The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นาวิกศาสตร์, 2022-11-23 10:14:15

บทความดีเด่น พลเรือเอก กวี สิงหะ

ตลอดจนการบรรลุข้อตกลงความร่วมมือท่ีสาคัญคือ การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหม แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงกลาโหมแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือ (MemorandumofUnderstandingbetweentheMinistryofDefenceoftheKingdomofThailandandtheMinistry of Defence of the Russian Federation on Cooperation in the Naval Field) เมื่อวันที่ ๒๔ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๒
กรลงนมบันทึกควมเข้ใจ ระหว่งกระทรวงกลโหมแห่งรชอณจักรไทยกับกระทรวงกลโหมแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ว่ด้วยควมร่วมมือระหว่งกองทัพเรือ
กรแสดงในงนวันกองทัพเรือรัสเซียของคณะดุริยงค์ทหรเรือ ณ นครเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก
ซงึ่ ถอื เปน็ เหลา่ ทพั แรกของกองทพั ไทย ทป่ี ระสบความสา เรจ็ ในการลงนามความรว่ มมอื ฯ ในระดบั เหลา่ ทพั โดยตรง
ตลอดจนความรว่ มมอื ในระดบั กระทรวงกลาโหม โดยการลงนามความตกลง เลขที่ ๑๗๓/๓/๗๖๔-๑ วา่ ดว้ ยการรบั กา ลงั พล ของราชอาณาจักรไทย เข้าศึกษาในสถาบันการศึกษาทางทหารของกระทรวงกลาโหมแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย (Agreement No ๑๗๓/๓/๗๖๔-๑ on the Requirements for the Admission of Servicemen of the Kingdom of Thailand for Training in Military Educational Establishments of the Ministry of Defence of the Russian Federation) เมื่อวันท่ี ๒๗ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ รวมทงั้ การเยอื นเมอื งทา่ วลาดวิ อสตอก กองเรอื แปซฟิ กิ ของหมเู่ รอื ฝกึ นกั เรยี นนายเรอื เปน็ ครงั้ แรกในรอบ ๑๕ ปี และ การเดนิ ทางมาแสดงในงานวนั กองทพั เรอื รสั เซยี ของคณะดรุ ยิ างคท์ หารเรอื ณ นครเซนตป์ เี ตอรส์ เบริ ก์ ซงึ่ เปน็ ครงั้ แรก ในประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์ของดุริยางค์ทหารเรือ ท้ัง ๒ ประเทศ
นาวิกศาสตร์ 46 ปีท่ี ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


Goodness = ความดี หรอื ความงาม ซงึ่ หมายถงึ การแสดงบทบาทของการเปน็ หนว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบ และทา ประโยชน์ ให้กับสังคม โดย สน.ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ ได้กากับดูแลกาลังพลในสังกัดให้ประพฤติปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดี ของสงั คม ช่วยเหลือสังคมทุกคร้ังท่ีมีโอกาส ตลอดจนได้จัดสรรทรัพยากรบางส่วนของ สน.ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ ในการดา เนนิ กจิ กรรมทอ่ี าจไมไ่ ดอ้ ยใู่ นภารกจิ โดยตรง แตถ่ อื วา่ เปน็ สงิ่ ท่ี สน.ผชท.ทร.ไทย/ตา่ งประเทศ ควรกระทา ในฐานะ เป็นส่วนหน่ึงของสังคม และเป็นบทบาทท่ีสามารถส่งเสริมภาพลักษณ์ของหน่วย และกองทัพเรือได้เป็นอย่างดี เช่น กิจกรรมสาธารณกุศล หรือกิจกรรมการสนับสนุนนักศึกษาไทยทุนรัฐบาลรัสเซีย เป็นต้น
Employee = บุคลากรขององค์กร การบริหารจัดการด้านกาลังพลท่ีมีความเป็นปึกแผ่น โดยเฉพาะอย่างย่ิง ในโอกาสท่ีต้องแสดงออกซึ่งความร่วมพลัง หรือร่วมมือร่วมใจของกาลังพลทั้งหมดในการสนับสนุนกิจกรรม ของสถานเอกอัครราชทูตไทย และหน่วยงานอ่ืน ๆ ในโอกาสสาคัญต่าง ๆ ในประเด็นน้ีถือได้ว่าสานักงาน สน.ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ ได้ริเร่ิมการบริหารจัดการในการเชิญชวนกาลังพลท่ีมีอยู่รวมถึงครอบครัว และผู้ติดตามให้สมัครใจ หรือมีจิตอาสาที่จะใช้ขีดความสามารถในตัวที่มีมาสนับสนุนงานตามภารกิจ ของสน.ผชท.ทร.ไทย/ตา่ งประเทศเชน่ การเปน็ ผแู้ ทนสน.ผชท.ทร.ไทย/ตา่ งประเทศไปตอ้ นรบั คณะฯหรอื เขา้ รว่ มประชมุ การสาธิตทาอาหาร แกะสลัก ร้อยมาลัย และการบรรยายเร่ืองขบวนเรือราชพิธี เป็นต้น บทบาทของครอบครัว และผู้ติดตามในลักษณะนี้นั้นส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานที่มากขึ้น เนื่องจากมีผู้ปฏิบัติงาน มากกวา่ อตั รากา ลงั พลปกตขิ อง สน.ผชท.ทร.ไทย/ตา่ งประเทศ อกี ทง้ั เปน็ การเผยแพรว่ ฒั นธรรม และสรา้ งภาพลกั ษณท์ ด่ี ี ให้แก่ประเทศ และกองทัพเรือ
Socializing/Social Media = การมีปฏิสัมพันธ์ และการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางการสื่อสารออนไลน์ สน.ผชท.ทร.ไทย/ตา่ งประเทศไดส้ รา้ งชอ่ งทางหลกั ในนา เสนอผลงานหรอื การปฏบิ ตั ขิ องสน.ผชท.ทร.ไทย/ตา่ งประเทศ ไปสู่สาธารณชน เพ่ือสร้างความเชื่อถือ ภาพลักษณ์ และการรับรู้ โดยใช้สื่อสังคมออนไลน์ คือ การริเริ่มการสร้าง Facebook ของ สน.ผชท.ทร.ไทย/มอสโก ในตน้ ปี ๒๕๖๐ ซงึ่ ไดร้ บั ความนยิ มจากกลมุ่ เปา้ หมายของการประชาสมั พนั ธ์ อยา่ งรวดเรว็ อนั ไดแ้ ก่นกั การทตู และผชู้ ว่ ยทตู ทหารของประเทศตา่ งๆทปี่ ระจา การในกรงุ มอสโก ขา้ ราชการหนว่ ยงานตา่ งๆ ของไทย ท่ีปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับ สน.ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ และกองทัพเรือ ทั้งที่ประจาการ ในรัสเซีย และในประเทศไทยตลอดจนบคุ คลในภาคสว่ นอนื่ ๆทมี่ คี วามสนใจในกจิ การทหารเรอื รวมจา นวนผตู้ ดิ ตามเกอื บ๒หมน่ื คน
กรเริ่มจัดทํา Facebook สน.ผชท.ทร.ไทย/มอสโก ทั้งภคภษอังกฤษและภษไทย
นาวิกศาสตร์ 47 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


ในปจั จบุ นั และไดม้ ปี ฏสิ มั พนั ธก์ บั ผตู้ ดิ ตามเพจอยา่ งสมา่ เสมอ ทงั้ บนโลกโซเชยี ล และในชวี ติ จรงิ ทไี่ ดม้ โี อกาสพบปะกนั ซึ่งเนื้อหาในการนาเสนอส่วนใหญ่จะเป็นภารกิจต่าง ๆ ของ สน.ผชท.ทร.ไทย/มอสโก รวมถึงการนาเสนอข่าว และประเด็นที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศรัสเซีย และความสัมพันธ์ระหว่างไทย-รัสเซีย โดยมีการคัดเลือกมุมกล้อง และมุมมองในการนาเสนอให้มีสีสันต่างออกไปจากการรายงานการปฏิบัติท่ัว ๆ ไป ซ่ึงมีสื่อหลาย ๆ แห่งได้นาข้อมูล จากทาง Facebook ของ สน.ผชท.ทร.ไทย/มอสโก ไปอา้ งองิ และนา เสนอตอ่ เชน่ ภาพการมาเยอื นเมอื งทา่ วลาดวิ อสตอก ของนักเรียนนายเรือ และการแสดงของกองดุริยางค์ทหารเรือในการร่วมเฉลิมฉลองวันกองทัพเรือรัสเซีย ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ได้ไปปรากฏอยู่ในหลากหลายสื่อของไทยและของรัสเซีย นอกจากนั้น สน.ผชท.ทร.ไทย/มอสโกยงั มชี อ่ งทางสอื่ สารกบั กลมุ่ เปา้ หมายและผสู้ นใจผา่ นทางwebsiteของสน.ผชท.ทร.ไทย/มอสโก การเขียนบทความ และการให้สัมภาษณ์กับสื่อต่าง ๆ อีกด้วย
จากที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นว่าด้วยทฤษฎี/แนวความคิดเดิมในการเสริมภาพลักษณ์องค์กร “I-M-A-G-E” ซึ่ง สน.ผชท.ทร.ไทย/มอสโก ได้นามาประยุกต์โดยเพิ่มการมีปฏิสัมพันธ์ และการประชาสัมพันธ์บนโลกสื่อออนไลน์ (Socializing/Social Media) จนเป็นหลักการการเสริมภาพลักษณ์ทหารเรือของ สน.ผชท.ทร.ไทย/มอสโก “IMAGES” ซ่ึงเปรียบดังเป็นการเสริมพลังของการสร้างภาพลักษณ์ให้ทวีคูณย่ิงขึ้น(พหูพจน์ของ IMAGE) เรื่องราวและภาพเหตุการณ์/กิจกรรมต่าง ๆ ท่ีเกิดขึ้นในห้วง พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๓ ที่กล่าวข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่า แม้ สน.ผชท.ทร.ไทย/มอสโก จะได้รับมอบหมายภารกิจสาคัญ ให้ดาเนินการค่อนข้างมาก แต่ด้วยการบริหารจัดการ การสนับสนุนจากหน่วยงานต่าง ๆ ท่ีเกี่ยวข้อง รวมท้ังความร่วมมือร่วมใจ ของกาลังพลในสังกัด ครอบครัว และผู้ติดตาม ทาให้สามารถที่จะปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่ ควบคู่กับการดาเนินการ ในบทบาทการเสริมสร้างภาพลักษณ์กองทัพเรือในต่างประเทศตามหลักการ IMAGES ได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องของกองทัพเรือจะสามารถนาไปพิจารณาประยุกต์ใช้ให้สอดคล้องกับ บริบทสภาวะแวดล้อมของหน่วยตนเอง โดยเฉพาะในโลกยุคดิจิทัลน้ี เมื่อหน่วยต่าง ๆ ของกองทัพเรือในต่างประเทศ แสดงบทบาทการเสรมิ ภาพลกั ษณก์ องทพั เรอื ควบคไู่ ปกบั การปฏบิ ตั ภิ ารกจิ หลกั ของหนว่ ยมากขนึ้ เรอ่ื ย ๆ กย็ อ่ มสง่ ผลดี ต่อภาพลักษณ์ของกองทัพเรือ ท่ีจะแพร่หลายไปสู่ภาคส่วนอื่น ๆ ในประเทศไทย และในสังคมโลกยิ่ง ๆ ขึ้นไป
เอกสารอ้างอิง
กองทัพเรือ, อทร.๒๐๐๘ คู่มือการปฏิบัติหน้าที่สาหรับ สน.ผชท.ทร.ไทย/ต่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๑. จินตวีร์ เกษมศุข, ผศ.ดร. “การสร้างภาพลักษณ์องค์กร,” เอกสารการประกอบการเรียนรู้ด้วยตนเอง
หมวดวิชาชุมชนและมวลชนสัมพันธ์ สาขาวิชาการประชาสัมพันธ์ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ศรีปทุม, พ.ศ. ๒๕๖๐.
รัชยศ รัชตรุ่งโรจน์กุล, นาวาเอก. “นาวาแห่งมิตรภาพ,” นาวิกศาสตร์, ปีท่ี ๑๐๓ เล่มท่ี ๑ (มกราคม ๒๕๖๓),
หน้า ๖๖-๗๒.
สน.ผชท.ทร.ไทย/มอสโก, “เอกสารประกอบการบรรยายสรุปการรับ - ส่งหน้าที่ ผชท.ทร.ไทย/มอสโก ปี งป.๖๓”,
พ.ศ. ๒๕๖๓.
Corporate Identity VS Corporate Image, <https://www.whiteriverdesign.com/
corporate-identity-versus-corporate-image/> (สืบค้นเมื่อ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๔).
Frances Hesselbein, Marshall Goldsmith and Richard Beckhard The Leader of The Future.
San Francisco: Jossey-Bass Publishers, 1996.
Facebook Page, Office of Thai Naval Attache to Moscow (สืบค้นเม่ือ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔).
นาวิกศาสตร์ 48 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


การแพทยแ์ ผนไทย คอื ภมู ปิ ญั ญาดงั้ เดมิ ของคนไทย ไดร้ บั การสบื สานตอ่ เนอ่ื งกนั มาอยา่ งยาวนานหลายรอ้ ยปี มีส่วนสาคัญอย่างย่ิงในการดูแลสุขภาพของประชาชน ใหม้ คี วามแขง็ แรงสมบรู ณต์ ามควรแกอ่ ตั ภาพของแตล่ ะคน ท้ังในด้านการบารุงร่างกาย การป้องกัน และการรักษา โรคภยั ไขเ้ จบ็ ตา่ ง ๆ เทา่ ทมี่ ขี ดี ความสามารถในแตล่ ะหว้ งเวลา จวบจนสมัยรัชกาลที่ ๓ จึงได้มีการแพทย์แผนใหม่ เขา้ มาเผยแพรใ่ นบา้ นเมอื งเรา เปน็ ผลใหก้ ารแพทยแ์ ผนไทย คล้ายจะมีบทบาทลดน้อยลง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังคงเป็นส่วนสาคัญในวิถีชีวิตของคนไทยมาอย่าง ต่อเนื่อง มีการศึกษาค้นคว้าและพัฒนาอย่างไม่ขาดสาย ถ่ายทอดความรู้ และประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่นตลอดมา แต่การบันทึกไว้เป็นตารับตาราอยู่ในแวดวงที่ค่อนข้าง จากัด การวิจัยทางวิชาการมีไม่มากเท่าท่ีควร การหา ความเชอ่ื มโยงกบั การแพทยส์ มยั ใหมจ่ งึ ขาดความชดั เจน ตามไปดว้ ย นบั เปน็ ความสญู เสยี ทงั้ โอกาส และประโยชน์ อันพึงได้สาหรับคนไทย และมวลมนุษยชาติอย่าง น่าเสียดายย่ิงนัก
ในบรรดาผู้ที่สนใจใฝ่รู้ และศึกษาค้นคว้าด้าน การแพทยแ์ ผนไทยในอดตี พลเรอื เอก พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพร เขตอดุ มศกั ด์ิพระราชโอรสองคท์ ่ี๒๘ในพระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลที่ ๕ คอื ผทู้ ไ่ี ดท้ รงทมุ่ เท อย่างจริงจังมากท่านหน่ึง โดยเฉพาะในช่วงเวลาราว ๖ ปี ระหวา่ ง พ.ศ.๒๔๕๕–๒๔๖๐ ทที่ รงวา่ งเวน้ จากภาระ
หนา้ ทร่ี าชการ ในกองทพั เรอื พระองคท์ รงใชเ้ วลาเพอื่ การนี้ อยา่ งเตม็ ทไ่ี มแ่ ตเ่ พยี งแคก่ ารศกึ ษาคน้ ควา้ เทา่ นน้ั ไดท้ รง รวบรวมไว้เป็นตารับตารายาอย่างน้อย ๑๕ เล่ม เท่าท่ีมี ห ล กั ฐ า น อ ย ่ ู ท งั ้ ย งั ไ ด ใ้ ช อ้ ง ค ค์ ว า ม ร ้ ู แ ล ะ ป ร ะ ส บ ก า ร ณ ด์ า้ น น ี ้ ผสมผสานกับการแพทย์สมัยใหม่ในยุคนั้น ทาการรักษา โรคภยั ไขเ้ จบ็ ทย่ี ากตอ่ การเยยี วยาตามวธิ ปี กตอิ ยา่ งไดผ้ ล เป็นอัศจรรย์ ช่วยให้ผู้คนพ้นจากความทุกข์ทรมาน จากโรคร้ายได้เป็นจานวนมาก จนคนทั่วไปนิยม กล่าวขานถึงพระนามท่านว่า “หมอพร” ตราบจน ทุกวันน้ี นับได้ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้ท่ีริเร่ิมการแพทย์ แบบบูรณาการ หรือการแพทย์ผสมผสานอย่างแท้จริง สร้างคุณูปการอย่างใหญ่หลวงให้แก่วงการแพทย์ไทย
พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด์ิ (หมอพร)
นาวิกศาสตร์ 49 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


และกาลังขยายวงกว้างออกไปสู่สากลมากขึ้นทุกที พระเกียรติคุณท่ีสาคัญยิ่งอีกประการหนึ่งของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้า อาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ คือการพัฒนากองทัพเรือไทยในยุคกว่าร้อยปีก่อนให้มี ความทันสมัยทัดเทียมนานาอารยประเทศในยุคน้ัน ไม่ต้องจ้างชาวต่างชาติทาหน้าท่ีสาคัญต่าง ๆ ในกองทัพ อีกต่อไป ใช้คนไทยซ่ึงพระองค์ทรงถ่ายทอดความรู้ และ ฝึกฝนอบรมเองเป็นส่วนใหญ่ปฏิบัติงานได้ในทุกหน้าท่ี ถึงข้ันนาเรือหลวงพระร่วงจากประเทศอังกฤษมายัง สยามประเทศได้โดยสวัสดิภาพ ด้วยพระปรีชาสามารถ และพระคณุ อนั อเนกอนนั ตท์ พ่ี ระองคท์ รงมตี อ่ กองทพั เรอื ยากที่จะกล่าวได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ กองทัพเรือ จึงได้ขออนุญาตจากทางราชสกุลอาภากร (ซ่ึงพระองค์ ทรงเป็นต้นราชสกุล) ถวายพระนามพระองค์ท่านว่า “องค์บิดาของทหารเรือไทย”
“หมอพร” ขณะทรงงานโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ ในห้องปฏิบัติงานทางการแพทย์
ในดา้ นการแพทยแ์ ผนไทยและการแพทยผ์ สมผสานซงึ่ พระองคท์ รงเปน็ ตน้ แบบและวางรากฐานไวน้ นั้ กองทพั เรอื โดยกรมแพทย์ทหารเรือรวมทั้ง มูลนิธิราชสกุล อาภากรในพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวง ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ได้พยายามสืบสาน และขยายผล ตามกาลังความสามารถตลอดมา เพ่ือให้เกิดประโยชน์ อย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นในการดูแลสุขภาพ ป้องกัน
นาวิกศาสตร์ 50 ปีท่ี ๑๐๔ เล่มท่ี ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
และรักษาโรคภัยไข้เจ็บสาหรับคนทั่วไป โดยทางมูลนิธิ ราชสกุลอาภากรฯ ซึ่งมีหม่อมราชวงศ์จิยากร (อาภากร) เสสะเวช เป็นประธานได้จัดทาโครงการเทิดพระเกียรติ เพ่ือเผยแพร่พระประวัติในส่วนที่เกี่ยวกับความเป็น “หมอพร” ของพระองคท์ า่ น อาทิ การสรา้ งอาศรมหมอพร และอาคารเรียนรู้เร่ืองการแพทย์บูรณาการเพื่อ เทิดพระเกียรติ และเผยแพร่ผลงานของพระองค์ท่าน ทโ่ี รงพยาบาลสมเดจ็ พระปน่ิ เกลา้ พร. เขตธนบรุ ี กรงุ เทพฯ เป็นที่เก็บรักษาตารายา ซ่ึงบันทึกด้วยลายพระหัตถ์ ของพระองค์จานวน ๑๕ เล่ม รวมท้ังเครื่องมือแพทย์ ท่ีเคยทรงใช้เท่าที่รวบรวมได้ อาทิ กล้องจุลทรรศน์ และหินบดยา เพื่อให้ผู้ท่ีสนใจได้ศึกษาหาความรู้ และ เป็นมรดกทางภูมิปัญญาสาหรับอนุชนคนรุ่นหลังสืบไป ในสว่ นของกองทพั เรอื นน้ั พลเรอื เอก ชาตชิ าย ศรวี รขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มีดาริให้จัดทาโครงการ ศูนย์การแพทย์แผนไทยหมอพร และการแพทย์
อาศรมหมอพร ตั้งอยู่ท่ีโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า พร.
ผสมผสาน โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า พร. โดยมี พลเรือโท วิชัย มนัสศิริวิทยา เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ เปน็ ประธานโครงการ กจิ กรรมหลกั คอื การปรบั ปรงุ อาคาร รังสีวิทยาเดิมให้เป็นศูนย์การแพทย์แผนไทยหมอพรฯ มีเส้นทางเดินเชื่อมต่อกับอาคารเรียนรู้เรื่องการแพทย์ บรู ณาการ และอาศรมหมอพรดงั ทกี่ ลา่ วถงึ แลว้ โครงการ น้ีได้เริ่มดาเนินการมาระยะหน่ึงแล้ว กาหนดแล้วเสร็จ


ภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ครบ ๑๐๐ ปี วันสิ้นพระชนม์ของ พระองค์ท่านพอดี (วันท่ี ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๖) สามารถให้บริการทั้งด้านการให้ความรู้ คาปรึกษาแก่ ผสู้ นใจและตรวจรกั ษาผปู้ ว่ ยดว้ ยการแพทยแ์ ผนไทยหมอพร และการแพทย์ผสมผสานในความรับผิดชอบของ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า พร. นับเป็นสถาน พยาบาลแห่งแรกก็ว่าได้ท่ีมีการให้บริการเช่นนี้ เช่ือว่า จะมีส่วนช่วยในการจุดประกายให้การแพทย์แผน ไทย และการแพทย์ผสมผสานได้รับการพัฒนาให้มี ความสมบรู ณย์ งิ่ ขนึ้ คนทวั่ ไปรบั รู้ และเหน็ คณุ คา่ ทแ่ี ทจ้ รงิ
มูลนิธิราชสกุลอาภากรในพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
อยา่ งถกู ตอ้ งชดั เจนมนั่ ใจในการใหด้ แู ลรกั ษาสขุ ภาพของตน ในยามปกติ และเมื่อเกิดการเจ็บไข้ได้ป่วย
คนส่วนใหญ่อาจยังไม่ทราบว่า ในช่วงการระบาด ของไวรสั COVID-19เกอื บสองปที ผี่ า่ นมานน้ั สมนุ ไพรไทย และการแพทย์แผนไทยได้มีส่วนช่วยอย่างสาคัญ ในการลดความรุนแรงของโรคร้ายน้ี ท้ังในด้านการสร้าง ภมู คิ มุ้ กนั และเยยี วยารกั ษาผปู้ ว่ ยโดยเฉพาะในชว่ งแรกๆ ท่ีการแพร่ระบาดยังไม่รุนแรง การแพทย์แผนปัจจุบัน สามารถควบคุมสถานการณ์ ได้เป็นอย่างดีผู้ป่วย และผู้เสียชีวิต มีจานวนน้อยมาก จนได้รับความชื่นชม ไปทั่วโลก การกล่าวถึงบทบาทของการแพทย์แผนไทย มีน้อยมาก จนกระทั่งเกิดการระบาดอีกสองสาม ระลอกตามมา เชื้อไวรัส กลายพันธุ์ เป็นชนิด ท่ีแพร่กระจายได้เร็ว และมีความรุนแรงมากขึ้น จนระบบสาธารณสุขของไทยทาท่าจะรับมือ ไม่ไหว การแพทย์แผนไทย จึงมีส่วนช่วยท่ีสาคัญ และรับรู้อย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น มีการนามาใช้ร่วมกับ
การแพทย์แผนปัจจุบันอย่างได้ผลเป็นท่ีน่าพอใจมาก ทเี ดยี ว เมอื่ ความจรงิ ปรากฏเชน่ นี้ คงพอหวงั ไดว้ า่ ผทู้ เี่ คย มองขา้มคณุคา่ของสมนุไพรไทยและการแพทยแ์ผนไทย จะมีทัศนคติที่ถูกต้อง และเห็นคุณค่าของภูมิปัญญาไทย ซงึ่ บรรพบรุ ษุ ไดร้ ว่ มกนั คดิ คน้ พฒั นา และสบื สานตอ่ เนอื่ ง กนั มาจนถงึ ปจั จบุ นั นบั เปน็ มรดกอนั ลา้ คา่ ยงิ่ ทคี่ นรนุ่ หลงั ควรปกป้องรักษา และพัฒนาให้มีคุณค่าสูงย่ิงขึ้นสืบไป การจดั ตง้ั ศนู ยก์ ารแพทยแ์ ผนไทยหมอพร และการแพทย์ ผสมผสาน โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า พร. จึงเป็นเสมือนการสร้างเสริมรากฐานให้ศาสตร์แขนงนี้ แข็งแกร่งมากขึ้นอีกส่วนหนึ่ง เป็นท้ังแหล่งเรียนรู้ และให้คาปรึกษาสาหรับผู้ท่ีสนใจ รวมทั้งตรวจ รักษาผู้ท่ีเจ็บไข้ได้ป่วยด้วย ซึ่งจะช่วยให้ระบบ สาธารณสุขของไทยโดยรวมมีความสมบูรณ์ และ เข้มแข็งมั่นคงยิ่งขึ้น สามารถให้บริการได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสูงกว่าเดิมทั้งยังช่วย ประหยดั งบประมาณของประเทศไดอ้ ยา่ งมหาศาลอกี ดว้ ย
คุณค่าแห่งบูรณาการ
การหลอมรวม ร่วมประสาน งานทั้งหลาย แม้ไม่ง่าย แต่ให้ผล ค่าล้นเหลือ แต่งความต่าง อย่างสุขุม มิคลุมเครือ
มุ่งโอบเอื้อ เกื้อหนุน ค้าจุนกัน
ความล้าเลิศ ล้วนเกิดจาก หลากมุมคิด ช่วยต่อติด จิตเปิดกว้าง ว่างตัวฉัน หวังนาพา มหาชน พ้นจาบัลย์ ต้องมุ่งมั่น บั่นบาก แม้ยากเย็น รักชาติจริง อย่าท้ิงห่าง หนทางปราชญ์
ชาญฉลาด อย่างสัตย์ซื่อ คือข้อเด่น ถือคลองธรรม นาชีวิต ย่อมคิดเป็น
คลายลาเค็ญ เห็นทางรอด ปลอดทุกข์ภัย
นรชาติ
๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔
นาวิกศาสตร์ 51 ปีที่ ๑๐๔ เล่มท่ี ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


บทคัดย่อ คลื่นลูกที่ ๓ (The Third Wave) เป็นเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตท่ีเร่ิมตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ เป็นต้นมา ซึ่งเป็น ชว่ งเวลาทโี่ ลกเรมิ่ เขา้ สกู่ ารเชอื่ มตอ่ แบบยงิ่ ยวด ทกุ ทแี่ ละทกุ เวลา รวมทง้ั เทคโนโลยี 5G กา ลงั ถกู นา มาใชอ้ ยา่ งเตม็ รปู แบบ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ และจะทาให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ sensors, Internet of Things (IoT) หรือกล่าวได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเชื่อมด้วยอินเตอร์เน็ต (Internet of Everything; IoE) อีกท้ังมีการนาเทคโนโลยีโลกเสมือน Augmented Reality (AR), Virtual Reality (VR) และ Mixed Reality (MR) มาประยุกต์ใช้กับหน่วยงานการฝึกหัดศึกษา อบรม และการรักษาพยาบาลทางไกล ยิ่งไปกว่านั้น Big data และ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนกระบวนการวิเคราะห์ที่ซับซ้อน และกระบวนการ อตั โนมตั ิ จนทา ใหเ้ กดิ การดา เนนิ การในรปู แบบใหมเ่ กดิ ขนึ้ ในงานทกุ ๆ แขนง อาทเิ ชน่ การศกึ ษา การเกษตร การจราจร การขนส่ง การรักษาพยาบาล การท่องเที่ยว รวมทั้งด้านการทหาร ดังน้ัน กองทัพเรือจะต้องปรับตัว ปรับวัฒนธรรม องคก์ ร และเปลยี่ นผา่ นสยู่ คุ ดจิ ทิ ลั (Digital Transformation) อยา่ งจรงิ จงั เพอื่ เปน็ องคก์ รดจิ ทิ ลั (Digital Organization) ท่ีเหมาะสมและทันสมัย โดยผู้เขียนได้กา หนดกรอบแนวคิดองค์ประกอบในการพัฒนาพื้นท่ีกองทัพเรือ - สัตหีบ เป็น กรณีศึกษา ให้เป็นพื้นที่กองทัพเรืออัจฉริยะ (Smart Navy Base) สอดรับกับแผนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ของรัฐบาล ซึ่งจะนาไปสู่การบริหารจัดการเป็นเลิศ ทันสมัย เหมาะสม ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ และบท สรุปส่งท้าย ด้วยคาย่อ ๗ ตัวอักษรของ D.I.G.I.T.A.L
๑. บทนํา (Introduction)
การก้าวเข้าสู่โลกเทคโนโลยีดิจิทัลท่ีเขียนไว้ในหนังสือ “คลื่นลูกที่สาม” (The Third Wave) โลกยุคปฏิวัติข้อมูล ข่าวสารของอัลวิน ทอฟฟ์เลอร์ (Alvin Toffler) กล่าวโดยสรุปว่า “คลื่นลูกที่สาม” หมายถึงยุคของการปฏิวัติข้อมูล ขา่ วสาร เปน็ ยคุ แหง่ การเชอื่ มโยงและเขา้ ถงึ ขอ้ มลู จากทกุ หนทกุ แหง่ มอี งคป์ ระกอบพนื้ ฐานดา้ นเทคโนโลยเี ขา้ มารองรบั ท้ังเครื่องคอมพิวเตอร์และโครงสร้างโทรคมนาคม เกิดเป็นชุมชนเครือข่าย ผู้คนในแต่ละมุมโลกสามารถเข้าถึงข้อมูล และบริการต่างๆ ในเครือข่ายที่เช่ือมต่อกันได้ เรียกว่าอินเทอร์เน็ต๑,๒ เป็นจุดเร่ิมแห่งการเปลี่ยนและเกิดเป็นระบบ เศรษฐกิจใหม่ (New Economy) ที่ขับเคล่ือนอยู่บนเครือข่าย และเกิดการเชื่อมโยงและวิวัฒนาการไปสู่การพัฒนาใน ด้านอ่ืนๆ ของวิถีชีวิต ซึ่งเป็นยุคท่ีอินเทอร์เน็ตจะไม่ใช่แค่ส่วนเสริมส่วนหน่ึงของชีวิต แต่จะกลายเป็นส่วนท่ีขาดไม่ได้ อกี ตอ่ ไปของการใชช้ วี ติ จนถงึ ปจั จบุ นั มกี ารพฒั นาเทคโนโลยกี ารสอื่ สารและสารสนเทศมาอยา่ งตอ่ เนอื่ ง และเรม่ิ มกี าร ใช้เทคโนโลยี 5G ต้ังแต่ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นต้นมา ซึ่งจะทา ให้การใช้ประโยชน์ของอุปกรณ์ Internet of Things (IoT), Sensors และอุปกรณ์พกพาหรืออุปกรณ์สวมใส่ มีมากข้ึนตามมาด้วย และเมื่อทุกอย่างเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ก็จะ ทา ใหร้ ปู แบบการใชช้ วี ติ การดา เนนิ ธรุ กจิ การจดั การองคก์ ร แมก้ ระทง่ั การบรหิ ารจดั การและการปฏบิ ตั กิ ารทางทหาร การเรียน การฝึก การรักษาความปลอดภัย การแพทย์ การสาธารณสุข ฯลฯ ของบุคลากรที่จะต้อง เปล่ียนแปลงไปด้วย
นาวิกศาสตร์ 52 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


ภําพที่ ๑ Smart City
ที่มา : https://www.engineeringtoday.net/เมืองอัจฉริยะ-smart-city-คืออะไร/
ในปัจจุบัน “เมืองอัจฉริยะ” หรือ “Smart City” เป็นกระแสที่กาลังมีการพัฒนากันทั่วโลก ตามภําพท่ี ๑ เพราะ เป็นเรื่องของการนาเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้กับเมืองเพ่ือให้มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สร้างความปลอดภัยได้ มากข้ึน ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการสาธารณะของเมืองได้อย่างรวดเร็ว การเช่ือมโยงข้อมูลข่าวสารถึงกันเพื่อช่วย พฒั นาระบบบรกิ ารและการจดั การใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพสงู สดุ แนวคดิ ในการนา เทคโนโลยมี าพฒั นาเมอื งใหม้ คี วามอจั ฉรยิ ะ (Smart) น้ัน จะต้องมีความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ท้ังภาคธุรกิจ รัฐบาล รวมถึงประชาชนในพื้นที่ร่วมกันพัฒนาเมือง สาหรับประเทศไทย การประกาศนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล (Digital Economy) ท่ีจะเน้น การผลกั ดนั Smart City ใหเ้ ปน็ กลไกทจ่ี ะสรา้ งโอกาสในการขยายตวั ของเศรษฐกจิ ในระดบั พนื้ ทใี่ หด้ ขี น้ึ โดยกระทรวง ดจิ ทิ ลั เพอ่ื เศรษฐกจิ และสงั คม หรอื ดอี ี ไดม้ อบหมายใหส้ า นกั งานสง่ เสรมิ เศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั หรอื ดปี า้ (DEPA) เปน็ หนว่ ย งานที่ช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ตั้งเป้าระยะแรกจะพัฒนา ๗ จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา และกรุงเทพฯ๓,๔ ซึ่งอาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เปรียบเสมือนเมืองของทหารเรือ เพราะเป็น ท่ีต้ังของหน่วยงานหลักของกองทัพเรือหลายหน่วยงาน ผู้เขียนเห็นว่า เพ่ือให้แผนการพัฒนาตัวเมืองสัตหีบสอดคล้อง กับแผนการพัฒนาจังหวัดชลบุรี ให้เป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) จาเป็นต้องวางกรอบแนวความคิด แผนพัฒนาให้ พนื้ ทกี่ องทพั เรอื - สตั หบี เปน็ เมอื งอจั ฉรยิ ะหนง่ึ ของจงั หวดั ชลบรุ ดี ว้ ยเชน่ กนั โดยการบรู ณาการเทคโนโลยที สี่ า คญั ของ Smart City คือ Internet of Things (IoT) และการบูรณาการข้อมูล Big Data จาก CCTV, IP camera, Sensors, IntelligenceTrafficSystem(ITS)และเทคโนโลยที ม่ี คี วามชาญฉลาดอนื่ ๆเพอื่ เปลยี่ นแปลงใหพ้ นื้ ทกี่ องทพั เรอื -สตั หบี มีความปลอดภัย และน่าอยู่ ให้เป็นพื้นที่ ท่ีมีการบริหารจัดการเป็นเลิศ เหมาะสม ทันสมัย และมีประสิทธิภาพด้วย เทคโนโลยีการส่ือสารและสารสนเทศ
สา หรบั กองทพั เรอื ตามนโยบาย พลเรอื เอก สมประสงค์ นลิ สมยั ผบู้ ญั ชาการทหารเรอื ในปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ น้ี เป็นการสานงานต่อเน่ือง จากนโยบายผู้บัญชาการทหารเรือท่ีผ่านมา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามวิสัยทัศน์และ ยุทธศาสตร์กองทัพเรือตลอดจนรวมพลังขับเคลื่อนกองทัพเรือตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือระยะ ๒๐ ปี ไปสู่การเป็น
นาวิกศาสตร์ 53 ปีท่ี ๑๐๔ เล่มท่ี ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


“หนว่ ยงํานควํามมนั่ คงทํางทะเล ทมี่ บี ทบําทนํา ในภมู ภิ ําคและเปน็ เลศิ ในกํารบรหิ ํารจดั กําร และกํารสง่ มอบคณุ คํา่ ใหแ้ กป่ ระชําชนและสงั คม” ผเู้ ขยี นคดิ วา่ กองทพั เรอื จงึ ควรมงุ่ เขา้ หาโอกาสและสง่ิ ทา้ ทายในการขบั เคลอื่ นกองทพั เรอื ให้เข้าสู่กระแสดิจิทัลอย่างจริงจัง เพ่ือเข้าสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล (Digital Organization) ที่บริหารจัดการเป็นเลิศ เหมาะสมและทนั สมยั นอกจากนี้ ในยคุ ของขอ้ มลู ขา่ วสาร (Information Age) และยคุ ของดจิ ทิ ลั (Digital Age) เปน็ ยคุ แห่งการเชื่อมโยง และเข้าถึงข้อมูลจากทุกหนทุกแห่ง รองรับเร่ืองของ Internet of Things (IoT) ที่อุปกรณ์สิ่งของ เกือบจะทุกอย่างเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต อุปกรณ์พกพาหรือหน้ากาก/แว่นสวมใส่ในโลกเสมือน ประกอบกับระบบ การสอื่ สารเทคโนโลยี 5G ทม่ี กี ารประยกุ ตใ์ ชใ้ นประเทศไทยแลว้ อกี ทง้ั การไหลเวยี นแบบ real time ของขอ้ มลู ขนาดใหญ่ (Big data) และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ได้รับการพัฒนาเรียนรู้ข้ึนตามลาดับ
ดังนั้น กองทัพเรือควรวางกรอบแนวคิด ปรับวัฒนธรรมองค์กรและมีวิสัยทัศน์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ยุคดิจิทัล จาเป็นต้องศึกษาทบทวนสภาวะแวดล้อมของระบบดิจิทัลของกองทัพ/หน่วยงาน ในปัจจุบัน และศึกษา วิเคราะห์ ปัจจัยสาคัญเพื่อพัฒนาไปสู่องค์กรดิจิทัล (Digital Organization) โดยบทความน้ี ผู้เขียนจะใช้พื้นท่ีสัตหีบ เป็นกรณีศึกษา ซึ่งมีหน่วยงานหลักๆ ตั้งอยู่หลายหน่วยงาน เช่น กองเรือยุทธการ กองการฝึก ทัพเรือภาคที่ ๑ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ฐานทัพเรือสัตหีบ ท่าเรือ กองการบิน ทหารเรือ กรมอู่ทหารเรือ ท่าเรือ โรงพยาบาลทหารเรือ สถานท่ีท่องเที่ยวของกองทัพเรือ แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ เป็นต้น ให้สอดรับกับแผนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) จังหวัดชลบุรี ด้วยเพ่ือกาหนดโครงสร้างและกรอบแนวคิด องค์ประกอบในการพัฒนาพ้ืนท่ีกองทัพเรือสัตหีบให้เป็น “พ้ืนที่กองทัพเรืออัจฉริยะ” (Smart Navy Base) ซึ่งจะ นาไปสู่การปฏิบัติงานที่เหมาะสม ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และทันสมัยเป็นเลิศในภูมิภาคในการบริหารจัดการ
๒. นิยํามของ “พื้นที่กองทัพเรืออัจฉริยะ” (Smart Navy Base)
พื้นที่กองทัพเรืออัจฉริยะ (Smart Navy Base) หมายถึง บริเวณพื้นท่ีในกองทัพเรือที่ได้นาเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Technology) และนวัตกรรมที่ทันสมัยและมีความเป็นอัจฉริยะ (Smart) มาประยุกต์ใช้ในการปรับปรุง กระบวนการทางาน การปฏิบัติการ การรักษาความปลอดภัยในหน่วย การฝึกหัดศึกษาอบรม การสนับสนุนการส่ง กาลังบารุง การคมนาคมภายในหน่วย การท่องเท่ียว การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data analytics) การบริหาร จัดการภายในพื้นท่ีกองทัพเรือ ทั้งภายในอาคาร และนอกอาคารสถานที่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถ เพิ่มความสะดวกรวดเร็ว เพิ่มความปลอดภัย รวมท้ังการบริการแก่กาลังพล แต่ละหน่วยให้ครอบคลุมกว้างขวางท่ัวทั้ง พนื้ ที่ หรอื เชอ่ื มโยงกบั หนว่ ยงานอนื่ ๆ นอกพนื้ ทหี่ ากจา เปน็ โดยมรี ะบบการสอ่ื สาร และเทคโนโลยสี ารสนเทศ ทเี่ ชอื่ มโยง ประมวลผล จัดเก็บ วิเคราะห์ ป้องกันและแจกจ่าย แลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารของผู้ใช้ในแต่ละระดับ
๓. กํารก้ําวสู่วัฒนธรรมองค์กรดิจิทัล
เมื่อแนวโน้มขององค์กรยุคปัจจุบันกาลังพลิกโฉมหน้าปรับเปล่ียนเข้าสู่ยุคแห่งเทคโนโลยี กลายเป็นองค์กรดิจิทัล (Digital Organization) อย่างเห็นเด่นชัดเป็นรูปธรรมมากข้ึน การเปลี่ยนผ่านขององค์กรจึงไม่อาจหมายความเพียง แค่การลงทุนซื้ออุปกรณ์ไอที อุปกรณ์ดิจิทัลใหม่ ๆ หรือการลงทุนด้านโปรแกรมและซอฟต์แวร์อันทันสมัยเพียงอย่าง เดียวเท่าน้ัน แต่ต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ลงลึกไปจนถึงแก่น และหัวใจสาคัญของการดาเนินงาน น่ันก็คือ วัฒนธรรม ขององค์กร (Digital Culture) ท่ีต้องสอดคล้องกับการก้าวสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลให้ได้อย่างยั่งยืน ก่อนอื่นผู้เขียน อยากให้ทาความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) ว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลง ไปในทิศทางใดบ้าง เพ่ือจะก้าวไปสู่ผลสาเร็จตามที่มุ่งหวังไว้
นาวิกศาสตร์ 54 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


๓.๑ ปรับกระบวนคิดดิจิทัล (Digital Mindset) ของกาลังพลในหน่วยงาน หรืออาจเรียกว่า การตระหนักรู้ด้าน ดจิ ทิ ลั (Digital Awareness) การปรบั กระบวนการคดิ วสิ ยั ทศั น์ และความเชอื่ มน่ั ตงั้ แตผ่ บู้ รหิ ารสงู สดุ ลงไปสกู่ า ลงั พล ทกุ ระดบั เรม่ิ จากผบู้ งั คบั บญั ชาแตล่ ะระดบั ทต่ี อ้ งนา เสนอและทา ใหก้ า ลงั พลภายในหนว่ ยงานของตนมองเหน็ วา่ การคดิ ในเชิงบริหารยุคใหม่นั้นจะต้องอยู่ในรูปแบบดิจิทัลทั้งระบบ เม่ือมีแนวทางการดาเนินงานที่ชัดเจนแล้ว ก็ต้องลงทุนใน ด้านงบประมาณและโครงสร้างพื้นฐานของหน่วยงานให้มีความพร้อมและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงไปสู่การเป็น องค์กรยุคดิจิทัล
๓.๒ ปรับกระบวนกํารทํางํานด้วยดิจิทัล (Digital Process) ระบบงานและกระบวนการต่าง ๆ ภายในหน่วย งานจะต้องเช่ือมโยงกันเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และเป็นข้อมูลชุดเดียวกันทั้งหน่วย โดยมีเทคโนโลยีเป็นเคร่ืองมือ สาคัญในการจัดเก็บ วิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูลแบบองค์รวม ข้อมูลต่าง ๆ จะไม่ถูกจัดเก็บแบบต่างคนต่างเก็บ และต่างคนต่างใช้อีกต่อไป แต่จะต้องปรับเปลี่ยนมาเป็นรูปแบบระบบฐานข้อมูลกลาง บนระบบคลาวด์ เพ่ือลดความ ซ้าซ้อนในการจัดเก็บ และกาลังพลแต่ละระดับสามารถเข้าถึงข้อมูลหน่วยงานที่อัพเดตใหม่อยู่เสมอ แต่ทว่า ต้องมีการ กา หนดสทิ ธแิ์ ละอา นาจ (Authority) ในการเขา้ ถงึ แตล่ ะคน วา่ เขา้ ในระบบไดร้ ะดบั ไหน ดขู อ้ มลู ไดล้ กึ ขนาดไหน เปน็ ตน้
๓.๓ ปรบั ทกั ษะกํารใชเ้ ทคโนโลยดี จิ ทิ ลั (Digital Skills) หนว่ ยงานยคุ ใหมจ่ ะลดการใชก้ ระดาษลงจนมแี นวโนม้ เปน็ ศนู ยใ์ นอนาคต ดว้ ยทรพั ยากรปา่ ไมท้ ลี่ ดจา นวนลงสง่ ผลใหเ้ ราตอ้ งใชก้ ระดาษอยา่ งประหยดั มากขน้ึ หนว่ ยงานทงั้ หลาย ตา่ งตอ้ งลดตน้ ทนุ ในการดา เนนิ งาน โดยเฉพาะการสงั่ ซอ้ื กระดาษเพอื่ ใชง้ านภายในหนว่ ย ประกอบกบั ขอ้ มลู ทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ ง ของหน่วยในปัจจุบันจะเก็บบันทึกไว้ในระบบฐานข้อมูลทั้งออฟไลน์ และออนไลน์ กาลังพลในหน่วยงานยุคดิจิทัล จึงต้องปรับตัวให้มีความรู้ ความสามารถ ตลอดจนมีทักษะในการใช้เทคโนโลยี และอุปกรณ์ทันสมัยรูปแบบใหม่ ๆ ที่อัพเดตความเคล่ือนไหวอยู่เป็นระยะ รวมไปถึงการใช้ซอฟต์แวร์และโปรแกรมต่าง ๆ ในการประมวลผลข้อมูล และปอ้ นคา สง่ั ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ เพอื่ ใหก้ ารทา งานในหนว่ ยงานยคุ ดจิ ทิ ลั เกดิ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลสงู สดุ อยเู่ สมอ
๓.๔ ปรับวัฒนธรรมองค์กรสู่ดิจิทัล (Digital Culture) การจะก้าวสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลได้อย่างยั่งยืน หรือไม่นั้น วัฒนธรรมการทางานแบบดิจิทัลมีส่วนสาคัญอย่างมาก โดยปกติแล้วหน่วยงานยุคใหม่ก็ล้วนแล้วแต่มี วัฒนธรรมการทางานที่มุ่งเน้นการปรับปรุงกระบวนงานอย่างต่อเนื่อง หรือการสร้างผลงานในเชิงนวัตกรรมเพ่ือแก้ ปญั หา และลดอปุ สรรคในการดา เนนิ งานอยา่ งไมห่ ยดุ นง่ิ หากองคก์ รขบั เคลอื่ นความเปน็ ดจิ ทิ ลั เขา้ สกู่ ระบวนการทา งาน ในแบบเชิงลึก ปัญหาและอุปสรรคแบบเดิม ๆ ขององค์กรก็จะลดน้อยลงตามไปด้วย และเปลี่ยนรูปแบบการทางาน ขององคก์ รใหก้ า้ วไปในทศิ ทางทสี่ อดคลอ้ งกบั สถานการณค์ วามเปน็ โลกาภวิ ตั นใ์ นโลกยคุ ปจั จบุ นั ได้ คอื มที งั้ ความเชอ่ื มโยง คล่องตัว สะดวก ไม่จากัดเวลาและสถานที่ และตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างรวดเร็ว
๓.๕ เตรยี มควํามพรอ้ มทงั้ ระบบ เมอื่ ผนู้ า ผบู้ รหิ ารยคุ ใหมต่ า่ งมคี วามคาดหวงั ใหอ้ งคก์ รเปลยี่ นแปลงและกา้ วไป สู่ความเป็นดิจิทัลได้อย่างจริงแท้แน่นอน สิ่งที่องค์กรจะต้องผลักดันให้เกิดการเปล่ียนแปลงขนานใหญ่ก็คือ “คน” เพราะทรัพยากรบุคคลเป็นหัวใจสาคัญของการดาเนินงาน หากหน่วยงานไม่สามารถเชื่อมโยงกาลังพลกับความเป็น ดิจิทัลเข้าไว้ด้วยกันแล้ว วัฒนธรรมองค์กรยุคดิจิทัลก็ไม่อาจเกิดข้ึนได้จริง นับเป็นโจทย์ท้าทายท่ีทุกองค์กรต้องแก้ ใหต้ รงจดุ ทา อยา่ งไรใหก้ า ลงั พลเดมิ กา้ วผา่ นสกู่ ารเปลยี่ นแปลงไดโ้ ดยไมเ่ กดิ ความขดั แยง้ ทา อยา่ งไรใหส้ ามารถดงึ ศกั ยภาพ ดา้ นดจิ ทิ ลั ในตวั บคุ คลมาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ แกห่ นว่ ยงาน และทา อยา่ งไรจงึ จะเขา้ ถงึ และเขา้ ใจคนทา งานยคุ ใหม่ อย่างคน Gen-Y, Gen-Z ท่ีมีความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มเปี่ยม เพ่ือเปิดโอกาสให้พลังคนยุคใหม่ได้ ขับเคลื่อนองค์กรในยุคดิจิทัลได้อย่างย่ังยืน เพราะการสร้างวัฒนธรรมองค์กรไปสู่ความเป็นองค์กรยุคดิจิทัลน้ันต้อง อาศัยความร่วมมือร่วมใจจากกาลังพลทุกคนในหน่วย ประกอบกับการสร้างตัวอย่างท่ีดีจากผู้นาและผู้บังคับบัญชา
นาวิกศาสตร์ 55 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


เป็นสาคัญ การสื่อสาร การให้ความสาคัญ และการชี้นาวิสัยทัศน์ล้วนมีผลต่อการกาหนดทิศทางของหน่วยเสมอ เพ่ือนาไปสู่การเปลี่ยนแปลงท่ีจะนาพาท้ังหน่วยงานให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
๔. กํารประยุกต์ใช้ 5G กับหน่วยงํานในพื้นที่กองทัพเรือ
เทคโนโลยี 5G ถอื เปน็ สงิ่ ทคี่ าดหวงั วา่ จะมาเปลยี่ นวธิ กี ารทา งานของเราไปอยา่ งสมบรู ณโ์ ดยนา เสนอความจขุ อ้ มลู ขนาดใหญ่ ความเร็วที่รวดเร็วและความหน่วงท่ีต่ามาก 5G นับเป็นย่างก้าวที่ย่ิงใหญ่กว่ารุ่นก่อน ๆ ของเทคโนโลยี เครือข่ายไร้สาย คุณสมบัติของ 5G ไม่เพียงแต่จะเพิ่มประสิทธิภาพของการสื่อสาร อีกทั้งยังปลดปล่อยศักยภาพ ของระบบอัตโนมัติ ที่สาคัญจะช่วยนาไปสู่การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เกิดมาก่อนอย่างเช่น ความจริงเสมือน (Augmented Reality และ Virtual Reality), ระบบคลาวด์ (Cloud system), Internet of Things (IoT) และปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) แน่นอนเครือข่ายไร้สาย 5G เร่ิมถูกนามาใช้งานอย่างจริงจังตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ เปน็ ตน้ มา ซงึ่ สง่ ผลกระทบอยา่ งชดั เจนในทกุ ระดบั และนา ไปสคู่ วามเปน็ ไปไดอ้ ยา่ งไมม่ ที สี่ นิ้ สดุ องคก์ ร หน่วยงานต่าง ๆ จะต้องเตรียมความพร้อมสาหรับความเป็นไปได้ ที่การเชื่อมต่อบนเครือข่ายไร้สายนี้ จะมอบให้ แก่หน่วยงานที่เร็วสุดซ่ึงยอมรับในการเปล่ียนแปลงที่เกิดข้ึน ผู้บริหารหรือผู้บังคับบัญชาจะต้องตระหนัก และเข้าใจ เทคโนโลยีดิจิทัลน้ีว่านามาใช้อะไร อย่างไรได้บ้าง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการทา งานที่สูงข้ึน รวดเร็ว และตรวจสอบ ตดิ ตามได้ รวมทงั้ การบรกิ าร การสวสั ดกิ ารแกก่ า ลงั พล จากผลทไี่ ดร้ บั จากการเชอื่ มตอ่ บนเครอื ขา่ ยไรส้ าย 5G นนั้ คาดวา่ จะพลิกโฉมของโลกทั้งในเชิงพาณิชย์รวมถึงด้านการทหาร (5G for Military)
จุดเด่นเครือข่าย 5G คือ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้ดีย่ิงขึ้น และนาผู้ใช้เข้าสู่อารยธรรมโลก ออนไลนไ์ ดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์ มพี ลงั ในการเปลยี่ นแปลงการปฏบิ ตั งิ านทางทหารสามารถเพม่ิ ความพรอ้ ม และรองรบั ความ สามารถการปฏิบัติภารกิจใหม่ ๆ ด้วยอุปกรณ์พกพาหรืออุปกรณ์สวมใส่อันเห็นได้จากกองทัพอากาศสหรัฐฯ ใช้ชุด Android Assault Kit และ Battlefield Airmen เพื่อเพิ่มการรับรู้สถานการณ์ร่วมกันในแบบ Real Time อีกทั้งยัง เพิ่มความสามารถในการบัญชาการ สิ่งเหล่านี้ถือเป็นส่ิงท่ียกระดับการใช้เทคโนโลยี Smart phone และ Tablet ในรูปแบบใหม่ของทางทหารเมื่อ 5G ถูกนามาใช้ในทางทหาร การพัฒนากองทัพเรือ ฐานทัพเรือ ท่ีจะต้องเชื่อมต่อด้วย เครือข่าย 5G แทนการเช่ือมต่อในแบบเดิมถือว่าเป็นไปได้ และเป็นโอกาสในการย้ายตัวเองจากบทบาทในศตวรรษที่ ๒๐ ที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network - Centric Infrastructure) ไปสู่ในศตวรรษที่ ๒๑ ที่โครงสร้างพ้ืนฐานนั้น ใชข้ อ้ มลู สารสนเทศเปน็ ศนู ยก์ ลาง (Information - Centric Infrastructure) ผลทไ่ี ดจ้ ะทา ใหป้ ระสทิ ธภิ าพการปฏบิ ตั ิ งานนนั้ จะดขี นึ้ และผลกั ดนั ระดบั การเตรยี มความพรอ้ มทสี่ งู ขนึ้ ดว้ ยตน้ ทนุ ทถ่ี กู ลง (High Tech, Low Cost) อยา่ งเชน่ 5G ทาให้อุปกรณ์ VR ท่ีเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ด้วยการหน่วงของเวลาท่ีต่ามาก จนทาให้การควบคุมและส่ังการของ การฝกึ จา ลอง (Simulation) เปน็ ไปในแบบ Real Time ซงึ่ การใชเ้ ทคโนโลยนี ที้ ตี่ น้ ทนุ ตา่ เพอื่ พฒั นาทกั ษะการเดนิ เรอื เทียบเรือ จอดเรือ ท้ังเรือผิวน้า เรือดาน้า ของนายทหารพรรคนาวิน และทักษะการบินเบ้ืองต้นของศิษย์ การบนิ ทหารเรอื กอ่ นทจ่ี ะเรม่ิ ปฏบิ ตั จิ รงิ ดว้ ยการใชอ้ ปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ สป์ ระเภทสวมใสอ่ ยา่ งอปุ กรณ์ แวน่ VR แบบจอ สวมบนศีรษะ (Head-Mounted Displays: HMDs) แทนการใช้เครื่องฝึกจาลอง นั้นจะทาให้การฝึกมีประสิทธิภาพ ที่มากขึ้น ฝึกได้ทีละหลาย ๆ คน และมีต้นทุนที่ถูกลง ตามในภําพท่ี ๒ ซึ่งในพ้ืนที่สัตหีบ ก็เป็นท่ีต้ังของกองการฝึก กองเรือยุทธการ (กฝร.กร) เป็นหน่วยงานท่ีรับผิดชอบการฝึกต่างๆ ของกองทัพเรือด้วย รวมทั้งมีกองการบินทหารเรือ อยู่ในพื้นท่ีสัตหีบเช่นเดียวกัน จาเป็นต้องนาเทคโนโลยี 5G มาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการ ฝึกศิษย์การบินในอนาคตอย่างแน่นอน
นาวิกศาสตร์ 56 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


ภําพที่ ๒ การฝึกบินเฮลิคอปเตอร์จาลองโดยการสวมอุปกรณ์แว่น VR
ที่มา : https://warisboring.com/air-force-helicopter-pilots-pas sing-training-program-six-weeks-early-thanks-tovirtual-reality/
อกี ประการหนงึ่ สา หรบั ฐานทพั เรอื ในการปรบั ปรงุ การปฏบิ ตั งิ านเขา้ สโู่ ครงสรา้ งพนื้ ฐานทใี่ ชข้ อ้ มลู สารสนเทศเปน็ ศูนย์กลางก็คือ การปรับปรุงการเข้าถึงข้อมูลในทุกระดับ (Improving Supply Chain Visibility) โดยที่เครือข่าย 5G นั้นรองรับแอพพลิเคชั่นขั้นสูงที่นามาใช้บนอุปกรณ์พกพาทั้งการทางานภายในและโดยรอบพื้นที่ฐานทัพเรือ ซึ่งเจ้า หน้าที่ปฏิบัติงานในพ้ืนท่ี และเจ้าหน้าท่ีด้านการซ่อมบารุงน้ันสามารถใช้ข้อมูลบน Tablet ที่มีความปลอดภัยภายใน สภาพแวดลอ้ ม 5G ทปี่ ลอดภยั ในแบบ Real Time เพอื่ ตรวจดแู ผนการฝกึ แผนปฏบิ ตั กิ าร สงิ่ ของคงคลงั การใชช้ นิ้ สว่ น ของอะไหล่ ตรวจดูแผนการบารุงรักษา การรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ต่างๆ ผ่านการเช่ือมโยงบนเครือข่าย 5G ได้
นอกจากนย้ี งั ใชต้ รวจดขู อ้ มลู ยทุ โธปกรณท์ างทหารทปี่ ระจา การอยใู่ นฐานทพั /หนว่ ยตา่ งๆ ได้ และทส่ี า คญั สามารถ ใช้อุปกรณ์พกพาอย่าง Tablet เพื่อตรวจสอบการรักษาความปลอดภัยและความสมบูรณ์ ในการบริหารด้านการซ่อม บารุง อาทิ การติดต้ังเซ็นเซอร์เข้ากับเครื่องยนต์ของเรือรบ /อากาศยานแล้วส่งข้อมูลในแบบ Real Time ผ่านเครือ ขา่ ย 5G เกยี่ วกบั เครอื่ งยนตก์ ลบั มามอนเิ ตอรท์ ภี่ าคพนื้ ขอ้ มลู เหลา่ นส้ี ามารถทจี่ ะเรยี กดผู า่ น Tablet เพอื่ เฝา้ ระวงั หาก มีการทางานที่ผิดพลาด ก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายแรงอีกทั้งยังใช้ในการวิเคราะห์อันนาไปสู่การป้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุท่ี จะทาให้เกิดความเสียหายได้
ในดา้ นการแพทยข์ องโรงพยาบาลทหาร ซงึ่ ในอา เภอสตั หบี มโี รงพยาบาลสมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ิ์ เปน็ โรงพยาบาล ทหารเรือขนาดใหญ่ โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ การผ่าตัดระยะไกล (Remote Robotic Surgery) 5G จะยกระดับการแพทย์ของโรงพยาบาลทหารในรูปแบบการรักษาทางไกล (Telehealth) อาทิ การผ่าตัด ขา้ มจงั หวดั ขา้ มพน้ื ที่ และคาดวา่ อปุ กรณท์ างการแพทยจ์ ะเกดิ ขนึ้ ภายในอนาคตอนั ใกลน้ ี้ อนั หมายถงึ ในอนาคตอนั ใกล้ การแพทย์จะเข้าถึงผู้คนทั่วโลกทาให้คุณภาพชีวิตของข้าราชการทหารและครอบครัวน้ันดีข้ึนเนื่องจากเทคโนโลยี 5G จะเชื่อมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกับผู้ป่วยแม้ว่าจะอยู่กันคนละสถานท่ีก็ตาม ซ่ึงท้ังหมดน้ีจะทาให้กองทัพน้ันสามารถปฏิบัติ งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๕. กรอบแนวคิดกํารในพัฒนําพื้นที่กองทัพเรือ - สัตหีบ เป็น Smart Navy Base
ตามท่ีผู้เขียนได้นิยาม พื้นที่กองทัพเรืออัจฉริยะ (Smart Navy Base) ไว้ข้างต้นว่า หมายถึง บริเวณพื้นท่ีใน
นาวิกศาสตร์ 57 ปีท่ี ๑๐๔ เล่มท่ี ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


กองทัพเรือที่ได้นาเทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรมที่ทันสมัยและ
มีความเป็นอัจฉริยะ (Smart) มาประยุกต์ใช้ในการปรับปรุง
กระบวนการทา งานการปฏบิ ตั กิ ารเพอ่ื เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพเพม่ิ
ขดี ความสามารถเพมิ่ ความสะดวกรวดเรว็ เพมิ่ ความปลอดภยั
รวมท้ังการบริการแก่กาลังพล แต่ละหน่วยให้ครอบคลุมกว้าง
ขวางทั่วท้ังพื้นที่นั้น จะต้องออกแบบโครงสร้างพื้นฐานระบบ
ดิจิทัล (Digital Infrastructure) ในบริเวณพื้นท่ีกองทัพเรือ
โดยผู้เขียนได้กาหนดพ้ืนที่สัตหีบ เป็นกรณีศึกษาก่อน เพื่อให้
สอดรับกับแผนนโยบายของรัฐบาลในเรื่องของ Smart City
จังหวัดชลบุรี โดยต้องมีการจัดหาทรัพยากรดิจิทัลร่วมกัน
ภายในพน้ื ทอ่ี ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพสงู สดุ ลดความซา้ ซอ้ นในการ
ลงทุน ด้วยการใช้ สถําปัตยกรรมองค์กร (Enterprise
Architecture: EA)๕ บูรณาการข้อมูลและทรัพยากรร่วมกัน โดยเป้าหมายของ EA ก็คือการสร้างสภาวะแวดล้อม เทคโนโลยีสารสนเทศ ของหน่วยงานให้มีมาตรฐานทางฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ท่ีเข้ากันได้ ข้ามหน่วยงานข้ามฟังก์ช่ัน งานภายในพื้นที่กองทัพเรือสัตหีบ และหน่วยงานภายนอกได้อย่างประสานสอดคล้อง โดยเน้นการมีส่วนร่วมของ ผู้บังคับบัญชาและกาลังพล ภายใต้แนวคิดการพัฒนาทางานทันสมัย พื้นที่น่าอยู่ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ให้กาลังพล อยดู่ ี มสี ขุ ปลอดภยั โดยมกี รอบแนวคดิ ขององคป์ ระกอบ Smart Navy Base ๖ องคป์ ระกอบดว้ ยกนั ดงั นี้ (ภําพที่ ๓)
๕.๑ กํารรักษําควํามปลอดภัยอัจฉริยะ (Smart Security) กล่าวคือ การเข้า-ออกหน่วยงานแต่ละที่ หากเป็น รถยนต์ เริ่มเปลี่ยนสติกเกอร์ติดรถยนต์ให้เป็นระบบ RFID การเปล่ียนบัตรประจาตัวข้าราชการให้เป็นระบบ RFID ระบบผ่านเข้า-ออกจะต้องเป็นระบบอัตโนมัติท่ีตรวจสอบจาก RFID ได้ และนาเทคโนโลยีระบบจดจาใบหน้า (Face Recognition) มาใช้งานในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านระบบการรักษาความปลอดภัยด้วย โดยท่ัวไประบบรู้ จาใบหน้าจะประกอบไปด้วย ๒ ขั้นตอนคือ การตรวจจับใบหน้า (Face Detection) และการรู้จาใบหน้า (Face Recognition) (๑) การตรวจจบั ใบหนา้ (Face Detection) คอื กระบวนการคน้ หาใบหนา้ ของบคุ คลจากภาพหรอื วดิ โี อ จากนนั้ กจ็ ะทา การประมวลผลภาพใบหนา้ ทไ่ี ดส้ า หรบั ขน้ั ตอนถดั ไปเพอื่ ใหภ้ าพใบหนา้ ทต่ี รวจจบั ไดง้ า่ ยตอ่ การจา แนก และ (๒) การรู้จาใบหน้า (Face Recognition) คือกระบวนการที่ได้นาภาพใบหน้าที่ตรวจจับได้และประมวลผลแล้ว จากขนั้ ตอนการตรวจจบั ใบหนา้ มาเปรยี บเทยี บกบั ฐานขอ้ มลู ของใบหนา้ เพอื่ ระบวุ า่ ใบหนา้ ทต่ี รวจจบั ไดต้ รงกบั บคุ คใด ตามในภําพท่ี ๔ ดังนั้นโปรแกรมจดจาใบหน้า คือ ระบบท่ีทาการวิเคราะห์ใบหน้าที่ถูกตรวจจับได้ ในขณะที่เดินผ่าน กลอ้ งนนั้ วา่ ตรงกบั ใบหนา้ ของบคุ คลใด และทา การเปรยี บเทยี บกบั ภาพในฐานขอ้ มลู ทมี่ ี เทคโนโลยกี ารรแู้ ละจา ใบหนา้ นอกจากจะนามาใช้ในด้านรักษาความปลอดภัยแล้ว ยังสามารถนามาประยุกต์ใช้งานได้อีกหลากหลายกรณี เช่น ในคลงั แสง ในอาคารจอดรถ เปน็ ตน้ สา หรบั บคุ คลภายนอกกส็ ามารถแลกบตั รประจา ตวั แลว้ ใชเ้ ทคโนโลยจี ดจา ใบหนา้ ในการเข้ามาใช้พื้นที่ในเขตทหาร ไม่ว่าจะเข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยว หรือ ติดต่อราชการ เทคโนโลยีระบบการจดจา ใบหน้า จะช่วยติดตามได้ตลอด (People Tracking) หากมีพฤติกรรมท่ีผิดปกติ หรือต้องสงสัยอาจก่อเหตุร้ายได้
๕.๒ โครงสร้ํางพ้ืนฐํานอัจฉริยะ (Smart Infrastructure) ในพื้นท่ีกองทัพเรือในสัตหีบน้ี จะวางโครงสร้าง พื้นฐานอัจฉริยะ ด้วยอาคารอัจฉริยะ (Smart Building) และ ท่าเรืออัจฉริยะ (Smart Port) มีระบบต่าง ๆ ที่เช่ือมต่อ ไปยังฐานข้อมูลบนคลาวด์ จากแผงควบคุมอัจฉริยะ ไปสู่ระบบจัดเก็บอันชาญฉลาด จากระบบควบคุมอาคารอัตโนมัติ
นาวิกศาสตร์ 58 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
ภําพที่ ๓ องค์ประกอบของ Smart Navy Base


ภําพที่ ๔ Face Detection System
ท่ีมา : https://www.pinterest.com/pin/470766967295054579
ไปสู่ สวิทช์ วาล์ว และเซ็นเซอร์ เป็นอาคารประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานสะอาด เช่น solar roofs ติดต้ังแผงบน ดาดฟ้า/หลังคามีการใช้เสาไฟฟ้าอัจฉริยะ(SmartLightPole)ดงัแสดงในภําพที่๕ตามถนนและทา่เรือภายในพื้นที่ ซ่ึงเสาต้น ๆ หน่ึงจะประกอบด้วยกล้อง IP camera, HD CCTV, Solar panel, แบตเตอรี่, ลาโพงกระจายเสียง, แผงควบคุมระบบไฟฟ้า และสารองไฟประจาเสา, ระบบเครือข่ายไร้สาย Wi-Fi, Airbox ท่ีมีตัวเซนเซอร์วัดอุณหภูมิ ความช้ืนสัมพัทธ์ และค่าฝุ่นพิษ PM2.5 เป็นต้น มีการติดต้ังอุปกรณ์ IoT ให้กระจายไปท่ัวทั้งในอาคาร นอกอาคาร ทา่ เทยี บเรอื มรี ะบบควบคมุ พลงั งานอตั โนมตั ริ ะบบควบคมุ พลงั งานอตั โนมตั ิ และแผงวงจรกรดิ อจั ฉรยิ ะ (Smart Grid) ระบบการกระจาย และจัดสรรพลังงาน และการบูรณาการพลังงานทดแทนต่าง ๆ ให้ทางานร่วมกัน ได้สร้างความ ท้าทายใหม่ ๆ ในเรื่องของความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือของระบบท่ีจะใช้รองรับ ด้วยระบบควบคุมพลังงาน อัตโนมัติและแผงวงจรกริดอัจฉริยะ ดังแสดงในภําพท่ี ๖
ภําพท่ี ๕ ระบบเสาไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Light Pole)
นาวิกศาสตร์ 59 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


ภําพที่ ๖ Smart Port and Smart Grid
๕.๓ กํารศึกษําอัจฉริยะ (Smart Education) เน่ืองจากพ้ืนที่กองทัพเรือในสัตหีบนั้น เป็นท่ีต้ังของ กองการฝึก กองเรอื ยทุ ธการ มภี ารกจิ หนา้ ทดี่ า เนนิ การฝกึ กา ลงั พล พฒั นาการฝกึ จดั ทา แบบฝกึ และคมู่ อื การฝกึ ตา่ ง ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง ตลอดจนดาเนินการฝึกกาลังพลทดแทน และกาลังพลสารองให้แก่ กองเรือยุทธการ ดังน้ัน เนื้อหาการเรียนการสอน ตอ้ งเปลย่ี นแปลงไปจากการใชก้ ระดาษไปสรู่ ปู แบบทเ่ี ปน็ เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั กองการฝกึ ฯ เองกต็ อ้ งมองหาหนทางใหม่ ๆ ในการสร้างสรรค์ส่ือการเรียนการสอนและการนาส่ือเหล่านี้มาใช้สอนผู้เรียนให้ได้ อาทิเช่น
๕.๓.๑ หนังสือและสื่อการเรียนแบบดิจิทัล การแจกเอกสารการเรียนการสอนในรูปแบบของไฟล์ PDF, DOCX, PPTX, วดี โี อ และทา การสง่ ตอ่ ผา่ นบรกิ าร Cloud กไ็ ดเ้ รมิ่ กลายเปน็ แนวทางพนื้ ฐานทถ่ี กู ใชก้ นั ในปจั จบุ นั ซง่ึ ในอนาคต เอกสารการเรียนการสอนเหล่าน้ีก็จะถูกเปล่ียนรูปแบบไปสู่การเป็น Immersive Textbook ท่ีสามารถถูกใช้เรียนรู้ได้ ท้ังใน และนอกห้องเรียน รวมถึงเปิดให้ผู้เรียนและผู้สอนสามารถสื่อสารกันได้โดยตรง
๕.๓.๒ การสร้าง และใช้สื่อการเรียนแบบดิจิทัล อุปกรณ์บันทึกภาพและเสียงจะถูกนามาใช้บันทึกการเรียน การสอนที่เกิดขึ้นมากข้ึนเรื่อย ๆ ในขณะที่เทคโนโลยีอย่าง Smart Whiteboard เองก็จะช่วยให้สามารถบันทึกเน้ือหา การสอนทั้งการเขียนกระดาน, การเปิดไฟล์นาเสนอ หรือการเปิดวีดีโอให้ผู้เรียน ผู้รับการฝึกดูนั้นง่ายขึ้น
๕.๓.๓ การนาเทคโนโลยี Augmented Reality (AR), Virtual Reality (VR) และ Mixed Reality (MR) มาใช้ การเรียนการสอน ซ่ึงสามารถปฏิสัมพันธ์กับผู้เรียนได้ แม้แต่วีดีโอแบบ ๓๖๐ องศาเองก็จะถูกนามาใช้ในการสอนด้วย เชน่ กนั จะทา ใหล้ ดการใชจ้ า่ ยในการเรยี นการฝกึ ปฏบิ ตั ใิ นสถานทจี่ รงิ มากมาย โดยเฉพาะการฝกึ เดนิ เรอื การฝกึ นกั บนิ การฝึกเรือดาน้า การฝึกยิงปืนเรือ เป็นต้น ก่อนท่ีจะไปฝึกปฏิบัติจริง ดังแสดงในภําพท่ี ๗
ภําพท่ี ๗ ตัวอย่างการนาเทคโนโลยี AR / VR มาประยุกต์ใช้กับการฝึกปืนกลเรือ
ทมี่ า:https://www.roadtovr.com/gunnar-live-fire-test-shows-ar-can-revolutionize-decades-old-combat-procedures/
นาวิกศาสตร์ 60 ปีท่ี ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


๕.๓.๔สอื่ สารภายในชนั้ เรยี นดว้ ยแนวคดิ ConnectedClassroomครแู ละนกั เรยี นจะตอ้ งมแี นวทางการสอ่ื สาร ระหว่างกันในรูปแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้การสื่อสารสอบถามประเด็นต่างๆ สามารถเกิดขึ้นได้ทั้ง ในและนอกห้องเรียน
๕.๓.๕ การเรยี นรผู้ า่ นเกมส์ เพอื่ ใหก้ ารเรยี นการสอนมคี วามนา่ สนใจมากยงิ่ ขนึ้ การเรยี นรผู้ า่ นเกมสน์ นั้ กจ็ ะกลาย มาเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ช่วยดึงความสนใจจากผู้เรียนและผู้ได้รับการฝึกได้ดี
๕.๓.๖ การทาแบบทดสอบออนไลน์ การทดสอบเพ่ือชี้วัดผลการเรียนรู้ของผู้เรียนนั้นจะสามารถเกิดข้ึนได้ทุกท่ี ทุกเวลาผ่านช่องทางออนไลน์ โดยเทคโนโลยีสาหรับป้องกันการโกงการสอบแบบออนไลน์นั้นก็จะถูกนามาใช้งานด้วย ๕.๔ กํารดแู ลสขุ ภําพทชี่ ําญฉลําด (Smart Healthcare) แมเ้ ราจะเหน็ โรงพยาบาลเอกชนหลายแหง่ ในปจั จบุ นั ไดพ้ ฒั นาคณุ ภาพบรกิ ารโดยเฉพาะการนา เทคโนโลยมี าใชใ้ นดา้ นตา่ ง ๆ ทง้ั ระบบบนั ทกึ ขอ้ มลู ผปู้ ว่ ยทแี่ พทย์ และพยาบาล สามารถเข้าถึงและอัพเดทข้อมูลการรักษา การให้ยา ฯลฯ ได้แบบ Real time เพื่อประสิทธิภาพในการรักษาสูงสุด แต่ ขอ้ มลู เหลา่ นนั้ ยงั ถกู จา กดั การเชอื่ มโยงใชง้ านเพยี งในเฉพาะสาขาหรอื ในโรงพยาบาลนนั้ ๆ เทา่ นนั้ ซงึ่ หากมกี ารบรู ณาการ ข้อมูลผู้ป่วยเข้าด้วยกัน และเชื่อมโยงข้อมูลได้กับทุกโรงพยาบาลในประเทศ จะช่วยให้เกิดความสะดวกสบาย ในการเขา้ รกั ษาพยาบาลโดยเฉพาะในกรณฉี กุ เฉนิ ไดเ้ ปน็ อยา่ งมาก ในกรณขี องโรงพยาบาลทหารเรอื กเ็ ชน่ กนั ในปจั จบุ นั ข้อมูลของผู้ป่วยแต่ละโรงพยาบาลทหารเรือยังไม่เช่ือมโยงกัน กล่าวคือ หากผู้ป่วยที่เคยรักษาตัวหรือตรวจสุขภาพ รา่ งกายท่ี ร.พ. ทหารเรอื ในกรงุ เทพ กจ็ ะไมม่ ขี อ้ มลู ลงิ คไ์ ปถงึ การรกั ษาตวั ทสี่ ตั หบี เรยี กไดว้ า่ ตรวจรกั ษาทใ่ี ด กม็ ขี อ้ มลู เฉพาะทโี่ รงพยาบาลนน้ั จา เปน็ ตอ้ งบรู ณาการใหเ้ ชอ่ื มโยงขอ้ มลู ของกา ลงั พลแตล่ ะคน ทกุ ๆ โรงพยาบาลทเี่ คยไปตรวจ หรือรักษา และจะต้องออกแบบระบบฐานข้อมูลส่วนบุคคลทั้งหมดแบบบูรณาการ ทั้งข้อมูลส่วนตัว หน่วยสังกัด ประวัติการทางาน ข้อมูลสุขภาพ ประวัติการตรวจสุขภาพประจาปี การรักษาพยาบาลที่ผ่านมา ยาที่แพ้ โรคประจา ตัวการทาประกันชีวิต ประกันสุขภาพส่วนบุคคล (หากมี) รวมท้ังการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส COVID-19 หรือ วัคซีน
ป้องกันไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น
ในภําพท่ี ๘ เร่ืองการดูแลสุขภาพอัจฉริยะ (Smart Healthcare) น้ัน นอกจากเทคโนโลยี IoT ปฏิวัติอุปกรณ์ที่
เชื่อมต่อและเทคโนโลยีที่สวมใส่ประจาตัว ได้ทาให้ผู้เช่ียวชาญด้านการดูแลสุขภาพสามารถตรวจสอบผู้ป่วยจากระยะ ไกลด้วยเซ็นเซอร์และใช้ข้อมูลทางการแพทย์ของพวกเขาสาหรับการวินิจฉัยการรักษาและใบสั่งยา เช่น สายรัดข้อมือ/ นิ้วมือ เพื่อวัดความดันโลหิต วัดค่าน้าตาล วัดการนอนหลับ วัดจังหวะการเต้นของหัวใจ เป็นต้น การดูแลสุขภาพท่ี ชาญฉลาดก็ยังมีการเปล่ียนกระบวนทางการแพทย์สาหรับยุคดิจิทัล IoT และบริการด้านการดูแลสุขภาพบนคลาวด์ สง่ เสรมิ การตรวจสอบผปู้ ว่ ยและการสง่ มอบการดแู ลสขุ ภาพทด่ี ี ซงึ่ มคี วามสา คญั ตอ่ การใหบ้ รกิ ารดา้ นการดแู ลสขุ ภาพ ในศตวรรษ ที่ ๒๑ เปน็ การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยเี หลา่ นี้ ความเขา้ ใจในการใชอ้ ปุ กรณแ์ อพพลเิ คชนั่ และบรกิ ารไมเ่ พยี งแต่ ชว่ ยใหผ้ ปู้ ว่ ยรวู้ ธิ กี ารจดั การสขุ ภาพและชวี ติ ตนเองทดี่ เี ทา่ นนั้ แตย่ งั ชว่ ยใหโ้ รงพยาบาลไดย้ กระดบั กระบวนการทา งาน ทางสาธารณสุขได้ดีข้ึนด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างย่ิง หากมีโรคติดต่อร้ายแรงระบาดอยู่ เทคโนโลยีเหล่านี้ จะช่วย อัพเดทข้อมูลได้รวดเร็ว และเป็นประโยชน์กับการติดตามเฝ้าดูแล และยังสามารถตรวจวัดผ่านระบบทางไกล โดย ไม่ต้องมาโรงพยาบาลอีกด้วย นอกจากน้ัน การใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ ยังช่วยในการรายงานและตรวจสอบไปพร้อมกัน ก บั ก า ร เ ช อื ่ ม ต อ่ แ บ บ e n d - t o - e n d แ ล ะ ค ว า ม ส า ม า ร ถ เ ช อื ่ ม โ ย ง ก า ร จ ดั ป ร ะ เ ภ ท แ ล ะ ก า ร ว เิ ค ร า ะ ห ข์ อ้ ม ลู ค ว า ม ช ว่ ย เ ห ล อื ทางการแพทย์ระยะไกล การติดตาม และการแจ้งเตือน อุปกรณ์ท่ีเก่ียวข้องกับเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ สาหรับระบบการดูแลสุขภาพอัจฉริยะ ได้รับการเปิดเผยเพื่อยกระดับการให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ป่วยใน และผปู้ ว่ ยนอก ผลการวจิ ยั พบวา่ โทรศพั ทม์ อื ถอื ทม่ี คี วามสามารถระบตุ วั ดว้ ยคลนื่ ความถว่ี ทิ ยุ (RFID) สามารถใชเ้ ปน็ แพลตฟอร์มสาหรับการส่งมอบการดูแลสุขภาพที่ดีเยี่ยม
นาวิกศาสตร์ 61 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


ภําพที่ ๘ Smart Healthcare
๕.๕ ระบบขนส่ง และจราจรอัจฉริยะ (Intelligent Transportation System: ITS) คือ ระบบที่ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ และการส่ือสาร มาช่วยในการจัดการในระบบคมนาคม การขนส่ง และจราจร เพ่ือช่วยในการเพิ่ม ประสิทธิภาพของระบบบนท้องถนน เพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัย และช่วยลดการติดขัดของการจราจร ฟังก์ชัน ของระบบ ฯ อาทิ
๕.๕.๑ ในภําพท่ี ๙ เม่ือมีรถยนต์เข้ามาในเขตทหาร หากเป็นรถท่ีได้ลงทะเบียนไว้แล้ว จะมี RFID ประจารถอยู่ สามารถตดิ ตาม (Tracking) แตห่ ากเปน็ รถยนตบ์ คุ คลภายนอกทเ่ี ขา้ มาตดิ ตอ่ ราชการ เราสามารถกา หนดเสน้ ทางการเดนิ รถ และตดิ ตามรถดว้ ยระบบ tracking และ กลอ้ ง IP camera ทม่ี ตี ดิ อยตู่ ามเสา Smart Light Pole หากขบั ออกนอกเสน้ ทาง จะถกู แจง้ เตอื นทันที หรือเมื่อยานพาหนะมีปัญหาข้อขัดข้อง
ภําพที่ ๙ การตรวจจับและติดตามคน-ยานพาหนะท่ีเข้ามาในเขตพื้นที่กองทัพเรือ
นาวิกศาสตร์ 62 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


๕.๕.๒ ประเมินการขับขี่ บันทึกลักษณะการขับรถของผู้ขับขี่ในพื้นท่ีกองทัพเรือ ว่าก่อให้เกิดอันตรายหรือไม่ และนามาประเมินผลเป็นคะแนนในภายหลังได้ สาหรับบุคคลภายนอกที่เข้ามา หากขับรถผิดกฏจราจรบ่อย ๆ ในหน่วยทหาร ก็จะขึ้นเป็น blacklist สามารถปฏิเสธการให้เข้ามาครั้งต่อไปได้ ด้วยระบบการตรวจสอบที่รองรับไว้
๕.๕.๓ มีระบบ Smart Parking ที่ผู้ขับขี่สามารถทราบได้มีสถานที่ใดบ้างที่สามารถจอดรถได้ ท่ีจอดยังว่างอยู่
๕.๕.๔ วเิ คราะหอ์ บุ ตั เิ หตุ เมอื่ เกดิ อบุ ตั เิ หตสุ ามารถวเิ คราะหข์ อ้ มลู การขบั ขแ่ี ละการเฉย่ี วชนจากเซน็ เซอรใ์ นแตล่ ะ จุดของรถได้
๕.๕.๕ ระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data analytics) สามารถวิเคราะห์ยานพาหนะและผู้ขับข่ีได้
๕.๕.๖ ป้องกันการขโมย เจ้าของรถสามารถส่ังดับเครื่องยนต์ได้จากทุกที่ผ่าน Smart Drive
๕.๕.๗ ประหยัดท้ังค่าใช้จ่ายเซิร์ฟเวอร์และการดูแลระบบ เพราะเก็บข้อมูลทั้งหมดไว้บนคลาวด์ ๕.๖ระบบกํารจดั กํารกํารทอ่ งเทย่ี วกองทพั เรอื อจั ฉรยิ ะ(SmartNavyTourismSystem)เนอื่ งจากกองทพั เรอื
ในพนื้ ทสี่ ตั หบี มแี หลง่ ทศั นศกึ ษาเพอ่ื เรยี นรู้ เชน่ ศนู ยอ์ นรุ กั ษพ์ นั ธเ์ุ ตา่ ทะเลกองทพั เรอื พพิ ธิ ภณั ฑเ์ กาะไทย และมแี หลง่ ทอ่ งเทย่ี วทางธรรมชาตทิ สี่ วยงาม ทงั้ เกาะแกง่ ชายหาด และสถานทพี่ กั ตากอากาศ รสี อรท์ เปน็ ตน้ ซงึ่ เปดิ ใหป้ ระชาชน ทว่ั ไปไดเ้ ขา้ ไปทอ่ งเทย่ี ว พกั ผอ่ นหยอ่ นใจ และทศั นศกึ ษาได้ จะมนี กั ทอ่ งเทย่ี วแวะเวยี นไปเทยี่ วเสมอๆ โดยเฉพาะอยา่ ง ยิ่งช่วงวันหยุด อาทิ เกาะขาม เป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่กองทัพเรือได้จากัดจานวนคนที่จะขึ้นไป เทยี่ วเกาะไดแ้ ตล่ ะวนั บางวนั มนี กั ทอ่ งเทย่ี วไปรอคอยเพอื่ จะไปขนึ้ เรอื ไปเกาะขาม แตไ่ มส่ ามารถไปได้ เพราะถกู จา กดั จานวนนักท่องเที่ยวขึ้นเกาะ นอกจากนั้น สถานท่ีพักตากอากาศชายทะเลในพ้ืนท่ีสัตหีบ ก็มีความนิยม จะทาการจอง ยาก ไม่ได้รับความสะดวก ดังนั้น แนวความคิดที่จะวางระบบบริหารจัดการท่ีดีโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและ การส่ือสารมาช่วย ดังน้ัน Smart Navy Tourism System จึงควรเกิดขึ้นโดยเร็ว เช่น การสร้างแอปพลิเคชันเพ่ือ นักท่องเที่ยวหน่วยงาน สถาบันการศึกษา นักเรียน นักศึกษา ดาวน์โหลดได้ สาหรับการจองสถานที่ จองเวลา จองทัวร์ ห้องพัก จองตั๋วข้ึนเรือไปเกาะ จองห้องอาหารของสวัสดิการกองทัพเรือ เป็นต้น นอกจากนั้น จะต้องมีข้อมูล ข่าวสาร ท่ีจาเป็น ท่ีควรรู้ รวมท้ังองค์ความรู้ ท่ีเก่ียวข้องกับสถานที่ท่องเที่ยวนั้น ๆ ด้วยระบบการสแกน QR code มีคาอธิบาย หรือคลิปวีดีโอประกอบ เป็นต้น
๖. บทสรุป
แนวความคดิ ในการพฒั นาพนื้ ทก่ี องทพั เรอื - สตั หบี ใหเ้ ปน็ Smart Navy Base นนั้ ผเู้ ขยี นขอสรปุ ดว้ ยความหมาย ของคาย่อของ “D.I.G.I.T.A.L” ๗ ตัวอักษร ดังนี้
D : Digital Mindset ก่อนอื่นต้องปรับกระบวนคิดของกาลังพลในหน่วย หรืออาจเรียกว่า การตระหนักรู้ด้าน ดิจิทัล (Digital Awareness) เป็นการปรับกระบวนคิด วิสัยทัศน์ และความเชื่อมั่น ตั้งแต่ผู้บังคับบัญชาสูงสุดลงไปสู่ กา ลงั พลทกุ ระดบั เรมิ่ จากผบู้ งั คบั บญั ชาทตี่ อ้ งนา เสนอและทา ใหก้ า ลงั พลภายในหนว่ ยงานมองเหน็ วา่ การคดิ การจดั การ ในเชงิ บรหิ ารยคุ ใหมน่ น้ั จะตอ้ งอยใู่ นรปู แบบดจิ ทิ ลั ทงั้ ระบบ ซงึ่ ผเู้ ขยี นคดิ วา่ คา ๆ น้ี เปน็ Key Factor Success สา หรบั การเปลี่ยนผ่านไปสู่องค์กรดิจิทัล (Digital Transformation)
I : (Network) Infrastructure ในพนื้ ทก่ี องทพั เรอื ในสตั หบี นี้ การวางโครงสรา้ งระบบเครอื ขา่ ยเพอื่ การเชอื่ มโยง ระหวา่ งอปุ กรณต์ งั้ แต่ 2 โครงขา่ ยเขา้ ดว้ ยกนั สา หรบั การแลกเปลยี่ นสอื่ สารขอ้ มลู สา หรบั โครงสรา้ งระบบเครอื ขา่ ยพน้ื ฐาน ทั่วโลกนับเป็นปัจจัยที่สาคัญ การวางโครงสร้างที่ดีจะช่วยทาให้การเลือกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันมีการทางานอย่าง เป็นระบบ มีศักยภาพ และมีระบบ network infrastructure management system ช่วยในการตรวจสอบ
นาวิกศาสตร์ 63 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


เพื่อป้องกันระบบมีปัญหา โดยการใช้ สถาปัตยกรรมองค์กร (Enterprise Architecture: EA) บูรณาการข้อมูล และทรัพยากรร่วมกัน แล้วสร้างสภาวะแวดล้อมเทคโนโลยีสารสนเทศ ของหน่วยงานให้มีมาตรฐานทางฮาร์ดแวร์ และซอฟตแ์ วรท์ เ่ี ขา้ กนั ได้ ขา้ มหนว่ ยงานขา้ มฟงั กช์ น่ั งานภายในพนื้ ทกี่ องทพั เรอื สตั หบี และหนว่ ยงานภายนอกไดอ้ ยา่ ง ประสานสอดคล้อง
G : (5)G Technology การนา เทคโนโลยี 5G มาประยกุ ตใ์ ช้ ในการสนบั สนนุ การเตรยี มกา ลงั การบรหิ ารจดั การ การบา รงุ รกั ษา การฝกึ การดแู ลรกั ษาความปลอดภยั และการแพทย์ เปน็ ตน้ ผลจะทา ใหอ้ ปุ กรณต์ า่ ง ๆ สามารถสอื่ สาร และสามารถส่งผ่านข้อมูลระหว่างกันได้ซึ่งจะนาไปสู่การปรับปรุงพัฒนาพ้ืนที่กองทัพเรือท่ีเช่ือมโยงกันมาก และ 5G ทาให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อกับระบบคลาวด์มีความหน่วงของเวลาที่ต่ามาก จนทาให้การควบคุม และสั่งการของ การฝกึ จา ลอง (Simulation) เปน็ ไปในแบบ Real Time ซงึ่ การใชเ้ ทคโนโลยนี ที้ ตี่ น้ ทนุ ตา่ เพอ่ื พฒั นาทกั ษะการเดนิ เรอื เทียบเรือ จอดเรือ ทั้งเรือผิวน้า เรือดาน้า และทักษะการบินเบื้องต้นของศิษย์การบินทหารเรือก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติจริง
I : Internet of Things (IoT) เป็น วัตถุ อุปกรณ์ พาหนะ สิ่งของเคร่ืองใช้ และสิ่งอานวยความสะดวกในชีวิต อ่ืน ๆ ท่ีมนุษย์สร้างข้ึน โดยมีการฝังตัวของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ เซ็นเซอร์ และการเชื่อมต่อกับเครือข่าย ซงึ่ วตั ถสุ ง่ิ ของเหลา่ น้ี สามารถเกบ็ บนั ทกึ และแลกเปลยี่ นขอ้ มลู กนั ได้ อกี ทงั้ สามารถรบั รสู้ ภาพแวดลอ้ ม และถกู ควบคมุ ได้จากระยะไกล ผ่านโครงสร้างพื้นฐานการเช่ือมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์การสื่อสารอื่น ๆ ถือเป็นอุปกรณ์ สาคัญอย่างย่ิงที่ขาดไม่ได้ของ Smart City หรือ Smart Navy Base และเครือข่ายไร้สาย 5G
T : Tracking system ระบบการตดิ ตาม เมอื่ มรี ถยนตเ์ ขา้ มาในเขตทหาร หากเปน็ รถทไี่ ดล้ งทะเบยี นไวแ้ ลว้ จะมี RFID ประจารถอยู่ สามารถติดตาม (Tracking) แต่หากเป็นรถยนต์บุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่อราชการ เราสามารถ กาหนดเส้นทางการเดินรถ และติดตามรถด้วยระบบ Tracking และ กล้อง IP camera ที่มีติดอยู่ตามเสา Smart Light Pole หากขับออกนอกเส้นทางจะถูกแจ้งเตือนทันที หรือเมื่อยานพาหนะมีปัญหาข้อขัดข้อง เพื่อรักษาความปลอดภัย และลดความเสี่ยงในการถูกก่อการร้าย การก่อวินาศกรรม ในหน่วยงานราชการในพื้นที่สัตหีบ
A : Augmented Reality (AR) / Virtual Reality (VR) การใชเ้ ทคโนโลยี AR / VR มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการเรยี น การสอน การฝึกให้มากขึ้น โดยเฉพาะหน่วยงาน กองการฝึก กองเรือยุทธการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียน การฝกึ ปฏบิ ตั ิ จะทา ใหล้ ดการใชจ้ า่ ยในการเรยี นการฝกึ ปฏบิ ตั ใิ นสถานทจี่ รงิ ดว้ ย โดยเฉพาะการฝกึ เดนิ เรอื การฝกึ นกั บนิ และการฝึกเรือดาน้า เป็นต้น
L : Learning Organization (LO) องค์การการเรียนรู้ เป็นองค์การท่ีซึ่งคนในองค์การได้ขยายขอบเขต ความสามารถของตนอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง ทงั้ ในระดบั บคุ คลระดบั กลมุ่ และระดบั องคก์ ารเพอื่ นา ไปสจู่ ดุ หมายทบี่ คุ คลในระดบั ตา่ ง ๆ ต้องการอย่างแท้จริงเป็นองค์กรท่ีมีความคิดใหม่ ๆ และการแตกแขนงของความคิดได้รับการยอมรับเอาใจใส่ และเปน็ องคก์ รทซี่ งึ่ บคุ คลเรยี นรอู้ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง ในเรอื่ งของวธิ กี ารทจี่ ะเรยี นรไู้ ปดว้ ยกนั ทง้ั องคก์ าร ซง่ึ ในพน้ื ทกี่ องทพั เรอื ท่ีได้วางระบบข้อมูลสารสนเทศเป็นศูนย์กลาง (Information- Centric) มีข้อมูล ข่าวสาร องค์ความรู้มากมายในระบบ สารสนเทศ บุคคลในหน่วยงานต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง รู้จักพัฒนาขีดความสามารถตนเอง มีความคิดใหม่ ๆ เพ่ือพัฒนาหน่วยงานของตน เป็นต้น
ดังนั้น การพัฒนาพื้นท่ีกองทัพเรือให้เกิดการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและมีการบริหารจัดการเป็นเลิศ เป็น Smart Navy Base ในยุคดิจิทัลเพื่อประสานสอดคล้องกับแผน และนโยบายการพัฒนาเมือง Smart City ของรัฐบาลน้ัน ผู้นาหรือผู้บริหารสูงสุดจะอาศัยแค่ความรู้ และภาวะผู้นาแบบเดิม ๆ ดูจะไม่เพียงพอที่จะขับเคลื่อนองค์กร หน่วยงาน
นาวิกศาสตร์ 64 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


ในยุคนี้แล้ว ผู้เขียนคิดว่า ทักษะท่ีผู้นาหรือผู้บริหารในยุคดิจิทัลต้องมีเพิ่มเติมในการบริหารก็คือ ความสามารถในการ นา เทคโนโลยใี หม่ ๆ มาประยกุ ตใ์ ชก้ บั องคก์ ร หนว่ ยงานได้ และทสี่ า คญั คอื การตระหนกั รดู้ า้ นดจิ ทิ ลั (Digital Awareness) งานทยี่ ากทส่ี ดุ ไมใ่ ชก่ ารแกป้ ญั หาทางการเงนิ หรอื พฒั นานวตั กรรมใหม่ แตค่ อื ปลกู จติ สา นกึ และการปลกุ เรา้ ใหก้ า ลงั พล ทกุ ระดบั เขา้ ใจกระบวนการคดิ วสิ ยั ทศั น์และความเชอื่ มนั่ ในการพฒั นาเปลยี่ นแปลงองคก์ รสู่DigitalTransformation ซ่ึงแนวคิดของการพัฒนาที่ทางานให้ เป็น Digital Workplace นั้น ไม่เพียงแต่ทาให้เกิดความแตกต่างทางกายภาพ เท่าน้ัน แต่ยังทาให้รูปแบบการทางานจะแตกต่างจากแต่เดิม ที่จะเป็นลักษณะของการแบ่งปันข้อมูลกันมากขึ้น มีโครงสร้างขององค์กรน้อยลง (More flat) รวมทั้งการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารมารองรับ Digital Workplace ก็จะมี ตอบสนองความต้องการที่ Real-time มากขึ้น และอัตโนมัติมากขึ้นกว่าเดิม จาเป็นต้องมี การออกแบบโครงสร้างระบบเครือข่ายพื้นฐาน (Network Infrastructure) ครอบคลุมพื้นที่กองทัพเรือของสัตหีบ ทั้งหมด โดย จาเป็นต้องใช้หลักการ สถาปัตยกรรมองค์กร (Enterprise Architecture: EA) บูรณาการข้อมูลและ ทรพั ยากรรว่ มกนั และทา้ ยทสี่ ดุ ตอ้ งเปน็ องคก์ รแหง่ การเรยี นรู้ (Learning Organization) ทซี่ งึ่ กา ลงั พลในหนว่ ยสามารถ ขยายขอบเขตความสามารถของตนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในระดับบุคคล ระดับกอง และระดับหน่วยงาน เป็นองค์กรที่มี ความคิดใหม่ ๆ และการแตกแขนงของความคิดได้รับการยอมรับเอาใจใส่ และเป็นองค์กรที่ซึ่งกาลังพลเรียนรู้ อย่างต่อเนื่อง หน่วยงานถึงจะสามารถปรับเปลี่ยน พัฒนา ปรับปรุงได้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทเ่ี ขา้ มา ซงึ่ จะสง่ ผลใหก้ องทพั เรอื มกี ารบรหิ ารจดั การเปน็ เลศิ ตามวสิ ยั ทศั น์ และแผนยทุ ธศาสตร์ ๒๐ ปี ของกองทพั เรอื จากการคิดริเริ่มคิดวางแผน และนโยบายจากระดับพื้นที่สัตหีบก่อน
๗. เอกสํารอ้ํางอิง
๑. Alvin Toffler. (1980). The Third Wave. First edition. United States.
๒. รัฐ ปัญโญวัฒน์. (๒๕๖๑, ๑๖ พฤษภาคม). The Third Wave คลื่นลูกที่สามแห่งยุคอินเตอร์เน็ต. สืบค้นจาก
https://rath.asia/2018/05/steve-case-the-third-wave
๓. สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. (๒๕๖๑, ๑๘ มิถุนายน). ยุค Smart City กาลังมา ไทยเร่งเดินหน้า ๗
เมืองอัจริยะยกระดับคุณภาพชีวิต. สืบค้นจาก http://www.ops.moe.go.th/ops2017/สาระน่ารู้/2057 ๔. Engineering Today. (๒๕๖๓, ๓ มกราคม). เมืองอัจฉริยะ (Smart City) คืออะไร และจะเกิดข้ึนได้อย่างไร.
สืบค้นจาก https://www.engineeringtoday.net/เมืองอัจฉริยะ-smart-city-คืออะไร
๕. Jeanne W. Ross, Peter Weill, David C. Robertson. (2005) Enterprise Architechture As Strategy.
Creating A Foundation for Business Execution: Harvard Business Press
นาวิกศาสตร์ 65 ปีที่ ๑๐๔ เล่มท่ี ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๔


จากไซ่ง่อนถึงเตหะราน... วันที่อินทรีปีกหัก
สงครามเวยี ดนามทา ใหม้ หาอา นาจอยา่ งสหรฐั อเมรกิ า ต้องพบกับความปราชัยอันปวดร้าว คนอเมริกันโดย เฉพาะอย่างยิ่งผู้ท่ีอยู่ในกองทัพ หต้องหดหู่ใจกับภาพที่ ปรากฏให้พวกเขาเห็นในช่วงท่ีไซ่ง่อนเมืองหลวงของ เวียดนามใกล้แตก ทาให้ต้องมีการอพยพเจ้าหน้าที่ อเมริกัน และพลเรือนชาวเวียดนามที่ทางานเก่ียวข้อง กบั สถานทตู และหนว่ ยงานของอเมรกิ นั ออกจากเมอื งหลวง ขณะที่กองทหารเวียดนามเหนือบีบวงล้อมเข้ามาทุกทิศ ทุกทาง
ระหว่างวันที่ ๒๙ และ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๑๘ ปฏิบัติการสุดท้ายของกองทัพสหรัฐอเมริกาที่มี ชื่อรหัสว่า “ฟรีเควนท์ วินด์” (Frequent Wind) ได้อุบัติขึ้นในไซ่ง่อน เพื่ออพยพผู้คนออกจากสถานทูต ขณะเดียวกันชาวเวียดนามใต้จานวนมากที่หวาดกลัว คอมมิวนิสต์ก็ได้หลบหนีออกนอกประเทศทางทะเล โดยใช้เรือทุกประเภทเป็นพาหนะมุ่งหน้าไปยังเรือรบ สหรัฐอเมริกาที่ลอยลาอยู่นอกฝั่ง ซึ่งจานวนผู้อพยพ มากมายถึงขนาดที่ทหารอเมริกันต้องช่วยกันเข็น เฮลิคอปเตอร์ท่ีอยู่บนดาดฟ้าท้ิงลงทะเล เพื่อให้มีท่ีว่าง เพียงพอสา หรับชาวเวียดนามเหล่านั้น
นาวิกศาสตร์ 8 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔
นับจากบัดนั้นเป็นต้นมา ผู้มีอานาจเกี่ยวข้อง กับการกาหนดนโยบายต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศว่า ภาพเช่นน้ีจะต้องไม่เกิดข้ึนอีก สงครามของกองทัพสหรัฐอเมริกาในดินแดน อันห่างไกลจะเป็นเพียง “ฝันร้าย” ท่ีไม่หวนกลับคืนมา แต่ฝ่ายทหารกลับมีความคิดไปอีกอย่าง พวกเขายอมรับ ในนโยบายของฝ่ายการเมือง และตระหนักดีว่าภาพ ความเข้มแข็งของกองทัพที่ได้ชื่อว่าเป็น “มหาอานาจ” ของโลกได้สูญเสียไปแล้ว และหนทางท่ีจะเรียกมันกลับ คืนมาก็คือการหาโอกาส “แก้ตัว”
นักศึกษา ประชาชนอิหร่านท่ีเกลียดชังสหรัฐอเมริกา เผาธงชาติ และพระบรมฉายาลักษณ์ กษัตริย์ชาร์ลส์์ ของอิหร่าน


ในสงครามครั้งหน้า ผลของมันจะต้องแตกต่าง จากสิ่งท่ีเคยปรากฏต่อสายตาของสาธารณชนเม่ือครั้ง สงครามเวียดนาม
สปี่ ผี า่ นไปในอกี ซกี โลกหนง่ึ บนดนิ แดนตะวนั ออกกลาง ความเปลี่ยนแปลงบางอย่างอันนามาซ่ึงความ ตึงเครียดได้บังเกิดขึ้นกษัตริย์ชาร์ลส์ (Charles) แห่งอิหร่านซ่ึงมีภาพของการเป็นผู้ปกครอง ประเทศที่นิยมอเมริกัน ได้ถูกขับออกจากแผ่นดิน ของพระองค์ขณะท่ี อายะตุลลอฮ์ รูฮุลลอฮ์ โคมัยนี (Ayattollah Ruhollah Khomeini) ผู้นาทางศาสนา เดินทางกลับประเทศ และถูกชูบทบาทในฐานะ ศูนย์รวมอานาจของอิหร่านคนใหม่ แต่ทั้งหมดนั้น จะไม่มีผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาเลย หากว่า อายะตุลลอฮ์ โคมัยนี จะมิได้เป็นผู้นาท่ีมีความรู้สึกเป็น ปฏิปักษ์ต่อสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับประชาชนของเขา
โคมัยนี ผู้นาทางจิตวิญญาณของอิหร่าน
นักศึกษาหัวรุนแรงปิดล้อมสถานทูตสหรัฐอเมริกาในเตหะราน
ในทสี่ ดุ เหตกุ ารณร์ า้ ยแรงทไ่ี มม่ ใี ครคาดฝนั กอ็ บุ ตั ขิ นึ้ เมอื่ นกั ศกึ ษาหวั รนุ แรงของอหิ รา่ นบกุ รกุ เขา้ ไปในสถานทตู สหรัฐอเมริกาประจากรุงเตหะราน ซ่ึงเป็นเมืองหลวง เม่ือวันที่ ๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๒๓ เพ่ือควบคุมตัว เจา้หนา้ที่สถานทูตสหรัฐอเมริกันซ่ึงเป็นพลเรือนจานวน ๑๖ คน
ขอ้ เรยี กรอ้ งของการกระทา ครง้ั นนั้ กค็ อื สหรฐั อเมรกิ า จะต้องส่งตัว กษัตริย์ชาร์ลส์ (Charles) ซึ่งล้ีภัยออกนอก ประเทศกลับสู่อิหร่านตามความต้องการของประชาชน ซ่ึงส่วนใหญ่เคียดแค้นชิงชังอดีตกษัตริย์ของพวกเขา และตอ้ งการใหร้ ฐั บาลใหมด่ า เนนิ คดกี บั พระองคใ์ นขอ้ หา คอร์รัปชัน
สถานการณด์ งั กลา่ วไดก้ อ่ ใหเ้ กดิ ปญั หา และผลกระทบ อย่างใหญ่หลวงต่อประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ (Jimmy Carter) เพราะนับตั้งแต่ท่ีอดีต “พ่อค้าถั่ว” เข้ารับตาแหน่งผู้นาสูงสุดของประเทศ เขาไม่เคยเผชิญ กับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ภาพข่าวที่เผยแพร่ออกสู่ สาธารณชนสร้างความหวาดหว่ันให้แก่คนอเมริกัน นบั ลา้ นคนทไ่ี ดเ้ หน็ ฝงู ชนชาวอหิ รา่ นออกมาโหร่ อ้ งบนถนน ขณะเผาธงชาตสิ หรฐั อเมรกิ า และรปู ประธานาธบิ ดี
ประธานาธบิ ดจี มิ มี คารเ์ ตอร์ อดตี ผนู้ า สหรฐั อเมรกิ าซงึ่ เคยเปน็ นายทหารเรอื ประจาการในเรือดาน้าหลังสงครามโลกครั้งท่ี ๒ ก่อนจะลาออกมาทาธุรกิจ และเข้าสู่วงการการเมือง
นาวิกศาสตร์ 9 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


หลงั จากนนั้ ไมน่ าน ปฏกิ ริ ยิ าทตี่ ามมากค็ อื ความเหน็ ของกระแสสังคมท่ีต้องการให้รัฐบาลของพวกตน กระทา การอยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ไมว่ า่ จะเปน็ การใชน้ โยบาย ตา่ งประเทศทแ่ี ขง็ กรา้ วหรอื ปฏบิ ตั กิ ารทางทหาร เพอ่ื แกไ้ ข วิกฤตการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ต่อมา นักศึกษาอิหร่านก็ยอมปล่อยตัวคนอเมริกัน “ผิวดา” และผหู้ ญงิ รวม ๑๓ คน ออกจากสถานทตู คงเหลอื เพยี ง ตวั ประกนั ทเ่ีปน็ ชาวอเมรกิ นั “ผวิ ขาว”ลว้ นๆสว่ นทเ่ีหลอื ไม่มีทีท่าว่าจะได้รับอิสรภาพเมื่อใด ท่าทีอันเฉยเมย ของรัฐบาลอิหร่าน ทาให้หลายฝ่ายเรียกร้องให้รัฐบาล สหรัฐอเมริกา ใช้กาลังทางทหารเพื่อตอบโต้แต่ใน การปฏิบัติจริง ผู้เกี่ยวข้องต่างรู้ดีว่า การกระทาดังกล่าว ไม่ใช่เร่ืองง่ายนัก เพราะนโยบายด้านต่างประเทศ และ หลักปฏิบัติอันเป็นสากล กาหนดไว้อย่างชัดเจนว่า เมื่อมีกรณีพิพาทระหว่างประเทศจะต้องพยายาม แก้ไขความขัดแย้งด้วยวิถีทางท่ีสันติเสียก่อน
ประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ จึงตัดสินใจ พ่ึงองค์การสหประชาชาติ โดยยื่นข้อเรียกร้องขอให้ มีการแทรกแซงทางเศรษฐกิจ หรือการคว่าบาตร เพื่อบีบรัฐบาลอิหร่านให้ปล่อยตัวประกัน แต่ ความพยายามนั้นก็ไร้ผล และเมื่อคาร์เตอร์หันไปใช้ การเจรจาโดยตรง โดยมอบหมายให้เจ้าหน้าที่อิหร่าน ที่มีสายสัมพันธ์อันดีกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเป็น ผู้เกลี้ยกล่อมผู้นานักศึกษาอิหร่าน แต่ก็ไม่ประสบ ผลสาเร็จเช่นเดิม เมื่อถึงตอนนั้นเริ่มแน่ชัดแล้วว่า “ปฏิบัติการทางทหาร” คงจะเป็นสิ่งท่ีหลีกเลี่ยงไม่ได้
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหม และผู้นา เหล่าทัพต่างกระตือรือร้นที่จะให้เปิดสงคราม “เต็มรูปแบบ” กับอิหร่านจากวิกฤตดังกล่าว แต่ฝ่าย การเมือง และเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เป็นพลเรือนแม้จะ เห็นด้วยกับหนทางนั้น แต่ภาพของสงครามเวียดนาม ยังคงหลอกหลอนพวกเขาอยู่ เง่ือนไขของสถานการณ์ ในตอนน้ันก็คือ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะต้องอนุมัติให้ใช้กาลังทางทหาร “เต็มอัตราศึก” ในการช่วยตัวประกัน แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่เสี่ยงเกินไป
นาวิกศาสตร์ 10 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔
เม่ือพิจารณาในแง่การเมืองภายในประเทศ เพราะหาก มีตัวประกันเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว สถานภาพ อันมั่นคงของจิมมี คาร์เตอร์ในฐานะผู้นาสูงสุด ก็จะสั่นคลอนลงในทันที
ดังน้ัน หนทางเดียวที่ควรกระทาในความเห็นของ ฝ่ายทหารก็คือ การส่งกองกาลังจู่โจมไปยังสถานทูต สหรัฐอเมริกาประจากรุงเตหะราน ในการน้ีภารกิจที่มี ชีวิตตัวประกันเป็นเดิมพันจะถูกแบ่งออกเป็นสองเฟส
เฟสแรกคอื ปฏบิ ตั กิ ารทม่ี ชี อ่ื รหสั วา่ “ไรท์บราวน”์
เฟสท่ีสองจะเป็นข้ันตอนช่วยเหลือในปฏิบัติการที่ มีช่ือรหัส “อีเกิล คลอว์” (Operation Eagle Claw) ซงึ่ แนวคดิ ของปฏบิ ตั กิ ารดงั กลา่ ว ตอ้ งการใหห้ นว่ ยจโู่ จม ช่วยเหลือตัวประกันออกมาให้ได้ก่อนท่ีฝ่ายอิหร่าน จะมีปฏิกริยาตอบโต้และท่ีสาคัญที่สุดก็คือ พลเรือน ชาวอิหร่านซึ่งไม่ว่าจะเกี่ยวข้อง หรือไม่เก่ียวข้องกับ เรื่องนี้ก็ตาม จะต้องไม่ได้รับบาดเจ็บ ล้มตายจาก การจู่โจมของทหารอเมริกัน หน่วยท่ีถูกพิจารณาว่า น่าจะสามารถปฏิบัติภารกิจอันยากลาบาก และ ซับซ้อนนี้ได้ก็คือหน่วย “ปฏิบัติการพิเศษ” ซ่ึงในโลกนี้
หนังสือที่บอกเล่ารายละเอียดปฏิบัติการ “อีเกิล คลอว์” (Eagle Claw)


มเี พยี งสองชาตเิ ทา่ นนั้ ทมี่ ศี กั ยภาพสงู พอทจี่ ะดา เนนิ การได้ ชาติหนึ่งก็คือ อังกฤษ ส่วนอีกชาติหนึ่งก็คือ อิสราเอล แต่การจะขอให้ทั้งสองประเทศส่งกาลังของตน เข้ายุ่งเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ตัวประกันในอิหร่าน โอกาส ที่จะเจรจาสาเร็จคงจะเป็นไปได้น้อยกว่าการใช้กาลัง ของสหรัฐอเมริกาโดยตรง ปัญหาหลักที่เกี่ยวข้อง กบั การวางแผนกค็ อื ในขณะนนั้ สหรฐั อเมริกา มีข้อมูล ของฝ่ายอิหร่านน้อยมาก ถึงแม้ซีไอเอ (CIA) จะได้ชื่อว่า เป็นหน่วยงานจารกรรมที่มีเครือข่ายครอบคลุมอยู่เกือบ ทั่วทุกมุมโลก แต่แทบไม่น่าเชื่อว่าในประเทศอิหร่าน เวลานั้นกลับไม่มี “เอเจนต์” ของซีไอเอ (CIA) แฝงตัว อยู่แม้แต่คนเดียว
นอกจากนี้รายละเอียดของแผนผัง และโครงสร้าง ของสถานทูต ก็ยังคงเป็นความลับดามืดสาหรับ การวางแผน ข้อมูลสาคัญ ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งทางทหาร รายละเอียดของสนามบินสภาพภูมิประเทศหรือแม้ จุดกักขังตัวประกันในสถานทูตเป็นเพียงความว่างเปล่า ที่สหรัฐอเมริกาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลยแม้แต่น้อย
แต่ไม่ว่าจุดเริ่มต้นจะยุ่งยากสักเพียงใด ฝ่ายทหาร ไดต้ ดั สนิ ใจแลว้ วา่ จะตอ้ งจดั ตงั้ “หนว่ ยปฏบิ ตั กิ ารพเิ ศษ” ขึ้น เพ่ือภารกิจนี้โดยเฉพาะ และนั่นจึงเป็นที่มาของ หน่วยเดลตา ฟอร์ซ (Delta Force) ซึ่งทุกคนรู้จักกันดี ในปัจจุบัน
ใน พ.ศ. ๒๕๒๒ หนว่ ยเดลตา้ ฟอรซ์ (Delta Force) ยังเป็นหน่วยใหม่ภายใต้การบังคับบัญชาของพันเอก ชาร์ลส์ เบควิท (Col. Charles Beckwith) นายทหาร ผู้มีขีดความสามารถในการรบท่ีดีที่สุดคนหนึ่งใน ประวัติศาสตร์ของกองทัพสหรัฐอเมริกา
เบควิทเป็นผู้ก่อต้ังหน่วยเดลตา ฟอร์ซ หลังจาก ที่เขามีโอกาสได้ไปร่วมงานกับหน่วย “ปฏิบัติการ พิเศษทางอากาศ” หรือเอสเอเอส (Special Air Service: SAS) ของกองทัพอังกฤษตามโปรแกรม แลกเปล่ียนกาลังพลระหว่างสองประเทศมหาอานาจ
เมอื่ เบควทิ กลบั มาจากสหราชอาณาจกั ร เขาไดเ้ สนอ ความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชาระดับสูงว่า สหรัฐอเมริกา
พันเอก ชาร์ลส์ เบควิท (Col. Charles Beckwith)
ควรจะมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษท่ีมีขีดความสามารถ เชน่เดยีวกบัหนว่ยเอสเอเอส(SAS)ขององักฤษใหเ้รว็ทสี่ดุ เมอ่ื กลาโหมอนมุ ตั ิ เบควทิ ไดน้ า แบบอยา่ งการฝกึ มาจาก กองทัพอังกฤษ เพื่อสร้างนักรบอเมริกันให้กลายเป็น “บุคลากรพิเศษ” ท่ีมีขีดความสามารถในทุกรูปแบบ แมย้ ทุ ธวธิ บี างอยา่ งของเอสเอเอส (SAS) จะแตกตา่ งจาก หลกั นยิ มทางทหารของกองทพั สหรฐั อเมรกิ า แต่ เบควทิ ก็ได้ปรับปรุงมัน เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธวิธีที่ทหาร อเมริกันคุ้นเคย
เ บ ค ว ทิ ภ า ค ภ มู ใิ จ ใ น ห น ว่ ย “ เ ด ล ต า ฟ อ ร ซ์ ” ข อ ง เ ข า ม า ก และในฐานะผู้ที่ก่อตั้งมันมากับมือ เบควิทปรารถนา อย่างย่ิงท่ีจะมีโอกาสแสดงศักยภาพของเดลตา ฟอร์ซ ให้โลกได้ประจักษ์สักครั้ง ไม่ว่าสถานการณ์น้ันจะ ยากเย็นเพียงใดก็ตาม วิกฤตการณ์ในอิหร่านจึงเป็น ส่ิงที่เบควิทเฝ้ามองด้วยความ “กระหาย” เป็นอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปฏิบัติการคร้ังน้ีจาเป็น จะต้องอาศัยการ “รบร่วม” ของหลายหน่วยกาลัง ซึ่ง เทา่ ทผ่ี า่ นมายงั ไมเ่ คยมกี ารประสานงาน หรอื ปฏบิ ตั ภิ ารกจิ ร่วมกันมาก่อนนับตั้งแต่สงครามเวียดนามสิ้นสุดลง ดังน้ันจึงมีการประชุมวางแผนหลายคร้ัง โดยมี เบควิท แห่งหน่วยเดลตา ฟอร์ซ เป็นแกนนา
นาวิกศาสตร์ 11 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


พันเอก เบควิท ในวัยหนุ่ม
ในขั้นตอนการวางแผน ทุกฝ่ายที่เก่ียวข้องได้นา รายละเอียดมาประกอบการพิจารณาอย่างกว้างขวาง “ยุทธวิธี” ในการบุกถูกนามาพิจารณาหลายหนทาง ทั้งการกระโดดร่ม การส่งเฮลิคอปเตอร์จู่โจมเข้าไป ในเขตสถานทูต การใช้รถบรรทุกพุ่งชนประตู แต่ในท้าย ที่สุดแล้ว การใช้เฮลิคอปเตอร์ ดูจะเป็นหนทาง เลือกท่ีเหมาะสมกว่าวิธีอ่ืน ๆ ขณะเดียวกัน ก็มีผู้เสนอ ให้ใช้ “เคร่ืองบินลาเลียง” ขนาดใหญ่ปล่อย “พลร่ม” ลงในพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเตหะราน แล้วใช้ พาหนะของชาวอิหร่านเท่าท่ีจะยึดได้เคลื่อนตัวไปยัง สถานทูต อันเป็นพื้นที่เป้าหมาย
เมื่อช่วยเหลือตัวประกันได้แล้ว หน่วยจู่โจมจะต้อง เดนิ ทางตอ่ ไปยงั สนามบนิ นานาชาตเิ มหร์ าบดั (Mehrabad International Airport) ของอิหร่าน เพ่ือรอเครื่องบิน ลาเลียงที่จะลงไปรับ ซึ่งแผนน้ีปรับแต่งมาจากแผนการ บุกสนามบินเอนเท็บเบ (Entebbe Airport) เพ่ือชิงตัวประกันชาวอิสราเอลจากการควบคุมของ รัฐบาลอีดี อามิน (Idi Armin) (ปฏิบัติการสาเร็จ โดยหัวหน้าทีมจู่โจมของอิสราเอลเสียชีวิต เช่นเดียวกับ ตัวประกันท่ีถูกย้ายไปโรงพยาบาล) แต่หากไม่สามารถ เดินทางไปยังสนามบินได้ หน่วยจู่โจมจะต้องนา
นาวิกศาสตร์ 12 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔
ตวั ประกนั หลบหนไี ปยงั ทะเลทรายทอี่ ยใู่ กลท้ สี่ ดุ แลว้ เดนิ ทางขึ้นเหนือมุ่งสู่ตุรกีซึ่งเป็นมิตรกับสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม เมื่อประเมินขั้นตอนการปฏิบัติตาม แผนต่าง ๆ ที่กาหนดไว้ สิ่งที่พวกเขาพบก็คือความจริง ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าโอกาสที่ภารกิจจะสาเร็จลุล่วง แทบจะไม่มีอยู่เลยเพราะอุปสรรคต่าง ๆ มีอยู่มากมาย จนดเู หมอื นวา่ สถานทตู สหรฐั อเมรกิ าภายใตก้ ารยดึ ครอง ของนักศึกษาอิหร่านเป็นป้อมปราการ “มหาหิน” ที่ไม่มีวันที่จะทะลุทะลวงเข้าไปได้ แต่หลังจากเวลา ผ่านไปอีกไม่กี่สัปดาห์ “ข่าวกรอง” ต่าง ๆ ก็หลั่งไหล เข้ามาสู่ฝ่ายวางแผน ทาให้พวกเขาเริ่มมีความหวัง ขึ้นมาอีกครั้ง หนทางเลือกในการปฏิบัติแคบลงเรื่อย ๆ จนสุดท้ายก็เหลือเพียงหนทางเดียวคือ การใช้ “เฮลิคอปเตอร์” เป็นอากาศยานหลักในปฏิบัติการ ซ่ึงอากาศยานปีกหมุน หรือเฮลิคอปเตอร์ทางทหารก็ได้ พิสูจน์คุณค่า และศักยภาพของมันให้ทุกคนได้ประจักษ์ มาแล้วในสงครามเวียดนาม
ปัญหาต่อไปก็คือ พวกเขาจะเลือกใช้เฮลิคอปเตอร์ แบบใด คาตอบอยู่ที่ “คุณสมบัติ” สาคัญของ เฮลิคอปเตอร์ที่จะรับหน้าท่ีในภารกิจคร้ังน้ี
ประเด็นแรกที่พิจารณาก็คือ มันจะต้องเป็น เฮลิคอปเตอร์ที่มี “รัศมีทาการ” ไกลเพียงพอ และสามารถบรรทุกน้าหนักได้มาก ในขณะนั้นกองทัพ สหรัฐอเมริกามีเฮลิคอปเตอร์แบบต่าง ๆ มากมาย ซ่ึงฝ่ายวางแผนได้นาคุณลักษณะของเฮลิคอปเตอร์ หลายแบบมาพิจารณาอย่างรอบคอบ ไม่ว่าจะเป็น ซีเอช-47 ชินุค (CH-47 Chinook) หรือ เฮลิคอปเตอร์ ซีเอช-46 ซีไนท์ (CH-46 Sea Knight)
นอกจากนี้ยังมีเฮลิคอปเตอร์ OK-53 (HH-53) และเฮลิคอปเตอร์ แบบ OK-53 ดี (RH-53D) ของ กองทัพเรือ หรือที่รู้จักกันในนาม “ซี สตัลเลียน” (Sea Stallion) ซึ่งมีคุณลักษณะพิเศษที่สามารถพับเก็บ ใบพัดและหางได้
ซี สตัลเลียน จึงสามารถลาเลียงไปกับเรือบรรทุก เครอื่ งบนิ ไดอ้ ยา่ งสะดวก และโดยปกตแิ ลว้ ซี สตลั เลยี น


เป็นเฮลิคอปเตอร์ท่ีถูกใช้ในภารกิจกวาดทุ่นระเบิด หากกองทพั สหรฐั อเมรกิ านา มนั เดนิ ทางไปกบั เรอื บรรทกุ เครอื่ งบนิ ยอ่ มเปน็ เรอ่ื งปกตทิ จ่ี ะไมถ่ กู สงสยั จากฝา่ ยตรง กันข้าม ในขณะนั้น อาร์เอช-53 เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่มี ขนาดใหญ่ที่สุดของกองทัพสหรัฐอเมริกา ซึ่งเม่ือเติม น้ามันเชื้อเพลิงเต็มถังจะบรรทุกผู้โดยสารได้ ๓๐ คน แต่หากลดจานวนเช้ือเพลิงให้ต่ากว่าเกณฑ์ก็จะสามารถ บรรทุกผู้โดยสารได้เพ่ิมข้ึนเป็น ๕๐ คน
ปัญหาต่อไปก็คือ ปริมาณของน้ามันเช้ือเพลิง ทจี่ า เปน็ ตอ้ งใชถ้ งึ แมว้ า่ ซี สตลั เลยี น จะมรี ศั มที า การไกล กวา่ เฮลคิ อปเตอร์ชนดิ อน่ื ๆแตม่ นั กย็ งั ไมไ่ กลพอทจี่ ะทา ให้ นกั บนิ สามารถเดนิ ทางจากอา่ วโอมาน ไปยงั กรงุ เตหะราน ได้โดยไม่ต้องเติมน้ามันระหว่างทาง เนื่องจากระยะทาง ในภารกิจครั้งน้ียาวไกลถึง ๙๐๐ ไมล์
ดังน้ัน คาถามไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ก็คือ พวกเขาจะ เติมน้ามันได้อย่างไร จะเติมที่ไหน และจะเติมเม่ือไหร่
แนวความคิดหนึ่งถูกเสนอข้ึนมา นั่นคือการส่งกา ลังหน่วยเดลตา ฟอร์ซ เข้ายึดสนามบินในกรุงเตหะราน ไดเ้ สยี กอ่ น เพอ่ื ตดั ปญั หาในเรอ่ื งของการเตมิ นา้ มนั กลางทาง แตว่ ธิ กี ารดงั กลา่ วจะเปน็ การ “เปดิ เผยตวั ” และทา ใหฝ้ า่ ย อหิ รา่ นรวู้ า่ มกี ารจโู่ จมเกดิ ขน้ึ ซงึ่ หลงั จากนนั้ “การปะทะ” คงหลีกเล่ียงได้ยาก และหากมีการเสียชีวิตของพลเรือน ผลกระทบทางดา้ นตา่ งประเทศจะตามมาโดยไมต่ อ้ งสงสยั
ทางด้านหน่วย “เดลตา ฟอร์ซ” ปัญหาสาคัญ ประการหนึ่งสาหรับพวกเขาก็คือรายละเอียดของ สถานทูตสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพื้นที่เป้าหมาย รวมท้ัง จุดที่พวกอิหร่านควบคุมตัวประกัน ตลอดจนลักษณะ ภูมิประเทศรอบกรุงเตหะราน
อย่างไรก็ตาม หลังจากเวลาผ่านไปอีกหลายวัน หน่วยข่าวกรองก็เริ่มทยอยส่งข่าวสารมาเพ่ิมเติม มากขนึ้ เรอ่ื ย ๆ เจา้ หนา้ ทขี่ องหนว่ ยเดลตา ฟอรซ์ ทรี่ บั ผดิ ชอบ ในเรื่องนี้ได้แก่ “วาเดล อิชิโมโต” นายทหารการข่าว เชื้อสายญ่ีปุ่นผสมฮาวาย เข้ารับข้อมูลที่หลั่งไหลเข้า มาสู่ศูนย์ข่าวกรองโดยไม่ขาดสาย เอกสารทุกแผ่น และรูปภาพทุกรูปถูกตรวจสอบอย่างละเอียดโดย อิชิโมโต ชนิดไม่เห็นแก่เหน็ดเหน่ือย อิชิโมโตทุ่มเท
ให้กับงานในความรับผิดชอบถึงขนาดที่เรียกว่า ในแต่ละคืนเขามีเวลานอนพักผ่อนไม่ถึง ๔ ชั่วโมง ด้วยซ้า ด้วยการเสียสละอย่างยิ่งยวดของเขา รายละเอียดต่าง ๆ ท่ีได้มาช่วยให้ฝ่ายสหรัฐอเมริกา เร่ิมปะติดปะต่อเป็นโครงร่างที่เพียงพอต่อการ วางแผนโดยละเอียดได้ แต่กระน้ันก็ตาม ทุกคน ท่ีเก่ียวข้องต่างยอมรับว่าภารกิจครั้งน้ี เป็นเร่ืองท่ียุ่งยาก ซับซ้อนมาก
ในความเป็นจริง การช่วยเหลือตัวประกันของ กองทัพสหรัฐอเมริกาใช่ว่าจะเป็นสิ่งแปลกใหม่ เพราะ การชว่ ยเหลอื ตวั ประกนั ครงั้ ลา่ สดุ ทพี่ อจะนา มาเปรยี บเทยี บ ไดก้ ค็ อื การบกุ ชว่ ยเหลอื เชลยอเมรกิ นั ทค่ี า่ ย “ซอนเทย”์ (Son Tay) ในดินแดนเวียดนามเหนือเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๕
ในคร้ังน้ันกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาเป็น “หน่วยหลัก” ที่รับผิดชอบภารกิจ แต่ปฏิบัติการบุกค่าย “ซอนเทย”์ กไ็ มไ่ ดม้ กี ารวางแผนอยา่ ง“ซบั ซอ้ น” เทา่ กบั การเตรียมการบุกเตหะรานในคร้ังน้ี
ด้วยข้อมูลข่าวกรองที่ละเอียดมากขึ้น ในท่ีสุด ฝา่ ยสหรฐั อเมรกิ ากส็ ามารถสรา้ งโมเดล หรอื แบบจา ลอง ของสถานทูตในกรุงเตหะรานได้สาเร็จ
พวกเขาสามารถกา หนดตา แหนง่ หอ้ งควบคมุ ตวั ประกนั และรู้รูปแบบการวางตัวของห้องต่าง ๆ ถึงขนาดท่ีว่า สามารถระบไุ ดอ้ ยา่ งแนช่ ดั วา่ ประตแู ตล่ ะบานจะเปดิ ปดิ ออกไปทางด้านใด
แบบจาลองนี้ถูกสร้างขึ้นที่สนามบินของกองทัพบก ในเขตแอริโซนา (Arisona) เพื่อให้หน่วยเดลตา ฟอร์ซ สามารถฝึกได้อย่างใกล้เคียงกับสถานท่ีจริงมากที่สุด
ตามแผนดงั้ เดมิ ของปฏบิ ตั กิ ารครง้ั นนั้ เฮลคิ อปเตอร์ จะบินเข้าใกล้สถานทูตเท่าที่จะสามารถกระทาได้ เพ่ือร่นระยะเวลาในการช่วยเหลือให้น้อยลง แต่เมื่อ ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดแล้ว พวกเขาก็พบ ว่าแผนการนี้ไม่น่าจะกระทาได้จริง เน่ืองจากฝ่าย อิหร่านได้เตรียมรับการโจมตีแบบน้ีอย่างเข้มแข็ง โดย ในบรเิ วณพน้ื ทโ่ี ลง่ รอบ ๆ เขตสถานทตู มกี ารใช้ “เสาไม”้ ขนาดยาวปกั เปน็ ระยะ ๆ เพอื่ ปอ้ งกนั ไมใ่ ห้ เฮลคิ อปเตอร์ บินลงมาจอดได้
นาวิกศาสตร์ 13 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


ข้อมูลดังกล่าวได้มาจาก “ภาพถ่ายดาวเทียม” และจากเครื่องบินจารกรรมเอสอาร์-71 (SR-71) หรือ “แบล็คเบิร์ด” (Black Bird) ขณะเดียวกัน ก็มีผู้เสนอหนทางเลือกใหม่สาหรับการแก้ปัญหา น้ามันเชื้อเพลิง คือการใช้ถุงขนาดใหญ่ทาด้วยยาง รูปร่างคล้าย “บอลลูน” เพื่อบรรจุน้ามันแล้วทิ้ง ลงไปยังจุดนัดพบท่ีอยู่กลางทะเลทราย (ในยุคน้ัน อเมริกันยังไม่สามารถพัฒนาเฮลิคอปเตอร์ให้เติมน้ามัน กลางอากาศได)้ ถงุ บรรจขุ องเหลวดงั กลา่ วสามารถบรรจุ น้ามันเช้ือเพลิงได้ถึง ๕๐๐ แกลลอน โดยจะมีป๊ัม และ กว้านติดอยู่ในตัว แต่ปัญหาก็ยังไม่หมดไป เพราะ อัตราความเร็วในการ “ปั๊มน้ามัน” ออกจากถุงเพื่อ ส่งเข้าถังใช้งานของอากาศยานยังช้าเกินไป ทาให้ เฮลิคอปเตอร์ ต้องเสียเวลานานกว่าที่จะเติมน้ามันเสร็จ
นอกจากนี้หากตาแหน่งที่ถุงบรรจุน้ามันถูกทิ้งร่ม ลงมาคลาดเคลื่อนจากเป้าหมายที่กาหนดไว้ หรือ เข้าไปติดค้างอยู่ในระหว่างก้อนหิน การเคลื่อนย้าย ออกมาจะกระทาได้ยากมาก เพราะในสภาวะปกติ ถุงบรรจุน้ามันขนาดใหญ่เช่นนี้หากจะเคล่ือนย้าย จะต้องใช้คนกลิ้งถึง ๑๐ คน
นอกจากข้อจากัดท่ีกล่าวมาแล้ว การใช้ถุงบรรจุ น้ามันเชื้อเพลิงแล้วทิ้งจากเครื่องบินลงสู่พ้ืนก็ยัง ไม่เคยมีการ “ปฏิบัติจริง” มาก่อน ดังน้ัน เพื่อให้เกิด ความแน่ใจว่าจะไม่มีข้อผิดพลาด โดยเฉพาะในกรณีท่ี ถุงดังกล่าวถูกกระแสลมพัดพาเข้าไปกระแทกกับ เฮลิคอปเตอร์ที่จอดรออยู่ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายทเ่ี กย่ี วขอ้ ง จึงเห็นชอบให้มีการทดสอบในสภาพ “เหมือนจริง” ทุกประการ
สองสัปดาห์ต่อมา เฮลิคอปเตอร์แบบอาร์เอช-53 ดี บนิ ลงจอดอยบู่ นพนื้ รอคอยการเขา้ มาของเครอ่ื งบนิ ซ-ี 130 “เฮอคิวลิส” (C-130 Hercules) ซึ่งจะเป็นผู้ปล่อยถุง บรรจุน้ามันเช้ือเพลิงจานวน ๑๒ ถุง
พันเอก เบควิท และนายทหารชั้นนายพลของ กองทัพอากาศได้เข้าร่วมในฐานะผู้สังเกตการณ์ ขั้นตอนทดสอบคร้ังสาคัญน้ีด้วย แต่แล้วในช่วง เวลาสุดท้าย ขณะท่ีซี-130 บินเข้าใกล้เป้าหมาย
นาวิกศาสตร์ 14 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔
พลอากาศโท “กัส” ซ่ึงเป็นผู้ให้ความเห็นชอบ กับแนวคิดดังกล่าวเกิด “ลางสังหรณ์” ขึ้นมาอย่าง กระทันหัน เม่ือเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า และสังเกต เส้นทางบินของ “เฮอคิวลิส” ท่ีนักบินกาลังรักษาอยู่
ท่านนายพลจึงตัดสินใจออกคาสั่งด่วนให้นักบิน “เปลี่ยนเข็ม” นาเคร่ืองออกห่างจากบริเวณที่หมู่ เฮลิคอปเตอร์จอดรออยู่ และสั่งการว่าการปล่อย ร่มชูชีพที่มีถุงบรรจุน้ามันเชื้อเพลิงจะกระทาได้ก็ต่อเม่ือ เส้นทางบินออกห่างจากบริเวณเป้าหมายแล้ว
นบั เปน็ เรอื่ งอศั จรรยอ์ ยา่ งยงิ่ ทคี่ วามรสู้ กึ และลางสงั หรณ์ ของทา่ นนายพลเปน็ ความจรงิ เพราะเมอื่ ซ-ี 130 ปลอ่ ยรม่ ออกมา ได้บังเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ท่ามกลางสายตา นับร้อยคู่ท่ีจ้องมองถุงบรรจุถุงน้ามันเชื้อเพลิงซึ่งเกิด อุปสรรคร่มไม่กางถึง ๑๐ ลูก ทาให้ถุงเหล่านั้นร่วงด่ิง ลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว และเมื่อถุงบรรจุน้ามันเชื้อเพลิง ท่ีปราศจาก “ร่มชูชีพ”กระแทกกับพ้ืน มันได้เกิดระเบิด ดังสนั่นพร้อมกับลูกไฟท่ีกระจายออกรอบทิศ
หากนายพล “กัส” ไม่สั่งให้นักบินเปล่ียนเข็มใน ช่วงสุดท้าย คงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเฮลิคอปเตอร์ท้ังหมด ทจี่ อดรออยใู่ นสภาพเหมอื นปฏบิ ตั กิ ารจรงิ จะตอ้ งถกู ทา ลาย แหลกเป็นจุณอย่างแน่นอน ผลการทดสอบอันล้มเหลว ทาให้เจ้าหน้าท่ีเทคนิคต้องกลับไปหาหนทางแก้ไข ข้อผิดพลาด เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เกิดกรณีดังกล่าวซ้าอีก กระนั้นก็ตาม ความกังวลใจของผู้ที่เห็นเหตุการณ์ ในวนั ทดสอบครง้ั แรก ยงั คงรบกวนความเชอ่ื มนั่ ของพวกเขา จนในที่สุดหลายคนก็มีความเห็นว่าการท้ิงร่มเพื่อปล่อย ถุงบรรจุน้ามันเช้ือเพลิงสู่พ้ืนไม่น่าจะได้ผล
หลายสัปดาห์ผ่านไป เจ้าหน้าที่เตรียมร่มได้พัฒนา เทคนิคในการปล่อยร่มแบบใหม่ ซ่ึงทาให้ม่ันใจได้ว่า ร่มชูชีพจะกางอย่างสมบูรณ์ในทุกสถานการณ์ จากน้ัน ก็ได้มีการทดลองปล่อยร่มชูชีพในลักษณะดังกล่าว หลายคร้ัง ซ้าแล้วซ้าเล่า
ในระหวา่ งการทดสอบครง้ั หนงึ่ ทค่ี า่ ย“ฟอรต์ แบรกก”์ (Fort Bragg) เจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ซึ่งเคยทาหน้าที่ควบคุม การปฏิบัติภารกิจทางอากาศให้กับเครื่องบินของซีไอเอ ในประเทศลาวระหว่างยุคสงครามเวียดนาม ได้ให้ข้อ


แนะนากับ พันเอก เบควิท ว่า วิธีการส่งน้ามันเชื้อเพลิง ลงสู่พื้นด้วยการปล่อยร่มเช่นน้ี “เส่ียงเกินไป” และมี โอกาสล้มเหลวได้ตลอดเวลา เขาระบุอย่างชัดเจนว่า จากประสบการณ์ท่ีเคยพบ “กระแสลม” อันรุนแรง จะพัดพาถุงบรรจุน้ามันเชื้อเพลิง และร่มชูชีพให้ลอย ไปไกลจากเป้าหมายอย่างไม่อาจป้องกันได้ และน่ัน จะทาให้ความสาเร็จของภารกิจน้ีไม่มีวันจะเกิดข้ึน
ที่ผ่านมาระบบการสนับสนุนน้ามันเช้ือเพลิงในช่วง สงครามเวียดนาม ซีไอเอ จะมอบหมายให้เคร่ืองบิน “อีซี-130” หรือเฮอคิวลิส ดัดแปลงให้ทาหน้าที่บรรทุก เชอื้ เพลงิ บนิ ลงไปจอดสง่ นา้ มนั ทางภาคพนื้ ดนิ แทนทจี่ ะ ใชว้ ธิ สี ง่ นา้ มนั เชอื้ เพลงิ จากทางอากาศอยา่ งเชน่ ท่ี เบควทิ พยายามจะทา ในขณะนนั้ ขอ้ เสนอแนะนา ของเจา้ หนา้ ที่ ผู้น้ันทาให้ พันเอก เบควิท ฉุกคิดถึงหนทางใหม่อีกครั้ง
เขาเรมิ่ คดิ วา่ ภมู ปิ ระเทศหลายแหง่ ในอหิ รา่ นอาจจะ ส า ม า ร ถ น า เ ค ร อื ่ ง บ นิ ข น า ด ใ ห ญ อ่ ย า่ ง ซ -ี 1 3 0 บ ร ร ท กุ น า ้ ม นั ลงจอดได้ ถึงแม้ว่าก่อนหน้าท่ีจะเคยมีคนเสนอแนะ วิธีการนี้แต่เบควิทก็ไม่เคยเชื่อว่าการนาเคร่ืองบิน ขนาดใหญ่ร่อนลงไปยังทะเลทรายในอิหร่านจะมี ความเป็นไปได้ก็ตาม แต่เม่ือนาภาพถ่ายทางอากาศ มาพจิ ารณาอกี ครงั้ เบควทิ กพ็ บวา่ ลกั ษณะของภมู ปิ ระเทศ หลายแห่งน่าจะรับน้าหนักขณะท่ีเคร่ืองบินซี-130 ร่อนลงจอดได้ โดยเฉพาะบริเวณที่มีความกว้างยาว เพียงพอใกล้เคียงกับรันเวย์ของสนามบิน
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายเสนาธิการของกองทัพอากาศ ยังคงมีความเห็นท่ีแตกต่างออกไป พวกเขาระบุว่าพื้นที่ ในทะเลทรายมีความ “หยุ่นตัว” มากเกินไป และนั่น จะทาให้มันไม่สามารถรองรับน้ามันอันมหาศาลของ เครื่องบินซี-130 ได้
โดยเฉพาะในภารกิจน้ี จะต้องใช้เครื่องบินอีซี-130 ซึ่งถูกออกแบบมาสาหรับการบรรทุกเชื้อเพลิงจานวน ๓,๐๐๐ แกลลอน ซ่ึงจะทาให้ “แรงปะทะ” ขณะที่ล้อ กระแทกพื้นบังเกิดขึ้นอย่างมหาศาล
นายทหารคนหนึ่งกล่าวในที่ประชุมว่า
“มันเสี่ยงเกินไปท่ีเราจะให้เคร่ืองบินร่อนลงไป โดยไม่รู้สภาพของพ้ืนทรายเบ้ืองล่าง ยกเว้นเสียแต่ว่า จะมีการส่งทีมสารวจไปตรวจสอบล่วงหน้า และนา
ตัวอย่างดินหรือทรายบริเวณที่จะใช้เป็นที่แลนดิง กลับมาวิเคราะห์”
พนั เอกเบควทิ เหน็ ดว้ ยกบั คา พดู นน้ั และเขากเ็ชอื่ วา่ การใชเ้ ครอื่ งบนิ เตมิ นา้ มนั รอ่ นลงสพู่ นื้ เปน็ วธิ กี ารทดี่ กี วา่ การ “ทง้ิ รม่ ชชู พี ” ลงมาพรอ้ มกบั ถงุ บรรจนุ า้ มนั เชอื้ เพลงิ
เขาจึงขออนุญาตส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบสภาพ ภมู ปิ ระเทศในอหิ รา่ น โดยขอใหก้ องทพั อากาศจดั เจา้ หนา้ ที่ เทคนิคซึ่งมีความชานาญเดินทางไปด้วยเพ่ือให้ได้ รายละเอียดครอบคลุมพ้ืนที่เป้าหมายทั้งหมด
อย่างไรก็ตามบางคนพยายามคัดค้าน โดยระบุว่า ภารกจิ ทเ่ี บควทิ เสนอเปน็ การเสย่ี งตอ่ การถกู “ตรวจพบ” ของฝ่ายอิหร่าน และอาจจะทาให้ศัตรูคาดเดาได้ว่า สหรัฐอเมริกาวางแผนที่จะปฏิบัติการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อช่วยเหลือตัวประกัน แต่ในที่สุดท่ีประชุมก็อนุมัติให้ มีการส่งคนเข้าไปในอิหร่านได้ตามที่เบควิทเสนอ
หน่วยข่าวกรองได้เลือก “จุดนัดพบ” ระหว่าง เครื่องบินเติมน้ามัน และฝูงเฮลิคอปเตอร์ที่จะเข้า ปฏบิตักิารโดยพจิารณาตาบลทแ่ีหง่หนงึ่ในเขตทะเลทราย DASHT-E-KAVIR ตาแหน่งดังกล่าว เป็นทะเลทรายอัน อ้างว้างอยู่ห่างจากกรุงเตหะรานเมืองหลวงของอิหร่าน ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ ๒๖๐ ไมล์ และเป็น บรเิ วณทคี่ อ่ นขา้ งสงบเงยี บ เพราะชมุ ชนทมี่ ผี พู้ กั อาศยั ซง่ึ อยู่ใกล้กับบริเวณนั้นมากท่ีสุด ก็อยู่ห่างออกไปอีกเกือบ ๙๐ ไมล์ มันจึงเป็นตาบลท่ีซ่ึงมีความเหมาะสมมากท่ีสุด ในดา้ นความปลอดภยั จากการถกู ตรวจพบ แตอ่ ยา่ งไรกต็ าม ทกุ ฝา่ ยจะตอ้ งรอผลการตรวจสภาพพนื้ ผวิ ของทะเลทราย ในตาแหน่งดังกล่าวให้แน่ใจเสียก่อนว่าสามารถรองรับ การลงจอดของเครื่องบินขนาดใหญ่ได้
บรเิ วณทะเลทรายทกี่ ลา่ วมานี้ ถกู กา หนดชอ่ื รหสั วา่ เดทเสิร์ท วัน (Desert One) ขณะที่การสารวจพื้นทราย ซึ่งเป็นขั้นตอนหนึ่งในปฏิบัติการ “ไรท์บราวน์” เริ่มเป็น รูปเป็นร่าง การดาเนินการในอีกข้ันตอนหนึ่งที่จะต้อง เร่งรัดให้มีข้อยุติก็คือการเฟ้นหา “บุคลากร” ซึ่งจะมา ทาหน้าท่ีนักบิน
ในครั้งแรกกาหนดไว้ว่าการช่วยเหลือตัวประกันจะ เป็นปฏิบัติการร่วมระหว่างกาลังของหลายเหล่าทัพ ซ่ึงทุกฝ่ายต้องการช่วยเหลือเพ่ือนร่วมชาติเหมือน ๆ กัน
นาวิกศาสตร์ 15 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


แตเ่ มอื่ เรมิ่ หารอื ระหวา่ งผแู้ ทนหลายหนว่ ย กลบั มคี วามเหน็ หลายอย่างซึ่งเป็นข้อขัดแย้งกันเอง อาทิเช่น
นักบินทหารเรือไม่เหมาะสมกับภารกิจนี้ นักบิน ทหารอากาศมคี วามชา นาญในการบนิ ระยะทางไกลดว้ ย “เพดานบนิ ตา่ ”ขณะทน่ี กั บนิ จากกองทพั บกมคี วามชา นาญ ในการบินในทุกรูปแบบ และสามารถปรับยุทธวิธีได้ อย่างหลากหลาย
แต่ฝ่ายทหารเรืออ้างว่า อากาศยานท่ีจะนาไปใช้ ในภารกิจนี้เป็นของพวกตน ดังนั้น นักบิน “ทหารเรือ” จึงควรจะได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ปฏิบัติภารกิจดังกล่าว
ในที่สุดที่ประชุมก็ยอมจานนต่อเหตุผลข้างต้น และนั่นจึงทาให้นักบินทหารเรือได้รับการคัดเลือก โดยพวกเขาถกู สง่ ตวั ไปฝกึ บนิ ในระดบั ตา่ กบั หนว่ ย“เดลตา ฟอร์ซ” ในพ้ืนที่เหนือทะเลทรายแอริโซนา
จริง ๆ แล้ว พันเอก เบควิท ต้องการใช้นักบินจาก “กองทัพอากาศ” มากกว่า เพราะเขาประทับใจจาก ผลงานการบนิ อยา่ งยอดเยยี่ มระหวา่ งปฏบิ ตั กิ ารชว่ ยเหลอื ตวั ประกนั ทค่ี า่ ย“ซอนเทย”์ ในสงครามเวยี ดนาม(การบกุ ประสบความสาเร็จแต่เชลยถูกย้ายออกไปก่อนหน้าน้ัน เพียงไม่กี่วัน)
แตเ่ มอ่ื ทปี่ ระชมุ มมี ตเิ ชน่ นน้ั เบควทิ กไ็ มอ่ าจคดั คา้ นได้
ตลอดเวลาทเ่ี ฝา้ ดกู ารฝกึ ของนกั บนิ ทหารเรอื เบควทิ รู้สึกไม่สบายใจเพราะเขาเห็นว่านักบินนาวีเหล่านั้นยังมี ความสามารถ “ต่ากว่าเกณฑ์” ในการใช้งานที่ซับซ้อน และยากลาบาก ซึ่งเป็นสิ่งที่เดลตา ฟอร์ซ ต้องการ
เวลาผ่านไปทุกอย่างดาเนินไปตามกระบวนการ ของมันไม่ว่าแต่ละคนจะมีความรู้สึกนึกคิดเช่นไร นักบิน ทหารเรือเข้ารับการฝึก ๗ นาย แม้ว่าพวกเขาจะมี ความมุ่งมั่นต้ังใจสักเพียงใดก็ตาม แต่ความเคยชิน จากการบิน “เกาะกลุ่ม” ในลักษณะบินตรวจการณ์ เพื่อค้นหา “ทุ่นระเบิด” ในทะเล ซึ่งแตกต่างจากภารกิจ การบนิ ชว่ ยเหลอื ตวั ประกนั ในภารกจิ ครงั้ นี้ ทา ใหผ้ ลการฝกึ ออกมาไม่น่าพอใจนัก
เจ้าหน้าที่ของหน่วยเดลตา ฟอร์ซ ยังพบด้วยว่า นักบินทหารเรือส่วนใหญ่ไม่ชานาญการบินเกาะกลุ่ม “ชิดกัน” ในระดับต่า ซ่ึงเป็น “หัวใจหลัก” ที่ต้องการ เป็นอย่างย่ิงสาหรับภารกิจคร้ังนี้ และที่ยากท่ีสุดก็คือ
นาวิกศาสตร์ 16 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔
นกั บนิ ทหารเรอื จะตอ้ งบนิ เฮลคิ อปเตอรข์ องพวกเขาโดย ปราศจาก “จุดสังเกต” ท่ีอยู่ทางภาคพื้นดิน และจะต้อง นา เครอ่ื งลงจอดยงั จดุ ทกี่ า หนดในเวลากลางคนื อนั มดื มดิ
หลังการฝึกครั้งแล้วครั้งเล่าผ่านไป ผู้เกี่ยวข้องของ หน่วยเดลตา ฟอร์ซ สรุปได้ว่า
นักบินทหารเรือจานวนไม่เกิน ๒ นายเท่านั้นที่ สามารถ “ทาได้” ตามมาตรฐานที่พวกเขาต้องการ แต่นั่นหมายถึงว่าจะต้องใช้เวลาฝึกฝนนักบิน ๒ นาย ทกี่ ลา่ วมาใหม้ ากยง่ิ กวา่ นห้ี ลายเทา่ นอกจากนย้ี งั มนี กั บนิ ทหารเรืออีกนายหน่ึงที่ “ปฏิเสธ” การบินเหนือพื้นท่ีซ่ึง มีการสู้รบ โดยระบุว่าเขาจะบินเฉพาะในภารกิจเหนือ พื้นท่ีซึ่งมี “ความปลอดภัย” สาหรับตนเองอย่างเพียง พอเท่าน้ัน
นกั บนิ ผนู้ นั้ จงึ ถกู “คดั ออก” และถกู กกั บรเิ วณไวใ้ น ฐานทัพ เพื่อป้องกันไม่ให้ความลับรั่วไหล แต่การปฏิบัติ ของพวกเดลตา ฟอร์ซ ซ่ึงมีลักษณะเหยียดหยาม ดูแคลนต่อนักบินทหารเรือผู้นั้น ทาให้เพ่ือนของพวกเขา ไมพ่ อใจ และประทว้ งดว้ ยการขอ “ถอนตวั ” จากภารกจิ เดลตา ฟอร์ซ จึงเหลือนักบินทหารเรือที่ผ่านการฝึก มาตั้งแต่ต้นเพียงนายเดียว ปัญหาข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทาให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายวิ่งวุ่นในการแก้ปัญหา ในที่สุด พลโท “ฟิลิปส์ ชัทเตอร์” นายทหารนาวิกโยธิน ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะเสนาธิการร่วมของกองทัพ สหรัฐอเมริกาได้เสนอทางออกว่า
“พวกเดลตา ฟอร์ซ ควรจะใช้นักบินนาวิกโยธิน ในภารกิจน้ี”เพราะทหารนาวิกโยธินอยู่นอกเหนือจาก กลมุ่ ทมี่ คี วามขดั แยง้ กนั มาตง้ั แตต่ น้ อกี ทงั้ ประวตั กิ ารรบ ท่ีผ่านมานักบินนาวิกโยธินฝีมือดีก็มีอยู่หลายนาย และ บางคนเคยไดร้ บั เหรยี ญกลา้ หาญ “เมดลั ออฟ ออนเนอร”์ (Medal of Honor) มาแล้วด้วยซ้า
ดังนั้น เม่ือได้รับการติดต่อจากหน่วยเดลตา ฟอร์ซ กองทัพนาวิกโยธินจึงส่ง พันเอก “ชัค พิชแมน” เข้าไป ประสานกับหน่วยเดลตา ฟอร์ซ
พันเอก พิชแมน เป็นนักรบเต็มตัว เขาเรียนรู้ ความต้องการของพวกเดลตา ฟอร์ซ ได้อย่างรวดเร็ว เขาเข้าใจภารกิจที่รอคอยอยู่ ขณะเดียวกันพวก เดลตา ฟอร์ซ ก็ประทับใจในความรอบรู้ และการปฏิบัติ


ภารกิจการ “บินรบ” ตลอดจนยุทธวิธีที่พันเอก พิชแมนอธิบายให้ฟัง
ในไม่ช้านักบินนาวิกโยธินกลุ่มหนึ่งก็ถูกส่งตัวไปรับ การฝกึ รว่ มกบั หนว่ ยเดลตา ฟอรซ์ ทฐี่ านทพั ในแอรโิ ซนา ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดี ทั้งที่นักบินนาวิกโยธิน เหลา่ นนั้ ตอ้ งทา การบนิ “เปลยี่ นแบบ” ไปใชเ้ ฮลคิ อปเตอร์ แบบอาร์เอช-53 ดี ซึ่งพวกเขาไม่คุ้นเคยกับมันมาก่อน แต่การฝึกบินในเวลา “กลางคืน” ยังคงเป็นปัญหาหลัก และเป็นการบินที่ยากที่สุด เพราะนักบินจะต้องบังคับ เครื่องลัดเลาะไปตาม “ช่องเขา” ด้วยความเร็วสูง เพื่อเล็ดลอดการตรวจจับของเรดาร์อิหร่าน อุปกรณ์ พิเศษซึ่งเป็นเครื่องช่วยเพียงอย่างเดียวท่ีพวกเขามี ก็คือ “กล้องมองกลางคืน” แต่ในขณะท่ีสวมใส่ นักบินจะไม่สามารถ “อ่านแผนที่” หรือมาตรวัด บนหน้าปัดที่อยู่ในห้องนักบินของตนเองได้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ฝ่ายวางแผนได้เสนอ ใหเ้ พมิ่ “ผชู้ ว่ ยนกั บนิ ” อกี หนงึ่ นาย นอกเหนอื จากนกั บนิ ท่ี ๑ และนักบินที่ ๒ เพ่ือให้ผู้ช่วยนักบินคนดังกล่าว ทา หนา้ ที่ “อา่ นแผนท”ี่ และมาตรวดั และคอยปอ้ นขอ้ มลู ตา่ ง ๆ ใหก้ บั นกั บนิ ทง้ั สอง แต่ พนั เอก เบควทิ ไมเ่ หน็ ดว้ ย
กับแนวคิดน้ัน เขากล่าวว่า
“หากเราเพ่ิมคนขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์ แม้จะ แค่คนเดียว แต่เราก็จะต้องเพ่ิมจานวนเฮลิคอปเตอร์ ในภารกิจท้ังหมด ซ่ึงจะทาให้มีปัญหาตามมาอีก”
แนวคิดในการเพิ่มนักบินผู้ช่วยพิเศษจึงถูกตัด ออกไป แต่เหตุผลเหนืออื่นใดก็คือ หลังจากทบทวนแผน หน่วยเดลตา ฟอร์ซ พบว่าพวกเขาจาเป็นจะต้อง “ปรับ กาลังพล”เพ่ิมเติม ดังน้ัน หากจะมีนักบินเพิ่มมาแม้แต่ เพยี งหนงึ่ นายกจ็ ะ “มากเกนิ ไป” สา หรบั ขดี ความสามารถ ในการบรรทกุ ของเฮลคิ อปเตอร์ ซงึ่ เตม็ พกิ ดั อยแู่ ลว้
ในครั้งแรกเบควิทกาหนดไว้ว่าจานวนกาลังพล ท้ังหมด รวมท้ังนักบินจะอยู่ที่ตัวเลข ๗๒ นาย แต่จาก “ข่าวกรอง” ที่ได้รับในภายหลัง ทาให้ทราบว่าตัว ประกนั ทถี่ กู นกั ศกึ ษาอหิ รา่ นจบั ไวถ้ กู แยกควบคมุ อยตู่ าม อาคารต่าง ๆ ภายในสถานทูต ซึ่งมีเนื้อที่กว้างถึง ๒๗ เอเคอร์ ดังนั้น การจู่โจมจึงต้องปรับกาลังพลให้เพียงพอ ต่อการกระจายของหน่วย เดลตา ฟอร์ซ ออกไปตาม
อาคารตา่ ง ๆ จากจา นวนทกี่ า หนดไวเ้ ดมิ เพยี งแค่ ๗๒ นาย จึงถูกเพ่ิมเป็น ๑๒๐ นาย และปรับเปลี่ยนจาก การจัดแบ่งชุดจู่โจมสองหมวด เป็นการแบ่งกาลังพล ออกเป็น ๓ ทีม คือ ทีมสีแดง ทีมสีน้าเงิน และทีมสีขาว
ตัวประกันคนหนึ่งท่ีนักศึกษาอิหร่านนาออกมาให้นักข่าวได้เห็น
กาลังพลทีมแดง จะบุกช่วยตัวประกันในที่พักด้าน ตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งจะรวมไปถึงอาคารของเจ้าหน้าที่ ระดับสูงประจาสถานทูตกับร้านขายของ พร้อมกันน้ัน จะต้องยึดโรงปั่นไฟขนาดเล็กให้ได้ด้วยเช่นกัน
ส่วนทีมสีน้าเงิน จะทาหน้าที่ช่วยตัวประกัน ในอาคารสองหลังที่อยู่ใกล้กัน โดยอาคารหลังหนึ่งเป็น หอ้ งทดลอง “กสกิ รรม” หรอื หอ้ งมาส รมู สว่ นอกี หลงั หนงึ่ คือตัวท่ีทาการสถานทูต
สาหรับกาลังพลทีมสีขาว เป็นกาลังเพิ่มเติมที่ คดั เลอื กมา ถกู กา หนดใหท้ า หนา้ ทสี่ นบั สนนุ ทมี สแี ดง และ ทมี สนี า้ เงนิ โดยจะทา หนา้ ทปี่ อ้ งกนั ถนนรอบ ๆ สถานทตู
เมื่อการปรับกาลังพล “คงที่” แล้ว ก็เป็นขั้นตอน ของการกาหนดจานวนเฮลิคอปเตอร์ในข้ันแรก ตัวเลขอยู่ที่ ๖ เครื่อง ซ่ึงผู้เกี่ยวข้องพิจารณาแล้ว เห็นว่าเพียงพอต่อการลาเลียงหน่วยเดลตา ฟอร์ซ
นาวิกศาสตร์ 17 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


และตัวประกันท่ีจะได้รับการช่วยเหลือออกมา แต่ใน ภายหลังเมื่อได้พิจารณาถึง “ข้อขัดข้อง” หรือเหตุ ไม่คาดฝันท่ีอาจเกิดขึ้นกับเฮลิคอปเตอร์ ฝ่ายวางแผน จึงขอให้เพิ่มจานวนเฮลิคอปเตอร์ เป็น ๘ เคร่ือง ส่วนเฮลิคอปเตอร์ ติดอาวุธ หรือกันชิป (Gunship) ซึ่งจะทาหน้าท่ีคุ้มกัน ทุกคนเห็นว่าไม่จาเป็น เพราะจุด “เติมน้ามัน” ซ่ึงอยู่ในบริเวณเดทเสิร์ท วัน อยู่กลาง ทะเลทรายอันโดดเดี่ยว ซ่ึงคาดว่าน่าจะปลอดจาก “ภยั คกุ คาม”ทางภาคพน้ื ดนิ ของขา้ ศกึ จงึ ไมม่ คี วามจา เปน็ ท่ีจะต้องใช้เฮลิคอปเตอร์กันชิป (Gunship)
จากข่าวกรองท่ีประเมินได้ อาวุธชนิดเดียวของฝ่าย อิหร่านที่น่าเกรงขามที่สุดก็คือ ปืนต่อสู้อากาศยานแบบ ZSU-23 ผลิตในรัสเซีย ซึ่งมีอัตราการยิงถึง ๖,๐๐๐ นัด ต่อนาที ปืนต่อสู้อากาศยานดังกล่าวมีเส้นผ่าศูนย์กลาง ลากล้อง ๒๓ มิลลิเมตร และเป็นปืนแบบ ๔ ลากล้อง ซึ่งมีอานุภาพร้ายแรง สามารถฉีกเฮลิคอปเตอร์ออกได้ เป็นช้ิน ๆ หากบินเข้าไปอยู่ในวิถีการยิง รวมทั้งสามารถ ปรับมุมยิงเป็นอาวุธ “วิถีราบ” ซึ่งเป็นอันตรายต่อ หน่วยเดลตา ฟอร์ซ เช่นกัน
ระบบอาวุธต่อสู้อากาศยานชนิดนี้ถูกติดต้ังอยู่บน “ยานเกราะเบา” และควบคุมการยิงด้วยเรดาร์ ฝ่าย อิหร่านสามารถเคล่ือนย้ายตาบลที่หรือซ่อนพราง ยานเกราะติดปืนฯ ได้ตลอดเวลา มันจึงเป็นอาวุธท่ีมี อันตราย “มากที่สุด”
หนทางเดียวที่จะทาลายเขี้ยวเล็บของข้าศึกได้ก็คือ การใชเ้ ครอื่ งบนิ เอซ-ี 130 หรอื “สปกุ ก”ี (AC-130 Spooky) ซึ่งเป็นเครื่องบินติดอาวุธ ทาหน้าที่สนับสนุน และคุ้มกัน
ฝ่ายวางแผนได้กาหนดจานวนเคร่ืองบินสปุกกีไว้ ๒ เคร่ือง โดยเคร่ืองแรกจะทาหน้าท่ีคุ้มกันการบุก ด้วยการบินวนอยู่เหนือสถานทูต ส่วนเคร่ืองท่ีสอง จะบนิ อยเู่ หนอื สนามบนิ แหง่ ชาตขิ องอหิ รา่ น เตรยี มพรอ้ ม สาหรับการโจมตีในทันทีท่ีปืนต่อสู้อากาศยานของข้าศึก เปิดเผยที่ต้ัง
อยา่ งไรกต็ าม สงิ่ ทไี่ มอ่ าจมองขา้ มไดก้ ค็ อื สนามบนิ ของอหิ รา่ นมเี ครอื่ งบนิ เอฟ-4 “แฟนธอม” (F-4 Phantom) ประจาอยู่ และ “แฟนธอม” ก็มีความคล่องตัวเหนือกว่า และมี “เขี้ยวเล็บ” อันตรายท่ีจะสามารถจัดการกับ
นาวิกศาสตร์ 18 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔
เอซี-130 ได้ไม่ยาก แต่ข้อจากัดท่ีสาคัญท่ีสุดก็คือ การใช้ เอซี-130 ยิงสนับสนุนทางภาคพ้ืนดินอาจมีอันตราย จาก “ลูกหลง” ที่พลาดไปโดนฝ่ายเดียวกันได้ หาก สถานการณ์สับสน ซ่ึงนั่นเป็นเหตุผลใหญ่ที่ฝ่ายวางแผน ไม่ต้องการให้มีเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธร่วมปฏิบัติการ ด้วยตั้งแต่ต้น
สัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม ๒๕๒๓ แผนการ “อีเกิล คลอว์” (Eagle Claw) ใกล้เสร็จสมบูรณ์ การฝึก นกั บนิ ในความควบคมุ ของหนว่ ยเดลตาฟอรซ์ เปน็ ไปดว้ ยดี แต่ทั้งหมดนั่นก็ยังไม่ทาให้เกิดความม่ันใจเท่ากับการที่ ฝ่ายสหรัฐอเมริกาสามารถวางเครือข่าย “จารกรรม” ใน อิหร่านได้สาเร็จ
ในเตหะรานมสี ายลบั ชาวอหิ รา่ น๑คนคอยรายงาน ความเคลื่อนไหวท่ีเกิดขึ้นในสถานทูตชนิดวันต่อวัน การรายงานดังกล่าวนับเป็น “หัวใจสาคัญ” ของ การตดั สนิ ใจในหอ้ งบรรยายสรปุ ซงึ่ อยไู่ กลในอกี ซกี โลกหนง่ึ โดยหลักการจารกรรม การที่มีสายลับคอยสืบข่าว ภายในใจกลางเป้าหมายแม้จะเพียง “คนเดียว” จะมีค่ามากกว่าการใช้คนสืบข่าวภายนอกนับร้อย และที่ วิเศษที่สุดก็คือ สายลับซึ่งทางานให้กับสหรัฐอเมริกาผู้นี้ มคี วามสามารถพเิ ศษในการสรา้ งขา่ ยงานจารกรรมของตน เพิ่มเติมได้อย่างกว้างขวาง
ในสปั ดาหส์ ดุ ทา้ ยของเดอื นมนี าคมหนว่ ยเดลตาฟอรซ์ ได้รับข่าวที่น่ายินดีว่า ผลการตรวจสอบสภาพพื้นผิวท่ี เดทเสิร์ท วัน (Desert One) ได้รับการยืนยันแล้วว่า สามารถรองรับ “น้าหนัก” อันมหาศาลของเครื่องบิน เอซี-130 ได้ เดทเสิร์ท วัน จึงเหมาะสมกับการเลือกใช้ เป็นพื้นท่ี “เติมน้ามัน” ให้กับเฮลิคอปเตอร์เบื้องหลัง ข่าวนั้นได้มาจาก “ทีมทดสอบ” ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งไปถึงที่นั่นด้วยเครื่องบินท่ีใช้ทางว่ิงข้ึนลง ระยะสั้น ทีมทดสอบออกเดินทางจากอียิปต์ อย่างลับ ๆ บนเคร่ืองมีนักบิน ๒ นาย และทหารอากาศ ยศนาวาอากาศตรี อีก ๑ นาย
ทีมสารวจมีภารกิจในการนาตัวอย่างหิน และ ดินทรายบริเวณเดทเสิร์ท วัน กลับมายังสหรัฐอเมริกา รวมทั้งต้องทาหน้าท่ีบันทึกภาพบริเวณโดยรอบ เพื่อให้แน่ใจว่ามีความเหมาะสมสาหรับการที่


เคร่ืองบินขนาดใหญ่จะร่อนลงจอด นอกจากนี้ พวกเขายังตระเวนออกไปสังเกตความหนาแน่น ของการจราจรบนถนนในบริเวณใกล้เคียงระหว่างที่ ทา การสา รวจ พวกเขาพบรถยนตห์ ลายคนั แตก่ ไ็ มใ่ ชส่ ง่ิ ที่ น่ากังวล เพราะในอิหร่านมักมีการสารวจทางภูมิศาสตร์ เกิดข้ึนอยู่เสมอ
นอกจากการเก็บตัวอย่างหิน และดินทรายเพื่อมา วิเคราะห์แล้ว ทีมสารวจยังมีภารกิจอีกอย่างหน่ึงท่ีต้อง กระทาก็คือ การเตรียม “ดวงไฟ” สาหรับส่องทางให้กับ เครอื่ งบนิ โดยกอ่ นออกเดนิ ทางจากอยี ปิ ต์พวกเขาไดน้ า ดวงไฟจานวนมากขึ้นเคร่ืองไปด้วย
เมื่อไปถึงบริเวณเดทเสิร์ท วัน พวกเขาได้เลือก “จดุ ลงจอด” ทเี่ หมาะสมสา หรบั เครอื่ งบนิ ซ-ี 130 จากนนั้ ก็จะทาเครื่องหมายสาหรับ “ทางว่ิง” ด้วยการ วางดวงไฟเหล่านั้นเป็นระยะ ๆ ในการใช้งานจริง ดวงไฟดังกล่าวจะทางานด้วย“รีโมทคอนโทรล” จ า ก เ ค ร อื ่ ง บ นิ ซ -ี 1 3 0 เ ม อื ่ น กั บ นิ น า เ ค ร อื ่ ง เ ข า้ ไ ป อ ย ใ่ ู น ร ะ ย ะ ไม่เกิน ๓ ไมล์ ภารกิจในการติดต้ังดวงไฟบนทะเลทราย เปน็ ไปอยา่ งสมบรู ณ์ ทา ใหฝ้ า่ ยวางแผนมคี วามมนั่ ใจมาก ขน้ึ วา่ ปญั หาการเตมิ นา้ มนั ใหก้ บั เฮลคิ อปเตอรไ์ มใ่ ชเ่ รอื่ ง ที่น่าหนักใจอีกแล้ว
นอกจากนี้ยังมีการปรับแผน “ข้ันสุดท้าย” เพ่ือให้ ปฏิบัติการเป็นไปอย่างสมบูรณ์ยิ่งข้ึน โดยการเดินทาง ของหน่วยเดลตา ฟอร์ซ ซ่ึงแต่เดิมกาหนดไว้ว่าจะ ลาเลยีงโดยเฮลคิอปเตอรจ์ากเรอืบรรทกุเครอ่ืงบนินมิติซ์ (NimitzCarrier)กจ็ ะเปลยี่ นเปน็ เดนิ ทางไปกบั เครอ่ื งบนิ อีซี-130 ลาท่ีจะไปส่งน้ามันบริเวณเดทเสิร์ท วัน
สาหรับปัญหาในการเคลื่อนย้ายกาลังพลจาก เดทเสิร์ท วัน ไปยังสถานทูตซ่ึงเป็นบริเวณเป้าหมาย “สายลับ” ท่ีทางานให้กับสหรัฐอเมริกาในกรุงเตหะราน จะเป็นผู้แก้ปัญหาน้ี ด้วยการจัดเตรียมพาหนะซ่ึงอาจ เป็นรถกระบะหรือรถบรรทุกเข้าไปรับหน่วยจู่โจมท่ีจุด “เดลตา ฮายด์ไซร์ท” (Delta Hidesight) เพื่อเดินทาง ไปยังสถานทูตต่อไป
เมอื่ ถงึ ตอนนี้ ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งถอื วา่ “พรอ้ มสมบรู ณ”์
เป็นรูปเป็นร่างหมดแล้ว ส่ิงเดียวท่ีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด รอคอยกค็ อื “คา อนมุ ตั ”ิ จากประธานาธบิ ดจี มิ มี คารเ์ ตอร์ ซึ่งจะเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่า ปฏิบัติการครั้งสาคัญ ท่ีสุดในประวัติศาสตร์ของกองทัพสหรัฐอเมริกาจะ อุบัติข้ึนหรือไม่
และต่อไปน้ีคือ “ข้อความ” บางตอนจากรายงาน ของฝ่ายทหารที่เสนอตรงต่อประธานาธิบดี
“ปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันชาวอเมริกันท่ีถูก คุมขังอยู่ในสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจากรุงเตหะราน มีชื่อว่ารหัสว่า อีเกิล คลอว์ ทั้งน้ีกองกาลังจู่โจม ๓ ทีม จะออกเดินทางด้วยเคร่ืองบินซี-130 พร้อมกับเคร่ืองบิน ลาเลียงน้ามันอีซี-130 อีก ๓ เครื่อง”
เครอ่ื งบนิ ทงั้ หมดจะขน้ึ จากฐานบนิ ทเ่ี กาะ “มาสริ าห”์ (Masirah) นอกฝั่งโอมานมุ่งสู่พื้นท่ีซ่ึงมีช่ือรหัสว่า เดทเสริ ท์ วนั ในเขตทะเลทรายของอหิ รา่ น เมอ่ื เครอื่ งบนิ ลาเลียงไปถึงท่ีหมาย นักบินจะนาเครื่องลงจอด และรอใหเ้ ฮลคิ อปเตอรแ์ บบอารเ์ อช-35 จา นวน ๘ เครอื่ ง จากเรือบรรทุกเคร่ืองบินนิมิตซ์ ซ่ึงลอยลาอยู่ใน อ่าวโอมานบินเข้าไปยังจุดนัดพบ
หมู่บินเฮลิคอปเตอร์จะแบ่งกาลังเป็น ๔ หมู่ ๆ ละ ๒ เครื่อง โดยเคร่ืองแรกจะไปถึงที่หมายภายใน ๓๐ นาที หลังจากเคร่ืองบินซี-130 เครื่องสุดท้ายลงจอด ท่ีเดทเสิร์ท วัน เรียบร้อย เมื่อเฮลิคอปเตอร์ไปถึง นักบิน จะรับน้ามันจากเครื่องบินอีซี-130 และทีมปฏิบัติการ จากหน่วยเดลตาฟอร์ซ๑๑๘นายที่รอคอยกับเคร่ือง บนิ ซ-ี 130 จะแบง่ กา ลงั กนั ขนึ้ ไปบนเฮลคิ อปเตอรแ์ ตล่ ะลา
จุดสาคัญของปฏิบัติการในขั้นตอนนี้ก็คือ จะต้องมี เฮลิคอปเตอร์ อาร์เอช-53 ดี ไม่น้อยกว่า ๖ เครื่อง เพื่อนาทีมหน่วยเดลตา ฟอร์ซ ไปยังตาบลท่ีซ่ึง มีช่ือรหัสว่า “เดลตา ฮายด์ไซร์ท” (Delta Hidesight) อยู่ในพิกัด ๓๕ องศา ๑๔ ลิบดาเหนือ ๕๒ องศา ๑๕ ลิบดาตะวันออก
สว่ นเครอื่ งบนิ ซ-ี 130 ทงั้ ๔ เครอ่ื ง เมอื่ เตมิ นา้ มนั ใหก้ บั เฮลิคอปเตอร์ และส่งทหารเดลตา ฟอร์ซ ลงหมดแล้ว ก็จะบินกลับฐานบินที่มาสิราห์ สาหรับเฮลิคอปเตอร์
นาวิกศาสตร์ 19 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


ซงึ่ ลา เลยี งหนว่ ยเดลตา ฟอรซ์ ไปยงั “เดลตา ฮายดไ์ ซรท์ ” หลังจากปล่อยผู้โดยสารลงจากเครื่องแล้ว จะบิน ไปหลบพักเพื่อซ่อนพรางตนเองในบริเวณท่ีห่างจาก เดลตา ฮายด์ไซร์ท ไปทางเหนือประมาณ ๕๐ ไมล์
ขั้นตอนท้ังหมดที่กล่าวมาจะต้องเสร็จเรียบร้อย ก่อนค่า และหน่วยเดลตา ฟอร์ซ จะเร่ิมปฏิบัติการจู่โจม ในทันทีที่ส้ินแสงอาทิตย์
“เดลตา ฮายด์ไซร์ท” อยู่ห่างจากกรุงเตหะราน ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ๖๕ ไมล์ กาลังพลท้ังหมดจะ รอคอย “สายลับ” ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา ซึ่งจะเป็นผู้นารถยนต์ไปท่ีนั่น ๒ คัน โดยเป็นรถกระบะ ดัทสัน และรถบัสย่ีห้อ “โฟล์คสวาเกน” พาหนะทั้ง สองคันดังกล่าวจะนา “พลขับ” และ “ล่าม” ของ หน่วยเดลตา ฟอร์ซ จานวนรวมกันทั้งสิ้น ๑๒ นาย พร้อมด้วย พันเอก เบควิท ซ่ึงเป็นผู้ควบคุมภารกิจ เดินทางไปยังบริเวณที่ซ่อนรถบรรทุก “เมอร์ซิเดส” อีก ๖ คัน ที่จอดรออยู่ในโรงนาแห่งหน่ึง จากนั้น
แผนผังเส้นทางการจู่โจมจากเรือบรรทุกเครื่องบิน นิมิตซ์
นาวิกศาสตร์ 20 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔
ทั้งหมดจะนารถบรรทุกกลับไปยังเดลตา ฮายด์ไซร์ท เพื่อใช้เป็นพาหนะในการลาเลียงกาลังพลที่เหลือ ในขณะที่ พันเอก เบควิท จะเดินทางต่อไปกับรถ สองคันแรก เพื่อตรวจสอบสถานการณ์ครั้งสุดท้าย รอบสถานทูต ก่อนจะกลับไปยังจุดรวมพลอีกครั้ง
เมื่อถึงเวลาสองทุ่มคร่ึง หน่วยเดลตา ฟอร์ซ จะกระจายกาลังกันข้ึนรถบรรทุก โดยแบ่งออกเป็น สามกลุ่ม คือ ทีมสีแดง ทีมสีขาว และทีมสีน้าเงิน ถึงแม้ว่าแต่ละทีมจะถูกกาหนดหน้าที่แตกต่างกัน แตใ่ นการเดนิ ทางรถบรรทกุ ทงั้ หมดจะออกจากจดุ เดลตา ฮายด์ไซร์ท พร้อม ๆ กัน มุ่งหน้าสู่ทิศเหนือไปตามถนน “ดาร์มาแวน” (Darmawan) ผ่านจุดตรวจสองแห่งที่ “อีแวนเนกี” และ “เชอร์ลีฟาแบด”
หากมีเจ้าหน้าที่ของอิรักตรวจพบการเข้ามาของ กองกาลังชุดนี้ หน่วยเดลตา ฟอร์ซ ที่อยู่บนรถบรรทุก จะต้องรีบจับกุมฝ่ายตรงข้ามเป็นเชลยทันที การเดินทาง ในช่วงต่อไปสามารถใช้วิธีการอื่นได้ตามความเหมาะสม โดยขึ้นอยู่กับข้อมูล “สถานการณ์” ครั้งสุดท้าย จากการลาดตระเวนของพันเอก เบควิท และสายลับ การจัดรูปขบวนเดินทางจะใช้รถ ๑ คัน ทาหน้าที่เป็น “ส่วนล่วงหน้า” เพื่อตรวจการณ์ และคอยรายงาน ความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้าม หากมีสิ่งผิดปกติ เกิดขึ้น
ระหว่างเวลาห้าทุ่มถึงเที่ยงคืน หน่วยเดลตา ฟอร์ซ จะจัดกาลังพลเป็นทีมเล็ก ๆ และใช้รถกระบะดัทสัน เป็นพาหนะเข้าไปจัดการกับ “ยาม” ที่หน้าประตูใหญ่ บรเิ วณสถานทตู และในถนน “รเู ซเวส” ดว้ ยปนื เกบ็ เสยี ง เมอื่ กา จดั ยามไดแ้ ลว้ ทมี สแี ดง ทมี สขี าว และทมี สนี า้ เงนิ จะมุ่งตรงไปยังสถานทูต โดยใช้รถบรรทุกเป็นพาหนะ วิ่งขนานในลักษณะสองแถว เมื่อถึงถนนข้างสถานทูต พลขับจะนารถเข้าเทียบ และส่งทีมเดลตา ฟอร์ซ ปีนข้ามกาแพงโดยใช้บันได ทีมเดลตา ฟอร์ซ ทีมสีแดง ซึ่งมีกาลังพล ๔๐ นาย จะยึดพื้นที่ด้านตะวันตก ก่อนจะเข้าช่วยเหลือตัวประกันในอาคารที่พัก และ ร้านขายของ จากนั้นจะถอนตัวไปยังโรงปั่นไฟฟ้า


ทีมเดลตา ฟอร์ซ ทีมสีน้าเงิน มีกาลังพล ๔๐ นาย จะยึดพื้นที่ด้านตะวันออก และช่วยตัวประกันในอาคาร ที่ทาการสถานทูต รวมท้ังตัวประกันที่อยู่ในโรงเรือน ทดลอง “มาส รูม”
สาหรับทีมเดลตา ฟอร์ซ ทีมสีขาว ซ่ึงมีกาลังพล น้อยที่สุดเพียง ๑๓ นาย จะช่วยเหลือตัวประกันที่สาคัญ และยดึ ถนนรเูซเวสไว้พรอ้ มกบั วางแนวปอ้ งกนั เพอื่ คมุ้ กนั การถอนกาลังของทีมสีแดง และทีมสีน้าเงิน โดย ทีมเดลตา ฟอร์ซ ทีมสีขาว จะมีปืนกลหนักอยู่ในทีม ๒ กระบอก
สาหรับการสนับสนุนทางอากาศ จะมีเคร่ืองบิน เอซี-130 “สปุกกี” ติดอาวุธสองเครื่อง บินวนอยู่ เหนือเมืองเตหะราน
“สปุกกี” จะทาหน้าที่ป้องกันการเสริมกาลัง ของฝ่ายอิหร่าน และป้องกันไม่ให้เครื่องบินขับไล่ของ กองทัพอากาศอิหร่านขึ้นจากสนามบินได้ เนื่องจาก เคร่ืองบินขับไล่ ถือเป็น “ภัยคุกคาม” ต่อเฮลิคอปเตอร์ ของฝ่ายสหรัฐอเมริกาท่ีจอดอยู่ในตาแหน่งซ่อนพราง กลางทะเลทราย
สัญญาณการจู่โจมพร้อม ๆ กันคือ “เสียงระเบิด” บรเิ วณกา แพงสถานทตู โดยทมี แดงจะเปน็ ผใู้ ชร้ ะเบดิ นนั้ คาดว่าการระเบิดจะรุนแรงมาก และจะทาให้หน่วย รักษาความปลอดภัยของฝ่ายอิหร่าน “ตื่นตัว” ในทันที แต่หน่วยเดลตา ฟอร์ซ จะ “กาจัด” ทุกคนท่ีขัดขวาง
เม่ือช่วยเหลือตัวประกันได้แล้ว ทีมเดลตา ฟอร์ซ จะนาทุกคนไปรวมตัวกันในสนามหญ้า เพ่ือรอให้ เฮลิคอปเตอร์บินเข้ามารับ
กอ่ นหนา้ นนั้ เฮลคิ อปเตอร์ อารเ์ อช-53 ดี จะบนิ วน รออยู่ทางทิศเหนือของกรุงเตหะราน และจะเปลี่ยนเข็ม เขา้ ไปยงั ทห่ี มายกต็ อ่ เมอื่ นายทหารปฏบิ ตั กิ ารทางอากาศ ของทีมเดลตา ฟอร์ซ แจ้งให้ทราบ
ในบรเิ วณสถานทตู จะมี “เสาสงู ” ตงั้ อยจู่ า นวนมาก เพ่ือป้องกันการบินเข้าไปของเฮลิคอปเตอร์ หากหน่วย เดลตา ฟอร์ซ ไม่สามารถทาลายสิ่งกีดขวางเหล่านั้นได้ การปฏบิ ตั จิ ะเปลยี่ นไปเปน็ การนา ตวั ประกนั เคลอ่ื นยา้ ย
ออกไปยังสนามฟุตบอลท่ีอยู่ใกล้เคียงกัน หากมีคนป่วย หรอื ผไู้ ดร้ บั บาดเจบ็ หมอประจา ทมี เดลตา ฟอรซ์ จะเปน็ ผู้ดูแลให้ความช่วยเหลือข้ันต้น
คาดว่าปฏิบัติการนี้จะใช้เวลาท้ังสิ้นหนึ่งชั่วโมง เวลาส่วนใหญ่จะใช้ในการ “ตรวจค้น” ตามอาคาร ทุกหลัง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีตัวประกันชาวอเมริกัน ติดค้างหลงเหลืออยู่
ขณะท่ีหน่วยเดลตา ฟอร์ซ จู่โจมเข้าไปยังสถานทูต หน่วยรบพิเศษ “เรนเจอร์” (Ranger) อีกทีมหนึ่งจะบุก เข้ายึดสนามบินเมห์ราบัด (Mehrabad Airport) เพ่ือ เตรยี มใชเ้ ปน็ ทอี่ พยพสา หรบั หนว่ ยเดลตา ฟอรซ์ และตวั ประกนั จากเตหะรานทอี่ ยหู่ า่ งจากสนามบนิ ไปทางเหนอื ประมาณ ๓๕ ไมล์
เมื่อทุกฝ่ายพร้อม และสนามบิน เมห์ราบัด อยู่ใน ความควบคุม เคร่ืองบินซี-141 สตาร์ลิฟเตอร์ (C-141 Starlifter) จะบินลงมารับฝ่ายอเมริกาท้ังหมด ได้แก่ ตัวประกัน ทีมเดลตา ฟอร์ซ พลขับ สายลับ นักบินเฮลิคอปเตอร์ และล่าม สาหรับหน่วยเรนเจอร์ จะถอนตัวเมื่อเครื่องบินสตาร์ลิฟเตอร์บินกลับไปแล้ว โดยใช้เครื่องบินอีกลาหนึ่งเป็นพาหนะ การอพยพ จากสถานทูตไปยังสนามบิน หากมีเฮลิคอปเตอร์ ได้รับความเสียหาย จะใช้เฮลิคอปเตอร์ท่ีอยู่ใน ขบวนเดียวกันทดแทน แต่ถ้าไม่สามารถกระทา การเคลื่อนย้ายด้วยเฮลิคอปเตอร์ได้ตามแผน หน่วย เดลตา ฟอรซ์ จะใช้พาหนะเท่าท่ีมีหนีไปทางทิศตะวันตก เฉียงเหนือมุ่งสู่ชายแดน “ตุรกี”
ท้ังหมดน้ีคือ รายละเอียดของปฏิบัติการ
“อเีกลิคลอว”์!
(ตดิ ตามตอ่ ฉบบั หนา้ )
นาวิกศาสตร์ 21 ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงกลาโหม และเจ้าหน้าที่ทาเนียบขาวต่างรู้สึกประทับใจในการ บรรยายสรุปแผนการบุกชิงตัวประกันในเตหะรานของ “เดลตา ฟอรซ์ ” อยา่ งมาก พวกเขาสนบั สนนุ อยา่ งเตม็ ที่ ใหป้ ระธานาธบิ ดคี ารเ์ ตอร์ ผมู้ อี า นาจสงู สดุ ในทา เนยี บขาว “อนมุ ตั ”ิ ปฏบิ ตั กิ ารดงั กลา่ ว ชนดิ ทไี่ มม่ ใี ครยกมอื คดั คา้ น แม้แต่คนเดียว
สาหรับผู้นาของสหรัฐอเมริกาซึ่งมีการเลือกตั้ง ประธานาธบิ ดสี มยั ทส่ี องเปน็ เดมิ พนั คารเ์ ตอรต์ อ้ งใชเ้ วลา และความคดิ อยา่ งหนกั หนว่ งกวา่ ทจี่ ะใหค้ วามเหน็ ชอบได้ เขาบอกกบั ตวั เองวา่ อเมรกิ นั ไดพ้ ยายามทา ทกุ วถิ ที างแลว้ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจา การกดดัน หรือเรียกร้องผ่าน “สหประชาชาต”ิ แตท่ งั้ หมดทกี่ ลา่ วมา กไ็ รผ้ ล ทา ใหก้ ารใช้ “กาลังทางทหาร” เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป
ในความคิดของคาร์เตอร์ ปฏิบัติการเพ่ือช่วยเหลือ ตัวประกันในอิหร่านจะต้องเป็นปฏิบัติการที่ “รวดเร็ว” เดด็ ขาด และไมก่ อ่ ใหเ้ กดิ การสญู เสยี ชวี ติ ของชาวอเมรกิ นั แม้แต่คนเดียว “อีเกิล คลอว์” จึงเป็นสิ่งท่ี “ดีท่ีสุด” สาหรับการตอบสนองความมุ่งหมายดังกล่าว
แมจ้ ะมอี ตั ราความลม้ เหลวคอ่ นขา้ งสงู และเปน็ การ “เสยี่ ง” อยา่ งมหนั ต์ แต่ “อเี กลิ คลอว”์ กเ็ ปน็ “ไพใ่ บเดยี ว” ท่ีผู้นาสหรัฐอเมริกามีอยู่ในมือ
วันท่ี ๑๖ เมษายน ประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ เรียกตัวผู้บังคับบัญชาท่ีรับผิดชอบเก่ียวข้องกับภารกิจน้ี เข้าพบที่ทาเนียบขาว หลายคนรู้สึกได้ในทันทีว่ามันจะ ตอ้ งไมใ่ ชก่ ารหารอื ตามปกตธิ รรมดาอยา่ งแนน่ อน เพราะ ตลอดระยะเวลา ๕ เดือนที่ผ่านมา มีการประชุมนับครั้ง ไมถ่ ว้ น ระหวา่ งเจา้ หนา้ ทรี่ ะดบั สงู ของกระทรวงกลาโหม คณะเสนาธิการร่วม และผู้บังคับบัญชาของหน่วย “เดลตา ฟอร์ซ” ซึ่งดูเหมือนว่าสิ่งท่ีพวกเขาถกแถลงกัน ไม่มีวันที่จะได้ข้อยุติ
แต่คราวนี้มันเป็นการประชุมระหว่างทาเนียบขาว สภาความมนั่ คงแหง่ ชาติ และหนว่ ย “เดลตา ฟอรซ์ ” จงึ มี ความเปน็ ไปไดอ้ ยา่ งยงิ่ วา่ “คา สงั่ อนมุ ตั ”ิ แผนกา ลงั จะถกู ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการ
ในวนั นน้ั พนั เอก เบควทิ ผกู้ อ่ ตงั้ หนว่ ยเดลตา ฟอรซ์ เดินทางไปร่วมประชุมพร้อมผู้บังคับบัญชาของเขาคือ นายพล โวจ์ท และนายพล กัซ เม่ือประธานาธิบดี จิมมี คาร์เตอร์ พร้อมด้วยรองประธานาธิบดี มอนเดล ก้าวเข้ามาในห้อง การประชุมนัดประวัติศาสตร์ ก็เริ่มต้นข้ึน
เจ้าหน้าท่ีฝ่ายทหารผลัดกันอธิบายรายละเอียด ของปฏบิ ตั กิ าร “อเี กลิ คลอว”์ (Eagle Claw) เหมอื นทเี่ คย บรรยายให้คณะเสนาธิการร่วมและประธานาธิบดี
นาวิกศาสตร์ 27 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕


ได้ฟังมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งทุกคนที่อยู่ในห้องประชุม พึงพอใจกับสิ่งที่ได้ยินเช่นเดียวกับคร้ังท่ีแล้ว
หลังการบรรยายสรุปจบลงมีคาถามหลาย ประการที่ผู้เก่ียวข้องต้องให้คาอธิบายซ้า แต่มีคาถามอยู่ ข้อหนึ่งซ่ึงเมื่อได้ฟังคาตอบแล้ว ทุกคนที่ได้ยินต่างตกใจ ซ่ึงคาถามนั้นก็คือ
หนว่ ย “เดลตา ฟอรซ์ ” จะตอ้ งสงั หารยามชาวอหิ รา่ น ท่ีเฝ้าสถานทูตใช่หรือไม่ ?
คา ตอบกค็ อื “ใช”่ เพราะทกุ คนรอู้ ยแู่ กใ่ จวา่ หากไม่ เริ่มต้นด้วยการฆ่ายามรักษาการณ์ ปฏิบัติการนี้ไม่มีทาง สาเร็จได้เลย และอีกคาถามหน่ึงที่น่าสนใจก็คือ
หากเจ้าหน้าที่ของอิหร่านซ่ึงควบคุมตัวประกัน แตง่ ตวั เหมอื น “ชาวตะวนั ตก” หนว่ ย “เดลตา ฟอรซ์ ” จะรู้ ไดอ้ ยา่ งไรวา่ บคุ คลผนู้ นั้ ไมไ่ ดเ้ ปน็ ตวั ประกนั ชาวอเมรกิ นั ?
คาตอบก็คือ ใครก็ตามที่มี “ปืน” “เดลตา ฟอร์ซ” จะถือว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามที่จะต้องถูกกาจัดให้เร็วที่สุด
ปัญหาอีกประการหนึ่งก็คือในจานวนตัวประกัน อาจจะมีผู้ที่เป็นทหารหรือคนที่เคยเกี่ยวข้องกับหน่วย ทหารรวมอยู่ด้วย บุคคลเหล่านี้จะแสดงออกในทันที ด้วยสัญชาตญาณ เมื่อรู้ว่ามีกาลังของฝ่ายเดียวกัน บุกเข้ามาช่วย เขาอาจจะพยายาม “แย่งอาวุธ” จากผู้ควบคุมตัวประกัน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นหน่วยจู่โจม จะตึงเครียดมาก เพราะในหลักปฏิบัติกาหนดไว้ว่าใคร ก็ตามที่ “ถือปืน” อยู่ในมือจะต้องถูกยิงในทันที
หลังจากทุกคนหมดข้อซักถามแล้ว ก็ถึงคราวของ ประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ผู้นาของสหรัฐอเมริกา ยงิ คา ถามอยา่ งตรงไปตรงมาวา่ “จะมกี ารบาดเจบ็ ลม้ ตาย มากน้อยแค่ไหน ?”
นายพล โวจ์ท ผู้รับผิดชอบหน่วย “เดลตา ฟอร์ซ” ตอบว่า
“กระผมไมส่ ามารถระบไุ ดแ้ นช่ ดั แตค่ าดวา่ หนว่ ยเดลตา นา่ จะเสยี ชวี ติ ประมาณ ๗ นาย ตวั ประกนั ประมาณ ๓ นาย และฝ่ายเราจะมีเครื่องบินขับไล่จากสนามบินเมห์ราบัด (Mehrabad Airport) คอยคุ้มกันตลอดการเดินทาง เมื่อพวกเดลตา และตัวประกันถอนตัวออกจากอิหร่าน”
นาวิกศาสตร์ 28 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕
แล้วก็มาถึงคาถามสุดท้ายจากผู้แทนของ ฝา่ ยทหารซงึ่ กลา่ วกบั ผนู้ า ของพวกเขาอยา่ งระมดั ระวงั วา่ “ท่านประธานาธิบดีครับ ท่านจะตัดสินใจส่ังการ
อย่างไร ?
ผู้นาของสหรัฐอเมริกาน่ิงไปช่ัวครู่ ก่อนจะตอบ อย่างสุขุมว่า
“ถึงเวลาแล้วท่ีผมจะต้องตัดสินใจ แม้ว่าในส่วนลึก แลว้ ผมจะไมอ่ ยากใหม้ ปี ฏบิ ตั กิ ารนี้ แตเ่ รากไ็ มม่ ที างเลอื ก เป็นอ่ืน เหตุผลเดียวที่ผมจะระงับ “อีเกิล คลอว์” ของ พวกคณุ กค็ อื การยน่ื มอื เขา้ มาชว่ ยเหลอื ของกาชาดสากล ทาให้ตัวประกันในอิหร่านได้รับการปลดปล่อย
“แต่เมื่อสิ่งเหล่านี้ไม่เกิดขึ้น ผมจึงขอประกาศว่า ปฏิบัติการ “อีเกิล คลอว์” ได้รับการอนุมัติ !”
จิมมิ คาร์เตอร์ ประธานาธิบดีผู้อนุมัติปฏิบัติการ “อีเกิล คลอว์”
กาหนดปฏิบัติการคร้ังสาคัญท่ีสุดในประวัติศาสตร์ จะเร่ิมในวันท่ี ๒๔ เมษายน โดยกองกาลังเดลตา จะเดินทางเข้าสู่อิหร่านเป็นลาดับแรก หลังจากนั้นใน วนั ท่ี ๒๕ เมษายน หนว่ ยเดลตาจะพกั กา ลงั ในเวลากลางวนั เพอื่ รอเวลาทจี่ ะปฏบิ ตั กิ ารในขน้ั ตอนตอ่ ไปเมอ่ื ถงึ ตอนคา่ ซึ่งหากทุกอย่างเรียบร้อยพวกเขาจะ “ถอนตัว” ออกจากอิหร่านพร้อมด้วยตัวประกันในชั่วโมงต้น ๆ ของวันที่ ๒๖ เมษายน


แผนผังแสดงรูปขบวนบินของเฮอร์คิวลิส ๔ ลา ซี สตัลเลียน ๖ ลา ในการมุ่งสู่ทะเลทรายอิหร่าน
ส่ิงหนึ่งที่จะแตกต่างจากการปฏิบัติภารกิจอื่น ๆ ก็คือ ผู้นาสหรัฐอเมริกาได้สั่งให้มีการจัดตั้งระบบ การรายงานสถานการณท์ ่ี “สนั้ ทสี่ ดุ ” โดยใหผ้ รู้ บั ผดิ ชอบ รายงานข้อมูลโดยตรงต่อประธานาธิบดี และรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงกลาโหมเพียงสองคนเท่าน้ัน
ในท้ายท่ีสุด ก่อนที่ทุกคนจะออกจากห้องประชุม ผู้นาของสหรัฐอเมริกาได้เรียกพันเอก “เบควิท” ผกู้ อ่ ตงั้ หนว่ ย “เดลตา ฟอร์ซ” เข้าไปพบ แล้วกล่าวว่า
“ผู้การ ส่ิงสาคัญที่ผมอยากจะขอร้องคุณมี สองประการคือ
“ก่อนออกเดินทาง ขอให้แจ้งกับลูกทีมท้ังหมดว่า หากปฏบิ ตั กิ ารครงั้ นล้ี ม้ เหลว ไมว่ า่ จะดว้ ยสาเหตใุ ดกต็ าม มันจะไม่ใช่ความผิดพลาดของทุกคน แต่ผมในฐานะ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาจะเป็นผู้แบกรับไว้เอง
“ประการที่สอง หากมีผู้เสียชีวิต ไม่ว่าจะเป็น ตัวประกัน หรือกาลังพลของหน่วยเดลตา หากไม่เป็น อันตรายต่อคนอ่ืนแล้ว ขอให้พยายามนาศพคนเหล่านั้น กลับมาให้ได้”
พันเอก เบควิท ยืนตัวแข็งขณะท่ีรับปากกับ ประธานาธิบดีด้วยความรู้สึกอันยากท่ีจะบรรยาย เมื่อเขาออกจากทาเนียบขาวในวันน้ัน เบควิทบอกกับ ตนเองว่าไม่ว่าจะประสบชัยชนะ หรือพ่ายแพ้ในภารกิจ อันตรายสุดยอดคร้ังนี้
นามของเขา และลูกทีม “เดลตา ฟอร์ซ” ทุกนาย จะปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์ของกองทัพสหรัฐอเมริกา ช่ัวนิรันดร์
ในตอนนน้ั ยงั ไมม่ ใี ครใน“เดลตาฟอรซ์ ”แมแ้ ตค่ นเดยี ว ที่รู้ว่าภารกิจระดับสุดยอดได้รับการอนุมัติจาก ประธานาธบิ ดแี ลว้ จนกระทงั่ เชา้ ตรขู่ องวนั ที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๓ ทกุ คนในหนว่ ยเดลตาจงึ ถกู เรยี กมารวมตวั กนั และได้รับแจ้งว่าจะต้องเดินทางไปช่วยตัวประกัน จากน้ันหน่วยเดลตาได้รับคาส่ังให้ข้ึนรถบรรทุกทหาร เดินทางไปยังฐานทัพอากาศเพื่อขึ้นเคร่ืองไปยัง จุดหมายแรกคือสนามบินท่ี “แฟรงค์เฟิร์ต” ประเทศ เยอรมนี ด้วยเคร่ืองบินลาเลียงขนาดยักษ์ ซี-141 หรือสตาร์ลิฟเตอร์ ซึ่งในยุคนั้นถือเป็นเคร่ืองบินลาเลียง ขนาดใหญท่ สี่ ดุ กอ่ นหนา้ ทกี่ องทพั สหรฐั อเมรกิ าจะนา ซ-ี 5 กาแล็กซีเข้าประจาการ
เมอื่ ไปถงึ เยอรมนี พวกเขามสี มาชกิ มาสมทบเพมิ่ อกี ๑๓ นาย ซึ่งเป็นกาลังพลจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ของอเมรกิ นั ทถี่ กู สง่ ไปประจา อยใู่ นเยอรมนกี อ่ นหนา้ นนั้ อยแู่ ลว้ ทมี พเิ ศษทง้ั ๑๓ นายน้ี จะเปน็ ผบู้ กุ เขา้ ชว่ ยเหลอื ตวั ประกนั ๓คนซงึ่ อยใู่ นอาคารหลงั หนง่ึ ทางดา้ นตะวนั ออก ของสถานทูต และจะทาหน้าท่ีควบคุมถนนโดยรอบ ของสถานทูต ขณะที่หน่วยเดลตาจู่โจมเข้าไปยัง เป้าหมายอื่น
นาวิกศาสตร์ 29 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕


เหตผุ ลทตี่ อ้ งรบั หนว่ ยปฏบิ ตั กิ ารพเิ ศษทมี นเี้ ขา้ เปน็ กา ลงั สมทบกเ็ นอื่ งจากหนว่ ยเดลตาไมม่ กี า ลงั พลเพยี งพอ กับภารกิจที่ขยายขอบเขตเพ่ิมขึ้น
เม่ือถึงตอนน้ัน กองกาลังจู่โจมของฝ่ายอเมริกัน จงึ มจี า นวนรวมกนั ทงั้ สนิ้ ๑๓๒ นาย ประกอบดว้ ย สายลบั อหิ รา่ น๒คนพลขบั ๑๒นายทมี ปอ้ งกนั ถนนท่ี“เดทเสริ ท-์ วนั ” (Desert One) ๑๒ นาย หนว่ ยปฏบิ ตั กิ ารพเิ ศษจากเยอรมนี ๑๓ นาย และหน่วยเดลตา ฟอร์ซ ๙๓ นาย
สาหรับทีมป้องกันถนนที่ “เดทเสิร์ท-วัน” (Desert One) ซ่ึงเป็นกาลังพลที่เพิ่มขึ้น ๑๒ นาย เนื่องจากหน่วยข่าวกรองตรวจพบว่าบริเวณถนนใกล้กับ “เดทเสิร์ท-วัน” มีการใช้รถบนเส้นทางนี้เป็นครั้งคราว จงึ จา เปน็ จะตอ้ งมกี ารปอ้ งกนั ไวก้ อ่ นเพอ่ื ความไมป่ ระมาท
เม่ือเสร็จสิ้นภารกิจในการเติมน้ามันเฮลิคอปเตอร์ จากเครื่องบิน อีซี-130 แล้ว ทีมป้องกันถนนจะเดินทาง กลบั อยี ปิ ตใ์ นทนั ทดี ว้ ยการโดยสารไปพรอ้ มกบั เครอื่ งบนิ เติมน้ามัน
ครนั้ ถงึ วนั ที่ ๒๑ เมษายน ยกั ษใ์ หญ่ “สตารล์ ฟิ เตอร”์ ก็บินไปถึง “วาดิ คีนา” ในประเทศอียิปต์ตามแผนที่ กาหนดไว้
อย่างไรก็ตาม ค่ายพักในอียิปต์ท่ีหน่วยจู่โจมของ อเมริกันใช้เป็นที่พักชั่วคราวนี้ สร้างขึ้นโดยเจ้าหน้าท่ี “รัสเซีย” ในยุคที่อียิปต์ทาสงครามกับอิสราเอล ดังน้ัน ค่ายพักทหารจึงมีคุณภาพ “ต่ามาก” เมื่อเทียบกับ ค่ายพักตามมาตรฐานของทหารอเมริกันโดยทั่วไป
มันไม่มีเครื่องปรับอากาศ ห้องพักก็คับแคบ ฝ่ายอเมริกันจึงต้องทนกับสภาพอากาศท่ีร้อนอบอ้าวของ ทะเลทรายทงั้ ในเวลากลางวนั และกลางคนื แต่“เดลตาฟอรซ์ ” ทุกคนยังมีสภาพร่างกาย ตลอดจนขวัญกาลังใจดีเยี่ยม
ระหว่างน้ันหน่วยข่าวกรองได้รายงานเพิ่มเติมว่า ตัวประกันถูกย้ายไปควบคุมในอาคารที่ทาการสถานทูต แล้ว ดังนั้นจึงต้องมีการปรับแผนการอีกครั้ง โดยทีม “สีน้าเงิน” มีภารกิจเพิ่มขึ้น เพราะจะต้องรับผิดชอบ การจู่โจมที่พักของหน่วยรักษาความปลอดภัยก่อนจะ บุกเข้ายึดโรงไฟฟ้า
นาวิกศาสตร์ 30 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕
ส่วนทีม “สีแดง” จะบุกตรงไปยังอาคารที่ทาการ สถานทูต ซึ่งเช่ือว่าจะมียามรักษาความปลอดภัย มากข้ึน และน่ันทาให้ทีมสีแดงต้องปรับแผนด้วยการ จัดแบ่งกาลังออกเป็นทีมเล็ก ๆ อีกหน่ึงทีม จู่โจมเข้าไป ยังประตูด้านตะวันออก เมื่อทะลวงเข้าไปได้สาเร็จแล้ว ก็จะเคลื่อนตัวไปยังด้านทิศใต้ เปิดช่องให้กาลังส่วนใหญ่ บุกตามเข้าไป
หน่วยเดลตาในนาทีสุดท้ายก่อนเดินทางไปอิหร่าน
เม่ือเริ่มวันท่ี ๒๔ เมษายน ได้ไม่กี่ช่ัวโมง หน่วย “เดลตา ฟอรซ์ ” กอ็ อกเดนิ ทางจากอยี ปิ ตม์ งุ่ สเู่ กาะมารซ์ รี าส ซงึ่ อยนู่ อกชายฝง่ั โอมาน หลงั จากเครอ่ื งบนิ สตารล์ ฟิ เตอร์ ซี-141 ลงจอดที่สนามบิน พวกเขาก็พบว่ามีเคร่ืองบิน เฮอร์คิวลิส ซี-130 และเคร่ืองบินเติมน้ามัน อีซี-130 จอดเตรียมพร้อมรออยู่แล้ว
และแลว้ เมอ่ื ถงึ เวลาสโ่ี มงครงึ่ หนว่ ย “เดลตา ฟอรซ์ ” พร้อมอาวุธก็ทยอยกันขึ้นสู่เคร่ืองบิน ซี-130 กาลังพล ทกุ นายพรอ้ มอาวธุ อยใู่ นเครอ่ื งแบบของ “เดลตา ฟอรซ์ ” สวมแจค็ เกต็ คอมแบท สทู สดี า หมวกแกป็ สเี ดยี วกนั และ ที่แขนเสื้อมีตราธงชาติอเมริกา แต่ปิดทับด้วยเทป ซ่ึงจะ ลอกออกเมื่อเร่ิมปฏิบัติการ เพื่อให้ตัวประกันรู้ว่าหน่วย จู่โจมที่บุกเข้าไปเป็นทหารของฝ่ายเดียวกัน


ครั้นถึงเวลาหกโมงเย็น เครื่องบิน ซี-130 หรือ เฮอร์คิวลิสลาแรก ก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้ามุ่งหน้าไปยัง เป้าหมาย ผู้โดยสารบนเครื่องประกอบด้วยพันเอก เบควิท กับทีมป้องกันถนนและทีมควบคุม รวมทั้งทีม สีน้าเงิน
ทันทีที่เครื่องบินลงจอด กาลังทั้งหมดจะกระจาย ออกจากเครื่องเพื่อวางแนวป้องกัน และตั้งข่าย การสื่อสารเตรียมรับเครื่องบินที่เหลืออีก ๕ ลา ซึ่งจะ ทยอยกันบินขึ้นจากสนามบินในโอมานทุกหนึ่งชั่วโมง
เหตุที่ต้องทยอยกันบินขึ้น ก็เพ่ือป้องกันไม่ให้เป็น ที่สนใจของเรือที่อยู่ในอ่าวโอมาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรอื สายลบั ของรสั เซยี ทม่ี กั จะปว้ นเปย้ี นปฏบิ ตั กิ ารอยใู่ น บริเวณดังกล่าว ฝ่ายอเมริกาจึงเกรงว่าจะมีการส่งข้อมูล “เตือน” ให้อิหร่านรู้ตัว
เม่ือเฮอร์คิวลิสบินเข้าใกล้ฝั่งอิหร่าน นักบินได้นา เครื่องลดระดับลงไปอยู่ที่ความสูงเพียง ๕๐๐ ฟุต เพ่ือหลีกเล่ียงการตรวจจับด้วยเรดาร์ของข้าศึก
ในที่สุดเครื่องบิน ซี-130 และเคร่ืองบินเติมน้ามันก็ “เจาะทะลวง” น่านฟ้าอิหร่านด้านตะวันตกของเมือง “ชาบาฮาน”มงุ่ สพู่ น้ื ทลี่ งจอด“เดทเสริ ท์ -วนั ”(Desert One) ซึ่งอยู่กลางทะเลทราย
เมื่อ ซี-130 ลาแรกที่มี พันเอก เบควิท เป็นผู้นา บินไปได้ครึ่งทาง เขาก็ได้รับแจ้งว่าเฮลิคอปเตอร์แบบ อารเ์อช-53ดีหรอืซีสตลัเลยีน(SeaStallion)ทงั้๘เครอื่ง ไดบ้นิขนึ้จากดาดฟา้ของเรอืบรรทกุเครอื่งบนินมิติซแ์ลว้
หมู่เฮลิคอปเตอร์ “ซี สตัลเลียน” บินเข้าสู่ที่หมาย เป็น ๔ กลุ่ม ๆ ละ ๒ เครื่อง นักบินได้รับคาส่ังให้แยกใช้ เสน้ ทางทตี่ า่ งกนั เพอื่ ปอ้ งกนั การถกู ตรวจพบดว้ ยสายตา นักบินนาวิกโยธิน ซึ่งเป็นผู้ควบคุม “ซี สตัลเลียน” ต่างรู้สึกดีใจที่ได้เริ่มภารกิจหลังจากท่ีต้องทนอุดอู้ อยใู่ ตท้ อ้ งเรอื เปน็ เวลานานตลอดเสน้ ทางทเี่ รอื อยใู่ นทะเล
เพราะเฮลคิ อปเตอรข์ องพวกเขาถกู ซอ่ นไวใ้ ตด้ าดฟา้ เพื่อไม่ให้ “เรือสายลับ” ของรัสเซียตรวจพบ และการที่ “ซีสตลั เลยี น”จา นวนมากจอดเรยี งรายอยบู่ นดาดฟา้ บนิ จะทาให้เกิดจุดสนใจได้โดยง่าย
เฮลิคอปเตอร์ ซี สตัลเลียน บนดาดฟ้าเรือบรรทุกเคร่ืองบินก่อน เดินทางไปอิหร่าน
“ซีสตลั เลยี น”ทงั้ ๘เครอื่ งถกู ดดั แปลงเพอ่ื ภารกจิ “อเี กลิ คลอว”์ หลายรายการ โดยเฉพาะอปุ กรณต์ อ่ ตา้ น ทุ่นระเบิดที่ไม่จาเป็นสาหรับการช่วยเหลือตัวประกัน ถูกถอดออกไปและทดแทนด้วย “ถังน้ามันอะไหล่” เพอื่ เพมิ่ รศั มที า การ ทา ใหเ้ ฮลคิ อปเตอรบ์ นิ ไดไ้ กลกวา่ เดมิ ๒๐๐ ไมล์
ซี สตัลเลียน ท่ีเข้าร่วมในภารกิจนี้ ๒ เครื่อง เป็น เฮลิคอปเตอร์ประจาเรือบรรทุกเครื่องบินนิมิตซ์ ส่วนที่เหลืออีก ๖ เครื่อง ถูกย้ายมาจากเรือบรรทุก เคร่ืองบิน “คิตตี ฮอว์ก” ซ่ึงปกติแล้วจะปฏิบัติการ อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย
หวั หนา้ นกั บนิ ของหมบู่ นิ “ซีสตลั เลยี น”คอื พนั เอก เซฟเฟิร์ด จากกองทัพนาวิกโยธิน พันเอกวัย ๔๕ ปี ได้ฝึกลูกทีมของเขาเพื่อภารกิจน้ีมาเป็นเวลานาน เชน่เดยีวกบัพนัเอกเบควทิทไี่ดฝ้กึปรอืหนว่ยเดลตาฟอรซ์ อย่างเข้มงวด
สา หรบั นกั บนิ นาวกิ โยธนิ แลว้ ภารกจิ ครงั้ นเ้ี ปน็ เรอ่ื ง ที่ท้าทายความสามารถของพวกเขามาก เนื่องจาก โดยส่วนใหญ่นักบินนาวิกโยธินจะคุ้นเคยกับการบิน ในระยะทางสั้น ๆ และเป็นการบินในเวลากลางวัน แต่ ในบัดนี้พวกเขาต้องบินเป็นระยะทางไกล และเป็น การบินในเวลากลางคืนท่ามกลางความมืดมิด
ทุกส่ิงดูเหมือนจะราบรื่น พยากรณ์อากาศระบุว่า ท้องฟ้าจะแจ่มใสตลอดเส้นทาง หน่วยท่ีให้ข้อมูลการ พยากรณ์อากาศก็คือ กองทัพอากาศซ่ึงมี “ดาวเทียม”
นาวิกศาสตร์ 31 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕


รายงานสภาพอากาศท่ีทันสมัยที่สุดของกองทัพอากาศ สหรัฐอเมริกาในขณะนั้น
การพยากรณ์จึงเชื่อถือได้ถูกต้องร้อยเปอร์เซนต์ มาโดยตลอดแต่ไม่มีใครเฉลียวใจเลยว่า ส่ิงที่หน่วย พยากรณ์ทางอากาศไม่สามารถทานายได้ก็คือ “ปรากฏการณ์” ทางธรรมชาติซึ่งอยู่นอกเหนือการ คาดเดา และเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดข้ึนในภูมิประเทศ ซึ่งมี “ลักษณะเฉพาะ” อย่างทะเลทราย ท่ีฝ่ายอเมริกา มองข้ามไปอย่างไม่น่าเชื่อ
และบัดน้ีปรากฏการณ์ธรรมชาติท่ีว่าได้อุบัติข้ึนกับ หมู่บินเฮลิคอปเตอร์ในปฏิบัติการ “อีเกิล คลอว์” !
เบอ้ื งหนา้ ของนกั บนิ ไมใ่ ชค่ วามมดื ธรรมดา เพราะพวก เขามองเหน็ “กา แพงเมฆ” ตระหงา่ นสงู ขนึ้ ไปหลายพนั ฟตุ ในคร้ังแรกนักบินอเมริกันคิดว่าเป็นกลุ่มเมฆต่า บริเวณชายฝั่ง หรือที่รู้จักกันในนามของ “หมอกทะเล”
แตเ่ มอื่ พจิ ารณาอกี ที มนั กไ็ มน่ า่ จะเปน็ ไปได้ เพราะ เมฆที่เห็นอยู่ไกลจากฝั่งทะเลหลายร้อยไมล์ และใน ข้อเท็จจริงปราการที่ขวางหน้าพวกเขาอยู่ก็ไม่ใช่หมอก ทะเลอย่างที่คิด เพราะส่ิงท่ีเฮลิคอปเตอร์กาลังบินเข้าหา มีช่ือเรียกในภาษาพ้ืนเมืองว่า “ฮาบูบ” (HABOOB)
นยิ ามของฮาบบู คอื ฝนุ่ ธลุ ีและเมด็ ทรายทถี่ กู ลมพายุ หอบขึ้นไปในอากาศ แล้วเข้ารวมตัวกันเหมือนกลุ่มเมฆ ความสูงหลายพันฟุต และมีฐานกว้างหลายไมล์
ไมเ่ คยมใี ครเตอื นนกั บนิ อเมรกิ นั มากอ่ นถงึ สงิ่ นา่ กลวั จากปรากฏการณ์ธรรมชาติเหล่านี้
เพื่อป้องกันเรดาร์ของฝ่ายอิหร่าน แผนการ จึงกาหนดให้นักบินเฮลิคอปเตอร์นาเคร่ืองลงไปอยู่ เหนือพื้นดินเพียง ๕๐ ฟุต แต่น่ันกลับเป็นการบิน ที่อันตรายมาก เพราะภายในพายุทรายที่เกิดข้ึนอย่าง ฉับพลัน ผงทรายจะหนาแน่นในบริเวณท่ีอยู่ใกล้กับ พื้นดินมากที่สุด
นักบินคนหน่ึงกล่าวในภายหลังว่า
“ตอนทเ่ี ราพบฮาบบู มนั เหมอื นกบั เรากา ลงั บนิ อยใู่ น
ชามใส่นมซ่ึงทัศนวิสัยลดต่ากว่าศูนย์ แม้จะใช้กล้อง ส่องกลางคืนตรวจการณ์ไปข้างหน้าก็ไร้ผล เพราะ
นาวิกศาสตร์ 32 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕
ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย” สถานการณ์ในขณะนั้นทาให้นักบินมีทางเลือก
๓ หนทาง กล่าวคือ หนทางแรก นาเฮลิคอปเตอร์ ไต่ขึ้นไปอยู่ในระยะสูง เพ่ือหนีจาก “พายุทราย” แต่ ก็จะเสี่ยงกับการถูกตรวจพบด้วยเรดาร์ของอิหร่าน หนทางทส่ี อง นา เครอื่ งลงจอดรอใหพ้ ายสุ งบเสยี กอ่ นแลว้ จึงจะเดินทางต่อ แต่หนทางนี้จะทาให้เกิดปัญหาตามมา สองประการ กล่าวคือ
“เวลา” ท่ีกาหนดไว้ในแผนจะคลาดเคล่ือนไปหมด และที่อันตรายกว่านั้นก็คือ หากดับเคร่ืองแล้วนักบิน จะไม่สามารถติดเครื่องได้อีก เพราะเฮลิคอปเตอร์ “ซี สตัลเลียน” จาเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์จากฐาน ภาคพ้ืนดินเพ่ือช่วยในการติดเคร่ืองยนต์
ถึงแม้ว่าเฮลิคอปเตอร์แต่ละลาจะมี “ขวดอากาศ” สารองอยู่บนเครื่อง เพื่อเตรียมไว้เป็นอุปกรณ์พิเศษ สาหรับการติดเครื่อง เมื่อเฮลิคอปเตอร์ลงจอดที่ “เดทเสิร์ท-วัน” แต่มันอาจจะใช้ไม่ได้ผลหลังจาก เฮลิคอปเตอร์ต้องเผชิญกับสภาวะอากาศที่มีผงฝุ่น และเม็ดทรายมากมายขนาดนี้
สาหรับ หนทางสุดท้าย ที่นักบินอเมริกันไม่อยาก เลือกก็คือบิน “ฝ่าพายุ” ต่อไปตามแผนโดยไม่สนใจ กับอุปสรรคท่ีขวางหน้า
ไม่ว่าจะเป็นด้วยโชคชะตา หรือด้วยความมุ่งมั่นอัน น่ายกย่องของเหล่านักบินนาวิกโยธินก็ตาม ในท้ายที่สุด แล้วหมู่บินเฮลิคอปเตอร์ทั้งหมดก็ตัดสินใจลุยฝ่าพายุ ต่อไปยัง “เดทเสิร์ท-วัน” ตามแผนท่ีกาหนดไว้
ตลอดเวลานั้น ผลกระทบอีกประการหน่ึงของ การบนิ ฝา่ พายทุ รายกค็ อื ฝนุ่ ผงและเมด็ ทรายทปี่ ลวิ เขา้ มา ปะทะกับใบพัดเฮลิคอปเตอร์ ได้ทาให้เกิดประกายไฟ จนเป็นผลรบกวนอย่างมากกับนักบินท่ีต้องสวมกล้อง มองกลางคืน ซ่ึงไม่เคยเห็นภาพเช่นนี้มาก่อน
นักบินทุกนายจึงต้อง “เค้น” ความสามารถและ ศักยภาพทุกอย่างที่พวกเขามี เพื่อให้เฮลิคอปเตอร์ซึ่ง อยู่ในความควบคุมสามารถบินต่อไปได้ มันเป็นคร้ังแรก ในชีวิตของพวกเขาที่ต้องบินในสภาวะที่ไม่สามารถ


มองเห็นสภาพภูมิประเทศที่จะใช้เป็น “จุดอ้างอิง” ไดเ้ ลย ซง่ึ สงิ่ ทเ่ี กดิ ขนึ้ แตกตา่ งจากภารกจิ ทวั่ ไปของนกั บนิ นาวิกโยธินโดยสิ้นเชิง
ขณะท่ีหมู่บินเฮลิคอปเตอร์เผชิญกับพายุร้าย เครอื่ งบนิ ซ-ี 130 เครอื่ งแรกกบ็ นิ เขา้ ใกล้ “เดทเสริ ท์ -วนั ” นักบินเร่ิมเปิดสวิทช์รีโมทควบคุมสัญญาณไฟบนทางวิ่ง ซงึ่ ทมี สา รวจไดท้ า ไวก้ อ่ นหนา้ นนั้ สญั ญาณไฟทางวงิ่ ทา งาน ได้อย่างดีเยี่ยม ทาให้นักบินมองเห็นได้จากระยะไกล ซี-130 เคร่ืองแรกซึ่งจะทาหน้าที่อานวยการบินวนเหนือ “เดทเสิร์ท-วัน” ๑ รอบ จากนั้นจึงลงจอดในทิศทาง ตะวันออกหันหัวไปทางตะวันตก
การที่เคร่ืองสามารถลงจอดได้อย่างนิ่มนวล เป็นผลมาจากการสารวจพ้ืนทรายอย่างละเอียด กอ่ นหนา้ นนั้ เมอื่ แรมปท์ า้ ยของเครอื่ งบนิ เปดิ ออกมนั เปน็ เวลาสที่ มุ่ ตรง ทมี เฝา้ ถนนรบี ลงจากเครอื่ งแยกยา้ ยกนั ไป วางกาลังทางด้านข้างของ “เดทเสิร์ท-วัน” ซ่ึงทีมนี้มี รถจักรยานยนต์และรถจิ๊ปเป็นพาหนะที่ใช้สาหรับการ ลาดตระเวนระยะไกลรวมอยู่ด้วย
เมอื่ ทมี เฝา้ ถนนเขา้ ประจา ตา แหนง่ ไดไ้ มน่ าน รถบสั แบบ “เมอรเ์ซเดส”คนัใหญข่องอหิรา่นคนัหนง่ึกแ็ลน่ตรงเขา้มา เบควิทรีบร้องตะโกนส่ังให้ลูกน้องของเขาหยุดรถ คันน้ันไว้ ทีมเฝ้าถนนจึง “ยิงเตือน” ทาให้คนขับเหยียบ เบรคทนั ที หนว่ ยเดลตาทมี สนี า้ เงนิ ตรงไปยงั รถ บงั คบั ให้
ผู้โดยสารทุกคนลงมา พวกเขาพบว่าส่วนใหญ่ ชาวอิหร่านเหล่านั้นเป็นคนแก่และเด็ก
หลังจากค้นตัวแล้ว ทีมสีน้าเงินจึงควบคุมตัว ผู้โดยสารเหล่าน้ันไว้ พันเอก เบควิท ตัดสินใจว่า เพื่อ รกั ษาความลบั ของปฏิบตั กิ าร “อเี กลิ คลอว”์ เขาจะตอ้ ง ควบคุมคนเหล่านี้ไว้ก่อนจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ
ดงั นนั้ พนั เอก เบควทิ จงึ สงั่ ใหน้ า ตวั ผโู้ ดยสารทงั้ หมด ขึ้นไปบนเครื่อง ซี-130 ซ่ึงจะบินกลับไปยัง “มาซีราน” เพ่ือกักตัวคนเหล่านั้นไว้ แล้วค่อยส่งตัวกลับภายหลัง หลงั จากเหตกุ ารณน์ เี้ สรจ็ สนิ้ ลงแลว้ ทมี เฝา้ ถนนกเ็ คลอื่ นตวั ไปทางด้านตะวันตกของ “เดทเสิร์ท-วัน” เพ่ือปิดก้ัน บริเวณดังกล่าวอีกครั้ง
ขณะท่ีพวกเขากาลังจะเข้าสู่ตาแหน่ง ปรากฏว่ามี รถบรรทุกน้ามันคันหนึ่งแล่นตรงมาด้วยความเร็วสูง ร้อยเอก วาเด อิชิโมโต นายทหารการข่าวเชื้อสาย ญป่ี นุ่ -ฮาวาย ซง่ึ เดนิ ทางมากบั ภารกจิ นด้ี ว้ ย ไดต้ ดั สนิ ใจวงิ่ ออกไปยนื ขวางกลางถนนพรอ้ มกบั ทหารเดลตาอกี คนหนง่ึ แต่มันกลับทาให้คนขับกระทืบคันเร่งบังคับรถพุ่งเข้าหา แบบบ้าระห่า อิชิโมโตกับทหารคนน้ันจึงตัดสินใจ กระโดดหลบ ก่อนจะยิงจรวดต่อสู้รถถัง เอ็ม-72 ไล่หลัง ทาให้ยักษ์ใหญ่บรรทุกน้ามันสิ้นฤทธิ์เม่ือโดน เอ็ม-72 จนเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง
สง่ิ ทต่ี ามมาคอื เปลวเพลงิ ไดล้ กุ โชตชิ ว่ งสวา่ งจบั ขอบฟา้ ฝา่ ยอเมรกิ นั รใู้ นภายหลงั วา่ พวกเขาไดย้ งิ รถบรรทกุ นา้ มนั ท มี ่ เี ช อื ้ เ พ ล งิ อ ย ใ่ ู น ถ งั ถ งึ ๕ , ๐ ๐ ๐ แ ก ล ล อ น ข ณ ะ ท เี ่ ป ล ว เ พ ล งิ โหมกระพอื ขน้ึ บนถนน คนขบั รถบรรทกุ นา้ มนั ไดก้ ระโดด ลงจากที่นั่ง เกือบจะพร้อม ๆ กับท่ีรถที่แล่นตามมา ในระยะห่างอีกคันหน่ึงเร่งความเร็วเข้าประกบ และรับคนขับรถบรรทุกน้ามันขึ้นไปด้วย
ฝ่ายอเมริกาโดย ร้อยเอก อิชิโมโต พยายามจะใช้ รถจักรยานยนต์ไล่ตามแต่เขากลับสตาร์ทเคร่ือง ไม่ติดอิชิโมโตจึงตัดสินใจใช้ปืนยิงไล่หลังแต่ก็ไม่อาจ หยุดรถคันนั้นไว้ได้
ถึงแม้การสกัดกั้นยับยั้งฝ่ายตรงข้ามจะล้มเหลว แต่ พันเอก เบควิท ก็ไม่กังวลมากนัก เพราะเขาคาดว่า รถน้ามันคันดังกล่าวคงจะถูกขโมยมา และแก๊งขโมย น้ามันคงจะคิดว่าพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ตารวจของ อิหร่านที่พยายามสกัดจับ จึงตัดสินใจแหกด่านหลบหนี
ขณะน้ันทุกอย่างดูจะเป็นไปตามแผนด้วยดี ทมี ควบคมุ การจราจรทางอากาศเตรยี มจะสง่ เครอ่ื งบนิ กลบั ซี-130 ลาแรกที่เสร็จสิ้นภารกิจติดเคร่ืองกระห่ึมหลัง จากได้รับสัญญาณ จากน้ันนักบินก็นาเครื่องทะยานข้ึน จากทางว่ิง
ไม่นานนัก “เฮอร์คิวลิส” ลาท่ีสองก็บินเข้าใกล้ ท่ีหมาย นักบินสามารถมองเห็นตาแหน่งร่อนลงจอด ไดอ้ ยา่ งชดั เจน โดยอาศยั แสงสวา่ งจากเปลวไฟทลี่ กุ ทว่ ม รถบรรทุกน้ามัน ซึ่งลอยสูงขึ้นไปในอากาศถึง ๓๐๐ ฟุต
นาวิกศาสตร์ 33 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕


หลังลงจอดเรียบร้อย แรมป์ท้ายเครื่องก็เปิดออก เจ้าหน้าท่ีช่วยกันลาเลียงสัมภาระ และตาข่ายพราง สาหรับเฮลิคอปเตอร์ที่จะใช้กาบังระหว่างที่กองกาลัง ทั้งหมดพักรออยู่ในจุดซ่อนตัวในเวลากลางวัน
หลังจากน้ันอีกหน่ึงชั่วโมง อากาศยานท่ีเหลือ ท้ังหมดก็บินมาถึง และลงจอดได้อย่างปลอดภัย
ซี-130 แต่ละลาเรียงรายกันเป็นแถว เว้นระยะห่าง ให้มีที่ว่างสาหรับเฮลิคอปเตอร์ท่ีจะบินลงมาเติมน้ามัน บริเวณ “เดทเสิร์ท-วัน” ขณะนั้นจึงดูวุ่นวายสับสน ไปดว้ ยเจา้ หนา้ ทแี่ ละทมี ปฏบิ ตั กิ าร ซงึ่ แตล่ ะคนสาละวนอยู่ กบั การทา หนา้ ทขี่ องตน แตใ่ นภาพรวมแลว้ ทกุ อยา่ งเปน็ ไปด้วยดี และถูกต้องตรงเวลา
ซี-130 ลาที่เสร็จภารกิจบินขึ้นจากพื้นมุ่งหน้ากลับ “มารรี าน” ขณะทนี่ กั บนิ บนเครอื่ งรสู้ กึ วา่ ปฏบิ ตั กิ ารจรงิ ของพวกเขาราบรนื่ ไมต่ า่ งอะไรกบั การฝกึ ซอ้ มแมแ้ ตน่ อ้ ย
ถึงแม้อากาศยานขนาดใหญ่จะปฏิบัติตามแผน ได้อย่างน่าพอใจแต่สาหรับเฮลิคอปเตอร์แล้ว ความเป็นไปกลับ “ล่าช้า” จนพันเอก เบควิท เกิดความ กระวนกระวาย เพราะเขาไม่สามารถติดต่อกับนักบิน เฮลิคอปเตอร์ทางวิทยุได้ด้วยตนเอง
ก่อนหน้าที่จะถึงปฏิบัติการจริง เบควิทเคยจับ เวลาในระหว่างฝึกซ้อม และจาได้ว่าเฮลิคอปเตอร์ จะใชเ้ วลาในชว่ งนป้ี ระมาณ ๑๐ นาที ในการลงจอด เพอื่ “สนธิกาลัง” และรับน้ามันจากเครื่องบินลาเลียง แต่ ในการปฏิบัติจริงบนแผ่นดินอิหร่าน เมื่อเวลาผ่านไป ครึ่งช่ัวโมงกลับไม่มีอะไรคืบหน้า
เฮลิคอปเตอร์ยังไม่ปรากฏตัวตามแผน และนั่น หมายถึงว่า “ปัญหาใหญ่” ที่จะตามมา เพราะหาก เวลาลว่ งเลยไปจนกระทงั่ ฟา้ สางหนว่ ยเดลตาและเครอ่ื งบนิ เติมน้ามันที่อยู่กลางทะเลทรายย่อมมีโอกาสที่จะ ถูกตรวจพบโดยฝ่ายตรงข้าม
ตลอดเวลานนั้ มกี ารตดิ ตอ่ กบั “สายลบั ”ของอเมรกิ นั ท่ีอยู่ในกรุงเตหะราน รวมทั้งมีการประสานงานกับ หน่วยท่ีอยู่ใน “เดลตา ฮายด์ไซท์” (Delta Hidesight) เพ่ือแจ้งความคืบหน้าเป็นระยะ ๆ
นาวิกศาสตร์ 34 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕
ทกุ คนกงั วลกบั สถานการณท์ เี่ กดิ ขนึ้ ณ“เดทเสริ ท์ -วนั ” เมื่อได้รู้ว่าเฮลิคอปเตอร์ยังไม่มาตามเวลาท่ีกาหนด พันเอก เบควิท เดินพล่านไปมาอย่างกระวนกระวาย เฝ้าแต่ถามตนเองว่า “หมู่เฮลิคอปเตอร์อยู่ท่ีไหน” เขาเริ่มสังหรณ์ใจว่านักบินอาจจะพบกับสภาพอากาศ อันเลวร้ายทาให้การเดินทางต้องล่าช้าออกไป
ในความเปน็ จรงิ สถานการณท์ เี่ กดิ ขนึ้ เปน็ ไปอยา่ งที่ พันเอก เบควิท หวั่นวิตกทุกประการ เพราะในขณะน้ัน นักบิน “ซี สตัลเลียน” ท้ัง ๘ เคร่ือง กาลังเผชิญกับ “พายุทราย” ที่รุนแรงอย่างคาดไม่ถึง
ภายในห้องนักบินคละคลุ้งไปฝุ่นทรายที่มีผลทาให้ ทุกคนหายใจได้อย่างยากลาบากหลายคนเร่ิมคิดแล้วว่า หากดันทุรังบินต่อไปในระดับต่าพวกเขาคงไม่มีโอกาส รอดแน่ เพราะเฮลิคอปเตอร์ “ซี สตัลเลียน” ของ กองทัพเรือถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในทะเลโดยเฉพาะ มนั จงึ ไมม่ รี ะบบ “กรองฝนุ่ ทราย” ทจี่ ะชว่ ยปอ้ งกนั ไมใ่ ห้ เกิดผลกระทบกับระบบหล่อลื่นภายในเครื่อง
ดังน้ันเม่ือเผชิญกับสภาพอากาศในขณะน้ัน เครอื่ งยนตข์ อง “ซี สตลั เลยี น” จงึ มี “ผงทราย” แทรกเขา้ ไป ภายในเต็มไปหมด ทาให้ทางดูดอากาศถูกปิดกั้นและ เครื่องยนต์สูญเสียกาลังจนความร้อนสูงข้ึนเป็นลาดับ ขณะทคี่ วามเรว็ ลดนอ้ ยลง และสนิ้ เปลอื งนา้ มนั เชอ้ื เพลงิ มากขึ้น
แล้วเหตุการณ์เลวร้ายลาดับแรกก็เร่ิมต้นข้ึนกับ เฮลิคอปเตอร์ ลาที่ ๖ เป็นปฐมฤกษ์
ดว้ ยพษิ สงของ “พายทุ ราย” ทา ใหร้ ะบบการทา งาน ของใบพดั ขดั ขอ้ ง ถงึ แมน้ กั บนิ พยายามจะประคองเครอื่ ง อย่างสุดความสามารถแต่ก็ไม่อาจแก้ปัญหาได้ เขาจึง ตัดสินใจแจ้งไปยังเฮลิคอปเตอร์ ลาท่ี ๘ ท่ีอยู่ท้ายขบวน ว่าจะนาเครื่องลงจอดฉุกเฉิน
โชคดีท่ีไม่มีใครได้รับอันตราย และถึงแม้ว่าใน ตาแหน่งเฮลิคอปเตอร์ลงจอดฉุกเฉิน “พายุทราย” จะคละคลงุ้ จนแทบไมเ่ หน็ พนื้ ดว้ ยตาเปลา่ แต่ เฮลคิ อปเตอร์ อีกลาหน่ึงก็ตัดสินใจบินตามลงไปเพื่อรับนักบิน และลูกเรือของเฮลิคอปเตอร์ ลาที่ ๖ ขึ้นมาบนเครื่อง


ฝ่ายอเมริกาเสียเฮลิคอปเตอร์ไปแล้วหนึ่งลา ทั้งที่ ยังเหลือระยะทางอีกไกลกว่าที่หมู่บินจะเดินทางไปถึง จุดนัดพบ ณ “เดทเสิร์ท-วัน”
หลังจากรับฝ่ายเดียวกันขึ้นเคร่ืองหมดแล้ว “ซี สตัลเลียน” ลาที่บินไปช่วยเครื่องหมายเลข ๖ ก็ ทะยานขึ้นจากพื้น แล้วเร่งความเร็วเพ่ือติดตามหมู่บิน ที่ล่วงหน้าไปก่อน และเข้าสมทบได้ในท่ีสุด
ในไม่ช้าเฮลิคอปเตอร์ที่เหลือ ๗ ลา ก็บินพ้นจาก พายุนรกลูกนั้น
แต่ไม่กี่อึดใจต่อมาโชคดีของพวกเขาก็หมดไป เมื่อ ส่ิงท่ีปรากฏอยู่เบ้ืองหน้าหมู่บินก็คือ “ฮาบูบ” หรือ พายทุ รายอกี ลกู หนงึ่ ซงึ่ เคลอื่ นเขา้ มาขวาง และมลี กั ษณะ บ่งบอกว่าเป็นพายุท่ีรุนแรงกว่าพายุทรายลูกแรก หลายเท่า
ความหนาแนน่ ของฝนุ่ ทรายทเ่ี ฮลคิ อปเตอรอ์ เมรกิ า ตอ้ งเผชญิ ในระลอกทสี่ อง ทา ใหอ้ ณุ หภมู ใิ นหอ้ งนกั บนิ สงู ขึ้นอย่างรวดเร็ว เฮลิคอปเตอร์ทุกเครื่องเริ่มประสบ ปัญหา โดยเฉพาะเคร่ืองหมายเลข ๕ ซึ่งหน้าปัทม์วัดค่า ต่าง ๆ ทางานผิดพลาด คงเหลือเพียง “เกจวัดความสูง” และ “เข็มทิศ” เท่านั้นที่ใช้การได้
นักบินเริ่มตระหนักในหายนะท่ีใกล้เข้ามา เพราะการบังคับเครื่องด้วยสายตาไม่สามารถกระทาได้ และการ “บินต่า” จากพื้นในระยะเพียง ๕๐ ฟุต ด้วยความเร็วสูงสุด ก็เป็นเร่ืองท่ีเส่ียงอันตรายอย่างย่ิง
ในที่สุดนักบินเครื่องหมายเลข ๕ ก็ตัดสินใจนา เฮลิคอปเตอร์ของเขาเลี้ยวกลับไปยังเรือนิมิตซ์ ซ่ึงการ กระทาดังกล่าวเป็นสิ่งท่ียอมรับได้ เพราะการรักษาชีวิต ผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ประจาเครื่องถือเป็นหน้าที่ อย่างหน่ึงของนักบิน
หมู่เฮลิคอปเตอร์ในปฏิบัติการ “อีเกิล คลอว์” เหลือกาลังเพียง ๖ เคร่ือง ทาให้สถานการณ์เขม็ง เกลียวมากข้ึน ดูเหมือนว่าสิ่งที่ทุกคนเคยหวั่นเกรงว่า เฮลิคอปเตอร์จะประสบปัญหาในระหว่างการเดินทาง กาลังจะกลายเป็นความจริงอย่างไม่อาจหลีกเล่ียงได้
ถึงแม้ในระหว่างการฝึก ทุกอย่างจะดูราบรื่น
แตห่ ากพจิ ารณาโดยขอ้ เทจ็ จรงิ แลว้ สง่ิ ทไ่ี มม่ ใี ครปฏเิ สธได้ ก็คือความราบร่ืนน้ันเกิดจากความทุ่มเทในการ ปฏิบัติงานของช่างเครื่องภาคพื้นดินที่มีโอกาสแก้ไข ขอ้ ขดั ขอ้ ง และปอ้ งกนั ความเสยี หายตา่ ง ๆ ไดต้ ลอดเวลา ในระหว่างที่ทาการฝึก
แต่ในสถานการณ์จริงเมื่อเฮลิคอปเตอร์ต้องอยู่ บนเรือบรรทุกเครื่องบินโดยไม่ได้ติดเครื่องเพื่อบินไปมา ทุกวันเหมือนตอนฝึกซ้อม โอกาสที่ช่างเครื่องจะพบ อุปสรรค และเตรียมการณ์ป้องกันข้อขัดข้องต่าง ๆ เหมือนช่วงที่อยู่ในระหว่างการฝึกจึงแทบจะไม่มีเลย
พันเอก เบควิท ร้องถามข่าวความเคล่ือนไหวของ หมู่บินเฮลิคอปเตอร์จากลูกน้องของเขาตลอดเวลา แต่แล้วในขณะที่เขากาลังจะหมดหวัง เบควิทได้ยินเสียง กระห่ึมของใบพัดดังแว่วมาแต่ไกล
หลงั จากนนั้ ไมก่ อี่ ดึ ใจเฮลคิ อปเตอรล์ า แรกกบ็ นิ มาถงึ “เดทเสริ ท์ -วนั ” ทา ใหเ้ บควทิ ดใี จมาก ถงึ แมว้ า่ การปรากฏตวั ของเฮลิคอปเตอร์จะช้ากว่าเวลาท่ีกาหนดไว้ก็ตาม
เบควิทรีบว่ิงเข้าไปในทันทีท่ีเฮลิคอปเตอร์ ลงจอดท่ีพ้ืน แต่แล้วความรู้สึกโล่งอกของเบควิทก็ต้อง มลายไปอย่างฉับพลันกลายเป็นความประหลาดใจ เมื่อเขาพบ พันตรี เจมส์ สกายเฟอร์ นักบินบนเคร่ือง ซึ่งแจ้งกับเขาในทันทีว่า
“ผมอยากให้ผู้การยกเลิกปฏิบัติการ เส้นทางท่ีเรา บินมาเหมือนกับฝ่ามาตามขุมนรกไม่มีผิด เราคงไปต่อ ไม่ไหวแน่”
แต่เบควิทปฏิเสธและกล่าวว่า
“ไม่มีการยกเลิก ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย
กองกา ลงั ในภารกจิ นจี้ ะเดนิ หนา้ ตอ่ ไปตามแผน ถงึ แมว้ า่ การเคลอ่ื นกา ลงั ไปยงั “เดลตา ฮายด์ ไซท”์ จะตอ้ งกระทา ในเวลากลางวันก็ตาม”
ขณะที่เบควิทกับ พันตรี เจมส์ กาลังโต้ตอบกัน เฮลคิ อปเตอร์ “ซี สตลั เลยี น” ลา ท่ี ๒ กบ็ นิ มาลงจอดใกล้ ๆ และท่ีเหลืออีก ๔ ลา บินตามมาสมทบภายใน ๕๐ นาที หลังจากน้ัน แต่เจ้าหน้าท่ีควบคุมภาคพื้นดิน และหน่วย เดลตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจที่เห็นเฮลิคอปเตอร์
นาวิกศาสตร์ 35 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕


แต่ละเครื่อง บินกันมาคนละทิศคนละทางในลักษณะ แตกหมู่
นักบินเฮลิคอปเตอร์แต่ละเคร่ืองนาอากาศยาน ของตนเขา้ ไปรบั นา้ มนั กอ่ นจะแจง้ ใหห้ นว่ ยเดลตา พรอ้ ม สัมภาระข้ึนประจาบนเครื่องท่ีกาหนดไว้ ในตอนน้ัน ทุกคนเริ่มสังเกตเห็นเหมือน ๆ กันว่า นักบินที่นา เฮลคิ อปเตอรม์ าถงึ ทหี่ มายตา่ งแสดงทา่ ที “อดิ โรย” และ ท้อถอย ส่วนใหญ่อยู่ในอาการอันบ่งบอกชัดเจนว่า ขวัญและกาลังใจของพวกเขาเร่ิม “ตกต่า” ลงอย่าง ไม่อาจฟ้ืนคืนมาได้
เฮลิคอปเตอร์ลาสุดท้ายที่บินไปถึง “จุดนัดพบ” มีพันเอก เซฟเฟิร์ด ผู้รับผิดชอบปฏิบัติการทางอากาศ เดินทางมาด้วย เขาขอพบ พันเอก เบควิท ในทันที เพื่อเสนอแนะว่าปฏิบัติการ “อีเกิล คลอว์” ควรยกเลิก ต้ังแต่ตอนน้ี ก่อนที่จะมีการสูญเสียเพ่ิมมากขึ้น
เซฟเฟิร์ดบอกกับเบควิทว่า “ผมเสียเฮลิคอปเตอร์ไปแล้วสองเครื่อง ขณะที่
อีกหนึ่งเครื่องมีแนวโน้มว่าจะบินไปไม่ถึงท่ีหมาย และ คุณคงทราบดีว่าภารกิจนี้จะต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ อย่างน้อย ๖ เครื่อง ดังน้ันผมจึงอยากให้คุณทบทวน สถานการณ์ และข้อเท็จจริงจากความเป็นไปที่เกิดข้ึน ในขณะนี้ เพ่ือหาหนทางที่ดีที่สุด ซึ่งเราอาจจะย้อนกลับ เขา้ มาอหิ รา่ นใหมใ่ นอกี สองสปั ดาหต์ อ่ ไป ดกี วา่ ทจี่ ะเสยี่ ง เดินหน้าต่อไปตามแผน ทั้งที่มีอุปสรรคมากมาย”
พันเอก เบควิท ยังคงนิ่งเฉยต่อความคิดเห็นของ พันเอก เซฟเฟิร์ด ขณะท่ีสมาชิกของ เดลตา ส่วนใหญ่ เห็นว่าข้อมูลต่าง ๆ ที่พูดมาเป็น “ข้ออ้าง” ของนักบิน นาวิกโยธินท่ีต้องการหาเหตุผลรองรับในอันที่จะยกเลิก ภารกิจท้ังหมด
เมอื่ ถงึ ตอนนนั้ ตอ้ งถอื วา่ สถานการณท์ ี่ “เดทเสริ ท์ -วนั ” อยู่ในขั้นวิกฤต เพราะพวกเดลตาต้องการที่จะ “เดินหน้า” ต่อไป และกาลังจะหมดความอดทนต่อท่าที ของผู้ควบคุมเฮลิคอปเตอร์ เกือบทุกคนแสดงออกถึง ความไม่พอใจในข้อเสนอของนักบินนาวิกโยธินท่ียืนยัน ว่าภารกิจควรจะถูกยกเลิก
นาวิกศาสตร์ 36 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕
ขณะท่ีทั้งสองฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะลดราวาศอก ใหแ้ กก่ นั พนั เอกเบควทิ ไดส้ ง่ั ใหล้ กู ทมี ของเขาขนึ้ ไปประจา ท่ีนั่งบนเฮลิคอปเตอร์ให้เร็วท่ีสุด เพื่อเป็นการกดดัน พันเอก เซฟเฟิร์ด
ทุกอย่างจึงดูสับสนวุ่นวายไปหมด ขณะท่ี เฮลคิอปเตอร์๖ลากบัเครอื่งบนิซ-ี130อกี๔เครอื่งยงัคง ติดเครื่องดังกระหึ่มพร้อมด้วยฝุ่นทรายที่ปลิวคละคลุ้ง ไปทวั่ บรเิ วณ อนั เนอ่ื งมาจากกระแสลมจากใบพดั เครอ่ื งบนิ และโรเตอร์เฮลิคอปเตอร์ กว่าที่ทุกคนจะเข้าประจา ตาแหน่งบนอากาศยานที่กาหนดไว้ เวลาก็ล่าช้ากว่า แผนเกือบ ๙๐ นาทีแล้ว
ขณะที่ พันเอก เบควิท กาลังสั่งการอยู่นั้น นักบิน นาวิกโยธินคนหนึ่งก็เข้าไปแจ้งกับเขาว่า
“ผู้การครับ เฮลิคอปเตอร์หมายเลขสองขัดข้อง ระบบไฮดรอลิกชารุดไม่สามารถบินขึ้นได้”
สถานการณ์อันตึงเครียด เน่ืองจากข้อขัดแย้ง ระหว่างหัวหน้าของท้ังสองหน่วยจึงเพิ่มมากขึ้นไปอีก เมื่อเบควิทได้รับแจ้งเช่นน้ัน เขายอมรับว่ามันเป็น อปุ สรรคอนั ใหญห่ ลวงทไี่ มอ่ าจปฏเิ สธได้ เพราะปฏบิ ตั กิ าร “อีเกิล คลอว์” ไม่อาจใช้เฮลิคอปเตอร์เพียง ๕ ลา ในการนากาลังเข้าสู่ที่หมาย
แต่กระนั้นก็ตาม เม่ือเบควิทรายงานสถานการณ์ ไปยังนายพล โวจ์ท เขากลับได้รับแจ้งคาสั่งว่า “เดินหน้า ต่อไปตามแผน ไม่ว่าคุณจะเหลือเฮลิคอปเตอร์ก่ีลา ก็ตาม”
พันเอก เบควิท จึงรู้สึกเครียดหนักจากสถานการณ์ ทรี่ มุ เรา้ เขา้ มาอยา่ งยากทจี่ ะแกไ้ ข ในฐานะทเี่ คยผา่ นการฝกึ มาจากกองทัพอังกฤษ และนาต้นแบบของหน่วย เอสเอเอส (SAS) อันมีชื่อเสียงจาก “ลอนดอน” มาเป็น แนวทางในการพฒั นาและจดั ตง้ั หนว่ ยรบพเิ ศษ “เดลตา” ของสหรัฐอเมริกา เบควิทจึงไม่เคยลืมกฎสาคัญข้อหนึ่ง ของหน่วย เอสเอเอส ที่กล่าวไว้ว่า
“หากไม่สามารถปฏิบัติตามแผนได้โดยเคร่งครัด ก็จะต้องยกเลิกภารกิจน้ัน”
ในทา้ ยทสี่ ดุ แลว้ เบควทิ กม็ คี วามเหน็ สว่ นตวั วา่ ภารกจิ


ครั้งนี้ควรจะยกเลิกไปก่อน ดีกว่าจะ “เสี่ยงอันตราย” เดินทางต่อเข้าไปในกรุงเตหะรานด้วยอากาศยาน และกาลังพลที่ไม่ครบตามแผนการที่กาหนดไว้
เพราะเดลตาทกุ นายมหี นา้ ที่ และบทบาทเฉพาะตวั ในการบุกสถานทูต หากกาลังซึ่งบุกไปยังท่ีหมาย “ไม่ครบ” ตามจานวน และต้องปรับเปล่ียนหน้าท่ีของ แต่ละคนใหม่ทั้งหมด โดยมีเวลาอันน้อยนิดย่อมทาให้ โอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาด และนาไปสู่ความล้มเหลว เป็นไปได้สูง
เมอ่ื ตดั สนิ ใจแลว้ วา่ จะ “ยกเลกิ ” ภารกจิ อยา่ งแนน่ อน เบควิทจึงเรียกประชุมนักบิน และแจ้งให้ทราบถึง การตัดสินใจของเขานั่นเองจึงมีผลทาให้หน่วย “เดลตา” ต้องย้ายกาลังลงจากเฮลิคอปเตอร์กลับไป ยังเคร่ืองบิน ซี-130 และเคร่ืองบิน อีซี-130 ซ่ึงบินมา เติมน้ามันให้กับเฮอร์คิวลิส
กอ่ นทอี่ ากาศยานทกุ ลา จะบนิ ออกจาก“เดทเสริ ท์ -วนั ” เฮลิคอปเตอร์ซึ่งบินมาเป็นระยะทางไกลจาเป็นจะต้อง ได้รับการเติมเช้ือเพลิง เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ทุกลาได้ “ติดเคร่ือง” อยู่กับท่ีนานกว่าหนึ่งชั่วโมงมาแล้ว ขณะเดียวกัน เฮลิคอปเตอร์หมายเลขสองซ่ึงระบบ ไฮดรอลิกขัดข้องจะถูกทาลาย เพ่ือไม่ให้ฝ่ายอิหร่าน ยึดไปใช้ประโยชน์และทุกคนก็เห็นชอบด้วย เนื่องจาก มันเสี่ยงเกินไปที่จะบินกลับไปยังฐานด้วยเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งกาลังมีข้อขัดข้อง
ในชว่ งสดุ ทา้ ยหลงั จากเสยี เฮลคิ อปเตอรไ์ ปแลว้ ๓ ลา และพนั เอกเบควทิ ตดั สนิ ใจถอนตวั จาก“เดทเสริ ท์ วนั ” ความเป็นไปที่เกิดขึ้นคือ เฮลิคอปเตอร์ ๔ ลา กาลังจอด รบั นา้ มนั อยทู่ างดา้ นเหนอื ของถนน ขณะทเี่ ฮลคิ อปเตอร์ อีกสองลาจอดอยู่ทางด้านใต้ใกล้กับตาแหน่งของ เคร่ืองบิน ซี-130
เมื่อการเติมน้ามันเสร็จสิ้นลง เฮลิคอปเตอร์ หมายเลข ๔ เป็นลาแรกที่ทะยานขึ้นจากพื้น แต่แล้วใน ขณะที่เฮลิคอปเตอร์หมายเลข ๓ ซึ่งมี พันเอก เซฟเฟิร์ด อยู่บนเครื่องกาลังเคลื่อนตัวไปทางด้านข้างเพื่อเปิดทาง ให้เฮลิคอปเตอร์หมายเลข ๔ บินขึ้นไปก่อนอุบัติเหตุ
อันไม่คาดฝันก็บังเกิดข้ึน
เพราะจู่ ๆ กระแสลมกระโชกรุนแรงได้พัดเข้ามา ทาให้เฮลิคอปเตอร์เสียการทรงตัวแล้วกระดอนขึ้นไปใน อากาศ ก่อนที่จะเอียงวูบหล่นลงมากระแทกเครื่องบิน ซี-130 ซึ่งจอดอยู่ที่พื้น
พริบตาน้ันเอง ความหายนะก็อุบัติขึ้น เม่ือใบพัด เฮลิคอปเตอร์ฟันลงไปยังบริเวณห้องนักบิน ซี-130 และ ถังน้ามันบริเวณปีกด้านขวา แรงปะทะทาให้ผนังห้อง นกั บนิ และปกี ของเฮอรค์ วิ ลสิ ฉกี ขาดพรอ้ มกบั ประกายไฟ ทาให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง
สิ้นเสียงระเบิด เปลวเพลิงก็พวยพุ่งขึ้นไปสู่ท้องฟ้า เป็นระยะสูงกว่า ๓๐๐ ฟุต ขณะที่สะเก็ดไฟและ กลุ่มควันกระจายออกไปรอบทิศทาง
เกือบจะพร้อม ๆ กับที่มีเสียงระเบิด ทั้งกระสุนและ จรวดท่ีอยู่ในอากาศยานท้ังสองเครื่องก็ถูกความร้อน “จุดชนวน” จนเกิดการระเบิดอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย รวมท้ังยังมีจรวด “เรด อาย” พุ่งออกไปจากตาแหน่งท่ี เก็บราวกับ “พลุ” ที่ถูกจุดในงานมหกรรม
การระเบิดที่บังเกิดขึ้นในพริบตา ทาให้ทหาร อเมรกิ นั เสยี ชวี ติ ทนั ที ๘ นาย และบาดเจบ็ สาหสั อกี ๕ นาย
ซากอากาศยานที่พังพินาศจากความผิดพลาดระหว่างปฏิบัติการ
นาวิกศาสตร์ 37 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕


ซึ่งจริง ๆ แล้ว ผู้ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บคงจะมีมากกว่า นี้อีกหลายเท่า หากไม่มี “ผู้กล้าหาญ” กลุ่มหน่ึงที่เส่ียง ชีวิตเข้าไปช่วยคนท่ียังติดค้างอยู่ในซากเครื่องบินออก มาได้เป็นจานวนมาก
ทุกคนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ในวันน้ัน ไม่เคย ลืมภาพของ “เดทเสิร์ท-วัน” ซ่ึงมีสภาพเหมือนกับถูก “นรกครอบ” เพราะท่ามกลางเสียงปะทุของเปลวเพลิง ทหารหน่วยเดลตาที่รอดตายช่วยกันลาเลียงผู้บาดเจ็บ ออกจากซากเครื่องบิน และซากเฮลิคอปเตอร์ที่กาลังมี ไฟลุกท่วมอย่างจ้าละหวั่น
เพราะเครื่องบิน ซี-130 ซึ่งกาลังทะยานข้ึนจากพ้ืน เกิดเสียหลักและเอียงตัวทางข้าง จนปีกเกือบจะแตะพื้น แต่แล้วในจังหวะสุดท้ายขณะท่ียักษ์ใหญ่กระดอนข้ึน จากพ้ืน นักบินก็สามารถเร่งเคร่ืองเต็มท่ีแล้วบังคับ อากาศยานลามหึมาให้ยกหัวเหินตัวขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ อย่างปลอดภัย
เมื่อ พันเอก เบควิท มองย้อนกลับลงไปยัง “เดทเสิร์ท-วัน” สิ่งที่เขาเห็นก็คือแสงเพลิงสว่างโร่ที่ ลุกโชติช่วงหลายจุดมันเป็นเหมือนกับ “ฝันร้าย” ท่ีจะ ตราตรึงอยู่ในความทรงจาของเบควิทไปจนช่ัวชีวิต เขา คดิ ถงึ ครอบครวั ของผเู้ สยี ชวี ติ จากอบุ ตั เิ หตทุ เี่ พงิ่ ผา่ นพน้ ไ ป ส ด ๆ ร อ้ น ๆ ข ณ ะ ท ค่ ี า ม นั ่ ส ญั ญ า ท ใี ่ ห ไ้ ว ก้ บั ป ร ะ ธ า น า ธ บิ ด ี หวนกลับมาสู่มโนนึกอย่างห้ามไม่อยู่
“นาร่างผู้เสียชีวิตกลับมายังแผ่นดินของเราให้ได้ หากไม่เป็นสิ่งที่ยากลาบากเกินไป”
ถ้อยคาเหล่านั้นยังก้องอยู่ในใจ แต่ พันเอก เบควิท หัวหน้าหน่วยเดลตาก็ต้องผิดคาสัญญาที่ให้กับผู้นา ของสหรัฐอเมริกา
ระหว่างการเดินทางกลับ พันเอก เบควิท ก็ได้รับ แจ้งข่าวร้ายเป็นครั้งที่สอง นั่นคือ นายพล โวจ์ท ปฏิเสธ ท่ีจะส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดมาทาลายเฮลิคอปเตอร์และ อาวุธท่ีท้ิงไว้ในบริเวณ “เดทเสิร์ท-วัน” ตามที่ได้รับ การร้องขอ
สาเหตุเป็นเพราะท่านนายพลเกรงว่าระเบิดจาก เครื่องบินจะพลาดไปถูกชาวอิหร่าน ทาให้มีพลเรือน เสยีชวีติเนอ่ืงจากในขณะนนั้บรเิวณ“เดทเสริท์-วนั”ยงัมี รถบัสพร้อมด้วยชาวอิหร่านที่ไม่ได้ถูกกวาดต้อน มากับเครื่องบินหลงเหลืออยู่ด้วย
การตัดสินใจของ นายพล โวจ์ท นับเป็นเหตุผล ที่ยอมรับได้ เพราะหากมีพลเรือนชาวอิหร่านเสียชีวิต จากการโจมตีของเครื่องบินอเมริกัน อาจจะกลายเป็น “ชนวน” ท่ีทาให้ตัวประกันในสถานทูตถูกนักศึกษา ฆ่าตายเพ่ือตอบโต้การกระทาของสหรัฐอเมริกา
นายพล โวจ์ท จึงตัดสินใจว่าอเมริกาควรจะ ยอมปล่อยให้เฮลิคอปเตอร์ตกอยู่ในน้ามือของ
ภาพถ่ายทางอากาศที่แสดงให้เห็นซากเฮอร์คิวลิสท่ีประสบอุบัติเหตุชนกับ เฮลิคอปเตอร์ ทาให้ปฏิบัติการล้มเหลว
นักบินและเจ้าหน้าท่ีประจาเคร่ืองหมายเลข ๒ ได้รับคาสั่งให้วิ่งไปขึ้นเครื่องบิน ซี-130 ให้เร็วท่ีสุด ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้พันเอกเบควิทจะสั่งให้ทาลาย เฮลิคอปเตอร์หมายเลข ๒ ซึ่งขัดข้อง แต่เมื่อตอนนั้น การวางระเบิดทาลายเฮลิคอปเตอร์ก็ไม่ใช่สิ่งท่ีจาเป็น อีกแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่คนหนึ่งได้ติดต่อไปยัง นายพล โวจ์ทเพื่อแจ้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ทราบ พร้อมกับ รอ้ งขอใหส้ ง่ เครอื่ งบนิ ทงิ้ ระเบดิ มาทา ลายทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ ง ที่อยู่บน “เดทเสิร์ท-วัน”
ในช่วงสุดท้ายขณะท่ีกองกาลังของอเมริกันถอนตัว ออกจากผืนทรายนรกแห่งน้ัน โศกนาฏกรรมซ้าสองก็ หวุดหวิดที่จะบังเกิดขึ้นมาอีก
นาวิกศาสตร์ 38 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕


ฝ่ายตรงข้าม ดีกว่าท่ีจะต้องสังเวยชีวิตของชาวอเมริกัน เพ่ิมข้ึนอีกหลังจากที่ต้องสูญเสียไปแล้วจากอุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้เองท่ัวโลกจึงได้มีโอกาสเห็นภาพ ท่ีฝ่ายอิหร่านนาออกมาเผยแพร่และกลายเป็นหลักฐาน สาคัญที่ยังคงอยู่ในปัจจุบัน
ภาพน้ันก็คือ “ซากศพ” ของนักบินอเมริกันที่ ถูกไฟไหม้ ตลอดจนซากเคร่ืองบินท่ีได้รับความเสียหาย และเฮลิคอปเตอร์แบบ “ซี สตัลเลียน” อีกลาหน่ึงซ่ึง ระบบไฮดรอลิกขัดข้องไม่สามารถบินกลับไปได้
หลังจาก พันเอก เบควิท และหน่วย “เดลตา” ของเขากลับไปถึงสหรัฐอเมริกาได้ไม่กี่วัน ประธานาธิบดี คาร์เตอร์ ได้แสดงความประสงค์ท่ีจะไปเย่ียมกองกาลัง ชุดนี้ท่ีฐานท่ีต้ังปกติ เพ่ือแสดงถึง “ความขอบคุณ” จากใจจรงิ ตอ่ ความพยายามในการปฏบิ ตั ภิ ารกจิ อนั ตราย ในอิหร่าน
ผู้นาสูงสุดของสหรัฐได้สัมผัสมือกับนักรบเดลตา ทุกนายท่ียืนต้ังแถวรอรับประธานาธิบดีของพวกเขา แต่สิ่งท่ีสร้างความประทับใจให้กับเดลตาทั้งหมดก็คือ ภาพท่ีประธานาธิบดีคาร์เตอร์ยืนกอดคอถ่ายรูปร่วมกับ พันเอก เบควิท คล้ายกับจะเป็นการแสดงให้เห็นว่า เขาไม่ได้ “ตาหนิ” ในความล้มเหลวท่ีเกิดข้ึน
ในความเป็นจริงบุรุษแห่งทาเนียบขาวและทุกคน ต่างรู้ดีว่าหากอเมริกาได้รับ “ชัยชนะ” ในภารกิจนี้ จิมมี คาร์เตอร์ จะกลายเป็น “ฮีโร่” ของชาวอเมริกันในทันที และน่ันหมายถึงว่า เขาจะต้องได้รับการเลือกตั้งเป็น ประธานาธิบดีอีกสมัยหน่ึงอย่างแน่นอน
แต่เม่ือสถานการณ์พลิกผัน ทาให้ภารกิจล้มเหลว จงึ ไมต่ อ้ งสงสยั เลยวา่ เหตใุ ดคารเ์ ตอรจ์ งึ กระเดน็ ออกจาก ตาแหน่ง ด้วยการพ่ายแพ้เลือกต้ังให้แก่ประธานาธิบดี คนใหม่คือ “โรนัลด์ เรแกน” ก่อนที่เรแกนจะกลายเป็น ประธานาธิบดีในประวัติของสหรัฐอเมริกาที่ดารง ตาแหน่งอย่างยาวนานถึง ๓ สมัย
ถงึ แม้ พนั เอก เบควทิ จะไดร้ บั คา สงั่ ใหเ้ ขา้ รว่ มในการ แถลงข่าวต่อส่ือมวลชนในสัปดาห์ต่อมา แต่เขากลับ ปฏิเสธโดยให้เหตุผลว่า “เดลตา” เป็นหน่วยงาน
ลับสุดยอด จึงไม่สมควรท่ีเขาจะเปิดเผยตัว หรือ แพร่งพรายข้อมูลเกี่ยวกับหน่วยรบพิเศษหน่วยน้ีให้ สาธารณชนได้รับรู้
อย่างไรก็ตาม ในการประชุมระหว่างเหล่าทัพ ที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าท่ีระดับสูงเบควิทไม่ปฏิเสธที่ จะเข้าไปตอบข้อซักถามของทุกฝ่าย และหนึ่งในคาถาม ท่ีเบควิทต้องเผชิญก็คือ
“ผกู้ ารเบควทิ ...คณุ คงไมค่ ดิ ทจี่ ะลม้ เลกิ ภารกจิ นใี้ชม่ ย้ั ” เบควิทตอบในทันทีว่า
“ถึงแม้ ซี-130 จะพังพินาศ แต่เราไม่ล้มเลิกภารกิจ
แน่ครับ”
สง่ิ ทเี่ บควทิ พดู ออกไปนบั เปน็ คา ตอบที่ “เหมาะสม” เพราะภาพของเบควิทท่ีทุกคนมองก็คือ นายทหาร ผู้คงความแกล้วกล้า ซึ่งพยายามจะทาทุกวิถีทางให้ ภารกิจบรรลุเป้าหมาย
แต่ความล้มเหลวที่เกิดขึ้น ก็เป็นส่ิงที่เขาไม่อาจ ควบคุมมันได้
มนั ไมใ่ชค่ วามผดิ พลาดของคนใดคนหนงึ่ แตเ่ปน็ เพราะ “โชคชะตา” กาหนดไว้เช่นนั้นมากกว่า
อยา่ งไรกต็ าม มหี ลายคนทแี่ สดงออกอยา่ งเปดิ เผยวา่ รู้สึกโล่งใจที่ภารกิจถูกยกเลิกอย่างกะทันหัน เพราะ พวกเขาเหน็วา่หากหนว่ยเดลตาบกุเขา้ไปถงึกรงุเตหะราน ได้ตามแผน และเกิดการต่อสู้กับทหารอิหร่าน สิ่งที่จะ ต้องมาอย่างแน่นอนก็คือปัญหาและผลกระทบด้าน การต่างประเทศ ซึ่งจะเกิดขึ้นกับรัสเซียและชาติอาหรับ ชาติอื่น ๆ จนอาจบานปลายกลายเป็นวิกฤตการณ์ คร้ังใหม่ได้เช่นกัน
ในทา้ ยทสี่ ดุ แลว้ หลงั จากตวั ประกนั ทสี่ ถานทตู สหรฐั ในกรุงเตหะรานถูกนักศึกษาอิหร่านควบคุมอยู่นานกว่า ๘ เดือน ทุกคนก็ได้รับอิสรภาพ โดยได้รับการปล่อยตัว โดยปลอดภัย (ต้นฉบับไม่ได้ระบุว่าเหตุใดอิหร่านจึงยอม ปล่อยตัวชาวอเมริกันเหล่านี้)
หลายปีต่อมา มีการเปิดเผยเอกสารของหน่วย วิเคราะห์ปฏิบัติการทางทหาร “ฮาโลเวย์” ของ สหรัฐอเมริกาซ่ึงมีหน้าที่ศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์
นาวิกศาสตร์ 39 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕


ความสาเร็จ หรือความล้มเหลวของปฏิบัติการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นโดยทหารสหรัฐอเมริกาไม่ว่าการปฏิบัติภารกิจ ในภูมิภาคใดก็ตาม
ผลสรุปจากหน่วยวิเคราะห์ฮาโลเวย์ระบุสาเหตุถึง ความลม้ เหลวของปฏบิ ตั กิ าร“อเีกลิ คลอว”์ มากถงึ ๒๓ขอ้ ในจา นวนนขี้ อ้ หนงึ่ มสี าเหตมุ าจากปญั หาการบา รงุ รกั ษา เครอื่ งยนตโ์ ดยทมี ผชู้ า นาญการดา้ นอากาศยาน ซงึ่ ระบวุ า่
การซ่อมบารุงเฮลิคอปเตอร์แบบ “ซี สตัลเลียน” ถึงแม้จะเป็นการปฏิบัติตามมาตรฐานของกองทัพเรือ แต่มันก็ไม่สอดคล้องกับภารกิจนี้
ผลการวิเคราะห์ “ล้วงลึก” ลงไปถึงรายละเอียด ปลกี ยอ่ ยหลายประการอาทเิชน่ “ไสก้ รองอากาศ”ทใี่ชก้ บั เครื่องยนต์ เป็นไส้กรองท่ีใช้กับการบินในทะเลไม่ใช่ การบนิ ในทะเลทราย รวมทงั้ “สารหลอ่ ลนื่ ” ทใี่ ชใ้ นระบบ ตา่ ง ๆ ของเฮลคิ อปเตอรไ์ มเ่ หมาะสมสง่ ผลใหเ้ ครอื่ งยนต์ ร้อนจัด
แต่บทวิเคราะห์ข้อที่ “กินใจ” นักบินนาวิกโยธิน มากที่สุดก็คือ
“ทุกคนที่ได้รับมอบหมายให้บินในภารกิจวันนั้น ตา่ งไมร่ เู้ ลยวา่ พวกเขากา ลงั ปฏบิ ตั หิ นา้ ทใี่ นภารกจิ ทไี่ มม่ ี โอกาสสาเร็จแม้แต่น้อย”
สงิ่ หนงึ่ ทตี่ ามมาหลงั จากนน้ั กค็ อื “การเปลยี่ นแปลง” ท่ีสาคัญท่ีสุดในกองทัพสหรัฐอเมริกา เพราะบทเรียน แห่งความล้มเหลวท่ีมีสาเหตุมาจากการใช้เฮลิคอปเตอร์ ของกองทัพเรือทาให้กองทัพบกประกาศว่าจะไม่มี การอาศัยเฮลิคอปเตอร์ของเหล่าทัพอ่ืนในการปฏิบัติ ภารกิจใด ๆ อีกต่อไป แต่กองทัพจะจัดตั้งหน่วยบิน เฮลิคอปเตอร์สนับสนุนปฏิบัติการพิเศษขึ้นด้วยตนเอง เพ่ือสนับสนุนภารกิจที่ใช้กาลังนอกแบบในอนาคต
นี่เองจึงเป็นท่ีมาของหน่วยบินท่ีมีชื่อว่า “ไนท์ สตอลค์ เกอร”์ หรอื นกั ลา่ ราตรี ซงึ่ หนว่ ยบนิ นแ้ี หละทเี่ ขา้ ไป ปฏบิ ตั กิ ารในโซมาเลยี จนถกู ยงิ ตกกลายเปน็ ขา่ วโดง่ ดงั ไป ท่ัวโลกในอีก ๒๐ ปีต่อมา
สา หรบั พนั เอกเบควทิ ในฐานะผกู้ อ่ ตง้ั หนว่ ย“เดลตา ฟอรซ์ ” ยงั คงไดร้ บั การกลา่ วขานยกยอ่ งและเปน็ ทนี่ บั ถอื
นาวิกศาสตร์ 40 ปีที่ ๑๐๕ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๕
ประธานาธิบดี จิมมี คาร์เตอร์ ในวัย ๙๕ ปี ก่อนเสียชีวิต
ของเหล่านักรบเดลตาจวบจนปัจจุบัน ในขณะที่เดลตา ผู้รอดชีวิตจาก “อีเกิล คลอว์” ยังคงมีการพบปะกัน ทุกปีเพ่ือราลึกถึงเพื่อนผู้จากไป
รวมท้ัง “จิมมี คาร์เตอร์” อดีตนายทหารเรือ ผู้ก้าวขึ้นสู่ตาแหน่งประธานาธิบดีเช่นเดียวกับ “จอห์น เอฟ. เคนเนดี” อดีตประธานาธิบดีผู้มาจาก นายทหารเรือที่เคยเป็นผู้บังคับการเรือตอร์ปิโด
จะแตกต่างกันก็เพียงเคนเนดีถูกลอบสังหาร ขณะดารงตาแหน่ง ขณะท่ีคาร์เตอร์กลายเป็นอดีต ประธานาธิบดีที่อายุยืนยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ สหรัฐอเมริกา เพราะเขาล่วงลับไปเม่ืออยู่ในวัย ๙๕ ปี


กล่าวนา
สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรืออีกพระนามหนึ่งที่คนไทยเรียกขานว่า “พระเจ้ากรุงธนบุรี” ทรงนับเป็น พระมหากษัตริย์นักรบที่มีพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ต่อปวงชนชาวไทยตราบจนวันน้ี ด้วยพระปรีชาสามารถ ในด้านการทหาร โดยเฉพาะการที่พระองค์ใช้ยุทธศาสตร์ทางเรือเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางทหาร และทางการเมือง ใ น ก า ร ข บั ไ ล ท่ ห า ร อ งั ว ะ อ อ ก จ า ก เ ม อื ง ธ น บ รุ ี แ ล ะ ก ร งุ ศ ร อี ย ธุ ย า ก อ บ ก เ้ ู อ ก ร า ช ก ล บั ค นื ม า ใ น เ ว ล า เ พ ยี ง ๗ เ ด อื น ( ว นั ช น ะ ศ กึ ๖ พฤศจกิ ายน ๒๓๑๐) สรา้ งความเปน็ ปกึ แผน่ ใหบ้ า้ นเมอื งดงั เดมิ (ปราบชมุ นมุ เจา้ นครศรธี รรมราช พ.ศ. ๒๓๑๒) และ ขยายพระราชอาณาเขตออกไปทางตะวันออก (ยกทัพเรือ และทัพบกไปตีกรุงกัมพูชา พ.ศ. ๒๓๑๔)
บทความนมี้ คี วามมงุ่ หมายเพอ่ื เทดิ ทนู และเฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ มหาราชในฐานะ “จอมทพั เรอื ” ผู้ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่งของไทยท่ีทรงยกทัพเรือเป็นทัพหลวง และทัพบกไปตีเมืองฮาเตียน (พุทไธมาศ/บันทายมาศ) และกรุงกัมพูชา (เมืองพุทไธเพชร/อุดงฤาชัย–ราชธานีของเขมรในขณะนั้น) โดยผู้เขียนเรียบเรียงจากหนังสือประชุม พงศาวดารฉบบั กาญจนาภเิษกเลม่ ท่ี๒,๓และ๑๒(พ.ศ.๒๕๓๙)ประชมุ พงศาวดารภาคท่ี๖๖ประวตั กิ ารทหารเรอื ไทย พ.ศ. ๒๕๐๘ ประวัติศาสตร์อยุธยาจากพระราชพงศาวดาร พ.ศ. ๒๕๖๒ บันทึกความจริงแห่งราชอาณาจักร ด่ายนาม (เวียดนาม) บันทึกตระกูลหมัก และบันทึกแห่งซาดิงห์ (เวียดนาม) หนังสือ The Prince of Ha-Tien (Nicholas Sellers, 1983) และ Ha-Tien or Banteay Meas in The Time of The Fall of Ayutthaya (Yumio Sakurai, 1999) ฯลฯ
สาหรับเอกสาร/หนังสือท่ีใช้ในการเรียบเรียงบทความนี้มีความแตกต่างกันหลายท่ีมา จึงทาให้รายชื่อบุคคล/ รายพระนาม และสถานทอี่ าจมคี วามลกั ลน่ั กนั บา้ ง เชน่ ชอื่ เมอื งฮาเตยี น/เฟอื งแถงห/์ บนั ทายมาศ/พทุ ไธมาศ/คนั เคา/ เปยี ม เปน็ ชอื่ เมอื งเดยี วกนั สา หรบั เจา้ เมอื งนนั้ ญวนเรยี กวา่ หมกั เทยี นตู ตรงกบั ภาษาจนี วา่ หมอเทยี นซอื่ เขมรเรยี กวา่ สมเด็จพระโสทัต ไทยเรียกว่า พระยาราชาเศรษฐี ฯลฯ เป็นต้น
การท่ีสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ ทรงตัดสินพระทัยในการโจมตีเมืองฮาเตียน และกรุงกัมพูชานั้น มีประเด็นท่ีชวน ให้วิเคราะห์ว่า เหตุปัจจัยอะไรท่ีเป็นแรงผลักดัน และแนวโน้มท่ีทาให้พระองค์ทรงพิเคราะห์ว่า เมืองฮาเตียน และ กรุงกัมพูชาเป็นภัยคุกคามต่อราชบัลลังก์กรุงธนบุรี และความมั่นคงของราชอาณาจักรที่พระองค์ได้กอบกู้ข้ึนมาใหม่ รวมทั้งสถานะของสยามในอุษาคเนย์อีกด้วย
นาวิกศาสตร์ 22 ปีท่ี ๑๐๔ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


ย้อนรอยอโยธยากับกรุงกัมพูชา
ในสมัยอยุธยาตอนต้นได้ขยายขอบเขตปริมณฑลอานาจไปทางตะวันออก จากข้อความใน จารึกขุนศรีไชยราช
มงคลเทพ และพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับปลีกหมายเลข ๒/ก ๑๐๔ ต้นฉบับของหอสมุดวชิรญาณ แสดงให้เห็นว่าสงครามครั้งนี้เป็นการยกทัพไปตีเมืองพิมาย พนมรุ้ง จากนั้นจึงยกทัพไปเมืองพระนครหลวง (เมืองพระนครศรียโศธรปุระ ราชธานีของอาณาจักรขอม/กัมพูชาโบราณ) ดังปรากฏในพระราชพงศาวดารกรุงเก่า ฉบับหลวงประเสริฐ กล่าวว่าเป็นปีท่ีสมเด็จพระบรมราชาธิราชท่ี ๒ (เจ้าสามพระยา) ยกทัพไปตีเมืองพระนคร สรุปเนื้อหาสาคัญได้ว่า
“ศกั ราช๗๙๓กนุ ศก(พ.ศ.๑๙๗๔)สมเดจ็ พระบรมราชาเจา้ เสดจ็ ไปเอาเมอื งนครหลวงได้แลทา่ นจงึ ใหพ้ ระราชกมุ ารทา่ น พรนครอินทเจ้า เสวยราชสมบัติ ณ เมืองนครหลวงน้ัน ครั้งน้ันท่านจึงให้พรญาแก้ว พรญาไทยแลรูปภาพทั้งปวง มายังพรณครศรีอยุธยา...”
การล่มสลายของอาณาจักรเมืองพระนครในคร้ังนี้ นับได้ว่าเป็นการสิ้นสุดหรือหมดยุคเทวราชขอม โดยสมบูรณ์ ทาให้บ้านเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย แต่อยุธยาก็ปกครองอยู่ได้ไม่นาน (๑๕-๒๐ ปี) กลุ่ม ราชวงศ์ และขุนนางกัมพูชามีเจ้าพญายาตเป็นผู้นา พยายามแยกตัวเป็นอิสระ มีฐานกาลังอยู่ทางภาคใต้ ของกัมพูชาท่ีเมืองจตุรมุข/จัตตุรมุข (กรุงพนมเปญ) สามารถกลับมาชิงเมืองพระนครหลวงคืนได้ และ ต่อมาได้ย้ายราชธานีไปอยู่ที่เมืองบาสาน (ศรีสันธร) จัตุรมุข และละแวก ตามลาดับ
ท่ีมา : https://www.finearts.go.th/fad10/view/25214- องค์ความรู้เร่ือง---จารึกขุนศรีไชยราชมงคลเทพ
อยา่ งไรกต็ าม อยธุ ยากบั กมั พชู ายงั คงมกี ารทา สงครามกนั หลายครงั้ จนถงึ พ.ศ. ๒๑๓๖ สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช เสดจ็ ไปตเี มอื งละแวกได้ และไดก้ วาดตอ้ นผคู้ นและราชวงศบ์ างสว่ นไปยงั กรงุ ศรอี ยธุ ยา แตห่ ลงั จากรชั สมยั ของพระองค์ อิทธิพลของอยุธยาก็เส่ือมลง กัมพูชาก็แยกตัวเป็นอิสระและย้ายเมืองหลวงไปอยู่ท่ีเมืองอุดงฤาชัย (อุดงมีชัย) ในสมยั นกี้ ารเมอื งภายในกมั พชู าแตกแยกเปน็ ๒ฝา่ ยฝา่ ยหนงึ่ สนบั สนนุ อยธุ ยาอกี ฝา่ ยหนงึ่ สนบั สนนุ ญวนเกดิ ความวนุ่ วาย มีสงครามแย่งชิงราชสมบัติหลายคร้ัง และญวนได้เข้ามาแทรกแซงมากขึ้น
ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ กัมพูชายอมอ่อนน้อมต่อกรุงศรีอยุธยา ถวายต้นไม้เงินต้นไม้ทองทุกปี แต่ญวน ยังมีอิทธิพลครอบงาอยู่ ต่อมาใน พ.ศ. ๒๒๘๐ พระเจ้าบรมโกศสามารถสนับสนุนพระศรีธรรมราชาธิราช กษัตริย์เขมร ที่ลี้ภัยมาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๒๕๗ กลับไปครองกรุงกัมพูชาได้อีกคร้ัง
อย่างไรก็ตามยังคงมีสงครามแย่งชิงอานาจกันอยู่ รวมทั้งการคุกคามจากญวนโดยตรง ใน พ.ศ. ๒๓๐๐ พระอไุ ทยราชา (นกั องคต์ น) ไดร้ าชสมบตั ริ าชาภเิ ษกเปน็ พระนารายณร์ าชารามาธบิ ดี นกั องคน์ นทถ์ วายนามพระรามราชา เสด็จล้ีภัยไปกรุงศรีอยุธยา (ปลายรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ) จนถึงกองทัพอังวะล้อมกรุงศรีอยุธยาได้เสด็จ หนอี อกมากอ่ นกรงุ แตก ไปสวามภิ กั ดก์ิ บั พระเจา้ ตากสนิ ฯ ขณะเสดจ็ มงุ่ หนา้ ไปทางหวั เมอื งตะวนั ออกเพอ่ื รวบรวมกา ลงั กลับมากอบกู้กรุงศรีอยุธยา
ดังน้ัน เมื่อพระเจ้าตากสินฯ ปราบดาภิเษกเป็นพระเจ้ากรุงธนบุรีแล้ว ทรงมีพระประสงค์ที่จะช่วยเหลือให้ พระรามราชาได้กลับไปครองกรุงกัมพูชา และเห็นเป็นโอกาสท่ีจะขยายขอบเขตพระราชอานาจออกไปทางตะวันออก
นาวิกศาสตร์ 23 ปีที่ ๑๐๔ เล่มท่ี ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔


Click to View FlipBook Version