The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โมบี้-ดิ๊ก ผลงานคลาสสิกของ Herman Melville ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดยสำนักพิมพ์ทับหนังสือ ฉบับปรับปรุงจากต้นฉบับแปล “โมบี้-ดิ๊ก ฉบับประชาชน” โดยโครงการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการแปล Moby-Dick; or, The Whale นวนิยายของ เฮอร์แมน เมลวิลล์ เป็นภาษาไทย

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by BS_Library, 2019-12-20 01:23:42

Moby Dick โมบี้ ดิ๊ก

โมบี้-ดิ๊ก ผลงานคลาสสิกของ Herman Melville ฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 โดยสำนักพิมพ์ทับหนังสือ ฉบับปรับปรุงจากต้นฉบับแปล “โมบี้-ดิ๊ก ฉบับประชาชน” โดยโครงการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการแปล Moby-Dick; or, The Whale นวนิยายของ เฮอร์แมน เมลวิลล์ เป็นภาษาไทย

Keywords: วรรณกรรม

นนั้ อยา่ งเยอื กเยน็ ครนุ่ คดิ ถงึ ความคดิ ของตวั เอง ทนั ใดนนั้ เองเรอื ถกู กระชากลง
ดา้ นลา่ งอยา่ งแรง สตลี กลิ ตร์ บี หยบิ มดี ของเขาขน้ึ มาตดั เชอื กทงิ้ และปลอ่ ยวาฬ
เปน็ อสิ ระ แตช่ ว่ งจงั หวะหนง่ึ โมบด้ี กิ๊ โผลข่ นึ้ มาอกี ครง้ั โดยมเี ศษเสอื้ เชต้ิ ขนสตั ว์
เปอ้ื นเลอื ดของเรดนยี ต์ ดิ อยทู่ ฟ่ี นั ทใี่ ชป้ ลดิ ชพี เขา เรอื พฆิ าตออกไลล่ า่ อกี ครงั้
แตเ่ จา้ วาฬกห็ ลบหลีกไปได้ มนั อนั ตธานหายไปได้ในที่สุด

“เมอ่ื ทาวนโ์ ฮมาถงึ ทา่ เรอื ซง่ึ เปน็ ดนิ แดนปา่ รกทบึ เปลย่ี ววเิ วก และไรซ้ งึ่ คน
ท่ีมีการศึกษาอาศัยอยู่ นั่นเป็นโอกาสเหมาะท่ีเจ้าเลคแมนจะน�ำพวกคน
งานประจ�ำเสากระโดงเรือหน้าท้ังหมดห้าถึงหกคนลอบหนีหายไปท่ามกลาง
ดงปาล์ม รู้กันในภายหลังว่าเขาได้ฉวยเอาเรือบดคู่ขนาดใหญ่ของคนป่าแล้ว
แลน่ เรือไปยงั ท่าเรอื อ่นื

“ครนั้ ลกู เรอื ลดจำ� นวนลงจนเหลอื เพยี งหยบิ มอื เดยี ว กปั ตนั จงึ ตอ้ งเรยี กใช้
ชาวเกาะใหม้ าชว่ ยออกแรงวดิ นำ้� ออกจากเรอื เพอ่ื หยดุ รรู ว่ั แตก่ ารตอ้ งคอยเฝา้
ระวงั เหตวุ นุ่ วายอนั เกดิ จากพนั ธมติ รผรู้ า้ ยกาจของพวกเขา ซงึ่ เปน็ คนขาวกลมุ่
เล็กๆ ทท่ี �ำเอาพวกเขาแทบไมไ่ ดห้ ลับไม่ไดน้ อนตลอดท้ังคนื และวัน รวมทงั้
ภารกิจหนักอึ้งที่พวกเขาเพ่ิงประสบมาเป็นเหตุให้เรือจำ� ต้องพร้อมแล่นออก
สู่ทะเลอกี ครง้ั ทว่าเหลา่ ลกู เรอื อย่ใู นสภาพเหน่ือยอ่อนจนกัปตนั ไมก่ ลา้ แล่น
ออกทะเลไปขณะเรือบรรทุกของหนัก หลังปรึกษากับนายเรือของเขาแล้ว
กัปตันทอดสมอจอดเรือบริเวณชายฝั่งที่อยู่ห่างไปให้ไกลท่ีสุดเท่าที่จะท�ำได้
ชว่ ยกนั ขน และยกปนื ใหญส่ องอนั จากหวั เรอื ออก นำ� เอาปนื คาบศลิ าของเขา
มากองสุมบนดาดฟ้าท้ายเรือ และเตือนพวกชาวเกาะไม่ให้เข้าใกล้เรือเพ่ือ
ความปลอดภยั ของพวกเขา จากนน้ั กปั ตนั พาลกู เรอื คนหนง่ึ ลงเรอื พฆิ าตวาฬ
ลำ� ทีด่ ที ีส่ ุดของเขาแจวขนึ้ ไปอยู่เหนือลม ลอยลำ� มุง่ หนา้ สู่ตาฮิติ ซง่ึ อยหู่ ่างไป
ห้ารอ้ ยไมลเ์ พ่อื หาคนมาเสรมิ กำ� ลงั ใหก้ ับเรอื เดินสมทุ รของเขา

“วันทส่ี ี่ของการลอ่ งเรอื เขาบังเอญิ เห็นเรือบดขนาดใหญ่มีทีท่าเหมอื นจะ
จอดบรเิ วณแนวหนิ ปะการงั เขารบี หนั เรอื หนี แตเ่ รอื เถอื่ นลำ� นนั้ กลบั พงุ่ พรวด
มาหาเขาอยา่ งรวดเรว็ ไม่นานนกั เสยี งของสตีลกิลต์ตะโกนบอกใหเ้ ขาหนั หวั

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 351

เรอื หาลม ไมอ่ ยา่ งนนั้ เขาจะจบั ตวั โยนลงนำ�้ กปั ตนั หยบิ เอาปนื พกออกมาขู่ โดย
หัวเรือของเขาอยู่ห่างจากคานเช่ือมเรือบดสองล�ำเพียงหนึ่งฟุต เจ้าเลคแมน
สง่ เสยี งหวั เราะเยาะออกมา บอกยำ�้ ใหร้ วู้ า่ ยงั ไมท่ นั ทก่ี ปั ตนั จะไดล้ นั่ ไกปนื พก
เขากฝ็ ังกัปตันลงในฟองและเกลียวคล่ืนไปแลว้

“‘นายตอ้ งการอะไร?’ กัปตันรอ้ งถาม
“‘กัปตันจะไปที่ไหน? และจะไปท�ำไม?’ สตีลกิลต์บอกส่ิงที่เขาต้องการรู้
‘อยา่ โกหกเชยี ว’
“‘ฉนั จะไปท่ตี าฮิตเิ พอื่ หาคนงานมาเพม่ิ ’
“‘ดเี ลย ขอผมขนึ้ ไปบนเรอื สกั แปบ๊ นงึ นะ ผมมาด’ี พดู จบเขากโ็ ดดจากเรอื
บดลงทะเลวา่ ยมายังเรือเล็กและปนี กราบเรือขึน้ ไปยืนเผชญิ หนา้ กับกัปตัน
“‘ไขวแ้ ขนของนายซะ เอาขนึ้ ไปไวห้ ลงั หวั แลว้ พดู ตามฉนั ทนั ทที สี่ ตลี กลิ ต์
จากไปแล้ว ข้าขอสาบานว่าจะเอาเรือล�ำนี้ไปเกยท่าท่ีเกาะด้านโน้น และพัก
อยู่ทนี่ ่ันหกวนั หากขา้ ไมป่ ฏบิ ัตติ ามขอใหฟ้ า้ ผ่าข้าทันที!’
“‘ตามต�ำราจัง’ เจ้าเลคแมนหัวเราะ ‘ลาก่อน ซินญอร์!’ แล้วก็โดดลงน�้ำ
วา่ ยกลบั ไปหาสหายของเขา
“หลังยืนมองจนเห็นเรือข้ึนไปเกยบนหาด และลากไปไว้ใต้ต้นมะพร้าว
เรยี บร้อยแลว้ สตีลกลิ ต์จึงแลน่ เรอื อีกครัง้ และไปถึงตาฮติ ทิ นั เวลา ทน่ี น่ั เปน็
จดุ หมายปลายทางของเขาดว้ ยเชน่ กนั โชคเขา้ ขา้ งเขาเมอ่ื มเี รอื เดนิ สมทุ รสองลำ�
ก�ำลงั เดินทางไปยงั ฝร่ังเศสและเหมือนพรหมลิขติ ใหเ้ รอื กำ� ลงั ตอ้ งการลูกเรอื
จ�ำนวนเท่ากันกับจ�ำนวนคนในการดูแลของเขา ทุกคนยังคงได้ข้ึนเรือ และ
เริ่มต้นงานกับอดีตผู้น�ำของเขาซ่ึงตั้งใจจะจ้างพวกเขาโดยให้ผลตอบแทน
ตามกฎหมาย
“ประมาณสบิ วนั หลงั จากเรอื ฝรงั่ เศสแลน่ ออกจากทา่ เรอื เชอื ดวาฬกม็ าถงึ
กปั ตนั จ�ำตอ้ งเกณฑ์ชาวตาฮิตทิ ไี่ ดร้ บั การศกึ ษามากกว่า และมปี ระสบการณ์
ทางทะเลมากกวา่ เขายงั ตอ้ งเชา่ เรอื สคนู เนอรล์ ำ� เลก็ ของคนพนื้ เมอื งกลบั มา
ดว้ ย เมอ่ื กปั ตนั พาคนเหลา่ นนั้ กลบั มาถงึ ทเี่ รอื ของเขา เมอ่ื และทกุ อยา่ งพรอ้ ม

352 : โมบี้-ดิ๊ก

แลว้ การเดินเรอื จงึ เริ่มตน้ ขึน้ อกี คร้ัง
“เวลาน้ีสตีลกิลต์อยู่ที่ไหน ท่านสุภาพบุรุษ...ไม่มีใครรู้ ทว่าบนเกาะ

แนนทกั เกต็ ภรรยามา่ ยของเรดนยี ย์ งั คงกลบั ไปยงั ทะเลเพอ่ื ปฏเิ สธการตายของ
ซากศพ ในความฝนั หลอ่ นยังคงฝันเห็นวาฬตัวเข่ืองบดขย้เี ขาอยู่ทกุ ค�่ำคนื

“‘คณุ เลา่ จบแลว้ เหรอ?’ ดอนซีบาสเตียนถามเบาๆ
“‘จบแลว้ ...ดอน’
“‘ถา้ อยา่ งนน้ั ผมวอนขอใหค้ ณุ บอกผมทเี ถดิ วา่ คณุ ยนิ ดแี สดงความบรสิ ทุ ธิ์
ของตน หากเรื่องท่ีคุณเล่าเป็นเรื่องจริง? มันถ่ายทอดออกมาได้เยี่ยมมาก!
คุณฟังมาจากแหล่งข้อมูลท่ีน่าเชื่อถือหรือไม่? โปรดอดทนกับผมสักนิดหาก
คำ� ถามของผมทำ� ใหค้ ุณรสู้ ึกอดึ อัดไปบ้าง’
“‘อดทนกบั พวกเราหนอ่ ยนะ คณุ กะลาสี เพราะพวกเรากอ็ ยากจะวอนขอ
เช่นเดยี วกบั ดอนซบี าสเตียน’ เพอ่ื นในกลมุ่ พูดขนึ้ อย่างกระหายใครร่ ู้
“‘มพี ระคมั ภรี ส์ กั เลม่ ในโรงแรมโกลดเ์ ดน้ อนิ นแ์ หง่ นหี้ รอื ไม.่..ทา่ นสภุ าพบรุ ษุ ?’
“‘ไม่มีหรอก’ ดอนซีบาสเตียนเอ่ย ‘แต่ผมรู้จักกับบาทหลวงท่ีควรแก่การ
สรรเสริญใกล้ๆ น้ี คุณต้องรีบจัดหาพระคัมภีร์สักเล่มให้ได้เป็นแน่ หากผม
รอ้ งขอ วา่ แตค่ ณุ ต้องการให้ผมท�ำอย่างนั้นจริงหรอื ? นีไ่ ม่ใช่เร่อื งล้อเลน่ นะ’
“‘คุณควรพาบาทหลวงมาพรอ้ มกันด้วยนะ...ดอน?’
“‘แม้น่ีจะไม่ใช่การพิพากษาสาธารณะในลิม่าเวลานี้’ เพื่อนคนหน่ึงพูด
กับอีกคนว่า ‘ผมก็เกรงว่าเพ่ือนกะลาสีของเราก�ำลังเส่ียงต่อกฎบัญญัติแห่ง
บิชอป พวกเราถอนตัวจากวงสนทนาใต้แสงจันทร์น่ีเถอะ ผมเห็นว่าไม่ควร
จะเสีย่ งกับเรอื่ งน้’ี
“‘ขออภัยที่ผมไม่อาจเห็นตามคุณ...ดอนซีบาสเตียน ซ้�ำผมยังอยากขอให้
คณุ ช่วยไปจดั หาพระคมั ภรี ์เลม่ ใหญท่ ี่สุดเทา่ ที่ท่านหามาไดใ้ หด้ ว้ ย’
‘ท่านนี้คือบาทหลวง ท่านจะน�ำคัมภีร์สาวกแห่งพระองค์มาให้คุณ’ ดอน
ซบี าสเตยี นพดู หนา้ ตาขงึ ขงั หลงั กลบั มาพรอ้ มกบั ชายรปู รา่ งสงู ทา่ ทางเครง่ ขรมึ
“‘ขอให้ผมไดถ้ อดหมวกออกก่อนเถิด เอาล่ะ...คุณพอ่ ผคู้ วรแกก่ ารเคารพ

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 353

ก้าวมาตรงแสงสว่าง และถอื พระคมั ภรี เ์ บื้องหน้าเพ่ือให้ผมสมั ผัสถงึ
“‘ขอสวรรคเ์ มตตาผม ดว้ ยเกยี รตแิ หง่ คณุ เรอื่ งทคี่ ณุ ไดเ้ ลา่ ใหพ้ วกคณุ ฟงั นน้ั

ท่านสุภาพบุรุษ เป็นเรื่องจริง และเป็นเรื่องส�ำคัญแท้จริง ผมแน่ใจว่าน่ีเป็น
เร่ืองจริง ท่ีเกิดข้ึนบนโลกกลมๆ ใบน้ี ผมได้ขึ้นไปเหยียบบนเรือล�ำน้ันแล้ว
ผมรจู้ กั กบั ลกู เรอื ผนู้ น้ั ผมเคยพบและพดู คยุ กบั สตลี กลิ ตห์ ลงั จากการเสยี ชวี ติ
ของเรดนยี ์’”

354 : โมบ้-ี ดก๊ิ

บทที่ 55

ภาพผดิ ธรรมชาตขิ องวาฬ

ผมปรารถนาจะเขยี นภาพวาฬใหค้ ณุ ไดเ้ หน็ สกั ภาพ โดยไมต่ อ้ งวาดลงบนผนื
ผา้ ใบ ภาพนน้ั มลี กั ษณะใกลเ้ คยี งกบั รปู รา่ งแทจ้ รงิ ของวาฬขณะมนั ปรากฏแก่
สายตาของนักล่า เวลาเขาจับร่างอันใหญ่โตของมันมัดไว้กับข้างเรือล่าวาฬ
เพ่อื จะได้ขน้ึ ไปเดินบนนั้นอยา่ งถนัด อาจคุ้มคา่ กบั เวลาทเ่ี สยี ไป เพราะก่อน
หนา้ นน้ั คนมกั กลา่ วอา้ งถงึ ภาพของมนั ทเี่ ขยี นขนึ้ จากจนิ ตนาการของบรรดาผู้
สอดรสู้ อดเหน็ แมจ้ นถงึ ทกุ วนั นภี้ าพแทจ้ รงิ ของมนั ยงั คงทา้ ทายความศรทั ธา
อย่างเช่ือมั่นของคนบนฝั่ง ถึงเวลาต้องสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้โลกใบน้ี
ในเรอ่ื งนีด้ ว้ ยการพสิ ูจนใ์ หเ้ ห็นว่าภาพวาฬทง้ั หมดทม่ี ีอยู่น้ันลว้ นไม่ถกู ตอ้ ง

อาจเปน็ ไปไดว้ า่ แหลง่ ทม่ี าเบอ้ื งตน้ ของภาพเขยี นทผี่ ดิ พลาดทงั้ หมดนน้ั มา
จากภาพแกะสลกั ของชาวฮนิ ดู ชาวอยี ปิ ต์ และชาวกรกี ยคุ โบราณ นบั จากนน้ั
มางานสร้างสรรค์เหล่านั้นแพร่หลายไปในช่วงสมัยซ่ึงไร้การตรวจสอบ ภาพ
แกะสลกั บนผนงั วิหาร, บนฐานรปู ป้ัน, โล่, เหรยี ญประดบั , ถว้ ย และเหรียญ
กษาปณ์ หรือบนแผงเสื้อเกราะห่วงเหล็กของซาลาดิน1 หรือบนหมวกเหล็ก
ของเซนต์จอร์จ2 ต่างก็วาดเป็นปลาโลมา จากน้ันภาพท่ีผิดพลาดท�ำนอง
เดียวกนั นี้กม็ ีดาษดนื่ ไปทัว่ ไมเ่ พยี งเป็นภาพวาฬที่คนทว่ั ไปนิยมกนั มาก แต่
ยงั รวมไปถงึ ผลงานทางวทิ ยาศาสตรเ์ กยี่ วกบั มนั ดว้ ย ถงึ วนั นภ้ี าพเกา่ แกท่ สี่ ดุ

1  ซาลาดิน-เศาะลาฮุดดีน (ค.ศ. 1138-1193) สุลต่านผู้ปกครองอียิปต์และไซเรีย และเข้ายึดเมือง
เยรซู าเล็มได้อกี คร้ังจากนกั รบครูเสดของยโุ รป
2  เซนต์จอรจ์ -ทหารโรมันในศวรรษทสี่ าม ซงึ่ ไดร้ ับการยกย่องวา่ ยอมพลีชเี พ่อื คริสตศาสนา

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 355

ท่ีอ้างกันว่าเป็นภาพวาฬน้ันปรากฏอยู่ภายในเจดีย์ถ�้ำอิลีเฟนต้า3ท่ีอินเดีย
เหลา่ พราหมณด์ ำ� รงไวใ้ นภาพแกะสลกั ตอ่ เนอ่ื งยาวแทบไมข่ าดตอนของเจดยี ์
โบราณ ท้งั การซ้อื ขาย และการไลล่ า่ ทกุ รปู แบบการทำ� มาหากินเท่าทมี่ นุษย์
จะท�ำได้ถูกคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าก่อนเหตุการณ์เหล่าน้ันจะเกิดขึ้นจริง ไม่
ต้องสงสัยเลยว่าน่ีจะเป็นเหตุให้บางส่วนของการประกอบอาชีพนักล่าวาฬท่ี
มเี กยี รตขิ องเราถกู สะทอ้ นออกมาจากภาพนนั้ วาฬฮนิ ดปู รากฏในสว่ นทแี่ ยก
ออกไปจากผนงั ด้านน้ี เป็นภาพพระวษิ ณุจตุ ลิ งมาเกิดเป็นสตั วน์ ้ำ� ขนาดใหญ่
รู้จักกันในชื่อว่ามัตสยาวตาร4 แม้ภาพแกะสลักน้ีจะเป็นรูปคร่ึงคนคร่ึงสัตว์
คอื มีเพียงแค่หางตรงส่วนล่าง แต่สว่ นเล็กๆ นัน้ กย็ ังคงผิดเพี้ยนทั้งหมด มัน
ดเู รยี วเล็กเหมือนหางอนาคอนดา้ มากกวา่ จะเป็นหางวาฬทแี่ ผ่กวา้ งงามสง่า

แต่ถ้าไปดูในห้องแสดงภาพเก่าๆ แล้วมาดูภาพวาดวาฬของจิตรกรดัง
ชาวครสิ เตยี น ภาพเหลา่ นไ้ี มไ่ ดด้ ไี ปกวา่ ภาพฮนิ ดกู อ่ นนำ้� ทว่ มโลกของโนอาห์
สักเท่าไร อยา่ งผลงานของกุยโด5ในภาพวาดเพอร์ซอิ ัสช่วยนางแอนโดรเมดา้
จากอสรุ กายทะเลหรอื วาฬ กยุ โดไปเอาสตั วป์ ระหลาดอยา่ งนนั้ จากทไี่ หนมา
เปน็ แบบ? เชน่ เดยี วกับภาพพมิ พ์เหตกุ ารณเ์ ดยี วกนั ของโฮการท์ 6ในชือ่ “การ
โจมตขี องเพอรซ์ อิ สั ” ซง่ึ เขาทำ� ไดด้ กี วา่ เลก็ นอ้ ย อสรุ กายตวั ใหญม่ หมึ าของโฮ
การก์ ระเพอ่ื มอยบู่ นผวิ นำ้� มขี นาดแทบไมถ่ งึ หนงึ่ นว้ิ ของผวิ นำ�้ หลงั มลี กั ษณะ
คล้ายกบู ชา้ ง เหนอื ปากอันเต็มไปดว้ ยเขย้ี วยน่ื ยาวมีน้ำ� พวยพงุ่ ขน้ึ เปน็ ลำ� จน
อาจเข้าใจผิดว่าเป็นประตูน�้ำตรงทางเข้าของหอคอยแห่งลอนดอน ที่เปิดรับ
น้�ำจากแม่น�้ำเทมส์ นอกจากนี้ยังมีรูปวาฬยุคแรกๆ ของซิบบัลด์7 ซ่ึงเป็นผู้
เชย่ี วชาญชาวสกอ๊ ต และวาฬของโยนาหด์ งั วาดไวบ้ นภาพพมิ พข์ องพระคมั ภรี ์
โบราณ และภาพแกะสลักไม้ของแบบเรียนชั้นต้นสมัยก่อน จะเรียกส่ิงเหล่า

3  อิลเี ฟนตา้ -เกาะในอา่ วบุมไบ (บอมเบย์)
4  มัตสยาวตาร-อวตารเป็นปลา
5  กุยโด-ในทนี่ ค้ี ือกยุ โด (หรอื กวโี ด) เรนี (ค.ศ.1575-1642) ไม่ใช่ กุยโดแหง่ เซยี นา (ช่วงคริสตศ์ ตวรรษท่ี
13) ซึง่ เปน็ จิตรกรชาวอติ าเลยี นเช่นกนั
6  โฮการ์ท-วลิ เลยี ม โฮการท์ (ค.ศ.1697-1764) จิตรกรภาพเขยี นและภาพพิมพ์
7  ซบิ บัลด-์ โรเบิร์ต ซิบบัลด์ (ค.ศ.1641-1722) แพทย์และผู้ศกึ ษาโบราณวัตถชุ าวสก็อต

356 : โมบ-ี้ ดิก๊

น้ีว่าอะไรดีนะ? ส่วนภาพวาฬบนตราสัญลักษณ์ของโรงพิมพ์บุ๊คไบเดอร8์ ที่
เกาะเกี่ยวคดเคี้ยวเหมือนเถาต้นองุ่นพันรอบตอไม้หลักขึ้นไป และประทับ
หรือฉาบทองบนปกหลังและปกด้านในของหนังสือหลายเล่มท้ังเก่าและใหม่
นั่นเป็นภาพที่มีเสน่ห์สวยงาม แต่ดูเหลือเชื่อเกินจริง และแปลกปลอม ผม
ว่าสิ่งนี้มีรูปร่างคล้ายแจกันโบราณเสียมากกว่า แม้ท่ัวโลกจะเรียกมันว่าปลา
โลมา แต่ผมอยากเรียกปลาบนตราสัญลักษณ์โรงพิมพ์บุ๊คไบเดอร์น้ีว่าความ
พยายามที่จะเป็นวาฬ เพราะเหมือนมีความพยายามอย่างแรงกล้าที่จะให้
ภาพบนตราสญั ลกั ษณน์ เ้ี ปน็ ภาพของวาฬนบั แตค่ รง้ั แรกทเี่ ปดิ ตวั สสู่ าธารณะ
โดยสำ� นกั พมิ พอ์ ติ าเลยี นเกา่ แกแ่ หง่ หนง่ึ ในชว่ งศตวรรษที่ 15 ซง่ึ เปน็ ยคุ ฟน้ื ฟู
ศลิ ปวทิ ยาในทวปี ยโุ รป ชว่ งเวลานนั้ กระทง่ั ชว่ งเวลาหลงั จากนน้ั มาปลาโลมา
ถกู เขา้ ใจว่าเป็นชนิดหน่งึ ของสตั ว์ทะเลยกั ษน์ ี่

ในภาพ9เขียนเล็กๆ และส่วนแต่งเติมอ่ืนบนหนังสือโบราณบางเล่มคุณ
อาจได้เห็นส่ิงแปลกใหม่ท่ีเก่ียวกับวาฬ อาจเป็นลักษณะต่างๆ ของพวยน�้ำ
น้�ำพจุ รวด น�ำ้ พุร้อน และเยน็ ซาราโตก้า10 และบาเดนิ -บาเดิน11 ฟูฟอ่ งออก
มาจากมนั สมองทไี่ มเ่ หนอ่ื ยลา้ ของมนั ปกในของหนงั สอื “ความกา้ วหนา้ ของ
การเรยี นร”ู้ ฉบบั แรกคณุ จะได้เหน็ วาฬแปลกๆ บางชนิด

ทว่าการยุติความพยายามอย่างไร้ความช�ำนาญท้ังหมดนี้ ขอให้เราได้
ชำ� เลืองดภู าพสตั วท์ ะเลยกั ษท์ อี่ ้างว่าไมไ่ ด้วาดขึน้ มาจากจินตนาการ หากแต่
วาดตามจรงิ จากคำ� บอกเลา่ ของเหลา่ บรรดาผรู้ ู้ ภาพการเดนิ เรอื ในหนงั สอื ชดุ
ของแฮริส12 มีภาพวาฬจากหนังสือการเดินเรือฉบับภาษาดัตช์ พิมพ์ปี ค.ศ.

8  โรงพมิ พบ์ คุ๊ ไบเดอร์-โลโก้โรงพิมพข์ องอลั ดสุ มานูตีอสุ (ค.ศ. 1449-1515) ชาวอิตาเลียน
9 ความก้าวหนา้ ของการเรียนร-ู้ โดยฟราสซสิ เบคอน (ค.ศ. 1561-1626) นกั ปรัชญาชาวองั กฤษ
10  ซาราโตกา้ -นำ้� พุแรท่ มี่ ชี อื่ เสยี ง ในนวิ ยอร์ก
11  บาเดิน-บาเดนิ เมอื งในเยอรมนที ี่มีบอ่ น้�ำแร่ ชอื่ เมอื งแปลวา่ "อาบน้�ำ"
12 แฮริส-จอห์น แฮริส (ค.ศ. 1666-1719) นักเขียนชาวอังกฤษผู้เป็นบรรณาธิการหนังสือชุด "การล่อง
เรือและเดินทาง" ซึง่ รวบรวมเรอ่ื งเลา่ จากนกั ส�ำรวจทงั้ หลาย

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 357

1671 ชอื่ เรอ่ื ง “ลอ่ งเรอื ลา่ วาฬสสู่ ปติ สเ์ บอรเ์ กน13 ในเรอื โยนาหอ์ นิ เดอะเวล
ปีเตอร์ ปีเตอร์สันแห่งฟรีสลันด1์ 4เป็นกัปตัน” จ�ำนวนนั้นมีภาพวาดเต็มหน้า
ภาพหนง่ึ เปน็ รปู วาฬหลายตวั ดคู ลา้ ยทอ่ นซงุ หลายทอ่ นลอยแพอยทู่ า่ มกลาง
เกาะนำ้� แขง็ หมขี าวหลายตวั กำ� ลงั วงิ่ อยบู่ นแผน่ หลงั ของพวกมนั อกี ภาพหนงึ่
เปน็ ภาพวาฬตวั ใหญ่เทอะทะตัวหน่ึงมีปลายหางตง้ั ตรง

นอกจากนย้ี ังมหี นงั สอื ขนาดสี่หน้ายก เขยี นโดยกปั ตันคอลเนตต์ กัปตนั
เรอื รบแหง่ กองทพั องั กฤษ ชอ่ื เรอื่ ง “การเดนิ เรอื จากแหลมเคปฮอรน์ สทู่ ะเลใต้
เพือ่ ขยายพื้นทีป่ ระมงลา่ วาฬหัวทยุ ” หนังสือเลม่ น้ีมภี าพท่ีอ้างวา่ เปน็ “ภาพ
วาฬหัวทุยวงศ์ไฟเซเตอร์ หรือวงศ์สเปอร์มาเซติวาดโดยวัดขนาดจากตัวท่ี
ถูกฆ่า และถูกชักรอกข้ึนดาดฟ้าเรือ บริเวณชายฝั่งแม็กซิโก เดือนสิงหาคม
ปีค.ศ.1793” ผมไมส่ งสยั เลยท่กี ัปตันนำ� เอาภาพจรงิ นม้ี าสร้างคณุ ประโยชน์
ให้กับเรอื เดินทะเลของเขา มตี เิ พยี งอยา่ งเดยี วเทา่ นั้นนั่นคอื สว่ นตาวาดตาม
สดั สว่ นขนาดลำ� ตวั สำ� หรบั วาฬหวั ทยุ โตเตม็ วยั ควรวาดใหต้ ามลี กั ษณะเหมอื น
หน้าตา่ งกระจกบานโคง้ ขนาดสกั ห้าฟุตได้ อา้ ...ท่านกัปตนั ผกู้ ลา้ เหตใุ ดทา่ น
จึงไม่ให้เราไดเ้ ห็นโยนาหม์ องออกมาจากดวงตานัน้ !

แม้กระทั่งหนังสือธรรมชาติวิทยาท่ีมีการรวบรวมข้อมูลอย่างละเอียด
รอบคอบ เพ่ือให้เปน็ คณุ ประโยชนส์ ำ� หรับเด็กเล็กเด็กนอ้ ย เนอ้ื หาปราศจาก
ข้อผิดพลาดที่น่าเกลียด เมื่อพิจารณาผลงานที่ได้รับการยอมรับ“สีสัน
ธรรมชาตขิ องโกลดส์ มทิ ” ฉบบั ยอ่ ตพี มิ พใ์ นลอนดอน ค.ศ.1807 เลม่ นมี้ หี นา้
ทอี่ า้ งวา่ เปน็ ภาพของ “วาฬ” และ “วาฬนารว์ าล” ผมไมไ่ ดต้ ง้ั ใจไรม้ ารยาท แต่
วาฬพวกนัน้ ไมน่ ่าดูเอาเสียเลย มนั คลา้ ยหมูตัวเมยี ขาขาดมากกว่า ส่วนวาฬ
นาร์วาลแค่มองแวบเดียวก็รู้สึกท่ึงแล้ว ในศตวรรษที่สิบเก้าน้ีสัตว์ประหลาด

13  สปติ สเ์ บอรเ์ กน-เกาะใหญท่ ส่ี ดุ และเปน็ เกาะเดยี วทมี่ คี นอาศยั อยใู่ นหมเู่ กาะสฟาลบาร์ ประเทศนอรเ์ วย์
เกาะนี้เป็นท่ีรู้จักกันดีในหมู่พวกไวกิง แต่ได้รับการค้นพบในสมัยใหม่โดยวิลเลิม บาเรินตส์ นักเดินเรือ
ชาวดัตช์ ใน ค.ศ. 1596
14  ฟรสี ลนั ด์-หรอื ฟริสลอน จังหวดั ทางตอนเหนอื ของดัตช์ (เนเธอร์แลนด)์

358 : โมบ-้ี ด๊ิก

อย่างฮิปโปกริฟฟ์15นั่นน่าจะถูกน�ำของแท้มามอบใส่มือให้เป็นรางวัลแก่เด็ก
นักเรียนชายท่ีมไี หวพริบกนั แล้ว

และในปี ค.ศ.1825 แบร์นาร์ด แชร์แมง ท่านเคาน์แห่งลาซิเปด
นักธรรมชาติวิทยาช่ือดังชาวฝรั่งเศส ได้พิมพ์หนังสือรวบรวมสายพันธุ์วาฬ
ภายในเล่มมีภาพวาฬหลากหลายสายพันธุ์จ�ำนวนมาก ทั้งหมดน้ีไม่เพียงไม่
ถูกต้อง ภาพมิสทิเซทัส หรือวาฬกรีนแลนด์ (ท่ีบอกว่าเป็นวาฬไรท์) ยังถูก
คนท่ีมีประสบการณ์มานานอย่างสกอร์สบ้ีประกาศล่ันหลังได้เห็นภาพนั้นว่า
ขออยา่ ให้มีสัตว์ท่เี หมือนกันแบบนน้ั ในธรรมชาตจิ รงิ ๆ เลย

ทวา่ ฟางกองบนสดุ ของธรุ กจิ แหง่ ความผดิ พลาดนถี้ กู สงวนไวใ้ หก้ บั เฟรเด
รีก กูวีเยร์16 นักวิทยาศาสตร์ผู้น้องของบารอนคนดัง ในปี 1836 เขาพิมพ์
หนังสือธรรมชาติของวาฬ ภายในเล่มมีภาพประกอบท่ีเขาเรียกว่าเป็นภาพ
ของวาฬหัวทุย ก่อนแสดงภาพน้ันให้ชาวแนนทักเก็ตได้เห็น คุณเองก็เคย
ได้เห็นภาพน้ันแล้วคร่าวๆ ที่แนนทักเก็ต พูดง่ายๆ วาฬหัวทุยของเฟรเด
รีก กูวีเยร์ไม่ใช่วาฬหัวทุย แต่เป็นพืชจ�ำพวกแตงหรือน้�ำเต้า แน่ล่ะ เขาไม่มี
ผลประโยชน์อะไรเกี่ยวกับการเดินเรือล่าวาฬ (คนพวกนี้ไม่ค่อยมี) ถ้าอย่าง
นนั้ เขาไปไดภ้ าพนั้นมาจากไหน ใครบอกไดบ้ า้ ง? บางทเี ขาอาจได้มาจากนกั
วทิ ยาศาสตรร์ นุ่ พช่ี าวฝรงั่ เศสทอี่ ยใู่ นวงการเดยี วกนั ...เดอสม์ าแรสต1์ 7 ไดภ้ าพ
ทไ่ี มส่ มบรู ณม์ าจากแหลง่ ขอ้ มลู ทแี่ ทจ้ รงิ นน่ั คอื จากภาพวาดของชาวจนี และ
เปน็ ภาพประเภททเ่ี ดก็ หนมุ่ ชาวจนี ใชด้ นิ สอวาด เพราะหลกั ฐานจากภาพวาด
บนถ้วย และจานรองแปลกๆ น้ันฟ้องพวกเรา ส่วนวาฬบนภาพลายเส้นที่
เห็นแขวนบนถนนหน้าร้านขายน�้ำมันน่ัน บอกอะไรเก่ียวกับพวกมันได้บ้าง?
พวกมนั เหมอื นวาฬสมยั พระเจา้ รชิ ารด์ ทส่ี าม แตล่ ะตวั มโี หนกเดยี่ ว18บนหลงั
แสนดรุ า้ ย และสวาปามลกู เรอื สามหรอื สค่ี นเปน็ พายมอื้ เชา้ จากเรอื ลา่ วาฬที่

15  ฮปิ โปกรฟิ ฟ-์ สัตวใ์ นต�ำนาน ครงึ่ มา้ ครึ่งเหยยี่ ว
16  เฟรเดรกี กูวีเยร์-นอ้ งชายของจอร์จ กวู ีเย นักธรรมชาติวิทยาและสัตววทิ ยาชาวฝรั่งเศส
17  อลั แซลม์ เดอส์มาแรสต์ (1784-1838) นักสตั ววิทยาชาวฝรงั่ เศส
18  โหนกเด่ียว-อูฐพันธุ์ที่มีโหนกเดยี ว

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 359

มลี กู เรืออยูเ่ ตม็ ลกู เรือรา่ งพิการตะเกยี กตะกายอย่ใู นทะเลทา่ มกลางสีเลอื ด
และสคี รามของนำ้� ทะเล ทวา่ ความผดิ พลาดนานาในการวาดภาพวาฬกไ็ มใ่ ช่
เรื่องแปลกอะไรเลย ลองคดิ ดู! ภาพสว่ นใหญว่ าดจากวาฬทข่ี ึ้นมาเกยฝง่ั ซง่ึ
ภาพเหล่าน้ีเกือบมีความถูกต้องพอๆ กับภาพวาดเรือแตกท�ำลายอับปางลง
ทำ� ใหส้ ามารถนำ� เสนอภาพสตั วท์ มี่ ชี อ่ื นไี้ ดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งจากจดุ ทด่ี ที ส่ี ดุ บนตวั
เรอื และเครอ่ื งเสาทไ่ี มไ่ ดถ้ กู ฟาดแตก แมเ้ หลา่ คชสารอาจอยใู่ นทา่ ยนื บนภาพ
เตม็ ตัวของมัน แต่สตั ว์ทะเลขนาดใหญ่พวกนแ้ี ทบไม่เคยลอยตัวขนึ้ มาใหร้ ่าง
ภาพมนั ขณะเปน็ ๆไดเ้ ลย วาฬทมี่ ชี วี ติ อยอู่ ยา่ งมคี วามหมาย และทรงอำ� นาจ
จะปรากฏตวั ใหเ้ หน็ แตเ่ ฉพาะในทะเลทย่ี ากหยง่ั ถงึ และจะลอยตวั ขนาดมหมึ า
ของมนั เมอื่ ลบั สายตาคน เหมอื นเรอื รบเตรยี มประจนั บาน จงึ เปน็ สงิ่ ทมี่ นษุ ย์
ไมม่ วี นั จะยกตวั มนั ขนึ้ มาดองความใหญโ่ ตเปน็ ลกู คลน่ื ของมนั ได้ และไมต่ อ้ ง
พดู ถงึ ความเปน็ ไปไดส้ งู ทล่ี กู วาฬไมห่ ยา่ นมจะมรี ปู รา่ งแตกตา่ งจากสตั วท์ ะเล
ยักษ์กลุ่มพลาโตเนียนขนาดโตเต็มวัย อีกท้ังเม่ือคร้ังมีการน�ำเอาลูกวาฬไม่
หยา่ นมตวั หนง่ึ ขน้ึ มาบนดาดฟา้ เรอื รปู รา่ งของมนั ประหลาดเหมอื นปลาไหล
ยืดหยนุ่ และเปลย่ี นแปลง นัน่ จงึ เป็นเหมือนถ้อยคำ� ชดั เจนของมนั ท่ีบอกใหร้ ู้
วา่ ปีศาจอยา่ งมันยากจะเอาอยู่

ทว่าเป็นไปได้หรือไม่ ภาพเหล่าน้ันจินตนาการขึ้นมาจากโครงกระดูก
เปลา่ เปลอื ยของวาฬเกยตนื้ ซง่ึ สดั สว่ นของมนั อาจชว่ ยใหส้ ามารถเทยี บขนาด
ได้ใกล้เคยี งกบั รปู ร่างแท้จริง ไม่อย่างแน่นอน.. นน่ั เพราะหนง่ึ ในบรรดาเรอ่ื ง
ท่ีน่าสนใจของสัตว์ทะเลยักษ์ชนิดนี้ก็คือ โครงกระดูกของมันแทบไม่ได้บอก
อะไรเก่ียวกับรูปร่างของมันเลย แม้โครงกระดูกของเจอเรม่ี เบนทัม19ที่ใช้
แขวนโคมระย้าในห้องสมุดของผู้จัดการมรดกเขา ก็ส่ือเสนอได้อย่างแม่นย�ำ
ถึงหลักคิดประโยชน์นิยม20ของสุภาพบุรุษอาวุโสผู้มีรูปร่างใหญ่ก�ำย�ำท่านี้

19  เจอเรมี่ เบนทมั -(ค.ศ. 1748-1832) นกั กฎหมายและนักปรชั ญาชาวอังกฤษ เขาทำ� พนิ ัยกรรมให้เก็บ
รักษาศพเขาไวเ้ พ่อื ประโยชน์ในการศึกษา ปัจจบุ ันต้ังอยู่ท่ีมหาวิทยาลัยลอนดอน
20  ประโยชน์นิยม-หลักปรัชญาของเบนทัมมีว่า คุณค่าของการกระทำ� ใดๆ ขึ้นต้องอยู่กับว่า ส่งผลให้เกิด
ความสุขแกผ่ ู้คนมากนอ้ ยเพยี งใด

360 : โมบ้ี-ดิก๊

และยังท�ำให้สามารถร่างลักษณะกายภาพส่วนอื่นๆ ของเจอเรม่ีได้ทั้งหมด
แตส่ ำ� หรบั ปลอ้ งกระดกู ของวาฬไมไ่ ดช้ ว่ ยใหค้ าดการณอ์ ะไรไดเ้ ลย ความจรงิ
เป็นดังเช่นท่านฮันเตอร์21ได้กล่าวไว้ ว่าโครงกระดูกวาฬเพียงแค่บอกว่ามัน
เปน็ สตั ว์ท่ีสร้างช้ันเนื้อหนาน่มุ ห่อห้มุ กระดกู ไว้ เหมอื นแมลงสร้างใยไหมพัน
รอบตวั เปน็ ดกั แด้ ลกั ษณะเฉพาะนถี้ กู เผยออกมาอยา่ งนา่ ทงึ่ ในสว่ นหวั ของมนั
ดังจะได้กล่าวถึงในบางส่วนของหนังสือเล่มนี้เมื่อโอกาสอ�ำนวย นอกจากน้ี
ครบี ด้านข้างของมันกเ็ ป็นอกี ส่วนท่มี ีความน่าสนใจยง่ิ กระดกู ครีบมลี ักษณะ
เกอื บใกลเ้ คยี งกบั กระดกู มอื มนษุ ย์ ขาดไปกแ็ ตเ่ พยี งแคน่ ว้ิ โปง้ เทา่ นนั้ กลา่ วคอื
มนั มลี กั ษณะคล้ายกระดกู น้ิวสน่ี ้ิว น้วิ ชี้ นวิ้ กลาง นิ้วนาง และน้ิวกอ้ ย โดยนว้ิ
ทง้ั หมดนฝ้ี งั อยใู่ นก้อนเนอ้ื หนาท่มี นั สรา้ งข้นึ มาห่อหมุ้ ไว้ ขณะมนุษย์สวมมือ
ในเครอื่ งหอ่ หมุ้ ทปี่ ระดษิ ฐข์ น้ึ “แตว่ าฬคงไมร่ หู้ รอกวา่ มนั สรา้ งกอ้ นเนอ้ื หนาขนึ้
มาเพอ่ื พวกเรา” สตับบพ์ ดู ติดตลกในวันหนึ่ง “มันคงไมร่ หู้ รอกว่าตอ้ งจัดการ
พวกเราโดยไม่มีถงุ มอื นน้ั ”

จากเหตุผลทั้งหมดท้ังมวลนี้ เมื่อคุณได้รับรู้แล้ว คุณย่อมสรุปได้ว่าสัตว์
ทะเลยกั ษ์น้ีเป็นสัตวช์ นิดหน่ึงบนโลกที่ไมม่ ีทางจะวาดใหส้ มบรู ณ์ได้ แน่นอน
วา่ คนๆ หนง่ึ อาจวาดใหร้ ายละเอยี ดไดใ้ กลเ้ คยี งกบั อกี คน แตไ่ มม่ ใี ครสามารถ
เก็บรายละเอียดได้อย่างถูกต้องแม่นย�ำ จึงไม่มีทางที่มนุษย์จะศึกษาได้ว่า
จรงิ ๆ แล้ววาฬมรี ูปร่างหนา้ ตาเปน็ อยา่ งไรกันแน่ วิธีเดยี วทีค่ ุณจะได้เห็นรปู
รา่ งของวาฬตวั เปน็ ๆ คอื คณุ จะตอ้ งออกลา่ มนั ดว้ ยตวั คณุ เอง แตถ่ า้ ทำ� เชน่ นน้ั
คณุ ตอ้ งเสย่ี งไมใ่ ชน่ อ้ ยตอ่ อนั ตรายจากเรอื แตก และจมทะเลไปเพราะฝมี อื มนั
เมื่อเป็นเช่นน้ีแล้วผมคิดว่าคุณอย่าจู้จี้อยากรู้อยากเห็นในตัวสัตว์ทะเลยักษ์
ชนดิ น้ีมากนักจะดกี วา่



21  ท่านฮันเตอร์-จอหน์ ฮนั เตอร์ (ค.ศ. 1728-1793) นักกายวิภาคศาสตรช์ าวสกอ็ ต

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 361

บทที่ 56

ภาพวาฬทผี่ ิดพลาดนอ้ ยสุด และภาพการล่าวาฬทถ่ี ูกต้อง

ตอ่ เนอื่ งจากเรอื่ งราวเกย่ี วกบั ภาพผดิ ธรรมชาตขิ องวาฬ ผมใครข่ อเรมิ่ จากตรง
นไ้ี ปสเู่ รอ่ื งราวนา่ ขนลกุ ซง่ึ จะเหน็ ไดจ้ ากหนงั สอื ทมี่ เี นอื้ หานา่ เชอ่ื ถอื หลายเลม่
ทง้ั เกา่ แก่ และทนั สมยั โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ หนงั สอื ของพลนิ 1ี เพอรค์ สั 2, ฮกั ไลต3์ ,
แฮร์รสิ 4, กวู ีเยร์ และอ่ืนๆ แต่ผมขอขา้ มเรอื่ งพวกน้ันไป

ผมสนใจแค่ภาพในหนังสือเก่ียวกับวาฬหัวทุยดีๆ แค่ส่ีเล่มเท่าน้ัน
น่ันคือหนังสือของคอลเนต็ ต์5, ฮักกนิ ส์6, เฟรเดอรคิ กวู ิเยร์ และบีล โดยใน
บทถัดไปจะได้กล่าวถึงหนังสือของคอลเนตต์ และกูวีเยร์ หนังสือของฮักกิน
ส์ดีกว่าของพวกเขาสองคน แต่ท้ังหมดท้ังมวลแล้วหนังสือของบีลเยี่ยมท่ีสุด
ภาพวาฬของบลี ในทง้ั หมดเปน็ ภาพทม่ี คี วามถกู ตอ้ ง ยกเวน้ ตวั กลางของภาพ
วาฬสามตัวท่วงท่าต่างๆ กันในบทท่ีสองของเขา ภาพตรงข้ามหน้าบอกช่ือ
หนังสือเป็นภาพเรือเชือดก�ำลังโจมตีวาฬหัวทุย แม้คาดการณ์ได้ว่าจะเป็น
เหตุให้เกิดการวิพากษ์อย่างหนักจากบรรดานักวิจารณ์ท่ีดีแต่นั่งพูด แต่ภาพ
นั้นก็มีความถูกต้องอย่างน่าชื่นชม และเหมือนจริงอย่างที่ควรจะเป็น ภาพ

1  พลนิ ี (ผู้อาวุโส)-กาเอยี ส พลินิอัส เซคนั ดัส (ค.ศ. 23-79) นกั ธรรมชาติวทิ ยาชาวโรมนั
2  เพอรค์ ัส-แซมมวล เพอรค์ ัส (ค.ศ. 1575-1626) นักเขยี นเรื่องเดินทางชาวองั กฤษ
3  ฮักไลต-์ รชิ าร์ด ฮกั ไลต์ (ค.ศ. 1552-1626) นกั เขยี นชาวอังกฤษ
4  แฮรร์ ิส-จอหน์ แฮร์รสิ (ค.ศ. 1666-1719) นกั เขียนชาวอังกฤษ
5  คอลเน็ตต์-เจมส์ คอลเนต็ ต์ (ค.ศ. 1753-1806) กัปตันเรอื ราชนาวแี ละนักสำ� รวจชาวองั กฤษ
6  ฮักกินส-์ วิลเลียม จอหน์ ฮกั กินส์ (ค.ศ. 1781-1845) จติ รกรชาวอังกฤษ

362 : โมบ้ี-ดกิ๊

วาฬหวั ทยุ บางภาพในหนงั สอื ของเจ. รอสส์ บราวน7์ คอ่ นขา้ งมรี ปู รา่ งทถ่ี กู ตอ้ ง
แต่เพราะภาพเหล่านั้นถูกแกะสลักแม่พิมพ์ไว้แย่มากภาพจึงออกมาไม่ดีซ่ึง
น่ันไมใ่ ช่ความผิดของเขา

ส่วนภาพร่างของวาฬไรต์นั้น ภาพที่ดีที่สุดมีอยู่ในหนังสือของกัปตัน
สกอร์สบี้ แต่ภาพเหล่าน้ันวาดไว้ในขนาดท่ีเล็กเกินกว่าจะสร้างความรู้สึก
ประทับใจอันนา่ พึงพอใจได้ เขามีเพยี งภาพเดยี วท่ีเปน็ ภาพเหตุการณ์การล่า
วาฬ นา่ เสยี ดายวา่ เพยี งแคภ่ าพเดยี วนนั้ ไมเ่ พยี งพอ เพราะหากมภี าพมากกวา่
นนั้ คณุ จะไดเ้ หน็ รายละเอยี ดทกุ อยา่ งทถี่ กู ตอ้ งเกย่ี วกบั วาฬขณะมชี วี ติ ราวกบั
ได้เห็นภาพภาพน้ันผา่ นสายตาของนักล่าพวกมัน

แต่เม่ือพิจารณาภาพโดยรวมท้ังหมดแล้ว แม้แต่ภาพท่ีดีท่ีสุดก็ยังให้ราย
ละเอยี ดทไี่ มถ่ กู ตอ้ งเสยี ทเี ดยี วนกั ในจำ� นวนภาพวาฬและภาพการลา่ วาฬทมี่ ี
อยดู่ าษดน่ื ทว่ั ไปนนั้ มภี าพพมิ พแ์ กะสลกั ขนาดใหญส่ องภาพของชาวฝรงั่ เศส
คนหน่ึงท�ำออกมาได้ดีเยี่ยม เป็นภาพท่ีได้มาจากหนังสือของการ์เนอร8ี ทั้ง
สองภาพเป็นการถ่ายทอดเหตุการณ์การโจมตีวาฬหัวทุย และวาฬไรต์โดย
ตามล�ำดับ ภาพแรกวาฬหัวทุยสง่างามตัวหนึ่งถูกถ่ายทอดออกมาอย่างทรง
พลัง เป็นภาพขณะมันโผล่ขึ้นมาจากใต้มหาสมุทรดันเอาเรือเชือดวาฬยก
ตัวลอยข้ึนสูงกลางอากาศ เรือเชือดบนแผ่นหลังของมันน้ันแตกอับปางลง
เป็นเศษไม้ หัวเรือบางส่วนยังไม่แตกและถูกวาดให้พยุงตัวอยู่บนกระดูกสัน
หลังอสุรกาย การยืนอยู่บนหัวเรือน้ันท�ำได้เพียงชั่วอึดใจเท่านั้น คุณจะเห็น
ฝพี ายคนหนึง่ แทบถกู บดบงั อยใู่ นม่านพวยน�้ำเดือดของวาฬ ในทา่ ขณะกำ� ลัง
กระโดดนน้ั ราวกบั เขาก�ำลังโดดจากหน้าผา ภาพเหตกุ ารณท์ ้ังหมดถ่ายทอด
ออกมาได้ดีเย่ียมและสมจริง ถังท่ีเกือบจะว่างเปล่าลอยบนผิวนำ�้ ทะเลสีขาว
ด้ามไม้ฉมวกผลุบโผล่กระจายอยู่รอบบริเวณ หัวของลูกเรือท่ีก�ำลังว่ายน�้ำ
กระจัดกระจายอยู่รอบตัววาฬท�ำให้เห็นภาพอาการตกใจท่ีแตกต่างกันอย่าง
สน้ิ เชงิ ขณะพายสุ ดี ำ� แลน่ รม่ี าทางเบอ้ื งหลงั เรอื ใหญ่ ภาพนอ้ี าจมรี ายละเอยี ด

7  เจ. รอสส์ บราวน-์ จอหน์ รอสส์ บราวน์ (ค.ศ. 1821-1875) จติ รกร นกั เขยี น และนกั เดนิ ทางชาวอเมรกิ นั
8  การเ์ นร์ร-ี อมั บรวั ส์ หลุยส์ การ์เนรี (ค.ศ. 1783-1857) จิตรกรและนักเขียนชาวฝรัง่ เศส

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 363

ทางโครงสรา้ งของวาฬผดิ พลาดอยา่ งรา้ ยแรง แตช่ า่ งมนั เถอะ เพราะชว่ั ชวี ติ น้ี
ผมคงไม่สามารถวาดออกมาไดด้ ขี นาดนน้ั

ในภาพท่สี อง เรืออย่ใู นลกั ษณะแล่นเคยี งข้างไปกบั วาฬไรต์ท่กี ำ� ลงั แหวก
วา่ ยอยใู่ นทะเล เมอ่ื มนั พลกิ ตวั ทเี่ ตม็ ไปดว้ ยวชั พชื สดี ำ� กองโตดคู ลา้ ยทางลาด
หนิ จากบนหนา้ ผาพาทาโกเนยี นตลอดทางเตม็ ไปดว้ ยตะไครน่ ำ�้ พวยนำ�้ ดำ� พงุ่
แรงคล้ายเขม่าด�ำจนดูเหมือนควันจ�ำนวนมากลอยออกมาจากปล่องไฟ คุณ
อาจนึกว่าคงก�ำลังมีการปรุงอาหารชั้นเลิศอยู่ภายในล�ำไส้ขนาดใหญ่นั้น นก
ทะเลก�ำลังจิกกินปูตัวเล็กๆ หอย สัตว์น้�ำสีสันต่างๆ และคราบดินเลนตาม
แหที่ในบางครัง้ วาฬไรต์ใชก้ ำ� จัดสิ่งน่าร�ำคาญบนหลังของมนั ชั่วเวลานั้นสตั ว์
ทะเลยกั ษร์ มิ ฝปี ากหนากำ� ลงั ดำ� ดง่ิ ลงทะเลลกึ ทง้ิ รอ่ งรอยไวเ้ ปน็ นำ�้ นมขาวขน้
หลายตัน เป็นเหตุให้เรือล�ำน้อยแกว่งไกวอยู่ในก้อนคล่ืนขนาดใหญ่ ดูคล้าย
เรือกรรเชียงเล็กๆ ก�ำลังถูกดูดเข้าใกล้ใบจักรเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ ด้วย
เหตุนี้แม้ส่วนหน้าของภาพอยู่ในความชุลมุนวุ่นวายสับสน หากแต่ส่วนหลัง
ให้อารมณ์ตัดกันอย่างน่าชื่นชม เป็นบรรยากาศความสงบนิ่งของท้องทะเล
ใบเรอื ของเรอื ไรแ้ รงลมดนั แฟบลง รา่ งไมไ่ หวตงิ ของวาฬทต่ี ายแลว้ กลายเปน็
ปอ้ มปราการสำ� หรบั ประกาศชัย ธงแสดงสิ่งท่ียึดมาได้ชกั ห้อยเออ่ื ยๆ อยบู่ น
ยอดเสาทีส่ อดไว้ในช่องพวยนำ�้ ของวาฬ

จิตกรการ์เนร์รีเป็นใครหรือเคยเป็นใคร ผมเองก็ไม่รู้ รู้แต่เพียงว่าถ้าเขา
ไม่มีความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาที่ตัวเองศึกษา ก็ต้องได้รับการอบรมบ่ม
เพาะมาอย่างดีจากนักล่าวาฬท่ีมีประสบการณ์ ชาวฝรั่งเศสผู้น้ีเป็นคนหนุ่ม
ท่ีชื่นชอบการวาดภาพ เขาเดินทางไปศึกษาภาพวาดต่างๆทั่วทั้งยุโรป คุณ
จะหาห้องแสดงภาพแห่งใดจัดแสดงภาพความวุ่นวายของสิ่งมีชีวิต ขณะยัง
มชี วี ติ บนผนื ผา้ ใบไดด้ งั เชน่ หอแสดงความยนิ ดใี นชยั ชนะทพ่ี ระราชวงั แวรซ์ าย
ทที่ ผ่ี มู้ มี านะจะบากบนั่ ไปถงึ ความโกลาหลวนุ่ วาย ผา่ นการสรู้ บทยี่ ดื ยาวของ
ฝร่ังเศส ที่ที่ดาบทุกเล่มสะท้อนแสงราวกับแสงเหนือ พระราชาและกษัตริย์

364 : โมบ-ี้ ด๊กิ

นักรบหลายพระองคท์ รงร่วมรบเหมือนเชน่ การโจมตขี องเซนทอร9์ ไม่มีภาพ
การสูร้ บในทอ้ งทะเลภาพใดของการ์เนรร์ ที ไี่ ม่คู่ควรจดั แสดงในห้องภาพน้ัน

ความถนัดแต่ก�ำเนิดของชาวฝร่ังเศสผู้น้ีในการมองความงดงามของสิ่ง
ต่างๆ ไดอ้ ย่างลึกซึง้ ดูเหมือนจะถกู ถา่ ยทอดออกมาใหป้ ระจักษ์ชดั จากราย
ละเอียดของภาพการล่าวาฬในภาพวาดและภาพพมิ พเ์ หล่าน้ัน ไม่ถึงหนงึ่ ใน
สบิ ของผมู้ ปี ระสบการณใ์ นวงการประมงประเทศองั กฤษ และไมถ่ งึ หนงึ่ ในพนั
ส่วนของผู้มีประสบการณ์ชาวอเมริกัน จะสามารถวาดภาพการล่าวาฬออก
มาได้เหมือนจริงราวกับมีชีวิต และถึงแม้ท้ังสองชาติจะวาดได้ก็เพียงแค่ร่าง
ออกมาจนเสรจ็ เปน็ ภาพไดเ้ ทา่ นนั้ โดยมากแลว้ ชา่ งเขยี นภาพวาฬชาวองั กฤษ
และอเมริกันแทบท้งั หมด ทำ� ไดเ้ พยี งแคร่ า่ งลายเส้นแข็งๆ ของส่ิงตา่ งๆ เช่น
โครงรา่ งทอื่ ๆ ของวาฬ ซง่ึ ไมไ่ ดม้ คี วามงดงามอะไรเลย คณุ ภาพพอๆ กบั รา่ ง
โครงรา่ งพรี ะมดิ แมส้ กอรส์ บี้ ผไู้ ดช้ อื่ วา่ เปน็ นกั ลา่ วาฬไรตท์ ม่ี ชี อ่ื เสยี ง ไดส้ รา้ ง
ความเพลิดเพลินใหก้ ับพวกเราด้วยภาพเต็มตวั ของวาฬกรนี แลนด์ และภาพ
ย่อส่วนของวาฬนาร์วาล และปลาโลมาสามหรือส่ีภาพ รวมท้ังชุดภาพพิมพ์
แบบด้ังเดิม ทั้งไม้ค้�ำถ่อ, มีดสับ10 และขอเกี่ยว11 ทว่าภาพเหล่านั้นเปรียบ
ได้กับความพยายามงมเข็มในมหาสมุทรของลูเวนฮัค12 ท่ีแสดงภาพขยาย
ดว้ ยกล้องจลุ ทรรศน์ของผลกึ หมิ ะขวั้ โลกเหนือในเอกสาร 96 แผ่น ผมไม่ได้
คิดจะดูหม่ินนักเดินทางผู้มีคุณงามความดีท่านนี้ (ผมนับถือเขาในฐานะผู้มี
ประสบการณ)์ ทวา่ ประเดน็ สำ� คญั กค็ อื มกี ารมองขา้ มบางอยา่ งไปแนน่ อน นนั่
คอื ไมไ่ ดม้ กี ารจดั หาคำ� ใหก้ ารเปน็ ลายลกั ษณอ์ กั ษรสำ� หรบั ผลกึ ทกุ ชน้ิ ทน่ี ำ� ขน้ึ
เสนอเบ้อื งหน้าผูพ้ ิพากษาแห่งกรีนแลนด์

นอกจากภาพพิมพ์แกะสลักงามวิจิตรของการ์เนร์รีแล้ว ยังมีภาพพิมพ์

9  เซนทอร-์ สัตว์ในต�ำนาน ครง่ึ คนครึง่ ม้า
10  มดี สบั -ในที่นห้ี มายถงึ มดี ทม่ี ดี ้ามจับอยดู่ ้านหลงั (สันมีด)
11  ขอเกย่ี ว-หรอื สมอเรือขนาดเล็ก
12  ลูเวนฮัค-อันโทนี ลูเวนฮัค (ค.ศ. 1632-1723) นักวิทยาศาสตร์ชาวดัตช์ ท่ีถือเป็นบิดาแห่งวิชาจุล
ชวี วทิ ยา เขาไมไ่ ดเ้ ขยี นหนงั สอื ใดๆ ขน้ึ เขยี นแตจ่ ดหมายการคน้ พบของเขาไปยงั ราชสมาคมแหง่ ลอนดอน
(สมาคมนักปราชญ์แห่งวทิ ยาศาสตร)์ ซึ่งไดต้ ืพมิ พเ์ ผยแพร่จดหมายของเขา

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 365

อีกสองภาพของชาวฝร่ังเศสอีกท่านหนึ่งท่ีมีคุณค่าคู่ควรกับการบันทึกไว้ ทั้ง
สองภาพน้นั เขยี นโดยผทู้ เ่ี รียกตัวเองว่า “เอช. ดรู องด”์ 13 ภาพหน่งึ แม้ไมต่ รง
วัตถุประสงค์ของเราเสียทีเดียวนัก แต่ก็สมควรกล่าวถึงในคุณประโยชน์อ่ืน
มันเป็นภาพเหตุการณ์ตอนเที่ยงวันอันเงียบสงบ ท่ามกลางเกาะน้อยใหญ่
ในมหาสมุทรแปซิฟิก นักล่าวาฬชาวฝร่ังเศสคนหน่ึงทอดสมอจอดเทียบฝั่ง
ในความสงบเงียบเขาก�ำลังดื่มน�้ำอยู่อย่างสบายบนเรือ ใบเรือถูกผ่อนลง มี
ใบยาวของต้นปาล์มเป็นฉากหลังทั้งหมดอ่อนแรงอยู่ในสายลมเอ่ือย ภาพ
นั้นให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อพิจารณาลายเส้นที่ถ่ายทอดภาพชาวประมง
ร่างกายก�ำย�ำพักผ่อนอยู่ในอิริยาบถต่างๆ ส่วนอีกภาพเป็นเร่ืองที่แตกต่าง
กันมากทีเดียว เป็นภาพของเรือหลักหยุดอยู่กลางทะเลกว้าง ในใจกลางวิถี
ของสัตว์ทะลยักษ์ซ่ึงมีวาฬไรต์อยู่ข้างๆ เรือยกตัวข้ึนสูงเหนือเจ้าอสุรกาย
ราวกับข้ึนจอดเทียบท่า (ในลักษณะเฉกเช่นก�ำลังช�ำแหละไขวาฬ) ขณะเรือ
เชือดวาฬเร่งรุดออกห่างจากเหตุการณ์น้ี ต่างก�ำลังไล่ล่าวาฬตัวอ่ืนๆ ที่อยู่
หา่ งออกไป ฉมวก และหลาววางเตรียมไวส้ �ำหรบั ใช้งาน ฝีพายสามคนกำ� ลัง
ตั้งเสากระโดงเรอื เข้าชอ่ งเสียบ จงั หวะนนั้ คล่นื ทะเลซัดกระหนำ�่ ทำ� ให้เรือลำ�
เลก็ แทบตง้ั ลำ� ขนึ้ จากผนื นำ�้ เหมอื นเชน่ มา้ หนมุ่ ยกขาหนา้ ชขู น้ึ ไอนำ�้ จากวาฬ
ทก่ี ำ� ลงั ดน้ิ รนดว้ ยความเจบ็ ปวดทรมานพวยพงุ่ ดง่ั ไอหมอกจากหมบู่ า้ นชา่ งตี
เหลก็ และลอยไปตามลม กอ้ นเมฆสดี ำ� ต้ังเค้าพายฝุ นเหมือนเร่งเรา้ กิจกรรม
อนั นา่ ตืน่ เต้นของเหล่าชาวทะเล

13  ฌอ็ ง อ็องรี ดรู องด์ (ค.ศ. 1814-1879) จติ รกรชาวฝรงั่ เศส

366 : โมบ้-ี ดก๊ิ

บทที่ 57

ภาพวาฬในรปู วาด, เขยี้ ว, ไม,้ เหล็กแผ่น, หนิ , ภูเขา และดวงดาว

จากเนินหอคอย1 เมื่อคุณลงไปถึงท่าเรือลอนดอน คุณจะได้เห็นขอทานขา
ขาด (หรือที่ลูกเรือเรียกกันว่าเคจเกอร์) ถือแผ่นภาพวางตรงหน้า เป็นภาพ
เหตุการณ์น่าเศร้าที่ท�ำให้เขาต้องเสียขาไป วาฬสามตัว และเรือเล็กสามล�ำ
หน่ึงในนั้น (สมมติว่ามีขาท่ีขาดหายไปอยู่ในต้นร่างฉบับสมบูรณ์น้ัน) ก�ำลัง
ถูกบดขย้ีอยู่ในกรามกรรไกรของวาฬตัวแรกสุด พวกเขาบอกกับผมว่าชายผู้
น้ันถือภาพน้ันมาร่วมสิบปีแล้ว และจัดแสดงขาด้วนของเขาให้ประจักษ์แก่
สายตาโลกที่กังขา ทว่าเวลาแห่งการพิสูจนความบริสุทธ์ิของเขามาถึงแล้ว
วาฬสามตัวของเขาเป็นวาฬท่ีมีค่าพอจะป่าวประกาศให้ผู้คนใกล้ท่าเรือใน
ลอนดอนได้ประจักษ์ ขาด้วนของเขาจะไม่เป็นท่ีกังขาเหมือนดังเช่นขาด้วน
ที่คุณจะได้พบในหมู่อเมริกันชนผู้จากบ้านทางตะวันตกมา ทว่าแม้ลุกขึ้นยืน
ด้วยขาด้วนนั้นได้ แต่ขาด้วนน้ันก็ไม่ได้ช่วยให้นักล่าวาฬผู้น่าสงสารท�ำอะไร
ไดน้ อกเสยี จากยนื ทำ� ตาละหอ้ ยครำ�่ ครวญครนุ่ คดิ ถงึ เหตกุ ารณท์ สี่ ญู เสยี ขาไป

ทุกหนทุกแห่งในมหาสมุทรแปซิฟิก รวมท้ังในแนนทักเก็ต นิวเบดฟอร์ด
และแซกฮารเ์ บอร์ คณุ จะไดพ้ รงึ เพรดิ ไปกบั ภาพรา่ งวาฬ และภาพการลา่ วาฬ
ทชี่ าวประมงเปน็ ผแู้ กะสลกั ดว้ ยตวั เองบนเขย้ี วของวาฬหวั ทยุ หรอื บนโครงเสอื้
รัดรูปสตรีที่ท�ำข้ึนจากกระดูกวาฬไรต์ และส่ิงของอื่นๆ ท่ีคล้ายกับสคริมซอ
ช่ือที่นักล่าวาฬเหล่านี้ใช้เรียกงานประดิษฐ์สร้างสรรค์ชิ้นเล็กช้ินน้อยจ�ำนวน

1  เนินหอคอย-เนินทีห่ อคอยแห่งลอนดอนต้งั อยู่

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 367

มากท่ีพวกเขาแกะสลักข้ึนอย่างประณีตจากวัตถุหยาบกระด้างในช่ัวโมงว่าง
ขณะลอยเรอื กลางมหาสมทุ ร บางคนถงึ ขนาดมกี ลอ่ งเครอ่ื งมอื คลา้ ยกบั เครอ่ื ง
มอื หมอฟนั โดยเฉพาะบรรดาผทู้ ต่ี งั้ ใจจะคา้ ขายชน้ิ งานแกะสลกั เขยี้ ววาฬ แต่
โดยส่วนใหญ่แล้วพวกเขาสร้างสรรค์ช้ินงานเหล่านั้นข้ึนด้วยมีดพับเล่มเดียว
มีดพับขนาดใหญ่นี้แทบจะเป็นเคร่ืองมือสารพัดนึกของเหล่าลูกเรือ พวกเขา
สามารถท�ำใหค้ ณุ พึงพอใจได้ด้วยวิถีแหง่ จินตนาการของชาวเรอื

การผลัดถิ่นฐานจากคริสตจักรและอารยธรรมมานาน ย่อมหนีไม่
พน้ ทม่ี นษุ ยเ์ ราจะกลบั คืนส่สู ภาพเดมิ ท่พี ระเจ้าทรงก�ำหนดไวแ้ ต่แรกเรมิ่ นัน่
คอื สง่ิ ทเี่ รยี กวา่ ความปา่ เถอื่ น นกั ลา่ วาฬตวั จรงิ ของคณุ เปน็ คนปา่ เถอ่ื นเสยี ยงิ่
กว่าชาวเผ่าอินเดียนแดง ผมเองก็เป็นคนป่าเถื่อนผู้ไม่ยอมสวามิภักดิ์แม้กับ
ราชาแหง่ คานบิ อล และพรอ้ มต่อตา้ นเขาตลอดเวลา

เน่ืองจาก...หนึ่งในคุณลักษณะเฉพาะของคนป่าคือการรับใช้คนใน
บ้านด้วยความอดทนอุตสาหะอย่างน่าอัศจรรย์ ไม้พลองสู้รบหรือด้ามหอก
ของชาวฮาวายสมยั ก่อนจงึ มศี กั ยภาพการใช้งานหลากหลาย และมีลวดลาย
แกะสลักประณีตถือเป็นของท่ีระลึกชิ้นเย่ียมจากความอุตสาหะของมนุษย์
พอๆ กับพจนานุกรมภาษาละติน เพียงเปลือกหอยแตกช้ินเล็ก หรือเขี้ยว
ฉลาม พวกเขาก็สามารถสลักลวดลายวิจิตรตระการตาบนเนื้อไม้ได้ส�ำเร็จ
และชิน้ งานน้นั ใช้งานได้คงทน และคงคณุ คา่ นานหลายปี

ชาวฮาวายป่าเถ่ือนเพียงไร ลูกเรือคนขาวก็ป่าเถ่ือนเพียงน้ัน ด้วย
ความอดทนอดกล้ันจนน่าทึ่งเหมือนกัน และด้วยเข้ียวฉลามอันเดียวเหมือน
กัน ซึง่ ใชแ้ ทนเปน็ มีดพับ เขาสามารถแกะสลักกระดกู ชน้ิ เล็กๆ ให้กับคุณ แม้
ฝีมอื ไมด่ เี ทา่ ไรนกั แตก่ อ็ ัดแน่นดว้ ยลวดลายซับซ้อน เหมือนเช่นโลข่ องอะคิล
ลสี 2...ชาวกรกี ปา่ เถอื่ น และดว้ ยความคดิ แลเจตนาไรอ้ นารยะดงั เชน่ ภาพพมิ พ์
ของคนป่าชาวดทั ช์ผู้ละเอยี ดอ่อน...อลั เบริ ต์ ดูเรอร3์

2 อะคลิ ลสี -วรี บุรุษตามต�ำนานกรกี โบราณ ในสงครามเมืองทรอย

3 อลั เบิร์ต ดเู รอร์-หรอื อลั เบรชท์ ดอื เรอร์ (ค.ศ. 1471-1528) จติ รกรและนกั ทฤษฎชี าวเยอรมนั

368 : โมบี-้ ดกิ๊

วาฬไม้ หรือตัววาฬแกะสลักจากแผ่นไม้ขนาดเล็กสีด�ำ ไม้ในป่าแห่งการ
สู้รบท่ที ะเลใต้ พบเห็นไดบ้ อ่ ยบริเวณดาดฟา้ เรอื ของนกั ล่าวาฬอเมรกิ นั วาฬ
ไมเ้ หลา่ นี้บางชิน้ ทำ� ได้สดั สว่ นที่ถูกตอ้ งทเี ดียว

บนหลงั คาหนา้ จว่ั ของบา้ นบางหลงั ในชนบทสมยั กอ่ น คณุ จะเหน็ วาฬทอง
เหลืองแขวนส่วนหางไวส้ �ำหรับใชเ้ ปน็ ที่เคาะประตรู มิ ถนน เม่อื ยามเฝา้ ประตู
งบี หลับไป หัวของวาฬจะเปน็ ทั่งตใี ห้เกดิ เสียงดงั ข้นึ ทวา่ วาฬเคาะประตูพวก
นไี้ มค่ อ่ ยไดร้ บั การยอมรบั วา่ เปน็ ผลสำ� เรจ็ ทนี่ า่ เชอื่ ถอื เทา่ ไรนกั บนยอดแหลม
ของโบสถ์สมัยก่อนบางแห่งคุณจะเห็นแผ่นเหล็กรูปวาฬวางอยู่บนน้ันใช้เป็น
ไกล่ ม4 แตม่ นั ถกู วางไวส้ งู จนเกนิ ไป หนำ� ซำ้� ทงั้ หมดยงั ตงั้ ใจ และจงใจตดิ ปา้ ย
“หา้ มจบั !” เอาไว้ คณุ จงึ ไมส่ ามารถเพง่ พจิ มนั ไดใ้ กลพ้ อมองเหน็ คณุ คา่ ของมนั

บริเวณกระดูก และชายโครงของโลก ท่ซี งึ่ เป็นฐานทต่ี ง้ั ของหน้าผาสูงหิน
หลายก้อนวางเรียงรายในกลุ่มก้อนบนทุ่งกว้าง ที่นั่นคุณมักจะได้เห็นรูปร่าง
คลา้ ยลกั ษณะสตั วท์ ะเลยกั ษต์ วั แขง็ ทอ่ื มหี ญา้ ขนึ้ ปกคลมุ เปน็ หยอ่ มๆ ทำ� ใหใ้ น
วนั ทม่ี ลี มแรงดคู ลา้ ยคลนื่ ลมซดั กระหนำ่� พวกมนั ทา่ มกลางระลอกคลน่ื สเี ขยี ว

เช่นเดียวกับประเทศที่มีภูเขาสูงรายล้อม ท่ีซ่ึงนักท่องเที่ยวถูกโอบล้อม
ด้วยภูเขาล้อมรอบ หากคุณโชคดีได้อยู่ในจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นภาพ
วาฬได้หลายแห่งบนสันเขาเป็นลอนคลื่นนั้น แต่คุณคงต้องเป็นนักล่าวาฬท่ี
รอบคอบจึงจะไดเ้ ห็นภาพเหลา่ น้ี ไม่เพียงแค่น้นั หากคุณตอ้ งการจะกลบั มา
ที่น่ีเพื่อดูภาพน้ันอีกครั้ง คุณต้องแน่ใจ ว่าได้ก�ำหนดจุดตัดเส้นละติจูด และ
ลองติจูดที่คุณยืนอยู่ในตอนแรกได้แม่นย�ำ มิเช่นน้ันแล้วโชคชะตาจะน�ำพา
ให้การเห็นภาพบนเนินเขาเหล่าน้ี ณ จุดเดิมที่คุณเคยยืนอยู่นั้นอาจต้องใช้
เวลานานในการมองหาวาฬให้พบอีกคร้ัง เฉกเช่นหมู่เกาะโซโลมอนท่ียังคง
เปน็ ปรศิ นา แมค้ รงั้ หนงึ่ มนั ดาญา5ในชดุ แผงคอตง้ั สงู เคยไดเ้ หยยี บยำ�่ บนแผน่
ดินนน้ั มา และฟเี กรา6ก็บันทกึ เรอื่ งราวเหลา่ นน้ั ไวแ้ ล้วกต็ าม

4  ไกล่ ม-เครอื่ งชี้ทิศทางลม สว่ นมากท�ำเปน็ รปู ไก่
5  อลั บาโร เด มนั ดาญา เด เนย์รา (ค.ศ. 1542-1595) นักส�ำรวจชาวสเปน ผู้คน้ พบหมูเ่ กาะโซโลมอน
6  ฟีเกรา-(ค.ศ. 1571-1644) นกั เขยี นชาวสเปนผเู้ ขียนบนั ทึกการเดนิ ทางของมันดาญา

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 369

เฉกเชน่ เดียวกบั ท่คี ณุ จะไดป้ ระสบ ยามเมื่อมองสูง...สงู ขนึ้ ไป แล้วไม่พบ
วาฬฝูงใหญบ่ นทอ้ งฟา้ พรา่ งพราวดวงดาว และไมพ่ บเรอื เลก็ ที่ไล่ล่าพวกมนั
ท้ังๆ ท่ีนานมาแล้วบนน้ันเต็มไปด้วยภาพสงคราม ชนชาติตะวันออกมอง
เห็นกองทัพติดอยู่ในวงล้อมท่ามกลางเมฆหมอก บนแผ่นฟ้าทางด้านเหนือ
ผมไล่ล่าสัตว์ทะเลยักษ์รอบบริเวณข้ัวโลกเหนือครบหน่ึงรอบ ยามเมื่อถึงจุด
สว่างโชตทิ ี่ส่องให้ผมได้เหน็ มันเป็นครง้ั แรก ใต้แผน่ ฟา้ ทางด้านใต้ ผมขึน้ เรือ
อารโ์ กนาวสิ 7สนกุ กบั การลา่ อสรุ กายทะเลซตี สั 8 หา่ งออกไปไกลโพน้ ทน่ี น่ั งไู ฮ
ดรัส9 เป็นกล่มุ ดาวขนาดเลก็ ในซกี ฟา้ ใต้ และปลาบิน10แผ่ขยายเหยียดยาว

ด้วยสมอเรือรบล�ำใหญ่ส�ำหรับใช้เป็นบังเหียน และด้ามหอกกระตุ้นการ
ขับเคล่ือนท�ำให้ผมขึ้นไปอยู่บนตัววาฬนั้นได้ และโจนตัวสู่ท้องฟ้าสูงสุดเพ่ือ
มองลงมาดูเทพนิยายแห่งสรวงสวรรค์เรื่องราวทั้งหมดปักหลักบิดเบือนไป
จากภาพแห่งความเปน็ ความตายของผม!

7  เรอื อารโ์ กนาวสิ -กลมุ่ ดาวเรอื อารโ์ ก กลมุ่ ดาวหนงึ่ ทเี่ คยระบชุ อื่ ไวต้ งั้ แตส่ มยั โบราณ โดยถอื เปน็ สญั ลกั ษณ์
ของเรอื ทีเ่ จสันตามตำ� นานเทพกรีก ใช้แล่นออกไปเสาะหาขนแกะทองค�ำ
8  ซตี สั -กลุ่มดาวซตี สั หรือกลุม่ ดาววาฬ ในเทพปกรณมั กรกี กลมุ่ ดาวนแี้ ทนวาฬหรอื สัตว์ทะเลยกั ษ์
9  งูไฮดรสั -กลุ่มดาวงูไฮดรสั
10  ปลาบนิ -กลุ่มดาวปลาบนิ กล่มุ ดาวขนาดเลก็ ในซีกฟ้าใต้

370 : โมบ-ี้ ด๊กิ

บทที่ 58

ทุง่ แพลงก์ตอน

จากหมู่เกาะโครเซตต์เราหันหางเสือมุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
หลงเขา้ ไปในวงล้อมของแพลงก์ตอน1แพใหญ่สเี หลอื งละเอยี ด ซ่ึงเปน็ แหลง่
อาหารขนาดใหญข่ องวาฬไรตม์ อี าณาบรเิ วณกนิ กวา้ งหลายตอ่ หลายลกี ลอน
คลื่นกระเพื่อมไหวรอบตัวเราน้ันท�ำให้รู้สึกราวกับก�ำลังล่องเรือผ่านทุ่งข้าว
สาลีสกุ เหลืองอรา่ มไร้ขอบเขต

วนั ทสี่ องของการลอ่ งเรอื บรเิ วณนี้ วาฬไรตจ์ ำ� นวนมากโผลม่ าใหเ้ หน็ พวก
มนั ปลอดภยั จากการโจมตขี องเรอื ลา่ วาฬหวั ทยุ อยา่ งพคี วอด แตล่ ะตวั อา้ ปาก
กว้างขณะว่ายเอ่ือยผ่านทุ่งสีเหลืองทอง แพลงก์ตอนเข้าไปติดอยู่ที่เส้นฝอย
ของแผ่นกระดูกอันนา่ ทึ่งในปากมนั แผ่นกระดกู นีม้ ีไวเ้ พ่อื กรองแพลงกต์ อน
ไมใ่ หไ้ หลตามน�้ำออกจากปากมันไป

เฉกเชน่ คนตดั หญา้ ยามเชา้ เดนิ เคยี งขา้ งกนั ไปอยา่ งชา้ ๆ รดุ หนา้ ไปพรอ้ ม
เคียวตดั หญ้าของตนตา่ งสะบ่ันหั่นผา่ นทุง่ หญา้ ชน้ื แฉะเปน็ ทางยาว อสุรกาย
เหลา่ นก้ี เ็ ชน่ กนั สง่ เสยี งตดั หญา้ ฟงั แปลกหู และทง้ิ รอ่ งรอยสะบนั่ หนั่ เปน็ ทาง
สีครามไรข้ อบเขตบนผืนน�ำ้ สีเหลอื งอรา่ ม2

1  แพลงกต์ อน-แพลงกต์ อนพชื เชน่ สาหรา่ ย มกั มสี เี ขยี ว ในทน่ี ค้ี อื แพลงกต์ อนสตั ว์ เชน่ แมงกะพรนุ หววี นุ้
และตวั ออ่ นของสตั วห์ ลายชนิด เช่น ก้งุ ปู ก้งั หอย ปลาบางชนดิ
2ทะเลบรเิ วณนเ้ี ปน็ ทร่ี จู้ กั กนั ดใี นกลมุ่ นกั ลา่ วาฬวา่ “ฝง่ั บราซลิ ” ซงึ่ ไมไ่ ดม้ อี ะไรเกยี่ วขอ้ งกบั ชอ่ื เลย ตา่ งกบั
ชายฝง่ั นวิ เฟาดแ์ ลนดท์ ถี่ กู เรยี กตามสภาพบรเิ วณนนั้ อนั เปน็ พน้ื ทที่ ม่ี หี าดตนื้ และมเี สยี งกอ้ งทว่ั บรเิ วณ
ทวา่ ช่อื ทะเลบรเิ วณน้ถี กู เรียกจากลกั ษณะแปลกตาท่ดี คู ลา้ ยทุ่งหญ้า ซ่ึงเกิดขน้ึ จากแพลงกต์ อนจ�ำนวน
มากลอยตามผืนนำ้� เป็นแผ่นกวา้ งใหญค่ รอบคลุมอาณาบริเวณเส้นละตดิ จูดท่เี ป็นแหล่งล่าวาฬ

เฮอรแ์ มน เมลวลิ ล์ : 371

ทว่านั่นก็เป็นเพียงแค่เสียงที่เกิดขึ้นเฉพาะขณะมันลอยตัวท่ามกลางทุ่ง
แพลงก์ตอน ซ่ึงทำ� ให้ชวนนกึ ถึงคนตดั หญ้า หากมองจากยอดเสากระโดงเรอื
นี่โดยเฉพาะเวลาที่พวกมันหยุดอยู่กับท่ีช่ัวขณะ รูปร่างขนาดใหญ่สีด�ำของ
พวกมันดูเหมือนก้อนหินขนาดใหญ่ไร้ชีวิตมากกว่าจะเป็นอย่างอื่น และเป็น
ดังเช่นเมืองนักล่าแห่งอินเดีย ผู้มาเยือนจากแดนไกลอาจผ่านเลยฝูงคชสาร
ท่ีนอนเกือกกล้ิงอยู่ตามทุ่งกว้างโดยไม่สังเกตเห็นพวกมัน เพราะเข้าใจว่า
น่ันคือเนินดินสีด�ำจึงมองผ่านไปเฉกเช่นผู้พบเห็นสัตว์ทะเลยักษ์ชนิดนี้เป็น
ครั้งแรก ตราบเมื่อสังเกตเห็นมันชัดถนัดตา ขนาดตัวใหญ่มโหฬารของมันก็
ท�ำให้แทบไม่อยากเชื่อสายตาว่านั่นจะโตเต็มที่ของมันแล้ว ซ่ึงโดยรวมแล้วมี
ลักษณะคลา้ ยสงิ่ มีชวี ติ ท่ีมลี ักษณะเหมือนหมาหรือมา้

อันที่จริงแล้ว อาจกล่าวได้ว่าคุณแทบไม่ได้ค�ำนึงถึงสัตว์ชนิดใดในทะเล
ลึกด้วยความรู้สึกอย่างเดียวกับท่ีคุณมีกับสัตว์บนบก นักธรรมชาติวิทยา3ผู้
อาวโุ สบางทา่ นเคยยนื ยนั วา่ สตั วท์ กุ ชนดิ บนผนื ดนิ จะมสี ตั วท์ ค่ี กู่ นั กบั พวกมนั
อยใู่ นทอ้ งทะเลดว้ ย หากเปดิ ใจกวา้ งมองสง่ิ น.ี้ ..กอ็ าจจะไดเ้ หน็ ยง่ิ เมอ่ื เฉพาะ
เจาะจงดว้ ยคำ� ถาม ดงั เชน่ วา่ บรเิ วณแหง่ ใดในมหาสมทุ รจะจดั หาปลาชนดิ ใด
มาเทียบเคียงคุณลักษณะฉลาดเป็นมิตรของสุนัขได้? ก็คงจะมีเพียงฉลาม
น่าชังนนั่ ปะไรท่ีพอเทยี บเคยี งได้คล้ายคลงึ กบั มนั

ทว่าส�ำหรับผู้ใช้ชีวิตบนบกโดยส่วนใหญ่แล้ว คนที่มีถิ่นอาศัยอยู่ในท้อง
ทะเลมักถูกมองด้วยความรู้สึกไม่อยากพูดคุยด้วย ไม่อยากคบค้าสมาคม
และรังเกียจเดียดฉันท์ แม้เราจะรู้ดีว่าผืนทะเลเป็นส่วนกว้างใหญ่ไพศาลเห
ลือคณานับ ด้วยเหตุน้ีโคลัมบัสจึงล่องเรือไปทั่วโลกกว้าง หากแต่ค้นพบผืน
ดินเพียงแค่เศษเสี้ยวส่วนด้านตะวันตก และแน่นอนว่าแม้เหตุภัยพิบัติร้าย
แรงเคยเกดิ ขนึ้ มานานนมนบั แสนนบั ลา้ นครง้ั ทวา่ บรรดาผลู้ ว่ งลบั สทู่ อ้ งทะเล
ยงั ไรผ้ เู้ หลยี วแล และถงึ แมท้ ง้ั หมดจะไดร้ บั การพจิ ารณาถงึ นนั่ กเ็ พยี งเดก็ รนุ่
หลังใช้อวดอ้างความรู้ความสามารถของตน และในอนาคตข้างหน้าความรู้

3  นักธรรมชาตวิ ทิ ยา-ศึกษาโลกธรรมชาติ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ สัตววิทยาและชีววทิ ยา

372 : โมบ้-ี ดกิ๊

ความสามารถนน้ั จะทวเี พม่ิ ความสอพลอมากยง่ิ ขน้ึ ตลอดไป และตลอดไปจน
กระท่งั ถงึ วันโลกาวินาศ ทะเลจะจู่โจมและท�ำลายพวกเขา รวมทัง้ บดขยี้เรือ
พฆิ าตไมว่ า่ พวกเขาจะสรา้ งไวแ้ ขง็ แกรง่ และใหญโ่ ตเพยี งไร แตถ่ งึ อยา่ งนนั้ แม้
ภาพเหตกุ ารณฝ์ งั ใจเหลา่ นจ้ี ะเกดิ ขน้ึ ซำ้� แลว้ ซำ�้ อกี แคไ่ หน มนษุ ยย์ งั คงหลงลมื
ความร้สู ึกน่าสะพรงึ กลัวของทอ้ งทะเลทเี่ ป็นต้นก�ำเนิดแรกเร่มิ ของพวกเขา
เรือลำ� แรก4ที่เราเคยรู้มาลอยล�ำในมหาสมุทร นำ� เอาความเคยี ดแคน้ ของชาว
โปรตเุ กสเขา้ ทว่ มทน้ โลกทง้ั ใบไมเ่ หลอื แมแ้ ตห่ ญงิ มา่ ย มหาสมทุ รเดยี วกนั นนั้
ก่อลูกคลื่นขึน้ ใหม่ มหาสมทุ รเดียวกนั น้นั ทำ� ลายเรอื เดินสมุทรอบั ปางลงเม่ือ
ปีทแ่ี ล้ว ใชแ่ ลว้ ...มนุษย์ผ้โู ง่เขลา น�้ำท่วมครง้ั ใหญ่ในคริสตศ์ าสนายงั ไมล่ ดลง
อกี สองในสามของโลกทน่ี ่าอยใู่ บนี้ยังไม่ไดถ้ ูกท่วม

ระหวา่ งผนื นำ�้ และผนื ดนิ ตา่ งกนั ตรงไหน ปาฏหิ ารยิ ท์ เ่ี กดิ ในดนิ แดนหนงึ่
จะไม่เกิดปาฏหิ าริยใ์ นอกี ดนิ แดนหน่งึ กห็ าไม่ เหตุรนุ แรงสยองขวัญเยอื้ งย่าง
ถึงชาวยิว เม่ือผืนดินใต้สองเท้าของโคราห5์ และผู้ติดตามของเขาปริแยกแตก
ออกเป็นปากกว้างกลืนกินพวกเขาสู่ดินแดนไร้ดวงอาทิตย์สาดแสงส่องถึง
ตลอดกาล ทว่าลักษณะเดียวกันน.้ี ..ทะเลคลง่ั ก็กลนื กนิ เรือเดนิ สมุทรและลูก
เรือเช่นกัน

หน�ำซ�้ำทะเลไม่เพียงเป็นภัยต่อมนุษย์ผู้แปลกหน้าเท่าน้ัน มันยังอ�ำมหิต
แม้แต่กับเช้ือสายของมันเอง โหดร้ายเสียยิ่งกว่าเจ้าบ้านชาวเปอร์เซียสังหาร
อาคันตุกะของเขาเอง6 ไม่เว้นแม้แต่สัตว์ที่ก�ำลังวางไข่ คล้ายนางเสือร้ายก
ระโจนเข้าพงป่าทับลกู ของมนั ทะเลพงุ่ ใส่ แมก้ ระท่ังวาฬตวั ใหญ่ยกั ษ์ยงั โดน
ชนจนกระแทกโขดหนิ และทง้ิ ใหพ้ วกมนั ลอยเคยี งขา้ งซากปรกั พงั ของเรอื เดนิ
สมุทร ไม่มีความเมตตา ไม่มีอานุภาพใด นอกเสียจากมันควบคุมตัวมันเอง

4  เรือลำ� แรก-เรอื โนอาห์
5  โคราห์-ชาวยิวโบราณผู้ท้าทายอ�ำนาจของโมเสสและอารอน (พี่ชายของโมเสส) จนพระเจ้าพิโรธ และ
บนั ดาลใหธ้ รณสี ูบโคราห์และสาวก

6  ชาวเปอร์เซียสังหารอาคนั ตุกะของเขาเอง-ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกย็ ังไม่ทราบวา่ เมลวลิ ลห์ มายถึงใคร

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 373

หายใจหอบแรงคล้ายม้าศึกต่ืนคล่ังไร้ผู้ขับขี่ มหาสมุทรไร้ผู้ควบคุมไหลล่วง
ล�้ำท่วมโลก

ลองพิจารณาถึงความลึกลับของท้องทะเล สัตว์ร้ายจ�ำนวนมากเพียงใด
เวียนว่ายอยู่ใตผ้ ืนนำ�้ นน้ั สว่ นใหญเ่ รน้ กาย และท�ำตวั ลับล่อผลบุ โผล่ใตแ้ ผน่
สีฟ้าม่วงงามตา และลองพิจารณาถึงประกายความโหดเหี้ยม และความ
สวยงามของเผ่าพันธุ์ท่ีไร้ความปราณีจ�ำนวนมากเหล่านั้น ดังเช่น รูปร่าง
ประณีตงดงามของฉลามหลายสายพันธุ์ พิจารณาอีกคร้ังถึงสัตว์ล่าเนื้อที่มี
อยทู่ ุกหนแห่งในท้องทะเล สัตว์ทุกตวั ตา่ งล่ากนั และกนั เปน็ อาหาร ตา่ งธ�ำรง
ไว้ซง่ึ สงครามชั่วนิรนั ดร์นับต้งั แต่โลกกอ่ ก�ำเนดิ ข้ึน

พิจารณาทั้งหมดทั้งมวลน้ี แล้วมองย้อนกลับมายังโลกสีเขียว นุ่มนวล
และโอนอ่อนที่สุด ครุ่นคิดให้ถ้วนถี่ทั้งสองแดนดินถิ่น ทั้งผืนน้�ำและผืนดิน
คณุ ไมเ่ หน็ สง่ิ คลา้ ยคลงึ กนั นน้ั ในตวั คณุ เองหรอื ? เพราะมหาสมทุ รนา่ สะพรงึ
กลวั โอบลอ้ มดนิ แดนเขยี วขจนี ไ้ี ว้ ดว้ ยเหตนุ จ้ี ติ วญิ ญาณของมนษุ ยท์ อดเงาอยู่
บนเกาะตาฮติ ิ ดนิ แดนแหง่ ความสงบสขุ และสนั ติ ทวา่ แวดลอ้ มดว้ ยความนา่
หวาดหวั่นของส่ิงมีชวี ิตลลี้ ับ ขอพระองคท์ รงคมุ้ ครองท่าน! อยา่ ออกหา่ งจาก
เกาะนัน้ มิเชน่ น้ันท่านจะไม่ไดย้ อ้ นกลับไปอกี !

374 : โมบี-้ ด๊กิ

บทท่ี 59

หมกึ ยกั ษ์

เรือพีควอดลุยผ่านทุ่งแพลงก์ตอนไปอย่างช้าๆ ยังคงมุ่งหน้าทางทิศตะวัน
ออกเฉียงเหนือตรงไปยังเกาะชวา สายลมแผ่วโลมไล้ท่ัวล�ำเรือ ท�ำให้ยอด
เสากระโดงสงู สามตน้ ไหวเอนตามแรงลมเออื่ ยทา่ มกลางบรรยากาศเงยี บสงบ
เหมอื นดงั ตน้ ปาลม์ สามตน้ ลอ้ เลน่ ลมในทงุ่ กวา้ ง ชว่ งเวลาเงยี บสงดั ยาวนานใน
คืนจันทรก์ ระจ่างเชน่ นพ้ี วยน้�ำในม่านมนต์อาจปรากฏให้เหน็ อกี ครา

เชา้ วนั ถดั มาแสงฟา้ สวา่ งทา่ มกลางความเงยี บสงบแผป่ กคลมุ ทวั่ ทอ้ งทะเล
ความสงบเงยี บผิดธรรมชาตินนั้ ไมไ่ ดท้ �ำให้ใจสงบตาม เมื่อระยบั แดดสะทอ้ น
ผนื นำ้� เปน็ ทางยาวดรู าวกบั นว้ิ สที องวาดชล้ี งมาเบอ้ื งหนา้ บญั ชาความลบั แหง่
สรวงสวรรค์ คล่ืนทะเลระยบั แสงกระซบิ กระซาบตอ่ กันขณะแล่นผ่านแผ่วผวิ
ความเงยี บระงบั ในบรรยากาศกระจา่ งใสเชน่ นภ้ี าพมายาปรากฏแกส่ ายตาแด๊
กกูท่อี ย่บู นยอดเสากระโดงเรอื หลัก

ห่างออกไป ร่างสีขาวขนาดใหญ่ผุดข้ึนมาเอ่ือยช้า แล้วยกตัวสูงขึ้น และ
สูงข้นึ จนเหน็ เด่นชดั บนฉากสีฟ้าของทอ้ งฟ้า ทีส่ ดุ แสงประกายเบอื้ งหน้าหวั
เรอื เราดคู ล้ายหมิ ะถลม่ เล่ือนไถลจากเนนิ เขา แสงระยบิ เม่อื ครูน่ ้ีค่อยๆ ลด
ลงและจมหายไป แล้วโผลข่ นึ้ มาอกี คร้ังให้เหน็ เพียงแวบเดยี ว มนั ดูไมเ่ หมอื น
วาฬ แล้วนีจ่ ะใชโ่ มบีด้ ิ๊กหรอื ไม่? แดก๊ กคู ิด เปน็ อีกครัง้ เงาหลอนนัน้ เลือนหาย
ไป ทวา่ มันปรากฏมาให้เหน็ อีกพร้อมกบั เสียงรอ้ งคลา้ ยคมกรชิ ทท่ี ำ� ให้ทุกคน
ตอ้ งสะดงุ้ กบั การผงกหวั เรยี กของมนั เจา้ นโิ กรรอ้ งเสยี งดงั ขนึ้ “นน่ั ! นน่ั อกี แลว้ !

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 375

มันกระโดดขน้ึ มา! ทางดา้ นขวาโนน่ ! ไอ้วาฬขาว...วาฬขาว!”
เวลาน้ัน ลูกเรือต่างกรูกันปีนขึ้นไปท่ีใบขวางบนเสาเรือ เหมือนฝูงผึ้งปร่ี

เข้าไปรุมตอมก่ิงไม้ บนหัวไร้หมวกคลุมเปิดรับแสงอาทิตย์ร้อนแรง เอแฮ็บ
ยืนอยู่บนเครื่องเสาหัวเรือ ย่ืนมือข้างหนึ่งไปทางด้านหลังในท่าเตรียมพร้อม
ให้สัญญาณสั่งการนายท้ายเรือ สายตาเพ่งจ้องไปยังทิศทางด้านบนที่แด๊กกู
ยืดแขนนง่ิ ชี้ไปเบื้องหนา้

พวยนำ้� โดดเดยี่ วทแ่ี วบใหเ้ หน็ ผา่ นตานนั้ คอ่ ยๆ สง่ ผลตอ่ ความรสู้ กึ ภายใน
ของเอแฮ็บ ท�ำให้ครั้งแรกเห็นวาฬเป้าหมายเขาจึงท�ำใจสงบน่ิง และสุขุมได้
เป็นอย่างดี ทว่าจะเป็นเพราะเหตุนี้ หรือเพราะถูกความทะเยอทะยานใน
ตัวเองทรยศหักหลังก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุใดในท่ีสุดมันก็เกิดข้ึน...ยัง
ไมท่ นั ทเี่ ขาจะเหน็ รา่ งสขี าวนนั้ ชดั ถนดั ตา เขารบี รอ้ งเรง่ สง่ั การใหน้ ำ� เรอื เลก็ ลง

เรือเล็กสี่ล�ำถูกหย่อนลงน้�ำในทันที เอแฮ็บขึ้นน�ำหน้า ฝีพายทุกคนต่าง
จ้�ำแจวตรงไปหาเหย่ือของพวกเขาอย่างคล่องแคล่ว ฉับพลันน้ันมันจมหาย
ไปอกี เป็นชัว่ อดึ ใจทีเ่ หล่าฝีพายตา่ งหยดุ ชะงัก พวกเราเฝ้าคอยดูการปรากฏ
ตัวขึ้นของมนั อีกครั้ง ดสู ิ! จุดเดยี วกบั ทม่ี นั จมหายไป มันคอ่ ยๆ โผล่ขึ้นมาอีก
คร้ัง ช่วงเวลานน้ั แทบลืมทกุ เรือ่ งราวเก่ยี วกับโมบี้ด๊ิกไปหมด พวกเราในตอน
น้ีจ้องมองปรากฏการณ์มหัศจรรย์อันเร้นลับแห่งท้องทะเลจนบัดนี้ได้เผยให้
เหน็ แกส่ ายตามนษุ ย์ เปน็ กอ้ นเนอื้ นมุ่ ขนาดใหญก่ วา้ งยาวหลายเฟอรล์ อง1รา่ ง
คล้ายสีครีมนั้นลอยห่างอยู่บนผิวน้�ำในรัศมีห่างหลายต่อหลายช่วงแขนจาก
จดุ ศนู ยก์ ลาง มนั กำ� ลงั โคง้ ตวั บดิ ดรู าวกบั รงั อนาคอนดา้ ฉวยเปา้ หมายเคราะห์
ร้ายท่ีอยู่ใกล้รัศมีไว้โดยไม่ได้มอง มันไม่มีใบหน้า หรือส่วนหน้าให้เห็น ไม่มี
สญั ลกั ษณอ์ ะไรบง่ บอกถงึ ความรสู้ กึ หรอื ชวี ติ จติ ใจ เพยี งกระเพอ่ื มไหวอยบู่ น
คล่ืนนน่ั ไร้รูปร่างเหมือนผ.ี ..เป็นปีศาจน�ำเคราะหก์ รรมมาสู่มนษุ ย์

พร้อมๆ กับเสียงแทรกตัวลงไปในน้�ำ มันค่อยๆ จมหายไปอีกครั้ง
สตาร์บัคยังคงจ้องไปยังน�้ำกระเพ่ือมจุดที่มันจมลงไป พร้อมตะโกนเสียงดัง

1  1 เฟอร์ลอง เท่ากับ 220 หลา

376 : โมบี-้ ดกิ๊

“ให้ฉนั ไดเ้ จอกบั โมบีด้ ก๊ิ แล้วสูก้ ับมัน ดกี ว่าจะไดเ้ จอกับไอน้ .ี่ .ไอ้ปีศาจขาว!”
“อะไรหรอื ครบั ?” ฟลาสก์ถาม
“ไอ้หมึกยักษ์ท่ีพูดถึงกันไง เรือล่าวาฬจ�ำนวนหน่ึงเคยเห็น และบอกเล่า

เกี่ยวกบั มันเมื่อกลบั ถึงท่า”
ทวา่ เอแฮบ็ ไมไ่ ดพ้ ูดอะไรออกมา เขาหนั หวั เรอื แลว้ ลอยล�ำกลบั ไปยงั เรอื

เดนิ สมุทร เรือทีเ่ หลอื จงึ ตามกลับมาเงยี บๆ
แม้ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติเก่ียวกับวาฬหัวทุยจะท�ำให้ภาพวัตถุที่

เหน็ น้กี ลายเป็นเรอื่ งปกติทวั่ ไป ทวา่ ในความเปน็ จริงแล้วการไดเ้ หน็ สงิ่ มีชีวติ
นก้ี ลับเปน็ เรื่องท่ผี ดิ ปกติมาก ปรากฏการณน์ ้นั มีอิทธพิ ลมากขนาดท�ำใหม้ นั
เป็นลางร้าย ด้วยเหตุน้ีมันจึงไม่ค่อยเกิดข้ึนให้เห็นบ่อยครั้งนัก น่ันจึงเป็น
เหตุผลให้แม้หนึ่งในปรากฏการณ์ทั้งหมดจะเผยว่าส่ิงน้ันเป็นส่ิงมีชีวิตขนาด
ใหญใ่ นมหาสมุทร ทว่าชว่ งเวลาสนั้ ๆ นนั้ มนั ไม่ไดช้ ่วยใหร้ ู้อะไรมากขึน้ เก่ียว
กับลักษณะ และรูปร่างท่ีแท้จริงของมันเลย แต่ช่างเถอะเพราะอย่างไรเสีย
พวกเขาก็เชื่อว่ามันก็แค่ส่ิงท่ีวาฬหัวทุยใช้เป็นอาหารเท่าน้ัน นั่นเพราะแม้
วาฬสายพันธุ์ต่างๆหากินอาหารเหนือผิวน�้ำ และมักถูกพบเห็นโดยนักล่า
วาฬขณะก�ำลังหากิน แต่วาฬหัวทุยได้รับอาหารทั้งหมดในที่ท่ีมองไม่เห็นใต้
ผิวน้�ำ หนทางเดยี วทีผ่ ู้คนจะคาดเดาร่องรอยของมนั ไดอ้ ยา่ งแมน่ ย�ำจากส่วน
ประกอบอาหารนนั้ บางครงั้ การไลล่ า่ อยา่ งกระชนั้ ชดิ จะเปน็ ผลใหม้ นั สำ� รอก
สง่ิ ทนี่ า่ จะเปน็ สว่ นทเ่ี รยี กวา่ หนวดปลาหมกึ ซง่ึ หนวดเหลา่ นม้ี ขี นาดความยาว
เกินกวา่ ยี่สิบ และสามสบิ ฟุตได้ ทำ� ใหพ้ วกเขาจินตนาการได้ถึงอสรุ กายทใี่ ช้
หนวดพวกนเ้ี ปน็ ขาเกาะตดิ ใตพ้ น้ื มหาสมทุ ร และนนั่ ทำ� ใหว้ าฬหวั ทยุ แตกตา่ ง
จากวาฬสายพนั ธ์ุอ่ืน คอื มนั มีฟนั สำ� หรบั โจมตี และฉีกทึง้ อาหาร

ดเู หมอื นวา่ นจ่ี ะเปน็ ฐานความคดิ ทบ่ี ชิ อปพอนทอพโพดนั 2ใชส้ รา้ งอสรุ กาย

2  ใหญ่โตจนเหลือเชอ่ื -บิชอปพอนทอพโพดัน (อีริค พอนทอพโพดัน) หัวหน้าบาทหลวงแห่งเมืองแบรเ์ กน
นอรเวย์ ไดบ้ นั ทกึ ไวเ้ ปน็ หลกั ฐานครง้ั แรกในหนงั สอื ธรรมชาตวิ ทิ ยาของนอรเ์ วย์ โดยบรรยายถงึ คราเคน
เอาไวว้ า่ มันใหญ่พอๆ กบั เกาะลอยน้�ำขนาดย่อม ล�ำตัวยาวถงึ ครึ่งไมล์

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 377

คราเคน3ข้ึนโดยสรุปว่ามันเป็นปลาหมึก ด้วยลักษณะที่บาทหลวงเห็นมัน
ขณะผลุบๆ โผล่อยู่ในน�้ำ และอีกหลายลักษณะที่เขาเล่าถึงมัน ท้ังหมดนี้มี
สอดคล้องกันอยู่สองประการ ทว่าความส�ำคัญลดลงอย่างมากเมื่อเขากล่าว
ถึงขนาดของมันใหญโ่ ตจนเหลอื เชื่อ

เหล่านักธรรมชาติวิทยาบางคนก็ได้ยินมาอย่างคลุมเครือเก่ียวกับข่าวลือ
เร่ืองสัตว์ลึกลับ ทว่ากล่าวไว้ตรงน้ีเลยว่า มันรวมอยู่ในจ�ำพวกเดียวกับหมึก
กระดอง4 ซ่ึงจริงๆ แล้วแม้ลักษณะภายนอกจะดูคล้ายกัน แต่ต่างพันธุ์กัน
เหมือนอะนคั 5

3  คราเคน-ปลาหมกึ ยกั ษใ์ นตำ� นานทชี่ าวทะเลเหนอื หวาดกลวั มกั เลา่ วา่ คลา้ ยหมกึ กลว้ ยขนาดยกั ษ์ โผลข่ น้ึ
จากน�้ำพรวดเดยี วก็สูงกว่าเสากระโดงเรือ ชอบโจมตีเรอื เดนิ สมุทรอยา่ งกะทนั หัน โอบหนวดของมันรัด
ลำ� เรอื เอาไว้ หนวดทีเ่ หลือมันจะรดั ลกู เรอื จนกระดกู แหลกเหลว บ้างกร็ ดั เขา้ มาปอ้ นเขา้ ปากอันนา่ กลวั
4  หมกึ กระดอง-หมกึ กระดอง รปู รา่ งคลา้ ยกบั หมกึ กลว้ ย แตต่ วั กลมปอ้ มกวา่ และมแี ผน่ หนิ ปนู รปู กระสวย
สอดอยกู่ ลางหลงั เรยี กวา่ ลน้ิ ทะเล ในอดตี ไดน้ ำ� หมกึ ของหมกึ กระดองมาทำ� เปน็ หมกึ ใชส้ ำ� หรบั การเขยี น
5  อะนคั -ยกั ษ์ในคมั ภีร์ไบเบิล
378 : โมบ-้ี ดิก๊

บทท่ี 60

เชอื กมหัศจรรย์

ด้วยเหตุการณ์ล่าวาฬที่จะได้เล่าถึงในไม่ช้าจะกล่าวถึงเชือก อีกทั้งเพ่ือให้
เกิดความเขา้ ใจชดั เจนย่งิ ข้นึ ในฉากเหตุการณ์ท�ำนองเดยี วกันนี้ทีม่ ีอยูใ่ นส่วน
อน่ื ๆ ของหนงั สอื ผมจงึ ใครข่ อกลา่ วถงึ เชอื กวาฬทมี่ มี นตข์ ลงั ...และบางครงั้ ก็
น่าขนลกุ น้สี ักหนอ่ ย

เชือกที่ใช้ในการประมงแต่แรกเร่ิมมาจากเส้นป่านคุณภาพดี น�ำมาทา
บางๆ ดว้ ยน�้ำมนั ดินโดยไมต่ ้องใหเ้ ปียกชมุ่ มากนักเพ่ือใชง้ านทัว่ ๆไป การทา
น้�ำมันดินทุกคร้ังท่ีใช้งาน ท�ำให้เส้นป่านมีความยืดหยุ่นส�ำหรับการถักเชือก
และยังได้เชือกท่ีเหมาะส�ำหรับลูกเรือใช้งานบนเรือเดินสมุทร อย่างไรก็ตาม
ปริมาณที่พอกเพิ่มข้ึนในแต่ละวันไม่เพียงท�ำให้เชือกวาฬแข็งจนเป็นปัญหา
ในการขดเก็บ แต่ยังท�ำให้ลูกเรือเริ่มเรียนรู้ว่าน�้ำมันดินนอกจากเพิ่มความ
ทนทาน หรอื ความแขง็ แรงใหก้ บั เชอื กแลว้ ยงั ทำ� ใหก้ ระชบั แนน่ และเปน็ มนั เงา

ระยะหลังๆ ป่านมะนิลาเริ่มเข้ามาเป็นวัตถุดิบผลิตเชือกวาฬแทนที่สาย
ป่านในวงการประมงอเมริกันเกือบท้ังหมด แม้ไม่ทนทานเท่าสายป่าน แต่ก็
แขง็ แรงกวา่ อกี ทง้ั ยงั นมุ่ และยดื หยนุ่ กวา่ ผมอยากเพมิ่ เตมิ อกี นดิ (เพอ่ื ใหเ้ กดิ
สุนทรียภาพมากขึ้น) มันดูดีกว่ามาก และคู่ควรกับเรือเล็กมากกว่าสายป่าน
ถ้าเปรียบไปแล้วสายป่านก็เหมือนกับหนุ่มผิวด�ำหน้าตาหมองคล�้ำอย่างคน
อนิ เดยี แตเ่ ชอื กมะนิลาเปน็ พวกผวิ ขาวผมสีทองหนา้ ตานา่ มอง

เชอื กวาฬมคี วามหนาเพยี งสองสว่ นสามของหนงึ่ นวิ้ เหน็ ครงั้ แรกคณุ อาจ

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 379

นึกไม่ถึงว่ามันจะแข็งแรงได้อย่างท่ีเป็น เมื่อทดสอบเปรียบเทียบเชือกวาฬ
หนงึ่ เสน้ กบั เสน้ ดา้ ยหา้ สบิ เสน้ ตา่ งสามารถใชแ้ ขวนของนำ้� หนกั หนง่ึ รอ้ ยยสี่ บิ
ปอนดไ์ ด้ นน่ั คือเชอื กทัง้ หมดจะรับน้ำ� หนักถ่วงได้มากสุดเกอื บสามตนั หาก
วดั ความยาวแลว้ เชอื กสำ� หรบั จบั วาฬหวั ทยุ ทวั่ ไปวดั ไดย้ าวกวา่ สองรอ้ ยฟาธ
อม มันถูกเก็บไว้ทางด้านหลังเรือโดยขดเป็นวงไว้ในถังเชือก ไม่เหมือนขด
ลวดตัวหนอนในเคร่ืองกล่ันเหล้า แต่ขดรวมกันเป็นก้อนลักษณะคล้ายแผ่น
เนยแข็งที่ถูกวางรวมกันเป็น “ฟ่อน” หรือขดรวมกันเป็นช้ันมีศูนย์กลางร่วม
กนั ปราศจากหลมุ มเี พยี ง “แกนกลาง” หรอื ทอ่ ทเ่ี รยี งเปน็ ชัน้ ชิดตดิ กันขน้ึ มา
เปน็ แนวดงิ่ จากแกนกลางของแผน่ เนยแขง็ เพอื่ ใหข้ ดเชอื กมโี อกาสเกดิ พนั กนั
หรอื ขมวดปมนอ้ ยทสี่ ดุ เวลานำ� ออกมาใชจ้ ะไดไ้ มเ่ กดิ ขอ้ ผดิ พลาดไปเกยี่ วแขน
ขา หรอื อวัยวะส่วนอ่ืนๆ ของใครหลดุ ขาด การเกบ็ เชือกในถังเปน็ เรือ่ งท่ีต้อง
ใหค้ วามระมดั ระวงั สงู สดุ นกั พงุ่ ฉมวกใชเ้ วลาเกอื บทง้ั ชว่ งเชา้ ในการเกบ็ เชอื ก
พวกเขาจะเอาเชือกขึ้นไปบนที่สูงแลว้ ร้อยผ่านลกู รอกลงไปในถงั การท�ำเชน่
นี้ก็เพื่อให้เชอื กขดเรยี งกันโดยไมเ่ กดิ รอยย่นหรือบิดเป็นเกลียว

เรอื เชอื ดวาฬของชาวองั กฤษมกั ใชส้ องถงั แทนทจี่ ะเปน็ ถงั เดยี ว เชอื กขนาด
เดยี วกนั ขดในถังท้ังสองใบต่อเนอ่ื งกัน วิธกี ารน้ีดีกวา่ เพราะถงั คู่แฝดมีขนาด
เลก็ พอเหมาะพอดกี บั ลำ� เรอื ทำ� ใหเ้ รอื ไมเ่ กดิ จดุ ถว่ งนำ้� หนกั ทมี่ ากเกนิ ในทาง
ตรงกันข้าม ถังเชือกของชาวอเมริกันมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเกือบสามฟุต
และมคี วามลกึ เปน็ สดั สว่ นกนั ทำ� ใหเ้ รอื ทที่ ำ� จากแผน่ กระดานความหนาเพยี ง
นว้ิ ครงึ่ ตอ้ งบรรทุกของขนาดใหญ่เทอะทะ ซึ่งท้องเรอื ที่มีความหนาพอๆ กบั
แผน่ นำ�้ แขง็ ทพ่ี รอ้ มปรแิ ตกไดต้ ลอดเวลานน้ั ควรรบั นำ�้ หนกั แบบเฉลย่ี กนั ไปจะ
ดกี วา่ ไมใ่ ชม่ ารวมศนู ยน์ ำ�้ หนกั ไวท้ จ่ี ดุ เดยี วมากๆ เมอ่ื นำ� ผา้ ใบทาสมี าปดิ ทบั
ถงั เชอื กของชาวอเมรกิ นั ทำ� ใหเ้ รอื เลก็ ดรู าวกบั กำ� ลงั บรรทกุ เคก้ แตง่ งานกอ้ น
ใหญโ่ ตมโหฬารไปมอบใหแ้ ก่วาฬ

ปลายเชอื กทงั้ สองขา้ งจะถกู นำ� ไวน้ อกถงั ปลายเชอื กดา้ นลา่ งถงั มลี กั ษณะ
เป็นวงประกบหรือรูห่วงโผล่ออกมาจากข้างก้นถัง และปล่อยติดขอบท้ิงไว้

380 : โมบ้-ี ดก๊ิ

อย่างน้นั โดยไมไ่ ดเ้ ก่ยี วไว้กับอะไร การจดั วางปลายเชอื กด้านล่างไวอ้ ยา่ งนี้ก็
เพอื่ ประโยชนส์ องประการ ประการแรก: เพอ่ื ความสะดวกในการผกู เชอื กตอ่
เขา้ กบั เชอื กอกี เสน้ จากเรอื ลำ� ขา้ งๆ ในกรณวี าฬทไี่ ดร้ บั บาดเจบ็ ทำ� ทา่ วา่ จะดงึ
เชือกเส้นแรกที่ผูกติดกับฉมวกดิ่งจมหายไปกับมันทั้งเส้น กรณีเช่นนี้การไล่
ล่าวาฬจะถูกเปลี่ยนมือคล้ายกับเหยือกเบียร์ น่ันคือจากเรือล�ำหน่ึงไปอีกล�ำ
หนง่ึ แมเ้ รอื ลำ� แรกจะโฉบเขา้ มาใกลเ้ พอื่ คอยชว่ ยเรอื คขู่ องตนกต็ าม ประการ
ทส่ี อง: การจดั วางแบบนม้ี เี ปา้ หมายสำ� คญั เพอ่ื สรา้ งความปลอดภยั นนั่ เพราะ
หากปลายเชอื กดา้ นลา่ งผกู ตดิ กบั เรอื จะทำ� ใหเ้ วลาวาฬลากเชอื กจนสดุ ภายใน
คราวเดยี ว ซึ่งบางครง้ั อาจเรว็ ภายในพริบตา มันจะไม่หยุดอยแู่ คน่ ้ัน แน่นอน
วา่ มันจะลากเรือเคราะหร์ า้ ยน้ันจมตามมนั ลงไปใต้ทะเลลึก และเมื่อเป็นเชน่
นน้ั แล้วคงไม่มีผปู้ ่าวประกาศราษฎรใดจะตามหาเรือเจอไดอ้ กี

ก่อนน�ำเรือเชือดวาฬลงทะเลเพือ่ ปฏิบตั กิ ารไล่ล่า ปลายเชือกสว่ นบนจะ
ถูกน�ำออกจากถังท้ายเรือ และน�ำไปพันรอบเสากลมตรงน้ัน แล้วลากเชือก
ไปด้านหน้าเรืออีกครั้งตลอดความยาวของเรือ โดยไขว้เชือกบนช่องยึดพาย
หรือด้ามจับไม้พายของแต่ละคน ด้วยลักษณะนี้เชือกจะกระทุ้งข้อมือของ
พวกเขาขณะโยกพาย และยงั ลากเชอื กผา่ นฝพี ายแตล่ ะคนโดยพวกเขาจะนง่ั
ทกี่ ราบเรือสลับกนั คนละด้าน จากนัน้ จึงนำ� ขึ้นไปรอ้ ยไวท้ ี่ตาคล้อง หรือชอ่ ง
บนปลายสดุ ของหวั เรอื ซง่ึ จะมลี ม่ิ ไม้ หรอื ไมก้ ลดั ขนาดเทา่ กระสวยดา้ ยทวั่ ไป
ไวใ้ ชป้ อ้ งกนั การลน่ื หลน่ เชอื กจะถกู แขวนหอ้ ยเปน็ พวงเลก็ ๆ อยบู่ นตาคลอ้ ง
แล้วลากผา่ นเข้ามาด้านในเรอื อีกครั้ง เชอื กทเ่ี หลอื ยาวประมาณสบิ หรือยส่ี บิ
ฟาทอมจะถกู ขดไวใ้ นคอก (เรยี กวา่ แนวรอก) บนหวั เรอื ซงึ่ อาจมอี กี บางสว่ น
พาดยาวไปทางกราบเรือด้านท้ายเล็กน้อย จากนั้นปลายส่วนน้ีจะผูกติดกับ
เชอื กผกู โยง ซงึ่ เปน็ เชอื กทใี่ ชเ้ ชอ่ื มตอ่ กบั ฉมวกไดโ้ ดยตรง แตก่ อ่ นเชอ่ื มตอ่ กนั
เชอื กผูกโยงจะต้องผ่านข้ันตอนตา่ งๆ นานามากมายจนนา่ ร�ำคาญ

ด้วยเหตุนี้เชือกวาฬจึงพันอยู่รอบเรือในสภาพขดซ้อนกัน บิดไปพันมา
เกือบทกุ ทิศทาง ฝีพายทุกคนอยใู่ นวงลอ้ มบดิ เบ้ยี วนา่ กลัวนี้ ซง่ึ ในสายตาต่นื

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 381

กลัวของคนบนบก อาจเห็นพวกเขาเป็นแขกเล่นปาห่ีท่ีมีงูร้ายเริงร่าพันเกี่ยว
แขนขาของพวกเขา ทนั ทที ไ่ี ดเ้ หน็ ไมม่ มี นษุ ยค์ นใดบนโลกใบนที้ ก่ี ลา้ พาตวั เอง
ไปนง่ั อยทู่ า่ มกลางวงกตสายปา่ นทแี่ ทบจะขงึ ตรงึ เขาไวก้ บั ไมพ้ าย ลองนกึ ดวู า่
คนพวกนแ้ี ทบไมร่ ตู้ วั เลยวา่ ฉมวกจะถกู พงุ่ ออกไปเมอ่ื ไร แลว้ วงลอ้ มบดิ เบย้ี ว
ของเชือกเหล่านี้จะมีสภาพคล้ายกับสายฟ้าแลบเม่ือใด พวกเขาไม่สามารถ
ควบคุมตัวเองไม่ให้สั่นกลัวจนไขกระดูกส่ันกระเพ่ือมอยู่ภายในราวกับเยล
ลี่กระเพื่อมไหว ทว่าความเคยชินเป็นเรื่องแปลก! ความเคยชินท�ำอะไรไม่
ส�ำเร็จบ้าง? คนรักสนุกจะร่ายโวหารออกมาได้สนุกสนานมากกว่า ขบข�ำย่ิง
กวา่ และยอกยอ้ นไดห้ ลกั แหลมกวา่ คณุ จะไมไ่ ดย้ นิ โวหารเหลา่ นนั้ บนโตะ๊ ไม้
มะฮอกกานขี องคณุ แตค่ ณุ จะไดย้ นิ คำ� รนื่ รมยเ์ ชน่ นนั้ บนแผน่ กระดานไมซ้ ดี าร์
สขี าวบางนว้ิ ครงึ่ ของเรอื ลา่ วาฬ ขณะถกู แขวนอยใู่ นบว่ งของเพชฌฆาต เหมอื น
พลเมอื งผกู้ ลา้ ทั้งหกแหง่ กาแล1 เบอื้ งหนา้ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ด ท้ังหกอาสาเป็น
ลูกเรือมุง่ หนา้ สกู่ รามมฤตยโู ดยมบี ่วงแขวนคออยา่ งท่คี ณุ เองก็คาดการณไ์ ด้

หากพจิ ารณาเพยี งสกั นดิ คณุ จะมองภาพออกถงึ หายนะภยั ตา่ งๆทเ่ี กดิ ขน้ึ
ซ�้ำแล้วซ�้ำเล่าระหว่างการล่าวาฬ ซ่ึงบางเหตุการณ์ได้รับการบันทึกไว้อย่าง
ไม่เปน็ ทางการ หายนะภัยจากเชือกกระชากเอาลูกเรือคนนี้ หรือคนนนั้ หาย
ไปจากเรือ เม่ือเชือกถูกเหวี่ยงออกไป การน่ังอยู่ในเรือขณะน้ันเหมือนนั่ง
อยู่ท่ามกลางเสียงหวีดสะท้อนกลับไปมาของเคร่ืองจักรกลไอน�้ำท่ีก�ำลังเดิน
เคร่ืองเต็มก�ำลัง ช่วงเวลานั้นทุกสิ่งทุกอย่างปลิวสะบัด ทั้งคานไม้ ด้ามไม้
และห่วงล้อครูดไปบนเนื้อตัวคุณ แย่ย่ิงกว่านั้นเม่ือคุณไม่สามารถน่ังนิ่งอยู่
ใจกลางมรสุมร้ายเหล่านั้น เพราะเรือโยกไปมาราวกับเปลแกว่งไกว ท�ำให้
คณุ ถกู โยนไปทางนนั้ ที ทางนท้ี ี โดยปราศจากสญั ญาณเตอื นใหร้ ตู้ วั คณุ ทำ� ได้
เพยี งแคท่ ำ� ตวั เองใหร้ า่ เรงิ ควบคมุ สตแิ ละการกระทำ� ไมใ่ หเ้ ลอ่ื นลอย แลว้ คณุ

1  ผู้น�ำหกคนของคณะต่อต้านแห่งเมืองกาแล (เมืองท่าเรือทางตอนเหนือของฝรั่งเศส) ยอมสละชีพเข้า
มอบตัว แต่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่สามทางส่ังให้เอาเชือกแขวนเป็นบ่วงรอบคอก่อนออกมา แต่ภายหลังก็
ทรงละเวน้ โทษประหาร

382 : โมบี้-ดกิ๊

จะรอดพน้ ภยั พบิ ตั ไิ ดเ้ หมอื นอยา่ งทแ่ี มเซปปา2ทำ� ได้ และหนไี ปยงั บรเิ วณทซี่ ง่ึ
แสงอาทติ ยไ์ มอ่ าจส่องผา่ นตวั คุณ

ย่ิงไปกว่านั้น ท้องทะเลเงียบสงบมักเป็นสัญญาณให้พยากรณ์ได้ว่าพายุ
ก�ำลงั ตามมา บางครัง้ อาจร้ายแรงย่ิงกวา่ พายุเองเสียอกี เพราะอันที่จริงแลว้
ทะเลสงบเงยี บเป็นเพยี งสงิ่ หอ่ หมุ้ และลักษณะภายนอกของพายุ มันอัดแน่น
ตัวมันเองไว้เหมือนดังเช่นตัวปืนเองไม่มีอันตรายอะไร หากแต่มันบรรจุผง
ดนิ ปนื ลกู กระสนุ และแรงระเบดิ เอาไวภ้ ายใน เชน่ นนั้ เองเชอื กทอดรา่ งอรชร
ราวงเู ลอื้ ยคดเคย้ี วอยา่ งเงยี บๆบนตวั ฝพี ายแตล่ ะคนกอ่ นสำ� แดงฤทธเิ์ ดชออก
มานั้น ยอ่ มนำ� มาซงึ่ ความน่ากลวั ย่ิงกว่าความน่ากลวั อ่ืนใดในการปฏิบัตงิ าน
น้ี ทว่าจะพูดมากไปท�ำไม? ลกู เรอื ทกุ คนต่างอยูภ่ ายในวงล้อมของเชอื กวาฬ
ทกุ คนตา่ งแบกนำ�้ หนกั บว่ งไวบ้ นคอของพวกเขา ทวา่ ทนั ทที บี่ ว่ งรดั ความตาย
จะเกดิ ขน้ึ อยา่ งรวดเรว็ และฉบั พลนั มนษุ ยต์ า่ งตระหนกั ดถี งึ อนั ตรายแหง่ ชวี ติ
ทเี่ งยี บระงบั ลกึ ลบั และฉบั พลนั เสมอ หากคณุ เปน็ ผรู้ หู้ ลกั ธรรม แมน้ ง่ั อยใู่ น
เรอื ล่าวาฬ คณุ กไ็ มร่ สู้ ึกถงึ ความน่ากลัวกระเถิบเพมิ่ ขึ้นมากไปกว่าการนง่ั อยู่
หนา้ แสงเพลงิ ยามพลบคำ่� พรอ้ มดว้ ยเหลก็ เขยี่ ไฟ และไมม่ ฉี มวกอยขู่ า้ งตวั คณุ

2  ตัวเอกในบทกวีของลอร์ด ไบรอน ถูกลงโทษให้เปลื้องผ้า มัดติดบนหลังม้าป่า แล้วปล่อยให้มันวิ่งไป
ชะตากรรมของเขาจึงขึ้นอยู่กับมา้ ตัวน้ี

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 383

บทที่ 61

สตับบจ์ อมสังหาร

ถ้าส�ำหรับสตาร์บัค วิญญาณหลอนของหมึกยักษ์เป็นส่ิงที่เรียกว่าลางร้าย
สำ� หรบั ควีเควกแล้วนนั่ กลบั เป็นส่ิงที่ต่างออกไปมาก

“ถา้ นายเจอมันเมอ่ื ไหร่ หมึกนัน่ ” เจา้ คนป่าพดู ขณะลบั ฉมวกของเขากบั
หัวเรือท่หี ้อยอยู่ “นายจะได้พบเร็วไว มัน...วาฬ-ทยุ นะ่ ”

วนั ถดั มาบรรยากาศยงั คงเงยี บระงบั อากาศรอ้ นอบอา้ วเหลอื กำ� ลงั เหลา่
ลูกเรือพีควอดไม่มีอะไรให้ต้องท�ำเป็นพิเศษ พวกเขาเกือบหลับใหลไปกับ
มนตส์ ะกดของท้องทะเลเวง้ิ ว้าง บริเวณมหาสมุทรอนิ เดยี ท่ีเรากำ� ลังล่องเรือ
ผา่ นอยนู่ ไ้ี มใ่ ชจ่ ดุ ทน่ี กั ลา่ วาฬเรยี กกนั วา่ แหลง่ หากนิ นนั่ เพราะเหน็ วาฬขนาด
เลก็ โลมา ปลานกกระจอก และสิ่งมชี ีวิตอ่นื ๆ ทอ่ี าศัยอยใู่ นน่านนำ�้ บริเวณ
นี้ น้อยกว่าบริเวณชายฝัง่ แมน่ ้�ำรโี อเดลาปลาตา หรอื น่านนำ้� เลียบชายฝง่ั เปรู

เวลานี้เป็นเวรผมต้องข้ึนไปยืนยามบนยอดเสากระโดงหน้า ผมเอนหลัง
บนเชือกระโยงใบหลักหย่อนคล้อย พลิกตัวกลับไปมาอย่างเกียจคร้านอัน
เปน็ ผลจากบรรยากาศชวนหลบั ใหลอยา่ งไมม่ ที างตา้ นทานได้ ในหว้ งอารมณ์
เคลิ้มฝันสติสัมปชัญญะเลือนหาย ท่ีสุดจิตส�ำนึกผมก็ล่องลอยออกจากร่าง
แม้ตัวยังคงสัปหงกราวลูกตุ้มแกว่งไปมา ทว่าพลังงานได้เคล่ือนจากไปไกล
เกนิ กว่าฉุดรั้งกลับ

ก่อนความเคลบิ เคล้มิ เขา้ ครอบง�ำเตม็ จติ ส�ำนกึ ผมเหลอื บเหน็ ลกู เรือบน
เสากระโดงหลัก และเสากระโดงท้ายเรือต่างหลุดเข้าสู่ภวังค์กันไปหมดแล้ว

384 : โมบ-้ี ด๊ิก

พวกเราท้ังหมดต่างส่ายโงนเงนอย่างคนไร้ชีวิตบนคานไม้ ทุกๆ จังหวะของ
การสา่ ยมสี ญั ญาณเรยี กมาจากเบอื้ งลา่ ง จากนายคดั ทา้ ยเรอื ผกู้ ำ� ลงั เคลม้ิ หลบั
คลนื่ ทะเลกเ็ ชน่ กนั ยอดคลนื่ เกยี จครา้ นผงกหวั เรยี กใหเ้ ขา้ สภู่ วงั คม์ นตส์ ะกด
แหง่ ทอ้ งทะเล ตะวนั ออกพยกั หนา้ เรยี กตะวนั ตก และดวงอาทติ ยท์ กุ แหง่ หน

ทนั ใดนน้ั เอง คลา้ ยฟองอากาศผดุ ขนึ้ ใตร้ อ่ งหลบุ เปลอื กตา สองมอื ของผม
ควา้ เชอื กระโยงไวแ้ นน่ ราวกบั คมี จบั ความงดงามทซี่ อ่ นกายอยนู่ นั้ ปลกุ ผมตน่ื
จากภวงั ค์ ดว้ ยความตกใจผมกลบั มามสี ตอิ กี ครงั้ ดนู น่ั ! ใกลๆ้ กบั ใตร้ ม่ ของเรา
หา่ งออกไปไมถ่ ึงส่สี บิ ฟาทอม วาฬหวั ทยุ ตวั เข่อื งก�ำลังม้วนตัวอยู่ในนำ้� ทะเล
ดูคล้ายเรือรบล�ำใหญ่พลิกคว�่ำ หลังกว้างของมันเป็นมันวาว สีคล้ายผิวชาว
เอธิโอเปียนั้นส่องประกายแสงอาทิตย์คล้ายกระจกเงา ผลุบโผล่ล้อเล่นคลื่น
บนท้องน้�ำ และพ่นพวยน้�ำร่ืนสุขเป็นครั้งคราว มันดูคล้ายคนเมืองลักษณะ
ภมู ิฐานก�ำลงั สูบกลอ้ งยาเสน้ อย่ใู ตไ้ ออุ่นแสงอาทิตยย์ ามเย็น ทว่ายาสบู นน้ั ...
เจ้าวาฬน่าสังเวช...จะเป็นครั้งสุดท้ายของเจ้า ราวมนต์สะกดคลายภายใต้ไม้
คทาของผูว้ ิเศษ เรือล่าวาฬซึมเซาและกะลาสที ีห่ ลับใหลในเรอื ต่างฟ้นื ตน่ื ข้ึน
มาในทันใด ตัวโน้ตแห่งเสียงไล่ระดับจากทุกหนแห่งตลอดล�ำเรือ พร้อมๆ
กับโน้ตอีกสามตัวจากบนที่สูงตะโกนด้วยเสียงร้องอันคุ้นหู วาฬยักษ์ยังคง
พน่ พวยนำ�้ เค็มข้นึ สู่อากาศทลี ะนอ้ ยๆ อย่างสม่ำ� เสมอ

“เอาเรอื ลง! แล่นทวนลมไป!” เอแฮ็บตะโกนสงั่ และเพือ่ ปฏบิ ตั ิตามค�ำสงั่
ของตัวเอง เขากระแทกพวงมาลยั ลงก่อนนายท้ายเรอื จะจบั เอาไว้ได้

เสียงร้องต่ืนเต้นของเหล่าลูกเรือคงท�ำให้วาฬตกใจตื่น ก่อนเรือเล็กถูก
หย่อนลงทะเล มันหมุนตัวสง่างามว่ายหันไปทางลม แต่ยังคงความสงบน่ิง
อย่างม่ันคง มีเพียงระลอกนำ้� กระเพื่อมบางๆ ตามทางมนั ว่ายไปเทา่ นน้ั แต่
นั่นก็ท�ำให้คิดได้ว่ามันอาจไม่ได้รู้สึกตื่นตระหนกอะไร เอแฮ็บส่ังไม่ให้ใช้ไม้
พาย และไม่ให้ใครพูดอะไรแม้แต่กระซิบกระซาบต่อกัน พวกเราจึงต้องน่ัง
อยบู่ นขอบกราบเรอื เหมอื นชาวอินเดยี นแดงออนตาริโอ1 ใช้มือพายนำ้� อยา่ ง

1  อนิ เดียนแดงออนตารโิ อ-ในแคดานา

เฮอรแ์ มน เมลวิลล์ : 385

คล่องแคล่วแต่ยงั คงเงียบกริบ ลมสงบไมย่ อมใหใ้ บเรือไรเ้ สยี งกางใบออก ไม่
นานนกั ขณะเรารอ่ นถลาออกไปลา่ เจา้ อสรุ กายกโ็ ผขนึ้ ยกหางตง้ั ฉากอยกู่ ลาง
อากาศสส่ี บิ ฟุต ก่อนจมลับตาเหมอื นหอคอยถกู กลืนหายไป

“น่ันปลายหาง!” เสียงร้องนั้นดังขึ้นทันทีหลังจากสตับบ์หยิบไม้ขีดขึ้นจุด
กล้องยาสูบของเขา แล้วเงียบเสียงไป ส้ินเสียงเขาพักใหญ่ วาฬก็โผล่ขึ้นมา
อีกครั้ง คราวนี้มันโผล่ขึ้นมาตรงหน้าเรือของนายข้ียา และใกล้เรือของเขา
มากกว่าเรือล�ำอื่น สตับบ์ถือว่านี่เป็นโอกาสอันดีท่ีจะได้จับวาฬ ซ่ึงเป็นท่ี
ชดั เจนแลว้ วา่ ตอนนมี้ นั รบั รถู้ งึ การลา่ ของเขาแลว้ ดงั นนั้ จงึ ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งคอย
เงยี บเสยี งระวงั ไมใ่ หม้ นั ตนื่ ตวั อกี ลกู เรอื เปลยี่ นจากใชม้ อื พายนำ้� มาใชไ้ มแ้ จว
สง่ เสยี งแจวดงั กกึ กอ้ ง ขณะสตบั บย์ งั คงดดู ควนั ยาเสน้ พรอ้ มสง่ เสยี งเรง่ เรา้ ลกู
เรอื ของเขาให้เข้าจูโ่ จม

ใช่แล้ว...การเปล่ียนแปลงคร้ังใหญ่ได้เกิดขึ้นกับวาฬตัวน้ีแล้ว มันได้ล่วงรู้
ถึงอันตรายที่ก�ำลังจะเกิดข้ึน เจ้าวาฬ “งอก” เอาส่วนที่ยื่นเฉียงออกมาจาก
ยีสต์ท่มี ันหมักไว้ขนึ้ มา2

“บกุ มัน บุกเขา้ ไปหามัน หนมุ่ ๆ! ไม่ตอ้ งรีบนกั เวลามีเยอะแยะ แคบ่ กุ
มันให้ได้ บุกไปหามันดั่งสายฟ้าฟาด แค่น้ันแหละ” สตับบ์ร้องเสียงดังขณะ
พน่ ควนั ออกมา “บกุ ไปเลย บอกให้พวกเขาจำ้� แรงๆ ไปยาวๆ แทชเทโก บุก
เขา้ ไป แทช เจา้ ลกู ชาย บกุ มนั เอาเลย แต่ใจเย็นๆ ล่ะ ใจเย็นๆ ท่องเอาไว้
ใจเยน็ ๆ ใจเย็นๆ แค่บุกเข้าหามนั ใหเ้ หมอื นกับมจั จรุ าชถมึงทึงเขา้ ใส่ ปีศาจ
แสยะยม้ิ ให้ แลว้ กระชากร่างไร้วิญญาณข้ึนมาจากสสุ านของมนั หนมุ่ แคน่ ั่น
แหละ บกุ มนั ซะ!”

“วู้ฮู้! วะฮี!” เจ้าเกย์เฮดเดอร์กรีดเสียงตอบรับ เงยหน้าข้ึนตะเบ่งเสียงโห่

2  อวัยวะส่วนนี้อยู่ในเน้ือสีขาวสว่างที่เป็นส่วนประกอบทั้งหมดภายในหัวขนาดใหญ่ของวาฬหัวทุย แม้มี
ขนาดใหญจ่ นเหน็ ได้ชัด แต่กเ็ ปน็ สว่ นทลี่ อยนำ้� ไดม้ ากทส่ี ดุ เหตนุ มี้ นั จงึ สามารถยกสงู ขน้ึ กลางอากาศได้
งา่ ย และมกั ทำ� เชน่ นนั้ เสมอในเวลาวา่ ยนำ้� เรว็ สดุ ขดี นอกจากนค้ี วามกวา้ งของหวั สว่ นหนา้ ดา้ นบน และ
รปู รา่ งเรยี วเลก็ สว่ นลา่ งทำ� ใหห้ วั ของมนั ยกเฉยี งขนึ้ จนอาจกลา่ วไดว้ า่ มนั กำ� ลงั แปลงรา่ งจากเรอื ทอ้ งแบน
หน้าตัดเอ่ือยเฉือ่ ย มาเป็นเรอื น�ำร่องนิวยอรก์ หวั เรียวแหลม

386 : โมบ-ี้ ดกิ๊

ร้องข้นึ สู่ท้องฟ้าอย่างช่�ำชอง ขณะฝพี ายทุกคนบนเรือขงึ ตรงึ ต่างกระโจนไป
ขา้ งหนา้ อตั โนมตั อิ อกแรงจำ�้ สดุ กำ� ลงั ตามเสยี งโหร่ อ้ งเรง่ เรา้ ของเจา้ อนิ เดยี แดง

เสียงหวีดร้องบ้าคล่ังของเขาได้รับการตอบรับอย่างท้วมท้นจากคนอ่ืนๆ
ด้วย “คีฮี! คีฮี!” แด๊กกูแผดเสียงตะโกน ขณะกระสับกระส่ายกระเถิบหน้า
กระเถบิ หลงั อย่บู นทน่ี ั่งของตัวเอง คล้ายดัง่ เสอื ติดจั่นอยู่ในกรงของตน

“คาลา! คูลู!” ควีเควกส่งเสียงโห่หอน คลับคลาว่าเขาจะตบริมปีปากอ้า
งับชน้ิ เน้ือคำ� ใหญข่ องทหารกองทพั เสยี งตะโกนโหร่ ้อง และแรงจ�้ำของฝพี าย
ท�ำให้โครงเรือจ้วงแทงน้�ำทะเล ขณะเดียวกันสตับบ์ยังคงรักษาต�ำแหน่งกอง
หนา้ สง่ เสยี งกระตนุ้ ลกู เรอื ของเขาใหเ้ รง่ จโู่ จม ทงั้ ทใี่ นปากพน่ ควนั ยาสบู ตลอด
เวลา เหลา่ ลกู เรอื คลา้ ยบา้ ระหำ่� ตา่ งออกแรงดงึ และตรงึ ไมพ้ ายสดุ แรงกระทงั่
เสียงแห่งความปรีดาดังให้ได้ยิน “ยืนข้ึน แทชเทโก! พุ่งหลาวใส่มัน!” ฉมวก
ถูกเหวี่ยงออกไป “ทุกคน ไปทางด้านหลัง!” ฝีพายแจวทวนน้�ำ ช่วงเวลา
เดยี วกนั นน้ั บางสง่ิ มอี ณุ หภมู ริ อ้ นขน้ึ และสง่ เสยี งฟอู่ ยตู่ ามขอ้ มอื ของพวกเขา
สง่ิ นนั้ คอื เชอื กวเิ ศษ ชว่ งจงั หวะนน้ั สตบั บร์ บี ควา้ ขน้ึ มาพนั เสาหลกั เพมิ่ อกี สอง
รอบ การพนั รอบเพ่ิมขนึ้ กะทันหันนนั้ เป็นเหตใุ ห้ความแหง้ ของเชอื กป่านเกดิ
ควนั ลอยขนึ้ มาผสมกลมกลนื ไปกบั ควนั ยาสบู ทเ่ี ขาพน่ ออกมาเปน็ พกั ๆ กอ่ น
เสน้ เชอื กเสยี ดสรี อบเสากลม กอ่ นหนา้ นน้ั ตลอดทง้ั เสน้ ผา่ นการเสยี ดสจี นเกดิ
ความร้อนจัดมาแล้วกับมือสองข้างของสตับบ์ท่ีสวมถุงมือ หรือช้ินผ้าบุหนา
ซ่ึงบางคร้ังอาจกร่อนขาดได้ในช่วงนี้ มันคล้ายกับการใช้ดาบคมสองเล่มยึด
คมดาบของศตั รไู ว้ ขณะศตั รพู ยายามกระชากดาบออกจากการยดึ จบั ของคณุ

“ราดน้�ำเชือก! ราดน้�ำเชือก!” สตับบ์ร้องบอกฝีพายประจ�ำถัง (นั่งอยู่ติด
ถังเชอื ก) เขารีบคว้าหมวกจากหวั ลงตักน�้ำทะเลข้ึนสาดใสเ่ ชอื ก3 แล้วท�ำซ้ำ� ๆ
อีกหลายคร้ังจนเชือกเร่ิมกลับมามีสภาพปกติ เรือในเวลาน้ีจึงแล่นผ่านน้�ำ
เดอื ดคล้ายฉลามถูกตัดครีบออกหมด สตบั บ์ และแทชเทโกสลับต�ำแหนง่ กัน

3  การกระทำ� เชน่ นจี้ ำ� เปน็ ตอ้ งกลา่ วถงึ ไวต้ รงนวี้ า่ ในการประมงดทั ชส์ มยั กอ่ น จะใชม้ ดั ผา้ จมุ่ นำ�้ ถไู ปบนเสน้
เชอื กทกี่ ำ� ลงั ถกู ลากดงึ เรอื เดนิ สมทุ รจำ� นวนมากจะมถี งั ไมเ้ ลก็ หรอื ถงั วดิ นำ้� เตรยี มไวส้ ำ� หรบั ใชใ้ นการน้ี
โดยเฉพาะ อยา่ งไรกต็ ามหมวกของคุณเป็นของทหี่ ยิบฉวยไดง้ ่ายสุด

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 387

ระหว่างหัวเรือ และท้ายเรือ การเดินโงนเงนผ่านล�ำเรือเช่นนั้นท�ำให้เรือโยก
คลอนจนเกดิ โกลาหล

เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนของเชือกขยายวงกว้างออกไปตลอดช่วงบนเรือ
อีกท้ังในเวลานี้มันขึงตึงเสียย่ิงกว่าสายพิณ คุณลองนึกถึงเรือที่มีโคลงสอง
ส่วน ส่วนหน่งึ ก�ำลังพ่งุ แหวกอยใู่ นน�้ำ อกี ส่วนแหวกตวั อยูก่ ลางอากาศ เม่อื
เรือถูกพดั ปน่ั จากธาตุธรรมชาติท้งั สองในเวลาเดียวกัน น้ำ� ทะเลสาดพรมเขา้
มาในเรือดังน�้ำตก สายน้�ำวนวนเวียนตามรอยทางน้�ำ ช่วงเวลานั้นเรือแทบ
ไม่ได้ขยับแม้เพียงคืบ แรงส่ันสะบัดเรือเอียงจนกราบเรือกระตุกลงทะเลเป็น
พกั ๆ ชว่ งเวลานน้ั ลกู เรอื ทกุ คนตา่ งรบี เกาะตดิ ทนี่ งั่ ของตนอยา่ งสดุ กำ� ลงั เพอ่ื
ไม่ใหถ้ กู เหว่ียงจมฟองคลื่นไป ร่างสงู ใหญข่ องแทชเทโกก้มลงเป็นสองเท่าอยู่
ตรงหางเสือเรอื เพ่อื ดึงศนู ยถ์ ว่ งของเขาลง มหาสมุทรท่ัวทั้งแอตแลนติก และ
แปซิฟิคเหมือนจะรับรู้ถึงความพยายามของพวกเขา กระท่ังบันดาลให้วาฬ
เพลาการโจมตีของมันลง

“ลากมา...ลากมา!” สตับบ์ตะโกนสั่งลูกเรือ! แล้วหันหน้ากลับไปยังวาฬ
ลกู เรอื ทกุ คนดงึ เรอื คบื เขา้ หามนั เปน็ จงั หวะเดยี วกบั ทเ่ี รอื ถกู ลากเขา้ ไปทำ� ให้
เรอื ขนึ้ ไปประชิดสขี า้ งมนั สตับบย์ ันเข่ากบั เสาเรอื ไวม้ น่ั แลว้ รบี ซัดหลาวออก
ไปยังวาฬท่ีก�ำลังโฉบหนี สิ้นเสียงค�ำส่ังน้ันเรือเปลี่ยนทิศแล่นไปทางตรงกัน
ข้ามว่ิงออกห่างจากการเกลือกกลิ้งน่ากลัวของวาฬ จากน้ันหลาวอันท่ีสอง
ถกู หยิบขนึ้ มาต้งั วิถพี ่งุ อกี คร้ัง

ตอนนก้ี ระแสนำ้� สแี ดงหลง่ั รนิ ออกมาจากทกุ ดา้ นของอสรุ กายคลา้ ยลำ� ธาร
ไหลกรูจากเนินเขา ร่างอันเจ็บปวดไม่ได้เกลือกกลิ้งอยู่ในน้�ำเค็ม แต่เป็นน�้ำ
เลือดท่ีผุดฟองขึ้นเดือดพล่านเป็นวงกว้างจากตัวมันออกไปหลายเฟอร์ลอง
ความหักเหของแสงอาทิตย์บิดเบือนบ่อน้�ำสีแดงเข้มในทะเลส่องสะท้อนสี
เลือดแดงฉานฉายฉาบบนใบหน้าของแต่ละคนจนดูราวกับชาวอินเดียนแดง
ชั่วเวลาน้ันพวยน้�ำจากลมหายใจสีขาวระเบิดความเจ็บปวดทรมานออกมา
จากช่องหายใจของวาฬ ขณะควนั ยาสูบพวยพน่ จากปากเพชฌฆาตผูไ้ ม่อาจ

388 : โมบี้-ดิก๊

คมุ สติตน หอกทกุ ดา้ มทีข่ ว้างออกไปถูกถอนกลับมาพร้อมกบั คมหอกโกง่ งอ
(โดยกระตุกเชือกท่ีมัดติดไว้) สตับบ์บิดมันให้ตรงคร้ังแล้วคร้ังเล่าด้วยการ
ฟาดมนั แรงๆ กับขอบบนกราบเรอื แล้วแทงไปบนตวั วาฬอกี ซำ�้ แลว้ ซำ�้ เลา่

“ดึงข้ึน.. ดึงข้ึน!” คราวนี้เขาร้องบอกลูกเรือด้วยน�้ำเสียงผ่อนคลายลง
ราวกับวาฬซีดไร้สีเลือดผ่อนปรนความแค้นของเขาลง “ดึงข้ึน! เอาเข้ามา
ใกล้ๆ!” จากน้ันเรือเข้าไปจอดข้างตัววาฬ เม่ือดึงมันขึ้นมาจนเกือบสูงกว่า
หัวเรือ สตับบ์ใช้หลาวคมยาวแทงลงไปบนตัววาฬแล้วคว้านช้าๆ อยู่ตรงน้ัน
คว้านแล้วคว้านอีกอยู่อย่างนั้นราวกับก�ำลังต้ังใจควานหานาฬิกาทองท่ีวาฬ
อาจกลนื เขา้ ไป และเขากลวั วา่ มนั อาจไดร้ บั ความเสยี หายกอ่ นเขาจะเกย่ี วมนั
ออกมาได้ ทวา่ นาฬกิ าทองทเ่ี ขาพยายามควานหาอยนู่ น้ั กค็ อื ดวงใจทฝ่ี งั อยลู่ กึ
ขา้ งในตวั วาฬ และตอนนมี้ นั ถกู คน้ พบแลว้ และกำ� ลงั หลดุ เขา้ สสู่ ภาวะทสี่ ง่ ผล
ใหส้ ง่ิ ทเ่ี รยี กวา่ “ไขมนั เดอื ด” ของมนั พงุ่ ทะลกั ออกมา อสรุ กายเกลอื กกลง้ิ อยู่
บนกองเลอื ด หอ่ หมุ้ ตวั มนั เองไวใ้ นละอองนำ�้ เดอื ดอยา่ งบา้ คลงั่ จนยากเขา้ ใจ
กระท่ังเรอื เส่ยี งต่อภยั อันตราย ฉับพลนั นนั้ ต่างถอยหลังออกมา ตะลตี ะลาน
กระเสือกระสนดนิ้ รนออกจากรัศมคี วามบา้ ระห่�ำนั้นสู่อากาศบรสิ ุทธิ์แห่งวนั

ตราบเม่ือไขมันเดือดบรรเทาลง วาฬโผล่ออกมาให้เห็นอีกคร้ัง! คลื่นซัด
มนั จากด้านหน่ึงไปอกี ดา้ นหนงึ่ กลา้ มเนอื้ ช่องหายใจของมนั ขยายออก และ
หดเกรง็ เขา้ พรอ้ มกบั เสยี งลมหายใจดงั เสยี ดแทงแกว้ หู ในทสี่ ดุ ลม่ิ เลอื ดสแี ดง
ไหลทะลกั ออกมาราวกบั ตะกอนสีม่วงของไวนแ์ ดงพุง่ เขยา่ ขวญั ท้องฟา้ ก่อน
รว่ งหลน่ ลงมาอกี ครงั้ หลงั่ รดรา่ งไมไ่ หวตงิ ของมนั ทลี่ อยอยใู่ นทะเล หวั ใจของ
มันถกู ระเบิดแตกแลว้ !

“มนั ตายแล้ว คุณสตับบ์” แดก๊ กพู ูดขึ้น
“จรงิ สนิ ะ ยาสูบหมดไปสองกลอ้ งแล้วนี่!” พูดจบกถ็ อนกล้องยาเส้นออก
จากปาก สตับบ์โปรยมอดข้ีเถาลงบนผืนน�้ำ ช่วงเวลานั้นสายตาครุ่นคิดจับ
จ้องไปทซี่ ากขนาดใหญ่ที่เขาเป็นผู้ลงมือสงั หาร

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 389

บทท่ี 62

วถิ ีฉมวก

นั่นเปน็ ค�ำท่เี กย่ี วขอ้ งกับเหตุการณใ์ นบทกอ่ นหน้านี้
ธรรมเนียมปฏิบัติที่สืบทอดต่อๆ กันมาในวงการประมง คือเรือเชือด

วาฬจะถกู ปลอ่ ยจากเรอื ใหญพ่ ร้อมกับเพชฌฆาต หรือนักฆา่ วาฬผู้ท�ำหนา้ ที่
ถือหางเสือช่ัวคราว และนักพุ่งฉมวก หรือคนผูกรัดวาฬซ่ึงจะน่ังประจ�ำอยู่
ต�ำแหน่งฝพี ายคนหนา้ สุด รจู้ ักกันในชือ่ ฝพี ายนักพงุ่ ฉมวก ต�ำแหนง่ น้จี ำ� เปน็
ต้องใช้คนที่มีช่วงแขนแข็งแรง และแม่นย�ำในการขว้างเหล็กแหลมใส่วาฬ
เพราะสง่ิ ทใี่ ชข้ วา้ งมกั เปน็ อาวธุ หนกั คมหอกยาว ซงึ่ จะตอ้ งขวา้ งในวถิ ไี กลถงึ
ยสี่ บิ หรอื สามสบิ ฟตุ ได้ ทวา่ ในกรณวี าฬทถี่ กู ลา่ หลบหนไี ปไกล นกั พงุ่ ฉมวกยงั
ตอ้ งทำ� หน้าท่อี อกแรงจ้�ำไม้แจวอย่างสดุ ก�ำลังไปพรอ้ มๆ กนั ด้วย จรงิ ๆ แลว้
เขาถกู กำ� หนดใหเ้ ปน็ ตวั อยา่ งแกฝ่ พี ายทเี่ หลอื ใหท้ มุ่ เทพละกำ� ลงั เหนอื มนษุ ย์
ธรรมดาในการปฏิบัติภารกิจ ไม่เพียงต้องออกแรงแจวอย่างบ้าคลั่งจนเหลือ
เชื่อ แต่ยังต้องตะเบ่งเสียงโห่ร้องปลุกความหาญกล้าซ้�ำๆ เพื่อผลักดันศักย
กำ� ลงั ของมนษุ ยใ์ หข้ น้ึ ถงึ ขดี สดุ เวลานน้ั เองกลา้ มเนอ้ื ของเหลา่ ลกู เรอื กระตกุ
ตงึ มนั เกดิ ขนึ้ ไดอ้ ยา่ งไรไมม่ ใี ครรนู้ อกจากบรรดาผทู้ เี่ คยผา่ นประสบการณน์ นั้
มาแลว้ ตวั ผมเองไม่เคยตะโกนสดุ อารมณ์ และไมเ่ คยร่วมแรงสุดกำ� ลงั อยา่ ง
บา้ ระหำ่� เลยสกั ครงั้ ขณะตะเบง็ โหร่ อ้ งสดุ เสยี ง เวลานน้ั เขาหนั หลงั ใหว้ าฬ และ
ทันทีทีน่ ักพุ่งฉมวกหมดแรงได้ยนิ เสยี งเรียกส่ัง “ยนื ข้นึ พงุ่ ใส่มัน!” เขาต้องรบี
หยุดวางไม้แจวของตนให้เรียบร้อยก่อนหันกลับมาคว้าฉมวกจากง่ามไว้มั่น

390 : โมบ-้ี ด๊ิก

มอื แลว้ ใชพ้ ละกำ� ลงั ทเี่ หลอื อยนู่ อ้ ยนดิ พยายามทำ� ทกุ อยา่ งเพอ่ื ขวา้ งมนั ออก
ไปท่ีตัววาฬ ไมใ่ ช่เรอ่ื งแปลก...หากนกั ล่าวาฬรวมกันเป็นกองทพั จนเกิดโอกา
สงามๆ ในการขวา้ งฉมวกสกั หา้ สบิ ครงั้ ทวา่ สกั หา้ ครง้ั พวกเขายงั ทำ� ไมส่ ำ� เรจ็
ไม่ใช่เรื่องแปลกหากมีนักพุ่งฉมวกอับโชคจ�ำนวนมากโดนประณามและลด
ความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่พวกเขาบางคนต้องหล่ังเลือดบนเรือเชือด
วาฬ ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งแปลกท่นี กั ล่าวาฬหัวทุยจะหายไปจากวงการนานรว่ มสี่ปเี มอื่
ไดไ้ ขมนั สบ่ี ารเ์ รล ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งแปลกทเ่ี จา้ ของเรอื จำ� นวนมากมองวา่ การลา่ วาฬ
เป็นแคธ่ รุ กิจเสีย่ งโชค เพราะทั้งหมดขนึ้ อยกู่ ับนกั พ่งุ ฉมวกทีร่ ่วมการเดินทาง
หากคณุ พรากลมหายใจไปจากรา่ งของเขาแลว้ จะคาดหวงั ไดพ้ บลมหายใจนน้ั
ที่น่นั ยามปรารถนาอยา่ งไรได้

ครนั้ หากพงุ่ ฉมวกไดส้ ำ� เรจ็ เมอื่ นนั้ เหตฉุ กุ เฉนิ จะเกดิ ขน้ึ เปน็ ครงั้ ทส่ี อง นน่ั
คอื เมอื่ วาฬเรมิ่ วา่ ยนำ�้ หนี ผนู้ ำ� เรอื และนกั พงุ่ ฉมวกจะวง่ิ พรอ้ มกนั จากหวั เรอื
ไปท้ายเรือ และจากท้ายเรือไปหัวเรือในช่วงเวลาท่ีอันตรายใกล้จวนตัวพวก
เขา และคนอ่ืนๆ บนเรือ เมื่อสลับต�ำแหน่งกันแล้ว เวลานั้นเพชฌฆาต...คน
ส่งั การสงู สดุ ของเรอื เล็กเขา้ ประจ�ำตำ� แหน่งบนหวั เรือ

ตอนน้ีผมไม่ได้สนใจว่าใครจะยังคงอยู่ตรงข้ามกันอย่างไร นอกเสียไป
จากว่าเร่ืองน้ีทั้งโง่และไร้สาระ เพชฌฆาตควรอยู่หัวเรือต้ังแต่ต้นจนจบ เขา
ควรเป็นทั้งคนพุ่งหลาว ละฉมวก ไม่ควรให้เขาต้องมาน่ังแจวเรือ เว้นแต่ใน
สถานการณท์ จี่ ำ� เปน็ ผมรวู้ า่ ธรรมเนยี มปฏบิ ตั เิ ชน่ นค้ี งเปน็ เพราะความเรว็ ของ
สัตว์ท่ถี ูกล่าแทบไม่ไดล้ ดลง แต่จากประสบการณ์อันยาวนานร่วมกับเปน็ นกั
ลา่ วาฬหลากหลายประเภทมากกว่าหนงึ่ ชนชาติท�ำให้ผมเชือ่ มั่นวา่ ความลม้
เหลวในการจบั วาฬสว่ นใหญไ่ มไ่ ดเ้ กดิ จากความเรว็ ของมนั มากไปกวา่ อาการ
หมดแรงของนักพงุ่ ฉมวก

เพอ่ื ให้แน่ใจในประสทิ ธิภาพสูงสุดของการพงุ่ ฉมวก นักพงุ่ ฉมวกบนโลก
น้คี วรเริม่ ภารกจิ ของตนจากพละกำ� ลงั ทเี่ ต็มเปีย่ มพรอ้ ม ไม่ใช่จากเรยี่ วแรงท่ี
ยังคงเหลือหลังตรากตร�ำงานหนกั

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 391

บทที่ 63

งา่ มพักฉมวก

ต้นไม้เติบโตแตกกิ่งก้านสาขาออกมาเป็นก่ิงไม้ฉันใด ความสมบูรณ์ของการ
เล่าเรอ่ื งยอ่ มควรแตกย่อยออกมาเป็นบทเพิม่ เติมฉนั นน้ั

เนื่องเพราะง่ามถูกกล่าวพาดพิงถึงในหน้าก่อน จึงสมควรอธิบายแยก
ออกมาอกี บท ลกั ษณะพเิ ศษของมันท่เี ปน็ ไมง้ า่ มความยาวประมาณสองฟตุ
จะถูกเสียบต้ังฉากอยู่บนขอบกราบเรือขวาบริเวณใกล้หัวเรือ เพื่อใช้ส�ำหรับ
พักปลายไม้ฉมวกด้านไม่มีคมเง่ียงโดยวางเอียงลาดยื่นมาจากหน้าเรือ น่ัน
ก็เพ่ือให้อาวุธอยู่ใกล้มือคนขว้างสามารถคว้าได้ง่ายในทันทีที่ต้องการใช้งาน
เหมอื นดงั เช่นคนปา่ ควา้ ลูกธนูจากดา้ นหลงั ของเขา ตามปกติแล้วจะมีฉมวก
สองอันวางอยู่ในงา่ มนี้เรียกวา่ ฉมวกหนึง่ และฉมวกสอง

ฉมวกสองอันน้ีต่างมีเชือกอันละเส้นและผูกติดกับเชือกวาฬทั้งสองเส้น
ทง้ั นกี้ ็เพอื่ ใช้พงุ่ ออกไปทงั้ สองอนั เมอ่ื มีโอกาส โดยพงุ่ อนั ทส่ี องใสว่ าฬตวั เดมิ
ในทันที่พุ่งอันแรกไป เผื่อว่าเมื่อถูกวาฬลากไปแล้วท�ำให้อันใดอันหนึ่งหลุด
จากตัวมัน ก็ยังมีเหลืออีกอันท่ียังติดอยู่ เป็นการเพ่ิมโอกาสในการจับวาฬ
ให้ได้ ทว่าบ่อยคร้ังท่ีหลังวาฬโดนฉมวกหนึ่งปัก มันจะกระตุกตัวว่ายหนีไป
อย่างรวดเร็ว จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยท่ีนักพุ่งฉมวกจะขว้างฉมวกสองออก
ไปได้ทัน เพราะน้ันหมายถึงเขาต้องมีการเคลื่อนไวที่เร็วดังสายฟ้าแลบเลย
ทีเดยี ว แมก้ ระน้นั เพราะฉมวกสองถูกผกู ติดกบั เชือกวาฬไว้แลว้ ดังนน้ั เมื่อ
เชือกถูกลากไปไม่ว่ากรณีใดก็ตาม อาวุธอันน้ีต้องรีบโยนออกนอกเรือไปใน

392 : โมบ้-ี ดกิ๊

ทันที เพ่ือไม่ให้เกิดเหตุอย่างใดอย่างหนึ่ง ณ ท่ีใดท่ีหนึ่ง หรือกรณีอ่ืนใดอัน
จะเป็นอันตรายร้ายแรงแก่ลูกเรือทุกคน เมื่อเหล็กแหลมลงไปหกคะเมนอยู่
ในน้�ำแล้วขดเชือกในถังเชือกฉมวก (เคยกล่าวถึงแล้วในบทก่อนหน้านี้) จะ
ท�ำหน้าที่ร้ังมันไว้ในทันที ทว่าเหตุวิกฤตินี้มักเป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรม
และทำ� คนบาดเจ็บลม้ ตายเสมอ

ยิง่ ไปกว่านัน้ คณุ ควรรูด้ ้วยวา่ เม่ือฉมวกสองถกู ปาออกนอกเรือแลว้ ก็จะ
ถกู เหวยี่ งหอ้ ยไปมาอยา่ งนา่ กลวั เหมอื นมา้ พยศยกขารา่ ระหวา่ งเรอื และวาฬ
อยู่อย่างนั้น ท�ำให้เชือกพันกันยุ่งหรือไม่ก็ตัดเชือกจนขาด และสร้างความ
โกลาหลอลหมา่ นไปทกุ ทศิ ซงึ่ โดยปกตแิ ลว้ จะหยดุ มนั ไดอ้ กี ครง้ั กเ็ มอื่ วาฬถกู
จับตายและกลายเปน็ ซากแลว้

คราวนีล้ องนกึ ดูสวิ า่ จะเปน็ ยงั ไง หากเรอื สลี่ ำ� ตา่ งพนั ตอู ย่กู ับวาฬทม่ี ไี หว
พรบิ ปราดเปรยี ว และแข็งแรงผิดธรรมดา ด้วยคณุ สมบตั เิ หลา่ นข้ี องมัน ร่วม
กบั เหตรุ า้ ยคลา้ ยๆ กนั ทเี่ กดิ ขน้ึ กบั ธรุ กจิ เสยี่ งภยั นนี้ บั พนั ครงั้ คงตอ้ งมฉี มวก
สองสักแปดหรอื สบิ อันหอ้ ยแกวง่ ไปมาพรอ้ มๆ กนั บนตวั มัน และแน่นอนว่า
เรอื แตล่ ะลำ� ยอ่ มตอ้ งเตรยี มฉมวกผกู เชอื กไวห้ ลายอนั เพอื่ ไมต่ อ้ งใสใ่ จกกู้ ลบั
คืนเหล็กแหลมอันแรกท่ีพลาดเป้า เรื่องราวท้ังหมดนี้จะถูกบรรยายไว้อย่าง
ตรงไปตรงมาในหนังสอื เล่มนี้ อยา่ งไรกต็ ามหลายชว่ งหลายตอนอาจมคี วาม
ซบั ซอ้ นไปบา้ ง นน่ั กเ็ พราะตอ้ งการอธบิ ายประเดน็ ทมี่ คี วามสำ� คญั มากหลาย
ประเด็นในเหตุการณท์ จ่ี ะได้บรรยายตอ่ ไปนี้

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 393

บทที่ 64

อาหารม้อื ค่ำ� ของสตับบ์

วาฬของสตบั บถ์ กู ฆา่ หา่ งไปจากเรอื ใหญพ่ อประมาณ เวลานที้ ะเลสงบพอจะ
โยงเรอื สามลำ� เขา้ ดว้ ยกนั เพอื่ เรมิ่ ภารกจิ ทตี่ อ้ งใชเ้ วลาในการลากจงู รางวลั แหง่
ชัยชนะกลับสเู่ รือพคี วอด พวกเราสบิ แปดคน สามสิบหกแขน นว้ิ โปง้ และน้วิ
มือรวมกันหน่ึงร้อยแปดสิบนิ้วช่วยกันออกแรงอย่างหนักค่อยๆ ลากซากไร้
วญิ ญาณอดื เออื่ ยในทะเลเป็นเวลานานชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า แตด่ ูเหมอื นมนั
แทบไมข่ ยบั เขยอ้ื นเอาเสยี เลย ตราบเมอื่ เวลาผา่ นพกั ใหญจ่ งึ ไดป้ ระจกั ษช์ ดั วา่
รา่ งใหญโ่ ตมหมึ านน้ั เคลอ่ื นตามแรงลากของเรา หากเปน็ คลองฮวงโห หรอื จะ
ชอื่ อะไรกต็ ามทช่ี าวจนี เรยี กมนั นน้ั คงตอ้ งใชค้ นงานประมาณสห่ี รอื หา้ คนบน
ทางเท้า ฉุดลากเรือสำ� เภาบรรทกุ สนิ คา้ ขนาดใหญ่ในอตั ราความเร็วหน่งึ ไมล์
ตอ่ ชว่ั โมง แตส่ ำ� หรบั กองเรอื ขนสง่ สนิ คา้ อารโ์ กซข่ี นาดมหมึ านเ้ี ราตอ้ งฉดุ ลาก
ดว้ ยความทลุ กั ทเุ ลราวกับมันบรรทุกตะกัว่ หลอ่ อยภู่ ายใน

ดวงบนกราบเรอื ลงมา สายตาวา่ งเปลา่ จอ้ งมองวาฬทลี่ ากมาชว่ั อดึ ใจหนง่ึ
แลว้ เขากอ็ อกคำ� สง่ั ตามปกตเิ หมอื นเชน่ ทกุ วนั บอกใหเ้ ฝา้ ระวงั เวรยามในเวลา
ค่ำ� แลว้ ยืน่ โคมไฟนัน้ ใหล้ กู เรือคนหนง่ึ ก่อนเดนิ กลบั ไปยังหอ้ งเคร่อื ง และไม่
กลบั ออกมาอกี กระท่งั เช้าวันใหม่

แม้ตามติดการไล่ล่าวาฬตัวนี้อย่างใกล้ชิด เอแฮ็บยังคงปฏิบัติตนเหมือน
ดงั เชน่ ปกติ ทกี่ ลา่ วเชน่ นกี้ เ็ พราะแม้ประจกั ษ์ชดั ว่าสตั ว์ตวั น้ีตายลงแลว้ ทวา่
คลับคล้ายความขุ่นเคือง กระวนกระวาย และผิดหวังยังคงคุกรุ่นอยู่ในตัว

394 : โมบ้-ี ด๊กิ

เขา ราวกับว่าภาพร่างไร้วิญญาณน้ันตอกย�้ำให้เขารู้ว่าโมบี้ด๊ิกยังคงไม่ได้ถูก
สังหาร และถึงแม้วาฬอ่ืนใดนับพันจะถูกน�ำมายังเรือของเขา ก็ไม่มีตัวใด
ทดแทนได้แม้เพียงข้ีเล็บของเป้าหมายที่ฝังลึกอยู่ในแรงแค้นของเขา ในเวลา
อนั ใกลน้ ี้ คณุ จะไดย้ นิ เสยี งบนดาดฟา้ เรอื พคี วอดขณะลกู เรอื ทกุ คนกำ� ลงั ชว่ ย
กันทอดสมอลงทะเลลึก โซ่เส้นใหญ่จะถูกลากไปตามดาดฟ้าเรือ และสอด
เคล่ือนออกหน้าต่างใต้ท้องเรือ ทว่าเสียงแคร๊งๆ ของลูกโซ่ที่กระทบกันน้ัน
เปน็ เสียงซากศพขนาดใหญ่ถกู ผูกพนั ธนาการ...ไม่ใชเ่ รอื มันถูกมัดต้ังแตส่ ว่ น
หวั ไปถงึ ส่วนทา้ ย และจากส่วนหางมายังหัวเรอื เวลานว้ี าฬจึงนอนเคียงขา้ ง
ตัวเรือสีดำ� เมื่อมองฝ่าความมดื ในเวลากลางคนื ซ่ึงเคร่ืองเสาและสายระโยง
ด้านบนคลุมเครือท�ำให้ท้ังเรือเดินสมุทร และวาฬดูคล้ายใส่เทียมสัตว์ใหญ่
อยา่ งวัวตอน ตัวหนง่ึ นอนเอกเขนก ขณะอีกตัวกำ� ลงั ยืนอย*ู่

*ขอกล่าวรายละเอียดเพมิ่ เตมิ ตรงนี้ว่า การพันธนาการวาฬไว้ขา้ งเรือเดนิ
สมุทรนั้นกระท�ำอย่างแน่นหนา และม่ันใจได้ โดยจะมัดส่วนที่เป็นเงี่ยง หรือ
หางของมัน เน่ืองจากบริเวณน้ันมีความหนาแน่นมากจึงค่อนข้างแข็งแรงกว่า
ส่วนอ่นื (ยกเว้นครบี ขา้ งลำ� ตวั ) มันมคี วามยดื หยุ่นแมจ้ ะตายไปแลว้ น่นั เพราะ
เป็นส่วนที่จมอยู่ใต้น�้ำดังนั้นมือของคุณจึงไม่สามารถเอ้ือมจากเรือเล็กมาจับ
สอดโซ่พนั รอบตัวมันได้ แต่งานยากๆ นี้จดั การไดอ้ ย่างชาญฉลาดดว้ ยการน�ำ
เอาเชอื กเสน้ เลก็ แตม่ คี วามแขง็ แรงผกู ตดิ กบั แผน่ ไมล้ อยนำ้� ทป่ี ลายเชอื ก ดว้ ยนำ�้
หนกั ถว่ งตรงกลางขณะปลายดา้ นหนง่ึ พนั ธนาการไวอ้ ยา่ งแนน่ หนาบนเรอื เดนิ
สมุทรจึงท�ำให้แผ่นไม้ลอยน้�ำน�ำปลายโซ่อีกด้านโผล่ข้ึนอีกฝั่งของตัววาฬอย่าง
รวดเรว็ สายโซอ่ ยใู่ นสภาพพรอ้ มใชง้ านจะถกู ไถลไปตามตวั วาฬ และถกู พนั รดั
ส่วนท่เี ลก็ ท่สี ดุ ของหางตรงจดุ เชอ่ื มต่อกบั เง่ียงกวา้ งสองดา้ นหรือลอนของมัน

แม้อารมณ์แปรปรวนของเอแฮ็บนิ่งสงบลงแล้วในเวลานี้ อย่างน้อยๆ ก็เป็น
ทปี่ ระจกั ษช์ ดั กนั บนดาดฟา้ ทวา่ สตบั บผ์ เู้ ปน็ ตน้ หนของเรอื รน่ื เรงิ กบั ชยั ชนะ

เฮอร์แมน เมลวลิ ล์ : 395

และทรยศหกั หลงั กบั ความเคยชนิ ทวา่ คงความตน่ื เตน้ ไวใ้ นทางทคี่ วร อารมณ์
พลุ่งพล่านท่ีไม่เคยเป็นมาก่อนน้ันท�ำให้สตาร์บัค ต้นเรือผู้มีต�ำแหน่งสูงว่า
สตับบ์ ซึ่งวางตัวสุขุมเสมอต้นเสมอปลาย ถึงกับเอ่ยปากกล่าวค�ำอ�ำลาเพ่ือ
ขอตัวไปใช้เวลาส่วนตัวอย่างเงียบๆ อาหารหน่ึงจานเป็นเหตุแห่งความเริง
ร่ืนทั้งหมดในตัวสตับบ์ ซ่ึงมันก�ำลังถูกเผยออกมาอย่างน่าแปลกใจ สตับบ์
เป็นพวกสุรุ่ยสุร่าย เขาลุ่มหลงหัวปักหัวป�ำท่ีจะเอาเนื้อวาฬมาแตะเพดาน
ปากเพ่อื ชิมรสชาตขิ องมนั

“สเต็ก ฉันอยากกินสเต็กสักช้ินก่อนนอน! เฮ้ย...แด๊กกู! ลงน�้ำไปตัดเนื้อ
ช้ินจ้อยของมันมา!”

เป็นท่ีรู้กันว่าแม้หมู่ชาวประมงเป็นคนป่าเถื่อน ทว่าการกระท�ำเช่นนี้โดย
ทั่วไปแล้วถือเป็นเรื่องไม่ควร เฉกเช่นหลักปฏิบัติของกองทัพผู้กล้าจะไม่ให้
ข้าศึกเป็นผู้ชดใช้ค่าความเสียหายที่เกิดข้ึนในสงคราม (อย่างน้อยก็ก่อนการ
เดินทางจะบรรลุผล) กระนั้นบางคร้ังคราคุณจะพบว่าชาวแนนทักเก็ตบาง
คนช่ืนชอบรสชาตถิ ึงเน้อื ถงึ รสของวาฬหวั ทุย สว่ นทส่ี ตบั บ์ระบซุ ง่ึ เป็นช้นิ เนอื้
ปลายแหลมเรียวของวาฬ

ประมาณเทย่ี งคนื เนอื้ สว่ นนนั้ ถกู ตดั ออกมาปรงุ เปน็ อาหาร ภายใตแ้ สงไฟ
จากโคมไขวาฬสองดวง สตบั บย์ นื แขง็ ขนั ตรวจสอบชนิ้ เนอื้ สเตก็ วาฬหวั ทยุ ของ
เขาบนหวั กวา้ นสมอ ทำ� ราวกบั เครอ่ื งกวา้ นเปน็ ดงั ตจู้ ามชาม สตบั บไ์ มไ่ ดเ้ ดยี ว
ดายอยใู่ นงานเลย้ี งเนอ้ื วาฬเพยี งลำ� พงั ในคำ่� คนื นน้ั เสยี งเคย้ี วบดงำ� ๆ ของเขา
กลมกลนื สงั สรรคร์ ว่ มกบั เหลา่ ฉลามโหยนบั พนั นบั หมน่ื ตวั ทว่ี า่ ยวนไปมารอบ
ซากศพสตั วท์ ะเลยกั ษ์ โฉบกัดกินความอดุ มสมบูรณ์ของมันอย่างเอร็ดอร่อย
ผู้หลับใหลอยู่บนท่ีนอนด้านล่างสะดุ้งตกใจในทุกครั้งเมื่อหางของพวกมัน
ฟาดแรงไปที่ตัวเรือ ห่างไปเพียงไม่กี่น้ิวจากหัวใจของพวกเขา เพียงมองไป
ด้านข้างคุณก็จะเห็นพวกมัน (เห็นก่อนที่คุณจะได้ยินเสียงพวกมันเสียอีก)
เกลอื กกลง้ิ อยใู่ นนำ้� ขนุ่ มวั และพลกิ ตวั กลบั หลงั เมอื่ ขดุ ตกั ชนิ้ เนอ้ื วาฬเปน็ รปู
ทรงกลมขนาดใหญเ่ ทา่ หวั คน ความสามารถเฉพาะตวั เชน่ นขี้ องฉลามชา่ งเปน็

396 : โมบี-้ ดกิ๊

เรอ่ื งนา่ อัศจรรย์ ผิวเนอ้ื ที่ยากต่อการโจมตีเช่นนนั้ เหตุใดพวกมันจงึ สามารถ
แซะออกมาได้เต็มค�ำ เรอื่ งนยี้ ังคงเป็นปัญหาชวนคิดตลอดมา รอยกดั ทพ่ี วก
มันท้งิ ไว้บนตวั วาฬเปรียบไดก้ ับรูทีช่ ่างไมเ้ จาะไว้ส�ำหรับใส่ตะปคู วง

ชว่ งขณะความโหดเหย้ี ม และสยดสยองคละคลงุ้ ทว่ั สนามรบแหง่ ทอ้ งทะเล
ต่างฝ่ายต่างรู้ดีว่าฉลามก�ำลังจ้องกระหายมายังดาดฟ้าเรือ ดังเช่นสุนัขหิว
กระหายเดนิ ปว้ นเปย้ี นรอบโตะ๊ ทก่ี ำ� ลงั ชำ� แหละชนิ้ เนอ้ื พวกมนั พรอ้ มรมุ ทงึ้ ลกู
เรอื ทถี่ กู สงั หารแลว้ โยนลงทะเลไปให้ และแมน้ คนแลเ่ นอื้ ผอู้ งอาจจะแลเ่ นอ้ื กนิ
สดๆ ดว้ ยมดี ฉาบทอง และประดบั พรู่ ะหง ฉลามเองกป็ ระดบั ปากของมนั ดว้ ย
คมเขย้ี วแข็งราวเพชรพลอย พวกมันต่างแยง่ กนั ช�ำแหละเน้ือทตี่ ายแลว้ อยใู่ ต้
โตะ๊ อาหารนน้ั และแมน้ คณุ พลกิ กลบั เรอ่ื งราวทง้ั หมดน้ี มนั ยงั คงเปน็ เรอื่ งเดมิ
ไม่มีวันแปรเปล่ียน กล่าวคือความตะกละตะกลามมีมากพอส�ำหรับทุกฝ่าย
อีกแม้นฉลามยังถือเป็นผู้คุมเรือขนทาสข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกทุกล�ำที่
ลอ่ งเรอื ตามเสน้ ทางเดมิ เปน็ นจิ สนิ ทง้ั นเี้ พอ่ื ความสะดวกแกเ่ รอื ในการนำ� หบี
ศพพกตดิ ไปดว้ ยทกุ แหง่ หน หรอื อกี นยั หนงึ่ เพอื่ ใหศ้ พของทาสทต่ี ายไปไดถ้ กู
จดั การอยา่ งเหมาะสม และแมน้ จะมตี วั อยา่ งอน่ื อกี หนง่ึ หรอื สองตวั อยา่ งดงั
จะไดเ้ ขยี นบนั ทกึ ไวเ้ กยี่ วกบั ชว่ งเวลา สถานท่ี และโอกาสทฉี่ ลามจะรวมกลมุ่
กันรว่ มสังสรรค์ และกนิ เลย้ี งกันอยา่ งสนุกสนาน ซงึ่ จะไมม่ ชี ว่ งเวลาใด หรือ
โอกาสใดท่ีคุณจะได้เห็นพวกมันจ�ำนวนมากมายเหลือคณานับต่างเบิกบาน
และเรงิ รา่ รอบซากศพวาฬหวั ทยุ ทถ่ี กู ผกู มดั ตดิ กบั เรอื ลา่ วาฬกลางทะเลเชน่ น้ี
หากคุณไม่ได้เห็นภาพนั้นอย่าเพ่ิงตัดสินใจอะไรเก่ียวกับความถูกต้องในการ
บชู าภตู ผปี ีศาจ และความเหมาะสมในการเป็นมติ รกบั ปีศาจ

ทวา่ ในเวลาเชน่ นส้ี ตบั บไ์ มไ่ ดส้ นใจเสยี งงมึ งำ� ของงานเลย้ี งอาหารใกลๆ้ เขา
เช่นเดยี วกับฉลามกไ็ ม่ไดส้ นใจเสียงเคย้ี วปากเสพสขุ ของเขา

“พ่อครัว...คนครัว! เจ้าแก่ขนแกะไปไหนแล้ว” เขาร้องเสียงเหยียดยาว
พร้อมกับถ่างขากว้างขึ้นกว่าเดิมราวกับต้องการให้ได้ฐานท่ีม่ันส�ำหรับกิน
อาหารมื้อค่�ำของตน เวลาเดียวกันเขาใช้ส้อมแทงไปบนจานเหมือนปะหน่ึง

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 397

จว้ งแทงหลาวของเขาออกไป “คนครัว...เจ้าคนครวั ! มาทางนที้ ี พอ่ ครวั !”
กอ่ นหนา้ นช้ี ายชราผวิ ดำ� ไมไ่ ดม้ คี วามยนิ ดดี ว้ ยนกั ทตี่ อ้ งลกุ ขนึ้ มาจากเปล

ญวณอุ่นๆ ของตนเพื่อร่วมสุงสิงอยู่กับคนเอะอะตึงตังไม่เป็นเวล่�ำเวลาเช่น
นี้ แกเดินลากขาออกมาจากห้องครัวของตน ดังเช่นชายชราผิวด�ำส่วนใหญ่
มักมีปัญหาบริเวณกระดูกสะบ้า ซ่ึงแกไม่ได้เฝ้าดูแลขัดเงามันให้ดีเหมือนดัง
เช่นกระทะในครัวของตน ชายชราผู้ท่ีใครๆ เรียกขานว่าเฒ่าขนแกะผู้น้ี เดิน
งมุ่ งา่ มกะเผลกขาโดยใชค้ มี เปน็ ตวั ชว่ ยพยงุ การกา้ วเดนิ ดว้ ยลกั ษณะคมี ทด่ี ดั
ตรงมาจากหว่ งเหลก็ ทำ� ใหใ้ ชง้ านไดไ้ มค่ อ่ ยดนี กั ชายชราผวิ ดำ� ตะเกยี กตะกาย
ออกมารบั คำ� สง่ั แกมาหยดุ ยนื เงอื่ งหงอยอยตู่ รงขา้ มตจู้ านชามของสตบั บ์ มอื
สองขา้ งกมุ ไวบ้ นคมี ไมเ้ ทา้ สองขาตรงหนา้ กม้ หลงั งองมุ้ ใหโ้ กง่ โคง้ มากกวา่ เดมิ
พร้อมกับเอยี งหวั ไปด้านขา้ งเพ่อื ให้หูข้างทฟี่ งั ชดั ของตนไดย้ ินเสยี งค�ำสัง่ นัน้

“พอ่ ครวั ” สตบั บเ์ รยี ก แลว้ รบี อา้ ปากใหเ้ หน็ ชนิ้ เนอ้ื สแี ดงในปากเขา “นาย
ไม่คิดว่าสเต็กชิ้นน้ีสุกไปหรือ? หวดมันมากไปนี่...พ่อคนครัว มันเลยนิ่มเกิน
ฉันไม่เคยบอกเลยว่าท�ำอย่างนี้ดี สเต็กวาฬต้องเหนียวไม่ใช่หรือ? ฝูงฉลาม
ขา้ งเรอื นนั่ นายรไู้ หมมนั ชอบเนอื้ วาฬเหนยี ว และไมส่ กุ จนเกนิ ไป? นน่ั ...พวก
มนั สง่ เสยี งเอะอะอะไรกนั นะ่ ! พอ่ ครวั ไปบอกพวกมนั ที บอกวา่ พวกมนั จะได้
รบั ความเออ้ื เฟอ้ื นห้ี ากมคี วามสภุ าพ รจู้ กั พอประมาณ และตอ้ งเงยี บดว้ ย สง่
เสียงเอะอะอกึ ทึกอย่างน้ันจะทำ� ใหข้ า้ ไม่ได้ยินเสียงตัวเอง ไปส.ิ .. คนครวั เอา
คำ� พดู ของขา้ ไปถา่ ยทอด เอาน.ี่ ..เอาโคมไฟนไ้ี ป” เขาควา้ โคมไฟจากตจู้ านชาม
ของตนส่งให้ “ทนี ้ีกไ็ ปไดแ้ ลว้ และส่ังสอนพวกมันด้วย!”

ชายชราขนแกะรับโคมไฟที่ยื่นมาโดยไม่พูดไม่จา แล้วเดินกะเผลกข้าม
ดาดฟ้าเรือไปยังกราบเรือ หย่อนแสงไฟในมือข้างหน่ึงออกไปส่องสว่างท่ัว
ทะเลจนเหน็ ภาพเหลา่ ฝงู ชมุ นมุ ชดั เจน จงึ ใชม้ อื อกี ขา้ งยกคบี ไมเ้ ทา้ กวดั แกวง่
ตามอยา่ งพธิ กี รรมทางศาสนา พรอ้ มชะโงกหนา้ ออกไปขา้ งเรอื สง่ เสยี งพมึ พำ�
ปราศรัยกับฝูงฉลาม ช่วงจังหวะนั้นสตับบ์แอบย่องตามมาทางด้านหลังทัน
ได้ยนิ คำ� พดู เหลา่ นั้นทกุ ถ้อยคำ�

398 : โมบ้-ี ดิก๊

“สัตว์ผู้เป็นพ่ือนทุกข์ท้ังหลาย ฉันขอออกค�ำสั่งกับพวกเจ้าตรงน้ีว่าพวก
เจ้าตอ้ งหยุดส่งเสยี งรบกวนบ้าน่นั ซะ ได้ยนิ มั้ย? หยุดท�ำเสยี งจว๊ บๆ บนปาก
ของเจ้าซะ! เจา้ นายสตับบบ์ อกวา่ พวกเจ้าสวาปามให้เตม็ คราบได้ แตใ่ ห้ตาย
เถอะ! พวกเจ้าตอ้ งเลิกสง่ เสียงหนวกหนู นั้ ซะ!”

“พ่อครัว” สตับบ์พูดแทรกขึ้นมา พร้อมกับตบผล๊ัวไปบนบ่า “พ่อครัว!
ท�ำไม...อย่าท�ำตาอย่างน้ันนะ นายไม่ควรใช้ค�ำพูดสบถอย่างนั้นตอนแสดง
ธรรม เพราะมันไม่ชว่ ยให้คนบาปกลับตัว พอ่ คนครวั !”

“ใครกนั คนบาป? ถ้าอย่างน้นั ต้นหนกไ็ ปเทศนาพวกมันเองแล้วกัน” แล้ว
หันหลังกลบั ช้าๆ

“ไม่...พอ่ ครัว นายเทศนาต่อ เทศนาไป”
“ถา้ งน้ั ก.็ ..สตั วผ์ เู้ ปน็ เพ่ือนทกุ ขท์ รี่ ักย่ิง”
“นา่ น!” สตบั บร์ อ้ งบอกดว้ ยความพอใจ “โนม้ นา้ วพวกมนั ใหท้ ำ� ตาม เอา้ ...
ลองด”ู ขนแกะเฒ่ากล่าวตอ่
“พวกเจา้ ลว้ นเปน็ ฝงู ฉลาม มนี สิ ยั ตะกละตะกลาม ฉนั จะบอกแกพ่ วกเจา้ ...
เพอ่ื นผรู้ ว่ มทกุ ข์ วา่ ความตะกละตะกลามนนั้ ทำ� ใหห้ างของพวกเจา้ กอ่ ‘เสยี ง
อึกทึกโครมครามขึ้น’ พวกเจ้าจะได้ยินได้อย่างไรหากยังคงส่งเสียงบ้าๆ นั่น
และกดั แทะอยู่ตรงนั้น?”
“พ่อครวั ” สตบั บเ์ รียกเสยี งดังขณะกระชากคอเส้ือของแก “ฉันไม่ตอ้ งการ
ใหส้ บถออกมา พดู กับพวกมันอยา่ งสุภาพส”ิ
การเทศนาเร่ิมข้นึ อกี ครงั้
“ความตะกละตะกลามท่ีเจ้ามี...เพื่อนผู้ร่วมทุกข์ ฉันไม่คิดต�ำหนิเจ้า นั่น
เพราะมันเป็นธรรมดานิสัย และเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ แต่จงควบคุมความชั่ว
ร้ายนัน้ ไว้ แมพ้ วกเจ้าจะเป็นฉลามพญามาร ทว่าหากเจ้าคุมความตะกละใน
ตวั เองได้ ไฉนเลยจะเปน็ เทพยดาไปไมไ่ ด้ เทพยดานนั้ เลา่ ไมไ่ ดเ้ ปน็ มากไปกวา่
ฉลามที่รู้จักควบคุมตัวเอง เอาล่ะ...ฟังนะ ฉันเพียงต้องการให้พวกเจ้าทำ� ตัว
มมี ารยาทในการแทะเนื้อวาฬน้นั อย่าฉีกท้ึงก้อนไขมนั นนั้ จากปากของเกลอ

เฮอร์แมน เมลวิลล์ : 399

เจ้า ฉนั ขอร้อง คงไม่มีฉลามตัวใดแบง่ ปนั เนอ้ื วาฬนั้นใหก้ ับฉลามวัยออ่ นน่ัน
ใชม่ ัย้ ? ใหต้ ายเถอะ พวกเจา้ ไม่มีใครมีสทิ ธิ์ในตัววาฬน่นั วาฬตวั นน้ั เป็นของ
คนอื่น ฉนั รวู้ า่ พวกเจา้ มีปากใหญ.่ ..ใหญ่กวา่ อวัยวะส่วนใดๆ แต่ว่าปากขนาด
ใหญบ่ างครงั้ กอ็ าจมกี ระเพาะทเี่ ลก็ ดงั นน้ั ความใหญข่ องปากใชจ่ ะชว่ ยใหก้ ลนื
ไดม้ าก จงแบง่ ไขมนั นนั่ ใหก้ บั ลกู ฉลามตวั เลก็ ๆ ทไี่ มอ่ าจแทรกฝงู แออดั เขา้ ไป
แทะกินเองได้ดว้ ยเถดิ ”

“ดมี าก เฒา่ ขนแกะ!” สตบั บพ์ ูดดังข้ึน “ครสิ ต์ศาสนกิ ชน จงเทศน์ตอ่ ไป”
“ไมม่ ปี ระโยชนท์ จ่ี ะเทศนต์ อ่ ไป พวกมนั เอาแตต่ งั้ หนา้ ตง้ั ตารมุ ทงึ้ และแยง่
ฉกกนั กนิ ตน้ หนสตับบ์ พวกมันไมฟ่ ังเลยสกั คำ� ไม่มปี ระโยชนท์ ่จี ะเทศนาให้
พวกตะกละทตี่ น้ หนเรยี กนน้ั ฟงั จนกวา่ ทอ้ งของมนั จะอม่ิ และไมม่ ที ว่ี า่ งเหลอื
อีก แม้พวกมนั กินกันจนอิม่ แลว้ พวกมนั กย็ ังไม่ฟงั หรอก กนิ อ่มิ แลว้ พวกมนั
ก็ดิ่งลงทะเลไป รบี ไปเขา้ นอนตามหนิ ปะการงั และไมไ่ ด้ยินเสยี งอะไรอีก ไม่
ได้ยนิ อกี นานเท่านาน”
“ส่วนลึกในใจ ฉันยังคงคิดเห็นเช่นเดิม ฉะน้ันจงประสาทพรต่อไป เฒ่า
ขนแกะ สว่ นฉนั จะกลบั ไปกินอาหารค่ำ� ตอ่ ”
คราวน้ี เฒ่าขนแกะกุมสองมือขึ้นเหนือฝูงปลา แล้วร้องเสียงแหลมดังว่า
“สัตว์ร่วมทุกข์อัปรีย์! จงส่งเสียงบ้าน้ันให้ดังท่ีสุดเท่าที่พวกเจ้าจะท�ำได้
สวาปามกันใหเ้ ต็มคราบ กนิ ให้อิม่ จนท้องแตกตายไปซะ”
“เฮ้ย คนครัว” สตับบ์เรียก ขณะลงมือจัดการอาหารค่�ำของตนที่เคร่ือง
กวา้ นสมอ “ยืนตรงท่นี ายยนื กอ่ นหนา้ นี้ ตรงน้นั แหละ ตรงข้ามฉัน แลว้ ตง้ั ใจ
ฟงั ให้ด”ี
“พรอ้ มรบั ‘คำ� บญั ชา’” ขนแกะเฒ่าพดู ขน้ึ พรอ้ มกบั กม้ ตวั โคง้ เหนอื ไมเ้ ทา้
คมี ในท่าสบายของแก
“ดี” สตบั บ์พดู ขณะปล่อยตัวตามสบาย “คราวนฉี้ ันจะกลบั มาพดู ถงึ เรื่อง
สเตก็ ช้นิ น้ี เริ่มแรกนายอายุเทา่ ไรแลว้ พอ่ ครัว?”
“แล้วมันเกย่ี วกบั อะไรกับสเต็กนั้น” ชายชราผวิ ดำ� พูดเสียงขุน่

400 : โมบ้ี-ดกิ๊


Click to View FlipBook Version