ทา่ นพระอาจารยม์ นั่ ภรู ทิ ตั ตเถระ
๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๑๓ - ๑๐ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๙๒
»ÃÐÇÑµÔ ·Ò‹ ¹¾ÃÐÍÒ¨ÒÃÂÁ è¹Ñ ÀÙÃ·Ô Ñµµà¶ÃÐ
โดย ทา นอาจารยพ ระมหาบวั ญาณสัมปน โน
ISBN : ๙๗๘-๖๑๖-๔๔๕-๗๐๔-๑
พมิ พครงั้ ท่ี ๒ : มีนาคม ๒๕๖๕
จํานวน : ๑,๐๐๐ เลม
ผจู ดั พมิ พ : กองบุญ คณุ ปูสัญญา - คุณยาพงา ธรรมศกั ด์ิ
กองบุญ ดร.เชาวน - คณุ หญงิ ไขศรี ณศีลวนั ต
กองบญุ คณุ ตากวย แปะเพง - คณุ ยายเตยี ว ไกหง
กองบญุ คณุ ประชุม - คุณจนิ ดา ชยั รตั น
¶ŒÒ·‹Ò¹¼ÙŒã´»ÃÐʧ¤¨Ð¾ÔÁ¾á¨¡à»š¹¸ÃÃÁ·Ò¹ ·‹Ò¹¼ÙŒ¹Ñé¹
¡ÃسҾÔÁ¾ä´ŒµÒÁ»ÃÐʧ¤â´ÂäÁ‹µŒÍ§¢Í͹ØÞҵᵋÍ‹ҧã´
¹Í¡¨Ò¡¾ÔÁ¾à¾è×ͨíÒ˹‹Ò¨֧¢ÍʧǹÅÔ¢ÊÔ·¸ìÔ à¾ÃÒмٌáÊ´§
äÁµ‹ ÍŒ §¡ÒÃÍÐäçÔè ¡ÇÒ‹ 㨷àÕè »¹š ÊÁºµÑ ÅÔ ¹Œ ¤Ò‹ ¡ÇÒ‹ ÊÁºµÑ ãÔ ´æ ã¹âÅ¡
ขอขอบคุณ : คณุ สยาม สงวนรมั ย ท่ชี วยประพนั ธบทกลอนทง้ั ๒๔ บท
เปนอาจารยิ บูชา
พมิ พท ่ี : บรษิ ทั ศิลปสยามบรรจภุ ณั ฑและการพมิ พ จาํ กดั
๖๑ ถนนเลยี บคลองภาษเี จรญิ ฝงเหนอื ซอยเพชรเกษม ๖๙
แขวง/เขตหนองแขม กรงุ เทพฯ ๑๐๑๖๐ โทรศพั ท ๐-๒๔๔๔-๓๓๕๑-๒
โทรสาร ๐-๒๔๔๔-๐๐๗๘ e-mail: [email protected]
ทา่ นพระอาจารยม์ ั่น ภรู ิทตั ตเถระ
พระปรมาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธรุ ะ
หลวงปู่ม่ัน พอ่ แมค่ รอู าจารยม์ ่นั เรานี้
ท่านปฏิบัติแบบคงเส้นคงวา
หนาแน่นตามตำ�รับตำ�ราจริงๆ
หาที่ต้องติไม่ได้เลย
เรียกว่าปฏิบัติแบบสมบูรณ์แบบตามตำ�รับตำ�รา
ไม่มีที่ตำ�หนิเรื่อยมาจนกระทั่งวันท่านมรณภาพ
นี่เป็นคติตัวอย่างแก่บรรดาลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายได้เป็นอย่างดี
วดั ป่าบ้านหนองผอื หรอื วัดป่าภรู ิทตั ตถริ าวาส อ.พรรณานคิ ม จ.สกลนคร
ศาลาการเปรยี ญ วัดป่าบ้านหนองผอื
ศาลาหลังแรกที่ท่านพระอาจารย์มั่นใช้เป็นที่พ�ำนักจ�ำพรรษาในวาระแรกที่
วัดป่าบ้านหนองผือ และยังใช้เป็นที่แสดงธรรมอบรมแก่บรรดาพระภิกษุ
สามเณร ภายหลงั เมอ่ื ชาวบา้ นไดส้ รา้ งกฏุ ถิ วายทา่ นพระอาจารยม์ น่ั แลว้ ศาลา
หลงั นจ้ี งึ ใช้เป็นท่ปี ระกอบสงั ฆกรรม (ภาพเก่า)
ภาพปัจจบุ นั ของศาลาหลงั แรกที่ได้มกี ารบรู ณะแล้ว
(ภาพเก่า) ศาลาโรงฉนั ท่ที ่านพระอาจารย์มน่ั
ฉนั ภัตตาหารร่วมกบั พระภกิ ษสุ ามเณรทกุ องค์ในวดั ป่าบ้านหนองผอื
ภาพปัจจบุ นั ของศาลาโรงฉนั ท่ไี ด้มกี ารบรู ณะแล้ว
กุฏิท่านพระอาจารย์มั่น ท่ีสร้างด้วยก�ำลังศรัทธาของชาวบ้านหนองผือ
เพือ่ น้อมถวายบชู าแด่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ใหญ่ม่นั
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ กรมศิลปากรได้จดทะเบยี นเป็นโบราณสถานทส่ี ำ� คัญ
ของประเทศ
ทางเดนิ จงกรมท่านพระอาจารย์ม่นั ณ วดั ป่าบ้านหนองผอื
กฏุ ทิ ่หี ลวงตามหาบวั ญาณสมั ปันโน เคยพกั จ�ำพรรษาท่วี ัดป่าบ้านหนองผอื
ปรศิ นาธรรมท่านพระอาจารย์ม่นั ภรู ิทตั ตเถระ ภายในวดั ป่าบ้านหนองผอื
พระพุทธรปู ปางมารวชิ ัย พระพทุ ธรูปประจ�ำองค์ท่านพระอาจารย์ม่นั
ขณะท่ีท่านพำ� นักอยู่วดั ป่าบ้านหนองผอื
ท่านได้ประดษิ ฐ์แท่นพระพทุ ธรปู ด้วยองค์ท่านเอง
พระพทุ ธรปู ไม้แกะสลกั โดยท่านพระอาจารย์มน่ั ภรู ทิ ัตตเถระ
“เมือเสียเด้อ... หมดทอน้ีล่ะเน้อ... เอาน�้ำไปรดไม้แก่นล่อน ให้มันปงเป็นใบ
บ่มีดอกเด้อ... ให้พากันเฮ็ด พากันท�ำตามที่อาตมาเคยพาเฮ็ดพาท�ำน้ันเด้อ
อย่าลมื เด้อ... ให้พากนั รักษาศีลห้า ถ้าผู้ใดรกั ษาศลี ห้าได้ตลอดชวี ติ ผู้นน้ั เลศิ
ทีส่ ุด หมดทอน้ลี ะ” โอวาทธรรมคร้งั สุดทา้ ยที่ท่านพระอาจารย์มน่ั กล่าว
กับชาวบ้านหนองผือ ก่อนเดินทางไปมรณภาพที่วัดป่าสทุ ธาวาส
“พอหลวงปู่ม่นั จากไป ท่านเหล่าน้กี ็อย่างว่า เหมือนพ่อแม่ล้มหายตายจากไป
รอ้ งหม่ รอ้ งไห้ ตลอดถงึ เดก็ เหน็ พอ่ แมร่ อ้ งไหก้ ร็ อ้ งไหต้ าม นเี่ พราะความเทดิ ทนู
บุญคุณ เพราะความอาลัย เพราะความรัก ความเคารพเลื่อมใส แสดงกัน
ทั่วหน้าในหนองผือ เวลาหามหลวงปู่ม่ันผ่านไปในหมู่บ้าน ยืนกันเป็นแถวทั้ง
หมู่บ้านเลย บ้านหนองผอื เรายนื กนั เป็นแถวท้งั หมู่บ้านเลย ร้องห่มร้องไห้เป็น
แถวไปเลย เรากเ็ ดนิ กนั ไปอยู่ เหน็ อยตู่ อ่ หนา้ ตอ่ ตา เรากส็ ดุ สลดสงั เวช... น�้ำตา
เราก็ซึมภายในเหมือนกัน เพราะสงสารพ่ีน้องชาวหนองผือเรา ท่ีได้อุปถัมภ์
อุปัฏฐากด้วยศรัทธา ทุ่มก�ำลังทุกสิ่งทุกอย่างลงแล้วคราวนี้ ร่มโพธ์ิร่มไทรจะ
ไปตายจากแล้ว” หลวงตามหาบวั ญาณสัมปันโน
พระเถรานเุ ถระตลอดบรรดาศษิ ยานศุ ษิ ยท์ เี่ คารพนบั ถอื ในทา่ นพระอาจารยม์ น่ั
ในงานถวายเพลิงศพท่านพระอาจารย์ม่ัน ณ วัดป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร
ในวนั องั คารท่ี ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๓
ด้านหน้าเมรตุ ้ังสรรี ะและรูปเหมอื น
ท่านพระอาจารย์ม่นั ภรู ทิ ัตตเถระ
เจ้าคณุ ธรรมเจดยี ์ (จูม พนั ธุโล) หลวงตามหาบวั ญาณสมั ปันโน
ประธานจดั งานถวายเพลงิ ศพ หน้าเมรตุ ั้งสรรี ะท่านพระอาจารย์ม่นั
ท่านพระอาจารย์ม่นั
พระธาตทุ ่านพระอาจารย์มน่ั ณ วดั ป่าบ้านหนองผอื จ.สกลนคร
พระธาตทุ ่านพระอาจารย์มน่ั ณ วัดเลยี บ จ.อุบลราชธานี
พระธาตทุ ่านพระอาจารย์ม่นั ณ พิพธิ ภัณฑ์ วดั ป่าสุทธาวาส จ.สกลนคร
พระธาตทุ ่านพระอาจารย์ม่นั ณ วดั ศรีบุญเรอื ง จ.อุบลราชธานี
พระธาตุท่านพระอาจารย์ม่นั
ณ วดั ป่าบ้านหนองผอื
จ.สกลนคร
พระธาตุ พระธาตุ
ท่านพระอาจารย์มน่ั ท่านพระอาจารย์มน่ั
ณ วดั เจดยี ์หลวง จ.เชยี งใหม่ ณ วดั ป่าสาลวนั จ.นครราชสมี า
ทนั ตธาตุ
ท่านพระอาจารย์ม่นั
อฐั ธิ าตุของท่านพระอาจารย์มน่ั ในลกั ษณะต่างๆ
“พระธาตุท่านพระอาจารย์ม่ันเป็นความแปลกและอัศจรรย์ดังที่น�ำมาลง เพื่อท่านผู้อ่านได้
พิจารณาหามูลเหตแุ ห่งความอศั จรรย์ของพระธาตดุ ังกล่าวนี้ต่อไป ส่วนการค้นหาหลกั ฐาน
และเหตุผลมาพสิ จู น์ดงั ทโ่ี ลกใช้กนั นนั้ รู้สกึ จะพิสูจน์ได้ยาก อาจมองไม่เห็นร่องรอยเลยก็ได้
สำ� หรบั เรอื่ งทำ� นองนี้ เพราะสดุ วสิ ยั สำ� หรบั พวกเราทมี่ กี เิ ลสจะตามรไู้ ด้ เพยี งแตธ่ าตดุ นิ ทอี่ ยใู่ น
สว่ นรา่ งกายทา่ นผบู้ รสิ ทุ ธก์ิ บั อยใู่ นตวั เรา กแ็ สดงใหเ้ หน็ เปน็ ของแปลกตา่ งกนั อยา่ งชดั เจนอยแู่ ลว้
ว่าอัฐิท่านกลายเป็นพระธาตุได้อย่างประจักษ์ตา ส่วนร่างกายของพวกเราท่ีมีกิเลส แม้มี
จำ� นวนลา้ นๆ คน ไม่มรี ายใดสามารถเปน็ ไปไดอ้ ยา่ งท่าน จงึ ควรเรยี กไดว้ า่ ท่านเป็นบคุ คลที่
แปลกตา่ งจากมนษุ ยท์ ง้ั หลายอยมู่ ากจนเทยี บกนั ไมไ่ ด”้ (หลวงตามหาบวั ญาณสมั ปนั โน)
พพิ ิธภัณฑ์ท่านพระอาจารย์มน่ั ภูริทตั ตเถระ
ณ วดั ป่าสทุ ธาวาส อ.เมอื ง จ.สกลนคร
ภายในพพิ ิธภัณฑ์ท่านพระอาจารย์มน่ั ภูรทิ ัตตเถระ
ณ วัดป่าสทุ ธาวาส อ.เมอื ง จ.สกลนคร
อัฐบริขารและเครอ่ื งใช้ของท่านพระอาจารย์ม่นั
ท่จี ดั เกบ็ ในพพิ ธิ ภัณฑ์ ณ วัดป่าสทุ ธาวาส อ.เมอื ง จ.สกลนคร
อัฐบริขารและเครอ่ื งใช้ของท่านพระอาจารย์ม่นั
ท่จี ดั เกบ็ ในพพิ ธิ ภัณฑ์ ณ วัดป่าสทุ ธาวาส อ.เมอื ง จ.สกลนคร
อัฐบริขารและเครอ่ื งใช้ของท่านพระอาจารย์ม่นั
ท่จี ดั เกบ็ ในพพิ ธิ ภัณฑ์ ณ วัดป่าสทุ ธาวาส อ.เมอื ง จ.สกลนคร
อัฐบริขารและเครอ่ื งใช้ของท่านพระอาจารย์ม่นั
ท่จี ดั เกบ็ ในพพิ ธิ ภัณฑ์ ณ วัดป่าสทุ ธาวาส อ.เมอื ง จ.สกลนคร
“พี่น้องทั้งหลายเคยไปกราบพิพิธภัณฑ์หลวงปู่มั่นน่ะ ท่านทำ� เอาไว้ข้างผนัง
ทั้งสองด้าน ดูซิ เคร่ืองบริขารของหลวงปู่ม่ันน้ีคือคติธรรมอันเย่ียมทีเดียวให้
พวกเราทงั้ หลายไดด้ ู ทา่ นสรุ ยุ่ สรุ า่ ยไหม รอยปะรอยชนุ ผา้ เตม็ ไปหมดเหน็ ไหม
ท่านไม่ได้เป็นทุกข์นะหลวงปู่ม่ัน ท่านพอทุกอย่าง เมืองพอ ท่านมาจากการ
ดำ� เนนิ แบบน้ี ไม่สรุ ุ่ยสรุ ่าย ไม่ลมื เนอ้ื ลืมตวั น้คี ือทางก้าวเดนิ เพื่อความเจรญิ
จนกระทง่ั ถงึ สดุ ยอดแห่งธรรมกค็ อื หลวงปู่มนั่ เป็นผู้ถงึ ความสดุ ยอดแห่งธรรม
บรมสขุ อยใู่ นนนั้ หมด เปน็ สายทางมาจากประหยดั มธั ยสั ถ”์ หลวงตามหาบวั
ญาณสัมปนั โน
“ผมไปอยู่ที่ไหน ถ้าไม่ได้กราบท่านอาจารย์ม่ันแล้ว นอนไม่ได้ อยู่ท่ีไหนก็
เหมอื นกนั แมท้ สี่ ดุ จะเดนิ จงกรมกต็ อ้ งหนั หนา้ ไปไหวท้ า่ นเสยี กอ่ น ถา้ มรี ปู ทา่ น
เปน็ ทห่ี มายของสมมตุ กิ ก็ ราบไหวร้ ปู ทา่ น หากไมม่ อี ะไรเลยกเ็ อาคณุ ธรรมของ
ท่านประกอบเรอ่ื งของสมมุตนิ ้อมนมัสการไป พระคุณของท่านไม่มวี ันจดื จาง
ประหนงึ่ วา่ ทา่ นไมไ่ ดล้ ว่ งลบั ไป ธรรมชาตอิ นั หนงึ่ เปน็ อยา่ งนนั้ เหมอื นกบั ดเู รา
ตลอดเวลา” หลวงตามหาบัว ญาณสมั ปันโน
ประวัติ
ทา่ นพระอาจารยม์ นั่ ภรู ทิ ัตตเถระ
โดย ทา่ นอาจารยพ์ ระมหาบัว ญาณสัมปันโน
วดั ป่าบ้านตาด จงั หวัดอุดรธานี
ÁÙÅà˵آͧ¡ÒÃà¢Õ¹˹ѧÊÍ× »ÃÐÇµÑ Ô
·Ò‹ ¹¾ÃÐÍÒ¨ÒÃÂÁèѹ ÀÙÃÔ·µÑ µà¶ÃÐ
Ëนั§ส×ÍประวัติËÅว§ปÙ†มèันเปšนÍันดับËนÖè§ ·ÕèเรÒ·ุ‹มเ·กíÒÅั§วั§ªÒ
ทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ งลงหมดเลยในเลม่ นี้ ไมใ่ หใ้ ครมาแตะ แมแ้ ตพ่ มิ พ์ เรากห็ า้ ม
ไม่ให้ตัดตอนให้อะไรทั้งนั้นเลย เพราะเราจัดเรียบร้อยหมดแล้วขÖ้น
แทน่ พิมพ์เลย มันถÖงได้เรยี บร้อยดี เพราะเราเทดิ ทนู มาก หลวงป่มู น่ั น่ี
เทดิ ทนู สดุ หวั ใจ เขยี นแตล่ ะตวั ๆ นพ้ี จิ ารณาจนเตม็ เหนย่ี วๆ พอเสรจ็ แลว้ ก็
หมดความสามารถของเรา ใครจะตา� หนกิ แ็ ลว้ ใครจะชมกแ็ ลว้ จะตดั จะเตมิ
ไม่ไดเ้ ลยหนังสอ× ประวัติÏ จากน้ันมาก็พิมพ์ปฏปิ ทา อนั น้รี องหลวงปมู่ ่ัน
ลงมา หลวงปู่มั่นเป็นอันดับหน่Öงท่ีใช้ความพินิจพิจารณาละเอียดถี่ถ้วน
ตลอดทุกตัวอักษรเลยนะ เพราะเราเคารพเทิดทูนสุดหัวใจเราค×อ
หลวงปู่มัน่ เพราะฉะนน้ั เราจงÖ ได้เอามาพิมพ์
เหตทุ จี่ ะมาพมิ พน์ กี้ ็ วนั นน้ั เรม่ิ ประชมุ พอดที า่ นเรมิ่ ปว่ ยในพรรษานน้ั
ทา่ นยงั มกี ารประชมุ อยู่ วนั นน้ั ทา่ นจะมอี ะไรกไ็ มร่ นู้ ะ พอพระเขา้ ประชมุ
ในกุฏขิ องทา่ นน่นั แหละ เอ้อ ท่านวา่ อยา่ งน้นั ขÖ้นเบ้อ× งต้น “àÍÍŒ ¹àèÕ ÃÒ
¡çä´Œà·È¹ÒNjҡÒÃÊ͹¾ÃÐÊ͹à³ÃÊ͹»ÃЪҪ¹ÁÒ¹Ò¹ áÅŒÇã¤ÃÁÕ
¤ÇÒÁÃʌ٠¡Ö ¹¡Ö ¤´Ô ÍÂÒ‹ §äúҌ §ËÃÍ× äÁ”‹ นคี่ า� พดู ของทา่ นทอี่ อกมา เรากต็ อบ
·ัน·ÕเÅ “àÃÒ¤Ô´àµçÁËÑÇ㨔 เรÒว‹Ò§ÕéเÅ “àÇÅÒ¹éÕ§Ò¹¢Í§àÃÒàÃÕ¡NjÒ
àµÁç ËÇÑ Í¡ äÁÁ‹ ªÕ Í‹ §ÇÒ‹ §àÅ” ไมม่ ชี อ่ งวา่ งกค็ อ× เวลานนั้ สตปิ ญั ญามนั เปน็
อตั โนมัติ พูดตรงๆ อยา่ งนนี้ ะ ไมม่ เี วลาวา่ งเลย พอว่าเตม็ หัวอกเทา่ นั้น
ทา่ น¼างข้Öนมาทันที “àÍŒÍ àÍÒ§Ò¹à¨ÒŒ ¢Í§ãËŒàÊÃ¨ç ¹Ð” ·‹Òนว‹Ò§Õนé ะ
เรอ×่ งของท่าน ท่ีวา่ ใครพจิ ารณายงั ไงค×อเขียนเรอ×่ งราวธรรมเทศนา
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านพาด�าเนินมา และสอนโลกมานานแสนนานนั้น
ใครได้คิดอะไรบ้างไหม ได้คิดเขียนคิดอะไรเร×่องจะให้เป็นร่องเป็นรอย
ต่อไปนั้นน่ะ มีบ้างหร×อเปล่า ความหมายว่าง้ันแหละ เราก็ตอบทันที
“àÃҺ͡NjÒÁÕàµçÁËÑÇ㨠àÃ×èͧ·èÕ¨Ðà¢Õ¹¹Ñé¹ áµ‹àÇÅÒ¹Õé§Ò¹àµçÁËÑÇÍ¡”
เราบอกงนั้ นะ ทา่ นกอ็ อกมาตรงนเ้ี ลย ขนÖ้ ¼าง “àÍÍŒ àÍÒ§Ò¹à¨ÒŒ ¢Í§ãËäŒ ´¹Œ Ð
¢Íã˧Œ Ò¹à¨ÒŒ ¢Í§àÊèç à¶ÍÐ Á¹Ñ ¨Ðᵡ¡ÃШÒÂä»ËÁ´ §Ò¹Í¹è× äÁÊ‹ Òí ¤ÞÑ ”
เรอ×่ งของทา่ นเลยไมพ่ ดู เลย เลยเอางานของตวั เองนสี้ า� คญั เอาตรงน้ี
“àÍÒ§Ò¹Í¹Ñ ¹ãÕé ËäŒ ´¹Œ Ð ¶ÒŒ §Ò¹¹äÕé ´áŒ ÅÇŒ ¨Ðᵡ¡ÃШÒÂä»ËÁ´” เรากไ็ มล่ ม×
คา� ทว่ี า่ ใครคดิ ยงั ไงบา้ งไหม นนั่ ละเปน็ เหตทุ เ่ี ราจะมาพมิ พป์ ระวตั ทิ า่ นนะ่
เราเกบ็ ไวน้ าน จงÖ ไดม้ าเขยี นประวตั ทิ า่ นดว้ ยความเทดิ ทนู สดุ หวั ใจทกุ อยา่ ง
ใครเอาไปอา่ นกเ็ ราแนใ่ จ ถา้ อา่ นเพอ่× อรรถเพอ×่ ธรรมจรงิ ๆ จะเปน็ ประโยชน์
ไม่น้อย ทุกข้ันทุกÀูมิแห่งธรรมทั้งหลาย ประวัติËÅว§ปู†ม่ันÊíา¤ัÞมา¡
·àÕ ´ÕÂÇ (à·È¹Í ºÃÁ¦ÃÒÇÒÊ ³ Ç´Ñ »†ÒºŒÒ¹µÒ´ Ç¹Ñ ·èÕ ø ÁÔ.Â. òõôö)
สารบญั
ประวัตทิ า่ นพระอาจารย์มั่น ภูริทตั ตเถระ ๑
ประวัติ ๕
เกิดสุบนิ นมิ ติ ๘
เกิดสมาธนิ มิ ิต ๑๒
เวลาทา่ นพักอยใู่ นถำ�้ น้ี มรี ู้อะไรแปลกๆ หลายอย่าง ๓๕
พระสาวกอรหันต์มาแสดงธรรมใหฟ้ งั ๕๔
ข้อวัตรประจ�ำองค์ท่านโดยเฉพาะในมัชฌิมวยั ๑๓๕
พระพุทธเจา้ และพระสาวกอรหันตเ์ สด็จมาอนุโมทนา ๒๑๐
เทวดาประเทศเยอรมนั มาขอฟงั เทศน์ท่าน ๒๖๕
ทา้ วสกั กเทวราชบนสวรรค์มาเย่ียมทา่ นเสมอ ๒๘๔
ลูกศิษยก์ บั อาจารยโ์ ต้นรก-สวรรค์กัน ๓๐๔
ท่านพจิ ารณาเห็นถำ้� ดว้ ยตาทิพย์ ๓๑๖
พระอรหันต์มานพิ พานที่ถำ�้ เชียงดาว ๓ องค์ ๓๓๒
พระมหาเถระถามปญั หาทา่ นพระอาจารย์ม่นั ๓๖๑
ท่านพระอาจารย์ม่นั เร่ิมป่วย และเรม่ิ ลาวัฏวนเป็นครง้ั สดุ ท้าย ๔๕๒
ท่านเทศน์อศั จรรย์ครง้ั สุดท้าย ๔๕๗
อฐั ทิ า่ นพระอาจารย์ม่นั กลายเปน็ พระธาตุ ๔๙๓
ขนั ธะวิมุติสะมงั คีธรรมะ ทา่ นพระอาจารย์มั่น ภูรทิ ัตตเถระ ๕๕๕
โอวาทธรรม ท่านพระอาจารย์ม่นั ภรู ิทัตตเถระ ๕๗๗
ประวัติ
ท่านพระอาจารย์ม่ัน ภรู ทิ ตั ตเถระ
1
คำ� น�ำ
ชีวประวัติและปฏิปทาคือจริยธรรมของท่านพระอาจารย์ม่ัน
ภรู ทิ ตั ตเถระ ทที่ า่ นกำ� ลงั อา่ นอยขู่ ณะนี้ ผเู้ ขยี น (ทา่ นอาจารยพ์ ระมหาบวั
ญาณสัมปันโน) ได้พยายามเสาะแสวงหามารวบรวมตามก�ำลังความ
สามารถจากพระอาจารย์หลายท่านที่เคยเป็นศิษย์อยู่ศึกษาอบรมกับ
ทา่ นมาเปน็ ยคุ ๆ จนถงึ วาระสดุ ทา้ ย แตค่ งไมถ่ กู ตอ้ งแมน่ ยำ� ตามประสงค์
เท่าไรนัก เพราะท่านท่ีจดจ�ำมาและผู้รวบรวมคงไม่อาจรู้และจ�ำได้
ทกุ ประโยค และทกุ กาลสถานทท่ี ที่ า่ นเทยี่ วจารกิ บำ� เพญ็ และแสดงใหฟ้ งั
ในทต่ี า่ งๆ กนั ถา้ จะรอใหจ้ ำ� ไดห้ มดทกุ แงท่ กุ กระทงถงึ จะนำ� มาลงกน็ บั วนั
จะลบเลือนและหลงลืมไปหมด คงไม่มีหวังได้น�ำมาลงให้ท่านผู้สนใจ
ไดอ้ า่ นพอเปน็ คตแิ กอ่ นชุ นรนุ่ หลงั อยา่ งแนน่ อน ดงั นน้ั แมจ้ ะเปน็ ประวตั ิ
ทไี่ มส่ มบรู ณท์ ำ� นองลม้ ลกุ คลกุ คลาน กย็ งั หวงั วา่ จะเกดิ ประโยชนอ์ ยบู่ า้ ง
การเขยี นประวตั แิ ละจรยิ ธรรมของทา่ น ทงั้ ภายนอกทแ่ี สดงออกทางกาย
วาจา และภายในท่ที า่ นร้เู หน็ เฉพาะใจแล้วแสดงใหฟ้ งั น้นั จะเขียนเป็น
ท�ำนองเกจิอาจารย์ท่ีเขียนประวัติของพระสาวกท้ังหลาย ดังที่ได้เห็น
ในต�ำราซ่ึงแสดงไว้ต่างๆ กัน เพื่ออนุชนรุ่นหลังจะได้เห็นร่องรอยท่ี
ธรรมแสดงผลแก่ท่านผู้สนใจปฏิบัติตามมาเป็นยุคๆ จนถึงสมัยปัจจุบัน
หากไมส่ มควรประการใด แมจ้ ะเปน็ ความจรงิ ดงั ทไี่ ดย้ นิ ไดฟ้ งั มาจากทา่ น
แต่ก็หวังว่าคงได้รับอภัยจากท่านผู้อ่านทั้งหลาย เนื่องจากเจตนาท่ีมี
ต่อท่านผู้สนใจในธรรมอาจได้คติข้อคิดบ้าง จึงได้ตัดสินใจเขียนทั้งท่ี
ไมส่ ะดวกใจนัก
2
หนงั สอื เลม่ นผ้ี ้เู ขียนมีความมุ่งหมาย ประสงคใ์ หท้ ุกทา่ นทม่ี ีศรทั ธา
เปน็ เจา้ ของดว้ ยกนั พิมพเ์ ป็นธรรมทานได้ทุกโอกาส ไม่ต้องขออนญุ าต
แตอ่ ยา่ งใด สว่ นจะพมิ พเ์ พอื่ จำ� หนา่ ยจงึ ขอสงวนลขิ สทิ ธ์ิ ดงั ทเี่ คยปฏบิ ตั ิ
มาทกุ เลม่ ทผ่ี เู้ ขยี นเปน็ ตน้ ฉบบั เพอ่ื เทดิ ทนู พระศาสนาและครอู าจารยต์ าม
ก�ำลงั ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
ขออ�ำนาจคุณพระศรีรัตนตรัยและคุณท่านพระอาจารย์ม่ันผู้เป็น
เจา้ ของประวตั ิ จงกำ� จดั ภยั พบิ ตั สิ ารพดั อนั ตราย อยา่ ไดม้ แี กท่ า่ นทง้ั หลาย
ขอใหม้ แี ตค่ ณุ ธรรมทพี่ งึ ปรารถนาและความสขุ กายสบายใจ เพราะอำ� นาจ
แหง่ บญุ เปน็ ทพ่ี ง่ึ พงิ องิ แอบแนบเนอ้ื ทา่ นไปตลอดสาย อยา่ ไดม้ วี นั เสอื่ ม
คลายหายสญู จงสมบรู ณพ์ นู ผลไปดว้ ยสมบตั อิ นั อดุ มมงคลนานาประการ
ตลอดวันยา่ งเขา้ สพู่ ระนพิ พานอันเป็นบรมสุขทุกทั่วหน้ากันเทอญ
3
ประวัติ
ท่านพระอาจารยม์ ั่น ภูรทิ ตั ตเถระ
ชีวประวัติและปฏิปทาคือจริยธรรมของท่านพระอาจารย์ม่ัน
ภรู ทิ ตั ตเถระ ทท่ี า่ นกำ� ลงั อา่ นอยขู่ ณะน้ี ผเู้ ขยี น (ทา่ นอาจารยพ์ ระมหาบวั
ญาณสัมปันโน) ได้พยายามเสาะแสวงหามารวบรวมตามก�ำลังความ
สามารถจากพระอาจารย์หลายท่านท่ีเคยเป็นศิษย์อยู่ศึกษาอบรมกับ
ทา่ นมาเปน็ ยคุ ๆ จนถงึ วาระสดุ ทา้ ย แตค่ งไมถ่ กู ตอ้ งแมน่ ยำ� ตามประสงค์
เท่าไรนัก เพราะท่านท่ีจดจ�ำมาและผู้รวบรวมคงไม่อาจรู้และจ�ำได้
ทกุ ประโยค และทกุ กาลสถานทท่ี ท่ี า่ นเทย่ี วจารกิ บำ� เพญ็ และแสดงใหฟ้ งั
ในทต่ี า่ งๆ กนั ถา้ จะรอใหจ้ ำ� ไดห้ มดทกุ แงท่ กุ กระทงถงึ จะนำ� มาลงกน็ บั วนั
จะลบเลือนและหลงลืมไปหมด คงไม่มีหวังได้น�ำมาลงให้ท่านผู้สนใจ
ไดอ้ า่ นพอเป็นคตแิ ก่อนชุ นร่นุ หลงั อย่างแน่นอน
ดงั น้นั แมจ้ ะเปน็ ประวัตทิ ไี่ ม่สมบูรณท์ �ำนองลม้ ลุกคลุกคลาน ก็ยัง
หวังว่าจะเกิดประโยชน์อยู่บ้าง การเขียนประวัติและจริยธรรมของท่าน
ทัง้ ภายนอกท่ีแสดงออกทางกาย วาจา และภายในทที่ ่านรู้เห็นเฉพาะใจ
แล้วแสดงให้ฟังนั้น จะเขียนเป็นท�ำนองเกจิอาจารย์ท่ีเขียนประวัติของ
พระสาวกทงั้ หลาย ดงั ทไี่ ดเ้ ห็นในต�ำราซึง่ แสดงไวต้ า่ งๆ กัน เพอื่ อนุชน
5
รุ่นหลังจะได้เห็นร่องรอยท่ีธรรมแสดงผลแก่ท่านผู้สนใจปฏิบัติตามมา
เปน็ ยคุ ๆ จนถงึ สมยั ปจั จบุ นั หากไมส่ มควรประการใด แมจ้ ะเปน็ ความจรงิ
ดังที่ได้ยินได้ฟังมาจากท่าน แต่ก็หวังว่าคงได้รับอภัยจากท่านผู้อ่าน
ทั้งหลาย เน่ืองจากเจตนาทีม่ ีต่อท่านผสู้ นใจในธรรมอาจไดค้ ติข้อคดิ บ้าง
จงึ ได้ตัดสนิ ใจเขียนท้ังทไี่ มส่ ะดวกใจนกั
ท่านพระอาจารย์ม่ัน ภูริทัตตเถระ เป็นอาจารย์ทางวิปัสสนา
ซง่ึ ควรไดร้ บั ยกยอ่ งสรรเสรญิ อยา่ งยงิ่ จากบรรดาศษิ ยผ์ อู้ ยใู่ กลช้ ดิ ทา่ น
ว่าเป็นอาจารย์วิปัสสนาชั้นเยี่ยมในสมัยปัจจุบัน จากเน้ือธรรมที่ท่าน
แสดงออกซ่ึงเป็นธรรมช้ันสูง ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดได้มีโอกาสฟังอย่างถึงใจ
ตลอดมา ท�ำให้ปราศจากความสงสัยในองค์ท่านว่า สมควรตั้งอยู่ใน
ภูมิธรรมขั้นใด ท่านมีคนเคารพนับถือมากท้ังบรรพชิตและคฤหัสถ์ใน
ภาคตา่ งๆ เกอื บทว่ั ประเทศไทย นอกจากนนั้ ทา่ นยงั มสี านศุ ษิ ยท์ งั้ นกั บวช
และฆราวาสในประเทศลาวอกี มากมายทเี่ คารพเลอื่ มใสในทา่ นอยา่ งถงึ ใจ
ตลอดมา ทา่ นมีประวตั งิ ดงามมากท้ังเวลาเป็นคฤหสั ถแ์ ละเวลาทรงเพศ
เปน็ นกั บวช ตลอดอวสานสดุ ทา้ ย ไมม่ คี วามดา่ งพรอ้ ยเลย ซง่ึ เปน็ ประวตั ิ
ท่ีหาได้ยากในสมัยปัจจุบัน ความเป็นผู้มีประวัติอันงดงามตลอดสายนี้
ร้สู ึกจะหายากย่งิ กว่าหาเพชรหาพลอยเปน็ ไหนๆ
ทา่ นกำ� เนิดในสกลุ แกน่ แก้ว โดยนายคำ� ด้วงเปน็ บดิ า นางจันทร์
เปน็ มารดา นบั ถอื พระพทุ ธศาสนาประจำ� สกลุ ตลอดมา เกดิ วนั พฤหสั บดี
เดือนยี่ ปีมะแม วันที่ ๒๐ มกราคม พ.ศ. ๒๔๑๓ ท่ีบ้านคำ� บง
ต�ำบลโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี มีพ่ีน้องร่วมท้องกัน ๙ คน
แตเ่ วลาทา่ นมรณภาพปรากฏวา่ ยงั เหลอื เพยี ง ๒ คน ทา่ นเปน็ คนหวั ปี
6