ท่านเทศน์อศั จรรย์คร้ังสดุ ท้าย
วนั มาฆบชู า เดือนสามเพ็ญ พ.ศ. ๒๔๙๒ กอ่ นทา่ นจะเรม่ิ ป่วย
เล็กนอ้ ย วันน้ันท่านเริม่ เทศนแ์ ตเ่ วลา ๒ ทมุ่ จนถงึ เวลา ๖ ท่มุ เทยี่ งคืน
รวมเปน็ เวลา ๔ ชวั่ โมง อำ� นาจธรรมทที่ า่ นแสดงในวนั นนั้ เปน็ ความอศั จรรย์
ประจักษ์ใจของพระธุดงค์ที่มารวมกันอยู่เป็นจ�ำนวนมากโดยทั่วกัน
ประหน่งึ โลกธาตุดับสนทิ ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ปรากฏแตก่ ระแสธรรม
ทา่ นแผค่ รอบไปหมดทว่ั ไตรโลกธาตุ โดยยกพระอรหนั ต์ ๑,๒๕๐ องคท์ ตี่ า่ ง
มาเองสทู่ ป่ี ระชมุ ณ พทุ ธสถาน โดยไมม่ ใี ครอาราธนานมิ นตห์ รอื นดั แนะขน้ึ
แสดงว่าท่านเป็นวิสุทธิบุคคลล้วนๆ ไม่มีคนมีกิเลสเข้าสับปนเลยแม้
คนเดียว
การแสดงโอวาทปาฏโิ มกขพ์ ระพทุ ธเจา้ ทรงแสดงเองเปน็ วสิ ทุ ธอิ โุ บสถ
คอื อโุ บสถในทา่ มกลางแหง่ บคุ คลผบู้ รสิ ทุ ธลิ์ ว้ นๆ ไมเ่ หมอื นพวกเราซงึ่ แสดง
ปาฏิโมกข์ในท่ามกลางแห่งบุคคลผู้มีกิเลสล้วนๆ ไม่มีบุคคลผู้ส้ินกิเลส
สับปนอยู่เลยแม้คนเดยี ว ฟังแล้วนา่ สลดสังเวชอยา่ งย่ิงทพี่ วกเราก็เป็น
คนผู้หน่ึง หรือเป็นพระองค์หนึ่งในความเป็นศากยบุตรของพระองค์
องคเ์ ดยี วกนั แตม่ นั เปน็ เพยี งชอ่ื ไมม่ คี วามจรงิ แฝงอยบู่ า้ งเลย เหมอื นคน
457
ทช่ี ่อื วา่ พระบุญ เณรบุญ และนายบุญ นางบุญ แตเ่ ขาเป็นคนขีบ้ าปหาบ
แต่โทษและอาบตั ใิ ส่ตวั แทบก้าวเดนิ ไปไมไ่ ด้
สมยั โนน้ ทา่ นทำ� จรงิ จงึ พบแตข่ องจรงิ พระจรงิ ธรรมจรงิ ไมป่ ลอมแปลง
ตกมาสมยั พวกเรากลายเปน็ มแี ตช่ อื่ เสยี งเรอื งนามสงู สง่ จรดพระอาทติ ย์
พระจนั ทร์ แตค่ วามทำ� ตำ่� ยงิ่ กวา่ ขมุ นรกอเวจี แลว้ จะหาความดี ความจรงิ
ความบรสิ ทุ ธม์ิ าจากไหน เพราะสง่ิ ทที่ ำ� มนั กลายเปน็ งานพอกพนู กเิ ลสและ
บาปกรรมไปเสยี มาก มไิ ดเ้ ปน็ งานถอดถอนกเิ ลสใหส้ น้ิ ไปจากใจ แลว้ จะ
เปน็ วิสทุ ธิอุโบสถขน้ึ มาได้อยา่ งไรกนั
บวชมาเอาแตช่ อื่ เสยี งเพยี งวา่ ตนเปน็ พระเปน็ เณรแลว้ กล็ มื ตวั มวั แต่
ยกว่าตนเป็นผู้มีศีลมีธรรม แต่ศีลธรรมอันแท้จริงของพระของเณรตาม
พระโอวาทของพระองค์แทๆ้ นนั้ คืออะไร กย็ ังไมเ่ ขา้ ใจกนั เลย ถา้ เขา้ ใจ
ในโอวาทปาฏิโมกข์ท่านสอนว่าอย่างไร นั่นแลคือองค์ศีลองค์ธรรมแท้
ท่านแสดงยอ่ เอาแตใ่ จความว่า การไม่ทำ� บาปท้ังปวงหน่ึง การยังกุศล
คือความฉลาดให้ถึงพร้อมหนึ่ง การช�ำระจิตของตนให้ผ่องแผ้วหนึ่ง
น่ีแลเปน็ ค�ำสงั่ สอนของพระพทุ ธเจา้ ท้ังหลาย
การไมท่ ำ� บาป ถา้ ทางกายไมท่ ำ� แตท่ างวาจากท็ ำ� อยู่ ถา้ ทางวาจาไมท่ ำ�
แตท่ างใจกท็ ำ� และส่งั สมบาปวันยังคำ่� จนถงึ เวลาหลับ พอตืน่ จากนอน
กเ็ รม่ิ สงั่ สมบาปตอ่ ไปจนถงึ ขณะหลบั อกี เปน็ อยทู่ ำ� นองนี้ โดยมไิ ดส้ นใจ
คิดวา่ ตัวท�ำบาปหรอื ส่ังสมบาปเลย แมเ้ ชน่ น้นั ยังหวังใจอยวู่ ่า ตนมศี ลี
มธี รรม และคอยเอาแต่ความบรสิ ทุ ธิจ์ ากความมีศลี มีธรรมทย่ี ังเหลือแต่
ชอื่ นน้ั ฉะนนั้ จงึ ไมเ่ จอความบรสิ ทุ ธ์ิ กลบั เจอแตค่ วามเศรา้ หมองวนุ่ วาย
ภายในใจอยู่ตลอดเวลา ทั้งน้ีก็เพราะตนแสวงหาสิ่งน้ันก็ต้องเจอสิ่งน้ัน
458
ถ้าไม่เจอสิ่งนั้นจะให้เจออะไรเล่า คนเราแสวงหาส่ิงใดก็ต้องเจอสิ่งนั้น
เปน็ ธรรมดา เพราะเปน็ ของมอี ยใู่ นโลกสมมตุ อิ ยา่ งสมบรู ณ์ ทที่ า่ นแสดง
อยา่ งน้ี แสดงโดยหลกั ธรรมชาตขิ องศลี ธรรมทางดา้ นปฏบิ ตั ิ เพอื่ นกั ปฏบิ ตั ิ
ไดท้ ราบอยา่ งถึงใจ
ล�ำดับต่อไปท่านแสดงสมาธิ ปัญญา ตลอดวิมุตติหลุดพ้นอย่าง
เต็มภูมแิ ละเปิดเผยไม่ปดิ บังลล้ี ับอะไรเลยในวนั น้ัน แตจ่ ะไม่ขออธิบาย
เพราะเคยอธิบายและเขียนลงบ้างแล้ว ขณะน้ันผู้ฟังทั้งหลายน่ังเงียบ
เหมือนหัวตอ ตลอดกณั ฑ์ไมม่ ีเสียงอะไรรบกวนธรรมทีท่ ่านกำ� ลงั แสดง
อย่างเต็มที่เลย ตอนสุดท้ายแห่งการแสดงธรรม ท่านพูดท�ำนองพูดท่ี
วดั เจดยี ห์ ลวง จังหวดั เชียงใหม่ ว่ากณั ฑน์ ี้เทศนซ์ ำ้� เฒ่า ตอ่ ไปจะไม่ได้
เทศนท์ ำ� นองนอี้ กี แลว้ กจ็ บลง คำ� นน้ั ไดก้ ลายเปน็ ความจรงิ ขนึ้ มาดงั ทา่ น
พดู ไว้ นบั แตว่ นั นน้ั แลว้ ทา่ นมไิ ดเ้ ทศนท์ ำ� นองนน้ั อกี เลย ทง้ั เนอ้ื ธรรมและ
การแสดงนานๆ ผิดกบั ครงั้ น้ันอยูม่ าก หลังจากนน้ั อีกหน่งึ เดือนท่านเร่มิ
ป่วยกระเสาะกระแสะเรอ่ื ยมา จนถึงวาระสดุ ท้ายแหง่ ขนั ธเ์ สยี จนได้
แม้ท่านจะได้รับความล�ำบากทางขันธ์ เพราะโรคภัยเบียดเบียน
จนสขุ ภาพทรดุ ลงเป็นล�ำดับกต็ าม แตก่ ารบิณฑบาต ฉนั ในบาตร และ
ฉันม้อื เดียวที่เคยดำ� เนนิ มา ทา่ นกย็ งั อตุ ส่าห์ประคองของท่านไปไมย่ อม
ลดละปลอ่ ยวาง เมอื่ ไมส่ ามารถไปสดุ สายบณิ ฑบาตได้ ทา่ นกพ็ ยายามไป
เพยี งครงึ่ หมู่บา้ น แลว้ กลบั วดั ต่อมาญาตโิ ยมและพระอาจารยท์ ้ังหลาย
เหน็ ทา่ นลำ� บากมากกป็ รกึ ษากนั ตกลงขออาราธนานมิ นตท์ า่ นไปแคป่ ระตู
วดั แลว้ กลบั ถ้าจะขออาราธนาทา่ นไวไ้ ม่ใหไ้ ปเลย ท่านไมย่ อม โดยให้
เหตุผลว่าเมอ่ื ยงั พอไปไดอ้ ยู่ตอ้ งไป ฉะนน้ั จำ� ต้องอนโุ ลมตามท่านไมใ่ ห้
459
ขัดอัธยาศัย ท่านเองก็พยายามไป ไม่ยอมลดละความเพียรเอาเลย
จนไปไมไ่ หวจรงิ ๆ ทา่ นยงั ขอบณิ ฑบาตบนศาลาโรงฉนั พยายามจนลกุ เดนิ
ไมไ่ ด้ จงึ ยอมหยดุ บณิ ฑบาต แมเ้ ชน่ นน้ั ยงั ขอฉนั ในบาตรและฉนั มอื้ เดยี ว
ตามเดิม
เราคนดีต้องอนุโลมตามความประสงค์ท่านทุกระยะไป ด้วยความ
อศั จรรยใ์ นความอดทนของนักปราชญช์ าตอิ าชาไนย ไมย่ อมทิ้งลวดลาย
ทเี่ คยเป็นนกั ตอ่ สใู้ ห้กเิ ลสยื้อแย่งแขง่ ดไี ดเ้ ลย ถ้าเปน็ พวกเราน่ากลวั จะ
ถกู หามลงมาฉนั จงั หนั นบั แตว่ นั เรม่ิ รสู้ กึ วา่ ไมส่ บาย ซง่ึ เปน็ ทนี่ า่ อบั อายกเิ ลส
ท่ีคอยหัวเราะเยาะคนไม่เป็นท่าอยู่ตลอดเวลา ท่ีมานอนคอยเขียงให้
กิเลสสับฟันห่ันแหลกอย่างไม่มีชิ้นดี อันเป็นท่ีน่าสังเวชเอาหนักหนา
ถา้ ยังรู้สึกเสียดายเรา ซง่ึ เป็นคนท้งั คนท่คี อยจะเป็นเขียงให้กิเลสสับฟัน
กค็ วรระลกึ ถงึ ปฏปิ ทาของทา่ นอาจารยม์ นั่ ตอนนไี้ วบ้ า้ ง เผอ่ื ไดย้ ดึ มาเปน็
เครอ่ื งมอื ปอ้ งกนั ตวั ในการตอ่ สกู้ บั กเิ ลส จะไมก่ ลายเปน็ เขยี งใหม้ นั หมด
ทง้ั ตัว ยงั พอมีเครอื่ งหมายสตั บุรษุ พุทธบรษิ ัทติดตัวอยบู่ ้าง
อาการท่านรู้สึกหนักเข้าโดยล�ำดับ จนคนดีท่ีเกี่ยวข้องไม่พากันนิ่ง
นอนใจได้ ตอนกลางคนื ตอ้ งจดั วาระกนั คอยรกั ษาทา่ นอยา่ งลบั ๆ คราวละ
๓-๔ องคเ์ สมอ แตม่ ไิ ดเ้ รยี นใหท้ า่ นทราบ นอกจากทา่ นจะทราบทางภายใน
โดยเฉพาะเทา่ น้นั ท้งั นี้เกรงวา่ ทา่ นจะห้ามไมใ่ หท้ �ำ โดยเห็นว่าเป็นภาระ
กงั วลวนุ่ วายเกนิ ไป พระเณรทอี่ ยรู่ กั ษาทา่ นตามวาระกใ็ หอ้ ยใู่ ตถ้ นุ กฎุ ที า่ น
อยา่ งเงยี บๆ วาระละ ๒-๓ ชว่ั โมง ตลอดรงุ่ ทกุ คนื ซง่ึ เรม่ิ แตย่ งั ไมเ่ ขา้ พรรษา
พอเห็นอาการท่านหนักมากก็ปรึกษากัน แล้วกราบเรียนขอถวายความ
ปลอดภยั ใหท้ า่ น โดยมาขอนงั่ สมาธิภาวนาทเี่ ฉลยี งขา้ งนอกกฎุ ที า่ นคราว
460
ละ ๒ องค์ ท่านก็อนญุ าต จงึ ได้จัดให้พระอยบู่ นกุฎที ่านครั้งละ ๒ องค์
อยูใ่ ต้ถุน ๒ องคต์ ลอดไป ไมใ่ หข้ าดได้ นอกจากพระทจ่ี ดั เป็นวาระไว้
ประจำ� แล้ว ยังมีพระในวัดมาลอบๆ มองๆ คอยสังเกตการณ์อยเู่ สมอ
มไิ ด้ขาดตลอดคืน
พอออกพรรษาแล้ว พระและครูบาอาจารยท์ จี่ �ำพรรษาอยูใ่ นทตี่ า่ งๆ
ก็ทยอยกันมากราบเย่ียมและปฏิบัติท่านมากขึ้นเป็นล�ำดับ อาการท่าน
รสู้ กึ หนกั เขา้ ทกุ วนั ไมน่ า่ ไวใ้ จ ทา่ นจงึ ไดป้ ระชมุ เตอื นบรรดาศษิ ยใ์ หท้ ราบ
ในการท่ีจะปฏิบัตติ ่อทา่ นด้วยความเหมาะสมว่า การป่วยของผมจวนถงึ
วาระเขา้ ทกุ วนั จะพากนั อยา่ งไรกค็ วรคดิ เสยี แตบ่ ดั นจ้ี ะไดท้ นั กบั เหตกุ ารณ์
ผมนะ่ ตอ้ งตายแนน่ อนในคราวนดี้ งั ทเ่ี คยพดู ไวแ้ ลว้ หลายครงั้ แตก่ ารตาย
ของผมเปน็ เรื่องใหญ่ของสตั วแ์ ละประชาชนทัว่ ๆ ไปอยูม่ าก ดว้ ยเหตุนี้
ผมจึงเผดยี งท่านทง้ั หลายให้ทราบวา่ ผมไม่อยากตายอยูท่ ี่น่ี ถ้าตายทนี่ ี่
จะเปน็ การกระเทอื นและทำ� ลายชวี ติ สตั วไ์ มน่ อ้ ยเลย สำ� หรบั ผมตายเพยี ง
คนเดยี ว แตส่ ัตว์ทีจ่ ะพลอยตายเพราะผมเป็นเหตุนั้นมจี ำ� นวนมากมาย
เพราะคนจะมามาก ท้ังทีน่ ไ้ี มม่ ีตลาดแลกเปล่ียนซอ้ื ขายกัน
นับแต่ผมบวชมาไม่เคยคิดให้สัตว์ได้รับความล�ำบากเดือดร้อน
โดยไม่ต้องพูดถึงการฆา่ เขาเลย มแี ตค่ วามเมตตาสงสารเปน็ พน้ื ฐาน
ของใจตลอดมา ทุกเวลาได้แผ่เมตตาจิตอุทิศส่วนกุศลแก่สัตว์
ไมเ่ ลอื กหนา้ โดยไมม่ ปี ระมาณตลอดมา เวลาตายแลว้ จะกลายเปน็ ศตั รู
คู่เวรแก่สัตว์ ให้เขาล้มตายลงจากชีวิตท่ีแสนรักสงวนของแต่ละตัว
เพราะผมเป็นเหตุเพยี งคนเดียวนัน้ ผมท�ำไม่ลง อย่างไรขอให้นำ� ผม
ออกไปตายทีส่ กลนคร เพราะทนี่ ั้นเขามตี ลาดอยแู่ ลว้ คงไมก่ ระเทอื น
461
ชวี ติ ของสตั วม์ ากเหมอื นทน่ี ี่ เพยี งผมปว่ ยยงั ไมถ่ งึ ตายเลย ผคู้ นพระเณร
กพ็ ากนั หลง่ั ไหลมาไมห่ ยดุ หยอ่ น และนบั วนั มากขนึ้ โดยลำ� ดบั ซงึ่ พอ
เปน็ พยานอยา่ งประจกั ษแ์ ลว้ ยง่ิ ผมตายลงไปผคู้ นพระเณรจะพากนั มา
มากเพียงไร ขอได้พากนั คิดเอาเอง
เพยี งผมคนเดยี วไมค่ ดิ คำ� นงึ ถงึ ความทกุ ขเ์ ดอื ดรอ้ นของผอู้ นื่ เลยนน้ั
ผมตายไดท้ กุ กาลสถานท่ี ไมอ่ าลยั เสยี ดายรา่ งกายอนั นเ้ี ลย เพราะผมได้
พจิ ารณาทราบเรอื่ งของมนั ตลอดทวั่ ถงึ แลว้ วา่ เปน็ เพยี งสว่ นผสมแหง่ ธาตุ
รวมกันอยชู่ ่วั ระยะกาล แลว้ กแ็ ตกทำ� ลายลงไปสู่ธาตุเดิมของมันเท่านน้ั
จะมาอาลยั เสยี ดายหาประโยชนอ์ ะไร เทา่ ทพี่ ดู นกี้ เ็ พอื่ ความอนเุ คราะหส์ ตั ว์
อย่าให้เขาต้องมาพร้อมกันตายเป็นป่าช้าผีดิบวางขายเกล่ือนอยู่ตาม
รมิ ถนนหนทาง อนั เปน็ ทน่ี า่ สมเพชเวทนาเอาหนกั หนาเลย ซงึ่ ยงั ไมส่ ดุ วสิ ยั
ทจี่ ะควรพจิ ารณาแกไ้ ขไดใ้ นเวลาน้ี ฉะนนั้ จงึ ขอใหร้ บี จดั การใหผ้ มไดอ้ อกไป
ทันกับเวลาท่ียังควรอยู่ในระยะน้ี เพื่ออนุเคราะห์สัตว์ท่ีรอตายตามผม
อยู่เป็นจ�ำนวนมาก ให้เขาได้มีความปลอดภัยในชีวิตของเขาโดยทั่วกัน
หรอื ใครมีความเหน็ อย่างไร ก็พูดไดใ้ นเวลาน้ี
ทั้งพระและญาติโยมรวมฟังกันอยู่เป็นจ�ำนวนมาก ไม่มีใครพูดข้ึน
มแี ตค่ วามสงบเงยี บแหง่ บรรยากาศทเี่ ตม็ ไปดว้ ยความผดิ หวงั ดงั บทธรรม
ทา่ นวา่ ยมปฺ จิ ฉฺ ํ น ลภติ ตมปฺ ิ ทกุ ขฺ ํ ปรารถนาไมส่ มหวงั ยอ่ มเปน็ ทกุ ข์ คอื
ทา่ นจะอยวู่ ดั หนองผอื กต็ อ้ งตาย จะออกไปสกลนครกต็ อ้ งตาย ไมม่ หี วงั
ท้งั นัน้ ที่ประชุมจงึ ตา่ งคนต่างเงียบ หมดทางแกไ้ ขทุกประตู จงึ เป็นอัน
พรอ้ มกันยนิ ดแี ละตกลงตามความเหน็ และความประสงคท์ ่าน
462
ทแี รกญาตโิ ยมบา้ นหนองผอื ทง้ั บา้ นแสดงความประสงคว์ า่ ขอใหท้ า่ น
ตายที่นี่ เขาจะเปน็ ผู้จัดการศพทา่ นเอง แม้จะทุกข์จนข้นแค้นแสนเขญ็
เพียงไรก็ตาม แต่ศรัทธาความเชื่อเลื่อมใสในครูอาจารย์มิได้จน ยังมี
เต็มเปี่ยมในสันดาน จึงขอจัดการศพท่านจนสุดความสามารถขาดดิ้น
ไมย่ อมใหใ้ ครดหู มน่ิ เหยยี ดหยามวา่ ชาวบา้ นหนองผอื ไมม่ คี วามสามารถ
เผาศพทา่ นอาจารยเ์ พยี งองคเ์ ดยี วกไ็ มไ่ หม้ ปลอ่ ยใหเ้ ขาเอาทา่ นไปทง้ิ เสยี
ท่ีอ่ืน ดังนี้ไม่ให้มี อย่างไรก็ขอพร้อมกันทั้งบ้านมอบกายถวายชีวิตต่อ
ท่านอาจารย์องค์เป็นสรณะของชาวบ้านหนองผือจนหมดลมหายใจ
ไม่ยอมให้ใครเอาท่านไปไหน จนกว่าชาวหนองผือไม่มีลมหายใจครอง
ขันธ์แล้ว จงึ จะยอมให้เอาท่านไป
แต่พอได้ยินค�ำท่านให้เหตุผลโดยธรรมแล้ว ก็พากันแสดงความ
เสียดาย โดยพูดอะไรไมไ่ ด้ จ�ำต้องยอมทง้ั ท่มี คี วามเลือ่ มใสและอาลยั
เสยี ดายทา่ นแทบใจจะขาด ปราศจากลมหายใจในขณะนน้ั จงึ เปน็ ทน่ี า่ เหน็ ใจ
พน่ี อ้ งชาวหนองผอื เปน็ อยา่ งยง่ิ และขอจารกึ เหตกุ ารณค์ อื ความเสยี สละ
อยา่ งถงึ เปน็ ถงึ ตายเพอื่ ถวายบชู าทา่ นอาจารยค์ รงั้ นไี้ วใ้ นหทยั ของผเู้ ขยี น
ในนามทา่ นผอู้ า่ นทงั้ หลายดว้ ย ซง่ึ คงจะมคี วามรสู้ กึ ตอ่ พนี่ อ้ งชาวหนองผอื
เชน่ เดยี วกนั
วันประชุมน้ันมีครูบาอาจารย์ผู้ใหญ่หลายท่านท่ีเป็นลูกศิษย์ท่านมา
รว่ มดว้ ย ทา่ นอาจารยเ์ องเปน็ ผชู้ แี้ จงเรอื่ งทไ่ี มค่ วรใหท้ า่ นอยวู่ ดั หนองผอื
ตอ่ ไป ดว้ ยเหตดุ งั ทเ่ี ขยี นผา่ นมาแลว้ เมอ่ื ทงั้ ฝา่ ยพระสงฆแ์ ละฝา่ ยชาวบา้ น
ต่างทราบค�ำชี้แจงจากท่านในทีป่ ระชุมดว้ ยกัน และไม่มีใครคดั คา้ นแล้ว
กต็ กลงกนั ทำ� แครส่ ำ� หรบั หามทา่ นออกจากวดั หนองผอื ไปสกลนคร วนั ที่
463
กลายเปน็ วนั มหาเศรา้ โศกโลกหวนั่ ไหว เพราะความวโิ ยคพลดั พรากจาก
สง่ิ ทร่ี กั เลอ่ื มใสสดุ จติ สดุ ใจ กไ็ ดร้ ะเบดิ ขนึ้ แกช่ าวบา้ นชาววดั อยา่ งสดุ จะ
อดกลั้นไว้ได้น้ัน คือวันท่ีประชาชนญาติโยมและพระสงฆ์จ�ำนวนมาก
เตรยี มแครม่ ารอรบั ท่านอาจารย์ท่ีบันไดกฎุ ี
หลงั จากฉันเสรจ็ แลว้ พร้อมกันเตรยี มจะหามทา่ นออกไปสกลนคร
จุดนี้เป็นจุดท่ีเริ่มระเบิดหัวใจพ่ีน้องชาวหนองผือทั้งบ้านใกล้บ้านไกล
ท่ีต่างมาแสดงความหมดหวังคร้ังสุดท้ายในบริเวณนั้น ตลอดพระสงฆ์
สามเณรเปน็ จำ� นวนมาก ทง้ั สองฝา่ ยตา่ งเกดิ ความสลดสงั เวชนำ�้ ตาไหลซมึ
เปน็ จุดแรก จดุ ท่สี องขณะทพ่ี ระอาจารย์ท้งั หลายพยงุ ท่านอาจารย์ลงมา
จากกุฎี เพอื่ อาราธนาข้นึ สู่แครแ่ ละเตรยี มเคลอื่ นทน่ี ้ี เปน็ ตอนที่ปล่อย
ความเล่ือมใสอาลัยรักสุดประมาณที่อัดอั้นตันใจอยู่ภายในออกมาอย่าง
เตม็ ที่ ทงั้ หญงิ ทงั้ ชายตลอดพระเณรกอ็ ดกลนั้ นำ�้ ตาไวไ้ มไ่ ด้ จำ� ตอ้ งปลอ่ ย
ใหเ้ ป็นไปตามความโศกาดรู ในขณะนัน้
แมผ้ ู้เขยี นเองซง่ึ ยงั จะตดิ ตามทา่ นออกไปด้วย กย็ ังอดแสดงความ
ไมเ่ ปน็ ทา่ ออกมาไมไ่ ด้ เมอ่ื เหน็ บรรยากาศเตม็ ไปดว้ ยความซบเซาเหงาหงอย
อยรู่ อบดา้ น ทง้ั เสยี งรอ้ งไหส้ งั่ เสยี ทง้ั คำ� ขอรอ้ งอาราธนาวงิ วอนทา่ นอาจารย์
ขอให้ออกไปหายโรคหายภยั อย่าได้ออกไปลม้ หายตายจากทำ� ลายซาก
จากพวกญาติโยมท่ีก�ำลังรอคอยอยู่ด้วยความโศกศัลย์กันแสงสุดท่ีจะ
อดกลนั้ ได้ แทบหวั อกจะแตกตายอยแู่ ลว้ เวลานี้ ขอทา่ นไดเ้ มตตาสงสาร
สตั วม์ ากๆ เพราะเหน็ แกค่ วามยากจนบา้ งเถดิ ทปี่ วงขา้ พเจา้ ทง้ั หลายเกดิ
ทกุ ขม์ ากแทบเหลอื ทนครงั้ นี้ เพราะสมบตั อิ นั ลน้ คา่ ทเ่ี คยอปุ ฏั ฐากรกั ษามา
เปน็ เวลาหลายปี ไดห้ ลดุ มอื พลดั พรากจากไป สดุ วสิ ยั ทจี่ ะกน้ั กางไวไ้ ด้
464
เสียงร้องไห้ร�ำพันด้วยความระทมขมขื่น ราวกับคลื่นทะเลไหลซัด
เข้ามาท่วมทบั หัวใจตามรายทางทท่ี า่ นผา่ นไป คนทง้ั บา้ น ท้ังหญิงทั้งชาย
ทงั้ เดก็ และผใู้ หญ่ เหมอื นจะถงึ ความมดื มดิ ปลดิ ชพี ไปตามทา่ นกนั ทงั้ บา้ น
ตลอดตน้ ไม้ใบหญ้าท่ีไมม่ วี ญิ ญาณรบั รู้อะไรเลย กเ็ ปน็ ประหนึง่ ยุบยอบ
กรอบเกรยี มไปตามๆ กนั ขณะทท่ี า่ นเรมิ่ เคลอ่ื นจากรมณยี สถานอนั เปน็
ทเ่ี คยใหค้ วามสขุ สำ� ราญแกท่ า่ นและพระสงฆ์ พรอ้ มดว้ ยหมชู่ นจำ� นวนมาก
ท่มี าอาศัยพึง่ ร่มเงาตลอดมา สถานท่ีนัน้ จงึ เป็นเหมือนวัดร้างขึน้ ในทันที
ทันใด ท้ังที่มีพระอยู่จ�ำนวนมาก เพราะปราศจากต้นไม้ใหญ่ใบดกหนา
ทเี่ ตม็ ไปดว้ ยความร่มเยน็ ผาสกุ แกผ่ ู้มาอาศยั ตลอดมา
เสยี งทก่ี ำ� ลงั แสดงความระบมปวดรา้ วของประชาชน ผหู้ วงั มอบกาย
ถวายชวี ติ ไวก้ บั พระศาสนา มที า่ นอาจารยเ์ ปน็ องคพ์ ยานซงึ่ กำ� ลงั พลดั พราก
จากไปอยเู่ วลานี้ เปน็ เสยี งทจ่ี ะอดสงั เวชสงสารเหลอื ประมาณมไิ ด้ พอผา่ น
บ้านและเสียงพิไรร�ำพันท่ีแสนจะอดกลั้นความทุกข์ความสงสารไปแล้ว
ตา่ งกเ็ ดนิ ระงมทกุ ขไ์ ปตามหลงั ท่าน แมม้ ีพระเณรและประชาชนนับเป็น
จำ� นวนรอ้ ยๆ กล็ ว้ นมหี นา้ อนั เครง่ ขรมึ ไมม่ ที า่ นผใู้ ดจะแสดงความเบกิ บาน
แจ่มใส คงมีแต่ความระทมขมข่ืนที่จ�ำต้องกล้�ำกลืนด้วยความฝืนอด
ฝนื ทนไปตามๆ กัน ตลอดทางเปน็ ความเงยี บเหงาเศรา้ โศกของหมู่ชน
ทตี่ า่ งเดนิ ไปเหมอื นคนไรญ้ าตขิ าดมติ ร ไมม่ ใี ครพดู ใครคยุ เรอ่ื งตา่ งๆ แฝง
ข้นึ มาบ้างเลย ตา่ งคนตา่ งเงยี บ แต่หัวใจเตม็ ไปดว้ ยความครุ่นคิดไปใน
ความหมดหวัง ท้ังท่านและเรารู้สกึ มีทางเดนิ แหง่ วิถขี องใจไปในท�ำนอง
เดยี วกนั ว่า พวกเราเป็นพวกท่ีหมดหวัง
465
ขออภัยเขียนตามความรสู้ กึ เทา่ กบั ก�ำลงั เอาท่านอาจารย์ไปทงิ้ ทั้งท่ี
ท่านยังครองขันธ์อยู่อย่างไม่สงสัย การที่จะมีหวังได้ท่านกลับมาอีกน้ัน
คงเป็นไปไม่ไดแ้ ลว้ ย่ิงคิดยง่ิ เศรา้ แตก่ ็เป็นเรอ่ื งทอี่ ดคดิ ไม่ได้ ต่างคน
ตา่ งเดนิ ไปตามทางดว้ ยความเงยี บเหงาเศรา้ ใจ และคดิ แตเ่ รอ่ื งของความ
หมดหวงั กนั ทงั้ นนั้ สำ� หรบั ผเู้ ขยี นเองขอสารภาพตวั วา่ ไมเ่ ปน็ ทา่ เอาอยา่ งมาก
ตลอดทางมีแต่ความร�ำพึงร�ำพันถึงความหมดหวังท่ีพึ่ง ไม่มีที่อาศัยใดๆ
อกี แลว้ เมือ่ เกิดปัญหาข้ึนมาดังที่เคยเกดิ อยู่เสมอไม่เว้นแตล่ ะวนั
ระหวา่ งทางจากหนองผอื ถงึ อำ� เภอพรรณานคิ ม ตามสายทางทไ่ี ปนนั้
ราว ๖๐๐ เสน้ แม้เช่นน้ันก็มิได้สนใจวา่ ใกล้หรือไกล ส่งิ ท่สี นใจอย่าง
ฝังลกึ กค็ อื ความอาลัยอาวรณย์ งั ไมอ่ ยากให้ทา่ นจากไปในเวลานี้ เพราะ
เปน็ เวลาทีต่ นกำ� ลังอาการหนักมากเกย่ี วกบั ปญั หาทางภายใน คิดวนไป
เวียนมากม็ าลงเอยทีค่ วามหมดหวงั ไม่มที างสืบต่อกนั ไดเ้ ลย มแี ต่คิดว่า
ต้องหมดหวังท่าเดียว อาการของท่านรู้สึกสงบมากตลอดทางที่ไกล
แสนไกล มไิ ดแ้ สดงอาการใดๆ เลย เหมอื นคนนอนหลับเราดีๆ นี่เอง
ทง้ั ทที่ า่ นมไิ ดห้ ลบั พอไปถงึ สถานทม่ี ปี า่ ไมร้ ม่ เยน็ สำ� หรบั คนหมมู่ าก กข็ อ
อาราธนาทา่ นพกั ชวั่ คราว สงิ่ ทไ่ี มค่ าดฝนั ไดเ้ กดิ ขนึ้ อกี วาระหนงึ่ จากความ
อดรนทนไมไ่ ด้ คอื ทง้ั นา่ รกั ทง้ั นา่ สงสาร ทง้ั อาลยั ออ้ ยอง่ิ “เวลาทา่ นถาม
ออกมาวา่ มาถงึ ไหนแลว้ ” ดงั น้ี ทำ� ไมจงึ ไพเราะซาบซง้ึ จบั ใจเอาหนกั หนา
และเป็นเหมอื นท่านไม่ไดเ้ ปน็ อะไรเลย
“ทลู หวั ทลู กระหมอ่ มจอมไตรภพ จะสลดั ปดั ทงิ้ คนอนาถาทกี่ ำ� ลงั
หายใจอยู่ แต่หัวใจจะขาดดิ้นอยู่ขณะน้ีไปเสียแล้วหรือ ดวงหทัยที่
บริสุทธ์ิซ่ึงเคยเต็มไปด้วยเมตตาอนุเคราะห์ให้พอหายใจได้ตลอดมา
466
ไดถ้ อดถอนกลบั คนื สคู่ วามไมม่ อี ะไรเหลอื อยหู่ มดแลว้ หรอื ” ขณะนน้ั
ความรู้สึกได้เกิดขึ้นทันทีทันใด ใครจะว่าเป็นบ้าก็ยอมรับว่าเป็นจริงใน
ท่านอาจารย์องค์นี้ เป็นบ้าขนาดตายแทนท่านได้เลยโดยไม่มีอุทธรณ์
รอ้ นใจในชีวิตของตวั เอาเลย ขอแตท่ ่านแสดงความประสงค์จะเอาอะไร
ดว้ ยในตวั ของเรา จะไมม่ คี ำ� วา่ “เสยี ดายชวี ติ เลย” จะมแี ตค่ ำ� วา่ “พรอ้ ม
อยู่แลว้ ท่ีจะพลชี ีพทุกขณะ” เท่านัน้ ไม่มคี �ำเป็นอุปสรรคเข้ามาแฝงได้
อย่างเดด็ ขาด แตส่ ุดวิสยั แม้จะขอถวายอะไรทา่ นกไ็ ม่อาจรบั ได้ เพราะ
ในโลกธาตุนี้ต้องเดินทางสายเดียวกันไม่มีทางปลีก และออกจากค�ำว่า
“เกิดแล้วต้องตายจะเปน็ อ่นื ไปไม่ได”้ เลย
การออกเดินทางจากวดั หนองผอื เรม่ิ แตเ่ วลาประมาณ ๙ นาฬกิ า
มงุ่ หนา้ ไปพกั วดั บา้ นภู่ อำ� เภอพรรณานคิ ม จงั หวดั สกลนคร ชว่ั ระยะกอ่ น
พอท่านหายเหน่ือยบ้างแล้วเดินทางต่อไปสกลนคร ไปถึงวัดบ้านภู่ราว
๑๗ น.กวา่ ๆ ยงั ไมม่ ดื การเดนิ ทางกนิ เวลาหลายชวั่ โมงเพราะเดนิ ออ้ มเขา
เพอ่ื ความสะดวกสำ� หรบั องคท์ า่ น และคนแก่ทพ่ี ยายามตะเกยี กตะกาย
ตามส่งท่านมีมากทั้งหญิงท้ังชาย พอไปถึงวัดบ้านภู่แล้วก็อาราธนาท่าน
เขา้ พักที่ศาลาเตยี้ ๆ เพ่ือสะดวกแกก่ ารถวายการอปุ ัฏฐากรกั ษา ตลอด
ประชาชนพระเณรท่ีมากราบเย่ยี มอาการท่านกส็ ะดวก
นับแต่วันอาราธนาท่านไปพักท่ีนั่น อาการมีแต่ทรุดลงโดยล�ำดับ
ประชาชนพระเณรก็หล่ังไหลมามากเต็มไปหมด ทั้งเช้าท้ังบ่ายและเย็น
ตลอดกลางคนื เพราะใครกห็ วิ กระหายอยากมาเหน็ หนา้ และกราบเยยี่ มทา่ น
ซง่ึ จำ� นวนมากไมเ่ คยเหน็ หนา้ ทา่ นเลย ไดย้ นิ แตช่ อื่ เสยี งกติ ตศิ พั ทก์ ติ ตคิ ณุ
เลา่ ลือกันว่า ทา่ นเป็นพระอรหนั ต์ทงั้ องคใ์ นสมยั ปัจจบุ นั ไมส่ งสยั และ
467
กำ� ลังจะนพิ พานอยแู่ ล้วในเร็วๆ นี้ ใครมวี าสนาก็ได้เห็นทา่ น ใครไม่มี
วาสนากเ็ กิดมาตายเปลา่ จึงต่างกอ็ ยากมากราบไหวบ้ ูชาพอเปน็ ขวัญตา
ขวัญใจทไ่ี ด้เกดิ มาเปน็ มนษุ ย์กบั โลกเขาท้งั คน อย่าให้เสยี ชาติวาสนาไป
เปล่าๆ เลย
พอเชา้ วนั หลงั ทา่ นถามวา่ เมอื่ ไรจะพาผมไปสกลนคร ผมมไิ ดต้ ง้ั ใจ
จะมาตายทน่ี ี้ ตอ้ งพาผมไปสกลฯ ใหไ้ ด้ อยา่ รอไวน้ าน พระอาจารยท์ เี่ ปน็
ลูกศิษย์ท่านก็เรียนถวายว่า รอให้ท่านอาจารย์พอหายเหนื่อยบ้างแล้ว
จะอาราธนาไปสกลฯ ตามความประสงค์ ทา่ นกห็ ยดุ ไปบา้ ง พอวันหลัง
ก็เร่ิมถามอกี ทำ� นองที่เคยถามแล้ว พระอาจารย์กเ็ รยี นถวายท่าน ท่านก็
หยุดไปเปน็ ระยะ วันหลงั กถ็ ามอีก จะพาผมไปสกลฯ เมือ่ ไร อย่ารอช้า
จะไมท่ ันเวลา
ทอี่ าราธนาทา่ นมาพกั วดั นน้ั ราว ๑๐ วนั นบั แตเ่ วลาลว่ งไป ๔-๕ วนั แลว้
ท่านเร่งให้พาท่านไปสกลนครวันหน่ึงหลายครั้ง พระอาจารย์ทั้งหลายก็
นง่ิ บ้าง เรียนถวายทา่ นบา้ ง ท่านกเ็ รง่ และดเุ อาบ้างว่า จะให้ผมตายอยทู่ ี่
นี่เชยี วหรือ ผมบอกแล้วแต่ต้นทางกอ่ นจะมาวา่ ผมจะไปตายทสี่ กลนคร
นก้ี จ็ วนเตม็ ทแี ลว้ รบี พาผมไปอยา่ รอนาน ใน ๓ คนื สดุ ทา้ ยทา่ นเรง่ ใหญ่
มีแต่จะให้พาไปสกลนครโดยถ่ายเดียว เฉพาะคืนสุดท้ายท่านไม่ยอม
พักหลับเลย และเรยี กพระมาด้วยอาการรีบดว่ น เป็นเชงิ บ่งบอกอย่าง
ชัดแจ้งว่าท่านจะไม่สามารถทรงขันธ์อยู่ต่อไปอีกได้ ให้รีบพาท่านไปใน
คนื วนั นน้ั เพอ่ื ทนั กบั เวลา นอกจากนนั้ ยงั บอกใหพ้ ระพยงุ ทา่ นนง่ั ขดั สมาธิ
หนั หนา้ ไปทางสกลนคร พอออกจากสมาธกิ บ็ อกพระวา่ ใหเ้ ตรยี มพาทา่ น
ไปสกลนครในคืนวนั นน้ั
468
พวกเราตอ้ งไปตามพระผูใ้ หญ่มาเรยี นท่านวา่ พร่งุ นเี้ ชา้ จะอาราธนา
ทา่ นไปสกลนครตามความประสงค์ ทา่ นจงึ สงบลงบา้ ง แตไ่ มย่ อมนอนและ
บอกอยา่ งไมป่ ดิ บงั ดว้ ยวา่ “ผมจวนเตม็ ทแ่ี ลว้ จะรอตอ่ ไปไมไ่ ด้ ถา้ ไดไ้ ป
ในคืนนยี้ ิ่งเหมาะ จะไดท้ นั กบั เหตุการณซ์ ึ่งก�ำลังเรง่ รดั อยอู่ ยา่ งเต็มท่ี
ผมไม่อยากจะแบกขันธ์ซ่ึงเป็นไฟทั้งกองนี้อยู่นาน อยากจะปล่อย
ท้ิงเสียให้หายกังวลในขันธ์ อันเป็นกองแห่งมหันตทุกข์ความกังวล
อนั ใหญห่ ลวงนี้
ผมจวนเตม็ ทแ่ี ลว้ พวกทา่ นยงั ไมท่ ราบหรอื วา่ ผมจะตายในเรว็ ๆ นี้
จะเอาผมไว้ให้ทรมานขันธ์โดยไม่เกิดประโยชน์อะไรอีก เหตุผลก็ได้
ชแ้ี จงใหฟ้ งั จนเปน็ ทเี่ ขา้ ใจกนั หมดแลว้ ถงึ ไดม้ าทน่ี ี้ แตแ่ ลว้ ทำ� ไมจงึ ยงั
ขืนเอาผมไวอ้ ีกเล่า ทีน่ ีเ่ ป็นสกลนครหรอื ทำ� ไมไมร่ บี พาผมไป จงรบี
พาผมไปเด๋ียวนี้ รอไว้ท�ำไมกันอีก คนตายแล้วท�ำเป็นปลาร้าหรือ
นำ้� ปลาไดห้ รอื ผมบอกแลว้ วา่ เวลานธ้ี าตขุ นั ธผ์ มเตม็ ทนแลว้ จะทนอยู่
ต่อไปอีกไม่ได้ ยังไม่มีใครสนใจฟังและปฏิบัติตามที่ผมบอกอยู่หรือ
คำ� พูดขนาดน้ียังไม่พากนั ฟงั เสียงเลย แล้วพวกทา่ นจะไปหาของจรงิ
จากอะไรท่ไี หนกัน
ถ้ายังพากันดื้อท้ังท่ีผมยังมีชีวิตอยู่ และไม่พากันเช่ือฟังต่อหน้า
ตอ่ ตาเชน่ น้ี เวลาผมตายไปแลว้ พวกทา่ นจะเปน็ คนดมี เี หตผุ ลจากอะไร
ค�ำพูดทั้งหมดน้ีผมพูดด้วยเหตุผลท่ีตรองทราบว่าเป็นความจริง
ลว้ นๆ แลว้ แตพ่ วกทา่ นยงั ขนื ดอ้ื ไมท่ ำ� ตาม ผมรสู้ กึ จะหมดความหวงั
กบั พวกทา่ นในอนาคตวา่ จะเปน็ ผสู้ ามารถทรงศาสนาไปไดด้ ว้ ยความ
มเี หตผุ ลไดอ้ ย่างไรกัน”
469
ทา่ นเอาหนกั มากในคืนสุดทา้ ย ทั้งไมย่ อมหลบั นอนอีกด้วย ทที่ ่าน
ไม่ยอมหลับน้ันอาจเป็นเพราะเวลาหลับไป น่ากลัวจะเตลิดเลยก็ได้
พวกเราทอี่ ยดู่ ว้ ยกนั มากตอ่ มากไมม่ ใี ครสามารถทราบความมงุ่ หมายทา่ น
ตอนนี้ เลยต้องเดาเอามาลง ถ้าผิดไปจากความจริงกก็ รุณาอภัยด้วย
ตอนเชา้ ราว ๗ น.กวา่ ๆ รถแขวงการทางสกลนครก็มารับทา่ นพอดี
โดยมีคุณแม่นุ่ม ชุวานนท์ เป็นผู้น�ำหน้ามาอาราธนานิมนต์ท่านให้ไป
สกลนคร ทา่ นก็รบั คำ� ทนั ที มเี พียงพดู วา่ “รถมากคี่ ัน จะพอกบั พระเณร
จำ� นวนมากซงึ่ จะตดิ ตามไปดว้ ยหรอื เปลา่ ” เทา่ นน้ั เขาเรยี นทา่ นวา่ “มรี ถ
มา ๓ คนั แมพ้ ระทา่ นไปไมห่ มดกจ็ ะขอมารบั ทา่ นไปจนหมดทกุ องคท์ ท่ี า่ น
ประสงค์จะไป” ทา่ นทราบแลว้ นงิ่ พอฉนั เสร็จแลว้ หมอกเ็ ตรียมฉดี ยา
นอนหลบั ถวายทา่ นเพอ่ื กนั ความกระเทอื นเวลารถวง่ิ เพราะทางไมด่ เี ลย
สมยั นนั้ ขรขุ ระเตม็ ไปดว้ ยหลมุ ดว้ ยบอ่ พอฉดี ยาถวายแลว้ กอ็ าราธนาทา่ น
ขน้ึ นอนบนแคร่ หามออกไปขนึ้ รถ ซง่ึ จอดรออยฟู่ ากทงุ่ นาเขา้ มารบั ไมไ่ ด้
หลงั จากฉดี ยาถวายแลว้ ราว ๑๐ นาที ทา่ นกเ็ รมิ่ หลบั และเรม่ิ ออกเดนิ ทาง
ตรงไปจังหวดั สกลนคร ถึงโน้นเท่ยี งวันพอดี
เมอื่ ถงึ สกลนครเรียบร้อยแล้ว ก็อาราธนาท่านลงจากรถและข้ึนพัก
บนกฎุ ีวัดสทุ ธาวาส โดยทท่ี ่านก�ำลงั หลบั อยู่ และหลับไปจนถงึ เทย่ี งคนื
คอื ๖ ทมุ่ จงึ เรมิ่ ตน่ื พอตน่ื จากหลบั ขนึ้ มาไมน่ านนกั ราวตี ๑ น. อาการท่ี
ทา่ นเคยพดู ซำ้� ๆ ซากๆ ใหบ้ รรดาลกู ศษิ ยท์ ชี่ กั หตู งึ และใจสบั สนวนุ่ วายฟงั
ก็เริ่มแสดงให้เห็นชัดขึ้นทุกระยะเหมือนจะบอกว่า นี่นะท่านท้ังหลาย
เหน็ หรอื ยงั ทผ่ี มเคยบอกไมห่ ยดุ ปากวา่ ใหร้ บี พาผมมาสกลนคร จะไดร้ บี
ปลดปลอ่ ยสงิ่ รกรงุ รงั ทเี่ ตม็ ไปดว้ ยมหนั ตทกุ ขอ์ อกใหห้ มดในเรว็ ๆ ซงึ่ บดั น้ี
470
เรมิ่ แสดงอาการขน้ึ มาแลว้ ถา้ ยงั ไมเ่ หน็ กจ็ งพากนั ดู และถา้ ไมเ่ ชอื่ คำ� ทผี่ ม
บอกตลอดมา ก็จงพากนั ฟังและดเู สียใหเ้ ตม็ ตาและคดิ ใหเ้ ต็มใจ ท่ีผม
พดู แลว้ กบั สง่ิ ทกี่ ำ� ลงั เหน็ ประจกั ษต์ าอยเู่ วลานเ้ี ปน็ ความจรงิ ดงั ทเ่ี คยพดู ไว้
หรอื เปลา่ ตอ่ ไปจงอยา่ พากนั เปน็ พระหกู ระทะตาไมไ้ ผ่ ใจไมม่ คี วามรสู้ กึ
นึกคดิ ไตร่ตรองดงั ที่เคยเป็นมาแล้ว จะเปน็ คนใจจดื จางวา่ งเปลา่ จากสติ
ปญั ญาเครอื่ งไตรต่ รอง แลว้ จะหาทางเอาตวั รอดไปไมไ่ ด้ เรอ่ื งทกี่ ำ� ลงั เกดิ
อยูข่ ณะน้ีเป็นต้นเหตุ จงพากนั คิดอา่ น อย่านอนใจ ดังนี้
ขณะทท่ี า่ นเร่ิมแสดงอาการลาขนั ธ์ คือ ภารา หเว ปญจฺ กขฺ นฺธา
อนั เปน็ กองมหนั ตทกุ ขใ์ นโลกสมมตุ ทิ นี่ กั ปราชญท์ ง้ั หลายไมพ่ งึ ปรารถนา
อยากพบเหน็ อกี ตอ่ ไป เปน็ เวลาดกึ สงดั ปราศจากเสยี งและผคู้ นพลกุ พลา่ น
แตไ่ มน่ านนกั กเ็ รมิ่ เหน็ ครบู าอาจารยม์ ที า่ นเจา้ คณุ ธรรมเจดยี ์ วดั โพธสิ มภรณ์
อดุ รธานี เปน็ ตน้ ทยอยกนั มากฎุ ที า่ นดว้ ยอาการรบี รอ้ น นบั แตข่ ณะทพ่ี ระ
ไปเรยี นข่าวท่านอาจารย์ใหท้ ราบ พระอาจารย์ทัง้ หลายก็รีบพรอ้ มกันนั่ง
อย่างท่านท่ีเคยเห็นภัยมาแล้วด้วยท่าอันสงบ แต่ใจต่างมีความรุ่มร้อน
อ่อนใจ กระวนกระวายไปตามอาการท่ีก�ำลังแสดงอยู่อย่างสะดุดตา
สะดุดใจไมล่ ดละในขณะนัน้ ราวกับจะเตือนใหเ้ หน็ ชัดวา่ จะต้องผา่ นไป
นาทีใดนาทหี นึง่ ในเร็วๆ น้อี ย่างแน่นอน
การนั่งดูอาการท่านนั่งเป็นสามแถว แถวแรกเป็นพระผู้ใหญ่มีท่าน
เจ้าคณุ ธรรมเจดยี ์เปน็ ประธาน และพระอาจารย์รองล�ำดบั ออกมาจนถงึ
สามเณร ต่างนั่งด้วยท่าอันสงบอย่างย่ิง ตาจับจ้องมองดูอาการท่าน
ราวกับว่าลืมแล้วหลับไม่ลง ริมตาล่างเยิ้มไปด้วยน�้ำตาที่สุดจะอดกลั้น
ด้วยความอาลัยอาวรณ์อย่างบอกไม่ถูก ต่างตกอยู่ในตรอกแห่งความ
สน้ิ หวังไม่มีทางแกไ้ ข หวั ใจมกี ส็ ูดลมไปพอถงึ วนั ของเขาเท่าน้ัน
471
องค์ท่านเบ้ืองต้นนอนสีหไสยาสน์ คือตะแคงข้างขวา แต่เห็นว่า
ทา่ นจะเหน่ือย เลยคอ่ ยๆ ดงึ หมอนท่หี นุนอยขู่ ้างหลงั ทา่ นออกนดิ หนึ่ง
เลยกลายเป็นท่านอนหงายไป พอท่านรู้สึกก็พยายามขยับตัวกลับคืน
ท่าเดิม แต่ไม่สามารถท�ำได้เพราะหมดก�ำลัง พระอาจารย์ใหญ่ก็ช่วย
ขยับหมอนที่หนุนหลังท่านเข้าไป แต่ดูอาการท่านรู้สึกเหน่ือยมากเลย
ตอ้ งหยดุ กลวั จะกระเทอื นทา่ นมากไป ดงั นน้ั การนอนทา่ นในวาระสดุ ทา้ ย
จงึ เป็นทา่ หงายก็ไมใ่ ช่ ท่าตะแคงข้างขวากไ็ ม่เชงิ เปน็ เพียงทา่ เอยี งๆ อยู่
เท่านัน้ เพราะสุดวสิ ยั ท่จี ะแกไ้ ขไดอ้ กี อาการท่านก�ำลงั ดำ� เนินไปอย่าง
ไมห่ ยดุ ยง้ั บรรดาศษิ ยซ์ งึ่ โดยมากมแี ตพ่ ระกบั เณร ฆราวาสมนี อ้ ยทน่ี ง่ั อาลยั
อาวรณด์ ว้ ยความหมดหวังอย่ขู ณะนัน้ ประหนง่ึ ลมื หายใจไปตามๆ กัน
เพราะจติ พะวา้ พะวงอยกู่ บั อาการท่านซึ่งกำ� ลงั แสดงอยา่ งเต็มที่ เพอ่ื ถึง
วาระสดุ ทา้ ยอย่แู ล้ว
ลมหายใจทา่ นปรากฏวา่ คอ่ ยออ่ นลงทกุ ทแี ละละเอยี ดไปตามๆ กนั
ผนู้ ง่ั ดลู มื กะพรบิ ตาเพราะอาการทา่ นเตม็ ไปดว้ ยความหมดหวงั อยแู่ ลว้
ลมค่อยออ่ นและช้าลงทกุ ทีจนแทบไม่ปรากฏ วนิ าทีตอ่ ไปลมก็คอ่ ยๆ
หายเงยี บไปอยา่ งละเอยี ดสขุ มุ จนไมม่ ใี ครสามารถรไู้ ดว้ า่ ทา่ นไดส้ นิ้ ไป
แลว้ แตว่ นิ าทใี ด เพราะอวยั วะทกุ สว่ นมไิ ดแ้ สดงอาการผดิ ปกตเิ หมอื น
สามญั ทว่ั ๆ ไปเคยเป็นกัน ต่างคนตา่ งสงั เกตจอ้ งมองจนตาไม่กะพรบิ
สดุ ทา้ ยกไ็ มไ่ ดเ้ รอ่ื งพอใหส้ ะดดุ ใจเลยวา่ ขณะทา่ นลาขนั ธล์ าโลกทเี่ ตม็ ไป
ด้วยความกังวลหมน่ หมองคอื ขณะนน้ั ดังน้ี
พอเหน็ ทา่ ไมไ่ ดก้ าร ทา่ นเจา้ คณุ ธรรมเจดยี พ์ ดู เปน็ เชงิ ไมแ่ นใ่ จขน้ึ มา
วา่ “ไม่ใช่ท่านส้นิ ไปแล้วหรือ” พร้อมกบั ยกนาฬกิ าขน้ึ ดูเวลา ขณะน้นั
472
เป็นเวลาตี ๒ นาฬิกา ๒๓ นาที จึงได้ถอื เวลานัน้ เปน็ เวลามรณภาพ
ของท่าน พอทราบว่าทา่ นสิน้ ไปแลว้ เทา่ น้ัน มองดพู ระเณรทนี่ ั่งรุมล้อม
ท่านอยู่เป็นจ�ำนวนมาก เห็นแต่ความโศกเศร้าเหงาหงอยและน�้ำตาบน
ใบหนา้ ทไ่ี หลซมึ ออกมา ทง้ั ไอทง้ั จามทงั้ เสยี งบน่ พมึ พำ� ไมไ่ ดถ้ อ้ ยไดค้ วาม
ใครอยู่ที่ไหนก็ได้ยินเสียงอุบอิบพึมพ�ำท่ัวบริเวณน้ัน บรรยากาศเต็มไป
ด้วยความเงียบเหงาเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก เราก็เหลือทน ท่านผู้อ่ืน
กเ็ หลอื ทน ปรากฏว่าเหลือแต่รา่ งครองตวั อยู่เวลานน้ั
ตา่ งองคต์ า่ งนง่ิ เงยี บไปพกั หนงึ่ ราวกบั โลกธาตไุ ดด้ บั ลง ในขณะเดยี ว
กับขณะท่ีท่านอาจารย์ลาสมมุติคือขันธ์ก้าวเข้าสู่แดนเกษม ไม่มีสมมุติ
ความกงั วลใดๆ เขา้ ไปเกยี่ วขอ้ งวนุ่ วายอกี ผเู้ ขยี นแทบหวั อกจะแตกตาย
ไปกบั ทา่ นจรงิ ๆ เวลานนั้ ทำ� ใหร้ ำ� พงึ รำ� พนั และอดั อน้ั ตนั ใจไปเสยี ทกุ อยา่ ง
ไม่มีทางคิดพอขยับขยายจิตท่ีก�ำลังว้าวุ่นขุ่นเป็นตมเป็นโคลนไปกบั การ
จากไปของทา่ น พอใหเ้ บาบางลงบา้ งจากความแสนรกั แสนอาลยั อาวรณ์
ทสี่ ดุ จะกลา่ ว ท่ีทา่ นวา่ ตายทั้งเปน็ เห็นจะได้แก่คนไม่เปน็ ท่าคนนัน้ น่นั แล
พอความเงยี บสรา่ งซาลงบา้ ง พระผใู้ หญก่ ส็ งั่ ใหจ้ ดั ทนี่ อนใหเ้ รยี บรอ้ ย
และอาราธนาทา่ นให้นอนอยู่กบั ที่ท่ที ่านมรณภาพไปก่อน พรงุ่ นีเ้ ช้าคอ่ ย
พจิ ารณาปรกึ ษาหารอื กนั ใหม่ หลงั จากนั้นครบู าอาจารย์พระเณรกท็ ยอย
กันออกจากห้องท่านลงไปอยู่ข้างล่างบ้าง ยังอยู่เฉลียงนอกห้องบ้าง
มตี ะเกยี งเจา้ พายจุ ดุ อยอู่ ยา่ งสวา่ งไสวทว่ั บรเิ วณ แตบ่ รรดาศษิ ยก์ ลบั มดื มน
อนธการเหมอื นมืดมิดปิดตา ไม่รู้ทางออกทางเขา้ ทางไปทางมา ราวกบั
ถูกวางยาสลบให้ง่วงงนุ วกเวยี นอยทู่ น่ี ั้นหนีไปไหนไมไ่ ด้ บางทา่ นเปน็ ลม
ราวจะสลบลม้ ลงสนิ้ ใจไปพรอ้ มกบั ขณะทา่ นสนิ้ ลม เหมอื นอะไรๆ กส็ นิ้ สดุ
ไปตามทา่ นเสียสนิ้ เวลานัน้
473
เกิดความโกลาหลอลหม่านแบบไม่มีใครช่วยใครได้อย่างลึกลับ
ในสมาคมมหาวโิ ยคพลดั พรากในยามดกึ สงดั ตา่ งองคต์ า่ งงมุ่ งา่ มลบู คลำ�
ไปตามความเซอ่ ซา่ ลมื สตสิ ตงั มไิ ดก้ ำ� หนดทศิ ทางมดื แจง้ อะไรเลย เพราะ
อำ� นาจความเสยี ใจไรช้ น้ิ ดที เี่ กดิ จากความพลดั พรากแหง่ ดวงประทบี ทเี่ คย
ให้ความสว่างไสวมาประจำ� ชีวิตจิตใจได้ดับวูบส้ินสุดลง ปราศจากความ
อบอนุ่ ชมุ่ เยน็ เหมอื นก่อนมา ราวกบั วา่ ทุกส่งิ ไดข้ าดสะบั้นหั่นแหลกเป็น
จณุ วิจณุ ไปเสยี สน้ิ ไม่มีสง่ิ เป็นทพ่ี ่ึงพอเป็นท่หี ายใจไดเ้ ลย มนั สุดมนั มุด
มันด้านมันตีบตันอ้ันตู้ไปเสียหมดภายในใจ ราวกับโลกธาตุนี้ไม่มีอะไร
เป็นสาระพอเปน็ ที่เกาะของจติ ผู้กำ� ลังกระหายท่พี งึ่ ไดอ้ าศัยเกาะ พอได้
หายใจแม้เพยี งวนิ าทหี นงึ่ เลย
ทงั้ ทส่ี ตั วโ์ ลกทวั่ ไตรภพอาศยั กนั ประจำ� ภพกำ� เนดิ ตลอดมา แตจ่ ติ เรา
มนั อาภพั อับวาสนาเอาอยา่ งไรนักหนา จงึ เห็นโลกธาตเุ ป็นเหมอื นยาพิษ
เอาเสยี หมดในเวลานนั้ ไมอ่ าจเปน็ ทพ่ี ง่ึ ได้ ปรากฏแตท่ า่ นพระอาจารยม์ นั่
องค์เดียวเป็นชีวิตจิตใจเพื่อฝากอรรถฝากธรรม และฝากเป็นฝากตาย
ทกุ ขณะลมหายใจเอาเลย
สว่ นพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์สาวก ใจกไ็ มป่ รากฏว่า
ประมาท หากแตท่ า่ นอยลู่ กึ ตามความรสู้ กึ ในขณะนนั้ ไมส่ ามารถอาจเออื้ ม
ร้ือฟื้นข้ึนมาเป็นท่ีพ่ึง และเป็นสักขีพยานได้อย่างใจหวังเหมือนท่าน
อาจารยม์ นั่ ซงึ่ ทา่ นอยตู่ น้ื ๆ ทงั้ เหน็ ๆ และซมึ ซาบถงึ จติ ใจอยทู่ กุ ขณะทฟ่ี งั
ทา่ นอบรมชแี้ จงขอ้ อรรถขอ้ ธรรมในเวลาสงสยั เรยี นถามทา่ น ไมว่ า่ จะเปน็
ปญั หาชนดิ ใดทตี่ นไมส่ ามารถแกไ้ ขไดโ้ ดยลำ� พงั พอแบกมาเรยี นถวายทา่ น
และท่านเมตตาอนเุ คราะห์ชแ้ี จงใหเ้ ท่าน้นั เปน็ ตกไปในทันทที นั ใด มิได้
เผาลนหวั ใจอยู่ตอ่ ไปนานเลย
474
น้ีเปน็ จดุ ที่สลกั ลึกลงในหวั ใจ ท�ำใหเ้ กดิ ความกระเทือนใจมากเวลา
ท่านพลัดพรากจากไป เพราะไม่สนใจคิดว่าจะมีใครแก้ได้นอกจากท่าน
เทา่ นนั้ แลว้ ใครจะมามแี กใ่ จเมตตาแกเ่ รา และเราจะมแี กใ่ จไปเรยี นถาม
ใครเลา่ นอกจากนบั วนั จะนงั่ กอดเขา่ เฝา้ ความโงแ่ ละกองทกุ ขข์ องตนอยู่
เท่านัน้ ไมม่ ีทางออกอยา่ งง่ายๆ เหมือนเวลาอยกู่ บั ท่าน คดิ ไปเทา่ ไรก็
มีแต่ความอัดอั้นตันใจที่จะหาทางออกโดยล�ำพังอย่างปลอดภัยไร้ทุกข์
ซง่ึ ไมม่ ที างเอาเลยในความโงข่ องตนขณะนน้ั มแี ตค่ วามระบมงมทกุ ขอ์ ยู่
ท่าเดียว น่ังอยู่เหมือนคนตายสิ้นท่าแห่งความคิดเพ่ือเอาตัวรอด ไม่มี
ความคดิ ใดทจี่ ะพาไปสคู่ วามปลอดโปรง่ โลง่ ใจไดเ้ ลย ลมื เหนด็ ลมื เหนอื่ ย
ลมื เวลำ่� เวลา นง่ั รำ� พงึ แบบคนตายทงั้ ทยี่ งั หายใจอยู่ ในชวี ติ ของพระเพง่ิ มี
เพียงครง้ั นเ้ี ปน็ ชีวติ
ใจที่ขุ่นมัวกลัวทุกข์และว้าวุ่นเอาหนักหนาท่ีปราศจากผู้เมตตา
ชว่ ยเหลือ เปน็ ชวี ติ ทม่ี ืดมดิ ปดิ ตาย หาทางออกไมไ่ ดเ้ อาเลย ตาชำ� เลือง
ไปเหน็ องค์ทา่ นทน่ี อนปราศจากลมหายใจและความรสู้ ึกใดๆ ด้วยความ
สงบทไี ร นำ�้ ตาร่วงพรู น�ำ้ ตาร่วงพรูอย่างไม่เปน็ ทา่ ทกุ ที ทางภายในลม
สะอกึ สะอน้ื ในหวั อกหนนุ ใหเ้ กดิ ความตบี ตนั ขนึ้ มาปดิ คอหอย แทบจะไป
เสยี ในขณะนน้ั มสี ตริ ะลกึ ขน้ึ มาชว่ั ขณะวา่ เราจะไมข่ าดใจตายไปกบั ทา่ น
เดย๋ี วน้เี สียหรือ
พยายามพร่�ำสอนตนว่า ท่านตายไปด้วยความหมดห่วงหมดอาลัย
อนั เปน็ เรอื่ งของกเิ ลสโดยสนิ้ เชงิ แตเ่ ราตายไปดว้ ยความหว่ งความอาลยั
จะเป็นขา้ ศกึ ต่อตัวเอง ความอาลยั เสยี ดายและความตายของเราไม่เกิด
ประโยชนอ์ ะไรแกเ่ ราและแกท่ า่ น เวลาทา่ นมีชวี ติ อยกู่ ม็ ไิ ดส้ ่งั สอนใหเ้ รา
475
คดิ ถงึ ทา่ นและตายกบั ทา่ นแบบนี้ แบบนเ้ี ปน็ แบบทแ่ี ฝงอยกู่ บั โลกทเ่ี ขาใช้
กนั ตลอดมา แม้จะมีธรรมในใจอนั เป็นสาเหตใุ หค้ ิดถงึ ท่าน แต่ก็ยังแฝง
อยู่กบั แบบของโลกท่เี คยใชก้ ัน จงึ ไมค่ ่อยเป็นประโยชนส์ �ำหรับนักบวช
เฉพาะอยา่ งยงิ่ คอื ตวั เราทกี่ ำ� ลงั มงุ่ ธรรมขน้ั ….อยอู่ ยา่ งเตม็ ใจจงึ ไมค่ วรคดิ
อยา่ งย่งิ
พระพทุ ธเจา้ ทา่ นตรัสไว้ว่า ผใู้ ดปฏบิ ตั ธิ รรมสมควรแก่ธรรม ผู้นั้น
ชอ่ื วา่ บชู าตถาคต ผใู้ ดเหน็ ธรรม ผนู้ น้ั เหน็ เราตถาคต ฉะนนั้ ความคดิ ถงึ
แบบน้จี งึ ยังไม่เขา้ กบั ธรรมเหลา่ น้ไี ด้สนทิ สง่ิ ทจี่ ะเข้ากันไดส้ นทิ คอื การ
ปฏบิ ตั ติ นตามคำ� สอนทท่ี า่ นอาจารยส์ อนไวแ้ ลว้ อยา่ งไรดว้ ยความถกู ตอ้ ง
แมน่ ยำ� นนั่ เปน็ ความคดิ ถงึ ทา่ นโดยถกู ตอ้ ง แมจ้ ะตายเพราะการฝกึ
ทรมานตนตามหลกั ธรรมกช็ อ่ื วา่ ตายอยา่ งถกู ตอ้ ง ควรคดิ และปฏบิ ตั ติ น
ตามแบบนี้ จะสมกบั วา่ เรามาศกึ ษากบั ทา่ นเพอื่ เหตเุ พอ่ื ผล อยา่ ทำ� ความ
อาลยั เสยี ดายทา่ นแบบโลกมาขวางธรรม จะเปน็ เสย้ี นหนามแกต่ วั เปลา่ ๆ
จงึ พอไดส้ ตสิ ตงั คดิ นอ้ มเอาธรรมมายบั ยงั้ ชโลมใจทกี่ ำ� ลงั ถกู มรสมุ พดั ผนั
ทงั้ ดวง และพอมชี วี ติ รอดมาได้ ไมจ่ มลงดว้ ยแบบไมเ่ ปน็ ทา่ เสยี แตค่ รงั้ นน้ั
พอรงุ่ เชา้ ทง้ั พระผใู้ หญท่ ง้ั ขา้ ราชการทกุ แผนกในตวั จงั หวดั ทราบขา่ ว
มรณภาพของท่านอาจารย์ ต่างก็รีบออกมากราบเยี่ยมศพท่าน และ
ปรึกษาหารือกิจการเกี่ยวกับศพท่านว่าจะควรปฏิบัติอย่างไร เพ่ือความ
เหมาะสมและเปน็ การถวายเกยี รตโิ ดยควรแกฐ่ านะ ทที่ า่ นเปน็ พระอาจารย์
องคส์ ำ� คญั ทปี่ ระชาชนเคารพเลอื่ มใสมากแทบทวั่ ประเทศไทย พรอ้ มกบั
น�ำเรื่องท่านไปออกข่าวทางวิทยุและหนังสือพิมพ์ เพ่ือประชาชนท่ีเป็น
ลกู ศษิ ยแ์ ละทา่ นทเี่ คารพเลอื่ มใสในทา่ น ซงึ่ อยใู่ นทต่ี า่ งๆ ทง้ั ใกลแ้ ละไกล
476
ไดท้ ราบโดยทวั่ กนั พอขา่ วทา่ นมรณภาพกระจายไปถงึ ไหน ทง้ั ประชาชน
และพระเณรท้ังใกล้และไกล ต่างพากันหลั่งไหลมากราบเย่ียมศพท่าน
ถงึ ทน่ี น้ั มไิ ดข้ าด นบั แตว่ นั มรณภาพจนถงึ วนั ถวายฌาปนกจิ ศพทา่ น ทง้ั ท่ี
มากลบั และมาค้างคืน โดยมากทีม่ าจากทางไกลก็จ�ำต้องค้างคนื เพราะ
การคมนาคมไม่ค่อยสะดวกเหมอื นทกุ วนั นี้
วัตถุไทยทานที่ต่างท่านต่างน�ำมาถวายบูชาท่านมีมากต่อมาก
จนเหลือหูเหลือตาไม่อาจพรรณนานับได้ นับแต่วันท่านเริ่มออกมาพัก
ที่วัดบ้านภู่ อำ� เภอพรรณานิคม เครอ่ื งไทยทานที่มีผ้ศู รัทธาในทา่ นนำ� มา
ถวายบูชามิได้ขาดเลย เหมือนน�้ำเหมือนท่าท่ีไหลรินในฤดูฝนฉะนั้น
ตามปกตเิ มอื่ ทา่ นยงั มชี วี ติ อยเู่ ปน็ ผมู้ อี ตเิ รกลาภมากอยแู่ ลว้ ไมว่ า่ ทา่ นจะ
พกั ในปา่ ในเขาหรือในท่ีเชน่ ไร ยอ่ มมเี ทวบุตรเทวธดิ าผ้ใู จบญุ พยายาม
ขวนขวายและด้นดนั้ ซอกซอนเข้าไปถวายทา่ นจนได้
ปกตนิ สิ ยั ทา่ นเปน็ นกั เสยี สละอยแู่ ลว้ มมี าไดม้ าเทา่ ไร ทา่ นบำ� เพญ็
ทานสงเคราะหไ์ ปเรอ่ื ยๆ ไมม่ คี ำ� วา่ ตระหนถี่ เ่ี หนยี วหรอื เสยี ดาย ไมว่ า่ วตั ถุ
ชนิดไร มรี าคาต�ำ่ หรอื สงู ทา่ นใหท้ านไดเ้ สมอกันหมด พดู ถึงความจน
ของพระก็น่าจะไม่มีท่านผู้ใดจนไปกว่าท่าน การได้มาก็รู้สึกเด่นอยู่มาก
แตท่ างเขา้ คอื ไดม้ ากบั ทางออกคอื การบริจาคทาน รู้สกึ กว้างเทา่ กนั หรอื
ทางออกอาจกว้างกว่าเสยี อกี เราพอทราบได้ เวลาได้มาแลว้ ไม่กวี่ นั ท่าน
ให้ทานไปหมด เวลาไม่มีมาแต่บางโอกาสท่านอาจคิดอยากสงเคราะห์
ผู้อื่นอยู่บ้างตามนิสัย เป็นเพียงท่านไม่ออกปากพูดเท่านั้น ท่านไปพัก
ที่ใดวัดแถวใกล้เคียงจะได้รับการสงเคราะห์โดยทั่วถึง ฉะน้ัน แม้ท่าน
มรณภาพแล้ว ขา่ วไปถึงไหนศรทั ธาญาตโิ ยมกม็ ักจะมาถงึ นน้ั พร้อมทง้ั
477
เครอ่ื งบรจิ าคตดิ ตวั มาดว้ ย เวลาตง้ั ศพทา่ นไวศ้ าลาวดั สทุ ธาวาส จงึ มที า่ น
ผ้ศู รทั ธามาบรจิ าคท�ำบุญมไิ ด้ขาด
ศพท่านทั้งฝ่ายพระผู้ใหญแ่ ละขา้ ราชการเหน็ ตอ้ งกนั ว่า ควรเก็บไว้
จนถงึ เดอื นสามขา้ งขน้ึ คอื ตน้ ปี พ.ศ. ๒๔๙๓ คอ่ ยถวายฌาปนกจิ ศพทา่ น
ด้วยเหตนุ ้จี งึ ได้พร้อมกนั จดั หีบถาวรเพือ่ บรรจศุ พทา่ น
ในวนั ตอ่ มาเวลาบ่าย ๔ โมง ประชาชน พระ เณรจำ� นวนมากมาย
พร้อมกนั สรงนำ้� ศพทา่ น เสร็จแลว้ ใช้ผ้าขาวพบั ห่อพันองค์ท่านหลายชั้น
ภายนอกจีวรท่ีครองถวายเรียบร้อยแล้วอาราธนาเข้าในหีบศพถาวร
หลังจากนั้นคณะศรัทธามากท่าน มีท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์เป็นประธาน
ปรกึ ษากนั ตกลงจดั ใหม้ กี ารสวดมนตถ์ วายทา่ นทกุ คนื และมกี ารแสดงธรรม
ด้วยในวาระเดยี วกัน สว่ นหบี ศพทา่ นดา้ นหนา้ ปิดด้วยกระจก เพอื่ ทา่ น
ผู้มาแต่ไกลยังไม่เห็นองค์ท่าน ประสงค์อยากดูย่อมเป็นความสะดวก
ไม่เสียใจว่ามาถึงแลว้ ไม่ได้เห็นท่าน
การสวดมนตถ์ วายทา่ น มปี ระชาชนและพระเณรมารว่ มพธิ วี นั ละมากๆ
งานคราวนไี้ ดเ้ หน็ นำ้� ใจพนี่ อ้ งชาวสกลนครเรา ทง้ั ทา่ นขา้ ราชการทกุ แผนก
ตลอดพ่อค้าประชาชนท่ัวหน้ากันที่มีศรัทธาแข็งแรงและห้าวหาญในการ
บริจาค และเอาการเอางานในธุระหน้าที่ไม่มีความย่อท้ออ่อนแอเลย
นบั แตว่ นั ทา่ นอาจารยไ์ ปถงึ และมรณภาพจนถงึ วนั งานถวายฌาปนกจิ ศพทา่ น
พ่ีน้องชาวสกลนครเรา ต่างว่ิงเต้นขวนขวายท่ีจะให้พระเณรได้รับความ
สะดวกในปัจจัยสี่ และกิจการใหญ่โตที่ขวางหน้าอยู่ให้ส�ำเร็จไปด้วยดี
และมเี กยี รติ โดยไมเ่ หน็ แกค่ วามเหนด็ เหนอ่ื ยและสนิ้ เปลอื งใดๆ ทงั้ สนิ้
478
พระมากมายท่ีมากราบนมัสการเย่ียมศพท่านอาจารย์ในระหว่าง
ก่อนจะถึงวันงานเป็นเวลาสามเดือน และพระเณรอยู่ประจ�ำเพื่อดูแล
กจิ การจำ� นวนเปน็ รอ้ ยขน้ึ ไป พนี่ อ้ งทง้ั หลายมิไดย้ อ่ ทอ้ ทง้ั ผู้ใหญ่ผูน้ อ้ ย
ตา่ งพรอ้ มใจกนั มศี รทั ธาใสบ่ าตร จนกวา่ พระเณรจำ� นวนมากจะผา่ นไปหมด
ทกุ องคแ์ ทบเป็นลม แมเ้ ช่นนน้ั กไ็ ม่ยอมลดละความเพยี ร คงพรอ้ มกัน
พยายามโดยสมำ�่ เสมอ อาหารบณิ ฑบาตไมเ่ คยบกพรอ่ งเลย มแี ตเ่ หลอื เฟอื
ตลอดสาย ไมว่ า่ พระเณรจะมาเพมิ่ มากเพยี งไร ไมม่ วี ติ กวจิ ารณว์ า่ อาหาร
จะบกพรอ่ งขาดเกนิ ผเู้ ขยี นเหน็ ดว้ ยตาตวั เองตลอดงาน จงึ อดทจี่ ะจารกึ
ความดีงามและความพร้อมเพรียงสามัคคีของพ่ีน้องลงสู่จิตใจอย่างลึก
ไม่มีวันหลงลมื มไิ ด้
ผเู้ ขยี นไมน่ กึ ไมฝ่ นั วา่ จะไดเ้ หน็ ความอดทน ความทนทาน ความเสยี สละ
ทกุ ดา้ นของพน่ี อ้ งดงั กลา่ วขนาดนี้ พอเหน็ แลว้ ถงึ ใจจำ� ตดิ ตาตดิ ใจไมล่ มื เลย
จงึ ขอชมเชยสรรเสรญิ พนี่ อ้ งชาวสกลนครเราไวใ้ นทนี่ ดี้ ว้ ยวา่ เปน็ ศรทั ธา
แมเ่ หล็กไม่มยี ่อหยอ่ นออ่ นก�ำลังต่อภาระหน้าทที่ กุ ดา้ นในการนี้ ผู้เขยี น
มคี วามอบอนุ่ ไวว้ างใจอยา่ งฝงั ลกึ ตลอดมา นบั แตไ่ ดเ้ หน็ เหตกุ ารณส์ ำ� คญั
ครง้ั นนั้ มาแล้วดว้ ยตาตวั เอง จงึ ขอจารึกไวใ้ นใจตลอดจนอวสาน ไม่มวี ัน
หลงลืมเลย
พระเณรที่มาช่วยดูแลงานท่ีควรท�ำเพ่ือเตรียมรับท่านท่ีมาในงาน
โดยมีฆราวาสญาติโยมเปน็ แรงงาน ก็นา่ เหน็ ใจท้ังสองฝา่ ย เพราะเพยี ง
ระหว่างท่ียังไม่ถึงวันงานก็มีพระเณรมากอยู่แล้ว ยิ่งถึงวันงานเข้าจริงๆ
ไดก้ ะการกนั ไวว้ า่ ทง้ั พระเณรและฆราวาสทจี่ ะมาในงานนตี้ อ้ งเปน็ จำ� นวน
หมน่ื ขน้ึ ไป ฉะนน้ั จำ� ตอ้ งพากนั เตรยี มจดั ทำ� ปะรำ� ตา่ งๆ ทง้ั ทพ่ี กั ทง้ั โรงครวั
479
ไว้มากเท่าท่ีจะมากได้ เพ่ือความสะดวกในงาน ซึ่งเป็นงานใหญ่และมี
ประชาชนจะมาร่วมเป็นจ�ำนวนมาก โดยเริม่ งานตัง้ แตท่ ่านเร่ิมมรณภาพ
ไปจนถึงวันงานกพ็ อดี
พอจวนวันงานจะมาถึง พระเณรและประชาชนนับวันหล่ังไหล
มาทุกทิศทุกทางทั้งใกล้ทั้งไกล จนเจ้าหน้าท่ีคอยต้อนรับแทบเป็นลม
รบั ไมห่ วาดไมไ่ หว จวนวนั เขา้ เทา่ ไรยงิ่ ลน้ ไหลกนั มา จนหาทพี่ กั ใหไ้ มไ่ ดพ้ อ
กบั จำ� นวนคนและพระเณรทม่ี า พอถึงวันงานเข้าจรงิ ๆ บริเวณวดั ทง้ั กุฎี
ทง้ั ปา่ กวา้ งๆ ในวดั เตม็ ไปดว้ ยพระเณรทมี่ าจากทตี่ า่ งๆ มองดกู ลดขาวเปรยี๊ ะ
ไปทงั้ ปา่ เฉพาะภายในวดั สทุ ธาวาสมพี ระเณรทง้ั หมดในวนั งานกวา่ ๘๐๐
ทีพ่ ักอยู่ตามวดั ตา่ งๆ พอไปมาหาสู่งานไดส้ ะดวกมจี ำ� นวนมากพอดู
เมื่อรวมพระเณรท่ีมาในงานทั้งพักในวัดและนอกวัดมีจ�ำนวนกว่า
๑,๐๐๐ รปู สว่ นฆราวาสญาตโิ ยมทพ่ี กั อยใู่ นวดั กน็ บั ไมไ่ หว เพราะเหลอื หู
เหลอื ตาทจ่ี ะนบั อา่ นได้ ทพี่ กั อยตู่ ามรม่ ไมท้ งุ่ นากม็ แี ยะ ทพ่ี กั อยใู่ นตวั เมอื ง
กม็ าก ตามโรงแรมตา่ งๆ เตม็ ไปหมด จนไมม่ โี รงแรมใหพ้ กั พอกบั จำ� นวนคน
เวลามารวมในงานแลว้ นับไม่ได้ เพยี งคาดคะเนเอาประมาณหลายหม่ืน
แต่แปลกและน่าอัศจรรย์อยู่อย่างหน่ึง ท่ีไม่มีเสียงดังสมคนมากมาย
เหมอื นงานทงั้ หลายทเ่ี คยมกี นั ไดย้ นิ เฉพาะเครอื่ งกระจายเสยี งทท่ี ำ� การ
โฆษณาประจ�ำงานในเร่ืองตา่ งๆ ซง่ึ เกยี่ วกบั งานของวดั เท่านั้น
งานนไ้ี มม่ มี หรสพคบงันใดๆ ท้งั ส้ิน เพราะเปน็ งานกรรมฐานล้วนๆ
เคร่ืองไทยทานท่ีประชาชนต่างมีศรัทธาน�ำมาสมโภชโมทนาช่วยเหลือ
ในงานน้ี อยากจะพดู วา่ กองเทา่ ภเู ขาลกู ยอ่ ยๆ เรานเ่ี อง ขา้ วกร่ี อ้ ยกระสอบ
อาหารก่ีสิบก่ีร้อยรถยนต์ท่ีต่างท่านต่างขนมา มาด้วยก�ำลังศรัทธาอย่าง
480
ไม่อดั ไม่อน้ั ผา้ ทน่ี �ำมาเพือ่ ถวายบังสุกุลอทุ ศิ ส่วนกศุ ลถวายทา่ นอาจารย์
กอ็ ยากจะพดู วา่ กองใหญย่ ง่ิ กวา่ โรงงานทอผา้ เสยี อกี ซง่ึ ผเู้ ขยี นกไ็ มเ่ คย
ไปเห็นโรงงานทอผ้าเลย ไม่ทราบว่าใหญ่โตขนาดไหน แต่กองผ้าของ
คณะศรัทธาทง้ั แผ่นดินที่ตา่ งท่านตา่ งนำ� มานี้รู้สกึ มากกวา่ น้นั จงึ กลา้ เดา
ด้วยความกลา้ หาญไมก่ ลวั ผิด
ตอนนข้ี ออภยั ทา่ นผอู้ า่ นมากๆ ดว้ ยผเู้ ขยี นชกั เพอ้ ไป เพราะความภมู ใิ จ
ในไทยทานของทา่ นนกั ใจบญุ ทงั้ หลาย ไมน่ กึ วา่ คนไทยเราจะเปน็ นกั ใจบญุ
ถึงขนาดนั้น เห็นเครื่องแสดงน้�ำใจออกมาแล้วจึงอัศจรรย์ท่านศรัทธา
ท้ังหลายมาจนบัดนี้ ว่าคนไทยเราเป็นนักเสียสละ นักสังคหวัตถุคือ
นกั ใหท้ านอยา่ งไมอ่ น้ั ไมเ่ สยี ดาย ฉะนน้ั เมอื งไทยเราแมจ้ ะเปน็ เมอื งเลก็
ในสายตาของเมอื งใหญท่ งั้ หลาย แตก่ ารเสยี สละใหท้ านดว้ ยศรทั ธาและ
ดว้ ยความเมตตาน้ี แมแ้ ตเ่ มอื งใหญๆ่ กส็ ไู้ มไ่ ด้ สมกบั เมอื งไทยเปน็ เมอื ง
พทุ ธศาสนาทส่ี งั่ สอนคนใหม้ คี วามเมตตาตอ่ กนั เมอื งไทยเราจงึ เปน็ เมอื ง
ของคนมอี ธั ยาศยั กวา้ งขวาง ไมค่ บั แคบตีบตันตลอดมาแต่ดึกด�ำบรรพ์
งานนกี้ เ็ ชน่ กนั เปน็ งานทส่ี มบรู ณพ์ นู ผลเสยี ทกุ อยา่ ง จากบรรดาศรทั ธา
ผเู้ สยี สละทง้ั หลาย ตา่ งมาบรจิ าคใหท้ านอยา่ งไมอ่ น้ั หมอ้ ขา้ วหมอ้ แกง อาหาร
คาวหวานตา่ งๆ เหน็ แลว้ เลยนา่ กลวั มากกวา่ จะนา่ ฉนั เพราะใหญโ่ ตมาก
ห้วิ คนเดียวไม่ไหว ตอ้ งช่วยกนั หวิ้ หรือหามเข้ามาส่ปู ะรำ� ทีพ่ ระท่านฉัน
ท�ำเลท่ีฉันต้องจัดหลายแห่ง แห่งละประมาณ ๓๐–๔๐ องค์บ้าง
๕๐–๖๐ องคบ์ า้ ง ทั่วไปหมด ตามกุฎพี ระเถระบา้ ง แหง่ ละ ๙–๑๐ องค์
แตส่ ะดวกในการจดั แจกอาหารทไี่ มต่ อ้ งจดั สำ� รบั ใหว้ นุ่ วายและสน้ิ เปลอื ง
สำ� รบั และถว้ ยชาม เพราะมแี ตพ่ ระกรรมฐานเสยี มากราว ๙๐ เปอรเ์ ซน็ ต์
481
ทต่ี อ้ งจดั สำ� รบั ถวายกม็ พี ระผใู้ หญฝ่ า่ ยปกครองและพระผตู้ ดิ ตามไมม่ ากนกั
เมอ่ื ยกหมอ้ ขา้ วหมอ้ แกงถวายพระทา่ นแลว้ กจ็ ดั ใสบ่ าตรกนั เอง คาวหวาน
รวมลงในบาตรใบเดยี วเทา่ นน้ั เพราะปกติท่านเคยฉันสำ� รวมอยแู่ ลว้
อาหารมีมากจนเหลือเฟือ ตลอดงานไม่มีอดอยากขาดแคลนเลย
ด้วยอำ� นาจศรทั ธาของพทุ ธศาสนิกชน และอ�ำนาจบารมีทา่ นอาจารย์มัน่
ท่านคุ้มครองรักษา ไม่เคยปรากฏว่ามีการด่ืมเหล้าเมาสุราและทะเลาะ
ววิ าทฆา่ ตี และฉกลกั ขโมยปล้นจส้ี ง่ิ ของของกนั และกนั เลย
เมอื่ เกบ็ สง่ิ ของทม่ี ผี ทู้ ำ� ตกหายได้ กน็ ำ� ไปมอบกองโฆษณาใหป้ ระกาศ
หาเจา้ ของ ถา้ เปน็ สงิ่ ของมคี า่ ผโู้ ฆษณาไมบ่ อกรปู ลกั ษณะ เปน็ เพยี งประกาศ
ให้ทราบว่าของมีค่าของท่านผู้ใดตกหายเชิญมาติดต่อแสดงหลักฐานที่
กองโฆษณา ถา้ รปู ลกั ษณะตรงกนั แลว้ กม็ อบใหเ้ จา้ ของไป ถา้ เปน็ สงิ่ ของ
ธรรมดากบ็ อกชอ่ื สง่ิ ของหรอื รปู ลกั ษณะใหเ้ จา้ ของมารบั เอาไป ถา้ เปน็ เงนิ
ก็บอกเพียงวา่ เงนิ ตกหาย ไมบ่ อกจ�ำนวนหรอื สงิ่ บรรจเุ งนิ เช่น กระเปา๋
เปน็ ตน้ ใหเ้ จา้ ของมาบอกจำ� นวนและสงิ่ บรรจเุ อาเอง เมอื่ บอกไดถ้ กู ตอ้ ง
ก็มอบให้เจา้ ของไปตามธรรมเนียม
งานน้มี ี ๓ คืนกับ ๔ วนั และงานน้เี ปน็ งานทแ่ี ปลกและอศั จรรย์
เปน็ พเิ ศษ คอื คนมามากตอ่ มากแตไ่ มม่ กี ารสง่ เสยี งหนงึ่ ไมท่ ะเลาะววิ าท
ฆา่ ตีกนั หนึ่ง ไม่มกี ารขโมยของกันลว้ งกระเป๋ากันหน่ึง เก็บสิ่งของมีคา่
ได้ยังอุตส่าห์น�ำไปมอบให้เจ้าหน้าท่ีกองโฆษณาหนึ่ง ไม่มีคนด่ืมเหล้า
เมาสรุ ามาอาละวาดเกะกะในบรเิ วณงานหนง่ึ พระเณรกส็ งบเสงยี่ มงามตา
นา่ เคารพเลอ่ื มใสหน่งึ แตล่ ะขอ้ ยากจะมีในงานหนึ่งๆ จงึ อดจะเรยี กวา่
เป็นงานแปลกมไิ ด้
482
ตอนกลางคนื ราว ๒ ทมุ่ มกี ารสวดมนตแ์ ละมาตกิ าบงั สกุ ลุ ถวายทา่ น
ทุกคืน และมกี ารแสดงธรรมทุกคืน ตอนเช้าหลงั จากฉันเสร็จแลว้ มกี าร
มาตกิ าบงั สกุ ลุ ไปเรอ่ื ยๆ ไมค่ อ่ ยมกี ำ� หนดเวลาตายตวั นกั เพราะศรทั ธาและ
พระเณรมมี าก ถา้ จะรอทำ� ตามเวลาคงไมท่ นั กบั เหตกุ ารณ์ ดงั นน้ั จงึ เปดิ
โอกาสใหต้ ามแตท่ า่ นผใู้ ดจะมศี รทั ธานมิ นตพ์ ระมากนอ้ ยไดต้ ามกำ� ลงั และ
เวลาท่ีต้องการ การนิมนต์พระต้องผ่านทางกองโฆษณาท�ำหน้าท่ีแทน
ถา้ จะเทย่ี วตามนมิ นตเ์ ปน็ ไมเ่ จอพระองคท์ ตี่ อ้ งการ เพราะพระมากตอ่ มาก
ท่ีจ�ำต้องนิมนต์ทางเครื่องกระจายเสียงโดยเห็นว่าเป็นความสะดวกกว่า
เพราะรายชอ่ื ของพระเณรทมี่ าในงาน ทางกองบญั ชพี ระไดจ้ ดชอ่ื และฉายา
ทา่ นไวพ้ ร้อมแลว้ แต่ขณะท่านมาถงึ วดั ทแี รก ท้งั นเ้ี นื่องจากกองโฆษณา
ไดป้ ระกาศอยเู่ สมอวา่ พระเณรอาคนั ตกุ ะทเี่ ขา้ มาในงานขอนมิ นตไ์ ปแจง้
รายช่ือและฉายาที่กองโฆษณาทุกรูปไป มีเจ้าหน้าที่เตรียมรอคอยอยู่
พรอ้ มแล้ว เพือ่ ทราบจ�ำนวนพระเณรทม่ี าในงานนี้ เวลานมิ นตใ์ นกจิ ธุระ
จะไดถ้ กู กับชอื่ และฉายาของพระเณรองค์นน้ั ๆ
การบิณฑบาตของพระในงานน้ี นอกจากวนั งานทา่ นไปตามหมบู่ ้าน
ตา่ งๆ แถวนนั้ และไปในเมอื ง วนั งานคณะศรทั ธาทง้ั หลายอาราธนานมิ นต์
ทา่ นรบั บณิ ฑบาตตามบรเิ วณงาน นอกวดั บา้ ง ในวดั บา้ ง หลายแหง่ ทศ่ี รทั ธา
เตรยี มใสบ่ าตรทา่ น งานนที้ า่ นทำ� พธิ เี ปดิ มกี ำ� หนด ๓ คนื กบั ๔ วนั ซงึ่ เรม่ิ
แต่วันขน้ึ ๑๐ ค�ำ่ เดือน ๓ ถวายฌาปนกิจศพท่านคืนของวันขน้ึ ๑๓ คำ่�
ราว ๖ ทุ่ม พอรุ่งเช้าของวนั ขึน้ ๑๔ คำ�่ ก็เป็นวันเกบ็ อฐั ทิ า่ น ส่วนวันที่
และเดอื นอะไรนนั้ จำ� ไมค่ อ่ ยได้ กรณุ านำ� ไปเทยี บกบั ปฏทิ นิ รอ้ ยปอี าจพอ
ทราบได้
483
การดำ� เนินงานเก่ยี วกบั มาตกิ าบังสุกลุ อุทิศถวายทา่ นนั้น เริม่ มาแต่
วันเร่มิ งานเรือ่ ยมาท้ังกลางวันกลางคืนไมม่ กี �ำหนดตายตวั ดงั ทีเ่ รยี นมา
บา้ งแลว้ เพราะท่านที่ศรทั ธาจะถวายบงั สกุ ุลมีมากตอ่ มาก จะรอให้ทำ�
ตามก�ำหนดเวลารู้สึกไม่สะดวก เพราะท่านที่มาในงานโดยมากมาจากที่
ไกลๆ กนั ทงั้ นนั้ เมอื่ มาถงึ ควรจะทำ� ไดเ้ มอื่ ไรควรเปดิ โอกาสใหบ้ ำ� เพญ็ ตาม
ความสะดวก ท่านผู้ใดต้องการพระหรือเณรจ�ำนวนเท่าไร ก็ติดต่อกับ
หน่วยโฆษณาให้อาราธนานิมนต์ให้ รู้สึกเป็นความสะดวกและได้ถือ
ปฏบิ ัตทิ �ำนองน้ีตลอดงาน
สว่ นเมรเุ ปน็ ทบ่ี รรจศุ พทา่ น ไดจ้ ดั ขนึ้ ในบรเิ วณทพ่ี ระอโุ บสถอยเู่ วลาน้ี
รสู้ กึ สวยงามมาก สมเกยี รติ ทำ� เปน็ จตรุ มขุ มลี วดลายแปลกประหลาดมาก
ผู้เขียนไม่ช�ำนาญในรูปลักษณะตลอดชื่อของลวดลายต่างๆ ที่นายช่าง
ผชู้ ำ� นาญงานทำ� ถวายทา่ น ถา้ จำ� ไมผ่ ดิ วนั ขนึ้ ๑๑ คำ่� เปน็ วนั อาราธนาทา่ น
ไปสเู่ มรุ กอ่ นหนา้ เลก็ นอ้ ยบรรดาลกู ศษิ ยท์ ง้ั พระและประชาชนไดพ้ รอ้ ม
กนั ทำ� วตั รขอขมาโทษทา่ นเปน็ ทเ่ี รยี บรอ้ ย หลงั จากนนั้ กอ็ าราธนาไปสเู่ มรุ
ตอนนค้ี งอดทนไมไ่ หว ไดเ้ กดิ โกลาหลวนุ่ วายกนั ขน้ึ อกี จนได้ คราวนเ้ี ปน็
คณะลกู ศษิ ยฝ์ า่ ยฆราวาสหญงิ ชาย พอเรม่ิ อาราธนาทา่ นเคลอ่ื นทไ่ี ปสเู่ มรุ
ตา่ งมอี ากปั กริ ยิ าทไ่ี มค่ อ่ ยแจม่ ใสขนึ้ มาในขณะนนั้ นำ�้ หนู ำ�้ ตากริ ยิ าเศรา้ โศก
และเสยี งร้องไหเ้ ริม่ แสดงออกเปน็ ล�ำดบั
นบั แตข่ ณะทา่ นเคลอ่ื นจากทไ่ี ปสเู่ มรรุ สู้ กึ วนุ่ วายสบั สนพอดู ในสงั คม
แหง่ ความวโิ ยคพลดั พรากจากไปแหง่ ทา่ นผมู้ บี ญุ หนาเมตตาราวมหาสมทุ ร
สดุ ขอบเขตไมม่ ปี ระมาณ บรรดาลกู ศษิ ยบ์ รวิ ารตา่ งรอ้ งไหด้ ว้ ยความอาลยั
เสยี ดาย เพราะครง้ั นเ้ี ปน็ ครงั้ สดุ ทา้ ยในการพลดั พรากจากรา่ งกายหายสญู
484
ความสมมตุ ทิ เี่ คยกอ่ ภพกอ่ ชาติ พาใหไ้ ดน้ ามวา่ เกดิ แก่ เจบ็ ตาย ตอ่ กนั
เปน็ สายยาวเหยยี ดไมม่ เี บอื้ งตน้ เบอ้ื งปลาย ทา่ นอาจารยไ์ ดท้ ำ� ลายกงกรรม
ของวฏั จกั รเสยี สน้ิ แลว้ บดั นก้ี า้ วเขา้ สเู่ มอื งแกว้ อนั ประเสรฐิ คอื พระนพิ พาน
ไม่มวี ันกลับมาวุ่นวายกับกองสังขารอันเปน็ สถานทหี่ ลงั่ น�้ำตาอีกตอ่ ไป
บรรดาลกู ศษิ ย์ทรี่ ้องไห้ถงึ ทา่ นคร้งั นี้ เพราะความเคารพรกั เสียดาย
ท่ีได้เคยประสิทธิ์ประสาทธรรมโสรจสรงประพรมดวงใจให้หายง่วงเหงา
เมามวั พอมสี ตริ ะลึกบาปบุญได้กร็ ะลึกถงึ พระคณุ ท่าน อยากไดไ้ ว้เป็น
แก้วบูชาเป็นขวัญตาขวัญใจต่อไปอีก ต่อเม่ือสุดวิสัยจะห้ามได้ จึงขอ
ถวายนำ้� ใจเปน็ ความอาลยั รกั ดว้ ยนำ�้ ตาเปน็ เครอ่ื งสกั การบชู าวา่ คณะลกู ศษิ ย์
เหล่าน้ีบุญน้อย แต่ยังมีวาสนาบารมีได้มาพบเห็น ในคราวพลัดพราก
จากไปของทา่ นผทู้ รงมหาคณุ บญุ หนกั ศกั ดยิ์ งิ่ เปน็ ผสู้ น้ิ กเิ ลสถงึ ความวเิ ศษ
ศกั ดสิ์ ทิ ธสิ์ มยั ปจั จบุ นั ทแี่ สนหาไดย้ าก นานๆ ถงึ จะไดพ้ บเหน็ เปน็ ขวญั ตา
ขวญั ใจทใี่ ฝ่ฝนั มานานสักองคห์ นึง่
แม้ท่านได้ผ่านพ้นกองทุกข์ในสงสารถึงพระนิพพานอันเป็นบรมสุข
แล้ว ก็ขออาราธนาเมตตาโปรดโสรจสรงมวลสตั ว์ผู้ยากจน ซ่ึงก�ำลังตก
อยู่ในความสุดวิสัย ได้แต่พากันร้องไห้พิไรร�ำพันถึงอยู่เวลานี้บ้างเถิด
เจา้ พระคณุ บญุ ลน้ ฝง่ั ซงึ่ ฝงั เพชรไวใ้ นหวั ใจ เมอื่ ใดพวกขา้ พเจา้ ทง้ั หลาย
จะพอมที างรอดตาขา่ ยแหง่ มาร ไดม้ วี าสนาถงึ พระนพิ พานตามพระคณุ ทา่ น
กไ็ มม่ ที างทราบได้ เพราะกรรมหนกั กรรมหนาเกดิ มาอาภพั วาสนา จงึ เพยี ง
ไดม้ าชมบารมพี ระคณุ ทา่ นเปน็ ขวญั ใจบชู าไวด้ ว้ ยนำ�้ ตาดงั ทเ่ี ปน็ อยขู่ ณะนแี้ ล
เหลา่ นเ้ี ปน็ คำ� รอ้ งไหว้ งิ วอนปรารถนาของพทุ ธบรษิ ทั ทง้ั หลาย ทแี่ สนอาลยั
เสยี ดายในความพลดั พรากจากไปของทา่ น จนศพทา่ นทอ่ี าราธนาเขา้ สเู่ มรุ
เปน็ ท่เี รียบรอ้ ยแลว้ อาการที่น่าเวทนาสงสารเหล่านั้นจงึ ค่อยๆ สงบลง
485
พอไดเ้ วลาทก่ี ำ� หนดไว้ ๖ ทมุ่ คอื เทยี่ งคนื กพ็ รอ้ มกนั เรมิ่ ถวายเพลงิ จรงิ
แต่ผู้คนในขณะน้ันประหน่ึงจะล้นแผ่นดินแออัดยัดเยียดเบียดเสียดกัน
จนจะหาทางเดินไม่ได้ เพราะต่างคนต่างมุ่งอยากดูอยากเห็นในวาระ
สดุ ทา้ ยเพอื่ เปน็ สริ มิ งคลแกใ่ จไปนาน ฉะนน้ั จงึ พากนั เฝา้ รออยจู่ นถงึ เวลา
ทกี่ ำ� หนดไว้ พอถงึ เวลาถวายเพลงิ ทา่ นจรงิ ขณะนน้ั ปรากฏมเี มฆกอ้ นหนง่ึ
ขนาดยอ่ มๆ ไหลผา่ นเขา้ มาและโปรยละอองฝนมาเพยี งเบาๆ พรอ้ มกบั
ขณะทีไ่ ฟเร่มิ แสดงเปลวและโปรยอยปู่ ระมาณ ๑๕ นาที เมฆกค็ อ่ ยๆ
จางหายไปในท่ามกลางแหง่ ความสว่างแหง่ แสงพระจนั ทรข์ ้างขึ้น
จึงเป็นท่ีน่าประหลาดและอัศจรรย์อย่างสุดจะคาดจะเดาได้ถูก
วา่ ทำ� ไมจงึ ดลบนั ดาลใหเ้ หน็ เปน็ ความแปลกหแู ปลกตาขน้ึ มาในทา่ มกลาง
ความสว่างแห่งแสงเดือนเช่นนั้น เพราะปกติฟ้าก็แจ้งขาวดาวสว่างใน
ฤดูแลง้ ธรรมดาเราดๆี นเี่ อง แตพ่ อถึงเวลาเข้าจริงๆ มีเมฆลอยมาและ
มลี ะอองฝนโปรยปรายลงมา ทำ� ใหแ้ ปลกตาสะดดุ ใจระลกึ ไวไ้ มล่ มื จนบดั นี้
เหตกุ ารณท์ ง้ั นบ้ี รรดาทา่ นทอ่ี ยใู่ นวงงานขณะนน้ั ไมม่ ใี ครกลา้ ปฏเิ สธไดว้ า่
ไมจ่ รงิ เรอื่ งมไิ ดเ้ ปน็ ไปในทำ� นองนนั้ เปน็ แตผ่ เู้ ขยี นอตุ รขิ น้ึ มาเอง เหตกุ ารณ์
ดังกลา่ วน้ี ผเู้ ขียนประสบมาเองอยา่ งประจักษต์ าและสะดุดใจตลอดมา
พอทา่ นทอ่ี ยใู่ นวงงานขณะนน้ั ไดอ้ า่ นตอนนี้ อยา่ งไรตอ้ งเพมิ่ ความจำ� และ
ความสะดดุ ใจขน้ึ มาในทันทวี า่ เหตกุ ารณไ์ ด้เป็นอย่างน้ันจรงิ ๆ
การถวายเพลิงท่านมิได้ถวายด้วยฟืนหรือถ่านดังท่ีเคยท�ำกันมา
แตถ่ วายด้วยไม้จันทน์ทีม่ ีกลน่ิ หอม ซง่ึ บรรดาศิษย์ท่านผู้เคารพเล่อื มใส
ในทา่ น สงั่ มาจากฝง่ั แมน่ ำ�้ โขงประเทศลาวเปน็ พเิ ศษจนเพยี งพอกบั ความ
ต้องการและผสมด้วยธูปหอมเป็นเช้ือเพลิงตลอดสาย ผลเป็นความ
486
เรียบร้อยเชน่ เดียวกบั ท่เี ผาดว้ ยฟืนหรอื ถ่าน นบั แตข่ ณะเริม่ ถวายเพลิง
ท่านได้มีกรรมการท้ังพระและฆราวาสคอยดูแลกิจการอยู่เป็นประจ�ำ
ตลอดงานนั้น และมีการรกั ษาอยตู่ ลอดไป จนถงึ เวลาเกบ็ อฐั ทิ ่าน
เวลา ๙ น. ของวนั รงุ่ ขน้ึ กเ็ รม่ิ เกบ็ อฐั ทิ า่ นและแจกไปตามจงั หวดั ตา่ งๆ
ทมี่ ผี มู้ าในงานน้ี เพอ่ื นำ� ไปเปน็ สมบตั กิ ลางๆ โดยมอบกบั พระในนามของ
จงั หวดั นน้ั ๆ เชญิ ไปบรรจไุ วใ้ นสถานทตี่ า่ งๆ ตามแตจ่ ะเหน็ ควร สว่ นประชาชน
กม็ กี ารแจกเหมอื นกนั แตค่ นมากตอ่ มากไมอ่ าจปฏบิ ตั ไิ ดโ้ ดยทว่ั ถงึ เทา่ ท่ี
จำ� ไดผ้ มู้ าในนามของจงั หวดั นน้ั ๆ และไดร้ บั แจกอฐั ทิ า่ นไปมี ๒๐ กวา่ จงั หวดั
ตอนเก็บอัฐิท่านพ่ึงผ่านไปนั้น ก็น่าสงสารประชาชนอย่างพูด
ไม่ออกบอกไม่ถูกอีกวาระหนึ่ง ซึ่งท�ำให้ประทับตาประทับใจอย่างมาก
คอื พอคณะกรรมการเก็บอฐั ทิ ่านเสรจ็ เรียบร้อยลงเทา่ นนั้ ผู้คนชายหญงิ
ต่างชุลมุนวุ่นวายกันเข้าเก็บกวาดเอาเถ้าและถ่านท่ีเศษเหลือจากท่ีเก็บ
แลว้ ไปสกั การบชู า ไดค้ นละเลก็ ละนอ้ ย จนสถานทน่ี น้ั เตยี นเกลยี้ งยง่ิ กวา่
ล้างดว้ ยนำ�้ และเชด็ ถใู ห้เกล้ยี งเสียอกี พอไดอ้ อกมาตา่ งคนต่างยมิ้ แย้ม
แจม่ ใสดใี จอยา่ งบอกไมถ่ กู เหมอื นตวั จะเหาะลอยในขณะนน้ั มองดใู นมอื
ต่างคนต่างก�ำแน่นราวกับจะมีใครๆ มาแย่งชิงเอาดวงใจในก�ำมือไปเสีย
ฉะนั้น นเี้ ป็นเหตุการณท์ ่ีน่าสงสารสังเวชอีกเหตุการณ์หน่ึง ไม่ด้อยกวา่
เหตกุ ารณ์ทงั้ หลายที่ผ่านมาในงานทา่ นอาจารยม์ ั่นครงั้ น้ี
แล้วยังคร้ังสุดท้ายแถมเข้าไปอีก คือก่อนจะพากันกลับไปถ่ินฐาน
บ้านเรอื นของตนๆ โดยมากพากันไปกราบลาทา่ นอาจารยท์ ่ีเมรุ ซึ่งเปน็
ความม่นั วา่ ท่านย้ายจากศาลาไปอยู่เมรแุ ลว้ ขณะก้มกราบทา่ นถึงวาระ
ที่สามจบลงต่างพากนั นง่ั นงิ่ ไปครหู่ น่ึง เป็นลกั ษณะรำ� พึงรำ� พันดว้ ยความ
487
อาลยั เสยี ดายอยา่ งสดุ ซงึ้ แลว้ แสดงอาการไวอ้ าลยั ดว้ ยนำ้� ตาสะอกึ สะอน้ื
อยา่ งนา่ สงสาร คดิ ถงึ ใจเราใจทา่ นทมี่ คี วามรสู้ กึ คดิ นกึ และกตญั ญกู ตเวที
ในท่านผู้ทรงพระคุณอย่างล้นพ้น ก็อดที่จะกล้ันความอาลัยเสียดายไว้
ไม่ได้เช่นเดียวกัน พอคณะนั้นผ่านออกมาด้วยความเศร้าโศกหน้าชุ่ม
ด้วยน�้ำตา คณะนี้ก็ก้าวเข้าไปกราบลาท่านด้วยกิริยาท่าทางของคนท่ีมี
ความจงรกั ภกั ดแี ละเศรา้ โศก เพราะความวโิ ยคพลดั พรากแหง่ สงิ่ ทเ่ี ทดิ ทนู
บนหวั ใจ ไดจ้ ากไปไมม่ วี นั กลบั คนื เปน็ ความสบั เปลย่ี นเวยี นกนั ไปมาอยู่
ทบ่ี รเิ วณเมรทุ า่ นเปน็ ชว่ั โมงๆ กวา่ เรอ่ื งทน่ี า่ สงสารสงั เวชจะสงบลง จงึ ทำ� ให้
ปลงธรรมสงั เวชอยา่ งติดตาตดิ ใจตลอดมา
รวมความแล้วใจเป็นธรรมชาติที่ใหญ่โตกว่าอะไรในโลก เร่ืองและ
อาการทง้ั หลายทเ่ี ปน็ มาเหลา่ นี้ เปน็ สาเหตมุ าจากใจอนั เปน็ รากฐานสำ� คญั
ประชาชนพระเณรจำ� นวนหมน่ื ๆ ทมี่ าในงานนก้ี เ็ รอื่ งหวั ใจพาใหม้ า ทา่ นอาจารย์
ท่ีเป็นจุดดึงดูดจิตใจของประชาชน ก็ข้ึนอยู่กับท่านเป็นใจท่ีบริสุทธ์ิหรือ
ธรรมทงั้ ดวง ซง่ึ ใครๆ ปรารถนากนั ทวั่ โลก จงึ เปน็ เครอื่ งดงึ ดดู จติ ใจของคน
ผู้รู้จักบุญบาปให้คิดอยากมากราบไหว้บูชาท่าน แม้ไม่ได้ส่วนกุศลชนิด
ตกั ตวงเอาตามใจหวงั กย็ งั พอเปน็ อปุ นสิ ยั ปจั จยั สบื ตอ่ ภพแหง่ ความเปน็
มนุษย์อย่าให้ขาดสูญสิ้นซากไปเสียทีเดียว ยังดีกว่าเป็นคนหน้าด้านไป
แย่งเกิดในก�ำเนิดสัตว์นรกและสัตว์เดียรัจฉานเป็นร้อยเป็นพันชนิดไม่มี
ประมาณ เสวยความทกุ ขท์ รมานในภพน้ันๆ ตลอดอนนั ตกาล ไมม่ ีวัน
หลดุ พน้ ไปได้ ซง่ึ เปน็ การเกดิ มาเหยยี บยำ่� ซำ�้ เตมิ ตวั เองไมม่ ชี นิ้ ดี พอเปน็
ที่ยดึ ที่อาศัยไดใ้ นภพหนงึ่ ๆ บ้างเลย ทีเ่ รยี กว่าเปน็ คนหมดหวัง
488
ดว้ ยเหตนุ ้ีเร่อื งในสากลโลกจึงรวมลงทีใ่ จ เป็นผคู้ วบคมุ เครอ่ื งจักร
นอ้ ยใหญใ่ หส้ งิ่ ทง้ั หลายหมนุ ไปตามวถิ ที างเดนิ ของใจ ทหี่ นกั ไปในทางใด
ถ้าใจหนักไปในทางดีทุกส่ิงท่ีท�ำลงไปย่อมให้ผลเป็นสุขโดยสม�่ำเสมอ
ทง้ั ปจั จบุ นั และอนาคต ปรากฏแตค่ วามมหี วงั และสมหวงั เรอื่ ยไปไมข่ ดั สน
จนตรอก จะออกซอกไหนซอยใดกเ็ ปน็ ซอกเปน็ ซอยทค่ี อยอำ� นวยความ
สะดวกปลอดภยั ใหผ้ เู้ ปน็ เจา้ ของไดร้ บั ความสขุ ความเจรญิ เสมอไป จนถงึ
แดนแห่งความสมหวงั คือเกิดทกุ ภพทกุ ชาติมีแตค่ วามสมหวังตลอดไป
ดังครูบาอาจารย์ที่มีคนเคารพเล่ือมใสและระลึกถึงท่านเป็นขวัญใจอยู่
เวลาน้ี
เพราะใจท่านเป็นใจกุศลแต่ข้ันต้นจนถึงขั้นสูงสุด ที่คนท้ังหลาย
สรรเสรญิ ทา่ นอยา่ งสมเกยี รตวิ า่ ทา่ นปรนิ พิ พานกม็ อี ยมู่ าก คำ� วา่ ปรนิ พิ พานน้ี
จะมีได้เฉพาะท่านผู้สิ้นกิเลสอาสวะโดยสิ้นเชิงแล้วเท่าน้ัน ท่านส้ิน
ความสบื ตอ่ แหง่ สงั ขารไมม่ ลี มปราณเหมอื นเวลายงั มชี วี ติ อยู่ โลกทง้ั หลาย
เรยี กวา่ “ตาย”แตพ่ ระพทุ ธเจา้ และพระอรหนั ตท์ า่ นตาย โลกเรยี กวา่
“ปรนิ พิ พาน” ทา่ นอาจารยม์ นั่ กม็ คี นถวายเกยี รตทิ า่ นวา่ ปรนิ พิ พานมาก
เหมอื นกนั ผ้เู ขียนไมม่ เี หตุผลทคี่ วรจะน�ำมาคดั คา้ น จ�ำตอ้ งยอมจ�ำนน
และอนโุ มทนาตามค�ำท่โี ลกถวายเป็นเกียรตทิ า่ นในวาระสดุ ท้าย เพราะ
เท่าที่เคยได้อยู่และรับโอวาทท่านตลอดมาเป็นเวลานานปีพอสมควร
กไ็ ม่มที ่ีคา้ นธรรมท่านไดเ้ ลย นอกจากท�ำให้ซ้ึงใจอยา่ งบอกไมถ่ ูก วา่ เปน็
อมตธรรมอย่างสมบูรณ์ท่ีออกมาจากใจท่ีบริสุทธ์ิจริงๆ เท่าน้ัน ฉะนั้น
ใจประเภทนี้จึงหาไม่มีในโลกมนุษย์ปุถุชนเรา ร้อยทั้งร้อยไม่มีเจอเลย
ถ้าต้องการเจอก็จ�ำต้องพยายามช�ำระแก้ไขใจของปุถุชนให้กลายเป็นใจ
489
อริยชนขัน้ สดุ ยอดขึน้ มา ใจดวงนั้นอยู่ทีไ่ หนก็อยอู่ ย่างอริยจติ อรยิ ธรรม
ตลอดเวลาอกาลิโก
ทวี่ า่ ใจเปน็ ใหญก่ วา่ สงิ่ ทงั้ หลายในโลกนน้ั คอื ใจเปน็ ผปู้ กครองสมบตั ิ
ท้งั มวล แตส่ ง่ิ ท้งั หลายดังกลา่ วดีหรอื ชว่ั ต้องขน้ึ อยกู่ บั ใจผู้เป็นใหญ่และ
รบั ผดิ ชอบ ถา้ ใจพาชว่ั โลกแมจ้ ะใหญ่โตเพียงไรก็มีทางบรรลัยได้อย่าง
ไม่มีปัญหา ดังน้ัน ใจจึงควรได้รับการอบรมหรือศึกษาพอจะปกครอง
ตัวปกครองโลกให้เปน็ ไปโดยความสะดวกปลอดภยั เทา่ ทีค่ วร ตัวกเ็ ป็น
บคุ คลนา่ อยู่ ไมเ่ ดอื ดรอ้ นรำ� คาญ โลกกเ็ ปน็ โลกนา่ อยู่ ไมเ่ ปน็ โลกทย่ี งุ่ เหยงิ
วุ่นวายจนเกนิ ไป
พอถวายเพลิงท่านอาจารย์ม่ันผ่านไปแล้ว ปรากฏว่าพระเณรสาย
ของท่านมีความกระวนกระวายระส่�ำระสายมากพอดู เพราะปราศจาก
ทพี่ งึ่ ทย่ี ดึ ทางใจ ระเหเรร่ อ่ นไปทางทศิ ใตท้ ศิ เหนอื เหมอื นวา่ วเชอื กขาดอยู่
บนอากาศฉะนน้ั เพราะความรอ้ นรมุ่ กลมุ้ ใจเหมอื นพอ่ แมต่ ายจาก มแี ตล่ กู
กำ� พรา้ ตวั เลก็ ๆ ไมม่ คี วามรคู้ วามสามารถปกครองตนได้ ฉะนน้ั วงคณะปฏบิ ตั ิ
สายของทา่ นรสู้ กึ สนั่ สะเทอื นไปมากในระยะทผี่ า่ นไปใหมๆ่ กวา่ จะจบั กนั
เป็นกลุ่มเป็นกอเป็นหลักเป็นฐานได้ ก็นับว่าพอเห็นโทษแห่งความไม่มี
ครอู าจารยม์ ากพอดู ฉะนนั้ การผา่ นไปของครบู าอาจารยอ์ งคม์ คี ณุ สมบตั ิ
สำ� คญั แตล่ ะองคม์ ใิ ชเ่ รอ่ื งเลก็ นอ้ ย เปน็ ความสะเทอื นในวงพระสงฆแ์ ละ
ผปู้ ฏบิ ตั นิ นั้ ๆ มาก จนอาจพดู ไดว้ า่ แผน่ ดนิ ถลม่ ไปพกั หนงึ่ ถา้ คณะลกู ศษิ ย์
มีความสามารถตั้งตัวได้ด้วยข้อปฏิบัติและทางจิตใจพอทรงตัวและทรง
หมคู่ ณะไวไ้ ด้ ไมเ่ ดอื ดรอ้ นเหลวไหลในกาลต่อไป
490
การสูญเสยี ท่านผ้เู ป็นหวั หนา้ ท่ดี ี ไม่ว่าทางครอบครวั สงั คม บริษัท
ห้างร้าน วงราชการงานแผ่นดินแผนกต่างๆ และคณะสงฆ์ ตลอดวง
พระปฏิบตั ทิ กุ ๆ แขนง ยอ่ มเปน็ ความสญู เสียอันใหญ่หลวงไปตามๆ กัน
ผู้น้อยซึ่งหวังความเจริญก้าวหน้าทั้งปัจจุบันและอนาคต จึงไม่ควร
นง่ิ นอนใจในการเตรยี มตวั เตรยี มใจไวต้ อ้ นรบั สถานการณต์ า่ งๆ ทจ่ี ะตอ้ ง
ประสบอยู่โดยดีในวันหรือเวลาหนึ่งแน่นอน ผู้เขียนได้เห็นโทษครั้ง
ยิ่งใหญ่สมัยท่านพระอาจารย์มั่นมรณภาพผ่านไปเพียงองค์เดียวเท่านั้น
แตใ่ นสายตาและความรสู้ กึ ปรากฏวา่ ผมู้ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งทา่ นมคี วามซบเซา
เหงาหงอย และอยากจะพดู วา่ ลม้ ละลายไปตามๆ กนั มากมาย ทง้ั นกั บวช
และฆราวาส จนไมอ่ าจประมาณได้ เชน่ เดยี วกบั สง่ิ กอ่ สรา้ งทสี่ ว่ นมนั่ คงได้
ถูกท�ำลายลง ส่วนอืน่ ๆ ก็พลอยเสยี หายไปด้วยฉะน้ัน
ผู้เขียนได้รับความกระเทือนใจอย่างหนักมาแต่คร้ังนั้น จึงท�ำให้
หว่ันวิตกต่ออนาคตของพระเณรในวงปฏิบัติที่ขาดครูอาจารย์ผู้ให้ความ
รม่ เยน็ วา่ เปน็ ทางไหลมาแหง่ ความเสอ่ื มเสยี ไดอ้ ยา่ งงา่ ยดาย ถา้ ไมร่ บี เรง่
ตกั ตวงเสยี แตข่ ณะนท้ี ก่ี ำ� ลงั มคี รอู าจารยค์ อยแนะนำ� สง่ั สอนอยู่ เวลาทา่ น
จากไป ตวั เราเองแมย้ งั มลี มหายใจอยแู่ ตไ่ มม่ หี ลกั ยดึ กเ็ ทา่ กบั ตายทง้ั เปน็
ผู้เขียนได้เคยเห็นโทษของตัวที่ไม่เป็นท่ามาแต่ครั้งนั้นแล้วว่าเหลวจริงๆ
ด้วยมรสุมประดังกันเข้าพัดผันดวงใจ มรสุมลูกหน่ึงพัดมาว่าเราหมด
ที่พง่ึ แลว้ ลูกหน่งึ พัดมาว่าตอ่ ไปนเ้ี ราจะพง่ึ ใคร ลูกหนงึ่ พดั มาว่าท่านไป
แลว้ สบายหายหว่ งส่วนเรายังอย่แู ตล่ มหายใจ แตใ่ จเหมือนคนตายแลว้
เพราะขาดหลักยดึ และขาดอย่างหมดหวงั เคว้งคว้างเกาะอะไรไมต่ ดิ เลย
ลกู หน่งึ พัดมาว่าอะไรๆ มนั จะสุดจะส้นิ ไปตามท่านเสยี แล้ว ลกู หนง่ึ ว่า
ตอ่ ไปน้ีเราจะอยกู่ บั ใคร พอ่ กจ็ ากไปเสียแลว้
491
ลูกหนึ่งว่าคราวนถ้ี งึ คราวลม่ จมของเราเสยี แลว้ หรือ จงึ พอจะต้งั ไข่
พอ่ กม็ าตายจาก กรรมเราหนกั เอาเสยี จรงิ ๆ คราวน้ี ลกู หนงึ่ อทุ านออกมา
ว่า โอ้โฮ เจ้ากรรมช่างทรมานคนอนาถาถงึ ขนาดน้เี ชียวหนอ ลกู หนึง่ ว่า
ตายจมแน่แล้วคราวนซี้ ึง่ เปน็ คราวหวั เลี้ยวหัวต่อเสยี ดว้ ย ระหวา่ งกิเลส
กบั ธรรมกำ� ลงั รบกนั อยา่ งเตม็ กำ� ลงั มที า่ นอาจารยเ์ ปน็ ผเู้ มตตาชว่ ยอบุ าย
การรบอยทู่ กุ เวลา ตอ่ ไปใครจะมแี กใ่ จมาเมตตาชว่ ยเหลอื เราอกี เราไมเ่ คย
มีความทุกข์จนหาทางออกไม่ได้เหมือนคราวนี้ นี้เป็นคราวตกนรกหลุม
ความหมดหวงั พดั ผนั หวั ใจใหข้ าดดน้ิ สนิ้ ความหมาย ยงั ไมต่ ายแตท่ ำ� ใหส้ น้ิ
ความหวังเสยี ทกุ อย่างในคราวนี้
ท้ังน้ีเป็นเหตุการณ์ที่เกิดแก่ผู้เขียนในครั้งท่านอาจารย์มั่นมรณภาพ
ลงไป ท�ำให้เข็ดหลาบกราบไหว้ ไม่อยากให้วงคณะปฏิบัติต้องประสบ
ความทุกข์ทรมานดังท่ีเคยประสบมาแล้วท้ังท่ียังไม่มีหลักยึดพอจะพึ่ง
ตวั เองได้ จงึ ไดพ้ ยายามเตอื นหมคู่ ณะเสมอมา กลวั วา่ จะนอนหลบั ทบั สทิ ธ์ิ
ทค่ี วรจะไดจ้ ะถงึ จนเกนิ ไป บทเวลาตะวนั อสั ดงคตแลว้ จงึ จะวง่ิ หาทพี่ งึ่ เพอ่ื
หลบซ่อนผอ่ นคลาย กลัวจะตายทัง้ เปน็ ดงั ท่เี คยเหน็ มาแล้ว ไม่ประสงค์
จะให้หมู่คณะพบเห็นด้วยอีก จึงรีบช่วยตักเตือนให้พากันรีบเร่งความ
เพียรเวลาเดือนยังสว่างไสว ใจยังก�ำลังเอางาน สังขารก็ก�ำลังอ�ำนวย
แม้เจ้าตัวประสงค์ความร่�ำรวยศีลธรรมตลอดมรรคผลนิพพานก็ยังพอ
ท�ำได้ ไมเ่ ปน็ คนทกุ ขไ์ ร้เข็ญใจทงั้ ที่สมบตั ิมีอยู่เต็มโลกตลอดมา
492
อัฐิทา่ นพระอาจารยม์ ่นั กลายเปน็ พระธาตุ
เมื่อต่างท่านที่ได้รับแจกอัฐิท่านอาจารย์ไปแล้ว ต่างก็เชิญไปไว้ใน
สถานทคี่ วรของตนๆ เพอ่ื สกั การบชู าแทนองคท์ า่ น หลงั จากนนั้ เรอ่ื งกค็ อ่ ย
เงียบหายไป เพราะต่างคนต่างพรากจากกันในคราวเป็นไปสู่ถ่ินฐาน
บ้านเรือนของตน จนกาลลว่ งไปแล้ว ๔ ปี คณุ วัน คมนามลู เจา้ ของร้าน
ศิริผลพานิชและโรงแรมสุทธิผล จังหวัดนครราชสีมา ไปถวายผ้าป่า
จังหวัดสกลนคร ได้รับแจกอัฐิส่วนบนของท่านอาจารย์มั่นชิ้นหน่ึงจาก
เจา้ อาวาสวดั สทุ ธาวาส ซงึ่ เปน็ วดั ทที่ า่ นอาจารยม์ น่ั มรณภาพ กลบั มาถงึ บา้ น
ได้เชิญอัฐิชิ้นนั้นรวมลงในผอบอันเดียวกันกับท่ีบรรจุอัฐิท่านอาจารย์อยู่
แล้วแต่สมยั ไดร้ บั แจกมาจากงานศพทา่ น
พอเปดิ ผอบออกเทา่ นน้ั สงิ่ ทไ่ี ม่เคยคาดฝนั กป็ รากฏขึ้นในผอบคอื
อัฐิชุดแรกท่ีได้รับแจกไปจากงานศพท่านได้กลายเป็นพระธาตุเสียหมด
เจ้าของเกิดความอัศจรรย์จนตัวแทบลอย เม่ือเห็นเหตุการณ์เช่นน้ันจึง
ใหค้ นรบี ไปดอู ฐั สิ ว่ นทเ่ี กบ็ ไวโ้ รงแรมสทุ ธผิ ลอกี ทน่ี นั้ กก็ ลายเปน็ พระธาตุ
เชน่ กันอีก รวมท้ังสองแหง่ จงึ เป็นพระธาตุ ๓๔๔ องค์ ยงั เหลอื ติดผอบ
493
อยู่บา้ งเปน็ ผงๆ เลก็ น้อย ตอ่ มาไมน่ านนกั จ�ำนวนผงนน้ั กไ็ ด้กลายเปน็
พระธาตเุ สยี จนหมดอกี จงึ รวมเปน็ พระธาตจุ ากอฐั ขิ องทา่ นพระอาจารยม์ นั่
๓๔๔ องค์ นเ้ี ปน็ รายแรกทปี่ รากฏความอศั จรรยจ์ ากอฐั กิ ลายเปน็ พระธาตุ
จากนั้นเร่ืองก็เล่าลือไปทุกหนทุกแห่ง ผู้คนทราบถึงไหนก็มาขอ
พระธาตกุ บั คณุ วนั ไปสกั การบชู ากนั ถงึ นน่ั คณุ วนั เองกเ็ ปน็ คนมนี สิ ยั ใจบญุ
อยแู่ ลว้ จงึ เหน็ ใจทา่ นทมี่ าขอและแจกกนั ไปคนละเลก็ ละนอ้ ย คอื คนละ
๑ องคบ์ า้ ง ๒-๓ องคบ์ า้ ง ผเู้ ขยี นคณุ วนั กไ็ ดก้ รณุ าใหไ้ ปสองครง้ั ครงั้ แรก
๕ องค์ ครัง้ ทสี่ อง ๒ องค์ รวมเป็น ๗ องคด์ ้วยกนั พอได้มาแลว้ ก็
โฆษณาใหญว่ า่ ตวั ไดข้ องดมี า ไดข้ องดมี า ปากไมเ่ ปน็ สขุ เปน็ สขุ เฉพาะใจ
คือดใี จท่ไี ดอ้ ฐั จิ ากคณุ วันมา
สดุ ทา้ ยกม็ าเสยี เปรยี บ (ตอ้ งขออภยั เรยี นอยา่ งตรงไปตรงมา) ผหู้ ญงิ
เรียบวุธไปเลย แตช่ อบกลท่ไี ม่มเี สียใจเลยท้งั ทีร่ ู้วา่ เสยี เปรยี บ จากนนั้
ปากก็เป็นสุขไม่มีอะไรโฆษณาอีก คือพอได้ยินว่าได้ของดีมาใครก็ขอดู
ซ่งึ มีแตผ่ หู้ ญงิ ทงั้ นัน้ ขณะนน้ั คนนน้ั ก็ขอดูก็หยบิ ให้ดู หยบิ ใหด้ ูจนหมด
ทุกองค์ พอดเู สรจ็ แลว้ คนน้นั กข็ อเอาเลย คนน้ีกข็ อเอาเลย พรอ้ มกับ
ห่อกันมุบมิบ แล้วทีน้ีใครจะกล้าขอคืนล่ะ ถ้าไม่อยากเสียเปรียบสอง
ซอ้ น เรอ่ื งมนั เปน็ อยา่ งนท้ี ม่ี ไิ ดม้ พี ระธาตทุ า่ นอาจารยม์ นั่ ตดิ ตวั มาจนบดั นี้
ทราบภายหลังวา่ คณุ วันเองก็แบ่งให้ทา่ นที่มาขอไปสักการบูชาแทบไมม่ ี
เหลือแลว้ เลยไมก่ ลา้ ไปรบกวนอีก
เท่าท่ีทราบ อัฐิท่านอาจารย์มั่นกลายเป็นพระธาตุ ท่ีร้านคุณวัน
นครราชสมี า เปน็ แหง่ แรก หลงั จากนน้ั กค็ อ่ ยๆ กลายเปน็ พระธาตเุ รอื่ ยไป
ไมว่ า่ ทไี่ หน ใครบชู าไวท้ ไี่ หนกก็ ลายเปน็ พระธาตขุ น้ึ มาเปน็ ลำ� ดบั จนกระทงั่
494
ทกุ วนั นี้กย็ ังเปน็ ไปเรื่อยๆ แต่เป็นกันอยา่ งมบุ มิบซบุ ซิบเฉพาะครวั เรอื น
ไมก่ ลา้ บอกใหใ้ ครทราบ เกรงจะถกู ขอ เพราะเปน็ ของหายากและคณุ คา่ สงู
ไม่มีประมาณ อาจพูดได้ว่าผู้ไม่มีนิสัยวาสนาเก่ียวกับท่านก็ยากจะได้
พระธาตทุ า่ นมาไวบ้ ชู า กรณุ าดแู ตผ่ เู้ ขยี นซง่ึ ไดม้ าแลว้ ยงั ไมม่ วี าสนารกั ษา
ทา่ นไว้ได้ ตอ้ งใหท้ า่ นผู้อื่นไปรกั ษาแทนสบายไปเลย
พระธาตทุ า่ นอาจารยม์ นั่ ยงั เปน็ ทน่ี า่ แปลกและอศั จรรยอ์ ยหู่ ลายอยา่ ง
คอื พระธาตุ ๒ องค์ เจา้ ของอธษิ ฐานขอใหเ้ ปน็ ๓ องคเ์ พอื่ ใหค้ รบรตั นะ
คอื พทุ ธ ธรรม สงฆ์ กก็ ลายเปน็ ๓ องคไ์ ดจ้ รงิ ๆ ผมู้ อี ยู่ ๒ องคอ์ ธษิ ฐาน
ขอใหเ้ ปน็ ๓ องค์ เชน่ ทคี่ นอนื่ เขาเปน็ แตก่ ลบั รวมเปน็ องคเ์ ดยี วกม็ ี เจา้ ของ
เสยี ใจมาก มาเลา่ ใหผ้ เู้ ขยี นฟงั และขอคำ� ชแ้ี จง ผเู้ ขยี นไดอ้ ธบิ ายใหท้ ราบ
บา้ งวา่ พระธาตทุ า่ นอาจารยม์ น่ั กลายเปน็ ๓ องคก์ ด็ ี กลายเปน็ องคเ์ ดยี ว
กด็ ี หรอื ยงั มไิ ดก้ ลายเปน็ พระธาตเุ ลยกด็ ี ทง้ั นก้ี ค็ อื อฐั ธิ าตทุ อ่ี อกจากองค์
ท่านอนั เดยี วกัน จึงไม่ควรเสยี ใจ การท่ีพระธาตุ ๒ องคก์ ลับมาเป็นองค์
เดยี วกเ็ ปน็ อภนิ หิ ารของทา่ นอยแู่ ลว้ เราจะหาความอศั จรรยจ์ ากอะไรอกี
แม้ผมท่านที่ปลงออกมีผู้เก็บไว้บูชาในท่ีต่างๆ ก็กลายเป็นพระธาตุได้
เช่นเดียวกับอัฐิซ่ึงมีอยหู่ ลายแหง่
ทเี่ ปน็ ดงั นเี้ ขา้ ใจวา่ อฐั หิ รอื ผมทา่ นทเ่ี กบ็ ไวน้ านๆ ไปอาจจะกลายเปน็
พระธาตไุ ปตามๆ กนั ดงั อฐั ทิ า่ นทคี่ อ่ ยๆ กลายเปน็ พระธาตมุ าเปน็ ลำ� ดบั
นแี้ ล แตท่ ง้ั อฐั ธิ าตทุ า่ น ทง้ั พระธาตทุ า่ น แมจ้ ะถกู เกบ็ รกั ษาไวส้ กั การบชู า
อยู่กับท่านผู้ใด ก็ไม่มีใครบอกใครให้ทราบเลย มีแต่ปิดเงียบท่าเดียว
เท่าน้นั ทกุ วันน้ี เพราะตา่ งคนต่างรกั ต่างคนต่างสงวน แต่ถ้าถกู ถามราย
ทอี่ ัฐิทา่ นกลายเป็นพระธาตุ เจ้าของกจ็ ะบอกอยา่ งอาจหาญว่า อัฐิท่าน
495
กลายเปน็ พระธาตไุ ดแ้ นน่ อนไมส่ งสยั ถา้ ถามตอ่ ไปวา่ คณุ มพี ระธาตหุ รอื
อัฐิท่านอาจารย์มั่นบ้างหรือเปล่า? จะแสดงอาการยิ้มแล้วตอบเพียงว่า
แม้มีก็นิดเดียวแจกให้ใครไม่ได้ อนั เปน็ เชิงกนั ทา่ ไวใ้ นตวั กลวั ผอู้ น่ื จะขอ
จงึ ทราบไดย้ ากเฉพาะทกุ วนั น้ี วา่ อฐั หิ รอื พระธาตทุ า่ นมอี ยกู่ บั ทา่ นผใู้ ดบา้ ง
แม้แต่พระหรือครูอาจารย์ซ่ึงเป็นท่ีเคารพนับถือ ถามยังไม่อาจบอกตรง
จงึ น่าเหน็ ใจท่านท่มี ีความเคารพเลื่อมใสและรักสงวนทา่ นมาก
ฉะนั้น ท่านพระอาจารย์ม่ันจึงเป็นพระอาจารย์ส�ำคัญองค์หน่ึง
ทงั้ ทย่ี งั มชี วี ติ อยแู่ ละลว่ งลบั ผา่ นไปแลว้ เวลายงั มชี วี ติ อยกู่ เ็ ปน็ จดุ ยบั ยงั้
ผ่อนคลายความตึงเครียดแห่งจิตใจบรรดาศิษย์ท้ังพระและฆราวาส
เปน็ อยา่ งดตี ลอดมา เราพอทราบไดต้ ามทม่ี ผี มู้ าเลา่ ใหฟ้ งั ขณะจติ คดิ จะทำ�
ความช่ัวบ้าง ขณะจิตก�ำลังลุกเป็นไฟเน่ืองจากเหตุการณ์บางอย่าง
บงั คบั บา้ ง ขณะเกิดความเคียดแค้นอยา่ งสุดขีด จะตดั สนิ ใจฆา่ คนอย่ใู น
นาทนี นั้ บา้ ง พอระลกึ ถงึ ทา่ นอาจารยม์ น่ั ขน้ึ มาไดเ้ ทา่ นนั้ เหตกุ ารณท์ เ่ี ปน็
อยู่ภายในเหลา่ นัน้ ราวกับน�ำ้ ดับไฟสงบลงทนั ทที ันใด และเหน็ โทษแหง่
ความผดิ ของตวั ขน้ึ ในขณะนนั้ อยากกม้ ลงกราบองคท์ า่ นทนั ทที ร่ี ะลกึ ได้
สิ่งที่คิดว่าจะท�ำนั้นเลยหายราวกะปลิดท้ิง นี่เป็นฝ่ายฆราวาสเล่าให้ฟัง
แมท้ ม่ี ไิ ดเ้ ลา่ กเ็ ขา้ ใจวา่ ยงั มอี ยมู่ าก และสามารถแกค้ วามผดิ ของตวั ไดใ้ น
ลกั ษณะเดยี วกนั ดว้ ยอำ� นาจความระลกึ ถงึ ทา่ นดว้ ยความเคารพเลอ่ื มใส
ส่วนพระที่ได้รับความยับยั้งใจไปตามเพศของตน เพราะอ�ำนาจ
ความเช่ือความเลื่อมใสในท่านก็เข้าใจว่ามีจ�ำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกัน
เทา่ ทที่ า่ นอบรมคนใหเ้ ปน็ คนดนี นั้ นบั จำ� นวนไมถ่ ว้ น เรม่ิ แตว่ นั ทา่ นอปุ สมบท
และสง่ั สอนมาจนถงึ วนั มรณภาพ ถา้ นบั เวลาสง่ั สอนผคู้ นพระเณรกไ็ มต่ ำ�่
496
กวา่ ๔๐ ปี ในระหวา่ ง ๑ ปถี งึ ๔๐ ปนี น้ั มพี ระเณรและฆราวาสมารบั การ
อบรมกบั ทา่ นมากเพยี งไร เฉพาะพระทม่ี หี ลกั ฐานมน่ั คงทางดา้ นจติ ใจและ
ขอ้ ปฏบิ ตั มิ จี ำ� นวนมากมาย ทา่ นอาจารยเ์ หลา่ นจี้ ะเปน็ ครอู าจารยส์ ง่ั สอน
ผคู้ นพระเณรใหม้ หี ลกั ยดึ ตอ่ ไปในอนาคต ซงึ่ สบื เนอ่ื งมาจากทา่ นอาจารยม์ น่ั
เปน็ ผใู้ หก้ ำ� เนดิ ความรทู้ งั้ ภายในและภายนอกมากอ่ น มฉิ ะนน้ั กห็ าทางเดนิ
ไมไ่ ด้แมต้ ัวเอง โดยไมต่ อ้ งพูดถึงการส่ังสอนคนอืน่ ให้เป็นคนดีได้เลย
ดว้ ยเหตนุ ้ี การวางรากฐานจติ ใจใหม้ น่ั คงตอ่ เหตผุ ลอรรถธรรมความ
ถูกต้องดีงามเป็นข้ันๆ จึงเป็นงานช้ินใหญ่และหนักมากกว่างานช้ินใดๆ
ในโลกท่พี วกเราเคยทำ� และเคยบน่ กันว่ายากๆ เพราะงานน้นั เปน็ เพยี ง
ส่ิงคล้อยตามจิตใจของผู้พาด�ำเนินเท่านั้น หลักใหญ่ของงานทุกแขนง
และทุกชิ้นอย่างแท้จริงข้ึนอยู่กับใจท้ังสิ้น นอกจากน้ันยังเกี่ยวกับงาน
ผดิ ถกู ชว่ั ดอี กี วา่ ใครเปน็ ผบู้ งการและพาดำ� เนนิ ถา้ ไมใ่ ชใ่ จ ถา้ ใจเปน็ ผชู้ ข้ี าด
และพาดำ� เนนิ ใจไดร้ บั การศกึ ษาอบรมพอทราบเรอื่ งของตวั เกย่ี วกบั ความ
ผิดถูกช่ัวดีอย่างไรบ้างเพียงไร จึงจะประคองตัวและงานน้ันๆ ไปด้วย
ความราบรนื่ ชน่ื ใจ ตลอดความปลอดภยั อนั เกดิ จากผลงานทต่ี นทำ� ทกุ อยา่ ง
เม่ือกล่าวถึงจิตใจ บรรดาท่านที่เคยทราบความลึกซ้ึงหนาบางของท่าน
อาจารย์ม่ันมาบ้างแล้ว จะต้องกราบท่านอย่างสนิทใจ ระลึกไว้มิได้ลืม
ทง้ั เวลาทา่ นยงั มชี วี ติ อยแู่ ละเวลาทา่ นจากไปแลว้ อดระลกึ ถงึ ความกตญั ญู
กตเวทใี นทา่ นมิได้อย่างแน่นอน แม้ชวี ิตจะขาดไปกย็ อมถวายไปเลย
ทา่ นอาจารยม์ นั่ เปน็ อาจารยเ์ อกทางดา้ นพฒั นาจติ ใจคน อาจพดู ไดว้ า่
เกอื บทว่ั ประเทศ ซงึ่ เปน็ การพฒั นาทถ่ี กู จดุ สำ� คญั ของโลกดว้ ย เพราะใจ
ที่ได้รับการพัฒนาด้วยอรรถด้วยธรรมด้วยดี ความเสียหายไม่ค่อยมี
497
หรืออาจพดู ได้อยา่ งเตม็ ปากวา่ จติ ทไ่ี ด้รบั การพฒั นาเต็มทแี่ ลว้ แน่ใจว่า
ความเสยี หายไมม่ ี ทง้ั งานและผลของงานกเ็ ปน็ ท่ีแน่ใจ โลกทีไ่ ดร้ ับการ
พัฒนาจิตใจไปพร้อมๆ กันด้วยดีย่อมเป็นโลกท่ีเจริญจริง ประชาชน
มคี วามสงบสขุ มใิ ชเ่ จรญิ แตด่ า้ นวตั ถอุ ยา่ งเดยี ว แตใ่ จรอ้ นเหมอื นไฟ มแี ต่
การเบียดเบียนท�ำลายกัน เอารัดเอาเปรียบกัน ฉ้อโกงกัน เร็วย่ิงกว่า
เจา้ บอนนขี่ น้ึ โลกพระจนั ทร์ ซงึ่ ไมผ่ ดิ อะไรกบั ความเจรญิ แหง่ ไฟในแดนนรก
ถ้ายังไม่ทราบว่าแดนนรกมีความเจริญด้วยความรุ่มร้อนขนาดไหน
กค็ วรดโู ลกทปี่ ราศจากการพฒั นาจติ ใจ ซงึ่ มแี ตค่ วามรงุ รงั ไปดว้ ยสงิ่ สกปรก
ทรี่ ะบายออกจากทอ่ ไอเสยี คอื ใจ ความประพฤตกิ ารกระทำ� ทกุ ดา้ นเปน็ สงิ่
ขวางโลก ขวางธรรม ขวางหู ขวางตา ขวางใจไปหมด ไมม่ อี ะไรนา่ ดนู า่ ชมเลย
เตม็ ไปดว้ ยสง่ิ ไมพ่ งึ ปรารถนา ฉะนน้ั ทา่ นผมู้ คี วามฉลาดแหลมคม จงึ นยิ ม
การพัฒนาจิตใจก่อนพัฒนาสิ่งอื่นใด ซึ่งเป็นเพียงบริวารของใจเท่าน้ัน
เมอื่ พฒั นาใจดแี ลว้ การระบายออกทางกายวาจา ความประพฤติ การกระทำ�
ตลอดทกุ ดา้ น ยอ่ มกลายเปน็ ของสะอาดไปตามสว่ นใหญค่ อื ใจ โลกยอ่ มมี
ความสงบสุขสมกับคนฉลาดด้วยจิตพัฒนาปกครองโลก ปกครองตน
โดยทางเหตุผลอรรถธรรม
ความฉลาดของมนุษย์ท่ีปราศจากธรรมจะฉลาดเพียงไร ยังไม่ควร
เป็นที่ไวใ้ จและชมเชยโดยถ่ายเดยี วได้ แม้จะฉลาดแสดงความสามารถ
ขน้ึ ชมดวงดาว พระอาทิตย์ พระจันทร์บนฟา้ ไดก้ ย็ งั ไมถ่ อื เปน็ จดุ สำ� คญั
ความฉลาดถา้ ยงั ขนื ระบายสงิ่ ทเ่ี ปน็ พษิ เปน็ ภยั ออก เพอ่ื ความเดอื ดรอ้ น
แกต่ นและผ้อู ่ืนอยู่ อย่างไม่ส�ำนึกตวั ว่าเปน็ ความผิด ความรู้ความฉลาด
นนั้ ยงั ไมอ่ าจเลยภมู ขิ องสตั วเ์ ดยี รจั ฉานทเ่ี คยเปน็ อยดู่ ว้ ยการเบยี ดเบยี น
498
และกัดฉีกกันกิน โดยถือว่าเป็นความฉลาดและเป็นความสุขของเขา
ซึ่งอยูใ่ นภมู นิ น้ั ๆ
ความฉลาดทร่ี บั รองกนั ตามหลกั เหตผุ ลทย่ี งั ตนและโลกใหเ้ จรญิ นน้ั
ไม่จ�ำต้องออกใบประกาศนียบัตรให้โชว์ก็ได้ แต่การระบายออกทางใจ
และความประพฤติส่ิงกระท�ำอันเป็นไปเพ่ือตนและโลกได้รับความสุข
ความเย็นใจดว้ ยน้นั ถือว่าเป็นผลงานท่อี อกจากความฉลาดอย่างแท้จรงิ
และเปน็ ประกาศนยี บตั รอยู่ในตัวพรอ้ มแลว้ ไมจ่ ำ� ตอ้ งหาใบประกาศมา
บังหน้าและอวดโลกเพื่ออ�ำนาจในทางผิดอย่างลึกลับ ซึ่งผลคือความ
เดอื ดรอ้ นของผไู้ ดร้ บั มไิ ดเ้ ปน็ ของลบั ๆ ไปดว้ ย แตเ่ ปน็ ความทกุ ขร์ อ้ นอยู่
อย่างเปดิ เผย ดงั ทีเ่ ห็นๆ กนั อยอู่ ย่างเต็มตา รอู้ ยู่อยา่ งเต็มใจ นอกจาก
ไมพ่ ูดกนั เท่านัน้ ทงั้ นห้ี ากมใิ ช่โทษของการมองข้ามการพัฒนาภายในคอื
ใจแล้ว ใครจะเช่ือกันไดล้ งคอวา่ การพฒั นาแต่ด้านวัตถุดว้ ยทัง้ ใจทีร่ ก
รงุ รงั ดว้ ยสนมิ คอื กเิ ลส ความเหน็ แกต่ วั และพวกพอ้ งของตวั ทำ� ใหโ้ ลกเจรญิ
ประชาชนอยเู่ ยน็ เปน็ สขุ โดยทวั่ กนั ดงั นี้ นอกจากคนทตี่ ายหมดความรสู้ กึ
ดชี ว่ั ทกุ อยา่ งแลว้ เทา่ นน้ั จะไมม่ คี วามขดั ใจและคดิ แยง้ การกระทำ� ดงั ทวี่ า่
เมอ่ื นำ� มาเทยี บระหวา่ งผมู้ กี ารพฒั นาทางใจกบั ผไู้ มไ่ ดพ้ ฒั นาทางใจเลย
การงานและผลของงานตา่ งกนั ราวฟา้ กบั ดนิ ฉะนนั้ พระพทุ ธเจา้ จงึ ไมท่ รง
ชมเชยสมาธสิ มาบตั เิ พอื่ ความเหาะเหนิ เดนิ อากาศดำ� ดนิ ดำ� นำ�้ เหาะขา้ ม
ทะเลตา่ งๆ วา่ เปน็ ผฉู้ ลาดเลอื่ งลอื แตท่ รงชมเชยผพู้ ยายามฝกึ อบรมตน
โดยวธิ ตี ่างๆ เพอ่ื ความดีงาม จะเปน็ ทางสมาธสิ มาบัตหิ รอื ทางใดกต็ าม
ดว้ ยความรอบคอบตอ่ การระบายออกทางความประพฤตกิ ารกระทำ� มใิ ห้
เกดิ โทษแก่ตนและผอู้ ่นื ว่าเปน็ ผฉู้ ลาด เพราะความน่าอยู่ของโลกท่ัวไป
499
ย่อมขน้ึ อยูก่ บั ความสขุ ใจเป็นหลักใหญ่ แมร้ ่างกายและความเป็นอยใู่ น
ดา้ นตา่ งๆ จะมอี ดบา้ งอม่ิ บา้ งตามคตธิ รรมดาของโลกอนจิ จฺ ํ แตก่ ย็ งั นา่ อยู่
เพราะผพู้ าอยพู่ าไปคอื ใจมคี วามสขุ เทา่ ทค่ี วร ไมแ่ ผดเผาเรา่ รอ้ น จนทำ� ให้
คิดอยากยา้ ยภพย้ายชาตยิ า้ ยบ้านเรือนและสถานทีอ่ ย่ตู า่ งๆ
ปญั หาเรอื่ งอฐั ทิ า่ นพระอาจารยม์ นั่ พระอาจารยเ์ สาร์ กลายเปน็ พระธาตุ
ปรากฏวา่ กระจายไปในทต่ี า่ งๆ จนทำ� ใหเ้ กดิ ความสงสยั กนั กม็ ี ในระยะอฐั ิ
ท่านกลายเป็นพระธาตุใหมๆ่ บางทา่ นมาถามวา่ อฐั ขิ องพระอรหนั ต์ก็ดี
ของสามญั ชนกด็ ี ตา่ งก็เปน็ ธาตุดินชนดิ เดียวกนั ส่วนอฐั ขิ องสามญั ชน
ทำ� ไมจงึ กลายเปน็ พระธาตไุ มไ่ ด้ เฉพาะอฐั ขิ องพระอรหนั ตท์ ำ� ไมจงึ กลาย
เปน็ พระธาตไุ ด้ ทง้ั สองนมี้ คี วามแปลกตา่ งกนั อยา่ งไรบา้ ง กไ็ ดอ้ ธบิ ายใหฟ้ งั
เทา่ ทส่ี ามารถแตเ่ พยี งโดยยอ่ วา่ เรอื่ งอฐั นิ นั้ ปญั หาสว่ นใหญข่ นึ้ อยกู่ บั ใจ
เป็นส�ำคัญ ค�ำว่าจิตแม้เป็นจิตเช่นเดียวกัน แต่มีอ�ำนาจและคุณสมบัติ
ต่างกนั อยมู่ าก คอื จิตของพระอรหันต์ทา่ นเป็นอรยิ จิต เปน็ จติ ทีบ่ รสิ ุทธ์ิ
ส่วนจิตของสามญั ชนเป็นเพยี งสามัญจติ เป็นจติ ทม่ี กี ิเลสโสมมตา่ งๆ
เมอ่ื จติ ผเู้ ปน็ เจา้ ของเขา้ ครองอยใู่ นรา่ งใด และจติ เปน็ จติ ประเภทใด
ร่างนั้นอาจกลายไปตามสภาพของจิตผู้เป็นใหญ่พาให้เป็นไป เช่น จิต
พระอรหันต์เป็นจิตท่ีบริสุทธ์ิ อาจมีอ�ำนาจซักฟอกธาตุขันธ์ให้เป็นธาตุ
ทบี่ รสิ ทุ ธ์ิไปตามส่วนของตน อัฐทิ า่ นจึงกลายเป็นพระธาตุได้ แตอ่ ัฐิของ
สามญั ชนทว่ั ๆ ไป แมจ้ ะเปน็ ธาตดุ นิ เชน่ เดยี วกนั แตจ่ ติ ผเู้ ปน็ เจา้ ของเตม็ ไป
ด้วยกเิ ลส และไมม่ ีอำ� นาจซกั ฟอกธาตุขันธใ์ ห้เปน็ ของบริสุทธิ์ได้ อฐั จิ ึง
กลายเปน็ ธาตขุ นั ธท์ บ่ี รสิ ทุ ธไิ์ ปไมไ่ ด้ จำ� ตอ้ งเปน็ สามญั ธาตไุ ปตามจติ ของ
คนมกี เิ ลสอยโู่ ดยดี หรอื จะเรยี กไปตามภมู ขิ องจติ ภมู ขิ องธาตวุ า่ อรยิ จติ
500
อรยิ เหตุ และสามญั จติ สามญั ธาตกุ ค็ งไมผ่ ดิ เพราะคณุ สมบตั ขิ องจติ ของ
ธาตุระหว่างพระอรหันต์กับสามัญชนต่างกัน อัฐิจ�ำต้องต่างกันอยู่โดยดี
ผสู้ ำ� เรจ็ เปน็ พระอรหนั ตข์ น้ึ มานน้ั ทกุ องคเ์ วลานพิ พานแลว้ อฐั ติ อ้ งกลาย
เปน็ พระธาตดุ ว้ ยกนั ทงั้ ส้ินดังนี้
ข้อน้ีผูเ้ ขยี นยังไมแ่ นใ่ จวา่ จะเปน็ ไปไดอ้ ยา่ งนนั้ ทุกๆ องค์ เฉพาะจติ
ท่านที่ส�ำเร็จพระอรหัตภูมิเป็นจิตท่ีบริสุทธ์ิเต็มภูมินับแต่ขณะที่ส�ำเร็จ
ส่วนร่างกายท่ีเก่ียวโยงไปถึงอัฐิเวลาถูกเผาแล้วจะกลายเป็นพระธาตุได้
เชน่ เดยี วกนั ทกุ องคห์ รอื ไม่ ยงั เปน็ ปญั หาอยบู่ า้ ง ระหวา่ งกาลเวลาทบ่ี รรลุ
ถึงวนั ท่านนพิ พานมีเวลาสนั้ ยาวต่างกนั องค์ท่บี รรลุแล้วมเี วลาทรงขนั ธ์
อยนู่ าน เวลานพิ พานแลว้ อฐั ยิ อ่ มมที างกลายเปน็ พระธาตไุ ดโ้ ดยไมม่ ปี ญั หา
เพราะระยะเวลาท่ีทรงขันธ์อยู่ จิตท่ีบริสุทธิ์ก็ย่อมทรงขันธ์เช่นเดียว
กับความสืบต่อแห่งชีวิตด้วยการท�ำงานของระบบต่างๆ ภายในร่างกาย
มลี มหายใจ เปน็ ตน้ และมกี ารเขา้ สมาบตั ปิ ระจำ� อริ ยิ าบถ ซง่ึ เปน็ การซกั ฟอก
ธาตุขันธ์ให้บริสุทธ์ิไปตามส่วนของตนโดยล�ำดับด้วยในขณะเดียวกัน
เวลานิพพานแลว้ อัฐิจงึ กลายเปน็ พระธาตดุ ังทเี่ หน็ ๆ กันอยู่ ส่วนองค์ที่
บรรลแุ ลว้ มไิ ดท้ รงขนั ธ์อยู่นานเท่าทค่ี วร แล้วนิพพานไปเสียนัน้ อฐั ทิ า่ น
จะกลายเป็นพระธาตุได้เหมือนพระอรหันต์ท้ังหลายท่ีมีโอกาสอยู่นาน
หรอื ไม่ เป็นความไมส่ นิทใจ เพราะจิตไมม่ ีเวลาอย่กู ับธาตุขนั ธ์นาน และ
มไิ ดซ้ กั ฟอกด้วยสมาธสิ มาบัติดังกล่าวมา
ท่านที่เปน็ ทนั ธาภญิ ญา คือรไู้ ด้ชา้ คอ่ ยเป็นค่อยไป เช่นบ�ำเพญ็ ไป
ถงึ ขน้ั อนาคามผี ลแลว้ ตดิ อยนู่ านจนกวา่ จะกา้ วขนึ้ ขนั้ อรหตั ภมู ไิ ด้ คอื ตอ้ ง
พิจารณาท่องเที่ยวไปมาอยู่ในระหว่างอรหัตมรรคกับอรหัตผลจนกว่า
501
จติ จะชำ� นชิ ำ� นาญและมกี ำ� ลงั เตม็ ทจ่ี งึ ผา่ นไปได้ ในขณะทก่ี ำ� ลงั พจิ ารณาอยู่
ในขน้ั อรหตั มรรคเพอื่ อรหตั ผล กเ็ ปน็ อบุ ายวธิ ซี กั ฟอกธาตขุ นั ธใ์ นตวั ดว้ ย
เวลานพิ พานแลว้ อฐั อิ าจกลายเปน็ พระธาตไุ ด้ สว่ นทา่ นทเ่ี ปน็ ขปิ ปาภญิ ญา
คอื รไู้ ดเ้ รว็ และนพิ พานไปเรว็ หลงั จากบรรลแุ ลว้ ทา่ นเหลา่ นไี้ มแ่ นใ่ จวา่ อฐั ิ
จะกลายเปน็ พระธาตไุ ดห้ รือประการใด เพราะจิตท่ีบรสิ ุทธ์ไิ ม่มเี วลาทรง
และซกั ฟอกธาตขุ นั ธอ์ ยนู่ านเทา่ ทคี่ วร สว่ นสามญั จติ ของสามญั ชนทวั่ ๆ ไปนนั้
ไมอ่ ยใู่ นขา่ ยทอ่ี ฐั จิ ะควรแปรเปน็ พระธาตไุ ดด้ ว้ ยกรณใี ดๆ จงึ ขอกลา่ วเทา่ ที่
กล่าวผ่านมาแล้ว
เฉพาะองคท์ า่ นพระอาจารยม์ น่ั นอกจากอฐั กิ ลายเปน็ พระธาตใุ หเ้ หน็
อยา่ งประจกั ษแ์ ลว้ พระธาตยุ งั แสดงความอศั จรรยใ์ หเ้ หน็ หลายอยา่ ง ดงั ท่ี
เขยี นผา่ นมาบา้ งแลว้ วา่ ผมู้ พี ระธาตสุ ององคอ์ ธษิ ฐานขอใหเ้ ปน็ สามองค์
ก็เป็นสามองค์ได้ ผมู้ ีสององคอ์ ธิษฐานขอใหเ้ ปน็ สามองค์ แตก่ ลับเปน็
องคเ์ ดยี วกไ็ ด้ ซงึ่ ไมน่ า่ จะเปน็ ไปไดเ้ ลย แตไ่ ดเ้ ปน็ ไปเสยี แลว้ ผไู้ ดม้ าสององค์
จากท่านผู้มีเมตตาจิตมอบให้ พอตกเย็นมาเปดิ ดกู ลบั เปน็ สามองค์ก็ได้
รายนเ้ี ปน็ ความแปลก เพราะชว่ั ระยะเวลาเชา้ ไปถงึ เยน็ เทา่ นนั้ กม็ าเพมิ่ ได้
ทา่ นผนู้ เ้ี ปน็ ขา้ ราชการผใู้ หญม่ ศี รทั ธาในองคท์ า่ นพระอาจารยม์ น่ั มาก
และเปน็ ผใู้ หค้ วามสะดวกตลอดการชว่ ยเหลอื ตา่ งๆ แทบทกุ กรณที เ่ี กยี่ ว
กับงานท่านพระอาจารย์ม่ัน นับแต่วันแรกท่ีท่านไปถึงวัดสุทธาวาสจน
ตลอดงาน พระผู้ใหญเ่ หน็ ใจและสงสารมาก เมอ่ื คณุ วนั นครราชสมี า
ถวายพระธาตุท่านอาจารย์ม่ันมา ท่านจึงมอบให้ข้าราชการผู้น้ีตอนเช้า
พอไดร้ บั พระธาตจุ ากทา่ นแลว้ ขณะนนั้ ไมม่ กี ลอ่ งหรอื ผอบจะใส่ มแี ตข่ วด
ยานตั ถเ์ุ ปลา่ ตดิ กระเปา๋ เสอ้ื จงึ ไดเ้ อาใสพ่ ระธาตไุ ปพลาง ขณะเชญิ พระธาตุ
502
เข้ากระเป๋าเสอ้ื กป็ ดิ กระดมุ เสอื้ ด้วยดี ขวดกป็ ดิ ฝาด้วยดี กลัวพระธาตุ
จะสญู หายไปเสยี
นับแต่ขณะทไี่ ด้พระธาตจุ ากมือพระผ้ใู หญแ่ ล้ว ปรากฏวา่ ใจมีความ
ปีติยินดีเป็นล้นพ้น ลุกจากท่ีนั้นก็ไปท�ำงานเลยทีเดียว และเกิดความ
อม่ิ เอบิ ตน้ื ตนั ใจตลอดวนั ประหนงึ่ จติ มไิ ดค้ ดิ เหนิ หา่ งจากพระธาตทุ ไ่ี ดร้ บั
มานั้นเลยทั้งวัน พอเลิกจากงานไปถึงบ้านก็โฆษณาใหญ่ว่าตนได้ของ
ประเสรฐิ มา ในชีวติ ไม่เคยมี คนในบ้านตา่ งกม็ ารุมดู จากนน้ั กเ็ อาผอบ
มาใสพ่ ระธาตทุ นั ที พอเปดิ ฝาขวดออกเชญิ พระธาตทุ า่ นอาจารยม์ นั่ ออกมา
โดยไมค่ าดฝนั วา่ จะพบความอศั จรรยท์ แี่ สดงออกมาจากพระธาตทุ า่ น คอื
พอเชญิ พระธาตอุ อกจากขวดกไ็ ดเ้ หน็ กลายเปน็ สามองคใ์ นขณะนนั้ ยงิ่ เพมิ่
ความอศั จรรยใ์ นองคท์ า่ นและเกดิ ความปตี ใิ นพระธาตยุ งิ่ ขน้ึ แทบจะเหาะ
ลอยไปท้ังตัว พร้อมกับประกาศความอัศจรรย์ของท่านอาจารย์มั่นว่า
เป็นองค์พระอรหันต์ให้ภรรยาและลูกๆ ฟังในขณะนั้น อย่างไม่คิดว่า
ใครจะหาว่าเปน็ บ้าเปน็ บออะไรเลย
ภรรยาและลกู ๆ ยงั ไมแ่ นใ่ จ เกรงวา่ ทรี่ บั พระธาตมุ าจะจำ� จำ� นวนผดิ ไป
ฝา่ ยสามกี เ็ ถยี งใหญแ่ บบไม่ยอมฟังเสียงใครเลยว่า พระธาตุสององค์ที่
ทา่ นเจา้ คณุ …ใหม้ าเมอื่ เชา้ นจี้ ำ� ไมผ่ ดิ แน่ เพราะขณะรบั จากทา่ นกร็ บั ดว้ ย
ความสนใจและเลอื่ มใสอยา่ งบอกไมถ่ กู แมอ้ ยทู่ ที่ ำ� งานกม็ ไิ ดล้ มื พระธาตุ
ตลอดวันว่าไดพ้ ระธาตุมาสององค์ ได้พระธาตมุ าสององค์ จนกลายเป็น
คำ� บรกิ รรมเหมอื นคนภาวนาแลว้ จะใหห้ ลงลมื ไดอ้ ยา่ งไร ถา้ ใครๆ ยงั ไมล่ งใจ
วา่ เปน็ ความจรงิ พรงุ่ นเี้ ชา้ เราจะไปเรยี นถามทา่ นเจา้ คณุ ทา่ นใหม่ เหน็ จรงิ
กนั พรุ่งนี้เอง
503
ฝา่ ยคนในบา้ นไมย่ อม อยากรใู้ นวนั นเี้ ดย๋ี วนี้ ขอใหไ้ ปเรยี นถามทา่ น
เด๋ียวนี้ ตกลงตอ้ งไปเด๋ียวนัน้ และเรยี นถามว่า ทที่ ่านเมตตาให้พระธาตุ
กระผมเมอ่ื เชา้ นก้ี อ่ี งค์ ทา่ นตอบวา่ ใหส้ ององค์ ทำ� ไมถามอยา่ งนนั้ พระธาตุ
หายหรือ ข้าราชการผู้น้ันตอบด้วยความตื้นตันใจว่า พระธาตุมิได้หาย
แตก่ ลบั ได้เพิ่มขึน้ อีกหนึง่ รวมเป็นสามองค์ด้วยกัน ทก่ี ระผมเรียนถาม
กเ็ พราะเวลาไปถงึ บา้ นแลว้ เปดิ ฝาขวดออกดู เพอ่ื จะเชญิ พระธาตเุ ขา้ ในผอบ
แทนทจ่ี ะมสี ององคต์ ามที่เข้าใจ แตก่ ลบั มสี ามองค์ เลยทำ� ให้กระผมเกิด
ความดใี จจนตวั สน่ั รบี บอกกบั ลกู เมยี แตไ่ มม่ ใี ครเชอ่ื วา่ เปน็ ความจรงิ เลย
เกรงวา่ ผมอาจจำ� ผดิ กไ็ ด้ เลยเคยี่ วเขญ็ ใหก้ ระผมมาเรยี นถามทา่ นอกี ครง้ั
จงึ ไดม้ าตามคำ� เขาแล้วก็เป็นความจริง ยิง่ ทำ� ให้กระผมดีใจเสยี ใหญ่
วา่ อยา่ งไร? เชอ่ื หรอื ยงั ทนี ?้ี นเี่ ปน็ คำ� พดู กบั ภรรยาทมี่ าดว้ ย ภรรยา
ยมิ้ แลว้ พดู วา่ กเ็ กรงจะจำ� ผดิ และหาเรอ่ื งไปโกหกกนั เลน่ กต็ อ้ งพดู อยา่ งนน้ั
เป็นความจริงดังที่ว่าก็ต้องเช่ือ ใครจะฝืนความจริงเพ่ือประโยชน์อะไร
ทา่ นเจา้ คณุ กย็ มิ้ และเลา่ ตามความจรงิ ใหภ้ รรยาฟงั วา่ อาตมาไดใ้ หค้ ณุ ….
สององค์จริงเมื่อเช้านี้ เพราะเห็นว่าเป็นผู้มีคุณต่อท่านอาจารย์ม่ันมาก
ตลอดพระสงฆ์ เรอ่ื ยมาแตว่ นั ทา่ นมรณภาพจนเสรจ็ งาน อาตมายงั จำ� ไมล่ มื
เมอ่ื ไดพ้ ระธาตทุ า่ นอาจารยม์ นั่ มาจากคณุ วนั คมนามลู รา้ น ศริ ผิ ลพานชิ
นครราชสมี า กเ็ ลยสงวนไว้ เพอ่ื นำ� มามอบใหเ้ ปน็ ทร่ี ะลกึ ซง่ึ เปน็ ของหายาก
ในสมยั ปจั จบุ นั เพงิ่ จะพบอฐั กิ ลายเปน็ พระธาตเุ ฉพาะของทา่ นอาจารยม์ น่ั
เพียงองค์เดียว นอกนั้นก็ได้ยินแต่ต�ำราท่านบอกไว้ ยังไม่เห็นตัวจริง
ประจักษต์ า
504
บดั นไ้ี ดเ้ หน็ เป็นพยานหลกั ฐานอยา่ งแทจ้ รงิ เสียแล้ว กรณุ ารกั ษาไว้
ในทส่ี มควร เด๋ียวท่านหายไปก็ยง่ิ ล�ำบากมากกว่าเปน็ ความสุขใจในเวลา
ทา่ นมาเพม่ิ ใหเ้ ปน็ ไหนๆ จะวา่ อาตมาไมบ่ อก เพราะพระธาตทุ า่ นอาจารยม์ น่ั
เป็นของอศั จรรยม์ าก ยงิ่ ท่านมาไดง้ า่ ยๆ อย่างนี้ บทเวลาท่านไปเพราะ
ความเคารพเราไม่พอยิง่ ไปไดง้ ่าย กรณุ าเชญิ ท่านไวท้ ีส่ ูง เคารพบชู าท่าน
ทุกเช้าเย็น ท่านอาจบันดาลความเป็นสิริมงคลเกินคาดให้เวลาใดก็ได้
อาตมาเชอื่ ทา่ นรอ้ ยเปอรเ์ ซน็ ตว์ า่ เปน็ พระผบู้ รสิ ทุ ธมิ์ านานแลว้ แตไ่ มก่ ลา้
บอกใครไดง้ า่ ยๆ กลัวเขาจะหาว่าเป็นบา้ เพราะคนเรามีนิสยั เชือ่ ในสิ่ง
ท่ีดีได้ยาก แต่เชื่อในสิ่งไม่ดีได้ง่าย จึงหาคนดีได้ยาก หาคนชั่วได้ง่าย
แมใ้ นตัวเราเอง ถา้ สังเกตดกู พ็ อทราบได้วา่ ใจชอบคิดในทางชวั่ มากกวา่
ทางดเี ปน็ ประจำ� นสิ ยั พอทา่ นแนะจบลง ทา่ นขา้ ราชการกบั ภรรยากก็ ราบ
นมสั การลาทา่ นกลบั ดว้ ยความชน่ื บานหรรษาอยา่ งบอกไมถ่ กู ทงั้ สองคน
น่ีแลพระธาตุท่านพระอาจารย์มั่นเป็นความแปลกและอัศจรรย์
ดงั ทนี่ ำ� มาลง เพอ่ื ทา่ นผอู้ า่ นไดพ้ จิ ารณาหามลู เหตแุ หง่ ความอศั จรรยข์ อง
พระธาตุดังกล่าวนี้ต่อไป ส่วนการค้นหาหลักฐานและเหตุผลมาพิสูจน์
ดงั ทโ่ี ลกใชก้ นั นัน้ รู้สึกจะพิสจู น์ได้ยาก อาจมองไม่เหน็ รอ่ งรอยเลยกไ็ ด้
ส�ำหรับเร่ืองท�ำนองน้ี เพราะสดุ วิสัยส�ำหรบั พวกเราทมี่ กี เิ ลสจะตามรไู้ ด้
เพยี งแตธ่ าตดุ นิ ทอี่ ยใู่ นสว่ นรา่ งกายทา่ นผบู้ รสิ ทุ ธก์ิ บั อยใู่ นตวั เรา กแ็ สดง
ให้เห็นเป็นของแปลกต่างกันอย่างชัดเจนอยู่แล้ว ว่าอัฐิท่านกลายเป็น
พระธาตไุ ดอ้ ยา่ งประจกั ษต์ า สว่ นรา่ งกายของพวกเราทม่ี กี เิ ลส แมม้ จี ำ� นวน
ลา้ นๆ คน ไมม่ รี ายใดสามารถเปน็ ไปไดอ้ ยา่ งทา่ น จงึ ควรเรยี กไดว้ า่ ทา่ นเปน็
บคุ คลทแี่ ปลกตา่ งจากมนษุ ยท์ งั้ หลายอยมู่ ากจนเทยี บกนั ไมไ่ ด้ ยง่ิ ใจทบ่ี รสิ ทุ ธ์ิ
505
ดว้ ยแลว้ ยง่ิ เพม่ิ ความประเสรฐิ และอศั จรรยจ์ นไมม่ นี มิ ติ เครอื่ งหมายใดๆ
มาเทียบไดเ้ ลย เป็นจิตท่โี ลกท้งั หลายควรเคารพบชู าจริงๆ จงึ ตอ้ งยอม
บชู ากนั
ตามปกตโิ ลกผมู้ คี วามหยง่ิ ในชาตขิ องตนประจำ� นสิ ยั ไมค่ อ่ ยยอมลง
กับใครหรืออะไรได้อย่างง่ายๆ แต่เมื่อหาทางคัดค้านไม่ได้ก็จ�ำต้องยอม
เพราะอยากเป็นคนดี เมื่อเห็นของดีแล้วไม่ยอมรับก็รู้สึกจะโง่เกินไป
ไม่สมภูมิเป็นมนุษย์ ดังท่านอาจารย์ม่ันเป็นต้นในสมัยปัจจุบัน บรรดา
พระเณรเถรชที เี่ ขา้ ไปถงึ องคท์ า่ นจรงิ ๆ และไดร้ บั คำ� แนะนำ� สงั่ สอนจากทา่ น
จนเป็นที่เข้าใจแล้ว เทา่ ทสี่ งั เกตมา ยงั ไมเ่ คยเหน็ รายใดจะดอ้ื ดา้ นหาญ
สทู้ า่ นดว้ ยทฐิ มิ านะ ไมย่ อมลงกบั ความจรงิ ทสี่ งั่ สอนเลย เหน็ แตย่ อมรบั
แบบเอาชีวิตเข้าแลกไดโ้ ดยไม่อาลยั เสยี ดายเลย
ถา้ เทยี บความจรงิ ทที่ า่ นแสดงออกมาจากความบรสิ ทุ ธิ์ ทรี่ จู้ รงิ เหน็ จรงิ
ในธรรมทกุ ขน้ั แตล่ ะบทละบาทนน้ั มคี วามถกู ตอ้ งตายตวั อยา่ งทคี่ า้ นไมไ่ ด้
เชน่ เดยี วกบั ผบู้ วก ลบ คณู หาร ดว้ ยความรสู้ กึ ทถ่ี กู ตอ้ งเชย่ี วชาญนนั่ เอง
เช่น หน่ึงบวกกับหนึ่งต้องเป็นสอง สองบวกสองต้องเป็นส่ี เป็นต้น
จะบวกลบคูณหารทวีข้ึนไปสูงเท่าไร ก็มีแต่ความถูกต้องแม่นย�ำตาม
หลกั วชิ า ไมม่ ผี ดิ พลาดคลาดเคลอื่ น จะเปน็ เดก็ หรอื ผใู้ หญบ่ วกลบคณู หาร
เม่ือถกู ตอ้ งตามหลักแล้วก็ไมม่ ีใครคัดค้านได้วา่ ผิดวสิ ยั
ผทู้ มี่ าคดั คา้ นหลกั ทถ่ี กู ตอ้ งแลว้ แมม้ จี ำ� นวนมากคนเพยี งไร กเ็ ทา่ กบั
มาประกาศขายความโงไ่ มเ่ ปน็ ทา่ ของตนใหค้ วามจรงิ หวั เราะเปลา่ ๆ ฉะนนั้
กฎความถกู ตอ้ งจงึ ไมน่ ยิ มวา่ ควรมอี ยใู่ นเดก็ หรอื ผใู้ หญ่ หญงิ ชาย หรอื ชาติ
506