The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by neverstop.learning09, 2021-06-25 03:42:48

รายงานสืบเนื่องจากการประชุมระดับชาติ RTBEC 2021

Proceedings of The 6th RMUTT Global Business and
Economics National Conference 2021

Keywords: RTBEC

การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

ทฤษฎีส่วนประสมทางการตลาดออนไลน์ เป็นองค์ประกอบท่ีถูกสร้างข้ึนมาใหม่
เพ่ิมเติมจากเดิมเพื่อนามาประยุกต์ใช้กับพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) โดยองค์ประกอบ
การตลาดด้ังเดิมน้ันมีอยู่ (4P)และนามาเพิ่มเติมร่วมกับ การให้บริการส่วนบุคคลและการรักษาความ
เป็นสว่ นตัว จงึ เกดิ เปน็ ส่วนประสมทางการตลาดแบบใหมท่ ่ีมกี ารนามาประยกุ ต์ใช้กันเป็น (6P) (สุนิสา
ตรงจติ ร์, 2559) ซึ่งมีสว่ นประกอบดังน้ี

1. ด้านผลิตภัณฑ์ (Product) มกี ารแบง่ เปน็ 2 ประเภท
1) สนิ ค้าดิจติ อล (Digital Product) เชน่ โปรแกรมซอฟต์แวร์ หนงั สอื เพลง หรือ

สินคา้ ท่ไี มส่ ามารถจบั ต้องได้ โดยการซอื้ ขายจะสง่ ผ่านทางส่อื อินเทอร์เน็ต
2) สินค้าที่ไม่ใช่ดิจิตอล (Physical Product) สินค้าจะมีลักษณเป็นช้ินสามารถ

จบั ตอ้ งได้ เช่นเคร่อื งประดับ เสือ้ ผา้
2. ด้านราคา (Price) ในการวางขายสินค้าบนตลาดออนไลน์ ราคาจะสูงหรือต่าน้ัน

ขึ้นอยู่ท่ีประเภทของสินค้า ซ่ึงผู้ค้าควรกาหนดราคาให้ต่ากว่าท้องตลาดเพ่ือเป็นแรงจูงใจในการซื้อ
และยังต้องคานวนถึงค่าบริการในการส่งสินค้าด้วย หากรวมทั้งสองอยา่ งแล้วยังเท่ากับตลาด โดยไม่
สามารถลดลงได้ ใหท้ างรา้ นเน้นไปที่ความสะดวกในการส่ังซื้อแทน

3. ด้านช่องทางการจัดจาหน่าย (Place) เพ่ือให้ผู้ซื้อสนใจเข้ามารับชม ต้องมีการ
จัดทาเว็บไซต์เพื่อประชาสัมพันธ์ โดยต้องมีโดเมนท่ีจดจาง่าย และสวยงามและสะดวกสบายในการ
ส่ังซือ้

4. ดา้ นการสง่ เสริมการตลาด (Promotion) เปน็ หลักสาคญั ในการสรา้ งแรงจูงใจให้ผู้
ซ้อื ตัดสินใจซอ้ื และทาให้เกดิ การซอ้ื ซา้ มีการส่งเสรมิ การตลาด มีการประชาสัมพันธ์ อย่างสม่าเสมอ

5. ด้านการใหบ้ รกิ ารแบบเจาะจง (Personalization) เปน็ การสร้างความสมั พันธ์กับ
ลูกค้าท่ีเป็นสมาชิกและไม่เป็นสมาชิกผ่านทางเว็ปไซด์ เพื่อให้บริการลูกค้าและควรเน้นการบริการท่ี
เปน็ รายบคุ คลเพือ่ สรา้ งความประทบั ใจและใหเ้ กดิ การกลบั มาซอื้ ซ้า

6. ด้านการรักษาความเป็นส่วนตัว (Privacy) เป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด
ผู้ประกอบการจึงต้องรักษาความลับของลูกค้า ไม่นาข้อมูลของลูกค้าไปเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาต
เพ่ือใหเ้ กิดความไวว้ างใจในอนาคต

2.1.4 ทฤษฎกี ารรับรคู้ วามเสย่ี ง (Perceived Risk)
1. การรบั รู้ถึงความเสีย่ ง คือ ความสามารถในการประเมนิ ค่าความเสี่ยงที่ลกู ค้าต้อง

เผชญิ ในการตัดสินใจหรือการใช้บรกิ าร ซง่ึ แตล่ ะตัวบุคคลจะมีความสามารถดังกล่าวที่แตกต่างกันไป
ข้ึนอยู่กับความรู้ ประสบการณ์ จึงส่งผลทาให้พฤติกรรมของลูกค้านั้นมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่ง
การไม่แน่ใจในผลลัพธ์ท่ีกาลังจะเกิดข้ึนจากการตัดสินใจซ้ือหรือใช้บริการนั้น ๆ กล่าวได้ว่าเป็นปจั จัย
ภายใน ซึ่งเป็นสิ่งหน่วงรั้งและส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค การรับรู้หรือรู้สึกต่อความเส่ียงมาก
ข้ึน หรือการเชื่อว่ามคี วามเส่ียง หากมีการตัดสินใจซื้อหรือใช้บริการอาจจะเกดิ ผลเสียหายมากหากมี
การตัดสินใจผิดพลาด จะเป็นเหตุให้ผู้ซื้อเกิดการชะลอการตัดสินใจเพื่อท่ีจะศึกษาหาข้อมูลเพ่ิมมาก
ขน้ึ กอ่ นการตัดสนิ ใจ

525

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

2. ความสาคัญของการรับรู้ถึงความเสี่ยง ปัจจัยสาคัญที่เก่ียวข้องกับกระบวนการ
ตัดสนิ ใจของลกู ค้าก็คอื ระดบั ของความเสี่ยงในการใชบ้ รกิ ารท่ีลูกค้าสามารถรบั รู้ไดค้ วามเสยี่ งคือความ
ไม่แน่นอนจากปัจจัยต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นเม่ือลูกค้าตัดสินใจใช้บริการลูกค้าจะสามารถป้องกันความ
เส่ยี งโดยอาศยั ประสบการณ์เกย่ี วกับการปฏิบตั ิงานของบรกิ ารนน้ั มาทาการช่วยในการวเิ คราะห์

3. ประเภทของการรับรู้ถึงความเส่ียง จากการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการรับรู้ถึงความ
เส่ียงของลูกค้า นักวิจัยได้มีการแบ่งการรับรู้ถึงความเสี่ยงไว้อย่างหลากหลาย (Demirdogen,
Yaprakli, Yılmaz & Husain, 2010) แต่ยังคงมีแนวความคิดที่คล้ายคลึงกัน โดยได้มีการนาเสนอ
ความเสยี่ งในมุมมองตา่ ง ๆ แต่สาหรับงานศึกษาวจิ ัยนีจ้ ะพจิ ารณาความเส่ียงมมุ มองของผู้บริโภค โดย
หลักๆ ได้มกี ารแบง่ ออกเปน็ หกส่วนดงั ตอ่ ไปน้ี

1) ความเส่ียงด้านการเงิน (Financial Risk) คือ ทัศนคติความเช่ือด้านการเงนิ ที่
เก่ียวข้องกับการใช้จ่าย หรือจานวนเงินที่อาจมีการสูญเสียมากกว่าที่เป็น อีกความหมายหน่ึงอาจ
หมายถึงการตัดสนิ ใจท่อี าจไมค่ มุ้ คา่ ในการใช้บรกิ ารในลักษณะเดยี วกนั

2) ความเสี่ยงด้านประสิทธิภาพ (Performance Risk) คือความเสี่ยงท่ีอาจ
เกิดขึ้นจากคุณภาพหรือบริการ ยกตัวอย่างเช่น การใช้บริการธนาคารผ่านอินเทอร์เนต็ อาจมีการทา
ธรุ กรรมต่างๆ แตเ่ พราะเครอื ข่ายที่ให้บรกิ ารอินเทอร์เน็ตเกดิ มีการขัดข้องจงึ ทาให้การทาธุรกรรมเกิด
การล่าชา้ หรอื ไมเ่ ป็นไมต่ ามเวลาที่ต้องการ ส่งผลใหเ้ กดิ ความเส่ียงด้านประสิทธิภาพ

3) ความเส่ยี งด้านความปลอดภยั (Security Risk) คือ ทัศนคติความเชอื่ หรือการ
รู้สึกว่าไม่ได้รับความปลอดภยั ในการใช้ชีวิต การทาสิ่งตา่ ง ๆ ทอ่ี าจไม่ไดร้ ับความปลอดภัยจากการใช้
บริการหรือการใช้งานอย่างเพียงพอ ยกตัวอย่างเช่น การถูกโจรกรรมข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตแก้ไข
ข้อมูล แก้ไขเลขท่ีบัญชีปลายทาง การถูกโจรกรรมทรัพย์สินต่าง ๆ รหัสผ่าน การลักลอบเข้าข้อมูล
สว่ นตวั เปน็ ต้น

4) ความเสี่ยงทางด้านสังคม (Social Risk) ความเสี่ยงในด้านการรับรู้ระดับตัว
บคุ คลทีเ่ กดิ ข้นึ จากบุคคลอ่ืนท่ีเข้ามามอี ิทธพิ ลต่อความคดิ การแสดงออก และแนะนาให้ไปในแนวทาง
น้นั ๆ หรอื ไม่อทิ ธิพลนก้ี ็กลายมาเป็นตัวกาหนดบรรทัดฐาน แนวทางปฏบิ ัติหรือธรรมเนียมต่างๆ ทอี่ ยู่
เหนอื จากสง่ิ ทีค่ วรจะเปน็ หรอื กรอบทไี่ ด้มีการวางหรอื ตกลงกันเอาไว้

5) ความเส่ียงดา้ นจติ ใจ (Psychological Risk) คือ ความเสี่ยงทเี่ กดิ จากส่วนลึกๆ
ของจิตใจของตวั เอง ยกตวั อย่างเชน่ เรารูส้ กึ วา่ ส่งิ นี้ไม่เหมาะกบั เราเลย ด้วยเหตผุ ลตา่ งๆ นาๆ ไม่วา่ จะ
เป็นด้านอายุ ลักษณะทางกายภาพ สภาพแวดลอ้ มท่เี ปน็ อยู่ หรือการทีเ่ ราอาจเคยมีประสบการณ์ไม่ดี
อย่แู ล้ว ไม่ตรงกับความคาดหวงั ทต่ี ั้งใจเอาไว้ หรอื แมก้ ระทั่งการเกิดขอ้ ผดิ พลาดท่ีผ่านมาในดา้ นตา่ งๆ

6) ความเส่ียงด้านเวลา (Time Risk) เช่น การทากิจกรรมแล้วไม่ได้ผลลัพธ์ตาม
ความคาดหวัง การที่เกิดความผิดพลาด ส่งผลให้เกิดการเสียเวลา เป็นต้นจึงทาให้เกิดความเสี่ยงดา้ น
เวลาขน้ึ มา

2.2 งานวิจัยที่เก่ยี วขอ้ ง
ชัยวัฒน์ หฤทัยพันธ์ และ วรพล แจ่มสวัสด์ิ (2563) ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด มี

ผลต่อการซื้อประกันภัยรถยนต์ของผู้บริโภคในจังหวัดชลบุรีโดยทุกปัจจัยมีผลต่อการซ้ือทั้งหมดใน

526

การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

ระดับสูงมากโดยเรียงลาดับตาม ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านการส่งเสริมการตลาด ด้านบุคลากร
ด้านกายภาพและด้านช่องทางจัดจาหน่าย แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสาคัญต่อกระบวนการ
บริหารจัดการกับระบบประกัน เช่น สินไหมทดแทนและการอานวยความสะดวกเม่ือเกิดอุบัติเหตุ
การเคลม การตดิ ตาม และการแกป้ ัญหา

จุฑามาศ เฟ่ืองโชติการ ลัดดา ยาวิละ และ รัตนา สิทธิอ่วม (2563) กระบวนการ
ตัดสินใจซื้อสินค้าบนสื่อออนไลน์เฟชบุคของประชาชนในจังหวดั พษิ ณุโลกโดยภาพรวมมคี วามสาคัญ
อยู่ในระดับมาก ได้แก่ การตัดสินใจซ้ือ การแสวงหาข้อมูล การประเมินทางเลือก การตระหนักถึง
ความต้องการ พฤติกรรมภายหลงั การซ้อื ตามลาดบั ซึ่งสะทอ้ นให้เห็นวา่ ผ้ใู ช้เฟชบคุ ทค่ี ิดว่าเฟชบุคเป็น
หนงึ่ ในแหลง่ ข้อมูลในการซ้ือสินค้า บนโลกออนไลน์ย่อมใช้เฟชบุคหาข้อมูล และเม่อื มคี วามมนั่ ใจแล้ว
จึงตัดสนิ ใจซือ้ ซึ่งการหาขอ้ มลู ในเฟชบุคนอกจากจะหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าตา่ ง ๆ ได้

คมสิทธิ์ เกียนวัฒนา และคณะ (2562) จากผลวิจัยพบว่า การจองโรงแรมท่ีพักทาง
อินเตอรเ์ น็ตน้นั ลกู คา้ ไม่สามารถได้เห็นสนิ ค้าและบรกิ ารของโรงแรมอย่างแท้จรงิ นักท่องเท่ยี วจะเห็น
จากรปู ภาพประกอบการโฆษณาของโรงแรมทางอินเทอร์เน็ตเท่านัน้ นกั ท่องเที่จึงมีความกังวลเรอ่ื งไม่
สามารถตรวจสอบลกั ษณะของห้องพัก บรกิ ารและสง่ิ อานวยความสะดวกไดจ้ รงิ จงึ ส่งผลนกั ทอ่ งเทย่ี ว
รับรู้ความเส่ยี งด้านสินคา้ และบริการมากท่ีสุด

พิสิฐ กมลวัทนนิศา และ อรพรรณ คงมาลัย (2563) ลักษณะกลุ่ม Generation Y มี
บทบาททส่ี าคญั ตอ่ การเรียนหลักสูตรปริญญาโทออนไลน์เน่ืองจากปัจจุบนั คนกลุม่ น้ีให้ความสาคัญกับ
การใชช้ วี ิตท่ีมีความในดา้ นเวลาและสถานท่ีและชอบทดลองส่ิงใหม่โดยเฉพาะการคน้ หาความรู้ใหม่ๆ
การเรียนรู้ผ่านช่องทางออนไลน์จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและตอบโจทย์การใช้ชีวิต ๆ ท่ีจะช่วยลด
ข้อจากัดในการใช้เวลาและสถานที่ในการเรียนและยังได้ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประสิทธิภาพต่อการ
เรยี นรู้ นอกจากน้กี ารบอกเล่าจากบุคคลรอบข้างมีมอี ิทธิพลต่อการตีดสินใจเรียนหลักสูตรปรญิ ญาโท
ออนไลน์ของ Generation Y เชน่ กนั

พรรัตน์ แสดงหาญ (2563) จากผลการวิจัยเก่ียวกับการตัดสินใจที่จะประกอบธุรกิจ
สตาร์ทอัพของ Generation Y ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกท่ีพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วน
ใหญ่วางแผนจะทางาน ในภาคเอกชนเป็นลาดับแรก รองลงมาคือการทาธุรกจิ ส่วนตัว โดยปัจจัยเชิง
สาเหตทุ ่ีมผี ลต่อการตัดสินใจทจ่ี ะประกอบธุรกจิ สตารท์ อัพคอื ความมั่นคง

สรุ ีรตั น์ ธรรมจง (2562) กลุม่ คนแอบเหงาเปน็ เพศหญิง อายุ 26-35 ปี การศกึ ษาระดับ
ปริญญาตรี มีสถาณภาพโสด ส่ือสังคมออนไลน์ในการซือ้ สินค้า คือ เฟชบุค สินค้าท่ีซ้ือส่วนใหญ่เปน็
ประเภทเสื้อผ้า จานวน 2-3 คร้ังต่อเดือน ราคา 300-500 บาท และส่วนมากชาระผ่านธนาคารทาง
โทรศัพทม์ ือถือ

ธิคณา ศรบี ญุ นาค และ อมุ าพร พงษ์สตั ยา (2562) การตดั สินใจซ้ือเคร่ืองสาอางเกาหลี
ผ่านแอปพลิเคชัน ในภาพรวมอยู่ในระดับมากและเม่ือพิจารณาเป็นด้านพบว่า ด้านการรับรู้ปัญหา
เรือ่ งความต้องการให้ชว่ ยแกไ้ ขสภาพหน้า เช่น ปกปิดจุดดา่ งดาอยูใ่ นระดบั มากทส่ี ุด รองลงมาคอื ดา้ น
การค้นหาข้อมูลอยู่ในระดับมาก รองลงมาคือการประเมิณทางเลือก การตัดสินใจและพฤติกรรมหลัง
การซ้ือตามลาดับ

527

การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

ระเบียบวธิ วี จิ ัยและการวเิ คราะห์ข้อมูล
งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยการวิจัยเชิงปริมาณ ซึ่งกลุ่มตัวอย่างในการศึกษา คือ ผู้บริโภคใน

จงั หวัดปทมุ ธานีท่ซี ้ือสนิ คา้ ผา่ นช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊ก โดยกลมุ่ ตวั อยา่ งเป็น Generation Y จานวน
400 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานโดยการใชก้ าร
วิเคราะห์การทดสอบค่าเอฟ (F test) ทดสอบความแตกต่างของค่าเฉล่ียของสองกลุ่มตัวอย่าง
(t-Test) และการวเิ คราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One way ANOVA) กรณีที่มีนัยสาคัญจะมกี าร
ทดสอบแบบความแตกต่างรายค่โู ดยวธิ ี LSD และใช้ Multiple Regression Analysis เพอ่ื ตรวจสอบ
คุณภาพหรือประสิทธผิ ลที่ได้รับที่ส่งผลต่อการการตัดสินใจซอื้ เส้ือผ้าแฟช่ันผ่านทางช่องทางออนไลน์
เฟซบุ๊กของกลุ่มคน Generation Y ในจังหวัดปทุมธานี โดยสามารถสรุปผลการศึกษาและ
ขอ้ เสนอแนะ ดังน้ี

5.1 สรปุ ผลการวิจัย
การศึกษาปัจจยั ส่วนประสมทางการตลาดและการรับรู้ความเสยี่ งทีส่ ่งผลตอ่ การตัดสินใจ

ซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านทางช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊ก ของกลุ่มคน Generation Y ในจังหวัดปทุมธานี
สามารถสรุปผลการวิจยั โดยแบง่ เปน็ 5 ตอน ดังนี้

5.1.1 ผลการวเิ คราะห์ ขอ้ มลู ปจั จยั สว่ นบคุ คล จากการศกึ ษาพบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถาม
ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุ 21 - 30 ปี มีอาชีพพนักงานบรษิ ัทเอกชน มีระดับการศึกษาปรญิ ญาตรี
มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน ต่ากว่า 10,000 บาท มีความถี่ในการซือ้ เสื้อผ้า เดือนละ 1 คร้ัง มีค่าใช้จ่ายใน
การซ้อื เสือ้ ผา้ นอ้ ยกว่า 500 บาท

5.1.2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเก่ียวกับปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด ท่ีส่งผลต่อการ
ตัดสินใจซื้อเส้ือผ้าแฟชั่นผ่านทางช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊ก ของกลุ่มคน Generation Y ในจังหวัด
ปทมุ ธานี

ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อเส้ือผ้าแฟช่ันผ่านทาง
ช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊ก ของกลุ่มคน Generation Y ในจังหวัดปทุมธานี ในภาพรวมอยู่ในระดับ
ความสาคัญระดับมาก เม่ือพิจารณารายด้านพบว่า ด้านที่มาก คือ ส่วนของช่องทางการจัดจาหน่าย
รองลงมาคือด้านผลิตภัณฑ์ ด้านการส่งเสริมการตลาด ด้านการให้บริการแบบเจาะจง และด้านการ
รักษาความเป็นส่วนตัว ตามลาดับ พบว่าด้านท่ีปานกลางได้แก่ ด้านราคา การพิจารณารายด้านได้
ดงั น้ี

5.1.2.1 ด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ
เสื้อผา้ แฟช่นั ผา่ นทางชอ่ งทางออนไลนเ์ ฟซบกุ๊ ของกลุม่ คน Generation Y ในจงั หวัดปทุมธานี ในด้าน
ผลิตภณั ฑ์และบรกิ าร อยูใ่ นระดบั มาก เม่ือพจิ ารณารายขอ้ นั้นพบว่า อันดบั แรก คือ ห้องพักมีการฆ่า
เช้ือและมีความสะอาดที่ได้มาตรฐาน รองลงมา คือ โรงแรมมีเทคโนโลยีท่ีช่วยลดการสัมผัส เช่น การ
ใชก้ ารแสกน QR Code แทนการใช้ Key card เข้าห้องพกั ห้องพกั มสี ง่ิ อานวยความสะดวกครบครัน
ช่ือเสียงและความน่าเชื่อถือของโรงแรม และห้องพักมีจดหมายแจ้งภายในห้องหากมีอาการรู้สึกไม่
สบายใหแ้ จ้งเจ้าหน้าที่โรงแรมทันที ตามลาดับ

528

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

5.1.2.2 ด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซ้ือ
เสอื้ ผ้าแฟชัน่ ผา่ นทางช่องทางออนไลน์เฟซบุก๊ ของกลุ่มคน Generation Y ในจงั หวัดปทมุ ธานี ในด้าน
ผลิตภณั ฑ์และบริการ อยู่ในระดับมาก เมอื่ พิจารณารายขอ้ นัน้ พบว่า อนั ดบั แรก คือ เม่ือพจิ ารณาราย
ข้อนั้นพบว่า อันดับแรก คือ เสื้อผ้าแฟช่ันท่ีจาหน่ายบนเฟซบุ๊กมีคุณภาพเทียบเท่ากับการซื้อผ่าน
ช่องทาง off-line เชน่ ห้างสรรพสินคา้ เปน็ ตน้ รองลงมา มีการให้ขอ้ มลู รายละเอียดของเสื้อผ้าแฟช่ัน
ท่ีจาหน่ายบนเฟซบุ๊กครบถ้วน รูปแบบเส้ือผ้าแฟช่ันที่จาหน่ายบนเฟซบุ๊กมีความแตกต่างจาก
ท้องตลาด เส้อื ผ้าแฟช่ันทจี่ าหนา่ ยบนเฟซบุ๊กมีความทนั สมยั เส้อื ผา้ แฟช่นั ทจ่ี าหน่ายบนเฟซบ๊กุ มีความ
หลากหลาย ตามลาดับ

5.1.2.3 ด้านชอ่ งทางการจดั จาหน่าย ปจั จยั ส่วนประสมทางการตลาดที่สง่ ผลต่อการ
ตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านทางช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊ก ของกลุ่มคน Generation Y ในจังหวัด
ปทุมธานี ในด้านช่องทางการจัดจาหน่าย อยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณารายข้อน้ันพบว่า อันดับแรก
คือ สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ทุกสถานท่ีและไม่จากัดฤดูกาลรองลงมา คือ สามารถเลือกซ้ือสินค้าได้
ตลอด 24 ช.ม. ขน้ั ตอนการซือ้ สินค้าตงั้ แต่ต้นจนจบกระบวนการสะดวกทาได้ง่าย สามารถชาระเงนิ ได้
หลายช่องทาง และมีชอ่ งทางการจัดส่งทรี่ วดเร็วและหลากหลายตามลาดับ

5.1.2.4 ด้านการส่งเสริมทางการตลาด ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดท่ีส่งผลต่อ
การตัดสนิ ใจซ้ือเส้ือผ้าแฟชั่นผ่านทางช่องทางออนไลน์เฟซบุก๊ ของกลุ่มคน Generation Y ในจังหวัด
ปทุมธานี ในด้านการสง่ เสริมทางการตลาด อยู่ในระดับมาก เม่อื พิจารณารายขอ้ นน้ั พบวา่ อันดบั แรก
คือ มีรูปเส้ือผ้าแฟช่ันและการใส่ให้ดูเป็นตัวอย่าง พร้อมรีวิวสินค้าจากผู้ซ้ือจริง รองลงมาฟรีค่าจัดสง่
สินค้าเม่ือซ้ือครบจานวนที่ร้านตั้งไว้ มีการจัดโปรโมชั่นลดราคาสินค้า สะสมแต้มเพ่ือเป็นส่วนลดใน
การซอ้ื ครั้งถัดไป มีการมอบสว่ นลดพิเศษในวนั พิเศษหรือเทศการต่างๆ และเง่ือนไขโปรโมชนั่ ส่วนลด
สามารถทาไดง้ ่ายและใชง้ านไดจ้ ริง ตามลาดบั

5.1.2.5 ด้านการให้บริการแบบเจาะจง ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลต่อ
การตดั สินใจซ้ือเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านทางชอ่ งทางออนไลน์เฟซบกุ๊ ของกลมุ่ คน Generation Y ในจังหวัด
ปทุมธานี ในด้านพนกั งานให้บริการ อยู่ในระดับมาก เม่ือพิจารณารายข้อนนั้ พบว่า อันดับแรก คือ มี
การใหข้ ้อมลู ขา่ วสาร โปรโมชน่ั ต่าง ๆ แก่ลกู คา้ เก่าผา่ นทางแชทโดยตรง รองลงมา คือ มสี ิทธิพเิ ศษให้
ในการเสนอขายสินค้าใหมๆ่ มีการสง่ ข้อมูลแนะนาสินค้าชิ้นอ่นื ๆ ทีต่ รงตามความตอ้ งการ มีเจ้าหน้าท่ี
คอยดูแลและสามารถมีปฏิสัมพนั ธ์ตอบกลับลูกค้าได้ทนั ที และ มกี ารสรา้ งความประทับใจเน่ืองในวัน
พเิ ศษ ตามลาดบั

5.1.2.6 ด้านการรักษาความเป็นส่วนตัว ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ส่งผลตอ่
การตดั สินใจซื้อเส้ือผ้าแฟชน่ั ผ่านทางช่องทางออนไลน์เฟซบกุ๊ ของกลมุ่ คน Generation Y ในจงั หวัด
ปทุมธานี ในด้านกระบวนการ อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อน้ันพบว่า อันดับแรก คือ มีการ
รักษาข้อมูลลูกค้าอย่างเป็นความลับ เช่น ช่ือ อีเมล เบอร์ติดต่อ ที่อยู่ รองลงมา คือ มีการชี้แจง
นโยบายความเป็นส่วนตัวอย่างชัดเจน ไม่มีการนาข้อมูลออกไปเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต และ มี
การเปดิ เผยขอ้ มูลความลับของลูกค้า เพอ่ื ดาเนินธรุ กรรมต่างๆ ให้สาเรจ็ ลุล่วงเท่านน้ั เชน่ การจัดส่ง
สินคา้ ตามลาดับ

529

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

5.2 อภปิ รายผล
ผูว้ ิจัยได้นาประเดน็ ที่มคี วามสาคัญท่ีเปน็ ประเด็นทีน่ า่ สนใจมาอภิปรายผล ดังนี้
5.2.1 จากผลการวิเคราะห์ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดและการรับรู้ความเส่ียงที่

ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ เสื้อผ้าแฟช่ันผ่านทางช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊กของกลุ่มคน Generation Y
ในจงั หวดั ปทุมธานี พบว่า ปจั จยั ส่วนบคุ คลในดา้ นอายุ มผี ลต่อการตัดสนิ ใจซือ้ สอดคล้องกบั การวิจัย
ของ จุฑามาศ เฟอื่ งโชติการ ลดั ดา ยาวิละ และ รัตนา สิทธิอ่วม (2563) ทไี่ ด้ศึกษาเรื่อง สว่ นประสม
ทางการตลาดท่ีมีอิทธิพลต่อกระบวนการตัดสินใจซ้ือสินค้าบนส่ือออนไลน์เฟชบุคของประชาชนใน
จังหวัดพิษณุโลก โดยกล่าวว่ากระบวนการกระบวนการตัดสินใจซือ้ สินค้าบนสื่อออนไลน์เฟซบกุ๊ ของ
ประชาชนในจังหวัดพิษณุโลก โดยรวมมีความสาคัญอยู่ในระดับมาก เม่ือเปรียบเทียบความแตกต่าง
รายคู่ พบว่า ประชาชนที่มีอายุ 18-30 ปี และ 31-40 ปี มีกระบวนการตัดสินในซ้ือสินค้าบนสื่อ
ออนไลน์เฟซบุ๊กแตกต่างจากประชาทมี่ อี ายุ 40-50 ปี

5.2.2 จากผลการวิเคราะห์ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดและการรับรู้ความเส่ียงที่
ส่งผลต่อการตัดสินใจซ้ือ เสื้อผ้าแฟชั่นผ่านทางช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊กของกลุ่มคน Generation Y
ในจังหวัดปทุมธานี พบว่า ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด 6Ps ส่งผลต่อกระบวนการตัดสินใจซ้ือ
สอดคล้องกับงานวิจัยของ ธิคณา ศรีบุญนาค และ อุมาพร พงษสัตยา (2562) ที่ได้ศึกษาเร่ือง ส่วน
ประสมการตลาดท่ีส่งผลต่อกระบวนการตัดสินใจซื้อเคร่ืองสาอางเกาหลีผ่านแอปพลิเคชันออนไลน์
โดยกลา่ ววา่ ประชากรสว่ นใหญท่ า่ มอี ายรุ ะหว่าง 21-30 ปี มีระดบั การศึกษาปรญิ ญาตรี มรี ายได้เฉลีย่
10,001-20,000 บาท การศึกษาส่วนประสมทางการตลาดโดยภาพารวม และรายด้านท้ัง 6 ด้าน
พบว่ามีความสาคัญอยู่ในระดับมาก โดยเม่ือพิจารณารายด้านพบว่า ด้านการจัดจาหน่ายมีผลมาก
ท่สี ดุ รองลงมาคอื ด้านรักษาความเปน็ ส่วนตวั สอดคลอ้ งกบั ชงโค ดรลาดพนั ธ์ุ และ วิษณุ สุมิตสวรรค์
(2563) การตัดสินใจซื้อสินค้าอุปโภคผ่านสื่อเครอื ข่ายออนไลนข์ องผู้บริโภคมีความสัมพันธก์ ับปัจจัย
ส่วนประสมทางการตลาดโดยให้ความสาคัญกับมากท่ีสุด โดยมากที่สุด ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ ราคา
และช่องทางจัดจาหนา่ ยเปน็ สาคัญ การขายสินค้าของผู้ขายตอ้ งมคี วามโปร่งใส มคี วามรวดเรว็ ในการ
ตอบโตก้ ับลกู คา้ มกี ารจดั สง่ ท่รี วดเรว็ และมีความน่าเช่อื ถือในสายตาของลูกค้า

5.2.3 จากผลการวิเคราะห์ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดและการรับรู้ความเส่ียงท่ี
ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ เส้ือผ้าแฟช่ันผ่านทางช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊กของกลุ่มคน Generation Y
ในจังหวัดปทุมธานี พบว่า การรับรู้ความเสี่ยง มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ สอดคล้องกับงานวิจัยของ
ศิริลักษณ์ โรจนกิจอานวย (2561) โดยกล่าวว่าปัจจัยท่ีส่งผลต่อความตั้งในในการซ้ือสินค้าผ่าน
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรหมแดนมากที่สุดคือ ความเสี่ยงด้านการของเวลาท่ีระบบขนส่งสินค้าที่
อาจไม่ตรงตามเวลาที่กาหนดไว้ รองลงมาคือสินค้าอาจไมเ่ ปน็ ไปตามทีต่ อ้ งการ สอดคล้องกบั คมสทิ ธิ์
เกยี นวัฒนา และคณะ (2562) ทก่ี ล่าววา่ การจองโรงแรมที่พักทางอนิ เตอรเ์ น็ตน้ันลกู คา้ ไม่สามารถได้
เห็นสินค้าและบริการของโรงแรมอย่างแท้จริง นักท่องเที่ยวจะเห็นจากรูปภาพประกอบการโฆษณา
ของโรงแรมทางอินเทอรเ์ นต็ เทา่ นน้ั ดังนั้นนักทอ่ งเทจี่ ึงมีความกังวลเรื่องไม่สามารถตรวจสอบลักษณะ
ของห้องพัก บริการและสิ่งอานวยความสะดวกได้จริง จึงส่งผลนักท่องเที่ยวกังวลและให้ความสาคญั
กบั การรับรคู้ วามเสี่ยงด้านสินคา้ และบรกิ ารมากท่สี ุด

530

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

5.3 ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลตามสมมติฐาน
สมมติฐานที่ 1 ช่วงอายุที่แตกต่างกนั มีผลส่งผลต่อการซือ้ เสื้อผ้าแฟช่ันผ่านช่องทางออนไลน์
เฟซบุ๊ก ของกลุ่มคน Generation Y ในจงั หวัดปทมุ ธานี
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลผู้ตอบแบบสอบถาม ของกลุ่มคน Generation Y ที่มีช่วยอายุต้ังแต่
16-40 ปี มนี ยั สาคัญทางสถิตทิ ่รี ะดบั .05 ผลการวิเคราะหร์ ายด้านมรี ายละเอียดดังน้ี

ตารางที่ 1 ผลการวิเคราะห์ช่วงอายุท่ีแตกต่างกันมีผลส่งผลต่อการซ้ือเส้ือผ้าแฟชั่นผ่านช่องทาง

ออนไลน์เฟซบกุ๊ ของกลุ่มคน Generation Y ในจงั หวัดปทมุ ธานแี ตกตา่ งกนั

ปจั จัย แตกตา่ งกนั ไมแ่ ตกกต่างกนั

1.การรบั รู้ปญั หา √

2.การคน้ หาข้อมูล √

3.การประเมินทางเลอื ก √

4.การตดั สนิ ใจซื้อ √

5.พฤติกรรมหลงั การซอื้ √

สมมติฐานที่ 2 ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดส่งผลต่อการซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านช่องทาง
ออนไลน์เฟซบ๊กุ ของกลุ่มคน Generation Y ในจังหวดั ปทุมธานี

ตารางท่ี 2 แสดงภาพรวมความแตกต่างของการทดสอบความแตกต่างวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุ

(Multiple Regression Analysis) ด้วยวิธี Enter ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดส่งผลต่อการซื้อ

เสอื้ ผ้าแฟช่ันผา่ นช่องทางออนไลน์เฟซบ๊กุ ของกลมุ่ คน Generation Y ในจังหวัดปทมุ ธานี

ปจั จยั สว่ นประสม กระบวนการตัดสินใจซอ้ื
ทางการตลาด
การรบั รู้ การค้นหา การประเมิน การ พฤตกิ รรม
ปัญหา ข้อมลู ทางเลอื ก ตดั สินใจซ้อื หลังการซอ้ื

1. ด้านผลิตภณั ฑ์ 0.14 0.16* 0.08 0.15* 0.12

2. ดา้ นราคา 0.08 0.05 0.01 0.07 0.08

3. ด้านชอ่ งทางการ 0.09 0.18* 0.18* 0.20* 0.14*
จดั จาหน่าย

4. ด้านการสง่ เสรมิ 0.03 0.10 0.04 0.04 0.07
ทางการตลาด

5. ดา้ นการใหบ้ ริการ 0.17 0.17* 0.11 0.09 0.17
แบบเจาะจง

6. ด้านการรักษา 0.19* 0.12* 0.18 0.21* 0.17*
ความเป็นส่วนตัว

*มรี ะดับนัยสาคญั ทีร่ ะดับ .05

531

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

สมมตฐิ านที่ 3 การรบั รู้ความเสี่ยงสง่ ผลตอ่ การซือ้ เสอื้ ผ้าแฟชนั่ ผ่านช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊ก
ของกลมุ่ คน Generation Y ในจงั หวัดปทุมธานี

ตารางท่ี 3 แสดงภาพรวมความแตกต่างของการทดสอบความแตกต่างวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุ

(Multiple Regression Analysis) ดว้ ยวธิ ี Enter การรบั ร้คู วามเสย่ี งส่งผลต่อการซือ้ เสอื้ ผ้าแฟชนั่ ผ่าน

ช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊ก ของกลมุ่ คน Generation Y ในจังหวัดปทมุ ธานี

กระบวนการตัดสนิ ใจซื้อ

การรับรคู้ วามเส่ียง การรบั รู้ การค้นหา การ การ พฤตกิ รรม
ปัญหา ขอ้ มลู ประเมิน ตดั สินใจซ้ือ หลงั การซ้ือ
ทางเลอื ก

1. ด้านการเงิน 0.24* 0.07 0.06 0.15* 0.05

2. ด้านประสทิ ธภิ าพ 0.00 0.14* -0.01 0.02 0.09

3. ด้านความปลอดภยั 0.02 0.26* 0.17* 0.02 0.20*

4. ด้านสังคม 0.17* 0.11 0.13 0.16* 0.28*

5. ด้านจติ ใจ 0.27* 0.14* 0.40* 0.34* 0.12

6. ดา้ นเวลา 0.02 0.06 -0.08 -0.05 -0.06

* มรี ะดบั นัยสาคัญทรี่ ะดับ .05

5.3 ข้อเสนอแนะ
5.3.1 ข้อเสนอแนะสาหรบั การนาผลวจิ ัยไปใช้
จากผลการศึกษางานวิจัยเร่ืองปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดและการรับรู้ความ

เสี่ยงท่ีส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ เสื้อผ้าแฟช่ันผ่านทางช่องทางออนไลน์เฟซบุ๊กของกลุ่มคน
Generation Y ในจังหวดั ปทุมธานี ผ้วู ิจยั มีข้อเสนอแนะในการนาผลวิจัยไปใช้สาหรับผ้คู ้าแบรนด์และ
ผปู้ ระกอบการขายเสือ้ ผา้ แฟชน่ั ดงั นี้

5.3.1.1 การนาเสนอขายสนิ ค้า ตอ้ งมใี ส่รายละเอียดของสนิ ค้าให้ครบถว้ น ท้ังขนาด
ของเสื้อผา้ ประเภทเนื้อผ้า ราคาของสินค้าที่จาหน่าย คา่ จดั ส่ง เพอื่ ใหล้ ูกค้านัน้ มขี ้อมลู อยา่ งครบถ้วน
ในการหาข้อมูลของสินค้าก่อนตัดสินใจซ้ือ ในส่วนของรูปภาพของสินค้ามีความสาคัญอย่างมากต่อ
การขายเชน่ กัน เนือ่ งจากผ้ซู อื้ ไม่ได้สัมผัสหรอื ดสู ินคา้ ของจริง การถ่ายรูปในมมุ ตา่ ง ๆ ของแบบเสื้อผ้า
ท่ีเสนอขายนั้นมีความสาคัญอย่างมาก ตัวอย่างสินค้าและแบบท่ีมีการสวมใส่ของแบบก็สาคัญมาก
เช่นกัน หากแบบใส่ออกมามีความสวยงาม รูปภาพท่ีสวยมีความน่าดึงดูดใจ จะช่วยสร้างการกระตุน้
ความอยากได้แก่ผู้ซ้ือ ในส่วนของเนื้อหาในการโฆษณาสินค้าน้ันต้องมีความตรงไปตรงมา มีการ
ส่ือสารแบบชัดเจน ง่ายต่อความเข้าใจ กระชับได้ใจความไม่ยืดเยื้อหรือกากวม โดยมีการนาเสนอ
โปรโมชั่นตา่ งๆ เขา้ ไปให้ครบถ้วนและชดั เจนเพอ่ื เป็นการกระต้นุ แรงจูงใจในการซอ้ื ของผ้ซู ือ้

5.3.1.2 รูปแบบการจัดการร้านค้าออนไลน์ รูปแบบหน้าตาของเพจเฟซบุ๊กน้ันมี
ความสาคัญอย่างมากต่อผู้ซื้อสินค้า เน่ืองด้วยไม่มีหน้าร้านโดยตรงการสร้างความน่าเชื่อถือจึงมี
ความสาคัญอย่างมาก การสร้างตัวตนให้ลูกค้าได้เห็นถึงผู้ขายจึงเป็นสิ่งสาคัญมากเช่นกัน เพราะ

532

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ปัจจุบันผู้ซ้ือจะรับรู้ได้ถึงความเส่ียงในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างย่ิงท่ีเราได้เห็นกันคือมีการโกงใน
รูปแบบต่าง ๆ บนช่องทางออนไลน์ การสร้างความน่าเช่ือถือหรือน่าจดจาให้ผู้ซื้อได้รู้จักตัวตนของ
ผู้ขาย จะช่วยลดความเส่ียงและความไม่ไว้วางใจของผู้ซื้อได้ การที่เพจมีเคล่ือนไหวตลอดเวลา หรือ
การที่มีรีวิวการใช้งานของสินค้า คุณภาพของสินค้า ก็เป็นอีกทางนึงท่ีจะสร้างความเช่ือมั่นและลด
ความเสย่ี งในดา้ นต่างๆ ให้แก่ผ้ซู อ้ื ลงได้

5.3.1.3 ผู้ประกอบการควรทาการวิเคราะห์และทาความเข้าใจกับเส้ือผ้าที่ตนเอง
จาหน่าย ว่าเป็นเส้ือผ้าประเภทแฟชั่นทั่วไป หรือเสื้อผ้าแบรนด์เนมเพื่อนามาวางแผนการส่ือสาร
ภาพลกั ษณต์ ราสนิ ค้า ภาพลกั ษณข์ องร้านให้เหมาะสมกับสินค้า ซง่ึ จะทาใหล้ ูกคา้ ตัดสนิ ใจเลอื กซ้อื ได้
ง่ายข้ึน หากผู้ประกอบการตัดสินใจที่จะจาหน่ายเส้ือผ้าแฟชั่น ผู้ประกอบการจะต้องมีการติดตาม
ข่าวสาร แฟช่ันยอดนิยมของ ศิลปิน/ ดารา/ เน็ตไอดอล เพ่ือนามาวางแผนการซื้อสินค้ามาวาง
จาหน่ายทสี่ อดคล้องกบั ความต้องการของลูกคา้ ในขณะน้ัน ๆ

5.3.1.4 ผู้บริโภคกลุ่มเจนเนอเรชั่นวาย ที่มีเพศ อายุ อาชีพ ระดับการศึกษา และ
รายได้ที่แตกต่างกัน มพี ฤติกรรมการซอื้ เสื้อผา้ แฟช่นั แตกต่างกัน ดงั นนั้ ผู้ประกอบการควรพจิ ารณาว่า
กลุม่ ลกู ค้าของตนเองนนั้ เป็นกลุ่มลูกคา้ กลุ่มใด มีเพศ อายุ อาชพี ระดับการศกึ ษา และรายได้อย่างไร
เพ่อื เลอื กชนิดสินคา้ และกาหนดราคาทจ่ี าหน่ายให้เหมาะสมกบั กลมุ่ ลูกค้าของตนเองมากที่สดุ

5.3.1.5 ด้านการบริการหลังการขาย ในส่วนน้ีมีความสาคัญอย่างมากเช่นกัน หาก
สามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้ได้อนาคตหากต้องการมกี ารซอ้ื ซา้ ลูกค้าจะคิดถงึ ร้านเราเป็นอนั ดับ
แรก หากลูกค้ามีความประทับใจในการซื้อสินค้าจะมีการบอกต่อให้คนรอบข้าง หรือผู้ซื้อรายใหม่
ทราบเชน่ กนั

5.3.2 ขอ้ เสนอแนะในการวจิ ยั คร้ังต่อไป
5.3.2.1 ผูจ้ ดั ทาควรมีการศกึ ษาข้อมลู พฤตกิ รรมการซือ้ ของกลุ่ม Generation อื่น ๆ

เพื่อที่จะใช้ในการศึกษาหาข้อมูลและพฤติกรรมการซื้อในด้านต่างๆ เพราะในอีกแง่มุมนึงกลุ่ม
Generation อื่นก็มีกาลังในการซอ้ื เช่นกัน แต่จะมากหรือนอ้ ยน้นั แนะนาผู้ทาการวจิ ัยนามาศึกษาใน
ครั้งตอ่ ไป

5.3.2.2 การวิจัยคร้ังน้ีเป็นงานวิจัยเชิงผสมผสาน ควรมีการศึกษาพฤติกรรมในการ
ซ้ือของสินค้าประเภทอ่ืนท่ีไม่ใช่เสื้อผ้าแฟชั่น อาจระบุเฉพาะลงไปเช่น เสื้อยืด เสื้อโปโล กางเกงยีนส์
กางเกงขาสนั้ เป็นตน้ เพื่องา่ ยต่อการกาหนดประเภทของสินค้า

5.3.2.3 การศึกษาวิจัยในครง้ั นี้เป็นการวิจัยเชงิ ปรมิ าณกบั ผู้บรโิ ภคกลุ่มเจนเนอเรช่ัน
วาย โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูล ดังนั้นในการศึกษาคร้ังต่อไปจึงควรมีการวจิ ัยเชิง
คุณภาพ โดยใชก้ ารเก็บข้อมูลในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การสมั ภาษณ์ การสังเกต เพ่ือใหท้ ราบข้อมูลและ
รายละเอียดเก่ียวกับการตัดสินใจซื้อสินค้าเสื้อผ้าแฟชั่นของ ผู้บริโภคกลุ่มกลุ่มเจนเนอเรชั่นวายโดย
ละเอียดมากขน้ึ

533

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

เอกสารอา้ งองิ
ขอ้ มูลจังหวัดปทมุ ธานี. สืบค้นจาก https://th.wikipedia.org
คมสทิ ธิ์ เกียนวฒั นา และคณะ. (2562). การรบั รู้ความเสี่ยงของนกั ทอ่ งเทย่ี วเจนเนอเรชั่นแซดต่อ

การจองโรงแรมทพ่ี ักทางอินเทอร์เน็ต. (การคน้ คว้าอิสระปริญญามหาบัณฑติ ,
มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ).
จฑุ ามาศ เฟ่ืองโชติการ ลัดดา ยาวลิ ะ และ รตั นา สิทธิอว่ ม. (2563). ส่วนประสมทางการตลาดทม่ี ี
อิทธพิ ลต่อกระบวนการตดั สินใจซอื้ สนิ คา้ บนส่ือออนไลน์เฟชบคุ ของประชาชนใน
จังหวดั พษิ ณุโลก. (การคน้ คว้าอิสระปรญิ ญามหาบณั ฑิต, มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพิบูล
สงคราม).
ชงโค ดรลาดพันธุ์ และ วิษณุ สุมิตสวรรค.์ (2563). การตดั สนิ ใจซอื้ สินคา้ อปุ โภคผา่ นส่อื เครอื ขา่ ย
ออนไลนข์ องผู้บรโิ ภคเขตเทศบาลขอนแกน่ จังหวดั ขอนแกน่ . (การค้นควา้ อสิ ระปริญญา
มหาบัณฑติ , มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น).
ชัยวัฒน์ หฤทัยพนั ธ์ และ วรพล แจม่ สวัสดิ์. (2563). ปจั จัยที่มีอทิ ธพิ ลตอ่ การตัดสนิ ใจซือ้ ประกันภยั
รถยนต์ของผู้บรโิ ภคในจังหวัดชลบรุ ี. (การค้นคว้าอิสระปรญิ ญามหาบณั ฑติ ,
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมลคลตะวันออก).
ธคิ ณา ศรีบุญนาค และ อุมาพร พงษ์สัตยา. (2562). สว่ นประสมการตลาดทีส่ ง่ ผลต่อกระบวนการ
ตดั สนิ ใจซ้ือเคร่อื งสาอางเกาหลผี ่านแอปพลิเคชันออนไลน์. (การคน้ คว้าอิสระปริญญา
มหาบัณฑติ , มหาวิทยาลยั รามคาแหง).
พรรตั น์ แสดงหาญ. (2563). การตัดสินใจท่จี ะประกอบธรุ กจิ สตาร์ทอัพของเจนเนอเรชน่ั Y ในเขต
พฒั นาพเิ ศษภาคตะวันออก. (การค้นควา้ อิสระปริญญามหาบณั ฑติ , มหาวทิ ยาลยั บรู พา).
พิสฐิ กมลวัทนนิศา และ อรพรรณ คงมาลยั . (2563). การยอมรบั หลักสตู รปริญญาโทออนไลน์ของ
กลุ่ม Gen Y ในยุคดิจิทัล. (การคน้ คว้าอิสระปรญิ ญามหาบณั ฑิต,
มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร)์ .
ศริ ิลักษณ์ โรจนกิจอานวย. (2561). การรบั รูค้ วามเส่ียงและความไว้วาใจที่ส่งผลต่อการซื้อผ่าน
พานิชย์อเิ ลก็ ทรอนกิ สข์ า้ มพรหแดน (การคน้ คว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต, จฬุ าลงกรณ์
มหาวทิ ยาลัย).
สนุ ิสา ตรงจติ ร์. (2559). ปัจจยั ทมี่ ีอิธพิ ลต่อการตดั สนิ ใจซื้อสินค้าออนไลนผ์ ่านช่องทางการตลาด
กลางพาณิชย์อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (E-Marketplace). (การคน้ คว้าอิสระปรญิ ญามหาบณั ฑิต,
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์).
สรุ รี ตั น์ ธรรมจง. (2562). ปจั จัยทมี่ ีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกซ้ือสนิ ค้าบนสอื่ สงั คมอนไลน์ของ
ผ้บู รโิ ภคกลุ่มคนเหงา. (การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์).
Cochran, W. G. (1953). Sampling techniques. New York: Johe Wiley & Sons.
Demirdogen, O., Yaprakli, S., Yılmaz, M. K., & Husain, J. (2010). Customer risk
perceptions of internet banking – A study in Turkey. The Journal of
Applied Business Research, 26, 57-65.

534

การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

Electronic Transactions Development Agency. (2019). Value of e-Commerce Survey
in Thailand. Internet Research, https://www.etda.or.th/content/value-of-e-
commerce-survey-in-thailand. html.

Kotler, P. (2003). Marketing management (11th ed.). Upper Saddle River, NJ:
Prentice–Hall.

Mgronline.com. (2562). สถิติอาชญากรรมทางเทคโนโลยี. สบื ค้นจาก
https://mgronline.com/crime/detail/9620000015831

535

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ปจั จัยท่สี ่งผลตอ่ ดัชนีราคาหลกั ทรัพย์ของธนาคารพาณชิ ยข์ นาดเลก็
ในประเทศไทย

วรศิ รา วงศว์ านิช1
นักศึกษาปริญญาโทหลักสตู รเศรษฐศาสตรมหาบัณฑติ คณะเศรษฐศาสตร์

มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์

อรรถสดุ า เลิศกุลวฒั น์
อาจารย์ประจาสาขาวชิ าเศรษฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์

มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์

บทคัดยอ่

การวิจยั ครัง้ นเี้ พ่ือศึกษาปัจจัยท่สี ง่ ผลต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก
ในประเทศไทย ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1 พ.ศ. 2555 - ไตรมาส 4 พ.ศ. 2562 โดยใช้วิธีกาลังสองน้อยที่สุด
ผลการวิจัยพบว่า ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจา 3 เดือน ดัชนีราคา
หลกั ทรพั ย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดัชนผี ลผลิตรวมอุตสาหกรรม ดชั นคี ่าเงินบาท และอัตรา
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 3 เดือน ปัจจัยภายในธนาคาร ได้แก่ อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น
อัตราส่วนเงินสด อัตราส่วนหน้ีสินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น โดยปัจจัยท่ีส่งผลกระทบต่อดัชนีของกลุ่ม
ธนาคารขนาดเล็ก โดยรวม ปัจจัยทางเศรษฐกิจ พบว่า ดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทย ดัชนีผลผลิตรวมอุตสาหกรรม ส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกัน ปัจจัยภายในธนาคาร
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ส่งผลในทิศทางตรงข้าม ปัจจัยท่ีส่งผลกระทบต่อดัชนีของกลุ่ม
ธนาคารขนาดเล็ก รายธนาคาร ธนาคารท่ีไดร้ ับอิทธพิ ลจากปัจจัยเศรษฐกิจมากท่ีสุด คอื ธนาคารทิสโก้
และธนาคารเกียรตินาคินภัทร ส่วนธนาคารได้รับอิทธิพลจากปัจจัยการดาเนินงานภายในธนาคารมาก
ท่ีสุด คือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ธนาคารท่ีได้รับอิทธิพลจากปัจจัยเศรษฐกิจและปัจจัยการ
ดาเนินงานภายในธนาคารมากท่ีสุด คือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร นอกจากน้ีมีเพียงธนาคารแลนด์
แอนด์เฮา้ ส์ ไม่มปี จั จยั ใดๆท่ีส่งผลกระทบต่อดัชนีราคาหลักทรพั ย์ งานวิจัยฉบับนจ้ี ะเป็นประโยชน์ให้แก่
นักลงทนุ ในการตัดสินใจเลือกลงทนุ ในหลกั ทรพั ย์

คาสาคญั : ดัชนรี าคาหลกั ทรัพย์ ตลาดหลักทรพั ยแ์ หง่ ประเทศไทย ธนาคารพาณิชย์

1 นักศึกษาปริญญาโทหลกั สูตรเศรษฐศาสตรม์ หาบณั ฑิต คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์
แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรงุ เทพมหานคร 10900
หมายเลขติดต่อ: 083-690-6634 อีเมล: [email protected]

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

FACTORS AFFECTING THE SECURITIES PRICE INDEX
OF SMALL COMMERCIAL BANKS IN THAILAND

Warisara Wongwanich1
Graduate Student, Master of Economics, Faculty of Economics

Kasetsart University

Attasuda Lerskullawat
Lecturer at Department of Economics, Faculty of Economics

Kasetsart University

Abstract

This research was to study the factors affecting the securities price index of
small commercial banks in Thailand. From the first quarter of 2012 - the fourth quarter
of 2019 using the least squares method The research results were found that The
economic factors are the 3-month fixed deposit interest rate, stock price index, the Stock
Exchange of Thailand. Manufacturing Production Index Real Effective Exchange Rate And
3-month Thai government bond yields. Internal factors of the Bank are the return on
equity. Cash ratio Debt to equity ratio Factors affecting the index of small banks as a
whole, economic factors, found that the Stock Exchange of Thailand Total Industrial
Production Index Impact in the same direction Factors within the Bank Debt to equity
ratio Resulting in the opposite direction Factors Affecting the Index of the Small Banking
Group The banks most influenced by economic factors are TISCO Bank and Kiatnakin
Phatra Bank. The bank was most influenced by internal operating factors, Kiatnakin Phatra
Bank. The bank that is most influenced by economic and operating factors within it is
Kiatnakin Phatra Bank. In addition, only Land and Houses Bank There are no factors
affecting the price index. This research will benefit investors in making decisions on
investment options in securities.

Keywords: Stock Price Index, The Stock Exchange of Thailand, Commercial Banks

1 Corresponding Author: Graduate Student, Master of Economics, Faculty of Economics,
Kasetsart University. Contact Number: +6683-690-6634 Email: [email protected]

537

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

บทนา
ในปัจจุบันการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้ลงทุนสามารถเรียนรู้การลงทุนและ

ทราบข้อมูลข่าวสารทางธุรกิจหรือบริษัทท่ีต้องการลงทนุ ได้อย่างรวดเร็ว เพ่ือให้ได้ผลตอบแทนท่ีมากขึ้
นานักลงทุนจานวนมากเลือกที่จะลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันเศรษฐกิจอยู่
ในช่วงภาวะถดถอยท่ัวโลก เน่อื งมาจากสถานการณป์ ัญหาทางการคา้ ระหวา่ งประเทศสหรัฐอเมรกิ าและ
จีน ความผันผวนของค่าเงิน ราคาน้ามันดิบ ประกอบกับในปัจจุบันมีการเกิดโรคระบาด ทาให้มี
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจทงั้ ในประเทศและต่างประเทศ ซ่งึ กระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนโดยเฉพาะ
ในตลาดหลักทรัพย์

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีกลุ่มหลักทรัพย์ท่ีจดทะเบียนประกอบไปด้วย
หลากหลายอุตสาหกรรม โดยอุตสาหกรรมท่ีมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากท่ีสุด ได้แก่ กลุ่มธุรกิจบริการ
มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดถึง ร้อยละ 25.19 อันดับ 2 เป็นกลุ่มทรัพยากร มีส่วนแบ่งทางการตลาด
ร้อยละ 21.77 และอันดับ 3 เป็นกลุ่มธุรกิจการเงิน มีส่วนแบ่งทางการตลาด ร้อยละ 16.86 ซึ่งในกลุ่ม
ธุรกจิ การเงิน มบี ทบาทและความสาคัญต่อการพฒั นาเศรษฐกิจของประเทศ เน่ืองจากเป็นแหลง่ เงินทุน
ซ่งึ เป็นปัจจัยสาคัญทางเศรษฐกิจ เป็นตัวกลางโดยในกลุ่มธุรกิจการเงนิ ทาการจัดสรรเงนิ ทุนเหล่านั้นให้
เพียงพอกับความต้องการของหน่วยธุรกิจและประชาชน โดยธุรกิจการเงินจะทาหน้าท่ีเป็นตัวกลาง
ระหวา่ งผฝู้ ากเงินกับผู้กู้เงนิ และเป็นผรู้ ับภาระความเส่ยี งแทนเน่อื งจากธรุ กิจการเงินจะนาเงนิ ของผู้ฝาก
ไปปล่อยสินเช่ือแก่ผู้กู้เพื่อหวังกาไร นอกจากนี้ยังสามารถสร้างสภาพคล่องทางการเงิน โดยสถาบัน
การเงินเป็นผู้ค้าประกันการออกเช็ค ตั๋วสัญญาใช้เงิน บัตรเครดิต ฯลฯ ให้กับบริษัทห้างร้านและลูกค้า
ตราสารได้รับการยอมรับและมีความน่าเชื่อถือทาให้การซื้อขายสินค้าต่าง ๆ ระหว่างผู้ซ้ือกับผู้ขาย
เปน็ ไปอย่างสะดวกรวดเร็ว โดยดัชนรี าคาหลักทรัพย์ธนาคารพาณิชยม์ ีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มมากข้ึนทุก
ปี สะท้อนถงึ เศรษฐกิจ การลงทุนตา่ ง ๆ ทงั้ ในประเทศและต่างประเทศเพ่มิ มากขึน้ ในประเทศไทยมีการ
จาแนกธนาคารพาณิชย์ตามขนาดส่วนแบ่งตลาดของสินทรัพย์รวมด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่ ธนาคาร
พาณิชย์ขนาดใหญ่ ธนาคารพาณิชย์ขนาดกลาง ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก โดยธนาคารพาณิชย์ทั้ง 3
กลมุ่ ส่วนใหญ่มีการเติบโตไปในทิศทางเดียวกนั เมือ่ พิจารณาในรายกลุม่ ธนาคาร ธนาคารพาณิชย์ขนาด
ใหญม่ สี ว่ นแบ่งทางการตลาดทีม่ ากท่ีสุด เนือ่ งจากมลี ูกค้าใช้บริการจานวนมาก การเข้าถึงการให้บริการ
สะดวก สินทรัพย์ของธนาคารมากจึงทาให้มีส่วนแบ่งทางการตลาดมาก ส่วนธนาคารพาณิชย์ขนาด
กลางและขนาดเล็ก จะมีส่วนแบง่ ทางการตลาดและสินทรัพย์รองลงมาจากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่

การศึกษาในงานวิจัยคร้ังน้ีจะทาการศึกษาในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก โดย
ประกอบดว้ ย 4 ธนาคาร ได้แก่ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารเกยี รตินาคนิ ภัทร ธนาคารทสิ โก้ ธนาคาร
แลนด์ แอนด์ เฮาส์ เน่ืองจากธนาคารพาณิชย์กลุ่มนี้มีความสาคัญ ซ่ึงจะเห็นได้ว่าธนาคารเล็กจะได้รับ
ผลกระทบเป็นอย่างมากเม่ือเกิดวิกฤตเศรษฐกิจต่าง ๆ เนื่องมาจากธนาคารพาณิชย์กลุ่มน้ีจะมีสภาพ
คล่องน้อย เงินทุนน้อย อาจเนื่องมาจากการเข้าถึงการให้บริการ จานวนสาขา ต้นทุนทางการเงินและ
การทาการตลาดที่น้อยกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่และธนาคารพาณิชย์ขนาดกลาง เมื่อเกิดวิกฤต
ต่างๆจะทาให้มีโอกาสเสี่ยงในการล้มละลายได้ง่ายกว่าธนาคารพาณิชย์ขนาดอื่น จึงสาคัญท่ีต้องศึกษา
จากการ ค้ น คว้ า ศึ ก ษ าง าน วิ จั ยท่ี ผ่ าน ม าส่ วน ใ หญ่ จ ะ เป็ น ก าร วิ จั ย ท่ี เก่ี ยว กั บ ภ าพ ร ว ม ขอ ง ก ลุ่ ม

538

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

อุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ ศึกษาเฉพาะกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียว หรือศึกษาแยกเป็น
รายธนาคาร นอกจากนีง้ านวิจัยส่วนใหญ่จะทาการศึกษาเพียงปัจจัยทางเศรษฐกิจอย่างเดียว โดยไม่ได้
พิจารณาถึงปัจจัยภายในธนาคาร และงานวิจัยกลุ่มธนาคารขนาดเล็กน้ันยังไม่ได้รับความสนใจใน
การศึกษาเท่าที่ควร ดังน้ันงานวิจัยนี้จึงสนใจในการศึกษาปัจจัยทางเศรษฐกิจท่ีมีผลต่อดัชนีราคา
หลักทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทยจึงสาคัญ เน่ืองจากส่วนใหญ่ธนาคารพาณิชย์
ขนาดเลก็ มักจะเปน็ ธนาคารที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้านนน้ั ๆ เชน่ ด้านเชา่ ซื้อรถยนต์ ด้านการปล่อยสินเชื่อ
บ้านหรือบัตรเครดิต เป็นต้น มีส่วนแบ่งทางการตลาดน้อย และมีต้นทุนทางการเงินท่ีสูง โดยศึกษาท้ัง
ปัจจัยภายในธนาคาร เช่น อัตราส่วนทางการเงินที่สาคัญ โดยทาการศึกษาแยกเป็นรายธนาคารและ
ปัจจัยทางเศรษฐกิจ ท้ังนี้การศึกษาดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนและผู้ท่ีสนใจในการลงทุนใน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพ่ือเตรียมความพร้อมในการวางแผนในการลงทุนเพื่อให้ได้
ผลตอบแทนท่คี ุ้มค่าและมีความเสยี่ งในการลงทุนต่า

วตั ถุประสงคใ์ นการวิจัย
เพ่ือศึกษาถึงปัจจัยท่ีส่งผลต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์ของกลุ่มอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์

ขนาดเล็กในประเทศไทย

สมมุติฐานการวิจัย
1. การเปล่ียนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจา 3 เดือน มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางตรง

ข้ามกับดัชนีราคาหลักทรัพย์กลุ่มอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย เนื่องจากเมื่อ
อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจา 3 เดือน มีอัตราที่สูงขึ้น ทาให้นักลงทุนหันไปลงทุนประเภทเงินฝากมาก
ข้นึ สง่ ผลใหก้ ารลงทุนในตลาดหลกั ทรพั ย์มีปริมาณลดลง ดชั นีราคาหลักทรพั ยม์ ีราคาลดลง

2. การเปล่ียนแปลงดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีความสัมพันธ์
ไปในทศิ ทางตรงกนั ข้ามกับดัชนรี าคาหลกั ทรพั ย์ของธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย เนือ่ งจาก
ดัชนีราคาหลักทรัพย์มีค่าอยู่ในระดับสูง แสดงถึงระดับราคาหลักทรัพย์ได้มีการเพิ่มสูงข้ึน จึงส่งผลให้
ผลตอบแทนจากการลงทุนในหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีผลตอบแทนสูงกว่าการ
ลงทนุ ในดชั นีราคาหลักทรพั ย์กลุ่มอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย

3. การเปลี่ยนแปลงดัชนีผลผลิตรวมอุตสาหกรรม มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับ
ดัชนีราคาหลักทรัพย์กลุ่มอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย เนื่องจากหากระบบ
เศรษฐกิจของประเทศมีการขยายในอัตราที่สูง ความน่าสนใจลงทุนในหลักทรัพย์เพ่ิมขึ้น ด้วยราคา
หลักทรัพย์จึงปรับตัวสูงขึ้น หาก MPI ปรับตัวลดลงจะเป็นตัวชี้ว่า เศรษฐกิจชะลอตัว บริษัทต่าง ๆ
ชะลอการลงทุนผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยน้อยลง นักลงทุนก็ลดความน่าสนใจหลักทรัพย์ลงราคา
หลกั ทรัพยจ์ งึ ปรบั ลดลง

4. การเปลี่ยนแปลงดัชนีค่าเงินบาท มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับดัชนีราคา
หลกั ทรพั ย์ของธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย เนอื่ งจากถ้าเศรษฐกิจภายในประเทศดี จะทา

539

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

ให้มีความต้องการเงินบาทเพิ่มข้ึน ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น นักลงทุนต่างประเทศสนใจลงทุนใน
หลักทรพั ย์เพิม่ ขนึ้ ทาให้ราคาหลักทรพั ย์สงู ขนึ้ ส่งผลตอ่ อัตราผลตอบแทนของหลกั ทรัพย์เพม่ิ สงู ขนึ้

5. การเปล่ียนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยระยะเวลา 3 เดอื น มี
ความสัมพันธ์ไปในทิศทางตรงข้ามกับดัชนีราคาหลักทรพั ย์ตลาดหลกั ทรัพย์แหง่ ประเทศไทย เนื่องจาก
การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างปลอดภัย ดังนั้นหากพันธบัตรรัฐบาลให้
ผลตอบแทนมาก นกั ลงทนุ จะเปลี่ยนไปลงทนุ ในพนั ธบตั รรัฐบาลแทน

6. การเปล่ียนแปลงอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับดัชนี
ราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากถ้ามีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นสูงขึ้น จะ
แสดงให้เหน็ วา่ ธนาคารสามารถสร้างกาไรสุทธิได้มาก ก็จะทาให้ดชั นีราคาหลักทรัพย์สงู ข้ึนเช่นกัน

7. การเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนเงินสดมีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับดัชนีราคา
หลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เน่ืองจากถ้าอัตราส่วนเงินสดมีค่าสูงขึ้น จะสะท้อนการมี
สภาพคลอ่ งมากข้ึน ทาใหบ้ ริษัทมีโอกาสชาระหนไ้ี ด้สูงขึ้น กจ็ ะทาใหด้ ชั นีราคาหลักทรัพย์สงู ข้นึ เช่นกนั

8. การเปล่ียนแปลงอัตราส่วนหน้ีสินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางตรง
ข้ามกับดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เน่ืองจากถ้ามีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วน
ของผู้ถือหุ้นสูงข้ึน จะสะท้อนการมีภาระหน้ีสูงข้ึน ผลประกอบการไม่เป็นไปตามท่ีคาดการณ์จนไม่
สามารถกาไรเพื่อมาจัดการภาระหนี้ได้เพียงพอ มีความเส่ียงที่ล้มละลายสูง ก็จะทาให้ดัชนีราคา
หลักทรพั ยล์ ดลง

กรอบแนวคดิ ในการวิจัย

ตวั แปรต้น ตัวแปรตาม

ปัจจัยเศรษฐกิจ 1. ดัชนีราคาหลักทรัพย์กลุ่มธนาคารพาณิชย์
- อตั ราดอกเบย้ี เงินฝากประจา 3 เดือน (FIX3) ขนาดเล็กโดยรวม
- ดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่ง 2. ดัชนรี าคาหลกั ทรัพย์ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
3. ดัชนรี าคาหลักทรพั ยธ์ นาคารเกียรตินาคินภัทร
ประเทศไทย (Set) 4. ดชั นีราคาหลักทรัพยธ์ นาคารทิสโก้
- ดชั นผี ลผลติ รวมอุตสาหกรรม (MPI) 5. ดชั นีราคาหลักทรพั ยธ์ นาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์
- ดชั นคี า่ เงนิ บาท (REER)
- อตั ราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ
3 เดอื น (GB)

ปจั จัยภายในธนาคาร
- อัตราสว่ นเงินสด (Cash)
- อัตราผลตอบแทนผู้ถอื หุ้น (ROE)
- อัตราส่วนหนส้ี ินต่อสว่ นของผถู้ ือหุน้ (DE)

ภาพที่ 1 กรอบแนวคิดในการวิจยั

540

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

การทบทวนวรรณกรรม
ณัฐณิชา สว่างศรี (2551, น. 1-8) ได้ทาการศึกษาเร่ือง ปัจจัยท่ีมีผลต่อราคาหุ้น ธนาคาร

เกียรตินาคิน จากัด (มหาชน) เป็นการวิเคราะห์เฉพาะราคาหุ้นธนาคารเกียรตินาคิน จากัด (มหาชน)
โดยใชข้ ้อมูลทตุ ิยภมู ิ เปน็ รายเดือน ตงั้ แต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2551 ถงึ เดอื นธนั วาคม พ.ศ. 2555 รวม
ระยะเวลา 60 เดือน คานวณสถิติในรูปสมการถดถอยเชิงเส้น (Multiple Regressions) ดว้ ยโปรแกรม
สาเร็จรูปเพื่อทดสอบสมมติฐานความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระและตัวแปรตาม ทาการศึกษาใน
ประเทศไทยผลการศึกษาพบว่า ตัวแปรท่ีสามารถอธิบายราคาหลักทรัพย์ ธนาคารเกียรตินาคิน จากัด
(มหาชน) (KK) ได้แก่ อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) และ อัตราเงินปัน
ผลตอบแทน (DIY) มีผลต่อราคาหุ้นธนาคารเกียรตินาคิน จากัด (มหาชน) (KK) อย่างมีนัยสาคัญใน
ทิศทางตรงกนั ขา้ ม

สุจิตตา พ่ึงแรง (2553, น. 48-51) ได้ทาการศึกษาเร่อื ง ปัจจยั ที่มีผลต่อดัชนรี าคาหลักทรัพย์
หมวดพาณิชย์ เป็นการวิเคราะห์ภาพรวมของราคาดัชนีราคาหุ้นของหลักทรัพย์กลุ่มพาณิชย์ท่ีจด
ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นการวิเคราะห์ภาพรวมของราคาดัชนีราคาหุ้นของ
หลักทรัพย์กลมุ่ พาณิชยท์ ี่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยใชข้ ้อมลู ทตุ ิยภูมิ เปน็ ราย
เดอื น ตัง้ แตเ่ ดือนมกราคม พ.ศ. 2548 ถงึ เดอื นมถิ นุ ายน พ.ศ. 2553 รวมระยะเวลา 66 เดอื น คานวณ
สถิติในรูปสมการถดถอยเชิงเส้น(Multiple Regressions) ด้วยโปรแกรมสาเร็จรูปเพื่อทดสอบ
สมมติฐานความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระและตัวแปรตาม ทาการศึกษาในประเทศไทย ผล
การศึกษาพบว่า ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และดัชนีมูลค่าค้าปลีกท่ัวประเทศ
สง่ ผลในทิศทางเดียวกนั กับดัชนรี าคาหลกั ทรพั ยห์ มวดพาณชิ ย์

บุญนาค เกิดสินธ์ุ (2554, น. 41-44) ได้ทาการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างอัตราส่วนทาง
การเงินและราคาตลาดของหลักทรัพย์กลุ่มพาณิชย์ท่ีจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เป็นการวิเคราะห์ภาพรวมของราคาดัชนีราคาหุ้นของหลักทรัพย์กลุ่มพาณิชย์ที่จดทะเบียนในตลาด
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิ เป็นรายไตรมาส ช่วงไตรมาสท่ี 1 ของปี พ.ศ.2552
ถึง ไตรมาสท่ี 4 ของปีพ.ศ.2554 จานวนทั้งส้ิน 12 ชุดข้อมูล คานวณสถิติในรูปสมการถดถอยเชิงเส้น
(Multiple Regressions) ด้วยโปรแกรมสาเร็จรูปเพื่อทดสอบสมมติฐานความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร
อิสระและตวั แปรตาม ทาการศึกษาในประเทศไทย ผลการศึกษาพบว่า อัตรากาไรสุทธิต่อหุ้น อตั ราเงิน
ปันผลจ่ายต่อหุ้น อัตราส่วนราคาตลาดต่อราคาตามบัญชีต่อหุ้น อัตราผลตอบแทนส่วนของผู้ถือหุ้น
อัตราหน้ีสินต่อสินทรัพย์รวม มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดของ
หลักทรัพยก์ ลุ่มพาณิชย์ทจี่ ดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

สภุ าพรรณ ชุ่มเชย และนงนภสั แก้วพลอย (2561, น. 1377) ไดท้ าการศกึ ษาเรอ่ื ง ปัจจยั ท่ีมี
ผลต่อดัชนีราคากลุ่มธนาคารพาณิชย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เป็นการวิเคราะห์ภาพรวม
ของราคากลุ่มธนาคารพาณิชย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิ เป็นรายไตร
มาส ช่วงไตรมาสท่ี 3 ของปี พ.ศ.2545 ถึง ไตรมาสท่ี 3 ของปีพ.ศ.2560 จานวนท้ังสิ้น 61 ชุดข้อมูล
คานวณสถิติในรูปสมการถดถอยเชิงเส้น(Multiple Regressions) ด้วยโปรแกรมสาเร็จรูปเพ่ือทดสอบ
สมมติฐานความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรอิสระและตัวแปรตาม ผลการศึกษาพบว่าปัจจัยท่ีมีผลกระทบ
ต่อดัชนีราคากลุ่มธนาคารพาณิชย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้แก่ อัตราส่วนเงินปัน
ผลตอบแทน (DIY) , ยอดคงค้างเงนิ ให้สินเช่ือด้อยคุณภาพ (NPL) มคี วามสมั พนั ธ์ในทิศทางตรงกันข้าม,
ดชั นผี ลผลิตรวมอุตสาหกรรม (MPI) มคี วามสัมพันธใ์ นทิศทางเดียวกัน

อธิพัชร์ โรจนวุฒิฐิติคุณ (2554, น. 43-46) ได้ทาการศึกษาเร่ือง ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อ
ราคาหลักทรัพย์ในกลมุ่ ธนาคารพาณิชย์ในตลาดหลกั ทรัพย์แหง่ ประเทศไทย เป็นการวิเคราะห์ภาพรวม

541

การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

ของราคาหลักทรัพย์ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิ
รายไตรมาส ต้งั แต่ชว่ งไตรมาสท่4ี ปีพ.ศ. 2548 ถึงไตรมาสท่ี 2 ปี พ.ศ. 2552 คานวณสถิติในรูปสมการ
ถดถอยเชิงเส้น (Multiple Regressions) ด้วยโปรแกรมสาเร็จรูปเพ่ือทดสอบสมมติฐานความสัมพันธ์
ระหวา่ งตวั แปรอิสระและตวั แปรตามทาการศึกษาในประเทศไทยผลการศึกษาพบว่า มีเพยี ง 1 ตัวแปร
ที่สามารถพยากรณ์ราคาหลักทรัพย์ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คือ
Real GDP

จากการผลงานวิจัยที่เก่ียวข้อง ส่วนใหญ่จะเป็นการวิจัยที่เก่ียวกับภาพรวมของกลุ่ม
อุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ ศึกษาเฉพาะกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียว หรอื ศึกษาแยกเป็น
รายธนาคาร นอกจากน้ีคนส่วนใหญ่จะทาการศึกษาเพียงปัจจัยทางเศรษฐกิจอย่างเดียว โดยการวิจัย
เฉพาะในกลุ่มธนาคารขนาดเล็กนั้นยังไม่ได้รับความสนใจในการศึกษาเท่าที่ควร ดังนั้นงานวิจัยน้ีจึง
สนใจในการศึกษาปัจจัยทางเศรษฐกิจท่ีมีผลต่อราคาหลักทรัพย์ในกลุ่มอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์
ขนาดเล็กในประเทศไทย โดยศึกษาท้ังปัจจัยภายในธนาคาร เช่น อัตราส่วนทางการเงินท่ีสาคัญ โดย
ทาการศกึ ษาแยกเปน็ รายธนาคารและ ปจั จยั ทางเศรษฐกิจ

ระเบียบวิธีการวิจยั
ข้อมูลท่ีใช้ในการศึกษาเป็นข้อมลู อนุกรมเวลา (Time Series Data) โดยการจัดเก็บขอ้ มูล

เป็นรายไตรมาส จากช่วงไตรมาส 1 พ.ศ. 2555 ถึงช่วงไตรมาส 4 พ.ศ. 2562 รวมระยะเวลา 32
ไตรมาส โดยเก็บข้อมูลปัจจัยภายในธนาคาร ได้แก่ อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) อัตราส่วน
เงินสด (Cash) และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (DE) เก็บข้อมูลจากงบการเงินของธนาคาร
สว่ นด้านปจั จยั ทางเศรษฐกิจ ได้แก่ อตั ราดอกเบ้ยี เงนิ ฝากประจา 3 เดือน (FIX3) ดัชนรี าคาหลักทรัพย์
ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ดัชนีผลผลิตรวมอุตสาหกรรม (MPI) ดัชนีค่าเงินบาท
(REER)อตั ราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 3 เดอื น (GB) เกบ็ ขอ้ มลู จาก ธนาคารแหง่ ประเทศ
ไทย และตลาดหลักทรัพยแ์ หง่ ประเทศไทย

โดยวธิ กี ารศกึ ษาถึงปัจจัยที่สง่ ผลตอ่ ราคาดัชนีหลักทรัพย์กล่มุ ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กใน
ประเทศไทย โดยรวม ผา่ นแบบจาลองวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ (Multiple Regression Analysis) ดัง
สมการนี้

Smallt= α0 + β1Fix3t + β2Sett + β3MPIt + β4REERt + β5GBt + β6ROEt + β7Casht + β8DEt + εt

โดยท่ี Smallt แทน อตั ราการเปล่ียนแปลงของดัชนีราคาหลกั ทรัพย์กลมุ่
อตุ สาหกรรม ธนาคารพาณิชย์ขนาดเลก็ ในประเทศไทย
Fix3
Set แทน อัตราดอกเบ้ยี เงินฝากประจา 3 เดือน
MPI แทน ดชั นีราคาหลกั ทรพั ยต์ ลาดหลกั ทรพั ยแ์ หง่ ประเทศไทย
REER แทน ดัชนผี ลผลิตรวมอตุ สาหกรรม
GB แทน ดัชนคี า่ เงินบาท
ROE แทน อัตราผลตอบแทนพนั ธบัตรรฐั บาลไทยอายุ 3 เดือน
Cash แทน อตั ราผลตอบแทนผู้ถือหนุ้
DE แทน อัตราสว่ นเงนิ สด
ε แทน อัตราหนี้สินตอ่ สว่ นของผถู้ อื หุ้น
แทน ค่าความคาดเคลอ่ื น

542

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

และปัจจัยท่ีส่งผลต่อราคาดัชนีหลักทรัพย์กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย
รายธนาคาร ผา่ นแบบจาลองวเิ คราะหถ์ ดถอยพหุคณู (Multiple Regression Analysis) ดังสมการน้ี

Smalli,t = α0 + β1 Fix3t + β2Sett + β3MPIt + β4REERt + β5GBt β6 +ROEt + β7Casht + β8DEt + εt

โดยที่ Small 1t แทน ดัชนรี าคาหลกั ทรัพย์ดัชนีราคาหลกั ทรพั ย์ธนาคารซไี อเอ็มบไี ทย
Small 2t แทน ดชั นรี าคาหลักทรพั ย์ดชั นรี าคาหลักทรัพยธ์ นาคารเกียรตนิ าคินภัทร
Small 3t แทน ดัชนีราคาหลักทรัพยด์ ัชนรี าคาหลกั ทรัพย์ธนาคารทิสโก้
Small 4t แทน ดชั นีราคาหลกั ทรัพย์ธนาคารแลนดแ์ อนด์เฮ้าส์
กล่าวถึงวิธดี าเนินการวิจัยโดยสรุป อันได้แก่ ประชากรและกลุ่มตัวอยา่ ง วิธีการเลือกกลมุ่

ตัวอยา่ ง เครอ่ื งมอื วิจัยและคุณภาพเครื่องมือ วิธีการเกบ็ และรวบรวมข้อมูล สถิติทีใ่ ช้ในการวิเคราะห์
ขอ้ มูล ข้อสงั เกตอน่ื ๆ ท่เี กีย่ วขอ้ งกบั วิธีดาเนินการวจิ ยั

ผลการวจิ ัย
การศึกษาเร่ือง ปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กใน

ประเทศไทย มีผลการศึกษาดงั นี้
1. ผลการศึกษาคุณสมบัตขิ องขอ้ มูล
1.1. สถิตเิ ชงิ พรรณนา
ผลการศึกษาของข้อมูลสถิติเชิงพรรณนาของตัวแปรท่ีใช้ในการศึกษา ทั้งหมด 13 ตัว

แปร ซึ่งประกอบด้วยตวั แปรอสิ ระจานวน 8 ตวั แปร และตวั แปรตามจานวน 4 ตวั แปร

ตารางที่ 1 ข้อมูลสถิตเิ ชิงพรรณนาของตวั แปรทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา

ตวั แปร Mean Maximum Minimum Std. Dev.

ดัชนรี าคาหลกั ทรัพยก์ ล่มุ ธนาคารพาณชิ ยข์ นาดเล็ก 0.0316 0.2300 -0.2400 0.1108
(Small)
-0.3026 0.1212
ดชั นรี าคาหลักทรัพย์ธนาคารซีไอเอม็ บีไทย (CIMBT) -0.0429 0.2170 -0.2319 0.1428
-0.2613 0.1074
ดชั นรี าคาหลกั ทรัพยธ์ นาคารเกยี รตินาคนิ ภัทร (KKP) 0.0323 0.4227 -0.1559 0.0934

ดัชนรี าคาหลกั ทรัพยธ์ นาคารทสิ โก้ (TISCO) 0.0363 0.1948 -0.3952 0.1771

ดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LHFG) 0.0032 0.2927 -0.1109 0.0580

ดชั นรี าคาหลกั ทรัพยอ์ ตั ราดอกเบย้ี เงนิ ฝากประจา 3 -0.0054 0.3333 -0.1087 0.0834
เดือน (FIX3) 0.0163 0.1490 -0.0400 0.0246
ดัชนรี าคาหลักทรัพย์ตลาดหลกั ทรพั ย์แห่งประเทศไทย -0.1876 0.0700
(Set) -0.2341 0.0805
-0.5931 0.3359
ดัชนีผลผลติ รวมอุตสาหกรรม (MPI) 0.0115 0.3498 -0.1800 0.0492

ดัชนีค่าเงินบาท (REER) 0.0051 0.0703

อตั ราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 3 เดือน (GB) -0.0261 0.1374

อัตราผลตอบแทนผถู้ ือหุ้น (ROE) 0.0024 0.2010

อัตราส่วนเงนิ สด (Cash) 0.0337 0.7647

อตั ราส่วนหนสี้ นิ ตอ่ ส่วนของผถู้ ือหนุ้ (DE) -0.0094 0.0900

543

การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

ดชั นีราคาหลกั ทรพั ย์กลมุ่ ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กโดยรวม มีคา่ เฉลี่ยอยู่ท่ี 0.0316 จุด มี
คา่ สว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.1108 จุด โดยมคี า่ ทีส่ งู สดุ อยทู่ ่ี 0.2300 จดุ และค่าต่าที่สุดอยู่ท่ี -0.2400
จุด โดยเมื่อพิจารณารายธนาคารพบว่า ดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่
-0.0429 จุด มีค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน 0.1212 จุด โดยมีค่าท่ีสูงสุดอยู่ท่ี 0.2170 จุด และค่าต่า
ท่ีสุดอยู่ที่ -0.3026 จุด ดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารเกียรตินาคินภัทร มีค่าเฉล่ียอยู่ท่ี 0.0323 จุด มี
คา่ สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน 0.1428 จุด โดยมคี ่าทีส่ ูงสุดอยู่ท่ี 0.4227 จุด และค่าต่าที่สดุ อยทู่ ่ี -0.2319
จุด ดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารทิสโก้ มีค่าเฉลี่ยอยู่ท่ี 0.0363 จุด มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
0.1948 จุด โดยมีค่าท่ีสูงสุดอยู่ท่ี 0.1428 จุด และค่าต่าท่ีสุดอยู่ที่ 0.1074 จุด ดัชนีราคาหลักทรัพย์
ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 0.0032 จดุ มคี า่ ส่วนเบ่ยี งเบนมาตรฐาน 0.0934 จดุ โดยมี
ค่าที่สูงสุดอยู่ที่ 0.2927 จุด และค่าต่าที่สุดอยู่ท่ี -0.1559 จุด เมื่อเปรียบเทียบสถิติของดัชนีกลุ่ม
ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กโดยรวมและรายธนาคาร โดยเรียงลาดับตามสถิติสงู สุดไปต่าสุด ตามลาดับ
ได้แก่ ดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารธนาคารทิสโก้ ดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารเกียรตินาคินภัทร
ดัชนีราคาหลักทรัพยธ์ นาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ และดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารซไี อเอ็มบีไทย โดย
เม่ือเปรียบเทียบกับดัชนีกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กโดยรวมพบว่า กลุ่มดัชนีราคาหลักทรัพย์ราย
ธนาคาร ที่มีค่าเฉล่ียของดัชนีท่ีสูงกว่าดัชนีกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กโดยรวม ได้แก่ ดัชนีราคา
หลกั ทรัพยธ์ นาคารซีไอเอ็มบไี ทย ดชั นีราคาหลกั ทรัพย์ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ สว่ นกลุ่มดัชนีราคา
หลกั ทรพั ย์รายธนาคารทีม่ ีคา่ เฉลยี่ ของดัชนที ่ีตา่ กว่าดัชนกี ลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กโดยรวม ไดแ้ ก่
ดัชนีราคาหลกั ทรัพย์ธนาคารเกียรตินาคนิ ภทั ร และดชั นรี าคาหลกั ทรพั ยธ์ นาคารธนาคารทสิ โก้

สาหรบั ตวั แปรทางด้านปจั จัยทางเศรษฐกิจพบวา่ ดัชนผี ลผลิตรวมอตุ สาหกรรม มคี ่าเฉลี่ย
อยู่ที่ 0.0115 จุด มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.0834 จุด โดยมีค่าท่ีสูงสุดอยู่ท่ี 0.3498 จุด และค่า
ต่าทีส่ ดุ อยู่ท่ี -0.1087 จุด อัตราดอกเบย้ี เงินฝากประจา 3 เดอื น มคี า่ เฉล่ยี อยู่ที่ -0.0261 จดุ มคี ่าสว่ น
เบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.0700 จุด โดยมีค่าท่ีสูงสุดอยู่ที่ 0.1374 จุด และค่าต่าที่สุดอยู่ที่ -0.1876 จุด
ดชั นรี าคาหลักทรัพย์ตลาดหลกั ทรัพย์แห่งประเทศไทย มีค่าเฉลี่ยอยทู่ ี่ 0.0163 จดุ มคี ่าส่วนเบ่ียงเบน
มาตรฐาน 0.0580 จุด โดยมีค่าที่สูงสดุ อยู่ที่ 0.1490 จดุ และคา่ ต่าท่สี ุดอยู่ท่ี -0.1109 จดุ ดชั นีคา่ เงิน
บาท มีค่าเฉล่ียอยู่ที่ 0.0051 จุด มีค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน 0.0246 จุด โดยมีค่าท่ีสูงสุดอยู่ที่
0.0703 จุด และค่าต่าที่สุดอยู่ที่ -0.0400 จุด อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 3 เดือน มี
คา่ เฉลยี่ อยู่ท่ี -0.0261 จุด มคี า่ สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน 0.0700 จดุ โดยมีค่าที่สงู สุดอยู่ที่ 0.1374 จดุ
และค่าต่าที่สดุ อยูท่ ี่ -0.1876 จดุ

สาหรับตัวแปรทางด้านปัจจัยภายในธนาคารพบว่า อัตราส่วนเงินสด มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่
0.0337 จดุ มคี า่ สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน 0.3359 จุด โดยมีคา่ ทสี่ งู สุดอยทู่ ี่ 0.7647 จดุ และคา่ ต่าท่ีสุด
อย่ทู ่ี -0.5931 จุด อตั ราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น มีคา่ เฉลยี่ อยทู่ ่ี 0.0024 จดุ มีค่าสว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน
0.0805 จุด โดยมีค่าท่ีสูงสุดอยู่ท่ี 0.2010 จุด และค่าต่าที่สุดอยู่ท่ี -0.2341 จุดอัตราส่วนหนี้สินต่อ
ส่วนของผู้ถือหุ้น มีค่าเฉล่ียอยู่ที่ -0.0094 จุด มีค่าส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน 0.0492 จุด โดยมีค่าท่ี
สงู สดุ อยทู่ ี่ 0.0900 จดุ และค่าตา่ ทส่ี ดุ อย่ทู ี่ -0.1800 จุด

จากการศึกษาข้อมูลสถิติฐานะทางการเงนิ ของแต่ละธนาคาร พบว่าธนาคารท่ีมีฐานะทาง
การเงินอยู่ในเกณฑ์ดี คอื ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย โดยมสี นิ ทรพั ย์ประมาณ 28,700 หมื่นลา้ นบาท เงิน
ฝาก ประมาณ 19,000 หมื่นล้านบาท เงินสดประมาณ 224.67 หมื่นล้านบาท และธนาคารแลนด์
แอนด์เฮ้าส์ สินทรพั ย์ประมาณ 103,000 หม่นื ล้านบาท เงินฝากประมาณ 67,600 หมนื่ ล้านบาท เงนิ

544

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

สดประมาณ 1,760.12 หม่ืนล้านบาท เนื่องจากมีสินทรัพย์ เงินฝาก มีเงินสดเป็นจานวนมาก
นอกจากนี้ธนาคารท่ีมีฐานะทางการเงินอยู่ในเกณฑ์ที่ต่า คือ ธนาคารทิสโก้ โดยมีสินทรัพย์ประมาณ

29,400 หมื่นล้านบาท หน้ีสินประมาณ 26,600 หม่ืนล้านบาท และธนาคารเกียรตินาคินภัทร โดยมี
สินทรัพย์ประมาณ 25,700 หม่ืนล้านบาท หนี้สินประมาณ 22,000 หมื่นล้านบาท เน่ืองจากมีหนีส้ นิ

เยอะ มีเงินสดน้อย อตั ราส่วนตา่
1.2 ผลการทดสอบความนงิ่ ของขอ้ มูล (Unit Root Test)
จากการทดสอบความนิ่งของข้อมูลทั้งหมด 13 ตัวแปร มีผล Stationary และการ

ตรวจสอบปัญหาความสัมพนั ธเ์ ชิงเส้นของตัวแปรอิสระ ตัวแปรอิสระแต่ละตัวแปรมีความสัมพนั ธก์ นั
ในระดบั ตา่

1.3 ผลการศกึ ษาปญั หาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งตัวแปร Multicollinearity
ผลการศึกษาได้ว่าไม่มีปัญหา Multicollinearity เนื่องจากค่าสหสัมพันธ์

(Correlation) ของตัวแปรแต่ละตัวมีค่าไม่เกิน 0.80 ถือได้ว่าตัวประมาณค่าสัมประสิทธ์ิของสมการ

ถดถอยมีความแม่นยาและมปี ระสิทธิภาพในระดับทนี่ ่าเช่ือถือ

ตารางที่ 2 ความสัมพนั ธข์ องตัวแปรอสิ ระในสมการ

Small Fix3 Set MPI REER GB ROE CASH DE

Small 1 -0.0008 0.5634 0.3873 0.3877 0.0933 0.2827 -0.0228 -0.2839

Fix3 -0.0008 1 0.2679 0.2155 -0.0281 0.2945 -0.0070 0.0197 -0.0426

Set 0.5634 0.2679 1 0.4251 0.3147 -0.0598 0.2568 -0.4184 -0.0065

MPI 0.3873 0.2155 0.4251 1 -0.0387 -0.0918 -0.1701 -0.2695 -0.2716

REER 0.3877 -0.0281 0.3147 -0.0387 1 0.3012 0.0565 -0.0886 -0.0798

GB 0.0933 0.2945 -0.0598 -0.0918 0.3012 1 -0.0218 0.2431 0.1512

ROE 0.2827 -0.0070 0.2568 -0.1701 0.0565 -0.0218 1 0.1975 0.1836

CASH -0.0228 0.0197 -0.4184 -0.2695 -0.0886 0.2431 0.1975 1 0.1017

DE -0.2839 -0.0426 -0.0065 -0.2716 -0.0798 0.1512 0.1836 0.1017 1

2. ผลการศึกษาประมาณค่าสัมประสิทธ์ิด้วยวิธีกาลังสองน้อยท่ีสุด (Ordinary Least

Square : OLS) ผลการศึกษาปัจจัยท่ีส่งผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเลก็

ในประเทศไทย

Smallt= 0.8506 – 0.1627Fix3t + 1.0243Sett*** + 0.3374MPIt* + 0.7133REERt

(0.1905) (-1.5515) (3.5403) (1.7450) (1.0528)

+ 0.2652GBt + 0.25801ROEt + 0.07961Casht – 0.6619DEt**

(1.0342) (1.3699) (1.4458) (2.0682)

R2 = 0.6085 Adjusted R2 = 0.4724 S.E = 0.0805 D.W. = 2.3708

การวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงระหว่างตัวแปรปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนีราคากลุ่ม

ธนาคารพาณิชย์ขนาดเลก็ ในประเทศไทย พบว่า คา่ สมั ประสิทธ์ิการพยากรณ์ (R Square : R2) เท่ากับ
0.6085 ค่าสัมประสิทธิ์การพยากรณ์ที่มีการปรับแก้แล้ว (Adjusted R2) เท่ากับ 0.4724 ค่า

ความคลาดเคลื่อนมาตรฐานในการพยากรณ์ (Std. Error of the Estimate : S.E.) เท่ากับ 0.0805

สามารถอธิบายได้วา่ วิเคราะห์คา่ สหสัมพันธข์ องตัวรบกวน (Durbin Watson) เท่ากับ 2.3708 แสดง

545

การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

ว่า ไม่เกิดปัญหาความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงระหว่างค่าความคลาดเคลื่อน (Autocorrelation) จะ
สามารถสรุปไดว้ ่าคา่ ความคลาดเคลือ่ นมคี วามเป็นอิสระกนั

สาหรับปัจจัยทางเศรษฐกิจ พบว่า ดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ
ไทย (Set) ส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกนั ต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กใน
ประเทศไทย อย่างมีนัยสาคญั โดยมคี า่ สัมประสิทธ์ิเท่ากับ 1.0243 ซงึ่ สามารถอธบิ ายได้วา่ หากดัชนี
ราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไป 1 หน่วย จะทาให้ดัชนีราคา
หลักทรัพย์กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย เปลี่ยนแปลงไป 1.0243 หน่วย ในทิศทาง
เดียวกัน ซ่ึงไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ต้ังไว้กล่าวคือ การเปลี่ยนแปลงดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาด
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับดัชนีราคาหลักทรัพย์กลุ่ม
ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย โดยจากการศึกษาพบว่า ดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาด
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์กลุ่มธนาคาร
พาณชิ ย์ขนาดเล็กในประเทศไทย ทงั้ นอ้ี าจเน่อื งมาจาก เมื่อดัชนรี าคาหลักทรพั ย์ตลาดหลกั ทรัพย์แห่ง
ประเทศไทยมีค่าสูงขึ้น จะทาให้นักลงทุนยังคงลงทุนในดัชนีราคาหลักทรัพย์กลุ่มธนาคารพาณิชย์
ขนาดเล็กอยู่ เนื่องมาจากดัชนีราคาหลักทรัพยร์ วมท่ีสงู ขึน้ จะสะทอ้ นถึงภาวะเศรษฐกิจและการลงทุน
ในตลาดทุนที่ดีข้ึน ทาให้นักลงทุนมีความต้องการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทอ่ืนๆในตลาดมากขึ้น
นอกเหนอื จากดัชนีราคาหลกั ทรพั ยโ์ ดยรวม นอกจากนัน้ แลว้ หลักทรพั ย์กลุ่มธนาคารมขี นาดใหญ่เป็น
อนั ดบั 3 รองจากกลมุ่ ธรุ กิจบรกิ าร และกลุ่มทรัพยากร เมือ่ เทียบส่วนแบง่ ตลาดของกล่มุ หลักทรัพย์ท่ี
จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แหง่ ประเทศไทยทาให้นักลงทุนตอ้ งการลงทุนมาก จึงเปน็ สาเหตุให้นัก
ลงทนุ ยังคงลงทนุ อยู่ สอดคล้องกบั งานวจิ ัยของ สุจิตตา พ่งึ แรง (2553, น. 48-51) เรอื่ ง ปจั จยั ท่มี ีผล
ต่อดชั นรี าคาหลกั ทรพั ยห์ มวดพาณชิ ย์ พบวา่ ดัชนรี าคาหลกั ทรัพย์ตลาดหลักทรัพยแ์ หง่ ประเทศไทย มี
ความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับราคาตลาดของหลักทรัพย์กลุ่มพาณิชย์ท่ีจดทะเบียนในตลาด
หลักทรพั ย์แหง่ ประเทศไทย

ดัชนีผลผลิตรวมอุตสาหกรรม (MPI) ส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันต่อดัชนีราคา
หลักทรัพย์กลุ่มธนาคารพาณชิ ย์ขนาดเล็กในประเทศไทย อย่างมีนยั สาคญั โดยมคี า่ สมั ประสิทธ์เิ ท่ากับ
0.3374 ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่า หากดัชนีผลผลิตรวมอุตสาหกรรม เปล่ียนแปลงไป 0.3374 หน่วย
จะทาให้ดัชนีราคาหลักทรัพยข์ องธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย เปล่ียนแปลงไป 1 หน่วย
ในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้กล่าวคือ การเปลี่ยนแปลงดัชนีผลผลิตรวม
อุตสาหกรรม มีความสัมพันธไ์ ปในทิศทางเดียวกันกบั ดัชนีราคาหลักทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ขนาด
เลก็ ในประเทศไทย เน่อื งจากหากระบบเศรษฐกิจของประเทศมกี ารขยายในอัตราที่สูง จะทาให้ความ
น่าสนใจลงทุนในหลักทรัพย์เพ่ิมขึ้น ดังน้ันราคาหลักทรัพย์จึงปรับตัวสูงขึ้น นอกจากน้ีหาก MPI
ปรับตัวลดลง จะเป็นตัวชี้วา่ เศรษฐกิจชะลอตัว มีการชะลอการลงทุน ราคาหลักทรัพยจ์ ึงปรบั ลดลง
สอดคล้องตามทฤษฎีวัฏจักรธุรกิจ ว่าดว้ ยการใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจในการพจิ ารณาเลอื กลงทุนใน
แต่ละระยะ เมื่อคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอยู่ในช่วงขยายตัว ทาให้ดัชนีผลผลิตรวมอุตสาหกรรมเพ่ิม
สูงขึ้น จะอยู่ในช่วงระยะเริม่ ฟ้ืนตัว ซึ่งช่วงน้ีดัชนีความเช่ือม่ันผู้บริโภคและตัวเลขทางเศรษฐกิจตา่ งๆ
จะดขี นึ้ เปน็ ชว่ งท่ตี ลาดหลักทรพั ย์จะดงึ ดูดนกั ลงทุนเป็นอยา่ งมากเพราะนกั ลงทนุ มคี วามมนั่ ใจในการ
ลงทุนและอยู่ในช่วงจุดสูงสุดของตลาด เงินเฟ้อยังอยู่ยังในระดับต่า สถาบันการเงินปล่อยสินเช่ือ
ดอกเบ้ียต่าเพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการลงทุน ทิศทางการลงทุนมแี นวโน้มดีข้ึน เหมาะกับการลงทุน

546

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

ในตลาดหลักทรัพย์ โดยอัตราดอกเบี้ยท่ีต่าและเศรษฐกิจท่ีขยายตัวในขณะท่ีตราสารหน้ีและเงนิ ฝาก
จะได้ผลตอบแทนที่ตา่ กวา่

ส่วนปัจจัยทางเศรษฐกิจอ่ืน ได้แก่ อัตราดอกเบ้ียเงินฝากประจา 3 เดือน (Fix3) ดัชนี
ค่าเงินบาท (REER) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 3 เดือน (GB) ส่งผลอย่างไม่มี
นัยสาคัญต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย แสดงว่าตัวแปร
ดังกล่าวส่งผลกระทบอย่างไม่มีนัยสาคัญต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กใน
ประเทศไทย

สาหรับปัจจัยด้านการดาเนินงานของธนาคาร พบว่า อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือ
หุ้น (DE) ส่งผลกระทบในทิศทางตรงข้ามต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กใน
ประเทศไทย อย่างมีนัยสาคัญ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์เท่ากับ -0.6619 ซ่ึงสามารถอธิบายได้ว่า หาก
อัตราส่วนหน้ีสินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น เปล่ียนแปลงไป 1 หน่วย จะทาให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์ของ
ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย เปลี่ยนแปลงไป 0.6619 หน่วย ในทิศทางตรงข้าม ซ่ึง
เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ กล่าวคือ การเปล่ียนแปลงอัตราส่วนหน้ีสินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น มี
ความสัมพันธ์ไปในทิศทางตรงข้ามกับให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กใน
ประเทศไทยเน่ืองจากถา้ มอี ตั ราสว่ นหน้สี ินต่อส่วนของผู้ถอื หนุ้ สูงขึน้ จะสะท้อนการมีภาระหนีท้ ่ีสูงขึ้น
เกิดจากการท่ีผลประกอบการไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ทาให้ไมส่ ามารถทากาไรเพ่ือมาจัดการภาระ
หน้ีได้เพียงพอ มีความเสี่ยงที่ล้มละลายสูง ก็จะทาให้นักลงทุนมีความต้องการหลักทรัพย์นอ้ ยลงและ
ดัชนีราคาหลักทรัพย์ลดลงและสอดคล้องกับตรงตามทฤษฎีอัตราส่วนทางการเงิน ว่าด้วยอัตราส่วน
หน้สี นิ ต่อส่วนของผถู้ อื หุ้น ซง่ึ ถา้ มอี ัตราส่วนหนีส้ นิ ตอ่ ส่วนของผถู้ อื หุ้นสูง จะทาให้มโี อกาสท่กี จิ การจะ
ไมส่ ามารถชาระหนี้ได้ ทาใหน้ ักลงทุนอาจตัดสนิ ใจไปลงทุนในหลกั ทรพั ย์อื่นได้

ส่วนปัจจัยทางการดาเนนิ งานอนื่ ๆ ไดแ้ ก่ อตั ราสว่ นเงนิ สด (Cash) และอตั ราผลตอบแทน
ผู้ถือหุ้น (ROE) ส่งผลอย่างไม่มีนัยสาคัญต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กใน
ประเทศไทย

3. ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย
รายธนาคาร

3.1 ผลการศึกษาปัจจยั ที่ส่งผลกระทบตอ่ ราคาหลักทรพั ยธ์ นาคารซไี อเอม็ บีไทย
Small 1t = 0.0069 – 0.1913Fix3t + 1.2283Sett* – 0.1141MPIt – 0.5381REERt

(-2.9695) (-1.6046) (2.3187) (-0.4219) (-0.9075)
+ 0.1195GBt - 0.9965ROEt** – 0.0300Casht + 0.0703DEt

(0.5361) (-3.3717) (-0.5665) (0.2763)
R2 = 0.5532 Adjusted R2 = 0.3978 S.E = 0.0940 D.W. = 2.2301
การวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงระหว่างตัวแปรปัจจัยท่ีส่งผลต่อดัชนีราคา
หลักทรัพย์ของธนาคารซีไอเอ็มบีไทย พบว่า ค่าสัมประสิทธ์ิการพยากรณ์ (R Square : R2) เท่ากับ
0.5532 ค่าสัมประสิทธิ์การพยากรณ์ท่ีมีการปรับแก้แล้ว (Adjusted R2) เท่ากับ 0.3978 ค่า
ความคลาดเคล่ือนมาตรฐานในการพยากรณ์ (Std. Error of the Estimate : S.E.) เท่ากับ 0.0940
สามารถอธบิ ายได้วา่ วเิ คราะห์คา่ สหสัมพนั ธข์ องตวั รบกวน (Durbin Watson) เท่ากับ 2.2301 แสดง
ว่า ไม่เกิดปัญหาความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงระหว่างค่าความคลาดเคล่ือน (Autocorrelation) จะ
สามารถสรปุ ไดว้ ่าค่าความคลาดเคลอื่ นมีความเปน็ อิสระกนั

547

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

สาหรับปัจจัยด้านเศรษฐกิจ พบว่า ดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทย (Set) สง่ ผลกระทบในทิศทางเดียวกนั ต่อดชั นีราคาหลักทรัพย์ธนาคารซีไอเอ็มบไี ทยย่าง
มีนัยสาคัญ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์เท่ากับ 1.2283 ซ่ึงสามารถอธิบายได้ว่า หากดัชนีราคาหลักทรัพย์
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไป 1 หน่วย จะทาให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารซี
ไอเอ็มบีไทย เปล่ียนแปลงไป 1.2283 หน่วย ในทิศทางเดียวกัน ซ่ึงไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ต้ังไว้
กล่าวคือ การเปล่ยี นแปลงดชั นีราคาหลกั ทรพั ยต์ ลาดหลกั ทรัพย์แห่งประเทศไทย มีความสมั พนั ธไ์ ปใน
ทิศทางตรงกันข้ามกับดัชนีราคาหลักทรพั ย์ธนาคารซีไอเอม็ บไี ทย โดยจากการศึกษาพบว่า ดชั นรี าคา
หลกั ทรพั ยต์ ลาดหลักทรพั ย์แห่งประเทศไทย ส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์
ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ทั้งนี้อาจเนื่องมาจาก เมื่อดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ
ไทยมคี า่ สูงข้ึน จะทาให้นกั ลงทุนยังคงลงทุนในดัชนรี าคาหลักทรัพย์กลุม่ ธนาคารพาณชิ ย์ขนาดเล็กอยู่
สะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจดีข้ึน ทาให้นักลงทุนมีความต้องการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทอ่ืนๆใน
ตลาดมากข้ึน เมื่อศกึ ษาข้อมลู ปัจจัยท่ีสาคญั ในการดาเนนิ งานของธนาคาร อีกทั้งพบวา่ มสี ภาพคล่อง
เงินฝาก สินทรัพย์ การให้สนิ เช่ืออยู่กล่มุ ฐานะทางการเงนิ ดี ดงั น้ันถึงแมว้ ่าดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาด
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยราคาสูงข้ึน แต่นักลงทุนก็ยังสนใจลงทุนในหลักทรัพย์ธนาคารซีไอเอ็มบี
ไทยอยดู่ ี สอดคล้องกบั งานวจิ ยั ของ สุจติ ตา พึง่ แรง (2553, น. 48-51) เร่ือง ปจั จัยทม่ี ีผลต่อดัชนรี าคา
หลักทรัพย์หมวดพาณชิ ย์ พบวา่ ดัชนรี าคาหลกั ทรพั ย์ตลาดหลกั ทรัพยแ์ หง่ ประเทศไทย มคี วามสัมพนั ธ์
ในทิศทางเดียวกันกับราคาตลาดของหลักทรัพย์กลุ่มพาณิชย์ท่ีจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทย

สว่ นปจั จัยทางเศรษฐกจิ อื่น ได้แก่ อัตราดอกเบีย้ เงนิ ฝากประจา 3 เดือน (Fix3) ดชั นี
ผลผลิตรวมอุตสาหกรรม (MPI) ดัชนีค่าเงินบาท (REER) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ
3 เดือน (GB) ส่งผลอย่างไม่มีนยั สาคัญต่อดัชนีราคาราคาหลักทรัพย์ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เน่ืองจาก
ธนาคารซไี อเอ็มบีไทยเปน็ ธรุ กจิ ธนาคารพาณิชย์เตม็ รูปแบบ มสี าขาอยู่ทว่ั ภูมภิ าคในประเทศไทย และ
เป็นส่วนหนึง่ ของกลุ่มซีไอเอม็ บี ซึ่งเป็นบรรษัทข้ามชาติอาจทาให้ปัจจัยท่ีกล่าวมาข้างต้น ไม่ส่งผลต่อ
การเปลยี่ นแปลงดัชนีราคาหลักทรพั ยธ์ นาคารซีไอเอ็มบีไทย นอกจากนี้เมือ่ พจิ ารณาจากสถิติพรรณา
ของข้อมูลฐานะทางการเงินรายธนาคาร พบว่าธนาคารซีไอเอ็มบีไทยมีมูลค่าสินเช่ือสุทธิ ค่าเฉลี่ย
ประมาณ 18,300 หม่นื ลา้ นบาท ซึ่งสูงกว่ามูลค่าเงินฝากรวม คา่ เฉลี่ยประมาณ 19,000 หมื่นล้านบาท
แสดงว่าธนาคารซีไอเอ็มบีไทยมุ่งเน้นในการให้บริการด้านสินเช่ือมากกว่าการให้บริการด้านเงินฝาก
ทาให้อัตราดอกเบ้ียเงินฝากประจา 3 เดือน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 3 เดือน
ไม่ส่งผลกระทบตอ่ ดชั นีราคาหลกั ทรัพย์ธนาคารซีไอเอ็มบไี ทย

สาหรับปัจจัยด้านการดาเนินงานของธนาคาร พบว่า อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น
(ROE) พบว่าส่งผลกระทบในทิศทางตรงข้ามต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ซึ่งเป็น
ปัจจัยภายในบริษัท มีค่าสัมประสิทธ์ิเท่ากับ -0.9965 สามารถอธิบายได้ว่า หากอัตราผลตอบแทนผู้
ถือหุ้นเปลี่ยนแปลงไป 1 หน่วย จะทาให้ดัชนีดัชนีราคาราคาหลักทรัพย์ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
เปล่ียนแปลงไป 0.9965 หน่วย ทิศทางตรงข้าม ซ่ึงเป็นไม่เป็นไปตามสมมติฐานท่ีต้ังไว้คือ การ
เปล่ียนแปลงอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับราคาหลักทรัพย์กล่มุ
ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย เน่ืองจากถ้ามีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นสูงข้ึน จะแสดงให้
เห็นวา่ ธนาคารสามารถสรา้ งกาไรสทุ ธไิ ด้มาก กจ็ ะทาใหด้ ัชนีราคาหลกั ทรัพย์สงู ข้ึนเชน่ กนั เหตผุ ลท่ีไม่
ตรงตามสมมติฐาน เน่ืองมาจากธนาคารซไี อเอ็มบไี ทย มีการปรบั โครงสรา้ ง โดยอดตี ธนาคารซีไอเอม็ บี

548

การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

ไทย เดิมช่ือธนาคารไทยธนาคาร ซึ่งต้ังแต่วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 เปล่ียนช่ือเป็นธนาคารซี

ไอเอ็มบไี ทย นับเป็นการสะทอ้ นถงึ การสง่ ผ่าน ไทยธนาคาร เขา้ ส่กู ารเปน็ สว่ นหนง่ึ ของกลมุ่ ซีไอเอ็มบี

ซ่ึงเปน็ กล่มุ ธนาคารครบวงจรอันดับ 5 ของอาเซยี นอย่างเป็นทางการ การปรบั โครงสร้างธรุ กจิ ในคร้ัง

น้ี มีการเปลีย่ นผ้บู รหิ ารใหม่ ทาให้นักลงทนุ อาจชอบการลงทุนในหลกั ทรัพย์ของธนาคารซไี อเอม็ บไี ทย

เพ่ือดูความแน่นอนของธนาคาร (ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย, 2563) ซึ่งอาจต้องใช้เวลาเพ่ือสร้างความ

เชื่อมน่ั ใหน้ กั ลงทุน ทาใหถ้ ึงแมผ้ ลตอบแทนผู้ถอื หุน้ สงู ขึน้ นกั ลงทุนกอ็ าจไม่มคี วามตอ้ งการท่ีจะลงทุน

ในธนาคารดังกล่าว ซึ่งทาให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยเปล่ียนแปลงลดลงไปในทิศ

ทางตรงข้าม เม่ือศึกษาข้อมูลปัจจัยที่สาคัญในการดาเนินงานของธนาคาร พบว่า สินทรัพย์รวม

ธนาคารซีไอเอม็ บีไทยมีจานวนมากท่ีสุดเป็นอันดบั 2 ในกลุ่มเม่ือเทียบในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาด

เลก็ ในประเทศไทย ทาให้อตั ราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นสง่ ผลต่อการตัดสินใจลงทนุ หลักทรัพย์นี้

ส่วนปัจจยั ทางการดาเนินงานอ่ืนๆ ไดแ้ ก่ อัตราส่วนเงนิ สด (Cash) และอตั ราสว่ นหน้ีสนิ

ตอ่ สว่ นของผถู้ อื ห้นุ (DE) สง่ ผลอย่างไม่มีนัยสาคัญตอ่ ดชั นีราคาราคาหลักทรัพยธ์ นาคารซไี อเอม็ บีไทย

3.2 ปัจจัยทสี่ ง่ ผลกระทบต่อราคาหลักทรพั ย์ธนาคารทิสโก้

Small 2t = 0.5025 – 0.2041Fix3t* + 0.9465Sett*** + 0.2321MPIt

(0.6813) (-1.7600) (2.7581) (1.1643)

+ 0.2545REERt + 0.3571GBt + 0.1192ROEt + 0.0654Casht

(0.3163) (1.2188) (0.5947) (1.0609)

– 0.6765DEt**

(-1.9866)

R2 = 0.4479 Adjusted R2 = 0.2559 S.E = 0.0926 D.W. = 2.2829

การวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงระหว่างตัวแปรปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนีราคา
หลักทรัพย์ของธนาคารทิสโก้ พบว่า ค่าสัมประสิทธ์ิการพยากรณ์ (R Square : R2) เท่ากับ 0.4479

คา่ สัมประสทิ ธ์กิ ารพยากรณ์ทีม่ ีการปรบั แก้แล้ว (Adjusted R2) เทา่ กบั 0.2559 ค่าความคลาดเคลื่อน

มาตรฐานในการพยากรณ์ (Std. Error of the Estimate : S.E.) เทา่ กบั 0.0926 สามารถอธบิ ายได้ว่า

วิเคราะห์ค่าสหสัมพันธ์ของตัวรบกวน (Durbin Watson) เท่ากับ 2.2829 แสดงว่า ไม่เกิดปัญหา

ความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงระหว่างค่าความคลาดเคลื่อน (Autocorrelation) จะสามารถสรุปได้ว่าค่า

ความคลาดเคลอื่ นมีความเป็นอสิ ระกนั

สาหรับปัจจัยด้านเศรษฐกิจ พบว่า อัตราดอกเบ้ียเงินฝากประจา 3 เดือน (Fix3)

ส่งผลกระทบในทิศทางตรงข้ามตอ่ ดัชนรี าคาหลักทรพั ยธ์ นาคารทสิ โก้ ซ่งึ เปน็ ปจั จยั ทางเศรษฐกิจ มีค่า

สัมประสิทธ์ิเท่ากับ -0.2041 สามารถอธิบายได้ว่า หากอัตราดอกเบ้ียเงินฝากประจา 3 เดือน

เปล่ยี นแปลงไป 1 หนว่ ย จะทาใหด้ ัชนีราคาหลักทรพั ยธ์ นาคารทิสโก้ เปล่ยี นแปลงไป 0.2041 หน่วย

ในทิศทางตรงข้าม ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ต้ังไว้กล่าวคือ การเปล่ียนแปลงอัตราดอกเบ้ียเงินฝาก

ประจา 3 เดือน มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางตรงข้ามกับดัชนีราคาหลักทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์

ขนาดเล็กในประเทศไทยเนื่องจากเมื่ออัตราดอกเบี้ยเงนิ ฝากประจา 3 เดือน มีอัตราที่สูงขึ้นทาให้นกั

ลงทนุ หันไปลงทุนประเภทเงนิ ฝากมากขนึ้ มีผลทาใหก้ ารลงทุนในตลาด หลักทรพั ย์มีปริมาณลดลงทา

ให้ดัชนีราคา หลักทรัพย์ของบริษัทมีราคาลดลง ซึ่งสอดคล้องปัจจัยที่สาคัญในการดาเนินงานของ

ธนาคาร พบว่าธนาคารทิสโก้ มีมูลค่าเงินฝากท้ังหมดสูงที่สุดในกลุ่มเม่ือเทียบกับธนาคารพาณิชย์

549

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ขนาดเล็กในประเทศไทย ค่าเฉล่ียประมาณ 19,600 หม่ืนล้านบาท จึงทาให้อัตราดอกเบ้ียเงินฝาก
ประจา 3 เดอื นมผี ลกระทบตอ่ ดชั นรี าคาหลกั ทรัพย์ธนาคารทสิ โก้

ดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลกั ทรพั ย์แหง่ ประเทศไทย (Set) ส่งผลกระทบในทิศทาง
เดียวกันต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารทิสโก้ อย่างมีนัยสาคัญ โดยมีค่าสัมประสิทธิ์เท่ากับ 0.9465
ซง่ึ สามารถอธิบายได้ว่า หากดัชนรี าคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรพั ย์แห่งประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไป 1
หนว่ ย จะทาให้ดัชนีราคาหลักทรพั ยธ์ นาคารทสิ โก้ เปล่ียนแปลงไป 0.9465 หน่วย ในทิศทางเดยี วกัน
ซึง่ ไมเ่ ปน็ ไปตามสมมติฐานทีต่ ั้งไวก้ ล่าวคือ การเปล่ยี นแปลงดชั นีราคาหลกั ทรพั ยต์ ลาดหลกั ทรพั ย์แห่ง
ประเทศไทย มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารทิสโก้ โดยจาก
การศึกษาพบว่า ดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ส่งผลกระทบในทิศทาง
เดียวกันต่อดัชนรี าคาหลักทรัพย์ธนาคารทิสโก้ ท้ังนี้อาจเนื่องมาจาก เม่ือดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาด
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีค่าสูงข้ึน จะทาให้นักลงทุนยังคงลงทุนในดัชนีราคาหลักทรัพย์กลุ่ม
ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กอยู่ เน่ืองมาจากดัชนีราคาหลักทรัพย์รวมท่ีสูงข้ึนจะสะท้อนถึงภาวะ
เศรษฐกิจดีขึ้น เกิดการลงทุนมากข้ึน นอกเหนือจากดัชนีราคาหลักทรัพย์โดยรวม นอกจากนั้นแล้ว
หลักทรัพย์กลุ่มธนาคารมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากกลุ่มธุรกจิ บริการ และกลุ่มทรัพยากร เมื่อ
เทียบส่วนแบ่งตลาดของกลุ่มหลักทรัพย์ท่ีจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทาให้นัก
ลงทุนต้องการลงทุนมาก จึงเป็นสาเหตุให้นักลงทุนยงั คงลงทุนอยู่ สอดคล้องกับงานวจิ ัยของ สุจิตตา
พึ่งแรง (2553, น. 48-51) เรื่อง ปัจจัยท่ีมีผลต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์หมวดพาณิชย์ พบว่าดัชนีราคา
หลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับราคาตลาดของ
หลักทรพั ยก์ ลมุ่ พาณชิ ยท์ ่ีจดทะเบียนในตลาดหลกั ทรัพย์แหง่ ประเทศไทย

ส่วนปัจจัยทางเศรษฐกิจอื่น ได้แก่ ดัชนีผลผลิตรวมอุตสาหกรรม (MPI) ดัชนีค่าเงิน
บาท (REER) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 3 เดือน (GB) ส่งผลอย่างไม่มีนัยสาคัญต่อ
ดชั นรี าคาหลกั ทรัพย์

สาหรับปัจจัยด้านการดาเนินงานของธนาคาร พบว่า อัตราส่วนหน้ีสินต่อส่วนของผู้ถอื ห้นุ
(DE) สง่ ผลกระทบในทิศทางตรงขา้ มต่อดัชนีราคาหลกั ทรัพยธ์ นาคารทิสโก้ ซงึ่ เปน็ ปัจจัยภายในบริษัท
มีค่าสัมประสิทธ์ิเท่ากับ -0.6765 สามารถอธิบายได้ว่า หากอัตราส่วนหน้ีสินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น
เปลย่ี นแปลงไป 1 หน่วย จะทาใหด้ ัชนรี าคาหลักทรัพยธ์ นาคารทิสโก้ เปลย่ี นแปลงไป 0.6765 หน่วย
ในทิศทางตรงข้าม ซ่ึงเป็นไปตามสมมติฐานท่ีตง้ั ไว้กล่าวคือ การเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนหนี้สินตอ่ ส่วน
ของผู้ถอื หนุ้ มีความสัมพนั ธไ์ ปในทศิ ทางตรงข้ามกับดัชนรี าคาหลักทรพั ยธ์ นาคารทิสโก้ เน่อื งจากถ้ามี
อัตราส่วนหน้ีสินต่อส่วนของผู้ถือหนุ้ สูงข้ึน จะสะท้อนการมีภาระหนสี้ ูงข้ึน ผลประกอบการไม่เปน็ ไป
ตามที่คาดการณ์จนไมส่ ามารถกาไรเพือ่ มาจดั การภาระหนีไ้ ดเ้ พยี งพอ มคี วามเสีย่ งท่ลี ม้ ละลายสงู ก็จะ
ทาให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์ลดลง ซ่ึงสอดคล้องปัจจัยที่สาคัญในการดาเนินงานของธนาคาร ว่าด้วย
ธนาคารทิสโก้ มีหน้ีสินท้ังหมดและในส่วนของหน้ีสินท่ีเป็นตัวเงนิ สูงท่ีสุดในกลุ่มเม่ือเทียบกับธนาคาร
พาณชิ ยข์ นาดเล็กในประเทศไทย ค่าเฉล่ียประมาณ 26,600 หม่นื ล้านบาท และมสี ่วนของผู้ถือห้นุ มาก
ท่ีสุดเป็นอันดับสองในกลุ่มรองลงมาจากธนาคารเกียรตินาคินภัทร ค่าเฉล่ียประมาณ 2,827.34 หมื่น
ล้านบาท ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทาให้อัตราส่วนหน้ีสินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นมีผลกระทบต่อราคา
หลักทรัพย์ธนาคารทิสโก้ สอดคล้องกับตรงตามทฤษฎีอตั ราส่วนทางการเงิน ว่าด้วยอัตราส่วนหนส้ี นิ
ต่อส่วนของผู้ถือหุ้น ซึ่งถ้ามีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสูง จะทาให้มีโอกาสที่กิจการจะไม่
สามารถชาระหนีไ้ ด้ ทาใหน้ กั ลงทนุ อาจตัดสินใจไปลงทนุ ในหลักทรัพยอ์ ่นื ได้

550

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ส่วนปัจจัยทางการดาเนินงานอื่นๆ ได้แก่ อัตราส่วนเงินสด (Cash) และอัตรา

ผลตอบแทนผู้ถอื หุ้น (ROE) ส่งผลอยา่ งไมม่ ีนยั สาคญั ต่อดชั นรี าคาหลกั ทรพั ยธ์ นาคารทิสโก้

จากผลการศึกษาปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์ธนาคารทิสโก้ ตัวแปรที่

ส่งผลกระทบอย่างไม่มีนัยสาคัญ ดัชนีผลผลิตรวมอุตสาหกรรม ดัชนีค่าเงินบาท อัตราผลตอบแทน

พันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 3 เดือน อัตราส่วนเงินสด และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น ในส่วนของดัชนี

คา่ เงินบาทไมส่ ง่ ผลกระทบต่อดัชนรี าคาหลักทรพั ย์ธนาคารทสิ โก้ เนอื่ งจากธนาคารทิสโก้เปน็ ธนาคาร

ขนาดเล็ก เน้นลงทุนในประเทศเป็นหลักทาให้ดัชนีผลผลิตรวมอุตสาหกรรมและดัชนีค่าเงินบาทไม่

ส่งผลกระทบต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารทิสโก้ นอกจากนี้ผลตอบแทนจากการปล่อยเงินกู้และ

การให้บริการรับฝากเงินอาจให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลไทย จึงทาให้อัตรา

ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 3 เดอื นไมม่ ผี ลต่อราคาหลักทรพั ย์ธนาคารทสิ โก้ นอกจากน้เี มื่อ

พิจารณาปัจจัยท่ีสาคัญในการดาเนินงานของธนาคาร พบว่าหลักทรัพย์ธนาคารทิสโก้ พบว่าราคา

หลักทรัพย์ธนาคารทิสโก้มีสภาพคล่อง เงินฝาก สินทรัพย์ การให้สินเช่ือ และมีหน้ีสินสูงท่ีสุดเม่ือ

เทียบกันในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก แสดงว่าธนาคารมีฐานะดีส่งผลให้อัตราผลตอบแทนผู้ถือ

หุ้นไม่ส่งผลกระทบดัชนีต่อราคาหลักทรัพย์ธนาคารทิสโก้ และในส่วนของอัตราส่วนเงินสด เม่ือ

พิจารณาพบว่าเงนิ สด มีมลู คา่ นอ้ ยท่สี ดุ โดยมีมลู คา่ ประมาณ 109.61 หมื่นล้านบาท ในกลมุ่ ธนาคาร

พาณชิ ย์ขนาดเลก็ ทาให้อัตราสว่ นเงนิ สดไมส่ ง่ ผลกระทบตอ่ ราคาหลักทรัพยธ์ นาคารทสิ โก้

3.3 ปจั จัยทส่ี ่งผลกระทบตอ่ ราคาหลกั ทรัพย์ธนาคารเกยี รตินาคินภทั ร

Small 3t = 0.7791 – 0.1313Fix3t + 1.1353Sett* + 0.5391MPIt** + 1.1877REERt

(-0.2838) (-1.0400) (3.0107) (2.3008) (1.2694)

+ 0.1808GBt + 0.4581ROEt + 0.1082Casht* - 0.7257DEt**

(0.5976) (2.1450) (1.8722) (-2.0212)
R2 = 0.6215 Adjusted R2 = 0.4899 S.E = 0.1019 D.W. = 2.4092

การวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงระหว่างตัวแปรปัจจัยท่ีส่งผลต่อดัชนีราคา
หลักทรัพยข์ องธนาคารเกยี รตนิ าคนิ ภัทร พบวา่ คา่ สัมประสิทธกิ์ ารพยากรณ์ (R Square : R2) เทา่ กบั

0.6215 ค่าสัมประสิทธิ์การพยากรณ์ที่มีการปรับแก้แล้ว (Adjusted R2) เท่ากับ 0.4899 ค่า

ความคลาดเคลื่อนมาตรฐานในการพยากรณ์ (Std. Error of the Estimate: S.E.) เท่ากับ 0.1019

สามารถอธบิ ายได้วา่ วเิ คราะห์ค่าสหสัมพันธข์ องตวั รบกวน (Durbin Watson) เท่ากบั 2.4092 แสดง

ว่า ไม่เกิดปัญหาความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงระหว่างค่าความคลาดเคล่ือน (Autocorrelation) จะ

สามารถสรปุ ได้วา่ คา่ ความคลาดเคลอื่ นมีความเปน็ อิสระกนั

สาหรับปัจจัยทางเศรษฐกิจ พบว่า ดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่ง

ประเทศไทย (Set) ส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกนั ต่อดัชนีราคาหลักทรพั ย์ธนาคารเกียรตินาคินภัทร

ย่างมีนัยสาคัญ โดยมคี า่ สัมประสิทธ์ิเท่ากับ 1.1353 ซึ่งสามารถอธิบายไดว้ ่า หากดัชนีราคาหลักทรัพย์

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปล่ียนแปลงไป 1 หน่วย จะทาให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคาร

เกียรตินาคนิ ภทั ร เปล่ียนแปลงไป 1.1353 หน่วย ในทิศทางเดียวกัน ซึ่งไม่เปน็ ไปตามสมมติฐานที่ต้งั

ไวก้ ล่าวคือ การเปลี่ยนแปลงดัชนรี าคาหลักทรัพย์ตลาดหลกั ทรัพยแ์ ห่งประเทศไทย มีความสัมพนั ธไ์ ป

ในทิศทางตรงกันข้ามกับดชั นีราคาหลักทรพั ยธ์ นาคารเกียรตนิ าคินภทั ร โดยจากการศึกษาพบวา่ ดัชนี

ราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันต่อดัชนีราคา

หลกั ทรพั ย์ธนาคารเกียรตินาคนิ ภัทร ทง้ั นี้อาจเน่อื งมาจาก เมอื่ ดชั นรี าคาหลกั ทรพั ย์ตลาดหลักทรัพย์

551

การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

แห่งประเทศไทยมคี ่าสงู ข้นึ จะทาให้นกั ลงทุนยังคงลงทนุ ในดัชนีราคาหลักทรพั ย์กลมุ่ ธนาคารพาณิชย์
ขนาดเลก็ อยู่ เนื่องมาจากดัชนรี าคาหลกั ทรพั ยร์ วมท่ีสูงขึ้นจะสะทอ้ นถงึ ภาวะเศรษฐกิจและการลงทุน
ในตลาดทุนที่ดีขึ้น ทาให้นักลงทุนมีความต้องการลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทอื่นๆในตลาดมากขึ้น
นอกเหนอื จากดัชนรี าคาหลกั ทรพั ยโ์ ดยรวม นอกจากน้นั แลว้ หลักทรพั ย์กล่มุ ธนาคารมขี นาดใหญ่เป็น
อันดับ 3 รองจากกลุ่มธรุ กิจบรกิ าร และกลุ่มทรัพยากร เม่อื เทยี บส่วนแบ่งตลาดของกลุม่ หลักทรัพย์ที่
จดทะเบยี นในตลาดหลกั ทรัพยแ์ ห่งประเทศไทยทาใหน้ ักลงทุนตอ้ งการลงทุนมาก จึงเปน็ สาเหตุให้นัก
ลงทุนยังคงลงทุนอยู่ เมื่อศึกษาข้อมูลปัจจัยที่สาคัญในการดาเนินงานของธนาคาร พบว่า ธนาคาร
เกียรตินาคินภัทรมีส่วนของผู้ถือหุ้นมากท่ีสุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก มีมูลค่าประมาณ
3,767.59 หม่ืนล้านบาท ซ่ึงแสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจเลือกลงทุนของนักลงทุนมีผลต่อราคาของ
หลักทรัพย์ นักลงทุนต้องการหาทางเลือกในการลงทุนที่ให้ได้ผลตอบแทนมากท่ีสุด ดังนั้นจึงมองวา่
ดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยส่งผลกระทบต่อดัชนรี าคาหลักทรพั ยธ์ นาคาร
เกียรตนิ าคนิ ภทั ร สอดคล้องกบั งานวิจัยของ สุจติ ตา พึ่งแรง (2553, น. 48-51) เรื่อง ปัจจยั ท่ีมีผลต่อ
ดัชนีราคาหลักทรัพย์หมวดพาณิชย์ พบว่าดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มี
ความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับราคาตลาดของหลักทรัพย์กลุ่มพาณิชย์ที่จดทะเบียนในตลาด
หลักทรัพย์แหง่ ประเทศไทย

ดัชนีผลผลิตรวมอุตสาหกรรม (MPI) ส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันต่อดัชนีราคา
หลักทรัพย์ธนาคารเกียรตินาคินภัทร โดยมีค่าสัมประสิทธิ์เท่ากับ 0.5391 ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่า
หากดัชนีผลผลิตรวมอุตสาหกรรม เปลี่ยนแปลงไป 1 หน่วย จะทาให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคาร
เกียรตินาคินภัทร เปลี่ยนแปลงไป 0.5391 หน่วย ในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานท่ตี ง้ั ไว้
กล่าวคอื การเปลย่ี นแปลงดัชนีผลผลิตรวมอุตสาหกรรม มคี วามสัมพนั ธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับดัชนี
ราคาหลักทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย เน่ืองจากหากระบบเศรษฐกิจของ
ประเทศมีการขยายในอัตราที่สูง จะทาให้ความน่าสนใจลงทุนในหลักทรัพย์เพ่ิมข้ึน ดังน้ันราคา
หลักทรัพย์จึงปรับตัวสูงขึ้น ทาให้ MPI ปรับตัวลดลง ราคาหลักทรัพย์จึงปรับลดลง สอดคล้องตาม
ทฤษฎีวัฏจักรธุรกิจ ว่าด้วยการใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจในการพิจารณาเลือกลงทุนในแต่ละระยะ
โดยเมือ่ คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจอยู่ในชว่ งขยายตัว ทาใหด้ ชั นีผลผลติ รวมอตุ สาหกรรมเพิ่มสงู ข้นึ จะอยู่
ในช่วงระยะเริ่มฟื้นตัว นักลงทนุ มคี วามมน่ั ใจในการลงทนุ และอยใู่ นช่วงจุดสูงสดุ ของตลาด เงินเฟอ้ ยงั
อยู่ยังในระดับต่า สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่าเพ่ือกระตุ้นให้ผู้ประกอบการลงทุน ทิศ
ทางการลงทนุ มีแนวโน้มดขี น้ึ เหมาะกับการลงทนุ ในตลาดหลกั ทรัพย์

สว่ นปัจจัยทางเศรษฐกจิ อนื่ ได้แก่ อตั ราดอกเบย้ี เงินฝากประจา 3 เดอื น (Fix3) ดชั นี
ค่าเงินบาท (REER) และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 3 เดือน (GB) ส่งผลอย่างไม่มี
นยั สาคญั ต่อดชั นรี าคาหลักทรัพย์

สาหรับปัจจัยทางด้านการดาเนินงานของธนาคาร พบว่า อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น
(ROE) สง่ ผลกระทบในทิศทางเดียวกันต่อดัชนรี าคาหลักทรพั ย์ธนาคารเกยี รตนิ าคนิ ภัทร ซงึ่ เป็นปัจจัย
ภายในบริษัท มีค่าสัมประสิทธ์ิเท่ากับ 0.4581 สามารถอธิบายได้ว่า หากอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น
เปล่ียนแปลงไป 1 หน่วย จะทาให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารเกียรตินาคินภัทร เปลี่ยนแปลงไป
0.4581 หน่วย ในทิศทางเดียวกัน ซ่ึงเป็นไปตามสมมติฐานท่ีตั้งไว้กล่าวคือ การเปล่ียนแปลงอัตรา
ผลตอบแทนผู้ถือหุ้น มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทยเนื่องจากถ้ามีอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นสูงขึ้น จะแสดงให้เห็นว่าธนาคารสามารถ

552

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

สร้างกาไรสุทธิได้มาก ก็จะทาให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์สูงข้ึนเช่นกัน สอดคล้องกับการพิจารณาปัจจัย
การดาเนินงานของธนาคาร มีส่วนของผู้ถือหุ้นมากที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก เมื่อศึกษา
ขอ้ มลู ปจั จยั ท่ีสาคัญในการดาเนินงานของธนาคาร พบว่า ส่วนของผู้ถือหุ้นธนาคารเกียรตินาคินภัทรมี
จานวนมากท่ีสุดในกลุ่มเมื่อเทียบในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย ทาให้อัตรา
ผลตอบแทนผ้ถู ือหุ้นสง่ ผลต่อการตัดสนิ ใจลงทนุ หลกั ทรพั ย์น้ี สอดคล้องกับงานวิจัยของ บุญนาค เกดิ
สินธุ์ (2554, น. 41-44) เร่ือง ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราส่วนทางการเงินและราคาตลาดของ
หลักทรัพย์กลุ่มพาณิชย์ท่ีจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าอัตราผลตอบแทนผู้
ถือหุ้นมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับดัชนีราคาหลักทรัพย์ของหลักทรัพย์กลุ่มพาณิชย์ท่ีจด
ทะเบยี นในตลาดหลกั ทรพั ยแ์ หง่ ประเทศไทย

อัตราส่วนเงินสด (Cash) ส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์
ธนาคารเกียรตินาคนิ ภทั ร ซงึ่ เปน็ ปัจจัยภายในบรษิ ทั มคี า่ สมั ประสทิ ธ์เิ ท่ากบั 0.1082 สามารถอธบิ าย
ได้ว่า หากอัตราส่วนเงินสด เปลี่ยนแปลงไป 1 หน่วย จะทาให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารเกียรติ
นาคินภทั ร เปล่ียนแปลงไป 0.1082 หนว่ ย ในทศิ ทางเดยี วกัน ซึ่งเปน็ ไปตามสมมตฐิ านทีต่ ง้ั ไว้กลา่ วคือ
การเปล่ียนแปลงอัตราส่วนเงนิ สด มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกบั ดัชนีราคาหลักทรพั ย์ตลาด
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเนื่องจากถ้าอตั ราส่วนเงินสดมีค่าสูงขึ้น จะสะท้อนการมสี ภาพคล่องมาก
ขึ้น ทาให้บริษัทมีโอกาสชาระหนี้ได้สูงข้ึน ก็จะทาให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์สูงขึ้นเช่นกัน สอดคล้องกับ
การพิจารณาปจั จัยการดาเนนิ งานของธนาคาร มเี งนิ สดมากทสี่ ุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก ทา
ให้อัตราส่วนเงินสดมีผลต่อราคาราคาหลักทรัพย์ธนาคารเกียรตินาคินภัทร เม่ือศึกษาข้อมูลปัจจัยที่
สาคญั ในการดาเนนิ งานของธนาคาร พบว่า เงินสดของธนาคารเกียรตินาคินภัทรมีจานวนมากที่สุดใน
กลุ่มเมื่อเทียบในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงสภาพคล่องในการ
ดาเนินงานของธนาคารสูง จึงทาใหอ้ ตั ราส่วนของเงินสดเป็นปจั จยั สาคญั ท่สี ง่ ผลตอ่ หลกั ทรัพย์น้ี

อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (DE) ส่งผลกระทบในทิศทางตรงข้ามต่อดัชนี
ราคาหลักทรัพย์ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ซึ่งเป็นปัจจัยภายในบริษัท มีค่าสัมประสิทธิ์เท่ากับ
-0.7257 สามารถอธิบายได้ว่า หากอัตราส่วนหน้ีสินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเปลี่ยนแปลงไป 1 หน่วย จะ
ทาให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารเกียรตินาคินภัทร เปล่ียนแปลงไป 0.7257 หน่วย ในทิศทางตรง
ขา้ ม ซึ่งเปน็ ไปตามสมมติฐานทีต่ ง้ั ไว้กล่าวคือ การเปล่ียนแปลงอัตราสว่ นหน้ีสนิ ต่อสว่ นของผู้ถอื หุ้น มี
ความสัมพันธ์ไปในทิศทางตรงขา้ มกับดชั นีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลกั ทรัพย์แหง่ ประเทศไทยเน่อื งจาก
ถ้ามีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้น จะสะท้อนการมีภาระหนี้สูงขึ้น ผลประกอบการไม่
เปน็ ไปตามที่คาดการณจ์ นไม่สามารถกาไรเพ่ือมาจัดการภาระหนไ้ี ด้เพียงพอ มีความเส่ยี งทีล่ ้มละลาย
สูง ก็จะทาให้ดัชนีราคาหลักทรพั ย์ลดลง สอดคล้องกบั การพิจารณาปัจจัยการดาเนนิ งานของธนาคาร
ที่ มีสว่ นของผถู้ อื หุ้นมากทส่ี ดุ ในกลุม่ ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก และมหี น้สี ินทเ่ี ปน็ ตวั เงนิ มากที่สุดรอง
มาจากธนาคารทิสโก้ ทาใหอ้ ตั ราสว่ นหนี้สินตอ่ สว่ นของผู้ถือหนุ้ มีผลต่อราคาราคาหลกั ทรพั ยธ์ นาคาร
เกียรตนิ าคินภทั ร เมือ่ ศึกษาขอ้ มูลปัจจัยท่ีสาคญั ในการดาเนินงานของธนาคาร พบว่า หนีส้ นิ ทเี่ ปน็ ตัว
เงินของธนาคารเกียรตินาคินภัทรมากเป็นอันดับ 2 ในกลุ่มเมื่อเทียบธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กใน
ประเทศไทย ซ่ึงแสดงถงึ ลกั ษณะการดาเนนิ งานของธุรกจิ ส่งผลตอ่ การตัดสนิ ใจลงทนุ หลักทรพั ยน์ ้ี

3.4 ปัจจยั ท่ีสง่ ผลกระทบต่อราคาหลักทรัพยธ์ นาคารแลนดแ์ อนด์เฮา้ ส์
Small 4t = 0.4459 + 0.1316Fix3t + 0.8845Sett – 0.3412MPIt + 0.0805REERt

(-0.7755) (1.1130) (1.6426) (-1.1765) (0.0990)

553

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

– 0.2162GBt - 0.4722ROEt + 0.0354Casht - 0.2760DEt
(-0.7227) (-1.7097) (0.5339) (-0.7464)
R2 = 0.3472 Adjusted R2 = 0.1202 S.E = 0.0875 D.W. = 2.2407

การวิเคราะห์ความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงระหว่างตัวแปรปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนีราคา
หลกั ทรัพยข์ องธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์พบวา่ คา่ สมั ประสทิ ธ์ิการพยากรณ์ (R Square : R2) เทา่ กับ
0.3472 ค่าสัมประสิทธิ์การพยากรณ์ท่ีมีการปรับแก้แล้ว (Adjusted R2) เท่ากับ 0.1202 ค่า
ความคลาดเคล่ือนมาตรฐานในการพยากรณ์ (Std. Error of the Estimate : S.E.) เท่ากับ 0.0875
สามารถอธิบายได้ว่า วเิ คราะหค์ ่าสหสมั พนั ธ์ของตวั รบกวน (Durbin Watson) เท่ากบั 2.2407 แสดง
ว่า ไม่เกิดปัญหาความสัมพันธ์เชิงเส้นตรงระหว่างค่าความคลาดเคลื่อน (Autocorrelation) จะ
สามารถสรุปได้วา่ คา่ ความคลาดเคลือ่ นมีความเป็นอิสระกัน

จากผลการศึกษาพบว่าไมม่ ีตัวแปรใดท่ีสง่ ผลกระทบต่อดัชนรี าคาหลักทรพั ยธ์ นาคาร
แลนด์แอนด์เฮ้าส์ อย่างมีนัยสาคัญ ท้ังน้ีอาจเนื่องมาจากธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์เป็นธนาคารท่ีเพ่งิ
เขา้ ส่ตู ลาดหลักทรพั ย์ โดยเริม่ ตน้ เขา้ ส่ตู ลาดหลักทรพั ยค์ รง้ั แรกชว่ งตน้ ปี พ.ศ.2554 (ตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทย, 2563) ทาใหม้ ีส่วนแบ่งตลาดน้อยท่ีสุดในกล่มุ ธนาคารพาณิชย์ขนาดเลก็ เมอ่ื ศกึ ษา
ข้อมูลปัจจัยที่สาคัญในการดาเนินงานของธนาคาร พบว่า ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ เป็นธนาคารที่
สภาพคล่องต่า จานวนหุ้น เงินฝากน้อยท่ีสุดเม่ือเทียบกันในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก และมี
สนิ ทรพั ย์ หนสี้ ิน และการให้บริการสนิ เชอ่ื แก่ลกู ค้าต่าท่ีสดุ ในกลุ่ม เนอ่ื งจากในช่วงท่ที าการศึกษาเป็น
ระยะเริ่มตน้ ของการทาธรุ กจิ ทาให้เมื่อเทียบค่าตา่ งๆ ทั้งในส่วนของการลงทุนของลูกค้า ยังมีค่าที่ไม่
แน่นอน ทาให้นักลงทุนยากต่อพจิ ารณาคาดการณ์ผลตอบแทนในการลงทุน ส่งผลให้ไม่มีตัวแปรใดท่ี
สามารถอธบิ ายปัจจยั ที่ส่งผลกระทบตอ่ ราคาหลกั ทรัพย์ได้ ดัชนีราคาหลกั ทรพั ยธ์ นาคารแลนด์แอนด์
เฮา้ ส์ ไมไ่ ดร้ ับอิทธิพลจากทั้งตัวแปรเศรษฐกิจและตวั แปรการดาเนินงานภายในธนาคาร

อภิปรายผลการวิจัย

ตารางท่ี 3 สรปุ ปัจจยั ท่ีส่งผลต่อดัชนีราคาหลกั ทรัพย์ธนาคารพาณิชย์ขนาดเลก็ ในประเทศไทย

Fix3 Set MPI REER GB ROE CASH DE

กลุ่มธนาคารพาณิชยข์ นาดเลก็ (Small) ++ -

ธนาคารซไี อเอ็มบีไทย (CIMBT) + -

ธนาคารทิสโก้ (TISCO) -+ -

ธนาคารเกยี รตินาคินภัทร (KKP) ++ ++ -

ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ (LHFG)

ปัจจัยเศรษฐกิจท่ีมีผลกระทบต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กใน
ประเทศไทย

อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจา 3 เดือน ส่งผลกระทบในทิศทางตรงข้าม กับราคา

หลักทรัพยธ์ นาคารทิสโก้ อยา่ งมีนยั สาคัญ ซงึ่ สามารถอธิบายได้ว่า หากอตั ราดอกเบี้ยเงินฝากประจา
3 เดอื นเปลีย่ นแปลงไป จะทาให้ดชั นรี าคาหลกั ทรัพยเ์ ปล่ียนแปลงไปในทศิ ทางตรงขา้ ม ซงึ่ เป็นไปตาม

554

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

สมมติฐานที่ตั้งไว้กล่าวคือ การเปล่ียนแปลงอัตราดอกเบ้ียเงินฝากประจา 3 เดือน มีความสัมพันธ์ไป
ในทศิ ทางตรงข้ามกบั ดชั นรี าคาหลกั ทรพั ย์ของธนาคารพาณชิ ยข์ นาดเล็กในประเทศไทย

ดัชนีราคาหลักทรพั ย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกับ
ราคาหลักทรัพย์กลุ่มธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ธนาคารทิสโก้ และธนาคาร
เกยี รตนิ าคนิ ภัทร อยา่ งมีนยั สาคัญ ซ่งึ สามารถอธบิ ายได้ว่า หากดัชนีราคาหลกั ทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไป จะทาให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์เปล่ียนแปลงไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่ง
ไม่เป็นไปตามสมมติฐานที่ต้ังไว้กล่าวคือ การเปลี่ยนแปลงดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่ง
ประเทศไทย มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับดัชนีราคาหลักทรัพย์ สอดคล้องกับงานวิจัย
ของ สุจิตตา พึ่งแรง (2553, น. 48-51) เรื่อง ปัจจัยท่ีมีผลต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์หมวดพาณิชย์
พบว่าดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับ
ดชั นรี าคาหลักทรัพยข์ องหลักทรพั ย์กล่มุ พาณิชย์ทีจ่ ดทะเบยี นในตลาดหลกั ทรพั ย์แห่งประเทศไทย

ดัชนีผลผลิตรวมอุตสาหกรรม ส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกับราคาหลักทรัพย์กลุ่ม
ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก และธนาคารเกียรตินาคินภัทร ซ่ึงสามารถอธิบายได้ว่า หากดัชนีผลผลิต
รวมอุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงไป จะทาให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์ของธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กใน
ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานท่ีตั้งไว้กล่าวคือ การ
เปล่ียนแปลงดัชนีผลผลิตรวมอุตสาหกรรม มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกับดัชนี ราคา
หลักทรัพย์ตลาดหลกั ทรพั ยแ์ ห่งประเทศไทย

ปัจจัยภายในธนาคารที่มผี ลกระทบต่อดชั นีราคาหลักทรพั ยข์ องธนาคารพาณิชย์ขนาดเลก็
ในประเทศไทย

อัตราผลตอบแทนผู้ถอื หนุ้ สง่ ผลกระทบในทิศทางตรงข้ามกบั ราคาหลักทรพั ย์ธนาคารซี
ไอเอ็มบีไทย ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่า หากอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นเปล่ียนแปลง จะทาให้ดัชนีราคา
หลักทรัพย์ธนาคารซไี อเอ็มบีไทย เปลี่ยนแปลงไปในทิศทาตรงขา้ ม นอกจากนอ้ี ตั ราผลตอบแทนผูถ้ อื
หุ้นยังส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับดัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ซึ่งสามารถ
อธิบายไดว้ า่ หากอัตราผลตอบแทนผู้ถอื ห้นุ เปลี่ยนแปลง จะทาใหด้ ัชนีราคาหลักทรัพย์ธนาคารเกียรติ
นาคินภัทร เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานท่ีตั้งไว้กล่าวคือ การ
เปล่ียนแปลงอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกันกบั ดัชนีราคาหลักทรัพย์
สอดคล้องกับงานวิจยั ของ บุญนาค เกิดสินธุ์ (2554, น. 41-44) เรอ่ื ง ความสัมพันธร์ ะหวา่ งอัตราส่วน
ทางการเงินและราคาตลาดของหลักทรพั ย์กลุ่มพาณิชย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพยแ์ ห่งประเทศ
ไทย พบว่าอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับดัชนีราคาหลักทรัพย์ของ
หลักทรพั ย์กลมุ่ พาณชิ ยท์ ่ีจดทะเบียนในตลาดหลกั ทรัพย์แห่งประเทศไทย

อัตราส่วนเงินสด ส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกับราคาหลักทรัพยธ์ นาคารเกยี รตินาคนิ
ภัทร ซ่ึงสามารถอธิบายได้ว่า หากอัตราส่วนเงินสดเปลี่ยนแปลงไป จะทาให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์
เปล่ยี นแปลงไปในทิศทางเดยี วกนั ซง่ึ เป็นไปตามสมมตฐิ านที่ต้งั ไวก้ ล่าวคอื การเปลีย่ นแปลงอัตราส่วน
เงนิ สด มีความสัมพนั ธ์ไปในทศิ ทางเดียวกันกับดัชนีราคาหลกั ทรัพย์ตลาดหลกั ทรัพย์แหง่ ประเทศไทย

อตั ราหนี้สนิ ต่อสว่ นของผ้ถู ือหนุ้ สง่ ผลกระทบในทิศทางตรงข้ามกับราคาหลักทรพั ย์กลุ่ม
ธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็ก ธนาคารทิสโก้ และธนาคารเกยี รตินาคนิ ภัทร ซึง่ สามารถอธบิ ายไดว้ า่ หาก
อัตราส่วนหน้ีสินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเปลี่ยนแปลงไป จะทาให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์ของธนาคาร
พาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางตรงข้าม ซ่ึงเป็นไปตามสมมติฐานท่ีตั้งไว้

555

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

กล่าวคือ การเปล่ียนแปลงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น มีความสัมพันธ์ไปในทิศทางตรงข้าม
กบั ให้ดัชนีราคาหลักทรัพย์ตลาดหลกั ทรัพยแ์ ห่งประเทศไทย

ส่วนดัชนีค่าเงินบาท และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 3 เดือน ไม่มี
ผลกระทบต่อดัชนีราคาหลักทรพั ย์ของธนาคารพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย

ธนาคารที่ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยเศรษฐกิจมากท่ีสุด คือ ธนาคารทิสโก้และธนาคาร
เกียรตินาคินภัทร ส่วนธนาคารได้รับอิทธิพลจากปัจจัยการดาเนินงานภายในธนาคารมากท่ีสุด คือ
ธนาคารเกยี รตนิ าคนิ ภัทร ธนาคารทีไ่ ดร้ บั อทิ ธพิ ลจากปจั จัยเศรษฐกิจและปัจจยั การดาเนินงานภายใน
ธนาคารมากที่สุด คือ ธนาคารเกียรตินาคินภัทร นอกจากนี้มีเพียงธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ไม่มี
ปัจจยั ใดๆทสี่ ง่ ผลกระทบตอ่ ดัชนรี าคาหลักทรพั ย์

บรรยายสรุปผลการวิจัย ข้อค้นพบที่พบจากการวิจัยนี้ที่สามารถตอบวัตถุประสงค์ของ
การวิจัยได้อย่างไรบ้าง โดยอภิปรายข้อค้นพบที่ได้วา่ มีความสอดคล้อง หรือขัดแย้งกับสมมุติฐานการ
วิจัย พร้อมท้ังเหตุผลประกอบว่าเหตุใดจึงเป็นเช่นน้ัน พร้อมทั้งแสดงเอกสารอ้างอิงผลการวิจัย
ระหว่างผู้เขียนกับนักวิจัยท่านอื่น เป็นการสร้างความน่าเช่ือถือของการวิจัยน้ี และให้ข้อเสนอแนะ
เพ่ือแนะนาการนาผลการวจิ ัยท่ีได้ไปใช้ประโยชน์ ไม่วา่ จะต่อองค์กร ต่อผ้ปู ฏบิ ตั งิ าน และแนะนาแนว
ทางการวจิ ัยในครัง้ ตอ่ ไปวา่ สามารถเพ่ิมกระบวนการวจิ ยั อย่างไรไดบ้ ้าง

ข้อเสนอแนะ
ข้อเสนอแนะท่ีไดจ้ ากการศึกษาครงั้ นี้
1. การลงทุนในหลักทรัพย์มีความเส่ียง เนื่องจากราคาหลักทรัพย์มีความผันผวน

ตลอดเวลา นักลงทุนจะต้องพิจารณาในการตัดสินใจลงทุนทั้งในส่วนของปัจจัยเศรษฐกิจทั้ง
ภายในประเทศและตา่ งประเทศ เชน่ สงครามการค้า การแพรร่ ะบาดของโรคตา่ งๆ ซ่ึงจะทาให้กระทบ
ต่อราคาหลักทรัพย์ โดยในการศึกษาครั้งน้ีเป็นการใช้ตัวแปรแค่บางส่วนเท่านั้น สามารถนาไปใช้
ประกอบการตดั สินใจในการเลือกลงทุนได้แค่บางส่วน นักลงทุนควรทาการศึกษาข้อมูลเพมิ่ เติม และ
ควรติดตามข่าวสารในปจั จุบนั เพื่อใช้ประกอบในการตดั สินใจลงทนุ

2. การพิจารณาข้อมูลภายในบริษัท นอกเหนือจากการพิจารณาอัตราส่วนทางการเงนิ
นักลงทุนควรศึกษาข้อมูล ลักษณะรูปแบบการประกอบกิจการ กฎระเบียบ นโยบายต่าง ๆ การ
จ่ายเงินปันผล ความย่ังยืนของบริษัท เพื่อประกอบในการตัดสินใจในการลงทุนในหลักทรัพย์ท้ังใน
ระยะสน้ั และระยะยาว

ข้อเสนอแนะสาหรับการศึกษาครัง้ ตอ่ ไป
1. ในการศกึ ษาครัง้ ถดั ไปผูศ้ ึกษาควรศกึ ษาปัจจยั เศรษฐกิจอืน่ ๆ เช่น ดัชนีราคาหุน้ ตลาด

หลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ราคาทองคา ราคาน้ามันดิบโลก ดัชนีราคาตลาดหลักทรัพย์ดาวโจนส์ (Dow
Jones) เป็นต้น ในส่วนของปัจจัยภายในธนาคารอ่ืนๆ ท่ีควรศึกษา เช่น อัตราการจ่ายเงินปันผล
อัตราส่วนความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย เป็นต้น เพ่ือนามาพิจารณาความเส่ียงในการตัดสินใจ
เลือกลงทุนในหลกั ทรพั ย์

2. การศึกษาครั้งน้ีได้ศึกษาปัจจัยทางท่ีส่งผลต่อดัชนีราคาหลักทรัพย์ของธนาคาร
พาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศไทย ดังนั้นในการศึกษาคร้ังถัดไปอาจทาการศึกษาในกลุ่มอุตสาหกรรม
อื่นๆ เพ่ือทาการเปรียบเทียบปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์ นามาพิจารณาความเส่ียงใน

556

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

การตัดสินใจเลือกลงทุนในหลักทรัพย์ของนักลงทุน เช่น การศึกษาในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ
เนอื่ งจากมีส่วนแบ่งทางการตลาดสงู ที่สดุ ในกลุ่มอุตสาหกรรม
เอกสารอา้ งอิง
ณฐั ณิชา สว่างศร.ี (2557). ปัจจัยทม่ี ีผลตอ่ ราคาหุ้น ธนาคารเกียรตนิ าคิน จากดั (มหาชน). วารสาร

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลกรงุ เทพ, 8(1), 1-8.
ตลาดหลกั ทรพั ยแ์ หง่ ประเทศไทย. (2563). สถิติ. สบื คน้ จาก https://www.set.or.th
ธนาคารซไี อเอ็มบีไทย, (2563). เกี่ยวกบั ธนาคาร ซีไอเอม็ บี ไทย จากัด (มหาชน). สบื คน้ จาก

https://www.cimbthai.com/th/personal/who-we-are/about-us.html
ธนาคารแหง่ ประเทศไทย. (2563). สถิติ. สืบคน้ จาก https://www.bot.or.th
บญุ นาค เกิดสินธ์ุ. (2554). ความสมั พันธ์ระหวา่ งอัตราสว่ นทางการเงินและราคาตลาดหลักทรัพย์

กลุ่มพาณชิ ยท์ จ่ี ดทะเบียนในตลาดหลักทรพั ย์แห่งประเทศไทย. (การคน้ คว้าอิสระ
ปริญญามหาบณั ฑิต, มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี).
สจุ ติ ตา พ่งึ แรง. (2553). ปจั จยั ทมี่ ีผลต่อดัชนีราคาหลักทรัพยห์ มวดพาณิชย์. (การศึกษาค้นควา้ ด้วย
ตนเองปรญิ ญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย).
สุภาพรรณ ชมุ่ เชย และนงนภสั แก้วพลอย. (2561). ปัจจัยทมี่ ีผลต่อดัชนรี าคากลุ่มธนาคารพาณชิ ย์ใน
ตลาดหลกั ทรัพย์แหง่ ประเทศไทย. วารสารการประชมุ นาเสนอผลงานวิจยั ระดบั
บณั ฑิตศกึ ษา, 18(11), 1377-1383.
อธพิ ัชร์ โรจนวฒุ ิฐิติคณุ . (2554). ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาหลกั ทรพั ยใ์ นกลุ่มธนาคารพาณชิ ยใ์ น
ตลาดหลกั ทรัพยแ์ หง่ ประเทศไทย. (วิทยานิพนธป์ รญิ ญามหาบัณฑิต, มหาวทิ ยาลัยศรี
นครนิ ทรวิโรฒ).

557

การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

แนวโนม้ การปรับตวั ขององคก์ ารธรุ กิจและหน้าท่ี
ของฝา่ ยพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ในยคุ ความปกติถดั ไป*

วทัญญู สวุ รรณเศรษฐ1
อาจารย์ประจาสาขาวิชาการพฒั นาทรัพยากรมนษุ ย์ คณะศึกษาศาสตร์

มหาวิทยาลยั บรู พา

วรรณวิชนี ถนอมชาติ
อาจารยป์ ระจาสาขาการจัดการทรพั ยากรมนุษย์ คณะการจดั การและการทอ่ งเทีย่ ว

มหาวทิ ยาลัยบรู พา

บทคดั ย่อ

การเปล่ียนแปลงที่เกิดขึน้ ในสภาพแวดล้อมทางธรุ กิจ วิกฤตเศรษฐกิจ การพลิกโฉมรูปแบบ
พ้นื ฐานในการดาเนนิ ธรุ กิจดว้ ยเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรม ตลอดจนผลกระทบจากสถานการณ์การ
แพรร่ ะบาดของโรคโควิด-19 ที่เกดิ ขึ้นท่ัวโลกระหว่างปพี .ศ. 2563 - 2564 แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลและ
ความไม่แน่นอนของการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ ซึ่งองค์การธุรกิจท่ีมี
โอกาสได้ศึกษาแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงภายนอกท่ีอาจส่งผลต่อการดาเนินธุรกิจ ย่อมมีโอกาส
วิเคราะห์และปรับแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจตามสถานการณ์ที่จะเกิดข้ึน ตลอดจนเตรียมผู้ปฏิบัติงานให้มี
ยังมคี วามพร้อมและเป็นกาลงั สาคัญในการขับเคลื่อนองค์การให้บรรลุเป้าหมายท่ีตั้งไว้ได้ การศึกษานี้
เป็นงานวจิ ัยเชิงคุณภาพที่มงุ่ ศึกษา 1) แนวโนม้ การปรับรูปแบบการดาเนนิ งานขององค์การธรุ กิจในยุค
ความปกติถัดไป 2) แนวโน้มหน้าที่ของฝ่ายพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่สนับสนุนการพัฒนาองค์การและ
ผู้ปฏิบัติงานในองค์การธุรกิจในยุคความปกติถัดไป ทาการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยการสืบค้นข้อมูลที่
นาเสนอบทวิเคราะห์ทิศทางองค์การธุรกิจในปี 2564 จากสารสนเทศท่ีมีความทันสมัย น่าเช่ือถือ
นาเสนอสถานการณ์ท่ีองค์การธุรกิจในยุคความปกติถัดไปอาจเผชิญ รวม 15 บทความ โดยเป็น
สารสนเทศที่เผยแพร่ออนไลน์ระหว่างปี 2563 -2564 ใช้เทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลแบบการ
เปรียบเทียบข้อมูลอย่างต่อเน่ือง ผลการศึกษาพบว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมทาง
ธุรกิจตง้ั แตป่ ี 2564 อาจส่งผลให้เกิดการปรับแผนการดาเนินงานในองคก์ ารธรุ กิจในยุคความปกติถัดไป
อย่างน้อย 9 แนวโน้ม และพบว่าหน้าท่ีของฝ่ายพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ท่ีจะช่วยสนับสนุนการพัฒนา
องค์การและผ้ปู ฏิบัตงิ านในยุคความปกติถดั ไปมีอยา่ งนอ้ ย 13 หน้าท่ี

คาสาคญั : การปรบั ตัวขององค์การธรุ กิจ ฝ่ายพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ย์ ความปกติถดั ไป

1 อาจารย์ประจาสาขาวิชาการพฒั นาทรัพยากรมนษุ ย์ มหาวิทยาลยั บูรพา ต.แสนสุข อ.เมืองชลบรุ ี จ.ชลบรุ ี 20000
หมายเลขติดต่อ 081-949-3448 อเี มล [email protected]
* บทความนไ้ี ด้รับการพิจารณาใหต้ ีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร RMUTT Global Business and Economics Review
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี ปที ่ี 16 ฉบับที่ 1 โดยมีการปรับปรงุ แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ ตามขอ้ เสนอแนะ
ของผู้ทรงคณุ วฒุ ิประจาวารสาร

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

BUSINESS ORGANIZATIONAL ADJUSTMENT TRENDS AND FUNCTIONS
OF HRD DEPARTMENTS IN THE NEXT NORMAL

Watunyoo Suwannaset1
Lecturer at Department of Human Resource Development

Faculty of Education, Burapha University

Wanvicechanee Tanoamchard
Lecturer at Department of Human Resource Management
Faculty of Management and Tourism, Burapha University

Abstract
The dynamic changes in the business environment, economic crises, business
competition, the digital and innovative disruptions and even the spread of the Covid-19
pandemic are well exemplified within the uncertainty in worldwide business operations.
The Business organizations who read the future trends and changes occurring in the next
normal business environment were able to adapt both their strategies and their
workforce. This qualitative research aims to study 1) the adaptation of business strategies
of organizations in the next normal; 2) prime functions of the HRD Departments in
supporting the development of organizations and workforce preparation for the next
normal. The data collection technique in this research was a review of 15 online
analytical articles investigating both business’ trends and directions of HRD work taking
place from 2021. The selected articles were well published during 2020 and 2021 from
reliable sources. The constant comparative method was the technique used for data
analysis. This study reports 9 potential business organizational adjustments within the
next normal organizations and found 13 additional functions the HRD Departments may
perform to support the development of organizations and workforce preparation in the
next normal.

Keywords: Adjustment of Business Organization, HRD Departments, Next Normal

1 Corresponding Author: Lecturer at Human Resource Development, Faculty of Education,
Burapha University Contact Number: +6681-949-3448 Email: [email protected]

559

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

อทิ ธพิ ลภาวะผนู้ าการเปล่ยี นแปลงส่งผลตอ่ ความสาเรจ็ ในอาชพี
ของผบู้ ริหารระดับกลางชาวไทยในบรษิ ทั วจิ ยั และพฒั นายานยนต์

ไกรคณุ กาญจนประภาส1
นักศึกษาปรญิ ญาโทหลักสูตรบริหารธรุ กจิ มหาบัณฑิต คณะบรหิ ารธุรกจิ

สถาบันเทคโนโลยไี ทย-ญป่ี นุ่

บุญญาดา นาสมบรู ณ์
อาจารย์ประจาหลกั สตู รบรหิ ารธุรกิจมหาบณั ฑติ คณะบรหิ ารธุรกิจ

สถาบนั เทคโนโลยไี ทย-ญป่ี ่นุ

บทคดั ย่อ
การวิจัยครั้งน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาอิทธิพลภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลงท่ีส่งผลต่อ
ความสาเร็จในอาชีพของผู้บริหารระดับกลางชาวไทยในบริษัทวิจัยและพัฒนายานยนต์ เก็บรวบรวม
ข้อมลู จากกลุ่มตัวอย่าง จานวน 153 ตัวอยา่ ง โดยใช้แบบสอบถาม และยืนยันผลลพั ธ์เชิงประจักษ์ด้วย
การสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงในบริษัทวิจัยและพัฒนายานยนต์ จานวน 5 คน แบบเจาะจง สถิติท่ีใช้
ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถ่ี ร้อยละ ค่าเฉล่ีย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์
องค์ประกอบเชิงยืนยัน และการวิเคราะห์เส้นทาง ผลการวิจัยพบว่า ภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลงมี
อิทธิพลต่อความสาเร็จในอาชีพของผู้บริหารระดับกลางชาวไทยในบรษิ ัทวิจัยและพัฒนายานยนต์ อย่าง
มีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ค่าน้าหนักอิทธิพลเท่ากับ 0.345 และผลการสัมภาษณ์ยืนยันว่า
บุคลากรระดับผู้บริหารที่ประสบความสาเร็จในอาชีพในบริษัทวิจัยและพฒั นายานยนต์ต้องมีภาวะผู้นา
การเปลย่ี นแปลง

คาสาคัญ: ภาวะผู้นาการเปลีย่ นแปลง ความสาเรจ็ ในอาชีพ วจิ ยั และพฒั นายานยนต์

1 นักศึกษาปรญิ ญาโทหลกั สูตรบริหารธุรกจิ มหาบณั ฑิต คณะบริหารธรุ กจิ สถาบนั เทคโนโลยไี ทย-ญป่ี นุ่
1771/1 ซ.พัฒนาการ 37 ถ.พัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรงุ เทพฯ 10250
หมายเลขติดตอ่ : 081-664-5309 อีเมล: [email protected]

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

INFLUENCES OF TRANSFORMATIONAL LEADERSHIP ON CAREER SUCCESS
OF THAI MIDDLE LEVEL MANAGER IN AUTOMOTIVE R&D SUBSIDIARIES

Kraikhun Karnjanaprapas1
Graduate Student, Master of Business Administration, Faculty of Business Administration

Thai-Nichi Institute of Technology

Boonyada Nasomboon
Lecturer at Master of Business Administration, Faculty of Business Administration

Thai-Nichi Institute of Technology

Abstract
This research aimed to study influences of transformational leadership on
career success of Thai middle level manager in automotive research and development
(R&D) subsidiaries. Data were collected from 153 samples by using questionnaire and
the empirical results were confirmed by interviewing purposively 5 top level managers
in automotive R&D subsidiaries. Statistics used for data analysis including frequency,
percentage, mean, standard deviation, confirmatory factors analysis (CFA) , and path
analysis. The empirical results found that transformational leadership had statistically
significant influences on career success of Thai middle level manager in automotive R&D
subsidiaries with factor loading of 0. 345 at 0. 01 level and the results of interviews
confirmed that successful managerial level personnel in career success in automotive
R&D subsidiaries need transformational leadership.

Keywords: Transformational Leadership, Career Success, Automotive Research and
Development (R&D)

1 Corresponding Author: Graduate Student, Master of Business Administration Program in Japanese
Business Administration, Faculty of Business Administration, Thai-Nichi Institute of Technology.
Contact Number: +6681-664-5309 Email: [email protected]

561

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

บทนา
จากนโยบายส่งเสริมและพัฒนาด้านการวิจัยและพัฒนาของภาคอุตสา หกรรม

ภายในประเทศไทยด้วยแนวคิดว่าการวิจัยและพัฒนาคือรากฐานสู่ความสาเร็จ (กลุ่มอุตสาหกรรมยาน
ยนต์แห่งประเทศไทย, 2563) ส่งผลให้มูลค่าการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของภาคอุตสาหกรรม
ไทยเติบโตขึน้ อย่างต่อเน่ือง จากรายงานผลการสารวจการลงทนุ ด้านการวจิ ัยและพัฒนาของภาคเอกชน
รอบปีสารวจพุทธศักราช 2561 (สานักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
และนวัตกรรมแห่งชาติ, 2561) พบว่ามูลค่าการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของภาคเอกชนในปี
2560 เท่ากับ 123,942 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 80 ของมูลค่าการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา
ทัง้ หมดภายในประเทศไทย และมีจานวนบุคลากรด้านการวจิ ัยและพัฒนามากกว่า 86,343 คน คดิ เป็น
ร้อยละ 62 ของจานวนบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาท้ังหมดภายในประเทศไทย ทั้งน้ี “ยานยนต์”
คือสาขาอุตสาหกรรมที่มีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนามากท่ีสุด โดยมีมูลค่าการลงทุนรวมกว่า
18,855 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 15 ของมูลค่าการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาของภาคเอกชน
ภายในประเทศ จากที่กล่าวมาในข้างต้น ปัจจุบันจึงมีบริษัทท่ีดาเนินกิจกรรมด้านการวิจัยและพัฒนา
จานวนมากภายในอุตสาหกรรมยานยนตไ์ ทยซ่ึงสว่ นใหญ่เป็นบริษัทสญั ชาตญิ ี่ปุ่นทถี่ ูกก่อตั้งขึ้นเพ่ือเป็น
บริษทั หรือศนู ยว์ จิ ยั และพฒั นาของผู้ผลิตยานยนต์ ผผู้ ลิตชนิ้ สว่ นยานยนต์ ผูผ้ ลติ อปุ กรณ์ยานยนต์ และ
อ่ืน ๆ ที่เก่ียวข้อง ในอดีตบริษัทหรือศูนย์วิจัยและพัฒนาเหล่าน้ีถูกกาหนดกิจกรรมหลักเพียงการ
สนับสนุนและการประสานงานระหว่างบริษัทแม่ที่ประเทศญ่ีปุ่นและฐานการผลิตที่ประเทศไทยโดยมี
ผู้บริหารตั้งแต่ระดับกลางข้ึนไปเป็นบุคลากรชาวญี่ปุ่นท่ีถูกส่งมาจากบริษัทแม่ แต่ทว่าในปัจจุบัน ด้วย
ความต้องการเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจส่งผลให้วิสัยทัศน์และแนวคิด
เชงิ นโยบายของบรษิ ัทหรือศูนยว์ จิ ัยและพฒั นาเหล่าน้ีเปล่ียนไปจากเดิม กล่าวคือ ได้นาองคค์ วามรู้และ
เทคโนโลยีระดับสูงด้านการวิจัยและพัฒนายานยนต์เข้ามาดาเนินการอย่างครบวงจรด้วยเป้าประสงค์
เพ่ือผลักดันให้เป็นประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนายานยนต์ที่สาคัญควบคู่กับ
การเปน็ ฐานการผลิตยานยนต์ท่ีสาคัญของโลก (สถาบันยานยนต์แหง่ ประเทศไทย, 2552)

หน่ึงในกิจกรรมสาคัญเพ่ือขับเคลื่อนสู่เป้าหมายในข้างต้นคือการถ่ายโอนสู่ท้องถิ่นหรือ
โลคัลไลเซชั่น (Localization) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการถ่ายโอนสู่ท้องถ่ินด้านการบริหารการจัดการ
(Localization of Management) และการถ่ายโอนสทู่ ้องถิ่นด้านบุคลากร (Localization of Human
Resource) โดยพยายามจ้างงานหรือเลื่อนตาแหน่งบุคลากรท้องถิ่นข้ึนสู่ตาแหน่งระดับผู้บริหารด้วย
คาดหวังใหร้ ับช่วงต่อและขับเคล่อื นกิจกรรมต่าง ๆ ในฐานะผนู้ าขององค์กรแทนบุคลากรชาวญปี่ ุ่นท่ีจะ
ถูกส่งมาจากบริษัทแม่ (Imai, 2003) ถือเป็นโอกาสสาคัญสาหรับบุคลากรชาวไทยในบริษัทวิจัยและ
พฒั นายานยนต์ในด้านความก้าวหน้าและความสาเร็จในอาชีพผู้บริหาร (Executive Career Success)
แต่อย่างไรก็ตาม จากผลสารวจบริษัทญ่ีปุ่นในประเทศไทยเกี่ยวกับปัญหาด้านการบริหารองค์กรพบว่า
ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรระดับผู้จัดการซึ่งหมายถึงผู้บริหารตั้งแต่ระดับกลางขนึ้ ไปยังคงเป็น 1 ใน
10 ประเด็นปัญหาสาคญั ทก่ี าลงั ประสบอยู่ (หอการค้าญปี่ ่นุ -กรุงเทพฯ, 2562)

562

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

ภาพที่ 1 ผลสารวจบริษัทญี่ปนุ่ ในไทย อันดบั ปัญหาด้านการบริหารองค์กร
ทีม่ า: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/866864

เพื่อประสบความสาเร็จในอาชีพผู้บริหาร ความรู้ความสามารถและทักษะผู้บริหารคือ
ปจั จัยพ้ืนฐานที่สาคัญในฐานะผู้บริหาร แต่ทวา่ ไม่เพยี งเฉพาะบทบาทด้านการบริหารการจัดการเท่านั้น
แตใ่ นฐานะผนู้ า ผู้บรหิ ารตอ้ งนา (Leading) และใชอ้ ทิ ธิพลกับผู้ใต้บังคับบญั ชาให้ปฏิบตั ิตามหลักการท่ี
ถูกต้องและเป็นไปตามแผนงาน ต้องแสดงความรับผิดชอบ ให้การช่วยเหลือ และสนับสนุน
ผู้ใต้บังคับบัญชาเพ่ือประสิทธิภาพและประสิทธิผลขององค์กร อันเป็นคุณสมบัติท่ีผู้บริหารพึงมี
(Stanley & Karolin, 2016) ดังนั้น สาหรับผู้ท่ีต้องการประสบความสาเร็จในอาชีพผู้บริหารจึง
จาเป็นต้องเปน็ ผู้นาที่เหมาะสมและสอดคล้องกับรูปแบบและวัฒนธรรมองค์กร (Zaleznik, 1977) ทงั้ นี้
การนาหรือความเป็นผู้นามีมากมายหลากหลายรูปแบบเรียกว่า ภาวะผู้นา (Leadership) โดยท่ีการ
บริหารการจัดการการเปล่ียนแปลงภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการนาท่ีสร้างอิทธิพลต่อ
สมาชิกในองค์กรอย่างมีอุดมการณ์ การสร้างแรงบันดาลใจรวมถึงการสร้างขวัญและกาลังใจให้สมาชิก
ในองค์กร การสร้างความท้าทายด้วยการกระตุ้นการใช้ปัญญาบนพื้นฐานของการคานึงถึงความเป็น
ปจั เจกบุคคลอันก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านทัศนคติและค่านิยมเพ่ือทาให้เกิดการรับรู้ถึงคุณค่าและ
ความรสู้ ึกร่วมในการขับเคลื่อนให้องค์กรประสบความสาเร็จและบรรลุเป้าหมายรว่ มกันคือรูปแบบการ
นาของผู้บริหารท่ีพึงประสงค์ เรียกว่า ภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลง (Transformational Leadership)
อันนามาซ่งึ ความสาเร็จท้งั ในระดบั องค์กรและระดับบุคคล (Bass & Avolio, 1990)

จากท้ังหมดที่กล่าวมาข้างตน้ ผู้วจิ ยั จึงมีความสนใจศึกษาอิทธิพลภาวะผนู้ าการเปลย่ี นแปลง
ท่ีส่งผลต่อความสาเร็จในอาชีพเพ่ือนาผลลัพธ์จากการวิจัยมาวิเคราะห์และใช้เป็นแนวทางในการ
พิจารณาและพฒั นาภาวะผนู้ าสู่ความสาเร็จในอาชีพของบุคลากรชาวไทยในอนาคต

563

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

วตั ถปุ ระสงคข์ องการวจิ ยั
เพื่อศึกษาอิทธิพลภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลต่อความสาเร็จในอาชีพของผู้บริหาร

ระดับกลางชาวไทยในบริษัทวิจัยและพัฒนายานยนต์

สมมตฐิ านของการวจิ ัย
ภาวะผนู้ าการเปลี่ยนแปลงมีอิทธพิ ลต่อความสาเรจ็ ในอาชพี ของผู้บรหิ ารระดับกลางชาวไทย

ในบรษิ ทั วิจยั และพฒั นายานยนต์

การทบทวนวรรณกรรม
แนวคดิ และทฤษฎีเกยี่ วกับภาวะผนู้ าการเปลี่ยนแปลง (Transformational Leadership)
ภาวะผู้นา (Leadership) คือ ความเป็นผู้นา อันประกอบด้วย การมีอิทธิพลต่อผู้ตาม

รวมทั้งศิลปะในการโน้มน้าวหรือชักจูงทาให้ผู้ตามสร้างประสิทธิผลอย่างสูงสุดเพื่อการบรรลุภารกิจ
หรือเป้าประสงค์ท่ีกาหนดไว้ (Cohen, 1990, Northouse, 2019) ภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลง
(Transformational Leadership) คือแนวคิดเก่ียวกับภาวะผู้นาท่ีถูกนามาศึกษาอย่างแพร่หลาย
ตั้งแต่ทศวรรษ 1980 อันเป็นรูปแบบภาวะผู้นาท่ีให้ความสาคัญต่อการประเมินเพ่ือทราบถึงระดับ
แรงจูงใจของผู้ตามและพยายามหาแนวทางตอบสนองความต้องการและปฏิบัติต่อผู้ตามด้วยคุณค่า
ความเป็นมนุษย์ ซึ่งทฤษฎีภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลงครอบคลุมแนวคิดของภาวะผู้นาโดยเสน่หา
(Charismatic Leadership) ภาวะผู้นาเชิงวิสัยทัศน์ (Visionary Leadership) รวมท้ังภาวะผู้นาเชิง
วัฒนธรรม (Culture Leadership) ดังนั้น ภาวะผู้นาการเปล่ียนแปลงจึงสามารถใช้ในการอธิบาย
กระบวนการการมีอิทธิพลต่อผู้ตามได้อย่างกว้างขวาง Bass (1985) กล่าวว่าผู้นาการเปลี่ยนแปลง
(Transformational Leader) เป็นผู้นาท่ีทาให้ผู้ตามเกิดความภักดีและความไว้วางใจ เคารพนับถือ
ผู้นาจนก่อให้เกิดแรงจูงใจในการทางาน และมีพฤติกรรมหลัก ได้แก่ การมีอิทธิพลอย่างมีอุดมการณ์
(Idealized Influence) คือพฤตกิ รรมทผ่ี ูน้ าเป็นแบบอย่างให้แก่ผตู้ าม ผูต้ ามจะรู้สึกเคารพนับถือผู้นา
และให้ความไว้วางใจอย่างสูงแก่ผู้นาและปฏิบัติหน้าที่ตามวิสัยทัศน์ที่ผู้นากาหนดไว้อย่างเต็มใจ
การกระตุ้นทางปัญญา (Intellectual Stimulation) คือพฤติกรรมของผู้นาที่แสดงออกด้วยการ
กระตุ้นให้ผู้ตามริเร่ิมการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ สร้างความรู้สึกท้าทายให้แก่ผู้ตามและให้การสนับสนุน
และส่งเสรมิ ผตู้ ามในการหาทางออกเพื่อแก้ปัญหาดว้ ยตนเอง และการคานงึ ถึงความเป็นปัจเจกบุคคล
(Individualized Consideration) คือพฤติกรรมของผู้นาที่มุ่งเน้นความสาคัญในการส่งเสริม
บรรยากาศของการทางานที่ดีด้วยการใส่ใจรับรู้และพยายามตอบสนองต่อความต้องการของผู้ตาม
ต่อมาทฤษฎีภาวะผู้นาการเปล่ียนแปลงได้ถูกศึกษาและปรับปรุงใหม่โดย Bass and Avolio (1990)
ใช้ช่ือย่อว่า “4I’s” (Four I’s) ซ่ึงพบว่าการสร้างแรงบันดาลใจ (Inspirational Motivation)
คือพฤติกรรมท่ีผู้นาเป็นผู้มีวสิ ัยทัศน์ชัดเจนและสามารถช่วยให้ผู้ตามได้รบั แรงจูงใจเพื่อไปสู่การบรรลุ
เป้าหมายร่วมกนั เป็นอกี หนงึ่ พฤติกรรมหลกั ของผู้นาการเปลีย่ นแปลง

จากการทบทวนงานวิจัยที่เกยี่ วข้องท้ังในประเทศและต่างประเทศ ผู้วิจัยสามารถรวบรวม
ภาวะผู้นาท่ีมีผลลัพธ์เชิงประจักษ์ท่ีช้ีให้เห็นว่ามีอิทธิพลที่ส่งผลต่อการเป็นผู้บริหารองค์กรที่มี
ประสิทธิภาพและส่งผลต่อประสิทธิผลของกระบวนการวิจัยและพัฒนาได้ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
พงษ์สันติ์ บุญสวรรค์ (2558, น. 39-49) ศึกษาเกี่ยวกับภาวะผู้นาของผู้บริหารที่มีผลต่อความสาเร็จ
ของบริษัท ปตท. จากัด (มหาชน) พบว่าภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลงของผู้บริหารมีอิทธิพลต่อระดับ

564

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ความสาเรจ็ ของบริษทั ปตท. จากัด (มหาชน) ในระดับมากท่สี ุด Elkins and Keller (2003, p. 587-
606) ศึกษาเก่ียวกับภาวะผู้นา ในองค์กรวิจัยและพัฒนา ( Leadership in Research and
Development Organizations) พบวา่ ภาวะผู้นาการเปลยี่ นแปลงมอี ิทธพิ ลเชงิ บวกกับประสิทธิภาพ
และประสิทธิผลของกระบวนการวิจัยและพัฒนา Paulsen, Callan and Ayoko (2012, p. 595-
610) ศึกษาเกีย่ วกับภาวะผนู้ าการเปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมในองค์กรวจิ ัยและพัฒนาทีก่ าลังประสบ
กับการเปล่ียนแปลงครั้งใหญ่ (Transformational Leadership and Innovation in an R&D
Organization Experiencing Major Change) พบว่าภาวะผู้นาการเปล่ียนแปลงมีความสัมพันธ์เชิง
บวกในระดับมากกับประสิทธิภาพขององค์กรวิจัยและพัฒนา Ishikawa and Xu (2015, p. 61-73)
ศึกษาเกี่ยวกับภาวะผู้นาในกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Leadership in Research and
Development Process) พบว่าภาวะผู้นาการเปล่ียนแปลงมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพของผู้นาใน
กระบวนการวิจัยและพฒั นาในระดับมากที่สุด Obara (2016, p. 41-59) ศกึ ษาเกย่ี วกบั ภาวะผนู้ าของ
ผู้บริหารแผนกวิจัยและพัฒน าของ บริษัทยาญี่ปุ่น (Executive Leadership for the R&D
Department of Blockbuster of Japanese Pharmaceutical Company) พบว่าภาวะผู้นาการ
เปลย่ี นแปลงมคี วามสมั พันธ์เชิงบวกกบั ประสิทธิภาพของผูบ้ รหิ ารในแผนกวจิ ัยและพฒั นา และ Rout,
Das and Puthal (2019, p. 8317-8318) ศึกษาเกี่ยวกับอิทธิพลของภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลงต่อ
ประสิทธิภาพของผนู้ ากระบวนการวิจัยและพัฒนา (Impact of Transformational Leadership on
R&D Leader Performance) พบว่าภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลงส่งผลอย่างมีนัยสาคัญกับ
ประสิทธภิ าพของผนู้ าในกระบวนการวจิ ัยและพฒั นา จากผลลัพธเ์ ชงิ ประจักษ์ดังทีก่ ล่าวมาทงั้ หมดใน
ข้างต้นช้ีให้เห็นว่าภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลง (Transformational Leadership) มีความสัมพันธ์ใน
ทิ ศ ท า ง บ ว ก แ ล ะ มี อิ ท ธิ พ ล อ ย่ า ง มี นั ย ส า คั ญ กั บ ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ แ ล ะ ป ร ะ สิ ท ธิ ผ ล ข อ ง ผู้ บ ริ ห า ร ใ น
กระบวนการวจิ ัยและพฒั นา

การวจิ ัยในครง้ั นี้ ผวู้ จิ ยั ใชอ้ งค์ประกอบภาวะผนู้ าการเปลีย่ นแปลง จานวน 8 องคป์ ระกอบ
ซ่ึงถูกพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของพฤติกรรมหลักของผู้นาการเปลี่ยนแปลงตามทฤษฎีภาวะผู้นาการ
เปล่ียนแปลงของ Bass (1985) และ Bass and Avolio (1990) ให้มีความสอดคล้องกับลักษณะงาน
และรปู แบบองคก์ รของกลมุ่ ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคร้ังนี้ มรี ายละเอยี ดดังนี้ ด้านการมอี ทิ ธิพลอยา่ งมี
อุดมการณ์ ประกอบด้วย การปฏิบัติงาน ประพฤติตน และแสดงออกโดยคานึงถึงศีลธรรมและ
จริยธรรม แทนด้วย TRF1 การเป็นแบบอยา่ งท่ีดใี นการปฏิบัติงาน แทนดว้ ย TRF2 ด้านการสร้างแรง
บนั ดาลใจ ประกอบดว้ ย การถ่ายทอดนโยบายและวิสัยทัศนข์ ององคก์ รให้แกผ่ ู้ใต้บงั คับบญั ชาได้อย่าง
ชัดเจน แทนด้วย TRF3 การสร้างเป้าหมายและภารกิจท่ีท้าทายและสร้างขวัญกาลังใจให้
ผู้ใตบ้ ังคับบญั ชา แทนด้วย TRF4 ด้านการกระตนุ้ ทางปัญญา ประกอบดว้ ย การสง่ เสรมิ และสนบั สนุน
การแสดงความคิดเห็นในการทางาน แทนด้วย TRF5 การสร้างความตระหนักรู้ในวิธีการดาเนินการ
หรือแก้ไขปัญหาเพื่อช่วยให้ผู้ใต้บังคับบัญชามองเห็นปัญหาได้หลายแง่มุม แทนด้วย TRF6 และด้าน
การคานึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคล ประกอบดว้ ย การให้คาปรกึ ษา แนะนา ตักเตอื นผู้ใต้บงั คับบัญชา
เป็นรายบุคคล แทนด้วย TRF7 และการให้สิทธิ์แกผ่ ู้ใต้บังคับบัญชาในการดาเนินงานต้ังแต่เริ่มต้นจน
สาเรจ็ ลุลว่ งดว้ ยการคิดและการตัดสนิ ใจของตนเอง แทนด้วย TRF8

แนวคดิ เกีย่ วกบั ความสาเรจ็ ในอาชพี (Career Success)
ความสาเร็จในอาชีพ (Career Success) เป็นหัวข้อวิจัยที่ได้ความสนใจมาอย่างยาวนาน
ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน โดยมุ่งเน้นท่ีการศึกษาและวิเคราะห์เพื่อให้ทราบถึงปัจจัยอันเป็นสาเหตุท่ีส่งผล

565

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ต่อความสาเร็จในอาชีพเพื่อนาผลลัพธ์มาใช้เป็นข้อเสนอแนะและแนวทางให้แก่ผู้ที่ต้องการประสบ
ความสาเร็จในอาชีพ (Smart & Peterson, 1997, p. 358-374) โดยท่ีความสาเร็จในอาชีพ หมายถึง
ผลลัพธ์ของพัฒนาการด้านหน้าท่ีการงานอันหมายถึงความก้าวหน้าในอาชีพ ซึ่งความสาเร็จในอาชีพ
อาจเกิดข้ึนจริงอย่างเป็นรูปธรรมที่สามารถสังเกตได้ จากภายนอกหรื อเป็นนามธรรมซึ่งเกิดข้ึนจาก
ความรู้สึกภายในก็ได้ เช่น การรับรู้ระดับบุคคลเกี่ยวกับความก้าวหน้าในอาชีพท่ีได้รับทั้งจากการ
สนับสนุน การส่งเสริม และการเล่ือนข้ันหรือการเล่ือนตาแหน่งในทิศทางท่ีดีข้ึน ซ่ึงการวัดความสาเร็จ
ในอาชีพ (Measurement of Career Success) สามารถทาได้ใน 2 มิติ คือ ความสาเร็จในอาชีพเชิง
ปรนัย (Objective Career Success) หมายถึง การประสบความสาเร็จในอาชีพจากองค์ประกอบหรือ
เกณฑ์ท่ีมองเห็นได้จากภายนอก ได้แก่ เงินเดือน (Salary) การเล่ือนตาแหน่ง (Promotions) เป็นต้น
และความสาเร็จในอาชีพเชิงอัตนัย (Subjective Career Success) หมายถึง การประสบความสาเร็จ
จากการประเมินในส่วนของการรับรู้หรือความรู้สึกที่มีต่อความสาเร็จในอาชีพ ได้แก่ ความพึงพอใจใน
อาชีพ (Career Satisfaction) ความพึงพอใจในงาน (Job Satisfaction) เป็นต้น (Judge, Cable,
Boudreau & Bretz, 1995, p. 485-519) ในชว่ งต้นความสาเร็จในอาชพี ถกู มองว่าเป็นกระบวนการเชิง
เส้นท่ีมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสาคัญกับรูปแบบหรือขั้นตอนท่ีถูกกาหนดขึ้นโดยองค์กร (Greenhaus
& Callanan, 1994) แต่ทว่าในปัจจุบัน ปัจจัยระดับปัจเจกบุคคลก็เป็นส่วนสาคัญของความสาเร็จนั้น
ด้วยเช่นกัน (Greenhaus & Callanan, 1999) ซึ่งการเปล่ียนแปลงนี้ชี้ให้เห็นว่าบุคคลที่จะประสบ
ความสาเร็จในอาชีพต้องพร้อมด้วยปัจจัยระดับบุคคลและปัจจัยระดับองค์กร Judge et al. (1995) ได้
ศึกษาและพัฒนาแบบจาลองแนวคิดความสาเร็จในอาชีพผู้บริหาร (Conceptual Model of
Executive Career Success) ซ่ึงเป็นแนวทางในการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับความสาเร็จในอาชีพ
ผู้บริหาร (Executive Career Success) ที่มีส่วนช่วยอย่างย่ิงในการกาหนดกรอบแนวคิดและแนวทาง
ของการวิจยั เกย่ี วกบั ความสาเรจ็ ในอาชีพของนกั วิจัยในปัจจบุ นั

การวิจัยในคร้ังนี้ ผู้วิจัยใช้องค์ประกอบความสาเร็จในอาชีพ จานวน 2 องค์ประกอบ ซึ่งถูก
พัฒนาขึ้นบนพ้ืนฐานของแบบจาลองแนวคิดความสาเร็จในอาชีพผู้บริหาร (Conceptual Model of
Executive Career Success) ของ Judge et al. (1995) ใหม้ คี วามสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการ
วิจัย ประกอบด้วย ความสาเร็จในอาชีพด้านความก้าวหน้าในอาชีพที่รับรู้ แทนด้วย PCD และ
ความสาเรจ็ ในอาชีพด้านความสาเร็จในอาชพี ที่รับรู้ แทนด้วย PCS

จากการทบทวนวรรณกรรม ผวู้ จิ ยั จงึ สนใจศึกษาอิทธิพลภาวะผนู้ าการเปลี่ยนแปลงในฐานะ
ปจั จัยระดับบุคคล (Individual Factor) ซ่ึงผลลพั ธจ์ ากการวจิ ัยก่อนหน้าบง่ ชวี้ ่าส่งผลต่อความสาเร็จใน
อาชพี ผ้บู ริหาร ได้แก่ Ahmad and Yekta (2010, p. 162-184) ท่ีศึกษาเกยี่ วกับความสัมพันธ์ระหว่าง
การรับรู้ในการสนับสนุนจากองค์กร พฤติกรรมภาวะผู้นา และความพึงพอใจในงาน กรณีศึกษา
การศึกษาเชิงประจักษ์ในประเทศอิหร่าน (Relationship Between Perceived Organizational
Support, Leadership Behavior and Job Satisfaction: An Empirical Study in Iran) กลุ่มตวั อย่าง
ในการศึกษาคือบุคลากรชาวอิหร่านท่ีปฏิบัติงานในบริษัทปูนซีเมนต์เตหะราน จานวน 136 ตัวอย่าง
พบว่าพฤติกรรมภาวะผู้นาส่งผลอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติต่อทั้งความพึงพอใจในงานเชิงปรนัยและเชิง
อัตนัย และ Al-Ghazali (2020, p. 993-1013) ท่ีศึกษาเก่ียวกับภาวะผู้นาการเปล่ียนแปลง
ความสามารถในการปรับตัวด้านอาชีพ การยึดติดในอาชีพ และความสาเร็จในอาชีพท่ีรับรู้ด้วย
แ บ บ จ า ล อ ง Serial Mediation ( Transformational Leadership, Career Adaptability, Job
Embeddedness, and Perceived Career Success: A Serial Mediation Model) กลุ่มตัวอย่างใน

566

การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

การศึกษาคือพยาบาลที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลรัฐ 16 แห่ง จานวน 469 ตัวอย่าง พบว่าภาวะผู้นา
การเปล่ยี นแปลงส่งผลและมคี วามสมั พันธ์เชงิ บวกกับความสาเร็จในอาชีพทรี่ ับรู้

กรอบแนวคิดในการวิจยั
จากการทบทวนแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยก่อนหน้าที่เก่ียวข้อง สามารถพัฒนากรอบ

แนวคดิ ในการวิจัยขนึ้ ได้ ดงั ภาพที่ 2

TRF1

TRF2

TRF3

TRF4 TRF CASU PCD
TRF5 PCS

TRF6

TRF7

TRF8

ภาพท่ี 2 กรอบแนวคิดในการวิจัย

ระเบยี บวิธีการวิจยั
ส่วนท่ี 1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
การวิจัยคร้ังน้ี เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative data) โดยใช้แบบสอบถาม มี

ประชากรเป้าหมายคือ บุคลากรชาวไทยที่ดารงตาแหน่งปัจจุบันเป็นผู้บริหารระดับกลางในบริษัทวิจัย
และพัฒนายานยนต์ในประเทศไทย ซึ่งจากการสอบถามฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ของแต่ละบริษัท ณ วันที่
1 ตุลาคม 2563 ขนาดของประชากรเท่ากับ 200 คน ผู้วิจัยจึงกาหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างเป็น
จานวนประชากรท้ังหมด และเพื่อยืนยันผลลัพธ์จากการวิจัย ผู้วิจัยดาเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลเชิง
คุณภาพ (Qualitative data) จากการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสาคัญ (Key informants) คือ ผู้บริหาร
ระดับสูงในบริษัทวิจัยและพัฒนายานยนต์ ซ่ึงเป็นตัวแทนที่เหมาะสมและสอดคล้องที่สุดกับ
วัตถปุ ระสงคข์ องการวิจัยเนอ่ื งจากเป็นผทู้ ่ีประสบความสาเรจ็ ในอาชีพผู้บริหารในระดบั สงู สุดของบริษัท
วิจัยและพัฒนายานยนต์ โดยติดต่อเพ่ือขอความอนุเคราะห์ในการเข้าพบและสัมภาษณ์ผ่านผู้
ประสานงานของแต่ละบริษัท ได้รับการตอบรับกลับมา จานวน 5 คน ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูง
ชาวไทย จานวน 2 คน และผู้บริหารระดับสูงชาวญ่ีป่นุ จานวน 3 คน

สว่ นท่ี 2 เครื่องมอื ทีใ่ ชใ้ นการวจิ ยั

567

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

การวิจัยคร้ังนี้ ใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) ซึ่งพัฒนาขึ้นจากการทบทวนวรรณกรรม
ท้ังในประเทศและต่างประเทศ มีลักษณะเป็นข้อคาถามแบบเลือกตอบและข้อคาถามแบบสอบถาม
ระดับความคิดเหน็ ตรวจสอบคุณภาพของแบบสอบถามดว้ ยดัชนีความสอดคล้องระหว่างวัตถุประสงค์
กับข้อคาถาม (Index of Item Objective Congruence: IOC) ผลการตรวจสอบข้อคาถามทั้งหมดมี
ดชั นี IOC เทา่ กับ 1.000 ซง่ึ มากกว่า 0.500 จงึ ถอื ว่าแบบสอบถามมีความตรงเชงิ เน้ือหาที่ยอมรับได้ (ศิ
ริชัย พงษว์ ิชัย, 2556, น. 141-142) การทดสอบความเช่ือมนั่ (Reliability) ด้วยคา่ สัมประสิทธิ์แอลฟ่า
ของครอนบัค (Cronbach’s Alpha Coefficient) ผลการทดสอบค่าสัมประสิทธ์ิแอลฟ่าของครอนบัคข
องตัวแปรภาวะผู้นาการเปล่ียนแปลงและตัวแปรความสาเร็จในอาชีพเท่ากับ 0.888 และ 0.970
ตามลาดับ ซึ่งมากกว่า 0.700 จึงถือว่าข้อคาถามทั้งหมดมีความเชื่อม่ันที่ยอมรับได้ (Kline, 2011, p.
70) และใช้แบบสัมภาษณ์ (Interview Questionnaire) ซ่ึงพัฒนาข้ึนจากประเด็นสาคัญจากผลลัพธ์
จากการวิจัยเชิงปริมาณให้มีความเหมาะสมกับรูปแบบการสัมภาษณ์แบบเผชิญหน้า (Face-to-Face
Interview) ในรูปแบบของตารางแจกแจงประเด็นเพื่อสอบถามข้อคิดเหน็ และใชก้ ารสอบถามข้อมูลเชิง
ลึกเพอื่ เก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ

สว่ นที่ 3 วธิ กี ารเกบ็ ข้อมลู
ผู้วิจัยขอความอนุเคราะห์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากน้ันนาส่งแบบสอบถามท่ีผ่านการ
ตรวจสอบคุณภาพแล้วให้แก่ผู้ประสานงานโดยนาใส่ซองปิดผนกึ มิดชิดเพื่อนาสง่ ต่อให้แก่กลุ่มตวั อย่างที่
ใช้ในการวิจยั โดยนาส่งแบบสอบถามจานวนทง้ั หมด 200 ชดุ ไดแ้ บบสอบถามทม่ี ีความสมบูรณก์ ลับคืน
มาจานวน 153 ชุด คิดเป็นร้อยละ 76.50 และขอความอนุเคราะห์ในการเข้าพบและสัมภาษณ์ผู้ให้
ขอ้ มูลสาคัญแตล่ ะท่านผ่านผู้ประสานงานของแต่ละบริษัทโดยตรง
ส่วนท่ี 4 การวิเคราะห์ขอ้ มูล
การวจิ ยั ครง้ั นี้มีลาดับและขั้นตอนของการวิเคราะห์ขอ้ มูล แสดงรายละเอยี ดได้ ดังน้ี

1. วิเคราะห์ข้อมูลขั้นต้น ประกอบด้วย การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบ
แบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลระดับความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะผู้นา และการวิเคราะห์ข้อมูลระดับ
ความคดิ เหน็ เกี่ยวกับความสาเร็จในอาชีพ

2. ตรวจสอบคุณภาพของข้อมูล (Data Quality Assessment) ประกอบด้วย
2.1 การตรวจสอบความเช่ือมั่นของข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้จากกลุ่มตัวอย่างท่ีใช้

ในการวจิ ัยด้วยค่าสัมประสิทธ์แิ อลฟ่าของครอนบัค (Cronbach’s Alpha Coefficient) ผลการทดสอบ
ค่าสัมประสิทธ์ิแอลฟ่าของครอนบัคของตัวแปรภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลงและตัวแปรความสาเร็จใน
อาชีพเท่ากับ 0.899 และ 0.718 ตามลาดับ ซึ่งมากกว่า 0.700 จึงถือว่าข้อมูลมีความเช่ือม่ันท่ียอมรับ
ได้ (Kline, 2011, p. 70)

2.2 การตรวจสอบการแจกแจงปกติของข้อมูล (Test of Normality) พจิ ารณา
ด้วยค่าสถิติการกระจายท่ีสมมาตรหรือค่าความโด่งของข้อมูล (Skewness: SK) และค่าความสูงของการ
กระจายหรือค่าความเบ้ของข้อมูล (Kurtosis: KU) ผลการตรวจสอบพบว่ามีค่าสถิติ SK ในช่วง -0.608
ถึง 0.494 และมีค่าสถิติ KU ในช่วง -0.906 ถึง 0.031 ซึ่งอยู่ในช่วง -3.000 ถึง +3.000 จึงสรุปได้ว่า
ข้อมูลมีการแจกแจงแบบปกติ (กริช แรงสูงเนิน, 2554, น. 101) นอกจากน้ีเมื่อพิจารณาค่าเฉล่ีย (Mean)
ค่ามัธยฐาน (Median) และค่าฐานนิยม (Mode) พบว่ามีค่าที่ใกล้เคียงกันแสดงว่าการแจกแจงของข้อมูล
คอ่ นข้างสมมาตร

568

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

3. การตรวจสอบข้อมูลตามเง่ือนไข (Assumptions) ของการวิเคราะห์เส้นทาง ได้แก่ การ
ตรวจสอบความเป็นเอกภาพของการกระจาย (Homoscedasticity) การตรวจสอบความสัมพันธ์เชิง
เส้นตรงของตัวแปร (Linearity) และการตรวจสอบความตรงแบบรวมศูนย์ (Convergent Validity)
(Hair, Black, Babin, Anderson & Tatham, 2006, p. 79-94) ผลการตรวจสอบพบว่าข้อมูลผ่าน
เง่ือนไขของการวิเคราะห์เส้นทางท้ังหมด และการตรวจสอบการแจกแจงปกติหลายตัวแปร
(Multivariate Normal Distribution) พิจารณาด้วยค่าสมบูรณ์ (Absolute Value) ของค่าสถิติการ
กระจายที่สมมาตรหรือค่าความโด่งของข้อมูล (Skewness: SK) และค่าความสูงของการกระจายหรือค่า
ความเบ้ของข้อมูล (Kurtosis: KU) ผลการตรวจสอบพบว่ามีค่าสมบูรณ์ของค่าสถติ ิ SK ในช่วง 0.113 ถึง
1.165 ซ่ึงนอ้ ยกว่า 3.000 และมีคา่ สมบูรณ์ของค่าสถิติ KU ในชว่ ง 0.007 ถึง 1.371 ซง่ึ นอ้ ยกว่า 7.000
จึงสรุปได้วา่ ขอ้ มลู มีการแจกแจงแบบปกตพิ หุตัวแปร (Kline, 2011, p. 76)

สถิตทิ ี่ใชใ้ นการวเิ คราะหข์ ้อมูล
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพ่ือวิเคราะห์อิทธิพลของตัวแปรต้นท่ีส่งผลต่อตัวแปรตาม

จึงใช้การวิเคราะห์สมการโครงสร้าง (Structural Equation Modeling: SEM) ด้วยวิธีการใช้การ
ประมาณค่าพารามิเตอร์ดว้ ยวิธีการใช้ค่าความควรจะเปน็ สงู สุด (Maximum Likelihood: ML) โดยการ
วิเคราะห์เส้นทาง (Path Analysis) ด้วยโปรแกรมสาเร็จรูป IBM SPSS Amos Campus Edition 26.0
(5725-A60) ติดต้ังโดยดาวน์โหลดโปรแกรมทดลองใช้สาหรับนักศึกษา (Free Trial of SPSS Amos
for Student) ด้วย License Agreement รหัส Z125-3301-14 และใชเ้ กณฑพ์ ิจารณาความสอดคล้อง
ของโมเดลกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ดังนี้ ระดับความน่าจะเป็น (Probability Level: p) ≧ 0.05 Chi-
Square/df < 3.000 ดัชนีวัดระดับความสอดคล้องเปรียบเทียบ (Comparative Fit Index: CFI) >
0.900 ดชั นวี ัดระดบั ความเหมาะสมพอดี (Goodness of Fit Index: GFI) > 0.900 ดัชนวี ดั ระดบั ความ
เหมาะสมพอดีปรับแล้ว (Adjusted Goodness of Fit Index: AGFI) > 0.800 - 0.900 ดัชนีวัดความ
สอดคลอ้ งสมั พนั ธ์ (Normed Fit Index: NFI) > 0.900 ดชั นีวดั ความกลมกลนื (Tucker-Lewis Index:
TLI) > 0.900 ค่ารากของค่าเฉล่ียกาลงั สองของส่วนท่ีเหลือของการประมาณค่า (Root Mean Square
Error Approximation: RMSEA) < 0.08 และดัชนีที่วัดค่าเฉล่ียส่วนที่เหลือจากการเปรียบเทียบขนาด
ของความแปรปรวนและความแปรปรวนร่วมระหว่างตัวแปรของประชากร (Root Mean Square
Residual: RMR) < 0. 05 (Kline, 2011, p. 201-204, Byrne, 2009, p. 79-86, Doll, Xia &
Torkzadeh, 1994, p. 453-461)

ผลการวิจยั
การวิจัยคร้ังน้ี นาเสนอผลการวจิ ัยโดยแบ่งเป็น 4 สว่ น ดังน้ี
ส่วนที่ 1 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล
1. ผลการวเิ คราะหข์ อ้ มูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม
กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 63.40 มีอายุ

เฉลยี่ 36.84 ปี ส่วนใหญม่ ีสถานภาพสมรสคือสมรส คดิ เปน็ รอ้ ยละ 57.52 และมหี นว่ ยงานทร่ี ับผิดชอบ
คือวิศวกร จัดซื้อ การตลาด และการจัดการทรัพยากรมนุษย์ คิดเป็นร้อยละ 50.98, 37.91, 6.54 และ
4.57 ตามลาดบั

2. ผลการวิเคราะห์ระดับความคิดเห็นเกยี่ วกับภาวะผู้นา

569

การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

กลุ่มตัวอย่างท่ีตอบแบบสอบถามมีระดับความคิดเห็นเก่ียวกับภาวะผู้นาการ
เปล่ียนแปลงอยู่ในระดับมากท่สี ุด มีคา่ เฉล่ยี เทา่ กับ 4.37 (S.D. = 0.461)

3. ผลการวิเคราะหร์ ะดับความคิดเห็นเก่ยี วกับความสาเร็จในอาชพี
กลุม่ ตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถามมีระดับความคิดเห็นเก่ียวกับความสาเร็จในอาชีพอยู่

ในระดบั มากทีส่ ุด มคี า่ เฉลีย่ เท่ากับ 4.40 (S.D. = 0.420)
ส่วนที่ 2 ผลการวิเคราะห์ความสัมพนั ธ์ระหว่างตัวแปร
ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรด้วยการวิเคราะห์สหสัมพันธ์ของเพียร์สัน (Pearson’s

Correlation) แสดงผลลพั ธ์ได้ดัง ตารางที่ 1

ตารางท่ี 1 ผลการทดสอบค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันระหว่างภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลง

และความสาเร็จในอาชีพ

ตวั แปร ความสาเร็จในอาชีพ
PCD1 PCD2 PCD3 PCD4 PCS1 PCS2 PCS3

TRF1 .098 .345** .167* .124* .150* .085 .132*

TRF2 .248** .443** .298** .241** .282** .251** .178*

TRF3 .194* .241** .293** .207** .247** .205** .163*

ภาวะผูน้ าการ TRF4 .218** .317** .293** .199* .231** .210** .185*

เปลีย่ นแปลง TRF5 .245** .336** .266** .220** .207** .211** .139*

TRF6 .272** .387** .276** .272** .223** .230** .199*

TRF7 .214** .416** .407** .211** .382** .211** .305**

TRF8 .162* .046 .146* .095 .085 .087 .147*

* มีนัยสาคญั ทางสถติ ทิ ่ีระดับ 0.50, ** มนี ัยสาคญั ทางสถติ ิที่ระดับ 0.10

จากตารางท่ี 1 ภาวะผู้นาการเปล่ียนแปลง (Transformational Leadership: TRF)

ประกอบด้วยตัวแปรสังเกตได้ จานวน 8 ตัวแปร แทนด้วย TRF1, TRF2, TRF3, TRF4, TRF5, TRF6,
TRF7 และ TRF8 ส่วนใหญ่มีความสัมพันธ์ในทิศทางบวกกับความสาเร็จในอาชีพอย่างมีนัยสาคัญทาง
สถิติทรี่ ะดับ 0.01 โดยมคี า่ ความสมั พนั ธ์ระหว่างตวั แปรตง้ั แต่ 0.046 ถึง 0.443 (0.046 ≦ r ≦ 0.443)

ส่วนที่ 3 ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยนื ยัน
1. ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน (Confirmatory Factor Analysis: CFA) ของตัว

แปรแฝงภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลง (Transformational Leadership) พบว่าค่าน้าหนักองค์ประกอบ
(Factor Loading) มีค่าต้ังแต่ 0.62 ถึง 0.99 ซ่ึงมากกว่า 0.50 จึงถือว่ามีความเหมาะสมสาหรับการ
วิเคราะห์เส้นทาง (Hair et al., 2006, p. 580) และผลการตรวจสอบความสอดคล้องกับข้อมูลเชิง
ประจกั ษ์ของโมเดล แสดงรายละเอียดดังน้ี 2 = 31.299 df = 13 CMIN/df = 2.408 p = 0.003 GFI
= 0.955 AGFI = 0.874 CFI = 0.978 RMR = 0.018 RMSEA = 0.076 TLI = 0.920 NFI = 0.963

จึงสามารถสรุปได้ว่ามีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ (Kline, 2011, p.
201-204, Byrne, 2009, p. 79-86, Doll et al., 1994, p. 453-461)

2. ผลการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยนั (Confirmatory Factor Analysis: CFA) ของตัว

แปรแฝงความสาเร็จในอาชีพ (Career Success) พบว่าค่าน้าหนักองค์ประกอบ (Factor Loading)

570

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

ของความก้าวหน้าในอาชีพที่รับรู้ (PCD) เท่ากับ 0.97 และความสาเร็จในอาชีพท่ีรับรู้ (PCS) เท่ากับ
0.82 ซ่ึงท้ังหมดมากกว่า 0.50 จึงถือว่ามีความเหมาะสมสาหรับการวิเคราะห์เส้นทาง (Hair et al.,
2006, p. 580) ผลการตรวจสอบความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ของโมเดล แสดงรายละเอียด
ดังนี้ 2 = 27.260 df = 10 CMIN/df = 2.726 p = 0.002 GFI = 0.953 AGFI = 0.944 CFI = 0.977
RMR = 0.021 RMSEA = 0.070 TLI = 0.950 NFI = 0.965 จงึ สามารถสรุปไดว้ ่ามีความสอดคล้องกับ
ข้อมลู เชิงประจกั ษ์ในเกณฑ์ท่ียอมรับได้ (Kline, 2011, p. 201-204, Byrne, 2009, p. 79-86)

สว่ นที่ 4 ผลการทดสอบสมมติฐาน
วเิ คราะหอ์ ิทธพิ ลด้วยการวิเคราะห์เส้นทาง (Path Analysis) แสดงผลลพั ธ์ไดด้ ัง ตารางที่ 2

ตารางท่ี 2 ผลการวิเคราะหเ์ ส้นทางอิทธพิ ลภาวะผู้นาการเปล่ียนแปลงส่งต่อความสาเร็จในอาชีพ

Variable Loading S.E. c.r. P

ความสาเร็จในอาชีพ (CASU) <--- 0.345 0.098 4.276 ***
ภาวะผ้นู าการเปล่ยี นแปลง (TRF)

*** มีนยั สาคัญทางสถิตทิ รี่ ะดับ 0.01

จากตารางท่ี 2 ภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลง (Transformational Leadership: TRF)
มีอทิ ธพิ ลต่อความสาเร็จในอาชีพ (Career Success: CASU) ท่ีคา่ นา้ หนักอิทธพิ ลเทา่ กับ 0.345 อย่างมี
นัยสาคญั ทางสถิติท่ีระดับ 0.01 แสดงรายละเอยี ดดงั ภาพที่ 3

0.87

e1 TRF1

e2 0.94 0.93
TRF2

0.62 0.97
e3 TRF3
1.00 0.90 r 1.00
0.12 0.97 PCD
e4 TRF4 0.99 0.345 CASU 0.82 0.68 e9
0.60 0.91 TRF
PCS e10
e5 TRF5 0.80
0.64
e6 TRF6 0.62

0.35 0.86

e7 TRF7

0.71

e8 TRF8

2 = 81.103, df = 28, p = 0, CFI = 0.950, AGFI = 0.908, RMSEA = 0.062, RMR = 0.023
ภาพที่ 3 โมเดลวิเคราะห์เส้นทางอิทธพิ ลของภาวะผูน้ าการเปล่ียนแปลงสง่ ผลต่อความสาเร็จในอาชพี

571

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

จากภาพท่ี 3 ภาวะผูน้ าการเปล่ียนแปลง (Transformational Leadership: TRF) มอี ิทธิพล
ทางตรงต่อความสาเร็จในอาชีพ (Career Success: CASU) ค่าน้าหนักอิทธิพลเท่ากับ 0.345 สามารถ
อธิบายความสัมพันธ์ได้ร้อยละ 12 ผลการตรวจสอบความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ของโมเดล
แสดงรายละเอียดดังนี้ 2 = 81.103 df = 28 CMIN/df = 2.897 p = 0.000 GFI = 0.902 AGFI =
0.908 CFI = 0.950 RMR = 0.023 RMSEA = 0.062 TLI = 0.920 NFI = 0.927 จงึ สามารถสรุปได้ว่า
มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ (Kline, 2011, p. 201-204, Byrne,
2009, p. 79-86)

ส่วนที่ 5 สรปุ ผลการสมั ภาษณ์ผู้ใหข้ ้อมูลสาคญั
ผลลัพธ์จากการสัมภาษณ์ยืนยันว่าภาวะผู้นาคือปัจจัยเชิงสาเหตุท่ีส่งผลและส่งเสริม
ความสาเรจ็ ในอาชพี ผู้บริหารของบุคลากรในบรษิ ัทวจิ ัยและพัฒนายานยนต์ ซึ่งผู้ใหข้ อ้ มลู สาคญั ทุกท่าน
เห็นด้วยกับผลลัพธ์จากการวิจัยคร้ังน้ี ว่าผู้บริหารต้องสามารถบริหารจัดการการเปล่ียนแปลงภายใน
องค์กรไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพด้วยการนาที่สร้างอิทธิพลต่อสมาชิกในองค์กรได้อย่างมีอุดมการณ์ สร้าง
แรงบันดาลใจรวมถึงขวัญและกาลังใจ สร้างความท้าทายด้วยการกระตุ้นการใช้ปัญญาบนพื้นฐานของ
การคานึงถึงความเป็นปัจเจกบุคคลของสมาชิกในองค์กร เพื่อให้เกิดการเปล่ียนแปลงด้านทัศนคติและ
ค่านิยมทาให้เกิดคุณค่าและความรู้สึกร่วมในการขับเคล่ือนให้องค์กรประสบความสาเร็จและบรรลุ
เป้าหมายร่วมกัน ซึ่งตรงกับภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลง เนื่องด้วยวิสัยทัศน์เชิงนโยบายท่ีต้องการ
บุคลากรระดับผู้บริหารท่ีมีศกั ยภาพในการบริหารการจัดการองค์กรได้ท้งั ในบทบาทของผู้บริหารและใน
บทบาทของผู้นา องคก์ รจงึ ให้ความสาคัญในการพิจารณาถงึ ความเหมาะสมของความเป็นผนู้ าอันส่งผล
ตอ่ การเปน็ ผู้บรหิ ารในฐานะผนู้ าท่มี ีประสิทธภิ าพ ดงั น้ันภาวะผนู้ าของผู้ท่ีจะก้าวขึน้ มาเป็นผู้บริหารของ
องค์กรในอนาคตจึงเป็นส่ิงสาคัญท่ีจะต้องเสริมสร้างให้มีคุณลักษะที่เหมาะสมและสอดคล้องกับ
วิสัยทัศน์และกระบวนการขององค์กรโดยเฉพาะการรับและผลักดันนโยบายจากบริษัทแม่รวมถึง
ถ่ายทอดวิสยั ทัศน์ให้แก่สมาชกิ ทุกคนภายในองค์กรเพ่อื การบรรลุเป้าหมายท่ีตรงกัน

สรปุ ผลการวิจยั และอภิปรายผล
ผลลัพธ์จากการทดสอบสมมติฐานด้วยการวิเคราะห์อิทธิพลภาวะผู้นาส่งผลต่อความสาเร็จ

ในอาชพี พบว่าภาวะผนู้ าการเปลี่ยนแปลงมีความสมั พันธ์ในทิศทางบวกและมีอิทธิพลตอ่ ความสาเร็จใน
อาชีพอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ สอดคล้องกับ Rout et al. (2019, p. 8317-8318) ท่ีศึกษาเก่ียวกับ
อทิ ธพิ ลของภาวะผนู้ าการเปล่ยี นแปลงต่อประสิทธิภาพของผูน้ า R&D (Impact of Transformational
Leadership on R&D Leader Performance) พบวา่ ภาวะผ้นู าการเปลี่ยนแปลงส่งผลอย่างมีนัยสาคัญ
กับผู้นาของกระบวนการวิจัยและพัฒนา Obara (2016, p. 41-59) ท่ีศึกษาเกี่ยวกับภาวะผู้นาของ
ผ้บู ริหารในแผนกวิจัยและพัฒนาของบริษัทยาในประเทศญปี่ ุ่น (Executive Leadership for the R&D
Department of Blockbuster of Japanese Pharmaceutical Company) พบว่าภาวะผู้นาการ
เปล่ียนแปลงมีความสัมพันธ์เชิงบวกกับผู้นาในกระบวนการวิจัยและพัฒนา Ishikawa and Xu (2015,
p. 61-73) ท่ีศึกษาเกี่ยวกับภาวะผู้นาในกระบวนการวิจัยและพัฒนา (Leadership in Research and
Development Process) พบว่าภาวะผู้น าการเปล่ียนแปลงมีอิ ทธิพลเชิงบวกต่อผู้น าใน
กระบวนการวิจัยและพัฒนา Paulsen et al. (2012, p. 595-610) ที่ศึกษาเก่ียวกับภาวะผู้นาการ
เปลี่ยนแปลงและนวัตกรรมในองค์กรวิจัยและพัฒนาท่ีกาลังประสบกับการเปล่ียนแปลงคร้ังใหญ่
(Transformational Leadership and Innovation in an R&D Organization Experiencing Major

572

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

Change) พบว่าภาวะผู้นาการเปล่ียนแปลงมีความสัมพันธ์เชิงบวกในระดับมากกับองค์กรวิจัยและ
พัฒนา Elkins and Keller (2003, p. 587-606) ที่ศึกษาเกี่ยวกับภาวะผู้นาในองค์กรวิจัยและพัฒนา
(Leadership in Research and Development Organizations) พบว่าภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลงมี
อิทธิพลเชิงบวกกับประสิทธิภาพและประสิทธิผลในกระบวนการวิจัยและพัฒนา และพงษ์สันติ์ บุญ
สวรรค์ (2558, น. 45-46) ท่ีศึกษาเกี่ยวกับภาวะผู้นาของผู้บริหารท่ีมีผลต่อความสาเร็จของบริษัท
ปตท. จากัด (มหาชน) พบว่าภาวะผ้นู าการเปล่ียนแปลงมีอิทธิพลต่อระดับความสาเร็จของบรษิ ัท ปตท.
จากัด (มหาชน) ในระดับมากที่สุด กอปรกัปผลลัพธ์จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงในบริษัทวิจัย
และพัฒนายานยนต์ช้ีให้เห็นว่าองค์กรต้องการให้บุคลากรท่ีสามารถขับเคลื่อนกิจกรรมต่าง ๆ ภายใน
องค์กรได้ท้ังในฐานะผู้บริหารหรือผู้นาขององค์กร ซึ่งต้องเป็นผู้ที่รับและผลักดันนโยบาย รวมถึง
ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ให้แก่สมาชิกทุกคนในองค์กรเพ่ือการบรรลุเป้าหมายท่ีตรงกัน ซ่ึงตรงกับภาวะผู้นา
การเปลี่ยนแปลงตามทฤษฎีภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลงของ Bass and Avolio (1990) ดังน้ันจึง
สามารถสรุปได้ว่า ความสาเร็จในอาชีพ (Executive Career Success) ของผู้บริหารระดับกลางชาว
ไทยในบริษัทวิจัยและพัฒนายานยนต์มีภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลงเป็นปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลอย่างมี
นัยสาคัญทางสถิติ สอดคล้องกับ Al-Ghazali (2020, p. 993-1013) ที่ศึกษาเรื่องภาวะผู้นาการ
เปลี่ยนแปลง ความสามารถในการปรบั ตัวด้านอาชีพ การยึดติดในอาชีพ และความสาเร็จในอาชพี ที่รับรู้
ด้วยแบบจาลอง Serial Mediation (Transformational Leadership, Career Adaptability, Job
Embeddedness, and Perceived Career Success: A Serial Mediation Model) พบวา่ ภาวะผู้นา
การเปลีย่ นแปลงมีความสัมพันธ์เชงิ บวกอยา่ งมนี ยั สาคญั กับความสาเร็จในอาชพี ทีร่ ับรู้

ข้อเสนอแนะ
1. ขอ้ เสนอแนะด้านนโยบายสาหรับองค์กร
องค์กรควรมีวิสัยทัศน์และกาหนดนโยบายเพื่อปลูกฝังและกระตุ้นภาวะผู้นาของบุคลากร

ภายในองค์กร โดยมุ่งเน้นการเสริมสร้างพฤติกรรมและภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้สอดรับกับ
การเปน็ ผบู้ ริหารและผ้นู าที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพในอนาคต ด้วยการเสริมสร้างและเตรียมความ
พร้อมโดยการจัดการฝึกอบรมและการจัดกิจกรรมที่เสริมสร้างการตระหนักรู้ถึงผลลัพธ์ที่จะเกิดข้ึนจาก
พฤตกิ รรมและการนาท่เี หมาะสมของผู้บริหารในฐานะผนู้ าขององค์กร

2. ขอ้ เสนอแนะสาหรับงานวิจัยในอนาคต
2.1 การวิจัยครั้งนี้ เจาะจงศึกษาเฉพาะกลุ่มผู้บริหารระดับกลางชาวไทย ดังน้ัน จึงควร

ศึกษาเพิ่มเติมโดยใช้กรอบแนวคิดในการวิจัยนี้กับประชากรเป้าหมาย (Target Population) อื่น ๆ
เพื่อขยายผลดา้ นวชิ าการใหก้ วา้ งขน้ึ

2.2 การวิจัยคร้ังนี้ เจาะจงศึกษาเฉพาะกลุ่มบริษัทวิจัยและพัฒนายานยนต์ในประเทศ
ไทย ดงั น้นั จงึ ควรศกึ ษาเพ่ิมเติมโดยใช้กรอบแนวคิดในการวิจัยนกี้ บั ประเภทธุรกิจหรอื อุตสาหกรรมอื่น
เพอ่ื ขยายผลด้านวิชาการใหก้ ว้างขึ้น ซ่งึ ในแตล่ ะประเภทธุรกิจหรืออุตสาหกรรมอาจมีความแตกต่างกัน
ในด้านภาวะผู้นาที่เหมาะสมและมีความจาเป็นหรือเป็นท่ีต้องการ ดังนั้น จึงควรศึกษาเพ่ิมเติมด้วย
ภาวะผนู้ ารปู แบบอนื่ เพ่ือนามาปรับใช้ให้เหมาะสมกบั ประชากรเป้าหมายที่ต้องการศกึ ษา

573

การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

เอกสารอ้างอิง
กริช แรงสงู เนิน. (2554). การวิเคราะห์ปจั จัยด้วย SPSS และ AMOS เพอื่ การวิจัย. กรงุ เทพฯ:

สานักพมิ พซ์ ีเอ็ดยูเคช่นั .
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งประเทศไทย. (2563). อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยและทิศทางสู่ความ

ยงั่ ยืน การวิจัยและพฒั นารากฐานสู่ควาสาเร็จ. สืบคน้ จาก
https://www.aic.or.th/about-us/ประวัตอิ ุตสาหกรรมยานยนตไ์ ทย/ทิศทางสู่ความ
ย่งั ยนื /การวิจยั และพัฒนา-รากฐานสู่ความสาเรจ็
พงษส์ นั ต์ิ บญุ สรรค์. (2558). ภาวะผนู้ าของผู้บริหารทีม่ ผี ลต่อความสาเรจ็ ของบริษทั ปตท.
จากดั (มหาชน). วารสารวชิ าการวิทยาลยั นครราชสมี า, 9(2), 39-49.
ศริ ิชัย พงษว์ ิชัย. (2556). การวเิ คราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยคอมพิวเตอร์ (พมิ พ์ครงั้ ท่ี 24). กรุงเทพฯ:
สานกั พิมพ์แหง่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั .
สถาบันยานยนต์แห่งประเทศไทย. กระทรวงอุตสาหกรรม. (2552). การดาเนินงานวิจัยและ
พฒั นาของอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทย. สืบค้นจาก
https://www.thaiauto.or.th/2012/th/aboutus/download/annual_report_2009.pdf
สานักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมแห่งชาติ. (2561). ผลการ
สารวจการลงทนุ ด้านการวิจัยและพัฒนาของภาคเอกชนรอบปสี ารวจปีพุทธศักราช
2561. สืบค้นจาก http://stiic.sti.or.th/news
หอการค้าญปี่ ุ่น-กรงุ เทพฯ. (2562). ผลการสารวจบรษิ ทั ญีป่ นุ่ ในไทย อันดบั ปัญหาดา้ นการบรหิ าร
องค์กร. สืบคน้ จาก https://today.line.me/th/v2/article+ปญั หา+บริษัทญีป่ ่นุ +ในไทย-
E1p1o2
Ahmad, Z. A., & Yekta, Z. A. (2010). Relationship Between Perceived Organizational
Support, Leadership Behavior, and Job Satisfaction: An Empirical Study in Iran.
Intangible Capital, 6(2), 162-184.
Al-Ghazali, B. M. (2020). Transformational Leadership, Career Adaptability, Job
Embeddedness, and Perceived Career Success: A Serial Mediation Model.
Leadership and Organization Development Journal, 41(8), 993-1013.
Bass, B. (1985). Leadership and Performance Beyond Expectations. New York:
The Free Press.
Bass, B. & Avolio, B. J. (1990). The Implication of Transactional and Transformational
Leadership for Individual, Team, and Organizational Development. Research
In Organizational Change and Development, 4, 231-272.
Byrne, B. M. (2009). Structural Equation Modeling with AMOS: Basic Concepts,
Applications, and Programming. Lawrence: Erlbaum Associates Publishers.
Cohen, W. A. (1990). The Art of the Leader. Englewood Cliffs, N.J.: Prentice Hall.
Doll, W. J., Xia, W., & Torkzadeh, G. (1994). A Confirmatory Factor Analysis of the
End-User Computing Satisfaction Instrument. MIS: Quaterly.
Elkins, T., & Keller, R. T. (2003). Leadership in Research and Development Organizations.
The Leadership Quarterly, 14(4), 587-606.

574


Click to View FlipBook Version