The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mon, 2022-02-22 22:05:22

ทำเนียบวิจัย 65

ทำเนียบวิจัย 65

๕๓
การเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาและการได้รับยาในกลุ่ม PIM/PPO และมีข้ออเสนอในแนวทาง 3
แนวทางท่ีสถานพยาบาลสามารถนา ไปปรับใช้เพ่ือการดูแลผู้ป่วยสูงอายุที่ใช้ยาร่วมหลายขนาน
ประกอบด้วยการให้การใช้ยาร่วมหลายขนานเป็นหนึ่งในการวินิจฉัย การมีระบบเฝ้าระวังการใช้ยา
ร่วมหลายขนานและการใช้ระบบการทบทวนยา ท้ังน้ีการดูแลผ้ปู ่วยสูงอายุที่ใช้ยาร่วมหลายขนานเป็น
เรือ่ งที่สาคัญท่ีจะช่วยให้การใชย้ าร่วมหลายขนานทีไ่ ม่จาเปน็ ลดลง ซึง่ จะสง่ ผลใหป้ ัญหาทเี่ กี่ยวข้องกับ
การใชย้ าร่วมหลายขนานลดลงและอาจทา ใหค้ ณุ ภาพชีวิตของผ้ปู ว่ ยสงู อายดุ ขี ้นึ ได้

วรนาถ พรหมศวร และศุภรนิช วสุกาญจนเวช (2559: C-115-C127)ศึกษามุมมองเรื่อง
โรงเรียนผู้สูงอายุตามบริบทชุมชนท้องถิ่น สุรินทร์พบว่า ปัจจัยเง่ือนไขของการพัฒนานวัตกรรมให้
ประสบความสาเร็จในการดาเนินงานอย่างเป็นรูปธรรม มีกิจกรรมที่ชัดเจน มีสมาชิกซึ่งเป็นผู้สูงอายุ
ใน เขตจังห วัดสุริน ทร์ส่งผลให้ ผู้สูงอายุได้รับการดูแลสุขภาพ ตามมาตรฐาน งาน การดูแลผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุมีสถานะสุขภาพท่ีดีข้ึน ลดความรุนแรงของการเจ็บป่วย เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน
และภาวะเครียด ซ่ึงผลสาเร็จมาจากปัจจัย 1) การมีสว่ นร่วม จากความร่วมมือของ ได้สนับสนุนด้าน
วิทยากร อุปกรณ์ในการดาเนินงานในโรงเรียน เช่น การตรวจระดับน้าตาลในเลือด อปท.สนับสนุน
งบประมาณในการดาเนินงาน องค์กรชุมชนให้ความร่วมมือให้เกิดโครงการโรงเรียนผู้สูงอายุ กลุ่ม
ผู้สูงอายุเข้าร่วมกิจกรรม และ อสม. เป็นจิตอาสาในการทาอาหาร วดั ความดัน ชักชวนผู้สูงอายุให้เข้า
ร่วมกิจกรรมโรงเรียนผสู้ ูงอายุ ซึ่งเป็นการทากิจกรรมตามบทบาท 2) การนาใช้ทุนทางสังคมโรงเรียน
ผู้สูงอายุได้มีการนาใช้ทุนทางสังคมที่มีอยู่ เช่น หน่วยงานภาครัฐ คือ อปท. และองค์กรชุมชน คือ
ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นาชุมชน ในการเห็นชอบโครงการจากเวทีประชาคมหมู่บ้าน กลุ่ม อสม. ที่เข้าร่วมเป็น
จติ อาสา และภาคประชาชน คือ ผู้สูงอายุท่ีให้ความร่วมมือ นอกจากนี้ยังมีการนาใช้ทุนจากภายนอก
คือ กศน. เป็นวิทยากรอบรม การทาอาชีพ และพมจ. มาให้ความรู้เรื่องสิทธิประโยชน์ของผู้สูงอายุ
วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ให้ความรู้เกี่ยวกบั ผู้สงู อายุ 3) นโยบายปัจจยั ความสาเร็จ จาก
นโยบาย ซึ่งนโยบายในการดูแลผู้สูงอายุ เป็นประเด็นท่ีสาคัญที่ผลักดันให้เกิดแนวคิดการสร้าง
โรงเรียนผู้สูงอายุ ซ่ึงเป็นความต้องการท่ีจะพัฒนางานการดูแลผู้สูงอายุเพื่อตอบสนองนโยบาย โดยมี
เป้าหมายหลัก คือ การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ให้ได้รับการตรวจคัดกรองสุขภาพได้รับการดูแลเพื่อ
ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการเจ็บป่วย การให้มีกิจกรรมของชมรมผู้สูงอายุอย่างย่ังยืน ผู้สูงอายุ
ไดร้ บั การเยยี่ มบา้ น เหลา่ นี้เปน็ ตน้

พิสิษฐ์ พิริยาพรรณ และคณะ (๒๕๕๘: 34-50 )ที่ศึกษาการพัฒนามาตรฐานการดูแล
สุขภาพผู้สูงอายุในศูนย์การให้บริการแบบพักค้าง พบว่า ในภาพรวมการนาไปปฏิบัติของมาตรฐาน
การดูแลสุขภาพผสู้ งู อายใุ นศูนย์การใหบ้ ริการแบบพักค้าง จาก 5 องคป์ ระกอบ 10 มาตรฐาน คือ 1)
ด้านการบริหารจัดการ 2) ด้านสุขภาพ 3) สิทธิและความคุ้มครอง 4) ด้านสภาพแวดล้อมทาง
กายภาพและระบบความปลอดภัย และ 5) ด้านระบบมาตรฐานภายใน อยู่ในระดับมากที่สุด แต่ท้ังน้ี
ผลการศึกษาได้พบประเดน็ สาคัญแตกต่างจากการศกึ ษาอ่ืนคอื 1) ด้านการบริหารจัดการ ผ้สู ูงอายุได้
ระบุถงึ ความตอ้ งการให้มรี ะบบการบรหิ ารจดั การที่ไดม้ าตรฐาน โดยความควบคมุ ดแู ลของผู้เชี่ยวชาญ
ที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานวิชาชีพเฉพาะ ทั้งวิชาชีพ พยาบาล แพทย์ผู้ให้การดูแล และสหสาขา
วิชาชีพ รวมท้ังการข้ึนทะเบียนเป็นสถานบริบาลท่ีถูกต้อง เพื่อสร้างความม่ันใจ และเป็นหลักประกัน

๕๔
ได้ถึงคุณภาพและมาตรฐานของการบริการ 2) ด้านการดูแลสุขภาพ ผู้สูงอายุมีความต่ืนตัว มีความรู้
และต้องการการดูแลเร่ืองยาที่มีมาตรฐานและมีการควบคุมดูแลเพ่ือป้องกันความคลาดเคลื่อนจาก
การใช้ยาให้แก่ผู้สูงอายุ และ 3) ด้านระบบมาตรฐานภายใน ผู้สูงอายุมีความต้องการและมีความ
คิดเห็นว่ามาตรฐานน้ี มีความสาคัญและจาเป็นในระดับท่ีมากท่ีสุด เน่ืองจากเป็นระบบและกลไกใน
การรับรองคุณภาพของการให้บริการ ที่มีระบบการตรวจสอบ ให้การรับรองการพัฒนาคุณภาพอย่าง
ต่อเน่อื ง

วริยา จันทรข์ า หทยั ชนก บัวเจริญ และชนิ วุฒิ อาสนว์ เิ ชียร (2558: 22-41) ผลการศึกษา
พบว่า 1) ฐานคิด ทุนสังคม และศักยภาพการดูแลผู้สูงอายุเพ่ือสร้างชุมชน จัดการตนเอง คือ การมี
ส่วนร่วมคิด ร่วมทา ร่วมรับผลประโยชน์แก้ไขปัญหา โดยใช้ภาคีเครือข่าย สร้างความมีจิตสาธารณะ
เพ่ือพัฒนาศักยภาพการดูแลสุขภาพ พัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาวะชุมชน จัดระบบบริการ
สุขภาพจัดต้ังกองทุน/สวัสดิการ และนาใช้ข้อมูลตาบลมาพัฒนางานอย่างเป็นระบบ 2) รูปแบบการ
ดแู ลผสู้ ูงอายขุ องชมุ ชนทอ้ งถิ่นจดั การตนเอง ใช้ระบบฐานข้อมูลตาบลบูรณาการทุนและศกั ยภาพทาง
สังคมภายในและภายนอกพ้ืนท่ี เน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิต สุขภาพความเป็นอยู่ และการพึ่งพา
ตนเอง ดูแลผู้ท่ีจะเขา้ สู่วัยผู้สงู อายุและผสู้ งู อายุโดยเน้น 4 มิติคือ1) การดูแลระยะยาวสาหรับผูส้ งู อายุ
ท่ีมีภาวะพึ่งพิง (Long-term care) 2) การพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุด้านการเรียนรู้สัมมาอาชีพ 3)
การเตรียมความพร้อมกอ่ นวัยสงู อายุและ 4) การจดั สภาพแวดล้อมทเ่ี ปน็ มติ รกบั ผู้สงู อายุ

สุภา เพ่งพิศ และคณะ (2558: บทสรุปผู้บริหาร) ได้ดาเนินโครงการวิจัยบูรณาการเพ่ือ
พัฒนารูปแบบการดูแลผู้สูงอายุแบบองค์รวม ระยะที่ 2 ผลการศึกษาพบว่า ภาคีเครือข่ายในพื้นที่
ดาเนินการศึกษา ส่วนใหญ่รวมกลุ่มแกนนาจิตอาสา โครงการ/กิจกรรมที่ดาเนินการในกลุ่มผู้สูงอายุ
ติดเตียง/ พิการ ทาให้ผู้สูงอายุมีความสุข มีกาลังใจ เช่นกันในกิจกรรมทางสังคมท่ีเชิญชวนผู้สูงอายุ
ออกมาทากิจกรรมนอกบ้าน หรือกิจกรรมให้ความรู้ และกิจกรรมสร้างสุขอื่นๆ ปัจจัยความสาเร็จมี
เง่ือนไข 6 ปัจจัย คือ 1) ความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย 2) ความมีจิตอาสา เสียสละ ความสามัคคี
ภาวะผู้นา ความเข้มแข็ง และร่วมกันของแกนนาจิตอาสา 3) การบริหารจัดการที่ดี และระบบ
สนับสนุนที่ดี 4) การตอบสนองความต้องการของผู้สูงอายุอย่างแท้จริง 5) วัฒนธรรมชุมชนท่ีอยู่กัน
อย่างพี่น้อง เอื้อเฟ้ือเผื่อแผ่ ความกตัญญู และยกย่องผู้สูงอายุเป็นทรัพยากรท่ีมีคุณค่า และ 6)
กระบวนการติดตามประเมินผล การถอดบทเรยี น การเสรมิ พลัง และการสนับสนุนอย่างตอ่ เน่ือง สว่ น
ปัญหาอุปสรรคที่พบ ประกอบด้วย 1) การให้ความสาคัญกับงานผู้สูงอายุของผู้นาชุมชน/ อปท. 2)
ความแตกต่างของคุณลักษณะส่วนบุคคลของผ้สู ูงอายุ 3) จิตอาสารวมกลุ่มลาบาก เนื่องจากไม่มเี วลา
มีภาระหน้าที่ ขาดประสบการณ์ ขาดจิตอาสาท่ีมีทักษะเฉพาะ 4) ขาดข้อมูลผู้สูงอายุที่เป็นปัจจุบัน
และขาดงบประมาณท่ีสนบั สนุนกิจกรรม

จนิ ตนา อาจสันเท๊ียะ และพรนภา คาพราว (2557: 123-127)ศึกษาและทบทวนรูปแบบ
การดูแลสาหรับผู้สูงอายุในชุมชนพบว่า รูปแบบบริการที่ใส่ใจผู้สูงอายุบุคลากรท่ีเอ้ืออาทรตอ่ ผสู้ ูงอายุ
ผู้ให้บริการที่มีเจตคติท่ีดีต่อผู้สูงอายุ และความสูงอายุ ที่มีความรู้ในการดูแลผู้สูงอายุ และมีทักษะใน
การดูแลผู้สูงอายุ คือบุคลากรท่ีเอื้ออาทรต่อผู้สูงอายุ ระบบบริการท่ีเอ้ืออาทรต่อผู้สูงอายุ คือ หน่วย
บริการที่มีระบบการให้บริการที่นาความรู้เกี่ยวกับผู้สูงอายุมาเป็นตัวชี้นา มีกระบวนการทาอย่างเป็น

๕๕
ระบบ และครอบคลุมเป้าหมายของทุกกลุ่มผู้สูงวัย ส่ิงแวดล้อมที่เอ้ืออาทรต่อผู้สูงอายุ ส่ิงแวดล้อมท่ี
ปลอดภัยเขา้ ถึงไดแ้ ละตอ้ งเอาใส่ใจทั้งส่ิงแวดล้อมในหน่วยบรกิ ารในชุมชนและทบี่ ้านจะก่อใหเ้ กิดพลัง
ความเข้มแข็งของชุมชนท้องถ่ินบนฐานวัฒนธรรมของตนเองและเป็นรากฐานสาคัญสาหรับสร้าง
รูปแบบการดแู ลผสู้ ูงอายทุ เี่ ข้มแขง็ และยั่งยืนต่อไปในอนาคต

วรรณศิริ นิลเนตร (2557: ง)ศึกษาความฉลาดทางสุขภาพของผู้สูงอายุไทยในชมรม
ผู้สูงอายุในเขตกรุงเทพมหานครพบว่า ความฉลาดทางสุขภาพของกลุ่มผู้สูงอายุส่วนใหญ่ (ร้อยละ
95.5)อยู่ในระดับพื้นฐานและระดับปฏิสัมพันธ์ (ร้อยละ 0.5) 2) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับระดับ
ความฉลาดทางสุขภาพ ได้แก่ อายุ (p-value=0.001) เพศ (p-value=0.013) ระดับการศึกษา
(p-value<0.001) ความสามารถในการมองเห็น (p-value=0.003) ความสามารถในการเขียน
(p-value<0.001) ผู้ดูแล (p-value=0.005) สิทธิในการรักษาพยาบาล (p-value=0.041)
ความถี่การเข้าร่วมกิจกรรมของชมรม (p-value<0.001) และการเดินทางมาชมรม (p-value=
0.007) และ 3) เคร่ืองมอื ที่ได้พัฒนาข้นึ มีความน่าเชื่อถือและความเปน็ ไปได้ในการใช้วัดระดับความ
ฉลาดทางสุขภาพของผู้สูงอายุไทย เนื่องจากมีค่าดัชนีความยากเฉลี่ย ระดับง่ายถึงค่อนข้างยาก ค่า
อานาจจาแนกเฉล่ีย ระดับพอใช้ถึงดีมาก และค่าความเท่ียง ระดับพอใช้ถึงสูง ดังนั้น การจัดประเภท
บริการและกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพของผู้สูงอายุไทยควรพิจารณา
ถึงระดับความฉลาดทางสุขภาพของผู้สูงอายุในแต่ละกลุ่มและปัจจัยที่เก่ียวข้อง หน่วยงานด้าน
สาธารณสุขที่เก่ียวข้องสามารถนาเคร่ืองมือที่พัฒนาข้ึนในการศึกษานี้ไปใช้วัดระดับความฉลาดทาง
สขุ ภาพของผ้สู ูงอายไุ ด้

วิราพรรณ วิโรจน์รัตน์ ขวัญใจ อานาจสัตย์ซ่ือ และร.อ.หญิงศิริพันธ์ สาสัตย์ (2557: 104-
115) ศึกษาเพ่ือพัฒนารูปแบบบริการสุขภาพในการดูแลผู้สูงอายุท่ีมีภาวะพ่ึงพาโดยการมีส่วนร่วม
ระหว่าง ครอบครัว ชุมชน และองค์กรรฐั พบว่า การนารปู แบบการดูแลผู้สูงอายุทีต่ ้องพ่ึงพาผู้อ่ืนโดย
ใช้ชุมชนเป็นฐานโดยมีอาสาสมัครเป็นผู้ประสานความร่วมมือในการดูแลผู้สูงอายุระหว่าง ครอบครัว
ชุมชน และศูนย์บริการสาธารณสุขไปทดลองใช้ พบว่าผู้สูงอายุมีความพึงพอใจสูงกว่าก่อนให้บริการ
อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ (p<0.05) ผู้สูงอายแุ ละผดู้ ูแลเข้าถึงบรกิ ารได้สงู ขึ้นกว่าก่อนให้บริการอยา่ ง
มีนัยสาคัญทางสถิติ (p<0.05) อย่างไรก็ตามภาวะสุขภาพของผู้สูงอายุและความพึงพอใจในบริการ
ของผู้ดูแลไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ซึ่งผู้วิจัยคาดว่าอาจเกิดจากการทดลองใช้
รูปแบบระบบบริการสุขภาพนี้อยู่ในช่วงส้ันประมาณ 3 เดือน ซึ่งไม่สามารถช่วยเหลือ แก้ปัญหาให้
ผดู้ ูแลไดห้ มดทุกเรอื่ ง

อุไรวรรณ ชัยชนะวิโรจน และนิรนาท วิทยโชคกิติคุณ (2557: 43-54) พบประเด็นสาคัญ
คือ พฤติกรรมการใช้ยาของผู้สูงอายุ โดยมีการใช้ยาไม่เป็นไปตามคาสั่งแพทย์ มีการใช้ยาด้วยตนเอง
อย่างไม่ปลอดภัย ผู้สูงอายุบางรายมีการเปล่ียนสถานท่ีรักษาไปเร่ือยๆ (Shop Around) โดยมีแหลง
ให้บริการมากมาย อาทิ โรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลหรือคลินิกของเอกชน ร้านยา คนเร่ขายยา
การโฆษณาหรือการบอกต่อผู้สงู อายุบางรายมีการเก็บยาที่ไม่เป็นระเบียบ เช่น เก็บยาทกุ ชนิดไวในถุง
เดยี วกนั ทั้งหมด ไมสามารถบอกไดว่ายาชนิดใดใชอ้ ย่างไร บางรายเกดิ จากความไมรู หรือเข้าใจผิดผิด
เช่น ยาอินสุลินเมื่อเปิดใช้แลวจะเก็บไวนอกตูเย็น เพราะเข้าใจว่าเก็บไวในตูเย็นเฉพาะขวดท่ียังไมเปิด

๕๖
ใช้เท่านั้น นอกจากนี้ ผู้สูงอายุมักมีการสะสมยาท่ีเหลือท้ังจากการจ่ายยาครั้งก่อนหรือเก็บสะสมยาท่ี
แพทย์ไมไดส่ังใช้แลว เพ่ือสารองไวใช้หากมีอาการกาเริบ หรือใช้ทดแทนหากยาที่แพทย์ส่ังใช้หมด
ก่อนวันนัด

มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (2555: viii-x) ศึกษาวิจัยและสร้างการมีส่วน
ร่วมในกองทุนด้านการพัฒนาสังคม(กองทุนผู้สูงอายุ) ประเด็นที่พบด้านกลไกการเงินการคลัง ได้แก่
การท่ีรายได้หลักของกองทุนมาจากเงินงบประมาณเป็นหลัก เงินจากแหล่งทุนอื่นมีน้อยมาก ทาให้
ความมั่นคงของเงินรายได้ น้อย ส่งผลต่อการกาหนดแผนงานของกองทุน และเงินทุนมีไม่เพียงพอต่อ
ความต้องการ ดังน้ันจึงควรมีการหาแหล่งทุนจากแหล่งอื่น และมีข้อเสนอให้มีการกาหนดแผนงานใน
การดาเนินการที่ชัดเจนและกาหนดประเด็นของโครงการท่ีจะสนับสนุนเพ่ือเป็นกรอบให้ผู้เสนอ
โครงการได้พัฒนาโครงการตรงตามเปา้ หมายของกองทุน

ไพจิตรา ล้อสกุลทอง และวรรณภา ศรีธัญญรัตน์ (๒๕๕๕: ๑๒๘- ๑๓๙) ศึกษาการพัฒนา
ระบบบริการดูแลระยะยาวสาหรับผู้สูงอายุในชุมชน ภายใต้บริบทของโรงพยาบาลระดับทุติยภูมิแห่ง
หนึ่ง ผลการศึกษาพบว่า โรงพยาบาลมีศักยภาพในการให้บริการดูแลผู้สูงอายุท่ีมีปัญหาซับซ้อน
เน่ืองจากมีแพทย์เฉพาะทาง มีพยาบาลผู้เช่ียวชาญทางด้านผู้สูงอายุ มีการบริการเยี่ยมบ้าน โดยทีม
สหสาขาวิชาชีพ มีระบบส่งต่อแบบ SKY ผบู้ รหิ ารมวี ิสัยทัศน์ในการท่พี ัฒนาระบบบริการดูแลระยะยาว
แต่พบจุดอ่อนคือ ขาดนโยบายในการดูแลผู้สูงอายุที่มีโรคเรื้อรังที่มีภาวะพ่ึงพาในชุมชน ขาดระบบ
การบูรณาการบริการทั้งด้านสุขภาพจากโรงพยาบาล และบริการด้านสังคมจากเทศบาล นอกจากนี้
ยังไม่มีระบบสนับสนุนท่ีชัดเจนในการให้การช่วยเหลือผู้สูงอายุท่ีมีโรคเรื้อรังท่ีมีภาวะพ่ึงพาในชุมชน
โดยไม่ได้มีการจัดหมวดหมู่ฐานข้อมูลของผู้สูงอายุที่มีโรคเร้ือรัง และมีภาวะพึ่งพาท่ีจาเป็นต้องแยก
ออกมาให้ชัดเจน แม้ว่าเทศบาลจะมีศักยภาพในการจัดบริการแก่ผู้สูงอายุตามนโยบายการกระจาย
อานาจ มีแหล่งทุนในการสนบั สนุนใหผ้ ู้สูงอายุทากิจกรรม มีการประสานงานกบั หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง
เช่น กาชาด แต่อย่างไรก็ตามยังขาดระบบฐานข้อมูลเชิงลึกสาหรับกลุ่มผู้สูงอายุในชุมชน และ
ฐานข้อมูลของผู้ดูแลหรือครอบครัวผู้สูงอายุในชุมชน ขาดระบบการเชื่อมประสานบริการทางสังคม
และสุขภาพ ขาดการจัดบริการส่งต่อ และบริการเชื่อมโยงจากอาสาสมัครการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน
รวมทัง้ อาสาสมัครประจาหมู่บ้านในชมุ ชน

องค์การสหประชาชาติ (United Nations, 2010: 43 - 44) ศึกษาสถานการณ์ท่ี
เก่ียวข้องกับผู้สูงอายุจากท่ัวโลก พบว่า ผู้สูงอายุมีความต้องการการเข้าถึงบริการดูแลสุขภาพเพ่ิม
สูงข้ึนอย่างต่อเน่ือง อันเป็นผลมาจากการเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรัง และการสูญเสียความสามารถทาง
กาย แต่ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพสาหรับการเจ็บป่วยดังกล่าวมีมูลค่าสูง นับเป็นภาระของ
ครอบครัวท่ีจะต้องจ่ายเงินจานวนมากไปกับการรักษาพยาบาล โดยเฉพาะในประเทศกลุ่มยากจน นี่
คือ อุปสรรคต่อการเข้าถึงบริการของผู้สูงอายุ หรือแม้แต่ในประเทศร่ารวยเองก็พบเช่นเดียวกันว่า
ค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้สูงอายุท่ีมีอายุยืนมากๆ ซึ่งมักจะมีปัญหาสุขภาพ ก็จะต้องจ่ายเงินจานวนมาก
ไปด้วย นอกจากต้นทุนของค่าใช้จ่ายที่เพ่ิมสูงข้ึนแล้ว การเข้าถึงบริการยังมีข้อจากัดจากปัญหาความ
ขาดแคลนบุคลากรด้านสุขภาพ โดยเฉพาะในเขตชนบท จากการทบทวนผลการศึกษาขององค์การ
อนามัยโลก (WHO, 2006 in United Nations, 2010: 44) ที่ศึกษาประเทศในแถบเอเชีย และ

๕๗
แอฟริกา จานวน ๕๗ ประเทศพบว่า เกือบทุกประเทศมีวิกฤตการขาดแคลนบุคลากรสาธารณสุขใน
การดูแลสุขภาพประชาชน และมีปัญหาในเขตชนบทมากกว่าเขตเมือง โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุจะมี
ข้อจากัดในการเข้าถึงบริการสุขภาพอย่างมาก เน่ืองจากไม่สามารถเดินทางไปรับบริการได้ ทั้งน้ี
นอกจากการขาดแคลนบุคลากรสุขภาพโดยทั่วไปแลว้ การขาดแคลนบุคลากรทมี่ ีความเชี่ยวชาญด้าน
การดูแลผู้สูงอายุโดยตรงนับว่าเป็นปัญหาอย่างกว้างขวางท่ัวไป แม้แต่ในประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งจาก
ผลการศึกษาในประเทศพัฒนาแล้ว ๑๘ ประเทศ พบความขาดแคลนแพทย์ และบุคลากรที่ทางาน
ดา้ นผู้สูงอายุ รวมทั้งมีแพทย์จานวนมากท่ีมีทัศนคติเชิงลบต่อผู้สูงอายุ และมองว่าปัญหาของผู้สูงอายุ
เป็นเรื่องทั่วๆไป ทาให้ไม่สนใจท่จี ะคิดค้น จดั หาวสั ดุ อปุ กรณ์ แผนการรักษาใหม่ท่ีเหมาะสมกับสภาพ
ของผสู้ ูงอายุ (Safilio-Rothschild, 2010 in United Nations, 2010: 44 - 45)

ศศิพัฒน์ ยอดเพชร (๒๕๕๒: ๘๗ – ๑๖๘) ได้ทบทวนองค์ความรู้เรื่อง บูรณาการระบบการ
ดูแลระยะยาวสาหรับผู้สูงอายุไทย และได้มีการศึกษาปัญหาอุปสรรคที่มีต่อการจัดต้ังระบบการดูแล
ระยะยาวของไทยประกอบดว้ ย ผลการศกึ ษาไดพ้ บวา่

๑. ปัญหาอุปสรรคที่มีผลต่อการดาเนินงานการดูแลระยะยาวของหน่วยงานที่ให้บริการด้าน
สขุ ภาพ ไดแ้ ก่

๑.๑ การจัดบริการแบบแยกส่วน การจัดบริการสาหรับผู้สูงอายุของประเทศไทย ยังคง
เป็นรูปแบบการแบ่งส่วนความรับผิดชอบระหว่างผู้ให้บริการสุขภาพและผู้ให้บริการทางสังคม โดย
กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานหลักท่ีรับผิดชอบการจัดบริการสุขภาพ ส่วนการจัดบริการสังคม
ยังไม่มีการบูรณาการหน่วยงานในการจดั บรกิ าร

๑.๒ บริการไม่สามารถตอบสนองต่อผู้ใช้บริการหน่วยบริการสุขภาพท่ีใกล้ชิดและ
ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด คือ หน่วยบริการปฐมภูมิ ได้แก่ สถานีอนามัย ศูนย์แพทย์ชุมชน หน่วย
บริการเวชปฏิบัติครอบครัวของโรงพยาบาล ศูนย์สาธารณสุขเทศบาล เป็นช่องทางและกลไกที่จะทา
ให้ชาวบ้านเข้าถึงระบบบริการสุขภาพที่เป็นธรรม การเปล่ียนแปลงทางสังคม ทาให้ระบบบริการ
สุขภาพในปัจจุบันไม่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของชุมชนได้ เน่ืองจากบริการไม่ครอบคลุม
ความต้องการของชุมชน อุปกรณ์การแพทย์ไม่เพียงพอ ขาดแคลนงบประมาณ ขาดแคลนบุคลากร
ด้านสุขภาพ สมรรถนะของผู้ให้บริการมีความจากัด ขาดการประสานงานที่ดี ประชาชนขาดความ
ศรัทธาในบริการ ทาให้มีการข้ามขั้นไปใช้บริการในโรงพยาบาลที่ตอบสนองต่อการใช้บริการของ
ผูส้ ูงอายุ

๑.๓ การขาดลักษณะการกระจาย การกระจายของสถานบริการดูแลระยะยาวยังคงมี
ความแตกต่างกนั มาก ข้ึนอยูก่ บั ศักยภาพทางเศรษฐกิจและสงั คมของพนื้ ท่ี

๑.๔ การขาดบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน การลดลงของขนาดครอบครัวหมายถึงการลดลงของ
ผูด้ ูแลในครอบครัวด้วย เช่น ทาให้บทบาทของภาครัฐต้องเข้ารองรับส่วนนี้ แต่ปัญหาท่ีสาคัญคือ การ
ขาดแคลนบุคลากรท่ีจะให้บรกิ ารดแู ลทกุ ระดับตั้งแต่แพทยจ์ นถึงเจ้าหนา้ ทส่ี าธารณสขุ

๑.๕ คุณภาพของบริการ สถานบริบาลท่ีให้บริการดูแลระยะยาวในประเทศไทย มีความ
หลากหลายของการขึ้นทะเบียนกับหลายหน่วยราชการ บางแห่งไม่ได้ขึ้นทะเบียน โดยที่ยังไม่มี
มาตรการกากับดูแลคุณภาพของสถานดูแลประเภทนี้ให้มีมาตรฐานแต่อย่างใด คุณภาพของ

๕๘
อาสาสมัคร การเข้าไปเป็นอาสาสมัครอาจไม่จาเป็นต้องมีคุณสมบัติอะไรมากมาย เป็นเพียงผู้ที่
ตอ้ งการใหค้ วามช่วยเหลือและดูแลผทู้ เี่ ดือดรอ้ นและต้องการการพ่ึงพิง

๒. ปัญหา อุปสรรคทมี่ ีผลตอ่ การดาเนินงานการดูแลระยะยาวของหน่วยงานรับผิดชอบระดับ
ชุมชน หน่วยงานรับผิดชอบในการจัดบริการสาธารณะและสวัสดิการในระดับชุมชน คือ องค์การ
ปกครองส่วนท้องถิน่ พบว่ามีปัญหา อุปสรรค ไดแ้ ก่

๒.๑ การขาดระบบการบริหารจัดการด้านสวัสดิการผูส้ ูงอายุ บางแห่งยังไมใ่ ห้ความสนใจ
ในงานด้านผู้สูงอายุอย่างจริงจัง การดูแลงานด้านผู้สูงอายุจะให้ความสนใจเป็นคร้ังคราว ผู้สูงอายุยัง
ไม่ไดร้ บั ความสนใจหรอื ถูกมองอย่างมคี ุณคา่ อย่างแท้จริง

๒.๒ ปัญหาด้านงบประมาณงบประมาณที่ได้รับมีน้อยมาก นอกจากนี้ยังพบการขาด
การบูรณาการด้านการจัดสรรงบประมาณระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการดูแลผู้สูงอายุ ทาให้แต่ละ
หน่วยงานต่างก็จัดสรรงบประมาณของหน่วยงานตนให้ความช่วยเหลือประชากรกลุ่มเป้าหมาย
เดยี วกันในกิจกรรมเดียวกัน

๒.๓ ข้อจากัดด้านบุคลากร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์การ
บริหารส่วนตาบล (อบต.) และเทศบาลขนาดเล็กยังมีข้อจากัด ทั้งในเรื่องจานวนและขีดความรู้
ความสามารถ รวมถึงทักษะของบุคลากรท่ีปฏิบัติงานการดาเนินงานยังขาดการติดตามและ
ประเมินผล โดยเฉพาะการติดตามงานของเครือข่ายในพื้นที่ การทางานเป็นเพียงแต่การรับ-ส่งข้อมูล
จัดเก็บข้อมูล และทางานด้านเอกสารเป็นหลัก นอกจากน้ี ยังมีปัญหาการรับโอนบุคลากรจาก
หน่วยงานอื่น การเล่ือนขั้น เล่ือนตาแหน่งก็มีข้อจากัดเรื่อง “เพดานเงินเดือนตัน” และไม่มี
คา่ ตอบแทนอน่ื ๆ ทีเ่ ป็นแรงจูงใจ

๒.๔ การขาดฐานข้อมูลอย่างบูรณาการ การจดั เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกบั ผู้สงู อายุเท่าที่
ดาเนินการอยู่ในหลายพื้นที่ในปัจจบุ ันเป็นเพียงขอ้ มลู ท่ีเก็บตาม “รูปแบบ” ที่ได้รับการเสนอแนะจาก
องค์กรอื่นๆให้เก็บ“เก็บตามที่เขาใหเ้ ก็บ” ข้อมูลที่มีจึงเป็นเพียงแตต่ ัวเลขของจานวนผู้สูงอายุ ยังขาด
ความชัดเจนและข้อมูลที่เก่ียวข้องกับสภาพปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของผู้สูงอายุ ข้อมูลท่ีมี
จึงถูกเก็บโดยไม่สามารถนามาใช้ประโยชน์ต่อดาเนินงานด้านผู้สูงอายุได้อย่างแท้จริง ข้อมูลที่มีอยู่ใน
ปัจจบุ นั จึงดูเหมอื นถูกนาไปใช้ประโยชนเ์ พ่ือการใหก้ ารสนับสนุนเบี้ยยงั ชพี เปน็ สาคญั

๒.๕ การมีเครอื ข่ายความร่วมมือท่ีจากัด องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ินมีข้อจากดั เร่ืองการ
ขยายเครือข่าย ที่เกิดจากการขาดความเข้าใจต่อเทคนิคในการทางานกับชุมชน การแบ่งพรรคแบ่ง
พวกทางการเมืองและการคาดหวังต่อส่ิงทีจ่ ะไดร้ บั ของประชาชนมากเกินไป

๓. ปัญหาอปุ สรรคท่ีมีผลต่อครอบครวั และผู้ดแู ลผ้สู ูงอายุ พบปัญหาของครอบครัวและผู้ดูแล
ดังนี้

๓.๑ การขาดความรใู้ นการดูแลผสู้ ูงอายุของผดู้ ูแล
๓.๒ ปัญหาด้านเศรษฐกิจของผูด้ ูแล ผ้ดู ูแลบางคนตอ้ งสูญเสยี รายได้ สญู เสียโอกาสความ
กว้าหน้าในการทางาน สูญเสียความสัมพันธ์ทางสังคม ผู้ดูแลบางคนนอกจากท่ีจะต้องรับภาระ
ค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้สูงอายุยังต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในบ้านอย่างอ่ืน อีกด้วย ปัญหาด้านสุขภาพ
ของผู้ดแู ล ทม่ี าก คือ ความเครียด เบอ่ื หน่าย และท้อถอย

๕๙
๓.๓ ปัญหาการขาดแคลนพาหนะในการเดินทาง เพ่ือนาผู้สูงอายุไปส่งโรงพยาบาลเป็น
ปัญหาสาคัญของผู้ดูแลท่ีอยู่ในพ้ืนที่เขตชนบท แม้ว่าบางพ้ืนท่ีจะมีบริการรถฉุกเฉินจากชุมชน และ
โรงพยาบาล แต่บริการดังกล่าวยังคงขาดความสะดวกและต้องรอคอยเป็นเวลานาน และยังมีเพียง
บางพื้นท่ีเทา่ นั้น
๓.๔ ปัญหาการขาดอุปกรณ์เสริมในการดูแล เช่น ไม้เท้า รถเข็น อุปกรณ์ช่วยเดิน จะ
ชว่ ยลดภาระในการดแู ล
ศิริพันธุ์ สาสัตย์ และคณะ (๒๕๕๒: ๗๑ - ๑๖๕) ศึกษารูปแบบการปฏิบัติการดูแลผู้สูงอายุ
ระยะยาวในสถานบริการในประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาการปฏิบัติการดูแลผู้สูงอายุ
ระยะยาวในสถานบริการและเพ่ือให้ข้อเสนอรูปแบบการปฏิบัติการดูแลผู้สูงอายุระยะยาวในสถาน
บรกิ ารในประเทศไทย ใช้ระเบียบวธิ ีการวจิ ัยเชิงคณุ ภาพโดยการสนทนากลุ่มและการสัมภาษณ์เชิงลึก
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการดูแลผู้สูงอายุ จานวน ๑๐ คน และสัมภาษณ์เชิงลึก ตัวแทนผู้ให้บริการ
ผู้รับบริการ และผู้ท่ีมีอานาจทางด้านนโยบายจากสถานบริการ ๕ ประเภท ได้แก่ บ้านพักคนชรา
(Residential Home) สถานท่ีให้การช่วยเหลือในการดารงชีวิต (Assisted Living Setting) สถาน
บริบาล (Nursing Home) สถานดูแลระยะยาวในโรงพยาบาล (Long-term Care Hospital) และ
สถานดูแลผปู้ ่วยระยะสุดท้าย (Hospice Care) ประเภทละ ๑๐ คน รวม ๕๐ คน ผลการศึกษาพบว่า
บริการที่เป็นจุดเด่นของสถานบริการระยะยาวคือ การมีบุคลากรสหสาขาวิชาชีพ และการปรับปรุง
สภาพแวดล้อม ปัจจัยส่งเสริมคือ ความร่วมมือของบุคลากรทุกฝ่ายและ/หรือการมีทัศนคติและ
จติ สานึกท่ีดีต่อการบริการและต่อผู้สูงอายุ บริการทเี่ ป็นจุดด้อย ได้แก่ ความรูแ้ ละความชานาญในการ
ปฏิบัติงาน มักพบในสถานบริการที่ไม่ใช่ต้ังอยู่ในโรงพยาบาล เช่น บ้านพักคนชรา สถานช่วยเหลือใน
การดารงชีวิตและในสถานบริบาล ปัจจัยท่ีทาให้การบริการนั้นเป็นจุดด้อย เช่น ระดับการศึกษาของ
บุคลากร ความรู้ความชานาญของบุคลากรทางด้านไอที จานวนบุคลากรไม่เพียงพอ ประเด็นปัญหา
การขาดแคลนบคุ ลากร เช่น นักกายภาพบาบดั และนักกจิ กรรมบาบดั สว่ นคุณภาพในการดแู ล ยังไม่
มีการพัฒนามาตรฐานการดูแลระยะยาวท่ีเป็นทางการข้ึนอยู่กับแต่ละองค์กร สถานบริการดูแลระยะ
ยาวท่ีต้ังอยู่ในโรงพยาบาลของรัฐ ก็ได้มีการดาเนินการเพ่ือให้การรับรองคุณภาพโรงพยาบาล แต่
อย่างไรก็ตามดัชนีชีว้ ัดยังไมเ่ ฉพาะเจาะจงกับการดูแลระยะยาวในสถานบริการ ปัจจัยที่ทาให้การดูแล
มีคุณภาพ ที่พบบ่อย คือ บุคลากรมีใจรัก มีเมตตาและให้การดูแลเสมือนญาติ และการใช้เงินบริจาค
ผ่านมูลนิธิ สาหรับปัญหาอุปสรรคท่ีพบคือ สถานบริการประสบปัญหาในการดาเนินงานที่มีความ
แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามพบว่าปัญหาท่ีทุกสถานบริการประสบ คือ ความรู้ความชานาญและ
ทกั ษะของบคุ ลากร อัตรากาลังไมเ่ พียงพอ และมขี อ้ จากัดในการสบื ค้นข้อมูลเกีย่ วกับปจั จัยทเี่ ก่ียวขอ้ ง
กับการปฏบิ ตั กิ ารดูแลระยะยาวทด่ี ีในสถานดแู ลระยะยาวแต่ละประเภท
ทพญ.พัชราวรรณ ศรีศิลปะนันทน์ และคณะ (2551: บทสรุปผู้บริหาร) ศึกษาสถานการณ์
ระบบข้อมูลสุขภาพและการพัฒนาตัวช้ีวัดสุขภาพผูสูงอายุ จังหวัดลาพูน พบว่า ปัญหาของระบบ
ข้อมูลสุขภาพผู้สูงอายุในปัจจุบันในระดับผู้ปฏิบัติเกิดจากภาระงานของเจ้าหน้าที่จัดเก็บมาก ความ
ครบถ้วนและถูกต้องของข้อมูลจากหน่วยจัดเก็บ ขาดเทคโนโลยีในการจัดเกบ็ ข้อมูลจานวนมาก ยังไม
มีการนาข้อมูลที่จัดเก็บไปใช้ตามความต้องการของเจาของข้อมูล บัญชีรายงานในระบบมีมากเกินไป

๖๐
การปรับเปลี่ยน นโยบายและตัวชี้วัด ตลอดจนความต้องการข้อมูลที่หลากหลาย ของกรม กอง
สาหรับความต้องการในการพัฒนาระบบ พบว่า หน่วยงานที่เก่ียวข้องมีความต้องการของการสร้าง
ระบบสารสนเทศท่ีสามารถสนับสนุนงานประจาได พร้อมทั้งสามารถให้บริการข้อมูลแก่ผู้ใช้ภายนอก
ตามความจาเป็น และเหมาะสม ระบบข้อมลู ทถี่ ูกต้อง รวดเรว็ ทันเวลา ไดมาตรฐานและตรวจสอบได
สามารถออนไลน์ไดท่วั ถึง มีศูนย์กลางในการกระจายข้อมูล เพ่ือป้องกันการซ้าซ้อนของขอ้ มูล และทา
ให้ง่ายต่อการค้นหาข้อมูลต่างๆ สามารถนาข้อมูลไปใช้ประโยชนการแปลผลข้อมูลหรือตัวชี้วัดใน
รปู แบบตา่ งๆ เชน่ กราฟ แผนที่ฯลฯ สามารถวิเคราะหข์ ้อมูล และนาเสนอข้อมูลให้ผนู้ าข้อมูลไปใช้

พีรสิทธิ์ คานวณศิลป์ และคณะ (๒๕๔๒: ๑๐๕ – ๑๑๑) ได้ประเมินแผนและนโยบายด้าน
สุขภาพของผู้สูงอายุ กระทรวงสาธารณสุข ผลการศึกษาพบว่า นโยบายที่กระทรวงสาธารณสุข
สอดคล้องกับสภาพปัญหา และความต้องการของผู้สูงอายุท่ีมีปัญหาหลักโดยทั่วไป ๓ ด้าน คือ ด้าน
เศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ ในขณะท่ีนโยบายมุ่งเน้นแก้ปัญหาด้านสุขภาพเป็นหลัก แต่ก็พิจารณา
ถึงปัญหา และข้อจากัดของผู้สูงอายุด้านเศรษฐกิจ และสังคมด้วย กล่าวคือ การให้บริการ
รักษาพยาบาลโดยไม่คิดมูลค่า เพ่ือมุ่งแก้ปัญหาด้านสุขภาพ โดยไม่เพิ่มค่าใช้จ่ายแก่ผู้สูงอายุ และมี
กลยุทธ์การจัดต้ังชมรมผู้สูงอายุ เพ่ือป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ โดยเฉพาะสุขภาพจิต แต่ยังมีผลทา
ให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า ไม่ว้าเหว่ มีสังคมของตนเอง นโยบายดังกล่าวผู้ให้ข้อคิดเห็นจาก
การศึกษาระบุว่าเป็นจุดมุ่งหมายที่ถูกทิศทาง และมีความชัดเจน อย่างไรก็ตามได้พบปัญหาในการนา
นโยบายไปปฏิบตั ิ กลา่ วคอื กระทรวงสาธารณสุขไมไ่ ด้จัด หรือกาหนดแผนงานเพ่ือรองรับนโยบายแต่
อย่างใด การจัดทาโครงการ หรอื กิจกรรมเปน็ การดาเนนิ การเพือ่ รองรับนโยบายสาธารณสุขอื่นๆ หรือ
ทั่วๆ ไป นอกจากนี้ยังพบวา่ แผนงานต่างๆ เหล่านั้นไม่ได้มีการกาหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนว่าต้อง
เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ การจัดสรรงบประมาณ และทรัพยากรจึงเป็นไปอย่างจากัด และผลการศึกษายังมี
ข้อค้นพบว่า หน่วยงานที่นานโยบายไปปฏิบัติยังไม่เห็นความสาคัญ และใช้ประโยชน์จากแผนงาน
โครงการตามนโยบายที่กาหนดไว้ด้วย ทาให้การดาเนินนโยบายไม่บรรลุเป้าหมายที่กาหนดไว้ รวมท้ัง
หน่วยงานที่ปฏิบัติระดับจังหวดั ไม่มีระบบสารสนเทศเพื่อรองรับในการวางแผน ดาเนินโครงการ และ
การติดตาม ประเมินผล ทาให้ระบบการติดตามความก้าวหน้าเป็นไปอย่างไร้ทิศทาง โดยไม่มีตัวช้ีวัด
ความก้าวหน้า และความสาเร็จของการดาเนินงานแต่อย่างใด นอกจากนี้การขาดสารสนเทศที่
เหมาะสมยังส่งผลกระทบต่อการวางแผนพัฒนาบุคลากรท่ีสอดคล้องกับสภาพปัญหา และความ
ตอ้ งการการดูแลของผูส้ งู อายอุ ีกด้วย

บทท่ี ๓
ระเบียบวิธีวจิ ยั

การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) ซ่ึงเป็นการวิจัยประยุกต์
ลกั ษณะหนึ่งทมี่ ุ่งแกป้ ัญหาเฉพาะเร่ือง ดาเนินการในลักษณะของการวิจยั และพัฒนา (The Research
and Development – R&D) เพื่อทาให้ได้ทางเลือกหรือวิธีการใหม่ๆ ท่ีจะช่วยให้การปฏิบัติงานมี
ประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ลักษณะของการใช้ข้อมูลในการวิจัยเป็นการใช้ข้อมูลเชิงคุณภาพ
(Qualitative) โดยวิธีการศึกษาจากเอกสาร (Document Study) และการสัมภาษณ์เชิงลึก (In–
depth Interview) เพื่อศึกษาสภาพ ปัญหา และอุปสรรคในการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ มี
การใช้เทคนิคการอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion) เพื่อค้นหาแนวทางการเพ่ิมประสิทธิภาพ
รปู แบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สงู อายุ และจดั ทากรอบข้อเสนอในเชิงนโยบายและในทางปฏิบัติ
ในการเพิ่มประสิทธิภาพรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ของจังหวัดสุพรรณบุรี และใช้
ข้อมูลเชิงปริมาณ (Quantitative) โดยการใช้แบบสัมภาษณ์ (Questionnaire) เพ่ือประเมิน
ประสิทธิผลของรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุจังหวัดสุพรรณบุรีภายหลังการเพิ่ม
ประสิทธิภาพการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ของจังหวัดสุพรรณบุรี ในบทน้ีขอนาเสนอระเบียบวิธีท่ีใช้ใน
การดาเนนิ การวิจยั ดังนี้

ประชากรและตัวอย่าง

3.1 การศึกษาสภาพ ปัญหา และอุปสรรคของรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ
ของจงั หวดั สุพรรณบรุ ี กลมุ่ เปา้ หมายประกอบดว้ ย

3.1.1 การศึกษาเอกสาร (Document Study) โดยเอกสารหลักของการศึกษาคือ
เอกสารสรุปผลการนิเทศงานของสานักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรีประจาปี 2558 เอกสาร
สรุปผลการตรวจราชการและนิเทศงานกรณีปกติ ประจาปี 2558-2559 รายงานประจาปีของ
สานักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ปี ๒๕๕๘ และเอกสารนโยบายและทิศทางการปฏิรูประบบ
สขุ ภาพในกลมุ่ ผู้สงู อายุ กระทรวงสาธารณสขุ (กรมอนามัย)

3.1.2 การสมั ภาษณเ์ ชิงลกึ (In-depth Interview)
ประชากร ได้แก่ หัวหน้ากลุ่มงานที่ดาเนินงานเก่ียวข้องกับผู้สูงอายุ (กลุ่มงาน

ส่งเสริมสุขภาพ และกลุ่มงานควบคุมโรคไม่ติดต่อ สุขภาพจิต และยาเสพติด) และผู้รับผิดชอบงาน
ผู้สูงอายุระดับจังหวัด (กลุ่มงานส่งเสริมสุขภาพ และกลุ่มงานควบคุมโรคไม่ติดต่อ สุขภาพจิต และยา
เสพติด) ผู้รับผิดชอบงานแผนยุทธศาสตร์สุขภาพ กลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุข) ของ
สานักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้รับผิดชอบงานผู้สูงอายุของโรงพยาบาล สานักงาน
สาธารณสขุ อาเภอ และโรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตาบล จานวน ๑๕ คน

๖๒
ตัวอย่าง เป็นผู้ให้ข้อมูลคนสาคัญ (Key Informants) จานวน ๑๕ คน ใช้วิธีเลือก
แบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) ประกอบด้วย หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมสุขภาพ 1 คน
หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคไม่ติดต่อ สุขภาพจิต และยาเสพติด 1 คน ผู้รับชอบงานกลุ่มงานส่งเสริม
สุขภาพ 1 คน กลุ่มงานควบคุมโรคไม่ติดต่อ สุขภาพจิต และยาเสพติด 1 คนผู้รับผิดชอบงานแผน
ยุทธศาสตร์สุขภาพ 1 คน ผู้รับผิดชอบงานผู้สูงอายุของโรงพยาบาล ๓ คน สานักงานสาธารณสุข
อาเภอ ๔ คน และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล ๓ คน (เกณฑ์คัดเลือกผู้ให้ข้อมูลระดับ
โรงพยาบาล สานักงานสาธารณสุขอาเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลคัดเลือกจากอาเภอที่
ผลงานการดแู ลผ้สู ูงอายุในเกณฑ์ดี ๓ ลาดบั แรก หรอื 3 อาเภอที่มีผลงานดี)
3.1.3 การสอบถามความคิดเห็นสภาพแวดล้อมภายนอกท่ีมีผลต่อประสิทธิภาพการ
ดาเนนิ งานดูแลผสู้ งู อายุ
ประชากร ได้แก่ กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กลุ่มผู้บริหาร และผู้รับผิดชอบงานจาก
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์จังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด เทศบาล
องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน แกนนา อสม. แกนนาผู้สูงอายุ และผู้แทนของหน่วยงานในสังกัด
สานกั งานสาธารณสขุ จังหวัดแตล่ ะระดับ จานวน 106 คน
ตัวอย่าง จานวน 106 คน ใช้วิธีเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling)
จากผู้บริหาร ผู้รับผิดชอบงาน และผู้เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย พัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์
จังหวัด ๓ คน ท้องถิ่นจังหวัด ๒ คน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน (เทศบาล/ อบต.) ๑๒ คน
นกั วิชาการทีเ่ กีย่ วข้องของสานักงานสาธารณสุขจังหวดั รวม ๕ คน โรงพยาบาลศูนย์/ท่ัวไป แห่งละ ๓
คน รวม ๖ คน โรงพยาบาลชุมชน ๘ แห่งๆละ ๑ คน รวม ๘ คนสานักงานสาธารณสุขอาเภอ ๑๐
แห่งๆละ ๑ คนรวม ๑๐ คน ผู้แทนจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลอาเภอละ ๔ คน แกนนา
ผู้สูงอายุ อาเภอละ ๑ คน รวม ๑๐ คน และแกนนา อสม.อาเภอละ ๑ คน รวม ๑๐ คน
หมายเหตุ: ในการเลือกเป็นตัวแทนในการสารวจความคดิ เห็นไม่จาเปน็ ต้องใช้ตวั อยา่ งจานวนมาก แต่
ใหม้ ตี วั แทนจากทกุ กลมุ่ โดยเกณฑ์การพิจารณาผู้มสี ว่ นไดส้ ่วนเสีย (UNEP, 2005) ได้แก่
(1) ความรบั ผดิ ชอบ: บุคคลซ่งึ มีหน้าที่เก่ียวขอ้ งกบั ธุรกิจ
(2) อิทธิพล: บุคคลที่มีอิทธิพลหรือมีผลต่อการดาเนินงานของบริษัทฯ ในการท่ีจะ
บรรลุเป้าหมายของบริษัทซ่ึงการกระทาของบุคคลน้ันอาจจะส่งเสริมหรือขัดขวางการดาเนินงานของ
บรษิ ัท
(3) ความสัมพันธ์: บุคคลซ่ึงมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทอย่างใกล้ชิด เช่น พนักงานที่
ทางานกับบริษัทมาระยะเวลายาวนาน ผทู้ อี่ าศัยอยู่บริเวณพ้ืนทใี่ กลเ้ คยี ง
(4) การพึ่งพา/ ขึ้นอยู่กับบริษัท: บุคคลซึ่งข้ึนอยู่กับผลการดาเนินงานของบริษัท
เช่น ครอบครัวของพนกั งาน ลกู คา้ ท่ีใช้ผลิตภัณฑ์
(5) การเป็นตัวแทน: บุคคลผู้ซึ่งได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวแทนของกลุ่มบุคคล
อาทิ ผ้นู าชมุ ชน ตวั แทนของสหภาพแรงงาน เปน็ ต้น

๖๓

3.1.4 การอภปิ รายกลุ่ม (Group Discussion)
ประชากร ได้แก่ แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุขท่ีมี
ประสบการณ์ด้านผู้สูงอายุ และบุคลากรอื่นๆ เช่น นักวิชาการท่ีปฏิบัติงานด้านข้อมูลข่าวสารและ
สารสนเทศ ดา้ นการเงินและบญั ชี เจ้าหนา้ ที่สาธารณสขุ ระดับตาบล
ตัวอย่าง เป็นผู้ให้ข้อมูลคนสาคัญ (Key Informants) จานวน 50 คน ประกอบด้วย
แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข และบุคลากรอื่นๆ เช่น นักวิชาการท่ี
ปฏิบัติงานด้านขอ้ มูลข่าวสารและสารสนเทศ ด้านการเงนิ และบญั ชี เจ้าหน้าท่สี าธารณสุขระดับตาบล
สาหรับการคัดเลือกตัวอย่างในการวิจัย เพ่ือให้การจัดทากลุ่มในการระดมสมองขนาดกลุ่มไม่ใหญ่
เกินไป ผู้วิจัยได้กาหนดคัดเลือกตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) จากบุคลากรที่
เกี่ยวข้องกับการดาเนินงานตามกรอบแนวคิดระบบสุขภาพขององค์การอนามัยโลก (WHO Health
System Framework) ซ่ึงมีองค์ประกอบท่ีพึงประสงค์หลัก 6 ประการ ( 6 Building Blocks of
Health System) แต่ทั้งนี้การจัดกลุ่มในการระดมสมองแบ่งเป็น ๕ กลุม่ ๆละ 10 คน (กลุ่มการเงินการ
คลัง และภาวะผู้นาและการอภิบาลระบบรวมไวด้ ว้ ยกัน) ซึ่งจาแนกตามสายงานได้ดังนี้ (ตารางท่ี 3.1)

(๑) ระดับจังหวัด ผู้เข้าร่วมประกอบด้วย รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดท่ีกากับ
ดูแลงาน หัวหน้ากลุ่มงานที่เก่ียวข้อง ได้แก่ กลุ่มงานส่งเสริมสุขภาพและรักษาพยาบาล กลุ่มงาน
คุ้มครองผู้บริโภค กลุ่มงานทันตสาธารณสุข และกลุ่มงานพัฒนายุทธศาสตร์ นักวิชาการที่รับผิดชอบ
งานผู้สูงอายุ และนกั วชิ าการท่ีดาเนนิ งานเกยี่ วขอ้ ง รวม ๑๐ คน

(๒) ระดับอาเภอ ผู้เข้าร่วมประกอบด้วย นักวิชาการสาธารณสุขจากสานักงาน
สาธารณสุขอาเภอแห่งละ ๑ คน รวม ๑๐ คน และแพทย์ พยาบาล และนักวิชาการสาขาที่เก่ียวข้อง
จากโรงพยาบาล แหง่ ละ ๒ คน รวม ๒๐ คน

(๓) ระดับตาบล บุคลากรระดับตาบลได้แก่ ผู้อานวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ
ตาบล หรอื พยาบาล/นกั วชิ าการผู้รับผดิ ชอบงานผสู้ ูงอายุ อาเภอละ ๑ ตาบลๆละ 1 คน รวม ๑๐ คน

ตารางท่ี 3.1 จานวนผรู้ ว่ มการอภปิ รายกลมุ่ (Group Discussion) จาแนกตามสายงาน

ลาดับ สายงาน จานวน (คน)
๑ แพทย์ ๒
๒ ทนั ตแพทย์/ ทันตาภบิ าล ๓
๓ เภสชั กร ๒
๔ พยาบาลวชิ าชีพ ๑๗
๕ นกั วชิ าการสาธารณสุข ๑๘
๖ นกั วชิ าการสายงานอื่น เชน่ นักวเิ คราะหน์ โยบายและแผน ๘
นกั วิชาการด้านข้อมลู และสารสนเทศ ดา้ นการเงินและบัญชี ๕๐
รวมท้งั สิน้

๖๔

3.2 การค้นหาแนวทางการเพ่ิมประสิทธิภาพรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ
และจัดทากรอบข้อเสนอในการเพิ่มประสิทธิภาพรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ใช้การ
อภิปรายกลุ่ม (Group Discussion) ผู้ให้ข้อมูลคนสาคัญ (Key Informants)เป็นกลุ่มเดียวกันกับ
หัวข้อ 3.1.4) ประกอบด้วย แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข และ
บุคลากรอ่ืนๆ เช่น นักวิชาการท่ีปฏิบัติงานด้านข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศ ด้านการเงินและบัญชี
เจ้าหน้าท่ีสาธารณสขุ ระดบั ตาบล จานวน 50 คน (ตารางท่ี 3.1)

3.3 การประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุจังหวัด
สุพรรณบุรีภายหลงั การเพิม่ ประสิทธิภาพ

๑) การประเมินรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุจังหวัดสุพรรณบุรี โดยการ
ใช้แบบสอบถาม (Questionnaire)

ประชากร ประกอบด้วย ได้แก่ ผู้รับผิดชอบงานผู้สูงอายุของโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตาบลทุกแห่ง จานวน 174 คน โรงพยาบาลทุกแห่ง จานวน 10 คน และสานักงาน
สาธารณสขุ อาเภอทกุ อาเภอจานวน 10 คนรวมทั้งส้นิ จานวน 194 คน

ตัวอย่าง การเลือกตัวอย่างใช้วิธีแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling)จาก
ผู้รับผิดชอบงานผู้สูงอายแุ ห่งละ ๑ คน ประกอบด้วย ได้แก่ ผู้รับผิดชอบงานผู้สูงอายุของโรงพยาบาล
ส่งเสริมสุขภาพตาบลทุกแห่งๆละ 1 คน รวม 174 คน โรงพยาบาลทุกแห่งๆละ ๑ คน รวม 10 คน
และสานักงานสาธารณสุขอาเภอทุกแหง่ ๆละ 1 คน รวม 10 คนรวมทัง้ สิ้นจานวน 194 คน

2) การประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดบริการ โดยการใช้แบบสอบถาม
(Questionnaire)

ประชากร ได้แก่ ผู้สูงอายุจานวน 157,565 คน (ประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปของ
จงั หวดั สุพรรณบุรจี ากทะเบยี นราษฎร์ กรมการปกครอง ณ เดอื นธันวาคม ๒๕๖๐)

ตัวอย่าง ได้แก่ ผู้สูงอายุ จานวน 384 คน เกณฑ์คานวณขนาดตัวอย่าง โดยใช้สูตร
Yamane’s formula (1973: 1088-1089)

สตู ร n = Z2 x (1 - ) N = 383.15
Z2 (1 - ) + Ne2

โดยที่ n = ขนาดตวั อยา่ ง
Z = 1.96, level of reliability is 2SD. (about 95%)

 = 0.5
e = 0.05, ค่าความคลาดเคลือ่ น
n = 1.962 x 0.5(1 – 0.5) x 15๒,735

1.962 x 0.5(1 – 0.5) + 15๒,735 (.05)2

หรอื เทา่ กับ 384 คน

๖๕

ขนาดตัวอย่างคือ 384 คน อย่างไรก็ตามมีการเก็บข้อมูลสารองเพิ่มเติมไว้ร้อยละ 3 หรือ
12 ชุด เมื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลพบว่าได้ข้อมูลที่มีความสมบูรณ์ครบถ้วน รวมขนาด
ตัวอย่างท่ีเก็บรวบรวมได้ 396 ชุด (ตารางที่ 3.2 ) สาหรับการสุ่มตัวอย่างใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบ
ง่าย (Simple Random Sampling) โดยใช้เคร่ืองคอมพิวเตอร์สุ่มรายชื่อจากฐานข้อมูลผู้สูงอายุของ
แตล่ ะอาเภอ จนครบจานวน

ตารางที่ 3.2 ประชากรผูส้ ูงอายุ และตัวอย่างในการวิจัย

อาเภอ ประชากรผสู้ ูงอายุ (คน) ตัวอยา่ งที่ปรับแล้ว (คน)
เมืองสุพรรณบุรี 30,474 79
เดิมบางนางบวช 15,194 39
ดา่ นช้าง 9,044 23
บางปลาม้า 15,649 41
ศรีประจนั ต์ 12,717 33
ดอนเจดีย์ 8,304 22
สองพน่ี ้อง 19,223 50
สามชกุ 11,016 29
อู่ทอง 22,560 58
หนองหญ้าไซ 8,554 22
รวม 152,735 396

แบบของการวจิ ยั

ในการวิจยั ครั้งนี้เปน็ การวิจัยเชิงปฏิบตั กิ าร (Action Research) ซ่ึงเป็นการวิจัยประยุกต์
ลักษณะหน่งึ ท่มี ุ่งแก้ปญั หาเฉพาะเร่ือง ดาเนนิ การในลกั ษณะของการวจิ ัยและพัฒนา (The Research
and Development – R&D) โดยมขี น้ั ตอนสาคัญ 4 ขนั้ ตอนดังนี้

ระยะท่ี 1 ระยะศึกษา (R1) เป็นการศึกษาบริบท การศึกษาสภาพ ปัญหา และอปุ สรรคของ
รูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุของจังหวัดสุพรรณบุรี โดยการศึกษาจากเอกสาร
(Document Study) ก าร สั ม ภ า ษ ณ์ เชิ งลึ ก (In-depth Interview) ก า ร ใช้ แ บ บ ส อ บ ถ า ม
(Questionnaire) และการระดมสมอง (Brain Storming) ดงั น้ี

๑. การศึกษาเอกสาร เปน็ การทบทวนสภาพท่วั ไปของการดาเนินงาน ผลการดาเนนิ งาน
ที่ผ่านมา และเอกสารท่เี กย่ี วขอ้ งกบั บรบิ ทหลักการ แนวคิด ทฤษฎี และงานวจิ ยั ท่เี กย่ี วข้องกบั การ
ดูแลสุขภาพผู้สงู อายุ

2. การสัมภาษณ์เชงิ ลึก (In-depth Interview) กลุ่มผูบ้ ริหาร เจ้าหนา้ ทผ่ี ูร้ บั ผดิ ชอบงาน
ระดับจังหวัด อาเภอ และตาบล

๖๖

3. การใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) สอบถามความคดิ เห็นของกลมุ่ ผู้มสี ่วนไดส้ ่วน
เสยี กล่มุ ผู้บรหิ าร และผรู้ บั ผิดชอบงานจากหนว่ ยงานที่เกี่ยวข้อง

๔. การอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion) กลุ่มแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล
นักวิชาการสาธารณสุข และบุคลากรอื่นๆ เช่น นักวิชาการที่ปฏิบัติงานด้านข้อมูลข่าวสารและ
สารสนเทศ ด้านการเงินและบัญชี เจ้าหน้าท่ีสาธารณสุขระดับตาบล โดยจัดกลุ่มในการระดมสมอง
แบง่ เป็น ๕ กลุ่มๆละ 10 คน

ระยะเวลาในการศึกษา พ.ศ.2557 - 2559
ผลลัพธ์ของการศึกษา: ได้ข้อมูลเก่ียวกับรูปแบบการดาเนินงานปัจจุบัน สภาพของการ
ดาเนนิ งาน การจัดการ ปัญหา และอุปสรรคของการดาเนนิ งาน
ระยะที่ 2 ระยะพัฒนา (D) แบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอน คือ ข้ันตอนแรก (D1) เป็นการค้นหา
แนวทางการเพ่ิมประสิทธิภาพรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ โดยการวิเคราะห์เนื้อหา
ปัจจัยภายนอกจากกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และกลุ่มผู้สูงอายุ และการวิเคราะห์เน้ือหาจากปัจจัย
ภายในจากข้อคิดเห็นบุคลากรสาธารณสุข โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เน้ือหาแบบตารางไขว้ (Cross
Analysis) เพ่ือจัดทากรอบข้อเสนอในการเพ่ิมประสิทธิภาพรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพ
ผู้สูงอายุ และขั้นตอนที่สอง (D2) นาผลของการวิเคราะห์การเนื้อหาแบบตารางไขว้ จัดทาเป็นกรอบ
ข้อเสนอในการเพ่ิมประสิทธิภาพรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ โดยใช้เทคนิคการ
อภปิ รายกล่มุ (Group Discussion) เพ่อื จดั ลาดบั ความสาคัญของแนวทางการดาเนนิ งาน/ กจิ กรรม
ผลลัพธ์ของการศึกษา: ได้กรอบแนวทางการเพ่ิมประสิทธิภาพรูปแบบการดาเนินงานดูแล
สขุ ภาพผสู้ งู อายุ
ระยะเวลาในการศึกษา พ.ศ.2559-2560
ระยะท่ี 3 ระยะวิจัยและประเมินผล (R2) เป็นการทดลองใช้รูปแบบการดาเนินงานดูแล
สุขภาพผู้สูงอายุที่พัฒนาประสิทธิภาพ เพ่ือศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพ
ผู้สูงอายุจังหวัดสุพรรณบุรีภายหลังการเพ่ิมประสิทธิภาพ โดยการประเมินผลการดาเนินงาน
(Output) จากผลการดาเนนิ งานคดั กรองสุขภาพผ้สู ูงอายุ การประเมนิ ADLตามความสามารถในการ
ประกอบกิจวัตรประจาวัน (Barthel Activities of Daily Living :ADL)ของผู้สูงอายุ ผลการ
ดาเนินงานตามกิจกรรมการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ และระดับความคิดเห็นผู้ให้บริการต่อความสาคัญ
ของการดาเนินงาน และการประเมินผลลัพธ์(Outcome) โดยประเมินจากความความพึงพอใจของ
ผสู้ งู อายุต่อการดาเนินงาน โดยเคร่ืองมือท่ีใช้ประกอบด้วย

1. แบบสอบถามความพงึ พอใจของผสู้ ูงอายุตอ่ การดาเนนิ งานดูแลสขุ ภาพผู้สงู อายุ
2. แบบสอบถามความคิดเหน็ เกย่ี วกบั รปู แบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุจงั หวัด
สุพรรณบุรีของบคุ ลากรสาธารณสุข
3. แบบรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย ผลการคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุ แบบสรุปการ
ประเมิน ADL ตามกลุ่มศักยภาพ ตามความสามารถในการประกอบกิจวัตรประจาวัน( Barthel
Activities of Daily Living :ADL)ของผู้สงู อายุ
ผลลพั ธ์ของการศกึ ษา: ได้รูปแบบการดูแลสขุ ภาพผ้สู งู อายุ
ระยะเวลาในการศกึ ษา พ.ศ.2560 -2561

๖๗

ระยะท่ี 4 การสรปุ ผล เป็นการวเิ คราะห์ผล และสรปุ ผลการวิจยั
ระยะเวลาในการศึกษา พ.ศ.2561
ผลลัพธ์ของการศึกษา: ได้รูปแบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุที่เหมาะสมและสอดคล้องกับ
บรบิ ทของสภาพปญั หาและความต้องการของผสู้ งู อายุ

สรุปการออกแบบเครื่องมือในการวิจัย และการวิเคราะห์ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ของ
การศึกษาดงั ตารางที่ 3.3

ตารางที่ 3.3 การออกแบบการวจิ ัย

วัตถุประสงค์ของ ขอบเขตเน้อื หาของ แหล่งข้อมูลและ การวเิ คราะห์ขอ้ มลู
การศึกษา การศกึ ษา เคร่ืองมือ และเกณฑ์ประเมิน
-การวเิ คราะห์
1.การศึกษาสภาพ - บรบิ ททวั่ ไปของการ - การศึกษาจาก เน้ือหา (Content
ปัญหา และอุปสรรค ดาเนินงาน เอกสาร (Document Analysis)
ของรปู แบบการ - สภาพ ปัญหา และ Study) - รอ้ ยละ ค่าเฉลีย่
ดาเนินงานดูแล อปุ สรรคของรูปแบบ - การสัมภาษณ์เชิงลกึ สว่ นเบี่ยงเบน
สขุ ภาพผสู้ ูงอายุของ การดาเนนิ งานดูแล (In-depth มาตรฐาน
จงั หวัดสุพรรณบรุ ี สขุ ภาพผู้สูงอายุดา้ น Interview) ผู้บริหาร
ระบบบรกิ าร บคุ ลากร เจา้ หนา้ ท่ผี ูร้ ับผิดชอบ
ในการดาเนนิ งาน งานระดบั จงั หวัด
ระบบสารสนเทศ อาเภอ และตาบล
ระบบยาและบริการที่ - การสอบถามความ
จาเป็น ระบบการเงนิ คิดเห็นในกลมุ่
การคลงั และภาวะ ผมู้ ีสว่ นไดส้ ว่ นเสยี
ผูน้ าและการอภิบาล จากหนว่ ยงานท่ี
ระบบ และปัจจยั เกี่ยวขอ้ ง ไดแ้ ก่
ภายนอกทเ่ี ปน็ โอกาส พฒั นาสังคมและความ
และอปุ สรรคในการ มั่นคงของมนุษย์
ดาเนนิ งาน ไดแ้ ก่ จงั หวัด ทอ้ งถน่ิ จังหวัด
นโยบาย เศรษฐกิจ องค์กรปกครองส่วน
สังคม เทคโนโลยี กฎ ทอ้ งถ่นิ แกนนา อสม.
ระเบยี บ และ แกนนาผู้สงู อายุ และ
สง่ิ แวดล้อม หนว่ ยงานในสงั กดั
สานกั งานสาธารณสขุ
จังหวดั แตล่ ะระดับ

๖๘

ตารางที่ 3.3 (ต่อ)

วัตถุประสงคข์ อง ขอบเขตเนอ้ื หาของ แหล่งข้อมลู และ การวเิ คราะหข์ ้อมลู
การศึกษา การศึกษา เครอื่ งมือ และเกณฑ์ประเมิน
- การอภิปรายกล่มุ
2.เพื่อค้นหาแนว - การวเิ คราะหป์ ัจจยั แพทย์ ทันตแพทย์
ทางการเพม่ิ ภายนอกตามแนวคดิ เภสัชกร พยาบาล
ประสิทธิภาพรูปแบบ PESTLEและปจั จยั นักวิชาการสาธารณสขุ
การดาเนนิ งานดูแล ภายในตามกรอบ และบุคลากรอื่นๆ เชน่
สขุ ภาพผู้สูงอายุ และ แนวคดิ ระบบสขุ ภาพ นักวชิ าการที่
จัดทากรอบข้อเสนอ ขององค์การอนามยั ปฏบิ ัติงานด้านข้อมลู
ในการเพิ่ม โลก (Six building ข่าวสารและ
ประสทิ ธภิ าพรูปแบบ Blocks)และกรอบ สารสนเทศ ดา้ น
การดาเนนิ งานดูแล แนวคิดรูปแบบการ การเงินและบญั ชี
สขุ ภาพผ้สู งู อายุ ดาเนินงานดแู ล เจา้ หนา้ ทส่ี าธารณสขุ
ระดบั ตาบล
- เครือ่ งมือได้แก่ แบบ
บันทึกข้อมลู จาก
เอกสาร/หลกั ฐาน
แบบสมั ภาษณ์ก่งึ มี
โครงสร้าง(Semi-
structure

Interview) และแนว
คาถามในการอภิปราย
กลุม่ แบบกงึ่ มี
โครงสรา้ ง
- ผลการวิเคราะห์ - การวเิ คราะห์
ความคิดเหน็ ปัจจยั เนือ้ หา (Content
ภายนอกจากกล่มุ ผู้มี Analysis) และ
ส่วนไดส้ ่วนเสีย และ เทคนคิ การวิเคราะห์
กลุม่ ผู้สูงอายุ เมทริกซ์ไขว้ (Cross
- ผลการวิเคราะห์ -Matrix Analysis)
ปัจจยั ภายในจาก ปัจจัยภายนอกและ
บคุ ลากรสาธารณสขุ ภายใน
- การอภิปรายกล่มุ
แพทย์ ทนั ตแพทย์

๖๙

ตารางท่ี 3.3 (ต่อ)

วตั ถุประสงค์ของ ขอบเขตเนอ้ื หาของ แหล่งข้อมลู และ การวิเคราะหข์ อ้ มูล
การศกึ ษา การศกึ ษา เครอื่ งมอื และเกณฑ์ประเมนิ
ผสู้ ูงอายรุ ะดบั จังหวดั เภสชั กร พยาบาล
(Provincial Model) นักวชิ าการ
สาธารณสขุ และ
บุคลากรอน่ื ๆที่
เกยี่ วข้อง
- เคร่อื งมือได้แก่ แนว
คาถามในการอภปิ ราย
กลุม่ แบบกึ่งมี
โครงสรา้ ง และ
แบบฟอร์มลาดบั
ความสาคญั ของ
แนวทาง/กิจกรรมการ
ดาเนนิ งาน
๓.เพื่อประเมนิ - การประเมนิ ผลการ - การสอบถามความ -ร้อยละ คา่ เฉล่ีย
ประสิทธผิ ลของ ดาเนินงาน (Output) พึงพอใจของผูส้ งู อายุ ส่วนเบ่ยี งเบน
รปู แบบการดาเนินงาน จากผลการดาเนินงาน ตอ่ การดาเนินงาน มาตรฐาน
ดูแลสุขภาพผสู้ งู อายุ คัดกรองสุขภาพ - การสอบถาม - การวเิ คราะหผ์ ล
จงั หวดั สพุ รรณบุรี ผ้สู งู อายุ การประเมิน บุคลากรสาธารณสขุ การดาเนนิ งาน และ
ภายหลงั การเพมิ่ ADLตามความสามารถ เกี่ยวกับการดาเนนิ แนวโน้ม
ประสิทธภิ าพ ในการประกอบกจิ วตั ร กิจกรรม และ
ประจาวัน (Barthel ความสาคัญของการ
Activities of Daily ดาเนนิ งาน/กจิ กรรม
Living :ADL)ของ เคร่ืองมอื ได้แก่
ผูส้ งู อายุ และการ แบบสอบถามความพงึ
ดาเนินกจิ กรรมดแู ล พอใจของผู้สูงอายุต่อ
สขุ ภาพผู้สงู อายุ และ การดาเนนิ งาน
ระดบั ความสาคญั ของ - แบบสอบถาม
การดาเนนิ งานตาม เกย่ี วกับรปู แบบการ
ความคิดเหน็ ของผู้ ดาเนนิ งานดูแล
ให้บริการ สุขภาพผู้สงู อายุ

๗๐

ตารางที่ 3.3 (ต่อ)

วัตถปุ ระสงคข์ อง ขอบเขตเน้อื หาของ แหล่งข้อมูลและ การวิเคราะห์ขอ้ มูล
การศึกษา การศกึ ษา เครอื่ งมือ และเกณฑ์ประเมิน

-ผลลพั ธ์(Outcome) - แบบรวบรวมขอ้ มลู
ดา้ นความความพึง ประกอบด้วย ผลการ
พอใจของผู้สงู อายตุ ่อ คัดกรองสุขภาพ
การดาเนินงาน และผล ผูส้ งู อายุ แบบสรปุ การ
การดาเนินงานตาม ประเมนิ ADL ตาม
กิจกรรมการดูแล กลมุ่ ศกั ยภาพ ตาม
สขุ ภาพผสู้ งู อายุ ความสามารถในการ
ประกอบกจิ วตั ร
ประจาวนั ( Barthel
Activities of Daily

Living :ADL)ของ
ผู้สูงอายุ

เคร่อื งมอื ในการวิจัย

เครื่องมือในการวิจยั ประกอบดว้ ย
1. การศกึ ษาสภาพ ปัญหา และอุปสรรคของรูปแบบการดาเนินงานดูแลสขุ ภาพผสู้ ูงอายุของ
จังหวดั สพุ รรณบรุ ี เป็นการศึกษาเชิงคณุ ภาพ และเชงิ ปริมาณ เครื่องมอื การวิจยั ประกอบดว้ ย

1.1 การศึกษาจากเอกสาร (Document Study) เป็นการรวบรวม ศึกษา วิเคราะห์
ข้อมูลจากโครงการ ผลการนเิ ทศงาน สรุปรายงานผลการดาเนินงาน และเอกสารท่ีเกี่ยวข้องต้ังแต่ปีที่
เร่ิมดาเนินงานโครงการวิจัย (ปี 2557 จนถึง พ.ศ.2559) เคร่ืองมือได้แก่ แบบบันทึกข้อมูลจาก
เอกสาร/หลกั ฐาน

1.2 แนวคาถามในการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) ผู้บริหาร เจ้าหน้าท่ี
ผู้รับผิดชอบงานระดับจังหวัด อาเภอ และตาบล เคร่ืองมือในการวิจยั คือ แนวคาถามในการสัมภาษณ์
แบบก่ึงมีโครงสร้าง (Semi-structure Interview) (ภาคผนวก ก) ซ่ึงผู้วิจัยสร้างข้ึนจากการทบทวน
แนวคิดและทฤษฎีท่ีเกี่ยวข้อง เช่น นโยบายและแนวทางการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ แนวคิด
ระบบสุขภาพขององค์การอนามัยโลก (WHO Health System Framework) ประสิทธิภาพและ
ประสิทธิผลของการดาเนนิ งาน

๗๑

1.3 แบบสอบถาม (Questionnaire) กลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กลุ่มผู้บริหาร และ
ผู้รับผิดชอบงานจากหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ได้แก่ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด
ท้องถ่ินจังหวดั เทศบาล องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น แกนนา อสม. แกนนาผู้สงู อายุ และหนว่ ยงานใน
สังกัดสานักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกระดบั โดยสอบถามเกยี่ วกบั ประเด็นสภาพแวดล้อมภายนอกท่ีมี
ผลต่อประสิทธิภาพการดาเนินงานดูแลผู้สูงอายุ ซ่ึงข้อคาถามผู้วิจัยสร้างขึ้นจากการทบทวนแนวคิด
และทฤษฎีที่เก่ียวข้อง เช่น นโยบายและแนวทางการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ประสิทธิภาพ
ของการดาเนนิ งาน แนวคิดการวิเคราะห์ปจั จยั ภายนอก (PESTEL Analysis)

แบบสอบถามประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 แบบสอบถามข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบ
แบบสอบถาม เป็นแบบเลือกตอบ และส่วนที่ 2 แบบสอบถามสภาพแวดล้อมภายนอกที่มีผลต่อ
ประสิทธิภาพการดาเนินงานดแู ลผสู้ ูงอายุ จานวน 30 ข้อ จาแนกเป็นคาถามเชงิ บวก จานวน 17 ข้อ
ได้แก่ P1 P2 P3 P6 P8 E1 E2 E4 S1 S3 S6 S7 T1 T2 En1 En2 และ L1 และคาถามเชิงลบ
จานวน ข้อ ได้แก่ P4 P5 P7 E3 E5 S2 S4 S5 T3 T4 En3 En4 และ L2 ลักษณะโครงสร้างข้อ
คาถามแบง่ ออกเป็นการสอบถามใน 2 สว่ นคือ (ภาคผนวก ข)

(1) ความเปน็ ไปได้ของการเกิดผลตอ่ ประสิทธิภาพการดาเนนิ งาน หมายถึง โอกาสท่ี
นโยบาย/ มาตรการ/ แนวทาง/ การปฏิบัตินั้นๆจะส่งผลต่อความสาเร็จ/ ไม่สาเร็จในการดาเนินงาน
ดแู ลสขุ ภาพผูส้ งู อายุ โดยมเี กณฑ์การใหค้ ะแนนดงั นี้

ระดับ 1 หมายถึง หมายถึง โอกาสท่ีนโยบาย/ มาตรการ/ แนวทาง/ การปฏิบัติ
นั้นๆจะสง่ ผลต่อความสาเรจ็ ในระดบั น้อยทสี่ ดุ

ระดับ 2 หมายถึง หมายถึง โอกาสท่ีนโยบาย/ มาตรการ/ แนวทาง/ การปฏิบัติ
น้ันๆจะส่งผลต่อความสาเรจ็ ในระดับน้อย

ระดับ 3 หมายถึง หมายถึง โอกาสที่นโยบาย/ มาตรการ/ แนวทาง/ การปฏิบัติ
นน้ั ๆจะสง่ ผลต่อความสาเร็จในระดบั ปานกลาง

ระดับ 4 หมายถึง หมายถึง โอกาสที่นโยบาย/ มาตรการ/ แนวทาง/ การปฏิบัติ
นน้ั ๆจะสง่ ผลต่อความสาเรจ็ ในระดบั มาก

ระดับ 5 หมายถึง หมายถึง โอกาสท่ีนโยบาย/ มาตรการ/ แนวทาง/ การปฏิบัติ
นน้ั ๆจะส่งผลตอ่ ความสาเร็จในระดบั มากท่สี ดุ

(2) ระดับของผลกระทบต่อประสิทธิภาพการดาเนินงาน หมายถึง ขนาด /ความ
รุนแรง/ ความสาคัญของนโยบาย/ มาตรการ/ แนวทาง/ การปฏิบัติน้ันๆท่ีจะส่งผลต่อความสาเร็จ/
ไมส่ าเรจ็ ในการดาเนินงานดูแลสขุ ภาพผู้สงู อายุ โดยมเี กณฑก์ ารใหค้ ะแนนดังนี้

ระดับ 1 หมายถึง ขนาด /ความรุนแรง/ ความสาคัญของนโยบาย/ มาตรการ/
แนวทาง/ การปฏิบัตินัน้ ๆทีจ่ ะส่งผลตอ่ ความสาเร็จ/ ไม่สาเรจ็ ตอ่ การดาเนนิ งานในระดับน้อยทส่ี ดุ

ระดับ 2 หมายถึง ขนาด /ความรุนแรง/ ความสาคัญของนโยบาย/ มาตรการ/
แนวทาง/ การปฏบิ ตั ินั้นๆทีจ่ ะสง่ ผลต่อความสาเรจ็ / ไม่สาเร็จต่อการดาเนินงานในระดบั นอ้ ย

ระดับ 3 หมายถึง ขนาด /ความรุนแรง/ ความสาคัญของนโยบาย/ มาตรการ/
แนวทาง/ การปฏบิ ัติน้ันๆทจี่ ะสง่ ผลต่อความสาเรจ็ / ไม่สาเรจ็ ตอ่ การดาเนินงานในระดบั ปานกลาง

๗๒
ระดับ 4 หมายถึง ขนาด /ความรุนแรง/ ความสาคัญของนโยบาย/ มาตรการ/
แนวทาง/ การปฏบิ ัตนิ น้ั ๆทจ่ี ะส่งผลต่อความสาเรจ็ / ไม่สาเรจ็ ตอ่ การดาเนินงานในระดบั มาก
ระดับ 5 หมายถึง ขนาด /ความรุนแรง/ ความสาคัญของนโยบาย/ มาตรการ/
แนวทาง/ การปฏิบตั นิ ัน้ ๆทจี่ ะสง่ ผลต่อความสาเร็จ/ ไม่สาเรจ็ ตอ่ การดาเนินงานในระดับมากที่สดุ
โดยเกณฑ์การให้คะแนนแปลตามระดับความเป็นไปได้ของการเกิดผลต่อประสิทธิภาพ
การดาเนินงาน และระดับของผลกระทบต่อประสทิ ธิภาพการดาเนนิ งาน
4) แนวคาถามในการอภปิ รายกลุ่ม (Group Discussion) ในบุคลากรสาธารณสขุ ได้แก่ กลุ่ม
แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข และบุคลากรอ่ืนๆ เช่น นักวิชาการท่ี
ปฏบิ ัตงิ านด้านขอ้ มูลข่าวสารและสารสนเทศ ด้านการเงินและบญั ชี เจา้ หน้าทสี่ าธารณสขุ ระดับตาบล
เคร่ืองมือในการวิจัยคือ แนวคาถามในการสัมภาษณ์แบบก่ึงมีโครงสร้าง (Semi-structure
Interview) (ภาคผนวก ค) ซ่ึงผู้วิจัยสร้างขึ้นจากการทบทวนแนวคิดและทฤษฎีท่ีเกี่ยวข้อง เช่น
นโยบายและแนวทางการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ แนวคิดระบบสุขภาพขององค์การอนามัย
โลก (WHO Health System Framework) ประสทิ ธิภาพและประสิทธิผลของการดาเนินงาน
2. การค้นหาแนวทางการเพ่ิมประสิทธิภาพรปู แบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สงู อายุ และ
จดั ทากรอบข้อเสนอในการเพ่ิมประสิทธิภาพรูปแบบการดาเนินงานดแู ลสุขภาพผู้สูงอายุ เครื่องมือใน
การวิจัยคือ ตารางการวิเคราะห์ข้อมูลปัจจัยภายนอก และข้อมูลปัจจัยภายใน (รายละเอียดตาม
ภาคผนวก ง)
3. การประเมินประสิทธผิ ลของรปู แบบการดาเนนิ งานดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายจุ งั หวัดสุพรรณบุรี
ภายหลังการเพิ่มประสิทธิภาพ เคร่ืองมือในการวิจัยคือ แบบบันทึกข้อมูลผลการปฏิบัติงาน และ
แบบสอบถาม (Questionnaire) ซง่ึ ประกอบดว้ ย
3.1 แบบสอบถามการปฏิบัติ และความคิดเห็นต่อความสาคัญของการดาเนินงานตาม
รูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุจังหวัดสุพรรณบุรี ซ่ึงผู้วิจัยสร้างข้ึนจากการทบทวน
แนวคิดและทฤษฎีที่เก่ียวข้อง และรูปแบบท่ีใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการดาเนินงานดูแลสุขภาพ
ผูส้ ูงอายุ แบง่ ออกเป็น 3 ส่วน (ภาคผนวก จ) ประกอบด้วย
ส่วนท่ี 1 ข้อมลู สถานภาพท่ัวไปของผตู้ อบแบบสอบถาม เปน็ แบบเลือกตอบ และให้
เตมิ คาในช่องว่าง จานวน 8 ข้อ
สว่ นที่ 2 การปฏบิ ัติและความคิดเห็นต่อความสาคญั ของการดาเนินงานดูแลสุขภาพ
ผู้สูงอายุ จานวน 55 ข้อ โครงสรา้ งแบบสอบถามแบง่ ออกเป็น 2 สว่ น คือ
(1) การปฏิบัติตามแนวทาง/กิจกรรมของการดาเนินงาน มีคาตอบให้เลือกคือ
ปฏบิ ตั ิ และไมป่ ฏบิ ตั ิ โดยมีเกณฑก์ ารให้คะแนนดงั น้ี

มีการปฏบิ ตั ิตามแนวทางเทา่ กบั 1 คะแนน
ไม่มีการปฏบิ ัติตามแนวทางเท่ากับ 0 คะแนน
(2) ระดับความคิดเห็นต่อความสาคัญของแนวทาง/กิจกรรมของการดาเนินงาน มี
คาตอบใหเ้ ลอื กคือ มากทส่ี ุด มาก ปานกลาง นอ้ ย และน้อยทสี่ ดุ โดยมเี กณฑ์การใหค้ ะแนนดังนี้
ความคิดเห็นต่อความสาคัญในการดาเนนิ งานระดับมากที่สุด เท่ากับ 5 คะแนน
ความคิดเห็นต่อความสาคัญในการดาเนนิ งานระดับมาก เทา่ กับ 4 คะแนน

๗๓

ความคดิ เห็นตอ่ ความสาคัญในการดาเนินงานระดับปานกลางเทา่ กับ 3 คะแนน
ความคดิ เหน็ ตอ่ ความสาคัญในการดาเนนิ งานระดบั น้อย เท่ากบั 2 คะแนน
ความคิดเหน็ ตอ่ ความสาคญั ในการดาเนนิ งานระดบั น้อยที่สดุ เทา่ กบั 1 คะแนน
สว่ นที่ 3 ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพม่ิ เติม
3.2 แบบสอบถามความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดบริการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ
สพุ รรณบุรี แบบสอบถามแบง่ ออกเป็น 2 ส่วน คอื (รายละเอียดตามภาคผนวก ฉ)
ส่วนที่ 1 แบบสอบถามข้อมูลท่ัวไป เป็นแบบเลือกตอบ และเติมคาในช่องว่าง
จานวน 7 ข้อ
ส่วนท่ี 2 แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ เป็นแบบ
เลือกตอบ จานวน 25 ข้อ มีคาตอบให้เลือกคือ พอใจมากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อยที่สุด
โดยมเี กณฑ์การให้คะแนนดังนี้
ความพึงพอใจต่อการดแู ลสุขภาพผู้สูงอายุระดับมากที่สดุ เทา่ กบั 5 คะแนน
ความพึงพอใจต่อการดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายุระดบั มากทส่ี ุด เทา่ กบั 4 คะแนน
ความพึงพอใจต่อการดูแลสขุ ภาพผู้สูงอายุระดับมากทส่ี ุด เท่ากบั 3 คะแนน
ความพึงพอใจต่อการดูแลสขุ ภาพผู้สูงอายุระดบั มากทส่ี ดุ เท่ากบั 2 คะแนน
ความพงึ พอใจต่อการดแู ลสุขภาพผสู้ ูงอายุระดับมากท่สี ดุ เทา่ กับ 1 คะแนน
แบบสอบถามทุกฉบับได้ผ่านการทดลองใช้ (Try Out) และทดสอบค่าความเช่ือม่ัน
(Reliability) ดว้ ยวิธกี ารหาคา่ สัมประสทิ ธอ์ิ ลั ฟา ของครอนบาค (Cronbach) ไดค้ ่าความเชอื่ ม่ันดงั น้ี
1. แบบสอบถามกลุ่มผู้มีส่วนไดส้ ่วนเสยี คา่ ความเช่ือมั่นเท่ากบั .773
2. แบบสอบถามการปฏบิ ัติ และความคิดเห็นต่อความสาคัญของการดาเนินงานตามรูปแบบ
การดาเนนิ งานดแู ลสขุ ภาพผูส้ งู อายุ
- การปฏบิ ัตติ ามรูปแบบการดาเนนิ งาน คา่ ความเช่อื ม่ันเท่ากบั .922
- ความสาคัญของการดาเนนิ งาน คา่ ความเช่อื มน่ั เท่ากบั .970
3. แบบสอบถามความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดบริการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุจังหวัด
สุพรรณบุรี คา่ ความเช่อื ม่ันเทา่ กับ .969
สาหรับการทดสอบความตรง (Validity) แบบสอบถามท้ังฉบบั ได้ผา่ นการตรวจสอบความตรง
เชิงผิวหน้า (Face Validity) และความตรงเชิงเนื้อหา (Content Validity) จากคณะกรรมการ
สง่ เสรมิ การวิจัยของสานักงานสาธารณสขุ จังหวัดสพุ รรณบุรี

การเก็บรวบรวมข้อมลู

ในข้ันตอนการเก็บรวบรวมข้อมลู มีการดาเนนิ การดงั น้ี

๗๔
1. วิธีการการเกบ็ รวบรวมข้อมูล

1.1 การเก็บข้อมูลจากเอกสาร (Document Study) ผู้วิจัยได้ดาเนินการประสานงาน
กับกลุ่มงานส่งเสริมสุขภาพ กลุ่มงานควบคุมโรคไม่ติดต่อ สุขภาพจิตและยาเสพติด และกลุ่มงาน
พัฒนายุทธศาสตร์สาธารณสุข สานักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี เพ่ือขอข้อมูลจากเอกสารที่
เกย่ี วข้อง และขออนญุ าตเผยแพรข่ อ้ มลู จากการศึกษาเอกสารดังกลา่ ว

1.2 การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ผู้วิจัยได้ประสานงานกับการจัดเก็บ
ข้อมูลในระดับพ้ืนที่ โดยประสานผ่านผู้บริหารของหน่วยงาน ไปยังผู้รับผิดชอบงานท้ังของส่วน
ราชการในสังกัดสานักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ได้แก่ โรงพยาบาล สานักงานสาธารณสุข
อาเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล ส่วนหน่วยงาน และกลุ่มเปา้ หมายภายนอกได้ประสาน
โดยตรงไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น พัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์จังหวัด ท้องถิ่น
จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน (เทศบาล/ อบต.) และให้เวลาในการตอบเอกสารและส่งกลับ
ประมาณ 1 สัปดาห์ และสาหรับแกนนาผู้สูงอายุ และอาสาสมัครสาธารณสุขได้ประสานผ่าน
ผู้รับผิดชอบงานระดับจังหวัด และอาเภอช่วยในการติดต่อประสานงานให้ โดยการเก็บรวบรวมใน
กลุ่มเป้าหมายภาคประชาชนได้มีการประชุมช้ีแจงผู้เก็บรวบรวมในระดับอาเภอถึงแนวทางการเก็บ
รวมรวมข้อมูล ทง้ั นีแ้ บบสอบถามทุกฉบับผู้วจิ ัยได้ส่งเอกสารคาชีแ้ จง และคาอธบิ ายแนวทางการตอบ
แบบสอบถาม พร้อมเอกสารคายินยอมท่ีได้รับการบอกกล่าว (Informed Consent Form) และคา
ชแ้ี จงอาสาสมคั ร (Information Sheet)แนบไปดว้ ย

1.3 การสัมภาษณเ์ ชงิ ลึก ดาเนินการดงั นี้
1) กลุ่มเป้าหมายในตาบล และอาเภอ ผู้วิจัยได้กาหนดวัน เวลา และนัดหมายกับ

ผู้ให้ข้อมูลคนสาคัญ ท้ังนี้ได้มีการอธิบายวัตถุประสงค์ของการศึกษา และขอความยินยอมในการให้
ข้อมูล และมีหนังสือขออนุญาตเข้าเก็บข้อมูลในพ้ืนท่ีถึงผู้บริหารของหน่วยงานอย่างเป็นทางการ ใน
การสมั ภาษณ์ได้สมั ภาษณต์ ามแนวคาถามแต่ละคนใช้เวลาประมาณ ๑ ชัว่ โมง

2) กลุ่มเป้าหมาย ซ่ึงเป็นผู้รบั ผิดชอบงานในระดับจงั หวัด ผู้วิจัยขออนุญาตจากผู้ให้
สัมภาษณ์ทางวาจา ทั้งน้ีได้มีการอธิบายวัตถุประสงค์ของการศึกษาและขอความยินยอมในการให้
ข้อมูลการสัมภาษณ์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ ๑ ชั่วโมงต่อการสมั ภาษณ์ ๑ คน

ในการสัมภาษณ์ทุกครั้งผู้วิจัยได้ใช้เครื่องมือช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือเคร่ือง
บันทึกเสียง เพื่อบันทึกการสนทนา พร้อมกับทาการบันทึกภาคสนาม (Field Note)ทุกครั้ง พร้อมนา
บทสัมภาษณ์มาถอดคาสัมภาษณ์ เพื่อจัดเตรียมไว้สาหรับการวิเคราะห์ข้อมูล และให้ผู้ถูกสัมภาษณ์ได้
มีการตรวจสอบอกี คร้ัง

1.4 การเก็บรวบรวมข้อมูลจากการระดมสมอง ผู้วิจัยได้มีหนังสือขออนุญาต และขอ
เชิญเข้าร่วมปฏิบัติการท่ีเป็นทางการไปถึงผู้บริหารของกลุ่มเป้าหมาย พร้อมส่งแนวคาถามในการ
ระดมสมอง กลุ่มแบบกึง่ มีโครงสร้างให้ผู้เข้าร่วมระดมสมองได้ดูก่อนการเปิดเวที นอกจากน้ีเคร่ืองมือ
ในการเกบ็ รวบรวมยงั ประกอบดว้ ยแบบบนั ทกึ ทใี่ ชบ้ ันทึกการให้ความคดิ เหน็ และเครื่องบันทกึ เสียง

๗๕

2. การพิทกั ษ์สทิ ธิ์ผใู้ ห้ขอ้ มูล
การวจิ ัยครง้ั นี้ ผ้วู ิจัยคานึงถึงการยนิ ยอมของตัวอยา่ งเป็นสาคัญ โดยมีการบนั ทกึ ชอ่ื สกุล และ
ท่อี ยู่ของผู้ให้ข้อมูลได้ขออนุญาตจากผู้ให้ข้อมูล ตามแบบคายินยอมท่ีไดร้ ับการบอกกล่าว (Informed
Consent Form) และมีคาช้ีแจงอาสาสมัคร (Information Sheet) ในการอธิบายถึงวัตถุประสงค์
วิธีการ และขั้นตอนในการเก็บขอ้ มูล ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะได้รับจากการวจิ ัย ให้ตัวอย่างรับทราบ ใน
ระหว่างเก็บข้อมูล หากมีคาถามใดไม่สะดวกใจที่จะตอบก็มีอิสระที่จะไม่ตอบ และสามารถซักถามข้อ
ข้องใจเพิ่มเติมจนมีความกระจ่างได้ รวมทงั้ สามารถยุตกิ ารให้ความร่วมมือไดต้ ลอดเวลา และสามารถ
ขอขอ้ มูลกลบั คนื ได้โดยไมม่ ผี ลกระทบใดๆ ตอ่ ผู้ให้ข้อมูลทั้งสิ้น และงานวจิ ัยชิ้นนไี้ ดผ้ ่านความเห็นชอบ
จากคณะกรรมการจรยิ ธรรมวจิ ัยของสานักงานสาธารณสขุ จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี และได้รับเอกสารรับรอง
โครงการวจิ ัยแลว้ (ภาคผนวก ช)
3. การสรา้ งความนา่ เชื่อถอื ได้ของขอ้ มลู

3.1 ในการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ผู้วิจัยมีการวางแผนการ
เก็บรวบรวม และกาหนดวิธีการให้เหมาะสมกับกลุ่มตัวอย่าง มีการกาหนดวิธีบันทึกข้อมูล เช่น ใช้
เครื่องบันทึกเสียง มีผู้ช่วยจดบันทึก (Note Taker) มีการอบรมวิธีการเก็บให้มีความรู้ ความเข้าใจ
ให้แก่พนักงานสัมภาษณ์ จากนั้นจึงเก็บข้อมูลตามท่ีวางแผนไว้ เม่ือได้ข้อมูลกลับมาต้องตรวจสอบ
ความสมบรู ณ์ของขอ้ มูลทไี่ ดร้ ับก่อนนาไปวิเคราะห์ข้อมลู ต่อไป

3.2 ในการวิจัยเชิงคุณภาพ ก่อนการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยได้มีการตรวจสอบความ
ถูกตอ้ งของข้อมูล โดยใชว้ ิธีการ “การตรวจสอบขอ้ มูลสามเสา้ ” (Triangulation) ดงั นี้

๑) การตรวจสอบสามเส้าด้านข้อมูล (Data Triangulation) ใช้การตรวจสอบข้อมูล
ที่ได้มาจากการวิจัย กับผลการวิจัยจากแหล่งอ่ืนๆ ว่ามีความเหมือนกันหรือไม่ รวมท้ังมีการสอบถาม
ในประเด็นเดียวกันหลายๆคร้ัง เพื่อให้ผู้ให้ขอ้ มูลยืนยนั คาตอบ ซง่ึ ถ้าทกุ แหล่งข้อมูลพบว่าได้ขอ้ ค้นพบ
มาเหมอื นกนั แสดงวา่ ขอ้ มูลที่ผูว้ ิจยั ไดม้ ามีความถูกต้อง

๒) การตรวจสอบสามเส้าด้านผู้วิจัย (Investigator Triangulation) โดยการ
ตรวจสอบจาก ผู้เกบ็ ขอ้ มลู ตา่ งคนกนั ว่าไดค้ น้ พบทเ่ี หมือนกนั หรอื แตกตา่ งกันอย่างไร ซ่ึงถ้าผู้วิจัย หรือ
ผู้ช่วยวิจัยเก็บรวบรวมข้อมูล พบว่าข้อค้นพบท่ีได้มามีความเหมือนกัน แสดงว่าข้อมูลที่ผู้วิจัยได้มามี
ความถกู ต้อง อย่างไรก็ตามในการศึกษาคร้งั นี้ผู้วจิ ยั ไดใ้ ช้ผชู้ ว่ ยในการวิจัย ดังน้ันในการตรวจสอบจงึ ได้
ขอความรว่ มมือจากผชู้ ่วยผู้วจิ ยั ในการตรวจสอบความถูกต้อง

๓) การตรวจสอบสามเส้าดา้ นทฤษฎี (Theory Triangulation) ใชก้ ารตรวจสอบกับ
แนวคิด และทฤษฎีท่ีทบทวนมา ว่าข้อมูลท่ีได้มาเป็นไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ซ่ึงถ้าพบว่าไม่ว่าจะ
นาแนวคิดหรือทฤษฎใี ดมาใช้ ได้ขอ้ ค้นพบทีเ่ หมอื นกนั แสดงว่าข้อมูลท่ผี วู้ จิ ัยไดม้ ามีความถูกต้อง

๗๖

การวิเคราะห์ และแปลผลข้อมลู

ในการวเิ คราะหข์ ้อมลู จากผลการศกึ ษา ผู้วิจัยกาหนดวเิ คราะห์ข้อมูล และแปลผล ดังนี้
1. ข้อมูลเชิงปริมาณ ใช้โปรแกรมสาเร็จรูปในการวิเคราะห์ข้อมูล สถิติท่ีใช้ ได้แก่

ความถี่ ร้อยละ คา่ เฉลยี่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
1) เกณฑป์ ระเมนิ ระดับความพงึ พอใจ
คะแนน 1.00 – 1.80 พงึ พอใจระดบั น้อยที่สุด
คะแนน 1.81 – 2.60 พึงพอใจระดับน้อย
คะแนน 2.61 – 3.40 พึงพอใจระดับปานกลาง
คะแนน 3.41 – 4.2 พงึ พอใจระดบั มาก
คะแนน 4.21 – 5.00 พงึ พอใจระดับมากทส่ี ุด
2) เกณฑ์ประเมินระดับความคิดเห็นต่อความสาคญั ของการดาเนนิ งาน
คะแนน 1.00 – 1.80 ความสาคญั ของการดาเนนิ งานระดับนอ้ ยทีส่ ดุ
คะแนน 1.81 – 2.60 ความสาคัญของการดาเนินงานระดับนอ้ ย
คะแนน 2.61 – 3.40 ความสาคญั ของการดาเนินงานระดบั ปานกลาง
คะแนน 3.41 – 4.2 ความสาคญั ของการดาเนินงานระดบั มาก
คะแนน 4.21 – 5.00 ความสาคญั ของการดาเนนิ งานระดับมากทส่ี ดุ

2. ขอ้ มูลเชิงคณุ ภาพ เปน็ การวเิ คราะห์ขอ้ มูลเกี่ยวกับบริบทของการดาเนินงานสภาพปัญหา
อุปสรรคของรูปแบบการดาเนินงาน การค้นหาแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพของรูปแบบการ
ดาเนินงาน และการจัดทากรอบข้อเสนอในการเพ่ิมประสิทธิภาพการดาเนินงาน ผู้วิจัยใช้การ
วิเคราะห์เน้ือหา (Content Analysis) โดยการนาข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้มาเก็บให้เป็นระบบระเบียบ
ใหค้ วามหมายกับข้อมูล จัดหมวดหมู่ความหมายของข้อมูล วิเคราะห์ และสรปุ รวบรวมความหมาย ที่
ได้จากการสังเกต การจดบันทึก และการถอดเทปการสัมภาษณ์ และระดมสมอง จากนั้นจึงตีความ
สร้างข้อสรุปแบบอุปนัย (Inductive) เพ่ือนาเสนอเป็นผลท่ีได้จากการศึกษาข้อมูลเชิงคุณภาพ
สาหรับขั้นตอนของการวิเคราะห์เน้ือหา (Content Analysis) โดยท่ัวไปมีการดาเนินการดังต่อไปนี้
(เอือ้ มพร หลินเจรญิ , 2555: 17-19)

ขั้นตอนที่ 1 กาหนดเกณฑ์คัดเลือกเอกสาร เป็นการกาหนดให้ชัดเจนว่าผู้วิจัยคัดเลือก
เอกสารอะไร ประเภทใด มาทาการวิเคราะห์ ซึ่งผู้วิจัยจะต้องตั้งกฎเกณฑ์ขึ้น สาหรับการคัดเลือก
เอกสารและหัวข้อท่ีจะทาการวเิ คราะห์ ให้ชดั เจน โดยอาจใชช้ ว่ งระยะเวลาปีที่พมิ พ์หรือบันทึก แหล่ง
เผยแพร่และลักษณะการเผยแพร่ เป็นต้น การกาหนดเกณฑ์คัดเลือกเอกสารท่ีชัดเจนจะมีประโยชน์
มากในกรณที ี่มบี ุคคลอน่ื มาทาการวเิ คราะหจ์ ะทาให้เลือกเอกสารได้ตรงกนั

๗๗
ข้นั ตอนท่ี 2 วางเค้าโครงการวิเคราะห์เป็นการจัดระบบการจาแนกคา หรือข้อความใน
เนื้อหาสาระของเอกสารซึ่งผู้วิเคราะห์ควรจัดระบบการจาแนกให้ชัดเจนว่าจะจาแนกโดยใช้คา หรือ
ขอ้ ความใดบ้างระบบการจาแนกท่ีชัดเจนนจี้ ะชว่ ยให้ผวู้ ิเคราะห์สามารถท่ีจะนา เนอ้ื หาใดมาวเิ คราะห์
และจะตัดเน้ือหาใดออกไป ทั้งน้ีการกาหนดระบบการจาแนกควรจาแนกโดยการพิจารณาถึง
หลกั เกณฑต์ อ่ ไปน้ี คือ

1) การจาแนกควรสอดคล้องกบั ปญั หา วตั ถุประสงคข์ องตวั แปรในการวิจัย
2) การจาแนกควรมีความครอบคลุมคา หรือข้อความที่ผู้วิจัยนามาใช้ หรือข้อความ
อืน่ ๆ ท่มี อี ยู่ในเอกสารเพ่ือใหส้ ามารถนามาลงรหัส แจงนับไดถ้ กู ตอ้ งภายใตค้ าหลกั ในการจาแนก
3) การจาแนกควรใช้หลักเกณฑเ์ ดียวกัน เช่น การจาแนกโดยใช้ฐานะทางเศรษฐกิจ
อาชีพ เวลา และสถานภาพเป็นต้น ซ่ึงการใช้หลักเกณฑ์เดียวกันในการจาแนกจะมีประโยชน์ป้องกัน
การซา้ ซอ้ นกนั ของคา หรอื ข้อความทจี่ ะปรากฏเมื่อทาการแจงนบั
4) การจาแนกควรมีระบบท่ีเด่นชัด ไม่ควรมีคาซ้าซ้อนกันระหว่างข้อความที่จะนา
ไปแจงนับภายใตร้ ะบบการจาแนกแตล่ ะครงั้
ขั้นตอนที่ 3 พิจารณาเงื่อนไขแวดล้อม (Context) ของข้อมูลเอกสารเป็นการพิจารณา
เกี่ยวกับลักษณะต่าง ๆ ของขอ้ มูลเอกสารท่ีจะนา มาวิเคราะห์เพื่อให้การวิเคราะห์ข้อมูลเป็นไปอย่าง
ถูกต้องมีความครอบคลุมมากท่ีสุด โดยลักษณะของข้อมูลท่ีจะพิจารณาได้แก่ แหล่งท่ีมาของข้อมูล
ช่วงเวลาของการบันทึกขอ้ มลู ผู้รบั ข้อมูลหรือบคุ คลท่ีผบู้ ันทึกขอ้ มูลประสงคจ์ ะสง่ ข้อมูลถึง และแหล่ง
เผยแพร่ข้อมูลลักษณะเหล่าน้ีของข้อมูลจะช่วยให้ผู้วิเคราะห์ข้อมูลสามารถมาวิเคราะห์เช่ือมโยง
อธิบายขอ้ มูลในเอกสารไดด้ ีขน้ึ
ขั้นตอนที่ 4 การวิเคราะห์ข้อมูล เป็นการนับความถี่ของคา หรือข้อความที่จาแนกไว้
ภายใต้ระบบการจาแนกที่กาหนดไว้หลังจากน้ัน ก็ทาการวิเคราะห์เชื่อมโยง สรุปบรรยายข้อมูลที่
จาแนกได้ อ้างองิ ไปสู่ข้อมลู ท้งั หมดในเอกสารน้นั ๆ
อย่างไรก็ดีเพ่ือให้ข้อมูลมีความถูกต้อง และน่าเช่ือถือได้ ผู้วิจัยได้มีการตรวจสอบข้อมูล
ดังนี้
1) การใช้เทคนิคสามเส้า (Triangulation Technique) เพ่ือให้ได้ความเที่ยงตรง
ของการบรรยายความ
2) ในการตีความ ใช้ท้ังวิธีการยกคาพูดโดยตรง (Direct Quote) และการยืนยัน
จากผูใ้ หข้ ้อมูล (Participant Feedback) เพอ่ื ใหต้ คี วามได้ตรงตามทผ่ี ู้ถกู สอบถามใหข้ ้อมลู มา
3) ใช้วิธีการตรวจสอบสามเส้าด้านทฤษฎี (Theory Triangulation) เพื่อพิจารณา
วา่ ข้อคน้ พบมคี วามสอดคล้องตอ้ งกันกบั ข้อมูลจรงิ หรือไม่ เพยี งใด
สว่ นการวเิ คราะห์เมทรกิ ซ์ไขว้ เป็นเทคนิคการวิเคราะห์องค์ประกอบทส่ี าคัญของการวิจัยเชิง
คุณภาพ การวิเคราะห์ไขว้เป็นการดาเนินการหลังจากวางข้อมูลในโดเมน และสร้างแนวคิดหลัก
สาหรบั แต่ละกรณี ซงึ่ ในการศกึ ษาครั้งน้จี ากการวิเคราะหข์ ้อมลู เอกสาร (Content Analysis) แล้วใน
ข้ันตอนสุดท้ายจะได้ข้อความที่จาแนกไว้ภายใต้ระบบการจาแนกตามกาหนดไว้เป็นข้อความหลัก
จากน้ันนาขอ้ ความหลักวิเคราะห์ไขวเ้ พื่อหาความเช่อื มโยงระหวา่ งปจั จัยภายในและปัจจยั ภายนอก

บทท่ี ๔
บริบทของรูปแบบการดาเนินงาน และแนวทางในการเพ่ิมประสิทธิภาพ

รปู แบบการดาเนนิ งานดูแลสขุ ภาพผ้สู ูงอายุ

ในการนาเสนอข้อมูลผลการวิจัยในส่วนบริบทของรูปแบบการดาเนินงาน และแนวทางในการ
เพ่ิมประสิทธิภาพรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ผู้วิจัยแบ่งการนาเสนอออกเป็น 4 ส่วน
ดังน้ี

สว่ นท่ี 1 การศึกษาบริบท สภาพ ปัญหา และอุปสรรคของรปู แบบการดาเนนิ งานดูแลสุขภาพ
ผู้สูงอายุของจงั หวัดสุพรรณบรุ ี

ส่วนที่ ๒ การค้นหาแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ
ของจงั หวดั สพุ รรณบุรี

ส่วนท่ี 3 การจัดทากรอบข้อเสนอในการเพ่ิมประสิทธิภาพรปู แบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพ
ผู้สูงอายุ และสรุปตวั แบบทใี่ ช้

สว่ นท่ี 4 การจัดทาแนวทางการดาเนินงานดแู ลสขุ ภาพผสู้ ูงอายุภายหลังการเพ่มิ ประสิทธิภาพ
ดังมีรายละเอยี ดของผลการวจิ ัยแตล่ ะสว่ นตามลาดบั ต่อไปนี้

ส่วนท่ี 1 การศกึ ษาบรบิ ท สภาพ ปัญหา และอปุ สรรคของรปู แบบการดาเนนิ งานดแู ล
สขุ ภาพผูส้ ูงอายขุ องจังหวัดสพุ รรณบุรี

ในการศึกษาบริบท สภาพ ปัญหา และอุปสรรคของรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพ
ผู้สูงอายุของจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นการศึกษาจากเอกสาร (Document Study) การสัมภาษณ์เชิงลึก
(In-depth Interview) การใช้แบบสอบถาม (Questionnaire or Interview) และการใช้เทคนิค
การระดมสมอง (Brain Storming) ผวู้ ิจยั ขอเสนอผลการศึกษาตามลาดบั ดังน้ี

1.1 บริบทของรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุของจังหวัดสุพรรณบุรี เป็น
การศึกษาสภาพท่ัวไปของการดาเนินงานที่ผา่ นมาจนถงึ ปัจจบุ ัน (ปี 2561) เทคนิคในการเกบ็ รวบรวม
ข้อมูลใช้การศึกษาจากเอกสาร (Document Study) และการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview)
ผ้บู รหิ าร และผูป้ ฏบิ ตั งิ านท่เี กย่ี วข้องในแต่ละระดบั

1.2 ผลการวิเคราะห์ปัจจัยภายนอก เป็นการศึกษาปัจจัยภายนอกท่ีส่งผลกระทบต่อ
รูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุของจังหวัดสุพรรณบุรี โดยการใช้แบบสอบถาม
(Questionnaire or Interview) เกบ็ รวบรวมข้อมลู จากผมู้ ีส่วนได้สว่ นเสยี

1.3 ผลการวิเคราะห์ปัจจัยภายใน เป็นการศึกษาปัจจัยภายในที่ส่งผลกระทบต่อรูปแบบ
การดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุของจังหวัดสุพรรณบุรี โดยการใช้เทคนิคการระดมสมอง (Brain
Storming)จากผู้บริหาร และผปู้ ฏิบัตงิ านทีเ่ กย่ี วขอ้ งในแต่ละระดับ
ผลการศึกษามีรายละเอียดดังต่อไปน้ี

๗๙
๑.๑ บรบิ ทของรปู แบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุของจงั หวดั สพุ รรณบุรี
ในการศึกษาสภาพทั่วไปของการดาเนินงานที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน (ปี 2561) ผู้วิจัยได้เก็บ
รวบรวมข้อมูลจากการศึกษาจากเอกสาร (Document Study) และการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth
Interview) ผบู้ รหิ าร และผู้ปฏิบัติงานทเ่ี ก่ียวขอ้ งในแตล่ ะระดับ

1.1.1 ผลการศกึ ษาจากเอกสาร (Document Study)
ในการศึกษาจากเอกสาร ผู้วิจัยใช้เอกสารหลักของการศึกษาคือ เอกสารสรุปผลการ

นิเทศงานของสานักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรีประจาปี 2558 เอกสารสรุปผลการตรวจ
ราชการและนิเทศงานกรณีปกติ ประจาปี 2558-2559 รายงานประจาปีของสานักงานสาธารณสุข
จังหวัดสุพรรณบุรี ปี ๒๕๕๘ และเอกสารนโยบายและทิศทางการปฏิรูประบบสุขภาพในกลุ่มผู้สูงอายุ
กระทรวงสาธารณสุข (กรมอนามัย) ซ่ึงผลการทบทวนข้อมูลทุติยภูมิพบผลการดาเนินงาน มาตรการ
และแนวทางการจัดการเพื่อการดแู ลสุขภาพผู้สูงอายุมรี ายละเอียดพอสงั เขปดังนี้

๑) จากการศึกษาผลการนิเทศงานของสานกั งานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี พบว่า
การดาเนินงานผู้สูงอายุดาเนินงานเน้นการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุตามแนวคิดการดูแลระยะยาว (Long
Term Care) ซึ่งถือเป็นแนวคิดหลักในการดูแลผู้สูงอายุได้อย่างครบวงจร ซ่ึงจากการดาเนินงานพบ
สภาพ และปัญหาอปุ สรรคในการดาเนินงานได้แก่

(1) การพัฒนาระบบข้อมูล ระบบการจัดเก็บข้อมูล/รายงานต่างๆ ยังเป็นแบบ
รวบรวมเป็นเอกสาร (Manual) ซึ่งอาจทาให้เกิดข้อผิดพลาดในการรายงานผล และในบางอาเภอ
ยังขาดการวเิ คราะห์ข้อมลู เพ่ือนามาแก้ไขปัญหา

(2) ชมรมผู้สูงอายุผ่านเกณฑ์คุณภาพ พบว่า ชมรมผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่ยังมีการ
ดาเนินงานท่ีไม่เข้มแข็งเท่าที่ควร เน่ืองมาจากปัญหาในการเดินทางของผู้สูงอายุ, ความเสื่อมของ
รา่ งกาย, ปัญหาเศรษฐกิจ, ขาดผนู้ า, ไม่มหี น่วยงานหลักรับผิดชอบ และในบางชมรมฯมกี ารดาเนินงาน
ทเ่ี ข้มแข็ง ซ่ึงส่วนใหญ่จะมีแกนนาที่เป็นข้าราชการบานาญ หรอื ผู้ทรงคุณวุฒิในพ้ืนท่ี และในบางแห่งมี
การจดั ตง้ั โดย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

(3) การดูแลผู้สูงอายุโดยการมีส่วนร่วมของท้องถิ่น พบว่า องค์กรปกครองส่วน
ท้องถิ่นที่เป็นตาบลเป้าหมายทั้งหมดมีส่วนร่วมในการดูแลผู้สูงอายุได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่อย่างไรก็ตาม
ในบาง อบต./เทศบาล ท่ีไม่มีหัวหน้ากองสาธารณสุขเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีผลให้การดาเนินงาน
ด้านสุขภาพไม่ครอบคลมุ เท่าท่ีควร

(4) การบริการการดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายุในสถานบริการและทบี่ ้านโดยทีมสุขภาพ
ซึ่งเป็นบุคลากรสาธารณสุข พบว่า การเย่ียมบ้านโดยทีมสหวิชาชีพน้ันในบางอาเภอไม่สามารถ
ดาเนินการไดค้ รอบคลมุ เนอื่ งจากภาระงานของเจา้ หน้าที่แต่ละท่าน ไม่สามารถบริหารจัดการเร่ืองเวลา
ว่างท่ีตรงกันได้

(5) การมีส่วนร่วมของชุมชนในการดูแลผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้านติดเตียง ใน
ทุกอาเภอมีการสนับสนุนโครงการ/กิจกรรมกองทุนสุขภาพตาบลในการดูแลผู้สูงอายุกลุ่มติดเตียง การ
ดูแลผู้สูงอายุโดยครอบครัว/เพอ่ื นบ้าน/จติ อาสา/วัด พบว่าครอบครัวและเพื่อนบ้านใหก้ ารดูแลผ้สู งู อายุ
ค่อนข้างดีเป็นแบบเครือญาติ แต่ในส่วนของวัดยังมีบทบาทน้อยในเรื่องของสุขภาพ และการฟ้ืนฟู

๘๐
สภาพด้วยการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกยังมีการดาเนินงานน้อยเช่นกัน (กลุ่มงานพัฒนา
ยทุ ธศาสตรส์ าธารณสขุ , ๒๕๕๘: อดั สาเนา)

2) ผลการดาเนินงานตามนโยบายและทิศทางการปฏิรปู ระบบสุขภาพในกลุม่ ผู้สูงอายุ
กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัย ซึ่งได้กาหนดกรอบนโยบาย ยุทธศาสตร์ และการขับเคล่ือน
การพัฒนาสุขภาพผู้สูงอายุไทย ไว้ใน ๓ ยุทธศาสตร์ เป็นการศึกษาผลการดาเนินงานของจังหวัด
สุพรรณบุรีท่ีมีการดาเนินงานตามมาตรการการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุของก ระทรวงสาธารณสุข จาก
รายงานประจาปีของสานักงานสาธารณสขุ จังหวดั สุพรรณบุรี ปี ๒๕๕๘ และเอกสารประกอบการตรวจ
ราชการกรณีปกติ ของกระทรวงสาธารณสุข รอบท่ี ๒/ ๒๕๕๙ สานกั งานสาธารณสขุ จงั หวัดสุพรรณบุรี
(กลมุ่ งานพัฒนายทุ ธศาสตร์, ๒๕๕๙: Online) มรี ายละเอียดดงั นี้

ยุทธศาสตรท์ ี่ ๑ สนับสนุน การส่งเสริมสุขภาพและป้องกันปัญหาสขุ ภาพท่ีพบบ่อยใน
ผสู้ ูงอายุ และการคดั กรอง Geriatric Syndromes

(1) ผลการคัดกรองโรคท่ีเป็นปัญหาสาคัญและพบบ่อยในผู้สูงอายุและกลุ่ม
Geriatric Syndromes ในปี ๒๕๕๘ จากผลการคัดกรองโรคเบาหวาน จากจานวนผู้สูงอายุที่ได้รับ
การคัดกรองโรคเบาหวาน 117,072 คน (ร้อยละ 81.72 ของผู้สูงอายุเป้าหมาย) ผลการคัดกรอง
ปกติ ร้อยละ 74.61 มภี าวะเสี่ยง รอ้ ยละ 15.53 พบเปน็ โรคเบาหวาน ร้อยละ 11.25 และมีการส่ง
ต่อผู้ป่วย ร้อยละ 4.59 ผลการคัดกรองความดันโลหิตสูงจานวน 117,072 คน คิดเป็นร้อยละ
81.72 ของผู้สูงอายุเป้าหมาย ผลการคัดกรองปกติ ร้อยละ 56.64 มีภาวะเส่ียง ร้อยละ 20.56
พบเป็นโรคความดันโลหิตสูง ร้อยละ 22.81 และมีการส่งต่อผู้ป่วย ร้อยละ 2.54 ส่วนการคัดกรอง
ภาวะซึมเศร้าจานวน 117,072 คน คิดเป็นร้อยละ 81.72 ของผู้สูงอายุเป้าหมาย ผลการคัดกรอง
พบว่าปกติ ร้อยละ 98.85 พบภาวะซึมเศร้า 1,346 คน (ร้อยละ 1.15) และมีการส่งต่อผู้ป่วย
จานวน 290 คน หรือรอ้ ยละ 21.55

การคัดกรองข้อเข่าเสื่อม จานวน 117,072 คน หรือร้อยละ 81.72 ของ
ผู้สูงอายุเป้าหมาย ผลการคัดกรองพบปกติ จานวน 98,268 คน (ร้อยละ 83.94) มีภาวะข้อเข่า
เส่ือม 18,804 คน (ร้อยละ 16.06) มีการส่งต่อผู้ป่วย จานวน 1,471 คน (ร้อยละ 7.82) และ
ผู้ป่วยข้อเข่าเส่ือมได้รับการผ่าตัด จานวน 284 คน (ร้อยละ 19.32) ผลการคัดกรองตาต้อกระจก
จานวน 117,072 คน ร้อยละ 81.72 ของผู้สูงอายุเป้าหมาย ผลปกติร้อยละ 91.60 ผิดปกติ
9,808 คนหรือร้อยละ 8.38 มีการส่งต่อผู้ป่วย จานวน 1,764 คน คิดเป็นร้อยละ 17.99 และ
ผปู้ ว่ ยตาตอ้ กระจกไดร้ ับการผา่ ตดั 971 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 55.04

ท้ังนี้ การดาเนินงานคัดกรองข้อเข่าเสื่อมและตาต้อกระจก ของจังหวัด
สุพรรณบุรี ได้ดาเนินการในผู้สูงอายุที่มารับบริการในโรงพยาบาลและเชิงรุกในพื้นท่ีโดยได้มีการ
ดาเนินงานแบบการบูรณาการ และมีการประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการสนับสนุน
งบประมาณด้านการคัดกรอง โดยในบางอาเภอได้มีการให้โรงพยาบาลเอกชนจัดรถบริการเคลื่อนท่ีมา
ให้บริการคัดกรองต้อกระจก และโรงพยาบาลท้ังภาครัฐและเอกชนให้บริการด้านการผ่าตัดตาต้อ
กระจกเพ่ือลดระยะการรอคอย โดยการดาเนินงานมีการแบ่งเขตการดูแลรักษา และตามความสะดวก
ของผู้ป่วยในการเลือกรับบริการ ซ่ึงในจังหวัดสุพรรณบุรีมีโรงพยาบาลของรัฐบาลที่มีจักษุแพทย์
สามารถให้บริการด้านการผ่าตัดตาต้อกระจกได้ 3 แห่ง และโรงพยาบาลเอกชน 1 แห่ง ในส่วนของ

๘๑
การผ่าตัดข้อเข่าเส่ือมก็มีการดาเนินงานเช่นเดียวกันโดยมีการประสานงานกับโรงพยาบาลท้ังภาครัฐ
และภาคเอกชนในการให้บริการผ่าตัดผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม และสาหรับในปี ๒๕๕๙ ผลงานการคัดกรอง
ยังดาเนินการคัดกรองไม่ได้ตามเป้าหมาย และผลงานต่ากว่าปี 2558 อาทิ ผลการคัดกรองเบาหวาน
ดาเนินการคัดกรองได้ ร้อยละ 68.05 พบว่าความเสี่ยง/ป่วย ร้อยละ 21.10 ความดันโลหิตสูง
ดาเนินการได้ร้อยละ 70.55 พบผ้สู ูงอายมุ ีความเสี่ยง/ป่วย รอ้ ยละ 36.30 การคดั กรองตาดาเนินการ
ได้ร้อยละ 65.94 พบผู้สูงอายุมีความเสี่ยง/ป่วย ร้อยละ 6.44 การคัดกรองข้อเข่าเส่ือม ร้อยละ
62.85 ของผู้สูงอายุเป้าหมาย พบ มีความเส่ียง/ป่วยของข้อเข่าเส่ือม รอ้ ยละ 14.87 ผู้สูงอายุได้รับ
การคัดกรองภาวะซึมเศร้า รอ้ ยละ 66.98 พบมีความเส่ียง/ป่วย ร้อยละ 1.45 และผู้สูงอายไุ ด้รับการ
คัดกรองภาวะสมองเส่ือม สุขภาพช่องปาก และภาวะโภชนาการ ร้อยละ 66.98, 65.62 และ
65.47 พบมคี วามเสย่ี ง/ปว่ ย ร้อยละ 1.45 , 37.24 และ37.03 ตามลาดบั

ยุทธศาสตร์ที่ ๒ การพัฒนาระบบบริการสุขภาพที่มีคุณภาพเช่ือมโยงจากสถาน
บริการสู่ชุมชน พบว่า ในการดูแลรักษาและฟื้นฟูสภาพโรงพยาบาลชุมชนเป็นหน่วยบริการผู้สูงอายุที่
ให้บรกิ ารประเมิน/คัดกรองและรกั ษาเบื้องตน้ ในทุกแห่ง และมีโรงพยาบาลศูนย์/ทั่วไป มีหน่วยบริการ
ผู้สูงอายุ โดยได้มีการประสานงานกับสถานบริการเพ่ือการวางแผนการรับและส่งต่อผู้สูงอายุระหว่าง
สถานบริการทุกระดับ ในระดับจังหวัด , ระดับอาเภอ มีผู้จัดงานกลุ่มผู้สูงวัย (Aging Manager)
ดาเนินการพัฒนาระบบบริการสุขภาพผู้สูงอายุ เพื่อขับเคล่ือนระบบการดูแลผู้สูงอายุที่ครบวงจรต้ังแต่
การคัดกรองโรค การส่งต่อ และการเช่ือมโยงข้อมูลในแต่ละระดับ สาหรับ รพศ./รพท./ รพช.ทุกแห่ง
ได้มีแผนการดาเนินงานในการจัดบริการสุขภาพผู้สูงอายุ การคัดกรองโรคผู้สูงอายุ 7 โรค และกลุ่ม
อาการที่เป็นปัญหาเฉพาะหรือพบบ่อยในผู้สูงอายุ (Geriatric Syndromes) การรับผู้ป่วย จากการ
คัดกรองที่พบโรค และมีการส่งต่อกลับยังชุมชนเพื่อการดูแลต่อเนื่อง และมีการจัดทาแผนการดูแล
ผสู้ ูงอายรุ ายบุคคล (Care Plan)

ยทุ ธศาสตร์ที่ ๓ ส่งเสริมสนับสนุนความเข้มแข็งการมีส่วนร่วมของ ครอบครัว ชุมชน
และท้องถิ่น ในการสร้างเสริมและดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ โดยการส่งเสริมให้ชุมชน/ท้องถิ่นมีระบบ
การดูแลผู้สูงอายุระยะยาว พบว่า ผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพ่ึงพิง จานวน 658 คนจาก จานวน 110
ตาบล ในจานวนนี้มตี าบลต้นแบบท่ดี าเนินการต้ังแต่ปี 2553 – 2558 ท้ังสิ้น 77 ตาบล คิดเป็นร้อย
ละ 70 ผ่านเกณฑ์การประเมินตาบลต้นแบบ คิดเป็นร้อยละ 100 การดาเนินงานชมรมผู้สูงอายุใน
จังหวัดสุพรรณบุรี มีจานวนชมรมฯท้ังหมด 340 ชมรม ผ่านเกณฑ์ชมรมผู้สูงอายุคุณภาพ 221
ชมรม คดิ เปน็ ร้อยละ 65 อย่างไรก็ดีมาตรการที่กาหนดให้ชุมชนท้องถ่ินมีการส่งเสริมสุขภาพและปรับ
สภาพแวดล้อมท่ีเอื้อต่อผสู้ ูงอายนุ ้ันเน้นไปที่การสร้างกลุ่มผู้ดูแลผู้สูงอายุท่ีตดิ เตียง หรือ “Care Giver”
ในขณะที่ดา้ นการปรับสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อผสู้ ูงอายยุ ังไม่ได้ดาเนินการอย่างชดั เจน

1.1.2 ผลการศกึ ษาจากการสมั ภาษณเ์ ชิงลึก (In-depth Interview)
จากการสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้เก่ียวข้อง ได้แก่ หัวหน้ากลุ่มงานส่งเสริมสุขภาพ หัวหน้า
กลมุ่ งานควบคุมโรคไม่ติดตอ่ และสุขภาพจติ ผู้รบั ชอบงานกลุ่มงานส่งเสรมิ สุขภาพ และกล่มุ งานควบคุม
โรคไม่ติดต่อและสุขภาพจิต ผู้รับผิดชอบงานแผนยุทธศาสตร์สุขภาพ ผู้รับผิดชอบงานผู้สูงอายุของ
โรงพยาบาล สานักงานสาธารณสุขอาเภอ และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล โดยแนวคาถามเป็น

๘๒
แบบสัมภาษณ์ลักษณะแบบกึ่งมีโครงสร้าง (Semi-structure Interview) ซ่ึงประยุกต์ใช้แนวคิดตาม
แนวคิดระบบสุขภาพขององค์การอนามัยโลก (The WHO Six Building Blocks of Health System)
โดยให้กลุ่มเป้าหมายให้รายละเอียดในการดาเนินงานโดยทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับผู้สูงอายุ และการ
ดาเนินงานด้านการส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การดูแลรักษา และการฟ้ืนฟูสภาพผู้สงู อายุของจังหวัด
สพุ รรณบรุ ี พบวา่

๑) รูปแบบบริการ สภาพการจัดบริการ เป็นการให้บริการโดยท่ัวไป กิจกรรมยังไม่มี
ความโดดเด่น และไม่ได้แสดงถึงการเน้นเพื่อการแก้ไขปัญหาท่ีชัดเจน การจัดบริการในภาพรวมยัง
ดาเนินการได้เฉพาะกลมุ่ เช่น ด้านการส่งเสริมสุขภาพ มีชมรมออกกาลังกาย แต่ผู้เข้ารว่ มกิจกรรมมีไม่
มาก การดูแลส่งเสริมสุขภาพ และป้องกันโรคส่วนใหญ่กิจกรรมยังเป็นลักษณะทั่วไป และมักยังไม่
รวมถึงเร่ืองของการส่งเสริมการปรับปรุงสภาพแวดล้อมด้านท่ีอยู่อาศัย และในชุมชนเพื่ออานวยความ
สะดวกแก่ผู้สูงอายุ ยกเว้นผู้สูงอายุท่ีได้รับการเย่ียมบ้านจะได้รับบริการนี้ด้วย ด้านการรักษาพยาบาล
บางแห่งจัดให้มีคลินิกผู้สูงอายุ แต่ไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน และไม่มีแพทย์เฉพาะตรวจรวมกับผู้ป่วยท่ัวไป
หรือคลินิกโรคเร้ือรัง ในการดาเนินงานโครงการ ๗๐ ปีไม่มีคิว สามารถทาได้ในบางโรงพยาบาล ส่วน
ด้านการฟ้ืนฟูสภาพ เช่น กรณีผู้สูงอายตุ ิดเตียงท่ีต้องได้รับการฟ้ืนฟูสภาพด้วยการแพทย์แผนปัจจุบัน/
การแพทย์ทางเลือก แต่ยังขาดการดแู ลด้วยกายภาพบาบัด สาหรบั บริการตรวจคัดกรองสขุ ภาพ บรกิ าร
เย่ยี มบ้าน อาจมีปัญหาเร่ืองคุณภาพการบริการ เนื่องจากบุคลากรน้อย แตม่ ีภาระงานมาก จึงให้ อสม.
ทาหน้าท่ีคัดกรอง ส่วนการดูแลผู้ป่วยติดเตียงมีการฝึกสอนให้ Caregiver ดูแลผู้ป่วย ซ่ึงอาจทาให้
คุณภาพของการดาเนินงานลดลง นอกจากน้ี ส่วนใหญ่ของสถานบริการไม่ได้มีการจัดแผนการ
จดั บรกิ าร หรือการดาเนินงานท่ีชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร

๒) บุคลากรสาธารณสุข มีความขาดแคลนในเชิงปริมาณในทุกระดับของการบริการ
เน่ืองจากผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพ่ิมสูงข้ึน และมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคเรื้อรังที่ต้องให้การดูแลอย่าง
ต่อเนื่องนอกจากจะมีภาระงานมาก ยังมีงานท่ีเป็นเอกสาร และรายงานท่ีต้องจัดทาส่งตามลาดับ
จานวนมาก สถานบริการมีการจัดการแก้ไขปัญหาที่สาคัญ คือ การใช้เครือข่ายในการทางาน เช่น
อาสาสมคั รสาธารณสขุ ชมรมผูส้ ูงอายุ ผูด้ ูแลผู้สงู อายุ ซึ่งส่วนใหญ่คอื คนในครอบครัวหรือญาติ ในสว่ น
เชิงคุณภาพพบว่า บุคลากรสาธารณสุขในทุกระดับมีความรู้ และทักษะที่เหมาะสมกับภาระงานอยู่แล้ว
แต่หากต้องอาศัยทักษะที่สูงข้ึนในการให้บริการ ระดับจังหวัดมีแผนท่ีก็พัฒนา หรือเพิ่มพูนทักษะเป็น
ระยะๆ

๓) ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ พบว่า ขอ้ มลู ด้านผสู้ ูงอายุมีการรวบรวม และจัดเก็บ
ไว้ค่อนข้างน้อย และยังไม่เป็นระบบ ยังไม่มีการจัดทาฐานข้อมูลที่เก่ียวข้องกับผู้สูงอายุโดยเฉพาะ
ดังน้ัน จึงมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนข้อมูลท้ังที่เป็นข้อมูลพื้นฐาน และข้อมูลในเชิงลึกมาใช้ในการ
บริหารจัดการการดาเนินงาน สาหรับข้อมูลที่มีการจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลด้านการรักษาของสถาน
บรกิ าร ส่วนใหญ่ยังไม่ถูกนามาใชเ้ พ่ือการวางแผน หรอื การบรหิ ารจดั การ

๔) การเข้าถึงยาและบริการท่ีจาเป็น สภาพโดยทั่วไปด้านการเข้าถึงยาพบว่า
ส่วนใหญ่ของสถานบริการระบบยามีความเชื่อมโยงกันระหว่างโรงพยาบาล และโรงพยาบาลส่งเสริม
สุขภาพตาบลที่อยู่ใน คปสอ.เดียวกัน โดยการจ่ายส่วนใหญ่จะเป็นยาตัวเดียวกันกับที่โรงพยาบาลใช้
แตใ่ นโรงพยาบาล และโรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพตาบลเกอื บทั้งหมดยังไมม่ รี ะบบเตือนการใช้ยา

๘๓
สาหรับบริการที่จาเป็น ยังไม่มีนโยบายท่ีชัดเจน และยังไม่มีการกาหนดว่าอะไรคือ
บริการที่จาเป็นสาหรบั การดาเนนิ งานดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายุ
๕) การเงินการคลังด้านสุขภาพ พบว่า การบริหารการจัดการยังดาเนินการเป็น
ภาพรวม ยังไม่มีการวิเคราะห์ และไม่มีข้อมูลเพียงพอท่ีจะวิเคราะห์ภาพของระบบการเงินการคลัง
เฉพาะงานผูส้ ูงอายุ หรอื งานด้านหนึ่งดา้ นใดแตเ่ พียงอย่างเดียว
๖) ภาวะผู้นาและการอภิบาลระบบ พบว่า ในการดาเนินงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแล
สุขภาพผู้สูงอายุ นโยบายการดูแลระยะยาวมีความชัดเจนมากกว่านโยบายอื่น แต่มีปัญหาในข้ันตอน
การนานโยบายไปปฏิบัติท่ีต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน และขาดการสนับสนุนท่ีเป็น
รูปธรรมทง้ั ดา้ นคน เงนิ ของ และขาดการกากบั ติดตามท่ีตอ่ เนอื่ ง
1.2 ผลการวเิ คราะห์ปจั จยั ภายนอก
การศึกษาปัจจัยภายนอกท่ีส่งผลกระทบต่อรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ
ของจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ประกอบด้วย พัฒนาสังคม
และความม่ันคงของมนุษย์จังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด เทศบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แกนนา อสม.
แกนนาผู้สูงอายุ และผู้แทนของหน่วยงานในสังกัดสานักงานสาธารณสุขจังหวัดแต่ละระดับ โดยการใช้
แบบสอบถาม (Questionnaire) มีผู้ตอบแบบสอบถามจานวน 106 คน ผลการศึกษาพบว่า ค่าความ
เปน็ ไปได้และผลกระทบต่อประสิทธิภาพการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุสว่ นใหญ่ (10 อันดบั แรก)
เป็นมิติด้านสังคม โดยเรื่องท่ีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้ความสาคัญในลาดับแรกค่าคะแนนเท่ากันคือ
“ลักษณะของชุมชน และการมีเครือข่ายของชุมชนที่เข้มแข็งมีผลต่อประสิทธิภาพการดาเนินงานดูแล
สุขภาพผู้สูงอายุ” และ “วิถีการดาเนินชีวิตและพฤติกรรมเสี่ยงด้านสุขภาพของประชาชนมีผลต่อ
ประสิทธิภาพการดาเนินงานการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ” สาหรับผลการวิเคราะห์ในรายด้าน
มีดังน้ี (แผนภาพที่ 4.1 ตาราง ผ 1 ภาคผนวก ซ)
๑) ด้านการเมือง (Political) เรื่องที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการดาเนินงานมากทส่ี ุดคือ
“นโยบายของกระทรวงสาธารณสุขด้านการพัฒนาสุขภาพตามกลุ่มวัย: การดูแลผู้สูงอายุระยะยาว
(Long Term Care )มผี ลตอ่ ประสทิ ธิภาพในการดาเนินงานการดาเนินงานดแู ลสุขภาพผูส้ งู อายุ”
๒) ด้านเศรษฐกิจ (Economical) เร่ืองท่ีส่งผลต่อประสิทธิภาพการดาเนินงานมาก
ที่สุดคือ “ภาวะค่าครองชีพ ความยากจน และรายได้ของประชาชนในจังหวัดมีผลต่อประสิทธิภาพการ
ดาเนินงานดแู ลสขุ ภาพผ้สู ูงอายุ”
๓) ด้านสังคม (Socio-cultural) เร่ืองที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการดาเนินงานมาก
ท่ีสุดคือ “ลักษณะของชุมชน และการมีเครือข่ายของชุมชนท่ีเข้มแข็งมีผลต่อประสิทธิภาพการ
ดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ” และ “วิถีการดาเนินชีวิตและพฤติกรรมเส่ียงด้านสุขภาพของ
ประชาชนมีผลตอ่ ประสิทธภิ าพการดาเนนิ งานดูแลสขุ ภาพผสู้ ูงอายุ” โดยมีคา่ คะแนนเทา่ กัน
๔) ด้านเทคโนโลยี (Technological) เร่ืองที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการดาเนินงาน
มากที่สุดคือ “เทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย ทาให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพได้ง่าย
ส่งผลต่อประสทิ ธภิ าพการดาเนินงานดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายุ”

๘๔
5) ด้านกฎหมาย/กฎระเบียบ (Legal)เรื่องที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการดาเนินงาน
มากที่สุดคือ “ประชาชนและผู้สูงอายุยังขาดความรู้เรื่องสิทธิ และกฎหมายที่เก่ียวข้อง ส่งผลต่อ
ประสิทธิภาพการดาเนินงานดูแลสุขภาพผ้สู งู อายุ”
6) ด้านสภาวะแวดล้อม (Ecological) เร่ืองท่ีส่งผลต่อประสิทธิภาพการดาเนินงาน
มากที่สุดคือ “สภาพแวดล้อมในบ้าน และที่อยู่อาศัยที่เหมาะสมมีผลต่อประสิทธิภาพการดาเนินงาน
ดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายุ”
สาหรับปัจจัยภายนอกในภาพรวมมีปัจจัยบวกคือ 1) ด้านการเมือง 2) ด้านเศรษฐกิจ
3) ด้านสังคม 4) ด้านเทคโนโลยี และ 5) ด้านสิ่งแวดล้อม ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่ ด้านกฎหมาย
(แผนภาพที่ 4.2)

ดา้ นการเมอื ง ด้านเศรษฐกจิ ด้านสังคม

ด้านเทคโนโลยี ด้านสงิ่ แวดลอ้ ม ด้านกฎหมาย

แผนภาพท่ี 11 ผลการศึกษาปัจจัยภายนอก: จาแนกบริบทตามปัญหา PESTEL รายดา้ น

แผนภาพท่ี 4.1 ผลการศกึ ษาปจั จัยภายนอก: จาแนกบริบทตามปัญหา PESTLE รายดา้ น

๘๕

ปจั จยั บวก
1.ด้านการเมือง
2.ดา้ นเศรษฐกิจ
3.ด้านสังคม
4.ด้านเทคโนโลยี
5.ด้านส่ิงแวดลอ้ ม
ปัจจัยลบ
1.ดา้ นกฎหมาย

แผนภาพท่ี 4.2 ผลการศึกษาปัจจัยภายนอก: จาแนกตามบริบทในการวเิ คราะห์ PESTLE Analysis
1.4 การอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion)
ในการศึกษาปัญหา และอุปสรรคในการดาเนินงาน ผู้วิจัยใช้เทคนิคการอภิปรายกลุ่ม

(Group Discussion) ในกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่เก่ียวข้องกับการดาเนนิ งาน ประกอบด้วยแพทย์ ทันตแพทย์
เภสัชกร พยาบาล นักกายภาพบาบัด นักวิชาการสาธารณสุขท่ีเก่ียวกับกับการดาเนินงานด้านผู้สูงอายุ
จากระดับจังหวัด และอาเภอ, ผู้รับผิดชอบงานผู้สูงอายุจากสานักงานสาธารณสุขอาเภอ โรงพยาบาล
ศูนย์/ท่ัวไป โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล อาสาสมัครสาธารณสุข และแกนนา
ผู้สูงอายุ รวมท้ังสิ้น 50 คน ซึ่งถือวา่ เป็นผู้ให้ขอ้ มูลคนสาคัญ (Key Informants) เพ่ือให้การจัดทากลุ่ม
ในการระดมสมองขนาดกลุ่มไม่ใหญ่เกินไป การจัดกลุ่มในการระดมสมองแบ่งเป็น ๕ กลุ่มๆละ 10 คน
ในแต่ละกลุ่มมีผู้ช่วยวิจัยเป็นผู้ดาเนินการ (Moderator) และผู้จดบันทึก (Note Taker) ผู้วิจัยได้
กาหนดคุณสมบัติของบุคลากรในแต่ละกลุ่มตามความรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน โดยอิงกรอบการ
ดาเนินงานตามแนวคิดระบบสุขภาพขององค์การอนามัยโลก (WHO Health System Framework)
ซ่ึงมีองค์ประกอบที่พึงประสงค์หลัก 6 ประการ (Six Building Blocks of Health System) สาหรับ
แนวคิดในการศึกษาเป็นการบูรณาการแนวคิดระบบสุขภาพขององค์การอนามัยโลก(Six Building
Blocks of Health System) และ7’S Model ของ McKinsey ใช้เป็นตัวแบบในการศึกษา ทั้งนี้ใน
การนาเสนอผลศึกษาได้ใช้แนวคิดระบบสุขภาพขององค์การอนามัยโลก(Six Building Blocks of
Health System) เป็นแกนหลัก และ7’S Model เป็นตัวแบบในการบูรณาการ ผลการศึกษา
มรี ายละเอียดโดยสังเขปดงั นี้

(๑) รูปแบบบรกิ าร (Service Delivery)
จากสภาพการจัดบริการ โดยภาพรวมเป็นการให้บริการโดยท่ัวไป เช่น การใหค้ วามรู้เร่ือง
อาหาร การออกกาลังกายในผู้ป่วยโรคเร้ือรัง/ผู้สูงอายุ กิจกรรมการคัดกรองโรคหรือภาวะสุขภาพใน
ผู้สูงอายุ การตรวจรักษาโรคตามอาการ บางแห่งจัดให้บริการแยกออกเป็นคลินิกผู้สูงอายุ แต่อย่างไรก็
ตามกิจกรรมยังไม่เพียงพอที่จะดูแล และแก้ปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุได้อย่างครบถ้วน ครอบคลุม โดยมี
รายละเอียดของสภาพปัจจุบัน และปัญหาอปุ สรรคดงั ต่อไปน้ี

๘๖
ก. การจัดบริการในภาพรวมส่วนใหญ่ดาเนินการได้เฉพาะกลุ่ม ไม่สามารถให้บริการได้
ครอบคลุมกลุ่มผู้สูงอายุเป้าหมายได้ทั้งหมด เช่น การคัดกรองดาเนินการได้ใกล้เคียงเป้าหมายที่
กาหนดให้ แต่ไม่ครอบคลุมผู้สูงอายุทั้งหมด เนื่องจากการคัดกรองโรคในผู้สูงอายุส่วนใหญ่ยัง
ดาเนินการในที่ต้ังของสถานบริการ (โรงพยาบาล/ โรงพยาบาลส่งเสรมิ สุขภาพตาบล) ยงั ขาดระบบงาน
เชิงรุก เพ่ือการติดตามผู้สูงอายุกลุ่มเส่ียง และกลุ่มป่วยเข้ารับบริการ มีบางสถานบริการท่ีดาเนิน
กจิ กรรมตรวจสุขภาพ และออกกาลังกายในชุมชน โดยดาเนินการในชุมชน ณ สถานที่ที่ผ้สู ูงอายุรับเบ้ีย
ยังชีพ แต่ไม่ต่อเน่ือง ส่วนกิจกรรมการออกกาลังกายเพื่อป้องกันข้อเข่าเสื่อม โดยนักกายภาพบาบัด
ดาเนินการได้เฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยติดบ้าน และติดเตียง แต่ในกลุ่มเสี่ยง และกลุ่มปกติ ไม่ค่อยได้
ดาเนินการเนอื่ งจากนกั กายภาพบาบัดมีน้อย ปริมาณงานมาก
ข. ด้านคุณภาพในการให้บริการยังมีปัญหาในหลายประการ เช่น การคัดกรองโรคพบว่า
๑) เจ้าหน้าท่ีบางส่วนขาดความรู้เรื่องการคัดกรอง เนื่องจากไม่ได้รับการอบรมวิธีการตรวจคัดกรอง
เช่น การตรวจภาวะสมองเสือ่ ม ๒) เจ้าหน้าท่ีสาธารณสุขไม่สามารถดูแลประชากรในพ้ืนท่ีได้ครอบคลุม
จึงให้ อสม. หรือจิตอาสา เป็นผู้ดาเนินการแทนในบางกิจกรรม ทาให้บางกิจกรรมคุณภาพ และไม่ได้
ตามมาตรฐาน ๓) ผู้สูงอายุยังเห็นความสาคัญของกิจกรรมการป้องกันโรคและความพิการค่อนข้างน้อย
รวมท้ังการเข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆในชุมชน เช่น ชมรมผู้สูงอายุ กลุ่มอาชีพ คนท่ีไม่สนใจจะไม่เข้าร่วม
กิจกรรม โดยเฉพาะการดาเนินงานในชมรมผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่กลุ่มผู้สูงอายุท่ีไม่มีปัญหาสุขภาพจะเข้า
ร่วม กลุ่มท่ีมีปัญหาสุขภาพยังเป็นกลุ่มท่ีเข้าไม่ถึงบริการ เน่ืองจากมองว่าตนเองขาดความพร้อม เช่น
การเดินทางไม่สะดวก ต้องเป็นภาระลูกหลาน กิจกรรมที่เข้าร่วมไม่ค่อยน่าสนใจและไม่ได้ทาให้เกิดผล
ลพั ธต์ ่อสุขภาพในทนั ที
ค. ความเชื่อมโยงต่อเน่ืองกันของบริการระหว่างโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล
โรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลท่ัวไป โรงพยาบาลศูนย์ การดาเนินงานยังขาดการประสานงานท่ีดี
ระหว่างกัน ผู้สูงอายุเองมีปัญหาในการเดินทางไปรับบริการในโรงพยาบาลชุมชน และโรงพยาบาล
ศูนย์/ท่ัวไป เน่ืองจากไม่มีผู้คอยรับ – ส่ง และเมื่อส่งต่อผู้สูงอายุเข้ารับบริการในโรงพยาบาล ได้พบ
ปัญหาอุปสรรค เช่น ผสู้ งู อายุรอรบั บรกิ ารนาน การเข้าถึงบริการช้า ต้องเข้ารับบริการหลายคลินิก ไม่มี
คลินิกแยกให้บริการเฉพาะ ทาให้ลาบากในการเดินไปรับบริการ นอกจากน้ียังพบว่า คลินิกในการ
ให้บริการบางแห่งให้บริการผู้สูงอายุรวมกับการให้บริการผู้ป่วยทั่วไป บางแห่งที่แยกคลินิกผู้สูงอายุ
แต่จัดได้สัปดาห์ละคร้ัง บางแห่งจัดคลินิกบริการอยู่ชั้นสอง แต่คลินิกกายภาพอยู่ชั้น ๔ ทาให้ผู้สูงอายุ
เสย่ี งต่ออบุ ัตเิ หตุ บางแห่งมีห้องนา้ สาหรับผู้สงอายุแต่ไมเ่ พยี งพอ
ง. ด้านการจัดบริการด้านการดูแลสภาพแวดล้อมยังไม่มีการดาเนินงานท่ีเป็นรูปธรรม
ชัดเจน โดยพบว่า ผู้สูงอายุมีการเจ็บป่วยและความพิการจากสภาพแวดล้อม และจากการทางาน เช่น
การเจ็บป่วยจากโรคข้อเข่าเสื่อม อุบัติเหตุ พลัดตกหกล้ม การให้คาแนะนา และการเข้าไปดูแลเพื่อ
จัดสภาพแวดลอ้ มจะใหบ้ รกิ ารกรณีไปเย่ียมบา้ นแลว้ พบปัญหา
(๒) บุคลากรสาธารณสุข (Health Workforce) จากสภาพ ปัญหา และอุปสรรค
ด้านบุคลากรทีด่ าเนินงานดา้ นผู้สงู อายุ พบวา่
ก. ในเชิงปริมาณ บุคลากรที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องยังไม่ครอบคลุมในสาขาที่จาเป็น เช่น
กายภาพบาบัด ทันตกรรม บุคลากรเจ้าหน้าท่ีมีภาระงานมาก มีงานเอกสาร และรายงานจานวนมากท่ี

๘๗
ตอ้ งจัดทา ทาให้การดูแลประชากรในพ้ืนที่ได้ไม่ท่ัวถึง และขาดประสิทธิภาพ แม้ว่าจังหวัดสุพรรณบุรี
ไดจ้ ัดทาแนวทางการดูแลผู้สูงอายุหลังจากการคัดกรองสขุ ภาพ โดยมีการกาหนดเสน้ ทางการสง่ ต่อกลุ่ม
ป่วย และกลุ่มเส่ียง ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล แต่เนื่องจากข้อจากัดทางด้านจานวนบุคลากรท่ีสามารถ
รองรบั ผู้ป่วยได้ การรักษาอาการป่วยจงึ ล่าชา้ เส่ยี งตอ่ การพกิ ารและคณุ ภาพชีวิตที่ลดลงได้

ข. ในเชิงคุณภาพ พบว่า บุคลากรบางส่วนยังขาดทักษะในการบริหารจัดการ และทักษะ
เชิงเทคนิค ด้านการฝึกอบรมยังเป็นภาพกว้างๆ ไม่ได้เข้มข้น หรือเน้นหนักเรื่องใดเร่ืองหน่ึง และการ
อบรมส่วนใหญ่จะมีผู้รับผิดชอบงานไปเท่านั้น ในขณะท่ีการดาเนินงานต้องช่วยกัน เช่น การตรวจคัด
กรองสุขภาพ ทาให้มีปัญหาเก่ยี วกับคุณภาพ และมาตรฐานในการดาเนินงาน บางสว่ นมีการส่งผู้ท่ีไมไ่ ด้
รับผิดชอบไปอบรม ทาให้กลับมาไม่ได้ปฏิบัติงาน และหลักสูตรสาหรับการอบรมมักเน้นพยาบาลที่
ปฏบิ ตั ิงานในแผนกผปู้ ่วยนอก และหอผปู้ ่วย ซ่ึงไม่เกดิ ผลดตี ่อการปฏิบัติงานในชุมชน

นอกจากนี้ ยังพบว่าในเรื่องการส่งเสริมและพัฒนาให้บุคลากรเกิดความคิดริเร่ิม และการ
สร้างนวตั กรรมในการดูแลสุขภาพผูส้ ูงอายุยังไม่มีแนวทางชัดเจน ทาให้ไม่ค่อยพบนวัตกรรมใหม่ในการ
ใหบ้ รกิ าร

ค. โครงสร้างการดาเนินงานที่เก่ียวกับผู้สูงอายุท่ีพบว่าเป็นรูปธรรมชัดเจนในระดับตาบล
คือ การจัดต้ังคณะกรรมการดาเนินงานดูแลผู้สูงอายุในตาบลต้นแบบด้านการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว
(Long Term Care) ท่ีเหลืออ่ืนๆมีแต่โครงสร้าง แต่ไม่ได้มีการดาเนินงานท่ีชัดเจน ส่วนในระดับอาเภอ
คือ คณะกรรมการพัฒนาสุขภาพระดับอาเภอ (DHS) ส่วนในระดับจังหวัดมีการแต่งตั้งคณะกรรมการ
ตามภารกิจ โดยบริการดูแลสุขภาพจะมีสานักงานสาธารณสุขจังหวัดเป็นเจ้าภาพหลัก ส่วนการ
จัดบริการด้านสังคม จะมีพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด เป็นเจ้าภาพหลัก และมี
หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องเป็นกรรมการ แต่ในทางปฏิบัติการดาเนินงานยังมีความซ้าซ้อนกันบ้างในบาง
ภารกิจ เชน่ การเย่ยี มบ้าน การจดั กจิ กรรมในวนั สาคญั ตา่ งๆ

ปัญหาท่ีพบส่วนใหญ่เป็นเร่ืองความร่วมมือในการดาเนินกิจกรรม เช่น การจัดประชุมมัก
ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือจากผู้บริหาร โดยเฉพาะในระดับท้องถ่ิน นายกเทศบาล/ อบต.มักไม่เข้าร่วม
หรือส่งผู้แทนท่ีไม่สามารถตัดสินใจเข้าร่วมแทน ส่วนหน่ึงคิดว่าการดูแลสุขภาพเป็นเร่ืองของบุคลากร
สาธารณสุขจึงไมใ่ หค้ วามสาคัญ

ง. ด้านแรงจูงใจของบุคลากร พบว่า สภาพปัญหา เช่น การขาดความรู้ และทักษะที่
เพียงพอในการดูแลผู้สูงอายุ เช่น การคัดกรองภาวะสมองเส่ือม ทาให้ขาดความม่ันใจ และบางแบบคัด
กรองใช้เวลานาน แต่การคัดกรองที่เน้นปริมาณ ต้องทาให้ได้ตามเป้าหมาย การคัดกรองข้อเข่าเสื่อม
ระดับสูงท่ีต้องใช้นักกายภาพบาบัด หรือผู้ผ่านการอบรมเท่านั้น รวมท้ังการคัดกรองท่ีเน้นเชิงปริมาณ
ทาให้ได้เป้าหมายโดยดาเนินการพร้อมๆกันหลายกิจกรรม เหล่านี้ทาให้บุคลากรเกิดความเครียดและ
ทอ้ ใจ

(๓) ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information System)
จากสภาพของระบบการจัดเก็บข้อมูลด้านผู้สูงอายุท่ียังไม่ชัดเจน ข้อมูลพื้นฐานสาหรับ
การวางแผนยังไม่เพียงพอ หน่วยบริการยังไม่มีระบบการบันทึกรายงานผ่านโปรแกรมฐานข้อมูลของ
จังหวดั (HosXP/ HosXP PCU) โปรแกรมรายงานที่มีอยู่ยงั ไม่มีการปรบั ปรงุ ใหท้ ันสมัย (Update) และ
ไม่ครอบคลุมข้อมูลท่ีต้องการใช้ รวมทั้ง รายงานที่ใช้เป็นรายงานเอกสาร (Manual) ซ่ึงส่วนกลางยังไม่

๘๘
มีการพัฒนาในเรื่องนี้อย่างจริงจัง สาหรับข้อมูลมี ส่วนใหญ่ยังไม่ถูกนามาใช้ในการวางแผน หรือการ
จดั การ และเปน็ ทไี่ มส่ ะท้อนปัญหา หรอื การแก้ไข โดยสภาพปัญหาท่ีพบหลัก ๆคอื

ก. ข้อมูลในการดาเนินงานยังไม่เป็นปัจจุบัน การสารวจข้อมูลเกี่ยวกับผู้สูงอายุยัง
ดาเนนิ การได้ไม่ครบถ้วน ครอบคลมุ

ข. ขาดความครบถ้วนข้อมูลในท้ังในเชิงปริมาณ และคุณภาพที่จะระบุปัญหา สาเหตุ
ข้อมูลที่จะสะท้อนผลการดาเนินงานท้ังปัจจัยนาเข้า เช่น ปัจจัยที่กาหนดปัญหา สาเหตุ ข้อมูลพื้นฐาน
ของการดาเนนิ งานทัว่ ไป ขอ้ มลู กระบวนการดาเนนิ งาน และข้อมลู เกยี่ วกบั ผลลพั ธก์ ารดาเนินงาน

ค. ข้อมูลในการดาเนินงานเป็นลักษณะของภาพรวม ยังไม่มีการจัดทาระบบข้อมูลสาหรับ
การเฝ้าระวงั ความพกิ ารในผูส้ งู อายุท่ีเฉพาะเจาะจง

ง. การรวบรวมข้อมูลผลงานมีข้อมูลมาจากหลายแหล่ง และมีโปรแกรมการบันทึกผลงาน
จากหลายโปรแกรม เช่น ตา สุขภาพช่องปาก สมอง วัณโรค เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ข้อเข่าเสื่อม
โรคซึมเศร้า ฯลฯ ทาให้ไมส่ ะท้อนภาพปัญหาผสู้ ูงอายุคนเดียวกนั วา่ มปี ัญหาสุขภาพใดบ้าง

จ. ข้อมูลที่ใช้สาหรับเตอื นภยั หรือเฝา้ ระวังความพิการ มีความน่าเชอ่ื ถือน้อย เนื่องจากใน
ทุกขั้นตอนของการจัดเก็บรวบรวม ยังมีความผิดพลาด เนื่องจากต้องใช้ความรู้ และทักษะ ในการ
บันทึกข้อมูลเข้าระบบ ซึ่งมักมีความผิดพลาดเก่ียวกับความหมาย และการนิยาม การประมวลผล หาก
ขอ้ มูลทถ่ี กู บันทกึ ไม่ครบถ้วน โปรแกรมไม่สามารถประมวลผลได้

ฉ. ระบบรายงานมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข (Health Data Center)ยังไม่มี
รายงานทเ่ี ก่ยี วกบั ผู้สงู อายโุ ดยตรง ทาใหม้ ปี ญั หาการนาข้อมลู ไปใช้ หรอื เปรียบเทยี บอา้ งอิง

(๔) การเข้าถงึ ยาและบริการทจ่ี าเป็น (Access to Essential Medicines)
จากสภาพปัญหา และสถานการณ์การเขา้ ถงึ ยาและบรกิ ารทจี่ าเป็นพบวา่
ก. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลยังไม่มีการจัดทาบัญชียาเฉพาะในผู้สูงอายุ แต่ใช้
แนวทางบัญชียารวม ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบล ของสานักงานสาธารณสุขจังหวัดเป็น
แนวทางการจดั จา่ ยยา และบัญชียาที่ตกลงกนั ในระดบั คปสอ.
ข. ผู้ให้บริการของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลส่วนใหญ่ ยังไม่ทราบในการใช้ยา
พื้นฐานบางตัวที่เป็นอันตรายต่อผู้สูงอายุ เช่น การใช้กลุ่มคลายอักเสบกล้ามเน้ือ (NSIADs) การ
รบั ประทานยาที่ก่อให้เกิดอันตรกิริยาระหว่างยากับยา (Drug Interaction -DI) และการเตือนการใช้ยา
(Drug Alert)
ค. ผู้สูงอายุยงั เข้าไม่ถึงยาที่รักษาเฉพาะโรค เช่น โรคสมองเสื่อม เน่ืองจากยาดังกล่าวต้อง
จ่ายโดยแพทย์เฉพาะทางอายุรกรรมประสาท (NeuroMed) ซึ่งมีอยู่ท่ีโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายม
ราชเท่าน้ัน รวมท้ังการไม่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ที่จาเป็น เช่น สายยางให้อาหาร อุปกรณ์สนับสนุนการ
ทากายภาพบาบัด เหลา่ นี้จะจ่ายได้เมือ่ ได้รับการวินิจฉัยวา่ เป็นโรคเท่านนั้ เช่นเดียวกนั กบั ยาเฉพาะทาง
ตาท่ีต้องใช้หลังการผ่าตดั ไม่สามารถจ่ายได้เชน่ กนั
ง. บริการท่ีจาเป็นส่วนใหญ่ยังไม่ทราบแนวคิดชัดเจนว่าบริการประเภทใดจาเป็นบ้าง
ส่วนนโยบายการป้องกันความพิการในเรื่องการเข้าถึงการใช้ยาละลายลิ่มเลือด (SK และWarfarin
Clinic) ใน STEMI และ Stroke ของโรงพยาบาลพบว่า ยังมีปัญหาอุปสรรคเรื่องการรับรู้บริการนี้ของ
ผู้ป่วยและญาติท่ียังไม่ได้มีการประเมินผลการประชาสัมพันธ์ว่ามีการเข้าถึงหรือไม่ อย่างไร และการ

๘๙
จดั บริการช่องทางด่วนเพ่ือช่วยเหลืออื่นๆ เพื่อให้เกิดการเข้าถึงบรกิ ารยาเม่ือมีภาวะที่ฉุกเฉินพบวา่ การ
จดั บรกิ ารเสริมของโรงพยาบาล ๑๖๖๙ มคี วามลา่ ช้ามากกวา่ ๑๕ นาที

(๕) การเงินการคลงั ด้านสขุ ภาพ (Health Financing)
ในการดาเนินงานด้านผู้สูงอายุ พบว่า การดาเนินงานที่เก่ียวข้องกับผู้สูงอายมุ ีงบประมาณ
พอเพียง โดยพบว่าแหล่งทุนสว่ นใหญ่ในการดาเนนิ การมาจากงบที่ให้บริการของสถานบริการ รองลงมา
คือ อปท. ซึ่งในแต่ละปีจะสนับสนุนให้การดาเนินงานด้านผู้สูงอายุค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในสถาน
บริการท่ีมีสัมพันธภาพที่ดีกับ อปท. ส่วนการได้รับเงินสนับสนุนจากหน่วยงานอื่นๆ ซ่ึงไม่มาก แต่
เนอื่ งจากขาดข้อมลู ในการวเิ คราะห์สภาพปัญหาด้านผู้สูงอายุที่ชัดเจน ดังน้ัน การสนบั สนนุ งบประมาณ
การดาเนินงาน ส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะตามกิจกรรม และปัญหาอปุ สรรคท่ีพบคือระเบียบการเบิกจ่าย
ในบางงบ/ บางกองทุนมีเงื่อนไขและข้อจากัดในการใช้เงินค่อนข้างมาก และผู้ให้การสนับสนุนงบ เช่น
อปท.บางแห่งยังขาดแผนการสนบั สนุนที่ชัดเจน
(๖) ภาวะผนู้ าและการอภบิ าลระบบ (Leadership and Governance)
ในเรื่องภาวะผู้นาและการอภิบาลระบบที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ พบว่า
ส่วนใหญ่ไม่ได้ระบุชัดไปเฉพาะประเด็น แต่เป็นการขับเคล่ือนเชิงนโยบายในภาพรวม โดยสรุป
สภาพการณ์ และปญั หาอุปสรรคมีดังนี้
ก. จากสภาพนโยบายด้านผู้สูงอายุมีหลายนโยบาย มีหน่วยงานท่ีกาหนด และนานโยบาย
ไปปฏิบัตหิ ลายหน่วย แต่ละนโยบายขาดการบูรณาการ ข้ันตอนของการนานโยบายสกู่ ารปฏบิ ตั ิ ยังขาด
การกากับดูแล และติดตามงาน ในทุกระดับ รวมทั้งการขาดความต่อเน่ือง มีการแยกส่วนงานกัน
ดาเนินการ ท้ังน้ี นโยบายท่ีผู้เข้าร่วมระดมสมองเห็นว่าเป็นรูปธรรมชัดเจนท่ีสุดคือ นโยบายการดูแล
ผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care) และนโยบายดังกล่าวเป็นนโยบายบูรณาการด้านเศรษฐกิจ
สังคม เข้ากับนโยบายด้านสุขภาพ ซ่ึงมีการบรรจุนโยบายไว้ในแผนปฏิบัติการท่ีชัดเจน แต่ใน
แผนปฏิบัติการไม่ได้กาหนดเฉพาะเร่ืองการป้องกันความพิการในผู้สูงอายุไว้ ปัญหาอุปสรรคที่พบคือ
การดาเนินงานตามนโยบายขาดการสนับสนุนที่เป็นรูปธรรม ทั้งด้าน คน เงิน วัสดุสิ่งของจากผู้บริหาร
ผ้เู กยี่ วขอ้ งยงั ไมป่ ฏบิ ตั ิตามหน้าท่ี และการขาดผ้นู าทางสงั คมที่จะเปน็ แกนนาในพ้นื ที่
ข. แม้ว่านโยบายผู้สูงอายุจะถือเป็นวาระแห่งชาติ (National Agenda) แต่ผู้บริหารยัง
ไมไ่ ดม้ ีนโยบายเน้นการจัดบริการดแู ลผู้สูงอายุแบบเข้มข้น ยังคงเห็นการดาเนินงานผสู้ ูงอายุเหมอื นงาน
ใหบ้ ริการทั่วๆไป ไมไ่ ดใ้ ห้การสนับสนนุ อย่างจริงจัง
ค. แนวทางการปฏิบัติเก่ียวกับการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุมีการเปล่ียนแปลงบ่อย เช่น
แนวทางการคัดกรองโรค/สุขภาพ ทาใหเ้ จ้าหน้าทต่ี ้องเสียเวลากับการฝึกทักษะในรปู แบบใหม่ และขาด
ความชานาญ มีความสบั สนกับแนวทางการปฏิบัติ
ง. ขาดการออกแบบแนวทางการดาเนินงานให้มีความชัดเจน รวมท้ังขาดการกากับ
ติดตามการดาเนินงานแบบเข้มข้น และไม่มีการประเมินผลการดาเนินงานในเชิงคุณภาพท่ีชัดเจน
ผูบ้ รหิ ารให้ความสาคญั กับตัวเลขเชงิ ปริมาณมากเกนิ ไป
จ. ไม่มีการจัดทาแนวทางในการสร้างขวัญและกาลังใจให้ผู้ปฏิบัติงานที่ชัดเจน และท่ี
สาคัญมักกาหนดรูปแบบวิธีการดาเนินงานมาจากส่วนบน ซ่ึงไม่สอดคล้องกับบริบทของการปฏิบัติงาน
ที่แท้จริง เช่น นโยบายการคัดกรองสุขภาพในช่วง ๒ ไตรมาสแรก เนื่องจากทุกๆงานให้มีการคัดกรอง

๙๐

ในช่วงน้ีพร้อมๆกัน บุคลากรมีน้อยจึงไม่สามารถดาเนินการหลายๆกิจกรรมพร้อมๆกันได้ ทาให้มี
ความเครียด และไมม่ ขี วญั และกาลังใจในการปฏิบัตงิ าน

สรุปผลการศึกษาบริบท สภาพ ปัญหา และอุปสรรคของรูปแบบการดาเนินงานดูแล
สุขภาพผู้สูงอายุของจังหวัดสุพรรณบุรี จากการศึกษาเอกสาร และการสัมภาษณ์เชิงลึกพบว่า
ผู้สูงอายุโดยส่วนมากผู้สูงอายุมีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคของความเสื่อมถอยตามวัยของสภาพร่างกาย
เช่น อาการปวดเมื่อยตามร่างกาย เวียนศีรษะ นอนไม่หลับ โรคเกี่ยวกับตา ปัญหาสุขภาพช่องปาก
หลงๆลืมๆหรือความจา และผู้สูงอายุมีภาวะความดันโลหิตสูง และเบาหวานอยู่ในลาดับต้นๆ ซึ่งภาวะ
เจ็บป่วยดังกล่าว หากไม่ได้รับการดูแลท่ีถูกต้องเหมาะสม หรือในบางรายอาจได้รับบริการช้าเกินไป
จะส่งผลต่อการดูแลระยะยาวในอนาคต กล่าวคือ ผู้สูงอายุอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือมีความพิการ
ทาให้ตอ้ งอยู่ในภาวะตดิ บ้าน หรอื ตดิ เตียงตามมาในท่ีสดุ ในขณะท่ีการบริหารจัดการด้านการจัดบรกิ าร
กิจกรรมท่ีดาเนินการเพ่ือดูแลผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่ดาเนินการจะเป็นกิจกรรมดูแลทั่วๆไป เน้นการ
ดาเนินงานในชมรมผู้สูงอายุ ยังไม่มีการดาเนินงานเพื่อปรับสภาพแวดล้อมท่ีเอ้ือต่อผู้สูงอายุในชุมชน
การดาเนินงานในส่วนของสถานบริการยังมีความขาดแคลนด้านบุคลากรในเชงิ ปริมาณในทุกระดับของ
การบริการ เน่อื งจากผสู้ ูงอายุมีแนวโนม้ เพม่ิ สูงข้นึ และมีความสัมพนั ธก์ บั การเกิดโรคเรอ้ื รงั ที่ตอ้ งให้การ
ดูแลอย่างต่อเนื่อง จึงจาเป็นต้องใช้เครือข่ายในการทางาน ในขณะที่การดาเนินงานในชุมชนยังไม่มี
ความเข้มแข็งเพียงพอ การดาเนินงานยังขาดการวิเคราะห์ขอ้ มูลเพื่อนามาแก้ไขปัญหา ทาให้พบว่าการ
ดาเนินงานยังขาดความครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย และกิจกรรมการดาเนินงานยังไม่มีประสิทธิภาพ
เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหา การจัดบริการท่ีจาเป็นสาหรับผู้สูงอายุ รวมท้ังระบบยาในผู้สูงอายุยังไม่ได้
กาหนดแนวทางท่ีชัดเจน นโยบายและการดาเนินงานยังขาดการบูรณาการ และการสนับสนุนของ
หน่วยงานที่เก่ียวข้องอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน และผู้บริหารยังให้ความสาคัญกับงานดาเนินงาน
ผู้สงู อายุเหมอื นงานใหบ้ ริการท่วั ๆไป ไมไ่ ดใ้ ห้การสนับสนนุ อย่างจริงจงั

ส่วนท่ี ๒ การค้นหาแนวทางการเพ่ิมประสิทธิภาพรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพ
ผูส้ งู อายุ

จากการศึกษาบริบท สภาพ ปัญหา และอุปสรรคของรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพ
ผู้สงู อายขุ องจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้วิจัยได้นาผลการศึกษาท่ีได้จากการศกึ ษาในส่วนท่ี 1 ในการวิเคราะห์
ปัจจัยภายนอกโดยใช้ตัวแบบ PESTEL Analysis (ปัจจัยด้านนโยบาย/การเมือง ด้านเศรษฐกิจ
ด้านสังคม ด้านเทคโนโลยี ด้านสิ่งแวดล้อม และด้านกฎหมาย) จากการสอบถามกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วน
เสียเก่ียวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ โดยนาปัจจัยภายนอกท่ี
มีคา่ คะแนนอย่ใู น 10 อันดับแรก (12 ปัจจัย) (ตาราง 4.1) และสรุปผลการวเิ คราะหป์ ัจจัยภายในจาก
การบูรณาการตัวแบบ Six Building Blocks และ ตัวแบบ 7’S Model ของ McKinsey ใช้เป็นตัวแบบ
ในการวิเคราะห์ปัจจัยภายใน โดยใช้เทคนิคในการศึกษาคือ การศกึ ษาจากเอกสาร การสมั ภาษณ์เชิงลึก
และการอภิปรายในกลุ่มบุคลากรสาธารณสุขท่ีเป็นผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งได้ข้อสรุปของสภาพ
ปญั หา และอปุ สรรคจากรปู แบบการดาเนนิ งานดูแลสขุ ภาพผสู้ ูงอายุเดิมตามตารางท่ี 4.2

๙๑

ตาราง 4.1 สรปุ ปจั จยั ภายนอกทสี่ าคญั 10 อนั ดับแรก

ลาดับ ปจั จัย ค่าคะแนน อันดบั
1 ลักษณะของชุมชน และการมเี ครอื ข่ายของชุมชนทีเ่ ข้มแข็งมีผลต่อ 1762 1
ประสิทธภิ าพการดาเนนิ งานดูแลสุขภาพผสู้ งู อายุ 1
2 วถิ ีการดาเนนิ ชีวิตและพฤตกิ รรมเส่ียงดา้ นสขุ ภาพของประชาชนมี -1762 2
ผลต่อประสทิ ธิภาพการดาเนินงานดูแลสขุ ภาพผูส้ ูงอายุ 3
3 สภาพแวดลอ้ มในบ้าน และทอ่ี ยอู่ าศยั ทีเ่ หมาะสมมีผลตอ่ 1703
ประสิทธิภาพการดาเนนิ งานดูแลสุขภาพผสู้ งู อายุ 4
4 ประชาชนและผู้สูงอายยุ งั ขาดความร้เู รื่องสิทธิ และกฎหมายท่ี 1650 5
เก่ียวข้อง ส่งผลต่อประสทิ ธภิ าพการดาเนินงานดแู ลสุขภาพ 6
ผู้สงู อายุ
5 การสือ่ สารและเผยแพร่ขอ้ มูลข่าวสารด้านสุขภาพมผี ลต่อ 1632 7
ประสิทธิภาพการดาเนินงานดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายุ
6 ภาวะค่าครองชีพ ความยากจน และรายไดข้ องประชาชนใน -1623 8
จงั หวัดมผี ลตอ่ ประสทิ ธภิ าพการดาเนนิ งานดแู ลสุขภาพผสู้ งู อายุ 9
7 โครงสร้างพื้นฐานของชุมชน เช่น สถานบริการสุขภาพ บุคลากร 1608 10
ด้านสุขภาพ สถานท่ีออกกาลังกาย ส่ิงอานวยความสะดวกแก่ 10
ผสู้ ูงอายุ มีผลต่อประสทิ ธิภาพการดาเนินงานดแู ลสขุ ภาพผูส้ ูงอายุ
8 สภาพแวดล้อมในชุมชนที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี เช่น สถานท่ีออก 1595
กาลงั กาย สวนสาธารณะ มีผลต่อประสิทธภิ าพการดาเนินงานดแู ล
สขุ ภาพผู้สูงอายุ
9 ประชาชนขาดความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพจากโรคที่ป้องกันได้มี -1582
ผลตอ่ ประสทิ ธภิ าพการดาเนินงานดูแลสุขภาพผ้สู ูงอายุ
10 โครงสร้างประชากรท่ีมีการเพิ่มจานวนของผู้สูงอายุมีผลต่อ -1573
ประสิทธภิ าพการดาเนนิ งานดูแลสุขภาพผ้สู งู อายุ
11 ระบบสวัสดิการและบริการทางสังคมมีผลต่อประสิทธิภาพการ 1569
ดาเนนิ งานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ
12 นโยบายของกระทรวงสาธารณสุขด้านการพัฒนาสุขภาพตามกลุ่ม 1569
วัย : การดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care )มีผลต่อ
ประสทิ ธิภาพในการดาเนินงานดูแลสขุ ภาพผูส้ ูงอายุ

๙๒

ตารางท่ี 4.2 สรปุ ผลการวิเคราะหป์ ัจจัยภายใน

ปจั จัยภายใน สภาพ ปัญหา และอุปสรรคของการดูแลสุขภาพผูส้ งู อายุ
๑.รูปแบบ ผลการศึกษาจาก ผลการสัมภาษณ์ ผลการระดมสมอง สรุปประเดน็ ปญั หา
บริการ เอกสาร เชิงลกึ
(Service 1.ผลการคดั กรอง ๑.กิจกรรมให้บริการ ๑.กิจกรรมใหบ้ ริการ กจิ กรรมการเป็น
Delivery) โรคทเ่ี ป็นปญั หา ยงั ไมค่ วามโดดเด่น เป็นการดูแลสุขภาพ การดแู ลสุขภาพ
สาคญั และพบบอ่ ย เพยี งพอในการแก้ไข โดยท่ัวไป ไมม่ ีการ โดยท่วั ไป ไมม่ ีการ
ในผสู้ งู อายุและกลมุ่ ปัญหา และขาด แกไ้ ขปญั หาท่โี ดด แกไ้ ขปัญหาทโี่ ดด
Geriatric แคลนนวตั กรรม เดน่ หรือแบบ เด่นหรอื แบบ

Syndromes ใหม่ๆ เฉพาะเจาะจง ยงั เฉพาะเจาะจงเพื่อ

ดาเนนิ การไดต้ าม ๒. การจัดบริการใน ขาดแคลนนวัตกรรม การแก้ไขปญั หา
เป้าหมาย แต่ ภาพรวมยงั และแนวทางใหม่ๆ และยงั ขาดแนวทาง
จานวนผสู้ ูงอายทุ ม่ี ี ดาเนนิ การได้เฉพาะ และเจา้ หนา้ ท่ีสว่ น หรอื นวัตกรรมใหม่ๆ
ความเสยี่ งตอ้ งสง่ กลุ่ม เช่น กิจกรรม ใหญด่ าเนินงานตาม การจัดระบบบรกิ าร
เข้ารับการรักษาต่อ สง่ เสรมิ สขุ ภาพ มี แนวทางท่กี าหนดไว้ ยงั ขาดต่อเน่ือง
ในสถานบริการ ชมรมออกกาลังกาย เท่านนั้ ความเช่อื มโยง และ
ระดบั สูงขึ้นยงั แตผ่ ้เู ขา้ ร่วม ๒.กิจกรรมดา้ นการ ขาดการ
ดาเนินการได้ กจิ กรรมมีไมม่ าก สง่ เสรมิ ป้องกันโรค ประสานงานทด่ี ี
ค่อนขา้ งตา่ เน่ืองจากผสู้ ูงอายุ เปน็ กจิ กรรมท่ัวไปที่ รวมทัง้ ระบบงานเชิง
เนือ่ งจากระบบการ สว่ นใหญไ่ ม่สะดวก เหน็ ผลช้า ทาให้ รกุ ยังขาด
ดูแลผู้สูงอายุหลงั เดนิ ทางเขา้ รว่ ม ผสู้ งู อายุไมส่ นใจ ประสทิ ธิภาพ เช่น
การคัดกรองยงั ขาด ๓.ไมม่ ีการส่งเสรมิ และไมเ่ หน็
ประสทิ ธภิ าพ และ การปรับปรงุ ภาพ ความสาคัญของการ
ความความเช่ือมโยง แวดลอ้ มด้านทอ่ี ยู่ เขา้ ร่วมกิจกรรม
ในแต่ละระดบั อาศัย และของ ๓. การจัดบริการ
2. ระบบการดูแล ชุมชนเพือ่ อานวย ดา้ นการดูแล
ผู้สูงอายุหลังการคัด ความสะดวกแก่ สภาพแวดลอ้ ม ยงั
กรองยังขาดความ ผสู้ ูงอายทุ ช่ี ัดเจน ไมม่ ีการดาเนินงาน
เชอ่ื มโยงในแต่ละ 4. ระบบการ ทเ่ี ปน็ รปู ธรรม
ระดับ และระบบ ติดตามเยย่ี มบ้านยัง ชัดเจน
การรบั – สง่ ต่อ ไม่สามารถ 4. ระบบบริการยัง
ผู้ป่วยยงั มปี ัญหา ดาเนินการได้ ขาดความเชอ่ื มโยง
ความไมช่ ดั เจนของ ครอบคลุมผู้สงู อายุ ตอ่ เนอ่ื งกนั ในสถาน
แนวทางในการ ท่มี ีปัญหา เนือ่ งจาก บรกิ ารทกุ ระดับ
ปฏิบัติ บุคลากรไมเ่ พียงพอ เนื่องจากขาดการ
วางระบบและการ
ประสานงานกัน

๙๓

ตารางท่ี 4.2 (ต่อ)

ปจั จยั ภายใน สภาพ ปัญหา และอุปสรรคของการดูแลสุขภาพผู้สงู อายุ
๒.บุคลากร ผลการศึกษาจาก ผลการสมั ภาษณ์ ผลการระดมสมอง สรุปประเดน็ ปญั หา
สาธารณสขุ เอกสาร เชงิ ลึก
(Health 3. ระบบการ 5. บริการตรวจคัด 5. การขาด
Workforce) ตดิ ตามเยย่ี มบา้ นยงั กรองสขุ ภาพและ ระบบงานเชิงรุกเพอื่
ไม่สามารถ บรกิ ารเยย่ี มบา้ น การตดิ ตามผูส้ งู อายุ
ดาเนนิ การได้ สว่ นใหญ่ของสถาน กลมุ่ เสี่ยง และกล่มุ
ครอบคลมุ ผู้สูงอายุ บริการไมไ่ ด้มีการ ป่วยเขา้ รบั บรกิ ารใน
ที่มปี ญั หา เนือ่ งจาก จดั แผนการ ผสู้ ูงอายุ และงาน
บคุ ลากรมภี าระงาน จัดบริการ หรือการ สว่ นใหญ่ยงั
ตอ้ งดาเนินการ ดาเนนิ งานท่ีชดั เจน ดาเนนิ การในทีต่ ง้ั
พรอ้ มกันหลายงาน เป็นลายลกั ษณ์ ของสถานบริการ
อกั ษร (โรงพยาบาล/
โรงพยาบาลส่งเสรมิ
สขุ ภาพตาบล
ทีมสหวิชาชีพที่ดแู ล ระดบั รพ.สต.ยงั 1. ขาดแคลน บคุ ลากรยังขาด
เยย่ี มบา้ น ในบาง ขาดแคลนบคุ ลากร บุคลากร ทม่ี คี วาม แคลนทั้งในเชงิ
อาเภอไมส่ ามารถ หรือผูท้ ่มี ีความ เชีย่ วชาญในสาขาท่ี ปริมาณ (เฉพาะ
ดาเนนิ การได้ เช่ยี วชาญในบาง จาเปน็ เช่น สาขา) และขาด
ครอบคลมุ สาขา เชน่ กายภาพบาบัด คณุ ภาพในด้าน
เนือ่ งจากภาระงาน กายภาพบาบัด และบุคลากรท่ที า ทักษะ โดยเฉพาะ
ของสหวิชาชีพแต่ละ ทนั ตกรรม หนา้ ท่หี ลกั ในการ การบรหิ ารจดั การ
สาขามีเวลาของการ บริการไม่พอเพยี ง และการพัฒนา
ใหบ้ ริการไม่ตรงกัน 2. เจ้าหน้าท่ี นวัตกรรม
บางส่วนขาดความรู้
ทกั ษะในการบรหิ าร
จัดการ และความรู้
ทกั ษะเชิงเทคนคิ
3. หลกั สตู รการ
อบรมมักเน้น
พยาบาลท่ี
ปฏบิ ตั งิ านใน
โรงพยาบาล ยังขาด
ในสว่ นของชมุ ชน
และขาดการส่งเสริม
ความริเรม่ิ และการ
พฒั นานวัตกรรม

๙๔

ตารางท่ี 4.2 (ต่อ)

ปจั จัยภายใน สภาพ ปญั หา และอปุ สรรคของการดแู ลสขุ ภาพผู้สูงอายุ
ผลการศกึ ษาจาก ผลการสัมภาษณ์ ผลการระดมสมอง สรุปประเดน็ ปัญหา
เอกสาร เชงิ ลึก
3.ระบบ ระบบการจัดเก็บ ระบบการจดั เกบ็ ระบบการจดั เก็บ ระบบสารสนเทศยัง
สารสนเทศดา้ น ขอ้ มูล/รายงาน ขอ้ มูล/รายงาน ขอ้ มลู ด้านผ้สู ูงอายุ ไม่มีประสิทธิภาพ
สุขภาพ ต่างๆ ยงั ไมม่ ี ตา่ งๆ ยังไม่มี ทยี่ งั ไม่ชดั เจน (ขาดความถูกต้อง,
(Health ประสิทธิภาพ ขาด ประสิทธิภาพ การ ข้อมลู พนื้ ฐาน ครบถว้ น, ทันเวลา,
Information ความครบถ้วน ขาดแคลนขอ้ มูลที่ สาหรบั การวางแผน ทนั สมยั )
System) ถกู ตอ้ ง และ เปน็ ข้อมูลพื้นฐาน ยงั ไม่เพียงพอ หนว่ ย
ครอบคลุม และใน เนอ่ื งจากยงั ไม่มกี าร บรกิ ารยังไมม่ ีระบบ
บางอาเภอยังขาด ออกแบบและจัดทา การบนั ทกึ รายงาน
การวเิ คราะห์ขอ้ มลู ฐานขอ้ มลู ท่ี ผ่านโปรแกรม
เพ่ือนามาแกไ้ ข เก่ยี วข้องกับ ฐานข้อมลู ของ
ปัญหา ผสู้ งู อายุโดยเฉพาะ จังหวัด (HosXP/
HosXP PCU)

โปรแกรมรายงานท่ี
มอี ย่ยู ังไมม่ กี าร
ปรบั ปรุงใหท้ นั สมยั
(Update) และไม่
ครอบคลมุ ข้อมลู ท่ี
ต้องการใช้ รายงาน
ใช้Manual
๔. การเข้าถงึ 1. มกี ารจัดบริการ 1. โรงพยาบาล 1. โรงพยาบาล ระบบยาใน รพ.สต.
ยา/บรกิ ารท่ี ตามนโยบาย สง่ เสรมิ สขุ ภาพ สง่ เสริมสขุ ภาพ มีความเสี่ยงตอ่ การ
จาเป็น (Access ยุทธศาสตร์ และ ตาบลเกือบท้ังหมด ตาบลยงั ไมม่ ีการ ใช้ยาในผสู้ งู อายุ
to Essential การขับเคลอื่ นการ ยงั ไม่มรี ะบบเตือน จัดทาบัญชยี าเฉพาะ และขาดการจัดการ
Medicines) พฒั นาสขุ ภาพ การใช้ยา ในผู้สูงอายุ และผู้ ท่ีมีประสทิ ธภิ าพ
ผสู้ ูงอายุไทย ใน ๓ 2. บรกิ ารทจ่ี าเป็น ใหบ้ ริการส่วนใหญ่ เพือ่ ใหผ้ ู้สูงอายุ
ยทุ ธศาสตร์ เชน่ ยังไม่มีนโยบายท่ี ยงั ไมท่ ราบในการใช้ เข้าถึงยาอย่าง
การคดั กรองโรคท่ี ชัดเจน และยงั ไมม่ ี ยาพ้ืนฐานบางตัวท่ี ปลอดภัย สาหรบั
เป็นปัญหาสาคญั การกาหนดวา่ เป็นอันตรายต่อ นโยบายเรือ่ งระบบ
และพบบอ่ ยใน บรกิ ารท่ีจาเป็น ผู้สงู อายุ ยา และบรกิ ารที่
ผ้สู งู อายุและกล่มุ สาหรบั การดูแล 2. การเขา้ ไม่ถึงยาท่ี จาเป็นในกลุ่ม
Geriatric ผู้สงู อายุ รกั ษาเฉพาะโรค ผสู้ งู อายุยังไม่มีระบุ

Syndromes เชน่ โรคสมองเส่ือม ไว้อย่างชัดเจน

เน่อื งจากยาต้องจา่ ย
โดยแพทย์เฉพาะ

๙๕

ตารางท่ี 4.2 (ต่อ)

ปจั จัยภายใน สภาพ ปัญหา และอปุ สรรคของการดแู ลสุขภาพผู้สงู อายุ
ผลการศึกษาจาก ผลการสัมภาษณ์ ผลการระดมสมอง สรปุ ประเดน็ ปัญหา
๕. การเงินการ เอกสาร เชงิ ลกึ
คลัง 2. มนี โยบายสรา้ ง ทางสาขา
(Health ผูด้ แู ลผูส้ งู อายทุ ต่ี ิด อายุรกรรมประสาท
Financing) เตยี ง หรือ “Care NeuroMed) ซึ่งมี
Giver”แต่ยงั ไม่ได้ อยู่ที่โรงพยาบาล
กาหนดบริการ ศนู ย์
จาเป็นสาหรับ 3. บรกิ ารทีจ่ าเป็น
ผูส้ ูงอายุ3. ยังไมม่ ี คือการเข้าถงึ การใช้
การระบุถึงเร่ือง ยาละลายลิ่มเลอื ด
ระบบยาในผูส้ ูงอายุ (SK และWarfarin
Clinic) ใน STEMI
และ Stroke แตย่ งั
มีปัญหาอปุ สรรค
เร่ืองการรับรูบ้ รกิ าร
ของผปู้ ่วย และญาติ
ทยี่ ังไม่ไดม้ กี าร
ประเมินผลการ
ประชาสมั พันธว์ า่ มี
การเข้าถงึ หรือไม่
อยา่ งไร
และบรกิ าร 1669
เมอ่ื มีภาวะที่ฉกุ เฉนิ
ยงั มคี วามลา่ ชา้
ยงั ไมม่ ีการวเิ คราะห์ ขาดข้อมูลในการ ระบบการเงินการ
และไม่มขี อ้ มลู เพียง วิเคราะห์สภาพ คลงั ขาดขอ้ มูลที่
พอท่ีจะวิเคราะห์ ปญั หาดา้ นผสู้ งู อายุ เพียงพอในการ
ภาพของระบบ ทีช่ ดั เจน การ สะท้อนปัญหา
การเงนิ การคลัง สนบั สนุน
เฉพาะงานผสู้ งู อายุ งบประมาณการ
ดาเนนิ งาน ส่วน
ใหญ่จงึ เป็นลกั ษณะ
ตามกิจกรรม/
งบประมาณท่ไี ดร้ บั

๙๖

ตารางที่ 4.2 (ต่อ)

ปจั จยั ภายใน สภาพ ปญั หา และอปุ สรรคของการดแู ลสุขภาพผสู้ ูงอายุ
ผลการศึกษาจาก ผลการสมั ภาษณ์ ผลการระดมสมอง สรปุ ประเด็นปัญหา
เอกสาร เชงิ ลกึ
๖. ภาวะผนู้ า ชมรมผสู้ งู อายสุ ว่ น ปญั หาในข้ันตอน ๑. นโยบายขาดการ ๑.นโยบายขาดการ
และการอภบิ าล ใหญ่ยงั มกี าร การนานโยบายไป สนับสนนุ ทเ่ี ปน็ สนับสนนุ ขาด
ระบบ ดาเนินงานไม่ ปฏบิ ัติ ยังขาด รปู ธรรม ทั้งดา้ น คน การบรู ณาการงาน
(Leadership เข้มแขง็ เท่าที่ควร/ การบรู ณาการ และ เงิน วสั ดุส่ิงของ ในขนั้ ตอนของการ
and ขาดผนู้ า ความร่วมมือ ในการ ๒. ผ้เู กี่ยวขอ้ งยงั ไม่ นานโยบายส่กู าร
Governance) ดาเนนิ งานท่ตี ้อง ปฏิบตั ิตามหนา้ ที่ ปฏบิ ัติ และขาดการ

อาศยั ความรว่ มมือ 3. การขาดผูน้ าทาง กากบั ติดตาม และ
จากภาคส่วนที่ สงั คมทจ่ี ะเปน็ แกน ประเมินผลทีเ่ ปน็
เก่ยี วข้อง รวมทง้ั นาในพ้ืนที่ รูปธรรมชัดเจน
ขาดการสนับสนุน 4. ร่วมมือในการ ๒.ขาดผู้นาทาง
การดาเนนิ งานท่ี ดาเนินกจิ กรรมใน สงั คมในพ้ืนทใี่ นการ
ตอ่ เนอ่ื งและเปน็ ระดับทอ้ งถ่ินยังตา่ จัดการดาเนนิ งาน
รปู ธรรมท้ังด้านคน หนว่ ยงานอื่นมกั คดิ ด้านผสู้ งู อายใุ นพ้นื ท่ี
เงิน ของ ว่าการดูแลสุขภาพ
เป็นเรือ่ งของ
บุคลากรสาธารณสขุ
5. ข้นั ตอนของการ
นานโยบายสู่การ
ปฏบิ ตั ิ และการ
กากบั และติดตาม
งานยังดาเนนิ งานไม่
ต่อเนอื่ ง และขาด
การบูรณาการงาน
ท้ังหน่วยงานภายใน
และหนว่ ยงาน
ภายนอก
6. ขาดแนวทางใน
การจงู ใจ และการ
สรา้ งขวัญและ
กาลงั ใจให้
ผปู้ ฏบิ ตั งิ าน

๙๗
สรุป รูปแบบการดาเนนิ งานดแู ลสุขภาพผ้สู ูงอายุที่จาเปน็ ต้องเพมิ่ ประสิทธิภาพการดาเนนิ งาน
จากผลการวเิ คราะห์ปจั จัยภายใน มปี ระเดน็ สาคญั ดงั น้ี

๑. การจัดบริการเพื่อการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ยังขาดแนวทางและนวัตกรรมใหม่ๆ และ
ยังไม่มีการดาเนินงานที่เฉพาะเจาะจงเพื่อการแก้ไขปัญหา หรือกิจกรรมยังไม่สอดคล้องกับวิถีการ
ดาเนนิ ชีวิตและพฤติกรรมเส่ยี งด้านสขุ ภาพ

๒. การจัดบริการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุยังขาดต่อเน่ือง ความเชื่อมโยง และขาดการ
ประสานงานท่ดี รี ะหวา่ งสถานบริการแต่ละระดับ และการบูรณาการกบั หนว่ ยงานภายนอก

๓. ระบบงานเชิงรุกในการดูแลผู้สูงอายุยังขาดประสิทธิภาพ เช่น ระบบการคัดกรอง
ระบบการเยี่ยมบ้าน รวมท้ังกิจกรรมดูแลเกี่ยวกับการจัดสภาพแวดล้อม เพื่อความปลอดภัยหรือการ
ป้องกันอบุ ัติเหตใุ นผสู้ ูงอายุ

๔. ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในเชิงปริมาณ เฉพาะสาขา ได้แก่ กายภาพบาบัด และ
ทันตกรรม ส่วนบุคลากรที่ทาหน้าที่หลักขาดการบริหารจัดการการดาเนินงานที่ดี และด้านคุณภาพ
บุคลากรที่ดาเนินงานด้านผู้สูงอายุยังมีบางส่วนขาดทักษะ โดยเฉพาะการบรหิ ารจัดการ และการพฒั นา
นวัตกรรม ในส่วนการดาเนินงานในระดับพ้ืนที่ หลายพื้นท่ียังขาดผู้นาทางสังคมท่ีจะเข้ามาช่วยเป็น
แกนนาในการดาเนินงาน

๕. ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ เพ่ือใช้ในการสนับสนุนการดาเนินงานยังไม่มี
ประสิทธิภาพ (ขาดความถูกต้อง, ครบถ้วน, ทันเวลา, ทันสมัย) รวมทั้งยังไม่มีการใช้เทคโนโลยี
การสื่อสารท่ที ันสมัยทจี่ ะทาให้ผสู้ ูงอายุ และประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพไดง้ า่ ย

๖. ระบบยาในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลขาดการจัดการท่ีมีประสิทธิภาพ และมี
ความเสยี่ งตอ่ การใชย้ าในผูส้ งู อายุ

7. นโยบายและแนวทางเกี่ยวกับการจัดบริการท่ีจาเป็นยังไม่มีการระบุอย่างเป็นรูปธรรม
ชัดเจน

8. ระบบการเงินการคลังขาดข้อมูลท่ีเพียงพอในการสะท้อนปัญหา ทาให้อาจส่งผลต่อ
การขาดสภาพคล่อง หรือการใชง้ บประมาณที่ไม่มีประสิทธิภาพ

9. ด้านนโยบาย ยังขาดการระบุถงึ การพฒั นานโยบายที่สาคัญต่อการดแู ลสขุ ภาพผู้สูงอายุ
การบูรณาการงานในขั้นตอนของการนานโยบายสู่การปฏิบัติยังไม่ชัดเจน รวมทั้งขาดการกากับติดตาม
ที่เป็นรูปธรรมชัดเจน เช่น การกาหนดนโยบายบริการที่จาเป็นในกลุ่มผู้สูงอายุยังไม่มีระบุไว้อย่าง
ชัดเจน ทาให้การดาเนินงานขาดประสิทธิภาพท้ังในเชิงการเฝ้าระวัง ป้องกันปัญหา และการรักษาท่ีมี
ประสทิ ธิภาพทันทว่ งที, การเพ่ิมการขับเคลือ่ นนโยบายการดูแลผสู้ งู อายุระยะยาว (Long Term Care)

ส่วนปัจจัยภายนอก จากประเด็นสาคัญที่ได้จากวิเคราะห์ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลต่อ
ประสิทธิภาพการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ และสามารถแก้ไข และปรับปรุงได้ในระยะสั้นโดย
การจดั ทาโครงการเขา้ ไปพัฒนา หรือปรับปรุงแกไ้ ข ได้แก่

1. ลักษณะของชุมชน และการมเี ครือข่ายของชุมชนทเ่ี ขม้ แข็ง
2. วิถกี ารดาเนินชีวิตและพฤตกิ รรมเส่ยี งด้านสุขภาพของประชาชน
3. การใหค้ วามรเู้ ร่ืองสิทธิ และกฎหมายทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับผสู้ งู อายุ
4. การสอื่ สารและเผยแพรข่ ้อมลู ข่าวสารด้านสุขภาพเกี่ยวกบั โรคทป่ี ้องกันได้

๙๘
5. การขับเคลื่อนการดาเนินงานตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขด้านการพัฒนา
สุขภาพตามกลุ่มวยั : การดแู ลผสู้ งู อายุระยะยาว (Long Term Care )ใหเ้ ปน็ รูปธรรมชัดเจน
ส่วนการจัดให้มีโครงสร้างพื้นฐานของชุมชน และสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาพดี
เช่น สวนสาธารณะ สถานที่ออกกาลงั กาย สิ่งอานวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ การปรับปรงุ สถานบรกิ าร
และสถานที่สาธารณะเพื่อผู้สูงอายุ อาจจาเป็นต้องใช้การวางแผนการพัฒนาระยะกลางเพื่อการ
ปรบั ปรงุ และแก้ไข
สาหรับภาวะค่าครองชีพ ความยากจน และรายได้ของประชาชน ปัจจัยด้านการ
เปลย่ี นแปลงโครงสรา้ งประชากรที่มีการเพ่ิมจานวนของผู้สงู อายุ และระบบระบบสวัสดิการและบรกิ าร
ทางสังคม เป็นปัจจัยท่ีต้องมีการแก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาในลักษณะมหภาค และต้องอาศัยการ
วางแผนระยะยาวในการแกไ้ ขปัญหา

ส่วนที่ 3 การจัดทากรอบข้อเสนอในการเพ่ิมประสิทธิภาพรูปแบบการดาเนินงานดูแล
สขุ ภาพผสู้ ูงอายุ และสรปุ ตวั แบบทใี่ ช้

จากสภาพปัญหาของรูปแบบการดาเนินงานดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ หากไม่เพ่ิมประสิทธิภาพใน
การดาเนนิ งานเพือ่ ป้องกันปัญหา จะเกิดผลกระทบไดใ้ นหลายประการทีส่ าคญั ได้แก่

1. ดา้ นการบรกิ าร จากการทีพ่ บวา่ กจิ กรรมการให้บรกิ าร ยงั ขาดแนวทางและนวัตกรรม
ใหม่ๆ และที่สาคัญยังไม่มีการดาเนินงานท่ีเฉพาะเจาะจงเพ่ือการแก้ไขปัญหา บริการขาดต่อเน่ือง
ความเช่ือมโยง และขาดการประสานงานท่ีดี และระบบงานเชิงรุกในการดูแลผู้สูงอายุยังขาด
ประสิทธิภาพ ปัญหาเหล่านี้ทาให้ผู้สูงอายุที่มีความเส่ียง และเป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหว เปราะบาง
ไม่ได้รบั บริการตามสภาพปัญหา ซ่ึงส่งผลกระทบตอ่ การเพิ่มขึ้นของอัตราการเจบ็ ป่วย ความพกิ าร และ
การเสยี ชีวิต

2. ปัญหาบุคลากรท่ีปฏิบัติงานทั้งในเชิงปริมาณ และคุณภาพ ส่งผลต่อประสิทธิภาพใน
การดาเนินงาน ผลกระทบที่ตามมาคือ ปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุไม่ได้รับการดูแลหรือการจัดการท่ี
เหมาะสม

3. ปัญหาระบบข้อมูลและสารสนเทศเพ่ือใช้ในการสนับสนุนการดาเนินงานที่ยังไม่มี
ประสทิ ธภิ าพ ทาใหข้ าดข้อมูลสาหรับการวางแผน กากับตดิ ตาม และสะท้อนกลบั ปัญหา

4. ปัญหาระบบยาในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตาบลขาดการจัดการที่มีประสิทธิภาพ
ทาให้มีความเส่ียงตอ่ การใชย้ าในผสู้ ูงอายุ ซง่ึ ถือวา่ เป็นกลุ่มเปราะบาง

5. นโยบายและแนวทางเกี่ยวกับการจัดบริการที่จาเป็นยังไม่มีการระบุไว้อย่างเป็น
รปู ธรรมชัดเจน ทาให้มีผู้สงู อายุมีความเส่ียงท่ีจะไม่ได้รับบริการที่สอดคล้องกับปัญหา หรือไม่ได้รบั การ
บริการทีท่ นั ท่วงที เช่น กรณเี กดิ Stroke STEMI การปอ้ งกันอบุ ัติเหตุฉกุ เฉนิ การปอ้ งกันการตดิ เชือ้

6. ระบบการเงินการคลังท่ีขาดข้อมูลในการช้ีหรือสะท้อนปัญหา ส่งผลกระทบต่อการ
จดั สรรงบประมาณเพ่ือการดูแลผู้สูงอายุไม่สอดคล้องกับสภาพปัญหา และการใช้จา่ ยงบประมาณท่ีไม่มี
ประสทิ ธิภาพ รวมทั้งมปี ัญหาการขาดความชัดเจนในการใช้งบประมาณจากบางแหล่งงบประมาณ เช่น
งบกองทนุ สขุ ภาพตาบล

๙๙

7. นโยบายท่ีขาดการวางแนวทางการขับเคล่ือนนโยบายที่ชัดเจน ย่อมกระทบต่อ
เป้าหมายสุดทา้ ยคอื ความสาเรจ็ ซ่งึ ผลการศึกษาไดแ้ สดงถึงผลการดาเนนิ งานทไี่ ม่เปน็ ไปตามเปา้ หมาย
ที่กาหนดไว้ และท่ีสาคัญการไม่มีการวางแผนเกี่ยวกับระบบยาและบริการที่จาเป็นท่ีมีประสิทธิภาพ
เพยี งพอ ทาใหผ้ ูส้ ูงอายุมีความเส่ียงต่อการเจบ็ ป่วย ความพกิ าร และการเสยี ชีวติ จากสาเหตทุ ป่ี ้องกนั ได้

ในการพัฒนาข้อเสนอครั้งน้ี ผู้ศึกษาได้ใช้ตัวแบบ PESTLE Analysis ในการวิเคราะห์ปัจจัย
ภายนอก โดยปัจจัยภายนอกท่ีนามาวิเคราะห์เป็นปัจจัยท่ีมีค่าคะแนนอยู่ใน ๑๐ อันดับแรก (12
ปัจจัย) ซึ่งมีท้ังโอกาส และภัยคุกคาม และใช้ตัวแบบ Six Building Blocks และ ตัวแบบการ
ดาเนินงานดูแลผู้สูงอายรุ ะดับจังหวัด (Provincial Model)ในการวิเคราะห์ปัจจัยภายใน ซง่ึ มีทั้งจดุ แข็ง
และจุดอ่อน วิธีการวิเคราะห์เปน็ การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) และใช้เทคนิคการวิเคราะห์
เมทรกิ ซ์ไขว้ (Cross -Matrix Analysis) เพ่อื กาหนดเปน็ ข้อเสนอในการแก้ปัญหาและการพัฒนา

จากน้ันผู้ศึกษาใช้เทคนิคการอภิปรายกลุ่ม (Group Discussion)จากกลุ่มผู้ให้ข้อมูลคนสาคัญ
(Key Informants) ได้แก่ แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาล นักวิชาการสาธารณสุข และบุคลากร
อื่นๆ เช่น นักวิชาการที่ปฏิบัติงานด้านข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศ ด้านการเงินและบัญชี เจ้าหน้าท่ี
สาธารณสุขระดับตาบล เพ่ือให้การจัดทากลุ่มในการระดมสมองขนาดกลุ่มไม่ใหญ่เกินไป ผู้วิจัยได้
กาหนดคัดเลือกตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) จากบุคลากรท่ีเก่ียวข้องกับการ
ดาเนินงานตามกรอบแนวคิดระบบสุขภาพขององค์การอนามัยโลก (WHO Health System
Framework) ซ่ึงมีองค์ประกอบท่ีพึงประสงค์หลัก 6 ประการ (Six Building Blocks of Health
System) แต่ท้ังน้ีการจัดกลุ่มในการระดมสมองแบ่งเป็น ๕ กลุ่มๆละ 10 คน ในแตล่ ะกลุ่มมีผ้ชู ่วยวิจัย
เปน็ ผูด้ าเนินการ (Moderator) และผูจ้ ดบันทึก (Note Taker) ผลการศกึ ษาปรากฏดงั นี้

แผนภาพที่ 4.3 แสดงตวั อย่างการวิเคราะห์ Cross -Matrix Analysisปัจจัยภายนอกและ
ภายใน (ตาราง ผ 2 ผลการวิเคราะห์เมทริกซ์ไขว้ (Cross -Matrix Analysis) ด้านรูปแบบบริการ กับ
ปัจจัยภายนอก) จากแผนภาพสภาพปัญหาด้านรูปแบบบริการที่พบคือ การจัดบริการเพ่ือการดูแล
สุขภาพผู้สงู อายุ ยังขาดแนวทางและนวตั กรรมใหม่ๆ และยังไมม่ ีการดาเนินงานท่ีเฉพาะเจาะจงเพื่อการ
แก้ไขปัญหา หรือกิจกรรมยังไม่สอดคล้องกับวิถีการดาเนินชีวิตและพฤติกรรมเส่ียงด้านสุขภาพ โดยมี
ปัจจัยภายนอกท่ีเกี่ยวข้อง ได้แก่ 1) นโยบายของกระทรวงสาธารณสุขด้านการพัฒนาสุขภาพตามกลุ่ม
วัย : การดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long Term Care )มีรูปธรรมชัดเจน 2) วิถีการดาเนินชีวิตและ
พฤติกรรมเส่ียงด้านสุขภาพของประชาชน 3) ประสิทธิภาพการส่ือสารและเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารด้าน
สุขภาพเก่ียวกับโรคท่ีป้องกันได้ 4) สภาพแวดล้อมทีเ่ อื้อต่อการมีสุขภาพดี เช่น สวนสาธารณะ สถานท่ี
ออกกาลังกาย สิ่งอานวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุ และ 5) สภาพแวดล้อมในบ้าน และท่ีอยู่อาศัยที่
เหมาะสม เมื่อใช้การวิเคราะห์ไขว้ เพ่ือนาเสนอการแก้ปัญหาหรือแนวทางการพัฒนาได้พบแนวทางที่
สาคญั คอื

1) การสร้างนวัตกรรมและกิจกรรมที่โดดเด่นในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในตาบล
ดแู ลสขุ ภาพผู้สูงอายรุ ะยะยาว (Long Term Care)

2) การสร้างความรู้และความตระหนักของชุมชนในการดูแลส่งเสริม และป้องกันโรค
ในผูส้ ูงอายุ รวมทงั้ การจัดสง่ิ แวดลอ้ มในบ้านที่อยู่อาศัยที่เหมาะสม ผ่านการส่ือสารหลากหลายช่องทาง

๑๐๐
3) การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนวัยก่อนสูงอายุ เพื่อการป้องกัน
ปญั หาโรคจากการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ไมถ่ ูกต้องเหมาะสม
4) การปรับปรุงสภาพแวดล้อมของสถานบริการเพ่ืออานวยความสะดวกในการ
ดาเนนิ ชวี ิตแก่ผู้สูงอายุ
5) การประสานความร่วมมือกับท้องถ่ิน/ชุมชนในการจัดส่ิงแวดล้อมของชุมชนท่ีเอื้อ
ต่อการมีสขุ ภาพดี และการสรา้ งสงิ่ แวดล้อมท่ีเอื้อต่อการวถิ ีการดาเนนิ ชวี ิตของผู้สูงอายุ/ ผพู้ ิการ
6) การพัฒนานวัตกรรมการดูแลและการเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุผ่าน
เทคโนโลยีทท่ี นั สมัย เช่น พิกัด GIS ผูส้ งู อายุท่ีเจ็บป่วยด้วยโรคเรือ้ รัง
ส่วนผลการวิเคราะห์เมทริกซ์ไขว้ (Cross -Matrix Analysis) ปัจจัยภายในด้านอื่น
กบั ปัจจยั ภายนอก รายละเอยี ดตามภาคผนวก ซ ผ2 – ผ7

ปัจจัยภายนอก น ยบาย เศรษ กิจ สังคม เทค น ลยี สภาวะแวดล้อม ก ระเบยี บ

(Policy) (Economical) (Socio- (Technological) (Ecological) (Legal)

ปจั จัยภายใน cultural)

รูปแบบบรกิ าร น ยบายของ วิ ีการดาเนิน ประสิทธภิ าพการ 1.สภาพ

(Service Delivery): กระทรวง ชีวิตและ สอ่ สารและเผยแพร่ แวดล้อมท่ีเออต่อ

การจัดบริการเพอ่ การ สาธารณสุขดา้ น พ ตกิ รรมเสย่ี ง ข้อมลู ขา่ วสารด้าน การมสี ุขภาพดี เชน่
ดูแลสุขภาพผสู้ ูงอายุ การพั นา ดา้ นสขุ ภาพของ สุขภาพเกยี่ วกบั รค สวนสาธารณะ

ยังขาดแนวทางและ สขุ ภาพตามกลุม่ ประชาชน ที่ปองกัน ด้ ส านทอี่ อกกาลงั
นวัตกรรมใหม่ และยงั วยั การดแู ล กาย สิ่งอานวย

ม่มกี ารดาเนินงานท่ี ผู้สงู อายรุ ะยะยาว ความสะดวกแก่
ผูส้ งู อายุ
เ พาะเจาะจงเพอ่ การ (Long Term 2.สภาพ
แวดล้อมในบ้าน
แก้ ขปญั หา หรอ Care )มรี ูปธรรม

กจิ กรรมยงั ม่สอดคลอ้ ง ชัดเจน

กับวิ กี ารดาเนนิ ชีวติ และทอี่ ยูอ่ าศัยท่ี
และพ ตกิ รรมเสย่ี ง เหมาะสม

ดา้ นสุขภาพ
ข้อเสนอในการแกป้ ญั หาหรอพั นา:

1 สรา้ งนวัตกรรมและกจิ กรรมท่ี ดดเดน่ ในการดแู ลสขุ ภาพผสู้ งู อายใุ นตาบลดแู ลสขุ ภาพผสู้ งู อายรุ ะยะยาว (Long Term Care)

2 สร้างความรแู้ ละความตระหนกั ของชมุ ชนในการดแู ลสง่ เสริม และปองกนั รคในผสู้ ูงอายุ รวมทงั การจดั สงิ่ แวดลอ้ มในบา้ นทีอ่ ยูอ่ าศยั ที่

เหมาะสม ผา่ นการสอ่ สารหลากหลายช่องทาง

3 ปรับเปลยี่ นพ ตกิ รรมสุขภาพของประชาชนวยั กอ่ นสงู อายุ เพ่อการปองกนั ปญั หา รคจากการมีพ ตกิ รรมสุขภาพท่ี ม่ กู ตอ้ งเหมาะสม

4 ปรบั ปรงุ สภาพแวดลอ้ มของส านบริการเพอ่ อานวยความสะดวกใหก้ ารดาเนนิ ชวี ิตแกผ่ สู้ งู อายุ

ประสานความร่วมมอกับทอ้ ง นิ่ ชุมชนในการจัดสง่ิ แวดล้อมของชุมชนที่เออต่อการมสี ขุ ภาพดี และการสรา้ งสิ่งแวดลอ้ มทเ่ี ออตอ่ การ

วิ กี ารดาเนินชีวติ ของผสู้ ูงอายุ ผู้พกิ าร

สว่ นทกี่ า4รพักนาารนนวัตากรรรูปมกแาบรดบูแลกแลาะรกดาราเ เานระินวงังปาญั นหดาสูแุขภลาสพผุขสู้ ภูงอาาพยผุ ผา่ นสู้ เทงู คอนายลยุภที ี่ทานัยสหมยั ลเังชน่กาพิกรดัเพGIิ่มS ปผู้สรูงอะาสยุทิท่ีเจธ็บิภปวายพด้วย

รคเรอรัง

แผนภาพท่ี 4.3 ตัวอย่างการวิเคราะห์ Cross -Matrix Analysisปจั จัยภายนอกและภายใน

๑๐๑
สรปุ ผลการวิเคราะหเ์ นอหา (Content Analysis) และการใช้เทคนคิ การวิเคราะห์
เมทริกซ์ ขว้ (Cross -Matrix Analysis ปัจจัยภายนอกและภายใน และการอภิปรายกลุ่มเพื่อ
ค้นหาข้อเสนอในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาเป็นรายด้าน พบว่า รูปแบบการดาเนินงานผู้สูงอายุระดับ
จังหวัด (Provincial Model)มคี วามเหมาะสม แต่ควรเพิ่มประเด็นสาคัญดงั ต่อไปนี้
1. รปู แบบบรกิ าร (Service Delivery)

1.1 การจัดบริการเพ่ือการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ยังขาดแนวทางและนวัตกรรมใหม่ๆ
และยังไม่มกี ารดาเนินงานที่เฉพาะเจาะจงเพ่ือการแกไ้ ขปัญหา หรือกิจกรรมยังไมส่ อดคล้องกับวิถีการ
ดาเนินชวี ติ และพฤตกิ รรมเส่ียงดา้ นสขุ ภาพ

ข้อเสนอในการแก้ปัญหาหรอพั นาแนวทางการดาเนินงาน
1) สร้างนวัตกรรมและกิจกรรมท่ีโดดเด่นในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในตาบลดูแล

สุขภาพผสู้ ูงอายุระยะยาว (Long Term Care)
2) สร้างความรู้และความตระหนักของชุมชนในการดูแลส่งเสริม และป้องกันโรคใน

ผูส้ งู อายุ รวมทั้งการจัดส่ิงแวดล้อมในบา้ นทอ่ี ยู่อาศยั ท่ีเหมาะสม ผา่ นการสอื่ สารหลากหลายชอ่ งทาง
3) ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพของประชาชนวัยก่อนสูงอายุ เพื่อการป้องกัน

ปัญหาโรคจากการมพี ฤตกิ รรมสขุ ภาพท่ีไม่ถกู ต้องเหมาะสม
4) ปรับปรุงสภาพแวดล้อมของสถานบริการเพ่ืออานวยความสะดวกให้การดาเนิน

ชวี ติ แก่ผู้สูงอายุ
5) ประสานความร่วมมือกับท้องถ่ิน/ชุมชนในการจัดสง่ิ แวดล้อมของชุมชนท่ีเอ้ือต่อ

การมีสุขภาพดี และการสรา้ งสิ่งแวดล้อมทเ่ี อ้อื ต่อการวถิ ีการดาเนนิ ชีวิตของผ้สู ูงอาย/ุ ผ้พู ิการ
6) การพัฒนานวัตกรรมการดูแลและการเฝ้าระวังปัญหาสุขภาพผู้สูงอายุผ่าน

เทคโนโลยีทที่ นั สมัย เชน่ พิกัด GIS ผู้สูงอายทุ ี่เจ็บปว่ ยดว้ ยโรคเร้ือรัง
1.2 การจัดบริการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุยังขาดต่อเน่ือง ความเช่ือมโยง และขาดการ

ประสานงานที่ดีระหว่างสถานบริการแต่ละระดับ และการบูรณาการกับหนว่ ยงานภายนอก
ขอ้ เสนอในการแกป้ ัญหาหรอพั นาแนวทางการดาเนินงาน
1) จัดทาแผนพัฒนาระบบบริการ (Service Plan)และแนวปฏิบัติในการดาเนินงาน

ผสู้ งู อายุ โดยใหค้ วามสาคัญกับการจัดบริการเพ่อื ลดความเสีย่ งต่อปัญหาสุขภาพตง้ั แต่วยั เดก็ และเน้น
แบบเขม้ ข้นในวยั ก่อนสูงอายุ หรอื วัยทางานตอนปลาย

2) จัดทาแนวปฏิบัตใิ นการดาเนนิ งานผูส้ งู อายุตามแผนพัฒนาระบบบริการ(Service
Plan)เพื่อใหส้ ถานบรกิ ารทกุ ระดบั มีความเชื่อมโยงกันในการดแู ล หรอื การให้บรกิ ารทมี่ ีความชดั เจน

3) บรู ณาการ หรือขบั เคลือ่ นการดาเนนิ การบรกิ ารสุขภาพที่เป็นรูปธรรมร่วมบริการ
ด้านสังคม กับชมุ ชนทอ้ งถิ่น และหน่วยงานทเ่ี ก่ียวข้องตามพระราชบัญญัตผิ ู้สูงอายุ พ.ศ.2546

4) เพิ่มช่องทางการสื่อสาร และการประสานงานระหว่างหน่วยงานในการดูแล
สง่ เสริมสขุ ภาพ และป้องกันปัญหาของผู้สูงอายุ

1.3 ระบบงานเชิงรุกในการดูแลผู้สงู อายุยังขาดประสิทธิภาพ เช่น ระบบการคัดกรอง ระบบ
การเย่ียมบ้านรวมท้ังกิจกรรมดูแลเก่ียวกับการจดั สภาพแวดล้อม เพ่ือความปลอดภัยหรือการป้องกัน
อุบตั เิ หตใุ นผูส้ ูงอายุ

๑๐๒

ข้อเสนอในการแกป้ ญั หาหรอพั นาแนวทางการดาเนินงาน
1) การส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชมุ ชนในการดาเนนิ งานด้านผู้สูงอายุ

โดยใช้ชุมชน หรือครอบครัวเป็นฐานในการดูแล (Community- based Care or Home-based
care) เพ่ือนาไปสู่การพ่ึงพาตนเองในการดูแลผู้สูงอายุของชุมชน เช่น ส่งเสริมและสนับสนุนให้
ผู้สูงอายมุ ีทีอ่ ยูอ่ าศัยและสภาพแวดล้อมทีเ่ หมาะสมและปลอดภัย

2) พัฒนารูปแบบบริการที่สาคัญเพ่ือเป็นการเตรียมความพร้อม และป้องกันปัญหา
ความพิการและการเสียชีวิตในผู้สูงอายุจากสาเหตุท่ีป้องกันได้ เช่น ช่องทางด่วน (Fast Track)
โดยเฉพาะ Stroke Fast Track, STEMI Fast Track

3) พัฒนาช่องทางการสื่อสารทที่ ันสมัย เพือ่ เปน็ ทางเลอื กของการเข้าถึงบริการ และ
ขอ้ มูลข่าวสาร ความรูด้ ้านสุขภาพทีส่ ะดวก รวดเร็ว

4) เพ่ิมช่องทางการสื่อสาร และการประสานงานระหว่างหน่วยงานในการดูแล
สง่ เสรมิ สุขภาพ และป้องกนั ปัญหาของผสู้ ูงอายุ

2. บุคลากรสาธารณสุข (Health Workforce): ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรเฉพาะสาขา
และดา้ นคณุ ภาพบุคลากรยงั ขาดทักษะดา้ นจัดการ และการพัฒนานวตั กรรม ในระดบั พืน้ ท่ีขาดแคลน
ผนู้ าทางสงั คม

ข้อเสนอในการแกป้ ัญหาหรอพั นาแนวทางการดาเนนิ งาน
1) สร้างและพัฒนาระบบการดูแลในลักษณะเครือข่าย ในลักษณะร่วมแบ่งปัน

(Share)ทรัพยากรร่วมกันท้ังคน เงิน และวัสดุอุปกรณ์ เพื่อรองรับปัญหาท่ีตามมาจากเพิ่มขึ้นของ
ประชากรสงู วยั

2) พัฒนาเครือข่ายผู้ดูแลผู้สูงอายุตามนโยบายการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว (Long
Term Care)

3) พัฒนาศักยภาพบุคลากรตามบริบทของปัญหาอันเป็นผลจากการเปล่ียนแปลง
โครงสร้างของประชากรสูงอายุ โดยเน้นการเพ่ิมพูนทักษะด้านการบริหารจัดการ และการพัฒนา
นวัตกรรม

4) พัฒนาระบบริการดูแลผู้สูงอายุผ่านช่องทางการสื่อสารท่ีทันสมัย (Webcam,
Web Application: Line, Skype, Facebook)

5) สนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาวิจัยด้านผู้สูงอายุ โดยเฉพาะที่เป็นประโยชน์ต่อ
การพัฒนารปู แบบการบริการประสทิ ธภิ าพการให้บริการเชิงรุก โดยอาศัยภาคีเครือข่ายในชุมชน และ
เทคโนโลยที ี่ทนั สมัย

3. ระบบสารสนเทศด้านสุขภาพ (Health Information Systems): ระบบสารสนเทศ
เพ่ือใช้ในการสนับสนุนการดาเนินงานยังไม่มีประสิทธิภาพ (ขาดความถูกต้อง, ครบถ้วน, ทันเวลา,
ทันสมัย)รวมท้ังยังไม่มีการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารท่ีทันสมัยท่ีจะทาให้ผู้สูงอายุ และประชาชนเข้าถึง
ข้อมลู ข่าวสารด้านสุขภาพได้งา่ ย

ข้อเสนอในการแกป้ ัญหาหรอพั นาแนวทางการดาเนนิ งาน
1) จดั ทาฐานขอ้ มลู จาเปน็ สาหรบั การดแู ลสขุ ภาพผ้สู ูงอายุ


Click to View FlipBook Version