The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การพัฒนาเครื่องชี้วัดและแบบสอบถามข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) และข้อมูลพื้นฐาน
ระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค) เป็นเครื่องมือในการวางแผนพัฒนาให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ และจะมีการปรับปรุงทุก ๆ 5 ปี ในปี พ.ศ. 2565 เป็นปีเริ่มต้นของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (2565 - 2569) จึงมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องชี้วัด เกณฑ์ชี้วัดและ
แบบสอบถามชุดใหม่สำหรับจัดเก็บข้อมูล จปฐ. และข้อมูล กชช. 2ค ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย
การพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561 – 2580) และการควบคุม
คุณภาพการจัดเก็บข้อมูลและรูปแบบการรายงานด้วยระบบสารสนเทศที่รองรับความต้องการของทุก
ภาคส่วน การศึกษาครั้งนี้มีวิธีศึกษาจากการวิเคราะห์ประมวลผลจากการสอบถามความคิดเห็นผู้ใช้ข้อมูล
จปฐ. และข้อมูล กชช. 2ค เกี่ยวกับปัญหาและความต้องการของผู้ใช้ข้อมูล (ส่วนภูมิภาค) กระจายตาม
ภูมิภาค จำนวน 8 จังหวัด จังหวัดละ 5 หน่วยงาน รวม 40 หน่วยงาน และการวิเคราะห์ประมวลผลจาก
ประชุมรับฟังความคิดเห็นของคณะทำงานปรับปรุงเครื่องชี้วัดคุณภาพชีวิตของประชาชน และ
คณะกรรมการอำนวยการงานพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน (พชช.)
ผลการศึกษา พบว่า การใช้แบบสอบถามข้อมูล จปฐ. และแบบสอบถามข้อมูล กชช. 2ค
สำหรับใช้ช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ปรับระยะเวลาการเริ่มใช้ให้สอดคล้อง
กับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จึงเริ่มใช้ระหว่าง
พ.ศ.2566 – 2570 เครื่องชี้วัดข้อมูล จปฐ. ที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติฉบับที่ 13 ( พ.ศ.2566 - พ.ศ. 2570) ประกอบด้วย 5 หมวด 38 ตัวชี้วัด ได้แก่ หมวดที่ 1
สุขภาพ มี 12 ตัวชี้วัด หมวดที่ 2 มาตรฐานความเป็นอยู่ มี 9 ตัวชี้วัด หมวดที่ 3 การศึกษา มี 5 ตัวชี้วัด
หมวดที่ 4 เศรษฐกิจ มี 4 ตัวชี้วัด และหมวดที่ 5 การคุ้มครองทางสังคมและการมีส่วนร่วม มี 8 ตัวชี้วัด
และเครื่องชี้วัดข้อมูล กชช. 2ค สำหรับใช้ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13
(พ.ศ. 2566 - 2570) ประกอบด้วย 7 หมวด 44 ตัวชี้วัด ดังนี้ หมวดที่ 1 โครงสร้างพื้นฐาน มี 10
ตัวชี้วัด หมวดที่ 2 สภาพพื้นฐานทางเศรษฐกิจ มี 10 ตัวชี้วัด หมวดที่ 3 สุขภาวะและอนามัย มี 7
ตัวชี้วัด หมวดที่ 4 ความรู้และการศึกษา มี 4 ตัวชี้วัด หมวดที่ 5 การมีส่วนร่วมและความเข้มแข็ง
ของชุมชน มี 5 ตัวชี้วัด หมวดที่ 6 ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มี 5 ตัวชี้วัด และหมวดที่ 7
ความเสี่ยงของชุมชนและภัยพิบัติ มี 3 ตัวชี้วัด สำหรับกลไกและกระบวนการบริหารจัดเก็บข้อมูลให้มี
คุณภาพ ต้องมีกลไกควบคุมคุณภาพในทุกระดับ ดังนี้ คณะกรรมการอำนวยการงานพัฒนาคุณภาพชีวิต
ของประชาชน (พชช.) คณะทำงานบริหารการจัดเก็บข้อมูลฯ ระดับจังหวัด คณะทำงานบริหารการจัดเก็บ
ข้อมูลฯ ระดับอำเภอ คณะทำงานบริหารการจัดเก็บข้อมูลฯ ระดับตำบล และคณะผู้จัดเก็บข้อมูลระดับ
หมู่บ้าน โดยมีกระบวนการที่มีคุณภาพ ดังนี้การสร้างความรู้ความเข้าใจ การออกแบบวิธีการจัดเก็บข้อมูล
การจัดเก็บข้อมูล การบันทึกและประมวลข้อมูล การตรวจทานข้อมูล และการนำเสนอข้อมูลเพื่อการใช้
ประโยชน์ร่วมกันในทุกระดับ ข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลควรให้คนในชุมชนและ
องค์กรหน่วนงานที่เกี่ยวข้องเห็นความสำคัญในการให้ข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลโดยการสร้างการมี
ส่วนร่วมในการจัดเก็บข้อมูล และควรมีการฝึกอบรมและเพิ่มองค์ความรู้ให้กับผู้จัดเก็บข้อมูลอย่างเข้มข้น
รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลรวมกันทั้งประเทศ

คำสำคัญ: คุณภาพชีวิตประชาชน,ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.),ข้อมูลพื้นฐานระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by vasusamran55, 2021-07-01 09:24:14

โครงการจัดทำเครื่องชี้วัดและแบบสอบถามข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.)และข้อมูลพื้นฐานระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค) ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2565-2569)

การพัฒนาเครื่องชี้วัดและแบบสอบถามข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) และข้อมูลพื้นฐาน
ระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค) เป็นเครื่องมือในการวางแผนพัฒนาให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ และจะมีการปรับปรุงทุก ๆ 5 ปี ในปี พ.ศ. 2565 เป็นปีเริ่มต้นของแผนพัฒนาเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (2565 - 2569) จึงมีความจำเป็นต้องใช้เครื่องชี้วัด เกณฑ์ชี้วัดและ
แบบสอบถามชุดใหม่สำหรับจัดเก็บข้อมูล จปฐ. และข้อมูล กชช. 2ค ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย
การพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2561 – 2580) และการควบคุม
คุณภาพการจัดเก็บข้อมูลและรูปแบบการรายงานด้วยระบบสารสนเทศที่รองรับความต้องการของทุก
ภาคส่วน การศึกษาครั้งนี้มีวิธีศึกษาจากการวิเคราะห์ประมวลผลจากการสอบถามความคิดเห็นผู้ใช้ข้อมูล
จปฐ. และข้อมูล กชช. 2ค เกี่ยวกับปัญหาและความต้องการของผู้ใช้ข้อมูล (ส่วนภูมิภาค) กระจายตาม
ภูมิภาค จำนวน 8 จังหวัด จังหวัดละ 5 หน่วยงาน รวม 40 หน่วยงาน และการวิเคราะห์ประมวลผลจาก
ประชุมรับฟังความคิดเห็นของคณะทำงานปรับปรุงเครื่องชี้วัดคุณภาพชีวิตของประชาชน และ
คณะกรรมการอำนวยการงานพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน (พชช.)
ผลการศึกษา พบว่า การใช้แบบสอบถามข้อมูล จปฐ. และแบบสอบถามข้อมูล กชช. 2ค
สำหรับใช้ช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ปรับระยะเวลาการเริ่มใช้ให้สอดคล้อง
กับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 และแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี จึงเริ่มใช้ระหว่าง
พ.ศ.2566 – 2570 เครื่องชี้วัดข้อมูล จปฐ. ที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติฉบับที่ 13 ( พ.ศ.2566 - พ.ศ. 2570) ประกอบด้วย 5 หมวด 38 ตัวชี้วัด ได้แก่ หมวดที่ 1
สุขภาพ มี 12 ตัวชี้วัด หมวดที่ 2 มาตรฐานความเป็นอยู่ มี 9 ตัวชี้วัด หมวดที่ 3 การศึกษา มี 5 ตัวชี้วัด
หมวดที่ 4 เศรษฐกิจ มี 4 ตัวชี้วัด และหมวดที่ 5 การคุ้มครองทางสังคมและการมีส่วนร่วม มี 8 ตัวชี้วัด
และเครื่องชี้วัดข้อมูล กชช. 2ค สำหรับใช้ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13
(พ.ศ. 2566 - 2570) ประกอบด้วย 7 หมวด 44 ตัวชี้วัด ดังนี้ หมวดที่ 1 โครงสร้างพื้นฐาน มี 10
ตัวชี้วัด หมวดที่ 2 สภาพพื้นฐานทางเศรษฐกิจ มี 10 ตัวชี้วัด หมวดที่ 3 สุขภาวะและอนามัย มี 7
ตัวชี้วัด หมวดที่ 4 ความรู้และการศึกษา มี 4 ตัวชี้วัด หมวดที่ 5 การมีส่วนร่วมและความเข้มแข็ง
ของชุมชน มี 5 ตัวชี้วัด หมวดที่ 6 ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มี 5 ตัวชี้วัด และหมวดที่ 7
ความเสี่ยงของชุมชนและภัยพิบัติ มี 3 ตัวชี้วัด สำหรับกลไกและกระบวนการบริหารจัดเก็บข้อมูลให้มี
คุณภาพ ต้องมีกลไกควบคุมคุณภาพในทุกระดับ ดังนี้ คณะกรรมการอำนวยการงานพัฒนาคุณภาพชีวิต
ของประชาชน (พชช.) คณะทำงานบริหารการจัดเก็บข้อมูลฯ ระดับจังหวัด คณะทำงานบริหารการจัดเก็บ
ข้อมูลฯ ระดับอำเภอ คณะทำงานบริหารการจัดเก็บข้อมูลฯ ระดับตำบล และคณะผู้จัดเก็บข้อมูลระดับ
หมู่บ้าน โดยมีกระบวนการที่มีคุณภาพ ดังนี้การสร้างความรู้ความเข้าใจ การออกแบบวิธีการจัดเก็บข้อมูล
การจัดเก็บข้อมูล การบันทึกและประมวลข้อมูล การตรวจทานข้อมูล และการนำเสนอข้อมูลเพื่อการใช้
ประโยชน์ร่วมกันในทุกระดับ ข้อเสนอแนะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บข้อมูลควรให้คนในชุมชนและ
องค์กรหน่วนงานที่เกี่ยวข้องเห็นความสำคัญในการให้ข้อมูลและการจัดเก็บข้อมูลโดยการสร้างการมี
ส่วนร่วมในการจัดเก็บข้อมูล และควรมีการฝึกอบรมและเพิ่มองค์ความรู้ให้กับผู้จัดเก็บข้อมูลอย่างเข้มข้น
รวมทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบถึงระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูลรวมกันทั้งประเทศ

คำสำคัญ: คุณภาพชีวิตประชาชน,ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.),ข้อมูลพื้นฐานระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค)

รายงานฉบบั สมบรู ณ์โครงการจัดทำเครอื่ งชี้วัดและแบบสอบถามข้อมูลความจำเปน็ พืน้ ฐาน (จปฐ.) และข้อมูลพื้นฐาน
ระดบั หมบู่ า้ น (กชช. 2ค) สำหรบั ใช้ช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

แบบสอบถาม
ขอ้ มลู พื้นฐานระดับหม่บู า้ น (กชช. 2ค) ปี 2565

หมูบ่ ้าน/ชุมชน
หมู่ที่
ตำบล
อำเภอ

จังหวัด
เขตการปกครองท้องถิน่  องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตำบล........................

 เทศบาลตำบล..........................................
 เทศบาลเมือง............................................
 เทศบาลนคร............................................

ดำเนินการจัดเก็บ วันท่.ี ..................เดือน.................................
บันทกึ ขอ้ มูลเสร็จ พ.ศ…………
รบั รองขอ้ มูลระดับหมู่บ้าน
วันที.่ ..................เดือน.................................
พ.ศ…………

วนั ท.่ี ..................เดอื น.................................
พ.ศ…………

299

รายงานฉบบั สมบูรณ์โครงการจัดทำเครอ่ื งชว้ี ดั และแบบสอบถามข้อมูลความจำเปน็ พ้นื ฐาน (จปฐ.) และข้อมูลพ้ืนฐาน
ระดบั หมู่บ้าน (กชช. 2ค) สำหรับใชช้ ่วงแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

แบบสอบถามข้อมลู พื้นฐานระดับหม่บู า้ น (กชช. 2ค) ปี 2565-2569
ขอ้ มูลพ้ืนฐานระดับหมูบ่ า้ น (กชช. 2ค) ประกอบด้วย 7 หมวด 44 ตวั ชีว้ ัด

ส่วนที่ 1 ข้อมูลพนื้ ฐานหมบู่ ้าน / ชุมชน

คำอธบิ าย
1. จำนวนครวั เรอื นทีม่ ีคนอาศยั อยู่จรงิ ไมน่ อ้ ยกวา่ 6 เดอื นติดตอ่ กนั โดยให้นับท่ีพกั อาศยั ดงั ตอ่ ไปนี้ให้เปน็ 1

ครวั เรือน
- บ้านทม่ี ีเลขทบี่ า้ น
- บ้านทีไ่ ม่มเี ลขท่ีบา้ น แตม่ กี ารกอ่ สรา้ งทมี่ ลี ักษณะถาวร
- ห้องแถว
- เรอื นแพถาวร
- ที่พักอาศัยอืน่ ๆ ทมี่ ีคนอาศยั อยู่จริง ไมน่ อ้ ยกวา่ 6 เดือน
2. ข้อมูลด้านประชากร ดงั น้ี
- จำนวน / เพศ / อายแุ ยก 0 – 1 ปี / 2 – 5 ปี / 6 – 14 ปี / 15 – 17 ปี / 18 – 59 ปี / 60 ปีข้นึ ไป

1. ข้อมูลดา้ นประชากร จำนวน  ครัวเรือน
1.1 หมูบ่ ้าน/ชุมชนน้ี มคี รัวเรือนท้งั หมด รวม  คน
1.2 จำนวนประชากรไทยท่ีอาศยั อยจู่ ริงมที งั้ หมด จำนวน  คน
1) เพศชาย จำนวน  คน
2) เพศหญิง รวม  คน
1.2.1 จำนวนประชากรไทยท่ีอายุ 0 – 1 ปี จำนวน  คน
1) เพศชาย จำนวน  คน
2) เพศหญิง รวม  คน
1.2.2 จำนวนประชากรไทยทอ่ี ายุ 2 – 5 ปี จำนวน  คน
1) เพศชาย จำนวน  คน
2) เพศหญงิ รวม  คน
1.2.3 จำนวนประชากรไทยทอ่ี ายุ 6 – 14 ปี จำนวน  คน
1) เพศชาย จำนวน  คน
2) เพศหญิง รวม  คน
1.2.4 จำนวนประชากรไทยที่อายุ 15 – 17 ปี จำนวน  คน
1) เพศชาย จำนวน  คน
2) เพศหญิง รวม  คน
1.2.5 จำนวนประชากรไทยท่อี ายุ 18 – 59 ปี จำนวน  คน
1) เพศชาย จำนวน  คน
2) เพศหญงิ รวม  คน
1.2.6 จำนวนประชากรไทยทอ่ี ายุต้งั แต่ 60 ปขี น้ึ ไป จำนวน  คน
1) เพศชาย จำนวน  คน
2) เพศหญงิ

300

รายงานฉบบั สมบรู ณ์โครงการจดั ทำเครอ่ื งชีว้ ัดและแบบสอบถามขอ้ มลู ความจำเปน็ พนื้ ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มลู พ้นื ฐาน
ระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค) สำหรับใช้ช่วงแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

ส่วนท่ี 2 ขอ้ มลู พืน้ ฐานระดับหมู่บา้ น (กชช. 2ค)
หมวดท่ี 1 โครงสร้างพ้ืนฐาน
ตวั ช้ีวดั ที่ 1 ถนน

คำอธบิ าย
1.ถนนเส้นทางหลักของหมู่บ้าน หมายถึง ถนนสายที่อยู่เฉพาะภายในเขตพื้นที่ของหมู่บ้าน ที่ประชาชนส่วนใหญ่

ของหมบู่ า้ น ใชเ้ ปน็ เส้นทางคมนาคมเปน็ ประจำมากท่สี ุด (เส้นทางหลกั เสน้ เดียวเทา่ น้นั )
2. ใช้การไดด้ ี หมายถึง ไม่เปน็ หลุมเปน็ บ่อ สัญจรไปมาไดอ้ ย่างสะดวก
3.อำเภอหรือชุมชนที่ใกล้ที่สุด หมายถึง อำเภอหรือชุมชนที่คนในหมู่บ้าน/ชุมชนนี้ ส่วนมากไป ซื้อ-ขายของกินของ

ใช้ และติดตอ่ ราชการ ซ่งึ รวมท้ังอำเภอหรือชุมชนท่หี มบู่ า้ น/ชมุ ชนนไี้ มไ่ ดอ้ ยู่ในเขตการปกครองดว้ ย

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ
1.1 ถนนเส้นทางหลกั และสะพานในเขตหมบู่ ้าน/ชุมชน
ยาว  ก.ม  ม.
1.1.1 ถนนเสน้ ทางหลกั ในเขตหมบู่ ้าน/ชุมชนน้ีแยกเปน็ กวา้ ง  ม.  ซม.
ถนนชนดิ ยาว  ก.ม  ม.
กว้าง  ม.  ซม.
1) ลาดยางหรือคอนกรตี ยาว  ก.ม  ม.
กว้าง  ม.  ซม.
2) ลกู รงั หรือหนิ คลุก
จำนวน  แห่ง
3) ทางดิน จำนวน  แห่ง
จำนวน  แห่ง
1.1.2 สะพานในเขตหมู่บ้าน/ชมุ ชนนี้ แยกเป็นสะพาน 
ชนิด ตอบ 1 ไม่ดีตลอดท้ังปี
ตอบ 2 พอใช้ได้
1) สะพานคอนกรีตเสรมิ เหลก็ (คสล.) ตอบ 3 ดเี ฉพาะในฤดูแล้ง
2) สะพานไม้ ตอบ 4 พอใชไ้ ดต้ ลอดท้ังปี
3) สะพานเหล็ก ตอบ 5 ใช้การได้ดีตลอดท้งั ปี
1.2 ถนนเส้นทางหลกั ในหมูบ่ า้ น/ชุมชนใช้การได้ดี หรือไม่ 
ตอบ 0 ไมม่ ี (ไปตอบข้อ 1.3.1)
1.3 หมู่บา้ น/ชุมชนนี้ มถี นนตลอดเสน้ ทางไปยังอำเภอหรือ ตอบ 1 มี (ไปตอบขอ้ 1.3.2)
ชุมชนทใี่ กลท้ ีส่ ุดทคี่ นในหมบู่ า้ น/ชมุ ชนนส้ี ว่ นมาก ไปซือ้ -
ขายของกินของใชไ้ ด้ ใชเ้ วลานาน  นาที
ใช้เวลานาน  นาที
1.3.1 กรณีท่ีไมม่ ถี นนคนในหมู่บ้าน/ชุมชนน้สี ว่ นมากใช้ ใช้เวลานาน  นาที
วธิ กี ารใด ใชเ้ วลานาน  นาที

1) รถจักรยานยนต์
2) รถจักรยาน
3) ทางเดินเท้า
4) เรอื

301

รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจัดทำเครื่องชีว้ ัดและแบบสอบถามขอ้ มลู ความจำเปน็ พน้ื ฐาน (จปฐ.) และข้อมูลพนื้ ฐาน
ระดบั หมู่บ้าน (กชช. 2ค) สำหรบั ใชช้ ่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ

5) รถไฟ ใช้เวลานาน  นาที

6) อนื่ ๆ ระบุ.............................................. ใช้เวลานาน  นาที

1.3.2 กรณที ี่ มีถนน ถนนมรี ะยะทางยาวเทา่ ไหร่แยกเปน็

ชนิดถนน ไดด้ ังนี้

1) ลาดยางหรือคอนกรตี ยาว ก.ม.ม.

2) ลูกรงั หรือหนิ คลุก ยาว ก.ม.ม.

3) ทางดนิ ยาว ก.ม.ม.

1.3.3 ใชเ้ วลาเดินทางไปยังอำเภอหรือชุมชนดงั กล่าว ใช้เวลา  นาที
เพยี งเที่ยวเดยี ว (ไมน่ บั เท่ยี วกลบั ) ด้วยพาหนะทน่ี ิยมกัน

1.4 พาหนะในหมูบ่ า้ น/ชมุ ชน

1.4.1 มีรถรับจ้าง เช่น รถยนต์ รถสองแถว รถเมล์ รถ 
มอเตอร์ไซค์รบั จา้ ง เปน็ ตน้ วิ่งจากหมบู่ ้าน/ชมุ ชน ถึงอำเภอหรอื ตอบ 0 ไม่มี (ข้ามไปตอบข้อ 1.4.3)
ตอบ 1 มี
ชมุ ชนท่ใี กลท้ ่ีสดุ หรือไม่

1.4.2 ในฤดฝู น มีรถรบั จ้างวิง่ บรกิ ารให้ลกั ษณะใด 

ตอบ 1 ไมม่ ีบริการในฤดูฝน

ตอบ 2 มีบรกิ ารแต่ไม่สม่ำเสมอ

ตอบ 3 มีบรกิ ารอยา่ งสม่ำเสมอ

1.4.3 หมูบ่ ้าน/ชุมชนน้ี มีพาหนะอะไรบ้าง ตอ่ ไปน้ี

1) รถปคิ อัพ, รถเก๋งสว่ นบคุ คล

จำนวนครัวเรือนที่มรี ถชนดิ นี้  ครัวเรือน

จำนวนรถ  คัน

2) รถจกั รยานยนต์ (มอเตอร์ไซค์)

จำนวนครวั เรอื นทมี่ รี ถชนดิ น้ี  ครัวเรอื น

จำนวนรถ  คนั

3) รถจักรยาน

จำนวนครวั เรือนทม่ี ีรถชนิดนี้  ครัวเรอื น

จำนวนรถ  คนั

4) รถอแี ตน๋ /รถดัดแปลงอื่น ๆ ท่ีใชใ้ นการเกษตร

จำนวนครวั เรือนทม่ี รี ถชนดิ น้ี  ครัวเรือน

จำนวนรถ  คัน

5) รถไถนาเดนิ ตามท่ใี ชใ้ นการเกษตร

จำนวนครัวเรอื นทม่ี รี ถชนดิ น้ี  ครัวเรือน

จำนวนรถ  คัน

6) รถไถนาขนาดใหญ่ท่ใี ช้ในการเกษตร

จำนวนครวั เรือนท่มี รี ถชนดิ น้ี  ครัวเรอื น

จำนวนรถ  คนั

7) รถบรรทุก (6 ลอ้ , 10 ล้อ)

จำนวนครัวเรอื นที่มีรถชนดิ นี้  ครัวเรอื น

จำนวนรถ  คัน

302

รายงานฉบับสมบรู ณ์โครงการจัดทำเคร่อื งชวี้ ดั และแบบสอบถามข้อมูลความจำเป็นพ้ืนฐาน (จปฐ.) และขอ้ มูลพืน้ ฐาน
ระดบั หม่บู า้ น (กชช. 2ค) สำหรบั ใช้ช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบับท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตวั เลือก/คำตอบ
8) รถรบั จ้าง (สองแถว, สามล้อเครื่อง, สามลอ้ ถีบ,
รถโดยสาร, วนิ มอเตอรไ์ ซค์)  ครวั เรอื น
 คนั
จำนวนครวั เรือนที่มรี ถชนดิ น้ี
จำนวนรถ  ครวั เรอื น
9) เรือ (เรือยนต์, เรือพาย ฯลฯ)  คนั
จำนวนครวั เรอื นทม่ี ีรถชนดิ นี้
จำนวนเรือ

ตัวชี้วดั ที่ 2 น้ำดื่ม

คำอธิบาย
1. น้ำสะอาด หมายถึง น้ำฝน น้ำประปา และน้ำบาดาล ที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานน้ำสะอาดขององค์กรปกครองส่วน

ท้องถิ่น (อปท.) หรือกรมอนามัยที่สาธารณสุขตำบล ตรวจสอบแล้วว่าใช้ดื่มได้ ถ้าเป็นน้ำจากแหล่งธรรมชาติต้อง
ผ่านการต้มหรือแกว่งสารส้มแล้วเติมคลอรีนจึงจะจัดว่าเป็นน้ำสะอาด หรือน้ำที่ผ่านเครื่องกรองน้ำที่ได้ มาตรฐาน
หรอื น้ำบรรจขุ วด ทมี่ ีเคร่อื งหมาย อย.
2. เกณฑ์วัดความเพียงพอของน้ำดื่มและบริโภคตลอดปี หมายถึง ปริมาณน้ำ 5 ลิตรต่อคนต่อวัน (ใช้ดื่ม 2 ลิตร
และอน่ื ๆ อกี จำนวน 3 ลติ ร ไดแ้ ก่ ใชป้ ระกอบอาหาร ล้างหนา้ บว้ นปากและแปรงฟนั เปน็ ตน้ )

คำถาม ตัวเลอื ก/คำตอบ
จำนวน  ครัวเรือน
2.1 หมู่บ้าน/ชุมชนนี้ มคี รวั เรือนที่มีน้ำสะอาดสำหรับด่มื
และบริโภคเพยี งพอตลอดปี 
ตอบ 1 บอ่ นำ้ ต้ืน
2.2 ในกรณที ี่ครวั เรอื นขาดแคลนนำ้ สะอาดสำหรบั ดืม่ และ ตอบ 2 บ่อน้ำบาดาล / น้ำใต้ดิน
บรโิ ภค ครัวเรอื นสว่ นมากใช้นำ้ จากแหล่งใด ตอบ 3 แหลง่ น้ำผิวดิน
ตอบ 4 ซอื้ โปรดระบุ

จำนวน  ครัวเรือน
เฉล่ียวันละ  บาท/
ครวั เรอื น
ตอบ 5 อืน่ ๆ ระบุ
..............................................

303

รายงานฉบบั สมบรู ณ์โครงการจดั ทำเครือ่ งช้วี ดั และแบบสอบถามขอ้ มลู ความจำเป็นพนื้ ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มลู พ้ืนฐาน
ระดับหมู่บา้ น (กชช. 2ค) สำหรบั ใช้ชว่ งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

ตวั ช้วี ดั ที่ 3 น้ำใช้

คำอธิบาย
1. น้ำใช้ หมายถึง น้ำทใ่ี ช้ในครัวเรือน สำหรบั ซักลา้ งและอาบ
2. เกณฑ์วัดความเพียงพอของนำ้ ใช้ตลอดปี หมายถึง ปริมาณน้ำทใี่ ช้ 45 ลติ รตอ่ คนต่อวนั (หรอื ประมาณ 2 ป๊ีบ

ต่อคนต่อวนั )
3. บอ่ บาดาล/น้ำใต้ดิน ให้รวมถึง บอ่ ตอก และบ่อเจาะ ดว้ ย
4. บ่อนำ้ ตื้น หมายถึง บอ่ ท่ีใสป่ ลอกซีเมนต์ ไม้ คอนกรตี หรอื บอ่ ดนิ ถาวรทีใ่ ชป้ ระจำ
5. น้ำประปา หมายถงึ น้ำที่ส่งไปตามท่อใหบ้ รกิ ารแจกจ่ายไปถงึ ครัวเรอื นในหมูบ่ ้าน เชน่ ประปาภูมิภาค ประปา

ชนบท ประปาหมู่บา้ น หรอื ประปาภเู ขา เป็นตน้

คำถาม ตัวเลอื ก/คำตอบ
3.1 หมบู่ า้ น/ชุมชนนี้ มีครัวเรือนท่ีมีน้ำใช้เพียงพอ จำนวน  ครัวเรอื น
ตลอดปี
3.2 บ่อนำ้ ต้นื (ใส่ปลอกซเี มนต์, ไม้, คอนกรตี , บ่อดนิ ) จำนวน  บอ่
มนี ำ้ ใช้ตลอดปี  บ่อ
1) บ่อขุดสว่ นตัว
จำนวน  บ่อ
2) บ่อขดุ สาธารณะ มนี ้ำใชต้ ลอดปี  บอ่

3.3 บอ่ บาดาล/ น้ำใตด้ นิ (บ่อตอก, บ่อเจาะ) จำนวน  บอ่
1) บอ่ ขุดส่วนตัว มีน้ำใช้ตลอดปี  บ่อ

2) บ่อขดุ สาธารณะ จำนวน  บอ่
มนี ำ้ ใชต้ ลอดปี  บอ่
3.4 น้ำผวิ ดนิ
1) แมน่ ำ้ จำนวน  บอ่
มีน้ำใชต้ ลอดปี  บ่อ
2) ลำคลอง
จำนวน  บ่อ
3) หนอง/ บงึ มีน้ำใช้ตลอดปี  บ่อ

4) แหลง่ นำ้ อ่นื ๆ จำนวน  บอ่
มนี ำ้ ใช้ตลอดปี  บ่อ
3.5 น้ำประปา
1) หมบู่ ้านน้ีมีน้ำประปาใช้ หรอื ไม่ จำนวน  บ่อ
โปรดระบ…ุ …………………………………………
2) ในกรณีที่ไม่มีระบบนำ้ ประปาใชข้ องหมู่บ้าน มี
การใช้น้ำจากแหลง่ ใด  ไมม่ ี
ตอบ 0 มี โปรดระบ.ุ ...........................................
ตอบ 1 จำนวน  แหง่
ใชก้ ารได้  แหง่


304

รายงานฉบบั สมบูรณ์โครงการจัดทำเครอื่ งช้ีวดั และแบบสอบถามขอ้ มูลความจำเป็นพืน้ ฐาน (จปฐ.) และข้อมูลพน้ื ฐาน
ระดบั หมบู่ ้าน (กชช. 2ค) สำหรับใชช้ ่วงแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตอบ 1 ตวั เลือก/คำตอบ
จากหมูบ่ ้านอ่ืน
3) ในกรณที ม่ี ีระบบนำ้ ประปาใช้ มกี ารผลิตมาจาก ตอบ 2 ช่ือหมบู่ า้ น..............................................
แหลง่ ใด จากแหล่งนำ้ ตามธรรมชาติ
ตอบ 3 โปรดระบ.ุ ..............................................
 โปรดระบ.ุ ...............................................
ตอบ 1
ตอบ 2 แหลง่ นำ้ ผวิ ดนิ
ตอบ 3 บอ่ บาดาล
โปรดระบุ................................................

2) หนว่ ยงานทีใ่ ห้บรกิ ารนำ้ ประปา 
(1) การประปานครหลวง ตอบ 0 ไม่มี
ตอบ 1 มี
(2) การประปาส่วนภูมภิ าค 
ตอบ 0 ไมม่ ี
(3) ประปาหมู่บ้าน/ ชุมชน/ อปท. ตอบ 1 มี

(4) แหลง่ อ่ืน ๆ อาทิ โรงเรยี น วัด หมูบ่ ้าน/ชมุ ชน ตอบ 0 ไม่มี
ตอบ 1 มี โปรดระบแุ หล่งผลติ พลงั งาน 
3) หน่วยงานที่ให้บรกิ ารน้ำประปา ตามข้อ 2) มีการ
บำรงุ รกั ษาระบบน้ำประปาหรือไม่ ตอบ 1 พลังงานไฟฟา้
4) หนว่ ยงานทใ่ี ห้บรกิ ารนำ้ ประปา ตามขอ้ 2) มี ตอบ 2 พลงั งานแสงอาทติ ย์
มาตรการปรับปรงุ คุณภาพนำ้ ดงั น้หี รอื ไม่ ตอบ 3 พลงั งานไฟฟา้ ร่วม

(1) กระบวนการบำบัดน้ำเสียเพอื่ นำกลบั มาใชใ้ หม่ (ไฟฟ้า+แสงอาทิตย์)

ตอบ 0 ไมม่ ี
ตอบ 1 มี

ตอบ 0 ไม่มี
ตอบ 1 มี

ตอบ 0 ไมม่ ี
ตอบ 1 มี

จำนวนเฉลีย่  ครงั้ ตอ่ ปี

(2) ปล่อยใหม้ ีการทง้ิ สารเคมี จำนวนเฉล่ีย  ครง้ั ต่อปี

(3) กำจดั ขยะ / ของเสยี จำนวนเฉลย่ี  ครง้ั ต่อปี

(4) อ่ืน ๆ ระบ.ุ ........................... จำนวนเฉลี่ย  คร้งั ต่อปี

5) ครัวเรือนทม่ี ีนำ้ ประปาใช้ไม่เพียงพอตลอดปี จำนวน  ครัวเรือน

305

รายงานฉบบั สมบูรณ์โครงการจัดทำเครอ่ื งชวี้ ัดและแบบสอบถามข้อมลู ความจำเป็นพืน้ ฐาน (จปฐ.) และข้อมลู พ้นื ฐาน
ระดับหมู่บา้ น (กชช. 2ค) สำหรับใชช้ ว่ งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม  ตวั เลือก/คำตอบ
ตอบ 0
6) หมู่บา้ น / ชุมชนน้ี มกี ิจกรรมปกปอ้ งและฟนื้ ฟูระบบ ตอบ 1 ไม่มี
นิเวศท่ีเกยี่ วข้องกบั แหล่งน้ำอปุ โภคบรโิ ภคหรอื ไม่ มี โปรดระบแุ หล่งนำ้ 
ตอบ 1 ภูเขา

จำนวนเฉล่ีย  ครั้งตอ่ ปี
ตอบ 2 ป่าไม้

จำนวนเฉลย่ี  ครง้ั ตอ่ ปี
ตอบ 3 พ้นื ทีช่ มุ่ นำ้

จำนวนเฉลย่ี  ครง้ั ต่อปี
ตอบ 4 แม่น้ำ

จำนวนเฉลีย่  ครงั้ ตอ่ ปี
ตอบ 5 ชัน้ หินอุม้ นำ้

จำนวนเฉลี่ย  ครัง้ ต่อปี
ตอบ 6 ทะเลสาบ

จำนวนเฉลี่ย  ครง้ั ตอ่ ปี
ตอบ 7 แหล่งน้ำทมี่ นุษยส์ ร้างขึน้

จำนวนเฉลย่ี  ครง้ั ต่อปี
ตอบ 8 อ่ืน ๆ ระบ.ุ ..............................

จำนวนเฉลย่ี  คร้งั ต่อปี

ตัวชี้วดั ท่ี 4 น้ำเพอ่ื การเกษตร

คำถาม ตวั เลอื ก/คำตอบ

4.1 นำ้ จากแหลง่ น้ำในหมู่บา้ นและชมุ ชนนี้ใช้สำหรบั การ ตอบ 1 ไมเ่ พยี งพอ โปรดระบุ
เพาะปลูกเพยี งพอหรอื ไม่
จำนวน  ครัวเรือน
จำนวน  ไร่
ตอบ 2 เพยี งพอเฉพาะฤดฝู น
ตอบ 3 เพียงพอตลอดปี
ตอบ 4 ไมม่ ีแหลง่ น้ำสำหรับเพาะปลูก
ตอบ 5 ไมไ่ ดใ้ ช้แหลง่ นำ้ สำหรบั การเพาะปลูก

306

รายงานฉบับสมบรู ณ์โครงการจัดทำเคร่อื งชว้ี ดั และแบบสอบถามขอ้ มูลความจำเป็นพ้ืนฐาน (จปฐ.) และข้อมูลพน้ื ฐาน
ระดบั หมู่บา้ น (กชช. 2ค) สำหรบั ใชช้ ่วงแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

ตัวชี้วดั ท่ี 5 ไฟฟ้าและเชอื้ เพลงิ ในการหุงต้ม

คำอธิบาย
1. ระยะทางทมี่ เี ศษของกิโลเมตร ใหป้ ัดทง้ิ แตถ่ ้าระยะทางไม่ถงึ 1 กิโลเมตร ใหต้ อบ 1 กิโลเมตร
2. พลังงานแสงอาทิตย์ /โซลารโ์ ฮม หมายถงึ พลงั งานทไ่ี ดจ้ ากการแผ่รังสขี องดวงอาทิตย์
3. พลงั งานชวี มวล หมายถงึ พลงั งานที่ไดจ้ ากพชื และสตั วช์ นิดตา่ ง ๆ เชน่ เศษไม้ ขยะ วสั ดเุ หลอื ใชท้ างการเกษตร

โดยกระบวนการแปรรูปชีวมวลไปเปน็ พลงั งานรปู แบบต่าง ๆ
4. ไมโครกริด หมายถึง การใช้ระบบสารสนเทศ ประมวลผล วิเคราะห์ และสั่งการให้เกิดการผลิตและส่งจ่ายไฟฟ้า

แบบอัตโนมตั ภิ ายใต้ชื่อโครงขา่ ยไฟฟา้ อจั ฉรยิ ะหรือสมารท์ กรดิ
5. จำนวนครัวเรือนที่มีไฟฟ้าใช้ และ ครัวเรือนที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ทั้งหมด ในข้อ 5.1.1.2 เมื่อรวมจำนวนครัวเรือน

จาก ในวงเล็บที่ 1) และ 2) จะตอ้ งเทา่ กบั จำนวนครวั เรอื นทง้ั หมดของหมบู่ า้ น/ชุมชน ในขอ้ 1.1 หน้า 1
6. มไี ฟฟา้ ใช้ ในข้อ 5.1 หมายถึง การมีไฟฟ้าของรฐั และ/หรือ ไฟฟ้าท่ีไม่ใชข่ องรฐั

คำถาม ตวั เลอื ก/คำตอบ
5.1 ไฟฟา้

5.1.1 หมู่บา้ น/ชุมชนน้ี มไี ฟฟา้ ใช้ หรอื ไม่ ตอบ 0 ไมม่ ี (ขา้ มไปตอบขอ้ 5.1.1.1)
(กรณีทอี่ นุมตั แิ ลว้ แต่ยังไมไ่ ดต้ ิดตง้ั ให้ถือวา่ ม)ี ตอบ 1 มี (ข้ามไปตอบข้อ 5.1.1.2)
เปน็ ระยะทาง  ก.ม. (ขา้ มไปตอบข้อ
5.1.1.1 กรณีท่ี ไม่มไี ฟฟา้ หมูบ่ า้ น/ชุมชนน้ี 5.1.2)
อยหู่ ่างจากหม่บู ้าน/ชุมชนท่มี ีไฟฟา้ ใชใ้ กล้ที่สดุ 
ตอบ 0 ไมค่ รบทกุ ครวั เรือน
5.1.1.2 กรณที ี่ มไี ฟฟ้า หมูบ่ ้าน/ชมุ ชนนมี้ ี ตอบ 1 ครบทุกครวั เรอื น
ไฟฟ้าใช้ครบทกุ ครัวเรือนหรือไม่ จำนวน  ครัวเรือน
จำนวน  ครวั เรอื น
1) ครัวเรอื นที่มีไฟฟ้าใชท้ ง้ั หมด จำนวน  ครัวเรือน
(1) ใชไ้ ฟฟา้ ของรัฐ
(2) ใช้ไฟฟ้าท่ไี ม่ใช่ของรัฐ (เช่น จำนวน  ครัวเรอื น

เครื่องปั่นไฟพลังงานเชอื้ เพลงิ ดีเซล/พลังงานทดแทนจาก ตอบ 0 ไม่ใช้
ชีวมวล/พลงั งานแสงอาทิตย์/โซล่ารโ์ ฮม/ไมโครกริด ฯลฯ) ตอบ 1 ใช้ โปรดระบุ 

2) ครัวเรอื นทีไ่ มม่ ไี ฟฟา้ ใช้ท้ังหมด ตอบ 1 ใช้ไฟฟา้ พลังงานแสงอาทิตย์/
5.1.2 กรณีที่ ไมม่ ีไฟฟ้าของรัฐใช้ หมู่บา้ น/ชุมชนน้ี โซล่ารโ์ ฮม/ไมโครกริด
ใช้ไฟฟ้าจากพลงั งานทดแทนหรือไม่ จำนวน  ครวั เรือน

ตอบ 2 ใชไ้ ฟฟ้าพลังงานชีวมวล
จำนวน  ครัวเรือน

ตอบ 3 ใชพ้ ลงั งานอน่ื ๆ เช่น ลม น้ำ
จำนวน  ครวั เรือน

307

รายงานฉบับสมบรู ณ์โครงการจัดทำเครอื่ งชี้วัดและแบบสอบถามข้อมูลความจำเป็นพนื้ ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มูลพ้ืนฐาน
ระดับหมู่บา้ น (กชช. 2ค) สำหรบั ใช้ชว่ งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม  ตวั เลือก/คำตอบ
5.2 เช้ือเพลิงในการหงุ ต้ม ตอบ 1
ตอบ 2 กา๊ ซบรรจถุ ังหรือไฟฟา้
5.2.1 ครวั เรอื นส่วนมาก ใชเ้ ช้อื เพลิงใดในการหงุ ต้ม ตอบ 3 ถ่าน,ฟนื ,แกลบ
 ก๊าซชวี ภาพ
5.2.2 กรณที ่ใี ช้ถ่านคนสว่ นมากในหมูบ่ ้าน/ชมุ ชน ตอบ 1
ซ้ือหรือทำใชเ้ อง ตอบ 2 ซ้อื
 ทำใช้เอง
5.2.3 กรณีทใ่ี ช้ฟนื คนส่วนมากในหมูบ่ า้ น/ชมุ ชน ตอบ 1
ซอื้ หรือทำใช้เอง ตอบ 2 ซื้อ
 ทำใชเ้ อง
5.2.4 กรณีทใี่ ช้แกลบ คนสว่ นมากในหม่บู า้ น/ชมุ ชน ตอบ 1
ซอื้ หรือทำใช้เอง ตอบ 2 ซอ้ื
 ทำใช้เอง
5.2.5 กรณีทใ่ี ช้ กา๊ ซชวี ภาพ คนสว่ นมากใน ตอบ 1
หมบู่ า้ น/ชุมชนทำใช้ในระดับใด ตอบ 2 ระดับครัวเรอื น
ระดับหมบู่ ้าน/ ชุมชน

ตวั ชีว้ ดั ท่ี 6 การมีที่ดินทำกิน

คำถาม ตัวเลอื ก/คำตอบ

6.1 การมีที่ดนิ ทำกนิ จำนวน  ครัวเรอื น
6.1.1 ครวั เรอื นมีที่ดนิ ทำกินเปน็ ของตนเองและไมต่ อ้ งเช่า จำนวน  ครวั เรอื น
6.1.2 ครัวเรือนมีทีด่ ินทำกินเปน็ ของตนเองแต่ตอ้ งเชา่ เพิ่ม
จำนวน  ครวั เรือน
บางส่วน
6.1.3 ครัวเรือนไมม่ ที ีด่ นิ ทำกนิ เป็นของตนเองตอ้ งเช่าทดี่ ิน  พอ่ แม่ พ่ีน้อง ญาติ
ตอบ 1 คนในหม่บู ้าน/ชุมชน
ท้ังหมด ตอบ 2 คนนอกหมู่บา้ น/ชุมชน
6.1.4 ครวั เรอื นทตี่ อ้ งเช่าทด่ี นิ ทำกิน ส่วนมากเช่าท่ีดนิ ตอบ 3

จากใคร

คำอธบิ าย 6.2
ระบบเกษตรกรรมยงั่ ยืน (Sustainable Agriculture)
องค์การสหประชาชาติได้ให้ความหมายของเกษตรกรรมยั่งยืนว่า เป็นระบบเกษตรกรรมที่เกี่ยวข้อกับการผสมผสานและ
เชื่อมโยงระหว่างดิน การเพาะปลูก และการเลี้ยงสัตว์ การเลิกหรือลดการใช้ทรัพยากรจากภายนอกระบบที่อาจเป็ นอันตรายต่อ
สิ่งแวดล้อมและ/หรือสุขภาพของเกษตรกรและผู้บริโภค ตลอดจนเน้นการใช้เทคนิคที่เป็นหรือปรับให้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ
ธรรมชาตขิ องทอ้ งถนิ่ นนั้ ๆ ซึง่ มีหลักการพนื้ ฐาน 3 ประการคอื
1) ความยั่งยืนด้านเศรษฐกิจ ด้วยการพัฒนาการจัดการดินและการหมุนเวียนการปลูกพืชที่ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดการพึ่งพา
เคร่ืองจกั รและสารเคมเี พือ่ การเกษตรทั้งปุ๋ยและสารปอ้ งกนั กำจดั วัชพืชและศัตรูพืช

308

รายงานฉบบั สมบูรณ์โครงการจดั ทำเคร่อื งชี้วดั และแบบสอบถามขอ้ มูลความจำเปน็ พน้ื ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มูลพนื้ ฐาน
ระดบั หมู่บ้าน (กชช. 2ค) สำหรับใช้ช่วงแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

2) ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการปกป้องและรักษาทรัพยากรธรรมชาติและหาสิ่งทดแทนต ลอดจนนำ
ทรัพยากรธรรมชาติกลับมาเวียนใช้ใหม่ เช่น ที่ดิน (ดิน) น้ำ และสิ่งมีชีวิตในป่า หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีสังเคราะห์ที่เป็นอันตรายต่อ
สง่ิ แวดลอ้ ม โครงสร้างของดนิ และความหลากหลายทางชีวภาพ

3) ความยั่งยืนด้านสังคม ด้วยการใช้แรงงานที่มีอยู่ให้มากขึ้น อย่างน้อยสำหรับเทคนิคการเกษตรบางประเภท เพื่อให้เกิด
ความยตุ ิธรรมและความเปน็ ปกึ แผน่ ในสังคม

ระบบเกษตรกรรมยงั่ ยนื 5 รปู แบบ
1) เกษตรผสมผสาน (Integrated farming) เน้นกิจกรรมการผลิตมากกว่าสองกิจกรรมขึ้นไปในเวลาเดียวกัน และกิจกรรม
เหล่านี้เก้ือกูลซง่ึ กันและกัน เปน็ การสรา้ งมูลคา่ เพม่ิ ใหม้ ากขึน้ จากการใช้ประโยชนท์ รัพยากรทด่ี นิ ทมี่ ี จำกดั ในไรน่ าใหเ้ กิดประโยชน์สงู สุด
2) เกษตรอินทรีย์ (Organic farming) เน้นหนักการผลิตที่ไม่ใช้สารอนินทรีย์เคมี หรือเคมีสังเคราะห์ แต่สามารถ ใช้อินทรีย์
เคมีได้ เช่น การสกดั จากสะเดา ตะไคร้หอมหรอื สารสกัดชวี ภาพเพ่ือเพิม่ ความอดุ มสมบูรณ์แก่ทรัพยากรดนิ
3) เกษตรธรรมชาติ (Natural farming) เนน้ หนักการทำเกษตรท่ีไม่รบกวนธรรมชาติ หรอื รบกวนให้นอ้ ยที่สุด ทจ่ี ะทำได้ โดย
การไม่ไถพรวน ไม่ใช้สารเคมี ไม่ใช้ปยุ๋ เคมี และไมก่ ำจดั วัชพชื แตส่ ามารถมีการคลมุ ดนิ และใช้ ปุ๋ยพืชสดได้
4) เกษตรทฤษฎีใหม่ (New theory agriculture) เน้นหนักการจัดการทรัพยากรน้ำในไร่นาให้เพียงพอ เพื่อผลิตพืชอาหาร
โดยเฉพาะข้าวเอาไว้บริโภคในครัวเรือน รวมทั้งมีการผลิตอื่น ๆ เพื่อบริโภคและจำหน่าย ส่วนที่เหลือแก่ตลาด เพื่อสร้างรายได้อย่าง
พอเพยี ง
5) วนเกษตรหรอื ไรน่ าปา่ ผสม (Agroforestry) เนน้ หนกั การมีตน้ ไม้ใหญ่และพชื เศรษฐกิจหลายระดบั ที่เหมาะสม กับแต่ละ
พน้ื ที่ เพอ่ื การใช้ประโยชน์ป่าไม้ของพืชหรอื สัตวช์ นิดตา่ ง ๆ ที่เกื้อกูลกนั ทงั้ ยงั เปน็ การเพ่มิ พน้ื ท่ขี องทรัพยากร

คำถาม ตัวเลอื ก/คำตอบ

6.2 การดำเนนิ การทางการเกษตร จำนวน  ครัวเรือน

6.2.1 ครัวเรือนทป่ี ระกอบอาชพี การเกษตรทั้งหมด จำนวน  ครวั เรอื น
(เพาะปลูกหรอื เลย้ี งสตั ว์ หรอื ทั้งเพาะปลกู และเล้ียงสตั ว์)
จำนวน  ครวั เรอื น
6.2.2 ครัวเรอื นทป่ี ระกอบอาชพี เพาะปลกู
(เฉพาะการเพาะปลกู เชน่ ทำนา ทำไร่ ทำสวน และอ่ืน ๆ) จำนวน  ครวั เรือน
พนื้ ที่  ไร่  งาน
6.2.3 ครวั เรือนที่ประกอบอาชพี การเกษตรในบริเวณบ้าน จำนวน  ครัวเรือน
หรอื หวั ไร่ปลายนา เพ่อื บริโภคและมบี างส่วนเหลอื ขาย เช่น การ พน้ื ที่  ไร่  งาน
ปลูกผกั ปลกู พชื ปลกู ไมผ้ ล เลยี้ งเปด็ ไก่ ปลา และอ่นื ๆ จำนวน  ครัวเรือน
พื้นที่  ไร่  งาน
6.2.4 ครัวเรอื นทป่ี ระกอบอาชพี การเกษตรแบบยั่งยืน จำนวน  ครวั เรือน
เกษตรผสมผสาน (Integrated farming) พน้ื ท่ี  ไร่  งาน
จำนวน  ครวั เรอื น
6.2.5 ครัวเรือนทป่ี ระกอบอาชีพการเกษตรแบบยง่ั ยืน พื้นท่ี  ไร่  งาน
เกษตรอินทรีย์ (Organic farming) จำนวน  ครวั เรือน
พน้ื ที่  ไร่  งาน
6.2.6 ครัวเรอื นทปี่ ระกอบอาชีพการเกษตรแบบยง่ั ยืน
เกษตรธรรมชาติ (Natural farming)

6.2.7 ครัวเรือนท่ีประกอบอาชีพการเกษตรแบบยั่งยนื
เกษตรทฤษฎีใหม่ (New theory agriculture)

6.2.8 ครวั เรือนที่ประกอบอาชพี การเกษตรแบบย่ังยืน
วนเกษตรหรอื ไร่นาป่าผสม (Agroforestry)

6.2.9 ครัวเรือนทปี่ ระกอบอาชีพการเกษตรท่ีใชส้ ารเคมี
อยา่ งปลอดภยั (ใชส้ ารเคมีถูกตอ้ งตามคำแนะนำในฉลาก หรอื
เจ้าหนา้ ที่เกษตร)

309

รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจดั ทำเครอ่ื งชีว้ ัดและแบบสอบถามขอ้ มูลความจำเปน็ พนื้ ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มูลพน้ื ฐาน
ระดบั หมู่บ้าน (กชช. 2ค) สำหรบั ใชช้ ว่ งแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

ตวั ชว้ี ดั ที่ 7 การตดิ ตอ่ สือ่ สาร

คำอธบิ าย
วิทยุส่ือสารสมัครเล่น หมายถงึ วิทยคุ มนาคมท่ีได้รับอนุญาตจากทางราชการ โดยนำมาใช้เพ่อื ประโยชน์ส่วนรวม
โดยไม่เกย่ี วข้องกับผลประโยชนท์ างด้านธุรกจิ หรอื การเงนิ หรือการเมอื ง

คำถาม ตวั เลือก/คำตอบ
7.1 หมบู่ า้ น/ชุมชนนี้ มอี ปุ กรณ์เพื่อการติดตอ่ สือ่ สาร 
ตอ่ ไปน้ี หรือไม่ ให้นับเฉพาะเคร่ืองมอื สื่อสารที่ใชก้ ารได้ ตอบ 0 ไมม่ ี (ขา้ มไปตอบข้อ 7.2)
เทา่ นั้น ตอบ 1 มี
จำนวน  ครัวเรอื น
7.1.1 ครวั เรือนทมี่ ีโทรศัพท์เคล่ือนท่ี (โทรศัพท์มือถือ) จำนวน  ครวั เรือน
7.1.2 ครัวเรอื นทีม่ โี ทรศัพท์ประจำบ้าน จำนวน  ครวั เรอื น
7.1.3 ครวั เรอื นทม่ี ีอนิ เทอรเ์ น็ตประจำบ้าน จำนวน  ครวั เรือน
7.1.4 เคเบล้ิ ทีวี จำนวน  ครัวเรือน
7.1.5 จานดาวเทยี ม จำนวน  ครวั เรือน
7.1.6 วทิ ยสุ ่ือสารสมัครเลน่ จำนวน  เคร่ือง
7.1.7 โทรศัพทส์ าธารณะ 
7.2 ในหม่บู ้าน / ชมุ ชนนี้ สามารถตดิ ตอ่ ส่ือสารด้วย ตอบ 0 ไม่มี (ข้ามไปตอบขอ้ 7.3)
ช่องทางตอ่ ไปน้ี หรอื ไม่ ตอบ 1 มี
จำนวน  แห่ง
7.2.1 หอกระจายขา่ วหรือเสียงตามสาย จำนวน  แหง่
7.2.2 สถานท่บี ริการไปรษณีย์ (โดยไดร้ ับการอนุญาตจาก
บรษิ ัท ไปรษณยี ์ไทย จำกดั และมสี ถานท่ใี หบ้ รกิ าร) จำนวน  แห่ง
7.2.3 สถานที่บริการไปรษณีย์เอกชน จำนวน  แห่ง
7.2.4 วิทยุชมุ ชน 
7.3 ในหมบู่ ้าน / ชมุ ชนนี้ สามารถเข้าถงึ สื่อสญั ญาณ ตอบ 0 ไม่มี (ข้ามไปตอบข้อ 8.1)
อนิ เทอร์เน็ต หรือไม่ ตอบ 1 มี
จำนวน  ครวั เรอื น
7.3.1 จำนวนครวั เรือนท่เี ข้าถึงอินเทอร์เน็ตประชารฐั /
อินเทอร์เนต็ สาธารณะ จำนวน  ครัวเรอื น

7.3.2 จำนวนครัวเรอื นที่มอี ุปกรณก์ ระจายสญั ญาณ
อินเทอร์เนต็ ไรส้ าย (WIFI)

310

รายงานฉบับสมบรู ณ์โครงการจัดทำเครื่องช้ีวัดและแบบสอบถามข้อมูลความจำเป็นพน้ื ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มูลพนื้ ฐาน
ระดับหมบู่ า้ น (กชช. 2ค) สำหรบั ใชช้ ่วงแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

ตวั ชวี้ ดั ที่ 8 สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย

คำอธบิ าย
1. สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย หมายถึง สถานศึกษาที่ให้การอบรมเลี้ยงดู จัดประสบการณ์ และส่งเสริมพัฒนาการ

การเรียนรู้ใหเ้ ดก็ เล็กอายรุ ะหว่าง 2-5 ปี ใหม้ คี วามพร้อม ดา้ นรา่ งกาย อารมณ์-จิตใจ สงั คมและสติปญั ญา
2. มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย หมายถึง แนวทางการดำเนินงานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ให้มีมาตรฐานและ

มคี ณุ ภาพเปน็ ไปในแนวทางเดยี วกัน มี 6 ดา้ น ประกอบดว้ ย
1) มาตรฐานด้านการบรหิ ารจัดการสถานพฒั นาเด็กปฐมวยั
2) มาตรฐานด้านบคุ ลากร
3) มาตรฐานด้านอาคาร สถานที่ สิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย
4) มาตรฐานด้านวชิ าการ และกิจกรรมตามหลกั สูตร
5) มาตรฐานดา้ นการมสี ่วนรว่ ม และสง่ เสรมิ สนบั สนุน
6) มาตรฐานดา้ นสง่ เสริมเครือขา่ ยการพฒั นาเด็กปฐมวัย

คำถาม ตัวเลอื ก/คำตอบ
8.1 หมู่บ้าน / ชมุ ชนนี้ สามารถเขา้ ถึงการบรกิ ารสถาน 
พฒั นาเดก็ ปฐมวัยหรอื ไม่ ตอบ 0 เขา้ ไมถ่ งึ
ตอบ 1 เขา้ ถงึ โปรดระบุ 
8.2 สถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีหมู่บา้ น / ชมุ ชนน้ี สามารถ
เขา้ ถึงผ่านมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวยั ตอบ 1 ภายในหมบู่ า้ น/ชมุ ชน
ตอบ 2 ภายในตำบล
8.2.1 ดา้ นการบริหารจดั การสถานพฒั นาเด็กปฐมวัย ตอบ 3 ภายนอกตำบล
1) รับเดก็ ปฐมวัยท่ีมอี ายุระหว่าง 2-5 ปีบริบรู ณ์ 
ตอบ 0 ไม่ใช่
2) มีบริการอาหารกลางวนั /อาหารเสริม(นม) ตอบ 1 ใช่ โปรดระบุ 
สำหรับเด็กทกุ คน ตอบ 1 สงั กดั องค์กรปกครองสว่ น
ทอ้ งถ่ิน จำนวน  แหง่
3) สนบั สนุนการเปดิ บรกิ ารตลอดปกี ารศึกษา ตอบ 2 สงั กัดเอกชน
จำนวน  แห่ง
4) มีสอื่ /อปุ กรณ์การเรยี นการสอนท่ชี ว่ ยสง่ เสริม ตอบ 3 สงั กดั อ่ืน ๆ...........................
พฒั นาการและการเรยี นรูข้ องเดก็ จำนวน  แห่ง


ตอบ 0 ไม่ใช่
ตอบ 1 ใช่

ตอบ 0 ไม่มี
ตอบ 1 มี

ตอบ 0 ไมใ่ ช่
ตอบ 1 ใช่

ตอบ 0 ไม่มี
ตอบ 1 มี

311

รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจดั ทำเครอื่ งช้วี ัดและแบบสอบถามขอ้ มลู ความจำเปน็ พื้นฐาน (จปฐ.) และขอ้ มูลพนื้ ฐาน
ระดับหมู่บา้ น (กชช. 2ค) สำหรบั ใช้ช่วงแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม  ตวั เลอื ก/คำตอบ
8.2.2 ด้านบุคลากร ตอบ 0
ตอบ 1 ไมใ่ ช่
1) มีอัตราส่วนครูผู้ดูแลเด็ก/ผู้ดูแลเด็ก ที่เหมาะสม ใช่
ต่อจำนวนเด็ก (ครู 1: เด็กนักเรยี น 10 คน หากมีเด็กนักเรยี น 
เศษตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปต้องเพิ่มครูผู้ดูแลอีก 1 คน) โดยจัด ตอบ 0 ไม่ใช่
การศกึ ษาห้องละไม่เกิน 20 คน ตอบ 1 ใช่

2) มีการพัฒนาทกั ษะ ความรคู้ วามสามารถของ  ไม่ใช่
บุคลากรในศูนย์ฯ อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ตอบ 0 ใช่
ตอบ 1 ไมใ่ ช่
8.2.3 ด้านอาคาร สถานที่ สง่ิ แวดลอ้ มและความ  ใช่
ปลอดภัย ตอบ 0 ไมใ่ ช่
ตอบ 1 ใช่
1) มีอาคารเรยี นทม่ี ั่นคง แขง็ แรง ปลอดภัยตาม 
มาตรฐานทางวศิ วกรรม ตอบ 0 ไมใ่ ช่
ตอบ 1 ใช่
2) มีมาตรการป้องกันและเตรียมพร้อมรบั ไมใ่ ช่
สถานการณ์ฉกุ เฉนิ ท่ีอาจเกดิ ขึน้ กับเด็ก  ใช่
ตอบ 0 ไม่ใช่
3) มสี ภาพแวดล้อมทีเ่ อ้อื ตอ่ การเรยี นรู้ของเดก็ ตอบ 1 ใช่

8.2.4 ด้านวิชาการ และกิจกรรมตามหลักสตู ร ตอบ 0 ไมใ่ ช่
1) จดั ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยยึดหลักตามสตู ร ตอบ 1 ใช่

การศึกษาปฐมวัย พ.ศ.2560 ตอบ 0 ไมใ่ ช่
ตอบ 1 ใช่
2) มกี ารประกันคุณภาพภายในของสถานพฒั นาเด็ก ไมใ่ ช่
ปฐมวัย  ใช่
ตอบ 0
3) มกี ารจดั ทำหลักสตู รสถานศกึ ษาที่สอดคลอ้ งกับ ตอบ 1
บรบิ ทท้องถิ่น

8.2.5 ด้านการมสี ว่ นรว่ ม และส่งเสริมสนับสนนุ ตอบ 0
1) สนบั สนุนใหค้ รอบครวั ชุมชน และหนว่ ยงานท่ี ตอบ 1

เก่ียวข้องในพืน้ ท่ีเขา้ มามสี ่วนรว่ มในการดำเนินงานของศนู ย์ฯ ตอบ 0
ตอบ 1
8.2.6 ด้านส่งเสรมิ เครือข่ายการพัฒนาเดก็ ปฐมวยั
1) มีการจดั กจิ กรรม/เข้าร่วมเครือขา่ ยการพฒั นา

เดก็ ปฐมวัย

2) มกี ารกำหนดแผนงาน/แนวทางขับเคลือ่ นอยา่ ง
เปน็ รูปธรรม

312

รายงานฉบับสมบรู ณ์โครงการจดั ทำเคร่อื งชีว้ ัดและแบบสอบถามข้อมลู ความจำเป็นพืน้ ฐาน (จปฐ.) และข้อมลู พนื้ ฐาน
ระดบั หม่บู ้าน (กชช. 2ค) สำหรับใช้ช่วงแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

ตัวชีว้ ดั ท่ี 9 สิง่ อำนวยความสะดวกคนพิการและผูส้ งู อายุ

คำอธบิ าย
กฎกระทรวงมหาดไทย พ.ศ.2555 กำหนดให้อาคารหรือสถานที่ของหน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน หรือ
องค์กรอื่นใดให้มีอุปกรณ์ สิ่งอำนวยความสะดวก หรือบริการเพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ได้
อย่างหนงึ่ อยา่ งใด ดังตอ่ ไปนี้ (1) ที่น่ังสำหรบั คนพกิ ารหรือพื้นท่สี ำหรบั จอดรถเขน็ คนพิการ (2) ทางลาด (3) พ้นื ผิวต่าง
สัมผัสสำหรับคนพิการทางการเห็น (4) บันไดเลื่อนสำหรับคนพิการ (5) ทางลาดเลื่อนหรือทางเลือ่ นในแนวราบ (6) ราว
กันตกหรือผนังกันตก (7) ถังขยะแบบยกเคลื่อนที่ได้ (8) สถานที่ติดต่อหรือประชาสัมพันธ์สำหรับคนพิการ
(9) โทรศัพท์สาธารณะสำหรับคนพิการ (10) จุดบริการน้ำดื่มสำหรับคนพิการ (11) ตู้บริการเงินด่วนสำหรับคนพิการ
(12) ประตูสำหรับคนพิการ (13) ห้องน้ำสำหรับคนพิการ (14) ลิฟต์สำหรับคนพิการ (15) ที่จอดรถสำหรับคนพิการ
(16) สัญญาณเสียงและสัญญาณแสงขอความช่วยเหลือสำหรับคนพิการ (17) ป้ายแสดงอุปกรณ์หรือสิ่งอำนวย
ความสะดวกสำหรับคนพิการ (18) ทางสัญจรสำหรับคนพิการ (19) ตู้ไปรษณีย์สำหรับคนพิการ (20) พื้นที่สำหรับหนี
ภัยของคนพิการ (21) การประกาศเตือนภัยสำหรับคนพิการทางการเห็น และตัวอักษรไฟวิ่งหรือสัญญาณไฟเตือนภัย
สำหรับคนพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย (22) การประกาศข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับคนพิการทางการเห็น
และตัวอักษรไฟวิ่งหรือป้ายแสดงความหมายสำหรับคนพิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย และ (23) เจ้าหน้าที่
ซึ่งผ่านการฝึกอบรมและมีคุณสมบัติตรงกับความต้องการของคนพิการแต่ละประเภท อย่างน้อยหนึ่งคนเพื่อให้บริการ
คนพกิ าร

คำถาม  ตัวเลอื ก/คำตอบ
9.1 อาคารหรอื สถานทข่ี องหน่วยงานของรฐั องคก์ ร ตอบ 0
เอกชน หรือองคก์ รอ่นื ๆ ในหมบู่ ้าน ชุมชนนี้ ตอบ 1 ไม่มี
มีสิง่ อำนวยความสะดวกแก่คนพิการและผูส้ ูงอายุ มี โปรดระบุ 
ดงั ตอ่ ไปนหี้ รอื ไม่  ตอบ 0 ไม่เพียงพอ
ตอบ 0 ตอบ 1 เพยี งพอ
1) ท่ีนัง่ สำหรบั คนพิการหรือพน้ื ทีส่ ำหรับจอดรถเขน็ ตอบ 1
คนพกิ ารและผสู้ งู อายุ ไม่มี
 มี โปรดระบุ 
2) ทางลาด ตอบ 0 ตอบ 0 ไม่เพียงพอ
ตอบ 1 ตอบ 1 เพยี งพอ
3) พืน้ ผวิ ตา่ งสมั ผสั สำหรบั คนพิการทางการเหน็
 ไมม่ ี
4) บันไดเลื่อนสำหรับคนพิการ ตอบ 0 มี โปรดระบุ 
ตอบ 1 ตอบ 0 ไม่เพียงพอ
ตอบ 1 เพยี งพอ

ไมม่ ี
มี โปรดระบุ 
ตอบ 0 ไมเ่ พยี งพอ
ตอบ 1 เพยี งพอ

313

รายงานฉบบั สมบูรณ์โครงการจัดทำเครอ่ื งชว้ี ดั และแบบสอบถามขอ้ มลู ความจำเป็นพ้ืนฐาน (จปฐ.) และขอ้ มลู พ้ืนฐาน
ระดบั หมูบ่ ้าน (กชช. 2ค) สำหรบั ใชช้ ว่ งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม  ตัวเลือก/คำตอบ
5) ทางลาดเล่อื นหรอื ทางเล่ือนในแนวราบ ตอบ 0
6) ราวกนั ตกหรอื ผนังกนั ตก ตอบ 1 ไมม่ ี
7) ถังขยะแบบยกเคลอื่ นทไ่ี ด้ มี โปรดระบุ 
8) สถานท่ตี ดิ ตอ่ หรอื ประชาสัมพันธ์สำหรับคนพกิ าร  ตอบ 0 ไมเ่ พยี งพอ
9) โทรศพั ท์สาธารณะสำหรับคนพกิ าร ตอบ 0 ตอบ 1 เพียงพอ
10) จดุ บริการน้ำดื่มสำหรับคนพกิ าร ตอบ 1
11) ตูบ้ รกิ ารเงินดว่ นสำหรบั คนพกิ าร ไม่มี
12) ประตูสำหรับคนพิการ  มี โปรดระบุ 
ตอบ 0 ตอบ 0 ไม่เพียงพอ
ตอบ 1 ตอบ 1 เพียงพอ

 ไมม่ ี
ตอบ 0 มี โปรดระบุ 
ตอบ 1 ตอบ 0 ไม่เพียงพอ
ตอบ 1 เพยี งพอ

ตอบ 0 ไมม่ ี
ตอบ 1 มี โปรดระบุ 
ตอบ 0 ไมเ่ พียงพอ
 ตอบ 1 เพยี งพอ
ตอบ 0
ตอบ 1 ไมม่ ี
มี โปรดระบุ 
 ตอบ 0 ไมเ่ พยี งพอ
ตอบ 0 ตอบ 1 เพยี งพอ
ตอบ 1
ไมม่ ี
 มี โปรดระบุ 
ตอบ 0 ตอบ 0 ไม่เพียงพอ
ตอบ 1 ตอบ 1 เพยี งพอ

ไมม่ ี
มี โปรดระบุ 
ตอบ 0 ไม่เพียงพอ
ตอบ 1 เพยี งพอ

ไม่มี
มี โปรดระบุ 
ตอบ 0 ไม่เพียงพอ
ตอบ 1 เพยี งพอ

314

รายงานฉบบั สมบูรณ์โครงการจดั ทำเครือ่ งช้วี ดั และแบบสอบถามข้อมูลความจำเป็นพ้ืนฐาน (จปฐ.) และข้อมูลพื้นฐาน
ระดบั หมบู่ ้าน (กชช. 2ค) สำหรับใชช้ ่วงแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม  ตวั เลือก/คำตอบ
13) หอ้ งน้ำสำหรับคนพกิ ารและผสู้ ูงอายุ ตอบ 0
ตอบ 1 ไมม่ ี
14) ลฟิ ตส์ ำหรบั คนพิการและผสู้ ูงอายุ มี โปรดระบุ 
 ตอบ 0 ไมเ่ พยี งพอ
15) ที่จอดรถสำหรับคนพิการและผู้สงู อายุ ตอบ 0 ตอบ 1 เพียงพอ
ตอบ 1
16) สญั ญาณเสยี งและสญั ญาณแสงขอความ ไมม่ ี
ชว่ ยเหลอื สำหรับคนพกิ ารและผู้สงู อายุ  มี โปรดระบุ 
ตอบ 0 ตอบ 0 ไม่เพียงพอ
17) ป้ายแสดงอปุ กรณ์หรอื สิ่งอำนวยความสะดวก ตอบ 1 ตอบ 1 เพยี งพอ
สำหรับคนพิการและผูส้ งู อายุ
 ไม่มี
18) ทางสญั จรสำหรับคนพิการ ตอบ 0 มี โปรดระบุ 
ตอบ 1 ตอบ 0 ไม่เพยี งพอ
19) ต้ไู ปรษณียส์ ำหรับคนพิการ ตอบ 1 เพยี งพอ

20) พื้นทส่ี ำหรบั หนีภยั ของคนพกิ าร ตอบ 0 ไมม่ ี
ตอบ 1 มี โปรดระบุ 
ตอบ 0 ไม่เพยี งพอ
 ตอบ 1 เพียงพอ
ตอบ 0
ตอบ 1 ไม่มี
มี โปรดระบุ 
 ตอบ 0 ไมเ่ พยี งพอ
ตอบ 0 ตอบ 1 เพยี งพอ
ตอบ 1
ไม่มี
 มี โปรดระบุ 
ตอบ 0 ตอบ 0 ไมเ่ พยี งพอ
ตอบ 1 ตอบ 1 เพยี งพอ

ไมม่ ี
มี โปรดระบุ 
ตอบ 0 ไม่เพยี งพอ
ตอบ 1 เพียงพอ

ไม่มี
มี โปรดระบุ 
ตอบ 0 ไมเ่ พียงพอ
ตอบ 1 เพยี งพอ

315

รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจดั ทำเครื่องชวี้ ดั และแบบสอบถามข้อมลู ความจำเปน็ พน้ื ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มลู พนื้ ฐาน
ระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค) สำหรบั ใชช้ ่วงแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม  ตวั เลือก/คำตอบ
21) การประกาศเตือนภยั สำหรบั คนพิการทางการ ตอบ 0
เห็นฯ ตอบ 1 ไมม่ ี
มี โปรดระบุ 
22) การประกาศขอ้ มลู ทีเ่ ปน็ ประโยชนส์ ำหรับคน  ตอบ 0 ไม่เพียงพอ
พิการทางการเห็นฯ ตอบ 0 ตอบ 1 เพียงพอ
ตอบ 1
23) เจ้าหนา้ ทซี่ ่ึงผ่านการฝกึ อบรมคอยใหบ้ ริการ ไม่มี
 มี โปรดระบุ 
ตอบ 0 ตอบ 0 ไมเ่ พยี งพอ
ตอบ 1 ตอบ 1 เพยี งพอ

ไม่มี
มี โปรดระบุ 
ตอบ 0 ไม่เพยี งพอ
ตอบ 1 เพียงพอ

ตัวช้ีวัดท่ี 10 พนื้ ทสี่ าธารณะสีเขยี วและพนื้ ท่ีสาธารณะประโยชน์

คำอธิบาย
1. พื้นที่สีเขียว คือ อาณาบริเวณที่มีพืชขึ้นปกคลุม ไม่ว่าจะเป็นทั้งในเมือง และนอกเมืองโดยที่ประชาชนสามารถ

เขา้ ไปใช้ประโยชน์ได้ ซ่งึ ประโยชน์น้ีอาจจะเป็นทางตรงหรอื ทางออ้ มก็ได้ ไมว่ ่าจะเปน็ พักผอ่ นหยอ่ นใจ ออกกำลัง
กาย เช่น สวนสาธารณะ สวนหยอ่ ม พ้ืนท่สี เี ขยี วบริการของหมู่บา้ น เกาะกลางถนน ต้นไมส้ องข้างทาง เปน็ ตน้
2. พื้นที่สาธารณะ คือ พื้นที่ที่ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงและเข้าใช้ได้ สามารถแสดงออกได้ทางความคิดของ
ตนเองได้โดยไมข่ ัดต่อกฎกติกาของส่วนรวม เชน่ ลานชมุ ชน ลานเมือง ศาลาประชาคม หอ้ งนำ้ สาธารณะ เปน็ ตน้

คำถาม ตัวเลอื ก/คำตอบ
10.1 ในหม่บู ้าน / ชุมชนน้ี มพี ืน้ ทส่ี าธารณะสเี ขยี ว
หรือไม่ 

10.1.2 จำนวนพนื้ ที่สาธารณะสเี ขียว ตอบ 0 ไมม่ ี (ขา้ มไปตอบขอ้ 10.2)

10.1.3 ประชาชนในหมูบ่ า้ น / ชมุ ชน ใช้บริการ ตอบ 1 มี
พน้ื ทสี่ าธารณะสีเขยี ว
จำนวน  แห่ง

ของภาครฐั  แหง่

ของภาคเอกชน  แหง่

ขนาดพนื้ ทโี่ ดยเฉล่ีย  ตารางเมตร

จำนวนผู้ใช้บรกิ ารคดิ เป็นร้อยละ 

ของประชาชนในหมู่บา้ น /ชมุ ชน

เพศชาย  คน

เพศหญงิ  คน

เพศทางเลอื ก  คน

316

รายงานฉบบั สมบูรณ์โครงการจัดทำเครื่องช้วี ัดและแบบสอบถามข้อมลู ความจำเป็นพนื้ ฐาน (จปฐ.) และข้อมลู พ้ืนฐาน
ระดบั หมูบ่ า้ น (กชช. 2ค) สำหรับใช้ช่วงแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ

10.1.4 มีระบบรกั ษาความปลอดภัยหรอื ไม่  ไมม่ ี
(เชน่ ศนู ย์รักษาความปลอดภัย เจา้ หนา้ ทีร่ กั ษาความ ตอบ 0 มี โปรดระบุ 
ปลอดภยั กล้องวงจรปดิ เป็นตน้ ) ตอบ 1 มีระบบรักษาความปลอดภยั  แห่ง

10.1.5 ในรอบปีที่ผ่านมา ไดม้ กี ารบำรงุ รักษา 
พ้ืนที่สาธารณะสเี ขยี ว หรือไม่ ตอบ 0 ไม่มี
ตอบ 1 มี โปรดระบุ 

เฉล่ยี ต่อเดอื น  คร้งั

10.1.6 เปิดโอกาสให้คนในหมบู่ ้าน / ชมุ ชน มี 
สว่ นร่วมบำรุงรกั ษาพื้นท่ีสาธารณะสเี ขียวหรอื ไม่ ตอบ 0 ไมม่ ี
ตอบ 1 มี โปรดระบุ 

จำนวนครวั เรอื นท่ีเขา้ ร่วมครวั เรอื น

10.2 ในหมบู่ ้าน/ชมุ ชนน้ีมบี ริการพนื้ ท่ีสาธารณะ 
ตอ่ ไปนหี้ รือไม่ ตอบ 0 ไมม่ ี (ข้ามไปตอบข้อ 11.1)
ตอบ 1 มี

1) กจิ กรรมธนาคารข้าว (ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งมียุ้งฉางก็ จำนวน  แห่ง

ได้)

2) ศาลาประชาคม/ศาลากลางบา้ น จำนวน  แหง่

3) รา้ นคา้ ทป่ี ระชาชนร่วมกนั ลงทนุ (เชน่ ศูนย์ จำนวน  แห่ง

สาธิต การตลาด สหกรณ์ รา้ นค้า เปน็ ตน้ )

4) สถานทพ่ี กั ผ่อน/สวนสาธารณะของหมบู่ า้ น/ จำนวน  แหง่

ชมุ ชน หรือ หมู่บ้าน/ชมุ ชน อยใู่ นรัศมีไมเ่ กิน 3

กโิ ลเมตร จากสถานทพ่ี ักผ่อน/สวนสาธารณะ

5) หอ้ งนำ้ สาธารณะในหมูบ่ า้ น / ชุมชน (ไมน่ บั จำนวน  หอ้ ง

หอ้ งน้ำในวัด โรงเรียน หน่วยงานราชการ)

หมวดท่ี 2 สภาพพน้ื ฐานทางเศรษฐกิจ
ตัวชี้วดั ที่ 11 การมงี านทำ

คำอธบิ าย
1. การมีงานทำ ให้นับคนอายุ 15-59 ปี มีการประกอบอาชีพและที่มีรายได้ (ยกเว้นผู้ที่กำลังศึกษาอย่างเดียว โดย

ไมไ่ ด้ประกอบอาชพี หรอื คนพิการทไี่ มส่ ามารถช่วยตนเองได้)
2. การประกอบอาชีพและมีรายได้ คือ การทำงานที่เป็นงานประจำทุกอาชีพ ทั้งที่อยู่ภายในครัวเรือนหรือนอก

ครวั เรือน โดยมรี ายไดท้ ่ีเกดิ จากการทำงานดังกลา่ ว ทงั้ ในลักษณะรายวัน รายสปั ดาห์ รายเดอื น รายช้ินงาน หรือ
งานเหมา
3. แรงงานนอกระบบ คือ ผู้มีงานทำที่ไม่ได้รับความคุ้มครอง หรือไม่มีหลักประกันทางสังคมจากการทำงาน” หรือ
กล่าวอีกนัยหนึ่งว่าเป็น “ผู้ที่ทำงานส่วนตัวโดยจะมีลูกจ้างหรือไม่ก็ได้ หรือลูกจ้างที่ไม่มีประกันสังคมหรือ
สวัสดิการพนักงานของรฐั ”
4. สถานภาพการทำงานแรงงานนอกระบบส่วนใหญ่ คือ ประกอบธุรกิจส่วนตัวโดยไม่มีลูกจ้าง ธุรกิจครัวเรือน
ลูกจ้างเอกชน (ไม่ประกันตนและทำงานไมถ่ ึง 3 เดือน) นายจ้าง (ไม่ประกันตน) ลูกจ้างรัฐบาล (ผู้รับจ้างเหมาไม่
ประกันตน) และการรวมกลมุ่ ของแรงงานนอกระบบ

317

รายงานฉบบั สมบรู ณ์โครงการจัดทำเคร่อื งชี้วัดและแบบสอบถามข้อมูลความจำเป็นพน้ื ฐาน (จปฐ.) และข้อมลู พ้นื ฐาน
ระดับหมูบ่ า้ น (กชช. 2ค) สำหรบั ใชช้ ว่ งแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

5. งานที่รับไปทำที่บ้าน หมายถึง งานที่ลูกจ้างรับจากนายจ้างไปผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อมหรือแปรรูปสิ่งของใน
บ้านของลูกจ้าง หรือสถานที่อื่น ที่มิใช่สถานประกอบกิจการของนายจ้างตามที่ได้ตกลงกันเพื่อรับค่าจ้าง โดยใช้
วัตถุดิบหรืออุปกรณ์ในการผลิตของนายจ้างทั้งหมดหรือบางส่วน และโดยปกติ การทำงานนั้นเป็นส่วนหนึ่งส่วน
ใด หรือท้งั หมดในกระบวนการผลิตหรอื ธุรกิจในความรับผดิ ชอบของนายจา้ ง

6. แรงงานข้ามชาติ/แรงงานต่างด้าว คือ บุคคลที่ไม่ได้มีสัญชาติไทย ไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน เป็นบุคคลที่มี
สญั ชาติอ่ืนที่ได้มกี ารอพยพ ย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำงานในประเทศไทย

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ

11.1 คนอายุ 15 - 59 ปี มีการประกอบอาชีพและมี รวม  คน
รายได้ เพศชาย  คน

เพศหญงิ  คน

11.2 คนอายุ 15 - 59 ปี ไม่มีการประกอบอาชพี และ รวม  คน

ไม่มีรายได้ เพศชาย  คน

เพศหญงิ  คน

11.3 คนอายุ 60 ปีขนึ้ ไป มีการประกอบอาชพี และมี รวม  คน

รายได้ เพศชาย  คน

เพศหญงิ  คน

11.4 คนในหมูบ่ ้าน/ชุมชน มคี นทเ่ี รยี นจบการศกึ ษา รวม  คน

ต้งั แตม่ ัธยมศึกษาปที ี่ 3 ขน้ึ ไปหรือเทยี บเทา่ ที่ไมไ่ ด้ เพศชาย  คน

ทำงาน (ไม่นับคนท่กี ำลงั ศกึ ษาต่อ และคนพกิ ารท่ไี ม่ เพศหญงิ  คน

สามารถช่วยเหลือตนเองได้)

11.5 จำนวนครัวเรอื นที่มีคนประกอบอาชีพรับจา้ ง จำนวน  ครัวเรือน

11.6 คนสว่ นมากในหมบู่ ้าน/ชุมชนรบั จ้างทำงาน 
ประเภทใด ตอบ 1 งานอตุ สาหกรรมในโรงงาน

ตอบ 2 รับเหมาชว่ งงานผลิตสินค้าขนาดย่อม

(เชน่ เยบ็ เสอื้ โหล ไฟกระพรบิ ทำหมวก)

ตอบ 3 งานเกษตรกรรม (กสิกรรม ปศสุ ัตว)์

ตอบ 4 งานประมง

ตอบ 5 งานบรกิ าร (เช่น รับใช้ในบ้าน สถาน

เรงิ รมย์ ขับรถรับจา้ ง ฯลฯ)

ตอบ 6 งานชา่ งฝมี อื (เช่น ช่างไม้ ชา่ งปนู ช่างซ่อม

เคร่ืองยนต์ฯลฯ)

ตอบ 7 งานเหมืองแร่

ตอบ 8 งานปลูก และบำรุงรกั ษาป่าไม้

ตอบ 9 งานปลกู สรา้ ง/รอ้ื ถอน/ซ่อมแซมอาคาร

ส่ิงกอ่ สรา้ ง

ตอบ 10 รับจ้างกรดี ยางพารา

ตอบ 11 อนื่ ๆ ระบ.ุ ................................................

11.7 ครัวเรอื นมีรายไดจ้ ากการรบั จ้าง โดยเฉล่ีย ครัวเรอื นละ  บาทต่อปี

11.8 ค่าจ้างท่ัวไป สำหรบั งานทีค่ นสว่ นมากไปรับจ้างทำ ประมาณวนั ละ  บาท

318

รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจัดทำเครอื่ งช้ีวัดและแบบสอบถามขอ้ มูลความจำเป็นพ้ืนฐาน (จปฐ.) และข้อมลู พ้ืนฐาน
ระดับหม่บู ้าน (กชช. 2ค) สำหรบั ใชช้ ่วงแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตวั เลือก/คำตอบ
11.9 ครวั เรอื นในหม่บู ้าน/ชมุ ชนนี้ มกี ารจา้ งแรงงาน จำนวน  ครวั เรอื น
ขา้ มชาติทำงาน (ถา้ ไมม่ ใี หใ้ ส่ 0 แล้วขา้ มไปตอบขอ้ 11.11)
11.10 แรงงานข้ามชาตสิ ่วนมากรบั จา้ งทำงานประเภทใด 
ตอบ 1 งานอตุ สาหกรรมในโรงงาน
11.11 หมบู่ ้าน/ชมุ ชนนี้ มกี ลุ่มแรงงานนอกระบบ ตอบ 2 รบั เหมาชว่ งงานผลิตสนิ ค้าขนาดยอ่ ม
หรอื ไม่
11.12 หมบู่ ้าน/ชุมชนน้ี มีกล่มุ แรงงานนอกระบบและ (เช่น เย็บเส้ือโหล ไฟกระพรบิ ทำหมวก)
สมาชิกรวม แยกตามประเภทได้ ดงั น้ี ตอบ 3 งานเกษตรกรรม (กสกิ รรม ปศสุ ัตว)์
ตอบ 4 งานประมง
1) กลุ่มผรู้ บั งานไปทำท่บี ้าน ตอบ 5 งานบริการ (เช่น รบั ใช้ในบา้ น สถาน
2) กลุ่มวสิ าหกจิ ชุมชน
3) อ่ืน ๆ ระบ.ุ ........................................ เรงิ รมย์ ขบั รถรับจา้ ง ฯลฯ)
11.13 กลุ่มแรงงานนอกระบบที่มีจำนวนสมาชกิ มาก ตอบ 6 งานชา่ งฝมี อื (เช่น ชา่ งไม้ ชา่ งปนู ชา่ งซอ่ ม
เปน็ อนั ดบั ที่หนง่ึ
เครือ่ งยนตฯ์ ลฯ)
1) จำนวนครวั เรือนที่มีคนทอ่ี ย่ใู นกลุ่มแรงงาน ตอบ 7 งานเหมืองแร่
นอกระบบประเภทนี้ ตอบ 8 งานปลูก และบำรุงรักษาปา่ ไม้
ตอบ 9 งานปลูกสร้าง/รือ้ ถอน/ซอ่ มแซมอาคาร
2) ครัวเรือนมีรายได้ โดยเฉลย่ี
11.14 กลุ่มแรงงานนอกระบบทม่ี จี ำนวนสมาชิกมาก สิ่งก่อสรา้ ง
เปน็ อันดับที่สอง ตอบ 10 รับจ้างกรดี ยางพารา
ตอบ 11 อน่ื ๆ ระบ.ุ ................................................

ตอบ 0 ไม่มี (ขา้ มไปตอบข้อ 12)
ตอบ 1 มี

จำนวน  กลมุ่
มีสมาชกิ รวม  คน
จำนวน  กลุ่ม
มีสมาชิกรวม  คน
จำนวน  กลุม่
มสี มาชิกรวม  คน

ตอบ 1 กลุ่มผรู้ ับงานไปทำที่บ้าน
ตอบ 2 กลุ่มวิสาหกิจชุมชน
ตอบ 3 อ่นื ๆ ระบ.ุ ........................................
จำนวน  ครัวเรือน

ครวั เรือนละ  บาทตอ่ ปี

ตอบ 1 กลุ่มผ้รู ับงานไปทำทบ่ี ้าน
ตอบ 2 กลมุ่ วสิ าหกิจชมุ ชน
ตอบ 3 อนื่ ๆ ระบ.ุ ........................................

319

รายงานฉบบั สมบูรณ์โครงการจัดทำเครือ่ งชี้วดั และแบบสอบถามขอ้ มลู ความจำเปน็ พ้ืนฐาน (จปฐ.) และขอ้ มลู พ้นื ฐาน
ระดับหมูบ่ ้าน (กชช. 2ค) สำหรับใช้ช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ
1) จำนวนครวั เรือนที่มคี นที่อยใู่ นกลุ่มแรงงาน จำนวน  ครัวเรือน

นอกระบบประเภทนี้ ครวั เรอื นละ  บาทต่อปี
2) ครวั เรือนมีรายได้ โดยเฉลีย่ 
11.15 กลุ่มแรงงานนอกระบบทมี่ จี ำนวนสมาชกิ มาก ตอบ 1 กลมุ่ ผ้รู บั งานไปทำทีบ่ า้ น
เปน็ อันดับท่ีสาม ตอบ 2 กล่มุ วิสาหกิจชมุ ชน
ตอบ 3 อืน่ ๆ ระบ.ุ ........................................
1) จำนวนครวั เรือนท่มี ีคนท่อี ยู่ในกลุ่มแรงงาน จำนวน  ครัวเรือน
นอกระบบประเภทน้ี
ครวั เรอื นละ  บาทต่อปี
2) ครวั เรือนมรี ายได้ โดยเฉลีย่

ตัวช้ีวัดท่ี 12 การทำงานในสถานประกอบการ

คำอธบิ าย
1. สถานประกอบการ หมายถึง สถานที่ที่ใช้ในการประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอยู่ในที่ตั้งที่แน่นอน ไม่ว่า

กิจกรรมนน้ั จะดำเนนิ งานโดยบุคคลทเี่ ป็นเจา้ ของหรือควบคมุ กิจกรรมโดยนิติบคุ คลกต็ าม
2. โรงงานอุตสาหกรรม หมายถึง อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมตั้งแต่ห้าแรงม้าหรือ

กำลังเทียบเท่าตั้งแต่ห้าแรงม้าขึ้นไป หรือใช้คนงานตั้งแต่เจ็ดคนขึ้นไปโดยใช้เครื่องจักรหรือไม่ก็ตาม สำหรับทำ
ผลติ ประกอบ บรรจุ ซ่อม ซอ่ มบำรงุ ทดสอบ ปรบั ปรุง แปรสภาพ ลำเลยี ง เก็บรกั ษา หรอื ทำลายส่ิงใด ๆ ไมน่ ับ
งานที่รับช่วงมาทำ เช่น เย็บเสื้อโหล ทำไฟกระพริบ ทำหมวก และไม่นับอุตสาหกรรมในครัวเรือน ตามข้อ 13
รา้ นคา้ บริษัท ห้างร้าน โรงแรม รสี อร์ท เป็นต้น
3. โรงงาน หมายถึง อาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมตั้งแต่ห้าสิบแรงม้าหรือกำลัง
เทียบเท่าตั้งแต่ห้าสิบแรงม้าขึ้นไป หรือใช้คนงานตั้งแต่ห้าสิบคนขึ้นไป โดยใช้เครื่องจักรหรือไม่ก็ตามเพ่ือ
ประกอบกิจการโรงงาน ทงั้ นี้ ตามประเภทหรือชนดิ ของโรงงานท่กี ำหนดในกฎกระทรวง
4. การทำงานนอกตำบล หมายถึง คนงานที่อพยพไปทำงานในที่ต่าง ๆ ทั้งในหรือต่างประเทศ เป็นการชั่วคราว
หรือถาวร ตามความต้องการของตลาดแรงงาน และโอกาสการมงี านทำ ดังน้นั ไม่นบั คนงานที่ทำงานแบบไป-กลับ
ในวนั เดยี ว

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ
12.1 การทำงานในสถานประกอบการ (ไมร่ วม
โรงงานอตุ สาหกรรม) 
ตอบ 0 ไมม่ ี
12.1.1 หมบู่ ้าน/ชุมชนนี้ มีสถานประกอบการ ตอบ 1 มี
ภายในตำบล หรอื ไม่ 
ตอบ 0 ไม่มี
12.1.2 หมู่บ้าน/ชุมชนนี้ มีครวั เรือนท่มี ี ตอบ 1 มี
คนทำงานในสถานประกอบการ แยกเปน็ จำนวน  ครัวเรอื น

1) ทำงานในสถานประกอบการภายใน
ตำบลน้ี

320

รายงานฉบบั สมบูรณ์โครงการจัดทำเครือ่ งช้วี ดั และแบบสอบถามข้อมลู ความจำเป็นพ้นื ฐาน (จปฐ.) และข้อมลู พ้ืนฐาน
ระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค) สำหรับใช้ช่วงแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ

2) ทำงานในสถานประกอบการภายนอก จำนวน  ครัวเรือน

ตำบลนี้

12.1.3 ครวั เรอื นมีรายได้จากการทำงานใน ครัวเรอื นละ  บาทต่อปี

สถานประกอบการ โดยเฉลี่ย

12.1.4 ชัว่ โมงการทำงานในสถานประกอบการ จำนวน  ช่วั โมง ตอ่ คนต่อวนั

โดยเฉล่ีย

12.2 อุตสาหกรรมภายในท้องถนิ่

12.2.1 หมู่บ้าน/ชมุ ชนนี้ มีโรงงานอตุ สาหกรรม 
หรือไม่ ตอบ 0 ไมม่ ี
ตอบ 1 มี

12.2.2 หมู่บ้าน/ชุมชนนี้ มีครัวเรอื นทีม่ ี 

คนทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมท่อี ยู่ภายในตำบล ตอบ 0 ไมม่ ี (ข้ามไปตอบข้อ 13)

หรอื ไม่ ตอบ 1 มี โปรดระบุ
จำนวน  ครัวเรือน

1) จากขอ้ 12.2.2 ครัวเรือนมรี ายได้ ครัวเรือนละ  บาทต่อปี

โดยเฉลี่ย

2) จากข้อ 12.2.2 โรงงาน ระบ.ุ ....................................................................

อตุ สาหกรรมมีสินคา้ และผลิตภณั ฑท์ ่ี

ผลติ มากท่สี ดุ

ตัวชว้ี ัดท่ี 13 ร้านอาหารและร้านค้า

คำอธบิ าย
1. ร้านอาหาร หมายถึง อาคารที่จัดไว้เพื่อประกอบอาหารหรือปรุงอาหารจนสำเร็จและจำหน่าย ให้ผู้ซื้อสามารถ

บริโภคได้ทันทซี ึ่งครอบคลุมถึงภตั ตาคาร สวนอาหาร หอ้ งอาหารในโรงแรมและศูนยอ์ าหาร
2. แผงลอยจำหน่ายอาหาร หมายถึง แคร่ แท่น โต๊ะ แผง รถเข็น หรอื พาหนะอื่นใด ที่ขายอาหาร เครอ่ื งด่ืม

นำ้ แขง็ โดยตัง้ ประจำท่ี
3. รา้ นอาหารและแผงลอยจำหนา่ ยอาหารไดม้ าตรฐานท้องถ่นิ หมายถงึ ร้านอาหาร และแผงลอยจำหน่ายอาหาร

ผา่ นเกณฑ์มาตรฐานตามเทศบญั ญัตหิ รอื ขอ้ กำหนดของทอ้ งถ่นิ (เทศบาล/อบต.) หรอื กรณที ี่เทศบาล/อบต.
ยงั ไม่มีการออกเทศบัญญตั ิหรือข้อกำหนด กจ็ ะถือตามข้อกำหนดด้านสุขาภบิ าลอาหารของร้านอาหาร และแผง
ลอยจำหนา่ ยอาหาร ที่ออกโดย กรมอนามัย
4. รา้ นคา้ ใหน้ บั เฉพาะรา้ นคา้ ที่มอี าคารสถานที่ถาวร ไม่นับหาบเร่/แผงลอย ในกรณที ร่ี า้ นคา้ ที่ขายของหลายอย่าง
ในร้านเดียวกัน ให้นับเป็น 1 ร้าน โดยไม่นับซ้ำ (เช่น เป็นร้านที่ซ่อมรถยนต์ และเชื่อมโลหะด้วย แต่มีรายได้จาก
การซอ่ มรถยนต์เป็นหลักกใ็ ห้นับเป็นรา้ นซอ่ มรถยนต์ เปน็ ตน้ )

321

รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจัดทำเครือ่ งชวี้ ดั และแบบสอบถามขอ้ มลู ความจำเป็นพ้นื ฐาน (จปฐ.) และข้อมูลพ้ืนฐาน
ระดบั หมบู่ ้าน (กชช. 2ค) สำหรบั ใชช้ ่วงแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตัวเลอื ก/คำตอบ

13.1 รา้ นอาหาร

13.1.1 หมบู่ ้าน/ชุมชนน้ี มีรา้ นอาหารท่ีได้รบั  ไม่มี
มาตรฐานท้องถ่ินหรือกรมอนามัย ตอบ 0 มี โปรดระบุ จำนวน  แหง่
ตอบ 1
13.1.2 หมูบ่ า้ น/ชมุ ชนนี้ มแี ผงลอยทีไ่ ดร้ บั  ไม่มี
มาตรฐานทอ้ งถ่ินหรือกรมอนามัย ตอบ 0 มี โปรดระบุ จำนวน  แห่ง
ตอบ 1
13.1.3 หมบู่ า้ น/ชมุ ชนนี้ มีรา้ นอาหารทไ่ี ด้รับ  ไม่มี
มาตรฐานทอ้ งถิ่นหรือกรมอนามัยท่ีมีการรอ้ งเรยี นจาก ตอบ 0 มี โปรดระบุ จำนวน  แห่ง
ลูกค้าเรื่องความไม่สะอาดของสถานทแ่ี ละอาหารกี่แหง่ ตอบ 1
ไมม่ ี
13.1.4 หม่บู า้ น/ชุมชนนี้ มแี ผงลอยทไ่ี ด้รบั  มี โปรดระบุ จำนวน  แห่ง
มาตรฐานท้องถ่ินหรือกรมอนามัยท่ีมีการรอ้ งเรียนจาก ตอบ 0
ลูกค้าเรือ่ งความไม่สะอาดของสถานทแี่ ละอาหารก่ีแห่ง ตอบ 1

13.2 ร้านค้า  ไมม่ ี (ขา้ มไปตอบข้อ 14)
13.2.1 หมู่บ้าน/ชมุ ชนน้ี มีบริการร้านค้าตา่ ง ๆ ตอบ 0 มี โปรดระบุ จำนวน  แหง่
ตอบ 1

13.2.2 ร้านคา้ ขายของชำ หรอื ขายของ จำนวน  แหง่
เบ็ดเตลด็ และ/หรือผลติ ภณั ฑข์ องหมบู่ ้าน

13.2.3 ร้านสะดวกซอ้ื จำนวน  แหง่

13.2.4 รา้ นขายของปจั จยั การผลติ (ทาง จำนวน  แห่ง

การเกษตร ประมง ป่าไม้ เชน่ เมล็ดพันธุพ์ ืช ปยุ๋
สารเคมีทางการเกษตร เครือ่ งจกั รกลการเกษตร ฯลฯ)

13.2.5 ร้านจำหนา่ ยหรือซ่อมรถยนต์ จำนวน  แห่ง
รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน

13.2.6 รา้ นจำหน่ายหรือซ่อมเครอ่ื งใช้ไฟฟ้า จำนวน  แห่ง
วิทยุ โทรทัศน์ คอมพวิ เตอร์ ฯลฯ

13.2.7 รา้ นคา้ ท่ีประชาชนลงทนุ รวมกันในชุมชน จำนวน  แหง่
(เช่น ศนู ย์สาธิตการตลาด, ร้านค้าหมู่บา้ น/ชุมชน เป็นต้น)

13.2.8 ร้านซอ่ มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการ จำนวน  แห่ง
เกษตร

13.2.9 ร้านจำหน่ายกา๊ ซหงุ ตม้ จำนวน  แหง่

13.2.10 มีสถานบรกิ ารน้ำมันเชื้อเพลงิ จำนวน  แห่ง

(ป๊มั นำ้ มัน, ปม๊ั หลอด, ปั๊มหยอดเหรยี ญ)

13.2.11 หมู่บา้ น/ชุมชนนมี้ ีจำนวนโรงสที ้ังหมด จำนวน  แห่ง

1) ขนาดเล็กไม่เกิน 20 แรงม้า จำนวน  เครื่อง

2) ขนาดกลาง 20-50 แรงมา้ จำนวน  เคร่ือง

3) ขนาดใหญ่ มากกวา่ 50 แรงม้า จำนวน  เครื่อง

13.2.12 อื่น ๆ (ระบุ..........................................) จำนวน  แห่ง

322

รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจดั ทำเครอ่ื งชว้ี ดั และแบบสอบถามขอ้ มลู ความจำเปน็ พ้ืนฐาน (จปฐ.) และขอ้ มลู พน้ื ฐาน
ระดับหมู่บา้ น (กชช. 2ค) สำหรบั ใช้ช่วงแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

ตัวช้ีวดั ที่ 14 ผลผลติ จากการทำนา
(ไม่รวมกิจการเกษตรในบริเวณบ้านหรอื หัวไร่ปลายนา)

คำอธิบาย

1. ครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยครัวเรือนละก่ีบาทต่อปี เป็นรายได้ทีไ่ มห่ ักค่าใช้จ่ายจะได้ทราบมลู ค่าของผลผลิตท้ังหมด

ของครัวเรอื น

2. ชีวภัณฑ์ หมายถึง ชีวินทรีย์ ได้แก่ รา แบคทีเรีย ไวรัส ไส้เดือนฝอย และแมลงศัตรูพืชธรรมชาติ ใช้เป็นสาร

ควบคุมโรคและแมลงศัตรูพืช เพื่อลดหรือทดแทนสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช โดยจะต้องเป็นชีวภั ณฑ์ที่มี

ความปลอดภัยต่อมนุษย์ และสัตว์รวมทั้งสภาพแวดล้อม และสามารถผลิตขยายปริมาณได้มากพอเพียงต่อ

การนำไปใช้ประโยชน์ เช่น แบคทีเรียบีทีกำจัดแมลง ไวรัสเอ็นพีวี ไส้เดือนฝอยกำจัดแมลง แบคทีเรียบาซิลัส

ควบคุมโรคพืช แมลงหางหนีบ ไร ตัวห้ำ มวนพิฆาต ด้วงเต่า แมลงวันซีโนเซีย แตนเบียน แมลงดำหนาม เชื้อรา

เขยี ว เชือ้ โปรโตซวั เชอื้ รา เช้ือราไตรโคเดอร์มา เปน็ ต้น

3. พันธุ์ข้าวส่งเสริมหรือพันธุ์ข้าวราชการ หมายถึง ข้าวพันธุ์ดีที่ทางราชการรับรอง หรือส่งเสริมให้เกษตรกรทำ

การเพาะปลูก ซ่งึ ไดแ้ ก่ พันธ์ุ กข. พันธ์ดุ ีอน่ื ๆ ท่ีเป็นท่นี ิยมของเกษตรกร เช่น กข.7 กข.10 สุพรรณบุรี 60 ข้าว

ขาวดอกมะลิ 5 ขา้ วดอกมะลิ 105 เปน็ ตน้

4. การแปลงมาตราช่ัง ตวง วัด

1 เกวยี น (ข้าว) = 1,000 กก. 1 ถัง (ขา้ วเปลือก) = 10 กก.

1 หาบ (เลก็ ) = 60 กก. 1 ถงั (ขา้ วสาร) = 15 กก.

1 หาบ (ใหญ่) = 100 กก. 1 ถัง (ถั่วตา่ ง ๆ) = 15 กก.

1 หม่ืน (ขา้ ว) = 12 กก. 1 ตัน = 1,000 กก.

1 ลติ ร (ขา้ วสาร) = 3/4 กก.

คำถาม ตวั เลอื ก/คำตอบ

14.1 หมู่บา้ น/ชุมชนนี้ มพี ้ืนทที่ ำนาหรือไม่ 
ตอบ 0 ไม่มี (ข้ามไปข้อ 15)

ตอบ 1 มี โปรดระบุ

จำนวน  ไร่

14.2 ครวั เรือนทีท่ ำนา มีท้ังหมด (ไม่นับการปลูกข้าวไร่ จำนวน  ครวั เรือน

เพราะถอื เปน็ การปลูกพืชไร่อายยุ าว)

14.3 ครวั เรือนที่ทำนา ใช้ที่นาแยกตามขนาดพนื้ ท่ี

ดงั นี้ (รวมทน่ี าของตนเองและ/หรือผู้เช่าอื่น ทั้งที่อยใู่ น

และนอกเขตหม่บู ้าน/ชมุ ชน)

1) ไม่เกิน 5 ไร่ จำนวน  ครวั เรือน

2) มากกว่า 5-10 ไร่ จำนวน  ครัวเรอื น

3) มากกวา่ 10-20 ไร่ จำนวน  ครัวเรือน

4) มากกว่า 20-50 ไร่ จำนวน  ครวั เรอื น

5) มากกวา่ 50 ไร่ จำนวน  ครวั เรือน

14.4 ครวั เรือนมรี ายได้จากการทำนา โดยเฉลีย่ ครวั เรอื นละ  บาทตอ่ ปี

14.5 ครวั เรือนทำนาปีละ

1) หนงึ่ คร้ัง จำนวน  ครวั เรือน

2) สองคร้ัง จำนวน  ครวั เรือน

3) มากกวา่ สองครั้ง จำนวน  ครวั เรือน

323

รายงานฉบบั สมบรู ณ์โครงการจดั ทำเครื่องชวี้ ดั และแบบสอบถามขอ้ มูลความจำเป็นพน้ื ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มูลพ้นื ฐาน
ระดับหมบู่ า้ น (กชช. 2ค) สำหรับใชช้ ่วงแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ
14.6 ครัวเรือนทำนาแยกตามประเภท ดงั น้ี
จำนวน  ครัวเรือน
1) นาดำ จำนวน  ครวั เรอื น
2) นาหว่าน จำนวน  ครวั เรอื น
3) นาหว่านน้ำตม จำนวน  ครวั เรือน
4) นาโยน จำนวน  ครวั เรือน
5) นาขั้นบันได จำนวน  ครวั เรอื น
6) ทำมากกว่า 1 รูปแบบ/วิธีการ ไรล่ ะ  กโิ ลกรัม
14.7 ในปที ่ผี า่ นมา ครวั เรอื นได้ผลผลิตขา้ วเปลอื กโดย
เฉลยี่ ราคากโิ ลกรัมละ  บาท  สตางค์
14.8 ในช่วงระยะเวลาท่ีคนส่วนมากขายขา้ วเปลือกจะ
ขายไดโ้ ดยเฉล่ีย 
14.9 ครวั เรอื นส่วนมากขายข้าวในลักษณะใด ตอบ 1 ตลาดกลางขา้ ว
ตอบ 2 ขายใหก้ ลุม่ สหกรณก์ ารเกษตรหรือกล่มุ
14.10 ครัวเรือนทีค่ ดั พนั ธุ์ข้าวไว้ใช้เอง
14.11 ครวั เรือนท่ีใชพ้ นั ธข์ุ ้าวส่งเสริมโดยรัฐบาล เกษตรกร
14.12 ครัวเรอื นที่ใช้ปุ๋ยในการทำนา ตอบ 3 ขายใหว้ สิ าหกจิ ชุมชน
14.13 ค่าใชจ้ า่ ยในการซ้ือป๋ยุ โดยเฉล่ยี ตอบ 4 ขายใหโ้ รงสใี นตำบล
14.14 ครัวเรือนส่วนมากใช้ปุ๋ยประเภทใด ตอบ 5 ขายใหโ้ รงสีในอำเภอ
ตอบ 6 ขายใหโ้ รงสใี นจังหวัด
14.15 ครัวเรือนมีวิธกี ารปอ้ งกันและกำจดั แมลง ตอบ 7 ขายล่วงหน้าหรือตกเขียว
วัชพืช โรคพืช และสัตวท์ ี่เป็นศัตรูพืชหรือไม่ แบบใด ตอบ 8 มพี ่อคา้ มารับซื้อ
ตอบ 9 นำไปขายเองนอกจงั หวดั
1) ใช้สารเคมี ตอบ 10 อน่ื ๆ ระบุ..................................................
จำนวน  ครวั เรือน
จำนวน  ครัวเรือน
จำนวน  ครัวเรือน
ครัวเรือนละ  บาทตอ่ ไร่

ตอบ 1 ปยุ๋ อินทรีย์
ตอบ 2 ปุย๋ เคมี
ตอบ 3 ป๋ยุ อนิ ทรีย์และปุ๋ยเคมี
ตอบ 4 อน่ื ๆ ระบุ...........................................

 ไมใ่ ช้
ตอบ 0 ใช้
ตอบ 1 จำนวน  ครัวเรือน
คา่ ใชจ้ า่ ยเฉลย่ี ครวั เรือนละ
 บาทตอ่ ไร่

324

รายงานฉบบั สมบรู ณ์โครงการจัดทำเครื่องชวี้ ัดและแบบสอบถามข้อมลู ความจำเป็นพืน้ ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มลู พื้นฐาน
ระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค) สำหรับใช้ช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม  ตัวเลือก/คำตอบ
2) ใชส้ ารชีวภณั ฑ์ ตอบ 0
ตอบ 1 ไม่ใช้
ใช้
3) ใชว้ ธิ แี บบผสมผสาน (ใช้ทง้ั สารเคมีและสารชวี  จำนวน  ครัวเรอื น
ภณั ฑ์) ตอบ 0 ค่าใช้จา่ ยเฉลี่ยครวั เรือนละ
ตอบ 1  บาทต่อไร่

ไม่ใช้
ใช้
จำนวน  ครวั เรือน
คา่ ใช้จา่ ยเฉล่ยี ครวั เรอื นละ
 บาทตอ่ ไร่

ตัวชว้ี ดั ท่ี 15 ผลผลติ จากการทำไร่
(ไม่รวมกจิ การเกษตรในบริเวณบ้านหรือหัวไรป่ ลายนา)

คำอธิบาย

1. การแปลงมาตราช่งั ตวง วัด

ถ้าผลผลติ ของพชื ไรใ่ ดในขอ้ 15 น้ี ไมใ่ ช้หน่วยวัดเป็นกิโลกรมั ใหป้ ระเมนิ เปน็ กโิ ลกรัม

ผลผลิตใดท่ไี ม่มีในตารางการแปลงมาตราชั่ง ตวง วดั น้ี ให้ประมาณค่าเป็นกโิ ลกรัม

ขา้ วโพดเลี้ยงสตั ว์ 1 ถัง = 15 กิโลกรัม

ข้าวโพดเลี้ยงสตั ว์ 13 ฝกั = เมล็ดขา้ วโพด 1 กิโลกรัม (สอี อกจากฝกั แล้ว)

มันเส้นตากแห้ง 1 กโิ ลกรัม = หัวมนั สด 2.2 กโิ ลกรมั

มนั อดั เมด็ 1 กิโลกรัม = หัวมนั สด 2.4 กโิ ลกรมั

แปง้ มนั 1 กิโลกรัม = หัวมันสด 4.5 กโิ ลกรมั

2. พืชไรอ่ ายุสน้ั คอื พืชไรท่ ี่มีอายุนบั ต้งั แตป่ ลกู ถงึ เกบ็ เกยี่ ว น้อยกวา่ 4 เดอื น เช่น ข้าวโพดเล้ยี งสัตว์ ถ่วั เขียว ถ่ัว

เหลอื ง ถ่ัวลิสง ถ่ัวนำ้ นางแดง ถั่วมะแฮะ ขา้ วฟา่ ง เปน็ ต้น ท้ังน้ไี ม่รวมถงึ พชื ผกั เชน่ พรกิ กระเทียม แตงกวา

ข้าวโพดอ่อน ขา้ วโพดฝักสด (ขา้ วโพดข้าวเหนียว ขา้ วโพดสวีท) แตงโมอ่อน หอมแบง่ หอมแดง หอมหวั ใหญ่ มัน

เทศ มันฝร่งั เผือก หนอ่ ไม้ฝรัง่ มะเขอื เทศ เป็นตน้

3. พืชไรอ่ ายยุ าว คือ พชื ไรท่ ีม่ ีอายุนับตัง้ แต่ปลกู จนถงึ เกบ็ เกยี่ วมากกวา่ 4 เดือน เช่น ขา้ วไร่ อ้อย มันสำปะหลงั ปอ

ฝา้ ย สปั ปะรด ยาสบู ปา่ นศรนารายณ์ กก แตงโมเมล็ด พริกไทย เปน็ ต้น

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ
15.1 หมู่บา้ น/ชุมชนน้ี มีพนื้ ทป่ี ลูกพืชไร่อายุสัน้ ทั้งหมด 

ตอบ 0 ไม่มี (ข้ามไปตอบข้อ 15.6)
ตอบ 1 ตอบ 1 มี โปรดระบุ

จำนวน  ไร่

15.2 จำนวนครวั เรอื นทีป่ ลูกพชื ไรอ่ ายสุ นั้ ทุกชนิดมี จำนวน  ไร่
ท้ังหมด

325

รายงานฉบับสมบรู ณ์โครงการจัดทำเครือ่ งชี้วัดและแบบสอบถามข้อมลู ความจำเปน็ พ้นื ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มูลพ้ืนฐาน
ระดบั หมู่บ้าน (กชช. 2ค) สำหรบั ใชช้ ่วงแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตวั เลอื ก/คำตอบ
15.3 ในรอบปที ี่ผา่ นมา พืชไรอ่ ายสุ นั้ ท่คี รวั เรอื น ระบ.ุ ............................................................................
ส่วนมากปลูกมากเปน็ อนั ดบั หนึ่ง (รวมทีท่ ำไร่ของ
ตนเองและเช่าจากผู้อน่ื ทง้ั ท่ีอยูใ่ น และนอกหมบู่ ้าน/ จำนวน  ครวั เรือน
ชุมชน)
จำนวน  ไร่
1) จำนวนครวั เรือนทป่ี ลูกพชื ไรช่ นดิ นี้
2) พนื้ ท่เี พาะปลูกในหมูบ่ า้ น/ชุมชนทั้งหมด ครัวเรือนละ  บาทต่อปี
3) ครัวเรือนมรี ายไดโ้ ดยเฉลี่ย
4) ปที ี่ผา่ นมาครวั เรือนได้ผลผลติ โดยเฉลยี่ ไรล่ ะ  กิโลกรัม
5) ครวั เรือนขายผลผลติ ได้เฉลย่ี
6) ครัวเรอื นส่วนมากใชป้ ุ๋ยประเภทใด กโิ ลกรัมละ  บาท  สตางค์

7) ครวั เรือนสว่ นมากทำการปลกู ฤดูใด ตอบ 1 ปยุ๋ อินทรีย์
ตอบ 2 ปยุ๋ เคมี
8) ครวั เรอื นมีวธิ กี ารป้องกนั และกำจัดแมลง ตอบ 3 ปุ๋ยอนิ ทรยี ์และปุ๋ยเคมี
วชั พืช โรคพชื และสตั ว์ที่เปน็ ศัตรพู ืชแบบใด ตอบ 4 อื่น ๆ ระบุ.................................................

(1) ใชส้ ารเคมี ตอบ 1 ฤดูแลง้
ตอบ 2 ฤดูฝน
(2) ใชส้ ารชีวภณั ฑ์ ตอบ 3 ปลูกทง้ั ฤดูแลง้ และฤดูฝน
ตอบ 4 อน่ื ๆ ระบุ.............................................
(3) ใชว้ ธิ ีแบบผสมผสาน
 ไมใ่ ช้
ตอบ 0 ใช้ โปรดระบุ
ตอบ 1 จำนวน  ครัวเรือน
ค่าใชจ้ ่ายเฉลย่ี ครวั เรอื นละ
  บาทตอ่ ไร่
ตอบ 0
ตอบ 1 ไมใ่ ช้
ใช้ โปรดระบุ
 จำนวน  ครวั เรือน
ตอบ 0 คา่ ใช้จา่ ยเฉล่ียครวั เรือนละ
ตอบ 1  บาทต่อไร่

ไม่ใช้
ใช้ โปรดระบุ
จำนวน  ครวั เรอื น
คา่ ใชจ้ า่ ยเฉลีย่ ครัวเรือนละ
 บาทต่อไร่

326

รายงานฉบบั สมบูรณ์โครงการจดั ทำเคร่ืองชว้ี ัดและแบบสอบถามข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) และขอ้ มลู พนื้ ฐาน
ระดับหมบู่ า้ น (กชช. 2ค) สำหรบั ใช้ช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ
15.4 พืชไร่อายุส้นั ทคี่ รวั เรอื นสว่ นมากปลูกมากเป็น 
อนั ดบั ท่ีสอง ตอบ 0 ไมม่ ี (ข้ามไปตอบขอ้ 15.6)
ตอบ 1 มี โปรดระบ.ุ ................................................
1) จำนวนครวั เรอื นทปี่ ลูกพชื ไร่ชนดิ น้ี จำนวน  ครวั เรอื น
2) พ้นื ทเี่ พาะปลูกในหมบู่ า้ น/ชุมชนทง้ั หมด จำนวน  ไร่
3) ครัวเรือนมีรายได้ โดยเฉลี่ย ครัวเรือนละ  บาทตอ่ ปี
15.5 พืชไร่อายุสั้นที่ครวั เรือนสว่ นมากปลูกมากเป็น 
อนั ดับที่สาม ตอบ 0 ไมม่ ี (ข้ามไปตอบขอ้ 15.6)
ตอบ 1 มี โปรดระบุ...............................................
1) จำนวนครัวเรอื นทป่ี ลูกพชื ไร่ชนิดน้ี จำนวน  ครัวเรือน
2) พื้นที่เพาะปลูกในหมบู่ า้ น/ชมุ ชนทั้งหมด จำนวน  ไร่
3) ครวั เรอื นมรี ายได้ โดยเฉลี่ย ครวั เรอื นละ  บาทต่อปี
15.6 หมู่บ้าน/ชุมชนน้ี มีพ้ืนทีป่ ลูกพชื ไร่อายยุ าว 
ทั้งหมด ตอบ 0 ไม่มี (ขา้ มไปตอบข้อ 16)
ตอบ 1 ตอบ 1 มี โปรดระบุ
15.7 จำนวนครวั เรือนท่ปี ลกู พชื ไร่อายยุ าวทกุ ชนดิ มี
ท้ังหมด จำนวน  ไร่
15.8 ในรอบปที ่ีผา่ นมา พืชไรอ่ ายยุ าวที่ครัวเรอื น จำนวน  ครวั เรอื น
ส่วนมากปลกู มากเปน็ อนั ดบั หน่งึ (รวมท่ีทำไรข่ อง
ตนเองและเชา่ จากผูอ้ ่ืนทัง้ ที่อยใู่ น และนอกหมูบ่ ้าน/ ระบุ.............................................................................
ชมุ ชน)
จำนวน  ครวั เรือน
1) จำนวนครวั เรอื นท่ปี ลกู พืชไรช่ นดิ นี้ จำนวน  ไร่
2) พื้นทเี่ พาะปลูกในหมูบ่ า้ น/ชุมชนทั้งหมด ครวั เรือนละ  บาทตอ่ ปี
3) ครัวเรอื นมีรายได้โดยเฉลย่ี ไรล่ ะ  กิโลกรัม
4) ปีทผี่ ่านมาครัวเรือนได้ผลผลติ โดยเฉล่ยี กิโลกรัมละ  บาท  สตางค์
5) ครวั เรือนขายผลผลติ ได้เฉลยี่ 
6) ครวั เรือนส่วนมากใชป้ ยุ๋ ประเภทใด ตอบ 1 ปยุ๋ อนิ ทรีย์
ตอบ 2 ปุ๋ยเคมี
7) ครัวเรือนสว่ นมากทำการปลกู ฤดใู ด ตอบ 3 ปยุ๋ อินทรียแ์ ละปุ๋ยเคมี
ตอบ 4 อนื่ ๆ ระบ.ุ ..................................................

ตอบ 1 ฤดแู ลง้
ตอบ 2 ฤดฝู น
ตอบ 3 ปลูกท้ังฤดูแลง้ และฤดฝู น
ตอบ 4 อ่นื ๆ ระบ.ุ ................................................

327

รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจดั ทำเคร่ืองชี้วัดและแบบสอบถามข้อมูลความจำเป็นพ้ืนฐาน (จปฐ.) และข้อมูลพ้นื ฐาน
ระดับหมบู่ ้าน (กชช. 2ค) สำหรบั ใชช้ ่วงแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

8) ครัวเรือนมีวิธีการป้องกนั และกำจัดแมลง 
วชั พชื โรคพืช และสตั ว์ทเี่ ป็นศัตรพู ชื แบบใด ตอบ 0 ไมใ่ ช้
ตอบ 1 ใช้ โปรดระบุ
(1) ใชส้ ารเคมี
จำนวน  ครวั เรือน
(2) ใช้สารชีวภณั ฑ์ คา่ ใช้จา่ ยเฉลย่ี ครัวเรอื นละ
 บาทตอ่ ไร่
(3) ใชว้ ธิ ีแบบผสมผสาน 
ตอบ 0 ไม่ใช้
15.9 พืชไร่อายุยาวทคี่ รัวเรอื นส่วนมากปลูกมากเป็น ตอบ 1 ใช้ โปรดระบุ
อันดบั ทสี่ อง จำนวน  ครวั เรอื น
ค่าใช้จา่ ยเฉลี่ยครวั เรอื นละ
1) จำนวนครัวเรือนทีป่ ลูกพชื ไรช่ นดิ นี้  บาทตอ่ ไร่
2) พ้นื ท่เี พาะปลูกในหม่บู า้ น/ชมุ ชนท้งั หมด 
3) ครัวเรอื นมรี ายได้ โดยเฉล่ีย ตอบ 0 ไม่ใช้
15.10 พืชไร่อายุยาวทคี่ รัวเรอื นส่วนมากปลูกมากเป็น ตอบ 1 ใช้ โปรดระบุ
อันดบั ทส่ี าม จำนวน  ครัวเรือน
คา่ ใช้จา่ ยเฉลี่ยครวั เรอื นละ
1) จำนวนครวั เรอื นทีป่ ลกู พืชไรช่ นิดนี้  บาทตอ่ ไร่
2) พนื้ ทเ่ี พาะปลูกในหมู่บา้ น/ชุมชนทั้งหมด 
3) ครัวเรือนมีรายได้ โดยเฉลี่ย ตอบ 0 ไมม่ ี (ขา้ มไปตอบข้อ 16)
ตอบ 1 ตอบ 1 มี โปรดระบุ
..................................................................

จำนวน  ครวั เรอื น

จำนวน  ไร่

ครวั เรอื นละ  บาทต่อปี

ตอบ 0 ไมม่ ี (ขา้ มไปตอบข้อ 16)
ตอบ 1 ตอบ 1 มี โปรดระบุ

....................................................................

จำนวน  ครวั เรือน

จำนวน  ไร่

ครัวเรอื นละ  บาทต่อปี

328

รายงานฉบับสมบรู ณ์โครงการจดั ทำเครื่องช้วี ดั และแบบสอบถามข้อมูลความจำเปน็ พ้ืนฐาน (จปฐ.) และข้อมูลพน้ื ฐาน
ระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค) สำหรับใชช้ ่วงแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

ตัวช้วี ดั ที่ 16 ผลผลิตจากการทำสวน
(ไม่รวมกจิ การเกษตรในบริเวณบ้านหรอื หัวไร่ปลายนา)

คำอธิบาย
1. การทำสวนผลไม้ นับพื้นที่เพาะปลูกของตนเองและที่เช่าจากผู้อื่นทั้งที่อยู่ในและนอกหมู่บ้านชุมชน และไม่รวม

กจิ การเกษตร ในบริเวณบ้านหรอื หวั ไรป่ ลายนา
2. การทำสวนผัก ได้แก่ พริก กระเทียม แตงกวา ข้าวโพดอ่อน ข้าวโพดฝักสด (ข้าวโพดข้าวเหนียว ข้าวโพดสวีท)

แตงโมอ่อน หอมแบ่ง หอมแดง หอมหัวใหญ่ มันเทศ มันฝรั่ง เผือก หน่อไม้ฝรั่ง มะเขือเทศ เป็นต้น (นับพื้นท่ี
เพาะปลูกของตนเองและที่เช่าจากผูอ้ ื่นท้งั ที่อย่ใู นและนอกหมู่บา้ นชุมชน และไม่รวมกจิ การเกษตรในบริเวณบ้าน
หรอื หัวไร่ปลายนา)
3. การทำสวนไม้ดอกไม้ประดับหรือเพาะพันธุ์ไมเ้ พื่อขาย นับพื้นที่เพาะปลูกของตนเองและทีเ่ ช่าจากผูอ้ ื่นทั้งที่อยู่
ในและนอกหมบู่ ้านชมุ ชน และไมร่ วมกจิ การเกษตรในบรเิ วณบา้ นหรือหัวไร่ปลายนา
4. การทำสวนยางพารา นับพื้นที่เพาะปลูกของตนเองและที่เช่าจากผู้อื่น ทั้งที่อยู่ในและนอกหมู่บ้าน/ชุมชน
การตอบขอ้ น้ี ไม่นับการรบั จา้ งทำสวนยางและรับจา้ งกรีดยาง

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ
16.1 การทำสวนผลไม้

16.1.1 หมูบ่ ้าน/ชุมชนนี้ มีพื้นท่ีทำสวนผลไม้ ตอบ 0 ไม่มี (ขา้ มไปตอบข้อ 16.2)
ทั้งหมด ตอบ 1 ตอบ 1 มี โปรดระบุ

16.1.2 จำนวนครวั เรือนทท่ี ำสวนผลไมม้ ที ั้งหมด จำนวน  ไร่
16.1.3 ครัวเรอื นใช้พื้นที่เพาะปลูก โดยเฉลีย่ จำนวน  ครวั เรอื น
16.1.4 ครวั เรอื นมรี ายไดจ้ ากการทำสวนผลไม้ ครวั เรอื นละ  ไร่
โดยเฉล่ีย ครวั เรือนละ  บาทตอ่ ปี
16.1.5 ค่าใชจ้ ่ายในการซ้ือป๋ยุ โดยเฉลยี่
16.1.6 ครัวเรอื นมวี ิธีการปอ้ งกนั และกำจดั ครัวเรือนละ  บาทต่อไร่
แมลง วชั พืช โรคพืช และสตั ว์ที่เป็นศัตรูพืชแบบใด
 ไม่ใช้
1) ใชส้ ารเคมี ตอบ 0 ใช้ โปรดระบุ
ตอบ 1 จำนวน  ครัวเรอื น
2) ใช้สารชวี ภัณฑ์ ค่าใชจ้ า่ ยเฉลย่ี ครวั เรือนละ
  บาทตอ่ ไร่
ตอบ 0
ตอบ 1 ไม่ใช้
ใช้ โปรดระบุ
จำนวน  ครัวเรอื น
ค่าใช้จา่ ยเฉลยี่ ครวั เรือนละ
 บาทตอ่ ไร่

329

รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจัดทำเครื่องช้ีวดั และแบบสอบถามข้อมูลความจำเป็นพนื้ ฐาน (จปฐ.) และข้อมลู พนื้ ฐาน
ระดับหมบู่ า้ น (กชช. 2ค) สำหรับใชช้ ว่ งแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตวั เลอื ก/คำตอบ
3) ใช้วธิ แี บบผสมผสาน 
ตอบ 0 ไมใ่ ช้
16.1.7 ผลไมท้ คี่ รวั เรือนปลูกกนั มาก ตอบ 1 ใช้ โปรดระบุ
16.2 การทำสวนผกั
จำนวน  ครัวเรือน
16.2.1 หมบู่ า้ น/ชุมชนนี้ มพี ื้นที่ทำสวนผกั ค่าใชจ้ ่ายเฉลี่ยครัวเรือนละ
ทง้ั หมด  บาทต่อไร่
ระบ.ุ ............................................................................
16.2.2 จำนวนครวั เรือนท่ีทำสวนผกั มที ้งั หมด
16.2.3 ครัวเรือนใชพ้ ้นื ที่เพาะปลูก โดยเฉลย่ี 
16.2.4 ครัวเรอื นมรี ายได้จากการทำสวนผัก ตอบ 0 ไมม่ ี (ข้ามไปตอบข้อ 16.3)
โดยเฉลี่ย ตอบ 1 ตอบ 1 มี โปรดระบุ
16.2.5 ค่าใชจ้ า่ ยในการซ้ือปยุ๋ โดยเฉลย่ี
16.2.6 ครัวเรอื นมีวิธกี ารป้องกนั และกำจัด จำนวน  ไร่
แมลง วัชพชื โรคพชื และสตั ว์ท่ีเปน็ ศัตรพู ืชแบบใด จำนวน  ครัวเรอื น
ครัวเรอื นละ  ไร่
1) ใช้สารเคมี ครัวเรือนละ  บาทตอ่ ปี

2) ใช้สารชวี ภณั ฑ์ ครัวเรือนละ  บาทต่อไร่

3) ใช้วธิ ีแบบผสมผสาน 
ตอบ 0 ไม่ใช้
16.2.7 ผกั ทีค่ รัวเรอื นปลกู กนั มาก ตอบ 1 ใช้ โปรดระบุ

จำนวน  ครัวเรือน
ค่าใช้จ่ายเฉลย่ี ครวั เรือนละ
 บาทตอ่ ไร่

ตอบ 0 ไม่ใช้
ตอบ 1 ใช้ โปรดระบุ
จำนวน  ครวั เรอื น
ค่าใช้จา่ ยเฉลย่ี ครัวเรือนละ
 บาทตอ่ ไร่

ตอบ 0 ไมใ่ ช้
ตอบ 1 ใช้ โปรดระบุ
จำนวน  ครวั เรือน
ค่าใชจ้ ่ายเฉลยี่ ครัวเรอื นละ
 บาทต่อไร่
ระบ.ุ ............................................................................

330

รายงานฉบบั สมบูรณ์โครงการจัดทำเครื่องช้วี ดั และแบบสอบถามข้อมูลความจำเปน็ พื้นฐาน (จปฐ.) และข้อมลู พนื้ ฐาน
ระดบั หมบู่ ้าน (กชช. 2ค) สำหรบั ใชช้ ่วงแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตัวเลอื ก/คำตอบ
16.3 การทำสวนไมด้ อกไมป้ ระดับหรอื เพาะพันธ์ไุ ม้
เพื่อขาย 
ตอบ 0 ไม่มี (ขา้ มไปตอบขอ้ 16.4)
16.3.1 หมบู่ า้ น/ชมุ ชนนี้ มพี ื้นที่ทำสวนไม้ ตอบ 1 ตอบ 1 มี โปรดระบุ
ดอกไม้ประดบั
จำนวน  ไร่
16.3.2 จำนวนครัวเรือนทที่ ำสวนไม้ดอกไม้ จำนวน  ครวั เรือน
ประดบั หรอื เพาะพนั ธไุ์ ม้ เพอื่ ขายมที ง้ั หมด
ครวั เรือนละ  ไร่
16.3.3 ครวั เรอื นใชพ้ ้ืนทเ่ี พาะปลกู โดยเฉลย่ี ครัวเรอื นละ  บาทต่อปี
16.3.4 ครัวเรือนมีรายไดจ้ ากการทำสวนไม้
ดอกไม้ประดับหรอื เพาะพันธ์ุไม้เพ่ือขาย โดยเฉล่ีย ครวั เรือนละ  บาทต่อไร่
16.3.5 ค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ย โดยเฉลี่ย
16.3.6 ครวั เรอื นมีวิธกี ารปอ้ งกันและกำจดั 
แมลง วัชพืช โรคพชื และสตั วท์ เ่ี ปน็ ศัตรพู ืชแบบใด ตอบ 0 ไม่ใช้
ตอบ 1 ใช้ โปรดระบุ
1) ใชส้ ารเคมี
จำนวน  ครวั เรอื น
2) ใช้สารชวี ภัณฑ์ คา่ ใช้จ่ายเฉลย่ี ครวั เรือนละ
 บาทตอ่ ไร่
3) ใช้วิธีแบบผสมผสาน 
ตอบ 0 ไมใ่ ช้
16.3.7 ไมด้ อกไมป้ ระดับหรือเพาะพนั ธุ์ไมเ้ พื่อ ตอบ 1 ใช้ โปรดระบุ
ขายทค่ี รวั เรือนปลูกกนั มาก จำนวน  ครัวเรอื น
16.4 การทำสวนยางพารา คา่ ใชจ้ ่ายเฉล่ียครัวเรือนละ
 บาทต่อไร่
16.4.1 หมู่บา้ น/ชมุ ชนน้ี มีพนื้ ท่ีทำสวน 
ยางพาราทงั้ หมด ตอบ 0 ไมใ่ ช้
ตอบ 1 ใช้ โปรดระบุ
จำนวน  ครัวเรือน
คา่ ใช้จา่ ยเฉล่ยี ครวั เรอื นละ
 บาทตอ่ ไร่

ระบ.ุ ............................................................................

 ไมม่ ี (ข้ามไปตอบข้อ 17)
ตอบ 0 ตอบ 1 มี โปรดระบุ
ตอบ 1 จำนวน  ไร่

331

รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจัดทำเครือ่ งชวี้ ดั และแบบสอบถามขอ้ มูลความจำเปน็ พ้นื ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มูลพ้ืนฐาน
ระดับหมูบ่ า้ น (กชช. 2ค) สำหรับใชช้ ่วงแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตวั เลอื ก/คำตอบ
1) คนในหมบู่ ้าน/ชมุ ชนนี้ มีพ้นื ที่ทำสวน จำนวน  ไร่
ยางพาราในเขตหมบู่ า้ น/ชุมชนน้ี ท้ังหมด
2) คนในหมู่บา้ น/ชมุ ชนนี้ มีพื้นที่ทำสวน จำนวน  ไร่
ยางพารานอกเขตหมู่บ้าน/ชุมชนน้ี ท้ังหมด
16.4.2 จำนวนครัวเรือนท่ที ำสวนยางพารามี จำนวน  ครวั เรือน
ท้งั หมด
16.4.3 ครัวเรือนใช้พื้นท่ีเพาะปลูก โดยเฉลย่ี ครวั เรือนละ  ไร่
16.4.4 ครวั เรอื นมรี ายได้จากการทำสวน ครวั เรอื นละ  บาทต่อปี
ยางพารา โดยเฉล่ีย
16.4.5 คา่ ใชจ้ ่ายในการซื้อปุ๋ย โดยเฉลี่ย ครัวเรือนละ  บาทตอ่ ไร่
16.4.6 ครวั เรือนมีวธิ กี ารปอ้ งกันและกำจัด
แมลง วชั พืช โรคพืช และสตั ว์ทเ่ี ปน็ ศตั รูพชื แบบใด  ไมใ่ ช้
1) ใชส้ ารเคมี ตอบ 0 ใช้ โปรดระบุ
ตอบ 1 จำนวน  ครัวเรอื น
2) ใชส้ ารชีวภัณฑ์ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยครัวเรือนละ
  บาทตอ่ ไร่
3) ใช้วธิ แี บบผสมผสาน ตอบ 0
ตอบ 1 ไม่ใช้
ใช้ โปรดระบุ
 จำนวน  ครวั เรือน
ตอบ 0 คา่ ใช้จ่ายเฉลยี่ ครัวเรือนละ
ตอบ 1  บาทตอ่ ไร่

ไม่ใช้
ใช้ โปรดระบุ
จำนวน  ครัวเรือน
คา่ ใชจ้ ่ายเฉลี่ยครวั เรือนละ
 บาทต่อไร่

ตวั ชี้วดั ท่ี 17 ปศุสตั ว์และการประมง

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ

17.1 การเลย้ี งสัตว์

คำอธบิ าย 17.1
1. การเลีย้ งสตั ว์เพอื่ ขาย หมายถึง การเลย้ี งสตั ว์เป็นอาชพี หลกั หรอื อาชพี รอง หรอื อาชพี เสรมิ
2. ทุง่ หญ้าสาธารณะ หมายถึง ท่ีดินทม่ี ีหญ้าหรอื พืชอน่ื ขึ้นเองตามธรรมชาติ และใชเ้ ปน็ ท่ีเล้ียงสตั ว์ โดยประชาชน

สามารถนำสตั ว์เขา้ ไปกินหญ้าหรือพืชในดินผนื น้ันได้

332

รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจัดทำเครอื่ งชว้ี ัดและแบบสอบถามข้อมูลความจำเปน็ พื้นฐาน (จปฐ.) และข้อมูลพ้ืนฐาน
ระดบั หมบู่ า้ น (กชช. 2ค) สำหรบั ใชช้ ่วงแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตัวเลอื ก/คำตอบ

17.1.1 หมบู่ ้าน/ชุมชนนี้ มีทงุ่ หญา้ สาธารณะท่ีใชใ้ น 
ตอบ 0 ไมม่ ี (ขา้ มไปขอ้ 17.1.3)
การเลยี้ งสัตว์ หรือไม่
ตอบ 1 มี

17.1.2 มีท่งุ หญ้าสาธารณะที่ใช้ในการเลีย้ งสัตว์ จำนวน  ไร่

ทัง้ หมด

17.1.3 มคี รัวเรือนท่เี ล้ยี งสัตว์เพ่ือขาย หรือไม่ 

ตอบ 0 ไม่มี (ข้ามไปข้อ 17.2)

ตอบ 1 มี

17.1.3.1 ครวั เรือนทีเ่ ลย้ี งโคเนื้อ เพ่ือขาย จำนวน  ครัวเรือน

1) ครัวเรือนมรี ายได้จากการขายโค ครวั เรือนละ บาทต่อปี

เนื้อ โดยเฉล่ีย

2) โคเนือ้ ทีเ่ ล้ยี งเพอ่ื ขายทงั้ หมดใน จำนวน  ตวั

หมบู่ ้าน/ชุมชน

3) ครัวเรอื นท่ีเล้ียงโคเนอื้ เพอ่ื ขาย จำนวน  ครัวเรือน

และผสมพันธ์ุ โดยใชพ้ ันธ์ทุ ่ไี ดร้ ับการส่งเสริม (รวมการ

ผสมเทียมดว้ ย)

17.1.3.2 ครวั เรอื นที่เลี้ยงโคนม เพื่อขาย จำนวน  ครวั เรือน

น้ำนม

1) ครวั เรอื นมรี ายไดจ้ ากการขาย ครัวเรือนละ บาทตอ่ ปี

นำ้ นม โดยเฉลย่ี

2) โคนมทีเ่ ลี้ยงเพอื่ ขายท้ังหมดใน จำนวน  ตวั

หม่บู า้ น/ชุมชน

3) ครวั เรือนทเ่ี ลี้ยงโคนมเพ่ือขาย จำนวน  ครัวเรอื น

น้ำนมและผสมพันธุ์ โดยใชพ้ นั ธุท์ ี่ไดร้ ับการสง่ เสรมิ

(รวมการผสมเทียมดว้ ย)

17.1.3.3 ครัวเรอื นทีเ่ ลย้ี งกระบอื เพ่ือขาย จำนวน  ครัวเรือน

1) ครัวเรอื นมรี ายไดจ้ ากการขาย ครัวเรอื นละ บาทตอ่ ปี

กระบือ โดยเฉลี่ย

2) กระบอื ท่เี ลี้ยงเพอื่ ขายทั้งหมดใน จำนวน  ตวั

หมบู่ ้าน/ชุมชน

3) ครวั เรือนที่เล้ียงกระบอื เพอ่ื ขาย จำนวน  ครัวเรือน

และผสมพันธ์ุ โดยใชพ้ ันธุ์ท่ไี ด้รบั การส่งเสรมิ (รวมการ

ผสมเทียมด้วย)

17.1.3.4 ครัวเรือนที่เลย้ี งหมู เพอ่ื ขาย จำนวน  ครวั เรอื น

1) ครัวเรือนมรี ายไดจ้ ากการขาย ครวั เรือนละ บาทตอ่ ปี

หมู โดยเฉลี่ย

2) หมทู ่ีเลี้ยงเพ่ือขายท้งั หมดใน จำนวน  ตวั

หมบู่ ้าน/ชุมชน

333

รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจดั ทำเครื่องชวี้ ัดและแบบสอบถามข้อมูลความจำเป็นพน้ื ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มูลพนื้ ฐาน
ระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค) สำหรบั ใชช้ ว่ งแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตัวเลอื ก/คำตอบ

3) ครวั เรือนท่เี ล้ียงหมูเพอื่ ขายและ จำนวน  ครัวเรือน

ผสมพนั ธุ์ โดยใช้พันธุท์ ไี่ ดร้ ับการสง่ เสรมิ (รวมการผสม

เทยี มด้วย)

17.1.3.5 จำนวนครัวเรือนทเ่ี ลี้ยงเป็ด-ไก่ จำนวน  ครัวเรือน

เพ่ือขาย

1) ครวั เรือนสว่ นมีรายได้จากการ ครวั เรือนละ บาทต่อปี

ขายเป็ด-ไก่ โดยเฉล่ยี

2) เปด็ -ไก่ ท่ีเล้ียงเพอ่ื ขายทัง้ หมด จำนวน  ตวั

ในหมบู่ า้ น/ชุมชน

17.1.3.6 จำนวนครัวเรือนที่เล้ียงสัตว์อนื่ ๆ จำนวน  ครวั เรอื น

เพอ่ื ขาย

1) สัตวอ์ น่ื ๆทีเ่ ลี้ยงเพอื่ ขายมากเป็น โปรดระบ.ุ .....................................................................

อันดับแรก

2) ครวั เรอื นมรี ายได้จากการขาย ครัวเรือนละ บาทต่อปี

สัตวช์ นดิ นีโ้ ดยเฉลี่ย

3) สัตวช์ นดิ นท้ี เี่ ลย้ี งเพอื่ ขาย จำนวน  ตวั

ทงั้ หมดในหมูบ่ า้ น/ชุมชน

17.2 สตั วใ์ ชง้ านและเครอ่ื งจักรในการเกษตร

คำอธิบาย 17.2

1. ค่าเชา่ วัว ควาย หรอื รถไถ ถ้าจา่ ยเปน็ ผลผลิตให้ประเมนิ ราคาเป็นบาท

2. เครื่องจกั รในการเกษตร เช่น ควายเหล็ก รถไถ รถแทรกเตอร์ เป็นตน้

3. เครอ่ื งจกั รในการเกษตรขนาดเล็ก คอื ความแรงของเครอื่ งยนตท์ ่ีมขี นาด ไมเ่ กนิ 16 แรงม้า

4. เคร่อื งจักรในการเกษตรขนาดกลาง คอื ความแรงของเครื่องยนต์ท่มี ีขนาด ตง้ั แต่ 16 - 40 แรงมา้

5. เครอ่ื งจกั รในการเกษตรขนาดใหญ่ คอื ความแรงของเครื่องยนต์ท่มี ขี นาดต้ังแต่ 40 แรงม้าขน้ึ ไป

17.2.1 จำนวนครวั เรือนทม่ี ีโค-กระบือของตนเอง จำนวน  ครวั เรือน

ไวใ้ ช้งาน

17.2.2 จำนวนครัวเรอื นท่ีมีเคร่ืองจักรใน จำนวน  ครวั เรือน

การเกษตรขนาดเล็กเป็นของตนเอง

1) จำนวนครัวเรือนท่ตี อ้ งจา้ งเครอ่ื งจกั รใน จำนวน  ครวั เรือน

การเกษตรขนาดเลก็

2) ครัวเรอื นเสียคา่ จา้ งเครอื่ งจักรใน ครัวเรอื นละ บาทต่อปี

การเกษตรขนาดเล็ก โดยเฉลีย่

17.2.3 จำนวนครัวเรือนที่มเี ครื่องจักรใน จำนวน  ครัวเรือน

การเกษตรขนาดกลาง เปน็ ของตนเอง

1) จำนวนครวั เรือนที่ต้องจ้างเครื่องจกั รใน จำนวน  ครัวเรอื น

การเกษตร ขนาดกลาง

2) ครวั เรอื นเสยี ค่าจ้างเครื่องจกั รใน ครวั เรอื นละ บาทตอ่ ปี

การเกษตรขนาดกลาง โดยเฉลย่ี

17.2.4 จำนวนครวั เรือนท่มี ีเครื่องจักรใน จำนวน  ครวั เรอื น

การเกษตรขนาดใหญ่เปน็ ของตนเอง

334

รายงานฉบับสมบรู ณ์โครงการจดั ทำเครื่องช้ีวัดและแบบสอบถามข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) และข้อมลู พ้นื ฐาน
ระดบั หมบู่ า้ น (กชช. 2ค) สำหรบั ใช้ช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตวั เลือก/คำตอบ

1) จำนวนครวั เรือนทตี่ อ้ งจ้างเครอ่ื งจักรใน จำนวน  ครัวเรอื น

การเกษตรขนาดใหญ่

2) ครัวเรือนเสียคา่ จ้างเคร่ืองจกั รใน ครวั เรือนละ บาทต่อปี

การเกษตรขนาดใหญ่ โดยเฉลย่ี

17.3 การทำประมง (ไม่รวมผ้ทู ่มี อี าชีพรับจ้างทำการ

ประมง ซง่ึ ไมม่ ีเรอื หรือเครอื่ งมือในการหาปลาของ

ตนเอง)

คำอธิบาย 17.3

1. ประมงขนาดเล็ก หมายถงึ ผู้ประกอบการอาชพี ประมงที่ใช้แรงงานในครอบครัวเป็นหลกั ใชเ้ รอื ขนาดยาวไมเ่ กิน

10 เมตร ขนาดเคร่ืองยนตไ์ มเ่ กนิ 30 แรงม้า ทำการประมงไม่ไกลจากหมู่บ้านมากนัก และเฉลยี่ ห่างจากฝงั่ ประมาณ

5 กิโลเมตร

2. ประมงนำ้ จืด หมายถึง การจบั ปลาน้ำจดื ในแหลง่ น้ำธรรมชาติ หรือแหลง่ น้ำที่สรา้ งขึ้น รวมท้ังการขุดบอ่ ล่อปลา

17.3.1 มกี ารทำประมงทะเล หรือไม่ 

ตอบ 0 ไมม่ ี (ข้ามไปตอบข้อ 17.3.2)

ตอบ 1 มี

17.3.1.1 ประมงทะเลขนาดเล็ก

1) จำนวนครัวเรอื นทเ่ี ป็น จำนวน  ครวั เรือน

ชาวประมงทะเลขนาดเลก็

2) ครวั เรอื นมรี ายไดจ้ ากการทำ จำนวน  บาทตอ่ ปี

ประมงทะเลขนาดเล็กโดยเฉลีย่

17.3.1.2 ประมงทะเลขนาดกลาง-ใหญ่

1) จำนวนครวั เรอื นทีเ่ ปน็ จำนวน  ครัวเรือน

ชาวประมงทะเลขนาดกลาง-ใหญ่

2) ครวั เรอื นมีรายได้จากการทำ จำนวน  บาทต่อปี

ประมงทะเลขนาดกลาง-ใหญ่ โดยเฉลี่ย

17.3.2 มกี ารทำประมงน้ำจืด หรอื ไม่ 

ตอบ 0 ไม่มี (ขา้ มไปตอบข้อ 17.4)

ตอบ 1 มี

1) จำนวนครัวเรือนทีเ่ ป็นประมงนำ้ จืด จำนวน  ครัวเรือน

2) ครวั เรือนมีรายไดจ้ ากการทำประมงนำ้ จำนวน  บาทต่อปี

จืด โดยเฉล่ีย

17.4 การเพาะเล้ยี งสัตวน์ ำ้ (ไมร่ วมผู้ท่มี อี าชีพ

รบั จ้างทำการประมง ซ่ึงไมม่ ีเรือหรอื เคร่อื งมอื ในการ

หาปลาของตนเอง)

17.4.1 จำนวนครวั เรอื นทำการเพาะเลย้ี งสตั ว์ 
ตอบ 0 ไมม่ ี (ขา้ มไปตอบขอ้ 17.4.4)
นำ้ กรอ่ ย นำ้ ทะเล
ตอบ 1 มี

จำนวน  ครัวเรือน

1) ครัวเรอื นใช้พื้นที่ในการเพาะเล้ียง โดยเฉล่ีย ครัวเรอื นละ  ไร่  งาน

(ถา้ พืน้ ทีต่ ่ำกวา่ 1 งาน ใหต้ อบ 1 งาน)

335

รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจดั ทำเครอ่ื งชว้ี ัดและแบบสอบถามข้อมลู ความจำเปน็ พนื้ ฐาน (จปฐ.) และข้อมูลพ้ืนฐาน
ระดับหมูบ่ า้ น (กชช. 2ค) สำหรบั ใช้ชว่ งแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตวั เลือก/คำตอบ
2) ครวั เรอื นมรี ายไดจ้ ากการเพาะเลีย้ ง ครัวเรือนละ  บาทต่อปี
สัตว์นำ้ กร่อย นำ้ ทะเลโดยเฉล่ีย
17.4.2 สตั วน์ ้ำกรอ่ ย นำ้ ทะเล ทเ่ี พาะเล้ียงมาก คือ.........................................................................
เปน็ อนั ดับหนึง่
1) จำนวนครวั เรอื นทท่ี ำการเพาะเลีย้ ง จำนวน  ครัวเรือน
สตั ว์น้ำชนิดน้ี
2) ครัวเรือนมรี ายได้ โดยเฉล่ีย ครวั เรอื นละ  บาทต่อปี
3) มีต้นทุนค่าใช้จา่ ย โดยเฉล่ยี ครวั เรอื นละ  บาทต่อปี
17.4.3 สัตวน์ ้ำกร่อย นำ้ ทะเล ทีเ่ พาะเล้ียงมาก คือ.........................................................................
เป็นอนั ดบั สอง
1) จำนวนครัวเรือนทท่ี ำการเพาะเลี้ยง จำนวน  ครัวเรือน
สตั ว์นำ้ ชนิดน้ี
2) ครัวเรอื นมีรายได้ โดยเฉลี่ย ครัวเรอื นละ  บาทตอ่ ปี
3) มีต้นทนุ ค่าใช้จ่าย โดยเฉลี่ย ครวั เรอื นละ  บาทต่อปี
17.4.4 จำนวนครัวเรือนทำการเพาะเล้ยี งสตั ว์ 
น้ำจืด ตอบ 0 ไม่มี (ขา้ มไปตอบขอ้ 18)
ตอบ 1 มี
1) ครวั เรอื นใชพ้ ื้นท่ีในการเพาะเลยี้ งโดย จำนวน  ครวั เรือน
เฉลีย่ (ถา้ พ้ืนที่ตำ่ กวา่ 1 งาน ให้ ครวั เรือนละ ไร่  งาน
ตอบ 1 งาน)
ครัวเรอื นละ  บาทต่อปี
2) ครัวเรอื นมีรายไดจ้ ากการเพาะเล้ียง
สัตว์น้ำจืดโดยเฉล่ยี คอื .........................................................................

17.4.5 สตั วน์ ้ำจืด ทเี่ พาะเล้ียงมากเปน็ อันดับ จำนวน  ครัวเรอื น
หนง่ึ
ครวั เรอื นละ  บาทต่อปี
1) จำนวนครวั เรือนที่ทำการเพาะเลย้ี ง ครัวเรอื นละ  บาทต่อปี
สตั ว์น้ำชนดิ น้ี คือ.........................................................................

2) ครัวเรือนมรี ายได้ โดยเฉลี่ย จำนวน  ครัวเรอื น
3) มีตน้ ทนุ คา่ ใช้จา่ ย โดยเฉลีย่
17.4.6 สัตว์นำ้ จืด ที่เพาะเล้ยี งมากเป็นอันดบั ครวั เรอื นละ  บาทต่อปี
สอง ครวั เรือนละ  บาทต่อปี
1) จำนวนครวั เรอื นที่ทำการเพาะเลี้ยง
สัตว์น้ำชนิดนี้
2) ครวั เรอื นมรี ายได้ โดยเฉล่ีย
3) มตี ้นทุนคา่ ใช้จา่ ย โดยเฉลย่ี

336

รายงานฉบบั สมบูรณ์โครงการจดั ทำเคร่อื งชว้ี ดั และแบบสอบถามข้อมลู ความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) และข้อมลู พน้ื ฐาน
ระดบั หมบู่ ้าน (กชช. 2ค) สำหรบั ใช้ช่วงแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

ตัวชว้ี ดั ท่ี 18 ผลผลติ จากการทำเกษตรอื่น ๆ

คำอธิบาย
1. การปลูกพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ ได้แก่ สวนมะพร้าว สน ปาล์มน้ำมัน กาแฟ โกโก้ มะม่วงหิมพานต์ ใบชา หมาก

สะตอ ตาลโตนด หวาย มะนาว ไม้สัก กระถนิ เทพา สะเดาเทียม ยูคาลิปตสั ตีนเป็ด ไมย้ างนา ไผ่ เปน็ ต้น (นับ
พน้ื ทเ่ี พาะปลูกของตนเองและทีเ่ ชา่ จากผูอ้ นื่ ทง้ั ท่อี ยใู่ นและนอกหมู่บ้านชมุ ชน และไมร่ วมกจิ การเกษตรในบริเวณ
บ้านหรอื หวั ไร่ปลายนา)
2. การทำกจิ การเกษตรอน่ื ๆ ไดแ้ ก่ ปลกู ตน้ กระจูด เพาะเหด็ ปลูกต้นจาก ปลกู หมอ่ น เป็นตน้ ซึ่งไมใ่ ช่การปลกู พืช
ไร่ พืชสวนและทำนา (นับพื้นที่เพาะปลูกของตนเองและที่เช่าจากผู้อื่นทั้งที่อยู่ในและนอกหมู่บ้ านชุมชน และ
ไมร่ วมกจิ การเกษตรในบริเวณบ้านหรอื หัวไรป่ ลายนา)
3. การทำเกษตรฤดูแล้ง หมายถึง การปลูกพืชไร่อายุสั้น หรือพืชผัก ในฤดูแล้ง (นับพื้นที่เพาะปลูกของตนเองและ
ที่เช่าจากผู้อืน่ ทั้งที่อยู่ในและนอกหมบู่ า้ นชมุ ชน และไมร่ วมกจิ การเกษตรในบริเวณบ้านหรอื หวั ไร่ปลายนา)

คำถาม  ตวั เลอื ก/คำตอบ
18.1 หมูบ่ า้ น/ชมุ ชนนี้ มบี รกิ ารสาธารณะด้าน ตอบ 0
การเกษตร ตอ่ ไปนีห้ รอื ไม่ ตอบ 1 ไม่มี (ขา้ มไปตอบขอ้ 18.2)
 มี
1) สถานที่เก็บผลผลติ ทางการเกษตรส่วนรวม ตอบ 0
(หากกำลังกอ่ สร้างหรอื จัดตัง้ ใหถ้ ือว่า มี) ตอบ 1 ไม่มี
มี
2) ธนาคารโค-กระบอื (หากกำลังกอ่ สร้างหรอื  มีจำนวน  แห่ง
จัดตั้งให้ถือวา่ มี) ตอบ 0
ตอบ 1 ไม่มี
3) คลังยาสตั ว์ หรอื สัตวแพทย์อาสาหรอื อาสา มี
พัฒนาปศุสัตว์  มีจำนวน  แห่ง
ตอบ 0
4) ลานตากผลิตผลทางการเกษตร ตอบ 1 ไมม่ ี
มี
5) ศนู ย์รวมทำยางแผน่ หรอื ศูนยพ์ ัฒนาชาวสวน  มจี ำนวน  แห่ง
ยางพารา (ศนู ย์พฒั นาอาชีพเกย่ี วกบั การทำสวน ตอบ 0
ยางพาราครบวงจร ซงึ่ ศูนยพ์ ัฒนาชาวสวนยางพารานี้ ตอบ 1 ไมม่ ี
เกดิ จากชาวสวนยางพารากลมุ่ ตา่ ง ๆ รวมตัวกัน เชน่ มี
กลุ่มปรบั ปรงุ คณุ ภาพยางแผ่น กลุ่มขายยาง ฯลฯ)  มีจำนวน  แห่ง
ตอบ 0
6) ศนู ย์ฝึกอาชพี (มีสถานท่ีและมีเครอื่ งมอื ท่ี ตอบ 1 ไมม่ ี
ประชาชนสามารถเขา้ มาฝึกอาชพี ได)้ มี
 มีจำนวน  แหง่
ตอบ 0
ตอบ 1 ไมม่ ี
มี
มจี ำนวน  แห่ง

337

รายงานฉบับสมบรู ณ์โครงการจัดทำเครือ่ งชี้วดั และแบบสอบถามขอ้ มูลความจำเป็นพืน้ ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มูลพืน้ ฐาน
ระดบั หมบู่ า้ น (กชช. 2ค) สำหรับใชช้ ว่ งแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตวั เลอื ก/คำตอบ

18.2 ภายในตำบล ท่ีหมู่บา้ น/ชุมชนนี้ต้ังอยู่ มี
ตลาด/รา้ นค้าทางการเกษตรตอ่ ไปน้ีหรือไม่

คำอธิบาย 18.2

1. ตลาดกลางสินค้าเกษตร หมายถึง แหล่งรวบรวมและซื้อขายสินค้าเกษตรเป็นประจำตลอดปีที่มีผู้ซื้อขายจำนวน

มากเข้ามา ทำการแข่งขันการซื้อขายสินค้ากันโดยตรงในรูปการขายส่งด้วยวิธีการ ตกลงราคาอย่างเปิดเผยหรือ

ประมูลราคา เชน่ ตลาดกลางขา้ ว ธกส. เป็นต้น

2. ตลาดนัดสินค้าเกษตร หมายถึง จุดรวมการซื้อขายหรือจุดนัดพบของผู้ซื้อขายที่จะมาซื้อสินค้าโดยตรง อาจมี

การซื้อขายกันทุกวนั ในช่วงที่มสี นิ ค้าออกสู่ตลาดมาก หรือกำหนดเอาวันหนึง่ วันใด หรือช่วงหนึ่งชว่ งใด ทำการซื้อ

ขายกันตามแต่จะนัดหมายสถานที่ตามแต่ความเหมาะสม ควรอยู่ในแหล่งผลิตนั้น ๆ ส่วนใหญ่มักจัดเป็นตลาดนัด

ที่มีการซื้อขายสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่ง เช่น ตลาดนัดข้าวเปลือก ตลาดนัดข้าวโพด ตลาดนัดถั่วเหลือง ตลาดนัดโค -

กระบือ เปน็ ต้น

1) แหล่งรวบรวมผลผลติ ทางการเกษตร 

ตอบ 0 ไม่มี

ตอบ 1 มี

มจี ำนวน  แหง่

2) ตลาดกลางสนิ คา้ เกษตร 

ตอบ 0 ไมม่ ี

ตอบ 1 มี

มีจำนวน  แห่ง

3) ตลาดนัดสนิ ค้าเกษตร 

ตอบ 0 ไม่มี

ตอบ 1 มี

มจี ำนวน  แหง่

4) รา้ นค้าสหกรณ์ 

ตอบ 0 ไม่มี

ตอบ 1 มี

มีจำนวน  แหง่

5) ร้านค้ากลมุ่ เกษตรกร 

ตอบ 0 ไมม่ ี

ตอบ 1 มี

มจี ำนวน  แหง่

6) รา้ นรับซ้ือพืชไร่ 

ตอบ 0 ไมม่ ี

ตอบ 1 มี

มีจำนวน  แห่ง

7) รา้ นจำหนา่ ยผลติ ภัณฑเ์ กษตรของกลุ่มอาชพี ใน 
ชุมชน ตอบ 0 ไม่มี
ตอบ 1 มี

มีจำนวน  แหง่

338

รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจดั ทำเครือ่ งชว้ี ัดและแบบสอบถามข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) และขอ้ มลู พืน้ ฐาน
ระดับหมบู่ ้าน (กชช. 2ค) สำหรับใชช้ ่วงแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ

8) อ่ืน ๆ (ระบ.ุ .........................................) 

ตอบ 0 ไมม่ ี

ตอบ 1 มี

มจี ำนวน  แห่ง

18.3 การปลกู กญั ชา

18.3.1 จำนวนครัวเรือนท่ีปลูกกญั ชาเพอ่ื ขาย จำนวน  ครวั เรือน

18.3.2 ครัวเรือนปลูกกัญชา ครวั เรือนละ  ตน้

18.3.3 ครวั เรือนมีรายได้จากการปลกู กัญชา ครวั เรือนละ  บาทต่อปี

โดยเฉลี่ย

18.4 การปลกู พชื เศรษฐกจิ อื่น ๆ

18.4.1 พืชเศรษฐกิจท่ีครวั เรือนสว่ นมากปลูก 
ตอบ 0 ไมม่ ี (ข้ามไปตอบขอ้ 18.5)

ตอบ 1 มโี ปรดระบุ................................................

18.4.2 พื้นทปี่ ลูกพชื เศรษฐกิจท้งั หมด จำนวน  ไร่

18.4.3 จำนวนครัวเรอื นท่ีปลูกพืชเศรษฐกิจ จำนวน  ครวั เรอื น

ชนิดนเี้ พ่ือขาย

18.4.4 ครวั เรือนใช้พ้นื ทเ่ี พาะปลูก โดยเฉลีย่ ครวั เรือนละ  ไร่

18.4.5 ครวั เรือนมรี ายได้จากการปลูกพืช ครัวเรือนละ  บาทต่อปี

เศรษฐกิจอ่ืน ๆ โดยเฉล่ีย

18.4.6 ค่าใชจ้ ่ายในการซอื้ ปุ๋ย โดยเฉลี่ย ครวั เรือนละ  บาทต่อไร่

18.4.7 ครัวเรอื นมีวิธีการปอ้ งกันและกำจดั

แมลง วชั พชื โรคพืช และสตั วท์ เ่ี ป็นศตั รูพชื แบบใด

1) ใชส้ ารเคมี จำนวน  ครวั เรอื น

คา่ ใชจ้ า่ ยเฉลย่ี ครัวเรอื นละ

 บาทตอ่ ไร่

2) ใช้สารชีวภณั ฑ์ จำนวน  ครวั เรอื น

คา่ ใชจ้ ่ายเฉลี่ยครวั เรือนละ

 บาทต่อไร่

3) ใช้วิธแี บบผสมผสาน จำนวน  ครวั เรอื น

คา่ ใชจ้ า่ ยเฉล่ยี ครัวเรอื นละ

 บาทตอ่ ไร่

18.5 การทำกจิ การเกษตรอ่ืน ๆ

18.5.1 จำนวนครวั เรอื นทท่ี ำกจิ การเกษตร 
ตอบ 0 ไม่มี (ข้ามไปตอบข้อ 18.6)
อืน่ ๆ มที ้งั หมด
ตอบ 1 มี โปรดระบุ

จำนวน  ไร่

18.5.2 กจิ การเกษตรอ่ืน ๆ ทท่ี ำกันมากเปน็ ระบ.ุ ............................................................................

อนั ดบั หนง่ึ

1) พื้นท่ี ที่ทำกจิ การเกษตรชนดิ นี้ทงั้ หมด จำนวน  ไร่

2) ครวั เรอื นท่ที ำกิจการเกษตรชนิดน้ี จำนวน  ครวั เรือน

339

รายงานฉบับสมบูรณ์โครงการจัดทำเคร่ืองชว้ี ดั และแบบสอบถามขอ้ มูลความจำเปน็ พน้ื ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มลู พน้ื ฐาน
ระดบั หมบู่ ้าน (กชช. 2ค) สำหรับใชช้ ว่ งแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ฉบบั ที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ

3) ครวั เรือนมีรายได้จากการทำกิจการ ครวั เรือนละ  บาทตอ่ ปี

เกษตรชนดิ นี้ โดยเฉล่ยี

18.6 การทำเกษตรฤดแู ล้ง

18.6.1 หมบู่ ้าน/ชมุ ชนน้ี มพี ้นื ที่ทำการเกษตร ตอบ 0 ไมม่ ี (ข้ามไปตอบข้อ 19)

ฤดูแล้ง ตอบ 1 มี โปรดระบุ

จำนวน  ไร่

18.6.2 ครัวเรือนสว่ นมากใช้น้ำทำการเกษตรฤดู 
ตอบ 1 แหล่งน้ำผวิ ดิน
แลง้ จากแหลง่ ใด
ตอบ 2 แหลง่ น้ำใตด้ นิ

ตอบ 3 น้ำท่ีเหลือค้างอยใู่ นไร่นาหรอื น้ำฝน

ตอบ 4 อน่ื ๆ ระบ.ุ ..............................................

18.6.3 จำนวนครวั เรอื นทีท่ ำการเกษตรฤดแู ลง้ จำนวน  ครวั เรือน

18.6.4 จำนวนครัวเรอื นทปี่ ลกู พชื ไรอ่ ายุส้นั ใน จำนวน  ครัวเรอื น

ฤดแู ลง้

18.6.5 ครัวเรือนมีรายได้จากการขายผลผลิตท่ี ครัวเรือนละ  บาทต่อปี

เกิดจากการทำการเกษตรฤดูแลง้ โดยเฉลี่ย

18.6.6 พืชฤดูแล้งส่วนมากท่ีปลกู ระบ.ุ ..............................................................................

ตัวชว้ี ดั ที่ 19 การประกอบอตุ สาหกรรมในครวั เรือน

คำอธิบาย
1. อุตสาหกรรมในครัวเรือนและหัตถกรรม หมายถึง การลงทุนจัดหาวัตถุดิบมาทำการผลิตแลว้ จำหน่ายด้วยตนเอง

และการรบั จา้ งทำผลิตภณั ฑโ์ ดยมีผ้จู ดั หาวัตถุดบิ มาให้ ประเภทของอุตสาหกรรม ได้แก่ 1) ทอผา้ 2) จักสาน (จาก
วัสดุทุกชนิด) 3) ถักทอ (จากเส้นใยพืช) 4) การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผลผลิตการเกษตร หรือการแปรรูปสิน ค้า
เกษตร เช่น ถนอมอาหาร (จากพืชและสัตว์) 5) เครื่องมือเครื่องใช้จากโลหะ (ตีมีด , หล่อหลอมโลหะ, บัดกรี
สงั กะส)ี 6) เครอื่ งปั้นดินเผา(รวมการทำอิฐมอญ) 7) เจยี ระไนเพชรพลอยและหินสี 8) แกะสลัก (จากวัสดุทุกชนิด)
9) เย็บปักถกั รอ้ ย 10) เครือ่ งเรอื น (จากไม้, ไมไ้ ผ่, หวาย) 11) ผลิตภัณฑจ์ ากซีเมนต์ 12) อ่ืน ๆ

คำถาม  ตัวเลอื ก/คำตอบ
19.1 จำนวนครวั เรือนทม่ี ีคนประกอบอาชพี ตอบ 0
อุตสาหกรรมในครัวเรอื น ตอบ 1 ไมม่ ี (ขา้ มไปตอบขอ้ 20)
มี โปรดระบุ
19.2 ในกรณที ม่ี กี ารทำอุตสาหกรรมในครัวเรือนและ  จำนวน  ครวั เรอื น
หตั ถกรรมท่ที ำกันมาก อนั ดับหน่ึง ตอบ 1
ตอบ 2 ทอผา้
ตอบ 3 จักสาน (จากวสั ดทุ ุกชนดิ )
ตอบ 4 ถกั ทอ (จากเสน้ ใยพืช)
การแปรรปู ผลิตภณั ฑ์จากผลผลติ
การเกษตร หรอื การแปรรปู สนิ คา้
เกษตร เช่น ถนอม อาหาร (จากพืช
และสัตว)์

340

รายงานฉบบั สมบรู ณ์โครงการจดั ทำเครื่องช้วี ดั และแบบสอบถามข้อมลู ความจำเปน็ พ้นื ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มลู พน้ื ฐาน
ระดบั หมบู่ า้ น (กชช. 2ค) สำหรับใชช้ ่วงแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตวั เลือก/คำตอบ
ตอบ 5 เครอ่ื งมือเครือ่ งใช้จากโลหะ (ตีมีด,
1) จำนวนครวั เรอื นทท่ี ำอตุ สาหกรรมประเภทนี้
2) ครวั เรอื นมรี ายไดจ้ ากการทำอุตสาหกรรม หล่อหลอมโลหะ, บดั กรสี งั กะสี)
ประเภทนี้ โดยเฉล่ยี ตอบ 6 เครือ่ งป้นั ดินเผา(รวมการทำอิฐมอญ)
3) วัตถุดบิ หลกั ที่ใช้ในการผลิต ได้จากแหลง่ ใด ตอบ 7 เจียระไน

4) สินคา้ ที่ผลติ สว่ นใหญส่ ง่ ไปขายทใี่ ด เพชรพลอยและหนิ สี
ตอบ 8 แกะสลัก (จากวสั ดุทกุ ชนิด)
19.3 ในกรณที ี่มกี ารทำอตุ สาหกรรมในครัวเรือนและ ตอบ 9 เยบ็ ปักถักร้อย
หัตถกรรมทที่ ำกันมาก อนั ดบั สอง ตอบ 10 เครื่องเรือน (จากไม้, ไม้ไผ่, หวาย)
ตอบ 11 ผลติ ภัณฑจ์ ากซเี มนต์
ตอบ 12 อื่น ๆ ระบ.ุ ......................................
จำนวน  ครัวเรือน
ครวั เรอื นละ  บาทตอ่ ปี


ตอบ 1 ภายในหมบู่ ้าน/ชุมชน
ตอบ 2 หมู่บ้าน/ชุมชนใกลเ้ คยี ง
ตอบ 3 ทอ้ งถิน่ อ่ืนท่ีหา่ งไกลออกไป
ตอบ 4 อน่ื ๆ ระบุ..............................................

ตอบ 1 ภายในอำเภอ
ตอบ 2 ภายในจงั หวัด
ตอบ 3 ภายในประเทศ
ตอบ 4 ต่างประเทศ

อ่นื ๆ ระบุ...............................................

ตอบ 0 ไม่มี (ข้ามไปตอบข้อ 20)
ตอบ 1 ทอผ้า
ตอบ 2 จกั สาน (จากวสั ดทุ กุ ชนิด)
ตอบ 3 ถักทอ (จากเสน้ ใยพชื )
ตอบ 4 การแปรรูปผลิตภัณฑจ์ ากผลผลติ

การเกษตร หรือการแปรรูปสินคา้
เกษตร เชน่ ถนอม อาหาร (จากพืช
และสตั ว)์
ตอบ 5 เคร่อื งมอื เครื่องใชจ้ ากโลหะ (ตีมดี ,
หลอ่ หลอมโลหะ, บดั กรีสงั กะส)ี
ตอบ 6 เคร่ืองปนั้ ดนิ เผา(รวมการทำอิฐมอญ)
ตอบ 7 เจียระไนเพชรพลอยและหินสี
ตอบ 8 แกะสลกั (จากวัสดทุ กุ ชนิด)
ตอบ 9 เยบ็ ปักถักร้อย
ตอบ 10 เครอ่ื งเรอื น (จากไม้, ไม้ไผ่, หวาย)

341

รายงานฉบบั สมบูรณ์โครงการจดั ทำเคร่อื งช้ีวดั และแบบสอบถามขอ้ มูลความจำเปน็ พืน้ ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มลู พ้นื ฐาน
ระดบั หมู่บ้าน (กชช. 2ค) สำหรับใชช้ ว่ งแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติ ฉบับท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตวั เลือก/คำตอบ
1) จำนวนครวั เรือนที่ทำอุตสาหกรรมประเภทนี้ ตอบ 11 ผลติ ภณั ฑ์จากซีเมนต์
2) ครัวเรือนมรี ายไดจ้ ากการทำอตุ สาหกรรม ตอบ 12 อนื่ ๆ ระบุ.......................................
ประเภทนี้ โดยเฉลย่ี จำนวน  ครัวเรอื น
19.4 ในกรณีท่ีมกี ารทำอตุ สาหกรรมในครวั เรอื นและ ครวั เรอื นละ  บาทตอ่ ปี
หัตถกรรมทท่ี ำกันมาก อันดับสาม

1) จำนวนครวั เรอื นทท่ี ำอุตสาหกรรมประเภทนี้ ตอบ 0 ไมม่ ี (ข้ามไปตอบข้อ 20)
2) ครวั เรอื นมีรายไดจ้ ากการทำอุตสาหกรรม ตอบ 1 ทอผา้
ประเภทน้ี โดยเฉลี่ย ตอบ 2 จกั สาน (จากวัสดทุ กุ ชนดิ )
ตอบ 3 ถกั ทอ (จากเสน้ ใยพืช)
ตอบ 4 การแปรรูปผลิตภณั ฑจ์ ากผลผลิต

การเกษตร หรือการแปรรปู สนิ คา้
เกษตร เชน่ ถนอม อาหาร (จากพืช
และสัตว)์
ตอบ 5 เคร่อื งมือเครอื่ งใช้จากโลหะ (ตมี ดี ,
หล่อหลอมโลหะ, บดั กรีสังกะสี)
ตอบ 6 เครอ่ื งป้นั ดินเผา(รวมการทำอิฐมอญ)
ตอบ 7 เจยี ระไนเพชรพลอยและหินสี
ตอบ 8 แกะสลัก (จากวัสดุทกุ ชนดิ )
ตอบ 9 เย็บปกั ถกั ร้อย
ตอบ 10 เครื่องเรือน (จากไม้, ไม้ไผ่, หวาย)
ตอบ 11 ผลิตภัณฑ์จากซเี มนต์
ตอบ 12 อ่นื ๆ ระบุ.......................................
จำนวน  ครัวเรอื น
ครวั เรือนละ  บาทตอ่ ปี

ตัวชว้ี ดั ท่ี 20 การท่องเทย่ี ว

คำอธิบาย
1. สถานที่ท่องเที่ยว คือ สถานที่ท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เช่น ทะเล ภูเขา ป่า น้ำตก เกาะ แก่ง ฯลฯ

และเกิดโดยการกระทำของมนุษย์ อาทิ เพื่อพักผ่อน เพื่อสุขภาพ เพื่อความสนุกสนานผจญภัย เพื่อการกีฬาและ
นันทนาการ เพื่อศาสนา เช่น รีสอร์ท ที่อาบน้ำพุร้อน สวนสนุก อ่างเก็บน้ำ วัด พิพิธภัณฑ์ โบราณสถาน/
โบราณวตั ถุ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชวี ติ เป็นตน้
2. สถานที่ท่องเที่ยวภายนอกตำบล คือ สถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ภายนอกตำบลของอำเภอเดียวกัน หรือตำบลของ
จังหวัดทีม่ ีแนวเขตติดตอ่ กัน
3. ประเภทการท่องเที่ยว ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ปี 2565 - 2580 กำหนดให้ส่งเสริม
การท่องเทีย่ ว ดงั น้ี

342

รายงานฉบบั สมบูรณ์โครงการจัดทำเครอ่ื งช้วี ัดและแบบสอบถามขอ้ มูลความจำเป็นพ้ืนฐาน (จปฐ.) และขอ้ มลู พ้นื ฐาน
ระดับหมู่บ้าน (กชช. 2ค) สำหรบั ใช้ช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

1) การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม หมายถึง สร้างสรรค์คุณค่าสินค้าและบริการการท่องเที่ยว
มุ่งเน้น การใช้องค์ความรู้และนวัตกรรม ผนวกกับจุดแข็งในด้านความหลากหลายทางทรัพยากรธรรมชาติ
วัฒนธรรม และวิถีชีวติ

2) การท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ หมายถึง ส่งเสริมให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ ครอบคลุม
การจัดประชุมและนิทรรศการ การจัดงานแสดงสินค้า การจัดกิจกรรมการท่องเที่ยวเป็นรางวัล การจัดการ
แขง่ ขันกีฬาระดบั นานาชาติ การทอ่ งเที่ยวเชงิ กฬี า รวมถงึ การพกั ผอ่ นระหวา่ งหรือหลงั การประกอบธุรกิจหรือ
การทำกจิ กรรมตา่ ง ๆ

3) การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ความงามและแพทย์แผนไทย หมายถึง พัฒนาและยกระดับมาตรฐาน
การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ความงาม และแพทย์แผนไทย ทั้งสินค้า บริการ บุคลากร ผู้ประกอบการ และแหล่ง
ทอ่ งเที่ยวที่เกีย่ วข้องตลอดหว่ งโซ่คุณค่าการท่องเทีย่ ว

4) การท่องเท่ยี วสำราญทางน้ำ หมายถงึ สง่ เสรมิ การท่องเที่ยวทางนำ้ ใหเ้ ป็นอีกทางเลือกหน่งึ ของการท่องเท่ียว
ไทย เป็นแหล่งสร้างรายได้ใหม่ให้กับประเทศ โดยคำนึงถึงความยั่งยืนของแหล่งท่องเที่ยวและการมีส่วนร่วม
ของชุมชน ครอบคลมุ การทอ่ งเทีย่ วทางทะเลและชายฝ่งั และการท่องเทยี่ วในลุม่ นำ้ สำคญั

5) การท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูมิภาค หมายถึง ยกระดับให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงเส้นทางการ
ท่องเที่ยวภายในภูมิภาคอาเซียน โดยใช้ประโยชน์จากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ แผนการลงทุนพัฒนาโครงข่าย
คมนาคมทั้งทางถนน ราง น้ำ และอากาศ และกรอบความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศไทยเป็นจุด
เชอ่ื มตอ่ การเดนิ ทางของนักทอ่ งเทยี่ วในภูมภิ าคอาเซียน

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ
20.1 การได้รบั ผลประโยชน์จากสถานท่ีท่องเที่ยว

20.1.1 หมบู่ ้าน/ชมุ ชนนี้ มีสถานท่ที อ่ งเที่ยว ตอบ 0 ไมม่ ี (ขา้ มไปตอบขอ้ 20.1.3)
หรือไม่ ตอบ 1 มี

20.1.2 กรณีท่ีมแี หลง่ ทอ่ งเท่ียว ระบปุ ระเภท  ไม่มี
การท่องเท่ยี ว ตอบ 0 มี
ตอบ 1
1) ทอ่ งเท่ยี วเชงิ สรา้ งสรรคแ์ ละ  ไมม่ ี
วัฒนธรรม ตอบ 0 มี
ตอบ 1
2) ท่องเทยี่ วเชิงธุรกิจ  ไม่มี
ตอบ 0 มี
3) ทอ่ งเทย่ี วเชงิ สขุ ภาพ ความงามและ ตอบ 1
แพทย์แผนไทย  ไม่มี
ตอบ 0 มี
4) ท่องเที่ยวสำราญทางน้ำ ตอบ 1
 ไม่มี
5) ท่องเทยี่ วเชอ่ื มโยงภูมภิ าค ตอบ 0 มี
ตอบ 1

343

รายงานฉบบั สมบูรณ์โครงการจดั ทำเครื่องชี้วัดและแบบสอบถามขอ้ มูลความจำเปน็ พ้นื ฐาน (จปฐ.) และข้อมูลพื้นฐาน
ระดับหม่บู ้าน (กชช. 2ค) สำหรบั ใช้ชว่ งแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตวั เลือก/คำตอบ

20.1.3 หมู่บา้ น/ชมุ ชนน้ี มีสถานที่ท่องเท่ียวท่ี จำนวน  แหง่

อยภู่ ายในตำบลทท่ี ำใหเ้ กดิ รายไดก้ ับคนในชุมชน โปรดระบุ

ทั้งหมดก่ีแห่ง ในกรณีทม่ี ี 3 แหง่ ขึ้นไป ให้ระบชุ ่ือ 3 1).........................................................ประเภท 

ลำดบั แรก ทท่ี ำให้เกิดรายได้สงู สดุ 2).........................................................ประเภท 

3).........................................................ประเภท 

ประเภทของการทอ่ งเท่ยี ว

ตอบ 1 ทอ่ งเทีย่ วเชงิ สร้างสรรค์และวฒั นธรรม

ตอบ 2 ท่องเทยี่ วเชิงธุรกิจ

ตอบ 3 ทอ่ งเทยี่ วเชิงสขุ ภาพ ความงามและ

แพทยแ์ ผนไทย

ตอบ 4 ทอ่ งเทย่ี วสำราญทางน้ำ

ตอบ 5 ท่องเทย่ี วเช่อื มโยงภมู ิภาค

ตอบ 6 อืน่ ๆ ระบ.ุ .......................................

20.1.4 มสี ถานท่ที ่องเท่ยี วที่อยู่ภายนอกตำบลที่ 
ทำใหเ้ กิดรายได้ กบั คนในชมุ ชน หรือไม่ ตอบ 0 ไมม่ ี
ตอบ 1 มี

20.1.5 ครวั เรอื นในหม่บู า้ น/ชมุ ชนนี้ ที่มีรายได้ จำนวน  ครวั เรอื น
จากสถานทที่ อ่ งเที่ยวท่ีอยู่ภายในตำบลเปน็ รายได้หลกั

20.1.6 ครัวเรือนในหมู่บา้ น/ชมุ ชนนี้ ที่มีรายได้ จำนวน  ครัวเรือน
จากสถานทท่ี ่องเที่ยวท่ีอยภู่ ายในตำบลเปน็ รายได้เสริม

20.1.7 ครวั เรอื นในหม่บู ้าน/ชุมชนน้ี ที่มีรายได้ จำนวน  ครัวเรือน
จากสถานท่ที อ่ งเท่ยี วที่อยภู่ ายนอกตำบล

20.1.8 ครัวเรือนมีรายไดจ้ ากสถานที่ทอ่ งเท่ยี ว ครวั เรือนละ  บาทตอ่ ปี
ท้ังภายในและภายนอกตำบล โดยเฉลีย่

20.2 การไดร้ ับผลกระทบจากการเปน็ แหล่งทอ่ งเทย่ี ว

20.2.1 หม่บู า้ น/ชมุ ชนน้ี มีแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว 
หรอื ไม่ ตอบ 0 ไม่มี
ตอบ 1 มี

20.2.2 จำนวนครวั เรือนทไี่ ดร้ ับผลกระทบ จำนวน  ครวั เรือน

20.2.3 ลักษณะของผลกระทบ 

ตอบ 1 ขยะ
ตอบ 2 แหล่งน้ำ
ตอบ 3 เสยี ง
ตอบ 4 การจราจร
ตอบ 5 อ่ืน ๆ ระบุ...............................................

20.2.4 ในรอบปีที่ผา่ นมา ปัญหาจากแหลง่ 
ตอบ 0 ไมม่ ี (ข้ามไปตอบขอ้ 21.1)
ท่องเท่ียว ไดร้ บั การแก้ไขหรอื ไม่
ตอบ 1 มี

1) ดำเนินการโดยหมู่บ้าน/ชุมชน 

ตอบ 0 ไม่ใช่

ตอบ 1 ใช่

344

รายงานฉบับสมบรู ณ์โครงการจัดทำเครอื่ งชีว้ ดั และแบบสอบถามขอ้ มูลความจำเป็นพืน้ ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มลู พน้ื ฐาน
ระดบั หมู่บา้ น (กชช. 2ค) สำหรบั ใชช้ ่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม  ตัวเลือก/คำตอบ
2) ดำเนินการโดยอบต./เทศบาล ตอบ 0
ตอบ 1 ไมใ่ ช่
3) ดำเนนิ การโดยเอกชน  ใช่
ตอบ 0
4) ดำเนินการโดยหน่วยงานภาครฐั จาก ตอบ 1 ไม่ใช่
ส่วนกลาง  ใช่
5) ดำเนนิ การโดยหน่วยงานภาครัฐใน ตอบ 0
พื้นท่ี ตอบ 1 ไมใ่ ช่
6) อนื่ ๆ ระบุ.................................. ใช่

ตอบ 0 ไม่ใช่
ตอบ 1 ใช่

 ไม่ใช่
ตอบ 0 ใช่
ตอบ 1

หมวดท่ี 3 สุขภาวะและอนามยั
ตวั ชวี้ ัดท่ี 21 การปอ้ งกันโรคตดิ ตอ่

คำอธบิ าย
1. โรค (Disease) คือ ความไม่สบาย ความเจ็บป่วย เป็นภาวะที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หรือขัดขวางการทำงาน

ตามปกติของส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายจนปรากฏอาการ ซึ่งโรคสามารถแบ่งตาม สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเป็น 3
ประเภท ไดแ้ ก่

ประเภทที่ 1 โรคไม่ติดต่อ เป็นโรคกลุ่ม NCDs (Non-communicable diseases) คือ โรคที่ไม่ติดต่อ
ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัส คลุกคลี หรือมีการสัมผัสกับสารคัดหลั่งต่าง ๆ โรคกลุ่มนี้ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค แต่เป็นโรคที่มี
ความสัมพันธ์กับนิสัยหรือพฤติกรรมการดำเนินชีวิต โรคไม่ติดต่อที่เกิดขึ้นในคนไทยจำนวนมาก 7 โรค ได้แก่
(1) เบาหวาน (2) หลอดเลอื ดสมอง (3) หลอดเลือดหัวใจตบี ตนั (4) มะเร็งปอด (5) อว้ นลงพุง (6) ความตนั โลหติ สูง
และ (7) มะเรง็

ประเภทที่ 2 โรคติดต่ออันตราย (จากประกาศกระทรวงสาธารณสุข ปี 2559 และ ปี 2563 ดังน้ี
(1) กาฬโรค (2) ไข้ทรพิษ (3) ไข้เลือดออกไครเมียนคองโก (4) ไข้เวสต์ไนล์ (5) ไข้เหลือง (6) โรคไข้ลาสซา
(7) โรคติดเชื้อไวรัสนิปาห์ (8)โรคติดเชื้อไวรัสมาร์บวร์ก (9) โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา (10) โรคติดเชื้อไวรัสเฮนดรา
(11) โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือโรคซาร์ส (12) โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง หรือโรคเมอร์ส
(13) โรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ประเภทที่ 3 โรคติดต่อตามฤดูกาล (ประกาศกรมควบคุมโรค ปี 2563) โรคและภัยสุขภาพที่เกิดในช่วง
ฤดูฝน ดังนี้ กลุ่มที่ 1 โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ แบ่งเป็น (1) ไข้หวัดใหญ่ (2) ปอดอักเสบ กลุ่มที่ 2 โรคติดต่อ
ทางเดินอาหารและน้ำ (1) อุจจาระร่วง อาหารเป็นพิษ (2) อหิวาตกโรค กลุ่มที่ 3 โรคติดต่อนำโดยยุงลาย
(1) ไข้เลือดออก (2) ไข้ปวดข้อยุงลายหรอื ชิคนุ กุนยา (3) เลปโตสไปโรซิสหรอื ฉหี่ นู และมอื เท้า ปาก
2. ภัยสุขภาพ ได้แก่ 1) การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการจมน้ำ 2) การบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการถูกฟ้าผ่า

3) อนั ตรายจากการถูกสตั ว์มพี ษิ กัด และ 4) อันตรายจากการกนิ เห็ดพิษ

345

รายงานฉบบั สมบรู ณ์โครงการจัดทำเครอื่ งชี้วัดและแบบสอบถามขอ้ มูลความจำเปน็ พื้นฐาน (จปฐ.) และข้อมูลพน้ื ฐาน
ระดบั หมู่บา้ น (กชช. 2ค) สำหรับใชช้ ว่ งแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

3. อว้ นลงพุง คอื นำ้ หนักตัวอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานมีรปู รา่ งสมสว่ น แตม่ เี ส้นรอบเอวที่มากเกนิ ไป มีความเป็นไปได้ว่า
มีไขมันสะสมที่ช่องท้องหรืออวัยวะภายในช่องท้องมากเกนิ ไป หรืออาจเรียกอีกอย่างว่า ภาวะอ้วนลงพุง (ค่า BMI
ซึ่งมีวิธีคำนวณดังนี้ นำน้ำหนักเป็นกิโลกรัม หารด้วยส่วนสูงเป็นเมตรยกกำลังสอง หรือ BMI = น้ำหนัก (kg) ÷
สว่ นสูง (m)2
(โดยผู้ชายควรมีรอบเอวไม่เกิน 90 ซม. หรือ 35.4 นิ้ว ส่วนผู้หญิงควรมีรอบเอวไม่เกิน 80 ซม. หรือ 31.5 น้ิว
คา่ BMI จะอยู่ท่ี 22 –23 ในขณะท่ีหญิงท่รี ูปรา่ งสมส่วน คา่ BMI จะอยทู่ ่ี 19 –20)

4. อาการเรื้อรัง หมายถึง อาการเจ็บป่วยเรื้อรังไม่ติดต่อ และโรคแห่งความเสื่อม โดยมีลักษณะของกลุ่มโรค คือ
มสี าเหตทุ ี่ไมช่ ัดเจนแนน่ อน มาจากหลายปัจจัยเสีย่ ง ระยะแฝงตัวนาน มกี ารดำเนินการของโรคความเจ็บปว่ ยนาน
ไม่ใช่โรคติดต่อ กลุ่มโรคนี้มีผลกระทบทำให้ร่างกายไม่สามารถทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ มีความพิการและส่วนใหญ่
รกั ษาไม่หายขาด เชน่ โรคเบาหวาน ความดนั โลหติ สงู โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเรง็ เป็นต้น

คำถาม ตวั เลอื ก/คำตอบ
21.1 ผปู้ ว่ ยหรือตายด้วยโรคภัย

21.1.1 ในรอบปีที่ผา่ นมา มีผปู้ ่วยหรือตาย ตอบ 0 ไมม่ ี (ข้ามไปตอบขอ้ 21.2)
ดว้ ยโรคต่อไปน้ี ตอบ 1 มี

21.1.1.1 โรคไม่ติดต่อ ตอบ 0 ไม่มี (ข้ามไปตอบข้อ 21.1.1.2)
ตอบ 1 มี
1) เบาหวาน ป่วย  คน ตาย  คน
2) หลอดเลือดสมอง ป่วย  คน ตาย  คน
3) หลอดเลอื ดหัวใจตีบตนั ป่วย  คน ตาย  คน
4) มะเรง็ ปอด ปว่ ย  คน ตาย  คน
5) อ้วนลงพุง ปว่ ย  คน ตาย  คน
6) ความตนั โลหิตสงู ปว่ ย  คน ตาย  คน
7) มะเรง็ ปว่ ย  คน ตาย  คน
21.1.1.2 โรคติดตอ่ อันตราย 
ตอบ 0 ไม่มี (ข้ามไปตอบข้อ 21.1.1.3)
1) กาฬโรค ตอบ 1 มี
2) ไข้ทรพิษ ป่วย  คน ตาย  คน
3) ไขเ้ ลอื ดออกไครเมยี นคองโก ปว่ ย  คน ตาย  คน
4) ไข้เวสต์ไนล์ ปว่ ย  คน ตาย  คน
5) ไขเ้ หลอื ง ป่วย  คน ตาย  คน
6) โรคไข้ลาสซา ป่วย  คน ตาย  คน
7) โรคติดเชอ้ื ไวรสั นปิ าห์ ป่วย  คน ตาย  คน
8) โรคติดเชื้อไวรสั มารบ์ วรก์ ป่วย  คน ตาย  คน
9) โรคติดเช้ือไวรัสอีโบลา ปว่ ย  คน ตาย  คน
10) โรคติดเชอื้ ไวรัสเฮนดรา ปว่ ย  คน ตาย  คน
11) โรคทางเดินหายใจเฉียบพลนั รุนแรง ป่วย  คน ตาย  คน
หรือโรคซารส์ ป่วย  คน ตาย  คน

346

รายงานฉบับสมบรู ณ์โครงการจัดทำเครอ่ื งชี้วัดและแบบสอบถามข้อมลู ความจำเปน็ พ้ืนฐาน (จปฐ.) และขอ้ มลู พน้ื ฐาน
ระดบั หมูบ่ า้ น (กชช. 2ค) สำหรบั ใช้ช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ
12) โรคทางเดนิ หายใจตะวนั ออกกลาง ปว่ ย  คน ตาย  คน
หรอื โรคเมอรส์
13) โรคติดเชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 ปว่ ย  คน ตาย  คน
21.1.1.3 โรคตดิ ตอ่ ตามฤดูกาล 
ตอบ 0 ไม่มี (ข้ามไปตอบข้อ 21.1.1.4)
1) ไข้หวัดใหญ่ ตอบ 1 มี
2) ปอดอกั เสบ ป่วย  คน ตาย  คน
3) อจุ จาระรว่ ง อาหารเปน็ พษิ ป่วย  คน ตาย  คน
4) อหิวาตกโรค ป่วย  คน ตาย  คน
5) ไขเ้ ลอื ดออก ป่วย  คน ตาย  คน
6) ไขป้ วดข้อยงุ ลายหรอื ชคิ ุนกุนยา ป่วย  คน ตาย  คน
7) เลปโตสไปโรซสิ หรือฉี่หนู และมอื เท้า ป่วย  คน ตาย  คน
ปาก ป่วย  คน ตาย  คน
21.1.1.4 การบาดเจบ็ และเสยี ชวี ติ
จากการจมน้ำ 
ตอบ 0 ไมม่ ี (ข้ามไปตอบข้อ 21.1.1.5)
1) การบาดเจบ็ และเสียชีวติ จากการถูก ตอบ 1 มี
ฟา้ ผา่ ป่วย  คน ตาย  คน

2) อนั ตรายจากการถูกสตั วม์ ีพษิ กัด ปว่ ย  คน ตาย  คน
3) อนั ตรายจากการกินเหด็ พิษ ปว่ ย  คน ตาย  คน
4) เสยี ชวี ติ จากการจมน้ำ ปว่ ย  คน ตาย  คน
21.1.1.5 โรคจากการทำงาน 
ตอบ 0 ไม่มี (ข้ามไปตอบข้อ 21.1.1.6)
1) โรคฝุ่นหิน ตอบ 1 มี
2) โรคใยหิน ป่วย  คน ตาย  คน
3) โรคฝุ่นฝ้าย ป่วย  คน ตาย  คน
4) โรคหดื เหตอุ าชีพ ป่วย  คน ตาย  คน
5) โรคหลอดลมอักเสบเร้อื รัง ปว่ ย  คน ตาย  คน
6) โรคการได้ยินเสอ่ื มเหตุเสียงดงั ปว่ ย  คน ตาย  คน
7) โรคเหตุลดความกดอากาศ ปว่ ย  คน ตาย  คน
8) การเจบ็ ป่วยเหตคุ วามร้อน ปว่ ย  คน ตาย  คน
9) โรคผิวหนังอักเสบเหตุสารระคาย ป่วย  คน ตาย  คน
10) โรคผิวหนงั อักเสบเหตุภมู ิแพ้ ป่วย  คน ตาย  คน
11) โรคปวดหลังเหตอุ าชีพ ป่วย  คน ตาย  คน
12) โรคพษิ ออร์กาโนฟอสเฟต ปว่ ย  คน ตาย  คน
13) โรคพษิ คารบ์ าเมต ปว่ ย  คน ตาย  คน
14) โรคพิษไพรีทรอยด์ ป่วย  คน ตาย  คน
15) โรคพษิ สงั กะสฟี อสไฟด์ ปว่ ย  คน ตาย  คน
16) โรคพษิ พาราควอท ป่วย  คน ตาย  คน
ปว่ ย  คน ตาย  คน

347

รายงานฉบับสมบรู ณ์โครงการจัดทำเครอื่ งชี้วดั และแบบสอบถามขอ้ มูลความจำเป็นพืน้ ฐาน (จปฐ.) และขอ้ มลู พน้ื ฐาน
ระดับหมูบ่ า้ น (กชช. 2ค) สำหรบั ใช้ช่วงแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ ฉบับท่ี 13 (พ.ศ. 2565 - 2569)

คำถาม ตัวเลือก/คำตอบ

17) โรคพษิ กลยั โฟเสต ปว่ ย  คน ตาย  คน

18) โรคพิษโลหะหนกั ปว่ ย  คน ตาย  คน
(ระบุ....................................)

19) โรคเหตสุ ารระเหยและสารทำละลาย ปว่ ย  คน ตาย  คน
(ระบุ..........................................)

20) โรคพิษจากก๊าซ ปว่ ย  คน ตาย  คน
(ระบุ.......................................)

21) โรคอน่ื ๆ ท่ีมีอาการเร้ือรงั ปว่ ย  คน ตาย  คน
(ระบุ...........................................)

21.1.1.6 ผู้บาดเจบ็ หรือตายด้วย 
อบุ ัตเิ หตุ ตอบ 0 ไม่มี (ข้ามไปตอบขอ้ 21.1.1.7)
ตอบ 1 มี

1) ผบู้ าดเจ็บหรือตายดว้ ยอบุ ัติเหตทุ างบก บาดเจ็บ  คน ตาย  คน

2) ผบู้ าดเจ็บหรือตายด้วยอุบตั ิเหตุทางบก บาดเจบ็  คน ตาย  คน
ในตอนกลางคืน

3) ผ้บู าดเจบ็ หรือตายดว้ ยอบุ ัตเิ หตทุ างน้ำ บาดเจ็บ  คน ตาย  คน

21.1.1.7 ในรอบปีท่ีผา่ นมา มหี น่วยงาน 
ราชการ / องคก์ รต่างๆ / ผู้นำชมุ ชน / อาสาสมัคร ตอบ 0 ไม่มี
เผยแพรค่ วามรู้เกยี่ วกับการปอ้ งกนั โรคภยั ต่างๆ ดว้ ยส่ือ ตอบ 1 มี โปรดระบุ
หรือไม่ จำนวน  ครง้ั
ผู้แทนครวั เรอื นทเ่ี ขา้ รว่ ม  คน

21.2 สถานทีท่ ี่มีความเสี่ยงตอ่ การแพร่ระบาดของโรค

21.2.1 จำนวนสถานบรกิ าร/สถานบันเทงิ ใน  ไมม่ ี (ข้ามไปตอบขอ้ 22.1)
หมู่บ้าน/ ชมุ ชน จำแนกตามประเภท ตอบ 0 มี
ตอบ 1
1) คาราโอเกะ บาร์เบยี ร์ คาเฟ่ ผับ  ไมม่ ี
ตอบ 0 มี โปรดระบุ
2) ร้านอาหาร/สวนอาหาร ตอบ 1 จำนวน  แห่ง
จำนวนพนักงานบรกิ าร คน
 เพศชาย  คน
ตอบ 0 เพศหญิง  คน
ตอบ 1 เพศทางเลอื ก  คน

ไมม่ ี
มี โปรดระบุ

จำนวน  แห่ง
จำนวนพนักงานบรกิ าร คน
เพศชาย  คน

เพศหญิง  คน
เพศทางเลือก  คน

348


Click to View FlipBook Version