ�ำ นวน 4 ชั่วโมง
2. ทกั ษะการประกอบอาชีพ จ�ำ นวน 70 ชว่ั โมง
2.1 ความร้เู บือ้ งตน้ เก่ยี วกบั งานใบตอง จ�ำ นวน 12 ชัว่ โมง
2.2 การประดิษฐง์ านใบตอง จ�ำ นวน 6 ชว่ั โมง
2.2.1 เทคนิคการพับกลีบใบตอง จ�ำ นวน 6 ชว่ั โมง
2.2.2 การประดิษฐ์ถาดวงกลมกลบี กุหลาบ จำ�นวน 6 ชว่ั โมง
2.2.3 การประดิษฐ์ถาดหกเหล่ยี มกลีบบวั สาย จำ�นวน 6 ชว่ั โมง
2.2.4 การประดิษฐ์แจกัน จ�ำ นวน 6 ชั่วโมง
2.2.5 การประดิษฐช์ อ่ ดอกไม ้ จำ�นวน 6 ชั่วโมง
2.2.6 การประดษิ ฐ์พานพุ่ม จำ�นวน 6 ชั่วโมง
2.2.7 การประดษิ ฐ์กระทงดอกไม้ จำ�นวน 6 ชว่ั โมง
2.2.8 การประดษิ ฐ์กระทงลอย จ�ำ นวน 6 ชั่วโมง
2.2.9 การประดิษฐ์กระเช้าของขวัญ จ�ำ นวน 10 ชว่ั โมง
2.2.10 การท�ำ บายศรี จ�ำ นวน 3 ชว่ั โมง
3. การบรหิ ารจดั การในการประกอบอาชพี จำ�นวน 3 ชว่ั โมง
3.1 องค์ประกอบการประกอบอาชีพ
3.2 การจัดการอาชพี

363

3.3 การทำ�จดั ทำ�บัญชรี ายรบั – รายจ่าย จำ�นวน 3 ชว่ั โมง
3.4 คุณลักษณะของผูป้ ระกอบธรุ กิจทีด่ ี จำ�นวน 1 ชว่ั โมง
4. โครงการประกอบอาชพี จำ�นวน 12 ชั่วโมง
4.1 ความสำ�คัญของโครงการประกอบอาชีพ จำ�นวน 1 ชวั่ โมง
4.2 ประโยชน์ของโครงการประกอบอาชพี จำ�นวน 1 ชว่ั โมง
4.3 องค์ประกอบของโครงการประกอบอาชพี จำ�นวน 1 ชว่ั โมง
4.4 การเขยี นโครงการอาชีพจดั ทำ�งานใบตอง จ�ำ นวน 6 ชั่วโมง
4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของโครงการอาชพี จัดท�ำ งานใบตอง
จำ�นวน 3 ชว่ั โมง

การจดั กระบวนการเรียนรู้

1. บรรยายและแลกเปลี่ยนเรยี นรคู้ วามส�ำ คญั ของงานใบตอง
2. จัดกิจกรรมวเิ คราะห์ขอ้ มูล ความเป็นไปได้ รวมทงั้ การศึกษาดงู าน เพือ่ การตัดสินใจ เลอื กรปู แบบ
การประกอบอาชีพรับจดั ท�ำ งานใบตอง
3. ฝกึ ทักษะการประกอบอาชีพ
- เรยี นรู้จากวิทยากร
- เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง จากสอ่ื ต่าง ๆ แหลง่ เรยี นรู้ ผู้รู้
- เรยี นรู้จากการลงมอื ปฏบิ ตั ิจรงิ
- เรยี นรจู้ ากกลมุ่ เพื่อแลกเปลีย่ นเรยี นรู้
4. จัดกิจกรรมการเรียนรู้เก่ียวกับการบริหารจัดการ ในการประกอบอาชีพ การจัดการผลิต และ
การจัดการตลาด
5. จัดทำ�โครงการประกอบอาชีพ การเขียนโครงการ เสนอ อนุมัติโครงการ ตลอดจนวางแผนธุรกิจ
หาแหล่งทุน
6. ด�ำ เนนิ การให้ผู้เรยี นทำ�โครงการประกอบอาชีพไปสู่การปฏิบัติจริง
7. การนิเทศ ติดตามประเมนิ โครงการของผเู้ รียนและให้ขอ้ เสนอแนะในการปรบั ปรุงพัฒนา

สอื่ การเรียนรู้

1. สอ่ื บคุ คล ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ ผู้รู ้ วิทยากร
2. เอกสารประกอบการเรียนรู้ หนังสือ ต�ำ รา ใบงาน ใบความรู้
3. ตัวอยา่ งของจรงิ
4. วสั ดอุ ปุ กรณ์ทใ่ี ชฝ้ ึกปฏบิ ัติ
5. รปู ภาพประกอบ
6. แหลง่ เรียนรู้ สถานท่ศี กึ ษาดงู าน
7. สอื่ อิเล็กทรอนกิ ส์

364

การวัดและประเมินผล

1. การประเมนิ ความร้ภู าคทฤษฎรี ะหวา่ งเรียนและจบหลกั สตู ร
2. การประเมินผลงานระหว่างเรียนจาการปฏิบัติ ได้ผลงานที่มีคุณภาพสามารถสร้างรายได้ และ
จบหลกั สูตร

การจบหลักสูตร

1. มีเวลาเรียน ไม่น้อยกวา่ รอ้ ยละ 80
2. มผี ลการประเมนิ ตลอดหลักสูตร ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 60
3. มผี ลงานทมี่ ีคุณภาพ

เอกสารหลักฐานการศกึ ษา

1. หลักฐานการประเมินผล
2. ทะเบียนคุมวุฒบิ ตั ร
3. วุฒิบตั รการศึกษา ออกโดยสถานศึกษา

การเทียบโอน

ผู้เรียนที่จบหลักสูตรนี้สามารถนำ�ไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ
การศกึ ษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี วชิ าเลอื กทสี่ ถานศึกษาได้จัดท�ำ ข้ึน

รายละเอียดโครงสร้างหลกั สตู รงานใบตอง

เรอื่ ง จุดประสงค์การเรียนรู้ เนือ้ หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนช่ัวโมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ

1. ช อ่ งทางการประกอบ 1. เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นบอกความส�ำ คญั ในการ 1. ความส�ำ คัญของงานใบตอง 1. ว ทิ ยากรบรรยายความส�ำ คญั ของงาน 1 -
อาชพี ในการจดั ท�ำ งาน ประกอบอาชีพรบั จดั ท�ำ งานใบตองได้ 2. ค วามเปน็ ไปได้ในการประกอบอาชีพ ใบตอง ผู้เรยี นร่วมแลกเปล่ียนเรียนรู้ 0.5 0.5
ใบตอง 2. เ พื่อให้ผู้เรียนวิเคราะห์ ความเป็น 3. แหล่งเรียนรู้เกีย่ วกบั งานใบตอง และสรปุ ผลการเรยี นรู้ - 1
จำ�นวน 4 ช่วั โมง ไปได้ในการประกอบอาชีพรับจัด 4. ท ิศทางการประกอบอาชีพรับจัด 2. ผ ู้เรียนร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และ 0.5 0.5
ทำ�งานใบตอง ท�ำ งานใบตอง วเิ คราะหข์ อ้ มลู ความเปน็ ไปไดใ้ นการ
3. เ พอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นบอกทศิ ทางการประกอบ ประกอบอาชีพรับจัดทำ�งานใบตอง
อาชพี รับจัดท�ำ งานใบตอง และสรุปผลการเรียนรู้ วิทยากร
ชว่ ยเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
3. วิทยากรแนะนำ�แหล่งเรียนรู้งาน
ใบตองให้ผู้เรียนได้ศึกษาเพ่ิมเติม
แลว้ สรปุ ผลการเรียนรู้
4. ผู้เรียนสรุปผลการเรียนรู้จากการฟัง
บรรยาย ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มลู จาก
การแลกเปลยี่ นเรยี นรคู้ วามเปน็ ไปได้
ในการประกอบอาชพี และการศกึ ษา
แหล่งเรียนรู้เพ่ิมเติม แล้วเขียน
แนวคดิ เกยี่ วกับทศิ ทางการประกอบ
อาชพี รบั จัดทำ�งานใบตอง วิทยากร
ตรวจสอบและเสนอแนะเพม่ิ เติม
365

เรื่อง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เนื้อหา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนชว่ั โมง 366
ทฤษฎี ปฏิบัติ

2. ท ักษะการประกอบ 1. บ อกความเปน็ มาและประโยชนข์ อง 1. ความรเู้ บอื้ งตน้ เกย่ี วกบั งานใบตอง 1. ผ ู้เรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ถึงความ 3 1
อาชีพ ใบตองได้ 1.1 ประวัติความเป็นมาและ เป็นมาและความสำ�คัญของงาน
จำ�นวน 76 ชวั่ โมง 2. เลอื กใบตองตามทก่ี �ำ หนดให้ได้ ประโยชน์ของใบตอง ใบตอง ผู้สอนรวบรวมข้อมูลสรุป
3. ทำ�ความสะอาดใบตองได้อย่าง 1.2 การเลือกและเตรียมใบตอง และอธบิ ายเพม่ิ เตมิ
ถกู ตอ้ งได้ 1.3 การท�ำ ความสะอาดใบตอง 2. ผู้สอนอธิบายและสาธิตวิธีการเลือก
4. เตรียมวัสดุอุปกรณ์และเลือกใช้ให้ 1.4 ก ารเตรียมวัสดุอุปกรณ์งาน ใบตองผู้เรียนฝึกปฏิบัติเลือกใบตอง
เหมาะสมกับงานใบตองได้ ใบตอง ตามทกี่ �ำ หนด ผสู้ อนสงั เกต ตรวจสอบ
5. บอกวธิ เี กบ็ รกั ษางานใบตองระหวา่ ง 1.5 การเก็บรักษางานใบตอง ประเมนิ ผลการปฏิบัติ
ประดิษฐ์ และหลังประดิษฐ์ได้ 3. ผู้สอนสาธิตวิธีการทำ�ความสะอาด
ใบตอง ผู้เรียนฝึกปฏิบัติทำ�ความ
สะอาดใบตองตามที่กำ�หนด ผู้สอน
สังเกต ตรวจสอบ ประเมินผล
การปฏบิ ตั ิ
4. ผสู้ อนบรรยายประกอบตวั อยา่ งของ
จริงเร่ืองวัสดุอุปกรณ์ท่ีใช้ในงาน
ใบตอง ผู้เรยี นสังเกต สอบถาม และ
บันทึกการเรียนรู้ และทำ�กิจกรรม
ตามท่ีกำ�หนด ผู้สอนสังเกตการมี
สว่ นรว่ ม ประเมนิ ผลการปฏบิ ัติ

เร่อื ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนอื้ หา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนชั่วโมง
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ

2. การประดษิ ฐ์งานใบตอง 1. ว ิทยากรให้ดูตัวอย่างของจริงกลีบ 12 -
1. ผ ู้เรียนสามารถพับกลีบใบตองแบบ 2.1 เทคนคิ การพบั กลบี ใบตอง ใบตองที่พับเป็นช่ือเรียกต่างๆ และ
สาธิตการพับ
ต่างๆ ไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 10 แบบ
2. ผ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั พิ บั กลบี ใบตองแบบ
ตา่ งๆ อยา่ งนอ้ ย 10 แบบ

2. ผู้เรียนสามารถประดิษฐ์ถาดวงกลม 2.2 การประดิษฐ์ถาดวงกลมกลีบ 1. ว ิทยากรให้ดูตัวอย่างของจริงถาด - 6
กลบี กุหลาบไดอ้ ยา่ งสวยงาม กุหลาบ ใบตองกลีบกุหลาบ และแนะนำ�วิธี
การประดิษฐ์
2. ผ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั ปิ ระดษิ ฐถ์ าดใบตอง
กลบี กหุ ลาบ

3. ผเู้ รยี นสามารถประดษิ ฐถ์ าดหกเหลย่ี ม 2.3 ก ารประดิษฐ์ถาดหกเหล่ียม 1. ว ิทยากรให้ดูตัวอย่างของจริงถาด - 6
กลีบบวั สายได้อย่างสวยงาม กลบี บัวสาย หกเหล่ียมกลีบบัวสาย (สามารถ
เปลียนเป็นกลีบอื่นได้) และแนะนำ�
วธิ ีการประดษิ ฐ์
2. ผ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั ปิ ระดษิ ฐถ์ าดใบตอง
หกเหล่ยี มกลบี บวั สาย

4. ผ ู้เรียนสามารถประดิษฐ์แจกันได้ 2.4 การประดษิ ฐแ์ จกัน 1. วทิ ยากรใหด้ ตู วั อยา่ งแจกนั ทปี่ ระดษิ ฐ์ - 6
อยา่ งสวยงาม จากใบตองของจริง และแนะนำ�วิธี
การประดษิ ฐ์
367
2. ผู้เรียนฝึกปฏิบัติประดิษฐ์แจกันจาก
ใบตองและตกแตง่ แจกนั ดว้ ยกลบี อน่ื ๆ

เร่อื ง จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เน้อื หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนชั่วโมง 368
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ

5. ผ ู้เรียนสามารถประดิษฐ์ช่อดอกไม้ 2.5 การประดษิ ฐ์ช่อดอกไม้ 1. วิทยากรให้ดูตัวอย่างช่อดอกไม้ที่ - 6
ได้อยา่ งสวยงาม ประดิษฐ์จากใบตองของจริง และ
แนะน�ำ วธิ ีการประดษิ ฐ์

2. ผู้เรียนฝึกปฏิบัติประดิษฐ์ช่อดอกไม้
จากใบตอง

6. ผู้เรียนสามารถประดิษฐ์พานพุ่มได้ 2.6 การประดิษฐพ์ านพุม่ 1. ว ิทยากรให้ดูตัวอย่างพานพุ่มท่ี - 6
อยา่ งสวยงาม ประดษิ ฐจ์ ากใบตองของจรงิ และจาก
รปู ภาพ พรอ้ มแนะนำ�วิธีการประดษิ ฐ์

2. ผู้เรียนฝึกปฏิบัติประดิษฐ์ช่อดอกไม้
จากใบตอง

7. ผู้เรียนสามารถประดิษฐ์กระทงดอกไม้ 2.7 การประดษิ ฐก์ ระทงดอกไม้ 1. วทิ ยากรใหด้ ตู วั อยา่ งกระทงดอกไมท้ ี่ - 6
ได้อย่างสวยงาม ประดษิ ฐจ์ ากใบตองของจรงิ และจาก
รูปภาพ พร้อมแนะนำ�วธิ ีการประดษิ ฐ์

2. ผู้เรียนฝึกปฏิบัติประดิษฐ์กระทง
ดอกไม้ แล้ว ประกอบและตกแต่ง
บนพานธูปเทียนแพ

8. ผ ู้เรียนสามารถประดิษฐ์กระทง 2.8 การประดิษฐ์กระทงลอย 1. ว ิทยากรให้ดูตัวอย่างกระทงลอย - 6
ลอยไดอ้ ย่างสวยงาม ของจริง และจากรูปภาพ พร้อม
แนะนำ�วธิ ีการประดิษฐ์

2. ผเู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั ปิ ระดษิ ฐก์ ระทงลอย
แลว้ ประกอบและตกแตง่ ดว้ ยดอกไม้
ธปู เทยี น

เรื่อง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนือ้ หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชว่ั โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ

9. ผ ู้เรียนสามารถประดิษฐ์กระเช้าของ 2.9 การประดิษฐ์กระเชา้ ของขวัญ 1. ว ิทยากรให้ดูตัวอย่างกระเช้าของขวัญ - 12
ขวัญไดอ้ ย่างสวยงาม ของจริง และจากรูปภาพ พร้อม
แนะนำ�วิธีการประดษิ ฐ์
2. ผู้เรียนฝึกปฏิบัติประดิษฐ์กระเช้า
ของขวญั และตกแต่ง

10. ผู้เรียนสามารถประดิษฐ์บายศรี 2.10 การทำ�บายศรี 1. ว ทิ ยากรใหด้ ตู วั อยา่ งบายศรขี นาดเลก็ - 6
ขนาดเลก็ ได้อย่างสวยงาม ของจรงิ ไดแ้ ก่ บายศรปี ากชาม และ
บายศรีส่ีทิศ ของจริง และจาก
รูปภาพ พรอ้ มแนะนำ�วิธกี ารประดิษฐ์
2. ผ ู้เรียนเลือกแบบบายศรีท่ีต้องการ
แลว้ ฝกึ ปฏบิ ตั ปิ ระดษิ ฐบ์ ายศรพี รอ้ ม
ตกแตง่

3. ก ารบรหิ ารจดั การใน 1. บอกองค์ประกอบในการประกอบ การบริหารจัดการในการประกอบ 1. ผ ู้เรียนแลกเปล่ียนเรียนรู้เร่ือง
การประกอบอาชพี อาชพี ได้ อาชีพ องค์ประกอบในการประกอบอาชีพ
2. บ อกวธิ ีการเพิ่มมูลคา่ งานใบตองได้ 1. อ งคป์ ระกอบการประกอบอาชีพ วิธีเพ่ิมมูลค่างานใบตองวิทยากร 3 -
3. คำ�นวณราคาจำ�หนา่ ยงานใบตองได้ - เวลา อธบิ ายเพ่ิมเตมิ
4. ระบุช่องทางการจัดจำ�หน่ายงาน - แรงงาน 2. วิทยากรบรรยายความรู้เรื่อง
ใบตอง - ทุน สว่ นผสมทางการตลาดในการจดั การ
5. บ อกวธิ กี ารสง่ เสรมิ การจ�ำ หนา่ ยงาน - แหล่งวัตถดุ ิบ อาชีพ
ใบตอง - แหล่งจัดจำ�หนา่ ย
369

เร่ือง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนือ้ หา การจัดกระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนชว่ั โมง 370
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ

6. จ ดั ท�ำ บญั ชีรายรบั – รายจา่ ย ได้ 2. การจดั การอาชีพ 3. ผ ู้เรียนร่วมแลกเปล่ียนเรียนรู้เรื่อง 3 -
7. บ อกคุณลักษณะของผู้ประกอบ - ผลติ ภณั ฑ์ การเพิ่มมูลค่างานใบตอง ช่องทาง 3 -
ธุรกจิ ที่ดไี ด้ - ราคา การจัดจำ�หน่ายหรือรับงาน วิธีการ 1
- การจัดจ�ำ หนา่ ย ส่งเสริมการจำ�หน่ายหรือเพิ่มปริมาณ
- และการส่งเสริมการตลาด การสั่งทำ�งานใบตอง วิทยากรอธิบาย
3. การท�ำ จดั ท�ำ บญั ชรี ายรบั – รายจา่ ย เพิ่มเตมิ และใหข้ ้อเสนอแนะ
4. คุณลกั ษณะของผปู้ ระกอบธุรกจิ ทด่ี ี 4. ผ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั วิ ธิ กี ารค�ำ นวณราคา
จ�ำ หน่ายหรือราคารบั ทำ�งานใบตอง
5. ว ิทยากรบรรยายวิธีการจัดทำ�บัญชี
รายรบั -รายจา่ ยในการประกอบอาชพี
รบั งานใบตอง ผเู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั จิ ดั ท�ำ
บัญชี
6. ผ ู้เรียนระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับ
คณุ ลกั ษณะของผปู้ ระกอบการธรุ กจิ
ทด่ี ี วทิ ยากรสรปุ และอธบิ ายเพม่ิ เตมิ

4. โ ครงการประกอบ 1. บอกความส�ำ คญั ของโครงการอาชพี 1. ความส�ำ คัญของโครงการอาชีพ 1. จ ดั ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาเนอ้ื หาจากใบความรู้ 1 -
อาชพี ได้ 2. ประโยชนข์ องโครงการอาชีพการ เรอื่ ง ความส�ำ คญั ของโครงการอาชพี 1 -
2. บ อกประโยชนข์ องโครงการอาชพี ได้ 3. องค์ประกอบของโครงการประกอบ ประโยชน์ของโครงการอาชีพ องค์ 1 -
3. บอกองค์ประกอบของโครงการ อาชพี ประกอบของโครงการอาชพี แลว้ จดั - 6
อาชพี ได้ 4. การเขียนโครงการอาชีพ กิจกรรมการสนทนาแลกเปล่ียน - 3
4. อ ธบิ ายความหมายขององคป์ ระกอบ 5. การประเมินความเหมาะสมและ ขอ้ มลู ความคดิ เหน็ เพอ่ื สรา้ งแนวคดิ
ของโครงการอาชีพได้ สอดคล้องของโครงการอาชีพ ในการดำ�เนินกิจกรรมการเรียนรู้

เร่อื ง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เนือ้ หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชัว่ โมง
ทฤษฎี ปฏิบตั ิ

5. อ ธบิ ายลกั ษณะการเขยี นทดี่ ขี ององค์ 2. จ ัดให้ผู้เรียนศึกษาสาระข้อมูลจาก
ประกอบของโครงการอาชีพได้ ใบความรู้ เรื่อง ตัวอย่างการเขียน
6. เ ขยี นโครงการในแตล่ ะองคป์ ระกอบ โครงการอาชีพที่ดี เหมาะสม และ
ให้เหมาะสมและถกู ตอ้ งได้ ถูกตอ้ ง พร้อมจัดการอภิปราย เพื่อ
7. ต รวจสอบความเหมาะสมและ สรุปแนวคิดเป็นแนวทางในการเขียน
สอดคลอ้ งของโครงการอาชพี ได้ โครงการอาชีพท่ีดี เหมาะสม และ
ถูกตอ้ ง
3. จัดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติ การเขียน
โครงการอาชีพ
4. ก �ำ หนดใหผ้ เู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารประเมนิ
ความเหมาะสมและสอดคล้องของ
โครงการอาชพี
5. จัดให้ผู้เรียนปรับปรุงโครงการอาชีพ
ให้มีความเหมาะสมและถูกต้อง
6. กำ�หนดให้ผู้เรียนเขียนโครงการ
อาชีพของตนเอง เพื่อเสนอขอรับ
การสนบั สนนุ งบประมาณด�ำ เนนิ งาน
อาชีพ และใช้ในการดำ�เนินการ
ประกอบอาชพี ต่อไป

371

372

หลักสตู รการประกอบอาชีพการซ่อมแซมและดัดแปลงรูปทรงเส้ือผ้า
จำ�นวน 100 ชว่ั โมง

กลมุ่ อาชพี ความคดิ สร้างสรรค์

ความเปน็ มา

ปัจจุบันแฟชั่นเส้ือผ้าเครื่องนุ่งห่มมีอิทธิพลต่อการดำ�เนินชีวิตของประชาชน และแฟช่ันเส้ือผ้าก็เปลี่ยน
ไปอย่างต่อเน่ือง เสื้อผ้าเมื่อใช้ไปในระยะเวลาหน่ึง อาจล้าสมัยจำ�เป็นต้องซื้อหามาสวมใส่เพ่ือให้ทันยุคทันสมัย
หรือให้สามารถใช้ได้กับฤดูกาลที่เปลี่ยนไป การดัดแปลงต่อเติมตกแต่งและดัดแปลงรูปทรงเสื้อผ้าเป็นแนวทาง
ที่สามารถนำ�เส้ือผ้าเก่าเหล่าน้ันกลับมาใช้ได้อีกเหมาะสมกับโอกาส ฤดูกาลและมีความทันสมัยข้ึน อาชีพ
การซอ่ มแซมและดดั แปลงรปู ทรงเสอื้ ผา้ เปน็ อาชพี หนง่ึ ทม่ี ชี อ่ งทางในการเจรญิ เตบิ โตไดอ้ กี อยา่ งมาก โดยเฉพาะ
ประชาชนในยคุ เศรษฐกจิ ท่ตี ้องการความประหยัดและทันสมยั ผู้ท่มี ีความรใู้ นการซอ่ มแซมและดดั แปลงรูปทรง
เส้อื ผ้า จึงมีโอกาสทีจ่ ะเขา้ สู่อาชีพนี้ได้อกี มาก
สำ�นักงาน กศน. จึงได้ดำ�เนินการจัดทำ�หลักสูตรการซ่อมแซมและดัดแปลงรูปทรงเสื้อผ้าขึ้น เพ่ือให้
ประชาชนทสี่ นใจไดน้ �ำ ความรไู้ ปใชใ้ นการประกอบอาชพี รวมทงั้ สง่ เสรมิ ความคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการคดิ คน้ พฒั นา
ลักษณะรูปแบบของการดัดแปลงซ่อมแซมเส้ือผ้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า อีกทั้งเน้นให้ผู้เรียน
ได้มคี วามรู้เรื่องการประกอบอาชพี และการจัดการอาชีพอยา่ งมคี ณุ ธรรมจริยธรรม

หลกั การของหลกั สตู ร

1. เป็นหลักสูตรท่ีตอบสนองความต้องการเรียนรู้ของประชาชนในเรื่องการซ่อมแซมดัดแปลงรูปทรง
เสอ้ื ผ้าเพอื่ การประกอบอาชพี
2. เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดความรู้ ความเข้าใจ และทักษะด้านตัดเย็บ โดยใช้ความคิด
สรา้ งสรรค์ และศลิ ปะการตกแตง่ ซอ่ มแซมดดั แปลงเสอ้ื ผา้ เกา่ ใหม้ สี ภาพเหมาะสมน�ำ มาใชไ้ ดใ้ หมต่ ามความตอ้ งการ
ของลกู คา้ ในการประกอบอาชพี
3. มงุ่ ใหผ้ ู้เรียนประกอบอาชพี ไดจ้ รงิ หลงั จบหลกั สตู ร
4. ส่งเสริมผู้เรียนที่จบหลักสูตรสามารถนำ�ความรู้ไปเทียบโอนเข้าสู่หลักสูตรการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
พุทธศักราช 2551

จุดหมาย

เพ่อื ให้ผ้เู รียนมีคณุ ลกั ษณะดังนี้
1. เพ่อื ใหผ้ ู้เรยี นมคี วามเขา้ ใจและทักษะจ และทักษะการซ่อมแซมและดดั แปลง รูปทรงเส้อื ผ้า
2. เพ่ือให้ผู้เรียนสามารถนำ�ความรู้เกี่ยวกับการซ่อมแซมและดัดแปลงรูปทรงเส้ือผ้าไปประกอบ
อาชีพได้
3. เพ่ือใหผู้เรียนมีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการอาชีพการซ่อมแซมและดัดแปลง รูปทรง
เสอื้ ผ้าได้
4. ผ้เู รียนมีคณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในการประกอบอาชีพ
5. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนสามารถประกอบอาชพี ซ่อมแซมและดดั แปลง รูปทรงเสื้อผ้าได้

373

กลุ่มเปา้ หมาย

กลมุ่ เปา้ หมายคือ ประชาชนกลุ่มเปา้ หมายนอกระบบโรงเรยี น
1. ผู้ทไ่ี ม่มอี าชีพ
2. ผทู้ ่มี อี าชีพและตอ้ งการพฒั นาอาชีพ
3. ผทู้ ต่ี อ้ งการเปล่ยี นอาชีพ
4. ผมู้ ีพืน้ ฐานความรู้ด้านการตัดเยบ็ เสอื้ ผา้

ระยะเวลา

จ�ำ นวน 100 ช่วั โมง

โครงสรา้ งหลกั สตู ร (ทฤษฏี 18 ช่ัวโมง และปฏบิ ัติ 82 ชั่วโมง) จำ�นวน 8 ชว่ั โมง
1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ
1.1 การวเิ คราะห์บรบิ ทของชุมชน สงั คม และส่งิ แวดล้อม เพ่ือประกอบอาชีพ
1.2 ทางเลอื กการสร้างอาชพี อย่างสรา้ งสรรค์และเพมิ่ มลู ค่า
1.3 การศกึ ษาข้อมลู ในการประกอบอาชพี ซอ่ มแซมดัดแปลงเส้ือผา้
1.4 การศึกษาดงู านจากแหลง่ เรยี นรู้
2. ทกั ษะการประกอบอาชีพ จ�ำ นวน 72 ชัว่ โมง
2.1 การใชแ้ ละการดแู ลรักษาเคร่ืองมอื และวสั ดุอปุ กรณใ์ นการตัดเยบ็ เสอื้ ผา้
2.2 ความร้หู ลกั การซ่อมแซมและดัดแปลงเส้ือผา้
2.3 ความรเู้ ร่อื งการปรบั เปลี่ยนทรง ซอ่ มแซมและดดั แปลงเส้ือผ้า
2.4 การออกแบบและการตกแต่งด้วยผา้ หรอื วสั ดอุ ืน่ ๆ
2.5 การปรับเปล่ียนเสอ้ื ผา้ เพ่อื ใช้ประโยชน์งานอ่ืน
3. การบรหิ ารจัดการในการประกอบอาชพี จำ�นวน 8 ชัว่ โมง
3.1 การหาแหล่งเงินทุน
3.2 การจดั หาแหล่งวตั ถดุ บิ
3.3 การจดั การตลาด
3.4 การจัดทำ�บัญชรี ายรบั – รายจ่าย
3.5 คณุ ธรรมจริยธรรมในการประกอบอาชีพ
4. โครงการประกอบอาชีพ จำ�นวน 12 ช่ัวโมง
4.1 ความส�ำ คญั ของโครงการประกอบอาชีพ
4.2 ประโยชนข์ องโครงการประกอบอาชพี
4.3 องคป์ ระกอบของโครงการประกอบอาชพี
4.4 การเขียนโครงการ
4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของโครงการ

374

การจดั กระบวนการเรยี นรู้

1. บรรยาย
2. สาธิต
3. ปฏิบัติจรงิ
4. ศกึ ษาดงู าน

ส่ือการเรยี นรู้

1. สือ่ สิ่งพิมพ์ หนังสือ แฟชนั่ ตา่ ง ๆ
2. ส่ืออิเล็คทรอนกิ ส์
3. สอื่ บุคคล ผรู้ ู้ ภมู ปิ ญั ญา
4. มภี าพประกอบ
5. ห้างสรรพสนิ คา้
6. วสั ดอุ ุปกรณ์เกีย่ วกับการดัดแปลงเสอื้ ผา้
7. เสอ้ื ผ้า

การวัดและประเมินผล

1. การประเมนิ ความรภู้ าคทฤษฎรี ะหวา่ งเรยี นและจบหลักสตู ร
2. การประเมนิ ผลระหวา่ งเรยี นจากการปฏบิ ตั ไิ ดผ้ ลงานทมี่ คี ณุ ภาพสามารถสรา้ งรายไดแ้ ละจบหลกั สตู ร

การจบหลกั สตู ร

1. มีเวลาเรยี น ไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ 80
2. มีผลการประเมนิ ผลงานระหวา่ งเรียนและตลอดหลักสูตร ตอ้ งผา่ นไมน่ อ้ ยกวา่ ร้อยละ 80
3. มีผลงานท่มี ีคุณภาพตามทีผ่ ูส้ อนก�ำ หนด

เอกสารหลักฐานการศกึ ษา

1. หลกั ฐานการประเมนิ ผล
2. ทะเบยี นคุมวุฒิบัตร
3. วุฒิบัตรการศึกษา ออกโดยสถานศกึ ษา

การเทียบโอน

ผู้เรียนท่ีจบหลักสูตรน้ีสามารถนำ�ไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการ
ศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 สาระการประกอบอาชีพรายวิชาเลือกท่ีสถานศึกษาได้จัดทำ�ข้ึนในระดับ
ระดับหน่ึง

รายละเอยี ดโครงสร้างหลกั สูตรการซ่อมแซมและดัดแปลงรปู ทรงเสอื้ ผา้

เรื่อง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เนือ้ หา การจดั กระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนช่วั โมง
ทฤษฏี ปฏิบตั ิ

1. ช อ่ งทางการประกอบ 1. ส ามารถวเิ คราะหข์ อ้ มลู บรบิ ทชมุ ชน 1.1 การวิเคราะห์บริบทของชุมชน 1. ว ิทยากรและผู้เรียนร่วมแลกเปล่ียน 4 4
อาชีพการซ่อมแซม สงั คม สง่ิ แวดล้อมได้ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อ เรียนรู้ บริบทของชมุ ชน สงั คม และ
และดัดแปลงรูปทรง 2. เขียนทางเลอื กการสร้างอาชพี ได้ ประกอบอาชีพ ส่ิงแวดลอ้ ม เพอ่ื ประกอบอาชพี
เสอื้ ผา้ 3. อ ธบิ ายขอ้ มลู ทเี่ กย่ี วกบั การประกอบ 1.2 ทางเลือกการสร้างอาชีพอย่าง 2. ผ ู้เรียนสรุปผลการวิเคราะห์การ
อาชีพซอ่ มแซมดัดแปลงเสื้อผ้าได้ สร้างสรรคแ์ ละเพมิ่ มลู คา่ แลกเปล่ียนเรียนรู้เพ่ือใช้ในการ
4. อ ธิบายสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการศึกษา 1.3 ก ารศึกษาข้อมูลในการประกอบ ตัดสนิ ใจประกอบอาชีพ
ดงู าน อาชพี ซอ่ มแซมดัดแปลงเส้อื ผ้า 3. วทิ ยากรอธบิ ายถงึ ทางเลอื กการสรา้ ง
1.4 การศกึ ษาดงู านจากแหลง่ เรยี นรู้ อาชีพอย่างสร้างสรรค์และการเพิ่ม
มูลค่าของตัวสินค้า ผลิตภัณฑ์หรือ
บรกิ าร
4. ผูเ้ รียนบันทกึ การเรียนรู้
5. ผู้เรียนศึกษาข้อมูลในการประกอบ
อาชีพซ่อมแซมดัดแปลงเส้ือผ้า
เสื้อผา้ จากส่ือสิ่งพมิ พ์ เอกสารและ
การแลกเปล่ียนเรียนรู้ และสรุปผล
การเรียนรู้
6. ผเู้ รยี นไปศกึ ษาเรยี นรจู้ ากแหลง่ เรยี นรู้
ต่างๆ เชน่ สอื่ ออนไลน ์ รา้ นรบั ซอ่ ม
ดัดแปลงเสื้อผ้า ร้านตัดเย็บเส้ือผ้า
ผู้รู้ ภูมิปัญญา ฯลฯ แล้วสรุปผล
การศึกษา
375

เรอ่ื ง จุดประสงค์การเรียนรู้ เน้ือหา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จำ�นวนชว่ั โมง 376
ทฤษฏี ปฏิบัติ

7. ว ทิ ยากรตรวจสอบผลการเรยี นรจู้ าก
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การศึกษา
วิเคราะห์ข้อมูล การศึกษาแหล่ง
เรยี นรู้จากรายงานท่ีมอบหมาย

2. ทักษะการประกอบ 1. สามารถใชเ้ ครอื่ งมอื และวสั ดอุ ปุ กรณ์ 2.1 ก ารใช้และการดูแลรักษาเคร่ืองมือ 1. ว ิทยากรอธิบายประกอบของจริงใน 2 7
อาชีพการซ่อมแซม ในการตดั เยบ็ เสื้อผ้าได้ และวสั ดอุ ปุ กรณใ์ นการตดั เยบ็ เสอ้ื ผา้ การใช้จักรเย็บผ้าธรรมดาและจักร
และดัดแปลงรูปทรง 2. บอกวิธีการดูแลรักษาเครื่องมือและ 2.1.1 การใช้เครื่องมือ และวัสดุ อุตสาหกรรม
เสื้อผ้า วัสดอุ ปุ กรณ์ในการตัดเยบ็ เสอื้ ผา้ ได้ อปุ กรณ์ในการตดั เยบ็ เสอ้ื ผ้า 2. ผู้เรยี นสังเกต และบนั ทึกการเรยี นรู้
- การใชจ้ ักรเยบ็ ผ้า 3. ว ิทยากรให้ผู้เรียนทดสอบปฏิบัติใช้
- การใช้เตารดี จกั รเยบ็ ผา้ ทงั้ สองแบบตามทก่ี �ำ หนด
- การใชอ้ ปุ กรณต์ ดั เยบ็ เชน่ (ใบงานท่ี 1)
กรรไกรตัดตัดกระดาษ 4. วิทยากรอธิบายประกอบของจริงใน
กรรไกรตัดผ้า สายวัด การใช้เตารีดส�ำ หรับรีดผ้าชนดิ ตา่ งๆ
ปากคีบ และท่ีเลาะผา้ 5. ผเู้ รยี นสังเกต และบันทกึ การเรียนรู้
- ก ารใช้วัสดุในการตัดเย็บ 6. วิทยากรให้ผู้เรียนทดสอบปฏิบัติ
เสอื้ ผา้ เชน่ ดนิ สอ ยางลบ ใช้เตารีดในการรีดผ้าตามท่ีกำ�หนด
ไมบ้ รรทดั ลกู กลง้ิ กระดาษ (ใบงานที่ 2) และสังเกตการปฏิบตั ิ
สร้างแบบ เข็มหมดุ และ 7. วิทยากรอธิบายประกอบของจริงใน
เข็มเย็บผ้า การใชว้ สั ดแุ ละอปุ กรณใ์ นการตดั เยบ็
เส้ือผ้า

เรือ่ ง จุดประสงค์การเรยี นรู้ เน้อื หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนชว่ั โมง
ทฤษฏี ปฏิบตั ิ

2.1.2 ว ิธีการดูแลรักษาเครื่องมือ 8. ผู้เรยี นบนั ทกึ การเรยี นรู้
และวัสดุอุปกรณ์ในการ 9. วิทยากรอธิบายประกอบการสาธิต
ตัดเย็บเสอ้ื ผา้ วิธีการดูและรักษาเคร่ืองมือและ
วสั ดุอุปกรณใ์ นการตัดเยบ็ เสื้อผ้า
10. ผเู้ รยี นบนั ทึกการเรียนรู้

2. ท ักษะการประกอบ 1. อธิบายเทคนิคและวิธีการเลาะ 2.2 ความรู้หลักการซ่อมแซมและ 1. ว ิทยากรสาธิตเทคนิคและวิธีการ 3 6
อาชีพการซ่อมแซม เส้อื ผ้าแบบตา่ ง ๆ ได้ ดัดแปลงเสอ้ื ผา้ เลาะเสื้อผา้ ท่ีมีเน้อื ผ้าแตกตา่ งกนั
และดัดแปลงรูปทรง 2. บอกวธิ กี ารเยบ็ ผา้ ดว้ ยมอื และจกั รได้ 2.2.1 เ ทคนิคและวิธีการเลาะ 2. ผ ู้เรียนสังเกตและบันทึกการเรียนรู้
เส้ือผ้า (ตอ่ ) 3. อธิบายวิธีการและปฏิบัติการติด เสื้อผ้า และฝกึ ปฏบิ ตั เิ ลาะผา้
กระดุม ตะขอ เส้อื ผ้าได้ 2.2.2 การเยบ็ ผา้ ด้วยมือ 3. ว ทิ ยากรยกตวั อยา่ งประกอบการสาธติ
4. อธบิ ายวธิ กี ารและปฏบิ ตั กิ ารเปลยี่ น 2.2.3 การเย็บผ้าด้วยจักร การเย็บผ้าด้วยมือ เช่น การสอย
ซปิ เสอื้ ผ้าได้ 2.2.4 การติดกระดุม การเนา การด้น การถักตัวหนอน
5. อธบิ ายวธิ กี ารและปฏบิ ตั กิ ารตดิ ยาง 2.2.5 การตดิ ตะขอ การคดั เวริ ก์ ฯลฯ
เสอ้ื ผา้ ได้ 2.2.6 การเปลย่ี นซิป 4. ผู้เรียนสังเกต และบันทึกการเรียนรู้
2.2.7 การตดิ ยางยืด และฝึกปฏิบัติเย็บผ้าด้วยมือแบบ
ตา่ งๆ (ใบงานที่ 3)
5. ว ทิ ยากรยกตวั อยา่ งประกอบการสาธติ
การเยบ็ ผ้าดว้ ยจกั ร เชน่ เยบ็ ตะเขบ็
คู่ เย็บแบบ ฯลฯ
377

เร่อื ง จุดประสงค์การเรียนรู้ เน้ือหา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนช่วั โมง 378
ทฤษฏี ปฏิบตั ิ

6. ผู้เรียนสังเกต และบันทึกการเรียนรู้
และฝึกปฏิบัติเย็บผ้าด้วยมือแบบ
ตา่ งๆ (ใบงานท่ี 3)

7. วิทยากรสาธิตวิธีการติดกระดุม
ตะขอ เปล่ยี นยาง และตดิ ซิป

8. ผ เู้ รยี นสงั เกต บนั ทกึ การเรยี นรู้ และ
ฝึกปฏิบตั ิ (ใบงานที่ 4)

9. ว ิทยากรสังเกตและให้คำ�แนะนำ�
ตรวจผลงาน

สามารถปรับเปล่ียนทรง การซ่อมแซม 2.3 ค วามรู้เร่ืองการปรับเปลี่ยนทรง 1. ว ิทยากรยกตัวอย่างเส้ือ ท่ีปรับเปลี่ยน 18
และดดั แปลงเสื้อผ้าแบบต่างๆ ได้ ซอ่ มแซมและดัดแปลงเสอื้ ผา้ ทรง ซ่อมแซมและดัดแปลง ด้วยวิธี
2.3.1 การปรบั เปลย่ี นทรง ซอ่ มแซม การเปลยี่ นแขนเสอื้ ตดั ใหส้ น้ั และตอ่
และดดั แปลงเส้ือ ใหย้ าว ขยายและเยบ็ เขา้ และแกไ้ ขปก
2.3.2 ก ารปรบั เปลย่ี นทรง ซอ่ มแซม ในรปู แบบตา่ งๆ พรอ้ มสาธิตวธิ กี ารทำ�
และดัดแปลงกางเกง 2. ว ทิ ยากรยกตวั อยา่ งกางเกง ทปี่ รบั เปลย่ี น
2.3.3 ก ารปรบั เปลย่ี นทรง ซอ่ มแซม ทรง ซ่อมแซมและดัดแปลง ด้วยวิธี
และดดั แปลงกระโปรง การเปลี่ยนจากขาบานเป็นขาตรง
ตัดให้ส้ันและต่อให้ยาว ขยายและ
เยบ็ เขา้ และแกไ้ ขตอ่ ขอบ ในรปู แบบ
ต่างๆ พร้อมสาธิตวิธกี ารทำ�

เร่ือง จุดประสงค์การเรียนรู้ เนือ้ หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จำ�นวนชว่ั โมง
ทฤษฏี ปฏบิ ัติ

3. วทิ ยากรยกตัวอย่างกระโปรง ทีป่ รับ
เปล่ียนทรง ซ่อมแซมและดัดแปลง
ด้วยวิธีการเปล่ียนจากทรงบานทำ�เป็น
ทรงสอบ ตัดให้ส้ันและต่อให้ยาว
ขยายและเย็บเข้า และแก้ไขต่อขอบ
ในรูปแบบตา่ งๆ พรอ้ มสาธิตวธิ กี ารท�ำ
4. ผูเ้ รียนสงั เกต บนั ทกึ การเรียนรู้ และ
ฝึกปฏิบตั ิ (ใบงานที่ 5)
5. วทิ ยากรสงั เกตและคอยใหค้ �ำ แนะน�ำ
และตรวจผลงาน
2. ท ักษะการประกอบ สามารถออกแบบและตกแตง่ เสอ้ื ผา้ ดว้ ย 2.4 ก ารออกแบบและการตกแต่งด้วย 1. วิทยากรยกตัวอย่างและอธิบายวิธี 24
อาชีพการซ่อมแซม ผ้าหรอื วสั ดุอน่ื ได้ ผ้าหรือวสั ดุอ่ืน ๆ การตกแต่งเส้ือผ้าด้วย ผ้ากุ๊น ผ้า
และดัดแปลงรูปทรง - การตกแตง่ เสื้อผ้าด้วยผา้ กุ๊น ลูกไม้ ผ้าชนิดต่างๆ ริบบิ้น ยางยืด
เส้ือผ้า (ตอ่ ) - การตกแต่งเสอ้ื ผ้าด้วยผา้ ลกู ไม้ และวัสดุอนื่ ๆ
- การตกแต่งเส้ือผ้าด้วยผ้าชนิด 2. ผู้เรียนบันทึกการเรียนรู้ และฝึก
ตา่ งๆ ปฏิบัติตกแต่งเส้ือผ้าด้วยวัสดุต่างๆ
– การตกแตง่ เสื้อผ้าด้วยรบิ บิน้ (ใบงานที่ 6)
– การตกแต่งเสื้อผ้าด้วยยางยืด 3. ว ทิ ยากรสงั เกตและคอยใหค้ �ำ แนะน�ำ
- การตกแต่งเสื้อผ้าด้วยวัสดุอ่ืน และตรวจผลงาน
เช่น กระดุม เลื่อม ลูกปัด
ครสิ ตลั หนิ สี ฯลฯ 379

เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนอื้ หา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชวั่ โมง 380
ทฤษฏี ปฏบิ ตั ิ

สามารถนำ�เส้ือผ้าเก่า มาปรับเปล่ียน การปรับเปลี่ยนเส้ือผ้าเพื่อใช้ประโยชน์ วิทยากรยกตัวอย่างและอธิบายวิธีการ 12
เพื่อใช้ประโยชนง์ านอน่ื งานอนื่ เปล่ียนเส้ือผ้าเป็นกระเป๋า ผ้ากันเปื้อน
ได้ การท�ำ กระเปา๋ ผ้าจับหูกะทะ ผ้าจับตู้เย็น ผ้ารองหม้อ
การท�ำ ผา้ กนั เปื้อน และผา้ เช็ดเท้า
การทำ�ผา้ จบั หกู ระทะ ผู้เรียนบันทึกการเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติ
การท�ำ ผา้ จบั ตู้เยน็ เปลี่ยนเสื้อผ้าเพ่ือใช้ประโยชน์อื่นตาม
การท�ำ ผา้ รองหม้อ ความตอ้ งการ (ใบงานท่ี 7)
การทำ�ผา้ เช็ดเทา้ วิทยากรสังเกตและคอยให้คำ�แนะนำ�
และตรวจผลงาน

3. ก ารบรหิ ารจดั การใน 1. บอกท่ีมาของแหลง่ เงนิ ทนุ ได้ 1. การหาแหลง่ เงนิ ทุน 1. ผู้เรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องแหล่ง 6 2
การประกอบอาชีพ 2. บ อกวธิ กี ารจดั หาและบรหิ ารจดั การ 2. การจดั หาแหลง่ วตั ถดุ ิบ เ งิ น ทุ น ใ น ก า ร ป ร ะ ก อ บ อ า ชี พ
การซ่อมแซมและ แหล่งจัดหาวตั ถดุ บิ ได้ 3. การจัดการตลาด วทิ ยากรอธิบายเพม่ิ เตมิ
ดดั แปลงรปู ทรงเสอื้ ผ้า 3. อธบิ ายวิธกี ารจดั การการตลาดได้ 4. การจดั ท�ำ บัญชรี ายรบั – รายจา่ ย 2. วิทยากรบรรยายความรู้เรื่อง
4. จดั ท�ำ บญั ชรี ายรบั – รายจา่ ย ในการ 5. คุณธรรมจริยธรรมในการประกอบ สว่ นผสมทางการตลาดในการจดั การ
ประกอบอาชพี ได้ อาชีพ อาชพี
5. อ ธบิ ายคณุ ลกั ษณะของผปู้ ระกอบการ 3. ผู้เรียนร่วมแลกเปล่ียนเรียนรู้เรื่อง
ที่มีคุณธรรมจรยิ ธรรมได้ การเพิ่มมูลค่างานซ่อมแซมและ
ดัดแปลงรูปทรงเสื้อผ้า วิทยากร
อธบิ ายเพมิ่ เติมและใหข้ ้อเสนอแนะ

เร่อื ง จุดประสงค์การเรยี นรู้ เนือ้ หา การจัดกระบวนการเรยี นรู้ จ�ำ นวนชวั่ โมง
ทฤษฏี ปฏิบัติ

4. ว ิทยากรบรรยายวิธีการจัดทำ�บัญชี
รายรบั -รายจา่ ยในการประกอบอาชพี
รบั งานใบตอง ผเู้ รยี นฝกึ ปฏบิ ตั จิ ดั ท�ำ
บัญชี

5. ผ ู้เรียนระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับ
คณุ ลกั ษณะของผปู้ ระกอบการธรุ กจิ
ทด่ี ี วทิ ยากรสรปุ และอธบิ ายเพม่ิ เตมิ

4. โครงการประกอบ 1. บ อกความส�ำ คญั ของโครงการอาชพี 1. ความส�ำ คญั ของโครงการอาชีพ 1. จัดให้ผู้เรียนศึกษาเน้ือหาจากใบ 3 9
อาชีพการซ่อมแซม ได้ 2. ประโยชนข์ องโครงการอาชีพ ความรู้ เรื่อง ความสำ�คัญของ
และดัดแปลงรปู ทรง 2. บอกประโยชนข์ องโครงการอาชพี ได้ 3. องค์ประกอบของโครงการอาชีพ โครงการอาชีพ ประโยชน์ของ
เสอ้ื ผ้า 3. บ อกองค์ประกอบของโครงการ 4. การเขยี นโครงการอาชพี โครงการอาชีพ องค์ประกอบของ
อาชีพได้ 5. ก ารประเมินความเหมาะสมและ โครงการอาชีพ แล้วจัดกิจกรรม
4. อธบิ ายความหมายขององคป์ ระกอบ สอดคลอ้ งของโครงการ สนทนาแลกเปล่ียนข้อมูลความ
ของโครงการอาชีพได้ คิดเห็น เพ่ือสร้างแนวคิดในการ
5. อ ธิบายลักษณะการเขียนท่ีดีของ ด�ำ เนนิ การกจิ กรรมการเรียนรู้
องค์ประกอบของโครงการอาชีพได้ 2. จัดให้ผู้เรียนศึกษาสาระข้อมูลจาก
6. เ ขยี นโครงการในแตล่ ะองคป์ ระกอบ ใบความรู้ เร่ือง ตัวอย่างการเขียน
ใหเ้ หมาะสมและถูกตอ้ งได้ โครงการอาชีพท่ีดีเหมาะสมและ
7. ต รวจสอบความเหมาะสมและ ถูกต้อง พร้อมจัดการอภิปราย เพื่อ
สอดคล้องของโครงการอาชีพได้ สรุปแนวคิดเป็นแนวทางการเขียน
โครงการอาชพี ทดี่ ี เหมาะสมถกู ตอ้ ง
381

เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ เน้อื หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ จ�ำ นวนชั่วโมง 382
ทฤษฏี ปฏิบัติ

3. จ ัดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติ การเขียน
โครงการอาชีพ

4. กำ�หนดให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการ
ประเมิน ความเหมาะสมและ
สอดคล้องของโครงการอาชพี

5. จดั ใหผ้ เู้ รยี นปรบั ปรงุ โครงการอาชพี
ใหม้ คี วามเหมาะสมและถกู ตอ้ ง

6. ก ำ�หนดให้ผู้เรียนเขียนโครงการของ
ตนเองเพอ่ื เสนอขอรบั การสนบั สนนุ
งบประมาณด�ำ เนนิ งานอาชพี และใช้
ในการดำ�เนินการประกอบอาชีพ
ต่อไป

383

หลักสูตรการทอผา้ ไหมสุรนิ ทร์
จำ�นวน 200 ชั่วโมง

กลุม่ วชิ าความคิดสร้างสรรค์

ความเป็นมา

จังหวัดสุรินทร์ เป็นจังหวัดในภาคอีสานท่ีมีวัฒนธรรมการทอผ้ามานาน และได้สืบทอดเป็นมรดกทาง
วฒั นธรรมจนเปน็ เอกลักษณ์ของตนเองทโี่ ดดเดน่ ยง่ิ หากได้ศกึ ษาอยา่ งลกึ ซง้ึ แลว้ จะค้นพบเหตผุ ลหลายประการ
ท่ีสนับสนุนในเรื่องการทอผ้าไหมท่ีเป็นเอกลักษณ์ของสุรินทร์ ในด้านต่างๆ เช่น วัฒนธรรมประเพณี การทอ
เส้นไหม ลวดลายผ้าไหม และกรรมวิธีการทอ ตลอดท้ังการใช้ผ้าไหมในโอกาสต่างๆ และยังเป็นการอนุรักษ์
ภูมปิ ญั ญาท้องถิน่ ใหค้ งอยูต่ ลอดไป
ลกั ษณะเดน่ ของผ้าไหมจังหวดั สุรนิ ทร์
1. มลี วดลายเปน็ เอกลกั ษณ์ โดยไดร้ บั อทิ ธพิ ลทางวฒั นธรรมจากกมั พชู า และลวดลายทบี่ รรจงประดษิ ฐข์ นึ้
ลว้ นมีที่มาและมคี วามหมายอันเป็นมงคล
2. นยิ มใชไ้ หมนอ้ ยในการทอ ซง่ึ ไหมนอ้ ยคอื ไหมทส่ี าวมาจากเสน้ ใยภายในรงั ไหม มีลักษณะนุ่ม เรียบ
เงางาม
3. นิยมใช้สีธรรมชาติในการทอ ท�ำให้มีสีไม่ฉูดฉาด มีสีสันท่ีมีลักษณะเฉพาะ คือ สีจะออกโทนสีขรึม
เช่น นำ�้ ตาล แดง เขียว ด�ำ เหลือง อีกทง้ั ยงั มีกลิน่ หอมจากเปลอื กไม้
4. ฝีมือการทอ จะทอแน่นมีความละเอียดอ่อนในการทอและประณีต ร้จู ักผสมผสานลวดลายต่างๆ
เข้าดว้ ยกนั แสดงถงึ ศิลปะท่ีสวยงามกวา่ ปกติ
5. แตเ่ ดมิ นัน้ การทอผ้าไหมของชาวบา้ นท�ำ เพือ่ ไว้ใชเ้ อง และสวมใส่ในงานทำ�บุญและงานพิธตี ่างๆ

หลักการของหลักสูตร

1. เนน้ การเลอื กใชเ้ ส้นไหมสีเหลอื งในการทอ ซึ่งจะท�ำ ให้ผา้ มคี วามนุ่มพล้ิวน่าสวมใส่
2. เนน้ การประยกุ ต์ลวดลาย และสียอ้ ม ที่สอดคล้องกบั ความตอ้ งการของตลาด
3. เป็นรูปแบบการขายทส่ี ามารถประยุกต์ใชไ้ ดอ้ ยา่ งหลากหลาย

จดุ มุง่ หมาย

1. เพื่อใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดทกั ษะความรู้ ความเขา้ ใจ เทคนคิ การทอผ้าไหมสุรนิ ทร ์ สามารถนำ�ไปใช้ในการ
ประกอบอาชีพได้
2. เพื่อให้ผ้เู รยี นสามารถออกแบบการมดั ลาย การย้อมสี ท่สี อดคลอ้ งกบี ความต้องการของตลาด
3. เพือ่ เป็นการอนรุ ักษภ์ มู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ และอาชพี ด้ังเดมิ ของบรรพบุรุษ
4. เพ่ือเป็นการสืบสานวฒั นธรรมการทอผ้าไหมสุรินทร์

384

กลุ่มเปา้ หมาย

กลุ่มเปา้ หมาย คือประชาชนกลมุ่ เป้าหมายนอกระบบโรงเรียน
1. ผู้ท่ไี ม่มีอาชีพ
2. ผู้ทมี่ ีอาชีพและต้องการพัฒนาอาชีพ
3. ควรเปน็ ผมู้ ใี จรกั ในการทอผ้าและมีความอดทน

ระยะเวลาเรยี น รวม 200 ชัว่ โมง แบ่งเปน็

ภาคทฤษฎี จ�ำ นวน 25 ช่ัวโมง
ภาคปฏบิ ัติ จ�ำ นวน 175 ชั่วโมง

โครงสรา้ งหลกั สตู ร
1. ชอ่ งทางการประกอบอาชีพการทอผา้ ไหมสุรินทร์
1.1 ความส�ำ คัญในการประกอบอาชีพการทอผา้ ไหมสุรินทร์ จำ�นวน 2 ชั่วโมง
1.2 ความเปน็ ไปไดใ้ นประกอบอาชพี การทอผา้ ไหมสุรินทร์ จ�ำ นวน 3 ช่ัวโมง
1.2.1 การวางแผนและบรหิ ารจดั การ
1.2.2 แหล่งเงินทุนและการจัดหาเงนิ ทุน
1.2.3 ความตอ้ งการของตลาด
1.2.4 ช่องทางการจัดจำ�หนา่ ย
1.3 ศึกษาหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ที่เก่ยี วข้อง จำ�นวน 8 ชัว่ โมง
1.3.1 ศูนยอ์ นรุ กั ษผ์ า้ ไหม ศูนย์หมอ่ นไหมเฉลิมพระเกียรตฯิ จังหวดั สรุ ินทร์
1.3.2 สถานประกอบการเกีย่ วกับการทอผา้ ไหมสรุ นิ ทร์
1.3.3 ร้านค้าหรอื ตัวแทนในการจำ�หนา่ ยผลผลติ
1.3.4 เครอื ข่ายกลุ่มทอผ้าไหม
1.4 การตัดสนิ ใจเลือกอาชพี จ�ำ นวน 3 ชั่วโมง
1.4.1 ความตอ้ งการของตลาด
1.4.2 สถานประกอบการ เครือข่าย กลุ่ม องคก์ ร ทปี่ ระสบผลสำ�เรจ็
2. ทักษะการประกอบอาชีพการทอผา้ ไหมสุรนิ ทร์
2.1 ความรู้เบอ้ื งตน้ เก่ยี วกบั การทอผ้าไหมสรุ นิ ทร์ จ�ำ นวน 3 ชั่วโมง
- ประวัติความเป็นมาวัฒนธรรมผา้ ไหมสรุ นิ ทร์
- กระบวนการและรปู แบบการทอผ้าไหมสรุ ินทร์
- ความส�ำ คัญและประโยชนข์ องการประกอบอาชพี การทอผ้าไหมสรุ นิ ทร์
2.2 การเตรียมวตั ถุดบิ และส่วนประกอบ จ�ำ นวน 3 ชั่วโมง
- ขัน้ ตอนในการเตรยี มไหมส�ำ หรบั การทอ
- การเลือกเสน้ ไหม
- วัตถุดิบและสว่ นประกอบ

2.3 การฟอกไหม 385
- วตั ถปุ ระสงคข์ องการฟอกไหม จำ�นวน 8 ชั่วโมง
- วสั ดุและอปุ กรณข์ องการฟอกไหม จ�ำ นวน 16 ช่ัวโมง
- ขนั้ ตอนการฟอก จำ�นวน 3 ชว่ั โมง
- ข้อควรระวังในการฟอกไหม จำ�นวน 8 ชั่วโมง
2.4 การกวักไหม/การแกวง่ ไหม จ�ำ นวน 30 ชั่วโมง
- จดุ ประสงคข์ องการกวักไหม/การแกว่งไหม จ�ำ นวน 16 ชั่วโมง
- วัสดแุ ละอุปกรณ์ จำ�นวน 8 ชว่ั โมง
- วธิ กี ารกวกั ไหม/การแกว่งไหม
- ขอ้ ควรระวังในการกวักไหม/การแกว่งไหม
2.5 การเตรียมเสน้ ไหมพุ่ง/ไหมยืน
- ขั้นตอนการเตรยี มเส้นไหมพงุ่ /ยนื
- การออกแบบลวดลาย
- การรอ้ ยหลอดเลก็ เป็นพวง
2.6 การค้นเส้นไหม
- จุดประสงค์ของการคน้ ไหม
- วัสดุและอุปกรณ์
- วธิ กี ารคน้ ไหม
- ข้อควรระวังในการคน้ ไหม
2.7 การออกแบบลายและการยอ้ มสีไหม
- วสั ดุอปุ กรณ์
- วิธีการมัดลาย/ขนั้ ตอน/การย้อมสไี หม
- ข้อควรระวังในการมัดลายและการย้อมสีไหม
- การตรวจสอบความถกู ต้องของลวดลาย
2.8 การกรอเส้นไหมยนื /ไหมพุง่
- จดุ ประสงคข์ องการกรอไหม
- วัสดแุ ละอปุ กรณ์
- วิธี/ข้ันตอนการกรอไหม
- ขอ้ ควรระวงั ในการกรอไหม
2.9 การมว้ น/ปนั่ ไหม
- จุดประสงคข์ องการมว้ น/ป่นั ไหม
- วัสดแุ ละอุปกรณ์
- วธิ กี ารการม้วน/ปั่นไหม
- ข้อควรระวังในการการม้วน/ป่ันไหม

386

2.10 การเกบ็ ตะกอ จำ�นวน 30 ช่วั โมง
- จุดประสงค์ของการเกบ็ ถักตะกอ
- วสั ดุและอปุ กรณ์
- วิธ/ี ข้ันตอนการเก็บตะกอ
- ข้อควรระวังในการเกบ็ ตะกอ
2.11 การทอผา้ ไหม จำ�นวน 30 ชว่ั โมง
- ขน้ั ตอนการทอผ้าไหม
- การเตรยี มกี่
- การนำ�หลอดพงุ่ ใส่กระสวย
- การเหยียบตะกอ
- การพ่งุ กระสวย
- การจดั ลวดลายและแตง่ รมิ ขอบผา้
- การกระแทกฟืม
- การขึงหน้าผ้าใหต้ ึง
- การตอ่ เสน้ ไหมยนื และเส้นไหมพงุ่ เม่อื เสน้ ไหมขาด
- การปรบั และปล่อยเสน้ ไหมยืน
- การหวเี ส้นยนื ขณะทอผ้าไหม
- การเก็บก่เี มื่อหยุดพกั การทอผ้าไหม
2.12 การประยกุ ต์รูปแบบการขายเป็นผา้ แบบต่าง ๆ ที่สามารถนำ�ไปใช้ไดอ้ ย่างหลากหลาย
จ�ำ นวน 10 ชว่ั โมง
- การทอผา้ คลุมไหล่
- การทอผา้ พันคอ
- การทอผ้ารูปแบบอื่น ๆ เช่น ผา้ ปูโตะ๊ ผา้ ตกแต่งผนงั และอน่ื ๆ
3. การบรหิ ารจดั การอาชพี จ�ำ นวน 7 ชั่วโมง
3.1 การบรหิ ารจดั การอาชพี การทอผา้ ไหม
3.1.1 การดแู ลรกั ษาคุณภาพของผ้าไหม
3.1.2 การลดตน้ ทุนในการผลติ ของผ้าไหม
3.1.3 การเพิ่มมลู ค่าสนิ ค้า
- การแปรรูป
- การออกแบบ
- การประยกุ ตใ์ ช้
3.2 จัดการการตลาด
3.2.1 ท�ำ ฐานข้อมลู ลกู ค้าที่ใชบ้ ริการ/ค่แู ข่งทางการตลาด
3.2.2 ประชาสัมพันธ์

387

3.2.3 ส่งเสริมการขายและการบรกิ าร
3.2.4 การขอมาตรฐานผลิตภัณฑ์
3.3 จดั การความเส่ยี ง
3.3.1 วิเคราะหศ์ ักยภาพในการประกอบอาชีพการทอผ้าไหม
3.3.2 แก้ปัญหาความเสี่ยงในการประกอบอาชพี การทอผ้าไหม
4. โครงการประกอบอาชพี จำ�นวน 12 ชั่วโมง
4.1 ความส�ำ คัญของโครงการอาชพี
4.2 ประโยชนข์ องโครงการอาชีพ
4.3 องค์ประกอบของโครงการอาชพี
4.4 การเขียนโครงการอาชพี
4.5 การประเมินความเหมาะสมและสอดคลอ้ งของโครงการ

การจัดกระบวนการเรียนรู้

1. ศึกษาจากเอกสารและภมู ปิ ญั ญา
2. ฟังวิทยากรบรรยายใหค้ วามรู้
3. การศกึ ษาดงู านจากแหลง่ เรียนรู้
4. แลกเปลี่ยนเรียนรู้
5. ท�ำ ใบความรู้และใบงาน
6. ฝกึ ปฏิบัตดิ ้วยตนเองเพม่ิ เตมิ อย่างตอ่ เน่อื ง
7. ฝกึ ปฏิบตั ิจริงและทดสอบผ่านเกณฑ์ที่ก�ำ หนดไว้

ส่อื การเรียนรู้

1. ส่ือเอกสาร
2. เอกสารประกอบการเรยี นรู้
3. ใบงาน
4. ใบความรู้
5. ภมู ปิ ัญญา
6. สถานประกอบการ

การวัดและประเมนิ ผล

1. การประเมินความรู้ภาคทฤษฏีระหว่างเรียนและจบหลักสูตร
2. การประเมินผลงานระหว่างเรียนจากการปฏิบัติ ได้ผลงานท่ีมีคุณภาพสามารถสร้างรายได้ และ
จบหลักสตู ร

388

การจบหลักสตู ร

1. มีเวลาเรยี นและฝึกปฏบิ ตั ติ ามหลักสตู ร ไมน่ อ้ ยกว่าร้อยละ 80
2. มีผลการประเมนิ ผ่านตลอดหลักสูตรไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 80
3. มผี ลงานทม่ี คี ณุ ภาพจึงจะได้รับวุฒบิ ัตร

เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา

1. หลกั ฐานการประเมนิ ผล
2. ทะเบียนคมุ วุฒบิ ตั ร
3. วฒุ บิ ัตร ออกโดยสถานศกึ ษา

การเทียบโอน

ผู้เรียนที่จบหลักสูตรนี้สามารถนำ�ไปเทียบโอนผลการเรียนรู้กับหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับ
การศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ในสาระการประกอบอาชพี วิชาเลอื กทส่ี ถานศึกษาได้จัดท�ำ ข้ึน

รายละเอียดโครงสร้างหลักสตู รการทอผา้ ไหมสุรนิ ทร์

เรอ่ื ง จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ เนอ้ื หา การจัดกระบวนการเรียนรู้ ชั่วโมง
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ

1. ชอ่ งทางการประกอบ 1.1 อ ธบิ ายความส�ำ คญั ในการประกอบ 1.1 ความสำ�คัญในการประกอบอาชีพ 1.1 ศึกษาข้อมูลจากเอกสาร ส่ือต่างๆ 2 -
อาชีพการทอผ้าไหม อาชีพการทอผา้ ไหมสุรนิ ทร์ได้ การทอผ้าไหมสุรนิ ทร์ สถานประกอบการ สื่อของจริง 3 -
สุรนิ ทร์ ภูมิปัญญาในชุมชน เพื่อนำ�ข้อมูล - 8
1.2 อ ธิบายความเป็นไปได้ในการ 1.2 ความเป็นไปได้ในประกอบอาชีพ มาใช้ในการประกอบอาชีพ ท่ีมี
ประกอบอาชีพการทอผ้าไหม การทอผ้าไหมสุรนิ ทร์ ความเป็นไปได้ในชุมชน
สุรินทร์ ได้แก่ การวางแผนและ 1.2.1 การวางแผนและการบรหิ าร 1.2 วิเคราะหอ์ าชีพจากขอ้ มูลตา่ งๆ
การบริหารจัดการ การหาแหล่ง จัดการ 1.3 ศึกษาดูงานในสถานประกอบการ
เงินทุนความต้องการของตลาด 1.2.2 แหล่งเงินทุนและการจัดหา และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ที่เก่ียวข้อง
และการจัดหาวัสดอุ ปุ กรณ์ ได้ เงนิ ทนุ กับอาชพี ทต่ี ดั สินใจเลอื ก
1.2.3 ความตอ้ งการของตลาด 1.4 ผเู้ รียนตัดสนิ ใจเลือกอาชีพ
1.2.4 ช่องทางการจดั จ�ำ หน่าย
1.3 สามารถจดั หาแหลง่ เรียนรู้ได้ 1.3 ศึกษาหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้
และเครอื ข่าย ทีเ่ กี่ยวข้อง
1.3.1 ศ ูนย์อนุรักษ์ผ้าไหมสุรินทร์
ศนู ยห์ มอ่ นไหมเฉลมิ พระเกยี รตฯิ
1.3.2 ส ถานประกอบการเกยี่ วกบั
การทอผ้าไหมสุรินทร์
1.3.3 ร ้านค้าหรือตัวแทนในการ
จ�ำ หนา่ ยผลผลติ จากการทอ
ผา้ ไหม
1.3.4 เ ครอื ขา่ ยกลมุ่ ทอผา้ ไหมสรุ นิ ทร์
389

เรื่อง จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เนือ้ หา การจัดกระบวนการเรียนรู้ ชั่วโมง 390
ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ

1.4 สามารถตดั สนิ ใจเลอื กอาชีพได้ 1.4 การตดั สนิ ใจเลือกอาชีพ -3
1.4.1 ความต้องการของตลาด
1.4.2 ส ถานประกอบการ เครอื ขา่ ย

กลุ่ม และองค์กร ตัวอย่าง
ทปี่ ระสบความส�ำ เร็จ

2. ทักษะการประกอบ 2.1 อ ธบิ ายความรเู้ บอื้ งตน้ เกยี่ วกบั การ 2.1 ความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับการทอ 2.1 ท ดสอบก่อนเรียน เพื่อวัดความรู้ 3 -
อาชีพการทอผ้าไหม ทอผ้าไหมสุรินทร์ได้แก่ ประวัติ ผา้ ไหมสุรนิ ทร ์ ความเขา้ ใจ และพนื้ ฐานของผเู้ รยี น 3 -
สุรินทร์ ความเป็นมาวัฒนธรรม ผ้าไหม - ป ระวัติความเป็นมาวัฒนธรรม 2.2 ศ กึ ษาเอกสารทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั การทอ
สุรินทร์ กระบวนการและรูปแบบ ผ้าไหมสุรนิ ทร์ ผา้ ไหมสรุ ินทร์
การทอผ้าไหมสุรินทร์ความสำ�คัญ - กระบวนการและรปู แบบการทอ 2.3 อภปิ รายแลกเปลี่ยนเรียนรู้
และประโยชน์ของการประกอบ ผา้ ไหมสุรนิ ทร์ 2.4 จ ัดทำ�แผนการฝึกทักษะการทอ
อาชพี การทอผา้ ไหมสุรินทร์ ได้ - ค วามสำ�คัญและประโยชน์ของ ผา้ ไหมสุรินทร์
2.2 ส ามารถเตรียมวัตถุดิบและส่วน การประกอบอาชีพการทอผ้าไหม 2.5 วิทยากรบรรยายและสาธิต
ประกอบไดแ้ ก่ ขนั้ ตอนในการเตรยี ม สุรนิ ทร์ 2.6 ฝึกปฏิบัติจรงิ
ไหมสำ�หรับการทอ การเลือกเส้น 2.2 การเตรียมวัตถดุ บิ และส่วนประกอบ 2.7 ทดสอบหลงั เรียน
ไหม วตั ถุดิบและส่วน ประกอบได้ - ข น้ั ตอนในการเตรยี มไหมส�ำ หรบั 2.8 ฝกึ ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตนเองหลงั เรยี นอยา่ ง
การทอ ต่อเน่อื ง
- การเลือกเสน้ ไหม
- วตั ถุดบิ และส่วนประกอบ

เร่อื ง จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ เนือ้ หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ ชว่ั โมง
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ

2.3 ส ามารถอธิบายการฟอกไหมได้แก่ 2.3 การฟอกไหม 17
วตั ถปุ ระสงคข์ องการฟอกไหม วสั ดุ - วตั ถปุ ระสงค์ของการฟอกไหม 1 15
และอุปกรณ์ของการฟอกไหม - วสั ดแุ ละอปุ กรณข์ องการฟอกไหม
ขั้นตอนการฟอกไหม และข้อควร - ขัน้ ตอนการฟอก 12
ระวังในการฟอกไหม ได้ - ขอ้ ควรระวงั ในการฟอกไหม 17
2.4 สามารถอธิบายการกวักไหม/การ 2.4 การกวกั ไหม/การแกวง่ ไหม
แกว่งไหม ได้แก่ จุดประสงค์ของ - จุดประสงค์ของการกวักไหม/
การกวักไหม/การแกว่งไหม วัสดุ การแกวง่ ไหม
และอุปกรณ์ วิธีการกวักไหม/การ - วัสดแุ ละอุปกรณ์
แกว่งไหม และ ข้อควรระวังใน - วธิ กี ารกวักไหม/การแกวง่ ไหม
การกวกั ไหม/การแกว่งไหม ได้ - ข อ้ ควรระวงั ในการกวกั ไหม/การ
แกว่งไหม
2.5 ส ามารถอธิบายและสาธิตการเตรียม 2.5 การเตรยี มเสน้ ไหมพุง่ /ไหมยืน
เสน้ ไหมพงุ่ /ไหมยนื ไดแ้ ก ่ ขนั้ ตอน - ขน้ั ตอนการเตรยี มเสน้ ไหมพงุ่ /ยนื
การเตรียมเส้นไหมพุ่ง/ยืน การ - การออกแบบลวดลาย
ออกแบบลวดลาย และการร้อย - การรอ้ ยหลอดเล็กเป็นพวง
หลอดเลก็ เปน็ พวง ได้ 2.6 การค้นเสน้ ไหม
2.6 ส ามารถอธิบายและสาธิตการค้น - จดุ ประสงค์ของการค้น
เสน้ ไหม ไดแ้ ก ่ จดุ ประสงคข์ องการ - วสั ดุและอปุ กรณ์
ค้น วัสดุและอุปกรณ์ วิธีการค้น - วธิ ีการคน้
และข้อควรระวังในการคน้ ไหม ได้ - ข้อควรระวังในการคน้ ไหม
391

เร่อื ง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนือ้ หา การจดั กระบวนการเรียนรู้ ชัว่ โมง 392
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ

2.7 สามารถอธิบายและสาธิตการ 2.7 การออกแบบลายและการย้อมสีไหม 1 29
ออกแบบลายและยอ้ มสไี หม ไดแ้ ก่ - วัสดอุ ปุ กรณ์
วัสดุอุปกรณ์ วิธีการมัดลาย/ข้ันตอน/ - วธิ กี ารมดั ลาย/ขน้ั ตอน/การยอ้ มสี 1 15
การย้อมสี ข้อควรระวังในการมัด - ข้อควรระวังในการมัดลายและ 17
ลายการย้อมสีไหม และการตรวจสอบ การยอ้ มสไี หม 1 29
ความถกู ตอ้ งของลวดลาย ได้ - การตรวจสอบความถูกต้องของ
2.8 ส ามารถอธิบายและสาธิตการกรอ ลวดลาย
เสน้ ไหมยนื /ไหมพงุ่ ไดแ้ ก่ จดุ ประสงค์ 2.8 ก ารกรอเส้นไหมยืน/ไหมพุ่ง -
ของการกรอไหม วสั ดแุ ละอปุ กรณ ์ จุดประสงค์ของการกรอไหม
วิธี/ข้ันตอนการกรอไหม และ - วสั ดแุ ละอุปกรณ์
ข้อควรระวังในการกรอไหม ได้ - วิธี/ข้นั ตอนการกรอไหม
2.9 สามารถอธบิ ายและสาธติ การมว้ น/ - ขอ้ ควรระวังในการกรอไหม
ป่ันไหม ไดแ้ ก่ จุดประสงค์ของการ 2.9 การมว้ น/ปน่ั ไหม
มว้ น/ป่นั ไหม วัสดแุ ละอปุ กรณ์ วธิ ี - จดุ ประสงคข์ องการมว้ น/ปน่ั ไหม
การม้วน/ปั่นไหม และ ข้อควร - วสั ดุและอุปกรณ์
ระวังในการม้วน/ปัน่ ไหมได้ - วธิ กี ารการม้วน/ปนั่ ไหม
2.10 ส ามารถอธิบายและสาธิตการเก็บ - ขอ้ ควรระวงั ในการการมว้ น/ปนั่ ไหม
ตะกอไหมได้แก่ จุดประสงค์ของ 2.10 การเก็บตะกอไหม
การเกบ็ ตะกอไหม วัสดุและอุปกรณ์ - จดุ ประสงคข์ องการเกบ็ ตะกอไหม
วิธี/ขั้นตอนการเก็บตะกอไหม - วสั ดแุ ละอุปกรณ์
ขอ้ ควรระวงั ในการเกบ็ ตะกอไหม ได้ - วิธี/ขน้ั ตอนการเก็บตะกอไหม
- ขอ้ ควรระวงั ในการเกบ็ ตะกอไหม