The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by neverstop.learning09, 2021-06-25 03:42:48

รายงานสืบเนื่องจากการประชุมระดับชาติ RTBEC 2021

Proceedings of The 6th RMUTT Global Business and
Economics National Conference 2021

Keywords: RTBEC

THE 8th RMUTT GLOBAL BUSINESS

AND ECONOMICS NATIONAL CONFERENCE
RTBEC 2021 วันท่ี 28 พฤษภาคม 2564

คณะบรหิ ารธุรกจิ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี

B“NuseinexsstCNhaollenrgmes ian tlhe”

รายงานสืบเนื่องจากการประชมุ วิชาการ (Proceedings)



การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

คำนำ

การประชุมวิชาการระดับชาติ RMUTT Global Business and Economics Conference
2021 (RTBEC 2021) ได้ดาเนินการมาอย่างต่อเน่ืองเป็นปีที่ 8 โดยการประชุมวิชาการเป็นไปตาม
มาตรฐานและข้อกาหนดในการจัดประชุมวิชาการระดบั ชาติ หวั ขอ้ ของการจัดการประชมุ วิชาการคร้ัง
น้ีคือ “Business Challenges in the Next Normal” ซึ่งจัดประชุมในวนั ท่ี 28 พฤษภาคม พ.ศ.
2564 ณ คณะบริหารธรุ กจิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี ซ่ึงการประชมุ วิชาการคร้งั นไ้ี ด้รับ
ความสนใจในการส่งบทความวิจัยเข้าร่วมเป็นจานวนมาก สาหรับการประชุมวิชาการระดับชาติมี
มหาวิทยาลัยต่าง ๆ เขา้ ร่วมถงึ 10 มหาวิทยาลยั

ในการจัดประชุมวิชาการระดับชาติคร้ังน้ี มีวัตถุประสงค์เพ่ือเป็นเวทีทางวิชาการในการ
เผยแพร่ผลงานวิจัยระดับชาติ ทางด้านบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ สาหรับนักศึกษา คณาจารย์
นักวิชาการและนักวิจัย ตลอดจนผู้สนใจทั่วไป ซ่ึงมีขอบเขตเน้ือหาในการจัดการประชุมครอบคลุม
ทางด้านบริหารธุรกิจทุกสาขา เช่น การจัดการธุรกิจ การจัดการโลจิสตกิ ส์และโซ่อุปทาน การจัดการ
วิศวกรรมธุรกิจ การบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การตลาด การบัญชี
การเงิน ระบบสารสนเทศทางธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ธุรกิจ และสาขาอ่ืน ๆ ท่ีเก่ียวข้องทางด้าน
บรหิ ารธุรกิจ

การจัดการประชุมวิชาการระดับชาติของคณะบริหารธุรกิจในคร้ังนี้ ยังเป็นการดาเนินการ
ตามยุทธศาสตร์ของมหาวทิ ยาลัยในการยกระดับงานวจิ ัยเพอ่ื สร้างองค์ความรู้ นวตั กรรมด้วยยทุ ธวิธที ่ี
เหมาะสมให้เขา้ ถงึ ประชาชนและประชาสงั คมอยา่ งแพร่หลาย โดยเปน็ การเพ่ิมช่องทางที่สาคญั ในการ
ถ่ายทอดองค์ความรู้จากงานวจิ ัยและเป็นสื่อกลางในการแลกเปล่ียนประสบการณ์เพ่ือพัฒนางานวิจัย
ให้สามารถตอบโจทย์ภาคธุกิจและอุตสาหกรรม อีกท้ังยังเป็นการเพ่ิมศักยภาพนักวิจัยทางด้าน
บริหารธุรกิจให้สร้างสรรค์งานวิจัยเพื่อเป็นส่วนหน่ึงในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศให้มี
ความย่งั ยนื ตลอดไป

การประชุมวิชาการฯ ในคร้ังนี้ถือว่าประสบความสาเร็จอย่างสูงจากความร่วมมือของ
ผู้มีส่วนเก่ียวข้องหลายฝ่าย คณะกรรมการจัดการประชุม ขอขอบพระคุณผู้เข้าร่วมประชุม
ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้สนับสนุนโครงการ คณะทางาน ผู้บริหารคณาจารย์ของคณะบริหารธุรกิจ และ
ผู้บริหารมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีท่ีได้กรุณาให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี

กองบรรณาธกิ ารและคณะกรรมการจัดการประชุมวชิ าการ (RTBEC 2021)
คณะบริหารธุรกจิ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
พฤษภาคม 2564

i

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

กองบรรณาธกิ าร Westfälische Hochschule
1. Professor Dr.Antonio Nisch Gelsenkirchen Bocholt
Recklinghausen University of
2. Professor Dr.Howard Combs Applied Sciences, Germany
3. Professor Dr.Manfred Külkens San Jose State University, U.S.A.

4. Professor Dr.Mohamad Hanapi Westfälische Hochschule
Mohamad Gelsenkirchen Bocholt
Recklinghausen University of
5. Professor Dr.T. K. Peng Applied Sciences, Germany
6. Professor Dr.Tsutomu Konosu
7. Assistant Professor Chen Ling UUM Information Technology
(UUMIT), University of Utara,
8. Assistant Professor Ngan Chau Malaysia
I-Shou University
9. Dr.Le Hoang Ba Huyen
10. ศาสตราจารย์ กติ ตคิ ุณ ดร. อัจฉรา จันทรฉ์ าย Chiba Institute of Technology
11. ศาสตราจารย์ ดร.กมลชนก สทุ ธวิ าทนฤพุฒิ
12. ศาสตราจารย์ ดร.ดิเรก ปทั มสริ วิ ัฒน์ Southwestern University of Finance
13. ศาสตราจารย์ ดร.ปิยะฉตั ร จารุธรี ศานต์ and Economics, China
14. รองศาสตราจารย์ ดร.ชนงกรณ์ กณุ ฑลบตุ ร
15. รองศาสตราจารย์ ดร.สดุ าพร กุณฑลบุตร University of Nebraska at Kearney,
16. รองศาสตราจารยว์ สนั ต์ กันอา USA
17. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กุสมุ า ดาพิทักษ์ Hong Duc University
18. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นาถรพี ชัยมงคล
19. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.สันตกิ ร ภมรปฐมกลุ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
20. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุภา ทองคง
21. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์นิกร ลชี าคา จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย
22. ดร.กฤษดา เชียรวัฒนสขุ
สถาบันบณั ฑติ พฒั นบริหารศาสตร์

มหาวิทยาลัยรามคาแหง

มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี

มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี

มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี

มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี

มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี

ii

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

คณะกรรมการการกลั่นกรองบทความภายนอก

1. ผูช้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.จริ าภา พงึ บางกรวย มหาวิทยาลัยบรู พา
2. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ธที ตั ตรศี ริ ิโชติ มหาวทิ ยาลัยบรู พา
3. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ปทั มา เจรญิ พร สถาบนั เทคโนโลยีพระจอมเกลา้ เจา้ คุณ
ทหารลาดกระบัง
4. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พรรณราย ละตา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกลา้
พระนครเหนอื
5. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.พฒั น์ พิสษิ ฐเกษม มหาวทิ ยาลัยรงั สติ
6. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ยอดยงิ ธนทวี มหาวิทยาลัยบูรพา
7. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรัณยา เลศิ พทุ ธรักษ์ มหาวทิ ยาลัยบูรพา
8. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สมบตั ิ ธารงสินถาวร มหาวทิ ยาลัยบรู พา
9. ดร.นพปฎล สวุ รรณทรัพย์ มหาวิทยาลยั รงั สิต
10. ดร.วรรณวชิ นี ถนอมชาติ มหาวิทยาลัยบรู พา
11. ดร.ศภุ สิทธิ์ เลศิ บวั สิน มหาวิทยาลัยบรู พา
12. ดร.สธุ าศิณี สุศิวะ มหาวิทยาลยั บูรพา
13. ดร.วีระศกั ดิ์ สว่างโลก มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม

คณะกรรมการการกล่ันกรองบทความภายใน มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี
1. รองศาสตราจารย์ ดร.กล้าหาญ ณ นา่ น มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
2. รองศาสตราจารย์ ดร.เนตรพ์ ณั ณา ยาวิราช มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี
3. รองศาสตราจารย์ ดร.สุดาพร กณุ ทลบตุ ร มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี
4. รองศาสตราจารย์ วสันต์ กนั อา มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
5. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กุสุมา ดาพทิ ักษ์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี
6. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.กนกพร ชยั ประสทิ ธิ์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี
7. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร. ชัยมงคล ผลแก้ว มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี
8. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ณชญาภัส รอดประยูร มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี
9. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ดวงพร พทุ ธวงค์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี
10. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ถนอมพงษ์ พานิช มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี
11. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ปภาภทั ร อคั รางกรู มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี
12. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ปยิ ฉัตร บูระวัฒน์
13. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.มะดาโอะ สุหลง

iii

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

14. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรากลุ สุโคตรพรหมมี มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี

15. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สลิตตา สารบิ ตุ ร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี

16. ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.สันตกิ ร ภมรปฐมกุล มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี

17. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุรมงคล นมิ จติ ต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี

18. ดร.กฤษดา เชียรวฒั นสขุ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี

19. ดร.กัญญ์กณษิ ฐ์ กมลกิตติวงศ์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

20. ดร.ฐิตมิ า พลู เพชร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี

21. ดร.ดลยา จาตุรงคกลุ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี

22. ดร.ธิดารัตน์ กุลณฐั รวงศ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี

23. ดร.ปรญิ วรี ะพงษ์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

24. ดร.รังสรรค์ สุวรรณหงส์ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี

25. ดร.รจุ ิกาญจน์ สานนท์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี

26. ดร.วรางกูร อิศรางกูร ณ อยธุ ยา มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี

27. ดร.วาสนา ศิลปร์ ุ่งธรรม มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี

28. ดร.วญิ ญู ปรอยกระโทก มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

29. ดร.อมุ าวสี ศรบี ญุ ลือ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี

iv

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

คำกล่ำวรำยงำนโครงกำรประชุมวชิ ำกำรระดับชำติ RMUTT Global Business and
Economics National Conference 2021 (RTBEC 2021)

กราบเรียน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นาถรพี ตันโช คณบดี คณะบริหารธรุ กิจ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี
ทา่ นทีป่ รึกษาคณะบริหารธุรกิจ
คณะกรรมการบรหิ ารคณะ
คณาจารย์คณะบริหารธรุ กจิ ผู้นาเสนอผลงานและผู้เขา้ ร่วมรบั ชมผา่ นระบบออนไลน์ทกุ ทา่ น

การประชุม RMUTT Global Business and Economics Conference (RTBEC 2021) ซ่ึงจัด
โดยคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้ดาเนินการจัดอย่างต่อเน่ืองเป็นประจาทุก
ปีและในคร้ังนี้นับเป็นปีท่ี 8 ซึ่งมีหัวข้อการประชุม คือ “Business Challenges in the Next Normal”
โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเป็นการเปิดโอกาสให้คณาจารย์ บุคลากรสายวิชาการ นักวิจัยและนักศึกษาได้มีเวที
เผยแพร่ผลงานวิชาการทางด้านบริหารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์ และเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนองค์
ความรู้ทง้ั ในด้านทฤษฎี แนวคดิ ทางการบรหิ ารธุรกิจสมัยใหม่ การประยุกตใ์ ช้องคค์ วามรู้ โดยเฉพาะในปนี ี้ มี
บทความวิจัยท่ีเก่ียวข้องกับการดาเนินธุรกิจในความปกติใหม่ และทิศทางการปรับตัวขององค์การธุรกิจใน
ความปกติถัดไป ซึ่งถือเป็นมุมมองที่มีความร่วมสมัยและนาไปสู่การแลกเปล่ียนประสบการณ์ระหว่าง
คณาจารย์ นักวิชาการ นักวิจัย ผ้บู ริหาร นักธุรกิจ นักศึกษาและผ้สู นใจโดยท่ัวไป อันจะนามาสู่ประโยชน์ใน
การพัฒนาประเทศโดยรวม

การประชุมวิชาการครั้งนี้ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของคณะบริหารธุรกิจในการเป็นผู้นาด้าน
การศึกษาบรหิ ารธุรกจิ ในระดับสากล และจัดขึน้ ตามนโยบายของ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี ที่
มุ่งเน้นการให้การศึกษาระดับอุดมศึกษาที่เน้นการพัฒนาทักษะวิชาชีพด้วยคุณภาพและความสามารถท่ี
จาเป็นสาหรับการประกอบอาชีพในอนาคต รวมถึงการให้บริการทางวิชาการเพ่ือส่งเสริมการสร้างงานและ
ศกั ยภาพในการแข่งขนั ของประเทศ

การประชุมวชิ าการ RMUTT Global Business and Economics Conference (RTBEC 2021)
ในคร้ังนี้ ได้คาดหวงั ผลลัพธ์อันจะเป็นประโยชน์อยา่ งย่ิง สาหรับคณะบริหารธรุ กจิ และเครือขา่ ยความรว่ มมอื
ทางวิชาการจากสถาบันการศึกษาท่มี ีสว่ นร่วมในการประชมุ ซ่ึงมีผลงานวิชาการเขา้ รว่ มประชุมในระดับชาติ
จานวน 51 ผลงาน จาก 10 สถาบันการศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคาแหง
มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยบูรพา สถาบัน
เทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต มหาวิทยาลัยชิณวัตร มหาวิทยาลัยศรีปทุม และ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี นอกจากนี้ ในการประชุมระดับนานาชาติ มีผลงานวิชาการเข้าร่วม
จาก 5 ประเทศ คือ สาธารณรัฐประชาชนจีน สหรัฐอเมริกา สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
สาธารณรฐั อินโดนีเซีย และประเทศไทย รวม 13 ผลงาน

กระผมในนามตัวแทนคณะกรรมการจัดการประชุมวิชาการในคร้ังนี้ ขอกราบเรียนเชิญ ผู้ช่วย
ศาสตราจารย์ ดร.นาถรพี ตันโช คณบดีคณะบริหารธรุ กิจ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี กล่าวเปดิ
การประชุมวิชาการ RMUTT Global Business and Economics Conference (RTBEC 2021)

ขอกราบเรยี นเชญิ
ดร.กฤษดา เชยี รวัฒนสขุ
รองคณบดี ฝ่ายวจิ ัย พฒั นาและบริการวิชาการ
คณะบรหิ ารธุรกิจ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี

v

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021
คำกลำ่ วเปดิ โครงกำรประชมุ วชิ ำกำรระดบั ชำติ RMUTT Global Business and
Economics National Conference 2021 (RTBEC 2021)

ทา่ นทปี่ รกึ ษาคณะบรหิ ารธรุ กิจ
คณะกรรมการบรหิ ารคณะ
คณาจารย์คณะบริหารธุรกิจ ท่านผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้นาเสนอผลงาน และผู้เข้าร่วมรับชมการถ่ายทอดผ่านระบบ
ออนไลนท์ ุกท่าน

ดิฉันขอแสดงความขอบพระคุณอย่างย่ิง สาหรับทุกท่านท่ีมีส่วนร่วมในการประชุมวิชาการ RMUTT
Global Business and Economics Conference (RTBEC 2021) ในหัวข้อ "Business Challenges in the
Next Normal" ซ่ึงคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้จัดข้ึนเป็นประจาทุกปี ตาม
ยุทธศาสตรใ์ นการพัฒนางานวิจัยท่มี คี ุณค่าตอ่ สงั คมและประเทศชาติ

การประชุมวิชาการครั้งน้ีมีความจาเป็นที่จะต้องจัดข้ึนในรูปแบบออนไลน์เป็นคร้ังที่ 2 ด้วยสาเหตุ
จากการแพร่ระบาดของโรคไวรสั โคโรนา 2019 หรอื โควดิ –19 ท่มี คี วามรนุ แรงเพ่มิ ข้ึนในช่วงเดือนเมษายนท่ีผ่าน
มา ซึ่งทาให้คณะบริหารธุรกิจต้องปฏิบัติตามข้อกาหนดของภาครัฐและประกาศของทางมหาวิทยาลัยฯ โดย
เคร่งครัด ภายใต้สถานการณ์น้ี คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ยังคงยืนหยัดในการ
ดาเนินงานที่มุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ และการสร้างเสริมเรียนรู้ผ่านงานวิจัยแบบบูรณาการ เพ่ือ
ก่อให้เกิดประโยชนต์ อ่ สงั คมและประเทศชาตโิ ดยรวม

ท้ังน้ี การดาเนินธุรกิจในสถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่มีการเผชิญหน้ากับแนวโน้มของการ
เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของการแข่งขันในระดับโลก ยังต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโค
วิด–19 ที่สร้างผลกระทบในวงกว้างไปท่ัวโลกและมีแนวโน้มท่ีจะมีความยืดเย้ือไปในอนาคต องค์การธุรกิจ
ทั้งหลาย จึงต้องมีการปรับตัวทั้งในด้านรูปแบบและกระบวนทัศน์ในการดาเนินธุรกิจ ดังนั้น การจัดประชุม
วิชาการในหัวข้อ "Business Challenges in the Next Normal" คร้ังนี้ จึงมีความสาคัญแก่แวดวงวิชาการ
ตลอดจนผู้ประกอบการท่ีอยู่ในภาคธุรกิจ โดยสามารถนาเอาองค์ความรู้จากงานวิจัยในเวทีการประชุมวิชาการนี้
ไปต่อยอดและบูรณาการให้เกิดประโยชน์ อีกท้ังยกระดับความสามารถทางการแข่งขันท่ีจาเปน็ สาหรับการดาเนนิ
ธุรกจิ ในความปกตถิ ดั ไป เพอ่ื รว่ มกันสง่ เสริมการสร้างงานและศักยภาพในการแข่งขันของประเทศอยา่ งยง่ั ยืน

ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 ท่ีถือเป็นวิกฤตในช่วงเวลาน้ี คณะบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ถือเป็นอีกโอกาสท่ีสาคัญในการแสดงศักยภาพและความพร้อมของคณะ
บริหารธุรกิจ ทั้งในด้านความเข้มแข็งทางวิชาการ เทคโนโลยี และบุคคลากรท่ีมีคุณภาพ ดิฉนั หวังเป็นอย่างยิ่งว่า
ทุกท่านจะสร้างโอกาสในการแลกเปล่ียนและส่งต่อความรู้ระหว่างกัน เพื่อพัฒนากลไกและกระบวนการสาหรับ
การทางานร่วมกนั ในอนาคต และเพ่อื ใหเ้ กดิ ประโยชนร์ ่วมกนั ของผ้เู ขา้ ร่วมประชุมวชิ าการทกุ ทา่ น

ดิฉันรับทราบด้วยความซาบซึ้งใจว่าการประชุมคร้ังนี้ ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมอย่างกว้างขวาง
จากสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงหลายแห่งที่มาร่วมกันเผยแพร่องค์ความรู้ผ่านงานวิจัยโดยใช้เวทีการประชุม
วิชาการ RTBEC 2021 ครั้งน้ี และดิฉันขอแสดงความขอบคุณเป็นพิเศษสาหรับ รองศาสตราจารย์ ดร.ณัฐวุฒิ
พิมพา จากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล และ รองศาสตราจารย์ ดร. สมพล ทุ่งหว้า จากคณะ
บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคาแหง สาหรับการสละเวลามาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิประจาห้องนาเสนอ และ
ผู้ทรงคุณวุฒิประจาห้องนาเสนอท่ีเป็นอาจารย์ประจาของคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล
ธัญบุรีทุกท่าน ที่มาร่วมให้คาแนะนาซึ่งทาให้เกิดมุมมองทางวิชาการที่หลากหลายและเป็นประโยชน์อย่างย่ิง
สาหรบั ผเู้ ขา้ รว่ มประชมุ วิชาการทกุ ท่าน

ท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ในนามคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ดิฉัน
ขอขอบพระคุณทุกท่านท่ีสละเวลาอันมีค่า ในการเข้าร่วมเป็นสว่ นหนึ่งของการประชุมวิชาการคร้ังน้ี และดิฉันขอ
ใชโ้ อกาสน้เี ปิดการประชมุ ในหัวขอ้ "Business Challenges in the Next Normal" อยา่ งเป็นทางการ
ขอขอบพระคณุ
ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.นาถรพี ตันโช
คณบดี คณะบรหิ ารธรุ กจิ
มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี

vi

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

โครงการประชมุ วิชาการระดับชาติ
RMUTT Global Business and Economics Conference 2021 (RTBEC 2021)

จัดโดย
คณะบริหารธุรกจิ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี

หลกั การและเหตผุ ล
คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้จัดการเรียนการสอนระดับ

บัณฑิตศึกษาท้ังระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ประกอบกับคณะบริหารธุรกิจ จะเป็นผู้นาด้าน
การศึกษาบริหารธุรกิจระดับสากล โดยมีนโยบายหลัก ด้านการพัฒนาด้านการวิจัย (Creativity)
ส่งเสริมให้มีงานวิจัยประยุกต์ (Applied Research) สร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการวิจัยทั้งใน
ประเทศ และต่างประเทศ มีการกาหนดหัวข้อวิจัยให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การวิจัยของชาติ เพื่อ
สร้างความชานาญ และนาไปสู่การพฒั นาในระดับประเทศ ตลอดจนจัดสรรงบประมาณรองรับในการ
พัฒนางานวิจัยอย่างพอเพียง และการพัฒนาอาจารย์และบุคลากรของคณะฯ (Care) ให้ความสาคัญ
กับการได้มาซ่ึงบุคลากรที่มีคุณภาพ สนับสนุนอาจารย์เข้าสู่ตาแหน่งทางวิชาการ การใช้ภาษาอังกฤษ
และงานวิจัย เพื่อพัฒนาบุคลากรสู่ความเป็นมืออาชีพ ส่งเสริมให้บุคลากรสายสนับสนุนมี
ความสามารถในการทางานที่หลากหลาย (Multifunctional) และพัฒนาทั้งด้านภาษาอังกฤษ และ
คอมพิวเตอร์ ดงั นั้น จะเห็นไดว้ ่า การจัดประชุมวิชาการระดับชาตแิ ละนานาชาติ จึงเป็นเวทีวชิ าการ
ให้คณาจารย์ นักวิจัย นักวชิ าการ และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาได้มีโอกาสเผยแพร่ผลงานวิชาการ
แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และประสบการณ์ด้านการวิจัย รวมถึงมีส่วนช่วยสนับสนุนให้นโยบายหลัก
จานวน 4 ด้าน จากนโยบายหลักทั้ง 7 ด้านประสบผลสาเร็จได้ ไดแ้ ก่ การพฒั นาการจัดการศึกษาโดย
การจัดการเรียนการสอนเชงิ วจิ ัย การพัฒนาด้านการวจิ ัยโดยการสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการ
วิจัย เพ่ือสร้างความชานาญ และนาไปสู่การพัฒนาในระดับประเทศ การพฒั นาด้านบรกิ ารวิชาการแก่
สังคมโดยการจัดโครงการอบรม และให้ความรู้ทางด้านบริหารธุรกิจแก่สังคม และการพัฒนาอาจารย์
รวมถึงบุคลากรของคณะฯ โดยการสนับสนุนให้อาจารย์เข้าสู่ตาแหน่งทางวิชาการ และงานวิจัย เพ่ือ
พัฒนาบคุ ลากรส่คู วามเป็นมืออาชีพ

คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้ตระหนักในความสาคัญของ
การสนับสนุนใหค้ ณาจารย์ บุคลากรสายวิชาการ นักวิจยั และนักศกึ ษาระดบั บัณฑิตศกึ ษา ได้มีโอกาส
แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณซ์ ่ึงกนั และกัน ดงั นนั้ คณะบริหารธรุ กิจ จึงไดจ้ ัดทาโครงการการ
ประชมุ วชิ าการระดับชาติและนานาชาติ RMUTT Global Business and Economics Conference
2021 (RTBEC 2021) โดยมีแนวคิดการจัดประชุมคือ “Business Challenges in the “Next
normal” ซึ่งจะจดั ขนึ้ ในวันท่ี 28 พฤษภาคม 2564 ณ คณะบริหารธุรกจิ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราช
มงคลธัญบุรี

โดยการประชุมวิชาการครั้งน้ี จะเน้นการนาเสนอผลงานวิจัยด้านบริหารธุรกิจ และ
เศรษฐศาสตร์ รวมถงึ การสร้างความสมั พันธ์ระหวา่ งบุคลากรที่เข้ารว่ มประชุมวชิ าการ เพ่อื ใหเ้ กิด การ
พัฒนาผลงานวิชาการ และงานวิจัยร่วมกันในอนาคต ตลอดจนสามารถตอบสนองตัวชี้วัดการพัฒนา
ระบบประกันคุณภาพการศึกษาด้านงานวิจัยของคณะฯ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี
ต่อไป

vii

การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

วตั ถปุ ระสงค์
1. เพื่อเปิดโอกาสให้คณาจารย์ นักวิจัย และนักศึกษาได้แลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการ

ประสบการณ์การทาวิจยั ความคดิ เหน็ และแสดงความก้าวหน้าของงานวจิ ยั
2. เพื่อยกระดับ และพัฒนาคุณภาพการเผยแพร่ผลงานวิจัย และงานสร้างสรรค์ของ

คณาจารยแ์ ละนกั ศกึ ษาของคณะฯ ให้ทดั เทียมกับระดับประเทศ
3. เพ่ือเปิดโอกาสให้คณาจารย์ นักวิจัยและนักศึกษาได้นาเสนอและเผยแพร่ผลงานวิจัย

และงานสรา้ งสรรค์ตอ่ สาธารณชนและบคุ คลทส่ี นใจ

รปู แบบการประชมุ
1. การนาเสนอผลงานแบบ Oral Presentation ในห้องประชุมใช้เวลาเร่ืองละ 15 นาที

และตอบข้อซกั ถาม 5 นาที

วนั -เวลา-สถานทจ่ี ัดประชมุ วชิ าการนาเสนอผลงานวิจัย
วนั ที่ 28 พฤษภาคม 2564
สถานท่ีดาเนินงาน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี จังหวัด

ปทมุ ธานี

อัตราค่าลงทะเบียน
การลงทะเบียนลว่ งหนา้ 1 - 31 มนี าคม 2564
อาจารย์ นักศกึ ษา และนกั วจิ ยั ทวั่ ไป 2,500 บาท
การลงทะเบียนปกติ 1 - 30 เมษายน 2564
อาจารย์ นักศึกษา และนักวจิ ยั ทั่วไป 3,000 บาท

ขอบเขตหวั ขอ้ การนาเสนอ
1. เปน็ ผลงานวิจยั ท่ดี าเนินการเสร็จส้ินแล้ว หรืออยูใ่ นระหว่างการดาเนินการทย่ี ังไมเ่ คยนา

ผลงานดังกล่าวเสนอในการประชุมวิชาการใดมาก่อน
2. เปน็ ผลงานวจิ ยั ทีอ่ ยูใ่ นขอบข่ายของหัวขอ้ (THEME) ดงั น้ี

ดา้ นการบรหิ ารธุรกิจระหว่างประเทศและการจัดการ
หลักการของธุรกิจระหว่างประเทศ กระบวนการบริหารการจัดการสาหรับธุรกิจระหว่าง

ประเทศ ในด้านการจัดการด้านการเงิน การจัดการตลาด การจัดการข้ามวัฒนธรรม การจัดการด้าน
งานบุคคล การจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การบริหารองค์กร และปัจจัยต่าง ๆ สาหรับธุรกิจ
ระหว่างประเทศ และการบริหารธรุ กจิ ระหว่างประเทศท่วั ๆ ไป

ดา้ นการบรหิ ารการตลาด
หลักการบริหารการตลาด การกาหนดกลยุทธ์การตลาด การวิเคราะห์ สภาพแวดล้อมทาง

การตลาด การวิเคราะห์พฤติกรรมตลาดผู้ซื้อ การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค การกาหนดส่วนแบ่ง
ตลาด การเลือกตลาดเป้าหมาย และการวางตาแหน่งผลิตภัณฑ์ทางการตลาด การวางกลยุทธ์

viii

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ผลิตภัณฑ์ กลยุทธ์ราคา กลยุทธ์ช่องทางการจัดจาหน่าย และกลยุทธ์การส่งเสริมการตลาด และ
การตลาดทัว่ ๆ ไป

ดา้ นบญั ชี
การบัญชีการเงิน การสอบบัญชี การบัญชีบริหาร การตรวจสอบภายใน การบัญชีภาษี

อากร เทคโนโลยีและการศึกษาด้านการบัญชี การวเิ คราะห์ประเดน็ ปัญหาของวิชาชพี บญั ชี มาตรฐาน
การบัญชี และบัญชีดา้ นอืน่ ๆ ทเ่ี กี่ยวข้องกบั การบญั ชี

ดา้ นการเงิน
การเงนิ การธนาคาร นโยบายการเงิน และงานวจิ ัยดา้ นการเงินทวั่ ๆ ไป

ดา้ นเศรษฐศาสตร์
เศรษฐศาสตร์จุลภาค เศรษฐศาสตร์มหภาค เศรษฐศาสตร์การเงินและการลงทุน

เศรษฐศาสตร์การพัฒนา เศรษฐศาสตร์แรงงาน เศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศ เศรษฐศาสตร์
ส่ิงแวดล้อม เศรษฐศาสตร์การจัดการ เศรษฐศาสตรน์ วัตกรรม เศรษฐศาสตร์การขนสง่ และโลจิสตกิ ส์
เศรษฐศาสตรก์ ารเมอื ง เศรษฐศาสตรท์ ่องเทย่ี ว และงานวจิ ัยด้านเศรษฐศาสตร์ทว่ั ๆ ไป

ด้านระบบสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ ซอฟต์แวร์พื้นฐานและท่ัวไป เทคโนโลยีประมวลผลข้อความ

โครงสรา้ งพ้นื ฐานสารสนเทศ พัฒนาโปรแกรม และงานวจิ ัยด้านระบบสารสนเทศทว่ั ๆ ไป

ดา้ นโลจิสตกิ ส์
ระบบคลังสินค้าและสินค้าคงคลัง การจัดส่งทางธุรกิจ การจัดการขนส่งระหว่างประเทศ

การวางแผนระบบสนับสนุนโลจิสตกิ ส์ เทคนิคการวิเคราะห์เพ่อื การจัดการโลจิสตกิ ส์

กาหนดการย่ืนใบสมคั รและการตอบรบั ให้นาเสนอผลงานวิจัย

กิจกรรม เวลา

เร่ิมรับบทความ 15 กมุ ภาพันธ์ 2564

วันสดุ ทา้ ยของการส่งบทความ 30 เมษายน 2564

แจ้งผลการพิจารณาบทความ 1 พฤษภาคม 2564

ลงทะเบยี นและชาระค่าลงทะเบียนลว่ งหนา้ 1-31 มีนาคม 2564

ลงทะเบียนและชาระค่าลงทะเบยี นปกติ 1-30 เมษายน 2564

ix

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

การเตรียมบทคดั ยอ่ และบทความวิจัยฉบับเต็มท่จี ะนาเสนอในทีป่ ระชมุ วชิ าการ
1. บทคัดย่อภาษาไทยและภาษาอังกฤษตามรูปแบบท่ีคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัย

เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี กาหนด ดูตัวอยา่ งท่ีเว็บไซต์ http://www.bus.rmutt.ac.th/rtbec2021/
2. บทความวิจัยฉบับเต็ม (Full Paper) ให้จัดเตรียมเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษโดยมี

ความยาว 12-15 หน้ากระดาษ A4 (รวมบทคดั ย่อ รปู ภาพ ตาราง และบรรณานุกรม)
3. บทความวิจัยฉบบั เต็มประกอบดว้ ย บทนา วัตถปุ ระสงค์ การทบวนวรรณกรรม ระเบียบ

วิ ธี วิ จั ย ผ ล ก า ร วิ จั ย แ ล ะ อ ภิ ป ร า ย ผ ล แ ล ะ บ ร ร ณ า นุ ก ร ม ดู ตั ว อ ย่ า ง ที่ เ ว็ บ ไ ซ ต์
http://www.bus.rmutt.ac.th/rtbec2021/

4. ผลงานวิจัยฉบับเต็มท่ีผู้นาเสนอผลงานได้ปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอของผู้ทรงคุณวุฒิ
แลว้ จะไดก้ ารตพี มิ พ์เผยแพร่เปน็ Proceedings ของการประชุม (CD Proceedings)

x

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

สารบญั

คานา .............................................................................................................................................. i
กองบรรณาธกิ าร.............................................................................................................................. ii
คากล่าวรายงานโครงการประชุมวิชาการระดบั ชาติ RMUTT Global Business and

Economics National Conference 2021 (RTBEC 2021) ................................................... v
คากลา่ วเปดิ โครงการประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RMUTT Global Business and

Economics National Conference 2021 (RTBEC 2021) ................................................... vi
โครงการประชุมวชิ าการระดับชาติ RMUTT Global Business and Economics National

Conference 2021 (RTBEC 2021).......................................................................................... vii
สารบัญ ........................................................................................................................................... xi
กาหนดการงานประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RMUTT Global Business and Economics National

Conference 2021 (RTBEC 2021) ......................................................................................... xv

TECH-SESSION B
การบริหารแบบญี่ปุ่นมีอิทธิพลต่อผลการปฏิบัตงิ านผ่านตวั แปรค่นั กลางความยึดมั่นผูกพนั ในงาน
กรณศี กึ ษาบรษิ ทั ผลติ ชน้ิ สว่ นยานยนตอ์ งคก์ รญป่ี นุ่ .................................................. 1
แนวทางในการดาเนนิ งานของธุรกจิ ร้านอาหารในช่วงสถานการณ์โควิด 19
เกาะล้าน จงั หวดั ชลบรุ ี.............................................................................................. 17
ปจั จัยที่มผี ลต่อความพงึ พอใจในการใช้บริการร้านอาหารอีสานของผ้บู ริโภค
ในเขตกรงุ เทพมหานคร.............................................................................................. 33
ชอ่ งทางการสง่ ผ่านนโยบายการเงนิ ทางดา้ นราคาหลักทรพั ยก์ รณีศกึ ษา
กลุ่มอตุ สาหกรรมการบรกิ าร ..................................................................................... 49
ทัศนคติทม่ี ีตอ่ บล็อกเกอรด์ า้ นการท่องเท่ยี ว กับการรับร้ขู อ้ มลู ข่าวสารผา่ นสื่อสังคมออนไลน์
ส่งผลต่อการตดั สนิ ใจเลอื กทอ่ งเท่ยี วในรูปแบบของการทอ่ งเที่ยวคนเดยี ว
(Solo travel) ของกลมุ่ ผหู้ ญงิ ในเขตกรงุ เทพมหานคร ............................................ 65
สมรรถนะหลักในการปฏบิ ัตงิ านทส่ี ่งผลตอ่ ประสิทธิภาพการปฏบิ ตั งิ าน
ของพนักงานบรษิ ัท ไฮแครไ์ ทยกลัฟส์ จากัด ............................................................. 77
กลยุทธท์ างการตลาดและพฤตกิ รรมผ้บู รโิ ภคหลงั วิกฤตการณ์โควดิ -19 ทสี่ ่งผลตอ่ การตดั สินใจ
เลอื กใช้บริการธรุ กิจโรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร ................................................. 89
คณุ ภาพการให้บริการทสี่ ง่ ผลตอ่ ความพึงพอใจของผู้โดยสารต่อการใชบ้ ริการทา่ อากาศยาน
ดอนเมอื งสาหรบั การเดินทางในประเทศในยคุ ความปกติใหม่ ................................... 103
การวเิ คราะห์ตน้ ทุนและผลตอบแทนของการทาเกษตรอัจฉริยะ : กรณศี กึ ษา
ฟารม์ เห็ดในจงั หวัดเชียงใหม่ ..................................................................................... 117
แนวทางการปรับปรงุ ประสิทธภิ าพการผลิตน้านมดบิ โดยใชก้ ลยุทธด์ ้านโลจสิ ตกิ ส์
กรณศี กึ ษา สหกรณโ์ คนมเทพสถติ จากดั อาเภอเทพสถติ จงั หวดั ชยั ภมู ิ.................. 133
การบรหิ ารจัดการและการวางแผนการตลาดของธุรกิจผา้ ทอพื้นเมอื ง
กรณศี กึ ษาผลติ ภณั ฑผ์ า้ ไหมทอมอื ในจงั หวดั เพชรบรู ณ์ ........................................... 145
รปู แบบการเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการบรหิ ารจดั การพพิ ธิ ภณั ฑเ์ อกชน............................................. 161

xi

การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

TECH-SESSION C
ปัจจยั ดา้ นโลจสิ ตกิ สท์ ีม่ ีผลตอ่ การตดั สินใจเลอื กใช้บรกิ าร บรษิ ัทขนส่งสนิ ค้าเอกชน
ของผู้ประกอบการผา่ นชอ่ งทางออนไลน์ ................................................................... 177
ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งการจัดการคลงั สินค้าแผ่นอะครีลคิ ของ บรษิ ทั ซมู เิ พก็ ซ์ (ประเทศไทย)... 192
การจดั การโลจิสตกิ สส์ าหรับการทอ่ งเท่ยี วจังหวดั สพุ รรณบรุ ี..................................................... 204
ปัจจยั ทมี่ ีอิทธพิ ลตอ่ การตดั สนิ ใจซอ้ื ซา้ อาหารเดลิเวอร่ีของผ้บู ริโภคภายใตว้ ิถีชีวิตปกติใหม่
ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล....................................................................... 218
ปจั จัยการตลาดท่ีมอี ิทธพิ ลต่อพฤติกรรมการบรโิ ภคผักไฮโดรโปนกิ สข์ องผ้บู รโิ ภค
ในจงั หวดั ปทมุ ธานี..................................................................................................... 234
การศกึ ษากระบวนการโลจิสติกส์และซพั พลายเชนในสถานการณโ์ ควิด – 19
ของบริษัท ABC จากดั ............................................................................................... 254
การประยกุ ตใ์ ชก้ ารตัดสนิ ใจแบบหลายขน้ั ตอนเพือ่ สนับสนุนการตัดสินใจ
เลือกซือ้ รถกระบะขนสง่ สนิ ค้า บริษทั ซนั อินเตอร์ กร๊ปุ จากดั ................................ 270
การส่ือสารการตลาดแบบบูรณาการทีส่ ่งผลต่อการตดั สนิ ใจกลับมาใช้บรกิ ารคลินกิ ศลั ยกรรม
เสริมความงามในจงั หวดั เชียงใหม่.............................................................................. 286
การตัดสินใจเลอื กใช้บรกิ ารแอปพลเิ คชนั สัง่ อาหารออนไลนข์ องผบู้ รโิ ภค
ในเขตกรุงเทพมหานครและปรมิ ณฑล....................................................................... 304
บทบาทโลจิสตกิ สแ์ ละโซอ่ ุปทานตอ่ การพฒั นาตลาดการค้าชายแดนไทย-กมั พชู า
บรเิ วณจดุ ผา่ นแดนถาวรบา้ นเขาดนิ กรณีศกึ ษาเขตการค้าชายแดน
ตลาดศรีเพ็ญ จังหวัดสระแกว้ .................................................................................... 314
การศึกษากลยทุ ธท์ างการตลาดของผู้ประกอบการธุรกิจมดั ยอ้ มในอาเภอธัญบุรี
จงั หวัดปทุมธานี ........................................................................................................ 332
การเรยี นรพู้ ฤตกิ รรมการดารงชีวติ ท่เี ปลี่ยนแปลงภายหลงั การเกดิ โรคระบาดโควิด-19 ............ 346
การพฒั นารปู แบบภาวะผูน้ าของผูบ้ รหิ ารเจนเนอเรชัน่ วายในภาครัฐ
สู่ความสาเร็จขององค์กร............................................................................................ 364

TECH-SESSION D
ความสมั พันธร์ ะหว่างโลจสิ ติกสก์ ารท่องเท่ียวชมุ ชน OTOP นวตั วิถี ตาบลเกาะยอ
อาเภอเมือง จังหวัดสงขลา กบั ความพึงพอใจของนกั ท่องเทยี่ วชาวไทย.................... 366
ปัจจัยทส่ี ่งผลตอ่ ความพึงพอใจของผูใ้ ชบ้ รกิ ารแอปพลเิ คชั่น Foodpanda
ในเขตบางใหญ่ กรุงเทพมหานคร .............................................................................. 378
ปจั จัยทม่ี ีความสมั พนั ธ์ต่อพฤตกิ รรมการตดั สนิ ใจเลอื กใช้บตั รเครดติ ของผบู้ ริโภค
ในเขตกรุงเทพมหานคร.............................................................................................. 390
ปจั จยั สว่ นประสมทางการตลาดที่มีผลต่อการตดั สินใจซือ้ ประกนั ภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ
ในเขตกรงุ เทพมหานครและปรมิ ณฑล ...................................................................... 406
คุณภาพการใหบ้ ริการความพงึ พอใจของลูกคา้ ผู้ใช้บรกิ ารโรงแรมสขุ มุ วทิ 24 ........................... 420
ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งปัจจัยส่วนบุคคลของลกู ค้ากับพฤติกรรมการเลอื กใชบ้ รกิ ารหอ้ งจัดเล้ียง
ของโรงแรมในอาเภอหาดใหญ่ จังหวดั สงขลา ........................................................... 434
ปัจจัยทมี่ ผี ลตอ่ พฤติกรรมการบรโิ ภคน้าเหด็ หลินจอื ในจังหวดั ปทมุ ธานี................................... 448

xii

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ปจั จยั ท่ีสง่ ผลตอ่ การตัดสนิ ใจใชเ้ ทคโนโลยที างการเงินของบุคคลในการทาธุรกรรม
ทางการเงนิ เพือ่ กา้ วเข้าสูย่ คุ สงั คมไรเ้ งินสดของไทย................................................... 462

ปัจจัยทสี่ ่งผลตอ่ คา่ ใช้จ่ายของครัวเรอื นในประเทศไทย................................................................... 476
อิทธิพลของคุณภาพระบบ ภาพลักษณต์ ราสนิ ค้า ที่มีผลตอ่ ความจงรักภกั ดี
การใชบ้ ริการธรุ กรรมทางการเงินผา่ น Mobile Banking ของเจเนอเรช่นั X
ในจงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา...................................................................................... 492
ผลกระทบของการกากบั ดูแลกิจการท่มี ีต่อสภาพคลอ่ งทางการเงนิ ของบริษทั ที่จดทะเบยี น
ในตลาดหลักทรัพยแ์ ห่งประเทศไทย กลมุ่ อตุ สาหกรรมอสงั หาริมทรพั ย์
และการกอ่ สรา้ ง ........................................................................................................ 504
ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดและการรับรคู้ วามเส่ยี งจากการซ้อื ทส่ี ่งผลต่อการตัดสนิ ใจ
ซือ้ เสือ้ ผา้ แฟชน่ั ผ่านช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊กของกลุ่มคนเจนเนอเรช่ันวาย
ในจังหวดั ปทมุ ธานี..................................................................................................... 518
ปัจจยั ทสี่ ่งผลตอ่ ดัชนรี าคาหลักทรัพยข์ องธนาคารพาณชิ ย์ขนาดเลก็ ในประเทศไทย................. 536

TECH-SESSION E
แนวโน้มการปรับตัวขององคก์ ารธุรกิจและหน้าท่ีของฝ่ายพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ในยุคความปกติถดั ไป .............................................................................................. 558
อทิ ธพิ ลภาวะผู้นาการเปล่ยี นแปลงส่งผลต่อความสาเร็จในอาชพี ของผู้บริหารระดับกลาง
ชาวไทยในบริษัทวจิ ยั และพฒั นายานยนต์ ................................................................ 560
ปัจจัยสว่ นประสมทางการตลาดทีม่ ผี ลตอ่ การตัดสนิ ใจใช้แอปพลเิ คชันสงั่ อาหารออนไลน์
ของผบู้ ริโภคในเขตกรงุ เทพมหานคร ......................................................................... 576
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งคุณภาพชีวติ ในการทางานกับความพึงพอใจในการทางาน
ของบุคลากรองค์การบริหารส่วนจงั หวัดสงขลา......................................................... 586
ปจั จัยที่มีอิทธพิ ลต่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคอาหารประเภทตม่ิ ซาของประชากร
ในเขตกรุงเทพมหานคร.............................................................................................. 604
ปัจจยั คณุ ภาพบรกิ ารท่ีมีผลตอ่ ความภกั ดตี อ่ ผูใ้ หบ้ ริการด้านขนส่งภายนอก
ของผปู้ ระกอบการในเขตนิคมอุตสาหกรรม จังหวัดชลบุรี......................................... 620
การสื่อสารการตลาดแบบบรู ณาการผ่านส่ือดจิ ิทลั และพฤติกรรมการซอื้ ท่ีมผี ลตอ่ การ
ตดั สินใจซอื้ ผลติ ภณั ฑ์นา้ ผลไม้พรอ้ มดื่มในเขตกรุงเทพมหานคร ............................... 632
พฤติกรรมการเลือกซอื้ เส้อื ผ้าแฟชนั่ บนเครือขา่ ยสังคมออนไลนเ์ ฟซบุ๊ค..................................... 644
พฤตกิ รรมผูบ้ รโิ ภคและปัจจัยท่มี ีผลตอ่ การบริโภคข้าวกลอ้ งหอมดาในจงั หวัดปทมุ ธานี............ 658
การศึกษาพฤตกิ รรมการบริโภคอาหารและปจั จยั ส่วนประสมทางการตลาดท่ีส่งผลต่อ
การเข้าใชบ้ ริการรา้ นย่างเนย สาขาราชมงคลคลอง 6 ในเขตคลองหลวง.................. 674
ปจั จัยท่ีมีอทิ ธพิ ลตอ่ การตัดสนิ ใจซอ้ื สตั วเ์ ลย้ี งทางเลอื ก (Exotic Pet) ในประเทศไทย.............. 690
ปจั จัยที่มีความสัมพนั ธก์ บั ปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาดและพฤติกรรมการตดั สินใจ
ซอื้ วสั ดกุ อ่ สรา้ งของผู้บรโิ ภคในเขตอาเภอแก่งคอย จงั หวัดสระบรุ ี............................ 704
การบรหิ ารทางการตลาดของธรุ กิจสมนุ ไพร กรณีศึกษาผลิตภัณฑจ์ ากใบยา่ นาง
และมะเฟอื งในจังหวัดนครนายก ............................................................................... 720

xiii

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ภาคผนวก
คาสั่งแต่งตงั้ คณะกรรมการดาเนินการโครงการประชุมวชิ าการระดบั ชาติ
RMUTT Global Business and Economics National Conference 2021
(RTBEC 2021) ......................................................................................................................741

xiv

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

28 พฤษภำคม 2564 กำหนดกำร

งำนประชมุ วชิ ำกำรระดับชำติ

RMUTT Global Business and Economics Conference 2021

(RTBEC 2021)

วันท่ี 28 พฤษภำคม 2564

รำยละเอยี ด

09.00 - 09.30 น. พิธีเปดิ กำรประชุมวิชำกำร

09.00 - 09.30 น. พิธีเปิดการประชุมวิชาการ
กล่าวรายงานโดย ดร.กฤษดา เชยี รวัฒนสขุ

รองคณบดฝี ่ายวิจัยพฒั นาและบริการวิชาการ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี

กล่าวเปดิ งานโดย ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.นาถรพี ตนั โช
คณบดคี ณะบริหารธรุ กจิ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี

กำรนำเสนอระดับนำนำชำติและระดับชำติ (เชำ้ )

10.00 - 12.00 น. ห้องท่ี 1 TECH-SESSION A (BA4605)
12.00 - 13.00 น.
ประธาน รองศาสตราจารย์ ดร.ณฐั วุฒิ พมิ พา

รองประธาน ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.กนกพร ชยั ประสทิ ธ์ิ

ห้องท่ี 2 TECH-SESSION B (BA4606)

ประธาน ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.นาถรพี ตันโช

รองประธาน ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สนั ตกิ ร ภมรปฐมกลุ

หอ้ งท่ี 3 TECH-SESSION C (BA4607)

ประธาน รองศาสตราจารย์ ดร.สมพล ทงุ่ หวา้

รองประธาน ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ถนอมพงษ์ พานิช

ห้องท่ี 4 TECH-SESSION D (BA4608)

ประธาน รองศาสตราจารย์ ดร.นภาพร นิลาภรณก์ ลุ

รองประธาน ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.ชยั มงคล ผลแกว้

ห้องที่ 5 TECH-SESSION E (BA4609)

ประธาน รองศาสตราจารย์ ดร.กลา้ หาญ ณ นา่ น

รองประธาน ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.สรุ มงคล นมิ่ จิตต์

พักรบั ประทำนอำหำรลำงวนั

xv

การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021 รำยละเอียด

28 พฤษภำคม 2564

กำรนำเสนอระดบั นำนำชำติและระดับชำติ (บ่ำย)

13.00 - 16.30 น. หอ้ งท่ี 1 TECH-SESSION A (BA4605)
16.30 น.
ประธาน รองศาสตราจารย์ ดร.ณฐั วฒุ ิ พมิ พา

รองประธาน ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.กนกพร ชัยประสิทธิ์

ห้องท่ี 2 TECH-SESSION B (BA4606)

ประธาน รองศาสตราจารย์ ดร.ชนงกรณ์ กณุ ฑลบตุ ร

รองประธาน ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ ดร.ปิยฉตั ร บรู ะวฒั น์

หอ้ งท่ี 3 TECH-SESSION C (BA4607)

ประธาน รองศาสตราจารย์ ดร.สมพล ทงุ่ หวา้

รองประธาน รองศาสตราจารยว์ สันต์ กนั อ่า

หอ้ งท่ี 4 TECH-SESSION D (BA4608)

ประธาน ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.สุภา ทองคง

รองประธาน ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ดวงพร พทุ ธวงค์

ห้องที่ 5 TECH-SESSION E (BA4609)

ประธาน ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.กุสมุ า ดาพทิ กั ษ์

รองประธาน ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สรุ มงคล น่ิมจิตต์

ปิดกำรนำเสนอผลงำน

หมายเหตุ: พักรบั ประทานอาหารว่าง เวลา 14.20 – 14.40 น.

xvi

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

Technical Session Program

เวลา TECH-SESSION B (BA4606)
Chair ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ ดร.นาถรพี ตันโช

Co-Chair ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สันติกร ภมรปฐมกลุ

อาจารยป์ ระจาห้อง ผู้ชว่ ยศาสตราจารยบ์ ุญฑรกิ า วงษ์วานิช

10.00 - 10.20 น. ชอื เรอื ง: การบรหิ ารแบบญปี ุ่นมีอิทธิพลต่อผลการปฏิบตั ิงานผ่านตัวแปร
10.20 - 10.40 น. คนั กลางความยดึ มันผกู พันในงาน กรณีศึกษาบริษัทผลติ ชนิ้ ส่วน
10.40 - 11.00 น. ยานยนตอ์ งค์กรญีป่นุ
11.00 - 11.20 น.
11.20 - 11.40 น. ผ้นู พิ นธ:์ คุณภรณ์ทพิ ย์ อนิ ทรุขา และ ดร.บญุ ญาดา นาสมบรู ณ์
สถาบนั เทคโนโลยีไทย-ญปี ่นุ
11.40 - 12.00 น.
ชือเรอื ง: แนวทางในการด่าเนนิ งานของธรุ กิจร้านอาหารในช่วงสถานการณ์
โควดิ 19 เกาะลา้ น จังหวัดชลบุรี

ผนู้ ิพนธ:์ อาจารยพ์ ิชญา ชโิ นดม และ ผศ. ดร.ทักษญา สงา่ โยธนิ
มหาวิทยาลัยบรู พา

ชือเรอื ง: ปัจจยั ทีมีผลต่อความพงึ พอใจในการใช้บริการรา้ นอาหารอีสานของ
ผบู้ รโิ ภคในเขตกรงุ เทพมหานคร

ผู้นพิ นธ:์ รศ.จรีพร ศรีทอง, ดร.ปเี ตอร์ รุง่ เรืองกานต์ และ
ดร.ปยิ ะมาศ สือสวัสด์ิวณชิ ย์
มหาวิทยาลัยรามค่าแหง

ชือเรอื ง: ชอ่ งทางการส่งผา่ นนโยบายการเงินทางดา้ นราคาหลักทรพั ย์
กรณศี ึกษากลุม่ อุตสาหกรรมการบรกิ าร

ผ้นู ิพนธ:์ คณุ วัชรศิ มีลาภเลศิ และ ผศ. ดร.อรรถสดุ า เลศิ กุลวัฒน์
มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์

ชอื เรือง: ทัศนคตทิ ีมีต่อบลอ็ กเกอรด์ า้ นการท่องเทียว กับการรับร้ขู ้อมูล
ข่าวสารผ่านสอื สังคมออนไลน์ ส่งผลต่อการตดั สินใจเลอื ก
ท่องเทยี วในรปู แบบของการทอ่ งเทียวคนเดียว (Solo travel)
ของกลุ่มผ้หู ญิงในเขตกรุงเทพมหานคร

ผู้นพิ นธ:์ คุณนิรมล สวุ รรณพันชู และ ผศ. ดร.รวิพรรณ สภุ าวรรณ์
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ชือเรือง: สมรรถนะหลักในการปฏบิ ตั ิงานทีสง่ ผลตอ่ ประสทิ ธิภาพการ
ปฏิบตั ิงานของพนกั งานบริษัท ไฮแคร์ไทยกลฟั ส์ จา่ กัด

ผ้นู ิพนธ์: คณุ เจริญศรี เทพไชย และ รศ. ดร.สมพล ทุง่ หว้า
มหาวิทยาลัยรามค่าแหง

12.00 - 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน

xvii

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

Technical Session Program

เวลา TECH-SESSION B (BA4606)
Chair รองศาสตราจารย์ ดร.ชนงกรณ์ กุณฑลบุตร

Co-Chair ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ปยิ ฉัตร บูระวฒั น์

อาจารย์ประจาหอ้ ง ผ้ชู ่วยศาสตราจารยบ์ ุญฑรกิ า วงษว์ านชิ

13.00 - 13.20 น. ชอื เรอื ง: กลยุทธท์ างการตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคหลังวกิ ฤตการณ์โควิด-19
13.20 - 13.40 น. ทีสง่ ผลตอ่ การตัดสินใจเลอื กใช้บริการธุรกิจโรงแรมในเขต กทม.
13.40 - 14.00 น.
ผนู้ พิ นธ:์ คณุ อัชฌา โนนเพีย และ ผศ. ดร.ถนอมพงษ์ พานิช
มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี

ชอื เรอื ง: คณุ ภาพการใหบ้ รกิ ารทีสง่ ผลตอ่ ความพึงพอใจของผโู้ ดยสารต่อการ
ใช้บรกิ ารทา่ อากาศยานดอนเมืองสา่ หรบั การเดินทางในประเทศใน
ยคุ ความปกตใิ หม่

ผูน้ พิ นธ:์ คณุ กรองแก้ว บุตรรกั ษ์ และ ดร.กญั ญก์ ณษิ ฐ์ กมลกติ ตวิ งศ์
มหาวิทยาลยั รงั สิต

ชือเรอื ง: การวเิ คราะห์ต้นทุนและผลตอบแทนของการท่าเกษตรอัจฉริยะ:
กรณศี ึกษา ฟารม์ เห็ดในจงั หวัดเชยี งใหม่

ผนู้ พิ นธ์: คณุ ปกรณส์ ิทธิ์ อุปนาศกั ดิ์ และ รศ. ดร.นภาพร นิลาภรณก์ ลุ
มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี

14.00 – 14.20 น. ชือเรอื ง: แนวทางการปรับปรงุ ประสิทธิภาพการผลติ น่้านมดิบโดยใชก้ ลยุทธ์
14.20 – 14.40 น. ดา้ นโลจสิ ติกส์ กรณีศึกษา สหกรณ์โคนมเทพสถติ จา่ กดั
อา่ เภอเทพสถติ จังหวดั ชัยภูมิ

ผูน้ พิ นธ:์ คณุ ณชิ กานต์ สังขพัฒน์ และ ดร.ปิยะมาศ สอื สวสั ด์วิ ณิชย์
มหาวทิ ยาลยั รามคา่ แหง

พักรบั ประทานอาหารวา่ ง

14.40 – 15.00 น. ชือเรือง: การบริหารจัดการและการวางแผนการตลาดของธุรกจิ ผา้ ทอพ้นื เมือง
กรณีศึกษาผลิตภณั ฑ์ผ้าไหมทอมอื ในจังหวัดเพชรบรู ณ์

ผนู้ ิพนธ:์ คุณอรวรรณ วังหนิ , ดร.ภรู ิณฐั ยมกนษิ ฐ์ และ ผศ.พิมพา หริ ัญกติ ติ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

15.00 – 15.20 น. ชอื เรือง: รูปแบบการเพมิ ประสิทธภิ าพการบรหิ ารจัดการพพิ ิธภัณฑ์เอกชน

ผนู้ ิพนธ:์ คุณทีปอุทยั แสนกาศ
พิพธิ ภัณฑ์ศิลปะหริภญุ ชัย

15.20 น. ปดิ การนาเสนอผลงาน

xviii

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

Technical Session Program

เวลา TECH-SESSION C (BA4607)

Chair รองศาสตราจารย์ ดร.สมพล ทุ่งหว้า

Co-Chair ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ ดร.ถนอมพงษ์ พานชิ

อาจารยป์ ระจาหอ้ ง ดร.ณฐมน บวั พรมมี

10.00 - 10.20 น. ชือเรอื ง: ปัจจัยด้านโลจิสตกิ ส์ทมี ผี ลตอ่ การตดั สินใจเลือกใช้บรกิ าร
บรษิ ทั ขนสง่ สนิ คา้ เอกชนของผู้ประกอบการผ่านชอ่ งทางออนไลน์

ผนู้ ิพนธ์: คณุ นริศรา สุวรรณหงษ์ และ ดร.กญั ญก์ ณิษฐ์ กมลกิตติวงศ์
มหาวทิ ยาลยั รงั สติ

10.20 - 10.40 น. ชือเรือง: ความสมั พันธร์ ะหว่างการจัดการคลังสินค้าแผ่นอะครีลิคของ
บรษิ ทั ซูมเิ พ็กซ์ (ประเทศไทย)

ผนู้ พิ นธ์: ดร.ทศพร มะหะหมดั และคนอนื ๆ
มหาวทิ ยาลัยเกษมบณั ฑิต

10.40 - 11.00 น. ชอื เรอื ง: การจดั การโลจิสตกิ สส์ ่าหรับการทอ่ งเทยี วจังหวดั สุพรรณบุรี

ผู้นพิ นธ์: คุณฐาปณี คชสทิ ธ์ิ และ ดร.กัญญ์กณษิ ฐ์ กมลกติ ติวงศ์
มหาวทิ ยาลัยรังสิต

11.00 - 11.20 น. ชือเรือง: ปจั จยั ทีมอี ิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อซ้่าอาหารเดลิเวอรีของ
ผ้บู รโิ ภคภายใต้วถิ ีชีวิตปกติใหม่ในเขตกรุงเทพมหานครและ
ปรมิ ณฑล

ผู้นิพนธ:์ คุณรตั นา มณีชาติ และ ผศ. ดร.รวิพรรณ สุภาวรรณ์
มหาวทิ ยาลยั กรุงเทพ

11.20 - 11.40 น. ชอื เรือง: ปจั จัยการตลาดทมี ีอิทธิพลตอ่ พฤตกิ รรมการบรโิ ภค
ผักไฮโดรโปนกิ สข์ องผูบ้ รโิ ภคในจงั หวดั ปทมุ ธานี

ผู้นพิ นธ์: คณุ ชนิ ดนัย ใยไข่ และ ผศ.ณฐั พงษ์ สบี ุญเรอื ง
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี

11.40 - 12.00 น. ชอื เรอื ง: การศึกษากระบวนการโลจสิ ติกสแ์ ละซพั พลายเชนในสถานการณ์
โควิด – 19 ของบรษิ ัท ABC จา่ กดั

ผ้นู พิ นธ์: คณุ ศรสิ รณ์ โชตภิ ูรวิ ัฒนก์ ลุ และ ศ. ดร.ปยิ ะฉัตร จารุธีรศานต์
มหาวทิ ยาลยั รามคา่ แหง

12.00 - 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน

xix

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

Technical Session Program

เวลา TECH-SESSION C (BA4607)

Chair รองศาสตราจารย์ ดร.สมพล ทุ่งหวา้

Co-Chair รองศาสตราจารยว์ สันต์ กันอา่

อาจารย์ประจาห้อง ดร.ณฐมน บัวพรมมี

13.00 - 13.20 น. ชือเรอื ง: การประยุกต์ใชก้ ารตัดสนิ ใจแบบหลายข้นั ตอนเพือสนบั สนุนการ
13.20 - 13.40 น. ตดั สนิ ใจเลือกซือ้ รถกระบะขนส่งสินคา้ บรษิ ทั ซัน อนิ เตอร์ กรุป๊ จ่ากัด

ผนู้ พิ นธ์: คณุ ณฐั นนท์ อดุ มมงคลดี และ ดร.ปริญ วีระพงษ์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี

ชือเรอื ง: การสือสารการตลาดแบบบรู ณาการทีสง่ ผลต่อการตดั สนิ ใจกลบั มา
ใชบ้ รกิ ารคลนิ ิกศลั ยกรรมเสริมความงามในจงั หวัดเชยี งใหม่

ผนู้ พิ นธ์: คณุ พรรตั น์ ชาญชวณชิ ย์ และ ดร.พอดี สุขพนั ธ์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

13.40 - 14.00 น. ชือเรอื ง: การตัดสินใจเลอื กใชบ้ รกิ ารแอปพลเิ คชันสังอาหารออนไลน์ของ
ผบู้ รโิ ภคในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ผู้นพิ นธ์: คณุ ณัฐกฤษ เชาวช์ าญกิจ และ ดร.นิสติ มโนตัง้ วรพันธ์ุ
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

14.00 – 14.20 น. ชอื เรือง: บทบาทโลจสิ ตกิ ส์และโซ่อุปทานตอ่ การพฒั นาตลาดการค้าชายแดน
ไทย-กมั พูชาบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน กรณีศึกษาเขต
การคา้ ชายแดน ตลาดศรีเพญ็ จังหวดั สระแกว้

ผนู้ ิพนธ์: คุณนติ ยา กลนิ จนั ทร์ และ ดร.ปิยะมาศ สือสวัสดิ์วณิชย์
มหาวทิ ยาลัยรามคา่ แหง

14.20 – 14.40 น. พกั รบั ประทานอาหารว่าง

14.40 – 15.00 น. ชอื เรือง: การศกึ ษากลยทุ ธท์ างการตลาดของผูป้ ระกอบการธุรกจิ มดั ย้อมใน
อ่าเภอธญั บุรี จงั หวดั ปทุมธานี

ผ้นู ิพนธ์: คณุ รุง่ ณภา ประภานสี, ดร.ดลยา จาตุรงคกลุ และ ดร.พนู ศักดิ์ พลู เมืองรตั น์
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี

15.00 – 15.20 น. ชือเรอื ง: การเรยี นร้พู ฤติกรรมการดา่ รงชีวิตทีเปลียนแปลงภายหลงั การเกิด
โรคระบาดโควิด-19

ผ้นู ิพนธ:์ คุณสันติราชย์ เลศิ มณี คณุ ปญั จรัตน์ หาญพานชิ
และ คณุ ปาลพล รอดลอยทุกข์
มหาวทิ ยาลัยชนิ วตั ร

15.20 – 15.40 น. ชอื เรอื ง: การพฒั นารูปแบบภาวะผ้นู า่ ของผ้บู รหิ ารเจนเนอเรชันวาย
ในภาครัฐสู่ความสา่ เร็จขององคก์ ร

ผู้นิพนธ์: พันตา่ รวจเอก ดร.นติ พิ ัฒน์ กติ ติรกั ษกลุ
ส่านกั งานพสิ จู นห์ ลกั ฐานต่ารวจ

15.20 น. ปดิ การนาเสนอผลงาน

xx

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

Technical Session Program

เวลา TECH-SESSION D (BA4608)

Chair รองศาสตราจารย์ ดร.นภาพร นลิ าภรณ์กลุ
Co-Chair
อาจารยป์ ระจาห้อง ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ชยั มงคล ผลแก้ว

10.00 - 10.20 น. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณชญาภัส รอดประยูร

ชอื เรอื ง: ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งโลจิสตกิ ส์การทอ่ งเทยี วชมุ ชน OTOP
นวัตวถิ ี ตา่ บลเกาะยอ อา่ เภอเมอื ง จังหวัดสงขลากบั
ความพงึ พอใจของนักท่องเทยี วชาวไทย

ผนู้ พิ นธ:์ พระดารณั ศิริรตั น์ และ รศ. ดร.สมพล ทงุ่ หวา้
มหาวิทยาลัยรามค่าแหง

10.20 - 10.40 น. ชอื เรือง: ปัจจัยทสี ง่ ผลตอ่ ความพึงพอใจของผู้ใชบ้ ริการแอปพลเิ คชัน
Foodpanda ในเขตบางใหญ่ กรงุ เทพมหานคร

ผนู้ พิ นธ:์ คุณธิตยา สตี ะประดษิ ฐ์ และ ดร.กญั ญก์ ณิษฐ์ กมลกติ ตวิ งศ์
มหาวิทยาลยั รงั สติ

10.40 - 11.00 น. ชอื เรอื ง: ปจั จัยทีมคี วามสัมพนั ธ์ต่อพฤตกิ รรมการตดั สินใจเลือกใช้
บัตรเครดติ ของผบู้ ริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร

11.00 - 11.20 น. ผู้นิพนธ์: คุณอภชิ ญา โกบตุ ร และ ดร.นสิ ิต มโนต้งั วรพนั ธ์ุ
11.20 - 11.40 น. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ชือเรือง: อิทธิพลของปจั จัยส่วนประสมการตลาดทมี ผี ลตอ่ การตัดสนิ ใจซอ้ื
ประกนั ภัยรถยนตภ์ าคสมคั รใจในเขตกรุงเทพมหานครและ
ปรมิ ณฑล

ผู้นพิ นธ์: คุณเจษฎาพร กลนิ จยุ้ และ ผศ. ดร.ถนอมพงษ์ พานชิ
มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี

ชือเรอื ง: คุณภาพการให้บรกิ ารความพึงพอใจของลกู ค้าผู้ใช้บรกิ าร
โรงแรมสุขมุ วิท 24

ผู้นิพนธ์: ดร.ทศพร มะหะหมดั และคนอืน ๆ
มหาวทิ ยาลยั เกษมบัณฑิต

11.40 - 12.00 น. ชอื เรือง: ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งปจั จัยส่วนบคุ คลของลกู คา้ กบั พฤติกรรม
การเลอื กใช้บริการหอ้ งจัดเลย้ี งของโรงแรมในอ่าเภอหาดใหญ่
จงั หวดั สงขลา

ผ้นู ิพนธ:์ คณุ ฟ้ามยุ่ จันทรมณี และ รศ. ดร.สมพล ท่งุ หวา้

มหาวิทยาลยั รามคา่ แหง

12.00 - 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวนั

xxi

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

Technical Session Program

เวลา TECH-SESSION D (BA4608)

Chair ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุภา ทองคง
Co-Chair
อาจารยป์ ระจาห้อง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดวงพร พทุ ธวงค์
13.00 - 13.20 น.
ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.ณชญาภัส รอดประยูร
13.20 - 13.40 น.
ชอื เรอื ง: ปจั จัยทีมผี ลตอ่ พฤติกรรมการบรโิ ภคนา่้ เหด็ หลนิ จือ
13.40 - 14.00 น. ในจงั หวัดปทมุ ธานี

14.00 – 14.20 น. ผู้นพิ นธ:์ คณุ พัลลภา ทองระย้าหงษ์ และ ดร.อัตรวัฒน์ จตุพฒั นวโรดม
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี

ชอื เรือง: ปจั จัยทสี ง่ ผลต่อการตดั สนิ ใจใชเ้ ทคโนโลยที างการเงนิ ของบคุ คล
ในการท่าธุรกรรมทางการเงนิ เพือกา้ วเขา้ สู่ยคุ สงั คมไรเ้ งนิ สดของไทย

ผนู้ พิ นธ์: คุณกิตตธิ์ ัญญา รงั สพี ฒั นกรณ์ และ ดร.ธัญวรตั น์ สุวรรณะ
มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี

ชือเรือง: ปจั จยั ทีส่งผลตอ่ ค่าใชจ้ า่ ยของครัวเรือนในประเทศไทย
ผู้นิพนธ์: คณุ ปรางค์ จารภุ ูมิ และผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.อรรถสดุ า เลิศกุลวฒั น์

มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์

ชอื เรอื ง: อิทธพิ ลของคุณภาพระบบ ภาพลกั ษณ์ตราสนิ ค้า ทมี ีผลตอ่ ความ
จงรกั ภกั ดี การใชบ้ รกิ ารธรุ กรรมทางการเงินผา่ น Mobile Banking
ของเจเนอเรชนั X ในจังหวดั พระนครศรีอยธุ ยา

ผนู้ พิ นธ์: คุณอรุณรัตน์ งอกไม้ และ ผศ. ดร.รวิพรรณ สุภาวรรณ์
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

14.20 – 14.40 น. พกั รับประทานอาหารว่าง

14.40 – 15.00 น. ชอื เรอื ง: ผลกระทบของการกา่ กบั ดูแลกิจการทีมีตอ่ สภาพคลอ่ งทางการเงิน
15.00 – 15.20 น. ของบริษัททจี ดทะเบยี นในตลาดหลกั ทรัพยแ์ ห่งประเทศไทย
15.20 – 15.40 น. กลมุ่ อตุ สาหกรรมอสงั หารมิ ทรพั ยแ์ ละการกอ่ สรา้ ง

15.40 น. ผูน้ พิ นธ:์ คุณชุตมิ า เรอื งมโนรักษ์ และ ผศ. ดร.ฐิตาภรณ์ สินจรูญศักดิ์
มหาวทิ ยาลัยศรปี ทุม

ชอื เรือง: ปจั จัยส่วนประสมทางการตลาดและการรับรคู้ วามเสยี งจากการซอ้ื ที
สง่ ผลตอ่ การตดั สนิ ใจซอ้ื เสอ้ื ผา้ แฟชันผ่านชอ่ งทางออนไลน์เฟซบุ๊ก
ของกลุ่มคนเจนเนอเรชนั วายในจังหวดั ปทมุ ธานี

ผนู้ ิพนธ์: คณุ พทั ธานนั ท์ ร่งุ สนธยานนท์ และ ผศ. ดร.ถนอมพงษ์ พานิช
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี

ชือเรือง: ปจั จยั ทสี ง่ ผลตอ่ ดชั นรี าคาหลักทรัพย์ของธนาคารพาณชิ ย์ขนาดเลก็
ในประเทศไทย

ผนู้ ิพนธ์: คณุ วริศรา วงศ์วานชิ และ ผศ. ดร.อรรถสุดา เลศิ กลุ วฒั น์
มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์

ปดิ การนาเสนอผลงาน

xxii

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

เวลา Technical Session Program

Chair TECH-SESSION E (BA4609)
Co-Chair
อาจารยป์ ระจาห้อง รองศาสตราจารย์ ดร.กลา้ หาญ ณ นา่ น
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุรมงคล นิ่มจิตต์
10.00 - 10.20 น. ผูช้ ว่ ยศาสตราจารยน์ ฤมล จติ รเอื้อ

10.20 - 10.40 น. ชอื เรอื ง: แนวโนม้ การปรับตัวขององค์การธุรกิจและหน้าที
ของฝา่ ยพัฒนาทรัพยากรมนษุ ยใ์ นยคุ ความปกตถิ ัดไป
10.40 - 11.00 น.
ผู้นพิ นธ:์ ผศ. ดร.วทญั ญู สวุ รรณเศรษฐ และ ผศ. ดร.วรรณวิชนี ถนอมชาติ
มหาวิทยาลยั บรู พา

ชอื เรือง: อทิ ธิพลภาวะผู้น่าการเปลยี นแปลงส่งผลตอ่ ความส่าเรจ็ ในอาชีพ
ของผ้บู รหิ ารระดบั กลางชาวไทยในบริษทั วจิ ยั และพัฒนายานยนต์

ผนู้ พิ นธ:์ คุณไกรคณุ กาญจนประภาส และ ดร.บญุ ญาดา นาสมบรู ณ์
สถาบนั เทคโนโลยีไทย-ญปี นุ่

ชอื เรือง: ปจั จัยสว่ นประสมทางการตลาดทีมผี ลต่อการตัดสินใจใช้
แอปพลเิ คชนั สงั อาหารออนไลนข์ องผบู้ ริโภคในเขต กทม.

ผู้นพิ นธ:์ คณุ อัญธกิ า นทวี ฒุ กิ ลุ และ ดร.นสิ ติ มโนตั้งวรพันธ์ุ
มหาวทิ ยาลัยกรุงเทพ

11.00 - 11.20 น. ชือเรอื ง: ความสมั พันธร์ ะหว่างคณุ ภาพชวี ิตในการท่างานกบั ความพงึ พอใจ
ในการท่างานของบคุ ลากรองค์การบรหิ ารส่วนจงั หวัดสงขลา

ผนู้ ิพนธ:์ คณุ นภคั ชนิ พงศ์ และ รศ. ดร.สมพล ทุ่งหวา้
มหาวทิ ยาลยั รามคา่ แหง

11.20 - 11.40 น. ชอื เรอื ง: ปจั จยั ทีมีอิทธพิ ลตอ่ พฤตกิ รรมการบริโภคอาหารประเภท
ตมิ ซ่าของประชากรในเขตกรุงเทพมหานคร

ผ้นู ิพนธ์: คณุ สรยิ า มาเหมาะโชค และ ดร.สมุ นา ธรี กติ ติกลุ
มหาวิทยาลัยกรงุ เทพ

11.40 - 12.00 น. ชอื เรือง: ปัจจัยคุณภาพบรกิ ารทีมผี ลต่อความภกั ดตี อ่ ผ้ใู หบ้ ริการด้านขนส่ง
ภายนอกของผู้ประกอบการในเขตนคิ มอุตสาหกรรม จ.ชลบรุ ี

ผู้นพิ นธ์: คุณภัทรขวญั โนจากลุ และ ผศ. ดร.นภิ า นิรุตติกุล
มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา

12.00 - 13.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน

xxiii

การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

เวลา Technical Session Program

Chair TECH-SESSION E (BA4609)
Co-Chair
อาจารย์ประจาห้อง ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.กุสุมา ดาพทิ ักษ์

13.00 - 13.20 น. ผชู้ ว่ ยศาสตราจารย์ ดร.สุรมงคล นิม่ จิตต์

13.20 - 13.40 น. ผูช้ ว่ ยศาสตราจารยน์ ฤมล จติ รเอ้อื

13.40 - 14.00 น. ชือเรอื ง: การสือสารการตลาดแบบบูรณาการผ่านสอื ดจิ ทิ ัลและพฤติกรรม
การซอื้ ทีมผี ลตอ่ การตัดสินใจซอื้ ผลติ ภณั ฑ์น่า้ ผลไมพ้ รอ้ มดมื
14.00 – 14.20 น. ในเขตกรงุ เทพมหานคร

14.20 – 14.40 น. ผูน้ พิ นธ์: คุณฐณภัทร ถาวงศ์ และ ผศ. ดร.ถนอมพงษ์ พานิช
14.40 – 15.00 น. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี

15.00 – 15.20 น. ชอื เรอื ง: พฤติกรรมการเลอื กซื้อเสอื้ ผา้ แฟชนั บนเครือข่ายสังคมออนไลน์
เฟสบุ๊ค
15.20 – 15.40 น.
ผู้นพิ นธ:์ ผ้นู พิ นธ:์ ดร.ทศพร มะหะหมัด และคนอืน ๆ
15.40 น. มหาวทิ ยาลัยเกษมบณั ฑติ

ชอื เรอื ง: พฤตกิ รรมผู้บรโิ ภคและปจั จยั ทมี ผี ลต่อการบรโิ ภค
ข้าวกล้องหอมดา่ ในจังหวัดปทมุ ธานี

ผ้นู ิพนธ:์ คณุ กุลจริ า พงษ์ปลดั , ผศ.สัญจติ า พรมโชติ และ ดร.ณฐมน บวั พรมมี
มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี

ชือเรือง: การศกึ ษาพฤติกรรมการบรโิ ภคอาหารและปจั จยั สว่ นประสม
ทางการตลาดทีสง่ ผลต่อการเขา้ ใชบ้ ริการร้านยา่ งเนย
สาขาราชมงคลคลอง 6 ในเขตคลองหลวง

ผู้นพิ นธ์: คณุ วรรณศิ า เสาวรส และ ดร.นิสติ มโนตั้งวรพันธ์ุ
มหาวทิ ยาลยั กรงุ เทพ
พกั รับประทานอาหารว่าง

ชือเรือง: ปจั จัยทมี อี ทิ ธิพลต่อการตดั สินใจซอ้ื สตั ว์เล้ียงทางเลือก
(Exotic Pet) ในประเทศไทย

ผนู้ ิพนธ์: คณุ ณภทั ร ต.รงุ่ เรือง และ ดร.สมุ นา ธรี กติ ติกุล
มหาวทิ ยาลยั กรงุ เทพ

ชือเรอื ง: ปจั จยั ทมี คี วามสมั พันธ์กบั ปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาดและ
พฤตกิ รรมการตัดสินใจซอื้ วัสดกุ อ่ สรา้ งของผ้บู ริโภคในเขต
อ่าเภอแกง่ คอย จังหวัดสระบุรี

ผู้นิพนธ์: คณุ พัชราภรณ์ เบ้าประทุม และ ดร.นสิ ติ มโนต้งั วรพนั ธุ์
มหาวทิ ยาลัยกรุงเทพ

ชอื เรือง: การบริหารทางการตลาดของธรุ กิจสมนุ ไพร กรณีศกึ ษาผลิตภัณฑ์
จากใบยา่ นางและมะเฟอื งในจงั หวดั นครนายก

ผนู้ พิ นธ:์ คุณสุวารี คา่ มูล และ ผศ.พมิ พา หิรญั กิตติ
มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี

ปิดการนาเสนอผลงาน

xxiv

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

การบรหิ ารแบบญป่ี นุ่ มีอทิ ธิพลตอ่ ผลการปฏิบตั งิ านผ่านตัวแปรคน่ั กลาง
ความยดึ ม่นั ผกู พันในงาน กรณีศึกษาบริษัทผลิตชิ้นสว่ นยานยนตอ์ งคก์ รญป่ี นุ่

ภรณ์ทพิ ย์ อินทรุขา1
นกั ศกึ ษาปรญิ ญาโทหลักสูตรบริหารธรุ กจิ มหาบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ

สถาบนั เทคโนโลยไี ทย-ญ่ีปนุ่

บุญญาดา นาสมบรู ณ์
อาจารยป์ ระจาหลกั สตู รบรหิ ารธุรกิจมหาบัณฑติ คณะบรหิ ารธุรกจิ

สถาบนั เทคโนโลยีไทย-ญปี่ ่นุ

บทคดั ยอ่
การวิจัยครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือ 1. ศึกษาอิทธิพลของการบริหารแบบญ่ีปุ่นส่งผลต่อความ
ยดึ มน่ั ผูกพันในงาน 2. ศกึ ษาอทิ ธิพลของความยึดมัน่ ผูกพันในงานส่งผลต่อผลการปฏิบตั ิงาน 3. ศกึ ษา
การบรหิ ารแบบญีป่ ุ่นท่ีมอี ิทธพิ ลต่อผลการปฏบิ ัตงิ านโดยมีความยึดม่ันผูกพันในงานเป็นตัวแปรส่งผ่าน
เป็นการวิจัยแบบผสมผสาน คือวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพเพื่อยืนยันผลการวิจัย โดยใช้
แบบสอบถามเป็นเครื่องมือรวบรวมข้อมูลพนักงานประจาบริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์องค์กรญี่ปุ่น
จานวน 400 ตวั อยา่ งด้วยวธิ ีการสุ่มแบบใช้ความน่าจะเป็นโดยเลือกตัวอย่างแบบชั้นภูมิ สถิตทิ ีใ่ ช้ได้แก่
ความถ่ี ร้อยละ ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น การวิเคราะห์เส้นทาง
และการสัมภาษณ์ผูบ้ ริหาร ผจู้ ดั การชาวญ่ปี นุ่ และชาวไทยจานวน 5 ท่าน ผลการวิจยั พบว่า การบริหาร
แบบญี่ปุ่นมีอิทธิพลทางตรงต่อความยึดม่ันผูกพันในงานเท่ากับ 0.723 ความยึดมั่นผูกพันในงานมี
อิทธพิ ลทางตรงต่อผลการปฏบิ ตั ิงาน เท่ากบั 0.712 และการบริหารแบบญี่ป่นุ มีอิทธิทางออ้ มต่อผลการ
ปฏบิ ัติงานโดยมีความยึดมนั่ ผูกพนั ในงานเป็นตัวแปรสง่ ผ่าน มีค่าอิทธิพลทางตรง ทางอ้อมและอิทธิพล
รวมเท่ากับ 0.260, 0.387 และ 0.647 ตามลาดับท่ีระดับสาคัญทางสถิติ 0.01 ผลการสัมภาษณ์
ผู้บริหารและผู้จัดการมีความสอดคล้องตรงกับผลการวิจัยเชิงปริมาณโดยองค์กรมีนโยบายบริหารงาน
แบบญป่ี นุ่ ซึง่ ถ่ายทอดมาจากบริษัทแม่ที่ญป่ี ่นุ และบริหารงานแบบญป่ี นุ่ มาอยา่ งตอ่ เนื่อง

คาสาคญั : การบรหิ ารแบบญ่ปี ่นุ ความยดึ มน่ั ผูกพนั ในงาน ผลการปฏบิ ัติงาน

1 นักศกึ ษาปรญิ ญาโทหลักสตู รบรหิ ารธรุ กจิ มหาบัณฑติ คณะบรหิ ารธรุ กิจ สถาบนั เทคโนโลยไี ทย-ญ่ปี ุน่
แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรงุ เทพมหานคร 10250
หมายเลขติดต่อ: 082-141-1897 อีเมล: [email protected]

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

JAPANESE MANAGEMENT STYLE AFFECT JOB PERFORMANCE BY
PASSING THROUGH THE MEDIATOR OF WORK ENGAGEMENT: A CASE

STUDY OF AUTOMOTIVE PARTS MANUFACTURING COMPANY

Pontip Intarukha1
Graduate Student, Master of Business Administration, Faculty of Business Administration

Thai-Nichi Institute of Technology

Boonyada Nasomboon
Lecturer at Master of Business Administration, Faculty of Business Administration

Thai-Nichi Institute of Technology

Abstract
The purpose of this research 1) To study Japanese management style affect
work engagement. 2) To study work engagement affect work engagement. 3) To study
of Japanese management style affect Job performance by passing through the mediator
of work engagement. The research were quantitative and qualitative research (In-depth
interview) The research was using questionnaires collect data from automotive parts
manufacturing company 400 samples selected by stratified random sampling. Data were
analyzed using frequency, percentage, mean, standard deviation, data screening, path
analysis and in-depth interview with Japanese and Thai 5 top executives. The results
showed that Japanese management directly affect work engagement, direct effect is
0. 723, work engagement directly affect job performance direct effect is 0. 712 and
Japanese management indirect affect job performance via the mediator of work
engagement at 0.01 level of significant, direct effect is 0.260, indirect effect is 0.387 and
total effect is 0.647 The interview with Japanese and Thai executives were consistent
with the quantitative research results. The organization has continuously manage which
is transmitted from the parent company in Japan.

Keywords: Japanese Management Style, Work Engagement, Job Performance

1 Corresponding Author: Graduate Student, Master of Business Administration Program in Japanese
Business Administration, Faculty of Business Administration, Thai-Nichi Institute of Technology.
Contact Number: +6682-141-1897 E-mail: [email protected]

2

การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

บทนา
อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนได้รับความเชื่อม่ันจากนักลงทุนชาวต่างชาติโดยเฉพาะ

ญี่ปุ่นซ่ึงใช้ไทยเป็นฐานการผลิตช้ินส่วนยานยนต์เพื่อนาไปผลิตต่อ/ประกอบรถยนต์ในกลุ่มประเทศ
อาเซียนส่งผลให้อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์โดยรวมยังขยายตัวได้ และรัฐบาลให้ความสาคัญมาก
อย่างต่อเน่ือง มีแนวโน้มเติบโตต่อไปได้ในอนาคต ท้ังน้ีรัฐบาลออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่
เก่ียวเน่ืองกับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล การยกเว้นภาษี
การนาเข้าเครื่องจักร ข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างไทยกับประเทศต่าง ๆ เพื่อดึงดูดนักลงทุนท้ังชาวไทย
และชาวต่างชาติให้มาลงทุน ทั้งโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic
Corridor : EEC) เพ่ือส่งเสริมและพัฒนาการลงทุนใน 3 จังหวัดนาร่อง คือ ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา
พื้นท่ีลงทุนของคลัสเตอร์อุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนอยู่แล้ว ปัจจุบันการผลิตรถยนต์ในไทยเพ่ือ
สง่ ออกและจาหน่ายในประเทศมีการใชช้ ้ินส่วนยานยนต์ที่ผลิตในประเทศกว่ารอ้ ยละ 80 รัฐบาลเล็งเห็น
ความสาคัญจึงได้ส่งเสริมพัฒนานโยบายอย่างต่อเน่ือง ตลอดจนให้ความสาคัญกับการยกระดับความรู้
ความสามารถบุคลากรในอุตสาหกรรมนี้ที่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมยานยนต์
และชิ้นส่วนไทย อาเภอปลวกแดง จังหวัดระยองหนึ่งในพื้นท่ีนาร่องโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ
ภาคตะวันออกตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) เป็นพื้นท่ีอันดับต้นๆ ของประเทศท่ี
รัฐบาลให้ความสาคัญในการพัฒนาเป็นพื้นที่ที่มีการขยายนิคมอุตสาหกรรมได้อย่างรวดเร็ว มี
อุตสาหกรรมหลากหลายประเภท โดยเฉพาะผลิตยานยนต์และช้ินส่วนยานยนต์ ปัจจุบันมีโรงงานที่
เก่ียวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน จานวน 262 โรงงาน มูลค่าลงทุนรวม 2.35 แสนล้าน
บาท คิดเป็นร้อยละ 44.17 ของการลงทุนรวม จานวนการจ้างงาน 46,008 คน คิดเป็นร้อยละ 53.09
(กลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาสานักงานจังหวั ดระยอง , 2562; สานัก
คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก, 2563; สานักงานปลัด กระทรวงอุตสาหกรรม,
2559; สานักงานแรงงานจังหวัดระยอง, 2563)

จากรายงานวิจัยธนาคารกรุงศรีอยุธยา อุตสาหกรรมยานยนต์ ในปี 2562 ได้รับผลกระทบ
แรงกดดันจากสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวผลจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนทาให้มี
ผลกระทบต่อปริมาณการส่งออกรถยนต์ปี 2562 หดตัว ร้อยละ 7.6 อยู่ที่ 1.1 ล้านคัน มูลค่า 1.8
พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในด้านความต้องการช้ินส่วนเพื่อทดแทนมากข้ึน จากการเพิ่มจานวนของ
รถยนตส์ ะสม เนอื่ งจากผู้บริโภคซ่อมบารงุ ยานยนต์เก่าเพ่ือยืดเวลาการซ้ือรถยนต์ใหม่ออกไป อยา่ งไรก็
ตามการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์จากไทยไปยงั ประเทศท่ีทาข้อตกลงยกเว้นภาษีนาเข้าสาหรับรถยนต์ท่ี
ใช้ชิ้นส่วนภายในกลุ่มสมาชิก เช่น สหรัฐฯ เม็กซิโก แคนนาดา เป็นต้น มีผลกระทบการส่งออกชิ้นส่วน
ยานยนต์จากไทยไปยังประเทศดังกล่าว ส่งผลให้องค์กรอุตสาหกรรมท่ีเกี่ยวข้องกับยานยนต์และช้ินส่วน
ยานยนตต์ อ้ งศกึ ษาเครื่องมือ ปัจจยั ตา่ งๆ เพ่อื เพิม่ ขดี ความสามารถในการแขง่ ขันท้งั ในด้านการเพ่ิมผลิต
ภาพและผลิตผล ผลติ สินค้าให้ได้คุณภาพ ไม่มขี องเสียหลุดลอดไปยังลูกค้า การส่งมอบสินค้าให้ได้ตาม
กาหนดเวลาท้ังลูกค้าภายในและต่างประเทศ รวมทงั้ การลดและควบคุมค่าใช้จ่ายตน้ ทุนการผลิตเพ่ือให้
สามารถเติบโต ก้าวหน้า พร้อมรับสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรงข้ึนในโลกธุรกิจท่ีเปลี่ยนแปลงอยู่
ตลอดเวลาควบคู่ไปกับการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างย่ังยืน (ศนู ยว์ จิ ัยกรุงศรี
อยุธยา, 2563)

การทีอ่ ุตสาหกรรมยานยนตแ์ ละชิ้นส่วนจะเติบโต ก้าวหน้า พรอ้ มรบั สถานการณ์การแข่งขัน
ทร่ี นุ แรงขน้ึ ในโลกธรุ กิจท่ีเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาควบคูไ่ ปกับการเพิ่มความสามารถในการแขง่ ขันใน

3

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ตลาดโลกได้อย่างย่ังยืนได้นั้น จะต้องอาศัยการบริหารองค์กรที่มีลักษณะเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่
แตกต่างจากการบริหารแบบอื่น Ouchi (1981) ได้กล่าวว่าการบริหารองค์กรแบบญี่ปุ่นที่ใช้มาอย่าง
ยาวนานซ่ึงมีลักษณะแตกต่างไปจากการบริหารทั่วไปและถึงแม้จะมีความเปลี่ยนแปลงในด้าน
สภาพแวดล้อม สภาพเศรษฐกิจอยู่ตลอดเวลา แต่การบริหารแบบญี่ปุ่นก็ยังเป็นปัจจัยพ้ืนฐานท่ียังถูก
นามาใช้ในการบริหารและปฏิบัติงานของชาวญ่ีปุ่นตลอดมา (ทิม คีล่ี และ สนันทา เสียงไทย, 2552)
นอกจากนั้นยังต้องอาศัยบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมนี้ท่ีจะเป็นแรงสาคัญในการขับเคล่ือนให้บรรลุ
วัตถุประสงค์-เป้าหมาย ทะชิมะจิ ฮานะ (2559) ผู้เชี่ยวชาญการผลิตในอุตสาหกรรมมากกว่า 20 ปี
กลา่ วว่า “บุคลากรทีอ่ ยหู่ น้างาน” คือปัจจยั ทีอ่ ยู่เบอื้ งหลังความสาเร็จของการผลิตในอตุ สาหกรรมญ่ีปุ่น
(Monozukuri) เป็นระบบการบริหารแบบญี่ป่นุ ที่เป็นเอกลักษณ์และได้รับการยอมรบั จากท่ัวโลก ควบคู่
ไปกับบุคลากรที่มีความกระตือรือร้น มีพลังขณะทางาน รู้สึกว่างานมีความสาคัญ ภาคภูมิใจ ทุ่มเท
มุ่งมั่น เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับงาน อุทิศแรงกายแรงใจให้กับงาน และทางานด้วยความสุข รู้สึกลื่น
ไหลจนลืมเวลาไม่อยากจะถอนตัวจากการทางานนั้น ๆ คือ บุคคลท่ีมีสภาวะทางจิตใจเชิงบวกต่องาน
หรือ“ความยึดม่ันผูกพันในงาน” Schaufeli, Martnez, Pinto, Salanova & Bakker (2002) กล่าวว่า
ความยึดม่ันผูกพันในงาน (Work Engagement) ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อผลการปฏิบัติงานของบุคลากร
เท่านั้น แต่ยังส่งผลรวมไปถึงประสิทธิภาพขององค์กรอีกด้วย จากท่ีกล่าวมาบุคลากรในภาค
อุตสาหกรรมยานยนต์และชนิ้ ส่วนยานยนต์เป็นปัจจัยหลกั ต่อการขับเคล่ือนให้ประเทศไทย ให้เป็นฐาน
การผลิตยานยนต์และช้ินส่วนยานยนต์ของภูมิภาคเอเชีย และก้าวสู่การแข่งขันในระดับโลกได้อย่าง
แข็งแกร่งด้วยความสาเร็จของผลการปฏิบัติงาน (Job performance) บุคลากรในองค์กรก็
เปรียบเสมือนฟันเฟืองหนึ่งท่ีทาให้ขับเคลื่อนองค์กรให้สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและ
เกดิ ประสิทธผิ ลสูงสดุ ความยึดม่ันผูกพนั ในงานและผลการปฏบิ ัติงานเป็นสว่ นสาคัญที่ใช้ในการประเมิน
ประสิทธภิ าพ ประสิทธิผลของบุคลากรและองค์กร องค์กรท้ังภาครัฐและเอกชนต่างให้ความสาคัญและ
พยายามที่จะพัฒนากลยุทธ์ตลอดจนนโยบายต่างๆ เพ่ือให้บุคลากรสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมี
ประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายตามท่ีองค์กรต้ังไว้ กล่าวได้ว่าความสาเร็จหรือความล้มเหลวของ
องค์กรขึ้นอยู่กับผลการปฏิบัติงานของบุคลากรเป็นสาคัญ ผู้วิจัยจึงมีความสนใจท่ีจะศึกษาการบริหาร
แบบญ่ีปุ่นท่ีมีอิทธิพลต่อความยึดมั่นผูกพันในงานและผลการปฏิบัติงานเพ่ือนาผลที่ได้ไปใช้ในการ
ปรบั ปรุงแก้ไข พฒั นาเพ่ือใหเ้ กิดความยึดม่นั ผูกพันและผลการปฏิบัตงิ านให้เพ่ิมมากขึ้น

วัตถุประสงคใ์ นการวิจัย
1. เพื่อศึกษาอิทธิพลของการบริหารแบบญ่ีปุน่ ส่งผลตอ่ ความยึดมัน่ ผูกพนั ในงาน
2. เพื่อศกึ ษาอิทธิพลของความยึดมั่นผกู พนั ในงานส่งผลต่อผลการปฏบิ ัตงิ าน
3. เพื่อศึกษาการบริหารแบบญ่ีปุ่นท่ีมีอิทธิพลต่อผลการปฏิบัติงานโดยมีความยึดม่ันผูกพัน

ในงานเปน็ ตวั แปรสง่ ผ่าน

สมมตฐิ านการวจิ ยั
1. การบรหิ ารแบบญป่ี ุน่ มอี ิทธิพลทางตรงต่อความยึดมน่ั ผกู พนั ในงาน
2. ความยดึ มน่ั ผกู พันในงานมอี ิทธพิ ลทางตรงตอ่ ผลการปฏิบัติงาน
3. การบริหารแบบญี่ปุ่นมีอิทธิพลทางอ้อมต่อผลการปฏิบัติงานโดยมีความยึดมั่นผูกพันใน

งานเป็นตวั แปรสง่ ผ่าน

4

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

การทบทวนวรรณกรรม
แนวคิดเก่ียวกับการบริหารแบบญี่ปุ่น (Japanese management style) ท่ีนามาใช้ใน

งานวจิ ยั ครง้ั นีม้ าจากแนวคิดและทฤษฎีท่นี าเสนอโดย Ouchi (1981) กล่าวคือเป็นการบริหารงานแบบ
ที่เน้นการตัดสินใจแบบมีส่วนร่วมเป็นหลัก เน้นการทางานเป็นทีม การหมุนเวียนสายงานเพิ่มทักษะ
เน้นให้ความสาคัญกับบุคคลกรโดยมีแนวทางบริหารท่ีเอ้ือต่อบุคลากรก่อให้บุคลากรเกิดความภักดี
ผูกพันในงาน ผูกพันต่อองค์กรและดารงอยู่ในองค์กรระยะยาว ประกอบด้วย 4 ด้าน 1) การจ้างงาน
ระยะยาว (Long term employment) คือองคก์ รจะเน้นการจ้างงานระยะยาวจนเกษียณเพราะถือว่า
ทรัพยากรบุคคลเป็นทรัพยากรที่มีค่าควรที่องค์กรจะดารงรักษาไว้ ท้ังน้ีมีการพัฒนาพนักงานให้มี
ความรู้ ความชานาญ ทักษะที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ตลอดเวลาท่ีปฏิบัติงานในองค์กรและตราบใดที่พนักงาน
ทางานหนัก อทุ ศิ ตนใหก้ ับบริษัทอย่างเต็มทกี่ ็จะไม่มกี ารเลกิ จ้างแม้บรษิ ัทจะขาดทุนอย่างหนักก็ตาม 2)
การตัดสินใจโดยการใช้ความเห็นพ้องต้องกัน (Consensual decision making) คือการตัดสินใจ
รว่ มกนั แมว้ ่าการตัดสินใจแบบนี้จะทาให้เกิดความล่าช้ากว่าการตัดสินใจโดยบุคคลคนเดียวแตก่ ็ทาให้
พนักงานได้รับข่าวสารข้อมูลที่ถูกต้องเกิดความภาคภูมิใจท่ีได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ 3) แนวทาง
อาชีพเฉพาะในระดับปานกลางหรือการหมุนเวียนพัฒนาทักษะ (Moderately specialized career
path or Rotation) คอื การหมุนเวียนงานอย่างมกี ารวางแผนซึง่ จะช่วยให้พนักงานไดพ้ ฒั นาทักษะและ
ความสนใจที่จาเป็นสาหรับความก้าวหน้า องค์กรสนับสนุนให้พนักงานมีความรอบรู้และชานาญใน
ลักษณะงานหลายๆ ด้าน ช่วยพัฒนาบุคคลให้มีความจงรักภักดีต่อองค์กรและสามารถได้รับเลื่อน
ตาแหน่งได้มากขึ้นในระยะยาว 4) การทางานเป็นทีม (Teamwork) งานวิจัยท่ีเกี่ยวข้องดังน้ี งานวิจัย
ของมณกี ญั ญา นามทั สึ และ จิดาภา ถริ ศริ กิ ลุ (2560, น. 37-53) ศกึ ษาวฒั นธรรมการบรหิ ารแบบญ่ีปุ่น
มีอิทธิพลต่อความผูกพันองค์การ กรณีศึกษาบริษัทข้ามชาติญี่ปุ่นในประเทศไทยมีกลุ่มตัวอย่าง คือ
พนักงานระดับบริหารในบริษัทข้ามขาติของญี่ปุ่นท่ีต้ังอยู่ในเขตการนิคมอุตสาหกรรมภาคกลางของ
ประเทศจานวน 400 ตัวอย่าง พบว่ารูปแบบการจ้างงานตลอดชีพ การประเมินผลงานแบบอาวุโส
ระบบการทางานเปน็ กลุ่ม เส้นทางอาชพี ที่ไม่เนน้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ระบบการโยกย้ายข้ามสาย
งาน การตัดสินใจแบบเป็นเอกฉันท์มีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อความผูกพันของพนักงานต่อองค์การ
โดยความผกู พันส่วนใหญ่ พบว่าเปน็ ความผูกพันด้านการคงอยู่ในองค์การ งานวจิ ัยของเอมอร จันทบูลย์
และ บุญญาดา นาสมบูรณ์ (2560, น. 159-170) ศึกษาการบริหารทรัพยากรมนุษย์แบบญ่ีปุ่นนส่งผล
ตอ่ ความผกู พนั ตอ่ องค์กรกรณีศกึ ษา ไดเซล กรปุ๊ (ประเทศไทย) จานวน 427 ตัวอยา่ ง พบว่าการบริหาร
แบบญ่ีปนุ่ ด้านการจ้างงานระยะยาว การทางานเป็นทมี การตัดสินใจร่วมกัน และการหมุนเวียนพัฒนา
ทักษะส่งผลต่อความผูกพันต่อองค์กร งานวิจัยของเอมชรีอรณ์ ธรรมธีร์สุทธา (2560) ศึกษา
ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมการบริหารแบบญี่ปุ่นกับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบุคลากร
องค์กรเอกชนในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จังหวดั ชลบุรี จานวน 400 ตัวอย่าง พบว่าวัฒนธรรมการ
บริหารแบบญี่ปุ่น ด้านการจ้างงานตลอดชีพอยู่ในระดับสูง และความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมญ่ีปุ่น
ดา้ นการจ้างงานตลอดชีพ ดา้ นการตัดสนิ ใจท่ีเกยี่ วกับงานและการได้เรียนรู้ในสายอาชพี มีความสัมพันธ์
ในทางบวกกับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านคุณภาพของงาน ด้านปริมาณงาน ด้านเวลาท่ีใช้ในการ
ทางาน ดา้ นค่าใชจ้ ่ายในงาน และงานวิจยั ของบุญญาดา นาสมบูรณ์ และ บญุ ชู ตันตริ ัตนสนุ ทร (2561)
ศกึ ษาอิทธพิ ลของบริหารทรัพยากรมนุษย์แบบญี่ปุ่นต่อความผูกพนั ของบุคลากร กรณีศกึ ษาบรษิ ัทข้าม
ชาติญี่ปุ่นในประเทศไทย จานวน 848 ตัวอย่าง พบว่าการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์แบบญ่ีปุ่น

5

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ดา้ นการจา้ งงานระยะยาว การทางานเปน็ ทีม การตดั สินใจร่วมกันและการหมุนเวียนพฒั นาทักษะส่งผล
ต่อความผกู พนั ของบุคลากร

แนวคิดเกยี่ วกับความยึดมั่นผูกพนั ในงาน (Work engagement) ท่ีนามาใช้ในงานวิจัยคร้ังนี้
มาจากแนวคิดและทฤษฎีท่ีนาเสนอโดย Schaufeli, Martnez, Pinto, Salanova & Bakker (2002)
กล่าวคือเป็นสภาวะจิตใจทางบวกที่สัมพันธ์กับงานไม่ใช่ชั่วขณะ ไม่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ บุคคลหรือ
เหตุการณ์ ความยดึ มั่นผกู พันในงานจะมีพลงั งานทางจิตใจในระดบั สูงในขณะท่ีทางานและเต็มใจท่ีจะใช้
ความสามารถในการทางานอันประกอบด้วย 3 ดา้ น ดังน้ี 1) ความกระตือรือร้น (Vigor) คอื การมีพลัง
ในการทางานและยืดหยุ่นทางจิตใจสูงในขณะทางาน เต็มใจที่จะใช้ความพยายามในการทางานและมี
ความเพียงพยายามในการทางานแม้จะเผชิญอุปสรรค 2) การทุ่มเทอุทิศ (Dedication) คือความรู้สึก
เตม็ ใจ ภาคภมู ใิ จ มีแรงบันดาลใจและรู้สกึ ท้าทายในการทางาน 3) ความจดจ่อใส่ใจ (Absorption) คือ
ความรสู้ ึกม่งุ มั่นและเป็นสุขในการทางานยากท่ีจะถอดตัวออกจากงานเหมือนเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
งานวิจัยท่ีเกี่ยวข้องดังน้ี งานวิจัยของอัสนีภรณ์ อรรถพิธ และ ศยามล เอกะกุลานันต์ (2561, น. 60-
79) ศึกษาความยึดม่ันผูกพันในงานที่มีต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงานระดับปฏิบัติการเจเนอเรช่ัน
วายของบริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์แห่งหน่ึงตั้งอยู่ในเขตจังหวัดสระบุรีจานวน 191 ตัวอย่าง พบว่า
ความยึดม่ันผูกพันในมีผลต่อผลการปฏิบัติงาน งานวิจัยของอรรถเดช อุณหเลขกะ และ อิสระ บุญญะ
ฤทธิ์ (2563, น. 59-83) ศกึ ษาอิทธพิ ลความยึดมั่นผกู พันในงานสง่ ผลต่อผลการปฏิบตั ิงานของผู้แทนยา
ในประเทศไทยทมี่ ีประสบการณ์ในบริษัทปัจจุบันอย่างน้อย 12 เดอื นจานวน 202 ตัวอย่าง พบว่าความ
ยึดมั่นผูกพันในมีอิทธิพลทางตรงต่อผลการปฏิบัติงาน งานวิจัยของ Jurgita, Leva & Rita (2018, pp.
236-249) ศกึ ษาความยึดมั่นผูกพันในงานส่งผลตอ่ ผลการปฏิบัตงิ านของพนกั งานในสว่ นการเงนิ จานวน
725 ตัวอย่าง พบว่าความยึดม่ันผูกพันในการทางาน ด้านความกระตือรือร้น ด้านการทุ่มเทอุทิศ และ
ด้านความจดจ่อใส่ใจ มีความสัมพันธ์กับผลการปฏิบัติงาน และงานวิจัยของ Guo, Du, Xie & Mo
(2017, pp. 708-713) ศกึ ษาความยึดมนั่ ผูกพันในงานและผลการปฏบิ ัตงิ านของพนกั งานบริการลูกค้า
สัมพันธ์บริษัทโทรคมนาคมขนาดใหญ่ของรัฐตั้งอยู่ทางตอนใต้ของจีน จานวน 1,094 ตัวอย่างพบว่า
ความยึดม่นั ผกู พันในการทางานมีความสัมพนั ธเ์ ชงิ บวกกับผลการปฏิบัตงิ านตามบทบาทหน้าที่

แนวคิดเก่ียวกับผลการปฏิบัติงาน (Job performance) ที่นามาใช้ในงานวิจัยคร้ังน้ีมาจาก
แนวคิดและทฤษฎีท่ีนาเสนอโดย Motowidlo (2003) กล่าวคือ ผลการปฏิบัติงานเป็นพฤติกรรมของ
พนักงานท่ีจาเป็นต่อการบรรลุประสิทธิผลขององค์กรสามารถจาแนกออกเป็น 2 ลักษณะ คือผลการ
ปฏบิ ัตงิ านตามบทบาทหน้าท่ีและผลการปฏิบัติงานนอกเหนอื บทบาทหน้าท่ี ดังนี้ 1) ผลการปฏิบัติงาน
ตามบทบาทหน้าที่ (Task performance) คือเก่ียวกับพฤติกรรมท่ีใช้กาหนดเป็นพ้ืนฐานในการทางาน
ท่ีมีส่วนเก่ียวข้องโดยตรงในการผลิตสินค้า บริการ งานประจา 2) ผลการปฏิบัติงานนอกเหนือบทบาท
หนา้ ท่ี (Contextual performance) คอื เก่ียวข้องกับพฤติกรรมที่ใชด้ ุลยพนิ ิจของพนกั งานเปน็ พ้ืนฐาน
เช่น ความกระตือรือร้นในการช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน การรักษากฎระเบียบวินัยและข้อบังคับของ
องค์กร งานวิจัยที่เก่ียวข้องดังนี้ สุวิสา พลายแก้ว, พัฒน์ พิสิษฐเกษม, และ อัมพล ชูสนุก (2561, น.
2968-2974) ศึกษาอิทธิพลความยึดม่ันผูกพันในงานส่งผลต่อผลการปฏิบัติงานของบุคลากร
มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มรัตนโกสินทร์จานวน 523 ตัวอย่าง พบว่าความยึดมั่นผูกพันในงาน มีอิทธิพล
ทางตรงเชิงบวกต่อผลการปฏิบัติงานในด้านผลการปฏิบัติงานตามหน้าที่และผลการปฏิบัติงานตาม
บรบิ ทหรือนอกเหนือหน้าที่ และงานวิจัยของสกุ สาคอน สจี นั ทา และ จฑุ ามาศ ทวไี พบลู ย์วงษ์ (2562,
น. 148-160) ศกึ ษาอทิ ธพิ ลของทรัพยากรในงานและความมุ่งมน่ั ในการทางานท่ีมีต่อผลการปฏิบัติงาน

6

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ของพนักงานธนาคารพาณิชย์ของรัฐในนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาวจานวน 313 ตัวอย่าง พบว่า
ความมุ่งมั่นในการทางานมีอิทธิพลเชิงบวกต่อผลการปฏิบัติงานของพนักงาน ด้านตามบทบาทหน้าที่

และดา้ นตามสถานการณ์

กรอบแนวคดิ ในการวิจัย

H1 ความยึดมัน่ H2
ผกู พนั ในงาน
การบรหิ ารแบบญป่ี ุ่น Schaufeli et al. ผลการปฏบิ ตั งิ าน
Ouchi (1981) Motowidlo
(2002) (2003)

H3

ภาพท่ี 1 กรอบแนวคิดในการวิจยั

ระเบียบวิธีการวจิ ยั
สว่ นที่ 1 ประชากรและกลมุ่ ตวั อยา่ ง
การทาวิจยั คร้ังนี้เป็นการวิจยั เชิงปริมาณและเชงิ คณุ ภาพ ดังน้ี
1.1 การวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) การเลือกตัวอย่างแบบใช้ความนา่ จะ

เป็น (Probability Sampling) โดยเลอื กแบบช้นั ภูมิ (Stratified Sampling) (ศริ ิชยั พงษว์ ชิ ยั , 2556,
น. 128-129) โดยใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) รวบรวมข้อมูลจากประชากรท่ีใช้ในการวิจัย
ได้รับการอนุเคราะห์จากบริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์องค์กรญี่ปุ่น อาเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง
จานวน 4 บรษิ ทั ประกอบด้วยบริษัท A B C และ D มจี านวนประชากร จานวน 600, 431, 936 และ
687 ตามลาดับ รวมประชากรทั้งสิ้น 2,654 คน (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2563 จากฝ่ายทรัพยากร
มนุษย์บริษัท A B C และ D) คานวณหาขนาดกลุ่มตัวอย่างใช้สูตรของ Yamane (1967) โดยใช้
ความคลาดเคลื่อนที่ยอมให้ผิดพลาดได้ไม่เกินร้อยละ 5 กาหนดขนาดตัวอย่างตามสัดส่วนของ
พนักงานในแตล่ ะองค์กร ประกอบด้วยโรงงาน A B C และ D จานวนคดิ เปน็ 91, 65, 141, 103 รวม
400 ตัวอย่าง นาแบบสอบถามใส่ซองปิดผนึงและเพื่อป้องกันการสูญหายผู้วิจัยเพิ่มจานวน
แบบสอบถามจากจานวนท่คี านวณไดอ้ ีก 10 ฉบับแล้วนาส่งให้กับผจู้ ัดการฝา่ ยทรพั ยากรมนุษย์ของท้ัง
4 องคก์ ร

1.2 การวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์ (In-depth interview) เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ
โดยการสัมภาษณ์ผู้บริหาร ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และผู้จัดการฝ่ายท่ีเกี่ยวข้องในบริษัทผลิต
ชนิ้ ส่วนยานยนต์องคก์ รญีป่ นุ่ อาเภอปลวกแดง จงั หวัดระยอง (องคก์ รเดยี วกนั กับการวิจยั เชิงปรมิ าณ)
เพื่อยนื ยันผลการวจิ ัยโดยแบบสัมภาษณ์ทมี่ ีการกาหนดคาถามในการสัมภาษณ์ไวล้ ่วงหน้า

ส่วนที่ 2 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจยั
2.1 เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัยเชิงปริมาณ คือ แบบสอบถามซ่ึงสร้างข้อคาถามตามแนวคิด
ทฤษฎีและการทบทวนวรรณกรรมแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ส่วนที่ 1 ข้อคาถามท่ัวไปของผู้ตอบ
แบบสอบถาม จานวน 5 ข้อ เป็นข้อคาถามเลือกตอบ (Multiple choice) ส่วนท่ี 2 การบริหารแบบ

7

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ญี่ปุ่นสร้างตามแนวคิดทฤษฎีของ Ouchi (1981) จานวน 12 ข้อ ส่วนที่ 3 ความยึดม่ันผูกพันในงาน
จาก Utrecht Work Engagement Scale : UWES-9 จานวน 9 ข้อ และส่วนท่ี 4 ผลการปฏิบัตงิ าน
สร้างตามแนวคิดทฤษฎีของ Motowidlo (2003) จานวน 12 ข้อ รวมทั้งส้ิน 33 ข้อเป็นคาถามแบบ
มาตราส่วน (Rating scale) 5 ระดับ ประกอบด้วย ระดับความคิดเห็นตรงกับความเป็นจริงมากท่สี ดุ
มาก ปานกลาง น้อย และน้อยท่ีสุด ผู้วิจัยทาการตรวจสอบคุณภาพเคร่ืองมือ ดังนี้ การตรวจสอบ
คุณภาพความตรง (Validity) โดยผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เช่ียวชาญจานวน 3 ท่าน ด้วยวิธีการหาค่าดัชนี
ความสอดคล้องระหว่างวตั ถุประสงค์กับข้อคาถาม (Index of item Objective Congruence: IOC)
ผลการตรวจสอบค่า IOC รายข้อมีค่า 0.67 ถึง 1.00 นอกจากนั้นนาแบบสอบถามไปทดสอบกับกลุ่ม
ตัวอย่างที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างที่เก็บแบบสอบถามจานวน 30 ชุด เพื่อหาค่าความเช่ือมั่นของ
แบบสอบถาม (Reliability) ผลการทดสอบได้ค่าความเช่ือม่ันหรือค่าสัมประสิทธ์ิแสดงความเช่ือม่ัน
ของแบบสอบถาม (Cronbach’s Alpha Coefficient) ของแบบสอบถามมีคา่ เทา่ กับ 0.796 โดยมีค่า
รายด้านเทา่ กับ 0.715 ถึง 0.965 ซ่งึ มคี า่ มากกวา่ 0.70 จงึ ถอื ว่าสามารถนาไปใช้ในการเกบ็ ตัวอย่างได้
(ศิริชยั พงษว์ ิชัย, 2556, น. 140-141)

2.2 เคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์ (In-depth interview) เพื่อ
ยืนยนั ผลการวจิ ัย คือ แบบสมั ภาษณผ์ บู้ ริหารและผ้จู ดั การฝ่ายท่ีเกย่ี วขอ้ งซึ่งสร้างข้ึนจากการนาข้อมูล
เชิงปริมาณทีไ่ ด้จากการเก็บข้อมูลมาทาการวิเคราะห์ คน้ หาประเดน็ สาคัญท่ีเก่ียวข้องกับการวิจัยแล้ว
รวบรวมประเด็นท่ีค้นพบมาสร้างเป็นข้อคาถามให้มีความเหมาะสมกับรู ปแบบการสัมภาษณ์แบบ
เผชิญหน้า (Face-to-Face Interview)

สว่ นท่ี 3 การรวบรวมข้อมลู
3.1 การวิจยั เชงิ ปรมิ าณ (Quantitative Research)
ผู้วิจัยนาแบบสอบถามที่ผ่านการทดสอบคุณภาพใส่ซองปิดผนึกนาส่งให้กับผู้จัดการฝ่าย
ทรัพยากรมนษุ ย์ของทั้ง 4 องค์กรซึ่งได้ประสานงานไวล้ ่วงหนา้ และได้รบั การอนเุ คราะห์ให้เก็บขอ้ มูล
ด้วยแบบสอบถามจากพนักงานรวมจานวน 440 ชุดโดยเพื่อให้เกิดการกระจายของข้อมลู ผู้วิจัยไดร้ ับ
การอนุเคราะหจ์ ากบรษิ ัท A, B, C และ D ในการกาหนดสัดส่วนตามจานวนพนักงานของแตล่ ะแผนก
และได้รับการตอบกลบั มาซงึ่ มคี วามถูกตอ้ งครบถว้ นทงั้ หมดจานวน 400 ชดุ คดิ เป็นร้อยละ 90.90
3.2 การวจิ ัยเชิงคณุ ภาพด้วยการสัมภาษณ์ (In-depth interview)
เขา้ รายงานและยนื ยนั ผลการวิจัยโดยผู้วิจัยไดป้ ระสานงานไว้ล่วงหน้าและได้รับอนเุ คราะห์
ให้เข้ารายงานและยืนยนั ผลการวจิ ัยบริษทั A และ B (องค์กรเดียวกันกับการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณ) มี
จานวนผู้บริหารและผู้จัดการชาวไทยและชาวญี่ปุ่นรวมทั้งส้ิน 5 ท่าน จากน้ันนาข้อมูลจากการ
สมั ภาษณม์ าสรุป
ส่วนที่ 4 การวิเคราะหข์ ้อมลู
การวิจยั ครั้งนี้ดาเนินการตรวจสอบข้อมลู เบ้อื งตน้ (Data screening) ดงั นี้
1. การตรวจสอบปัญหาค่าผิดปกติหลายตัวแปร (Multivariate outlier) ด้วยค่า
Mahalanobis distance พบว่าค่า p-value ของกลุ่มตัวอย่างมีค่าต้ังแต่ 0.053 ถึง 0.999 จากการ
ตรวจสอบไม่พบกลุ่มตัวอย่างท่ีต่ากว่า 0.050 จึงถือว่าไม่มีปัญหาค่าผิดปกติหลายตัวแปร
(Multivariate outlier) (กลั ยา วานชิ ย์บัญชา, 2557, น. 94)
2. วิเคราะห์ปัจจัยเชิงสารวจ (Exploratory Factor Analysis: EFA) เพื่อศึกษาโครงสรา้ ง
ความสมั พันธ์ของตัวแปรว่ามีความสัมพนั ธก์ นั หรอื ไม่

8

การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

2.1 ผลการทดสอบพบว่าค่าสถิติ Kaiser-Mayer-Olkin: KMO เท่ากับ 0.966 ซึ่ง
มากกว่า 0.050 สรุปได้ว่าผลการทดสอบมีความเหมาะสมของกลุ่มตัวอย่างในโมเดลท่ีสร้างข้ึนโดย
พิจารณจากค่าสถิติ KMO เกิน 0.050 จะถือว่าอยู่ในระดับท่ีเหมาะสม (กริช แรงสูงเนิน, 2557,
น. 52)

2.2 ผลการทดสอบสถิติ Bartlett’s Test of Sphericity เท่ากับ 19061.107 df
เทา่ กับ 1431 และ Sig. เทา่ กับ 0.000 ซึง่ น้อยกวา่ ระดับนัยสาคญั ทางสถติ ิท่ี 0.05 โดยสถติ ิ Bartlett’s
Test พิจารณาค่า p-value ควรมีนยั สาคัญทางสถติ ิ (p-value < 0.05) จึงสรปุ ได้ว่าการทดสอบความ
เหมาะสมของกลมุ่ ตัวอยา่ งในโมเดลทสี่ ร้างข้ึนนีม้ นี ัยสาคัญทางสถิติ (กรชิ แรงสงู เนนิ , 2557, น. 52)

2.3 ผลการทดสอบ Communality พิจารณาจากค่า Extraction จากข้อคาถามแบบ
มาตราส่วน (Rating scale) ทั้งหมด 33 ข้อ พบว่ามี 1 ข้อคาถามท่ีมีค่าน้อยกว่า 0.50 คือ 0.032 ใน
ข้อคาถามเก่ียวกับผลการปฏิบัติงานจึงทาการตัดข้อคาถามท้ิง 1 ข้อแล้วนาไปวิเคราะห์ในข้ันตอน
ต่อไป (ธานินทร์ ศิลปจ์ ารุ, 2560, น. 529)

3. ผลการทดสอบการแจกแจงข้อมูลแบบปกติ (Normally distribute) พบว่ามีการแจก
แจงข้อมูลทั้งทุกตัวแปรสังเกตได้แบบปกติโดยมีช่วงค่าตัวเลขระหว่าง -3.0 ถึง +3.0 จึงแสดงถึงการ
กระจายของขอ้ มลู แบบปกติ (กริช แรงสงู เนิน, 2557, น. 101)

4. ผลการทดสอบความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งตวั แปรสังเกตได้แต่ละตวั กับตวั แปรสังเกตได้อ่ืน ๆ
(Correlation) มีค่าสัมประสิทธ์ิสหสัมพันธ์เป็นค่าบวกและไม่มีความสัมพันธ์กันเกินกว่า 0.90
จึงไม่เกิดปัญหา Multicollinearity ไม่ส่งผลให้เกิดความคาดเคล่ือนในการวิเคราะห์เส้นทาง (กัลยา
วานชิ ย์บัญชา, 2557, น. 93)

5. ผลการทดสอบความแปรปรวนร่วม (Covariances) ระหว่างตัวแปรสังเกตได้แต่ละตัว
กับตัวแปรสงั เกตได้อื่นๆ ผลการทดสอบค่าความแปรปรวนรว่ ม (Covariances) ทกุ เส้นความสัมพันธ์
ของตวั แปรสังเกตไดม้ นี ยั สาคญั ทร่ี ะดบั 0.01 (กลั ยา วานิชย์บญั ชา, 2557, น. 93)

สถติ ทิ ใ่ี ช้ในการทดสอบสมมตฐิ าน
การทดสอบสมมติฐานด้วยสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling: SEM)

โดยการวิเคราะห์เส้นทาง (Path Analysis) ด้วยเทคนิคการใช้หลักการค่าประมาณความควรจะเปน็
สงู สุด (Maximum Likelihood: ML) เกณฑก์ ารพจิ ารณา ได้แก่ คา่ ไคสแควร์ (Chi-Square) ≥ 0.05
ค่าไคสแควร์สัมพันธ์ (Chi-Square/df) < 2-3 ดัชนีวัดระดับความกลมกลืน (Goodness of Fit
Index: GFI) > 0.90 ดัชนีวัดระดับความสอดคล้องท่ีปรับแล้ว (Adjusted Goodness-of-fit
statistics: AGFI) ≥ 0.90 และค่ารากของค่าเฉล่ียกาลังสองของความคลาดเคลื่อนโดยประมาณ
(Root Mean Square Error Approximation: RMSEA) < 0.08 (Kline, 2011, pp. 204; Byrne,
2001, pp. 79-86)

ผลการวจิ ัย
ผลการวจิ ยั ได้แบง่ ออกเปน็ 4 สว่ นดังน้ี
สว่ นท่ี 1 การวิเคราะหข์ ้อมลู
1. ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลท่ัวไปของผตู้ อบแบบสอบถาม

9

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ผู้ตอบแบบสอบถามท่ีใช้เป็นกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาคร้ังนี้จานวน 400 คน เป็นเพศหญิง
จานวน 230 คน คดิ เป็นร้อยละ 57.50 และเพศชาย จานวน 170 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 42.50 ช่วงอายุ
ระหว่าง 25-42 ปี (Gen Y) มากท่ีสุด จานวน 318 คน คิดเป็นร้อยละ 79.50 รองลงมา คือ อายุไม่
เกิน 24 ปี (Gen Z) จานวน 61 คน คิดเป็นร้อยละ 15.25 ระดับการศึกษาในระดับอนุปริญญา/
ปวช./ ปวส. มากที่สุดจานวน 177 คน คิดเป็นร้อยละ 44.25 รองลงมา คือ มัธยมศึกษาหรือต่ากว่า
จานวน 143 คน คดิ เป็นร้อยละ 35.75 ระยะเวลาทปี่ ฏิบัติงานในองคก์ รปัจจุบันต่ากว่า 5 ปีมากท่ีสุด
จานวน 171 คน คดิ เป็นร้อยละ 42.75 รองลงมา คอื 6-10 ปี จานวน 121 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 30.25
และปฏิบัตงิ านในตาแหนง่ พนักงานปฏบิ ัติการ (Operator) มากท่สี ุด จานวน 205 คน คิดเป็นร้อยละ
51.25 รองลงมา คือ พนักงานระดบั หวั หนา้ งาน จานวน 106 คน คิดเป็นร้อยละ 26.50

2. ผลการวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารแบบญี่ปุ่นอยู่ในระดับมากและ
มีค่าเฉลยี่ เท่ากับ 3.76 (S.D. = 0.556)

3. ผลการวิเคราะห์ระดับความคดิ เห็นเก่ยี วกับความยึดม่ันผกู พันในงานอยู่ในระดบั มากและ
มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.89 (S.D. = 0.591)

4. ผลการวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นเก่ียวกับผลการปฏิบัติงานอยู่ในระดับมากและ
มีคา่ เฉล่ียเทา่ กับ 4.01 (S.D. = 0.496)

ส่วนที่ 2 ผลการทดสอบสมมติฐาน
การทดสอบสมมติฐานด้วยสมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling: SEM) โดย
การวเิ คราะห์เส้นทาง (Path Analysis) ดว้ ยเทคนคิ การใชห้ ลกั การค่าประมาณความควรจะเป็นสูงสุด
(Maximum Likelihood: ML)

ตารางท่ี 1 ผลการวเิ คราะห์คา่ สมั ประสทิ ธิ์ของอทิ ธิพลตวั แปร

คู่ความสมั พนั ธ์ Direct Indirect Total SE C.R. P-

ระหวา่ งตัวแปร effect effect effect value

WEM <-- JPM 0.723 - 0.723 0.038 20.921 **

JOBP <-- WEM 0.712 - 0.712 0.032 20.283 **

JOBP <-- JPM 0.260 0.387 0.647 0.049 5.098 **

**มนี ัยสาคัญทางสถิตทิ ร่ี ะดับ 0.01
หมายเหตุ: JPM = การบริหารแบบญี่ปุ่น (Japanese management style) , WEM = ความยึดม่นั
ผูกพนั ในงาน (Work engagement), JOBP = ผลการปฏิบัติงาน (Job performance)

จากตารางที่ 1 แสดงผลการวิเคราะห์กลุ่มตัวอย่างอุตสาหกรรมผลิตช้นิ ส่วนยานยนตอ์ งค์กร
ญปี่ นุ่ อาเภอปลวกแดง จังหวดั ระยอง โดยการวเิ คราะห์ตัวแปรในโมเดลสมการโครงสร้างอธิบายได้ดงั น้ี

สมมติฐานท่ี 1 การบริหารแบบญีป่ ุ่น (JPM) มีอิทธิพลทางตรงต่อความยึดมั่นผูกพนั ในงาน
(WEM) ผลการทดสอบพบว่าค่าสถิติ Z หรือค่า C.R. เท่ากับ 20.921 และค่า P-value เท่ากับ **
Sig. (2-tailed) ซ่ึงมีค่าน้อยกว่า 0.01 มีค่าอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 0.723 ที่ระดับนัยสาคัญทางสถิติ
0.01 จงึ ยอมรบั สมมตฐิ านและสรุปไดว้ ่าการบริหารแบบญี่ปุ่น (JPM) มีอิทธิพลทางตรงต่อความยึดม่ัน
ผกู พันในงาน (WEM)

สมมติฐานที่ 2 ความยึดมั่นผูกพันในงาน(WEM) มีอิทธิพลทางตรงต่อผลการปฏิบัติงาน
(JOBP) ผลการทดสอบพบวา่ ค่าสถิติ Z หรอื ค่า C.R. เท่ากับ 20.283 และคา่ P-value เท่ากบั ** Sig.
(2-tailed) ซ่ึงมีค่าน้อยกว่า 0.01 มีค่าอิทธิพลทางตรงเท่ากับ 0.712 ท่ีระดับนัยสาคัญทางสถิติ 0.01

10

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

จึงยอมรับสมมติฐานและสรุปได้ว่าความยึดมั่นผูกพันในงาน (WEM) มีอิทธิพลทางตรงต่อผลการ
ปฏิบตั ิงาน (JOBP)

สมมติฐานที่ 3 การบริหารแบบญีป่ ุ่น (JPM) มีอิทธพิ ลทางอ้อมตอ่ ผลการปฏิบัตงิ าน (JOBP)
โดยมีความยึดม่ันผูกพันในงาน (WEM) เป็นตัวแปรส่งผ่าน ผลการทดสอบพบว่าค่าสถิติ Z หรือค่า
C.R. เท่ากับ 5.098 และค่า P-value เท่ากับ ** Sig. (2-tailed) ซ่ึงมีค่าน้อยกว่า 0.01 มีค่าอิทธิพล
ทางตรงเท่ากับ 0.260 อิทธิพลทางอ้อมเท่ากับ 0.387 และอิทธิพลรวมเท่ากับ 0.647 ท่ีระดับ
นัยสาคัญทางสถิติ 0.01 จึงยอมรับสมมติฐานและสรุปได้ว่า การบริหารแบบญี่ปุ่น (JPM) มีอิทธิพล
ทางอ้อมต่อผลการปฏิบัติงาน (JOBP) โดยมีความยดึ มั่นผกู พันในงาน (WEM) เป็นตัวแปรส่งผา่ น

สว่ นที่ 3 ผลการวิเคราะห์โมเดลการบริหารแบบญ่ีปนุ่ มอี ิทธิพลตอ่ ผลการปฏิบัตงิ านผ่านตัว
แปรคน่ั กลางความยึดม่ันผกู พันในงาน

0.746** ความยดึ มั่น 0.519**
ผกู พนั ในงาน
Schaufeli et al.

(2002)

การบรหิ ารแบบญีป่ นุ่ 0.260** ผลการปฏิบตั งิ าน
Ouchi. (1981) Motowidlo. (2003)

Chi-Square = 0.174 Chi-Square/df = 0.174 GFI= 1.000 AGFI = 0.998, RMSEA = 0.000

ภาพที่ 2 ผลการวัดโมเดลการบริหารแบบญ่ีปุ่นมีอิทธิพลต่อผลการปฏิบัติงานผ่านตัวแปรคั่นกลาง
ความยดึ ม่ันผูกพันในงาน

**มีนยั สาคญั ทางสถติ ทิ รี่ ะดบั 0.01

จากภาพท่ี 2 ผลการตรวจสอบความสอดคล้องกลมกลืนกับข้อมูลเชิงประจักษ์ของโมเดล
การบริหารแบบญี่ปุ่นมีอิทธิพลต่อผลการปฏิบัติงานผ่านตัวแปรค่ันกลางความยึดม่ันผูกพันในงาน
พบวา่ คา่ สถิติทใี่ ช้ในการตรวจสอบโมเดลสมมติฐานกบั ข้อมูลเชิงประจักษ์มีค่าดงั น้ี คา่ ไคสแควร์ (Chi-
Square) = 0.174 ซึ่งมากกว่า 0.05 ค่าไคสแควร์สัมพันธ์ (Chi-Square/df) = 0.174 น้อยกว่า 2-3,
ดัชนีวัดระดับความกลมกลืน (GFI) = 1.000 มากกว่า 0.90, ดัชนีวัดระดับความสอดคล้องที่ปรบั แล้ว
(AGFI) = 0.998 มากกว่ากว่า 0.90 และค่ารากของค่าเฉลี่ยกาลังสองของความคลาดเคลื่อน
โดยประมาณ (RMSEA) = 0.000 น้อยกว่า 0.08 ซ่ึงถือว่าผ่านเกณฑแ์ ละอยู่ในระดับดีทุกรายการ จึง
สรุปไดว้ า่ โมเดลสมมติฐานมีความสอดคลอ้ งกับข้อมูลเชิงประจกั ษ์

สว่ นท่ี 4 การสัมภาษณ์ (In-depth Interview) ผ้บู ริหารเพือ่ ยนื ยันผลลพั ธ์
หลังจากสรุปผลการทดสอบสมมติฐานการวจิ ัยแล้วดาเนนิ การขออนเุ คราะห์เข้าสัมภาษณ์
ผู้บริหารและผู้จัดการฝ่ายที่เก่ียวข้องชาวญี่ปุ่นและชาวไทยซึ่งตรงกับผลการวิจัยเชิงปริมาณ สรุปได้
ดังนี้ องค์กรมีนโยบายการบริหารงานแบบญี่ปุ่นโดยส่วนใหญ่ถูกถ่ายทอดมาจากบริษัทแม่ อัน
ประกอบดว้ ย การจ้างงานระยะยาวโดยเม่ือองค์กรคัดเลือกบุคลากรเข้ามา องค์กรมุง่ หวงั ให้พนักงาน
ทางานระยะยาวจนเกษียณอายุ นอกจากนน้ั ยงั มกี ารพฒั นาพนักงานให้มคี วามรู้ ความชานาญ ทักษะ
ที่เพ่ิมสูงข้ึนอยู่ตลอดเวลา มีการตัดสินใจโดยการใช้ความเห็นพ้องต้องกัน เป็นการตัดสินใจร่วมกัน
ก่อให้เกิดความภาคภมู ิใจทไี่ ด้มีสว่ นรว่ มในตดั สนิ ใจและพนักงานได้รับรขู้ ่าวสารร่วมกัน แนวทางอาชพี

11

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

เฉพาะในระดับปานกลางหรอื การหมนุ เวียนพัฒนาทกั ษะโดยมีการวางแผนในการหมุนเวียนงานทาให้
พนักงานได้พัฒนาทักษะ มีความก้าวหน้า มีความรอบรู้และชานาญในลักษณะงานหลายๆ และด้าน
การทางานเป็นทมี เปน็ ตน้

อภปิ รายผลการวิจัย
1. การบรหิ ารแบบญ่ปี นุ่ มีอทิ ธิพลทางตรงต่อความยึดมั่นผกู พนั ในงาน และการบรหิ ารแบบ

ญีป่ ่นุ มอี ทิ ธพิ ลทางออ้ มตอ่ ผลการปฏิบัติงานโดยมคี วามยดึ มัน่ ผกู พันในงานเปน็ ตวั แปรสง่ ผา่ น
จากผลการวิจัยและการเข้าสัมภาษณ์เพื่อยืนยันผลการวิจัยผู้บรหิ ารชาวญปี่ นุ่ และชาวไทย

ใหส้ มั ภาษณ์ซง่ึ ตรงกับผลการวิจยั เชิงปริมาณ ทั้งน้ีเน่อื งจากองค์กรญี่ป่นุ มีการบรหิ ารงานโดยการจ้าง
งานระยะยาวมุ่งหวงั ให้พนักงานปฏิบัตงิ านในองค์กรจนเกษียณ มกี ารจดั การฝึกอบรมเพ่ือการพัฒนา
ให้มีความรู้ ความชานาญ ทกั ษะทเี่ พิม่ สูงขน้ึ ใหก้ บั พนักงาน ซงึ่ หากบรษิ ัทต้องเผชญิ กบั วกิ ฤตเศรษฐกิจ
บริษัทจะไม่มีการไล่ออกจนกว่าจะอยู่ในสถานการณ์วิฤตข้ันร้ายแรง องค์กรจะทบทวนกาลังคนตาม
ความเหมาะสมและปฏิบัติตามกฎหมายที่กาหนดอย่างเคร่งคัด นอกจากน้ันองค์กรมีประชาสัมพันธ์
ข่าวสารให้ทราบทั่วกัน ให้พนักงานมีส่วนรว่ มในการเสนอความคิดเห็น ให้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ร่วมกัน ทง้ั ยังมีการวางแผนการหมนุ เวียนงาน เพ่อื เพิ่มความรู้ ความสามารถ ทักษะที่หลากหลายด้าน
และส่งเสริมให้มีความรอบรู้ชานาญในลักษณะงานหลากหลายสายงานทาให้พนักงานได้มีโอกาส
ทางานท่ีหลากหลายสายงาน พนักงานมีความพึงพอใจกับการได้ทางานหลากหลายสายงานเพื่อ
ยกระดับความรู้ ความสามารถของตนเอง นอกจากน้ันองค์กรยังมุ่งเนน้ การทางานเป็นทีมมุ่งเน้นให้
สมาชิกในทีมทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างผลงาน ทุกคนคานึงถึงกลุ่มช่วยกันทางานเพ่ือกลุ่มตาม
แนวคดิ ของ Ouchi (1981) การบรหิ ารแบบญป่ี ุน่ องคก์ รญ่ีปนุ่ มีการบริหารงานในลกั ษณะการจ้างงาน
ระยะยาว (Long term employment) เป็นลักษณะการจ้างงานของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ท่มี ี
พ้ืนฐานมาจากประเทศญี่ปุ่นท่ีจะพยายามรักษาพนักงานไว้จนถึงที่สุดโดยองค์กรมุ่งหวังให้พนักงาน
ปฏิบัตงิ านกบั องคก์ รจนเกษยี ณอายุโดยมีการจดั มกี ารพัฒนาองค์ความรู้ ความชานาญใหเ้ พ่ิมพูนสงู ขึ้น
วางแผนการฝึกอบรมทั้งภายในและภายนอกองค์กรเพ่ือให้สามารถรบั เทคโนโลยใี หมๆ่ ได้ตลอดเวลา
นอกจากนั้นหากบริษทั ต้องเผชิญกับวกิ ฤตเศรษฐกิจ บริษทั จะพจิ ารณาการไล่พนกั งานออกเป็นลาดับ
สุดท้าย มีแนวทางอาชีพเฉพาะในระดับปานกลางหรือการหมุนเวียนพัฒนาทักษะ (Moderately
specialized career path or rotation) องค์กรมีการหมุนเวียนการทางาน (Job rotation) เพ่ือให้
พนักงานมีความรู้ ความสามารถดา้ นอืน่ ๆ โดยมีการวางแผนเพ่ือใหพ้ นกั งานไดพ้ ฒั นาทกั ษะ ในองคก์ ร
จะไม่คอ่ ยมุง่ เนน้ ให้มคี วามรู้ ความชานาญเฉพาะเพียงด้านเดยี ว มักจะสนบั สนุนให้พนกั งาน มคี วามรู้
รอบและชานาญในลักษณะงานหลาย ๆ อย่าง และการทางานเป็นทีม (Teamwork) ในองค์กรมี
พื้นฐานการทางานร่วมกันเป็นกลุ่มเน้นการทางานเป็นทีมเป็นแนวคิดเพอื่ ให้บรษิ ัทสามารถดาเนินไป
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้พนักงานทุกคนต้องทางานอย่างร่วมมือร่วมใจกัน สอดคล้องกับงานวิจัย
ของมณกี ญั ญา นามทั สึ และ จิดาภา ถิรศิริกลุ (2560, น. 37-53) พบว่ารูปแบบการจ้างงานตลอดชีพ
การประเมินผลงานแบบอาวุโส ระบบการทางานเป็นกลุ่ม เส้นทางอาชีพที่ไม่เน้นความเชี่ยวชาญ
เฉพาะด้าน ระบบการโยกย้ายข้ามสายงาน การตัดสินใจแบบเป็นเอกฉันท์มีอิทธิพลทางตรงเชิงบวก
ต่อความผกู พนั ของพนกั งานตอ่ องคก์ าร โดยความผกู พันสว่ นใหญ่ พบว่าความผกู พันดา้ นการคงอยู่ใน
องค์การ งานวิจัยของเอมอร จันทบูลย์ และ บุญญาดา นาสมบูรณ์ (2560, น. 159-170) พบว่าการ
บริหารแบบญี่ปุ่น ด้านการจ้างงานระยะยาว การทางานเป็นทีม การตัดสินใจร่วมกัน และการ

12

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

หมนุ เวยี นพฒั นาทกั ษะสง่ ผลต่อความผูกพันต่อองคก์ ร งานวจิ ยั ของเอมชรีอรณ์ ธรรมธีร์สทุ ธา (2560)
พบว่าวัฒนธรรมการบริหารแบบญี่ปุ่น ด้านการจ้างงานตลอดชีพอยู่ในระดับสูง และความสัมพันธ์
ระหว่างวัฒนธรรมญปี่ ุ่น ด้านการจ้างงานตลอดชีพ ด้านการตัดสินใจท่ีเก่ียวกบั งานและการได้เรยี นรู้
ในสายอาชีพมีความสัมพันธ์ในทางบวกกับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านคุณภาพของงาน ด้าน
ปรมิ าณงาน ด้านเวลาท่ใี ชใ้ นการทางาน ด้านค่าใช้จ่ายในงาน งานวจิ ยั ของบญุ ญาดา นาสมบรู ณ์ และ
บุญชู ตันติรัตนสุนทร (2561) ผลการวิจัยพบว่าการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์แบบญี่ปุ่น ด้านการ
จ้างงานระยะยาว การทางานเป็นทีม การตัดสินใจร่วมกัน และการหมุนเวียนพัฒนาทักษะส่งผลต่อ
ความผกู พนั ของบคุ ลากร
2. ความยดึ ม่นั ผูกพันในงานมอี ิทธิพลทางตรงต่อผลการปฏบิ ัตงิ าน
จากผลการวิจัยและการเขา้ สัมภาษณ์เพ่ือยืนยนั ผลการวิจัยผ้บู ริหารชาวญีป่ ุ่นและชาวไทยให้สมั ภาษณ์
ซึ่งตรงกบั ผลการวิจยั เชงิ ปริมาณ ทั้งนี้เนื่องจากองคก์ รญีป่ ุน่ จัดและสร้างสภาพแวดล้อมการทางานให้
พนักงานมีพลัง มีสมาธิในการทางานและมีความยืดหยุ่นทางจิตใจในขณะทางาน มีการสื่อสาร
วัตถุประสงค์ เป้าหมายขององค์กรและแผนกให้ทราบทั่วถึงให้พนักงานเข้าใจ ยอมรับมีเป้าหมาย
เดียวกันและให้ความสาคัญกับการฝึกอบรมพนักงานเป็นอย่างย่ิง ไม่ว่าจะเป็นพนักงานใหม่และ
พนกั งานปจั จบุ นั ในการเพม่ิ สมรรถภาพในการทางาน พนกั งานมคี วามสามารถเพมิ่ มากข้นึ เปน็ ผลดีกับ
ทั้งตัวพนกั งานและองค์กร นอกจากนนั้ ยังให้ความสาคัญกบั พนกั งานทุกระดับ ไม่มีแบ่งกลุ่ม ช้ันใด ๆ
โดยปฏบิ ตั ไิ ปแนวทางเดียวกนั ท้ังองค์กรก่อให้เกิดความเต็มใจที่จะใช้ความพยายามในการทางานและ
มีความเพียงพยายามในการทางานส่งผลต่อผลการปฏิบัติงาน ตามแนวคิดของ Schaufeli et al.
(2002) พนักงานท่ีมีความรู้สึกยึดม่ันผูกพันในงานเป็นผู้ท่ีมีพลังสูงและมีความกระตือรือร้นในงาน
ความรู้สึกยึดม่ันผูกพันในงานไม่ใช่สภาวะที่เกิดขึ้นเพียงระยะส้ัน ๆ แต่เป็นสภาวะทางปัญญาท่ีรู้สึก
ค่อนข้างจะถาวร ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่เร่ือง อารมณ์ เหตุการณ์ บุคคล หรือพฤติกรรมอย่างใดเป็นการ
เฉพาะ ความยึดม่ันผูกพันในงานเป็นส่วนหนึ่งที่ขับเคล่ือนแรงจูงใจในการทางาน รู้สึกมีความเต็มใจ
ภาคภูมิใจ มีแรงบันดาลใจ และรู้สึกท้าทายในการทางาน นอกจากนั้นมีความมุ่งมั่นและความสุขใน
การทางานเหมือนเวลาผา่ นไปอย่างรวดเร็ว สอดคลอ้ งกบั งานวจิ ยั ของอัสนภี รณ์ อรรถพธิ และ ศยามล
เอกะกลุ านันต์ (2561, น. 60-79) พบว่าความยึดม่ันผกู พันในมีผลตอ่ ผลการปฏบิ ัตงิ าน งานวิจัยของสุวิสา
พลายแก้ว, พฒั น์ พิสษิ ฐเกษม และ อัมพล ชสู นุก (2561, น. 2968-2974) พบว่าความยึดมนั่ ผูกพันใน
งานมีอิทธิพลทางตรงเชิงบวกต่อผลการปฏิบัติงานในด้านผลการปฏิบัติงานตามหน้าท่ีและผลการ
ปฏบิ ัติงานตามบริบทหรอื นอกเหนือหน้าที่ งานวจิ ยั ของสุกสาคอน สจี ันทา และ จุฑามาศ ทวไี พบูลย์วงษ์
(2562, น. 148-160) พบว่าความมุ่งม่ันในการทางานยังมีอิทธิพลเชิงบวกต่อผลการปฏิบัติงานของ
พนักงาน ด้านตามบทบาทหน้าท่ีและด้านตามสถานการณ์ งานวิจัยของอรรถเดช อุณหเลขกะ และ
อิสระ บุญญะฤทธิ์ (2563, น. 59-83) พบว่าความยึดมั่นผูกพันในงานมีอิทธิพลทางตรงต่อผลการ
ปฏิบัติงาน งานวิจัยของ Guo, Du, Xie & Mo (2017, pp. 708-713) พบว่าความยึดม่ันผูกพันในการ
ทางานมีความสัมพันธ์เชงิ บวกกับผลการปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่ และงานวิจัยของ Jurgita, Leva
and Rita (2018, pp. 236-249) พบว่าความยึดม่ันผูกพันในการทางาน ด้านความกระตือรือร้น ด้าน
การทุ่มเทอทุ ิศ และดา้ นความจดจ่อใส่ใจ มีความสมั พันธ์กบั ผลการปฏบิ ตั งิ าน

ข้อเสนอแนะแบ่งออกเป็น 2 ดา้ น ดังนี้
1) ขอ้ เสนอแนะทไ่ี ดจ้ ากการวิจัยเพือ่ เป็นประโยชน์ในการนาไปใชต้ ่อองคก์ ร

13

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

การบริหารงานแบบญีป่ นุ่ มลี ักษณะเป็นเอกลักษณเ์ ฉพาะตัวทแี่ ตกต่างจากการบริหารแบบอ่ืน
การบริหารงานแบบญ่ีปุ่นถือว่ามีความสาคัญต่อการสร้างบุคลากรให้มีความยึดมั่นผูกพันในงานและ
ผลการปฏบิ ัตงิ านให้เพม่ิ ขนึ้ และเปน็ ไปตามทีอ่ งคก์ รตัง้ เป้าหมายไว้ องคก์ รควรเพ่มิ การให้ความสาคัญ
กับการดาเนินการบริหารงานแบบญ่ีปุ่นอย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรมให้มากย่ิงข้ึน เ ช่น
ทาการวางแผนและออกนโยบายการจ้างงานระยะยาวโดยทาการสื่อสารให้รับรู้ท่ัวกันในองค์กร
การพัฒนาบุคลากรโดยวางแผนการหมุนเวียนงานเพ่ือเพ่ิมความรู้ ความสามารถในงานหลากหลาย
สายงาน โดยให้มีความชัดเจนของความก้าวหน้าในอนาคตพร้อมเพ่ิมการส่งเสริมการทางานเป็นทีม
ทั้งการให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจในการทางานตามขอบเขตที่สามารถร่วมตัดสินใจได้
รวมถึงการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ทั้งในแง่บวกและลบให้ทั่วถึงกันให้มากข้ึนเพื่อ
ให้พนักงานทุกคนร่วมสึกว่าตนมีคุณค่าและตนเป็นส่วนหน่ึงท่ีสาคัญขององค์กรเพื่อให้เกิดความรั ก
และผูกพันในองค์กร สิ่งเหล่าน้ีจะสะท้อนไปยังความยึดมั่นผูกพันในงานและผลการปฏิบัติงานที่
เพมิ่ มากขึน้

2) ข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป

ดา้ นกลมุ่ ตัวอยา่ ง การศึกษาวจิ ยั ในครั้งน้ีเป็นการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างบริษัทผลิตชิน้ ส่วน
ยานยนต์องค์กรญ่ีปุ่น อาเภอปลวกแดง จังหวัดระยองเท่านั้น ซึ่งในแต่ละองค์กรอาจจะมีความ
แตกต่างกันในเรื่องลักษณะอุตสาหกรรมและรปู แบบการบริหารงาน ดังน้ันในการวิจัยครั้งต่อไปควร
ศึกษาในเขตพื้นท่ีนิคมอุตสาหกรรม จังหวัด ภาค หรืออุตสาหกรรมอ่ืน เช่น อุตสาหกรรม
อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น นอกจากน้ันควรศึกษาในเชิงเปรียบเทียบระหว่างองค์กรแบบไทย แบบชาติ
อื่น ๆ และแบบญี่ปุ่นเพอื่ ให้ได้ผลในเชงิ ลกึ มากยิง่ ข้ึน

ด้านตัวแปร ควรศึกษาการบริหารแบบญ่ปี ุ่นในด้านอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อความยึดม่ันผูกพนั ใน
งานและผลการปฏิบัติงาน เช่น ด้านระบบอาวุโส ด้านการสื่อสารแบบญ่ีปุ่น (Hou-Ren-Sou)
ด้านการให้รางวัลตอบแทน เป็นต้น โดยก่อนเข้าเก็บข้อมูลเชิงปริมาณควรพิจารณาการสัมภาษณ์
ผู้บริหาร หรือผจู้ ดั การฝ่ายบคุ คลในการคน้ หาตัวแปรในการวจิ ยั

เอกสารอา้ งองิ

กริช แรงสูงเนนิ . (2557). การวเิ คราะห์ปัจจัยด้วย SPSS และ AMOS เพือ่ การวิจยั . กรุงเทพฯ:
ซเี อ็ดยเู คชัน่ จากดั (มหาชน).

กล่มุ งานยุทธศาสตรแ์ ละข้อมลู เพ่ือการพฒั นาจงั หวดั สานักงานจังหวัดระยอง. (2562). สรปุ ขอ้ มลู
จังหวัดระยอง. สืบค้นจาก http://123.242.173.8/v2/images/rayongdata62.pdf
สืบค้นเม่ือวันที่ 20 สิงหาคม 2563

กัลยา วานชิ ยบ์ ญั ชา. (2557). การวเิ คราะหส์ มการโครงสรา้ ง (SEM) ด้วย AMOS. กรุงเทพฯ:
หา้ งหุน้ ส่วนจากัดสามลดา.

ทะชิมะจิ ฮานะ. (2559). การพัฒนาบคุ ลากรในโรงงานแบบ Monozukuri, แปลโดยบัณฑิต โรจน์
อารยานนท์. กรุงเทพฯ: สมาคมส่งฯไทย-ญีป่ นุ่ .

ทิม คีล่ี และ สนนั ทา เสียงไทย. (2552). วฒั นธรรมและการบรหิ ารทรพั ยากรมนุษยแ์ บบญปี่ นุ่ .
กรุงเทพฯ: บรษิ ทั ว.ี พร้นิ ท์ (1991) จากัด.

ธานินทร์ ศลิ ปจ์ าร.ุ (2560). การวิจยั และวิเคราะห์ข้อมลู ทางสถติ ิด้วย SPSS และ AMOS.
(พิมพค์ ร้งั ท่ี 17). กรงุ เทพฯ: บสิ ซิเนสอาร์แอนด์ดี.

14

การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

บญุ ญาดา นาสมบรู ณ์ และ บุญชู ตนั ติรตั นสุนทร. (2561). อทิ ธิพลของภาวะผ้นู าความ สาเรจ็
และการบริหารทรพั ยากรมนุษย์แบบญ่ปี ุ่นต่อความผกู พนั ของบคุ ลากรกรณศี กึ ษา
บรษิ ทั ข้ามชาตญิ ีป่ ่นุ ในประเทศไทย (รายงานวจิ ัย). กรุงเทพฯ : สถาบนั เทคโนโลยีไทย-ญปี่ ุ่น.

มณกี ญั ญา นามทั สึ และ จิดาภา ถริ ศิริกุล. (2560). ตวั แบบความสอดคลอ้ งระหวา่ งบุคคลกับ
สิ่งแวดลอ้ มท่มี ีอทิ ธพิ ลตอ่ ความผูกพันองคก์ ารกรณีศกึ ษาบรษิ ัทขา้ มชาติญ่ีปุ่นในประเทศ
ไทย. วารสารญี่ปุ่นศกึ ษา, 34(1), 34-53.

ศูนย์วจิ ัยกรงุ ศรีอยธุ ยา. (2563). แนวโน้มธรุ กจิ /อุตสาหกรรมรถยนต์ ปี 2563-65. สบื คน้ จาก
https://www.krungsri.com/th/research/industry/industry-outlook/Hi-tech-
Industries/Auto-Parts/IO/Industry-Outlook-Auto-Parts
สืบคน้ เมอ่ื วนั ที่ 20 สิงหาคม 2563

สานักคณะกรรมการนโยบายเขตพฒั นาพิเศษภาคตะวันออก. (2563). ความคบื หน้าในการพัฒนา
เขตพฒั นาพิเศษภาคตะวันออก (ตลุ าคม 2562 - มีนาคม 2563). สบื คน้ จาก
https://eeco.or.th/th/annual-monitoring-report-for-6-months
สืบค้นเมื่อวันท่ี 20 สงิ หาคม 2563

สานักงานแรงงานจงั หวดั ระยอง. (2563). รายงานสถานการณ์ด้านแรงงาน ไตรมาส 2 ปี 2653
(เมษายน-มิถุนายน 2563). สืบคน้ จาก https://rayong.mol.go.th/wp
content/uploads/sites สืบคน้ เมอ่ื วันท่ี 20 สิงหาคม 2563

สานกั งานปลดั กระทรวงอุตสาหกรรม. (2559). แผนยทุ ธศาสตรก์ ระทรวงอุตสาหกรรม 2560-2564
สบื คน้ จาก https://sme.go.th/upload/mod_download
สืบคน้ เม่อื วนั ที่ 20 สิงหาคม 2563

สกุ สาคอน สจี นั ทา และ จุฑามาศ ทวไี พบลู ย์วงษ์. (2562). อิทธิพลของทรัพยากรในงานและความ
มุ่งมั่นในการทางานท่ีมีต่อผลการปฏิบตั งิ านของพนกั งานธนาคารพาณชิ ยข์ องรัฐในนคร
หลวงเวยี งจันทน์ สปป.ลาว. วารสารศรีนครินทรวิโรฒวิจัยและพฒั นา, 11(2), 148-160.

ศริ ิชัย พงษ์วิชัย. (2556). การวิเคราะหข์ ้อมลู ทางสถิติดว้ ยคอมพวิ เตอร์. กรุงเทพฯ:
บรษิ ัท ว.ี พรน้ิ ท์ (1991) จากดั .

สุวสิ า พลายแกว้ , พฒั น์ พิสษิ ฐเกษม และ อัมพล ชูสนุก. (2561). อทิ ธพิ ลของการสนบั สนุนจาก
องคก์ าร การใหอ้ านาจเบด็ เสรจ็ เชงิ จติ วิทยา และความยตุ ธิ รรมในองค์การต่อความยดึ ม่ัน
ผกู พนั ในงาน ความพงึ พอใจในงาน และผลการปฏิบตั ิงานของบคุ ลากรมหาวทิ ยาลัยราช
ภฏั กลุม่ รัตนโกสินทร์. วารสารสาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตรแ์ ละศิลปะ มหาวิทยา
ศิลปากร, 11(1), 2,958-2,974.

อรรถเดช อุณหเลขกะ และ อสิ ระ บุญญะฤทธ.ิ์ (2563). ลกั ษณะริเริ่มแบบผ้ปู ระกอบการและผล
การปฏิบัติงานของผ้แู ทนยา : อิทธิพลสอื่ ทมี่ ีตวั แปรปรับของการรบั รภู้ าวะผู้นาการ
เปลยี่ นแปลง. วารสารการพัฒนาทรัพยากรมนุษยแ์ ละองค์การ, 11(1), 59-83

อสั นีภรณ์ อรรถพิธ และ ศยามล เอกะกุลานันต์. (2561). อิทธิพลของบุคลิกภาพเชิงรุก วฒั นธรรม
องคก์ ารและความยดึ ม่ันผูกพนั ในงาน ท่มี ตี ่อผลการปฏิบตั ิงานของพนกั งานระดับ
ปฏบิ ัตกิ ารเจเนอเรช่นั วาย บรษิ ทั ผลิตช้ินสว่ นยานยนต์. วารสารมหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร,
38(5), 60-79.

15

การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

เอมชรีอรณ์ ธรรมธรี ์สุทธา. (2560). ความสัมพันธร์ ะหวา่ งวัฒนธรรมการบรหิ ารแบบญป่ี ่นุ กับ
ประสิทธภิ าพการปฏิบัติงานของพนกั งานองคก์ รเอกชนในนคิ มอุตสาหกรรมอมตะนคร
จงั หวดั ชลบรุ ี. (สารนพิ นธป์ รญิ ญามหาบัณฑิต, สถาบนั เทคโนโลยีไทย-ญ่ปี นุ่ .)

เอมอร จนั ทบลู ย์ และ บญุ ญาดา นาสมบูรณ.์ (2560). ภาวะผูน้ าและการบรหิ ารทรพั ยากรมนุษย์
ส่งผลต่อความผูกพันตอ่ องค์กร กรณีศกึ ษา ไดเชล กรุป๊ (ประเทศไทย). ในงานประชมุ
วิชาการระดับชาติ RTBEC คร้งั ท่ี 4 The 4th RMUTT Global Business and
Economic Conference 2018. (น.159-170). กรงุ เทพฯ: คณะบรหิ ารธรุ กจิ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี.

Byrne, B. M. (2001). Multivariate applications book series. structural equation
modeling with Amos: Basic concepts, applications, and programming.
Mahwah, NJ: Lawrence Erlbaum associates publishers.

Guo, Y., Du, H., Xie, B. & Mo, L. (2017). Work Engagement and Job Performance: The
Moderating Role of Perceived Organizational Support. Anales De Psicologia
Journal, 33(3), 708-713.

Jurgita, L.Z., Leva, U., Rita, R.B. (2018). From Psychosocial Working Environment to
Good Performance: The Role of Work Engagement. Baltic Journal of
Management, 13(2), 236-249.

Kline, R.B. (2011). Principles and practice of structural equation modeling (3rd
Edition). New York: The Guilford Press.

Motowidlo, S.J. (2003). Job performance. In Walter C. Borman, Daniel R. Ilgen, Richard
J Klimoski, Irving B. Weiner (Ed.) Handbook of psychology. volume 12
Industrial and organizational psychology. Canada: John Wiley & Sons, inc.

Ouchi, W.G. (1981). How American business can meet the Japanese
challenge. New York: Adison-Wesley publishing.

Schaufeli, W.B., Martnez, I.B., Pinto, A.M., Aalanova, M. & Bakker, A.B. (2002). (2002).
Burnout and engagement in university students a cross-national study.
Journal of cross-cultural psychology, 33(5), 464-481.

Yamane, T. (1967). Taro statistic: an introductory analysis. New York: Harper & Row.

16

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

แนวทางในการดาเนนิ งานของธรุ กจิ รา้ นอาหารในช่วงสถานการณโ์ ควิด 19
เกาะลา้ น จังหวัดชลบุรี

พิชญา ชิโนดม1
อาจารย์ประจาสาขาวชิ าการจดั การ โครงการจดั ต้ังคณะพาณิชยศาสตรแ์ ละบรหิ ารธุรกิจ

มหาวทิ ยาลัยบรู พา

ทกั ษญา สงา่ โยธิน
อาจารย์ประจาสาขาการพฒั นาองคก์ รและการจดั การสมรรถนะของมนษุ ย์

วทิ ยาลัยพาณิชยศาสตร์ มหาวิทยาลยั บรู พา

บทคัดย่อ
การศึกษาคร้ังนี้ มีวตั ถปุ ระสงค์เพ่อื ศกึ ษา 1) ส่วนประสมทางการตลาดบริการที่ส่งผลต่อการ
ดาเนินการของธุรกิจร้านอาหารในเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี 2) แนวทางการดาเนินการของธุรกิจ
รา้ นอาหาร ระหวา่ งสถานการณ์ โควดิ -19 โดยใช้วธิ กี ารวิจัยแบบผสมผสาน เริ่มจากการวิจัยเชงิ ปริมาณ
กลุ่มตัวอย่างคือผู้ที่เคยใช้บริการร้านอาหารในเกาะล้าน 400 ราย แบบสอบถามถูกใช้ในการรวบรวม
ข้อมูล เพื่อนามาวิเคราะห์ขอมูลเชิงพรรณนา ไดแก ความถี่ รอยละ คาเฉล่ีย และสวนเบี่ยงเบน
มาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมานที่ใช ไดแก การวิเคราะหการถดถอยพหุคูณ จากน้ันจึงทาการวิจัยเชิง
คุณภาพ โดยมีกลุ่มตัวอย่างคือผู้ประกอบการร้านอาหารบนเกาะล้าน 6 ราย ด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก
ทาการจัดระเบียบข้อมูล วิเคราะห์และสรุปผลด้วยเทคนิค Content Analysis จากนั้นนาข้อมูลท้ังเชงิ
ปริมาณและเชิงคุณภาพมาอภิปรายผลร่วมกัน ผลการศึกษาเชิงปริมาณพบว่าเม่ือทดสอบสมมติฐาน
แลว้ มีตวั แปรอิสระของปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดของการบริการทม่ี ีอิทธิพลต่อการพยากรณ์และ
ส่งผลต่อตัวแปรตาม ความพึงพอใจและการกลับมาใช้บริการซ้า จานวน 4 ตัวแปรคือ ด้านสถานที่จัด
จาหนา่ ย ดา้ นการส่งเสริมทางการตลาด ดา้ นลักษณะทางกายภาพและด้านการให้บริการ ซ่ึงสอดคล้อง
กับผลการศึกษาเชิงคุณภาพท่ีผู้ประกอบการให้ความสาคัญในเรื่องของสถานที่จัดจาหน่าย การทาการ
สง่ เสรมิ การขาย การเตรยี มความพรอ้ มทางด้านกายภาพและคุณภาพการให้บรกิ าร

คาสาคัญ: ธุรกิจร้านอาหาร สว่ นประสมทางการตลาด โควิด-19

1 อาจารยป์ ระจาสาขาวชิ าการจัดการ โครงการจดั ตง้ั คณะพาณิชยศาสตรแ์ ละบริหารธรุ กจิ มหาวิทยาลยั บูรพา
ต.วัฒนานคร อ.วฒั นานคร จ.สระแก้ว 27160 หมายเลขติดตอ่ : 086-169-9168 อีเมล: [email protected]

การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

THE GUIDELINE OF THE RESTAURANT BUSINESS DURING
THE COVID-19 SITUATION, KOH LARN, CHONBURI

Pitchaya Chinodom1
Lecturer at Department of Management, Faculty of Commerce and Business Administration

Burapha University

Taksaya Sangayotin
Lecturer at Department of Organization Development and Human Capability Management

Graduate School of Commerce, Burapha University

Abstract
The study objective to study 1) Service marketing mix that effect to restaurant
business operations in Koh Larn, Chonburi 2) The operation guidelines of restaurant
business in Koh Larn, Chonburi during the COVID-19 situation. Mixed method research is
used. First, the sample of quantitative method are the persons who used the restaurant
service at Koh Larn- 400 samples. Data were collected by the questionnaires. Data
analysis consisted of descriptive statistics: frequency, percentage, mean and standard
deviation and inferential statistics: Multiple Regression Analysis. The in-depth interview
is used for qualitative method with the 6 restaurant operators at Koh Larn. Data were
collected and analyzed by content analysis technique. Both data were combine to find
the final result. The quantitative method result revealed that when the hypothesis was
tested, there were independent variables of the marketing mix factor of the service that
influenced the forecast and affected the dependent variables- satisfaction and repeat
service. There are 4 variables: place, promotion, physical and process. The result is
consistent with the qualitative method that the restaurant operators pay attention to
distribution place, promotion, physical preparation and service quality.

Keywords: Restaurant Business, Service Marketing Mix, Covid-19

1 Corresponding Author: Lecturer at Department of Management, Faculty of Commerce and
Business Administration, Burapha University Contact Number: +6686-169-9168 Email: [email protected]

18

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

บทนา
อุตสาหกรรมภาคบริการที่มีความสาคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ

ธรุ กจิ ร้านอาหารท่มี ีมูลรว่ มคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4.7 ของภาคบริการท้ังหมดของผลิตภัณฑ์มวลรวมใน
ประเทศ (GDP ภาคบริการ) การขยายตัวของธุรกิจร้านอาหารในช่วง 4 – 5 ปีที่ผ่านมา เกิดจากการ
ลงทุนขยายสาขาของผู้ประกอบการ รวมไปถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคท่ีเปลี่ยนไป โดยมีการใช้จ่ายเพื่อ
คุณภาพอาหารและความสะดวกสบายที่มากขึ้น ขณะเดียวกันการแข่งขันท่ีรุนแรงทาให้เกิดการ
หมุนเวียนเปิด-ปิดกิจการท้ังเก่าและใหม่เช่นกัน จากผลจากการลงทุนอย่างต่อเนื่องของผู้ประกอบการ
รวมถึงตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติท่ีมีการขยายตัวอยู่บ้าง ทาให้ธุรกิจร้านอาหารในปี 2563 ยังคง
สามารถเติบโตได้อยู่ (ศูนย์วิจัยกสิกรไทย, 2563) แต่การขยายตัวดังกล่าวเป็นการขยายตัวในอัตราท่ี
ชะลอตัวลง เน่ืองจากยังมีความท้าทายรอบด้านที่ต้องเผชิญ ซ่ึงสร้างแรงกดดันอย่างมากให้แก่
ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะอย่างย่ิงกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารขนาดกลางและเล็ก ท่ีต้องพยายาม
ประคองตัวจากปัจจัยแวดล้อมทางธุรกิจท่ีเข้มข้นมากขนึ้ เชน่ การแข่งขันทีร่ ุนแรง ตน้ ทนุ ธรุ กิจท่ีสูงขึ้น
การเขา้ มาทาตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ สง่ ผลให้เกิดแรงกดดันต่อทั้งผู้ประกอบการรายเดมิ และ
รายใหม่ที่กาลังจะเข้ามา ลงทุน ส่วนปัจจัยต้นทุนรอบด้านของธุรกิจร้านอาหารสูงข้ึนชัดเจนจากหลาย
ปัจจัย

สถานการณ์โรคระบาด COVID-19 น้ันเป็นหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับธุรกิจร้านอาหาร
โดยตรง โดยเฉพาะการนั่งรับประทานอาหารในร้าน ซ่ึงผู้บริโภคเริ่มระมัดระวังตัวมากข้ึน ส่งผลให้การ
เดินทางออกไปรับประทานอาหารที่ร้านน้อยลง และปจั จัยในเรือ่ งของการดาเนนิ งาน ได้แก่ รายได้ การ
บรหิ ารงาน เงนิ ทนุ สารอง พนกั งานเเละการปรับปรงุ ร้านใหม่ใหม้ ีความปลอดภยั เพ่ือรองรับพฤติกรรม
ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในยุค New Normal รวมถึงตัองปรับกลยุทธ์ไปมุ่งให้บริการเดลิเวอรี่มากข้ึน (สิริ
ทิพย์ ฉลอง, 2563) เเต่ก็ไม่สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตของผู้คนได้ท้ังหมด เม่ือบรรยากาศใน
ร้านอาหารยังคงเป็นเสน่ห์สาคัญ โดยเฉพาะร้านอาหารตามสถานที่ท่องเที่ยวมีจุดเด่นอยู่ที่บรรยากาศ
การตกแตง่ ร้านและการบริการ ซ่ึงเปน็ วัฒนธรรมการทานอาหารที่ได้พบปะพูดคุย สังสรรค์กับเพ่ือนและ
ครอบครวั

นอกจากนี้ ธุรกิจร้านอาหารโดยภาพรวมยังได้รับผลกระทบทางอ้อม จากกาลังซ้ือของ
ประชาชนในประเทศท่ีลดลงอย่างรวดเรว็ เน่ืองจากธุรกจิ ท่ีเกีย่ วพนั กับภาคการท่องเท่ียวหยุดชะงักและ
เกิดการลดการจ้างงาน ส่งผลให้คนจานวนมากขาดรายได้กระทันหันและทาให้ต้องประหยัดหรือ
ระมัดระวังการใช้จ่ายมากกว่าเดิม ซึ่งส่ิงท่ีต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดคือ ผลกระทบเป็นลูกโซ่จาก
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เพราะคาดว่ายอดขายของธุรกิจร้านอาหาร และการเข้า-
ออกของผู้ประกอบการในตลาดจะได้รับแรงกดดันอย่างมีนัยสาคัญ จากสถานการณ์การระบาดของโค
วิด 19 ที่ดีข้ึน ทาให้ภาครัฐมีนโยบายผ่อนปรนให้ภาคธุรกิจบางส่วนสามารถกลับมาเปิดทาการได้และ
หนึ่งในธุรกิจที่ได้รับการผ่อนปรนเป็นกลุ่มแรก คือ ร้านอาหารท่ีไม่ได้ต้ังอยู่ในห้างสรรพสินค้า ทั้งน้ีการ

19

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

ทยอยให้เปิดทาการ โดยมีการจัดทาคู่มือให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตราการผ่อนปรนกิจการและ
กิจกรรม เพื่อป้องการการระบาดของโรคของโควิด 19 เพือ่ ให้ท้ังผใู้ ห้บรกิ ารและผู้ใช้บริการสามารถเป็น
แนวทางในการปฏิบัติได้ (ศูนย์ข้อมูลข่าวสารด้านเวชภัณฑ์ กระทรวงสาธารณสุข, 2563) แม้จะทาให้
ธุรกิจร้านอาหารท่ีเน้นการน่ังทานในร้าน มีโอกาสกลับมาสร้างรายได้ แต่ภายใต้สภาวะแวดล้อมท่ี
เปล่ียนแปลงไปโดยเฉพาะการที่ผู้บริโภคยังมีความกังวลต่อโควิด-19 จึงทาให้บรรยากาศของธุรกิจ
ร้านอาหารยงั ไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประกอบกับปัจจัยกดดันด้านเศรษฐกิจและกาลงั ซื้อที่ลดลง ยิง่ ทา
ให้ธรุ กิจร้านอาหารหลงั โควิด-19 มคี วามท้าทายอย่างมาก

เกาะลา้ นเป็นหน่ึงในสถานที่ท่องเท่ยี วท่ีได้รับความนิยมจากนักทอ่ งเท่ียวเปน็ จานวนมาก ซึ่ง
เกาะลา้ น เปน็ แขวงหน่ึงในเมืองพัทยา จังหวดั ชลบุรี โดยเปน็ เกาะขนาด 4.7 ตารางกโิ ลเมตร กลางอ่าว
ไทย มีเกาะครกและเกาะสากเป็นบริวาร ใน พ.ศ. 2562 มีประชากร 2,958 คน และอยู่ห่างจากเมือง
พัทยาเพียง 7.5 กิโลเมตร (องค์การบริหารการพฒั นาพื้นท่ีพิเศษเพ่ือการทอ่ งเที่ยวอย่างย่งั ยืน, 2563) มี
ชอ่ื เสยี งจากการเปน็ แหล่งทอ่ งเท่ียวทางทะเลใกล้ พัทยา และธรุ กจิ รา้ นอาหารที่เกาะล้าน ส่วนใหญ่เป็น
ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ท่ีสร้างรายได้ให้กับ ชุมชนและท้องถ่ินจากการจัดซ้ือวัตถุดิบและการ
จ้างงาน ภาพรวมธุรกิจร้านอาหารปี 2563 ได้รับผลกระทบเป็นอย่างยิ่งสาหรับผู้ประกอบการ SME
เพราะนอกจากจะเผชิญกับพิษเศรษฐกิจที่ไม่เอื้อต่อการลงทุน เนื่องจากการ ชะลอตัวตามภาวะ
เศรษฐกิจโลกและปัญหาภัยแล้งท่ีกดดันกาลังซ้ือครัวเรือนแล้ว ยังถูกผลกระทบอย่างหนักจากการ
ระบาดของโรคโควิด-19 ต้ังแต่ต้นปี 2563 ท่ีก็ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะยุติลงเม่ือใด ซึ่งผลกระทบ
ทางตรงคือ จานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หายไป (SME Thailand, 2563) กระทบต่อยอดขายของ
กิจการรา้ นอาหารของเกาะล้านทีจ่ าเปน็ ต้อง พ่งึ พาลูกคา้ ชาวต่างชาติและนักท่องเท่ียว

จากเหตุผลดังกล่าว งานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นศึกษาปัจจัยด้านความสามารถในการแข่งขันการ
รบั มอื จากสถานการณ์โควิด 19 และแนวทางในการดาเนินงานของธุรกิจร้านอาหาร ปจั จัยท่มี ผี ลต่อการ
เลือกใช้บริการธุรกิจร้านอาหาร ส่วนประสมการตลาดบริการและสื่อโฆษณที่ส่งผลต่อความต้องการ
ความพึงพอใจในการใช้บริการ ความพึงพอใจในการใช้บริการร้านอาหารและตัดสินใจในการกลับมาใช้
ซ้า เพื่อเป็นการแนวทางในการดาเนินงานของธุรกิจร้านอาหารในช่วงสถานการณ์โควิด 19 แก่
ผ้ปู ระกอบการร้านอาหารในเกาะล้าน จงั หวัดชลบุรี

วัตถุประสงคใ์ นการวิจัย
1. เพอ่ื ศึกษาสว่ นประสมทางการตลาดบริการทสี่ ง่ ผลต่อการดาเนินการของธรุ กิจร้านอาหาร

ในเกาะล้าน จงั หวดั ชลบรุ ี
2. เพ่ือศกึ ษาแนวทางการดาเนนิ การของธุรกิจร้านอาหารในเกาะล้าน จงั หวดั ชลบรุ ี ระหว่าง

สถานการณ์ COVID-19

20

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

กรอบแนวคิดในการวิจยั

วิจัยเชิงคุณภาพ วิจยั เชิงปริมาณ
ตัวแปรต้น
ปจั จัยด้านความสามารถในการแขง่ ขนั การ ส่วนประสมทางการตลาดบริการ
สาหรับธุ ร กิ จบริการ (Kotler &
รบั มอื กบั สถานการณโ์ ควิด 19 และ แนวทางใน Keller, 2016)

การดาเนนิ งานของธุรกจิ ของร้านอาหาร ตวั แปรตาม
ความพึงพอใจและการตดั สินใจของ
1. ปัจจยั ดา้ นความสามารถในการแข่งขัน ผ้บู รโิ ภคและในการกลับมาใช้บริการ
รา้ นอาหารซา้
การรับมือกับสถานการณ์โควิด 19

ภ และแนวทางการปรับตัวในการดาเนิน
ธรุ กจิ

2. ส่วนประสมทางการตลาดสาหรับ

ธุรกิจบรกิ าร

3. ปัจจยั ดา้ นทรัพยากร

3.1 การจดั การวตั ถุดบิ

3.2 การจดั การแรงงาน

3.3 การจดั การเงนิ ทุน

แนวทางในการดาเนินงานของผ้ปู ระกอบการธรุ กจิ รา้ นในสถานการณ์โควิด 19
กรณีศกึ ษา เกาะล้าน จังหวัดชลบรุ ี

ภาพท่ี 1 กรอบแนวคิดในการวิจยั

การทบทวนวรรณกรรม
ทฤษฎีปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดสาหรับธุรกิจบริการ (7Ps) ของ Kotler and Keller

(2016) ประกอบดว้ ย 7 ด้านดงั น้ี
1) ด้านผลิตภัณฑ์ (Product) หมายถึง สินค้าและบริการที่ทาให้ผู้บริโภคเกิดความ

พงึ พอใจ
2) ด้านราคา (Price) หมายถึง มูลค่าของสินค้าและบริการในรูปแบบของเงินและเวลา

หรอื คุณค่าผ้บู รโิ ภครับรู้

21

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

3) ด้านช่องทางการจัดจาหน่าย (Place) หมายถึง สถานที่จัดจาหน่ายสินค้าและบริการ
ใหก้ บั ผ้บู รโิ ภค รวมถงึ วธิ กี ารจาหนา่ ยสินค้า

4) ดา้ นการส่งเสริมทางการตลาด (Promotion) หมายถึง กิจกรรมด้านการสร้างแรงจูงใจ
และการส่อื สารด้านการตลาด รวมถงึ เครือ่ งมอื สื่อสารทางการตลาด

5) ด้านบุคลากร (People) หมายถึง บุคคลท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการการบริการใน
รปู แบบของพนักงาน บคุ คลทีท่ าประโยชน์ใหอ้ งค์กร

6) ด้านกระบวนการ (Process) หมายถึง กระบวนการ ข้ันตอนหรือลาดับของการ
ปฏบิ ัติงานซึง่ มีการกาหนดเป็นแบบแผน เพ่อื สามารถให้บรกิ ารผ้บู ริโภคอย่างถกู ต้อง

7) ด้านกายภาพ (Physical Evidence) หมายถึง สิ่งที่ผู้บริโภคสามารถสัมผัสได้ สถานที่
และสิ่งแวดล้อม

แนวคิดและทฤษฎีเก่ียวกบั การตัดสินใจซื้อสนิ ค้าและบริการ
การตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภคสามารถวิเคราะห์ได้จากด้านจิตวิทยา

(Phycology) ซ่ึง เก่ียวข้องกับพฤติกรมของการตัดสินใจสินค้าและบริการของผู้บริโภคได้โดยสามารถ
แบ่งพิจารณาเป็น 4 ปัจจัย (ศิริวรรณ เสรีรัตน์, 2550) ได้แก่ ความต้องการหรือความจาเป็น แรงจูงใจ
การรับรู้และทศั นะคติ ซ่งึ มีรายละเอียดดังนี้

ความตอ้ งการหรือความจาเปน็ (Need Recognition) ความตอ้ งการซ้ือสินค้าและบริการ
เกิดจาก ความตอ้ งการที่จะต้องใช้สินค้าและบริการนนั้ ๆ ซึ่งเป็นสงิ่ ทข่ี าดไม่ได้คือปัจจัยในการดารงชีวิต
4 ประการ ไดแ้ ก่ อาหาร เครอ่ื งนุ่งห่ม ท่อี ยูอ่ าศยั และยารักษาโรค

แรงจูงใจ (Motivation) เกิดจากการได้รับส่ิงที่มากระตุ้นหรือปลุกเร้าทาให้เกิดความ
ต้องการในการ ซื้อสินค้าและบริการซึ่งลักษณะของแรงจูงใจแบ่งได้ออกเป็น 2 ประการ คือแรงจูงใจ
ภายใน ซ่งึ เป็นส่งิ ท่ีผลักดนั จากภายในตัวบุคคลไมว่ ่าจะเป็นความสนใจ ความตงั้ ใจ ความตอ้ งการ การ
มองเห็นคุณค่าหรือความจาเป็นซ่ึงปัจจัยต่างๆ ดงั กล่าวมีผลต่ออิทธิพลการตัดสินใจค่อนข้างถาวร ส่วน
แรงจูงใจภายนอกเป็นส่ิงที่ผลักดันภายนอกตัวบุคคลที่ได้มากระตุ้นให้เกิดพฤติกรรมอาจจะเป็นสื่อ
โฆษณา หรือการบอกตอ่ จากเพ่อื น ซง่ึ แรงจูงใจมที ่มี าจากหลายสาเหตุ อาจจะมาจากความต้องการ แรง
ขับ หรอื ความควาดหวัง ซ่ึงจะเห็นไดว้ ่าการจงู ใจ ก่อให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่มกี ฏเกณฑ์แน่นอนเนื่องจาก
พฤติกรรมของมนุษย์มีความซับซ้อนแรงจูงใจอย่าง เดียวกันอาจจะทาให้เกิดความต้องการหรือ
พฤตกิ รรมที่แตกต่างกัน

การรบั รู้ (Perception) เกดิ จากการท่ไี ดร้ ับสงิ่ กระตุ้นเพ่ือให้เกิดการรับรู้หรือการจดจาใน
ตราสนิ ค้า หรือการได้รบั ขอ้ มูลข่าวสารจากช่องทางต่างๆและเกิดความต้องการซ้ือ

ทัศนคติ (Attitude) เป็นปัจจัยภายในท่ีเกิดจากความคิดเช่นความรู้ ประสบการณ์
มุมมอง ความเช่ือ หรือความชอบส่วนตัวเป็นต้น ซ่ึงปัจจัยเหล่าน้ีจะทาให้เกิดความต้องการซื้อสินค้า
และบริการ

ระเบียบวธิ กี ารวิจยั
การดาเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน 1) วิเคราะห์เชิงปริมาณ 2) วิจัยเชิงคุณภาพ

โดยมรี ายละเอยี ดดงั น้ี
การวิจัยเชงิ ปรมิ าณ

22

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ประชากรคือนักท่องเท่ียวท่ีเคยใช้บริการร้านอาหารในพื้นท่ีเกาะล้าน จังหวัดชลบุรี
เน่ืองจากในพ้ืนท่ีทาการวจิ ัยมีนักท่องเท่ียวที่เคยใช้บริการเป็นจานวนมากและจานวนไม่แนช่ ัด จึงใช้
แนวคิดของ Taro Yamane ซึ่งกลุ่มตัวอย่างคือ 400 คน ใช้วิธีการสุ่มตามความสะดวก
(Convenience Sampling)

เคร่อื งมือในการวิจัยคอื แบบสอบถาม ซงึ่ แบบสอบถามแบง่ เปน็ 3 ส่วนคือ ข้อมลู ทั่วไป
ของผู้ตอบแบบสอบถาม ปัจจัยทางการตลาดบริการที่ส่งผลต่อการเลือกใช้บริการร้านอาหาร พื้นท่ี
เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี และการประเมินความพึงพอใจโดยรวมต่อการใช้บริการร้านอาหารและการ
กลับมาใช้บรกิ ารซ้า โดยเกบ็ ขอ้ มูลผา่ นทาง QR Code บริเวณท่าเรอื ขาออกจากเกาะล้าน รา้ นอาหาร
ทีเ่ กาะล้าน และผา่ นทางออนไลน์ โดยกระจายข้อมูลใหเ้ ฉพาะผู้ท่ีเคยใช้บริการเทา่ นัน้

การวิเคราะหข์ ้อมลู
1) สถิติเชงิ พรรณา ไดแ้ ก่ คา่ เฉลยี่ ค่าร้อยละ และคา่ เบยี่ งเบนมาตรฐาน
2) สถิติเชงิ อนุมาน ไดแ้ ก่ การวเิ คราะหการถดถอยพหุคูณ

การวิจัยเชิงคณุ ภาพ
ประชากรคือผู้ประกอบการร้านอาหารจานวน 101 ร้าน และมีการสุ่มสัมภาษณ์

ผปู้ ระกอบการรา้ นอาหารแบบเจาะจง
การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้การสัมภาษณ์เชิงลึกเก่ียวกับร้านอาหารในช่วงสถานการณ์

COVID-19 ในการเกบ็ ขอ้ มูล โดยใชว้ ิธีการจดบันทึกและบนั ทกึ เสียงเพื่อรวบรวมข้อมูล โดยใชค้ าถาม
ปลายเปิดซงึ่ ผู้ตอบสามารถแสดงความคดิ เหน็ ได้อยา่ งอสิ ระ

การจัดทาข้อมูลเพื่อวิเคราะห์นั้น มีการทวนคาตอบของผู้ประกอบการโดยใช้วิธี
Reflexivity เพื่อใหเ้ กิดความเขา้ ใจอย่างถูกตอ้ งในขอ้ มูลทีไ่ ด้รับ ทาการจดั ระเบียบข้อมลู โดยใช้เทคนิค
วิเคราะหเ์ นอ้ื หา (Content analysis) และหาขอ้ สรปุ

ผลการวิจัย
ผลการวจิ ัยสามารถสรุปได้เปน็ 3 สว่ นดังน้ี
การวเิ คราะข้อมูลเชิงพรรณนา
1. การวเิ คราะหขอมูลทั่วไปของผูตอบแบบสอบถาม พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามสว่ นใหญ่

เป็นเพศชาย คิดเป็นรอ้ ยละ 57 มีอายุระหวา่ ง 20 – 30 คดิ เปน็ ร้อยละ 47 มีระดบั การศึกษาปรญิ ญา
ตรี คิดเป็นร้อยละ 57 ประกอบอาชีพค้าขายและธุรกิจส่วนตัว คิดเป็นร้อยละ 26 มีความถ่ีในการใช้
บรกิ ารรา้ นอาหาร 1-2 คร้งั คดิ เปน็ รอ้ ยละ 60.75 ครอบครัวมีอิทธพิ ลต่อการตดั สนิ ใจมากท่สี ดุ คิดเปน็
ร้อยละ 31.75 มีการรับร้ตู ราสนิ คา้ ทาง Social Media คิดเป็นรอ้ ยละ 52

2. การวเิ คราะห์ความคดิ เหน็ เกย่ี วกับปจั จัยท่สี ่งผลต่อการเลอื กใช้บริการรา้ นอาหาร
2.1 ด้านผลิตภัณฑ์ ในภาพรวมมีระดับความคดิ เห็นอยูในระดบั มาก ( =3.45) เมือ่

พิจารณาเปนรายขอพบวา ผ้ตู อบแบบสอบถามเห็นดว้ ยวา่ ชือ่ เสียงของรา้ นค้ามีผลต่อการตัดสินใจมาก
ทีส่ ดุ มีระดับความคิดเห็นอยูในระดบั มาก ( =3.66) รองลงมาคอื ความแปลกใหม่ของร้านอาหาร มี
ระดับความคิดเห็นอยูในระดับมาก ( =3.45) รสชาติของอาหารอร่อย มีมาตราฐาน มีระดับความ
คิดเหน็ อยูในระดับมาก ( =3.34) และ ความหลากหลายของรายการอาหาร มีระดบั ความคิดเหน็ อยู
ในระดบั ปานกลาง ( =3.30)

23

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

2.2 ด้านราคา ในภาพรวมมีระดับความคิดเห็นอยูในระดับมาก ( =3.59) เมื่อ
พิจารณาเปนรายขอพบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามเห็นดว้ ยว่าราคาเหมาะกับปรมิ าณมีผลต่อการตัดสินใจ
เลือกใช้บริการมากที่สุด มีระดับความคิดเห็นอยูในระดับมาก ( =3.39) และ ราคาเหมาะสมกับ
คุณภาพ มีระดับความคดิ เห็นอยูในระดับมาก ( =3.38)

2.3 ด้านสถานท่ีจัดจาหน่าย ในภาพรวมมีระดับความคิดเห็นอยูในระดับมาก (
=3.58) เมื่อพิจารณาเปนรายขอพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยวา่ สถานที่สะอาดถูก สุขลักษณะ
มาตราฐาน มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการมากที่สุด มีระดับความคิดเห็นอยูในระดับมาก (
=3.58) รองลงมาคือ สถานที่ตั้งของรา้ นอยใู่ นบรเิ วณที่มีบรรยากาศและวิวทิวทัศน์ท่ีสวยงาม มีระดับ
ความคิดเห็นอยูในระดับมาก ( =3.73) สถานท่ีต้ังของร้านมีบริเวณกว้างขวาง และมีการตกแต่งมมุ
ถ่ายรปู ต่างๆ มีระดบั ความคิดเห็นอยูในระดบั มาก ( =3.56) และ สถานท่ตี ้งั ของร้านใกลก้ ับท่ีพกั มี
ระดบั ความคิดเหน็ อยูในระดับปานกลาง ( =3.22)

2.4 ด้านการส่งเสริมทางการตลาด ในภาพรวมมีระดับความคิดเหน็ อยูในระดับมาก
( =3.45) เม่ือพิจารณาเปนรายขอพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยว่าสิทธิพิเศษที่ได้รับสามารถ
ใช้ได้ง่าย มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการมากท่ีสุด มีระดับความคิดเห็นอยูในระดับมาก (
=3.85) รองลงมาคือ มีการประชาสัมพันธ์เมนูใหม่ๆ โปรโมช่ันหรือข่าวสารผ่านส่ือต่างๆอย่าง
หลากหลาย มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการ มีระดับความคิดเห็นอยูในระดับปานกลาง (
=3.33) และ ความน่าสนใจของโปรโมช่ัน เช่น ระบบบัตรสมาชิกหรอื สะสมแต้ม การจัดโปรแกรมลด
ราคา คา่ อาหาร เป็นตน้ มีระดับความคดิ เห็นอยูในระดับปานกลาง ( =3.18)

2.5 ด้านบุคลากร ในภาพรวมมีระดับความคิดเห็นอยูในระดับมาก ( =3.49) เมื่อ
พจิ ารณาเปนรายขอพบว่า ผ้ตู อบแบบสอบถามเห็นด้วยว่า พนกั งานสามารถให้คาแนะนาเรอื่ งอาหาร
และช่วยเหลือลูกค้าที่มาใช้บริการได้ มีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการมากที่สุด มีระดับความ
คิดเห็นอยูในระดับมาก ( =3.67) รองลงมาคือ พนักงานพูดจาสุภาพ อัธยาศัยดี และมีความ
กระตือรือร้นในการใหบ้ รกิ าร มรี ะดับความคดิ เห็นอยูในระดับมาก ( =3.59) และ พนักงานแตง่ กาย
สุภาพเรยี บร้อย มรี ะดับความคิดเห็นอยูในระดบั ปานกลาง ( =3.21)

2.6 ด้านลักษณะทางกายภาพ ในภาพรวมมีระดับความคิดเห็นอยูในระดับมาก (
=3.68) เมื่อพิจารณาเปนรายขอพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยว่าบริเวณร้านอาหารมีความ
สะอาดมีผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการมากท่ีสุด มีระดับความคิดเหน็ อยูในระดับมาก ( =3.75)
รองลงมาคือ อุปกรณ์หรือภาชนะที่ใช้ในการบริการมีความสะอาด มีระดับความคิดเห็นอยูในระดับ
มาก ( =3.69) และ มีการจัดโต๊ะท่ีเหมาะสมกับขนาดร้านอาหาร มีระดับความคิดเห็นอยูในระดับ
มาก ( =3.60)

2.7 ดา้ นการบรกิ าร ในภาพรวมมีระดบั ความคิดเหน็ อยูในระดับมาก ( =3.66) เมอ่ื
พิจารณาเปนรายขอพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเห็นด้วยว่ามีบริการที่รวดเร็วในการรับออเดอร์และ
จัดเตรียมเครื่องดื่ม มีระดับความคิดเห็นอยูในระดับมาก ( =3.70) และ มีการเสิร์ฟอาหารภายใน
เวลาทีเ่ หมาะสม มรี ะดบั ความคิดเหน็ อยูในระดับมาก ( =3.63)

3. การวิเคราะห์ความพึงพอใจในการใช้บริการร้านอาหารและการกลับมาใช้ซ้า ใน
ภาพรวมมีระดับความคิดเห็นอยูในระดับมาก ( =3.71) เมื่อพิจารณาเปนรายขอพบว่า ผู้ตอบ
แบบสอบถามเห็นด้วยว่าการมีความพึงพอใจต่อสถานท่ีการให้บรกิ ารมีผลต่อการตัดสนิ ใจมากท่ีสดุ มี

24


Click to View FlipBook Version