ก็หายไปในขณะน้ันพอดวงวิญญาณจากไปแล้ว จิตถอนขึ้นมาราวตี ๕
จวนสว่าง คนื นน้ั ทา่ นมไิ ดพ้ ักผ่อนรา่ งกายเลย เพราะเริ่มนั่งสมาธิภาวนา
แต่ขณะออกจากทางจงกรมราว ๒๐ น. ตอนดึกกร็ ับแขกวญิ ญาณเสยี
หลายช่วั โมง
ทา่ นเลา่ วา่ ตอ่ มาไมน่ านนกั ดวงวญิ ญาณกม็ าเยย่ี มฟงั เทศนท์ า่ นอกี
คราวนม้ี าในรา่ งแหง่ เทวดาผมู้ รี ปู สวยงามมาก แตม่ ไิ ดต้ กแตง่ ดว้ ยเครอ่ื ง
ประดบั ตา่ งๆ ตามปกตขิ องพวกเทวดาทที่ ำ� กนั เพราะมาหาพระองคส์ ำ� คญั
ซ่ึงเทวดาถือเป็นความเคารพมากโดยท่ัวไป พอเทวดามาถึงก็เล่าถวาย
ท่านว่า พอได้รับค�ำช้ีแจงจากท่านให้หายสงสัยไร้ทุกข์ที่เคยทรมานใจ
มาแล้ว ก็ไปอุบัติเป็นเทวดาในสวรรค์ช้ันดาวดึงส์พิภพ ซ่ึงมีความสุข
สนกุ สนานดว้ ยเครอื่ งบำ� รงุ บำ� เรอตา่ งๆ ทล่ี ว้ นแตส่ ำ� เรจ็ ไปจากการบำ� เพญ็
เมอ่ื อยกู่ บั ทา่ นในเมอื งมนษุ ยท์ งั้ นนั้ แมจ้ ะมคี วามสขุ สบายตามวบิ ากกรรม
อำ� นวยกต็ าม แตก่ อ็ ดระลกึ มไิ ดว้ า่ วบิ ากสมบตั ทิ ป่ี รากฏใหไ้ ดร้ บั เสวยเหลา่ นนั้
ลว้ นเปน็ สาเหตไุ ปจากพระคณุ ทา่ นเปน็ ผพู้ ารเิ รม่ิ บำ� เพญ็ แตต่ น้ มา เพยี งลำ� พงั
ตวั ผเู้ ดยี วไมม่ ปี ญั ญาสามารถคดิ อา่ นบำ� เพญ็ ใหส้ ำ� เรจ็ เปน็ สมบตั ทิ พ่ี งึ พอใจ
อยา่ งมหาศาลเชน่ นนั้ ได้ เวลามวี าสนาไดไ้ ปเกดิ ในกองมหาสมบตั อิ นั เปน็
ทพิ ยแ์ ละมคี วามสขุ สบายหายโกรธแคน้ นอ้ ยใจแลว้ จงึ ไดร้ ะลกึ ถงึ พระคณุ
ของท่านทมี่ ีแกต่ นอย่างมากมายเหลอื ท่ีจะประมาณได้
ฉะน้ัน การเลือกเฟ้นในทุกสิ่ง ไม่ว่าการงาน อาหารและส่ิงของ
นานาชนดิ ตลอดมติ รสหายเพอ่ื นหญงิ เพอื่ นชายทคี่ วรกอ่ น เปน็ สง่ิ จำ� เปน็
อย่างย่ิงท่ีผู้ต้องการครองตัวด้วยความราบรื่นจะพึงถือเป็นกิจจ�ำเป็น
เฉพาะอยา่ งยงิ่ การเลอื กคู่ครองเพือ่ หวงั พ่งึ เปน็ พง่ึ ตายจรงิ ๆ ควรถือเป็น
207
กรณพี เิ ศษกวา่ สงิ่ อนื่ ใด เพราะคคู่ รองนน้ั เปน็ เหมอื นกบั ใชล้ มหายใจและ
ความเปน็ อยทู่ กุ ดา้ นรว่ มอนั เดยี วกนั ความสขุ ทกุ ข์ นอ้ ยมากยอ่ มเปน็ สงิ่
กระเทอื นถงึ กนั ทกุ ระยะ ผไู้ ดค้ คู่ รองทด่ี ี แมต้ วั จะตำ่� บา้ งทางฐานะความรู้
ความฉลาด การประพฤติ จรติ นิสัย แตก่ ็ยงั ดีทม่ี ีผู้คอยฉุดคอยลากคอย
ให้คติเตอื นใจเสมอ และพาประพฤติด�ำเนินในกจิ การตา่ งๆ ท้ังทางโลก
อนั เปน็ เครอื่ งสง่ เสรมิ ครอบครวั ใหม้ นั่ คงและสงบสขุ และทางธรรมซงึ่ เปน็
ความดีงามแก่จิตใจ ตลอดการงานอย่างอ่ืนที่พลอยมีส่วนดีงามไปด้วย
ไมม่ ดื มดิ ปดิ ตากำ� ดำ� กำ� ขาวไปถา่ ยเดยี ว โดยหาความแนน่ อนและรบั รอง
ผลไม่ได้
ถ้าต่างฝ่ายต่างดีด้วยกันก็เท่ากับต่างช่วยกันสร้างวิมานหลังใหญ่
ในครอบครัวให้อยู่เย็นเป็นสุขร่วมกันไปตลอดอวสาน ไม่มีการทะเลาะ
ววิ าทถกเถยี งกนั ครวั เรอื นยอ่ มเปน็ สขุ ไมม่ เี รอ่ื งขนุ่ ขอ้ งหมองใจมารบกวน
เพราะตา่ งฝา่ ยตา่ งสรา้ งสรรค์ ตา่ งฝา่ ยตา่ งสำ� รวมระวงั ตา่ งฝา่ ยตา่ งตง้ั อยู่
ในเหตผุ ลหลกั ธรรม ไมท่ ำ� ตามใจชอบทผี่ ดิ จากหลกั ศลี ธรรม อนั เปน็ หลกั
รบั รองความรม่ เยน็ ผาสกุ ต่อกัน คคู่ รองแตล่ ะฝา่ ยจึงเป็นผ้ชู ่วยกันสร้าง
กรรมดี ชวั่ สขุ ทกุ ข์ บญุ บาป นรก สวรรคเ์ กยี่ วเนอื่ งกนั แตเ่ รม่ิ ตน้ ชวี ติ
รว่ มกนั เปน็ ตน้ ไปเหมอื นลกู โซ่ ทงั้ ปจั จบุ นั ชาตนิ ตี้ ลอดอนาคตของภพชาติ
ต่อไปดังขา้ บาทได้เห็นประจกั ษก์ ับตัวเอง (คำ� วา่ ขา้ บาทเปน็ ค�ำแทนชอื่
ทถี่ นดั ใจของเทวดา เรยี กตวั เองกบั ทา่ นพระอาจารยม์ น่ั ) ทไี่ ดม้ บี ญุ ตดิ สอย
หอ้ ยตามบาทไปในภพชาติต่างๆ ด้วยการนำ� ของพระคณุ ทา่ นพาสรา้ งแต่
ความดมี าประจำ� นสิ ยั ไมพ่ าสรา้ งบาปกรรมทำ� ชว่ั มวั หมองเลย จงึ พลอยได้
เปน็ คนดตี ดิ ตามบาทมาแทบทกุ ชาตทิ กุ ภพ และพาใหแ้ คลว้ คลาดจากภยั
เวรทัง้ หลายตลอดมา
208
นกึ ถงึ พระคณุ แลว้ ทำ� ใหซ้ งึ้ ในจติ ใจสดุ ทจ่ี ะเรยี นไดถ้ กู คราวนข้ี า้ บาท
ไดเ้ หน็ โทษของตวั ทเี่ คยผดิ พลาดลว่ งเกนิ พระคณุ ทา่ นมาในอดตี ทง้ั ชาติ
แหง่ วญิ ญาณและอดตี กาลทผี่ า่ นมานาน ขอทา่ นไดโ้ ปรดเมตตาอโหสกิ รรม
น�ำเสียซึ่งโทษ อย่าได้มีกรรมมีเวรสืบต่อเกี่ยวข้องอีกต่อไป ท่านได้
อโหสกิ รรมแกเ่ ทวดาตามความปรารถนา และไดแ้ สดงธรรมอบรมสง่ เสรมิ
บารมใี หเ้ ปน็ ทร่ี นื่ เรงิ จนควรแกก่ าลแลว้ เทวดานมสั การลากระทำ� ประทกั ษณิ
สามรอบ หลีกออกหา่ งจากทา่ นพอประมาณ แล้วเหาะลอยข้ึนสูอ่ ากาศ
ดว้ ยความโสมนัสศรัทธาเป็นล้นพ้น
ระหวา่ งวญิ ญาณมาปรบั ทกุ ขด์ ว้ ยความนอ้ ยอกนอ้ ยใจกบั ทา่ น รสู้ กึ วา่
พิสดารเหลือจะพรรณนา ผู้เขียนไม่สามารถน�ำมาลงได้ทุกประโยคไป
จงึ ขออภยั ทา่ นไวด้ ว้ ย เทา่ ทจ่ี ำ� ไดแ้ ละนำ� มาลงนก้ี ไ็ มค่ อ่ ยสนทิ ใจนกั ถา้ จะ
ผ่านไปก็รู้สึกจะขาดเนื้อเรื่องท่ีน่าคิดไป ดังที่เรียนไว้แล้วตอนก่อนที่จะ
เขยี นเร่ืองน้ี
209
พระพทุ ธเจา้ และพระสาวกอรหนั ตเ์ สด็จมาอนโุ มทนา
หลงั จากทา่ นเดนิ ทางถงึ แดนแหง่ วมิ ตุ ตแิ ลว้ คนื ตอ่ ๆ มามพี ระพทุ ธเจา้
พร้อมพระสาวกจ�ำนวนมากเสด็จมาอนุโมทนาวิมุตติธรรมกับท่านเสมอ
มไิ ดข้ าด คนื นน้ั พระพทุ ธเจา้ พระองคน์ น้ั กบั พระสาวกบรวิ ารเปน็ จำ� นวนหมนื่
เสดจ็ มาเยย่ี ม คนื นน้ั พระพทุ ธเจา้ พระองคน์ นั้ กบั สาวกบรวิ ารจำ� นวนแสน
เสดจ็ มาเยย่ี ม คนื นน้ั พระพทุ ธเจา้ พระองคน์ น้ั มสี าวกเทา่ นนั้ เสดจ็ มาเยย่ี ม
อนโุ มทนา จำ� นวนพระสาวกทต่ี ามเสดจ็ พระพทุ ธเจา้ มาแตล่ ะพระองคน์ น้ั
มจี ำ� นวนไมเ่ ทา่ กนั ทงั้ นที้ า่ นวา่ ขนึ้ อยกู่ บั วาสนาของพระพทุ ธเจา้ แตล่ ะพระองค์
ไม่เหมือนกัน ท่ีพระสาวกตามเสดจ็ มาดว้ ยแตล่ ะพระองคน์ น้ั มไิ ดต้ าม
เสดจ็ มาทง้ั หมดในบรรดาพระสาวกของแตล่ ะพระองคท์ ี่มีอยู่ แต่ที่ตาม
เสด็จมามากน้อยต่างกันนั้น พอแสดงให้เห็นภูมิพระวาสนาบารมีของ
แต่ละพระองค์นนั้ ต่างกันเทา่ นัน้
บรรดาพระสาวกจ�ำนวนมากของแต่ละพระองค์ท่ีตามเสด็จมานั้น
มสี ามเณรตดิ ตามมาดว้ ยครงั้ ละไมน่ อ้ ยเลย ทา่ นสงสยั จงึ พจิ ารณากท็ ราบวา่
คำ� วา่ พระอรหนั ตใ์ นนามธรรมนน้ั มไิ ดห้ มายเฉพาะพระ แตส่ ามเณรทม่ี จี ติ
210
บริสุทธิ์หมดจดก็นับเข้าในจ�ำนวนสาวกอรหันต์ด้วย ฉะนั้นท่ีสามเณร
ตดิ ตามมาดว้ ยจึงไม่ขดั กนั
ในพระโอวาทของพระพุทธเจ้าท้ังหลายที่ประทานอนุโมทนาแก่
พระอาจารย์มั่นน้ัน ส่วนใหญ่มีว่า เราตถาคตทราบว่าเธอพ้นโทษจาก
อนนั ตรทุกข์ในทคี่ ุมขงั แห่งเรอื นจ�ำของวฏั ทุกข์ จึงไดม้ าเยย่ี มอนุโมทนา
ท่ีคุมขังแหล่งน้ีใหญ่โตมโหฬารและแน่นหนามั่นคงมาก และมีเครื่อง
ยั่วยวนชวนให้เผลอตัวและติดอยู่รอบตัวไม่มีช่องว่าง จึงยากท่ีจะมีผู้
แหวกว่ายออกมาได้ เพราะสตั วโ์ ลกจำ� นวนมากไมค่ ่อยมีผ้สู นใจกบั ทุกข์
ทเี่ ปน็ อย่กู บั ตวั ตลอดมา ว่าเป็นสิง่ ที่ทรมานและเสียดแทงรา่ งกายจิตใจ
เพยี งใด พอจะคดิ เสาะแสวงหาทางออกดว้ ยวธิ ตี า่ งๆ เหมอื นคนเปน็ โรค
แต่มิได้สนใจกับยา ยาแม้มีมากจึงไม่มีประโยชน์ส�ำหรับคนประเภทน้ัน
ธรรมของเราตถาคตก็เช่นเดียวกับยา สัตว์โลกอาภัพเพราะโรคกิเลส
ตณั หาภายในใจเบยี ดเบยี นเสยี ดแทง ทำ� ใหเ้ ปน็ ทกุ ขแ์ บบไมม่ จี ดุ หมายวา่
จะหายไดเ้ มือ่ ไร
ส่ิงตายตัวก็คือโรคพรรค์น้ี ถ้าไม่รับยาคือธรรมจะไม่มีวันหายได้
ต้องฉุดลากสัตว์โลกให้ตายเกิดคละเคล้าไปกับความทุกข์กายทุกข์ใจ
และเก่ียวโยงกันเหมือนลูกโซ่ตลอดอนันตกาล ธรรมแม้จะมีเต็มไปทั้ง
โลกธาตุ กไ็ มส่ ามารถอ�ำนวยประโยชน์ใหแ้ ก่ผ้ไู ม่สนใจน�ำไปปฏบิ ตั ิรกั ษา
ตวั เทา่ ทค่ี วรจะไดร้ บั จากธรรม ธรรมกอ็ ยแู่ บบธรรม สตั วโ์ ลกกห็ มนุ ตวั
เปน็ กงจกั รไปกบั ทุกข์ในภพน้อยภพใหญ่แบบสัตว์โลกโดยไม่มีจุดหมาย
ปลายทางวา่ จะสน้ิ สดุ ทกุ ขก์ นั ลงไดเ้ มอ่ื ใด ไมม่ ที างชว่ ยได้ ถา้ ไมส่ นใจชว่ ย
ตวั เองโดยยดึ ธรรมมาเปน็ หลกั ใจและพยายามปฏบิ ตั ติ าม พระพทุ ธเจา้ จะ
211
มาตรัสรู้เพิ่มจ�ำนวนองค์และสั่งสอนมากมายเพียงไร ผลที่ได้รับก็เท่าท่ี
โรคประเภทคอยรบั ยามอี ยเู่ ทา่ นนั้ ธรรมของพระพทุ ธเจา้ ไมว่ า่ พระองคใ์ ด
มีแบบตายตัวอยู่อย่างเดียวกัน คือสอนให้ละช่ัวท�ำดีท้ังน้ัน ไม่มีธรรม
พิเศษและแบบสอนพิเศษไปกว่าน้ี เพราะไม่มีกิเลสตัณหาพิเศษในใจ
สตั วโ์ ลกทพี่ เิ ศษเหนอื ธรรมซงึ่ ประกาศสอนไว้ เทา่ ทพี่ ระพทุ ธเจา้ ทง้ั หลาย
ประทานไวแ้ ลว้ เปน็ ธรรมทค่ี วรแกก่ ารรอ้ื ถอนกเิ ลสทกุ ประเภทของมวลสตั ว์
อยแู่ ลว้ นอกจากผู้รับฟังและปฏิบัตติ ามจะยอมแพ้ตอ่ เรือ่ งกเิ ลสตณั หา
ของตัวเสียเอง แลว้ เหน็ ธรรมเป็นของไรส้ าระไปเสยี เท่าน้นั
ตามธรรมดาแล้วกิเลสทุกประเภทต้องฝืนธรรมดาด้ังเดิม คนท่ี
คล้อยตามมันจึงเป็นผู้ลืมธรรมไม่อยากเช่ือฟังและท�ำตาม โดยเห็นว่า
ล�ำบากและเสยี เวลาทำ� ในสงิ่ ท่ตี นชอบ ท้ังท่ีส่ิงนน้ั ให้โทษ ประเพณขี อง
นักปราชญ์ผู้ฉลาดมองเห็นการณ์ไกล ย่อมไม่หดตัวมั่วสุมอยู่เปล่าๆ
เหมอื นเตา่ ถกู นำ�้ รอ้ นไมม่ ที างออก ตอ้ งยอมตายในหมอ้ ทกี่ ำ� ลงั เดอื ดพลา่ น
โลกเดอื ดพลา่ นอยดู่ ว้ ยกเิ ลสตณั หาความแผดเผา ไมม่ กี าลสถานทที่ พี่ อ
จะปลงวางลงได้ จ�ำต้องยอมทนทุกขท์ รมานไปตามๆ กนั โดยไมน่ ิยม
สตั วน์ ำ้� สตั วบ์ ก สตั วอ์ ยบู่ นอากาศและใตด้ นิ เพราะสงิ่ แผดเผาเรา่ รอ้ นอยู่
กับใจ ความทุกข์จึงอยู่ท่ีน่ัน ท่ีน่ีเธอเห็นพระตถาคตอย่างแท้จริงแล้ว
มใิ ชห่ รอื ? พระตถาคตแทค้ อื อะไร คอื ความบรสิ ทุ ธแ์ิ หง่ ใจทเี่ ธอเหน็ แลว้
น้ันแล ท่ีพระตถาคตมาในร่างนี้ มาในร่างแห่งสมมุติต่างหาก เพราะ
พระตถาคตและพระอรหนั ตอ์ นั แทจ้ รงิ มใิ ชร่ า่ งแบบทม่ี ากนั นี้ นเี่ ปน็ เพยี ง
เรอื นร่างของตถาคตโดยทางสมมุติต่างหาก
212
ท่านพระอาจารย์กราบทูลว่า ข้าพระองค์ทราบพระตถาคตและ
พระสาวกอรหันตอ์ ันแทจ้ รงิ ไมส่ งสัย ทสี่ งสัยก็คือ พระองคท์ ้ังหลายกบั
พระสาวกทา่ นทเ่ี สดจ็ ไปดว้ ยอนปุ าทเิ สสนพิ พานไมม่ สี ว่ นสมมตุ ยิ งั เหลอื
อยเู่ ลย แลว้ เสดจ็ มาในรา่ งนไ้ี ดอ้ ยา่ งไร? พระพทุ ธเจา้ ตรสั วา่ ถา้ อกี ฝา่ ยหนง่ึ
แมม้ คี วามบรสิ ทุ ธทิ์ างใจดว้ ยดแี ลว้ แตย่ งั ครองรา่ งอนั เปน็ สว่ นสมมตุ อิ ยู่
ฝ่ายอนุปาทิเสสนิพพานก็ต้องแสดงสมมุติตอบรับกัน คือต้องมาในร่าง
สมมตุ ซิ งึ่ เปน็ เครอ่ื งใชช้ วั่ คราวได้ ถา้ ตา่ งฝา่ ยตา่ งเปน็ อนปุ าทเิ สสนพิ พาน
ดว้ ยกนั แลว้ ไมม่ สี ว่ นสมมตุ ยิ งั เหลอื อยู่ ตถาคตกไ็ มม่ สี มมตุ อิ นั ใดมาแสดง
เพอ่ื อะไรอกี ฉะนน้ั การมาในรา่ งสมมตุ นิ จี้ งึ เพอื่ สมมตุ เิ ทา่ นน้ั ถา้ ไมม่ สี มมตุ ิ
เสยี อยา่ งเดียวกห็ มดปัญหา
พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงทราบเร่ืองอดีตอนาคตก็ทรงถือเอานิมิต
คอื สมมตุ อิ นั ดง้ั เดมิ ของเรอ่ื งนน้ั ๆ เปน็ เครอื่ งหมายใหท้ ราบ เชน่ ทรงทราบ
อดตี ของพระพทุ ธเจา้ ทง้ั หลายวา่ ทรงเปน็ มาอยา่ งไรเปน็ ตน้ กต็ อ้ งถอื เอา
นมิ ติ ของพระพทุ ธเจา้ พระองคน์ นั้ และพระอาการนนั้ ๆ เปน็ เครอ่ื งหมาย
พจิ ารณาใหร้ ู้ ถา้ ไมม่ สี มมตุ ขิ องสง่ิ นน้ั ๆ เปน็ เครอื่ งหมาย กไ็ มม่ ที างทราบได้
ในทางสมมตุ ิ เพราะวมิ ุตตลิ ้วนๆ ไมม่ ีทางแสดงได้ ฉะน้ัน การพจิ ารณา
และทราบได้ ต้องอาศัยสมมุตเิ ปน็ หลักพิจารณา
ดังที่เราตถาคตน�ำสาวกมาเย่ียมเวลานี้ ก็จ�ำต้องมาในรูปลักษณะ
อันเป็นสมมุติดั้งเดิม เพ่ือผู้อื่นจะพอมีทางทราบได้ว่า พระพุทธเจ้า
พระองคน์ น้ั ๆ และพระอรหนั ตอ์ งคน์ น้ั ๆ มรี ปู ลกั ษณะอยา่ งนน้ั ๆ ถา้ ไมม่ า
ในรปู ลกั ษณะนแี้ ลว้ ผอู้ นื่ กไ็ มม่ ที างทราบได้ เมอ่ื ยงั ตอ้ งเกย่ี วกบั สมมตุ ใิ น
เวลาตอ้ งการอยู่ วมิ ุตติกจ็ �ำต้องแยกแสดงออกโดยทางสมมุติเพ่อื ความ
213
เหมาะสมกัน ถ้าเป็นวิมุตติล้วนๆ เช่นจิตที่บริสุทธ์ิรู้เห็นจิตที่บริสุทธ์ิ
ด้วยกันก็เพียงแต่รู้อยู่เห็นอยู่เท่านั้น ไม่มีทางแสดงให้รู้ย่ิงกว่าน้ันไปได้
เมื่อต้องการทราบลักษณะอาการของความบริสุทธ์ิว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ก็จำ� ต้องน�ำสมมตุ ิเขา้ มาชว่ ยเสริมให้วิมุตตเิ ดน่ ขึน้ พอมที างทราบกนั ได้
ว่าวิมุตติมีลักษณะว่างเปล่าจากนิมิตท้ังปวง มีความสว่างไสวประจ�ำตัว
มีความสงบสุขเหนือสงิ่ ใดๆ เปน็ ตน้ พอเป็นเครอ่ื งหมายใหท้ ราบไดโ้ ดย
ทางสมมตุ ทิ ่วั ๆ ไป ผทู้ ราบวิมุตติอยา่ งประจกั ษ์ใจแลว้ จึงไมม่ ีทางสงสัย
ทง้ั เรอื่ งวมิ ตุ ตแิ สดงตวั ออกตอ่ สมมตุ ใิ นบางคราวทคี่ วรแกก่ รณี และทรงตวั
อยู่ตามสภาพเดิมของวมิ ุตติ ไม่แสดงอาการ
ที่เธอถามเราตถาคตน้ัน ถามด้วยความสงสัย หรือถามพอเป็น
กริ ิยาแห่งการสนทนากนั ท่านกราบทูลวา่ ขา้ พระองคม์ ิได้มคี วามสงสัย
ทงั้ สมมุตแิ ละวมิ ุตตขิ องพระองค์ท้ังหลาย แตท่ ก่ี ราบทลู นน้ั กเ็ พอ่ื ถวาย
ความเคารพไปตามกริ ยิ าแหง่ สมมตุ เิ ทา่ นน้ั แมพ้ ระองคก์ บั พระสาวกจะ
เสดจ็ มาหรอื ไมก่ ม็ ไิ ดส้ งสยั วา่ พระพทุ ธเจา้ พระธรรม และพระสงฆอ์ นั แทจ้ รงิ
มอี ยู่ ณ ทแ่ี หง่ ใด แตเ่ ปน็ ความเชอื่ ประจกั ษใ์ จอยเู่ สมอวา่ ผใู้ ดเหน็ ธรรม
ผนู้ น้ั เหน็ เราตถาคต อันแสดงวา่ พระพทุ ธเจา้ พระธรรม และพระสงฆ์
มใิ ชธ่ รรมชาตอิ น่ื ใดจากทบ่ี รสิ ทุ ธห์ิ มดจดจากสมมตุ ใิ นลกั ษณะเดยี วกนั กบั
พระรตั นตรยั พระพทุ ธเจา้ ตรสั วา่ การทเ่ี ราตถาคตถามเธอ กม็ ไิ ดถ้ ามดว้ ย
ความเข้าใจว่าเธอมีความสงสัย แต่ถามเพื่อเป็นสัมโมทนียธรรมต่อกัน
เท่านนั้
บรรดาพระสาวกทตี่ ามเสดจ็ พระพทุ ธเจา้ มาแตล่ ะพระองคแ์ ละแตล่ ะ
ครง้ั นน้ั มไิ ดก้ ลา่ วปราศรยั อะไรกบั ทา่ นพระอาจารยม์ น่ั เลย มพี ระพทุ ธเจา้
214
ประทานพระโอวาทพระองคเ์ ดยี ว สว่ นพระสาวกทงั้ หลายเปน็ เพยี งนงั่ ฟงั
อยอู่ ยา่ งสงบเสงย่ี ม นา่ เคารพเลอ่ื มใสมากเทา่ นนั้ แมส้ ามเณรองคเ์ ลก็ ๆ
ทน่ี า่ รกั มากกวา่ จะนา่ เคารพเลอ่ื มใส กน็ งั่ ฟงั อยอู่ ยา่ งสงบเสงย่ี ม เชน่ เดยี ว
กบั พระสาวกทง้ั หลาย อนั เปน็ ทน่ี า่ เคารพเลอ่ื มใสมากและนา่ รกั มากดว้ ย
ซึ่งยงั อยู่ในวัยเล็กมากกม็ ี อายรุ าว ๙ ขวบ ๑๐ ขวบ ๑๑–๑๒ ขวบ
ซึ่งน่ารักมาก ทา่ นเลา่ วา่ พอเห็นสามเณรอรหนั ตแ์ ลว้ ทา่ นเกิดความรู้สึก
รกั มากและสงสารมาก ถ้าตามภาษาของผู้ใหญ่พูดกับเดก็ ธรรมดาทั่วไป
กว็ า่ เณรตวั เลก็ ๆ ตาใสแจว๋ ใครเหน็ แลว้ กอ็ ดทจ่ี ะรกั ไมไ่ ด้ ดไี มด่ ถี า้ ไมท่ ราบ
ไวก้ อ่ นวา่ ทา่ นเปน็ สามเณรอรหนั ตแ์ ลว้ นา่ กลวั จะดอ้ื มอื ไปควา้ เอาศรี ษะ
ท่านขยี้เขยา่ เลน่ โดยมิได้ส�ำนึกในบาปแน่
ท่านพูดมาตอนน้ีเลยนึกคันมือขึ้นมาว่า ถึงผู้เขียนก็เถอะอาจเป็น
ผู้หน่ึงกอ่ นใครที่จะอดคว้าไม่ได้ เป็นอะไรเป็นกนั แล้วคอ่ ยขอขมาโทษ
ท่านทหี ลงั เพราะอดรักอดเล่นไมไ่ ด้ ทา่ นวา่ แม้ท่านจะเปน็ สามเณรองค์
เล็กๆ กต็ าม แต่มรรยาททา่ นเป็นผู้ใหญส่ งบเสงีย่ มสวยงามมากเหมอื น
พระสาวกทงั้ หลาย สรปุ แลว้ บรรดาพระสาวกอรหนั ตแ์ ละสามเณรทต่ี าม
เสด็จมากับพระพุทธเจ้าแต่ละครั้ง ล้วนมีมรรยาทอันสวยงามน่าเคารพ
เลอ่ื มใสมาก เหมือนผา้ ท่ถี ูกพับและเกบ็ ไวเ้ ปน็ ระเบยี บงามตา
ฉะนน้ั เวลาทา่ นเกดิ ความสงสยั เกย่ี วกบั ระเบยี บขนบประเพณดี ง้ั เดมิ
เชน่ การเดนิ จงกรม นง่ั สมาธิ ความเคารพตอ่ กนั ระหวา่ งผอู้ าวโุ สกบั ภนั เต
และการครองผ้าเวลาน่ังสมาธิ หรือเดินจงกรมจ�ำเป็นทุกคร้ังไปหรือไม่
อยา่ งไร ขณะนงั่ ภาวนาทา่ นนกึ วติ ก อยากทราบความจรงิ ทพี่ ระพทุ ธเจา้ และ
พระสาวกพาดำ� เนินมากอ่ นท่านท�ำกนั อย่างไรดังน้ี ถา้ ไม่ใช่พระพทุ ธเจา้
215
เสด็จมาแสดงวิธีให้ดูเอง ก็เป็นพระสาวกองค์ใดองค์หน่ึงมาแสดงให้ดู
ตวั อยา่ งจนได้ เชน่ การเดนิ จงกรมจะควรปฏบิ ตั ติ วั อยา่ งไรในขณะเดนิ ถงึ
จะถูกตอ้ ง และเปน็ ความเคารพธรรมตามหน้าท่ขี องผสู้ นใจเคารพธรรม
ในเวลาเชน่ น้นั ทา่ นกเ็ สดจ็ มาแสดงวธิ วี างมอื วธิ กี า้ วเดนิ วธิ สี ำ� รวมตน
ในเวลาเดนิ ใหด้ อู ยา่ งละเอยี ด บางครงั้ กป็ ระทานพระโอวาทประกอบกับ
วธิ แี สดงดว้ ย บางครงั้ กแ็ สดงเพยี งวธิ ตี า่ งๆ ใหด้ ู แมพ้ ระสาวกอรหนั ตม์ า
แสดงใหด้ กู ท็ ำ� ในลกั ษณะเดยี วกนั การนงั่ ทำ� สมาธทิ ำ� อยา่ งไร ควรหนั หนา้
ไปทางทิศใดเป็นการเหมาะกว่าทิศอ่ืนๆ ท่านั่งจะต้ังตัวอย่างไรเป็นการ
เหมาะสมในขณะนนั้ ทา่ นแสดงใหด้ ทู กุ วธิ ี
ความเคารพต่อกันระหว่างอาวุโสกับภันเต ตอนน้ีท่านเล่าแปลก
อยบู่ า้ ง คอื ขณะทที่ า่ นนกึ วติ กอยากทราบวา่ ครงั้ พทุ ธกาลทา่ นปฏบิ ตั ติ อ่ กนั
อยา่ งไรทเี่ ปน็ สามีจิกรรมต่อกันโดยชอบธรรม พอวิตกไมน่ าน ก็ปรากฏ
มีพระพุทธเจ้าและพระสาวกท้ังหนุ่มท้ังแก่และแก่จนหง่อมศีรษะ
หงอกขาวไปหมด ตลอดสามเณรเล็กๆ และโตพอประมาณ ซึง่ ล้วนอยู่
ในวัยที่น่ารักตามเสด็จมามากมาย แต่การเสด็จมาของพระพุทธเจ้ากับ
การมาของพระสาวกท้ังหลายมิได้มาพร้อมกัน ต่างองค์ต่างมา องค์ใด
มาถงึ กอ่ นองคน์ นั้ กน็ งั่ อาสนะขา้ งหนา้ องคม์ าทส่ี องทสี่ ามกน็ งั่ รองกนั ลง
มาตามล�ำดบั ทม่ี าถงึ ไม่นิยมวยั และอาวโุ สภนั เต แม้สามเณรมาถึงกอ่ น
ก็นั่งข้างหน้าพระ จนถึงองค์สุดท้าย องค์แก่ๆ รุ่นปู่รุ่นทวดสามเณร
มาถงึ ทหี ลงั กต็ อ้ งนงั่ อาสนะสดุ ทา้ ย โดยมไิ ดม้ อี งคใ์ ดแสดงกริ ยิ าขวยเขนิ
กระดากอายต่อกันเลย แม้องค์พระพุทธเจ้าเองเสด็จมาถึงล�ำดับใด
ก็ประทบั อาสนะนน้ั ทีค่ วรแก่ผู้มาถงึ ทีหลัง
216
ทา่ นเหน็ อาการอยา่ งนน้ั จงึ เกดิ ความสงสยั วา่ พระครงั้ พทุ ธกาลไมม่ ี
การเคารพกนั บา้ งหรอื อยา่ งไรถงึ ไดท้ ำ� อยา่ งน้ี ดไู มม่ รี ะเบยี บงามตาบา้ งเลย
แล้วพระพุทธเจ้าและพระสาวกทรงประกาศพระศาสนาให้ประชาชน
เคารพนับถือได้อย่างไร เมื่อพระศาสนาและผู้น�ำของพระศาสนาตลอด
ผู้ปฏิบัติศาสนาอย่างใกล้ชิด ประพฤติต่อกันอย่างไม่มีระเบียบเช่นนั้น
สักประเด๋ียวธรรมก็ผุดข้ึนมาในใจท่านเอง โดยพระพุทธเจ้าและสาวก
ยงั มไิ ดป้ ระทานโอวาทแตอ่ ยา่ งใด วา่ นคี่ อื วสิ ทุ ธธิ รรมลว้ นๆ ไมม่ สี มมตุ เิ ขา้
เจอื ปนเลย จงึ ไมม่ กี ฎขอ้ บงั คบั หรอื ระเบยี บใดๆ เขา้ มาเกย่ี วขอ้ ง ทแี่ สดง
อยา่ งนแี้ สดงเรอ่ื งวสิ ทุ ธธิ รรมทเ่ี ปน็ ความเสมอภาคทวั่ กนั ไมน่ ยิ มวา่ ออ่ น
วา่ แก่ วา่ สงู วา่ ตำ่� อนั เปน็ เรอื่ งของสมมตุ ิ นบั แตพ่ ระพทุ ธเจา้ ลงมาถงึ สาวก
อรหนั ตอ์ งคส์ ดุ ทา้ ย จะเปน็ พระหรอื เณรไมจ่ ำ� กดั แตม่ คี วามเสมอภาคกนั
ดว้ ยความบรสิ ทุ ธิ์ ทา่ นแสดงบคุ คลาธษิ ฐานในลกั ษณะนี้ เปน็ เครอื่ งบอก
ถึงความบริสุทธิ์ของกันและกันว่า ไม่มีใครย่ิงหย่อนกว่ากันบรรดาพระ
และเณรทเ่ี ปน็ อรหนั ตด์ ้วยกัน
พอธรรมทแ่ี สดงข้นึ สงบลง ท่านนกึ วิตกอีกว่า ท่านเคารพกันตาม
สมมุตนิ ้นั เคารพกันอย่างไรบ้างหนอ พอความคิดวิตกระงับลง ภาพของ
พระพุทธเจ้าและพระสาวกท้ังหลายท่ีประทับนั่ง และน่ังกันอย่างไม่มี
ระเบยี บอยขู่ ณะนน้ั กไ็ ดเ้ ปลยี่ นแปลงไปอยา่ งรวดเรว็ และเปลย่ี นทา่ ประทบั
และทา่ นั่งใหม่ทนั ที คราวนี้ปรากฏวา่ พระพุทธเจา้ ประทบั นั่งเปน็ ประมุข
อยู่ขา้ งหนา้ สงฆ์ สามเณรองค์เล็กๆ ท่ีมาถงึ ก่อนและเคยนงั่ อยขู่ า้ งหน้า
กไ็ ดเ้ ปลย่ี นเปน็ นงั่ อยสู่ ดุ ทา้ ยอยา่ งมรี ะเบยี บงามตานา่ เคารพเลอื่ มใสมาก
ขณะนน้ั ธรรมผดุ ขนึ้ ในใจทา่ นวา่ นค่ี อื ระเบยี บและขนบประเพณขี องพระ
217
ครงั้ พทุ ธกาลเคารพกัน ท่านเคารพกันอย่างน้ี แมเ้ ปน็ พระอรหนั ต์แล้ว
แตย่ ังออ่ นพรรษาอยู่ กจ็ �ำตอ้ งเคารพพระอาวุโสท่ปี ฏิบตั ิดที งั้ ทีย่ งั มีกิเลส
ภายในใจอยู่
ต่อล�ำดับน้ันพระองค์ประทานพระโอวาทว่า พระของเราตถาคต
ตอ้ งมคี วามเคารพและสนทิ สนมกันประหนึ่งอวยั วะอนั เดยี วกัน แต่มิได้
สนทิ กนั แบบโลก หากแตส่ นทิ กนั ตามแบบของธรรมซงึ่ เปน็ ความเสมอภาค
ไมล่ ำ� เอยี ง พระของเราตถาคตอยดู่ ว้ ยกนั แมจ้ ำ� นวนมากกไ็ มท่ ะเลาะกนั
ไมม่ กี ารเผยอเยอ่ หยง่ิ ตอ่ กนั พระทไ่ี มเ่ คารพกนั ตามหลกั ธรรมวนิ ยั ทเี่ ปน็
องค์ศาสดาแทนเราตถาคต มิใช่พระของตถาคต แม้จะเลียนแบบของ
ลกู ศษิ ยต์ ถาคตกค็ อื พระทเี่ ลยี นๆ อยนู่ น่ั แล ไมจ่ รงิ ดงั คำ� ประกาศอวดอา้ ง
ถ้าพระยังมีความเคารพกนั ตามหลกั ธรรมวินัย คอื ตถาคต และเป็นผ้มู ี
ความจงรักภักดีต่อธรรมวินัยไม่ฝ่าฝืน พระนั้นจะอยู่ท่ีใด บวชเมื่อไร
เป็นชาตชิ ้นั วรรณะและออกมาจากสกลุ ใด ก็คือพระลกู ศิษย์เราตถาคต
อยู่น่ันแล ชื่อว่าผู้เดินตามเราตถาคต ต้องปรากฏความสิ้นสุดทุกข์ใน
วันหน่ึงแน่นอน พอประทานพระโอวาทย่อจบลง นับแต่พระพุทธเจ้า
ลงมาตา่ งองคต์ า่ งหายไปในขณะนน้ั ทา่ นอาจารยเ์ องกส็ นิ้ สงสยั ลงในขณะ
ที่นิมิตมาแสดงบอกอย่างชดั เจนนนั้ เช่นกัน
แม้การครองผ้าในเวลานั่งสมาธิหรือเดนิ จงกรม พระสาวกกไ็ ดม้ า
แสดงใหด้ ตู ามลำ� ดบั ทเี่ กดิ ความสงสยั ไมแ่ นใ่ จ วา่ ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งครองผา้
ทุกครั้งไป โดยท่านมาแสดงการน่ังสมาธิและเดินจงกรมในท่าครองผ้า
และไม่ครองผ้าให้ดูจนส้ินความสงสัยทุกกรณีไป ตลอดสีผ้าสบง จีวร
สงั ฆาฏอิ นั เปน็ เครอ่ื งนงุ่ หม่ ของพระ ทา่ นกแ็ สดงใหด้ ู โดยแสดงผา้ สกี รกั
218
คือสแี ก่นขนนุ ออกเปน็ สามสี คอื สกี รักอ่อน สกี รกั ขนาดกลาง และ
สกี รกั แกใ่ หโ้ ดยละเอยี ด เทา่ ทพ่ี จิ ารณาตามทา่ นเลา่ ใหฟ้ งั แลว้ กพ็ อทราบ
ได้ว่า ท่านท�ำอะไรลงไปมักมีแบบฉบับมาเป็นเคร่ืองยืนยันรับรองความ
แน่ใจในการท�ำเสมอ มิได้ท�ำแบบสุ่มเดาท่ีเรียกว่าเอาตนเข้าไปเสี่ยงต่อ
กจิ การทไี่ มแ่ นใ่ จ ฉะนน้ั ปฏปิ ทาทา่ นจงึ ราบรนื่ สมำ�่ เสมอตลอดมา ไมม่ ขี อ้
ทนี่ า่ ตำ� หนแิ ละกระทบกระเทอื นใดๆ มาแตต่ น้ จนอวสาน ซงึ่ จะหาผเู้ สมอ
ได้ยากในสมยั ปจั จบุ นั
บรรดาสานุศิษย์ท่ียึดเอาปฏิปทาท่านไปปฏิบัติ ย่อมเป็นความงาม
เสมอตน้ เสมอปลายแบบลูกศษิ ยม์ ีครู นอกจากท่ีชอบแหวกแนวแบบผี
ไม่มปี า่ ช้า ลูกไมม่ พี ่อแม่ ศษิ ยไ์ ม่มอี าจารยซ์ ง่ึ อาจมไี ดเ้ ท่านั้น ปฏิปทาท่ี
ทา่ นพาดำ� เนนิ มาจงึ อาจถกู ดดั แปลงไปตามความคดิ เหน็ นอกนน้ั ปฏปิ ทา
ท่านนบั วา่ ราบเรียบมาก ท้ังน้ที ่านรู้สึกมีอะไรๆ ทพี่ ดู ไมอ่ อกบอกไม่ถูก
อยูภ่ ายในอย่างลึกลบั เป็นเข็มทศิ พาดำ� เนิน ซง่ึ ผูป้ ฏบิ ตั ิท้ังหลายไมอ่ าจ
มไี ดอ้ ยา่ งท่าน
การจ�ำพรรษาของท่านในจังหวัดเชียงใหม่ทราบว่าท่านจ�ำท่ีหมู่บ้าน
จอมแตง อำ� เภอแม่รมิ ๑ พรรษา ทบี่ า้ นปง อ�ำเภอแมแ่ ตง ๑ พรรษา
ท่ีบ้านกลอย อ�ำเภอพรา้ ว ๑ พรรษา ในเขาอำ� เภอแม่สรวย ๑ พรรษา
ที่บ้านปู่พระยาอำ� เภอแม่สรวย ๑ พรรษา ทวี่ ัดเจดีย์หลวง ๑ พรรษา
ทบี่ า้ นแม่ทองทพิ ย์ อำ� เภอแมส่ าย จังหวัดเชยี งราย ๑ พรรษา ท่ีจังหวดั
อตุ รดติ ถ์ ๑ พรรษา สว่ นทที่ า่ นเทยี่ วบำ� เพญ็ สมณธรรมในทต่ี า่ งๆ ตามบา้ นปา่
บ้านเขานั้นจำ� ไม่ได้ทกุ สถานที่ไป และไม่สามารถนำ� มาเรียงลำ� ดับพรรษา
กอ่ นและหลงั กนั ได้ เพราะทา่ นเทยี่ วอยแู่ ถบจงั หวดั เชยี งใหมแ่ ละเชยี งราย
นานถึง ๑๑ ปี
219
ต่อไปจะขอระบุเฉพาะหมู่บ้านที่ท่านพักซ่ึงเก่ียวกับเหตุการณ์เป็น
แหง่ ๆ ไป ทไี่ มจ่ ำ� เปน็ จะไมข่ อกลา่ วถงึ ทา่ นพกั อยใู่ นทนี่ นั้ ๆ ไมว่ า่ จำ� พรรษา
หรอื เทยี่ ววเิ วกธรรมดา เวน้ วดั เจดยี ห์ ลวง นอกนนั้ ทราบวา่ เปน็ ปา่ เปน็ เขา
ซง่ึ เปน็ ทเี่ ปลยี่ วๆ แทบทง้ั นนั้ และเปน็ การเสย่ี งตอ่ ภยนั ตรายหลายอยา่ ง
มาตลอดระยะท่ีท่านเที่ยวบ�ำเพ็ญ ฉะนั้น ประวัติท่านจึงเป็นประวัติท่ี
สำ� คญั มาก ทงั้ การเทยี่ วธดุ งคกรรมฐาน และการรเู้ หน็ ธรรมประเภทตา่ งๆ
เป็นเร่ืองแปลกและพิสดารผิดกับประวัติของอาจารย์ทั้งหลายที่เป็น
นกั ทอ่ งเท่ยี วบ�ำเพ็ญเหมอื นกันอยู่มาก
เรมิ่ แรกทท่ี า่ นออกปฏบิ ตั ใิ นเขตจงั หวดั เชยี งใหม่ ทา่ นไปเทย่ี วและพกั
อยเู่ พยี งองคเ์ ดยี วถา้ เปน็ แบบโลกกน็ บั วา่ เปลา่ เปลยี่ วทส่ี ดุ ความหวาดหวน่ั
พรนั่ พรึงคงแทบไม่หายใจ เพราะความกลวั บังคับอย่ทู งั้ วันท้งั คืน ไมเ่ ป็น
อนั กนิ อยหู่ ลบั นอนได้ แตส่ ำ� หรบั ทา่ นแลว้ ในอริ ยิ าบถทง้ั สซ่ี ง่ึ เปน็ เรอ่ื งของ
บคุ คลผเู้ ดยี ว ทา่ นถอื วา่ มคี วามสขุ ทางจติ ใจและสะดวกทางความเพยี รมาก
เพราะการถอดถอนกเิ ลส ทา่ นก็ถอดถอนไดด้ ้วยอ�ำนาจความเพยี รของ
บุคคลผู้เดียวดังท่ีกล่าวผ่านมาแล้ว ต่อมาค่อยมีพระทยอยไปหาท่าน
มีท่านเจ้าคุณเทสก์ อ�ำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ท่านอาจารย์สาร
ทา่ นอาจารยข์ าว วดั ถำ้� กลองเพล เปน็ ตน้ แตอ่ ยกู่ บั ทา่ นชวั่ ระยะกาลเทา่ นนั้
ทา่ นกส็ ง่ั ใหอ้ อกหาทว่ี เิ วกตามทตี่ า่ งๆ แถบหมบู่ า้ นชาวเขาทต่ี งั้ อยหู่ า่ งๆ กนั
ทช่ี ายเขาบา้ ง บนหลงั เขาบา้ ง หมูบ่ ้านละ ๔-๕ หลังคาเรือนบา้ ง ๙–๑๐
หลังคาเรือนบ้าง พอได้อาศัยเขาไปเป็นวันๆ ท่านเองก็ชอบอยู่ล�ำพัง
องค์เดียวตามนสิ ยั
220
พระกรรมฐานสมยั ทา่ นเปน็ ผนู้ ำ� พาดำ� เนนิ ครงั้ นนั้ ปรากฏวา่ เดด็ เดย่ี ว
อาจหาญมาก เทย่ี วแสวงหาธรรมกนั แบบเอาชวี ติ เขา้ ประกนั จรงิ ๆ ไมอ่ าลยั
ชวี ติ ยง่ิ กวา่ ธรรม ทใี่ ดมสี ตั วเ์ สอื ชมุ ทา่ นชอบสงั่ ใหพ้ ระไปอยทู่ น่ี น้ั เพราะ
เปน็ ทชี่ ว่ ยกระตนุ้ เตอื นสตปิ ญั ญามใิ หน้ ง่ิ นอนใจ ความเพยี รกจ็ ำ� ตอ้ งตดิ ตอ่
กันไปเอง และเป็นเคร่ืองหนุนจิตใจให้มีก�ำลังขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าปกติ
ทคี่ วรจะเปน็ ทา่ นเองกพ็ กั บำ� เพญ็ เปน็ สขุ วหิ ารธรรมอยสู่ บาย ในปา่ ในเขา
ทส่ี งดั ปราศจากผคู้ นทง้ั กลางวนั กลางคนื การตดิ ตอ่ กบั พวกกายทพิ ย์ เชน่
เทวบตุ ร เทวดา อนิ ทร์ พรหม พญานาค ภตู ผที ม่ี าจากทตี่ า่ งๆ ทา่ นถอื เปน็
ธรรมดา เชน่ เดียวกับมนษุ ย์ตดิ ตอ่ กบั พวกมนษุ ยช์ าติต่างๆ ที่รูภ้ าษากัน
เพราะท่านชำ� นิชำ� นาญในทางน้ีมาช้านานแลว้
ทา่ นพกั อยทู่ ปี่ า่ ทเ่ี ขา โดยมากกท็ ำ� ประโยชนแ์ กพ่ วกกายทพิ ยน์ ี้ และ
พวกชาวเขาซง่ึ เปน็ คนซอื่ สตั ยส์ จุ รติ ไมค่ อ่ ยมแี งง่ อนตา่ งๆ เวลาเขารนู้ สิ ยั
และซาบซ้ึงในธรรมท่านแล้ว เขาเคารพเล่ือมใสท่านมากแบบเอาชีวิต
เขา้ ประกนั ไดเ้ ลย คำ� วา่ ชาวปา่ ชาวเขา เชน่ พวกอกี อ้ ขมุ มเู ซอ แมว้ ยาง
เหลา่ นี้ ตามความคาดหมายของคนทัว่ ไป เขา้ ใจว่าเขาเป็นคนปา่ คนเขา
รูปร่างท้ังหญิงทั้งชายต้องขี้ริ้วข้ีเลอะตัวด�ำก�ำโคลนราวกับตอตะโกแน่ๆ
แตท่ า่ นวา่ คนพวกนรี้ ูปร่างหนา้ ตาสวยงาม และขาวสะอาดสะอา้ น กิรยิ า
เรียบร้อย มีระเบียบขนบธรรมเนียมดี เคารพนับถือผู้ใหญ่และผู้เป็น
หวั หนา้ ในหมบู่ า้ นดมี าก สามคั คกี นั ดี ไมค่ อ่ ยมปี ระเภทแหวกแนวแฝงอยู่
ในหมบู่ า้ นเหลา่ นนั้ ในสมยั นน้ั มคี วามเชอ่ื ถอื ผใู้ หญแ่ ละหวั หนา้ บา้ นมาก
หัวหน้าพูดอะไรชอบเชื่อฟังและท�ำตาม ไม่ด้ือดึงฝ่าฝืน สั่งสอนก็ง่าย
ไมค่ อ่ ยมที ฐิ มิ านะ คำ� วา่ ปา่ แทนทจ่ี ะเปน็ ปา่ เถอื่ นแบบสตั ว์ แตก่ ลบั เปน็ ปา่
แหง่ คนดมี สี ตั ยม์ ศี ลี ไมม่ กี ารฉกลกั ขโมยปลน้ จก้ี นั เหมอื นปา่ มนษุ ยล์ ว้ นๆ
221
ป่าไม้ป่าสัตว์เป็นป่าท่ีไม่ค่อยได้ระเวียงระวังมากเหมือนป่ามนุษย์
ลว้ นๆ ท่ีเต็มไปด้วยภัยนานาชนดิ กเิ ลส ความโลโภ โทโส โมโห เปน็ ป่า
ลกึ ลบั ชนดิ ทโี่ ดนเอาๆ ไมเ่ วน้ แตล่ ะเวลา เมอ่ื โดนเขา้ แลว้ ตอ้ งเปน็ แผลลกึ
อยู่ภายใน และคอยทำ� ลายสุขภาพทางรา่ งกายและจติ ใจให้เกิดทุกข์เสีย
หายไปนานๆ ไมค่ อ่ ยมวี นั หายไดเ้ หมอื นแผลชนดิ อนื่ ๆ และไมค่ อ่ ยสนใจ
หายามาระงบั หรอื กำ� จดั กนั ดว้ ย แผลลกึ ทกี่ เิ ลสเหลา่ นต้ี ำ� จงึ มกั จะเปน็ แผล
เร้ือรงั ผูถ้ ูกต�ำก็มกั ปล่อยท้ิงไวใ้ หห้ ายไปเอง ปา่ ประเภทน้มี อี ยู่ในใจของ
มนษุ ยห์ ญงิ ชายพระเณรทกุ คนไมเ่ ลอื กหนา้ ถา้ เผลอกเ็ สยี ทา่ ใหม้ นั จนได้
ท่านว่าเท่าท่ีท่านพยายามอยู่ในป่าก็เพื่อจะก�ำจัดตัดป่าเสือร้ายภายในตัว
คึกคะนองและโหดร้ายทารุณไม่มีวันสงบซบเซาลงบ้างเลยน้ี ให้สงบ
หรือตายไปจากใจ พอได้อยู่สบายหายวุ่นบ้าง สมกับมนุษย์เป็นสัตว์
ฉลาดแสวงหาความสขุ ใสต่ นในเวลาทไ่ี ดเ้ กดิ มาเปน็ คนทง้ั ชาติ ไมข่ าดทนุ
สูญอำ� นาจวาสนาแหง่ ความเป็นมนุษยไ์ ปเปลา่ ๆ
ทา่ นอยปู่ า่ อยเู่ ขาเชน่ นนั้ เวลามหี มคู่ ณะไปอาศยั ทา่ น การอบรมสงั่ สอน
กเ็ ดด็ เดย่ี วไปตามสถานทแ่ี ละผไู้ ปเกย่ี วขอ้ ง เพราะผทู้ ไี่ ปหาทา่ นโดยมาก
มกั มแี ต่ผกู้ ลา้ ตายแบบเสียสละทุกอย่างแลว้ ท้งั นน้ั การสง่ั สอนจึงทำ� ให้
สมภมู ทิ งั้ สองฝา่ ย จะตายกย็ อมใหต้ ายไปดว้ ยความเพยี ร เมอื่ ชวี ติ ยงั เปน็
ไปอยกู่ ข็ อใหร้ ใู้ หเ้ หน็ ธรรมและหลดุ พน้ จากทกุ ขภ์ ายในใจ ไมต่ อ้ งกลบั มา
เกิดตายและทนทกุ ขซ์ �้ำซากอยู่ในโลกไมม่ ขี อบเขตแหง่ ความส้ินสดุ นี้
การอบรมสง่ั สอนพระในคราวอยเู่ ชยี งใหมผ่ ดิ กบั แตก่ อ่ นอยู่ ไมม่ กี าร
อนโุ ลมผอ่ นผนั ใดๆ เลย แมพ้ ระทไี่ ปอบรมกบั ทา่ นโดยมากกเ็ ปน็ พระประเภท
ปฏิโลม ฟังกันแบบปฏโิ ลม คอื คอยจอ้ งมองดูกเิ ลสของตวั จะแสดงขน้ึ
222
มาอยา่ งไรบา้ ง เพอื่ ปราบปรามใหห้ ายพยศลดกำ� ลงั โดยถา่ ยเดยี ว มไิ ดไ้ ป
สนใจคิดว่าท่านเทศน์หนักไป เผ็ดร้อนไป ย่ิงท่านเทศน์เผ็ดร้อนเท่าไร
ธรรมกย็ ง่ิ สงู ขนึ้ เปน็ ลำ� ดบั ใจกย็ ง่ิ สงบแนบแนน่ ดสี ำ� หรบั ผทู้ อี่ ยใู่ นขนั้ สงบ
ผูอ้ ย่ใู นขนั้ ปัญญา จติ ก็พยายามคดิ คน้ ตามคำ� เทศน์ท่านไปเรือ่ ยไม่ลดละ
ทา่ นอยเู่ ชยี งใหมเ่ ทศนธ์ รรมสงู มาก เพราะความรทู้ า่ นกเ็ ตม็ ภมู ิ ผไู้ ปศกึ ษา
อบรมกม็ ีภูมิจติ สูง และเปน็ ไปด้วยความหมายม่นั ปน้ั มอื ทจ่ี ะให้รใู้ หเ้ หน็
ขนั้ สงู ข้นึ ไปเป็นล�ำดับจนสุดภูมิ นอกจากเทศนธ์ รรมดาแล้ว ยง่ิ มีธรรม
แปลกๆ คอยดักใจผู้คิดออกนอกลู่นอกทางอีกด้วย ประเภทหลังนี้มี
อ�ำนาจมากในการดกั จบั และปราบโจรภายในของพระทช่ี อบขโมยสิง่ ของ
เกง่ แบบไมเ่ ลอื กกาลสถานที่ คอื ขโมยคดิ เรอื่ งรอ้ ยแปดตามนสิ ยั ของคน
มกี เิ ลส มิใช่แบบเขาขโมยกนั ทวั่ ๆ ไป
มาถึงตอนนี้มีเรอ่ื งแปลกๆ ท่ีไม่นา่ จะมีได้ แต่ก็ไดม้ ีแทรกขนึ้ ในวง
กรรมฐานมาแลว้ สมยั ทา่ นพกั อยใู่ นเขาทเ่ี ชยี งใหม่ จงึ ขออภยั เขยี นไวบ้ า้ ง
ตามท่ีไดย้ ินมา เพอื่ เปน็ ข้อคดิ และเป็นคตเิ ตอื นใจแกช่ าวเราตา่ งกก็ �ำลัง
ตกอยู่ในภาวะท�ำนองเดียวกัน เรื่องนี้คิดว่าเป็นเรื่องกรรมกันโดยมาก
บรรดาท่ีได้ทราบกันในวงใกล้ชิดมีท่านพระอาจารย์ม่ัน เป็นต้น ผู้ให้
ขอ้ วพิ ากษว์ จิ ารณเ์ รอื่ งนพี้ อไดเ้ ปน็ ขอ้ คดิ ตลอดมา พระอาจารยร์ ปู หนงึ่ ซง่ึ
เคยอยกู่ บั ท่านอาจารย์มัน่ เลา่ ให้ฟังวา่ บา่ ยๆ วันหนงึ่ ทา่ นกับพระอีกรูป
หนง่ึ ไปอาบน้ำ� ท่แี อง่ หนิ ใกล้กบั หนทางไปไร่ไปสวนของชาวบ้านแถบนน้ั
แต่อยหู่ ่างไกลจากหมู่บ้านมาก ขณะลงอาบน้�ำเผอญิ มพี วกสกี ามาจากไร่
เดินผา่ นมาทต่ี รงน้ัน ซึง่ แตก่ อ่ นไมเ่ คยมีเลย พอพระรูปน้นั เจอเขา้ จิตก็
เกดิ แปรปรวนขน้ึ มาทนั ทที นั ใด โดยไมท่ นั ไดม้ สี ตยิ บั ยงั้ เอาเลย จงึ เกดิ เปน็
223
ไฟราคะตณั หาเผาลนตวั เองขน้ึ ในขณะนนั้ และรอ้ นสมุ อยตู่ ลอดไป พยายาม
แก้ไขเท่าไรกไ็ มต่ ก ทั้งกลัวท่านอาจารย์จะทราบก็กลัว ทัง้ กลัวเจา้ ตวั จะ
เสยี ไปเพราะเร่อื งน้กี ก็ ลวั เลยทำ� ใหพ้ ระรูปน้นั ต้ังตัวไม่ติด
นับแต่ขณะน้ันไปถึงกลางคืน จนตลอดคืนท่ีพิจารณากันอยู่อย่าง
ไมห่ ยดุ ยง้ั ลดละ เพราะความไมเ่ คยเปน็ มากอ่ นเลย เพงิ่ มาเจอเอาขณะนน้ั
ทา่ นจงึ รสู้ กึ เปน็ ทกุ ขม์ าก ในคนื นน้ั ทา่ นอาจารยก์ พ็ จิ ารณาทราบเชน่ กนั วา่
พระรปู นไ้ี ปเจอเอาของดเี ขา้ แลว้ กำ� ลงั เกดิ ความกระวนกระวายดว้ ยความรกั
และความกลัว ตลอดคืนมิได้หลับนอนด้วยความพยายามแก้ไขอย่าง
สดุ กำ� ลงั ตนื่ เชา้ ขนึ้ มาทา่ นกม็ ไิ ดว้ า่ อะไร เพราะทราบวา่ เจา้ ตวั กำ� ลงั กลวั ทา่ น
มากแลว้ ถา้ ไปวา่ เขา้ เดยี๋ วเกดิ เปน็ อะไรไปกย็ งิ่ จะแยเ่ ขา้ ไปอกี ทา่ นแสดง
อาการยม้ิ ตอ่ พระองคน์ น้ั ขณะทม่ี าพบกนั ตอนเชา้ ดอู าการของเธอทง้ั อาย
ทัง้ กลัวทา่ นมากแทบตวั สน่ั ทา่ นก็ทำ� อาการเปน็ ไมร่ ไู้ ม่ช้เี ฉยๆ ไปเสยี
พอถงึ เวลาบณิ ฑบาต ทา่ นเลยหาอบุ ายพดู เพอื่ อะไรกย็ ากจะเดาไดถ้ กู
วา่ ทา่ น…กำ� ลงั เรง่ ภาวนาอยา่ งเอาจรงิ เอาจงั จะเรง่ ตอ่ ไปไมต่ อ้ งไปบณิ ฑบาต
ก็ได้ ไปแต่พวกเราก็ยังได้ พระเพียงองค์เดียวจะเล้ียงไม่ได้อย่างไร
ท่านอยากภาวนาตอ่ กไ็ ปภาวนาเสีย ภาวนาเผื่อหมคู่ ณะดว้ ยนะ แต่ทา่ น
มไิ ดม้ องดพู ระรปู นนั้ เลย เพราะทา่ นทราบดยี งิ่ กวา่ พระรปู นนั้ จะทราบเรอื่ ง
ของตวั อยแู่ ล้ว ว่าแล้วทา่ นกน็ �ำหม่คู ณะออกบณิ ฑบาต สว่ นพระรปู น้นั
ก็จ�ำใจเข้าทางจงกรมท�ำความเพียร ทั้งน้ีท่านท�ำเพื่ออนุเคราะห์พระท่ี
เปน็ ขนึ้ ดว้ ยความบงั เอญิ ไมม่ เี จตนา แตส่ ดุ วสิ ยั จะหา้ มได้ ทา่ นกท็ ราบวา่
พระรูปนั้นพยายามอยู่อย่างเต็มใจท่ีจะแก้เร่ืองของตัว จึงต้องหาอุบาย
ช่วยด้วยวิธตี ่างๆ โดยมิให้กระทบกระเทอื นจติ ใจเธอแต่อย่างใด
224
เวลากลับจากบิณฑบาตมาถึงที่พักแล้ว ก็พร้อมกันจัดอาหารใส่
บาตรเธอ และสง่ั ให้พระไปนมิ นต์เธอมาฉนั หรอื จะฉนั ณ ทอ่ี ยู่ของตน
กไ็ ดต้ ามแตส่ ะดวก พอทราบเธอกร็ บี มาฉนั รว่ มหมคู่ ณะ ขณะเธอเดนิ มา
ทา่ นกท็ ำ� เปน็ ไมร่ ไู้ มเ่ หน็ ไมม่ อง แตพ่ ดู อยา่ งนม่ิ นวลออ่ นหวาน เพอ่ื ประสานใจ
ทเี่ ปน็ รอยรา้ วตลอดมานน้ั ไมป่ รารภเรอื่ งทจ่ี ะทำ� ใหเ้ สยี ใจใดๆ เลย แมเ้ ธอ
จะมาฉันร่วมหม่คู ณะ แต่กฉ็ ันไดน้ ิดเดยี ว พอเปน็ พธิ ไี มใ่ ห้เสียมรรยาท
เท่านั้น วนั นน้ั พระท่อี ยูด่ ว้ ยกนั สองรปู คือรปู ท่ีเลา่ นีด้ ้วย เพราะแตก่ อ่ น
ทา่ นยงั ไมท่ ราบเรอ่ื ง พากนั เกดิ ความสงสยั โดยคดิ วา่ แตก่ อ่ นทา่ นอาจารย์
ไม่เคยท�ำอย่างน้ีกับใครเลย แต่มาคราวนี้ท่านท�ำไมถึงท�ำอย่างนี้กับ
ทา่ น……น้ี ชะรอยท่านคงภาวนาดีแนๆ่ ทา่ นถงึ ไดช้ ่วยสนบั สนนุ พอได้
โอกาสก็แอบไปหาท่าน…..น้ัน ถามถึงการภาวนาว่า ท่านอาจารย์วา่ ท่าน
กำ� ลงั เรง่ ความเพยี รจงึ ไมใ่ หไ้ ปบณิ ฑบาต แตท่ า่ นมไิ ดบ้ อกวา่ ทา่ นภาวนาดี
ทน่ี ่กี ารภาวนาทา่ นเป็นอยา่ งไรบา้ ง นมิ นต์เลา่ ให้ผมฟังบ้าง
พระรูปนัน้ ก็ยิม้ แห้งๆ แล้วตอบวา่ ผมจะภาวนาดยี งั ไง ทา่ นอาจารย์
เห็นคนจะตายทา่ นกท็ ำ� ทา่ ชว่ ยเสรมิ ไปตามอบุ ายแหง่ ความฉลาดของทา่ น
อยา่ งนน้ั เอง ผถู้ ามเซา้ ซใี้ หเ้ ลา่ ใหฟ้ งั ตามความจรงิ ตา่ งกไ็ ลก่ นั ไปเลย่ี งกนั มา
อยู่พักหนึ่ง และถามว่าท่ีว่าท่านอาจารย์เห็นคนจะตายท่านก็ช่วยเสริม
ไวน้ น้ั จะตายอยา่ งไร และชว่ ยเสรมิ อยา่ งไร? เมอื่ ทนไมไ่ หวเธอกก็ ำ� ชบั วา่
ไมใ่ หเ้ ลา่ ถวายทา่ นอาจารยท์ ราบ เพราะทา่ นทราบเรอ่ื งของผมละเอยี ดแลว้
ยง่ิ กวา่ ผมทราบเรอื่ งของตวั เปน็ ไหนๆ ฉะนนั้ ผมจงึ กลวั และอายทา่ นมาก
แลว้ พดู ตอ่ ไปวา่ วานนเ้ี ราไปอาบนำ้� ดว้ ยกนั ทแ่ี อง่ หนิ ทา่ นไดเ้ หน็ อะไรบา้ ง
ขณะก�ำลังจะอาบน�้ำ รูปที่ถามตอบวา่ กไ็ มเ่ ห็นเห็นอะไร นอกจากผหู้ ญิง
ที่พากนั มาจากไร่ผา่ นไปบ้านตอนพวกเราก�ำลงั จะอาบนำ้� นั้นเท่านน้ั
225
พระท่ีถูกถามตอบว่า น่ันแลท่านท่ีผมจะตายอยู่ขณะนี้ จนถึงกับ
ท่านอาจารย์ไม่ยอมให้ผมไปบิณฑบาต ท่านกลัวจะไปสลบหรือตายอยู่
ในบา้ นขณะทจี่ ะไปเจอเขา้ อกี อยา่ งไรเลา่ ผมจะภาวนาดอี ยา่ งไร ทา่ นทราบ
หรือยังว่าคนจะตายนั้นหรือคือคนภาวนาดี องค์ที่ถามตกตะลึง โอ้โฮ
ตายจรงิ ทา่ นไปเป็นอะไรกับเขาพวกน้ันเข้าละ่ รปู นนั้ ตอบวา่ ผมจะไป
เปน็ อะไรกับเขา นอกจากไปขโมยรกั เขาเข้าโดยไม่รู้สกึ ตัว จนกรรมฐาน
แตกกระเจงิ ไปหมด ปรากฏแตค่ วามสวยงามกบั ความบา้ รกั ของผมเทา่ นนั้
เหยยี บยำ�่ ทำ� ลายหวั ใจผมแทบตายทงั้ คนื เมอื่ คนื นี้ แมเ้ ดย๋ี วนกี้ ย็ งั ไมล่ ดละ
เรอื่ งบา้ นนั่ เลย ไมท่ ราบวา่ จะทำ� อยา่ งไรกบั มนั ทา่ นชว่ ยผมหนอ่ ยไดไ้ หม
นบั ว่าเมตตาเอาบญุ
องค์ถาม เวลานีก้ ็ยังไมล่ ดลงบ้างหรอื ? เปลา่ เธอตอบ ซงึ่ เป็นคำ� ที่
นา่ สงสารเอามากมาย องคถ์ าม ถ้าอยา่ งนัน้ ผมจะช่วยให้อุบายท่าน คอื
ถา้ ทา่ นไมส่ ามารถระงบั มนั ได้ ทา่ นฝนื อยทู่ น่ี ต่ี อ่ ไปกไ็ มเ่ กดิ ประโยชนอ์ ะไร
นอกจากมันจะกำ� เริบข้ึนเท่าน้ัน ผมว่าท่านควรหลีกจากท่ีน่ีไปหาภาวนา
เสยี ทอ่ี น่ื จะดกี วา่ ถา้ ทา่ นไมส่ ามารถกราบเรยี นทา่ นอาจารยไ์ ด้ ผมจะชว่ ย
กราบเรยี นทา่ นให้ วา่ ทา่ นประสงคจ์ ะไปแสวงหาทวี่ เิ วกใหม่ เพราะอยทู่ นี่ ่ี
ไมส่ บาย เข้าใจว่าท่านคงจะอนุญาตทนั ที เพราะท่านก็ทราบเรือ่ งท่านดี
อยู่แล้วโดยปริยาย เป็นแต่ท่านยังไม่พูดเท่านั้น เกรงท่านจะอายท่าน
เธอกเ็ หน็ ดีดว้ ยและตกลงกันในขณะนนั้
พอตกเย็นท่านที่จะช่วยอนุเคราะห์ก็เข้าไปกราบเรียนท่านอาจารย์
ทา่ นกอ็ นญุ าตทนั ที แตม่ ปี ญั หาเหนบ็ แนมมาดว้ ยอยา่ งลกึ ลบั วา่ โรคกรรมน้ี
มนั หายยาก โรคทมี่ เี ชอื้ เดมิ อยแู่ ลว้ ตดิ ตอ่ ลกุ ลามไดเ้ รว็ เทา่ นที้ า่ นกห็ ยดุ
226
ไมพ่ ดู อะไรตอ่ ไปอกี แมผ้ ไู้ ปกราบเรยี นกไ็ มเ่ ขา้ ใจปญั หาทา่ น เรอื่ งนต้ี า่ งคน
ตา่ งปดิ กนั คอื ผเู้ ปน็ กป็ ดิ ทา่ นอาจารย์ ผอู้ นเุ คราะหช์ ว่ ยเหลอื กป็ ดิ ทา่ นอกี
แม้ท่านอาจารย์เองก็ปิด ทั้งที่ทราบอย่างเต็มใจแล้วก็ท�ำเป็นเหมือน
ไมท่ ราบ ต่างคนตา่ งไม่ยอมบอกความจรงิ ตอ่ กัน แต่ต่างฝา่ ยต่างก็รูเ้ รื่อง
ไดด้ ดี ว้ ยกนั วนั หลงั เธอกเ็ ขา้ ไปกราบนมสั การลาทา่ น ทา่ นกอ็ นญุ าตใหไ้ ป
ดว้ ยดี โดยมไิ ด้พดู เร่ืองเธอแตอ่ ย่างใด
เธอไปพักอยู่ในหมู่บ้านแหง่ หนง่ึ ซึ่งไกลจากหมู่บา้ นนนั้ มาก ถ้ามใิ ช่
กรรมดงั ทา่ นอาจารยว์ า่ จรงิ ๆ กค็ งหวงั พน้ ภยั ไดแ้ น่ ไมม่ อี ะไรเกดิ ขน้ึ ไดอ้ กี
แต่ก็เจ้ากรรม อนิจจาเป็นดังท่านว่าไม่ผิดแม้กระเบียดเดียว พอเธอ
หายหน้าไปจากบ้านนั้นไม่นานนัก ลูกศรท่ีอยู่ทางน้ีก็คงเจ้ากรรมอย่าง
เดียวกันอีก อุตส่าห์ด้นด้ันเปะปะไปหาจนเจอเข้าจนได้ ซึ่งธรรมดา
ผหู้ ญงิ ปา่ ไมเ่ คยเปน็ ไปอยา่ งนน้ั แตก่ ไ็ ดเ้ ปน็ ไปแลว้ จงึ เปน็ เรอื่ งนา่ คดิ อยา่ งยงิ่
หลงั จากทา่ นอาจารยแ์ ละหมคู่ ณะจากหมบู่ า้ นนนั้ ไปไมน่ านนกั กท็ ราบวา่
พระองค์น้นั สึกเพราะดมยาสลบซำ้� ๆ ซากๆ จนทนไม่ไหว สดุ ท้ายกรรม
ก็พาหมุนกลับมาได้เสียเป็นคู่ผัวตัวเมียกันกับสาวงามชาวเขาเผ่ามูเซอ
คนนนั้ ทบ่ี า้ นนน่ั เอง นบั วา่ กรรมเอาเสยี จรงิ ๆ ถา้ ไมก่ รรมแลว้ จะเปน็ ไปได้
อย่างไร
เพราะเท่าท่ีพระองค์น้ันเล่าให้ฟังขณะท่ีใจเริ่มก�ำเริบทีแรก ก็เพิ่ง
เรม่ิ พบกนั ขณะเดียวเท่านน้ั มไิ ดเ้ คยพบเห็นและพดู จาพาทกี ันทไี่ หนมา
กอ่ นเลย ขอ้ นบี้ รรดาพระทอี่ ยรู่ ว่ มกนั มา กย็ อมรบั วา่ เปน็ ความจรงิ เพราะ
อยดู่ ว้ ยกนั ในวดั ตลอดเวลา มไิ ดไ้ ปไหนมาไหนพอจะหลวมตวั ทงั้ กอ็ ยกู่ บั
ท่านพระอาจารยเ์ สยี เอง อนั เปน็ สถานทีใ่ หค้ วามปลอดภัยตลอดมาไม่มี
227
ขอ้ ทน่ี า่ สงสยั นอกจากเจา้ กรรมหรอื คบู่ าปคบู่ ญุ มาถงึ เขา้ เทา่ นนั้ เธอเลา่
ให้พระที่เคยอนุเคราะห์ฟังว่า เพียงประสาททางตากระทบกันเท่าน้ัน
มันเหมือนดมยาสลบเข้าไปไม่ได้สติสตังเอาเลย ปรากฏแต่ความรัก
ความผูกพันมัดจิตใจจนแทบจะหายใจไม่ออก ท�ำให้จิตใจเซ่อซ่าไปตาม
อารมณ์น้ันจนตัวไม่เป็นตวั ของตัว และไมม่ ีเวลาลดหย่อนผ่อนคลายลง
บา้ งเลย เมอื่ เหน็ ทา่ ไมไ่ ดก้ ารกพ็ ยายามปลกี ตวั หนไี ป เจา้ ของยากต็ ามไป
เยี่ยมคนไข้อีก เรอื่ งกเ็ สรจ็ กันเท่านน้ั เอง จะไปท่ีไหนรอด ใครไมเ่ คยถูก
กด็ ยู ม้ิ ได้ ถา้ ถกู เขา้ กร็ เู้ อง เพราะมใิ ชพ่ ระสนุ ทรสมทุ รพอจะเหาะออกจาก
ทางทวารบนแห่งบา้ นได้
ตามปกตพิ วกนไ้ี มค่ นุ้ กบั พระแตห่ ากกรรมพาเปน็ ไปเอง เรอื่ งกรรมน้ี
จงึ ไมส่ น้ิ สดุ อยกู่ บั ผใู้ ด เพราะกรรมมอี ำ� นาจเหนอื ใครในโลกทสี่ รา้ งกรรม
พระอาจารย์ท่านทราบอย่างเต็มใจจึงต้องมีอุบายปฏิบัติต่อเธออย่างนั้น
ทง้ั ๆ ทไ่ี มเ่ คยทำ� ตอ่ ผใู้ ดมากอ่ นเลย แตก่ ค็ งสดุ วสิ ยั ทา่ นจงึ มไิ ดแ้ นะอบุ าย
อะไรเพอื่ เธอให้ย่งิ ไปกว่าทอี่ นุเคราะหม์ าแลว้ น้นั เรอื่ งกล็ งเอยกนั ตรงท่ี
เมือ่ ไปไมร่ อดก็จ�ำตอ้ งจอดเรือ ซ่งึ เปน็ คติธรรมดาของโลกทอี่ ยู่ใต้อำ� นาจ
ของกรรม ดงั นนั้ จงึ ไดน้ ำ� เรอื่ งนมี้ าลงไวเ้ พอ่ื เปน็ คตเิ ตอื นใจพวกเราทอ่ี าจ
เป็นได้ หากเป็นการไมส่ มควรประการใดก็หวงั ไดร้ บั อภัยจากทา่ นผอู้ ่าน
ตามเคย
กอ่ นจะมาถงึ เรอื่ งน้ี ไดก้ ลา่ วถงึ ความรพู้ เิ ศษของทา่ นพระอาจารยม์ น่ั
ท่ีเคยดักจับขโมยพระได้ผลดี และเป็นเครื่องมือดักใจทายใจที่คิดออก
นอกลนู่ อกทางใหร้ สู้ กึ และระมดั ระวงั ตวั ไดด้ ี เวลาทา่ นพกั อยทู่ เ่ี ชยี งใหม่
เม่ือมีพระปฏิบัติท่ีเด็ดเดี่ยวอาจหาญทางความเพียรไปหา ท่านมักจะใช้
228
วิชาแขนงน้ีช่วยในการส่ังสอนเสมอ ไม่ค่อยระวังว่าจะเกิดผลเสียหาย
ตามมาดงั ทใ่ี ชก้ บั ผไู้ มต่ งั้ ใจจรงิ จงั โดยมากพระทไ่ี ปอบรมเปน็ ผมู้ งุ่ ตอ่ อรรถ
ตอ่ ธรรมจรงิ ๆ พอรตู้ วั วา่ ผดิ และทา่ นตกั เตอื น จะเปน็ ทางตรงหรอื ทางออ้ ม
กพ็ รอ้ มทจ่ี ะแกไ้ ขความผดิ ของตนอยา่ งเตม็ สตกิ ำ� ลงั ไมล่ ะอายและกลวั
ท่านในสงิ่ ท่ตี นพล้ังเผลอ เมื่อได้รบั คำ� ตกั เตอื นจากท่านโดยอบุ ายต่างๆ
การอบรมสั่งสอนท่านเมตตาแสดงอย่างถึงใจผู้ฟังจริงๆ ไม่ปิดบังลี้ลับ
ทง้ั ความรภู้ ายใน และการชแี้ จงกช็ แี้ จงไปตามความบกพรอ่ งของผมู้ าศกึ ษา
ผดิ ถกู อยา่ งไรกว็ า่ กลา่ วสง่ั สอนกนั ไปตามเรอ่ื ง เจตนาหวงั สงเคราะหจ์ รงิ ๆ
ผมู้ าศกึ ษากไ็ มแ่ สดงอาการกระดา้ งวางตวั ในลกั ษณะผไู้ มย่ อมรบั ความจรงิ
หรือหยิ่งในภูมิว่าตนได้รับการศึกษามามาก ซึ่งตามธรรมดามักมีแทรก
อย่เู สมอ
การอธิบายธรรมของท่านก�ำหนดแน่นอนไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับ
ผู้ไปศึกษาเป็นรายๆ ไป ผู้ไปศึกษามีภูมิธรรมขั้นใดก็อธิบายให้ฟัง
ตามจุดที่ส�ำคัญๆ ทั้งจุดท่ีเห็นว่าถูกต้องแล้วเพื่อส่งเสริมให้ย่ิงข้ึนไป
ทง้ั จดุ ทเ่ี หน็ วา่ ไมถ่ กู และลอ่ แหลมตอ่ อนั ตราย เพอ่ื ผนู้ น้ั จะมที างลดละ
ปล่อยวางไม่ด�ำเนินต่อไป การแสดงธรรมแก้จิตใจของนักปฏิบัติธรรม
ทไี่ ปศกึ ษาไตถ่ าม นบั วา่ ทา่ นอธบิ ายอยา่ งมน่ั เหมาะตามจดุ แหง่ ความสงสยั
ไมผ่ ดิ พลาด ผู้ไปศกึ ษาไมผ่ ิดหวังเท่าทีท่ ราบมา ซึง่ ควรจะพูดได้วา่ ร้อย
ทงั้ รอ้ ยตอ้ งมหี วงั ถา้ เปน็ ทางจติ ตภาวนา เพราะทา่ นชำ� นชิ ำ� นาญทางจติ ต-
ภาวนามาก นบั แตข่ นั้ ตำ�่ ถงึ ขนั้ สงู สดุ ไมม่ อี ะไรบกพรอ่ ง การแสดงออกแหง่
ธรรมแต่ละประโยคจึงจับใจไพเราะ หาทางเสมอได้ยากในสมัยปัจจุบัน
แสดงเรอื่ งศลี กน็ า่ ฟงั แสดงสมาธทิ กุ ขน้ั และปญั ญาทกุ ภมู กิ ถ็ งึ ใจอยา่ งยงิ่
ฟังแล้วทำ� ให้อ่มิ เอิบเพลิดเพลินไปหลายวนั กว่าความร้สู ึกนั้นจะจางลง
229
ปกตทิ ที่ า่ นอยใู่ นปา่ ในเขาโดดเดยี่ วแตผ่ เู้ ดยี ว ในเวลาบำ� เพญ็ เพอื่ ธรรม
เบอ้ื งสงู ทา่ นวา่ ทา่ นอยกู่ บั ความเพยี รทางใจแทบตลอดเวลา จะมเี วลาวา่ ง
เฉพาะเวลาหลบั นอนเทา่ นนั้ นอกนนั้ เปน็ ความเพยี รลว้ นๆ โดยมไิ ดก้ ำ� หนด
อริ ยิ าบถใดๆ เลย การพจิ ารณาธรรมภายในเพอื่ ถอดถอนกเิ ลสมสี ตปิ ญั ญา
เปน็ เพอ่ื นสอง คอื ทา่ นพดู คยุ โตต้ อบกบั กเิ ลสดว้ ยสตปิ ญั ญา มคี วามมงุ่ มนั่
เพ่ือแดนพ้นทุกข์เป็นส่ือชวนให้คุยกับส่ิงเหล่านั้น แต่มิได้พูดคุยด้วย
ปากเหมอื นเราคยุ กนั หลายคน หากแตพ่ ดู คยุ ดว้ ยการคดิ การไตรต่ รอง
การโตต้ อบกบั กเิ ลสภายในดว้ ยสตปิ ญั ญา กเิ ลสผคู้ อยหาชอ่ งหาทางออก
ตวั จะออกทางใดชอ่ งใด หรอื ตบตอ่ ยผกู มดั ทา่ นดว้ ยกลอบุ ายใด ทา่ นกใ็ ช้
สติปัญญาตามต้อนตบตีขยี้ขย�ำกิเลสโดยอุบายต่างๆ จนเอาชนะไปได้
เป็นพักๆ
จดุ ใดทที่ า่ นทราบวา่ กเิ ลสยงั เหนอื กวา่ อยกู่ พ็ ยายามสง่ เสรมิ อาวธุ คอื
สตปิ ญั ญาศรัทธาความเพยี รใหม้ ีกำ� ลงั กลา้ ขนึ้ โดยลำ� ดบั จนกว่าจะเหนอื
กวา่ กำ� ลงั ของกเิ ลสทเ่ี ปน็ ฝา่ ยขา้ ศกึ จนเอาชนะไปไดโ้ ดยตลอดถงึ ขน้ั โลก
ธาตหุ วนั่ ไหวภายในใจ ขณะเจา้ ผคู้ รองวฏั จติ ถกู ทำ� ลายลงดว้ ยมรรคญาณ
ดงั ท่เี ขียนผา่ นมาแลว้ น่ีเป็นวธิ ดี ำ� เนินความเพยี รทา่ นในขนั้ สดุ ทา้ ย
คือ การเดนิ จงกรม การนัง่ สมาธภิ าวนา ท่านมิได้ก�ำหนดเวลา
แต่ถือเอาความเพียรเพ่ือชัยชนะเป็นที่ต้ังไปตลอดสาย มีสติปัญญา
เปน็ เครอ่ื งด�ำเนิน พอพ้นจากดงหนาปา่ ทบึ ไปได้แลว้ ท่านวา่ เครอื่ งมอื
เข้าสู่สงครามคอื สตปิ ัญญาประเภทนัน้ ยอ่ มหมดปญั หาไปเอง เหลอื แต่
สตปิ ญั ญาทใี่ ชอ้ ยปู่ ระจำ� ขนั ธเ์ ทา่ นนั้ เวลาตอ้ งการใชเ้ พอื่ คดิ อรรถคดิ ธรรม
ลกึ ตน้ื หยาบละเอยี ด หรอื ธรุ ะอยา่ งอน่ื กน็ ำ� มาใชเ้ ปน็ คราวๆ ไปพอสน้ิ เรอ่ื ง
230
แล้วก็ระงับไปในท่ีน้ันเอง ไม่มีการเตรียมรุกเตรียมรบกับอะไรดังที่เคย
เป็นมา ถ้าไม่มีข้ออรรถข้อธรรมมาสัมผัสจิตพอจะให้คิดอ่านไตร่ตรอง
ไปตาม กอ็ ยไู่ ปเหมอื นคนไมม่ สี ตปิ ญั ญา หรอื เหมอื นคนโงแ่ บบไมเ่ อาเรอื่ ง
เอาถ่านกับอะไรทเี่ คยเก่ียวข้องกนั มาอย่างชุลมนุ วุ่นวายนั่นเลย ปรากฏ
มแี ตค่ วามสงบสขุ เดน่ อยใู่ นใจประเภท อกาลโิ ก เทา่ นนั้ ไมม่ อี ะไรมายงุ่ เกย่ี ว
ถ้าอยู่ล�ำพังใจที่สงบราบคาบจากสิ่งทั้งหลาย ไม่คิดไปถึงเร่ืองเคยมีเคย
เป็นที่อยู่ตามธรรมชาติของเขาท่ัวไตรโลกธาตุ ก็เป็นเหมือนไม่มีอะไร
เหลอื อยู่เลย ประหนึง่ ดับไปพร้อมกับกเิ ลสโดยส้ินเชิง
เวลามหี มคู่ ณะเขา้ ไปอาศยั อบรมดว้ ยกม็ กี ารประชมุ ใหโ้ อวาทสงั่ สอน
คอยตกั เตอื นวา่ กล่าวในเวลาท่เี หน็ ว่ารายใดไม่สงู้ ามตางามใจ หรือทราบ
เรอ่ื งของใครในทางจติ ตภาวนา โดยการแสดงภาพนมิ ติ ของผนู้ น้ั ใหป้ รากฏ
เปน็ ความไมด่ ไี มง่ ามกด็ ี โดยการรขู้ ณะจติ ทค่ี ดิ ไปนอกลนู่ อกทางกด็ ี กต็ อ้ ง
แสดงอบุ ายเปน็ เชงิ เปรยี บเปรยใหเ้ จา้ ตวั รู้ เพอ่ื ทำ� ความสำ� รวมระวงั ตอ่ ไป
การแสดงภาพนมิ ติ ใหป้ รากฏแกจ่ ติ ตภาวนานน้ั จะขอยกตวั อยา่ งมา
ใหท้ า่ นผอู้ า่ นทราบพอเปน็ เครอื่ งเทยี บเคยี งกบั นมิ ติ ทง้ั หลายทเ่ี คยปรากฏ
แกจ่ ติ ตภาวนาของทา่ นพระอาจารยม์ นั่ เสมอมา ซึ่งมีลักษณะต่างๆ กัน
ตามรูปการณ์ของผู้เป็นต้นเหตุแห่งนิมิตนั้นๆ คือมีพระรูปหน่ึงเม่ือเป็น
ฆราวาสเธอเคยเป็นนักมวยที่มีชอ่ื เสยี งในวงการมวย เวลาบวชแล้วเกิด
ความเลอ่ื มใสอยากออกปฏบิ ตั ธิ ดุ งคกรรมฐาน ไดท้ ราบกติ ตศิ พั ทก์ ติ ตคิ ณุ
ของทา่ นพระอาจารยม์ น่ั วา่ เปน็ พระปฏบิ ตั ดิ แี ละเชยี่ วชาญทางจติ ตภาวนา
นา่ เคารพเลอื่ มใสมาก จงึ ออกเดนิ ทางมงุ่ หนา้ ไปสำ� นกั ทา่ นพระอาจารยม์ น่ั
แตข่ ณะทจ่ี ะออกเดนิ ทางไปหาทา่ น มไิ ดน้ กึ เฉลยี วใจเรอ่ื งของตวั คอื เธอ
231
ได้ถา่ ยภาพนักมวยชกกันท่าตา่ งๆ ไวใ้ นกระเปา๋ ราว ๑๐ กว่าแผ่นตดิ ยา่ ม
ไปดว้ ย แตต่ อนเธอถ่ายภาพนั้นจะถ่ายแต่เมือ่ ไรท่านมไิ ด้เลา่ ใหฟ้ ัง
เวลาเธอออกเดนิ ทางจากพระนครไปเชยี งใหมห่ าทา่ นพระอาจารยม์ นั่
ทอ่ี ยใู่ นภเู ขาลกึ จงึ นำ� ตดิ ตวั ไปดว้ ย พอไปถงึ กก็ ราบรายงานตวั และความ
ประสงค์ถวายท่านให้ทราบ ขณะน้ันท่านก็มิได้พูดเป็นเชิงต�ำหนิหรือ
ชมเชยแตอ่ ยา่ งใด เปน็ อนั วา่ ทา่ นรบั ใหอ้ ยใู่ นสำ� นกั ดว้ ย ตกกลางคนื ทา่ น
คงพจิ ารณาเรอื่ งพระรปู นน้ั อยา่ งละเอยี ดแนน่ อน พอตอนเชา้ เวลาพระมา
รวมกนั ทบี่ รเิ วณทฉ่ี นั ทา่ นกอ็ อกมาพอดี และเรม่ิ พดู เรอ่ื งพระรปู นน้ั ออก
มาทนั ทวี า่ ทา่ น....นตี้ ามเจตนาเดิมก็มุ่งมาเพื่อศึกษาอรรถธรรม มองดู
อากปั กริ ยิ าทแ่ี สดงออกกไ็ มแ่ สลงหแู สลงตา เปน็ กริ ยิ าทนี่ า่ สงสาร แตค่ นื น้ี
ท�ำไมทา่ นนแ้ี สดงกริ ิยานา่ กลวั พลิ กึ คอื ผมก�ำลังนงั่ ภาวนาอยู่ ปรากฏว่า
ท่าน… เดนิ มาอยูต่ รงหนา้ ผม ห่างกนั ประมาณหน่งึ วาเศษ แลว้ ต้งั หมัด
ตง้ั มวยออกทา่ นน้ั ทา่ นใี้ หผ้ มดอู ยพู่ กั ใหญ่ แลว้ คอ่ ยถอยหา่ งออกไป จากนน้ั
ก็เดินชกลมชกแล้งเตะเมฆเตะหมอก เตะซ้ายถีบขวาไปจนลับสายตา
ทา่ นนเี้ คยเปน็ นกั มวยมาหรอื อยา่ งไรกอ่ นจะมาบวช ถงึ ไดแ้ สดงลวดลาย
นักมวยให้ดูเป็นการใหญ่
ขณะนน้ั พระทอี่ ยกู่ บั ทา่ นและพระทเี่ ปน็ นกั มวย ตา่ งนง่ั นง่ิ เงยี บดว้ ย
ความฉงนสนเท่ห์ เฉพาะรูปนั้นมองดูหน้าซีดเซียวไปหมด ว่าอย่างไร
ทา่ น….. ทา่ นเปน็ อย่างไรในความรู้สกึ ถงึ ได้มาทำ� อย่างนัน้ ให้ผมดู แต่ดี
อยหู่ นอ่ ยทไ่ี มม่ าตอ่ ยเอาผมเขา้ เชา้ วนั นน้ั ทา่ นพดู เพยี งเทา่ นนั้ กย็ ตุ เิ พราะ
ได้เวลาออกบิณฑบาต หลังจากน้นั ก็มไิ ดพ้ ดู อะไรตอ่ ไปอีก ตกกลางคนื
ท่านอบรมพระเสร็จแล้วต่างก็แยกย้ายกันไป เรื่องก็ไม่มีอะไร พอตก
232
กลางคืนท่านคงพจิ ารณาพระรูปน้นั อีก จึงไดเ้ รอื่ งพระรูปนั้นมาพดู อีกใน
เช้าวนั ต่อมาวา่
ท่าน….น้ีท่านมาหาผมเพื่ออะไรแน่ คืนนี้ท่านก็มาต้ังหมัดต้ังมวย
โดดโนน้ เตะน้ีให้ผมดูเกือบตลอดคืน เรือ่ งท่านแสดงความผดิ ปกติของ
พระผู้มาด้วยเจตนาหวังดีมาได้สองคืนแล้ว ท่านมีความรู้สึกอย่างไร
ทงั้ กอ่ นจะมาหาผมและขณะทมี่ าอยกู่ บั ผมขณะน้ี นมิ นตท์ า่ นเลา่ ความจรงิ
ใหผ้ มฟงั ดว้ ย ไมเ่ ชน่ นน้ั ผมเหน็ จะรบั ทา่ นไวใ้ นสำ� นกั ไมไ่ ด้ เพราะเปน็ มาได้
สองคนื แลว้ ทผ่ี มไมเ่ คยปรากฏลกั ษณะนม้ี ากอ่ นเลย พระรปู นน้ั นงั่ ตวั สน่ั
เทาๆ มองดหู นา้ ซดี ไปหมดเหมอื นคนจะเปน็ ลมและจะลม้ ลงในขณะนนั้
พอดีมีพระรูปหน่ึงท่านเห็นท่าไม่ดี เลยรีบกราบเรียนขอโอกาสท่าน
อาจารย์ม่ันพูดกับเธอ ซึง่ กำ� ลงั จะสลบอยู่ในขณะน้นั วา่
นิมนต์ท่านกราบเรียนท่านอาจารย์โดยตรงตามเร่ืองท่ีท่านมีความ
รู้สึกอย่างไร เพราะเท่าท่ีท่านอาจารย์ถามก็เพ่ือทราบความจริงเท่าน้ัน
มไิ ดม้ งุ่ ความเสยี หายแกท่ า่ นแมน้ อ้ ยแตอ่ ยา่ งไร เทา่ ทพ่ี วกผมอยกู่ บั ทา่ น
มาก็ใช่อยู่กันด้วยความบริสุทธ์ิหลุดพ้นจากกิเลสโดยไม่มีความผิดที่จะ
มิให้ท่านดุดา่ ว่ากลา่ วอะไรได้ แต่อยูด่ ้วยกนั ในฐานะลูกศษิ ยก์ บั อาจารย์
ซึ่งเหมือนพ่อแม่กับลูกอยู่ด้วยกัน ย่อมมีการดุด่าว่ากล่าวกันตลอดมา
ในเม่ือผู้ใดท�ำผิดหูผิดตาท่านในฐานะที่ท่านเป็นครูอาจารย์ผู้สอดส่อง
มองดเู พอื่ ความดงี ามของบรรดาศษิ ย์ กจ็ ำ� ตอ้ งมกี ารสอบถามและวา่ กลา่ ว
สง่ั สอนไปตามเหตกุ ารณ์
พวกผมเคยถูกดุด่าว่ากล่าวจากท่านมาเป็นประจ�ำยิ่งกว่าท่ีท่านว่า
ใหท้ ่านเสยี อีก ขนาดไล่หนีจากวดั ในเด๋ยี วน้ันกย็ งั มี แต่ก็ยังอยกู่ บั ทา่ น
233
มาไดจ้ นทกุ วนั นี้ เมอื่ รสู้ กึ โทษและยอมตนวา่ ผดิ แลว้ ทา่ นเองกไ็ มเ่ หน็ ขบั
ไลไ่ สสง่ ไปไหนอกี คงอยู่ด้วยกนั มาดังท่ที า่ นเหน็ อยู่ขณะน้ีแล คำ� ทที่ ่าน
กำ� ลงั เตอื นทา่ นอยขู่ ณะนขี้ อนมิ นตพ์ จิ ารณาดว้ ยดี ตามทพ่ี วกผมฟงั ดแู ลว้
รู้สึกว่าไม่มีอะไรพอจะกลัวท่านจนเลยขอบเขตแห่งความพอดี ถ้าท่าน
มอี ะไรกน็ มิ นตก์ ราบเรยี นทา่ นตามความจรงิ เมอื่ ไมม่ อี ะไรผดิ หรอื สดุ วสิ ยั
ทจี่ ะคดิ คน้ มาเลา่ ถวายได้ ก็กราบเรียนท่านโดยตรงวา่ สดุ วสิ ัยทจี่ ะตามรู้
ในเรอ่ื งอดตี ทล่ี ว่ งมาแลว้ ทา่ นจะฆา่ กย็ อมตาย ทา่ นจะขายกย็ อมเปน็ สนิ คา้
ท่านจะขับไล่ไสส่งไปไหนก็สุดแต่กรรมของตัวจะพาให้เป็นไป ดังน้ีแล้ว
เร่อื งก็จะยุตลิ งได้
พอท่านองค์นั้นพูดจบลง ท่านอาจารยก์ ถ็ ามเธอซำ้� อกี ว่า วา่ อย่างไร
เล่าท่าน? ผมเองก็มิได้คิดจะหาเรื่องหาราวอะไรใส่ท่านโดยไม่มีสาเหตุ
แตพ่ อหลบั ตาลงไปก็เห็นแต่เร่อื งท่านมาขวางหน้าอยู่แทบท้ังคืน จนเกดิ
ความสลดสงั เวชใจวา่ พระทง้ั องคท์ ำ� ไมมาเปน็ ไดอ้ ยา่ งนี้ และเปน็ ไดท้ กุ คนื
ทที่ า่ นมาอยกู่ บั ผมทน่ี แี่ ลว้ กต็ อ้ งถามทา่ นผเู้ ปน็ ตน้ เหตวุ า่ ทา่ นจะมอี ะไรที่
ไมด่ ไี มง่ ามอยบู่ า้ งจงึ มาแสดงเหตอุ ยา่ งนน้ั ไมย่ อมลดละ หรอื วา่ ความรผู้ ม
ซง่ึ เคยเชอื่ แนใ่ นใจตลอดมานน้ั มนั หลอกลวงผมและทำ� ใหท้ า่ นเสอื่ มเสยี
ไปดว้ ย จงึ ขอใหท้ า่ นพดู ตามความสตั ยจ์ รงิ ใหผ้ มฟงั ถา้ ทา่ นยงั บรสิ ทุ ธดิ์ อี ยู่
เปน็ แตค่ วามรผู้ มมนั พาใหเ้ ปน็ บา้ ไปเอง กเ็ ทา่ กบั ผมกเ็ ปน็ พระบา้ องคห์ นง่ึ
ซงึ่ ไม่ควรอยกู่ บั หมคู่ ณะต่อไป จะทำ� ให้หมู่พวกลม่ จมไปดว้ ย ต้องหนีไป
เที่ยวซกุ ซ่อนตัวอย่ตู ามแบบบา้ ของตน และตอ้ งระงับการอบรมส่ังสอน
ใครๆ ทนั ที ขนื สงั่ สอนตอ่ ไปโลกจะฉบิ หายลม่ จมไปเสยี หมด เพราะความรู้
บ้าๆ ของผมเพียงคนเดียวเปน็ สาเหตุ
234
ท่านทีเ่ คยเตอื นๆ เธอซำ้� อกี เธอจึงเรม่ิ กราบเรียนเร่ืองราวต่อท่าน
อาจารย์ด้วยน�้ำเสียงสั่นเครือแทบไม่เป็นเสียงผู้เสียงคนว่า “ผมเป็น
นักมวย” เท่าน้ีก็หยดุ เอาอย่างหว้ นๆ ทา่ นถามย�้ำอกี ว่า ทา่ นเปน็ นักมวย
ใชไ่ หม เธอตอบวา่ ใชเ่ พยี งคำ� เดยี วเทา่ นน้ั ทา่ นถามวา่ กท็ า่ นกำ� ลงั เปน็ พระ
อยู่แล้วไปเป็นนักมวยไดอ้ ยา่ งไรกนั หรือเวลาท่านมาท่นี ก่ี ็ชกมวยหาเงนิ
มาตามทางด้วยอย่างนั้นหรือ? ท่านถามอะไรเธอเป็นเหมือนไม่มีสติ
รับทราบเรอื่ งผิดถกู ดีชว่ั อะไรเลย มีแตค่ รับเอาเสียเรอ่ื ย ท่านท่ีเคยพูด
กับเธอจึงถามเป็นเชิงชักจูงให้เธอได้สติรับทราบบ้างว่า มิใช่ท่านเคย
เปน็ นักมวยแต่คราวเปน็ ฆราวาสโน้น เวลามาบวชเปน็ พระแลว้ มไิ ดเ้ ปน็
อยา่ งนนั้ อกี มใิ ชห่ รอื ? เธอตอบวา่ ใช่ เปน็ นกั มวยมาแตค่ ราวเปน็ ฆราวาส
แตเ่ วลามาบวชเป็นพระแล้วมไิ ดเ้ ปน็ อีก
ท่านอาจารย์ม่ันเห็นอาการไม่ดี จึงหาอุบายว่าได้เวลาบิณฑบาต
หลังจากนน้ั ท่านก็สง่ั พระให้ไปสอบถามเธอโดยเฉพาะ เพราะเธอพูดกบั
ท่านอาจารย์ไม่ได้เร่ืองเนื่องจากเธอกลัวท่านมาก หลังจากฉันเสร็จแล้ว
พระทเี่ คยพดู กบั เธอจงึ ถอื โอกาสไปสอบถามเธอโดยเฉพาะ กไ็ ดค้ วามวา่
เธอเคยเปน็ นกั มวยสวนกหุ ลาบผมู้ ชี อ่ื เสยี งมาหลายปี เกดิ ความเบอ่ื หนา่ ย
ทางฆราวาสจงึ ออกบวชเปน็ พระ มงุ่ หนา้ มาหาทา่ นอาจารย์ พอไดท้ ราบความ
ชดั เจนจากเธอแลว้ กม็ ากราบเรยี นทา่ นอาจารยใ์ หท้ ราบตามเรอื่ งทเ่ี ปน็ มา
ทา่ นก็มิไดว้ ่าอะไรต่อไป เรอื่ งของเธอกเ็ ปน็ อันผา่ นไป
นกึ วา่ จะเสรจ็ สน้ิ เรอ่ื งของเธอไปเรยี บรอ้ ยแลว้ เพราะตอนกลางคนื
ท่านใหโ้ อวาทเธอองคน์ น้ั บา้ งแลว้ กค็ งจะไมป่ รารภอะไรอีก แตท่ ไ่ี หนได้
ตอนกลางคนื ทา่ นพิจารณาเรอ่ื งของเธออกี ตอนเช้าก็ได้เรอ่ื งเธอมาพูด
235
ในทา่ มกลางหมคู่ ณะอกี ตามเคยวา่ เรอ่ื งทา่ น….นยี้ งั ไมม่ แี ตค่ วามเคยเปน็
นักมวยเทา่ นัน้ แต่ยงั มีอะไรแฝงอยู่อีก ขอให้ทา่ นไปพิจารณาให้ดีอีกที
เพยี งเคยเปน็ นกั มวยมาแตฆ่ ราวาสเทา่ นนั้ เรอื่ งกค็ วรยตุ ไิ ปแลว้ ไมค่ วรมา
ปรากฏซ้ำ� ๆ ซากๆ อกี ท�ำนองนี้ พูดเพียงเท่าน้นั ก็หยุด พอได้โอกาส
พระองคท์ ค่ี นุ้ เคยกบั เธอกไ็ ปหาเธอและถามเรอื่ งราวนน้ั อกี กท็ ราบวา่ เธอ
มีรูปภาพคนชกมวยทา่ ต่างๆ ติดมาด้วย จึงให้เธอเอาออกมาดู ก็ได้เหน็
ภาพมวยทา่ ตา่ งๆ ราว ๑๐ กวา่ แผน่ พระทไี่ ปดกู ป็ กั ใจลงวา่ ตอ้ งเปน็ ภาพนี้
แน่นอนท่ีท�ำให้ท่านเดือดร้อนอยู่ไม่หยุด จงเอาไปทิ้งหรือเผาไฟเสีย
เธอกป็ ฏิบัตติ ามและพากันเอาภาพนั้นไปเผาไฟท้งิ จนหมด
จากนั้นก็มิได้มีเร่ืองท�ำนองน้ีเกิดขึ้นอีกต่อไป ต่างอยู่ด้วยความ
สงบสขุ เธอเองกเ็ ปน็ พระปฏบิ ตั ดิ มี มี รรยาททน่ี า่ เลอื่ มใส ทา่ นอาจารยเ์ อง
ก็เมตตาเธอมากตลอดมา โดยมิได้พูดถึงเร่ืองอดีตของเธออีกต่อไป
จากนนั้ เธอกอ็ ยดู่ ว้ ยความผาสกุ เวลามโี อกาส พระกถ็ ามเปน็ เชงิ ลอ้ เลน่
กับเธอเกย่ี วกับเร่ืองอดีต เธอพูดใหพ้ ระฟังถงึ เร่ืองท่านอาจารย์ดเุ ธอว่า
เธอตายไปครึ่งหนง่ึ แทบไมม่ คี วามรสู้ ึกรบั รู้เร่ืองดชี ั่วอะไรเลย จงึ ไดต้ อบ
ท่านไปแบบคนตายครึง่ มิใชค่ นเต็มเต็ง ถ้าท่านไม่ชว่ ยเมตตาอนเุ คราะห์
แลว้ คงจะเปน็ บา้ ไปเลย (คำ� วา่ ทา่ นหมายถงึ พระองคท์ ช่ี ว่ ยพดู แทน) ไมม่ วี นั
กลับเป็นคนดีได้แนๆ่ แต่ท่านอาจารย์เองท่านก็ฉลาดมาก พอเห็นเราจะ
เปน็ บา้ และตายตอ่ หนา้ ทา่ น ทา่ นกร็ บี ระงบั เรอ่ื งลงทนั ที แลว้ พดู เรอ่ื งอน่ื
มากลบเสยี ทำ� เปน็ เหมอื นไมม่ เี รอ่ื งนอี้ ยใู่ นใจทา่ นเลย นคี้ อื ภาพทปี่ รากฏ
ทางนิมิตภาวนาที่ท่านเคยใช้เป็นคู่เคียงกันตลอดมามิได้ลดละ เพราะ
เปน็ ธรรมจ�ำเป็นไม่ดอ้ ยกว่าปรจิตตวชิ ชา การก�ำหนดรู้วาระจิตของผู้อื่น
236
ท่านเล่าว่า ท่านพักอยู่ที่เชียงใหม่มีประสบเหตุการณ์ทั้งภายใน
โดยเฉพาะ และเกยี่ วกบั สง่ิ ภายนอกมากมายกวา่ ทที่ ง้ั หลายทเี่ คยผา่ นมา
ในชวี ติ แหง่ นกั บวช สง่ิ ทไี่ มเ่ คยรเู้ คยเหน็ กร็ เู้ หน็ ขน้ึ มาเปน็ ขนึ้ มา ทง้ั นา่ ตนื่ เตน้
อัศจรรย์ตลอดมา ยิ่งเวลาพักอยู่คนเดียวด้วยแล้วก็ย่ิงพบเห็นสิ่งต่างๆ
ท่ีเปน็ ของลกึ ลับมากมาย แมต้ ัวเองก็ไมอ่ าจจะประมาณได้ เพราะจิตท่ี
เปน็ ธรรมชาตริ เู้ หน็ ตามวสิ ยั ของตนหากรเู้ หน็ อยทู่ ำ� นองนน้ั รเู้ หน็ ในเวลา
เขา้ ทก่ี ็มี เวลาธรรมดาก็มี จงึ นา่ แปลกประหลาดและอศั จรรย์ จิตดวงที่
เคยโง่และมืดมดิ ปิดทวารมาแตก่ อ่ น ซ่งึ ไม่คาดฝันว่าจะสามารถรเู้ หน็ ได้
ดงั ทร่ี ๆู้ เหน็ ๆ อยกู่ บั เหตกุ ารณท์ มี่ าเกยี่ วขอ้ งในปจั จบุ นั ประหนงึ่ สง่ิ ทม่ี า
เก่ียวข้องนั้นๆ เพิ่งจะมีขึ้นในปัจจุบัน ท้ังที่เคยมีอยู่ดั้งเดิมแต่กาลไหน
กาลไรมา
นอกจากเวลาจติ เขา้ พกั สงบเตม็ ที่ ลว่ งเลยเหตกุ ารณต์ า่ งๆ ทจ่ี ะเขา้ ไป
เกีย่ วขอ้ งถึงเท่าน้นั จงึ ไม่มีอะไรปรากฏในเวลานนั้ จติ พกั อยู่ด้วยธรรม
ธรรมอยดู่ ว้ ยจติ จติ เปน็ ธรรม ธรรมเปน็ จติ เปน็ เอกภาพ คอื ธรรมกบั จติ
เป็นอันเดียวกัน ไม่มีสองกับอะไร ไม่มีสมมุติใดๆ เข้าไปเกี่ยวข้อง
กาลไมม่ ี สถานท่ไี ม่ปรากฏ ขันธ์ไม่มีในความรสู้ ึก สุขทกุ ข์ท่ีเป็นสมมตุ ิ
ไมป่ รากฏ ถา้ จติ ไมถ่ อนขนึ้ มาจะอยไู่ ปกวี่ นั กเ่ี ดอื น กปี่ ี หรอื กกี่ ปั กก่ี ลั ป์
ก็ไม่ปรากฏสมมุติ มี อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา เป็นต้น เข้าไปรบกวน
เพราะเป็นความดับสมมุติอย่างสนิท แม้สมมุติท้ังหลายมีขันธ์ท่ีก�ำลัง
ครองตัวอยเู่ ป็นต้น เกดิ ขโมยแตกสลายไป ในขณะทจ่ี ติ กำ� ลังพักอยู่ใน
นิโรธธรรม คอื ความดับสมมตุ ิทง้ั หลายกค็ งไม่มที างทราบได้ จติ คงเปน็
สภาพนน้ั ไปเลย
237
นี่เป็นเพียงพูดตามความเป็นของจิตในเวลาเข้าพักระงับดับสมมุติ
ชัว่ คราว คงไมพ่ กั ตลอดไปเป็นปีๆ ดังทว่ี ่าน้ัน เช่นเดียวกับคนนอนหลับ
สนิทย่อมหมดการรับทราบในขันธ์ แม้จะหลับไปกี่วันก็คงเป็นท�ำนอง
คนนอนหลับอยู่นั่นเอง นอกจากเวลาตื่นนอนขึ้นมาแล้วถึงจะรับทราบ
ความสขุ ทกุ ข์ไปตามหนา้ ทที่ ่เี คยรบั
แตก่ ารเขา้ พกั สงบจติ จะเปน็ พกั สงบธรรมดาหรอื พกั ในนโิ รธสมาบตั ิ
ก็เป็นสมมุติอยู่โดยดี เป็นแต่ผู้เข้าพักเป็นผู้พ้นจากสมมุติแล้วเท่านั้น
กิริยาแห่งสมมุติทั้งปวงจึงไม่สามารถท�ำวิสุทธิจิตนั้นให้ก�ำเริบเป็นอื่นได้
คงเปน็ วมิ ุตตจิ ติ อย่ตู ามเดิมในฐานะเปน็ อกาลกิ จิต คอื จติ ท่พี ้นจากกาล
สถานทเ่ี ป็นตน้ ไปแล้ว เปน็ จิตทีห่ มดความคาดหมายด้นเดาใดๆ ท้ังส้นิ
จึงไมค่ วรคาดหมายด้นเดาให้เสียเวลาและลำ� บากเปลา่ ขณะจิตทพ่ี ักตวั
อยู่ในความสงบลบสมมตุ ิท้ังมวลแล้ว ไมร่ บั ธรุ ะหนา้ ทใ่ี ดๆ ฉะน้ัน สง่ิ ที่
ควรเขา้ ไปเกยี่ วขอ้ งใหร้ เู้ หน็ จงึ ระงบั ดบั สญู ไปหมดเวลาน้ัน ต่อเมอื่ ถอน
ออกจากสมาธิสมาบัติออกมาอยู่ข้ันอุปจารสมาธิ หรือเป็นวิสุทธิจิต
ธรรมดาแล้ว ถ้ามีเหตุควรรู้ จิตควรรู้และรับท�ำธุระไปตามหน้าท่ีและ
ก�ำลงั ของตนตอ่ ไปตามกาลอนั ควร ท่านวา่ จติ ทา่ นเปิดเผยต่อเหตกุ ารณ์
อยเู่ สมอ ทง้ั อยู่ในอปุ จารสมาธิและอยู่ปกติธรรมดา ต่างกนั เพยี งลกึ ต้นื
หยาบละเอียดหรือกว้างแคบเท่าน้ัน ถ้าต้องการความละเอียดและ
กว้างขวางต้องเขา้ อุปจารสมาธิพจิ ารณา
เร่อื งเกย่ี วกับตาพิเศษ หูพเิ ศษกเ็ ช่นกนั ตอ้ งเข้าอุปจารสมาธสิ งบ
อารมณน์ อ้ ยๆ แลว้ คอยรบั ทราบ จะทราบทางรปู คนเสยี งคน หรอื รปู สตั ว์
เสียงสัตว์ หรอื มากไปกว่าน้นั ตามแต่ความประสงค์จะทราบกท็ ราบได้
238
เหมอื นเห็นด้วยตาเนอ้ื ฟงั ด้วยหูหนัง เร่อื งทง้ั น้ที ่านเคยเล่าให้ฟังเวลา
ทา่ นไปพกั อยกู่ บั พวกชาวเขา ซง่ึ ไมเ่ คยเหน็ พระสงฆเ์ ปน็ สว่ นมาก นอกจาก
ผมู้ โี อกาสไดล้ งมาเมอื งหรอื หมบู่ า้ นทมี่ พี ระสงฆถ์ งึ จะมโี อกาสไดเ้ หน็ บา้ ง
ขณะทา่ นไปถงึ ทแี รกสององคด์ ว้ ยกนั กพ็ ากนั พกั อยชู่ ายภเู ขา หา่ งจาก
หมู่บ้านชาวเขาราวสองกิโลเมตร พักอยู่ร่มไม้ธรรมดา ตอนเช้าพากัน
เข้าไปบิณฑบาต คนชาวเขาเห็นทา่ นเขา้ ไปบณิ ฑบาตกถ็ ามท่านว่า ตุเ๊ จา้
มาธุระอะไร ทา่ นกบ็ อกวา่ มาบณิ ฑบาต เขาถามว่ามาบิณฑบาตอยา่ งไร?
เพราะพวกเขาไมเ่ ขา้ ใจ ทา่ นบอกวา่ บณิ ฑบาตขา้ ว เขาถามวา่ ขา้ วสกุ หรอื
ข้าวสาร ท่านบอกว่าข้าวสุก เขาก็บอกกันให้หาข้าวสุกมาใส่บาตรท่าน
ไดแ้ ลว้ ก็กลับมาท่พี กั และฉันแต่ข้าวเปลา่ ๆ อยูน่ าน
ขณะไปพกั อยทู่ น่ี น้ั ทแี รกชาวบา้ นเขาไมม่ คี วามเลอ่ื มใสและไวว้ างใจ
ทา่ นเลย ตกกลางคนื หัวหน้าบา้ นตเี กราะนัดใหช้ าวบา้ นมาประชุมรวมกัน
และประกาศวา่ ขณะนม้ี เี สอื เยน็ สองตวั (หมายถงึ ทา่ นอาจารยก์ บั พระทอี่ ยู่
ดว้ ยกันสององค์) มาพกั อย่ใู นป่าแห่งน้นั จะเป็นเสอื เยน็ ประเภทใดกย็ งั
ทราบไมไ่ ด้ พวกเราไมไ่ วใ้ จเสอื เยน็ สองตวั นนั้ จงึ หา้ มไมใ่ หเ้ ดก็ และผหู้ ญงิ
เขา้ ไปในป่าน้ัน แม้ผชู้ ายจะไปก็ควรมพี วกมีเพอ่ื นและมเี ครือ่ งมอื ติดตวั
ไปด้วย ไม่ควรไปคนเดยี วและไปแตต่ ัวเปลา่ ๆ เดี๋ยวเสือเย็นสองตัวนั้น
เอาไปกนิ จะวา่ ไมบ่ อก
ขณะทเี่ ขากำ� ลงั ประชมุ ประกาศเรอ่ื งเสอื เยน็ ใหช้ าวบา้ นทราบ กเ็ ปน็
เวลาทที่ า่ นอาจารยก์ ำ� ลงั เขา้ ทภี่ าวนาอยพู่ อดี เรอื่ งทเี่ ขาประกาศใหช้ าวบา้ น
ทราบทง้ั หมด จงึ เปน็ เหมอื นประกาศใหท้ า่ นซง่ึ กำ� ลงั ตกอยใู่ นคำ� กลา่ วหา
239
วา่ เปน็ เสอื เยน็ ทราบดว้ ยโดยตลอด ทา่ นเกดิ ความสลดสงั เวชใจอยา่ งยงิ่
ทีไ่ ม่เคยคาดฝันมาก่อนว่า ตนจะเป็นพระประเภทเสอื เย็นดังคำ� กล่าวหา
ขณะนน้ั แทนทท่ี า่ นจะโกรธและเสยี ใจในคำ� กลา่ วหาของเขา แตก่ ลบั เกดิ
ความเมตตาสงสารเขาอย่างบอกไม่ถูก กลัวเขาผู้ไม่รู้เร่ืองอะไรเลยก็มี
จำ� นวนมาก จะพลอยเชอ่ื ตามค�ำเหลวไหลน้ัน และพลอยเป็นบาปหาบ
กรรมไปตามๆ กัน เมือ่ ตายจากชาตนิ ไี้ ปแล้ว เขาจะไปเกิดเป็นเสือกนั
ท้ังบา้ น
พอต่ืนเช้าท่านก็รีบบอกกับพระที่อยู่ด้วยว่า คืนนี้พวกชาวบ้านเขา
ประชมุ ประกาศกนั วา่ เราทงั้ สององคเ์ ปน็ เสอื เยน็ ทป่ี ลอมแปลงตวั เปน็ พระ
มาหลอกลวงอย่างแยบยลลึกลับ เพ่ือให้เขาตายใจเช่ือถือ แล้วกลับ
ท�ำลายชีวติ และทรัพยส์ นิ เขาด้วยวิธตี า่ งๆ ฉะนัน้ เขาจงึ ไม่เลอ่ื มใสและ
ไวใ้ จพวกเราทง้ั สองเลยเวลาน้ี หากวา่ เราทงั้ สองหนไี ปจากทน่ี เ่ี สยี ในเวลา
ทเี่ ขากำ� ลงั คดิ ไมด่ อี ยขู่ ณะน้ี เวลาเขาตายไปจะพากนั ไปเกดิ เปน็ สตั วเ์ ปน็
เสอื กนั ทงั้ บา้ น ซงึ่ นบั วา่ เปน็ กรรมแกเ่ ขาไมเ่ บาเลย เพอื่ ความอนเุ คราะห์
เขาซงึ่ ควรแก่สมณกิจทพี่ อทำ� ได้ จึงควรอดทนอยูท่ ่นี ่ไี ปก่อน แมจ้ ะทกุ ข์
ลำ� บากกพ็ ยายามอดทนไปจนกวา่ เขาจะพากนั กลบั ใจได้ แลว้ จะไปทไ่ี หน
คอ่ ยไปกนั ดงั น้ี
นอกจากเขาไม่ไว้ใจและเล่ือมใสแล้ว พวกผู้ชายยังพากันมาคอย
สังเกตการณ์ตามสถานท่ีที่ท่านพักอยู่บ่อยๆ คร้ังละ ๓-๔ คนโดยมี
เครอ่ื งมือติดตวั มาด้วย มายืนลอบๆ มองๆ อย่แู ถวบริเวณใกล้ๆ บ้าง
มายืนอยู่ข้างทางจงกรมบ้าง มายืนอยู่ที่หัวจงกรมบ้าง มายืนอยู่กลาง
ทางจงกรมบ้าง ในเวลาท่านก�ำลังเดินจงกรมท�ำความเพียรอยู่ ต่างคน
240
ตา่ งจอ้ งและสอดสา่ ยสายตามองมายงั ทา่ นและเหลอื บมองไปรอบๆ บรเิ วณ
เขาใชเ้ วลาสงั เกตการณด์ ว้ ยความไมไ่ วใ้ จอยทู่ ำ� นองนน้ั นานประมาณครงั้ ละ
๑๐ นาทีบา้ ง ๑๕ นาทบี า้ งแทบทกุ วนั และไมพ่ ดู จาไต่ถามอะไรกบั ทา่ น
ในระยะเร่ิมแรกแล้วก็พากันกลับไป วันหลังได้โอกาสก็พากันมาใหม่
เขาใชเ้ วลาสังเกตทา่ นอย่นู านวันพอสมควร
ส่วนอาหารปัจจัยเคร่ืองอาศัยเป็นอยู่หลับนอนของพระเสือเย็น
ทั้งสองตวั จะขาดตกบกพรอ่ งหรอื จะเปน็ จะตายอยา่ งไรบ้างน้นั เขามิได้
พากันสนใจคิดและขวนขวายกันเลย ฉะนั้นการเป็นอยู่ของท่านท้ังสอง
ทเ่ี ขาใหน้ ามวา่ เสอื เยน็ จงึ ลำ� บากอตั คดั มาก อาหารบณิ ฑบาตอยา่ งมากกไ็ ด้
ขา้ วเปลา่ ๆ มาฉนั บางวนั รวมทงั้ ฉนั นำ�้ ดว้ ยกอ็ ม่ิ พอเบาะๆ บางวนั รวมทง้ั
ฉันน้�ำก็ไม่พอ ท่ีอยู่หลับนอนก็อาศัยโคนไม้เป็นประจ�ำท้ังแดดทั้งฝน
ก็ทนเอา เพราะท่ีน้ันไม่มีถ้�ำหรือเงื้อมผาพอได้อาศัย ถ้าฝนตกชุกมาก
ในบางวันตกท้ังวัน พอฝนเบาลงบ้างก็พยายามเที่ยวเก็บใบไม้แห้ง
หญ้าแห้งมาท�ำเป็นจากมุงพอบังแดดบังฝนไปพลาง พอประทังชีวิตไป
วนั หนงึ่ ๆ ดว้ ยความทุกขล์ ำ� บากมากมาย
ขณะฝนตกก็เข้าหลบซ่อนอยู่ในกลดในมุ้งพอบรรเทาความหนาว
เวลาลมพดั จากภเู ขามาอยา่ งแรงฝนกส็ าด กลดกจ็ ะปลวิ หลดุ มอื องคท์ า่ น
และบริขารก็เปียกตัวสั่นเหมือนลูกนกลูกกา ถ้าเป็นตอนกลางวันก็พอ
ทำ� เนา มองเหน็ ทไี่ ป ทหี่ ลบซอ่ นและทเ่ี กบ็ บรขิ ารตา่ งๆ บา้ ง แตฝ่ นตกเอา
ตอนกลางคืนรู้สึกล�ำบากมาก ตาก็มองไม่เห็นอะไรทั้งฝนกระหน่�ำลง
ลมกระหน่�ำมาประดังกัน ก่ิงไม้ที่ถูกลมพัดอย่างแรงต่างก็ขาดตกลง
ข้างหน้าข้างหลังตูมตามๆ ไม่แน่ใจว่าชีวิตจะต้านทานฝน ต้านทานลม
241
ตา้ นทานความเหนบ็ หนาว หรอื จะตา้ นทานกง่ิ ไมน้ อ้ ยใหญท่ ห่ี กั ตกลงและ
โหมกนั มาจากทศิ ตา่ งๆ ในขณะน้นั
เมื่อชีวติ ยังอย่กู ท็ นกนั ไป ร้อนกท็ นไป หนาวกท็ นไป หวิ ก็ทนไป
กระหายกท็ นไป อดบา้ งอม่ิ บา้ งกท็ นไป จนกวา่ จะหมดกลนิ่ แหง่ ความระแวง
สงสัยของชาวบ้านที่หวาดระแวงต่อทา่ น วา่ เปน็ เสอื เย็นคอยหลอกลวง
กนิ เนอื้ กนิ หนงั เขา การขบฉนั แมเ้ พยี งขา้ วเปลา่ ๆ กอ็ ดมอ้ื อมิ่ มอื้ สงิ่ อน่ื นนั้
ไม่จ�ำต้องพูดถึงว่าเขาจะมีความสนใจไยดีให้ท่าน ท่ีพักท่ีอยู่ก็แบบคน
อนาถาหาทเี่ กาะทพ่ี ง่ึ ไมไ่ ดเ้ ราดๆี นเี่ อง นำ้� กห็ วิ้ กานำ�้ ลงไปในคลองซง่ึ อยู่
ตีนเขา กรองให้เต็มกาแล้วก็หิ้วข้ึนมาฉันมาใช้ หลังจากสรงเสร็จแล้ว
แต่ท�ำความเพียรสะดวกดมี าก หมดกังวลทกุ ด้านไม่มอี ะไรเกาะเกย่ี ว
ตอนกลางคืนยามดึกสงัดท�ำภาวนาฟังเสียงเสือกระหึ่มไปมาทีละ
หลายๆ ตวั ใกลๆ้ บรเิ วณทที่ า่ นพกั ใตร้ ม่ ไม้ แตแ่ ปลกอยอู่ ยา่ งหนง่ึ ทเี่ สอื
ไม่เข้ามาหาท่านเลย ล้วนเป็นเสอื โครง่ ใหญล่ ายพาดกลอนทง้ั นนั้ ทา่ นวา่
ทา่ นเพลดิ เพลนิ ไปกบั เสยี งสตั วช์ นดิ ตา่ งๆ แตบ่ างทเี สอื กเ็ ขา้ มาหาทา่ นและ
ลกู ศษิ ยท์ า่ นเหมอื นกนั เขาคงสงสยั วา่ เปน็ สตั วซ์ งึ่ ควรจะเปน็ อาหารไดบ้ า้ ง
แลว้ แอบเขา้ มาดู พอคนกระดกุ กระดกิ ลกุ ขน้ึ เขารอ้ งโกก้ พรอ้ มกบั กระโดด
เขา้ ป่าไป วันหลังไมเ่ หน็ เขามาหาอกี เลย
พอตกบา่ ยๆ กม็ ชี าวบา้ นราว ๓-๔ คนออกมาสงั เกตการณแ์ ทบทกุ วนั
แตเ่ ขาไมพ่ ูดจาอะไรกบั ทา่ น ทา่ นกม็ ิได้สนใจกบั เขา เฉพาะพวกเขาเอง
บางครงั้ มกี ารพดู กระซบิ กระซาบกนั ขณะทพ่ี วกเขามาทน่ี นั่ ทา่ นกำ� หนดจติ
ดจู ติ ใจเขาทคี่ ดิ ปรงุ อยทู่ กุ ขณะและทกุ เวลาทเี่ ขามา สว่ นพวกเขาเองกค็ ง
242
ไมส่ นใจคดิ ว่า ท่านจะรู้เรือ่ งความคิดปรงุ ทางใจตลอดค�ำพูดเขาท่รี ะบาย
ออกจากใจผบู้ งการอะไรเลย คงเขา้ ใจวา่ ตนมคี วามลบั ทไ่ี มม่ ใี ครสามารถ
สอดรอู้ ยู่ภายใน จึงสนกุ คิดเร่ืองต่างๆ อยา่ งเพลนิ ใจ ซงึ่ โดยมากก็เปน็
ความคิดคอยจับผิดท่านอยภู่ ายใน ทา่ นกำ� หนดดใู จของใครทม่ี าด้วยกัน
กคี่ น กม็ คี วามรสู้ กึ นกึ คดิ ทค่ี อยจบั ผดิ อยภู่ ายในเชน่ เดยี วกนั หมด สมกบั
เขาประกาศส่ังพวกเขาใหม้ าสังเกตการณ์จริงๆ
ทา่ นเองแทนทจ่ี ะคดิ ระวงั ตวั กลวั เขาจะจบั ผดิ แตก่ ลบั คดิ สงสารเขา
เปน็ กำ� ลงั วา่ คนในบา้ นนนั้ มไี มก่ ่ีคนที่เป็นผู้ชักนำ� ชาวบา้ นซึง่ มีหลายคน
ใหเ้ หน็ ผิดไปด้วย ทา่ นพกั อยู่ทนี่ ้นั เปน็ เดอื นๆ ยังไมเ่ ห็นเขาลดละความ
พยายามคอยจับพิรุธความผิดพลาดท่าน พวกใดมาหาล้วนมีความจ้อง
มองหาแตค่ วามผดิ กบั ทา่ นเชน่ เดยี วกนั ทา่ นวา่ เขาชา่ งพยายามเอาเสยี จรงิ ๆ
แต่ยังดีอยู่อย่างหนึ่งท่ีเขาไม่พร้อมใจกันมาขับไล่ท่านให้หนีจากที่นั้น
เป็นเพียงจัดวาระกันมาควบคุมโดยทางลับเท่านั้น เมื่อท่านอยู่นานไป
ทงั้ พวกเขากม็ าสงั เกตดอู ยหู่ ลายครง้ั เฉพาะพวกหนงึ่ ๆ ยงั ไมอ่ าจจบั ความ
เคลื่อนไหวที่ผิดพลาดท่านได้ เขาคงแปลกใจอยูม่ าก
ในเวลาต่อมาคืนวันหนึ่งท่านก�ำลงั นงั่ ภาวนาอยู่ ได้ยนิ หรอื ทราบขนึ้
ภายในใจว่า หัวหน้าบ้านประชุมสอบถามผลของการสังเกตการณ์ว่า
ได้ผลคืบหน้าไปเพียงใดบ้าง ชาวบ้านบรรดาท่ีมาสังเกตให้ค�ำตอบเป็น
เสยี งเดยี วกนั วา่ ไมม่ ผี ลอะไรตามความคดิ เหน็ ของพวกเราทค่ี ดิ กนั ไปทำ�
อยา่ งนนั้ ดไี มด่ ี นา่ กลวั จะเปน็ โทษมากกวา่ ผลทคี่ าดกนั ผสู้ งสยั ซกั ขน้ึ ทำ� ไม
ว่าอย่างนั้น เขาตอบกันว่า กเ็ ทา่ ที่สงั เกตดแู ล้ว ตุ๊เจา้ สองตนนนั้ (ตุเ๊ จ้า
หมายถึงพระ) ไม่เห็นมีกิริยาท่าทางใดๆ ท่ีเป็นไปดังที่พวกเราคาดกัน
243
ไปสงั เกตดทู ไี รกเ็ หน็ แตท่ า่ นนงั่ หลบั ตานง่ิ อยบู่ า้ ง ทา่ นเดนิ กลบั ไปกลบั มา
ในทา่ ส�ำรวม ไมม่ องโน้นมองนี้อย่างคนทว่ั ๆ ไปบา้ ง
คนทจ่ี ะเปน็ เสอื เยน็ ตงั้ ทา่ คอยฉกี สตั วก์ ดั คนคงไมท่ ำ� อยา่ งนนั้ ตอ้ งมี
อาการแสดงออกให้พอจับได้บ้าง แต่ตุ๊เจ้าสองตนน้ีไม่มีกิริยาเช่นน้ัน
แฝงอยู่บ้างเลย ถ้าขืนไปท�ำอย่างที่พากันท�ำอยู่ทุกวันนี้ จึงน่ากลัว
เป็นบาป ทางที่ถูกควรไปศึกษาไต่ถามท่านดูให้รู้เหตุผลต้นปลายก่อน
อยูๆ่ กไ็ ปเหมาวา่ ท่านไม่ดีเอาเลยตามความคดิ เหน็ เฉยๆ อยา่ งน้ีน่ากลวั
เป็นบาป บรรดาพวกท่ีไปสังเกตท่านมาแล้ว พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
ท่านเป็นตุ๊เจ้าดียากจะหาได้ พวกเราก็เคยเห็นตุ๊เจ้ามาบ้างพอจะรู้ของดี
ของไมด่ ี บางรายกว็ ่า เคารพเลอ่ื มใสท่านมากกวา่ จะคิดแส่หาโทษทา่ น
ถา้ อยากทราบรายละเอยี ดกค็ วรไปศกึ ษาไตถ่ ามทา่ นดบู า้ งวา่ การนง่ั หลบั ตา
นง่ิ ๆ กด็ ี การเดนิ กลบั ไปกลบั มากด็ ี ทา่ นนง่ั เพอื่ อะไร และทา่ นเดนิ หาอะไร
ทา่ นวา่ สดุ ทา้ ยแหง่ การประชมุ ของชาวปา่ ไดค้ วามวา่ ใหค้ นไปไตถ่ าม
ทา่ นดตู ามทตี่ กลงกนั ตน่ื เชา้ มาทา่ นกพ็ ดู กบั พระทอ่ี ยดู่ ว้ ยวา่ เขาเรม่ิ กลบั ใจ
มาทางดแี ลว้ คนื นเี้ ขาประชมุ กนั เกย่ี วกบั การมาสงั เกตดพู วกเรา ตกลงกนั
ว่าจะจัดให้คนมาไต่ถามข้อข้องใจกับพวกเรา พอวันหลังตอนบ่ายๆ
เขาพากนั มาจรงิ ๆ ดงั ทร่ี ไู้ ว้ ในจำ� นวนทมี่ ามคี นหนง่ึ ถามขน้ึ วา่ ตเุ๊ จา้ นง่ั หลบั ตา
นง่ิ ๆ และเดนิ กลบั ไปกลบั มานนั้ ตเุ๊ จา้ นงั่ และเดนิ หาอะไร ทา่ นตอบเขาวา่
พทุ โธเราหาย เรานง่ั และเดนิ หาพทุ โธ เขาถามทา่ นวา่ พทุ โธเปน็ ตวั อยา่ งไร
พวกเราจะช่วยตุ๊เจ้าหาได้ไหม? ท่านตอบว่า พุทโธเป็นดวงแก้วอัน
ประเสรฐิ เลิศโลกในไตรภพ เป็นดวงฉลาดรอบรู้ทั่วไตรโลกธาตุ ถา้ สู
จะชว่ ยเราหากย็ ง่ิ ดมี าก จะไดเ้ หน็ พทุ โธเรว็ ๆ งา่ ยๆ ดว้ ย (สเู ปน็ คำ� ทช่ี าวเขา
244
นบั ถอื กนั วา่ ดมี ากสนทิ กนั มาก) เขาถามวา่ พทุ โธตเุ๊ จา้ หายมานานแลว้ หรอื
ท่านตอบว่า ไม่นาน ถา้ สชู ว่ ยหาใหย้ ง่ิ จะพบเร็วกวา่ เราหาเพียงคนเดียว
เขาถามวา่ พทุ โธเปน็ ดวงแกว้ ใหญไ่ หม? ทา่ นตอบวา่ ไมใ่ หญไ่ มเ่ ลก็
พอดกี บั เราและกับพวกสูดๆี นีเ่ อง ใครหาพุทโธพบ คนนั้นประเสริฐ
มองเหน็ อะไรได้ตามใจหวัง เขาถาม มองเหน็ นรกสวรรค์ได้ไหมตุ๊เจา้ ?
ท่านตอบว่ามองเห็นซิ ไม่เห็นจะว่าประเสริฐได้อย่างไร ลูกเมียผัวตาย
มองเหน็ ได้ไหมต๊เุ จา้ ? ทา่ นตอบว่าเหน็ หมด ถา้ ตอ้ งการอยากเหน็ เม่อื ได้
พุทโธแลว้ เขาถาม สวา่ งมากไหม? ท่าน สว่างมากยงิ่ กว่าพระอาทิตย์
ต้ังร้อยดวงพนั ดวง เพราะพระอาทติ ย์ไม่สามารถสอ่ งเหน็ นรกสวรรคไ์ ด้
แตด่ วงพทุ โธสามารถสอ่ งเหน็ หมด เขาถาม ผหู้ ญงิ ชว่ ยหาไดไ้ หม? เดก็ ๆ
ช่วยหาไดไ้ หม? ทา่ น ได้ท้ังน้นั ไมน่ ิยมวา่ หญงิ ว่าชาย วา่ เดก็ หรอื ผ้ใู หญ่
ใครหาก็ได้ทั้งนั้น เขาถามทา่ นวา่ พทุ โธนน้ั ประเสรฐิ ในทางใดบา้ ง กันผี
ไดไ้ หม? ทา่ นตอบวา่ พทุ โธประเสรฐิ และใชไ้ ดห้ ลายทางจนนบั ไมถ่ ว้ น
ในโลกทงั้ สาม คอื กามโลก รปู โลก อรปู โลก โลกทงั้ สามตอ้ งยอมกราบ
พุทโธท้งั น้ัน ไมม่ ีใครย่ิงใหญ่กว่าพุทโธ ผีก็กลวั พุทโธมาก ต้องกราบ
พุทโธ ใครหาพทุ โธแม้ยงั ไม่พบ ผีเร่ิมกลวั ผ้นู น้ั แลว้
เขาถามท่าน พุทโธเป็นแก้วสีอะไรตุ๊เจ้า ท่านตอบพุทโธเป็นแก้ว
ดวงสวา่ งไสวและมีหลายสจี นนับไมไ่ ด้ พทุ โธนีเ้ ปน็ สมบัติอันวเิ ศษของ
พระพุทธเจา้ พทุ โธนน้ั เปน็ องคแ์ หง่ ความรูค้ วามสว่างไสวไม่เปน็ วตั ถุ
พระพุทธเจ้าท่านมอบให้พวกเราไว้หลายปีแล้ว แต่เราเองยังหาพุทโธท่ี
ทา่ นมอบใหย้ งั ไมเ่ จอ ไมท่ ราบวา่ อยทู่ ตี่ รงไหน แตจ่ ะอยทู่ ไ่ี หนไมส่ ำ� คญั นกั
ที่ส�ำคญั ก็คอื ถา้ สจู ะพากนั ช่วยเราหาพุทโธจรงิ ๆ ใหพ้ ากนั นั่งหรือเดนิ นึก
245
ในใจว่าพุทโธๆ อยูภ่ ายในโดยเฉพาะ ไมใ่ ห้จติ ส่งออกไปนอกกาย ใหร้ ู้
อยกู่ บั คำ� วา่ พทุ โธๆ เทา่ นนั้ ถา้ ทำ� อยา่ งนพี้ วกสอู าจเจอพทุ โธกอ่ นเรากไ็ ด้
เขาถามท่านว่าการนั่งหรือเดินหาพุทโธจะให้นั่งหรือเดินนานเท่าไรถึงจะ
พบพทุ โธแล้วหยดุ ได้ ทา่ นตอบ ใหน้ งั่ หรอื เดนิ เพยี ง ๑๕ หรือ ๒๐ นาที
กอ่ นสำ� หรบั ผตู้ ามหาพทุ โธทแี รก พทุ โธทา่ นยงั ไมอ่ ยากใหพ้ วกเราตามหา
ทา่ นนานนกั กลวั จะเหนอื่ ยแลว้ ตามพทุ โธไมท่ นั เดยี๋ วจะขเ้ี กยี จเสยี กอ่ น
ทีหลังจะไม่อยากตามหาท่านแล้วเลยจะไม่พบท่าน เอาเพียงเท่าน้ีก่อน
ถ้าอธบิ ายมากกวา่ นจ้ี ะจำ� วธิ ีไม่ไดแ้ ล้วตามหาพทุ โธไม่พบ
เสรจ็ แลว้ เขาพากนั กลบั บา้ น การลาทา่ นสำ� หรบั เขาแลว้ ไมต่ อ้ งพดู ถงึ
เพราะเขาไม่เคยลาใคร วา่ จะไปเขาลุกขึ้นแล้วกไ็ ปทันทีทนั ใด ไม่สนใจ
ค�ำลาใครทั้งน้ัน พอไปถึงบ้านแล้ว ชาวบ้านต่างมารุมถามเป็นการใหญ่
เขาอธบิ ายให้ฟงั ตามท่ที า่ นสงั่ สอนเขาแตโ่ ดยยอ่ ไว้กอ่ นนั้น นอกจากนน้ั
เขายังอธิบายเร่ืองท่านพระอาจารย์ให้ชาวบ้านฟังว่า ท่ีสงสัยการน่ัง
หลบั ตานงิ่ ๆ และการเดนิ กลบั ไปกลบั มานนั้ ทา่ นนงั่ และเดนิ หาพทุ โธดวงเลศิ
ตา่ งหาก มไิ ดน้ ง่ั และเดินแบบเสอื เย็นดงั ที่พวกเราเข้าใจกัน พอชาวบา้ น
ทราบวธิ ตี ามทพ่ี วกมาถามทา่ นนำ� ไปเลา่ ใหฟ้ งั แลว้ ตา่ งคนตา่ งสนใจฝกึ หดั
นกึ พทุ โธภายในใจโดยทว่ั กนั นบั แตห่ วั หนา้ บา้ นลงมาถงึ ผหู้ ญงิ และเดก็ ๆ
ทพ่ี อรูว้ ธิ นี กึ พุทโธได้
เป็นท่ีอัศจรรย์ไม่คาดฝันว่าจะมีผู้รู้เห็นธรรมของพระพุทธเจ้า
ภายในใจอย่างประจักษ์โดยไม่เน่ินนานนัก คือผู้ชายคนหน่ึงซึ่งตามหา
พทุ โธ แลว้ ประสบธรรม คอื ความสงบสขุ ทางใจจากการนกึ บรกิ รรมพทุ โธ
ตามวธิ ที ่ีท่านบอกเขา ท่านเลา่ ว่ากอ่ นหน้า ๓-๔ วนั ท่ีเขาจะประสบผล
246
จากพทุ โธ เขานอนหลบั ฝันถงึ ท่านพระอาจารยม์ น่ั วา่ ทา่ นเอาเทียนใหญ่
ที่จุดไฟอย่างสว่างไสวแล้วไปติดไว้บนศีรษะเขา พอท่านติดเทียน
เสร็จแล้วนับแต่ศีรษะลงมาถึงตัวเขาปรากฏว่าสว่างไสวไปโดยตลอด
เขาดใี จมากวา่ ตนไดข้ องดมี คี วามสวา่ งไสวแผอ่ อกไปนอกกายตงั้ หลายๆ วา
พอจติ เขาเปน็ ขนึ้ มากร็ บี มาหาทา่ นพระอาจารย์ และเลา่ เรอ่ื งความเปน็ และ
ความฝันให้ท่านฟังอย่างน่าอัศจรรย์ จากนั้นท่านก็ได้อธิบายเพิ่มเติม
ใหเ้ ขาไปทำ� ตอ่ ปรากฏวา่ ไดผ้ ลอยา่ งรวดเรว็ และยงั สามารถรใู้ จของผอู้ น่ื
ไดอ้ กี ดว้ ย วา่ ใจของใครยงั มเี ศรา้ หมองและผอ่ งใสเพยี งใด เขาพดู กบั ทา่ น
อย่างไม่มีการสะทกสะท้านเลย ซ่ึงตรงกับจริตคนป่าท่ีมีนิสัยพูดตรงไป
ตรงมาอยู่แล้ว
ในเวลาตอ่ มาเขาออกมาเลา่ ธรรมใหท้ า่ นฟงั วา่ เขาไดพ้ จิ ารณารเู้ หน็
จติ ทา่ นอาจารยแ์ ละพระทอี่ ยกู่ บั ทา่ นไดอ้ ยา่ งชดั เจน ทา่ นเองกถ็ ามเขาบา้ ง
เปน็ เชิงเลน่ ๆ วา่ จิตของท่านเป็นอยา่ งไร มบี าปมากไหม? เขาตอบท่าน
ทนั ทีเลยว่า จิตของตุ๊เจา้ ไมม่ ีจดุ มดี วงเหลอื อยแู่ ลว้ มแี ตค่ วามสว่างไสว
อันเป็นท่ีอัศจรรย์อย่างยิ่งอยู่ภายในเท่าน้ัน ตุ๊เจ้าเป็นผู้ประเสริฐสุดใน
โลกไม่มีใครเสมอเหมือน เฮาไม่เคยเห็น (ค�ำว่าเฮาเทียบกับค�ำว่าผม)
ตุ๊เจา้ มาพักอยู่ที่นี่ต้งั นานร่วมปแี ลว้ ทำ� ไมไมส่ อนเฮาบา้ งก๊าแตแ่ รกมาอยู่
(กา๊ เทา่ กับ “เล่า” หรอื “ไหม” กไ็ ด้ แปลไดห้ ลายนยั มากพอดู มตี ดิ
ท้ายประโยคได้ท้ังค�ำถาม คำ� ตอบ)
ทา่ นตอบ จะให้เราสอนอย่างไร กไ็ มเ่ คยเห็นพวกสมู าศึกษาไตถ่ าม
เราน่ีนา เขาตอบท่านวา่ ก็เฮาบ่ฮูก้ า๊ (บ่เทา่ กับไม่) วา่ ตเุ๊ จา้ เปน็ ผวู้ ิเศษ
ถ้าฮ้จู ะทนอยู่ไดอ้ ย่างไร ตอ้ งมาแนๆ่ ทีน้พี วกเฮาฮแู้ ล้วกา๊ วา่ ต๊เุ จ้าเปน็ ผู้
247
ฉลาดมาก เวลาพวกเฮามาถามวา่ ตุเ๊ จา้ นัง่ หลับตานงิ่ ๆ และเดินกลบั ไป
กลับมานั้น ท�ำท�ำไม หรือหาอะไร ตุ๊เจ้าก็บอกพวกเฮาว่าพุทโธหาย
ใหพ้ วกเฮาชว่ ยหา เมอื่ ถามถงึ พทุ โธเปน็ ลกั ษณะอยา่ งไร กบ็ อกไปวา่ เปน็
แกว้ ดวงสวา่ งไสว ความจรงิ จติ ตเุ๊ จา้ เปน็ พทุ โธอยแู่ ลว้ มไิ ดส้ ญู หายไปไหน
แต่เป็นอุบายฉลาดของตุ๊เจ้าท่ีเมตตาสงสารพวกเฮาให้ภาวนาพุทโธ
เพ่ือให้จิตพวกเฮาสว่างไสวเหมือนจิตตุ๊เจ้าต่างหาก เฮาฮู้แล้วว่าตุ๊เจ้า
เปน็ ผู้ประเสรฐิ และเฉลยี วฉลาด ปรารถนาใหพ้ วกเฮาได้บุญ มีความสขุ
และพบพทุ โธดวงประเสรฐิ ทใ่ี จตัวเอง มใิ ช่หาพุทโธใหต้ ุเ๊ จ้า
นบั แตเ่ ขาคนนน้ั ไดเ้ ห็นธรรมภายในใจเพยี งคนเดยี วเท่านน้ั เร่ืองก็
กระจายไปทั่วบ้านในไม่ช้า คนในบ้านต่างก็เกิดความสนใจและพากัน
ภาวนาพุทโธไปตามๆ กนั ตลอดเด็กเล็กๆ และเกิดความเชื่อถอื และ
เลื่อมใสท่านพระอาจารย์มัน่ มาก เร่ืองเสือเยน็ เลยหายซากไป ไมม่ ใี คร
กลา่ วถงึ เลย นบั แตน่ นั้ มาเวลาทา่ นกลบั จากบณิ ฑบาต คนทภี่ าวนาเปน็ นนั้
ต้องตามสง่ บาตรและศกึ ษาธรรมกับทา่ นทกุ วนั ถ้าวนั ไหนเขามธี รุ ะไมไ่ ด้
ตามส่งบาตรท่านกส็ ั่งกบั คนไว้ ในหมบู่ า้ นนั้นทราบว่ามคี นภาวนาเปน็ อยู่
หลายคนมที งั้ ชายและหญงิ ทเี่ กง่ กวา่ เพอ่ื นนน้ั กค็ อื เขาคนเปน็ กอ่ นนน่ั เอง
คนเราเมอื่ ความพอใจมแี ลว้ สง่ิ อน่ื ๆ กค็ อ่ ยเปน็ ไปเอง เชน่ คนพวกน้ี
แตก่ อ่ นเขาไมเ่ คยสนใจกบั ทา่ นเลยวา่ ทา่ นไดอ้ ยไู่ ดน้ อนไดข้ บฉนั อยา่ งไรบา้ ง
แม้จะเป็นหรือจะตายเขาไม่สนใจทั้งน้ัน พอเขาเกิดความเช่ือถือและ
เลอื่ มใสแลว้ ทกุ สง่ิ ทเี่ คยขาดแคลนกก็ ลบั กลายเปน็ ความสมบรู ณข์ นึ้ มา
เปน็ ลำ� ดับ ทางจงกรม กุฏทิ ีพ่ กั ทฉี่ ัน เขาพรอ้ มกนั มาท�ำถวายทา่ นเอง
จนเรยี บไปหมดโดยมไิ ดบ้ อกกลา่ วเลย มหิ นำ� เขายงั มาตำ� หนทิ า่ นเปน็ เชงิ
248
ชมเชยอยอู่ ยา่ งลกึ ลบั ดว้ ยวา่ ทางจงกรมอยา่ งนนั้ ตเุ๊ จา้ กเ็ ดนิ ได้ ดแู ลว้ มแี ต่
ตน้ ไม้เครือเขาเถาวัลยเ์ ตม็ ไปหมด ตเุ๊ จา้ มิใชห่ มพู อจะเดนิ บุกป่าฝา่ ดงไป
อยา่ งนน้ั แตท่ ำ� ไมยงั อตุ สา่ หเ์ ดนิ บกุ ไปได้ เมอื่ เฮาถามวา่ นท่ี างอะไร กบ็ อกวา่
ทางเดินหาพุทโธ พทุ โธเราหาย เมื่อเฮาถามวา่ นั่งหลบั ตาอย่นู ิ่งๆ น้นั
นั่งทำ� ไม กบ็ อกว่านง่ั หาธรรมบา้ ง นั่งหาพทุ โธบา้ ง พดู อย่างนนั้ กไ็ ด้
ตุ๊เจ้าน้ีแปลกกว่าคนท้ังหลาย ตุ๊เจ้าวิเศษเลิศโลกเท่าไรก็มิได้บอก
วา่ วเิ ศษ ตเุ๊ จา้ คนนี้แปลกมาก เฮาชอบนิสยั ตุ๊เจ้าตนน้มี าก ที่หลบั ที่นอน
ก็มีแต่ใบไม้ปูเต็มพื้นดินจนจะเหม็นเน่าอยู่แล้ว ท่านทนนอนมาตั้ง
หลายเดอื นท�ำไมทนได้ เฮาดทู ีน่ อนตเุ๊ จา้ แล้วเหมือนที่นอนหมู เห็นแล้ว
เฮาสงสารตเุ๊ จา้ มากจนเกือบรอ้ งไห้ พวกเฮาเองกโ็ งจ่ ริงๆ โงก่ ันท้งั บ้าน
ไมร่ จู้ กั ของดี มหิ นำ� บางคนยงั หาวา่ ตเุ๊ จา้ มาอยเู่ พอ่ื หลอกลวงชาวบา้ นแลว้
เขาก็พากันรังเกียจระแวง แต่เวลาน้ีพวกเขาพากันเช่ือถือและเล่ือมใส
ตุเ๊ จ้ากนั ทั้งบ้านแลว้ เพราะเขาทราบเรอ่ื งของตเุ๊ จา้ จากเฮากา๊ ดังน้ี
ท่านว่าคนพวกน้ีถ้าลงเขาได้เช่ือและเคารพนับถือแล้ว ต้องนับถือ
แบบถงึ ใจจรงิ ๆ และถงึ ไหนถึงกัน เป็นก็เป็นด้วยกนั ตายก็ตายดว้ ยกัน
แม้ชีวิตก็ยอมสละได้ เราพูดอะไรเขาเช่ือฟังและเคารพนับถือมาก
การบริกรรมภาวนาหาพุทโธของเขา ท่านก็สอนให้เขยิบเวลาขึ้นไปตาม
ความเคยชนิ และผูช้ �ำนาญเป็นล�ำดับ ปนี ัน้ ท่านตอ้ งจำ� พรรษากับพวกเขา
รวมแลว้ เปน็ เวลาปกี วา่ ทา่ นไปอยกู่ บั พวกเขา ตงั้ แตต่ น้ เดอื นกมุ ภาพนั ธ์
จนถึงเดือนเมษายนปีหลังจึงได้จากเขาไป ก่อนจะจากเขาไปได้ก็นับว่า
ทุลกั ทเุ ลดว้ ยความสงสารเขาเอาการอยู่ เนอื่ งจากเขาไม่ยอมให้ทา่ นหนี
ไปไหนเอาเลย เขาบอกท่านว่าแม้ท่านตายลงไปในท่ีน้ัน เขาทั้งบ้านจะ
249
รับรองเผาศพท่าน แมเ้ ขาเองก็มอบชีวิตไวก้ ับท่านด้วย เพราะความรกั
และเคารพเลอื่ มใสทา่ นมาก ผลดกี เ็ หน็ ประจกั ษ์ตาประจกั ษใ์ จ
น่าชมเชยเขาท่ีมีความฉลาดระลึกในความผิดได้ พอเห็นพระ
ท่ีปฏิบัติดีน่าเลื่อมใสจริงๆ แล้วก็กลับมาเห็นโทษความผิดของตนที่คิด
ไมด่ แี ตก่ อ่ น แลว้ พรอ้ มกนั มาขอขมาโทษทา่ นใหอ้ โหสกิ รรมให้ กอ่ นจาก
พวกเขาทา่ นไดพ้ ดู กบั พระทอี่ ยดู่ ว้ ยวา่ ทน่ี เ่ี ขาหมดโทษแลว้ เราจะไปทไี่ หน
กไ็ ดไ้ มข่ ดั ข้องแล้ว แตส่ �ำคัญตอนลาเขาออกจากท่ีนนั้ ทา่ นวา่ น่าสงสาร
สังเวชกับความรักความนับถือความเคารพเล่ือมใสและค�ำวิงวอนเขาจน
บอกไมถ่ กู พอพวกเขาทราบวา่ ทา่ นจะจากเขาไปเทา่ นนั้ เขาพากนั ออกมา
ทงั้ บา้ นมารอ้ งไหว้ งิ วอนกนั อยา่ งชลุ มนุ วนุ่ วายไปทง้ั ปา่ เหมอื นคนรอ้ งไห้
คดิ ถงึ คนตายนน่ั เอง ทา่ นกพ็ ยายามแสดงเหตผุ ลทจ่ี ำ� ตอ้ งจากเขาไป และ
ปลอบโยนพวกเขาไม่ให้เสียใจจนเลยขอบเขตแห่งธรรม คือความพอดี
จนเขาเปน็ ทลี่ งใจแลว้ ก็ออกจากทีพ่ ักอนั แสนส�ำราญนัน้
ส่ิงที่ไม่คาดฝันกลับเกิดข้ึนอีก คือท้ังเด็กและผู้ใหญ่ต่างคนต่างวิ่ง
ออกไปรุมลอ้ มทา่ นและเข้าแยง่ เอาบรขิ าร กลด บาตร กาน้ำ� กบั ผู้ตาม
สง่ ทา่ น และฉดุ ชายสบงจวี รกอดแขง้ กอดขาทา่ นดงึ กลบั มาทพี่ กั อกี เหมอื น
เดก็ ๆ โดยไมย่ อมใหท้ า่ นไป ทา่ นตอ้ งกลบั มาแสดงเหตผุ ลและปลอบโยนใจ
ใหส้ งบเย็นอกี พกั หน่ึงแลว้ ค่อยพากันปล่อยใหท้ า่ นไป พอท่านกา้ วออก
จากทพี่ กั เดนิ ไปไดป้ ระมาณ ๔-๕ วาเทา่ นน้ั ตา่ งกร็ อ้ งไหแ้ ลว้ พากนั ตามฉดุ
เอาทา่ นกลบั มาอกี ทำ� เอาท่านเสียเวลาไปหลายช่ัวโมง ฟงั เสยี งรอ้ งไห้
ระเบ็งเซ็งแซ่ฉุกละหุกวุ่นวายไปท่ัวทั้งป่า ซ่ึงเป็นท่ีน่าสมเพชเวทนาเอา
นกั หนา
250
ค�ำว่า “เสือเย็น” ที่เกิดข้ึนในตอนแรกๆ จึงหมดความหมายไป
ทง้ั สองฝา่ ย ทยี่ งั เหลอื อยจู่ งึ มแี ตค่ วามเคารพเลอ่ื มใสความอาลยั อาวรณ์
ในทา่ นผทู้ รงคณุ ธรรมอนั สงู สง่ ทสี่ ดุ จะอดกลน้ั ไวไ้ ด้ ขณะทที่ า่ นจากไปจงึ
มีแต่เสียงร้องไห้ระทมทุกข์ของพวกชาวเขาท่ีพิไรร�ำพัน ทั้งเสียงร้องไห้
และสง่ั เสยี วา่ “เมอ่ื ตเุ๊ จา้ ไปแลว้ ใหร้ บี กลบั คนื มาหาพวกเฮาอกี อยา่ อยนู่ าน
พวกเฮาคดิ ถึงตเุ๊ จา้ แทบอกจะแตกตายอยูเ่ ดี๋ยวน้ีแล้วก๊า” จนไม่ทราบว่า
เปน็ เสยี งเดก็ หรอื เสยี งผใู้ หญท่ ต่ี า่ งคนตา่ งรอ้ งไหไ้ วท้ กุ ขใ์ นคราวทา่ นจาก
ไปเวลาน้ัน
นบั วา่ ทา่ นไปอยใู่ นทา่ มกลางแหง่ ความระแวงสงสยั ไมพ่ อใจของเขา
ในครั้งแรก แต่จากไปในท่ามกลางแห่งความอาลัยเสียดายของเขาใน
ภายหลงั จึงนบั วา่ ทา่ นเทย่ี วชะล้างส่ิงสกปรกรกรุงรัง ให้กลายเปน็ ของ
สะอาดปราศจากมลทินควรแก่ความเป็นของมีคุณค่าข้ึนได้ สมกับท่าน
บวชมาเป็นลูกศิษย์ของพระตถาคต ผู้ไม่ถือโกรธถือโทษกับผู้ใดจริงๆ
ใครรงั เกยี จทา่ นกพ็ ยายามอนเุ คราะหด์ ว้ ยความเมตตาสงสาร ไมย่ ดึ เอา
ความผดิ พลาดของเขามาเปน็ อารมณ์เครอื่ งขนุ่ ข้องหมองใจให้เปน็ ภยั แก่
ตนและผอู้ ่ืน มใี จที่เต็มเปยี่ มดว้ ยเมตตา อันเปน็ ทเี่ จริญศรัทธาของโลก
ผู้รอ้ นดว้ ยกเิ ลสตัณหาวิง่ เขา้ มาอาศยั ใหไ้ ด้รบั ความไวว้ างใจและเยน็ ฉ�่ำ
ท่ัวหนา้ กนั นับว่าเป็นผอู้ ัศจรรย์ดว้ ยคณุ ธรรมอนั หาท่ีเปรียบได้ยาก
ขณะนั่งฟงั ทา่ นเลา่ ผู้ฟังเกดิ ความสงั เวชสลดใจอดวาดภาพไปตาม
ไมไ่ ด้ ปรากฏในมโนภาพขณะนนั้ เหมอื นดภู าพยนตรท์ แี่ สดงเรอ่ื งชลุ มนุ
วุ่นวายของชาวบ้านป่าท่ีมีศรัทธาแรงกล้า สละเลือดเนื้อชีวิตดวงใจต่อ
ท่านผู้วิเศษด้วยคุณธรรม ขอให้ท่านประพรมโสรจสรงด้วยพรหมวิหาร
251
ประทานเมตตาแก่พวกเขาให้มีชีวิตชีวาเจริญวาสนาสืบต่อไป ด้วยการ
วิงวอนและร้องไห้ว่งิ กอดแข้งกอดขา ฉุดผ้าสงั ฆาฏสิ บงจีวรบาตรบริขาร
ท่านกลบั มาสู่บรรณศาลาหลงั เล็กๆ ของฤๅษีท่มี ุงดว้ ยเปลือกไมใ้ บหญา้
อันแสนสำ� ราญ ซง่ึ เปน็ ทน่ี ่าสงสารอย่างประทับใจ แต่เปน็ สงิ่ ท่ีสุดวสิ ัย
ของโลก อนิจฺจํ จ�ำมาต้องจ�ำจาก เพราะการพลัดพรากแปรผันเป็น
สายทางเดินแห่งคติธรรมดา ไม่มีท่านผู้ใดสามารถปิดกั้นหรือท�ำลายได้
ดงั นน้ั ทา่ นพระอาจารยม์ นั่ แมจ้ ะทราบอธั ยาศยั ของชาวศรทั ธาทเ่ี กย่ี วพนั
หนกั แนน่ กบั ท่านอยู่อยา่ งเต็มใจก็จ�ำตอ้ งจากไปในเมื่อกาลมาถึงแลว้
เปน็ ทท่ี ราบกนั วา่ ทา่ นพระอาจารยม์ นั่ ทชี่ าวบา้ นในเขาเคยใหน้ ามทา่ น
วา่ “เปน็ เสอื เยน็ ” แตท่ า่ นเปน็ วสิ ทุ ธบิ คุ คลอยใู่ นขา่ ยแหง่ ปญุ ฺ กเฺ ขตตฺ ํ
โลกสสฺ ของโลก ทา่ นไดจ้ ากชาวเขาไปเพอื่ บำ� เพญ็ ประโยชนแ์ กโ่ ลกตอ่ ไป
ตามอธั ยาศยั ไมม่ ปี ระมาณ เรอื่ งทง้ั นน้ี บั วา่ เปน็ คตแิ กอ่ นชุ นรนุ่ หลงั ไดเ้ ปน็
อย่างดี ซง่ึ เวลานี้พุทธศาสนกิ ชนผ้รู ักความสงบ ก�ำลงั วิตกหว่ งใยทง้ั ตน
และพุทธศาสนาอันเป็นสมบัติล้นค่า และเป็นคู่เคียงแห่งชีวิตจิตใจ
ตลอดมา ทอ่ี าจถกู เพง่ เลง็ กลา่ วหาอยา่ งลกึ ลบั วา่ เปน็ “เสอื เยน็ ” ทำ� นองท่ี
ทา่ นพระอาจารยม์ นั่ ถกู มา แลว้ กำ� จดั ทำ� ลายอยา่ งเปดิ เผยกไ็ ด้ จากฝา่ ยใด
ก็ตามท่ีมีความรู้ความเห็นเป็นปรปักษ์ต่อหลักพระศาสนาและคตินิสัย
ของพทุ ธศาสนกิ ชน ซงึ่ เวลานก้ี เ็ รม่ิ ไหวตวั บา้ งพอใหร้ สู้ กึ วา่ ไมค่ วรนอนใจ
ถ้านอนหลบั ทับสทิ ธจ์ิ นเกนิ ไปอาจเสยี ใจในภายหลงั
ท่านพระอาจารย์มั่นท่านด�ำเนินตามแบบสุคโต ไปอยู่ในป่าในเขา
กเ็ ปน็ ประโยชนแ์ ก่ชาวป่าชาวเขา เทวบตุ ร เทวธิดา อินทร์ พรหม ภูตผี
นาค ครฑุ ไมว่ ่างงาน ทา่ นมีเมตตาสงสารอนุเคราะหโ์ ลกอยตู่ ลอดเวลา
252
ออกมาเมืองมนุษยม์ นากโ็ ปรดมนุษย์มนา พระ เณร ชี คหบดีทวยขา้
ประชาชนคนทกุ ชน้ั ไมเ่ วน้ แตล่ ะเวลา มมี นษุ ยม์ นาไปมาหาสศู่ กึ ษาอบรม
อรรถธรรมกบั ทา่ นเปน็ ประจำ� นบั วา่ ทา่ นทำ� ประโยชนม์ หาศาลแกส่ ว่ นรวม
ซ่งึ ยากจะมีผู้ท�ำไดล้ ะเอยี ดลออกว้างขวางเหมอื นอยา่ งท่าน
เวลาพักอยู่ในภูเขา ตอนบ่ายๆ เย็นๆ พวกชาวป่าก็พลอยได้รับ
ความแช่มช่ืนเบิกบานจากธรรมท่ีท่านแสดงโสรจสรง ตกตอนดึกก็แก้
ปญั หาและแสดงธรรมแกเ่ ทวดาทีม่ าจากช้นั และท่ตี ่างๆ ฟงั เรือ่ งเชน่ น้ี
นับว่าเป็นภาระอันหนักท่ีท่านต้องท�ำซ่ึงหาตัวแทนยาก ไม่เหมือนการ
ส่ังสอนมนุษย์มนาท่ีใครๆ ส่ังสอนก็พอรู้เรื่องกัน นอกจากจะฟังและ
ปฏิบัติตามหรือไม่เท่าน้ัน การเก่ียวข้องกับเทพเจ้าท้ังเบ้ืองบนเบื้องล่าง
นับว่าเป็นเร่ืองส�ำคัญมากส�ำหรับท่านพระอาจารย์มั่น ฉะนั้น ประวัติ
ของท่านจึงมักมีเร่ืองเกี่ยวกับเทพสับปนกันไปเสมอตามประสบการณ์
ในสถานทีแ่ ละเวลาตา่ งๆ กัน จนกว่าจะจบประวตั ิทา่ น เร่ืองทำ� นองน้ีถึง
จะสน้ิ สดุ ลง
เมื่อไม่นานมานี้ผู้เขียนได้ไปกราบนมัสการท่านพระอาจารย์ผู้ทรง
คณุ ธรรมอันสูง ซ่งึ เปน็ อาจารย์ทางวิปัสสนากรรมฐาน มีประชาชนและ
พระเณรเคารพนับถอื ท่านมากแทบท่วั ประเทศไทย พอไปถึงก็เปน็ เวลา
ทที่ า่ นกำ� ลงั สนทนาธรรมอยกู่ บั พระ ๓-๔ องค์ ซง่ึ เปน็ ลกู ศษิ ยท์ า่ นภายในวดั
เราพลอยไดโ้ อกาสเขา้ ผสมดว้ ย ทา่ นแสดงอธั ยาศยั ดว้ ยความเมตตาอยา่ งยง่ิ
เราเร่ิมสนทนาธรรมภาคปฏิบัติแขนงต่างๆ จนเตลิดไปถึงเร่ืองของท่าน
พระอาจารยม์ นั่ ซ่ึงเป็นอาจารย์ท่าน ระยะน้ันท่านไปศึกษาอบรมอยู่กับ
ท่านพระอาจารย์ม่นั ทจี่ ังหวดั เชยี งใหม่ ในภูเขาลกึ หา่ งจากตวั อำ� เภอมาก
253
เดนิ ดว้ ยเทา้ เปลา่ เปน็ วนั ๆ จงึ จะถงึ อำ� เภอ ทา่ นเลา่ ใหฟ้ งั หลายเรอ่ื งซง่ึ ลว้ น
เปน็ เรอ่ื งทฟี่ งั แลว้ สะดดุ ใจ และเกดิ ความอศั จรรยช์ นดิ บอกไมถ่ กู แตจ่ ะ
น�ำมาเลา่ ใหท้ า่ นฟงั เทา่ ทีเ่ ห็นว่าอยใู่ นเกณฑ์ทค่ี วร นอกนน้ั จึงขอผ่านไป
ตามทเี่ คยเรยี นให้ทราบมาแล้ว
ทา่ นเลา่ วา่ ทา่ นพระอาจารยม์ นั่ นอกจากจะเปน็ ทแ่ี นใ่ จอยา่ งยง่ิ วา่ ทา่ น
เป็นผบู้ ริสทุ ธ์หิ มดจดในสมัยปัจจุบันแลว้ ทา่ นยังมคี ุณธรรมพเิ ศษหลาย
ประการอกี ดว้ ย ทง้ั นา่ กลวั ทงั้ นา่ เคารพ ทง้ั นา่ เลอ่ื มใส ทง้ั ทำ� ใหเ้ ราระวงั
ตวั อยตู่ ลอดเวลา ความรแู้ ปลกๆ ทท่ี า่ นเลา่ ใหฟ้ งั นนั้ ผมเองกจ็ ำ� ไมไ่ ดห้ มด
ผเู้ ขยี นเรยี นถามทา่ นวา่ สว่ นทจี่ ำ� ไมไ่ ดก้ ส็ ดุ วสิ ยั แตท่ พี่ อจำ� ไดก้ ข็ ออาราธนา
เลา่ ใหก้ ระผมฟงั บา้ ง พอไดย้ ดึ ไวเ้ ปน็ ขวญั ใจและเปน็ ทร่ี ะลกึ บชู าไปนานๆ
ทา่ นพดู วา่ กเ็ ราคดิ อะไรขนึ้ มาภายในใจทา่ นรเู้ อาเสยี หมด จะวา่ อยา่ งไรละ่
ผมเองเหมอื นถกู มดั ไวท้ ง้ั วนั ทง้ั คนื เลย ดว้ ยการระวงั รกั ษาจติ ถงึ ขนาดนน้ั
ท่านยังเอาเรื่องความคิดของเราไปเทศน์ให้เราและหมู่เพ่ือนฟังจนได้
แต่จิตผมก็รู้สึกว่าดีอยู่ไม่น้อยในระยะที่อยู่กับท่านน้ัน เป็นแต่รักษาใจ
ไมใ่ หค้ ิดไปทกุ แง่ทกุ มุมไม่ได้เทา่ นนั้ เอง
ใครๆ ก็ทราบวา่ ใจเป็นของเล่นเม่ือไร มันคิดได้ทัง้ วนั ทัง้ คืน ใครจะ
ไปทนตามทนหา้ มมนั หวาดไหว ฉะน้นั จึงโดนทา่ นเทศนเ์ สยี เรื่อย บางที
เราคดิ และหลงลมื ไปแลว้ พอมาหาทา่ นทา่ นเทศนเ์ รอ่ื งนน้ั ขน้ึ เราถงึ ระลกึ
ไดว้ า่ เราไดห้ ลวมตวั คดิ อยา่ งทา่ นวา่ จริงๆ อย่างนี้ ทา่ นดุให้ท่านอาจารย์
ดว้ ยหรอื ? ผ้เู ขยี นถาม บางทีทา่ นดเุ อาบา้ ง แต่บางทแี นะนำ� ไปทเี ดยี ว
โดยยกเอาเร่ืองท่ีเราคิดนึกฝันไปน่ันเองมาเป็นธรรมแสดงแก่เราเอง
บางครง้ั ก็มพี ระไปนั่งฟงั อยดู่ ้วย เรานึกอายพระทีไ่ ปไดย้ ินด้วย แต่ดอี ยู่
254
อยา่ งหนง่ึ เวลามพี ระไปนง่ั ฟงั อยดู่ ว้ ยนบั แตห่ นง่ึ องคข์ นึ้ ไป ทา่ นไมร่ ะบชุ อื่
ผเู้ ปน็ ตน้ เหตคุ ดิ เปน็ แตอ่ ธบิ ายเรอื่ งความคดิ นกึ ดชี วั่ นน้ั ๆ ไปเรอื่ ยๆ เทา่ นนั้
ทา่ นอาจารยค์ ดิ อยา่ งไรบา้ ง ทา่ นถงึ ไดด้ บุ า้ งสงั่ สอนบา้ ง ผเู้ ขยี นเรยี นถาม
ฟงั แตค่ ำ� วา่ ปถุ ชุ นเปน็ ไร มนั หนายง่ิ กวา่ ภเู ขาหนิ และชนดะไปหมด ไมเ่ ลอื ก
วา่ ดวี า่ ชวั่ วา่ ผดิ วา่ ถกู มนั คดิ ไปไดท้ งั้ นน้ั พอดกี บั เรอ่ื งทคี่ วรดทุ า่ นถงึ ไดด้ ุ
ทา่ นอาจารย์กลัวท่านมากหรอื เปล่าเวลาทา่ นดุ ผ้เู ขียนเรียนถาม ทำ� ไม
จะไม่กลัว ตวั ไมส่ ั่นแต่หวั ใจมันสั่นอย่ภู ายในบางทแี ทบลืมหายใจกย็ งั มี
การรวู้ าระจติ ของผอู้ นื่ นนั้ ทา่ นรจู้ รงิ ๆ ผมไมส่ งสยั เลย เพราะเรอ่ื งมนั บอก
อยู่กับตัวเรา ทุกอย่างที่คิดออกไป ท่านตามเก็บเอามาเทศน์สอนเรา
เสียสิ้น บางครั้งผมคิดว่าจะไปเท่ียวตามภาษาความโง่ของตน ถ้าคิด
ตอนกลางคืน พอตื่นเช้ามาไปท�ำข้อวัตรอุปัฏฐากท่าน ท่านก็เก็บเอา
เทศนท์ นั ทที ่ีไปถึง ทา่ นวา่ ท่านจะไปเทยี่ วทไี่ หนอีก ทน่ี น้ั ไมด่ ีสูท้ นี่ ่ีไมไ่ ด้
อยทู่ นี่ ด่ี กี วา่ ทำ� นองน้ี ทกุ ๆ ครง้ั ทเ่ี ราคดิ ปรากฏวา่ ไมย่ อมใหผ้ า่ นพน้ ไปได้
ทา่ นวา่ อยทู่ น่ี สี่ นกุ ฟงั เทศน์ ดกี วา่ อยทู่ น่ี นั้ แลว้ กไ็ มอ่ นญุ าตใหเ้ ราไปทน่ี น้ั
จรงิ ๆ ดว้ ย เทา่ ทส่ี งั เกตดทู า่ นคงเปน็ หว่ งเรามาก กลวั จติ เราจะเสอื่ มเสยี
และท่านก็พยายามอบรมอยู่ตลอดเวลา
ทผี่ มกลัวท่านมากก็คอื ไม่วา่ กลางคืนหรอื กลางวัน พอเรากำ� หนด
พิจารณาดูท่านเมื่อไร ก็ปรากฏเห็นท่านจ้องมองเราอยู่แล้ว ประหนึ่ง
ทา่ นไมย่ อมพกั ผอ่ นเอาเลย บางคนื ผมไมก่ ลา้ นอนเพราะมองดทู า่ นแลว้
เหมอื นทา่ นนง่ั อยตู่ รงหนา้ เรา และเพง่ ตาจบั จอ้ งอยทู่ เ่ี ราทกุ ขณะ เรากำ� หนด
จติ ออกไปขา้ งนอกทไี รกเ็ หน็ แตท่ า่ นมองดเู ราอยแู่ ลว้ ฉะนน้ั การเคลอื่ นไหว
ทุกอาการ จึงเป็นไปด้วยความส�ำรวมระวังอยู่เสมอ เวลาไปบิณฑบาต
255
ตามหลงั ทา่ น ตา่ งองคต์ า่ งระวงั สำ� รวมใจไมใ่ หพ้ ลงั้ เผลอออกนอกกายได้
ไม่เช่นน้ันขากลับออกมาถงึ วัดหรอื ยงั ไม่ถึงด้วยซ้ำ� ในบางครงั้ โดนเทศน์
จนได้
ไมว่ า่ จะอยทู่ ใี่ ดทง้ั กลางวนั และกลางคนื ตอ้ งมสี ตริ ะวงั ตวั ตลอดเวลา
แม้เช่นนั้นยังมีเร่ืองให้ท่านน�ำมาเทศน์จนได้และก็จริงดังท่ีท่านเทศน์
เสียด้วย คือต้องมีองค์ใดองค์หนึ่งท่ีอุปโลกน์ไปคิดเร่ืองข้ึนมาให้ท่าน
จ�ำต้องน�ำมาเทศน์ บางคร้งั ขณะนงั่ ฟงั เทศน์ไดย้ ินเสยี งท่านเทศนด์ เุ รอื่ ง
แปลกๆ ซง่ึ เราเองมไิ ดค้ ดิ ทำ� นองนน้ั พอเลกิ ประชมุ ฟงั เทศนแ์ ลว้ ออกมา
กระซิบถามกันว่า วันนี้ท่านเทศน์ถูกใครบ้าง เสียงเทศน์รู้สึกชอบกล
ต้องมีองค์หน่ึงสารภาพตัวให้เราฟังจนได้ว่า วันนี้ท่านเทศน์ถูกผมเอง
เพราะผมอตุ รไิ ปคดิ อยา่ งนนั้ จรงิ ๆ ดงั นี้ แตอ่ ยกู่ บั ทา่ นรสู้ กึ ดมี าก เพราะมี
สติอยูก่ บั ตัวแทบตลอดเวลาเน่ืองจากกลวั ท่าน
ท่านเล่าว่าขณะไปถึงเชียงใหม่ทีแรกและเข้าไปพักวัด…….ได้ไม่ถึง
ชวั่ โมง เหน็ รถยนตว์ งิ่ เขา้ มาในวดั ทผ่ี มพกั อยู่ และตรงเขา้ มาจอดทหี่ นา้ กฏุ ิ
ผมพอดี พอมองลงไปเปน็ ทา่ นพระอาจารยม์ น่ั ผมกร็ บี ลงไปตอ้ นรบั ทา่ น
และเรียนถามถึงเรอื่ งการมาของท่าน ทา่ นกบ็ อกทนั ทีว่าผมก็มารับท่าน
น่ันเอง เพราะทราบว่าท่านจะมาท่ีนี่ต้ังแต่เม่ือคืนน้ีแล้ว เราเรียนถาม
ทา่ นวา่ มใี ครเลา่ ถวายทา่ นอาจารยห์ รอื วา่ กระผมจะมาทเ่ี ชยี งใหม่ ทา่ นตอบ
วา่ ใครจะบอกหรอื ไมก่ ไ็ มเ่ ปน็ ปญั หา ถา้ ทราบและอยากมากม็ าเองไดด้ งั นี้
พอไดย้ ินคำ� นัน้ แล้ว จติ ผมเรม่ิ นึกกลวั ข้ึนมา และยงั ทำ� ให้เรานกึ พสิ ดาร
ไปต่างๆ ซง่ึ จะท�ำใหก้ ลัวท่านมากขน้ึ เวลาไปอยู่กบั ท่านจรงิ ๆ เรอ่ื งกเ็ ปน็
ดงั ที่คดิ ไวท้ ุกประการ
256