การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021
อยู่ในระดับน้อย การส่ือสารทางการตลาดด้านโฆษณา ด้านการส่งเสริมการขาย ด้านการให้ข่าวและ
การประชาสัมพันธ์ ด้านการจัดกิจกรรมพิเศษ ด้านการตลาดทางตรงอยู่ในระดับมาก ด้านพนักงาน
ขาย และการตดั สนิ ใจอยูใ่ นระดับมากที่สุด
จึงสามารถสรุปว่า ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อซ้าอาหารเดลิเวอร่ีของผู้บริโภค
ภายใต้วิถีชีวิตปกติใหม่ ระดับการตัดสินใจซ้ือ อิทธิพลการส่ือสารทางการตลาด การรับรู้คุณค่า
ผลิตภัณฑ์ ค่านิยม และรูปแบบการดาเนินชีวิต มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้ออาหารเดลิเวอร่ีซ้าของ
ผู้บริโภคภายใต้วิถีชีวิตปกติใหม่ สามารถนามาใช้ในการวิเคราะห์การตัดสินใจซื้อซ้าอาหารเดลิเวอร่ี
ของผู้บริโภคภายใต้วิถีชีวิตปกติใหม่ และให้ผู้ประกอบการธุรกิจนาไปปรับใช้ เพ่ือเป็นการเพิ่มช่อง
ทางการบรกิ าร ใหส้ อดคล้องกับรปู แบบวถิ ีชวี ิตในปัจจุบนั
สมมตฐิ านการวิจยั
สมมตฐิ านท่ี 1 การสื่อสารทางการตลาด มอี ิทธพิ ลตอ่ ระดบั การตัดสินใจซื้ออาหารเดลิเวอรี่
ซา้ ของผู้บริโภคภายใตว้ ิถีชวี ิตปกติใหม่
สมมตฐิ านที่ 2 การรับรคู้ ุณค่าผลิตภณั ฑ์ มีอทิ ธิพลต่อระดับการตัดสนิ ใจซ้ืออาหารเดลิเวอร่ี
ซา้ ของผ้บู รโิ ภคภายใตว้ ถิ ีชวี ิตปกตใิ หม่
สมมติฐานท่ี 3 ค่านิยม มีอิทธิพลต่อระดับการตัดสินใจซอื้ อาหารเดลิเวอร่ซี ้าของผู้บรโิ ภค
ภายใตว้ ิถชี วี ติ ปกตใิ หม่
สมมติฐานที่ 4 รูปแบบการดาเนินชีวิต มีอิทธิพลต่อระดับการตัดสินใจซอื้ อาหารเดลิเวอร่ี
ซา้ ของผบู้ รโิ ภคภายใต้วถิ ีชีวิตปกตใิ หม่
กรอบแนวคดิ ในการวจิ ัย
ตวั แปรต้น ตวั แปรตาม
การสอ่ื สารทางการตลาด
การรบั รคู้ ุณคา่ ผลิตภัณฑ์ การตดั สินใจซ้ือซา้ อาหารเดลิเวอร่ขี อง
ค่านยิ ม ผบู้ รโิ ภคภายใตว้ ถิ ชี วี ติ ปกตใิ หม่
รูปแบบการดาเนนิ ชีวิต
ภาพท่ี 1 กรอบแนวคิดในการวิจยั
225
การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021
จากภาพที่ 1 กรอบแนวคิด ตัวแปรต้น ประกอบด้วย 1) การสื่อสารทางการตลาด โดย
ประยุกต์ใช้จากแนวคิดของ Blakeman (2018) โดยการใช้เครือข่ายการส่ือสารทางอินเทอร์เน็ต
การตลาดแบบไวรัล (Viral Marking) การจัดกิจกรรมพิเศษ (Event Marketing) และการใช้ผลิตภัณฑ์
เป็นสื่อ (Merchandising) 2) การรับรู้คุณค่าผลิตภัณฑ์ ประยุกต์ใช้จากแนวคิดของ ศิริวรรณ เสรีรัตน์
(2552) ท่ีทาให้ผู้บริโภครู้สึกคุ้นเคย จดจา รับรู้ได้ถึงคุณภาพ ความน่าเช่ือถือ และความปลอดภัย 3)
ค่านิยม ประยุกต์ใช้จากแนวคิดของ มงคล เอี่ยมศรี (2557) โดยการสร้างค่านิยมหรือคุณค่า (Value)
ให้ตรงกับความต้องการ ซ่ึงเป็นผลทางความคิดและพฤติกรรมของบุคคลในสังคมท่ีเห็นว่าเป็นส่ิงท่ีมี
คุณค่า ยอมรับมาปฏิบัติตาม 4) รูปแบบการดาเนินชีวิต โดยประยุกต์ใช้จากแนวคิดของ Sari &
Piddada (2020) โดยวิถีการดาเนินชีวิตเป็นรูปแบบพฤติกรรมท่ีมีผลมากจากสังคมแวดล้อม จะทาให้
ทราบถึงความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคเพ่ือใช้ในการกาหนดรูปแบบการสื่อสารทางการตลาดในการ
สร้างการรับรู้เพ่ือทาให้ผู้บริโภคเกิดการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และในส่วนตัวแปรตาม คอื การตดั สินใจซ้ือ
ซา้ อาหารเดลิเวอรี่ของผู้บริโภคภายใต้วิถีชีวิตปกติใหม่ โดยประยกุ ต์ใช้จากแนวคิดของ Liu, Feng and
Liu (2019) เป็นผลมาจากความความพึงพอใจในบริการของผู้บริโภคท่ีส่งผลต่อตัดสินใจกลับมาใช้
บริการซื้อซ้า อยเู่ สมอจนกลายเปน็ ความจงรักภกั ดี
ระเบียบวธิ ีการวิจัย
การศกึ ษาวิจยั คร้ังนี้ เป็นการศกึ ษาเชิงปริมาณ โดยมีวิธีการดาเนินงานวิจัย ดังนี้
1. ประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ ง
ประชากร คือ ผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จานวน 10,831,988 คน
(สานักงานสถิติแห่งชาติ, 2560)
กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการวิจัย คือ ผู้บริโภคในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ท่ีเคยส่ัง
อาหารเดลิเวอรี่ คานวณกลุ่มตัวอยา่ งโดยใช้สูตรของ Yamane (1967) กาหนดระดับค่าความเชอ่ื ม่นั
รอ้ ยละ 95 และระดบั คา่ ความคลาดเคล่อื นร้อยละ 5 ไดก้ ลุ่มตวั อยา่ ง จานวน 400 คน ใชว้ ิธีการเลือก
สุ่มแบบโควตา (Quota sampling) เพราะผู้วิจัยต้องการจะศึกษากลุ่มตัวอย่าง เป็นการกาหนดกลุ่ม
ย่อยตามท่ีต้องการโดยอาศัยสัดส่วนขององค์ประกอบกลุ่มตัวอย่างท่ีแบ่งออกเป็นจานวนกลุ่มตัวเขต
กรงุ เทพมหานครและปริมณฑล รายละเอยี ดดงั ตารางท่ี 1
ตารางที่ 1 จานวนประชากรและกลุ่มตวั อยา่ งผู้บรโิ ภคในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
เขต จ้านวนประชากร จา้ นวนกลุม่ ตัวอย่าง
กรุงเทพมหานคร 5,682,415 210
นครปฐม 911,492 34
นนทบุรี 1,229,735 45
ปทมุ ธานี 1,129,115 42
สมทุ รปราการ 1,310,766 48
สมุทรสาคร 568,465 21
รวม 10,831,988 400
226
การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021
2. วธิ ีการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างโดยตรง ตาม
สถานที่ต่าง ๆ เชน่ ชุมชน ห้างสรรพสนิ ค้า โดยใชค้ าถามคัดกรองว่าเคยใช้บริการสง่ั อาหารเดลิเวอร์ร่ี
หรือไม่ หากผู้ตอบแบบสอบเคยใช้บริการ โดยผู้วิจัยจะขอความร่วมมือให้ตอบแบบสอบถาม
ดาเนนิ การจนได้แบบสอบถามครบในแตล่ ะพ้ืนท่ี รวมจานวนทัง้ สน้ิ 400 ชดุ
3. เคร่อื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการวิจยั
เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัย ใช้แบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างข้ึน โดยการศึกษาจากแนวคิด
ทฤษฎี และงานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง เครื่องมือแบ่งออกเป็น 7 ส่วน คือ ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตอบ
แบบสอบถาม พฤตกิ รรมผู้บรโิ ภค การส่อื สารทางการตลาด การรบั รคู้ ณุ คา่ ผลิตภัณฑ์ คา่ นยิ ม รูปแบบ
การดาเนนิ ชีวิต และ การตัดสินใจซื้อซ้าอาหารเดลเิ วอร่ขี องผู้บรโิ ภคภายใตว้ ถิ ีชวี ติ ปกตใิ หม่
4. การวเิ คราะห์ขอ้ มูล
งานวิจัยนี้เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพรรณนา ( Descriptive statistics) ซึ่ง
ประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉล่ีย และ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ในข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ตอบ
แบบสอบถาม พฤติกรรมผบู้ ริโภค การส่ือสารทางการตลาด การรับรู้คณุ ค่าผลิตภัณฑ์ ค่านิยม รปู แบบ
การดาเนินชีวิต และการตัดสินใจซ้ือซ้าอาหารเดลิเวอร่ีของผู้บริโภคภายใต้วิถีชีวิตปกติใหม่ และการ
วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงอนุมาน (Inferential Statistics) คือ Multiple Regression เพื่อ
วิเคราะห์สมมติฐานที่ไดต้ ้ังไว้
ผลของการวิจัย
จากการศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม ท่ีเป็นกลุ่มผู้บริโภคในเขต
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ที่เคยใชบ้ ริการสัง่ อาหารเดลเิ วอรี่ จานวน 400 ตวั อยา่ ง พบวา่ ผู้ตอบ
แบบสอบถามส่วนใหญ่ เป็นเพศชาย จานวน 282 คน คิดเป็นร้อยละ 70.5 มีอายุระหว่าง 20-29 ปี
จานวน 159 คน คิดเป็นร้อยละ 39.8 สถานภาพโสด จานวน 246 คน คิดเป็นร้อยละ 61.5 ระดับ
การศึกษา ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า จานวน 231 คน คิดเป็นร้อยละ 57.8 อาชีพพนักงาน
บริษัทเอกชน/รับจ้าง จานวน 221 คน คิดเป็นร้อยละ 55.3 และมีรายได้เฉล่ียต่อเดือน 15,001–
30,000 บาท จานวน 211 คน คิดเป็นร้อยละ 52.8 และพฤติกรรมผู้บริโภค พบว่า ภาพรวม มี
พฤติกรรมผู้บรโิ ภค ดังนั้นชนิดอาหารที่สั่งเดลิเวอรี่ส่วนใหญ่ สั่งอาหารเดลิเวอรช่ี นดิ ข้าว/อาหารตาม
สั่ง จานวน 178 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 39.4 รองลงมา เคร่ืองด่มื /นา้ ปน่ั จานวน 126 คน คิดเปน็ ร้อยละ
27.9 และพิซซ่า จานวน 46 คน คิดเป็นร้อยละ 10.2 การสื่อสารทางการตลาด ภาพรวมผู้ตอบ
แบบสอบถามมีความคิดเห็นเก่ียวกับการส่ือสารทางการตลาดโดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉล่ีย
เท่ากับ 3.85 การรับรู้คุณค่าผลิตภัณฑ์ ภาพรวมผู้ตอบแบบสอบถามมีความคิดเหน็ เก่ียวกบั การรับรู้
คุณค่าผลิตภัณฑ์โดยรวมอยู่ในระดับมากท่ีสุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.88 ค่านิยม ภาพรวมของค่านิยม
โดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉล่ียเท่ากับ 3.86 รูปแบบการดาเนินชีวิต พบว่า ภาพรวมรูปแบบการ
ดาเนินชีวิต โดยรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.12 และการตัดสินใจซ้ือซ้าอาหารเดลิเวอร่ี
227
การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021
ของผู้บริโภคภายใต้วถิ ีชวี ติ ปกตใิ หม่ภาพรวม การตัดสินใจซื้อซา้ อาหารเดลิเวอร่ขี องผบู้ รโิ ภคภายใต้วิถี
ชีวิตปกตใิ หม่โดยรวมอยใู่ นระดับมาก มีคา่ เฉล่ยี เทา่ กับ 4.04
การทดสอบสมมติฐาน
สมมตฐิ านที่ 1 การสื่อสารทางการตลาด มอี ทิ ธพิ ลต่อระดับการตัดสนิ ใจซ้ืออาหารเดลิเวอรี่
ซา้ ของผู้บริโภคภายใต้วิถีชวี ิตปกติใหม่
ตารางที่ 2 แสดงผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Simple regression) เพ่ือศึกษา การสื่อสาร
ทางการตลาด กบั การตัดสนิ ใจซอ้ื อาหารเดลิเวอรี่ซ้าของผ้บู ริโภคภายใต้วถิ ีชีวติ ปกติใหม่
การตัดสนิ ใจซือ้ อาหารเดลิเวอร่ซี า้ ของผบู้ รโิ ภค B SE t Sig.
ภายใตว้ ิถีชีวติ ปกติใหม่
ค่าคงที่ (constant) 3.615 .154 23.429 .000
การสอ่ื สารทางการตลาด (X1) .111 .040 2.801 .005*
R square = 0.019 F = 7.844 Sig = 0.005*
* มีนยั สาคญั ทางสถติ ิทรี่ ะดบั .05
จากตารางที่ 2 พบว่า การสื่อสารทางการตลาด กับการตัดสินใจซื้ออาหารเดลิเวอร่ีซ้า
ของผู้บริโภคภายใต้วิถีชีวิตปกติใหม่ พบว่า มีค่า Sig. น้อยกว่า .05 แสดงว่า ยอมรับสมมติฐาน
หมายความว่า การสื่อสารทางการตลาด มีอิทธิพลต่อระดับการตัดสินใจซ้ืออาหารเดลิเวอร่ีซ้าของ
ผู้บรโิ ภคภายใต้วิถชี ีวติ ปกติใหม่ อยา่ งมีนยั สาคัญทางสถติ ทิ ี่ระดับ .05 ดงั น้ันจงึ สามารถสรุปไดว้ า่ การ
สอ่ื สารทางการตลาด มีอิทธิพลตอ่ ระดบั การตัดสนิ ใจซ้ืออาหารเดลิเวอร่ซี ้าของผู้บริโภคภายใต้วิถีชีวิต
ปกติใหม่ ได้ค่าสัมประสิทธิ์การพยากรณ์เท่ากับ 0.019 (R square = 0.019) ซึ่งแสดงให้เห็นถึง
อิทธพิ ลของตัวแปรอสิ ระท่ีมตี อ่ ตวั แปรตามร้อยละ 1.90 และพบวา่ คา่ B Coefficient เทา่ กับ 3.615
ซงึ่ แสดงให้เห็นถงึ การเปล่ียนแปลงของผลลพั ธ์ ทุก ๆ หนึ่งหนว่ ย
สมมติฐานท่ี 2 การรับรู้คณุ คา่ ผลติ ภณั ฑ์ มอี ทิ ธิพลต่อระดบั การตัดสนิ ใจซอ้ื อาหารเดลิเวอรี่
ซา้ ของผ้บู ริโภคภายใตว้ ิถชี วี ติ ปกตใิ หม่
ตารางท่ี 3 แสดงผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Simple regression) เพ่อื ศึกษาการรับรู้คุณค่า
ผลติ ภณั ฑก์ บั การตัดสินใจซอื้ อาหารเดลเิ วอร่ีซ้าของผู้บรโิ ภคภายใต้วถิ ีชีวิตปกติใหม่
การตดั สินใจซ้ืออาหารเดลเิ วอรซ่ี า้ ของ B SE t Sig.
ผูบ้ ริโภคภายใต้วิถชี ีวิตปกติใหม่
ค่าคงที่ (constant) 3.595 .137 26.156 .000
การรบั รูค้ ุณคา่ ผลิตภณั ฑ์ (X1) .116 .035 3.292 .001*
R square = 0.027 F = 10.835 Sig = 0.001*
* มนี ัยสาคญั ทางสถติ ิทีร่ ะดบั .05
228
การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021
จากตารางท่ี 3 พบว่า การรับรู้คุณค่าผลิตภัณฑ์ กับการตัดสินใจซ้ืออาหารเดลิเวอร่ี
ซ้าของผู้บริโภคภายใต้วิถีชีวิตปกติใหม่ พบว่า มีค่า Sig. น้อยกว่า .05 แสดงว่า ยอมรับสมมติฐาน
หมายความว่า การรับรู้คุณค่าผลิตภัณฑ์ มีอิทธิพลต่อระดับการตัดสินใจซ้ืออาหารเดลิเวอร่ีซ้าของ
ผบู้ รโิ ภคภายใต้วิถชี วี ิตปกติใหม่ อย่างมีนัยสาคญั ทางสถติ ทิ ีร่ ะดับ .05 ดังน้ันจงึ สามารถสรปุ ได้วา่ การ
รบั รู้คณุ คา่ ผลิตภณั ฑ์ มีอทิ ธิพลตอ่ ระดับการตัดสินใจซอ้ื อาหารเดลิเวอรซ่ี า้ ของผู้บรโิ ภคภายใต้วิถีชีวิต
ปกติใหม่ ได้ค่าสัมประสิทธิ์การพยากรณ์เท่ากับ 0.027 (R square = 0.027) ซึ่งแสดงให้เห็นถึง
อิทธพิ ลของตัวแปรอิสระทมี่ ตี ่อตวั แปรตามร้อยละ 2.70 และพบว่า ค่า B Coefficient เท่ากับ 3.595
ซึง่ แสดงให้เหน็ ถงึ การเปลี่ยนแปลงของผลลพั ธ์ทกุ ๆ หนึ่งหน่วย
สมมติฐานท่ี 3 ค่านิยม มีอิทธิพลต่อระดับการตัดสินใจซื้ออาหารเดลิเวอร่ีซ้าของผู้บริโภค
ภายใต้วถิ ีชวี ิตปกตใิ หม่
ตารางที่ 4 แสดงผลการวิเคราะหก์ ารถดถอยพหุคูณ (Simple regression) เพื่อศกึ ษาคา่ นยิ มกับการ
ตดั สนิ ใจซอ้ื อาหารเดลเิ วอร่ีซา้ ของผู้บริโภคภายใตว้ ิถีชีวิตปกตใิ หม่
การตัดสินใจซ้อื อาหารเดลเิ วอร่ซี ้าของ B SE t Sig.
ผู้บริโภคภายใตว้ ิถชี ีวิตปกตใิ หม่
คา่ คงที่ (constant) 3.565 .162 22.000 .000
คา่ นยิ ม (X1) .124 .042 2.977 .003*
R square = 0.022 F = 8.862 Sig = 0.003*
* มีนัยสาคัญทางสถิตทิ ี่ระดับ .05
จากตารางที่ 4 พบวา่ ค่านยิ ม กับการตดั สนิ ใจซือ้ อาหารเดลิเวอร่ซี า้ ของผู้บริโภคภายใต้
วิถชี ีวติ ปกติใหม่ มคี า่ Sig. น้อยกวา่ .05 แสดงว่า ยอมรบั สมมติฐาน หมายความวา่ ค่านยิ ม มอี ิทธพิ ล
ต่อระดับการตัดสินใจซือ้ อาหารเดลิเวอรีซ่ า้ ของผู้บริโภคภายใต้วิถีชีวติ ปกติใหม่ อย่างมีนัยสาคญั ทาง
สถติ ทิ ่รี ะดับ .05 ดงั น้นั จงึ สามารถสรปุ ได้วา่ คา่ นิยม มอี ิทธพิ ลตอ่ ระดบั การตัดสนิ ใจซือ้ อาหารเดลเิ วอ
รี่ซ้าของผู้บริโภคภายใต้วิถีชีวิตปกติใหม่ ได้ค่าสัมประสิทธิ์การพยากรณ์เท่ากับ 0.022 (R square =
0.022) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของตัวแปรอิสระท่ีมีต่อตัวแปรตามร้อยละ 2.20 และพบว่า ค่า B
Coefficient เทา่ กับ 3.565 ซ่ึงแสดงให้เห็นถึงการเปลีย่ นแปลงของผลลพั ธ์ ทุก ๆ หน่งึ หน่วย
สมมตฐิ านที่ 4 รูปแบบการดาเนินชีวิตมีอิทธพิ ลต่อระดับการตัดสินใจซ้ืออาหารเดลิเวอร่ีซ้า
ของผบู้ รโิ ภคภายใต้วถิ ชี ีวติ ปกตใิ หม่
229
การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021
ตารางที่ 5 แสดงผลการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ (Simple regression) เพ่ือศึกษารูปแบบการ
ดาเนนิ ชีวติ กบั การตดั สนิ ใจซ้ืออาหารเดลิเวอรซ่ี ้าของผ้บู รโิ ภคภายใต้วิถชี ีวิตปกติใหม่
การตดั สินใจซ้อื อาหารเดลเิ วอรีซ่ ้าของ B SE t Sig.
ผู้บรโิ ภคภายใต้วถิ ชี ีวิตปกติใหม่
ค่าคงที่ (constant) 2.002 .144 13.921 .000
.035 14.271 .000
รูปแบบการดาเนนิ ชวี ิต (X1) .495 Sig = 0.000*
R square = 0.339 F = 203.675
* มนี ยั สาคญั ทางสถิตทิ รี่ ะดบั .05
จากตารางท่ี 5 พบว่า รูปแบบการดาเนนิ ชวี ิต กับการตดั สนิ ใจซือ้ อาหารเดลิเวอรีซ่ ้าของ
ผู้บรโิ ภคภายใต้วถิ ีชีวติ ปกติใหม่ พบวา่ มคี า่ Sig. น้อยกวา่ .05 แสดงวา่ ยอมรบั สมมติฐาน หมายความ
ว่า รูปแบบการดาเนินชีวิต มีอิทธิพลต่อระดับการตัดสินใจซ้ืออาหารเดลิเวอร่ซี ้าของผู้บริโภคภายใต้
วถิ ีชวี ติ ปกติใหม่ อยา่ งมีนยั สาคัญทางสถิติทร่ี ะดับ .05 ดังน้ันจงึ สามารถสรปุ ได้ว่า รปู แบบการดาเนิน
ชีวิต มีอิทธิพลต่อระดับการตัดสินใจซ้ืออาหารเดลิเวอรี่ซ้าของผู้บริโภคภายใต้วิถีชีวิตปกติใหม่ ได้ค่า
สัมประสิทธิ์การพยากรณ์เท่ากับ 0.339 (R square = 0.339) ซ่ึงแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของตัวแปร
อิสระทมี่ ตี อ่ ตัวแปรตามร้อยละ 33.9 และพบว่า คา่ B Coefficient เทา่ กับ 2.002 ซง่ึ แสดงให้เห็นถึง
การเปลยี่ นแปลงของผลลัพธท์ ุก ๆ หน่ึงหน่วย
อภิปรายผลการวิจยั
จากผลการศกึ ษาสามารถอภิปรายผลไดด้ ังน้ี
1. การส่ือสารทางการตลาด มีอิทธิพลต่อระดับการตัดสินใจซื้ออาหารเดลิเวอร่ีซ้าของ
ผบู้ ริโภคภายใตว้ ถิ ีชวี ิตปกติใหม่ อยา่ งมีนัยสาคัญทางสถิติทรี่ ะดับ .05 แสดงใหเ้ หน็ วา่ การสือ่ สารทาง
การตลาด ของผู้ให้บริการเพื่อสร้างการรับรู้ท่ีประกอบด้วยช่องทางการสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้ ซึ่ง
สอดคล้องกับงานวิจัยของ ชเนศ ลักษณ์พันธ์ุภักดี (2560) พบว่า การแนะนารายการอาหารใหม่ ๆ
การเสนอส่วนสดในการจัดส่งฟรีเม่ือมียอดสั่งซ้อื ถึงจานวนที่กาหนด และส่วนลดค่าอาหารและค่าสง่
ให้กบั ลกู คา้ เกา่ และลกู คา้ ใหมอ่ ยู่เสมอ สง่ ผลตอ่ ใหล้ กู ค้าที่ยังไมเ่ คยสง่ั ซ้อื สามารถตัดสนิ ใจสั่งอาหารได้
ง่ายขึ้นหรอื ลูกค้าท่เี คยใชบ้ รกิ ารแล้วกลับมาใช้บรกิ ารซ้าอกี
2. การรับรู้คุณค่าผลิตภัณฑ์ มีอิทธิพลต่อระดับการตัดสินใจซ้ืออาหารเดลิเวอร่ีซ้าของ
ผู้บริโภคภายใต้วิถีชวี ิตปกติใหม่ อย่างมนี ยั สาคญั ทางสถิติท่ีระดับ .05 แสดงใหเ้ หน็ วา่ การรับรู้คุณค่า
ผลิตภัณฑ์ เป็นกระบวนการท่ีทาใหผ้ ู้บรโิ ภคสามารถเกดิ การรับรู้คุณค่าของผลิตภัณฑ์ ท่ีส่งผลต่อการ
ตัดสินใจซื้อซ้าอาหารเดลิเวอร่ี ได้แก่ ความคุ้นเคย คุณภาพของผลิตภัณฑ์การจดจา ความน่าเชื่อถือ
ความปลอดภัย และการชว่ ยประหยัดเวลา เป็นตน้ รวมถงึ ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือที่ส่งผล
ต่อการตัดสินใจซ้ืออาหารเดลิเวอรี่ซ้าของผู้บริโภค ซ่ึงสอดคล้องกับงานวิจัยของ ยุ่น หนาน ซุน
230
การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021
(2559) พบว่า การรับรู้คุณค่าด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ ส่งผลต่อความต้ังใจซื้อผักและผลไม้ออร์แกนิค
ของผู้บริโภคในกรุงเทพมหานคร
3. คา่ นิยม มีอทิ ธิพลตอ่ ระดับการตัดสนิ ใจซ้ืออาหารเดลเิ วอรซ่ี ้าของผู้บริโภคภายใต้วิถีชีวิต
ปกติใหม่ ของผู้บริโภครวมทั้งแบบอย่างพฤติกรรมทางสังคมท่ีถือว่ามีคุณค่า แบบอย่างพฤติกรรมท่ี
อาจจะเก่ียวข้องกับในการสั่งอาหารเดลิเวอร่ี ค่านิยมจึงส่งผลต่อการตัดสินใจซื้ออาหารเดลิเวอรี่ซ้า
ของผบู้ รโิ ภค ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ เกตุวดี สมบรู ณท์ วี (2561) พบว่า ปจั จัยคา่ นิยมดา้ นสังคม
มีอิทธิพลต่อการรับรู้คุณค่าตราสินค้าผ่านส่ือสังคมออนไลน์มากท่ีสุด รองลงมาเป็นปัจจัยด้าน
สุนทรียภาพ ปจั จยั ด้านวัตถุ และปัจจยั ด้านความจรงิ ตามลาดับ
4. รูปแบบการดาเนินชีวิต มีอิทธิพลต่อระดับการตัดสินใจซ้ืออาหารเดลิเวอร่ีซ้าของ
ผู้บริโภคภายใต้วิถีชีวิตปกติใหม่ ของผู้บริโภคภายใต้วิถีชีวิตปกติใหม่ หรือวิถีชีวิตของผู้บริโภคใน
ปัจจุบันท่ีเปลี่ยนไป ซ่ึงสอดคล้องกับงานวจิ ัยของ วันทนา ประณิธานธรรม (2562) พบว่า ด้วยรูปแบบ
การดาเนินชีวติ ประจาวันที่ตอ้ งการความสะดวกสบาย สง่ ผลให้ผู้บริโภคสว่ นใหญก่ ารตัดสนิ ใจเลือกใช้
บริการส่ังซอื้ ผ่านส่ือสงั คมออนไลน์ทาง Facebook ในการสั่งซอ้ื เบเกอร่ี มากทสี่ ุด
ข้อจา้ กดั ของงานวจิ ยั
สาหรับขอ้ จากดั ของการศึกษาในคร้งั น้ีคือสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของไวรัสโคโรนา 2019
ที่ส่งผลตอ่ การลงพนื้ ที่เก็บรวบรวมขอ้ มูลกับกลุ่มตวั อย่าง จึงทาการเกบ็ ขอ้ มูลมีความยากลาบาก และ
ด้วยพฤติกรรมการใช้ชีวิตของกลุ่มตัวอย่างท่ีมีความเร่งรีบในการดาเนินชีวิต ทาให้ไม่ได้ใส่ใจในการ
อ่านข้อคาถามและทาการตอบแบบสอบถาม ซึ่งอาจจะส่งผลให้ข้อมูลที่เก็บรวบรวมน้ันไม่มี
ประสทิ ธิภาพมากพอสาหรับการศกึ ษาในครง้ั น้ี ทง้ั นหี้ ากมีการศึกษาในประเด็นนี้ในอนาคตควรขยาย
ขอบเขตการศึกษาใหน้ อกเหนือจากเขตกรุงเทพมหานคร
ข้อเสนอแนะส้าหรับงานวิจยั
จากการศึกษาด้านพฤติกรรม ควรมีการนาเสนอรูปแบบการรับข่าวสารเพิ่มขึ้นในทุก
ช่องทาง เช่น Facebook Twitter Line Instagram ท่ีเป็นสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ด้าน
แหล่งขอ้ มูลเก่ียวกับอาหารเดลิเวอร่ี ควรมีจดั ทาข้อมูลของผู้บรโิ ภคถึงความนิยมในการซื้ออาหารเดลิ
เวอร่ี เพ่ือนาข้อมูลที่ได้ไปปรับใช้กับธุรกจิ ต่อไป และเพ่ือให้สินค้าสามารถเข้าไปอยู่ในใจของผู้บรโิ ภค
โนม้ นา้ วใหเ้ กิดพฤติกรรมในการเลอื กใช้ตราสนิ ค้า การสื่อสารทางการตลาด จึงควรขยายการตลาดใน
การส่ือสารทางการตลาด เพื่อให้บริษัทอาหารเดลิเวอรี่มีการให้บริการท่ีครอบคลุมอย่างเป็นระบบ
และชว่ ยให้เกดิ ความสะดวกสบายทงั้ ผู้ให้บริการและผูใ้ ชบ้ ริการ การรบั รู้คุณคา่ ผลิตภัณฑธ์ ุรกิจอาหาร
เดลเิ วอรจ่ี งึ ควรสร้างความรับรู้ในการส่งั อาหารเดลิเวอรี่ วา่ อาหารที่ไดน้ ้นั มีความปลอดภัย นา่ เชื่อถือ
ควรให้เห็นความสาคัญค่านิยมในการส่ังอาหารภายใต้รูปแบบการดาเนินชีวิต ส่งผลต่อระดับการ
ตัดสนิ ใจซ้ืออาหารเดลเิ วอร่ีซ้าของผบู้ รโิ ภคภายใต้วิถชี ีวติ ปกติใหม่
231
การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021
ข้อเสนอแนะสา้ หรบั งานวจิ ยั ในอนาคต
จากผลการศึกษา พบวา่ กลุ่มตัวอยา่ งสว่ นใหญอ่ ยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ซงึ่ จัดอยใู่ นกลุ่มเจ
เนอเรชั่นซี (Gen Z) การวิจัยครั้งต่อไปควรที่จะนาหัวข้อวิจัยท่ีมีลักษณะท่ีคล้ายกับงานวิจัยคร้ังนี้
กลบั มาทบทวนและทาการศึกษาใหมอ่ กี คร้งั โดยทาการศึกษากลุ่มประชากรท่ีอย่ใู นช่วงอายุ 20-29 ปี
หรอื กลมุ่ เจเนอเรชัน่ ซี (Gen Z) เน่ืองจากเปน็ กลุ่มท่ีมรี ูปแบบการดาเนนิ ชีวติ ของพฤติกรรมทีเ่ ข้าถึงสื่อ
สงั คมออนไลนอ์ ย่ตู ลอดเวลา พร้อมเปิดรบั คา่ นิยมด้านสังคม ทม่ี แี นวโนม้ ในการปรบั ทัศนคตไิ ด้ดี เพอื่
ยืนยนั ผลการศกึ ษาทชี่ ัดเจนมากขน้ึ และขอ้ มลู ทไ่ี ด้จะเปน็ ประโยชน์กับผ้ทู ตี่ ้องการนาไปประยกุ ต์ใช้ใน
การทาธุรกิจ และการนาไปเปรียบเทยี บเพ่ือขยายผลการศกึ ษาไดต้ ่อไป
เอกสารอา้ งอิง
เกตุวดี สมบูรณ์ทวี. (2561). อทิ ธพิ ลด้านคา่ นยิ มส่งผลต่อการรับรู้คุณค่าตราสนิ ค้าผ่านส่อื สังคม
ออนไลน์ ของกลุ่ม GEN Y ในเขตพญาไท. Veridian E-Journal, Silpakorn
University,11(2), 1500-1514.
ชเนศ ลกั ษณ์พนั ธ์ุภกั ด.ี (2560). ปจั จยั ทม่ี อี ิทธิพลต่อการตัดสินใจใชบ้ ริการส่ังอาหารแบบเดลิเวอรี่
ผ่านส่ืออิเล็กทรอนิกส์ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล. (วิทยานิพนธ์ปริญญา
มหาบัณฑิต, มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร)์ .
โพสตท์ ูเดย.์ (2563). โอกาสของอาหารและเครื่องดืม่ เพื่อสขุ ภาพ. สบื คน้ จาก
https://www.posttoday.com/finance-stock/columnist/427460
ภัสส์ธีมา วกิ รยั ชยากรู. (2559). คา่ นยิ ม การรบั รู้ด้านคณุ คา่ ผลติ ภณั ฑ์ การรับรู้ความเส่ยี งและการ
ส่อื สารทางการตลาดทมี่ อี ิทธิพลต่อการตดั สินใจซื้อผลิตภณั ฑ์อาหารเสริมเพอ่ื การออก
กา้ ลังกายของผู้บรโิ ภคในจังหวัดสมุทรสาคร. (วิทยานพิ นธ์ปรญิ ญามหาบัณฑิต,
มหาวทิ ยาลยั กรุงเทพ).
มงคล เอยี่ มวงศร.ี (2557). ค่านยิ มทางสงั คมที่ส่งผลต่อพฤตกิ รรมการเลอื กซ้ือสินคา้ ผ่านสื่อสงั คม
ออนไลน์และความตงั้ ใจซอ้ื ซ้าของผบู้ ริโภคในเขตกรุงเทพมหานคร. (วทิ ยานพิ นธ์
ปรญิ ญามหาบณั ฑิต, มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร)์ .
ย่นุ หนาน ซุน. (2559). การรบั รู้คุณค่าทีส่ ่งผลต่อความตั้งใจซ้อื ผกั และผลไม้ออร์แกนิคของ
ผู้บรโิ ภคในเขตกรุงเทพมหานคร. (วทิ ยานิพนธ์ปริญญามหาบณั ฑติ , มหาวทิ ยาลยั
กรงุ เทพ).
ระววิ รรณ เวยี งตา. (2560). การรบั รคู้ ณุ ค่าผลิตภัณฑค์ วามพงึ พอใจในการส่งเสริมการขายและ
ค่านิยมทีส่ ง่ ผลต่อการตัดสนิ ใจใชบ้ ริการส่งั อาหารผา่ นแอปพลเิ คชัน Grab (Grab
Food). (การค้นคว้าอิสระปรญิ ญามหาบณั ฑิต, มหาวทิ ยาลัยกรุงเทพ).
วันทนา ประณธิ านธรรม. (2562). ปจั จัยส่วนประสมทางการตลาดทีม่ ีความสมั พนั ธต์ ่อการตัดสินใจ
ซ้ือซ้าของธรุ กจิ เบเกอร่ผี า่ นสือ่ สังคมออนไลนใ์ นเขตกรุงเทพมหานครและปรมิ ณฑล.
กรุงเทพฯ: ศูนยก์ ารวิจยั แหง่ ชาต.ิ
ศริ ิวรรณ เสรีรตั น.์ (2552). การบรหิ ารการตลาด. กรงุ เทพฯ: พัฒนาศึกษา.
232
การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021
สานกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ. (2561). สถิตปิ ระชากรศาสตร์ ประชากรและเคหะ: จา้ นวนประชากรจาก
การทะเบียน จา้ แนกตามอายุ เพศ และจังหวัด พ.ศ. 2560. สบื คน้ จาก
http://statbbi.nso.go.th/staticreport/page/sector/th/01.aspx
องค์การพิพธิ ภณั ฑ์วิทยาศาสตรแ์ หง่ ชาต.ิ (2563). อาหารเดลิเวอรี (Delivery) ทปี่ ลอดภยั ห่างไกล
จาก COVID-19. สืบค้นจาก http://www.nsm.or.th/other-service/664-อาหาร
เดลเิ วอร(ี Delivery)ท่ปี ลอดภัยหา่ งไกลจากCOVID-19.html
Blakeman, R. (2018). Integrated marketing communication: creative strategy from
Idea to implementation. Lanham: Rowman & Littlefield.
Liu, Z., Feng, J., & Liu, B. (2019). Pricing and service level decisions under a sharing
Product and consumers’ variety-seeking behavior. Sustainability, 11(24),
6951.
Meacock, H. F., Garforth, F. A., & Shrubsall, R. G. (1962). The luminance factor of
smoked magnesium oxide at small angles of view. Journal of Scientific
Instruments, 39(7), 384.
Nuttachit. (2563). สง่ั อาหารออนไลน์ ถูกเร่งการเติบโต ดว้ ย Social Distancing อยากสบาย ๆ
และโปรโมช่นั สว่ นลด. สืบค้นจาก https://marketeeronline.co/archives/154204
Raoofi, A., Takian, A., Sari, A. A., Olyaeemanesh, A., Haghighi, H., & Arabi, M. (2020).
COVID-19 pandemic and comparative health policy learning in Iran.
Archives of Iranian medicine, 23(4), 220-234.
Yamane. (1967). Taro statistic: An introductory analysis. New York: Harper & row.
233
การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021
ปจั จัยการตลาดท่มี อี ทิ ธพิ ลต่อพฤตกิ รรมการบรโิ ภคผักไฮโดรโปนิกส์
ของผู้บริโภคในจังหวัดปทุมธานี
ชินดนัย ใยไข1่
นกั ศกึ ษาปรญิ ญาตรหี ลักสูตรบรหิ ารธรุ กจิ บัณฑิต คณะบรหิ ารธรุ กิจ
มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี
ณฐั พงษ์ สีบุญเรือง
อาจารยป์ ระจาสาขาวชิ าการตลาด คณะบรหิ ารธรุ กิจ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี
บทคดั ยอ่
การวิจัยครงั้ นี้มวี ัตถุประสงค์เพ่ือศึกษา 1) ขอ้ มูลท่ัวไปของผู้บริโภค 2) ปจั จยั ทางการตลาด
ทม่ี อี ทิ ธิพลต่อพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ของผู้บริโภค 3) พฤติกรรมการบริโภคผกั ไฮโดรโป
นิกส์ และ 4) ประโยชน์ที่ได้จากการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ จากกลุ่มตัวอย่าง 400 รายโดยใช้
แบบสอบถาม สถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์ คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน การทดสอบ
คา่ เฉลีย่ 2 กลุม่ ตัวอยา่ งแบบอิสระตอ่ กัน การวเิ คราะห์ความแปรปรวนทางเดยี ว, Chi-Square และ ค่า
สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน ผลการศึกษา พบว่า 1) โดยส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงร้อยละ 77.5 มี
อายุ 20-30 ปี ร้อยละ 93.3 มีรายได้ 9,001-18,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 42.5 มีอาชีพนักเรียน/
นักศึกษาคิดเป็นร้อยละ 62.5 การศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่าร้อยละ 65 สถานภาพโสดร้อยละ
89.2 จานวนสมาชิกในครอบครัว 4 คนต่อครอบครัวคิดเป็นร้อยละ 33.3 2) ปัจจัยทางการตลาดด้าน
ผลติ ภัณฑร์ วมมคี ่าเฉลยี่ 4.42 (S.D.=.576) ด้านราคารวมมคี ่าเฉลี่ย 4.36 (S.D.=.570) ด้านชอ่ งทางการ
จัดจาหน่ายรวมมีค่าเฉล่ีย 4.43 (S.D.=.517) และ ด้านการส่งเสริมการตลาดรวมมีค่าเฉล่ีย 4.35
(S.D.=.574) 3) พฤติกรรมการบริโภคโดยบุคคลในครอบครัวมีส่วนสาคัญที่สุดในการเลือกคือร้อยละ
83.3 นิยมทานผักกรีนโอ๊ค ร้อยละ 78.3 เหตุผลที่ตัดสินใจเพราะความสด สะอาด ปลอดภัยคิดเป็น
4.59 (S.D.=.614) ทาน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์คิดเป็นร้อยละ 45.8 และ 4) ประโยชน์ท่ีได้รับจากการ
บริโภครวมคือ 4.50 (S.D.=.545) นอกจากน้ียังพบว่า เพศแตกต่างกันมีพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดร
โปนิกส์ ในด้านเหตุผลที่ตัดสินใจบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ ปริมาณในการซื้อผักไฮโดรโปนิกส์ และ
ประโยชนห์ ลังการบริโภคผักไฮโดรโปนกิ ส์ทไ่ี ด้รับแตกต่างกนั อย่างมนี ยั สาคญั ทางสถิติทรี่ ะดับ .05
คาสาคัญ: ปจั จัยทางการตลาด พฤติกรรมการบริโภค ผกั ไฮโดรโปนิกส์ จงั หวดั ปทุมธานี
1 นกั ศกึ ษาปริญญาตรีหลกั สูตรบรหิ ารธุรกจิ บัณฑิต คณะบรหิ ารธรุ กจิ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี
ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทมุ ธานี 12110 หมายเลขติดต่อ: 098-187-6058 อเี มล: [email protected]
การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021
THE MARKETING FACTORS THAT EFFECT TO CONSUMER’S BEHAVIOR
OF HYDROPONICS VEGETABLE IN PATHUMTHANI PROVINCE
Chindanai Yaikhai1
Undergraduate Students, Bachelor of Business Administration, Faculty of Business Administration
Rajamangala University of Technology Thanyaburi
Nattapong Sibunrueng
Lecturer at Department of Marketing, Faculty of Business Administration
Rajamangala University of Technology Thanyaburi
Abstract
The objectives of this research are 1) to study the general information of
consumers 2) to study of market factors influencing consumer hydroponics
consumption habits, 3) to study the consumption behavior of hydroponic vegetables,
and 4) to study the benefits obtained from the consumption of hydroponic vegetable
from 400 people by questionnaires. The statistics used for the analysis were
percentage, mean and standard deviation, t-test, F-test, Chi-Square and Pearson
Correlation. The study found that 1) Female, 77.5 Percent, age 20-30 years=93.3
Percent, income, 9.001-18,000 baht=42.5 Percent, occupation, student=62.5 Percent,
education, bachelor degree=65 Percent, single=89.2 Percent and there are 4 people
per family=33.3 Percent 2) product factors=4.42 ( S.D.=.5 7 6 ) , price factors=4 . 3 6
(S.D.=.570), place factors=4.43 (S.D.=.517) and promotion factors=4.35 (S.D.=.574) 3)
family members were the most important person=83.3 Percent, like to choose green
oak=78.3 Percent, the decision-making reasons were fresh, clean and safety= 4 . 5 9
(S.D.=.614) and 2-3 time per week=45.8 Percent and 4) the benefits received from
total consumption=4.50 (S.D.=.545). It was also found that different sexes behaved in
hydroponic vegetable consumption. On the reasons for deciding to consume
hydroponic vegetables The amount of hydroponics purchased and the benefits after
consumption of hydroponic vegetables received varied statistically significantly at a
level of .05.
Keywords: Marketing Factors, Consumer Behavior, Hydroponics Vegetable, Pathumthani
Province
1 Corresponding Author: Undergraduate Students, Bachelor of Business Administration
Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Thanyaburi
Contact Number: 098-1876058 Email: [email protected]
235
การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021
บทนา
ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและระบบการแพทย์ทดี่ ีขึน้ ทาให้แนวโน้มการดูแลสุขภาพ
ไมใ่ ชเ่ ร่ืองยากอีกต่อไป ดงั นนั้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกท่ีประชากรโลกในยุคปัจจุบันจะสูงกว่าคนในสมัยก่อน
ส่งผลให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่และมีเวลาในการทาสิ่งต่าง ๆ ตามที่ได้ต้ังเป้าหมายไว้ได้มาก
ขึ้น ซึ่งประกอบด้วยอาหาร เช่น อาหารคลีน อาหารคีโต ถัดมาคือยาและอาหารเสริม และสุดท้ายคือ
ความงาม เช่น เทรนด์การชะลอวัย และเทคโนโลยีสเต็มเซลล์ เป็นต้น (Krungsri Plearn Plearn,
2020, online) โดยตลาดที่มกี ารบริโภคอาหารเพ่ือสุขภาพน้นั เติบโตขึน้ อย่างต่อเนื่อง ซง่ึ กลุ่มเปา้ หมาย
อาหารเพื่อสุขภาพ ประกอบด้วย กลุ่มผู้รักสุขภาพ กลุ่มท่ีต้องการร่างกายแข็งแรงและมีรูปร่างดี และ
กลุ่มผู้สูงอายุ (เกษตรทากิน, 2562) ซึ่งผักไฮโดรโปนิกส์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกท่ีดีต่อสุขภาพของคนใน
ปจั จุบัน อกี ทั้งหากผ้ปู ระกอบการทราบความจาเป็น ความต้องการ และความพงึ พอใจรวมถึงพฤติกรรม
ตา่ ง ๆ ของผบู้ ริโภคย่อมส่งผลต่อยอดขาย กาไร และแนวทางการเติบโตของธรุ กิจ
จงั หวดั ปทุมธานีเป็นถ่นิ ฐานบ้านเมืองนับตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุง
ศรอี ยธุ ยามาแลว้ ไมน่ ้อยกว่า 300 ปี และเมื่อเดือน 11 พุทธศกั ราช 2538 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศ
หล้านภาลัยฯ พระราชทานนามเมืองสามโคกเสียใหม่ว่า “เมืองประทุมธานี” (สานักเทคโนโลยีการ
สารวจและทาแผนท่ี กรมพัฒนาท่ีดิน, 2562, น. 8) นอกจากนี้ปทุมธานียังเป็นพื้นที่ชุมชนท่ีสาคัญ มี
เนื้อที่ราว 457.99 ตารางกิโลเมตร หรือ 286,244 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 30.14 ของพ้ืนที่จังหวัด
ประกอบด้วย ตัวเมือง ย่านการค้า หมู่บ้านจัดสรร หมู่บ้านบนพ้ืนราบ สถานที่ราชการ สถาบันต่าง ๆ
สถานท่ีพักผ่อนหย่อนใจ รีสอร์ท และโรงแรม (สานักเทคโนโลยีการสารวจและทาแผนที่ กรมพัฒนา
ที่ดิน, 2562, น. 13) แม้จังหวัดปทุมธานีไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศแต่ก็นับว่ามีความสาคัญและยังมี
พน้ื ท่ที างการเกษตรและพื้นท่ีชุมชน ทบั ซ้อนกนั อยู่เปน็ จานวนมาก การศึกษาเร่ืองผกั ไฮโดรโปนิกส์จึงมี
ความเหมาะสมเน่อื งจากเปน็ ผักที่ใชพ้ นื้ ท่ีการเพาะปลูกน้อยน้าไม่มากโดยมีลักษณะการใช้ทดี่ ินประเภท
พนื้ ที่เกษตรกรรมมากท่สี ุด มีเนื้อที่ 534,593 ไร่ หรอื คดิ เป็นร้อยละ 56.29 ของพ้นื ทีจ่ ังหวัด รองลงมา
เป็นพื้นท่ชี มุ ชนและส่งิ ปลกู สร้าง มีเน้อื ที่ 286,244 ไร่ หรือคดิ เป็นรอ้ ยละ 30.14 ของพ้ืนท่ีจังหวัด พ้นื ที่
เบ็ดเตล็ดมีเนื้อท่ี 94,631 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 9.96 ของพื้นที่จังหวัด และพ้ืนท่ีแหล่งน้า มีเน้ือที่
34,282 ไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 3.61 ของพ้ืนที่จังหวัด (สานักเทคโนโลยีการสารวจและทาแผนที่ กรม
พัฒนาท่ีดิน, 2562, น. 9) นอกจากน้ีจังหวัดปทุมธานียังเป็นพื้นท่ีติดกรุงเทพมหานครและและติดกับ
เขตปรมิ ณฑลอืน่ ๆ ซ่งึ หากมีการผลิตผกั ไฮโดรโปนกิ ส์จะสามารถกระจายและตอบสนอง ความต้องการ
ของผบู้ ริโภคไดอ้ ย่างครอบคลุม
ดังน้ันผู้วิจัยจึงเล็งเห็นถึงการศึกษาปัจจัยการตลาดที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการบริโภคผัก
ไฮโดรโปนิกส์ของผู้บริโภค ในจงั หวดั ปทุมธานี เพื่อใหเ้ ขา้ ใจถึงแนวทางการทาการตลาดโดยศึกษาข้อมูล
ทว่ั ไปของผบู้ ริโภค ประกอบด้วย เพศ อายุ รายได้ อาชีพ ระดับการศึกษา สถานภาพ จานวนสมาชิกใน
ครอบครัว ศึกษาปัจจัยทางการตลาด ประกอบด้วย ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางการจัด
จาหน่าย และด้านการส่งเสริมการตลาด ศึกษาพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ของผู้บริโภค ใน
จังหวัดปทุมธานี และศึกษาประโยชน์ท่ีได้จากการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ของผู้บริโภค ในจังหวัด
ปทุมธานี เพือ่ สามารถนาไปตอ่ ยอดการดาเนินธรุ กิจท่ีเกี่ยวข้องกับผักไฮโดรโปนกิ สไ์ ด้อย่างย่งั ยืน
236
การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021
วัตถุประสงคใ์ นการวจิ ัย
1. เพ่ือศึกษาข้อมลู ทว่ั ไปของผู้บริโภค ประกอบด้วย เพศ อายุ รายได้ อาชพี ระดับการศึกษา
สถานภาพ และจานวนสมาชิกในครอบครวั
2. เพ่ือศึกษาปัจจัยทางการตลาดที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ของ
ผู้บรโิ ภค
3. เพื่อศกึ ษาพฤตกิ รรมการบรโิ ภคผกั ไฮโดรโปนิกสข์ องผู้บรโิ ภค ในจังหวดั ปทุมธานี
4. เพื่อศกึ ษาประโยชน์ท่ไี ด้จากการบรโิ ภคผักไฮโดรโปนิกส์ของผู้บรโิ ภค ในจงั หวดั ปทมุ ธานี
การทดสอบสมมติฐานการวจิ ัย
การทดสอบความแตกต่างกัน t-test
1. เพศแตกต่างกันมีพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ (เหตุผลท่ีตัดสินใจบริโภคผัก
ไฮโดรโปนกิ ส์) แตกตา่ งกัน
2. เพศแตกต่างกันมีพฤตกิ รรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ (ปรมิ าณในการซ้ือผักไฮโดรโป
นกิ ส์มาทานแตล่ ะครั้ง) แตกตา่ งกัน
3. เพศแตกต่างกันมีประโยชน์ที่ได้จากการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ (ประโยชน์หลังการ
บรโิ ภคผักไฮโดรโปนิกสท์ ไ่ี ด้รับ) แตกตา่ งกนั
การทดสอบความแตกต่างกัน F-test
1. อาชพี แตกต่างกันมีพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ (ปรมิ าณในการซ้ือผกั ไฮโดร
โปนกิ ส์มาทานแต่ละคร้งั ) แตกตา่ งกนั
2. รายได้แตกต่างกันมีพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ (ค่าใช้จ่ายในการซื้อผัก
ไฮโดรโปนิกสใ์ นแต่ละคร้งั ) แตกตา่ งกนั
3. สถานภาพแตกต่างมีประโยชนท์ ีไ่ ด้จากการบริโภคผักไฮโดรโปนกิ ส์ (ประโยชนห์ ลังการ
บริโภคผกั ไฮโดรโปนิกส์ทีไ่ ดร้ ับ) แตกต่างกนั
การทดสอบความสัมพันธ์ Chi-Square
1. รายได้มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ (บุคคลท่ีมีส่วนสาคัญ
ตอ่ การเลือกบริโภคผักไฮโดรโปนกิ ส์)
2. อาชพี มีความสัมพันธก์ ับพฤตกิ รรมการบริโภคผักไฮโดรโปนกิ ส์ (โดยปกตทิ านผกั ไฮโดร
โปนิกส์บอ่ ยแค่ไหน)
3. ระดับการศึกษามีความสัมพันธ์กับประโยชน์ที่ได้จากการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์
(แนะนาใหผ้ ู้อ่ืนมาซ้ือผักไฮโดรโปนกิ ส์หรอื ไม่)
การทดสอบความสัมพนั ธ์ Pearson Correlation
1. จานวนสมาชิกในครอบครัวมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์
(เหตผุ ลท่ตี ัดสินใจบรโิ ภคผกั ไฮโดรโปนิกส์)
2. จานวนสมาชิกในครอบครัวมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์
(คา่ ใช้จ่ายในการซ้อื ผักไฮโดรโปนิกส์ในแต่ละครง้ั )
3. ปจั จยั ทางการตลาดมีความสัมพันธ์กับพฤตกิ รรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ (ปริมาณ
ในการซื้อผักไฮโดรโปนิกสม์ าทานแต่ละครง้ั )
4. ปัจจัยทางการตลาดมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์
(ค่าใช้จา่ ยในการซอื้ ผักไฮโดรโปนกิ ส์ในแต่ละครัง้ )
5. จานวนสมาชิกในครอบครัวมีความสัมพันธ์กับประโยชน์ที่ได้จากการบริโภคผักไฮโดร
โปนกิ ส์ (ประโยชนห์ ลังการบรโิ ภคผักไฮโดรโปนกิ ส์ทไ่ี ดร้ ับ)
237
การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021
ประโยชน์ท่ีได้รบั จาการศึกษา
ประโยชนต์ อ่ การนาไปใช้
1. ทาให้ผู้บริหารและผู้ท่ีเกี่ยวข้องกับการผลิตผักไฮโดรโปนิกส์สามารถทาความเข้าใจ
ความคิด ความต้องการ และพฤติกรรมของผู้บริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ และสามารถนาไปพัฒนาการ
จดั การดา้ นการผลิต การเพาะปลูก และการจัดทางการตลาดที่เหมาะสมและเป็นการเพิ่มยอดขาย สรา้ ง
รายได้ และการเติบโตของธรุ กิจต่อไป
ประโยชน์ทางวชิ าการ
1. ทาให้ผู้ท่ีสนใจศึกษาเก่ียวกับปัจจัยการตลาดท่ีมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการบริโภคผัก
ไฮโดรโปนิกส์สามารถนาองค์ความรู้ไปต่อยอดการศึกษาเร่ืองปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ท่ีมีผลต่อพฤติกรรม
ผูบ้ รโิ ภคผักไฮโดรโปนิกส์ของจังหวัดปทุมธานแี ละจังหวัดอน่ื ๆ ต่อไป
นยิ ามศัพท์เฉพาะ
ผู้บริโภค หมายถึง ผู้ซอ้ื หรอื ได้รับบรกิ ารจากผู้ประกอบธุรกิจ รวมถึงผู้ซึง่ ได้รับการเสนอหรือ
ชกั ชวนจากผปู้ ระกอบธรุ กิจ เพอ่ื ให้ซือ้ สินคา้ หรือรับบรกิ ารด้วย
ปัจจยั ทางการตลาด หมายถงึ ปัจจยั ทางการตลาดที่มอี ิทธิพลตอ่ การบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์
ประกอบด้วยด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ดา้ นชอ่ งทางการจัดจาหน่าย และด้านการสง่ เสรมิ ทางการตลาด
ไฮโดรโปนิกส์ หมายถึง เป็นการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินแต่ใช้น้าที่มีธาตุอาหารพืชละลายอยู่
หรือการปลูกพืชในสารละลายธาตุอาหารพืชทดแทนซ่งึ นับเป็นวธิ ีการใหม่ในการปลูกพืชโดยเฉพาะการ
ปลูกผักและพืชท่ีใช้เป็นอาหาร เน่ืองจากประหยัดพ้ืนท่ีและไม่ปนเป้ือนกับสารเคมีต่างๆ ในดินให้ได้
พืชผกั ท่สี ะอาดเป็นอาหาร ปจั จุบันน้ใี นเทคนิคการปลูกพืชแบบไร้ดินหลายแบบด้วยกนั คาว่า ไฮโดรโป
นิกส์ (hydroponics) เป็นคาผสมระหว่างคา 3 คา คือ ไฮโดร (hydro) หมายถึงน้า โปโนส (ponos)
เปน็ คาท่มี าจากภาษากรกี หมายถึงการทางาน และอิกส์ (ics) หมายถงึ ศาสตร์หรือศิลปะ ซง่ึ เมอ่ื รวมคา
ท้งั 3 คาเขา้ ดว้ ยกนั จงึ มีความหมายตามรปู ศพั ทว์ ่า ศาสตร์หรอื ศลิ ปะว่าด้วยการทางานของน้า
พฤตกิ รรมการบริโภคผกั ไฮโดรโปนิกส์ หมายถึง การแสดงออกซงึ่ การซ้ือ และการบริโภคผัก
ไฮโดรโปนิกส์ในพื้นท่ีจังหวัดปทุมธานี โดยการวิจัยครั้งน้ีหมายถึง การท่ีผู้บริโภคระบุถึงบุคคลที่มีส่วน
สาคัญต่อการเลือกบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ การนิยมทานผักไฮโดรโปนิกส์ชนิดใด เหตุผลที่ตัดสินใจ
บริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ การที่ผู้บริโภคมีการทานผักไฮโดรโปนิกส์บ่อยแค่ไหน ช่วงเวลาใดท่ีมักจะ
บริโภคผักไฮโดรโปนิกส์มากท่ีสุด โดยปกติทานผกั ไฮโดรโปนิกส์คู่กับอะไร มปี รมิ าณในการซื้อผักไฮโดร
โปนิกสม์ าทานแต่ละครงั้ และมคี า่ ใช้จ่ายในการซ้ือผกั ไฮโดรโปนกิ ส์ในแต่ละครัง้ เท่าใด
ประโยชน์ที่ได้จากการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ หมายถึง ผลดี การแสดงออกซ่ึงผลลัพท์เชิง
บวกต่อผู้ซื้อหรือผู้บริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ ไดแ้ ก่ ประโยชน์หลงั การบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ท่ีได้รับ แนว
ทางการซื้อหรือบริโภคในอนาคตจะยังบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์อยู่หรือไม่ และการแนะนาให้ผู้อื่นมาซ้ือ
ผกั ไฮโดรโปนกิ สห์ รอื การบอกต่อใหผ้ อู้ ืน่ มาซ้ือหรอื บริโภคผกั ไฮโดรโปนิกส์
238
กรอบแนวคดิ ในการวิจยั การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021
ตวั แปรตน้
ตวั แปรตาม
ขอ้ มลู ทั่วไปของผ้บู ริโภค
1. เพศ (N) พฤตกิ รรมการบริโภคผักไฮโดรโป
2. อายุ (O) นิกส์
3. รายได้ (O)
4. อาชีพ (N) F-test 1. บคุ คลที่มีสว่ นสาคญั ตอ่ การ
t-test เลือกบริโภคผักไฮโดรโปนกิ ส์(N)
5. ระดบั การศกึ ษา (O)
6. สถานภาพ (N) 2. โดยปกตินิยมทานผักไฮโดรโป
นิกสช์ นดิ ใด(N)
7. จานวนสมาชกิ ในครอบครัว
(R) 3. เหตุผลทีต่ ดั สินใจบริโภคผัก
ไฮโดรโปนกิ ส์(I)
ปจั จัยทางการตลาด I
1. ด้านผลิตภัณฑ์ 4. โดยปกติทานผักไฮโรโปนิกส์
2. ด้านราคา บ่อยแค่ไหน(N)
3. ด้านช่องทางการจัดจาหน่าย 5. ชว่ งเวลาใดท่มี กั จะบรโิ ภคผกั
4. ด้านการสง่ เสริมการตลาด ไฮโดรโปนิกส์มากทีส่ ุด(N)
ภาพท่ี 1 กรอบแนวคิดในการวิจัย 6. โดยปกติทานผักไฮโดรโปนกิ ส์
คู่กบั อะไร(I)
7. ปริมาณในการซ้อื ผักไฮโดรโป
นิกส์มาทานแต่ละครัง้ (R)
8. คา่ ใชจ้ ่ายในการซื้อผกั ไฮโดรโป
นกิ ส์ในแตล่ ะคร้ัง(R)
9. หากซือ้ ผกั ไฮโดรโปนิกส์เลือก
ซื้อประเภทใด(N)
ประโยชนท์ ไ่ี ดจ้ ากการบริโภคผัก
ไฮโดรโปนกิ ส์
1. ประโยชนห์ ลังการบริโภคผกั
ไฮโดรโปนกิ ส์ที่ได้รับ(I)
2. ในอนาคตจะยังบริโภคผกั
ไฮโดรโปนิกสอ์ ยหู่ รอื ไม่(N)
3. แนะนาใหผ้ อู้ นื่ มาซ้อื ผกั ไฮโดร
โปนิกสห์ รอื ไม่ (N)
239
การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021
การทบทวนวรรณกรรม
ปัจจัยทางการตลาด หรือ ส่วนประสมการตลาด หมายถึง ปัจจัยทางการตลาดที่ควบคุมได้
ท่ีกิจการจะต้องใช้ร่วมกันเพ่ือสนองความต้องการของตลาดเป้าหมาย หมายถึง ความเกี่ยวข้องกันของ
4 ส่วน คือ ผลิตภัณฑ์ ราคา การจัดจ้าหน่ายระบบการจัดจ้าหน่าย การส่งเสริมการตลาดถือว่าเป็น
เคร่อื งมอื ทางการตลาดทธ่ี ุรกิจสามารถควบคุมได้ ต้องใช้รว่ มกันทั้ง 4 อย่างวัตถุประสงค์ที่ใช้เพ่ือสนอง
ความต้องการของลูกค้า (ตลาดเป้าหมาย) ให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจซ่ึงประกอบด้วย ตัวสินค้า ราคา
การจัดจาหน่าย การแจกจ่ายตัวสินค้าและส่งเสริมการตลาด สรุปแนวคิดส่วนประสมทางการตลาด
แสดงให้เห็นองค์ประกอบทางการตลาดที่ส่งผลให้ผู้บริโภคคานึงถึงก่อนตัดสินใจซ้ือ (Boone & Kurtz,
1989) ซึง่ ปจั จยั ทางการตลาดสาหรับการวิจัยเรื่องปัจจัยการตลาดที่มอี ิทธิพลต่อพฤตกิ รรมการบริโภค
ผักไฮโดรโปนิกส์ของผู้บริโภค ในจังหวัดปทุมธานีในครั้งนี้ใช้คาว่า ปัจจัยทางการตลาด 1) ด้าน
ผลิตภัณฑ์ 2) ดา้ นราคา 3) ดา้ นชอ่ งทางการจัดจาหน่าย และ 4) ด้านการสง่ เสรมิ การตลาด
พฤติกรรมผู้บริโภค หมายถึง พฤติกรรมผู้บริโภค เป็นผลสะท้อนของการตัดสินใจซื้อของ
ผู้บริโภคทั้งหมดที่เกี่ยวข้องสัมพันธก์ ับการได้รับมาการบริโภคและการจากัด อันเกยี่ วกับสินค้า บริการ
เวลาและความคิด โดยหน่วยตัดสินใจซ้ือ (คน) ในช่วงเวลาใดเวลาหนงึ่ (Hoyer, W. D. & Macinnis, D.
J., 1997, p. 3) ท้ังนี้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค (Analyzing consumer behavior) เป็นการ
ค้นหาหรอื วจิ ยั เกยี่ วกับพฤตกิ รรมการซ้ือและการใช้ของผูบ้ ริโภคเพ่ือทราบถงึ ลกั ษณะความต้องการและ
พฤตกิ รรมการซอ้ื และการใช้ของผู้บรโิ ภคในการวิเคราะห์พฤตกิ รรมผู้บริโภคจะอาศยั คาถาม 6 Ws และ
1 H ประกอบด้วย Who, What, Why, When, Where และ How เพื่อค้นหาลักษณะที่เก่ียวกับ
พฤติกรรมผู้บริโภค 7 ประการ หรือ 7 O’s ประกอบด้วย Occupants, Objects, Objectives,
Organization, Occasions, Outlet และ Operations (ศิริวรรณ เสรีรัตน์และคณะ, 2541, น. 126)
ซ่ึงการวิจัยในครั้งน้ีได้ใช้การศึกษาพฤติกรรมเก่ียวกับ 1) บุคคลที่มีส่วนสาคัญต่อการเลือกบริโภคผัก
ไฮโดรโปนกิ ส์ 2) โดยปกตินยิ มทานผักไฮโดรโปนิกส์ชนดิ ใด 3) เหตผุ ลที่ตดั สินใจบรโิ ภคผักไฮโดรโปนิกส์
4) โดยปกตทิ านผกั ไฮโดรโปนิกส์บ่อยแค่ไหน 5) ชว่ งเวลาใดทีม่ ักจะบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์มากท่ีสุด 6)
โดยปกตทิ านผักไฮโดรโปนกิ ส์คูก่ ับอะไร 7) ปรมิ าณในการซอื้ ผักไฮโดรโปนกิ ส์มาทานแต่ละครัง้ และ 8)
คา่ ใชจ้ า่ ยในการซ้ือผักไฮโดรโปนิกส์ในแต่ละคร้ัง
ผักไฮโดรโปนิกส์ เป็นการปลูกพืชแบบหนง่ึ ทนี่ ยิ มมากในปัจจุบัน โดย ภาคย์ สธนเสาวภาคย์
(2562, น. 8) กล่าวว่าเป็นการปลูกพืชแบบไร้ดินทาให้สามารถหลีกเล่ียงปัจจัยต่าง ๆ ที่ไม่อานวยต่อ
การปลูกพืชแบบทั่วไป เช่น สภาพดินปลูกที่ไม่เหมาะสม สภาพอากาศแปรปรวน รวมไปถึงขนาดของ
พ้นื ท่ใี นการปลูก เป็นตน้ ซ่ึงการควบคุมปัจจัยทางสภาพแวดล้อมได้อย่างถูกต้องและแมน่ ยาจะส่งผลให้
พืชมีผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพสูงข้ึน ข้อดีสาหรับการปลูกพืชไร้ดิน คือ เกษตรกรสามารถปลูกพืชใน
สภาพแวดล้อมท่ีไม่เหมาะสมต่อการปลูกพืชได้ตลอดปี สามารถลดค่าใช้จายในการเตรียมดินปลูกและ
ลดภาระในการกาจัดวัชพืช และจะทาให้เติบโตเรว็ ให้ผลผลิตมากกว่าปลูกแบบธรรมดา และสามารถใช้
นา้ และธาตุอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากขอ้ มูลของสานักงานคณะกรรมการวจิ ัยแห่งชาติ (2564,
ออนไลน์) ระบุว่า การปลกู มีข้อดี คือ ผลผลิตสะอาด สด คณุ ภาพดี สามารถปลูกพืชได้ทุกที่โดยเฉพาะ
ในสภาพท่ีมีสิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสม ประหยัดพื้นที่ปลูกโดยสามารถกาหนดระยะปลูกได้ตามเหมาะสม
ไม่มีปัญหาในการกาจัดวัชพืช ไม่ต้องมีการเตรียมพืชที่ปลูก ประหยัดน้าและปุ๋ยเพราะสามารถควบคุม
ปริมาณได้ และมีความต้องการสูงท้ังตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ ซ่ึงแนวทางการปลูกผัก
ไฮโดรโปนิคส์ในประเทศไทยต้องมีความรู้ในเรื่อง การตลาด พืชที่ใช้ปลูก สภาพแวดล้อมที่จะปลูก
240
การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021
ระบบการปลูกไม่ใช้ดินท่ีเหมาะสม การจดั การพิเศษในพืชที่จะปลูก และการวิเคราะห์ประเมนิ ค่าใช้จ่าย
ท่ีดาเนินการและผลกาไรระยะคืนกาไรในการผลิต ซึ่งเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนาข้อมูลการวิจัย
คร้ังนี้ไปใช้ได้ โดยผู้วิจัยได้ศึกษาถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคผักไฮโดรโปนิคในพื้นท่ีจังหวัดปทุมธานี
เนื่องจากเป็นพื้นท่ีท่ียังพอมีแหล่งที่เพาะปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ได้ และจังหวัดปทุมธานีไม่ได้อยู่ในพ้ืนท่ี
เมอื งทม่ี ีราคาทด่ี นิ ทม่ี ีมูลค่าสงู มาก ซ่งึ จะทาใหผ้ ปู้ ระกอบการสามารถปรับกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่าง
เหมาะสมต่อไป
ระเบยี บวิธีการวจิ ัย
เปน็ การวจิ ยั เชิงปรมิ าณโดยมีเคร่ืองมอื ทีใ่ ช้ในการวจิ ัยคือแบบสอบถาม 4 ส่วน ไดแ้ ก่
ส่วนท่ี 1 ลักษณะข้อมูลท่ัวไปของผบู้ รโิ ภค
ส่วนที่ 2 ข้อมูลปัจจัยทางการตลาดผักไฮโดรโปนิกส์ 4 ด้าน คือด้านผลิตภัณฑ์ ราคา
สถานที่จัดจาหน่าย และด้านการส่งเสริมการตลาด
ส่วนท่ี 3 ข้อมูลพฤติกรรมของผู้บรโิ ภคผักไฮโดรโปนกิ ส์
ส่วนท่ี 4 ขอ้ มลู ประโยชน์ท่ีได้จากการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์
การทดสอบความเที่ยงตรงและความเช่ือม่ันของแบบสอบถาม
ขนั้ ตอนการสร้างเคร่ืองมือ
1. สรา้ งแบบสอบถามโดยดูจากกรอบแนวคดิ
2. นาแบบสอบถามที่สร้างเสร็จแลว้ นาส่งใหอ้ าจารย์ผู้สอนตรวจ
3. หลังจากผูส้ อนตรวจเสร็จ กน็ าไปปรบั ปรุงแก้ไขตามคาแนะนา
4. นาแบบสอบถามไปทดสอบเพื่อให้เกิดความเที่ยงตรง (Validity) คือความ
สอดคล้องกันของผลวิเคราะห์ว่าสะท้อนสภาพท่ีเป็นอยู่จริง และตรวจสอบความเชื่อม่ัน (Reliability)
ความคงทีข่ องการวเิ คราะห์ ด้วยการนาไปทดสอบ 30 ชุด ด้วยการ try out กลุ่มตัวอยา่ งเพอื่ ตรวจสอบ
และพบว่า ค่าความเช่ือม่ันรวม คือ .958 อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้และสามารถนาไปใช้ทาการวิจัยได้
ดงั น้ี
ตารางท่ี 1 การทดสอบความเท่ียงตรงและความเชื่อมั่นของแบบสอบถาม Cronbach’s Alpha
ข้อมูลของแบบสอบถาม .936
.890
ข้อมูลปจั จยั ทางการตลาดของผูบ้ ริโภคผักไฮโดรโปนกิ ส์ .854
ข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคผกั ไฮโดรโปนกิ ส์
ประโยชน์ท่ีได้จากการบริโภคผักไฮโดรโปนกิ ส์
5. นาแบบสอบถามทผ่ี ่านการทดสอบแล้ว นาไปเกบ็ ข้อมูลในพ้นื ท่จี งั หวดั ปทุมธานี
ขอบเขตในการศึกษา
ขอบเขตด้านพ้นื ท่ี ศึกษาในจังหวัดปทุมธานี
241
การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021
ขอบเขตด้านประชากร ผู้วิจัยได้ทาการศึกษาจากข้อมูลประชากรในจังหวัดปทุมธานี
จานวนท้ังสิ้น 1,154,269 คน เป็นเพศชาย 547,061 คน และเพศหญิง 607,208 คน (กองยุทธศาสตร์
และสาระสนเทศท่อี ยู่อาศยั , 2562, น. 6)
ประชากรและกลุ่มตัวอย่างคือ ประชากรในจังหวัดปทุมธานี จานวน 1,154,269 คน ซึ่ง
ขนาดของกลุม่ ตัวอย่างได้จากการคานวณตัวอย่างโดยใชส้ ูตรทาโร่ ยามาเน่ (Yamane, 1973)
เมื่อ N แทน ขนาดของกลุ่มประชากร 1,154,269 คน
n แทน ขนาดของกล่มุ ตวั อย่าง
e แทน ค่าความคลาดเคลื่อนของการสุ่มตัวอย่าง 0.05 และแทนค่าจะได้กลุ่ม
ตัวอยา่ ง ดังนี้
n = 1,154,269/1+1,154,269(0.05)2
= 399.861 หรือ ประมาณ 400 คน ดังนั้นผู้วิจัยจึงทาการเก็บตัวอย่างท้ังสิ้น
400 คน
ขอบเขตดา้ นเวลา ทาการเกบ็ ข้อมูล ช่วงระหว่างเดือน กรกฎาคม- กันยายน พ.ศ. 2563
ผลการวิจัย
วัตถุประสงค์ข้อที่ 1 เพ่ือศึกษาข้อมูลท่ัวไปของผู้บริโภค ประกอบด้วย เพศ อายุ รายได้
อาชพี ระดับการศึกษา สถานภาพ และจานวนสมาชิกในครอบครวั
จากการศึกษา พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นหญิงร้อยละ 77.5 และเพศชาย
22.5 มีอายมุ ากที่สุดคือ 20-30 ปี รอ้ ยละ 93.3 รองลงมาคือ 31-40 ปี ร้อยละ 4.2 ถดั มาคือ 41-50 ปี
ร้อยละ 1.7 และ 51-60 ปี ร้อยละ 0.8 ตามลาดับ มีรายได้มากที่สุดคือ 9,001-18,000 บาท คิดเป็น
ร้อยละ 42.5 รองลงมาคือ น้อยกว่าหรือเท่ากับ 9,000 บาท ร้อยละ ด้านอาชีพมีอาชีพนักเรียน/
นักศึกษามากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 62.5 รองลงมาคือพนักงานบริษัท ร้อยละ 21.7 ถัดมาคือธุรกิจ
ส่วนตัวร้อยละ 6.7 ถัดมาคือข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจร้อยละ 5 และอ่ืน ๆ คือ แม่บ้าน ผู้จัดการ รับจ้าง
อิสระ และครูอัตราจ้าง ร้อยละ 4.2 ตามลาดับ สาหรับด้านการศึกษาสูงที่สุดคือปริญญาตรีหรือ
เทียบเท่าร้อยละ 65 ถัดมาคือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง/ปวส.ร้อยละ 25 ถัดมาคือ ต่ากว่าหรือ
เท่ากับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ร้อยละ 7.5 และสุดท้ายสูงกว่าระดับปริญญาตรีร้อยละ 2.5
ตามลาดับ สาหรับด้านสถานภาพสูงที่สุดคือโสดร้อยละ 89.2 ถัดมาคือสมรสร้อยละ 8.3 สาหรับการ
หย่าร้าง หม้าย และแยกกันอยู่มีร้อยละ 0.8 ในสัดส่วนที่เท่ากัน ด้านจานวนสมาชิกในครอบครัว มี
จานวนมากท่ีสุดคือ 4 คนต่อครอบครัวคิดเป็นร้อยละ 33.3 รองลงมาคือ 5 คนต่อครอบครัวร้อยละ
23.3 และถดั มาคือจานวน 3 คนต่อครอบครวั ร้อยละ 18.3 ตามลาดับ
242
การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021
วัตถปุ ระสงค์ข้อท่ี 2 เพ่ือศกึ ษาปัจจัยทางการตลาด ประกอบดว้ ย ดา้ นผลิตภัณฑ์ ดา้ นราคา
ด้านชอ่ งทางการจดั จาหนา่ ย และดา้ นการสง่ เสริมการตลาด
จากการศกึ ษา พบวา่ ปจั จยั ทางการตลาดสามารถอธิบายได้ดังตาราง
ตารางท่ี 2 แสดงค่าเฉลยี่ และคา่ เบี่ยงเบนมาตรฐานของปัจจยั ทางการตลาดผักไฮโดรโปนิกส์
ปจั จัยทางการตลาด ระดับความสาคัญ อันดับ
̅ S.D. แปลผล
ดา้ นผลติ ภัณฑ์
1. ผกั สะอาดปลอดสารพษิ 4.48 .721 มากที่สดุ 2
2. ผกั มคี วามสดใหม่ 4.55 .645 มากทส่ี ุด 1
3. ผักไฮโดรโปนกิ สม์ ีคณุ คา่ ทางอาหารสูง 4.43 .706 มากที่สดุ 3
4. ผักมีความหลากหลายเช่น ผักกรีนคอส ผักกรีนโอ๊ค 4.37 .789 มากทสี่ ุด 4
ผกั เรดโอค๊ เป็นตน้
5. บรรจภุ ณั ฑ์สวยงามและปอ้ งกนั ไม่ใหเ้ น่าเสยี งา่ ย 4.32 .687 มากทส่ี ดุ 6
6. ผักไฮโดรโปนิกส์มีธาตุเหล็กท่ีช่วยป้องกันโรคโลหิต 4.37 .734 มากทส่ี ดุ 5
จาง
รวมด้านผลติ ภัณฑ์ 4.42 .576 มากที่สุด
ด้านราคา
1. ราคาที่จาหน่ายมีความเหมาะสมกบั ปริมาณ 4.35 .683 มากที่สุด 3
2. ราคาเหมาะสมกับคณุ ภาพของผกั ไฮโดรโปนกิ ส์ 4.40 .666 มากที่สุด 1
3. ราคาเหมาะสมกับคุณประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั 4.30 .705 มากที่สุด 4
4. ราคาเหมาะสมกบั คณุ คา่ ทไ่ี ดร้ บั 4.38 .688 มากที่สุด 2
รวมด้านราคา 4.36 .570 มากทส่ี ดุ
ดา้ นชอ่ งทางการจดั จาหนา่ ย
1. จาหน่ายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้าเช่น Big 4.45 .633 มากท่ีสดุ 2
C, เทสโก้ lotus เป็นต้น
2. มีการจัดจาหน่ายสั่งกับกลุ่มซื้อขายผักไฮโดรโปนิกส์ 4.38 .663 มากท่ีสุด 3
ผ่านทาง Faceboook
3. มจี าหนา่ ยที่ร้านขายอาหารเพอื่ สุขภาพ 4.45 .671 มากทส่ี ุด 1
รวมดา้ นชอ่ งทางการจดั จาหนา่ ย 4.43 .517 มากท่ีสุด
ด้านการส่งเสริมการตลาด
1. มีการโฆษณาผ่านทาง Facebook,Line 4.40 .640 มากทส่ี ดุ 2
2. มกี ารโฆษณาผา่ นทางแผ่นพบั , ป้ายหน้ารา้ น 4.26 .741 มากท่สี ุด 4
3. การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผักไฮโดรโปนิกส์โดยการ 4.30 .773 มากที่สดุ 3
ออกบธู แสดงสินคา้
4. จดั สง่ ฟรีเมือ่ ซือ้ 5 กิโลกรัมขน้ึ ไป 4.45 .708 มากท่สี ุด 1
รวมด้านการส่งเสรมิ การตลาด 4.35 .574 มากท่สี ดุ
243
การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021
จากตารางสามารถสรุปได้ว่า ปัจจัยทางการตลาดด้านผลิตภัณฑ์โดยรวมมีค่าเฉล่ีย
4.42 (S.D.=.576) ในระดับมาก ซ่ึงด้านผักมีความสดใหม่มากท่ีสุดท่ี 4.55 (S.D.=.645) สาหรับด้าน
ราคาโดยรวมมีค่าเฉลี่ย 4.36 (S.D.=.570) ซ่ึงด้านราคาเหมาะสมกับคุณภาพของผักไฮโดรโปนิกส์มาก
ท่ีสุดท่ี 4.40 (S.D.=.666) สาหรับด้านช่องทางการจัดจาหน่ายโดยรวมมีค่าเฉลี่ย 4.43 (S.D.=.517) ซึ่ง
ด้านการมีจาหน่ายท่ีร้านขายอาหารเพื่อสุขภาพมากที่สุดท่ี 4.45 (S.D.=.671) และ ด้านการส่งเสริม
การตลาดโดยรวมมีค่าเฉลี่ย 4.35 (S.D.=.574) ซึ่งมีการจัดส่งฟรีเมื่อซื้อ 5 กิโลกรัมข้ึนไปมากท่ีสุดท่ี
4.45 (S.D.=.708)
วัตถุประสงคข์ อ้ ท่ี 3 เพือ่ ศกึ ษาพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ของผู้บริโภค ในจังหวัด
ปทมุ ธานี
จากการศึกษา พบว่าสามารถอธิบายพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ของผู้บริโภค
ได้โดยจาแนกตามบุคคลท่มี ีส่วนสาคญั ต่อการเลอื กบรโิ ภคผักไฮโดรโปนกิ ส์ (ตอบได้มากกว่า 1 ขอ้ ) โดย
บคุ คลในครอบครัวมีสว่ นสาคัญท่สี ุดในการเลอื กคอื ร้อยละ 83.3 รองลงมาคือ เพื่อน/บุคคลรอบข้างคิด
เป็นร้อยละ 33.3 และดาราคนดังท่ีดูแลสุขภาพ คิดเปน็ ร้อยละ 22.5 และอืน่ ๆ เชน่ ตนเอง คิดเป็นร้อย
ละ 0.8 นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มตัวอย่างนิยมทานผักไฮโดรโปนิกส์ในสัดส่วนท่ีแตกต่างกัน (ตอบได้
มากกว่า 1 ขอ้ ) คอื นยิ มทานผักกรนี โอ๊ค รอ้ ยละ 78.3 ถัดมาคอื เรดโอ๊ค รอ้ ยละ 40.8 ถัดมาคือ กรนี คอ
สร้อยละ 38.3 บัตเตอร์เฮดร้อยละ 25 เรดคอรอลร้อยละ 20.8 และ เรดบัตตาเวียร้อยละ 14.2
ตามลาดบั
นอกจากน้ียังพบว่ากลุ่มตัวอย่างมีเหตุผลที่ใช้ในการตัดสินใจบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ ซ่ึง
แสดงไดด้ งั ตาราง
ตารางท่ี 3 แสดงค่าเฉลี่ย และคา่ เบ่ียงเบนมาตรฐานของเหตุผลที่ตัดสนิ ใจบริโภคผกั ไฮโดรโปนิกส์
เหตผุ ลทีต่ ัดสินใจบรโิ ภคผกั ไฮโดรโปนกิ ส์ ระดับความสาคัญ อนั ดับ
̅ S.D. แปลผล
1. ปลอดสารเคมี 4.57 .603 มากทสี่ ดุ 2
2. ความสด สะอาด ปลอดภยั 4.59 .614 มากทสี่ ุด 1
3. เพ่ือสุขภาพ ต้องการควบคุมน้าหนัก 4.56 .575 มากท่ีสดุ 3
4. เพอื่ ชว่ ยในระบบขับถ่าย 4.47 .744 มากท่ีสดุ 5
5. เป็นผักทีม่ คี ณุ คา่ ทางอาหารสูง 4.48 .673 มากทีส่ ุด 4
6. มีคณุ คา่ ทางโภชนาการสงู , ต้านทานโรคได้ 4.45 .720 มากที่สุด 6
รวม 4.52 .509 มากที่สุด
จากตารางพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามใหร้ ะดับความสาคญั เหตุผลท่ตี ัดสินใจบริโภคผัก
ไฮโดรโปนิกส์ในระดับมากท่ีสุด โดยมีค่าเฉล่ียรวม 4.52 (S.D.=.509) ซ่ึงเหตุผลท่ีตัดสินใจบริโภคผัก
ไฮโดรโปนิกส์มากท่ีสุดคือความสด สะอาด ปลอดภัยคิดเป็น 4.59 (S.D.=.614) รองลงมาคือปลอด
สารเคมีค่าเฉลี่ย 4.57 (S.D.=.603) ถัดมาคือเพ่ือสุขภาพต้องการควบคุมน้าหนักมีค่าเฉล่ีย 4.56
(S.D.=.575) และเป็นผักที่มีคุณค่าทางอาหารค่าเฉล่ีย 4.48 (S.D.=.673) เพื่อช่วยในระบบขับถ่ายมี
244
การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021
ค่าเฉลีย่ 4.47 (S.D.=.744) และสดุ ท้ายคือ มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและต้านทานโรคไดค้ ่าเฉลี่ย 4.45
(S.D.=.720) ตามลาดบั
ทั้งนี้ยังพบว่ามีการทานผักไฮโดรโปนิกส์ 2-3 คร้ังต่อสัปดาห์คิดเป็นร้อยละ 45.8
รองลงมาคือ นาน ๆ ครง้ั คิดเปน็ ร้อยละ 25.8 ถดั มาคือ 1 ครงั้ ตอ่ สัปดาห์คิดเป็นร้อยละ 20.8 และทุก
วันคิดเป็นร้อยละ 7.5 ตามลาดับ ส่วนช่วงเวลาท่ีมักจะบริโภคผักไฮโดรโปนิสก์มากที่สุดคือช่วงเย็น
(หลัง 13.30 น.) คดิ เป็นรอ้ ยละ 61.7 รองลงมาคือ ช่วงเช้า (ก่อน 11.30 น.) คดิ เปน็ ร้อยละ 20.8 ถดั มา
คือ ช่วงกลางวัน (11.30-13.30 น.) คิดเป็นร้อยละ 16.7 และสุดท้ายคือเวลาไม่แน่นอนคิดเป็นร้อยละ
0.8 ตามลาดับ
วัตถุประสงค์ข้อท่ี 4 เพ่ือศึกษาประโยชน์ท่ีได้จากการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ของผู้บริโภค
ในจังหวัดปทุมธานี
จากการศึกษา พบว่าสามารถอธิบายประโยชน์ที่ได้จากการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ของ
ผูบ้ รโิ ภคไดด้ งั ตาราง
ตารางท่ี 4 แสดงคา่ เฉลี่ย และค่าเบีย่ งเบนมาตรฐานของประโยชน์ทไ่ี ด้จากการบรโิ ภคผกั ไฮโดรโปนิกส์
ประโยชนท์ ่ไี ด้จากการบริโภคผกั ไฮโดรโปนิกส์ ระดบั ความสาคัญ อันดับ
̅ S.D. แปลผล
1. มคี ณุ คา่ ทางอาหารสูง เช่น กากใยอาหาร 4.60 .613 มากท่สี ดุ 1
2. ชว่ ยในการล้างผนังลาไสแ้ ละเป็นตัวช่วยในการขับถ่าย 4.56 .575 มากที่สุด 2
3. อดุ มดว้ ยวิตามนิ เอ วติ ามนิ ซี โฟเลท และธาตเุ หลก็ 4.45 .684 มากท่สี ุด 5
4. อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ช่วยป้องกนั โรคโลหิตจาง 4.45 .720 มากที่สดุ 4
5. การคงคุณประโยชน์ที่โดดเด่นที่สุดของผักเอาไว้ได้ 4.52 .709 มากท่ีสุด 3
อยา่ งเต็มท่ี 6
6. มีกลิ่นท่ีมาจากน้ามันหอมระเหยและมรี สชาติน่าชวน 4.40 .692 มากที่สุด
ชิมมากกว่าพชื ผักทปี่ ลูกบนดิน
รวม 4.50 .545 มากทีส่ ุด
จากตารางพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามให้ระดับความสาคัญสาหรับประโยชน์ที่ได้รับ
จากการบริโภคในระดับมากที่สุด โดยรวมคือ 4.50 (S.D.=.545) โดยด้านการมีคุณค่าทางอาหารสูง
เช่น กากใยอาหารมีคา่ เฉล่ยี มากที่สดุ คือ 4.60 (S.D.=.613) รองลงมาคือ ช่วยในการลา้ งผนงั ลาไส้และ
เป็นตัวช่วยในการขับถ่ายมีค่าเฉลี่ย 4.56 (S.D.=.575) ถัดมาคือ การคงคุณประโยชน์ท่ีโดดเด่นท่ีสุด
ของผักเอาไว้ได้อย่างเต็มที่มีค่าเฉลี่ย 4.52 (S.D.=.709) ส่วนที่มีค่าน้อยท่ีสุดคือด้านการมีกล่ินท่ีมา
จากนา้ มนั หอมระเหยและมรี สชาตนิ า่ ชวนชมิ มากกว่าพชื ผักทปี่ ลูกบนดนิ ค่าเฉลีย่ 4.40 (S.D.=.692)
การทดสอบสมมตฐิ าน
ผู้วิจัยสามารถสรุปการทดสอบสมมติฐานการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการบริโภคผัก
ไฮโดรโปนิกส์ ไดด้ ังตาราง
245
การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021
ตารางที่ 5 การทดสอบสมมตฐิ านความแตกต่างกัน t-test ผล สรุป
ที่ การทดสอบสมมตฐิ าน .045* แตกต่างกัน
1 เพศแตกตา่ งกันมีพฤตกิ รรมการบรโิ ภคผักไฮโดรโปนิกส์
(เหตุผลท่ีตัดสินใจบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์) .039* แตกต่างกนั
2 เพศแตกตา่ งกนั มีพฤตกิ รรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ .026* แตกตา่ งกัน
(ปรมิ าณในการซื้อผักไฮโดรโปนิกส)์
3 เพศแตกตา่ งกันมพี ฤตกิ รรมการบรโิ ภคผักไฮโดรโปนิกส์
(ประโยชนห์ ลงั การบรโิ ภคผกั ไฮโดรโปนิกส์ท่ไี ด้รบั )
*ที่ระดับนัยสาคัญทางสถติ ิ .05
จากตารางที่ 5 พบว่า เพศที่แตกต่างกนั มีพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ ทั้ง
ด้านเหตุผลที่ตัดสินใจบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ ด้านปริมาณในการซอื้ ผักไฮโดรโปนิกส์ และประโยชน์
หลังการบริโภคผกั ไฮโดรโปนิกส์ทีไ่ ดร้ บั ที่แตกตา่ งกนั อยา่ งมีนัยสาคญั ทางสถติ ิ .05
ตารางที่ 6 การทดสอบสมมติฐานความแตกตา่ งกัน F-test ผล สรุป
ที่ การทดสอบสมมตฐิ าน .096 ไม่แตกตา่ งกนั
1 อาชพี แตกตา่ งกันมพี ฤติกรรมการบริโภคผกั ไฮโดรโปนกิ ส์
(ปรมิ าณในการซ้อื ผักไฮโดรโปนกิ ส์มาทานแต่ละครัง้ ) .059 ไมแ่ ตกต่างกัน
2 รายไดแ้ ตกต่างกันมีพฤตกิ รรมการบริโภคผกั ไฮโดรโปนิกส์ .618 ไม่แตกตา่ งกนั
(คา่ ใช้จา่ ยในการซื้อผกั ไฮโดรโปนิกส์ในแตล่ ะครงั้ )
3 สถานภาพแตกตา่ งมีประโยชน์ทไี่ ดจ้ ากการบรโิ ภคผกั ไฮโดรโป
นกิ ส์ (ประโยชน์หลงั กการบรโิ ภคผกั ไฮโดรโปนิกส์ทไี่ ดร้ บั )
จากตารางท่ี 6 พบว่า อาชพี แตกตา่ งกันมพี ฤตกิ รรมการบรโิ ภคผักไฮโดรโปนกิ ส์ด้าน
ปรมิ าณในการซอ้ื ผกั ไฮโดรโปนิกสม์ าทานแต่ละครง้ั ไม่แตกต่างกนั รายได้แตกต่างกนั มีพฤติกรรมการ
บริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ด้านค่าใช้จ่ายในการซื้อผักไฮโดรโปนิกส์ในแต่ละคร้ัง ไม่แตกต่างกัน และ
สถานภาพแตกต่างมีประโยชน์ทีไ่ ด้จากการบรโิ ภคผกั ไฮโดรโปนิกสด์ ้านประโยชน์หลงั กการบรโิ ภคผัก
ไฮโดรโปนิกส์ท่ไี ด้รบั ไม่แตกต่างกัน
ตารางท่ี 7 การทดสอบสมมตฐิ านด้านความสัมพันธ์ Chi-Square
ที่ ทดสอบความสัมพนั ธ์ Chi-Square ผล สรปุ
1 รายได้มคี วามสมั พนั ธ์กบั พฤติกรรมการบริโภคผกั ไฮโดรโปนิกส์ .025* สัมพนั ธ์กัน
(บุคคลทม่ี สี ว่ นสาคัญต่อการเลือกบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์)
2 อาชีพมคี วามสัมพันธ์กบั พฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ .031* สมั พนั ธ์กนั
(โดยปกติทานผักไฮโดรโปนิกสบ์ ่อยแคไ่ หน)
3 ระดบั การศกึ ษามคี วามสมั พนั ธ์กบั ประโยชนท์ ี่ได้จากการบรโิ ภคผกั .488 ไม่สัมพนั ธก์ นั
ไฮโดรโปนกิ ส์ (แนะนาให้ผู้อ่ืนมาซ้ือผกั ไฮโดรโปนกิ สห์ รือไม่)
*ท่ีระดบั นัยสาคัญทางสถิติ .05
246
การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021
จากตารางที่ 7 พบว่า รายได้มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโป
นิกส์ ด้านบุคคลท่ีมีส่วนสาคัญต่อการเลือกบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ และ อาชีพมีความสัมพันธ์กับ
พฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนกิ ส์ โดยปกติทานผักไฮโดรโปนิกส์บ่อย ที่ระดับนัยสาคัญทางสถติ ิ
.05 ส่วน ระดับการศึกษามีความไม่มีความสัมพันธ์กับประโยชน์ท่ีได้จากการบริโภคผักไฮโดรโปนกิ ส์
ดา้ นแนะนาให้ผ้อู ่นื มาซือ้ ผักไฮโดรโปนกิ ส์
ตารางท่ี 8 การทดสอบสมมติฐานดา้ นความสมั พนั ธ์ Pearson Correlation สมั พันธก์ ัน
1 จานวนสมาชกิ ในครอบครัวมคี วามสมั พนั ธก์ ับพฤตกิ รรมการบริโภค .038* ไมส่ ัมพนั ธ์กัน
สมั พันธก์ ัน
ผักไฮโดรโปนิกส์ (เหตผุ ลท่ีตัดสินใจบริโภคผักไฮโดรโปนกิ ส)์ ไม่สัมพนั ธก์ นั
2 จานวนสมาชิกในครอบครวั มีความสมั พนั ธ์กับพฤติกรรมการบริโภค .423 สมั พันธ์กนั
ผักไฮโดรโปนิกส์ (ค่าใชจ้ า่ ยในการซื้อผกั ไฮโดรโปนิกส์ในแต่ละครง้ั )
3 ปัจจยั ทางการตลาดมีความสัมพันธ์กบั พฤตกิ รรมการบรโิ ภคผกั .021*
ไฮโดรโปนกิ ส์ (ปริมาณในการซอ้ื ผกั ไฮโดรโปนิกสม์ าทานแต่ละคร้งั )
4 ปจั จัยทางการตลาดมีความสัมพันธก์ ับพฤตกิ รรมการบรโิ ภคผัก .400
ไฮโดรโปนิกส์ (คา่ ใช้จา่ ยในการซ้อื ผักไฮโดรโปนิกสใ์ นแต่ละคร้ัง)
5 จานวนสมาชกิ ในครอบครวั มคี วามสัมพนั ธก์ บั ประโยชน์ท่ไี ดจ้ าก .049*
การบรโิ ภคผักไฮโดรโปนิกส์ (ประโยชนห์ ลังการบริโภคผกั ไฮโดรโป
นิกสท์ ่ีไดร้ บั )
*ท่รี ะดับนยั สาคัญทางสถิติ .05
จากตารางที่ 8 พบว่า จานวนสมาชิกในครอบครัวมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการ
บริโภคผักไฮโดรโปนกิ สด์ า้ นเหตุผลท่ตี ัดสินใจบรโิ ภคผกั ไฮโดรโปนิกส์ นอกจากนป้ี จั จัยทางการตลาดมี
ความสัมพนั ธก์ ับพฤติกรรมการบริโภคผกั ไฮโดรโปนกิ ส์ด้านปรมิ าณในการซ้ือผกั ไฮโดรโปนิกสม์ าทาน
แตล่ ะครง้ั และจานวนสมาชกิ ในครอบครัวมีความสัมพนั ธ์กับประโยชน์ที่ไดจ้ ากการบรโิ ภคผกั ไฮโดรโป
นกิ ส์ด้านประโยชนห์ ลังการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ทไี่ ด้รับ ซง่ึ มีความสมั พนั ธ์กนั ที่ระดับนัยสาคัญทาง
สถิติ .05
อภปิ รายผลการวิจัย
ผ้บู ริโภคส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมากกว่าชาย ซึ่งเปน็ กลุ่มเป้าหมายท่มี ีอานาจในการตัดสินใจ
ซื้อผักไฮโดรโปนิกส์ ดังนั้น ผู้ประกอบการควรให้คาแนะนากับกลุ่มเป้าหมายที่มีอานาจในการซ้ือสูงซึง่
อาจอยใู่ นรปู แบบต่างๆ เช่น การเผยแพร่ความรู้ผา่ นทางส่ือออนไลน์ ยกตวั อยา่ งเช่น Facebook, Line,
เว็บเพจท่ีเกี่ยวกับการรักสุขภาพที่กลุ่มเป้าหมายรับรู้ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งจะทาให้เพ่ิมประสิทธิภาพของ
การส่อื สารได้มากข้ึน
247
การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021
ผู้บริโภคส่วนใหญ่มีอายุ 20-30 ปี ซ่ึงเป็นกลุ่มเป้าหมายท่ีมีอานาจในการตัดสินใจการเลือก
บริโภคผักไฮโดรโปนิกส์เอง สอดคล้องกับไข่มุก สถิตสระดู่ และไกรเลิศ ทวีกุล (2558, น. 902) พบว่า
ส่วนใหญ่ผู้บริโภคในจังหวัดเพชรบูรณ์ กรุงเทพมหานคร และขอนแก่นเป็นเพศหญิง มีอายุ 27-32 ปี
จากการศึกษายังพบว่าผู้บริโภคในจังหวัดปทุมธานี เป็นกลมุ่ ที่รับรู้ถงึ คุณประโยชนข์ องผักไฮโดรโปนิกส์
เช่น มีคุณค่าทางอาหารสูง เช่น กากใยอาหาร ช่วยในการล้างผนังลาไส้และเป็นตัวช่วยในการขับถ่าย
อุดมด้วยวิตามินเอ วิตามินซี โฟเลท และธาตุเหล็ก เป็นต้น ซ่ึงสอดคล้องกับไข่มุก สถิตสระดู่ และไกร
เลิศ ทวีกุล (2558, น. 902) ท่ีระบุว่า ที่เลือกซื้อเพราะเพื่อความปลอดภัยในสุขภาพและโภชนาการ
ดังนั้น ผู้ประกอบการควรให้คาแนะนากับ กลุ่มเป้าหมายท่ีมีอายุ 20-30 ปี หรือโฆษณาโปรโมทเทรน
การรักษาสขุ ภาพ การลดนา้ หนัก ให้ผบู้ รโิ ภคหนั มาใส่ใจและรักสุขภาพ โดยการบรโิ ภคผักไฮโดรโปนิกส์
มากข้ึน
ผู้บริโภคมีปัจจัยทางการตลาดที่มีอิทธิผลต่อการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ ด้านผลิตภัณฑ์ ใน
ส่วนรูปแบบ บรรจุภัณฑ์สวยงาม และป้องกันไม่ให้เน่าเสียง่าย ท่ีมีความสาคัญและสะดวกต่อการ
บริโภค สอดคล้องกับชไมพร รัตนเจริญชัย, กรวิกา ไชยวงศ์, ณิชพันธ์ ปิตินิยมโรจน์, วริยา ยอดปั๋น
และภาพมิ ล บวั ใจ (2562, น. 19) ระบวุ ่าผูบ้ รโิ ภคให้ความสนใจในด้านการออกแบบการฟิกบรรจุภัณฑ์
เรื่องการแสดงข้อมูลครบถ้วน ด้านรูปแบบและความสวยงามซ่ึงพึงพอใจในเร่ืองสีของบรรจุภัณฑ์ที่มี
ความสวยงามและเหมาะสม ดา้ นการเพิ่มมูลค่าและราคาจัดจาหน่ายช่วยสร้างอัตลักษณ์และเพ่ิมมูลค่า
ดังนั้น ผู้ประกอบการควรมีการปรับปรุงพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้มีความสะดวกต่อการบริโภค และควรทา
ให้บรรจุภัณฑ์ดูน่าเชื่อถือเก็บรักษาสินค้าได้หลายวัน เช่น บรรจุใส่กล่องคล้ายกล่องข้าวแต่มีความ
ทันสมัยและสะดวกต่อการรับประทาน เพ่อื ดงึ ดูดผู้บริโภคให้เกิดความสนใจในตัวผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้
การมีบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรักษาคุณสมบัติของผกั ไฮโดรโปนกิ ส์ได้เปน็ อย่างดีจนถงึ มือผู้บริโภคจะทาให้
สามารถสร้างการรับรู้และแรงจูงใจในการซ้ือได้ คือถุงพอลิเอทิลีนเจาะรู หรือถุงพอลิโทรทิลีน เป็นต้น
ซึ่งมีคุณสมบัติในการรักษาความสดและลดการสูญเสียน้าหนัก ชะลอการสูญเสียวิตามินซี ช่วยยืดอายุ
การเก็บรักษาไดน้ าน (นพพล จนั ทร์หอม, ดนัย บุญยเกยี รติ และพิชญา บุญประสม พูลลาภ, 2557, น.
585)
ผู้บริโภคมีปัจจัยทางการตลาดที่มีอิทธิผลต่อการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ ด้านราคา ในส่วน
การตัง้ ราคาให้เหมาะสมกับคุณประโยชน์ ดังนัน้ ผูป้ ระกอบการควรต้ังราคาเหมาะสมกับคุณประโยชน์
ทไี่ ด้รับ เชน่ ราคาไม่ถกู เกินไปหรือแพงเกินไป อกี ทง้ั ผู้บริโภคมีปัจจัยทางการตลาดท่ีมีอิทธิผลต่อการ
บรโิ ภคผักไฮโดรโปนิกส์ ดา้ นช่องทางการจัดจาหน่าย ในส่วนการจัดจาหน่ายทีม่ ีการจัดจาหน่ายโดยการ
สงั่ กับกลมุ่ ซ้อื ขายผกั ไฮโดรโปนิกส์ผ่านทาง Faceboook ดงั นัน้ ผ้ปู ระกอบการควรเพ่ิมช่องทางการจัด
จาหน่ายที่มีการจัดจาหน่ายส่ังกับกลุ่มซื้อขายผักไฮโดรโปนิกส์ผ่านทาง Faceboook เพื่อเพิ่ม การ
กระจายสินค้าให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้มากขึ้น เช่น การโปรโมทการขายหรือจัดโปรโมทช่ันในการซ้ือ
และมบี รกิ ารส่งดว่ น เปน็ ต้น
248
การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021
ผู้บริโภคมีปัจจัยทางการตลาดท่ีมีอิทธิผลต่อการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ ด้านการส่งเสริม
การตลาด ในส่วนการโฆษณาผ่านทางแผ่นพับ, ป้ายหน้าร้าน ดังน้ัน ผู้ประกอบการควรมีการโฆษณา
ผ่านทางแผ่นพับ, ปา้ ยหน้าร้าน เพ่อื ดึงดดู ผบู้ ริโภคให้เกิดความสนใจและเกิดความเชือ่ ถือในสนิ ค้ามาก
ขึ้น ทงั้ ยงั ช่วยสร้างการรับรู้ของแบรนด์สนิ ค้า และมพี ฤติกรรมการบรโิ ภคผักไฮโดรโปนิกส์ ดารา คนดัง
ที่ดูแลสุขภาพ ดังน้ัน ผู้ประกอบการควรมีการโฆษณาอ้างอิงถึง ดารา คนดัง ท่ีดูแลสุขภาพ เพ่ือดึงดูด
ความสนใจของผู้บริโภคให้หันมาใส่ใจดูแลและรักสุขภาพ นอกจากนี้ยงั พบว่า ผู้บรโิ ภคมีพฤติกรรมการ
บริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ในรูปแบบสลัด สอดคล้องกับศิรดา สมเทศน์ และทิพย์วรรณ งามศักดิ์ (2561,
น. 57) พบว่า ผู้บริโภคนิยมผักพันธุ์กรีนโอ๊ค และให้ความสาคัญกับส่วนผสมทางการตลาดด้าน
ผลิตภัณฑ์คือความสดมากท่ีสุด รองลงมาคือความสะอาดและปลอดสารพิษ ดังนั้น ผู้ประกอบการควร
ปรับปรุงพัฒนาผักไฮโดรโปนิกส์ในรูปแบบสลัดให้น่าทานมากข้ึน เช่น มีน้าสลัดหลายหลากรสชาติให้
เลือกรับประทาน มีผักหลากหลายรูปแบบให้เลือก มีการเลือกผักและส่วนผสมอื่นๆ เองได้ เพ่ือ
ตอบสนองความต้องการของผู้บรโิ ภค
ผู้บริโภคมีพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ สาเร็จรูปในเมนูรักสุขภาพ เช่น อาหาร
คลนี สอดคล้องกับ ณัฐกิ า สทุ ธปิ ระสิทธ์ และ ธรี ะวฒั น์ จนั ทกึ (2559, น. 1636) กลมุ่ ลูกค้าของธุรกิจ
การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์คือร้านอาหาร ผู้ท่ีประกอบธุรกิจด้านสุขภาพ นักท่องเที่ยว และบุคคลท่ัวไป
ท่มี าใชบ้ รกิ ารในสว่ นของร้านอาหาร ดังน้ัน ผปู้ ระกอบการควรมีการนาผักไฮโดรโปนิกส์มาปรงุ หรือเพิ่ม
ในอาหารสาเร็จรูปในเมนูรักสุขภาพให้มากข้ึน เช่น เมนูสลัดปลาแซลมอน (ใช้ผักไฮดรโปนิกส์) สลัด
ปลาทอด และมีให้ทานเลน่ คกู่ ับอาหารรกั สุขภาพ
เพศทแ่ี ตกต่างกนั มพี ฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ในเร่ืองเหตุผลท่ีตัดสินใจบริโภคผัก
ไฮโดรโปนกิ ส์แตกต่างกัน โดยพฤตกิ รรมการบรโิ ภคผักไฮโดรโปนิกส์เพศหญิงมพี ฤติกรรมการบรโิ ภคผัก
ไฮโดรโปนิกส์มากกว่าเพศชาย ดังนั้น ผู้ประกอบการควรมีการให้ความรู้และแนะนาผู้ บริโภค
กลุ่มเป้าหมายท่ีเป็นเพศชายสร้างความดึงดูดใจให้กับกลุ่มผู้บริโภคเพศชาย เพ่ือเพิ่มพฤติกรรมการ
บรโิ ภคผกั ไฮโดรโปนกิ ส์ใหม้ ากขึน้
เพศที่แตกต่างกันมีประโยชนท์ ี่ได้จากการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ ในเรือ่ งประโยชน์หลังการ
บริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ที่ได้รับแตกต่างกัน โดยการบริโภคผักของเพศชายมีน้อยกว่าเพศหญิง ดังนั้น
ผู้ประกอบการควรมีการให้ความรู้และแนะนาคุณประโยชน์กับผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเพศชาย
เชน่ การให้ความรู้และแนะนาทบ่ี ่งบอกถึงการบริโภคแลว้ ทาให้หุ่นเฟริ ์มทานควบคูก่ ับออกกาลงั กายทา
ใหม้ ซี กิ แพค เปน็ ตน้
อาชีพแตกต่างกันมีพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ โดยพฤติกรรมการบริโภคผัก
ไฮโดรโปนิกส์ ไม่แตกต่างกัน โดยอาชีพนักเรียน/นักศึกษา จะมีพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์
การบริโภคมากที่สุด ดังนั้น ผู้ประกอบการควรจะสร้างความดึงดูดใจให้กับกลุ่มเป้าหมายอาชีพอ่ืนๆ
เชน่ พนักงานบรษิ ัท หรอื นักธุรกจิ สว่ นตวั เพราะผู้บรโิ ภคกลุ่มนีจ้ ะมีอานาจในการตัดสินใจซ้อื มากกวา่
249
การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021
รายไดม้ ีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ โดยบุคคลที่มีส่วนสาคัญต่อ
การเลือกบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ โดยส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมการบริโภคจากบุคคลในครอบครัว
มากกว่าดังนั้น ผู้ประกอบการควรจะมีการโฆษณาอ้างอิงถึง ดารา คนดัง ท่ีดูแลสุขภาพ หรือเพื่อนคน
รอบขา้ งเพ่อื ดงึ ดูดความสนใจของผู้บรโิ ภคใหห้ นั มาใส่ใจดูแลและรักสุขภาพ
ทงั้ นผี้ ลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลและพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดร
โปนิกส์ที่แสดงออกมาน้ันสอดคล้องกับ พัชรี ทองช่วย (2562, น. 81) ท่ีระบุว่า เพศ อายุ สถานภาพ
การศกึ ษา รายไดเ้ ฉลี่ย และการมีโรคประจาตัวมีความสัมพนั ธก์ ับพฤติกรรมการบริโภคผกั ไฮโดรโปนิกส์
มีความเกีย่ วข้องกับปจั จยั ทกุ ด้าน ซงึ่ ผูป้ ระกอบการตอ้ งให้ความสาคัญในทุกด้านเชน่ กัน
ปัจจัยทางการตลาดมีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ ในเรื่อง
ปริมาณในการซ้ือผักไฮโดรโปนิกส์มาทานแต่ละครั้ง ดังนั้น ผู้ประกอบการควรจะปรับเปล่ียนกลยุทธ์
ทางการตลาดเพ่ือให้ผู้บริโภคสนใจบริโภคมากขึ้น สอดคล้องกับ สกุลรัตน์ ธรรมแสง, สุรนาท ขมะณะ
รงค์ และกิมาพร ขมะณะรงค์ (2556, น. 61) ทีร่ ะบวุ า่ ด้านการตลาดผู้ประกอบการต้องเพ่ิมการสื่อสาร
โฆษณา ประชาสัมพันธ์ เพ่ือให้ผู้บริโภครับรู้ข่าวสารเกี่ยวกับผักไฮโดรโปนิกส์มากขึ้นทั้งด้านคุณภาพ
ของผลิตภัณฑแ์ ละแหลง่ จาหน่าย โดยใช้ส่อื ทผ่ี ู้บริโภคเข้าถึงได้งา่ ย
ขอ้ เสนอแนะในการวจิ ยั
ข้อเสนอแนะเพอ่ื การนาไปใช้
1. ผู้ประกอบการผกั ไฮโดรโปนกิ สต์ ้องสร้างจุดขายใหก้ ับผักของตนเอง และต้องถส่งเสริม
การตลาดและกระจายสนิ ค้าของตนไปส่กู ลุ่มผู้บริโภคได้มากข้ึนตอ้ งทาการปรับกลยุทธ์การตลาดในส่วน
ของผลิตภัณฑ์ เนื่องจากผลที่ได้จากการวิจัยพบว่าความสดใหม่และปลอดสารพิษถือเป็นประเด็นหลัก
สาคญั โดยทาการบรหิ ารจัดการผลิตภัณฑ์ ดงั นี้
1.1 ควรจัดเก็บผักไฮโดรโปนิกส์ตามคาส่ังซ้ือเป็นรอบและเก็บรักษาในอุณหภูมิท่ี
เหมาะสมก่อนส่งไปยงั ผู้บริโภคคนสุดท้าย หรอื ก่อนส่งไปยงั พอ่ ค้าคนกลาง หรือจัดเกบ็ ไว้ในกล่องรักษา
อณุ หภมู เิ พ่อื ใหผ้ กั สดใหมอ่ ยู่เสมอ
1.2 ด้านผลติ ภัณฑ์ ผปู้ ระกอบการควรนาบรรจภุ ัณฑ์รูปแบบใหมซ่ ึง่ เป็นพลาสติกชนิด
พิเศษ คือถุงพอลิเอทิลีนเจาะรู หรือถุงพอลิโทรทิลีน เป็นต้น ซึ่งมีคุณสมบัติในการรักษาความสดและ
ลดการสูญเสียน้าหนัก ชะลอการสูญเสียวิตามินซี ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาได้นาน ซ่ึงปัจจุบัน
ผู้ประกอบการสามารถเลือกได้ตามต้นทุนที่ตนยอมรับได้ และมี QR CODE หรือสัญลักษณ์ หมายเลข
โทรศพั ท์ตดิ ต่อ, Line ID, Facebook และชอ่ งทางที่สามารถสง่ั ซ้อื และติดตามได้อย่างเป็นรูปธรรม
2. ผู้ประกอบการผักไฮโดรโปนิกส์ต้องทาการส่ือสารไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากกว่า
กลุ่มเป้าหมายหลัก ไปยังกลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ เพิ่มเติม ผู้ประกอบการควรจะปรับเปล่ียนกลยุทธ์ทาง
การตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคสนใจบริโภคมากขึ้น เช่น การกระตุ้นคุณประโยชน์ที่ได้จากการบริโภคผัก
250
การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021
ไฮโดรโปนิกส์ ท้ังในเร่ือง มีคุณค่าทางอาหารสูง เช่น มีกากใยอาหาร ช่วยในการล้างผนังลาไส้และเป็น
ตัวชว่ ยในการขับถ่าย การคงคุณประโยชน์ทโี่ ดดเด่นท่ีสุดของผักเอาไว้ได้อย่างเต็มท่ี ควรทาการส่ือสาร
ใหเ้ ห็นว่าผักไฮโดรโปนิกส์อุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ชว่ ยป้องกันโรคโลหิตจาง อุดมดว้ ยวิตามินเอ วติ ามินซี
โฟเลท และสารอาหารท่ีสาคัญอ่ืน ๆ นอกจากน้ียังมีกลิ่นที่มาจากน้ามันหอมระเหยและมีรสชาติน่า
ชวนชิมมากกว่าพืชผักท่ีปลูกบนดิน ซ่ึงควรสร้างการรับรู้ด้วยสื่อท่ีสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภค
ปัจจุบัน เช่น การทา Infographic ที่ดูแล้วอ่านง่าย เข้าใจประโยชน์ของผัก และใช้การใส่ Logo
สโลแกน และ QR CODE และช่องทางการติดต่อทั้ง Online และ Offline เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าใจและ
เลอื กซอื้ ได้ตามแหลง่ ทีร่ ะบุ
ขอ้ เสนอแนะในการวจิ ัยครั้งต่อไป
ควรวจิ ัยเปรียบเทยี บกับพฤติกรรมการบริโภคผักไฮโดรโปนกิ ส์ ในภาคกลาง โดยเฉพาะใน
จังหวดั ใหญ่ๆ เชน่ เกบ็ ขอ้ มูลจังหวัดกรุงเทพฯ จงั หวัดนครปฐม จงั หวดั ราชบุรี จังหวดั นนทบุรี จังหวัด
พระนครศรีอยธุ ยา และจงั หวดั สุพรรณบุรี เปน็ ต้น
เอกสารอ้างอิง
กองยุทธศาสตร์และสาระสนเทศท่ีอยู่อาศัย การเคหะแหง่ ชาติ. (2562). รายงานจานวนประชากรและ
บา้ นทัว่ ราชอาณาจกั ร ปี 2562. สืบคน้ จาก https://housingkc.nha.co.th/files/article/
attachments/ffaef8523776e58763edecf0906c208e.pdf
เกษตรทากิน. (2562). อาหารสขุ ภาพ มาแรง...โอกาสของคนอยากมธี รุ กิจ. สืบคน้ จาก
https://kasettumkin.com/trick/article_24457
ไขม่ กุ สถติ ย์สระดู่ และ ไกรเลิศ ทวีกลุ . (2558). การศึกษาการผลิต การตลาด และพฤติกรรมผู้บริโภค
ผักไฮโดรโปนกิ ส์ กรณีศึกษาจังหวัดเพชรบูรณ์ กรงุ เทพมหานคร และขอนแกน่ . การประชุม
วชิ าการทางธุรกิจและนวัตกรรมทางการจดั การระดับชาติและนานาชาติ ประจาปี 2558,
902-8.
ชไมพร รตั นเจริญชัย, กรวิกา ไชยวงศ์, ณิชพันธ์ ปิตินยิ มโรจน์, วริยา ยอดปน๋ั และ ภาพมิ ล บัวใจ.
(2562). การยกระดับผลติ ภัณฑ์พืชสมนุ ไพรพูลคาวสูส่ ินค้า OTOP. วารสารวิชาการรับใช้
สังคม มทร.ล้านนา, 3(1), 19-29.
นพพล จันทรห์ อม, ดนยั บุญยเกียรติ และ พชิ ญา บุญประสม พลู ลาภ. (2557). ผลของบรรจุภัณฑ์แอ
ทีฟตอ่ คุณภาพหลังการเก็บเกยี่ วข้าวโพดหวานสองสี. Khon Kaen Agriculture
Journal, 42(4), 585-594.
251
การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021
ณัฐิกา สุทธิประสิทธ์ และ ธีระวฒั น์ จนั ทึก. (2559). การวิเคราะหต์ น้ ทุนและความอ่อนไหวของธรุ กิจ
การปลกู ผักไฮโดรโปนิกส์ในเขตกรงุ เทพมหานคร. Veridian E-Journal, Silpakorn
University, ฉบบั ภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์ สงั คมศาสตร์ และศิลปะ, 9(2), 1627-
1638.
พชั รี ทองชว่ ย. (2562). พฤตกิ รรมการบริโภคผักไฮโดรโปนิกสข์ องผู้สงู อายุในจังหวัดสงขลา. สืบค้น
จาก http://grad.tsu.ac.th/UserFiles/1576651846_Full%20Text.pdf
ภาคย์ สธนเสาวภาคย์. (2562). การวิจยั และพัฒนาระบบปลูกพืชไฮโดรโปนิกสแ์ บบอัตโนมัติ.
มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
ศริ ดา สมเทศน์ และทิพย์วรรณ งามศกั ดิ์. (2561). การวางแผนการตลาดเพ่อื เพมิ่ ยอดรายได้ของฟาร์ม
ผกั ไฮโดรโปนิกส์ “23 ไฮโดรฟารม์ ชุมแพ” ในเขตเทศบาลเมืองชมุ แพ อาเภอชมุ แพ จังหวัด
ขอนแก่น. วารสารวิทยาลัยบัณฑิตศึกษาการจัดการ มข., 1(1), 58-72.
ศิรวิ รรณ เสรีรัตน์ และคณะ. (2541). การบริหารการตลาดยุคใหม่. กรุงเทพฯ: บรษิ ัท ธีระฟลิ ์ม และ
ไซเท็กซ์ จากัด.
สานกั เทคโนโลยกี ารสารวจและทาแผนที่ กรมพัฒนาที่ดนิ . (2562). รายงานโครงการจัดทาแผนที่
แสดงความลาดชนั ของพ้นื ทเี่ พอื่ การพัฒนาทดี่ ิน จังหวัดปทุมธานี, สืบคน้ จาก
http://www.lddservice.org/services/fileproject/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0
%B8%95%201/%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8
%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B
8%A1%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5_PTE/%E0%B8%A3
%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99/%E0%B8%
A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99SC_PTE.p
df
สานกั งานคณะกรรมการวจิ ัยแหง่ ชาติ. (2564). การฟน้ื ฟู เยียวยา ผ้ปู ระสบภัย ด้วยงานวจิ ัย วช.
เรื่อง การปลูกผักไฮโดรโปนคิ ส์ (Hydroponics). สืบค้นจาก
http://www.agi.nu.ac.th/postharvest/downloads/upload_file/281118135830_1
90314104426_%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%
AE%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8
%A3%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%B8%AA%E0%B9%8C.pdf
สกุลรัตน์ ธรรมแสง, สุรนาท ขมะณะรงค์ และ กิมาพร ขมะณะรงค์. (2556). การบรหิ ารธรุ กิจผกั ไฮโดร
โปนกิ ส์ในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือ และการพฒั นาเชิงอุตสาหกรรม. วารสารวิจัย มข.
(ฉบับบณั ฑิตศึกษา) สาขา มนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์, 1(1), 54-63.
252
การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021
Boone, L. E. & Kurtz, D. L. (1989). Contemporary Marketing (6th ed.) Hinsdle: The
Dryden Press.
Krungsri Plearn Plearn. (2020). Health Focus. Retrieved from
https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/health-focus-business
Hoyer, W. D. & Macinnis, D. J. (1997). Consumer Behavior. Boston: Houghton Mifflin.
Yamane. T. (1973). Statistics: An introductory statistic (2nd ed.). New York: Harper &
Row.
253
การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021
การศกึ ษากระบวนการโลจสิ ตกิ ส์และซัพพลายเชน
ในสถานการณโ์ ควิด–19 ของบรษิ ทั ABC จากดั
ศริสรณ์ โชติภูรวิ ฒั น์กุล1
นักศกึ ษาปริญญาโทหลักสูตรบรหิ ารธุรกจิ มหาบัณฑิต คณะบรหิ ารธรุ กจิ
มหาวิทยาลยั รามคาแหง
ปยิ ะฉตั ร จารุธรี ศานต์
อาจารยป์ ระจาสาขาวชิ าการจดั การโลจิสตกิ สแ์ ละโซ่อุปทาน คณะบรหิ ารธรุ กจิ
มหาวิทยาลัยรามคาแหง
บทคัดยอ่
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) กระบวนการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนก่อนเกิด
สถานการณ์โควิด–19 ของบริษัท ABC จากัด 2) กระบวนการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนหลังเกิด
สถานการณ์โควิด–19 ของบรษิ ทั ABC จากัด 3) การแก้ปัญหากระบวนการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน
หลังเกิดสถานการณ์โควิด–19 ของบริษัท ABC จากัด โดยรูปแบบการศึกษาเชิงคุณภาพ ใช้ข้อมูลจาก
การสัมภาษณ์และการสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วมกับพนักงานบริษัทในกรณีศึกษา ผลการศึกษาใน
กระบวนการทางานของบริษัทกรณีศึกษาก่อนและหลังสถานการณ์โควิด–19 พบว่า บริษัทได้รับ
ผลกระทบจากสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้น ยอดขายสินค้าในประเทศและต่างประเทศลดลง รวมถึงกระทบ
แผนกขาย แผนกจัดซื้อ แผนกวางแผน แผนกผลิต แผนกคลังสินค้า และแผนกขนส่ง ทั้งนี้จาก
การศึกษาเพ่ิมเติมด้านการแก้ไขปัญหาพบว่า ทางบริษัทสามารถจัดการ แก้ไข และป้องกันได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ มีการประชุมและวางแผนทุกแผนก พนักงานทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย ติดต่อ
ลกู คา้ อย่างสม่าเสมอ กาหนดมาตรการการทาความสะอาดพื้นที่ปฏิบัติงานให้มากข้ึนกว่าเดิม หยุดการ
ผลติ สนิ ค้าท่ีมียอดขายไม่คุ้มต้นทุนการผลิต ลดพ้ืนท่ีการจัดเก็บสินค้าในคลังสินค้าสินค้าแช่แข็งและแช่
เย็น ลดจานวนวันขนส่งสินค้าในแต่ละพื้นท่ี ผลปรากฏวา่ สามารถลดตน้ ทุนทัง้ ในด้านผลิตและค่าใช้จ่าย
ได้ อีกทั้งยังไม่มีพนักงานท่ีติดเชื้อโควิด-19 ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด นั่นแสดงให้เห็นว่า
การแก้ปญั หาของบรษิ ทั เป็นไปอยา่ งมีประสิทธภิ าพและสามารถป้องกนั ได้เปน็ อย่างดี
คาสาคญั : กระบวนการโลจิสติกส์และซพั พลายเชน โควดิ – 19 การลดตน้ ทุน
1 นักศึกษาปริญญาโทหลักสูตรบริหารธรุ กิจมหาบัณฑิต คณะบรหิ ารธุรกิจ มหาวทิ ยาลยั รามคาแหง แขวงหัวหมาก
เขตบางกะปิ กรงุ เทพมหานคร 10240 หมายเลขตดิ ตอ่ : 086-028-0179 อีเมล: [email protected]
การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021
TO STUDY PROCESS OF LOGISTICS AND SUPPLY CHAIN MANAGEMENT
DUE TO COVID – 19 SITUATION OF ABC COMPANY
Sarisorn Chotpuriwatkul1
Graduate Student, Master of Business Administration, Faculty of Business Administration
Ramkhamhaeng University
Piyachat Jarutirasarn
Lecturer at Logistics and Supply Chain Management, Faculty of Business Administration
Ramkhamhaeng University
Abstract
The objectives of this research were to study 1) the logistics and supply chain
processes at pre-COVID-19 pandemic of ABC company, 2) the logistics and supply chain
processes at post-COVID-19 pandemic of ABC company and 3) the logistics and supply
chain process solutions at post-COVID-19 pandemic of ABC company A qualitative study
was used as a research design. Research instruments for data collection were in-depth
interview and participant observation with employees in the company case study. The
results of this study indicated that the company was affected by the COVID-19 situation,
the sales of domestic and foreign products decreased included the sales department,
purchasing department, planning department, production department, warehouse
department, and transportation department. So, from further study on problem-solving,
it was found that the company can manage, fix and prevent it effectively. There are
meetings and planning to solve problems in every department. All employees are
required to wear a surgical mask, keep in touch with customers and establish measures
for cleaning the working areas more than ever before. Additionally, stop producing
products whose sales are not worth the cost of production aligned with reducing the
storage space in the warehouse of frozen and chilled products. Further, reducing the
number of days for shipping in each area. The results showed that the company was
able to reduce both production costs and expenses. Besides, there were no employees
infected with COVID-19 both in Bangkok and other provinces. This indicated that solving
the company's problems was effective and preventable.
Keywords: Logistics and Supply Chain Management, Covid – 19, Cost-Reduction
1 Corresponding Author: Graduate Student, Master of Business Administration
Faculty of Business Administration, Ramkhamhaeng University
Contact Number: 086-0280-179 Email: [email protected]
255
การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021
บทนา
การจัดการโซ่อุปทานและโลจิสติกส์ ถือเป็นกระบวนการทางานท่ีมีความสาคัญอย่างยง่ิ ใน
ระบบเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเป็นปจั จัยสาคญั ในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขนั ของบริษัท
ต่าง ๆ ท่ามกลางพลวัตและ Disruption ทางธุรกิจ ซึ่งการบริหารจัดการดังกล่าวเก่ียวข้องกับการ
วางแผน การดาเนนิ งาน การบรหิ ารจัดการท่ีเก่ียวข้องให้เกิดการเคลอ่ื นย้าย การจัดเกบ็ การรวบรวม
การกระจายสินค้า วัตถุดิบ ส่วนประกอบ ข้อมูลข่าวสาร และเงินนามาสู่การลดต้นทุนและย่น
ระยะเวลาในทุก ๆ กระบวนการ การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันท้ังภายในประเทศและ
ระหวา่ งประเทศ เพือ่ ให้ได้สนิ คา้ ท่มี ีประสทิ ธิภาพ ค้มุ คา่ โดยใช้ต้นทนุ ตา่ ที่สุดและได้กาไรสงู สดุ รวมทัง้
การมุ่งเน้นกลยุทธ์ในการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการโซ่อุปทานเพื่อสร้างความน่าเช่ือถือและ
พร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าท่ีมีความหลากหลาย (ศูนย์ให้คาปรึกษาและพัฒนาผู้บรหิ าร
ทางธรุ กจิ แห่งมหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์, 2562)
นับตง้ั แตต่ น้ ปี พ.ศ. 2563 ได้เกิดเหตกุ ารณท์ ่ไี มค่ าดฝันขึ้นน่นั คือ ไวรัสโคโรนาสายพนั ธุใ์ หม่
หรือที่เรียกว่า โควิด-19 ที่แพร่ระบาดท่ัวโลก ทาให้ได้มองเห็นผลกระทบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมากมาย
รวมทั้งการบริหารจัดการโซ่อุปทานที่ได้รับผลกระทบและส่งผลต่อกิจกรรมและภาคเศรษฐกิจเปน็ วง
กว้าง เป็นสิ่งที่ยิ่งตอกย้าให้เห็นว่าการบริหารจัดการโซ่อุปทานเป็นกระบวนการท่ีสาคัญอย่างย่ิงใน
ระบบเศรษฐกจิ และเมือ่ เกดิ การระบาดของเชือ้ ไวรัสโคโรนาสายพนั ธใุ์ หม่ 2019 (โควิด-19) ก็ยง่ิ ทาให้
เกิดการหยุดชะงักในองค์กรอย่างรวดเร็วมากข้ึน ซ่ึงส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการโซ่อุปทานใน
ทุก ๆ ด้าน อาทิ การลดต้นทุนการขนส่ง การบริหารจัดการข้อมูล หรือการบริหารจัดการคน เป็นต้น
ทาให้และภาคธุรกิจจาเป็นจะต้องเรียนรู้ ทาความเข้าใจ และบริหารจัดการจัดการโซ่อุปทานให้มี
ประสทิ ธภิ าพมากที่สุด (ศูนยใ์ หค้ าปรึกษาและพฒั นาผู้บริหารทางธุรกิจแหง่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,
2562) และยังส่งผลทาให้ธุรกิจโลจิสติกส์ในแต่ละประเทศได้รับผลกระทบจากการนาเข้า-ส่งออกที่
ชะลอตัวลงค่อนข้างมากและซัพพลายเชนในบางอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ท่ี
ได้รบั ผลกระทบจากการจดั หาชนิ้ ส่วน เนอ่ื งจากประเทศการแพรร่ ะบาดของโควดิ -19 ในประเทศจีนที่
เกิดข้ึนอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา นามาสู่การปิดเมืองและปิดประเทศ หลังจากน้ันการแพรร่ ะบาด
ในยุโรปและประเทศอเมรกิ าก็เกิดขน้ึ อย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบตอ่ ธุรกิจดา้ นการขนสง่ สนิ ค้าระหว่าง
ประเทศ ท้ังทางเรือและทางอากาศต้องใชร้ ะยะเวลาขนสง่ ยาวนานกว่าเดิมหรือไมส่ ามารถขนส่งสินค้า
ขา้ มประเทศได้ สง่ ผลใหผ้ ู้ประกอบการต้องลดจานวนกองเรอื หรอื ยกเลกิ เส้นทางบินอยา่ งตอ่ เนอ่ื งเพ่ือ
ประคับประคองธุรกิจจากผลกระทบของโรคระบาด ขณะท่ีการดาเนินธุรกิจโลจิสติกส์และซัพพลาย
เชนในประเทศก็เริ่มได้รับผลกระทบบางส่วน หลังจากรัฐบาลและแต่ละจังหวัดได้ยกระดับมาตรการ
ยับยั้งโรคระบาด ทั้งในด้านการวางแผนขนส่งสินค้าและผลกระทบเชิงเศรษฐกิจจากการส่ังปิด
ให้บริการธุรกิจบางประเภทเป็นการชั่วคราว เช่น ศูนย์การค้า สนามมวย สถานบันเทิง (ชวนินทร์
บัณฑติ กฤษดา, 2563)
จากปัญหาท่ีเกิดขึ้นจึงได้เกิดงานศึกษาวิจัยเล่มน้ีโดยเป็นการศึกษากระบวนการโลจิสติกส์
และซัพพลายเชนในสถานการณ์โควิด–19 ของบริษัท ABC จากัด โดยทาการศึกษาและวิจัยทั้ง
กระบวนการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนก่อนและหลังสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงการแกไ้ ขปัญหาที่
256
การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021
เกิดข้ึน ของกรณีศึกษาบรษิ ัทท่ีทาธุรกิจเก่ียวกับ ผลิตและจัดจาหน่ายน้าผลไม้ โดยใช้วิธีพาสเจอรไ์ รส์
รวมไปถึงผลิตและจัดจาหน่ายสินค้าประเภทชา และกาแฟพร้อมด่ืมบรรจุกระป๋อง เคร่ืองด่ืมบารุง
กาลัง น้าดื่ม และอ่ืน ๆ อีกมากมาย เพ่ือตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั้งภายในและ
ต่างประเทศ และยังมีการขยายช่องทางการจัดจาหน่ายสินค้าให้ลูกค้าทั้งในกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร
ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มารเ์ ก็ต รา้ นสะดวกซือ้ ตา่ ง ๆ สถาบนั การศกึ ษา โรงพยาบาล และสายการบิน
อีกดว้ ย ซง่ึ บรษิ ัทกรณตี วั อย่างเปน็ หน่ึงในบริษทั ท่ไี ด้รับผลกระทบจากสถานการณก์ ารแพรร่ ะบาดของ
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือที่เรียกว่า โควิด-19 ทั้งในส่วนโลจิสติกส์และซัพพลายเชนท่ีต้อง
หยุดชะงักและเกิดปัญหาขึ้นที่ไม่เคยเป็นมากอ่ น และเพ่ือเป็นการศึกษาและนาไปประยกุ ต์ใช้ รวมถงึ
เปน็ แนวทางในการจัดการกับเหตุการณท์ ีจ่ ะเกดิ ขน้ึ ใกล้เคยี งกนั ในครั้งต่อไป
วัตถปุ ระสงค์ในการวจิ ยั
1. เพื่อศึกษากระบวนการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนก่อนเกิดสถานการณ์โควิด–19
ของบริษทั ABC จากัด
2. เพ่ือศึกษากระบวนการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนหลังเกิดสถานการณ์โควิด–19
ของบริษทั ABC จากัด
3. เพื่อศึกษาการแก้ปัญหากระบวนการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนหลังเกิด
สถานการณ์โควิด–19 ของบริษัท ABC จากัด
การทบทวนวรรณกรรม
1. โลจิสติกส์และซัพพลายเชน
ฐาปนา บุญหล้า และ นงลักษณ์ นิมิตภูวดล (2555) ให้นิยามว่า โลจิสติกส์ คือ
กระบวนการวางแผน การปฏบิ ัติงาน รายการควบคุมสนิ คา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล จาก
ของการเคลอ่ื นยา้ ยและการจดั เก็บสินคา้ การบริการ และสารสนเทศท่เี กี่ยวข้อง ตัง้ แต่จุดกาเนิดจนถึง
จุดการบริโภคสินค้าเพ่ือตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งการจัดการโลจิสติกส์น้ันจัดเป็น
องค์ประกอบของการจัดการซัพพลายเชน (Supply chain management ) โดยแนวคิดของโลจิ
สติกส์นั้นจะมงุ่ เน้นการตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้า ภายใต้เงื่อนไขด้านเวลา สถานท่ี และการ
ดาเนินการท่ีก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อผู้ค้าวัตถดุ ิบ ผู้ค้าคนกลาง และลูกค้า นั่นคือโลจิสติกส์จะ
ช่วยให้กิจกรรมในขั้นตอนต่าง ๆ ขององค์กรสามารถดาเนินควบคู่ไปกับการให้บริการลูกค้า และมี
ความสัมพันธ์กบั กิจกรรมการขายได้อยา่ งสมบูรณ์แบบ ด้วยเหตุน้ีโลจิสติกส์ซง่ึ สามารถนาองค์กรกา้ ว
ไปสู่ความได้เปรียบทางการตลาดและความได้เปรียบด้านต้นทุน ส่งผลให้องค์กรสามารถบรรลุกาไร
โดยรวมในระยะยาวได้
ไชยยศ ไชยม่ันคง และ ดร.มยขุ พนั ธ์ ไชยมน่ั คง (2556) กลา่ ววา่ โลจสิ ติกส์ เป็นการจดั การ
กิจกรรมท้ังหลายท่ีเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการผลิตและการกระจายสินค้าสาเร็จรูป กิจกรรม
เหลา่ นี้ครอบคลมุ การจัดหา การเคล่ือนยา้ ย การเกบ็ รกั ษา และการสง่ มอบสนิ ค้าหรอื บรกิ ารให้ลูกค้า
โลจิสติกส์เป็นกระบวนการและเครื่องมือทางธุรกิจท่ีสร้างคุณค่ากับผลิตภัณฑ์และตอบสนองตามที่
257
การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021
ลูกค้าต้องการเพ่ือให้องค์การมีความสามารถในการแข่งขัน องค์การจึงต้องการโลจิสติกส์ให้มี
ประสทิ ธภิ าพและประสิทธิผลด้วยการจัดการอย่างเปน็ กระบวนการและบรู ณาการกิจกรรมโลจิสติกส์
ให้บรรลุต้นทุนรวมต่าสุด แล้วลูกค้าพึ่งพอใจทาผลิตภัณฑ์และบริการ ซัพพลายเชนน้ัน ครอบคลุม
กิจกรรมการไหลและเก็บรักษาวัสดุสินค้าและสารสนเทศต้ังแต่ต้นทาง (Point-of-Origin) ไปจนถึง
ปลายทางผู้บริโภคหรือผู้ซื้อสุดท้าย (Point-of-Consumption) ซัพพลายเชนจึงประกอบด้วยบริษัท
จานวนมากทที่ างานร่วมกนั เพอ่ื เพม่ิ คุณค่าผลิตภัณฑ์ใหก้ บั ผเู้ ก่ียวขอ้ งและตอบสนองความตอ้ งการของ
ผู้บรโิ ภค
ทวศี กั ดิ์ เทพพิทกั ษ์ (2556) สรุปวา่ โลจิสตกิ ส์ คือ การออกแบบและการจัดการระบบการ
ควบคุมการเคล่ือนย้ายหรือการไหลของสินค้าและข้อมูลจากต้นทางมายังบริษัท และออกจากบริษทั
ไปยังลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธผิ ล หรือ การเคล่ือนยา้ ยพัสดุและข้อมูลตั้งแต่วัตถุดิบไป
จนเป็นสินค้าสาเร็จรูปจากต้นทางไปยังปลายทางจนถึงผบู้ ริโภค โดยมีการประสานงานแต่ละขน้ั ตอน
อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ซัพพลายเชนหรือห่วงโซ่อุปทาน คือ การเคลื่อนย้ายและเก็บ
รักษาผลิตภัณฑ์ต้ังแต่จุดเริ่มต้นจนถึงปลายทางผู้บริโภคกระบวนการในแต่ละขั้น ห่วงโซ่อุปทานจะ
เพิม่ คณุ ค่าสินค้าซึง่ เกิดจากการประสานงานของสมาชกิ ในห่วงโซ่อปุ ทานและ บูรณาการโลจิสติกส์ใน
ทุกข้ัน ตลอดเส้นทางห่วงโซอ่ ุปทานอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธผิ ลแล้วผู้เกี่ยวข้องได้ประโยชน์
ร่วมกัน โดยบริหารการทางานร่วมกันระหว่างกิจการที่อยู่ในสายการผลิตตลอดสาย ตั้งแต่
กระบวนการผลิตไปจนจบกระบวนการที่ผู้บริโภค โดยมีการแบ่งปันข่าวสารข้อมูลท่ีจาเป็น และใช้
ทรัพยากรทีม่ อี ยู่อยา่ งจากัดร่วมกนั เพือ่ ใหบ้ รรลวุ ตั ถุประสงค์ในการลดตน้ ทุนให้ต่าที่สุด ผลที่ได้จะทา
ให้ผู้ประกอบการตลอดสายสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพมาก
ย่งิ ข้ึน ได้รบั ผลตอบแทนจากการดาเนนิ งานดขี น้ึ สามารถแขง่ ขันในตลาดไดด้ ขี นึ้
2. โควดิ – 19
สมาคมโรคตดิ เช้อื ในเด็กแห่งประเทศไทย (2020) ไดอ้ ธบิ ายวา่ โควดิ –19 หรอื เชือ้ ไวรสั
โคโรนา (CoVs) เป็นไวรัสชนิดอาร์เอ็นเอสายเดี่ยว (single stranded RNA virus) ใน Family
Coronaviridae มีรายงานการพบเช้ือมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1965 โดยสามารถติดเช้ือได้ท้ังในคนและ
สัตว์ เช่น หนู ไก่ วัว ควาย สนุ ขั แมว กระตา่ ย และสุกร ประกอบดว้ ยชนิดยอ่ ยหลายชนิดและทาให้มี
อาการแสดงในระบบต่าง ๆ เช่น ระบบทางเดินหายใจ (รวมถึงโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง
หรือซาร์ส; SARS CoV) ระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท หรือระบบอื่น ๆ เช้ือไวรัสโคโรนา
(CoVs) พบได้ทั่วโลก โดยในเขตอบอุ่น (Temperate climates) มักพบเชื้อโคโรนาไวรัสในช่วงฤดู
หนาวและฤดูใบไมผ้ ลิ การติดเช้ือโคโรนาไวรัสอาจทาใหเ้ กิดอาการในระบบทางเดินหายใจส่วนบนได้
ถึงร้อยละ 35 และสัดส่วนของโรคไข้หวดั ที่เกิดจากเช้ือโคโรนาไวรัสอาจสูงถึงร้อยละ 15 อาจการติด
เชือ้ พบไดใ้ นทกุ ลมุ่ อายุ แต่พบมากในเด็ก อาจพบมกี ารติดเช้ือซา้ ได้ เน่ืองจากระดับภูมิคมุ้ กันจะลดลง
อยา่ งรวดเร็วภายหลงั การติดเชือ้ สาหรบั การติดเชอ้ื ทางเดนิ หายใจเฉยี บพลันรุนแรง หรอื ซารส์ (SARS
CoV) พบการระบาดปี พ.ศ. 2546 โดยพบเร่มิ จากประเทศจีนแล้วแพร่กระจายไปทัว่ โลก
สถาพร โอภาสานนท์ (2563) ได้อธิบายว่า การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ได้
สร้างความเสียหายไปยงั หลายภาคส่วนในวงกว้าง ทงั้ ดา้ นสาธารณสุข สังคม และเศรษฐกิจในด้านธุรกิจ
258
การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021
โรคติดเช้ือ โควิด-19 ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของสินค้า โดยเฉพาะใน
ส่วนต้นน้าและปลายน้าของโซ่อุปทาน ที่ได้รับผลกระทบมากกว่าส่วนอ่ืน ๆ ซ่ึงปัญหาที่เกิดกับตน้ นา้
(Upstream) ของโซ่อุปทานคอื การขาดแคลนวตั ถุดิบในภาคการผลิต โดยเฉพาะวตั ถุดิบท่ีตอ้ งนาเข้า
มาจากประเทศท่ีได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อโควิด-19 ในระดับรุนแรงจนทาให้ต้องมีการสั่งปิด
โรงงาน โดยประเทศไทยจะได้รับผลกระทบกับสินค้าท่ีต้องใช้วัตถุดิบท่ีนาเข้ามาจากประเทศจีนเป็น
ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในอู่ฮ่ัน ซ่ึงเป็นหน่ึงในฐานการผลิตสินค้าของจีน แต่ยังดีที่ประเทศจีนสามารถ
ควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้ือโรคได้เป็นอย่างดีทาให้ไม่ส่งผลให้เกิดการสะดุดของ
กระบวนการผลิตสินค้าในประเทศไทยมากนัก อย่างไรก็ตาม การขยายตัวอย่างมากของอุปสงค์
สาหรับวัตถดุ บิ ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกับเวชภัณฑ์และสินคา้ สาหรับใชใ้ นระบบสาธารณสุข ซ่ึงกาลังเปน็ ทต่ี ้องการ
อย่างมากในหลายประเทศทั่วโลก ยังถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งต่อการจัดการโซ่อุปทาน หาก
สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศต่าง ๆ ยังไม่ทุเลาลง ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นของปลายน้า
(Downstream)นั้น ปัญหาส่วนใหญ่จะเกิดจากปริมาณความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคท่ีสูงข้ึน
มากกว่าปกติเป็นช่วง ๆ อันเป็นผลพวงมาจากความอ่อนไหวต่อข้อมูลข่าวสารของผู้บริโภค และการ
ปรบั เปล่ยี นพฤตกิ รรมการจับจ่ายใช้สอยที่ลดความถี่ของการช้อปปิ้งในแต่ละสัปดาห์ลง โดยซอ้ื สินค้า
ครั้งละมาก ๆ แทน เพื่อให้เพียงพอกับการใชง้ านก่อนที่จะออกไปช้อปปิ้งครั้งตอ่ ไป รวมถึงการหันไป
พ่ึงพาการซ้ือสินค้าออนไลน์มากข้ึน ซ่ึงปัจจัยต่าง ๆเหล่าน้ีล้วนเป็นสาเหตุหลักท่ีทาให้เกิดปัญหา
Bullwhip Effect อย่างไรกต็ าม พฤติกรรมดังกล่าวจะไม่สง่ ผลกระทบต่อกระบวนการผลิตในส่วนต้น
น้ามากนัก หากผู้ผลิตตระหนักและเข้าใจถึงสภาวการณ์ท่ีเกิดข้ึนอย่างถูกต้อง และไม่หว่ันไหวไปกับ
การขยายตัวของอุปสงค์ (Demand Amplification) ท่ีไม่ได้เกิดจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่าง
แท้จริงเพราะในความเป็นจริงแล้วสินค้าอุปโภคบริโภคเหล่านี้มีอุปสงค์ท่ีค่อนข้างคงท่ี เนื่องจากเป็น
สินค้าท่ีต้องใช้เป็นประจายกเว้นสินค้าทางด้านเวชภัณฑ์ที่มีการขยายตัวของอุปสงค์อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามพฤติกรรมการช้อปป้ิงที่เปลี่ยนแปลงกลับสร้างความท้าทายอย่างมากให้กับกิจ
กรรมการบริหารสนิ ค้าคงคลงั ซึง่ ร้านค้าตอ้ งปรบั เปล่ียนช่วงเวลาและปริมาณการเติมเต็มสินค้าในแต่
ละรอบให้มีความสอดคล้องกับพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภคไปด้วย เพ่ือให้มีปริมาณสินค้าบนชั้นวาง
เพยี งพอตอ่ การตอบสนองความตอ้ งการของลกู คา้ ได้ตลอดเวลา
3. การขาย
ดารงศักด์ิ ชยั สนิท (2537) ไดใ้ ห้ความหมายว่า การขาย คือ กระบวนการขายผลติ ภัณฑ์
ต่าง ๆ กนั โดยการวเิ คราะหถ์ งึ ความต้องการของบุคคลแต่ละกลมุ่ แตล่ ะประเภท รวมถึงการเสนอขาย
โดยนกั ขาย ทัง้ น้ีเพอื่ ความพึงพอใจแกผ่ ซู้ ้อื ในสว่ นของสินค้าน้นั ๆ มากท่สี ดุ เพื่อนาไปสกู่ ารขาย
4. จดั ซื้อจดั หา
กฤษณ์ชาคริตส ณ วัฒนประเสริฐ (2558) ได้กล่าวว่า การจัดซื้อคือกระบวนการจัดซอื้
พัสดุบริการและทรัพย์สินอ่ืนท่ีจาเป็น มีการมุ่งเน้นเฉพาะกิจกรรมจัดซื้อเท่านั้น และการจัดหามี
องค์ประกอบของงานทมี่ ากกว่าการจัดซอ้ื ซง่ึ รวมถึงการจดั เตรียมและจดั จ้างการขนสง่ และการบรรจุ
ภัณฑ์ การคลังสินค้าและกิจกรรมอ่ืนๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการรับพัสดุขาเข้า การจัดหาแหล่งผู้ขาย การ
สรา้ งความสมั พันธก์ ับลกู ค้า ดังนนั้ การจัดซื้อจนเปน็ ส่วนหนงึ่ ของการจัดการการจดั หา
259
การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021
5. การผลติ
สมพล ทุ่งหว้า (2560) ได้ให้ความหมาย การผลิต (Production) หมายถึง วิธีการหรือ
กระบวนการแปรสภาพปัจจัยผลิตต่างๆ ซึ่งได้แก่ คน (Man) วัตถุดิบ (Material) เครื่องจักร
(Machine) รวมทั้งการจัดการ (Management) เพื่อให้เกิดคุณค่าทางเศรษฐกิจในรูปแบบของสินคา้
หรือบริการ ท้ังน้ีการจัดการการผลิตและการดาเนินงาน (Production and Operation
Management) คือการตัดสินใจเก่ียวกับการเปล่ียนสภาพปัจจัยการผลิต (Input) ไปเป็นผลผลิต
(Output) ใหม้ ีประสิทธิภาพและประสิทธผิ ล โดยอาศัยการออกแบบการดาเนินงานและควบคุมระบบ
พร้อมทัง้ ประสานงานกับหน่วยงานอนื่ ๆ เพื่อใหก้ ารผลิตเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือเป้าหมาย
6. คลงั สนิ ค้า
ไชยยศ ไชยม่ันคง และมยุขพนั ธ์ ไชยม่นั คง (2556) ได้ให้ความหมายว่า คลงั สินค้า เปน็
กิจกรรมโลจิสติกส์ท่ีมคี วามสาคัญ คือ เป็นสถานที่เก็บรักษาสินค้าและจุดเช่อื มต่อระหวา่ งโรงงานกบั
ลูกค้า ความสาคัญด้านเก็บรักษาสินค้าเป็นเรื่องท่ีเกี่ยวกับการบริการลูกค้าและความพึงพอใจของ
ลูกคา้ สาหรับจดุ เชือ่ มต่อเป็นบทบาทท่ีใช้คลังสนิ คา้ รวบรวมสินค้าจากโรงงานเพือ่ ส่งให้ลูกค้า บทบาท
นี้ทาให้สามารถใช้วิธีขนส่งแบบสินค้าเต็มคันรถและขนส่งแบบ Cross-docking ซ่ึงช่วยลดต้นทุน
ขนสง่ การบริหารคลงั สินค้าที่สาคัญอีกประการหนงึ่ คอื การพิจารณาจดุ สมดุลไดก้ ับเสีย ระวงั จานวน
คลังสนิ ค้ากบั การบริการลูกคา้ จานวนคลังสนิ คา้ กบั คา่ ขนส่ง และจานวนครัง้ สนิ ค้ากับสินคา้ คงคลัง
7. ระบบ FIFO (FIRST-IN-FIRST-OUT)
กรกฎ วิริยะ (2562) ได้อธิบายว่า FIFO หรือ First In First Out หมายถึงสินค้าชนิดใด
เข้ามาก่อน จะถูกจ่ายออกก่อน โดยปกติแลว้ การจัดเกบ็ สนิ ค้าเราจะใช้หลกั การนี้อยู่แลว้ โดยที่สินค้า
เก่า (สนิ ค้าท่ีถูกผลิตหรือรับเข้าสตอ๊ กมาก่อน) จะต้องถกู นาไปใช้กอ่ น วิธคี านวณต้นทุนราคาสินค้าใน
แบบวิธนี กี้ ็จะใชห้ ลักการน้ีเช่นกัน ซง่ึ การคานวณต้นทนุ ในแบบ FIFO นี้ ปกตแิ ลว้ จะให้ราคาต้นทุนต่า
เนื่องจากในความเป็นจริงสินค้ามักจะมีราคาสูงข้ึนตามกาลเวลา FIFO มักจะใช้กับสินค้าท่ีมีวัน
หมดอายุ เช่น อาหาร ยา เพ่อื ปอ้ งกันการหมดอายุของสินค้า เน่อื งจากสินคา้ เก่าจะถูกนาออกมาขาย
ก่อนเสมอ
8. การขนส่ง
ไชยยศ ไชยม่ันคง และมยุขพันธ์ ไชยม่ันคง (2556) ได้ให้นิยาม การขนส่ง เป็นเครื่องมือ
เคลอื่ นย้ายผลิตภณั ฑ์ เป็นตน้ วา่ วตั ถุดิบ กึ่งวัตถุดิบ วสั ดุแปรสภาพ โดยทกุ บริษทั ในซัพพลายเชนล้วน
แต่มีกิจกรรมขนส่งการขนส่ง การขนส่งจึงเช่ือมต่อระหว่างข้อต่อซัพพลายเชน บทบาทการขนส่ง
ดา้ นโลจสิ ติกสน์ ้นั ประกอบดว้ ย การขนสง่ ขาเข้าซึ่งเป็นวสั ดุ การขนสง่ จะต้องเชือ่ ถือได้เพอื่ ประกันวา่ มี
วสั ดุใชใ้ นการผลิต รวมทั้งต้องใหม้ ตี น้ ทุนขนส่งต่า บทบาทขนสง่ ด้านขาออกเปน็ การเคลื่อนย้ายสินค้า
สาเร็จรูปจากโรงงานผลิตไปยังคลังสินค้าและไปให้ลูกค้า การขนส่งจึงเป็นเครื่องมือกระจายสินคา้ ไป
ยงั คลังสินค้าและร้านคา้ ท้งั ในประเทศและระหว่างประเทศ บริษทั แกนนาจะตอ้ งผลกั ดนั ให้สมาชิกซัพ
พลายเชนใชร้ ปู แบบท่ขี นส่งทปี่ ระหยดั ขณะเดยี วกนั กต็ อ้ งใหล้ กู คา้ พึง่ พอใจบริการขนสง่
260
การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021
ระเบียบวธิ ีการวจิ ยั
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาในงานวิจัยคร้ังน้ี คือ พนักงานระดับบริหารและเจ้าหน้าท่ี
ปฏิบัติงานของบรษิ ัท ABC จากัด โดยผู้วิจัยใช้การเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive
sampling) เพือ่ ทาใหผ้ ลการวิจัยน้บี รรลวุ ัตถุประสงค์ของการทาวจิ ัย จานวน 15 ทา่ น ไดแ้ ก่
ผู้จัดการและพนักงานแผนกขายในประเทศ 2 ท่าน
ผูจ้ ัดการและพนกั งานแผนกขายต่างประเทศ 2 ท่าน
ผจู้ ัดการแผนกวางแผน 1 ทา่ น
ผจู้ ดั การและพนกั งานแผนกจัดซื้อ 2 ทา่ น
ผู้จัดการและพนกั งานแผนกผลติ 4 ท่าน
ผจู้ ดั การและเจ้าหน้าทแ่ี ผนกคลงั สินคา้ 2 ทา่ น
ผู้จัดการและเจ้าหน้าท่ีแผนกขนสง่ 2 ทา่ น
รวมทั้งหมด 15 ทา่ น
เครื่องมอื การเกบ็ รวบรวมข้อมูล
1. แหลง่ ขอ้ มลู ปฐมภมู ิ
1.1 การสัมภาษณ์ ใช้วิธีการสัมภาษณ์ในรูปแบบไม่มีโครงสร้าง โดยไม่กาหนด
กฎเกณฑ์และลาดับขั้นตอนในการสัมภาษณ์ล่วงหน้า ใช้การสัมภาษณ์ด้วยรูปแบบการสนทนา และ
คาถามแบบไม่ตายตัว แต่ได้มีการกาหนดกรอบแนวการสนทนาในประเด็นท่ีต้องการสัมภาษณ์ การ
ถามคาถามจะเป็นแบบถามคาถามปลายเปิดเพื่อให้กลุ่มตัวอย่างหรือผู้ร่วมสนทนาได้ให้ข้อมูลและ
แสดงความคดิ เหน็ ไดอ้ ยา่ งเต็มที่
1.2 การสงั เกตการณ์ ใช้การสงั เกตแบบมีส่วนรว่ ม โดยเป็นการเก็บข้อมูลโดยเข้าไป
ในพ้ืนที่จริงเพื่อดูการดาเนินงานในฝ่ายต่างๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลท่ีมีประโยชน์ต่อการทาวิจัยคร้ังนี้ให้
ได้มากท่ีสดุ
2. แหลง่ ข้อมูลทตุ ิยภูมิ
ได้มีการดาเนินการค้นคว้าหาข้อมูลจากหนังสือ เอกสาร บทความ วารสาร และ
ข้อมูลท่ีมาจากอินเตอร์เน็ตที่ให้ข้อมูลวิชาการ เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการประกอบการศึกษา
งานวจิ ัย
3. แนวแบบสอบถามสมั ภาษณ์ชิงลกึ
แนวคาถามวิจัยเชิงคุณภาพสาหรับกลุ่มตัวอย่าง พนักงานระดับบริหารและ
เจ้าหน้าท่ีปฏิบัติงานของบริษัท ABC จากัด ในการศึกษาวิจัยเรื่อง ศึกษากระบวนการโลจิสติกส์
และซัพพลายเชนในสถานการณ์โควดิ –19 ของบริษทั ABC จากัด
ส่วนท่ี 1 ประวัติการทางานอย่างย่อของผู้ถูกสัมภาษณ์ ได้แก่ ตาแหน่ง แผนก อายุ
งาน และประสบการณท์ างาน
261
การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021
ส่วนที่ 2 คาถามปลายเปิดตามวตั ถุประสงค์ข้อท่ี 1 กลา่ วคือ กระบวนการโลจิสติกส์
และซพั พลายเชนก่อนเกดิ สถานการณ์โควดิ –19 ของแผนกผถู้ กู สมั ภาษณ์
สว่ นท่ี 3 คาถามปลายเปดิ ตามวัตถปุ ระสงค์ข้อที่ 2 กลา่ วคือ กระบวนการโลจิสติกส์
และซพั พลายเชนหลงั เกดิ สถานการณโ์ ควดิ –19 ของแผนกผู้ถูกสมั ภาษณ์
ส่วนที่ 4 คาถามปลายเปิดตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 3 กล่าวคือ การแก้ปัญหา
กระบวนการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนหลงั เกดิ สถานการณ์ โควดิ –19 ของแผนกผ้ถู กู สัมภาษณ์
วิธกี ารรวบรวมขอ้ มูล
การศึกษาวิจัยในคร้ังนี้ ได้ใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลหลากหลายรูปแบบ โดยเร่ิมจาก
การทาการศึกษาข้อมูลของบริษัท ได้แก่ โครงสร้างของธุรกิจ การดาเนินงานของธุรกิจ เป็นต้น โดย
ผู้วิจัยได้ทาการนัดพบและสัมภาษณ์ผู้ที่เก่ียวข้องจานวน 15 ท่าน จากแผนกขายในประเทศและ
ต่างประเทศ แผนกวางแผน แผนกจัดซื้อ แผนกผลิต แผนกคลังสินค้า และแผนกขนส่ง ทาการ
สัมภาษณ์แบบคาถามปลายเปิดเพื่อให้กลุ่มตัวอย่างหรือผู้ร่วมสนทนาได้ให้ข้อมูลและแสดงความ
คิดเห็นได้อยา่ งเตม็ ท่ีตามแผนกตา่ ง ๆ โดยวเิ คราะหข์ ้อมูลจากผู้ถูกสมั ภาษณ์
ผลการวจิ ัย
จากวัตถุประสงค์ข้อท่ี 1 เพื่อศึกษากระบวนการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนก่อนเกิด
สถานการณ์โควิด–19 ของบรษิ ัท ABC จากดั
ทางบริษัทได้แบง่ การขายออกเป็น 2 ประเภท คือ ขายในประเทศและขายต่างประเทศ
โดยการขายในประเทศนัน้ จะขายเข้าสโู่ รงแรม ร้านอาหาร หา้ งสรรพสนิ คา้ อตุ สาหกรรม โดยโรงแรม
ร้านอาหาร และห้างสรรพสินค้านั้นจะขายสินค้าชนิดเดียวกันคือ น้าผลไม้คั้นสดพาสเจอร์ไรส์ น้า
ผลไม้เข้มข้น ส่วนทางด้านอุตสาหกรรมนั้นจะเน้นขายวัตถุดิบน้าผลไม้เข้มข้นแช่แข็งให้กับ
อตุ สาหกรรมต่าง ๆ เพื่อทาการผลิตเปน็ เครอื่ งดื่มสาเร็จรูป ซงึ่ แผนกขายในประเทศ สามารถมเี ครดิต
การซ้ือขายไดเ้ ป็นระยะเวลา 30 วัน ในส่วนของขายตา่ งประเทศน้นั ลูกค้าประเทศหลักของบรษิ ัท คือ
โซนเอเชีย แอฟริกา และ อเมริกา ซ่ึงสินค้าท่ีนาส่งออกไปขายคือ น้าผลไม้บรรจุกระป๋อง และกาแฟ
สาเร็จรูปพร้อมดื่ม ซ่ึงได้รับความนิยมในประเทศลูกค้าดังกล่าวเป็นอย่างมาก และยังได้มีการรบั จ้าง
ผลิตสินค้าในแบรนด์ของตนเอง Original Design Manufacturer (OEM) ส่วนการเก็บเงนิ จากลูกคา้
น้ันจะเก็บเป็นเงินสดแบบแบ่งจ่าย รวมถึงรับชาระแบบ Letter of Credit ขึ้นอยู่กับข้อตกลงท่ีไดต้ ก
ลงกับลูกค้า โดยมีข้อบังคับ เง่ือนไขข้อตกลงต่าง ๆ รวมไปถึงส่วนลดทางการค้ากบั ทางลูกค้าในส่วน
ของห้างสรรพสนิ ค้า โรงแรม รา้ นอาหาร หรือลูกคา้ ต่างประเทศ
แผนกขายท้ังในประเทศและต่างประเทศ ทั้งหมดจะมีหน้าท่ีติดต่อกับลูกค้า รับใบคา
สง่ั ซ้ือจากลูกคา้ หลังจากทไี่ ด้มกี ารเสนอขายกับลกู ค้า ประสานงานกบั แผนกผลติ และแผนกผลติ สินค้า
เพ่ือทาการผลิตสินค้าไปจนถึงกระบวนการส่งสินค้าเพ่ือให้ถึงมือลูกค้า รวมไปถึงเป็นผู้รับร้องเรียน
และประสานงานแก้ไขปัญหาให้กับลูกค้า รวมไปถึงทาหน้าที่รวบรวมข้อมูลตลาดใหม่ จัดโปรโมชั่น
ให้กับลูกค้า และออกบูธแสดงสินค้าเพอ่ื ให้เป็นที่ร้จู ักมากข้ึน รวมไปถึงเพ่ิมยอดขายให้กับแผนก การ
ติดตามลูกค้า พนักงานขายจะต้องมีการติดต่อสอบถามลูกค้าอย่างสม่าเสมอ โดยจะมีแบบฟอร์ม
262
การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021
รายงานให้พนักงานได้ทาการจดบันทึกการเข้าพบหรือติดต่อ ซึ่งจะต้องเข้าไปพบหรือติดต่อลูกค้า
อย่างน้อย 1-2 ครั้ง ต่อเดือน การเข้าทางานนั้นบริษัทจะมีการประชุมทุกวันจันทร์ เพื่อให้ทราบถึง
ความคบื หน้าของการทางานในแต่ละคน รวมไปถงึ ประชุมเรอ่ื งท่วั ไปของบรษิ ัทท่พี นกั งานทุกคนต้องรู้
พนักงานสามารถเข้ามาทางานในออฟฟิศได้ทุกวัน จันทร์ -ศุกร์ โดยมีการเช็คช่ือผ่านระบบ
คอมพิวเตอร์ เม่ือทางแผนกขายได้รับคาส่ังซ้ือจากลูกค้าแล้ว ข้อมูลท้ังหมดจะถูกส่งไปที่แผนก
วางแผน เพ่ือทาการวางแผนสั่งซื้อวตั ถุดิบและช่วงเวลาท่ีจะสามารถผลิตไดห้ ลังจากท่ีได้มกี ารนาเข้า
วัตถดุ บิ
แผนกวางแผน จะทาการคานวณวัตถุดิบท่ีจะต้องใช้ทั้งหมดแล้วจึงส่งข้อมูลต่อไปยัง
แผนกจัดซ้ือเพื่อทาการส่ังซ้ือสินค้า โดยแผนกจัดซ้ือน้ีจะเป็นผู้รับผิดชอบการจัดหาวัตุดิบเพ่ือท่ีจะใช้
การผลิตสินค้าทุกประเภทของบริษัทโดยจะมีการส่ังซ้อื วัตถุดิบท้ังในประเทศและต่างประเทศ โดยที่
คุณภาพต้องดี ราคาทส่ี มเหตสุ มผล และระยะการจัดสง่ ท่รี วดเรว็
แผนกผลิต เข้ามารับหน้าที่ต่อโดยนาวัตถุดิบท้ังหมดเข้าสู่กระบวนการผลิต ซ่ึงแผนก
ผลติ จะมกี ระบวนการที่เยอะที่สดุ เพราะจะตอ้ งมีการรบั ผิดชอบการผลิตประเภทสนิ ค้าที่หลากหลาย
ได้แก่ นา้ ผลไมพ้ าสเจอรไ์ รส์บรรจุขวด แกลลอน น้าผลไม้เข้มขน้ นา้ ผลไมบ้ รรจกุ ระป๋อง กาแฟพรอ้ ม
ด่ืมบรรจุกระป๋อง และเคร่ืองดื่มทั่วไป โดยการผลิตน้ันจะมีการวางแผนเป็นรอบ ๆ เพราะเน่ืองจาก
บางสินค้าจาเป็นต้องใช้เคร่ืองจักรเดียวกัน จึงต้องมีการวางแผนล่วงหน้า 1-2 วัน ส่วนการควบคุม
คุณภาพและความปลอดภัยในการผลิต บริษัทมีการทาระบบท่ีเก่ียวข้องกับคุณภาพและความ
ปลอดภัยคือ FSSC22000 Version5, GMP, HACCP, ISO9001;2015 ซ่ึงจะต้องมีการประเมินความ
เส่ียง วิเคราะห์อันตรายตั้งแต่ตัววัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ และกระบวนการผลิต เพ่ือหาแนวทางป้องกัน
ไมใ่ หเ้ กดิ อันตรายกับสินคา้ ทผี่ ลติ รวมถึงกาหนดแนวทางการแก้ไข ในกรณที ี่เกิดปญั หาในระหว่างผลติ
เพอ่ื ให้สินค้าปลอดภัย นอกจากนี้ ยงั มีการตรวจเชอื้ ท่ีมือพนักงาน (Swab test) ในระหว่างปฏบิ ัตงิ าน
เพอื่ ให้พนกั งานรกั ษาความสะอาดของมืออยู่เสมอ เปน็ การปอ้ งกนั การปนเปือ้ นของเช้อื จลุ นิ ทรีย์ หรือ
สิ่งสกปรกต่าง ๆ ไปยังสินค้า โดยพนักงานทุกคนท่ีทางานในโรงผลิตจะถูก Swab เดือนละ 4 คร้ังต่อ
1 คน และยังมกี จิ กรรม 5 ส. คอยเสรมิ เพอื่ ใหโ้ รงงานมคี วามเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ยและสะอาด โดยให้
แบง่ พ้ืนท่ที ้ังหมดในโรงงานออกเปน็ ส่วนๆ และกาหนดชอ่ื พนกั งานที่ดูแลรบั ผดิ ชอบในพืน้ ทน่ี น้ั ๆ เมอ่ื
ทางแผนกผลิตทาการผลิตสินค้าออกมาแล้วนั้น จะต้องประสานกับแผนกคลังสินค้าเพื่อนาสินค้าที่
ผลิตแล้วนาไปจัดเกบ็ ยังคลังสนิ ค้า
แผนกคลังสินค้าจะใช้ระบบหยิบสินค้าแบบ First in first out โดยการรับสินค้าเข้า-
ออกนั้นทางแผนกคลงั สินคา้ จะตอ้ งมีใบรบั เข้า-ออก เพือ่ เชค็ สนิ คา้ โดยจะมแี ผนก QA เขา้ มารว่ มตรวจ
สินค้าด้วยเสมอ เพราะดว้ ยสนิ คา้ ท่ีรบั เข้า-ออกมาน้ันต้องไดค้ ุณภาพตามท่ีบริษทั ไดก้ าหนดไวแ้ ละหาก
มชี ารดุ หรือเสียหาย จาเปน็ ที่จะต้องคดั แยกออกมาเพราะอาจกอ่ ใหเ้ กดิ ความเสียหายภายในโกดัง การ
ผลิต และลกู ค้าได้
แผนกขนส่ง ของบริษัทนน้ั จะเน้นไปท่ีขายในประเทศเป็นหลักโดยเสน้ ทางการขนส่งน้ัน
จะแบ่งออกเป็นทั้งหมด 12 เส้นทาง โดยแบ่งเป็นกรงุ เทพมหานครและปริมณฑล 10 เส้นทาง ชลบรุ ี
2 เส้นทาง รถทใ่ี ช้ในการขนสง่ คอื รถปิคอัพ 4 ลอ้ ตู้เย็น 14 คนั และรถ 6 ล้อ 1 คนั ซ่ึงทุกคนั จะมีการ
263
การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021
เช็คสภาพรถก่อนใช้งานทุกคร้ังเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ข้ันแรกของการทางานแผนกขนส่งคือ
จัดเตรียมเอกสาร โดยแผนกขนส่งจะมีการประสานงานกับแผนกบัญชีเพ่ือเปดิ บิลสินค้าให้ทางแผนก
ขนส่งได้จัดเตรียมสินค้า โดยจะต้องประสานงานควบคู่ไปกับแผนกคลังสินค้าในการเบิกสินค้าเพื่อ
นาไปส่งให้ลูกค้า ซ่ึงเอกสารนั้นทางบัญชีจะทาการเตรียมล่วงหน้าก่อน 1 วัน และรถจะต้องควบคุม
อุณหภูมิให้ได้มาตรฐานอยู่เสมอ เพราะว่าทางลูกค้าน้ันก็จะต้องมีการตรวจเช็คอุณหภูมิก่อนรับ
สินค้าเข้าเช่นเดียวกัน โดยตัวเลขของอุณหภูมิในรถนัน้ จะต้องไม่เกิน 2-8 องศาเซลเซียสและต้องทา
ความเย็นอย่างสมา่ เสมอ
จากวัตถุประสงค์ข้อท่ี 2 เพื่อศึกษากระบวนการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนหลังเกิด
สถานการณ์โควดิ –19 ของบริษัท ABC จากัด
1) ยอดขายสินคา้ ในประเทศและต่างประเทศลดลง รวมถงึ กระทบแผนกขายทัง้ หมด จะ
เหน็ ได้วา่ ยอดขายท้ังหมดของบรษิ ัท ABC จากดั ใน 2 ปีที่ผ่านมานน้ั เพิ่มขน้ึ อย่างต่อเนอื่ ง ปี 2561 มี
ยอดขายทง้ั ปจี านวน 535 ล้านบาท ปี 2562 มยี อดขายทงั้ ปีจานวน 600 ล้านบาท และในปี 2563 ได้
เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดเช้ือไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ 2019 (โควิด-19) ทาให้ไม่สามารถเพิ่ม
ยอดขายให้ได้มากกวา่ ปีก่อน โดยสถานการณ์โควิด – 19 ได้มีการระบาดเกิดข้ึนตั้งแต่เดือนมกราคม
พ.ศ.2563 ไม่ค่อยมีผลกระทบกับทางบริษัทมากนัก แต่เมื่อรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เม่ือ
วันท่ี 26 มีนาคม 2563 โดยส่วนหนึ่งได้มีการปิดให้บริการต้ังแต่เดือนมีนาคม ปี 2563 และยังไม่
สามารถเปิดได้ รวมไปถึงบางแห่งได้ปิดบริการลงถาวรเพราะไม่สามารถดาเนินการต่อได้ด้วยสภาพ
เศรษฐกิจที่ไม่เอ้ืออานวย มีการปิดสนามบินทุกแห่ง ซ่ึงทาให้รายได้ส่วนใหญ่ที่มาจากนักท่องเท่ียว
ต่างชาติต้องหยุดชะงัก ซึ่งทาให้ยอดขายสินค้าประเภทพาสเจอร์ไรส์และเข้มข้นที่ทางบริษัทได้มกี าร
ขายกบั ทางโรงแรม ร้านอาหารและห้างสรรพสนิ ค้าลดลงไปถงึ 80% ทางบรษิ ัทยงั ได้มกี ารยกเลิกการ
ประชุมทุกวันจันทร์ เพ่ือหลีกเล่ียงการอยู่เปน็ กลุ่มและเล่ียงการเดินทางของพนกั งานขายต่างจังหวดั
ทั้งนี้สินค้าที่ขายเข้าอุตสาหกรรมเพื่อนาไปผลิตเป็นเคร่ืองดื่มสาเร็จรูป และสินค้ากระป๋องส่งออก
ต่างประเทศไม่ค่อยได้มีผลกระทบกับเหตุการณ์ในคร้ังนี้มากนัก ซึ่งจะเห็นได้จากยอดขายทั้งปี พ.ศ.
2563 ของบริษัท ABC จากัด อยู่ที่ 420 ล้านบาท แต่เม่ือเปรียบเทียบจากปี พ.ศ.2562 จานวน 600
ล้านบาท จะเหน็ ไดว้ า่ ยอดขายน้ันไมไ่ ด้ตกลงไปมาก คิดเป็นร้อยละ 30 เมือ่ เทยี บกับปี 2562 ซึง่ ถือวา่
ขาดทนุ แต่ไมไ่ ดอ้ ยใู่ นระดับรนุ แรง เพราะทางบริษทั ไม่ได้มีการทาธุรกิจขายไปกบั ทางห้างสรรพสินค้า
โรงแรม ร้านอาหาร อย่างเดียว ยังมีสินค้าส่งออก และสินค้าวัตถุดิบจัดส่งเข้าอุตสาหกรรม
ภายในประเทศ
2) แผนกจัดซื้อไม่สามารถส่ังซ้อื วตั ถุดิบและบรรจุภัณฑ์ ทาให้แผนกวางแผนไม่สามารถ
ทางานต่อได้ ซง่ึ แผนกวางแผนไมส่ ามารถสรุปยอดในการผลิตได้ เพราะมสี ินค้าคงเหลอื คา้ งอยู่ในคลัง
รวมไปซึ่งกระทบไปยังฝ่ายจัดซือ้ ที่ต้องมีการส่ังวตั ถุดิบจากต่างประเทศ แต่ประเทศที่ทาการซ้ือขาย
หรือซัพพลายเออรไ์ ด้ปิดประเทศ ซึ่งผลกระทบท่ีเกิดข้ึนที่เห็นได้ชัดคือ แผนกจัดซื้อไม่สามารถสัง่ ซื้อ
วัตถุดิบจากต่างประเทศได้เลย ถึงแม้จะมีการวางแผนการส่ังซ้อื สินค้าอย่างน้อย 1 ปี แต่วัตถุดิบบาง
ตัวก็ยังคงต้องซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่อง ทาให้ไม่สามารถติดต่อซัพพลายเออร์ได้ เน่ืองจากการปิด
264
การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021
ประเทศ ปิดสนามบนิ ไมส่ ามารถนาเข้าสนิ ค้าได้ ซง่ึ วัตถุดิบบางชนดิ จาเป็นตอ้ งสั่งเข้ามาทุกเดือนทา
ใหโ้ รงงานตอ้ งขาดวตั ถุดบิ ในการผลติ
3) แผนกผลติ หยุดการผลิตสินคา้ เนือ่ งจากไมม่ ีคาสั่งซอ้ื เนอื่ งจากรัฐบาลไดม้ ปี ระกาศปิด
ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงแรม และสนามบิน ทาให้เกิดผลกระทบที่สาคัญคือสินค้าขายได้
น้อยลงหรือแทบขายไม่ได้เลย สินค้าคงเหลือมากขึ้น และทั้งน้ียังส่งผลกระทบทาให้แผนกผลิตของ
บริษัทต้องหยุดการทางานไมส่ ามารถผลิตได้ เพราะเน่ืองจากเหตุผลข้างต้น และสินค้ามีอายุสั้น เช่น
สินค้าพาสเจอรไ์ รซ์มอี ายุ 75 วันนบั ตั้งแตว่ นั ท่ผี ลิต สนิ ค้าเข้มข้นมอี ายุ 6 เดือนนับจากวนั ท่ีผลิต หาก
ไม่สามารถขายได้ก็ต้องทาลายท้ิงซง่ึ น่นั เป็นการสร้างต้นทนุ ที่สูงขึ้นให้กับบรษิ ัท จึงทาบริษัทต้องหยดุ
การผลติ ชว่ั คราวจนกว่าสถานการณจ์ ะดขี นึ้ หรือวา่ มีออเดอร์เขา้ มาเพียงพอท่ีจะผลิตได้ และยงั กระทบ
ถึงแผนกคลังสินคา้ คือ สนิ ค้าคงเหลือทม่ี ากกว่าท่ีคาดการณไ์ ว้ เพราะเนอ่ื งด้วยทุกสถานท่ีที่เป็นลูกค้า
ได้ปิดหมด ไม่สามารถส่งของได้ ทาให้มีสินค้าคงค้างเยอะ และยังต้องมีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากข้ึนเพือ่
รักษาอุณหภูมขิ องสินคา้ ใหค้ งที่ ปอ้ งกนั ไมใ่ หส้ นิ ค้าเกดิ ความเสียหาย
4) แผนกขนสง่ สินค้าว่งิ สง่ สินค้าไมค่ ุ้มตน้ ทนุ เนอ่ื งจากแผนกขนสง่ จะเปน็ แผนกท่ีเน้นไป
ในด้านขนส่งสินค้าตามเส้นทางที่ได้กาหนดไว้ และจาเปน็ ต้องตดิ ต่อส่งสนิ ค้าใหก้ บั ลูกคา้ มากท่ีสุด เมือ่
เกิดสถานการณ์โควิด–19 ขนึ้ มา ทาให้ไม่สามารถว่ิงรถสง่ สนิ ค้าได้เน่ืองจากลกู ค้าปดิ กิจการ หรอื ไม่มี
การสัง่ ออเดอรผ์ า่ นแผนกขายเขา้ มา ทาใหก้ ารวงิ่ รถน้อยลงหรอื แทบไมม่ ีการวิ่งในเส้นทางน้ันๆเลย ทา
ใหพ้ นักงานบางส่วนเกดิ การว่างงาน
จากวัตถุประสงค์ข้อท่ี 3 เพื่อศึกษาการแก้ปัญหากระบวนการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน
หลงั เกิดสถานการณ์โควดิ –19 ของบริษทั ABC จากัด
เนอ่ื งจากในสถานการณ์ปัจจุบนั โควิด-19 ยงั คงระบาดอยา่ งตอ่ เน่ืองท้งั ในต่างประเทศและ
ในประเทศกระทบทั้งในส่วนโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ทาให้ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถึง
ทีส่ ดุ และเหน็ ผลไดช้ ัดเจน กลยุทธท์ ส่ี าคญั ที่บรษิ ัทกรณีศึกษาเลอื กนามาใชค้ ือ
1) กลยุทธ์ด้านการบริหารต้นทุน เป็นกลยุทธ์ท่ีมีความสาคัญท่ีจะเข้ามาช่วยใน
สถานการณ์โควดิ -19 ทเี่ กดิ ข้ึน โดยมีเป้าหมายเพอ่ื ลดตน้ ทุนและค่าใช้จ่ายใหไ้ ด้มากท่สี ุด ถึงแมว้ า่ ทาง
บริษัทจะมีการใช้กลยุทธ์ในสถาการณ์ปกติ แต่เน่ืองจากสถานการณ์ปัจจุบันกระทบต่อยอดขายและ
รายได้ของบริษัท จึงต้องมีการนากลยุทธ์มาวิเคราะห์โดยละเอียด โดยมีการประเมินหรือวิเคราะห์
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทาการกาหนดกลยุทธ์ข้ึนใหม่ โดยตัดค่าใช้จ่ายหรือการดาเนินงานท่ีไม่จาเป็น
เพ่อื เปน็ การลดตน้ ทนุ ส้ินเปลืองท่ีจะเกิดขึ้น นากลยุทธ์ไปปฏบิ ัตแิ ละติดตามผลการดาเนินงาน
2) กลยุทธ์ด้านการบรหิ ารความสมั พันธ์กับลกู ค้า หรือการสรา้ งความสมั พันธ์กับลูกค้า
โดยทางบริษัทไม่ได้เพียงมุ่งเน้นเพียงแต่การขายสินค้าเพ่ือให้ได้กาไรเท่านั้น แต่ยังคงมุ่งเน้นถึง
ความสัมพันธ์ท่ีดีกับลูกค้าอีกด้วย มีการบริหารจัดการให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและภักดีไม่ให้
เปล่ียนไปใช้สินค้าของคู่แข่งที่มีอยู่ในตลาด โดยการติดตามปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับบริษัท การ
ติดตามกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีแนวโน้มสนใจสินค้าและเปลี่ยนให้มาเป็นลูกค้า แต่เนื่องจาก
สถานการณ์โควิด-19 ได้กระทบถึงผู้ประกอบการซ่ึงเป็นหน่ึงในลูกค้าหลักที่สาคัญของบริษัท เกิด
กาลังการซื้อท่ีน้อยลง ทาให้ต้องมีการนากลยุทธ์นี้มาวิเคราะห์เพิ่มเติมและนากลยุทธ์ที่ได้มาปรับใช้
265
การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021
เพ่ือตอบสนองความต้องการและรักษาฐานลูกค้าของบริษัทไว้ โดยสิ่งท่ีสาคัญท่ีสุดคือต้องมีความ
เข้าใจลูกค้าในสถานการณ์ท่ีเกิดขึ้นและหาทางแก้ไข เพื่อรักษาความสัมพนั ธ์ทางการค้าและความพงึ
พอใจระหว่างบรษิ ทั กับลกู คา้ ไว้
3) เน้นสขุ อนามยั ในแผนกผลิต และวางแผนการทางานใหก้ ระชับมากขน้ึ ควบคุมบุคคล
เข้า-ออก ภายในบริษัทฯ โดยมีการคัดกรองบุคคลที่เข้า-ออกบริเวณโรงงานทุกคน ทั้งบุคคลภายใน
บริษัทฯ และบุคคลภายนอกท่ีมาติดต่อโดยการวัดอุณหภูมิ บุคคลที่ไม่ผ่านเกณฑ์การคัดกรองจะไม่
สามารถเข้ามาในบรษิ ัท ได้ การเฝา้ ระวังการระบาดของบุคคลภายในบรษิ ัทฯ โดยกาหนดกฎเกณฑ์ใน
การปฏิบัติตัวของพนักงาน ในระหว่างทางานภายในบริษัทฯ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโค
วิด-19 และประกาศให้พนักงานทราบ เช่น การสวมผ้าปิดปากในระหว่างทางานตลอดเวลา การล้าง
มือแลว้ สเปรย์ฆา่ เชื้อดว้ ยแอลกอฮอล์ หรอื ใช้แอลกอฮอลล์เจล หา้ มพนักงานไปในพนื้ ทที่ ่ีมกี ารระบาด
ของโรค กาหนดให้พนักงานที่มีอาการป่วย โดยมีอาการเหมือนโควดิ -19 ห้ามพนักงานเข้ามาทางาน
ในบริษัท พนักงานต้องแจ้งอาการให้หัวหน้างานทราบ กาหนดมาตรการการทาความสะอาดพื้นที่
ปฏบิ ตั งิ านให้มากขึน้ รวมถึงพนื้ ทที่ ีพ่ นกั งานต้องใช้งานร่วมกนั เชน่ โรงอาหาร ห้องน้า บริเวณพักผ่อน
เป็นตน้ และกาหนดมาตรการการทาความสะอาดเครือ่ งมือ เคร่ืองจักร และอปุ กรณ์ ในการทางานให้
มากขึ้น โดยเฉพาะอุปกรณ์ท่ีพนกั งานจะต้องมกี ารหยิบจับหรอื สัมผัสรว่ มกัน
อภิปรายผลการวจิ ยั
ผลการศึกษาข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์และการสังเกตการณ์แบบมีส่วนร่วมจากท้ังหมด 6
แผนก ของบรษิ ทั ABC จากดั ไดแ้ ก่ แผนกขายภายในประเทศและตา่ งประเทศ แผนกวางแผน แผนก
จัดซ้ือ แผนกผลิต แผนกคลังสินค้า และแผนกขนส่ง พบว่า กลุ่มเป้าหมายลูกค้าของบริษัท คือกลุ่ม
ลูกคา้ ประเภท หา้ งสรรพสินคา้ รา้ นอาหาร โรงแรม อตุ สาหกรรม สถานศกึ ษา โรงพยาบาล และลกู คา้
ต่างประเทศ หลังการเกิดสถานการณ์โควิด -19 โดยรัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินให้มีการปิด
การให้บริการ ต่างๆเพ่ือป้องกันการเกิดโรคระบาด ส่งผลทาให้ทางบริษัทได้รับผลกระทบจาก
สถานการณ์ท่ีเกิดข้ึน ยอดขายสินค้าในประเทศและต่างประเทศลดลง รวมถึงกระทบแผนกขาย
ทั้งหมด ทาให้เกดิ หนจี้ ากลูกค้าทีท่ างบรษิ ทั ให้เครดติ 30 วัน เพม่ิ มากข้ึน แผนกจดั ซอ้ื ไมส่ ามารถสง่ั ซื้อ
วัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ท่ีมาจากต่างประเทศได้ ทาให้แผนกวางแผนไม่สามารถวางแผนการผลิตได้
อยา่ งแมน่ ยา แผนกผลิตหยดุ การผลติ สนิ ค้าเนื่องจากไมม่ ีคาสัง่ ซอื้ จากพนักงานขาย เกดิ สินคา้ คงเหลือ
และสนิ ค้าบางรายการไม่สามารถผลิตได้เน่ืองจากผลิตไม่คมุ้ ต้นทนุ และแผนกขนสง่ สินค้าวงิ่ ส่งสินค้า
ไมค่ ุ้มตน้ ทนุ ซงึ่ ผลการวิจัยน้ี สอดคล้องกับผลการวจิ ัยของ ทวศี ักด์ิ เทพพิทกั ษ์ (2563) ท่ศี กึ ษาพบว่า
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงกับภาคส่วนต่าง ๆ ในส่วนของภาคการ
ท่องเที่ยวจะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์การท่องเที่ยวและต่อซัพพลายเชนการท่องเที่ยวท้ังระบบอัน
เน่ืองจากนักท่องเท่ียวเกิดความหวาดกลัวการติดเช้ือโควดิ -19 และการบังคับใช้ พ.ร.ก. สถานการณ์
ฉุกเฉิน ระบบเศรษฐกิจของประเทศ ขณะท่ี ภาคการส่งออก ซึ่งการแพร่ระบาดดังกล่าวได้ส่งผล
กระทบต่อซัพพลายเชนระดับโลก ท้ังสาธารณะรัฐประชาชนจีน ซึ่งเป็นแหล่งผลิตระดับโลก และ
สหรฐั อเมริกาและยโุ รปซง่ึ เป็นตลาดระดับโลก สง่ ผลกระทบเป็นลกู โซ่ต่อซพั พลายเออรใ์ นเทียรต์ ่าง ๆ
266
การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021
รวมทงั้ ซพั พลายเออร์ในประเทศไทยด้วย โดย 3 ธรุ กิจที่ได้รบั ผลกระทบอย่างรุนแรงและเชิงประจักษ์
ไดแ้ ก่ ธุรกิจออนไลน์ ธุรกจิ ค้าปลีก และธุรกจิ ร้านอาหาร บรษิ ัทกรณีศกึ ษาได้ทาการดาเนินการแก้ไข
ปัญหาท่ีเกิดขึ้นหลังจากท่ีบริษัทได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยการแก้ไขการทางาน
ของแผนกขายทั้งหมด โดยพนักงานทุกคนต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย และมีการติดต่อลูกค้า ทาการ
ติดตามหนี้ลูกค้าอย่างสม่าเสมอ มีการจัดประชุมระหว่างแผนกขายภายในประเทศและต่างประเทศ
แผนกวางแผน แผนกจัดซ้ือ แผนกคลังสินค้า และแผนกขนส่ง โดยแผนกขายจะต้องมีการประมาณ
การวางแผนการขายสินค้าในทุก ๆ เดือนเพื่อท่ีจะให้แผนกอ่ืนๆได้ทาการวางแผนต่อไปได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ หยุดการผลิตสินค้าที่มียอดขายไม่คุ้มต้นทุนการผลิต ลดพ้ืนที่การจัดเก็บสินค้าใน
คลังสินค้าสินค้าแช่แข็งและแช่เย็น ลดจานวนวันขนส่งสินค้าในแต่ละพื้นที่ เน้นสุขอนามัยในแผนก
ผลิตเปน็ หลัก โดยมีการควบคุมและเฝ้าระวงั ตรวจวัดอุณหภมู ิรา่ งกาย กาหนดกฎเกณฑ์การปฏบิ ัติตัว
ของพนักงาน อีกคร้ังยังมีการกาหนดมาตรการการทาความสะอาดพื้นท่ีปฏบิ ัติงานให้มากขน้ึ กว่าเดมิ
โดยเน้นกิจกรรม 5 ส เป็นหลักโดยจะต้องปฏิบัติทุกแผนก เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ผลการศึกษา
พบว่าหลงั จากที่ได้มกี ารสัมภาษณก์ ลมุ่ ตวั อยา่ งเกีย่ วกับการแก้ไขปัญหากระบวนการโลจสิ ติกสแ์ ละซัพ
พลายเชนในสถานการณ์โควิด-19 ทางบริษัทสามารถจัดการ แก้ไข และป้องกันได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ รวมไปถึงสามารถลดต้นทุนท้ังในด้านการผลิต การจัดเก็บ รายการขนส่งได้เปน็ อยา่ งดี
มีการนากลยุทธ์ดา้ นการบริหารตน้ ทนุ และกลยุทธ์ดา้ นการบรหิ ารความสัมพนั ธก์ บั ลูกค้ามาใช้ได้อย่าง
เหมาะสม อกี ทัง้ ยังไมม่ ีพนกั งานทต่ี ดิ เช้ือโควดิ -19 ทง้ั ในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด นั่นแสดงให้
เหน็ วา่ การแก้ปญั หาของบรษิ ทั เป็นไปอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพและสามารถป้องกนั ได้เปน็ อย่างดี
ข้อเสนอแนะการวจิ ัย
ขอ้ เสนอแนะเพ่อื การนาไปใช้
1. ควรใช้กลยุทธ์และแผนการแก้ไขในสถานการณ์โควิด–19 ข้างต้นให้เกิดข้ึนต่อใน
อนาคตอย่างต่อเน่ือง เช่น หยุดผลิตสินค้าท่ีผลิตไม่คุ้มต้นทุน รอบการจัดส่งสินค้า รวมไปถึงการ
จัดเก็บภายในคลังสินค้า เพื่อลดต้นทุนรวมและสร้างกาไรที่มากขึ้น การรักษาความสะอาด และเน้น
ดา้ นสุขอนามัยของพนักงานให้มากขน้ึ เพอื่ ลดความเสี่ยงเชอ้ื โรคท่อี าจเกดิ ขน้ึ ได้
2. ควรมีการติดตามและประเมินผลการดาเนินงานที่ได้มีการจัดทาขึ้นเพ่ือดูว่าสามารถ
นาไปประยกุ ตเ์ พิ่มเติมหรือควรปรับปรุง แกไ้ ข พัฒนาใหเ้ กดิ ประสิทธิภาพมากข้ึนในกระบวนการโลจิ
สตกิ สแ์ ละซพั พลายเชนในบรษิ ทั ตอ่ ไป
3. ควรมีการมุ่งเน้นไปที่การขายออนไลน์ที่มากข้ึน เน่ืองจากกลุ่มเป้าหมายของบริษัท
กรณีศึกษาส่วนใหญ่เป็นกลุ่มตลาดออฟไลน์ เช่น ร้านอาหาร โรงแรม โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า
สนามบิน และโรงพยาบาล ซ่ึงสถานทเี่ หลา่ นีล้ ้วนได้รบั ผลกระทบจากสถาณการณโ์ ควดิ -19 เป็นอย่าง
มาก ทาให้ควรไปมุ่งเนน้ ทาการขายสินค้าในตลาดออนไลนใ์ ห้มากข้ึน เพื่อเป็นการเปดิ ตลาดใหม่และ
เพิม่ ยอดขายให้มากขนึ้
267
การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021
ข้อเสนอแนะในงานวจิ ัยคร้ังตอ่ ไป
1. ควรเพิม่ ขอ้ มูลแสดงผลการดาเนินงาน หลงั จากท่ีได้มีการนากลยุทธแ์ ละแนวทางการ
ป้องกันโควิด-19 มาใช้ เพื่อให้ได้ทราบถึงผลการดาเนินท่ีจะได้รับว่าเม่ือดาเนินการไปแล้วมี
ประสิทธภิ าพหรือไม่ เหมาะสมหรือไมก่ บั สถานการณ์ทเ่ี กิดข้ึน
2. ควรทาการวิจัยเพ่ิม โดยการเก็บข้อมูลงานวิจัยในเชิงปริมาณภายในบริษัท เน้น
ผลกระทบในแต่ละแผนกภายในบริษัท เพื่อนามาวิเคราะห์ ปรับปรุง แก้ไข และพัฒนาให้มี
ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในสถานการณ์โควิด-19 โดยเน้นการสูญเสียทรัพยากรและค่าใช้จ่ายให้น้อย
ที่สดุ
3.ควรมีการทางานวิจัยเปรียบเทียบเพ่ิมเติมกับบริษัทที่มีประเภทธุรกิจหรือสินค้าท่ี
เหมือนกันหรือใกล้เคียงกับบริษัทกรณีตัวอย่าง เพื่อให้ได้ทราบถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นภายใน
อตุ สาหกรรมว่าไปในทิศทางเดียวกนั หรอื ไม่
เอกสารอ้างองิ
กรกฎ วริ ยิ ะ. (2562). ความแตกตา่ งการคานวณต้นทนุ ราคาสินค้าแบบ FIFO และ LIFO. สบื คน้
จาก https://sites.google.com/site/nw5s2016/khwam-pen-ma/hlak-kar-
laea-naewkhid-kar-danein-kickrrm-5s
กฤษณช์ าครติ ส ณ วัฒนประเสริฐ. (2558). การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนเชิงวิศวกรรม.
กรุงเทพมหานคร: สานักพิมพ์ปญั ญาชน.
ชวนนิ ทร์ บณั ฑิตกฤษดา. (2020). ธุรกิจ Logistics & Supply Chain ปรับตวั อย่างไร เมือ่
COVID-19 มาพร้อมกับ วกิ ฤต และโอกาส. สืบคน้ จาก https://techsauce.co/exec-
insight/jwd-logistic-new-normal-bcp-fight-covid-19
ไชยยศ ไชยมัน่ คง และมยขุ พนั ธ์ุ ไชยมัน่ คง. (2556). กลยทุ ธโ์ ลจิสตกิ สแ์ ละซัพพลายเชนเพอื่
แขง่ ขันในตลาดโลก พิมพค์ รัง้ ที่ 7. นนทบุรี: บรษิ ทั วิชัน่ พรีเพรส จากัด.
ฐาปนา บุญหล้า และนงลักษณ์ นมิ ติ ภวู ดล. (2555). การจดั การโลจิสติกส์:มิติซัพลายเชน.
กรงุ เทพมหานคร: บรษิ ัท ซเี อด็ ยเู คชั่น จากัด (มหาชน).
ดารงศกั ด์ิ ชยั สนทิ . (2537). ศลิ ปการขายช้นั สงู . กรงุ เทพมหานคร: สานกั พิมพ์วงั อักษร.
ทวศี ักดิ์ เทพพิทกั ษ์ (2556). การจดั การโลจิสตกิ ส์และซพั พลายเชน. พิมพ์คร้งั ที่ 1.
กรงุ เทพมหานคร: บรษิ ัท เอก็ ซเปอร์เน็ท จากัด.
ทวศี ักดิ์ เทพพิทกั ษ์. (2563). ความปกติรปู แบบใหม่หรอื วถิ ชี ีวิตปกตแิ บบใหมภ่ ายหลังโรคอบุ ตั ิ
ใหม่ โควิด-19 : ธุรกิจออนไลน์ ธรุ กจิ ค้าปลีก และธรุ กิจรา้ นอาหาร กับทศิ ทางการ
เปลย่ี นแปลงของอตุ สาหกรรมขนส่งและโลจสิ ติกส์ไทย. วารสารมหาวิทยาลัยนราธวิ าส
ราชนครินทร์ สาขามนษุ ยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์. สืบค้นจาก https://so05.tci-
thaijo.org/index.php/pnuhuso/article/view/243775/169376
268
การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021
ศูนย์ให้คาปรกึ ษาและพฒั นาผบู้ รหิ ารทางธุรกจิ แห่งมหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร.์ (2562). โครงการ
อบรมหลกั สูตร DESIGNING MODERN SUPPLY CHAINS. สืบค้นจาก
https://conc.tbs.tu.ac.th/index.php/program/detailenrollment/565?
gclid=EAIaIQobChMI_Pq_sfft7AIVWqSWCh22xQFEEAAYASAAEgIKUvD_BwE
สถาพร โอภาสานนท์. (2563). การจดั การโลจสิ ติกสใ์ นช่วงวกิ ฤตโรคระบาด. TBS Insights.
สบื คน้ จาก https://www.tbs.tu.ac.th/wp-content/uploads/2020/04/TBS-
Insights.pdf
สมพล ทงุ่ หวา้ . (2560). การจัดการการดาเนนิ งานและโซ่อปุ ทาน. กรุงเทพมหานคร:
สานักพมิ พม์ หาวิทยาลัยรามคาแหง.
สมาคมโรคติดเช้ือในเด็กแห่งประเทศไทย. (2020). องค์ความรเู้ กยี่ วกับเช้ือไวรสั โคโรน่า. สบื คน้ จาก
https://www.pidst.or.th/A215.html
TBS Insights. (2020). การจดั การโลจสิ ตกิ สใ์ นชว่ งวิกฤตโรคระบาด. สบื คน้ จาก
https://www.tbs.tu.ac.th/wp-
content/uploads/2020/04/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8
%88%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0
%b9%82%e0%b8%a5%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%aa%e0%b8%95%
e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%aa%e0%b9%8c%e0%b9%83%e0%b8%9
9%e0%b8%8a%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%87%e0%b8%a7%e0%b8
%b4%e0%b8%81%e0%b8%a4%e0%b8%95%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%
b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%94.pdf
269
การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021
การประยุกต์ใช้การตดั สินใจแบบหลายขั้นตอนเพื่อสนบั สนนุ การตัดสนิ ใจ
เลอื กซ้อื รถกระบะขนสง่ สินคา้ บรษิ ทั ซัน อินเตอร์ กรุ๊ป จากัด
ณฐั นนท์ อดุ มมงคลด1ี
นักศกึ ษาปริญญาโทหลักสตู รบรหิ ารธุรกจิ มหาบัณฑิต คณะบรหิ ารธรุ กิจ
มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บรุ ี
ปริญ วีระพงษ์
อาจารยป์ ระจาสาขาวิชาการบริหารธุรกจิ ระหว่างประเทศ คณะบริหารธุรกจิ
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี
บทคัดยอ่
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพ่ือประยุกต์ใช้การตัดสินใจแบบหลายข้ันตอนมาวิเคราะห์การ
เลือกซ้ือรถกระบะ เพื่อเป็นข้อมูลในการสนับสนุนการตัดสินใจแก่ผู้บริหารบริษัท ซัน อินเตอร์ กรุ๊ป
จากัด เท่าน้ัน ผู้ศึกษาจึงไม่เปิดเผยรุ่นและย่ีห้อเพื่อไม่ให้เป็นการตัดสินว่าย่ีห้อใดดีหรือแย่ที่สุด โดย
การศึกษาในคร้ังนี้ใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ด้วยเทคนิค ทาไม-ทาไม (Why-Why Analysis) เพ่ือ
วิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุของปัญหา แล้ววิเคราะห์เส้นทางท่ีควรเสรมิ รถกระบะด้วยการวิเคราะห์จัด
กลมุ่ ด้วยระบบ เอบีซี (ABC Analysis) แล้วจงึ ศกึ ษาปจั จัยท่ีมีผลต่อการตดั สินใจและคานวณค่าน้าหนัก
ด้วยกระบวนการลาดับช้ันเชิงวิเคราะห์ (AHP) และจัดลาดับรถกระบะขนส่งสินค้าท่ีตรงตามความ
ต้องการของบริษัทด้วยเทคนิคการวิเคราะห์เพื่อการตัดสินใจแบบหลายเกณฑ์ ด้วยวิธีการพิจารณา
ความห่างของอุดมคติเชิงบวกและเชิงลบ (TOPSIS) โดยผลการศึกษาพบว่าบริษัทฯ มีรถกระบะพร้อม
ให้บริการเพียง 1 คันซ่ึงไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า ส่วนเส้นทางที่ควรเสริมรถมากท่ีสุกคือ
คลังสินค้า GET ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ด้านผลการศึกษาปัจจัยและค่าน้าหนักของปัจจัยในการ
เลือกซื้อรถกระบะ คือ อัตราการสิ้นเปลือง 0.3592 ราคาสินค้า 0.2768 พ้ืนท่ีใช้สอย 0.0651 ค่า
บารุงรักษา 0.1097 มูลคา่ ซาก 0.0421 และน้าหนักรถ 0.1470 และไดร้ ถกระบะท่ีเหมาะสมกับบริษัท
มากทส่ี ดุ จากการจัดลาดับด้วย TOPSIS ที่ 0.8673 คะแนน
คาสาคัญ: การตดั สินใจแบบหลายขนั้ ตอน กระบวนการลาดบั ช้นั เชิงวเิ คราะห์ กระบวนการ TOPSIS
1 นักศกึ ษาปรญิ ญาโทหลกั สูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑติ คณะบริหารธุรกิจ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี
ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทมุ ธานี 12110 หมายเลขติดต่อ: 085-948-9666 อีเมล: [email protected]
การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021
MULTI-DECISIONS APPLICATION FOR DECISION SUPPORT
TO BUY PICK-UP TRUCK OF SUN INTER GROUP COMPANY
Natthanon Udommongkoldee1
Graduate Student, Master of Business Administration, Faculty of Business Administration
Rajamangala University of Technology Thanyaburi
Prin Weerapong
Lecturer at Department of International Business Administration
Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Thanyaburi
Abstract
These objectives of the study were to use multi-decisions application for
decision analysis in buying pick-up trucks, and to be information for decision support for
executives of Sun Inter Group Company Limited only. This study were undisclosed
details of brand and truck model to avoid bias when making decision. This study used
Why-Why analysis technique to analyze problems and its causes, and analyze route to
add pick-up truck by ABC analysis. Then, study factors influencing decision making to
buy pick-up truck and calculated its weights by Analytic hierarchy process (AHP) and
ranked alternatives by Multi-Criteria Decision Making (MCDK) technique for order of
preference by similarity to ideal solution (TOPSIS). The result of study found the pick-up
truck of company was ready to use only 1 truck which is not enough to meet the needs
of customers. Route that must add pick-up truck is Get warehouse in Chaeng Watthana,
Bangkok. The result of study found that factors and weights in buying decision is
consumption rate 0.3592, product price 0.2768, usable area at 0.0651, maintenance cost
0.1097, salvage value at 0.0421 and weight of pick-up at 0.1470. in addition, the company
got the optimal truck from the highest ranking by TOPSIS at score 0.8673.
Keywords: Multi-Decisions, Analytic hierarchy process, The Technique for order of
preference by similarity to ideal solution
1 Corresponding Author: Graduate Student, Master of Business Administration,
Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Thanyaburi
Contact Number: +6685-948-9666 Email: [email protected]
271
การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021
บทนา
การขนส่งสินค้าเปน็ ธุรกิจบริการท่ีมีความสาคัญในการกระจายสินค้าสู่ตลาดภายในประเทศ
โดยผู้ให้บริการขนส่งมีหน้าท่ีเคล่ือนย้ายสินค้าภายในโซ่อุปทาน ซ่ึงรายงานโลจิสติกส์ของประเทศไทย
ประจาปี 2561 แจ้งวา่ การขนส่งมีสัดส่วนต้นทุนกว่า 54.1% ของตน้ ทุนโลจสิ ติกส์ โดยประเทศไทยน้ัน
มีสดั ส่วนการขนส่งทางถนนถงึ 81% ของปริมาณสนิ คา้ รวมในประเทศ (ปิยะนุช สถาพงศ์ภกั ด,ี 2562)
บริษัท ซัน อินเตอร์กรุ๊ป จากัด เป็นบริษัทท่ีให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร ประกอบไปด้วย
การบริการขนส่งสินค้า การให้บริการคลังสินค้า การขนส่งสินค้าทางทะเล และพิธีทางศุลกากร ซ่ึงใน
สว่ นของการบรกิ ารด้านการขนสง่ น้นั บรษิ ัทฯ มรี ถบรรทุกใหบ้ ริการอยทู่ ั้งหมด 81 คัน โดยปัญหาทเ่ี กิด
ข้ึนอยู่ในส่วนของรถให้บริการขนส่งสินค้าสาเร็จรูป (Finished Good) ที่มีรถให้บริการอยู่ท้ังหมด 14
คนั โดยเป็นรถ 6 ลอ้ 13 คนั และรถ 4 ล้อ 1 คัน ซึง่ ไมเ่ พียงพอตอ่ การให้บริการของลูกค้า ซึง่ บริษทั ได้มี
การแก้ปัญหาด้วยการจ้างรถร่วมบริการจากภายนอกและรถร่วมจากกลุ่มบริษัทพันธมิตร โดยจาก
การศึกษาข้อมูลย้อนหลัง 3 เดอื น (มิถุนายน - สิงหาคม 2563) บริษัทไดม้ ีการใช้รถร่วมบริการกว่า 52
คัน ซึ่งคิดเป็น 79% ของรถที่ให้บริการแต่ก็ยังคงไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน ท่ีมี
ความต้องการบริการจากรถกระบะ 4 ล้อที่เพ่ิมมากข้ึน เน่ืองจากสามารถส่งสินค้าได้รวดเร็ว และมี
ความสามารถในการเขา้ ถงึ ท่หี มายไดม้ ากกวา่ รถขนสง่ สินค้าประเภทอนื่ ของบรษิ ัท
ทางบริษัทฯ จึงได้มีแผนในการจัดซ้ือรถบรรทุกเพิ่มเพ่ือแก้ไขปัญหาท่ีเกิดข้ึน ซึ่งนอกจาก
ตอบสนองความต้องการของลูกค้าไดม้ ากขึ้น และมีแนวโน้มทเี่ พิ่มมากข้ึนในอนาคตแล้ว ยังเป็นการลด
การเสียโอกาสด้านรายได้จากการใช้บริการรถร่วมบริการอีกด้วย การตัดสินใจเชิงลาดบั ชั้น เปน็ หนึ่งใน
เคร่ืองมือการตัดสินใจ ซ่ึงอยู่บนพื้นฐานของการตัดสินใจแบบหลายหลักเกณฑ์ เป็นวิธีการท่ีให้
ความสาคัญกับคุณลักษณะของหลักเกณฑ์ ซึ่งเหมาะกับการตัดสินใจที่มีหลักเกณฑ์ทั้งเชิงบวกและเชิง
ลบ โดยการตัดสินใจเลือกซื้อรถนั้นมีทั้งหลักเกณฑ์ทั้งเชิงบวกและเชิงลบเช่นกัน จึงเป็นวิธีท่ีเหมาะ
ปัญหาการวิจัยในครั้งนี้ เพื่อใช้สนับสนุนการตัดสินใจของผู้จัดการโลจิสติกส์ในการเลือกซื้อรถกระบะ
ในการแก้ปัญหาการรถบรรทุกขนส่งสินค้าไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า และลดค่าเสียโอกาส
จากการใช้รถร่วมบริการ โดยผู้ศึกษาจะทาการรวบรวมข้อมูลปัจจัยท่ีส่งผลต่อการเลือกซ้ือรถกระบะ
ของผู้จัดการโดยการสัมภาษณ์และนาปัจจัยที่ได้มาถ่วงน้าหนักด้วยกระบวนการลาดับช้ันเชิงวิเคราะห์
(AHP) และรวบรวมข้อมูลรถกระบะตอนเดียวรุ่นปัจจุบันท่ีจัดจาหน่ายในปี 2563 เพ่ือนามาวิเคราะห์
และจัดลาดับด้วย TOPSIS เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจแก่ผู้จัดการโลจิสติกส์ของบริษัทฯ ในการจัดซื้อ
รถกระบะต่อไป
วัตถปุ ระสงค์ในการวจิ ยั
1. เพือ่ ศึกษาปัจจยั ท่ีมีผลต่อการเลอื กซ้ือรถกระบะของบรษิ ัท ซนั อนิ เตอร์ กรปุ๊ จากัด
2. เพอื่ ประยกุ ตใ์ ชก้ ารตัดสินใจแบบหลายขน้ั ตอนมาวิเคราะห/์ ประเมนิ การเลือกซ้ือรถกระบะ
3. เพ่อื เป็นขอ้ มลู สนบั สนนุ การตดั สนิ ใจแก่ผ้บู รหิ ารของบริษทั ฯ ในการเลือกซอ้ื รถกระบะ
ขอบเขตการวจิ ยั
1. กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือเส้นทางการขนส่งสินค้าด้วยรถกระบะในพื้นที่เขตกรุงเทพ
และปริมณฑลโดยมีจุดเร่ิมต้นท่ีคลังสินค้า ที-พาร์ค ศรีราชา ชลบุรี ใช้วิธีคัดเลือกกลุ่มตัวอย่างด้วย
272
การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021
ระบบ ABC (ABC Analysis) โดยวเิ คราะห์จากจานวนรอบการขนส่ง และระยะทางการขนส่งของแตล่ ะ
เสน้ ทาง
2. รถกระบะ ที่บริษัทฯ ใช้งานเป็นรถกระบะตอนเดียว ขับเคล่ือน 2 ล้อ เกียร์ธรรมดาโดย
กลุ่มตัวอย่างท่ีนามาศึกษาตามรุ่นและย่ีห้อท่ีจัดจาหน่ายในปี 2563 ท่ีผู้จัดการโลจิสติกส์ของบริษัท
สนใจ เพือ่ เปน็ กลมุ่ ตัวอยา่ งในการวิจยั
การทบทวนวรรณกรรม
ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษามีจุดมุ่งหมายเพ่ือสนับสนุนการตัดสินใจเลือกซ้ือรถกระบะของ
บริษัท ซัน อินเตอร์ กรุ๊ป จากัด ผู้วิจัยได้ทาการศึกษาค้นคว้าทฤษฎีและแนวคิดจากเอกสาร หนังสือ
และงานวจิ ยั ที่เกยี่ วข้องกับเรื่องท่ที าการศึกษา สรปุ ประเด็นสาคัญไดด้ ังนี้
1. TOPSIS (Technique for Order Preference by Similarity to an Ideal Solution)
2. กระบวนการลาดบั ช้นั เชิงวเิ คราะห์ (Analysis Hierarchy Process: AHP)
3. Why-Why Analysis
4. ABC Analysis
5. งานวจิ ยั ที่เกี่ยวขอ้ ง
1. TOPSIS (Technique for Order Preference by Similarity to an Ideal Solution)
TOPSIS คือวิธีการชดเชย วิธีการประเภทนี้นั้นประนีประนอมระหว่างความแตกต่างของ
เกณฑ์ท่ีผลเสียในเกณฑ์หน่ึงสามารถชดเชยด้วยผลดีในเกณฑ์อ่ืน สมมุตฐิ านของวิธีการ TOPSIS คือแต่
ละเกณฑ์มีท้ังค่าท่ีเพ่ิมข้ึนและค่าที่ลดลง เพราะความเป็นไปได้ของการสร้างรูปแบบจาลองของเกณฑ์
กระบวนการชดเชย รวมถึง TOPSIS น้ันใช้อย่างแพร่หลายในหลายภาคส่วนของการตัดสินใจหลาย
เกณฑ์ โดยมีขัน้ ตอนดาเนนิ การดงั น้ี (Roszkowska, 2009)
ขน้ั ตอนท่ี 1 คานวณเมทรกิ ซ์การตดั สินใจมาตรฐาน ค่ามาตรฐานคือ
การคานวณหลักเกณฑ์ซง่ึ เปน็ เชิงผลประโยชน์ (Benefit) สตู ร
= /( )
การคานวณหลกั เกณฑ์ทีเ่ ปน็ ค่าใช้จ่าย (Cost) สูตร
= ( 1 )/ (1)
ขั้นตอนท่ี 2 คานวณค่าน้าหนกั เมทริกซก์ ารตัดสินใจมาตรฐาน คา่ นา้ หนกั มาตรฐานคือ
ขน้ั ตอนท่ี 3 กาหนดแนวทางเชงิ บวก (V+) และคา่ เชิงลบ (V-)
+ = {( ∈ , ( ∈ )} = { ∗ = 1,2, … , }
− = {( ∈ , ( ∈ )} = { − = 1,2, … , }
ข้ันตอนที่ 4 คานวณคา่ วดั การแยกดว้ ย m-dimensional Euclidean distance ของ
แต่ละทางเลอื กจากแนวทางเชิงบวกและคา่ เชิงลบ
+ = √∑( − ∗)2, = 1,2, … ,
=1
273
การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021
− = √∑( − −)2, = 1,2, … ,
=1
ขั้นตอนท่ี 5 คานวณความสัมพันธท์ ีเ่ ข้าใกลค้ า่ อดุ มคติ
−
∗ = ∗ + − , = 1,2, … ,
ขั้นตอนท่ี 6 ทาการจัดอันดับค่าท่ีคานวณได้ โดยเลือกระยะท่ีใกล้ท่ีสุดของทางเลือก
ในแนวคิดเชิงบวก และเลือกระยะท่ีใกล้ท่ีสุดของทางเลือกที่เป็นเชิงลบ หรือค่าระดับความสาคัญ
(Relative Closeness: ∗ ) ท่มี ากทส่ี ดุ
2. กระบวนการลาดับชน้ั เชิงวิเคราะห์ (Analysis Hierarchy Process: AHP)
กระบวนการลากับชั้นเชิงวิเคราะห์ คือ เทคนิคหนึ่งของการตัดสินใจแบบหลาย
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินผลมีความซบั ซ้อนการตัดสินใจเป็นลาดับช้ัน โดยจัดโครงสรา้ งของเกณฑ์
หลายตัวเลือกเป็นลาดับชั้น เพ่ือประเมินของเกณฑ์ คือการกาหนดเป้าหมาย (Goal) แล้วจึงกาหนด
เกณฑ์ (Criteria) เกณฑ์ย่อย (Sub Criteria) และทางเลือก (Alternative) ตามลาดับ (ณภัทร ศรีนวล
อดุลย์ นงภา สิทธิโชค สนิ รัตน์ แววยรุ า คาสุข และพิมสหรา ยาคล้าย, 2559)
การประยุกต์ใช้ AHP สามารถอธิบายไดเ้ ปน็ 4 ขั้นตอนดงั น้ี
1) พัฒนาชั้นรูปแบบลาดับข้องปัญหาสาหรับการตัดสินใจ วัตถุประสงค์
(เป้าหมาย) อยู่บนจุดสูงสุดของลาดบั ช้ัน เกณฑ์และเกณฑ์ย่อยอยู่ในลาดบั ถัดลงมา และทางเลือกอยู่ใน
ลาดบั สุดท้ายของรูปแบบ โดยสามารถแสดงไดด้ ังภาพท่ี 1
วัตถุประสงค์
เกณฑท์ ี่ 1 เกณฑท์ ่ี 2 เกณฑ์ที่ 3
ทางเลือกท่ี 1 ทางเลือกที่ 2 ทางเลือกที่ 3
ภาพท่ี 1 ตัวอย่างของลาดบั ชน้ั ใน AHP (Atanasova-Pachemska, 2014)
2) ในแต่ละระดบั ของลาดับชน้ั เปรยี บเทยี บในคู่ของเกณฑโ์ ครงสร้างตาม
คา่ ทกี่ าหนดของผมู้ อี านาจตัดสินใจท่แี สดงได้โดยมาตราส่วนความสมั พนั ธ์ Saaty ที่ 5 ระดับ และ 4
ระดับยอ่ ย ซงึ่ อธิบายถึงความเข้มข้นของความสอดคลอ้ งดว้ ยระดบั ตัวเลข 1 ถงึ 9 ตามตารางท่ี 1
274