The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by neverstop.learning09, 2021-06-25 03:42:48

รายงานสืบเนื่องจากการประชุมระดับชาติ RTBEC 2021

Proceedings of The 6th RMUTT Global Business and
Economics National Conference 2021

Keywords: RTBEC

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

ยุทธศกั ด์ิ สภุ กร ผ้วู า่ การการทอ่ งเทย่ี วแหง่ ประเทศไทย. (2563). ททท. แถลงทิศทางการตลาด ปี
2563 เนือ่ งในโอกาส ครบ 60 ปี ก่อตั้งหน่วยงาน วางเป้าหมายชัดเจน รกั ษาตาแหน่ง
1 ใน 6 ของโลก เป็นประเทศทีส่ รา้ งรายไดห้ ลกั จากการท่องเทย่ี ว. สบื คน้ จาก
https://smartnews.online/?p=2157

วริษฐา แซเ่ จีย. (2562). ใครวา่ เทยี่ วคนเดียวเปล่ยี วใจ? ผลสารวจพบผู้หญิงทอ่ งโลกคนเดียว
เพิ่มขนึ้ ถึงรอ้ ยละ 52. สืบค้นจาก https://thestandard.co/solo-travel-statistics-
data/

วริ ญั ชนา ใจสม. (2560). การศึกษาปจั จยั การรบั รู้สอ่ื สังคมออนไลน์ท่ีส่งผลตอ่ การตดั สนิ ใจเดนิ ทาง
ท่องเทีย่ วของนกั ทอ่ งเทีย่ วชาวไทย. (การค้นคว้าอสิ ระปรญิ ญามหาบณั ฑิต, มหาวทิ ยาลัย
กรงุ เทพ)..

ศริ ิวรรณ เสรีรัตน. (2542). องค์การและการจัดการ ฉบบั สมบรู ณ.์ กรุงเทพฯ : Dimond Business
World.

สมชาย ชมภูนอ้ ย. (2561). ททท. เปดิ แคมเปญ “ผู้หญงิ ท่องเที่ยว ... วถิ ไี ทย”. สืบคน้ จาก
https://www.bangkokbiznews.com/pr/detail/35782

สานกั ทะเบียนกลาง. (2562). ประกาศสานกั ทะเบยี นกลาง. สืบคน้ จาก
http://www.mratchakitcha.soc.go.th/

Atkin, Charles K. (1973). New Model for Mass Communication Research. New York:
The Free Press.

GrowthBee. (2015). สรปุ ทุกอยา่ งของ Content Marketing ท่ีคณุ ตอ้ งอ่าน !! มนั คอื อะไร ทาไม
ต้องใช้ และตัวอยา่ งการทาแบบละเอียด. สบื ค้นจาก
https://www.growthbee.com/what-is-content-marketing/

Klapper, J. T. (1960). Effects of mass communication. New York: Free Press.
Marketeeronline, (2562). เทรนดฮ์ ติ “ท่องเที่ยวคนเดยี ว” มาแรง. สบื คน้ จาก

https://marketeeronline.co/archives/133521
McCombs, M. E., & Becker, L. B. (1979). Using Mass Communication Theory,

Englewood cliffs : N.J. Prentice Hall.
Patchanie Paugsopathai.(2014). 5 แนวทางการทา Content Marketing ทเี่ ป็นประโยชน์ ต่อ

ลูกค้า แชร์ง่าย ไดป้ ระโยชนจ์ ริง. สบื ค้นจาก
https://blog.readyplanet.com/14827260/content-marketing-5-easy-ways-to-
do-helpful-content-marketing
Schiffman, L.G., & Kanuk, L.L. (1994). Consumer behavior (5th ed.). New Jersey:
Prentice – Hall.
Schiffman, L.G., & Kanuk, L.L. (2007). Consumer behavior (9th ed.). New Jersey:
Prentice – Hall.
Schmoll, G. A. (1977). Tourism Promotion. London: Tourism International.
Tung-Wei Lee. (2004). International students' travel decision making process.
Rochester Institute of Technology, School of Tourism Management

75

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

Wenger, A. (2008). Analysis of travel bloggers' characteristics and their
communication about Austria as a tourism destination. Journal of
Vacation Marketing, 14(2), 169-176.

.

76

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

สมรรถนะหลกั ในการปฏิบตั ิงานทส่ี ่งผลตอ่ ประสิทธภิ าพการปฏิบตั งิ าน
ของพนักงานบรษิ ัท ไฮ-แครไ์ ทยกลัฟส์ จากัด

เจริญศรี เทพไชย1
นกั ศึกษาหลักสตู รบริหารธรุ กิจมหาบณั ฑติ คณะบรหิ ารธุรกิจ

มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง

สมพล ทงุ่ หวา้
อาจารยป์ ระจาสาขาวชิ าบริหารธรุ กิจ คณะบรหิ ารธุรกจิ

มหาวิทยาลยั รามคาแหง

บทคดั ยอ่
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับสมรรถนะหลักในการปฏิบัติงานของพนักงาน
บริษทั ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ จากัด 2) ศึกษาระดับประสิทธภิ าพการปฏบิ ัติงานของพนกั งานบรษิ ัท ไฮ-แคร์
ไทยกลัฟส์ จากดั 3) เปรียบเทียบระดับประสิทธิภาพการปฏิบัตงิ าน ตามตัวแปรปัจจัยส่วนบุคคล และ
4) ศึกษาสมรรถนะหลกั ในการปฏิบตั ิงานท่ีสง่ ผลต่อประสิทธิภาพการปฏบิ ัติงานของพนักงานบรษิ ัท ไฮ-
แคร์ไทยกลัฟส์ จากัด กลุ่มตัวอย่างเป็นพนักงานบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ จากัด จานวน 92 ตัวอย่าง
สถิติท่ีใช้คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทาการทดสอบสมมติฐานโดยการ
เปรยี บเทียบค่าเฉล่ียแบบอิสระ วิเคราะห์ความแปรปรวน และวเิ คราะห์การถดถอยพหคุ ูณ ผลการวิจัย
พบวา่ กลมุ่ ตัวอย่างมีระดบั สมรรถนะหลักในการปฏิบตั งิ านโดยรวมในระดับมากท่สี ุด เมือ่ พิจารณาเป็น
รายด้าน พบวา่ ดา้ นการสงั่ สมความเชี่ยวชาญในงานมีค่าเฉล่ียสูงสุด รองมาคือ ด้านการยึดม่ันในความ
ถูกต้องชอบธรรมและจริยธรรม ด้านบริการท่ีดี ด้านการมุ่งผลสัมฤทธ์ิ และด้านการทางานเป็นทีม มี
ระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานโดยรวมในระดับมากท่ีสุด เม่ือพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านเวลามี
ค่าเฉล่ียสูงสุด รองมาคือ คุณภาพของงาน ปริมาณงาน และค่าใช้จ่าย กลุ่มตัวอย่างมีการศึกษา
เงินเดือน และตาแหน่งงานต่างกัน มีระดับประสิทธิภาพการปฏบิ ัตงิ านรวมต่างกนั อย่างมีนัยสาคัญทาง
สถิติที่ระดับ .01 โดยสมรรถนะหลักด้านการทางานเป็นทีม และด้านการยึดมั่นในความถูกต้องชอบ
ธรรมและจริยธรรมส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบตั ิงาน อย่างมนี ัยสาคญั ทางสถิติที่ระดับ .05

คาสาคญั : สมรรถนะหลัก ประสทิ ธภิ าพ การปฏิบัติงาน

1 นกั ศกึ ษาหลกั สูตรบรหิ ารธุรกิจมหาบณั ฑิต สาขาวชิ าบรหิ ารธรุ กจิ มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง สาขาวิทยบริการ-
เฉลมิ พระเกียรติ จงั หวัดสงขลา หมู่ท่ี 6 ถ.ควนจนี ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110
หมายเลขติดต่อ 094-806-2482 อเี มล: [email protected]

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

CORE COMPETENCY AT WORK AFFECTING WORK EFFICACY
OF EMPLOYEES AT HI-CARE THAI GLOVES COMPANY LIMITED

Chalearnsee Thepchai1
Graduate Student, Master of Business Administration, Faculty of Business Administration

Ramkhamhaeng University

Sompol Thungwa
Lecturer at Department of Business Administration, Faculty of Business Administration

Ramkhamhaeng University

Abstract
This research aimed to 1) study the core competency at work of the
employees at Hi-Care Thai Gloves Company Limited; 2) understand the work efficacy
of the employees; 3) compare the level of the work efficacy according to the personal
factors; and 4) explore the core competency affecting work efficacy of the employees
at the company. The samples were 92 employees of Hi-Care Thai Gloves Company
Limited. The statistics used were frequency, percentage, mean, and standard deviation.
Independent average comparisons, variance analysis (One-Way ANOVA), and multiple
regression analysis were used for hypothesis testing. The results showed that the
samples had the highest level of core competency on overall performance. When
considering each aspect, it was found that being proficiency in the job had the highest
level of competency followed by the adherence to righteousness and ethics. Good
service, achievement, and teamwork had the highest level of work efficiency on overall
performance. When considering each aspect, time had the highest mean value
followed by the quality of work, workload, and expenses. Samples with different levels
of education, salaries, and positions had different levels of work efficacy at .01 level
of significance, while teamwork and the adherence to righteousness and ethics affected
work efficacy at the .05 level of significance.

Keywords: Core Competency, Efficiency, Performance

1 Corresponding Author: Graduate Student, Master of Business Administration,
Ramkhamhaeng University, Songkhla Campus in Honour Majesty The King
Contact Number: +6694-806-2482 Email: [email protected]

78

การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

บทนา
การที่องค์กรจะบรรลุเป้าหมายที่ต้ังไว้ได้สาเร็จนั้น จะต้องอาศัยบุคลากรที่มีสมรรถนะท่ี

เหมาะสมกับวิสัยทัศน์ พนั ธกจิ และเปา้ หมายขององค์กรอย่างแท้จรงิ คือ บคุ ลากรจะต้องมีความรู้ มี
ทกั ษะการปฏิบตั งิ าน และคุณลกั ษณะที่จาเป็นตอ่ การปฏิบัติงาน นอกจากนี้การทางานเปน็ ทีมไดอ้ ยา่ ง
มีประสิทธิภาพก็มีความสาคญั เป็นอย่างย่งิ เพราะทรัพยากรมนุษย์ คือ ปจั จยั ท่สี าคญั ของการแข่งขัน
ทางธุรกิจ หากองค์กรใดมีทรัพยากรอื่นๆ เหมอื นกัน แตม่ ีบุคลากรผปู้ ฏิบตั งิ านและผู้บริหารทีม่ ีความ
แตกต่างกันแล้ว ผลการดาเนินงานก็ย่อมจะแตกต่างกันด้วย การท่ีบุคลากรผู้ปฏิบัติงานมีคุณภาพที่
แตกต่างกัน ส่วนหน่ึงก็มีสาเหตุมาจากการจัดการทรัพยากรบุคคลที่แตกต่างกัน (ชูชัย สมิทธิไกร,
2556)

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคต่างๆ โดยเฉพาะ COVID-19 ทาให้ความต้องการ
ถงุ มือ และถงุ มอื ทางการแพทยน์ ั้นมีเปน็ จานวนมากจากข้อมูลของศูนยว์ ิจัยกสิกรไทย พบวา่ ไทยเป็น
ประเทศอนั ดบั 2 ของโลก ท่ีมศี กั ยภาพในการผลติ ถุงมือยางเพื่อสง่ ออก โดยในชว่ ง 10 เดอื นแรกของ
ปี 2563 มลู ค่าการสง่ ออกถุงมือยางของไทยสูงถงึ 1,725.1 ลา้ นดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตวั กวา่ ร้อยละ
72 เมื่อเทยี บกบั ชว่ งเดียวกนั ของปีก่อนหน้า แบง่ เป็นถุงมอื ที่ใช้ทางศัลยกรรมสัดส่วนร้อยละ 15 ของ
มูลค่าส่งออกท้ังหมด และถุงมืออื่นๆ (รวมถึงถุงมือตรวจโรคท่ัวไป) สัดส่วนร้อยละ 85 ของมูลค่า
ส่งออกทั้งหมด โดยมีสาเหตุสาคัญมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา
ส่งผลให้ความต้องการถุงมือท่ีใช้ในทางการแพทย์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างมาก (ศูนย์วิจัยกสิกรไทย,
2563) ซึง่ เห็นได้อยา่ งชดั เจนวา่ หากผผู้ ลติ หรือผู้ประกอบการท่ดี าเนนิ ธรุ กิจดา้ นการผลติ ถงุ มือสามารถ
เพิม่ ประสิทธิภาพการดาเนินงานของตนเองได้จะทาใหส้ ามารถตอบสนองตลาดไดอ้ ยา่ งดี

ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะศึกษาเรื่อง สมรรถนะหลักในการปฏิบัติงานท่ีส่งผลต่อ
ประสทิ ธิภาพการปฏบิ ตั งิ าน ของพนักงานบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ จากัด ซ่งึ เป็นองค์กรท่ีทาการผลิต
และจาหนา่ ยสินคา้ จากยางทุกชนิด เช่น ถงุ มือยาง และถงุ มอื ทางการแพทย์ (dataforthai, 2556) ซ่ึง
เป็นสินค้าที่กาลังเป็นที่ต้องการของตลาดในปัจจุบันอย่างสูงเพื่อทาให้ทราบถึงสมรรถนะหลักในการ
ปฏิบตั ิงานและนาไปเปน็ แนวทางในการพัฒนาประสทิ ธิภาพการปฏิบัติงานเพ่ือทาให้ธรุ กจิ เจริญเติบโต
อย่างตอ่ เนอ่ื ง

วัตถปุ ระสงค์
1. เพ่ือศึกษาระดับสมรรถนะหลักในการปฏิบัติงานของพนักงานบรษิ ทั ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์

จากัด
2. เพ่ือศึกษาระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์

จากดั
3. เพื่อเปรียบเทียบระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ตามตัวแปรปัจจัยส่วนบุคคลของ

พนกั งานบริษทั ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ จากดั
4. เพ่ือศึกษาสมรรถนะหลักในการปฏิบัติงานที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของ

พนักงานบริษัท ไฮ-แครไ์ ทยกลัฟส์ จากดั

79

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

สมมติฐานของการวิจยั
1. ปัจจัยส่วนบุคคลของพนักงานบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ จากัด ซึ่งได้แก่ เพศ อายุ

สถานภาพ ระดับการศึกษา ระดับเงินเดือน ตาแหน่งงาน และประสบการณ์การทางานที่ต่างกัน มี
ระดับประสิทธภิ าพการปฏบิ ัติงานของพนักงานบริษัท ไฮ-แครไ์ ทยกลฟั ส์ จากัด ตา่ งกัน

2. สมรรถนะหลักในการปฏิบัตงิ าน ดา้ นการมุ่งผลสมั ฤทธิ์ ด้านการบรกิ ารท่ีดี ด้านการสั่ง
สมความเชี่ยวชาญในงาน ด้านการยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรมและจริยธรรม และด้านการ
ทางานเปน็ ทมี ส่งผลต่อประสทิ ธิภาพการปฏิบตั งิ านของพนักงานบรษิ ทั ไฮ-แครไ์ ทยกลัฟส์ จากัด

กรอบแนวคิดในการวจิ ัย

ตวั แปรอสิ ระ ตัวแปรตาม

ปจั จัยสว่ นบคุ คล ประสิทธิภาพการปฏบิ ัตงิ านของ
- เพศ พนักงาน
- อายุ
- สถานภาพ บริษัท ไฮ-แครไ์ ทยกลฟั ส์ จากัด
- ระดบั การศกึ ษา
- ระดบั เงนิ เดือน 1. ดา้ นคุณภาพของงาน
- ตาแหนง่ งาน 2. ดา้ นปรมิ าณงาน
- ประสบการณ์การทางาน 3. ด้านเวลา
4. ด้านค่าใชจ้ ่าย
สมรรถนะหลกั ของพนกั งาน
บริษัท ไฮ-แครไ์ ทยกลัฟส์ จากัด Peterson and Plowman
- ด้านการมงุ่ ผลสัมฤทธิ์ (1953)
- ดา้ นการบริการท่ีดี
- ด้านการสง่ั สมความเชีย่ วชาญในงาน
- ดา้ นการยึดมนั่ ในความถกู ตอ้ ง
ชอบธรรมและจรยิ ธรรม
- ดา้ นการทางานเปน็ ทีม
สานกั งานคณะกรรมการขา้ ราชการพล

เรอื น (2548, หนา้ 10-11)

ภาพท่ี 1 กรอบแนวคิดในการวิจยั

80

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

การทบทวนวรรณกรรม
สมรรถนะหลกั ของพนกั งาน
ด้านสมรรถนะหลักของพนักงานมีการนาเสนอโดย สานักงานคณะกรรมการข้าราชการ

พลเรือน (2548, หน้า 10-11) ซึ่งระบุว่าต้นแบบสมรรถนะมี 2 ส่วน คือ 1) สมรรถนะหลักสาหรับ
ข้าราชการพลเรอื นทุกคน และ 2) สมรรถนะประจากลุ่มงานสาหรับแต่ละกลุ่มงาน สาหรบั สมรรถนะ
หลัก คือ คณุ ลกั ษณะร่วมของข้าราชการพลเรอื นไทยท้ังระบบเพื่อหลอ่ หลอมค่านยิ มและพฤติกรรมที่
พึงประสงค์ร่วมกัน คือ 1) การมุ่งผลสัมฤทธ์ิ 2) การบริการท่ีดี 3) การส่ังสมความเช่ียวชาญในงาน
อาชีพ 4) จริยธรรม และ 5) ความรว่ มแรงร่วมใจ ทงั้ นีก้ ารศกึ ษาเรื่องสมรรถนะหลักในการปฏิบัติงาน
ที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ จากัด สามารถนา
แนวคิดเกี่ยวกับสมรรถนะหลักเป็นแนวทางในการวิจัยได้ ซึ่งการวิจัยเรื่องสมรรถนะนั้นมีการศึกษา
จานวนมาก ได้แก่ ศศิธร จิมากรณ์ (2556) ศึกษาสมรรถนะหลักกับประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของ
เลขานุการสานักงานศาลยุติธรรม ผลการศึกษาด้านการมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ ด้านจิตสานึก ด้านการ
ให้บริการ ด้านคุณธรรมและจริยธรรม ด้านการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง และด้านการทางานเป็น
ทีม พบว่าอยู่ในระดับมากที่สุด เช่นเดียวกับ ประสิทธิผลในการปฏิบัติงานเลขานุการ สานักงานศาล
ยตุ ธิ รรม ดา้ นปรมิ าณงาน ด้านคุณภาพของงาน และดา้ นความทันเวลา นอกจากนี้ สภุ าภรณ์ ประทุม
ชัน (2557) ระบุว่าพนักงานปฏิบัติการ มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการมุ่งเน้นสมรรถนะหลักโดยรวมอยู่ใน
ระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน อยู่ในระดับมากท่ีสุด ได้แก่ ด้านบริการท่ีดี และพนักงาน
ปฏิบัติการที่มีระดับการศึกษา ประสบการณ์ทางาน รายได้เฉล่ียต่อเดือน และตาแหน่งงานปัจจุบัน
แตกตา่ งกัน มีความคิดเหน็ ด้วยเก่ียวกับการมีประสทิ ธิภาพการปฏิบตั ิงานแตกตา่ งกัน อกี ท้ังการศึกษา
ของ อริสรา ชูมี (2559) ศึกษาสมรรถนะในการปฏิบัติงานของแรงงานไทยภาคอุตสาหกรรม อาหาร
ทะเลแปรรูปในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผลการศึกษา พบว่า สมรรถนะในการปฏิบัติงานโดยรวมอยู่ใน
ระดับมากท่สี ุด เมอื่ พจิ ารณารายดา้ น พบว่า อยใู่ นระดับมากทส่ี ดุ 4 ดา้ น เรียงลาดบั คา่ เฉล่ยี จากสูงไป
หาต่า ได้แก่ ดา้ นจริยธรรม ดา้ นความร่วมแรงร่วมมอื ด้านความถูกต้องของงาน ดา้ นการมุง่ ผลสมั ฤทธ์ิ
สว่ นดา้ นการสง่ั สมความเชีย่ วชาญในอาชีพ อยใู่ นระดับมากเพยี งดา้ นเดยี ว

ประสทิ ธิภาพการปฏบิ ตั งิ าน
Peterson and Plowman (1953) ได้ให้แนวคิดเก่ียวกับประสิทธิภาพการทางานไว้ 4

ขอ้ คอื 1) คุณภาพของงาน 2) ปริมาณงาน 3) เวลา และ 4) ค่าใช้จา่ ย ซง่ึ ในการดาเนินงานขององค์กร
ต้องการให้การปฏบิ ตั งิ านของพนักงานเปน็ ไปอย่างมีประสทิ ธภิ าพ สอดคลอ้ งกบั การศกึ ษาของ ชลดา
อักษรศิริวิทยา (2559) ศึกษาประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานฝ่ายการเดินรถ องค์การ
ขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผลการศึกษา พบว่า พนักงานท่ีมีเพศ ระดับการศึกษา สถานภาพ รายได้ต่อ
เดือนและสมาชิกครอบครัวต่างกัน มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานไม่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยัง
มาลนิ ี นกศิริ (2559) ทีพ่ บวา่ การวิเคราะห์เปรียบเทียบปัจจัยท่ีมีผลตอ่ ประสิทธภิ าพในการปฏิบัติงาน
ไดแ้ ก่ เพศ อายุ รายได้ต่อเดอื น ระดบั การศกึ ษา และระยะเวลาที่ปฏิบัตงิ าน พบวา่ เพศ อายุ รายได้
ต่อเดือน ระดับการศึกษา และระยะเวลาที่ปฏิบัติงาน แตกต่างกัน มีผลต่อปัจจัยที่มีผลต่อการ
ปฏบิ ัตงิ าน ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถติ ิ

จากการทบทวนวรรณกรรมสามารถสร้างเป็นกรอบแนวคิดในการวิจัยดังภาพที่ 1 และ
ยงั พบว่า ณัฏฐ์นรินทร์ สุขล้มิ (2562) ไดท้ าการศึกษาความสัมพนั ธร์ ะหว่างสมรรถนะกับประสทิ ธิภาพ
การปฏิบตั ิงานของขา้ ราชการในสังกัดราชการส่วนภูมิภาคประจาจงั หวัดตรงั ผลการศกึ ษา พบว่า ระดับ

81

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ความคดิ เห็นเกีย่ วกบั สมรรถนะข้าราชการ ในสังกัดราชการสว่ นภูมภิ าค ประจาจังหวัดตรัง พบว่าโดยภาพ
รวมอยูใ่ นระดับมากท่ีสุด เมอื่ พจิ ารณา เป็นรายดา้ นพบว่าด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คอื ด้านการยดึ ม่ัน
ในความถูกตอ้ ง ชอบธรรมและจริยธรรม รองลงมา คอื ด้านการบรกิ ารท่ีดีและนอ้ ยทีส่ ุด คือ ดา้ นการสั่งสม
ความชานาญในงานอาชพี ตามลาดับ

วธิ ดี าเนินการวิจัย
ประชากรและกลุม่ ตัวอยา่ ง
ประชากรท่ีทาการศึกษาวิจัยคร้ังน้ี คอื พนักงานที่ปฏบิ ัตงิ านภายในบริษทั ไฮ-แคร์ ไทย

กลฟั ส์ จากดั ซงึ่ ทราบขนาดประชากร มีจานวนท้งั สน้ิ 120 คน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคร้ังนี้ ได้จากการคานวณหาขนาดตัวอย่างของพนักงานที่

ปฏิบัติงานภายในบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ จากัด โดยใช้สูตร Yamane (1967 อ้างถึงใน ยุทธ
ไกยวรรณ์, 2561) ที่ระดับความเชื่อม่ันร้อยละ 95 และความคลาดเคล่ือน ±5% ได้กลุ่มตัวอย่าง
จานวน 92 ตัวอย่าง โดยข้ันตอนการได้ตัวอย่างใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบเทียบสัดส่วน
(Proportionate stratified sampling)

เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ในการวจิ ัย แบ่งเปน็ 4 ส่วน ได้แก่
สว่ นท่ี 1 เปน็ แบบสอบถามเก่ยี วกับปจั จัยส่วนบคุ คลของผ้ตู อบแบบสอบถาม เป็นคาถาม

แบบเลือกตอบ (Check list) จานวน 7 ข้อ
ส่วนที่ 2 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสมรรถนะหลักในการปฏบิ ัติงานของพนักงานบริษทั

ไฮ-แคร์ไทยกลฟั ส์ จากดั เป็นคาถามแบบมาตรวดั ประเมินคา่ 5 ระดับ จานวน 25 ข้อ
ส่วนที่ 3 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัท

ไฮ-แครไ์ ทยกลฟั ส์ จากัด เปน็ คาถามแบบมาตรวดั ประเมนิ คา่ 5 ระดับ จานวน 14 ขอ้
ส่วนท่ี 4 ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสมรรถนะหลักในการปฏิบัติงาน และประสิทธิภาพการ

ปฏบิ ตั ิงานของพนกั งานบรษิ ัท ไฮ-แครไ์ ทยกลัฟส์ จากัด เปน็ คาถามปลายเปิด จานวน 1 ขอ้
การสรา้ งและการตรวจสอบคณุ ภาพของเครื่องมือ
1. ศึกษาจากแนวคิด ทฤษฎี เอกสาร ตารา สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ เก่ียวข้องกับแนวคิด

สมรรถนะหลักในการปฏิบัติงาน (Core competency) แนวคิดประสิทธภิ าพการปฏิบัติงาน ปัจจัยที่
มีผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน และงานวิจัยท่ีเก่ียวข้อง และได้ดาเนินการวิจัยตาม
กระบวนการวจิ ัย

2. ผูว้ จิ ยั นาแบบสอบถามท่ีปรับปรุงแก้ไขแล้วไปเสนออาจารยท์ ่ีปรกึ ษาอีกคร้งั หลังจาก
น้ันผู้วิจัยนาแบบสอบถามที่ได้ปรับปรุงแกไ้ ขเรียบรอ้ ยแล้วไปทดลองใช้ กับกลุ่มพนักงานท่ีมีลักษณะ
คล้ายคลึงกับกลุ่มตัวอย่าง จานวน 30 คน เพื่อหาค่าความเชื่อมั่น โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์อัลฟา
ของครอนบาค (ยุทธ ไกยวรรณ์, 2561) ซ่ึงจะต้องได้ค่ามากกว่า .7 ขึ้นไป จากการทดสอบ
แบบสอบถามเกี่ยวกับสมรรถนะหลักการปฏิบัติงาน ได้ค่า -Coefficient เท่ากับ .805 ส่วน
แบบสอบถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ได้ค่า -Coefficient เท่ากับ .847 ซ่ึงถือว่า
แบบสอบถามมีความน่าเชื่อถือตามหลกั สถติ ิ

การวเิ คราะห์ขอ้ มูลและสถิติทใี่ ช้
1. ค่าความถี่ (Frequency) และค่าร้อยละ (Percentage) ใช้วิเคราะห์ปัจจัยส่วน

บุคคลของผูต้ อบแบบสอบถาม

82

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

2. ค่าเฉล่ีย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ใช้วิเคราะห์ประเมินระดับสมรรถนะหลักใน
การปฏบิ ตั ิงาน และประสิทธิภาพการปฏิบตั ิงานของพนักงานบริษัท ไฮ-แครไ์ ทยกลัฟส์ จากดั

3. ทาการทดสอบสมมติฐานโดยการเปรียบเทียบค่าเฉล่ียแบบอิสระวิเคราะห์ความ
แปรปรวน และวิเคราะห์การถดถอยแบบพหคุ ูณ

4. การวิเคราะห์การถดถอยแบบพหุคูณ (Multiple regression analysis) เพื่อ
วเิ คราะห์สมรรถนะหลกั ในการปฏบิ ตั งิ านที่ส่งผลตอ่ ประสิทธภิ าพการปฏิบตั งิ านของพนักงาน

ผลการวจิ ัย
1. กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ 57.61 โดยมีอายุระหว่าง 40 – 49 ปี

คิดเปน็ ร้อยละ 36.96 ซ่งึ มสี ถานภาพแต่งงาน คิดเปน็ ร้อยละ 56.52 มีการศึกษาระดบั ตา่ กวา่ ปริญญา
ตรี คดิ เปน็ ร้อยละ 81.52 ส่วนใหญ่มีระดบั เงนิ เดอื นต่ากว่า 15,000 บาท คดิ เปน็ ร้อยละ 65.22 โดยมี
ตาแหน่งงานเป็นรายวัน คิดเป็นร้อยละ 84.78 และส่วนใหญ่มีประสบการณ์การทางาน 21 – 30 ปี

คดิ เป็นร้อยละ 39.13
2. กล่มุ ตัวอย่างมีระดับสมรรถนะหลักในการปฏิบตั ิงานของบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ จากัด

โดยภาพรวมอย่ใู นระดับมากท่ีสุด ( X = 4.41) และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ดา้ นท่ีมีค่าเฉลยี่
สูงสุด คือ ด้านการสั่งสมความเช่ียวชาญในงาน ( X = 4.48) รองลงมาคือ ด้านการยึดม่ันในความ
ถกู ต้องชอบธรรมและจริยธรรม ( X = 4.42) ดา้ นบริการที่ดี ( X = 4.40) ดา้ นการมงุ่ ผลสมั ฤทธิ์ ( X

= 4.38) และดา้ นการทางานเปน็ ทีม ( X = 4.35) ตามลาดบั
3. กลุ่มตวั อย่าง มรี ะดับประสิทธิภาพการปฏิบตั ิงานของบรษิ ัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ จากัด โดยภาพรวม

อยู่ในระดับมากท่ีสุด ( X = 4.30) และเม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉล่ียสูงสุด คือ
ด้านเวลา ( X = 4.45) รองลงมาคือ ด้านคุณภาพของงาน ( X = 4.44) ด้านปริมาณงาน( X = 4.18)
และดา้ นค่าใชจ้ ่าย ( X = 4.13)

4. การเปรียบเทียบระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ตามตัวแปรปัจจัยส่วนบุคคลของ
พนักงาน ดังตารางที่ 1

ตารางท่ี 1 การเปรียบเทียบระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ตามตัวแปรปัจจัยส่วนบุคคลของ

พนักงาน (n=92)

ประสทิ ธภิ าพการปฏบิ ัติงาน

ปจั จัยส่วนบุคคล ด้านคุณภาพของ ดา้ นปรมิ าณ ด้าน ดา้ น โดยรวม

งาน งาน เวลา คา่ ใช้จา่ ย

เพศ (t) .221 .752 .490 1.232 .193

อายุ (F) 1.589 1.211 .683 .124 .870

สถานภาพ (F) .092 .417 .507 .051 .358

ระดับการศึกษา (F) 1.541 2.331* 4.475** .537 2.681**

ระดับเงินเดือน (F) 9.987** 2.871 9.518** 3.071 16.092**

ตาแหนง่ งาน (F) 1.722 3.527** 3.926** .077 4.080**

ประสบการณก์ ารทางาน (F) 1.104 1.968 .116 .598 .508

หมายเหตุ *p < .05, **p < .01

83

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

จากตารางที่ 1 พบวา่ กลมุ่ ตัวอย่างที่มีระดับการศกึ ษา ระดับเงนิ เดือน และตาแหนง่ งาน
ต่างกัน มีระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ จากัด โดยรวมแตกต่างกัน

อย่างมีนยั สาคญั ทางสถิติทรี่ ะดับ .01

5. สมรรถนะหลักในการปฏิบัติงานที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงาน
แสดงผลดงั ตารางที่ 2

ตารางที่ 2 สมรรถนะหลักในการปฏิบัติงานที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงาน

(n=92)

ประสิทธภิ าพการปฏบิ ตั งิ าน

สมรรถนะหลักในการปฏบิ ัตงิ าน ด้านคณุ ภาพ ดา้ นปรมิ าณ ดา้ น ดา้ น โดยรวม

ของงาน งาน เวลา คา่ ใชจ้ ่าย

Constant 2.994 2.354 .069 2.462 2.073

ด้านการมงุ่ ผลสัมฤทธิ์ (X1) .039 .037 .230 .067 .087
ดา้ นบรกิ ารทดี่ ี (X2) .047 -.120 .043 -.023 -.016
ด้านการสง่ั สมความเชย่ี วชาญในงาน (X3) -.007 .051 .390* -.075 .079
ด้านการยึดมั่นในความถกู ต้องชอบธรรมและ
จรยิ ธรรม (X4) .223* .134 .068 .155 .149*
ดา้ นการทางานเปน็ ทีม (X5)
.027 .315** .259 .259* .208**

F Test 4.066 5.013 4.846 3.714 8.042

R2 .207 .226 .220 .236 .319

Adjusted R2 .155 .181 .174 .186 .279

หมายเหตุ *p < .05, **p < .01

จากตารางที่ 2 พบว่า สมรรถนะหลักในการปฏิบัตงิ านด้านการทางานเปน็ ทีม และด้าน
การยดึ ม่นั ในความถูกต้องชอบธรรมและจริยธรรม สง่ ผลต่อประสิทธภิ าพการปฏิบัตงิ านของพนักงาน

บริษัท ไฮ-แครไ์ ทยกลัฟส์ จากดั โดยภาพรวม และสามารถอธิบายระดับการมอี ิทธิพล ไดร้ ้อยละ 27.9
ซง่ึ สามารถเขยี นสมการได้ ดงั นี้

สมการถดถอยในรปู คะแนนดบิ = 2.073+.208X5 +.149X4
หากพจิ ารณาเป็นรายด้าน พบวา่

1. สมรรถนะหลักในการปฏิบัติงานด้านการยึดม่ันในความถูกต้องชอบธรรมและ

จริยธรรม ส่งผลต่อประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านคุณภาพของงาน ของพนักงานบริษัท ไฮ-แคร์
ไทยกลัฟส์ โดยสามารถอธบิ ายระดบั การมอี ิทธพิ ล ได้รอ้ ยละ 15.5 ซึ่งสามารถเขยี นสมการได้ ดังนี้

สมการถดถอยในรปู คะแนนดบิ = 2.994+.223X4
2. สมรรถนะหลักในการปฏิบัติงานด้านการทางานเป็นทีม ส่งผลต่อประสิทธิภาพ

การปฏบิ ตั งิ านดา้ นปรมิ าณงาน ของพนกั งานบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลฟั ส์ โดยสามารถอธบิ ายระดบั การมี

อิทธิพล ได้รอ้ ยละ 18.1 ซึ่งสามารถเขียนสมการได้ ดังนี้
สมการถดถอยในรูปคะแนนดิบ = 2.354+.315X5

84

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

3. สมรรถนะหลักในการปฏิบัติงานด้านการส่ังสมความเช่ียวชาญในงาน ส่งผลต่อ
ประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านเวลา ของพนักงานบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ โดยสามารถอธิบาย
ระดบั การมอี ิทธิพล ได้รอ้ ยละ 17.4 ซึ่งสามารถเขียนสมการได้ ดังน้ี

สมการถดถอยในรปู คะแนนดบิ = .069+.390X3
4. สมรรถนะหลักในการปฏิบัติงานด้านการทางานเป็นทีม ส่งผลต่อประสิทธิภาพ

การปฏิบัติงานด้านค่าใช้จ่าย ของพนักงานบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ โดยสามารถอธิบายระดับการมี
อทิ ธพิ ล ไดร้ อ้ ยละ 18.6

สมการถดถอยในรปู คะแนนดบิ = 2.462+.259X5

อภปิ รายผล
กลุ่มตัวอย่าง มีระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ จากัด โดย

ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด สอดคล้องกับการศึกษาของ ศศิธร จิมากรณ์ (2556) ศึกษาสมรรถนะ
หลักกับประสิทธิผลในการปฏิบัติงานของเลขานุการ สานักงานศาลยุติธรรม จากการศึกษาสมรรถนะ
หลกั ของเลขานุการ สานกั งานศาลยุติธรรม ผลการศกึ ษา พบว่า ประสทิ ธิผลในการปฏิบตั ิงานเลขานุการ
สานักงานศาลยตุ ธิ รรม โดยภาพรวมอยูใ่ นระดบั มากท่ีสุด

อภิปรายผลตามสมมติฐาน ข้อที่ 1 ปัจจัยส่วนบุคคลของพนักงานบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์
จากัด ซ่ึงได้แก่ เพศ อายุ สถานภาพ ระดับการศึกษา ระดับเงินเดือน ตาแหน่งงาน และประสบการณ์
การทางานท่ีต่างกัน มีระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ จากัด
ตา่ งกัน ดังน้ี

กลุ่มตัวอย่างที่มีระดับการศึกษาต่างกัน มีระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบริษัท
ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ จากัด โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .01 สอดคล้องกับการศึกษา
ของ สุภาภรณ์ ประทุมชัน (2557) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการมุ่งเน้นสมรรถนะหลักกับ
ประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานปฏิบัติการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผลการศึกษา พบว่า
พนกั งานปฏบิ ัติการที่มีระดับการศึกษา แตกต่างกนั มคี วามคิดเหน็ ดว้ ยเกย่ี วกับการมีประสทิ ธิภาพการ
ปฏบิ ตั งิ านแตกต่างกัน

กลุ่มตัวอย่างที่มีระดับเงินเดือนต่างกัน มีระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบริษัท
ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ จากัด โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .01 สอดคล้องกับ
การศกึ ษาของ สภุ าภรณ์ ประทุมชนั (2557) ศึกษาความสัมพันธร์ ะหว่างการมงุ่ เนน้ สมรรถนะหลักกับ
ประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานปฏิบัติการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผลการศึกษา พบวา่
พนักงานปฏิบัตกิ ารท่ีมรี ายไดเ้ ฉล่ียตอ่ เดือนแตกต่างกัน มคี วามคดิ เหน็ ด้วยเก่ียวกบั การมปี ระสิทธิภาพ
การปฏิบัตงิ านแตกต่างกัน

กลุ่มตัวอย่างท่ีมีตาแหน่งงานต่างกนั มีระดับประสิทธภิ าพการปฏิบัติงานของบริษัท ไฮ-
แคร์ไทยกลัฟส์ จากัด โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .01 สอดคล้องกับ
การศกึ ษาของ สภุ าภรณ์ ประทมุ ชัน (2557) ศกึ ษาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งการมุ่งเนน้ สมรรถนะหลักกับ
ประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของพนักงานปฏิบัติการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ผลการศึกษา พบว่า
พนักงานปฏิบัติการท่ีมีตาแหน่งงานปัจจุบันแตกต่างกัน มีความคิดเห็นด้วยเก่ียวกับการมี
ประสทิ ธภิ าพการปฏบิ ตั ิงานแตกตา่ งกนั

85

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

นอกจากนี้ยังพบว่า กลุ่มตัวอย่างท่ีมีเพศ และสถานภาพ ต่างกัน มีระดับประสิทธิภาพ
การปฏบิ ตั ิงานของบรษิ ัท ไฮ-แครไ์ ทยกลัฟส์ จากัด โดยรวมและรายดา้ นไมแ่ ตกต่างกนั อย่างมีนยั สาคัญ
ทางสถิติ สอดคล้องกับการศึกษาของ ชลดา อักษรศิริวิทยา (2559) ศึกษาประสิทธิภาพในการ
ปฏบิ ัติงานของพนกั งานฝา่ ยการเดนิ รถ องคก์ ารขนสง่ มวลชนกรุงเทพ ผลการศกึ ษา พบวา่ พนกั งานที่
มเี พศ ระดบั การศึกษา ต่างกัน มีประสิทธิภาพในการปฏบิ ัติงานไม่แตกตา่ งกัน

กลุ่มตัวอย่างท่ีมีอายุต่างกัน มีระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของบริษัท ไฮ-แคร์
ไทยกลัฟส์ จากัด โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ สอดคลอ้ งกบั การศึกษา
ของ มาลินี นกศิริ (2559) ศกึ ษาปัจจยั ที่มีผลต่อประสิทธภิ าพในการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัท ธรรม
รักษ์ ออโตพารท์ จากัด ผลการเปรยี บเทียบปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏิบัตงิ าน ได้แก่ อายุ
แตกตา่ งกัน มผี ลตอ่ ปจั จยั ทมี่ ีผลตอ่ การปฏบิ ตั ิงาน ไม่แตกตา่ งกนั อยา่ งมีนยั สาคญั ทางสถิติ

กลุ่มตัวอย่างท่ีมีประสบการณ์การทางาน ต่างกัน มีระดับประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน
ของบรษิ ทั ไฮ-แครไ์ ทยกลฟั ส์ จากดั โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกนั อย่างมนี ัยสาคัญทางสถิติ ทง้ั น้ี
เน่อื งจากถึงแม้วา่ พนกั งานจะมปี ระสบการณ์การทางานท่ีแตกตา่ งกัน

อภปิ รายผลตามสมมติฐาน ขอ้ ท่ี 2 สมรรถนะหลักในการปฏบิ ัตงิ าน ดา้ นการมุง่ ผลสัมฤทธิ์
ด้านการบริการที่ดี ด้านการสั่งสมความเชี่ยวชาญในงาน ด้านการยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรมและ
จรยิ ธรรม และดา้ นการทางานเปน็ ทีม สง่ ผลตอ่ ประสิทธภิ าพการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัท ไฮ-แคร์
ไทยกลัฟส์ จากัด ดังน้ี

สมรรถนะหลักในการปฏิบัติงาน สามารถร่วมกันพยากรณ์ประสิทธิภาพการปฏิบัตงิ าน
ของพนักงานบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ ได้ร้อยละ 27.9 (adj. R2= .279) อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่
ระดับ .05 พิจารณาเป็นรายดา้ น พบว่า

1) สมรรถนะหลักในการปฏิบัติงาน สามารถร่วมกันพยากรณ์ประสิทธิภาพการ
ปฏิบัติงานด้านคุณภาพของงาน ของพนักงานบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ ได้ร้อยละ 15.5 (adj. R2=
.155) อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 ท้ังนี้เน่ืองจากการยึดมั่นในความถูกต้องชอบธรรมและ
จริยธรรม คือ มีการปฏิบัติ หน้าท่ีด้วยความสุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ ถูกต้องตามกฎหมายและวินัยของ
หน่วยงาน

2) สมรรถนะหลักในการปฏิบัติงาน สามารถร่วมกันพยากรณ์ประสิทธิภาพการ
ปฏิบัติงานด้านปริมาณงาน ของพนักงานบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ ได้ร้อยละ 18.1 (adj. R2= .181)
อยา่ งมนี ยั สาคัญทางสถติ ิท่ีระดบั .01 ทงั้ นีเ้ นื่องจากการทางานเปน็ ทีมมคี วามสาคัญในทุกองค์กร เป็นการ
เพมิ่ ประสิทธภิ าพและประสิทธิผลของการบริหารงาน

3) สมรรถนะหลักในการปฏิบัติงาน สามารถร่วมกันพยากรณ์ประสิทธิภาพการ
ปฏิบัติงานด้านเวลา ของพนักงานบรษิ ัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ ได้ร้อยละ 17.4 (adj. R2= .174) อย่างมี
นัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .05 ท้ังน้ีเน่ืองจากความสนใจใฝ่รู้ สั่งสมความรู้ความสามารถ ค้นคว้าและ
พัฒนาตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง จนสามารถประยุกตใ์ ชค้ วามรู้เชิงวิชาการและเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ากับการ
ปฏบิ ตั ิงานในหน้าทใี่ ห้เกดิ ผลสัมฤทธ์ิ

4) สมรรถนะหลักในการปฏิบัติงาน สามารถร่วมกันพยากรณ์ประสิทธิภาพการ
ปฏิบัติงานด้านค่าใช้จ่าย ของพนักงานบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลัฟส์ ได้ร้อยละ 18.6 (adj. R2= .186)
อย่างมนี ยั สาคัญทางสถิตทิ ี่ระดบั .05 ทั้งนเ้ี น่ืองจากทมี ทจี่ ะประสบความสาเร็จในการทางาน

86

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ขอ้ เสนอแนะ
ขอ้ เสนอแนะในการนาผลการวิจัยไปใช้
1. ผู้บริหารหรือผู้นาองค์กรควรมีแนวทางการบรหิ ารจัดการอื่นในการวัดประสิทธิภาพ

การทางานของพนักงานในองค์กรแห่งนี้ เนื่องจากผลการศึกษาสรุปได้ว่าระดับการศึกษา ระดับ
เงินเดือน ตาแหน่งงาน เพศ และสถานภาพ อายุ และประสบการณ์การทางานท่ีต่างกัน มีระดับ
ประสทิ ธิภาพการปฏบิ ตั ิงานของบริษัท ไฮ-แคร์ไทยกลฟั ส์ จากัด โดยรวมและรายดา้ นไมแ่ ตกต่าง เช่น
การสร้างแรงจูงใจหรือประสิทธิภาพการทางานท่ีนอกเหนือจาก 4 ด้าน นี้ เช่น การวัดประสิทธิภาพ
การทางานจากความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานท่ีสามารถต่อยอดการนาเศษวัสดุจากการผลิตไปใช้
พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หรือ การวัดประสิทธิภาพการทางานจากความสามารถในการนา
เทคโนโลยีมาใช้ในการเพ่ิมประสิทธิภาพของการผลิตและลดอัตรากาลังคนในการทางาน เพื่อให้
พนกั งานเหน่อื ยนอ้ ยลง อีกท้ังยังชว่ ยลดความเสยี หายทเ่ี กิดจาก Human Error ท่อี าจจะเกดิ ขนึ้ ได้อีก
ดว้ ย

2. ผู้บริหารหรือผู้นาองค์กรควรมีการส่งเสรมิ และพัฒนาศักยภาพของพนักงานทั้งเรอ่ื ง
Soft Skill และ Hard Skill เนื่องจากผลการศึกษาด้านสมรรถนะหลักด้านการปฏิบัติงาน พบว่า
พนักงานการยดึ ม่ันในความถกู ต้องชอบธรรมและจรยิ ธรรม คือ มีการปฏบิ ัติ หน้าทีด่ ้วยความสุจรติ ไม่
เลือกปฏิบัติ ถูกต้องตามกฎหมายและวินัยของหน่วยงาน กล่าวคือ ส่งเสริมให้มีการพัฒนา
ความสามารถของพนักงานให้มีความเชี่ยวชาญสาหรบั การปฏบิ ัติงานที่ยากหรืองานท่ีซบั ซ้อนกวา่ เดิม
นาข้อเสนอแนะที่ได้รบั จากผู้ใช้บริการมาปรับปรุงการปฏิบัติงานของหน่วยงานใหม้ ีสมรรถนะมากย่ิงขึ้น
พนักงานภายในหน่วยงานจะต้องสามารถวิเคราะห์ได้ว่าการปฏิบัติงานอย่างไรตนเองจึงจะปลอดภัย
บุคลากรภายในหน่วยงานจะต้องมีความกล้าที่จะยอมรับความผิดพลาดที่อาจจะเกิดข้ึนจาก การ
ปฏิบัติงานในหน้าทีค่ วามรบั ผิดชอบของตนเอง สง่ เสริมให้บคุ ลากรภายในหน่วยงานมกี ารสร้างสัมพนั ธภาพ
โดยการมอบหมายใหท้ างานเปน็ ทีม เพอ่ื สร้างความสามัคคภี ายในหน่วยงาน

3. ผู้บริหารควรส่งเสริมให้บุคลากรภายในหน่วยงานมีการศึกษาต่อ หรือฝึกอบรมหลักสูตร
เพ่ิมผลผลิต สาหรับนามาพัฒนาการปฏิบัติงานให้มีศักยภาพมากย่ิงขึ้น ควรปรับปรุงงานให้มีความ
สมดุลกับกาลังคนที่จะต้องปฏิบัติงานน้ันๆ ให้มีการเรียนรู้และพัฒนาตนเองเป็นส่ิงสาคัญ การนา
ทรัพยากรทใ่ี ช้แลว้ มารไี ซเคลิ แล้วนากลับมาใช้ใหม่ จะทาใหส้ ามารถประหยดั ตน้ ทุนการผลติ ได้

ขอ้ เสนอแนะในการทาวจิ ยั ครั้งตอ่ ไป
1. ควรศึกษาตัวแปรตามอ่ืน เช่น ศักยภาพการบริหารงาน ความสาเร็จในการทางาน และ

ความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน เพ่ือประโยชน์ทางการศึกษาด้านสมรรถนะต่อไป นอกจากน้ี
อาจทาการศกึ ษาผสมผสานระหวา่ งสมรรถนะหลักและสมรรถนะรองในดา้ นต่าง ๆ ประกอบเนื่องจาก
ปัจจุบันมีรูปแบบของการบริหารงานแบบท่ีมีความหลากหลายและมีความซับซ้อน และอาจพบ
ประเด็นสาคัญของสมรรถนะ อ่นื เพ่ือนามาใช้ประกอบกับการศักยภาพการบริหารงาน ความสาเร็จใน
การทางาน และความเช่ียวชาญเกี่ยวกับการปฏิบัติงาน และกลายเป็นองค์ความรู้ใหม่ท่ีทรงคุณค่า
ตอ่ ไป

2. ควรมีการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลในรูปแบบอ่ืน ๆ
นอกเหนือจาก การใช้แบบสอบถาม เช่น การสัมภาษณ์เชิงลึก เพ่ือให้ได้ข้อมูลท่ีถูกต้องชัดเจนมาก
ย่งิ ข้นึ

87

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

เอกสารอ้างอิง
ชูชยั สมทิ ธิไกร. (2556). การสรรหา การคัดเลอื ก และการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงานของบุคลากร

(พมิ พค์ รัง้ ท่ี 4). กรงุ เทพฯ: สานักพิมพแ์ ห่งจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .
ชลดา อกั ษรศริ ิวิทยา. (2559). ประสทิ ธภิ าพในการปฏิบตั งิ านของพนักงานฝ่ายการเดนิ รถองคก์ าร

ขนสง่ มวลชนกรุงเทพ. (สารนพิ นธ์ปรญิ ญามหาบัณฑติ , มหาวทิ ยาลัยเกรกิ ).
ณฏั ฐ์นรินทร์ สุขล้ิม. (2562). ความสมั พนั ธ์ระหว่างสมรรถนะกบั ประสิทธิภาพการปฏิบัตงิ านของ

ขา้ ราชการในสงั กดั ราชการสว่ นภมู ภิ าคประจาจังหวดั ตรัง. (สารนิพนธ์ปรญิ ญา
มหาบณั ฑิต, มหาวิทยาลัยหาดใหญ่).
มาลินี นกศริ .ิ (2559). ปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการปฏบิ ัติงานของพนักงานบรษิ ัทธรรมรกั ษ์
ออโต พาร์ท จากดั . (วทิ ยานพิ นธ์ปรญิ ญามหาบณั ฑติ , มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์).
ยุทธ ไกยวรรณ์. (2561). หลกั สถติ ิวจิ ัยและการใชโ้ ปรแกรม SPSS พิมพค์ ร้ังท่ี 5. กรงุ เทพฯ:
สานักพมิ พ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
รุจิรา แสงผา. (2559). ปัจจัยท่มี ีผลตอ่ สมรรถนะการปฏบิ ัติงานของพนกั งานสว่ นตาบล องค์การ
บริหารสว่ นตาบลในเขตอาเภอเมอื งนครพนม จังหวดั นครพนม. (วิทยานพิ นธ์ปริญญา
มหาบัณฑิต, มหาวทิ ยาลัยราชภฏั มหาสารคาม).
ศูนยว์ จิ ัยกสกิ รไทย. (2563). ถึงวัคซีนกาลงั จะมา...แต่โลกยังคงต้องการ ถงุ มือยางทางการแพทย์
กว่า 2.35 แสนลา้ นชนิ้ , สืบคน้ เมื่อ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, จาก
https://kasikornresearch.com/th/analysis/k-social-media/Pages/Glove-FB-28-
12-20.aspx
ศศิธร จมิ ากรณ์ (2556). ศึกษาสมรรถนะหลกั กับประสิทธิผลในการปฏิบตั ิงานของเลขานกุ าร
สานกั งานศาล ยตุ ธิ รรม. (สารนพิ นธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเกริก).
สานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรอื น. (2548). คู่มือสมรรถนะข้าราชการพลเรือนไทย.
กรุงเทพฯ: สานกั งานคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรือน สานักนายกรัฐมนตรี.
สภุ าภรณ์ ประทุมชัน. (2557). ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งการมุ่งเนน้ สมรรถนะหลกั กบั ประสทิ ธิภาพการ
ปฏบิ ตั ิงานของพนกั งานปฏบิ ัตกิ าร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. (วทิ ยานิพนธ์ปรญิ ญา
มหาบณั ฑติ , มหาวิทยาลยั มหาสารคาม).
อรสิ รา ชมู .ี (2559). สมรรถนะในการปฏิบตั งิ านของแรงงานไทยภาคอุตสาหกรรม อาหารทะเลแปร
รูปในจังหวัดสรุ าษฎรธ์ านี. วารสารราชภฏั สุราษฎร์ธานี, 3(2), 235-252.
dataforthai. (2556). ข้อมลู บรษิ ัท ไฮ-แคร์ ไทย กลฟั ส์ จากดั . สืบคน้ จาก
https://www.dataforthai.com/company/0105556167469/%E0%B8%9A%E0%
B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B8%B1%E0%B8%97%20%E0%B9%84
%E0%B8%AE-%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B9%8C%20%
E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%20%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8
%B1%E0%B8%9F%E0%B8%AA%E0%B9%8C%20%E0%B8%88%E0%B8%B3%
E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%94
Peterson, E. & Plowman, GE. (1953). Business Organization and Management (3rd

ed.). Ill: Irwin.

88

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

กลยุทธ์ทางการตลาดและพฤติกรรมผูบ้ รโิ ภคหลงั วกิ ฤตการณโ์ ควิด-19
ท่สี ง่ ผลตอ่ การตดั สนิ ใจเลือกใชบ้ รกิ ารธุรกิจโรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร

อชั ฌา โนนเพยี 1
นักศกึ ษาปริญญาโทหลักสตู รบรหิ ารธรุ กจิ มหาบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ

มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี

ถนอมพงษ์ พานชิ
อาจารยป์ ระจาสาขาวชิ าการตลาด คณะบรหิ ารธรุ กิจ

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธญั บุรี

บทคดั ย่อ
การวิจัยคร้ังนี้มีวัตถุประสงค์ เพ่ือศึกษากลยุทธ์ทางการตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค
หลังวิกฤตการณโ์ ควิด-19 ทสี่ ่งผลต่อการตัดสนิ ใจเลือกใช้บรกิ ารธรุ กิจโรงแรมในเขตกรงุ เทพมหานคร
งานวจิ ัยนเี้ ปน็ การวิจัยแบบผสมผสาน ส่วนของการวจิ ัยเชงิ ปรมิ าณ กลุ่มตวั อยา่ ง คอื ผบู้ ริโภคท่ีมาใช้
บริการโรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร จานวน 400 คน ส่วนของการวิจัยเชิงคุณภาพ ศึกษาจากการ
ดาเนินการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมจานวน 2 แห่ง ในเขตกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับ
กลยุทธ์ทางการตลาด หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 โดยใช้การสัมภาษณ์แบบเชิงลึก ผลการศึกษาพบวา่
ปัจจัยสว่ นบคุ คลดา้ นอายแุ ละรายได้เฉลยี่ ตอ่ เดือนส่งผลตอ่ การตัดสินใจเลือกใชบ้ ริการธรุ กจิ โรงแรมใน
เขตกรุงเทพมหานคร ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการธุรกิจ
โรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 และพฤติกรรมของผู้บริโภค หลัง
วิกฤตการณ์โควิด-19 ส่วนใหญ่ เลือกใช้บริการโรงแรมแบบเลือกพักกับครอบครัว เลือกห้องพัก
ประเภทหอ้ งเตยี งเดยี่ วหรอื เตียงคู่ มวี ัตถปุ ระสงคเ์ พ่ือการท่องเที่ยว เลอื กตัดสินใจดว้ ยตนเอง มีการใช้
บริการโรงแรมเน่ืองในโอกาสพิเศษต่างๆ จองห้องพัก และรู้จักโรงแรมจากรีวิวในช่องทางส่ือสังคม
ต่างๆ และราคาห้องพักที่ใช้บริการราคา 1,001 บาท – 2,000 บาท ตามลาดับ ผลการสัมภาษณ์
ผู้ประกอบการโรงแรมพบว่า หลังจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ผู้ประกอบการมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์
เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวชาวไทยมากขึ้น เน้นการรองรับห้องพัก งานประชุมสัมมนาแบบหมู่คณะทั้ง
จากภาครัฐและเอกชน และกลุ่มผใู้ ช้บริการเพ่อื ติดต่อธุรกจิ

คาสาคญั : กลยทุ ธ์ทางการตลาด พฤตกิ รรมผ้บู ริโภค ธุรกิจโรงแรม โควดิ -19

1 นกั ศึกษาปรญิ ญาโทหลกั สตู รบรหิ ารธรุ กจิ มหาบณั ฑิต คณะบรหิ ารธรุ กิจ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ต.คลองหก อ.คลองหลวง จ.ปทมุ ธานี 12110 หมายเลขติดต่อ: 081-915-1087 อเี มล: [email protected]

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

INFLUENCES OF MARKETING STRATEGY AND CONSUMER
BEHAVIOR ON DECISIONS TO BOOK BANGKOK HOTEL

ACCOMMODATION AFTER THE COVID-19 CRISIS

Adcha Nonpeir1
Graduate Student, Master of Business Administration, Faculty of Business Administration

Rajamangala University of Technology Thanyaburi

Tanompong Panich
Lecturer at Department of Marketing, Faculty of Business Administration

Rajamangala University of Technology Thanyaburi

Abstract

This study aimed to investigate marketing strategies and consumer behaviors
affecting the decision to book a hotel in Bangkok after the COVID-19 crisis. This study
used mixed research methodologies. The quantitative method was applied to a sample
group that comprised 400 customers stayed at hotels in Bangkok was a questionnaire.
The qualitative method used an in-depth interview to collect data from the 2 hotel business
entrepreneurs in Bangkok concerning their marketing strategy after the COVID-19 crisis. The
results showed that differences in the personal factors of age and monthly income
influenced the decision to book a hotel in Bangkok after the COVID-19 crisis. Marketing
strategy affected the decision to book a hotel in Bangkok after the COVID-19 crisis. The
following consumer behaviors were demonstrated in booking a Bangkok hotel after
COVID- 19 crisis: preference for hotels suitable for families; preference for double or
twin rooms; purpose of travel; availability of a self- booking service; hotel as a venue
for special occasions; ability to book the hotel through social media such as Facebook
and Line; availability of information about the hotel from reviews on social media
channels such as Facebook and YouTube; and room rates between 1,001 Baht and
2,000 Baht. Result of the in- depth interview revealed that hotel operators have
adjusted their marketing strategies to accommodate more Thai tourists. Their strategies
focus on occupancy rate and organizing special events, such as banquets and seminars
to cater for guests from Thai business, public and private sectors.

Keywords: Marketing Strategy, Consumer Behavior, Hotel, COVID-19

1 Corresponding Author: Graduate Student, Master of Business Administration,
Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Thanyaburi.
Contact Number: +6681-915-1087 Email: [email protected]

90

การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

บทนา
หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ระยะที่ 1 เริ่มต้ังแต่เดือนเดือนกรกฎาคม 2563 จนถึงเดือน

ธันวาคม 2563 พบว่าคนไทยมีการเดินทางภายในประเทศมากข้ึนเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี
พ.ศ. 2562 ซึ่งจังหวัดกรุงเทพมหานครมีอัตราการเพิ่มข้นึ ของจานวนผู้เย่ียมเยือนและอัตราการเข้าพัก
โรงแรมสูงกว่าต่างจังหวัด เน่ืองจากใช้ระยะเวลาในการเดินทางไม่นาน และยังมีความกังวลถึงความ
ปลอดภัยทางด้านสุขภาพ รวมไปถึงนักท่องเท่ียวชาวไทยมีความต้องการที่จะเปลี่ยนบรรยากาศและ
เพลิดเพลินกับประสบการณ์การพักผ่อนนอกบ้าน (ศิริลักษณ์ หาพันธ์นา, 2563) โดยธุรกิจโรงแรมซ่ึง
เป็นหนึ่งในธุรกิจท่ีได้รับผลกระทบจากการท่ีนักท่องเท่ียวต่างชาติหายไป ส่งผลทาให้ธุรกิจโรงแรมหด
ตัวลงในทุกๆ ด้าน (ศูนย์วิจัยออมสิน, 2563) ทาให้ต้องปรับเปล่ียนกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับ
กลุ่มเป้าหมายท่ีนอกเหนือจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผู้วิจัยจึงมุ่งเน้นไปท่ีนักท่องเท่ียวชาวไทยและ
การใชบ้ รกิ ารโรงแรมมาตรฐานระดับ 3 ดาวเปน็ หลัก เนื่องจากนกั ท่องเทีย่ วชาวไทยส่วนใหญ่มกี าลังซ้ือ
ท่ีไม่สูงมากนักเม่ือเทียบกับนักท่องเท่ียวชาวต่างชาติและโรงแรมมาตรฐานระดับ 3 ดาวก็มีจานวน
ห้องพักมากท่ีสุดและเป็นท่ีนิยมที่สุด เพราะราคาไม่สูงมากและมีสิ่งอานวยความสะดวกที่เพียงพอต่อ
ความต้องการ ซึ่งหลังจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ทาให้มองว่าภาคธุรกิจโรงแรมยังควรใช้กลยุทธ์ทาง
การตลาดแบบเดิม หรือมีรูปแบบกลยุทธ์ทางการตลาดที่เปล่ียนไปอย่างไรในการวิเคราะห์ถึงความ
ต้องการและพฤติกรรมผู้บริโภค เพ่ือนามาใช้ในการปรับปรุงการดาเนินงานของภาคธุรกิจต่อไปใน
อนาคต

วัตถุประสงคใ์ นการวจิ ัย
1. เพ่ือศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลหลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ท่ีส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้

บรกิ ารธุรกิจโรงแรมในเขตกรงุ เทพมหานคร
2. เพื่อศึกษาปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดหลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลต่อการ

ตัดสนิ ใจเลือกใชบ้ ริการธุรกิจโรงแรมในเขตกรงุ เทพมหานคร
3. เพื่อศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคหลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้

บริการธรุ กจิ โรงแรมในเขตกรงุ เทพมหานคร

สมมุติฐานการวิจัย
1. ปัจจัยส่วนบุคคลท่ีแตกต่างกันมีการตัดสินใจเลือกใช้บริการธุรกิจโรงแรมในเขต

กรงุ เทพมหานคร หลังวกิ ฤตการณโ์ ควิด-19 แตกต่างกัน
2. ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการธุรกิจโรงแรมในเขต

กรงุ เทพมหานคร หลังวิกฤตการณ์โควิด-19

91

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

กรอบแนวคดิ ในการวิจยั

ตัวแปรตน้ ตัวแปรตาม

ปจั จยั สว่ นบคุ คล กลยุทธ์ทางการตลาด การตัดสินใจ
- เพศ - ดา้ นผลิตภณั ฑแ์ ละบริการ เลือกใชบ้ รกิ าร
- ด้านราคา ธรุ กจิ โรงแรม
- อายุ - ด้านช่องทางการจาหนา่ ย
- ระดับการศกึ ษา - ดา้ นการส่งเสรมิ ทางการตลาด ในเขต
- อาชพี - ดา้ นพนกั งานใหบ้ ริการ กรุงเทพมหานคร
- ด้านกระบวนการ
- รายได้เฉลยี่ ตอ่ เดือน - ด้านลกั ษณะทางกายภาพ หลงั
วกิ ฤตการณ์
พฤติกรรมผู้บริโภค โควดิ -19
- ลกู ค้าคือใคร (Who)
- ความต้องการซอื้ อะไร (What)
- ทาไมผ้บู ริโภคจึงซ้อื (Why)
- ใครมีสว่ นรว่ มในการตัดสินใจซอ้ื (Whom)
- เมอื่ ใดทผ่ี ู้บริโภคจงึ จะซอ้ื (When)
- ผบู้ รโิ ภคจะซ้ือทใ่ี ด (Where)
- ผบู้ ริโภคซือ้ อยา่ งไร (How)

ภาพที่ 1 กรอบแนวคดิ ในการวิจัย

การทบทวนวรรณกรรม
1. แนวคิดและทฤษฎีเก่ียวกับกลยุทธ์ทางการตลาด
ศิริวรรณ เสรรี ัตน์ และคณะ (อา้ งถงึ ใน ภานุวฒั น์ วัฒนสมบรู ณ์ชัย, 2555) ให้ความหมาย

ของกลยุทธ์ทางการตลาด หมายถึง วิธีการใช้เคร่ืองมือทางการตลาดหรือส่วนประสมทางการตลาด
เพื่อใหบ้ รรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาดและเพื่อตอบสนองความพึงพอใจของผู้บริโภคได้ ซ่ึงประกอบไป
ด้วย กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านการจัดจาหน่าย ด้านการส่งเสริมการตลาด ซึ่ง Payne
(1993 , p. 26) ได้กล่าวว่า ส่วนประสมทางการตลาดแบบด้ังเดิม 4Ps นั้นไม่ครอบคลุมท่ีจะใช้กับงาน
ด้านการบริการ จึงเกิดแนวคิดใหม่ขึ้นมาในเรื่องของ “ส่วนประสมทางการตลาดบริการ” ร่วมกับ
องค์ประกอบท่ีเพิ่มข้ึนมาอีก 3 องค์ประกอบ ได้แก่ บุคลากร กระบวนการให้บริการและลักษณะทาง
กายภาพ

92

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

2. แนวคิดและทฤษฎเี ก่ียวกับพฤติกรรมผ้บู รโิ ภค
ศิวารัตน์ ณ ปทุม และคณะ (2550, น. 13) กล่าวว่า พฤติกรรมผู้บริโภค หมายถึง การ

กระทาของบุคคลใดบุคคลหนง่ึ ท่เี กยี่ วขอ้ งโดยตรงกับการจัดหาและใช้ผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงกระบวนการ
ตัดสนิ ใจซง่ึ เกิดข้นึ ก่อน และมีสว่ นในการกาหนดการกระทา

การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค (Analysis consumer behavior) เป็นการค้นหา
เกีย่ วกับพฤติกรรมการซ้ือผลิตภัณฑแ์ ละบริการของผู้บริโภค เพอื่ ให้ทราบถึงลักษณะความต้องการของ
ผู้บริโภค โดยอาศัยคาถามหรือเครื่องมือ เรียกว่า 6Ws และ 1H โดยมีการกาหนดคาถามไว้ดังนี้
(ศิรวิ รรณ เสรรี ัตน์ และคณะ, 2541)

1) ใครอยู่ในตลาดเป้าหมาย (Who) เพื่อให้ทราบถึงลักษณะของผู้บริโภคหรือ
กลมุ่ เป้าหมายที่มีแนวโน้มจะซ้ือ

2) ผู้บริโภคต้องการซื้ออะไร (What) เพอื่ ให้ทราบถงึ สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการท่ีแท้จริงที่
ผบู้ ริโภคต้องการจากผลติ ภัณฑ์

3) ทาไมผู้บริโภคจึงซ้ือ (Why) เพื่อให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ในการตัดสินใจซื้อสินค้า
ของผู้บรโิ ภค เพือ่ เป็นแนวทางในการปรบั ปรงุ คุณสมบตั ิของผลิตภัณฑ์ตอ่ ไป

4) ใครมีส่วนร่วมในการตัดสินใจซ้อื (Who) เพ่อื ใหท้ ราบถึงบทบาทของกลุ่มต่างๆ ทมี่ ี
อทิ ธิพลในการตดั สินใจซื้อ

5) เม่ือใดที่ผู้บริโภคจึงจะซื้อ (When) เพื่อให้ทราบถึงโอกาสที่ผู้บริโภคจะไปทาการ
ซอื้ เพอื่ วางแผนการผลิตและการส่งเสริมการตลาดในช่วงเวลาที่เหมาะสม

6) ผู้บริโภคจะซ้ือท่ีใด (Where) เป็นคาถามเพื่อให้ทราบถึงช่องทางการจัดจาหน่าย
หรอื แหล่งการซ้อื เพอ่ื บริหารชอ่ งทางการจัดจาหน่ายที่เหมาะสมกบั ผบู้ ริโภค

7) ผู้บริโภคซื้ออย่างไร (How) เป็นคาถามเพื่อให้ทราบถึงข้ันตอนในการตัดสินใจซ้ือ
เพื่อนาข้อมูลไปวางแผนการส่งเสริมการตลาด

3. แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการตัดสินใจ
Kinicki and Williams (1990, p. 105) ได้อธิบายถึง การตัดสินใจ เป็นการเลือกทางใด

ทางหนง่ึ ซง่ึ อาจจะมหี ลายทางเลือกทม่ี อี ยู่
ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ (2550, น. 245) กล่าวว่า กระบวนการตัดสินใจซื้อของ

ผู้บริโภค (Consumer Buying Decision Process) คือ ลาดับข้ันตอนในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค
ผา่ นกระบวนการ 5 ขนั้ ตอน ดังนี้ Kotler (2003, p. 275)

1) การรบั รถู้ ึงความต้องการหรอื ปญั หา (Problem/Need Recognition) เปน็ ขัน้ ตอน
แรกทผี่ บู้ ริโภคจะตระหนกั ถงึ ความต้องการหรอื ปญั หา

2) การค้นหาข้อมูล (Information Search) การแสวงหาข้อมูลเพื่อประกอบการ
ตัดสินใจโดยแหล่งข้อมูลมาได้จากท้ังทางแหล่งบุคคล แหล่งทางการค้า แหล่งสาธารณชนและแหล่ง
ประสบการณ์ เปน็ ต้น

3) การประเมินทางเลือก (Evaluation of Alternatives) ผู้บริโภคจะทาการกาหนด
เกณฑท์ ีใ่ ชใ้ นการประเมินเพอ่ื ประกอบการตัดสินใจ เช่น ยหี่ อ้ ราคา รปู แบบสนิ ค้า เป็นตน้

4) การตัดสินใจซื้อ (Purchase Decision) หลักจากประเมินเรียบร้อยแล้ว ผู้บริโภค
จะเข้าสูข่ ั้นตอนการตัดสนิ ใจซ้ือ

93

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

5) พฤติกรรมภายหลังการซื้อ (Post Purchase Behavior) หลังจากที่ผู้บริโภค
ตัดสินใจซ้ือเรียบร้อยแล้ว ควรจะต้องทาการสารวจเพื่อตรวจสอบความพึงพอใจของผู้บริโภคภายหลัง
การซอื้

4. ขอ้ มูลเกย่ี วกบั โควดิ -19 และผลกระทบจากโควิด-19
โรคโควิด-19 คือ โรคติดต่อซ่ึงเกิดจากเช้ือไวรัสโคโรนา ไวรัสโคโรนาเป็นไวรัสวงศ์ใหญ่ท่ี

เปน็ สาเหตุของโรคทง้ั ในสัตว์และในมนุษย์ ไวรสั โคโรนาทาให้เกิดโรคระบบทางเดนิ หายใจตงั้ แตโ่ รคหวัด
ธรรมดาจนถึงโรคท่ีมีอาการรุนแรง เช่น โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (MERS) เป็นต้น ไวรัส
โคโรนาถูกค้นพบมีทัง้ หมด 6 สายพันธ์ุ ซ่ึงสายพันธุท์ ี่กาลังแพรร่ ะบาดหนักทัว่ โลกตอนน้ี เปน็ สายพันธุ์ที่
ไมเ่ คยพบมากอ่ น คือ สายพนั ธ์ุท7ี่ จงึ ถกู เรียกวา่ โรคไวรัสโคโรนา 2019 หรอื โควดิ 19 (COVID-19)

จากข้อมูลผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ธุรกิจโรงแรมเป็นอีกหน่ึงธุรกิจที่ได้รับ
ผลกระทบโดยตรงจากการทีน่ ักท่องเท่ียวบางส่วนหายไปจากมาตรการการการปิดเมืองและปิดประเทศ
(Lockdown) ส่งผลทาให้โรงแรมมีการขาดสภาพคล่องช่วง 4 เดอื นแรกของปี 2563 ซึง่ ภายหลงั จากที่
สถานการณ์โควิด-19 ภายในประเทศมีแนวโน้มที่จะคลี่คลายไปในทางท่ีดีขึ้น ทาให้ธุรกิจโรงแรมเร่ิมมี
การปรบั แบบ New normal เข้ามารวมไปถึงการปรับกลยุทธ์ต่างๆ เพอื่ ใหธ้ ุรกิจสามารถดาเนนิ กิจการ
ต่อไปได้ นอกจากนั้นธุรกิจโรงแรมมีการเตรียมมาตรการที่เป็นมาตรฐานไว้รองรับเพ่ือสร้างความ
น่าเช่ือถือและความเช่ือม่ันแก่ลูกค้า เรียกว่า มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ Amazing
Thailand Safety & Health Administration (SHA) (สมาคมโรงแรมไทย, 2563)

ระเบยี บวิธีการวจิ ัย
งานวิจยั น้ีเป็นงานวจิ ยั เชงิ ผสมผสาน (Mixed Research Methodologies) ซง่ึ จะใช้การ

วจิ ัยแบบขน้ั ตอนเชงิ อธิบาย (Explanatory Sequential Design) โดยการวจิ ัยจะแบง่ เป็น 2 ขนั้ ตอน
ช่วงแรกเป็นการวิจัยเชิงปริมาณเพื่อตอบปัญหาการวิจัย และการวิจัยเชิงคุณภาพ เพ่ือช่วยในการ
อธิบายผลให้กระจา่ งย่ิงขน้ึ โดยแบ่งการเก็บขอ้ มูลตัวอย่าง 2 แบบ ดงั น้ี

1. การวจิ ยั เชงิ ปริมาณ
ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ ผู้บริโภคท่ีมาใช้บริการโรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร

หลังวกิ ฤตการณ์โควดิ -19
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคร้ังนี้ คือ ผู้บริโภคที่มาใช้บริการโรงแรมในเขต

กรงุ เทพมหานคร หลังวิกฤตการณโ์ ควิด-19 ใช้วธิ กี ารส่มุ ตัวอย่างแบบไม่อาศัยความน่าจะเปน็ (Non-
probability sampling) โดยวิธีการสุ่มตามความสะดวก (convenience sampling) จากผู้บริโภค
ทม่ี าใช้บรกิ ารโรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร สถานทใ่ี นการทาการศกึ ษาที่ผู้วจิ ยั ใชใ้ นการเกบ็ รวบรวม
ขอ้ มลู คือ บริเวณธรุ กจิ โรงแรมในเขตพื้นท่ีจงั หวัดกรุงเทพมหานคร รวมทงั้ สิน้ 400 ตัวอยา่ ง

เคร่ืองมอื ท่ใี ช้ในการวิจยั ผูว้ ิจยั ใชแ้ บบสอบถาม (Questionnaire) ในการเกบ็ ขอ้ มลู จาก
ผู้บริโภคท่ีมาใช้บริการโรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร รวมทั้งส้ิน 400 ตัวอย่าง ซ่ึงแบบสอบถามมี
ทัง้ หมด 5 ตอน ดงั นี้

ตอนที่ 1 แบบสอบถามข้อมูลท่ัวไปที่มีลักษณะทางด้านประชากรศาสตร์หรือปัจจัย
ส่วนบุคคล (Demographic Data) มีลักษณะของคาถามที่เกี่ยวกับเพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ
รายได้เฉลย่ี ตอ่ เดอื น ด้วยวิธเี ลือกตอบ (Check list)

94

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ตอนที่ 2 ขอ้ คาถามปจั จัยส่วนประสมทางการตลาด หลงั วิกฤตการณ์โควิด-19 ไดแ้ ก่
ด้านผลิตภัณฑ์หรือบริการ (Product) ด้านราคา (Price) ด้านสถานท่ีและช่องทางการจาหน่าย
(Place) ด้านการส่งเสริมการตลาด (Promotion) ด้านบุคลากรหรือพนักงาน (People)
ด้านกระบวนการ (Process) ด้านลักษณะทางกายภาพ (Physical Evidence) ด้วยวิธีมาตราส่วน
ประมาณค่า 5 ระดับ (Rating scale)

ตอนที่ 3 ข้อคาถามเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคหลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ได้แก่
ผู้บริโภคเข้าใช้บริการกับใคร ประเภทของห้องพัก วัตถุประสงค์ในการเข้าพัก ผู้มีส่วนร่วมในการ
ตัดสินใจเข้าพัก ช่วงเวลาที่ใช้บริการ ช่องทางการจองท่ีพัก และผู้บริโภครู้จักท่ีพักได้อย่างไร ด้วยวิธี
เลอื กตอบ (Check list)

ตอนที่ 4 ส่วนเกี่ยวกับการตัดสินใจเลือกใช้บริการธุรกิจโรงแรมในเขต
กรุงเทพมหานคร หลงั วิกฤตการณ์โควิด-19 ด้วยวิธีมาตราสว่ นประมาณค่า 5 ระดบั (Rating scale)

ตอนท่ี 5 ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอ่ืนๆ ลักษณะของคาถามเป็นคาถาม
ปลายเปดิ (Open Ended Question)

2. การวิจยั เชิงคณุ ภาพ
กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร หลัง

วิกฤตการณ์โควิด-19 โดยสุ่มตามความสะดวก (convenience sampling) จานวน 2 โรงแรม ใช้
วิธีการสัมภาษณ์แบบเชิงลึก (In depth interview) ด้วยคาถามปลายเปิด เกี่ยวกับกลยุทธ์ทาง
การตลาด

ขอบเขตด้านระยะเวลาในการศึกษางานวิจยั เริ่มต้ังแต่เดือน พฤศจิกายน 2563 ถึงเดอื น
ธนั วาคม 2563

เครื่องมือท่ีใช้ในการวิจัย ใช้วิธีการสัมภาษณ์แบบเชิงลึก (In depth interview) ด้วย
คาถามปลายเปิด เพื่อสอบถามเกี่ยวกับปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ตอบแบบสอบถาม และปัจจัยส่วน
ประสมทางการตลาด หลังวกิ ฤตการณโ์ ควิด-19

การวเิ คราะหข์ ้อมลู
1. การวิเคราะห์ข้อมูลท่ัวไปของผู้ตอบแบบสอบถาม และข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรม

ผู้บริโภค หลังวิกฤตการณ์โควดิ -19 โดยใช้วิธีประมวลผลทางสถิติพรรณนา (Descriptive statistics)
แล้วนาขอ้ มูลมาวิเคราะห์ค่าทางสถิตทิ ี่ประกอบไปดว้ ยการแจกแจงความถ่ี (Frequency) และรอ้ ยละ
(Percentage)

2. การวิเคราะห์ข้อมูลเก่ียวกับกลยุทธ์ทางการตลาด และการตัดสินใจเลือกใช้บริการ
ธุรกิจโรงแรม หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 โดยวิธกี ารประมวลผลทางสถิติเชงิ พรรณนา โดยนาข้อมูลมา
วิเคราะห์ค่าทางสถิติที่ประกอบไปด้วยค่าเฉล่ีย (Mean) และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (Standard
deviation)

3. การทดสอบสมมติฐานของการค้นคว้าอิสระน้ีจะใช้การทดสอบ โดยการใช้การ
วิเคราะห์ทดสอบความแตกต่างของค่าเฉล่ียของสองกลุ่มตัวอย่าง t-test และการวิเคราะห์ความ
แปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) หรือ f-test เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของปัจจัยส่วน
บุคคลและกลยุทธ์ทางการตลาด หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ท่ีส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการ

95

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ธุรกิจโรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร ใช้การวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุคูณ (Multiple Regression
Analysis) เพื่อตรวจสอบคุณภาพหรือประสิทธิผลที่ได้รับที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บรกิ ารธุรกจิ
โรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ส่วนพฤติกรรมผู้บริโภคหลังวิกฤตการณ์
โควิด-19 ใช้วธิ ปี ระมวลผลทางสถิตพิ รรณนา บรรยายผลการวิเคราะห์ข้อมูลทไี่ ด้รับจากผูบ้ รโิ ภค เพื่อ
ดพู ฤตกิ รรมผบู้ ริโภคมีการเปลีย่ นแปลงจากกอ่ นวิกฤตการณโ์ ควิด-19 อย่างไร

ผลการวจิ ยั
1. ผลการวจิ ยั เชิงปริมาณ
ตอนท่ี 1 ผลการวเิ คราะห์ข้อมูลปัจจัยส่วนบุคคล จากการศึกษาพบว่าผตู้ อบแบบสอบถาม

สว่ นใหญ่เปน็ เพศหญงิ มีอายุ 21 - 30 ปี มีระดับการศกึ ษาปรญิ ญาตรี มอี าชีพพนักงานบริษัทเอกชน
มีรายได้เฉลีย่ ตอ่ เดือน 25,001 – 35,000 บาท

ตอนที่ 2 ค่าเฉล่ียและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานระดับความสาคัญของปัจจัยส่วนประสมทาง
การตลาดหลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการธุรกิจโรงแรมในเขต
กรุงเทพมหานคร ในภาพรวมอย่ใู นระดบั ความสาคญั ระดับมากทส่ี ุด เมอ่ื พจิ ารณารายดา้ นพบว่า ดา้ น
ท่ีมากท่ีสุด คือ ด้านพนักงานให้บรกิ าร ( ̅ = 4.47, S.D. = 0.54) รองลงมา คือ ด้านช่องทางการจดั
จาหน่ายและด้านลักษณะทางกายภาพ ( ̅ = 4.43, S.D. = 0.56) ดา้ นกระบวนการ ( ̅ = 4.42, S.D. = 0.57) ด้านราคา
( ̅=4.46,S.D. =0.64)และดา้ นผลิตภณั ฑ์และบรกิ าร ( ̅=4.27,S.D. =0.61)ตามลาดบั

ตอนที่ 3 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเก่ียวกับพฤติกรรมผู้บริโภค หลังวิกฤตการณ์โควิด-19
ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการธุรกิจโรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร พฤติกรรมของผู้บริโภค
สว่ นใหญ่ เลือกใชบ้ รกิ ารโรงแรมแบบเลือกพกั กบั ครอบครัว เลือกหอ้ งพกั ประเภทหอ้ งเตียงเดี่ยว/เตียง
คู่ มีวัตถุประสงค์เพื่อการท่องเท่ียว เลือกตัดสินใจด้วยตนเอง มีการใช้บริการโรงแรมเนื่องในโอกาส
พิเศษต่างๆ จองห้องพกั ผ่านทาง Social Media เช่น Facebook, Line เป็นต้น รู้จักโรงแรมจากรวี ิว
ในช่องทาง Social Media ต่างๆ เช่น Facebook, Youtube เป็นต้น และราคาห้องพักท่ีใช้บริการ
ราคา 1,001 บาท – 2,000 บาท ตามลาดบั

ตอนที่ 4 เป็นส่วนที่เก่ียวกับการตัดสินใจเลือกใช้บริการธุ รกิจโรงแรมในเขต
กรุงเทพมหานคร หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ระดับความสาคัญของการตัดสินใจเลือกใช้บริการธุรกจิ
โรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 อันดับแรก คือ การรับรู้ถึงความต้องการ
หรือปัญหา ( ̅ = 4.51, S.D. = 0.59) รองลงมา คือ การตัดสินใจซื้อ ( ̅ = 4.38, S.D. = 0.62)
พฤติกรรมภายหลังการซื้อ ( ̅ = 4.37, S.D. = 0.56) การประเมินทางเลอื ก ( ̅ = 4.37, S.D. = 0.61)
และการคน้ หาข้อมลู ( ̅ = 4.22, S.D. = 0.61) ตามลาดบั

ตอนที่ 5 ผลการวเิ คราะห์ขอ้ มลู ตามสมมตฐิ าน
สมมตฐิ านที่ 1 ปัจจัยส่วนบุคคลท่ีแตกต่างกันมีการตดั สินใจเลอื กใช้บรกิ ารธรุ กิจโรงแรม

ในเขตกรุงเทพมหานคร หลงั วกิ ฤตการณ์โควิด-19 แตกตา่ งกัน

96

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ตารางที่ 1 แสดงภาพรวมความแตกต่างของการทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยของสองกลุ่ม

ตัวอย่าง (t-test) และการวเิ คราะหค์ วามแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) ระหว่างปจั จัยสว่ น

บุคคลกบั กระบวนการตัดสนิ ใจซ้ือ

ปัจจัยส่วน กระบวนการตัดสินใจซอื้
บคุ คล
การรบั รู้ถึง การคน้ หา การประเมิน การตดั สนิ ใจ พฤตกิ รรม ภาพรวม
ความต้องการ ข้อมูล ทางเลือก ซื้อ ภายหลังการซือ้
หรอื ปญั หา

1. เพศ 0.08 0.06 0.42 0.11 0.21 0.11

2. อายุ 0.00* 0.01* 0.02* 0.01* 0.04* 0.00*

3. ระดับการศกึ ษา 0.33 0.11 0.59 0.63 0.38 0.38

4. อาชพี 0.23 0.06 0.45 0.35 0.77 0.30

5. รายได้เฉลี่ย 0.00* 0.00* 0.13 0.00* 0.00* 0.00*
ต่อเดอื น

* มนี ัยสาคญั ทางสถิติท่รี ะดบั .05

จากตารางท่ี 1 ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ อายุและรายได้เฉลี่ยต่อ

เดือน มีการตัดสินใจเลือกใช้บริการธุรกิจโรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร หลังวิกฤตการณ์โควิด-19
แตกตา่ งกนั ได้ค่านยั สาคัญทางสถติ เิ ท่ากบั 0.00 อย่างมีนยั สาคญั ทางสถิตทิ ่ีระดบั .05

สมมติฐานท่ี 2 ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการ

ธุรกิจโรงแรมในเขตกรงุ เทพมหานคร หลงั วกิ ฤตการณโ์ ควิด-19

ตารางท่ี 2 แสดงภาพรวมความแตกต่างของการทดสอบความแตกต่างวิเคราะห์ถดถอยเชิงพหุ

(Multiple Regression Analysis) ด้วยวิธี Enter ระหว่างปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดกับ

กระบวนการตัดสนิ ใจซอื้

ปจั จยั สว่ นประสมทาง การรับร้ถู ึงความ กระบวนการตดั สินใจซือ้
การตลาด ต้องการหรือปัญหา
การคน้ หา การประเมนิ การตดั สนิ พฤติกรรม
ขอ้ มลู ทางเลือก ใจซื้อ ภายหลงั การซือ้

1. ด้านผลิตภัณฑแ์ ละ - - -- -
บรกิ าร

2. ด้านราคา - -0.20 - - -
(0.01*)

3. ดา้ นชอ่ งทางการ 0.23 - - 0.20 0.15
จดั จาหน่าย (0.00*) (0.01*) (0.04*)

4. ด้านการส่งเสริม - 0.31 - - -
ทางการตลาด (0.00*)

5. ด้านพนกั งาน - - -- -
ใหบ้ รกิ าร

6. ดา้ นกระบวนการ 0.27 0.24 - - 0.18
(0.00*) (0.00*) (0.03*)

7. ด้านลกั ษณะทาง - - 0.20 - -
กายภาพ (0.01*)

* มีระดับนัยสาคญั ท่ีระดบั .05 - ไมแ่ ตกต่างกนั

97

การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

จากตารางท่ี 2 ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดส่งผลต่อการ
ตัดสินใจเลือกใช้บริการธุรกิจโรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ได้แก่ ด้าน
ราคา ด้านชอ่ งทางการจัดจาหนา่ ย ดา้ นการสง่ เสรมิ ทางการตลาด ด้านกระบวนการ และด้านลักษณะ
ทางกายภาพ อยา่ งมรี ะดบั นยั สาคญั ท่รี ะดบั .05

2. ผลการวจิ ัยเชิงคณุ ภาพ
จากผลการสัมภาษณ์พบว่าศึกษาจากการดาเนินการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการธุรกิจ

โรงแรมจานวน 2 แห่งในเขตกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดหลัง
วิกฤตการณ์โควิด-19 ระยะที่ 1 โดยใช้การสัมภาษณ์แบบเชิงลึก (In-depth Interview) ด้วยคาถาม
ปลายเปิด จากผลการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการโรงแรมที่ได้รับการรบั รองมาตรฐานระดับ 3 ดาว และ
ไดร้ บั มาตรฐานความปลอดภัยด้านสขุ อนามยั เพือ่ นักท่องเท่ียว (SHA) ตามมาตรฐานของการท่องเท่ยี ว
แหง่ ประเทศไทย โดยจะมกี ารตรวจจากคณะกรรมการของภาครฐั อยา่ งเคร่งครดั ทุกๆ 5 ปี ในภาพรวม
ธุรกจิ โรงแรมไดร้ ับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควดิ -19 เปน็ อยา่ งมาก ซึง่ ช่วงหลงั วกิ ฤตการณโ์ ควดิ -19
ระยะที่ 1 ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงธันวาคม 2563 เริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้ามาใช้บริการมากข้ึน
โดยสว่ นใหญจ่ ะมาจากโครงการที่ภาครัฐจดั ตัง้ ข้ึนช่ือว่า “โครงการเราเที่ยวดว้ ยกนั ” รวมไปถงึ งานจัด
เล้ียง จัดประชุมสัมมนาทั้งภาครัฐและเอกชนก็เช่นกัน แต่หลังจากเดือนธันวาคม 2563 ท่ีมีข่าว
วิกฤตการณ์โควิด-19 ระยะที่ 2 ส่งผลทาให้ลูกค้าขอเล่ือนการเข้าพักและการประชุมไปแบบไม่มี
กาหนดทแ่ี นน่ อน ทาใหธ้ ุรกจิ โรงแรมตอนน้ีจึงทาไดแ้ คร่ อมาตรการจากภาครัฐในการเข้ามาช่วยเหลือ
และประเมนิ สถานการณ์เพื่อหาทศิ ทางในการดาเนนิ ธรุ กจิ ตอ่ ไป

อภปิ รายผลการวิจัย
ผู้วิจัยได้นาประเดน็ ที่มคี วามสาคญั ที่เปน็ ประเดน็ ที่น่าสนใจมาอภปิ รายผล ดังนี้
1. จากผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบปัจจัยส่วนบุคคลที่แตกต่างกันมีการตัดสินใจเลือกใช้

บรกิ ารธุรกิจโรงแรมในเขตกรงุ เทพมหานคร หลังวกิ ฤตการณ์โควิด-19 แตกตา่ งกนั พบว่า ปจั จยั ส่วน
บุคคล ได้แก่ อายุและรายได้เฉล่ียต่อเดือน มีการตัดสินใจเลือกใช้บริการธุรกิจโรงแรมในเขต
กรุงเทพมหานคร หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 แตกต่างกัน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ จิตพิสุทธิ์
รัตนพงศ์ (2561) ที่ได้ศึกษาเรื่อง พฤติกรรมการใช้บริการและส่วนประสมทางการตลาดต่อการใช้
บริการธุรกิจโรงแรมระดับ 4 ดาวของนักท่องเท่ียวชาวไทย ในเขตอาเภอหาดใหญ่ พบว่า เพศ อายุ
ระดับการศึกษาและรายได้เฉล่ียต่อเดอื นต่างกนั มรี ะดบั ความสาคัญของส่วนประสมทางการตลาดต่อ
การเลอื กใช้บริการโรงแรมระดับ 4 ดาว ในเขตอาเภอหาดใหญ่ ตา่ งกัน

2. ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ท่ีส่งผลต่อการตัดสินใจ
เลือกใช้บริการธุรกิจโรงแรม ในเขตกรุงเทพมหานคร ในภาพรวมอยู่ในระดับความสาคัญระดับมาก
ที่สุด เม่ือพจิ ารณารายด้านพบว่า ด้านท่มี ากทสี่ ุด คือ ด้านพนักงานให้บริการ ซึ่งสอดคล้องกบั งานวจิ ยั
ของ ถนอมพงษ์ พานิช และ ศิริพงษ์ เจริญสุข (2557) ได้ศึกษาเรื่อง กลยุทธ์ทางการตลาดของธรุ กจิ
โรงแรมในจังหวดั พระนครศรีอยุธยา หลังผ่านวกิ ฤตการณ์มหาอุทกภัยนา้ ท่วม ปี พ.ศ. 2554 ท่ีพบว่า
กลยทุ ธท์ างการตลาดที่ผู้บริโภคมีความคาดหวงั อยู่ในระดับมาก ได้แก่ ด้านพนกั งาน พนกั งานจะตอ้ ง
มีมารยาทและมีมนุษย์สัมพันธ์ท่ีดีในการใหบ้ ริการ ความเอาใจใส่ต่อความต้องการของลูกค้าและควร
ปรับราคาตามคู่แข่งในตลาดรวมไปถึงการปรับราคาบริการเสริมอ่ืนๆ ลงไปด้วย และจากผลการ
วิเคราะหต์ ามสมมตฐิ าน พบว่าปัจจัยสว่ นประสมทางการตลาด 2 ดา้ น ได้แก่ ด้านผลติ ภณั ฑแ์ ละด้าน

98

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

พนักงานให้บริการ ไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการธุรกิจโรงแรมในเขตกรุงเทพมหานคร หลัง
วิกฤตการณ์โควิด-19 ซึ่งสามารถสรุปได้ว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่อาจมองว่าโรงแรมมาตรฐานระดับ 3
ดาวมีผลติ ภัณฑแ์ ละการใหบ้ ริการของพนกั งานท่ไี ด้มาตรฐานตามที่ตอ้ งการอยู่แลว้ ผู้บรโิ ภคจงึ อาจจะ
มองว่าปัจจัยด้านอ่ืนๆ สามารถตอบโจทย์ความต้องการหรือแก้ปัญหาของผู้บริโภคได้มากกว่า อาทิ
เช่น ด้านราคาท่ีสมเหตุสมผลและคุ้มค่ากับเงินท่ีจ่ายไป ด้านช่องทางการจัดจาหน่ายท่ีสะดวกและ
รวดเรว็ เป็นต้น

3. พฤติกรรมผู้บริโภค หลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ท่ีส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกใช้บริการ
ธุรกิจโรงแรม ในเขตกรุงเทพมหานคร ในภาพรวมอยใู่ นระดบั ความสาคัญระดับมากทีส่ ุด เม่ือพิจารณา
รายด้านพบว่า อันดบั แรก คอื พฤติกรรมของผูบ้ รโิ ภคส่วนใหญ่ รจู้ กั โรงแรมจากรวี ิวในชอ่ งทาง Social
Media ต่างๆ เช่น Facebook Youtube เป็นต้น ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ วีรพงษ์ ใจช่ืน (2559)
ได้ศึกษากลยุทธ์ทางการตลาดท่ีมีผลต่อการตัดสินใจกลับมาใช้บริการโรงแรม Boutique ซ้า ใน
อาเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ที่พบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคส่วนใหญร่ ู้จักโรงแรมท่ีพักผ่านทางชอ่ งทาง
Social Media อย่าง Facebook Line มากท่ีสุด และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ก็
เป็นโอกาสท่ที าใหผ้ ้ใู ชบ้ รกิ ารได้รจู้ กั โรงแรมทีพ่ ักมากข้ึน

4. ส่วนของการวิจัยเชิงคุณภาพ จากผลการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการโรงแรมท่ีได้รับการ
รับรองมาตรฐานระดับ 3 ดาวและได้รับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยว
(SHA) ตามมาตรฐานของการท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย จานวน 2 โรงแรม พบว่าภาพรวมธุรกิจ
โรงแรมได้รบั ผลกระทบจากวกิ ฤตการณ์โควิด-19 เปน็ อยา่ งมาก ช่วงหลังวกิ ฤตการณโ์ ควดิ -19 ระยะท่ี
1 ช่วงเดือนกรกฎาคมถึงธันวาคม 2563 เร่ิมมีนักท่องเท่ียวชาวไทยเข้ามาใช้บริการมากข้ึน โดยส่วน
ใหญ่จะมาจากโครงการทีภ่ าครัฐ แต่หลังจากเดือนธันวาคม 2563 ทมี่ ีข่าววกิ ฤตการณ์โควดิ -19 ระยะ
ท่ี 2 ส่งผลทาให้ลูกค้าขอเลื่อนการเข้าพักและการประชุมไปแบบไม่มีกาหนดท่ีแน่นอน ทาให้ธุรกิจ
โรงแรมตอนนีจ้ ึงทาไดแ้ ค่รอมาตรการจากภาครัฐในการเข้ามาช่วยเหลือและประเมินสถานการณ์เพ่ือ
หาทศิ ทางในการดาเนินธรุ กิจตอ่ ไป

ขอ้ เสนอแนะสาหรับผปู้ ระกอบการ
จากผลการศึกษางานวิจัยครั้งน้ี ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะสาหรับกลยุทธ์ทางการตลาดที่

เหมาะสมกับโรงแรม หลังวกิ ฤตการณโ์ ควิด-19 โดยมีขอ้ เสนอแนะดังน้ี
1. กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ ผู้ประกอบการควรให้ความสาคัญเร่ืองของความสะอาด และ

รักษาระดับมาตรฐานการใหบ้ ริการของโรงแรมเพอ่ื สรา้ งความม่นั ใจแกล่ ูกค้า โดยห้องพกั และบรเิ วณ
พ้ืนที่ของโรงแรมควรมกี ารทาความสะอาดฆา่ เช้ือเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภยั ด้านสุขอนามัย
ท่ีกาหนดไว้ มสี ่งิ อานวยความสะดวกอยา่ งครบครัน หากมเี ทคโนโลยใี หม่ท่ีลดการสัมผัส อาทิเช่น การ
สแกน QR code แทนการใช้ Key card การติดตั้งเคร่ืองแสกนอุณหภูมิแบบอัตโนมัติเพื่อลด
ระยะเวลาและการสัมผสั เมื่อลูกค้าเดินผ่านจุดลงทะเบียน ซ่งึ เป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่ลกู ค้าท่ีมา
เข้ารับบริการ

2. กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ์ด้านราคา เน้นไปที่การปรับราคาให้เหมาะสมกับช่วงหลัง
วิกฤตการณ์โควิด-19 หรือมีการมอบส่วนลดใหก้ ับลกู ค้าทเ่ี ป็นสมาชกิ เปน็ พเิ ศษ เพือ่ กระตุ้นการเข้าใช้
บรกิ ารเพ่มิ มากขน้ึ และสร้างความภักดีตอ่ โรงแรมในการกลบั มาใชบ้ ริการซา้

3. กลยุทธ์ด้านช่องทางการจัดจาหนา่ ย โรงแรมควรมีเว็บไซต์ทางการของโรงแรม ช่อง
ทางการติดต่อโรงแรมหลากหลายช่องทางอย่างชัดเจน อาทิเช่น หน้าเว็บไซต์ทางการของโรงแรม

99

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

Facebook Line เป็นต้น เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลเก่ียวกับโรงแรม โปรโมชั่นพิเศษ การ
ติดต่อสารองท่ีพัก หรือการเข้าร่วมกับเอเจนซ่ีเว็บไซต์ท่ีพักและสถานท่ีท่องเท่ียว เพ่ือกระตุ้นลูกค้า
และประชาสมั พนั ธโ์ รงแรม

4. กลยทุ ธ์ด้านการส่งเสริมการตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธโ์ รงแรมที่พัก การทารวี วิ
แบบสปอนเซอร์กับผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียล (influencer) ด้านการท่องเท่ียวต่างๆ ที่มีคนติดตาม
จานวนมาก หรือการจัดโปรโมชั่นพิเศษสาหรับหลังวิกฤตการณ์โควิด-19 ผ่านทางช่องทาง Online
เพ่ือสร้างการรับร้ใู หล้ ูกค้าไดร้ ู้จกั โรงแรมทีพ่ ักมากขึน้ โดยช่องทาง Social Media ทีผ่ ้บู ริโภคส่วนใหญ่
เข้าถึงมากที่สดุ ในปัจจุบนั ได้แก่ Facebook Youtube Line เป็นต้น รวมไปถงึ การรว่ มมือกับสถาบัน
ทางการเงินและบัตรเครดิต สาหรับการสะสมแต้มและจัดโปรโมช่ันส่วนลดสิทธิพิเศษสาหรับลูกค้าท่ี
ถือบัตรเครดิตดงั กลา่ วซึ่งจะได้รบั สว่ นลดทมี่ ากกว่าปกติ

5. กลยุทธ์ด้านบุคลากรหรือพนักงาน ผู้ประกอบการควรเคร่งครัดการรักษาระดับ
มาตรฐานความสะอาดและการให้บริการลูกค้าของพนักงานโรงแรม ตั้งแต่การเข้าถึงพ้ืนที่โรงแรม
ซ่ึงส่วนของมาตรฐานความสะอาดควรมีการคัดกรองพนักงานก่อนเข้าพื้นที่โรงแรม พนักงานต้อนรับ
ควรมีการแต่งกายที่สุภาพ เรียบร้อย สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และมีการเว้นระยะห่างใน
ขณะที่ให้บริการลูกค้า ส่วนของพนักงานทาความสะอาดควรสวมใส่ถุงมือป้องกัน เมื่อต้องทาความ
สะอาดทุกคร้ัง และโรงแรมควรมีการทาความสะอาดในพ้ืนที่สาธารณะหรือพ้ืนท่ีๆ มีผู้ใช้บริการ
จานวนมากทกุ ๆ 2 ชวั่ โมง

6. กลยุทธ์ด้านกระบวนการ โรงแรมควรมีกระบวนการให้บริการที่เข้าถึงอย่างรวดเร็ว
ไม่ซบั ซอ้ น ทาให้ลกู คา้ ประทบั ใจเมอ่ื เข้ารับบรกิ าร และมีจดุ คดั กรองลูกค้าก่อนเข้าพน้ื ทโี่ รงแรม ลูกค้า
ท่ีเข้าใช้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคร้ังเม่ือเข้ารับบริการ พ้ืนที่สาธารณะควรมีการจากัด
จานวนคนเข้าใช้บรกิ ารเพื่อลดความเสีย่ งตอ่ โรคโควดิ -19 มีการจัดพนื้ ท่ีรอควิ แบบเวน้ ระยะห่างอย่าง
นอ้ ย 1 เมตร

7. กลยุทธ์ด้านลักษณะทางกายภาพ ควรมีการจัดการควบคุมทางเข้า-ออกและจุดคัด
กรอง ตรวจวัดอุณหภูมิและมีจุดลงทะเบียนผู้ใช้บริการหรอื จุดสแกน QR Code เพ่ือทาการ Check-
in โรงแรม มีพืน้ ทสี่ าหรับรอคิว พนื้ ท่ตี อ้ นรับและมีเส้นบอกระยะหา่ งระหวา่ งบุคคล ในพน้ื ทส่ี าธารณะ
ของโรงแรมชดั เจน มีท่สี าหรับลา้ งมือหรือเจลแอลกอฮอล์ตามจุดต่าง ๆ ภายในโรงแรมท่เี พียงพอ

ข้อเสนอแนะในการวิจัยครงั้ ต่อไป
1. เน่ืองจากการวิจัยคร้ังน้ีมีกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริโภคที่มาใช้บริการโรงแรมมาตรฐาน

ระดับ 3 ดาว ในเขตกรุงเทพมหานครเท่านนั้ ควรมีการศึกษาเพิ่มเติมในโรงแรมระดับมาตรฐานอืน่ ๆ
นอกเหนือจากมาตรฐานระดับ 3 ดาว และศึกษาถึงปัจจัยอื่นท่ีส่งผลต่อความพึงพอใจหรือความ
ต้องการของผทู้ ีม่ าใช้บริการธรุ กจิ โรงแรม

2. การวิจัยคร้ังน้ีเป็นงานวิจัยเชิงผสมผสาน ควรมีการศึกษาวิจัยเจาะลึกเชิงคุณภาพ
(Qualitative Study) กลุ่มเป้าหมายท่ีเป็นผู้ประกอบการที่นอกเหนือจากโรงแรม ในจังหวัดอ่ืน ๆ
ท่ีเป็นแหล่งท่องเที่ยว อาทิเช่น เกสต์เฮ้าส์ รีสอร์ท เป็นต้น เพ่ือเป็นแนวทางในการดาเนินการทาง
ธุรกจิ โรงแรมฟนื้ ตัว หลงั จากวกิ ฤตการณ์โควิด-19 ว่ามกี ารเปล่ียนแปลงมากนอ้ ยแคไ่ หน

100

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

เอกสารอ้างอิง
จติ พิสทุ ธิ์ รัตนพงศ์. (2561). พฤติกรรมการใชบ้ ริการและสว่ นประสมทางการตลาดต่อการใช้

บรกิ ารธุรกจิ โรงแรมระดบั 4 ดาวของนกั ทอ่ งเที่ยวชาวไทย ในเขตอาเภอหาดใหญ่.
(การค้นควา้ อสิ ระปริญญามหาบัณฑติ , มหาวทิ ยาลัยรามคาแหง).
ถนอมพงษ์ พานิช และ ศริ พิ งษ์ เจริญสุข. (2557). กลยุทธท์ างการตลาดของธุรกจิ โรงแรมในจงั หวัด
พระนครศรีอยุธยา หลังผา่ นวกิ ฤตการณ์มหาอุทกภยั น้าทว่ ม ปี พ.ศ.2554.
วารสารวชิ าการการตลาดและการจดั การ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี,
4 (2), หน้า 32–58.
ภานวุ ัฒน์ วฒั นสมบรู ณช์ ัย. (2555). กลยุทธ์ทางการตลาดของโรงแรมขนาดกลางในเขตอาเภอ
เมอื ง จงั หวัดพิษณโุ ลก. (งานนิพนธป์ รญิ ญามหาบณั ฑติ , มหาวิทยาลยั บูรพา).
วีรพงษ์ ใจชื่น. (2559). กลยทุ ธ์ทางการตลาดทมี่ ีผลต่อการตดั สินใจกลบั มาใชบ้ รกิ ารโรงแรม
Boutique ซ้า ในอาเภอท่าใหม่ จังหวดั จนั ทบรุ ี. (งานนิพนธป์ รญิ ญามหาบัณฑติ ,
มหาวทิ ยาลัยบรู พา).
ศิริวรรณ เสรีรัตน์. (2550). พฤติกรรมผบู้ รโิ ภค. กรุงเทพฯ: ธีระฟลิ ม์ และไซเทก็ ซ.์
ศริ วิ รรณ เสรีรตั น์ ปรญิ ลักษติ านนท์ และ ศุภร เสรรี ตั น.์ (2541). การบริหารการตลาดยคุ ใหม่.
กรงุ เทพฯ: ธีระฟิลม์ และไซเท็กซ์.
ศวิ ารัตน์ ณ ปทมุ และคณะ. (2550). พฤตกิ รรมผู้บริโภคช้นั สูงการตลาดอตุ สาหกรรมธรุ กจิ
การคา้ ปลกี การสื่อสารการตลาดบูรณาการ. กรุงเทพฯ: BrandAge book.
ศูนย์วิจยั ออมสิน. (2563). ธุรกิจโรงแรม ปี 2563. สบื ค้นจาก
https://www.gsbresearch.or.th/gsb/economics/7865/
สมาคมโรงแรมไทย. (2563). COVID-19 prevention guidelines for hotels. สบื คน้ จาก
http://www.thaihotels.org/17191900/covid-19-prevention-guidelines-
for-hotels?fbclid=IwAR0UfMrrOGaN_MPNlQSkipuES_
BrgshHZLboM3qkBGSB4IiXxYBb75AxrIo
Kinicki, A., & Williams, B. K. (1990). The process of communication. New York: Holy,
Rinehart.
Kotler, P. (2003). Marketing Management (11thed). Upper Saddle River: Pearson
Education.
Payne, A. (1993). The essence of services marketing. Hertfordshire: Prentice Hall.

101

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

102

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

คุณภาพการใหบ้ รกิ ารท่สี ่งผลตอ่ ความพึงพอใจของผู้โดยสาร
ต่อการใชบ้ ริการทา่ อากาศยานดอนเมอื งสาหรับการเดนิ ทาง

ในประเทศในยุคความปกตใิ หม่

กรองแก้ว บุตรรักษ์1
นักศึกษาปรญิ ญาโทหลกั สูตรบริหารธุรกจิ มหาบัณฑติ คณะบริหารธุรกิจ

มหาวทิ ยาลยั รังสติ

กญั ญ์กณษิ ฐ์ กมลกิตติวงศ์
ผู้อานวยการหลกั สูตรบรหิ ารธรุ กิจมหาบณั ฑิต คณะบรหิ ารธรุ กิจ

มหาวิทยาลัยรงั สติ

บทคดั ยอ่
การศึกษาครัง้ นม้ี ีวัตถปุ ระสงค์เพื่อศกึ ษา 1) ปัจจยั สว่ นบุคคลท่ีส่งผลตอ่ ความพึงพอใจของ
ผู้โดยสารต่อการใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมือง และ 2) คุณภาพการให้บริการท่ีส่งผลต่อความพึง
พอใจของผู้โดยสารต่อการใช้บรกิ ารท่าอากาศยานดอนเมือง โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวม
ข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้บริการท่ีใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมือง จานวน 400 คน ทาการ
วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดย
การเปรียบเทียบค่าเฉล่ียของกลุ่มประชากรแบบอิสระ การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และ
การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการศึกษา พบวา่ 1) ปัจจยั ส่วนบคุ คลด้านอาชพี สง่ ผลต่อความพึง
พอใจของผู้โดยสารต่อการใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมอื ง และ 2) คุณภาพการให้บริการด้านการ
ตอบสนองต่อผู้ใช้บริการ ด้านการให้ความเชื่อม่ันต่อผู้ใช้บริการ และด้านความน่าเชื่อถือไว้วางใจได้
ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้โดยสารต่อการใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมือง อย่างมีนัยสาคัญทาง
สถติ ิทีร่ ะดบั 0.05

คาสาคญั : คณุ ภาพการใหบ้ รกิ าร ความพงึ พอใจ ทา่ อากาศยานดอนเมือง ความปกติใหม่

1 นักศึกษาปริญญาโทหลักสูตรบรหิ ารธุรกจิ มหาบัณฑิต คณะบริหารธุรกิจ มหาวทิ ยาลัยรงั สิต ต.หลักหก อ.เมอื ง
จ.ปทมุ ธานี 12000 หมายเลขติดตอ่ : 080-461-4936 อีเมล: [email protected]

การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

SERVICE QUALITY FACTORS AFFECTS TO PASSENGER’S
SATISFACTION OF DON MUEANG AIRPORT
FOR DOMESTIC IN NEW NORMAL

Krongkaew Butrak1
Graduate Student, Master of Business Administration, Faculty of Business Administration

Rangsit University

Kankanit Kamolkittiwong
Director of Master of Business Administration Program, Faculty of Business Administration

Rangsit University

Abstract
The objectives of this research were to: 1) the personal factors affecting
passenger satisfaction on the use of Don Mueang Airport services, and 2) the quality of
service affecting passengers' satisfaction of using Don Mueang Airport services. The
questionnaire was used to collect data from a sample group of 400. Data were
analyzed using frequency, percentage, mean, standard deviation, hypothesis testing:
t-test, One-Way ANOVA, and Multiple Linear Regression. The results revealed that
1) the personal factor in occupation affecting passenger satisfaction on the use of Don
Mueang Airport services, and 2) the quality of service about responsiveness, assurance,
and reliability that affected passengers' satisfaction of using Don Mueang Airport
services were statistically significant at the 0.05 level.

Keywords: Service Quality, Satisfaction, Don Mueang Airport, New Normal

1 Corresponding Author: Graduate Student, Master of Business Administration, Faculty of Business
Administration, Rangsit University. Contact Number: +6680-461-4936 Email: [email protected]

104

การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

บทนา
อุตสาหกรรมภาคการขนส่งทางอากาศมีส่วนสร้างความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและ

สังคมของประเทศไทย ซง่ึ บริษัท การทา่ อากาศยานไทย จากดั (มหาชน) รายงานว่า ปรมิ าณผูโ้ ดยสาร
ในช่วงเดือนมถิ ุนายน พ.ศ. 2563 มีปริมาณเพ่ิมมากข้ึนจากเดือนพฤษภาคมเป็นอย่างมาก เนื่องจาก
รัฐบาลได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการให้เดินทางระหว่างจังหวัดได้รวมทั้งรัฐบาลยังมีการผ่อนปรน
มาตรการเคอร์ฟิว โดยในช่วงเดือนมิถุนายนท่ีผ่านมาน้ัน มีสายการบินกลับมาให้บริการที่ท่าอากาศ
ยานดอนเมอื งเพม่ิ มากข้ึน ประกอบด้วย สายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินนกแอร์ และสายการ
บินไทยไลอ้อนแอร์ โดยให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศรวม 152 เท่ียวบิน แบ่งเป็นเท่ียวบิน
ขาเข้าจานวน 76 เที่ยวบิน และเที่ยวบินขาออกจานวน 76 เที่ยวบิน รวมทั้งสิ้น 23 จังหวัด
ประกอบด้วย จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดนครพนม จังหวัดตรัง จังหวัดอุดรธานี
จังหวัดเชียงราย จังหวัดขอนแก่น อาเภอหาดใหญ่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช
จงั หวดั เชียงใหม่ จังหวดั ลาปาง จังหวดั บุรรี ัมย์ จังหวัดพษิ ณโุ ลก จังหวดั สกลนคร จงั หวดั น่าน จงั หวดั
กระบี่ จังหวัดนราธิวาส จังหวัดภูเก็ต จังหวัดแพร่ จังหวัดชุมพร อาเภอแม่สอด และจังหวัดระนอง
(กรุงเทพธรุ กจิ ออนไลน์, 2563)

สาหรับการบริการภายในท่าอากาศยานดอนเมืองน้ัน ที่ผ่านมาพบว่า มีหลายเหตุการณ์ท่ี
เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมการรองรับและแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าอยู่เสมอ แต่ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์หรือ
ปัญหาใด เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่และเต็มความสามารถเพื่อให้ผู้โดยสารได้รับบริการ
ที่ดีท่ีสุด อย่างไรก็ตาม การส่งมอบบริการท่ีดีท่ีสุดไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป หากแต่เป็นการมอบ
บริการที่ตรงกับความต้องการหรือความคาดหวังของลูกค้าหรือผู้ใช้บริการต่างหากท่ีจะนาไปสู่ความ
พึงพอใจได้ ดังท่ี พิสิทธ์ิ พิพัฒน์โภคากุล (2555) กล่าวถึงการบริการลูกค้าอย่างมีคุณภาพ (Service
Quality) ว่ามิใช่เป็นการส่งมอบบริการท่ีดีท่ีสุดให้ลูกค้า แต่เป็นการส่งมอบบรกิ ารตามความต้องการ
ของลูกค้าเป้าหมาย เพ่ือให้ลูกค้าเป้าหมายที่ได้รับบริการไปแล้วเกิดความพึงพอใจ ดังนั้น ในการ
วางแผนพฒั นาคุณภาพบริการของทา่ อากาศยานดอนเมืองจงึ ควรคานงึ ถงึ ความคิดเหน็ ความตอ้ งการ
และปจั จัยท่ีจะนาไปสคู่ วามพึงพอใจของผู้ใช้บรกิ ารด้วย ดงั ท่ี จิตตินันท์ นันทไพบูลย์ (2551) กล่าววา่
การรบั ฟงั ความคิดเห็นของลกู ค้าเพอ่ื สะท้อนประสทิ ธิภาพและประสิทธิผลของการดาเนนิ งานบริการ
จะเป็นตัวช้ีขอ้ บกพรอ่ งและขอ้ ได้เปรียบขององคก์ ร เพือ่ การปรับปรงุ แกไ้ ขและพฒั นาคุณภาพของการ
บริการให้สอดคล้องกับความคาดหวังของลูกค้าอันนามาซึ่งความพึงพอใจในการบริการ เพราะ
เป้าหมายสงู สุดของความความสาเร็จในการดาเนินงานบริการ คือ ความพงึ พอใจของลกู คา้

ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ผู้วิจัยจึงสนใจทาการศึกษาคุณภาพการให้บริการท่ีส่งผลต่อ
ความพงึ พอใจของผโู้ ดยสารต่อการใช้บรกิ ารท่าอากาศยานดอนเมอื งสาหรบั การเดินทางในประเทศใน
ยุคความปกติใหม่ โดยผลจากวิจัยดังกล่าวจะนาไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงและพัฒนาการ
ดาเนินงานของท่าอากาศยานดอนเมืองให้มีคุณภาพที่ดีขึ้น เพ่ือเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับ
ผู้ใช้บริการในด้านมาตรฐานความปลอดภัยและด้านสาธารณสุข โดยถือปฏิบัติตามวิถีชีวิตปกติใน
รปู แบบใหม่ (New Normal) และสรา้ งความไดเ้ ปรียบทางการแข่งขันในอนาคต

วัตถุประสงค์ในการวจิ ัย
1. เพ่ือศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลท่ีส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้โดยสารต่อการใช้บริการ

ทา่ อากาศยานดอนเมอื งสาหรับการเดินทางในประเทศในยุคความปกติใหม่

105

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

2. เพื่อศกึ ษาคณุ ภาพการให้บริการที่สง่ ผลตอ่ ความพึงพอใจของผู้โดยสารต่อการใชบ้ ริการ
ทา่ อากาศยานดอนเมืองสาหรบั การเดนิ ทางในประเทศในยคุ ความปกตใิ หม่

สมมุติฐานการวิจยั

1. ปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้เฉล่ียต่อเดือน
ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้โดยสารต่อการใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมอื งสาหรับการเดินทางใน
ประเทศในยุคความปกตใิ หม่

2. คุณภาพการให้บริการ ได้แก่ ความเป็นรูปธรรมของการบริการ การตอบสนองต่อ
ผู้ใช้บริการ การให้ความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้บริการ ความเข้าใจและการรับรู้ความต้องการ และความ

น่าเชื่อถือไว้วางใจได้ ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้โดยสารต่อการใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมือง
สาหรับการเดนิ ทางในประเทศในยคุ ความปกตใิ หม่

กรอบแนวคิดในการวิจัย ตวั แปรตาม
ตวั แปรต้น
ความพงึ พอใจของผโู้ ดยสารตอ่ การใช้บริการ
ปัจจัยส่วนบคุ คล ทา่ อากาศยานดอนเมอื งสาหรับการเดินทาง
- เพศ
- อายุ ในประเทศในยุคความปกติใหม่
- ระดบั การศกึ ษา
- อาชีพ
- รายได้เฉล่ียตอ่ เดอื น

คุณภาพการใหบ้ ริการ

- ความเปน็ รปู ธรรมของการบรกิ าร
- การตอบสนองตอ่ ผูใ้ ชบ้ ริการ
- การใหค้ วามเช่ือมัน่ ตอ่ ผู้ใชบ้ รกิ าร
- ความเขา้ ใจและการรับรคู้ วามตอ้ งการ
- ความน่าเช่อื ถือไว้วางใจได้

(วิณารัตน์ ภวู พฒั นช์ ยั กจิ , 2559)

ภาพท่ี 1 กรอบแนวคดิ ในการวจิ ยั

การทบทวนวรรณกรรม
แนวคดิ คุณภาพการบริการ

คณุ ภาพการบรกิ าร หมายถงึ ความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของผู้เข้า
มาใชบ้ ริการ ณ ทา่ อากาศยาน โดยประกอบดว้ ยดา้ นต่าง ๆ ดงั นี้ (วิณารตั น์ ภูวพฒั นช์ ยั กิจ, 2559)

1. ความน่าเชือ่ ถอื หมายถึง ความสามารถในการให้บริการใหต้ รงกับสญั ญาณท่ีให้ไว้กับ
ผู้รบั บริการ การบรกิ ารทุกคร้ังตอ้ งมีความสมา่ เสมอสามารถใหค้ วามไวว้ างใจได้

106

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

2. การตอบสนองความต้องการ หมายถึง ความพร้อมและเต็มใจ ยินดีท่ีจะให้บริการให้
ทันที ที่ได้รับการร้องขอ โดยสามารถตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการได้อย่างทันท่วงที
ผู้รับบรกิ ารสามารถเข้ารับบริการไดง้ า่ ยและไดร้ ับความสะดวกจากการใชบ้ ริการ

3. การให้ความเชื่อม่ัน หมายถึง ความสามารถในการสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกับ
ผู้รับบริการ ใช้การติดต่อส่ือสารที่มีประสิทธิภาพและให้เกิดความม่ันใจ ว่าผู้รับบริการจะได้รับการ
บริการทด่ี ที สี่ ดุ

4. ความเข้าใจและการรับรู้ความต้องการ หมายถึง ความสามารถในการดูแลเอาใจใส่
ผู้รับบรกิ ารตามความตอ้ งการทีแ่ ตกต่างของลูกค้าแต่ละคน

5. ความเป็นรูปธรรม หมายถึง ลักษณะทางกายภาพท่ีปรากฏให้เหน็ ถึงสิ่งอานวยความ
สะดวกต่าง ๆ รวมทั้งสภาพแวดล้อมท่ีทาให้ผู้รับบริการรู้สึกว่าได้รับ การดูแลห่วงใยและความต้ังใจ
จากผใู้ ห้บรกิ าร

จากการศึกษางานวจิ ยั ของ กรรนภทั ร กันแก้ว (2558) ทาการศกึ ษาคุณภาพการบริการ
ทา่ อากาศยานจากมมุ มองของผ้โู ดยสาร กรณีศกึ ษาทา่ อากาศยานสุวรรณภมู ิ ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบ
แบบสอบถามส่วนใหญ่เห็นว่าปัจจัยในการบรกิ ารมเี พียงบางปัจจัยเท่าน้ันที่อยู่ในระดับปานกลางคอื
การมีที่จอดรถไว้บรกิ าร ความคุ้มค่า ของราคาท่ีจอดรถ และการมีห้องรับรองไว้คอยบรกิ าร สาหรับ
ความพึงพอใจต่อคุณภาพการบรกิ ารท่าอากาศยานโดยรวมอยใู่ นเกณฑป์ านกลาง และข้อเสนอแนะใน
การปรับปรุง กลุ่มตัวอย่างเห็นว่า ท่าอากาศยานควรปรับปรุงคุณภาพการบริการในด้านการจัดให้มี
บริการระบบอินเตอร์เน็ตไร้สาย การจัดให้มีป้ายบอกทิศทางในอาคารเพื่องานต่อการหาทาง และ
ระยะการเดนิ ในอาคารผโู้ ดยสารไกล

แนวคดิ ความพึงพอใจ
วิณารัตน์ ภูวพัฒน์ชัยกิจ (2559) กล่าวว่า ความพึงพอใจ (Customer Satisfaction)

หมายถึง ระดับความรู้สึกของผู้มาใช้บริการ ท่ีเป็นผลมาจากการเปรียบเทียบ ระหว่างผลประโยชน์
จากการใชบ้ รกิ ารท่าอากาศยานตามท่ีเหน็ หรือเขา้ ใจกบั การคาดหวังของบุคคล

อัมรัตน์ อนวัช (2550) กล่าวว่า ความพึงพอใจเป็นความรู้สึกหรือทัศนคติทางบวกของ
บุคคลท่มี ตี ่อสงิ่ ใดสิ่งหนงึ่ หากเปน็ ความรสู้ ึกทางบวกจะทาใหเ้ กิดความสขุ แตท่ ้งั น้ีความพึงพอใจของแต่
ละบุคคลย่อมมคี วามแตกต่างกับค่านิยมและประสบการณ์ท่ไี ดร้ ับ

สรุปได้ว่า ความพึงพอใจ คือ ความรู้สึกหรือการแสดงออกที่พอใจต่อการตอบสนอง
ความต้องการต่าง ๆ ตามที่ตอ้ งการ เช่น การบรกิ าร การดแู ลรักษา การพูดจาอ่อนหวาน มไี มตรีจิต
การใหข้ อ้ มลู รวมทัง้ การแสดงออกถึงท่าทาง การเห็นอกเห็นใจ ซึง่ เปน็ ไปตามที่คาดหวงั และสามารถ
ประเมนิ ได้จากคาพูด กริ ยิ าทา่ ทางท่ีแสดงออกมา การเขียนข้อความประเมนิ เป็นต้น แต่ทงั้ นี้ระดับ
ความพงึ พอใจของแตล่ ะบุคคลย่อมมคี วามแตกตา่ งกนั ไปขึน้ อยกู่ บั ค่านิยมและประสบการณ์ทีไ่ ดร้ บั

ระเบียบวิธกี ารวจิ ัย
ประชากรและกล่มุ ตัวอย่าง
1. ประชากรท่ีใช้ในการวิจยั คอื ผู้ใชบ้ รกิ ารที่ใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมอื ง จานวน

8,599,385 คน (กระทรวงการท่องเทยี่ วและกฬี า, 2562)
2. การเลือกกลมุ่ ตวั อยา่ ง โดยใช้ตารางสาเร็จรปู ของทาโร่ ยามาเน่ (Yamane, 1973) ที่

ระดับความเชื่อม่ันท่ีร้อยละ 95 ซ่ึงได้ขนาดของกลุ่มตัวอย่างได้จานวน 399.98 ตัวอย่าง ดังนั้น เพื่อ

107

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

ครบถ้วนในการเก็บแบบสอบถาม จึงใช้ขนาดกลุ่มตัวอย่างท่ีเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย จานวน
400 ตัวอย่าง

3. การเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบไม่อาศัยความน่าจะเป็น (Non-probability Sampling)
โดยใช้วิธีการสุ่มแบบตามสะดวก (Convenience Sampling) คือ กลุ่มเป้าหมายท่ียินดีให้ความ

รว่ มมือกับผวู้ จิ ัยในการใหข้ ้อมูลตอบแบบสอบถาม โดยเป็นการเลอื กกลุ่มประชากรตัวอย่างที่พบจาก
ผู้โดยสารทใ่ี ช้บรกิ ารท่าอากาศยานดอนเมอื ง

เคร่อื งมอื วจิ ัยและคณุ ภาพเคร่อื งมอื

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลสาหรับการวจิ ัยคร้ังนี้ คือ แบบสอบถามท่ีผู้วิจัย
สร้างขน้ึ โดยจัดทาเปน็ 3 สว่ น ดงั นี้

ส่วนท่ี 1 แบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลท่ัวไปเป็นคาถามปลายปิด (Close Ended)
แบบให้เลือกตอบเพียงข้อเดียว สอบถามข้อมูลปัจจัยส่วนบุคคล ประกอบด้วย เพศ อายุ ระดับ
การศกึ ษา อาชีพ รายได้เฉล่ียต่อเดอื น รวมจานวน 5 ขอ้

ส่วนท่ี 2 แบบสอบถามเกี่ยวกับคุณภาพการให้บริการ เป็นคาถามแบบมาตรวัด
Rating Scale ประกอบด้วย ความเป็นรูปธรรมของการบรกิ าร การตอบสนองต่อผู้ใช้บริการ การให้

ความเช่ือมั่นต่อผู้ใช้บริการ ความเข้าใจและการรับรู้ความต้องการ และความน่าเช่ือถือไว้วางใจได้
มีข้อคาถาม จานวน 20 ขอ้

ส่วนที่ 3 แบบสอบถามเก่ียวกับความพึงพอใจต่อการใช้บริการท่าอากาศยาน

ดอนเมือง เปน็ คาถามแบบมาตรวัด Rating Scale มขี ้อคาถาม จานวน 5 ขอ้

ตารางท่ี 1 ผลการตรวจสอบความเชื่อม่ันของตวั แปร ค่าอลั ฟ่าแสดงความเชื่อมัน่

ตัวแปร กลมุ่ ทดลอง (n = 30)

คณุ ภาพการให้บรกิ าร .870
- ความเปน็ รปู ธรรมของการบริการ .885
- การตอบสนองต่อผู้ใชบ้ ริการ .867
- การใหค้ วามเช่อื มน่ั ต่อผู้ใช้บรกิ าร .866
- ความเข้าใจและการรบั รู้ความตอ้ งการ .865
- ความนา่ เชอ่ื ถือไว้วางใจได้ .866
.882
ความพงึ พอใจของผู้โดยสารตอ่ การใช้บริการ
รวมท้งั ฉบบั .876

สถติ ทิ ี่ใชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมูล
สถิติทใ่ี ช้ในการวิเคราะหข์ ้อมลู มีดังต่อไปนี้

1. การวิเคราะหส์ ถิติเชงิ พรรณนา (Descriptive Statistics) ประกอบด้วย 3 สว่ น ได้แก่
1.1 ขอ้ มลู ปัจจยั ส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ และรายไดต้ ่อเดือน

สถติ ทิ ่ีใชใ้ นการวิเคราะหข์ ้อมลู ไดแ้ ก่ ความถ่ี และรอ้ ยละ
1.2 ข้อมูลคุณภาพการให้บริการ ประกอบด้วย ความเป็นรูปธรรมของการบรกิ าร การ

ตอบสนองต่อผู้ใช้บริการ การให้ความเช่ือมั่นต่อผู้ใช้บริการ ความเข้าใจและการรับรู้ความต้องการ

108

การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

และความน่าเชื่อถือไว้วางใจได้ สถิติท่ีใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบ่ียงเบน
มาตรฐาน

1.3 การวิเคราะหข์ อ้ มลู ความพงึ พอใจต่อการใชบ้ รกิ ารทา่ อากาศยานดอนเมอื ง สถติ ทิ ี่ใช้
ในการวิเคราะหข์ อ้ มลู ไดแ้ ก่ ค่าเฉล่ีย และส่วนเบย่ี งเบนมาตรฐาน

2. การวเิ คราะห์สถิตเิ ชงิ อนุมาน (Inferential Statistics) ใชใ้ นการทดสอบสมมติฐาน สถติ ิ
ที่ใช้ในการวเิ คราะห์ข้อมูล ไดแ้ ก่ การเปรียบเทยี บคา่ เฉลย่ี ของกลมุ่ ประชากรแบบอิสระ การวิเคราะห์
ความแปรปรวนทางเดียว ทาการทดสอบรายคู่ด้วยวิธี Fisher’s Least Significant Difference

(LSD) และการวเิ คราะห์การถดถอยพหคุ ูณ

ผลการวจิ ัย

ตารางที่ 2 จานวนและรอ้ ยละของกลมุ่ ตวั อยา่ ง จาแนกตามปจั จัยสว่ นบุคคล (n = 400)

ปัจจยั ส่วนบุคคล จานวน รอ้ ยละ

เพศ

ชาย 170 42.5

หญิง 230 57.5

อายุ

20 ปี หรือต่ากวา่ 11 2.8

21 – 30 ปี 63 15.8

31 – 40 ปี 133 33.2

41 – 50 ปี 112 28.0

มากกวา่ 50 ปี 81 20.2

ระดับการศกึ ษา

ตา่ กว่าปริญญาตรี 105 26.3

ปริญญาตรี 251 62.7

สงู กวา่ ปรญิ ญาตรี 44 11.0

อาชีพ

นักเรยี น นักศกึ ษา 30 7.5

พนกั งานรัฐวิสาหกจิ /ขา้ ราชการ 38 9.5

พนกั งานบริษัทเอกชน 201 50.2

ธุรกจิ สว่ นตัว 131 32.8

รายได้

10,000 บาท หรอื น้อยกว่า 16 4.0

10,001 – 20,000 บาท 174 43.5

20,001 – 30,000 บาท 80 20.0

30,001 – 40,000 บาท 70 17.5

มากกว่า 40,000 บาท 60 15.0

109

การประชุมวชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

จากตารางท่ี 2 พบว่า กลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 400 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จานวน
230 คน คิดเป็นร้อยละ 57.5 อายุระหว่าง 31-40 ปี จานวน 133 คน คิดเป็นร้อยละ 33.2 ระดับ

การศกึ ษาปรญิ ญาตรี จานวน 251 คิดเปน็ ร้อยละ 62.7 อาชพี พนกั งานบรษิ ทั เอกชน จานวน 201 คน
คิดเป็นรอ้ ยละ 50.2 และมรี ายได้ 10,001-20,000 บาท จานวน 174 คน คิดเปน็ ร้อยละ 43.5

ตารางที่ 3 ค่าเฉลีย่ และสว่ นเบี่ยงเบนมาตรฐานคุณภาพการใหบ้ ริการภาพรวมและรายด้าน

คุณภาพการให้บริการ ระดบั ความคดิ เห็น
1. ดา้ นความเปน็ รปู ธรรมของการบรกิ าร (Tangibility)
X S.D. แปลผล ลาดบั
3.05 .269 ปานกลาง 5

2. ดา้ นการตอบสนองต่อผใู้ ชบ้ รกิ าร (Responsiveness) 3.43 .527 มาก 4

3. ด้านการใหค้ วามเชอ่ื ม่ันตอ่ ผู้ใช้บริการ (Assurance) 4.01 .482 มาก 1

4. ด้านความเข้าใจและการรับรู้ความตอ้ งการ 3.75 .390 มาก 3

(Empathy)

5. ดา้ นความน่าเช่อื ถือไว้วางใจได้ (Reliability) 3.87 .333 มาก 2

ภาพรวม 3.62 .175 มาก

จากตารางท่ี 3 พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความคิดเห็นต่อคุณภาพการให้บริการในภาพรวม

อยู่ในระดับมาก ( X = 3.62, S.D. = 0.175) เม่ือพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉล่ียสูงสุด
คือ ด้านการให้ความเชื่อม่ันต่อผู้ใช้บริการ ( X = 4.01, S.D. = 0.482) รองลงมา คือ ด้านความ
น่าเชื่อถือไว้วางใจได้ ( X = 3.87, S.D. = 0.333) และด้านที่มีค่าเฉล่ียต่าสุด คือ ด้านความเป็น
รปู ธรรมของการบรกิ าร ( X = 3.05, S.D. = 0.269)

ตารางที่ 4 ค่าเฉลี่ย ( X ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ความพึงพอใจต่อการใช้บริการ

ท่าอากาศยานดอนเมอื ง

ความพึงพอใจต่อการใช้บริการทา่ อากาศยานดอนเมอื ง ระดับความพึงพอใจ
X S.D. แปลผล ลาดบั

1. ท่านรู้สึกประทับใจในการต้อนรับและขั้นตอนการ 4.00 .808 มาก 1

ใหบ้ ริการทา่ อากาศยานดอนเมอื ง

2. ท่านรู้สึกพึงพอใจต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ี 3.82 .966 มาก 3

ท่าอากาศยานดอนเมือง

3. ท่านรู้สึกพึงพอใจต่อการรักษาความปลอดภัยท่ีมี 3.64 1.008 มาก 5

มาตรฐานของทา่ อากาศยานดอนเมอื ง

4. โดยรวม ท่านรู้สึกพึงพอใจในการให้บริการของ 3.84 .999 มาก 2

ทา่ อากาศยานดอนเมอื ง

5. โดยรวม ท่านรู้สึกพึงพอใจต่อสิ่งอานวยความสะดวก 3.76 .989 มาก 4

ต่าง ๆ ของท่าอากาศยานดอนเมอื ง

ภาพรวม 3.81 .422 มาก

110

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

จากตารางที่ 4 พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจต่อการใช้บริการท่าอากาศยาน
ดอนเมืองในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( X = 3.81, S.D. = 0.422) เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า อยู่ใน

ระดับมากทุกข้อ โดยข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ท่านรู้สึกประทับใจในการต้อนรับและขั้นตอนการ
ให้บริการท่าอากาศยานดอนเมือง ( X = 4.00, S.D. = 0.808) รองลงมาคือ โดยรวม ท่านรู้สึกพึง

พอใจในการให้บริการของท่าอากาศยานดอนเมือง ( X = 3.84, S.D. = 0.999) และข้อที่มีค่าเฉล่ีย
ต่าสุด คือ ท่านรู้สึกพึงพอใจต่อการรักษาความปลอดภัยท่ีมีมาตรฐานของท่าอากาศยานดอนเมือง
( X = 3.64, S.D. = 1.008)

ตารางที่ 5 การเปรียบเทียบระดบั ความพึงพอใจตอ่ การใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมืองสาหรับการ

เดนิ ทางในประเทศ ตามตัวแปรปัจจัยสว่ นบคุ คลของผู้โดยสาร (n = 400)

ปัจจยั สว่ นบุคคล ความพึงพอใจต่อการใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมอื ง (ภาพรวม)

เพศ .819

อายุ .983

ระดับการศึกษา .538

อาชพี .000**

รายได้ .235

หมายเหตุ **p< .01

จากตารางท่ี 5 พบว่า ผู้โดยสารทีม่ เี พศ อายุ ระดับการศึกษา และรายได้ตา่ งกนั มีความ
พึงพอใจต่อการใช้บรกิ ารท่าอากาศยานดอนเมืองสาหรับการเดินทางในประเทศ ภาพรวมไม่แตกตา่ ง

กัน ในขณะที่ผู้โดยสารท่ีมีอาชีพต่างกัน มีความพึงพอใจต่อการใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมือง
สาหรับการเดนิ ทางในประเทศ ภาพรวมแตกต่างกนั อยา่ งมีนัยสาคัญทางสถิติทร่ี ะดับ 0.01 ดังนั้น จึง
เปรียบเทียบโดยทดสอบเป็นรายคู่ด้วยวธิ ี LSD ดังตารางท่ี 6

ตารางที่ 6 ผลการเปรียบเทียบระดับความพึงพอใจของผู้โดยสารต่อการใช้บริการท่าอากาศยาน

ดอนเมอื งสาหรับการเดินทางในประเทศ ภาพรวม จาแนกตามอาชพี

อาชพี

อาชีพ X นกั เรยี น ข้าราชการ/ พนักงาน ธรุ กิจส่วนตัว
นกั ศกึ ษา รัฐวิสาหกิจ บรษิ ัทเอกชน

นกั เรยี น นักศึกษา 3.83 - .605 .011* .859

ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ 3.68 - .000** .624

พนักงานบริษัทเอกชน 4.16 - .000**

ธุรกิจสว่ นตวั 3.88 -

หมายเหตุ *p< .05 **p< .01

จากตารางที่ 6 พบวา่ ผู้โดยสารท่ีมีอาชีพพนกั งานบรษิ ัทเอกชน มีความพงึ พอใจต่อการ

ใชบ้ ริการทา่ อากาศยานดอนเมอื งสาหรบั การเดนิ ทางในประเทศ ในภาพรวมสูงกวา่ ผู้โดยสารท่มี ีอาชีพ
นักเรียน นักศึกษา อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 นอกจากนี้ ผู้โดยสารที่มีอาชีพพนักงาน

111

การประชมุ วิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

บริษัทเอกชน มีความพงึ พอใจตอ่ การใช้บรกิ ารท่าอากาศยานดอนเมอื งสาหรับการเดินทางในประเทศ
ในภาพรวมสงู กวา่ ผโู้ ดยสารทม่ี ีอาชพี ข้าราชการ/รัฐวิสาหกจิ และอาชพี ธรุ กิจส่วนตวั อย่างมนี ัยสาคัญ

ทางสถิตทิ ี่ระดับ 0.01

ตารางที่ 7 คา่ ความถดถอยเชงิ พหุคูณคุณภาพการใหบ้ ริการท่ีสง่ ผลตอ่ ความพงึ พอใจของผู้โดยสารต่อ

การใชบ้ รกิ ารทา่ อากาศยานดอนเมืองสาหรับการเดินทางในประเทศ

Model B t p Tolerance VIF

(Constant) 4.707 10.32 .000

ด้านความเป็นรูปธรรมของการบริการ (X1) .061 .089 .419 .980 1.021

ด้านการตอบสนองต่อผ้ใู ช้บรกิ าร (X2) -.175 -4.504 .000** .958 1.044

ดา้ นการให้ความเชอื่ ม่นั ตอ่ ผู้ใชบ้ รกิ าร (X3) .117 2.728 .007** .949 1.054

ด้านความเข้าใจและการรบั รู้ความต้องการ (X4) -.094 -1.772 .077 .941 1.062

ด้านความน่าเช่อื ถอื ไวว้ างใจได้ (X5) -.153 -2.470 .014* .942 1.061

F = 9.587, R = .329, R2 = .108

หมายเหตุ *p< .05 **p< .01

จากตารางท่ี 7 พบว่า ความสัมพันธ์ระหวา่ งคุณภาพการใหบ้ ริการกบั ความพึงพอใจของ
ผู้โดยสารต่อการใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมืองสาหรับการเดินทางในประเทศ มีค่า R เท่ากับ

0.329 และมีค่า R Square เท่ากับ 0.108 มีค่า F-statistics เท่ากับ 9.587 และค่า Sig. เท่ากับ
0.000 นอ้ ยกวา่ 0.05 จงึ กล่าวได้วา่ คุณภาพการให้บรกิ ารสง่ ผลตอ่ ความพึงพอใจของผูโ้ ดยสารต่อการ
ใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมืองสาหรบั การเดนิ ทางในประเทศ อยา่ งมนี ยั สาคัญทางสถติ ทิ ี่ 0.05

Tolerance มีค่าระหว่าง 0.941 - 0.980 มากกว่า 0.1 และค่า VIF ระหว่าง 1.021 –
1.062 น้อยกว่า 10 แสดงว่า ตัวแปรต้นแต่ละตัวต้องเป็นอิสระกัน มีค่าคงที่เท่ากับ 4.707 มีค่า t

เท่ากับ 10.32 ผลการวิเคราะห์ถดถอยตัวแปรอิสระหรือคุณภาพการให้บริการที่มีค่า Sig. น้อยกว่า
0.05 ได้แก่ ด้านการตอบสนองต่อผู้ใช้บริการ ด้านการให้ความเช่ือมั่นต่อผู้ใช้บริการ และด้านความ
น่าเช่ือถือไว้วางใจได้ กล่าวคือ ด้านการตอบสนองต่อผู้ใช้บริการมีอิทธิพลต่อความพึงพอใจของ

ผู้โดยสารต่อการใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมืองสาหรับการเดินทางในประเทศมากท่ีสุด รองลงมา
คือ ด้านความน่าเช่ือถือไว้วางใจได้ และด้านการให้ความเช่ือมั่นต่อผู้ใช้บริการ อย่างมีนัยสาคัญทาง

สถติ ทิ ี่ 0.01, 0.05 และ 0.01 ตามลาดับ

อภปิ รายผลการวิจยั

การศึกษาคร้ังนี้ สามารถอภปิ รายผลการวจิ ยั ได้ ดังนี้
1. จากผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ปัจจัยอาชีพส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้โดยสาร

ตอ่ การใช้บรกิ ารท่าอากาศยานดอนเมอื ง ซึ่งผู้โดยสารทมี่ อี าชพี พนกั งานบรษิ ัทเอกชน มีความพงึ พอใจ
ในการใชบ้ ริการท่าอากาศยานดอนเมืองสาหรับการเดนิ ทางในประเทศ ในภาพรวมสูงกว่าผโู้ ดยสารท่ี
มีอาชีพนักเรียน นักศึกษา อาชีพข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ และอาชีพธุรกิจส่วนตัว อาจเป็นไปได้ว่า

พนักงานเอกชนมีการใช้ประโยชน์จากการใช้บริการสายการบินสาหรับเดินทางในประเทศ ณ
ท่าอากาศยานดอนเมืองมีความบ่อยครั้งมากกว่าอาชีพอื่น ๆ เนื่องจากอาจต้องมีการเดินทางเพ่ือทา

112

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

หน้าทีป่ ฏิบตั งิ านในพื้นท่อี ืน่ ๆ จงึ ทาให้มีมมุ มองและความพงึ พอใจในการใช้บริการท่าอากาศยานดอน
เมืองสูงกว่าอาชีพอื่น ๆ สอดคล้องกับ สิริพร พงษ์หิรัญสกุล (2551) ได้ศึกษาเรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อ
ความพงึ พอใจของผูใ้ ช้บรกิ ารท่าอากาศยานสวุ รรณภมู ิ ผลการวจิ ัย พบวา่ ผใู้ ชบ้ รกิ ารทม่ี อี าชพี ต่างกัน
มคี วามพึงพอใจต่อการใช้บรกิ ารทา่ อากาศยานสวุ รรณภูมติ ่างกัน

2. จากผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า คุณภาพการให้บริการ ประกอบด้วย ด้านการ
ตอบสนองต่อผู้ใช้บริการ ด้านการให้ความเชื่อมั่นต่อผู้ใช้บริการ และด้านความน่าเช่ือถือไว้วางใจได้
ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้โดยสารต่อการใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมอื งสาหรับการเดินทางใน
ประเทศ สามารถอภปิ รายผลได้ ดงั นี้

ด้านการตอบสนองต่อผู้ใช้บริการส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้โดยสารต่อการใช้บรกิ าร
ท่าอากาศยานดอนเมืองสาหรับการเดินทางในประเทศในทิศทางเชิงผกผัน ในสถานการณ์ช่วงโควิด
19 แพรร่ ะบาด อาจมเี จา้ หนา้ ท่ที ี่คอยบริการน้อยคน แต่ก็ยงั สามารถช่วยเหลือผู้โดยสารได้เต็มท่ี ซ่งึ มี
ส่วนทีอ่ าจทาใหผ้ โู้ ดยสารมีความพึงพอใจมากก็เป็นได้ เน่ืองจากไมม่ ีผู้คนท่ดี ูวนุ่ วาย แตเ่ ม่ือมีเจา้ หน้าที่
ในช่วงเวลาสถานการณ์ปกติที่มีจานวนมาก อาจไม่สอดคล้องกับจานวนผู้โดยสารที่มากทวีคูณ ซึ่ง
ผโู้ ดยสารอาจเขา้ ไม่ถึงการรบั บริการเฉพาะบคุ คลได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ

ด้านการให้ความเชื่อม่ันต่อผู้ใช้บริการส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้โดยสารต่อการใช้
บริการท่าอากาศยานดอนเมืองสาหรับการเดินทางในประเทศ โดยเจ้าหน้าท่ีให้ความม่ันใจต่อ
ผู้โดยสารจะได้รับบรกิ ารท่ีดีท่ีสุด เพราะเจ้าหน้าท่ีมีทักษะความรู้ความสามารถในการให้บริการ และ
การนาเทคโนโลยีมาใช้ในการทางานท่มี ีมาตรฐานเทยี บเทา่ ระดับสากล

ด้านความน่าเช่ือถือไว้วางใจได้ส่งผลต่อความพึงพอใจของผู้โดยสารต่อการใช้บริการ
ทา่ อากาศยานดอนเมืองสาหรับการเดนิ ทางในประเทศในทิศทางเชิงผกผนั อธิบายไดว้ ่า คณุ ภาพการ
บริการที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่ท่ีปฏิบัติงานนอ้ ยคน อาจแฝงไปด้วยศักยภาพในการปฏิบัติหน้าที่อย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ จงึ ส่งผลใหผ้ ู้โดยสารมคี วามพึงพอใจมากก็เปน็ ได้

สอดคล้องกับแนวคิดของ สมิต สัชฌุกร (2554) ท่ีกล่าวว่า พฤติกรรมของผู้ท่ีจะทางาน
บริการได้วา่ ผใู้ ช้บริการทุกคนต้องการติดตอ่ ขอรับบริการจากผู้มีกิริยาสภุ าพ การท่ีมีผู้ทางานบริการมี
กิริยาสุภาพอ่อนน้อมจะเป็นเครอื่ งเชิดหนา้ ชูตา หรือเป็นภาพลักษณ์ท่ีดีของหน่วยงาน สอดคล้องกบั
ผลงานวิจัยของ Al–Refaie, Bata, Eteiwi and Jalham (2014) ได้ศึกษาเร่ืองปัจจัยท่ีมีผลต่อความ
พึงพอใจและความภักดี โดยรวมของผู้โดยสาร กรณีศึกษาสนามบินจอร์แดน ผลการศึกษาพบว่า
ผลกระทบของคุณภาพการบริการด้านการตอบสนองความต้องการ มีผลต่อความพึงพอใจในการใช้
บริการ สอดคล้องกับแนวคิดของ จิตตินันท์ นันทไพบูลย์ (2555) กล่าวว่า ผู้ปฏิบัติงานบริการ หรือ
พนักงานบริการ เป็นบุคคลที่มีบทบาทสาคัญต่อการปฏิบัติงานบริการให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจ
พนักงานบริการที่ตระหนักถึงลูกค้าเปน็ สาคัญ จะแสดงพฤติกรรมการบริการหรือตอบสนองบริการท่ี
ลูกคา้ ตอ้ งการดว้ ยความสนใจ เอาใจใสอ่ ยา่ งเต็มที่ด้วยจติ สานกึ บรกิ าร

ขอ้ เสนอแนะจากการวิจยั
จากการทาวิจัยครั้งนี้ ทาให้ทราบถึงความคิดเห็นของผู้โดยสารต่อคุณภาพการให้บริการ

ของท่าอากาศยานดอนเมอื ง เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กรต่าง ๆ และผู้ที่มีส่วนเก่ียวข้องท่ีสามารถ
นาไปเป็นแนวทางในการปรับปรุงพัฒนาการให้บริการให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของ
ผใู้ ช้บรกิ ารเพอื่ ให้เกิดความพงึ พอใจสูงสดุ ซ่ึงผ้วู ิจยั มขี อ้ เสนอแนะดังต่อไปนี้

113

การประชุมวิชาการระดับชาติ RTBEC 2021

1. ด้านความเป็นรูปธรรมของการบริการ ความคิดเห็นของผู้โดยสารท่ีมีค่าเฉลี่ยต่าสุด
คือ ด้านบุคลิกภาพความเป็นมืออาชีพของเจ้าหน้าท่ี ฉะนั้น ท่าอากาศยานควรมีการจัดอบรม
บุคลิกภาพของพนักงานเพ่ือเสริมสร้างศักยภาพของพนักงานและฝึกฝนพนักงานให้มีความเป็นมือ
อาชพี มากย่งิ ขน้ึ

2. ด้านการตอบสนองต่อผู้ใช้บริการ ความคิดเห็นของผู้โดยสารที่มีค่าเฉลี่ยต่าสุด คือ
ด้านความสะดวกจากการใช้บริการ ท่าอากาศยานควรมีการปรบั ปรุงพัฒนาการอานวยความสะดวก
ในด้านเครื่องมือ อุปกรณ์ต่าง ๆ รวมไปถึงขั้นการให้บริการท่ีทันสมัย สะดวก รวดเร็ว เพ่ือยกระดับ
ความพึงพอใจของผู้ใช้บรกิ าร

3. ด้านการให้ความเช่ือม่ันต่อผู้ใช้บริการ ความคิดเห็นของผู้โดยสารท่ีมีค่าเฉลี่ยต่าสุด
คือเจ้าหน้าท่ีสามารถนาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการติดต่อส่ือสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท่า
อากาศยานควรมกี ารติดตามข้อมูลการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยกี ารสือ่ สาร เพือ่ นาขอ้ มูลเทคโนโลยี
การสื่อสารสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานของพนักงาน เพ่ือเป็นการสร้างความเช่ือม่ันใน
ระบบการใหบ้ รกิ ารทดี่ ีต่อผใู้ ช้บรกิ าร

4. ด้านความเข้าใจและการรับรู้ความต้องการ ความคิดเห็นของผู้โดยสารท่ีมีค่าเฉลี่ย
ต่าสุด คือ การแก้ไขสถานการณ์ต่าง ๆ เฉพาะหน้าอย่างรวดเร็วถูกต้อง ท่าอากาศยานควรมีการ
ฝึกอบรมพนกั งานเพ่ือให้สามารถให้คาแนะนาที่เหมาะสมกับสถานการณ์หรือปัญหาท่ีเกิดขึ้นไดอ้ ย่าง
ทันที

5. ด้านความน่าเช่ือถือไว้วางใจได้ ความคิดเห็นของผู้โดยสารท่ีมีค่าเฉลี่ยต่าสุด คือ
เจา้ หนา้ ที่ให้บรกิ ารอย่างสมา่ เสมอ ถกู ต้องเหมาะสม ทา่ อากาศยานควรให้ความสาคญั กับการบริการ
ทตี่ รงกบั สัญญาที่ให้ไว้กบั ผู้ใช้บริการ โดยการใหบ้ รกิ ารทกุ คร้งั จะตอ้ งมีความถกู ต้อง เหมาะสม ภายใต้
ความพร้อมและความเตม็ ใจท่ีจะให้บรกิ ารและสามารถตอบสนองความต้องการของผูโ้ ดยสารได้อย่าง
ทันทว่ งทีเพอ่ื สร้างความนา่ เชื่อถอื ให้กบั ผใู้ ชบ้ ริการ

6. ผู้โดยสารทม่ี ีอาชพี พนกั งานบรษิ ัทเอกชน มีความพึงพอใจต่อการใช้บรกิ ารท่าอากาศ
ยานดอนเมืองสาหรับการเดินทางในประเทศ ในภาพรวมสูงกว่าผู้โดยสารอาชีพอ่ืน ๆ ดังนั้น
หน่วยงานทเี่ กย่ี วข้องกับควรพฒั นาการบรกิ ารท่าอากาศยานดอนเมืองให้มีประสิทธิภาพสงู สุดและให้
ความสาคัญกับผู้โดยสารที่มอี าชีพพนกั งานเอกชนเปน็ หลกั และธุรกจิ สายการบนิ ต่าง ๆ ควรพิจารณา
ใหส้ ิทธิพิเศษสาหรับสมาชิกทเี่ ป็นพนักงานบริษทั เอกชนโดยเฉพาะ

ขอ้ เสนอในการวจิ ยั ครง้ั ตอ่ ไป
1. การศกึ ษาคร้งั น้ีเป็นการศึกษาในช่วงความปกติใหมเ่ พิ่งเริม่ ในการวิจยั ครงั้ ตอ่ ไปควรเว้น

ระยะออกไป 1 ปี ในการศึกษาซ้ากับการวิจัยเร่ืองเดิม เพ่ือนาผลข้อมูลที่ได้มาวางแผนการจัดการ
ทา่ อากาศยานดอนเมอื งได้อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ

2. ในการวิจัยคร้ังต่อไป ควรมีการศึกษาตัวแปรอื่น ๆ เพ่ิมเติม เช่น ปัจจัยส่วนประสม
การตลาดบริการ แรงจูงใจในการตัดสินใจใช้บริการ ทาให้ทราบถึงแนวโน้มความต้องการของ
ผู้โดยสาร เป็นแนวทางการวางแผนกลยุทธ์ด้านการตลาดได้อย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับความ
ต้องการของผูโ้ ดยสารย่ิงขึน้

114

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

เอกสารอา้ งอิง
กรรนภัทร กันแก้ว. (2558). คุณภาพการบริการท่าอากาศยานจากมุมมองของผู้โดยสาร

กรณีศกึ ษาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ. (งานวิจยั , วทิ ยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลยั ราชภัฏ
สวนสุนันทา).
กระทรวงการทอ่ งเที่ยวและกีฬา. (2562). สถิตดิ ้านการท่องเทย่ี ว. สืบคน้ จาก
https://www.mots.go.th/
กรงุ เทพธุรกิจออนไลน์. (2563). ดอนเมอื งเผยแอรไ์ ลน์แหเ่ ปดิ บนิ หลังโควดิ -19 คล่ีคลาย. สืบค้น
จาก https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/885195
จิตตินนั ท์ นนั ทไพบูลย์. (2551). จิตวิทยาการบริการ. กรุงเทพมหานคร: ซเี อ็ดยเู คชั่น.
จิตตนิ นั ท์ นนั ทไพบูลย.์ (2555). ธุรกิจโรงแรม. กรงุ เทพมหานคร: ซีเอด็ ยูเคช่ัน.
พสิ ิทธ์ิ พิพัฒนโ์ ภคากุล. (2555). Service excellence: service code บรกิ ารท่ีเปน็ เลศิ : รหสั
บรกิ าร. กรุงเทพฯ: ดิ อมิ เพรสชั่น คอนซัลแทนท.์
วิณารตั น์ ภูวพัฒน์ชัยกิจ. (2559). คุณภาพการให้บรกิ ารของท่าอากาศยานสวุ รรณภูมทิ ี่ส่งผลต่อ
ความพงึ พอใจของผูใ้ ช้บริการชาวไทย. (การคน้ ควา้ อิสระปริญญามหาบัณฑิต,
มหาวิทยาลยั กรุงเทพ).
สมิต สัชฌกุ ร. (2554). การต้อนรบั และบรกิ ารเปน็ เลิศ. กรุงเทพฯ: สายธาร.
สริ ิพร พงศห์ ริ ญั สกุล.(2551). ปจั จัยที่มีผลตอ่ ความพงึ พอใจของผใู้ ชบ้ รกิ ารทา่ อากาศยาน
สวุ รรณภมู ิ (รายงานการวจิ ยั ). กรงุ เทพฯ: มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร.
อมั รตั น์ อนวัช. (2550) การประเมินความพึงพอใจของผู้ใชบ้ รกิ ารท่มี ตี อ่ บริการของ
สานกั หอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคาแหง. (งานวิจัย, มหาวิทยาลยั รามคาแหง).
Al–Refaie, A., Bata, N., Eteiwi, D., & Jalham, I. (2014). Examining factors that affect
passenger's overall satisfaction and loyalty: Evidence from Jordan Airport.
Jordan Journal of Mechanical and Industrial Engineering, 8(2), 94–101.
Yamane, T. (1973). Statistics: an introductory analysis (3rd ed.). New York: Harper
and Row.

115

การประชมุ วชิ าการระดบั ชาติ RTBEC 2021

116

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

การวเิ คราะห์ตน้ ทนุ และผลตอบแทน
ของการทาเกษตรอัจฉรยิ ะ : กรณีศึกษา ฟารม์ เหด็ ในจังหวัดเชยี งใหม่

ปกรณ์สทิ ธิ์ อปุ นาศักด1ิ์
นกั ศึกษาปรญิ ญาโทหลกั สตู รบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต คณะบริหารธุรกจิ

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลธัญบรุ ี
นภาพร นลิ าภรณก์ ลุ

อาจารย์ประจาสาขาวชิ าการบญั ชแี ละการเงิน คณะบริหารธุรกจิ
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี
บทคัดยอ่

การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ต้นทุน และอัตราผลตอบแทนจาก
การลงทุนในอุปกรณ์เกษตรอัจฉริยะในการควบคุมการรดน้า และความช้ืน ของฟาร์มเห็ดแห่งหน่ึงใน
จังหวัดเชียงใหม่ การเลือกกลุ่มตวั อย่างใช้แบบเฉพาะเจาะจง การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้การสัมภาษณ์
แบบก่ึงโครงสร้าง การวิเคราะห์มีท้ังการวิเคราะห์เชิงปริมาณในรูปของกระแสเงินสดสุทธิจากการ
ลงทุนสุทธิในอุปกรณ์การเกษตร ประมาณการกระแสเงินสดส่วนเพ่ิมสุทธิที่เกิดจากการดาเนินงาน
การศึกษาน้ีใช้เครื่องมือทางการเงินในการประเมินการลงทุนโดยใช้วิธี 1.ระยะเวลาคืนทุน 2.มูลค่า
ปัจจุบันสุทธิ 3.อัตราผลตอบแทนภายใน รวมท้ังการประเมินเชิงคุณภาพด้านคุณภาพชีวิตที่
เปลีย่ นแปลง ผลการศึกษาพบว่า การลงทุนในอุปกรณ์การเกษตรอัจฉริยะทาในระบบการเพาะปลูก
แบบโรงเรือนแบบปิด ต้นทุนของการวางระบบเกษตรอัจฉริยะเพิ่มในโรงเรือนที่มีอยู่แล้ว 300,000
บาท ต่อ 1 โรงเรือน การใช้ระบบอุปกรณ์อัจฉริยะทาให้เห็ดมีคุณภาพที่ดีขึ้น ของเสียลดลงจากเดิม
ร้อยละ 5 เหลือร้อยละ 1 และราคาจาหน่ายท่ีสูงข้ึนจากเดิม 50 เป็น 65 บาทต่อกิโลกรัม การ
ประเมินผลพบว่าระยะเวลาคืนทุนประมาณ 5.57 เดือน มูลค่าปัจจุบันสุทธิ 28,812,581.22 บาท
อัตราผลตอบแทนภายใน ร้อยละ 215.66 สะท้อนถึงการลงทุนการเกษตรแบบอัจฉริยะควรลงทุน
เพราะให้ผลตอบแทนสูง นอกเหนือจากน้ีด้านคุณภาพชีวิตของคนทางานในฟาร์มดีข้ึน เจ้าของฟาร์ม
สามารถตรวจสอบการทางานโดยผ่านระบบมือถือทาให้มีเวลาในการบริหารจัดการด้านอื่นมากขึ้น
และมเี วลาใหก้ บั ครอบครวั มากขึ้น
คาสาคัญ: ฟารม์ เหด็ เกษตรอัจฉริยะ มูลค่าปจั จุบันสทุ ธิ ระยะเวลาคืนทุน

1 นักศกึ ษาปริญญาโทหลักสตู รบริหารธุรกิจมหาบัณฑติ คณะบรหิ ารธุรกิจ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธัญบรุ ี
ต.คลองหก อ.ธญั บุรี จ.ปทมุ ธานี 12110 หมายเลขติดตอ่ : 098-287-5788 อเี มล: [email protected]

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

ANALYSIS OF COST AND RETURN OF SMART FARM: EVIDENCE
A MUSHROOM FARMING IN CHIANG MAI PROVINCE

Pragronsit Upanasak-At1
Graduate Student, Master of Business Administration, Faculty of Business Administration

Rajamangala University of Technology Thanyaburi
Nipaporn Nilapornkul

Lecturer at Department of Accounting and Finance,
Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Thanyaburi

Abstract
This independent study aimed to analyze costs and the return rates of
investing in smart agricultural equipment for control watering and humidity of a
mushroom farm in Chiang Mai Province. The selection of samples is purposive
sampling. The data were collected using semi-structured interviews. The analysis
included quantitative analysis in terms of net cash flows from net investments in small
agricultural equipment and the estimation of net incremental cash flows arising from
operations. The study employed financial instruments to evaluate investments by
using 1. Payback period method, 2.NPV method 3.IRR method. In addition, qualitative
assessment was conducted in terms of the changes of quality of life. The results
showed that investing in smart farming equipment was made in greenhouse system. The
smart agriculture system was added to an existing house with the placing cost of 300,000
baht per greenhouse. Using the smart agriculture system helped improving mushroom
quality. Waste decreased from 5 percent to 1 percent and the selling price increased from
50 to 65 baht per kilogram. The evaluation found that payback period was approximately
5.57 months, net present value of 28,812,581.22 baht and internal rate of return of 215.66
percent. These reflected that smart agriculture should be invested due to offering high
returns. In addition, the quality of life of farm workers has been improved. Farm owners
can monitor the operation via mobile phone, spending more time for managing other
areas and for family.

Keywords: Mushroom farming, Smart Farm, Net present value, Payback Period

1 Corresponding Author: Graduate Student, Master of Business Administration
Faculty of Business Administration, Rajamangala University of Technology Thanyaburi
Contact Number: +6698-287-5788 Email: [email protected]

118

การประชุมวิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

บทนา
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีประชากรทาเกษตรกรรมทั่วทุกภูมิภาค คนไทยสืบทอดอาชีพ

น้ีมาอย่างยาวนาน โดยมีการทาเกษตรกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบด้ังเดิม และแบบสมัยใหม่
เพื่อเป็นอาหาร เสื้อผ้า หรือแม้แต่เช้ือเพลิงชีวภาพ ยารักษาโรคและผลิตภัณฑ์ เกษตรกรรมเป็น
เหมือนวิถีชีวิตท่ีอยู่คู่กันมาอย่างยาวนาน ย้อนกลับไปหลายพันปีและการพัฒนาของมันได้พัฒนาการ
ทาขนึ้ ทีละนอ้ ย ตามกาลเวลา และมเี ทคนิคถกู พฒั นาข้นึ ตามความชานาญ ความรู้ ทเี่ พิม่ พนู ขึ้นไปตาม
เวลา การพัฒนาของการทาเกษตรกรรมซ่ึงการศึกษาด้านเกษตรกรรมถูกเรียกว่า เกษตรศาสตร์ โดย
การทาหลายแบบ หลายแขนง หลายหลากวธิ ีการเกิดขึ้น ปจั จุบนั จะพบไดว้ ่าการทาเกษตรกรรมนั้นมี
ความหลากหลายมากข้ึนอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นการเกษตรพอเพียง เกษตรอินทรีย์ เกษตร
ผสมผสาน ฯลฯ แต่ไม่ว่าจะเป็นการทาเกษตรในรูปแบบไหนก็ตาม ต้องการตอบโจทย์ความต้องการ
ของเกษตรกร ให้เข้าถึงแก่นแท้ของการทาการเกษตร เพื่อนาไปสู่การก่อเกิดความสามารถในการ
แข่งขันกับคู่แข่ง หรือ เกษตรกรรายอื่น และต่อสู้เพ่ือเอาชนะสงครามทางการเกษตร ปัจจุบัน
เทคโนโลยีและความรู้เกี่ยวกับ IT ไดเ้ จริญก้าวหน้าอย่างมาก ประเทศไทยไดน้ าเทคโนโลยีใช้ทางด้าน
เกษตรมาประยกุ ตก์ ับการทาการเกษตร ในหลากหลายโครงการ เชน่ Smart Farmer, Young Smart
Farmer เป็นต้น Thailand 4.0 ก็ได้ นาเอาเทคโนโลยี มาปรับเปลี่ยนการเกษตรที่เรียกว่า เกษตร
อัจฉริยะหรือ Smart Farming จะช่วยเกษตรแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น การทาเกษตรจากขาดทุนให้ได้
กาไร แก้ไข ภาวะ ผลผลิตปริมาณน้อย คุณภาพตามความต้องการ เป็นการทาการเกษตร แบบมีการ
นาข้อมูล มาวิเคราะห์เพื่อวางแผน การปลูก ว่าควรปลูกอะไร เม่ือไหร่และอย่างไร Smart Farmer
เกษตรกรไทยยุคใหม่ 4.0 โดยตามแนวคิดหลักของสมาร์ทฟาร์ม คือการใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์
และคอมพิวเตอร์ รวมถึงเทคโนโลยสี ารสนเทศ พัฒนาในส่วนของทเ่ี รยี กวา่ ห่วงโซ่อุปทาน โดยพฒั นา
4 ด้านได้แก่ 1) ลดต้นทุน 2) เพ่ิมคุณภาพการผลิตและมาตรฐานสินค้า 3) ลดความเส่ียงจากศัตรูพืช
และภัยธรรมชาติ และ 4) การจัดการและสง่ ผา่ นความรู้

ผู้ศึกษาต้องการศึกษาเชิงลึกถึงผลกระทบของการเกษ ตรแ บบอัจฉ ริยะที่มีต่อรายได้
ค่าใช้จ่าย และเงินลงทุนเพ่ิมในการวางระบบการเกษตรแบบอัจฉริยะ ท้ังนี้ผู้ศึกษาเน้นที่การทาฟาร์ม
เหด็ เพราะวงจรของการเติบโตสัน้ เหน็ ผลรวดเร็วสอดคลอ้ งกบั เวลาการศึกษาทมี่ ีอยา่ งจากดั

วัตถุประสงคใ์ นการศึกษา
1) เพ่อื ศึกษาต้นทนุ สว่ นเพิ่มในการทาเกษตรอัจฉริยะโ ด ย ใ ช้ เ ค รื่ อ ง มื อ วิ เ ค ร า ะ ห์ ก า ร

เปลีย่ นแปลงกระแสเงินสด
2) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ความเปลีย่ นแปลงรายไดส้ ว่ นเพมิ่ ค่าใช้จา่ ยสว่ นเพมิ่ และ อัตรา

ผลตอบแทนส่วนเพิม่ ทีไ่ ด้รับจากการทาเกษตรอัจฉรยิ ะ
3) เพือ่ ศึกษาและวเิ คราะหก์ ารเปล่ียนแปลงคุณภาพชีวติ และสงิ่ แวดล้อม

119

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

แนวทางการศึกษา

 ปจั จัยการผลติ  การวิเคราะห์  การประเมนิ โดยใช้
 กระบวนการ การ เครอื่ งมือทางการเงิน
ผลิต เปลยี่ นแปลง - ระยะเวลาคนื ทุน
 อุปกรณก์ ารผลิต กระแสเงินสด (Payback period)
 เทคโนโลยกี าร (Incremental - มูลคา่ ปัจจุบันสทุ ธิ
เกษตรอัจฉรยิ ะ cash flow) (Net present value)
 ผลผลิตที่ได้ - อัตราผลตอบแทน
 คุณภาพชีวิต  การวเิ คราะห์ ภายใน (Internal
เชิงคุณภาพ rate of return)
 เทคโนโลยกี าร
เกษตรอจั ฉริยะ  การเปลย่ี นแปลง
คณุ ภาพชวี ิต และ
ส่ิงแวดลอ้ ม

ภาพที่ 1 กรอบแนวคิดในการศึกษา

การทบทวนวรรณกรรม
1. แนวคิดเก่ียวกับต้นทนุ
ความหมายของคาว่าต้นทุนมีความหลากหลายข้ึนกับการจากัดความของนักวิชาการที่

ต้องการสะท้อนในมิติที่แตกต่างกัน เช่น เพ็ญศรี ขุนทอง (2554, น. 23) กล่าวว่า ต้นทุน หมายถึง
จานวนเงนิ หรือรายการท่ีวัดมูลค่าไดเ้ ปน็ หน่วยเงนิ ตราเพ่ือชาระค่าสินค้าหรือบริการ ซ่ึงเปน็ การสะท้อน
ถงึ รายจา่ ยทีเ่ กิดข้นึ ขณะท่ีกญั ญนทั ธ์ ตนั ติสขุ (2551, น. 43) มองต้นทนุ เป็นรายจ่ายในปัจจบุ ันที่คาดว่า
จะได้รับประโยชน์ในปัจจุบันหรืออนาคตต่อธุรกิจ ส่วนอนุรักษ์ ทองสุโขวงศ์ (2559, น. 24) และ วรรณี
เตโชโยธนิ สมชาย สภุ ทั รกลุ และ มนวิภา ผดุงสทิ ธ์ิ (2563, น. 344) มีการนยิ ามต้นทุนมคี วามหมายตาม
วัตถุประสงค์ท่ีนาไปใช้ โดยจาแนกต้นทุนตามลักษณะต่างๆ เช่น การจาแนกตามความสาคัญและ
ลักษณะต้นทุนการผลิต เช่น วัตถุดิบ ค่าแรงงานทางตรง โสหุ้ยการผลิต เป็นต้น หรือ จาแนกตาม
ความสัมพันธ์กับระดับของกิจกรรม เช่น ต้นทุนคงท่ีซึ่งรายจ่ายท่ีคงที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามการผลิต
ในช่วงระยะเวลาหน่ึง หรือ ต้นทุนผันแปรที่แปรเปลี่ยนไปตามปริมาณการผลิต เป็นต้น หรือการจาแนก
ตามความสัมพันธ์กับหน่วยต้นทุน มักอยู่ในรูปเชิงต้นทุนสินค้าต่อหน่วย หรือการจาแนกตามหน้าท่ีงาน
ซ่ึงกรณีนบี้ างคร้ังหมายถึงรายงานในแต่ละแผนกงาน เช่น

- แผนกการตลาด ต้นทุนหรือรายจ่ายท่ีเกิดข้ึนในการดาเนินงานของแผนกการตลาด เช่น
ค่าโฆษณา คา่ นายหน้าการขาย ค่าจดั งานเปิดตัวสนิ คา้ เป็นตน้

120

การประชุมวชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

- แผนกการผลิต ค่าใช้จ่ายท่ีเก่ียวข้อง เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงาน ค่าล่วงเวลา เงินเดือน
พนกั งานของแผนก เป็นตน้

นอกจากน้ีต้นทุน หรือค่าใช้จ่ายยังจาแนกตามลักษณะของการวิเคราะห์ปัญหาซึ่งบริบท
ของต้นทุนที่เกี่ยวข้องมักจะไม่อยู่ในรูปเชิงต้นทุนจม เพราะเป็นต้นทุนท่ีเกิดขึ้นแล้วย่อมไม่มีผลต่อการ
เปลีย่ นแปลงเมอ่ื มกี ารตดั สินใจ

2. ทฤษฎที เ่ี กยี่ วข้องเกย่ี วกบั การเพาะเห็ด
การเพาะเห็ด เป็นการเรียนแบบธรรมชาติ โดยใช้องค์ความรู้ด้านการเกษตร ด้าน

วทิ ยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีเข้าช่วยเพ่ือให้ไดก้ อ่ ให้ผลผลติ วงจรชีวติ เห็ดตามธรรมชาติ เริ่มจากดอก
เห็ดท่ีเจริญเติบโตเต็มท่ีจะมีสปอร์ เมื่อสปอร์ปลิวตกในท่ีมีอาหาร อุณหภูมิ ความชื้น พอเหมาะที่
สปอรต์ ้องการก็จะมเี ส้นใยงอกออกมา เสน้ ใยทแี่ ยกออกมา รวมตัวกันแล้วเจริญเติบโตเป็นดอกเหด็

เล้ยี งว้นุ ในเชอ้ื PDA ขยายหัวเชอื้ ในเมด็ ข้าว
ฟา่ ง

ตัดเน้ือเยอื่ จากดอกเห็ด ใส่หัวเชอื้ เห็ดลง
โรงเรอื นเปิดดอก ในถงุ พลาสตกิ ทม่ี ี

อาหารเห็ด

บม่ เชื้อในโรงเรือน

ภาพท่ี 2 วงจรการเพาะเหด็ ในโรงเรือน

จากภาพที่ 2 การเพาะเห็ดในถุงพลาสติก การเพาะเห็ดเริ่มจากนาเน้ือเย่ือของเห็ดชนิดท่ี
ตอ้ งการมาเพาะเล้ียงให้เกิดเส้นใย ในอาหารท่ีสปอร์ต้องการเรียกว่า อาหารวุ้นเลี้ยงเชอ้ื เห็ด (Potato
Dextrose Agar: PDA) ในอาหารวุ้นเล้ียงเช้ือเห็ด มีมันสาปะหลัง น้าตาลกลูโคส ผงวุ้น และ น้ากล่ัน
เมื่อเนื้อเยื้อเห็ดท่ีเลี้ยง เกิดเส้นใยเห็ด จนเกือบเต็มผิวหน้าอาหารวุ้นเล้ียงเห็ด แล้วจึงนาไปขยายเช้ือ
บนเมลด็ ข้าวฟ่างในขวดหัวเช้ือบนเมด็ ข้าวฟางท่ีเจริญเต็มท่ี จะนาไปเพาะเหด็ ในถุงพลาสติกท่มี อี าหาร
เหด็ แล้วเก็บในโรงเรือนทส่ี รา้ งขึน้ เพอ่ื การเพาะเหด็ (ยทุ ธศักดิ์ ขุนทอง, 2559, น. 5-37)

3. ทฤษฎที ีเ่ กีย่ วขอ้ งเกย่ี วกับการทาเกษตรอัจฉรยิ ะ
เกษตรอัจฉริยะ เป็นการทาฟาร์มโดยใช้เทคโนโลยีสารสมเทศเพ่ือให้เกิดความสะดวก

รวดเร็วและง่านตอ่ การบริหารจัดการ อกี ท้ังการบริหารทรัพยากรอยา่ งคุ้มค่าและควบคมุ การผลิตให้มี
คุณภาพ โดยใช้วิธีการทาเกษตรและเทคโนโลยีควบคู่กัน การทางานของฟาร์มอัจฉริยะแยกได้เป็น 5
ข้ันตอน

121

การประชมุ วิชาการระดบั ชาติ RTBEC 2021

3.1.การรวบเร็วข้อมูล เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ เชน่ ดนิ นา้ แสง ภูมิอากาศ เปน็
ต้น ผ่านทางอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ เช่น เซ็นเซอร์ตรวจวัดแสง เซ็นเซอร์ตรวจวัดอุณหภูมิ สถานี
ตรวจวดั สภาพอากาศ เปน็ ตน้

3.2.การวินิจฉัยข้อมูล เป็นการตรวจสอบข้อมูลท่ีเก็บรวบรวมโดยจัดเก็บเฉพาะข้อมูลที่
กอ่ ให้เกิดประโยชน์ลงในฐานข้อมูล

3.3.การวิเคราะห์ข้อมูล เป็นการวิเคราะห์ข้อมูล การพยากรณ์ปริมาตรผลผลิต และ
วางแผนการจัดการ

3.4.การดาเนินการตามแผนปฏิบัติงาน เป็นการควบคุมการผลิตให้เป็นไปตามแผนการ
จัดการท่ีวางไว้ เช่น การตั้งค่าโปรแกรมการให้น้า และ ควบคุมดูแลการลดน้าให้เป็นไปตามเง่ือนไข
และแผนการจัดการท่กี าหนดใหเ้ ป็นไปตามเงือ่ นไข

3.5.การประเมินผล เป็นการประเมินผลของการปฏิบัติงาน ความคุ้มค่า โดยใช้
เ ท ค โ น โ ล ยี ค ว บ คู่ ไ ป กั บ เ ค ร่ื อ ง มื อ ท า ง ก า ร เ งิ น แ ล ะ เ ศ ร ษ ฐ ศ า ส ต ร์ ป ร ะ ยุ ก ต์ ส า ห รั บ ธุ ร กิ จ เ ก ษ ต ร
(จักรกฤษณ์ หม่นั วชิ า, 2558)

การติดตั้งอุปกรณ์เกษตรอัจฉริยะชุดควบคุม ได้แก่ ดีเลย์, Node MCU เซ็นเซอร์
แหล่งจ่ายไฟ อุปกรณ์เชื่อมต่อไวไฟ ตัวต้ังเวลามีอุปกรณ์ควบคุมความชื้นและต้ังเวลาของการรดน้า
และแสดงการแจง้ เตือน เม่อื เกิดอณุ หภมู ิ ความชน้ื ไม่ปกติ และ ในสภาวะปกติดงั รปู

ภาพท่ี 3 อุปกรณเ์ กษตรอัจฉรยิ ะชุดควบคมุ

122

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

4. ทฤษฎที ่ีเกีย่ วขอ้ งเก่ยี วกับการประเมินการลงทุน
การประเมินการลงทุน คือ การวิเคราะห์เพื่อหาคาตอบ ในการติดสินใจลงทุนใน

โครงการต่างๆ โดยการประเมินและคานวณ เพื่อหาความคุ้มค่าของโครงการ ซ่ึงวิธีการประเมินค่า
โครงการลงทุน ไดแ้ ก่

4.1 อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (Internal Rate of Return : IRR) เป็นอัตรา
ผลตอบแทนท่ีกิจการได้รับตลอดโครงการ วิธีน้ีมีสมมติฐานให้มูลค่าปัจจุบันสุทธิมีค่าเป็นศูนย์ ดังนั้น
(นภาพร นิลาภรณก์ ุล, 2563)



∑ = 0
=1
(1+ )

สญั ลักษณท์ ใ่ี ช้: CIF = กระแสเงนิ สดสทุ ธิรายปี
C0 = เงินลงทนุ สุทธิ

เกณฑ์ตัดสินใจพิจารณาอัตราผลตอบแทนของโครงการควรมีค่ามากกว่าหรืออย่าง
น้อยเท่ากับอตั ราผลตอบแทนท่ตี ้องการ หรือตอ้ งมากกวา่ ต้นทุนของเงนิ ทุนของโครงการ

4.2 มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (Net Present Value: NPV) นาแนวคิดมูลค่าของเงินตามเวลา
มาใช้โดยเปรียบเทียบผลตา่ งระหว่างมูลค่าปัจจุบันของกระแสเงินสดรับสุทธหิ ลังภาษีรายปีตลอดอายุ
โครงการกบั มูลคา่ ปจั จุบันของเงินลงทุนสุทธิหลังภาษี การคานวณดงั น้ี



NPV = ∑ − 0

=1 (1+ )

สัญลักษณ์ทใ่ี ช้: CIF = กระแสเงินสดสุทธริ ายปี
C0 = เงินลงทุนสุทธิ
i = ปจั จยั ลดลคา่ (Discount Rate)
n = ระยะเวลา (ป)ี

เครือ่ งหมายของผลลพั ธท์ ่ไี ดส้ ะทอ้ นถึงผลการดาเนนิ งาน ถ้าเครอ่ื งหมายบวกสะทอ้ น
ถึงผลกาไรท่ีเป็นมลู ค่าปัจจุบนั แต่ถ้าเป็นเคร่ืองหมายลบหมายถึงผลขาดทนุ ดังน้ันเกณฑ์การตดั สินใจ
เลอื กโครงการลงทนุ จึงพจิ ารณาจากมูลคา่ ปจั จบุ นั สุทธทิ ่มี คี า่ เป็นบวกเสมอ

4.3 ระยะเวลาคืนทุน (Payback Period: PB) เป็นการคานวณระยะเวลาในการ
ดาเนินงานท่ีทาให้เงินสดรับสุทธิหลังภาษีเท่ากับเงินลงทุนสุทธิหลังภาษี เครื่องมือนี้แสดงผลเป็น
ระยะเวลาท่ีได้รับเงินทุนคืน ดังนั้นเกณฑ์การตัดสินใจงวดระยะเวลาคืนทุนท่ีดีควรมีระยะเวลาท่ีสั้น

และไมเ่ กินระยะเวลาคนื ทนุ ท่ีคาดหวงั ไวห้ รอื อายุโครงการลงทนุ
5. งานวจิ ัยที่เกี่ยวข้อง และแนวคิดเร่ืองคณุ ภาพชวี ิต

ชนธิชา โคประโคน (2559) ได้ศึกษาการลงทุนเพาะเห็ดนางฟ้า ฟาร์มเห็ดหนองปรือ
จังหวัดชลบุรี มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. เพ่ือศึกษาความคุ้มค่าในการลงทุนเพาะเห็ดนางฟ้า ความเป็นไป
ได้และผลกาไร 2. เพ่ือศึกษาช่องทางจัดจาหน่ายเห็ดนางฟ้า 3. ศึกษาอุปสรรคในการลงทุนเพาะเห็ด
นางฟ้าของเกษตรในฟาร์มเห็ดหนองปรือ จังหวดั ชลบรุ ี ผลการศึกษาพบว่าต้นทุนก้อนเช้ือเห็ดนางฟ้า

123

การประชมุ วชิ าการระดับชาติ RTBEC 2021

ราคาต้นทุน 3.98 บาทต่อก้อน ตน้ ทุนโรงเรือน 9,500 บาท สาหรับเห็ด โดยการลงทุนเห็ดนางฟ้าครั้ง
แรกต้องใช้เงินทุน 35,470 บาท ต่อโรงเรือน และค่าเคร่ืองจักรท้ังหมด 69,000 บาท โดยมีการ
เปรียบเทียบผลกาไรตอ่ 1 โรงเรือนอยู่ท่ี 95,940 บาทต่อปี คิดเปน็ ร้อยละ 49.95 โดยราคาจาหน่าย
อยทู่ ี่ 80 บาทตอ่ กิโลกรมั

Jithin Das V. (2019) ได้ศึกษาเกษตรกรชาวไอริช ผู้ใช้เกษตรอัจฉริยะโดยใช้เทคนิค
Cloud Computing Technology จานวน 32 ตัวอย่าง โดยวิธีการสังเกต ผลการศึกษาพบว่า
เกษตรกรผู้ใช้เกษตรอัจฉริยะโดยใช้เทคนิค Cloud Computing Technology จะได้ผลตอบแทน
มากกวา่ เกษตรกรผใู้ ช้การทาเกษตรแบบเดมิ ทีไ่ มม่ เี กษตรอจั ฉริยะ

ศิรินันท์ กิตติสุขสถิต เฉลิมพล แจ่มจันทร์ กาญจนา ตั้งชลทิพย์ และ จรัมพร โห้ลายอง
(2556, น. 15). กล่าววา่ ความหมายของคณุ ภาพชีวิตของแต่ละบคุ คลมีความแตกตา่ งกนั ขึ้นอยกู่ ับความ
พึงพอใจของแต่ละบุคล ชลธิชา มะลิพรม (2561) กล่าวว่า คุณภาพชีวิตประกอบด้วยหลายมิติ หรือ
หลายด้าน เช่น ความต้องการด้านจิตใจ ด้านความเป็นอยู่ หรือด้านปัจจัยส่ี ด้านส่ิงแวดล้อม ด้านสังคม
ด้านการศึกษา ด้านเศรษฐกิจ เป็นต้น การที่แต่ละบุคคลจะได้รับคุณภาพชีวิตที่ดี ข้ึนอยู่กับ
สภาพแวดล้อมด้าน หรือบริบทแวดล้อมของแต่ละคนทแ่ี ตกต่างกัน ในโลกปจั จุบัน ส่ิงต่างๆ ที่อยู่รอบตวั
เรา มีการเปลี่ยนแปลง อยู่ตลอดเวลาและรวดเร็วมาก ทาให้เราต้องเรียนรู้ เพ่ือพัฒนาตัวเอง ให้ทันกับ
การเปลี่ยนแปลง จะทาให้แต่ละบุคคลรับรู้เหตุและผลของการเปล่ียนแปลง และนาข้อมูลน้ันมาใช้ให้มี
คุณภาพชวี ติ ท่ีดี

วิธีการดาเนินการศึกษา
1. ประชากรและกล่มุ ตวั อย่าง
ประชากรท่ีใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งน้ี คือ ฟาร์มทางการเกษตรที่มีการนาเกษตรแบบ

อัจฉรยิ ะเขา้ มาชว่ ยเพ่อื เพ่มิ ผลผลิตและเพิ่มอตั ราผลตอบแทนให้แก่เกษตรกร ทั้งน้ผี ูศ้ ึกษาเลอื กการทา
ฟาร์มเห็ด เพราะวงจรของการเติบโตสั้น เห็นผลรวดเร็วสอดคล้องกับเวลาการศึกษาที่มีอย่างจากัด
และการเข้าไปศึกษาเชิงลึกโดยการสัมภาษณ์ต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของฟาร์มก่อน และได้
กรณศี กึ ษาท่ีฟารม์ เห็ดแห่งหนงึ่ ใน จังหวดั เชียงใหม่

2. เคร่ืองมือทีใ่ ชใ้ นการศึกษา
การศึกษาคร้ังนี้เป็นเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพ เคร่ืองมือหลักท่ีใช้เป็นการสัมภาษณ์

โดยการนัดหมายสัมภาษณ์ผู้ท่ีเกี่ยวข้องจานวน 1 ท่านของฟาร์มที่จัดตั้งในรูปของ วิสาหกิจชุมชน
เกษตรเชิงท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ การสัมภาษณ์เป็นแบบไม่มีระบบ (Unstructured
interviews) เป็นลักษณะของการผู้คุย ผ่อนคลายเพ่ือให้ได้รับข้อมูลที่เป็นความจริงมากที่สุด และ
การสัมภาษณ์น้ีเป็นการสัมภาษณ์รายบุคคลมีการนัดหมายล่วงหน้าอย่างชัดเจน ท้ังน้ีเวลาท่ีใช้ในการ
สัมภาษณ์ขึ้นกับผู้ถูกสัมภาษณ์เป็นผู้กาหนด นอกจากการสัมภาษณ์แล้ว การสังเกตการตอบคาถาม
และพฤติกรรม

3. การเก็บรวบรวมข้อมลู
ผศู้ กึ ษาเก็บขอ้ มูลและรวบรวมขอ้ มลู ต่างๆ ดังนี้ รวบรวมข้อมูลจากการสัมภาษณ์ เพ่อื ให้

ทราบถึง ปัจจัยกระบวนการทาเกษตรของฟาร์มเห็ด และค่าใช้จ่ายในส่วนของต้นทุนและรายได้จาก
การทาเกษตรอัจฉริยะและ ปัญหาและอุปสรรคในการทาเกษตรอัจฉริยะ ศึกษาจากเอกสารที่
เก่ียวข้องจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ได้แก่ กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สานักงาน
สถิตแห่งชาติ และ วารสารทางวชิ าการเก่ียวกับเทคโนโลยกี ารเกษตร

124


Click to View FlipBook Version