The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โมบี้-ดิ๊ก ผลงานคลาสสิกของ Herman Melville ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดยสำนักพิมพ์ทับหนังสือ ฉบับปรับปรุงจากต้นฉบับแปล “โมบี้-ดิ๊ก ฉบับประชาชน” โดยโครงการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการแปล Moby-Dick; or, The Whale นวนิยายของ เฮอร์แมน เมลวิลล์ เป็นภาษาไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by BS_Library, 2019-12-20 01:23:42

Moby Dick โมบี้ ดิ๊ก

โมบี้-ดิ๊ก ผลงานคลาสสิกของ Herman Melville ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดยสำนักพิมพ์ทับหนังสือ ฉบับปรับปรุงจากต้นฉบับแปล “โมบี้-ดิ๊ก ฉบับประชาชน” โดยโครงการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการแปล Moby-Dick; or, The Whale นวนิยายของ เฮอร์แมน เมลวิลล์ เป็นภาษาไทย

Keywords: วรรณกรรม

ในพิธีราชาภิเษก? แน่นอนว่าต้องไม่ใช่น�้ำมันมะกอก น�้ำมันใส่ผม1 น�้ำมัน
บีเวอร2์ น้ำ� มนั หม3ี น�ำ้ มนั วาฬ4 หรอื น�ำ้ มันตบั ปลา แต่จะเปน็ อะไรไปเสยี ไม่
ได้ นอกจากไขวาฬหัวทยุ *5ซ่งึ ไม่สามารถผลติ เองได้ และไม่ก่อให้เกิดสภาพ
มลพิษ เปน็ นำ้� มนั ท่ียอดเยี่ยมทส่ี ดุ ในบรรดาน�้ำมันทง้ั มวล

รู้ไว้ด้วยเถิด...ชาวจักรภพอังกฤษทั้งหลาย! ว่าพวกเราเหล่านักล่าวาฬนี่
แหละ เป็นผู้จัดหาของส�ำคัญส�ำหรับใช้ในพิธีราชาภิเษกของพระราชาและ
พระราชินีของพวกท่าน!

1  นำ้� มันใสผ่ ม-ว่ากันว่า มาจากเมอื งท่ามาคัสซาร์ อินโดนีเซีย
2  น้ำ� มันบเี วอร-์ จากตวั บีเวอร์ ขนบเี วอรก์ ็นิยมทำ� เป็นหมวก
3  น้�ำมนั หมี-ใชแ้ ตง่ ผมให้เรยี บ ทำ� จากไขมันหมี
4  นำ้� มนั วาฬ-จากไขวาฬ (ระหว่างผิวหนังกบั กล้ามเน้อื ) โดยเฉพาะจากวาฬไรตแ์ ละวาฬหวั คันศร
5  ไขวาฬหวั ทยุ -วาฬสเปริ ม์ หรอื วาฬหวั ทยุ เขย้ี วและฟนั ใชท้ ำ� เครอื่ งประดบั ไขมนั ใชใ้ นอตุ สาหกรรมตา่ งๆ
เนอ้ื สำ� หรบั รบั ประทาน อาเจยี นหรอื มลู ของวาฬสเปริ ม์ ยงั มลี กั ษณะแขง็ เหมอื นอำ� พนั และมกี ลน่ิ หอมเปน็
ลักษณะพิเศษ เป็นของหายาก ราคาแพง ใช้เป็นส่วนส�ำคัญในการผลิตหัวน้�ำหอมและยาได้ด้วย เรียก
ว่า "อำ� พันขี้ปลา" หรือ "อำ� พนั ทะเล" หรอื "ขป้ี ลาวาฬ" และท่สี ่วนหัวยังมสี ารพิเศษคล้ายไขมันหรอื ขผี้ ึ้ง
เรยี กว่า "ไขปลาวาฬ" ซึง่ ใชใ้ นการผลติ โลชัน่ และเวชภัณฑช์ นิดตา่ ง ๆ (จากวิกีพเี ดยี )

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 151

บทที่ 26

อศั วินและผู้ชว่ ย (1)

ต้นเรือบนเรือพีควอดคือสตาร์บัค เขาเป็นชาวพ้ืนเมืองแนนทักเก็ต และ
เป็นเควกเกอร์โดยสายเลือด เป็นคนสุขุมจริงจัง แม้เกิดบนชายฝั่งหนาวจัด
แต่กป็ รบั ตัวได้ดียามเมือ่ ตอ้ งไปอยู่บรเิ วณเสน้ รุง้ อันรอ้ นอบอา้ ว ร่างกายของ
เขาทรหดอดทนเปน็ สองเท่าของขนมปังอบกรอบ เม่อื ล่องไปแถวเกาะอินดิส
เลือดในตัวก็ไม่บูดเน่าเหมือนเหล้าเบียร์ในขวด เขาคงต้องเกิดในช่วงวิกฤติ
แล้งและทุพภิกขภัย หรือไม่ก็วันอดอาหาร1 จึงท�ำให้ปรับตัวได้ดียิ่ง เขาเพิ่ง
ผ่านหน้าร้อนอันแห้งแล้งมาเพียงสามสิบฤดูเท่านั้น ฤดูร้อนเหล่าน้ันรีดส่วน
เกินของรา่ งกายเขาไปหมด กระนนั้ ความผอมบางของเขากไ็ มใ่ ชร่ ้ิวรอยแหง่
ความกงั วลหรอื กลดั กลมุ้ อนั สญู เปลา่ แตด่ เู ปน็ แคค่ วามเหย่ี วแหง้ ของรา่ งกาย
เท่าน้ัน น่ันเป็นเพียงการกล่ันความเข้มในแก่ชายคนนั้น เขาไม่ได้ดูไม่ดีเลย
ตรงกันข้าม ผิวพรรณกลับกระชับเกลี้ยงเกลาไม่มีท่ีติ ห่อหุ้มและเก็บรักษา
สุขภาพและพละก�ำลังไว้ภายในเหมือนชาวอียิปต์ฟื้นคืนชีพ สตาร์บัคผู้นี้
เหมือนเตรียมพร้อมส�ำหรับการมีชีวิตอันยืนยาว มีความทรหดอดทนเสมอ
แม้ในตอนนี้ เพราะไม่ว่าจะอยู่ท่ามกลางหิมะขั้วโลกหรือใต้แสงอาทิตย์ร้อน
ระอุ พลงั ใจในตวั กเ็ ปน็ หลกั ประกนั ซง่ึ ทำ� หนา้ ทไี่ ดด้ ใี นทกุ ๆ สภาพอากาศ ไม่

1  วันอดอาหาร-วันร่วมอดอาหารและสวดภาวนาในรัฐแมสซาชูเซตส์ในปี 1670 และถูกยกเลิกไปในปี
1894 โดยเปลีย่ นเปน็ “วันคนรักชาติ” แทน

152 : โมบ-้ี ด๊กิ

ตา่ งจากนาฬกิ าทม่ี คี วามเทยี่ งตรงสงู 2 เมอ่ื มองเขา้ ไปในดวงตาเขา คณุ ราวกบั
จะเหน็ ภาพภยนั อนั ตรายหลายรอ้ ยพนั ครงั้ ทเ่ี ขาเผชญิ มาตลอดชวี ติ ดว้ ยจติ ใจ
อันสงบน่ิง เป็นชายผู้สุขุม แน่วแน่ ซ่ึงชีวิตส่วนใหญ่คือละครใบ้ท่ีบ่งบอกถึง
การลงมือท�ำ ไม่ใช่ด้วยการพูดหรือใช้เสียงอย่างน่าเบ่ือ กระนั้น นอกเหนือ
จากความหนักแน่นสุขุมและทรหดอดทนแล้ว เขายังมีคุณลักษณะพิเศษอีก
หลายอยา่ งที่ส่งผลในหลายๆ ครั้ง และบางกรณแี ทบจะเหนือกว่าคณุ สมบตั ิ
อ่ืนทั้งหมด เป็นชาวทะเลผู้มีส�ำนึกรู้ที่ไม่ธรรมดา อีกท้ังยังให้ความเคารพ
ในธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง และด้วยความอ้างว้างท่ามกลางสายน�้ำดุดันในชีวิต
ทำ� ใหเ้ ขาออกจะเชอ่ื ถอื โชคลางอยา่ งจรงิ จงั แตก่ เ็ ปน็ การเชอ่ื ถอื โชคลางทดี่ จู ะ
ทำ� ใหอ้ งคป์ ระกอบบางอยา่ งเกดิ ขนึ้ ซง่ึ เปน็ การใชส้ ตปิ ญั ญา ไมใ่ ชอ่ วชิ ชา และ
เปน็ การใชส้ ญั ญาณบอกเหตจุ ากภายนอกรว่ มกบั ลางสงั หรณภ์ ายในตวั เขาเอง
หากจะมบี า้ งบางครงั้ คราทส่ี งิ่ เหลา่ นท้ี ำ� ใหเ้ หลก็ หลอมแหง่ จติ วญิ ญาณของเขา
ต้องโค้งงอ โดยเฉพาะอย่างย่ิงความทรงจ�ำเกี่ยวกับครอบครัวซ่ึงอยู่ห่างไกล
คือภรรยาสาวและลูกที่แหลมเคปคอด3 กลับยิ่งเพ่ิมแกร่งกร้าวอันเป็นนิสัย
ด้ังเดิมของเขา และขุดเอาศักยภาพอันซ่อนเร้นออกมา ซ่ึงส�ำหรับชายผู้มีใจ
สตั ยซ์ ่ือบางคนแล้วอาจเปน็ สิง่ ท่ีไปเหนยี่ วรัง้ ความกล้าบา้ ระห่�ำ ท่ีพบเหน็ อยู่
บ่อยครั้งว่าเป็นอันตรายย่ิงกว่าในการท�ำการประมง “ในเรือของฉันต้องไม่มี
ใคร...” สตาร์บัคบอก “ท่ีไม่กลัววาฬ” ดูเหมือนค�ำพูดนี้เขาไม่เพียงหมายถึง
ความกล้าอันเป็นประโยชน์และเช่ือถือได้มากท่ีสุดอันเกิดจากการประเมิน
อันตรายท่กี �ำลังเผชญิ อยา่ งตรงไปตรงมา แตห่ มายถึงวา่ คนไมร่ ูจ้ ักกลัวอะไร
เลยนน้ั กลบั เป็นอนั ตรายเสียยิง่ กว่าเพอ่ื นผขู้ ข้ี ลาด

“ใชแ่ ลว้ ใช่” ตน้ หนสตับบ์พดู “คนรอบคอบแบบสตรบ์ คั ก็มใี นทกุ ทีท่ ่ที �ำ
การประมงแหละ” กระนน้ั เรารกู้ นั มากอ่ นหนา้ นน้ี านแลว้ วา่ คำ� วา่ “รอบคอบ”

2  นาฬิกาที่มีความเท่ียงตรงสูง-นาฬิกาที่ได้ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงจากสถาบันตรวจสอบความ
เท่ียงตรงของนาฬิกาแห่งสวิสต์เซอร์แลนด์ ในที่น้ีหมายถึงนาฬิกาท่ีมีความเท่ียงตรง ซึ่งออกแบบเพื่อ
ใช้ในการเดนิ เรอื ท่ีสมบุกสมบนั
3  แหลมเคปคอด-ในแมสซาชเู ซตส์

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 153

หมายถงึ อะไร หากออกจากปากของคนอยา่ งสตบั บห์ รอื นกั ลา่ วาฬแทบทกุ คน
สตาร์บัคไม่ใช่นักรบสงครามศาสนาหลังเผชิญอันตราย ส�ำหรับเขาความ

กลา้ หาญไมใ่ ชเ่ รอ่ื งอารมณค์ วามรสู้ กึ แตต่ อ้ งเปน็ สงิ่ ทม่ี ปี ระโยชนต์ อ่ เขาอยา่ ง
แทจ้ รงิ และนำ� มาใชใ้ นยามคบั ขนั ได้ ยงิ่ ไปกวา่ นนั้ เขาคดิ วา่ บางทธี รุ กจิ ลา่ วาฬ
ควรมีความกล้าหาญเป็นพ้ืนฐานส�ำคัญประจ�ำเรือ เหมือนท่ีต้องมีเนื้อและ
ขนมปงั ตดิ เรอื ไว้ แตก่ ไ็ มค่ วรใชไ้ ปอยา่ งโงเ่ ขลาเปลา่ ประโยชน์ ดว้ ยเหตนุ ี้ เขาจงึ
ไมช่ อบเอาเรอื เลก็ ลงลา่ วาฬหลงั อาทติ ยต์ ก และไมด่ งึ ดนั ตอ่ สกู้ บั วาฬทดี่ งึ ดนั
สกู้ บั เขาไมล่ ดละ สตารบ์ คั คดิ วา่ ฉนั มามหาสมทุ รเสย่ี งภยั ฆา่ วาฬเพอื่ หาเลย้ี ง
ชีพ ไม่ใช่มาให้ถูกฆ่าเพ่ือเป็นอาหารของพวกมัน มีคนจ�ำนวนหลายร้อยคน
ซ่ึงสตาร์บัครู้จักดีถูกฆ่า เคราะห์กรรมนั้นเกิดกับบิดาเขาด้วยหรือเปล่า?
ลกึ ลงไปเบือ้ งลา่ งไรก้ น้ บ้ึงน้ัน เขาจะไปตามหาเศษแขนขาของผู้เป็นพี่ชายได้
จากแหง่ ใดกนั ?

แมจ้ ากความทรงจำ� ทง้ั หลายเหลา่ น้ี และยงิ่ กวา่ นน้ั จากการเชอ่ื ถอื โชคลาง
บางอย่างดังไดก้ ล่าวไวก้ อ่ นหน้า แต่ความหา้ วหาญของสตารบ์ คั ผนู้ ้กี ็ยังมีอยู่
อย่างเปี่ยมล้น และยังสามารถเพิ่มพูนไปจนถึงขีดสุดได้ แต่ธรรมชาติไม่ได้
ท�ำให้คนเรามีความลงตัวแบบนั้น ทั้งเขายังเคยผ่านประสบการณ์และความ
ทรงจ�ำอันเลวร้ายมากอ่ นดว้ ย และธรรมชาติกไ็ มอ่ าจสร้างธาตุแท้ซึ่งซ่อนอยู่
ในตัวเขา ซ่ึงอาจพังท�ำนบกั้นออกมาในช่วงสถานการณ์เหมาะสมและปะทุ
ความห้าวหาญของเขาข้ึน และแม้เขาจะเป็นคนกล้า ก็เป็นความกล้าชนิดท่ี
พบเห็นสว่ นใหญ่ในผู้กลา้ ตัวจรงิ ผ้ยู ืนหยัดตอ่ สู้กับทอ้ งทะเล ลมพายุ ฝงู วาฬ
หรอื ความกลวั อนั ปราศจากเหตผุ ลอนื่ ใดในโลก ทง้ั ยงั ไมย่ อมทนกบั การขขู่ วญั
ที่ย่ิงกว่า อันเก่ียวข้องกับจิตวิญญาณ ซ่ึงบางคร้ังมนุษย์ผู้กราดเกร้ียวและมี
อ�ำนาจอาจข่ขู วัญให้คุณกลวั ได้

แตท่ จี่ ะกลา่ วถงึ ตอ่ ไปนน้ั เปน็ กรณตี วั อยา่ งของความกลา้ แกรง่ ทเ่ี สอ่ื มถอย
ของสตารบ์ คั ผนู้ า่ เวทนา มนั รอ่ ยหรอลงจนผมไมม่ กี ะใจจะเขยี นถงึ เพราะเปน็
เรื่องน่าเศร้าสุดแสน หรือไม่ก็น่าใจหาย ที่ต้องเผยให้รู้ถึงความตกต่�ำของจิต

154 : โมบี-้ ด๊กิ

วิญญาณอันองอาจ คนเราอาจท�ำท่าชิงชังบริษัทร่วมลงทุนและประเทศชาติ
ท่ีมีคนคดโกง คนโง่ขาดสติ และคนร้ายฆ่าคนตาย คนเราอาจซ่อมซ่อหน้า
แหง้ แต่วา่ โดยอดุ มคตแิ ลว้ มนษุ ยน์ ั้นสูงส่งและเปลง่ ประกาย ส่ิงมีชีวติ อนั ยิง่
ใหญแ่ ละรงุ่ โรจน์ เชน่ นนั้ ยอ่ มสงู สง่ กวา่ มลทนิ อปั ยศใดๆ ทต่ี ดิ ตวั เขา ซงึ่ เพอื่ น
มนษุ ยข์ องเขาควรพรอ้ มใจโยนเครอื่ งหอ่ หมุ้ ราคาแพงของตนทงิ้ ไป ความเปน็
ลูกผชู้ ายผู้ไรม้ ลทินแบบนนั้ คือสิง่ ทเ่ี รารู้สกึ ไดใ้ นตัวเราเอง และยงั อยคู่ กู่ บั เรา
อย่างสมบูรณ์ แม้ภายนอกจะดูแปรเปล่ียนไปจนหมดสิ้นแล้วก็ตาม น่ีแหละ
ทท่ี ำ� ใหเ้ ราแสนเจบ็ ปวดเมอื่ เหน็ ชายผสู้ ญู สนิ้ ความกลา้ และไมอ่ าจศรทั ธาตอ่
ภาพอปั ยศเชน่ นน้ั ได้ จนบบี คน้ั ใหเ้ ราประณามดวงชะตาทที่ ำ� ใหเ้ กดิ เรอื่ งเชน่ นี้
ขึน้ กระนน้ั เกยี รติศกั ดิ์อันสงา่ งามทีผ่ มยึดถือเสมอมา ไม่ใชฐ่ านนั ดรศักดข์ิ อง
พระราชาหรือชุดประดับยศถาบรรดาศักดิ์ หากแต่เป็นเกียรติศักดิ์ทั่วไปที่ไม่
ต้องมีพิธีแต่งต้ังประดับยศถาแต่อย่างใด ท่านจะได้ประจักษ์ว่า มันเจิดจรัส
อยู่ในมือท่ีใช้ถือพล่ัวหรือเก่ียวรวงข้าว เป็นเกียรติศักด์ิอันเสมอภาคที่ทุกคน
เปล่งประกายไร้สิ้นสุดของพระเจ้าได้ ด้วยตัวของเขาเอง! พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
อยา่ งสมบูรณ.์ ..เปน็ ศูนยก์ ลางและรัศมแี ห่งความเสมอภาค! พระองคป์ รากฏ
อย่ทู กุ หนแห่ง เป็นความเสมอภาคเท่าเทียมกนั ของพระเจ้าของเรา!

เมอ่ื เปน็ เชน่ นแี้ ลว้ สำ� หรบั พวกลกู เรอื เฬวราก ผถู้ กู ทอดทง้ิ และถกู ลอยแพ
ตอ่ จากนไี้ ปผมกจ็ ะถอื วา่ เปน็ ผลมาจากคณุ สมบตั อิ นั สงู สง่ แมค้ วามมดื มดิ จะ
บดบังคุณค่าพวกเขาไปอย่างน่าเศร้าใจ แม้แต่ความโศกสลดท่ีสุดอาจท�ำให้
ตอ้ งเสอ่ื มเสยี เกยี รตอิ ยา่ งสดุ แสน แตบ่ างครง้ั เขากจ็ ะแสดงออกถงึ ความสงู สง่
ยามเมื่อผมสัมผัสได้ถึงแสงสวรรค์ในอุ้งมือของกรรมกรคนน้ัน ยามเม่ือผม
คลข่ี จายสายรงุ้ เหนอื ดวงอาทติ ยอ์ นั วบิ ตั อิ บั เฉาของเขา และตอ่ ตา้ นนกั วพิ ากษ์
จอมรา้ ยกาจทง้ั มวล ผยู้ นื ยนั ใหผ้ มเชอื่ เชน่ นนั้ ทา่ นผอู้ า้ งจติ วญิ ญาณแหง่ ความ
เสมอภาค แต่กลับยกย่องพวกเจ้าใหญ่นายโตไว้เหนือชนชั้นผม พยายาม
ยืนยันให้ผมเชื่อ ท่านผู้ด�ำรงตนเป็นพระเจ้าแห่งความเสมอภาคผู้ย่ิงใหญ่

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 155

ผไู้ มป่ ฏิเสธการตดั สนิ โทษบันยนั 4 คนสีผิวผู้เป็นไข่มกุ แหง่ งานประพนั ธอ์ ันไร้
สผี วิ ทา่ นผแู้ ตง่ กายดว้ ยแผน่ ทองเนอ้ื ดสี องชน้ั ขณะทผี่ เู้ ฒา่ เซรบ์ นั เตส5สวมแค่
เสือ้ ผ้าอนาถาแขนเดยี ว ท่านผู้เลือกแอนดรูว์ แจก็ สัน6มาจากก้อนกรวด แล้ว
ขวา้ งปาเขาขณะอยบู่ นมา้ ศกึ และแผดเสยี งคำ� รามเหนอื บลั ลงั กข์ องเขา! ทา่ น
ผู้ทรงอ�ำนาจ ผู้ก้าวย�่ำโลกและเลือกบุคคลยอดเยี่ยมจากคนธรรมดาสามัญ
ผดู้ ำ� รงตนเยยี่ งพระราชา แลว้ ยงั จะยนื ยนั ใหผ้ มเชอ่ื ในสง่ิ นนั้ หรอื โอ.้ ..พระเจา้ !

4  จอหน์ บนั ยนั (1628-1688) นกั เทศนช์ าวองั กฤษ ขณะถกู จองจำ� เพราะ “เทศนโ์ ดยไมม่ ใี บอนญุ าต” เขา
ไดเ้ ขยี นนวนยิ ายชงิ ปรียบเปรยชอื่ “The Pilgrim's Progress” (กา้ วใหมข่ องนกั แสวงบุญ) ซึ่งว่าด้วยการ
เดนิ ทางไปสสู่ วรรคข์ องทกุ ผคู้ น และเปน็ หนง่ึ ในหนงั สอื ภาษาองั กฤษทม่ี กี ารอา่ นกนั อยา่ งแพรห่ ลายทส่ี ดุ
5  มเี กล เด เซรบ์ นั เตส นกั เขยี นชาวสเปนผเู้ ขยี น Don Quixote (เรอื่ งราวของขนุ นางผตู้ ำ่� ศกั ดทิ์ ย่ี ดึ มน่ั และ
ทำ� ตามอุดมคตจิ นถูกกล่าวหาวา่ วกิ ลจริต) เขาเสียแขนซา้ ยไปตอนเข้ารว่ มรบทเี่ ลปันโต
6  แอนดรู แจ็คสัน ประธานาธิบดีคนท่ี 7 ของสหรัฐอเมริกา ผู้เคยมีประวัติค้าทาส และมีชื่อเสียงโด่งดัง
เป็นคร้งั แรกจากการท�ำสงครามกบั ชาวอินเดียแดงทีค่ รีก
156 : โมบ้-ี ดิ๊ก

บทที่ 27

อัศวนิ และผู้ชว่ ย (2)

สตับบ์เป็นต้นหน เขาเป็นคนพื้นเมืองแหลมเคปคอด ซึ่งภาษาท้องถ่ินเรียก
ชาวเคปคอด เป็นคนสบายๆ ไม่ค่อยทุกข์ร้อนกับอะไร ไม่ข้ีขลาด แต่ก็ไม่
ถึงกับอาจหาญ รับมือกับอันตรายด้วยท่าทีที่ต่างกันไป และยามเมื่อเข้า
สู่สถานการณ์คับขันในการไล่ล่า เขาจะมุมานะอย่างหนัก เยือกเย็น และ
ควบคุมสติได้ดีดังเช่นช่างฝีมือผู้มีประสบการณ์มาแรมปี เขาเป็นคนง่ายๆ
อารมณ์ดี และไม่ค่อยวิตกกังวลกับอะไร เขาควบคุมเรือล่าวาฬฝ่าอันตราย
ร้ายแรงราวกับนั่นเป็นแค่อาหารมื้อค่�ำ และลูกเรือท้ังหมดล้วนเป็นแขกรับ
เชิญ เขาก�ำหนดท่ีน่ังอันเหมาะสมบนเรือเป็นพิเศษ เช่นเดียวกับท่ีคนขับรถ
ม้าก�ำหนดทว่ี างกล่องลับ1 เมื่อโรมรันกับวาฬอย่างเอาเป็นเอาตาย เขาจะจับ
ฉมวกเพชฌฆาตขน้ึ ไวใ้ นมอื อยา่ งเยอื กเยน็ เฉยเมย ราวกบั ชา่ งบดั กรผี วิ ปากจบั
ค้อน แมก้ ระทั่งอาจฮัมเพลงเก่าริกเกดิก2ออกมายามเรือตขี นาบเจา้ อสรุ กาย
ยักษท์ ก่ี ำ� ลังบ้าคลงั่ สำ� หรบั สตบั บ์แล้ว เขายดึ ถือคตโิ บราณที่วา่ แปรเปลี่ยน
เขี้ยวมัจจุราชให้เป็นที่นั่งสบายๆ เขาคิดเช่นไรกับความตาย ไม่มีใครบอกได้
ที่อาจจะเปน็ คำ� ถามก็คอื เขาเคยคดิ ถงึ มันบา้ งหรือเปล่า แต่ไมต่ ้องสงสัยเลย
ว่า ถ้ามีโอกาสได้ถามใจตัวเองหลังอาหารม้ือค�่ำอันผาสุกเหมือนเช่นกะลาสี
ทดี่ คี นหนงึ่ เขายอ่ มตอ้ งมองความตายคลา้ ยกบั เสยี งตะโกนใหร้ ะวงั จะรว่ งตก
จากเสากระโดงเรือ และกระตุ้นให้พวกเขาท�ำในส่ิงซึ่งจะเห็นผลได้ถ้าปฏิบัติ

1 กล่องลบั -กล่องไมท้ ซ่ี ่อนไวใ้ ต้ที่น่งั คนขบั รถม้า เมื่อต้องขนทองแท่งหรือของมคี ่าอย่างอืน่
2 รกิ เกดกิ -หรือริกเกดูน เพลงเต้นรำ� จงั หวะเรว็ รา่ เริง วา่ กนั วา่ มาจากเพลงฝร่งั เศส

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 157

ตาม แลว้ กเ็ หน็ ในทันทดี ้วย
บางทีอาจมีสิ่งอื่นอีกที่ท�ำให้สตับบ์เป็นคนง่ายๆ ไม่กลัวอะไร ในโลกอัน

เตม็ ไปดว้ ยคนเร่ขายความตาย จนทกุ คนต้องก้มหน้าแบกภาระไวบ้ นบ่า เขา
กลับเดินผิวปากย�่ำเท้าอย่างร่าเริง สิ่งท่ีท�ำให้เขามีอารมณ์ดีจนแทบไม่สน
พระเจา้ แบบนนั้ กค็ งตอ้ งเปน็ กลอ้ งยาสบู เพราะจะเหน็ กลอ้ งยาสบู ขนาดเลก็
สน้ั สดี ำ� นนั้ บนใบหนา้ เขาเสมอ ไมต่ า่ งจากจมกู หากคณุ เหน็ เขาลกุ จากทนี่ อน
โดยปราศจากกล้องสูบยา ก็คงไม่ต่างอะไรจากเห็นใบหน้าเขาไม่มีจมูก เขา
จะบรรจุยาเส้นใส่กล้องยาสูบทุกอัน แล้วเรียงเป็นแถวไว้บนช้ันเตรียมพร้อม
ส�ำหรับหยิบใช้ได้โดยง่าย เมื่อถึงเวลาเข้านอน ก็จะไล่สูบกล้องทุกอันอย่าง
ต่อเนื่อง จากอันหน่ึงไปยังอีกอันจนสุดแถว จากนั้นก็จะบรรจุยาเส้นทุกอัน
ใหมแ่ ลว้ วางเรยี งเตรยี มไวอ้ กี ครง้ั เวลาสตบั บแ์ ตง่ ตวั ในตอนเชา้ แทนทจี่ ะสวม
กางเกงก่อน เขากลบั หยิบกล้องสบู ยาใส่เขา้ ปากกอ่ นเปน็ อันดบั แรก

ผมว่าการสูบยาอย่างต่อเน่ืองนี่ต้องเป็นอีกสาเหตุหน่ึงแน่ อย่างน้อยก็
ท�ำให้เขามีนิสัยประหลาดๆ แบบน้ัน อย่างท่ีทุกคนรู้กันว่าอากาศบนโลก
เรานี้ ไม่ว่าบนฝั่งหรือบนเรือ ล้วนมีเช้ือโรคร้ายแพร่กระจายอยู่ ซึ่งเกิดจาก
ลมหายใจของผู้ป่วยท่ีเสียชีวิตไปมากมายนับไม่ถ้วน ช่วงที่อหิวาตกโรค
แพร่ระบาด หลายคนใช้ผ้าเช็ดหน้าเหยาะการบูนการบูรปิดปาก ท�ำนองว่า
ใช้ป้องกันโรคร้ายแรงท้ังปวง บางทีควันยาสูบของสตับบ์อาจท�ำหน้าท่ีเป็น
เหมือนด่งั สงิ่ ฆา่ เชือ้ กเ็ ป็นได้

ฟลาสก์เป็นรองต้นเรือ เขาเป็นคนพ้ืนเมืองทิสบิวรี ในสวนองุ่นของมาร์
ทา3 เป็นชายหนมุ่ ร่างเตยี้ ล�่ำ ผวิ ด�ำแดง ชอบสู้กับวาฬเป็นชีวติ จติ ใจ เขาอาจ
คดิ ว่าสตั ว์ทะเลใหญย่ กั ษเ์ หลา่ น้นั มลี ักษณะทีไ่ ด้รบั สืบทอดตอ่ ๆ กนั ใหม้ าย่วั
อารมณโ์ กรธของเขา และดว้ ยเหตนุ ี้ เขาจงึ ถอื เปน็ เกยี รตทิ จ่ี ะกำ� จดั พวกมนั ให้
สิ้นซากทกุ ครง้ั ท่พี บเจอ เขาไมเ่ คยนกึ หวาดหว่ันต่อขนาดอันใหญโ่ ตนา่ พศิ วง
หรอื ความลลี้ บั ของมนั และเฉยชาตอ่ อนั ตรายทอี่ าจเกดิ ขนึ้ ยามเผชญิ หนา้ กบั

3  สวนองนุ่ ของมารท์ า-เกาะวนิ ยาร์ด อยทู่ างตอนใตข้ องแหลมเคปคอด แมสซาชูเซตส์

158 : โมบ-ี้ ดกิ๊

พวกมัน ด้วยทัศนะท่ีออกจะขาดความรอบคอบน่ัน ท�ำให้เขาเห็นวาฬยักษ์
เป็นแคเ่ พียงหนตู ัวใหญ่ หรอื ไม่ก็แค่หนนู ้ำ� ท่ีใชเ้ วลาและอบุ ายเลก็ ๆ น้อยๆ
ก็จับมาฆ่าและต้มได้แล้ว ความกล้าบ้าบ่ินอย่างขาดสติท�ำให้เขามองการล่า
วาฬเป็นเรื่องเล่นๆ เขาไล่เจ้าปลาพวกนี้ไปเพราะรู้สึกสนุก สามปีของการ
เดินทางออกจากแหลมเคปฮอร์นมีแต่เร่ืองร่ืนเริงบันเทิงใจตลอดระยะเวลา
อันยาวนานน้ัน ตะปูของช่างไม้แบ่งเป็นตะปูตีขึ้นรูป4 กับตะปูตัด5 มนุษย์
ก็อาจแบ่งได้เป็นสองประเภทเช่นกัน เจ้าหนุ่มฟลาสก์จัดเป็นประเภทตะปู
ตขี นึ้ รปู ซง่ึ มลี กั ษณะตอกแนน่ และทนนาน คนบนเรอื เรยี กเขาวา่ “คงิ โพสต6์ ”
แหง่ เรอื พคี วอด เพราะรปู รา่ งเขาทำ� ใหน้ กึ ถงึ เรอื ไมล้ ำ� สนั้ ๆ เหลย่ี มๆ ทรี่ จู้ กั กนั
ในชอ่ื เรอื ลา่ วาฬขว้ั โลกเหนอื ซง่ึ จะสอดทอ่ นไมจ้ ำ� นวนมากยนื่ แผอ่ อกมาจาก
ดา้ นข้าง เพ่อื คำ้� ยนั เรอื ใหล้ ุยฝ่าไปบนผวิ ทะเลที่มีนำ้� แข็งกระแทกกระทั้นได้

ผชู้ ว่ ยกปั ตนั ทงั้ สาม สตารบ์ คั สตบั บ์ และฟลาสก์ มคี วามสำ� คญั มาก พวก
เขาจะเปน็ ผสู้ งั่ การบนเรอื เพชฌฆาตสามลำ� ของพคี วอด ยามเมอ่ื กปั ตนั เอแฮบ็
สั่งปล่อยกองเรือเล็กลงจู่โจมพวกวาฬ เพชฌฆาตท้ังสามก็จะท�ำหน้าท่ีเป็น
กัปตันในกองเรือจู่โจม หรือไม่ก็คว้าหลาวล่าวาฬคมยาวโดดร่วมไล่ล่าด้วย
แมจ้ ะมีพวกนกั พงุ่ ฉมวกท�ำหน้าท่ปี าหลาวอยู่แลว้ กต็ าม

ตามธรรมเนยี มของการประมงแบบนี้ ผชู้ ว่ ยกปั ตนั หรอื เพชฌฆาตจะคลา้ ย
อศั วินยุคเกา่ คือมักมีนายทา้ ยเรือหรือนกั พงุ่ ฉมวกเป็นผู้ช่วยประจ�ำกาย คน
พวกน้ีจะคอยท�ำหน้าที่ส่งหลาวอันใหม่ให้ทุกคร้ังท่ีเห็นหลาวอันเก่าบิดเบ้ียว
โคง้ งอจากการจโู่ จมอยา่ งหนัก ย่ิงกวา่ นนั้ โดยท่ัวไปแล้วท้ังค่ตู ้องฝากชวี ติ ไว้
แกก่ นั ความสมั พนั ธจ์ งึ ตอ้ งแนบแนน่ และคนุ้ เคยกนั เปน็ อยา่ งดี ดว้ ยเหตนุ เ้ี รา
จงึ ตอ้ งจบั คนู่ กั พงุ่ ฉมวกทม่ี อี ยบู่ นเรอื พคี วอดใหเ้ ขา้ ขากบั เพชฌฆาตแตล่ ะคน

4  ตะปตู ีข้ึนรปู - (กอ่ นคริสตกาลถงึ ราว ค.ศ. 1800) เป็นตะปทู ี่ทำ� ด้วยมอื ทีละตวั โดยช่างท�ำตะปู
5  ตะปูตัด- (ค.ศ. 1800-1900) ผลิตด้วยเครื่องจักร โดยตัดแท่งเหล็กและดัดหัวตะปูไปพร้อมๆกัน แต่
หลัง ค.ศ. 1900 จนถึงปัจจบุ ัน จะใช้ตะปทู ที่ �ำจากเส้นลวด ผลิตโดยเครือ่ งจักร
6  คิงโพสต-์ เสายก หรอื เสา (ค่)ู ติดตั้งคนั ยกของบนเรือ

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 159

อนั ดบั แรกสดุ สตารบ์ คั ผเู้ ปน็ ตน้ เรอื ไดเ้ ลอื กควเี ควกเปน็ อศั วนิ ผชู้ ว่ ยของเขา
ซ่ึงทุกคนตา่ งรู้ฝมี อื ของควเี ควกกันแล้ว

คนตอ่ มาแทชเตโก เปน็ ชาวอนิ เดยี นแดงแทจ้ าผาเกยเ์ ฮด บนแหลมดา้ นทศิ
ตะวนั ตกของเกาะวนิ ยารด์ แหง่ มารท์ า ซงึ่ เปน็ บรเิ วณทย่ี งั คงมชี าวอนิ เดยี นแดง
หมบู่ า้ นสดุ ทา้ ยหลงเหลอื อยู่ และเปน็ แหลง่ จดั หานกั พงุ่ ฉมวกคนกลา้ จำ� นวน
มากที่ป้อนแก่เกาะเพื่อนบ้านคือแนนทักเก็ตมานานแล้ว ในแวดวงประมง
มกั เรยี กอนิ เดยี นแดงพวกนวี้ า่ ชาวเกยเ์ ฮด แทชเตโกเปน็ คนรา่ งสงู ผอม ผมดำ�
เขม้ โหนกแกม้ สงู และมดี วงตาดำ� กลมโต ใหญเ่ หมอื นดวงตาของชาวอนิ เดยี ใน
เอเชยี แต่ก็เปล่งประกายแบบคนข้ัวโลกใต้ สิ่งเหลา่ นีบ้ ่งบอกไดว้ ่าเขาสบื สาย
เลอื ดอนั เขม้ ข้นมาจากพรานนกั รบผู้ทระนง ผู้ถอื คนั ธนูไล่ล่ากวางใหญ่ในป่า
พน้ื เมอื งนวิ องิ แลนด์ ในตอนนแี้ ทชเตโกไมต่ ามดมกลน่ิ สตั วร์ า้ ยในปา่ ดงอกี ตอ่
ไป แตห่ นั มาตามรอยไลล่ า่ วาฬยกั ษใ์ นทะเล และจบั ฉมวกอนั แมน่ ยำ� ขน้ึ แทน
ลกู ธนอู นั เทย่ี งตรงของบรรพบรุ ษุ หากมองดกู ลา้ มเนอ้ื แขนขาสนี ำ�้ ตาลออ่ นที่
อ่อนช้อยเหมือนริ้วงูของเขา อาจท�ำให้คุณนึกถึงเร่ืองโชคลางผีสางของพวก
พวิ รติ นั 7ยคุ กอ่ น จนอาจนกึ เชอ่ื ครงึ่ ไมเ่ ชอ่ื ครง่ึ ไดว้ า่ อนิ เดยี นแดงชาวปา่ ผนู้ เ้ี ปน็
บตุ รของผคู้ รอบครองท่ีมอี �ำนาจในฟ้าอากาศ8 แทชเตโกเป็นผชู้ ่วยคกู่ ายของ
สตบั บ์ผเู้ ป็นตน้ หน นกั พ่งุ ฉมวกคนท่สี ามคอื แดก็ กู เป็นคนปา่ ผวิ ดำ� เป็นถา่ น
รา่ งกำ� ยำ� ใหญย่ กั ษ์ กา้ วเดนิ เหยาะราวราชสหี จ์ นดคู ลา้ ยอะฮาซรู สั 9 สองหหู อ้ ย
หว่ งทองขนาดใหญจ่ นเพอ่ื นกะลาสเี รยี กมนั วา่ นอตหวั แหวน และใชร้ อ้ ยเชอื ก
ชกั ใบเรอื ไดเ้ ลย ช่วงวัยหนมุ่ ของแด็กกู เขาสมคั รใจใช้ชวี ิตอยูบ่ นเรอื ล่าวาฬท่ี
จอดอยู่ในอ่าวห่างไกลผู้คนบนชายฝั่งบ้านเกิด และไม่เคยล่องเรือไปท่ีใดใน
โลกเว้นแต่แอฟริกา แนนทักเก็ต และท่าเรือของพวกคนป่าท่ีนักล่าวาฬมัก

7  พวิ รติ นั -(ชว่ งครสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 16-17) กลมุ่ ครสิ ตศ์ าสนกิ ชนทสี่ นบั สนนุ ความเชอื่ และการกระทำ� พธิ ที าง
ศาสนาที่ “บริสุทธ”ิ์ อันรวมไปถงึ เรอื่ งพลังของปีศาจและการไลล่ า่ แมม่ ด
8  ผู้ครอบครองที่มีอ�ำนาจในฟ้าอากาศ-ปีศาจ “เม่ือก่อนพวกท่านเคยด�ำเนินชีวิตในการบาปน้ันตามวิถี
ของโลกนี้ ตามผู้ครอบครองท่ีมีอ�ำนาจในฟ้าอากาศ คือวิญญาณที่ท�ำกิจอยู่ในพวกคนที่ไม่เชื่อฟังใน
เวลานี้” (ไบเบิล, เอเฟซสั 2:2)
9  อะฮาซูรสั -กษตั รยิ ์เปอร์เซยี ในไบเบิล

160 : โมบี้-ดิก๊

ไปจอดเรอื อยเู่ ปน็ ประจำ� หลงั จากใชช้ วี ติ หา้ วหาญอยบู่ นเรอื ประมงซงึ่ เจา้ ของ
เรือให้ความใส่ใจเปน็ พเิ ศษกับลกั ษณะท่าทางของลูกเรือเป็นเวลานานหลาย
ปี ตอนนี้แด็กกูก็ยังคงคุณสมบัติความป่าเถื่อนของตนเอาไว้อย่างครบถ้วน
เขาร่างสูงชะลูดเหมือนยีราฟ และมักเดินผ่ึงผายระหว่างดาดฟ้าเรือด้วยขา
ของร่างท่ีสูงหกฟุตคร่ึงของเขา เม่ือมองดูเขาก็จะสัมผัสได้ถึงท่าทางนบนอบ
แต่ยามเมื่อมีคนขาวไปยืนอยู่ตรงหน้า ก็ดูคล้ายก�ำลังยกธงขาวขอสงบศึก
อยหู่ นา้ ปอ้ มปราการ นา่ แปลกทตี่ อ้ งบอกวา่ อะฮาซรู สั แดก็ กหู รอื ราชนั คนดำ�
นี่กลับเป็นผู้ช่วยข้างกายของเจ้าหนุ่มฟลาสก์ ผู้ที่ดูคล้ายกับเบี้ยหมากรุก
ข้างกายเขาเสียมากกว่า ส่วนลูกเรือคนอื่นๆ บนเรือพีควอด ต้องบอกว่าใน
จ�ำนวนชายหลายพันคนที่จ้างมาท�ำงานหน้าเสากระโดงเรือในธุรกิจล่าวาฬ
ของอเมริกันนี่ มีไม่ถึงครึ่งหน่ึงท่ีเป็นชาวอเมริกันโดยก�ำเนิด แม้อเมริกันแท้
แทบทั้งหมดจะเป็นพวกท่ีมีต�ำแหน่งบนเรือก็ตาม กรณีนี้การประมงวาฬ
อเมรกิ นั กท็ ำ� แบบเดยี วกนั กบั ทหารและทพั บกอเมรกิ นั กองพาณชิ ยน์ าวี และ
กองกำ� ลงั ทหารชา่ ง ทจ่ี า้ งคนมากอ่ สรา้ งทางนำ�้ และทางรถไฟในอเมรกิ า ผมวา่
ทำ� แบบเดยี วกนั กเ็ พราะในทกุ กรณขี า้ งตน้ ชาวอเมรกิ นั พน้ื เมอื ง10มกั รบั หนา้ ท่ี
ใชก้ ลา้ มสมองสงั่ การ แลว้ กห็ นั ไปหาชนชาตอิ นื่ ทเี่ หลอื ในโลกมารบั หนา้ ทเี่ ปน็
กลา้ มเนอ้ื ในการทำ� งาน นกั ลา่ วาฬจำ� นวนไมน่ อ้ ยมาจากหมเู่ กาะอะโซรส์ 11 ซง่ึ
เรือล่าวาฬที่ล่องพ้นเขตแนนทักเก็ตมักแวะไปจอด เพ่ือเกณฑ์ลูกเรือมาจาก
ชาวชนบททแ่ี ขง็ แรงทรหดบนชายฝง่ั ทเ่ี ตม็ ไปดว้ ยหนิ ผานนั้ ทำ� นองเดยี วกนั เรอื
ลา่ วาฬจากกรนี แลนด์ทีล่ ่องออกนอกฮลั ล์12หรือลอนดอน กจ็ ะแวะเทียบท่า
ที่หมู่เกาะเชตแลนด์13เพ่ือเติมก�ำลังคนให้เต็ม โดยระหว่างทางล่องเรือกลับ
บา้ น กจ็ ะแวะสง่ ลกู เรอื เหลา่ นที้ เ่ี ดมิ ดงั นนั้ จงึ กลา่ วเปน็ อนื่ ไปไมไ่ ดเ้ ลย นอกเสยี

10  ชาวอเมรกิ ันพื้นเมือง-ในทน่ี ้ีคอื ชาวอเมรกิ ันโดยกำ� เนิด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนผวิ ขาว
11  หมู่เกาะอะโซร์ส-ต้ังอยู่ตอนกลางของมหาสมุทรแอตแลนติกตอนเหนือ อยู่ทางตะวันตกของกรุง
ลิสบอน โปรตเุ กส
12  ฮัลล-์ เมอื งทา่ ทางชายฝงั่ ตะวันออกของอังกฤษ
13  หมูเ่ กาะเชตแลนด์-อยู่นอกชายฝงั่ ตะวนั ออกเฉียงเหนือของสกอ็ ตแลนด์

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 161

จากวา่ ชาวเกาะสว่ นใหญม่ กั เปน็ นกั ลา่ วาฬทด่ี ที ส่ี ดุ ลกู เรอื บนเรอื พคี วอดแทบ
ทั้งหมดล้วนเป็นชาวเกาะ รวมท้ังพวกแยกตัว*ด้วย ท่ีผมกล่าวแบบน้ันไม่ใช่
เพราะเห็นดีเห็นงามกับลูกเรือท่ีมาจากแผ่นดินใหญ่หรอกนะ เพราะพวก
แยกตัวแต่ละคนซ่ึงมักอยู่บนผืนแผ่นดินท่ีแยกส่วนเป็นของตัวเอง แต่ตอน
น้ีกลับจับกลุ่มกันในเรือ ช่างเป็นกลุ่มแยกตัว14เสียน่ีกระไร! อะแนคชาร์ซิส
คลูตซ์ เป็นตัวแทนกลุ่มของชาวเกาะเล็กเกาะน้อยทั้งหมดในทะเล รวมท้ังท่ี
อยู่สุดโลกด้วย เขาติดตามเฒ่าเอแฮ็บกับลูกเรือพีควอดไปเพ่ือระบายความ
น้อยเน้ือต่�ำใจคับโลกในคอกจ�ำเลย ซ่ึงพวกน้ันไม่กี่คนนักท่ีได้กลับมา โพด�ำ
นะรึ? เขาไม่เค้ยไม่เคยเล่น...อ้า ก็แค่เคยนะ แต่เลิกแล้ว ไอ้หนุ่มอลาบามา
ผู้น่าสงสาร! บนดาดฟ้าหัวเรือพีควอดอันถมึงทึง คุณจะเห็นเขาได้แต่ไกล
รวั แทมบรู นิ 15เบกิ โรงชว่ั เวลาอนั เปน็ นริ นั ดร์ ดงั ลนั่ ไปถงึ กลางเรอื ยามทว่ี า่ กนั วา่
เขาถูกเทวดาเข้าสิง กระหน�่ำกลองแทมบูรินของเขาอย่างคึกคักสนุกสนาน
ตะโกนเรยี กเจา้ โงต่ รงนท้ี ี แล้วทกั ทายวีรบุรษุ ตรงนัน้ ที!

14  พวกแยกตัว-ในทนี่ ี้หมายถงึ นักล่าวาฬทีม่ าจากเกาะซึง่ ตงั้ อยโู่ ดดเดี่ยวหา่ งไกล ไร้ผูค้ นรจู้ ัก
15  แทมบูริน-กลองเล็กคล้ายร�ำมะนา มีลูกพรวนผูก ใช้ตีกับฝ่ามือ หรือส่ันเขย่าให้เกิดเสียงดังกรุ๋งกร๋ิง
เพือ่ ประกอบจงั หวะ

162 : โมบ-้ี ดก๊ิ

บทท่ี 28

เอแฮบ็

แมเ้ รอื แลน่ ออกจากแนนทักเก็ตเปน็ เวลาหลายวนั แลว้ แต่ก็ยงั ไมม่ วี ่ีแววของ
กัปตันเอแฮ็บโผล่ออกมาจากประตูบนดาดฟ้าเรือ ผู้ช่วยกัปตันท้ังสามผลัด
เปลย่ี นเวรยามกนั ตามปกติ กระนน้ั ทกุ สงิ่ ทเ่ี หน็ กด็ จู ะขดั แยง้ กนั เอง เพราะแม้
ดูเหมือนพวกเขาจะเปน็ ผ้บู ัญชาการบนเรือ แต่หลายๆ ครงั้ คำ� บัญชาการนั้น
จะพรง่ั พรอู อกมาจากหอ้ งเครอ่ื งอยา่ งฉบั พลนั และเฉยี บขาด จงึ เปน็ ทช่ี ดั เจน
ว่าทัง้ สามเปน็ เพยี งผู้รับบญั ชาการมาอีกทอดหนง่ึ ใชแ่ ล้ว...จากเหนือหัวจอม
เผด็จการที่อยู่ที่น่ัน ซึ่งแม้จนกระท่ังบัดน้ีก็ยังไม่มีใครได้เห็นตัว เพราะไม่ได้
รับอนญุ าตใหผ้ ่านเขา้ ไปถงึ แหลง่ กบดานอนั ศักด์สิ ิทธิ์ภายในหอ้ งเคร่ืองนน้ั

ทกุ ครงั้ ทเี่ ดนิ ขนึ้ มาบนดาดฟา้ เรอื ภายหลงั เสรจ็ สนิ้ หนา้ ทเ่ี ฝา้ ยามดา้ นลา่ ง
ผมมักหันกลับไปมองด้านท้ายเรือทันที เผ่ือจะได้เห็นใบหน้าใครสักคนที่ยัง
ไม่เคยได้เห็น ผมเริ่มรู้สึกกังวลใจในตัวกัปตันผู้ลึกลับคนน้ี จนทะเลเวิ้งว้าง
ในยามนี้ได้สร้างความว้าวุ่นใจให้แก่ผม น่าแปลก...ความรู้สึกนี้รุนแรงมาก
ย่งิ ขนึ้ ทุกครัง้ ทีภ่ าพหลอนของยาจกอีไลจาห์แวบขึ้นมาโดยไมไ่ ดร้ บั เชิญ ดว้ ย
พลังลี้ลับท่ีผมเองก็ไม่เคยนึกถึงมาก่อน แต่ก็มีพลังอ�ำนาจท่ีท�ำให้ผมไม่อาจ
สกดั กน้ั ความรสู้ กึ อนื่ ๆ ทที่ ว่ มทน้ จนผมเกอื บเผลอตวั ยม้ิ รบั กบั ความชอบกล
จนนา่ ขนลกุ ของผหู้ ยงั่ รพู้ ลิ กึ คนบนทา่ เรอื นนั่ จะเรยี กสง่ิ ทผ่ี มรสู้ กึ นนั้ วา่ อาการ
หวาดหวั่นหรือกระสับกระส่ายก็ตาม แต่ทุกคร้ังท่ีผมมองไปรอบๆ ตัวใน
เรือ ก็ดูเหมือนไม่มีส่ิงใดจะเป็นท่ีมาของความรู้สึกแบบน้ันเลย แม้ว่านักพุ่ง

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 163

ฉมวกผเู้ ป็นลูกเรอื จะมรี ่างกายกำ� ยำ� ปา่ เถ่อื นไร้วัฒนธรรม นอกรตี ไมน่ ับถอื
ศาสนา และจับฉ่ายหลากหลายกว่ากะลาสีผู้นอบน้อมบนเรือพาณิชย์ซ่ึงผม
เคยมีประสบการณ์เคยคุ้นมาก่อน กระน้ันผมยังคงลงความเห็นอย่างเป็น
ธรรมวา่ นเี่ ปน็ ผลมาจากลกั ษณะดเุ ดอื ดเฉพาะแบบในการประกอบอาชพี อนั
บ้าระห�่ำของชาวสแกนดเิ นเวยี 1 ซ่ึงผมโดดเข้าร่วมโดยไม่คดิ หนา้ คดิ หลังก่อน
กระนนั้ ดว้ ยลกั ษณะทเ่ี ปน็ เอกลกั ษณเ์ ฉพาะตวั ของสามเจา้ พนกั งานหรอื สาม
ผู้ช่วยกัปตันบนเรือน่ีเอง ท่ีถือได้ว่ามีส่วนส�ำคัญท่ีสุดท่ีช่วยท�ำให้ความรู้สึก
เคลือบแคลงสงสัยไร้ชีวิตชีวาบรรเทาเบาบางลง และโน้มน้าวให้เกิดความ
เชอ่ื มน่ั และรา่ เรงิ ในทกุ ขณะการเดนิ ทาง ทงั้ สามเปน็ ยงิ่ กวา่ เจา้ พนกั งานบนเรอื
โดยแตล่ ะคนตา่ งมลี กั ษณะตวั แตกตา่ งกนั ไป ซง่ึ พบเหน็ ไดไ้ มง่ า่ ยนกั พวกเขา
ล้วนเป็นอเมรกิ ัน เปน็ ชาวแนนทกั เกต็ ชาววนิ เยิรด์ และชาวเคป เวลาน้อี ย่ใู น
ชว่ งเทศกาลครสิ ตม์ าส ขณะเรอื แลน่ ออกจากทา่ เปน็ ชว่ งเวลาทเ่ี ราหนาวเหนบ็
จากอากาศขว้ั โลกเหนอื แมต้ ลอดเวลาเรอื จะแลน่ ออกหา่ งและมงุ่ ตรงไปทาง
ทศิ ใตก้ ต็ าม ทุกองศาและทุกลบิ ดาของเสน้ ละตจิ ูดทีล่ ่องเรือไป ก็คอ่ ยๆ พา
เราออกหา่ งจากฤดหู นาวอนั โหดรา้ ย ทง้ิ อากาศเลวรา้ ยสดุ ทานทนไวเ้ บอ้ื งหลงั
มนั เปน็ อกี หนงึ่ วนั ทท่ี อ้ งฟา้ มดื ครม้ึ ไมม่ ากนกั แตย่ งั คงมดื มวั คลมุ เครอื เอาการ
ตอนรงุ่ เชา้ ตอนนนั้ ลมปานกลางกำ� ลงั พดั พาเรอื ใหแ้ ลน่ ทะยานไปบนทอ้ งนำ�้
ด้วยแรงอาฆาตพยาบาทสลับสับเปลี่ยนกับความหดหู่เศร้าสร้อย ขณะผม
ก้าวข้ึนไปบนดาดฟ้าเรือเพ่ือท�ำหน้าท่ีเฝ้ายามในช่วงก่อนเท่ียง พลันเหลือบ
ไปมองราวด้านท้ายเรือดว้ ยลางสงั หรณ์บางอย่างทวี่ าบเข้ามา แลว้ กเ็ ปน็ จริง
อยา่ งทสี่ ังหรณ์ กัปตนั เอแฮบ็ กำ� ลังยนื อยูบ่ นดาดฟ้าทา้ ยเรอื น่นั !

ไมม่ อี ากปั กริ ยิ าใดๆ ทบี่ ง่ บอกถงึ ความเจบ็ ปว่ ยทางรา่ งกาย หรอื แมก้ ระทง่ั
อาการเพิ่งฟื้นไข้ เขาดูคล้ายกับคนท่ีหลุดออกมาจากหลักบูชายัญขณะไฟ
เพิ่งลามเลียแขนขาโดยยังไม่ทันเผาไหม้ หรือไม่อาจพรากเอาความเข้มแข็ง

1  การประกอบอาชีพอันบ้าระห�่ำของชาวสแกนดิเนเวีย-เช่น การล่าวาฬ แม้จะมีการล่าวาฬมาตั้งแต่ยุค
ก่อนประวัติศาสตร์ แต่การล่าวาฬในน่านน�้ำสแกนดิเนเวียช่วยศตรวรรษที่ 17 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ
ธรุ กิจลา่ วาฬ

164 : โมบี้-ด๊ิก

ที่ส่ังสมมานานปีไปจากร่างนั้นแม้เพียงอณูเดียว ร่างสูงใหญ่ของเขาเหมือน
หลอ่ หลอมมาจากทองสมั ฤทธ์ิอันแข็งแกร่ง หล่อขน้ึ รูปลักษณ์อนั ถาวรคงทน
คลา้ ยรปู หลอ่ เพอรซ์ อิ สั ของเชลลนี 2ี รว้ิ รอยบางอยา่ งพาดดงิ่ จากเสน้ ผมสเี ทา
เรอื่ ยลงมาจนถงึ ใบหนา้ และลำ� คอกรา้ นเกรยี มของเขา และหายไปในเสอื้ ผา้ ที่
สวมใสอ่ ยู่ คณุ จะเหน็ รว้ิ รอยนนั้ เปน็ เสน้ เรยี วยาวสซี ดี เผอื ด เสน้ รวิ้ รอยทพี่ าด
ลงมานนั้ คลา้ ยกบั รอยทเ่ี กดิ บนไมล้ ำ� ตน้ ตรงสงู ใหญท่ ถี่ กู สายฟา้ ฟาดลงมา โดย
ไม่ฉีกกระชากกิ่งก้านใดๆ ออก แต่ก็กะเทาะเปลือกและครูดเนื้อไม้เป็นรอย
ยาวจากบนสลู่ า่ งก่อนสายฟ้าน้นั จะด่งิ ลงดนิ ทง้ิ ใหต้ ้นไม้ยังคงยนื ต้นเขียวอยู่
โดยมรี ่องรอยประทบั ไว้ ไม่มใี ครบอกได้แน่ชัดว่า ริว้ รอยน้นั เปน็ มาต้งั แตเ่ ขา
เกิดหรือหลงั บาดแผลแหง้ สนทิ แตเ่ ปน็ ทรี่ กู้ ันวา่ หา้ มพดู ถงึ รอยน่นั แมแ้ ต่นอ้ ย
นดิ ตลอดการเดนิ ทาง โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ ในกลมุ่ รองกปั ตนั กระนน้ั ครงั้ หนง่ึ
รุ่นพี่ของแทชเตโก อินเดียนแดงเฒ่าชาวเกย์เฮดอีกคนในกลุ่มลูกเรือ กล่าว
ข้ึนลอยๆ ว่าตอนท่ีเอแฮ็บเกิดรอยแผลเป็นนั้นยังอายุไม่ถึงส่ีสิบปีเต็มด้วย
ซำ้� มันไมไ่ ด้เกดิ ข้นึ จากการต่อสู้อย่างบา้ เลอื ด แต่เกิดจากการต่อสตู้ ามปกติ
ของชีวิตกลางทะเลต่างหาก ค�ำพูดให้ร้ายน่ันดูจะขัดกับส่ิงท่ีแมนซ์มัน3เฒ่า
เคยแย้มออกมาเป็นนัยๆ แกเป็นตาเฒ่าสัปเหร่อผมหงอกผู้ไม่เคยล่องเรือ
ออกจากแนนทักเก็ต และไม่เคยพบเห็นเอแฮ็บจอมโหดมาก่อนเลย แต่ด้วย
ธรรมเนยี มปฏบิ ตั เิ กา่ แกเ่ กยี่ วกบั การออกเรอื และความงมงายแบบเกา่ ๆ ทำ� ให้
เช่ือกันว่าตาเฒ่าแมนซ์มันผู้น้ีมีญาณวิเศษล่วงรู้ส่ิงต่างๆ ด้วยเหตุน้ีจึงไม่มี
ลูกเรือผิวขาวคนใดกล้าโต้แย้งขึงขัง ตอนท่ีแกบอกว่า ถ้ามีการเตรียมฝังศพ
กัปตันเอแฮ็บเมื่อใด...ซ่ึงคงไม่แคล้วแน่ เม่ือน้ันใครก็ตามที่ท�ำภารกิจสุดท้าย
ใหแ้ กร่ า่ งไรว้ ญิ ญาณนนั่ กจ็ ะไดเ้ หน็ รอยแผลเปน็ บนตวั เขาตงั้ แตห่ วั จรดฝา่ เทา้
แกพมึ พำ� ของแกแบบนี้

ทา่ ทที เี่ ตม็ ไปดว้ ยความถมงึ ทงึ ของเอแฮบ็ สง่ ผลตอ่ ผมมาก รว้ิ รอยสซี ดี ท่ี

2  เบนเนวโู ต เชลลนี -ี ศลิ ปนิ ชาวอติ าลี (ค.ศ. 1500 – 1571) ปน้ั รปู หลอ่ ของวรี บรุ ษุ เพอรซ์ อิ สั กำ� ลงั ชศู รี ษะ
หวั งขู องเมดซู า หลังจากสังหารนาง
3  แมนซม์ นั -เรยี กชาวพื้นเมืองทเ่ี กาะมัน ในทะเลไอริช

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 165

เหน็ ชวั่ แวบในตอนแรกนนั้ ยงั นา่ ขนหวั ลกุ ไมถ่ งึ เศษเสยี้ วของขาสขี าวปา่ เถอื่ น
ทเี่ ขาใชห้ ยดั ยนื ผมรมู้ ากอ่ นหนา้ นแี้ ลว้ วา่ ขาสงี านนั้ คอื กระดกู กรามวาฬหวั ทยุ
ทน่ี ำ� มาขดั มนั “นนั่ ละ่ ...เขาเสยี เสากระโดงเรอื ไปตอนอยทู่ ญ่ี ปี่ นุ่ ” อนิ เดยี นแดง
เฒา่ ชาวเกยเ์ ฮดพดู ขนึ้ ครงั้ หนงึ่ “แตก่ เ็ หมอื นเรอื ไรเ้ สากระโดงนน่ั แหละ เขาใช้
เสากระโดงอนื่ แทนโดยไมต่ อ้ งถงึ กบั ลอ่ งกลบั บา้ น เขาใชเ้ สาสำ� รองนะ่ เหมอื น
กระบอกลกู ศรไง”

ผมตอ้ งตะลงึ กบั วธิ ยี นื ทไี่ มธ่ รรมดาของเขา แตล่ ะดา้ นของดาดฟา้ ทา้ ยเรอื
ค่อนข้างใกล้กับเชือกขึงเสาท้ายเรือ และมีรูสว่านเจาะไว้เป็นช่องประมาณ
คร่ึงนิ้วบนพื้นกระดาน ขากระดูกของเขาเสียบลงไปปักแน่นอยู่ในรูน่ัน ขณะ
ยกแขนข้างหนึ่งขึ้นยึดเชือกขึงเสาไว้ กัปตันเอแฮ็บยืนยืดตัวมองตรงไปยังหัว
เรือซึ่งเคยเป็นที่ตั้งกระโจม สายตานั้นฉายแววทรหดอดทนอย่างมั่นคงไม่มี
สิ้นสุด และเปย่ี มความต้งั ใจแนว่ แนท่ จี่ ะไม่ยอมจำ� นนต่อสงิ่ ใดดว้ ยความเดด็
เดี่ยวไร้ความหวาดหวั่น เขาไม่ได้พูดอะไรสักค�ำ และไม่มีลูกเรือคนใดพูด
อะไรกับเขา ทว่าอากัปกิริยาและสีหน้าท่ีพวกเขาแสดงออกมานั้น เห็นได้
ชดั เจนวา่ ตา่ งรสู้ กึ กระสบั กระสา่ ยจนแทบทรมาน ดว้ ยรตู้ วั วา่ สายตาของผเู้ ปน็
เจ้านายก�ำลงั จับจอ้ งอยู่เขมง็ ไมเ่ พยี งเท่าน้นั เอแฮบ็ ยงั ยนื อยเู่ บอ้ื งหนา้ พวก
เขาด้วยสหี น้าหงดุ หงดิ พรอ้ มจะจบั ใครตอ่ ใครขึงพืด ราชานริ นามทัง้ มวลต่าง
ก็มีอานุภาพข่มขวญั ผู้คนให้ตอ้ งร้สู กึ หนาวๆ รอ้ นๆ แบบน้นั

เป็นเวลาเนิ่นนานกว่ากัปตันเอแฮ็บจะยอมออกจากห้องเครื่องมายืนรับ
อากาศดา้ นนอก แตห่ ลงั จากออกมาเปน็ ครงั้ แรกในเชา้ วนั นน้ั แลว้ เขากป็ รากฏ
ตวั ใหล้ กู เรอื เหน็ ทกุ วนั ถา้ ไมย่ นื อยบู่ นรปู กั ขานน่ั กจ็ ะนง่ั อยบู่ นมา้ นงั่ สงี าของ
เขา หรอื ไมก่ เ็ ดนิ ยำ�่ เทา้ ไปมาอยบู่ นดาดฟา้ เมอ่ื ทอ้ งฟา้ คลายความอมึ ครมึ ลง
และความอบอนุ่ ค่อยๆ เข้ามาแทนที่ เขากเ็ ร่ิมปลกี ตวั สันโดษนอ้ ยลงเร่อื ยๆ
ราวกับว่าเม่ือเรือแล่นออกจากบ้านเกิด จะมีก็แต่ความเปล่าเปลี่ยวแห่งฤดู
หนาวจัดท่ามกลางทะเลเว้ิงว้างเท่าน้ันท่ีท�ำให้เขาเก็บตัวเงียบ ซ่ึงเม่ือเวลา
ผ่านไป เขาก็เลิกปลีกตัว ในตอนนี้เขาแทบออกมายืนรับอากาศเป็นประจ�ำ

166 : โมบ้-ี ดิ๊ก

แต่เทา่ ที่สังเกตเห็นเขาพูดหรือทำ� ท่าพูด อยา่ งนอ้ ยๆ ก็ทด่ี าดฟา้ อาบแดดนน่ั
ดเู หมือนเขาจะเปน็ แค่เสาเรอื อีกตน้ ทไี่ มจ่ �ำเป็นตอ้ งอยตู่ รงน้ันเลย แลว้ เรือพี
ควอดกล็ อ่ งมาถงึ ชว่ งทไ่ี มใ่ ชก่ ารเดนิ เรอื ตามปกตอิ กี ตอ่ ไป เพราะเขา้ ใกลเ้ วลา
เตรยี มพรอ้ มสำ� หรบั การลา่ วาฬ ซง่ึ ตอ้ งตรวจตราลกู เรอื ใหท้ ำ� งานกนั อยา่ งเตม็
ประสทิ ธภิ าพ เพอื่ จะไดไ้ มม่ อี ะไร หรอื มเี รอ่ื งทต่ี อ้ งกวนใจเอแฮบ็ นอ้ ยใหท้ สี่ ดุ
ตอนนชี้ ว่ งเวลาของการเรง่ รบี ไดห้ ยดุ ยง้ั ลงชวั่ ขณะหนง่ึ รอยเมฆหมอกกอ่ เคา้
ขนึ้ เปน็ รว้ิ บนหนา้ ผากของเขา ขณะปยุ เมฆทเ่ี คยอยตู่ รงนน้ั สมคั รใจลอยขนึ้ สงู
กองซ้อนอยู่เบ้ืองบนแทน

แม้ก่อนหน้านั้นเนิ่นนาน ยามเม่ือเราผ่านอากาศอบอุ่นอันชวนให้ร้องร�ำ
ทำ� เพลงอยา่ งสขุ สนั ตร์ าววนั หยดุ ดเู หมอื นนนั่ กม็ เี สนห่ ใ์ หเ้ ขาคอ่ ยๆ ลมื เลอื น
ความขุ่นหมองไปด้วย เพราะเมื่อเดินทางกลับบ้านในฤดูหนาว ยามที่สาว
แกม้ แดงพากนั เรงิ รำ� ในเดอื นเมษาและพฤษภา แมแ้ ตป่ า่ ไมท้ ชี่ งิ ชงั ผคู้ น อยา่ ง
ต้นโอก๊ เกา่ แก่ตะป่มุ ตะป่ำ� ใบโกรน๋ ซ่ึงถกู ฟ้าผ่าแยกเป็นร่อง อยา่ งน้อยๆ กย็ ัง
ผลิใบเขียวขึ้นมาต้อนรับผู้มาเยือนที่มีหัวใจอันเบิกบาน เอแฮ็บก็เช่นกัน
ในที่สุดก็มีปฏิกิริยาตอบสนองไม่น้อยต่อมนต์เสน่ห์สีสันของอากาศสดช่ืน
ปานหญิงสาวแรกแย้ม ไม่เพียงครั้งเดียวที่เขาท�ำท่าเหมือนเบิกบานออกมา
ให้เห็นอย่างเลือนราง ซ่ึงถ้าเป็นคนอื่นแล้ว ก็คงจะต้องถึงขนาดต้องยิ้มออก
มาในไมช่ า้

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 167

บทท่ี 29

เอแฮ็บในใจสตบั บ์

เวลาลว่ งเลยมาหลายวัน ทะเลน้ำ� แขง็ และภเู ขานำ้� แข็งถูกทิง้ ไว้เบ้อื งหลงั เรอื
พีควอดในตอนน้ีแล่นผ่านฤดูใบไม้ผลิอันปลอดโปร่งของเมืองกีโต1 น่านน�้ำ
บริเวณนี้ย่างเข้าฤดูกาลแห่งเดือนสิงหานิรันดร์ของเขตร้อน ช่วงกลางวัน
ยาวนาน อากาศเย็นสบาย ท้องฟ้าสดใส กลิ่นหอมขจรขจาย บรรยากาศ
ด่ิมด�่ำ ดังเชอร์เบ็ตเปอร์เซีย2ในแก้วผลึกใส โรยด้วยเกล็ดน้�ำแข็งและกลีบ
กุหลาบ ช่วงค�ำ่ คืนพรา่ งพรายโออ่ า่ ดว้ ยแสงดาว ราวสตรีสงู ศกั ดิ์ผู้หยง่ิ ทะนง
ในชดุ กำ� มะหยป่ี ระดบั อญั มณเี ลอคา่ ทต่ี า่ งถนอมตวั อยา่ งภาคภมู เิ ดยี วดายอยู่
ในบา้ น เฝา้ รำ� ลกึ ถงึ แตท่ า่ นเอริ ล์ เจา้ หวั ใจผไู้ มม่ าปรากฏกาย บรุ ษุ ผรู้ งุ่ โรจนใ์ น
หมวกสีทอง! ส�ำหรับชายผู้หลับใหล ก็ยากแยกแยะระหว่างวันอันเริงร่ากับ
คืนค่�ำอันเย้ายวน เสน่ห์แห่งฤดูกาลอันไม่แรมราไม่เพียงหยิบย่ืนมนต์เสน่ห์
และพลังสะกดต่อโลกภายนอก หากยังปลุกเร้าจิตวิญญาณภายในด้วย โดย
เฉพาะอยา่ งย่งิ เม่อื โมงยามอนั สงบออ่ นโยนในยามเย็นมาเยอื น ยามนน้ั ภาพ
ความทรงจำ� พลนั แจม่ ชดั ขน้ึ ราวผลกึ ใสในสายณั หอ์ นั เงยี บงนั และมนตส์ ะกด
ท้ังมวลนีน้ ับวันยิง่ หลอมรวมเขา้ ไปในธาตุแท้ของเอแฮบ็

คนอายุมากมักหลับยาก ราวกับย่ิงมีชีวิตมานาน ย่ิงไม่ต้องท�ำอะไร แต่
ท่ีมองดูเหมือนตายมากนัก โดยปกติแล้วกัปตันเรือเดินทะเลผู้แก่เฒ่า มัก
จะลุกจากท่ีนอนมายืนบนดาดฟ้าเรือยามค�่ำคืนเสมอ เอแฮ็บก็เช่นกัน หาก

1  เมอื งกโี ต-ประเทศเอกวาดอร์
2  เชอร์เบ็ตเปอรเ์ ซีย-น�ำ้ แข็งใส (ขนม)

168 : โมบ-ี้ ด๊ิก

แต่ว่าเวลาน้ีดึกมากแล้ว กระนั้นดูเขายังคงยืนดื่มด�่ำกับบรรยากาศที่เปิดโล่ง
ซ่ึงว่ากันตามจริงแล้ว เขามักคลุกอยู่แต่ในห้องเครื่องมากกว่าจะออกมายัง
ดาดฟ้าเรอื “เหมือนกำ� ลังจะกา้ วลงหลุมตวั เอง” เขาคงพึมพำ� กบั ตวั เองอยา่ ง
นั้น “ส�ำหรับกัปตันเฒ่าอย่างฉัน ไอ้ช่องแคบๆ ท่ีเดินลงไปห้องเคร่ืองน่ัน
ก็เหมือนทางเดนิ ไปหลุมนอนที่ขุดไว้ฝังตวั เอง”

ดว้ ยตอ้ งมคี นเฝา้ ยามเกอื บตลอดยส่ี บิ สชี่ วั่ โมง จงึ กำ� หนดตวั ลกู เรอื ใหผ้ ลดั
เปลี่ยนกันมายืนยามกลางคืน โดยยามชุดท่ีเฝ้าดาดฟ้าเรือจะเฝ้าพวกท่ีนอน
อยู่ข้างล่างด้วย ตอนสาวเชือกขึ้นบนดาดฟ้าหัวเรือ พวกลูกเรือก็จะท�ำกัน
อย่างเบามือกว่าตอนกลางวัน โดยระมัดระวังไม่ให้เกิดเสียงไปรบกวนเพื่อน
ท่ีก�ำลังงีบหลับอยู่ด้านล่าง ขณะบรรยากาศเงียบสงบเช่นนี้เกิดขึ้นตามปกติ
เหมือนท่ีเป็นมาทุกวัน นายท้ายเรือผู้นิ่งมองช่องทางลงห้องเคร่ืองอยู่นาน
กอ่ นหนา้ นัน้ แล้ว กเ็ ห็นชายชราผนู้ ้นั โผลต่ ัวข้ึนมา เขาเกาะราวบันไดเหล็กดงึ
ร่างพิการของตัวเองก้าวข้ึนมาบนดาดฟ้าเรือ เขาถือได้ว่าก็มีมนุษยธรรมใน
ตัวเช่นกัน เพราะในโมงยามแบบนี้ เขาไม่ค่อยออกมาเดินตรวจตราดาดฟ้า
ท้ายเรือนัก ด้วยเกรงใจบรรดารองกัปตันผู้เหน็ดเหน่ือยมาตลอดทั้งวัน การ
หาจุดพักส้นเท้ากระดูกสีงากว้างหกน้ิวและปักมันในช่องน่ันอาจท�ำเสียง
แครกครากดังก้อง อีกทั้งเสียงตึงๆ ยามเดินย่�ำเท้ากระดูกอาจท�ำให้พวกท่ี
ก�ำลังหลับฝันถึงปลาฉลามขบเค้ียวเคี้ยวฟันก็ได้ แต่เมื่ออารมณ์ขุ่นมัวคุกรุ่น
เกินกว่าจะค�ำนึงถึงเรื่องอ่ืนใด เขาก็เผลอกระแทกฝีเท้าหนักขณะโขยกเขยก
เดินตรวจตราเรือจากด้านท้ายไปยังเสากระโดงใหญ่ เป็นผลให้ต้นหนเฒ่าส
ตับบ์โผล่ข้ึนมาจากด้านล่างด้วยความรู้สึกไม่มั่นใจนัก เขากล่าวต�ำหนิอย่าง
ตดิ ตลก ท�ำนองวา่ ถา้ กปั ตนั เอแฮ็บพอใจเดนิ ยำ�่ กระดานเล่น คงไม่มใี ครกล้า
ว่าอะไร แต่นา่ จะเดนิ แบบเกบ็ เสยี งสักหน่อย พร้อมกล่าวอ้อมแอม้ เป็นนยั ๆ
ว่า น่าจะหาเลื่อนลูกล้อลากท่ีสอดส้นเท้างานั่นเข้าไปได้ ฮ้า! สตับบ์ ช่างไม่
รจู้ ักเอแฮ็บเสียแลว้ ! “เหน็ ฉนั เป็นลูกปนื ใหญ่หรอื ไง สตับบ?์ ” เอแฮ็บพดู “ถึง
จะให้ฉนั ยัดตัวแบบน้ัน แต่ฉนั จะลืมมนั ซะ ไปไกลๆ เลย ไปลงหลุมของนาย

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 169

อย่างท่ีท�ำทุกคืน นอนซุกผ้าห่อศพที่จะใช้ยัดใส่ตัวนายในท้ายที่สุด กลับลง
คอกไปซะ...ไอ้หมาเอ๊ย!”

จดุ เรม่ิ อนั ไมค่ าดคดิ ทลี่ งเลยดว้ ยการดา่ ตอบโตแ้ บบทนั ควนั ของเอแฮบ็ ทำ�
ให้สตับบ์เงียบงันไปครูห่ นง่ึ กอ่ นจะพูดออกมาอย่างตื่นๆ “น้อยคนจะพูดกับ
ผมแบบนีค้ รบั กม็ ีบ้าง...แต่ยงั ไมถ่ ึงขนาดนคี้ รบั ”

“หุบปาก!” เอแฮ็บกัดฟันกรอด แล้วรีบผละเดินออกห่างราวกับไม่อยาก
ให้อารมณพ์ ลุง่ พล่านข้นึ มาอกี

“อย่าเพงิ่ ครับ เด๋ยี วกอ่ น” สตับบ์พูดอยา่ งใจกลา้ ข้นึ “ผมไมเ่ ช่อื งถึงขนาด
จะถูกเรยี กเป็นหมานะครับ”

“งั้นฉันเรียกอีกสักสิบครั้งก็ได้ ไอ้ลา ไอ้ล่อ ไอ้โง่ ไปให้พ้นๆ เลย ไม่งั้น
นายไมไ่ ด้เหน็ โลกอกี แน!่ ”

ขณะพดู ประโยคนั้นเอแฮบ็ กา้ วพรวดเขา้ หาดว้ ยทา่ ทางน่ากลัว จนสตับบ์
ตอ้ งถอยหลังกรูดโดยไม่รตู้ วั

“ฉนั ไมเ่ คยยอมใหใ้ ครมาดถู กู แบบนนั้ โดยไมต่ ะบนั หนา้ มนั ” สตบั บบ์ น่ พมึ
หลังพบว่าตัวเองก้าวลงช่องบันไดมาถึงด้านล่างแล้ว “แปลกจัง เด๋ียวก่อน...
สตับบ์ ถึงอย่างน้ัน ตอนน้ีฉันก็ยังไม่รู้ว่าควรย้อนกลับไปชกเขาสักทีหรือท�ำ
อะไรสักอย่างดี หรือว่าคุกเข่าลงตรงน้ีแล้วสวดภาวนาให้เขาดี? ใช่ นั่นเป็น
ความคดิ ทแ่ี วบเขา้ มาในหวั แตน่ คี่ งเปน็ ครง้ั แรกทฉ่ี นั สวดภาวนาแน่ มนั แปลก
แปลกมาก เขาเองกแ็ ปลกดว้ ย ใช่ เดนิ จากหวั เรอื ไปทา้ ยเรอื อยไู่ ด้ ชา่ งเปน็ เฒา่
แปลกประหลาดทส่ี ดุ เทา่ ทส่ี ตบั บเ์ คยลอ่ งเรอื ดว้ ย ดเู ขาจอ้ งฉนั ส!ิ สายตายงั กบั
นกปนื ! เขาบา้ ไปแลว้ ! เอาเถอะ...เขาคงมเี รอื่ งตอ้ งคดิ และไอเ้ สยี งแครกคราก
นน่ั คงตอ้ งเปน็ อยา่ งอน่ื นะ่ ตอนนเี้ ขายงั ไมไ่ ดเ้ ขา้ นอน ยส่ี บิ สช่ี ว่ั โมงนไ่ี มไ่ ดน้ อน
มาเลยสามช่ัวโมงแล้ว และก็ไม่ได้นอนอีกเลย ก็เจ้าเด็กห้องครัวไง ท่ีบอก
ว่าตอนเช้าเจอเตียงผ้าเปลญวนของตาเฒ่านั่นยับยู่ยี่กระจุยกระจาย ผ้าห่ม
ลงมากองที่ปลายเปล ผ้าคลุมก็พันกันจนเป็นปม ส่วนหมอนร้อนก็ร้อนฉ่า
น่าขนลุกราวกับเป็นก้อนอิฐในเตาเผายังไงยังงั้น ช่างเป็นชายแก่ที่ดุเดือด

170 : โมบี้-ด๊กิ

จริงๆ! ฉันเดาว่าเขาต้องถูกชาวบ้านบนฝั่งกลัวกัน ท�ำนองโรคปวดเส้น
ประสาทใบหน้าที่ว่ากันว่าร้ายยิ่งกว่าปวดฟัน แหม...แหม...ฉันก็ไม่รู้ว่ามันคือ
อะไรกันแน่ แต่พระเจ้าทรงช่วยฉันไม่ให้ติดเจ้าโรคน่ัน เขาช่างเต็มไปด้วย
ปรศิ นา ฉนั อยากรวู้ า่ เขาเขา้ ไปในหอ้ งเกบ็ สนิ คา้ ทา้ ยเรอื โนน่ ทำ� ไมทกุ คนื อยา่ ง
ทเ่ี จา้ เดก็ หอ้ งครวั บอกฉนั วา่ มนั สงสยั ตาเฒา่ ทำ� อยา่ งนน้ั ทำ� ไมกนั ? ฉนั อยาก
รู้ไปท�ำบ้าอะไรกัน? หรือว่านัดใครไว้ในน่ัน? มันแปลกใช่ไหมล่ะ ไม่มีทางรู้
ไดห้ รอก อาจเปน็ ลกู ไม้เกา่ ๆ ที่หลบเขา้ ไปงีบในนั้นก็ได้ ใหต้ ายเถอะ เกิดมา
เปน็ คนบนโลกใบน้ที ง้ั ทกี น็ า่ จะหลบั ให้คุ้มหนอ่ ย พอคดิ เร่อื งนี้ ฉนั ว่าน่นั เปน็
สิ่งแรกสุดท่ีเด็กทารกมันท�ำกัน ซ่ึงมันก็เป็นเรื่องแปลกอีกเหมือนกัน ให้ตาย
เถอะ พอคิดเร่ืองน้ี มันชา่ งแปลกประหลาดไปหมด ซงึ่ มนั ขดั กบั หลักปฏิบตั ิ
ของฉัน เพราะหลักบัญญัติข้อท่ีสิบเอ็ดของฉันก็คือต้องไม่คิด และบัญญัติ
ข้อที่สิบสองคือต้องนอนเมื่อมีโอกาส...และนี่ก็อีกเหมือนกัน แล้วไหงงั้น?
เขาเรยี กฉนั ว่าไอ้หมานีห่ วา่ ? นรกเอ๊ย! เขาเรยี กฉันวา่ ไอล้ าโง่ตั้งสิบคร้ัง แถม
ดา่ วา่ โงเ่ ซอ่ อีกหลายคำ� ! เขาอาจเตะฉันดว้ ยซ�้ำ และคงท�ำไปแลว้ ดว้ ยม้งั อาจ
เตะฉนั เขา้ แล้วก็ได้ แตฉ่ ันไมท่ นั เหน็ เพราะมวั แตถ่ อยหลงั กรดู เพราะหนา้ ตา
น่ากลัวนนั่ วูบนั้นมันเหมือนกระดูกซีดเลย เจา้ ปศี าจน่นั มีปญั หาอะไรกบั ฉนั
นักหนา? ขาฉันปวกเปียกไปหมด ไปยุ่งกับเจ้าเฒ่าน่ันช่างพลิกหน้ามือเป็น
หลังมือจริงๆ พระเจ้าทรงโปรด ฉันคงต้องฝันไปแน่ๆ เพราะอะไร เพราะ
อะไร...เพราะอะไรหว่า? แต่...คงต้องเหยยี บไว้ สว่ นไอเ้ รื่องแปลญวนกับเร่อื ง
ตอนเชา้ น่นั ฉนั ค่อยคิดช่วงกลางวันแล้วกันว่ามันเกีย่ วกันยังไง

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 171

บทที่ 30

กลอ้ งยาเส้น

หลังจากสตบั บ์ไปแลว้ เอแฮบ็ ยืนพิงกราบเรือได้สกั พกั ก็ท�ำเหมือนท่เี ขาเคย
ท�ำอยู่ทุกค่�ำคืน คือใช้ให้ลูกเรือท่ีก�ำลังอยู่ยามลงไปด้านล่างเพ่ือน�ำเอาเก้าอี้
กระดูกกรามและกล้องยาเส้นข้ึนมาให้ เขาจุดมันจากตะเกียงกล้องเข็มทิศ
จากนั้นกน็ ่งั ปกั หลกั บนเก้าอยบู่ นดาดฟา้ ดา้ นรับลม นัง่ และสูบยาไปพลาง

ยคุ สมัยนอร์สโบราณกาล เป็นประเพณีที่นำ� งาของนาร์วาล1มาใช้ท�ำเปน็
บัลลังก์ของกษัตริย์ชาวเดนมาร์กผู้รักท้องทะเล มองดูเอแฮ็บที่ก�ำลังนั่งบน
ม้าน่ังสามขาซ่ึงท�ำจากกระดูกวาฬ จะไม่ท�ำให้หวนนึกถึงกษัตริย์เดนมาร์ก
นั่นหรอกหรือ? เพราะท่านข่านแห่งเรือ ราชันย์แห่งท้องทะเล และจ้าวแห่ง
วาฬยกั ษ์กค็ ือเอแฮบ็ นเี่ อง

เวลาผ่านไปได้พักใหญ่ ขณะควันหนาพ่นออกมาจากปากของเขาอย่าง
รวดเร็วสม่�ำเสมอ และลอยหวนกลับไปที่หน้า “ไหงตอนนี้” เขาร�ำพึงกับ
ตวั เองออกมาในทส่ี ดุ ถอดกลอ้ งยาเสน้ ออกจากปาก “สบู ยากไ็ มช่ ว่ ยใหใ้ จสงบ
ไดเ้ ลย โอ.้ ..กลอ้ งยาเสน้ ! ฉนั ตอ้ งลำ� บากแนถ่ า้ เจา้ หมดมนตข์ ลงั ไปแบบน!้ี นฉี่ นั
เผลอสบู ไปเหนอ่ื ยเปลา่ ไมไ่ ดส้ บู ใหเ้ พลนิ เลย...ใช่ แถมยงั สบู แบบไมด่ เู หนอื ลม
ใตล้ ม ลนลานสดู เอาๆ เหมือนวาฬใกลต้ ายยังไงยงั ง้ัน! ลมเฮือกสุดท้ายของ
ฉนั มนั รนุ แรงและแสนทรมาน แลว้ ฉนั จะสบู กลอ้ งยาเสน้ ไปหาพระแสงอะไร?
สบู ไอน้ กี่ เ็ พอื่ จะใหใ้ จสงบ พน่ ควนั ขาวละมนุ มาคลอเคลยี ผมขาวละมนุ ไมใ่ ช่

1  นาร์วาล-วาฬข้ัวโลกเหนือ เพศผู้มีงาเด่ียวเป็นเกลียวยาว (จริงๆ คือฟันซ่ีเดียวของมัน) ซึ่งอาจยาวถึง
สามเมตร จนมฉี ายาว่า "ยนู คิ อรน์ แห่งทอ้ งทะเล" หรอื "ยูนิคอรน์ แห่งขวั้ โลกเหนอื "

172 : โมบี้-ดก๊ิ

ปอยผมสีเทาเหลก็ กร้านกระจุยแบบฉันนี่ ฉันจะไม่สูบอกี แล้ว...”
เขาขว้างกล้องยาสูบท่ียังคงติดไฟอยู่ลงทะเลไป เสียงไฟดับในน้�ำดังแฉ่

เปน็ จงั หวะเดยี วกบั ทเี่ รอื โยนตวั ในคลน่ื ทก่ี ลอ้ งยาสบู กจ็ มลงไปเหน็ พรายฟอง
เอแฮบ็ เดินโซเซไปบนกระดานเรือ ทงั้ ทหี่ มวกยงั เผล่ลงมา

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 173

บทที่ 31

นางฟ้าแหง่ ฝัน1

เช้าวนั ต่อมา สตับบ์กค็ ุยกบั ฟลาสก์
“เป็นฝันที่แปลกมาก...คิงโพสต์ ฉันไมเ่ คยฝันอยา่ งนี้มาก่อน นายกร็ ู้เรือ่ ง

ขางาของไอเ้ ฒา่ นน่ั ฉนั ฝนั วา่ เขาเตะฉนั ดว้ ยขานน่ั แลว้ พอฉนั พยายามจะเตะ
กลับ ด้วยสัตย์จริงนะ ไอ้หนุ่ม ฉันเหว่ียงขาขวาออกไปแล้วด้วย! และแล้ว...
ทันใดน้ันเอง! เอแฮ็บพลันเหมือนพีระมิด ส่วนฉันเหมือนตัวตลกบ้าคลั่งท่ี
พยายามเตะมัน ฟลาส์ก...นายก็รู้ว่าเรื่องในฝันน่ะมันย่อมแปลกประหลาด
เปน็ ธรรมดา แตท่ แี่ ปลกยง่ิ กวา่ นน้ั คอื ไมร่ ทู้ ำ� ไมฉนั เหมอื นบอกตวั เองในใจวา่
ยังไงซะลกู เตะของเอแฮบ็ น่ันน่ะกไ็ ม่ใช่การจู่โจมสักหนอ่ ย ‘ทำ� ไมน่ะร’ึ ฉนั คิด
‘เพราะไมใ่ ชก่ ารชกตอ่ ยกนั นะ่ สิ ขานน่ั มนั ไมใ่ ชข่ าจรงิ แคข่ าปลอมๆ’ แลว้ แรง
ชกของหมดั จรงิ กบั หมดั ปลอมกนั ตา่ งกนั มหาศาล การตอ่ ยดว้ ยหมดั ...ฟลาสก์
ย่อมแรงกว่าไม้เท้ากว่าสิบห้าเท่า อวัยวะที่มีชีวิตถึงจะจู่โจมได้อย่างมีชีวิต...
ไอ้หนุ่ม ฉันบอกตัวเองในใจตลอดตอนที่ก�ำลังจะขยับปลายเท้าปวกเปียก
ข้ึนเตะไอพ้ ีระมดิ ระยำ� นนั่ วา่ มนั ชา่ งแตกต่างกันลบิ ลับ ตลอดเวลา...ฉนั บอก
ตัวเองในใจว่า ‘ตอนนี้ขาของเขาไม่ใช่อะไรอ่ืน ก็แค่ไม้เท้า...แท่งกระดูกวาฬ
ใช่แล้ว’ ฉันคิดว่า ‘น่ันเป็นแค่การนวดด้วยไม้กระบองเล่นๆ และอันที่จริง
แลว้ เขายนื่ กระดกู วาฬใหฉ้ นั ตา่ งหาก ไมไ่ ดเ้ ตะเตอะอะไรสกั หรอก’ ฉนั คดิ วา่

1  นางฟ้าแห่งฝัน-ราชีนีแม็บ นางฟ้าตามนิทานพ้ืนบ้านอังกฤษ ในโรมีโอกับจูเลียตของเช็กสเปียร์ ราชินี
แม็บขี้รถม้าจิ๋วเข้าไปทางรูจมูกของผู้ท่ีก�ำลังหลับไปถึงสมอง แล้วดลบันดาลให้เกิดฝันดี หรือฝันร้าย
(ถ้าเธออารมณเ์ สีย)

174 : โมบ้-ี ดกิ๊

‘หน�ำซำ้� แล้ว เม่ือมองดูอีกที ไอท้ ป่ี ลายของมัน...ตรงทเ่ี ปน็ เท้านัน่ นะ่ โอ้...มนั
ช่างเล็กอะไรอย่างนั้น ถ้าเปน็ เท้าใหญ่ๆ ของชาวนาก็คงเป็นการเตะทร่ี นุ แรง
มากทีเดียว แตล่ กู เตะของเขาแค่ถากๆ ไปเท่านน้ั ’ พอคดิ ไดอ้ ยา่ งนี้ความฝนั
นนั่ ก็เป็นแคเ่ ร่อื งนา่ ขำ� ทีส่ ุด ฟลาสก์ ไอพ้ รี ะมดิ ทฉี่ ันกำ� ลงั วางมวยดว้ ย มนั ก็
แคเ่ งอื กแกข่ นหนาเปน็ จดุ ขาวดำ� เหมอื นตวั แบดเจอร์ และมโี หนกบนหลงั เงอื ก
เฒ่าขยุ้มสองไหล่ฉันเขย่าริกๆ แล้วถามว่า “นายจะท�ำอะไร?” พระเจ้าช่วย!
ไอห้ นมุ่ เอย๊ ฉนั ถงึ กบั ผวา! ใบหนา้ นน่ั นา่ กลวั เหลอื เกนิ ! แตอ่ ดึ ใจตอ่ มาฉนั กข็ ม่
ความกลัวได้ ‘ฉันจะท�ำอะไรน่ะหรอื ?’ ฉนั พูดออกไปในท่สี ดุ ‘แลว้ มันกงการ
อะไรของนาย ฉันอยากรู้นัก...นายค่อม อยากโดนเตะรึ?’ พระเจ้า...ฟลาสก์
ฉันยังพูดไม่ทันจบ เขาก็หมุนตัวหันก้นให้ แล้วโก้งโค้งรวบเอาสาหร่ายทะเล
ที่ตดิ อยูเ่ ยอะแยะขึ้นมาฟาดใส่ นายวา่ ฉันเห็นอะไรละ่ ? โอ!้ ฟ้าร้องมันมพี ลัง
ไอ้หนมุ่ ก้นของเขามีเดือยเหลก็ ฟัน่ เชือกปลายแหลมเป๊ยี บตดิ อย่เู ต็ม ฉันเลย
ตอ้ งเปลี่ยนความคดิ และพูดออกไปวา่ ‘ฉนั วา่ ...ฉนั จะไมเ่ ตะนายหรอก เกลอ
เฒ่า’ ‘สตบั บ์...คนฉลาด’ เขาพดู ‘สตับบ์คนฉลาด’ แล้วกเ็ อาแต่พมึ พำ� ค�ำเดิม
ตลอดเวลา คล้ายก�ำลังเค้ียวเอ้ืองหยับๆ เหมือนแม่มดในปล่องไฟ เม่ือเห็น
เขาทไ่ี มม่ ที ที า่ วา่ จะหยดุ พดู คำ� วา่ ‘สตบั บค์ นฉลาด.. สตบั บค์ นฉลาด’ ฉนั กค็ ดิ
ว่าน่าจะเตะไอ้พีระมิดน่ันอีกสักครั้ง แต่แค่ฉันยกขาข้ึนมาเท่าน้ัน เขาก็แผด
เสียงว่า ‘หยุด...อย่าเชียวนะ!’ ‘ฮัลโล’ ฉันพูด ‘คราวนี้อะไรอีกล่ะ เกลอเฒ่า’
‘ดนู ายตอนนส้ี ’ิ เขาพดู ‘ลองบอกมาสิ ทำ� ไมถงึ อยากเตะฉนั นกั กปั ตนั เอแฮบ็
เตะนายงัน้ รึ’? ‘ใช่ เขาเตะฉนั ’ ฉนั พูด ‘โดนตรงน้ี’ ‘งนั้ เหรอ’ เขาพูด ‘เขาใช้ขา
สงี าของเขาเตะใช่ไหม?’ ‘ใช่แล้ว ขานั่นแหละ’ ฉันพดู ‘ง้นั ก็...’ เขาพดู ‘สตบั บ์
คนฉลาด แล้วนายจะบ่นหาอะไรล่ะ เขาก็ต้ังใจเตะแล้วน่ี ไม่ได้ใช้ขาไม้สน
ธรรมดาเตะสักหน่อยใช่ไหม? ไม่ธรรมดาเลยล่ะ นายถูกเตะโดยมหาบุรุษ
ผู้มีขาสีงาสวยงามนะ สตับบ์ มันเป็นเกียรติ ฉันว่ามันเป็นเกียรติแก่ตัวนาย
ฟังนะ สตับบ์คนฉลาด ในอังกฤษยุคโบราณเจ้าแผ่นดินผู้ยิ่งใหญ่คิดว่าเร่ือง
มงคลท่ีสุดในชีวิตคือการถูกราชินีตบหน้าและการแต่งตั้งอัศวินช้ันสูงสุด มัน

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 175

ถงึ เป็นเรอ่ื งทน่ี ายเอาไปคยุ อวดได้ สตับบ์ ว่านายถกู เอแฮ็บเฒา่ เตะเอา เพ่ือ
สร้างคนฉลาดขึ้นมา จ�ำค�ำพูดฉันไว้นะ นายถูกเขาเตะ จงถือว่าเป็นเกียรติ
ท่ีโดนเขาเตะ ไอ้ที่ไม่ได้เตะเขากลับอย่าไปใส่ใจ เพราะนายช่วยตัวเองไม่ได้
สตับบ์คนฉลาด นายเห็นพิระมิดน่ันไม่ใช่รึ?’ พอพูดจบปั๊บเขากลายร่างเป็น
ตัวประหลาดอะไรสักอย่าง แล้วก็แหวกว่ายไปในอากาศ จากนั้นฉันก็กรน
พลิกตัวไปมา และต่ืนข้ึนมาพบว่าตัวเองนอนอยู่ในเปลญวณ! นายคิดยังไง
กบั ฝันน่ี ฟลาสก”์

“ผมไม่รู้หรอก แตฟ่ งั ดไู รส้ าระ”
“คงง้ัน...คงง้ัน แต่มันท�ำให้ฉันกลายเป็นคนฉลาด ฟลาสก์ นายเห็นเอ
แฮ็บยืนอยนู่ น่ั ไหม? ก�ำลงั ตรวจหลังเรืออยู่ข้างๆ โนน่ นน่ั ละ่ อย่างเก่งทีน่ าย
จะท�ำได้...ฟลาสก์ คือปล่อยให้ตาเฒ่าน่ันอยู่ตามล�ำพัง อย่าไปพูดต่อกรกับ
เขาเชียว ไมว่ า่ เขาจะพูดอะไรมา เฮ!้ เขาตะโกนอะไรอยู่นะ่ ? ฟงั ส!ิ ”
“ไอพ้ วกบนยอดเสาหลกั *2นะ่ ! ตาไวๆ หนอ่ ย! มฝี งู วาฬแถวนโ้ี วย้ ! ถา้ เหน็
ไอต้ วั สขี าวละก็ ตะโกนใหค้ อแตกเลยนะ!”
“นายคิดยังไงล่ะท่ีนี้ ฟลาสก์? ได้กลิ่นทะแม่งๆ รึยัง? โห วาฬตัวขาวรึ?
ชดั หรอื ยงั ...ไอห้ นมุ่ ฟงั นะ...มอี ะไรแปลกๆ อยนู่ า เตรยี มพรอ้ มไวล้ ะ่ ...ฟลาสก์
จิตใจเอแฮ็บชุ่มโชกไปด้วยเลือด แตอ่ ยา่ ปรปิ ากไปล่ะ เขามาทางน้ีแลว้ ”

2  ยอดเสาหลัก-กะลาสีสามคนจะฝ้าอยู่บนยอดเสากระโดงเรือทั้งสามต้น โดยปกติ เสากระโดงหลักจะ
ผลัดเปลี่ยนกะกนั ทกุ ๆ สองช่ัวโมง

176 : โมบ้-ี ดก๊ิ

บทที่ 32

ศาสตรแ์ ห่งวาฬ

เราลว่ งเขา้ สเู่ ขตทะเลลกึ อยา่ งหาญกลา้ และอกี ไมน่ านกจ็ ะถกู กลนื หายไปใน
ทะเลเวง้ิ วา้ งไรฝ้ ง่ั ทา่ แตก่ อ่ นจะถงึ ตอนนน้ั กอ่ นทล่ี ำ� เรอื กระจอ้ ยรอ่ ยของเรอื
พคี วอดจะป่นั ป่วนอยู่ขา้ งล�ำตวั ซ่ึงมีเพรียงเกาะเตม็ ของเจา้ วาฬยกั ษ์ เราควร
เร่ิมต้นด้วยการท�ำความเข้าใจอย่างละเอียดถ่ีถ้วนถึงเร่ืองราวเกี่ยวกับสัตว์
ทะเลใหญ่ยกั ษน์ ่ี ตลอดจนค�ำเล่าขานถึงวาฬทุกชนิดทีเ่ รากำ� ลงั ตามล่า

มีการแบ่งประเภทของวาฬไว้อย่างกว้างๆ เป็นระบบ ซึ่งผมยินดีเล่าให้
คุณฟงั แต่น่ไี ม่ใชง่ านงา่ ยๆ เลย เพราะยังมีความสับสนในการแบ่งหมวดหมู่
สายพนั ธไ์ุ มน่ อ้ ยไปกวา่ ทพี่ ยายามกลา่ วถงึ ในบทนี้ ลองฟงั ทบี่ รรดาผเู้ ชย่ี วชาญ
คนดงั ไดก้ ล่าวไวล้ า่ สุดว่า

“ภาควิชาสัตววิทยาไม่มีข้อมูลมากพอจะแยกออกมาต้ังเป็นสาขาวาฬ
วทิ ยาได”้ กัปตันสกอรส์ บ1้ี กลา่ วไว้เมือ่ ปี 1820

“ผมไม่มีเจตนา และไม่มีอ�ำนาจที่จะเข้าไปสอบถาม ถึงวิธีท่ีถูกต้องใน
การแบ่งวาฬวิทยาเป็นกลุ่มเป็นสายพันธุ์....ยังมีความสับสนอยู่มากในกลุ่ม
ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ของสัตว์ชนิดน้ี (วาฬหัวทุย)” ศัลยแพทย์บีล2
ค.ศ. 1839

1  กัปตันสกอรส์ บี้-วลิ เลียม สกอร์สบี้ (ค.ศ. 1789-1857) นกั สำ� รวจข้ัวโลกเหนอื ชาวอังกฤษ ซง่ึ เมลวลิ ล์
ใช้ข้อมลู เกยี่ วกับวาฬสว่ นใหญ่จากงานเขียนของเขา
2  ศัลยแพทย์บีล-โทมัส บีล (ค.ศ. 1807-1849) เขียนหนังสือชื่อ “ธรรมชาติวิทยาของวาฬหัวทุย” (ค.ศ.
1839) ซ่งึ เมลวลิ ลใ์ ห้เป็นแหลง่ ข้อมูล

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 177

“การตามสบื คน้ ขอ้ มลู ในทะเลลกึ ลำ�้ เปน็ เรอื่ งทไี่ มค่ วรทำ� ” “มมี า่ นบางๆ ท่ี
ไม่อาจมองทะลุ กั้นขวางความร้ขู องเราเร่อื งวาฬวิทยา” “เป็นสาขาวชิ าทีเ่ ต็ม
ไปดว้ ยขวากหนาม” “เรอ่ื งทงั้ หมดนข้ี าดความสมบรู ณ์ และทรมานใจพวกเรา
เหลา่ นกั ธรรมชาตวิ ิทยา”

ขอ้ ความทกี่ ลา่ วถงึ วาฬขา้ งตน้ เปน็ ของกวู เี ย3ผโู้ ดง่ ดงั และจอหน์ ฮนั เตอร4์
กบั เลสซ์ อง5 อนั เปน็ อกี มมุ มองหนงึ่ ของสตั ววทิ ยาและกายวภิ าคศาสตร์ เพราะ
แมจ้ ะมหี นงั สอื มากมายในสาขาวชิ าทวี่ า่ แตค่ วามรทู้ แี่ ทจ้ รงิ กม็ อี ยนู่ อ้ ยนดิ โดย
เฉพาะวาฬวิทยาหรือศาสตร์แห่งวาฬย่ิงแล้วใหญ่ มีคนมากหลายท้ังที่มีช่ือ
เสียงและท่ีไม่ค่อยเป็นท่ีรู้จักนัก ท้ังคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่า ทั้งคนท่ีใช้ชีวิต
อยู่บนบกและชาวทะเล ที่เขียนถึงวาฬไว้มากบ้างน้อยบ้าง ยกตัวอย่างบาง
คนกไ็ ด้แก่ ผู้เขยี นไบเบ้ลิ , อรสิ โตเตล้ิ , ปลิน6ี , อลั โดรวนั ด7ี , เซอรโ์ ทมสั บรา
วน8์ , เกสเนอร9์ , เรย1์ 0, ลนิ เนยี ส11, รงเดแลต12, วิลลัฟบ1ี 3, กรีน , อาร์เตด1ี 4,

3  กูวีเย-จอร์จ กูวเี ย (ค.ศ. 1769-1832) นกั ธรรมชาตวิ ทิ ยาชาวฝรง่ั เศส
4  จอห์น ฮนั เตอร์-(ค.ศ. 1728-1793) ศลั ยแพทย์และนกั ธรรมชาติวทิ ยาชาวองั กฤษ
5  เลส์ซอง-เรอเน ปรเี มแวเร เลสซ์ อง (ค.ศ.1794-1849) ศลั ยแพทย์และนักธรรมชาตวิ ิทยาชาวฝร่งั เศส
6  ปลนิ -ี ปลินี ผอู้ าวโุ ส (ค.ศ. 23-79)นกั ประวตั ศิ าสตร์และนักธรรมชาตวิ ิทยาชาวโรมนั
7  อลั โดรวันดี อุลอีสเซ (ค.ศ. 1522-1605)นกั ธรรมชาติวทิ ยาชาวอิตาเลยี น
8  โทมัส บราวน์ (ค.ศ. 1605-1682) นกั ธรรมชาตวิ ทิ ยาชาวอังกฤษ
9 กอนราด เกสเนอร์ (ค.ศ. 1516-1565)นักธรรมชาตวิ ิทยาชาวสวิส
10  จอหน์ เรย์ (ค.ศ. 1627-1705) นกั ธรรมชาตวิ ิทยาชาวอังกฤษ
11  คารล์ ลนิ เนยี ส (ค.ศ. 1707-1778) นกั พฤกษศาสตรช์ าวสวเี ดน บดิ าแหง่ อนกุ รมวธิ าน (การจดั จำ� แนก
ส่งิ มชี ีวิตออกเป็นหมวดหม่ตู ามสายววิ ฒั นาการ) สมยั ใหม่
12  กยุ โลเมอ รงเดแลต (ค.ศ. 1507-1566) ศาสตราจารยช์ าวฝร่ังเศส
13  ฟรานซิส วิลลัฟบี (ค.ศ. 1635-1672) นักปกั ษีวิทยาและมีนวิทยา (ศกึ ษาปลา) ชาวองั กฤษ
14  ปเี ตอร์ อาร์เตดี (ค.ศ. 1705-1735)นักธรรมชาตวิ ทิ ยาและบิดาแหง่ มีนวทิ ยาชาวสวีเดน

178 : โมบี-้ ดิก๊

ซบิ บลั ด1์ 5, บรสี ซอง16, มารเ์ ทนิ ส1์ 7, ลาเซอแปด18, บงนาแตร1์ 9, เดอสม์ าเรสต2์ 0,
บารอน กวู เิ ยร2์ 1, เฟรดเดอรคิ กวู เิ ยร2์ 2, จอหน์ ฮนั เตอร2์ 3, โอเวน่ 24, สกอรส์ บ,ี้
บลี , เบนเนตต2์ 5, เจ. รอสส์ บราวน2์ 6, ผเู้ ขยี นมเิ รยี ม คอฟฟนิ 27, โอลม์ สเตด็ 28
และบาทหลวงท.ี ชฟี เวอร์29 แตจ่ ดุ มงุ่ หมายโดยรวมของงานเขยี นเหลา่ นกี้ เ็ ปน็
ดงั ข้อความที่ยกมาข้างต้นแสดงให้เหน็

ในรายชอื่ ผเู้ ขยี นหนงั สอื เกยี่ วกบั วาฬขา้ งตน้ นบั จากโอเวน่ มาเทา่ นนั้ ทเี่ คย
ได้มีโอกาสเห็นวาฬเป็นๆ และมีเพียงคนเดียวเท่าน้ันที่เป็นผู้เช่ียวชาญด้าน
การพงุ่ ฉมวกและนักล่าวาฬตัวจริง บุคคลที่วา่ นัน้ ก็คือกัปตนั สกอร์สบี้ ถา้ ว่า
ถึงเร่ืองวาฬกรนี แลนด3์ 0 หรอื วาฬไรต3์ 1อยา่ งเดยี ว เขานบั เปน็ ผเู้ ช่ียวชาญทม่ี ี

15  เซอรโ์ รเบริ ์ต ซิบบลั ด์ (ค.ศ. 1641-1722) แพทยช์ าวสกอ็ ตต์ ผู้บรรยายถงึ วาฬสนี �้ำเงนิ เปน็ คนแรก
16  ชากส์ บรีสซอง (ค.ศ. 1723-1806) นักสัตววทิ ยาและนกั ปรชั ญาธรรมชาติชาวฝรงั่ เศส
17  เฟรเดริช มารเ์ ทนิ ส์ แพทย์และนักธรรมชาตวิ ิทยาชาวเยอรมัน (ค.ศ. 1635 - 1699) ผเู้ ขยี นเร่อื งการ
ออกส�ำรวจวาฬในปี 1671
18  แบรน์ าร์ด เกแมง เดอ ลาเซอแปด (ค.ศ. 1756-1825) นักธรรมชาติวิทยาชาวฝรั่งเศส
19  บงนาแตร์ (ค.ศ. 1725-1815) นักธรรมชาตวิ ทิ ยาชาวฝรงั่ เศส
20  นโิ กลา เดอสม์ าเรสต์ (ค.ศ. 1725-1815) นักธรณวี ทิ ยาชาวฝรง่ั เศส
21  บารอน กูวเิ ยร์ (ค.ศ. 1769-1832) นักธรรมชาตวิ ทิ ยาชาวฝรั่งเศส
22  เฟรดเดอรคิ กวู เิ ยร์ (ค.ศ. 1773-1838) นกั สตั ววิทยาชาวฝรั่งเศส
23  จอหน์ ฮันเตอร์ (ค.ศ.1728-1793) ศัลยแพทยแ์ ละนักธรรมชาติวทิ ยาชาวอังกฤษ
24  รชิ าร์ โอเว่น (ค.ศ.1804-1892) นกั ชวี วิทยาชาวองั กฤษ
25  เฟรเดริก เดเบลล์ เบนเนต็ ต์ (ค.ศ. 1806-1859) ศัลยแพทยผ์ ู้เขียนเรอื่ งการล่าวาฬรอบโลก
26 เจ. (จอหน์ ) รอสส์ บราวน์ (ค.ศ. 1817-1875) นักเขยี นและนกั ผจญภัยชาวอเมรกิ นั ไอริช
27 โจเซฟ ซ.ี ฮาร์ต (ค.ศ. 1798-1855) ผเู้ ขียนนวนยิ ายขายดี " มีเรียม คอฟฟิน หรือต�ำนานนกั ลา่ วาฬ"
28  ฟราสซิส อัลลิน อัลม์สเต็ด (ค.ศ. 1819-1844) เมลวิลล์ใช้หนังสือ "เร่ืองการล่าวาฬ" (ค.ศ. 1841)
ของเขาเป็นแหล่งข้อมูล
29 บาทหลวงเฮนรี ที. ชีเวอร์ (ค.ศ. 1814-1897) เมลวิลล์ใช้นวนิยายเกี่ยวกับวาฬของเขาบางเร่ืองเป็น
แหลง่ ข้อมูล
30  กรนี แลนด-์ เกาะทใี่ หญท่ ส่ี ดุ ในโลก ตง้ั อยทู่ างทศิ เหนอื บรเิ วณทแ่ี อตแลนตกิ พบกบั มหาสมทุ รอารต์ กิ ซง่ึ
ปจั บุ นั กลายเปน็ นำ�้ แขง็ ไปหมดแลว้ และมที ะเลลอ้ มรอบเกาะอยู่ ดงั นน้ั ชายฝง่ั จะมอี ณุ หภมู ติ ำ�่ อยตู่ ลอด
เวลา และด้วยสภาพที่ตง้ั จึงทำ� ให้ภูมิอากาศของกรีนแลนด์เปน็ ภูมิอากาศหนาวเยน็ แบบขวั้ โลกเหนอื
31  วาฬไรต-์ ที่ไดช้ ือ่ แบบนัน้ เพราะนักล่าวาฬเชื่อวา่ มีแตพ่ วกเขาเท่าน้ันทม่ี ีสิทธ์ิ (ไรต์) ล่ามนั

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 179

ความรดู้ ที ่สี ุด แต่สกอร์สบี้ก็ไมม่ ีความรแู้ ละไมไ่ ดก้ ลา่ วถึงวาฬหัวทยุ 32 ไว้เลย
ทงั้ ทเี่ มอ่ื เทยี บกนั แลว้ วาฬกรนี แลนดน์ น้ั แทบไมม่ คี ณุ คา่ อะไรใหก้ ลา่ วถงึ มาก
นัก เขาเขียนไว้ว่าวาฬกรีนแลนด์เป็นผู้ชิงบัลลังก์จ้าวแห่งทะเล ท้ังๆ ที่มัน
ไม่ได้มีความส�ำคัญอะไรนอกเสียจากเป็นวาฬที่มีขนาดใหญ่ยักษ์เท่าน้ัน
กระนั้น เนื่องจากมีการกล่าวขวัญถึงวาฬกรีนแลนด์มาก่อนสกอร์สบี้เน่ิน
นาน ผนวกกบั ความไมร่ ตู้ ลอดชว่ งเจด็ สบิ ปที ผ่ี า่ นมา33 ทำ� ใหเ้ รอ่ื งราวของวาฬ
หัวทุยไม่เป็นท่ีรู้จักกันเลยหรือไม่ก็เป็นแค่นิทานหลอกเด็ก ซึ่งส่งผลมา
จนถึงถึงวันน้ี และส่งอิทธิพลไปโดยถ้วนทั่ว เว้นเสียก็แต่ในแวดวงในทาง
วิทยาศาสตร์และท่าเรือล่าวาฬไม่กี่แห่งเท่าน้ัน สัตว์ทะเลยักษ์แทบทั้งหมด
ท่ีเอ่ยอ้างถึงในบทกวียุคอดีต ท�ำให้คุณแน่ใจว่าวาฬกรีนแลนด์ไร้ซ่ึงคู่แข่งใน
การก้าวข้ึนเป็นจ้าวแห่งสัตว์ทะเลท้ังปวง แต่ในที่สุดก็ถึงเวลาท่ีต้องประกาศ
กนั ใหมเ่ สยี ที เหมอื นการประกาศกลางชมุ ทางชารร์ งิ 34วา่ พวกทา่ นทงั้ หลาย!
จงรับรู้ว่า วาฬกรีนแลนด์ถูกปลดจากต�ำแหน่งเรียบร้อยแล้ว วาฬหัวทุยข้ึน
ครองตำ� แหนง่ จ้าวแหง่ ทะเลแลว้ !

มีหนังสือเพียงสองเล่มเท่านั้นท่ีท�ำให้คุณเช่ือว่าเนื้อหาพูดถึงวาฬ
หวั ทยุ ตวั เปน็ ๆ แตใ่ นขณะเดยี วกนั กเ็ ปน็ หนงั สอื ทยี่ ากจะประสบความสำ� เรจ็
เหลอื เกนิ หนงั สอื ทว่ี า่ เปน็ ของบลี และเบนเนต็ ต์ ทงั้ คเู่ คยใชช้ วี ติ เปน็ ศลั ยแพทย์
บนเรือล่าวาฬในทะเลใต้ ต่างเป็นคนที่มีความถูกต้องแม่นย�ำและเชื่อถือได้
แมเ้ ลยี่ งไมไ่ ดท้ เี่ นอื้ หาซง่ึ กลา่ วถงึ วาฬหวั ทยุ ในหนงั สอื ของพวกเขาจรงิ ๆ แลว้
มไี มม่ ากนัก แต่ทัง้ หมดกเ็ ปน็ ข้อมลู ที่มคี ณุ ภาพดเี ลศิ แมส้ ่วนใหญจ่ ะเป็นการ
บรรยายด้านวิทยาศาสตร์ก็ตาม อย่างไรก็ตาม จนถึงทุกวันน้ีเนื้อหาที่เก่ียว

32  วาฬหัวทยุ -หรือวาฬสเปิรม์ วาฬชนิดมฟี ันทีใ่ หญ่ท่สี ุด (ล�ำตวั ยาว 15-18 เมตร หนกั 31.8-40.8 ตนั )
แม้จริงๆ แล้ววาฬสีน�้ำเงินจะเป็นวาฬและสัตว์ท่ีใหญ่ท่ีสุด (ยาว 25-32 เมตร หนัก 100-120 ตัน)
แต่กไ็ ม่มีฟนั
33  ตลอดช่วงเจ็ดสิบปีที่ผ่านมา-หลังทศวรรษที่ 1780 ที่นักล่าวาฬนิวอิงแลนด์เพ่ิงเริ่มล่องมหาสมุทร
แปซิฟิก เพอ่ื ลา่ วาฬหัวทุย
34  ชมุ ทางชารร์ งิ -สแ่ี ยกในกรงุ ลอนดอน ทฝ่ี งู ชนเคยมารวมตวั เพอ่ื เปน็ สกั ขพี ยานในการลงโทษประหารชวี ติ
กลางชมุ ชน รวมถึงการประหารพระเจา้ ชารล์ ส์ที่หนึ่งในปี 1649

180 : โมบ้-ี ด๊กิ

กบั วาฬหัวทุย ไม่วา่ จะทางวิทยาศาสตรห์ รอื บททวี กย็ ังไม่มเี ลม่ ไหนเขียนถึง
ไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ ตา่ งจากวาฬอนื่ ๆ ทัง้ หลายท่ีถูกลา่ มาได้ วาฬหัวทยุ ยงั เป็น
ชีวาฬท่ียงั ไมม่ ีการเขยี นถึง

วาฬหลากหลายชนดิ ควรไดร้ บั การจดั แยกประเภทสายพนั ธใ์ุ หค้ รอบคลมุ
และเป็นทีย่ อมรับ อย่างนอ้ ยกเ็ พือ่ ให้เห็นถงึ สายพนั ธค์ุ รา่ วๆ ในตอนนี้ เพ่ือ
ว่าคนรุ่นหลังในอนาคตจะได้มาเพ่ิมเติมสายพันธุ์ใหม่ๆ ในภายหลัง และ
เน่ืองจากผู้รับหน้าท่ีนี้ยังไม่รุดหน้าไปถึงไหน ผมจึงต้องขันอาสาท�ำไปตาม
ก�ำลังน้อยนิดเท่าท่ีมี ผมบอกได้เลยว่าไม่มีอะไรท่ีสมบูรณ์แบบ เพราะสิ่งท่ี
มนษุ ยถ์ อื วา่ สมบรู ณแ์ บบนนั้ คงตอ้ งเปน็ ความผดิ พลาดของการใชเ้ หตผุ ลทไี่ ม่
ผดิ พลาด ผมคงจะไม่โออ้ วดบรรยายด้านกายวภิ าคของวาฬหลากหลายชนิด
อย่างละเอียด อย่างน้อยก็จะไม่พรรณนาเยิ่นเย้อบนพ้ืนที่ในหน้ากระดาษน้ี
ผมแคจ่ ะกลา่ วถงึ ตน้ รา่ งของโครงสรา้ งวาฬวทิ ยาเทา่ นนั้ ดว้ ยผมเปน็ สถาปนกิ
ไม่ใช่ช่างกอ่ สรา้ ง

กระน้ันนี่ก็ยังเป็นงานหิน ไม่ใช่งานคัดแยกจดหมายทั่วๆ ไปในที่ท�ำการ
ไปรษณีย์ แต่ต้องควานหาลึกลงไปถึงก้นทะเลตามเหล่าวาฬ ย่ืนมือเข้าไป
สัมผัสฐานราก โครงร่าง และกระดูกเชิงกรานแหง่ โลกอันเหลือท่จี ะพรรณนา
น่ีเป็นเรื่องน่ากลัว ผมเป็นอะไรกันถึงดันพยายามไปสนตะพายเจ้ายักษ์แห่ง
ทอ้ งทะเลน!ี่ เสยี งหวั เราะเยย้ หยนั นา่ กลวั ในโยบ35 อาจทำ� ใหผ้ มตอ้ งขนหวั ลกุ
‘เจา้ ยักษ์ทะเลจะทำ� ข้อตกลงกับเจ้าหรือ? นนั่ เปน็ ความหวงั ลมๆ แล้งๆ!’ ถงึ
อย่างนั้นผมยังคงท่องไปตามห้องสมุดและออกล่องไปยังมหาสมุทร ผมต้อง
ศึกษาชีวิตวาฬด้วยสองมือท่ีเห็นอยู่น้ี ผมเป็นคนตั้งใจจริง และจะพยายาม
ทำ� ใหไ้ ด้ ด้านลา่ งนเี้ ป็นเร่ืองแรกๆ ทต่ี อ้ งหาข้อสรุป

อันดับแรก: ความไม่แน่นอนและไร้ระบบของศาสตร์แห่งวาฬต้องถูก
พสิ จู นโ์ ดยขอ้ เทจ็ จรงิ ซง่ึ ยงั เปน็ ทถี่ กเถยี งกนั บางสว่ นวา่ วาฬใชป่ ลาหรอื ไม่ ใน
หนังสือ ‘ระบบธรรมชาติ’ ของลนิ เนียสในปี 1776 เขาได้ประกาศว่า “ผมขอ

35  เสียงหวั เราะเย้ยหยนั น่ากลวั ในโยบ-โยบบทท่ี 41 (คมั ภีร์ไบเบิล) พระเจ้าทรงเตอื นโยบถงึ ฤทธ์ิอำ� นาจ
อันนา่ หวาดหวนั่ ของวาฬยกั ษ์

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 181

แยกวาฬออกจากปลา” แตเ่ ท่าทผ่ี มรนู้ น้ั จำ� ไดว้ ่าจวบจนถงึ ปี 1850 น้ี ปลา
ฉลามกับปลาเชด ปลาเอลไวฟก์ บั ปลาเฮอรร์ งิ กไ็ ม่ได้เป็นดังท่ลี ิสเนียสแสดง
ความคิดเห็นไว้ เพราะพบว่าปลาเหล่านี้ยังคงแบ่งพ้ืนที่ครอบครองส่วนหนึ่ง
ในทะเลเดียวกนั กับสัตวใ์ หญอ่ ยา่ งวาฬ

เหตผุ ลทล่ี นิ เนยี สอยากแยกวาฬออกจากสตั วท์ ะเลอน่ื เขาไดก้ ลา่ วไวด้ งั น้ี
‘เนอื่ งจากพวกมนั เปน็ สตั วเ์ ลอื ดอนุ่ ทมี่ หี วั ใจสองหอ้ ง มปี อด มเี ปลอื กตาขยบั
ได้ มโี พรงหู มอี วยั วะเพศสำ� หรบั สบื พนั ธ์ุ มนี ำ�้ นมสำ� หรบั ใหน้ มลกู 36 และทา้ ย
ทส่ี ดุ อยตู่ ามกฎธรรมชาติ ดว้ ยคณุ สมบตั อิ นั เหมาะสม’ ผมบอกทลี่ นิ เนยี สวา่
ไวใ้ หซ้ ิเมียน เมซยี ์ และชารล์ ยี ์ คอฟฟทิ แ่ี นนทกั เก็ตฟัง สองคนน้เี ปน็ เพื่อน
ร่วมกว๊ นของผมขณะเดนิ ทาง พวกเขาพรอ้ มใจกันแสดงความเหน็ วา่ ยงั ไมม่ ี
เหตุผลเพียงพอให้เชอ่ื ถือได้ ชาร์ลยี ก์ ลา่ วดหู มน่ิ กลายๆ ว่าหลอกลวงทง้ั เพ

ขอให้รับรู้กันเถิดว่าผมไม่เชื่อเหตุผลทั้งหมดที่น�ำมากล่าวอ้างสนับสนุน
และเลอื กทจ่ี ะเชอ่ื ตามหลกั ฐานในอดตี ทช่ี ชี้ ดั ไวว้ า่ วาฬเปน็ ปลาชนดิ หนงึ่ โดย
ขอหยิบยกเอาเร่ืองราวของนักบุญโยนาห์มาใช้สนับสนุนความเช่ือของผม
ขอ้ มลู นเี้ ปน็ หลกั ฐานทชี่ ดั เจน สำ� หรบั ประเดน็ ทว่ี า่ อวยั วะภายในของวาฬแตก
ตา่ งจากปลาชนดิ อนื่ ตามทล่ี นิ เนยี สไดใ้ หเ้ หตผุ ลเอาไวข้ า้ งตน้ ซงึ่ กลา่ วโดยสรปุ
คอื มปี อด และเลอื ดอุน่ ขณะทีป่ ลาชนิดอนื่ ทัง้ หมดไม่มีปอด และเลอื ดเยน็

อนั ดบั ถดั มา: เราจะใหค้ �ำจ�ำกดั ความวาฬด้วยรูปลักษณภ์ ายนอกของมนั
เพ่ือใช้เป็นค�ำเรียกช้ีชัดถึงตัวมันตลอดเวลาที่กล่าวถึง โดยสรุปวาฬเป็นปลา
วา่ ยอย่ใู นน้ำ� ได้ดว้ ยหางที่แบนขนานไปกับพน้ื น�้ำดงั ท่คี ุณไดร้ ูก้ ันมา ค�ำจำ� กดั
ความโดยยอ่ นย้ี งั เปน็ ขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ สำ� หรบั การพจิ ารณาขยายผล วอลรสั หลง่ั
ไขมนั ไดเ้ หมอื นกบั วาฬ แตว่ อลรสั ไมใ่ ชป่ ลา มนั เปน็ สตั วค์ รงึ่ บกครง่ึ นำ้� กระนน้ั
คำ� จำ� กดั ความลา่ สดุ ยงั คงนา่ เชอ่ื ถอื กวา่ เมอื่ เทยี บกบั คำ� จำ� กดั ความแรก แทบ
ทุกคนรู้ว่าปลาทุกชนิดคล้ายกับคนบนบกทไี่ ม่ไดแ้ บนราบ แตต่ ัง้ ตรง หรือไม่
ก็มหี างสะบัดขนึ้ ลง สว่ นปลาท่มี ไี ข แมห้ างของมนั จะมีรูปรา่ งคลา้ ยกบั ปลา

36  จากภาษาละตินทว่ี า่ “อวัยวะเพศของเพศผู้ เข้าสู่อวัยวะเพศของเพศเมยี ซึ่งให้นมจากหัวนม”

182 : โมบี-้ ด๊กิ

ชนดิ อื่น แต่จะแบนราบไปกับพน้ื น�ำ้
จากคำ� จำ� กดั ความขา้ งตน้ ทไี่ ดใ้ หค้ วามหมายวาฬไวน้ น้ั ผมไมไ่ ดต้ งั้ ใจแยก

พวกพอ้ งสตั วท์ ะเลขนาดใหญอ่ อกจากสตั วท์ ะเลอนื่ ใดทจ่ี นถงึ เดย๋ี วนก้ี ย็ งั ไดร้ บั
พจิ ารณาใหเ้ ปน็ พวกเดยี วกบั วาฬตามความเหน็ ของชาวแนนทกั เกต็ และไมม่ ี
เจตนาเชอื่ มโยงคำ� จำ� กดั ความนน้ั กบั ปลาอนื่ ใดทจี่ นถงึ เดยี๋ วนกี้ ย็ งั ถกู พจิ ารณา
อยา่ งนา่ เชอ่ื วา่ เปน็ สตั วแ์ ปลกประหลาด ดงั นน้ั ปลาทมี่ ขี นาดเลก็ หลง่ั ไขมนั ได้
และมหี างวางราบ จะตอ้ งนบั รวมไวใ้ นโครงรา่ งพน้ื ฐานของวาฬศาสตร์ ตอ่ ไป
นเี้ ป็นการจดั แบง่ ประเภทสายพันธ์วุ าฬทง้ั หมด

*ผมรู้ว่าจวบจนถึงปัจจุบันปลาที่มีลักษณะคล้ายลามาติน และพะยูน
(พิกฟิซ และซอฟิซแห่งตระกูลคอฟฟินในแนนทักเก็ต) จะถูกรวมไว้ในกลุ่ม
เดียวกับวาฬโดยนักธรรมชาติวิทยาหลายคน แต่เพราะพิกฟิซเหล่าน้ีเป็นฝูง
ปลานา่ รงั เกยี จ และสง่ เสยี งจอแจ โดยสว่ นใหญจ่ ะอาศยั อยปู่ ากแมน่ ำ�้ กนิ หญา้
ทะเลเปน็ อาหาร และไม่สามารถหลั่งไขมันได้ ผมจงึ ปฏเิ สธการรบั รองพวกมัน
ไว้ในกลุ่มเดียวกับวาฬ และมอบหนังสือรับรองให้พวกมันถอนตัวออกจาก
อาณาจักรวาฬศาสตร์

อนั ดบั แรก: ผมแบง่ สายพนั ธว์ุ าฬตามความสำ� คญั ออกเปน็ หนงั สอื อา้ งองิ
สามเล่ม (แบ่งแยกย่อยออกเป็นบท) แต่ละเล่มจะบรรยายรายละเอียดของ
แตล่ ะสายพันธทุ์ ั้งวาฬขนาดเลก็ และขนาดใหญ่

1.วาฬสห่ี น้ายก 2.วาฬแปดหนา้ ยก 3.วาฬสิบหกหน้ายก
เลม่ วาฬส่หี น้ายก ผมนำ� เสนอเรือ่ งของวาฬหัวทยุ เลม่ วาฬสบิ หกหนา้ ยก
น�ำเสนอวาฬแกรมปัส และเลม่ วาฬสามสบิ สองหนา้ ยกนำ� เสนอโลมา
หนังสือสี่หน้ายก ผมได้แบ่งเน้ือหาออกเป็นบทต่างๆ ดังน้ี 1.วาฬหัวทุย
2.วาฬไรต์ 3.วาฬฟินแบค 4.วาฬหลังค่อม 5.วาฬเรเซอรแ์ บค 6.วาฬซลั เฟอร์
บอตเทิม

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 183

หนังสอื เล่มที่ 1 (ส่หี น้ายก) บทท่ี 1 (วาฬหัวทุย) วาฬชนดิ นเ้ี ดิมเคยเปน็
ทรี่ จู้ กั อยา่ งคลมุ เครอื ในประเทศองั กฤษในชอื่ วาฬทรมั ปา และ วาฬฟเิ ซเตอร์
และ วาฬแอนวลิ เฮด ซึ่งปจั จบุ ันก็คอื Cachalot ในฝร่ังเศส และ Pottsfich
ในเยอรมนั และในชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ Macrocephalus ไมต่ อ้ งสงสยั เลยวา่ มนั มี
จำ� นวนประชากรมากทส่ี ดุ บนโลกกลมๆใบนี้ เปน็ วาฬทน่ี า่ กลวั ทสี่ ดุ ในจำ� นวน
วาฬทง้ั หมดทไี่ ดพ้ บเจอ มลี กั ษณะนา่ เกรงขามทส่ี ดุ และทา้ ยทสี่ ดุ เปน็ วาฬทมี่ ี
มลู คา่ ทางเศรษฐกจิ มากทส่ี ดุ มนั เปน็ สตั วช์ นดิ เดยี วทใ่ี หไ้ ขมนั ทม่ี รี าคา ความ
มหศั จรรยท์ งั้ หมดของวาฬหวั ทยุ จะไดข้ ยายความถงึ อยา่ งละเอยี ดในหลายๆ
ส่วนของหนังสือเล่มนี้ แต่อันดับแรกที่ผมจะต้องกล่าวถึงเสียตอนนี้ก็คือ
ชอื่ ภาษาองั กฤษของมนั Sperm whale ซง่ึ หากพจิ ารณาในดา้ นภาษาศาสตร์
แลว้ เปน็ เรอ่ื งนา่ ขนั จรงิ ๆ หลายศตวรรษกอ่ น คณุ สมบตั พิ เิ ศษของวาฬหวั ทยุ
แทบไม่เป็นที่รู้จักกันเลย กระท่ังไขของมันถูกพบโดยบังเอิญจากวาฬที่มา
เกยตน้ื ชว่ งเวลาน้ันดเู หมือนไขวาฬจะเปน็ ทีย่ อมรบั กันวา่ ไดม้ าจากสัตว์ชนิด
หนง่ึ ซงึ่ มารกู้ นั ภายหลงั ทปี่ ระเทศองั กฤษวา่ มนั คอื วาฬกรนี แลนด์ หรอื วาฬไรต์
ดว้ ยความคดิ นเ้ี องยงั เปน็ ผลใหไ้ ขวาฬ ซง่ึ ภาษาองั กฤษคอื Spermaceti กลาย
เปน็ เรอ่ื งนา่ ขบขนั เมอ่ื มกี ารพดู ถงึ กนั เกยี่ วกบั วาฬกรนี แลนด์ เนอื่ งจากพยางค์
แรกของคำ� ทสี่ อื่ ออกมาตามลกั ษณะของไขวาฬ ทงั้ ในชว่ งเวลานน้ั ยงั เกดิ ภาวะ
ขาดแคลนไขวาฬอย่างรนุ แรง เพราะไมไ่ ด้นำ� มาใช้แตเ่ ฉพาะใหแ้ สงสวา่ ง แต่
ยงั ใชเ้ ปน็ ขผ้ี ง้ึ และยารกั ษาโรค ซง่ึ หาซอ้ื ไดจ้ ากเภสชั กรเทา่ นน้ั เหมอื นกบั ทท่ี กุ
วนั นค้ี ณุ สามารถซอ้ื รบู าบหนงึ่ ออนซไ์ ดจ้ ากเภสชั กร ผมแสดงความเหน็ เชน่ น้ี
กเ็ พราะชว่ งเวลานนั้ ลกั ษณะธรรมชาตทิ แี่ ทจ้ รงิ ของไขวาฬไดเ้ ปน็ ทรี่ จู้ กั กนั แลว้
โดยชอื่ เดมิ ของมนั ยงั คงเปน็ ทรี่ บั รกู้ นั เฉพาะในกลมุ่ พอ่ คา้ ซงึ่ แนน่ อนวา่ ยอ่ มมี
การยกระดบั คณุ คา่ ของมนั โดยความเชอ่ื ทม่ี คี วามหมายแปลกๆ เกย่ี วกบั การ
ขาดแคลนไขวาฬ และดว้ ยเหตนุ เี้ องทำ� ใหใ้ นทสี่ ดุ ชอื่ Spermaceti ไดถ้ กู มอบ
ให้กับวาฬหัวทุยผู้ซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริงของไขวาฬท่ีถูกน�ำมาใช้ประโยชน์
โดยมีชือ่ เรียกเป็นภาษาอังกฤษวา่ Sperm whale

184 : โมบ-้ี ดิก๊

หนงั สอื เลม่ ที่ 1 (สห่ี นา้ ยก) บทท่ี 2 (วาฬไรต)์ ถอื เปน็ วาฬรนุ่ ดกึ ดำ� บรรพ์
ในกลมุ่ สตั วท์ ะเลขนาดใหญ่ ดว้ ยเพราะเปน็ ตวั แรกๆ ทมี่ กั จะถกู มนษุ ยล์ า่ เปน็
ประจ�ำ เพราะมันจะให้สิ่งที่เรียกว่ากระดูกวาฬ หรือแผ่นกระดูกขากรรไกร
และน้�ำมันท่ีมีช่ือเรียกเฉพาะว่า “น�้ำมันวาฬ” ซ่ึงมีราคาต่�ำในการค้าขาย
กลมุ่ ชาวประมงดว้ ยกนั จะแยกยอ่ ยชนดิ วาฬไรตไ์ วด้ งั ชอื่ ตอ่ ไปนคี้ อื วาฬ, วาฬ
กรีนแลนด์, วาฬแบล็ค, วาฬเกรต, วาฬทรู และวาฬไรต์ ข้อตกลงเก่ียวกับ
เอกลักษณ์ของวาฬชนิดต่างๆ ที่ได้รับการตั้งช่ือไว้อย่างหลากหลายนั้นยังมี
ความคลุมเครือ ซ่ึงเม่ือเป็นเช่นน้ันแล้ววาฬที่ผมได้น�ำมารวมเข้าไว้ในชนิดที่
สองของกลุ่มวาฬในหนังสือสี่หน้ายกของผมคืออะไรกัน นักธรรมชาติวิทยา
ชาวอังกฤษเรียกมันว่า Great Mysticetus นักล่าวาฬชาวอังกฤษเรียกว่า
Greenland Whale นักล่าวาฬชาวฝรั่งเศสเรยี กวา่ Baliene Ordinaire ชาว
สวีเดนเรียกว่า Growlands Walfish มันเป็นวาฬท่ีถูกล่าโดยชาวดัตช์ และ
ชาวอังกฤษในทะเลอาร์กติกมานานมากกว่าสองศตวรรษ เป็นวาฬที่ชาว
ประมงอเมริกันไล่ล่ามายาวนานในมหาสมุทรอินเดีย บริเวณชายฝั่งบราซิล
และชายฝงั่ ตะวนั ตกเฉียงเหนอื รวมทัง้ ส่วนอื่นๆ ของโลก ซ่ึงไดร้ บั การตัง้ ชอ่ื
โดยเขตประมงลา่ วาฬไรต์

บางคนอวดอา้ งวา่ รคู้ วามแตกตา่ งระหวา่ งวาฬกรนี แลนดข์ ององั กฤษและ
วาฬไรตข์ องอเมรกิ นั แตพ่ วกเขาเหน็ ตรงกนั ในลกั ษณะสำ� คญั ทงั้ หมดของพวก
มนั และยงั ไมน่ ำ� เสนอขอ้ เทจ็ จรงิ ทไ่ี ดก้ ำ� หนดไวร้ ว่ มกนั ในสงิ่ ทเ่ี ปน็ รากฐานของ
ลักษณะเด่นส�ำคัญ การแบ่งย่อยสายพันธุ์ท�ำได้ไม่ส้ินสุดขึ้นอยู่กับความแตก
ต่างท่ีไม่อาจพิสูจน์แน่ชัดได้ ซ่ึงภาควิชาธรรมชาติวิทยาได้กลายมาเป็นเร่ือง
สลบั ซับซอ้ นจนนา่ เบื่อหน่าย วาฬไรต์ทอ่ี าศัยในถ่นิ อนื่ จะไดร้ ับการพจิ ารณา
จากขนาดความยาวดว้ ยหลักฐานอ้างองิ ต่อการช้ชี ดั วาฬหวั ทยุ

หนังสือเล่มท่ี 1 (สี่หน้ายก) บทท่ี 3 (วาฬฟินแบค) มันเป็นวาฬยักษ์
ใหญท่ ีพ่ บเห็นไดใ้ นทะเลแทบทุกแห่งภายใต้ช่ือเรียกทตี่ า่ งกันไป ทั้งฟินแบค,
ทอลสเพาต์ และลองจอหน์ วาฬชนิดนีพ้ ่นนำ�้ ไดไ้ กลและบ่อยคร้งั ถูกพบเหน็

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 185

โดยผู้โดยสารที่เดินทางข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกในเส้นทางสู่นิวยอร์ก
ฟินแบคจะมีขนาดความยาว และแผ่นกระดูกขากรรไกรคล้ายวาฬไรต์ แต่มี
ขนาดความกว้างอ้วนน้อยกว่า และสีอ่อนกว่าโดยใกล้เคียงกับสีผลมะกอก
น้ำ� ริมฝีปากขนาดใหญ่ของมันมรี ปู ร่างคลา้ ยสายเคเบ้ลิ ท่พี ันทบั กนั ไปมาจน
เปน็ รอยยน่ ขนาดใหญ่ ลกั ษณะเดน่ สำ� คญั ของมนั คอื สว่ นครบี ซง่ึ เปน็ ทมี่ าของ
ชื่อของมันนั่นเอง ครีบของมันมักมีลักษณะเด่นชัดสะดุดตา ครีบนี้มีความ
ยาวประมาณสามหรือสี่ฟุตย่ืนตรงด่ิงออกมาจากส่วนท้ายของหลัง มีรูปร่าง
เป็นมุมเหลี่ยมโดยมียอดปลายแหลม แม้จะไม่ใช่ส่วนท่ีมีขนาดเล็กของสัตว์
ที่สามารถมองเห็นได้ แต่หลายคร้ังครีบที่แยกเดี่ยวน้ีมักจะโผล่ขึ้นมาให้เห็น
จากผิวน้�ำ เวลาทะเลสงบราบเรียบ ระลอกคล่ืนตีวงให้เห็นบางๆ ครีบที่มี
ลกั ษณะคลา้ ยนาฬิกาแดดนีจ้ ะตงั้ ขน้ึ และทอดเงาบนผิวยบั ย่น ซ่ึงอาจทำ� ให้
คิดไปได้ว่าวงน�้ำท่ีล้อมรอบมันดูคล้ายกับหน้าปัดซึ่งมีเส้นบอกเวลาเป็นคล่ืน
อยูด่ า้ นบน ซึ่งหนา้ ปดั นาฬกิ าแดดของอาหสั เงามกั จะเดินยอ้ นกลับ วาฬฟนิ
แบคไม่ใช่สัตว์สังคมที่ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ท้ังดูเหมือนจะเป็นพวกรังเกียจ
วาฬดว้ ยกนั เองดว้ ย เหมือนมนษุ ย์บางคนที่เกลียดมนษุ ย์ดว้ ยกนั เอง มนั เป็น
สัตว์ขี้อาย และชอบอยู่สันโดษ บางคร้ังอาจโผล่ขึ้นเหนือน้�ำอย่างไม่คาดฝัน
ในบรเิ วณนา่ นนำ�้ หา่ งไกลออกไป และทะเลขนุ่ มวั นำ้� ทพี่ งุ่ ขน้ึ เปน็ ลำ� สงู ดคู ลา้ ย
กับหอกยาวส�ำหรับพิฆาตมนุษย์ตั้งอยู่บนพ้ืนน้�ำราบเรียบ มันมีพรสวรรค์ที่
ทำ� ใหม้ พี ลงั เยย่ี มยอด และวา่ ยนำ้� ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ อนั เปน็ ความทา้ ทายมนษุ ย์
ท่ีไล่ล่ามัน สัตว์ทะเลยักษ์ตัวนี้ดูคล้ายกับเชื้อสายของเคนท่ีถูกขับไล่ และไม่
สามารถเอาชนะได้ โดยยอมรับตราบาปไว้บนหลังของเขา เพราะมีกระดูก
ในปากท�ำให้บางคร้ังวาฬฟินแบคถูกน�ำไปรวมไว้เป็นชนิดเดียวกับวาฬไรต์
ซึ่งการต้ังชื่อชนิดสกุลตามหลักทฤษฎีแล้ว Whalebone whale ก็คือวาฬที่
มีแผ่นกระดูกขากรรไกร โดยจะมีชื่อเรียกอย่างอื่นอีกหลากหลาย แต่ส่วน
ใหญ่ไมเ่ ป็นทร่ี จู้ กั กันนัก อาทิ Broad-nosed whale, beaked whale, pike-
headed whale, bunched whale, under-jawed whale และ rostrated

186 : โมบ-ี้ ด๊กิ

whale ทงั้ หมดนเี้ ปน็ ชอื่ ของเรอื ประมงส�ำหรบั การแบง่ กลุ่ม
สมญานาม “Whalebone whale” มีความส�ำคัญมากในการกล่าวอ้าง

ถึง อย่างไรก็ตามระบบการต้ังชื่ออาจช่วยให้การพูดถึงวาฬบางชนิดเป็น
เร่ืองง่ายขึ้น แต่ก็ยังล้มเหลวในความพยายามจัดแยกชนิดท่ีชัดเจนของ
สัตว์ทะเลยักษ์เหล่านี้ เน่ืองจากการยึดเอาหลักการต้ังช่ือตามแผ่นกระดูก
ขากรรไกร หรือโหนก หรือครีบ หรือฟันของมัน กระนั้นส่วนที่เป็นจุด
สังเกต หรือลักษณะที่เห็นเด่นชัดเหล่าน้ีดูน่าจะปรับให้เข้ากับหลักเกณฑ์
ที่มีอยู่เดิมของวาฬศาสตร์ได้ดีกว่าลักษณะเด่นทางกายภาพส่วนอื่นที่
ปรากฏบนตัววาฬแต่ละชนิด แล้วยังไงล่ะ แผ่นกระดูกขากรรไกร โหนก
ครีบหลัง และฟัน สิ่งเหล่านี้เป็นลักษณะเฉพาะท่ีถูกท�ำให้แพร่กระจาย
ไปอย่างขาดการพิจารณาท่ามกลางชนิดท้ังหมดของวาฬ โดยขาดการ
ค�ำนึงถึงส่ิงท่ีอาจเป็นลักษณะโครงสร้างของพวกมันในส่วนอ่ืน และส่วนท่ี
เปน็ ลักษณะส�ำคัญกว่า ดว้ ยเหตุน้ีวาฬหวั ทยุ และวาฬหลงั คอ่ มตา่ งกม็ ีโหนก
แล้วก็ไมม่ ีส่ิงอน่ื ทเ่ี หมอื นกนั อีก ขณะวาฬหลังคอ่ ม และวาฬกรีนแลนด์ตา่ งก็
มแี ผน่ กระดกู ขากรรไกรเหมอื นกนั และกอ็ กี เชน่ กนั ไมม่ สี งิ่ อน่ื ทเี่ หมอื นกนั อกี
มนั กแ็ คเ่ หมอื นกบั สว่ นอน่ื ทไี่ มไ่ ดม้ กี ารกลา่ วอา้ งถงึ เทา่ นน้ั วาฬแตล่ ะชนดิ จะมี
สว่ นตา่ งๆของรา่ งกายแตกตา่ งกนั ไป หรอื ในกรณที พ่ี วกมนั ตวั ใดตวั หนงึ่ ผลดั
หลงไปจากกลมุ่ การแยกตวั ออกมาเชน่ นน้ั เปน็ เรอื่ งทา้ ทายอยา่ งมากตอ่ ระบบ
การตัง้ ชอื่ ทงั้ หมดทใี่ ช้แนวทางเช่นนั้นเป็นหลกั ในการพจิ ารณา นเี่ ป็นงานหนิ
ท่นี กั ธรรมชาติวิทยาสาขาวาฬศาสตรต์ ้องขบให้แตก

แต่อาจมีความเป็นไปได้ว่าอย่างน้อยที่สุดโครงสร้างภายในของวาฬ
สามารถน�ำมาใช้เป็นหลักพิจารณาจัดแบ่งสายพันธุ์ที่ถูกต้องได้ ยกตัวอย่าง
เชน่ ลองนึกดสู วิ า่ โครงสรา้ งอะไรของวาฬกรนี แลนด์มีความโดดเด่นกวา่ แผน่
กระดกู ขากรรไกรของมนั นอกจากนน้ั เรายงั ไดป้ ระจกั ษก์ นั แลว้ วา่ แผน่ กระดกู
ขากรรไกรไมอ่ าจแยกชนดิ วาฬกรนี แลนดไ์ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง และถา้ คณุ เลอื่ นลง
ไปในลำ� ไสข้ องสตั วท์ ะเลยกั ษห์ ลากหลายสายพนั ธเ์ุ หลา่ น้ี ทำ� ไมคณุ จงึ ไมพ่ บ

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 187

ลกั ษณะเดน่ ของชนิ้ สว่ นทหี่ า้ สบิ ทสี่ ามารถนำ� มาเปน็ หลกั พจิ ารณาไดพ้ อๆ กบั
ชน้ิ สว่ นภายนอกทถ่ี กู ใชเ้ ปน็ เกณฑก์ ารแบง่ แยกสายพนั ธ์ุ แลว้ สว่ นอน่ื ๆทเี่ หลอื
ละ่ ไมม่ ีเลย...เว้นแต่จะใช้ทกุ สว่ นของตวั วาฬมารวมพจิ ารณา ซง่ึ ในปรมิ าณที่
มีอยู่อย่างมากมายทั้งหมดนั้นวิธีนี้เป็นการแบ่งแยกสายพันธุ์ได้อย่างชัดเจน
และเป็นบรรณานกุ รมที่น�ำมาใช้ในบทน้ี ซง่ึ เป็นเพียงวธิ เี ดยี วที่มคี วามเป็นไป
ไดม้ ากที่สดุ ทีส่ ามารถปฏบิ ัตใิ หล้ ุลว่ งตอ่ ไปได้

หนังสือเล่มท่ี 1 (ส่ีหน้ายก) บทที่ 4 (วาฬหลังค่อม) วาฬชนิดน้ีพบได้
บ่อยบริเวณชายฝั่งอเมริกาตอนเหนือ มันมักถูกจับได้บริเวณน้ันแล้วถูกลาก
มายงั ทา่ เรอื มนั มถี งุ ขนาดใหญอ่ ยบู่ นตวั เหมอื นกบั พวกพอ่ คา้ เร่ คณุ อาจเรยี ก
มันว่าช้าง หรือ Castle whale ก็ได้ อย่างไรก็ตาม ช่ือที่นิยมเรียกมันไม่ได้
บง่ บอกถงึ ลกั ษณะเดน่ ของมนั มากนกั เนอ่ื งจากวาฬหวั ทยุ ลว้ นมโี หนกอยบู่ น
หลงั ด้วยกนั ทุกตวั แม้กระทง่ั ตัวที่มขี นาดเลก็ ไขของวาฬหลงั คอ่ มมันมมี ลู คา่
ไม่มากนัก มันมีแผ่นกระดูกขากรรไกร เป็นสายพันธุ์ท่ีข้ีเล่น และร่าเริงท่ีสุด
ในจ�ำนวนวาฬท้ังหมด ชอบตนี ำ้� เป็นฟองสีขาวเล่นมากกวา่ วาฬสายพันธุอ์ น่ื

หนังสือเล่มท่ี 1 (ส่ีหน้ายก) บทที่ 5 (วาฬเรเซอร์แบค) นอกจากช่ือ
ของมันแล้ว เร่ืองราวของวาฬชนิดนี้เป็นท่ีรู้จักกันน้อยมาก ผมเคยเห็นมัน
บริเวณที่ห่างออกไปจากแหลมเคปฮอร์น ด้วยธรรมชาติรักสันโดษท�ำให้มัน
หลบสายตานักล่า และนกั ปรัชญา แม้จะไมใ่ ช่พวกขีข้ ลาดแต่มนั กไ็ ม่เคยเผย
โฉมใหใ้ ครเหน็ ไดง้ า่ ยๆ เวน้ แตส่ ว่ นหลงั ของมนั ซง่ึ จะโผลข่ นึ้ มาใหเ้ หน็ เปน็ สนั
หลงั ยาว ชา่ งมนั เถอะ ผมรูเ้ รอ่ื งเกย่ี วกับมันน้อยมาก เชน่ เดียวกบั คนอ่ืนๆ ที่
กไ็ มค่ ่อยร้เู รือ่ งของมนั เชน่ กัน

หนังสือเล่มท่ี 1 (สี่หน้ายก) บทที่ 6 (วาฬซัลเฟอร์บอทเทิม) มันเป็น
สุภาพบุรษุ ผรู้ ักสนั โดษอกี สายพันธทุ์ ่มี ีท้องเปน็ ก�ำมะถนั ไมต่ อ้ งสงสยั เลยวา่
มันประทังชีวิตอยู่ตามพื้นหินปูนโดยด�ำน้�ำลงไปในใต้ทะเลลึก มันไม่ค่อยถูก
พบเหน็ บอ่ ยครงั้ นกั อยา่ งนอ้ ยผมกไ็ มเ่ คยเหน็ มนั นอกจากบรเิ วณทะเลใตห้ า่ ง
ไกลออกไป ซง่ึ มกั จะหา่ งไกลเกนิ จะตามไปศกึ ษาลกั ษณะหนา้ ตาของมนั วาฬ

188 : โมบี้-ด๊ิก

สายพันธนุ์ ี้ไมเ่ คยถกู ล่า เพราะมันจะหลุดรอดออกจากเชอื กที่พันธนาการไว้
เป็นเร่ืองมหัศจรรย์ที่ผู้คนกล่าวถึงมัน ลาก่อน เจ้าซัลเฟอร์บอทเทิม! ข้าคง
พูดอะไรได้ไม่มากไปกว่าถูกของเจ้าแล้วล่ะ คนเก่าคนแก่ในแนนทักเก็ตเอง
กค็ งเชน่ กนั

เป็นอันจบหนังสือเล่มที่ 1 (สี่หน้ายก) และเร่ิมใหม่ด้วยเนื้อหาหนังสือ
เลม่ ท่ี 2 (สบิ หกหน้ายก)

สิบหกหน้ายก* หนังสือเล่มน้ีรวบรวมวาฬท่ีมีขนาดกลางซึ่งปัจจุบัน
มีท้ังหมดดังนี้ 1.วาฬแกรมปัส 2.วาฬแบล็คฟิซ 3.วาฬฉมวก 4.วาฬแทรช
เชอร์ 5.วาฬเพชฆาต

*เหตุใดหนังสือวาฬเลม่ น้จี ึงไม่ท�ำเปน็ รปู เลม่ ขนาดแปดหนา้ ยกไปซะเลย นั่น
ก็เพราะวาฬที่จัดล�ำดับในเล่มน้ีมีขนาดเล็กกว่าวาฬในเล่มก่อนหน้า แต่ยัง
คงไว้ซ่ึงสัดส่วนเดิมของพวกมันในภาพ ซึ่งขนาดเล่มแปดหน้ายกเม่ือเย็บ
เล่มออกมาแล้วจะไม่คงสัดส่วนตามรูปเล่มสี่หน้ายก ขณะท่ีขนาดเล่มสิบ
หกหนา้ ยกคงสดั ส่วนเดิมไว้

หนังสือเล่มท่ี 2 (สิบหกหน้ายก) บทที่ 1 (แกรมปัส) แม้วาฬชนิดน้ีจะ
มีเสียงลมหายใจดังก้องกังวาน หรือพ่นน้�ำค่อนข้างมาก เป็นที่กล่าวขานถึง
บอ่ ยครง้ั ของคนบนฝั่ง และเป็นที่รู้กันว่ามนั มีถน่ิ อาศัยอยู่ในทะเลลึก กระน้ัน
มันจัดเป็นวาฬที่ไม่เป็นท่ีนิยมนัก แต่ด้วยความที่มีลักษณะเด่นสะดุดตา
นักธรรมชาติวิทยาส่วนใหญ่จึงสามารถจดจ�ำมันได้ มันมีขนาดสิบหกหน้า
ยกปานกลาง มีความยาวตั้งแต่สิบห้าถึงย่ีสิบห้าฟุต มีขนาดล�ำตัวเป็นเส้น
รอบเอวได้ส่วนกับความยาว มันว่ายรวมกลุ่มเป็นฝูง โดยปกติจะไม่ถูกล่า
แม้น�้ำมันของมันจะมีปริมาณมาก และเหมาะกับการให้แสงสว่าง ส�ำหรับ
ชาวประมงบางคนแล้ววาฬแกรมปัสท่ีเข้ามาใกล้เป็นสัญญาณบอกถึงแหล่ง
อาศยั ของวาฬหัวทุย

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 189

หนงั สือเลม่ ที่ 2 (สบิ หกหน้ายก) บทที่ 2 (แบลก็ ฟซิ ) ผมน�ำเอาชือ่ ยอด
นิยมของชาวประมงมาตั้งให้กับมัน เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วพวกมันเหมาะ
ท่จี ะใชช้ ่ือนั้นเปน็ ที่สุด หากพบวา่ ช่ือทผ่ี มตัง้ ใหว้ าฬฟังดูคลมุ เครอื หรือไม่ส่อื
ถงึ ลกั ษณะเฉพาะของมนั ผมจะกลา่ วแนะนำ� ชอื่ อน่ื ให้ ดงั ทผี่ มไดต้ ง้ั ชอื่ ใหก้ บั
วาฬแบลก็ ฟซิ ทเ่ี รยี กมนั อยา่ งนน้ั กเ็ พราะความดำ� ทม่ี มี ากกวา่ วาฬเกอื บแทบ
ทุกชนิด หรือจะเรียกมันว่าวาฬไฮอีนะก็ได้หากคุณต้องการ ความตะกละ
ของมันเป็นที่รู้จักกันดี และจากลักษณะท่ีมุมด้านในของริมฝีปากมันโค้งงอ
ขึ้น มันจึงมีรอยย้มิ ปศี าจปรากฏอยูบ่ นใบหนา้ ตลอดเวลา วาฬชนดิ น้มี คี วาม
ยาวเฉล่ยี สบิ หก หรือสบิ แปดฟตุ พบไดท้ ัว่ ไปบรเิ วณเส้นศูนยส์ ตู ร ท่าว่ายนำ้�
แบบเฉพาะของมนั เผยใหเ้ หน็ ครบี รปู ตะขอบนหลงั ซงึ่ ดคู ลา้ ยกบั สนั จมกู โดง่ ขนึ้
มา แมจ้ ะใชป้ ระโยชนอ์ ะไรไดไ้ มม่ ากนกั แตบ่ างครงั้ นกั ลา่ วาฬหวั ทยุ กจ็ บั วาฬ
ไฮอนี ะเพอ่ื ผลติ นำ�้ มนั ราคาถกู ใชก้ นั เองในยามขาดแคลน เชน่ ใชใ้ นครวั เรอื น,
ในหา้ งรา้ น และนำ� มาใชแ้ ทนขผ้ี งึ้ หอม แมไ้ ขมนั ของมนั จะบางมาก แตบ่ างตวั
ก็สามารถใหน้ ำ้� มันกับคณุ ไดม้ ากถึงสามสิบแกลลอนเลยทเี ดียว

หนังสือเล่มที่ 2 (สิบหกหน้ายก) บทท่ี 3 (วาฬฉมวก) มันคือวาฬ
จมูกยาว เป็นวาฬอีกหน่ึงสายพันธุ์ที่มีช่ือเรียกน่าสนใจ ผมขนานนามมัน
เช่นนั้นจากเขาประหลาดของมันท่ียื่นยาวออกมาจากจมูกแหลม สัตว์ชนิด
น้ีมีความยาวประมาณสิบหกฟุต ขณะที่เขาของมันยาวเฉลี่ยสิบห้าฟุต
โดยบางตวั ยาวเกนิ สบิ ฟตุ และบางตวั ยาวถงึ สบิ หา้ ฟตุ วา่ กนั ตามจรงิ แลว้ เขา
นไี้ มใ่ ชอ่ ะไรนอกเสยี จากเขย้ี วยาวทง่ี อกขน้ึ มาจากขากรรไกรทกี่ ดเปน็ เสน้ แนว
ราบ เกิดข้ึนเฉพาะด้านซ้าย ซ่ึงเป็นการเติบโตที่ผิดปกติทำ� ให้ผู้เป็นเจ้าของ
มีลักษณะท่าทางเงอะงะคล้ายกับคนถนัดมือซ้าย ค�ำตอบท่ีถูกต้องเก่ียว
กับเขาสีงา หรือหอกน้ีคืออะไรอยากท่ีจะบอกได้ชัดเจน มันไม่ได้ถูกใช้เป็น
ใบมีดเหมือนกับปลาฉนาก และปลาดาบ แม้กลาสีบางคนจะบอกกับผมว่า
วาฬฉมวกใช้มันเป็นคราดส�ำหรับพลิกพ้ืนทะเลข้ึนมาเพ่ือหาอาหาร ชาร์ลีย์
คอฟฟินบอกว่ามันถูกใช้เจาะน�้ำแข็งในเวลาท่ีวาฬฉมวกต้องการโผล่ข้ึนมา

190 : โมบ้ี-ดกิ๊

เหนือน�้ำทะเลขั้วโลกเหนือที่ผิวน้�ำจับตัวเป็นแผ่นน�้ำแข็ง มันจะใช้เขาแทง
ทะลุน้ำ� แขง็ ขึ้นมา กระนั้นคณุ ไม่สามารถรูไ้ ดว้ ่าข้อสนั นษิ ฐานใดถูกตอ้ ง ตาม
ความเหน็ ของผมมองวา่ เขาขา้ งเดยี วนอ้ี าจเปน็ ประโยชนส์ ำ� หรบั วาฬฉมวกจรงิ
แต่น่ันก็เป็นเพียงข้อสันนิษฐาน แต่จะเหมาะอย่างแน่นอนหากน�ำเรื่องของ
มนั มาจัดท�ำเป็นหนังสือเลม่ เลก็ ส�ำหรับอ่าน ผมเคยได้ยนิ คนเรียกวาฬฉมวก
ในชื่ออื่น เช่น วาฬทัสก์, วาฬฮอร์น และวาฬยูนิคอร์น มันเป็นตัวอย่างท่ี
น่าสนใจอย่างแน่นอนเกี่ยวกับยูนิคอร์นท่ีพบได้แทบทุกธรรมชาติที่มีชีวิต
จากผลงานประพันธ์เก่าๆ ท่ีผมได้เก็บรวบรวมไว้ระบุว่าเขาของยูนิคอร์น
ทะเลในอดีตถือเป็นยาถอนพิษชั้นยอด ด้วยเหตุนี้วาฬชนิดน้ีจึงขายได้ราคา
มาก นอกจากน้ียังสามารถน�ำมาสกัดเอาสารระเหยเกลือใช้แก้อาการเป็น
ลมของสุภาพสตรี แบบเดียวกับน�ำเขากวางตัวผู้มาผลิตเป็นยาบ�ำรุงก�ำลัง
แรกเร่ิมเดิมทีเขาน้ีได้รับการประเมินให้เป็นวัตถุล้�ำค่า แบล็กเลทเทอร์บอก
กับผมว่าตอนเซอร์มาร์ติน ฟรอบบิชเชอร์เดินทางกลับมาจากล่องเรือ ราชินี
เบสโบกพระหตั ถท์ สี่ วมอญั มณใี หเ้ ขาจากทางหนา้ ตา่ งพระราชวงั กรนี วชิ ขณะ
เรือล�ำใหญ่ของเขาล่องมาตามแม่น�้ำเทมส์ “ตอนเซอร์มาร์ตินกลับจากล่อง
เรือ” แบล็กเลทเทอรพ์ ดู “เขาคกุ เขา่ ต่อหน้าพระนางแล้วถวายเขายาวมหมึ า
ของวาฬนาร์ ซึง่ เคยแขวนในพระราชวงั วินด์เซอรม์ าเปน็ เวลานาน” นักเขยี น
ไอรชิ กลา่ วยนื ยนั วา่ ทา่ นเอริ ล์ แหง่ เมอื งเลซเทอรก์ ท็ ำ� เชน่ นน้ั เหมอื นกนั คกุ เขา่
ถวายเขาอกี อนั ใหก้ บั พระนาง แตเ่ ปน็ เขาทไ่ี ดจ้ ากสตั วบ์ กทม่ี เี ขากลางหนา้ ผาก

วาฬฉมวกมีลักษณะสวยงามคล้ายกับเสือดาว ล�ำตัวมีสีขาวราวน้�ำนม
และมลี ายรูปวงรสี ดี �ำรอบตวั ไขของมนั มรี าคาดีมาก ใสและคุณภาพดี แต่มี
ปรมิ าณน้อย มนั จงึ ไม่ค่อยถูกลา่ สว่ นใหญว่ าฬชนิดนพ้ี บไดบ้ ริเวณทะเลแถว
ขว้ั โลกเหนอื

หนังสือเล่มที่ 2 (สิบหกหน้ายก) บทที่ 4 (วาฬเพชฆาต) วาฬชนิดนี้
ไมค่ ่อยเป็นทร่ี ู้จกั แน่ชัดนักในแนนทักเกต็ และไม่เป็นทรี่ จู้ ักเลยในกลุม่ อาชีพ
นกั ธรรมชาตวิ ทิ ยา จากทผ่ี มเคยเหน็ มนั ในระยะไกล ผมบอกไดว้ า่ มนั มขี นาด

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 191

ใหญ่พอๆ กับวาฬแกรมปัส และดุร้ายมากพอๆ กับปลาฟีจี บางครั้งมัน
จะงับวาฬตัวใหญ่ในกลุ่มส่ีหน้ายกไว้ในปาก และคาบเอาไว้อย่างน้ันเหมือน
ปลิงจนกระทั่งสัตว์ใหญ่น้ันถูกกัดขาดจนตาย วาฬเพชฆาตไม่เคยถูกล่า
ผมไมเ่ คยไดย้ นิ วา่ มนั มนี ำ�้ มนั เนอื่ งจากแหลง่ อาศยั ทไี่ มแ่ นช่ ดั จงึ ทำ� ใหม้ นั เปน็
สายพนั ธท์ุ สี่ มควรไดร้ บั การยกเวน้ จากพวกเราเหลา่ นกั ลา่ ทง้ั บนบก และทะเล
ซ่งึ รวมถึงตระกลู โบนาพาร์ท และเหลา่ ฉลามด้วย

หนังสอื เล่มที่ 2 (สบิ หกหนา้ ยก) บทท่ี 5 (แทรชเชอร์) สตั วบ์ รรดาศกั ดิ์
สายพนั ธน์ุ มี้ ชี อ่ื เปน็ ทร่ี จู้ กั เพราะหางของมนั ทใ่ี ชเ้ ปน็ เหมอื นไมเ้ รยี วกบั สำ� หรบั
หวดเฆ่ียนศัตรู มันจะขึ้นขี่หลังวาฬในกลุ่มส่ีหน้ายก ขณะว่ายน้�ำมันจะหวด
หางเพื่อเคลื่อนตัวไปข้างหน้าเหมือนกับครูท่ัวโลกใบน้ีท่ีท�ำแบบเดียวกัน
วาฬแทรชเชอรเ์ ปน็ ทรี่ จู้ กั นอ้ ยกวา่ วาฬเพชฆาต ทงั้ สองสายพนั ธอ์ุ ยนู่ อกเหนอื
กฎเกณฑ์ หรอื อาจเรียกได้ว่าอยใู่ นทะเลท่ไี ร้กฎระเบียบ

ส้ินสุดหนังสือเล่มท่ี 2 (สิบหกหน้ายก) และเร่ิมต้นหนังสือเล่มที่สาม
(สามสิบสองหน้ายก)

สามสิบสองหน้ายก หนงั สอื เล่มนรี้ วมเร่ืองราววาฬขนาดเลก็ 1.โลมาฮัซ
ซา่ 2.โลมาแอลเจอรีน 3.โลมามลี เี มาท์

สำ� หรบั บรรดาผทู้ ไ่ี มม่ โี อกาสไดศ้ กึ ษาหวั ขอ้ นเ้ี ปน็ พเิ ศษ อาจรสู้ กึ แปลกใจที่
ปลาขนาดเฉลยี่ ไมเ่ กนิ สห่ี รอื หา้ ฟตุ เหลา่ นไี้ ดร้ บั การจดั ลำ� ดบั ใหอ้ ยใู่ นกลมุ่ วาฬ
ซงึ่ ค�ำว่า “วาฬ” เปน็ คำ� เรยี กทม่ี กั ให้ความรู้สกึ ถงึ ขนาดใหญ่ กระนั้นสัตว์ท่จี ดั
อยใู่ นกลมุ่ สามสบิ สองหนา้ ยกเหลา่ นเ้ี ปน็ วาฬแนน่ อน ดว้ ยคำ� จำ� กดั ความของ
ผม วาฬกค็ ือปลาทพี่ ่นนำ�้ และมีหางแบนราบ

หนังสอื เล่มท่ี 3 (สามสบิ สองหน้ายก) บทท่ี 1 (โลมาฮัซซา่ ) โลมาท่วั ไปน้ี
พบไดแ้ ทบทกุ แหง่ หนทว่ั โลก ชอ่ื นผี้ มเปน็ คนมอบใหแ้ กม่ นั เอง สายพนั ธโ์ุ ลมา
มีมากกว่าหนึ่งชนิด จึงต้องตั้งช่ือเพ่ือจัดแยกกลุ่มพวกมัน ผมเรียกมันอย่าง
นั้นเพราะมันมักว่ายรวมกันเป็นฝูงส่งเสียงอึกทึกด้วยการโยนตัวขึ้นสู่ฟ้าใน
ทะเลกวา้ งเหมอื นกบั หมวกจำ� นวนมากทถ่ี กู โยนขน้ึ ในวนั ทสี่ ี่ เดอื นกรกฎาคม

192 : โมบ-ี้ ดิ๊ก

ซึ่งเป็นวันชาติอเมริกัน การปรากฏตัวของพวกมันมักสร้างความยินดีให้กับ
ลกู เรอื พวกมนั จะปรากฏตวั พรอ้ มกบั คลน่ื บางทซี่ ดั ไปทางลมกอ่ ใหเ้ กดิ ความ
รู้สึกเต็มต้ืนในจิตใจ พวกมันเป็นเด็กหนุ่มที่ชอบใช้ชีวิตเริงร่าอยู่เหนือลม
มันเป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดี หากคุณสามารถโห่ร้องไชโยได้สามครั้ง
ขณะเห็นฝูงวาฬเริงร่าเหล่านี้ สวรรค์จะช่วยคุณ จิตวิญญาณแห่งความยินดี
ในศลี ธรรมจะไมอ่ ยใู่ นตวั คณุ โลมาฮซั ซา่ ทไี่ ดร้ บั การบำ� รงุ จนจำ้� มำ�่ จะใหน้ ำ้� มนั
ท่ีมีคุณภาพดีกับคุณได้สักหน่ึงแกลลอน แต่ของเหลวช้ันยอดและคุณภาพดี
ทไ่ี ด้จากขากรรไกรของมันมคี ่ามากกว่านั้น มนั เป็นทตี่ อ้ งการของพ่อคา้ เพชร
พลอย และช่างท�ำนาฬิกา ชาวเรือจะใส่ของเหลวนี้ไว้ในหินลับมีดของพวก
เขา คณุ รู้ไหมเนอ้ื ของโลมาอรอ่ ยมาก คณุ คงไมเ่ คยรู้มาก่อนว่าโลมามีทอ่ พน่
นำ�้ จรงิ ๆ แลว้ ทวา่ แมพ้ วกมนั จะมที อ่ พน่ นำ้� แตม่ นั ขนาดเลก็ มากจนมองแทบ
ไมเ่ หน็ กระนน้ั ในครงั้ หนา้ ทค่ี ณุ มโี อกาสไดเ้ หน็ มนั คณุ จะพบวา่ มนั มลี กั ษณะ
คลา้ ยวาฬหวั ทยุ ย่อขนาดเลก็ ลง

หนังสือเล่มท่ี 3 (สามสิบสองหน้ายก) บทที่ 2 (โลมาแอลเจอรีน) เจ้า
โจรสลัดตัวนี้ดุร้ายมาก ผมคิดว่ามันพบได้เฉพาะในแปซิฟิคเท่าน้ัน มันค่อน
ขา้ งตวั ใหญก่ ว่าโลมาฮัซซา่ แต่โครงสร้างโดยท่วั ไปเหมือนกนั หากไปแหย่ให้
มันโกรธ มันจะร่วมกับฉลามเข้าโจมตี ผมเคยมองหามันหลายครั้ง แต่ก็ยัง
ไม่เคยเหน็ มนั ถูกจับได้เลยสกั คร้งั

หนังสือเล่มที่ 3 (สามสิบสองหน้ายก) บทท่ี 3 (โลมามีลีเมาท์) เป็น
ชนิดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มโลมา และเท่าที่รู้มันพบได้เฉพาะในแปซิฟิค
Right-Whale Propoise เป็นช่ืออังกฤษที่มันได้รับการขนานนามโดยชาว
ประมงและเรียกขานจนถึงทุกวันนี้ มันมักถูกพบได้มากในสภาพแวดล้อมท่ี
ใกล้เคียงกับวาฬในกลุ่มส่ีหน้ายก ขนาดของมันต่างจากโลมาฮัซซ่าเล็กน้อย
คอื มนั อว้ นนอ้ ยกวา่ และมขี นาดโดยรอบเลก็ กวา่ มนั เปน็ สายพนั ธท์ุ เ่ี รยี บรอ้ ย
และมีบุคลิกคล้ายสุภาพบุรุษ มันไม่มีครีบบนหลัง (โลมาส่วนใหญ่มีครีบบน
หลัง) มีหางสวยงาม ดวงตาหวานซ้ึงสีน�้ำตาลแดง แต่มีข้อเสียตรงปากเป็น

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 193

ดา่ งซดี แมต้ ลอดทง้ั หลงั ไปจนถงึ ครบี สองขา้ งของมนั จะมสี ดี ำ� เขม้ กระนน้ั เสน้
ตดั นก้ี เ็ ดน่ ชดั เหมอื นดงั เชน่ เสน้ วดั ระดบั บนลำ� เรอื เสน้ นเ้ี รยี กวา่ “ไบรทเ์ วสท”์
เป็นริ้วยาวจากส่วนหัวถึงส่วนหางของมัน สีตัวแบ่งออกเป็นสองสี ส่วนบน
เป็นสีดำ� และส่วนลา่ งเป็นสขี าว โดยสขี าวยังมีประปรายบนส่วนหัว และเป็น
สีปากทั้งหมด ซึ่งท�ำให้ดูคล้ายกับมันหนีรอดออกมาจากการลักลอบเข้าไป
ในถงุ อาหาร รูปร่างหน้าตาของมนั จึงดสู กปรกและเป็นรอยแต้มเตม็ ไปหมด!
ไขของมันมลี ักษณะคล้ายกบั โลมาทั่วไป

ระบบการจัดกลุ่มสายพันธุ์นี้ไม่ได้จัดกลุ่มวาฬท่ีมีขนาดเล็กกว่าสามสิบ
สองหน้ายก ดว้ ยเหตุนโ้ี ลมาจึงเป็นวาฬทม่ี ขี นาดเล็กทส่ี ุด ท้งั หมดท่กี ลา่ วมา
ข้างต้นคุณได้รู้จักสัตว์ใหญ่แห่งท้องทะเลครบทุกชนิดแล้ว แต่ก็ยังมีฝูงวาฬที่
ยงั มขี อ้ มลู คลมุ เครอื ไมแ่ นน่ อน และไมค่ อ่ ยนา่ เชอ่ื ถอื อยอู่ กี ซงึ่ ผมรจู้ กั มนั จาก
กิติศัพท์ท่ีได้ยินเช่นเดียวกับนักล่าวาฬอเมริกันทั่วไป แต่ไม่เคยได้ประจักษ์
แก่ตนเอง ผมจะจดั ลำ� ดับพวกมันใหอ้ ย่ใู นต�ำแหน่งดาดฟา้ หัวเรอื เพอื่ วา่ ราย
ช่ือเหล่าน้ีจะมีประโยชน์กับนักส�ำรวจในอนาคต ผู้ท่ีอาจสานต่อรายชื่อที่ผม
มแี ต่ยงั ไม่ไดเ้ ร่ิมต้นรวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกบั มัน หากจะมวี าฬใดต่อไปนถ้ี กู จับ
ได้ในวนั ข้างหน้าและท�ำเคร่ืองหมายบนตัวมนั ไว้ มันกพ็ รอ้ มจะถูกนำ� มารวม
เข้าไว้ในระบบการจัดแบ่งสายพันธุ์นี้โดยไล่ตามขนาดส่ีหน้ายก, สิบหกหน้า
ยก และสามสิบสองหน้ายก วาฬเหล่านี้คือ วาฬปากขวด วาฬจังค์ วาฬ
พุดดิ้งเฮด วาฬเคป วาฬลีดดิ้ง วาฬแคนนอน วาฬสแครก วาฬคอปเปอร์
วาฬเอลละเฟินท์ วาฬไอซ์เบิร์ก วาฬควอก วาฬสีน้�ำเงิน และอื่นๆ
จากแหล่งข้อมูลชาวไอซ์แลนด์ ชาวฮอลแลนด์ และชาวอังกฤษยุคเก่าอาจมี
การอ้างถงึ รายชอื่ วาฬอ่ืนทีย่ งั ไม่เป็นทร่ี ูจ้ กั นกั ซึง่ ทกุ ชนิดได้รับการตั้งชอื่ ทยี่ งั
ไมเ่ ป็นทีย่ อมรับในวงกวา้ ง แต่ผมจะขอข้ามรายช่อื เหล่านีร้ วมท้ังชอื่ ทล่ี ้าสมยั
ไป เพราะไมอ่ ยากจะคำ� นงึ ถงึ พวกมนั เพยี งเพราะชอื่ เสยี งทไี่ ดย้ นิ หมกมนุ่ อยู่
กบั สัตว์ใหญ่แห่งทอ้ งทะเลอยา่ งไรค้ วามหมายใดๆ

สดุ ทา้ ยนี้ ขอชแี้ จงวา่ ระบบจดั แบง่ สายพนั ธร์ุ ะยะเรมิ่ ตน้ นจ้ี ะไมห่ ยดุ เพยี ง

194 : โมบ-ี้ ดกิ๊

แคน่ ้ี วันหนงึ่ มนั จะต้องสมบรู ณ์ คณุ อาจยังไม่เชือ่ แต่ขอให้ร้ไู วว้ ่าผมรักษาค�ำ
พดู ผมสนิ้ สดุ ระบบจดั แบง่ สายพนั ธว์ุ าฬทงั้ ๆ ทมี่ นั ยงั ไมเ่ สรจ็ สนิ้ เชน่ เดยี วกบั
มหาวิหารโคโลญจน์ที่ถูกปล่อยทิ้งไว้โดยมีเพียงคานอยู่บนหอคอยที่ยังสร้าง
ไมเ่ สร็จ หากเปน็ สิง่ ก่อสรา้ งขนาดเล็กคงสรา้ งเสรจ็ ในครั้งแรกท่ีเริม่ ลงมือ แต่
ส่ิงก่อสร้างขนาดใหญ่ ต้องมีความเที่ยงตรงแม่นย�ำ คงต้องสร้างหินครอบ
ก�ำแพงเป็นฐานไว้ให้คนรุ่นหลังมาสานต่อ พระเจ้าลิขิตไม่ให้ผมท�ำส่ิงต่างๆ
อยา่ งสมบูรณ์ หนังสอื เลม่ น้ีเป็นเพียงโครงรา่ ง ไมใ่ ช่แคน่ ้นั สิ มนั เปน็ ร่างของ
โครงร่างเลยทีเดียว โอ้...มันยังต้องการเวลา พละก�ำลัง เงินตรา และความ
อดทน!

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 195

บทท่ี 33

มอื เชอื ด

ส�ำหรับคนดูแลกิจการบนเรือล่าวาฬก็เหมือนกับที่อ่ืนๆ ที่ดูจะแบ่งหน้าท่ีไว้
เป็นการภายในโดยเฉพาะ เน่ืองจากต้องมีการจัดแบ่งต�ำแหน่งนักพุ่งฉมวก
อันเป็นต�ำแหน่งซึ่งไม่เป็นท่ีรู้จักในการเดินเรืออื่นๆ เว้นแต่กลุ่มเรือล่าวาฬ
ดว้ ยกนั

ต�ำแหน่งนักพุ่งฉมวกมีความส�ำคัญอย่างย่ิงยวด และได้รับการพิสูจน์ให้
เห็นประจักษ์ในการประมงของชาวดัตช์โบราณเมื่อกว่าสองศตวรรษที่ผ่าน
มา อ�ำนาจส่ังการท้ังหมดบนเรือล่าวาฬไม่ได้ขึ้นอยู่กับบุคคลที่ปัจจุบันเรียก
วา่ กปั ตัน แตถ่ กู แบ่งออกระหวา่ งกปั ตนั กบั เจ้าพนกั งานทเี่ รียกกนั วา่ มอื เชอื ด
คำ� คำ� นม้ี คี วามหมายตรงตวั วา่ “นกั เฉอื นไขวาฬ” แตต่ อ่ มากห็ มายถงึ หวั หนา้
นกั พงุ่ ฉมวกนนั่ เอง ชว่ งเวลานนั้ กปั ตนั มอี ำ� นาจจำ� กดั เฉพาะการเดนิ เรอื และ
จดั การงานทวั่ ไปบนเรอื ขณะทอ่ี ำ� นาจสง่ั การสงู สดุ ในแผนลา่ วาฬและทกุ เรอื่ ง
ท่เี กีย่ วกบั การล่าวาฬจะขนึ้ อยู่กบั มือเชือดหรอื หัวหนา้ นักพงุ่ ฉมวก

ในการประมงล่าวาฬแห่งกรีนแลนด์ของอังกฤษ ต�ำแหน่งมือเชือดถูก
ลดความส�ำคัญลง แม้ยังมีต�ำแหน่งพนักงานดัชต์เก่าแก่น้ีอยู่ แต่ก็ถูกลด
ศักดิ์ฐานะลงอย่างน่าเศร้า ปัจจุบันหัวหน้านักพุ่งฉมวกแค่มีต�ำแหน่งเท่า
นักพุ่งฉมวกอาวุโส ด้วยเหตุนี้จึงเป็นต�ำแหน่งท่ีมีอ�ำนาจต�่ำกว่ากัปตัน แต่
เนอื่ งจากความสำ� เรจ็ ของการเดนิ เรอื ลา่ วาฬขน้ึ อยกู่ บั ผลงานของนกั พงุ่ ฉมวก
เป็นสว่ นใหญ่ อกี ทงั้ ในการประมงอเมริกนั ตำ� แหนง่ หนา้ ท่ีนไ้ี ม่เพียงมคี วาม

196 : โมบี-้ ดก๊ิ

สำ� คญั บนเรอื แตใ่ นบางสถานการณย์ งั มบี ทบาทสง่ั การบนดาดฟา้ เรอื อกี ดว้ ย
(เฝา้ ยามกะกลางคนื ในนา่ นนำ้� แหลง่ วาฬ) ดงั นนั้ จงึ ตอ้ งมหี ลกั ปฏบิ ตั ทิ เ่ี หมาะ
สมกับการเดินเรือในทะเล เขาควรอยู่แยกจากพวกที่อยู่เสาหน้า1 และได้รับ
การปฏิบัติให้สมฐานะของผู้อยู่ในต�ำแหน่งเหนือกว่า แม้มักคุ้นกับการท่ีทั้งคู่
ต่างมีฐานะเทา่ กนั ก็ตาม

จุดต่างส�ำคัญระหว่างพนักงานกับลูกเรือก็คือ พวกแรกอยู่ท้ายเรือ พวก
หลังอยหู่ วั เรือ ด้วยเหตุน้ี เรือลา่ วาฬและเรอื พาณิชยจ์ งึ คล้ายกนั คอื พวกรอง
กัปตันจะมีที่พักร่วมกับกัปตัน และเรือล่าวาฬอเมริกันส่วนใหญ่ พวกนักพุ่ง
ฉมวกกไ็ ดพ้ กั ในสว่ นทา้ ยเรอื ดว้ ย กลา่ วคอื กนิ อาหารในหอ้ งเครอ่ื งของกปั ตนั
และนอนในหอ้ งทีใ่ ชป้ ระตูเดียวกนั น่ันเอง

แม้การเดนิ เรือลา่ วาฬทางตอนใต้จะใชร้ ะยะเวลานาน (จริงๆ กน็ านที่สดุ
เท่าท่ีมนุษย์เคยเดินเรือมา) ต้องผจญภัยอันตรายที่มีรูปแบบเฉพาะ และ
เป็นการรวมตัวของกลุ่มคนในการล่าวาฬ ซ่ึงลูกเรือท้ังต�ำแหน่งสูงหรือต่�ำ
ต่างก็ได้รับผลประโยชน์ตอบแทน ไม่ใช่เพียงค่าแรงท่ีตายตัว ท้ังยังฝากโชค
ชะตาไวร้ ่วมกัน เฝ้ายามระแวดระวังใหก้ นั ต้องอาศัยความกลา้ หาญและการ
ท�ำงานหนกั แมส้ ่งิ เหลา่ นใี้ นบางกรณมี ักท�ำให้ระเบยี บวนิ ัยเกิดหย่อนยานไป
กวา่ ในเรอื พาณชิ ยท์ วั่ ไป แตอ่ ยา่ ไปใสใ่ จเลยวา่ นกั ลา่ วาฬเหลา่ นจ้ี ะอยรู่ ว่ มกนั
เหมือนครอบครวั เมโสโปเตเมีย2ยคุ โบราณมากแค่ไหน เพราะอยา่ งนอ้ ยทีส่ ดุ
ระเบยี บวนิ ยั บนดาดฟา้ เรอื กแ็ ทบจะไมเ่ คยหยอ่ นยาน และไมเ่ คยเลกิ ลม้ ไปเลย
สกั กรณี จรงิ ๆ แลว้ ในเรอื แนนทกั เกต็ จำ� นวนมาก คณุ จะไดเ้ หน็ กปั ตนั เรอื เดนิ
วางทา่ บนดาดฟา้ ทา้ ยเรอื ไมต่ า่ งไปจากกองทพั เรอื เขาทำ� ทา่ กรา่ งเพอ่ื ใหผ้ คู้ น
ยอมรับนบั ถอื ราวกับสวมชดุ ราชาอยู่ ซึง่ แตกต่างไปจากชุดกะกาสโี กโรโกโส

ในบรรดาคนเหล่าน้ัน กัปตันเจ้าอารมณ์แห่งเรือพีควอดไม่ได้รับกับ
สมมติฐานตน้ื เขนิ ทีว่ ่านัก ท่ีแน่ๆ คือความเคารพทเ่ี ขาต้องการมเี พียงแค่การ

1  พวกทอี่ ยู่เสาหน้า-ลกู เรอื ทัว่ ไป ท่นี อนอย่หู นา้ เสากระโดงหนา้
2  ครอบครวั เมโสโปเตเมยี -ถอื กนั วา่ เมโสโปเตเมยี เปน็ อารยธรรมแรกทมี่ กี ารปกครองแบบหวั หนา้ ครอบครวั
หรอื ฉันพอ่ กับลูก

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 197

เชอ่ื ฟงั และปฏบิ ตั ติ ามในทนั ที แตไ่ มถ่ งึ กบั ตอ้ งใหใ้ ครถอดรองเทา้ กอ่ นกา้ วขนึ้
มาบนดาดฟ้าท้ายเรือ และแม้มีหลายครั้งเมื่อเกิดสถานการณ์เฉพาะที่ต้อง
ชแี้ จงรายละเอยี ดในภายหลงั กปั ตนั เฒา่ กจ็ ะพดู กบั เหลา่ ลกู เรอื ของเขาเปก็ รณี
พเิ ศษ ไมว่ า่ จะดว้ ยทา่ ทผี อ่ นผนั หรอื ขขู่ วญั หรอื อยา่ งใดกต็ ามแต่ ถงึ อยา่ งนนั้
กัปตันเอแฮบ็ ก็ไมใ่ ส่กบั รปู แบบอ�ำนาจและระเบียบปฏิบตั ิทางทะเลนัก

บางทีถึงท่ีสุดแล้ว ท่ีรูปแบบอ�ำนาจและธรรมเนียมปฏิบัติเหล่าน้ัน
ไม่ไดร้ ับการใส่ใจ อาจเป็นเพราะบางคร้งั เขาอ�ำพรางตัวเองไว้ เพอ่ื ใชม้ ันเปน็
ประโยชน์ในกรณีเฉพาะอื่นๆ ตามแต่โอกาสจะอ�ำนวย อันยิ่งกว่ามุ่งใช้เพื่อ
เสริมสร้างระเบียบวินัย แนวคิดรวบอ�ำนาจแบบสุลต่านของเขายังคงไม่เป็น
ที่ปรากฏชัดนัก แม้ว่ารูปแบบการปกครองท่ีว่าจะกลายมาเป็นอ�ำนาจ
เผดจ็ การท่ีไม่อาจขดั ขนื นนั่ มนษุ ย์ผมู้ สี ตปิ ัญญาเหนือกวา่ ในทางปฏบิ ัติแล้ว
จะไม่ได้ครอบครองอ�ำนาจสูงสุดเหนือคนทั่วไป หากไม่ใช้ชั้นเชิงเล่ห์เหล่ียม
และเกราะป้องกันตัวเองเสมอ และนั่นท�ำให้พวกเขาต่�ำช้าน่าเหยียดหยาม
ไม่มากก็น้อย นี่แหละ ส่ิงท่ีแยกปราชญ์แห่งอาณาจักร3ออกจากการแข่งขัน
ทางการเมอื งโลกตลอดกาล สว่ นอำ� นาจราชศกั ดส์ิ งู สดุ กลบั ตกอยกู่ บั ผทู้ มี่ ชี อื่
เสยี งขน้ึ มาจากความดอ้ ยกวา่ อยา่ งหาทส่ี ดุ มไิ ด้ เมอ่ื เทยี บกบั บรรดาปราชญผ์ ู้
เหนอื กว่ามวลชนทง้ั หลายในระดบั ประเทศ คณุ ความดีอนั ย่ิงใหญ่ซกุ ซ่อนอยู่
ในสงิ่ เลก็ ๆ เหลา่ น้ี ยามเมอ่ื ความเชอื่ ผดิ ๆ อยา่ งสดุ โตง่ ทางการเมอื งครอบงำ�
พวกเขา จนกษตั รยิ บ์ างองคถ์ งึ ขนาดกลายเปน็ คนโงเ่ ขลาเบาปญั ญาไมต่ า่ งจาก
ผู้ที่ไดม้ อบอำ� นาจให้ ดังกรณขี องซารน์ ิโคลัส4 มงกฎุ ราชกุมารแห่งอาณาจักร
ท่ีรายล้อมด้วยพวกบ้าอ�ำนาจ เวลาน้ันฝูงชนสามัญชนต้องหมอบนอบน้อม
ต่อศูนย์รวมแห่งมหาอ�ำนาจน้ี หรือไม่ก็เป็นเพราะคนเขียนบทละครโศก
ผู้พรรณาถึงการยืนหยัดต่อสู้กับปิดก้ันและการกวาดล้างเต็มรูปแบบ อาจ

3  ปราชญ์แห่งอาณาจักร-ตามประวัติศาสตร์แล้ว ปราชญ์เหล่านี้จะถูกคัดเลือกโดยจักรพรรดิโรมันผู้ย่ิง
ใหญ่ ไม่ใชเ่ ลือกตวั เองขึน้ มา
4  ซารน์ โิ คลสั -จกั รพรรดนิ โิ คลสั ทห่ี นงึ่ แหง่ รสั เซยี (ค.ศ.1796-1855) กษตั รยิ จ์ อมเผดจ็ การ ผปู้ ดิ กนั้ ความ
คดิ จากตา่ งแดนทกุ ชนดิ โดยบอกว่าเปน็ ความรู้จอมปลอม

198 : โมบ-้ี ด๊กิ

ลืมเล่านัยบางอย่างซ่ึงมีความส�ำคัญอย่างย่ิงในศิลปะการเล่าเร่ืองไป ทั้งท่ี
เป็นเรื่องซ่ึงพดู ถึงกันในทกุ วันนี้

เอแฮบ็ ...กปั ตนั ของผมยงั คงเคลอ่ื นไหวอยเู่ บอ้ื งหนา้ ผมดว้ ยทว่ งทา่ ของชาว
แนนทกั เกต็ ผถู้ มงึ ทงึ และหยาบกระดา้ ง และในละครฉากทกี่ ลา่ วถงึ จกั รพรรดิ
และองค์ราชันย์ ผมไม่ปิดบังหรอกว่าต้องท�ำงานร่วมกับนักล่าวาฬแก่และ
นา่ สงั เวชเชน่ เขา ดงั นน้ั เครอื่ งประดบั ยศและเครอื่ งมา้ อนั สงู สง่ ทง้ั มวลจงึ บอก
ลาผม โอ้…เอแฮบ็ ! ท่านจะยงิ่ ใหญ่ไปถึงไหนกนั ควรชะลอการพงุ่ ทะยานขึ้นสู่
ทอ้ งฟ้า แลว้ ด�ำด่ิงสู่เบอื้ งลกึ และแสดงท่าทีซ่งึ ไรต้ ัวตนบ้างเถอะ!

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 199

บทท่ี 34

โต๊ะอาหารในหอ้ งเคร่ือง

เที่ยงวัน โดบอยเด็กรับใช้ในครัวโผล่ใบหน้าซีดเซียวออกมาจากช่องฝาห้อง
เครอ่ื ง เพอื่ แจง้ เวลาอาหารคำ่� แกน่ ายเหนอื หวั และผบู้ งั คบั บญั ชาของเขา ผซู้ ง่ึ
หลบลมอยู่ในเรือเลก็ 1ลำ� หนึ่ง หลังจากออกไปสงั เกตดวงอาทติ ย์ และตอนน้ี
กำ� ลงั นง่ั คาดคะเนเสน้ ละตจิ ดู อยบู่ นโตะ๊ ทรงกลมเกลย้ี ง ซง่ึ สงวนไวส้ ำ� หรบั เปน็
ที่นั่งพักขาสีงานั่นทุกวัน จากท่าทีที่ไม่แยแสเสียงรายงานของเด็กรับใช้ คุณ
อาจคดิ วา่ เอแฮบ็ เฒา่ เจา้ อารมณค์ งไมไ่ ดย้ นิ เสยี งคนรบั ใชข้ องเขา แตเ่ ขากค็ วา้
เชือกเสาทา้ ยเรือ ดงึ ตัวขึน้ เดินขโยกไปทางดาดฟ้า กอ่ นจะส่งเสียงเรียกอย่าง
ซังกะตายว่า “กนิ อาหารค�่ำ...คณุ สตารบ์ ัค” แลว้ ผลุบหายลงไปในหอ้ งเครื่อง

เม่ือเสียงสะท้อนจากฝีเท้าก้าวสุดท้ายของท่านสุลต่านเงียบหายไป
สตารบ์ คั เจา้ ชายอาหรบั คนทห่ี นง่ึ กเ็ ชอื่ ดว้ ยประการทงั้ ปวงวา่ ถกู เชญิ ไปนง่ั รว่ ม
โต๊ะด้วย จึงตื่นจากภวังค์และเดินไปตามแผ่นกระดานเรือ หลังจากจ้องมอง
กล่องเข็มทิศอย่างจริงจัง ก็พูดข้ึนด้วยน้�ำเสียงท่ีเจือความยินดี “กินอาหาร
คำ�่ ...คณุ สตบั บ”์ แลว้ กา้ วเดนิ ลงไปยงั ชอ่ งพน้ื เรอื เจา้ ชายอาหรบั คนทส่ี องเดนิ
เตร่แถวสายระโยงอีกครู่หน่ึง เขย่าเชือกโยงเสาหลักเบาๆ เพื่อทดสอบว่ายัง
คงเรียบร้อยดีสมกับเป็นเชือกเส้นส�ำคัญหรือไม่ จากน้ันเขาก็ประสานเสียง
ต่อโดยพูดขึ้นอย่างฉับไวว่า “อาหารค�่ำ...คุณฟลาสก์” แล้วเดินตามหลังผู้อยู่
ในต�ำแหน่งสงู กวา่ ลงไป

1  เรือเลก็ -พวกเรือเลก็ ท่แี ขวนอยทู่ า้ ยเรอื (ไปจนถึงปลายเสากระโดงตน้ สดุ ท้าย)

200 : โมบ-ี้ ด๊กิ


Click to View FlipBook Version