อีกตัวอยางหน่ึงของการเสริมสรางสมุททานุภาพของ อังกฤษซ่ึงเปนผลจากการการพัฒนาทางเทคโนโลยี คือ การคดิ คน นากิ าทบี่ อกเวลาไดอ ยา งแมน ยําโดยจอหน แฮรสิ นั (John Harrison) ซึ่งจากผลงานการประดิษฐนาิกาของ เขาทําใหเกิดการปฏิวัติดานการเดินเรือระยะไกล เนื่องจาก สามารถแกปญหาการคํานวณเสนลองจิจูดได โดยปญหา การหลงทางในมหาสมุทรขนาดใหญถือเปนปญหารายแรง ถึงขั้นทําใหตองสูญเสียเรือและชีวิตของลูกเรือ ซึ่งในยุคเรือใบ ที่เขาอาศัยอยู การเดินเรือขามมหาสมุทรเปนภารกิจเสี่ยง อันตราย โดยเฉพาอยางยิ่งภายหลังเหตุการณ Scilly Naval Disaster 1707 ที่เกิดการสูญเสียเรือจํานวน ๔ ลํา พรอม ลูกเรืออีกประมาณ ๑,๓๐๐ นาย ซึ่งเปนหนึ่งในหายนะทาง เรือท่ีเลวรายที่สุดในประวัติศาสตรอังกฤษ จนถึงขั้นที่รัฐสภา อังกฤษประกาศจะใหเงินรางวัลจํานวน ๒๐,๐๐๐ ปอนด (ในสมัยนั้น) กับผูใดก็ตามท่ีสามารถแกปญหาในการคํานวณ เสนละติจูดได โดยเขาเปนผูคิดคนนาิกาท่ีใชทํางานดวย แรงเหวี่ยงจากการโคลงของเรือ๑๔ ที่ตอมาเรียกวานาิกา โครโนเมตร๑๕ (Marine Chronometer) ท้ังนี้เปนที่ นาประหลาดใจที่การวาเขาสามารถคิดคนนาิกาไดผานการ เรียนรูและลองผิดลองถูกดวยตนเอง (Self-Taught)
ภาพการพัฒนาของเรือใบจากเรือ Lugger จนถึงเรือประเภท First Rate แบบเรือ Sovereign of the Sea ภาพจาก https://thewritershandbook.tumblr.com/post/ 141620233467/types-of-ships-parts-of-the-ship-wind- directions
สงิ่ ประดษิ ฐข องแฮรสิ นั ทําใหน กั เดนิ เรอื ทราบวา ตนเองอยู ที่ตําบลที่ใดของโลกผานการคํานวณท่ีแมนยําโดยเทียบตําบล
ที่เรือกับเสนลองจิจูดเมืองกรีนิช ทําใหไดท่ีเรือที่แมนยํากวา
ตอนที่ไมมีนาิกาในอดีต๑๖ ซึ่งผลจากการประดิษฐนาิกา มีสวนชวยทําใหอังกฤษสามารถสรางตนเองจนเปนจักรวรรดิอังกฤษท่ีมีอาณาเขตครอบคลุมไปในหลายทวีปของ โลกได ท้ังน้ีเนื่องจากอังกฤษมีการเดินเรือระยะไกลซึ่งเชื่อถือไดอันเปนผลมาจากการมีนาิกาท่ีแฮริสันประดิษฐข้ึน
๑๔. Eli Meixler, Who is John Harrison? Why Google Is Celebrating the English Clockmaker, Time Magazine, https://time.com/5225772/ john-harrison-longitude/ เขาถึงขอมูลเมื่อ ๑๑ มี.ค. ๖๕
๑๕. ในชวงท่ีเปนนายทหารเด็ก ๆ ผูเขียนเคยไดรับการสั่งสอนเมื่อครั้งดํารงตําแหนงตนหน ใหทําการไขลานนาิกาโครโนเมตร ซึ่งในขณะนั้นก็นึกสงสัยอยู เสมอ ๆ วา ทําไมจงึ ตอ งไขลานนากิ าโครโนเมตรทกุ ๆ วนั แตไ มไ ดร บั คําอธบิ ายเหตผุ ลและความจําเปน วา ทําไมจงึ ตอ งไขลานนากิ าเสมอ ๆ จนมาเขา ใจวา เปน กุศโลบายและมาทราบความสําคัญของนาฬกาโครโนเมตรท่ีสงผลตอการเพ่ิมพูนของสมุททานุภาพเน่ืองจากทําใหอังกฤษสามารถเอาชนะฝรั่งเศสไดจากสารคดี ชดุ นี้ ทงั้ นผี้ เู ขยี นอยใู นยคุ แรก ๆ ของการใชง าน GPS ในการเดนิ เรอื ซง่ึ ในขณะนนั้ ยงั มคี วามไมเ ชอ่ื ใจ GPS และยงั คงมคี วามกงั วลถงึ เหตกุ ารณใ นลกั ษณะ Worst Case Scenario ที่วาหากสหรัฐอเมริกาปดระบบ GPS จะเปนอยางไร? แตแลวกาลเวลาก็ลวงเลยผานไป GPS ไดเขามามีบทบาทในชีวิตของมนุษยทั้งโลกในเชิง การคาและธรุกิจจนยากจะแยกออกจากชีวิตประจําวัน ไมวาจะเปนการใชโซเชียลมีเดีย การนําทางไปยังรานคา การเดินเรือ การเดินอากาศ ฯลฯ แตอยางไร ก็ตามในความเห็นของผูเขียนเราก็ไมควรพึ่งพาแตเพียงเคร่ืองมือใดเพียงเครื่องมือหน่ึงเพียงอยางเดียวในการนําเรือ จําเปนตองมีการ Cross-Check กันระหวาง เคร่ืองมือตาง ๆ ไมวาจะเปน GPS DGPS เรดาร สายตา การหาที่เรือชายฝง ประสบการณ แผนที่ ฯลฯ
๑๖. โลกหมุนรอบตัวเอง ๓๖๐ องศา/วัน เม่ือเอา ๒๔ ชม. มาหาร เราจะได ๑๕ องศา/๑ ชม. สมมตวิ าเราทราบวาเราออกเดินทางจากจุด A ไปยังจุด B ในเวลา ๑๒๐๐ และเราเดินทางถึงจุด B ใน ๓ ชั่วโมงถัดมา เราก็จะทราบวาเราไดเดินทางมา ๔๕ องศาลองจิจูดแลว
นาวิกศาสตร 32 ปที่ ๑๐๕ เลมที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
ซงึ่ นากิ าโครโนเมตรสําคญั ถงึ ขนาดทอี่ งั กฤษจดั ตงั้ หนว ยงานขนึ้ มาดแู ลโดยเฉพาะ คอื British Royal Observatory’s Chronometer Department อยางไรก็ตามภายหลังจากที่ระบบการเดินเรือดวย GPS เริ่มมีความนาเช่ือถือมากขึ้น ความสําคัญของนาิกาโครโนเมตรก็ลดลงไปตามลําดับ
ภาพของ John Harris กับส่ิงประดิษฐนาิกา Marine Chronometer แบบท่ี ๓ ที่ใชในการคํานวณลองจิจูด เพื่อแกปญหาการเดินเรือใหกับอังกฤษ ลดการสูญเสียทรัพยากรทั้งคนและเรือ โดยในยุคปจจุบัน Google ไดเคยสรางภาพการตูน เพ่ือเฉลิมฉลองวันเกิดครบรอบปท่ี๓๒๕ของแฮริสันจากผลงานการแกปญ หาการคํานวณลองจิจูดไดซึ่งเขาใชเวลาถึง๓๑ป ในการเรียนรูตลอดชีวิต ทั้งน้ี เขาประดิษฐนาิกาโครโนเมตรรุนที่ ๔ (Harrison sea clock-H4) ซึ่งสามารถพกพา
ไดใน ค.ศ. ๑๗๕๙ ตรงกับ พ.ศ. ๒๓๐๒ สมัยอยุธยาเปนราชธานี ซึ่งมีเหตุการณสําคัญ คือ สงครามพระเจาอลองพญา ภาพจาก https://time.com/5225772/john-harrison-longitude/
เปนที่แนนอนวาการทหารเรือไทยในยุคแรกเริ่มน้ัน ไดรับอิทธิพลเปนอยางมากจากอังกฤษ ศักยภาพของ กองทพั เรอื ไทยเกดิ มขี นึ้ มาไดก ด็ ว ยพระปรชี าสามารถและสายพระเนตรอนั กวา งไกล ในพลเรอื เอก พระเจา บรมวงศเ ธอ พระองคเ จา อาภากรเกยี รตวิ งศ กรมหลวงชมุ พรเขตอดุ มศกั ดิ์ ซงึ่ เปน ผลจากการปรบั ตวั ของประเทศไทยเพอ่ื แสดงความ เปนอารยะประเทศใหประจักษแกสายตาของนานาอารยะประเทศ โดยเฉพาะกับชาติตะวันตก ในยุคลาอาณานิคม ซงึ่ เหน็ จะเรมิ่ ตง้ั แตส มยั ลน เกลา รชั กาลท่ี ๔ และเรมิ่ เหน็ เดน ชดั เจนมากขนึ้ อยา งมากในรชั สมยั ของลน เกลา รชั กาลที่ ๕ โดยเริ่มจากการวาจางชาติที่มีความกาวหนากวาทางเทคโนโลยีใหเขามาวางระบบและสอนคนไทยในการใชงาน เชน การออกแบบผังปอมพระจุลจอมเกลาโดยหลวงยุทธโยธิน (อองเดร ดู เปลซี เดอ ริเชอลิเออ) เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๑
นาวิกศาสตร 33 ปที่ ๑๐๕ เลมที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
การวาจางมิสเตอร จี. มูเร แคมปเบลล สรางทางรถไฟหลวงจากกรุงเทพฯ ถึงนครราชสีมา เมื่อ ๙ มีนาคม ๒๔๓๔๑๗ ซึ่งก็ไมแตกตางจากหลาย ๆ ประเทศในโลกท่ีมีจุดกําเนิดดานการพัฒนาทางเทคโนโลยีและทักษะของคนในประเทศ เรม่ิ จากการตอ งยอมใหช าตทิ มี่ วี ทิ ยาการทก่ี า วหนา กวา เขา มาเปน ผบู กุ เบกิ กอ นแลว จงึ เรมิ่ ทจี่ ะดําเนนิ การดว ยตนเองได ยกตัวอยางเชน ความเปนมาของบริษัท Aramco (ยอมาจาก Arabian American Oil) บริษัทยักษใหญของประเทศ ซาอุดิอาระเบีย ท่ีเริ่มกําเนิดขึ้นใน ค.ศ. ๑๙๓๓ (ชวงระหวางสงครามโลกคร้ังท่ี ๑ และ ๒) เมื่อมีการตกลงเซ็นสัญญา กันระหวางซาอุดิอาระเบียและบริษัท Standard Oil Company of California (SOCAL)๑๘ โดยในสวนของบริษัท อเมรกิ นั ไดก อ ตงั้ มากอ น Aramco ถงึ ๖๓ ป โดยเจา ของบรษิ ทั ไมใ ชใ ครอนื่ แตค อื John D. Rockefeller ชายผทู ก่ี ลา ว กันวาเปนชาวอเมริกันท่ีรํ่ารวยที่สุดตลอดกาล โดยในชวงแรกหุนในบริษัทสวนใหญจะถือโดยบริษัทสัญชาติอเมริกัน จนกระทั่งมาถึงใน ค.ศ. ๑๙๗๓ ที่รัฐบาลซาอุดิอาระเบียไดเริ่มเขามาเปนผูถือหุนใหญท่ีรอยละ ๖๐ ซึ่งตองใชเวลากวา ๔๐ ป นบั ตงั้ แตก อ ตง้ั บรษิ ทั กวา ทรี่ ฐั บาลของประเทศทเี่ ปน เจา ของทรพั ยากรจะไดถ อื หนุ ใหญใ นบรษิ ทั ได ทงั้ นจ้ี ะเหน็ ไดว า การเรมิ่ พฒั นาขดี ความสามารถในการพงึ่ พาตนเองไดน น้ั จําเปน ตอ งใชเ วลา เปน กระบวนการทมี่ รี ะยะเวลายาวนาน และจําเปน ตอ งไดร บั การสนบั สนนุ อยา งตอ เนอื่ ง ทงั้ นร้ี วมถงึ การพฒั นาขดี ความสามารถในดา นทรพั ยากรบคุ คลซง่ึ เปน ตัวแปรสําคัญของความตอเนื่องในการบริหารจัดการและพัฒนาประเทศ เพ่ือใหพรอมและสามารถท่ีจะปฏิบัติงานได เมื่อตองเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง โดยใน ค.ศ. ๒๐๒๐ Aramco ไดวางเปาหมายท่ีจะจางงานชาวซาอุดิอาระเบีย คดิ เปน รอ ยละ ๙๐ ของลกู จา งทง้ั หมดของบรษิ ทั ซงึ่ เปน สว นหนงึ่ ในการสนบั สนนุ นโยบายปฏริ ปู ประเทศ Vision 2030 ของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย๑๙
ในสวนของประเทศไทย เราเริ่มจะไดเห็นบริษัทของประเทศไทยหรือคนไทยท่ีเร่ิมจะมีแนวความคิดในการพ่ึงพา ตนเองมากขนึ้ ถงึ แมจ ะไมไ ดเ ปน การพฒั นาดว ยตนเองทงั้ หมดตง้ั แตต น เชน การตอ เรอื โดยบรษิ ทั ภายในประเทศหรอื การตอเรือโดยกองทัพเรือโดยใชแบบของตางประเทศ การจับมือเปนพันธมิตรระหวางบริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) กับ Foxconn Technology Group เพื่อพัฒนาธุรกิจรถยนตไฟฟาในไทย ซึ่งหมายรวมถึงการผลิตแบตเตอรีท่ี อาจสามารถนํามาใชในเรือไฟฟาได หรือการที่บริษัท ปตท.สผ. บริษัทลูกของ ปตท. จับมือกับ ม.เกษตรศาสตร๒๐ จดั ทําโครงการความรว มมอื ดา นการวจิ ยั และพฒั นายานยนตใ ตน ํ้าแบบบงั คบั มอื (Remoteiy Operated Vehicle: ROV) และยานยนตใ ตน าํ้ อตั โนมตั ิ (AUV) ขนึ้ เพอื่ ใชส าํ รวจทอ สง ปโ ตรเลยี มเพอื่ ตรวจสอบและซอ มบาํ รงุ ทอ หรอื เพอื่ ใชส าํ รวจ ทะเลในระดับความลึกที่ลึกมาก ๆ ซึ่งเปนการใชงานในลักษณะเดียวกันกับการใชงานยานสํารวจใตนํ้าของกองเรือ ทุนระเบิด ซึ่งไดเปดตัวบริษัทใหม คือ AI and Robotics Ventures (ARV)๒๑ ซ่ึงนาจะมีการแลกเปลี่ยนองคความรู ซ่ึงกันและกันได ซึ่งประเทศไทยนั้น ตามความคิดเห็นของผูเขียน เปนประเทศที่มีลักษณะคลายประเทศฝรั่งเศส คือ เปน ประเทศทม่ี แี ผน ดนิ อดุ มสมบรู ณ ประชากรไมจ ําเปน ตอ งออกไปหาอาหารเพอื่ หาเลยี้ งชพี ในทะเล ตา งจากองั กฤษ ซ่ึงมีอาหารประจําชาติ คือ Fish and Chip และเนเธอรแลนด มีอาหารสงออก คือ ปลาเฮอรริง หมักเกลือ (Dutch New Herring-Maatjesharing) ซึ่งเปนสินคาสงออกของชาวดัตชในยุคเรือใบ
๑๗. ประวัติการรถไฟแหงประเทศไทย https://www.railway.co.th/AboutUs/Blog เขาถึงขอมูลเมื่อ ๑๑ มี.ค. ๖๕
๑๘. Our history driven by curiousity to explore, https://www.aramco.com/en/who-we-are/overview/our-history#chapter2 เขาถึงขอมูล เม่ือ ๑๑ มี.ค. ๖๕
๑๙. Saudi Aramco plans to nationalize 90% of its workforce, KAWA, 2019, https://kawa-news.com/en/saudi-aramco-plans-to-nationalize- 90-of-its-workforce/ เขาถึงขอมูลเมื่อ ๑๑ มี.ค. ๖๕
๒๐. ปตท.สผ. จับมือ ม.เกษตรฯ พัฒนา AUV รองรับสํารวจปโตรเลียมทะเลนํ้าลึก, ผูจัดการออนไลน, ๙ ต.ค. ๕๗,https://mgronline.com/business/de- tail/9570000116360เขาถึงขอมูลเมือ่ ๑๒มี.ค.๖๕
๒๑. AI and Robotics Ventures, https://arv.co.th/news/ เขาถึงขอมูลเม่ือ ๑๒ ม.ี ค. ๖๕
นาวิกศาสตร 34 ปท่ี ๑๐๕ เลมท่ี ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
ภาพ Fish and Chips และ Dutch New Herring-Maatjesharing
ภาพจาก Wikipedia และ https://www.dutchnews.nl/news/2017/06/first-barrel-of-this-seasons-herring-sells-for-e65000
ซึ่งแนนอนวาทําใหประเทศไทยมีความเปนชาวทะเลคอนขางตํ่าประกอบกับหากเราเปรียบเทียบประชากรไทยของ จังหวัดที่มีอาณาเขตติดชายทะเลกับจังหวัดที่ไมติดทะเลจะพบวา จังหวัดที่มีอาณาเขตติดชายทะเลคิดเปนเพียง ประมาณ ๑ ใน ๓ ของประชากรทั้งหมดในประเทศ ๒๐,๘๒๑,๔๒๔ คน๒๒ เม่ือเทียบกับจํานวนประชากรท้ังประเทศ ใน พ.ศ.๒๕๖๓ ท่ีมีประชากรรวมท้ังประเทศ ๖๖,๑๘๖,๗๒๗ คน๒๓ ซ่ึงผูเขียนเชื่อวายังมีโอกาสอีกมากที่ประเทศไทย จะสามารถพัฒนาสมุททานุภาพใหมีมากยิ่งขึ้นได เนื่องจากทุกภาคสวนเริ่มใหความสําคัญ ไมใชเพียงเฉพาะแตฝาย ทหารเพียงแตอยางเดียว ประเทศไทยสามารถตอเรือสินคาของเราเองได มีคนประจําเรือเปนคนไทยโดยสวนใหญได ซึ่งอยางไรก็ตามกระบวนการดังกลาวเปนกระบวนการท่ียาวนาน และจําเปนตองไดรับการสนับสนุนอยางตอเน่ือง จําเปน ตอ งสรา งกลมุ คนทมี่ คี วามเปน ชาวเรอื ชาวทะเล หรอื อยา งนอ ยเพอ่ื ทําใหก จิ การทางทะเลเปน ทร่ี จู กั และผคู นเหน็ ถงึ ความสําคญั ซงึ่ “คน” เปน ทรพั ยากรหนงึ่ ทสี่ ามารถพฒั นาไดต ามหลกั การของ Human Resource Management ซงึ่ เขา มาเปลยี่ นมมุ มองจากการจดั การกําลงั พลแบบเดมิ ทใี่ ชก ารตงั้ กฎเกณฑเ ปน การสรา งเปา หมายใหก บั กําลงั พลตาม ที่ไดใหคํามั่นในการบรรลุเปาหมายไว
ทั้งหมดทั้งมวลก็เพ่ือการบรรลุเปาหมายในการพัฒนาสมุททานุภาพในภาพรวมของประเทศไทยตอไปในอนาคต ซึ่งการพัฒนาคนเพื่อใหคนไดไปทําการพัฒนาทางเทคโนโลยีตอไปนั้น จําเปนที่จะตองมีการวางแผนในระยะยาว และมองไปยงั เปา หมายในอนาคต เนอื่ งดว ยเวลานนั้ เปน สง่ิ มคี า ชนรนุ หลงั จงึ หวงั วา ชนรนุ กอ นหนา จะวางยทุ ธศาสตร การพัฒนาคนใหกาวหนาและทันกับสภาวะของโลกที่เปล่ียนแปลงไปอยางรวดเร็วในโลกยุคปจจุบัน
๒๒. ขอมูลจังหวัดชายทะเล, ฐานขอมูลความรูทางทะเล (Marine Knowledge Hub), กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอมhttp://www.mkh.in.th/ index.php?option=com_content&view=article&id=124&Itemid=222&lang=th เขาถึงขอมูลเม่ือ ๑๕ มี.ค. ๖๕
๒๓. ประกาศสํานักทะเบียนกลาง เร่ือง จํานวนราษฎรท่ัวราชอาณาจักร ตามหลักการทะเบียนราษฎร ณ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓
นาวิกศาสตร 35 ปที่ ๑๐๕ เลมที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
อางอิง
คุณไมมีวันท่ีจะวางแผนอนาคตไดจากอตีต
YOU CAN NEVER PLAN THE FUTURE BY THE PAST Edmund Burke
A.T. Mahan, (1918). The Influence of Sea Power upon History (A public domain book). Retrieve from Kindle
Geoffrey Till (2004), Seapower: A Guide for the Twenty-First Century Second Edition
Geoffrey Til. (2009), Seapower A Guide for the Twenty-First Century Second Edition
ประวตั กิ ารรถไฟแหง ประเทศไทย, เขา ถงึ ขอ มลู เมอื่ ๑๑ ม.ี ค. ๖๕, จาก https://www.railway.co.th/AboutUs/Blog Our history driven by curiousity to explore, เขาถึงขอมูลเมื่อ ๑๑ มี.ค. ๖๕, จาก https://www.aramco. com/en/who-we-are/overview/our-history#chapter2
KAWA (2019) Saudi Aramco plans to nationalize 90% of its workforce, เขาถึงขอมูลเมื่อ ๑๑ มี.ค. ๖๕, จาก https://kawa-news.com/en/saudi-aramco-plans-to-nationalize-90-of-its-workforce/
Eli Meixler, Who is John Harrison? Why Google Is Celebrating the English Clockmaker, Time Magazine, เขาถึงขอมูลเมื่อ ๑๑ มี.ค. ๖๕, จาก https://time.com/5225772/john-harrison-longitude/
สารคดี The Royal Navy: England’s Wooden Walls จาก Youtube.com เขาถึงขอมูลเม่ือ ๓ มี.ค. ๖๕ พล.ร.อ.สามารถ จําปรัตน, Sea Power สมุททานุภาพ เนื้อหา-ความหมาย ทหารเรือไทย ควรรูใหแจง ตอนท่ี ๒
นาวิกศาสตร 36 ปที่ ๑๐๕ เลมท่ี ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
ภาพจังหวัดชายทะเลของประเทศไทย
ภาพจาก ขอมูลจังหวัดชายทะเล, ฐานขอมูลความรูทางทะเล (Marine Knowledge Hub), กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดลอม
หากจะกลา่ วถงึ การยทุ ธสะเทนิ นา้ สะเทนิ บกในชว่ งสงครามโลก ครั้งท่ี ๒ น้ัน หลาย ๆ ท่านอาจนึกถึงการยกพลข้ึนบกท่ีนอร์มังดี หรอื ในสมรภมู แิ ปซฟิ กิ แตห่ ากจะถามวา่ การยทุ ธสะเทนิ นา้ สะเทนิ บก ในชว่ งสงครามโลกครงั้ ท่ี๒ครง้ั แรกเกดิ ขน้ึ เมอื่ ใดหรอื ทไ่ี หนนน้ั นอ้ ยคนนกั ที่จะสามารถตอบได้ ในบทความนี้ผมจึงขอนา เสนอรายละเอียดของ Operation Weserubung ซ่ึงมีแนวความคิดในการปฏิบัติรวมถึง มบี ทเรยี นทางการรบทน่ี า่ สนใจเปน็ อยา่ งยงิ่ ซงึ่ OperationWeserubung นอกจากจะเป็นการยุทธสะเทินน้าสะเทินบกครั้งแรกในสงครามโลก ครั้งที่ ๒ แล้ว ยังได้ชื่อว่าเป็นครั้งแรกของการรบร่วม หรือ Joint Operations ที่มีครบทั้ง ๓ มิติ คือ การใช้กา ลังรบทางบก ทางทะเล และทางอากาศ อีกด้วย
Operation Weserubung เป็นยุทธการสาคัญยุทธการหนึ่ง
ทเี่กดิ ขนึ้ ในชว่ งสงครามโลกครงั้ ที่๒(๙เม.ย.-๑๐ม.ิย.ค.ศ.๑๙๔๐)โดยมี
คสู่ งคราม คอื ฝา่ ยสมั พนั ธมติ ร (องั กฤษ ฝรงั่ เศส และโปแลนด)์ กบั ฝา่ ย
อกั ษะ (เยอรมนั ) สว่ นเดนมารก์ และนอรเ์ วยป์ ระกาศตวั เปน็ กลาง โดย สหรฐั อเมรกิ านนั้ ใหก้ ารสนบั สนนุ ฝา่ ยสมั พนั ธมติ ร แบบลับ ๆ ในช่วงต้นของสงครามทั้งฝ่ายอักษะและฝ่ายสัมพันธมิตรต่างเห็นความสาคัญของประเทศนอร์เวย์ และเดนมาร์ก ซึ่งเป็นประเทศที่มีความสาคัญอย่างมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ กล่าวคือ
ประเทศนอร์เวย์เป็นประเทศที่ฝ่ายเยอรมันใช้เป็นเส้นทางส่งกาลังบารุง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแร่เหล็กที่ใช้ในการ ผลิตอาวุธต่าง ๆ จะถูกขนส่งทางรถไฟจากสวีเดนมาที่ท่าเรือที่เมือง Narvik ของประเทศนอร์เวย์ ซึ่งไม่สามารถขนส่ง ทางทะเลได้ในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากทะเลบอลติกบริเวณนั้นจะกลายเป็นนา้ แข็ง การที่เยอรมันเลือกที่จะยึดนอร์เวย์ แทนที่จะเป็นสวีเดนนั้น เนื่องจากเมื่อยึดนอร์เวย์ได้จะทาให้สวีเดนโดนปิดล้อมไปด้วยชาติที่สนับสนุนฝ่ายอักษะ ซึ่งในขณะนั้นสหภาพโซเวียตที่ยังอยู่กับฝ่ายอักษะได้ยึดประเทศฟินแลนด์ไว้แล้ว รวมทั้งหากยึดประเทศนอร์เวย์ได้ จะทา ใหอ้ งั กฤษไมส่ ามารถทา การปดิ ทะเล (Blockade) ทบี่ รเิ วณชอ่ งหมเู่ กาะออรก์ นยี ก์ บั ฝง่ั นอรเ์ วย์ รวมถงึ ชอ่ งโดเวอรไ์ ด้
นาวิกศาสตร์ 37 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
นอกจากนี้ ยงั เปน็ การออมกา ลงั โดยไมต่ อ้ งสญู เสยี กา ลงั ทหารโดยไมจ่ า เปน็ หากสามารถยดึ นอรเ์ วยไ์ ดแ้ ละเจรจาตอ่ รอง (เชิงกดดัน) กับประเทศสวีเดนได้สาเร็จ
แผนที่ประเทศในแถบ Scandinavia
ในส่วนประเทศเดนมาร์กนั้น เป็นประเทศที่จะยึดเพื่อใช้เป็นฐานทัพเรือและฐานทัพอากาศส่วนหน้าของเยอรมัน รวมถึงเป็นประเทศที่มีถนนเชื่อมถึงแผ่นดินเยอรมัน จึงสามารถใช้เป็นเส้นหลักในการส่งกาลังบารุงทางบกได้
Operation Weserubung สามารถแยกการรบได้ ๒ ห้วง ดังนี้
๑. เยอรมันเข้ายึดนอร์เวย์ และเดนมาร์ก กองทัพเยอรมัน ประกอบด้วย กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ได้ใช้กาลังทางทหารเข้ายึดประเทศเดนมาร์ก และนอร์เวย์ได้ ในวันที่ ๙ เมษายนค.ศ.๑๙๔๐ ด้วยอานาจกาลังรบที่เหนือกว่าทั้งสองประเทศ โดยใช้หลักการจู่โจม (Surprise) เข้ายึดเมืองหลวง และเมืองท่า ทางทะเลทสี่ า คญั ๆ อยา่ งรวดเรว็ ในหว้ งเวลาเดยี วกนั คอื เชา้ มดื ของวนั ที่ ๙ เมษายน ค.ศ. ๑๙๔๐ โดยถกู ตา้ นทานจาก ทั้งสองประเทศรวมถึงประเทศอังกฤษเพียงเล็กน้อย
นาวิกศาสตร์ 38 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
กองกําลังต่ําง ๆ ของเยอรมันในกํารเข้ํายึดแต่ละพื้นที่
จากภาพฝ่ายเยอรมันใช้การกระจายกาลังเข้าทาการยึดพ้ืนที่ ซึ่งเป็นเมืองท่าท่ีสาคัญต่าง ๆ ของ นอร์เวย์ และเดนมาร์กโดยใช้การปฏิบัติการร่วมที่สอดคล้องและเกื้อหนุนกัน ได้แก่
๑. การใช้หน่วยยานเกราะเคลื่อนที่เร็วในการดาเนินกลยุทธ์แบบ Blitzkrieg ยึดพื้นที่ของนอร์เวย์ท่ีมีแผ่นดิน ติดกับเยอรมัน เพื่อการใช้สนามบินในการต่อระยะปฏิบัติการให้กับอากาศยาน รวมถึงจัดต้ังเป็นพ้ืนที่ส่งกาลังบารุง ส่วนหน้า
๒. จากการที่มีความได้เปรียบทางอากาศ (Air Superiority) จึงมีการใช้อากาศยานโจมตี และการส่งทางอากาศ เพื่อยึดสนามบินและ ท่าเรือต่าง ๆ ไว้ใช้ในการขนส่งกาลังทางบก อย่างได้ผล (หน่วยส่งทางอากาศ ของเยอรมัน สังกัดกองทัพอากาศ)
กํารดําเนินกลยุทธ์แบบ Blitzkrieg
นาวิกศาสตร์ 39 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
๓. กาลังรบยกพลขึ้นบก (ในสงครามโลกครั้งที่ ๒ เยอรมันใช้ ทบ.ในการยกพลขึ้นบก) สามารถขึ้นสู่ฝั่งได้โดยไม่มี การโจมตีจากฝ่ายสัมพันธมิตรในระหว่างขั้นการเคลื่อนย้ายกาลัง (Movement) เนื่องจากใช้การลวงโดย เมื่อฝ่าย เยอรมนั ในขณะนนั้ สามารถดกั ฟงั การสง่ ขา่ วโดยเครอื่ งเขา้ รหสั Enigma จากกองทพั องั กฤษได้ ทา ใหท้ ราบแผนการบนิ ลาดตระเวนทางทะเล จึงให้กองเรือต่าง ๆ เดินเรือให้มีทีท่าว่าจะเข้าไปโจมตีแผ่นดินอังกฤษ เมื่อกองเรืออังกฤษ โดนลวงจากผลการลาดตระเวนทางอากาศ กจ็ ะเปลยี่ นเสน้ ทางกลบั เขา้ นอรเ์ วย์ ทา ใหก้ องเรอื ของฝา่ ยองั กฤษ ปรบั แผน ในการต่อตีไม่ทัน นอกจากนี้ ยังมีใช้การบรรทุกกาลังพลให้มากับเรือพิฆาตแทนที่จะเป็นเรือระบายพลหรือเรือยกพล และเรือสินค้าดัดแปลง ทาให้ฝ่ายสัมพันธมิตรไม่ทันตั้งตัว จึงไล่ตามหรือขัดขวางไม่ทัน
กํารลงเรือเล็กเพื่อขึ้นสู่ฝั่ง
๒. การตอบโต้จากฝ่ายสัมพันธมิตร หลังจากการเข้ายึดของเยอรมัน ฝ่ายสัมพันธมิตร ใน Operation Weserubung นั้น ประกอบด้วย อังกฤษ ฝรั่งเศส โปแลนด์ รวมถึง กองพลทหารราบที่ ๖ นอร์เวย์ ได้พยายามต่อสู้ เพอื่ ยดึ พนื้ ทคี่ นื จากกองทพั เยอรมนั แตก่ ป็ ระสบความลม้ เหลว เนอื่ งจากกา ลงั ทางบกถงึ แมว้ า่ จะมกี า ลงั มากกวา่ ถงึ ๓ เทา่ แต่ขีดความสามารถที่ด้อยกว่า เนื่องจากขาดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ทางทหารที่สาคัญในการรบ เช่น อาวุธสนับสนุน และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการรบพื้นที่หิมะ รวมถึงอานาจกาลังรบที่ไม่มีตัวตน เช่น ขวัญ การฝึก ประสบการณ์ของทหาร ทาให้ไม่สามารถยึดประเทศคืนได้ จนต้องถอนกาลังกลับไป อย่างไรก็ตาม กาลังรบทางเรือของอังกฤษนั้น เหนือกว่า ฝา่ ยเยอรมนั คอ่ นขา้ งมาก จนมผี ลใหส้ ามารถควบคมุ และยดึ เมอื ง Narvik คนื ได้ แตด่ ว้ ยสถานการณส์ งครามทขี่ ณะนนั้ ฝ่ายอักษะมีท่าทีที่จะยึดฝรั่งเศสได้ กาลังทหารของชาติพันธมิตรทั้งหมดจึงต้องถอนกาลังทั้งหมดไปช่วย ในวนั ที่ ๙ มถิ นุ ายน ค.ศ. ๑๙๔๐ ทา ใหเ้ ยอรมนั สามารถควบคมุ ประเทศนอรเ์ วยแ์ ละเดนมารก์ จนกระทงั่ ถงึ วนั ทเี่ ยอรมนั ประกาศยอมแพ้ในวันที่ ๘ พฤษภาคม ค.ศ. ๑๙๔๕
นาวิกศาสตร์ 40 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
บทวิเคราะห์การยุทธสะเทินน้าสะเทินบก
เยอรมันมีการปฏิบัติการยุทธสะเทินน้าสะเทินบกตามหลักนิยม Force Projection โดยทาการยึดเมืองท่าต่าง ๆ ของนอร์เวย์ได้สาเร็จ เนื่องจากสามารถลวงกองทัพอังกฤษให้เข้าใจผิด ทาให้ไม่สามารถสกัดกั้นทางทะเลได้ทันการ รวมถงึ การตอ่ ตา้ นการยกพลขนึ้ บกและการตา้ นทานตามจดุ ขนึ้ บกตา่ ง ๆ มอี ยคู่ อ่ นขา้ งนอ้ ย และทสี่ า คญั ทสี่ ดุ การขา่ ว โดยเฉพาะการวางกา ลงั ตา่ ง ๆ ของนอรเ์ วย์ คอ่ นขา้ งถกู ตอ้ ง ทา ใหก้ ารดา เนนิ กลยทุ ธห์ ลงั จากขนั้ การเคลอื่ นทจี่ ากเรอื สฝู่ ง่ั ทาได้ตามแผน
กํารจัดชุดลําดตระเวนเดินเท้ําของเยอรมัน
ข้อได้เปรียบเสียเปรียบ
ฝ่ายสัมพันธมิตรมีกาลังทางเรือที่มีขีดความสามารถสูงกว่าฝ่ายอักษะ กล่าวคือ ในการรบทางเรือ เรือรบของ องั กฤษสามารถจมเรอื ของเยอรมนั ไดเ้ ปน็ จา นวนมาก นอกจากนี้ ยงั มเี รอื บรรทกุ เครอื่ งบนิ ทสี่ ามารถตอ่ ระยะตรวจการณ์ และระยะยงิ ใหไ้ ดเ้ ปรยี บฝา่ ยอกั ษะ ในพนื้ ที่ ๆ อยนู่ อกระยะปฏบิ ตั กิ ารของกองทพั อากาศเยอรมนั แตค่ อ่ นขา้ งเสยี เปรยี บ กาลังทางอากาศจากกองทัพอากาศที่มาสนับสนุน มีระยะปฏิบัติการที่จากัดจากฐานบินในประเทศ หน่วยรักษาฝั่ง ก็ไม่สามารถหยุดยั้งการเคลื่อนที่จากเรือสู่ฝั่งของเยอรมันได้ ในส่วนของกาลังทางบกที่สามารถขึ้นฝั่งเพื่อยึดนอร์เวย์ คืนจากเยอรมันในช่วงท้ายยุทธการ ก็มีขีดความสามารถที่ด้อยกว่าเยอรมันมาก แม้จะมีกาลังค่อนข้างมากกว่าก็ตาม
นาวิกศาสตร์ 41 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
ฝ่ายอักษะมีการแยกกาลังเป็นกองเรือเฉพาะกิจกระจายเพื่อยึดเมืองท่าสาคัญ ทาให้ฝ่ายอังกฤษ และนอร์เวย์ เกิดการสับสนในการแก้ไขตามแผนเผชิญเหตุที่ได้เตรียมไว้ นอกจากนี้ ในแต่ละกองเรือจะได้รับเรือกวาดทุ่นระเบิด ซงึ่ สามารถปฏบิ ตั ไิ ดด้ ี แมว้ า่ องั กฤษจะสามารถวางทนุ่ ระเบดิ ตามแผน Wilfred ได้ แตก่ ไ็ มป่ รากฏเรอื เยอรมนั ถกู จมดว้ ย ทุ่นระเบิดเลยสักลาเดียว นอกจากนี้ เยอรมันสามารถใช้ประโยชน์จากกาลังทางอากาศจากกองทัพอากาศ ที่สามารถ ครองอากาศในพื้นที่ปฏิบัติการได้เกือบทั้งประเทศ ยกเว้นในช่วงแรกในพื้นที่เมือง Narvik
กา ลงั รบยกพลขนึ้ บกเยอรมนั สามารถขนึ้ บกและยดึ เมอื งตา่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งจโู่ จมตามแผน นอกจากนี้ ยงั สามารถตงั้ รบั จากการถูกโจมตีเพื่อยึดเมืองคืนจากอังกฤษได้ แม้ว่าจานวนกาลังทหารจะน้อยกว่าอยู่มาก
เรอื สนิ คา้ ดดั แปลงสา หรบั ขนสง่ กา ลงั พล เปน็ อกี ปจั จยั สา คญั ทสี่ ามารถลวงฝง่ั องั กฤษได้ จนสามารถลดความสญู เสยี ในการถูกโจมตีทางเรือ
หน่วยทหารพลร่ม สามารถใช้การแทรกซึมทางอากาศเพื่อเข้ายึดพื้นที่สาคัญ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สนามบิน ซึ่งเอื้อต่อการปฏิบัติในขั้นต่อ ๆ ไปของเยอรมันได้เป็นอย่างดี
เจ้าหน้าที่หาข่าวต่าง ๆ เช่น สายลับ ทูต การดักฟังและถอดรหัสในการส่งข่าว ฯลฯ สามารถหาข่าวและยืนยัน เป้าหมายได้อย่างถูกต้อง สามารถสนับสนุนการวางแผนและการปฏิบัติได้เป็นอย่างดี
อังกฤษ
อํากําศยํานเยอรมันแบบ JUNKER
ใช้หลักนิยมการควบคุมทะเลในพื้นที่ทะเลเหนือ ซึ่งในภาพรวมของยุทธการถือว่าประสบความสาเร็จ ยกเว้น ห้วงที่เยอรมันสามารถยกพลขึ้นบกได้ เนื่องจากการประมาณสถานการณ์ผิดพลาดจนนาไปสู่การตอบโต้ที่ไม่ทัน สถานการณ์ ใน Operation Weserubung การรบระหวา่ งเรอื ผวิ นา้ ตอ่ เรอื ผวิ นา้ ฝา่ ยองั กฤษสามารถจมเรอื ของเยอรมนั ได้อย่างมากมาย
ฝา่ ยองั กฤษใชก้ ารปอ้ งกนั ภยั ทางอากาศของเรอื เพอื่ สนบั สนนุ การควบคมุ ทะเลของกา ลงั ทางเรอื โดยมเี รอื ในกองเรอื ที่มีขีดความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศให้กับกองเรือได้เป็นอย่างดี ทาให้กองเรือ Home Fleet สามารถ ที่จะปฏิบัติการทางทะเลได้โดยไม่ต้องกังวลกับภัยคุกคามทางอากาศ
กองเรอื ขององั กฤษใชก้ ารปราบเรอื ดา นา้ เพอื่ สนบั สนนุ การควบคมุ ทะเล สามารถปอ้ งกนั การถกู โจมตจี ากเรอื ดา นา้ จากเยอรมันได้เป็นอย่างดี โดยเรือดาน้าเยอรมันไม่สามารถทาลายกองเรือ Home Fleet ของอังกฤษได้ เนื่องจาก ในกองเรือนี้มีเรือที่มีเทคโนโลยีในการปราบเรือดาน้าได้เป็นอย่างดี
นาวิกศาสตร์ 42 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
ในยุทธการนี้อังกฤษสามารถใช้เรือดาน้า ได้ผลสาเร็จในหลาย ๆ เหตุการณ์ โดยเฉพาะ ภารกิจลาดตระเวนหาข่าวความเคลื่อนไหว ของกองเรือต่าง ๆ ของเยอรมัน เพื่อสนับสนุน การควบคุมทะเล
องั กฤษ มกี ารใชก้ า ลงั ทางอากาศจากกองทพั อากาศ และกาลังของอากาศนาวี ในการหา ข่าวและโจมตีกองเรือเยอรมัน โดยในช่วงก่อน เยอรมนั เขา้ ยดึ นอรเ์ วยน์ นั้ การหาขา่ วจากกองทพั อากาศล้มเหลว เนื่องจากพื้นที่ทางทะเลกว้าง ไมส่ ามารถเกาะตดิ สถานการณ์ตลอดจนทศั นวสิ ยั ทเี่ ลวรา้ ยในหว้ งนนั้ จนนา ไปถงึ ไดข้ า่ วสารคลมุ เครอื ทาให้หน่วยเหนือประมาณสถานการณ์ผิด จนเยอรมันสามารถยกพลขึ้นบกที่นอร์เวย์ได้ แต่สาหรับการใช้อากาศนาวีในการหาข่าวนั้น ค่อนข้างสาเร็จ โดยเฉพาะพื้นที่เมือง Narvik สามารถได้ภาพสถานการณ์ จนทาให้กองเรือ อังกฤษควบคุมทะเลในพื้นที่นั้นได้ในที่สุด
อังกฤษมีการวางทุ่นระเบิดในชายฝั่งทะเล
ของนอร์เวย์ ซึ่งเป็นการวางทุ่นระเบิดทางรับ
สนับสนุนการปิดอ่าว (Blockade) ในช่วงก่อน
เยอรมันเข้ายึดนอร์เวย์ ๑-๒ วัน ที่ไม่ประสบ
ความสา เรจ็ เทา่ ทคี่ วร เนอื่ งจากไมส่ ามารถจมเรอื
หรอื ทา อนั ตรายกบั เรอื เยอรมนั ได้ รวมถงึ เยอรมนั มีการใช้เรือกวาดทุ่นระเบิดในยุทธการนี้ จึงทาได้แค่เพียงป้องปรามแบบหลวม ๆ เท่านั้น เยอรมัน
ใช้หลักนิยมการควบคุมทะเล ได้สาเร็จในขั้นแรกในการเข้ายึดนอร์เวย์ เนื่องจากใช้การจู่โจม (Surprise) กระจาย กองเรือต่าง ๆ ในการเข้ายึด ทาให้ตลอดเส้นทางเดินเรือจนถึงเมืองท่าต่าง ๆ ท่ีทาการยกพลข้ึนบก อังกฤษ และ นอร์เวย์ไม่สามารถสกัดกั้นหรือยับยั้งกองเรือของเยอรมันได้ ปัจจัยแห่งความสาเร็จน้ันมาจากการวางแผนการ ใช้กาลังได้เหมาะสมกับเวลาและการข่าวที่ดี รวมถึงความเหนือความคาดหมาย เน่ืองจากช่วงนั้นเป็นช่วงมรสุม ไมเ่ หมาะแกก่ ารเดนิ เรอื นอรเ์ วยแ์ ละองั กฤษจงึ ประมาณสถานการณเ์ ยอรมนั ผดิ พลาด นอกจากนี้ ยงั ใชห้ ลกั นยิ มกองเรอื คงชีพ ในพื้นที่ปฏิบัติการยังมีเรือรบเยอรมันในพื้นที่ และคอยรบกวนการปฏิบัติการทางเรือต่ออังกฤษอยู่ประปราย
ฝ่ายเยอรมันใช้การป้องกันภัยทางอากาศของเรือ เพ่ือสนับสนุนการควบคุมทะเลของกาลังทางเรือ โดยสามารถ กระทา ไดอ้ ยา่ งจา กดั เนอ่ื งจากการกระจายกา ลงั เปน็ กองเรอื ตา่ ง ๆ ทา ใหข้ ดี ความสามารถในการปอ้ งกนั ภยั ทางอากาศ ในแต่ละกองเรือต่าจนนาไปสู่การถูกจมเรือโดยอากาศนาวีของอังกฤษในการรบท่ีเมือง Narvik
นาวิกศาสตร์ 43 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
กํารลงเรือเล็กของกองทัพเยอรมันเพื่อขึ้นบกที่เมือง Trondheim
ในยุทธการ Weserubung น้ัน เยอรมันไม่ประสบความสาเร็จในการปราบเรือดาน้า ผลของการสูญเสียเรือดาน้า ในยุทธการน้ีของเยอรมันมากกว่าฝั่งอังกฤษ รวมถึงกองเรือของอังกฤษสามารถใช้เรือดาน้าหาข่าวความเคล่ือนไหว เรือรบในกองเรือต่าง ๆ ของเยอรมันได้
นอกจากน้ี การใชเ้ รอื ดา นา้ ถอื วา่ ไมป่ ระสบความสา เรจ็ เนอื่ งจากกองเรอื ขององั กฤษสามารถปอ้ งกนั การถกู โจมตี จากเรือดาน้าจากเยอรมันได้เป็นอย่างดี โดยเรือดาน้าเยอรมันไม่สามารถทาลายกองเรือ Home Fleet ของอังกฤษได้ เน่ืองจาก ในกองเรือนี้มีเรือที่มีเทคโนโลยีในการปราบเรือดาน้าได้เป็นอย่างดี
เยอรมนั ใชก้ า ลงั ทางอากาศจากกองทพั อากาศอยา่ งไดผ้ ลอากาศยานจากกองทพั อากาศของเยอรมนั เชน่ Junkerนนั้ มขี ดี สมรรถนะเหนอื กวา่ ฝง่ั องั กฤษและนอรเ์ วยอ์ ยา่ งมาก สามารถทา การหาขา่ วและโจมตกี องเรอื องั กฤษไดเ้ ปน็ อยา่ งดี โดยยังสามารถสร้างความยาเกรงในกรณีที่อังกฤษจะมีการเคลื่อนกาลังเข้าเขตปฏิบัติการทางอากาศของฝ่ายเยอรมัน อีกด้วย
ขอ้ เดน่ ของการยทุ ธสะเทนิ นา้ สะเทนิ บกทเี่ หน็ ไดช้ ดั คอื สามารถเลอื กชอ่ งทางทจี่ ะเขา้ ปฏบิ ตั กิ ารไดอ้ ยา่ งหลากหลาย ตลอดแนวชายฝั่ง เช่น นอร์เวย์เป็นประเทศที่มีชายฝั่งค่อนข้างยาว (ประมาณ ๒,๐๐๐ กิโลเมตร) ทาให้ยาก ที่จะวางกาลังทั้งทางบก เรือ และอากาศ ต้านทานได้อย่างครอบคลุม
ทหํารฝรั่งเศสยอมแพ้สงครําม
สรุป
ฝ่ายเยอรมันสามารถชนะสงครามในยุทธการนี้ได้ เนื่องจากประเด็นต่าง ๆ ต่อไปนี้
สามารถใชห้ ลกั การสงครามในหลกั การดา เนนิ กลยทุ ธ์ (Maneuver) ทา การเคลอื่ นทหี่ นว่ ย และวางกา ลงั ในลกั ษณะ
ที่ทาให้ข้าศึกอยู่ในฐานะเสียเปรียบ หลักการรักษาความปลอดภัย (Security) ทาให้ฝ่ายตรงข้ามไม่สามารถติดตาม ความเคลื่อนไหวหรือดักรับข้อมูลต่าง ๆ ได้ จนนาไปสู่หลักการจู่โจม (surprise) ที่ทุกพื้นที่ไม่สามารถแจ้งเตือนได้ทัน หรอื ระวงั ปอ้ งกนั ได้ รวมถงึ สามารถวเิ คราะหจ์ ดุ ศนู ยด์ ลุ (Center of Gravity หรอื COG) ของฝา่ ยขา้ ศกึ และฝา่ ยตนเอง ได้อย่างถูกต้อง ทาให้สามารถนาจุดแข็งไปโจมตีจุดอ่อนหรือจุดล่อแหลมวิกฤติต่าง ๆ ของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างถูกที่ ถูกเวลา นอกจากนี้ ยังสามารถใช้การดาเนินกลยุทธ์ นากาลังรบที่น้อยกว่าชนะกาลังรบที่มากกว่าได้อีกด้วย เช่น
นาวิกศาสตร์ 44 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
การปอ้ งกนั การเขา้ มายดึ พนื้ ทคี่ นื ของกองทพั องั กฤษ โดยหนว่ ยนาวกิ โยธนิ (Royal Marine) ทมี่ กี า ลงั มากกวา่ ในสดั สว่ น ถึง ๖ ต่อ ๑ ก็ยังไม่สามารถยึดคืนพื้นที่ได้ เนื่องจากโดนต้านทานจากอาวุธวิถีโค้งและอากาศยาน จากการวางแผนที่ดี ในการยิงสนับสนุนการตั้งรับของกองทัพบกเยอรมัน
สามารถใชก้ ารรบรว่ ม จากกองทพั บก เรอื อากาศ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ มเี อกภาพในการบงั คบั บญั ชา มกี ารขา่ วกรอง และการวางแผนที่ดีในการใช้กาลังเข้ายึดนอร์เวย์อย่างรวดเร็ว
ประเทศอังกฤษถอนกาลัง เนื่องจากสถานการณ์สงครามในสมรภูมิต่าง ๆ ที่อังกฤษเข้าร่วมโดยเฉพาะที่ ฝรั่งเศส ซึ่งมีท่าทีว่าฝ่ายเยอรมันจะเป็นฝ่ายชนะ จึงทาให้กาลังต่าง ๆ ทั้งทางบก เรือ และอากาศ จากอังกฤษและชาติต่าง ๆ ที่ส่งกาลังมาช่วย ได้แก่ ฝรั่งเศส โปแลนด์ และนอร์เวย์ต้องถอนกาลังและยอมแพ้เยอรมัน
การประมาณสถานการณ์ที่ผิดพลาดจากการลาดตระเวนทางอากาศที่ถูกฝ่ายเยอรมันลวง และการขาดเอกภาพ ในการบงั คบั บญั ชาในชว่ งทจี่ ะตอ้ งใชก้ า ลงั ตอ่ ตา้ นเยอรมนั ในการเขา้ ยดึ นอรเ์ วย์ ทา ใหไ้ มส่ ามารถยบั ยงั้ การยดึ นอรเ์ วย์ ของเยอรมันได้ทั้ง ๆ ที่มีแผน Plan R4 ในการต่อต้านไว้แล้ว
ในยทุ ธการนี้ เรอื ธงของกองเรอื เยอรมนั ทจี่ ะไปยดึ Oslo ถกู จมดว้ ยตอรป์ โิ ดและปนื รกั ษาฝง่ั ของนอรเ์ วยซ์ งึ่ เกดิ จาก การประมาณการขา่ วกรองทผี่ ดิ พลาด จนเสยี เวลาในการแกส้ ถานการณ์ ทา ใหก้ ษตั รยิ ์ และรฐั บาลนอรเ์ วยห์ ลบหนไี ปตงั้ รัฐบาลพลัดถิ่นได้ในเวลาต่อมา หากในขณะนั้นสามารถจับผู้นาประเทศมาต่อรองทางการเมือง กองกาลังต่าง ๆ ที่กาลังต้านทานหรือวางแผนต่อต้านในเวลาต่อมาอาจล้มเลิกความตั้งใจ
หลงั จากยดึ ประเทศไดแ้ ลว้ กองทพั เยอรมนั ไดว้ างแผนใชป้ ระโยชนจ์ ากภมู ปิ ระเทศทเี่ ปน็ แบบ Fjord ในการปอ้ งกนั การใช้กาลังเข้าต่อต้านจากอังกฤษ เช่น การใช้ทุ่นระเบิด การเพิ่มเติมการใช้หน่วยปืนรักษาฝั่งและใช้กาลังทางอากาศ มากยิ่งขึ้น ซึ่งได้ผลอย่างมาก แต่มีข้อจากัดในพื้นที่ภาคเหนือบริเวณเมือง Narvik
ภูมิประเทศแบบ Fjord
นาวิกศาสตร์ 45 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
ในบทความน้ีข้อมูลส่วนใหญ่จะมาจากบทความและตาราที่เป็นภาษาอังกฤษ ซ่ึงหากค้นหาทาง Internet เป็นภาษาไทยจะพบข้อมูลน้อยมาก สาหรับผู้ท่ีชอบการศึกษาหาความรู้ต่าง ๆ ผมขอแนะนาว่า ทักษะภาษาอังกฤษ มีความจาเป็นอย่างมากในชีวิตประจาวันสมัยนี้ แนวทางพัฒนาอีกแนวทางที่น่าจะได้ผลคือ ศึกษาในสิ่งที่ตนเองสนใจ เชน่ หากชอบสงครามหรอื เรอื่ งทางทหาร กล็ องคน้ หาโดยใชภ้ าษาองั กฤษ ชว่ งแรกอาจะไมส่ ะดวกแตไ่ มน่ า่ เบอื่ เนอื่ งจาก ความชอบในเรื่องนั้น ๆ จะสามารถลดปัญหาความน่าเบื่อที่เกิดจากการไม่รู้คาศัพท์ได้เป็นอย่างดี
ปืนใหญ่ ๒๒๐ มม.ของกองทัพบกเยอรมัน
ที่มา
https://en.wikipedia.org/wiki/Norwegian_campaign#/media/File:Austrian_Gebirgsjäger_heading_for_ Snåsa.jpg
https://en.wikipedia.org/wiki/Blitzkrieg
https://en.wikipedia.org/wiki/Weser
นาวิกศาสตร์ 46 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
ทามกลางกระแสความขัดแยงทางการเมืองของประเทศไทยในปจจุบันคงปฏิเสธไมไดวา “เรือดํานํ้า” เปน ยทุ โธปกรณท ถ่ี กู หยบิ ยกเอามาถกเถยี งกนั ในสงั คมอยา งกวา งขวาง แมว า เรอื ดํานํ้าจะถกู นํามาใชใ นการทําสงคราม มานานกวา ๒๕๐ ปแลวก็ตาม แตดวยคุณลักษณะเรื่อง “การซอนพราง” อันโดดเดนของเรือดําน้ํา ทําใหคนท่ีรูจัก เรือดํานํ้าท้ังเรื่องหลักการทํางาน และความสําคัญในการปฏิบัติการทางเรือท้ังในยามปกติและยามสงครามมีนอย
ในโลกปจจุบัน นักวิชาการหลากหลายคนที่มีช่ือเสียง และนักการทหาร ไดพยายามอธิบายบทบาท และ ความสําคัญของเรือดํานํ้ามาโดยตลอด แตดวยลักษณะของการปฏิบัติการท่ีไกลจากสายตา มองไมเห็นดวยสายตา รวมทงั้ ความลบั ตา ง ๆ ในการใชง านเรอื ดําน้ํา (สว นใหญแ ลว เรอื ดําน้ําจะถกู นําไปใชใ นภารกจิ ทไ่ี มต อ งการใหม กี ารเปด เผย ตนเอง) ทําใหการอธิบายใหเห็นเปนนามธรรมน้ันทําไดยากยิ่ง โดยเฉพาะอยางย่ิง การอธิบายใหประชาชนทั่วไปท่ีมี ประสบการณในการปฏิบัติงานในทะเลนอยกวาทหารเรือยิ่งทําใหการอธิบายบทบาท และความสําคัญของเรือดํานํ้า จากที่เปนนามธรรมใหจับตองไดย่ิงยากเขาไปเปนเทาทวี
ผมในฐานะทเี่ ปน นายทหารเรอื ชนั้ ยศนายนาวานายหนง่ึ ทผี่ า นการอบรมหลกั สตู รเรอื ดําน้ําเบอื้ งตน (สญั ญาบตั ร) จงึ อยากจะขอเปน สว นหนงึ่ ในการอธบิ ายบทบาท และความสําคญั ของเรอื ดํานํ้าจากมมุ มองของผทู ยี่ งั ไมไ ดผ า นหลกั สตู ร เสนาธกิ ารทหารเรอื ซงึ่ หมายความวา ผเู ขยี นนน้ั จะยงั มสี ถานะทยี่ งั ไมไ ดเ ขา ใจความแตกตา งระหวา ง “ยทุ ธวธิ ี ยทุ ธการ ยุทธศาสตร” อยางถองแทนัก ซึ่งอาจจะเปนความไดเปรียบในการอธิบายเรื่องที่เปนนามธรรมนี้ โดยหลีกเลี่ยง ความยากในการอธิบายใหเขาใจไดงายขึ้น โดยจะอธิบายผานแงมุมทางประวัติศาสตรของเรือดําน้ําในการทําสงคราม ตลอดชวงเวลา ๒๕๐ ปท่ีผานมา
เมื่อฝายที่นอยกวาอยากชนะ
ปฏิเสธไมไดวา แนวความคิดของมนุษยในการสรางเรือดํานํ้านั้นมีมาต้ังแตชวงศตวรรษที่ ๑๖ แตอยางไรก็ตาม ความจําเปน อยา งยงิ่ ยวดทเ่ี รง ใหม กี ารนําเรอื ดํานํ้ามาใชใ นการทําสงครามทางเรอื นนั้ เรมิ่ ขนึ้ ใน ค.ศ. ๑๗๗๖ ในขณะนนั้ ประเทศอยา งสหรฐั อเมรกิ า กําลงั ทําสงครามประกาศอสิ รภาพ (American Revolutionary War) จากจกั รวรรดอิ งั กฤษ ซ่ึงในชวงเวลาดังกลาว จักรวรรดิอังกฤษเปนมหาอาํ นาจทางทะเลเบอรหนึ่งของโลก ภายใตการบังคับบัญชาของ พลเรือเอก Richard Howe ฝายอังกฤษไดวางกําลังปดอาวตลอดแนวชายฝงตะวันออกเพื่อปองกันไมใหฝาย สหรัฐอเมริกาไดรับยุทธปจจัยเพ่ิมเติมจากฝรั่งเศส
การใชกําลังเรือรบของสหรัฐอเมริกา ท่ีมีอยูนอยเพื่อตอตานการปดอาวทําไดยากย่ิง เน่ืองจากกําลังรบที่แตกตาง กนั ในเวลานน้ั David Bushnell จงึ ไดอ อกแบบและประดษิ ฐ เรอื ดําน้ํา (Submersible Ship) ทชี่ อื่ วา “The Turtle”
นาวิกศาสตร 47 ปที่ ๑๐๕ เลมที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
ขับเคล่ือนดวยพลังงานมนุษย โดยเรือดํานํ้า “The Turtle” น้ัน ออกแบบใหสามารถดําลงใตน้ําเพ่ือหลบเล่ียง การโดนตรวจพบ และเขาไปเจาะรูท่ีใตแนวกระดูกงูกอนจะวางระเบิดใสเรือเปาหมาย The Turtle สามารถเดินเรือ หลบเลี่ยงการโดนตรวจพบไปไดจนถึงเรือเปาหมาย แตกระนั้นดวยเทคโนโลยีในขณะน้ันทําใหการปฏิบัติการไมสําเร็จ
ภาพวาดเรือดําน้ํา The Turtle เม่ือสหรัฐอเมริกา อยากเอาชนะกําลังทางเรือของอังกฤษ กองเรือที่ใหญท่ีสุดในโลก ณ ชวงเวลานั้น
“กําลงั รบทมี่ องไมเ หน็ ” อาศยั ธรรมชาตใิ นการซอ นพราง ไมจ ําเปน ตอ งมอี าวธุ จํานวนมาก แตห วงั ผลในการทําลาย เปาหมายท่ีสําคัญไดดวยการโจมตีเปาหมายเพียงครั้งเดียว (One Shot One Kill) เริ่มเปนส่ิงที่ประเทศที่มีกําลังรบ ทางเรือนอยกวา หันมามองมากขึ้น เพ่ือจะใชในการเปลี่ยนจากฝายเสียเปรียบกลับมาใหเปนฝายไดเปรียบ
ตอมาใน ค.ศ. ๑๘๕๐ ฝงเยอรมนีเองก็มีแนวความคิดในลักษณะเชนเดียวกัน เม่ือตองทําสงครามกับเดนมารก ซ่ึงใชกาํ ลังทางเรือปดอาว Kiel ทางตอนเหนือของเยอรมนี William Bauer นายทหารมาชาวปรัสเซีย ไดอ อกแบบเรอื ดําน้ําทม่ี ชี อื่ วา Brandtaucher เพอื่ หวงั จะใชเ รอื ดํานํ้าลาํ นี้ ในการตอ ตา นการปด อา วจากเรอื รบเดนมารก ทมี่ มี ากกวา เชน เดยี วกนั แตด ว ยงบประมาณทจี่ ํากดั ทําใหก ารออกแบบเรอื ดํานา้ํ และการตอ เรอื ไมส มั พนั ธก นั จนนํามาสู อุบัติเหตุของ Brandtaucher จมลงในอาว Kiel
เรือดําน้ําของกําลังทางเรือที่นอยกวา มีบทบาทในการจมเรือรบลําแรกใน ค.ศ.๑๘๖๔ ในสงครามกลางเมือง สหรัฐอเมริกา (American Civil War) ฝายใตท่ีมีกําลังรบทางเรือนอยกวาฝายเหนืออยางมาก หันมาใชอาวุธใตนํ้า และเรือดํานํ้าที่มีขนาดใหญกวายุคกอนหนา CSS Hunley จึงเปนเรือดําน้ําลําแรกในประวัติศาสตรที่สามารถจม เรอื ผวิ นํ้าได โดยเรอื ลําแรกทโี่ ดนจม คอื USS Housatonic ดว ย Spar Torpedo ทปี่ ากอา ว Charleston สงิ่ ทเี่ กดิ ขน้ึ จาก เหตุการณนี้เปนการแสดงใหเห็นวา เรือรบผิวนํ้าระวางขับนํ้า ๑,๒๐๐ ตัน โดนจมดวยเรือดํานํ้าเพียง ๗.๕ ตัน ไดดวย Spar Torpedo เพียงลูกเดียวเทานั้น กําลังรบที่นอยกวาสามารถเอาชนะกําลังรบท่ีมากกวา และมีอํานาจการยิง มากกวาได
ของเลนของนายพลฟชเชอรที่สรางความอดอยากใหอังกฤษ
แมว า เรอื ดาํ นาํ้ จะผา นการนาํ มาใชใ นการทาํ สงครามทางเรอื อยา งไดผ ลในชว งสงครามกลางเมอื งสหรฐั อเมรกิ า (American Civil War) กต็ าม แตย งั มคี วามสงสยั ถงึ ประสทิ ธภิ าพของเรอื ดาํ นาํ้ ในการนาํ มาใชท าํ สงครามเรอื ในลกั ษณะของกองเรอื ข น า ด ใ ห ญ ป ะ ท ะ ก นั ใ น ท ะ เ ล ห ร อื ท เี ่ ร ยี ก ว า M a j o r F l e e t A c t i o n เ น อื ่ ง ม า จ า ก ใ น ข ณ ะ น น้ ั บ ร ร ด า น กั ก า ร ท ห า ร เ ร อื แ ล ะ นกั วชิ าการทางเรอื ตา งมองวา “เรอื ดาํ นา้ํ ” เปน อาวธุ ทเี่ หมาะกบั การใชใ นการปอ งกนั ชายฝง (Coastal Defense) และ
นาวิกศาสตร 48 ปที่ ๑๐๕ เลมที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
ภาพวาดเรือ USS Housatonic ของฝาย Union ในสงครามกลางเมืองสหรัฐอเมริกา ซึ่งเปนเรือรบลําแรกท่ีโดนจมจากเรือดําน้ํา โดย CSS Hunley
ใหค ณุ คา กบั เรือประจัญบาน (Battleship) และเรือลาดตระเวนประจัญบาน (Battlecruiser) มากกวาอยางมาก โดย ความเขมแข็งของกําลังทางเรือก็จะนับจาก
จํานวนเรอื เหลา นท้ี จี่ ะถกู เรยี กวา Capital Ship
กอ นสงครามโลกครงั้ ที่ ๑ พลเรอื เอก John
Arbuthnot Fisher หรือท่ีบรรดาหลาย ๆ คน
เรียกวา Jackie Fisher ไดออกแบบเรือรบ
อยางหน่ึงที่เปล่ียนหนาประวัติศาสตร
การทาํ สงครามทางเรอื ในสงครามโลกทงั้ สองครง้ั
น่ันก็คือ เรือประจัญบานแบบ Dreadnought
จนใคร ๆ ก็ต้ังฉายาใหนายพลเรือทานนี้วา
บดิ าของทหารเรอื องั กฤษยคุ ใหมท สี่ บื สานมาจาก
Lord Nelson ท้ังนี้ นอกจากเรือประจัญบาน
ที่นายพลทานนี้ใหความสนใจแลวยังมีความสนใจเรื่อง “เรือดําน้ํา” และ “การใชเรือดําน้ํา” ในการทําสงครามทางเรือ อีกดวย จนบรรดานายทหารเรือที่ไมเห็นดวยกับ “เรือดาํ นาํ้ ” ซุบซิบนินทาวา เรือดาํ นาํ้ ไมไดเปนอะไรไปมากกวา ของเลน ของนายพลฟช เชอร ทใี่ นขณะนนั้ ดํารงตําแหนงเปน First Sea Lord (ผบ.ทร. อังกฤษ)
แตสําหรับ พลเรือเอก Fisher หลังจากที่ไดเห็นการสาธิตการใชงานเรือดํานํ้าตั้งแต ค.ศ. ๑๙๐๓ จนกระท่ังได เห็นผลการซอมรบระหวางเรือดําน้ํารวมกับเรือประจัญบานแบบ Dreadnought ที่เขาเปนผูริเริ่มความคิดขึ้นมาเอง ก็พบวา เรือดํานํ้าสามารถหลบหลีกเขาไปในระยะโจมตีของตอรปโดในยุคนั้นที่ระยะ ๑,๐๐๐ หลา กอนจะยิงตอรปโด ลูกซอม จมเรือประจัญบานไดถึง ๒ ลํา นายพลเรือทานนี้ไดนิยามเรือดํานํ้า วา “เปนความตายที่อยูตรงหนา เกิดขึ้น แบบฉับพลัน โดยทันที นาสะพรึงกลัว มองไมเห็น และไมมีทางหลบเล่ียง ไมมีอะไรจะเหี้ยมโหดไดเทานี้อีกแลว เทาที่จะนึกได” ในขณะนี้นายพลเรือเอกอีกทานหนึ่ง คือ พลเรือเอก Lord Charles Beresford ไดแสดงความเห็น ในเรื่องเรือดํานํ้าแบบข้ัวตรงขามกลาววา “เรือดํานํ้าเปนอาวุธที่ไมมีความเปนอังกฤษ (สุภาพบุรุษ) เปนอาวุธของ พวกขี้ขลาดที่ไมยอมมารบแบบลูกผูชายบนผิวนํ้า”
นาวิกศาสตร 49 ปที่ ๑๐๕ เลมท่ี ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
พลเรือเอก John Fisher บิดาของกองทัพเรืออังกฤษยุคใหม
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๑ (The Great War) เริ่มตนขึ้น เรือดํานํ้าที่ถูกกลาวหาวาเปนอาวุธของพวกขี้ขลาด และ เปนของเลนของ พลเรือเอก Fisher ผูที่ตองกลับมาเปน First Sea Lord อีกวาระหน่ึง ไดแสดงใหเห็นถึงอํานาจการยิง ทเี่ ดด็ ขาดรนุ แรงตามทน่ี ายพลทา นนเ้ี คยกลา วไว โดยในวนั ที่ ๕ กนั ยายน ค.ศ. ๑๙๑๔ เรอื ดํานํ้า U-21 ใชต อรป โ ดจมเรอื HMS Pathfinder นอกชายฝง May Island ประมาณ ๑๐ ไมล (ปากทางเขา Firth of Forth ฐานทัพเรืออังกฤษ) อกี ๒๒วนั ตอ มาในวนั ที่๒๒กนั ยายนค.ศ.๑๙๑๔เรอื ดํานํ้าU-9จมเรอื ลาดตระเวนหนกั ๓ลํารวมระวางขบั น้ํา๓๖,๐๐๐ตนั ในเวลาเพียง ๓๐ นาที ประกอบดวย HMS Aboukir HMS Cressy และ HMS Hogue กอนที่อีกไมก่ีวันตอมา ในวันท่ี ๑๕ตลุ าคมค.ศ.๑๙๑๔เรอื ดํานํ้าลําเดยี วกนั จมเรอื ลาดตระเวนHMSHawkeไปอกี ๑ลําในระยะเวลาเดอื นเศษราชนาวี องั กฤษทเี่ กรยี งไกรทส่ี ดุ ในโลกโดนเรอื ดําน้ํา ๒ ลํา จมเรอื รบของตนเองไปถงึ ๕ ลํา คดิ เปน ระวางขบั นํ้ากวา ๔๖,๐๐๐ ตนั แมว า จะยงั ไมไ ดส ง ผลกระทบตอ กาํ ลงั รบโดยรวมมากนกั แต “ของเลน ของนายพลฟช เชอร” เขา มาจมเรอื รบราชนาวี ไดถึงหนาบาน น่ันทําใหการลอเลียนนายพลฟชเชอรในเร่ืองนี้แทบจะไมมีคนพูดถึงอีก สวน Winston Churchill ผูทํา หนาที่ First Lord of Admiralty ไดเรงรัดใหตอเรือดําน้ําเพิ่มเติมใหเทาทันฝายเยอรมนี
พิษสงของเรือดํานํ้ายังไมไดถึงจุดสูงสุดในชวงตนของสงครามโลกคร้ังท่ี ๑ หากแตเปนหลังจากท่ีกองเรือรบของ มหาอํานาจสองชาติ คือ อังกฤษ และเยอรมนี ไดปะทะกันในการยุทธท่ีคาบสมุทรจัตแลนด (Battle of Jutland) ซึ่งตางฝายตางสูญเสียเรือ Capital Ship ไปจํานวนหนึ่ง ฝายเยอรมนีตองการรักษากําลังรบไวจึงตองลาถอย สวนฝาย อังกฤษเองก็ไมสามารถติดตามกองเรือ High Sea Fleet ไดทัน หลังจากนั้น กําลังเรือผิวนํ้าทั้งสองชาติตางระมัดระวัง ในการปฏบิ ตั กิ ารมากขนึ้ จนแทบจะไมม กี ารสง กระบวนเรอื มารบกนั อกี อยา งไรกต็ าม องั กฤษไดใ ชเ รอื ผวิ นํ้าจํานวนหนงึ่ ทําการปดอาว ปองกันไมใหยุทธปจจัยสงเขาสูเยอรมนีได เยอรมนีเองไมสามารถใชเรือผิวนํ้าตอตานการปดอาวได เนื่องจากกําลังทางเรือท่ีนอยกวา ราว ๆ ๒ ใน ๓ ทําใหเยอรมนีตองเปล่ียนวิธีการจากที่ใชเรือดําน้ําเพ่ือซุมโจมตีเรือรบ
โปสการดในเยอรมนีหลังเหตุการณเรือดํานํ้า U-9 จมเรือลาดตระเวนหุมเกราะอังกฤษ ๓ ลํา โดยใชเวลาเพียง ๓๐ นาที รวมระวางขับนํ้า ๓๖,๐๐๐ ตัน
นาวิกศาสตร 50 ปที่ ๑๐๕ เลมที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
องั กฤษเพอื่ หวงั จะทาํ ลาย มาเปน การใชเ รอื ดาํ นาํ้ รงั ควานเรอื สนิ คา (Commerce Raiding) โดยการสง เรอื ดาํ นา้ํ จาํ นวนมาก รังควานเรือสินคาทุกลําที่จะเขาสูอังกฤษ
ในระยะเวลาสองเดอื นแรก (กมุ ภาพนั ธ- เมษายน ๑๙๑๗) จมเรอื สนิ คา ทจ่ี ะเขา สอู งั กฤษ ไดค ดิ เปน ระวางขบั น้ํารวม ๑.๙ ลา นตนั เรอื สนิ คา ชาตทิ เี่ ปน กลางรว ม ๆ ๖๐๐ ลํา ทจี่ อดอยตู ามทา เรอื ในองั กฤษปฏเิ สธทจี่ ะเดนิ เรอื ซง่ึ เปน ผลงาน ของเรอื ดํานํ้าไมถ งึ ๖๐ ลําดว ยซ้ํา (ในชว งนนั้ องั กฤษประมาณการวา เยอรมนมี เี รอื ดํานํ้า ๑๓๐ ลํา และสง ออกปฏบิ ตั กิ าร ในทะเลไมถึงครึ่งหนึ่งของจํานวนทั้งหมด) ภาวะขาดแคลนเกิดขึ้นโดยฉับพลัน ไมใชเพียงแตประชาชนชาวอังกฤษ ทต่ี อ งทนหวิ โหยเทา นนั้ แตก องทพั เรอื เองกต็ อ งมมี าตรการประหยดั น้ํามนั ดว ยเชน เดยี วกนั โดยในขณะนนั้ กองทพั เรอื อังกฤษไดออกคําสั่งใหกับ Grand Fleet วาใหใชความเร็วไมเกิน ๓ ใน ๕ จากความเร็วสูงสุด
การสูญเสียเรือสินคากวา ๑.๙ ลานตัน ในระยะเวลา ๓ เดือน นอกจากความอดอยากท่ีสงผลโดยตรงแลว กจิ การพาณชิ ยน าวี องั กฤษเองกล็ าํ บากอยา งหนกั เนอื่ งจากเสยี เรอื สนิ คา ไปจาํ นวนมาก จาํ เปน ตอ งหาเรอื มาทดแทน ตอ งมกี าร เกณฑเ อาคนงานในอตู อ เรอื ทเ่ี คยโดนเกณฑไ ปเปน ทหารตามหนว ยตา ง ๆ เกณฑก ลบั มาทํางานในอตู อ เรอื เหมอื นเชน เคย และเพิ่มกะการทํางานทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเรงการตอเรือ ความลําบากของอังกฤษมากข้ึนจนตองมีคําขวัญให ประชาชนชาวอังกฤษรวมมือกันประหยัดอาหาร เชน “Don’t waste bread. Save two thick slices everyday and defeat the u boat” หรือ “อยาทานขนมปงท้ิงขวางลดการทานขนมปง ๒ แผนหนาๆ ในทุกๆวัน เพื่อจะไดชนะเรืออู”
สรางความกังวลโดยไมตองปรากฏตัว
โดยทว่ั ไป กาํ ลงั รบจะมผี ลทางจติ วทิ ยาในเรอ่ื งการขม ขไู ด เมื่อมีการแสดงกาํ ลังใหเห็นโดยต้ังแตในอดีตจนถึงปจจุบัน ไมเ วน แมแ ตป ระเทศไทยเองกโ็ ดนการขม ขดู ว ยการนาํ กาํ ลงั รบ มาแสดงใหเห็นดังเชนในเหตุการณ ร.ศ. ๑๑๒ ที่ฝรั่งเศส ไดนาํ เรือรบจาํ นวน ๒ ลาํ มาจอดที่ทาเรือใกลกับสถานทูต ของตนท่ีอยูไมไกลจากพระบรมมหาราชวังเทาไหรนัก แตเมื่อเรือดําน้ํา อาวุธที่มองไมเห็นการขมขวัญทางความคิด ก็มีผลมากข้ึน โดยเฉพาะเมื่อเรือดํานํ้าไมปรากฏตัว ใหเห็น แตรูวาฝายตรงขามมีเรือดํานํ้า
๒๔ มกราคม ๑๙๑๕ เปนวันที่เกิดการยุทธทางเรือ
ครั้งสําคัญคร้ังหนึ่งในสงครามโลกครั้งท่ี ๑ เม่ือกองเรือ
ลาดตระเวนประจัญบานของอังกฤษ (Battlecruiser
Squadron) ภายใตการบังคับบัญชาของนายพลเรือ
ที่มีช่ือเสียงอีกหน่ึงทานคือ พลเรือเอก David Beatty เกือบจะทําลายกองเรือลาดตระเวนประจัญบาน ของฝายเยอรมนี ที่อยูภายใตการบังคับบัญชาของ พลเรือเอก Franz Hipper แตสุดทายจมเรือ ไดเพียงหน่ึงลํา และทําใหเกิดคําถามจากผูบังคับบัญชาของตนเองทั้งจาก พลเรือเอก Sir John Jellicoe ผูบัญชาการกองเรือ Grand Fleet และจาก Winston Churchill ผูดํารงตําแหนง First Sea of Admiralty เพราะในเวลาน้ันฝายอังกฤษไดเปรียบทั้งจํานวนเรือ ความเร็ว การตําบลท่ีแรกยุทธ แผนยุทธการที่วางไว แทบไมม ขี อ ผดิ พลาดจากหนว ยขา วกรองRoom40แลว อะไรคอื เหตผุ ลที่พลเรอื เอกBeattyทํา“รางวลั ชน้ิ เอก”หลดุ มอื
นาวิกศาสตร 51 ปท่ี ๑๐๕ เลมที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
คําขวัญชวนเชื่อของอังกฤษในชวงเวลาที่อดอยาก เนื่องจากเรืออูเยอรมนีที่ปดอาวรอบเกาะอังกฤษ
ฝายเยอรมนีเขาโจมตีเมืองในแถบชายฝงอังกฤษเพื่อหวังดึงให Grand Fleet สงกองเรือออกมา และใชเรือดํานํ้า ดักรอเพ่ือเตรียมโจมตีลิดลอนเรือประจัญบานของ Grand Fleet เพ่ือลดศักยสงคราม แตแผนการของเยอรมนี ถูกถอดรหัสไดจากหนวยขาวกรอง Room 40 ทําใหมีการซอนแผน โดยฝายอังกฤษยอมใหเมืองทาสําคัญของตนเอง โดนยิงถลมดวยปนใหญ แตใชกองเรือลาดตระเวนประจัญบานของตนเองดักรอ เพ่ือทําลายกองเรือลาดตระเวน ประจัญบานของเยอรมนี แผนการของอังกฤษเปนไปไดดวยดีทุกประการจนเรียกไดวา “เหย่ือช้ินโตติดเบ็ด” ฝา ยเยอรมนรี ตู วั วา กําลงั รบเปน รอง จําเปน ตอ งหนกี ลบั Heligoland ไมส ามารถรบแตกหกั ได เพราะจํานวนเรอื นอ ยกวา ลูกปนก็เหลือนอย จึงเดินทางไปทางตะวันออกดวยความเร็วสูงสุด สวนฝายอังกฤษสามารถไลตามและ ปด ระยะเขา มาเรอื่ ย ๆ จนเรมิ่ ยงิ ใสท างทา ยกระบวนเรอื ได เรอื ลาดตระเวนประจญั บาน Blucher เสยี หายหนกั จนฝา ย เยอรมนีตองท้ิงใหจม
แตแลวในชวงท่ีกาํ ลังไดเปรียบ พลเรือเอก David Beattyบนเรอื ธงHMSLionเขาเหน็ บางอยา งทหี่ วั เรอื ขวา ในระยะใกล และสิ่งน้ันเขาเช่ือวาเปน Periscope ของเรือดํานํ้า เขาจึงสั่งใหกองเรือทั้งกองเปลี่ยนเข็ม หลบอยางทันที และการเปลี่ยนเข็มในครั้งน้ันทําให ไมสามารถไลทันฝายเยอรมนีท่ีหนีเขาแนวทุนระเบิด ทางรับไดทันเวลา ทําไมพลเรือเอกBeatty จึงเช่ือวา เปนเรือดําน้ํา น่ันก็เพราะขาวกรองอันแมนยําที่ Room 40 ดักรับสัญญาณไดวาจะมีการใชเรือดาํ นาํ้ ดักซุมโจมตีจึงทําใหสิ่งที่ “คลาย” Periscope ไดรับ การตคี วามวา เปน Periscope และในระยะใกลข นาดนนั้ อาจจะหมายถึง การท่ีเรือดาํ นาํ้ ไดปลอยตอรปโด ออกมาแลว อยางไรก็ตามหลังสงครามโลกคร้ังที่ ๑ จบลงมีการหาเอกสารตาง ๆ มายืนยันพบวา ในวันท่ี ๒๔ มกราคม ค.ศ. ๑๙๑๕ ไมมีเรือดํานํ้าเยอรมนี แมแตลําเดียวอยูในระยะ ๑๐๐ ไมลจาก Dogger Bank
เกอื บ ๆ ๗๐ ป หลงั จากนนั้ ใน ค.ศ. ๑๙๘๒ สงคราม
ฟอลก แลนด (Falkland War 1982) ฝา ยอารเ จนตนิ าทมี่ ี
ความเสยี เปรยี บเรอื่ งกําลงั ทางเรอื ตอ ฝา ยองั กฤษอยา งมาก มเี รอื ดํานํ้าอยรู วมกนั จํานวน ๔ ลํา ซงึ่ ๒ ใน ๔ อยใู นสถานะ ไมพ รอ มใชง าน ประกอบดว ย ARA Santa Fe เปน เรอื ดําน้ําแบบ Guppy (เรอื ดํานํ้าเกา สมยั สงครามโลกครงั้ ที่ ๒ ทไี่ ดร บั การปรับปรุงใหทันสมัย) ARA Santiago Del Estero อยูในสถานะไมพรอมใช ปลดระวางประจําการเปนเรือฝกที่ทา กอนสงครามจะเกิด ฝายอารเจนตินาลากเรือออกจากฐานทัพเรือเอาไปซอนไวท่ีอื่นและพรางเรือเอาไว เพื่อให ฝายอังกฤษเชื่อวา “เรือดํานํ้าลํานี้ไมไดอยูท่ีทา” ARA Salta (Type209) อยูระหวางการซอมปรับปรุงเรือ ไมสามารถ นํามาปฏิบัติการไดทันสงคราม และ ARA San Luis (Type209) ลูกเรือใหมทั้งหมด ขาดความชํานาญ
เมื่อสงครามเริ่มขึ้น ARA Santa Fe โดน ฮ.ของฝายอังกฤษยิงจมขณะกําลังหนีบนผิวนํ้าที่ใกลกับเกาะ South Georgia ซึ่งทําใหเรือดํานํ้าท่ีพรอมใชงานจริงๆ มีเพียง ๑ ลําเทานั้น แตตลอดระยะเวลาของสงครามฟอลกแลนด ฝายอังกฤษเชื่อวาอารเจนตินามีเรือดํานํ้าปฏิบัติการอยูในพื้นที่ ๓ ลํา และมีการปราบเรือดําน้ําอยูตลอดเวลา โดยมี
นาวิกศาสตร 52 ปที่ ๑๐๕ เลมท่ี ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
พาดหัวขาวในหนังสือพิมพ Daily Mirror ถึงชัยชนะที่ Dogger Bank อยางไรก็ตามสิ่งที่หนังสือพิมพไมไดเอยถึง คือ การโดนตําหนิของ พลเรือเอก David Beatty ภายใน Admiralty
ทั้งการยิงตอรปโดตอเปาใตน้ําที่คิดวาเปนเรือดํานํ้าจํานวนหลายลูก รวมท้ังมีการใชระเบิดลึกมากกวา ๑๐๐ ลูก เลยทเี ดยี ว ซงึ่ จํานวนทง้ั หมดทก่ี ลา วมานนั้ เรอื ดําน้ําของอารเ จนตนิ ามเี พยี ง ๑ ลํา ทอ่ี ยใู นพนื้ ทปี่ ฏบิ ตั กิ ารคอื ARA San Luis และจากหลกั ฐานทปี่ รากฏชดั เจน หากลกู เรอื ของ ARA San Luis มคี วามชํานาญเพยี งพอในการใชต อรป โ ดแบบ SST-4 และ Mk37 ฝายอังกฤษอาจจะตองสูญเสียเรือฟริเกตอยางนอย ๓ ลํา เลยทีเดียว อีกครั้งท่ี “กําลังรบที่มองไมเห็น สามารถขมขูทางความคิด และสรางสภาวะใหฝายตรงขามตองกังวล”
ภารกิจที่หามโดนตรวจพบ
เรือดํานํ้า ARA Santa Fe โดน ฮ.ของอังกฤษยิงดวยจรวดจมในชวงตนของสงครามฟอลกแลนด
ในการปฏบิ ตั ทิ างทหาร บางครงั้ ความลบั ในการปฏบิ ตั กิ ารเปน เรอื่ งทส่ี าํ คญั การไดม าซงึ่ ขอ มลู ขา วสารตา ง ๆ ทตี่ รงกบั ความเปนจริงท่ีสุดน้ัน ฝายตรงขามจะตองไมทราบวากําลังโดนติดตาม สะกดรอย หรือหากตองการสรางสถานการณ ใหฝายตรงขามเช่ือโดยการลวงดวยขอมูลบางอยางท่ีเปนเท็จ การปลอยขอมูลเหลาน้ันออกใหแนบเนียน และ ตรงเปาหมาย ผูที่เปนคนปลอยขอมูลจะตองใชวิธีการซอนพราง เพื่อไมใหฝายตรงขามตรวจพบไดวาขอมูลเหลานั้น “หลุดออกมา” อยางตั้งใจ
ระหวางสงครามโลกคร้ังท่ี ๒ ใน ค.ศ. ๑๙๔๓ กับปฏิบัติการ “การลวง” ครั้งบันลือโลกใน Operation Mincemeat ศพของชายไรบานถูกนํามาจัดฉากใหเปนนายทหารนาวิกโยธินอังกฤษ (Royal Marine) ยศนาวาเอก ช่ือ Martin William ในสังกัด Combined Operation HQ พรอม ๆ กับสรางประวัติปลอมทางครอบครัวออกมา ใหดูนาเชื่อถือ พรอมกับจดหมายที่เขียนข้ึนจากนายพลชาวอังกฤษ ๒ ทาน จริง ๆ แตเปนการเขียนลวงขึ้นมา เพื่อใหฝายอักษะเชื่อวา สัมพันธมิตรจะยกพลข้ึนบกที่กรีก และซารดิเนีย ไมใชท่ีเกาะซิซิลี สถานท่ีในการปลอยให ศพลอยไปตดิ ถกู พจิ ารณาอยา งดจี ากกรมอทุ กศาสตรอ งั กฤษ และจดุ หมายคอื ชายฝง สเปน ทช่ี ายฝง ในเมอื ง Huelva ซึ่งการปลอย หากใชเรือผิวน้ําจะตองอยูไกลจากฝงเพียงพอที่จะไมมีใครเห็น แตนั่นจะไมสามารถแนใจวา ศพของ นาวาเอก Martin จะไปถึงชายหาดไดหรือไม ดังนั้น “เรือดํานํ้า HMS Seraph” จึงเปนตัวเลือกในขณะนั้น
วันท่ี ๒๙ เมษายน ค.ศ. ๑๙๔๓ เรือดําน้ํา HMS Seraph เดินทางถึงชายฝงสเปนและใชเวลาตลอดชวงกลางวัน ในการสรางภาพชายฝงเพื่อความแมนยําในการปลอยศพ และรอเวลาจนถึงเวลาประมาณ ๐๔๓๐ ของเชาวันที่
นาวิกศาสตร 53 ปที่ ๑๐๕ เลมที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
๓๐ เมษายน เพอื่ ใหเ ปน เวลากลางคนื และกระแสนํ้าเปน ใจตามทคี่ ํานวณไว เรอื ดําน้ํา HMS Seraph จงึ ลอยลําขนึ้ มาบน ผวิ น้ําแบบเงยี บๆ และไมม ใี ครตรวจพบ กอ นทจี่ ะปลอ ยศพลวงออกไปอยา งแนบเนยี น ความสําเรจ็ ในครงั้ นนั้ ถกู กลา วถงึ และนํามาเปนบทเรียนในการปฏิบัติการลวงในช้ันเรียนของนายทหารในหลักสูตรตาง ๆ และยังมีการนําไปทําเปน ภาพยนตรชื่อ The Man Who Never Was ในป ๑๙๕๖ และ Operation Mincemeat ในป ๒๐๒๒
หลงั จากสงครามโลกครงั้ ท่ี ๒ สนิ้ สดุ ลง โลกใชเ วลาไมน านกเ็ กดิ ความขดั แยง ครงั้ ใหมข นึ้ ระหวา งขวั้ มหาอํานาจใหญ ๒ ขวั้ คอื สหรฐั อเมรกิ า ผนู ําโลกเสรปี ระชาธปิ ไตย และสหภาพโซเวยี ต ผนู ําโลกคอมมวิ นสิ ต โดยความขดั แยง ครงั้ ใหมน ้ี สองขวั้ อํานาจไมไ ดท ําการรบกนั โดยตรง แตม กี ารทําสงครามผา นตวั แทนกนั ในหลายสมรภมู ิ และแสวงหาพนั ธมติ ร และ แขง ขนั กนั ขยายอาํ นาจของตนเอง ซงึ่ ในประวตั ศิ าสตรไ ดจ ารกึ ชอื่ ความขดั แยง ในครง้ั นวี้ า “สงครามเยน็ (Cold War)”
ภาพนายทหารบนเรือดํานํ้า HMS Seraph ใน ค.ศ. ๑๙๔๓ หลังปฏิบัติการ Operation Mincemeat
เม่ือตางฝายตางไมตองการสงครามทําลายลางครั้งใหม แตการปฏิบัติการทางทหาร และการเก็บขอมูลขาวสาร หรอื การสอดแนม เปน สงิ่ ทส่ี ําคญั “เรอื ดํานํ้า” จงึ มบี ทบาทเปน อยา งมากตลอดชว งเวลาของสงครามเยน็ ในมหาสมทุ ร แอตแลนตกิ เรอื ดาํ น้ําขนาดใหญม บี ทบาทสําคญั ในการลาดตระเวนอยใู นทะเล และเมอื่ เกดิ เรอื ดําน้ําพลงั งานนวิ เคลยี ร (แหลงพลังงานท่ีเกือบไรขีดจํากัด) เรือดํานํ้าเหลาน้ีก็เฝาตรวจและลาดตระเวนในพื้นท่ีนานนับเดือน
ในทะเลเมดเิ ตอรเ รเนยี นทน่ี ้ําตนื้ กวา มพี นื้ ทจี่ ํากดั มากกวา ไมเ หมาะกบั การปฏบิ ตั กิ ารของเรอื ดํานํ้านวิ เคลยี ร และ เปนพื้นท่ีที่สหภาพโซเวียตตองการเขามาสรางอิทธิพล เนื่องจากเปนทางออกทางเดียวที่กองเรือทะเลดําจะสามารถ เดนิ ทางผา นชอ งแคบบอสฟอรสั และชอ งแคบดารด าเนลเลส ดงั นนั้ จงึ มกี ารสง เรอื รบตา ง ๆ และเรอื ดํานํ้าเขา มาในทะเล เมดเิ ตอรเ รเนยี นเปน จาํ นวนมาก ซง่ึ ประเทศในฝา ยเสรปี ระชาธปิ ไตยในขณะนนั้ ทมี่ บี ทบาทในการสง เรอื ดาํ นาํ้ ดเี ซล-ไฟฟา (DieselElectricSubmarineorConventionalSubmarine)เขา มาปฏบิ ตั กิ ารรวบรวมขอ มลู ขา วสารกค็ อื กองเรอื ดํานาํ้ กองทัพเรือเนเธอรแลนด
เรือดําน้ําดีเซล-ไฟฟา ชั้น Dolfijn และชั้น Zwaardvis มีบทบาทเปนอยางมาก โดยมีการสลับกันเดินทางจาก ฐานทพั เรอื Den Helder ผา นชอ งแคบองั กฤษ และชอ งแคบยบิ รอลตา เขา มาสทู ะเลเมดเิ ตอรเ รเนยี น และมงุ หนา สเู ขต จอดเรือทอดสมอของกองเรือสหภาพโซเวียต ที่มีอยูหลายจุดตามแนวชายฝงแอฟริกา เชน อาวฮมั มาเหม็ด ในตูนิเซีย และอาวโซลลัม ในอียิปต ซ่ึงลวนแตเปนพื้นท่ีนํ้าตื้น และมีทั้งเรือผิวนํ้าและเรือดําน้ําสหภาพโซเวียตจํานวนหลายลํา
นาวิกศาสตร 54 ปที่ ๑๐๕ เลมที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
หนาที่ของเรือดํานํ้าเหลานี้ คือ การสะกดรอยและเก็บขอมูล บันทึกเสียง และการทํา “Underwater Look” โดยการนําเรอื แลน ลอดใตท อ งเรอื เพอื่ บนั ทกึ เสยี งตา ง ๆ ใหไ ดช ดั เจนทสี่ ดุ ในเวลาตอ มามกี ารเพม่ิ การตดิ ตง้ั กลอ ง CCTV ไวท ย่ี อดเสา Periscope เพอ่ื บนั ทกึ ภาพตา ง ๆ จากใตน าํ้ สงิ่ เหลา นเี้ ปน สงิ่ ทสี่ าํ คญั อยา งมากทหี่ ากไดข อ มลู ตา ง ๆ มาครบถว น ในเวลาที่สถานการณพัฒนาความรุนแรงมากขึ้น จะสามารถนําขอมูลเหลาน้ีไปใชประโยชนในการปฏิบัติการทางเรือ ไดต อ ไป หลาย ๆ ครงั้ มคี วามเสยี่ งอยา งมากทจ่ี ะโดนตรวจพบ แตห ลาย ๆ ครงั้ กไ็ ดข อ มลู ทเี่ รอื ชนดิ อนื่ ไมม ที างไดม า เชน ขอมูลคาอิทธิพลของเสียงจากเรือดํานํ้าชั้น Whiskey และช้ัน Romeo ขณะกําลังเดินเรือ หรือภาพถายตัวเรือฟริเกต หรือเรือพิฆาตใตแนวนํ้าของเรือรบสหภาพโซเวียต ตลอดจนลักษณะของการฝกทางทะเล (ซอมรบ) เปนตน ตลอด ระยะเวลาของการปฏิบัติการ ขอมูลที่เปนประโยชนจํานวนมากไดรับการเก็บเอาไว และขอมูลเหลาน้ีเปนขอมูล ท่ีฝายสหภาพโซเวียตไมทันไดระวังตัวแมแตนอย โดยที่เรือดํานํ้า (ผูสอดแนม) ไมโดนตรวจพบเลยแมแตคร้ังเดียว เมื่อเรือดํานํ้ามีบทบาทในยามสงบ
ประวตั ศิ าสตรส ว นใหญข องเรอื ดําน้ําทมี่ กี ารบนั ทกึ ไวโ ดยผา นการเลา เรอื่ งของนกั เขยี น ทงั้ ผทู เี่ คยเปน นกั เรอื ดํานํ้า และคนรนุ หลงั ทมี่ าศกึ ษาประวตั ศิ าสตรผ า นเอกสารหลกั ฐานตา ง ๆ ลว นแตบ นั ทกึ บทบาทของเรอื ดํานํ้าทมี่ ใี นการปฏบิ ตั ิ การทางทหาร ไดแก การโจมตีเรือผิวน้ํา การปฏิบัติการพิเศษ การใชเรือดํานํา้ วางทุนระเบิด และการใชเรือดํานํ้า ในการลาดตระเวนหาขาวในทางลับ เคร่ืองมืออยาง “เรือดํานํ้า” ท่ีมีไวเพ่ือใชในการทําสงครามดวยขีดความสามารถ ที่โดดเดนคือ “การซอนพราง” ก็ไดรับการนํามาประยุกตใชใหเหมาะสมตอสถานการณ โดยเฉพาะเมื่อชาติตาง ๆ ไมไดมีความขัดแยงกัน
ปญหาเรื่องยาเสพติดของประเทศในกลุมอเมริกาใต เปนปญหาที่เชื่อมโยงกับกลุมอิทธิพลที่ใชยาเสพติดเปน เครื่องมือในการหารายไดเพื่อขยายอิทธิพลของตนเอง การลักลอบในการขนสงยาเสพติดท่ีทําไดปลอดภัย ยากตอ การโดนตรวจจับ คือ การขนสงทางทะเล ทั้งน้ี กําลังทางเรือของประเทศเหลานั้นพยายามเขาปราบปรามยาเสพติด โดยการสกัดจับ ซึ่งหากวางกําลังเรือผิวนํ้าไวไกลจากฝงเกินไป เรือที่ลักลอบขนสงยาเสพติดก็จะสามารถมีชองทาง ในการหนีไดทัน หรือหากโดนพบเห็นไดจากชายฝง ขบวนการยาเสพติดเหลานี้ก็จะไมดําเนินการขนสงแตรอใหเรือ เหลาน้ันพนจากพื้นท่ีไปเสียกอน หรือหากจะใชดาวเทียมในการตรวจการณ บรรดากลุมขบวนการยาเสพติดเหลาน้ี ก็ทราบดี และไดอาศัยปารกทึบซอนกิจกรรมผิดกฎหมายเอาไวไมใหดาวเทียมตรวจการณเห็น
ภาพถายเรือดํานํ้าช้ัน Tango จอดอยูกับเรือพ่ีเลี้ยง Berezina
โดยถายจาก Periscope ของเรือดํานํ้า HNLMS Zwaardvis ราว ๆ เดือน ตุลาคม/พฤศจิกายน ๑๙๘๘
นาวิกศาสตร 55 ปที่ ๑๐๕ เลมที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
แผนการใหมท ตี่ อ งอาศยั การซอ นพรางในขณะทตี่ รวจการณเ หน็ จงึ เรมิ่ ตน ขนึ้ โดยวางกําลงั “เรอื ดํานํ้า” ไวใ นพนื้ ที่ ใกลฝง เพื่อเฝาตรวจกิจกรรมตาง ๆ ที่ชายฝง สวนเรือรบผิวนํ้าที่เตรียมใชกําลังเขาสกัดกั้นยาเสพติดจะอยูไกลออกไป ในระยะท่ีมองไมเห็นดวยสายตา ทุกกิจกรรมบนฝงและชายฝง ถูกตรวจพบและรายงานกลับมาที่เรือผิวนํ้า ที่อาจจะ เปนเรือฟริเกต หรือเรือพิฆาต หลังจากนั้นจะสั่งการใหเรือเร็วขนาดเล็กเขาสกัดกั้นและจับกุมขบวนการขนยาเสพติด เหลาน้ีไดตั้งแตจุดท่ียาเสพติดเริ่มเคล่ือนยายออกจากแหลงผลิต โดยเรือดําน้ําจะมีบทบาทสําคัญอยางยิ่งในการ ตรวจจับเปาหมายท่ีมีขนาดเล็กท่ีตรวจจับยากดวยระบบตรวจจับเหนือผิวนํ้า (Above Water Sensor) แตเรือดํานํ้า ที่ใชงาน Passive Sonar สามารถตรวจพบเรือขนาดเล็กเหลานี้ไดจากระยะไกล
สงครามกลางเมือง (Civil War) ในประเทศแถบแอฟริกา และประเทศแถบตะวันออกกลาง ทําใหประเทศตาง ๆ ทเี่ ปน สมาชกิ ขององคก ารสหประชาชาตริ ว มกนั ควา่ํ บาตรและมกี ารหา มการขนสง สนิ คา เขา -ออกของประเทศ (Armed Embargo) รวมทงั้ การสกดั กน้ั การทะลกั ไหลของผอู พยพหนภี ยั ขา มพรมแดน โดยเฉพาะเหตกุ ารณส งครามกลางเมอื ง ของลิเบีย ส่ิงเหลานี้จําเปนตองใชกําลังทางเรือออกลาดตระเวนใหครอบคลุมพื้นที่ทะเลเมดิเตอรเรเนียนที่ขวางกั้น ระหวางแอฟริกา กับยุโรป กําลังทางเรือยุโรป (EUNAVFOR) ไดเริ่มปฏิบัติการ Operation Irini เพื่อเฝาตรวจ ทาเรือและทาขนสงกวา ๑๐ แหง ตลอดแนวชายฝง
ในชวงแรกของการปฏิบัติการ สิ่งที่ EUNAVFOR ตองการมากที่สุด คือ รูปแบบของการใชชีวิตประจําวัน (Pattern of Life) ในพื้นท่ีปฏิบัติการ เพื่อนํามาวิเคราะห และวางแผนในการทํา Armed Embargo การใชเรือรบ เขาไปทําหนาท่ีดังกลาวอาจจะได Pattern of Life ท่ีไมตรงกับสภาพความเปนจริง เพราะเม่ือมีการปรากฏตัวของ เรือรบ บรรดากิจกรรมทางทะเล (Maritime Activities) ตาง ๆ ที่ผิดกฎหมาย หรือมีความเส่ียงท่ีจะขัดตอการทํา
ภาพแสดงการจัดกําลังและแนวความคิดในการใชกําลังของกองทัพเรือโคลอมเบีย ในการแกไขปญหาการลักลอบขนยาเสพติดทางทะเล
นาวิกศาสตร 56 ปที่ ๑๐๕ เลมที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
Armed Embargo ยอมสังเกตเห็นได และหยุดกิจกรรมดังกลาวชั่วคราว การจะใชอากาศยานน้ัน อากาศยานก็มี ขอจํากัดเร่ืองระยะเวลาในการอยูในพื้นที่ปฏิบัติการไดตอเนื่องนานพอที่จะสรางภาพสถานการณในลักษณะนี้ได
กําลังหลักในการปฏิบัติการของ EUNAVFOR ในครั้งนี้ คือ เรือดํานํ้า NRP Tridante เรือดํานํ้าแบบ Type214 ของ ทร.โปรตุเกส และเรือดํานํ้า U-35 เรือดํานํ้า แบบ Type212A เรือดํานํ้าท้ัง ๒ ลํา ไดเขาไปปฏิบัติการในพ้ืนที่ ค น ล ะ ช ว ง เ ว ล า เ ป น ร ะ ย ะ เ ว ล า ร า ว ๆ ล ํ า ล ะ ๒ เ ด อื น โ ด ย ข อ ไ ด เ ป ร ยี บ ท ส่ ี ํ า ค ญั ใ น ก า ร ใ ช เ ร อื ด ํ า น ํ ้ า เ ข า ไ ป ร ว บ ร ว ม ข อ ม ลู ขาวสารนี้ คือ สามารถรวบรวมขอมูลขาวสารไดโดยไมมีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดลอมของรูปแบบไปจากเดิม กิจกรรมตาง ๆ จะดําเนินการไปอยางปกติ เนื่องจากไมมีผูใด หรือกลุมไหน เห็นวามี “การเฝามอง สอดแนม และ เก็บขอมูล” เหลาน้ีอยูนั่นเอง
ภาพแสดงกําลังทางเรือของ EUNAVFOR ใน Operation Sea Guardian วงรอบ ๒๑-๓ โดยจะเห็นวามีเรือดํานํ้าจํานวน ๒ ลํา จากอิตาลี และ ตุรกี รวมปฏิบัติการ
นอกจากนั้น ภารกิจตาง ๆ ที่ใชเรือดําน้ําเขาไปปฏิบัติการในทางลับ เพื่อสนับสนุนการรักษากฎหมายยังมีอีกมาก โดยเฉพาะในทะเลเมดเิ ตอรเ รเนยี น เชน Operation Sea Guardian ทจี่ ดั ตง้ั โดยกองกําลงั สนธสิ ญั ญาแอตแลนตกิ เหนอื หรอื NATO ทม่ี วี ตั ถปุ ระสงคเ พอื่ ปราบปรามการคา มนษุ ย และปราบปรามยาเสพตดิ กม็ กี ารใชเ รอื ดําน้ําเขา ไปสนบั สนนุ การรักษากฎหมายดังกลาวอีกดวย
บทสรุป “ทําไมตองเรือดํานํ้า”
จากเรื่องราวทางประวัติศาสตรท่ีผานมาน้ัน จะเห็นวา “เรือดําน้ํา” มีขีดความสามารถที่แตกตางไปจากยานรบ ประเภทอน่ื ดว ยขดี ความสามารถทแ่ี ตกตา งเหลา นี้ ทําใหเ รอื ดํานํ้าสามารถทําภารกจิ บางอยา งไดด ี และเหมาะสมกวา
นาวิกศาสตร 57 ปที่ ๑๐๕ เลมที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
บางภารกจิ อาจจะไมป ระสบความสําเรจ็ เลย หากปราศจากยทุ โธปกรณท เี่ รยี กวา “เรอื ดําน้ํา” อาวธุ ทไี่ มส ามารถตรวจ พบไดดวยสายตา ซึ่งเปนประสาทสัมผัสหลักของมนุษยในการสรางภาพสถานการณ
การซอนพราง เปนส่ิงท่ีโดดเดนและเรียกไดวาเปนปรัชญาของเรือดําน้ํา ซ่ึงนอกจากการซอนพรางจะทําให ฝายตรงขามไมสามารถตรวจพบไดดวยวิธีการปกติแลว การที่มองไมเห็นภัยคุกคามแตรูวามีภัยคุกคามน้ันอยูท่ีไหน สักแหงในพื้นท่ีปฏิบัติการ จะย่ิงสรางความกังวลและขมขวัญทางจิตใจไดอีกดวย ซ่ึงสิ่งนี้เปนสิ่งที่เรือผิวนํ้า และ อากาศยานไมสามารถทดแทนได ความสําคัญของการซอนพรางนั้น มักจะมีคําขวัญของนักเรือดําน้ําท่ีอธิบายไววา “Nowhere to be seen but present everywhere” หรือ “ไมมีทางที่จะโดนตรวจพบ และเรือดํานํ้าอยูทุก ๆ ท่ี ท่ีเปนไปได” ซึ่งแปลวา เมื่อใดก็ตามท่ีพ้ืนที่ปฏิบัติการเอ้ืออํานวย ภัยคุกคามจากเรือดํานํ้ามีไดตลอดเวลา นอกจากนั้น การซอนพรางนี้ยังทําใหเรือดําน้ําถูกนําไปใชในภารกิจทางลับ ทั้งในยามปกติและยามสงคราม โดยสามารถเดินทาง เขา ไปไดถ งึ ในพนื้ ทอี่ ทิ ธพิ ลของขา ศกึ เพอ่ื รวบรวมขอ มลู ขา วสารทเี่ ปน ประโยชน อกี ทง้ั ยงั สามารถนําไปสนบั สนนุ บทบาท ในการรักษากฎหมายไดอีกดวย
อาวุธเด็ดขาดและแมนยํา (One Shot One Kill) ส่ิงท่ีเรือดํานํ้าตองการที่สุด คือ การดํารงความซอนพราง เอาไวใ หต ลอดเวลา และเมอื่ ใดกต็ ามทมี่ กี ารใชอ าวธุ ยอ มหมายถงึ โอกาสในการสญู เสยี การซอ นพราง ดงั นน้ั เมอ่ื ใดกต็ าม ทเ่ี รอื ดํานํ้าใชอ าวธุ สงิ่ ทตี่ อ งการ คอื ตอ งสามารถทําลายเปา หมายไดด ว ยการโจมตเี พยี งครงั้ เดยี ว ตอรป โ ดหนกั (Heavy Weight Torpedo) จึงเปนอาวุธหลักของเรือดํานํ้าที่สามารถนําวิถีเขาหาเปาหมายไดโดยการควบคุมของ “คน” ผานเสนลวดนําวิถี (Wire Guidance) แรงระเบิดจากการระเบิดใตนํ้าก็มีความรุนแรงและสามารถทําใหเรือขนาดใหญ จมลงไดด ว ยการโดนตอรป โ ดเพยี งลกู เดยี ว ดว ยความแมน ยาํ และรนุ แรงนี้ ทาํ ใหย งิ่ สามารถสรา งความนา กงั วลเพมิ่ ขนึ้ ไปอกี เพราะการพลาดเพียงเล็กนอยจนทําใหเรือดํานํ้าเขาถึงจุดที่สามารถใชอาวุธได อาจจะหมายถึงความสูญเสียกําลังรบที่ มีคุณคาสูง (High Value Unit) สิ่งน้ีเอง ทําใหเมื่อตองใชกําลังทางทหารกับประเทศที่มีเรือดํานํ้า จะตองคิดทบทวน ซ้ําถึงความคุมคาและโอกาสท่ีจะสูญเสีย เกิดความยับย้ังช่ังใจหากคิดจะใชกําลังเขาคุกคาม
Wire Guide Torpedo หรือตอรปโดนําวิถีดวยเสนลวด อาวุธหลักของเรือดํานํ้าในปจจุบัน สามารถบังคับควบคุมไดไปจนถึงเปาหมาย และใชเปน Advance Sensor ไดอีกดวย
เพิ่มอํานาจกําลังรบแบบทวีคูณ Force Multiplier ยานรบท่ีมองไมเห็น มีอํานาจการโจมตีท่ีรุนแรงเด็ดขาด เดนิ ทางไปไดถ งึ เขตทา เรอื ของประเทศอน่ื โดยไมถ กู ตรวจพบ สงิ่ เหลา นที้ ําให “เรอื ดํานํ้า” สามารถเพมิ่ อํานาจกําลงั รบได แบบไมใชการบวก (Add) แตเปนแบบทวีคูณ (Multiply) ตั้งแตแนวความคิดแรกของเรือดําน้ํา คือ “กําลังรบ
นาวิกศาสตร 58 ปที่ ๑๐๕ เลมที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
ทนี่ อ ยกวา อยากชนะกาํ ลงั รบทมี่ ากกวา ” ทาํ ใหเ รอื ดาํ นาํ้ เปน อาวธุ ทต่ี อบรบั กบั ภยั คกุ คามรปู แบบใหม สามารถนาํ มาใช ในการทําสงครามแบบอสมมาตร หรือ Asymmetric Warfare (การทําสงครามที่กําลังรบของสองฝายมีแตกตางกัน อยางมีนัย) ทําใหประเทศท่ีออนแอกวาสามารถเจรจาตอรองกับประเทศที่เขมแข็งกวาได
จํานวนเรือดํานํ้าปฏิบัติการในโลก โดยสํานักขาว Al Jazeera (2021)
เรือดํานํ้า ตอบโจทยภารกิจหลากหลายรูปแบบท่ีเรือผิวนํ้า และอากาศนาวี ไมสามารถทดแทนได ทั้งในยามปกติ ที่กองทัพเรือประเทศตาง ๆ มีบทบาทในการสนับสนุนการพัฒนาประเทศ และการรักษากฎหมาย จนไปถึงเม่ือระดับ ของความขัดแยงนั้นเพิ่มข้ึน จนกลายเปนความขัดแยงที่ตองใชกําลังทหารเขาแกไขปญหา เรือดํานํ้าอาจจะเปนเครื่อง มือท่ีชวยสรางแรงบังคับใหฝายตรงขามหันเขาหาโตะเจรจาตอรองได เพราะหากเสี่ยงที่จะใชกําลังทางเรืออาจจะเกิด ความสูญเสียท่ีไมคุมคา และเมื่อหากการเจรจาตอรองไมไดผล เรือดํานํ้ายังสามารถชิงเร่ิมกอน และทําใหฝายตรงขาม ไมสามารถกอความขัดแยงได (Preemptive)
อางอิง
- Robert K Massie, Castle of Steel, 2007
- Charles A. Lockwood, Sink’em all : Submarine Warfare in the Pacific, 1951
- Jaime Karremann, In deepest secrecy : Dutch submarine espionage operations from 1968
to 1991, 2018
- Steven R Harper, Submarine Operations During Falkland War, 1994 - https://mc.nato.int
นาวิกศาสตร 59 ปที่ ๑๐๕ เลมที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕
วันที่ระลึกเรือดํานํ้า “ดํายังไมทันมิด ดันโผล”
พลเรือตรี กรีฑา พรรธนะแพทย
ผมเคยเขียนเรื่อง “ดําแลวไมโผล” ลงในนาวิกศาสตรเดือนกันยายน ๒๕๕๘ ตุลาคม ๒๕๕๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ ธันวาคม ๒๕๕๘ และ มกราคม ๒๕๕๙ รวม ๕ ตอนจบ ขอคุยโมโออวดหนอยวา ยังไดรับโลรางวัล “พลเรือเอก กวี สิงหะ” บทความดีเดน ประจําป ๒๕๕๙ อีกดวย
บาง คราวนข้ี อเขยี นเรอื่ ง “ดาํ ยงั ไมท นั มดิ ดนั โผล” ลงนาวกิ ศาสตรฉ บบั เดอื นกนั ยายน ๒๕๖๕ “วนั ทรี่ ะลกึ เรอื ดาํ นาํ้ ”
พอทา นผอู า นเหน็ ชอื่ เรอื่ ง ทา นคงเกดิ สงสยั ขนึ้ มาแลว ซวิ า “เรอื ดาํ นาํ้ อะไรของมนั (วะ) ดาํ ยงั ไมท นั มดิ ดนั โผล”
ไมใชครับ เรื่องตอไปนี้ไมเกี่ยวกับเรือดํานํ้า อยางใดทั้งสิ้น แตเปนเรื่องของการดํานํ้าของคน เปนเรื่องจริง ผม(ผเูขยี น)ไมอ งิ นยิ ายทเี่กดิ ขนึ้ กบั ผม(ผเูขยี น)ซงึ่ ไมเอาไหนเลยในเรอื่ งการกฬี าทงั้ ๆทผี่ มชอื่ “กรฑี า”และพอ ชอื่ “กฬี า”
ตลอดชีวิตของการเปนนักเรียนเตรียมนายเรือ ๒ ป และเปนนักเรียนนายเรือ ๕ ป (ไมเคยสอบตก ซํ้าชั้น) ผมชอบการกีฬามาก แตไมถูกโรคกับการเลนกีฬา โดยเฉพาะกีฬาที่นักเรียนนายเรืออยางผมเรียกวากีฬาประเภท ตีนพนพื้น กีฬาทางนํ้าเปนกีฬาประเภทตีนพนพื้นอยางหนึ่ง ที่คนอยางผมไมเอาไหน ไมจําเปน ไมเลน จะเลนจริง ๆ ก็ตอนถูกบังคับ คือ ตอนสอบเอาคะแนนวิชาพลศึกษา
ขอเขาเรื่อง “ดํายังไมทันมิด ดันโผล” ดังนี้
ในกาลครั้งหนึ่ง นานมาแลวสัก ๗๐ ปลวงมาแลวเห็นจะได ในการสอบวิชาพลศึกษา กีฬาทางนํ้าไดแก “การดํานํ้า” มีอยู ๒ อยาง คือ “ดําทน” และ “ดําลึก”
ดําทน ตอนเปนนักเรียนเตรียมนายเรือ รุน ๑๓ พ.ศ. ๒๔๙๑ โรงเรียนเตรียมนายเรือ เปนอาคารไม ตอนนี้รื้อทิ้ง ไปนานแลว สรางเปนอาคารสวนบัญชาการ ๒ ในพระราชวังเดิมชั้นนอก เราก็ไปสอบดําทน กันที่ “ตีนกะได” (บันได) ทานํ้าโรงเรียนนายเรือ (ตอนนี้เปนพระบรมราชานุสาวรีย สมเด็จพระเจาตากสินมหาราช ไปแลว) ครูก็ถือนาิกา กดจับเวลาอยูบนบก เพื่อจดเอาไววา เราดําอึดไดกี่นาที เราก็เกาะกะไดดํานํ้า ควํ่าหนาลงนํ้า
ครรู อ งโวย “เฮย ! ไมไ ด ดาํ ลงไปใหม ดิ หวั ” เพราะปรากฏวา เราดาํ ลงไปแคใ บหนา จมนาํ้ หทู งั้ ๒ ขา งยงั โผลเ หนอื นาํ้ ตานี้เอาใหม ดําลงไปจริง ๆ พอหัวมิดนํ้าก็ทะลึ่งโผลพรวดขึ้นมา ครูยังไมทันกดนาฬกาจับเวลาเลย
ดําลึก ตอนเปนนักเรียนนายเรือชั้น ๓ พรรคกลิน โรงเรียนนายเรือ อยูที่ปากนํา้ สมุทรปราการ พ.ศ. ๒๔๙๕
สมัยที่ยังเปน “โรงเรียนนายเรือเลาไก” (นักศึกษามหาวิทยาลัยเขาเรียกวาอยางนี้) สระวายนํ้ายังไมมี มีแตบอนํ้า ตองสอบดําลึกกันในแมนํ้าที่ “ทาเสือซอนเล็บ” ตอนนั้นยังเปนทาไมโทรม ๆ เอาเรือโบตไปลอยลําใกล ๆ ตลิ่ง เอาดิ่ง หยงั่ วดั ความลกึ ของนาํ้ ดวู า ไดค วามลกึ ตามกตกิ าหรอื ยงั พอไดท กี่ เ็ รมิ่ สอบดาํ ลกึ ครทู คี่ มุ สอบทา นเปน นายทหารผใู หญ คนหนึ่ง นักเรียนชอบกระเซา เยาแหย หาเรื่องใหทานดุดา วากลาว อยูเสมอ แตยิ่งดาพวกเรายิ่งสนุก ชอบอกชอบใจ ทานเองก็ไมถือโกรธ เปนแต “บงเบง” ไปตามเรื่องตามราวของทาน ชุดดําลึกของเรา คือ “เชิ้ตหนัง” (ไมสวมเสื้อ) ตัวเปลา ๆ นุงกางเกงกีฬาตัวเดียว และตองเปนกางเกงขาสั้นชนิดมีกระเปากางเกงดวย ทําไมถึงตองเปนกางเกง มีกระเปา เดี๋ยวรูครับ!
นาวิกศาสตร 6 ปที่ ๑๐๕ เลมที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
โรงเรยี นเตรยี มนายเรอื วดั แจง (พระราชวงั เดมิ )
โรงเรยี นนายเรอื ตนี เขา (เกลด็ แกว )
โรงเรยี นนายเรอื เลา ไก (สมทุ รปราการ)
นาวิกศาสตร 7 ปที่ ๑๐๕ เลมที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
พอเรมิ่ สอบดาํ ลกึ ครกู เ็ รยี กชอื่ ทลี ะคน ครจู าํ หนา จาํ ชอื่ ไดห มด ไมม กี ารดาํ แทนกนั ได พวกทเี่ ขา ควิ รออยใู นเรอื โบต กห็ าเรอื่ ง “ตอแย” กบั ครผู คู มุ สอบ เพอื่ เบนความสนใจของครจู ากนกั เรยี นทกี่ าํ ลงั จะ “ดาํ ลกึ ” หาเรอื่ งชวนครทู ะเลาะ เขาไว จนครูชักโมโห “ไอนี่พูดมาก เดี๋ยวเอาไขยัดปากซะนี่” พวกเราก็หัวรอชอบใจ ขณะเดียวกัน ไอคนที่สอบดําลึก มันโดดลงนํ้าไปแลว ตองดําลงไปใตนํ้าจริง ๆ จนถึงกนแมนํ้า แลวควาเอาดิน หรือกอนหิน กอนอิฐใตนํ้าขึ้นมาชูใหเห็น แสดงวาดําลึกลงไปตามกติกาแลว เปนอันวาสอบผาน
ทนี ถี้ งึ ตาผมบา ง เหตกุ ารณก ด็ าํ เนนิ ไปอยา งเคย ไอพ วกทเี่ ขา ควิ รออยใู นเรอื โบตกห็ าเรอื่ งชวนครทู ะเลาะเหมอื นเดมิ ผมก็ฉวยโอกาสตอนที่ครูเผลอ โดดลงนํ้าไป พอลึกลงไปหนอย ไมทันถึงกนแมนํ้า ก็ลวงเอากอนหินที่ใสกระเปากางเกง ลวงหนาเอาไว ชูขึ้นใหเห็น ครูไมทันดูวามันลงนํ้าไปตั้งแตเมื่อไหร เลยถือวาสอบผาน โกงครูได รอดตัวไป
นี่จึงเปนสาเหตุวา สอบดําลึกทําไมจึงตองนุงกางเกงกีฬาที่มีกระเปากางเกง
คราวนี้ถึงตาเพื่อนคนหนึ่ง มันก็ใชวิธีการดําลึกแบบเดียวกับผม คือโดดนํ้าลงไป แลวก็ลวงกระเปากางเกง เอากอนหินชูใหเห็น ตานี้ครูสงสัยวา อะไรกัน (วะ) เห็นแวบ แวบ ไว ไววาตูดมันยังไมมิดนํ้า ดันโผลขึ้นมาแลว แสดงวาครูทานจับไดวา มันโกง ก็เกิดการตอลอตอเถียงกันข้ึน เพื่อนมันก็ยืนยันวามันดําลงไปจนถึงกนนํ้าจริง ๆ แลว ควา กอ นหนิ ขนึ้ มาใหด กู อ นหนงึ่ ครทู า นกไ็ มย อมเชอื่ เพราะทา นเหน็ แวบ แวบ วา ตดู มนั ยงั ไมม ดิ นาํ้ ดนั โผลข นึ้ มาแลว ครูทานเลยตองใชทีเด็ด ใหมันสาบาน “สาบานไดมั้ย ใหเธอสอบไลตก” เพื่อนมันเลยตองยอมจํานน บอกทานวา “ผมขออนุญาตดําใหมครับ” เพราะมันกลัวสอบไลตก
นี่จึงเปนที่มาของเรื่อง “ดํายังไมทันมิด ดันโผล” (จาก DIVE เปน SURFACE เลย)
ซึ่งไมใชเรื่องของเรือดํานํ้า
หมายเหตุ เรื่องสอบวิชาพลศึกษา ตอนเปนนักเรียนนายเรืออยูท่ีเกล็ดแกว และปากนํ้า มีเรื่องเลาสูกันฟง
ชนิดโหด มัน ฮา หลายเรื่อง ก็จะเขียนมาเลาสูกันฟง เปนเรื่องเบาหัวสมองไมเครียด ถาบรรณาธิการทานไมรังเกียจ เอกสารประกอบการเขียน ไมมี เพราะยังไมเคยมีใครเขียนเอาไว
ขออภัย กราบขออภัยคุณครูผูคุมสอบที่ ผมโกงครู
ขอบคุณ ขอขอบพระคุณ คุณครูผูคุมสอบ ที่จับไมไดวา ผมโกง
นาวิกศาสตร 8 ปที่ ๑๐๕ เลมที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
๑๐๐ ปีี เครื่่องหมายรื่าชนาวิิกสภา
จาก “ธงรื่าชนาวิี สมอเรื่่อ วิงชูชีพ” ถึึง “เข็็มเครื่่องหมายรื่าชนาวิิกสภา”
บทบาทของราชนาวิิกสภานับแต่่อดีีต่จนถึึงปััจจุบัน
พระบาทสมเด็็จพระมงกุุฎเกุล้้าเจ้าอยู่่หััว รัชกุาล้ท่ ๖ ทรงพระมหัากุรุณาธิิคุุณ โปรด็เกุล้้าฯ พระราชทานนาม “ราชนาวกุิ สภา” เปน็ ชอ่ ของหันว ยู่งานทม่ บ่ ทบาทในกุารสง เสรมิ กุารศึกุึ ษา แล้ะใชเ้ ปน็ สถานทพ่ บปะของนายู่ทหัารเรอ่ เพอ่ แล้กุเปล้ยู่่ นคุวามรซึ่่้ งึ กุนั แล้ะกุนั รวบรวมหันงั สอ่ ซึ่งึ เหัล้า นายู่ทหัารเรอ่ จะได็ใ้ ชอ้ า น ศึกุึ ษา คุน้ คุวา้ แล้ะเปน็ สถานท่ พักุผ่อนสมาคุมนอกุเวล้าราชกุาร ตามท่ นายู่พล้เร่อเอกุ สมเด็็จพระเจ้าน้องยู่าเธิอ เจ้าฟ้้ากุรมหัล้วงนคุรสวรรคุ์วรพินิต เสนาบด็่กุระทรวงทหัารเร่อ กุราบบังคุมท่ล้ขอพระบรมราชานุญาตตังราชนาวิกุสภา แล้ะตอมาเสนาบด็่กุระทรวง ทหัารเรอ่ ทรงล้งคุําาสงั ใหัเ้ รมิ ตงั ราชนาวกุิ สภาตงั แตว นั ท่ ๑ เมษายู่น พ.ศึ. ๒๔๕๙ จวบจนถงึ พ.ศึ. ๒๕๖๕ นบั เปน็ ปที ่ ๑๐๖
ราชนาวิกุสภานับวาเป็นหันวยู่งานท่อยู่่คุ่กุับราชนาว่มาอยู่างยู่าวนานกุวา ๑ ศึตวรรษ โด็ยู่ม่บทบาทตอวิถ่ช่วิต ของข้าราชกุารแล้ะคุรอบคุรัวทหัารเร่อ โด็ยู่ในระยู่ะเริมแรกุ กุิจกุารของราชนาวิกุสภาท่สําาคุัญ ได็้แกุ จัด็ใหั้มหั่ ้องสมุด็ สําาหัรบั เปน็ ทร่ วบรวมหันงั สอ่ เกุยู่่ วกุบั กุารทหัารเรอ่ ทงั ในประเทศึแล้ะตา งประเทศึใหักุ้ บั นายู่ทหัารสญั ญาบตั รได็ศึ้ กุึ ษา คุน้ คุวา้ กุารพมิ พหั์ นงั สอ่ นาวกุิ ศึาสตร์ซึ่งึ รวบรวมองคุคุ์ วามรว้่ ชิ ากุารด็า้ นตา งๆทม่ ผ่่ แ่้ ตง หัรอ่ แปล้ขนึ มาตล้อด็จนเนอ่ หัา จากุกุารบรรยู่ายู่ หัรอ่ กุารปาฐกุถาของนายู่ทหัารสญั ญาบตั รทไ่ ด็ร้ บั เชญิ เปน็ ผ่บ้่ รรยู่ายู่หัรอ่ เปน็ องคุป์ าฐกุ นอกุเหันอ่ จากุ กุิจกุารท่เป็นกุารสงเสริมคุวามร้่แล้้ว ในระยู่ะตอมา ราชนาวิกุสภายู่ังเป็นสถานท่พักุผ่อนสันทนากุารในเวล้าวางจากุ กุารทําางาน สงเสริมกุารเล้นกุ่ฬาชนด็ิ ตาง ๆ กุารขับร้อง เต้นรําา ล้่ล้าศึ งานสังคุม งานมงคุล้สมรส กุารกุุศึล้ฌาปนกุิจ แล้ะเปน็ สถานทจ่ าํา หันา ยู่สนิ คุา้ ตา งๆทงั ในหัมข่ า้ ราชกุารทหัารเรอ่ ตล้อด็จนคุรอบคุรวั มาใชบ้ รกุิ ารนอกุจากุน่ราชนาวกุิ สภา ยู่ังม่บทบาทในระด็ับกุองทัพแล้ะประเทศึชาติ โด็ยู่ได็้รับมอบหัมายู่จากุทางรัฐบาล้ ในกุารต้อนรับแล้ะกุารเล้่ยู่งรับรอง ผ่่้นาํา ตางประเทศึ บุคุคุล้สําาคุัญ กุารเยู่่ยู่ มเยู่่อนของเร่อรบตางประเทศึ กุารจัด็กุิจกุรรมระด็ับประเทศึ เชน งานฉล้อง รัฐธิรรมน่ญ กุารแขงเร่อ กุารแขง ขันกุฬ่ าทางนําา เป็นต้น
เคร่องหมายราชนาวิิกสภา
ราชนาวกุิ สภาได็ผ่้ ล้ติ หันงั สอ่ ทางด็า้ นวชิ ากุารทหัารเรอ่ ชอ่ วา “นาวกุิ ศึาสตร”์ ฉบบั ปฐมฤกุกุษ์ออกุวางจาํา หันา ยู่ในวนั ท่ ๑ มกุราคุม พ.ศึ. ๒๔๖๐ ซึ่งึ เปน็ วนั มหัามงคุล้สมยู่ั ตรงกุบั วนั พระราชสมภพของพระบาทสมเด็จ็ พระมงกุฎุ เกุล้า้ เจา้ อยู่หั่ วั โด็ยู่นาวิกุศึาสตร์เล้มแรกุน่ จัด็พิมพ์ขึนภายู่หัล้ังตังราชนาวิกุสภามาแล้้ว ๑ ปี ๙ เด็่อน แล้ะภายู่หัล้ังกุารประกุาศึใช้ พระราชบัญญตั ิธิงพ.ศึ.๒๔๖๐ล้งวันท่๒๘กุันยู่ายู่นพ.ศึ.๒๔๖๐มาแล้ว้ ๓เด็อ่ น(วันท่๑เมษายู่นเป็นวันขึน ปีใหัม) ภาพปกุหันังสอ่ นาวิกุศึาสตร์เล้มแรกุ หัร่อเล้มท่ ๑ มกุราคุม ปีท่ ๑ พ.ศึ. ๒๔๖๐ เป็นร่ปธิงราชนาว่ประด็ับท่เสาธิงคุล้่ โบกุสะบัด็พล้ิว พ่นหัล้ังเป็นท้องฟ้้าส่ขาวบรรจบกุับผ่ิวนําาทะเล้ ด็่ราวกุับวาธิงนันชักุขึนอยู่่ท่ท้ายู่เร่อรบของราชนาว่ โด็ยู่ม่ช่อหันังส่อ “นาวิกุศึาสตร์” เป็นอักุษรประด็ิษฐ์วางล้าด็ทอด็ไปตามแนวด็้านยู่าวของธิง จากุยู่อด็ธิงส่ปล้ายู่ธิง เฉ่ยู่งล้งจากุซึ่้ายู่ไปขวา สวนเล้มท่ ๒ กุุมภาพันธิ์ พ.ศึ. ๒๔๖๐ แล้ะเล้มท่ ๓ มน่ าคุม พ.ศึ. ๒๔๖๐ เป็นร่ปธิงราชนาว่ แล้ะอกุั ษรประด็ษิ ฐเ์ ชน เด็ยู่่ วกุบั เล้ม ปฐมฤกุษ์ แตพ น่ หัล้งั ของภาพเปน็ ทอ้ งฟ้า้ ยู่ามรงุ อรณุ อาทติ ยู่อ์ ทุ ยู่ั เรมิ สอ งแสงเหันอ่ ขอบฟ้้าแล้ะทะเล้ ม่เส้นแสงรังส่เหัล้่องทองของด็วงอาทิตยู่์ท่กุําาล้ังโผ่ล้พ้นนําาคุรึงด็วง เป็นรัศึม่กุระจายู่ฉายู่แผ่รอบ ด็วงอาทิตยู่์เป็นพน่ หัล้ัง
นาวิกศาสตร์ 9 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
นาวิิกศาสตร์์ ปีีที่่ ๑ เล่่ม ๑ มกร์าคม พ.ศ. ๒๔๖๐ นาวิิกศาสตร์์ ปีีที่่ ๑ เล่่ม ๓ มน่ าคม พ.ศ. ๒๔๖๐
ภาพปกุหันงั สอ่ นาวกุิ ศึาสตรป์ ที ่ ๒ เล้ม ๑ มกุราคุม พ.ศึ. ๒๔๖๒ เปน็ รป่ ธิงราชนาวส่ อด็อยู่ใ่ นวงชช่ พ่ สข่ าว บนวงชช่ พ่ ด็ า้ น ล้ า ง ม คุ่ ํา า “ น า ว กุิ ศึ า ส ต ร ”์ ว ง กุ ล้ ม ด็ า้ น ใ น ว ง ช ช่ พ่ เ ป น็ ภ า พ ว า ด็ หั ม เ ่ ร อ่ ร บ แ ล้ น ใ น ท ะ เ ล้ ซึ่ งึ ใ ช เ้ ป น็ ภ า พ ป กุ จ น ถ งึ พ . ศึ . ๒ ๔ ๗ ๔
นาวิิกศาสตร์์ ปีีที่่ ๒ เล่่ม ๑ มกร์าคม พ.ศ. ๒๔๖๒
ในภาพปกุนาวิกุศึาสตร์ท่เหั็นนัน ธิงราชนาว่ส่อคุวามหัมายู่ถึงประเทศึชาติท่ม่เอกุราชแล้ะอธิิปไตยู่ วงช่ช่พ สอ่ คุวามหัมายู่ถงึ กุารมช่ ว่ ติ กุารชว ยู่ใหัม้ ช่ ว่ ติ รอด็จากุกุารจมนําา แล้ะสมอเรอ่ จําานวน ๒ ตวั ทช่ าวเรอ่ ยู่ด็ึ ถอ่ ตามคุตสิ อนใจ ของ Publilius Syrus (นักุเข่ยู่นภาษาล้ะตินชาวซึ่่เร่ยู่) ท่วา “It is always well to moor your ship with two anchors.”แล้ะยู่งั สอ่ คุวามหัมายู่ถงึ คุวามมนั คุงด็งั ท่พล้เรอ่ ตร่กุรฑ่ าพรรธินะแพทยู่์ผ่อ่้ อกุแบบปกุหันา้ ของนาวกุิ ศึาสตร์ ปีท่ ๔๔ เล้ม ๑๑ พฤศึจกุิ ายู่น พ.ศึ. ๒๕๐๔ เป็นร่ปสมอเร่อ โด็ยู่ตงั ช่อภาพปกุน่วา “สัญล้ักุษณ์แหังคุวามมันคุง” สมอ เร่อเป็นสิงท่ต้องม่อยู่่คุ่กุับเร่อด็ังคุวามหัมายู่ในบทประพันธิ์ของนาวาโทโปรง ช่นใจ(ป.ช.-นามปากุกุา)
นาวิกศาสตร์ 10 ปีท่ี ๑๐๕ เล่มท่ี ๙ กันยายน ๒๕๖๕
นาวิิกศาสตร์์ ปีีที่่ ๔๔ เล่่ม ๑๑ พฤศจิิกายน พ.ศ. ๒๕๐๔
“สมอนนั สัญล้ักุษณ์อันศึกุั ด็ิสิทธิิ คุอยู่เต่อนจิตใหั้ตระหันกุั ถึงศึักุด็ิศึร่ วาเราคุ่อพงศึ์เผ่าเหัล้านาว่ จะต้องม่คุุณธิรรมประจําาใจ โด็ยู่ยู่ึด็มนั ขันติตริแตช อบ ทังรอบคุอบกุารกุิจวินิจฉัยู่ ม่สติหันักุแนนเป็นแกุนใน ถึงม่ภัยู่กุ็จะรอด็ตล้อด็กุาล้ แม้นขาด็หัล้ักุศึักุด็ิศึร่นาว่ธิรรม อันตรายู่จะกุายู่กุําาเข้าหัําาหัาญ เหัม่อนนาวาไร้สมอทรมาน คุล้่นล้มผ่านพายู่ับอับปางเอยู่”
ป.ช.ประพันธิ์
ธิงราชนาว่ สมอเร่อ แล้ะวงช่ช่พ ถ่กุนําามาประกุอบใช้เป็นภาพปกุหัน้า ของหันังส่อนาวิกุศึาสตร์ตังแต พ.ศึ.๒๔๖๐-๒๔๗๔เป็นเวล้านานถึง๑๔ปีตอ มาในพ.ศึ.๒๔๘๒มพ่ ระราชบัญญตั ิเคุร่องหัมายู่ราชกุารพ.ศึ.๒๔๘๒ บังคุับใช้เม่อวันท่ ๓๐ ตลุ้ าคุม พ.ศึ. ๒๔๘๒ แล้ะม่ประกุาศึสําานกุั นายู่กุรัฐมนตร่ เร่อง กุาํา หันด็ภาพเคุร่องหัมายู่ราชกุาร ตามพระราชบัญญัติเคุร่องหัมายู่ราชกุาร พ.ศึ. ๒๔๘๒ ล้งวันท่ ๑๐ กุุมภาพันธิ์ พ.ศึ. ๒๔๘๒ กุาํา หันด็ภาพเคุร่องหัมายู่ ราชกุารของกุองทัพเร่อ กุรมอุทกุศึาสตร์ กุรมสรรพาวุธิทหัารเร่อ แล้ะราชนาวิกุสภา โด็ยู่ภาพเคุร่องหัมายู่ราชกุารของ ราชนาวิกุสภา เป็นร่ปสมอสอด็วงช่ช่พ ในวงช่ช่พม่คุําาวา “พ.ศึ. ๒๔๕๙” แล้ะม่ธิงราชนาว่ปักุอยู่่ในระหัวางกุ้านของ สมอกุับวงช่ชพ่ ไมจําากุัด็ส่แล้ะขนาด็
เคร์่องหมายของร์าชนาวิิกสภา ตามปีร์ะกาศ สําานักนายกร์ัฐมนตร์่ ล่งวิันที่่ ๑๐ กุมภาพันธ์์ พ.ศ. ๒๔๘๒ เร์่อง กําาหนดภาพเคร์่องหมายร์าชการ์ ตามพร์ะร์าชบััญญัติเคร์่องหมายร์าชการ์ พ.ศ. ๒๔๘๒ ล่งวิันที่่ ๒๔ ตลุ่ าคม พ.ศ. ๒๔๘๒
ภาพเคร์่องหมายร์าชนาวิิกสภา ปีร์ากฏบันปีกหนังส่อนาวิิกศาสตร์์คร์ังแร์ก ปีีที่่ ๑๕ เล่่ม ๗ กร์กฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๕
นาวิกศาสตร์ 11 ปีท่ี ๑๐๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
แตอยู่างไรกุ็ตาม กุอนม่ประกุาศึสําานักุนายู่กุรัฐมนตร่กุําาหันด็ภาพเคุร่องหัมายู่ราชกุารของราชนาวิกุสภานัน ราชนาวกุิ สภาใชภ้ าพเคุรอ่ งหัมายู่ราชนาวกุิ สภาในเอกุสารตา งๆของราชนาวกุิ สภาเชน บตั รเชญิ ใบเสรจ็ รบั เงนิ หัวั กุระด็าษ หันังส่อราชกุาร เป็นต้น ซึ่ึงจากุเอกุสารอ้างอิงของกุองประวัติศึาสตร์ กุรมยูุ่ทธิศึึกุษาทหัารเร่อ พบวาราชนาวิกุสภา ใชภ้ าพเคุรอ่ งหัมายู่ราชนาวกุิ สภาเปน็ หัวั กุระด็าษหันงั สอ่ ราชกุารทใ่ ชต้ ด็ิ ตอ ราชกุารมาตงั แต พ.ศึ. ๒๔๖๕ ด็งั นนั อาจจะ กุล้าวได็้วาเคุร่องหัมายู่ราชนาวิกุสภาตามประกุาศึสําานักุนายู่กุรัฐมนตร่ ล้งวันท่ ๑๐ กุุมภาพันธิ์ พ.ศึ.๒๔๘๒ เร่อง กุําาหันด็ภาพเคุรอ่ งหัมายู่ราชกุารตามพระราชบญั ญตั เิคุรอ่ งหัมายู่ราชกุารพ.ศึ.๒๔๘๒แล้ะทป่ รากุฏบนเขม็ เคุรอ่ งหัมายู่ ราชนาวิกุสภานัน มีอายุครบรอบ ๑๐๐ ปัี ใน พ.ศ. ๒๕๖๕ น่
ในสว นของหนงั สอ่ นาวิกิ ศาสต่รน์ นั พมิ พภ์ าพเครอ่ งหมายราชนาวิกิ สภาเผยแพรค่ รงั แรกในหนงั สอ่ นาวิกิ ศาสต่ร์ ปัีที๑๕เล่่ม๗กรกฎาคมพ.ศ.๒๔๗๕ท่มุมบนซึ่้ายู่ของปกุหัน้าหันังสอ่ แล้ะพิมพ์ท่สวนอ่นๆในหันังส่อนาวกุิ ศึาสตร์ ปที ่ ๑๖ เล้ม ๑ มกุราคุม พ.ศึ. ๒๔๗๖ ด็งั เชน ทป่ รากุฏในหันา้ ระเบยู่่ บกุารของหันงั สอ่ นาวกุิ ศึาสตร์ แล้ะในหันา้ รายู่นาม คุณะกุรรมกุารอําานวยู่กุารราชนาวิกุสภา
ภาพเคร์่องหมายร์าชนาวิิกสภาพิมพ์ในหน้าร์ะเบัย่ บัการ์ของหนังส่อนาวิิกศาสตร์์แล่ะในหน้าร์ายนามคณะกร์ร์มการ์อาํา นวิยการ์ ร์าชนาวิิกสภาของหนังสอ่ นาวิิกศาสตร์์ ปีีที่่ ๑๖ เล่่ม ๑ มกร์าคม พ.ศ. ๒๔๗๖
ภาพเคร์่องหมายร์าชนาวิิกสภาบันบััตร์เชิญชมการ์แข่งขันฟุุตบัอล่ชิงถ้วิ้ ยของร์าชนาวิิกสภา เม่อ พ.ศ. ๒๔๗๘ (เอกสาร์กองปีร์ะวิัติศาสตร์์ กร์มยุที่ธ์ศึกษาที่หาร์เร์่อ ร์หัส ๑.๘/๓๑ เร์่อง บััตร์เชิญชมการ์แข่งขันฟุุตบัอล่ชิงถ้วิ้ ยของร์าชนาวิิกสภา)
นาวิกศาสตร์ 12 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
เคร์่องหมายร์าชนาวิิกสภา บันหัวิกร์ะดาษหนังสอ่ ร์าชการ์ของร์าชนาวิิกสภา เม่อ พ.ศ. ๒๔๖๕ (เอกสาร์กองปีร์ะวิัติศาสตร์์ กร์มยุที่ธ์ศึกษาที่หาร์เร์่อ เล่ขที่่ สบั.ที่ร์. ๑.๒/๗
เร์่อง ตงั แผนกฌาปีนกิจิขนึ ที่่ร์าชนาวิิกสภา)
ภาพเคร์่องหมายร์าชนาวิิกสภา
บัน “ไบัสําาคันขายของเงินสด” หร์่อใบัเสร์็จิร์ับัเงินของร์าชนาวิิกสภา
เม่อ พ.ศ. ๒๔๘.... (เอกสาร์กองปีร์ะวิัติศาสตร์์ กร์มยุที่ธ์ศึกษาที่หาร์เร์่อ เล่ขที่่ สบั.ที่ร์. ๘/๔๘๙
เร์่อง ร์าชนาวิิกสภาเสนอขายสิงของต่าง ๆ)
เคร์่องหมายร์าชนาวิิกสภาบันหวิั กร์ะดาษหนังสอ่ ร์าชการ์ของร์าชนาวิิกสภา เม่อ พ.ศ. ๒๔๖๖ (เอกสาร์กองปีร์ะวิัติศาสตร์์ กร์มยุที่ธ์ศึกษาที่หาร์เร์่อ เล่ขที่่ สบั.ที่ร์. ๙.๑๑/๘ เร์่อง มอบัเงินร์ายได้ในการ์บัําาเพ็ญกุศล่
นายพล่เร์่อเอกพร์ะเจิ้าพ่ยาเธ์อกร์มหล่วิงชุมพร์ฯแก่กองการ์กุศล่ฌาปีนกจิิ ร์าชนาวิิกสภา)
นาวิกศาสตร์ 13 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
ภาพเคร์่องหมายร์าชนาวิิกสภาบันหวิั กร์ะดาษหนังสอ่ ร์าชการ์ของร์าชนาวิิกสภา เม่อ พ.ศ. ๒๔๗๐ (เอกสาร์กองปีร์ะวิัติศาสตร์์ กร์มยุที่ธ์ศึกษาที่หาร์เร์่อ เล่ขที่่ สบั.ที่ร์. ๙/๒๔ เร์่อง สําาร์วิจิเงินที่่ร์าชนาวิิกสภา)
หัวั กุระด็าษหันงั สอ่ ราชกุารของราชนาวกุิ สภาทเ่ รมิ ใชเ้ มอ่ พ.ศึ. ๒๔๖๕ มภ่ าพเคุรอ่ งหัมายู่ราชนาวกุิ สภาอยู่ท่ ม่ มุ บน ด็้านซึ่้ายู่ โด็ยู่ม่เส้นสายู่ล้ายู่เช่อกุผ่่กุธิงราชนาว่ทอด็ยู่าวตามแนวนอนไปทางขวาม่อ ปล้ายู่เช่อกุสินสุด็ตรงจุด็สุด็ท้ายู่ ใตข้ อ้ คุวาม“ราชนาวกุิ สภาแหัง ราชนาวส่ ยู่าม”ซึ่งึ เปน็ อกุั ษรประด็ษิ ฐท์ ส่ วยู่งามราชนาวกุิ สภาใชร้ ป่ แบบของหัวั กุระด็าษน่ เป็นระยู่ะเวล้าตังแต พ.ศึ. ๒๔๖๕ ถึง พ.ศึ. ๒๔๘๒ เม่อทางราชกุารประกุาศึเปล้่ยู่นนามเร่ยู่กุช่อประเทศึจากุ “สยู่าม” เป็น “ไทยู่” จึงได็้ยู่กุเล้ิกุกุารใช้หััวกุระด็าษแบบเด็ิม แล้ะเปล้่ยู่นเป็นแบบใหัม โด็ยู่ม่ภาพเคุร่องหัมายู่ราชนาวิกุสภา เพ่ยู่งอยู่างเด็่ยู่วอยู่่ตรงกุล้างหััวกุระด็าษมาจนถึงปัจจุบันน่
ภาพเคร์่องหมายร์าชนาวิิกสภาบันหวิั กร์ะดาษหนังสอ่ ร์าชการ์ของร์าชนาวิิกสภาภายหล่ังการ์เปีล่่ยนนามเร์่ยกช่อปีร์ะเที่ศจิาก “สยาม” เปี็น “ไที่ย” (เอกสาร์กองปีร์ะวิัติศาสตร์์ กร์มยุที่ธ์ศึกษาที่หาร์เร์่อ เล่ขที่่ สบั.ที่ร์. ๑.๒/๕๕ เร์่อง ขออนุมัติเล่ิกหมวิดยุที่ธ์ก่ฬาแล่ะแก้ไข ข้อบัังคับัที่หาร์เร์่อซึ่ึงเก่ยวิกับักิจิการ์ของหมวิดนันต่อไปี)
เข็มเคร่องหมายราชนาวิิกสภา
กุารด็ําาเนินงานของราชนาวิกุสภาม่คุวามเจริญเติบโตกุ้าวหัน้า เป็นหัล้ักุฐานมันคุงมาได็้จนถึงปัจจุบันน่ กุ็เพราะ กุารสนบั สนนุ ของสมาชกุิ ราชนาวกุิ สภา ซึ่งึ เปน็ นายู่ทหัารเรอ่ ชนั สญั ญาบตั ร รวมทงั บคุุ คุล้ภายู่นอกุทวั ไปทส่ นใจ หันว ยู่งาน ราชกุารอน่ แล้ะเอกุชน นายู่ทหัารชนั ผ่ใ่้ หัญท งั ในแล้ะนอกุประจําากุาร ทต่ ด็ิ ตามอานบทคุวามขอ้ เขยู่่ นตา ง ๆ ในหันงั สอ่ นาวกุิ ศึาสตร์ ได็ใ้ หัข้ อ้ คุด็ิ เหัน็ ขอ้ เสนอแนะทเ่ ปน็ ประโยู่ชน์ ตล้อด็จนสง เรอ่ งมาใหัพ้ จิ ารณาล้งพมิ พอ์ ยู่า งสมาํา เสมอ ตล้อด็จน ใหั้กุารสนับสนุนแล้ะสงเสริมกุารด็ําาเนินงานในร่ปแบบของกุารบริจาคุเงินหัร่อสิงของไว้ใช้ในราชกุาร ราชนาวิกุสภา จึงได็้มอบของท่ระล้ึกุเพ่อตอบแทนผ่้่ทําาคุุณประโยู่ชน์ใหั้แกุราชนาวิกุสภา เป็นเข็มเคุร่องหัมายู่ราชนาวิกุสภาพร้อม ประกุาศึน่ยู่บัตร แล้ะโล้เคุร่องหัมายู่ราชนาวิกุสภา
นาวิกศาสตร์ 14 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
เข็มเคุร่องหัมายู่ราชนาวิกุสภาเป็นเข็มเคุร่องหัมายู่ของกุองทัพเร่อท่สร้างขึนตามคุําาสังกุระทรวงกุล้าโหัม ท่ ๑๗๔/๒๕๒๙ ล้งวันท่ ๑๘ กุุมภาพันธิ์ พ.ศึ. ๒๕๒๙ เร่อง เข็มเคุร่องหัมายู่ราชนาวิกุสภา ล้ักุษณะของเข็มเป็น รป่ อารม์ ทําาด็ว้ ยู่โล้หัะสท่ อง ขนาด็กุวา้ ง ๓ เซึ่นตเิ มตร ยู่าว ๓ เซึ่นตเิ มตร หันาประมาณ ๐.๑ เซึ่นตเิ มตร พน่ ล้งยู่าสน่ ําาเงนิ ภายู่ในอาร์มบรรจุร่ปสมอส่ทองสอด็วงช่ช่พส่แด็ง ภายู่ในวงช่ช่พม่คุําาวา “พ.ศึ. ๒๔๙๕” ส่ทอง แล้ะม่ธิงราชนาว่ ปักุอยู่่ระหัวา งกุ้านสมอกุับวงช่ช่พ ด็้านล้างมแ่ ถบส่ทองสะบัด็ขึนทังสองข้างกุล้างแถบม่คุําาวา “ราชนาวกุิ สภา” ส่ด็าํา
เข็มเคร์่องหมายร์าชนาวิิกสภา โล่่คร์่องหมายร์าชนาวิิกสภา
ทุกุ ๆ ปี ราชนาวิกุสภาจะพิจารณาเสนอกุองทัพเร่อ ขอคุวามเหั็นชอบมอบเข็มเคุร่องหัมายู่ราชนาวกุิ สภารวมทัง มอบโล้เ คุรอ่ งหัมายู่ราชนาวกุิ สภา ใหัผ่้ ท้่ ําาคุณุ ประโยู่ชนใ์ หัแ้ กุร าชนาวกุิ สภา โด็ยู่กุองทพั เรอ่ ได็ม้ อบเขม็ แล้ะโล้เ คุรอ่ งหัมายู่ ราชนาวิกุสภา มาตังแต พ.ศึ.๒๕๒๙ เป็นต้นมา จนถึง พ.ศึ.๒๕๖๓ รวม ๓๗ คุรงั (พ.ศึ.๒๕๓๐ แล้ะ พ.ศึ.๒๕๓๓ มอบปีล้ะ ๒ คุรงั ) ม่ผ่ไ่้ ด็้รับมอบเข็มเคุร่องหัมายู่ราชนาวิกุสภาไปแล้้ว ๓,๓๑๕ รายู่ แล้ะโล้เคุร่องหัมายู่ราชนาวกุิ สภา ๔๓๐ รายู่ ซึ่ึงได็้เว้นไปเม่อ พ.ศึ.๒๕๖๔ เน่องจากุประเทศึประสบกุับปัญหัากุารระบาด็ของโรคุติด็เช่อไวรัสโคุโรนา (COVID-19) อยู่างรุนแรง ด็ังนนั จึงงด็กุารจด็ั พิธิ่มอบเข็มแล้ะโล้เคุร่องหัมายู่ราชนาวกุิ สภาประจําาปี ๒๕๖๔ ตอ มาใน พ.ศึ. ๒๕๖๕ เม่อสถานกุารณ์ของโรคุระบาด็ม่แนวโน้มท่ด็่ขึนแล้้ว กุองทัพเร่อจึงได็้จัด็พิธิ่มอบเข็มแล้ะโล้เคุร่องหัมายู่ ราชนาวิกุสภาประจาํา ปีงบประมาณ ๒๕๖๔ แล้ะ ๒๕๖๕ ในคุราวเด็่ยู่วกุัน เม่อวันอังคุารท่ ๒๐ กุันยู่ายู่น พ.ศึ. ๒๕๖๕ โด็ยู่ม่ พล้เร่อเอกุ สมประสงคุ์ นิล้สมัยู่ ผ่่้บัญชากุารทหัารเร่อ กุรุณาใหั้เกุ่ยู่รติเป็นประธิานในพิธิ่ด็ังกุล้าว
พล่เร์่อเอก สมปีร์ะสงค์ นิล่สมัย ผ้้บััญชาการ์ที่หาร์เร์่อ เปี็นปีร์ะธ์านในพิธ์่มอบัเข็มแล่ะโล่่เคร์่องหมายร์าชนาวิิกสภาใหก้ ับั ผ้้ที่ําาคุณปีร์ะโยชน์แกร์่ าชนาวิิกสภา ปีร์ะจิาํา ปีี ๒๕๖๔ แล่ะ ๒๕๖๕ ณ ห้องวิุฒิิไชยเฉล่ิมล่าภ ชนั ๒ อาคาร์ร์าชนาวิิกสภา เม่อวิันอังคาร์ที่่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๕
นาวิกศาสตร์ 15 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
กุ า ร พ จิ า ร ณ า ม อ บ เ ข ม็ หั ร อ่ โ ล้ เ คุ ร อ ่ ง หั ม า ยู่ ร า ช น า ว กุิ ส ภ า ใ หั กุ้ บั บ คุุ คุ ล้ ต า ง ๆ น น ั ม หั่ ล้ กุั เ กุ ณ ฑ กุ์ าํา หั น ด็ ไ ว ใ้ น ร ะ เ บ ยู่่ บ กุ อ ง ท พั เ ร อ่ วา ด็ว้ ยู่ผ่ม้่ ส่ ทิ ธิไิ ด็ร้ บั เขม็ เคุรอ่ งหัมายู่ราชนาวกุิ สภา พ.ศึ. ๒๕๒๙ ได็แ้ กุ ผ่ท่้ ยู่่ งั ไมเคุยู่ได็ร้ บั เขม็ เคุรอ่ งหัมายู่ราชนาวกุิ สภา มากุอ นแล้ะเป็นผ่่้ทท่ ําาคุุณประโยู่ชน์ใหั้แกุราชนาวิกุสภาโด็ยู่เป็นคุณะกุรรมกุารราชนาวิกุสภาท่ปรึกุษาราชนาวกุิ สภา เจา้ หันา้ ทกุ่ องบรรณาธิกุิ ารนาวกุิ ศึาสตรท์ กุ่ องทพั เรอ่ แตง ตงั หัรอ่ บรจิ าคุเงนิ สงิ ของ หัรอ่ ทาํา คุณุ ประโยู่ชนใ์ หัแ้ กุร าชนาวกุิ สภา ตามทกุ่ องทพั เรอ่ เหัน็ สมคุวร ตล้อด็จนกุารมอบใหัเ้ ปน็ กุติ ตมิ ศึกุั ด็แิ กุบ คุุ คุล้ใด็เพอ่ เปน็ เกุยู่่ รติ รวมทงั เปน็ ไปตามระเบยู่่ บ ราชนาวิกุสภา วา ด็้วยู่หัล้ักุเกุณฑกุ์ ารตอบแทนผ่่้ทําาคุุณประโยู่ชน์ใหั้แกุราชนาวกุิ สภา พ.ศึ. ๒๕๒๙ แล้ะ พ.ศึ. ๒๕๕๓ ซึ่ึงกุําาหันด็ใหั้ม่ของท่ระล้ึกุแล้ะหัล้ักุเกุณฑ์กุารพิจารณามอบใหั้แกุผ่่้ทําาคุุณประโยู่ชน์ใหั้แกุราชนาวิกุสภา โด็ยู่ คุณะกุรรมกุารราชนาวกุิ สภา ทป่ รกุึ ษาราชนาวกุิ สภา เจา้ หันา้ ทกุ่ องบรรณาธิกุิ ารนาวกุิ ศึาสตร์ จะได็ร้ บั เขม็ เคุรอ่ งหัมายู่ ราชนาวกุิ สภาพรอ้ มประกุาศึนยู่่ บตั รเมอ่ ด็ําารงตําาแหันง แล้ะได็ร้ บั โล้เ คุรอ่ งหัมายู่ราชนาวกุิ สภาเมอ่ พน้ ตําาแหันง สําาหัรบั ผ่่้บริจาคุเงินสิงของม่ล้คุาตังแต๕๐,๐๐๐บาทขึนไปได็้รับเข็มเคุร่องหัมายู่ราชนาวกุิ สภาพร้อมประกุาศึน่ยู่บัตรแล้ะ ม่ล้คุาตังแต ๑๐๐,๐๐๐ บาทขึนไป ได็้รับเข็มเคุร่องหัมายู่ราชนาวิกุสภาพร้อมประกุาศึน่ยู่บัตร แล้ะโล้เคุร่องหัมายู่ ราชนาวิกุสภาด็้วยู่
นอกุจากุหัล้กุั เกุณฑฯ์ ด็งั กุล้า วแล้ว้ ยู่งั ได็พ้ จิ ารณามอบเขม็ เคุรอ่ งหัมายู่ราชนาวกุิ สภาใหักุ้ บั ผ่ท้่ เ่ ขยู่่ นบทคุวามล้งพมิ พ์ ในหันังส่อนาวิกุศึาสตร์ตังแต ๓ เร่องขึนไป คุณะกุรรมกุารคุัด็เล้่อกุผ่่้ท่สมคุวรได็ร้ ับรางวัล้ “พล้เร่อเอกุ กุว่ สิงหัะ” ประจําาแตล้ะปี เจ้าหัน้าท่ของราชนาวิกุสภาท่ปฏิบัติงานตด็ิ ตอ กุันตงั แต ๓ ปี เจ้าหัน้าท่ของหันว ยู่อ่น ๆ ท่สนับสนุน ชวยู่เหัล้่อกุารด็ําาเนินงานของราชนาวิกุสภาติด็ตอกุันตังแต ๓ ปี ด็้วยู่ ตล้อด็จนกุารพิจารณามอบใหั้เป็นกุิตติมศึักุด็ิ เพ่อเป็นเกุ่ยู่รติแกุนายู่ทหัารชันนายู่พล้เร่อแล้ะภริยู่าด็้วยู่
เข็มเคุร่องหัมายู่ราชนาวิกุสภา แม้วาจะไมได็้เป็นเคุร่องหัมายู่แสด็งคุวามสามารถพิเศึษ หัร่อเป็นเคุร่องหัมายู่ แสด็งวิทยู่ฐานะใด็ๆกุ็ตามแตเป็นเคุร่องหัมายู่เชิด็ช่เกุ่ยู่รติท่กุองทัพเร่อมอบใหั้เป็นท่ระล้กุึ เพ่อแสด็งถึงกุารเป็นผ่่้ใหั้ กุารสนบั สนนุ แล้ะทําาคุณุ ประโยู่ชนใ์ หัแ้ กุร าชนาวกุิ สภาแล้ะกุองทพั เรอ่ อกุ่ ทงั ยู่งั เปน็ เคุรอ่ งหัมายู่ทม่ ป่ ระวตั คุิ วามเปน็ มา ตงั แตช ว งระยู่ะตน้ ๆ ในกุารด็ําาเนนิ งานของราชนาวกุิ สภา เปน็ เคุรอ่ งหัมายู่ทบ่ รรพบรุ ษุ ของทหัารเรอ่ สรา้ งขนึ แล้ะเผ่ยู่แพร สส่ าธิารณะจนเปน็ ทยู่่ อมรบั แล้ะชน่ ชมของผ่คุ่้ นทงั หัล้ายู่ในสงั คุมโด็ยู่ทวั ไป กุารประด็บั เขม็ เคุรอ่ งหัมายู่ราชนาวกุิ สภา กุับเคุร่องแบบในเวล้าราชกุาร หัรอ่ เคุร่องแตงกุายู่ชุด็สุภาพในเวล้ารวมงานสังคุม ปีร์ะดับัที่่ปีกกร์ะเปี๋าเส่อด้านซึ่้ายชิด กับัขอบักร์ะเปี๋าด้านใกล่้กับักร์ะดุมกล่างล่ําาตัวิเส่อ แต่ถ้้าม่เข็มหร์่อเคร์่องหมายพิเศษชนิดอ่นปีร์ะดับัที่่ปีกกร์ะเปี๋าเส่อ ด้านซึ่้ายอย้่แล่้วิ ให้ปีร์ะดับัเข็มเคร์่องหมายร์าชนาวิิกสภาถ้ัดไปีที่างซึ่้ายของเข็มหร์่อเคร์่องหมายพิเศษนัน ๆ ถ้้าเปี็น เส่อเคร์่องแบับัที่่ไม่ม่ปีกกร์ะเปี๋าบัน ให้ปีร์ะดับัเข็มเคร์่องหมายน่บัร์ิเวิณอกเส่อเบั่องซึ่้ายในแนวิเดย่ วิกับักร์ะเปี๋าบัน
ผ่ เ้ ่ ข ยู่่ น หั ว งั เ ป น็ อ ยู่ า ง ยู่ ง ิ ว า ท า น ผ่ อ้ ่ า น ท เ ่ คุ า ร พ ท กุุ ท า น จ ะ ไ ด็ ท้ ร า บ เ ร อ ่ ง ร า ว ข อ ง ร า ช น า ว กุิ ส ภ า คุ ว า ม เ ป น็ ม า ข อ ง เ คุ ร อ ่ ง หั ม า ยู่ ราชนาวกุิ สภาในรอบ ๑๐๐ ปี แล้ะเข็มเคุร่องหัมายู่ราชนาวิกุสภา แล้ะเม่อได็้ประด็ับเข็มเคุร่องหัมายู่ราชนาวิกุสภา ท่ม่ร่ปแบบเร่ยู่บงายู่ สวยู่งาม ม่ส่สันสะด็ุด็ตาแกุผ่้่พบเหั็น กุ็จะได็้ทราบแล้ะถายู่ทอด็เร่องราวคุวามเป็นมาแตคุรงั อด็่ต ตล้อด็จนเกุด็ิ คุวามซึ่าบซึ่งึ ใจ แล้ะภาคุภม่ ใิ จตอ บรรพบรุ ษุ ทหัารเรอ่ ทส่ รา้ งสงิ ตา ง ๆ ทม่ คุ่ ณุ คุา ขนึ มา แล้ะมอบใหักุ้ บั พวกุเรา เหัล้าทหัารเร่อรุนหัล้ังได็้ชวยู่กุันด็่แล้รักุษาใหั้อยู่คุ่ ่กุับกุองทัพเร่อตล้อด็ไป
นาวิกศาสตร์ 16 ปีท่ี ๑๐๕ เล่มท่ี ๙ กันยายน ๒๕๖๕
ดาวเทยี มมดี ว้ ยกนั หลากหลายแบบ หากแบง่ ชนดิ ตามระดบั ความสงู วงโคจร สามารถแบง่ เปน็ ดาวเทยี มวงโคจรตา่ (Low Earth Orbit : LEO) ดาวเทียมวงโคจรระดับกลาง (Medium Earth Orbit : MEO) และดาวเทียมวงโคจรค้างฟ้า (Geostationary Earth Orbit : GEO) หรอื เราอาจสามารถแบง่ ชนดิ ตามลกั ษณะการใชง้ าน ไดแ้ ก่ การสา รวจโลก (Earth Observation) การสอื่ สารโทรคมนาคม อตุ นุ ยิ ม การนา ทางบอกเวลา การสอดแนม และการวจิ ยั พฒั นากจิ การอวกาศ ดาวเทียมท่ีเราใช้งานเป็นประจาเกือบทุกวันก็คือ Global Positioning System : GPS น้ัน เป็นดาวเทียมแบบ MEO สาหรับดาวเทียมแบบ GEO ส่วนใหญ่จะใช้ในการส่ือสารโทรคมนาคม ซ่ึงแต่ละประเทศก็จะปล่อยดาวเทียม GEO เป็นของตนเอง สาหรับประเทศไทยนั้นก็มีดาวเทียมไทยคม ทั้งน้ี ดาวเทียมแบบ MEO และ GEO มักจะเป็นของ หน่วยงานรัฐหรือเอกชน รับสัมปทานการดาเนินการจากหน่วยงานของรัฐ ในบทความนี้จะครอบคลุมเน้ือหาเฉพาะ ดาวเทียมวงโคจรต่าหรือ LEO โดยดาวเทียมแบบ LEO มีผู้ให้บริการในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นภาคเอกชน มีการพัฒนา อย่างก้าวกระโดดในเชิงพาณิชย์ โดยมีจานวนแซงหน้าดาวเทียมของรัฐไปไกลแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าแม้กระทั่งนักเรียน มัธยมปลาย และนักศึกษามหาวิทยาลัยท้ังในไทยและต่างประเทศสามารถสร้างดาวเทียมข้ึนสู่วงโคจรกันได้แล้ว เอกชนท่ีมีศักยภาพสามารถระดมทุนจาก Venture Capital (VC) ในซิลิคอนวัลเลย์ เพ่ือลงทุนพัฒนาดาวเทียม แบบ LEO ในเชิงพาณิชย์ บริษัท Startup ที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก ๒ ราย ได้แก่ บริษัท Planet จา กัด สหรัฐอเมริกา และบริษัท ICEYE ฟินแลนด์ จัดเป็นผู้นานวัตกรรมดาวเทียมพลิกโลก เช่ือว่าอีกไม่นานจะมีการแข่งขันจากบริษัท รายใหม่ตามมาอย่างใกล้ชิดแน่นอน อาทิ Capella และ Umbra สหรัฐอเมริกา
ภาพรวมดาวเทียมของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก
ดาวเทยี มกวา่ ๑,๗๐๐ ดวง โคจรอยบู่ นอวกาศ ดาวเทยี มแบบ GEO วงโคจรอยสู่ งู ถงึ ๓๖,๐๐๐ กโิ ลเมตร ดาวเทยี ม แบบ LEO วงโคจรมีความสูงระหว่าง ๕๐๐ กิโลเมตร ถึง ๒,๐๐๐ กิโลเมตร ดาวเทียม MEO ส่วนใหญ่มีวงโคจรสูง ๒๐,๒๐๐ กโิ ลเมตร ดาวเทยี มเหลา่ นถี้ า่ ยภาพเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ระบพุ กิ ดั ตา แหนง่ และดกั รบั ฟงั การสอื่ สารของเรา หน่วยราชการและเอกชนในสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ให้บริการดาวเทียมส่วนใหญ่ โดยปัจจุบันดาวเทียมเพ่ือการพาณิชย์ มีจานวนแซงหน้าดาวเทียมภาครัฐแล้ว ชาติมหาอา นาจมีจานวนการให้บริการในวงโคจรแบบต่าง ๆ ดังนี้
นาวิกศาสตร์ 17 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
ภาพที่ ๑ ภาพรวมดาวเทียมแบบหลักท่ัวโลก
ท่ีมา : Union of Concerned Scientist : Planet และ National Geography
18
ปีท่ี ๑๐๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
นาวิกศาสตร์
• สหรัฐอเมริกา
• จีน
• รัสเซีย
• ประเทศอ่ืน ๆ
๘๑๔ ดวง (ดาวเทียม LEO บริษัท Planet ๒๐๒ ดวง) ๒๐๕ ดวง
๑๔๐ ดวง
๕๗๘ ดวง (ดาวเทียม LEO ของเอกชน ๒๒ ดวง)
ภาพที่ ๒ ผู้บริหารระดับสูง CEO และ CSO บริษัท Planet พร้อมดาวเทียม Dove ในมือ
ดาวเทียมแบบ LEO ของบริษัท Planet
บริษัท Planet ก่อตั้งขึ้นเม่ือ ๒๙ ธันวาคม ๒๐๑๐ โดย วิล มาร์แซลล์ (Chief Executive Officer : CEO) และ รอ็ บบี ซงิ เกลอร์ (Chief Strategy Officer : CSO) โดยทง้ั สองนายเปน็ อดตี นกั วทิ ยาศาสตรน์ าซา สา นกั งานใหญต่ งั้ อยทู่ ี่ ซิลิคอนวัลเลย์ ซานฟรานซิสโก มีพนักงานอยู่ราว ๔๘๐ คน แนวคิดของผู้บริหารระดับสูง คือ การออกแบบดาวเทียม แบบ Nanosatellite ขนาดเท่ากล่องรองเท้าด้วยต้นทุนค่อนข้างต่า เพื่อนามาใช้ถ่ายภาพพ้ืนโลกให้เกิดประโยชน์ ต่อมนุษยชาติ ในการแก้ปัญหาความยากจน การทาลายสิ่งแวดล้อม มาร์แซลล์ จึงคิดวิเคราะห์แล้วเห็นว่า ควรมี ดาวเทยี มจา นวนมากพอทจี่ ะชว่ ยใหเ้ หน็ การเปลย่ี นแปลงในพนื้ ทโี่ ลกเปน็ รายวนั ในเดอื นเมษายน ปี ๒๐๑๓ บรษิ ทั เรมิ่ ปล่อยดาวเทียมชุดแรก ๒ ดวง คือ Dove1 Dove2 เพ่ือสาธิตทดสอบประเมินผลการทางาน ซ่ึงสามารถใช้งานได้จริง เปน็ ไปตามแนวคดิ ของผบู้ รหิ ารตอ่ มาในเดอื นพฤศจกิ ายนปี๒๐๑๓กป็ ลอ่ ยดาวเทยี มเพม่ิ อกี ๒ดวงคอื Dove3Dove4 โดยอยใู่นวงโคจรทเี่รยี กวา่ Sun-SynchronousOrbitและในเดอื นมถิ นุ ายนปี๒๐๑๓ประกาศแผนปลอ่ ยดาวเทยี มฝงู ท่ี ๑ ประกอบดว้ ยดาวเทยี มสา รวจโลก (Earth Observation) จา นวน ๒๘ ดวง ดาวเทยี มฝงู ที่ ๑ ถกู ลา เลยี งไปยงั สถานี อวกาศนานาชาติในเดือนมกราคม ปี ๒๐๑๔ เพื่อปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร ทั้งนี้ ในปี ๒๐๑๕ บริษัทวางแผนปล่อย ดาวเทยี มเพมิ่ เตมิ ทงั้ หมด๑๓๑ดวง โดยในเดอื นมกราคมปี๒๐๑๕บรษิ ทั สามารถระดมเงนิ ทนุ ไดท้ ง้ั สนิ้ ๙๕ลา้ นเหรยี ญสหรฐั จากนั้นในเดือนพฤษภาคม ปี ๒๐๑๕ บริษัทสามารถระดมทุนเพิ่มจากสถาบันการเงิน Venture Capital จนมีทุน รวมท้ังสิ้น ๑๘๓ ล้านเหรียญสหรัฐ ทุกวันนี้บริษัทมีดาวเทียมกว่า ๒๐๐ ดวง ในวงโคจร ในจานวนน้ีเป็นดาวเทียม เรยี กวา่ Dove ๑๘๐ ดวง และดาวเทยี ม Skysat ๒๑ ดวง เปน็ ผลใหส้ ามารถถา่ ยภาพดว้ ยเซนเซอรแ์ บบ Electro-Optic ได้ทุกพ้ืนที่ได้ทุกวัน หากสภาพแวดล้อมเอื้ออานวย
นาวิกศาสตร์ 19 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
บ ร ษิ ทั P l a n e t ใ ช เ้ ว ล า เ พ ยี ง ๑ ๒ ป ี ใ น ก า ร พ ล กิ โ ฉ ม ก จิ ก า ร ด ว้ ย น ว ตั ก ร ร ม ล า ้ ห น า้ ส ร า้ ง ค ว า ม แ ต ก ต า่ ง จ า ก ด า ว เ ท ยี ม LEO แบบ Conventional ซ่ึงบริษัทชั้นนาด้ังเดิมที่เคยผลิตดาวเทียมในอดีต มีดังนี้
บริษัท/องค์กร ดาวเทียม
Digital Globe European Space Agency (ESA) Airbus
เกาหลีใต้
Quick Bird, WorldView-1, 2, 3 IKONOS-2 Sentinel 2, 3, 4, 5
Pléiades
Komsat-2, 3, 3A
ดาวเทียมของบริษัท Planet แตกต่างจากดาวเทียมสารวจโลกตามตารางอย่างชัดเจน ในเรื่องของจานวน มากกวา่ ๑๘๐ ดวง (ความสงู วงโคจร ๕๐๐ กโิ ลเมตร) ภายใตก้ ารบรหิ ารจดั การของบรษิ ทั เอกชน และดาวเทยี ม Dove มีขนาดเล็กเพียง ๑๐x๑๐x๓๔ เซนติเมตร หรือ 3U-Cubesat น้าหนักแค่ ๕ กิโลกรัม เพ่ือมองให้เห็นภาพง่าย ๆ Dove มีขนาดเท่ากล่องรองเท้าเท่าน้ัน ดูการเปรียบเทียบขนาดดาวเทียม Dove กับดาวเทียมแบบเดิม ตามภาพท่ี ๓
ภาพที่ ๓ การเปรียบเทียบขนาดดาวเทียม Dove กับดาวเทียมแบบดั้งเดิม และมนุษย์อวกาศ
20
ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
นาวิกศาสตร์
ภาพที่ ๔ ภาพถ่ายเรือบรรทุกเครื่องบินของสาธารณรัฐประชาชนจีน จากดาวเทียม Dove ในปี ๒๐๑๗
การมีขนาดเล็กและน้าหนักน้อย เป็นข้อดีช่วยทาให้ราคาดาวเทียม Dove มีราคาถูกลงอย่างมาก บริษัท Planet พัฒนาดาวเทียมขนาดเล็กบนหลักการความคล่องตัวหรือ Agility กล่าวคือ สร้างต้นแบบด้วยความรวดเร็ว สามารถ สร้างใหม่ทาซ้าได้ และพัฒนาดาวเทียมอย่างต่อเน่ือง การที่มีดาวเทียม Dove จานวนมากในวงโคจร ทาให้สามารถ มองเหน็ สภาพการเปลยี่ นแปลงภยั พบิ ตั ิ การเปลยี่ นแปลงทศิ ทางของลาวาภเู ขาไฟ คราบนา้ มนั ในทะเล คลนื่ ยกั ษส์ นึ ามิ และการปรับเปล่ียนตาแหน่งของเรือรบได้อย่างต่อเนื่องเป็นรายวัน ตามภาพท่ี ๔ ในขณะที่ดาวเทียมแบบด้ังเดิม เช่น Sentinel, WorldView หรือ Pléiades การที่ดาวเทียมแต่ละดวงจะสามารถถ่ายภาพซ้าตาบลที่เดิม (Revisit Time) ต้องใช้เวลามากกว่า ๑-๒ วัน เนื่องจากดาวเทียมเป็นของหลายบริษัท ต่างคนต่างบริหารดาวเทียมของตนเอง จึงไม่สามารถติดตามหรือเห็นการเปล่ียนแปลงได้อย่างต่อเนื่องแบบวันต่อวัน การท่ีบริษัท Planet ต้องใช้ดาวเทียม จานวนมากก็ไม่เสียเปรียบเชิงต้นทุนแต่อย่างใด เนื่องจากดาวเทียมแต่ละดวงมีราคาที่ต่ามาก และสามารถปล่อย ดาวเทยี มหลายดวงพรอ้ ม ๆ กนั (คา่ ใชจ้ า่ ยในการปลอ่ ยดาวเทยี มเปน็ อะไรทแ่ี พงมาก ๆ) อยา่ งไรกต็ าม ความคมชดั ของ ภาพถา่ ยดาวเทยี ม Dove สามารถจา แนกวตั ถุ (Resolution) ไดใ้ นระยะเพยี ง ๓ เมตร ซงึ่ กด็ พี อในการเหน็ โครงครา่ ว ๆ
นาวิกศาสตร์ 21 ปีที่ ๑๐๕ เล่มท่ี ๙ กันยายน ๒๕๖๕
ของรถบรรทกุ เมอ่ื เทยี บกบั ความคมชดั ของภาพกค็ งไมส่ ามารถสกู้ บั ดาวเทยี มของบรษิ ทั DigitalGlobeWorldView ซึ่งมีความละเอียดในการแยกเป้าได้ในระยะ ๓๐ เซนติเมตร เช่ือว่าในอนาคต Planet จะสามารถแสวงหานวัตกรรม หรอื วธิ กี ารทเี่ หมาะสม เพอ่ื ใหไ้ ดภ้ าพทมี่ คี วามคมชดั มากกวา่ ๓ เมตร ไดอ้ ยา่ งแนน่ อน โดยในปี ๒๐๒๑ บรษิ ทั Planet ประกาศแผนการสรา้ งดาวเทยี มใหมช่ อื่ วา่ Pelican เพอ่ื เสรมิ ขดี ความสามารถใหก้ บั SkySat ใหม้ คี า่ ความคมชดั สงู ขน้ึ กาหนดปล่อยสู่วงโคจรในปี ๒๐๒๒ และพร้อมใช้งานในปี ๒๐๒๓ พร้อมท้ังมีขีดความสามารถในการรวบรวมข้อมูล ภาพถ่ายดาวเทียมด้วยเซนเซอร์ SAR จากบริษัทพันธมิตร เป็นการตอกย้าว่า เป็นบริษัทที่พัฒนาไม่หยุด เพื่อแก้ปัญหา ทเี่ ปน็ จดุ ดอ้ ย หรอื Plain Point อนั เปน็ ขอ้ จา กดั ในการสา รวจโลกใหม้ คี วามสมบรู ณแ์ บบมากยง่ิ ขนึ้ สามารถถา่ ยภาพซา้ ที่ตาบลท่ีเดิมได้บ่อยคร้ังย่ิงข้ึน และมองเห็นภาพพ้ืนโลกทะลุทะลวงก้อนเมฆ จึงเกิดความต่อเนื่องในการเฝ้าสังเกต พื้นที่ภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล แต่อย่างน้อยตอนนี้บริษัท Planet มีจานวนดาวเทียมในวงโคจร ทาลายสถิติสหรัฐอเมริกา ประเทศท่ีเป็นมหาอานาจของโลกไปแล้ว และยกระดับจากบริษัท Startup จนเป็นบริษัท ในตลาดหลักทรัพย์ NYSE ในปี ๒๐๒๐ มีรายได้ไม่ต่ากว่า ๑๑๓ ล้านเหรียญสหรัฐ
ดาวเทียมเซนเซอร์แบบ SAR ของบริษัท ICEYE
บริษัท ICEYE ประเทศฟินแลนด์ ก่อตั้งขึ้นเม่ือปี ๒๐๑๔ โดย Rafal Modrzewski (Chief Executive Officer : CEO) และ Pekka Laurila (Chief Strategy Officer : CSO) โดยทั้งสองนายเคยร่วมทางานโครงการ Aalto-1 ซ่ึงเป็น โครงการพฒั นาดาวเทยี มขนาด Nanosatellite ของมหาวทิ ยาลยั Aalto ประเทศฟนิ แลนด์ สา หรบั ดาวเทยี ม ICEYE นน้ั จัดเป็นดาวเทียมขนาด Microsatellite น้าหนักรวม ๘๕ กิโลกรัม (ดาวเทียมของ Planet ขนาด Nanosatellite นา้ หนกั รวม ๕ กโิ ลกรมั เทา่ นนั้ ) สา นกั งานใหญต่ งั้ อยทู่ เี่ มอื งเอสปู ฟนิ แลนด์ ในปี ๒๐๑๕ บรษิ ทั แสดงการสาธติ (Demo) ใหเ้ หน็ วา่ เซนเซอรแ์ บบ Synthetic Aperture Radar หรอื SAR สามารถเฝา้ สงั เกตกอ้ นภเู ขานา้ แขง็ ในทะเลได้ จากนน้ั ในเดือนตุลาคม ปี ๒๐๑๙ ได้เร่ิมเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ด้วยการนาเสนอภาพถ่ายดาวเทียมด้วยเซนเซอร์ SAR ความคมชัดหรือ Resolution ระดับ ๑ เมตร จากการปฏิบัติการด้วยดาวเทียม SAR ๓ ดวง ภายในปี ๒๐๒๒ บริษัท ICEYE พยายามพัฒนาดาวเทียม SAR ให้ได้ท้ังหมด ๑๘ ดวง โดยใช้ส่วนประกอบที่มีจาหน่ายอยู่แล้วในท้องตลาด (Commercial off-The Shelf : COTS) มากทสี่ ดุ เทา่ ทเี่ ปน็ ไปได้ ทา ใหด้ าวเทยี มมรี าคาถกู ลง เมอื่ เทยี บกบั บรษิ ทั ยกั ษใ์ หญ่ เจา้ ตลาดดาวเทยี ม เชน่ Radarsat ดาวเทยี มของบรษิ ทั เหลา่ นน้ั มนี า้ หนกั ไมต่ า่ กวา่ ๑,๐๐๐ กโิ ลกรมั ซงึ่ มจี า นวนรายชอ่ื บรษิ ทั ดา เนนิ การอาจจะนอ้ ยกวา่ ดาวเทยี มทใ่ี ชเ้ ซนเซอรแ์ บบ Electro-Optic โดยมตี วั อยา่ งรายชอื่ ของบรษิ ทั ดาวเทยี ม SAR แบบ Conventional ดังนี้
บริษัท
ดาวเทียม น้าหนัก (กิโลกรัม)
ESA (ยุโรป)
MDA (แคนาดา) หน่วยงานกิจการอวกาศ อิตาลี ศูนย์กิจการอวกาศ เยอรมนี
Sentinel-1
Radarsat-2 COSMO SkyMed Terra SAR-X
๒,๓๐๐ ๒,๓๐๐ ๑,๗๐๐ ๑,๒๓๐
นาวิกศาสตร์
22
ปีท่ี ๑๐๕ เล่มท่ี ๙ กันยายน ๒๕๖๕
ดาวเทียมแบบ SAR ของบริษัท ICEYE นับว่าแตกต่างจากดาวเทียมแบบ SAR ของบริษัทช้ันนาเดิม ๆ ในตลาด ดาวเทียมในเร่ืองของจานวนท่ีมากถึง ๑๘ ดวง ขนาดเล็กเพียง ๘๐x๖๐x๕๐ เซนติเมตร ในขณะที่ COSMO-SkyMed ซึ่งออกแบบสาหรับใช้งานด้านความม่ันคงทางทหารและพลเรือน มีกลุ่มดาวเทียมอยู่ในวงโคจรเพียง ๔ ดวง เท่านั้น ในด้านของน้าหนักนั้น ดาวเทียมของบริษัท ICEYE มีน้าหนักเพียง ๘๕ กิโลกรัม เท่าน้ัน เคล็ดลับของการมีน้าหนักเบา และต้นทุนราคาของดาวเทียมท่ีต่ามาจาก ๒ ปัจจัยหลัก คือ ดาวเทียมของบริษัท ICEYE ใช้ส่วนประกอบท่ีเป็น COTS หาชนิ้ สว่ นไดง้ า่ ยในทอ้ งตลาด และอกี ปจั จยั หนง่ึ กค็ อื ใชห้ ลกั การบรหิ ารการบรโิ ภคพลงั งานไฟฟา้ ทดี่ เี ยย่ี ม ทา ใหส้ ามารถ ออกแบบไดอ้ ยา่ งลงตวั (Optimizing) ตามหลกั การของ SWaP (Size, Weight, and Power) กลา่ วไดว้ า่ บรษิ ทั ICEYE เป็นผู้ Disrupt วงการดาวเทียม SAR ได้อย่างแท้จริง โดยใช้เวลาเพียง ๘ ปี จนกลายมาเป็นบริษัทชั้นนา เน้ือหอม เป็นที่สนใจของบริษัทต่าง ๆ เป็นอย่างมาก อาทิ MDA เจ้าของดาวเทียม Radarsat-2 ต้องยอมลดตัว มาเซ็นสัญญาความร่วมมือกับบริษัท ICEYE แม้ว่าในอดีต MDA จะเป็นบริษัทช้ันนาด้าน SAR แต่ปัจจุบันดาวเทียม Radarsat-2 ใกล้หมดอายุการใช้งานแล้ว ข้อดีของความร่วมมือดังกล่าวก็คือ ดาวเทียม ICEYE ๑๘ ดวง จะโคจรผ่าน กรุงลอนดอนหรือปารีสได้ ๘ ครั้ง/วัน นั้น หมายถึง จะสามารถถ่ายภาพซ้าได้ทุก ๓ เซนติเมตร หากใช้ดาวเทียม Radarsat-2 ต้องรอ ๒-๓ วัน เช่นในอดีต ปัจจุบันเรากาลังประยุกต์ใช้ดาวเทียมแบบ SAR ติดตามการกระทาประมง ผดิ กฎหมาย หรอื มองหาเรอื ผอู้ พยพในทะเลเมดเิ ตอรเ์ รเนยี น/อนั ดามนั ฝนั นจี้ ะเปน็ ไปไดอ้ ยา่ งไร ถา้ เรายงั คงใชด้ าวเทยี ม SAR แบบด้ังเดิม ในการถ่ายภาพซ้าที่เดิมทุก ๓ วัน ดาวเทียม ICEYE จึงเป็นบริษัทผู้พลิกโฉมนวัตกรรมดาวเทียม SAR เป็นรายแรก ๆ และยังคงรู้ดีว่า ต้องพัฒนาขีดความสามารถของดาวเทียมอย่างต่อเน่ือง เพราะอีกไม่นานก็จะมีคู่แข่ง รายใหมเ่ ขา้ สตู่ ลาด เชน่ ดาวเทยี ม SAR ของบรษิ ทั Capella ดว้ ยนา้ หนกั นอ้ ยกวา่ ๔๐ กโิ ลกรมั และยงั มี Umbra ทง้ั สอง เป็นบริษัทในสหรัฐอเมริกา
ภาพที่ ๕ ผู้บริหารระดับสูง CEO (เส้ือยืดสีดา) และ CSO ผู้ก่อต้ัง บริษัท ICEYE
นาวิกศาสตร์ 23 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
ดาวเทยี มแบบ SAR สามารถใชง้ านไดใ้ นเกอื บทกุ สภาพอากาศ ไมว่ า่ จะเปน็ เวลากลางวนั กลางคนื สามารถถา่ ยภาพ ทะลกุ อ้ นเมฆ ซงึ่ เปน็ อะไรทตี่ อบโจทยภ์ ารกจิ ของการรบั รสู้ ถานการณท์ างทะเล หรอื MDA เปน็ อยา่ งมาก ดาวเทยี มแบบ SAR มักถูกใช้งานในภารกิจทางทะเล เช่น การติดตามเรือเดินทะเล คราบน้ามันในทะเล ก้อนภูเขาน้าแข็งในทะเล ภยั พบิ ตั สิ นึ ามิ การมดี าวเทยี มแบบ SAR จา นวน ๑๘ ดวง หรอื มากกวา่ นบั วา่ เปน็ ประโยชนต์ อ่ การเพมิ่ ขดี ความสามารถ ดา้ น MDA ชว่ ยใหก้ ารอปั เดตตา บลทเี่ ปา้ ในทะเลแบบ Near Realtime มากขน้ึ ทงั้ นี้ เมอื่ นา เปา้ ทตี่ รวจจบั ดว้ ย SAR ไป Correlateกบั ขอ้ มลู AISและขอ้ มลู จากเซนเซอรอ์ นื่ ๆแลว้ ยอ่ มชว่ ยใหก้ ารตรวจจบั เปา้ (Detection)พรอ้ มการพสิ จู น์ ทราบเป้า (Identification) มีความแม่นยามากขึ้น หวังว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหรัฐอเมริกา จะนาเอาข้อดี ขา้ งตน้ ไปปรบั ปรงุ พฒั นาระบบ SeaVision ทมี่ ตี ดิ ตงั้ ใชง้ านใน ศรชล. ใหส้ ามารถทา งานไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธผิ ลมากยงิ่ ขน้ึ (โดย ศรชล. ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย) สามารถตรวจพบเรือท่ีมีพฤติกรรมน่าสงสัย หรือ Dark Vessel ได้อย่างง่ายดาย
ภาพท่ี ๖ ดาวเทียมแบบ SAR รุ่น X4/X5 ของบริษัท ICEYE
ไทยกับดาวเทียมวงโคจรต่า
ท่ีผ่านมาประเทศไทยมีการพัฒนาดาวเทียม LEO แบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีอะไรที่หวือหวาเมื่อเทียบกับประเทศ ชน้ั นา ดา้ นกจิ การดาวเทยี มของโลก ในระดบั อาเซยี น ประเทศไทยอยใู่ นระดบั ดพี อสมควร แตก่ ย็ งั คงดเู ปน็ รองประเทศ สงิ คโปร์ สา หรบั ดาวเทยี ม LEO ของไทยทงั้ ภาครฐั และเอกชน ซง่ึ อยใู่ นวงโคจรและทา หนา้ ทใี่ นการสา รวจโลก การศกึ ษา วจิ ยั รวม ๕ ดวง ไดแ้ ก่ THEOS-1, BCC, NAPA-1, NAPA-2 และ JAISAT โดยดาวเทยี ม THEOS-1 เปน็ ดาวเทยี มสา รวจ โลกดวงแรกของสานักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) สร้างโดยบริษัท EADS ASTRIUM ฝรั่งเศส ดาวเทียมดวงนี้ ผ่านการใช้งานตั้งแต่ปี ๒๕๕๑ จนถึงปัจจุบัน รวมแล้วถ่ายภาพไปมากกว่า ๑.๕ ล้านภาพ ดาวเทียม BCC เป็นดาวเทียม Cubesat ขนาด 1U ของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ปล่อยข้ึนสู่วงโคจรในปี ๒๐๒๑ เพอื่ พฒั นาความรู้ เตรยี มความพรอ้ มกอ่ นเขา้ เรยี นระดบั มหาวทิ ยาลยั โดยไดร้ บั การสนบั สนนุ จากมหาวทิ ยาลยั โตเกียว องค์การวิจัยพัฒนาการสารวจอวกาศญี่ปุ่น และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
24
ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
นาวิกศาสตร์
ภาพที่ ๗ การใช้เซนเซอร์ SAR บนดาวเทียมของบริษัท ICEYE ตรวจจับเรือในช่องแคบมะละกา
ดาวเทยี มNAPA-1และNAPA-2เปน็ ดาวเทยี มสา รวจโลกCubesatขนาด6Uของกองทพั อากาศสรา้ งโดยบรษิ ทั Innovative Solution In Space เนเธอรแ์ ลนด์ ดาวเทยี มทงั้ ๒ ดวง ปลอ่ ยขนึ้ สวู่ งโคจรในเวลาใกลเ้ คยี งกนั ในปี ๒๐๒๑ เพ่ือภารกิจการสารวจโลก สาหรับดาวเทียม JAISAT มีเพียง ๑ ดวง เป็นดาวเทียม Cubesat ขนาด 3U พัฒนาโดย นกั วทิ ยาศาสตร์ วศิ วกร นกั วทิ ยสุ มคั รเลน่ โดยไดร้ บั การสนบั สนนุ จากคณะกรรมการกจิ การกระจายเสยี ง กจิ การโทรทศั น์ และกจิ การโทรคมนาคมแหง่ ชาติ (กสทช.) มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ พระนครเหนอื มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยี พระจอมเกลา้ ธนบรุ ีและสถาบนั เทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ เจา้ คณุ ทหารลาดกระบงั ปลอ่ ยดาวเทยี มขนึ้ สวู่ งโคจรในปี๒๐๒๐ เพอื่ ใชใ้ นการถา่ ยทอดการสอื่ สารสญั ญาณวทิ ยสุ มคั รเลน่ ใหม้ รี ะยะการตดิ ตอ่ สอื่ สารไดไ้ กลขน้ึ โดยสญั ญาณวทิ ยขุ าขนึ้ (Uplink) ทางานย่านความถี่ VHF สัญญาณวิทยุขาลง (Downlink) ทางานย่านความถี่ UHF
ดาวเทยี ม THEOS-2 เปน็ ดาวเทยี มสา รวจโลกดวงที่ ๒ ของ สทอภ. อยรู่ ะหวา่ งสรา้ งและพฒั นาโดยบรษิ ทั Airbus ฝร่ังเศส มีขีดความสามารถในการถ่ายภาพคมชัดกว่า เล็กกว่าและเบากว่าดาวเทียม THEOS-1 ขณะนี้อยู่ระหว่าง การทดสอบการปฏิบัติในสภาวะอวกาศ (Space Environment Test) และการทดสอบการทางานของดาวเทียม ร่วมกับระบบภาคพ้ืน (System End-to-End Test) มีแผนปล่อยดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรภายในปี ๒๐๒๒ นอกจากน้ี ภายใต้โครงการเดียวกับดาวเทียม THEOS-2 สทอภ. ได้พัฒนาดาวเทียมขนาดเล็ก สร้างโดยทีมวิศวกรไทยร่วมกับ วิศวกรบริษัท Surrey Satellite Technology ประเทศอังกฤษ เพ่ือเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับวิศวกรไทย ในการออกแบบ พัฒนา ประกอบ ทดสอบ ทดลอง ดาวเทียมได้เองในอนาคต โดยดาวเทียมดวงนี้มีขนาดเล็กกว่า เบากว่า ดาวเทียม THEOS-1
นาวิกศาสตร์ 25 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
บทสรุป
การพัฒนาดาวเทียมวงโคจรต่า ไม่ได้สงวนไว้เฉพาะหน่วยงานของรัฐอีกต่อไป เอกชนได้เข้ามีบทบาทส่วนร่วม ในการลงทนุ และเรง่ รดั พฒั นาเทคโนโลยใี หม้ กี ารเปลย่ี นแปลงอยา่ งกา้ วกระโดดหรอื Disrupt จนเกดิ นวตั กรรมดาวเทยี ม แบบพลิกโลก ในอดีตการออกแบบพัฒนา และการระดมทุนสร้าง ปล่อยดาวเทียมน้ัน ถูกผูกขาด โดยบริษัทรายใหญ่ หรือองค์กรรัฐบาลด้ังเดิม ที่เป็นผู้สร้างดาวเทียมในอดีตท่ีผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น MDA Airbus หรือ EADS Astrium ในขณะที่บริษัท Startup ท่ีเพิ่งจะเกิดขึ้นใหม่อย่าง Planet หรือ ICEYE มีการออกแบบพัฒนาต้นแบบ สร้างดาวเทียม ทดสอบ ทดลองไดอ้ ยา่ งคลอ่ งตวั และรวดเรว็ ตามหลกั การ Agility ซงึ่ ทา ใหก้ ารสรา้ งและปลอ่ ยดาวเทยี มไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ รวมแล้วท้ังสองบริษัทมีดาวเทียมมากกว่า ๒๒๐ ดวง ซึ่งมีจานวนเหนือกว่าบริษัทหรือองค์กรของรัฐบาลด้ังเดิมท่ีมี การทา งานแบบ Silo ลา่ ชา้ อยุ้ อา้ ย ทง้ั นี้ ดว้ ยจา นวนทมี่ ากทา ใหเ้ ราสามารถตดิ ตามภาพสถานการณ์ ภยั พบิ ตั ิ ภเู ขานา้ แขง็ ไฟป่า การตัดไม้ทาลายป่า การกระทาผิดทางทะเล เป็นไปอย่างต่อเนื่องแบบ Near Realtime มีการอัปเดตข้อมูล และภาพเป็นรายช่ัวโมง ไม่ใช่ ๒ ถึง ๓ วันเช่นในอดีต ซึ่งจัดเป็นนวัตกรรมดาวเทียมแบบพลิกโลกเช่นกัน นอกจากนี้ การระดมทนุ ในปจั จบุ นั สามารถทา ไดง้ า่ ย โดยผา่ นกองทนุ Venture Capital หากกองทนุ เชอื่ มน่ั ในดาวเทยี มทจ่ี ะพฒั นา ขึ้นว่ามีศักยภาพ สามารถแก้ปัญหาอะไรท่ีเป็นข้อด้อย หรือ Plain point ได้จริง เป็นอะไรที่สามารถทาให้เกิด การ Disrupt ดังนั้น เร่ืองเงินทุนจึงไม่ใช่ประเด็นปัญหา บริษัทดาวเทียมแบบ LEO ขนาด Nanosatellite ได้อานิสงส์ อยา่ งมากในเรอื่ งความสะดวก รวดเรว็ และประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ยในการปลอ่ ยดาวเทยี มอยา่ งมนี ยั สา คญั เนอื่ งจากมที างเลอื ก ด้านสถานท่ีปล่อยดาวเทียมมากขึ้น และสามารถปล่อยดาวเทียมได้พร้อมกันหลายดวง อย่างไรก็ตาม บริษัท Planet และ ICEYE รวมทง้ั บรษิ ทั เกดิ ใหม่ จา เปน็ ตอ้ งพฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เนอื่ ง เพอ่ื ดงึ ดดู ใหบ้ รษิ ทั รายใหญ่ ตอ้ งขอทา สญั ญา ความรว่ มมอื ในการดา เนนิ ธรุ กจิ รปู แบบใหมร่ ว่ มกนั โดยไมจ่ า เปน็ ตอ้ งลงทนุ แขง่ ขนั กนั เอง โลกไดเ้ ปลย่ี นไปแลว้ ปลาเลก็ (บริษัทเล็ก) ก็สามารถเอาชนะปลาใหญ่ (บริษัทใหญ่) ได้ เข้าทานองว่า ปลาเร็วกินปลาช้า สาหรับไทยเราน้ัน กไ็ มย่ อมตกรถเมลใ์ นเรอ่ื งของกจิ การดาวเทยี ม เปน็ เรอื่ งทน่ี า่ ยนิ ดี ขอเพยี งตอ้ งมกี ารสนบั สนนุ และพฒั นาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง เชอื่ วา่ ไทยเราจะทา ไดด้ กี วา่ ทผี่ า่ นมา ขออยา่ ใหข้ ดี ความสามารถดา้ นดาวเทยี มอยลู่ า ดบั ทา้ ยๆ ของอาเซยี น และขออยา่ ให้เวียดนามแซงเราในเรื่องดาวเทียมไปได้อีกเร่ืองหน่ึง เราโดนเวียดนามเบียดแซง หรือหายใจรดต้นคอมาหลายเรื่อง มากพอแล้ว ทั้งเร่ืองการศึกษา เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน
26
ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๕
นาวิกศาสตร์