The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

คู่มือการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมประเภทก่อภาระผูกพันในอสังหาริมทรัพย์ (ปี 2558)

สำนักมาตรฐานการทะเบียนที่ดิน

Keywords: ด้านบริหารงานที่ดิน

คํานํา

ดวยรัฐบาลไดมอบนโยบายใหทุกกระทรวงดําเนินงานท่ีมีประโยชนเพ่ือมอบเปน “ของขวัญปใหมใหกับ
ประชาชน” โดยกระทรวงมหาดไทยไดจ ดั ทาํ โครงการภายใตแ นวคดิ “มหาดไทยบําบัดทกุ ข สรา งสุขทั่วไทย”
และกรมท่ีดินไดดําเนินงาน “สํานักงานที่ดินท่ัวไทย รวดเร็ว โปรงใส ใสใจบริการ” ซึ่งมีจุดมุงหมายเพ่ือให
ประชาชนไดรับบริการที่มีคุณภาพ ถูกตอง รวดเร็ว โปรงใส โดยปราศจากการทุจริตคอรรัปช่ัน และเปนท่ี
เช่ือถือไววางใจของประชาชน และยุทธศาสตรของกรมท่ีดินดานการพัฒนาระบบบริหารจัดการองคการตาม
หลักการบริหารกิจการบานเมอื งทด่ี ี ซ่งึ มเี ปาประสงคใ หบ คุ ลากรกรมท่ีดินมีความพรอมและมีขีดความสามารถ
ในการปฏิบัติงานอยางถูกตอง เปนไปดวยความรวดเร็ว โปรงใส สามารถตรวจสอบได รวมท้ังเพ่ือเปนการ
พฒั นาพนกั งานเจา หนาทีท่ เี่ กี่ยวของกบั การจดทะเบียนสทิ ธิและนิติกรรมในสํานักงานที่ดินตาง ๆ ทั่วประเทศ
ใหมีความรูภายใตการเปลี่ยนแปลงของกฎหมาย และระเบียบคําส่ังท่ีเก่ียวของและมีคูมือที่ใชเปนแนวทางใน
การปฏิบัติงาน อางอิง ใหคาํ แนะนาํ แกประชาชนไดอยา งถูกตอ ง สะดวก รวดเร็วและเปนมาตรฐานเดียวกัน
ทาํ ใหก ารปฏบิ ัติงานมปี ระสิทธิภาพและประสิทธิผลและเปนทพ่ี ึงพอใจของประชาชน กรมท่ีดินจึงไดดําเนินการ
ปรบั ปรุงคมู ือการจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมเก่ียวกับท่ดี ินและอสังหาริมทรัพยอยางอ่ืน โดยไดจัดทําคูมือการ
จดทะเบียนสทิ ธิและนติ กิ รรมในประเภทกอภาระผูกพนั ในอสังหารมิ ทรัพยขึ้นใหม เพ่ือดําเนินการตามนโยบาย
ของรฐั บาล กระทรวงมหาดไทย และกรมทีด่ ินดังกลาว

กรมที่ดินหวังเปนอยางย่ิงวา คูมือเลมนี้จะเปนประโยชนตอทางราชการ ขาราชการกรมที่ดิน
ประชาชนท่วั ไปท่สี นใจศกึ ษาหาความรู และใชเ ปน แนวทางในการปฏบิ ัติงานตอไป

กรมทดี่ ิน
สํานักมาตรฐานการทะเบยี นทีด่ ิน

กันยายน ๒๕๕๘



สารบญั หนา

เรอ่ื ง ๑

๑. การจดทะเบียนประเภทจํานอง ๑

- ความหมาย ๑
- กฎหมาย ระเบียบ และคําสัง่ ที่เกยี่ วของ ๑
- ประเภทการจดทะเบียน ๑

๑. จาํ นอง ๒
๒. จํานองเฉพาะสว น ๓
๓. จาํ นองเพ่ิมหลกั ทรัพย ๓
๔. จาํ นองลาํ ดบั ทส่ี อง หรอื จํานองลาํ ดับท่สี าม ฯลฯ ๓
๕. จํานองลาํ ดบั ทส่ี องเพ่มิ หลักทรพั ย ๔
๖. ข้นึ เงนิ จาํ นอง ๔
๗. ไถถอนจากจํานอง ๕
๘. แบง ไถถ อนจากจํานอง ๕
๙. ไถถอนจากจํานองบางราย ๖
๑๐. ผอนตน เงินจากจํานอง ๖
๑๑. ลดเงินจากจํานอง ๗
๑๒. ปลอดจาํ นอง ๗
๑๓. โอนชําระหนจ้ี ํานอง ๗
๑๔. แบง โอนชาํ ระหนจี้ ํานอง ๙
๑๕. หลดุ เปนสทิ ธจิ ากจาํ นอง ๙
๑๖. โอนสทิ ธิการรบั จํานอง ๑๐
๑๗. ระงบั จํานอง (ปลดจํานอง) ๑๐
๑๘. ระงับจํานอง (ศาลขายบังคับจํานอง) ๑๐
๑๙. ระงบั จาํ นอง (หน้ีเกลอื่ นกลืนกัน) ๑๐
๒๐. แกไขหน้ีอันจํานองเปนประกนั
๒๑. แกไ ขเปลย่ี นแปลงจํานอง (แปลงหน้ใี หม)
๒๒. เปล่ยี นชือ่ ผรู บั จํานอง (ระหวา งกิจการทเ่ี ปนนติ บิ ุคคลเดียวกัน)

เรอื่ ง หนา

- สาระสาํ คญั ๑๑
- แนวทางการวินจิ ฉยั ทีส่ ําคัญเก่ยี วกบั การจดทะเบียนจํานอง ๑๗
- คาํ พพิ ากษาฎกี าท่ีเก่ยี วขอ ง ๓๘
- คา ธรรมเนยี ม ๔๖
- กรณียกเวน ไมต องเสียคาธรรมเนียม ๔๙
- ภาษเี งนิ ไดห กั ณ ทจ่ี า ย ๕๐
- ภาษีธุรกจิ เฉพาะ ๕๐
- อากรแสตมป ๕๑
- ระเบียบกรมที่ดิน วา ดวยการจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมเกย่ี วกับการจาํ นองทีด่ ิน
๕๓
และอสังหาริมทรัพยอ่นื พ.ศ.๒๕๕๐ ๘๐
- ตวั อยางคาํ ขอ สัญญา บนั ทกึ การแกท ะเบียนที่ดนิ
๑๘๑
๒. การจดทะเบยี นประเภทเชา
๑๘๑
- ความหมาย ๑๘๑
- กฎหมาย ระเบยี บ และคําส่งั ท่ีเก่ียวของ ๑๘๑
- ประเภทการจดทะเบียน ๑๘๑
๑๘๒
๑. เชา ๑๘๒
๒. เชาเฉพาะสวน ๑๘๒
๓. แบงเชา ๑๘๒
๔. แบงเชา เฉพาะสวน ๑๘๒
๕. เชา ชว ง ๑๘๒
๖. เชา ชว งเฉพาะสวน ๑๘๒
๗. แบงเชาชวง ๑๘๓
๘. แบง เชาชว งเฉพาะสว น ๑๘๓
๙. โอนสิทธกิ ารเชา หรือ โอนสทิ ธกิ ารแบง เชา ๑๘๓
๑๐. โอนสทิ ธกิ ารเชา เฉพาะสว น ๑๘๓
๑๑. แบงโอนสิทธิการเชา หรอื แบงโอนสิทธิการแบง เชา ๑๘๓
๑๒. แบงโอนสิทธกิ ารเชา เฉพาะสว น หรือ แบง โอนสิทธิการแบงเชา เฉพาะสวน ๑๘๓
๑๓. โอนมรดกสิทธิการเชา ๑๘๓
๑๔. แกไขเพ่มิ เตมิ สัญญาเชา หรือ แกไขเพมิ่ เติมสญั ญาแบงเชา
๑๕. เลกิ เชา

เร่ือง หนา

๑๖. เลกิ เชา บางสว น ๑๘๔
๑๗. เลกิ เชาชว ง ๑๘๔
๑๘. เลกิ เชาชว งบางสว น ๑๘๔
๑๙. ปลอดการเชา ๑๘๔
๒๐. แบง แยกในนามเดิม (ปลอดการเชา ) ๑๘๔
๒๑. แบง แยกในนามเดิม (ครอบการเชา) ๑๘๔
๒๒. แบง แยกในนามเดิม (ครอบ - ปลอดการเชา ) ๑๘๔
- สาระสําคญั ๑๘๕
- แนวทางการวนิ ิจฉัยทส่ี ําคัญเกีย่ วกับการจดทะเบียนเชา ๑๘๙
- คาํ พิพากษาฎีกาทเี่ ก่ยี วของ ๑๙๖
- คาธรรมเนยี ม ๒๐๔
- อากรแสตมป ๒๐๕
- ระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการจดทะเบยี นสทิ ธิและนติ ิกรรม เกย่ี วกับการเชา ท่ดี ิน
และอสงั หารมิ ทรัพยอยา งอ่ืน ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย พ.ศ. ๒๕๕๑ ๒๐๖
- ตัวอยา งคาํ ขอ สัญญา บันทึก การแกท ะเบยี นท่ดี นิ ๒๒๗
- ระเบยี บกรมท่ีดนิ วาดว ยการจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ ิกรรม เกย่ี วกบั การเชา อสังหาริมทรพั ย
ตามพระราชบญั ญัติการเชาอสงั หาริมทรัพยเ พื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๔๒ ๓๕๕
พ.ศ. ๒๕๕๒ ๓๗๑
- ตวั อยา งคําขอ สญั ญา บันทกึ การแกทะเบยี นทดี่ นิ

๓. การจดทะเบยี นประเภทภาระจาํ ยอม ๔๐๓

- ความหมาย ๔๐๓
- กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวขอ ง ๔๐๓
- ประเภทการจดทะเบียน ๔๐๓
๔๐๓
๑. ภาระจาํ ยอม ๔๐๓
๒. ภาระจาํ ยอมเฉพาะสวน ๔๐๓
๓. ภาระจํายอมบางสวน หรือ ภาระจาํ ยอมเฉพาะสวนเพียงบางสวน ๔๐๓
๔. แกไขเปล่ียนแปลงภาระจํายอม ๔๐๔
๕. ปลอดภาระจาํ ยอม ๔๐๔
๖. แบงแยกในนามเดิม (ปลอดภาระจาํ ยอม) ๔๐๔
๗. แบง แยกในนามเดิม (ครอบภาระจํายอม)

เรอื่ ง หนา

๘. แบง แยกในนามเดิม (ครอบ-ปลอดภาระจํายอม) ๔๐๔
๙. เลกิ ภาระจํายอม ๔๐๔
๑๐. เลิกรายการจดทะเบยี นภาระจํายอม ๔๐๕
- สาระสาํ คญั ๔๐๕
- แนวทางการวินิจฉยั ท่ีสําคัญเก่ียวกับภาระจํายอม ๔๐๗
- คาํ พิพากษาฎีกาทเ่ี ก่ยี วของ ๔๑๑
- คาธรรมเนียม ๔๑๙
- อากรแสตมป ๔๑๙
- ระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับภาระจาํ ยอมในที่ดิน
และอสังหารมิ ทรัพยอยา งอน่ื พ.ศ. ๒๕๕๐ ๔๒๑
- ตัวอยางคาํ ขอ บนั ทกึ การแกท ะเบยี นทด่ี ิน ๔๓๒

๔. การจดทะเบียนประเภทสิทธิเก็บกนิ ๔๘๕

- ความหมาย ๔๘๕
- กฎหมาย และระเบียบทเ่ี กี่ยวของ ๔๘๕
- ประเภทการจดทะเบียน ๔๘๕
๔๘๕
๑. สทิ ธเิ กบ็ กนิ ๔๘๕
๒. สทิ ธเิ กบ็ กินเฉพาะสว น ๔๘๕
๓. แบง แยกในนามเดิม (ปลอดสิทธิเกบ็ กิน) ๔๘๖
๔. แบงแยกในนามเดิม (ครอบสทิ ธเิ กบ็ กนิ ) ๔๘๖
๕. เลิกสทิ ธเิ กบ็ กิน ๔๘๖
- สาระสาํ คญั ๔๘๗
- แนวทางการวนิ จิ ฉยั ทสี่ ําคัญเกีย่ วกับสทิ ธเิ ก็บกิน ๔๙๐
- คาํ พพิ ากษาฎีกาท่เี ก่ียวของ ๔๙๑
- คาธรรมเนียม ๔๙๒
- อากรแสตมป
- ระเบียบกรมทดี่ นิ วา ดว ยการจดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรมเก่ยี วกบั สทิ ธเิ กบ็ กินในท่ีดิน ๔๙๓
และอสังหาริมทรัพยอ ยางอนื่ พ.ศ. ๒๕๔๙ ๕๐๑
- ตัวอยางคาํ ขอ บนั ทกึ การแกท ะเบียนทีด่ ิน

เรื่อง หนา

๕. การจดทะเบียนประเภทสิทธิเหนอื พ้ืนดนิ ๕๒๙

- ความหมาย ๕๒๙
- กฎหมายทเ่ี กี่ยวของ ๕๒๙
- ประเภทการจดทะเบียน ๕๒๙
๕๒๙
๑. สิทธเิ หนือพ้ืนดิน ๕๒๙
๒. สทิ ธิเหนอื พ้ืนดินเฉพาะสวน ๕๒๙
๓. แบงกอ ต้ังสทิ ธเิ หนือพน้ื ดิน ๕๒๙
๔. ปลอดสิทธิเหนือพ้นื ดิน ๕๒๙
๕. โอนมรดกสิทธเิ หนอื พ้ืนดิน ๕๒๙
๖. เลกิ สิทธิเหนือพ้นื ดิน ๕๒๙
- สาระสาํ คญั ๕๓๐
- แนวทางการวนิ จิ ฉยั ทส่ี ําคัญเกีย่ วกบั สทิ ธเิ หนือพ้นื ดนิ ๕๓๒
- คําพพิ ากษาฎกี าท่เี กี่ยวขอ ง ๕๓๔
- คา ธรรมเนียม ๕๓๕
- อากรแสตมป ๕๓๖
- ตวั อยางคําขอ บนั ทึก การแกทะเบียนท่ดี นิ
๕๕๗
๖. การจดทะเบยี นประเภทสิทธอิ าศยั
๕๕๗
- ความหมาย ๕๕๗
- กฎหมาย และแนวทางปฏิบตั ทิ ่เี กี่ยวของ ๕๕๗
- ประเภทการจดทะเบยี น ๕๕๗
๕๕๗
๑. สทิ ธอิ าศัย ๕๕๗
๒. เลิกสทิ ธอิ าศยั ๕๕๘
- สาระสาํ คัญ ๕๕๙
- แนวทางการวินจิ ฉัยท่ีสําคัญเก่ียวกบั สิทธอิ าศัย ๕๖๑
- คาํ พิพากษาฎีกาทเี่ กี่ยวขอ ง ๕๖๑
- คา ธรรมเนยี ม ๕๖๒
- อากรแสตมป
- ตวั อยางคําขอ บันทกึ การแกทะเบยี นทด่ี นิ

เร่อื ง หนา

๗. การจดทะเบียนประเภทภาระติดพันในอสงั หารมิ ทรัพย ๕๗๑

- ความหมาย ๕๗๑
- กฎหมาย และคาํ สง่ั ทเี่ ก่ียวขอ ง ๕๗๑
- ประเภทการจดทะเบยี น ๕๗๑
๕๗๑
๑. ภาระตดิ พันในอสังหาริมทรัพย ๕๗๑
๒. แบงกอต้งั ภาระตดิ พนั ในอสงั หาริมทรัพย ๕๗๑
๓. ภาระติดพนั ในอสงั หาริมทรพั ยเฉพาะสวน ๕๗๑
๔. ปลอดภาระตดิ พันในอสังหาริมทรัพย ๕๗๑
๕. เลกิ ภาระติดพันในอสงั หาริมทรพั ย ๕๗๑
- สาระสาํ คัญ ๕๗๓
- แนวทางการวนิ ิจฉัยท่ีสําคัญเก่ียวกบั ภาระติดพันในอสังหาริมทรพั ย ๕๗๔
- คําพพิ ากษาฎกี าที่เกย่ี วของ ๕๗๕
- คาธรรมเนยี ม ๕๗๖
- อากรแสตมป ๕๗๗
- ตัวอยางคาํ ขอ บนั ทึก การแกท ะเบียนทดี่ ิน
๕๙๕
๘. การจดทะเบยี นประเภทบรรยายสวน
๕๙๕
- ความหมาย ๕๙๕
- กฎหมาย และคําสงั่ ทเี่ กยี่ วของ ๕๙๕
- สาระสําคญั ๕๙๗
- แนวทางการวนิ จิ ฉยั ทสี่ าํ คัญเกีย่ วกับการจดทะเบยี นบรรยายสว น ๕๙๙
- คาํ พพิ ากษาฎีกาทีเ่ กย่ี วขอ ง ๖๐๒
- คา ธรรมเนียม ๖๐๕
- ตวั อยา งคาํ ขอ บันทึก การแกทะเบียนท่ีดนิ
๖๑๓
๙. การจดทะเบียนประเภทหามโอน
๖๑๓
- ความหมาย ๖๑๓
- กฎหมาย และคําสั่งท่เี กย่ี วของ ๖๑๓
- ประเภทการจดทะเบยี น

เรอื่ ง หนา

๑. หา มโอน ๖๑๓
๒. หามโอนเฉพาะสวน ๖๑๓
๓. เลกิ หา มโอน ๖๑๓
๔. เลกิ หา มโอนเฉพาะสวน ๖๑๓
- สาระสําคัญ ๖๑๓
- แนวทางการวนิ จิ ฉัยที่สาํ คัญเก่ยี วกบั การจดทะเบียนหา มโอน ๖๑๖
- คาํ พพิ ากษาฎกี าทีเ่ กีย่ วขอ ง ๖๑๗
- คาธรรมเนียม ๖๑๘
- ตวั อยางคําขอ บันทกึ การแกท ะเบยี นที่ดิน ๖๒๒

๑๐. การจดทะเบียนประเภทบรุ มิ สิทธิ ๖๔๓

- ความหมาย ๖๔๓
- กฎหมาย และคาํ สงั่ ท่เี ก่ยี วของ ๖๔๓
- ประเภทการจดทะเบียน ๖๔๓
๑. บรุ มิ สทิ ธิ ๖๔๓
๒. บุรมิ สทิ ธิเฉพาะสว น ๖๔๓
๓. ปลอดบุรมิ สทิ ธิ ๖๔๓
๔. เลกิ บรุ ิมสิทธิ ๖๔๓
- สาระสําคญั ๖๔๓
- แนวทางการวนิ จิ ฉัยทสี่ ําคัญเกี่ยวกับบุริมสิทธิ ๖๔๕
- คาํ พพิ ากษาฎกี าที่เก่ียวขอ ง ๖๔๖
- คาธรรมเนียม ๖๔๙
- คาภาษีเงนิ ไดหัก ณ ที่จา ย และอากรแสตมป ๖๕๐
- ตัวอยา งคาํ ขอ บนั ทกึ การแกทะเบียนท่ีดิน ๖๕๒



การจดทะเบียนจาํ นอง

 ความหมาย

จํานอง หมายถึง สัญญาซึ่งบุคคลหนึ่งเรียกวา ผูจํานองเอาทรัพยสินตราไวแก
บคุ คลอีกคนหน่ึง เรยี กวา ผรู บั จาํ นองเปนประกันการชําระหน้ี โดยไมสงมอบทรัพยสินนั้นใหแก
ผรู ับจํานอง (ประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย มาตรา ๗๐๒)

 กฎหมาย ระเบียบ และคาํ สั่งท่ีเกย่ี วของ

- ระเบียบกรมท่ีดิน วาดวยการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับการจํานอง
ทด่ี ินและอสังหารมิ ทรัพยอยางอ่นื พ.ศ. ๒๕๕๐ ลงวันท่ี ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๐

- หนงั สอื กรมทดี่ ินท่ี มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๔๒๗๙ ลงวนั ท่ี ๔ มิถนุ ายน ๒๕๕๖
- หนังสือกรมที่ดิน ดว นท่ีสดุ ที่ มท ๐๕๑๕.๓/ว ๒๒๗๔ ลงวันท่ี ๓ กุมภาพันธ ๒๕๕๘
- หนังสอื กรมทดี่ ิน ดว นทส่ี ุด ท่ี มท ๐๕๑๕.๓/ว ๔๓๔๐ ลงวันที่ ๒๐ กมุ ภาพนั ธ ๒๕๕๘
- หนงั สอื กรมทด่ี ิน ดวนที่สุด ที่ มท ๐๕๑๕.๓/ว ๑๗๔๑๘ ลงวนั ที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๕๘

 ประเภทการจดทะเบยี น

๑. จํานอง หมายถงึ กรณีเจาของที่ดินมาขอจดทะเบียนจํานองที่ดินท้ังแปลง
หรือจํานองอสังหาริมทรัพยอยางอ่ืนท้ังหมด ไมวาท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพยน้ันจะมีผูถือกรรมสิทธ์ิ
คนเดียวหรือหลายคน ผูท่ีเปนเจาของทุกคนรวมกันท้ังหมด เชน นาย ก. เปนเจาของที่ดิน
โฉนดที่ดินเลขท่ี ๑ นําที่ดินมาขอจดทะเบียนประเภท “จํานอง” ไวกับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง
๑๐,๐๐๐ บาท หรอื นาย ก. นาย ข. เปนเจาของที่ดินโฉนดที่ดินเลขท่ี ๒ นําที่ดินทั้งแปลง
มาขอจดทะเบียนประเภท “จํานอง” ไวกับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง ๒๐,๐๐๐ บาท โดย
ธนาคาร เอ เปน ผยู ดึ ถอื โฉนดทดี่ ินทีจ่ ํานองไวเปน หลกั ประกนั เปน ตน

๒. จํานองเฉพาะสวน หมายถึง กรณีเจาของท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพยอยาง
อื่นมีหลายคน แตเจาของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพยนั้นบางคนขอจดทะเบียนจํานองเฉพาะสวน
ของตน สว นของผเู ปน เจา ของคนอ่นื ไมไดจาํ นองดวย ใหเขียนช่ือประเภทวา “จํานองเฉพาะสวน”
ซ่ึงผูจํานองสามารถจํานองไดโดยไมตองใหเจาของรวมคนอ่ืนท่ีไมไดจํานองดวยใหความยินยอม
แตอ ยางใด เชน นาย ก. นาย ข. เปน เจาของทด่ี ินโฉนดที่ดนิ เลขที่ ๒ โดย นาย ข. มาขอ

2 ค่มู อื การจดทะเบียนสิทธแิ ละนิติกรรมประเภทกอ่ ภาระผูกพนั ในอสงั หารมิ ทรัพย์

จดทะเบียนประเภท “จํานองท่ีดินเฉพาะสวน” ของตนไวกับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง
๒๐,๐๐๐ บาท ทีด่ นิ สว นของ นาย ก. มไิ ดจ าํ นองดวย เปนตน

๓. จํานองเพิ่มหลักทรัพย หมายถึง กรณีเจาของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย
อยางอื่น ขอจดทะเบียนจํานองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพยอยางอื่นเพิ่มเพื่อเปนประกันหนี้ที่ได
จดทะเบียนจํานองเปนประกันไวแลว โดยใหถือจํานวนเงินท่ีจํานองและเงื่อนไขขอตกลงอ่ืน ๆ เปนไป
ตามสญั ญาจาํ นองเดิม เชน เม่อื วันท่ี ๓ มกราคม ๒๕๕๕ นาย ก. จํานองทด่ี ินโฉนดที่ดินเลขท่ี ๑
ไวกับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง ๑๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญาจํานองลงวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๕
ตอมาวนั ที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๖ ธนาคาร เอ และนาย ก. นําท่ีดินโฉนดท่ีดินเลขท่ี ๒ มาขอ
จดทะเบยี นประเภท “จาํ นองเพ่มิ หลักทรัพย” ไวกับธนาคาร เอ โดยใหถือจํานวนเงินท่ีจํานอง
และเง่อื นไขขอตกลงอน่ื ๆ เปนไปตามสัญญาจํานองลงวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๕ ทุกประการ
เปน ตน

การจํานองเพ่ิมหลักทรัพย เจาของทรัพยสินที่จํานองเพิ่มหลักทรัพยจะเปนคน
เดียวกับเจาของทรัพยสินที่จํานองเดิมหรือคนละคนกันก็ได นอกจากนี้อสังหาริมทรัพยที่จํานอง
ไวเดิมกับอสังหาริมทรัพยที่นํามาจํานองเพ่ิมหลักทรัพยจะเปนชนิดเดียวกันหรือคนละชนิดก็ได
เชน เดิมจํานองท่ีดินมีโฉนดไว ตอมานําสิ่งปลูกสรางหรือท่ีดินท่ีมีหนังสือรับรองการทําประโยชน
มาจาํ นองเพิ่มหลักทรัพยก็ทําได แตตองจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่ที่มีอํานาจในการ
จดทะเบียนอสงั หารมิ ทรัพยน ้ัน ๆ กลา วคอื เจาของทรัพยสินตางนําทรัพยสินของตนมาประกันหน้ี
รวมกันในมลู หนีร้ ายเดยี วกนั ผลของการจาํ นองเพิม่ หลักทรัพยในทางดานกฎหมายจึงเทากับเขา
เปนลูกหนี้รวมกัน และผลทางทะเบียนที่ดินเทากับจํานองรวมกัน หรือกลาวอีกนัยหนึ่งก็คือการ
จํานองเพม่ิ หลกั ทรพั ยนั้น ทนุ ทรัพยทีจ่ ํานองไมเ พ่มิ แตหลกั ประกนั เพ่มิ

๔. จาํ นองลําดบั ทส่ี อง หรือ จาํ นองลําดับที่สาม ฯลฯ หมายถึง กรณีเจาของที่ดิน
หรอื อสังหาริมทรัพยอ ยา งอ่นื ไดจดทะเบียนจํานองเพ่ือเปนประกันไวแลว ตอมาในระหวางท่ีการ
จํานองยังคงมีอยูเจาของขอจดทะเบียนจํานองท่ีดินและอสังหาริมทรัพยเดียวกันน้ันแกผูรับจํานอง
เดิมหรอื แกผ รู ับจํานองอื่น ใหเขียนชอ่ื ประเภทวา “จาํ นองลาํ ดับทส่ี อง” หรอื “จาํ นองลําดับท่ีสาม”
ฯลฯ แลวแตกรณี เชน นาย ก. เปนเจาของที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ ๑ นําที่ดินมาขอ
จดทะเบียนประเภทจํานองไวกับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง ๑๐,๐๐๐ บาท ระหวางการจํานอง
ยังคงมีอยู นาย ก. ไดขอยืมโฉนดที่ดินเลขที่ ๑ มาจากธนาคาร เอ เพ่ือนํามาขอจดทะเบียน
ประเภท “จาํ นองลําดบั ท่สี อง” ไวก บั ธนาคาร บี วงเงนิ จํานอง ๑๐,๐๐๐ บาท เปน ตน

คู่มอื การจดทะเบยี นสทิ ธิและนติ ิกรรมประเภทกอ่ ภาระผกู พันในอสงั หารมิ ทรัพย์ 3

๕. จํานองลําดับที่สองเพิ่มหลักทรัพย หมายถึง กรณีเจาของที่ดินหรือ
อสังหารมิ ทรัพยอยางอื่น ไดจดทะเบียนจํานองเพ่ือเปนประกันไวแลว ตอมาในระหวางท่ีการจํานอง
ยังคงมีอยู เจาของไดนําท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพยอยางอื่นนั้นไปจดทะเบียนจํานองเพื่อประกันหน้ี
รายอื่นซึ่งไดจดทะเบียนจํานองไวแลวตามสัญญาจํานองอีกฉบับหน่ึง หรือในกรณีที่ไดจดทะเบียน
จํานองเพ่ิมหลักทรัพยไวแลว ตอมาไดนําอสังหาริมทรัพยเดียวกันนั้นไปจดทะเบียนจํานองเพื่อ
ประกันหนี้รายอื่นตามสัญญาจํานองอีกฉบับหน่ึงโดยใหถือจํานวนเงินที่จํานองและเงื่อนไข
ขอตกลงอื่น ๆ เปนไปตามสัญญาจํานองเดิม การจํานองคร้ังที่สองหรือครั้งท่ีสามนี้ใหเขียนชื่อ
ประเภทวา “จํานองลําดับที่สองเพิ่มหลักทรัพย” หรือ “จํานองลําดับท่ีสามเพ่ิมหลักทรัพย” ฯลฯ
แลวแตกรณี เชน นาย ก. เปน เจาของท่ดี ินโฉนดทีด่ ินเลขที่ ๑ ไดจดทะเบียนประเภทจํานอง
ไวก บั ธนาคาร เอ วงเงินจํานอง ๑๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญาจํานองลงวันท่ี ๓ มกราคม ๒๕๕๕
ไวแลว ตอมาในระหวางที่การจํานองยังคงมีอยู นาย ก. ไดนําท่ีดินโฉนดท่ีดินเลขท่ี ๑ ไปจดทะเบียน
ประเภท “จํานองลําดับท่ีสอง - เพ่ิมหลักทรัพย” เพื่อประกันหน้ีของ นาย ข. ซ่ึงไดจดทะเบียน
จํานองที่ดินโฉนดท่ีดินเลขท่ี ๓ ไวกับธนาคาร บี แลวตามสัญญาจํานองลงวันท่ี ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๕
อกี ฉบับหน่งึ

๖. ขึ้นเงนิ จากจาํ นอง หมายถึง กรณีเจาของท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพยอยางอื่น
ไดจดทะเบียนจํานอง เพื่อเปนประกันหนี้ไวแลวจํานวนหนึ่ง ตอมาคูกรณีไดมาขอจดทะเบียน
เนือ่ งจากตกลงกนั เพ่มิ จาํ นวนเงินที่จํานองเปนประกันใหสูงขึ้นจากเดิม โดยมีเง่ือนไขและขอตกลง
เชนเดียวกับสัญญาจํานองเดิมและเปนมูลหนี้เดียวกันกับสัญญาจํานองเดิม เชน นาย ก. เปน
เจา ของทีด่ นิ โฉนดที่ดินเลขที่ ๑ ไดจดทะเบียนประเภทจํานองไวกับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง
๑๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญาจํานองลงวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๕ ไวแลว ตอมาในระหวางที่
การจํานองยังคงมีอยู นาย ก. กับธนาคาร เอ ตกลงกันขึ้นเงินจากจํานองตามสัญญาจํานอง
ลงวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๕ อีกเปนเงนิ ๑๐,๐๐๐ บาท รวมเปนวงเงินจํานองท้ังส้ิน ๒๐,๐๐๐ บาท
จงึ นําโฉนดทีด่ นิ เลขท่ี ๑ มาขอจดทะเบยี นประเภท “ขน้ึ เงนิ จากจํานอง” เปน ตน

๗. ไถถอนจากจาํ นอง หมายถงึ กรณีเจาของท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพยอยางอื่น
ไดจ ดทะเบยี นจาํ นองเพอ่ื เปนประกนั ไวแ ลว ตอมาผูขอไดมาขอจดทะเบียนเน่ืองจากไดมีการชําระหน้ี
ท่ีจํานองเปนประกันโดยสิ้นเชิง ทําใหการจํานองระงับส้ินไปโดยผลของกฎหมาย ใหเขียนช่ือ
ประเภทวา “ไถถอนจากจํานอง” หรือ “ไถถอนจากจํานองเฉพาะสวน” หรือ “ไถถอนจาก
จํานองเพ่ิมหลักทรัพย” แลวแตกรณี เชน นาย ก. จดทะเบียนประเภทจํานองที่ดินโฉนดที่ดิน

4 คมู่ อื การจดทะเบยี นสิทธิและนิตกิ รรมประเภทก่อภาระผูกพนั ในอสังหารมิ ทรพั ย์

เลขที่ ๑ ไวกับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง ๑๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญาจํานองลงวันท่ี ๓
มกราคม ๒๕๕๕ ตอมานาย ก. ไดช าํ ระหนี้จํานองใหกบั ธนาคาร เอ เสรจ็ สิน้ แลว โดยธนาคาร เอ
ไดทําหนังสือเปนหลักฐานวาไดรับชําระหนี้จาก นาย ก. ครบถวนแลว จึงยินยอมใหนาย ก.
ไถถ อนจํานองที่ดนิ โฉนดทดี่ นิ เลขท่ี ๑ ได พรอมท้ังไดสงมอบโฉนดท่ีดินเลขที่ ๑ ใหแก นาย ก.
แลว นาย ก. จึงนําโฉนดที่ดินและหลักฐานการไดรับชําระหน้ีของธนาคาร เอ มายื่นคําขอ
จดทะเบยี นประเภท “ไถถอนจากจาํ นอง” เปน ตน

๘. แบงไถถอนจากจํานอง หมายถึง กรณีเจาของท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพย
อยา งอื่นไดจ ดทะเบยี นจํานองเพอ่ื เปนประกันหนี้ไวร วมตง้ั แตส องแปลงขึ้นไป หรือจํานองท่ีดินไว
แปลงเดยี วตอมามกี ารจาํ นองเพ่ิมหลกั ทรพั ย หรอื มีการแบงแยกที่ดินออกไปเปนหลายแปลงโดย
ทดี่ นิ แปลงแยกและแปลงคงเหลือยังมกี ารจาํ นองครอบติดอยูท ง้ั หมด หรือมีการจํานองครอบ ติดอยู
ต้ังแตสองแปลงขึ้นไป ตอมาคูกรณีไดมาขอจดทะเบียนเนื่องจากไดมีการชําระหน้ีอันจํานองเปน
ประกันบางสวน และผูรับจํานองยินยอมใหท่ีดินบางแปลงพนจากการจํานอง สวนท่ีดินที่เหลือ
ยงั คงจํานองเปนประกนั หนที้ เี่ หลอื อยู เชน นาย ก. จดทะเบียนประเภทจาํ นองที่ดินโฉนดที่ดิน
เลขที่ ๑ ไวกับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง ๑๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญาจํานองลงวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๕
ตอมานาย ก. ไดนําโฉนดท่ีดินเลขที่ ๒ มาจดทะเบียนจํานองเพ่ิมหลักทรัพยไวกับธนาคาร เอ
หลงั จากนน้ั นาย ก. ไดช าํ ระหนี้จํานองใหกับธนาคาร เอ เปนเงิน ๕,๐๐๐ บาท โดยธนาคาร เอ
และ นาย ก. ตกลงกันใหที่ดินโฉนดเลขท่ี ๑ พนจากการจํานอง สวนโฉนดท่ีดินเลขท่ี ๒
ยังคงมีการจํานองเพื่อเปนประกันหนี้ที่เหลืออยูอีก ๕,๐๐๐ บาท นาย ก. และธนาคาร เอ
จึงนําโฉนดท่ดี ินเลขที่ ๑ มาขอจดทะเบียน “แบง ไถถอนจากจาํ นอง” เปน ตน

การจดทะเบียนในกรณีเชนน้ี คูกรณีท้ังสองฝายตองมาจดทะเบียนตอพนักงาน
เจาหนาท่ี ผูรบั จาํ นองจะทาํ หลักฐานเปน หนังสือใหผูมีสิทธิในที่ดินหรือผูมีสิทธิไถถอนมาขอจดทะเบียน
ฝายเดียว ตามมาตรา ๘๐ แหงประมวลกฎหมายท่ีดินไมได (ระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการ
จดทะเบียนสิทธแิ ละนติ ิกรรมเก่ียวกับการจํานองที่ดินและอสังหาริมทรัพยอยางอื่น พ.ศ. ๒๕๕๐
ลงวนั ท่ี ๒๒ สงิ หาคม ๒๕๕๐ ขอ ๒๔ (๘))

๙. ไถถอนจากจาํ นองบางราย หมายถึง กรณีเจาของท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพย
อยางอืน่ ไดจดทะเบยี นจํานองเพอื่ เปนประกันหน้ีที่มีผูรับจํานองหลายรายในลําดับเดียวกัน ตอมา
ผูจํานองและผูรับจํานองบางรายมาขอจดทะเบียนเนื่องจากมีการชําระหน้ีใหแกผูรับจํานองบางราย
แตไมท้ังหมด ทําใหการจํานองในสวนที่เปนประกันรายน้ันระงับสิ้นไป สวนการจํานองรายอื่น

ค่มู ือ การจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมประเภทก่อภาระผกู พันในอสงั หาริมทรพั ย์ 5

ที่เหลือยังคงมีอยูตามเดิม และการท่ีลูกหนี้ ผูจํานองชําระหน้ีใหแกเจาหน้ีผูรับจํานองรายหนึ่ง
รายใด เปนเรื่องระหวางลูกหนี้กับเจาหนี้รายนั้น ๆ เทานั้น ไมมีผลกระทบหรือกอใหเกิด
ความเสียหายแกเจาหนี้รายอ่ืน ในการจดทะเบียนไถถอนจากจํานองบางราย จึงไมจําเปนตอง
ใหผ รู ับจํานองรายอ่ืน ๆ มาใหคํายินยอมหรือตกลงดวยแตอยางใด เชน นาย ก. จดทะเบียน
ประเภทจํานองท่ีดินโฉนดที่ดินเลขท่ี ๑ ไวกับธนาคาร เอ และธนาคาร บี วงเงินจํานอง
๒๐,๐๐๐ บาท โดยแบงเปนจํานองกบั ธนาคาร เอ วงเงินจาํ นอง ๑๐,๐๐๐ บาท และจํานอง
กบั ธนาคาร บี วงเงินจาํ นอง ๑๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญาจํานองลงวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๕
ตอมานาย ก. ไดชําระหนี้จํานองใหกับธนาคาร เอ เสร็จส้ินแลว โดยธนาคาร เอ ไดทํา
หนังสือเปนหลักฐานวาไดรับชําระหนี้จาก นาย ก. ครบถวนแลว จึงยินยอมใหนาย ก. ไถถอน
จํานองท่ีดินโฉนดท่ีดินเลขที่ ๑ ได พรอมทั้งไดสงมอบโฉนดที่ดินเลขท่ี ๑ ใหแก นาย ก.
แลว นาย ก. จึงนาํ โฉนดทดี่ นิ และหลกั ฐานการไดร ับชําระหนี้ของธนาคาร เอ มาย่ืนคําขอ
จดทะเบียนประเภท “แบงไถถอนจากจํานองบางราย” สวนที่ดินแปลงนี้ยังคงเปนหลักทรัพย
จาํ นองเปนประกันหนี้ของธนาคาร บี ในวงเงนิ จํานอง ๑๐,๐๐๐ บาท เปนตน

๑๐. ผอนตนเงนิ จากจาํ นอง หมายถึง กรณีเจา ของท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพย
อยา งอื่นไดจดทะเบียนจํานองเพ่ือเปนประกันหนี้ไวแลวจํานวนหนึ่ง ตอมาไดมีการชําระหนี้ท่ีจํานอง
เปนประกันบางสวน หน้ีสวนท่ีเหลือยังคงมีการจํานองเปนประกันอยูตอไปตามเดิม โดยคูกรณี
มาขอจดทะเบียนเพอ่ื ลดจํานวนเงินท่ีจํานองเปนประกันไวเดิม เชน นาย ก. จดทะเบียนประเภท
จํานองท่ีดินโฉนดที่ดินเลขท่ี ๑ ไวกับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง ๑๐๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญา
จํานองลงวันท่ี ๓ มกราคม ๒๕๕๕ ตอมานาย ก. ไดชําระหน้ีจํานองบางสวนเปนจํานวนเงิน
๕๐,๐๐๐ บาท ใหกับธนาคาร เอ โดยธนาคาร เอ และนาย ก. ไดมายื่นคําขอจดทะเบียน
ประเภท “ผอนตนเงินจากจํานอง” เพ่ือเปนหลักฐานวา นาย ก. ยังคงมีหนี้จํานองอยูกับ
ธนาคาร เอ วงเงินจํานองเพียง ๕๐,๐๐๐ บาท โดยยังคงมีที่ดินโฉนดท่ีดินเลขที่ ๑ เปน
ประกันหนี้อยตู ามเดมิ เปน ตน

๑๑. ลดเงินจากจาํ นอง หมายถงึ กรณเี จาของท่ีดนิ หรอื อสงั หารมิ ทรัพยอยาง
อ่ืนไดจดทะเบียนจํานองเพื่อเปนประกันหนี้ในอนาคตไวแลว ตอมาคูกรณีมาขอจดทะเบียนเพ่ือ
ลดจํานวนเงินจํานองใหตํ่าลงกวาเดิม สวนขอตกลงอ่ืนเปนไปตามเดิม เชน นาย ก. จดทะเบียน
ประเภทจํานองท่ีดินโฉนดที่ดินเลขท่ี ๑ ไวกับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง ๑๐๐,๐๐๐ บาท
ตามสัญญาจํานองลงวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๕ ตอมานาย ก. ไดเบิกเงินกูจากธนาคาร เอ

6 คู่มือ การจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิติกรรมประเภทกอ่ ภาระผกู พนั ในอสังหาริมทรัพย์

เปนเงินเพียง ๕๐,๐๐๐ บาท ธนาคาร เอ และนาย ก. จึงมายื่นคําขอจดทะเบียนประเภท
“ลดเงินจากจํานอง” จากเดิมจํานองท่ีดินเปนประกันหน้ีวงเงินจํานอง ๑๐๐,๐๐๐ บาท ลดลง
เหลอื ๕๐,๐๐๐ บาท ตามทีก่ ูยืมเงนิ จริง เปนตน

๑๒. ปลอดจํานอง หมายถึง กรณีเจาของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพยอยางอื่น
ไดจดทะเบยี นจํานองเพ่อื เปนประกันหนี้ไวรวมตั้งแตสองแปลงขึ้นไป หรือจํานองที่ดินไวแปลงเดียว
ตอมามีการจํานองเพิ่มหลักทรัพยหรือมีการแบงแยกท่ีดินออกเปนหลายแปลง โดยท่ีดินแปลงแยก
และแปลงคงเหลือยังมีการจํานองครอบติดอยูท้ังหมด หรือมีการจํานองครอบติดอยูต้ังแตสอง
แปลงข้ึนไป ตอมาคูกรณีมาขอจดทะเบียนเพื่อใหท่ีดินที่มีการจํานองครอบติดอยูแปลงใดแปลง
หนึ่งหรือหลายแปลงแตไมทั้งหมดพนจากการจํานอง โดยไมลดวงเงินจํานอง สวนที่ดินแปลงท่ี
เหลือยังคงมีการจํานองครอบติดอยูตามเดิม เชน นาย ก. จดทะเบียนประเภทจํานองที่ดิน
โฉนดที่ดินเลขท่ี ๑ และ ๒ ไวกับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง ๑๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญา
จํานองลงวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๕ ตอมานาย ก. และธนาคาร เอ มาขอจดทะเบียนประเภท
“ปลอดจํานอง” โดยตกลงกนั ใหท ดี่ นิ โฉนดเลขที่ ๑ พนจากการจํานองโดยที่ไมลดวงเงินจํานอง
เปนประกัน โดยใหที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ ๒ ยังคงมีการจํานองเปนประกันหนี้วงเงินจํานอง
๑๐,๐๐๐ บาท เปน ตน

กรณีเจาของท่ีดินและอสังหาริมทรัพยอยางอื่นไดจดทะเบียนจํานองท่ีดินและ
ส่ิงปลูกสรางเปนประกันไวแลว ตอมาคูกรณีมาขอจดทะเบียนเพ่ือใหเฉพาะส่ิงปลูกสรางพนจาก
จาํ นองสวนทีด่ นิ ยงั คงตดิ การจาํ นองอยู ใหเ ขยี นชื่อประเภทวา “ปลอดจํานอง” เชน กนั

๑๓. โอนชําระหนีจ้ ํานอง หมายถึง กรณีเจา ของท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพยอยางอื่น
ไดจดทะเบียนจํานองเพ่ือเปนประกันหน้ีไวแลว ตอมาคูกรณีมาขอจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย
ท่ีจํานองใหแกผูรับจํานองเพ่ือเปนการชําระหน้ีจํานองเปนประกัน เชน นาย ก. จดทะเบียน
ประเภทจาํ นองท่ีดนิ โฉนดทีด่ นิ เลขท่ี ๑ ไวกบั ธนาคาร เอ วงเงินจํานอง ๑๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญา
จาํ นองลงวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๕ เม่ือหนี้ถึงกําหนดชําระแลว นาย ก. ผูจํานองซึ่งเปนลูกหน้ี
ไมม ีเงินชําระหน้ใี หแ กธ นาคาร เอ ผรู ับจํานอง จงึ ตกลงโอนท่ดี นิ โฉนดท่ีดินเลขที่ ๑ ท่ีจํานองไวนั้น
ใหแกธ นาคาร เอ เพอื่ เปนการชาํ ระหนจ้ี ํานอง โดยจดทะเบียนในประเภท “โอนชําระหน้ีจํานอง”
เปนตน

กรณีการจดทะเบียนโอนชําระหนี้จํานอง คูกรณีอาจตีราคาอสังหาริมทรัพยท่ีโอน
นอยกวาหรือสูงกวาจํานวนเงินท่ีจํานอง ถาตีราคาอสังหาริมทรัพยที่โอนสูงกวาจํานวนเงินที่จํานอง

ค่มู ือ การจดทะเบียนสิทธิและนติ กิ รรมประเภทก่อภาระผูกพนั ในอสังหารมิ ทรัพย์ 7

ผูร ับจํานองอาจชาํ ระเงนิ เพิ่มใหแกผูโอนก็ได แตถาตีราคาอสังหาริมทรัพยที่โอนนอยกวาจํานวน
เงินท่ีจํานอง หนี้สวนท่ีเหลือจะเปนหน้ีท่ีไมมีประกัน การจดทะเบียนโอนชําระหน้ีจํานองโดยมี
ขอ ตกลงเชน น้ีใหพ นกั งานเจาหนาที่รบั จดทะเบียนได

๑๔. แบงโอนชําระหนี้จํานอง หมายถงึ กรณเี จาของที่ดินไดจดทะเบียนจํานอง
ที่ดนิ เพือ่ เปนประกันหนไี้ วรวมต้ังแตสองแปลงข้ึนไป หรือจํานองที่ดินไวแปลงเดียว ตอมามีการ
จํานองเพิ่มหลักทรัพย หรือมีการแบงแยกที่ดินออกเปนหลายแปลง โดยท่ีดินแปลงแยกและแปลง
คงเหลือยังมีการจํานองครอบติดอยูทั้งหมด หรือมีการจํานองครอบติดอยูตั้งแตสองแปลงขึ้นไป
ตอมาคูกรณีมาขอจดทะเบียนโอนท่ีดินท่ีจํานองเพียงบางแปลงเพื่อเปนการชําระหน้ีจํานองเปน
ประกันบางสวน สวนท่ีดินท่ีเหลือยังคงจํานองเปนประกันหน้ีท่ีเหลืออยู เชน นาย ก. จดทะเบียน
ประเภทจาํ นองทด่ี นิ โฉนดท่ดี ินเลขที่ ๑ และ ๒ ไวก ับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง ๑๐๐,๐๐๐ บาท
ตามสัญญาจํานองลงวันท่ี ๓ มกราคม ๒๕๕๕ ตอมานาย ก. ไมสามารถชําระหน้ีได จึงทํา
ความตกลงกับธนาคารผูรับจํานองมาขอจดทะเบียนโอนท่ีดินโฉนดที่ดินเลขท่ี ๑ เพื่อเปนการ
ชําระหน้ีจํานองเปนประกันบางสวนเปนจํานวนเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท สวนที่ดินโฉนดท่ีดินเลขที่ ๒
ทเ่ี หลอื ยังคงจํานองเปนประกันหนี้ที่เหลืออยูอีก ๕๐,๐๐๐ บาท กรณีน้ีจึงจดทะเบียนประเภท
“แบง โอนชาํ ระหน้ีจํานอง” เปนตน

๑๕. หลุดเปนสิทธิจากจํานอง หมายถึง กรณีเจาของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย
อยางอ่ืนไดจดทะเบียนจํานองเพ่ือเปนประกันหนี้ไวแลว ตอมาผูรับจํานองไดมาขอจดทะเบียน
เนือ่ งจากลูกหนไ้ี มช าํ ระหนี้ที่จํานองเปน ประกัน ผูรับจาํ นองฟอ งศาลบังคับใหท รพั ยท่ีจํานองหลุด
เปน สทิ ธิภายในบังคบั แหง เง่ือนไขตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย และศาลไดมีคําส่ังหรือ
คาํ พิพากษาถงึ ท่ีสุดใหท รัพยที่จํานองหลุดเปนสิทธิแกผูรับจํานอง เชน นาย ก. จดทะเบียนจํานอง
ท่ีดินโฉนดทดี่ นิ เลขที่ ๑ ไวกับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง ๑๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญาจํานอง
ลงวนั ท่ี ๓ มกราคม ๒๕๕๕ ตอมา ธนาคาร เอ ไดนําคําสั่งศาลท่ีส่ังใหที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่
๑ หลุดเปนสิทธิแกธนาคาร เอ. มายื่นคําขอจดทะเบียนประเภท “หลุดเปนสิทธิจากจํานอง”
เรยี กเก็บคา ธรรมเนียมรอยละ ๒ เสยี ภาษีอากรเชน เดียวกับการขาย เปนตน

๑๖. โอนสทิ ธกิ ารรบั จาํ นอง หมายถึง กรณีเจาของท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพย
อยางอน่ื ไดจ ดทะเบียนจํานองเพื่อเปนประกันหน้ีไวแลว ตอมาผูรับจํานองไดโอนสิทธิเรียกรองในหน้ี
ที่จํานองเปนประกันใหแกบุคคลอื่น เชน นาย ก. จดทะเบียนประเภทจํานองที่ดินโฉนดท่ีดิน
เลขท่ี ๑ ไวกับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง ๑๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญาจํานองลงวันท่ี ๓

8 ค่มู ือ การจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิตกิ รรมประเภทกอ่ ภาระผูกพันในอสังหารมิ ทรัพย์

มกราคม ๒๕๕๕ ตอมาธนาคาร เอ ไดโอนสิทธิเรียกรองในหน้ีท่ีจํานองเปนประกันใหแก
ธนาคาร บี โดยธนาคาร เอ และธนาคาร บี ไดมาขอจดทะเบียนประเภท “โอนสิทธิการรับจํานอง”
เปน ตน

กรณีมีการขอจดทะเบียนโอนสิทธิการรับจํานอง ในกรณีที่ผูจํานองมิไดมาให
ถอยคํารับรูยินยอมดวย เจาพนักงานที่ดินสามารถจดทะเบียนใหได แตตองบันทึกลงไวในทาย
สัญญาโอนสิทธิการรับจํานองน้ันวา เจาพนักงานท่ีดินไดบอกแกคูสัญญาใหบอกกลาวการโอนน้ี
ใหผ จู ํานองทราบโดยลายลักษณอักษรแลว (ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๓๐๖)
ถารายใดผจู าํ นองไดมาใหถอ ยคํายนิ ยอมตอเจา พนักงานท่ดี นิ ดว ยก็ใหจ ดทะเบยี นได

โอนสิทธิการรับจํานองตามกฎหมาย หมายถึง กรณีท่ีสิทธิการรับจํานองตกไป
ไดแ กผรู บั โอนสิทธิเรยี กรองนั้นตามผลของกฎหมาย เชน การแปลงสภาพขององคการโทรศัพท
แหงประเทศไทย โดยจดทะเบียนเปนบริษัทมหาชนจํากัด ภายใตช่ือ “ทศท. คอรปอเรชั่น
จํากัด (มหาชน)” ดังน้ัน ที่ดินที่องคการโทรศัพทแหงประเทศไทยรับจํานองไว ตองจดทะเบียน
ประเภท “โอนสิทธิการรับจํานองตามกฎหมาย (มาตรา ๒๔ แหงพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ
พ.ศ. ๒๕๔๒)” โดยเรียกเกบ็ คา ธรรมเนยี มประเภทไมมที นุ ทรัพย เปนตน

โอนสทิ ธกิ ารรบั จํานองบางสวน หมายถึง กรณีเจาของท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพย
อยา งอื่นไดจดทะเบียนจํานองเพ่ือเปนประกันหนี้ไวกับผูรับจํานองรายเดียวแตหลายมูลหน้ี โดย
ไดแยกมูลหนี้ท่ีจดทะเบียนจํานองไวเปนประเภท ๆ ตอมาผูรับจํานองไดโอนสิทธิเรียกรองในมูลหนี้
ใดมูลหน้ีหน่ึงแกบุคคลอ่ืน เชน กรณี ธนาคาร เอ รับจํานองที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ ๑ ของ
นาย ก. เพ่ือเปนประกันการชําระหน้ีวงเงินจํานอง ๑๐๐,๐๐๐ บาท โดยระบุวาจํานองเพ่ือ
เปน ประกนั หน้เี บกิ เงนิ เกินบัญชี ๖๐,๐๐๐ บาท และหนี้เงินกูคากอสรางโรงงาน ๔๐,๐๐๐ บาท
ตอมาธนาคาร เอ ไดโอนสิทธิเรียกรองในมูลหน้ีเงินกูคากอสรางโรงงาน ๔๐,๐๐๐ บาทใหแก
ธนาคาร บี โดยธนาคาร เอ และธนาคาร บี มาขอจดทะเบียนประเภท “โอนสิทธิการรับจํานอง
บางสว น” เปน ตน

โอนสิทธิการรับจํานองบางราย หมายถึง กรณีเจาของท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพย
อยางอ่ืนได จดทะเบียนจํานองเพื่อเปนประกันหน้ีท่ีมีผูรับจํานองหลายรายในลําดับเดียวกันโดย
ระบุวาจํานองเพื่อประกันหน้ีท่ีมีตอผูรับจํานองแตละรายเปนจํานวนเทาใด ตอมาผูรับจํานองบางราย
ไดโอนสิทธิเรียกรองในสวนของตนใหแกบุคคลอื่น เชน นาย ก. จดทะเบียนประเภทจํานอง
ทด่ี ินโฉนดที่ดินเลขท่ี ๑ ไวก บั ธนาคาร เอ และธนาคาร บี วงเงินจํานอง ๒๐,๐๐๐ บาท โดย

ค่มู ือ การจดทะเบยี นสทิ ธิและนิตกิ รรมประเภทกอ่ ภาระผูกพนั ในอสงั หาริมทรพั ย์ 9

แบงเปนจํานองกับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง ๑๐,๐๐๐ บาท และจํานองกับธนาคาร บี วงเงิน
จํานอง ๑๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญาจํานองลงวันท่ี ๓ มกราคม ๒๕๕๕ ตอมาธนาคาร เอ
ไดโอนสิทธเิ รยี กรอ งในสวนของตนวงเงินจํานอง ๑๐,๐๐๐ บาท ใหแกธนาคาร ซี โดยธนาคาร เอ
และธนาคาร ซี นําโฉนดท่ีดินเลขท่ี ๑ มาย่ืนคําขอจดทะเบียนประเภท “โอนสิทธิการรับจํานอง
บางราย” มีผลทําใหท่ีดินแปลงน้ีมีการจํานองเปนประกันหน้ีไวกับธนาคาร บี วงเงินจํานอง
๑๐,๐๐๐ บาท และธนาคาร ซี วงเงินจาํ นอง ๑๐,๐๐๐ บาท เปนตน

๑๗. ระงับจํานอง (ปลดจํานอง) หมายถึง กรณีเจาของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย
อยางอื่นไดจดทะเบียนจาํ นองอสังหาริมทรัพยเพื่อเปนประกันหนี้ไวแลว ตอมาคูกรณีมาขอ
จดทะเบยี นเนือ่ งจากผูรับจํานองตกลงใหอ สงั หาริมทรัพยที่จํานองไวทั้งหมดพนจากการจํานองไป
โดยยังไมม กี ารชําระหนีท้ ่จี ํานองเปนประกนั ทาํ ใหการจํานองระงับสิ้นไปทั้งหมด หนี้ยังคงมีอยูใน
ลักษณะเปนหน้ธี รรมดาทไี่ มม ีประกนั เชน นาย ก. จดทะเบยี นประเภทจํานองท่ีดินโฉนดที่ดิน
เลขที่ ๑ ไวกับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง ๑๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญาจํานองลงวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๕
ตอ มานาย ก. และธนาคาร เอ ตกลงกันใหท่ีดินโฉนดท่ีดินเลขท่ี ๑ พนจากการจํานอง โดย
ยังไมมีการชําระหน้ีที่จํานองเปนประกัน ทําใหการจํานองระงับสิ้นไป โดยหนี้ระหวางนาย ก.
กับธนาคาร เอ ยังคงมีอยู แตกลายเปนหน้ีท่ีไมมีหลักทรัพยเปนประกันการชําระหนี้ โดย
นาย ก. และธนาคาร เอ ไดมาขอจดทะเบยี นประเภท “ระงบั จาํ นอง (ปลดจาํ นอง)” เปนตน

๑๘. ระงับจํานอง (ศาลขายบังคับจํานอง) หมายถึง กรณีที่มีการจดทะเบียน
จํานองทด่ี ินหรืออสังหาริมทรัพยอยางอื่นเพื่อเปนประกันหนี้ไวแลว ตอมาผูรับจํานองฟองบังคับ
จํานองจนศาลไดมีคําส่ัง ใหขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพยนั้น ผูที่ซื้ออสังหาริมทรัพยจากการ
ขายทอดตลาดไดม าขอจดทะเบยี นเพ่อื ใหจ าํ นองระงับสิ้นไปใหเขียนชื่อประเภทวา “ระงับจํานอง
(ศาลขายบังคับจํานอง)” กอน จึงจะจดทะเบียนโอนใหแกผูท่ีซื้อไดจากการขายทอดตลาดตอไป
เชน นาย ก. จดทะเบียนประเภทจํานองท่ีดินโฉนดท่ีดินเลขท่ี ๑ ไวกับธนาคาร เอ วงเงินจํานอง
๑๐,๐๐๐ บาท ตามสัญญาจํานองลงวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๕ ตอมา นาย ก. ไมสามารถ
ชําระหนไ้ี ด ธนาคาร เอ จึงฟองบังคับจํานองจนศาลไดมีคําสั่งใหขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพยน้ัน
มีนาย ดํา ผทู ่ีซอ้ื อสงั หาริมทรพั ยจ ากการขายทอดตลาดไดมาขอจดทะเบียนเพ่ือใหจํานองระงับ
ส้ินไปใหเขียนช่ือประเภทวา “ระงับจํานอง (ศาลขายบังคับจํานอง)” กอน แลวจึงขอใหจดทะเบียน
ประเภท “ขาย (ตามคําสั่งศาล.....)” เปนตน

10 คูม่ ือ การจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมประเภทกอ่ ภาระผูกพนั ในอสงั หาริมทรัพย์

๑๙. ระงับจํานอง (หนี้เกล่ือนกลืนกัน) หมายถึง กรณีที่มีการจดทะเบียน
จาํ นองท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพยอยางอ่ืนเพ่ือเปนประกันหนี้ไวแลว ตอมาผูรับจํานองไดมาขอ
จดทะเบียนเน่ืองจากอสังหาริมทรัพยที่จํานองไดตกมาเปนของผูรับจํานองในลักษณะลูกหน้ีเจาหนี้
เปนบุคคลเดียวกันทําใหการจํานองระงับส้ินไปดวยหน้ีเกล่ือนกลืนกัน เชน นาย ก. จดทะเบียน
ประเภทจํานองที่ดินโฉนดที่ดินเลขที่ ๑ ไวกับ ธนาคาร เอ วงเงินจํานอง ๑๐,๐๐๐ บาท
ตามสญั ญาจํานองลงวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๕๕ ตอมานาย ก. ไมสามารถชําระหนี้ได ธนาคาร เอ
จึงฟองศาลบังคับจํานองและศาลไดสั่งใหขายทอดตลาดโดยมีการจํานองติดไปดวย ปรากฏวา
ธนาคาร เอ ผูรับจํานองเปนผูซื้อไดจากการขายทอดตลาด จึงตองจดทะเบียนประเภท “ขาย
ตามคาํ สัง่ ศาล” กอน แลว จึงจดทะเบยี นประเภท “ระงับจาํ นอง (หน้ีเกล่ือนกลืนกัน)” เปนตน

๒๐. แกไ ขหนี้อันจํานองเปนประกัน หมายถึง กรณีเจาของที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย
อยางอื่นได จดทะเบยี นจาํ นองเพ่ือเปนประกันหน้ีไวแลว ตอมาคูกรณีตกลงกันขอแกไขเปลี่ยนแปลง
เก่ียวกับการจํานองท่ีไดจดทะเบียนไวแลวนั้น ในสิ่งท่ีมิใชสาระสําคัญแหงหนี้ เชน การแกไขอัตรา
ดอกเบ้ยี , การเลิกประกนั หน้ีลกู หน้ีบางคน, หรือกรณีการจํานองเพื่อเปนประกันหนี้เงินกูรวมไว
ภายหลังลูกหนี้บางคนไดมีการชําระหนี้ในสวนของตนหมดแลว คูกรณีตกลงใหที่ดินสวนนั้นพน
จากการจาํ นอง

๒๑. แกไขเปล่ียนแปลงจํานอง (แปลงหน้ีใหม) หมายถึง กรณีเจาของที่ดิน
หรืออสังหาริมทรัพยอยางอื่นไดจดทะเบียนจํานองอสังหาริมทรัพยเพ่ือเปนประกันหน้ีไวแลว
ตอมาคูกรณีตกลงกันขอจดทะเบียนเพ่ือแกไขเปลี่ยนแปลงเก่ียวกับการจํานองที่ไดจดทะเบียนไว
แลว ในส่งิ ท่ีเปน สาระสําคัญแหงหนี้ เชน การเปล่ียนตัวลูกหนี้อันเปนการแปลงหนี้ใหม ใหเขียน
ช่อื ประเภทวา “แกไขเปล่ียนแปลงจาํ นอง (แปลงหนี้ใหม)”

๒๒. เปล่ียนชื่อผูรับจํานอง (ระหวางกิจการท่ีเปนนิติบุคคลเดียวกัน) หมายถึง
กรณีขอจดทะเบียนเพื่อลบชื่อกิจการวิเทศธนกิจท่ีตอทายช่ือธนาคารผูรับจํานองออกจากหนังสือ
แสดงสทิ ธใิ นทีด่ นิ หรอื กรณีขอเปล่ียนช่ือผูรับจํานองระหวางกิจการท่ีเปนนิติบุคคลเดียวกัน เชน
ธนาคาร เอ กิจการวเิ ทศธนกิจสาขากรงุ เทพฯ เปน ผูรบั จาํ นองทดี่ นิ ของนาย ก. ไวตามสัญญา
จํานอง ลงวันท่ี ๓ มกราคม ๒๕๕๕ ตอมา ธนาคาร เอ กิจการวิเทศธนกิจสาขากรุงเทพฯ
และธนาคาร เอ ผจู ดั ตั้งกจิ การวเิ ทศธนกิจสาขากรุงเทพฯ ซ่ึงทั้งสองฝายเปนนิติบุคคลเดียวกัน
ตามกฎหมาย ขอใหเปลี่ยนชื่อผูรับจํานองท่ีดิน ตามสัญญาจํานอง ลงวันท่ี ๓ มกราคม ๒๕๕๕

คมู่ อื การจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิตกิ รรมประเภทกอ่ ภาระผูกพันในอสงั หารมิ ทรพั ย์ 11

จาก “ธนาคาร เอ กิจการวิเทศธนกิจสาขากรุงเทพฯ” เปน “ธนาคาร เอ” กรณีน้ีจึงจดทะเบียน
ประเภท “เปลย่ี นชื่อผูร บั จํานอง (ระหวา งกจิ การท่เี ปน นิตบิ ุคคลเดียวกนั )” เปนตน

 หมายเหตุ

ชื่อประเภทการจดทะเบียนเก่ียวกับจํานองในกรณีอื่นนอกจากท่ีระบุไวใน
ระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเกี่ยวกับการจํานองท่ีดินและ
อสังหาริมทรัพยอยางอื่น พ.ศ. ๒๕๕๐ ใหเขียนชื่อโดยเทียบเคียงและปรับไปตามประเภทการ
จดทะเบียนท่รี ะบุไวในระเบยี บนี้ โดยอนโุ ลม

 สาระสําคญั

- การจาํ นองเปน การเอาทรพั ยสินมาประกันการชําระหน้ี การจํานองจึงประกอบดวย
หน้ีที่จํานองเปนประกันอันถือวาเปนสวนประธาน กับสัญญาจํานองอันถือวาเปนสวนอุปกรณ
ดังนนั้ การจาํ นองขึ้นอยกู บั หนี้ ถาหนร้ี ะงบั สนิ้ ไป การจาํ นองก็ยอมระงับส้นิ ไปดวย

- ผูรับจํานองมีสิทธิไดรับชําระหนี้จากทรัพยสินที่จํานองกอนเจาหนี้สามัญ
ผูรบั จํานองบังคับชาํ ระจากทรัพยสินท่ีจํานองได ไมวาทรัพยสินท่ีจํานองจะโอนไปใหแกบุคคลใด
การจาํ นองจึงเปน ทรพั ยสิทธิทต่ี กติดไปกับตัวทรัพยท่จี าํ นอง (ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย
มาตรา ๗๐๒)

- ทรพั ยทีจ่ ํานองได ไดแก อสังหาริมทรัพยและสังหาริมทรัพยบางอยางตามที่
ระบุไวในประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๗๐๓ แตทรัพยที่จดทะเบียนจํานองตอ
เจาหนาท่ีตามประมวลกฎหมายที่ดินตองเปนอสังหาริมทรัพยเทานั้น (ประมวลกฎหมายท่ีดิน
มาตรา ๗๑) ซึ่งไดแก ท่ีดินและทรัพยอันติดอยูกับที่ดินมีลักษณะเปนการถาวร หรือประกอบ
เปนอันเดยี วกบั ทด่ี ินนั้น และหมายความรวมถึงทรพั ยสิทธิอันเกี่ยวกับท่ีดินหรือทรัพยท่ีติดอยูกับที่ดิน
หรอื ประกอบเปน อนั เดียวกบั ท่ีดินนั้นดว ย สว นสงั หารมิ ทรัพยตองไปจดทะเบียนตอเจาหนาที่อ่ืน
ตามที่กฎหมายกําหนดไว

- ทีด่ ินที่จํานองได ไดแก ที่ดินท่ีมีหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินแลว อันไดแก มี
โฉนดที่ดินและหนังสือรับรองการทําประโยชน (น.ส. ๓, น.ส. ๓ ก., น.ส. ๓ ข. และ แบบ
หมายเลข ๓) เฉพาะแบบหมายเลข ๓ ถา ออกกอ นใชประมวลกฎหมายที่ดนิ ตองแจง ส.ค. ๑

12 คู่มอื การจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิติกรรมประเภทกอ่ ภาระผกู พนั ในอสงั หารมิ ทรพั ย์

- ท่ีดินท่ีมีหลักฐาน ส.ค. ๑ จํานองได แตในทางปฏิบัติพนักงานเจาหนาท่ี
ตองแจงใหผูขอทราบและแนะนําใหออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน เพื่อพิสูจนสิทธิความเปน
เจาของกอน

- ท่ีดินที่มีใบจองจํานองไมได เพราะผูเปนเจาของเทานั้นท่ีจํานองได
(ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๗๐๕)

- ที่ดินท่ีหามโอน เชน หามโอนตามมาตรา ๓๑ และ ๕๘ ทวิ แหงประมวลกฎหมาย
ทด่ี นิ หรือ มาตรา ๑๒ แหงพระราชบัญญตั จิ ดั ที่ดินเพ่ือการครองชีพ พ.ศ. ๒๕๑๑ เปนตน ผูเปน
เจา ของสามารถจํานองได เนือ่ งจากการจาํ นองเปน การประกันการชําระหน้ีมิใชเปนการโอน แต
กฎหมายดังกลา วไดบ ญั ญัตใิ หท ี่ดนิ ทห่ี ามโอนไมอยูในขายแหงการบังคับคดีภายในกําหนดหามโอน
ผูรับจํานองจึงไมอาจบังคับจํานองภายในกําหนดหามโอน ตองรอใหพนกําหนดหามโอนไปกอน
จงึ บงั คับจํานองได

- ทดี่ ินท่ีจํานองไดตองขออนุญาต ไดแก
(๑) ทดี่ นิ ท่ไี ดรับตามพระราชบัญญัติจัดรูปท่ีดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๕๘

จะจาํ นองไดตอ งไดร ับอนญุ าตเปนหนังสอื จากคณะกรรมการจัดรูปท่ีดินกลาง หรือผูซ่ึงไดรับมอบหมาย
จากคณะกรรมการจัดรูปที่ดินกลาง (มาตรา ๓๓ พระราชบัญญัติจัดรูปท่ีดินเพ่ือเกษตรกรรม
พ.ศ. ๒๕๕๘)

(๒) ทดี่ ินท่ไี ดร บั ตามพระราชบญั ญัตกิ ารปฏริ ูปทีด่ ินเพอื่ เกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘
จะจาํ นองไดต องไดรับอนุญาตเปนหนังสือจากคณะกรรมการ หรือผูซึ่งคณะกรรมการมอบหมาย
(มาตรา ๒๘ แหง พระราชบญั ญตั ิการปฏิรูปท่ีดนิ เพอ่ื เกษตรกรรม พ.ศ. ๒๕๑๘)

- ผูท่ีจะจํานองไดตองเปนเจาของทรัพยสินในขณะที่จํานองเทานั้น (ประมวล
กฎหมายแพงและพาณิชยมาตรา ๗๐๕) และตองเปนเจาของในขณะจํานอง เพียงแตมีสิทธิเปน
เจาของในภายหนาจะจํานองไมได เชน ในระหวางเชาซ้ือ ไมอาจเอาทรัพยสินท่ีเชาซ้ือมา
จาํ นองได (คําพิพากษาฎกี าที่ ๕๐๓/๒๕๐๔)

- บุคคลมกี รรมสทิ ธิใ์ นทรัพยส นิ แตภายในบังคับเง่อื นไขเชน ใด จะจาํ นองทรัพยสิน
น้ันไดภ ายในบงั คบั เงอื่ นไขเชนนัน้ (ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๗๐๖) เชน นาย ก.
เปนเจาของที่ดินที่มีโฉนดที่ดินไดจดทะเบียนให นาย ข. เปนผูทรงสิทธิเก็บกิน นาย ก. มีสิทธิ
จาํ นองท่ีดินได แตตองอยูภายในเงื่อนไขวา นาย ข. ยังคงมีสิทธิเก็บกินอยู กรณีเชนน้ีถามีการ
บงั คบั จาํ นองขายทอดตลาด ผูทซ่ี ้ือไปก็ตองซื้อภายในเงือ่ นไข คือสทิ ธิเกบ็ กนิ ยังคงติดไปดวย

คูม่ อื การจดทะเบียนสิทธิและนิตกิ รรมประเภทก่อภาระผกู พันในอสังหาริมทรัพย์ 13

- ผจู ํานองจะเปน ตัวลูกหน้ีเองหรือคนอื่นก็ได (ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย
มาตรา ๗๐๙)

- การจํานองตองทําเปนหนังสือและจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาท่ี (ประมวล
กฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๗๑๔) มฉิ ะน้ันยอมตกเปนโมฆะ (ประมวลกฎหมายแพงและ
พาณิชย มาตรา ๑๑๕)

- ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยไดกําหนดขอความท่ีจะลงในสัญญา
จํานอง ดังนี้

(๑) ตอ งระบทุ รัพยสนิ ท่จี ํานอง (มาตรา ๗๐๔)
(๒) ตองระบุจํานวนเงินเปนเรือนไทยเปนจํานวนแนตรงตัว หรือจํานวนขั้น
สงู สุดท่ไี ดเอาทรพั ยสินจาํ นองนัน้ ตราไวเ ปน ประกนั (มาตรา ๗๐๘)
(๓) สัญญาจํานอง/สัญญาตอทายฯ ตองระบุโดยชัดเจนวาเปนการประกันหน้ี
ของบุคคลใด จะระบใุ นทํานองวา “ประกันหน้ีนาย ก. หรือ นาย ข.” ไมได ตองระบุใหชัดเจน
เชน ประกันหน้นี าย ก. กต็ องระบุแคประกนั หน้นี าย ก. หากเปนการประกนั หนี้นาย ก. และนาย ข.
ก็ตองระบุเปน “และ” เทานั้น เน่ืองจากในการจดทะเบียนจํานองค้ําประกันหนี้นั้น ผูจํานอง
ตองทราบชดั เจนวา กําลงั คาํ้ ประกนั หนีข้ องผใู ด จํานวนสงู สดุ เทาใด เปน ตน
(๔) มีขอความบางอยางท่ีกฎหมายหามตกลงกันไวกอนหนี้ถึงกําหนดชําระ
(มาตรา ๗๑๑) ไดแ ก

(ก) ถาไมชาํ ระหนี้ใหผรู ับจํานองเขาเปนเจาของทรัพยสนิ ทจ่ี ํานอง
(ข) ใหจัดการแกทรัพยสินท่ีจํานองเปนประการอ่ืนอยางใด นอกจาก
บทบัญญัตทิ ั้งหลายวาดวยการบงั คับจาํ นอง
- ขอหามตามมาตรา ๗๑๑ เปนขอหามมิใหตกลงกันไวกอนหนี้ถึงกําหนดชําระ
แตถ าหน้ีถงึ กาํ หนดชําระแลว คูกรณียอมตกลงกนั ได เชน เมอ่ื หนี้ถึงกําหนดชําระแลวผูจํานองซ่ึง
เปนลูกหน้ีไมมีเงินชําระหน้ีใหแกผูรับจํานอง จึงตกลงโอนท่ีดินที่จํานองไวนั้นใหแกผูรับจํานอง
เพ่ือเปนการชาํ ระหนีย้ อ มทําได โดยจดทะเบียนในประเภทโอนชาํ ระหนจ้ี าํ นอง เปน ตน
- ขอตกลงทํานองวา “ถาเอาทรัพยจํานองหลุดและราคาทรัพยสินน้ันมีประมาณ
ต่ํากวาจํานวนเงินที่คางชําระ หรือถาเอาทรัพยสินซึ่งจํานองออกขายทอดตลาดใชหนี้ไดเงินจํานวน
สุทธินอ ยกวา จาํ นวนท่ีคา งชาํ ระ ลกู หน้ยี อมใชเงนิ ทขี่ าดจนครบ หรือยอมใหยึดทรัพยสินอ่ืนนอกจาก
ทจี่ ํานองนาํ มาบงั คับชําระหน้ีจนครบ” แมขอตกลงนี้จะขัดตอ มาตรา ๗๓๓ แหงประมวลกฎหมาย

14 ค่มู ือ การจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิตกิ รรมประเภทก่อภาระผกู พนั ในอสังหารมิ ทรพั ย์

แพงและพาณชิ ย แตม าตรา ๗๓๓ ไมใ ชบ ทบญั ญตั ิแหงกฎหมายอันเก่ียวกับความสงบเรียบรอย
หรอื ศลี ธรรมอนั ดขี องประชาชน ขอตกลงดงั กลาวยอ มใชบ ังคบั ได (คําพพิ ากษาฎีกาท่ี ๑๓๑๓/๒๔๘๐
และ ๑๖๘/๒๕๑๘) (ใชเฉพาะลกู หนเ้ี ทาน้นั จะใชกับผูคาํ้ ประกนั ซึง่ มไิ ดเปน ลกู หน้ีดว ยไมไ ด)

- กรณีไดมีพระราชบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย
(ฉบับที่ ๒๐) พ.ศ. ๒๕๕๗ แกไขเพ่ิมเติมในบรรพ ๓ เอกเทศสัญญา ลักษณะ ๑๑ คํ้าประกัน
และลักษณะ ๑๒ จํานอง และมีผลใชบังคับเมื่อพนกําหนดเกาสิบวันนับแตวันประกาศในราช
กิจจานุเบกษา คือตั้งแตวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ ๒๕๕๘ และไดมีพระราชบัญญัติแกไข
เพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย (ฉบับท่ี ๒๑) พ.ศ. ๒๕๕๘ มีผลใชบังคับวันท่ี
๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๘ ซึง่ กรมที่ดินไดมหี นงั สือซอ มความเขาใจเก่ียวกับพระราชบัญญัติฯ และ
กําชับการปฏเิ สธคําขอจดทะเบยี นจํานองตามพระราชบญั ญัตฯิ ดงั กลาว จํานวน ๓ ฉบบั ดงั นี้

(๑) หนังสือกรมที่ดิน ดวนท่ีสุด ที่ มท ๐๕๑๕.๓/ว ๒๗๗๔ ลงวันท่ี ๓
กุมภาพันธ ๒๕๕๘ สง พระราชบัญญตั ิแกไขเพิม่ เติมประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย (ฉบับที่ ๒๐)
พ.ศ. ๒๕๕๗ สรุปหลักการเร่ืองคํ้าประกันและจํานองตามกฎหมายท่ีแกไขใหม และสรุป
หลักเกณฑขอสัญญาเก่ียวกับการจํานองท่ีกฎหมายบัญญัติไวใหมใหตกเปนโมฆะและการดําเนินการ
ของพนักงานเจา หนา ทใี่ หพนักงานเจาหนาท่ีทราบและถอื ปฏิบัติ มสี าระสําคัญ ดงั น้ี

(๑.๑) ผลของกฎหมายที่แกไขใหมมีผลโดยสรุปใหการค้ําประกันหนี้
ในอนาคตหรือหน้ีมีเง่ือนไขตองกาํ หนดรายละเอียดของหน้ีและขอบเขตความรับผิดชอบของ
ผูค้ําประกันใหชัดเจน ขอตกลงใหผูค้ําประกันตองรับผิดอยางลูกหนี้รวมเปนโมฆะ ขอตกลงที่
แตกตางจากทกี่ ฎหมายบัญญตั ิเพ่ิมเติมเปน โมฆะ ระยะเวลา ในการเรียกใหผูค้ําประกันชดใชเงิน
ตองชัดเจนมีระยะเวลาตามที่กฎหมายกําหนด กรณีเจาหน้ีลดหนี้หรือเพ่ิมหนี้ใหลูกหน้ี หาก
ผคู าํ้ ประกันไมท ราบมผี ลใหผคู ํ้าประกันหลุดพน หากขอตกลงใดเปนการเพิ่มภาระแกผูค้ําประกันให
เปนโมฆะ การผอนเวลาใหลูกหนี้ ผูคํ้าประกันตองตกลงดวยและการทําขอตกลงผอนเวลา
ลว งหนา จะใชบงั คบั ไมได

(๑.๒) การแกไขเพ่ิมเติมประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยดังกลาว
บทบัญญัติท่ีแกไขไมขัดกับทางปฏิบัติท่ีกรมที่ดินไดวางไวตามระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการ
จดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิตกิ รรมเกีย่ วกบั การจาํ นองทดี่ นิ และอสังหาริมทรัพยอยางอื่น พ.ศ. ๒๕๕๐
จึงไมม ีกรณตี อ งแกไ ขเพมิ่ เติมระเบยี บกรมทด่ี ินดังกลาวแตอยางใด

คู่มือ การจดทะเบียนสิทธแิ ละนติ กิ รรมประเภทก่อภาระผูกพันในอสงั หารมิ ทรัพย์ 15

(๑.๓) การดําเนินการสอบสวนและจดทะเบียนของพนักงานเจาหนาท่ี
เรือ่ งจํานองตามบทบญั ญตั ทิ แ่ี กไขใหม โดยเฉพาะกรณที กี่ ฎหมายบัญญัติเพ่ิมเติมและใหขอตกลง
ท่ีแตกตางจากที่กฎหมายบัญญัติแกไขเพ่ิมเติมเปนโมฆะ มีผลใหกอนจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม
พนักงานเจา หนาท่มี หี นาท่ตี องสอบสวนและตรวจสอบสัญญาจํานองและสัญญาตอทายสัญญาจํานอง
ไมใหมีขอตกลงท่ีขัดตอบทบัญญัติท่ีแกไขใหมดังกลาว และหากตรวจสอบปรากฏวามีขอตกลง
ขอ ใดขอ หนึง่ เปน โมฆะ พนกั งานเจา หนา ที่ไมต อ งจดทะเบยี นให ตามมาตรา ๗๓ แหงประมวล
กฎหมายทด่ี นิ

(๑.๔) แมบทบญั ญตั ิของกฎหมายท่แี กไ ขเพ่ิมเติมใหมน้ีจะไมกระทบกระเทือน
ถึงสญั ญาท่ีไดทําไวกอนกฎหมายมีผลใชบังคับ เวนแตกรณีที่บัญญัติไวเปนอยางอื่น แตกรณีมีการ
แกไขสัญญาจํานองหรือสัญญาตอทายสัญญาจํานองหรือการข้ึนเงินจํานอง ถือเปนการตกลงกัน
ใหมในสว นทีแ่ กไ ขหรอื เพิม่ เตมิ ใหพนักงานเจา หนา ทส่ี อบสวนและตรวจสอบดวยวามีขอตกลงใด
ฝา ฝน กฎหมายทแี่ กไขใหมห รอื ไม ประการใด โดยใหถ อื ปฏบิ ัติตาม (๑.๓)

(๒) หนังสือกรมที่ดิน ดวนที่สุด ท่ี มท ๐๕๑๕.๓/ว ๔๓๔๐ ลงวันที่ ๒๐
กุมภาพันธ ๒๕๕๘ มีสาระสําคญั ดังน้ี

(๒.๑) การปฏเิ สธคาํ ขอจดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรมเปนคําสั่งทางปกครอง
พนกั งานเจา หนาทีต่ อ งแจง คาํ ส่ังพรอ มเหตผุ ลทช่ี ัดเจนในการปฏิเสธคําขอและสิทธิในการอุทธรณ
ใหคกู รณีท่ถี ูกกระทบสิทธทิ ราบดวย โดยตองดําเนินการใหเปนไปตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติ
ราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยเครงครัด เนื่องจากการปฏิเสธคําขอโดยไมปฏิบัติตาม
หลักเกณฑข องกฎหมายยอมถอื เปน การปฏิบัตหิ นา ทโ่ี ดยไมช อบดวยกฎหมาย

(๒.๒) หลักกฎหมายทีแ่ กไ ขใหมเปนการแกไขเพื่อคุมครองสิทธิของผูจํานอง
ซึง่ เปน ผูค้ําประกันหน้ีของบุคคลอื่นเปนหลัก และบางสวนเปนการบัญญัติคุมครองสิทธิของผูจํานอง
ในการบงั คับจํานอง ดังนั้น การตรวจสัญญาจํานองและบันทึกขอตกลงตอทายสัญญาจํานอง (ถามี)
พนกั งานเจา หนาท่ีตองพิจารณาใหชัดเจนวา สัญญาจํานองน้ันเปนการจํานองเพ่ือเปนการค้ําประกัน
หน้ีของผูจาํ นองเอง หรือเปนการค้ําประกนั หน้เี ฉพาะของบุคคลอ่นื เทา น้ัน โดยใหตรวจสอบจาก
ขอ สญั ญาท่ีระบวุ าเปนการจํานองค้ําประกนั หน้ีของผูใดตามทค่ี ูสัญญาระบไุ วในสัญญาจํานองเปนหลัก
ฉะนั้น ในกรณีท่ีเปนการจํานองเพ่ือค้ําประกันหน้ีของบุคคลอื่นเทาน้ันการตรวจสัญญาจํานอง
และบันทึกขอตกลงตอทายสัญญาจํานอง ใหพิจารณาขอสัญญาวาจะตองมีขอความท่ีไมขัดตอ
กฎหมายที่แกไขใหม ตามสรุปหลักเกณฑขอสัญญาเก่ียวกับการจํานองท่ีกฎหมายบัญญัติไวใหม

16 ค่มู ือ การจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ กิ รรมประเภทก่อภาระผกู พนั ในอสงั หาริมทรพั ย์

ใหต กเปน โมฆะทุกขอ หากเปนการจํานองเพ่ือประกันหน้ีของผูจํานองเองดวย ใหพิจารณาตาม
สรุปหลักเกณฑขอสัญญาเก่ียวกับการจํานองที่กฎหมายบัญญัติไวใหมใหตกเปนโมฆะ และการ
ดําเนินการของพนักงานเจาหนาท่ี ขอ ๗ ถึงขอ ๙ ตามหนังสือกรมท่ีดิน ดวนท่ีสุด ท่ี มท
๐๕๑๕.๓/ว ๒๗๗๔ ลงวันที่ ๓ กุมภาพันธ ๒๕๕๘ และตามมาตรา ๖๘๑ แหงประมวล
กฎหมายแพง และพาณิชยทแ่ี กไ ขใหมเ ปน หลกั

(๒.๓) ในกรณที ข่ี อสัญญาไมช ัดเจน พนักงานเจาหนาท่มี อี ํานาจในการ
สอบสวน ตามมาตรา ๗๔ แหงประมวลกฎหมายทดี่ นิ และบันทกึ ถอยคาํ คสู ัญญาไดตามอํานาจหนา ที่
โดยในกรณีที่มกี ารแกไ ขเปลย่ี นแปลงขอความในสัญญาจาํ นอง หรือบนั ทึกขอตกลงตอ ทายสัญญา
จํานองตองใหค ูสัญญาทั้งสองฝายลงลายมือช่ือกํากับขอความนั้น หามมิใหพนักงานเจาหนาทีป่ ฏเิ สธ
คาํ ขอโดยใหผ ูขอตองไปจัดทําสญั ญาใหมโดยเดด็ ขาด

(๒.๔) ในกรณที ีข่ อ สัญญามีขอสงสัยในการตีความและไมสามารถหาขอ
ยุติไดในขณะจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม หากผูขอท้ังสองฝายยืนยันใหจดทะเบียนและบันทึก
รบั รองไวเปนหลักฐานแลว ใหพนกั งานเจาหนาที่พิจารณาและดําเนินการจดทะเบียนใหตอไปได
เน่อื งจากหากขอสัญญาใดตอมาในภายหลังศาลมีคําสั่งวา เปนโมฆะ เน่ืองจากคูสัญญาไดตกลง
กันไมเ ปน ไปตามบทบัญญตั ิของกฎหมายแลว ยอมเปนผลมาจากการตกลงของผูจํานองและผูรับ
จาํ นองทท่ี าํ ขอ สญั ญานนั้ เอง

(๓) หนงั สอื กรมทด่ี นิ ดวนที่สุด ท่ี มท ๐๕๑๕.๓/ว ๑๗๔๑๘ ลงวันท่ี ๒๓
กรกฎาคม ๒๕๕๘ สงพระราชบัญญตั ิแกไขเพ่ิมเตมิ ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย (ฉบับที่ ๒๑)
พ.ศ. ๒๕๕๘ สรุปหลักการเรื่องค้ําประกันและจํานองท่ีแกไขเพิ่มเติม ตามพระราชบัญญัติแกไข
เพ่มิ เตมิ ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๕๘ และสรุปหลักเกณฑขอ
สัญญาเกีย่ วกบั การจํานองทแ่ี กไขเพิม่ เตมิ ตามพระราชบัญญตั แิ กไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพง
และพาณิชย (ฉบับที่ ๒๑) พ.ศ. ๒๕๕๘ และการพิจารณาดําเนินการของพนักงานเจาหนาที่
โดยผลของกฎหมายที่แกไ ขมผี ลโดยสรุป คือ

(๓.๑) ใหผูคํ้าประกันที่เปนนิติบุคคลสามารถผูกพันตนเพ่ือรับผิดอยาง
ลกู หนรี้ วมได รวมทงั้ หากเปนสถาบันการเงินหรือประกอบอาชีพค้ําประกันเพื่อสินจางเปนปกติธุระ
สามารถทาํ ขอ ตกลงลว งหนา ยนิ ยอมใหม กี ารผอนเวลาได

(๓.๒) กาํ หนดเพมิ่ เตมิ ใหขอ ตกลงท่แี ตกตางจากที่บัญญัติไวเกี่ยวกับสิทธิ
หนาทข่ี องเจา หน้แี ละผคู ํา้ ประกนั ตามมาตรา ๖๘๖ และ ๖๙๑ วรรคหนง่ึ เปน โมฆะ

ค่มู ือ การจดทะเบียนสทิ ธิและนิติกรรมประเภทก่อภาระผกู พนั ในอสงั หารมิ ทรัพย์ 17

- กรณที ่ีดินหรอื อสงั หาริมทรัพยอยางอื่นไดจดทะเบียนจํานองไวแลว ถาเจาของ
ทดี่ ินหรืออสังหารมิ ทรัพยอยางอื่นประสงคจะทําการจดทะเบียนประเภทอ่ืนท่ีกระทบถึงสิทธิของ
ผูรับโอน ผจู ํานอง ผรู บั จํานองและผไู ดส ทิ ธิจากทรัพยสิทธิ พนักงานเจาหนาท่ีจะรับจดทะเบียนใหได
ตอเมื่อผูรับจํานองใหคํายินยอมโดยบันทึกถอยคํายินยอมไวเปนหลักฐาน หรือผูรับจํานองจะทํา
เปน หนังสอื ใหคํายินยอมมอบใหแกผูจํานองมาดําเนินการก็ใหทําได (ประมวลกฎหมายแพงและ
พาณชิ ย มาตรา ๗๒๒) แตถ าผูจาํ นองประสงคจะจํานองผูอ่ืนตอไปเปนลําดับหลัง ไมตองไดรับ
คาํ ยินยอมจากผรู ับจํานองในลําดบั กอน

- ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๗๔๖ การชําระหนี้ไมวา
คร้ังใด ๆ ส้ินเชิงหรือแตบางสวนก็ดี การระงับหนี้อยางใด ๆ ก็ดี การตกลงกันแกไขเปลี่ยนแปลง
จาํ นองหรอื หน้อี นั จาํ นองเปนประกันน้ันเปน ประการใดก็ดี ทานวาตองนําความไปจดทะเบียนตอ
พนักงานเจาหนาท่ีในเมื่อมีคํารองขอของผูมีสวนไดเสีย มิฉะนั้นทานหามมิใหยกข้ึนเปนขอตอสู
บุคคลภายนอก กรณีดังกลาวกฎหมายไมบังคับใหตองจดทะเบียนเพียงแตถาไมจดทะเบียนจะยกขึ้น
เปนขอตอ สบู คุ คลภายนอกไมได ถาจะยกข้ึนตอสูในระหวางคูกรณีกันเองยอมทําได ไมเปนการ
ตองหาม ดังน้ัน การจดทะเบียนท่ีเกี่ยวกับกรณีดังกลาว เชน การจดทะเบียนประเภทไถถอน
จากจาํ นอง แกไขหนี้อันจํานองเปนประกัน หรือแกไขเปล่ียนแปลงจํานอง (แปลงหน้ีใหม) จึง
เปนการจดทะเบยี นเพ่ือยกข้ึนเปนขอตอสูบุคคลภายนอกเทาน้ัน มิใชเปนแบบของนิติกรรมที่กฎหมาย
บงั คับใหตองจดทะเบยี นดงั เชนการจาํ นองซ่ึงถา ไมจ ดทะเบยี นจะตกเปน โมฆะ

 แนวทางการวนิ จิ ฉัยที่สาํ คญั เก่ียวกบั การจดทะเบยี นจํานอง

๑. การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม กรณีกรุงเทพมหานครขายทอดตลาด
อสังหาริมทรัพยเพอ่ื ชาํ ระภาษีโรงเรือนและท่ีดินและภาษีบํารุงทองที่ กรณีท่ีมีผูซื้ออสังหาริมทรัพย
ไดจากการขายทอดตลาดนําหนงั สือของกรุงเทพมหานครท่ีแจงใหเจาพนักงานที่ดินดําเนินการจด
ทะเบยี นโอนอสังหาริมทรัพยใ หแกผซู ้ืออสังหาริมทรัพยพรอมดวยหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินไปยื่น
คําขอจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่ ใหพนักงานเจาหนาที่รับดําเนินการจดทะเบียนในประเภท
“ขายตามคําสั่งผูวาราชการกรุงเทพมหานคร (ตามหนังสือกรุงเทพมหานคร ท่ี …….../……….....
ลงวันที…่ ……..เดือน……………พ.ศ. ….)” และถา การขายทอดตลาดอสังหาริมทรัพยดังกลาวมีการ
จํานองติดไปดว ย ใหดาํ เนนิ การจดทะเบียนประเภท “ ขายระหวางจํานองตามคําส่ังผูวาราชการ
กรงุ เทพมหานคร ตามหนังสือกรงุ เทพมหานคร ท…ี่ …./……ลงวนั ท่ี……….เดือน…………..พ.ศ. ….”

18 คมู่ ือ การจดทะเบยี นสิทธิและนิติกรรมประเภทกอ่ ภาระผกู พนั ในอสงั หาริมทรพั ย์

แตห ากเปนกรณีขายทอดตลาด โดยผูรับจํานองยินยอมใหท่ีดินที่ขายพนจากการจํานอง เน่ืองจาก
มกี ารชําระหน้ที จ่ี ํานองเปนประกนั แลว หรือปลอดจากการจาํ นอง หรอื ปลดจากการจํานอง เมื่อ
ผูซ้ืออสังหาริมทรัพยไดจากการขายทอดตลาดนําเอกสารหลักฐานความยินยอมในเร่ืองดังกลาว
ของผูรับจํานองมาแสดง ก็ใหพนักงานเจาหนาท่ีจดทะเบียนในประเภท “ ไถถอนจากจํานอง”
หรือ “ปลอดจํานอง” หรือ “ระงับจํานอง” (ปลดจํานอง) แลวแตกรณีเสียกอน แลวจึงจด
ทะเบียนประเภทขายตามคําส่ังผูวาราชการกรุงเทพมหานครตอไป (หนังสือกรมที่ดิน ที่ มท
๐๕๑๕/ว ๑๐๘๔๐ ลงวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๔๗)

๒. การเชามิใชทรัพยสิทธิ จึงไมตกอยูในบังคับของประมวลกฎหมายแพงและ
พาณิชยมาตรา ๗๒๒ ที่จะตองใหผูรับจํานองใหคํายินยอมกอนแตอยางใด แตเมื่อจดทะเบียน
การเชาแลวผูรับจํานองอาจจะรองตอศาลขอใหส่ังเพิกถอนการเชานั้นได และถาศาลฟงไดวาผูเชา
ไดทําไปโดยรอู ยูวาเปนการทําใหผูรับจํานองเสียหาย ศาลยอมส่ังใหเพิกถอนการจดทะเบียนเชา
นน้ั เสียไดตามนัยประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๒๓๗ แตเม่ือการเพิกถอนมิใชเพราะ
นิติกรรมเชา เปน โมฆะ พนักงานเจาหนาท่ีจึงยอมตองรับจดทะเบียน แตกอนจดทะเบียนใหแจง
คูกรณีทราบถึงเหตุท่ีการใหเชาดังกลาวอาจถูกเพิกถอนได หากคูกรณีทราบแลวยังยืนยันใหจด
ทะเบียนโดยยอมรับผิดชอบกันเอง ก็ใหบันทึกถอยคําไวเปนหลักฐานแลวจดทะเบียนตอไปได
(หนงั สือกรมท่ดี นิ ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๑๒๙๐๓ ลงวนั ท่ี ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๔๗)

๓. กรณีทรัพยสินของเกษตรกรที่ใชเปนหลักประกันการชําระหนี้ตกเปนของ
กองทุนฟนฟูและพัฒนาเกษตรกร ตามมาตรา ๓๗/๙ วรรคสอง แหงพระราชบัญญัติกองทุน
ฟนฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ. ๒๕๔๒ ซ่ึงแกไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกองทุนฟนฟูและ
พัฒนาเกษตรกร (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ กําหนดวาเม่ือกองทุนรับภาระชําระหน้ีใหแกเจาหนี้
ของเกษตรกรแลว ใหทรัพยสินของเกษตรกรที่ใชเปนหลักประกันการชําระหน้ีตกเปนของกองทุน
ฉะนนั้ ทันทที ีก่ องทนุ รบั ภาระการชําระหนใ้ี หแกเ จา หนี้ของเกษตรกร กรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครอง
ในอสงั หารมิ ทรัพยของเกษตรกรที่ใชเปนหลักประกันการชําระหน้ียอมตกเปนของกองทุนโดยผล
ของกฎหมาย โดยคูกรณีท้ังสองฝาย คือ เกษตรกร (ผูโอน) และกองทุนฟนฟูและพัฒนาเกษตรกร
(ผูรับโอน) จะตองนาํ หนงั สือแสดงสทิ ธิในที่ดินและหนังสือรับรองการชําระหน้ีของเกษตรกรตาม
แบบมายื่นคําขอจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่ ซึ่งการจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพยของ
เกษตรกรใหแกกองทุนกรณีกองทุนรับภาระชําระหนี้ใหแกเกษตรกรสามารถดําเนินการไดใน ๒
กรณี คือ

คมู่ อื การจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิตกิ รรมประเภทกอ่ ภาระผกู พนั ในอสงั หารมิ ทรัพย์ 19

๓.๑ กรณีเกษตรกรขอจดทะเบียนไถถอนจากจํานองอสังหาริมทรัพยที่ใช
เปนหลกั ประกนั จากเจา หนีผ้ ูร ับจาํ นองเสียกอน เมื่อไถถอนจากจํานองแลวจึงขอจดทะเบียนโอน
กรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพยนั้นใหแกกองทุน ในการโอนอสังหาริมทรัพย
ใหแกกองทุนใหพนักงานเจาหนาท่ีรับจดทะเบียนประเภท “โอนตามกฎหมาย (มาตรา ๓๗/๙
วรรคสอง แหงพระราชบัญญัตกิ องทุนฟน ฟูและพัฒนาเกษตรกร พ.ศ. ๒๕๔๒)”

๓.๒ กรณีเกษตรกรขอจดทะเบียนโอนกรรมสิทธ์ิหรือสิทธิครอบครองใน
อสังหาริมทรัพยท่ีใชเปนหลักประกันใหแกกองทุนในระหวางจํานอง เม่ือกองทุนรับโอนมาแลว
จึงขอจดทะเบียนไถถอนจากจํานองจากเจาหนี้ของเกษตรกร ในการโอนอสังหาริมทรัพยใหแก
กองทุนระหวางการจํานองใหพนักงานเจาหนาที่รับจดทะเบียนประเภท “โอนตามกฎหมาย
(ระหวางจาํ นอง) (มาตรา ๓๗/๙ วรรคสอง แหงพระราชบัญญัติกองทุนฟนฟูและพัฒนาเกษตรกร
พ.ศ. ๒๕๔๒)” (หนงั สือกรมท่ดี ิน ดว นทส่ี ุด ท่ี มท ๐๕๑๕/ว ๐๖๘๐๕ ลงวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๔๙)

การจดทะเบียนทั้งกรณีไถถอนจากจํานอง โอนตามกฎหมาย และโอน
ตามกฎหมาย (ระหวางจํานอง) ไดรับการยกเวนไมตองเสียคาธรรมเนียม สําหรับภาษีเงินได
บุคคลธรรมดาหัก ณ ทจ่ี า ย ภาษธี รุ กิจเฉพาะ และอากรแสตมป การโอนอสังหาริมทรัพยจาก
เกษตรกรใหแกกองทุนไดรับยกเวนตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร วา
ดวยการยกเวนรัษฎากร (ฉบับที่ ๔๕๙) พ.ศ. ๒๕๔๙ กําหนดใหยกเวนภาษีเงินได ภาษี
ธรุ กจิ เฉพาะ และอากรแสตมป ใหแกเกษตรกรสําหรับเงินได รายรับ และการกระทําตราสาร
อันเนื่องมาจากการโอนอสังหาริมทรัพยของเกษตรกรที่ใชเปนหลักประกันการชําระหนี้ใหแก
กองทุนฟนฟูและพัฒนาเกษตรกร ในการรับภาระชําระหน้ีใหแกเจาหน้ีของเกษตรกร รวมถึง
กําหนดใหยกเวนภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป ใหกองทุนฟนฟูและพัฒนาเกษตรกร
สําหรบั รายรบั และการกระทาํ ตราสาร อนั เนอ่ื งมาจากการใหกูยืมเงินหรือการโอนอสังหาริมทรัพย
ที่ตกและโอนมาเปนของกองทุนคืนใหแกเกษตรกร ท้ังนี้ เฉพาะการใหกูยืมเงิน การโอน
อสังหาริมทรัพยและการกระทําตราสารท่ีไดกระทําตั้งแตวันที่ ๑ กุมภาพันธ ๒๕๔๙ เปนตนไป
(หนังสือกรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๕๑๕/ว ๒๑๘๐๓ ลงวันท่ี ๓ สงิ หาคม ๒๕๔๙)

๔. การจดทะเบยี นเปลี่ยนชอื่ ผูรบั จํานองระหวางกจิ การทเี่ ปน นิติบคุ คลเดียวกัน
ใหป ฏิบตั ิ ดงั นี้

๔.๑ เมอ่ื มีกรณีขอจดทะเบียนเพื่อลบชอ่ื กิจการวิเทศธนกจิ ทตี่ อทา ยชือ่ ธนาคาร
ผูร ับจาํ นองออกจากหนงั สอื แสดงสทิ ธิในที่ดิน หรือมีกรณีขอเปลี่ยนชื่อผูรับจํานองระหวางกิจการที่

20 คมู่ ือ การจดทะเบียนสทิ ธิและนติ ิกรรมประเภทก่อภาระผูกพันในอสังหารมิ ทรพั ย์

เปนนติ บิ คุ คลเดียวกันดงั กลา ว ใหพ นกั งานเจาหนาที่รับจดทะเบียนประเภท “เปลี่ยนช่ือผูรับจํานอง
(ระหวางกจิ การท่ีเปนนิตบิ คุ คลเดียวกัน)”

๔.๒ ในกรณีท่ีมีคูกรณีมายื่นขอจดทะเบียนเพียงฝายเดียว เนื่องจากผูรับ
จํานองท่ีมีช่ือในทางทะเบียนไดรับอนุญาตจากกระทรวงการคลังใหปดกิจการแลวใหพนักงาน
เจาหนาท่ีเรียกหนังสือกระทรวงการคลังที่อนุญาตใหปดกิจการเปนหลักฐานประกอบการขอจด
ทะเบียน

๔.๓ ในการรบั คําขอใหพ นักงานเจาหนา ทส่ี อบสวนใหทราบถึงสาเหตุของ
การเปลยี่ นชอ่ื ผรู ับจํานองลงไวใ นคาํ ขอ (ท.ด.๑, ท.ด.๑ ก) และคําขอ (ท.ด. ๙)

๔.๔ เรียกเกบ็ คาธรรมเนยี มประเภทไมม ีทุนทรพั ยแปลงละ ๕๐ บาท ตาม
กฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมาย
ทดี่ นิ พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๒ (๗) (ฑ) และไมต อ งเรียกเกบ็ ภาษอี ากร

๕. แมในขณะจดทะเบียนจํานองท่ีดินจะอยูภายในกําหนดหามโอน ๑๐ ป ตาม
มาตรา ๓๑ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน ก็สามารถจดทะเบียนจํานองได เพราะการจํานองไมใช
การโอนกรรมสทิ ธทิ์ ี่ดนิ การจดทะเบยี นจํานองรายน้ีจงึ ไมเ สียไปแตอยางใด แตเ มื่อรับจํานองแลวผูรับ
จํานองจะบังคับจํานองกอนครบกําหนดหามโอนไมได เพราะภายในกําหนดระยะเวลาหามโอน
ทีด่ ินนั้นไมอ ยใู นขายแหง การบังคับคดตี ามมาตรา ๓๑ วรรคทาย แหง ประมวลกฎหมายที่ดิน

๖. กรณีท่ีดินมีเจาของรวมหลายคน ความเปนเจาของของผูถือกรรมสิทธิ์รวม
แตละคนยอมกระจายไปท่ัวท่ีดินแปลงนั้นไมวาจะเปนสวนใดหรือตารางวาใด เมื่อเจาของคนใด
คนหน่ึงจํานองเฉพาะสวนของตนไว การจํานองยอมครอบคลุมไปท่ัวท้ังแปลงเชนเดียวกับสิทธิ
ของเจาของรวม (เทียบคําพิพากษาฎีกาที่ ๑๔๔๙/๒๕๒๔) แมตอมาในภายหลังจะมีการแบงแยก
ไมวาจะเปนการแบงแยกประเภทใดหรือแบงกรรมสิทธ์ิรวมก็ตาม หากผูรับจํานองมิไดตกลง
ยินยอมดวยแลวก็ตองถือวาการจํานองยังคงครอบที่ดินทุกแปลงอยูตามเดิม ผูรับจํานองยังคง
สามารถบังคับจํานองเอาจากท่ีดินทุกแปลงได เจาของที่ดินที่มิไดจํานองคงมีสิทธิเพียงแตจะขอ
แบงเงนิ ท่ีขายทดี่ นิ ไดจากการขายทอดตลาดอนั เนื่องมาแตการบังคับจํานองในสวนที่เปนของตน
ไดเทา นน้ั กรณเี ชนนีถ้ าจะใหถ อื วาเม่ือแบงกรรมสิทธิ์รวมแลว แมผูรับจํานองจะมิไดตกลงยินยอมดวย
สวนของเจาของท่ีดินที่ไมไดจํานองจะตองพนไปจากจํานองเลยเสียทีเดียวนาจะไมได เพราะ
มิฉะน้ันแลวเจาของท่ีดินอาจไปแบงกรรมสิทธิ์รวมกันโดยไมใหผูรับจํานองรูเปนที่เสียหายแก
ผูรบั จาํ นองได ในการแบงกรรมสิทธิร์ วมหากจะใหท ่ีดินสวนของเจาของท่ีดินท่ีมิไดจํานองพนจาก

คูม่ อื การจดทะเบียนสทิ ธิและนิตกิ รรมประเภทก่อภาระผูกพนั ในอสังหาริมทรพั ย์ 21

การจํานองจงึ ตองใหผ รู ับจาํ นองตกลงยินยอมดวย และการตกลงยินยอมของผูรับจํานองน้ีถือไดวา
เปนการตกลงกันแกไ ขเปลี่ยนแปลงจํานอง กลาวคือ เดิมการจํานองไดครอบไปหมดทุกสวนของ
ทด่ี นิ ตอมาเม่ือมกี ารแบง แยกคกู รณีไดตกลงแกไขเปล่ยี นแปลงใหการจํานองคงมีอยูเฉพาะสวนท่ี
เปนของผูจํานองสวนของผูท่ีมิไดจํานองใหพนจากการจํานองไป ซ่ึงการตกลงแกไขเชนนี้ตองจด
ทะเบียนครอบ – ปลอดจํานอง ตอพนักงานเจาหนาท่ี มิฉะน้ันจะยกขึ้นเปนขอตอสูบุคคลภายนอก
ไมไดตามประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย มาตรา ๗๔๖

๗. กรณีที่ดินมีการจํานองอยูตอมามีการจดทะเบียนแบงแยกในระหวางจํานอง
หากคูกรณีมิไดตกลงใหท่ีดินแปลงที่แยกไปพนจากการจํานอง พนักงานเจาหนาท่ีก็ตองจดทะเบียน
แบงแยกไปโดยครอบจํานอง และตองยกรายการจดทะเบียนจํานองไปจดแจงไวในหนังสือแสดง
สทิ ธิแปลงแยกดว ย ตามระเบยี บกรมท่ีดิน วาดวยการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับการ
จาํ นองทดี่ นิ และอสังหารมิ ทรพั ยอยา งอ่นื พ.ศ. ๒๕๕๐ ลงวันที่ ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๕๐ ขอ ๒๙

๘. กรณตี กึ แถวท่ี ส. ขอจดทะเบียนจํานองปลูกในท่ีดินอันเปนปาสงวนแหงชาติ
ซ่ึงไมม ีผูใดมสี ทิ ธิตามกฎหมาย เปนสาธารณสมบัตขิ องแผน ดนิ ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย
มาตรา ๑๓๐๔ และตามหลักกฎหมายทั่วไปหากผูปลูกสรางอาคารปลูกสรางโดยไมมีสิทธิ
สิ่งปลูกสรางยอมเปนสวนควบกับท่ีดินตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๑๔๔ เวนแต
ผูปลูกสรางจะสามารถพิสูจนไดวาส่ิงปลูกสรางนั้นไดปลูกทําลงไวเปนการช่ัวคราวหรือปลูกสราง
ลงโดยอาศัยสิทธิอยางใดอยางหน่ึง จึงจะไมตกเปนสวนควบกับท่ีดินตามประมวลกฎหมายแพง
และพาณิชย มาตรา ๑๔๖ สามารถร้ือถอนไปได แตสําหรับราษฎรที่ครอบครองที่ดินในเขตปา
สงวนโดยไมม สี ิทธยิ อ มทราบดีวา ไมมีทางจะไดกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดิน เน่ืองจาก
ไมอาจยกอายุความขน้ึ ตอ สูกบั แผน ดนิ ไดตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๑๓๐๖
ดังนน้ั แมส่งิ ปลกู สรางน้ันจะมีลักษณะเปน การติดตรงึ ตราแนน หนาถาวรอันถือวาเปนอสังหาริมทรัพย
ก็ตาม แตกห็ าไดต กเปนสวนควบกับที่ดินท่ีปลูกสรางน้ันไม ผูปลูกสรางจึงยังเปนเจาของอาคาร
สิ่งปลูกสราง เม่ือ ส. เปนเจาของตึกแถวดังกลาว และตึกแถวน้ันเปนอสังหาริมทรัพย จึงยอม
จํานองไดตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๗๐๓ และมาตรา ๗๐๕ และกรณี
เชนน้ีไมจําเปนตองใหผูดูแลที่สาธารณะใหความยินยอมกอนตามคําส่ังกระทรวงมหาดไทย ที่
๑๔๒๒/๒๔๙๗ ลงวนั ท่ี ๑๘ ธันวาคม ๒๔๙๗ แตอ ยา งใด

๙. การขอจดทะเบียนไถถอนจากจํานอง โดยปกติคูกรณีทั้งสองฝายจะตองมายื่น
คําขอจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาท่ีดวยกันท้ังคู กรณีที่ผูมีสิทธิในท่ีดินหรือผูมีสิทธิไถถอนจะ

22 คมู่ อื การจดทะเบียนสทิ ธิและนติ ิกรรมประเภทก่อภาระผกู พันในอสงั หาริมทรัพย์

ขอจดทะเบยี นไถถอนจากจํานองแตเ พยี งฝายเดียวไดก็ตองเปนไปตามที่บัญญัติไวใน มาตรา ๘๐
แหงประมวลกฎหมายที่ดนิ กลาวคอื จะตอ งมีหลักฐานจากผรู บั จํานองวา ไดมีการไถถอนจาํ นองแลว

กรณีทผี่ จู ํานองไดฟ องผูร บั จํานองเปนจําเลย ใหศ าลบงั คบั จาํ เลยดาํ เนินการให
โจทกจ ดทะเบียนไถถอนจํานองท่ีดิน ซ่งึ ตอ มาคูความไดทาํ สัญญาประนปี ระนอมยอมความกันวา
จําเลยยนิ ยอมใหโ จทกจ ดทะเบยี นไถถอนจํานองที่ดนิ ……………หรอื จําเลยยนิ ยอมดาํ เนินการอ่ืนใด
เพ่ือใหจ ดทะเบียนไถถอนจาํ นองที่ดินดังกลาวได… ……….……..หากจําเลยผิดนัดไมยอมปฏิบตั ิตามกใ็ ห
ถือเอาคําพิพากษาของศาลเปนการแสดงเจตนาแทนจําเลย การขอจดทะเบยี นไถถอนจํานองรายนี้
ไมถือวา เปนกรณีผมู สี ิทธิไถถอนมาขอจดทะเบียนไถถอนฝายเดยี ว ตามนยั มาตรา ๘๐ แหงประมวล
กฎหมายท่ดี ิน แตถือวา เปน การจดทะเบียนไถถอนจํานองโดยมีการแสดงเจตนาขอจดทะเบียนไถถอน
สองฝาย เมื่อโจทกไดปฏิบตั ิตามเง่ือนไขในสัญญาประนีประนอมยอมความครบถวนแลว ฝา ยจําเลย
ซ่ึงเปน ผรู บั จํานองไมมาย่ืนคาํ ขอจดทะเบียนดว ย กส็ ามารถใชค าํ พิพากษาตามยอมแทนการแสดง
เจตนาของจําเลยจดทะเบียนไถถอนจาํ นองใหโจทกได

๑๐. กรณีการทํานิติกรรมเก่ียวกับทรัพยสินของผูเยาวซึ่งตองขออนุญาตศาล
ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๑๕๗๔ เปน เร่ืองซึ่งคุมครองทรัพยส นิ ของผูเยาว
ซง่ึ ในการพิจารณาของศาลก็คงตอ งพิจารณาสภาวะแวดลอ มตา ง ๆ วาเหมาะสมที่จะทํานิติกรรม
ตามที่ขอหรือไม ซึ่งการท่ีศาลจะพิจารณาถึงความเหมาะสมดังกลาว ก็คงตองพิจารณาจากใน
ขณะนั้น ดังนั้น เม่ือศาลไดอนุญาตตามที่ขอแลวนาจะทํานิติกรรมตามนั้นไดในขณะน้ันเทาน้ัน
ซึ่งนาจะทํานิติกรรมไดตามน้ันเพียงครั้งเดียว หากจะทํานิติกรรมเชนนั้นอีกในภายหลังก็นาจะตอง
ขออนุญาตศาลเปนคราว ๆ ไปทุกคราวที่จะทํานิติกรรม การท่ี ว. ไดย่ืนคํารองตอศาลขอทํานิติกรรม
จาํ นองท่ดี นิ ซึ่งมีช่ือผูเยาวเปนผูถือกรรมสิทธ์ิ และศาลไดมีคําส่ังอนุญาตเมื่อป ๒๕๓๙ ซ่ึงระยะเวลา
นับแตเม่ือศาลไดอนุญาตไดลวงเลยมานานแลว การที่ ว. จะมาขอจดทะเบียนจํานองที่ดินดังกลาว
ในขณะนี้ จึงควรตองขออนุญาตศาลใหมเพ่ือใหศาลพิจารณาถึงความเหมาะสมในสภาวะแวดลอม
ปจ จุบนั วา จะเปน การเหมาะสมหรือไมเสียกอน ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา
๑๕๗๔ (๑)

๑๑. การหลุดเปนสิทธิจากจํานองตองเปนกรณีมีการฟองคดีตอศาล ตามประมวล
กฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๗๒๙ เทาน้ัน สวนการโอนชําระหน้ีจํานองก็คือการท่ีผูจํานอง
และผรู ับจาํ นองตกลงกันใหผูจาํ นองโอนทรัพยท่ีไดจํานองไวตีใชหน้ีท่ีมีการจํานอง โดยไมตองฟอง
คดตี อ ศาล การท่ี อ. จดทะเบยี นจาํ นองทด่ี ินไวก บั ธ. เพื่อเปน ประกันหน้ีการกูยืมเงิน ซ่ึงตามสัญญา

ค่มู อื การจดทะเบียนสิทธิและนติ ิกรรมประเภทก่อภาระผกู พนั ในอสังหารมิ ทรัพย์ 23

ประนีประนอมยอมความระหวาง ธ. โจทก กับ อ. จําเลย ซึ่งศาลไดพิพากษาตามยอมแลว
ปรากฏวา คูกรณีท้ังสองฝายไดตกลงกันให อ. ไถถอนท่ีดินจากการจํานอง หาก อ. ผิดนัดไม
ไถถอนจากจํานองภายในเวลาท่ีกําหนด จําเลยยอมใหทรัพยจํานองหลุดเปนกรรมสิทธิ์ของ ธ.
โดย อ. ยินยอมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินใหแก ธ. หาก อ. ไมยอมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธ์ิที่ดิน
ใหแก ธ. ใหถ อื เอาคาํ พพิ ากษาเปน การแสดงเจตนาของ อ. จําเลย แมข อ ความในสัญญาประนีประนอม
ยอมความดังกลาวจะระบุวา “จําเลยยอมใหทรัพยจํานองหลุดเปนกรรมสิทธ์ิของ ธ.” แตเม่ือ
ประเด็นน้ีศาลยังไมไดวินิจฉัยวาขอเท็จจริงเปนไปตามเง่ือนไขท่ีกฎหมายกําหนดเพื่อเรียกเอา
ทรัพยจํานองหลุดเปนสิทธิ ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๗๒๙ หรือไม
การท่ี ธ. มาขอจดทะเบียนโอนกรรมสิทธ์ิท่ีดินพิพาทใหแกตนเองตามคําพิพากษาตามยอมดังกลาว
จึงเปนการตกลงเอาท่ีดินท่ีจํานองตีใชหนี้กันระหวาง อ. ผูจํานอง กับ ธ. ผูรับจํานอง ตามประมวล
กฎหมายแพง และพาณิชย มาตรา ๓๒๑ วรรคหน่งึ ซง่ึ ตอ งจดทะเบยี นในประเภท “โอนชําระหน”ี้

๑๒. การที่ ส. และ ภ. เปนผูรับจํานองรวมกันสองคนในลักษณะเจาหน้ีรวม
แต ส. เพยี งคนเดียว ซ้ือท่ีดินท่ีลูกหน้ีไดจํานองไวเพื่อประกันหน้ีกูยืมเงินที่ผูจํานองมีตอผูรับจํานอง
ทั้งสองคนน้ัน เปนเหตุใหสิทธิและความรับผิดในหนี้กูยืมเงินรายนี้ ตกอยูแก ส. ในลักษณะหน้ี
เกลอ่ื นกลนื กนั และ ภ. ซึ่งเปนเจาหน้ีรวม อกี คนหนึง่ ยอ มตองรบั ผลแหง หนี้เกลื่อนกลืนกันของ
ส. เจาหน้ีรวมนั้นไปดวย ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๒๒๙ อันมีผลทําให
หน้ีกูยมื เงนิ ซึง่ มีการจาํ นองเปน ประกันไวน้ันระงับสิ้นไปในลักษณะหนี้เกล่ือนกลืนกัน เม่ือหนี้นั้น
ระงบั ไปการจํานองยอ มระงบั ไปดวย ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๗๔๔ (๑)
จงึ ใหจ ดทะเบยี นในประเภท “ระงับจาํ นอง (หน้ีเกลอ่ื นกลืนกัน)”

๑๓. เมื่อหนี้ที่ประกันยังไมระงับ ผูขอจะจดทะเบียนไถถอนจากจํานองโดย
อาศัยหลักฐานคําฟอ งสัญญาประนีประนอมยอมความ คําพิพากษาตามยอม และหนังสือรับรอง
ของศาลไมได ดังน้ัน หากผูขอประสงคจะขอจดทะเบียนไถถอนจากจํานองท่ีดินรายน้ี ผูขอและ
ผรู บั จํานองจะตองมายื่นขอจดทะเบียนไถถอน หรือนําหลักฐานซ่ึงผูรับจํานองไดทําไวเปนหนังสือวา
ไดมีการไถถอนแลว มายื่นคําขอจดทะเบียนไถถอนตอพนักงานเจาหนาท่ีตามนัยมาตรา ๗๒
หรือ ๘๐ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน แตถาไมอาจดําเนินการตามนัยดังกลาวได ก็เปนเรื่องที่
ผขู อจะตอ งไปใชส ทิ ธิทางศาลตอ ไป

๑๔. การขอจดทะเบียนไถถอนจากการจํานองสามารถดําเนินการไดสองวิธี คือ
(๑) คูกรณีท้ังสองฝายมายื่นคําขอขอจดทะเบียนไถถอนจากจํานองตอพนักงานเจาหนาท่ีตาม

24 คมู่ อื การจดทะเบยี นสทิ ธิและนิติกรรมประเภทก่อภาระผูกพนั ในอสังหาริมทรัพย์

มาตรา ๗๒ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน หรือ (๒) ผูมีสิทธิในท่ีดินหรือผูมีสิทธิไถถอนนําหลักฐาน
ซึ่งผูรับจํานองไดทําเปนหนังสือวาไดมีการไถถอนจากกันแลว มาขอจดทะเบียนไถถอนจากจํานอง
ตอพนักงานเจาหนาที่ตาม มาตรา ๘๐ วรรคแรก แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน เม่ือเรื่องน้ี ส.
ผูจํานองท่ีดินอางวา ผูรับจํานองไดสลักหลังสัญญาจํานองฉบับผูรับจํานองวา ไดมีการไถถอน
จากจํานองที่ดินกันแลว แตผูจํานองทําหลักฐานดังกลาวสูญหาย ซึ่งหากผูจํานองมีความประสงค
จะขอจดทะเบยี นไถถอนจากจาํ นองเพยี งฝายเดียว แมห ลักฐานหนังสือสัญญาจํานองท่ีผูรับจํานอง
สลักหลังวามีการไถถอนจากจํานองกันแลวไดสูญหายไป พนักงานเจาหนาท่ีชอบที่จะมีหนังสือ
เรียกผูรับจํานองมาดําเนินการสอบสวนโดยใชอํานาจตามนัยมาตรา ๗๔ แหงประมวลกฎหมาย
ทด่ี นิ (หากผูรับจํานองฝาฝนพนักงานเจาหนาที่ยอมแจงความตอพนักงานสอบสวน เพื่อดําเนินคดี
กับผูฝาฝนได) หากสอบสวนแลวปรากฏวา ผูรับจํานองไดรับชําระหน้ีจํานองและไดสลักหลังสัญญา
จํานองอันเปนการไถถอนจากจํานองกันแลว พนักงานเจาหนาที่ยอมจดทะเบียนไถถอนจาก
จํานองได

๑๕. บริษัท อ. จํานองที่ดินไวกับบริษัทเงินทุน เอ ตอมาบริษัทเงินทุน เอ
โอนขายสินเชื่อแกบริษัทบริหารสินทรัพย เชนน้ียอมมีผลใหการจํานองตกไปไดแกบริษัทบริหารสินทรัพย
ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๓๐๕ เม่ือไมไดนําไปจดทะเบียนตอพนักงาน
เจาหนาที่ก็ไมสามารถยกข้ึนเปนขอตอสูบุคคลภายนอกไดตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย
มาตรา ๗๔๖ คงใชบังคับไดระหวา งคูกรณีเทาน้ัน และหากจะจดทะเบียนประเภทอ่ืน ๆ เกี่ยวกับ
การจาํ นองหรือหน้อี ันจํานองเปน ประกนั ทไ่ี ดโ อนกันมาแลว นน้ั ตอ ไป เชน ปลอดจํานองหรือแบง
ไถถอนจากจํานอง ฯลฯ ตองจดทะเบียนโอนสิทธิการรับจํานองกอน มิฉะนั้น พนักงานเจาหนาท่ี
ก็ไมสามารถจดทะเบียนประเภทอ่ืน ๆ ดังกลาวใหได แตหากเปนกรณีท่ีบริษัท อ. ไดชําระหน้ี
แกบรษิ ัทบริหารสนิ ทรัพยตามสัญญาจาํ นองทีบ่ รษิ ทั บรหิ ารสินทรัพยรับโอนมาเสร็จสิ้นแลว และ
บริษัทเงนิ ทนุ เอ ไดท าํ หลักฐานเปน หนังสือรบั รองวา ไดมีการไถถอนแลว บริษัท อ. ผูมีสิทธิใน
ทีด่ นิ ยอมนําหนังสือรับรองจากบริษัทเงินทุน เอ ไปขอจดทะเบียนไถถอนตอพนักงานเจาหนาที่
ตามนยั มาตรา ๘๐ แหง ประมวลกฎหมายท่ดี นิ ไดโ ดยไมต อ งจดทะเบียนโอนสิทธกิ ารรบั จาํ นองกอน

๑๖. ทรัพยสินที่สามารถนํามาจํานองไดน้ัน ไดแก อสังหาริมทรัพยไมวาประเภทใด ๆ
และสังหาริมทรัพยบางอยา งตามทร่ี ะบุไว ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๗๐๓
แตทรัพยสินท่ีตองจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาท่ีตามมาตรา ๗๑ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
จะตองเปนอสังหาริมทรัพยเทานั้น และอสังหาริมทรัพยตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย

คมู่ อื การจดทะเบยี นสทิ ธิและนติ ิกรรมประเภทก่อภาระผกู พันในอสังหาริมทรพั ย์ 25

มาตรา ๑๓๙ หมายถึงที่ดินและทรัพยอันติดอยูกับท่ีดินที่มีลักษณะเปนการถาวรหรือประกอบ
เปนอันเดยี วกับท่ดี นิ นัน้ และหมายความรวมถึงทรพั ยสนิ อนั เกี่ยวกับที่ดินหรือทรัพยอันติดอยูกับ
ท่ีดินหรือประกอบเปนอันเดียวกับที่ดินนั้นดวย ซึ่งทรัพยสิทธิอันเกี่ยวกับที่ดินท่ีจะถือวาเปน
อสังหาริมทรัพยนั้นจะตองกอตั้งขึ้นโดยกฎหมายเทาน้ัน บุคคลจะตองกอต้ังข้ึนเองโดยนิติกรรม
ไมไดตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๑๒๙๘ แตสิทธิการเชาเปนสิทธิซ่ึงเกิดจาก
สัญญาทผ่ี ใู หเชาตกลงใหผ เู ชาไดใชห รือไดรับประโยชนในทรพั ยส ินอยา งใดอยางหน่ึงช่ัวระยะเวลา
อันมจี าํ กดั และผเู ชา ตกลงใหคาเชาเพือ่ การนน้ั (ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย มาตรา ๕๓๗)
เปน สิทธทิ ่บี งั คับเอาแกบคุ คลใหกระทาํ การหรอื มิใหกระทําการอยางใดอยางหนึ่ง มิไดมุงถึงตัวทรัพยสิน
ทเ่ี ชา สทิ ธิการเชา จึงเปน บคุ คลสทิ ธิ มใิ ชท รพั ยอ นั เกย่ี วกบั ทดี่ ินท่ีถอื วา เปน อสังหาริมทรัพยท่ีจะนํามา
จดทะเบียนจํานองได เวนแตจะมีกฎหมายบัญญัติไวเปนการเฉพาะ เชน ตามมาตรา ๖ แหงพระราชบัญญัติ
การเชา อสงั หาริมทรัพยเพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๔๒ ซ่ึงกําหนดใหสิทธิการเชา
จดทะเบียนจํานองได ฉะนั้น การที่ ส. และธนาคารยื่นคําขอใหพนักงานเจาหนาที่จดทะเบียน
จํานองสิทธิการเชาที่ดินราชพัสดุเพ่ืออยูอาศัย พนักงานเจาหนาท่ีจึงไมสามารถดําเนินการจดทะเบียน
ใหได

๑๗. การจํานองท่ีดินเพื่อประกันคาเสียหายอันจะเกิดข้ึนจากการปฏิบัติตามสัญญาจาง
เกบ็ เงนิ ของลกู จางผูจํานองท่ีมีตอการไฟฟาสวนภูมิภาค นายจางผูรับจํานองซึ่งไดจดทะเบียนจํานอง
ไวแลวน้ัน ตอมาเมื่อประสงคจะขอแกไขเปลี่ยนแปลงขอความในสัญญาจํานองเดิมจากจํานอง
เพอื่ เปน ประกันคาเสียหายอันอาจเกิดขึ้นจากการปฏิบัติตามสัญญาตั้งตัวแทนเก็บเงิน ถือไดวาเปน
การเปล่ียนสิ่งซ่ึงเปนสาระสําคัญแหงหน้ีดวยการแปลงหนี้ใหม ตามประมวลกฎหมายแพงและ
พาณิชย มาตรา ๓๔๙ การแกไขเปล่ียนแปลงจํานองเดิมเพ่ือเปนประกันมูลหนี้ใหมเชนนี้ ถาจะให
มผี ลยกขึน้ เปนขอตอ สบู คุ คลภายนอกไดจ ะตอ งทาํ การจดทะเบียนในประเภท “แกไขเปล่ียนแปลงจํานอง
(แปลงหนีใ้ หม) ”

๑๘. ตามนัยขอ ๕ แหงกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความใน
พระราชบัญญตั ิใหใชป ระมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ที่ใหมีการประกาศการขอจดทะเบียน
สทิ ธแิ ละนิติกรรมกอ นน้นั มีวัตถุประสงคเพ่ือใหผูมีสวนไดเสียเกี่ยวกับท่ีดินท่ีจะขอจดทะเบียนมี
โอกาสโตแ ยง คดั คานในเร่ืองตําแหนงท่ีต้ังและอาณาเขตของท่ีดิน รวมตลอดท้ังสิทธิครอบครองของ
ผูท่ีอางวาเปนเจาของ เมื่อกรณีเปนเรื่องซึ่งพนักงานเจาหนาที่ไดทําประกาศการขอจดทะเบียน
ครบตามกําหนดแลว ตอมาผูขอจะขอใหแกไขโดยการเพ่ิมวงเงินท่ีจํานอง เชน เดิมย่ืนคําขอ

26 คู่มอื การจดทะเบยี นสทิ ธิและนิติกรรมประเภทก่อภาระผกู พันในอสงั หาริมทรัพย์

ระบจุ ํานวนเงนิ ที่จํานองไว ๑๐๐,๐๐๐ บาท เมื่อประกาศครบกําหนดขอแกไขจํานวนเงินท่ีจํานอง
เปน ๒๐๐,๐๐๐ บาท การท่ีแกไ ขวงเงินทจ่ี ํานองเชนนี้เปนการแกไขในส่ิงซึ่งมิใชสาระสําคญั และไม
มีผลเปนการเปล่ียนแปลงสิทธิในท่ีดิน หรือกระทบกระเทือนสิทธิของบุคคลอื่น จึงไมทําใหการ
ประกาศท่ไี ดดาํ เนินการไวแลวตองเสียไปดวย พนักงานเจาหนาที่จึงควรบันทึกความประสงคของ
ผขู อไวเ ปนหลักฐาน แลว ดาํ เนินการจดทะเบยี นตอ ไปโดยไมตอ งประกาศใหมอกี

๑๙. แมใ นการโอนสทิ ธเิ รียกรอ งระหวาง ธนาคารสยาม จํากัด กับธนาคารกรุงไทย
จาํ กัด จะมผี ลใหการจาํ นองตกไปไดแก ธนาคารกรุงไทย จํากัด ตามนัยประมวลกฎหมายแพง
และพาณิชย มาตรา ๓๐๕ แตหากไมนําความไปจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาท่ีแลวยอมไม
สามารถยกขน้ึ เปนขอตอสูบคุ คลภายนอกได ตามนัยประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา
๗๔๖ คงใชบังคับไดระหวางคูกรณีเทานั้น และหากจะจดทะเบียนประเภทอ่ืน ๆ เกี่ยวกับการ
จํานองหรือหนจี้ ํานองเปนประกันทไี่ ดโอนกันมาแลวนั้นตอไป เชน ปลอดจํานอง หรือแบงไถถอน
จากจํานอง ฯลฯ ตองจดทะเบียนโอนสิทธิการรับจํานองกอน มิฉะน้ันพนักงานเจาหนาที่ก็ไมอาจ
จดทะเบียนประเภทอน่ื ๆ ดงั กลาวใหได

กรณีท่ีธนาคารกรุงไทย จํากัด ไดรับชําระหน้ีอันจํานองเปนประกันเสร็จสิ้นแลว
หากธนาคารสยาม จํากัด ไดทําหลักฐานเปนหนังสือรับรองวาไดมีการไถถอนแลว ผูมีสิทธิใน
ทดี่ ินหรือผูมสี ทิ ธิไถถอนยอ มนาํ หนงั สอื แสดงสิทธิในท่ีดิน พรอมท้ังหลักฐานการชําระหนี้และหนังสือ
รับรองจากธนาคารสยาม จํากัด ดังกลาวไปขอจดทะเบียนไถถอนตอพนักงานเจาหนาท่ีไดตามนัย
มาตรา ๘๐ แหง ประมวลกฎหมายท่ีดิน โดยไมตอ งจดทะเบยี นโอนสิทธกิ ารรบั จาํ นองกอ น

การท่ี ธนาคารกรุงไทย จาํ กัด ตกลงกับผูจํานองเพิ่มจํานวนเงินจํานองเดิมอีก
ภายหลังจากท่ีไดโอนสิทธิเรียกรองกันมาแลวเชนนี้ เปนการกอหน้ีข้ึนมาใหมอันเปนหน้ีตางราย
กับทีไ่ ดจดทะเบียนไวแลว ธนาคารกรุงไทย จํากัด จึงตองจดทะเบียนเปนจํานองรายใหม โดย
จดทะเบยี นในประเภทจาํ นองลําดบั ท่สี อง

๒๐. ในการจดทะเบยี นจํานองเพ่ิมหลักทรัพยใหจัดทําสัญญาจํานองเพิ่มหลักทรัพย
โดยใชแบบหนังสือสัญญาจํานองที่ดิน (ท.ด. ๑๕) หนังสือสัญญาจํานองท่ีดินเฉพาะสวน (ท.ด.๑๕ ก)
หรอื หนังสือสัญญาจํานอง (ท.ด.๙) รวมท้งั คาํ ขอ (ท.ด.๑) และการจดบนั ทกึ รายการจดทะเบียน

๒๑. กรณีท่นี ติ บิ คุ คลหนึง่ ขอจดทะเบียนจํานองอสังหาริมทรัพยเปนประกันหน้ี
ของนิติบุคคลอ่ืนซ่ึงนิติบุคคลท้ังสองมีผูแทนนิติบุคคลเปนคนเดียวกัน กรณีนี้ไมถือวาประโยชน

คูม่ ือ การจดทะเบียนสทิ ธิและนิติกรรมประเภทก่อภาระผกู พนั ในอสังหาริมทรพั ย์ 27

ของนติ บิ ุคคลขัดกบั ประโยชนไดเสียของผูแทนนิติบุคคล พนักงานเจาหนาที่สามารถจดทะเบียน
จาํ นองใหได

กรณีที่นิติบุคคลจดทะเบียนจํานองอสังหาริมทรัพย เพ่ือเปนประกันหนี้ของผูแทน
นิติบุคคลในฐานะสวนตัว กรณีนี้ถือวาประโยชนไดเสียของนิติบุคคลขัดกับประโยชนไดเสียของ
ผแู ทนนิตบิ คุ คลพนักงานเจา หนาที่ไมสามารถจดทะเบยี นจํานองใหไ ด

กรณที ีผ่ ูแทนของนติ ิบุคคลในฐานะสว นตวั นาํ ท่ดี ินของตนไปจํานองเปนประกันหนี้
ของนิติบุคคลซึ่งตนเองเปนผูแทน กรณีน้ีไมถือวาประโยชนไดเสียของนิติบุคคลขัดกับประโยชน
ไดเสยี ของผแู ทนนิติบคุ คล พนักงานเจาหนา ทีส่ ามารถจดทะเบียนจํานองใหไ ด

การที่ บ. และ ต. กรรมการผูมีอํานาจลงนามผูกพันบริษัทฯ ไดลงนามในหนังสือ
มอบอาํ นาจให ท. ทํานิตกิ รรมจดทะเบียนจํานองที่ดินแปลงดังกลาวแทนบริษัทฯ โดยที่ บ. ยังมี
ฐานะเปนผูรับจํานองรวมกับผูรับจํานองอ่ืนอีก ๕ คน จึงถือวาเปนกรณีท่ีประโยชนไดเสียของ
นิติบุคคลขัดกับประโยชนไดเสียของผูแทนนิติบุคคล ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย
มาตรา ๗๔ ดงั น้นั พนกั งานเจาหนาที่จึงไมส ามารถจดทะเบียนจํานองท่ดี นิ ใหบ ริษทั ฯ ได
(หนงั สอื กรมที่ดิน ทม่ี ท ๐๖๑๐/ว ๐๘๔๒๙ ลงวันท่ี ๒๖ มนี าคม ๒๕๓๖)

๒๒. สํานักงานคณะกรรมการศึกษาเอกชนเปนสวนราชการที่เรียกช่ืออยางอื่น
และมีฐานะเปน กรม สงั กัดกระทรวงศึกษาธกิ าร มีฐานะเปนนิติบุคคลจึงมีอํานาจท่ีจะจดทะเบียน
รบั จาํ นองอสงั หารมิ ทรพั ยเพ่ือเปนประกันตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวาดวยเงินทุนหมุนเวียน
เพอื่ พัฒนาการศกึ ษาโรงเรียนเอกชน พ.ศ. ๒๕๓๒ ได (หนงั สือกรมทด่ี ิน ที่ มท ๐๖๑๐/ว ๐๙๓๗๗
ลงวันท่ี ๗ เมษายน ๒๕๓๖)

๒๓. การข้ึนเงินจากจํานองมิไดมีบัญญัติไวโดยตรงในประมวลกฎหมายแพงและ
พาณิชย แตการข้ึนเงินจากจํานองก็คือการจํานอง ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา
๗๐๒ กลาวคอื เปนการนาํ อสังหารมิ ทรัพยท ไี่ ดจํานองไวแ ลว มาจํานองเปน ประกันกับหน้ีอีกจํานวนหน่ึง
ดงั นั้น การท่คี สู ญั ญาไดจ ํานองอสังหาริมทรพั ยเ ปนประกันหน้ีไวจํานวนหนึ่งแลว ตอมาประสงค
จะใหอสังหาริมทรัพยน้ันเปนประกันหนี้อีกจํานวนหนึ่ง แมหนี้ดังกลาวจะเปนหน้ีที่มีลูกหน้ีและ
เจาหน้ีคนเดียวกันและมีมูลหนี้ประเภทเดียวกันก็ตาม ถาคูสัญญาไมประสงคจะใหจดทะเบียน
ประเภทข้ึนเงินจากจํานองแตจะขอใหจดทะเบียนประเภทจํานองลําดับสอง พนักงานเจาหนาที่
ก็ชอบทจ่ี ะจดทะเบยี นใหไ ด

๒๔. การจดทะเบยี นจํานองเพือ่ เปนประกันการออกหุนกู

28 คูม่ ือ การจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิติกรรมประเภทกอ่ ภาระผกู พนั ในอสังหารมิ ทรัพย์

(๑) เมื่อมีผู้มาขอจดทะเบียนจํานองอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นประกันการ
ออกหุ้นกู้หรือที่เกี่ยวเน่ืองกับการจํานอง ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
พ.ศ. ๒๕๓๕ ให้พนักงานเจา้ หนา้ ทีด่ ําเนนิ การจดทะเบียนตามระเบยี บและวธิ กี าร

(ก) การระบุชื่อผู้รับจํานองใน ท.ด. ๑ สัญญาจํานอง สารบัญจด
ทะเบียน และเอกสารท่ีเกี่ยวข้อง ให้ระบุต่อท้ายชื่อผู้รับจํานองว่า เป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัทใด
เช่น “ธนาคาร เอ จาํ กดั ผ้แู ทนผู้ถือหนุ้ กู้ของ บริษัท บี จํากัด ผูร้ บั รอง” เปน็ ตน้

(ข) การระบุข้อความเกี่ยวกับการประกันหนี้ใน ท.ด. ๑ สัญญาจํานอง
และเอกสารท่เี กีย่ วขอ้ งให้ระบุวา่ จาํ นองเพ่อื เปน็ ประกนั การออกหนุ้ กู้ของบริษทั ใด และตามข้อ
กําหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้ และผู้ถือหุ้นกู้ฉบับใดด้วย เช่น “เพื่อเป็นประกัน
การออกหุ้นกู้ของ บริษัท บี จํากัด ตามข้อกําหนดว่าด้วยสิทธิและหน้าที่ของผู้ออกหุ้นกู้และ
ผถู้ ือหนุ้ กู้ฉบับลงวันท่…ี ……เดอื น……………….พ.ศ. ….” เป็นต้น

การระบุข้อความตาม (ก) และ (ข) ปฏิบัติตามตัวอย่างท้ายหนังสือกรมที่ดิน
ที่ มท ๐๖๑๐/ว ๒๒๕๙๔ ลงวันท่ี ๒๓ สิงหาคม ๒๕๓๖

(๒) ผู้ขอต้องนําหลักฐานเช่นเดียวกับการจดทะเบียนจํานองปกติ และ
ตอ้ งนาํ เอกสารดงั ตอ่ ไปนี้มาแสดงและเก็บไวเ้ ป็นหลกั ฐานด้วย คือ

(ก) หลักฐานการอนุญาตให้ออกหุ้นกู้ของสํานักงานคณะกรรมการ
กาํ กับหลกั ทรัพยแ์ ละตลาดหลักทรัพย์

(ข) สัญญาแต่งตั้งผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ พร้อมด้วยหลักฐานความเห็นชอบ
ของสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่ให้ผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ท่ีมาขอ
จดทะเบยี นนน้ั เปน็ ผ้แู ทนผถู้ ือหนุ้ กู้

(ค) ข้อกําหนดวา่ ด้วยสิทธแิ ละหนา้ ทข่ี องผ้อู อกหุ้นกูแ้ ละผถู้ ือหนุ้ กู้
อนงึ่ หากผแู้ ทนผ้ถู อื หุ้นกเู้ ปน็ นิติบุคคล นติ บิ ุคคลนั้นต้องมีวัตถุประสงค์
ในการเป็นผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ด้วย (หนังสือกรมที่ดิน ท่ี มท ๐๖๑๐/ว ๒๒๕๙๔ ลงวันที่ ๒๓
สงิ หาคม ๒๕๓๖)
๒๕. การจดทะเบียนไถ่ถอนจากจํานํา (ตามประกาศเรื่องจํานําแลขายฝากท่ีดิน
ร.ศ. ๑๑๘)
กรณีที่ผู้ไถ่ถอนไม่สามารถติดตามตัวผู้รับจํานําหรือทายาทของผู้รับจํานํา เพ่ือขอ
ไถถ่ อนจากจํานําได้ หากผไู้ ถ่ถอนได้นําเงินไปวางทรัพย์เพื่อเป็นการชําระหน้ีถูกต้องแล้ว พร้อมท้ัง

ค่มู อื การจดทะเบยี นสิทธแิ ละนิตกิ รรมประเภทก่อภาระผูกพันในอสังหารมิ ทรพั ย์ 29

ไดแสดงตอสํานักงานวางทรัพย วาตนยอมสละสิทธิท่ีจะถอนทรัพยที่วางไวตาม มาตรา ๓๓๔
วรรคสอง (๑) แหง ประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย กใ็ หพนักงานเจาหนาที่รับจดทะเบียนให
ในประเภท “ไถถอนจํานํา” ซ่ึงแนวทางปฏิบัติเชนนี้ใหใชไดเฉพาะการจดทะเบียนจํานําเทานั้น
หากเปนการจดทะเบียนจาํ นองไมอ าจถอื ปฏบิ ตั ติ ามหนังสือฉบบั น้ีได

๒๖. กองทุนรวมรับจาํ นองอสังหารมิ ทรพั ยเ พ่ือเปน หลักประกนั การลงทนุ
การท่ีบริษทั หลกั ทรพั ยจ ัดการกองทนุ รวม (บลจ.) นําทรพั ยสินของกองทุน

รวมไปลงทุนในการซื้อตราสารตาง ๆ อันเปนการดําเนินการเพ่ือหาผลประโยชนใหแกกองทุนรวม
และจัดใหผูออกตราสารหรือผูขายตราสารนําอสังหาริมทรัพยมาจดทะเบียนจํานองไวกับกองทุน
รวมเพื่อเปนหลักประกันการลงทุนหรือการชําระหนี้ เปนการดําเนินกิจการท่ีอยูในขอบ
วัตถุประสงคของกองทุนรวมตามพระราชบัญญัติหลักทรัพยและตลาดหลักทรัพย พ.ศ. ๒๕๓๕
กองทุนรวมจึงสามารถรบั จํานองอสังหาริมทรัพยเพ่อื เปน ประกนั การลงทนุ ดงั กลา วได

๒๗. การจดทะเบียนประเภท “โอนมรดกสิทธิการรับจํานอง” และ “โอนสิทธิ
การรบั จํานอง”

(๑) กรณผี ูรับจํานองถึงแกกรรม และทายาทขอรับมรดกสิทธิการรับจํานอง
ใหจดทะเบียนประเภท “โอนมรดกสิทธิการรับจํานอง” โดยเรียกเก็บคาธรรมเนียมในประเภท
ไมม ีทุนทรพั ย

(๒) กรณีผูร บั จาํ นองโอนสิทธิการรับจํานองใหบุคคลอ่ืนซ่ึงเปนการแปลง
หนี้ใหมใหจดทะเบียนประเภท “โอนสิทธิการรับจํานอง” โดยเรียกเก็บคาธรรมเนียมเชนเดียวกับ
การจดทะเบยี นจาํ นอง

๒๘. การจดท ะเบียนโอนสิท ธิการรับจํานองแกนิติบุคคลเฉพา ะกิจ
การจดทะเบียนโอนสิทธิการรับจํานองใหแกนิติบุคคลเฉพาะกิจ ตามพระราชกําหนดนิติบุคคล
เฉพาะกิจเพ่อื การแปลงสนิ ทรพั ยเ ปน หลักทรพั ย พ.ศ. ๒๕๔๐ สรุปได ดังนี้

(๑) กรณีอสังหาริมทรัพยจดทะเบียนจํานองเปนประกันไวกับผูรับจํานอง
รายเดยี วแตหลายมูลหน้ี

บริษัท A จดทะเบียนจํานองท่ีดินไวกับธนาคาร ก. เปนเงิน ๘๐
ลานบาท โดยบริษทั A ไดแยกมูลหนี้ท่ีจดทะเบียนจํานองไวเปนประเภท ๆ เชน จํานองท่ีดิน
เพื่อเปนประกันหน้ีเงินกูกอสรางโครงการ ๓๐ ลานบาท หน้ีเบิกเงินเกินบัญชี ๒๕ ลานบาท
หนค้ี าซ้ือวัตถดุ ิบ ๒๕ ลา นบาท ตอ มาธนาคาร ก. ประสงคโอนสิทธิการรับจํานองเฉพาะในมูลหน้ี

30 คู่มือ การจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิตกิ รรมประเภทก่อภาระผูกพันในอสังหารมิ ทรพั ย์

หนงึ่ ใหนิตบิ คุ คลเฉพาะกิจ ใหพนักงานเจาหนาที่รับจดทะเบียนในประเภท “โอนสิทธิการรับจํานอง
บางสวน” โดยระบุมูลหน้ีพรอมวงเงินที่โอนสิทธิการรับจํานองใหชัดเจน เชน โอนสิทธิการรับ
จาํ นองบางสวน เฉพาะมูลหน้ีกอ สรา งโครงการ ๓๐ ลานบาท เปนตน

หากในการจดทะเบียนจํานองกับธนาคาร ก. มิไดแยกมูลหน้ีที่จํานองใหทราบ
วามูลหน้ีใด จํานองในวงเงินเทาใด ตอธนาคาร ก. จะโอนสิทธิการรับจํานองเฉพาะมูลหนี้ใด
มูลหน้ีหนึ่งใหกับนิติบุคคลเฉพาะกิจ จะตองใหผูจํานองและผูรับจํานองดําเนินการแยกมูลหนี้ท่ีโอน
และมูลหนี้ท่ีเหลือเสียกอน โดยจดทะเบียนใหมประเภท “แกไขหน้ีอันจํานองเปนประกัน”
แลวจึงจดทะเบียนในประเภท “โอนสิทธกิ ารรบั จาํ นองบางสวน”

(๒) กรณีอสงั หารมิ ทรัพยจํานองเปนประกันเจา หนหี้ ลายราย
บริษัท A จดทะเบียนจํานองที่ดินไวกับ ธนาคาร ก. ธนาคาร ข.

ธนาคาร ค. รว มกันเปนเงนิ ๘๐ ลา นบาท โดยระบวุ า จํานองเพื่อเปนประกันหนี้ที่มีตอธนาคาร
ก. จาํ นวน ๓๐ ลา นบาท ตอ ธนาคาร ข. จํานวน ๒๕ ลานบาท และตอธนาคาร ค. จํานวน
๒๕ ลานบาท ตอมา ธนาคาร ก. ประสงคโอนสิทธิการรับจํานองในมูลหนี้ ๓๐ ลานบาท ใหกับ
นิติบุคคลเฉพาะกิจ กรณีน้ีธนาคาร ก. สามารถจดทะเบียนประเภท “โอนสิทธิการรับจํานอง
เฉพาะสวน” ใหแ กนิติบคุ คลเฉพาะกจิ ได

หากธนาคาร ก. ประสงคจะโอนสิทธิการรับจํานองในสวนของตนเพียง
๒๐ ลานบาท จากมลู หนท้ี ่ตี นรับจํานองไว ๓๐ ลานบาท โดยธนาคาร ก. ยังคงเปนเจา หน้ีอยู
๑๐ ลานบาท ใหพ นักงานเจา หนา ท่ีรบั จดทะเบียนในประเภท “โอนสิทธิการรับจํานองเฉพาะสวน
เพียงบางสวน” โดยระบใุ หชดั เจนวา ธนาคาร ก. โอนสิทธิการรับจํานองเฉพาะสวนของตนเพียง
บางสว นในมูลหนเ้ี ปน จาํ นวนเงนิ เทา ใด การรบั จํานองในสวนของผูอ่ืนโดยชอบ (หนังสือกรมท่ีดิน
ท่ี มท ๐๗๑๐/ว ๒๕๔๔๘ ลงวันท่ี ๒๒ กันยายน ๒๕๔๑)

๒๙. กรณนี ติ บิ ุคคลตางประเทศ หรือธนาคาร หรือสถาบันการเงินที่จัดต้ังขึ้น
ตามกฎหมายตางประเทศและไมมีสาขาในประเทศไทย จะดําเนินการรับจํานองอสังหาริมทรัพย
กอ นจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ ิกรรมใหพ นกั งานเจา หนาที่สอบสวนถึงที่มาของเงินท่ีนํามารับจํานอง
ดวยวาเปนเงินท่ีไดมาจากการรับฝากเงินจากประชาชนในประเทศไทยหรือไม หากที่มาของเงิน
ไมไ ดเ กิดจากการรบั ฝากเงนิ จากประชาชนในประเทศไทย กไ็ มเขาขา ยการประกอบธรุ กิจเครดิต
ฟองซิเอร ตามพระราชบัญญัติธรุ กจิ สถาบนั การเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ (หนังสือกรมท่ดี นิ ท่ี มท ๐๕๑๕/
ว ๒๗๔๒ ลงวนั ที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๕๒)

ค่มู อื การจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนติ ิกรรมประเภทกอ่ ภาระผกู พนั ในอสงั หารมิ ทรพั ย์ 31

๓๐. เจาของทด่ี ินหรอื อสังหารมิ ทรพั ยอน่ื ซ่งึ ไดจ าํ นองที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย
อ่ืนไวแลว มาย่ืนคําขอจดทะเบียนไถถอนจากจํานองฝายเดียว โดยนําหลักฐานการวางทรัพย
ไมวา จะผูวางจะไดแ สดงเจตนาขอสละสิทธถ์ิ อนทรพั ยทว่ี างไวตอ เจาพนักงานวางทรัพย กรมบังคับคดี
หรือไม หรือรอใหเ จาหนมี้ าขอรับทรัพยทว่ี างไว หรือรอใหครบสิบป ตามมาตรา ๓๓๙ แหงประมวล
กฎหมายแพงและพาณิชยก็ไมเปนเหตุใหการจํานองระงับส้ินไป พนักงานเจาหนาที่จึงไมอาจจด
ทะเบียนไถถอนจากจํานองฝายเดียวได เวนแตจะเปนการจํานองที่ดินซ่ึงมีหนังสือแสดงสิทธิใน
ที่ดิน และผูรบั จาํ นองไดทําหลักฐานเปนหนังสือวาไดมีการไถถอนแลวมาแสดงตอพนักงานเจาหนาที่
ตามมาตรา ๘๐ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน พนักงานเจาหนาท่ีจึงจดทะเบียนไถถอนจากจํานอง
ฝายเดียวได (หนังสอื กรมท่ดี นิ ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๓๙๓๓ ลงวนั ท่ี ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖)

๓๑. การจดแจงครอบจํานอง กรณจี ดทะเบียนแบงกรรมสทิ ธิ์รวมและการเขยี นชอื่
ประเภทการจดทะเบียนจํานองระหวางภาระผกู พัน สรปุ ไดดงั นี้

(๑) กรณีหนังสือแสดงสทิ ธใิ นที่ดินมชี ่อื ผถู อื กรรมสิทธิ์หลายคนและจดทะเบยี น
จาํ นองรวมกันไว ตอมาผูถ ือกรรมสทิ ธขิ์ อจดทะเบียนแบง กรรมสิทธิ์รวม หากคูกรณีไมประสงคจะ
ใหท่ีดินแปลงแยกพนจากการจํานอง รายการจดทะเบียนท่ีมีการจดแจงครอบจํานองในหนังสือ
แสดงสิทธิในทีด่ นิ แปลงแยก ใหย กเฉพาะช่อื เจา ของทีด่ นิ ทีเ่ ปน ผูถ อื กรรมสทิ ธ์ิตามหนาโฉนดท่ีดิน
แปลงแยกมาลงไวเทา น้ัน ไมตองยกรายช่อื ผจู าํ นองทัง้ หมดมาลงไว

(๒) กรณีท่ีดินหรืออสังหาริมทรัพยที่มีผูมาขอจดทะเบียนจํานองมีการจด
ทะเบียนทรัพยสิทธิและการเชาผูกพันอยู เชน ภาระจํายอม สิทธิเก็บกิน การเชา โดยผูรับจํานอง
ทราบถึงภาระผกู พนั นัน้ แลว ใหเขียนชื่อประเภทวา “จํานอง (ระหวางภาระจํายอม)” หรือ “จํานอง
(ระหวางสิทธิเกบ็ กิน)” หรือ “จาํ นอง (ระหวางเชา )” แลว แตกรณี ทั้งนี้ตามนัยขอ ๒๔ วรรคสอง
แหงระเบียบกรมที่ดิน วาดวยการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเก่ียวกับการจํานองที่ดินและ
อสังหาริมทรัพยอยางอ่ืน พ.ศ. ๒๕๕๐ (หนังสือกรมที่ดิน ที่ มท ๐๕๑๕.๑/ว ๑๔๒๙๕ ลงวันที่
๔ มถิ ุนายน ๒๕๕๖

๓๒. ผูชําระบัญชีของบริษัทจะทําการจดทะเบียนจํานองเพ่ิมหลักทรัพยโดยไม
เพิ่มวงเงินใหแกกองทุนเพื่อการฟนฟูฯ ไดภายใตกรอบอํานาจทั่วไปของผูชําระบัญชีตามประมวล
กฎหมายแพง และพาณิชย มาตรา ๑๒๕๐ ประกอบมาตรา ๑๒๕๙ (๔) อยางไรกต็ ามหากการ
ทํานิติกรรมดังกลาวมีลักษณะเปนการทําใหเจาหนี้รายอ่ืนของบริษัทฯ เสียเปรียบตามประมวล
กฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๒๓๗ กลาวคือ ทําใหเจาหนี้รายอื่นของบริษัทฯ นอกจาก

32 คู่มือ การจดทะเบยี นสทิ ธแิ ละนิติกรรมประเภทก่อภาระผูกพันในอสังหาริมทรัพย์

กองทุนเพ่ือการฟนฟูฯ ไมไดรับชําระหน้ีเต็มจํานวนหรือไดรับชําระหน้ีนอยกวาท่ีควรจะได
เจา หนี้ท่ีไดรับความเสียหายมีสิทธิจะฟองรองตอศาลขอใหเพิกถอนนิติกรรมจํานองเพิ่มหลักทรัพยน้ีได
และเม่อื ศาลมีคําส่งั ใหเพิกถอนแลว จะมีผลเสมอื นวา มไิ ดมกี ารทาํ นิตกิ รรมจํานองหลักทรัพยเพ่ิม
แตอยา งใด

๓๓. การทีถ่ ังเกบ็ นาํ้ มนั จะจดทะเบยี นจํานองไดห รอื ไมน ั้นข้ึนอยูกับสภาพขอเท็จจริง
ของถังเก็บนํ้ามัน กลาวคือ หากสภาพของถังเก็บนํ้ามันมีลักษณะติดตรึงตราแนนหนาถาวรกับที่ดิน
ยอมถือไดวาถังเก็บน้ํามันเปนทรัพยอันติดอยูกับท่ีดินซึ่งเปนอสังหาริมทรัพย ตามประมวลกฎหมาย
แพงและพาณิชย มาตรา ๑๐๐ และจดทะเบียนไดตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย
มาตรา ๗๐๓ หากสภาพของถังเก็บน้ํามันมิไดมีลักษณะติดตรึงตราแนนหนาถาวรกับท่ีดินแลว
กถ็ อื ไดว าเปน สงั หารมิ ทรัพยซ่งึ ไมอาจจดทะเบยี นจํานองได (เทยี บคําพิพากษาฎีกาที่ ๓๙๙/๒๕๐๙)

๓๔. เดิม ก. ไดจํานองที่ดินไวกับองคการอุตสาหกรรมปาไม เพื่อประกันหน้ี
ของ พ. แตผเู ดียว ตอมาคูกรณไี ดติดตอขอใหจดทะเบียนแกไขเปลี่ยนแปลงจํานองเดิม โดยจะ
ขอเพมิ่ เตมิ วาเพื่อประกนั หน้ีของบริษัทที่อาจจะพึงมีตอองคการอุตสาหกรรมปาไมผูรับจํานองอีก
ผหู น่งึ เห็นวา บริษัทเปน บคุ คลตางหากจาก พ. หนขี้ องบรษิ ทั จึงเปนหน้ีตางรายกับหน้ีของ พ.
ที่จํานองเปนประกันหนี้ไวแลว กรณีเชนน้ีชอบที่จะทําโดยจดทะเบียนจํานองประกันหน้ีกันใหม
การท่ีจะขอจดทะเบียนแกไขเปล่ียนแปลงจํานอง เพ่ือใหประกันหน้ีของบริษัทซ่ึงเปนบุคคลภายนอก
ในสญั ญาจํานองเดมิ อีก จึงไมอาจท่จี ะทาํ ไดต ามประมวลกฎหมายแพงและพาณชิ ย มาตรา ๗๔๖

๓๕. การขอแกไขสัญญาจํานองเพื่อใหการจํานองครอบคลุมไปถึงหน้ีอ่ืน ๆ ท่ีไมได
จดทะเบียนจํานองไวซ่ึงไมอาจทําได ยอมครอบคลุมเฉพาะหน้ีเงินกูและเบิกถอนเกินบัญชีท่ีระบุ
ไวในสัญญาจํานองและสัญญาตอทายเทานั้น การท่ีคูกรณีมาตกลงกันใหมในภายหลังจะใหท่ีดิน
ท้ังสองแปลงเปนประกันการชําระหน้ีอื่น ๆ อีก ก็ตองจดทะเบียนจํานองรายใหม และอาจทํา
ไดโ ดยการจดทะเบยี นจํานองลําดับทสี่ อง

๓๖. ขอ ตกลงท่ียินยอมใหนําดอกเบี้ยที่คางชําระเกิน ๑ ป มาทบกับยอดเงินกู
เปนเงินตนแลวคิดดอกเบี้ยในจํานวนเงินท่ีทบเขากันน้ันได ไมเปนดอกเบี้ยที่คางอีกตอไป ขอตกลง
ดังกลาวมีผลใชบังคับได ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๖๕๕ วรรคหนึ่ง ไมอยู
ในบังคับขอหามไมใหคิดดอกเบ้ียซอนดอกเบี้ยในระหวางผิดนัด ตามประมวลกฎหมายแพงและ
พาณิชย มาตรา ๒๒๔ วรรคสอง และตามคําพิพากษาศาลฎีกาท่ี ๗๙๐๘/๒๕๓๘ และ

ค่มู อื การจดทะเบียนสิทธิและนติ กิ รรมประเภทกอ่ ภาระผูกพนั ในอสังหาริมทรพั ย์ 33

๗๑๔๑/๒๕๔๒ พนักงานเจาหนาท่ีจึงชอบที่จะรับจดทะเบียนจํานองโดยนําสัญญาหรือบันทึก
ขอ ตกลงนั้นแนบเปน สญั ญาหรอื บันทึกขอตกลงตอ ทายสญั ญาจาํ นอง

๓๗. นายดํา ไดนําโฉนดท่ีดินพรอมดวยคําสั่งศาลอันถึงท่ีสุดท่ีส่ังใหที่ดินตาม
โฉนดดงั กลาวตกเปน กรรมสิทธข์ิ องนายดํา โดยการครอบครองตามมาตรา ๑๓๘๒ แหงประมวล
กฎหมายแพงและพาณิชย มายื่นขอจดทะเบียนไดมาโดยการครอบครอง จากการตรวจสอบของ
พนกั งานเจาหนาที่พบวา โฉนดท่ีดินท่ีนายดําขอจดทะเบียนไดมาโดยการครอบครองไดจดทะเบียน
จาํ นองไวกบั นายเขียว ตามหลกั กฎหมายการจํานองเปนทรัพยสิทธิติดไปกับตวั ทรัพยเสมอ สัญญา
จาํ นองจะระงบั ส้ินไปก็เฉพาะดวยกรณีใดกรณหี นง่ึ ดังทบี่ ญั ญตั ิไวใ นประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย
มาตรา ๗๔๔ เทาน้ัน ฉะนั้น หากขอเท็จจริงไมปรากฏวาการจํานองระงับสิ้นไปแลวดวยกรณีใด
กรณีหน่ึงตามที่กฎหมายบัญญัติไวภาระจํานองก็ยังคงมีอยู เมอื่ มีผูขอจดทะเบียนไดมาซึ่งกรรมสิทธ์ิ
ท่ีดินโดยการครอบครองตาม มาตรา ๑๓๘๒ แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย ภาระจํานอง
จึงครอบติดไปดวย ตามนัยคําพิพากษาฎีกาที่ ๓๓๓๒/๒๕๒๗ อยางไรก็ดี กรณีมีผูขอจดทะเบียน
ไดมาโดยการครอบครองตาม มาตรา ๑๓๘๒ แลวปรากฏวาโฉนดท่ีดินที่ขอจดทะเบียนไดมา
โดยการครอบครองนั้นมีการจดทะเบียนผูกพัน เชน จํานอง เชา ภาระจํายอม พนักงานเจาหนาท่ี
จะตองปฏิบตั ติ ามกฎกระทรวง ฉบบั ที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ขอ ๘ (๖) เสียกอน กลาวคือ แจงให
ศาลทราบเมื่อศาลแจง มาอยา งไร จึงพจิ ารณาดําเนินการตอไปตามควรแกก รณี

๓๘. ตามมาตรา ๗๒ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน กําหนดวิธีการจดทะเบียน
สิทธิและนิตกิ รรมเกย่ี วกับอสงั หารมิ ทรัพยต ามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย ไววาใหคูกรณี
นําหนังสือแสดงสิทธิในท่ดี นิ มาขอจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาท่ี ดังน้ันการท่ีคูกรณีฝายใดฝา ยหนึ่ง
จะมายื่นขอจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่เพียงฝายเดียวไดถือเปนขอยกเวนที่มีกฎหมายกําหนด
ใหกระทําไดเทาน้ัน เชน กรณีไถถอนจากจํานองหรือไถถอนจากขายฝาก เมื่อผูรับจํานองหรือ
ผูรับซื้อฝากไดทําหลักฐานเปนหนังสือสลักหลังในสัญญานั้นวา ไดรับเงินเปนการไถถอนแลวตาม
มาตรา ๘๐ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน กําหนดใหผูจํานองหรือผูขายฝากนําหลักฐานดังกลาว
มาขอจดทะเบียนฝายเดียวได หรือกรณีขอจดทะเบียนไดมาโดยการครอบครองท่ีดินตาม มาตรา
๑๓๘๒ แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย ซึ่งมาตรา ๗๘ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
ประกอบกับขอ ๘ ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๗ (พ.ศ. ๒๔๙๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติ
ใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ กําหนดใหฝายที่ไดมานําคําสั่งหรือคําพิพากษาศาล
อันถึงท่ีสุดมาขอจดทะเบียนฝายเดียวได เปนตน เม่ือการขอจดทะเบียนโอนสิทธิการรับจํานอง

34 คูม่ อื การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมประเภทกอ่ ภาระผูกพันในอสังหาริมทรัพย์

ตามประเดน็ ปญหาขา งตน ไมมีกฎหมายกําหนดวิธีการใหผูรับโอนสิทธิเรียกรองนําหลักฐานการ
โอนสิทธิเรียกรองมาขอจดทะเบียนตอพนักงานเจาหนาที่เพียงฝายเดียวได ในการจดทะเบียน
คูก รณีฝายผูโ อนและผูรบั โอนจึงตองมาย่ืนคําขอดวยกันทั้งสองฝาย ตามมาตรา ๗๒ แหงประมวล
กฎหมายทีด่ นิ เมื่อฝายผูโอน คือ บริษัท บี ถูกศาลสั่งพิทักษทรัพยเด็ดขาดอํานาจในการจัดการ
ทรพั ยสินหรือกระทํากิจการอันจําเปนเพื่อใหกิจการของบริษัท บี ที่ถูกพิทักษทรัพยเสร็จส้ินไปจึง
เปนของเจาพนักงานพิทักษทรัพยตามมาตรา ๒๒ (๑) แหงพระราชบัญญัติลมละลาย พุทธศักราช
๒๔๙๓ ในการขอจดทะเบียนโอนสิทธิการรับจํานองหลักประกันของลูกหน้ี อันเนื่องมาจากสัญญา
ขายสิทธิเรียกรองดงั กลาว บริษัท บี โดยเจาพนักงานพิทักษทรัพยผูขายสิทธิเรียกรองและบริษัท เอ
ผซู ้อื สิทธิเรยี กรองจึงตอ งมายืน่ คาํ ขอจดทะเบียนตอ พนกั งานเจาหนา ท่ีดวยกันทั้งสองฝาย ตามมาตรา
๗๒ แหง ประมวลกฎหมายท่ีดิน

๓๙. บริษัท เอ จํานองที่ดินรวมหาโฉนดไวกับผูรับจํานองรวมกัน ๗ ราย
ขณะน้ีลูกหน้ีตามสัญญาจํานองไดชําระหนี้ใหแกผูรับจํานองรวม ๒ ราย จึงมีความประสงคจะ
จดทะเบียนไถถอนจากจํานองเปนประกันเฉพาะผูรับจํานองท่ีไดชําระหนี้ครบถวนแลว ขอเท็จจริง
ในเร่ืองนี้ปรากฏวา การจํานองรายนี้ผูจํานองไดจดทะเบียนจํานองไวเพื่อเปนประกันหน้ีของลูกหนี้
หลายคนที่ไดทําหนังสือรับสภาพหน้ีไวกับเจาหนี้ผูรับจํานองแตละราย หน้ีที่จํานองเปนประกัน
มิไดเปนหน้ีที่ลูกหน้ีเปนหนี้ตอเจาหนี้ผูรับจํานองรวมกัน ลูกหนี้และเจาหนี้มิใชเปนลูกหน้ีและ
เจาหนี้รวม และในการจดทะเบียนจํานองคูกรณีก็ไดระบุวงเงินที่จํานองแยกจากกันตามจํานวน
ที่เปนหนี้กัน การจดทะเบียนจํานองเพ่ือเปนประกันหนี้หลายรายในลําดับเดียวกัน ผลในทาง
กฎหมายถอื ไดว า ท่ีดินรายน้ไี ดม ีการจาํ นองไวห ลายราย แตก ารจํานองแตละรายน้ันไดจํานองไว
ในลําดับเดียวกัน หากลูกหนี้ไดชําระหนี้ใหแกเจาหน้ีผูรับจํานองรายใดรายหน่ึงเสร็จสิ้นแลว
ยอมทําใหการจํานองในสวนที่เปนประกันหน้ีรายนั้นระงับสิ้นไปดวย ตามมาตรา ๗๔๔ (๑)
แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย กรณีจึงเทากับวาเปนการไถถอนจากจํานองบางราย
สวนการจํานองรายอื่นท่ีเหลือยังคงมีอยูตามเดิม กรณีนี้พนักงานเจาหนาท่ีสามารถรับจดทะเบียน
ใหไดในประเภท “ไถถอนจํานองบางรายรวมหาโฉนด” โดยบรรยายขอความลงไวดานขาง ท. ด. ๑
วา “ท่ดี นิ แปลงน้ีจํานองไวตามสัญญาจํานองฉบับลงวันที่...เดือน........พ.ศ. .... เพื่อเปนประกัน
หนหี้ ลายรายในลําดับเดยี วกัน บัดนี้ บรษิ ัท เอ ไดไถถอนจากจํานองที่มีตอ ธนาคาร ซี และ
ธนาคาร ดี สวนการจํานองท่มี ตี อ ผรู ับจํานองคนอ่ืนคงมีอยูตามเดิม” สําหรับในบันทึกขอตกลง
(ท. ด. ๑๖) ใหบันทึกถอยคําผูขอไววา บริษัทไดจดทะเบียนจํานองท่ีดินตามสัญญาไวกับผูรับ

คู่มือ การจดทะเบียนสิทธแิ ละนติ กิ รรมประเภทกอ่ ภาระผูกพันในอสงั หาริมทรัพย์ 35

จํานองรายใดบาง และบัดน้ีบริษัทไดไถถอนจํานองที่มีตอผูรับจํานองรายใด สวนการจํานองท่ีมีตอ
ผูรับจํานองคนอื่นคงมีอยูตามเดิม ในการบันทึกถอยคําดังกลาวถาผูรับจํานองมาย่ืนขอจดทะเบียน
ดว ยก็ใหบนั ทกึ ถอ ยคาํ ทง้ั ผจู ํานองและผูรบั จาํ นองไว แตถาผูจ ํานองฝา ยเดียวนําหลักฐานจากผูรับจํานอง
วาไดมีการไถถอนแลว มาขอจดทะเบียนตามนัยมาตรา ๘๐ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน ก็บันทึก
ถอยคําผูจํานองไวแตเพียงฝายเดียว โดยไมตองใหผูรับจํานองรายอ่ืน ๆ มาใหถอยคํายินยอมหรือ
ตกลงดว ยแตอยา งใด แตตองไดโ ฉนดทดี่ นิ ฉบบั เจา ของทดี่ ินมาเพ่ือจดทะเบียนดวย

๔๐. เมอื่ เจาหนไี้ ดร ับการชําระหนคี้ รบถวนแลวหนี้ท่ีจํานองเปนประกันยอมระงับ
จึงเปนเหตุใหการจํานองระงับส้ินไปดวย (มาตรา ๗๔๔ ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย)
การจดทะเบียนไถถอนจากจํานองในกรณีเชนนี้ไมใชผลของนิติกรรม แตเปนผลของกฎหมาย
ทั้งไมมีบทกฎหมายใดบัญญัติไววาผูเยาวหรือผูใชอํานาจปกครองจะรับชําระหนี้ไมไดจึงไมตอง
ตามมาตรา ๑๕๗๔ แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยที่ผูใชอํานาจปกครองจะตองขออนุญาต
ศาลแตอยา งใด เห็นควรจดทะเบยี นไถถ อนจากจาํ นองใหไ ด

๔๑. กรณีที่ดินจดทะเบียนจํานองไวแลว และเจาของท่ีดินประสงคจะทําการ
จดทะเบียนประเภทอื่นตอไปในระหวางการจํานอง พนักงานเจาหนาท่ีจะจดทะเบียนใหไดตอเมื่อ
ผรู ับจํานองใหคํายินยอมแลว จะโดยบันทึกถอยคํายินยอมตอพนักงานเจาหนาที่ไวเปนหลักฐาน
หรือทาํ เปน หนังสอื ใหค ํายนิ ยอมมอบใหแกผจู ํานองมาดําเนินการก็ได ยกเวนกรณดี ังตอไปนี้

(๑) กรณีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมระหวางจํานองเปนการ
จํานองลําดับหลัง ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา ๗๑๒ พนักงานเจาหนาท่ี
สามารถดําเนนิ การไดโดยไมต อ งใหผ รู บั จํานองลาํ ดบั กอนยนิ ยอม

(๒) กรณกี ารจดทะเบยี นสิทธแิ ละนติ กิ รรมระหวางจํานองเปนการจดทะเบียน
การเชาและไมมีหนังสือยินยอมจากผูรับจํานอง ใหถือปฏิบัติตามหนังสือกรมท่ีดิน ที่ มท ๐๕๑๕/
ว ๑๒๙๐๓ ลงวันท่ี ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๔๗ กลาวคือใหพนักงานเจาหนาที่แจงใหคูกรณีทราบ
ถึงเหตุท่ีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเชาภายหลังน้ันอาจถูกเพิกถอนได ตามมาตรา ๒๓๗
แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย หากกระทําลงไปโดยรูอยูวาเปนการทําใหผูรับจํานองเสียหาย
เมือ่ คกู รณที ราบแลว ยังยืนยันใหจดทะเบียนโดยยอมรับผิดชอบกันเอง จึงบันทึกถอยคํายืนยันไว
เปนหลักฐานแลวจึงจะจดทะเบยี นตอไปได

๔๒. ตามมาตรา ๑๐๓ แหงประมวลกฎหมายท่ีดิน กําหนดวาในการดําเนินการ
ออกหนงั สือแสดงสิทธิในที่ดิน การรังวัด การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมหรือการทําธุระอื่นๆ

36 คู่มือ การจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนติ ิกรรมประเภทก่อภาระผูกพนั ในอสงั หารมิ ทรพั ย์

เก่ียวกับอสังหาริมทรัพย ใหพนักงานเจาหนาที่เรียกเก็บคาธรรมเนียมและคาใชจายตามที่กําหนด
ในกฎกระทรวง ซ่ึงหมายถึงการเรียกเก็บทุกคร้ังที่มีการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามอัตรา
ทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง โดยถา เปนการจดทะเบยี นจาํ นอง ตามมาตรา ๑๐๔ วรรคสอง แหง
ประมวลกฎหมายท่ดี ิน ประกอบกบั กฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความใน
พระราชบัญญัติใหใชประมวลกฎหมายท่ีดิน พ.ศ. ๒๕๙๗ ขอ ๒ (๗) ฉ) กําหนดใหเรียกเก็บใน
อตั รารอยละ ๑ จากจาํ นวนทุนทรัพยท่ีมีผูขอแสดงตามความเปนจริง (จํานวนเงินจํานอง) อยางสูง
ไมเ กนิ ๒๐๐,๐๐๐ บาท เม่อื ไดจ ดทะเบียนจํานองโดยเปล่ียนผูจํานอง แมวาจํานวนเงินที่จดทะเบียน
จํานองใหมจะนอยกวาเดมิ ก็ตอ งเรยี กเก็บคาธรรมเนียมจากจํานวนเงินท้งั จาํ นวนเวนแตจะมีการ
แกไ ขยอดเงินจาํ นองกอ น เชน ผอ นตน เงินจากจาํ นอง หรอื ลดเงินจากจาํ นอง เปน ตน

๔๓. สภาสถาปนิกมีฐานะเปนนิติบุคคล ตามมาตรา ๖ แหงพระราชบัญญัติ
สภาสถาปนิก พ.ศ. ๒๕๔๓ ยอมมีอํานาจในการจัดการทรัพยสินของสภาสถาปนิก โดยการนํา
ทรัพยสินไปจํานองได แมในวัตถุประสงคจะมิไดกําหนดเรื่องการจํานองทรัพยสินไวก็ตาม หาก
สอบสวนแลวไมปรากฏขอบังคับหรือวัตถุประสงคของสภาสถาปนิกมีขอหามเก่ียวกับการจํานอง
ทรพั ยสินของสภาสถาปนกิ ใหแกผ ูอ ่ืน และสภาสถาปนิกยันวา การจดทะเบียนจาํ นองท่ีดินจํานวน
๙ แปลงขา งตน เปนหลกั ประกนั การชําระหนเ้ี งินกูจากสถาบันการเงิน เพ่ือนําเงินกูบางสวนไป
ชาํ ระหน้ีคากอสรางอาคารทําการสภาสถาปนิก และเปนทุนหมุนเวียนในการบริหารกิจการสภา
สถาปนิก โดยสภาสถาปนกิ ไดดาํ เนินการถกู ตองตามบทบัญญตั ิแหง พระราชบญั ญัติสภาสถาปนิก
พ.ศ. ๒๕๔๓ วัตถปุ ระสงคแ ละขอบังคับของสภาสถาปนิกแลวพนักงานเจา หนา ทก่ี ช็ อบที่จะดาํ เนนิ การ
จดทะเบยี นได

๔๔. การขอจดทะเบยี นไถถ อนจากการจาํ นองสามารถดําเนินการไดส องวธิ ี คือ
(๑) คูกรณีท้ังสองฝายมายื่นคําขอจดทะเบียนไถถอนจากจํานองตอ

พนกั งานเจาหนา ทตี่ ามมาตรา ๗๒ แหงประมวลกฎหมายที่ดิน
(๒) ผมู ีสทิ ธิในทีด่ ินหรือผูมีสทิ ธิไถถอนนําหลักฐานซ่ึงผูร ับจาํ นองไดทําเปน

หนังสือวา ไดมีการไถถอนจากกันแลว มาขอจดทะเบียนไถถอนจากจํานองตอพนักงานเจาหนาที่
ตามมาตรา ๘๐ วรรคแรก แหง ประมวลกฎหมายท่ดี นิ

เม่ือปรากฏวานาย ส. นําท่ีดินไปจดทะเบียนจํานองไวกับ นาย พ. และ นาง ล.
แมผูรบั จาํ นองจะเปน สามีภรรยาโดยชอบดว ยกฎหมาย แตไมปรากฏวาเงินที่นํามารับจํานองเปน
เงินสินสมรสหรือสินสวนตัวของท้ังสองฝาย แมตามสัญญาจํานองจะระบุวาใหถือสัญญาจํานอง

คมู่ ือ การจดทะเบยี นสิทธแิ ละนติ ิกรรมประเภทก่อภาระผูกพนั ในอสังหารมิ ทรพั ย์ 37

เปนหลักฐานการกูยืมเงิน และมิไดระบุจํานวนเงินที่ผูรับจํานองใหลูกหน้ีกูเปนเงินคนละเทาไร
ก็ตาม แตการที่บุคคลหลายคนไดประโยชนจากหน้ีอันใดอันหนึ่งดวยกันก็ไมไดหมายความวา
บุคคลเหลาน้นั จะตองเปนเจาหนี้รวมเสมอไป จึงตองสอบสวนใหยุติวาเงินที่นํามารับจํานองเปน
สินสมรสหรอื สินสว นตัวของทง้ั สองฝายโดยแยกพจิ ารณา ดงั นี้

(๑) หากเปนสินสมรสและไมมีการทําสัญญากอนสมรส หรือมีสัญญากอนสมรส
แตกําหนดให นาย พ. เปนผูมีอํานาจจัดการ การท่ีนาย ส. มายื่นคําขอจดทะเบียนไถถอน
ผูเดียวโดยมีหลักฐานวา นาย พ. สลักหลังสัญญาจํานองวาไดมีการไถถอนแลว โดยนาง ล.
ผรู ับจาํ นองรวมมิไดมายื่นคําขอหรือมอบอํานาจใหบุคคลใดมาดําเนินการแทน จึงถือวานาย พ.
จัดการสนิ สมรส พนักงานเจา หนาทร่ี ับจดทะเบยี นไถถอนจากจํานองตามมาตรา ๗๒ หรือมาตรา ๘๐
แหงประมวลกฎหมายท่ดี นิ ได

(๒) หากเปนสินสวนตัว การที่นาย ส. (ผูจํานอง) กับนาย พ. (ผูรับจํานอง
คนหนงึ่ ) ไดม ายน่ื คําขอจดทะเบยี นไถถ อนจากจํานองที่ดินทั้งหมด โดยอางวาไดช าํ ระเงินเรียบรอยแลว
และนาย พ. ซ่งึ เปน ผูรบั จาํ นองเพยี งคนเดยี วจะไดส ลกั หลังสญั ญาจํานองฉบับผูรับจํานองวาไดมี
การไถถ อนจากจํานองท่ดี นิ กนั แลว โดยที่ นาง ล. ซ่ึงเปน ผรู ับจาํ นองรวมอีกคนหน่ึงไมไดมายื่น
คําขอจดทะเบียนไถถ อนจากจาํ นอง หรือทําหนงั สอื มอบอาํ นาจใหแกบุคคลใดมาดําเนินการแทน
และเมื่อปรากฏขอเท็จจริงตอมาวา นาง ล. ไดย่ืนคําขอคัดคานการไถถอนจากจํานองดังกลาว
โดยอางวาตนเองยังมิไดรับชําระหนี้ พนักงานเจาหนาที่จึงไมสามารถรับจดทะเบียนไถถอนจาก
จํานองตาม มาตรา ๗๒ หรือ ๘๐ แหง ประมวลกฎหมายทด่ี ินได

๔๕. การทีบ่ รษิ ทั ก. โอนสิทธเิ รยี กรอ งในหนี้ท่ีจํานองเปนประกันใหแก บริษัท ข.
การจํานองยอมตกไปไดแกบริษัท ข. ตามนัยมาตรา ๓๐๕ แหงประมวลกฎหมายแพงและ
พาณชิ ยแ ละไมมีกฎหมายบังคับใหตองจดทะเบียน แตถาไมจดทะเบียนก็ไมอาจจะยกข้ึนเปนขอ
ตอ สูบ ุคคลภายนอกไดต าม มาตรา ๗๔๖ แหงประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย และถาบริษัท ข.
ผูรับโอนจะใหมีการดําเนินการจดทะเบียนในประเภทอ่ืน ๆ ตอไป เชน ไถถอนจากจํานอง ก็ตอง
จดทะเบียนโอนสิทธกิ ารรบั จาํ นองเสยี กอน แตเ ม่ือบริษัท ก. ไมมีสภาพเปนนิติบุคคลตามกฎหมายแลว
บริษัท ข. ซึ่งรับชวงสิทธิและหนาท่ีท้ังหมดของบริษัท ก. จึงสามารถที่จะขอจดทะเบียนโอนสิทธิ
การรับจํานองทั้งในฐานะของตนเองซ่ึงเปนผูรับโอนและในฐานะของ บริษัท ก. ผูโอน เพียง
ฝา ยเดียวได

38 ค่มู ือ การจดทะเบียนสทิ ธแิ ละนิตกิ รรมประเภทก่อภาระผูกพนั ในอสงั หาริมทรพั ย์

๔๖. เม่ือกองทุนหมูบานไดจดทะเบียนเปนนิติบุคคลตาม มาตรา ๕ แหง
พระราชบัญญัติกองทุนหมูบานและชุมชนเมืองแหงชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ ซ่ึงเปนกฎหมายเฉพาะแลว
กองทุนหมูบานยอมมีฐานะเปนนิติบุคคลตามกฎหมาย ยอมสามารถกระทํากิจการใด ๆ ได
ภายใตขอบวัตถุประสงค ระเบียบ และขอบังคับของกองทุนหมูบาน นอกจากน้ันมาตรา ๙
(๒) (๗) แหงพระราชบญั ญัตกิ องทนุ หมบู า นและชุมชนเมืองแหงชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ ไดใหอํานาจ
คณะกรรมการกองทุนหมูบานออกประกาศ ระเบียบ หรือขอบังคับ เก่ียวกับการบริหารกองทุน
หมูบาน รวมถึงทํานิติกรรม สัญญา หรือดําเนินการเกี่ยวกับภาระผูกพันของกองทุนหมูบาน
ดังนั้น หากกองทุนหมูบานมีความประสงคที่จะรับจํานองที่ดินของสมาชิกที่มากูเงินจาก
กองทุนหมูบาน และการรับจํานองดังกลาวอยูภายใตพระราชบัญญัติกองทุนหมูบานและชุมชน
เมืองแหงชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ และขอบวัตถุประสงค ระเบียบขอบังคับของกองทุนหมูบาน
รวมท้ัง ไมเขาลักษณะการประกอบธุรกิจเครดิตฟองซิเอร ตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบัน
การเงิน พ.ศ. ๒๕๕๑ กองทุนหมูบานก็สามารถท่ีจะรับจํานองที่ดินของสมาชิกได สําหรับ
คาธรรมเนียมการจดทะเบียนจํานองเมื่อไมปรากฏขอเท็จจริงวา กองทุนหมูบานมีกฎหมายยกเวน
คาธรรมเนียมการจดทะเบียนจํานองดังกลาว ดังนั้น พนักงานเจาหนาที่จึงตองเรียกเก็บ
คาธรรมเนียมการจดทะเบียนจํานองในอัตรารอยละ ๑ ตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑)
ออกตามความในพระราชบญั ญัติใหใ ชป ระมวลกฎหมายทีด่ ิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ขอ ๒ (๗) (ฉ) %%
%% ๔๗. การจดทะเบียนขายที่ดินระหวางจํานองอันจะถือทุนทรัพยเพื่อเรียกเก็บ
คาธรรมเนียมการจดทะเบียน จะตองเปนกรณีที่มีการตกลงกันใหผูซ้ือรับเอาภาระหนี้อันจํานอง
เปนประกันของลูกหน้ีเดิมไปดวย กลาวคือ ผูซื้อเขาเปนลูกหนี้แทนลูกหนี้เดิม แตถาเปนการ
ขายระหวางจาํ นองโดยมไิ ดมกี ารตกลงกนั ใหผ ซู ื้อตองรับภาระหน้อี ันจาํ นองเปนประกันของลูกหนี้
เดิมไปดวย ผูซ้ือเพียงแตรับไปเฉพาะภาระการจํานองท่ีติดไปกับตัวทรัพยท่ีจํานอง ทุนทรัพย
เพ่ือเรยี กเก็บคาธรรมเนยี มกจ็ ะตองถือเชน เดยี วกบั การขายท่ีไมมีการจํานอง

คําพพิ ากษาฎกี าที่เกีย่ วขอ ง

๑. คําพิพากษาฎีกาที่ ๒๒๗/๒๕๙๑ ผูที่มีช่ือถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินโฉนดรวมกับ
ผูอื่นมีสิทธิจํานองท่ีดินเฉพาะสวนของตนไดโดยไมตองไดรับความยินยอมจากเจาของรวมคนอ่ืน
แตถาไปจํานองท้ังแปลงโดยไมไดรับความยินยอมจากเจาของรวมคนอื่น การจํานองนั้นผูกพัน
เฉพาะสวนกรรมสิทธิข์ องเจาของรวมคนน้นั เทานน้ั หาผกู พนั สวนของเจา ของรวมคนอ่นื ไม

ค่มู ือ การจดทะเบียนสิทธแิ ละนติ กิ รรมประเภทกอ่ ภาระผูกพันในอสังหารมิ ทรัพย์ 39

๒. คาํ พพิ ากษาฎีกาที่ ๒๐๔๙/๒๕๙๑ รบั จาํ นองท่ดี ินจากผทู ีป่ ลอมชอื่ เปน เจา ของ
ทด่ี นิ การจํานองยอมเปนโมฆะ ตามประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย มาตรา ๑๑๙ โดยเปน
การสําคญั ผิดในตวั บุคคลอนั เปนสาระสําคัญแหงนติ กิ รรม

๓. คําพิพากษาฎีกาที่ ๑๓๑๕/๒๕๙๓ มีผูทุจริตปลอมหนังสือเอาโฉนดท่ีดิน
ของเขาไปจํานองไวกับผูมีช่ือ โดยเจาของท่ีดินมิไดประมาทเลินเลอแตอยางใด ดังน้ี ยอมถือวา
ผูรับจํานองไมไดทรัพยสิทธิอยางใดในท่ีดินนั้น จะยกประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา
๑๒๙๙ มาอางอิงไมได เจา ของท่ีดินมีสิทธขิ อใหเพกิ ถอนนิตกิ รรมจาํ นองและเรยี กใหสง โฉนดคนื ได

๔. คําพพิ ากษาฎีกาที่ ๓๕๕ - ๓๖๒/๒๔๙๕ ขอประกาศรับมรดกท่ีดินของผูอื่น
เมื่อไดม าแลว ก็ยกใหอ ีกคนหนง่ึ คนทไ่ี ดร บั การยกใหไดเ อาท่ีดินนั้นไปจํานองไวแกบุคคลภายนอก
ถาการจาํ นองนี้กระทาํ กนั โดยสุจริต เจาของท่ีดินก็ขอใหเพิกถอนการจํานองไมได คงเพิกถอนได
เฉพาะการรับมรดกและการโอนใหเ ทา น้นั

๕. คาํ พิพากษาฎกี าท่ี ๑๕๓๖/๒๕๐๐ ซอื้ ที่ดินมือเปลาจากศาลขายทอดตลาด
แมจะซื้อโดยสจุ ริตไมทราบวามจี าํ นองตดิ อยู จํานองก็ยังคงติดไปกับทีด่ ิน ผูรบั จาํ นองบังคับจาํ นอง
จากที่ดนิ นนั้ ได

๖. คําพิพากษาฎีกาที่ ๒๘๗/๒๕๐๖ ศาลมีคําส่ังอนุญาตใหบิดาของผูเยาวทํา
นิติกรรมจํานองที่ดินแทนผูเยาวเ พอ่ื เอาเงินมาปลูกสรางอาคารลงในที่ดินของผูเยาว และเปดราน
ขายผาเพ่ือผลประโยชนของผูเยาว แตบิดาไปจํานองที่ดินของผูเยาวเพื่อประกันหน้ีบุคคลอ่ืน
ไมใชเพ่ือประโยชนแกผูเยาว และมิไดนําเงินไปใชจายตามท่ีศาลสั่งอนุญาตเลย การทํานิติกรรม
จาํ นองเชน น้ยี อ มไมผ ูกพันผูเ ยาวและทรัพยท่ีจํานองนนั้

๗. คําพิพากษาฎีกาท่ี ๕๘๐/๒๕๐๗ เจาของที่ดินลงชื่อในใบมอบอํานาจโดย
มไิ ดก รอกขอ ความเพือ่ ใหนําที่ดนิ ไปแบง ผูรับมอบอาํ นาจกลบั นาํ ไปกรอกขอ ความวา มอบอาํ นาจ
ใหจํานองและไดนําไปจํานองแกผูอ่ืน ดังน้ี ผูรับจํานองทําการรับจํานองโดยสุจริตแลว เจาของ
ทดี่ นิ จะอา งความประมาทเลินเลอของตนเปนเหตใุ หห ลุดพนความรับผิดไมไ ด

๘. คาํ พพิ ากษาฎีกาที่ ๖๖๒/๒๕๐๗ ลูกหนี้จํานองที่ดินโดยปรากฏวาในขณะ
จาํ นองทด่ี นิ แปลงนั้นมีท่ีงอกริมตลิ่ง เม่ือหนี้ถึงกําหนดแลวลูกหน้ีจึงไดโอนท่ีดินจํานองใหแกผูรับ
จาํ นองเพือ่ เปน การตีใชหน้ี เชน นี้ผูรับจํานองยอมไดกรรมสิทธใิ์ นทง่ี อกดวย

๙. คําพิพากษาฎีกาที่ ๑๐๖๔/๒๕๐๙ มอบอํานาจใหไปจํานองและมอบโฉนด
ใหไ วตราบใดทยี่ ังมิไดไปจดทะเบยี นจํานองการจาํ นองกย็ ังไมม ีขึน้ โดยสมบรู ณ เพราะยงั มิไดทําตามแบบ


Click to View FlipBook Version