The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โมบี้-ดิ๊ก ผลงานคลาสสิกของ Herman Melville ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดยสำนักพิมพ์ทับหนังสือ ฉบับปรับปรุงจากต้นฉบับแปล “โมบี้-ดิ๊ก ฉบับประชาชน” โดยโครงการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการแปล Moby-Dick; or, The Whale นวนิยายของ เฮอร์แมน เมลวิลล์ เป็นภาษาไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by BS_Library, 2019-12-20 01:23:42

Moby Dick โมบี้ ดิ๊ก

โมบี้-ดิ๊ก ผลงานคลาสสิกของ Herman Melville ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดยสำนักพิมพ์ทับหนังสือ ฉบับปรับปรุงจากต้นฉบับแปล “โมบี้-ดิ๊ก ฉบับประชาชน” โดยโครงการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการแปล Moby-Dick; or, The Whale นวนิยายของ เฮอร์แมน เมลวิลล์ เป็นภาษาไทย

Keywords: วรรณกรรม

โมบ้-ี ดิก๊ ฉบบั ประชาชน จัดทำ� ขึน้ เพื่อขอบคุณผรู้ ะดมทนุ
สนับสนนุ การแปลกับโครงการวรรณกรรมไมจ่ ำ� กดั



โมบ-้ี ดก๊ิ
Moby-Dick

เฮอร์แมน เมลวิลล์ เขียน
ขวัญดวง แซ่เตีย แปล

มนตรี ภู่มี บรรณาธิการ

จัดพิมพ์โดย
โครงการวรรณกรรมไม่จ�ำกัด



บทที่ 1

ลางโหมโรง

เรียกผมว่า...อิชเมล1 ท่ีผ่านมา...จริงๆ ก่ีปีก็ช่างเถอะ ผมไม่มีเงินเลยสักแดง
หรือเหลอื ตดิ กระเป๋าแค่นอ้ ยนดิ บนฝั่งไมม่ ีสง่ิ ใดน่าดงึ ดูดใจนกั ผมเลยอยาก
ล่องเรือไปชมส่วนผืนน้�ำของโลกใบน้ีบ้าง เพื่อระบายความกรุ่นคับข้องใจ
และช่วยปรับเลือดลมได้ด้วย คราใดที่รู้สึกปากแห้งใจเห่ียว คราใดอารมณ์
หมน่ ครมึ้ เดือนพฤศจกิ าเข้าเกาะกมุ คราใดเผลอหยดุ ยืนหนา้ ร้านขายโลงศพ
หรอื เดนิ ตามขบวนแหศ่ พทพ่ี บเจอ โดยเฉพาะคราใดทต่ี กอยใู่ ตอ้ ำ� นาจเพอ้ เศรา้
ครานั้นเป็นต้องใช้ความยับยั้งช่ังใจอย่างที่สุด ไม่ให้ออกไปท�ำอะไรแผลงๆ
กลางถนนจนผคู้ นอา้ ปากคา้ ง สรปุ ไดว้ า่ ถงึ เวลาตอ้ งหาทางออกทะเลไปใหเ้ รว็
ทส่ี ดุ ไมง่ นั้ เปน็ ตอ้ งเอากระสนุ กรอกปากตวั เองแนๆ่ และแบบเดยี วกบั ทเ่ี คโต2
แอ่นอกรับดาบตัวเอง ผมคอ่ ยๆ หาทางไปลงเรือ ซง่ึ ไมน่ า่ ประหลาดใจหรอก
แทบทกุ คนทร่ี สู้ กึ หรอื กำ� ลงั จะรสู้ กึ แบบน้ี ยอ่ มอยากออกไปทอ่ งทะเลเหมอื นผม

นเี่ ปน็ เมอื งบนเกาะของชาวแมนฮตั โต3 รายลอ้ มไปดว้ ยทา่ เรอื ซงึ่ คลา้ ยแนว
ปะการังโอบรอบเกาะอินเดีย การค้าขายแผ่กระจายไปโดยรอบจากตรงน้ัน
ถนนทั้งขวาซ้ายจะน�ำคุณมุ่งสู่ท่าน้�ำ ท่ีอยู่ใจกลางเมืองคือสวนสาธารณะ
แบตเตอร่ี มลี มพดั ผา่ นเยน็ สบาย ระลอกคลน่ื โถมซดั สาดกำ� แพงหนิ ชะลอนำ้�
ทตี่ ง้ั เดน่ อยนู่ อกหาด และเพงิ่ จมหายไปเมอ่ื ไมก่ ช่ี ว่ั โมงกอ่ นหนา้ น้ี แลว้ ดฝู งู ชน

1 อิชเมล-ผู้พเนจร ลกู ชายคนโตของอับราฮัมในคมั ภีรไ์ บเบลิ้
2 มาร์คสุ พอร์เซียส เคโตยูทเิ ซนซิส รฐั บรุ ษุ ชาวโรมัน (95 BC–46 BC), ผูแ้ ทงตวั ตายอย่างอาจหาญ
3 แมนฮัตโต – เมืองแมนฮตั ตนั ในปจั จุบัน

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 7

ทย่ี ืนทศั นาผืนน�้ำทนี่ ัน่ ส!ิ
ถา้ เดินไปรอบๆ เมอื งในยามบ่ายวนั หยุดอันสงบเงียบ จากคอร์เลยี รส์ ฮุก

ทางตะวนั ออกไปยงั ปากนำ�้ โคเอนตสิ สลปิ แลว้ จากตรงนน้ั มงุ่ ขน้ึ เหนอื ไปทาง
ไวตฮ์ อลล์ คณุ จะเหน็ อะไร? กช็ ายเปน็ ๆ นบั พนั ๆ คนกำ� ลงั ยนื เหมอ่ มองดทู ะเล
เหมือนทหารยืนยามนิ่งงันอยู่โดยรอบเมือง บ้างยืนพิงเสาท่าเรือ บ้างน่ังอยู่
บนปลายสะพาน บา้ งจอ้ งสำ� รวจกราบเรอื ทลี่ อ่ งมาจากจนี ! บางคนกป็ นี ปา่ ยสงู
ไปบนสายระโยงเรือ ราวกับอยากมองให้เห็นทะเลไดก้ ว้างไกลขนึ้ แตท่ ุกคน
ลว้ นไมใ่ ชช่ าวเรอื ตลอดทง้ั สปั ดาหต์ า่ งถกู ขงั อยใู่ นรว้ั ไมร้ ะแนงและกำ� แพงปนู
ถูกกักอยู่ในคอกท�ำงาน ผูกติดกับที่นั่ง และตรึงอยู่กับโต๊ะ แล้วน่ียังไงกัน?
มีท่งุ เขียวขจใี นทะเลหรอื ? พวกน้นั มาทำ� อะไรกันทนี่ ี?่

ดูสิ! ผู้คนหนุนเน่ืองกันมาอีก ต่างมุ่งหน้าไปยังทะเล เหมือนเกิดมาเพื่อ
จะกระโจนลงน�้ำ แปลกจริง! ไม่มีสิ่งใดสร้างความพึงพอใจให้พวกเขาได้
นอกจากทสี่ ดุ ชายฝง่ั แมแ้ ตเ่ ดนิ เทย่ี วเตรใ่ ตร้ ม่ เงาของรา้ นรวงขนาดใหญท่ น่ี น่ั
ก็ไมอ่ าจเติมเตม็ ความปรารถนาได้ ไมเ่ ลย...พวกเขาต้องการเข้าใกลผ้ ืนนำ้� ให้
มากท่ีสุดเท่าที่จะท�ำได้โดยไม่มีแตกแถว แล้วก็ยืนออกันท่ีนั่นยาวเป็นไมล์ๆ
บรรดาเจ้าถ่ินท้ังหลายเหล่าน้ีล้วนมาจากตรอกซอกซอยบนถนนหนทาง
นอ้ ยใหญ่ ทงั้ ทางเหนอื ใต้ ตะวนั ออก และตะวนั ตก กระนนั้ ตา่ งกม็ ารวมตวั กนั
ท่ีน่ี ช่วยบอกผมทีเถอะ แม่เหล็กบนหน้าปัดเข็มทิศในเรือเหล่านั้นดึงดูดให้
พวกเขามาใช่หรอื ไม่?

แล้วก็...เอาเป็นว่าคุณอยู่ในเมืองบนที่ราบสูงซึ่งเต็มไปด้วยทะเลสาบ
ตอ่ สบิ เอาหนง่ึ เลยวา่ ไมว่ า่ จะเลอื กเดนิ ไปทางไหนเปน็ ตอ้ งนำ� คณุ ไปยงั หบุ หว้ ย
สายธาร นเี่ ปน็ สงิ่ ทมี่ มี นตข์ ลงั แมค้ นใจลอยอยใู่ นหว้ งภวงั คท์ ส่ี ดุ ถา้ ยงั ยนื เดนิ ได้
เขาเปน็ ตอ้ งพาคณุ ไปยงั ผนื นำ�้ ไดโ้ ดยไมผ่ ดิ พลาด ถา้ ยงั มสี ายนำ�้ อยใู่ นดนิ แดน
แถบน้นั อยนู่ ะ หากคณุ อดนำ�้ อย่กู ลางทะเลทรายอเมริกนั ผืนใหญ่ ลองทว่ี า่ ดู
ก็ได้ ถา้ ในคณะเดินทางของคณุ บงั เอญิ มผี ูเ้ ชยี่ วชาญทางจติ มาด้วยนะ ใชแ่ ล้ว
อยา่ งที่ทกุ คนรู้กันดวี ่า สายน้�ำกับการส�ำรวมจิตน้นั เป็นของค่กู ันมาเสมอ

8 : โมบ้-ี ด๊กิ

แล้วจิตรกร4คนหนึ่งก็อยู่ตรงน้ี และปรารถนาจะวาดให้คุณเห็นภาพฝัน
อนั รม่ รนื่ สงบเงยี บทส่ี ดุ ของดนิ แดนแหง่ มนตข์ ลงั นา่ หลงใหลทว่ั บรเิ วณแมน่ ำ�้
ซาโค5น่ี เขาต้องวาดอะไรเป็นส�ำคัญ? น่ันไง หมู่ไม้สูงล�ำต้นเป็นโพรงใหญ่
ราวกบั มฤี าษแี ละไมก้ างเขนอยใู่ นนนั้ ทกุ ตน้ แลว้ เตมิ ตรงนด้ี ว้ ยทงุ่ หญา้ แตง่ แตม้
ตรงนน้ั ดว้ ยฝงู ววั ควาย และควนั ไฟลอยออ้ ยอง่ิ อยเู่ หนอื กระทอ่ มตรงโนน้ ลกึ
เขา้ ไปในปา่ ทบึ เปน็ เสน้ ทางวกวนคดเคยี้ วสทู่ วิ เขาเรยี งรายซอ้ นสลบั เนนิ ฉาบ
ทับด้วยสีฟ้า แม้ภาพนี้จะท�ำจิตให้ตกอยู่ในภวังค์ และแม้สนต้นน้ีจะไหวลู่
ครำ่� ครวญราวใบไมเ้ หนอื ศีรษะพระเยซู กระนน้ั ทง้ั หมดนี้ยงั คงไร้ความหมาย
จนกว่าดวงตาแห่งท่านผู้ทรงธรรมจะตรึงอยู่กับสายธารมนต์ขลังที่อยู่
เบื้องหน้า ลองไปเยือนทุ่งหญ้าแพรี่ในเดือนมิถุนาสิ เดินลุยหญ้าสูงท่วมเข่า
ลึกเข้าไปในดงลิลล่ี ก้าวแล้วก้าวเล่า...เสน่ห์อันใดนะท่ีเร่งเร้าแรงปรารถนา
ในตวั คณุ ? แอง่ น�้ำทนี่ ั่นก็ไมม่ ีแมแ้ ต่น�้ำสกั หยด! ไมใ่ ช่น�ำ้ ตกไนการ่าสักหน่อย
แต่เป็นแก่งทะเลทราย คุณยินดีเดินทางเป็นพันๆ ไมล์เพื่อไปเยือนสถานท่ี
แบบนนั้ หรอื ? แลว้ เหตใุ ด หลงั จากจๆู่ ไดร้ บั เหรยี ญเงนิ มาเตม็ สองกำ� มอื โดยไม่
คาดฝนั กวนี า่ สมเพชแหง่ เทนเนสซี่6 คนนนั้ จงึ เลอื กทำ� เชน่ นนั้ ละ่ ? เขาควรซอื้
เสื้อโค้ตท่ีก�ำลังต้องการเป็นอย่างยิ่งต่างหาก แต่เหตุใดกลับน�ำเงินที่ได้ใช้
เป็นค่าเดินทางไปยังร็อคอเวย์7ล่ะ? เหตุใดหนุ่มก�ำย�ำล่�ำสันอันเปี่ยมพลัง
มุ่งม่ันแทบทุกคน ต่างคล่ังไคล้ที่จะออกทะเลในบางช่วงบางขณะ? เหตุใด
การลอ่ งเรอื ครง้ั แรกจงึ ทำ� ใหค้ ณุ รสู้ กึ หวน่ั ไหวอยา่ งประหลาด ทนั ทท่ี ม่ี คี นบอก
วา่ คณุ และเรอื ลอ่ งลอยมาไกลจากผนื แผน่ ดนิ แลว้ ? เหตใุ ดผเู้ ฒา่ ชาวเปอรเ์ ซยี
จึงถือว่าท้องทะเลมีความศักดิ์สิทธ์ิ? เหตุใดชาวกรีกจึงสักการะน้องชาย
ของโจฟ8เป็นพิเศษ? แนล่ ะวา่ น่ใี ช่จะปราศจากซ่ึงความหมายใดๆ หากแตม่ ี

4 จติ รกร-กลุม่ จติ รกรผู้วาดภาพทวิ ทัศน์อันเปน็ ตำ� นานของภูเขาไวตใ์ นนิวแฮมเชียร์ ช่วงศตวรรษท่ี 19
5 ซาโค-แม่น�ำ้ ทางตะวันออกเฉยี งเหนอื ในนิวแฮมเชียรแ์ ละตะวนั ตกเฉยี งใต้ของเมน
6 กวแี ห่งเทนเนสซ่ี – ไมท่ ราบแนช่ ดั ว่ากวีคนนคี้ ือใคร อาจเป็นแคม่ ขุ ตลกส่วนตัวของเมลวลิ ล์
7 ร็อคอเวย-์ หาดตากอากาศบนเกาะลอง นิวยอรก์
8 นอ้ งชายของโจฟ (จปู เิ ตอร์)-โพไซดอน หรือเทพแหง่ สมุทร ชาวโรมนั ถือว่าจูปเิ ตอร์มศี กั ด์ิเทา่ เทียมหรอื
คือซสู ของกรกี

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 9

ความหมายลึกซ้ึงย่ิงกว่าเร่ืองของนาร์ซิสซัส9 ผู้ไม่เคยสัมผัสกับความทุกข์
ทรมาน เงาสะทอ้ นทม่ี องเหน็ ในบอ่ นำ�้ จงึ มอี ำ� นาจลวงลอ่ ใหเ้ ขาโดดลงไปและ
จมดงิ่ สเู่ บอ้ื งลกึ แตพ่ วกเราเองกห็ ลงใหลผนื นำ�้ และมหาสมทุ ร ดว้ ยภาพสะทอ้ น
อนั เดยี วกนั น้ี ซงึ่ เปน็ ภาพมายาแหง่ ชวี ติ ทไี่ มอ่ าจเขา้ ใจได้ เรอ่ื งของเรอื่ งกเ็ ปน็
แบบนี้แหละ

เอาละ ยามใดท่ีผมบอกว่าอยากออกไปท่องทะเล ยามที่ดวงตาของผม
เร่ิมพร่ามัว ใจคอเต้นไม่เป็นส�่ำ นั่นไม่ได้หมายถึงว่า ถึงเวลาต้องออกไป
ล่องเรือแบบผู้โดยสารคนหนึ่ง การเป็นผู้โดยสารนั้นคุณต้องมีกระเป๋าติดตัว
แต่กระเป๋าจะเป็นแค่ผ้าข้ีริ้วถ้าไม่มีอะไรใส่อยู่ในนั้น อีกทั้งโดยท่ัวไปแล้ว
ผู้โดยสารมักจะเมาเรือ ชอบเอะอะพาลหาเรื่อง ไม่ยอมหลับยอมนอนตอน
กลางคืน และไม่รู้สึกสนุกสนานอะไรนัก แต่นั่นไม่ผม...ผมไม่เคยเดินทางไป
ในฐานะผู้โดยสาร ท้ังไม่ได้ไปในฐานะผู้การเรือ กัปตัน หรือพ่อครัว แต่เป็น
จ�ำพวกลูกเรือคนหน่ึงต่างหาก ผมยอมสละเกียรติและความอู้ฟู้ในหน้าที่
การงานนน่ั ใหแ้ กผ่ ทู้ รี่ กั ชอบมนั เพราะโดยสว่ นตวั แลว้ ผมเกลยี ดงานทรงเกยี รติ
อันเป็นที่นับหน้าถือตาเหล่านั้น ซ่ึงต้องตั้งหน้าต้ังตาอย่างยากล�ำบากกว่า
จะได้งานพวกน้ันมา ผมแค่ดูแลตัวเองจะดีกว่า โดยไม่ต้องคอยดูแลไปถึง
เรอื สำ� เภา เรอื เสากระโดง เรอื ใบ หรอื จะเปน็ เรอื อะไรกเ็ ถอะ สว่ นไปในฐานะ
พอ่ ครวั นน้ั กต็ อ้ งยอมรบั วา่ นา่ สนใจทเี ดยี ว พอ่ ครวั เปน็ งานหนงึ่ ทต่ี อ้ งมปี ระจำ�
อยู่บนเรือเสมอ ถึงอย่างน้ันผมก็ไม่เคยนึกฝันที่จะท�ำหน้าท่ีอบไก่ แม้ว่า
คร้ังหน่ึงผมเคยอบ เคยปาดเนย ทาเกลือ และโรยพริกไทให้ไก่อบดูน่ากิน
มาแลว้ กต็ าม และไมม่ ใี ครพดู ถงึ ไกอ่ บดว้ ยความเคารพนอบนอ้ มไดย้ ง่ิ ไปกวา่
ผมอีก หมดสมัยความเช่ืองมงายของชาวอียิปต์โบราณเรื่องนกกระสา
อบและฮิปโปยา่ ง เพราะคณุ จะไดเ้ หน็ ซากแหง้ กรงั ของสัตว์เหล่านีไ้ ด้ตามโรง
อบขนมปังขนาดใหญท่ รงพีระมิด

ไมเ่ ลย...ยามออกทะเล ผมไปในฐานะลกู เรอื ธรรมดาคนหนง่ึ เทา่ นน้ั เตรอ่ ยู่

9 นารซ์ ซี สั เปน็ บตุ รของเทพวี นี สั และเทพอะพอลโล เปน็ ชายรปู งามทหี่ ลงตวั เองจนถกู เทพอี าโฟรไ์ ดตส์ าป
ใหห้ ลงเงาสะท้อนของตวั เองในบอ่ นำ้� จนโดดจมหายไป

10 : โมบ-ี้ ด๊กิ

แถวๆ เสากระโดงบา้ ง ลงไปดาดฟา้ หวั เรอื บา้ ง ปนี ขน้ึ ไปบนยอดเสาบา้ ง อนั ทจ่ี รงิ
พวกเขามกั จะส่งั ให้ผมทำ� เสยี มากกว่า ใหก้ ระโดดจากเสาเรือต้นนีไ้ ปตน้ โน้น
ไมต่ า่ งอะไรกบั ตกั๊ แตนโดดไปมาในทงุ่ หญา้ เดอื นพฤษภา แรกๆ งานประเภทนี้
ไม่น่าร่นื รมยน์ ัก ก็เปน็ เรอื่ งของศักด์ิศรมี นุษย์นะ่ โดยเฉพาะอย่างยง่ิ หากคุณ
มาจากตระกลู เกา่ แกบ่ นแผน่ ดนิ เชน่ แวน เรนซเ์ ซเลอรส1์ 0 หรอื แรนดอลฟ์ ส1์ 1
หรอื ฮารด์ แิ คนตู ส์12 หรอื หากกอ่ นหนา้ ทจ่ี ะลงเอยมาเปน็ กะลาสี คณุ เคยเปน็
ผู้ออกค�ำสั่งในฐานะครูใหญ่โรงเรียนบ้านทุ่ง ซึ่งคอยก�ำราบบรรดาเด็กหนุ่ม
ตระกูลใหญ่เหล่านั้นให้กลัวหงอ การเปลี่ยนบทบาทจึงเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว
ผมยืนยันได้เลย จากครูใหญ่กลายมาเป็นกะลาสีเรือ คุณต้องยึดมั่นตาม
แนวคดิ ของเซเนกา และลทั ธสิ โตอกิ 13 เพอ่ื ใหค้ ณุ ยนื หยดั ยม้ิ รบั กบั มนั ได้ แมว้ า่
ความอดทนน้ีจะถูกกดั กรอ่ นไปไมช่ า้ หรือเรว็ กต็ าม

จะเกดิ อะไรข้ึน ถา้ ตาเฒ่าจอมยโสน่ันออกค�ำสัง่ กบั ผมในฐานะกปั ตนั เรอื
ให้ควา้ ไม้กวาดขึน้ มาทำ� ความสะอาดดาดฟ้าเรือ? การหยามศกั ดศ์ิ รีเชน่ นน้ั
จะถึงกับถูกน�ำไปเพ่ิมไว้ในพระคัมภีร์พันธะสัญญาใหม่หรือไม่? คุณคิดว่า
อคั รเทวดากาเบรยี ล14จะมองเหยยี ดผมไหม โทษฐานทน่ี อบนอ้ มกระวกี ระวาด
ทำ� ตามคำ� สงั่ ตาเฒา่ นนั่ ? แตบ่ อกผมทเี ถอะ ใครบา้ งละ่ ทไี่ มใ่ ชท่ าส? เอาเถอะ ไม่
วา่ บรรดากปั ตนั เฒา่ ทงั้ หลายสง่ั ใหท้ ำ� อะไร จกิ หวั ใชข้ นาดไหน ผมกย็ งั บอกกบั
ตวั เองไดว้ า่ ไมเ่ ปน็ ไร คนอน่ื ๆ ก็โดนแบบนไี้ ม่ทางใดกท็ างหน่งึ ไม่มากกน็ ้อย
ทง้ั ทางรปู ธรรมหรอื นามธรรม และแรงกดดนั ทงั้ หลายกจ็ ะไดแ้ บง่ เบากนั ออกไป
ทกุ คนจงึ ตา่ งควรรว่ มมือร่วมแรงและกม้ หน้ายอมรับมัน

นี่แหละ ผมจึงมักออกทะเลไปในฐานะกะลาสี เพราะพวกเขาจ่ายค่า

10  แวน เรนซเ์ ซเลอรส์-ตระกลู เก่าแก่เชื้อสายดัตชซ์ ่ึงเล่นการเมืองในนิวยอรก์
11 แรนดอลฟ์ ส-์ ตระกลู ซ่งึ มีอทิ ธิพลทางการเมอื งในเวอรจ์ ิเนยี ร์ยุคต้น
12 ฮารด์ ิแคนตู ส์-สืบเชอื้ สายมาจากกษัตรยเ์ ดนมาร์กและอังกฤษ ช่วงต้นศตวรรษท่ี 11
13 มารค์ สุ แอนเออสุ เซเนกา เปน็ ผกู้ อ่ ตงั้ ลทั ธสิ โตอกิ ขน้ึ มา โดยสอนคนในยคุ กอ่ นครสิ ตกาลใหร้ จู้ กั อดทน
กำ� จดั ตัณหา ราคะจริต และกม้ หนา้ ยอมรับชะตากรรมทเ่ี กิดข้นึ กบั ตน
14 หัวหนา้ เทวดาตามความเชื่อของศาสนาครสิ ต์นกิ ายโรมันคาทอลกิ

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 11

ตอบแทนให้แก่ความล�ำบากล�ำบนของผมด้วย และไม่เคยได้ยินได้ฟังว่า
พวกเขาจะจ่ายให้แก่ผู้โดยสารคนใดเลยแม้แต้สตางค์แดงเดียว ตรงกันข้าม
ผู้โดยสารเหล่านั้นต่างหากท่ีต้องเสียเงินเป็นค่าเดินทาง การจ่ายและการรับ
บนโลกใบนลี้ ว้ นมคี วามแตกตา่ งกนั การจา่ ยหรอื ชำ� ระหนอี้ าจเปน็ บทลงโทษที่
นา่ อดั อนั้ ตนั ใจทสี่ ดุ ทสี่ องหวั ขโมยในสวนผลไม1้ 5นน่ั สบื ทอดมาถงึ เรา ขณะที่
การรับน้ัน จะมีอะไรมาเปรียบปานได้เล่า? ท่าทีอ่อนช้อยของผู้ได้รับเงินนั้น
ชา่ งนา่ พศิ วงจรงิ ๆ เมอ่ื คดิ ถงึ วา่ เราเชอื่ โดยสนทิ ใจวา่ เงนิ เปน็ ตน้ เหตแุ หง่ ความ
เลวร้ายทงั้ ปวงที่เกิดข้นึ บนโลกมนุษย์ และไม่มที างท่ีคนมีเงินจะได้ขึน้ สวรรค์
ฮา้ ! น่นั หมายถึงว่า เราต่างยินดที ี่จะกา้ วลงส่อู เวจรี ว่ มกนั ละ่ ส!ิ

และท่ีผมมักออกทะเลในฐานะลูกเรือ เพราะได้ออกแรงซึ่งส่งผลดีต่อ
สุขภาพ และไดส้ ูดอากาศบริสทุ ธบ์ิ นดาดฟา้ หัวเรอื ตามกฎธรรมชาตขิ องบน
โลกใบนี้ หวั ลมยอ่ มมลี มมากกวา่ ทที่ า้ ยเรอื (ถา้ คณุ ไมแ่ หกกฎของพที าโกรสั 16
นะ) ด้วยเหตุนี้ ต�ำแหน่งส่วนใหญ่ที่ผู้บังคับการเรืออยู่ คือกลางถึงท้ายเรือ
จึงต้องสูดอากาศเหลือเดนจากลูกเรือท่ีอยู่ด้านหน้า เขาคิดว่าได้สูดอากาศ
บรสิ ทุ ธกิ์ อ่ น แตก่ เ็ ปลา่ เชน่ เดยี วกบั อกี หลายๆ เรอ่ื ง คนธรรมดาสามญั กลบั เปน็
ฝา่ ยนำ� หนา้ โดยทคี่ นเปน็ ผนู้ ำ� ไมไ่ ดเ้ อะใจอะไรเลย แตส่ ำ� หรบั ผมแลว้ หลงั จาก
ได้สูดกลิ่นไอทะเลบอ่ ยครง้ั ยามล่องเรือไปในฐานะกะลาสีเรือพาณชิ ย์ ผมก็
คิดว่าถึงเวลาทค่ี วรผนั ตวั ไปเป็นลูกเรือลา่ วาฬเสยี ที จะเปน็ พรหมลิขิตท่มี อง
ไมเ่ หน็ ซงึ่ ลอบสอดสอ่ งจบั ตามอง และดลบนั ดาลใจผมอยา่ งประหลาดกว็ า่ ได้
คงมีแต่พระพรหมนั่นแหละท่ีจะบอกได้ดีกว่าใคร และไม่ต้องสงสัยเลยว่า
การตดั สนิ ใจมาลอ่ งเรอื ลา่ วาฬในครงั้ นนั้ เกดิ จากพรหมลขิ ติ ทข่ี ดี ไวก้ อ่ นหนา้
เม่ือนานมาแล้ว ลิขิตฟ้าโหมโรงขึ้นมาอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว แล้วก็บรรเลง
ยดื ยาวอยา่ งไมร่ วู้ า่ จะจบลงเมอ่ื ใด แตผ่ มกถ็ อื วา่ นน่ั เปน็ สว่ นของปา้ ยประกาศ

15 สองหวั ขโมยในสวนผลไม้ – อดัมกบั อีฟ
16 นกั คณติ ศาสตร์และนักปราชญก์ รีกโบราณ (582 — 496 ปีก่อนค.ศ.) กฎช่ือดังที่วา่ นีค้ อื “อย่ากินถัว่
เพราะจะทำ� ใหท้ ้องอืด และทำ� ลายลมปราณชีวิต” ซงึ่ หมายถึงไมใ่ ห้ยดึ ตดิ สิง่ ตา่ งๆ ในโลก แตไ่ มเ่ ปน็ ที่
ทราบแนช่ ัดว่า พีทาโกรสั เองหรอื ลกู ศิษยเ์ ปน็ ผูค้ ดิ คน้ กฎนี้

12 : โมบ้-ี ดิก๊

ในทำ� นองวา่

“แข่งขันเลือกตัง้ ประธานาธบิ ดีสหรฐั ครั้งยงิ่ ใหญ่”
“ล่องลา่ วาฬของอิชเมล...หน่ึงเดียวคนน้ัน”
“สงครามเลือดในอัฟกานสิ ถาน”

แม้ผมไม่รู้ว่า ท�ำไมโชคชะตาผู้ก�ำกับละครชีวิตจึงจับผมเดินทางไปกับเรือ
ล่าวาฬโกโรโสล�ำนั้น ขณะที่คนอ่ืนๆ กลับได้รับบทบาทส�ำคัญในละคร
โศกนาฏกรรมชน้ั ดี หรอื รบั บทสน้ั ๆ งา่ ยๆ ในสขุ นาฏกรรมของชนนน้ั สงู หรอื
บทตลกในละครชวนหัว แมจ้ ะไม่ร้เู หตผุ ลแนช่ ดั แต่เม่ือหวนนึกถงึ เหตุการณ์
ต่างๆ ทั้งหมด ผมก็พอมองออกรางๆ ถึงเล่ห์กะเท่ห์นานาท่ีทั้งกระตุ้น
ทั้งหลอกล่อ ลวงให้ผมโลดแล่นมารับบทบาทนี้ รวมท้ังโน้มน้าวชักจูงให้ผม
หลงคิดไปว่า น่ันเป็นทางเลือกที่เกิดจากความสมัครใจล้วนๆ และการพินิจ
พิเคราะห์อยา่ งถว้ นถข่ี องผมเอง

เหนือแรงดลใจท้ังหลายทั้งปวง ก็คือเจ้าวาฬเพชฌฆาตอันยิ่งใหญ่ตัวนั้น
นน่ั เอง เจา้ อสรุ กายลกึ ลบั อปั มงคลนน่ั กระตนุ้ ความอยากรอู้ ยากเหน็ ในตวั ผม
แลว้ กท็ ะเลคลง่ั กวา้ งไกลสดุ ลกู หลู กู ตาทล่ี ำ� ตวั มหมึ าขนาดเกาะของมนั โยนตวั
เล่นน้�ำ ความร้ายกาจชนิดที่ไม่อาจบรรยายได้ของเจ้าวาฬยักษ์ตัวน้ี รวมท้ัง
ทวิ ทศั นแ์ ละสรรพเสยี งอนั นา่ ตน่ื ตาตน่ื ใจแถบพาตาโกเนยี 17 นน่ั แหละเปน็ แรง
กระตนุ้ สำ� คญั หากเปน็ คนอนื่ สง่ิ เหลา่ นอ้ี าจไมม่ แี รงดงึ ดดู พอ แตส่ ำ� หรบั ผมซงึ่
ตอ้ งทกุ ขท์ รมานกบั แรงปรารถนาทจ่ี ะไดส้ มั ผสั กบั ดนิ แดนไกลโพน้ มาเนนิ่ นาน
ใฝ่ฝันจะได้ล่องเรือไปในท้องทะเลต้องห้าม จอดเทียบท่าชายฝั่งดินแดน
ป่าเถื่อน ผมจึงไม่ยอมทอดท้ิงโอกาสนั้นไป แต่เปิดใจเรียนรู้ความกลัว และ
ท�ำความคุ้นเคยกับมันเม่ือสบช่อง เพราะย่อมเป็นการดีที่จะผูกมิตรกับ
เพอื่ นบา้ นซึง่ อยทู่ ่เี ดียวกับเรา

17 พาตาโกเนยี -ดนิ แดนใตส้ ุดของอเมรกิ าใต้

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 13

ดว้ ยเหตผุ ลทงั้ หลายทงั้ ปวงนเี้ อง เรอื ลา่ วาฬจงึ มโี อกาสไดต้ อ้ นรบั ผม และ
ประตสู โู่ ลกแสนพศิ วงเปดิ กวา้ งออก ความคดิ บา้ บนิ่ นนั่ เองทห่ี นนุ สง่ ผมอยใู่ น
ส่วนลึกแห่งจิตวิญญาณ ให้เข้าไปในเรือเป็นคู่ๆ18 สู่การไล่ล่าวาฬอันไม่รู้จัก
จบสิ้น โดยมีเป้าหมายส�ำคัญท่ีเจ้าปีศาจยักษ์หลังขาวซึ่งคล้ายภูเขาหิมะ
สงู เสียดฟา้ น่นั

18 เขา้ ไปในเรือเป็นคูๆ่ – จากคัมภีรไ์ บเบิ้ล “ก็มาหาโนอาห์ แลว้ เข้าไปในเรอื เปน็ คู่ๆ ทัง้ ตวั ผตู้ ัวเมีย ดังที่
พระเจา้ ทรงบญั ชาโนอาหไ์ ว้” (ปฐมกาล 7.9)
14 : โมบ-้ี ดิก๊

บทท่ี 2

กระเปา๋ ผา้ พรม

ผมยดั เสอื้ เชติ้ ตวั สองตวั ใสก่ ระเปา๋ ผา้ พรมใบเกา่ หนบี ไวใ้ ตแ้ ขน แลว้ มงุ่ หนา้ สู่
แหลมเคปฮอร์นและมหาสมุทรแปซิฟกิ อ�ำลาเมืองเก่านา่ อย่อู ย่างแมนฮตั โต
และมาถงึ เมอื งทา่ นวิ เบดฟอรด์ ในคำ�่ วนั เสารข์ องเดอื นธนั วาคม แตก่ ต็ อ้ งผดิ หวงั
มหนั ตเ์ มอื่ พบวา่ เรอื เลก็ ทจ่ี ะลอ่ งไปเกาะแนนทกั เกต็ ไดอ้ อกจากทา่ ไปเสยี แลว้
และไมม่ ีเทยี่ วเรอื ไปที่น่นั อีกจนกวา่ จะถงึ วันจนั ทร์

เหล่าคนหนุ่มผู้กล้าท้าอุปสรรคอันยากล�ำบากของการล่าวาฬส่วนใหญ่
ลว้ นมาแวะพกั ทท่ี า่ นวิ เบดฟอรด์ กอ่ นเรม่ิ การผจญภยั เชน่ เดยี วกนั กบั ผม แตผ่ ม
เปน็ คนเดยี วทไี่ มไ่ ดค้ ดิ แวะพักทน่ี นั่ แต่แรก ทจี่ ำ� ตอ้ งพกั เพราะแคจ่ ะลงเรอื ไป
แนนทกั เกต็ เทา่ นนั้ ทงั้ ไดย้ นิ ถงึ กติ ตศิ พั ทเ์ ลอื งลอื หนาหเู กย่ี วกบั เกาะอนั งดงาม
เก่าแก่น้ัน จนผมต้องอดพอใจอย่างประหลาดไม่ได้ นอกจากนั้น แม้ล่าสุด
นิวเบดฟอร์ดได้กลายมาเป็นท่าเรือผูกขาดการล่าวาฬ แต่เกาะแนนทักเก็ต
ก็เป็นแหล่งต้นเค้ามาก่อน เพราะเป็นที่ท่ีวาฬอเมริกันตัวแรกถูกลากข้ึนมา
เกยตนื้ เกาะแนนทกั เกต็ นไี้ มใ่ ชห่ รอื ทเ่ี หลา่ นกั ลา่ วาฬชาวอนิ เดยี นแดงพนื้ เมอื ง
เปิดต�ำนานด้วยการน�ำเอาเรือบดออกไปไล่ล่าปีศาจยักษ์แห่งท้องทะเล
เป็นคร้ังแรก? และที่เกาะแนนทักเก็ตน้ีด้วยมิใช่หรือที่เล่าขานกันว่า มีผู้เอา
เรอื ใบเลก็ เสาเดย่ี วขนหนิ กรวดลอ่ งออกไปขวา้ งใสเ่ หลา่ วาฬยกั ษ์ เพอ่ื กะระยะ
เหมาะที่จะพงุ่ ฉมวกจากหัวเรือเข้าใส?่

ผมใชเ้ วลาหนง่ึ คนื หนง่ึ วนั แลว้ กอ็ กี หนงึ่ คนื อยทู่ ที่ า่ นวิ เบดฟอรด์ กอ่ นหนา้ นี้

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 15

ผมคดิ แตจ่ ะไปยงั ทา่ เรอื เปา้ หมาย แตเ่ มอ่ื เปน็ แบบนี้ ปญั หาสำ� หรบั ผมจงึ เปน็
เรือ่ งของปากท้องและท่ีหลบั นอน มนั ช่างเปน็ ค�ำ่ คนื ที่วา้ วนุ่ เหลือแสน ไม่ใชส่ ิ
เปน็ คนื คำ่� อนั แสนมดื มดิ หดหู่เหนบ็ หนาว แลว้ กเ็ ศรา้ สรอ้ ยเลยทเี ดยี ว ผมไมร่ จู้ กั
ใครที่น่ันสักคน เมื่อควานดูในกระเป๋าก็หยิบเหรียญเงินข้ึนมาได้ไม่ก่ีอัน
‘แลว้ นายจะไปไหนไดว้ ะ...อชิ เมล’ ผมพดู กบั ตวั เองตอนทยี่ นื อยบู่ นถนนอนั มดื มน
สะพายกระเปา๋ ไวบ้ นไหล่ และหนั ซา้ ยหนั ขวากะความมดื สลวั ทางทศิ เหนอื กบั
ความมดื มดิ ทางทศิ ใต้ ‘เจา้ อชิ เมลเอย๋ ...ไมว่ า่ จะตดั สนิ ใจซกุ หวั นอนคนื นที้ ไ่ี หน
อยา่ ลมื ถามราคาหอ้ งให้ชดั ก่อนละ่ แลว้ ก็อยา่ เรื่องมากดว้ ย’

ผมเดนิ สะเปะสะปะไปตามถนนตา่ งๆ กระทง่ั ไปเหน็ ปา้ ยโรงเตยี๊ ม “ฉมวก
ไขว้” แต่ทา่ ทางแพงไปหน่อย แถมยงั อึกทกึ มากด้วย เมื่อเดนิ ต่อไปอกี หน่อย
กเ็ หน็ แสงลอดออกมาจากหนา้ ตา่ งสแี ดงโรข่ อง “โรงเตยี๊ มกระทงแทง” เหมอื น
รงั สรี อ้ นแรงทแ่ี ผดออกมาละลายหมิ ะและนำ�้ แขง็ ดา้ นหนา้ ทพ่ี กั เพราะบรเิ วณนนั้
มีน�้ำค้างแข็งก่อตัวหนาราวสิบนิ้วปกคลุมไปทั่วพ้ืนผิวถนนลาดยาง ผมคง
เหนอ่ื ยไปหนอ่ ย จนเทา้ ไปครดู เหลก็ แขง็ ทย่ี น่ื ออกมาเขา้ ความแขง็ ของมนั ทำ� ให้
พื้นรองเท้าบู๊ทคู่ลุยของผมอยู่ในสภาพเกินเยียวยา ผมบอกกับตัวเองอีกคร้ัง
เมื่อได้ยินเสียงแก้วกระทบกันดังมาจากข้างในว่าแพงไปแล้วก็อึกทึกไป แล้ว
กวาดตามองไปบนถนนอยคู่ รหู่ นง่ึ ‘ไปตอ่ นา่ อชิ เมล ไดย้ นิ ไหม?’ ผมบอกตวั เอง
ในทส่ี ดุ ‘ไปใหพ้ น้ ๆหนา้ ประตนู ซ่ี ะจะมาเสยี ดายอะไรกบั รองเทา้ คเู่ นา่ ๆน’ี่ แลว้ ก็
ออกเดนิ ตอ่ คราวนผี้ มใชส้ ญั ชาตญาณหาทางทจ่ี ะทอดไปสผู่ นื นำ�้ เพราะไมต่ อ้ ง
สงสัยว่าที่น่ันตอ้ งมีท่ีพักราคาถูกแสนถูก หรือไมก่ ็โรงเตี๊ยมทแ่ี สนจะอภิรมย์

ถนนชา่ งทบึ ทมึ เหลอื เกนิ ! สองฟากขา้ งมแี ตอ่ าคารมดื มดิ ไมม่ ที พ่ี กั เลยสกั หลงั
เห็นแต่แสงเทียนตรงนี้ตรงน้ันคล้ายแสงเทียนวอมแวมในสุสาน ณ โมงยาม
ของราตรใี นวนั หยดุ สดุ สปั ดาหแ์ บบน้ี ตวั เมอื งยา่ นนกี้ ลายเปน็ ดนิ แดนรกรา้ งไป
แต่ครู่ต่อมา ผมก็เห็นแสงมัวซัวลอดออกมาจากอาคารเต้ียกว้างหลังหน่ึง
ประตูเปิดอ้าอยู่เหมือนเชื้อเชิญ มันดูเรียบง่ายดีเหมือนไว้บริการสาธารณะ

16 : โมบ-้ี ด๊กิ

โดยเฉพาะ ผมจึงกา้ วตรงเขา้ ไป แลว้ เท้าก็ไปสะดุดเขา้ กบั กบั หีบใสข่ ี้เถา้ 1ตรง
ปากประตเู ปน็ อนั ดบั แรก ‘โอโ้ ฮ!’ ผมคดิ ขณะทเ่ี กอื บสำ� ลกั ขเ้ี ถา้ ‘โอโ้ ฮ! นมี่ นั ขเี้ ถา้
เมอื งกอมมอรร์ าห2์ ทถี่ กู ทำ� ลายไปทงั้ เมอื งหรอื ไงหวา่ ? โรงเตย๊ี มฉมวกไขวเ้ อย
ปลากระโทงแทงเอย แล้วก็ยังนอี่ กี ทา่ จะชื่อโรงเตีย๊ ม ‘กับดัก’ ม้งั ?’ แต่ผมก็
พยุงตัวขน้ึ ยนื ได้ยินเสยี งดังมาจากด้านใน ก่อนจะผลักประตูบานในเข้าไป

ในนน้ั ราวกบั สภามดื 3เปดิ ประชมุ กนั ทเ่ี มอื งโทเฟต4 คนผวิ ดำ� รว่ มรอ้ ยกำ� ลงั
หันหน้าเข้าใส่กัน ส่วนบนแท่นเทศน์นั่น เทพเจ้ามืดแห่งเคราะห์กรรมก็โหม
อา่ นคมั ภรี อ์ ยู่ นเี่ ปน็ โบสถข์ องชนผวิ ดำ� เสยี งนกั เทศนก์ ำ� ลงั พดู ถงึ ความมดื ใน
ความมดื มิด ระคนไปกับเสยี งครวญครำ่� ร่�ำไห้ และขบเขยี้ วเค้ยี วฟนั ของผู้ฟงั
‘โอโ้ ฮ! อชิ เมล’ ผมพมึ พำ� กบั ตวั เอง ‘ถอยดกี วา่ เรา นมี่ นั มหรสพคนอมทกุ ขน์ นี่ า
สมกบั ชอื่ โรงเต๊ยี มกบั ดักจรงิ ๆ!’

แล้วผมก็ผละจากมา จนเดินมาถึงแสงไฟสลัวซ่ึงอยู่ไม่ห่างจากท่าเรือ
มากนกั ไดย้ นิ เสยี งเอย๊ี ดอา๊ ดตามสายลมชวนใหร้ ะทมเปลา่ เปลย่ี ว เมอ่ื เงยหนา้
ขึ้นมอง ก็เห็นแผ่นป้ายแกว่งไกวไปมาอยู่เหนือประตู บนป้ายมีรูปสีขาวมอง
ออกได้รางๆ ว่าเป็นสายน้�ำพ่นพุ่งสูงจากหลังวาฬ ส่วนข้างใต้มีข้อความว่า
“โรงเต๊ยี มวาฬพน่ น�ำ้ : ปีเตอร์ โลงศพ”

วาฬพน่ น�ำ้ ? โลงศพ? เม่ือรวมกันแลว้ ช่างไม่เปน็ มงคลเอาเสียเลย ผมคดิ
แต่ถ้าเปน็ ทเ่ี กาะแนนทกั เกต็ วา่ กนั วา่ เปน็ ชอื่ ท่พี บเหน็ ได้ทั่วไป ผมเลยเดาว่า
นายปเี ตอร์คนนีค้ งตอ้ งอพยพมาจากเกาะนน่ั แน่ๆ แสงไฟดแู สนริบหร่ี สว่ น
โรงเตี๊ยมตอนนี้ก็ดูเงียบสงบดี แม้บ้านไม้ดูช�ำรุดทรุดโทรมราวกับขนเอา

1  หีบใสข่ ี้เถา้ – ไว้สำ� หรบั โปรยทางเดินทีม่ ีน้�ำแข็งเกาะ ใหเ้ ดนิ ไมล่ ื่นล้ม
2 เมอื งกอมมอรร์ าห์ ตงั้ อยบู่ รเิ วณหบุ เขาซดิ ดมิ ตดิ กบั ทะเลเดดซี เปน็ หนงึ่ ในหา้ นครแหง่ บาปทถี่ กู พระเจา้
ใชไ้ ฟจากสวรรค์ท�ำลายล้าง ตามคัมภรี ไ์ บเบ้ลิ
3 สภามดื -หมายถงึ สภาของกษัตรยโ์ รเบริ ต์ แหง่ สกอ็ ตแลนด์ (ค.ค.1320) หรอื สภาของพระเจ้าเฮนรที ี่แปด
ขององั กฤษ (ค.ค.1524) ในที่น้ีเล่นค�ำกบั คำ� ว่า “นโิ กร” หรอื คนด�ำดว้ ย
4 เมืองโทเฟต-ตั้งอยู่ในหุบเขาเบน ฮินนอม ทางทิศตะวันตกของเมืองเยรูซาเล็ม เป็นสถานท่ีสำ� หรับเผา
ซากศพอาชญากรทถ่ี กู ประหาร และยงั เป็นทีท่ ลี่ ัทธนิ อกศาสนาจับเดก็ เป็นๆ เผาบชู ายัญพระเจ้า ทงั้ ยัง
หมายถงึ นรกได้ดว้ ย

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 17

ซากปรกั หกั พงั จากยา่ นทถี่ กู เผาราบมาสรา้ ง แถมปา้ ยเกา่ นน่ั กแ็ กวง่ เอย๊ี ดอา๊ ด
นา่ สังเวช แต่ผมกค็ ิดวา่ นีแ่ หละท่ีพกั ราคาถกู และมีเมล็ดกาแฟรสเลิศด้วย

ชา่ งเปน็ สถานทที่ แ่ี ปลกเอาการ บา้ นพกั เกา่ หลงั คาทรงจวั่ ดา้ นหนงึ่ ของหลงั คา
พิกลพิการเพราะเอียงเย้ออกมาอย่างน่าสังเวช และตั้งอยู่ในมุมยะเยือกเย็น
บริเวณท่ีพายุยูโรไคลดอนส่งเสียงโหยหวนชวนสยองเสียยิ่งกว่าตอนที่มัน
ล่มเรือของพอลผู้น่าสงสาร5 ถึงอย่างน้ันยูโรไคลดอนก็ยังเป็นลมอ่อนทาง
ตะวันตกที่ให้ความส�ำราญย่ิงแก่ผู้คนที่อยู่ภายในบ้านด้วย เพราะจะได้นอน
อังเท้าบนตะแกรงข้างเตาผิงหลับสบาย “ที่เรียกลมนี้ว่ายูโรไคลดอน”
นกั เขยี นรนุ่ เกา่ คนหนงึ่ วา่ ไว้ ซงึ่ ผมกม็ หี นงั สอื ของเขาอยแู่ คเ่ ลม่ เดยี ว “มนั สรา้ ง
ความแตกตา่ งอยา่ งประหลาด ไมว่ า่ ทา่ นจะมองมนั ผา่ นกระจกหนา้ ตา่ ง ไปยงั
ท่ีท่ีแผ่นน�้ำแข็งเกาะอยู่ทั่วด้านนอกนั่น หรือท่านจะเฝ้าสังเกตมันจาก
หน้าต่างผนังไร้กรอบ ซึ่งจะเห็นน้�ำแข็งเกาะอยู่ทั้งด้านในและด้านนอก
จะเป็นหรือตายก็อยู่ที่มุมมองของช่างท�ำกระจกเท่านั้น” จริงทีเดียว ผมคิด
เมอ่ื อกี ขอ้ ความจากคมั ภรี ม์ ดื 6ผดุ ขนึ้ ในใจ ‘ทา่ นจงไตรต่ รองใหด้ เี ถดิ ’ ใชแ่ ลว้ ...
ดวงตาเหลา่ นนั้ คอื หนา้ ตา่ ง สว่ นรา่ งกายนค้ี อื บา้ น ชา่ งนา่ เวทนาเหลอื เกนิ เหตใุ ด
ผู้คนจึงไม่อุดรอยร้าวและช่องโหว่เหล่านั้น ก็แค่ใช้เศษผ้าเล็กๆ อุดรอยรั่ว
ตรงนี้ตรงน้ัน กระทั่งมันสายเกินกว่าจะซ่อมแซม จักรวาลได้จบสิ้นแล้ว
ยอดกำ� แพงยงั อยู่ ขณะเศษซากทเ่ี หลือถูกลากออกไปไกลเมือ่ นบั ลา้ นปกี อ่ น
ทน่ี ั่นลาซารัสผู้นา่ สงสารนอนหนาวส่ันอย่บู นถนนกรวด ตัวสน่ั สะท้านฉกี ทึ้ง
ผ้าข้ีริ้ววุ่น เขาอาจใช้เศษผ้านั่นอุดสองหู ยัดซังข้าวโพดใส่ปาก แต่ก็ไม่อาจ
หยุดยั้งพายุยูโรไคลดอนได้ ขณะเศรษฐีเฒ่าไดฟส์7ในชุดคลุมไหมสีแดง
(ภายหลังยังมีอีกชุดท่ีแดงแจ๋กว่านั้น8) กลับเพรียกหายูโรไคลดอนเสียฉิบ!

5  พอล หรือเปาโลเป็นหน่ึงในสาวกของพระเยซูคริสต์ ท่ีได้รับบัญชาให้ออกเรือเดินทางจากปาเลสไตน์
ไปยงั กรงุ โรมขณะยังเป็นนักโทษ
6  คมั ภรี ม์ ดื – จากหนงั สอื ทอี่ ชิ เมลชอบอา้ งถงึ นา่ จะเปน็ คมั ภรี เ์ กา่ ในยโุ รปยคุ กลาง ชว่ งศตวรรษท่ี 12-16
7  ลาซารัส-นักบุญในศาสนาคริสต์ท่ีได้รับการชุบชีวิตจากพระเยซูหลังจากตายไปแล้วส่ีวัน ช่วงหน่ึงใน
พระคมั ภรี ไ์ ดบ้ อกเลา่ ถงึ ชว่ งเวลาทเ่ี ขาตกยากและนอนหนาวสนั่ อยหู่ นา้ ประตบู า้ นของไดฟสช์ ายผมู้ งั่ คง่ั
8 แดงแจ๋กว่าน้นั -ไฟนรก

18 : โมบ-ี้ ดกิ๊

หนอยแนะ่ ! ชา่ งเปน็ คำ�่ คนื ทห่ี นาวเยน็ ดแี ท้ กลมุ่ ดาวพรานสอ่ งประกายระยบิ
และแสงเหนือก็สาดสีงามเสียน่ีกระไร! ใครจะพูดถึงหน้าร้อนในดินแดน
ตะวนั ทเี่ หมอื นเรอื นกระจกซง่ึ อบอนุ่ ตลอดกาลนนั่ ยงั ไง กช็ า่ งเขาเถดิ ผมขอแค่
ใชถ้ า่ นสร้างหน้ารอ้ นของผมเองก็เป็นพอ

ลาซารัสคิดอะไรอยู่ในตอนนั้น? เขาชูสองมือเขียวคล�้ำข้ึนอังไออุ่นจาก
แสงเหนอื อนั งดงามนน่ั ไดไ้ หม? ลาซารสั ไมอ่ ยากไปอยเู่ กาะสมุ าตรามากกวา่
ทนี่ หี่ รอกหรอื ? เขาไมอ่ ยากลม้ ตวั นอนเหยยี ดยาวขนานเสน้ ศนู ยส์ ตู ร...ใชแ่ ลว้ …
พระเจ้า! หรอื กระทัง่ โจนลงหลุมไฟเสยี เลยเพอ่ื ช่วยให้หายหนาว?

เอาล่ะ ลาซารัสควรนอนเกยต้ืนอยู่บนถนนกรวดหน้าประตูบ้านของ
ไดฟสน์ นั่ มนั ยอ่ มดกี วา่ การทภี่ เู ขานำ้� แขง็ ดนั ลอยไปจอดทเ่ี กาะแถวโมลกุ กะ9
กระนั้น ตัวไดฟส์เองก็ใช้ชีวิตเหมือนจักรพรรดิในวังน้�ำแข็ง ที่สร้างจากเสียง
ทอดถอนใจซง่ึ กลายเปน็ ไอเยน็ ทง้ั ยงั เปน็ ประะธานสมาคมผไู้ มเ่ สพของมนึ เมา
ดว้ ยดื่มแต่น้ำ� ตาอ่นุ ๆ ของเด็กก�ำพร้า

แตก่ เ็ อาละ หมดเวลา “พน่ นำ�้ ” แลว้ เรากำ� ลงั จะออกไปลา่ วาฬกนั ยงั มเี รอื่ ง
พน่ นำ�้ ตามมาอกี เยอะ ขดู นำ้� แขง็ ใตเ้ ทา้ ทงิ้ แลว้ กา้ วไปดซู วิ า่ โรงเตย๊ี ม “วาฬพน่ นำ้� ”
นเี่ ป็นยงั ไง

9  หมเู่ กาะโมลกุ กะ หรอื มาลกู ู เปน็ หมเู่ กาะในประเทศอนิ โดนเี ซยี มขี นาดเลก็ แคบ และลอ้ มรอบดว้ ยทะเล
พ้นื ทีส่ ว่ นใหญ่เปน็ ภเู ขา บางส่วนเปน็ ภเู ขาไฟทีย่ ังคกุ ร่นุ อยู่ มีสภาพภูมอิ าการชื้น

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 19

บทท่ี 3

โรงเตย๊ี มวาฬพ่นน�้ำ

เมื่อก้าวเข้าไปในโรงเต๊ียมวาฬพ่นน้�ำหลังคาทรงจั่วน่ัน คุณจะเห็นทางเดิน
บรรยากาศคร�่ำครึทอดสู่โถงกว้างเพดานต�่ำ สองฟากผนังบุด้วยแผ่นไม้แบบ
โบราณชวนให้นึกถึงกราบเรือเก่าแสนเชย ผนังด้านหนึ่งแขวนภาพสีน้�ำมัน
ขนาดใหญ่ไว้ มีเขม่าควันจับเขรอะและรอยยับเยินอยู่หลายท่ี ถ้าแวะเวียน
มาดูบ่อยๆ และหม่ันสอบถามความเห็นจากคนข้างๆ ก็จะพอมองออกถึง
ความนัยในแสงเงาที่ถ่วงกันอย่างไม่ได้ดุลนั้น การใช้แสงเงาปาดเป็นปื้นๆ
นนั้ ยากตอ่ การคาดเดาอยู่ ตอนแรกคณุ อาจนกึ ไปถงึ จติ รกรหนมุ่ เปย่ี มไฟแรง
ยคุ ลา่ แมม่ ด1 ผสู้ อู้ ตุ สาหะวาดความโกลาหลในชว่ งนน้ั ออกมาเหมอื นรา่ ยมนต์
แตถ่ า้ ตง้ั ใจดจู รงิ ๆ ครนุ่ คดิ ใหม้ ากๆ ยงิ่ หลงั จากเปดิ หนา้ ตา่ งบานเลก็ หลงั โถง
ทางเขา้ นอี่ อกไป คณุ กอ็ าจถงึ บางออ้ ไดใ้ นทส่ี ดุ แตท่ ง้ั นที้ ง้ั นนั้ กไ็ มข่ อรบั รองนะ

ที่เป็นปริศนาและน่าสับสนท่ีสุดคือเส้นปื้นด�ำยาวงองุ้มน่ากลัวโฉบอยู่
กลางภาพ เหนอื เส้นต้ังสีน�้ำเงนิ เลือนรางสามเส้นซ่ึงมีเชอื้ ราไม่ทราบชอ่ื ลอย
จบั อยู่เต็ม ชา่ งเป็นภาพทเี่ หนอะช้นื ช่มุ เปียกเสยี จนท�ำใหค้ นดูรสู้ ึกใจคอไมด่ ี
กระนนั้ มนั กแ็ ทบจะเปน็ ภาพยอดเยยี่ มเหนอื จนิ ตนาการอนั สะกดคณุ อยกู่ บั ท่ี
จนอดสาบานกบั ตวั เองไมไ่ ดว้ า่ จะตอ้ งไขความลบั มหศั จรรยข์ องภาพใหจ้ งได้
อนจิ จา! บางขณะคณุ อาจคดิ วาบเอาเองวา่ ‘ภาพทะเลดำ� กลางพายเุ ดอื นมดื ไง!’
หรือไม่ก็ ‘การโรมรัมอันผิดประหลาดของดินน�้ำลมไฟ’ ‘ดินแดนหายนะ

1 ยุคล่าแม่มด-ช่วงการไต่สวนทรมานผู้ถูกกล่าวหาเป็นแม่มด ในปี 1692-1693 ท่ีเมืองซาเล็ม รัฐแมส
ซาชูเซตส์

20 : โมบ้-ี ด๊ิก

หลังสงคราม’ ‘ภาพหนาวเหน็บในไฮเปอร์โบเรีย’2 ‘การพังทลายของธาร
น�้ำแข็งตามธรรมชาติวิทยา’ แต่สุดท้าย ความคิดวาบเอาเองท้ังหลายนั้น
กต็ อ้ งชะงกั กบั รปู นา่ กลวั ทอ่ี ยกู่ ลางภาพ เพราะเหลอื บมองเมอื่ ใดสว่ นอนื่ ๆ ก็
พลนั ไรค้ วามสำ� คญั ไป แตเ่ ดยี๋ วกอ่ น...รปู นนั่ ดคู ลา้ ยๆ กบั ปลายกั ษน์ นี่ า อาจเปน็
เจา้ วาฬยกั ษ์นัน่ เลยกไ็ ด!้ ?

ดูเหมือนจิตรกรคนน้ีจะวาดมันจริงๆ แต่ท่ีผมสรุปแบบนั้น ส่วนหนึ่ง
เป็นเพราะได้พูดคุยกับคนเฒ่าคนแก่หลายคนมา ว่าน่ันเป็นภาพเรือก�ำลัง
ฝา่ พายุเฮอริเคนใหญแ่ ถวแหลมเคปและใกล้อบั ปางลง เห็นแตเ่ สากระโดงท้งั
สามชูง่อนแง่น วาฬบ้าคล่ังตัวหน่ึงพยายามกระโจนข้ามเรือแต่พลาด และ
แรงมหาศาลนนั้ กลบั ทำ� ใหต้ วั มันถกู ยอดเสากระโดงเรือท้ังสามเสยี บจนทะลุ

ผนังอีกด้านของโถงทางเข้าแขวนเรียงรายด้วยข้าวของของพวกนอกรีต
พวกกระบองมหึมาและหอก บ้างประดับแน่นด้วยฟันแวววาวคล้ายงาช้าง
บา้ งกป็ ระดบั ดว้ ยปอยผมมนษุ ย์ อนั หนง่ึ ลกั ษณะเปน็ รปู เคยี ว มดี า้ มขนาดใหญ่
ไว้จับหมุนควง เหมือนมีดดายหญา้ สำ� หรบั นักดายหญา้ ช่วงแขนยาว คณุ ต้อง
ขนลกุ ทเี ดยี วเมอื่ เหน็ และนกึ สงสยั วา่ มนษุ ยก์ นิ คนแสนโหดหรอื คนปา่ เผา่ ไหนกนั
ท่ีออกเก็บเกี่ยวความตายด้วยเครื่องมือน่าสยดสยองซ่ึงใช้ในการสับ
การฟันแบบน้ี ของเหล่านี้แขวนปะปนอยู่กับหลาวและฉมวกเก่าส�ำหรับ
ลา่ วาฬ ซงึ่ พงั ชำ� รดุ และมสี นมิ เกาะเกรอะกรงั อาวธุ บางอนั มเี รอ่ื งเลา่ ปมู หลงั
เช่น เจ้าหอกยาวท่ีตอนน้ีโก่งงอหมดสภาพแล้วน่ัน เม่ือสิบห้าปีก่อนนาธาน
สเวน3เคยใช้ล่าสังหารวาฬถึงสิบห้าตัวต้ังแต่เช้ายันค่�ำ ส่วนฉมวกที่บิดเป็น
เกลยี วนน่ั กเ็ คยใชใ้ นทะเลชวา ขวา้ งเขา้ ใสว่ าฬตวั หนง่ึ กอ่ นทม่ี นั จะมดุ นำ้� หนไี ป
พร้อมฉมวกนี่ แต่ก็พบนอนตายอยู่บนแหลมบลันโซ4ในหลายปีต่อมา เดิม
หวั ฉมวกเหล็กเจาะเขา้ แถวโคนหางเหมือนเข็มปกั คาอยบู่ นร่างมนุษย์ แตห่ ัว

2 ไฮเปอร์โบเรยี -ข้วั โลกเหนอื
3 นาธาน สเวน-ไม่มีหลักฐานว่าเขาเคยพุ่งฉมวกใส่วาฬตัวใด จึงน่าจะ หมายถึงนักล่าวาฬสักคนท่ีเล่า
ขานกัน
4 แหลมบลนั โซ – หมู่บา้ นประมง อยู่ทางตอนเหนอื ของเปรู

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 21

ฉมวกเคลอ่ื นไปในตวั มนั ไกลถงึ สส่ี บิ ฟตุ และพบฝงั อยทู่ หี่ นอกมนั ในทา้ ยทสี่ ดุ
เมอื่ เดินไปตามทางเขา้ แสงสลวั ซ่งึ คดเคีย้ วไปมา จนผา่ นบริเวณทีถ่ ้าเป็น

สมัยก่อนก็คือโถงปล่องไฟยักษ์ เพราะมีแต่เตาผิงอยู่รอบด้าน ก็จะถึงห้อง
นงั่ เลน่ สงั สรรค์ แสงในนยี้ ง่ิ มวั ซวั กวา่ เกา่ เพราะเพดานคานตำ�่ ทท่ี ำ� จากไมใ้ หญ่
เทอะทะดา้ นบน และพนื้ ไมก้ ระดานเกา่ ขรขุ ระดา้ นลา่ ง จนแทบนกึ ไปวา่ กำ� ลงั
เดินอยู่ในห้องเคร่ืองของเรือเก่าๆ แถมยังเป็นคืนพายุหอนท่ีโยกคลอนเรือ
อยา่ งบา้ คลงั่ แมจ้ อดทอดสมออยกู่ ต็ าม ดา้ นหนงึ่ ของหอ้ งตง้ั โตะ๊ เตย้ี ยาวคลา้ ย
ชน้ั วางของ ด้านบนครอบด้วยแผ่นกระจกมรี อยแตกร้าว ของทตี่ ง้ั วางดา้ นใน
มีฝุ่นจับหนา ล้วนเป็นของหายากที่เก็บสะสมมาจากแดนไกลทั่วทุกมุมโลก
ซมุ้ ทยี่ นื่ ออกมาจากหลบื มดื ดา้ นหนง่ึ ซงึ่ ตง้ั อยถู่ ดั ออกไปคอื บาร์ โดยพยายาม
ทำ� ใหด้ คู ลา้ ยหวั วาฬ ซงึ่ กม็ กี ระดกู โคง้ มหมึ าของขากรรไกรวาฬจรงิ ๆ ตงั้ แขวน
อยดู่ ว้ ย มนั กวา้ งใหญเ่ สยี จนรถมา้ โดยสารทง้ั คนั แทบลอดผา่ นได้ ภายในชนั้ วาง
โกโรโกโสน่ียงั จดั วางคนโทเกา่ ๆ ขวด แลว้ กก็ ระตกิ น้ำ� ดา้ นในหลบื กรามวาฬ
ซ่ึงสามารถท�ำลายทุกส่ิงได้ในพริบตาน่ันเหมือนท่ีเกิดกับโยนาห์ผู้ถูกสาป5
เปน็ ทป่ี ระจำ� ของชายแกร่ า่ งแคระแกรน็ (ซงึ่ แกถกู เรยี กลบั หลงั วา่ โยนาหจ์ รงิ ๆ)
ผ้ขู ายน�ำ้ พิษและความตายแสนแพงให้แก่บรรดากะลาสีทัง้ หลาย

ซ�้ำร้ายคือแก้วก้นหนาที่แกเทยาพิษลงไปนั่น แม้ไม่มีกระบอกสูบอยู่ด้าน
นอกหรอื ด้านใน ปรมิ าณเหลา้ รา้ ยสีเขียวกค็ อ่ ยๆ เหอื ดหายถงึ ก้นแกว้ ได้เอง
ขา้ งแกว้ ของโจรปลน้ คนเดนิ ทางผนู้ ข้ี ดี เสน้ ไวเ้ ปน็ จดุ สงั เกตครา่ วๆ เมอื่ เทเหลา้
ลงไปถึงขีดนั้นขีดนี้ก็คือเงินหนึ่งเพนนีที่คุณต้องจ่าย แล้วก็อีกหน่ึงเพนนี
ไปเร่อื ยๆ จนกวา่ จะเต็มแกว้ มาตรวดั แหง่ แหลมเคปนอี่ าจทำ� ใหค้ ณุ เผลอด่มื
รวดเดยี วแล้วต้องจา่ ยถงึ หนึ่งชิลลงิ เลยทเี ดยี ว

ทนี่ นั่ ผมเหน็ บรรดากะลาสหี นมุ่ ชมุ นมุ กนั อยรู่ อบโตะ๊ กำ� ลงั ตรวจดตู วั อยา่ ง
กระดูกวาฬแกะสลักอยู่ใต้แสงมัวๆ นั่น ผมเดินไปหาเจ้าของห้องพักแล้ว

5 โยนาห์ สาวกของพระผู้เป็นเจ้าที่ได้รับคำ� สั่งให้เดินทางไปนีนะเวห์ แต่โยนาห์กลับหนีลงเรือเดินทางไป
ทารชิช พระเจ้าจึงทรงขบั กระแสลมใหญ่ใหเ้ กดิ ขน้ึ ในทะเล เปน็ เหตใุ หช้ าวเรือได้รบั ความเดือดรอ้ นจาก
พายุฝน ที่สุดจึงจับโยนาห์โยนลงทะเลใหว้ าฬกิน

22 : โมบี-้ ดก๊ิ

บอกแกว่าอยากได้ห้องพัก ค�ำตอบที่ได้รับคือห้องเต็มแล้ว ไม่มีเตียงว่าง
สกั เตยี ง “แตเ่ ดยี๋ วกอ่ น...” แกเคาะหนา้ ผากตวั เอง “นายรงั เกยี จมา้ ย ทจี่ ะนอน
เตยี งเดยี วกบั นกั พงุ่ ฉมวก? ฉนั คดิ วา่ นายคงกำ� ลงั จาออกเลลา่ วาฬ นายนา่ จะ
ฝึกท�ำตัวให้คนุ้ ไว้นะ”

ผมบอกแกวา่ ไมช่ อบนอนรว่ มเตยี งกบั ใคร แตถ่ า้ จำ� เปน็ กค็ งตอ้ งยอม มนั ขนึ้
อยกู่ ับว่านักพงุ่ ฉมวกน่เี ปน็ ใคร ถ้าแก (เจ้าของบา้ นพัก) ไมม่ ีห้องจรงิ ๆ และ
นกั พงุ่ ฉมวกไมว่ า่ อะไร กไ็ มร่ จู้ ะทอ่ มๆ ไปกลางคนื หนาวจดั ในเมอื งแปลกถน่ิ
น่ีท�ำไม ผมขอเลือกพักค้างคืนเตียงเดียวกับใครก็ได้ จะสุภาพชนน้อยหน่อย
กไ็ ม่เป็นไร

“ฉนั กว็ า่ งน้ั แหละ เอาละ...นงั่ กอ่ นสิ แลว้ อาหารคำ�่ ละ่ เอาดว้ ยไหม? อาหาร
ใกลเ้ สรจ็ พอดี”

ผมนง่ั ลงบนมา้ นงั่ ยาวทท่ี ำ� จากไมเ้ กา่ แกะสลกั ทง้ั ตวั เหมอื นมา้ นง่ั ในสวน
สาธารณะแบตเตอรี่ เห็นลูกเรือคนหนึ่งก�ำลังนั่งร�ำพึงร�ำพันขณะใช้มีดพับ
แกะสลกั อะไรอยู่ทป่ี ลายมา้ น่งั อีกดา้ น เขากม้ ๆ เงยๆ ขะมักเขม้นอยบู่ ริเวณ
ที่ว่างตรงหว่างขา พยายามแกะสลักเป็นรูปเรือใบท่ีก�ำลังแล่นฉิว แต่คงแกะ
ไปได้ไม่ถงึ ไหนหรอก ผมคดิ

แลว้ พวกเราสหี่ รอื หา้ คนกถ็ กู เรยี กไปกนิ อาหารในหอ้ งซง่ึ อยตู่ ดิ กนั ในนน้ั
อากาศหนาวเย็นราวกับขั้วโลกเพราะไม่มีเตาผิงเลย เจ้าของห้องพักบอกว่า
แกไมม่ ปี ญั ญาหามา ในหอ้ งไมม่ อี ะไรเลย นอกจากแสงรบิ หรจี่ ากเทยี นไขสตั ว์
เปลวไหลเยม้ิ สองเลม่ เราต้องกลัดกระดมุ แจ๊คเก็ตสั้นที่สวมอยู่ทุกเมด็ ใช้มือ
หนาวเหน็บประคองถ้วยชาร้อนๆ ขึ้นจิบ อาหารที่คุ้มค่าที่สุดไม่ใช่เนื้อและ
มนั ฝรง่ั หากแตเ่ ปน็ เกย๊ี ว สรรคโ์ ปรด! เกย๊ี วสำ� หรบั อาหารคำ่� ! เพอ่ื นหนมุ่ คนหนงึ่
ในชุดเสือ้ คลมุ หนาสเี ขยี วสวาปามเก๊ยี วนัน่ อยา่ งตะกรมุ ตะกราม

“ไอห้ นุ่ม” เจ้าของหอ้ งพกั พดู “นายมีหวังไดฝ้ ันร้ายแหงมๆ”
“ลงุ ” ผมกระซิบถามเจ้าของห้องพัก “นนั่ คงไมใ่ ชน่ ักพุง่ ฉมวกหรอกนะ?”
“หา?...ไมใ่ ชห่ รอก” แกตอบแบบตดิ ตลกรา้ ย “นกั พงุ่ ฉมวกเปน็ คนผวิ ดำ� นะ่

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 23

หมอไมเ่ คยกนิ เกยี๊ วหรอก ไมเ่ ลย ไมก่ นิ อะไรนอกจากสเตก็ แลว้ กช็ อบเนอื้ แบบ
มา่ ยสุกมากดว้ ย”

“ขนาดนัน้ เชยี ว” ผมบอก “แลว้ ตอนนเ้ี ขาอยูท่ ่ไี หน? อยู่นีห่ รอื เปล่า?”
“กอ็ ยนู่ ี่มานานแล้วแหละ” นัน่ เปน็ คำ� ตอบ
ผมเริม่ นึกหวาดระแวงในตัวนกั พุง่ ฉมวก “ผิวด�ำ” คนนขี้ ึน้ มาอยา่ งไม่อาจ
ควบคุมตัวเองได้ จึงตัดสินใจแล้วว่า ถ้าต้องนอนด้วยกันจริงๆ ขอเขาให้
เปลอื้ งผา้ ขึ้นเตียงไปกอ่ นนา่ จะเปน็ การดี
ครนั้ เวลาอาหารค่ำ� เสรจ็ สดุ ลง เพอ่ื นรว่ มโตะ๊ ตา่ งกลบั ไปยงั บารเ์ หล้า ผม
ไมร่ ู้จะท�ำอะไร จงึ ตดั สินใจใชช้ ว่ งทีเ่ หลือของค่ำ� น้ีสังเกตการณ์
ตอนนั้นมีเสียงเอะอะดังมาจากด้านนอก เจ้าของห้องพักยืนขึ้นตะโกน
“น่ันมนั ลกู เรอื แกรมปสั นหี่ ว่า ฉนั ได้ข่าวตง้ั แต่เห็นเรอื ลอยล�ำลิบๆ เมื่อเช้านี้
หลังออกเรือไปต้ังสามปี แล้วลกู เรอื กก็ ลบั มาเตม็ ลำ� ไชโย! ไอ้หนุ่มทง้ั หลาย
ในท่สี ดุ เราก็จะไดข้ า่ วจากหมเู่ กาะฟจิ กิ ันแล้ว”
มเี สยี งรองเทา้ บตู๊ ยำ�่ ดงั มาใกลท้ างเขา้ แลว้ ประตกู เ็ ปดิ ผางออก กลมุ่ ชาวเล
หนา้ เข้มเฮละโลกันเขา้ มา ต่างสวมเส้ือคลมุ ขนสตั วต์ วั หนาแบบมีหมวกคลมุ
ขนแกะ ทกุ คนสกปรกมอมแมมและเสอ้ื ผา้ ขาดรงุ่ รง่ิ หนวดรุงรังบนใบหนา้ ก็
โดเ่ ดเ่ ปน็ นำ้� แขง็ ดๆู ไปแลว้ เหมอื นฝงู หมแี ตกรงั มาจากลาบราดอร์ พวกนเี้ พง่ิ
ขนึ้ จากเรอื และเดนิ มาถงึ ทน่ี เ่ี ปน็ แหง่ แรก และไมต่ อ้ งสงสยั เลยวา่ จะพงุ่ ตรงมา
ยงั ปากวาฬหรอื บารเ์ หล้า สว่ นตาเฒ่าแคระโยนาห์ก็ขมีขมนั ท�ำหน้าท่ขี องตน
รีบเทเหล้าเต็มแก้วย่ืนส่งให้จนถ้วนท่ัวทุกตัวคน พอใครคนหนึ่งบ่นข้ึนว่า
อากาศเย็นจ๊ีดขึ้นสมอง แกก็ไม่รอช้ารีบผสมเหล้าที่มีสีคล้ายยางไม้ผสมน้�ำ
เชอื่ มสง่ ให้ พรอ้ มสถบสาบานวา่ มสี รรพคณุ รกั ษาอาการหนาวสน่ั ไข้ หรอื จะ
หวดั อะไรกต็ ามแต่ ไดผ้ ลชะงดั ทงั้ นนั้ ไมว่ า่ เปน็ มานานขนาดไหน ไปตดิ มาจาก
ฝง่ั ทะเลลาบารด์ อร์ หรอื จากเกาะนำ้� แขง็ ทม่ี อี ากาศหนาวเหนบ็ ทไ่ี หนมากต็ าม
ไม่ช้าน�้ำเมาที่ด่ืมลงท้องก็ย้อนกลับข้ึนสู่สมอง เพราะเป็นเรื่องธรรมดา
แม้แต่กับนักดื่มคอแข็งท่ีเพ่ิงข้ึนจากทะเล ไม่นานพวกเขาก็เริ่มกระโดด

24 : โมบ-้ี ดกิ๊

โลดเตน้ ส่งเสยี งอกึ ทึกครึกโครมกนั อยา่ งสนุกสนาน
กระน้ัน ผมสังเกตเห็นหน่ึงในนั้นท่ีแปลกออกไป ใบหน้าของเขาสุขุม

เยอื กเยน็ แมจ้ ะรว่ มดม่ื เพราะไมอ่ ยากขดั ความสนกุ ของเพอ่ื นกะลาสดี ว้ ยกนั
แตก่ ย็ งั ระวงั ทา่ ที ไมต่ ะโกนโหวกเหวกเหมอื นพวกพอ้ ง ชายคนนที้ ำ� ใหผ้ มสนใจ
ในตัวเขาขึ้นมาทันที และนับแต่น้ันมา เทพแห่งท้องทะเลก็ดลบันดาลให้เขา
กลายมาเปน็ เพอ่ื นกะลาสขี องผม (แมจ้ ะเปน็ แคเ่ พอ่ื นรว่ มหอ้ งในเรอื กต็ าม) ขอ
ผมพดู ถงึ เขาเพม่ิ อกี สกั นดิ เถอะ เขาสงู เตม็ หกฟตุ ไหลต่ ง้ั ตรงเปน็ สงา่ อกกวา้ ง
ผงึ่ ผาย ผมแทบไมเ่ คยเหน็ ใครทม่ี กี ลา้ มเนอ้ื เปน็ มดั แบบๆ นนั้ เลย ใบหนา้ ของ
เขาเป็นสีทองแดงเพราะกร้านกร�ำแดด ตัดกับฟันสีขาววาววับ นัยน์ตาคู่นั้น
ส่อแววครุ่นคิดถึงอดีตอยู่เร้นลึก ซ่ึงให้เขาดูไม่ร่าเริงเท่าไรนัก ส�ำเนียงพูดบ่ง
บอกวา่ มาจากทางใต้ และดจู ากสว่ นสงู ของเขาแลว้ ผมวา่ เขาตอ้ งเปน็ ชาวเขา
จากสันเขาแอลลิกาเนียนในเวอร์จิเนียแน่ เมื่อเห็นเพื่อนพ้องได้ส�ำราญกัน
เตม็ ท่ีแลว้ เขากป็ ลกี ตวั หายไป แล้วผมกไ็ ม่ไดเ้ ห็นเขาอีกเลยจนกระท่ังเขาได้
กลายมาเป็นสหายร่วมล่องทะเลกับผม แต่หลังจากเขาหลบไปได้ไม่ก่ีนาที
เพื่อนกะลาสีก็เร่ิมร้องเรียกหาราวกับว่าเขาเป็นคนโปรดของคนกลุ่มน้ี
“บลั กงิ ตนั ! บลั กงิ ตนั ! บลั กงิ ตนั อยไู่ หนหวา่ ?” แลว้ พากนั โถมออกจากโรงเตย๊ี ม
ไปตามหาเขา

ตอนน้ันราวสามทุ่มแล้ว หลังความสนุกสุดเหวี่ยงหมดไป ห้องทั้งห้อง
พลนั เงียบสงบลงอย่างแทบไมน่ ่าเชอื่ ผมอดครม้ึ ใจไม่ไดท้ ่ีไดไ้ ลต่ ามความฝัน
ที่จะผนั ตัวมาเปน็ กะลาสลี า่ วาฬ

ไม่มีใครอยากนอนร่วมเตียงกับคนอื่น จะว่าไปแล้วแม้แต่นอนร่วมเตียง
กบั พน่ี อ้ งกนั เองกแ็ ทบไมม่ ใี ครชอบ ผมไมร่ เู้ หมอื นกนั วา่ ทำ� ไม บอกไดเ้ พยี งวา่
คนเราต้องการความเป็นส่วนตัวยามหลบั ใหล แต่เมือ่ ตอ้ งมานอนรว่ มกับคน
แปลกหนา้ ในโรงเตยี๊ มแปลกประหลาด ในเมอื งแปลกถนิ่ แถมคนแปลกหนา้
นน่ั ยงั เปน็ นกั พงุ่ ฉมวกดว้ ย กย็ ง่ิ ทำ� ใหไ้ มช่ อบใจเปน็ ทวคี ณู ไมม่ เี หตผุ ลอนั ใดวา่
เมื่อเป็นกะลาสีแล้วผมต้องนอนร่วมเตียงกับคนอื่นด้วย เพราะทุกคนย่อม

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 25

ไม่ชอบใจเหมือนกันทั้งน้ัน เวลาออกทะเลกะลาสีก็ไม่ได้นอนร่วมเตียงเป็น
คู่ ไม่ต่างจากกษัตริย์หนุ่มโสดบนฝั่ง แม้ลูกเรือจะนอนด้วยกันในห้องรวม
แต่ทุกคนก็มีเปลญวณของตนเอง ไม่ต้องแย่งผ้าห่มกับใคร และซุกตัวอยู่ใต้
ไออนุ่ ของตัวเอง

ย่ิงคิดถึงนักพุ่งฉมวกมากเท่าไร ผมยิ่งรู้สึกขยะแขยงท่ีจะต้องนอนร่วม
กับเขา เป็นไปได้ทีเดียวว่า นักพุ่งฉมวกย่อมสวมชุดเส้ือคลุมลินินหรือผ้า
ขนสัตว์ และอาจเป็นคนไม่สะอาดสะอ้าน แต่ท่ีแน่ๆ ก็คือไม่ชวนให้เข้าใกล้
ผมนึกอยากเปล่ียนใจ แม้จะสายไปหน่อย เพราะสุภาพชนในความคิดแรก
ของผมคงกลับมาถึงที่พักและตรงไปทเ่ี ตียงแลว้ ลองนึกดวู ่า ถ้าเขานอนกล้งิ
มาทบั ผมตอนเท่ียงคนื มันจะเลวร้ายขนาดไหน

“ลุง! ผมเปลี่ยนใจแล้ว คงนอนเตียงเดียวกับนักพุ่งฉมวกไม่ไหวแน่ ขอ
นอนบนมา้ นั่งนี่ดีกวา่ ”

“ตามใจนายเถอะ แต่ฉันไม่มีผ้าปูโต๊ะพอให้นายใช้ปูนอนหรอกนะ แล้ว
ม้าน่ังน่ีก็สากคายตัวด้วย” ม้านั่งยาวนั้นขรุขระไปด้วยรอยบากจริงๆ “แต่
เดีย๋ วนะ...ชา่ งแกะกระดกู วาฬไง! ใช!่ ฉันไดก้ บไสไมม้ าตัวหนง่ึ อย่ทู บี่ าร์แน่ะ
เด๋ียวจะไปเอามาจัดการให้นายนอนสบายข้ึน” พูดจบแกก็เดินไปหยิบกบ
ไสไม้มา ใช้ผ้าพันคอไหมเก่าๆ ของแกปัดฝุ่นออกก่อน ย้ิมแยกเข้ียวราวกับ
วานรขณะต้ังหน้าตั้งตาไสไม้บนม้านั่ง ข้ีกบปลิวว่อนไปทางขวาทีทางซ้ายที
กระทั่งไปสะดุดเข้ากับปมใหญ่ท่ีดูเหมือนจะไสออกได้ยาก แม้เจ้าของบ้าน
พักไสจนข้อมอื แทบเคลด็ แล้วก็ตาม ผมจงึ บอกใหแ้ กหยุด เพราะแค่น้เี ตียงก็
นอนสบายพอสำ� หรบั ผมแลว้ ผมเองกน็ กึ ไมอ่ อกเหมอื นกนั วา่ จะถอนขนเปด็
ทะเลเหนอื ใหร้ าบเรยี บเหมอื นกระดานสนนไ่ี ดย้ งั ไง แกยมิ้ แยกเขย้ี วใหอ้ กี ครงั้
กอ่ นจะเกบ็ กวาดเศษไมไ้ ปโยนใสไ่ วใ้ นเตาไฟใหญท่ อี่ ยกู่ ลางหอ้ ง แลว้ ปลกี ตวั
ไปท�ำธรุ ะของตวั เอง ปล่อยใหผ้ มอยู่ในภวงั คค์ รุ่นคิดตามลำ� พงั

ผมลองวดั ความยาวของมา้ นง่ั ดู ถงึ เพงิ่ รวู้ า่ มนั สนั้ ไปราวหนงึ่ ฟตุ ไมเ่ ปน็ ไร
เอาเกา้ ออี้ ีกตัวมาตอ่ คงพอแกข้ ดั ได้ แต่เก้าอ้ีเจา้ กรรมก็ดนั แคบไป ส่วนมา้ นง่ั

26 : โมบ-ี้ ด๊ิก

อกี ตวั ก็สูงกวา่ ถงึ ส่ีนวิ้ ตอ่ กนั ไมไ่ ดแ้ น่ๆ ผมเลยตัดสนิ ใจดันม้าน่งั นัน่ ไปเกือบ
ชดิ ผนงั ตามยาว เวน้ ระยะหา่ งจากกนั เลก็ นอ้ ย โดยเอาดา้ นทไี่ มม่ พี นกั หนั เขา้
ด้านใน นี่คงท�ำให้พอเอนหลังหลับได้ แต่ไม่เฉลียวใจว่าจะมีกระแสลมเย็น
พัดลอดจากใต้ขอบหน้าต่างลงมาโดนตัวผม ย่ิงเม่ือมาผนวกกับกระแสลมที่
ลอดเข้ามาจากประตูง่อนแง่นน่ัน เลยกลายเป็นลมหมุนเล็กๆ ขึ้นบริเวณที่
ผมกะจะใชพ้ กั หลบั นอนในค�่ำคืนนั้น

ผีซ�้ำด้ามพลอยจริงๆ...ผมคิด แต่เด๋ียวก่อน...ผมย่องไปขึ้นเตียงก่อนก็ได้
นี่นา แล้วลงกลอนประตูด้านในซะ แล้วก็ไม่ต้องสนใจเสียงทุบประตูเรียก
ใดๆ ทง้ั สน้ิ เขา้ ทา่ ทเี ดยี ว แตม่ าคดิ ดอู กี ที อยา่ ดกี วา่ ใครจะบอกไดว้ า่ อะไรจะ
เกดิ ขนึ้ ในเชา้ วนั รงุ่ ขนึ้ ทนั ทที ผี่ มเปดิ ประตอู อกมาแลว้ จะเอก๋ บั นายนกั พงุ่ ฉมวก
นัน่ ตรงทางเดิน หมอคงทุบหัวผมเอาแน่ๆ

หลังจากกวาดตามองไปรอบตัวอีกครัง้ แลว้ เห็นวา่ ไมม่ ที างจะผา่ นค�ำ่ คนื
อันแสนทรมานนี้ไปได้ เว้นแต่จะยอมไปนอนร่วมเตียงกับคนอื่น ผมจึงเร่ิม
ปรบั เปลย่ี นทศั นคตทิ ไ่ี มด่ ตี อ่ นกั พงุ่ ฉมวก ผมจะรอสกั ครู่ รอใหเ้ ขามาถงึ กอ่ น
สักพักแล้วเขา้ ไปแนะน�ำตัวกบั เขา บางทีเราอาจเป็นเพือ่ นร่วมหอ้ งที่ดตี ่อกัน
ก็ได้ ใครจะไปรู้

เม่ือเวลาผ่านไป ผู้มาพักคนอ่ืนๆ ต่างทยอยกันเข้ามาทีละคน สองคน
หรือสามคน และตรงไปท่ีห้องนอนของตนเอง แต่ก็ยังไร้วี่แววนักพุ่งฉมวก
ท่ผี มเฝ้ารอ

“ลงุ !” ผมถามเจา้ ของบา้ นพกั “หมอนเี่ ปน็ คนแบบไหนกนั นะ? กลบั ดกึ ดนื่
อยา่ งนี้เสมอหรือ?” ตอนน้ันเกือบจะเทีย่ งคืนแล้ว

ตาเฒ่าหัวเราะหึๆ เป็นนัยๆ อีกคร้ัง “เปล่าหร้อก” แกตอบ “ปกติแล้ว
หมอนั่นก็เหมือนนกน้อยที่ต่ืนแต่เช้า เข้านอนเร้วเร็วแล้วก็ต่ืนเร้วเร็ว ช่าย...
เป็นนกท่ีจับหนอนเป็นเหยื่อ แต่ระตรีนี้หมอออกไปเร่ขายของน่ะ คือง้ี...ฉัน
มา่ ยรหู้ รอกวา่ ทำ� ไมถงึ กลบั ดกึ นกั อาจเพราะยงั ขายหวั มนษุ ยไ์ มไ่ ดส้ กั หวั มง้ั ”

“ขายหัวมนุษย์ไม่ได้? ลุงเอาเรื่องหลอกเด็กอะไรมาเล่าให้ผมฟัง!” ผม

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 27

รู้สึกเดือดปุดขึ้นมาทันใด “ลุงแกล้งหลอกผมใช่ไหม? ตกลงนักพุ่งฉมวกไป
สวดสรรเสริญพระเจ้าในคนื วนั เสาร์ หรือเรข่ ายหวั มนุษย์รอบเมืองน้ีตอนเชา้
วันอาทิตย์กันแน?่ ”

“ฉันไม่ได้หลอกนาย” แกว่า “ฉันบอกแล้วว่าหมอมาขายที่น่ีไม่ได้หรอก
เพราะมันลน้ ตลาดแลว้ ”

“อะไรล้นนะ?” ผมตะเบง็ เสียงใส่
“กห็ ัวมนุษย์นะ่ ซิ มีหวั มนุษย์มากเกนิ พอในโลกนี้ไมใ่ ชเ่ ร้อะ?”
“บอกอะไรใหน้ ะ ลงุ ” ผมพยายามระงบั อารมณ์ “หยดุ ปน่ั หวั ผมไดแ้ ลว้ นา่
ผมไมใ่ ชเ่ ดก็ อ่อนหัดนะ”
“ก็อาจไม่ใช่” แกหยิบก้านไม้ขึ้นมาเหลาเป็นไม้จ้ิมฟัน “แต่ฉันเดาได้เล้ย
ว่านายเป็นต้องฟกช�้ำด�ำเขียวแน่ ถ้านักพุ่งฉมวกรู้ว่านายพูดจาส่ายร้าย
หวั ของเขา”
“ผมจะเด็ดหัวเขานะซิไม่ว่า” ผมโพล่งออกมาอีกครั้ง รู้สึกฉุนเฉียวกับ
ค�ำพดู วกวนของตาเฒ่า
“มนั หลุดออกมาแรว้ ” แกพดู
“หลุดออกมาแล้ว” ผมพูด “มนั หลุดออกมา...ลุงหมายความว่ายังไง?”
“แหงม๋ ล่ะ นั่นเป็นเหตุทีท่ ำ� ให้หมอนนั่ ขายหัวไม่ได้ ฉันขอเดานะ”
“ลุง” ผมบอกเจ้าของบ้านพกั พยายามสะกดอารมณ์ให้เยือกเยน็ เหมอื น
ภูเขาเฮคลากลางพายุหิมะ “หยุดเหลาไม้ก่อน ลุงกับผมมีเร่ืองต้องคุยกันให้
เขา้ ใจตอนนเ้ี ลย ผมมาโรงเตยี๊ มลงุ และตอ้ งการหอ้ งพกั แตล่ งุ บอกวา่ ตอ้ งนอน
เตยี งเดยี วกบั นกั พงุ่ ฉมวก แลว้ นายนกั พงุ่ ฉมวกนผี่ มกย็ งั ไมเ่ คยเจอตวั มากอ่ น
แตล่ งุ กเ็ ลา่ แตเ่ รอื่ งลกึ ลบั นา่ โมโหจนผมรสู้ กึ ไมด่ กี บั หมอนี่ ทงั้ ทลี่ งุ เองเปน็ คน
บอกว่าผมต้องไปนอนร่วมเตียงกับเขา ซึ่งต้องท�ำความรู้จักกันไว้วางใจกัน
ใหม้ ากทสี่ ดุ ผมอยากจะขอรอ้ งลงุ ตรงนนี้ ะ ชว่ ยบอกตามตรงทเี ถอะวา่ ตกลง
นักพุ่งฉมวกน่ีเป็นใคร หรืออะไรกันแน่ แล้วผมจะพักค้างแรมกับเขาอย่าง
วางใจไดห้ รอื เปลา่ แตก่ อ่ นอน่ื ลงุ ตอ้ งแกค้ ำ� พดู เรอื่ งการขายหวั ของเขา เพราะ

28 : โมบ้ี-ดก๊ิ

ถา้ นเี่ ปน็ เรอื่ งจรงิ ผมกว็ า่ นายนกั พงุ่ ฉมวกนค่ี งเปน็ บา้ แนๆ่ และผมกไ็ มค่ ดิ จะ
นอนร่วมเตยี งกบั คนบ้าหรอกนะ ลงุ ครบั ท่ลี ุงพยายามหว่านล้อมให้ผมนอน
กับคนบ้า อาจถกู ฟอ้ งรอ้ งด�ำเนินคดีอาญาไดท้ ีเดียวนะ”

“อะโห” ตาเฒา่ ครางพลางถอนใจเฮือก “ชา่ งเป็นเทศะหนายาวซรึ้งกนิ ใจ
จรงิ ๆ วะ่ ส�ำหรบั ไอห้ นุ่มทน่ี านๆ ถากถางกบั เขากเ็ ปน็ ด้วย แตใ่ จเย็นๆ ก่อน
เยน็ ไว้ นักพุง่ ฉมวกท่ฉี นั เลา่ ใหน้ ายฟังเนี่ยเพง่ิ กลับมาจากทะเลทางใต้ หมอ
ไปกวา้ นซอ้ื ซากหวั คน6ในนวิ ซแี ลนดม์ าเปน็ จำ� นวนมาก (นเี่ ปน็ เรอ่ื งแปลกมาก
ทีเดียว คุณว่าไหม) แล้วเอามาขายที่นี่จนเกือบเกลี้ยง แต่เหลืออยู่หัวหน่ึงท่ี
พยายามจะขายให้ได้ในคืนนี้ เพราะพรุ่งน้ีวันอาทิตย์ชาวบ้านจะไปโบสถ์กัน
ขืนหมอไปเดินเร่ขายหัวมนุษย์บนท้องถนนก็จะยังไงอยู่ หมออยากขายถึง
วันอาทิตย์ด้วย ดีว่าฉันห้ามไว้ทันตอนก�ำลังจะออกไป แถมพ่อเล่นแขวน
หัวสี่หวั ห้อยคอไว้ยงั กะแคพ่ วงหวั หอม”

ค�ำชี้แจงน้ีอธิบายความลึกลับท้ังหลายทั้งปวงจนแจ่มแจ้ง และแสดง
ใหเ้ หน็ วา่ แกไมไ่ ดม้ เี จตนาหลอกลวงผม กระนนั้ ผมกย็ งั คงครนุ่ คดิ นกั พงุ่ ฉมวก
ผเู้ ตร็ดเตรอ่ ยขู่ ้างนอกในคืนวันเสาร์ ขณะท่ที ุกคนเตรยี มไปโบสถก์ ัน แต่หมอ
กลับทำ� ตัวเปน็ มนุษย์กนิ คนเร่ขายหวั คนตายผู้สักการะรูปป้นั

“ผมว่านะลุง นายนกั พงุ่ ฉมวกนี่ต้องเป็นคนน่ากลวั มาก”
“หมอจ่ายเงินตรงเวลาซะเหมอ” ตาเฒ่าแย้ง “เอาน่า ดึกมากแล้ว นาย
ยังโชคดี น่ันมันเป็นเตียงช้ันดีนะ แซลกับฉันเคยนอนเตียงนั้นมาก่อนในคืน
วันแต่งงานของเรา ท่ีนี่มีห้องส�ำหรับพักสองคนหลายห้องที่น่าจะยัดเตียง
นั้นเข้าไปได้ เพราะขนาดมนั ใหญ่พอ แตท่ ่เี ราล้มเลกิ ความคดิ นน้ั เพราะแซล
เคยใหแ้ ซมและไอห้ นูจอหน์ นขี่ องเรานอนดว้ ยแถวปลายเตยี ง แตค่ นื หน่ึงฉัน
ฝนั รา้ ยแลว้ นอนดน้ิ จนดดี แซมกลงิ้ ตกเตยี ง แขนเกอื บหกั ตง้ั แตน่ นั้ มาแซลกไ็ ม่
ใหพ้ วกเรานอนเตยี งนน่ั กนั อกี เลย ไปเถอะนา่ เดย๋ี วฉนั หาไฟใหน้ ายเอง” พดู จบ
แกกจ็ ุดเทยี นไขหนึ่งเล่ม ย่ืนส่งมาใหไ้ ว้ใช้ส่องทาง แตผ่ มยนื ลงั เลอยู่ แกพลนั

6 ซากหวั คน-ศรี ษะมนษุ ยอ์ าบยา มีทั้งทยี่ ่อสว่ นและไม่ได้ย่อส่วน ในทน่ี ม้ี ขี นาดเท่าจรงิ ไมไ่ ด้ยอ่ สว่ น

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 29

เหลอื บไปเหน็ นาฬกิ าทม่ี มุ หอ้ งเขา้ กอ็ ทุ านขน้ึ วา่ “นม่ี นั วนั อาทติ ยแ์ ลว้ นน่ี า...ซะ
บานได!้ คนื นนี้ ายจะไมเ่ จอนกั พงุ่ ฉมวกหรอก หมอคงไปจอดทอดสมอทอี่ น่ื แลว้
เอาน่า ตามมาเถอะ ดีมย้ั ?”

ผมครนุ่ คดิ อยชู่ ว่ั หนงึ่ กอ่ นกา้ วขนึ้ บนั ไดตามแกไปจนถงึ หอ้ งเลก็ ๆ หอ้ งหนงึ่
ท่ีเย็นเยียบและตกแต่งเคร่ืองเรือนไว้พอสมควร แล้วก็แน่ละ มีเตียงขนาด
มโหฬารอยดู่ ้วย ใหญข่ นาดนกั พงุ่ ฉมวกสคี่ นนอนเคยี งบ่าเคยี งไหล่กนั กย็ งั ได้

“นไี่ ง” ตาเฒา่ พดู ขณะวางเทยี นไวบ้ นหบี เกบ็ ของเกา่ แปลกๆ จากทะเล ซงึ่ ใช้
เปน็ ทงั้ ทวี่ างอา่ งลา้ งหนา้ และโตะ๊ กลาง “เอาละ่ ตามสบายนะ ฝนั ดลี ะ่ ” พอผม
ละสายตาจากเตียงกลบั มา แกกอ็ อกไปแลว้

ผมเลกิ ผา้ คลมุ เตยี งแลว้ ลม้ ตวั ลงนอน แมห้ อ้ งนจี้ ะไมเ่ ลศิ หรนู กั แตก่ จ็ ดั วา่
ใชไ้ ด้ทีเดียว ผมกวาดตาไปรอบๆ หอ้ ง นอกจากโครงเตยี งและโตะ๊ กลางแลว้
ในหอ้ งกไ็ มม่ เี ฟอรน์ เิ จอรอ์ ะไรอน่ื อกี มแี ตผ่ นงั หอ้ งสดี่ า้ น ชนั้ วางของทสี่ รา้ งขน้ึ
หยาบๆ แลว้ กภ็ าพกระดาษตดิ เหนอื เตาพงิ เปน็ รปู ชายคนหนงึ่ กำ� ลงั แทงวาฬ
ส่วนข้าวของอ่ืนซึ่งดูไม่เข้ากันกับห้องนี้เอาเสียเลยก็คือ เปลญวนท่ีผูกเชือก
ไว้แล้วแต่โยนกองอยู่ท่ีพื้นห้องมุมหนึ่ง และถุงขนาดใหญ่ของชาวเรือ
ข้างในบรรจุเส้ือผ้ากองใหญ่ของนักพุ่งฉมวกอยู่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าถุงนี่ใช้
แทนหบี ใสข่ องตอนอยบู่ นฝง่ั นอกจากนนั้ กย็ งั มกี ระดกู ปลาประหลาดมดั แขวน
ห้อยอย่บู นช้นั วางเหนือเตาผิง และฉมวกด้ามยาวต้งั พาดอยู่ท่ีหัวเตียง

แตเ่ อะ๊ ...ทอี่ ยบู่ นหบี เกบ็ ของนม่ี นั อะไรกนั นะ ผมหยบิ ขนึ้ สอ่ งกบั แสงเทยี น
ทง้ั ลบู คลำ� กแ็ ลว้ ดมดกู แ็ ลว้ กย็ งั สรปุ ไมไ่ ดว้ า่ มนั เปน็ อะไรกนั แน่ แตน่ า่ จะเปน็
พรมเชด็ เทา้ ผนื ใหญ่ ทขี่ อบตกแตง่ ดว้ ยลกู กระพรวนเลก็ ๆ คลา้ ยกบั ขนเมน่ ชบุ
สที ี่ติดอยู่รอบรองเทา้ หนังของชาวอนิ เดยี นแดง ตรงกลางพรมมีช่องหรอื รอย
ผ่ายาว เหมือนเส้ือแบบที่สวมใส่ทางศีรษะซึ่งคุณเคยเห็นในอเมริกาใต้ แต่ก็
เปน็ ไปไดว้ า่ พอ่ นกั พงุ่ ฉมวกผเู้ ครง่ ขรมึ อาจสวมพรมเชด็ เทา้ นอ่ี อกไปเดนิ ตาม
ทอ้ งถนนในเมอื งของชาวครสิ เตยี นเพอ่ื ปลอมแปลงตวั ผมเลยลองสวมดบู า้ ง
มันหนักอึ้งราวกับโซ่ตรวนและพะรุงพะรังจนน่าอึดอัด ทั้งยังหมาดช้ืนด้วย

30 : โมบ-ี้ ดกิ๊

ราวกับว่านายนักพุ่งฉมวกผู้ลึกลับน่ีเพ่ิงใส่ชุดนี้ไปกร�ำฝนมา ผมก้าวไปยืน
อยู่หน้ากระจกบานเล็กซ่ึงติดอยู่ข้างผนัง ภาพท่ีปรากฏนั้นเป็นภาพที่ผมไม่
เคยเหน็ มากอ่ นในชวี ติ จงึ ลนลานถอดพรมนัน่ ออกอย่างเร็วจนคอแทบเคล็ด

ผมน่ังลงที่ข้างเตียง ครุ่นคิดถึงนักพุ่งฉมวกพ่อค้าเร่ขายหัวคนน้ีกับพรม
เชด็ เทา้ ของเขา คดิ ไปไดส้ กั พกั กล็ กุ ขน้ึ ถอดเสอ้ื แจค๊ เกต็ สนั้ ออก แลว้ เดนิ ไปยนื คดิ
อย่กู ลางหอ้ ง กอ่ นจะถอดเส้อื โค้ตออก ทีแรกว่าจะถอดเชิต้ แขนยาวออกดว้ ย
แตร่ สู้ กึ หนาวสะทา้ นขนึ้ มาเลยลงั เล ขณะถอดเสอ้ื ผา้ ไปไดค้ รง่ึ ๆ กลางกน็ กึ ถงึ
คำ� พดู ของตาเฒา่ ขนึ้ ไดว้ า่ นกั พงุ่ ฉมวกจะไมก่ ลบั มาตลอดคนื นแ้ี น่ และตอนนน้ั
ก็ดกึ มากแล้ว ผมจึงสลัดความคดิ ท้งั มวล รบี ถอดกางเกงยาวและรองเท้าบตู๊
เปา่ เทยี นดับแล้วโดดขนึ้ เตยี งนอน และขอพรใหส้ วรรค์ปกปักคมุ้ ครอง

ไมว่ า่ เบาะบนเตยี งจะยดั ดว้ ยซงั ขา้ วโพดหรอื เศษกระเบอ้ื งเครอื่ งปน้ั ดนิ เผา
ก็ช่างเถอะ เพราะผมรู้สกึ สบายที่ได้นอนเกลือกกลง้ิ อยบู่ นนี้ แต่กข็ ่มตาไม่ลง
อยพู่ กั ใหญ่ แตท่ า้ ยทส่ี ดุ ขณะเรม่ิ เคลมิ้ เขา้ สนู่ ทิ รารมณ์ ทนั ใดผมกไ็ ดย้ นิ เสยี ง
ฝีเท้ายำ่� หนัก มาตามทางเดิน และเห็นแสงริบหรสี่ ลัวลอดใต้ชอ่ งประตเู ข้ามา

พระเจ้าช่วย! ผมคิด ต้องเป็นนักพุ่งฉมวก พ่อค้าเร่ขายหัวจอมโหดแน่
ผมยังคงนอนอยู่ในท่าเดิม กะว่าจะไม่พูดอะไรออกมาจนกว่าเขาจะพูดด้วย
ชายแปลกหน้านั่นถือเทียนไฟอยู่ในมือข้างหน่ึง ส่วนอีกข้างถือซากหัวคน
จากนิวซีแลนด์ เขาก้าวเข้ามาในห้องโดยไม่ได้มองมาท่ีเตียงเลย หลังจาก
วางเทียนไขท่ีพื้นห้องมุมหน่ึงห่างออกไป ก็ง่วนอยู่กับปมเชือกบนถุงใบใหญ่
ทผี่ มไดพ้ ดู ถงึ กอ่ นหนา้ นี้ ผมพยายามมองหนา้ แตเ่ ขากำ� ลงั หนั หนา้ ไปอกี ทาง
ขณะแกเ้ ชอื กท่ีมัดปากถุง แตใ่ นท่สี ดุ เขากห็ นั หน้ามา โอ.้ ..พระเจา้ อะไรกนั นี่!
ใบหน้าน่ัน! มันมีทั้งสีด�ำ สีม่วง และสีเหลือง ทั้งมีแผ่นสีด�ำคล้�ำขนาดใหญ่
แปะอยจู่ นทวั่ ใช่ อยา่ งทผ่ี มคดิ ไวจ้ รงิ ๆ เขาเปน็ เพอื่ นรว่ มเตยี งทน่ี า่ กลวั คงไป
ออกรบจนมีแผลเหวอะหวะและเพ่ิงไปหาหมอมา แต่เด๋ียว...ช่วงที่เขาหัน
หน้าเข้าใกล้แสงเทียน ผมเพิ่งเห็นชัดว่าแผ่นสีด�ำบนสองแก้มนั่นไม่ใช่
ผา้ ปดิ แผล แตเ่ ปน็ รอยอะไรบา้ งอยา่ ง ตอนแรกผมไมร่ วู้ า่ นมนั เปน็ อะไร แตค่ รหู่ นงึ่

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 31

ก็เกิดคิดวาบขึ้นมาได้ ผมหวนนึกถึงเรื่องเล่าของชายผิวขาวคนหน่ึงซึ่งเป็น
นักล่าวาฬเช่นกัน เขาเล่าว่าเคยหลงเข้าไปในเผ่ามนุษย์กินคน แล้วถูกคน
พวกน้ันจับสักลายบนตัว ผมจึงสรุปเอาว่า นักพุ่งฉมวกคนน้ีคงไปผจญภัย
แบบเดยี วกนั ระหวา่ งเดนิ ทางไกลนนั่ เปน็ แน่ แตผ่ มคดิ ในทส่ี ดุ วา่ จะเปน็ อะไร
กช็ า่ งเถอะ มนั กแ็ คผ่ วิ กายภายนอก คนเรากย็ งั สตั ยซ์ อื่ ไดภ้ ายใตผ้ วิ กายเชน่ นน้ั
แตส่ ผี วิ ละ่ ? อะไรทำ� ใหม้ นั แปลกผดิ มนษุ ยม์ นา ผมหมายถงึ ผวิ หนา้ จรงิ ๆ ไมใ่ ช่
ตรงลายสกั สเ่ี หลยี่ มนน่ั ผมแนใ่ จวา่ เปน็ อยา่ งอน่ื ไปไมไ่ ด้ นอกจากผวิ กรำ� แดด
ของคนเขตร้อน แต่ก็ไม่เคยได้ยินว่าแสงแดดจะลามเลียคนผิวขาวให้กลาย
เป็นสเี หลอื งมว่ งแบบนั้นได้ กระนนั้ ผมก็ไมเ่ คยไปทะเลทางใต้มากอ่ น บางที
ดวงอาทิตย์ที่นั่นอาจท�ำให้ผิวคนเปล่ียนเป็นสีแปลกแบบน้ันก็เป็นได้ ขณะท่ี
ความคดิ ทงั้ หลายวาบไปมาในหวั นกั พงุ่ ฉมวกผนู้ ไี้ มไ่ ดส้ งั เกตเหน็ ผมเลยสกั นดิ
หลังจากเขาพยายามแกะปมเชือกจนเปิดปากถุงออกได้ก็เร่ิมคล�ำหาของ
ดา้ นใน กอ่ นจะหยบิ ขวานอินเดียนแดงด้ามหนึ่ง และกระเปา๋ หนงั แมวน�ำ้ ท่ีมี
ขนอยู่เต็มใบหน่ึงออกมา เขาวางของพวกนั้นลงบนหีบเก่าท่ีอยู่กลางห้อง
แลว้ หยบิ เอาซากหัวมนษุ ยจ์ ากนิวซแี ลนดน์ ่าเกลียดนา่ กลัวนน้ั ยัดใสเ่ ข้าไปใน
ถุงแทน จากน้ันก็ถอดหมวกออก มันเป็นหมวกบีเวอร์ใบใหม่ ผมเกือบหลุด
ปากอทุ านด้วยความประหลาดใจ บนศรี ษะของเขาไม่มีผมสกั เสน้ แทบไม่มี
เลยกแ็ ลว้ กนั มแี คเ่ กลยี วผมเปน็ กระจกุ เลก็ ๆ ตรงหนา้ ผาก ชายแปลกหนา้ ผนู้ ี้
ยนื ค่ันระหวา่ งผมกบั ประตู ผมควรรบี เผน่ ออกไปให้เรว็ กว่าเมอื่ ตอนเขาออก
กนิ อาหารค�่ำท่าจะดกี วา่

ผมคิดแม้กระท่ังจะปนี ออกทางหน้าตา่ ง แตน่ ม่ี นั ชั้นสองด้านหลังตวั บ้าน
ผมไมใ่ ชค่ นขขี้ ลาด แตผ่ มอา่ นทา่ ทางของเจา้ คนขายหวั ผวิ มว่ งนไ่ี มอ่ อก ความ
ไมร่ เู้ ปน็ บอ่ เกดิ ของความกลวั ทำ� ใหผ้ มรสู้ กึ สบั สนงนุ งงเกยี่ วกบั คนแปลกหนา้
ผู้น้ี ต้องยอมรับว่าผมรู้สึกกลัวเขามาก เหมือนปีศาจร้ายที่บุกเข้ามาในห้อง
ยามดึกสงดั ผมกลัวเขาจนไมอ่ ยากทักทายก่อน และไมอ่ ยากต้องคอยหาคำ�
อธบิ ายในความลกึ ลับของเขาอีก

32 : โมบ-ี้ ด๊กิ

ตอนนน้ั เขาเรมิ่ ถอดเสอื้ ผา้ ทส่ี วมใส่ เผยใหเ้ หน็ แผน่ อกและทอ่ นแขน ใหต้ าย
เถอะ! เนอื้ ตวั เขาเปน็ ลายหมากรกุ เหมอื นกบั ใบหนา้ ทแ่ี ผน่ หลงั กด็ ว้ ย เหมอื น
เขาไปร่วมรบในสงครามสามสิบปี7 แล้วเพ่ิงหนีกลับมาได้พร้อมผ้าปิดแผล
เตม็ ตวั ยง่ิ ไปกวา่ นนั้ ทขี่ าสองขา้ งกม็ รี อยแผลลายพรอ้ ย จนดเู หมอื นฝงู กบเขยี ว
คลำ้� ทกี่ ำ� ลงั โดดเกาะตน้ ปาลม์ ออ่ น เปน็ ทแี่ นช่ ดั แลว้ วา่ เขาตอ้ งเปน็ พวกคนปา่
ตำ่� ชา้ หรอื ไมก่ น็ กั ลา่ วาฬตา่ งถน่ิ ในทะเลใตท้ เ่ี รอื มาเทยี บทา่ ในเมอื งครสิ เตยี น
แห่งน้ี ผมตัวสั่นขึ้นมาทันทีท่ีคิดได้เช่นนั้น หัวท่ีเขาเอามาเร่ขายอาจมีหัว
พนี่ อ้ งเขารวมอยดู่ ว้ ยกไ็ ด้ เขาอาจนกึ อยากไดห้ วั ของผมดว้ ยกไ็ ด้ พระเจา้ ชว่ ย!
ดูขวานนั่นสิ!

แต่หมดเวลากลัวแล้ว เพราะตอนนั้นคนเถ่ือนนั่นก�ำลังกระท�ำบางสิ่งท่ี
สรา้ งความฉงนใหก้ บั ผม ซง่ึ ชวนใหค้ ดิ วา่ เปน็ คนนอกศาสนาจรงิ ๆ เขาเดนิ ไป
ท่ีเสื้อคลุมซึ่งมีหมวกครอบ หรือเสื้อคลุมหนาของกะลาสี หรือเส้ือคลุมกัน
พายทุ ก่ี อ่ นหนา้ นเี้ ขาวางพาดไวก้ บั เกา้ อี้ ลว้ งมอื เขา้ ไปควานหาของบางอยา่ ง
ในกระเป๋าเส้ือ แล้วหยิบเอารูปปั้นยาวลักษณะประหลาดออกมา มีหนอกที่
ด้านหลังดว้ ย สสี ันเหมือนทารกนอ้ ยชาวคองโกวัยสามวัน ผมหวนนกึ ถึงซาก
หัวมนุษย์อาบยาขึ้นมา ตอนแรกเกือบคิดไปว่าร่างเล็กด�ำเมี่ยมน่ันคือทารก
นอ้ ยจริงๆ ทีถ่ กู ดองไวเ้ หมอื นดองยา แตม่ ันไมห่ ยนุ่ ตวั แถมยังเปน็ มนั ปลาบ
ราวกบั ไมต้ ะโกขดั เงา จงึ สรปุ ไดว้ า่ มนั จะเปน็ อนื่ ไปไมไ่ ดน้ อกจากหนุ่ ไม้ และกใ็ ช่
จริงๆ เจ้าคนป่าเดินไปท่เี ตาพงิ โลง่ เปลา่ ยกแผ่นปดิ เตาท่ีท�ำจากระดาษออก
แลว้ เอาหนุ่ ไมห้ ลงั คอ่ มนนั่ วางไวบ้ นขาหยง่ั วางฟนื เหมอื นตง้ั พนิ โบวล์ งิ่ ผนงั เตา
และอฐิ ทกุ กอ้ นในนนั้ ดำ� ปไ๋ี ปดว้ ยเขมา่ ควนั จนผมคดิ วา่ เตานน่ั เหมาะสำ� หรบั
เป็นแท่นบูชาเลก็ ๆ หรือไม่กว็ ิหารส�ำหรบั เทวรูปคองโกของเขาจริงๆ

ผมจอ้ งรปู ปน้ั เขมง็ รสู้ กึ หายใจไมท่ วั่ ทอ้ ง คอยจบั ตามองวา่ เขาจะทำ� อะไรตอ่
แรกสุดเขาขยุ้มขุยไม้ออกมาจากกระเป๋าเส้ือคลุมเต็มสองก�ำมือ ค่อยๆ วาง
ลงตรงหน้าเทวรูป ตามด้วยเศษขนมปังกรอบเทินไว้ด้านบน ส่วนมืออีกข้าง

7 สงครามสามสิบปี เกดิ ขึน้ ชว่ งระหวา่ งปี ค.ศ. 1618-1648 มีสาเหตเุ ริ่มต้นมาจากความขัดแยง้ ระหว่าง
โปเตสแตนตก์ บั คาทอลกิ ในเยอรมนี กอ่ นจะบานปลายไปยงั ฝรั่งเศส เดนมารค์ สวเี ดน และสเปน

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 33

ควา้ เทยี นไขมาจอ่ ขยุ ไมจ้ นลกุ ไหมข้ น้ึ เหมอื นไฟบชู ายญั มนั ไหมเ้ รว็ มากจนเขา
ต้องรีบชักมือกลับ (ดูเหมือนน้ิวจะโดนไฟขี้กบนั่นลนเข้าด้วย) แต่สุดท้าย
เขาก็หยิบเอาขนมปังกรอบนั่นออกมาได้ จัดการเป่าไล่ความร้อนและเศษ
ข้ีเถ้าแล้วยื่นส่งให้เทวรูปด�ำอย่างนอบน้อม แต่ดูเหมือนเจ้าปีศาจจ๋ิวจะไม่
ชื่นชอบอาหารแห้งผากน่ันเลยสักนิด ไม่อ้าปากรับด้วยซ�้ำ พฤติกรรมแปลก
ประหลาดนั่นด�ำเนินไปขณะท่ีชายแปลกหน้าผู้เปี่ยมศรัทธาส่งเสียงแหบแห้ง
ออกมา ฟังเหมือนเพลงสวด หรือบทสวดของพวกนอกศาสนา หรือชนเผ่า
อะไรสกั อยา่ ง ใบหนา้ เขาบดิ เบยี้ วผดิ มนษุ ยข์ ณะเปลง่ เสยี งสวด หลงั สวดเสรจ็
เขากด็ บั ไฟ แลว้ หยบิ เอาเทวรปู ใสก่ ลบั เขา้ กระเปา๋ เสอ้ื คลมุ อยา่ งไมม่ พี ธิ รี ตี อง
อะไร และไมใ่ ส่ใจเหมอื นนกั ลา่ สตั ว์เก็บซากนกปากสอ้ มลงกระเปา๋

พฤตกิ รรมประหลาดเหลา่ นน้ั ยงิ่ ทำ� ใหผ้ มกระสบั กระสา่ ย เมอื่ พธิ เี สรจ็ สนิ้
แลว้ เดี๋ยวเขาคงโดดข้ึนมาบนเตยี งแน่ ผมคดิ ว่าถงึ เวลาตอ้ งเปดิ ปากพูดเสียที
กอ่ นเทยี นไขจะดบั วบู ลงและสายเกนิ การณ์

ขณะท่ีผมคิดหาประโยคเด็ดที่อาจมีผลต่อชะตาชีวิตอยู่นั้น เขาก็เดินไป
หยิบขวานข้ึนมาจากโต๊ะ ส�ำรวจดูหัวของมันครู่หน่ึงแล้วยื่นไปจ่อที่เทียนไข
กม้ ปากจดลงทางดา้ มแลว้ พน่ ควนั ยาสบู ออกมา กอ่ นจะดบั เทยี น แลว้ มนษุ ย์
กนิ คนปา่ เถอื่ นนน่ั กค็ าบขวานไวแ้ ลว้ โดดขนึ้ มาบนเตยี งเดยี วกนั กบั ผม ถงึ ตอน
นน้ั ผมหลดุ ปากรอ้ งเสยี งหลงออกมาอยา่ งชว่ ยไมไ่ ด้ เสยี งคำ� รามประหลาดใจ
ดงั ข้ึนทันทที เ่ี ขาได้ยินเสยี งผม

เขาพดู อะไรตะกกุ ตะกกั ฟงั ไมร่ เู้ รอ่ื ง ผมกลง้ิ ตวั หา่ งออกมาจนชดิ ผนงั หอ้ ง
แลว้ วิงวอนวา่ เขาจะเป็นใครหรืออะไรก็ตามขอใหอ้ ยนู่ ง่ิ ๆ สักครู่ ให้ผมลุกข้ึน
ไปจดุ เทยี นไขกอ่ น แตเ่ สยี งแหบหา้ วจากลำ� คอทต่ี อบกลบั มานนั้ ทำ� ใหร้ วู้ า่ เขา
ไมค่ ่อยเข้าใจค�ำพดู ของผมนัก

“นาย-หะ่ -ใครฟะ?” เขาพดู ออกมาในทีส่ ดุ “ไม-่ พดู ห่ะ! ฉัน-ฆ่าาา”
“ลุง! ใหต้ ายเถอะ ลงุ ปเี ตอร์ โลงศพ!” ผมตะโกนล่ัน “ลงุ เจ้าบ้าน! ตำ� รวจ!
ลุงโลงศพ! เทวดา! ช่วยดว้ ย!”

34 : โมบ้-ี ด๊ิก

“พดู ด! บอก-ฉนั นาย-ใคร? ไม่ง้นั -หะ่ ! ฉัน-ฆ่าาา!” มนษุ ยก์ นิ คนคำ� รามข้นึ
อกี ครงั้ ทำ� ใหข้ วานในปากของเขาแกวง่ ไกวดนู า่ กลวั ขเี้ ถา้ ยาสบู โปรยลงตวั ผม
จนคิดว่าเสอ้ื นอนทใี่ สอ่ าจตดิ ไฟเข้าได้ ตอนนัน้ เอง...ขอบคุณสวรรค์ เจา้ ของ
บ้านพักก็เดินถือเทียนไขก้าวเข้ามาในห้อง ผมรีบกระโจนลงจากเตียงวิ่งไป
หาแกทนั ที

“ไม่ต้องกลัวน่า” แกพูดพร้อมกับยิ้มแยกเขี้ยวตามเดิม “ควีเควกคนนี้ไม่
ทำ� อนั ตรายนายแมแ้ ตป่ ลายผม”

“เลกิ ยมิ้ ซะทนี า่ ” ผมตะคอกใสแ่ ก “ทำ� ไมลงุ ไมบ่ อกผมกอ่ นวา่ นกั พงุ่ ฉมวก
ปีศาจน่ีเปน็ พวกเผา่ มนุษยก์ นิ คน”

“อ้าว! คิดว่านายรุ้แล้ว ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าเขาเร่เร้ขายหัวในเมืองน้ี
มันเร่อื งบังเอญิ น่ะ เอ่านา นอนตอ่ เถอะ ควีเควกมองนี่ นายซะบาย-ใจฉนั ...
ฉนั ซะบาย-ใจนาย คนนี้นอน-กะนาย...นายซะบายใจ-ม้ยั ?”

“ควีเควกซะบาย-มาก” ควีเควกตอบเสียงข้ึนจมูกขณะพ่นควันจากกล้อง
ยาสูบของเขา แลว้ น่งั ลงบนเตยี ง

“นายนอน-ใน” เขาพูดต่อ ใช้ขวานของเขาช้ีบอก แล้วคว้าเส้ือผ้าโยน
ไปกองไวอ้ กี ดา้ น เขาไมเ่ พยี งมมี ารยาทแตย่ งั มนี ำ�้ ใจเออ้ื เฟอ้ื ผมยนื มองเขาครหู่ นง่ึ
นอกจากลายสักแล้วตลอดทั้งตัวของเขาสะอาดหมดจด เป็นชนเผ่ากินคน
ทด่ี ูดที เี ดียว ท�ำไมผมถงึ ไดท้ กึ ทักไปเองนัก ชายคนน้กี ็เปน็ มนุษยค์ นหนึ่งเช่น
เดยี วกบั ผม ตวั เขาเองกม็ เี หตผุ ลหลายอยา่ งทค่ี วรจะกลวั ผมเชน่ เดยี วกบั ทผ่ี ม
หวาดกลวั เขา นอนรว่ มเตยี งกบั คนปา่ ผเู้ ครง่ ขรมึ น่ี นา่ จะดกี วา่ นอนรว่ มเตยี งกบั
ชาวคริสเตียนข้ีเมาเปน็ ไหนๆ

“ลงุ ” ผมบอกเจา้ ของหอ้ งพกั “ชว่ ยบอกใหเ้ ขาเกบ็ ขวานเสยี ที หรอื จะกลอ้ ง
ยาสูบ หรอื จะเรียกว่าอะไรกต็ ามแตท่ อี่ ยใู่ นปากเขานะ่ บอกใหห้ ยดุ สูบเถอะ
ผมจะนอนพรอ้ มเขา แตไ่ มช่ อบใหใ้ ครสบู ยาบนเตยี งเดยี วกบั ผมนะ มนั อนั ตราย
ไมง่ ้นั แลว้ ผมจะรู้สึกไมป่ ลอดภัยนะ่ ”

ค�ำร้องขอของผมได้รับการถ่ายทอดสู่ควีเควก เขายอมท�ำตามในทันที

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 35

และช้ีมือให้ผมเข้าไปนอนด้านในอย่างสุภาพอีกครั้ง ผมล้มตัวลงนอนท่ีด้าน
นั้นพร้อมกบั พดู วา่ “ฉันไมอ่ ยากไปโดนขานาย”

“ราตรีสวัสด์ิ” ผมบอกเจา้ ของบา้ นพัก “ลุงกลบั ไปนอนได้แล้ว”
แล้วผมกน็ อนหลับสบายอยา่ งท่ีไมเ่ คยเป็นมากอ่ นในชีวติ

36 : โมบี้-ดิ๊ก

บทท่ี 4

ผา้ คลมุ เตียง

เมื่อต่ืนข้ึนมาในเช้าวันรุ่งขึ้น ก็เห็นแขนข้างหน่ึงของควีเควกก่ายเกยอยู่
บนตวั ผมอยา่ งแสนเสนห่ า จนคณุ อาจนกึ ไปวา่ ผมเปน็ ภรรยาเขา ผา้ คลมุ เตยี ง
เป็นงานต่อผ้ามากชิ้นหลากสี ทั้งสี่เหลี่ยมและสามเหล่ียม เย็บต่อกันเป็น
ผ้าผืนใหญ่ ส่วนลายสักบนแขนของเขาก็เหมือนรูปเขาวงกตท่ีไม่มีจุดส้ินสุด
ตามต�ำนานกรกี และแยกสผี วิ จรงิ ๆ ไม่ออก ผมเช่อื วา่ ตอนออกทะเลเขาคง
ไมไ่ ดใ้ สใ่ จนกั วา่ แขนจะโดนแดดหรอื ไม่ และนา่ จะถลกแขนเสอื้ ขนึ้ อยา่ งลวกๆ
ในลกั ษณะทต่ี า่ งกนั ไปแตล่ ะคราว ดๆู ไปแลว้ ลายสกั บนแขนเขากไ็ มต่ า่ งอะไร
กับลายผ้าคลุมเตียง อันที่จริงตอนลืมตาตื่นขึ้นมา ผมแทบดูไม่ออกด้วยซ้�ำ
วา่ นนั่ ลายผา้ หรอื ลายสกั บนแขนเขากนั แน่ เพราะสมี นั กลมกลนื กนั เหลอื เกนิ
มารูเ้ อาจากน�ำ้ หนักกดของวงแขนทค่ี วเี ควกกอดกา่ ยผมอยู่

ความรสู้ กึ ในตอนนนั้ มนั แปลกๆ ผมขออธบิ ายหนอ่ ยนะ จำ� ไดว้ า่ ตอนเปน็ เดก็
ผมเคยเจอเรอื่ งทำ� นองนม้ี ากอ่ น ไมว่ า่ มนั จะเปน็ ความจรงิ หรอื ความฝนั กต็ าม
แต่ก็ไม่เคยลืมมันเลย ตอนน้ันผมก�ำลังเล่นซนอะไรสักอย่าง น่าจะพยายาม
ไต่ปล่องไฟข้ึนไป เพราะสองสามวันก่อนหน้าน้ันเห็นไม้กวาดด้ามเล็กมัน
ทำ� ได้ ปกตไิ มว่ า่ จะทำ� อะไร แมเ่ ลยี้ งมกั ฟาดผมดว้ ยรองเทา้ แตะเสมอ หรอื ไม่
ก็ไล่เข้านอนเลยโดยใหอ้ ดมอ้ื เย็น ครงั้ นนั้ ตอนมาเจอเขา้ หลอ่ นกก็ ระชากขา
ผมลงมาจากปล่องไฟแล้วไล่ให้ไปนอน ท้ังท่ีตอนน้ันมันบ่ายสองโมงของ
วนั ที่ 21 มถิ นุ า ซงึ่ เป็นวันท่ีช่วงกลางวนั ยาวนานท่สี ดุ ในรอบปที างซกี โลกนี้

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 37

ผมรู้สกึ กลวั แต่ไมร่ จู้ ะท�ำอย่างไร จึงขึน้ บันไดไปท่หี อ้ งนอนเล็กๆ ของผมบน
ชนั้ สาม คอ่ ยๆ ถอดเสอื้ ผา้ ออกชา้ ๆ เพอื่ ฆา่ เวลา กอ่ นจะนอนละหอ้ ยขมขนื่ ใจ
อยู่บนผ้าปทู ีน่ อน

ผมนอนหดหู่อยู่บนเตียงนานนับสิบหกชั่วโมงกว่าจะรู้สึกดีข้ึน สิบหก
ช่ัวโมงเตม็ ๆ บนเตยี ง! หลังปวดระบมจนผมไม่กลา้ นกึ ถงึ มัน และสว่างมาก
แล้วด้วย แสงอาทิตย์สาดเข้ามาทางหน้าต่าง รถม้าบนท้องถนนควบผ่านไป
มาคึกคัก เสียงสดในร่าเริงดังอยู่ท่ัวบ้าน ผมรู้สึกแย่ย่ิงกว่าแย่ ที่สุดก็ลุกขึ้น
แต่งตัวสวมถุงเท้ายาว แลว้ คอ่ ยๆ ยอ่ งลงมาหาแมเ่ ลีย้ งผมข้างล่าง พอเจอก็
โถมเข้าไปกอดเท้าบอกหล่อนว่าผมส�ำนึกผิดแล้ว และขอร้องเป็นพิเศษให้
เปลยี่ นการลงโทษสำ� หรบั ความผดิ ทผ่ี มกอ่ จะทำ� โทษผมอยา่ งไรกไ็ ด้ ขออยา่ ให้
ต้องนอนอยู่บนเตียงนานเหลือทนแบบนั้นเลย แต่หล่อนเป็นยอดแม่เล้ียง
ผซู้ อื่ ตรงตอ่ หนา้ ทที่ ส่ี ดุ ผมจงึ ตอ้ งกลบั ไปทห่ี อ้ งอกี ครง้ั ผมนอนตาคา้ งอยบู่ นเตยี ง
อกี หลายชว่ั โมง รสู้ กึ แยย่ ง่ิ กวา่ ครงั้ กอ่ นทเี่ คยโดนลงโทษ แมค้ รง้ั นน้ั คดิ วา่ หนกั
ที่สดุ แลว้ สดุ ท้ายผมกเ็ คล้ิมหลบั ไปและฝนั ร้าย ฝันว่าตวั เองค่อยๆ ลมื ตาข้นึ
มาด้วยความรู้สึกครึ่งหลับครึ่งต่ืน มันค่อนรุ่งแล้ว ภายในห้องยังปกคลุมไป
ด้วยความมืดมิดจากภายนอก ทันใดนั้นเอง ผมรู้สึกถึงแรงกระแทกเข้ามา
ในรา่ ง แตก่ ลบั มองไมเ่ หน็ อะไร ไมไ่ ดย้ นิ เสยี งอะไร มเี พยี งมอื ประหลาดทะลวง
แทรกเขา้ มาในตวั ผม แขนผมพาดอยบู่ นผา้ ปเู ตยี ง เจา้ ของมอื ประหลาดซงึ่ ไรช้ อื่
ไรร้ ปู ไรเ้ สยี ง เหมอื นปศี าจ กำ� ลงั นงั่ นงิ่ เงยี บอยขู่ า้ งเตยี งใกลผ้ ม เวลาผา่ นไปนาน
เทา่ นาน ผมยงั คงนอนอยใู่ นทา่ เดมิ ตวั แขง็ ทอื่ ดว้ ยความกลวั สดุ ขดี ไมก่ ลา้ แมแ้ ต่
จะชักมือหนี แม้คิดได้ว่าถ้าขยับแค่นิดเดียวอาจท�ำให้มนต์สะกดน่ันคลาย
ลงก็ได้ ผมไม่รู้ว่าผ่านสภาวะจิตแบบนั้นมาได้อย่างไร แต่เม่ือตื่นขึ้นอีกทีใน
ตอนเชา้ ผมยงั คงจดจำ� ความนา่ ขนลกุ นั้น หลายวนั หลายสปั ดาห์ และหลาย
เดือนต่อมา ผมก็ยังสับสนครุ่นคิดถึงความลี้ลับนั่น และ...แม้กระทั่งเดี๋ยวนี้
ผมยงั คงงงงวยกับเรอ่ื งทเี่ กิดข้ึนกับตัวเอง

ความกลวั จนตวั สนั่ นน่ั ไมห่ ลงเหลอื อกี แลว้ แตส่ มั ผสั ของมอื ประหลาดนนั้

38 : โมบี-้ ดิก๊

ชา่ งสรา้ งความรสู้ กึ แปลกๆ แบบเดยี วกบั ทรี่ สู้ กึ เมอื่ ตอนตน่ื ขนึ้ มาแลว้ พบแขน
ของคนป่าควีเควกพาดอยู่บนตัว แม้หวนนึกถึงเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนในค�่ำคืน
ทผ่ี า่ นมาทลี ะฉากอยนู่ านสองนาน ผมกย็ งั ตอ้ งนอนอยใู่ นสภาพนนั้ เพราะแม้
พยายามแกะมือของเขาออกให้หลุดพ้นจากสภาพอีหลักอีเหลื่อของเจ้าบ่าว
เจา้ สาว แตเ่ ขากก็ อดผมไวแ้ นน่ แมย้ งั หลบั อยู่ ราวกบั วา่ ไมม่ อี ะไรจะมาพรากเรา
สองแยกจากกันได้นอกจากความตาย ผมจึงตัดสินใจปลุกเขา “ควีเควก!”
แต่เขาก็แค่ส่งเสียงกรนตอบ ผมจึงพยายามพลิกตัว แต่รู้สึกคอหนักอึ้ง
เหมือนมีปลอกคอม้ารัดอยู่ ทันใดผมรู้สึกว่าถูกอะไรบาดเข้าให้เบาๆ แล้ว
เมื่อตลบผ้าคลุมเตียงออกไปอีกด้านหน่ึง ก็เห็นขวานอินเดียนแดงวางแนบ
อยขู่ า้ งตวั คนเถอื่ นนี่ ราวกบั วา่ มนั เปน็ เดก็ นอ้ ยทม่ี ใี บหนา้ เปน็ รปู ขวาน แสบสนั ต์
จรงิ ๆ! ผมคดิ กลางวนั แสกๆ ดนั มานอนบนเตยี งในบา้ นประหลาดกบั มนษุ ย์
กนิ คนและขวาน! “ควเี ควก! ใหต้ ายสฟิ ะ! ควเี ควก ตนื่ โวย้ !” หลงั จากพยายาม
อยพู่ กั ใหญ่ ทง้ั ดนิ้ ทง้ั ตะโกนลนั่ ไมห่ ยดุ เพราะอดสใู จทผี่ ชู้ ายทงั้ แทง่ ดนั มานอน
กอดกนั ราวกบั ครู่ กั เขากส็ ง่ เสยี งฮดึ ฮดั ออกมาแลว้ ชกั แขนกลบั สะบดั ตวั ไปมา
เหมอื นสนุ ขั นวิ เฟาดแ์ ลนดท์ เี่ พง่ิ ขนึ้ มาจากนำ้� กอ่ นจะลกุ ขน้ึ นงั่ บนเตยี ง หลงั ตรง
แน่วราวกับด้ามทวน มองตรงมายังผมและขย้ีสองตาราวกับจ�ำไม่ได้ว่าผม
มาอยทู่ น่ี น่ั ไดย้ งั ไง แมด้ จู ะเรมิ่ นกึ อะไรออกเลาๆ แลว้ ในจงั หวะนนั้ ผมจอ้ งมอง
เขาอยอู่ ยา่ งเงยี บๆ ไมห่ ลงเหลอื ความหวาดหวน่ั มเี พยี งความมงุ่ มน่ั กระหาย
ใคร่ส�ำรวจบุคคลตรงหน้า ครู่เดียวเขาจะเร่ิมจ�ำเพื่อนร่วมเตียงได้ และปรับ
ความรสู้ กึ ใหย้ อมรบั กอ่ นจะโดดลงจากเตยี งแลว้ ทำ� มอื บยุ้ ใบถ้ าม วา่ จะวา่ อะไร
ไหมถ้าเขาขอแต่งตัวก่อน แล้วให้ผมได้อยู่ในห้องน้ีตามล�ำพังเพ่ือจะได้สวม
เสอ้ื ผา้ ของตวั เองบ้าง ผมคดิ วา่ ควีเควกเร่มิ ต้นความสัมพนั ธ์ในสถานการณ์
แบบนน้ั ไดอ้ ยา่ งศวิ ไิ ลซ์ แตจ่ รงิ ๆ แลว้ พดู ไดว้ า่ คนปา่ เหลา่ ตา่ งนม้ี สี ญั ชาตญาณ
อันละเอียดอ่อน และสุภาพอ่อนโยนอย่างน่าทึ่ง ผมขอชื่นชมจุดดีข้อน้ีของ
ควีเควก เพราะเขาปฏิบัติต่อผมเย่ียงผู้ดีมีการศึกษา จนผมต้องรู้สึกละอาย
ในความหยาบคายของตนเอง ท่ีเอาแต่นั่งบนเตียงจ้องมองท่าทางเขาขณะ

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 39

แต่งกาย ด้วยความสอดรู้สอดเห็นจนลืมเลือนมารยาทไป กระน้ันควีเควก
กไ็ มใ่ ชค่ นทค่ี ณุ จะพบเหน็ ไดง้ า่ ยๆ ตวั เขาและอากปั กริ ยิ าของเขาควรคา่ ตอ่ การ
ใส่ใจเป็นอย่างยิ่ง

เขาเรม่ิ แตง่ ตวั จากข้างบน โดยสวมหมวกบีเวอรท์ รงสงู กอ่ น แล้วกวาดตา
มองหารองเทา้ บตู๊ ทง้ั ๆ ทยี่ งั ไมไ่ ดใ้ สก่ างเกง จากนน้ั กพ็ ยายามเบยี ดตวั เขา้ ไปใต้
เตยี ง โดยมรี องเทา้ อยใู่ นมอื และหมวกสวมอยบู่ นหวั ผมบอกไมไ่ ดเ้ หมอื นกนั
วา่ ทำ� ไมตอ้ งทำ� อะไรพสิ ดารขนาดนนั้ พกั เดยี วใบหนา้ กเ็ รมิ่ ขงึ เครยี ดและหอบ
หายใจหนกั ผมคดิ วา่ เขาคงเพยี รพยายามสวมรองเทา้ ดว้ ยวิธีที่รักความเป็น
ส่วนตัวเหลือเกินชนิดท่ีไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน แต่จะว่าไป ควีเควกก็เป็น
สิ่งมีชีวิตท่ีก�ำลังกลายร่าง ไม่ใช่ทั้งดักแด้และไม่ใช่ผีเสื้อ เขามีวัฒนธรรม
พอท่ีจะแสดงออกถึงความต่างวัฒนธรรมในอาการท่ีแปลกประหลาดที่สุด
การศึกษาของเขายังไม่สมบูรณ์ เขายังด้อยการศึกษา ถ้าไม่ด้อยวัฒนธรรม
คงไมต่ อ้ งยงุ่ ยากกบั แคก่ ารสวมรองเทา้ แตถ่ า้ ยงั เปน็ คนปา่ เตม็ ตวั เขาคงไมค่ ดิ
ทจี่ ะสวมใสม่ นั จากใตเ้ ตยี งนน่ั หรอก ในทส่ี ดุ เขากโ็ ผลข่ นึ้ มา เหน็ หมวกยน่ เผล่
ลงมาแทบปดิ ตา แลว้ ลกุ เดนิ กระยอ่ งกระแยง่ สง่ เสยี งอด๊ี อา๊ ดไปทวั่ หอ้ งราวกบั
ไม่เคยคุ้นกับบู๊ตท่ีสวมใส่อยู่ รองเท้าหนังวัวยับย่นเปียกช้ืนคู่น้ันก็ไม่น่าจะ
สั่งท�ำมาโดยเฉพาะด้วย มันกัดเท้าและสร้างความทรมานให้แก่เขานับแต่
ก้าวแรกท่เี ดินย�่ำลงบนพ้ืนในยามเชา้ อันหนาวเย็นสดุ ขัว้

เมอ่ื มองออกไปนอกหนา้ ตา่ งทป่ี ราศจากผา้ มา่ น เหน็ ถนนแคบเลก็ ดา้ นนอก
บ้านท่ีอยู่ฝั่งตรงข้ามมองเข้ามาในห้องได้อย่างสบาย ย่ิงหันกลับมาเพ่งดู
ควเี ควกที่ยังเดินย่องแย่งโดยสวมใส่เพยี งหมวกและรองเท้าบูต๊ เท่าน้ัน ผมยงิ่
รู้สึกว่าไม่เหมาะแน่ จึงพยายามขอร้องเท่าที่พอจะส่ือสารกันได้ ให้เขาสวม
ใส่อะไรเพ่ิมหน่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกางเกง เขาก็ยอมท�ำตามก่อนจะเดิน
ไปท�ำความสะอาดตัว หากเป็นชาวคริสต์ในช่วงเวลาเช้าแบบน้ี คงต้องล้าง
หนา้ กอ่ นเป็นลำ� ดบั แรก หากควีเควกทำ� ให้ผมตอ้ งฉงน เขาลา้ งแผ่นอก แขน
แล้วก็มือก่อน จากน้ันก็สวมเสื้อก๊ัก คว้าเอาก้อนสบู่บนโต๊ะกลางที่วาง

40 : โมบี้-ดกิ๊

อ่างล้างหน้าไว้จุ่มน้�ำ แล้วยกขึ้นถูหน้าตัวเอง ผมคอยจับตามองว่าเขาเก็บ
มีดโกนไว้ตรงไหน แล้วก็นั่นไง เขาคว้าเอาฉมวกจากมุมเตียงมาถอดด้าม
ไม้ยาวออกเหลือแต่หัวเหล็ก ถูลับคมสองสามครั้งกับรองเท้าบู๊ต แล้วลุก
เดินอาดๆ ไปยนื อยู่หน้ากระจกบานเลก็ บนผนัง ก่อนจะเร่ิมโกนหนวดอย่าง
คลอ่ งแคลว่ ซง่ึ เปน็ การใชฉ้ มวกปาดฉวดั เฉวยี นไปมาบนสองแกม้ เสยี มากกวา่
แต่ผมว่าต่อให้มีดโกนช้ันดีของโรเจอร์1ยังต้องอาย แล้วก็หายแปลกใจเมื่อ
มารภู้ ายหลงั วา่ ใบมดี ฉมวกนน้ั ทำ� จากเหลก็ กลา้ ชนั้ ดเี พยี งใด และคมเรยี วยาว
น้นั คมกริบอยไู่ ดเ้ พราะได้รบั การลับอยเู่ สมอน่นั เอง

ครตู่ อ่ มาเขากแ็ ตง่ ตวั เสรจ็ มเี สอ้ื แจก๊ เกต็ กะลาสสี วมทบั พกฉมวกเปน็ อาวธุ
คู่กายเหมอื นนายพลพกคทาคตู่ ัว แลว้ สาวเท้าออกจากห้องไปอย่างภาคภูมิ

1 มดี โกนชนั้ ดขี องโรเจอร์-บริษัทโจเซฟ ร็อดเจอรแ์ ละลกู ในองั กฤษ มชี ่อื เสียงดา้ นผลติ มีด
เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 41

บทท่ี 5

อาหารเช้า

ผมรบี จดั การแตง่ ตวั แลว้ ตามลงไปทบ่ี าร์ เจา้ ของบา้ นพกั ยม้ิ กรมิ่ ทกั ทายอยา่ ง
แสนเป็นมิตร ผมไม่ถือสาแกอีก แม้ว่าแกจะเคยเล่นตลกกับผมไม่เบาเร่ือง
เพอ่ื นรว่ มเตยี ง

ไมว่ า่ อยา่ งไรกต็ าม การไดห้ วั เราะอยา่ งจรงิ จงั เปน็ เรอ่ื งดี และเรอ่ื งดๆี ยอ่ ม
เกดิ ขนึ้ คอ่ นขา้ งยาก ซงึ่ กน็ า่ เสยี ดายมาก ฉะนนั้ หากใครพยายามสรรหาเรอ่ื ง
สนุกมาท�ำให้ทุกคนได้หัวเราะกัน เท่าท่ีตัวเขาจะท�ำได้ ก็อย่าไปขัดเขาเลย
ปลอ่ ยใหเ้ ขาไดส้ นกุ และทำ� ใหค้ นอน่ื ไดส้ นกุ ดว้ ยจะดกี วา่ และแนใ่ จไดเ้ ลยวา่
คนคนนั้นย่อมมอี ะไรในตัวมากกวา่ ทค่ี ณุ คิด

ตอนน้ันหอ้ งนงั่ เล่นเต็มไปด้วยแขกผ้มู าพัก หลายคนเดินทางมาถงึ ตั้งแต่
เมอื่ คนื และอกี หลายคนทผ่ี มยงั ไมเ่ คยเหน็ หนา้ แทบทกุ คนลว้ นเปน็ นกั ลา่ วาฬ
มีทง้ั บรรดาต้นเรือ1 ตน้ หน2 ผชู้ ่วยต้นเรอื ชา่ งไม้บนเรอื ชา่ งท�ำถังไมบ้ นเรือ
ช่างตีเหล็กบนเรือ นักพุ่งฉมวก คนเฝ้าเรือ ต่างร่างก�ำย�ำกร�ำแดดผมเผ้า
หนวดเครายาวรุงรัง ทุกคนสวมเสื้อแจ๊คเก็ตกะลาสีเป็นเครื่องแต่งกาย
ในตอนเชา้

คณุ แทบมองออกเลยวา่ ใครขน้ึ ฝง่ั มานานแคไ่ หนแลว้ เจา้ หนมุ่ นอ้ ยแกม้ ใส
คลา้ ยลกู แพรโดนแดดเผาจนเขม้ และเหมอื นจะมกี ลน่ิ หอมจางๆ ดว้ ยนนั่ เพงิ่
กลับมาจากอินเดียและข้ึนฝั่งมาได้ไม่ถึงสามวัน ชายคนถัดจากเขาไปมีสีผิว

1 ต้นเรือ-รองกปั ตนั
2 ตน้ หน-เจา้ หนา้ ท่ชี ้ีทิศทางเดนิ เรือ

42 : โมบี้-ดก๊ิ

ทดี่ ใู สกวา่ ราวกบั เนอ้ื ไมเ้ รยี บลน่ื เปน็ เงามนั ผวิ คนตอ่ มาสจี างลงไปมาก เหลอื
แคน่ ำ้� ตาลออ่ นๆ จากเขตเมอื งรอ้ น ไมต่ อ้ งสงสยั เลยวา่ เขาขนึ้ ฝง่ั มาพกั แรมได้
หลายสปั ดาหแ์ ล้ว แตใ่ ครจะมีสีแกม้ เหมือนควีเควกล่ะ? เพราะแถบสสี นั นั่น
ชา่ งคลา้ ยเสน้ เขาลาดทางทศิ ตะวนั ตกของเทอื กเขาแอนดสี ทย่ี าวตดั ผา่ นพน้ื ที่
สองฝากฝัง่ ซงึ่ มีภมู อิ ากาศแตกต่างกนั โดยสน้ิ เชิง

“เอ้า! หม่�ำ!” ตาเฒ่าร้องเรียก แล้วผลักประตูออกให้พวกเราเดินเข้าไป
กินอาหารเชา้ ดา้ นใน

ว่ากันว่า ใครได้เห็นโลกมามากย่อมวางตัวได้สุขุมไม่เขอะเขินในการเข้า
สมาคม แต่ผมว่าไม่เสมอไป อย่างน้อยนักส�ำรวจผู้ยิ่งใหญ่อย่างเลดยาร์ด3
และมงั โก พาร์ค4 กค็ งวางตวั ไมถ่ ูกในห้องรบั รองแบบน้แี น่ การเดินทางขา้ ม
ไซบีเรยี ด้วยสุนขั ลากเลื่อนอย่างทเ่ี ลดยาร์ดทำ� หรือการเดนิ ทางเดยี วดายบน
เสน้ ทางยาวไกลและหวิ โหย กลางดนิ แดนชนผวิ ดำ� ในแอฟรกิ าอยา่ งมงั โกผนู้ า่
สมเพชทำ� ผมบอกไดเ้ ลยวา่ การเดนิ ทางแบบนนั้ อาจไมช่ ว่ ยขดั เกลาทา่ ทางใน
การออกสงั คมไดห้ รอก ทสี่ ำ� คญั การเดนิ ทางในลกั ษณะนนั้ มใี หเ้ หน็ ทกุ ทด่ี ว้ ย

ผมคดิ เรอ่ื งพวกนน้ั หลงั จากทเี่ รานง่ั กนั ทโ่ี ตะ๊ อาหาร และคอยฟงั เรอื่ งเดด็ ๆ
เกยี่ วกบั การลา่ วาฬ แตก่ ต็ อ้ งประหลาดใจไมน่ อ้ ยทเี่ หน็ ทกุ คนแทบจะนง่ิ เงยี บ
กนั หมด แถมยงั ดเู ขอะเขนิ ดว้ ย จรงิ อย.ู่ ..คนทนี่ งั่ รวมกนั ตรงนนั้ ลว้ นเปน็ ชาวเล
ไมม่ ที ที า่ ประหมา่ แมน้ อ้ ยนดิ ยามเมอ่ื ออกเรอื ลา่ ฝงู วาฬกลางทะเลลกึ และสกู้ บั
เจ้าตัวประหลาดนั่นยิบตา แต่การสังสรรค์ที่โต๊ะอาหารเช้าในหมู่เพื่อนร่วม
อาชพี ซงึ่ มีประสบการณค์ ล้ายกนั ตา่ งกลบั เหนยี มอายเข้าหากนั ราวกับแกะ
ทม่ี เี จา้ ของคอกเขาเขยี วคอยกำ� กบั ไมว่ างตา จนนกั ลา่ วาฬเหลา่ นนั้ ดคู ลา้ ยหมี
ขี้อายหรือนักรบผู้ขลาดเขลาไปอยา่ งประหลาด!

สำ� หรบั ควเี ควกแลว้ ผมนกึ ไมถ่ งึ จรงิ ๆ วา่ เขากน็ ง่ั อยทู่ า่ มกลางคนพวกนน้ั ดว้ ย
นง่ั อยทู่ หี่ วั โตะ๊ เสยี ดว้ ย ทา่ ทางเยอื กเยน็ จนดเู ยน็ ชา แตจ่ รงิ ๆ แลว้ ผมกอ็ ธบิ าย

3 จอหน์ เลดยารด์ -(ค.ศ. 1751-1789) นกั สำ� รวจชาวอเมรกิ นั ผเู้ ดนิ ทางไปกบั กปั ตนั เจมส์ คกุ ชว่ งทคี่ น้ พบ
ฮาวาย
4 มงั โก พารค์ -นกั สำ� รวจชาวสก็อต (ค.ศ. 1771-1806) ผ้เู ดนิ ทางไปสำ� รวจทวีปแอฟรกิ า

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 43

ถึงอากัปกิริยาของเขาไม่ได้มากนักหรอก เพราะต่อให้เลื่อมใสเขาเพียงใด
ก็ยังตะขิดตะขวงใจที่เห็นเขานำ� ฉมวกมาท่ีโต๊ะอาหารเช้าด้วย เขาใช้มันอย่าง
ไมม่ พี ธิ รี ตี องอะไร จบั เหวย่ี งหวดื เฉยี ดหวั หลายคนไปอยา่ งนา่ หวาดเสยี ว แลว้ ก็
จิ้มสเต็กจากอีกด้านของโต๊ะกลับมา แต่ด้วยท่าทางที่เยือกเย็นเหลือเกิน
จนทกุ คนยอ่ มประเมนิ ออกวา่ ใครทท่ี ำ� อะไรไดส้ ขุ มุ ถงึ ปานนน้ั ยอ่ มทำ� ไปดว้ ย
ความสภุ าพที่สุดแล้ว

ผมขอไม่พูดถึงพฤติกรรมประหลาดทุกอย่างของควีเควกดีกว่า เขาไม่
สนใจกาแฟกับขนมปังร้อนเลย เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาจัดการกับสเต็กเน้ือ
กึ่งดิบก่ึงสุกตรงหน้า เมื่ออิ่มแล้วและมื้อเช้าส้ินสุดลง เขาก็ลุกข้ึนเดินไปยัง
ห้องน่ังเล่นเหมือนกับคนอ่ืนๆ จากน้ันก็จุดขวานกล้องยาสูบ แล้วนั่งสูบยา
ย่อยอาหารอยู่เงียบๆ โดยมีหมวกใบเก่งสวมอยู่บนหัวไม่ห่าง ส่วนผมเดิน
ผา่ นออกไปทอดนอ่ งดา้ นนอก

44 : โมบ้-ี ด๊กิ

บทท่ี 6

ถนน

หากตอนแรกผมรู้สึกประหลาดใจ ท่ีได้เห็นลักษณะเฉพาะตัวอันแปลกพิกล
ของควีเควกขณะเข้าสังคมในเมืองอันศิวิไลซ์ ความประหลาดใจน่ันก็มลาย
ไปนับแต่กา้ วแรกท่ีออกมาเดนิ ทอดน่องไปตามถนนในเมอื งนิวเบดฟอร์ด

ถนนริมท่าในเมืองท่าส�ำคัญๆ มักเห็นภาพแปลกตาของผู้คนท่ีไม่รู้ว่า
เป็นเช้ือชาติไหนกันแน่ แม้แต่ถนนในบอร์ดเวย์และเชสต์นัต กะลาสีชาว
เมดเิ ตอรเ์ รเนยี นอาจเดนิ ชนบรรดาสภุ าพสตรขี ต้ี กใจเขา้ ได้ สว่ นถนนรเี จนต์1
มีกะลาสีอินเดียและมลายูให้เห็นไม่ขาดตา ในอพอลโลกรีน2ที่บอมเบย์
ชาวอเมริกันซึ่งไปอาศัยอยู่ก็มักตกใจกลัวชาวพื้นเมือง แต่ท่ีนิวเบดฟอร์ดกิน
ขาดทงั้ วอเตอรส์ ตรตี 3และวาปปง้ิ 4 เพราะแมส้ องเมอื งทา่ หลงั สดุ นนั่ จะเหน็ แต่
กะลาสเี กลอ่ื นตาไปหมด แตท่ น่ี วิ เบดฟอรด์ คณุ จะเหน็ แมก้ ระทงั่ มนษุ ยก์ นิ คน
จรงิ ๆ ยนื คยุ กนั อยตู่ ามมมุ ถนน คนปา่ ตวั จรงิ หลา่ นหี้ ลายคนยงั ถอื กระดกู สดๆ
ซงึ่ ยังไมผ่ า่ นพิธีศักดิ์สทิ ธไิ์ ว้ดว้ ย จนท�ำให้ผูค้ นทีผ่ ่านไปมาตอ้ งจอ้ งตาคา้ ง

นอกจากชาวเกาะฟจิ ิ ชาวทองกา้ ชาวเออโรแมงโก5 ชาวปนี งั ชาวไบรก์ ไจ6
และสารพัดกะลาสีท่ีมากับเรือล่าวาฬเดินกันขวักไขว่เกล่ือนถนน คุณจะได้

1 ถนนรีเจนต์-ในยา่ นสรรพสินค้า กรงุ ลอนดอน
2 อพอลโลกรนี -สนามเดินพาเหรด
3 เมืองทา่ หลายเมืองมี “ถนนริมน้�ำ” ในท่นี ้ีนา่ จะหมายถึงถนนยา่ นการคา้ หรใู นวเิ วอร์พูล อังกฤษ
4 วาปปง้ิ -ยา่ นริมทา่ ในองั กฤษ
5 เออโรแมงโก-หมเู่ กาะวานูอาตู ทางมหาสมทุ รแปซิฟกิ ตอนใต้
6 ไบร์กไจ-ไม่เป็นทที่ ราบว่า เมลวลิ ลห์ มายถงึ ชนชาตใิ ด

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 45

เหน็ ภาพแปลกๆ นา่ ขนั อกี มากมาย สปั ดาหน์ นั้ มเี ดก็ หนมุ่ จากเวอรม์ อนตแ์ ละ
นวิ แฮมเชยี รม์ าถงึ ตา่ งมงุ่ มนั่ มาแสวงโชคกบั การลา่ วาฬ พวกเขายงั หนมุ่ แนน่
และมีร่างกายบึกบึน หนุ่มน้อยผู้โค่นป่าดงพงไพรตัดสินใจวางขวานแล้วหัน
มาจบั ฉมวกลา่ วาฬแทน หลายคนยงั สดใหมพ่ อๆ กบั บรรยากาศบนเขาเขยี ว7
ท่ีพวกเขาจากมา แค่ช่ัวโมงสองช่ัวโมงคุณเป็นต้องได้เห็นพวกเขา นั่นไง!
เดินวางมาดอยู่มุมถนนน่ันก็คนหนึ่ง เขาสวมหมวกบีเวอร์ ใส่เสื้อคลุมยาว
สองชาย คาดเขม็ ขดั ทหารเรอื และพกมดี พรอ้ มฝกั โนน่ กอ็ กี คน สวมหมวกกนั นำ้�
เซาเวสเตอร์และเสื้อคลุมทอไหมและขนสัตว์

ไมม่ หี นมุ่ เจา้ สำ� อางทโ่ี ตในเมอื งคนใด จะเอาตวั เองไปเปรยี บกบั หนมุ่ บา้ นนอก
หรอก ผมหมายถงึ หนมุ่ เจา้ สำ� อางทโี่ ตในบา้ นนอกนะ่ เพราะแมใ้ นวนั รอ้ นอบอา้ ว
ทส่ี ดุ ของปี หมอนน่ั ดนั สวมถงุ มอื หนงั กวางไปดายหญา้ หา้ ไรเ่ พราะกลวั มอื กรำ�
แดด แลว้ เมอื่ หนุ่มเจา้ สำ� อางทว่ี ่าอยากดูเด่นเปน็ สง่ายามเขา้ รว่ มการล่าวาฬ
คณุ กจ็ ะเหน็ ภาพนา่ ขนั ของเขาแถวๆ ทา่ เรอื อยา่ งเชน่ ชดุ ออกทะเล กส็ ง่ั ชา่ งเสอ้ื ให้
ตดิ กระดมุ รปู กระดง่ิ บนเสอื้ กก๊ั แถมดว้ ยสายหว้ิ กางเกงผา้ ใบ โธ.่..เจา้ หนมุ่ บา้ นนอก
เอย๊ ! แคพ่ ายกุ รรโชกทเี ดยี วสายหว้ิ นนั่ กร็ งุ่ รง่ิ แลว้ ยามเมอื่ ลมกระหนำ�่ นาย ไมว่ า่
สายหิ้วกางเกง กระดมุ และทกุ สง่ิ ตา่ งกก็ ลนื หายไปในพายุหมุนนัน่ ท้งั น้ัน

แตอ่ ย่าคดิ ว่าเมืองอันโดง่ ดังน่จี ะมีแคน่ ักพุ่งฉมวก ชาวเผา่ กนิ คน และคน
บา้ นนอกมาเยอื นเทา่ นนั้ เปลา่ เลย...ถงึ อยา่ งไรนวิ เบดฟอรด์ กย็ งั คงเปน็ สถานท่ี
แปลกประหลาดอยู่ดี แปลกส�ำหรับพวกเราเหล่านักล่าวาฬด้วย ด้วยต้ังอยู่
โดดเดย่ี วคลา้ ยๆ กบั ชายฝง่ั ทะเลลาบราดอรเ์ ลยทเี ดยี ว แคพ่ น้ื ทดี่ า้ นหลงั กน็ า่ กลวั
แลว้ เพราะดคู ลา้ ยซากกระดกู ยงั ไงยงั งนั้ แมต้ วั เมอื งเองอาจเปน็ สถานทที่ นี่ า่ อยู่
ท่ีสุดในบรรดาเมืองทง้ั หลายท่ัวนิวองิ แลนด์ เนื่องจากเป็นแหล่งนำ�้ มนั 8 แตก่ ็
ตา่ งจากเคนาน ซงึ่ เปน็ ดนิ แดนแหง่ ขา้ วโพดและไวนอ์ กี ที่ ถนนในนวิ เบดฟอรด์
ไมไ่ ด้อดุ มด้วยนมและไขส่ ดในชว่ งฤดูใบไมผ้ ลิ แตถ่ ึงอย่างนั้น ก็ไม่มที ไ่ี หนใน
อเมริกาทค่ี ณุ จะไดพ้ บเหน็ บ้านเรอื นใหญโ่ ตเยยี่ งบา้ นขนุ นางช้ันสูง ลานจอด

7 เทือกเขาแอปพาเลเชยี จากตอนใต้ของแคนาดา เวอรม์ อนต์ จนจรดแมสซาชเู ซตส์
8 แหลง่ นำ�้ มัน-ในท่ีน้ีหมายถึงนำ้� มันจากไขวาฬ

46 : โมบ-ี้ ดก๊ิ

รถมา้ และสวนอทุ ยานมากเทา่ นวิ เบดฟอรด์ พวกเขามาจากทไี่ หนกนั บา้ งนะ? และ
มาตง้ั รกรากในพน้ื ทท่ี คี่ รง้ั หนงึ่ เปน็ ดนิ แดนซากลาวาของประเทศไดอ้ ยา่ งไรกนั ?

หากเข้าไปเห็นฉมวกเหล็กกล้าท่ีอยู่ตรงน้ันตรงโน่นรอบคฤหาสน์หรูนั่น
แลว้ คณุ จะรคู้ ำ� ตอบ ใชแ่ ลว้ ...บา้ นของผกู้ ลา้ และสวนดอกไมง้ ามเหลา่ นน้ั มาจาก
ทะเลแอตแลนตคิ แปซฟิ กิ และอนิ เดยี นนั่ เอง ตา่ งเคยใชฉ้ มวกออกลา่ วาฬและ
ลากทกุ ตวั ขน้ึ มาจากกน้ ทะเล ตอ่ ใหท้ า่ นอเลก็ ซานเดอร์9เอง จะแสดงกลแบบ
นัน้ ไดห้ รอื ?

กลา่ วกนั วา่ ในนวิ เบดฟอรด์ พอ่ จะมอบวาฬเปน็ สนิ สมรสแกล่ กู สาว และโลมา
แกห่ ลานสาว คณุ ตอ้ งเดนิ ทางไปทนี่ วิ เบดฟอรด์ แลว้ จะไดเ้ หน็ วา่ งานแตง่ งาน
ท่ีน่ันช่างสว่างแพรวพรายเพียงใด เพราะว่ากันว่าในบ้านแต่ละหลังต่างมีบ่อ
น้ำ� มันวาฬอยู่ ทกุ ๆ คืนจะจุดเทียนไขหัววาฬ10ข้นึ อย่างสรุ ุย่ สุร่ายยาวนาน

ช่วงฤดูร้อนเมืองท้ังเมืองช่างน่าดู เมเปิ้ลงามยืนต้นเป็นสีเขียวสีทองยาว
เรียงรายตลอดสองฝั่งถนน ส่วนเดือนสิงหาลมแรงจัด เกาลัดออกดอกงาม
สะพรงั่ เตม็ ตน้ มองดคู ลา้ ยโคมระยา้ ชอ่ ดอกเรยี วกรวยเบง่ บานตระการตาแกผ่ ู้
ผ่านไปมา ธรรมชาติดลบันดาลสีสันแก่นิวเบดฟอร์ด หลายที่แต่งแต้มด้วย
ดอกไมส้ ดใสสวา่ งตาอยเู่ หนอื เนินหินแห้งแลง้ ท่ีเคยถกู ปลอ่ ยปละทงิ้ ร้าง

สาวๆ ชาวนวิ เบดฟอรด์ กเ็ อบิ อม่ิ ราวกหุ ลาบแรกแยม้ แตก่ กุ ลาบจรงิ จะบาน
สะพรงั่ เฉพาะชว่ งฤดรู อ้ นเทา่ นน้ั แกม้ พวกเธอกง็ ามดง่ั คารเ์ นชน่ั เรอ่ื แดงราว
แสงอาทติ ยใ์ นสรวงสวรรคช์ น้ั เจด็ สาวเมอื งไหนๆ กไ็ มเ่ อบิ อมิ่ เทา่ เวน้ เสยี แต่
ที่ซาเลม็ 11 มีคนบอกผมวา่ สาวน้อยทน่ี ่นั หอมรญั จวนใจ จนกะลาสคี รู่ ักของ
พวกหลอ่ นไดก้ ลนิ่ ตงั้ แตอ่ ยหู่ า่ งจากฝง่ั ตง้ั หลายไมล์ ราวกบั วา่ พวกหนมุ่ ๆ นน่ั
กำ� ลงั ลอ่ งเรอื ไปใกลห้ มเู่ กาะโมลกุ กะ แทนทจี่ ะเปน็ ชายหาดของพวกพวิ รติ นั 12

9 อเล็กซานเดอร์ ไฮม์บือเกอร(์ ค.ศ. 1819-1909) นกั มายากลชาวเยอรมนั ผโู้ ด่งดงั ไปทั่วโลก
10  ไขหวั วาฬ-ไขท่หี วั ของวาฬสเปริ ม์ (วาฬหวั ทุย)
11 ในรัฐแมสซาชูเซตส์ เป็นเมอื งหลกั ท่มี ีการไตส่ วนทรมานผ้ถู กู กล่าวหาเป็นแม่มด ในปี 1692-1693
12 กลุ่มคริสต์ศาสนิกชนหัวรุนแรงซ่ึงทรงอิทธิพลในเมืองซาเล็ม รัฐแมสซาชูเซตส์ และให้มีการไต่สวน
ล่าแมม่ ดที่นนั่

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 47

บทที่ 7

โบสถ์

ท่นี ิวเบดฟอร์ดกม็ โี บสถ์ขาวของนักล่าวาฬ1 ชาวประมงอารมณข์ นุ่ มัวบางคน
ต้องรีบออกเดินทางไปมหาสมุทรอินเดียหรือแปซิฟิก จึงไม่ได้ไปโบสถ์ในวัน
อาทติ ย์ แตผ่ มไม่ยอมพลาดแน่

ขากลับตอนเดินทอดน่องในเช้าวันแรก ผมยังคงเดินเตร่ไปยังโบสถ์น่ัน
อากาศเปล่ียนจากฟ้าใสแดดแรงในหน้าหนาว กลายเป็นหมอกหนาและ
ตั้งเค้าพายุลูกเห็บ ผมห่อตัวอยู่ภายใต้เส้ือแจ๊กเก็ตหนังหมีขนหยาบเดินฝ่า
กระแสลมแรง เมอื่ เขา้ ไปในโบสถ์ เหน็ คนกลมุ่ เลก็ ๆ นง่ั กระจดั กระจายกนั อยู่
มที ั้งกะลาสี ภรรยากะลาสี และภรรยาม่ายของกะลาสี ต่างกำ� ลังสวดภาวนา
อยเู่ งยี บๆ มเี พยี งเสยี งหวดี หววิ ของพายแุ ทรกขน้ึ เปน็ ครงั้ คราว ดเู หมอื นผมู้ า
โบสถต์ า่ งจงใจนง่ั แยกหา่ งจากกนั ราวกบั ความเศรา้ โศกอนั เงยี บงนั ทำ� ใหต้ อ้ ง
ปดิ กน้ั ตวั เองและไมอ่ าจบง่ บอกใครได้ ตอนนน้ั บาทหลวงยงั มาไมถ่ งึ ชายหญงิ
ผู้เสมือนเกาะโดดเดี่ยวเงียบงันเหล่านั้น จึงได้แต่น่ังมองพวกป้ายหินอ่อน
ในกรอบด�ำซึ่งฉาบปูนติดอยู่ท่ีผนังโบสถ์ซ้ายขวาของแท่นเทศน์ สามแผ่นมี
ขอ้ ความท�ำนองน้ี (ผมไม่แน่ใจว่าจำ� ไดถ้ ูกทกุ ค�ำนะ)

1 โบสถ์ขาวของนักลา่ วาฬ-โบสถ์เลก็ ฝาไมท้ าสีขาว ถอื เป็นปูชนยี สถานของชาวประมง

48 : โมบ-ี้ ดกิ๊

อทุ ศิ เพ่อื เป็นอนสุ รณ์แดจ่ อห์น ทอลบอต
ในชว่ งวัยสบิ แปดปี เขาไดต้ กทะเล

แถวเกาะเดโซเลชัน นอกฝ่ังพาตาโกเนีย
เมอ่ื วันท่ี 1 พฤศจกิ ายน 1836

ป้ายจารึกนี้ สร้างขึน้ เพอื่ ร�ำลกึ ถงึ เขา โดยพี่สาว
***

อุทิศเพ่อื เปน็ อนสุ รณ์แด่
โรเบริ ต์ ลอง, วลิ ลสิ เอลเลอรี, นาทาน โคลแมน,

วอลเตอร์ แคนน,ี เซท เมซี
และแซมมวล กลกี

กลมุ่ กะลาสีเรอื เลก็ จากเรือเอลซิ า
และถกู วาฬลากจมหายไป

ในทะเลเปดิ นอกฝ่ัง2แหง่ มหาสมุทรแปซิฟกิ
เมอ่ื วนั ท่ี 31 ธนั วาคม 1839

จารกึ หนิ อ่อนนี้ เพือ่ นกะลาสที ีร่ อดชวี ิตเป็นผจู้ ัดวาง
***

อทุ ิศเพ่อื เป็นอนสุ รณแ์ ด่
กปั ตันเอเซกเิ อล ฮาร์ดี ผลู้ ่วงลับ
เขาถกู สงั หารโดยวาฬหวั ทุย ขณะอยูบ่ นหัวเรอื ตนเอง

ณ บรเิ วณฝัง่ ทะเลญีป่ ่นุ
เมอื่ วนั ท่ี 3 สิงหาคม 1833
ป้ายจารึกนี้ สร้างข้นึ เพือ่ ระลกึ ถงึ เขา โดยภรรยามา่ ย

ผมสลดั เกลด็ หมิ ะบนหมวกและเสอื้ แจก๊ เกต็ ออกกอ่ นกา้ วไปนงั่ ใกลป้ ระตู แลว้ ก็
ตอ้ งประหลาดใจเมอื่ หนั ไปเหน็ ควเี ควกนง่ั อยใู่ กลๆ้ บรรยากาศเครง่ ขรมึ ในนน้ั

2  อยู่ทางตะวันตกเฉยี งเหนอื ของอเมริกาใต้ ค้นพบในปี 1818 เป็นแหลง่ ลา่ วาฬหวั ทุย

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 49

ท�ำเขาพลอยส�ำรวมไปด้วย แต่สีหน้าและแววตาก็ยังส่อแววพิศวงใคร่รู้
เจา้ คนปา่ คนเดยี วทสี่ งั เกตเหน็ ผมเดนิ เขา้ มา เพราะเปน็ คนเดยี วทอี่ า่ นหนงั สอื
ไมอ่ อก จงึ ไม่ได้อา่ นข้อความจารึกอันไมช่ วนให้ยินดบี นผนังน่นั ผมไมร่ ู้ว่าใน
บรรดาศาสนกิ ชนกลมุ่ นี้ มญี าตขิ องกะลาสเี รอื ผมู้ ชี อ่ื ปรากฏบนแผน่ จารกึ นนั้
ดว้ ยหรอื ไม่ รแู้ ตเ่ พยี งวา่ ยงั มอี บุ ตั เิ หตรุ ะหวา่ งการจบั ปลาอกี มากทยี่ งั ไมไ่ ดร้ บั
การจารึกไว้ หญงิ หลายคนในท่นี ้ันกม็ สี ีหน้าทา่ ทางโศกเศร้าไม่ร้คู ลาย ผมจงึ
มน่ั ใจวา่ ผมู้ าชมุ นมุ ในโบสถน์ น้ั ลว้ นมหี วั ใจอนั แหลกสลาย ตา่ งสง่ สายตาเหน็ อก
เหน็ ใจไปยงั ปา้ ยจารกึ นา่ สลดเหลา่ นนั้ ซงึ่ กท็ ำ� ใหบ้ าดแผลเกา่ ของตนเองปรแิ ตก
ข้ึนมาใหม่

โอ้! ท่านผู้ผูกพันกับเจ้าของร่างอันนอนสงบย่ิงอยู่ใต้ผืนหญ้าเขียว ท่าน
ผยู้ นื อยทู่ า่ มกลางดอกไมน้ น่ั และพดู วา่ ณ ตรงน้ี ฝงั รา่ งคนรกั ฉนั ไว้ ไมม่ คี วาม
โศกเศรา้ ใดเกาะกนิ ใจทา่ นไดเ้ พยี งนน้ั นา่ ขมขนื่ ยงิ่ นกั กบั ปา้ ยหนิ ออ่ นกรอบดำ�
อนั ซงึ่ ไรอ้ ฐั !ิ นา่ สน้ิ หวงั ยงิ่ นกั กบั ขอ้ ความจารกึ ทไี่ มอ่ าจเปลย่ี นแปรได้ ขอ้ ความ
เหินห่างตัดช่องน้อยอ�ำลาที่เหมือนกัดกร่อนศรัทธาทั้งมวล เป็นการอ�ำลาท่ี
ไมอ่ าจฟน้ื กลบั คนื มา และไมเ่ หลอื แมเ้ รอื นรา่ งใหก้ ลบฝงั ในสสุ าน ไมต่ า่ งจาก
แผ่นจารกึ ภายในถำ�้ เอลเิ ฟนต้า3

มีการส�ำรวจส่ิงมีชีวิตใดบ้างที่นับรวมเอามนุษย์ผู้สิ้นลมแล้วไว้ด้วย
ถ้อยความไว้อาลัยคนเหล่านั้นกล่าวกันไปเพื่ออะไร? แม้นั่นไม่ใช่ค�ำลวง
แต่ก็ซ่อนเร้นความลับไว้ย่ิงกว่าสันทรายกู๊ดวิน4 แม้เราพยายามเสกสรรค์ปั้น
แตง่ คำ� ไวอ้ าลยั เกนิ จรงิ แกผ่ จู้ ากไปเมอ่ื วนั วานสโู่ ลกหนา้ มากเพยี งใด กไ็ มอ่ าจ
มอบเกยี รติยศเหลา่ นนั้ ให้แก่เขาได้จริงๆ หรอก ถา้ เขาเดินทางไปยงั หมูเ่ กาะ
อินดิสอันไกลโพ้นในโลกของคนเป็น เหตุใดบริษัทประกันชีวิตจึงยอมจ่าย

3ตงั้ อยบู่ นเกาะกลางอา่ วมมุ ไบ (บอมเบย)์ ประเทศอนิ เดยี เปน็ ถำ�้ ทเี่ กดิ จากฝมี อื มนษุ ยเ์ มอ่ื กวา่ 1,500 ปี
โดยกษตั รยิ ร์ าชวงศไ์ ตรกฎู กะไดส้ รา้ งขนึ้ เพอื่ อทุ ศิ ถวายเปน็ เทวสถานแดอ่ งคพ์ ระศวิ ะ ภายในประดษิ ฐาน
พระศิวลงึ ค์ ผนังห้องแกะสลกั เปน็ เรื่องราวเทพปกรณมั ในศาสนาฮนิ ดู
4 สันดอนทรายยาว 10 ไมล์บริเวณช่องแคบอังกฤษ ซึ่งมีเรืออับปางบริวเณนั้นกว่าสองพันล�ำ ภายหลัง
มกี ารวางทุ่นและประภาคาร เตอื นใหน้ ักเดนิ เรอื ได้ทราบตำ� แหนง่ ที่เป็นหาดตื้นเพ่ือป้องกันอบุ ัตเิ หตุ

50 : โมบี้-ดิ๊ก


Click to View FlipBook Version