The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โมบี้-ดิ๊ก ผลงานคลาสสิกของ Herman Melville ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดยสำนักพิมพ์ทับหนังสือ ฉบับปรับปรุงจากต้นฉบับแปล “โมบี้-ดิ๊ก ฉบับประชาชน” โดยโครงการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการแปล Moby-Dick; or, The Whale นวนิยายของ เฮอร์แมน เมลวิลล์ เป็นภาษาไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by BS_Library, 2019-12-20 01:23:42

Moby Dick โมบี้ ดิ๊ก

โมบี้-ดิ๊ก ผลงานคลาสสิกของ Herman Melville ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดยสำนักพิมพ์ทับหนังสือ ฉบับปรับปรุงจากต้นฉบับแปล “โมบี้-ดิ๊ก ฉบับประชาชน” โดยโครงการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการแปล Moby-Dick; or, The Whale นวนิยายของ เฮอร์แมน เมลวิลล์ เป็นภาษาไทย

Keywords: วรรณกรรม

ค่าสินไหมทดแทนแก่วิญญาณเขาเล่า? วิญญาณที่ว่าน้ีรวมไปถึงการเป็น
อมั พาตไมไ่ หวตงิ หรอื ตอ้ งนอนแนน่ งิ่ ปางตายอยา่ งสน้ิ หวงั แลว้ อดมั ผหู้ มดลม
มาแล้วหกสิบรอบศตวรรษจะได้รับด้วยไหม? ท�ำไมเราถึงไม่ยินดีแก่ผู้ที่เรา
เชื่อว่าได้ไปอยู่ในโลกเปี่ยมสุขอันไม่อาจบรรยายนั่นแล้ว? ท�ำไมคนเป็นช่าง
พยายามปิดปากคนตาย? นี่กระมัง ข่าวลือที่ว่ามีคนได้ยินเสียงเคาะจากใน
หลุมศพจงึ เขย่าขวัญคนทงั้ เมือง ทงั้ ที่ส่งิ เหลา่ นีต้ า่ งมคี วามหมายทั้งสิน้

กระนั้น ศรัทธาก็เปรียบด่ังสุนัขไน ที่เท่ียวคุ้ยหาอาหารกลางหลุมศพ
แม้ยงั ไม่แน่ใจเตม็ ท่ี แต่ศรทั ธากย็ งั คงรวบรวมความหวังทีส่ ำ� คญั ทส่ี ุดไว้

เปน็ เรือ่ งยากทจี่ ะเลา่ ถงึ ความรู้สกึ ตอ่ ปา้ ยจารกึ หนิ อ่อนพวกนั้น ขณะผม
ก�ำลังจะเดินทางไปเกาะแนนทักเก็ตอยู่รอมร่อ ท่ามกลางแสงมัวมนแห่งวัน
อันมืดมิดและเต็มไปด้วยความโศกาอาดูร ผมเห็นถึงชะตากรรมของเหล่า
นักล่าวาฬผู้ล่วงลับไปก่อนหน้าผม ใช่แล้ว...อิชเมล น่ีเป็นชะตากรรมที่อาจ
เกิดกบั นายดว้ ยเช่นกัน แตผ่ มก็กลบั มารา่ เรงิ อกี ครง้ั ปลอบใจตัวเองด้วยการ
คดิ ถงึ การออกทะเล ซงึ่ เปน็ โอกาสอนั ดที ไ่ี ดเ้ ขยบิ ฐานะ ประหนง่ึ วา่ เรอื อบั ปาง
จะทำ� ใหผ้ มเปน็ อมตะดว้ ยเหรยี ญกลา้ หาญ ใชแ่ ลว้ ...ความตายเกดิ ขน้ึ ไดเ้ สมอ
ขณะออกลา่ วาฬ นำ� พาความสบั สนของชายคนหนงึ่ ไปสคู่ วามเปน็ นริ นั ดรอ์ ยา่ ง
รวดเรว็ และเงยี บงนั กแ็ ลว้ ยงั ไงละ่ ? ผมคดิ วา่ เราตา่ งเขา้ ใจผดิ มหนั ตเ์ รอ่ื งชวี ติ
และความตาย ทพี่ วกเขาเรยี กกนั วา่ เงาดำ� ในโลกใบน้ี ผมกลบั คดิ วา่ นน่ั แหละ
ตัวตนแก่นแท้ของผม ผมคิดว่าขณะท่ีมองเร่ืองจิตวิญญาณ เราช่างเหมือน
หอยมุกเฝ้ามองดวงอาทิตย์จากใต้ผืนน้�ำ แล้วเข้าใจไปว่าน�้ำหนาแน่นน้ันคือ
อากาศอนั บางเบา ผมกลบั คดิ วา่ รา่ งกายเปน็ เพยี งสงิ่ กำ� บงั ชวี ติ สงู ลำ้� กวา่ ทอี่ ยู่
ขา้ งใน จรงิ ๆ แล้วใครอยากไดร้ ่างกายผมก็เอาไปเถอะ บอกไดว้ า่ เอาไปเลย
เพราะน่ันไม่ใช่ตัวตนผม ดังนั้น ขอไชโยสามคราให้แก่แนนทักเก็ต มาเลย...
จะเป็นเรืออับปางหรือร่างกายอับปางก็ได้ เพราะต่อให้จูปิเตอร์เองก็ไม่อาจ
มาลม่ จิตวิญญาณผมให้อับปางลงได้

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 51

บทที่ 8

แทน่ เทศน์

ผมนงั่ ไดไ้ มน่ านชายสงู วยั ทา่ ทางเครง่ ขรมึ นา่ เลอื่ มใสคนหนง่ึ กป็ รากฏกายขนึ้
ลมแรงกระโชกวูบเหมือนเป็นใจผลักประตูเปิดรับเขา พลันสายตาทุกคู่ของ
เหล่าศาสนิกชนต่างหันไปจับจ้อง น่ันก็ยืนยันได้เพียงพอแล้วว่าชายชราผู้นี้
คือบาทหลวง ใช่แล้ว...ท่านคือคุณพ่อแมปเปิ้ลผู้เป็นท่ีกล่าวขวัญถึงทั้งในหมู่
นักล่าวาฬและบรรดาผู้ที่ช่ืนชมในตัวท่าน ตอนหนุ่มท่านเคยเป็นกะลาสีเรือ
และนกั พงุ่ ฉมวก หากแตห่ ลายปที ผี่ า่ นมาทา่ นไดอ้ ทุ ศิ ชวี ติ ใหแ้ กโ่ บสถ์ ในตอนนน้ั
คุณพ่อแมปเปิ้ลยังเป็นชายชราสุขภาพดีแม้ในฤดูหนาวที่หนาวจัด ท่านดู
เหมอื นผสู้ งู อายทุ กี่ ลบั เปน็ หนมุ่ อกี ครงั้ เปน็ ดอกไมแ้ ยม้ บานสอ่ งประกายนวล
ตาท่ามกลางร้ิวรอยเห่ียวย่น เหมือนความเขียวขจีของฤดูใบไม้ผลิท่ีผลิลอด
จากใต้แผ่นหิมะเดือนกุมภา ไม่มีใครรู้ความเป็นมาของท่านก่อนมาเป็น
บาทหลวง แตก่ ป็ ระทบั ใจในตวั ทา่ นเพยี งแรกเหน็ ดว้ ยบคุ ลกิ เฉพาะตวั อนั นา่
เลอ่ื มใสศรทั ธา ซงึ่ คงไดม้ าระหวา่ งใชช้ วี ติ ผจญภยั ในทอ้ งทะเล ผมสงั เกตเหน็
วา่ ท่านไม่ไดถ้ อื ร่มมาดว้ ย และก็ไมไ่ ดน้ งั่ รถมา้ มาอยา่ งแนน่ อน เพราะหมวก
ผา้ ใบกันน้�ำมีหยาดน�ำ้ จากหิมะละลายหยดพราว เส้อื คลมุ ชาวเรือตวั เก่งถว่ ง
หนกั จนแทบเดนิ ลำ� บาก เพราะชมุ่ ไปดว้ ยนำ�้ ทดี่ ดู ซบั ไว้ แตท่ ง้ั หมวก เสอื้ โคต้ และ
รองเทา้ ยาง1กถ็ กู ถอดออกทลี ะชนิ้ แลนำ� ไปแขวนแยกไวใ้ นมมุ ใกลๆ้ เมอ่ื จดั การ
แขวนเคร่อื งแตง่ กายเรยี บรอ้ ย ท่านก็กา้ วขนึ้ ไปยงั แทน่ เทศนอ์ ย่างเงียบๆ

1  รองเท้ายาง-รองเท้าท่ีสวมทับรองเท้าจริงอีกชั้นเพ่ือกันสิ่งสกปรกหรือให้อุ่น ในที้หมายถึงรองเท้ายาง
กนั นำ้� (จากหมิ ะ)

52 : โมบ้-ี ด๊กิ

นน่ั เปน็ แทน่ เทศนท์ ยี่ กพน้ื สงู มาก แบบเดยี วกบั แทน่ เทศนย์ คุ เกา่ สว่ นใหญ่
แต่ตามปกติแล้ว บันไดส�ำหรับแท่นสูงจากพื้นแบบนั้นจะไปกินเน้ือที่ของ
โบสถ์ซึ่งแคบเล็กอยู่แล้ว สถาปนิกผู้ออกแบบจึงท�ำตามค�ำแนะน�ำของ
คุณพอ่ แมปเป้ลิ โดยสร้างแท่นเทศนย์ กพน้ื สงู แบบไม่ต้องมีบนั ได มแี ค่บันได
ปนี หอ้ ยไวข้ า้ งๆ แทน่ เทศน์ คลา้ ยกบั บนั ไดเชอื กทใ่ี ชป้ นี จากเรอื เลก็ ขน้ึ เรอื ใหญ่
กลางทะเลน่ันเอง ภรรยากัปตันเรือล่าวาฬได้มอบเชือกหุ้มสักหลาดสีแดง
สภาพดีคู่หน่ึงมาให้ใช้ท�ำราวจับด้านข้างของบันไดเชือก ส่วนตัวขั้นบันไดไม้
เองกท็ าสีมะฮอกกานีดูเด่น เมอ่ื พิจารณาจากสภาพของโบสถ์แล้ว บันไดนั่น
นับได้ว่าดูดีไม่เบา คุณพ่อแมปเปิ้ลหยุดยืนอยู่หน้าบันไดช่ัวอึดใจ สองมือ
ก�ำราวจับไว้พลางแหงนหน้ามองด้านบน แล้วด้วยความเป็นกะลาสีเก่า
กส็ ลบั มอื ดงึ ตวั ไตข่ น้ึ ไปทลี ะกา้ วอยา่ งแคลว่ คลอ่ งชำ� นาญ ราวกบั กำ� ลงั ปนี ขนึ้
เสากระโดงสองของเรือ

ปกตแิ ลว้ บนั ไดเชอื กแบบนม้ี กั แกวง่ โยกเยก เพราะมเี พยี งขนั้ บนั ไดเทา่ นนั้
ท่ีท�ำจากไม้ สว่ นราวจบั ดา้ นขา้ งด้วยเชือกหุ้มผ้า จึงตอ้ งทำ� ข้อต่อเชื่อมบันได
ทุกข้ัน แค่มองแท่นเทศนแ์ วบแรก ผมกเ็ ห็นวา่ ไม่มีความจำ� เป็นอะไรเลย อาจ
เหมาะส�ำหรับเรือแต่ไม่ใช่ในโบสถ์ เพราะไม่คิดมาก่อนว่า หลังจากคุณพ่อ
แมปเปิ้ลปีนขึ้นไปยืนบนแท่นเทศน์แล้ว จะย่อตัวกลับไปดึงบันไดขึ้นไปเก็บ
ไวบ้ นนนั้ ทลี ะข้นั อย่างช้าๆ จนหมด จนทา่ นเหมอื นอยู่ในป้อมควเิ บก2นอ้ ยๆ
ทไ่ี ม่มีใครแตะตอ้ งได้

ผมคดิ อยคู่ รหู่ นง่ึ กย็ งั ไมเ่ ขา้ ใจนกั วา่ ทำ� ไมทา่ นทำ� แบบนนั้ คณุ พอ่ แมปเปล้ิ
มีชื่อเสียงด้านความจริงใจน่าเล่ือมใส จนผมไม่อาจนึกสงสัยว่า ท่านก�ำลัง
สรา้ งความกระฉอ่ นใหต้ วั เองดว้ ยลกู เลน่ บนเวทเี ลก็ ๆ นอ้ ยๆ นนั่ ไมใ่ ชห่ รอก...
ผมคดิ ว่าต้องมเี หตผุ ลอนั หนกั แนน่ อยู่ ยิ่งกว่านั้น มนั ตอ้ งเปน็ สญั ลักษณท์ าง
นามธรรมแน่นอน เป็นไปได้หรือไม่ว่า การแยกตัวโดดเดี่ยวอยู่บนน้ัน ท่าน
ตอ้ งการสอ่ื วา่ ตอนนน้ั ไดด้ งึ เอาจติ วญิ ญาณของตวั เองกลบั คนื มา และตดั ขาด

2 ควเิ บก-เมืองเก่าในแคดานา มีป้อมปราการหนาแน่นเล่ืองชือ่

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 53

จากโลกภายนอกท้ังปวงแล้ว ใช่...เป็นการเติมสีสันของการเทศน์แก่ผู้ศรัทธา
ในพระเจ้าที่น่ัน ผมเห็นแล้วว่า แท่นเทศน์นั้นก็คือป้อมปราการอารันไบรต์-
สไตน3์ อันสงู ตระหงา่ น ซ่งึ มีสายนำ้� นริ นั ดรอยใู่ นปอ้ ม

กระนั้น บนั ไดเชอื กข้างแทน่ เทศนซ์ ึ่งถอดแบบอดีตชาวเรอื ของบาทหลวง
ผนู้ ้ี ไมใ่ ชส่ ง่ิ เดยี วทดี่ แู ปลกตาในทน่ี น้ั ผนงั ดำ� ซา้ ยขวาหลงั แทน่ เทศนซ์ ง่ึ ตดิ ปา้ ย
อนสุ รณ4์ หนิ ออ่ น ยงั มภี าพเขยี นขนาดใหญแ่ ขวนประดบั ไวต้ รงกลาง เปน็ ภาพ
เรอื หาญกล้าลำ� หน่งึ กำ� ลังแล่นฝา่ พายุร้ายออกมาจากชายฝ่งั บังลมซ่งึ มีแนว
โขดหินด�ำและคล่ืนยักษ์ฟองขาว เหนือเมฆด�ำที่ม้วนตัวแผ่คลุ้มอยู่เบ้ืองบน
นั้น เห็นแสงตะวันจับล�ำลอยเด่นเป็นรูปหน้าทูตสวรรค์ ใบหน้าน้ันสาดรังสี
ลงมายังดาดฟ้าเรือที่ก�ำลังสะท้านสะเทือน แสงท่ีคล้ายเงินยวงน้ันสาดจับ
อยทู่ ี่แผ่นกระดานเรือวกิ ตอรี ตรงจุดทเ่ี นลสนั 5ตกลงทะเล “เอาเลย! เจ้ายอด
เรอื !” ดเู หมอื นทตู สวรรคจ์ ะกลา่ วออกมาเชน่ นน้ั “ฝา่ ออกไป จงฝา่ ออกไป เจา้
เป็นยอดเรอื บังคบั หางเสืออันแข็งแกร่งไว้ น่นั ไง! ตะวนั กำ� ลังฝา่ ออกมา เมฆ
ทะมนึ กำ� ลังแตกสลายไป ทอ้ งฟ้าสดใสก�ำลังใกลเ้ ขา้ มา”

ไมเ่ พยี งบนั ไดเชอื กและภาพวาดนน่ั เทา่ นน้ั ทม่ี กี ลน่ิ อายวฒั นธรรมชาวเรอื
ในการตกแตง่ แทน่ เทศน์ ดา้ นหนา้ ยงั นำ� เอาไมม้ าตกแตง่ จนคลา้ ยหวั เรอื สงู ชนั
ส่วนคัมภีร์ไบเบ้ิลก็วางอยู่บนแท่นไม้สลักลวดลายแบบเดียวกับท่ีตกแต่ง
แมย่ า่ นางเรือ

จะมีสิ่งใดเปี่ยมความหมายยิ่งไปกว่านี้ได้เล่า? แท่นเทศน์มีความส�ำคัญ
สงู สุดบนผนื แผน่ ดินนเ้ี สมอ ส่ิงอืน่ ๆ ลว้ นตามมาทีหลัง แทน่ เทศนน์ ำ� พาโลก
ไปขา้ งหนา้ จากทน่ี น่ั ลมพายฉุ บั พลนั แหง่ ความพโิ รธของพระเจา้ ถกู มองเหน็
เป็นครั้งแรก และหัวเรือก็เป็นส่วนแรกสุดที่ต้องรับแรงปะทะนั้น ที่น่ันเป็น
จุดแรกแห่งการวิงวอนสายลมธรรมดาหรือพายุร้ายจากพระองค์ ให้แปร

3 อารันไบรต์สไตน-์ ปอ้ มปราการบนฝัง่ แมน่ ำ�้ ไรน์ ใกลเ้ มืองโคเบลนซ์ เยอรมนี
4 ปา้ ยอนสุ รณ-์ ป้ายจารกึ ไวอ้ าลยั แก่ผู้ท่ถี ูกฝงั อยู่ทอ่ี ่นื
5 เรือวิกตอรแี ละเนลสนั – พลเรือโทฮอราชิโอ เนลสัน (ค.ศ. 1758-1805) วรี บรุ ุษชาวองั กฤษ ระหวา่ งสง
ครามนโปเลียน เสียชวี ติ บนดาดฟ้าเรือตนเอง (เรือวิกตอรี) ในการรบท่ที ราฟอลการ์

54 : โมบ-้ี ด๊ิก

เปล่ียนเป็นลมอันเก้ือกรุณา ใช่แล้ว...โลกนี้เปรียบประดุจนาวาแล่นไปสู่
จุดหมายท่ียงั อย่อู ีกยาวไกล ขณะท่ีแทน่ เทศนก์ ค็ ือหัวเรอื นนั่ เอง

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 55

บทที่ 9

บทเทศนา

คุณพ่อแมปเปิ้ลยืนข้ึนพูดด้วยน�้ำเสียงอ่อนโยนไร้ว่ีแววสั่งการ ขอให้
คริสตศาสนิกชนท่ีกระจายกันอยู่เข้ามานั่งรวมกันข้างหน้า “คนที่อยู่ทางขวา
โน่นนะ่ ! เขยิบมากราบซา้ ย สว่ นคนทอ่ี ยู่กราบซา้ ยใหเ้ ขยบิ มาทางขวา! มาตร
งกลาง! กลางเรือน่!ี ”

จบคำ� ของบาทหลวง กไ็ ดย้ นิ แตเ่ สยี งรองเทา้ บตู๊ กนั นำ้� คหู่ นายำ่� หนกั ๆ มา
จากมา้ นง่ั หลายแถว ตามดว้ ยเสยี งลากเทา้ เบาๆ จากรองเทา้ ผหู้ ญงิ แลว้ เสยี ง
ทง้ั หลายกเ็ งียบงันลงอีกครงั้ สายตาทุกคู่ต่างจับจอ้ งไปยังนกั เทศน์

ทา่ นสงบนง่ิ อยคู่ รหู่ นงึ่ แลว้ คกุ เขา่ ลงบนหวั เรอื แทน่ เทศน์ ยกสองแขนใหญ่
สนี ำ้� ตาลขนึ้ กอดอกและลมื ตาขนึ้ กอ่ นจะเรมิ่ สวดภาวนาอยา่ งจรงิ จงั เครง่ ขรมึ
ราวกับก�ำลงั คุกเข่าภาวนาอยูใ่ ต้ก้นทะเล

เม่ือเสียงภาวนายานคาง คล้ายเสียงรัวระฆังยาวต่อเนื่องบนเรือซ่ึงก�ำลัง
อบั ปางกลางทะเลในสายหมอกจบลง ทา่ นกเ็ รม่ิ อา่ นบทสวดสรรเสรญิ พระเจา้
ในท�ำนองเดียวกัน แต่เปลีย่ นนำ�้ เสียงเปน็ ก้องกังวานด้วยความเรงิ ร่ายินดีใน
ชว่ งบทท้ายๆ ต่อไปนี้

“เงานา่ สะพรึงกลวั ของเจา้ วาฬ
แผท่ ะมึนครอบคลุมตวั ข้า
ขณะแสงแหง่ พระองคท์ รงผา่ นเลย

56 : โมบี้-ดิ๊ก

จึงเหวย่ี งขา้ ดิง่ ลกึ สเู่ คราะห์กรรม

“ขา้ มองเหน็ ปากนรกเปิดอ้ารบั
ความเจบ็ ปวดโศกเศรา้ ณ ทนี่ นั้ ไม่สิน้ สุด
มแี ต่ผ้ปู ระสบกับมันจงึ เขา้ ใจ
โอ้...ข้าสนิ้ ไรแ้ ล้วซง่ึ ความหวัง

“ในความด�ำมดื ทุกขร์ ะทม ข้าวงิ วอนต่อพระเจา้
แม้คิดว่าทรงทอดท้ิงข้าไปแลว้
แตพ่ ระองค์ทรงโนม้ กายลงมาฟงั คำ� ขา้ คร่�ำครวญ
ยามนน้ั วาฬตวั ใดกข็ วางขา้ ไวไ้ ม่ได้
“พระองคท์ รงลงมาปลดปล่อยขา้
ดจุ ดงั ประทับมาบนโลมาสกุ ใส
แสงโชติชว่ งส่องสวา่ งนา่ เกรงขาม
นั่นคอื พักตร์แหง่ องค์พระผูม้ าโปรด

“บทเพลงนีข้ ้าขอบนั ทึกไว้
ท้งั ช่วงเวลาแสนน่ากลวั และหฤหรรษ์
ข้าขอสรรเสริญแด่องคพ์ ระผูเ้ ปน็ เจา้
และความเมตตาบารมแี หง่ พระองค”์

แทบทุกคนต่างร่วมร้องเพลงสรรเสริญ ผสานพลังดังกลบเสียงพายุ
หวีดหวิว หลังบทเพลงส้ินสุดลงเพียงช่ัวครู่ นักเทศน์ก็เร่ิมพลิกคัมภีร์ไบเบิ้ล
ก่อนจะวางมือทับไว้บนหน้าหนึ่งและกล่าวขึ้นว่า “เพื่อนชาวเรือที่รัก ขอ
ให้เรามาร่วมพิจารณาข้อความสุดท้ายในโยนาห์บทแรก ซ่ึงพระเจ้าทรงส่ง
วาฬยักษไ์ ปกลืนกินเขา”

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 57

“เพือ่ นชาวเรือทั้งหลาย ในโยนาหบ์ ทที่หนงึ่ นม้ี ีอยู่เพียงสีว่ รรค สเี่ รอ่ื งราว
อนั เปน็ เพยี งดา้ ยเสน้ บางๆ รอ้ ยเรยี งกนั เปน็ เกลยี วเชอื กใหญข่ องพระคมั ภรี ์ ถงึ
อยา่ งนนั้ เรอ่ื งราวของโยนาหต์ กลงสกู่ น้ บง้ึ ทะเลกช็ า่ งมคี วามหมายเหลอื เกนิ !
ศาสนทูตคนนี้ได้มอบบทเรียนส�ำคัญยิ่งแก่เรา! เพลงสวดในท้องวาฬนั้น
ช่างสูงส่ง! คล่ืนน้ันใหญ่ยักษ์เพียงใด เสียงอึกทึกน้ันอึงอลเพียงไหน! เรา
สัมผัสได้ถึงน�้ำบ่าทะลักท่วมตัว จนจมดิ่งร่วมกับเขาสู่พื้นสาหร่ายก้นทะเล
รอบตัวเรามีแต่สาหร่ายและโคลนเลนใต้น�้ำ! แล้วพระคัมภีร์บทโยนาห์สอน
อะไรเราละ่ ? เพ่อื นชาวเรอื เอ๋ย...ก็บทเรียนสองอย่างท่ีเก่ยี วโยงกนั อย่างแรก
สำ� หรบั พวกเราทกุ คนผเู้ ปน็ คนบาป สว่ นอกี อยา่ งกส็ ำ� หรบั ตวั พอ่ เอง ในฐานะ
ผนู้ ำ� ทางแหง่ พระผเู้ ปน็ เจา้ “เราตา่ งเปน็ คนบาป นจ่ี งึ เปน็ บทเรยี นสำ� หรบั พวก
เราทกุ คน เพราะนเ่ี ปน็ เรอื่ งราวเกย่ี วกบั การกระทำ� บาป ความโหดรา้ ย ความ
ต่ืนกลัวฉับพลัน การลงโทษทันควัน การส�ำนึกบาป การสวดภาวนา และ
ท้ายสุดเป็นเร่ืองราวการปลดปล่อยและความปีติของโยนาห์ เหมือนดังเช่น
คนบาปท่ัวไปที่ปะปนอยู่ในมวลหมู่มนุษย์ บุตรแห่งอามิททัย1กระท�ำบาป
ด้วยเจตนาไม่ฟังค�ำบัญชาของพระเจ้า ซึ่งเขาพบว่านั่นเป็นค�ำบัญชาที่ยาก
ปฏิบัติตาม ไม่ส�ำคัญว่าค�ำบัญชาน่ันคืออะไร หรือต้องการสื่อความหมายใด
ในตอนน้ี ทุกส่ิงที่พระเจ้าทรงให้เราปฏิบัติอาจเป็นเรื่องยากท่ีจะปฏิบัติตาม
แต่จงจ�ำไว้ว่า ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงทรงบัญชาเรามากกว่าพยายามโน้มน้าว
ให้เราเช่ือ หากเราเช่ือฟังพระเจ้า เราต้องไม่ฟังตัวเราเอง และการไม่ฟัง
ตัวเรานีเ่ องท่ที �ำใหเ้ ชือ่ ค�ำสอนของพระองคไ์ ด้ยาก

“ในการกระท�ำบาปดว้ ยการดอ้ื ดงึ ไม่เชือ่ ฟงั โยนาห์ยงั ดหู มน่ิ พระเจา้ ดว้ ย
การหาทางหลบหนพี ระองค์ เขาคดิ วา่ เรอื ทสี่ รา้ งขน้ึ โดยนำ�้ มอื มนษุ ย์ จะนำ� พา
เขาไปยังเมืองท่ีอ�ำนาจของพระเจ้าจะแผ่ไปไม่ถึง เว้นเสียแต่นายเรือที่เป็น
มนุษย์ในโลกเท่านั้น เขาซ่อนตัวอยู่ที่ท่าเรือยัฟฟาเพ่ือหาเรือเดินทางไปยัง
เมืองทารชิช นั่นอาจเป็นการกระท�ำแฝงความหมายบางอย่างที่ถูกมองข้าม

1 อามิททยั -บดิ าของโยนาห์

58 : โมบ-้ี ดกิ๊

ไปจนถงึ วนั นก้ี ไ็ ด้ ตามคำ� บอกเลา่ ทารชชิ คงไมใ่ ชเ่ มอื งอน่ื ใดเลยนอกเสยี จาก
เมืองคาดิซในปัจจุบัน น่ันเป็นความคิดเห็นของผู้ศึกษารอบรู้ เมืองคาดิซอยู่
ท่ีไหนกันเล่า...เพื่อนชาวเรือท้ังหลาย? คาดิซอยู่ในประเทศสเปน มีแผ่นน�้ำ
กวา้ งขวา้ งกนั้ ไกลจากยฟั ฟามาก ขนาดวา่ โยนาหไ์ มน่ า่ ลอ่ งเรอื ไปถงึ ไดใ้ นยคุ
โบราณกาล ทแี่ มแ้ ตท่ ะเลแอตแลนตคิ ยงั แทบไมเ่ ปน็ ทรี่ จู้ กั ในตอนนนั้ “ยฟั ฟา
หรือจาฟฟาในปัจจุบัน...เพ่ือนชาวเรือท้ังหลาย...มันต้ังอยู่ทางชายฝั่งตะวัน
ออกของทะเลเมดเิ ตอรเ์ รเนยี น บริเวณไซเรีย ขณะที่เมอื งทารชชิ หรือคาดซิ อ
ยหู่ า่ งจากจดุ นนั่ ไปทางทศิ ตะวนั ตกกวา่ สองพนั ไมล์ เลยนอกชอ่ งแคบยบิ รอล
ตารอ์ อกไป เพอ่ื นชาวเรอื เอย๋ ...ทา่ นเหน็ หรอื ไมว่ า่ โยนาหพ์ ยายามหนพี ระเจา้
ไปสุดโลก ช่างน่าเวทนาอะไรเช่นน้ัน! โอ้! ช่างน่าหยามเหยียด และสมควร
ถูกเหยียดหยามเสยี กระไรน!่ี เขาสวมหมวกหรบุ ตำ่� ปิดซ่อนแววตามคี วามผดิ
เพอ่ื หลบหลกี พระเจา้ ของตน ทำ� ตวั เหมอื นขโมยชวั่ คอยดอ้ มๆ มองๆ แถวเรอื
ขนสง่ เพอ่ื รบี เรง่ ขา้ มนำ้� ขา้ มทะเล ทำ� ตวั วปิ รติ ผดิ ธรรมชาตเิ หมอื นจะประกาศ
ความผิดทีก่ ระท�ำไว้ หากสมยั โน้นมีตำ� รวจอยู่แถวน้นั ท่าทางลุกล้ลี กุ ลนของ
โยนาห์คงตกเปน็ ทสี่ งสัย และคงถูกจบั กอ่ นจะขึน้ ไปอยบู่ นดาดฟา้ เรอื ได้ดว้ ย
ซ�ำ้ “เขาชา่ งเปน็ ผหู้ ลบหนที ี่นา่ อนาถโดยแท!้ ไมม่ กี ระเป๋าเดนิ ทาง ไมม่ กี ล่อง
ใสห่ มวก กระเปา๋ หว้ิ หรอื เปผ้ า้ พรม ไมม่ แี มเ้ พอื่ นฝงู มากลา่ วคำ� อำ� ลาทท่ี า่ เรอื
หลงั ดอ้ มๆ มองๆ อยนู่ าน ทสี่ ดุ เขากไ็ ดพ้ บเรอื ทารชชิ มารบั สนิ คา้ รอบสดุ ทา้ ย
ขณะก้าวลงเรือมองหานายเรือในห้องโดยสาร จังหวะน้ันเหล่าลูกเรือต่าง
หยดุ ยกสนิ คา้ ขนลงเรอื แลว้ หนั มาจอ้ งชายแปลกหนา้ แววตาเลก่ิ ลก่ั มพี ริ ธุ ผนู้ ้ี
โยนาห์สังเกตเห็นท่าทีน้ัน จึงแสร้งท�ำท่าเชื่อมั่นและผ่อนคลาย ทั้งพยายาม
ฝืนย้มิ ออกมา แตท่ ัง้ หมดนนั่ กไ็ รผ้ ล การอา่ นท่าทีพวกลกู เรือออก กลบั ท�ำให้
พวกนั้นยิ่งปักใจเช่ือว่าเขาไม่ใช่คนดีแน่ๆ ลูกเรือคนหนึ่งกระซิบทีเล่นทีจริง
กับเพื่อนว่า ‘แจ๊ค...เจ้านี่คงเพ่ิงปล้นหญิงม่ายมา’ หรือไม่ก็ ‘โจ...เห็นเจ้าน่ัน
ไหม มนั เป็นพวกมากเมียแน่’ และ ‘เกลอแฮรี.่ ..ข้าวา่ มันต้องเปน็ พวกชายชทู้ ี่
แหกคกุ ออกมาจากเมอื งเกา่ กอมเมอร์ราห์ หรอื ดีไมด่ ีอาจเป็นหนึ่งในฆาตกร

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 59

เร้นกายจากเมอื งซอดอม2แน่’ “ลูกเรืออีกคนวง่ิ ไปอ่านแผน่ ประกาศซึ่งติดอยู่
บนตอม่อสะพานของท่าที่เรือจอดอยู่ อันมีข้อความให้รางวัลน�ำจับผู้กระท�ำ
ปิตฆุ าต โดยเสนอให้ทองห้ารอ้ ยเหรียญ ทง้ั ยังบรรยายรปู พรรณสณั ฐานของ
โยนาห์ไว้ด้วย ชายคนนั้นอ่านประกาศแล้วหันไปมองโยนาห์ ขณะท่ีเพ่ือน
ผู้มีใจตรงกันต่างกรูกันเข้าล้อมหน้าล้อมหลังโยนาห์ไว้และเตรียมจับตัวเขา
โยนาหถ์ งึ กบั ตวั สน่ั ขวญั ผวา พยายามตสี หี นา้ กลา้ หาญแตก่ ลบั ยงิ่ ดขู ลาดเขลา
เขาพยายามหาทางเอาตวั รอด โดยยนื กรานไมย่ อมรบั ตามขอ้ กลา่ วหา พวกลกู
เรือจงึ รูส้ กึ ลงั เลใจ และหลงั จากเหน็ ว่าโยนาหไ์ ม่ใช่ชายในแผ่นประกาศจริงๆ
จงึ ปล่อยให้โยนาหผ์ า่ นไปยงั ห้องโดยสารบนเรอื

‘ใครน่ะ?’ นายเรือร้องถามขณะก�ำลังง่วนอยู่บนดาดฟ้าเรือ เขาก�ำลัง
เรง่ รบี จดั เตรยี มเอกสารใหล้ กู คา้ ‘ใครอยตู่ รงนนั้ ?’ โอ!้ คำ� ถามแสนธรรมดาแต่
กลับสร้างความหวาดผวาให้แก่โยนาห์เสียน่ีกระไร! เขาแทบจะหันหลังกลับ
แลว้ วงิ่ หนอี กี ครง้ั แตก่ ฝ็ นื รวบรวมความกลา้ ‘ขา้ พเจา้ อยากจะโดยสารเรอื ลำ� นี้
ไปทารชชิ อกี นานไหมกวา่ ทา่ นจะออกเรอื ?’ นายเรอื กม้ หนา้ กม้ ตาอยกู่ บั งาน
ทท่ี ำ� จนไมร่ วู้ า่ โยนาหเ์ ดนิ มาหยดุ ยนื อยตู่ รงหนา้ แลว้ แตท่ นั ทที ไ่ี ดย้ นิ เสยี งถาม
แหบแหง้ นนั่ เขากเ็ งยหนา้ สง่ สายตาพนิ จิ พเิ คราะห์ กอ่ นจะตอบชา้ ๆ ขณะยงั
จอ้ งเขม็ง ‘เราจะออกเรือเมือ่ น้ำ� ข้ึนนลี่ ะ่ ’ ‘ไมน่ านไปหรือทา่ น?’ ‘ไม่นา่ จะนาน
เกนิ รอสำ� หรบั คนสตั ยซ์ อ่ื ทตี่ อ้ งการโดยสารไปดว้ ยกนั ’ อะฮา้ ! โยนาห.์ ..นน่ั เปน็
ค�ำพูดท่ีแทงใจด�ำอีกคร้ังล่ะ แต่เขาก็รีบพูดกลบเกลื่อนเพ่ือให้นายเรือคลาย
สงสัย ‘ข้าพเจ้าจะเดินทางไปกับท่าน ค่าโดยสารเท่าไหร่? ข้าพเจ้าจะจ่าย
ให้เลย’ เพื่อนชาวเรือท้ังหลาย ข้อความท่ีเขียนไว้ตรงน้ีมีนัยที่เราไม่ควรมอง
ข้ามไป ‘เขาจ่ายเงินค่าโดยสารน้ัน’ ก่อนเรือจะออกเดินทาง ลองดูท่ีมาท่ีไป
แลว้ ก็จะเขา้ ใจความหมายท่ีแท้จรงิ ได้

“สำ� หรบั นายเรอื ผนู้ .้ี ..ชาวเรอื ทง้ั หลาย เขาเปน็ ผทู้ สี่ ามารถจบั พริ ธุ ผรู้ า้ ยได้
แตเ่ พราะความโลภทำ� ใหก้ ลายเปน็ ยาจกกระหายเงนิ ในโลกใบนี้ ชาวเรอื เอย๋ ...

2 ซอดอม-เมืองชว่ั ร้ายในไบเบลิ้

60 : โมบ้ี-ด๊ิก

คนมีบาปผดิ ซึง่ ยอมจา่ ยคา่ เบกิ ทาง สามารถโลดแลน่ ไปทกุ ท่ีได้อยา่ งเสรโี ดย
ไม่ต้องมีใบผ่าน ขณะท่ีคนดีหากยากจน ก็จะถูกสกัดก้ันอยู่ตรงพรมแดน
นนั่ เอง จรงิ ๆ แลว้ นายเรอื ผนู้ ต้ี งั้ ใจจะชง่ั นำ�้ หนกั ถงุ เงนิ ทโี่ ยนาหม์ กี อ่ น เพอื่ ให้
รู้จักเขาได้อย่างถ่องแท้ โดยแกล้งเรียกเก็บเงินสามเท่าจากค่าโดยสารปกติ
แต่โยนาห์ก็ยอมจ่าย นายเรือจึงรู้ว่าโยนาห์ต้องหนีความผิดมาแน่ๆ ในขณะ
เดียวกัน เขาก็ตกลงใจจะช่วยให้โยนาห์ได้หลบหนี ซึ่งต้องซ้ือมันมาด้วย
เส้นทางที่ปูลาดด้วยทองค�ำ แม้โยนาห์จะหยิบถุงเงินออกมาย่ืนส่งให้ แต่
นายเรอื กย็ งั ไมห่ มดความระแวงในตวั เขา “นายเรอื หยบิ เหรยี ญขนึ้ มาเคาะฟงั
เสยี งดวู า่ เปน็ ของปลอมหรอื ไม่ ไมใ่ ชเ่ หรยี ญเก.๊ ..เขาพมึ พำ� แลว้ โยนาหก์ ไ็ ดเ้ ปน็
ผู้โดยสารของเรือล�ำน้ัน ‘ช่วยบอกทางไปห้องพักของข้าพเจ้าหน่อยเถิดท่าน’
เขาพูดขึน้ ‘ข้าพเจา้ เหน็ดเหน่ือยมาจากการเดินทาง และอยากหลับพกั ผอ่ น’
‘หนา้ ตาเจา้ กบ็ อกอยา่ งนน้ั แหละ’ นายเรอื พดู ‘หอ้ งของเจา้ อยนู่ น่ั ’ โยนาหเ์ ดนิ
ไปทหี่ ้องและพยายามลงดาลประตู แตป่ ระตนู ั่นไม่มดี าล นายเรอื ไดย้ ินเสยี ง
โยนาหง์ มุ่ งา่ มควานหา จงึ หวั เราะออกมาเบาๆ พลางพมึ พำ� ขน้ึ วา่ ประตหู อ้ ง
ขังนักโทษไม่มีดาลให้ลงด้านในหรอก โยนาห์ทิ้งตัวลงบนท่ีนอน ทั้งยังไม่ได้
ผลัดเส้ือผ้าและเน้ือตัวยังมอมแมม และพบว่าเพดานห้องเล็กน้ีอยู่ห่างจาก
หน้าผากของเขาไปไมเ่ ทา่ ไร อากาศอบทบึ จนเขาต้องอ้าปากหายใจ เขามอง
ออกไปทางชอ่ งแคบเลก็ นนั่ จงึ เหน็ วา่ หอ้ งนน้ั อยใู่ ตท้ อ้ งเรอื ระดบั เดยี วกบั ผวิ นำ้�
โยนาหส์ งั หรณข์ นึ้ มาวา่ คงอดึ อดั หายใจไมอ่ อกแบบนยี้ ามเมอื่ ถกู วาฬกลนื เขา
ลงไปในลำ� ไส้เลก็ ๆ ของมัน

“โคมไฟแขวนท่ีขันแกนติดผนังด้านข้างภายในห้องแกว่งเบาๆ ขณะเรือ
เอียงวูบไปทางท่าเรือเพราะน�้ำหนักหีบห่อสินค้าชุดสุดท้ายซึ่งถูกยกข้ึนมา
บนเรอื แม้จะเอนเพยี งเล็กนอ้ ย แตท่ ้ังโคมไฟ เปลวไฟ และตำ� แหนง่ ทแี่ ขวน
มันยังคงเอนอยู่อย่างน้ันเมื่อเทียบกับพื้นห้อง ทั้งที่ควรกลับคืนสู่สภาพเดิม
แล้ว แสดงว่ามีบางอย่างส่ิงผิดปกติแน่ โคมไฟบอกเหตุน้ันเขย่าขวัญโยนาห์
จนผวา เขายังนอนอยู่บนท่ีนอน ส่งสายตารวดร้าวกระสับกระส่ายกวาดไป

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 61

ท่ัวห้อง ตอนนน้ั เอง ผู้ร้ายหลบหนีคนน้ีเร่ิมตระหนักแลว้ ว่าไม่มสี ถานที่ใดให้
เขาหลบซ่อนตัวได้ ความผิดปกติของโคมไฟท�ำให้เขาย่ิงรู้สึกขนลุกกลัว พ้ืน
หอ้ ง เพดาน และผนงั เหมอื นบดิ เบยี้ วไปหมด ‘โอ! ตงั้ สตไิ ว!้ ’ เขาครางออกมา
‘ทำ� ใจดๆี จะไดม้ ีสติ แต่...ท�ำไมสติรับร้มู นั ถึงบดิ เบ้ียวไปหมดล่ะ!’

“เขาเหมอื นคนดมื่ จนเมามายยามคำ่� คนื แลว้ รบี ขน้ึ เตยี งนอนทงั้ ยงั วงิ เวยี น
แตก่ ย็ งั หลงเหลอื สตริ บั รทู้ เ่ี ขา้ มาทม่ิ แทง เหมอื นพลดั ตกจากหลงั มา้ แขง่ โรมนั
แล้วยังโดนสายคาดเหล็กของมันกระแทกใส่อย่างแรง เหมือนคนท่ีตกอยู่ใน
ภาวะล�ำบากอยู่แล้วยังเคราะห์ร้ายซ้�ำต้องมาทุกข์ทรมานกับอาการคล่ืนไส้
อกี เขาสวดวงิ วอนพระเจา้ ใหท้ รงปดั เปา่ อาการวงิ เวยี นนนั้ และทง้ั ทยี่ งั รสู้ กึ หวั
หมุนต้ิวเขาก็หมดสติไปเหมือนคนตกเลือดตาย เพราะสติรับรู้เปรียบเหมือน
บาดแผลท่ีไม่มีอะไรมาห้ามเลือดได้ หลังจากดิ้นทุรนทุรายบนเตียงนอน
อยู่นาน ในที่สุดลางบอกเหตุซึ่งสร้างความทุกข์ทรมานอันยืดยาวแก่โยนาห์
กไ็ ด้ลากเขาด่ิงลึกลงสหู่ ้วงนทิ รา

“น่ันเป็นเวลาน�้ำขึ้นพอดี เรือถูกปลดเชือก และแล่นออกจากท่าเพื่อมุ่ง
ไปยังทารชชิ มันลอยล�ำโคลงเคลงออกสู่ทะเล เรือลำ� นนั้ เพอื่ นชาวเรือเอ๋ย...
นับเป็นเรือล�ำแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการลักลอบขนของต้องห้าม! ของส่ิง
นั้นก็คือโยนาห์น่ันเอง หากแต่ท้องทะเลขัดขืน มันไม่ยอมแบกรับความช่ัว
ร้าย ท้ังพายุแรงก็โหมกระหน�่ำ จนเรือใกล้จะอับปาง หัวหน้าลูกเรือสั่งให้
ทกุ คนช่วยกันขนของท้ิงทะเลเพือ่ ให้เรือเบาลง ทัง้ ลังใสข่ อง หีบหอ่ และโอ่ง
ไหถูกโยนโครมครามไปนอกเรือ ช่วงเวลานั้นเสียงลมกรีดหวีดหวิว พวกลูก
เรือพากันตะโกนลั่น พื้นกระดานเรือลั่นปึงปังดังสนั่นด้วยแรงย่�ำของผู้คนท่ี
ว่ิงไปมาด้านบนเหนือศีรษะของโยนาห์ ท่ามกลางความสับสนอลหม่านนั้น
โยนาหย์ งั คงหลบั ใหลอยใู่ นความกลวั “เขาไมเ่ หน็ ทอ้ งฟา้ มดื มดิ และทอ้ งทะเล
คลงั่ ไมร่ บั ร้ถู ึงอาการหมุนโคลงของโครงเรอื แทบไมไ่ ดย้ นิ เสยี งหรอื ใส่ใจกบั
วาฬใหญ่ยักษ์ที่ก�ำลังพุ่งทะยานมาแต่ไกล ปากของมันอ้ากว้างอยู่ด้านหลัง
เขาไม่ไกลนกั ใชแ่ ล้ว...เพื่อนชาวเรอื ทงั้ หลาย โยนาหล์ งไปอยู่บริเวณท้องเรอื

62 : โมบี้-ดิก๊

กำ� ลังนอนอยู่บนท่ีนอนในหอ้ งโดยสารทพี่ ่อเองก็เคยไปนอนมา เขาหลบั เป็น
ตาย เวลานนั้ เอง นายเรอื เรอื ผตู้ นื่ ตระหนกกล็ งมาหาเขาและตะเบง็ ใสห่ หู นวก
บอดของเขา “อะไรกันนี!่ โอะ๊ ...เจา้ ข้ีเซา! ต่ืนส!ิ ’ เสียงร้องต่ืนกลัวปลุกโยนาห์
ให้ต่ืนจากอาการง่วงซึม เขาโงนเงนลุกข้ึนยืน แล้วเดินโซเซไปยังดาดฟ้าเรือ
คว้าเชือกขึงเสากระโดงเรือจับไว้ม่ันแล้วมองออกไปยังทะเล “ทันใด เขาก็
ต้องกระดอนไปทั้งตัวเม่ือถูกคลื่นยักษ์ลูกหน่ึงโถมข้ามกราบเรือเข้ามาซัดใส่
คลนื่ ลกู แลว้ ลกู เลา่ ซดั กระหนำ�่ ใสเ่ รอื จนนำ้� ทะเลลน้ ทะลกั เขา้ มาอยา่ งไมอ่ าจ
ระบายไดท้ นั ทง้ั ทางหวั เรอื ทา้ ยเรอื ลกู เรอื ทงั้ หมดแทบจะจมนำ�้ ตายทงั้ ๆ ทอ่ี ยู่
บนเรือ และเช่นเดียวกับดวงจันทร์ซีดที่แย้มโฉมอันตื่นตระหนกออกมาจาก
แผน่ ฟา้ มดื มดิ ลกึ ลำ้� เบอ้ื งบน โยนาหก์ อ็ กสนั่ ขวญั หายเมอ่ื หนั ไปเหน็ เครอ่ื งเสา
หวั เรอื พลกิ แหงนขน้ึ สงู ลวิ่ กอ่ นจะทง้ิ ดง่ิ บนผนื นำ้� และปกั วบู ลงไปอยา่ งนา่ กลวั

“ความหวาดกลัวกระหน่�ำใส่จิตวิญญาณของเขาระลอกแล้วระลอกเล่า
และดว้ ยทา่ ทางขลาดกลวั จนตวั งอเชน่ นน้ั ชายผหู้ ลบหนพี ระเจา้ คนนก้ี ถ็ กู จบั
พิรุธได้ทันที เหล่าลูกเรือหันมาจ้องมองเขา ยิ่งมองก็ย่ิงสงสัยจนต้องพิสูจน์
หาความจริง ต่างเชื่อว่าเร่ืองทั้งหมดน้ีคงต้องเก่ียวข้องกับสวรรค์เบ้ืองบน
พวกเขามองหาตัวต้นเหตุที่ท�ำให้เกิดพายุปั่นป่วนนี้เพื่อจะโยนออกไปนอก
เรือ และคิดว่าโยนาห์น่าจะเป็นต้นเหตุ จึงปร่ีเข้ามารุมล้อมป้อนค�ำถามใส่
โยนาหไ์ มย่ ั้ง ‘เจ้าทำ� อาชีพอะไร? มาจากที่ไหน? ประเทศอะไร เปน็ ชาวอะไร’
แตท่ วา่ ...เพอ่ื นชาวเรอื ทง้ั หลาย...สงั เกตพฤตกิ รรมของโยนาหผ์ นู้ า่ สงั เวชตอนนี้
นะ ไม่ว่าเหลา่ ลูกเรือจะคาดคัน้ ถามวา่ เขาเป็นใคร มาจากไหน แต่กลับไม่ได้
รบั คำ� ตอบใดๆ จากคำ� ถามเหลา่ นน้ั เลย โยนาหต์ อบเพยี งคำ� ตอบเดยี วเทา่ นน้ั
ซง่ึ เปน็ คำ� ตอบของคำ� ถามทพ่ี วกเขาไมไ่ ดถ้ าม หากแตเ่ ปน็ คำ� ตอบทโ่ี ยนาหถ์ กู
บงั คบั ใหต้ อบดว้ ยอ�ำนาจของพระเจา้ ทอ่ี ยู่เหนอื เขา

“‘ข้าพเจา้ เป็นชาวฮีบร’ู เขาตะโกนออกมาและวา่ ‘ข้าพเจ้ากลวั พระผเู้ ป็น
เจ้าแหง่ สวรรค์ ผสู้ ร้างทะเล และแผน่ ดินแห้ง!’ กลัวท่านง้ันหรือ โอ.้ ..โยนาห์?
นั่นสินะ...อ�ำนาจใดกันเล่าที่ท�ำให้เกิดกลัวพระเจ้าข้ึนมา! ถึงตอนน้ันเขารีบ

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 63

สารภาพออกมาจนหมดเปลือก เมื่อได้ฟังเรื่องราวจนจบเหล่าลูกเรือย่ิงรู้สึก
กลัวมากกว่าเดิม แต่ก็รู้สึกสงสารเขาด้วย กระน้ันโยนาห์ก็ยังไม่วิงวอนขอ
ความเมตตาจากพระเจา้ เนอื่ งในความผดิ ดว้ ยเขาเองกร็ ดู้ วี า่ การละทง้ิ หนา้ ที่
เป็นสิ่งเลวร้าย โยนาห์ผู้เคราะห์ร้ายร้องบอกให้ลูกเรือจับเขาโยนลงทะเลไป
เพราะรู้ว่าเป็นความผิดของเขาท่ีท�ำให้เกิดพายุปั่นป่วนนี้ เหล่าลูกเรือเกิด
เวทนาขน้ึ มาจงึ พยายามหาวธิ อี นื่ เพอ่ื กอบกสู้ ถานการณ์ หากแตท่ กุ วธิ กี ไ็ รผ้ ล
พายคุ ลงั่ สง่ เสยี งคำ� รามหนกั ยงิ่ ขน้ึ บางคนยกมอื ขนึ้ วงิ วอนตอ่ พระเจา้ ขณะที่
มือของบางคนก็จบั ตวั โยนาหไ์ ว้ไม่รรี อ

“แลว้ โยนาหก์ ถ็ กู จบั ยกขน้ึ เหมอื นสมอเรอื กอ่ นจะถกู หยอ่ นลงทะเลไป รา่ ง
เปน็ มนั ลนื่ รา่ งหนง่ึ ลอ่ งมาจากทางตะวนั ออกอยา่ งเงยี บเชยี บ แลว้ ทะเลกส็ งบ
นงิ่ ลง ขณะทโ่ี ยนาหน์ ำ� เอาพายจุ มดง่ิ ลงไปกบั เขาดว้ ย ทง้ิ ผวิ นำ้� ราบเรยี บไวด้ า้ น
บน เขาจมดง่ิ ลงสใู่ จกลางวงั วนอนั ปน่ั ปว่ นเกนิ กวา่ จะขดั ขนื แทบไมท่ นั สงั เกต
วา่ เขาผลบุ ผา่ นปากวาฬทเ่ี ปดิ อา้ รอรบั กอ่ นจะงบั ซฟ่ี นั สงี าของมนั ลงมาราวกบั
สลักดาลอันหนาแน่น กักขังเขาไว้ในลูกกรงสีขาว โยนาห์สวดอ้อนวอนพระ
ผู้เป็นเจ้าจากในท้องปลาน้ัน แต่สังเกตค�ำวิงวอนของเขาให้ดีนะ และเรียนรู้
ถงึ บทเรยี นอนั สำ� คญั ตรงนี้ “เพราะแมจ้ ะเปน็ คนบาป แตโ่ ยนาหก์ ไ็ มไ่ ดร้ อ้ งไห้
คร�่ำครวญขออิสรภาพ เขารู้แล้วว่าตนเองก�ำลังได้รับโทษมหันต์และยอมรับ
การลงทณั ฑท์ ง้ั มวล โดยใหพ้ ระเจา้ เปน็ ผตู้ ดั สนิ ตามแตจ่ ะทรงเหน็ เหน็ สมควร
และแมก้ ำ� ลงั เจบ็ ปวดทนทกุ ขท์ รมาน เขากย็ งั หนั หนา้ ไปพง่ึ วหิ ารศกั ดสิ์ ทิ ธข์ิ อง
เขา ตรงนเี้ อง เพอื่ นชาวเรอื ทง้ั หลาย...ทเ่ี ปน็ การสำ� นกึ บาปอยา่ งถกู ตอ้ งและมี
ศรัทธาอย่างแท้จริง ไม่ใช่ร�่ำร้องขออภัยโทษ แต่ขอบคุณส�ำหรับการลงทัณฑ์
พฤติกรรมของโยนาห์ตรงนี้เองท่ีท�ำให้พระเจ้าทรงพอพระทัย และทางปลด
ปลอ่ ยเขาจากวาฬและทะเล เพอ่ื นชาวเรอื เอย๋ ...พอ่ ไมไ่ ดน้ ำ� เรอ่ื งของโยนาหม์ า
เล่าให้ลูกฟงั เพ่อื ให้เอาเย่ยี งอยา่ งการกระทำ� บาปแบบเขา แต่พ่อนำ� เรื่องของ
เขามาบอกเลา่ เพอื่ ใหล้ กู เหน็ เปน็ แบบอยา่ งในการสำ� นกึ บาป จงอยา่ ทำ� ผดิ บาป
แต่หากลูกกระท�ำ ก็จงส�ำนึกผิดให้ได้อย่างโยนาห์” ขณะท่ีคุณพ่อกล่าวถึง

64 : โมบ้-ี ดก๊ิ

ตรงนี้ เสียงพายุข้างนอกก็กระหน�่ำหวีดหวิวขึ้นราวกับขานรับอย่างทรงพลัง
ตอนทา่ นเลา่ เรอ่ื งของโยนาหก์ บั พายทุ ะเลคลั่ง ดูเหมอื นรา่ งทา่ นเองกพ็ ลอย
ถูกพายุโยกคลอนไปด้วย อกกว้างของท่านกระเพ่ือมราวคลื่นใต้น้�ำ สอง
แขนกวัดแกวง่ ราวธาตุธรรมชาตทิ ั้งสกี่ �ำลงั หำ�่ หัน่ ขับเคี่ยวกนั เสียงฟ้าเหมอื น
คำ� รนคำ� รามออกมาจากคว้ิ เขม้ ดำ� และแสงสวา่ งแลบปลาบจากดวงตา ท่าที
แปลกประหลาดนั้นท�ำใหเ้ หล่าผูฟ้ ังของทา่ นต่างมองดว้ ยความหว่นั เกรง

ขณะนั้นท่านน่ิงเงียบ ค่อยๆ พลิกพระคัมภีร์ทีละหน้า ก่อนจะหยุดยืน
สงบนงิ่ และปดิ เปลอื กตาลง ชว่ งเวลานน้ั ดรู าวกบั ทา่ นกำ� ลงั สอื่ สารกบั พระเจา้
และกับตวั ทา่ นเองอยู่

เมอ่ื ลมื ตาขน้ึ ทา่ นโนม้ ตวั ลงมาทางกลมุ่ ชน คอ่ ยๆ โคง้ ศรี ษะลงดว้ ยทา่ ทาง
นอบนอ้ มหากแต่คงไว้ซ่ึงความสงา่ งาม พรอ้ มกบั กล่าวตอ่ วา่ “เพือ่ นชาวเรือ
ทั้งหลาย...พระเจา้ วางมือเพยี งขา้ งเดยี วบนตัวทา่ น แต่พระองคก์ ดสองมอื ลง
บนตัวพ่อ ส่ิงท่ีได้อา่ นได้เล่าให้ท่านฟังนน้ั อาจยังไมแ่ จ่มแจง้ ลึกซ้งึ นกั เพราะ
บทเรียนของโยนาห์มีคุณค่าต่อการเรียนรู้แก่ผู้กระท�ำบาปท้ังปวง นั่นก็คือ
ท้ังแก่ตัวท่าน และโดยเฉพาะตัวพ่อเอง เพราะพ่อเป็นคนบาปเสียย่ิงกว่า
พวกท่าน คงเป็นเร่ืองน่ายินดีหากพ่อได้ก้าวลงจากหัวเรือนี่แล้วลงไปน่ัง
ตรงทท่ี พี่ วกทา่ นนงั่ อยู่ เพอ่ื ฟงั ในสงิ่ ทพี่ วกทา่ นไดฟ้ งั ใหใ้ ครสกั คนในกลมุ่ พวก
ท่านขึ้นมาอ่านพระคัมภร์ให้พ่อฟัง ด้วยบทเรียนที่น่าเล่ือมใสศรัทธาย่ิงกว่า
บทเรียนทโี่ ยนาห์สอนพ่อ ในฐานะของผนู้ ำ� ทางแห่งพระผเู้ ปน็ เจ้า “พระเป็น
เจ้าได้แต่งตั้งโยนาห์เป็นผู้น�ำสาร หรือผู้เผยความจริงและพระวจนะ เพ่ือให้
ไปประกาศความจริงอันไม่น่ายินดีแก่ชาวเมืองนีนะเวห์อันหยาบช้าให้ได้รับ
ฟัง แต่เขากลับตกใจ กลัวว่าคนท่ีน่ันต้องพากันเกลียดชังเขาแน่ จึงหาทาง
ละท้ิงหนา้ ท่นี ีโ้ ดยการไปข้ึนเรือทีย่ ฟั ฟา หากแต่พระเจ้าอยทู่ ุกหนแห่ง เขาจึง
ไม่มที างไปถงึ ทารชชิ ได้ ดงั ทีเ่ ราตา่ งไดป้ ระจกั ษก์ ันแล้ววา่ พระเจ้ามาหาเขา
ในร่างของวาฬที่กลืนกินเขาเข้าไปในวังวนแห่งชะตากรรม กระชากเขาเข้าสู่

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 65

‘ใจกลางมหาสมุทร’ ท่ีที่วังน้�ำวนดูดเขาจมลึกลงไปเป็นหมื่นฟาทอม3 และ
‘สาหรา่ ยทะเลพนั รอบศรี ษะของเขา’ กระแสนำ�้ แหง่ เคราะหร์ า้ ยถาโถมทว่ มทน้
ตวั เขา “กระนน้ั กอ่ นเขาจะดงิ่ ลงสกู่ น้ บง้ึ ‘แหง่ ทอ้ งอเวจ’ี เมอ่ื วาฬยกั ษพ์ งุ่ ลงสู่
เบ้อื งลกึ สดุ ของมหาสมุทร เวลาน้นั พระเจ้าได้ยินเสียงศาสนทูตผู้นีร้ อ้ งสำ� นกึ
บาปจากท้องปลา พระองค์ทรงบอกวาฬให้แหวกว่ายข้ึนจากห้วงน้�ำเย็น
สะทา้ นและมดื มดิ ขนึ้ สแู่ สงอาทติ ยอ์ นั อบอนุ่ สบาย อากาศสดชน่ื และผนื โลก
แลว้ ‘สำ� รอกเอาโยนาห์ออกมาบนพน้ื ดนิ แหง้ ’ จากน้นั พระองค์ทรงกลา่ วกบั
โยนาหอ์ กี ครง้ั ครานหี้ ขู องเขาทถี่ กู ครดู จนเปน็ แผลเขยี วคลำ้� เปดิ รบั ฟงั เหมอื น
ฝาหอยทะเลเปดิ อา้ ออกพรำ่� พมึ พำ� กบั มหาสมทุ ร โยนาหร์ บั บญั ชาจากพระเจา้
เรื่องน้ีมีความหมายอย่างไรนะหรือ...เพ่ือนชาวเรือท้ังหลาย? ก็คือการสอน
สจั จะความจริงแกผ่ ู้หลงผิด! นัน่ ล่ะความหมายของเรื่องน้!ี

“น่ีแหละ เพื่อนชาวเรือเอ๋ย...นี่คืออีกบทเรียนหนึ่ง เป็นความวิบัติอันเกิด
แกผ่ ูส้ ่งสารของพระเจา้ ซง่ึ เมินเฉยต่อหนา้ ทีน่ ้ัน เปน็ ความวบิ ตั ิต่อผู้ตอ้ งมนต์
ลวงของโลกใบน้ีจนละทิ้งหน้าที่ตามค�ำสอนของพระองค์! เป็นความวิบัติต่อ
ผพู้ ยายามแกป้ ญั หาดว้ ยการราดนำ้� มนั บนสายนำ�้ ขณะทพ่ี ระองคเ์ ปา่ สายนำ�้
นนั้ จนเปน็ ลมพาย!ุ ความวบิ ตั ติ อ่ ผแู้ สวงหาการยอมรบั มากกวา่ การถกู ปฏเิ สธ!
ความวบิ ตั ติ อ่ ผใู้ สใ่ จในชอื่ เสยี งมากกวา่ ความดงี าม! ความวบิ ตั ติ อ่ ผแู้ สห่ าเรอื่ ง
เสอื่ มเสยี เกยี รตบิ นโลกใบน!้ี ความวบิ ตั ติ อ่ ผซู้ ง่ึ อาจหลงผดิ แมเ้ ปน็ ความผดิ ที่
ตอ้ งการพน้ ภยั กต็ าม! ใช.่ ..เปน็ ความวบิ ตั ติ อ่ ผปู้ ระสบชะตากรรมเฉกเชน่ เดยี ว
กบั อคั รทูตเปาโล ขณะเทศนส์ อนคนอื่นตัวท่านเองกลับเป็นผถู้ ูกลอยแพ”

ท่านก้มหน้าและดูเหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปช่ัวขณะหน่ึง ก่อนจะ
เงยหนา้ ขนึ้ เผยใหเ้ หน็ แววปตี ลิ ำ้� ลกึ ในดวงตา พลางตะโกนออกมาดว้ ยศรทั ธา
อนั แรงกลา้ “แตท่ วา่ โอ!้ เพอ่ื นชาวเรอื ทง้ั หลาย...ทางดา้ นกราบขวาของความ
ทกุ ขร์ ะทมทง้ั หลายยอ่ มมคี วามรน่ื รมยอ์ ยอู่ ยา่ งแนน่ อน และความรน่ื รมยน์ น้ั
ย่อมสงู ล้ำ� กว่ากน้ บ้ึงแหง่ ความระทมทกุ ข์ ปอ้ มบนเสากระโดงเรอื ย่อมสงู กว่า

3 1 ฟาธอมเท่ากบั 6 ฟตุ

66 : โมบ้ี-ดกิ๊

กระดูกงูเรือท่ีอยู่ต�่ำมิใช่หรือ? ความยินดีย่อมมีแก่ผู้ที่อยู่สูง...สูงขึ้นไป และ
ความยินดีภายในใจย่อมมีแด่ผู้หยัดยืนด้วยกายใจไม่ย่อท้อต่อเทพเจ้าผู้หย่ิง
ทระนงและผ้บู ัญชาผืนโลกใบนี้ ความยนิ ดยี ่อมมีต่อผู้มสี องแขนอันแขง็ แกร่ง
ไว้คอยช่วยเหลือตัวเอง ยามเม่ือเรือแห่งโลกอันหลอกลวงเลวทรามได้จมลง
อย่เู บ้ืองล่างเขา

“ความยินดีย่อมมีแก่ผู้ไม่ผ่อนปรนในสัจจะ ผู้มุ่งขจัด เผาผลาญ และ
ท�ำลายความชั่วร้ายท้ังมวล แม้ต้องกระชากความจริงมาจากผู้สวมใส่ชุด
สมาชกิ สภาสงู และตลุ าการ ความยนิ ดอี นั สงา่ งามสงู สดุ ยอ่ มมแี กผ่ ไู้ มย่ อมรบั
กฎข้อบังคับและอ�ำนาจใด เว้นแต่พระผู้เป็นเจ้า และภักดีเพียงสรวงสวรรค์
ความยินดีย่อมมีแก่ผู้ท่ีคลื่นยักษ์แห่งมวลมหาสมุทรและฝูงชนจลาจล ก็ยัง
ไมอ่ าจโยกคลอนโครงเรอื แหง่ กาลเวลาอนั คงมน่ั ของเขา ความยนิ ดชี วั่ นริ นั ดร์
และความสุขใจ ย่อมจะมีแก่ผู้สามารถกล่าวในห้วงลมหายใจห้วงสุดท้ายได้
วา่ ‘โอ.้ ..พระบดิ า! ในยามทข่ี า้ พระองคก์ �ำลงั อ�ำลาโลกน้ีไป ข้าพระองคร์ ้จู กั ก็
แตไ่ มเ้ ทา้ แหง่ ทา่ น4 จะตายหรอื เปน็ นริ นั ดร์ ขา้ พระองคก์ ไ็ ดม้ งุ่ มนั่ ทจี่ ะอยรู่ ว่ ม
กบั ท่านยงิ่ กวา่ จะอยใู่ นโลกใบนี้ หรอื แม้แตอ่ ยู่เพอื่ ตัวขา้ พระองคเ์ อง กระนน้ั
จะอยู่หรือตายก็ไม่ส�ำคัญ ขอความเป็นนิรันดร์จงเป็นของพระองค์ ด้วยว่าท่ี
มนุษย์มีชีวติ อย่ตู งั้ แต่เกิดจนตาย กเ็ พ่อื พระเจา้ ของเขาเท่านั้น”

จากนนั้ คณุ พอ่ แมปเปล้ิ กไ็ มไ่ ดพ้ ดู อะไรอกี เพยี งแตโ่ บกมอื ชา้ ๆ ใหพ้ ร กอ่ น
ยกสองมือขึ้นปิดหน้า ท่านยังคงคุกเข่าอยู่อย่างนั้น กระทั่งเหล่าศาสนิกชน
ทยอยกนั เดนิ จากไปจนหมด ทงิ้ ท่านไวต้ ามลำ� พัง ณ สถานทีแ่ ห่งน้ัน

4 ไม้เท้าแห่งท่าน-เมื่อพระเจ้าทรงเรียกโมเสสตอบรับหน้าที่นั้น ได้ให้โมเสสโยนไม้เท้าลงบนพื้น และไม้
เท้านั้นกก็ ลายเป็นงู แล้วเมื่อโมเสสจบั หางงู งูนนั้ กก็ ลายเปน็ ไมเ้ ท้าดงั เดิมอกี คร้ัง

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 67

บทที่ 10

คู่หู

เม่ือกลับจากโบสถ์มาถึงโรงเตี๊ยมวาฬพ่นน�่ำ ผมเห็นควีเควกนั่งอยู่คนเดียว
เงียบๆ เขาหลบออกมาจากโบสถ์ก่อนพิธีให้พร และตอนน้ันก�ำลังน่ังอยู่บน
มา้ นงั่ วางเทา้ ลงบนพน้ื หนา้ เตาผงิ มอื ขา้ งหนง่ึ ถอื เทวรปู ดำ� ขน้ึ จอ้ งมองใกลๆ้
จนเกอื บชดิ ตดิ ใบหนา้ และใชม้ ดี พบั คอ่ ยๆ ควา้ นเหลาจมกู มนั ขณะทฮี่ มั เพลง
ทว่ งท�ำนองของคนนอกศาสนาออกมา

ทันใดเขาชะงกั มอื และวางหนุ่ ไมล้ ง จากนน้ั ลกุ เดินไปที่โตะ๊ หยบิ หนังสอื
เล่มใหญ่บนน้ันกลับมาวางบนตัก ค่อยๆ เปิดนับทีละหน้าๆ เมื่อครบทุกๆ
หา้ สบิ หนา้ เขาจะหยุดครูห่ นึ่ง แลว้ ทำ� ในสิ่งท่ผี มเหน็ แล้วนกึ ขัน เขาเหม่อมอง
ไปยังความว่างเปล่ารอบตัวแล้วผิวปากยาวหวือออกมาอย่างประหลาดใจ
ก่อนจะเริ่มตน้ เปดิ นับใหมอ่ ีกห้าสบิ หน้า และดูเหมอื นจะเริม่ ตน้ นบั หน่ึงใหม่
ทุกครงั้ ราวกับเขานับเกินเลขห้าสบิ ไม่ได้ หลงั จากนับไดห้ า้ สิบหลายครั้ง เขา
ก็ยิ่งตืน่ เตน้ ประหลาดใจตามจ�ำนวนหน้าไปดว้ ย

ผมนง่ั มองดเู ขาอยา่ งทวคี วามสนใจ แมจ้ ะเปน็ คนปา่ มใี บหนา้ ลายนา่ กลวั
(อย่างน้อยก็น่ากลัวส�ำหรับผม) แต่สีหน้าของเขามีบางส่ิงท่ีไม่อาจปฏิเสธได้
คุณไม่อาจซ่อนจิตวิญญาณของตัวเองได้ หากมองผ่านรอยสักผิดธรรมชาติ
บนใบหน้าของเขา ผมคดิ วา่ ผมมองเห็นหวั ใจอนั ซือ่ บริสุทธิ์ฉายออกมา และ
ในดวงตาใหญ่ด�ำเข้มคู่ห้าวหาญนั้น ก็เหมือนเป็นสัญลักษณ์แห่งจิตวิญญาณ
ที่กล้าท้าแม้ปีศาจร้ายพันตัว นอกจากนั้น ยังมีแววสูงส่งบางอย่างอยู่ในตัว

68 : โมบี-้ ด๊กิ

คนเถอ่ื นผนู้ ี้ ชนดิ ทค่ี วามเงอะงะเกง้ กา้ งของเขากไ็ มอ่ าจทำ� ลายความสงา่ งาม
นน้ั ลงไปไดเ้ ลย เขาดูเปน็ คนทีไ่ มย่ อมก้มหัวให้ใคร และไมเ่ คยเป็นหนบี้ ุญคุณ
ใคร ศรี ษะโกนโลน้ เลย่ี นจนเหน็ หนา้ ผากกวา้ งใส และดกู วา้ งเกนิ กวา่ ทค่ี วรจะ
เปน็ แตผ่ มกไ็ มก่ ลา้ ระบชุ ดั ทแ่ี นๆ่ คอื กะโหลกศรี ษะของเขาจดั วา่ มรี ปู ลกั ษณ์
สัณฐานอันยอดเย่ียมตามต�ำรา1 อาจฟังดูน่าขัน แต่กะโหลกแบบนี้ท�ำให้ผม
นึกถึงศีรษะของท่านนายพลวอชิงตัน ที่ผมเคยเห็นจากรูปปั้นคร่ึงตัวอันโด่ง
ดังของทา่ น เพราะหน้าผากลาดยาวลดหลนั่ ลงมาไดส้ ดั สว่ นเหมือนกัน และ
โหนกนูนออกมาราวกับดามด้วยไม้ ควีเควกคือจอร์จ วอชิงตันท่ีพัฒนามา
เยี่ยงเผ่าพันธ์มุ นุษย์กินคนนนั่ เอง

ขณะเฝา้ มองดเู ขาไมว่ างตา ผมเสทำ� เปน็ มองพายฝุ นนอกหนา้ ตา่ งบานพบั
ไปด้วย เขาจงึ ไมใ่ ส่ใจผม และไมค่ ดิ จะหยดุ หันมามองสกั แวบด้วยซ�ำ้ เอาแต่
งว่ นอยกู่ บั การนบั หนา้ หนงั สอื ใหญเ่ ลม่ นน้ั เมอ่ื นกึ ถงึ มติ รภาพระหวา่ งเราทไ่ี ด้
นอนด้วยกันเม่ือคืน โดยเฉพาะอย่างย่ิงเม่ือตื่นขึ้นในตอนเช้าแล้วพบว่าแขน
เขาโอบกอดผมอยู่อย่างรักใคร่ ท�ำให้ผมรู้สึกแปลกใจในท่าทีเมินเฉยของเขา
ย่ิงนัก ทว่าคนป่ามักมีนิสัยแปลกๆ บางครั้งคุณก็ไม่รู้จริงๆ ว่าจะรับมือกับ
คนพวกนี้ยังไง แต่พวกเขาก็สร้างความประทับใจแก่คุณต้ังแต่คร้ังแรกที่ได้
พบเห็น ความสุขุมเรียบง่ายของเขาคล้ายหลักปรัชญาค�ำสอนของโซเครตีส
ผมสังเกตว่าควีเควกไม่สุงสิงกับใครเลย หรืออาจมีบ้างแต่ก็น้อยมาก ก็พวก
เพอื่ นกะลาสบี างคนในโรงเต๊ียมแหละ แตเ่ ขากไ็ มค่ ิดคบหาหรอื สนิทสนมกับ
ใครอีก จนผมรู้สึกว่าเขาโดดเด่นไม่เหมือนใคร แต่จะว่าไป นั่นแทบจะเป็น
ความสูงส่งอย่างหนึ่ง ชายคนนี้จากบ้านมาร่วมสองหมื่นไมล์เพ่ือเดินทางไป
ยังแหลมเคปฮอร์น จุดพักระหว่างทางน้ีเป็นเส้นทางเดียวที่เขาจะเดินทาง
ไปถึงที่นั่นได้ เขาพาตัวเองเข้ามาอยู่ท่ามกลางคนแปลกหน้าราวกับพลัดมา
อยู่บนดาวพฤหัสบดี กระน้ันเขายังคงดูผ่อนคลาย คงอารมณ์ให้ปลอดโปร่ง
เยือกเย็นอยู่ได้ พอใจกับการอยู่คนเดียว และรักษาดุลยภาพในตัวเองอยู่

1 ช่วงศตวรรษที่ 19 เชื่อกันว่า การศึกษารูปพรรณสัณฐานของกะโหลกศีรษะ ช่วยให้ท�ำนายนิสัยใจคอ
ของคนคนนั้นได้

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 69

เสมอ นี่เป็นการใช้ชีวิตตามหลักปรัชญาโดยแท้ แม้ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขา
ไม่เคยได้ยินเรื่องราวอะไรแบบน้ันมาก่อน แต่บางทีเขาอาจเป็นนักปรัชญา
ตวั จรงิ มนษุ ยโ์ ลกอยา่ งเราไมใ่ ครม่ จี ติ สำ� นกึ ในการใชช้ วี ติ แบบนนั้ หรอื พยายาม
ทีจ่ ะใชช้ ีวติ แบบนัน้ หากผมไดย้ นิ เรื่องท�ำนองน้ี หรอื ได้ยินใครอา้ งตวั ว่าเปน็
นกั ปรชั ญา ผมตอ้ งคดิ ทนั ทวี า่ หมอนนั่ ไมต่ า่ งอะไรกบั หญงิ ชรามอี าการอาหาร
ไมย่ ่อย จงึ “ยอ่ ยปรชั ญาไม่เปน็ ”2

ขณะผมนงั่ อยใู่ นหอ้ งวงั เวงไรผ้ คู้ นนน่ั ฟนื ไฟในเตาผงิ เรมิ่ ราแสงลงจนใกล้
มอดดับ หลงั จากท่ไี ฟลกุ โหมสรา้ งบรรยากาศใหอ้ บอุ่นแล้วก็หลงเหลอื เพยี ง
แสงเร่อื ๆ ใหไ้ ด้เห็น เงาด�ำและความมืดยามเย็นแผ่ขยายเข้ามาทางหน้าต่าง
บานพับ และคืบคลานมาคล่ีคลุมเราสองคนไว้จนกลายเป็นคู่เปล่ียวเหงา
โดดเดี่ยว พายุส่งเสียงครืนคร่ันแต่ก็ปราศจากลมแรง ผมเร่ิมสัมผัสได้ถึง
ความรสู้ ึกแปลกๆ จู่ๆ ก็รสู้ กึ ใจอ่อนปวกเปยี ก ไมค่ ดิ ต่อต้านหรือรำ� คาญโลก
แสนเข็ญนี้อีกต่อไป ด้วยคนป่าผู้เยือกเย็นตรงหน้าได้ลบล้างความคิดเหล่า
น้ันไปจนหมดสิ้น เขานั่งอยู่ตรงน้ัน ความวางเฉยสะท้อนถึงธรรมชาติอันไม่
แอบแฝง ไมเ่ สแสรง้ แกลง้ เป็นผเู้ จริญแลว้ หรอื ลวงหลอกวา่ เป็นสุภาพชน แม้
จะเหน็ ชดั วา่ เขาเปน็ คนปา่ คนเถอื่ น กระนนั้ ผมรสู้ กึ เหมอื นตวั เองถกู พลงั ลกึ ลบั
ในตัวเขาสะกดไว้ แม้นั่นเป็นส่ิงที่ท�ำให้คนส่วนมากไม่อยากเข้าใกล้ แต่กลับ
ดึงดูดให้ผมสนใจเขาเป็นพิเศษ จนคิดว่าอยากลองเป็นมิตรกับคนป่าคนน้ีดู
บ้าง เพราะเคยประจักษ์แล้วว่า ความกรุณาแบบชาวคริสต์นั้นดูช่างเป็นแค่
มารยาทอนั เสแสรง้ เพยี งใด ผมลากมา้ นงั่ เขา้ ไปใกลเ้ ขา แลว้ แสดงทา่ ทางเปน็
กนั เองขณะพยายามชวนคยุ ตอนแรกเขาดไู มค่ อ่ ยเขา้ ใจนกั แตห่ ลงั ผมเอย่ ถงึ
ความมนี ำ�้ ใจเออื้ เฟอ้ื ของเขาเมอ่ื คนื เขากถ็ ามผมวา่ เราจะนอนดว้ ยกนั อกี ไหม
ผมตอบตกลง ซึง่ ดเู ขาจะพอใจหรอื อาจถึงกบั ยนิ ดเี ลยด้วยซ้�ำ

แลว้ เรากห็ นั มาพลกิ หนา้ หนงั สอื ดว้ ยกนั ผมพยายามอธบิ ายขอ้ ความและ
ความหมายของภาพสองสามภาพในนั้น ไม่นานผมก็พลอยสนใจตามเขาไป

2  ย่อยปรชั ญาไมเ่ ปน็ -กลา่ วกนั ว่า “ปรชั ญานั้นต้องย่อยใหเ้ ปน็ ” ถ้ากระเพาะพิการมีอาการไม่ย่อย ย่อมไม่
อาจดูซบั สารอาหารดีๆ ออกมาได้

70 : โมบี้-ด๊ิก

ด้วย จากนัน้ เรากเ็ ร่ิมจอ้ ถึงสงิ่ ตา่ งๆ ที่ไดอ้ อกไปพบเหน็ มาในเมอื งชอ่ื ดงั แห่ง
นนั้ เทา่ ทจี่ ะพอสอ่ื สารกนั ได้ สกั พกั ผมกช็ วนเขาสบู ยาดว้ ยกนั เขาหยบิ ยาเสน้
ออกมาบรรจลุ งขวานกลอ้ งยา แลว้ ยน่ื สง่ ใหโ้ ดยไมพ่ ดู อะไร จากนน้ั เรากผ็ ลดั
กันสบู จากกล้องยาคนป่านัน่ สลบั กันไปมา

หากคนป่าผู้นี้ยังมีความเย็นชาเฉยเมยซุกซ่อนอยู่ในใจ ควันยาเส้นอัน
อบอนุ่ ดว้ ยไมตรจี ติ ทเ่ี ราสบู รว่ มกนั กห็ ลอมละลายความเยน็ ชานนั้ ไปจนหมด
สน้ิ หลงเหลอื ไว้เพียงมิตรภาพระหว่างเรา ทั้งเขาและผมต่างเปน็ กันเองมาก
ขึ้น แล้วเม่ือเราสูบยาเส้นกันหมดแล้ว เขาก็ยกมือโอบรอบเอวผมและก้ม
หน้าผากมาแนบกับหน้าผาก พร้อมกับพูดว่านับแต่นี้ไปเราเป็นคู่กัน ค�ำพูด
น้ีในบ้านเกิดของเขาหมายถึงเราเป็นคู่หูกันแล้ว เขายอมตายแทนผมเม่ือถึง
ยามคับขัน ส�ำหรับคนชนบท มิตรภาพเร่าร้อนซึ่งเกิดข้ึนแบบฉับพลันนี้อาจ
ดูเร็วเกินควรและน่าเคลือบแคลง แต่ส�ำหรับคนป่าซื่อบริสุทธ์ิผู้นี้ กฎเก่านั้น
ก็นำ� มาใช้ไมไ่ ด้หรอก

หลังอาหารเย็น เราน่ังพูดคุยและสูบยาเส้นกันอีกครั้งก่อนชวนกันไปที่
ห้องนอน เม่ือไปถึงเขาก็มอบซากหัวมนุษย์เป็นของขวัญ ก่อนจะหยิบเอา
ถุงยาเส้นใบใหญ่ออกมา ควานเข้าไปใต้ใบยาเส้น แล้วล้วงเอาเงินดอลลาร์
สามสบิ เหรยี ญออกมาวางกระจายบนโตะ๊ จากนนั้ แบง่ ออกเปน็ สองกองเทา่ ๆ
กนั และผลักกองหนง่ึ มาใหผ้ ม บอกวา่ นน่ั เปน็ สว่ นของผม ขณะผมต้ังทา่ จะ
คัดค้าน เขาก็ตัดบทด้วยด้วยการกอบเหรียญท้ังหมดเทใส่กระเป๋ากางเกง
ผม ผมจึงต้องปล่อยตามเลย หลังจากนั้นเขาก็หยิบเอาหุ่นไม้ของเขาข้ึนมา
ยกแผ่นกันไฟออกจากหน้าเตาผิง แล้วเร่ิมสวดภาวนารอบดึก ดูเหมือนเขา
อยากเช้ือเชิญผมเข้าร่วมท�ำพิธีด้วย แต่เพราะรู้ดีถึงผลที่จะตามมาจึงไม่กล้า
ผมใครค่ รวญอยู่ครูห่ นง่ึ ว่าควรจะรว่ มภาวนากบั เขาดว้ ยดหี รอื ไม่

ผมเป็นชาวครสิ ต์ท่ีดคี นหน่งึ เกิดและเติบโตมาในออ้ มกอดอันอบอนุ่ ของ
โบสถ์เพรสไบทีเรียน3 แล้วผมจะเขา้ ร่วมสักการะหุน่ ไม้กับเขาไดอ้ ยา่ งไรกนั ?

3  เพรสไบทีเรียน-นกิ ายหน่งึ ของศาสนาครสิ ต์ฝา่ ยโปรแตสแตนต์

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 71

ทวา่ ...ผมคดิ วา่ การสักการะคืออะไรกนั แน?่ ลองคดิ ดสู .ิ ..เจ้าอชิ เมล พระเจ้า
ผู้สูงส่งแห่งสวรรค์และโลก อันรวมถึงโลกของคนป่าและท่ีไม่ใช่คนป่าด้วย
จะมาติดใจกับแค่แท่งไม้ด�ำที่ไม่มีความหมายอะไรนี่ได้หรือ? เป็นไปไม่ได้
หรอก! แต.่ ..ถา้ อยา่ งนน้ั การสกั การะคอื อะไรละ่ ? คอื การทำ� ตามพระประสงค์
ของพระเจ้าใชไ่ หม? นน่ั แหละคือการสักการะทแ่ี ท้จริง แล้วพระประสงคข์ อง
พระเจา้ คอื อะไร? กระทำ� ตอ่ เพอื่ นมนษุ ยอ์ ยา่ งทผี่ มอยากใหเ้ ขากระทำ� ตอ่ ผม
น่ันแหละความประสงค์ของพระเจ้า ควีเควกเป็นเพื่อนผม แล้วผมอยากให้
ควเี ควกผนู้ ท้ี ำ� อะไรเพอื่ ผมบา้ งละ่ ? กค็ งอยากใหเ้ ขารว่ มสกั การะพระเจา้ ตาม
แบบนกิ ายเพรสไบทีเรยี นที่ผมนับถอื นน่ั เอง ดว้ ยเหตนุ ้นั ผมจงึ ตัดสนิ ใจรว่ ม
พิธีกรรมบวงสรวงเทวรูปของเขา ผมจุดไฟข้ีกบจากขุยไม้ แล้วช่วยตั้งเทวรูป
นอ้ ยไรค้ วามผดิ นนั่ ขนึ้ ถวายขนมปงั กรอบแกเ่ ทวรปู รว่ มกบั ควเี ควก โคง้ คารวะ
แบบอิสลามใหส้ องสามครั้งและจูบจมกู เทวรปู ก็เปน็ อนั เสร็จพิธี จากน้ันเรา
ก็ถอดเสื้อผ้าแล้วขึ้นเตียง ด้วยจิตส�ำนึกอันปลอดโปร่งในตัวเราเองและต่อ
ทุกสรรพสงิ่ ในโลก กระนน้ั เราก็ยังพดู คุยกนั เรือ่ งสพั เพเหระก่อนหลบั

ผมก็บอกไม่ถูกว่าท�ำไม รู้แต่ว่าไม่มีท่ีใดเหมาะแก่การเปิดเผยความในใจ
ระหว่างมิตรได้เท่าบนเตียง กล่าวกันว่า ชายและหญิงต่างเปิดเผยเบ้ืองลึก
แหง่ ตวั ตนของกนั และกนั กบ็ นเตยี งนเี่ อง และสามภี รรยาบางคทู่ อ่ี ยกู่ นิ กนั มา
นาน ก็มกั นอนพดู คุยถึงเร่อื งราวเก่าๆ จนเกอื บร่งุ เช้า ส�ำหรับผมกับควีเควก
ที่นอนอย่ดู ้วยกนั ตรงน้ัน หวั ใจเรากอ็ บอุ่นชื่นมน่ื ดว้ ยเราสองเป็นคู่หคู ซู่ ้กี นั

72 : โมบี้-ดิก๊

บทท่ี 11

ชุดนอน

เรานอนอยดู่ ว้ ยกนั บนเตยี ง พดู คยุ สลบั กบั งบี หลบั เปน็ พกั ๆ บางครง้ั ควเี ควกเผลอ
ยกขาสนี ำ�้ ตาลสกั ลายพรอ้ ยคนู่ นั้ ขนึ้ มากา่ ยพาดขาผม แตก่ ห็ ดกลบั ไปตามเดมิ
เราตา่ งรสู้ กึ สนทิ สนมเปน็ กนั เองอยา่ งทส่ี ดุ จนทา้ ยสดุ การพดู คยุ นน้ั ทำ� ใหเ้ รา
ตาสวา่ งหายงว่ งงนุ จนนกึ อยากจะลกุ ขน้ึ จากเตยี งทง้ั ทย่ี งั อกี นานกวา่ ฟา้ จะสาง

ใชแ่ ลว้ .. เราสองคนตา่ งนอนไมห่ ลบั ทนนอนเอกเขนกอยนู่ านสองนานจน
เรมิ่ เมอ่ื ย จงึ คอ่ ยๆ เปลย่ี นเปน็ ทา่ นงั่ เหนบ็ หม่ ผา้ คลมุ เตยี งกระชบั กบั ตวั และนง่ั
แนบขาชันเข่าพิงหัวเตียง เกยจมูกลงบนเข่าราวกับกระดูกสะบ้าเป็นถาดท�ำ
ความรอ้ น1 เรารสู้ กึ ดแี ละอนุ่ สบายขน้ึ มาก ดว้ ยมลี มเยน็ ยะเยอื กพดั ลอดประตู
เขา้ มาตลอดเวลา จรงิ ๆ นอกผา้ คลมุ เตยี งหม่ กายกเ็ ยน็ ไปหมดนน่ั แหละ เพราะ
เหน็ แลว้ วา่ ไมม่ กี องไฟภายในหอ้ งเลย ทย่ี งิ่ กวา่ นนั้ ผมวา่ ถา้ จะใหร้ สู้ กึ พอใจกบั
ไออนุ่ จากรา่ งกายจรงิ ๆ กต็ อ้ งใหบ้ างสว่ นของรา่ งกายไดส้ มั ผสั กบั ความหนาว
เยน็ ดว้ ย เพราะไมม่ คี ณุ คา่ ใดในโลกนที้ เ่ี หนอื ไปกวา่ การรบั รถู้ งึ ความแตกตา่ ง
ไมม่ สี ง่ิ ใดทจ่ี รงิ แทใ้ นตวั มนั เอง หากคณุ ปอปน้ั ตวั เองวา่ มคี วามผาสกุ ลน้ เหลอื
มาช้านานแล้ว ก็คงพูดไม่ได้หรอกว่าคุณยังจะมีความสุขได้อีก แต่ถ้าปลาย
จมกู และกระหมอ่ มของคณุ โดนความเยน็ อยหู่ นอ่ ยๆ อยา่ งผมกบั ควเี ควกบน
เตยี งตอนนน้ั แลว้ ทำ� ไมเราถงึ ยงั สามารถรสู้ กึ อบอนุ่ แสนสบายอยไู่ ดอ้ ยา่ งแทจ้ รงิ
ละ่ ? ดว้ ยเหตนุ เ้ี องหอ้ งนอนจงึ ไมค่ วรมเี ตาผงิ ไวภ้ ายใน ซงึ่ คงสรา้ งความลำ� บากให้

1  ถาดทำ� ความรอ้ น-กระทะทองเหลืองด้ามยาว ใสถ่ า่ นร้อนๆ เพอ่ื ชว่ ยอบทีน่ อนใหอ้ นุ่

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 73

แกค่ นมเี งนิ มากพอควร ความสขุ ใจสงู สดุ แบบนกี้ ค็ อื ขอแคใ่ หม้ ผี า้ หม่ ทชี่ ว่ ยใหอ้ นุ่
สบาย คน่ั กลางระหวา่ งคณุ กบั ความหนาวเยน็ ของอากาศภายนอก กเ็ หมอื นกบั
วา่ คณุ กำ� ลงั นอนอยใู่ นประกายแกว้ อนั อบอนุ่ ณ ใจกลางผลกึ ใสของขว้ั โลกเหนอื

เรานง่ั อย่ใู นท่าคดุ คอู้ ย่พู กั หนง่ึ จ่ๆู ผมกอ็ ยากลืมตาขึ้นภายใต้ผา้ ห่มกาย
เพราะถ้าอยู่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ไม่ว่าหลับ
หรอื ตน่ื ผมมกั ปดิ ตาลงเพอื่ จดจอ่ กบั ความอนุ่ สบายบนเตยี งเสมอ ดว้ ยคนเรา
จะสัมผัสรับรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาได้ก็ในยามหลับตาเท่านั้น ราวกับ
ความมดื มดิ เปน็ แกน่ แทข้ องจติ วญิ ญาณเรา แมแ้ สงสวา่ งจะเขา้ กนั กบั ธาตดุ นิ
ในตัวเราได้ดีกว่าก็ตาม แล้วเมื่อลืมตาขึ้น...ผละจากความสุขสบายและ
ความมืดท่ีสร้างขึ้นมาเองด้วยการหลับตา และมาเผชิญกับความมืดมิดยาม
เที่ยงคืนซ่ึงไร้แสงสว่าง ผมก็รู้สึกนึกแขยงข้ึนมาซะอย่างน้ัน ไม่ใช่นึกรังเกียจ
ทค่ี วเี ควกลกุ ขนึ้ ไปจดุ เทยี นไข เพราะมนั นา่ จะดที สี่ ดุ แลว้ ดว้ ยเหน็ วา่ เราตา่ งก็
ตาสวา่ งนอนไมห่ ลบั ทงั้ เขาเองกค็ งอยากสบู ขวานกลอ้ งยาเงยี บๆ และแมค้ นื
กอ่ นหนา้ นผี้ มคา้ นหวั ชนฝาไมใ่ หเ้ ขาสบู ยาบนเตยี งนอน แตค่ วามรกั ใครช่ อบพอ
ยอ่ มทำ� ใหอ้ คตทิ มี่ อี ยกู่ อ่ นหนา้ ยดื หยนุ่ ไดโ้ ดยปรยิ าย ชว่ งเวลานนั้ ผมกลบั พอใจ
ใหค้ วเี ควกสบู ยาอยขู่ า้ งๆ มากกว่าสง่ิ อ่ืนใด แมจ้ ะสูบอยูบ่ นเตียงนอนก็เถอะ
เพราะเขาดชู า่ งมคี วามสขุ กบั ความเรยี บงา่ ยแบบนนั้ ผมเลกิ กงั วลแทนเจา้ ของ
โรงเตยี๊ มเรอ่ื งมาตรการปอ้ งกนั อคั คภี ยั ขอแคใ่ หไ้ ดเ้ ปดิ ใจมคี วามสขุ กบั การรว่ ม
สบู ยาใตผ้ า้ หม่ ผนื เดยี วกนั กบั มติ รแท้ เราตา่ งอยใู่ นชดุ เสอื้ คลมุ ตวั หนาไหลต่ ก
ผลดั กนั สง่ ขวานกลอ้ งยาใหแ้ กก่ นั กระทงั่ ควนั ยาเสน้ สนี ำ้� เงนิ คอ่ ยๆ ลอยโขมง
อยเู่ หนอื หวั ราวหลงั คาเตยี ง และสะทอ้ นเรอื งวาบข้ึนในยามทจี่ ุดยารอบใหม่

ผมไม่รู้ว่า ม่านควันนั่นจะน�ำพาคนป่าผู้น้ีล่องลอยไปยังสถานท่ีอันไกล
แสนไกลหรอื เปลา่ แตเ่ ขากเ็ รมิ่ พดู ถงึ เกาะบา้ นเกดิ ผมเองอยากรคู้ วามเปน็ มา
ของเขาอยแู่ ลว้ จงึ ขอให้เขาเลา่ ตอ่ ใหห้ มด ซงึ่ เขาเองกย็ นิ ดี แมใ้ นเวลานนั้ จะ
ยงั ฟงั ภาษาของเขาไมเ่ ขา้ ใจดนี กั แตเ่ มอ่ื เรมิ่ คนุ้ กบั สำ� นวนตะกกุ ตะกกั ของเขา
กเ็ รมิ่ ปะตดิ ปะตอ่ เรอ่ื งราวทงั้ หมดได้ แมผ้ มอาจเลา่ ถงึ เขาไดเ้ พยี งยอ่ ๆ กต็ าม

74 : โมบ-้ี ดก๊ิ

บทที่ 12

ประวตั ิชีวติ

ควีเควกเป็นชาวโกโคโวโค1 เกาะท่ีอยู่ห่างไกลไปทางทิศตะวันตกและทิศใต้
ซงึ่ ไม่มีอยใู่ นแผนท่ีโลก สถานท่จี รงิ ๆ หลายแห่งก็ไมเ่ คยปรากฏบนแผนที่

ช่วงท่ีคนป่าผู้น้ียังนุ่งผ้าเต่ียวว่ิงเล่นตามประสาเด็กอยู่ตามทุ่งหญ้าป่า
เขา โดยมีฝูงแพะไล่แทะเล็มราวกับเขาเป็นหน่อไม้อ่อน ควีเควกก็มีความ
ฝันซุกซ่อนอยู่ภายในใจแล้ว เขาอยากเห็นอาณาจักรชาวคริสต์มากกว่าจะ
ได้พบกับนักล่าวาฬผู้เป็นต�ำนานสักคนหรือสองคน พ่อของเขาเป็นหัวหน้า
เผ่าหรือประมขุ ลงุ ของเขาเปน็ หมอผใี หญ่ ส่วนญาติทางฝา่ ยแม่ เขาโอ่ว่าปา้
นา้ ตา่ งเป็นภรรยาของนกั รบผไู้ มเ่ คยพา่ ยแพ้ในสนามรบใด เขาจึงมสี ายเลือด
ที่ดีเยี่ยมอยู่ในตัว เป็นถึงหน่อเนื้อเช้ือราชา หากแต่ผมเกรงว่าสายเลือดนี้
ต้องเส่ือมค่าลงอย่างน่าเศร้า เพราะลักษณะนิสัยดุร้ายกินคนท่ีเขาได้รับการ
ปลูกฝงั มาแต่ยงั เยาวว์ ัย

เรอื จากแซกฮารเ์ บอร์2 มาจอดยงั อา่ วในเขตแดนทพ่ี อ่ ของเขาปกครองอยู่
ควีเควกจึงขอร่วมโดยสารไปยังดินแดนของชาวคริสต์ด้วย แต่เรือมีกะลาสี
อยู่เต็มล�ำแล้วเขาจึงถูกปฏิเสธ และใช่ว่าพ่อของเขาจะมีอิทธิพลเหนือผู้น�ำ
คนอ่ืนๆ กระน้นั ควีเควกได้ตัง้ สัตย์ปฏิญาณแก่ตนเองเอาไวแ้ ลว้ จึงล่องเรอื
แคนนไู ปเพยี งลำ� พงั ตั้งหน้าตง้ั ตาพายไปยังชอ่ งแคบห่างออกไปไกล อันเป็น
ที่ท่ีเขาเช่ือว่าเรือจะผ่านมาหลังแล่นออกจากเกาะบ้านเกิดของเขา ด้านหนึ่ง

1 โกโคโวโค-หรือโรโคโวโค จรงิ ๆ เป็นแคเ่ กาะสมมุติ (วา่ ) อย่ทู างตอนใต้ของมหาสมุรแปซฟิ กิ
2 แซกฮาร์เบอร์-หมู่บา้ นประมงล่าวาฬบนเกาะลอง อยู่ทางตะวนั ออกเฉียงใตข้ องรัฐนิวยอรก์

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 75

ของชอ่ งแคบเป็นโขดหนิ ปะการงั อกี ด้านเป็นแผน่ ดินลาดตำ่� ลงไปเป็นแหลม
มีต้นโกงกางข้ึนปกคลุมรกชัฏเหนือผิวน้�ำ เขาพายเรือแคนนูไปหลบอยู่ในดง
โกงกางนั่น โดยน่ังอยู่ท้ายเรือพายประคองล�ำเรือให้หันหัวออกสู่ทะเล เม่ือ
เรือใหญ่แล่นผ่านมา เขาก็พายเรือพุ่งไปท่ีข้างเรือใหญ่อย่างรวดเร็ว แล้ว
ถีบเท้ากระโจนข้ึนจนเรือแคนนูพลิกคว�่ำจมลง เขาไต่โซ่เส้นใหญ่ปีนขึ้นไป
ก่อนจะเหวี่ยงตัวเต็มแรงโผข้ึนไปคว้าห่วงร้อยโซ่บนดาดฟ้าเรือไว้ พร้อมกับ
สบถสาบานกับตวั เองว่าต่อให้แขนขาดก็ไมย่ อมปลอ่ ยมอื แน่

เมื่อกัปตันมาพบเข้าจึงจ่อดาบส้ันไปท่ีข้อมือ และขู่จะจับเขาโยนกลับลง
ทะเล แต่ก็ไร้ผล ทั้งได้คิดว่าควีเควกเป็นถึงลูกของผู้ประมุขเผ่า ทั้งเขาก็ไม่
ได้ต่อสู้ขัดขืนอะไร นอกจากน้ันกัปตันยังนึกนิยมในความกล้าบ้าบิ่น และ
ความปรารถนารุนแรงท่ีจะได้ไปเยือนอาณาจักรคริสต์ของเขา จึงยอมผ่อน
ปรนให้ บอกให้เขาท�ำตัวตามสบายบนเรือ แต่หนุ่มน้อยคนป่า เจ้าชายแห่ง
ทอ้ งทะเลผ้นู ้ี ไมเ่ คยมีโอกาสได้ท�ำตัวตามสบายในห้องของกปั ตันเลย เพราะ
ถูกส่งให้ไปอยู่รวมกับลูกเรือ และฝึกให้เป็นนักล่าวาฬ ควีเควกท�ำตัวเย่ียง
ซารป์ เี ตอร3์ ทเี่ ตม็ ใจตรากตรำ� ทำ� งานหนกั อยใู่ นอเู่ รอื ตา่ งเมอื ง เขาไมไ่ ดร้ งั เกยี จ
วา่ เปน็ งานเสอ่ื มเกยี รติ หากแตส่ ขุ ใจเมอื่ คดิ วา่ จะไดน้ ำ� เอาประสบการณท์ ไี่ ด้
ไปถ่ายทอดให้แก่ประชากรผู้ไม่รู้หนังสือในเผ่าของเขา เขาบอกผมว่า ลึกๆ
แล้วเขาได้รับแรงกระตุ้นจากความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะได้ไปเรียนรู้ร่วม
กับชาวคริสต์ ถึงทกั ษะต่างๆ ท่ีจะทำ� ใหเ้ ผา่ ของเขามีความสุขมากกวา่ ทีเ่ ปน็
อยู่ หรือทีย่ ิ่งกว่าน้นั คอื ท�ำใหเ้ ผ่าพนั ธข์ุ องเขาดีขนึ้ กวา่ ท่เี ปน็ อยู่ แต่.. อนิจจา!
ไมน่ านพฤตกิ รรมของนกั ลา่ วาฬกท็ ำ� ใหเ้ ขารวู้ า่ ชาวครสิ ตม์ ที งั้ ทนี่ า่ สงั เวชและ
ชัว่ ร้ายเลวทรามเหลือคณานับ รา้ ยเสียยิง่ กว่าคนปา่ ในเผ่าของพอ่ เขารวมกัน
เสยี อกี ในทส่ี ดุ เรอื กแ็ ลน่ ไปถงึ หมบู่ า้ นแซกฮารเ์ บอรอ์ นั เกา่ แก่ หลงั จากไดเ้ หน็
วา่ เหลา่ ลกู เรอื ทำ� อะไรกนั บา้ งบนเรอื และหลงั จากไดเ้ หน็ วา่ คนพวกนน้ั ใชเ้ งนิ

3ซารป์ ีเตอร-์ พระเจ้าปเี ตอร์มหาราช หรือซารป์ ีเตอรท์ ่ี 1 แห่งรสั เซีย (ค.ศ. 1672-1725) ด้วยทรงตอ้ งการ
สรา้ งราชนาวรี ัสเซยี จงึ ปลอมพระองค์ไปท�ำงานในอ่ตู ่อเรอื ของราชนาวอี งั กฤษและบรษิ ัทอนิ เดยี ตะวัน
ออกของดัตช์ ตอ่ มาหลังจากพชิ ิตเมอื งท่าแห่งหนง่ึ ได้ ก็ทรงสร้างกรุงเซนตป์ เี ตอร์สเบิรก์ ข้ึนท่ีนน่ั

76 : โมบ้ี-ดกิ๊

ค่าจ้างของตัวเองกันใน สถานท่ี อย่างไร เม่ือเรือแล่นต่อไปเทียบท่าที่เกาะ
แนนทกั เกต็ ควเี ควกผนู้ า่ สงสารกถ็ งึ กบั หมดสน้ิ ศรทั ธา เขาคดิ วา่ ชา่ งเปน็ โลก
แหง่ ความชวั่ รา้ ยยง่ิ กวา่ ทใี่ ดๆ บนโลกนี้ เขาขอตายเยย่ี งคนปา่ เสยี ยงั จะดกี วา่

ด้วยเหตุน้ี ผูบ้ ชู าเทวรูปดว้ ยใจจริงอยา่ งเขา แมย้ งั คงใชช้ ีวติ อยู่ทา่ มกลาง
ชาวครสิ ต์ สวมเสอ้ื ผา้ และฝึกพดู จาไรส้ าระแบบคนพวกน้นั แตก่ ย็ ังคงใช้ชวี ิต
แปลกๆ แบบตนเอง แม้จะจากบ้านมานานแล้วกต็ าม

ผมเลียบเคียงถามว่า เขาไม่คิดจะกลับไปรับต�ำแหน่งประมุขเผ่าหรือ
เพราะเขาเองย่อมรู้ว่า ตอนน้ีพ่อของเขาอาจจากไปแล้ว หรืออย่างน้อยก็แก่
ชรามากจนท�ำอะไรไม่ได้อีก ควีเควกตอบแบ่งรับแบ่งสู้ และพูดเสริมว่าเขา
เป็นชาวคริสต์ผู้ขลาดกลัว หรือถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ การเป็นชาวคริสต์ท�ำให้
เขาขาดคณุ สมบตั ทิ จ่ี ะรบั ตำ� แหนง่ อนั บรสิ ทุ ธแิ์ ละไมเ่ คยดา่ งพรอ้ ยของประมขุ
เผา่ สามสบิ คนกอ่ นหน้าเขา เขาบอกว่า ในอนาคตเขาอาจจะกลบั ไป ทันทที ี่
เขารสู้ กึ วา่ ตวั เองไดล้ า้ งบาปจนกลบั มาบรสิ ทุ ธอิ์ กี ครงั้ อยา่ งไรกต็ าม ชว่ งนเ้ี ขา
คดิ ลอ่ งเรอื ไปใชช้ วี ติ วยั หนมุ่ ใหท้ ว่ั เจด็ คาบสมทุ รกอ่ น คนเหลา่ นน้ั สรา้ งเขาเปน็
นักพ่งุ ฉมวก ตอนน้จี ึงขอถอื ตะขอเหล็กกล้าแทนคทาประมขุ เผา่ ไปพลางๆ

ผมถามว่าอะไรคือเป้าหมายในตอนนี้ เพื่อไปให้ถึงอนาคตที่หวังไว้ เขา
ตอบว่าต้องการท่องทะเลอีกคร้ังเพื่อประกอบอาชีพเก่า ผมจึงบอกว่านักล่า
วาฬก็เป็นอาชีพทีผ่ มวาดฝันไว้เช่นกนั และบอกให้เขารูถ้ ึงความต้ังใจของผม
ท่จี ะล่องเรอื ออกจากท่าแนนทักเกต็ เพราะที่นนั่ เปน็ ทา่ เรอื ท่ีมโี อกาสทจ่ี ะได้
เดนิ ทางไปในฐานะนกั ลา่ วาฬผรู้ กั ผจญภยั เขาตดั สนิ ใจรว่ มเดนิ ทางไปทเี่ กาะ
นั่นกับผมในทันที เพ่ือจะได้ล่องทะเลไปในเรือล่าวาฬล�ำเดียวกัน ได้ท�ำงาน
กะเดียวกัน4 ลงเรือเล็ก5ล�ำเดียวกัน กินอาหารพร้อมกัน สรุปก็คือได้ร่วม
แบง่ ปนั โชคลาภ หรอื คยุ้ ขา้ วกน้ หมอ้ รว่ มกนั อยา่ งกลา้ หาญ ไมว่ า่ จะในนำ้� หรอื
บนบก ผมย่อมตกลงรับปากอย่างยินดี เพราะนอกจากผมจะช่ืนชอบในตัว
ควเี ควกแล้ว เขายงั เปน็ นกั พงุ่ ฉมวกผู้ชำ� นาญ จงึ ตอ้ งเปน็ ประโยชน์มหาศาล

4 ท�ำงานกะเดยี วกัน-โดยปกตแิ ลว้ ลูกเรอื ลา่ วาฬทำ� งานเป็นสองกะ กะละสีช่ ัว่ โมงผลดั เปลี่ยนกัน
5 เรอื เลก็ -เรอื ลา่ วาฬจะปลอ่ ยเรอื เลก็ หลายลำ� ออกไปลา่ เมอ่ื เจอตวั วาฬ เรอื เลก็ แตล่ ะลำ� จะมลี กู เรอื ประจำ�

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 77

ต่อใครก็ตามที่คล้ายๆ กับผม คือไม่รู้เรื่องอะไรเลยเก่ียวกับการล่าวาฬอัน
เปน็ ปรศิ นา แมผ้ มจะคนุ้ เคยดกี บั การออกทะเลมากอ่ นกต็ าม แตก่ ไ็ ปในฐานะ
ลูกเรอื พาณชิ ยส์ มทุ รเท่านั้น

เรอ่ื งราวของควเี ควกจบลงพรอ้ มกบั ควนั ยาสบู ทเ่ี ขาพน่ ออกเปน็ ลำ� สดุ ทา้ ย
เขาสวมกอดผมและก้มลงแนบหนา้ ผากกบั หนา้ ผากผม กอ่ นจะเป่าเทยี นดับ
แลว้ เราต่างกล็ ม้ ตัวลงนอน และหลบั ไปในเวลาอันรวดเรว็

78 : โมบ-ี้ ดิก๊

บทที่ 13

รถเข็น

เชา้ รงุ่ ขนึ้ เปน็ วนั จนั ทร์ หลงั ผมเอาซากหวั อาบยาไปขายใหช้ า่ งตดั ผม ไวว้ างวกิ
ผมแทนหนุ่ ไม้ กก็ ลบั มาจา่ ยคา่ หอ้ งทงั้ ของผมและสหาย กจ็ ากเงนิ ทเ่ี ขาใหผ้ ม
มานน่ั แหละ ทงั้ เจา้ ของโรงเตยี๊ มผชู้ อบยมิ้ แยกเขย้ี วและแขกผมู้ าพกั รายอนื่ ๆ
ตา่ งกท็ ง้ั ขำ� ทง้ั ประหลาดใจ ทเี่ หน็ ผมกบั ควเี ควกกลายมาเปน็ มติ รกนั เรว็ เหลอื
เกิน แตน่ ก่ี เ็ ป็นเพราะตาเฒ่าปเี ตอร์ โรงศพนน่ั แหละ ทีป่ นั้ เร่อื งไรส้ าระเกย่ี ว
กบั ควเี ควกไว้ จนกอ่ นหนา้ นผ้ี มนกึ ผวาเจา้ หมอทก่ี ลายมาเปน็ เพอ่ื นผมตอนนี้

เรายมื รถเขน็ มาคนั หนงึ่ และชว่ ยกนั ขนของใส่ ทงั้ กระเปา๋ ผา้ พรมเกา่ ๆ ของ
ผม และถงุ ผา้ ใบกบั เปลญวณของควเี ควก จากนนั้ กเ็ ขน็ ไปทเ่ี รอื “ตะไคร”่ เรอื
ใบเล็กซึ่งจอดอยูท่ ี่ทา่ เตรยี มออกเดินทางไปยังเกาะแนนทักเกต็ ระหว่างทาง
สายตาหลายคจู่ บั จอ้ งมาทเี่ รา ไมใ่ ชแ่ คค่ วเี ควก ซง่ึ พวกนช้ี อบมองคนปา่ อยา่ ง
เขาตามทอ้ งถนนอยแู่ ลว้ แตม่ องเราทง้ั คแู่ ลว้ กระซบิ กระซาบใหก้ นั กระนนั้ เรา
กไ็ ม่ใส่ใจคนพวกนัน้ ยังคงผลดั กนั เข็นรถตอ่ ไป หยดุ ในบางขณะเม่ือควเี ควก
ตอ้ งขยบั ปลอกปลายฉมวกของเขาใหเ้ ขา้ ที่ ผมถามเขาวา่ ทำ� ไมเขาตอ้ งเอาของ
พวกนต้ี ดิ ตวั มาใหย้ งุ่ ยาก จรงิ ๆ บนเรอื ลา่ วาฬกม็ ฉี มวกใหใ้ ชอ้ ยแู่ ลว้ ไมใ่ ชห่ รอื
เขาตอบวา่ กจ็ รงิ อยู่ แตเ่ ขาชอบใชฉ้ มวกตวั เองเพราะจบั ถนดั มอื กวา่ ทง้ั เคยใช้
โรมรนั เสย่ี งเปน็ เสย่ี งตายและปกั หวั ใจวาฬมาแลว้ หลายตวั พดู งา่ ยๆ กเ็ หมอื น
ชาวนากบั คนตดั หญา้ บนฝง่ั ทม่ี กั พกเคยี วดา้ มยาวของตวั เองตดิ มอื ไปทงุ่ หญา้
ทอ้ งนาดว้ ยเสมอ แมไ้ มจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งยงุ่ ยากจดั หาเครอื่ งไมเ้ ครอ่ื งมอื ดว้ ยตวั เอง

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 79

ถึงอยา่ งนั้นควีเควกกม็ ีเหตุผลสว่ นตวั ทช่ี อบใชฉ้ มวกของเขาเองมากกวา่
หลังควีเควกผลัดเปล่ียนมาเข็นรถแทนผม เขาก็เล่าเร่ืองตลกให้ผมฟัง

เกย่ี วกบั รถเขน็ คนั แรกทเี่ ขาเคยเหน็ เปน็ รถเขน็ ทหี่ มบู่ า้ นประมงแซกฮารเ์ บอร์
เจา้ ของเรอื ใหเ้ ขายมื ใชข้ นหบี สมั ภาระหนกั ของเขาไปยงั บา้ นเชา่ แมไ้ มไ่ ดแ้ สดง
ทา่ ทอี ะไรออกมา แตจ่ รงิ ๆ แลว้ เขาไมร่ วู้ า่ มนั คอื อะไรกนั แน่ และทง้ั ทไ่ี มร่ วู้ า่ จะ
จดั การกบั เจา้ รถเขน็ นน่ั ยงั ไง ควเี ควกวางหบี ของเขาบนรถเขน็ รดั จนแนน่ กอ่ น
จะแบกรถเขน็ ทงั้ คนั ขน้ึ บา่ แลว้ เดนิ อาดๆ ขนึ้ จากทา่ เรอื “โห” ผมพดู “ควเี ควก...
ใครๆ คงคิดวา่ นายรู้แลว้ ว่าใชย้ งั ไง อยา่ งนี้คนไมห่ วั เราะกันแย่เหรอ?”

เขากลบั เลา่ อกี เรอ่ื งหนง่ึ ใหฟ้ งั แทนคำ� ตอบ ในงานเลย้ี งฉลองการแตง่ งาน
ของชาวโรโคโวโคบนเกาะของเขา ไดจ้ ดั เตรยี มนำ�้ มะพรา้ วออ่ นใสใ่ นขนั นำ้� เตา้
ย้อมสีขนาดใหญ่แบบโถเครื่องด่ืม และมักตกแต่งโถท่ีว่าน้ีจนสวยและต้ังอยู่
บนพรมถกั กลางงานเลยี้ ง เมอื่ เรอื สมทุ รพาณชิ ยล์ ำ� ใหญล่ ำ� หนงึ่ เดนิ ทางมาถงึ
โรโคโวโค ลือเป็นเสียงเดียวกันว่า ผู้การเรือนั่นเป็นสุภาพบุรุษจอมวางมาด
อย่างน้อยก็กับกัปตันเรือเดินทะเลคนอ่ืน เขาได้รับเชิญให้มาร่วมงานแต่ง
ของน้องสาวควีเควกด้วย ลูกสาวคนงามของหัวหน้าเผ่าเพ่ิงมีวัยย่างเข้า
เลขสบิ แลว้ เมอ่ื แขกเหรอ่ื มารวมตวั กนั ทกี่ ระทอ่ มไมไ้ ผข่ องเจา้ สาว กปั ตนั ผนู้ ้ี
กเ็ ดนิ อาดๆ เข้ามา และถูกเชิญใหไ้ ปน่ังในต�ำแหนง่ แขกกติ ติมศกั ดิ์ ตรงกลาง
ระหวา่ งหมอผใี หญแ่ ละประมขุ เผา่ พอ่ ของควเี ควก โดยมโี ถเครอ่ื งดมื่ ตงั้ อยตู่ รง
หน้า แล้วก็เริ่มมีการสวดขอบคุณพระเจ้าก่อนรับประทานอาหาร เพราะคน
เผ่าเขาก็มีการสวดแบบน้ีเช่นกัน แต่ควีเควกบอกว่าพวกเขาท�ำต่างจากเรา
เพราะเราแค่ก้มหน้ามองจาน ชาวป่าเหล่าน้ันกลับท�ำตรงกันข้าม คือไม่ได้
ก้มหน้างุดเหมือนเป็ด แต่แหงนหน้าไปยังเทพเจ้าเบ้ืองบนผู้ประทานอาหาร
ท้ังมวลให้ ซง่ึ ผมวา่ กค็ อื พระเจ้านนั่ เอง เม่อื สวดเสรจ็ หัวหน้าหมอผกี เ็ ร่ิมเปิด
งานด้วยพิธีเก่าแก่ของชาวเกาะ โดยจุ่มน้ิวมืออันศักดิ์สิทธิ์ลงไปในโถเคร่ือง
ดื่ม เพ่ือเสกให้ศักดิ์สิทธิ์ก่อนแขกจะร่วมด่ืมอวยพร กัปตันเห็นว่าตัวเองถูก
เชญิ ให้มานง่ั ตดิ กบั หมอผใี หญ่ และเฝ้าดพู ธิ ีกรรมมาโดยตลอด คดิ วา่ เขาเป็น

80 : โมบ-ี้ ดิ๊ก

ถงึ กปั ตนั เรอื มศี กั ดสิ์ งู กวา่ หวั หนา้ เผา่ ชาวเกาะคนหนงึ่ แนๆ่ โดยเฉพาะอยา่ ง
ย่ิงยามท่ีเป็นแขกในบ้านน้ัน กัปตันจึงจุ่มล้างมือในโถเคร่ืองด่ืมหน้าตาเฉย
ผมว่าตากปั ตนั คงเขา้ ใจผดิ ว่าเป็นอา่ งลา้ งมือขนาดใหญ่น่ันเอง “ไง” ควเี ควก
พูดขน้ึ “นาย-คดิ ไง...คนของเรา-ข�ำมยั๊ ?”

ในท่ีสุดเราก็ยืนอยู่บนเรือใบขนาดเล็ก หลังจ่ายค่าโดยสารเรือและเก็บ
สมั ภาระไวเ้ รยี บรอ้ ยแลว้ เรอื กางใบและแลน่ ไปตามแมน่ ำ�้ อะคชั เนต1มองจาก
มุมน้ี เห็นถนนหนทางในนิวเบดฟอร์ดทอดอยู่บนเนินลาดชัน ต้นไม้ปกคลุม
ด้วยน�้ำแข็งแวววาวอยู่ท่ามกลางอากาศเย็นไร้เมฆหมอก ถังไม้บรรจุไขวาฬ
ขนาดใหญก่ องซ้อนลดหลัน่ กนั เปน็ ภูเขาเลากาอย่ตู ามท่าเรอื ต่างๆ เหลา่ เรือ
ลา่ วาฬทก่ี ลบั จากทอ่ งโลกเขา้ มาจอดนง่ิ เรยี งรายโดยสวสั ดภิ าพ เรอื บางลำ� กม็ ี
เสียงชา่ งไมแ้ ละชา่ งซอ่ มถงั ไมก้ ำ� ลังทำ� งานกันอยู่ ระคนกบั เสยี งไฟลนชันยาง
สำ� หรบั ยาเรอื นน่ั เปน็ สญั ญาณบง่ บอกวา่ เดนิ ทางครงั้ ใหมก่ ำ� ลงั จะเรมิ่ ขนึ้ หลงั
การเดนิ ทางเสยี่ งภยั อนั ยาวนานกอ่ นหนา้ สน้ิ สดุ ลง แลว้ เมอ่ื การเดนิ ทางครง้ั ที่
สองเรมิ่ ต้นและสน้ิ สดุ การเดนิ ทางคร้งั ท่ีสามก็จะเรม่ิ ขน้ึ ใหม่อกี คร้งั ตอ่ เน่อื ง
กันไปเสมอ และตลอดกาล ใชแ่ ล้ว มนษุ ย์ต่างตอ้ งดนิ้ รนไม่มีทีส่ ้นิ สดุ จริงๆ

เมื่อเรือแล่นออกสู่น่านน�้ำเปิด ใบเรือก็กินลมมากข้ึน เรือตะไคร่ล�ำเล็ก
แหวกคลื่นแตกกระจายไปสองข้างล�ำเรือ ราวลมหายใจที่พ่นฟู่ออกมาจาก
จมูกม้าหนุ่ม ผมแสนรู้สึกสดชื่นเม่ือได้กล่ินน้�ำเค็ม! แสนรู้สึกรังเกียจเม่ือได้
กลิน่ ถนนบนบก! ทางหลวงพวกน้นั ล้วนเป็นหลมุ เป็นรอยทงั้ จากเท้าคนและ
เท้าสัตว์ ท�ำให้ผมหันมาช่ืนชมความสูงส่งของทะเลซึ่งไม่มีร่องรอยอะไรท้ิง
ไวบ้ นสายน�้ำ

หลงั มองฟองคลน่ื แตกกระจายราวนำ�้ พพุ กั ใหญ่ ควเี ควกกท็ ำ� ทา่ เหมอื นจะ
เมาเรอื และเซมาปะทะผม รจู มกู สคี ลำ้� พะเยบิ พะยาบ แยกเขย้ี วเหน็ ฟนั แหลม
เรียงเปน็ แถว ขณะเราสองคนตวั โคลงไปโคลงมาและเหน็ ท้องทะเลกวา้ งไกล
ขนึ้ เรอื ตะไครก่ ต็ ดิ ลมแรงเตม็ ที่ แหวกนำ้� ปกั หวั ลลู่ งราวทาสโคง้ คารวะสลุ ตา่ น

1 แมน่ �้ำอะคชั เนต-อยทู่ างตะวันออกเฉยี งใต้ของรฐั แมสซาชูเซตส์

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 81

พอขา้ งเรอื เอยี งวบู เรากเ็ ซถลาไปตาม ปา่ นเชอื กทกุ เสน้ ตงึ เปรยี ะเหมอื นเสน้
ลวด เสากระโดงสูงสองต้นแอ่นลู่ราวต้นอ้อยต้องพายุหมุน ขณะยืนโซเซอยู่
บนเคร่ืองเสาหัวเรือ เราไม่ทันสังเกตว่ามีสายตาเยาะหยันของคนอ่ืนๆ จับ
จ้องอยู่ ก็พวกกะลาสีหน้าใหม่ผู้นึกพิศวงที่เห็นเพื่อนสองคนเข้าขากันดี ท้ัง
ท่คี นหนึง่ เป็นคนขาวท่ีดภู มู ฐิ านกว่าคนด�ำชุบขาว พวกบา้ นนอกเซอ่ เซอะนัน่
ต่างอยู่ในวัยละอ่อนเหลือเกิน และคงต้องมาจากกลางดงแมกไม้อ่อนเต็มท่ี
ควีเควกคว้าเจ้าหน่ออ่อนคนหนึ่งท่ียืนล้อเลียนเขาอยู่ทางด้านหลัง ผมคิดว่า
เจา้ บา้ นนอกนตี่ อ้ งซวยแน่ คนปา่ ผกู้ ำ� ยำ� วางฉมวกของเขาลง แลว้ รดั เจา้ หนมุ่
น่ันไว้ด้วยสองแขน ใช้ความว่องไวผนวกกับความแข็งแรงอย่างน่าอัศจรรย์
เหวี่ยงเจ้านั่นลอยหวือข้ึนกลางอากาศ ก่อนจะหมุนตีลังกาตกลงมาจนจุก
เสียด ขณะทค่ี วเี ควกหนั กลบั มาจดุ ขวานกล้องยาขน้ึ แล้วยนื่ สง่ ให้ผมสบู

“กัปตาน! กัปตาน!” หนุ่มบ้านนอกร้องเรียกเสียงหลง ขณะว่ิงตรงไปหา
นายเรอื “กปั ตาน...กปั ตาน มีอนั ธพาลอย่ตู รงนี”้

“เฮ.้ ..นายนะ่ ” กปั ตนั รา่ งกะหรอ่ งแหง่ ทอ้ งทะเลยา่ งสามขมุ มายนื ตรงหนา้
ควเี ควก “ทำ� ไมดเุ ดอื ดเลอื ดพลา่ นนกั ? ไมร่ เู้ หรอวา่ นายอาจฆา่ ไอห้ นมุ่ นนั่ ได?้ ”

“เขาพดู -อาไร?” ควเี ควกพดู ขณะเอ้ียวตัวมามองผม
“เขาพูดว่า” ผมตอบ “นายเกือบฆ่าา-คนตรงนั้น” ผมชี้ไปยังเจ้าหนุ่ม
ออ่ นหดั ทีก่ ำ� ลังยนื ตัวส่นั
“ฆ่าา?” ควีเควกพดู เสียงดัง เบใ้ บหน้าสกั ลายของเขาอยา่ งดถู ูก “อา้ ! เขา-
ปลาเล็ก-มกั่ ควเี ควกไม่ฆ่าา-ปลาเล็ก ควเี ควกฆา่ า-วาฬใหญ!่ ”
“ฟังนะ” กัปตันแผดเสียง “ฉันจะฆ่าานาย ไอ้มนุษย์กินคน ถ้าขืนยังท�ำ
แผลงๆ บนเรอื น่อี ีก ระวังตวั ให้ดี”
แตแ่ ล้วกก็ ลายเปน็ ว่ากปั ตนั กลบั ต้องระวงั ตวั เสยี เอง เมอ่ื ใบเรอื หลักตา้ น
แรงลมมหาศาลไม่ไหว หลุดผึงจากเชอื กรั้งปรับทศิ ทางลม ไม้ขงึ ใบเรอื ขนาด
ใหญ่จึงหลุดผล่ัวออกและเหว่ียงหวือจากด้านหนึ่งไปยังอีกด้าน กวาดฟาด
ส่ิงต่างๆ ที่อยู่ท้ายเรือไปด้วย เจ้าหนุ่มน่าสงสารที่โดนควีเควกเล่นงานหนัก

82 : โมบ-ี้ ดก๊ิ

ก็ถูกกวาดจนตกทะเลไป ส่วนคนอ่ืนๆ พยายามจับไม้ขึงน้ันไว้ให้หยุดแกว่ง
อยา่ งสบั สนอลหมา่ นกนั ไปหมด ตา่ งสตไิ มอ่ ยกู่ บั เนอ้ื กบั ตวั ไมข้ งึ ใบเรอื เหวยี่ ง
ฟาดซา้ ยทขี วาทชี วั่ เวลาเขม็ นาฬกิ ากระดกิ และดจู ะแตกเปน็ เสย่ี งๆ ไดใ้ นทกุ
ขณะ ไมม่ ใี ครทำ� อะไร และทกุ คนดจู ะท�ำอะไรไม่ไดเ้ ลย พวกท่ีอยูบ่ นดาดฟ้า
เรอื ตา่ งวิง่ ไปยังหัวเรือ และยืนมองไม้ขึงนน่ั ราวกบั มนั เป็นกรามล่างของวาฬ
เจา้ โทสะ ขณะทกุ คนกำ� ลงั อกสน่ั ขวญั แขวนอยนู่ น้ั ควเี ควกยอ่ ตวั คกุ เขา่ ลงแลว้
คลานอยา่ งคลอ่ งแคลว่ เขา้ ไปใตไ้ มข้ งึ นน่ั กำ� เชอื กเสน้ หนงึ่ แนน่ ในมอื แลว้ พนั
ปลายขา้ งหนง่ึ ไวก้ บั กราบเรอื อยา่ งแนน่ หนา จากนนั้ ผกู ปลายเชอื กอกี ขา้ งทำ�
เปน็ บว่ งบาศ แล้วโยนคลอ้ งไมข้ งึ ใบเรือทเ่ี หว่ียงมาอยเู่ หนือหัวเขาไว้ กระตกุ
เชอื กอกี ครง้ั ไมข้ งึ นน่ั กห็ มดพษิ สง และทกุ อยา่ งกป็ ลอดภยั เรอื ใบเลก็ กลบั มา
แลน่ ไดต้ ามปกติ และขณะทท่ี กุ คนกำ� ลงั เกบ็ กวาดทา้ ยเรอื ควเี ควกกถ็ อดเสอ้ื
พุ่งหลาวเป็นวงโค้งยาวจากข้างเรือลงสู่ทะเล ประมาณสามนาทีหรือกว่าน้ัน
เขาก็โผล่ขึ้นมาว่ายลอยคอ แขนเหยียดตรงสลับจ้วงไปขา้ งหนา้ เหน็ สองไหล่
กำ� ยำ� อยกู่ ลางฟองคลนื่ ปนนำ�้ แขง็ นน่ั ผมมองไปทร่ี า่ งอนั สงา่ งามของเพอ่ื นผนู้ ี้
แต่ก็มองไมเ่ ห็นรา่ งคนทเ่ี ขาจะชว่ ย เจ้าหนมุ่ ออ่ นหัดน่นั คงจมหายไปในทะเล
แล้ว ควเี ควกหยดุ ว่ายและกวาดตาควานหาไปรอบๆ แวบหนึ่ง แลว้ ดูเหมอื น
จะพบอะไรเขา้ บางอยา่ ง จงึ ดำ� หายลงไปใตน้ ำ�้ สองสามนาทตี อ่ มากโ็ ผลก่ ลบั
ขน้ึ มา คราวนเี้ ขาวา่ ยดว้ ยแขนขา้ งเดยี ว สว่ นแขนอกี ขา้ งลากเอารา่ งแนน่ ง่ิ รา่ ง
หนง่ึ มาดว้ ย เรอื เลก็ ถกู สง่ ไปรบั คนทง้ั สอง เจา้ หนมุ่ บา้ นนอกผนู้ า่ สงสารไดร้ บั
การชว่ ยเหลอื จนฟน้ื ขน้ึ มา ทกุ คนตา่ งชนื่ ชมควเี ควกวา่ เปน็ ผกู้ ลา้ แมแ้ ตก่ ปั ตนั
กก็ ลา่ วขออภยั เขา นบั จากนาทนี นั้ ผมกต็ ดิ ควเี ควกแจ ใช.่ ..กอ่ นทคี่ วเี ควกผนู้ า่
สงสารจะด�ำน้ำ� หายไปยาวนานเปน็ ครั้งสุดท้าย

น่ันเป็นพฤติกรรมจากจิตใต้ส�ำนึกใช่หรือไม่? ดูเหมือนควีเควกจะไม่คิด
วา่ เขาควรไดร้ บั เหรยี ญจากสมาคมสง่ เสรมิ มนษุ ยธรรมและเมตตาธรรมอะไร
ทงั้ หลายแหล่ เขาแคร่ อ้ งขอนำ�้ สะอาดมาลา้ งนำ้� เคม็ ออก จากนนั้ กส็ วมเสอ้ื ผา้
แห้ง แลว้ หยบิ ขวานกลอ้ งยาข้นึ จุดสูบ นั่งพิงกราบเรอื แล้วส่งสายตาออ่ นโยน

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 83

ไปยังผู้คนท่ีห้อมล้อมเขาอยู่ คล้ายกับจะบอกตัวเองว่า “น่ีเป็นโลกแห่งการ
แบ่งปันซึ่งกันและกันในทุกๆ เขตพ้ืนที่ มนุษย์กินคนอย่างเราก็จะช่วยเหลือ
ชาวคริสต์พวกน้ที กุ คน”

84 : โมบี้-ดิก๊

บทที่ 14

แนนทักเก็ต

ไม่มีอะไรให้น่าเล่าถึงอีกระหว่างการเดินทาง แล้วหลังจากเรือแล่นมาอย่าง
ราบรน่ื เราก็มาถงึ เกาะแนนทักเก็ตโดยสวสั ดภิ าพ

แนนทกั เกต็ ! หยบิ แผนทอี่ อกมาดสู ิ วา่ มนั ตง้ั อยมู่ มุ ไหนบนโลกใบน้ี ไมร่ วู้ า่
มันอยู่ตรงน้ันได้อย่างไร ห่างไกลจากฝั่งลิบลับ ต้ังอยู่โดดเดี่ยวเสียยิ่งกว่า
ประภาคารเอ็ดดี้สโตน1 ดสู .ิ ..มันเป็นแค่เนนิ เขาเล็กๆ มีหาดทรายโค้ง ไมเ่ ห็น
อะไรเบอ้ื งหลงั นอกจากชายหาดทรี่ ายลอ้ ม ทรายมมี ากเสยี จนคณุ สามารถใช้
แทนกระดาษซบั หมกึ ไปไดน้ านนบั ยสี่ บิ ปี พวกขเ้ี ลน่ บางคนจะเยา้ คณุ วา่ พวก
เขาปลูกกัญชาไว้ที่นั่น เพราะมันขึ้นเองตามธรรมชาติไม่ได้ หรือต้องส่ังไม้
หนามทสิ เซลิ มาจากแคนาดา เพ่ือนำ� มาทำ� จกุ ไม้สำ� หรบั อดุ รูรว่ั ของถังน�้ำมนั
ท่ีใช้เวลาออกทะเล ผู้คนท่ีแนนทักเก็ตต่างพกไม้หนามน่ีติดตัวเหมือนคนใน
กรงุ โรมพกไมก้ างเขนเลก็ ๆ ยงั ไงยงั งน้ั และจะปลกู เหด็ โทดสตลู 2ไวห้ นา้ บา้ น
เพอ่ื ใชต้ า่ งรม่ ในฤดรู อ้ น ถา้ พบเจอหญา้ สกั ตน้ กเ็ หมอื นเจอแหลง่ นำ้� กลางทะเล
ทราย แต่ถ้าเดินวันหนึ่งแล้วเจอสามต้น ก็เหมือนได้เจอทุ่งหญ้าทั้งทุ่งเลยที
เดยี ว ชาวแนนทกั เก็ตตอ้ งสวมรองเท้าปอ้ งกนั ทรายดดู คล้ายๆ รองเทา้ เดิน
บนหมิ ะของชาวแลปแลนด3์ และพวกเขาถกู ปดิ กนั้ ตดั ขาด ปดิ ลอ้ มในทกุ เสน้
ทาง และล้อมรอบดว้ ยมหาสมุทรจนกลายเปน็ เกาะอนั โดดเด่ียวทส่ี ุด กระทง่ั

1 ประภาคารเอ็ดด้ีสโตน-ตงั้ อยูบ่ นโขดหินซงึ่ เป็นจดุ อนั ตราย นอกชายฝั่งองั กฤษ
2 โทดสตูล-เห็ดพษิ ชนดิ หน่งึ มลี �ำต้นและสว่ นบนรปู รา่ งคลา้ ยร่ม
3 แลปแลนด-์ อยู่ทางตอนเหนือของสวเี ดน

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 85

บางคร้ังจะเห็นหอยกาบเล็กๆ ติดอยู่บนโต๊ะและเก้าอี้ทุกตัว เหมือนที่เห็น
เกาะติดอยู่บนหลังเต่าทะเล แต่ที่เล่าค�ำเย้าเกินจริงทั้งหมดนี้มาให้ฟัง ก็แค่
ให้คุณได้เห็นภาพว่าแนนทักเก็ตไม่ใชอ่ ลิ ลินอยส์ ลองมาฟงั เรอ่ื งเล่าปรมั ปรา
อันน่ามหัศจรรย์ บอกขานถึงการตั้งรกรากของชาวอินเดียนแดงบนเกาะ
แห่งนี้กันสักหน่อยเถอะ ตามต�ำนานนั้น นกอินทรีตัวหน่ึงบินมายังชายฝั่ง
นวิ องิ แลนด์ และโฉบลงควา้ เอาทารกนอ้ ยชาวอนิ เดยี นแดงไวใ้ นองุ้ เลบ็ ไปดว้ ย
ผู้เป็นพ่อแม่ร้องไห้คร�่ำครวญด้วยความเสียใจอย่างหนัก ขณะมองดูลูกน้อย
ของตวั เองถกู พาลอยหายไปในผนื นำ�้ กวา้ ง ทงั้ สองพยายามตดิ ตามไปบนเสน้
ทางเดยี วกบั เจา้ นกอนิ ทรี โดยลอ่ งเรอื แคนนไู ป หลงั ผา่ นฝา่ ฟนั อนั ตรายมาได้
ทงั้ คไู่ ดพ้ บกบั เกาะแหง่ น้ี และพบตลบั สงี าชา้ งวา่ งเปลา่ ตลบั หนงึ่ อนจิ จา! นนั่
คอื กระดกู ของหนูน้อยอนิ เดียนแดงผ้นู า่ สงสาร

ช่างน่าพิศวงนัก...หลังจากนั้นประชากรชาวแนนทักเก็ตได้ก่อก�ำเนิดข้ึน
บนชายหาด พวกเขาก็ด�ำรงชีวิตอยู่ด้วยการออกทะเล! เร่ิมจากจับหอยจับปู
ตามหาดทราย พอมคี วามกลา้ มากขน้ึ กเ็ ดนิ ลยุ นำ้� ใชแ้ หไลจ่ บั ปลาแมก็ เคอเรล
แลว้ เมอื่ แกก่ ลา้ ประสบการณก์ ล็ งเรอื เลก็ ไปจบั ปลาคอด กระทง่ั อาจหาญลอ่ ง
เรือใหญ่ไปยงั ทอ้ งทะเล ออกส�ำรวจผืนน้ำ� ผา่ นช่องแคบแบร่ิง4 และแล่นเรอื
ไปรอบโลก ทุกฤดูกาลในทุกน่านน้�ำมหาสมุทร โรมรันอย่างไม่มีวันจบสิ้น
กับเจ้าสัตว์ทรงพลังที่สุดซึ่งยังเหลือรอดชีวิตอยู่หลังน�้ำท่วมโลก เจ้าสัตว์ที่
ร้ายกาจที่สุดและใหญ่โตราวภูเขาเลากา! เจ้าสัตว์ซ่ึงมีส่วนผสมสานระหว่าง
ภูเขาหิมาลัย ทะเลน�้ำเค็ม แมสตูดอน5 และความอัปมงคลอันทรงอานุภาพ
แค่ตอนมันต่ืนตระหนก ก็ยังน่ากลัวยิ่งกว่าตอนมันกล้าจู่โจมอย่างมุ่งร้าย
หมายขวัญดว้ ยซ้ำ�

ชาวแนนทักเก็ตตัวเปลือยเปล่าหรือเหล่าฤาษีทะเลพวกนี้ พากันเฮโล
ออกจากรงั มดแลว้ หลง่ั ไหลสทู่ ะเล รกุ ลำ�้ และพชิ ติ โลกแหง่ สายนำ้� ราวกบั เปน็

4 ชอ่ งแคบแบริง่ -ทะเลแคบที่แยกระหวา่ งรัสเซียตะวันออกกับอะลาสกาตะวนั ตก
5 รปู รา่ งเหมอื นช้างแมมมอท แต่ขนน้อยกว่าและเกิดก่อน

86 : โมบ้ี-ด๊ิก

กองทัพของอเล็กซานเดอร์6และแบ่งสรรกันถือครองมหาสมุทรแอตแลนติก
แปซิฟิก และอินเดีย แบบเดียวกับที่โปแลนด์ถูกสามประเทศมหาอ�ำนาจ
ล่าดินแดน7เข้ายึดครองแบ่งปันกัน ต่อให้อเมริกาได้ผนวกแม็กซิโกเข้าไว้กับ
รฐั เทก็ ซสั แคนาดารวมควิ บาเขา้ ไว้ และองั กฤษครอบครองอนิ เดยี ทง้ั หมดแลว้
แขวนธงชยั 8ประชันแสงตะวนั โลกซ่งึ มผี นื น้ำ� กว่าสองในสามสว่ นน้กี เ็ ป็นของ
ชาวแนนทักเก็ต เพราะท้องทะเลเป็นของพวกเขา และพวกเขาครอบครอง
มัน เช่นเดยี วกบั ทจี่ กั รพรรดิครอบครองจกั รวรรดิของตน ชาวเรือเชอื้ ชาติอ่นื
ก็มีสิทธ์ิเพียงแค่ขอผ่านทางเท่านั้น เรือค้าขายก็เป็นแค่สะพานท่ีย่ืนต่อ และ
เรือติดอาวุธคือป้อมปราการลอยน้�ำดีๆ น่ีเอง ส่วนพวกเรือโจรสลัดและเรือ
เอกชน9 ก็ท่องทะเลเหมือนโจรคอยดักจี้บนถนน เพราะคอยดักปล้นเรือล�ำ
อนื่ ทลี่ อยลำ� หา่ งจากฝง่ั เหมอื นกนั โดยไมค่ ดิ จะหาเลย้ี งตวั เองจากความลกึ ลำ�้
แหง่ ทอ้ งทะเลเลย มแี ตช่ าวแนนทกั เกต็ เทา่ นน้ั ทอี่ ยแู่ ละสำ� มะเลเทเมาในทะเล
และมีแตช่ าวชาวแนนทกั เกต็ เทา่ นน้ั ท่ที �ำดงั ที่คมั ภรี ไ์ บเบิ้ลกล่าวไว้วา่ ผู้ท่ีลง
เรอื ไปในทะเล10 เพราะตา่ งหวา่ นไถไปมาในทะเลราวกบั เปน็ ไรส่ วนพเิ ศษของ
ตนเอง ท่นี น่ั คอื บา้ น คอื ที่ท�ำงานของพวกเขา ซึ่งน�ำ้ ทว่ มโลกของโนอาห์กท็ ำ�
อะไรไม่ได้ แม้จะท่วมท้นบ้านเรือนชาวจีนหลายล้านคนไปแล้วก็ตาม พวก
เขาอาศยั อยใู่ นทะเลเหมอื นดง่ั ไก่ป่าในทงุ่ หญ้า ซอ่ นตัวอยทู่ า่ มกลางคลน่ื ไต่
ไปบนเกลยี วคล่นื ดง่ั นกั ล่าเลียงผาไต่ไปบนเทือกเขาแอลป์ พวกเขาไม่ได้เหน็
แผน่ ดนิ นานหลายๆ ปี จนเมอ่ื เดนิ ทางกลบั ไป กร็ สู้ กึ เหมอื นผนื ดนิ คอื โลกอกี
ใบทแี่ ปลกประหลาดยงิ่ กวา่ ดวงจนั ทรใ์ นสายตามนษุ ยโ์ ลก นกนางนวลทไี่ รร้ งั

6 อเล็กซานเดอร์-อเล็กซานเดอร์มหาราช กษัตริย์กรีกผู้พิชิต จากแคว้นมาซิโดเนีย (356-323 ปีก่อน
ครสิ ตกาล)
7 สามประเทศมหาอ�ำนาจล่าดนิ แดน-รสั เซีย ออสเตรยี และปรสั เซีย
8 ธงชัย-ในท่ีนี้คือธงราชนาวีอังกฤษในอินเดีย เป็นรูปธงอังกฤษเล็กบนพ้ืนแดง และมีรูปดาวประดับบน
ดวงอาทติ ยท์ ี่กำ� ลังโชนแสง
9 เรอื เอกชน-ในทีน่ ้หี มายถึงเรือสว่ นตวั ทใ่ี ชใ้ นยามสงคราม โดยเฉพาะอย่างยง่ิ เพอื่ เขา้ ยึดเรอื สินค้า
10  ผทู้ ่ลี งเรอื ไปในทะเล-เพลงสดดุ ี บทท่ี 107 “ผทู้ ล่ี งเรือไปในทะเล ทำ� อาชพี อยู่บนน้�ำกว้างใหญ่ เขาได้
เห็นพระราชกิจของพระเยโฮวาห์ และการมหศั จรรยข์ องพระองคใ์ นทน่ี ้�ำลกึ ”

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 87

หบุ ปกี ลงหลบั ใหลกลางคลนื่ ใหญย่ ามอาทติ ยต์ กดนิ ฉนั ใด ในเวลาคำ�่ คนื ชาว
แนนทักเก็ตผู้อยู่ห่างไกลจากฝั่งก็จะม้วนพับใบเรือและเอนกายลงนอนพัก
ขณะทฝี่ ูงสงิ โตทะเลและวาฬแหวกวา่ ยอยใู่ ต้หมอนของเขา

88 : โมบ้-ี ด๊ิก

บทที่ 15

ซบุ ข้น

ตอนท่ีเรือตะไคร่ล�ำน้อยชักใบลงจอดทอดสมอก็เป็นเวลาเย็นย่�ำมาก
แล้ว ควเี ควกกบั ผมขนึ้ ฝัง่ และไมร่ ู้จะท�ำอะไรไดใ้ นวันน้ันนอกจากหาทก่ี ินม้อื
ค�่ำและที่นอน เจ้าของโรงเต๊ียมวาฬพ่นน�้ำแนะให้เรามาพักกับโฮซี ฮัสเซย์
ลูกพ่ีลูกน้องของเขาที่โรงเต๊ียมหม้อเคี่ยว1 โดยตาเฒ่าน่ังยันนอนยันว่าเป็น
เจ้าของโรงแรมที่ดูแลแขกดที ีส่ ดุ ในแนนทกั เก็ต ยิ่งไปกวา่ น้นั แกยังรับประกนั
ว่าน้องโฮซีย์ทแ่ี กเรียก มีชอ่ื เสยี งโด่งดงั เรอื่ งทำ� ซุปทะเลข้น สรปุ ก็คือ แกบอก
ทางอ้อมว่า เราคงไม่มีปัญญาไปกินท่ีอ่ืนได้นอกจากอาหารเลี้ยงแขกแบบ
ง่ายๆ ทโ่ี รงเต๊ยี มหม้อเค่ยี ว เส้นทางทแ่ี กบอกกับเราไวค้ ือ ให้เดินไปตามทาง
ทมี่ โี กดงั เหลอื งทางกราบขวา จนเหน็ โบสถห์ ลงั ขาวทางกราบซา้ ย แลว้ เดนิ ตอ่
ไปเรอ่ื ยๆ โดยใหโ้ บสถย์ งั อยทู่ างกราบซา้ ยอยา่ งนนั้ จนกระทง่ั เบนทำ� มมุ สาม
ปอยต2์ ไปทางกราบขวากเ็ ปน็ อนั ถงึ แลว้ จากตรงนนั้ เจอใครผ่ า่ นมากใ็ หถ้ ามวา่
โรงเตย้ี มตงั้ อยไู่ หน ตอนแรกทางวกไปวนมาทแี่ กบอกมาทำ� ใหเ้ ราถงึ กบั มนึ งง
โดยเฉพาะตอนตั้งต้น ควีเควกยืนยันว่าโกดังเหลืองซึ่งเป็นจุดสังเกตแรกน่ัน
ตอ้ งไปอยทู่ างกราบซา้ ย3 ขณะทผ่ี มเขา้ ใจวา่ ตาเฒา่ ปเี ตอร์ โลงศพแคห่ มายถงึ
กราบขวา อยา่ งไรกต็ าม เมอื่ เหน็ วา่ คำ่� มดื เขา้ ไปทกุ ที เราจงึ ตอ้ งรบกวนความ
สงบของชาวบ้านแถวน้ันโดยเคาะประตูถามทางไปเร่ือย จนในท่ีสุดก็ไปถึง

1 หม้อเค่ียว-หม้อขนาดใหญ่ใช้เคี่ยวสกดั นำ้� มนั ไขวาฬ
2 สามปอยต-์ ประมาณสามสบิ สามองศา หนึ่งปอยตเ์ ท่ากับ 11.25 องศา หรอื 32 จดุ เทา่ กบั 360 องศา
3 กราบซา้ ย-ถา้ หนั หนา้ ไปทางหัวเรือ จะเรยี กดา้ นซ้ายของเรือว่ากราบซ้าย

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 89

ทีน่ น่ั ได้โดยไมผ่ ิดพลาดเรยี กดา้ นขวาของเรือวา่ กราบขวา
บริเวณด้านหน้าทางเข้าประตู มีหม้อไม้ใหญ่ยักษ์ทาสีด�ำสองใบแขวน

หอ้ ยหแู กวง่ ไกวลงมาจากไมค้ ยู่ ดึ ยอดเสากระโดงเกา่ ทปี่ กั เอาไว้ ปลายอกี ดา้ น
ของไม้ยึดทั้งสองอันถูกเลื่อยท้ิง เพ่ือให้เสากระโดงน้ีดูไม่เหมือนตะแลงแกง
แขวนคอนกั โทษนกั บางทีผมอาจออ่ นไหวต่อสิ่งท่เี ห็นตอนนั้นมากไปหน่อย
แต่ก็อดจ้องเจ้าตะแลงแกงนั่นอย่างหว่ันไหวไม่ได้ รู้สึกคอเกร็งตอนมองไปที่
ปลายไมย้ ดึ ดา้ นซง่ึ ยงั เหลอื อยู่ ใชแ่ ลว้ ...สองอนั อนั หนง่ึ สำ� หรบั ควเี ควก อกี อนั
สำ� หรบั ผม มนั คอื ลางรา้ ย...ผมคดิ ครง้ั แรกกช็ อ่ื ตาเฒา่ โลงศพ เจา้ ของโรงเตยี๊ ม
ทผี่ มเพ่งิ เดินทางมาถึงทา่ เรอื ล่าวาฬ ที่เหมอื นหนิ จารึกหน้าหลมุ ศพมองจอ้ ง
กลบั มายงั ผม แลว้ ก็ยังเจ้าตะแลงแกงนี่! แถมหมอ้ ด�ำยักษค์ ่นู นั้ ด้วย! ทัง้ หมด
นเ่ี ป็นสญั ญาณบ่งบอกถึงโทเฟต4เปน็ แนก่ ระมัง?

ผมตื่นจากภวังค์เมื่อเห็นหญิงหน้าตกกระ ผมเหลือง สวมชุดเส้ือคลุม
เหลืองคนหนึ่งเข้า หล่อนยืนอยู่ตรงระเบียงประตูโรงเต๊ียมใต้โคมไฟสีแดง
พร่ามัวซึ่งแกว่งไปมาดูคล้ายกับดวงตาช้�ำๆ ก�ำลังเอ็ดตะโรใส่ชายคนหนึ่งใน
ชดุ เสอ้ื ขนสัตวส์ มี ว่ ง

“ทำ� เองส”ิ หล่อนพูดกบั ชายคนน้ัน “หรอื จะใหฉ้ นั สะสางให!้ ”
“ไป...ควีเควก” ผมพูด “ใชแ่ น่ นัน่ คงเปน็ คณุ นายฮสั เซย”์
เร่ืองของเรื่องคือ คุณโฮซี ฮัสเซย์เอาแต่ขลุกอยู่กับบ้าน ทิ้งให้คุณนาย
ฮสั เซยด์ แู ลการงานทง้ั หมดแทนเขา คณุ นายฮสั เซยพ์ กั รบชวั่ คราว ขณะหนั มา
ถามวา่ เราตอ้ งการอาหารและทพี่ กั หรอื เปลา่ จากนน้ั กน็ ำ� ทางไปหอ้ งเลก็ หอ้ ง
หนงึ่ พาไปนงั่ ทโ่ี ตะ๊ ซง่ึ มเี ศษอาหารจากแขกทเ่ี พง่ิ กนิ เสรจ็ หลน่ อยเู่ กลอื่ นกลน่
หลอ่ นมองเราสองคนแล้วถามวา่ “กาบหรอื คอด?”
“ปลาคอดทำ� อะไรรึครบั ...คุณผู้หญิง?” ผมถามอยา่ งแสนสภุ าพ
“กาบหรือคอด?” หลอ่ นถามย้�ำอกี คร้ัง
“หอยกาบตอนม้ือค่�ำหรือครับ? หมายถึงหอยกาบเย็นชืดหรือคุณนาย

4 โทเฟต-เมอื งในคัมภีรไ์ บเบิล ท่เี ผาบูชายัญเดก็ ทงั้ เป็น ทงั้ หมายถงึ นรก

90 : โมบ-ี้ ด๊ิก

ฮสั เซย?์ ” ผมถาม “แตต่ อ้ นรบั แบบนใี้ นหนา้ หนาว ไมใ่ จรา้ ยไปหนอ่ ยหรอื ครบั
คุณนายฮสั เซย?์ ”

แต่ดูเหมือนหล่อนก�ำลังรีบกลับไปต่อว่าชายชุดม่วงซ่ึงยืนคอยท่าอยู่หน้า
ประตทู างเขา้ จงึ ไมไ่ ดย้ นิ อะไรนอกจากคำ� วา่ “หอยกาบ” คณุ นายฮสั เซยแ์ จน้
ไปยังประตูทเ่ี ปิดไปสู่หอ้ งครัว แลว้ ตะโกนบอกวา่ “กาบสำ� หรบั สองคน” แล้ว
ก็เดนิ หายลบั ไป

“ควีเควก” ผมพดู ข้ึน “นายคดิ ว่าหอยกาบแค่ตัวเดียวจะท�ำใหเ้ ราสองคน
อมิ่ มือ้ ค่�ำนไ้ี ดไ้ หมนะ?”

หากแต่กลิ่นหอมฉุยท่ีโชยมาจากห้องครัว ช่างตรงกันข้ามกับส่ิงที่เรานึก
กงั วลไว้ก่อนหน้าอยา่ งสนิ้ เชิง แล้วเม่อื ซปุ หอยควนั กรนุ่ ยกมาวางลงตรงหนา้
ปริศนาก็ไดร้ ับการเฉลยอย่างนา่ ยนิ ดี โอโ้ ห! เพ่ือนๆ ท่ีรัก...ฟังผมนะ อาหาร
ชามนี้ท�ำจากหอยกาบเนื้อฉ่�ำเล็กๆ หลายตัว ตัวแทบไม่ใหญ่กว่าถั่วฮาเซล
คลกุ เคลา้ กับขนมปังกรอบ และหมูเค็มหั่นเปน็ ชิน้ เล็กๆ! ใส่เนยจนหอม และ
ปรุงรสด้วยพริกไทกับเกลือ การเดินทางฝ่าความหนาวจัดมาท�ำให้เรารู้สึก
หิวโซ โดยเฉพาะควเี ควกเอง เมอ่ื เห็นอาหารทะเลจานโปรดอยู่ตรงหนา้ แถม
ซบุ ขน้ กด็ นู า่ กนิ เสยี เหลอื เกนิ เราจงึ จดั การกบั มนั เสรจ็ สนิ้ ภายในเวลาอนั รวด
เดียว แลว้ เม่ือนง่ั เอนหลงั ได้สกั พกั ผมกน็ ึกถึงกาบและคอดทค่ี ุณนายฮัสเซย์
เอย่ ถงึ เลยคดิ วา่ นา่ จะลองอะไรบางอยา่ งดู จงึ เดนิ ไปทป่ี ระตทู างเขา้ หอ้ งครวั
และพูดค�ำว่า “คอด” อย่างชัดถ้อยชัดค�ำ ก่อนจะกลับมานั่งที่โต๊ะตามเดิม
ไมน่ านนกั กลน่ิ หอมฉยุ กโ็ ชยมาอกี ครง้ั แตค่ ราวนกี้ ลนิ่ ตา่ งกนั ออกไปบา้ ง แลว้
เมือ่ ถึงเวลา ซุปปลาคอดเมนเู ด็ดก็ถกู น�ำมาวางตรงหน้า เราเร่ิมต้นจัดการ
กับอาหารอีกรอบ ขณะก�ำลังใช้ช้อนตักซุปในชาม จู่ๆ ผมก็คิดสงสัยข้ึนมา
ในใจว่า อะไรๆ ที่น่ีส่งผลให้สมองใสสมองทึบได้หรือเปล่า? ง้ันส�ำนวนท่ีว่า
“คนสมองทึบ” ไมต่ ลกสิน้ ดีหรือ? “แตด่ นู ั่นซิ ควีเควก น่นั ปลาไหลเป็นๆ อยู่
ในชามนายใช่รเึ ปล่า? ฉมวกของนายอยู่ไหนล่ะ?”

ทนี่ นั่ สง่ กลน่ิ คาวปลาเสยี ยง่ิ กว่าตลาดปลาใดๆ สมชอ่ื โรงเต๊ียมหมอ้ เคีย่ ว

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 91

จริงๆ เพราะต้ังหม้อต้มเค่ียวซุปอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะซุปข้นส�ำหรับมื้อเช้า
ซปุ ส�ำหรับม้ือเยน็ และซปุ ส�ำหรับมอ้ื ดกึ จนคุณตอ้ งเร่มิ สำ� รวจว่าก้างปลาติด
อยตู่ ามเสอื้ ผา้ บา้ งหรอื เปลา่ ทางบรเิ วณหนา้ บา้ นพกั กป็ ดู ว้ ยเปลอื กหอยกาบ
คุณนายฮัสเซย์สวมสร้อยคอที่ท�ำจากกระดูกสันหลังปลาคอดขัดมันแวววาว
สว่ นโฮซี ฮสั เซยม์ สี มดุ บญั ชหี มุ้ ปกดว้ ยหนงั ปลาฉลามเกา่ เนอื้ ดี แมแ้ ตใ่ นนำ�้ นม
ก็ยังมีกล่ินคาวปลาปนอยู่ด้วย ซ่ึงผมเองก็อธิบายไม่ได้ท�ำไมถึงเป็นแบบน้ัน
จนเชา้ วันหนึง่ ขณะเดินเล่นอย่บู นชายหาดซงึ่ มีเรอื ประมงบางล�ำจอดอยู่ เหน็
เจ้าวัวตัวลายของโฮซีก�ำลังกินเศษปลาและเดินย่�ำอยู่บนหาดทราย ท่ีกีบเท้า
ทง้ั สมี่ ีหัวปลาคอดซ่ึงถกู ตดั โยนทิ้งเรย่ี ราดติดมาดว้ ย ผมยืนยนั ได้จริงๆ

หลงั กนิ อาหารมอ้ื คำ�่ เสรจ็ คณุ นายฮสั เซยก์ ย็ น่ื ตะเกยี งสง่ ให้ แลว้ บอกทาง
ไปหอ้ งพกั ทใ่ี กลท้ ส่ี ดุ ขณะควเี ควกเดนิ นำ� หนา้ ผมขน้ึ บนั ได สภุ าพสตรคี นนยี้ น่ื
แขนกนั ไวแ้ ลว้ ขอฉมวกจากเขา หลอ่ นไมอ่ นญุ าตใหเ้ อาฉมวกเขา้ ไปในหอ้ งพกั
ดว้ ย “ทำ� ไมละ่ ?” ผมถาม “นกั ลา่ วาฬตวั จรงิ ทกุ คนตอ้ งนอนโดยมฉี มวกอยขู่ า้ ง
กายด้วยกนั ทง้ั น้นั ท�ำไมถึงไม่ไดล้ ่ะ?” หล่อนตอบวา่ “เพราะมนั อนั ตรายนะ่
สิ พอ่ หนมุ่ สตกิ สเ์ คยมาพกั ทนี่ ี่ เพง่ิ ซวยกลบั มาหลงั ออกทะเลไปสป่ี คี รง่ึ ไดแ้ ค่
นำ้� มนั วาฬมาสามถงั กเ็ จอนอนเปน็ ศพอยดู่ า้ นหลงั ช้นั ล่าง ฉมวกวางอย่ขู า้ ง
ตวั ตง้ั แตน่ น้ั มาฉนั กไ็ มย่ อมใหแ้ ขกคนไหนเอาอาวธุ อนั ตรายแบบนนั้ เขา้ ไปใน
หอ้ งนอนตอนกลางคนื อกี เลย เพราะฉะนนั้ คณุ ควเี ควก” (หลอ่ นจ�ำชอ่ื เขาได้
แล้ว) “ฉันจะเก็บไอ้เหลก็ แหลมน่นั ไว้ท่นี ่กี ่อน แลว้ จะคนื ใหน้ ายพรุ่งนี้เช้า ว่า
แตอ่ าหารเชา้ พรงุ่ นี้ จะเอากาบหรอื คอดดีล่ะ...หนุ่มๆ?”

“สองอยา่ งเลยครบั ” ผมตอบ “แลว้ ขอปลาเฮอรงิ รมควนั อกี สองชดุ เพมิ่ ดว้ ย”

92 : โมบ้ี-ด๊กิ

บทที่ 16

เรอื

เรานอนวางแผนกันส�ำหรับวันรุ่งข้ึน ผมต้องประหลาดไม่น้อยเมื่อควีเควก
บอกว่า เขาขอค�ำแนะน�ำจากโยโจ เทพเจ้าด�ำองค์น้อยเสมอ โยโจบอกเขา
กว่าสองหรือสามคร้ัง ย้ำ� นกั ย�้ำหนาวา่ แทนทเ่ี ราสองคนจะออกไปหาเรอื ล่า
วาฬทท่ี า่ แลว้ ปรกึ ษากนั วา่ จะเลอื กไปลำ� ไหน โยโจกลบั กำ� ชบั แนน่ หนกั วา่ การ
ตัดสินใจเลือกเรือควรเป็นหน้าท่ีผมเพียงคนเดียว ในเมื่อโยโจแนะนำ� เราฉัน
มิตรเย่ียงนั้น คงได้หมายตาเรือบางล�ำไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าอย่างไร ถ้าให้
ผม...นายอิชเมลคนน้ีเลือก คงเลือกเรือได้ไม่ผิดพลาดแน่ เพราะนี่เหมือน
โชคชะตาที่ก�ำหนดไว้ก่อนแล้ว ว่าต้องเป็นเรือท่ีผมต้องเลือกล่องไป แม้ไม่มี
ควีเควกอยดู่ ้วยกต็ าม

ผมลืมบอกไปว่า ในหลายๆ เร่ือง ควีเควกเช่ือมั่นต่อค�ำพยากรณ์อัน
ศักด์ิสิทธ์ิน่าประหลาดของโยโจมาก จนถึงข้ันคารพยกย่องราวกับเป็น
เทพเจ้าผู้ปรารถนาดีต่อมวลมนุษย์ หากแต่ข้อเท็จจริงแล้วเทพเจ้าน้อยกลับ
ไม่สามารถให้ความกรณุ าแกใ่ ครได้เลย

คำ� แนะนำ� ของควเี ควก หรอื ถา้ จะพดู ใหถ้ กู กข็ องโยโจเรอื่ งการเลอื กเรอื ของ
เรานน้ั ผมไมช่ อบใจเอาเสยี เลย เพราะไมค่ อ่ ยเชอ่ื ใจนกั กบั หลกั พจิ ารณาของ
ควีเควกในการเลือกเรือล่าวาฬที่เหมาะที่สุดส�ำหรับการเดินทางโดย
สวัสดิภาพของเรา แต่เมื่อเห็นว่าทัดทานอย่างไรก็ไม่เป็นผล ผมจึงจ�ำต้อง
คล้อยตาม และเตรียมรับมือกับเรื่องข้ีปะติ๋วนี้อย่างฉับไวจริงจัง เช้าตรู่ของ

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 93

วันถัดมา ผมปล่อยให้ควีเควกอยู่ตามล�ำพังกับโยโจในห้องพักเล็กๆ ของ
เรา เพราะดูเหมือนจะเข้าชว่ งเทศกาลมหาพรต หรอื เดือนรอมฎอน หรือวนั
อดอาหาร ซึ่งควีเควกและโยโจจะสวดมนต์บ�ำเพ็ญพรตร่วมกันในวันนั้น แม้
ผมเคยเข้าร่วมด้วยหลายคร้ัง แต่ก็ยังไม่เข้าใจในพิธีกรรมแบบน้ีเลย ด้วยไม่
เขา้ ใจบทสวดและคำ� สอนสามสบิ เกา้ บท1นน่ั ผมจงึ ปลอ่ ยใหค้ วเี ควกสบู ขวาน
ยาเสน้ อดอาหาร ขณะทโ่ี ยโจอาบรา่ งตวั เองกลางกองไฟบชู ายญั จากขยุ ไมข้ กี้ บ
สว่ นตวั ผมกอ็ อกไปเดนิ เลน่ แถวทา่ เรอื ขนสง่ หลงั เดนิ เตรอ่ ยนู่ านและถามอะไร
ไปเร่ือย ผมก็ได้รู้ว่ามีเรือซึ่งมีก�ำหนดเดินทางเป็นเวลาสามปีอยู่สามล�ำคือ
แม่ปีศาจ เรือของอร่อย และเรือพีควอด2 ส�ำหรับเรือแม่ปีศาจหรือปีศาจตัว
แม่ ผมไม่รู้ว่ามีที่มาอย่างไร ส่วนเรือของอร่อย ชื่อก็บอกชัดอยู่แล้ว ส�ำหรับ
เรือพคี วอดน้นั คณุ เองก็คงจ�ำไดแ้ น่ ว่าเปน็ ช่อื อนิ เดยี นแดงเผ่าท่มี ชี อ่ื เสยี งใน
แมสซาชูเซตส์ ซ่ึงตอนนี้ถูกกลืนหายไปเป็นชนชาติอ่ืนหมดแล้วเช่นเดียวกับ
ชาวมีเดสโบราณ3 ผมมองส�ำรวจเรือแม่ปีศาจ ก่อนจะเดินเลยไปยังเรือของ
อร่อย แล้วสุดท้ายก็ข้ึนไปบนเรือพีควอด มองดูโดยรอบสักพักก็ตัดสินใจได้
วา่ มันเป็นเรือสำ� หรบั เราจริงๆ

คุณอาจเคยเห็นเรือแปลกๆ มามาก ไม่ว่าจะเป็นเรือใบเล็กหัวป้าน
เรือส�ำเภาญ่ีปุนล�ำมหึมา เรือพายดัชต์ท่ีรูปร่างเหมือนกล่องเนย หรือจะเรือ
อะไรตามแต่ เช่ือผมเถิดว่า คุณต้องไม่เคยเห็นเรือโบราณล�ำไหนแบบเรือ
พีควอดซง่ึ ไมม่ ใี ครเหมือนลำ� นีเ้ ลย มนั เป็นเรอื แบบเกา่ เหน็ ชดั ว่าลำ� คอ่ นข้าง
เล็ก ดูคล้ายกรงเล็บโบราณ ฝ่าฤดูกาล ลมฝนในพายุไต้ฝุ่น และลมสงบมา
แล้วท่ัวสี่คาบมหาสมุทร ล�ำเรือด�ำคล�้ำเหมือนสีผิวทหารฝรั่งเศสแนวหน้าซ่ึง
สู้รบกับชาวอียิปต์และไซบีเรีย ส่วนหัวเรือเก่าแก่นั่นก็ดูราวกับมีหนวดเครา
รกครมึ้ เสากระโดงเรอื ตดั มาจากทไี่ หนสกั แห่งแถวชายฝ่งั ญี่ปนุ่ สว่ นเสาเดิม

1 ค�ำสอนสามสิบเก้าบท-หลักค�ำสอนของคริสตจักรแห่งอังกฤษ ก่อตั้งใน ค.ศ. 1563 ช่วงมีการปฏิรูป
นกิ ายโปรเตสแตนต์
2 พคี วอด-ชาวอินเดยี นแดงเผา่ หนึ่งในนวิ อิงแลนด์ ซึง่ ยังเหลอื รอดจากการถูกสงั หารหมู่ในปี 1637
3 ชาวมเี ดส-ชาวอิหรา่ นโบรราณ ราวหกร้อยปีก่อนศริสตกาล

94 : โมบ้-ี ดิก๊

คงถูกพายุโค่นลงทะเลลอยหายไป เสากระโดงพวกนี้ตั้งม่ันราวกับฐานท่ีตั้ง
สถูปสามกษัตริย์แห่งเมืองโคโลนญ์4 ดาดฟ้าโบราณนั้นทรุดโทรมและแตก
เป็นร้ิวรอย ราวกับหินปูพ้ืนส�ำหรับนักแสวงบุญได้คุกเข่าบูชาในมหาวิหาร
แคนเทอรเ์ บอร5ี อนั เปน็ ทท่ี เี่ บกเคตต6์ หลง่ั เลอื ดเอาไว้ กระนนั้ ในความโบราณ
เกา่ แกน่ กี้ ไ็ ดร้ บั การตอ่ เตมิ บางสว่ นใหมจ่ นดนู า่ อศั จรรย์ ดว้ ยสง่ิ ตา่ งๆ ทไี่ ดม้ า
จากการลอ่ งไปทวั่ เจด็ ยา่ นนำ�้ มากวา่ ครงึ่ ศตวรรษ ตาเฒา่ กปั ตนั พเี ลกเปน็ ตน้
เรอื ของเรอื ลำ� นม้ี านานหลายปี กอ่ นจะไปเปน็ กปั ตนั เรอื ของตวั เอง ตอนนแี้ ก
เกษียณชีวิตชาวเรือแล้ว แต่แกก็เป็นเจ้าของคนส�ำคัญของเรือพีควอด ช่วงท่ี
ตาเฒา่ พเี ลกทำ� หนา้ ทเ่ี ปน็ ตน้ เรอื ไดต้ อ่ เตมิ เรอื พคี วอดซงึ่ แปลกประหลาดอยู่
แลว้ โดยใชท้ งั้ วสั ดแุ ละอปุ กรณแ์ ปลกๆ เสรมิ แตง่ ไวจ้ นทวั่ เรยี กไดว้ า่ ไมม่ ใี คร
เหมอื น เวน้ เสยี แตโ่ ลแ่ กะสลกั ของทอรค์ ลิ ล-์ เฮค7 หรอื ไมก่ โ็ ครงเตยี งนอน เรอื
ถกู ตกแตง่ ราวกบั จกั รพรรดคิ นเถอ่ื นแหง่ เอทโิ อเปยี ผถู้ ว่ งคอตวั เองดว้ ยสรอ้ ย
งาชา้ งขัดมัน เป็นเหมือนอนสุ รณส์ ถาน เป็นเรอื จอมเขมอื บที่เอากระดูกศัตรู
ซึ่งไลล่ า่ ได้มาเสริมแต่งตวั เอง ตลอดล�ำเรอื ไม่ได้กรุด้วยไม้กระดาน กราบเรือ
ทเี่ ปดิ โลง่ สองขา้ งตกแตง่ เหมอื นกรามยาว ปกั ยดึ เรยี งรายไวด้ ว้ ยฟนั แหลมของ
วาฬหัวทยุ เพือ่ ไว้ขึงเชอื กป่าน เหมอื นเอ็นกล้ามเน้ือและกระดกู ของเรอื เส้น
เอ็นเหล่านั้นไม่ได้ขึงกับไม้ฐานยึดรอกใหญ่ แต่ขึงผ่านพวกลูกรอกราทะเล
ส่วนท่ีส�ำคัญยิ่งอย่างพวงมาลัยเรือ แทนที่จะใช้แบบพังงาวงล้อหมุนกลับ
นำ� คนั หางเสอื มาใสไ่ วแ้ ทน โดยเปน็ คนั หางเสอื เดยี่ ว ซง่ึ นา่ จะแกะสลกั มาจาก
ขากรรไกรล่างแคบยาวของวาฬตัวใดตัวหน่ึงท่ีเคยล่ามาได้ คนถือพวงมาลัย
เรือฝ่าพายุโดยใช้คันหางเสือนี่ คงรู้สึกเหมือนชาวตาดในไซบีเรียยามก�ำราบ
ม้าพยศโดยยึดกรามมันไว้แน่น น่ีเป็นเรือท่ีสูงสง่าล�ำหนึ่ง แต่ไม่รู้ท�ำไมช่างดู

4  สถปู สามกษตั รยิ แ์ หง่ เมอื งโคโลนญ-์ โลงหนิ ทองคำ� ทใี่ หญท่ สี่ ดุ ในโลกตะวนั ตก เชอื่ กนั วา่ ภายในบรรจอุ ฐั ิ
กษตั ริยส์ ามพระองค์ (หรอื สามเมจาย-โหราจารย,์ ปราชญ์) ทเี่ ข้าเฝ้าพระเยซูยามประสูตกิ าล
5  มหาวหิ ารแคนเทอร์เบอรี-ตัง้ อยูท่ ี่เมอื งแคนเทอรเ์ บอรี ในสหราช
6 เบกเคตต์*-อาร์ชบิชอป ทอมัส เบกเคตต์ ถูกพระเจ้าเฮนรีที่สองส่ังลอบฆ่าภายในโบสถ์แคนเทอเบอรี
เม่ือค.ศ. 1170 ร่างของท่านถกู ฝงั อยู่ทางตะวนั ตกเฉียงเหนอื ของโบสถ์
7 ทอร์คลิ ล์-เฮค-นบั รบชาวไวกงิ ในศตวรรษท่ี 11 ผูแ้ กะสลักการผจญภัยของเขาไวบ้ นขา้ วของเคร่ืองใช้

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 95

เศรา้ สรอ้ ย! ส่ิงท่สี งู สง่าทง้ั หลายก็มกั ระคนความเศรา้ สร้อยเช่นน้ี
อาณาจักร เป็นโบสถ์ประจ�ำต�ำแหน่งของประมุขสูงสุดของศาสนาคริสต์

นิกายแองกลิ และเป็นท่ีตงั้ บัลลังกน์ ักบญุ ออกสั ตนิ
ผมเดินไปถึงคร่ึงค่อนดาดฟ้าเรือ พยายามมองคนท่ีมีอ�ำนาจพิจารณา

รับผมเป็นลูกเรือเดินทางไปด้วย ตอนแรกก็มองไม่เห็นใคร แต่แล้วสายตาก็
ไปสะดุดเข้ากับกระโจมรูปร่างประหลาด ซ่ึงน่าจะเป็นกระท่อมอินเดียแดง
ตั้งเยื้องออกไปทางด้านหลังเสาเรือหลัก ดูเหมือนจะตั้งไว้ชั่วคราวตอนจอด
เรือในท่าแห่งน้ีเท่านั้น มันเป็นกระโจมรูปกรวยสูงประมาณสิบฟุต สร้างข้ึน
จากกระดูกยาวงอสีด�ำชิ้นใหญ่ของขากรรไกรกลางและบนของวาฬไรต์ โดย
ตั้งปลายกระดูกด้านท่ีกว้างกว่าไว้กับดาดฟ้าเรือ ล้อมจนเป็นวงกลมแล้วมัด
รวมกันไว้ ให้ปลายกระดูกด้านบนเอยี งพาดเข้าหากนั เปน็ จดุ เดยี ว พูก่ ระโจม
ขนลุ่ยบนยอดแหลมนั่นโบกพลิ้วไปมาราวกับจุกผมบนหัวของผู้เฒ่าหัวหน้า
เผ่าพอตโตโวตามี8 ประตูกระโจมสามเหลย่ี มหนั ไปทางหวั เรอื เพ่ือใหผ้ อู้ ยใู่ น
นน้ั มองเห็นด้านหน้าไดอ้ ยา่ งท่ัวถงึ

ประตูเพิงพักประหลาดนั่นเปิดแง้มอยู่คร่ึงหนึ่ง ผมมองเข้าไปเห็นใคร
คนหนึ่งดูท่าทางเป็นผู้มีอ�ำนาจ ตอนนั้นเรือหยุดพักเที่ยงและเขาคงพัก
จากการส่ังการด้วยเช่นกัน เขาน่ังอยู่บนเก้าอี้ไม้โอ๊กโบราณซ่ึงแกะสลักเป็น
ลวดลายแปลกๆ ทั้งตัว เบาะรองน่ังสานจากวัสดุยืดหยุ่นแบบเดียวกับที่ใช้
สรา้ งกระทอ่ มอินเดยี แดงนนั่

ชายสูงวัยที่ผมเห็นนั่นอาจไม่มีอะไรผิดแผกไปจากคนท่ัวไปนัก เขาร่าง
ก�ำยำ� ผวิ นำ้� ตาลคลำ�้ เหมอื นเช่นกะลาสีสูงอายุสว่ นใหญ่ อยู่ในชดุ ออกทะเล
สนี ำ้� เงนิ หนาตดั แบบเรยี บงา่ ยเหมอื นพวกเควกเกอร9์ ดวงตาของเขามรี วิ้ รอย
เล็กละเอียดสานเป็นร่างแหอยู่โดยรอบ คงเกิดข้ึนจากการล่องเรือฝ่าพายุ
รุนแรงไม่หยุดหย่อนและมักมองต้านลมเสมอ ด้วยเหตุนี้จึงท�ำให้กล้ามเนื้อ

8 พอตโตโวตามี-ชาวอินเดียนแดงพน้ื เมอื งทางตอนเหนือของแม่น�ำ้ มสิ ซิสซิปปี
9 เควกเกอร์-สมาชิกสมาคมเคร่งศาสนาในอังกฤษ ซ่ึงเน้นการสื่อสารโดยตรงกับพระเจ้า นักล่าวาฬชาว
แนนทกั เกต็ ส่วนใหญเ่ ป็นพวกเควกเกอร์ ในทน่ี ี้หมายถึงชุดทตี่ ดั แบบเรียบง่าย

96 : โมบ้-ี ดิ๊ก

รอบดวงตาทง้ั สองหดยน่ เขา้ หากนั รวิ้ รอยรอบดวงตาแบบนนั้ เปน็ เพราะตอ้ ง
หน้านิ่วค้ิวขมวดบ่อยคร้งั นั่นเอง

“กปั ตนั เรือพีควอดใช่ไหมครบั ?” ผมถามลอดเข้าไปในประตกู ระโจม
“ก็ถา้ ใชก่ ปั ตันเรอื พคี วอด นายต้องการอะไรจากเขา?” เขายอ้ นถาม
“ผมอยากหางานท�ำบนเรือ”
“งนั้ รึ? ฉันวา่ นายไมใ่ ช่พวกแนนทกั เก็ต เคยอย่ใู นเรือทีโ่ ดนหางวาฬฟาด
แตกไหม?
“ไมค่ รับ...ไมเ่ คย”
“งน้ั คงไมร่ ู้อะไรเรอ่ื งลา่ วาฬเลยซิท่า...ใชไ่ หม?”
“ไม่รู้เลยครับ...แต่ผมเรียนรู้ได้เร็วแน่ ผมเคยท�ำงานบนเรือพาณิชย์หลาย
ครัง้ และคิดวา่ ...”
“งานห่าเหวบนเรือพาณิชย์น่ะส!ิ พูดกันคนละเรื่องเลยว่ะ นายเหน็ ขาน่ัน
ไหม? ฉนั จะเลาะขานนั่ มาจากบนั้ ทา้ ยนาย ถา้ ขนื พดู เรอื่ งงานบนเรอื พาณชิ ย์
กบั ฉนั อกี งานบนเรอื พาณชิ ยจ์ รงิ ๆ วะ่ ! ฉนั วา่ นายคงภมู ใิ จมากละสทิ า่ ทเี่ คย
ทำ� งานบนเรอื พวกนน้ั แลว้ นมี่ นั โอละพอ่ ยงั ไง...ไอห้ นมุ่ ! ถงึ ดนั อยากไปกบั เรอื
ล่าวาฬข้ึนมา? มันน่าสงสัยอยู่นา...จริงไหม? นายเป็นพวกโจรสลัดรึเปล่า?
นายปล้นกัปตันคนก่อนของนายมาม้ัง? คิดลอบฆ่าพวกกัปตันบนเรือน่ีหลัง
ออกทะเลหรือเปล่า?”
ผมยืนยันความบริสุทธิ์ต่อทุกข้อกล่าวหานั้น และเห็นว่าเบื้องหลังค�ำพูด
เหน็บแนมแกมขบขันเหล่าน้ี เฒ่าทะเลหรือชาวแนนทักเก็ตถือสันโดษเช่น
ชาวเควกเคอร์คนน้ี เต็มไปด้วยอคติอันคับแคบและไม่ให้ความไว้วางใจคน
แปลกหนา้ เว้นแต่จะเป็นคนที่มีมาจากแหลมเคปคอด10หรือเกาะวนิ ยาร์ด11
“แล้วท�ำไมถึงอยากล่าวาฬละ่ ? ฉันอยากร้กู ่อนตดั สินใจรับนายไว้”
“ได้ครับ คอื ผมอยากรู้ว่าการล่าวาฬเป็นยงั ไง ผมอยากเหน็ โลกกวา้ ง”
“อยากรู้ว่าการล่าวาฬเป็นยังไง...ง้ันรึ? นายเคยได้เห็นกัปตันเอแฮ็บหรือ

10  แหลมเคปคอด*-ในแมสซาชูเซตส์
11  วินยาร์ด-เกาะซงึ่ อยู่ทางตะวันตกของเกาะแนนทกั เกต็ 15 ไมล์

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 97

เปลา่ ?”
“ใครครบั ...กัปตนั เอแฮบ็ ?”
“ช่าย...ใชแ่ ล้ว...ฉนั กว็ า่ งัน้ แหละ กปั ตนั เอแฮ็บกค็ ือกัปตันเรอื ลำ� นนี้ ะ่ สิ”
“งน้ั ผมกเ็ ขา้ ใจผิดสิ ผมนึกว่าก�ำลังคยุ กปั ตนั เรอื เสียอีก”
“นายก�ำลังคุยอยู่กับกัปตันพีเลก....คนท่ีนายก�ำลังพูดด้วยนี่...ไอ้หนุ่ม ฉัน

กับกัปตันบิลแดดเป็นคนจัดหาอุปกรณ์จ�ำเป็นส�ำหรับการเดินทาง และจัด
เตรยี มขา้ วของทกุ อย่างทีเ่ รอื ล�ำนีต้ อ้ งการ รวมถึงลกู เรอื ด้วย เราเปน็ หนุ้ สว่ น
แล้วก็เป็นตัวแทนด้วย ฉันก�ำลังจะบอกว่า...ถ้านายอยากรู้ว่าเรือล่าวาฬท�ำ
อะไรอย่างท่ีนายได้บอกไว้ ฉันจะช่วยบอกให้นายได้รู้เสียก่อนที่นายตัดสิน
ใจเดินหน้าต่อหรือถอยหลัง คอยดูกัปตันเอแฮ็บเอาไว้...ไอ้หนุ่ม แล้วนายจะ
เหน็ วา่ เขามขี าแคข่ า้ งเดยี ว”

“ยังไงกันครบั ? ขาอีกขา้ งขาดไปเพราะวาฬ?”
“ขาดไปเพราะวาฬ! ไอ้หนุ่ม มาใกล้ๆ นี่ มันถูกเขมือบ เค้ียว แล้วก็บด
โดยไอว้ าฬหวั ทยุ ตวั รา้ ยทสี่ ดุ ทเี่ คยพงั เรอื แตกเปน็ เสย่ี งๆ มาแลว้ ...อะโห! โอ!”
ผมตนื่ นดิ ๆ กบั นำ้� เสยี งใสอ่ ารมณน์ นั่ อาจเพราะจบั ไดถ้ งึ ความทกุ ขร์ ะทม
ในเสียงอุทานตอนท้าย แต่ก็พยายามพูดนิ่งๆ วา่ “ท่ีบอกมาก็คงจะจริงครับ
แต่ผมจะรู้ได้ยังไงว่าไอ้วาฬตัวนั้นมันดุร้ายขนาดไหน ถ้าได้แค่อนุมานเอา
จากผลของเร่ืองรา้ ยท่เี กดิ ข้ึน”
“แหม...ไอ้หนุ่ม ปอดนายยังไม่แหกเลยนะ แล้วก็พูดจาไม่เหมือนกะลาสี
เรือเลยวะ่ แหงเ๋ ลย แน่ใจนะวา่ เคยออกทะเลมากอ่ น?
“ครับ” ผมพูด “ผมว่าผมบอกไปแลว้ วา่ เคยเดินทางสีค่ ร้ังไปกบั เรือพา...”
“เงียบไปเลย! จ�ำท่ีฉันบอกเรื่องเรือพาณิชย์ได้ไหม อย่าย่ัวโมโหนา...ฉัน
ยังไมอ่ ยากโกรธ เข้าใจตรงกนั แลว้ นะ เดย๋ี วฉันจะเล่าใหฟ้ ังว่าล่าวาฬมนั เป็น
ยงั ไง! พร้อมจะฟังรยึ งั ?”
“พร้อมแลว้ ครับ”
“ดีมาก เอาล่ะ นายใช่ไอ้คนท่พี ุง่ ฉมวกปกั คอวาฬเป็นๆ แลว้ โดดข้นึ หลงั

98 : โมบ้ี-ด๊กิ

มันหรอื เปลา่ ? ตอบมาเรว็ !”
“ใช่ครับ ถ้าจ�ำเป็นอย่างย่ิงที่ต้องท�ำแบบน้ันเพื่อความอยู่รอด แต่ผมคิด

วา่ นั่นไม่ใช่ประเดน็ ”
“ตอบได้ดี เอาล่ะ นายไม่ใช่แค่อยากออกไปล่าวาฬเพื่อหาประสบการณ์

ล่าวาฬเท่านั้น แต่นายออกไปเพื่อจะได้เห็นโลกกว้างด้วยใช่ไหม? นายบอก
ง้ันน่ี ใช่ไหม? ฉันว่าใช่นะ เอาละ เดินไปมองที่หัวเรือเปิดโน่น แล้วกลับมา
บอกฉันสวิ ่านายเหน็ อะไรตรงนัน้ ”

ผมยืนงงกับค�ำร้องขออันพิลึกพิลั่นของเขาอยู่ช่ัวขณะ ไม่รู้ว่าควรท�ำ
อย่างไร ไม่รู้ว่าเป็นแค่มุขตลกหรือให้ท�ำจริงๆ แต่รอยตีนกาท่ีเริ่มขมวดมุ่น
บนใบหน้านั้นท�ำให้รูว้ ่ากปั ตันพีเลกสั่งการผมจริงๆ

ผมก้าวเดินตรงไปแล้วมองออกไปนอกหัวเรือด้านเหนือลมนั่น รู้สึกว่า
เรือซง่ึ ทอดสมออยโู่ คลงตัวตามกระแสน้�ำขน้ึ และกำ� ลังคอ่ ยๆ หนั หวั ไปทาง
นา่ นนำ้� เปดิ ตรงนนั้ สามารถมองเหน็ ทะเลไดไ้ กลสดุ ลกู หลู กู ตา แตก่ เ็ ปน็ พน้ื ที่
หวงหา้ มและเห็นมาจนจ�ำเจ ไมม่ อี ะไรตา่ งจากท่ผี มเคยเห็นมาแมแ้ ตน่ ้อย

“ว่าไง...รายงานมาสิ” พเี ลกถามเมอื่ ผมเดินกลบั ไปถึง “นายเหน็ อะไร?”
“ก็ไม่มาก” ผมตอบ “ไม่มอี ะไรเลยนอกจากนำ้� แล้วก็ขอบฟ้ากว้าง แต่ผม
คดิ ว่าพายกุ ำ� ลงั ต้ังเค้ามา”
“เอาละ...นายคิดยังไงหลังจากได้เห็นโลกข้างหน้านั่นแล้ว นายยังอยาก
ออกจากแหลมฮอรน์ 12 ไปใหเ้ ห็นอะไรอกี ไหม? ตรงทีย่ ืนนั่นนายไมไ่ ด้
เห็นโลกหรอกรึ?”
ผมลังเลใจนิดหน่อย แต่อย่างไรเสียผมก็ยังอยากไปล่าวาฬ และต้องไป
ใหไ้ ด้ พเี ควกเปน็ เรอื ทด่ี ลี ำ� หนงึ่ ผมวา่ อาจดที สี่ ดุ ดว้ ยซำ้� ไป เหตนุ เ้ี องผมจงึ ยำ�้
เจตนาเดิมกับพีเลก เม่ือเห็นว่าผมได้ตกลงใจแน่วแน่แล้ว เขาจึงแสดงความ
เต็มใจท่จี ะรบั ผมไวเ้ ปน็ ลูกเรือ
“ต้องเซ็นสัญญากันก่อนนะ” เขาพูด “ตามมาสิ” พูดจบเขาก็เดินนำ� ทาง

12  แหลมฮอร์น-อยใู่ ต้สดุ ของเกาะเตยี รร์ าเดลฟวยโก ในประเทศชิลี

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 99

ไปยังหอ้ งเคร่อื งด้านล่างดาดฟ้า
ผู้ที่ก�ำลังนั่งอยู่บนผนังท้ายเรือดูจะมีบุคลิกพิเศษสุดจนน่าประหลาดใจ

เขากค็ อื กปั ตนั บลิ แดด ซง่ึ เปน็ เจา้ ของเรอื รายใหญเ่ หมอื นกปั ตนั พเี ลก สำ� หรบั
หุ้นส่วนรายอ่ืนๆ ซึ่งบางครั้งก็จ�ำเป็นส�ำหรับการจอดเทียบท่าแบบนี้ ก็เป็น
พวกทมี่ เี งนิ ไดเ้ ปน็ รายปี ไมว่ า่ จะเปน็ พวกแมม่ า่ ย เดก็ กำ� พรา้ พอ่ หรอื ผอู้ ยใู่ น
ความค้มุ ครองของศาล โดยแต่ละคนก็จะถือครองมลู คา่ ของยอดเสากระโดง
เรือสักต้น หรือไม้กระดานสักแผ่น หรือตะปูสักตัวหรือสองตัวบนเรือ ชาว
แนนทกั เกต็ นำ� เงนิ มาลงทนุ ในเรอื ลา่ วาฬแบบเดยี วกบั ทคี่ ณุ ซอื้ หนุ้ ทร่ี ฐั อนมุ ตั ิ
เพ่ือหวงั เก็งกำ� ไรนัน่ แหละ

บลิ แดดกเ็ หมอื นพเี ลก และทจ่ี รงิ คงเหมอื นชาวแนนทกั เกต็ อนื่ ๆ อกี หลาย
คน เขาเป็นพวกเควกเกอร์คนหน่ึง เพราะเกาะนั่นเป็นต้นก�ำเนิดของลัทธิ
เควกเกอร์ และจนถึงวันนี้ชาวแนนทักเก็ตท่ัวไปยังคงรักษามาตรฐานท่ีมี
ลกั ษณะเฉพาะของลทั ธนิ ไ้ี ว้ หากแตม่ กี ารปรบั เปลย่ี นบางอยา่ งใหผ้ ดิ แผกแตก
ตา่ งไปจากเดมิ เลก็ นอ้ ย ตามความแปลกใหมห่ ลากหลายทม่ี เี ขา้ มา กระนนั้ สง่ิ
ท่ีพวกเควกเกอร์เหมือนกันมากที่สุดก็คือกระหายใคร่เป็นชาวเรือและนักล่า
วาฬ พวกเขาเป็นเควกเกอร์นักตอ่ สู้ และเป็นเควกเกอรจ์ อมอาฆาต

ด้วยเหตุนี้ พวกเขาบางคนจึงถูกตั้งช่ือตามชื่อในพระคัมภีร์ ซ่ึงเป็นความ
นิยมสูงสุดบนเกาะน้ัน ชีวิตในวัยเด็กจะค่อยๆ ซึบซับโวหารเร้าใจของชาว
เควกเกอร์ที่วา่ “ข้าท�ำและขา้ ถูกกระท�ำ” กระนน้ั ความกล้าหาญ กล้าเส่ียงภยั
และการผจญภัยไร้ขอบเขตในชีวิตหลังเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ก็ผสานกันได้อย่าง
ประหลาดกับลักษณะเฉพาะที่ไม่ออกนอกลู่นอกทางของลัทธิน้ี ซึ่งเช่ือว่า
ร้อยพันความกล้ายังไม่อาจเทียมเทียบราชาแห่งท้องทะเลชาวสแกนดิเนเวีย
หรือชาวโรมันนอกศาสนาผู้มีอารมณ์กวี เม่ือสิ่งเหล่านี้หล่อหลอมอยู่ในตัว
ชายผู้มีพลังแกร่งกล้าเกินธรรมชาติ มีสมองกลมๆ และหัวใจใหญ่ยิ่ง ผู้ท่ี
ยังถูกโน้มน้าวให้คิดไม่เหมือนใครและไม่ขึ้นกับใคร แม้ยามสงบนิ่งเฝ้าระวัง
ผืนน�้ำไกลสุดตาเป็นเวลาหลายคืนตามล�ำพัง ใต้กลุ่มดาวท่ีไม่มีทางเห็นจาก

100 : โมบี-้ ดก๊ิ


Click to View FlipBook Version