The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นาวิกศาสตร์, 2022-11-23 10:14:15

บทความดีเด่น พลเรือเอก กวี สิงหะ

ลําดับ
รํายนํามผู้บัญชํากําร
พลเรือโท วิศาล ไพทีกุล
พลเรือโท ไพศาล นภสินธุวงศ์ พลเรือโท วีรศักด์ิ วัชรบูล พลเรือโท เดชา อยู่พรต
พลเรือโท ประวิตร์ ศรีสุขวัฒนา พลเรือโท อภิชาติ เพ็งศรีทอง
พลเรือโท วัลลภ เกิดผล
พลเรือโท สุรศักดิ์ แก้วแถมทอง
พลเรือโท อภิวัฒน์ ศรีวรรธนะ
พลเรือโท ชัยวัฒน์ เอี่ยมสมุทร
พุทธศักรําช
๒๕๔๓ – ๒๕๔๔
๒๕๔๔ – ๒๕๔๕ ๒๕๔๕ – ๒๕๔๖ ๒๕๔๖ – ๒๕๔๗
๒๕๔๗ – ๒๕๔๘ ๒๕๔๘ – ๒๕๕๐
๒๕๕๐ – ๒๕๕๑
๒๕๕๑ – ๒๕๕๒
๒๕๕๒ – ๒๕๕๓
๒๕๕๓ – ๒๕๕๔
ลําดับ รํายนํามผู้บัญชํากําร
๕๓ พลเรือโท ไกรสร จันทร์สุวานิชย์
๕๔ พลเรือโท อนุทัย รัตตะรังสี
๕๕ พลเรือโท รุ่งศักดิ์ เสรีสวัสด์ิ ๕๖ พลเรือโท พงษ์เทพ หนูเทพ
๕๗ พลเรือโท ลือชัย รุดดิษฐ์
๕๘ พลเรือโท ชัชชัย โพธิพรรค
๕๙ พลเรือโท สุชา เคี่ยมทองคา ๖๐ พลเรือโท ไชยนันท์ นันทวิทย์
๖๑ พลเรือโท ไกรศรี เกษร
๖๒ พลเรือโท ชาติชาย ทองสะอาด
พุทธศักรําช
๒๕๕๔ – ๒๕๕๕
๒๕๕๕ – ๒๕๕๖
๒๕๕๖ – ๒๕๕๗ ๒๕๕๗ – ๒๕๕๘
๒๕๕๘ – ๒๕๕๙
๒๕๕๙ – ๒๕๖๑
๒๕๖๑ – ๒๕๖๒ ๒๕๖๒ – ๒๕๖๓
๒๕๖๓ – ๒๕๖๔
๒๕๖๔ – ปัจจุบัน
๔๓
๔๔ ๔๕ ๔๖ ๔๗ ๔๘
๔๙ ๕๐
๕๑
๕๒
ผู้บัญชํากํารโรงเรียนนํายเรือปัจจุบัน
๑. ยศ-ชื่อ-สกุล
๒. วัน เดือน ปีเกิด ๓. คู่สมรส
๔. การศึกษา
๕. การศึกษาทางทหาร
๖. การศึกษาต่างประเทศ ๗. ตาแหน่งในอดีต
พลเรือโท ชาติชาย ทองสะอาด ๑๖ กันยายน ๒๕๐๗ รศ.ดร.วัชรีวรรณ ทองสะอาด
- มัธยมศึกษาปีที่ ๕ โรงเรียนพิริยาลัย จังหวัดแพร่
- วิทยาศาสตรบัณฑิต โรงเรียนนายเรือ
- รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
- โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น ๒๔
- โรงเรียนนายเรือ รุ่น ๘๑
- โรงเรียนเสนาธิการทหารเรือ รุ่น ๕๘
- วิทยาลัยการทัพเรือ รุ่น ๔๑
- โรงเรียนเสนาธิการทหารเรือ ประเทศออสเตรเลีย
- CERTIFICATE IN MANAGEMENT, QUEENSLAND UNIVERSITY OF
TECHNOLOGY ประเทศออสเตรเลีย
- ต้นเรือเรือหลวงลันตา
- ผู้บังคับการเรือหลวงสมุย
- นายทหารสื่อสารกองเรือยกพลขึ้นบกและบริการ และรักษาราชการ
นายธงผู้บัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบกและบริการ
นาวิกศาสตร์
14
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


๘. ตาแหน่งพิเศษ
- นายธงผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ
- อาจารย์กองวิชาเสนาธิการกิจ ฝ่ายวิชาการ สถาบันวิชาการทหารเรือชั้นสูง - รองผู้อานวยการกองนโยบายและแผน กรมส่งกาลังบารุงทหารเรือ
- ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือไทย/ ปารีส
- ผู้อานวยการกองการศึกษา กรมยุทธศึกษาทหารเรือ
- ผู้อานวยการกองนโยบายและแผน กรมส่งกาลังบารุงทหารเรือ
- นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจาเสนาธิการทหารเรือ
- นายทหารฝ่ายเสนาธิการประจารองผู้บัญชาการทหารเรือ
- รองผู้อานวยการสานักนโยบายเละแผน กรมส่งกาลังบารุงทหารเรือ
- ผู้บัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ กองเรือยุทธการ
- ผู้อานวยการสานักงานฝ่ายอานวยการ ศูนย์อานวยการรักษาผลประโยชน์
ของชาติทางทะเลภาค ๑
- ผู้อานวยการสานักนโยบายและแผน ศูนย์อานวยการรักษาผลประโยชน์
ของชาติทางทะเล
- รองผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ - นายทหารราชองครักษ์
- ตุลาการศาลทหารชั้นต้น
นโยบํายผู้บัญชํากํารโรงเรียนนํายเรือ ประจําปีงบประมําณ ๒๕๖๕
เจตนํารมณ์
โรงเรียนนายเรือเป็นสถาบันการศึกษาที่สาคัญ เนื่องจากเป็นแหล่งผลิตนํายทหํารหลักซึ่งถือเป็นรํากแก้ว
ของกองทัพเรือ กองทัพเรือจะเข้มแข็ง และเจริญรุ่งเรืองมากน้อยเพียงใดอยู่ที่นักเรียนนายเรือในวันนี้ ดังนั้น กระบวนการให้การศึกษาทั้งภาค
วิชาการ วิชาชีพทหารเรือ และภาวะผู้นา
ของโรงเรียนนายเรือจะต้องมีคุณภาพ
และประสิทธิภาพ การให้การศึกษาที่มี คุณภาพ และประสิทธิภาพจาเป็นต้องมี ความพร้อมสมบูรณ์ในทุกองค์ประกอบ ได้แก่ ครูอาจารย์ต้องมีความรู้ และ ประสบการณ์ นายทหารปกครองต้องมี คณุ สมบตั เิ หมาะสม และเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ี แก่นักเรียน นักเรียนต้องมีความรู้พื้นฐาน และความพร้อมที่จะรับการศึกษา หลักสูตรการศึกษาจะต้องเหมาะสม
นาวิกศาสตร์ 15 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


และผู้เรียนสามารถนาความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง ห้องเรียนและสื่อการเรียนการสอนจะต้อง เหมาะสมและทันสมัย เป็นต้น
ขอใหก้ า ลงั พลของโรงเรยี นนายเรอื ทกุ ระดบั และทกุ คนมคี วามภาคภมู ใิ จทไี่ ดป้ ฏบิ ตั ริ าชการ ณ สถาบนั อนั ทรงเกยี รติ ทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงเสดจ็ พระราชดา เนนิ มาเปดิ เมอื่ ๑๑๕ ปที แี่ ลว้ และรว่ มแรงรว่ มใจกนั ปฏิบัติภารกิจที่สาคัญนี้อย่างเต็มกาลังความสามารถ เพื่อให้กระบวนการผลิตนักเรียนนายเรือเป็นไปตามวิสัยทัศน์ ปรัชญา ภารกิจ วัตถุประสงค์ และปณิธานของโรงเรียนนายเรือ
แม้ปัจจุบันเราต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) และ อยู่ภายใต้มาตรการที่เป็นอุปสรรคต่อการให้การศึกษาแก่นักเรียนนายเรือ แต่โรงเรียนนายเรือจะต้องปรับตัว และแสวงหาวิธีดาเนินการรวมทั้งเทคนิคต่าง ๆ มาใช้เพื่อให้สามารถจัดการเรียนการสอน และการฝึกแก่นักเรียน นายเรือให้ได้ตามที่หลักสูตรกาหนดอย่างมีคุณภาพ และประสิทธิภาพมากที่สุดเท่าที่จะกระทาได้
นโยบายผบู้ ญั ชาการโรงเรยี นนายเรอื ประจา ปงี บประมาณ ๒๕๖๕ กา หนดขนึ้ โดยสอดคลอ้ งกบั พระบรมราโชบาย ด้านการศึกษาของในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ ยุทธศาสตร์กองทัพเรือ นโยบายผู้บัญชาการทหารเรือ แผนยุทธศาสตร์ โรงเรียนนายเรือ แผนปฏิบัติราชการ ๔ ปี โรงเรียนนายเรือ และแผนปฏิบัติราชการ ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ของ โรงเรยี นนายเรอื สา หรบั ใชใ้ นการขบั เคลอื่ น ๓ เสาหลกั
ของโรงเรียนนายเรือ ได้แก่ กองบัญชาการและ
ส่วนสนับสนุน ฝ่ายศึกษา และกรมนักเรียนนายเรือ
รักษาพระองค์ ในการปฏิบัติภารกิจให้สอดคล้อง
กับสถานการณ์ที่มีผลกระทบกับการปฏิบัติงาน
ของโรงเรียนนายเรือ และเทคโนโลยีในปัจจุบัน
ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เพื่อไปสู่เป้าหมาย
การหล่อหลอมให้นักเรียนนายเรือเป็นนายทหาร
สัญญาบัตรที่มีความรู้ ความสามารถ ความคิดริเริ่ม
มีความเป็นผู้นา เพียบพร้อมด้วยคุณธรรมจริยธรรมสาหรับปฏิบัติราชการในกองทัพเรือรวมทั้งมีความจงรักภักดี ต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
นโยบายผู้บัญชาการโรงเรียนนายเรือ ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ที่จะขับเคลื่อน ๓ เสาหลักในการปฏิบัติ ภารกิจของโรงเรียนนายเรือร่วมกันให้บรรลุวิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์ และปณิธานของโรงเรียนนายเรือ ตามเจตนารมณ์ ของผบู้ ญั ชาการโรงเรยี นนายเรอื ประกอบดว้ ยนโยบาย
จานวน ๖ ด้าน ได้แก่ นโยบายด้านการศึกษา นโยบาย
ด้านการสร้างภาวะผู้นาและลักษณะทหาร นโยบาย ด้านการบริหารจัดการ นโยบายด้านกาลังพล นโยบาย ด้านสวัสดิการและสุขภาพ และนโยบายด้านพิเศษ ที่เสาหลักทั้ง ๓ เสาจะต้องยึดถือและนาไปปฏิบัติ ร่วมกันอย่างประสานสอดคล้องให้เกิดผลดังคากล่าว ที่ว่า “ร่วมใจสร้ํางรํากแก้วให้เข้มแข็ง เป็นแรงขับ ทัพเรือสู่เป้ําหมําย” ดังนี้
นาวิกศาสตร์ 16 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


นโยบํายด้ํานกํารศึกษํา
๑. จดั ปฐมนเิ ทศครอู าจารยใ์ นตน้ ภาคการศกึ ษา เพอื่ ใหท้ ราบวสิ ยั ทศั น์ ปรชั ญา ภารกจิ วตั ถปุ ระสงค์ และปณธิ าน ของโรงเรยี นนายเรอื อยา่ งแทจ้ รงิ รวมทงั้ ทราบความมงุ่ หมายของหลกั สตู ร และวตั ถปุ ระสงคข์ องการศกึ ษาในวชิ าทตี่ น รับผิดชอบ
๒. ปรับรูปแบบการเรียนการสอนและการฝึกให้สอดคล้อง กับสถานการณ์ และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID–19) โดยนาระบบสื่อสาร และเทคโนโลยีสารสนเทศ วิธีการและเทคนิคที่มีประสิทธิภาพ มาใช้เพ่ือให้การเรียนรู้มีคุณภาพใกล้เคียงกับการเรียนการสอน ในสถานการณ์ปกติมากที่สุด
๓. ครูอาจารย์ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีทั้งการเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์ มีจิตวิญญาณ ความเป็นครูที่ให้ทั้งความรู้ด้านวิชาการ และปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมแก่นักเรียนนายเรือ รวมทั้งมีลักษณะ การแสดงออก และการแต่งกายที่เหมาะสมและสง่างาม
๔. ครูอาจารย์ปลูกฝังให้นักเรียนนายเรือมี จิตวิญญําณควํามเป็นชําวเรือ เป็นสุภําพบุรุษทหํารเรือ และหล่อหลอมให้นักเรียนนายเรือมีความเข้มแข็ง เพื่อสร้ํางเหล็กในคน ที่สําคัญกว่ําเหล็กในเรือ
๕. จัดให้มีการประชุมสัมมนากับหน่วยเกี่ยวข้องเรื่องอาจารย์ของโรงเรียนนายเรือ เพื่อให้ได้แนวทางการพัฒนา อาจารย์ แนวทางรับราชการ และการเจริญเติบโตของอาจารย์ การย้ายบรรจุอาจารย์
๖. ทา การทบทวนหลกั สตู รปรบั ปรงุ ประมวลการศกึ ษาตา ราและคมู่ อื การเรยี นการสอนใหท้ นั สมยั และตอบสนอง ความต้องการใช้งานเมื่อนักเรียนสาเร็จการศึกษาเป็นนายทหารสัญญาบัตรพรรคเหล่าต่าง ๆ อย่างแท้จริงอยู่เสมอ
๗. พัฒนาห้องเรียน สื่อการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ และทันสมัยรวมทั้งมีจานวนเพียงพอ เช่น Smart Classroom ห้องปฏิบัติการทางภาษา ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ ตาราอิเล็กทรอนิกส์
๘. ให้ความสาคัญ กับการฝึกภาคปฏิบัติใน ทะเลของนักเรียนนายเรือ เป็นลาดับแรก โดยจัดให้ มีองค์ประกอบที่สาคัญ ได้แก่ เรือฝึกที่เหมาะสม วตั ถปุ ระสงค์และหวั ขอ้ การฝกึ ทสี่ อดคลอ้ งกบั ความมงุ่ หมาย ของหลกั สตู รครฝู กึ ทมี่ คี วามรู้ และประสบการณ์นักเรียน นายเรอื มคี วามพรอ้ มทงั้ ความรู้ ด้านวิชาการ และร่างกาย ที่แข็งแรงสมบูรณ์
นาวิกศาสตร์ 17 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


๙. พัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียนนายเรือทั้ง ๔ ทักษะให้อยู่ในระดับที่สามารถสื่อสารได้ และสอบผ่าน เกณฑ์ในการไปศึกษาต่อต่างประเทศได้
๑๐.สง่ เสรมิ ใหน้ กั เรยี นนายเรอื และขา้ ราชการ สรา้ งผลงานวจิ ยั และพฒั นานวตั กรรม รวมทงั้ แนวคดิ ในการพงึ่ พา ตนเอง
๑๑.ใหค้ วามรดู้ า้ นคอมพวิ เตอร์เทคโนโลยกี ารสอื่ สารและสารสนเทศปญั ญาประดษิ ฐ์(ArtificialIntelligence:AI) และข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่ทันสมัยและสอดคล้องกับสิ่งที่นักเรียนนายเรือจะนาไปใช้เมื่อสาเร็จการศึกษา
๑๒.พัฒนาระบบและอุปกรณ์สนับสนุนการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพและเพียงพอ เช่น ระบบอินเทอร์เน็ต ระบบสารองข้อมูล
นโยบํายด้ํานกํารสร้ํางภําวะผู้นําและลักษณะทหําร
๑. จัดปฐมนิเทศนายทหารปกครองในต้นภาคการศึกษา เพื่อให้ทราบวิสัยทัศน์ ปรัชญา ภารกิจ วัตถุประสงค์ และปณิธานของโรงเรียนนายเรืออย่างแท้จริง รวมทั้งทราบคุณสมบัติของนายทหารปกครองที่ดี และการทาหน้าที่ นายทหารปกครองที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโรงเรียนนายเรือ
๒. ปรบั รปู แบบการอบรมการฝกึ และการปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บปฏบิ ตั ปิ ระจา (รปจ.)ใหส้ อดคลอ้ งกบั สถานการณ์ และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID–19) โดยนาระบบการสื่อสาร และเทคโนโลยีสารสนเทศ วิธีการ และเทคนิคที่มีประสิทธิภาพมาใช้ เพื่อให้การเรียนรู้มีคุณภาพใกล้เคียงกับการเรียน การอบรม และการฝึกในสถานการณ์ปกติมากที่สุด
๓. นายทหารปกครองปฏบิ ตั ติ นเปน็ แบบอยา่ ง ที่ดี มีจิตวิญญาณความเป็นครูที่ให้ทั้งความรู้ ด้านวิชาการ และปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมแก่ นกั เรยี นนายเรอื รวมทงั้ มลี กั ษณะทหารการแสดงออก การแต่งกายที่เหมาะสม และสง่างาม
๔. นายทหารปกครองปลกู ฝงั ใหน้ กั เรยี นนายเรอื มีคุณสมบัติของนายทหารเรือไทย ๕ ประการ ได้แก่ มีความรู้ เป็นผู้นาทางทหาร มีความซื่อสัตย์ และมคี วามจงรกั ภกั ดีเปน็ สภุ าพบรุ ษุ และมคี วามละเอยี ด รอบคอบ ไมป่ ระมาท
นาวิกศาสตร์ 18 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


๕. นายทหารปกครองปลูกฝังให้นักเรียนนายเรือ ยดึ ถอื คา่ นยิ มหลกั ของกองทพั เรอื ๔ ประการ หรอื SAIL ไดแ้ ก่ควํามเปน็ ชําวเรอื (Seamanship)ควํามซอื่ สตั ย์ และควํามจงรักภักดี (Allegiance) ควํามเป็น ผู้มีคุณธรรม จริยธรรม และควํามเป็นสุภําพบุรุษ ทหํารเรือ (Integrity and Gentleman) และควํามเป็นผู้นํา (Leadership)
๖. นายทหารปกครองดูแลนักเรียนนายเรือ
ให้กินอยู่ หลับนอน อย่างมีคุณภาพ เพื่อให้นักเรียนมีสุขภาพพลานามัยที่ดี พร้อมที่จะรับการฝึกศึกษามากที่สุด
๗. บริหารจัดการด้านกีฬา เพื่อให้โรงเรียนนายเรือมีทีมกีฬาที่เข้มแข็งเข้าแข่งขันรายการที่สาคัญ ได้แก่ กีฬา โรงเรียนทหารตารวจ และสัปดาห์กีฬานาวี
๘. จดั ใหม้ กี ารบรรยายของศษิ ยเ์ กา่ โรงเรยี นนายเรอื ทปี่ ระสบความสา เรจ็ ในการรบั ราชการ เพอื่ สรา้ งแรงบนั ดาลใจ แก่นักเรียนนายเรือ
นโยบํายด้ํานกํารบริหํารจัดกําร
๑. ทบทวนแผนยุทธศาสตร์โรงเรียนนายเรือ และจัดทาแผนปฏิบัติราชการ ๔ ปีโรงเรียนนายเรือ
๒. ปรบั ปรงุ และพฒั นาโครงสรา้ งคณะกรรมการ และแนวทางดา เนนิ การเรอื่ ง PMQA และนา มาใชใ้ นการบรหิ าร จัดการของโรงเรียนนายเรืออย่างแท้จริงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทางานมากยิ่งขึ้น
๓. มกี ารบรหิ ารงบประมาณทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพ ไดแ้ ก่ การปฏบิ ตั ถิ กู ตอ้ งตามกฎระเบยี บขอ้ บงั คบั การใชง้ บประมาณ ตามความจาเป็นและอย่างคุ้มค่า และการเร่งรัดการเบิกจ่ายให้เป็นไปตามแผนที่กาหนด
๔. ผบู้ งั คบั บญั ชา หวั หนา้ หนว่ ยขนึ้ ตรง และฝา่ ยอา นวยการ ตดิ ตามสถานการณก์ ารปฏบิ ตั งิ าน และการรายงาน ต่าง ๆ ของหน่วย และผู้เกี่ยวข้องผ่านระบบสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศที่กาหนดอยู่เสมอ เพื่อประสิทธิภาพ ในการทา งาน การรเู้ ทา่ ทนั สถานการณ์ การรบั ทราบขอ้ มลู ขา่ วสารทเี่ ปน็ ประโยชนต์ อ่ การปฏบิ ตั งิ านและการประสานงาน
๕. หน่วยขึ้นตรงและกาลังพลติดตามสถานการณ์ และข้อมูลข่าวสารจากสื่อต่าง ๆ ทั้งภายใน และภายนอก โรงเรียนนายเรืออยู่เสมอ เพื่อให้รู้เท่าทันเหตุการณ์ และสามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง

๖. จดั ใหม้ รี ะบบรกั ษาความปลอดภยั สถานที ปฏิบัติงาน และบ้านพักของหน่วยที่มีประสิทธิภาพ มีแผนเผชิญเหตุ แผนป้องกันความเสียหายจากภัย ต่าง ๆ และจัดให้มีการฝึกซ้อมการปฏิบัติตามแผน ตามห้วงเวลาที่เหมาะสม
๗. ประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ผลงาน ภาพลักษณ์ และชื่อเสียงที่ดีของโรงเรียนนายเรือ ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพสอดคล้อง กับสภาวะแวดล้อม และเทคโนโลยีในปัจจุบัน เช่น เว็บไซต์ สื่อสังคม (Social Media) ต่าง ๆ
นาวิกศาสตร์ 19 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


โดยมีคณะกรรมการประชาสัมพันธ์โรงเรียนนายเรือเป็นผู้กาหนดนโยบาย วางแผน ดาเนินการ รวมทั้งติดตาม สถานการณ์ และข้อมูลข่าวสารภายนอกตลอดเวลา เพื่อให้การประชาสัมพันธ์ มีความถูกต้อง เหมาะสม รวดเร็ว สามารถสื่อสาร และตอบสนองต่อปัญหาและสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที
๘. ใชห้ ลกั การทา งาน“ถกู ตอ้ งสมบรู ณ์รวดเรว็ ยึดถือประโยชน์ส่วนรวม”
๙. เตรียมพร้อมสาหรับการรับตรวจประเมิน จากหน่วยตรวจสอบที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมจเร ทหารเรือ สานักงานตรวจสอบภายในทหารเรือ คณะกรรมการ PMQA และ KM ของกองทัพเรือ
๑๐.ทาการทบทวนการปฏิบัติที่สาคัญ
(After Action Review: AAR) เพื่อนาข้อมูล
และบทเรียน มาปรับปรุงและพัฒนาการปฏิบัติ ที่สาคัญให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อาทิ การสอบ คัดเลือกบุคคลพลเรือนเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหารในส่วนของกองทัพเรือ
๑๑.จัดทาและเสนอโครงการก่อสร้างอาคารกองบังคับการ กรมนักเรียนนายเรือรักษาพระองค์ที่เหมาะสม สง่างาม และใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุด
นโยบํายด้ํานกําลังพล
๑. สง่ เสรมิ ใหก้ า ลงั พลมรี ะเบยี บวนิ ยั มลี กั ษณะ ทหารที่ดี แต่งกายถูกต้องตามระเบียบ ปฏิบัติท่า พระราชทานอยา่ งถกู ตอ้ งและเขม้ แขง็ ในฐานะหนว่ ย ที่เป็นแหล่งผลิตนายทหารหลักของกองทัพเรือ
๒. สง่ เสรมิ ใหก้ า ลงั พลมคี วามรใู้ นระดบั ทสี่ งู ขนึ้ และมีทักษะในการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย
๓. ผู้บังคับบัญชาของหน่วยปกครอง บังคับบัญชากาลังพลด้วยระบบคุณธรรม ได้แก่ การพิจารณาบาเหน็จ การย้ายบรรจุ การประเมินผลการปฏิบัติงาน
๔. ส่งเสริมให้กาลังพลมีคุณธรรมจริยธรรมด้วยการอบรมสั่งสอนและฟังธรรมตามห้วงเวลาที่เหมาะสมยกย่อง ชมเชย และตอบแทนผู้ทาความดีเพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่ส่วนรวม
๕. กาลังพลวางตัวและปฏิบัติตนอย่างเหมาะสม ไม่ปฏิบัติตนเสื่อมเสียภาพลักษณ์ และชื่อเสียงขององค์กร เช่น แต่งเครื่องแบบไปในที่ที่ไม่เหมาะสม ผิดเวลา และแต่งเครื่องแบบไม่ถูกต้องตามระเบียบ
๖. กาลังพลทุกนายมีวิจารณญาณในการใช้สื่อสังคม ในฐานะข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง ไม่แสดงความคิดเห็นทางการเมือง รวมทั้งไม่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
๗. ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นเสริมสร้างให้กาลังพลมีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมสร้างรากแก้ว ของกองทัพเรือที่จะทาให้กองทัพเรือมีความเข้มแข็ง และเจริญรุ่งเรืองต่อไป
นาวิกศาสตร์ 20 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


นโยบํายด้ํานสวัสดิกํารและสุขภําพ
๑. ส่งเสริมให้กาลังพลมีการรักษาสุขภาพ พลานามัยที่ดีอยู่เสมอ
๒. ส่งเสริมให้การสวัสดิการภายในโรงเรียน นายเรือตอบสนองความต้องการของนักเรียน นายเรือ และกาลังพลโรงเรียนนายเรือรวมท้ัง ครอบครัวมากยิ่งขึ้น เช่น สถานที่ออกกาลังกาย สนามกีฬา และร้านอาหาร
๓. กาหนดมาตรการและวิธีปฏิบัติในการ ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา๒๐๑๙(COVID–19)ทเี่หมาะสมและปรบั เปลยี่ น ให้สอดคล้องกับสถานการณ์แล้วแจ้งให้กับกาลังพล และครอบครัวอยู่เสมอ
๔. ใช้ศักยภาพของโรงพยาบาลโรงเรียน นายเรือในการบริการทางการแพทย์ และส่งเสริม สขุ ภาพกา ลงั พลของโรงเรยี นนายเรอื และครอบครวั ให้มากที่สุด
๕. จัดให้มีการออกกาลังกาย และการแข่งขัน กีฬาเพื่อส่งเสริมสุขภาพ และความสามัคคีในหมู่ กาลังพลตามห้วงเวลาที่เหมาะสม
๖. จัดให้มีการจาหน่ายสินค้าราคา ประหยัดในพื้นที่ของโรงเรียนเพื่อให้กาลังพล และครอบครัวได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพในราคา ที่เหมาะสม
๗. ปรับปรุง และพัฒนาคุณภาพของ ที่พักอาศัยในโรงเรียนนายเรือให้ดียิ่งขึ้น
นโยบํายด้ํานพิเศษ
๑. ส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งให้ สามสมอสมาคม
๒. ดูแลรักษาปรับปรุงอาคารสถานที่
และสงิ่ อา นวยความสะดวกของโรงเรยี นนายเรอื
ให้มีความสง่างามอยู่เสมอ รวมทั้งใช้สถานที่ ที่มีความสาคัญทางประวัติศาสตร์เป็นแหล่ง
ท่องเที่ยวเพื่อเชื่อมโยง และสนับสนุนการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ทหารเรือตามความเหมาะสม
นาวิกศาสตร์ 21 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


บทสรุป
ตั้งแต่วันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๙ จนถึง
ปัจจุบันรวมระยะเวลา ๑๑๕ ปี โรงเรียนนายเรือ
ไดร้ บั การพฒั นามาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง มกี ารเปลยี่ นแปลง
หลายเรื่อง ได้แก่ ที่ตั้งของโรงเรียน หลักสูตร
การศกึ ษาผบู้ ญั ชาการโรงเรยี นและนโยบายเปน็ ตน้
แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลยคือ วัตถุประสงค์
ของการตั้งโรงเรียนนายเรือเพื่อผลิตนายทหารเรือ
ทเี่ปน็ รากแกว้ ของกองทพั เรอื ใหม้ คี วามรภู้ าควชิ าการวชิ าชพทหารเรอและภาวะผนู าซง๓เสาหลกของโรงเรยนนายเรอ ได้แก่ กองบัญชาการและส่วนสนับสนุน ฝ่ายศึกษา และกรมนักเรียนนายเรือรักษาพระองค์ จะต้องร่วมแรง ร่วมใจกันให้การฝึกศึกษาแก่นักเรียนนายเรืออย่างเต็มที่ และทางานประสานสอดคล้องกันเพื่อให้นักเรียนนายเรือ มีความเข้มแข็ง มีความรู้ความสามารถ และคุณธรรมจริยธรรมสามารถขับเคลื่อนกองทัพเรือให้เจริญรุ่งเรือง ตามเปา้ หมายทตี่ งั้ ไวด้ ังคากล่าวที่ว่า “ร่วมใจสร้ํางรํากแก้วให้เข้มแข็ง เป็นแรงขับทัพเรือสู่เป้ําหมําย”
เอกสารอ้างอิง
๑. แชน ปจั จสุ านนท,์ พลเรอื ตร.ี หนงั สอื เรอื่ ง ขอใหแ้ กป้ ระวตั โิ รงเรยี นนายเรอื เมอื่ แรกตงั้ ลงวนั ที่ ๒๒ มถิ นุ ายน ๒๕๑๙ ๒. กองบรรณาธิการ, ประวัติโรงเรียนนายเรือ. นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๕๙ เล่ม ๑๐ พ.ศ. ๒๕๑๙
๓. ดิลก ภัทรโกศล, พลเรือตรี. ๒ ปีที่โรงเรียนนายเรือปากน้า. นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๖๙ เล่ม ๑๒ พ.ศ. ๒๕๒๙
๔. โรงเรียนนายเรือ, ๙๐ ปี โรงเรียนนายเรือ. นาวิกศาสตร์. มกราคม ๒๕๔๐
๕. ประพฒั น์ จนั ทวริ ชั , พลเรอื เอก. โรงเรยี นนายเรอื มอี ายคุ รบ ๑๐๐ ป.ี นาวกิ ศาสตร.์ ปที ี่ ๘๓ เลม่ ที่ ๑๑ พฤศจกิ ายน ๒๕๔๓ ๖. กองทัพเรือ, ๑๐๐ ปี การเสด็จพระราชดาเนินทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ, พฤศจิกายน ๒๕๔๙
๗. มนู สาคริก, พลเรือโท. โรงเรียนนายเรือ สมุทรปราการ. นาวิกศาสตร์. มิถุนายน ๒๕๕๔
๘ . บ ญุ พ สิ ฐิ ศ ร หี ง ส , ์ ๑ ๑ ๐ ป ี เ ส ด จ็ พ ร ะ ร า ช ด า เ น นิ ท ร ง เ ป ดิ โ ร ง เ ร ยี น น า ย เ ร อื . น า ว กิ ศ า ส ต ร ์ ป ที ี ่ ๙ ๙ เ ล ม่ ท ี ่ ๑ ๑ พ ฤ ศ จ กิ า ย น ๒ ๕ ๕ ๙
นาวิกศาสตร์ 22 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
ี ื ้ึ่ ั ี ื


นาวิกศาสตร์ 23 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


วันกองทัพเรือครั้งแรก (ตอนที่ ๑)
๑. วันกองทัพเรือคร้ังแรก
วันกองทัพเรือครั้งแรก คือวันท่ี ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๖ กองทัพเรือได้จัดงานวันกองทัพเรือ
ขึ้นเป็นคร้ังแรก โดยจัดให้มีการแสดงเป็นการบรรยายประกอบดนตรีทางวิทยุกระจายเสียงของกรมโฆษณาการ (คือกรมประชาสัมพันธ์ในปัจจุบัน) ซึ่งเป็นส่ือโฆษณาอย่างเดียวในเวลาน้ัน ในสมัยนั้นเป็นสมัยที่ประเทศไทยอยู่ใน สมัยของรัฐนิยม มีจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการเปล่ียนแปลงการใช้ภาษาไทยท่ีเป็นภาษาเขียน เสียใหม่ โดยตัดพยัญชนะออก ๑๓ ตัว ตัดสระออก ๕ ตัว ตัด “เชิง” ที่ “ญ” ออก นอกจากน้ียังเปลี่ยนการใช้เลขไทย เป็นเลขอารบิค (ตัวเลขแบบอาหรับได้แก่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 0) อีกด้วย
อิทธิพลของภาษารัฐนิยม ทาให้พระราชหัตถเลขาของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๕ ในวันเสด็จพระราชดาเนินทรงกระทาพิธีเปิดโรงเรียนนายเรือ ที่พระราชวังเดิม เม่ือวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๒๕ (พ.ศ. ๒๔๔๙) ต้องถูกเปล่ียนแปลงไปด้วย
จาก
ถูกเปลี่ยนไปเป็น
นาวิกศาสตร์ 24 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
พลเรือตรี กรีฑา พรรธนะแพทย์


หมายเหตุ
เลข ๓๙ ที่อยู่เหนือ รศ ตามด้วยเลข ๑๒๕ นั้น คนส่วนมากไม่ทราบว่าคืออะไร และไม่สนใจว่าคืออะไร จึงขอบอก กล่าวให้ทราบโดยทั่วกันไว้ ณ ที่นี้ว่า
เลข ๓๙ คือ พนมศก หมายถึงเลขปีที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ได้เสด็จ เถลิงถวัลยราชสมบัติมาแล้ว เป็นปีที่ ๓๙ และเขียนไว้บน รศ
รศ ๑๒๕ คือ รัตนโกสินทรศก ๑๒๕
รัตนโกสินทรศก อ่านว่า รัดตะนะโกสินสก คือปีที่นับตั้งแต่วันตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ เริ่มตั้งภายหลังพุทธศักราช (พ.ศ.) ๒๓๒๕ ปี
พุทธศักราช (พ.ศ.) คือปีที่นับตั้งแต่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน
ถ้าอยากจะเทียบ ระหว่างพุทธศักราช (พ.ศ.) กับรัตนโกสินทรศก (ร.ศ.) ก็เอาพุทธศักราช ลบด้วย ๒๓๒๔ จะเท่ากับรัตนโกสินทรศก หรือเอารัตนโกสินทรศก บวกด้วย ๒๓๒๔ จะเท่ากับ พุทธศักราช
เช่น ร.ศ.๑๒๕บวกด้วย๒๓๒๔จะเป็นพ.ศ.๒๔๔๙ พ.ศ. ๒๔๔๙ ลบด้วย ๒๓๒๔ จะเป็น ร.ศ. ๑๒๕
การแสดงของกองทัพเรือในวันกองทัพเรือทางวิทยุกระจายเสียงเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๖ จึงเขียนว่า
การแสดงในงานวันกองทัพเรือครั้งแรกนี้ มีการซ้อมใหญ่ที่กองดุริยางค์ทหารเรือ ส่วนการแสดงจริงไปกระทา ที่สถานีวิทยุกระจายเสียง ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับกองสัญญาณทหารเรือ รายการแสดงเป็น การบรรเลงประกอบ ดนตรี ซึ่งมีรายการสังเขป ได้แก่
1. รายการสาหรับทหานของชาติเรื่อง “กองทัพเรือสมัยกู้ชาติ”
2. การบรรยายประวัติเรื่อง “วันกองทัพเรือ” “เรื่องราชนาวีของเรา”
3. สาส์นอวยพรที่สาคัน
4. การบรรยายเรื่อง “คุณสมับติพิเศษของทหานไนราชนาวี”
5. การแสดงชีวิตทหานเรือประกอบดนตรี เรื่อง “ชีวิตวันหนึ่งของลูกทเล
นาวิกศาสตร์ 25 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


๒. เพลงทหารเรือ ที่ทหารเรือไม่รู้จัก แล้วก็ลืม ในบทความเรื่องนี้จะขอกล่าวถึงแต่เพียงเรื่องดนตรหีรือเพลงแต่อย่างเดียวซึ่งมีอยู่ในการแสดงครั้งนี้ประมาณ
๑๗ เพลง มีบางเพลงที่ยังคงเป็นที่รู้จัก และยังร้องกันอยู่ในปัจจุบัน แต่มีอีกหลายเพลง ที่ทหารเรือในยุคนี้ไม่รู้จัก และ เป็นเพลงที่ทหารเรือลืมไปในที่สุด ดังที่จะนาเสนอท่านผู้อ่านได้ทราบ และหวังว่าคงจะเป็นประโยชน์ต่อการบันทึก ไวเ้ ปน็ ประวตั ศิ าสตรข์ องกองทพั เรอื ตอ่ ไป สา หรบั การเขยี นชอื่ เพลง และคา รอ้ งของเพลงนนั้ จะขอคดั ลอกจากตน้ ฉบบั ซึ่งเขียนเป็นภาษารัฐนิยม ในปี พ.ศ. ๒๔๘๖ เพื่อให้คงสภาพของการเป็นประวัติศาสตร์เอาไว้ ส่วนท่านผู้ใดจะนาไป เขียนต่อให้เป็นภาษาไทยในปัจจุบันก็สุดแล้วแต่จะเห็นเป็นการสมควร
เนื้อหาของบทความในเรื่องนี้ ส่วนใหญ่ที่เป็นส่วนสาคัญ ผมได้มาจากหนังสือ “นาวิกสาตร ปีที่ 27 พ.ส. 2487 เล่ม 1 เรื่อง “การส่งกะจายเสียงทางวิทยุ วันกองทัพเรือ 20 พ.ย. 86”
การส่งกระจายเสียงทางวิทยุวันกองทัพเรือ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๘๖ เริ่มต้นตั้งแต่เวลา ๑๘๓๕
ว.เชาวนะกวี คือ รองอามาตย์โท วงศ์ เชาวนะกวี อนุศาสนาจารย์คนแรกของกองทัพเรือ อาจารย์สอน วิชาภาษาไทยแก่นักเรียนนายเรือ และนักเรียนเตรียมนายเรือ
เพลงที่หนึ่ง
นาวิกศาสตร์ 26 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


จอมพล ป.พิบูลสงคราม พลเรือเอก สินธ์ุ กมลนาวิน
รองอามาตย์โท วงศ์ เชาวนะกวี อนุศาสนาจารย์คนแรกของกองทัพเรือ
นาวิกศาสตร์ 27 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


เพลงที่สอง
นาวิกศาสตร์ 28 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


เพลงที่สาม
* นาวาเอก เอกไชย อิสรางกูร นะ อยุธยา พลเรือตรี เอกไชย (สงวน) อิศรางกูร ณ อยุธยา
นาวิกศาสตร์ 29 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


เพลงที่สี่
นาวิกศาสตร์ 30 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


เพลงท่ีห้า
นาวาตรี จรัด บุญบงการ (พลเรือโท จรัส บุญบงการ)
นาวิกศาสตร์ 31 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


เพลงที่หก
นาวิกศาสตร์ 32 ปีท่ี ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


คณุ ครพู ลเรอื เอก ประพฒั น์ จนั ทวริ ชั เลา่ วา่ โรงเรยี นนายเรอื จดั การบรรยายประกอบดนตรเี รอื่ งชวี ติ วนั หนง่ึ ของลูกทเล คุณครูพลเรือเอก นัย นพคุณ เวลานั้นมียศนาวาโท และเป็นต้นเรือโรงเรียนนายเรือเป็นผู้ประพันธ์บท กองดุริยางค์ทหารเรือจัดดนตรี และเพลงประกอบ คุณครูพลเรือเอก ประพัฒน์ จันทวิรัช ตอนน้ันเป็นนักเรียน นายเรือช้ันปีที่ ๔ รับหน้าที่เป็นผู้บรรยาย (โคสก) นักเรียนนายเรืออื่น ๆ ทาหน้าที่ร้องเพลง เป่านกหวีดเรือ กล่าวคาปฏิญาณ ตามบท
พลเรือเอก นัย นพคุณ พลเรือเอก ประพัฒน์ จันทวิรัช
นาวิกศาสตร์ 33 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


นาวิกศาสตร์ 34 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


เพลงที่เจ็ด
นาวิกศาสตร์ 35 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


* ลงทะเล ตั้งแต่ผมเป็นนักเรียนเตรียมนายเรือชั้นปีที่ ๑ พ.ศ. ๒๔๙๑ มาจนบัดนี้ พ.ศ. ๒๕๖๔ ร้องกันว่าจมทะเล เพลงลกู ทะเล เกดิ ขนึ้ ในราชนาวไี ทย ทโี่ รงเรยี นนายเรอื พระราชวงั เดมิ ธนบรุ ี เมอื่ ประมาณเดอื นตลุ าคม หรอื พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๘๕ นาวาเอกหญงิ สจุ นิ ดา ศรปี ระยรู ไดเ้ ขยี นเลา่ ไวใ้ นนติ ยสารนาวกิ ศาสตร์ เดอื นพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ เรื่อง “นานไป (เกรงว่า) เขาก็ลืม” และคุณครูพลเรือตรี บุรินท์ พงศ์สุพัฒน์ ได้เขียนเล่าไว้ในนิตยสาร
นาวิกศาสตร์ เดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๒ เรื่อง “เสริมต่อเรื่องนานไป (เกรงว่า) เขาก็ลืม” ว่า
“ในปี พ.ศ. ๒๔๘๕ นักเรียนนายเรือ ระหัส เทพปฏิมา กับนักเรียนนายช่างกล บุรินทร์ (บุญชู) พงศ์สุพัฒน์ เป็นนักเรียนนายเรือชั้นปีที่ ๕ รุ่นเดียวกัน คุณครู R.O. Geisler (ไกสเลอร์) เป็นครูสอนภาษาเยอรมัน ท่านเข้าไปนั่งที่เปียโนห้องดนตรีของโรงเรียนนายเรือ พระราชวังเดิม เคาะเปียโนแล้วร้องนาสอนเพลง “Gegen Engeland” (อ่านว่าเกเก้น เอ็งลันด์ แปลว่าสู้กับอังกฤษ) ให้แก่นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ ๕ ใช้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง นกั เรยี นนายเรอื กส็ ามารถรอ้ งไดห้ มด เพราะทา นองมนั เรา้ ใจ นกั เรยี นนายเรอื ระหสั เทพปฏมิ า เกดิ แรงบนั ดาลใจขนึ้ มาก็ นงั่ แตง่ เนอื้ รอ้ งไทยขนึ้ มา ๒ บทโดยใชเ้ วลาเขา้ หอ้ งเรยี นในตอนเชา้ ระหวา่ งเวลา ๐๖๐๐ - ๐๗๓๐ กแ็ ตง่ เสรจ็ พอเสรจ็ แลว้
พวกเรากจ็ ะไปอาบนา้ กนั นกั เรยี นนายเรอื ระหสั ฯบอกวา่ พรรคพวกขอเวลาเดยี๋ วชว่ ยกนั รอ้ งเพลง“GegenEngeland” ที่มีเนื้อร้องภาษาไทยหน่อย พวกเราก็ร้องได้ทันที เพราะ Melody (ทานอง) จาขึ้นใจอยู่แล้ว ขอดูเนื้อเพลงภาษาไทย ก็ร้องได้เลย ใช้เวลา ๒ - ๓ วัน เท่านั้น นักเรียนนายเรือทุกห้องก็ร้องได้ แล้วแผ่ขยายออกไปรวดเร็วภายในรั้วโรงเรียน นายเรือ เพลงที่นักเรียนนายเรือ ระหัส เทพปฏิมา แต่งเป็นภาษาไทยเพลงนี้มีชื่อว่าเพลง “ลูกทะเล”
เนอื้ รอ้ งเพลงลกู ทะเลของนกั เรยี นนายเรอื ระหสั เทพปฎมิ ากบั เนอื้ รอ้ งเพลงลกู ทะเลในรายการวนั กองทพั เรอื พ.ศ.๒๔๘๖ มแี ตกตา่ งกนั เลก็ นอ้ ย แตท่ หารเรอื พวกเรามกั จะชนิ กบั เนอื้ รอ้ งของนกั เรยี นนายเรอื ระหสั เทพปฎมิ า ดงั นี้
ลูกทะเล
ลูกทะเลเริงใจจะออกไปทะเล มาฮาเฮกับเราด้วยช่วยอวยพร เราจะไปสังหารพวกที่มาราญรอน เมืองบิดรมารดานั้นหน้าที่เรา
ขอลาต่อพ่อแม่และญาติมิตรชิดหน้า ลาแล้วแก้วตา ลาแล้วแก้วตาพี่ อยู่จงดี ฝ่าคลื่นฝืนลม ฝ่าคลื่นฝืนลม ฝ่าคลื่นฝืนลม จมมันลงทะเล จมลงทะเล
เมื่อธงราชนาวีของเรายังมีอยู่ จะเชิดชูชาวไทยไม่ให้น้อยหน้า ธงเรือรบของไทยจะไม่มีใครกล้า ประมาทหน้าชาวไทยน้าใจทะเล
ขอลาต่อพ่อแม่และญาติมิตรชิดหน้า ลาแล้วแก้วตา ลาแล้วแก้วตาพี่ อยู่จงดี ฝ่าคลื่นฝืนลม ฝ่าคลื่นฝืนลม ฝ่าคลื่นฝืนลม จมมันลงทะเล จมลงทะเล เพื่อไทย
นาวิกศาสตร์ 36 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


เพลงที่แปด
หลังจากที่นักเรียนนายเรือ ระหัส เทพปฎิมา แต่งเพลง ลูกทะเล เสร็จเรียบร้อยแล้ว อีกวันสองวันต่อมานักเรียน นายเรือ ระหัสฯ ก็แต่งเนื้อเพลงในทะเล ขึ้นอีกเพลงหนึ่ง โดยใช้ทานองเพลงเยอรมันชื่อ “Auf der See” อ่านออก เสียงว่า “เอาฟ แด เซ” แปลเป็นไทยว่า “ในทะเล” ตรงตัวเลย
การแสดงในปี พ.ศ. ๒๔๘๖ นี้ท่านใช้ชื่อว่า เพลงชาวเรือ ก็เพราะว่าเพลงนี้เป็น เพลงชาวเรือ ที่มีชื่อว่าเพลง “ในทะเล” ตรงกับภาษาเยอรมัน “Auf der See”
เพลงในทะเล ที่นักเรียนนายเรือ ระหัส เทพปฎิมา แต่งเนื้อร้องเป็นภาษาไทยนั้น ทหารเรือรุ่นหลัง ไม่รู้ว่ารุ่นไหน ได้เปลี่ยนแปลงทั้งเนื้อร้องทั้งทานองจนเรียกว่า “เละตุ้มเป๊ะ” จนรับไม่ได้ ดังจะได้เล่าถึงตอนที่เพี้ยนๆ เอาไว้ดังนี้
นาวิกศาสตร์ 37 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


๑. Aud der ๒. เอาฟ แด ใน ทะ
๒ Da ist ดา อีสท์
ต้อง ทน ๓. Da ist
ดา อีสท์
เพื่อ ชาติ
๔ Da soll ดา โซล
ยัง จะ ๕. Ade! Ade!
อาเด ! อาเด ! ทะเล ! ทะเล !
ตอนเนื้อร้องที่ว่า ดา อีสท์ เพื่อ ชาติ
Auf der see เอาฟ แด เช ในทะเล
See da
เซ ดา
เล ทั้ง
die Arbeit ดี อาร์ไบท์ ต้อง ฝืนยัน die Heuer ดี ฮอยเอ่อ แล ราชชะ das Teufel ดาส ทอยเฟล มีใคร คิดถึง Ade!
อาเด ! ทะเล !
ฮอยเอ่อ
ราช
ist Nichts loss อีสท์ นิคส โลส ลม และ คลนื่ viel zu gross ฟีล ซู โกรส อยู่ กับ งาน viel zu Klein ฟีล ซู ไคลน์ นา วี ไทย
ดี
และ
ซึ่งก็ลงตัวกับเนื้อร้องของ Auf der See อยู่แล้ว แต่ทหารเรือรุ่นหลังเอาไปแปลงเป็น ดา อีสท์ ดี ฮอยเอ่อ ฟีล ซู ไคลน์
เพื่อ ฉะ หระ ราชชะ นา วี ไทย เพื่อฉะหระราชชะนาวีไทย
อะเด! อ๊ะเอ!) ฟีล ซู ไคลน์
นา วี ไทย
(อะเด่!
(ถะเหล่! ถะเล! ทะเล!)
ทาให้เสียความรู้สึกและหงุดหงิดกับคาว่า ฉะหระราชนาวีไทย (ฉะ - หระ - ราด - ชะ - นา - วี - ไทย) เป็นอันมากกว่า
๑. มันเป็นไปได้ยังไง ใครเป็นคนแปลง
๒. คาว่า ฉะหระราดชะนาวี มันคืออะไร เป็นภาษาอะไร
พอมาถึงตอนจบ
Ade! Ade! Ade! ทะเล ! ทะเล ! ทะเล !
ทหารเรือตั้งแต่รุ่นคุณครูระหัสฯ จนมาถึงรุ่นผม ร้องเหมือนๆ กันมาโดยตลอด และเลยไปจนถึงรุ่นน้อง อีกหลายรุ่นว่า
นาวิกศาสตร์ 38 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
Seemann เซมาน ความสา
Sein ไซน์ ราญ


Ade Ade Ade อะเด่ อะเด อ๊ะเด ถะเหล่ ถะเล ทะเล
แต่ทหารเรือรุ่นหลังร้องว่า
ถะเหล่ ทเล ทเล
แล้วยังแถมต่อท้ายอีกด้วยว่า เฮ เฮ
เป็น ถะเหล่ ทเล ทเล เฮ เฮ
ไม่รู้ว่าเอา เฮ เฮ มาจากไหน
เนื้อร้องของคุณครูระหัส เทพปฎิมา ไม่มี เฮ เฮ
ควรให้เกียรติและเคารพผู้แต่งเนื้อร้องคือคุณครูระหัส เทพปฏิมา กันบ้าง
เมื่อนักเรียนนายเรือ ระหัส เทพปฏิมา เรียนสาเร็จออกเป็นนายทหารเรือเมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๖
พอถงึ ปี พ.ศ. ๒๔๘๘ สงครามเลกิ คา่ ของเงนิ มนั บบี คนั้ เรอื ตรี ระหสั เทพปฎมิ า กจ็ า เปน็ ตอ้ งลาออกจากราชการทหารเรอื ไปเดินเรือ เพราะทนรับเงินเดือนเพียงเดือนละ ๑๖๐ บาทไม่ไหว
พลเรอื เอก สามารถ จา ปรี ตั น์ จบการศกึ ษาจากโรงเรยี นนายเรอื เยอรมนั หลกั สตู ร ๕ ปี ไดเ้ ลา่ จากความทรงจา วา่
เพลงลูกทะเล ที่เราร้องกันอยู่นี้ มาจากเพลงของเยอรมนีชื่อเพลง “Wir fahren gegen Engeland” อ่านว่า “เวยี ร์ ฟาหเ์ รน็ เกเกน้ เอง็ ลนั ด”์ แปลวา่ “เราจะออกเรอื ไปสกู้ บั องั กฤษ” (We sail against England) ผทู้ แี่ ตง่ เพลงนี้ คือ Hermann Löns , ๑๘๖๖ - ๑๙๑๔ (แฮร์มานน์ เลอนส์) เป็นเพลงที่นามาให้ทหารในกองเรือดาน้าเยอรมัน ร้องปลุกใจในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ แต่ผู้นากองทัพได้จงใจตัดเนื้อร้องท่อนสุดท้ายออก เพราะพิจารณาเห็นว่าเป็น เนื้อร้องที่บ่งบอกถึงความสูญเสีย พ่ายแพ้ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการปลุกขวัญหรือสร้างความฮึกเหิม
ส่วนเพลง “Auf der See” (เพลงในทะเล) นั้น มุ่งเน้นที่ความสนุกสนาน รื่นเริง และความยากลาบากในทะเล อันเป็นการสะท้อนถึงชีวิตชาวเรือ โดยทั่วไป เพลงนี้จึงเป็นที่นิยมร้องในหมู่คนเยอรมันโดยเฉพาะชาวเรือ ชาวทะเล และน่าจะมีความเก่าแก่กว่าเพลง “Wir fahren gegen Engeland” เสียอีก ทั้งยังไม่เป็นเพลง “ต้องห้าม” เพราะเนื้อร้องไม่มีนัยทางการเมือง หรืออุดมการณ์เช่นเพลง “Wir fahren gegen Engeland”
ท้ายที่สุด พลเรือเอก สามารถ จาปีรัตน์ ได้เขียนไว้ว่า
“ขอเสนอแนะและเรยี กรอ้ งใหค้ ณุ ครูกรฑี าฯไดก้ รณุ าสบื คน้ และถา่ ยทอดภมู หิ ลงั ทมี่ าของเพลงปลกุ ใจของทหารเรอื
ในอดตี โดยเฉพาะในยคุ ของเสดจ็ เตยี่ เพอื่ ใหท้ หารเรอื รนุ่ ใหมไ่ ดต้ ระหนกั และสงั วรถงึ คณุ คา่ ของเพลงเหลา่ นี้ ทนี่ บั วนั จะจางหายไปตามกระแสความนิยมของเพลงยุคใหม่ โดยผมยินดีเป็นผู้ช่วยในการสืบค้นในส่วนของทหารเรือเยอรมัน อย่างเต็มกาลัง”
เรียน พลเรือเอก สามารถ จาปีรัตน์
ลาพังผมคนเดียวทั้งแก่ และเก่าคงไปไม่รอด ถ้าไม่ได้รับความเห็นชอบ และการสนับสนุนจากกองทัพเรือ กองดุริยางค์ทหารเรือ และชมรมศิษย์เก่าดุริยางค์ทหารเรือ เพลงทหารเรือที่เพี้ยน เพี้ยนไปมีมากทั้งชื่อเพลง คาร้อง และทา นอง ถา้ ไมม่ ใี ครสนใจทจี่ ะทา ใหเ้ ปน็ มาตรฐานเดยี วกนั แลว้ กข็ อใหท้ า ใจ หรอื ปลงตก เสยี เกดิ วา่ อะไรมนั จะเกดิ มันก็ต้องเกิด หรือ อะไรมันจะไม่เกิด มันก็ต้องไม่เกิด หรือ ชั่งมัน
นาวิกศาสตร์ 39 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


เพลงที่เก้า
(โปรดอ่านต่อฉบับหน้า)
นาวิกศาสตร์ 40 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔




วนั กองทพั เรอื ครงั้ แรก (ตอนจบ)
เมื่อดาเนินการแสดงมาถึงเพลง ไว้ไจ ผมก็มีเรื่องจะเล่าให้ฟังว่าเดิมทีเดียวนั้น ไม่มีเพลง ไว้ไจ อยู่ในรายการแสดง เพลงที่กาหนดไว้แต่เดิมนั้นคือ เพลงพระนิพนธ์ เกิดมาท้ังที ของ เสด็จเตี่ย พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งคุณครู พลเรือเอก ประพัฒน์ จันทวิรัช ได้เขียนเล่าไว้ในนิตยสารนาวิกศาสตร์ ฉบับเดือนพฤษภาคม ๒๕๓๗ เรื่อง “เสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ กับเพลงทหารเรือ” ว่า ในการบรรยายประกอบดนตรี เรื่อง ชีวิตวันหนึ่งของ ลูกทะเล ทางวิทยุกระจายเสียงในวันกองทัพเรือเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๔๘๖ นั้น คุณครูพลเรือเอก ประพัฒน์ จันทวิรัช เล่าว่า
“ในการซ้อมใหญ่ที่กองดุริยางค์ทหารเรือ มีคณะกรรมการของกองทัพเรือมาฟัง และติชมด้วย คุณครู นาวาเอก เอกไชย อิศรางกูร ณ อยุธยา (ยศขณะนั้น) ทักท้วงการนาเพลง เกิดมาทั้งที มาใช้ เพราะ มีคาต่างประเทศ เช่น ซี้ อยู่ด้วย เป็นการผิดรัฐนิยมในสมัยนั้น คุณครูนาวาเอก สวัสดิ์ จันทนี ซึ่งเป็นอาจารย์ใหญ่ พรรคนาวิน และเป็นกรรมการ เห็นว่าควรใช้ไปตามเดิมเพราะท่านเห็นว่า เสด็จเตี่ยท่านแต่งไว้ ไม่ใช่พวกเรา แตง่ เอง ใครวา่ ผดิ กไ็ ปเอาผดิ กบั เสดจ็ เตยี่ ทา่ นซิ กรรมการสว่ นใหญค่ งจะไมอ่ ยากผดิ รฐั นยิ ม จงึ ถอนเพลง เกดิ มาทงั้ ที ออก และใหก้ องดรุ ยิ างคฯ์ จดั เพลงใหม่ กองดรุ ยิ างคฯ์ กแ็ ตง่ เพลงไวใ้ จให้ และบอกวา่ ลอกทา นองเพลงฝรงั่ มา (ตอ่ มาเมอื่ ไดด้ รู ะบา บลั เลตเ์ รอื่ ง SWAN LAKE ผมจงึ รวู้ า่ เปน็ บางสว่ นของเพลงวอลซ์ ในระบา เรอื่ งน)ี้ ผมยงั จา เนอื้ เพลงนไี้ ดท้ งั้ หมด
นาวาเอก เอกไชย อิศรางกูร ณ อยุธยา นาวาเอก สวัสดิ์ จันทนี
นาวิกศาสตร์ 52 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔
พลเรอื ตรี กรฑี า พรรธนะแพทย์


แต่ขอกล่าวถึงจุดสาคัญเท่านั้น เพื่อไม่ให้เรื่องยืดยาวเกินไป คือ มีตอนหนึ่งว่า ไว้ไจได้นาวี และจบเพลงว่า เพราะเรามีผู้นา จึงสอดคล้องกับรัฐบาลสมัยเชื่อผู้นาชาติพ้นภัย และไม่มีผู้ใดทักท้วงอีก” คุณครูพลเรือเอก ประพัฒน์ ว่าไว้ยังงี้
เป็นอันว่าเพลงพระนิพนธ์ เกิดมาทั้งที ของเสด็จเตี่ยถูกระงับ (BAN/ถอนออก) เพราะมีภาษาต่างประเทศ (จีน)
หมายเหตุ ท่านผู้อ่านจะเห็นได้ว่า กรรมการไม่ยอมรับภาษาต่างประเทศ คาว่า ซี้ แต่กลับยอมรับนาเอา เพลงของต่างประเทศมาใช้ คือเพลงจากบัลเลต์ เรื่อง SWAN LAKE
SWAN LAKE เป็นบัลเลต์ (Ballet/ระบาปลายเท้า) แบบคลาสสิก ที่มีผู้นิยมมากที่สุดใน ค.ศ. ๑๘๗๖ ปีเตอร์ อีลิค ไชคอฟสกี PETER (PYOTR) ILYICH TCHAIKOVSKY ค.ศ๑๘๔๐-๑๘๙๓ นักดนตรี และคีตกวีผู้ยิ่งใหญ่ของโลก ชาวรัสเซีย ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการของ Moscow Theatres ให้เป็นผู้ประพันธ์เพลง (COMPOSER) ประกอบบัลเลต์ SWAN LAKE (SCHWANENSEE . LE LAC DES CYGNES) เขียนบทโดย VLADIMIR BEGITCHEV และ VASILY GELTZER บัลเลต์เรื่องนี้มีอยู่ ๔ องก์ (4 ACTS)
บัลเลต์เรื่อง SWAN LAKE เป็นนิยายรักบันลือโลกระหว่าง Prince Siegfried กับ Odette นางพญาหงส์ (Swan Princess/Queen of Swan) ด้วยความอยากรู้ เพลงทคี่ ณุ ครพู ลเรอื เอก ประพฒั น์ กลา่ ววา่ ทางกองดรุ ยิ างคฯ์ ลอกทานองเพลงฝรั่งมามีทานองอย่างไร ผมจึงพยายามดูบัลเลต์เรื่อง SWAN LAKE จาก DVD (DigitalVersatileDisc)แสดงนา โดยMARGOTFONTEYNกบั RUDOLFNUREYEVนกั บลั เลตห์ ญงิ ชายชอ่ื ดงั บนั ลอื โลก ดูแล้วดูอีกอยู่หลายเที่ยว จึงขอสันนิษฐาน (เดา) เอาว่าน่าจะเป็นเพลงในองก์ที่ ๒ (ACT 2) ของ SWAN LAKE เป็นตอนที่ Prince Siegfried ได้พบกับ Princess Odette ซึ่งได้ถูก Rothdart ผู้วิเศษหรือพ่อมด (Magician) สาปให้เป็นนางพญาหงส์ (Swan Princess/Queen of Swan) พร้อมกับบริวารนางหงส์ทั้งหลาย โดยจะกลายร่าง เป็นคนได้เฉพาะในระหว่างเวลาเที่ยงคืนถึงรุ่งอรุณเท่านั้น
ในค่าคืนหนึ่ง Prince Siegfried ได้พบกับ Princess Odette ที่ริมทะเลสาบ (Forest Lake Side) ในตอนท้าย ๆ ขององก์ที่ ๒ จะมีนางหงส์ (The Swans) ออกมาเริงระบา (Dance of the Swans) ในลีลาอันสวยงามน่าชม อยู่ริมทะเลสาบ ในตอนนี้จะมีแนวเพลง (Theme) ซึ่งดนตรีจะมีท่วงทานองในจังหวะวอลซ์ (Waltz) ที่ไพเราะ และชัดเจนมาก (High light) ผมคิดว่าผมเดาไม่ผิดตามที่คุณครูพลเรือเอก ประพัฒน์ กล่าวว่าเป็นทานองในเพลงไว้ไจ เพราะจังหวะวอลซ์นั้น เป็นจังหวะเดียวที่ผมจาได้แม่นมาก คือ ติ๊ด-ติ๊ด-ซิ่ง ติ๊ด-ติ๊ด-ซิ่ง พอๆ กับจังหวะมาร์ช (March) ตึ้ง-ตึ้ง-ตึ้ง ตึ้ง-ตึ้ง-ตึ้ง ที่ผมต้องเดินสวนสนาม หรือหัดกายบริหาร แบบราชนาวีอยู่บ่อย ๆ ตอนเป็นนักเรียนนายเรือ
สรุปแล้ว กรรมการ ไม่เอา จีน แต่ไปเอา รัสเซีย ซึ่ง ในช่วงเวลานั้นคู่สงครามของไทยในสงครามโลกครั้งที่ ๒ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ รัสเซีย และจีน
หมายเหตุ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๖ นั้น “ไว้ใจได้นาวี” “เพราะเรามีผู้นา” แต่ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๙๔ ปรากฏ ว่า “นาวีไว้ใจไม่ได้” เสียแล้ว “เพราะเรามีผู้นา” ในเมื่อ วันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๔ มีนาวีทหารเรือส่วนน้อย ทาการปฏิวัติจี้จับ จอมพล ป. พิบูลสงคราม ท่านผู้นา ลงเรือหลวง ศรอี ยธุ ยา เปน็ ตวั ประกนั เกดิ เหตกุ ารณท์ เี่ รยี กกนั วา่ กบฏแมนฮตั ตนั
นาวิกศาสตร์ 53 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


เพลงที่สิบ
บัลเลต์เรื่อง SWAN LAKE (ACT 2) FOREST LAKE SIDE
สาหรับเพลงนี้ ผู้เขียนท่านบอกไว้แต่ทานองเพลง คือ บอกว่า เพลงทานอง Coming through the Line ท่านไม่ได้บอกว่าชื่อเพลงอะไร แต่เมื่อได้ดูเนื้อร้อง หรือคาร้อง (Lyrics) ของเพลงนี้แล้ว ก็บอกได้ทันทีว่า เป็นเพลง พระนิพนธ์ของเสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ หรือเป็นเพลงของเสด็จเตี่ยนั่นเอง แต่เท่าที่นามาลงในที่นี้เป็นคาร้องที่ไม่ สมบูรณ์ คาร้องที่สมบูรณ์จะเป็นดังนี้
นาวิกศาสตร์ 54 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


๑. ฮะเบสสมอพลันออกสันดอนไป ลัดไปเกาะสีชังจนกระทั่งกระโจมไฟ เที่ยวหาข้าศึกมิได้นึกจะกลับมาใน ถึงตายตายไปตายให้แก่ชาติของเรา
๒. พวกเราดูรู้เจ็บแล้วต้องจา ลับดาบไว้พลางช้างบนยอดกาฟฟ์จะนา สยามเป็นชาติของเราธงทุกเสาชักขึ้นทุกลา ถึงเรือจะจมในน้าธงไม่ต่าลงมา
๓.
๔.
เกิดมาเป็นไทยใจร่วมกันแหละดี รักเหมือนพี่เหมือนน้องช่วยกันป้องปฐพี สยามเป็นชาติของเราอย่าให้เขามาย่ามายี ถึงตายตายให้ดีตายในหน้าที่ของเรา พวกเราทุกลาจาเช่นดอกประดู่ วันไหนวันดีบานคลี่พร้อมอยู่ วันไหนร่วงโรยดอกโปรยตกพรู ทหารเรือเราจงดูตายเป็นหมู่ให้ชาติไทย
พลเรอื เอก พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ พระองคเ์ จา้ อาภากรเกยี รตวิ งศ์ กรมหลวงชมุ พรเขตอดุ มศกั ดิ์
โปรดสังเกตคาว่า “ฮะเบส” คาร้องแท้แต่ดั้งเดิมเป็นภาษาโบราณมาตั้งแต่บรรพบุรุษทหารเรือนั้น ท่านใช้ “ฮ” นกฮูก ไม่ใช้ “ห” หีบ แต่อ่านออกเสียงว่า “หะเบด”และสิ่งที่สาคัญของเพลงนี้คือ ชื่อของเพลงที่เป็นภาษาไทย เพลงพระนิพนธ์ของเสด็จเตี่ยตั้งแต่แรกนั้นไม่มีชื่อเพลง แต่จะเอาคาร้องที่ขึ้นต้นนั้นเป็นชื่อเพลง เพลงของเสด็จเตี่ย เพลงนี้จึงมีชื่อว่า เพลง “ฮะเบสสมอ” หรือ “ฮะเบสสมอพลัน” ซึ่งต่อมาอีกหลายปีไม่ทราบว่า ใคร เมื่อใด เพราะ เหตุใด จึงได้เปลี่ยนชื่อเพลงพระนิพนธ์ “ฮะเบสสมอ” เป็น “เพลงดอกประดู่”
“เสด็จเตี่ยไม่เคยแต่งเพลงดอกประดู่”
นาวิกศาสตร์ 55 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


เพลงพระนพิ นธข์ องเสดจ็ เตยี่ อกี เพลงหนงึ่ เหมอื นกนั คอื เพลง “เกดิ มาทงั้ ท”ี ไมท่ ราบวา่ ใคร เมอื่ ใด เพราะเหตใุ ด จึงได้เปลี่ยนชื่อเพลงพระนิพนธ์ “เกิดมาทั้งที” เป็น “เดินหน้า”
“เสด็จเตี่ยไม่เคยแต่งเพลงเดินหน้า”
เรอื่ งการเปลยี่ นชอื่ เพลงพระนพิ นธข์ องเสดจ็ เตยี่ ทงั้ ๒ เพลงนี้ ถา้ จะใหอ้ ธบิ าย กเ็ หน็ จะตอ้ งเขยี นกนั เปน็ บทความ ที่มีความยาวหลายหน้ากระดาษ ผมจึงต้องขอหยุดเอาไว้ให้คิดกันแค่นี้ก่อน
สาหรับคาร้องที่นามาลงในการแสดงครั้งนี้ ปรากฏว่ามีอยู่เพียง ๒ ท่อน คือ ท่อนที่ ๓ และท่อนที่ ๔ มิหนาซ้าใน คาร้องท่อนที่ ๓ ยังเปลี่ยนคาร้องจาก “สยาม เป็นชาติของเรา” เป็น “ไทย เป็นชาติของเรา” อีกด้วย นี่คืออิทธิพล ของ “รัฐนิยม” ในยุคนั้น
ชื่อเพลง Coming through the Line ที่ท่านเขียนไว้นั้น ผิด เท่าที่พบมักจะเขียนผิด ๆ ดังนี้ ๑. Coming through the Line
๒. Coming to the Rhine
ชื่อเพลงที่ถูกต้องนั้นจะเขียนดังนี้
๑. Comin Thro the Rye
(จากหนังสือ “The one-hundred and one best songs”)
๒. Comin Thru the Rye
(จากภาพยนตร์เพลง ซึ่ง TITLE เขียนไว้ว่า “Comin Thru the RYE from traditional Scottish Ballad”
ดนตรีโดย Charlie Spivak and his Orchestra ในภาพจะเห็นรูปผู้ชายถือขวดเหล้าข้างขวดเขียนว่า RYE) ๓. Coming Through the Rye
๔. Coming Thro the Rye
Line เส้น,สาย
Rhine แม่น้าไรน์ทางภาคใต้ของเยอรมนี
Rye ข้าวไรย์ ปลูกในเมืองหนาว ถ้าอยู่ในขวดน่าจะเป็นเหล้าไรย์ ที่ทามาจากข้าวไรย์
ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ ในสมยั ที่ นาวาเอก สมบตั ิ รชั ฎา (ยศขณะนนั้ ) เปน็ หวั หนา้ กองดรุ ยิ างคท์ หารเรอื ไดจ้ ดั พมิ พห์ นงั สอื
“เพลงชาวเรือ” ขึ้นไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ รวบรวมเพลงทหารเรือ เพลงชาวเรือ ฯลฯ ไว้ถึง ๑๑๖ เพลง นับว่าเป็นหนังสือที่ดีมากเล่มหนึ่ง น่าเสียดายที่เวลาล่วงเลยผ่านมาแล้ว ๔๒ ปี ยังไม่มีผู้ใดคิดจะพิมพ์หนังสือ “เพลงชาวเรือ” ต่อให้ทันสมัยยิ่งขึ้น
ในหนังสือ “เพลงชาวเรือ” ผมได้พบเพลง ๆ หนึ่ง ชื่อเพลง “เนวีร็อค” ในหน้า ๕๔ ระบุว่า ทานอง พยงค์ มุกดา เนื้อร้อง พยงค์ มุกดา ผมก็ได้แค่เห็นตัวหนังสือที่เป็นคาร้องหรือเนื้อร้อง ไม่รู้ว่าทานองเป็นอย่างไร
ต่อมาได้ไปซื้อแผ่นเสียง LONG PLAY (ขนาด ๑๒ นิ้ว ๓๓ ๑/๓ RPM)
หน้าปกเขียนว่า วงดนตรีมุกดาพันธ์ เสนอ....เพลงเพื่อลูกนาวี ชุด....ประดู่ไม่รู้โรย พยงค์ มุกดา จัดทา โคลีเซียม จัดจาหน่าย
หลังปกเขียนว่า วงดนตรีมุกดาพันธ์ ภูมิใจเสนอ เพลงสาหรับลูกนาวีไทยชุดประดู่ไม่รู้โรย เพลงชุดนี้เป็นผลงาน อนุสรณ์ของ พยงค์ มุกดา ที่ได้สร้างไว้ในสมัยรับราชการอยู่ในกองดุริยางค์ทหารเรือ ด้วยความรา ลึกถึงสถานที่และ ครูบาอาจารย์ผู้เคยประสิทธิ์ประสาทวิชาการด้านเพลงและการแสดงให้เพิ่มเติมมาเป็นสมบัติอันล้าค่า จึงได้รวบรวม เพลงต่าง ๆ เหล่านี้มาบันทึกเป็นแผ่นเสียงลองเพลย์
นาวิกศาสตร์ 56 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


อนงึ่ ผจู้ ดั ทา ขอมอบอทุ ศิ ความดที งั้ มวลในงานครงั้ นี้ แดค่ ณุ ครนู ายนาวาเอก ภญิ โญ พงษส์ มรวย ผซู้ งึ่ เคยประสทิ ธิ์ ประสาทวิชาชีพด้านเพลงแก่ผู้จัดทามาในอดีต ด้วยรักและกรุณาอย่างสม่าเสมอ
ผมเปดิ แผน่ เสยี งแผน่ นฟี้ งั ในหนา้ ๑ เพลงที่ ๕ “เนวรี อ็ ค (รอ็ คแอนโรลล) รอ้ งหมู่ ประดษิ ฐ์ โรหติ าจล แยกเสยี ง” ฟังแล้วทาให้ผมประหลาดใจมาก ที่ทานองเพลงนี้เหมือนกับเพลง “Comin Thru the Rye” ที่ผมเคยได้ฟังมาจาก ภาพยนตร์เพลงเรื่องนี้ และมีทานองเพลงคล้ายกับเพลงพระนิพนธ์ “ฮะเบสสมอ” ของเสด็จเตี่ยมาก
จึงทาให้ผมเกิดสงสัยว่า “เนวีร็อค” เลียนแบบ “Comin Thru the Rye” หรือ “Comin Thru the Rye” เลียนแบบ เนวีร็อค กันแน่ เพราะว่า เนวีร็อค มีทานองเหมือน “Comin Thru the Rye” เปี๊ยบเลย คือ เอามา ทั้งหมด นอกจากนี้ทั้งในหนังสือ เพลงชาวเรือ ก็ได้เขียนชัดเจนว่า ทานองโดย พยงค์ มุกดา และในแผ่นเสียงก็ไม่ได้ เขียนว่าทานองเพลงเอามาจากไหน (ความจริงเอามาจาก Comin Thru the Rye)
ส่วนเพลงพระนิพนธ์ ฮะเบสสมอ ของเสด็จเตี่ยนั้น พระองค์ท่านเอาทานองของเพลง Comin Thru the Rye มาเป็นบางส่วน เพราะท่านเป็นนักเรียนอังกฤษ จึงได้รับอิทธิพลมาจากเพลงนี้ และมีท่วงทานองอยู่หลายตอนซึ่งมี ลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างจากเพลง Comin Thru the Rye
Comin Thru the Rye เป็นเพลงพื้นบ้านของสกอตแลนด์ มีเนื้อร้องที่หลากหลาย ต่อมาใน ค.ศ. ๑๗๘๒ กวีชาว สกอต ชื่อ Robert Burns ได้นามาเขียนเป็นโคลง ทาให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายไปทั่วโลก มีผู้กล่าวว่า ทานองเพลงนี้มี โน้ตคล้ายกับทานองเพลง Auld Lang Syne เพียงแต่ต่างกันที่จังหวะ (tempo & rhytm) เท่านั้น
หนังสือ เพลงชาวเรือ แผ่นเสียงชุด ประดู่ไม่รู้โรย
นาวิกศาสตร์ 57 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


ภาพจากภาพยนตร์เพลง Comin Thru the Rye from traditional Scottish Ballad (นาวาเอก ธาตรี ฟักศรีเมือง เอื้อเฟื้อภาพ)
นาวิกศาสตร์ 58 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


ดนตรีโดย Charlie Spivak and his Orchestra (นาวาเอก ธาตรี ฟักศรีเมือง เอื้อเฟื้อภาพ)
นาวิกศาสตร์ 59 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


เพลง “Comin Thro the Rye”
จากหนังสือ “The one-hundred and one best songs”
นาวิกศาสตร์ 60 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


เพลงที่สิบหน่ึง
การแสดงประกอบดนตรีเรื่อง ชีวิตวันหนึ่งของลูกทเล ได้ดาเนินมาต้ังแต่เรือหลวงลาหนึ่งได้นานักเรียนนายเรือ ๒๐๐ คน ออกฝึกภาคทะเลเร่ิมตั้งแต่เวลา ๐๕๐๐ จนกระทั่งถึงเวลา ๐๕๓๐ เป่าแตรปลุก ต่อจากน้ัน โคสก (โฆษก) กไ็ ดบ้ รรยายถงึ การฝกึ หดั ตา่ ง ๆ ทงั้ ภาคเชา้ และภาคบา่ ย เชน่ นกหวดี เรอื กระเชยี ง ดงิ่ นา้ ตน้ื ขน้ึ เสา กายบรหิ าร ยดื หยนุ่ ห ดั ป นื ป ร ะ จ า ส ถ า น ดี บั เ พ ล งิ ฯ ล ฯ จ น ก ร ะ ท ง่ ั ไ ด เ้ ว ล า ป ร ะ ม า ณ ๑ ๖ ๓ ๐ ก จ็ ะ ไ ด ม้ กี า ร ป ล อ่ ย ข นึ ้ บ ก น กั เ ร ยี น น า ย เ ร อื ก ร า บ ป ล อ่ ย ก็แต่งตัวขึ้นบก เข้าแถวลงเรือโบต ตีกระเชียงไปยังฝั่ง ตอนน้ี โคสก ได้บรรยายถึงมติประจาใจ ของชาวเรือว่า
เมื่อมาถึงตอนนี้ ทาให้อดคิดถึงเพลง “พรานทะเล” ของสุนทราภรณ์ ไม่ได้ (ทานองโดย ครูเอื้อ สุนทรสนาน คา รอ้ งโดย ครแู กว้ อจั ฉรยิ ะกลุ ) ตอนหนงึ่ วา่ “เพยี งเหน็ รมิ ฝง่ั สกั ครงั้ ดใี จ มาบกทไี รใหแ้ สนปรดี า ใกลแ้ ผน่ ดนิ เขา้ มา เหมือนมีวิมานตรงหน้า ปลื้มหนักหนาแทบจูบดิน”
นาวิกศาสตร์ 61 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


เพลงที่สิบสอง
นาวิกศาสตร์ 62 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


ต่อจาก เพลงมั่นใจ ก็จะถึงตอนทาพิธีธงลง โคสก ได้บรรยายไว้ว่า
นี่คืออิทธิพลของ รัฐนิยม นอกจากจะมีผลกระทบต่อเพลงพระนิพนธ์ เกิดมาทั้งที ของ เสด็จเตี่ย แล้วยังมีผล กระทบมาถงึ ประเพณขี องทหารเรอื ทมี่ มี าแตด่ งั้ เดมิ อกี ดว้ ย โดยเปลยี่ นเวลาธงลง ทถี่ อื เอาเวลาดวงอาทติ ยล์ บั ขอบฟา้ มาเป็นเวลา ๑๘๐๐
ธงท้ายเรือ
นาวิกศาสตร์ 63 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


ธงข้ึนธงลง สมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม
“ทางด้านทหารเรือ พฤติกรรมท้ังปวงที่บ่งว่า คุณหลวงพิบูลสงครามใช้อานาจเผด็จการบางประการขัดกับ ขนบธรรมเนยี มประเพณขี องทหารเรอื เชน่ กา หนดเวลาชกั ธงขนึ้ ลงซงึ่ ทหารเรอื ตอ้ งประกอบพธิ ตี ามเวลาสากลมสี ญั ญาณ นดั หมายใหก้ ระทา พรอ้ มเพรยี งกนั ทกุ หนว่ ย ตอนเชา้ ซกั ธงขนึ้ เวลา ๐๘.๐๐ น. ตอนเยน็ ชกั ธงลงตามเวลาทดี่ วงอาทติ ย์ อสั ดงคต มคี า สงั่ บงั คบั ใหใ้ ชเ้ วลา ๐๗.๐๐ น. เปน็ เวลาชกั ธงขนึ้ ในตอนเชา้ และเวลา ๑๘.๐๐ น. เปน็ เวลาชกั ธงลงในตอนเยน็ เปน็ การสา แดงอา นาจทขี่ ดั ขนื จติ ใจใหฝ้ า่ ฝนื ประเพณี ฟงั ดเู หมอื นจะเปน็ เรอื่ งเลก็ นอ้ ยแตค่ วามรสู้ กึ ไมพ่ อใจของทหารเรอื ท้ังกองทัพย่อมเป็นเร่ืองใหญ่”
จากหนังสือ “อนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพ พลเรือตรี หลวงสังวรยุทธกิจ ท.ช., ท.ม. (สังวร สุวรรณชีพ) วนั พฤหสั บดที ี่ ๒๗ ธนั วาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๑๖ เรอื่ ง “แดค่ ณุ หลวงสงั วรยทุ ธกจิ (สงั วร สวุ รรณชพี )” โดย ทหาร ขา หริ ญั (นายพลเรือตรี ทหารพรรคนาวิกโยธิน) หน้า ๓๐
พลเรือตรี หลวงสังวรยุทธกิจ พลเรือตรี ทหาร ขาหิรัญ
เพลงที่สิบสาม
นาวิกศาสตร์ 64 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


เพลงที่สิบสี่ เพลงที่สิบห้า
เพลงสายันสมัย (ไม่มีเนื้อร้อง)
เพลงที่สิบหก
นาวิกศาสตร์ 65 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


นาวิกศาสตร์ 66 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


เพลงที่สิบเจ็ด
สวัสดีวันกองทัพเรือ
-----------------------------------------
นาวิกศาสตร์ 67 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


เอกสารประกอบการเขียน
๑. หนังสือนาวิกศาสตร์ ปีที่ 27 พ.ศ.2487 เล่ม 1 เรื่อง “การส่งกะจายเสียงทางวิทยุวันกองทัพเรือ 20 พ.ย. 86”
๒. นิตยสารนาวิกศาสตร์เดือนมกราคม ๒๕๐๒ เร่ือง “สระอโนดาต” โดย สาหร่ายทะเล
๓. นิตยสารนาวิกศาสตร์เดือนพฤษภาคม ๒๕๓๗ เรื่อง “เสด็จในกรมหลวงชุมพรฯ กับเพลงทหารเรือ” โดย พลเรือเอก ประพัฒน์ จันทวิรัช
๔. หนังสือ “The one – hundred and one best songs”
๕. C.D. ภาพยนตร์เพลง “Comin Thru the Rye”
๖. หนังสือ “เพลงชาวเรือ” ของกองดุริยางค์ทหารเรือ พ.ศ. ๒๕๒๒
๗. แผ่นเสียง LONG PLAY “วงดนตรีมุกดาพันธ์ ชุดประดู่ไม่รู้โรย”
ขอขอบคุณ
๑. พลเรือเอก สามารถ จาปีรัตน์ ๒. นาวาเอก ประพันธ์ นิชโรจน์ ๓. นาวาเอก ธาตรี ฟักศรีเมือง
ช่วยหาข้อมูล และภาพประกอบ
นาวิกศาสตร์ 68 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


“ในการไปปฏิบัติหน้าที่ของท่านในครั้งนี้ ขอให้ระลึกเสมอว่า
ท่านมิได้ไปเพียงลาพังตัวท่านเอง แต่ท่านได้นาความเป็นกองทัพเรือ
ไปกับตัวท่านด้วย จึงขอให้ทุ่มเทปฏิบัติหน้าท่ีเพ่ือภาพลักษณ์
กองทพั เรอื ในประเทศทไี่ ปประจา การ” ประโยคนี้ หรือหลายประโยค
ที่ส่ือความหมายเดียวกันนี้ เป็นประโยคที่ผู้อยู่ระหว่างการเตรียมตัว
ไปปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือ ประจาสถานเอกอัครราชทูต
ณ ต่างประเทศ (ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ) มักได้ยินบ่อยครั้ง
ทั้งจากการอบรมในห้องเรียน การรับโอวาทจากผู้บังคับบัญชา รวมทั้งในวงสนทนาพูดคุยทั้งที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ
จากผู้บังคับบัญชา หรืออดีตผู้บังคับบัญชาท่ีเคยปฏิบัติหน้าที่
ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ มาก่อน ซึ่งประโยคเหล่าน้ีได้สะท้อน
ให้เห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ น้ัน
มีความสาคัญ และมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ
และกองทัพเรืออย่างมีนัยสาคัญ เม่ือผู้เขียนได้เริ่มปฏิบัติหน้าท่ี
จึงได้มองเห็นโอกาส ทรัพยากร และศักยภาพของหน่วย สน.ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ ในการเสริมสร้างภาพลักษณ์ กองทัพเรือในประเทศที่หน่วยตั้งอยู่ได้ นอกเหนือจากการปฏิบัติภารกิจหลักของหน่วยตามที่กองทัพเรือกาหนด ซึ่ง ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ ในฐานะท่ีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงานกองทัพเรือในประเทศน้ัน ๆ สน.ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ จะต้องบริหารจัดการเพื่อให้เกิดความสาเร็จในบทบาทดังกล่าว โดยสามารถ ดาเนินการได้ในหลายรูปแบบตามบริบทของสถานการณ์ในห้วงเวลานั้น ท้ังน้ี เพื่อให้เกิดภาพท่ีชัดเจน ในบทบาทการเสริมภาพลักษณ์ของกองทัพเรือไทยในต่างประเทศของ สน.ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ จึงขอนาเสนอ บทบาทการเสรมิ ภาพลกั ษณก์ องทพั เรอื ของสน.ผชท.ทร.ไทย/มอสโกหว้ งปีพ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๖๓ซงึ่ ผเู้ขยี นเกยี่ วขอ้ งโดยตรง ในฐานะผู้บังคับบัญชา และหัวหน้าสานักงานเป็นกรณีศึกษาต่อไป โดยจะเรียบเรียงนาเสนอเรื่องราว จากประสบการณ์ตรงของผู้เขียน เชื่อมโยงกับบทบาทหน้าที่ตามที่กองทัพเรือมอบหมาย โดยจะนาทฤษฎี หรือแนวความคิดเกี่ยวกับการเสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กรมาประกอบการนาเสนอเพื่อความสมบูรณ์ ของเรื่องราว รวมทั้งจะมีการนาภาพเหตุการณ์สาคัญท่ีเกี่ยวข้องมาเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ในเร่ืองราวสาคัญ ที่จะมีการกล่าวถึงต่อไป
นาวิกศาสตร์ 41 ปีท่ี ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
สํานักงนผู้ช่วยทูตฝ่ยทหรเรือ ประจําสถนเอกอัครรชทูต ณ ต่ งประเทศ


“หน้าที่หลักของผู้ช่วยทูต คือ การรับ-ส่ง ผู้บังคับบัญชาท่ีสนามบิน เท่านั้นหรือ” มักเป็นประโยคท่ีใช้ หยอกล้อกันอย่างไม่เป็นทางการของเพ่ือนสนิทมิตรสหายกับ ผชท.ทร.ไทย/ต่างปรเทศ ซึ่งไม่เป็นเรื่องแปลกอะไร เนอื่ งจากภาพภารกจิ สน.ผชท.ทร.ไทย/ตา่ งประเทศ หรอื การปฏบิ ตั งิ านของ ผชท.ทร.ไทย/ตา่ งประเทศ ทเี่ หน็ ไดบ้ อ่ ยจนตดิ ตา ใ น ส อื ่ ข อ ง ก อ ง ท พั เ ร อื ม กั เ ป น็ ภ า พ ก า ร ไ ป ร บั - ส ง่ ผ บ้ ู งั ค บั บ ญั ช า ท เ่ ี ด นิ ท า ง ไ ป ป ร ะ เ ท ศ น นั ้ ๆ ท มี ่ กี า ร ถ า่ ย ร ปู ท สี ่ น า ม บ นิ เ พ อื ่ เ ป น็ ท รี ่ ะ ล กึ หรอื เพอ่ื รายงานหนว่ ยทเี่ กยี่ วขอ้ ง แตใ่ นความเปน็ จรงิ แลว้ ผชท.ทร.ไทย/ตา่ งประเทศ มหี นา้ ทหี่ ลกั ทสี่ า คญั ใน ๓ บทบาทหลกั (กองทัพเรือ, เอกสารอ้างอิงกองทัพเรือ ๒๐๐๘ คู่มือการปฏิบัติหน้าที่สาหรับ สน.ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๑) สรุปได้ดังนี้
หน้าท่ีทางการทูต ด้วย ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ ถือว่าเป็นหนึ่งในคณะผู้แทนทางการทูตของประเทศไทยที่ไปประจาการ ใ น ต า่ ง ป ร ะ เ ท ศ ด งั น น้ ั ผ ช ท . ท ร . ไ ท ย / ต า่ ง ป ร ะ เ ท ศ จ งึ ต อ้ ง ม บี ท บ า ท แ ล ะ ห น า้ ท เี ่ ช น่ เ ด ยี ว ก บั ผ แ้ ู ท น ท า ง ก า ร ท ตู อ นื ่ ๆ ท ก่ ี ร ะ ท ร ว ง การตา่ งประเทศไดอ้ า้ งองิ ตามอนสุ ญั ญากรงุ เวยี นนา วา่ ดว้ ยความสมั พนั ธท์ างการทตู ค.ศ. ๑๙๖๑ (พ.ศ. ๒๕๐๔) ขอ้ ๓ สรปุ ไดด้ งั นี้
๑. เป็นผู้แทนประเทศไทย และกองทัพเรือในประเทศท่ีรับผิดชอบ หรือประจาการอยู่
๒. คุ้มครองผลประโยชน์ของประเทศไทย และของประชาชนคนไทยในประเทศที่รับผิดชอบ หรือประจาการอยู่ ๓. เจรจากับรัฐบาล หรือกองทัพเรือของประเทศที่รับผิดชอบ หรือประจาการอยู่
๔. สบื เสาะใหแ้ นโ่ ดยวถิ ที างทงั้ มวลอนั ชอบดว้ ยกฎหมาย ถงึ สภาวะและพฒั นาการ (โดยเฉพาะดา้ นกจิ การทหารเรอื
หรือเรื่องที่เกี่ยวกับผลประโยชน์แห่งชาติ และความมั่นคงของชาติด้านท่ีเก่ียวข้องกับทะเล) ในประเทศท่ีรับผิดชอบ หรือประจาการอยู่ และรายงานให้ประเทศไทย (กองทัพเรือ) ทราบ
๕. ส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันท์มิตรระหว่างประเทศไทยกับประเทศที่รับผิดชอบ หรือประจาการอยู่ (หรือระหว่างกองทัพเรือกับกองทัพเรือประเทศที่รับผิดชอบ หรือประจาการอยู่)
ตรสัญลักษณ์ สถนเอกอัครรชทูตไทย
นาวิกศาสตร์ 42 ปีท่ี ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


หน้าที่ทางการทูตฝ่ายทหาร กระทรวงกลาโหมได้กาหนดหน้าที่ และการปฏิบัติงานโดยปกติของ ผชท.ทหารไทย/ตา่ งประเทศและผชท.เหลา่ ทพั ไทย/ตา่ งประเทศตามขอ้ บงั คบั กระทรวงกลาโหมวา่ ดว้ ยการทตู ฝา่ ยทหาร พ.ศ. ๒๕๒๗ หมวด ๔ ข้อ ๒๔ สรุปได้ดังน้ี
๑. เป็นผู้แทนทางทหารของกองทัพไทยในประเทศที่รับผิดชอบ หรือประจาการอยู่
๒. เป็นที่ปรึกษาของเอกอัครราชทูต (ออท.) อัครราชทูต (อท.) หรืออุปทูต เกี่ยวกับกิจการทางทหาร
๓. เป็นผู้แทนของกองทัพต้นสังกัดในพิธีต่าง ๆ
๔. เป็นผู้สังเกตการณ์ และประสานงานด้านกิจการทหารกับเจ้าหน้าที่ทางทหารของประเทศน้ัน
๕. ควบคมุ ดแู ล และชว่ ยเหลอื บคุ คลสงั กดั กระทรวงกลาโหม ทไี่ ปศกึ ษา หรอื ดกู จิ การ ณ ประเทศทตี่ นประจา การอยู่
ให้เป็นไปตามระเบียบของกองทัพ หรือที่กระทรวงกลาโหมกาหนด
๖. ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพของประเทศที่ตนประจาการอยู่
๗. เชื่อมความสัมพันธ์กับ ผชท.ทหารไทย/ต่างประเทศ ของประเทศอ่ืน ๆ ท่ีประจาการอยู่ ณ ประเทศน้ัน
๘. เปน็ ผแู้ ทนของกองทพั หรอื กระทรวงกลาโหมในการจดั ซอ้ื ยทุ โธปกรณ์ และสง่ิ ของตามความตอ้ งการของกองทพั
หรือกระทรวงกลาโหมเมื่อได้รับมอบหมาย
๙. อานวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ทางทหารที่จะเข้าไปยังประเทศท่ีตนประจาการอยู่ตามความเหมาะสม ๑๐. ตดิ ตอ่ ประสานงานในการขอ หรอื ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ทางทหารในกรณที ไี่ มม่ หี นว่ ยตดิ ตอ่ ชว่ ยเหลอื ทางทหาร
ประจา การอยู่ ณ ประเทศนั้น
๑๑. อา นวยการ และกา หนดระเบยี บในสา นกั งานใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบายของกองทพั และกองบญั ชาการกองทพั ไทย ๑๒. ปฏิบัติหน้าที่อ่ืนตามที่ผู้บังคับบัญชามอบหมาย
บทบาทและหน้าที่ ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารเรือไทย/ต่างประเทศ กองทัพเรือได้จัดกลุ่มบทบาท และหน้าท่ี
ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ ไว้รวม ๗ กลุ่มหน้าที่หลัก ดังนี้
๑.หนา้ ทที่ างสงั คมไดแ้ ก่การมกี จิ กรรมตา่ งๆรว่ มกนั ทงั้ ในแวดวงคณะทตู ใหญ่คณะทตู ฝา่ ยทหารและเจา้ ของประเทศ ๒.หนา้ ทร่ี าชการทง้ั ในสว่ นทเ่ีปน็ งานนอกสน.ผชท.ทร.ไทย/ตา่ งประเทศไดแ้ ก่การตดิ ตอ่ หนว่ ยตา่ งๆการจดั ซอื้ /
จัดหา/จัดจ้าง การดูงาน การติดตามความก้าวหน้าของการเสนอเรื่องให้พิจารณา และงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง กับทางราชการ ส่วนงานใน สน.ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ ได้แก่ การจัดระเบียบงานสารบรรณ หน้าที่ทางการเงิน การบัญชี การพัสดุ รวมทั้ง การจัดซ้ือ/จัดหา/จัดจ้าง
๓. หนา้ ทดี่ า้ นการปกครอง ทง้ั ในสว่ นทเี่ ปน็ การปกครองบงั คบั บญั ชากา ลงั พลในสงั กดั ของ สน.ผชท.ทร.ไทย/ตา่ งประเทศ และกา ลงั พลกองทพั เรอื ที่มาศึกษา อบรม หรือดูงาน ณ ประเทศท่ีอยู่ในความรับผิดชอบ
๔.หน้าที่ด้านการเป็นผู้แทนกองทัพเรือในการประสานงาน หรือมีปฏิสัมพันธ์ด้านการทหารกับเจ้าหน้าที่ กระทรวงกลาโหม หรือกองทัพเรือของประเทศน้ัน ๆ
๕. หนา้ ทที่ เี่ กย่ี วขอ้ งกบั สถานเอกอคั รราชทตู (สอท.) ทา หนา้ ทเี่ ปน็ ทปี่ รกึ ษาของเอกอคั รราชทตู อคั รราชทตู หรอื อปุ ทตู เกยี่ วกบั กจิ การทางทหาร โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ทเี่ กย่ี วกบั กจิ การทหารเรอื หรอื ทเี่ กย่ี วกบั กจิ การทางทะเลทมี่ ผี ลกระทบตอ่ ประเทศไทย รวมทง้ั หนา้ ทที่ ตี่ อ้ งปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บงานราชการปกตใิ นฐานะเปน็ ผใู้ ตบ้ งั คบั บญั ชาของเอกอคั รราชทตู ในการให้ความร่วมมือ และสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ของสถานเอกอัครราชทูต ตามขีดความสามารถที่กระทาได้
๖.หนา้ ทด่ี า้ นการรบั รองไดแ้ ก่การรบั รองขา้ ราชการกองทพั เรอื ทไี่ ปปฏบิ ตั งิ านณประเทศท่ีสน.ผชท.ทร.ไทย/ตา่ งประเทศ ต้ังอยู่ ทั้งที่ไปอย่างเป็นทางการ และส่วนตัว รวมทั้งการร่วมมือกับ ผชท.เหล่าทัพ อ่ืน ๆ รับรองคณะต่าง ๆ
นาวิกศาสตร์ 43 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


๗. หนา้ ทดี่ า้ นการขา่ ว ถอื เปน็ ภารกจิ และหนา้ ทที่ สี่ า คญั ทสี่ ดุ ของขา้ ราชการทกุ คนใน สน.ผชท.ทร.ไทย/ตา่ งประเทศ โดย ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ ทาหน้าที่เป็นผู้ควบคุม กากับ ดูแล รับผิดชอบ และมอบหมายการดาเนินการ รวบรวมข่าวสารท้ังปวง ทั้งตามหัวข้อข่าวสารสาคัญ (หขส.) ท่ีกรมข่าวทหารเรือ (ขว.ทร) กาหนด และตามที่ระบุไว้ ในข้อบังคับกระทรวงกลาโหม
“เป็นไปได้ไหมที่จะปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่ ควบคู่กับการดาเนินการในบทบาทการเสริมสร้างภาพลักษณ์ กองทัพเรือในต่างประเทศ” เป็นโจทย์สาคัญที่ผู้เขียนได้ยกนามาพูดคุย/หารือกับกาลังพลของ สน.ผชท.ทร.ไทย/ ต่างประเทศ ตลอดจนผู้ติดตามและครอบครัว ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ เพ่ือให้เกิดความคิด ท่ีหลากหลายจากทุกคนที่มาอยู่ร่วมกันเป็นเวลา ๓ ปี ซึ่งถือเป็นสมาชิกของ สน.ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ โดยมคี วามมงุ่ หวงั และต้ังใจที่จะให้มีการดาเนินบทบาทนี้ในตลอดห้วงเวลา ๓ ปี ควบคู่กับการปฏิบัติงานตามภารกิจ ที่ค่อนข้างมากตามกล่าวแล้วข้างต้น ซึ่งจากการพูดคุย/หารือหลาย ๆ คร้ัง ทาให้ได้แนวคิด/หนทาง/วิธีการ ท่ีหลากหลายทั้งจากในมุมมองของกาลังพลที่เป็นข้าราชการ กาลังพลลูกจ้างชั่วคราวท่ีเป็นพลเรือน รวมทั้งกาลังพลที่เป็นผู้ติดตาม และครอบครัว ซ่ึงเป็นประโยชน์อย่างมากในการนามาใช้เป็นข้อมูลนาเข้า การพิจารณาแนวทางที่เหมาะสมต่อไป อย่างไรก็ตามด้วยความมุ่งหวัง และต้ังม่ันที่จะให้เกิดความสาเร็จ ที่เป็นรูปธรรม จึงได้มีการนาทฤษฎี/แนวความคิดการเสริมภาพลักษณ์องค์กรจากหลาย ๆ สานักความคิด มาร่วมพิจารณา และสรุปได้เป็นหลักการการเสริมภาพลักษณ์กองทัพเรือของ สน.ผชท.ทร.ไทย/มอสโก เป็น ๖ ข้อ คือ I-M-A-G-E-S ซึ่งประยุกต์มาจากทฤษฎี/แนวความคิดการสร้างภาพลักษณ์องค์กรเดิมของหลาย ๆ สานักความคิด “IMAGE” ดังนี้
I-M-A-G-E-S
Institution = สถาบัน หรือองค์กร (สถาบัน องค์กร) หมายถึง ภาพลักษณ์ท่ีสร้างได้จากการทาให้เกิดความน่าเช่ือถือ ตอ่ สถาบนั หรอื องคก์ ร คอื การมที ตี่ งั้ ชดั เจน เปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย ซงึ่ สน.ผชท.ทร.ไทย/มอสโก ตงั้ อยใู่ จกลางกรงุ มอสโก และได้มีการต้อนรับคณะต่าง ๆ ที่มาเยือนทั้งจากบุคลากรภายใน และภายนอกกองทัพ รวมถึงการรับรอง ผชท.ทหาร ของประเทศต่าง ๆ ซ่ึงภายในมีการประดับด้วยสัญลักษณ์ต่าง ๆ ท่ีส่ือถึงความเป็นกองทัพเรือ มีการดูแลสานักงานฯ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย มีมาตรฐานการปฏิบัติงาน และการรักษาไว้ซ่ึงสถานะหน่วยงาน ด้านการทูต และการมีโครงสร้างการจัดการที่มีความเป็นปึกแผ่น มีโลโก้ (Logo) ขององค์กรที่สามารถ สร้างความจดจา และศรัทธาได้ในระยะยาว ซึ่งถือเป็นส่ิงจาเป็นในการสถาปนาภาพลักษณ์ขององค์กร
กรกําหนดให้มีโลโก้ของ สน.ผชท.ทร.ไทย/มอสโก เพื่อใช้ในกิจกรงนด้นภพลักษณ์องค์กร และกรประชสัมพันธ์
นาวิกศาสตร์ 44 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


และเป็นสิ่งแรกท่ีผู้เขียนได้ตระหนักถึงตั้งแต่ในช่วงการเตรียมการก่อนไปปฏิบัติหน้าท่ี โดยได้มีการออกแบบ สัญลักษณ์ หรือโลโก้ (Logo) ของ สน.ผชท.ทร.ไทย/มอสโก เพื่อใช้ในกิจการงานด้านภาพลักษณ์องค์กร และการประชาสมั พนั ธ์ โดยมงุ่ เนน้ ใหเ้ ปน็ โลโกท้ จี่ ะสอื่ ถงึ ความเปน็ หนว่ ยงานของกองทพั เรอื และความเปน็ หนว่ ยงาน สาคัญที่เช่ือมโยงความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับรัสเซีย โดยได้ถูกนามาใช้เป็นโลโก้บนของท่ีระลึกต่าง ๆ ตลอดจน นา ไปใชป้ ระกอบกจิ กรรมสา คญั ตา่ งๆตลอดหว้ งเวลา๓ปีดงั กลา่ วจนเปน็ ทจี่ ดจา และยอมรบั ของบคุ คลทว่ั ไปทงั้ คนไทย และชาวต่างชาติท่ีมีปฏิสัมพันธ์กับ สน.ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ
Manager=ผบู้ รหิ ารหรอื ฝา่ ยบรหิ ารดว้ ยการท่ีสน.ผชท.ทร.ไทย/ตา่ งประเทศเปน็ หนว่ ยงานทถ่ี อื ไดว้ า่ เปน็ หนว่ ยสว่ นหนา้ ของกองทพั เรอื ในการเสรมิ สรา้ งความสมั พนั ธก์ บั กระทรวงกลาโหม/กองทพั เรอื รสั เซยี และหนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งอน่ื ๆ ทมี่ ที ตี่ ง้ั ในรสั เซยี จงึ เปน็ ความจา เปน็ อยา่ งยงิ่ ทผี่ บู้ รหิ าร หรอื หวั หนา้ สา นกั งานฯ ซงึ่ หมายถงึ ผชท.ทร.ไทย/ตา่ งประเทศ จะตอ้ งเปน็ ผนู้ า ในการสร้างความสัมพันธ์อันดี ท้ังในด้านการปฏิบัติงาน และกิจกรรมส่วนตัวกับกาลังพลของ กห./ทร.รัสเซีย ตลอดจนทูตทหารของประเทศต่าง ๆ ที่ประจาการในรัสเซีย ตลอดจนสถานเอกอัครราชทูต และส่วนราชการอื่น ๆ ท้ังของไทย และรัสเซียที่มีความเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของ สน.ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ เพื่อสร้างการยอมรับ ท่ีจะนาไปสู่การสนับสนุนซ่ึงกันและกันในระหว่างหน่วยงาน ทั้งนี้ การสร้างความสัมพันธ์ดังกล่าว
กรร่วมประชุมหรือ ๓ ฝ่ย ระหว่ง มฝ.นนร. กรเข้ร่วมกิจกรรมกีฬ ในนมสถนเอกอัครรชทูตไทย สน.ผชท.ทร.ไทย/มอสโก และ ทร.รัสเซีย
บนเรือหลวงตกสิน ณ เมืองท่ Vladivostok
มีการดาเนินการผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเข้าร่วมงานที่เป็นทางการเนื่องในโอกาสสาคัญของหน่วยงานต่าง ๆ การเชญิ หรอื รบั เชญิ รบั ประทานอาหารร่วมกันทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการการร่วมประชุมหารือและกิจกรรม กีฬา หรือสันทนาการต่าง ๆ ท้ังน้ี ยังหมายรวมถึงการแสดงความคิดเห็น หรือการให้ข้อมูลสาคัญที่มีการสื่อสาร สู่สาธารณะท้ังในรัสเซีย และประเทศไทย
Action = การกระทา ถือเป็นปัจจัยสาคัญท่ีสุดที่ส่งผลต่อบทบาทการเสริมสร้างภาพลักษณ์กองทัพเรือ ในต่างประเทศ สน.ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ ได้มีการดาเนินการเชิงรุกในการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ตามท่ีได้รับมอบหมาย โดยเฉพาะในภารกิจหลักการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับ กห./ทร.รัสเซีย ซึ่งถือได้ว่า ในห้วงระหว่าง พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๓ ทร.-ทร.รัสเซีย มีการกระชับความสัมพันธ์แบบก้าวกระโดด เห็นได้จากการมี กจิ กรรมสา คญั ระหวา่ งกนั ทม่ี คี วามถม่ี ากขนึ้ ทงั้ ในสว่ นของผบู้ งั คบั บญั ชา และหนว่ ยงานของกองทพั เรอื ทงั้ ๒ ประเทศ
นาวิกศาสตร์ 45 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


Click to View FlipBook Version