The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสมรรถนะโรงเรียนดอยเต่าวิทยาคม-2565

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by siwa.intha1105, 2022-05-12 23:36:40

หลักสูตรสมรรถนะโรงเรียนดอยเต่าวิทยาคม-2565

หลักสูตรสมรรถนะโรงเรียนดอยเต่าวิทยาคม-2565

องค์ประกอบพฤติกรรมบ่งชี้ที่ 3 มธั ยมศึกษาปีที่ 6
มัธยมศกึ ษาปีที่ 5
สร้าง โอกาสในการแข่งขนั ด้าน
สร้างโอกาสในการแขง่ ขนั ด้าน ตา่ ง ๆ ในระดบั ชุมชน
ตา่ ง ๆ ในระดบั ชมุ ชน -รูเ้ ท่าทนั การเปลย่ี นแปลงของ
เทคโนโลยสี มัยใหม่

326

นิยามสมรรถนะ ระดับสมรรถนะ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4

มีความเขา้ ใจพืน้ ฐาน 10.วิเคราะห์ สงั เคราะห์ การสร้างและใชเ้ ทคโนโลยี
เกย่ี วกบั ปรากฏการณข์ อง
โลกและเอกภพและ หลกั การหรือทฤษฎี เอกสาร - ประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีในการส
ความสมั พันธ์ของ
คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และงานวิจยั ท่เี ก่ยี วข้อง เพื่อ เครอ่ื งมือ อุปกรณ์ทมี่ ีความซับ
และธรรมชาตใิ น
ชวี ติ ประจำวนั ใช้และ กำหนดขอบเขตโครงงานท่ี และแมน่ ยำ และบูรณาการควา
รู้เทา่ ทนั วทิ ยาการ
เทคโนโลยมี ีความอยากรู้ ศกึ ษา ออกแบบวิธกี ารรวบรวม ศาสตร์ตา่ ง ๆ เพ่ือส่งเสริมการส
อยากเหน็ ชา่ งสงั เกต
เห็นคณุ ค่า สามารถ ขอ้ มูลอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพและ อาชีพ หรือการเพ่ิมมูลค่าของผ
แก้ปญั หา หรือสรา้ งสรรค์
นวตั กรรมได้เพือ่ การ สร้างสรรค์ ประเมนิ จดุ แข็งของ สรา้ งโอกาสในการแขง่ ขนั แก้ป
ดำรงชีวติ และอยรู่ ว่ มกบั
ธรรมชาตอิ ย่างย่งั ยนื ชุดขอ้ มูล สรา้ งและยืนยนั ของทอ้ งถ่นิ หรือส่ิงแวดล้อมอย

ความถกู ต้องของข้อสรปุ ยัง่ ยืนโดยคำนึงถึงประโยชนท์ ี่เก

อธิบายสาเหตุกระบวนการ และ สงั คม และไมส่ ง่ ผลกระทบต่อ

ความสมั พนั ธข์ องปรากฏการณ์ ธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม

ที่ซบั ซอ้ นในระบบธรรมชาติโดย

บูรณาการความรูใ้ นศาสตร์

ตา่ ง ๆ วิเคราะห์ความสมั พันธ์

เชิงเหตุและผลท่ีเปน็ จดุ วิกฤตซงึ่

มีผลตอ่ ความอย่รู อดของมนษุ ย์

และโลกจากสถานการณ์ใน

ระบบธรรมชาติสร้างนวัตกรรม

เพ่ือแกป้ ัญหาอยา่ งเปน็ ระบบ

สรา้ งสรรค์ และมวี จิ ารณญาณ

โดยบูรณาการศาสตร์ต่าง ๆ

อย่างมุ่งมัน่ และเด็ดเดี่ยว

องค์ประกอบพฤติกรรมบ่งช้ีท่ี 3

มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 มัธยมศึกษาปที ี่ 6

การสร้างและใช้เทคโนโลยี การสร้างและใชเ้ ทคโนโลยี

สร้าง - ประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยีในการสร้าง - ประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีในการสรา้ ง

บซอ้ น เครอื่ งมอื อปุ กรณ์ทีม่ ีความซับซ้อน เครอื่ งมอื อุปกรณ์ที่มีความซับซ้อน

ามรู้ใน และแมน่ ยำ และบรู ณาการความรู้ และแมน่ ยำ และบรู ณาการความรู้

สรา้ ง ในศาสตรต์ า่ ง ๆ เพื่อสง่ เสริมการ ในศาสตรต์ า่ ง ๆ เพอื่ ส่งเสรมการ

ผลผลิต สรา้ งอาชีพ หรือการเพม่ิ มูลค่าของ สรา้ งอาชพี หรือการเพม่ิ มลู ค่าของ

ปัญหา ผลผลติ สรา้ งโอกาสในการแข่งขนั ผลผลติ สรา้ งโอกาสในการแข่งขนั

ยา่ ง แกป้ ัญหาของท้องถน่ิ หรือ แก้ปัญหาของทอ้ งถน่ิ หรือ

กิดกบั สง่ิ แวดล้อมอย่างย่งั ยืนโดยคำนงึ ถงึ สิ่งแวดลอ้ มอย่างยงั่ ยืนโดยคำนึงถงึ

ประโยชนท์ ี่เกิดกับสงั คม และไม่ ประโยชน์ท่เี กดิ กับสังคม และไม่ 327

ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติและ ส่งผลกระทบต่อธรรมชาตแิ ละ

สงิ่ แวดลอ้ ม สิ่งแวดลอ้ ม

ความฉลาดทางดจิ ิทัล ความฉลาดทางดิจิทลั
- ใช้เทคโนโลยีดจิ ิทลั รว่ มกับ - ใชเ้ ทคโนโลยีดิจทิ ัลร่วมกบั
แนวคดิ เชงิ คำนวณ และบรู ณาการ แนวคดิ เชงิ คำนวณ และบูรณาการ
ศาสตร์ต่าง ๆ ในการสรา้ ง ศาสตรต์ ่าง ๆ ในการสร้าง
นวัตกรรมเพื่อแก้ปญั หาและเสรมิ นวตั กรรมเพื่อแก้ปญั หาและ
การสรา้ งอาชีพ สร้างโอกาสในการ สง่ เสริมการสรา้ งอาชีพ สรา้ ง
แขง่ ขันในระดบั ประเทศและระดับ โอกาสในการแข่งขันใน
โลก ระดบั ประเทศและระดบั โลก

นยิ ามสมรรถนะ ระดับสมรรถนะ มัธยมศึกษาปที ่ี 4

สรา้ งจิตสำนึกของคนในชุมชน
ปกป้องหรือฟ้ืนฟู และอยู่
รว่ มกบั ธรรมชาติและ
สง่ิ แวดล้อมได้อยา่ งสมดลุ และ
ยั่งยืน ใช้เทคโนโลยีเพือ่ ส่งเสริม
การสร้างอาชีพหรอื การเพิ่ม
มูลคา่ ของผลผลิต และโอกาส
ในการแข่งขนั คำนึงถงึ ผลทีจ่ ะ
เกิดข้ึนอยา่ งรอบดา้ น

องคป์ ระกอบพฤติกรรมบ่งช้ีที่ 3 มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5

328

นิยามสมรรถนะ ระดบั สมรรถนะ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4

มคี วามเขา้ ใจพ้นื ฐาน 7. มงุ่ ม่นั อดทน และจดจ่อใน การมคี ณุ ลักษณะทางคณติ ศา
เก่ยี วกบั ปรากฏการณ์ของ การหาสาเหตุของปรากฏการณ์ และวิทยาศาสตร์
โลกและเอกภพและ ท่คี อ่ นขา้ งซบั ซอ้ น สงั เกต ตง้ั - มุ่งม่ัน อดทน จดจ่อ เพ่ือหาส
ความสัมพันธ์ของ คำถาม ออกแบบประเมนิ และ หรอื แก้ปญั หาของปรากฏการณ
คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ ปรบั ปรงุ วิธกี ารและเคร่ืองมือใน ตา่ ง ๆ
และธรรมชาตใิ น การเกบ็ รวบรวมข้อมูล - เปดิ รบั แนวคดิ หรือวิธกี ารต่าง
ชวี ิตประจำวัน ใช้และ ตรวจสอบและประเมินความ ทเ่ี ปน็ ไปไดเ้ พื่อหาสาเหตุ หรือ
รู้เทา่ ทันวิทยาการ น่าเชื่อถอื ของข้อมูล ประเมิน แกป้ ัญหาต่าง ๆ ทไี่ มส่ ง่ ผลกระ
เทคโนโลยมี คี วามอยากรู้ และปรับปรุงการนำเสนอข้อมูล ต่อมนุษยส์ งิ่ แวดลอ้ มและธรรม
อยากเหน็ ช่างสงั เกต ให้เหมาะสม ใช้ความรู้ในการ - ใช้หลักฐานท่นี า่ เชอื่ ถือและ
เห็นคณุ คา่ สามารถ ประเมนิ ความสมเหตุสมผลของ ปราศจากอคติในการลงข้อสรุป
แก้ปญั หา หรอื สร้างสรรค์ ขอ้ สรปุ และการอนุมาน อธิบาย ใชข้ อ้ มลู นั้นอยา่ งตรงไปตรงมา
นวตั กรรมไดเ้ พ่อื การ สาเหตแุ ละกระบวนการของ ไมบ่ ิดเบือน
ดำรงชวี ิตและอยรู่ ่วมกับ ปรากฏการณจ์ ากหลักฐานท่ี
ธรรมชาตอิ ยา่ งยั่งยนื รวบรวมได้และใชค้ วามรู้
หลักการ ทฤษฎี หรือกฎและ
เช่อื มโยงผลต่อชีวิต ธรรมชาติ
และส่ิงแวดลอ้ มในระดับ
ประเทศอยา่ งเป็นระบบ
พยากรณ์เกี่ยวกบั ปรากฏการณ์
อยา่ งสมเหตสุ มผลและใชข้ ้อมูล
รอบดา้ น แกป้ ัญหาเฉพาะ

องค์ประกอบพฤติกรรมบ่งช้ีท่ี 4

มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 มธั ยมศึกษาปที ่ี 6

าสตร์ การมคี ณุ ลกั ษณะทางคณติ ศาสตร์ การมีคุณลกั ษณะทางคณติ ศาสตร์

และวิทยาศาสตร์ และวิทยาศาสตร์

สาเหตุ - มุง่ มัน่ อดทน จดจ่อ เพ่ือหา - มุ่งมั่น อดทน จดจ่อ เพื่อหา

ณ์ สาเหตหุ รือแกป้ ัญหาของ สาเหตหุ รือแกป้ ัญหาของ

ปรากฏการณต์ า่ ง ๆ ปรากฏการณต์ า่ ง ๆ

ง ๆ - เปิดรับแนวคิดหรือวิธีการตา่ ง ๆ - เปดิ รับแนวคดิ หรือวิธกี ารต่าง ๆ

ท่เี ปน็ ไปได้เพ่ือหาสาเหตุ หรอื ทีเ่ ป็นไปไดเ้ พ่ือหาสาเหตุ หรอื

ะทบ แก้ปญั หาตา่ ง ๆ ที่ไม่สง่ ผลกระทบ แกป้ ญั หาต่าง ๆ ท่ไี ม่สง่ ผลกระทบ

มชาติ ตอ่ มนษุ ยส์ ง่ิ แวดล้อมและธรรมชาติ ต่อมนษุ ยส์ งิ่ แวดลอ้ มและธรรมชาติ

- ใชห้ ลกั ฐานท่นี ่าเชอ่ื ถือและ - ใชห้ ลกั ฐานท่ีน่าเช่อื ถือและ 329

ปและ ปราศจากอคติในการลงข้อสรุปและ ปราศจากอคตใิ นการลงข้อสรุป

า ใชข้ ้อมูลนั้นอยา่ งตรงไปตรงมา และใชข้ ้อมูลน้นั อย่างตรงไป

ไม่บิดเบือน ตรงมาไม่บดิ เบือน

การอยรู่ ่วมกับธรรมชาติอยา่ ง การอยรู่ ว่ มกบั ธรรมชาติอยา่ ง

ยั่งยืน ยงั่ ยนื

- เหน็ ความสัมพันธ์ทีเ่ ปน็ ระบบ - เห็นความสัมพันธท์ เี่ ป็นระบบ

ระหวา่ งมนุษยส์ ่ิงแวดล้อม และ ระหว่างมนุษยส์ ่งิ แวดลอ้ ม และ

ธรรมชาติโดยมุ่งมนั่ ในการ ธรรมชาติโดยมุ่งม่นั ในการ

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้อย่รู ่วมกับ ปรับเปลยี่ นพฤติกรรมให้อย่รู ่วมกบั

ธรรมชาตไิ ด้อย่างเหมาะสม ธรรมชาตไิ ด้อย่างเหมาะสม

นิยามสมรรถนะ ระดับสมรรถนะ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4

หน้าทีไ่ ม่คาดคิดเกี่ยวกับการ
ดำเนินชีวิตของมนุษย์
สง่ิ แวดลอ้ ม และธรรมชาติ ด้วย
คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ
เทคโนโลยีมีส่วนร่วมในการ
ปกป้องหรือฟนื้ ฟูสงิ่ แวดล้อมใน
โรงเรียนหรือชมุ ชนโดยเสนอ
แนวทาง นำไปปฏิบัติตรวจสอบ
ผลและปรับปรุงวิธกี าร ใช้
เทคโนโลยีโดยคำนงึ ถงึ ผลท่ี
เกิดข้นึ ต่อตนเอง สงั คม และ
ส่ิงแวดลอ้ ม สร้างและแบง่ ปนั
ขอ้ มลู อยา่ งปลอดภัย

มคี วามเขา้ ใจพ้นื ฐาน 8. โดยต้งั คำถาม กำหนด การมีคุณลกั ษณะทางคณิตศา
เกี่ยวกบั ปรากฏการณข์ อง ขอบเขตที่ศึกษา ออกแบบ และวิทยาศาสตร์
โลกและเอกภพและ ประเมิน และปรบั ปรุงวิธีการ - มงุ่ ม่นั อดทนในการหาความร
ความสัมพันธ์ของ รวบรวมขอ้ มลู วิเคราะห์ข้อมูล แกป้ ญั หา หรอื สร้างนวัตกรรม
คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และเลอื กการอนมุ านทีต่ รงกับ - ยอมรับการอนุมานทีห่ ลากหล
และธรรมชาตใิ น เงอ่ื นไขและข้อจำกัดอย่างมี โดยใช้เหตผุ ล
ชวี ติ ประจำวัน ใช้และ เหตุผล อธิบายสาเหตแุ ละ
รู้เทา่ ทันวิทยาการ กระบวนการของปรากฏการณ์

องคป์ ระกอบพฤติกรรมบ่งช้ีท่ี 4 มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6
มธั ยมศึกษาปีท่ี 5
- ตระหนักรถู้ งึ คณุ ค่าและ
ความสำคญั ของระบบธรรมชาติ
และสิ่งแวดลอ้ มโดยมสี ว่ นรว่ มใน
การปกป้องหรือฟ้นื ฟูส่งิ แวดล้อม
ในโรงเรียนหรอื ชุมชน

330

าสตร์ การมีคณุ ลกั ษณะทางคณติ ศาสตร์ การมีคุณลกั ษณะทางคณิตศาสตร์

และวทิ ยาศาสตร์ และวทิ ยาศาสตร์

รู้ - มงุ่ มัน่ อดทนในการหาความรู้ - มงุ่ ม่ัน อดทนในการหาความรู้

แก้ปัญหา หรอื สร้างนวัตกรรม แก้ปัญหา หรอื สร้างนวตั กรรม

ลาย - ยอมรับการอนุมานทห่ี ลากหลาย - ยอมรับการอนมุ านทห่ี ลากหลาย

โดยใช้เหตผุ ล โดยใช้เหตุผล

นิยามสมรรถนะ ระดับสมรรถนะ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4

เทคโนโลยมี ีความอยากรู้ ที่ซบั ซ้อนจากหลักฐานที่
อยากเห็น ช่างสงั เกต รวบรวมไดโ้ ดยใชค้ วามรู้
เห็นคุณคา่ สามารถ หลกั การ ทฤษฎกี ฎ และปัจจัย
แกป้ ญั หา หรอื สรา้ งสรรค์ ตา่ ง ๆ ท่ีเก่ยี วข้อง และ
นวัตกรรมได้เพ่อื การ เช่ือมโยงผลต่อชีวิต สิ่งแวดล้อม
ดำรงชวี ิตและอยรู่ ว่ มกับ และธรรมชาตอิ ยา่ งเปน็ ระบบ
ธรรมชาตอิ ย่างยั่งยืน พยากรณ์เก่ยี วกบั ปรากฏการณ์
อยา่ งสมเหตุสมผล ใชข้ ้อมูล
รอบดา้ นและน่าเชอื่ ถือ
วิเคราะห์ปัญหาในเชงิ ระบบ
จากสถานการณท์ ่ซี ับซ้อนใน
ธรรมชาติแก้ปญั หาอยา่ งเป็น
ระบบและมีวิจารณญาณด้วย
คณติ ศาสตร์ วิทยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยี มีสว่ นร่วมสรา้ ง
สมดลุ เพ่ือการดำรงชวี ิตใน
ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อมของ
ชุมชนโดยเสนอแนวทาง นำไป
ปฏิบัติตรวจสอบผลและ
ปรบั ปรุงวิธกี ารอยา่ งมุ่งมน่ั
อดทน ใชเ้ ทคโนโลยีท่ี
หลากหลายในการทำงาน และ

องค์ประกอบพฤติกรรมบ่งช้ีที่ 4 มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6

มัธยมศึกษาปีท่ี 5 การอยรู่ ว่ มกบั ธรรมชาติอย่าง
ยั่งยนื
การอย่รู ว่ มกับธรรมชาติอย่าง - เห็นความสำคัญของระบบ
ยั่งยืน ธรรมชาติโดยมุ่งม่ันในการปรับตวั
- เห็นความสำคญั ของระบบ ให้อยู่รว่ มกันไดย้ า่ งสมดลุ
ธรรมชาติโดยมุ่งมัน่ ในการปรับตวั - มสี วนร่วมในการสร้างความ
ใหอ้ ยู่รว่ มกนั ไดอย่างสมดุล ตระหนกั ของคนในชุมชนใน
การสร้างสมดุลเพ่ือการดำรงชีวติ
ในธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อมของ 331
ชุมชน

นิยามสมรรถนะ ระดับสมรรถนะ มัธยมศึกษาปที ี่ 4

จดั การผลทีเ่ กิดขึ้นเคารพ
กฎหมาย มจี ริยธรรม เหน็
คุณคา่ ของระบบธรรมชาตโิ ดย
ปรบั ตัวใหอ้ ยูร่ ่วมกนั ไดอ้ ย่าง
สมดลุ

มีความเข้าใจพื้นฐาน 9. สร้างโครงงานตามความ การมคี ุณลักษณะทางคณติ ศา
เก่ยี วกบั ปรากฏการณ์ของ สนใจ โดยตง้ั คำถาม วเิ คราะห์ และวทิ ยาศาสตร์
โลกและเอกภพและ สังเคราะห์หลกั การหรอื ทฤษฎี - มงุ่ มน่ั อดทนในการหาความร
ความสัมพนั ธ์ของ อย่างรอบด้านเพื่อออกแบบ แก้ปัญหา หรอื สร้างนวตั กรรม
คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ วธิ กี ารรวบรวมขอ้ มลู ประเมนิ - ยอมรบั การอนมุ านท่หี ลากหล
และธรรมชาตใิ น และปรบั ปรุงการนำเสนอข้อมูล โดยใช้เหตผุ ล
ชีวติ ประจำวนั ใช้และ วิเคราะหข์ ้อมลู เพือ่ การอนุมาน
รู้เท่าทันวทิ ยาการ เลือกใชโ้ มเดลในการวิเคราะห์
เทคโนโลยีมคี วามอยากรู้ ข้อมลู เพือ่ นำไปสขู่ ้อสรปุ และ
อยากเห็น ชา่ งสงั เกต ตอบข้อสงสยั อธิบายสาเหตุ
เหน็ คุณค่า สามารถ และกระบวนการของ
แกป้ ัญหา หรือสร้างสรรค์ ปรากฏการณ์ทซ่ี ับซ้อนและ
นวตั กรรมได้เพ่อื การ สนใจโดยบรู ณาการความรู้
ดำรงชีวิตและอยรู่ ่วมกับ หลากหลายสาขาวิชาและ
ธรรมชาตอิ ยา่ งย่งั ยืน เชอ่ื มโยงผลตอ่ ธรรมชาติ
วิเคราะหป์ ัญหาในเชงิ ระบบ

องคป์ ระกอบพฤติกรรมบ่งชี้ที่ 4 มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6
มัธยมศึกษาปที ่ี 5

าสตร์ การมคี ุณลักษณะทางคณติ ศาสตร์ การมีคณุ ลกั ษณะทางคณิตศาสตร์

และวทิ ยาศาสตร์ และวิทยาศาสตร์

รู้ - มงุ่ มน่ั อดทนในการหาความรู้ - มงุ่ ม่นั อดทนในการหาความรู้

แกป้ ญั หา หรือสร้างนวัตกรรม แกป้ ัญหา หรอื สร้างนวัตกรรม 332

ลาย - ยอมรบั การอนมุ านทีห่ ลากหลาย - ยอมรับการอนมุ านที่หลากหลาย

โดยใชเ้ หตผุ ล โดยใชเ้ หตผุ ล

การอยรู่ ว่ มกบั ธรรมชาตอิ ย่าง การอยรู่ ว่ มกับธรรมชาติอย่าง
ยงั่ ยนื ย่งั ยนื
- เหน็ ความสำคัญของระบบ - เหน็ ความสำคัญของระบบ
ธรรมชาติโดยมุ่งมั่นในการปรับตวั ธรรมชาตโิ ดยมุ่งม่ันในการปรับตัว
ใหอ้ ยรู่ ว่ มกันไดอย่างสมดลุ ให้อยรู่ ว่ มกันไดอย่างสมดุล
- มสี ว่ นรว่ มในการสร้างความ
ตระหนักของคนในชุมชนใน
การสร้างสมดลุ เพื่อการดำรงชีวิต

นยิ ามสมรรถนะ ระดับสมรรถนะ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4

จากสถานการณ์ในระบบ
ธรรมชาติแก้ปัญหาอย่างเป็น
ระบบและมวี จิ ารณญาณโดย
บูรณาการศาสตรต์ า่ ง ๆ อย่าง
แน่วแน่ไม่ย่อท้อ ปฏบิ ัติตนเพ่ือ
ดำรงชีวิตในธรรมชาตแิ ละ
ส่งิ แวดลอ้ มอย่างสมดลุ มี
ส่วนร่วมในการสร้างจติ สำนึก
ของคนในชุมชนโดยเสนอ
แนวทางในการปกป้องหรือ
ฟื้นฟูและอยู่รว่ มกบั ธรรมชาติ
และส่ิงแวดลอ้ มได้อย่าง
เหมาะสมและย่ังยืน
ใช้เทคโนโลยีเพอื่ ส่งเสริม
การสร้างอาชีพและโอกาส
ในการแข่งขันร้เู ท่าทนั
การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี

องคป์ ระกอบพฤติกรรมบ่งชี้ท่ี 4 มัธยมศกึ ษาปีที่ 6
มัธยมศึกษาปที ี่ 5
ในธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมของ
ชุมชน

333

นิยามสมรรถนะ ระดบั สมรรถนะ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4

มีความเขา้ ใจพ้ืนฐาน 10.วิเคราะห์ สงั เคราะห์ การมคี ณุ ลกั ษณะทางคณิตศา
เกีย่ วกับปรากฏการณ์ของ
โลกและเอกภพและ หลักการหรือทฤษฎี เอกสาร และวิทยาศาสตร์
ความสัมพนั ธข์ อง
คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และงานวิจยั ทีเ่ กยี่ วข้อง เพ่อื - มงุ่ มนั่ และเด็ดเด่ียวในการคิดค
และธรรมชาติใน
ชวี ติ ประจำวัน ใชแ้ ละ กำหนดขอบเขตโครงงานที่ แสวงหาความรแู้ ละวิธีการใหม
รู้เท่าทันวิทยาการ
เทคโนโลยีมคี วามอยากรู้ ศกึ ษา ออกแบบวิธีการรวบรวม โดยบรู ณาการความรู้ในศาสตร
อยากเห็น ชา่ งสังเกต
เหน็ คณุ ค่า สามารถ ขอ้ มลู อย่างมีประสิทธิภาพและ เพอื่ แกป้ ัญหา
แกป้ ัญหา หรือสร้างสรรค์
นวตั กรรมได้เพอื่ การ สร้างสรรค์ ประเมนิ จุดแขง็ ของ
ดำรงชีวติ และอย่รู ว่ มกบั
ธรรมชาติอย่างยั่งยนื ชดุ ขอ้ มลู สรา้ งและยืนยัน

ความถกู ตอ้ งของข้อสรุป

อธิบายสาเหตกุ ระบวนการ และ

ความสมั พันธข์ องปรากฏการณ์

ท่ซี ับซอ้ นในระบบธรรมชาตโิ ดย

บรู ณาการความรู้ในศาสตร์

ต่าง ๆ วเิ คราะหค์ วามสัมพันธ์

เชิงเหตุและผลทีเ่ ป็นจุดวิกฤตซง่ึ

มผี ลต่อความอยู่รอดของมนุษย์

และโลกจากสถานการณ์ใน

ระบบธรรมชาตสิ รา้ งนวตั กรรม

เพือ่ แก้ปญั หาอย่างเป็นระบบ

สรา้ งสรรค์ และมวี ิจารณญาณ

โดยบูรณาการศาสตรต์ ่าง ๆ

อยา่ งมุ่งม่ันและเด็ดเดยี่ ว

องคป์ ระกอบพฤติกรรมบ่งชี้ท่ี 4

มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

าสตร์ การมีคุณลักษณะทางคณติ ศาสตร์ การมคี ณุ ลักษณะทางคณติ ศาสตร์

และวิทยาศาสตร์ และวิทยาศาสตร์

ค้น - มุง่ มน่ั และเดด็ เดี่ยวในการคิดคน้ - ม่งุ มั่นและเดด็ เด่ยี วในการคิดค้น

ม่ ๆ แสวงหาความรู้และวิธกี ารใหม่ ๆ แสวงหาความร้แู ละวิธกี ารใหม่ ๆ

รต์ า่ ง ๆ โดยบูรณาการความรู้ในศาสตร์ โดยบรู ณาการความรู้ในศาสตร์

ต่าง ๆ เพ่ือแก้ปัญหา ตา่ ง ๆ เพ่ือแก้ปัญหา

การอยู่รว่ มกบั ธรรมชาตอิ ยา่ ง การอยรู่ ว่ มกบั ธรรมชาติอยา่ ง 334
ย่ังยนื ยั่งยืน
- ตระหนกั วา่ มนษุ ย์และสงั คม - ตระหนกั วา่ มนษุ ย์และสงั คม
มสี ่วนในการรักษาสมดุลของระบบ มีสว่ นในการรกั ษาสมดลุ ของระบบ
ธรรมชาตโิ ดยมงุ่ ม่ันในการสร้าง ธรรมชาติโดยม่งุ มั่นในการสร้าง
จิตสำนกึ ของคนในชุมชนเพ่ืออยู่ จิตสำนึกของคนในชุมชนเพอื่ อยู่
ร่วมกบั ธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม รว่ มกบั ธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม
ได้อย่างเหมาะสมและยงั่ ยืน ได้อยา่ งเหมาะสมและยง่ั ยืน

นยิ ามสมรรถนะ ระดับสมรรถนะ มัธยมศึกษาปที ่ี 4

สรา้ งจิตสำนึกของคนในชุมชน
ปกป้องหรือฟ้ืนฟู และอยู่
รว่ มกบั ธรรมชาติและ
สง่ิ แวดล้อมได้อยา่ งสมดลุ และ
ยั่งยืน ใช้เทคโนโลยีเพือ่ ส่งเสริม
การสร้างอาชีพหรอื การเพิ่ม
มูลคา่ ของผลผลิต และโอกาส
ในการแข่งขนั คำนึงถงึ ผลทีจ่ ะ
เกิดข้ึนอยา่ งรอบดา้ น

องคป์ ระกอบพฤติกรรมบ่งช้ีที่ 4 มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5

335

ส่วนท่ี 5

เครอ่ื งมอื วัดและ
ประเมินผลฐานสมรรถนะ

337

การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้

รายวชิ า เยาวชนดอยเตา่ หมเู่ ฮามดี ี เลา่ ขานตำนานดอยเตา่ 1 รหสั วิชา ย20101
จำนวน 2 หน่วยกติ
ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 12 ช่ัวโมง

ผลการเรยี นรู้
1. นักเรียนมคี วามเขา้ ใจและสามารถอธบิ ายเกีย่ วกบั การสรา้ งเคร่ืองมือสำรวจชมุ ชนได้
2. นักเรยี นสามารถรวบรวมข้อมลู และวิเคราะหข์ ้อมลู จากการศกึ ษาแหล่งเรยี นรู้
3. นักเรยี นสามารถสร้างแผนท่ีเดินดนิ ได้

จุดประสงค์เชิงสมรถนะ
รู้ถงึ ลักษณะของเครื่องมอื 7 ช้ิน ในการเรยี นร้ชู ุมชน โดยใชก้ ระบวนการรวมพลังทำงานเปน็ ทีม

เกดิ เจตคตทิ ี่ดี มคี วามรกั ษถ์ ่ิน และเกิดความภาคภูมใิ จในทอ้ งถนิ่ ของตนเอง

สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
นักเรียนทำแผนท่ีเดินดินได้ และสามารถนำไปใช้ได้จรงิ

สาระการเรยี นรู้
การใช้เครื่องมอื 7 ชิน้ ในการเรียนรู้ชุมชน ( แผนที่เดนิ ดิน, ผังเครอื ญาติ, โครงสรา้ งองค์กรชุมชน,

ระบบสุขภาพชุมชน, ปฏิทนิ ชุมชน, ประวัติศาสตรช์ ุมชน, ประวตั ิชวี ิต)

สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
1. การรวมพลงั ทำงานเปน็ ทีม
2. การสอ่ื สาร

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. รักษ์ถิน่
2. มีวนิ ยั
3. ซอื่ สัตย์

กิจกรรมการเรยี นรู้
1. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

ชวั่ โมงท่ี 1 – 4 การเรยี นรู้โดยใช้สมองเปน็ ฐาน ( Brain – base Learning : BBL )
1. ข้ันนำเขา้ สบู่ ทเรียน
ผเู้ รยี นเลน่ กิจกรรมเกมละลายพฤติกรรมผู้เรียนและทดสอบความรู้รอบตวั ของผู้เรยี น เก่ียวกับ

อำเภอดอยเต่า (เกมส่ิงรอบตัว : ครูกำหนดคำถามเก่ียวกับสิ่งรอบตัวในอำเภอดอยเต่า เช่น จงบอกชื่อวัด
ในอำเภอดอยเต่า ของกิน ชื่อหมู่บ้าน โดยให้นักเรียนเล่นเป็นกลุ่ม เวียนการตอบคำถาม ห้ามตอบซ้ำกัน
ถ้าไดย้ นิ สัญญาณนกหวีดเตอื นหมดเวลา ใหผ้ ู้เรียนทต่ี อบไม่ทัน เต้นรอบวง)

338

2. ขั้นเสนอความรู้ใหม่
แบง่ กลมุ่ ใหผ้ เู้ รยี นเข้ากิจกรรมฐานการเรียนรู้ (การสร้างเคร่ืองมือ 7 ช้นิ )

ชวั่ โมงท่ี 5- 8 การเรยี นรูโ้ ดยใชส้ มองเปน็ ฐาน (Brain – base Learning : BBL)
ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เดิม สะท้อนคิด ปัญหา ความประทับใจ ต่อกิจกรรมของ
สปั ดาหท์ ี่ผา่ นมา
1. ขนั้ การวิเคราะห์และสรปุ หรือสรา้ งความคิดรวบยอด

ผเู้ รียนร่วมกันวเิ คราะห์ข้อมูลท่ีได้จากการเข้าฐานการเรียนรู้ภายในกลุ่ม จากน้ันเขยี นแผนผัง
ความคดิ ที่ได้จากการสรปุ ความคดิ รวบยอดของกลุ่ม (30 นาท)ี

2. ขัน้ แลกเปลย่ี นเรียนรู้
ผู้เรยี นนำเสนอแผนผังความคดิ ของกล่มุ โดยใหส้ มาชิกกลมุ่ อ่ืนชว่ ยกันสะทอ้ นความคดิ

3. ข้นั ประยุกตใ์ ช้
ผ้เู รียนรว่ มกันเลอื กเครอื่ งมือทเี่ หมาะสมทส่ี ดุ ในการออกสำรวจชมุ ชน

4. ขั้นประเมนิ ผลการเรียน
4.1 ผู้เรียนจำลองสถานการณ์ในการใช้เครื่องมือ ( แผนที่เดินดิน ) โดยใช้สถานการณ์ใน

โรงเรียน
4.2 ผู้เรียนออกสำรวจชุมชนในอำเภอดอยเต่าในเวลาว่างหลังเลิกเรียนหรือในวันหยุดโดย

แบง่ เป็นสถานทส่ี ำคัญในอำเภอดอยเต่าดังนี้
❖ ศนู ย์การเรยี นรู้ผา้ ทอหลา่ ยแกว้
❖ ภมู ิปัญญาทอ้ งถน่ิ แปลง 8
❖ ปราชญ์ชาวบ้าน(พ่อหลวงปรีชา)
❖ นิคมสรา้ งตนเองเข่อื นภูมิพล
❖ วัดแปลง 2
❖ โคกหนองนา
❖ ผู้ร้ใู นชมุ ชน

ชั่วโมงที่ 9 – 12 การเรยี นรู้โดยใช้การเรยี นรแู้ บบรว่ มมอื (Collaborative Learning)
ครูและนักเรียนร่วมกันทบทวนความรู้เดิม สะท้อนคิด ปัญหา ความประทับใจ ต่อกิจกรรมของ
สปั ดาหท์ ี่ผา่ นมา
1. ข้ันเตรยี ม

1.1 ผู้เรียนเข้ากลุ่มตัวเองเพื่อนำข้อมูลท่ีได้จากการสำรวจสถานที่สำคัญในอำเภอดอยเต่ามา
สรุปเป็นแผนผงั ความคิดของกลมุ่ ตวั เอง

1.2 ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั ออกแบบเกณฑ์ การวดั และประเมนิ ผล ในการนำเสนองาน
2. ขน้ั กิจกรรมกลุ่ม

2.1 ตวั แทนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอแผนผังความคดิ ไดจ้ ากการสำรวจสถานที่สำคัญในอำเภอ
ดอยเตา่

2.2 นกั เรยี นร่วมกนั แลกเปลยี่ นเรียนรู้ขอ้ มูลของแตล่ ะกลุ่มที่ไดน้ ำเสนอ

339

ส่อื /แหล่งเรยี นรู้
สถานทส่ี ำคญั ในอำเภอดอยเต่า ดังน้ี
1. ศนู ย์การเรียนรูผ้ า้ ทอหล่ายแก้ว
2. ภูมปิ ญั ญาท้องถน่ิ แปลง 8
3. ปราชญ์ชาวบ้าน(พ่อหลวงปรชี า)
4. นคิ มสรา้ งตนเองเขอื่ นภมู ิพล
5. วดั แปลง 2
6. โคกหนองนา
7. ผูร้ ใู้ นชมุ ชน

ชิ้นงานหรือภาระงาน
1. แผนทเ่ี ดนิ ดนิ
2. ผังความคดิ
3. เครอ่ื งมือ 7 ช้ิน ในการเรียนร้ชู ุมชน

การประเมนิ ผล
สมรรถนะการรวมพลังเป็นทีม

340

การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้

รายวชิ า เยาวชนดอยเตา่ หมู่เฮามดี ี ดนิ แดนแหง่ ขุนเขาภูมิลำเนาแห่งการเสยี สละ 2 รหัสวิชา ย22204

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 16 ชวั่ โมง จำนวน 2 หนว่ ยกิต

ผลการเรยี นรู้
1. นักเรียนสืบค้นข้อมูลและอภิปรายสรุปความรู้เกี่ยวกับสภาพภูมิศาสตร์ของสถานท่ีท่องเที่ยว

สำคญั ทางประวตั ิศาสตร์ในอำเภอดอยเตา่

จุดประสงค์เชงิ สมรถนะ

1. นักเรียนสืบค้นข้อมูลโดยใช้ความรู้และทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี เพื่อแก้ปัญหา ออกแบบผ่านส่ือหลากหลายประเภท และสามารถใช้กลวิธีในการผลิตส่ือ
การส่ือสารท่ีเหมาะสม อภิปรายสรุปความรู้เก่ียวกับสภาพภูมิศาสตร์ของสถานท่ีท่องเที่ยวสำคัญทาง
ประวตั ิศาสตร์

2. รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูล สภาพภูมิศาสตร์ สถานท่ีท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ใน
อำเภอดอยเต่า เพื่อออกแบบการบันทึกข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ อย่างเหมาะสม และตรงกับจุดประสงค์ใน
การนำเสนอ

3. ร่วมกำหนดเป้าหมาย วางแผนการทำงานเป็นทีม ลงมือปฏิบัติ ทบทวน ประเมินผลและ
ปรบั ปรุงการทำงานร่วมกัน เปน็ ผ้นู ำและเปน็ สมาชกิ ที่ดีของทีม เข้าใจและยอมรบั ความสามารถของสมาชิก
ทมี ที่แตกต่างกนั

4. พัฒนาชิ้นงานโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการค้นหา จัดการเวลาในการใช้ทรัพยากรและปฏิบัติ
ตามขั้นตอน ติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามข้ันตอนและนำเสนอข้อมูล เพ่ือการแก้ปัญหาอย่าง
สร้างสรรค์จากสถานการณ์ โดยรวบรวมปัจจัยอื่น ๆ ที่เก่ียวข้องกับระบบหรือสถานการณ์ ตัดสินใจและ
ประเมินข้อมลู จากหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์

5. สะท้อนกระบวนการและผลลัพธ์ของการตั้งเป้าหมายของช้ินงาน และปรับใช้เพื่อไปสู่
ความสำเร็จ ยอมรับคำวิจารณ์หรือความไม่รู้ของตนเอง แสดงออกถึงความสามารถที่จะริเร่ิมสร้างสรรค์
ทำงานดว้ ยตัวเองอยา่ งเหมาะสม และมคี วามรู้สึกที่ดเี กี่ยวกบั ตนเอง

6. มีมารยาทและจริยธรรม เคารพความคิดเห็นท่ีแตกต่างของบุคคลในสังคมท่ีหลากหลายใน
การสอื่ สารประเภทตา่ ง ๆ ได้

7. รักษ์และหวงแหนถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเอง ตระหนักในความสัมพันธ์การอยู่ร่วมกันระหว่าง
มนุษย์กบั ธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมโดยปรบั พฤตกิ รรมในการใชท้ รัพยากรธรรมชาติอยา่ งยงั่ ยืน

สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
สภาพภูมิศาสตร์สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ของอำเภอดอยเต่า ได้แก่ ทะเลสาบ

ดอยเตา่ ถำ้ หมอ้ ถำ้ หว้ ยหก และน้ำตกแม่ลาย

341

สาระการเรียนรู้
1. สภาพภูมิศาสตร์ของสถานท่ที อ่ งเทยี่ วสำคัญทางประวตั ิศาสตร์ในอำเภอดอยเตา่ ได้แก่

ทะเลสาบดอยเต่า ถ้ำหม้อ ถำ้ ห้วยหก และน้ำตกแม่ลาย
2. สบื คน้ ขอ้ มลู โดยใช้ทักษะกระบวนการทางคณติ ศาสตรว์ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยเี พื่อแกป้ ัญหา
3. พฒั นาชนิ้ งานโดยใชเ้ ทคโนโลยดี ิจทิ ลั ในการค้นหา จดั การเวลาในการใช้ทรพั ยากรและปฏบิ ัติ

ตามขัน้ ตอน ติดตามและประเมินผล
4. มารยาทและจริยธรรม เคารพความคิดเห็นที่แตกตา่ งของบุคคลในสังคมทห่ี ลากหลาย

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
1. การจดั การตนเอง
2. การคดิ ข้ันสูง
3. การสอ่ื สาร
4. การรวมพลงั ทำงานเปน็ ทมี
5. การเปน็ พลเมืองที่เข้มแขง็
6. การอยรู่ ่วมกับธรรมชาติและวทิ ยาการอย่างยงั่ ยืน

คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
4. มจี ิตสาธารณะ

กจิ กรรมการเรยี นรู้ (กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5E)
1.การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ชวั่ โมงท่ี 1-4

ขัน้ สร้างความสนใจ
1. นักเรียนร่วมกันทายรูปภาพ โดยการเปิดแผ่นป้ายสถานท่ีท่องเท่ียวในอำเภอดอยเต่าผ่าน
กิจกรรม “ท่ีน่ีที่ไหน” นักเรียนท่ีตอบได้ถูกต้องและรวดเร็วท่ีสุดจะได้รับของรางวัล เพื่อเป็นการเสริมแรง
ทางบวก
ขัน้ สำรวจและค้นหา
1. แบง่ กลมุ่ นกั เรยี น คละตามกลุม่ เกง่ ปานกลาง และออ่ น จำนวนเท่า ๆ กัน
2. นักเรียนแต่ละกลุ่มกำหนดบทบาทหน้าที่ของสมาชิกภายในกลุ่ม โดยมีประธาน รองประธาน
เลขานกุ าร และสมาชกิ
3. ตัวแทนแต่ละกลุ่มจับสลาก เพ่ือเลือกหัวข้อเรื่องท่ีจะศึกษาสภาพภูมิศาสตร์สถานท่ีท่องเท่ียว
สำคัญทางประวตั ศิ าสตร์ในอำเภอดอยเต่า ดังนี้

➢ ทะเลสาบดอยเต่า
➢ ถำ้ หมอ้
➢ ถำ้ หว้ ยหก

342

➢ นำ้ ตกแมล่ าย
4. แต่ละกลุ่มสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับสภาพภูมิศาสตร์ของสถานที่ท่องเท่ียวสำคัญทางประวัติศาสตร์
ในอำเภอดอยเตา่ จากแหล่งเรยี นรตู้ า่ ง ๆ แล้วสรุปความร้ลู งในกระดาษปรฟู๊
ชั่วโมงท่ี 5-8
ข้ันอธบิ ายและลงขอ้ สรปุ
1. นกั เรยี นชมคลิปวดี ทิ ัศน์เรื่อง ความเปน็ มาอำเภอดอยเตา่ ในอดตี และปจั จบุ นั ผ่าน YouTube
จากนัน้ ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเปรียบเทยี บความเปลยี่ นแปลงของลักษณะภูมปิ ระเทศของอำเภอดอยเตา่
ในอดตี และปจั จบุ ัน
2. นักเรยี นจับสลากเพื่อนำเสนอผลงานเก่ยี วกบั สภาพภูมิศาสตร์ของสถานทท่ี ่องเท่ียวสำคัญทาง
ประวัตศิ าสตร์ในอำเภอดอยเตา่
3. นักเรยี นรว่ มกันอภิปรายสรุปความรู้เกีย่ วกบั สภาพภูมิศาสตร์ของสถานท่ีท่องเทย่ี วสำคัญทาง
ประวตั ิศาสตรข์ องอำเภอดอยเต่า
ชั่วโมงที่ 9-12
ขน้ั ขยายความรู้
1. นกั เรียนชมคลปิ วีดทิ ศั น์เร่ือง กางเต็นท์แค่คร่ึงคนื : ทะเลสาบดอยเต่า จ.เชยี งใหม่ ผ่าน
YouTube
2. แตล่ ะกลมุ่ เลือกใช้เทคโนโลยี เพ่ือสรปุ ความร้ใู นรปู แบบต่าง ๆ เช่น แผ่นพับ อินโฟกราฟิก
งานนำเสนอ เปน็ ตน้
ชว่ั โมงท่ี 13-16
ข้ันประเมนิ
1. นกั เรยี นตอบคำถามชวนคิดผ่านแอปพลิเคชนั Vonder Go เกย่ี วกบั อำเภอดอยเต่า เร่ือง แฟน
พนั ธ์แุ ท้ดอยเต่า
2. นักเรยี นและครูรว่ มกันออกแบบแบบประเมินโดยใช้ Google Form
3. นักเรยี นนำเสนอผลงานการสรปุ ความรเู้ กีย่ วกบั สภาพภูมิศาสตร์ของสถานทที่ ่องเทย่ี วสำคญั
ทางประวัตศิ าสตร์ในอำเภอดอยเต่า และรว่ มกนั สะท้อนคิด เพ่ือนำไปปรบั ปรงุ และพฒั นาผลงานใหด้ ยี ่ิงขนึ้
4. นกั เรียนและครูรว่ มกันสรปุ ความรเู้ ก่ียวกบั สภาพภมู ศิ าสตร์สถานทท่ี ่องเทยี่ วสำคญั ทาง
ประวตั ิศาสตร์ของอำเภอดอยเต่า

สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้
1. แผน่ ปา้ ยสถานที่ทอ่ งเที่ยวในอำเภอดอยเตา่ ผ่านกิจกรรม “ท่นี ท่ี ไ่ี หน”
2. คลิปวีดทิ ัศน์เร่อื ง ความเปน็ มาอำเภอดอยเต่าในอดตี และปจั จุบัน ผา่ น YouTube
3. คลปิ วีดิทัศน์เรอ่ื ง กางเต็นทแ์ ค่คร่งึ คืน : ทะเลสาบดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ผา่ น YouTube
4. แอปพลเิ คชัน Vonder Go เกย่ี วกบั อำเภอดอยเต่า เรื่อง แฟนพันธแุ์ ทด้ อยเตา่

ช้ินงานหรอื ภาระงาน
1. แผนผังสรุปความรู้ เรื่อง สภาพภูมิศาสตร์ของสถานที่ท่องเท่ียวสำคัญทางประวัติศาสตร์ใน

อำเภอดอยเตา่
2. ผลงานสรปุ ความรูใ้ นรปู แบบต่างๆโดยการใชเ้ ทคโนโลยี

343

การประเมนิ ผล
อินโฟกราฟิกสรุปความรู้ เรื่อง สภาพภมู ศิ าสตร์ของสถานที่ทอ่ งเที่ยวสำคัญทางประวตั ิศาสตร์ใน

อำเภอดอยเต่า (สมรรถนะการคดิ ขัน้ สงู )

344

การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้

รายวชิ า เยาวชนดอยเต่าหม่เู ฮามีดี สบื ฮีตสานฮอยประเพณวี ัฒนธรรมดอยเตา่ 2 รหัสวชิ า ย23202

ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 56 ชั่วโมง จำนวน 2 หน่วยกิต

ผลการเรยี นรู้
1. นักเรียนสามารถสรา้ ง Story Board ได้
2. นักเรียนรจู้ ักวัฒนธรรม ประเพณี และความเชอ่ื ของท้องถ่ินดอยเต่า
3. นักเรยี นสามารถปฏบิ ตั ติ ามลำดบั ขน้ั ตอนของประเพณีท้องถน่ิ ดอยเตา่ ได้อยา่ งเหมาะสม
4. นกั เรียนสามารถสรา้ งส่ือ เพื่อเผยแพรว่ ฒั นธรรม ประเพณี และความเช่ือทดี่ งี ามของท้องถิ่น

ดอยเต่าอยา่ งสร้างสรรค์
5. นักเรยี นเกดิ จิตสำนึกท่ดี ี หวงแหน อนุรกั ษ์วฒั นธรรม ประเพณี และความเชือ่ ทีด่ งี ามของ

ท้องถิน่

จุดประสงคเ์ ชิงสมรรถนะ
1. นักเรยี นสามารถอธบิ ายประเพณี วฒั นธรรม และความเชื่อ 12 เดอื นล้านนา และสามารถ

วิเคราะห์แยกแยะ องคป์ ระกอบของประเพณี วัฒนธรรม และความเชอ่ื 12 เดอื นลา้ นนาได้
2. นักเรยี นมีทักษะในการเขยี น Story Board และสรา้ ง Story Board ได้ทั้งภาษาไทย

ภาษาองั กฤษและภาษาจีน
3. นักเรียนสามารถสรา้ งส่ือเพ่ือนำเสนองาน โดยเลือกใช้เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมะเกิดจติ สำนกึ

ท่ีดี หวงแหน อนุรักษ์ประเพณี วฒั นธรรม และความเช่ือ 12 เดือนล้านนา ท่ีดีงามของทอ้ งถนิ่
4. นกั เรยี นเห็นประโยชน์ คณุ ค่า และความสำคัญของประเพณี วฒั นธรรม และความเชื่อใน

ท้องถิ่นดอยเต่า

สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ประเพณี วฒั นธรรมและความเชอื่ 12 เดือนลา้ นนา ในท้องถิ่นทไ่ี ด้รบั อิทธพิ ลจากการนับถือ และ

สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเป็นสง่ิ ทีป่ ฏบิ ัตสิ ืบต่อกนั มา แสดงใหเ้ หน็ ถงึ ความเจริญงอกงาม และเป็น
เอกลักษณ์ของทอ้ งถิ่นดอยเต่าทท่ี ุกคนร่วมกนั อนุรกั ษ์ และสืบทอดให้คงอยู่ต่อไป

สาระการเรยี นรู้
1. สรา้ ง Story Board เพื่อนำเสนอ
2. สร้างสื่อ เพ่ือเผยแพร่

สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น
1. การจัดการตนเอง
2. การคดิ ขัน้ สูง
3. การสือ่ สาร
4. การรวมพลงั ทำงานเป็นทีม
5. การเปน็ พลเมืองทเ่ี ข็มแข็ง
6. การอยูร่ ว่ มกบั ธรรมชาตแิ ละวิทยาการอย่างยัง่ ยนื

345

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. นกั เรยี นสามารถสรา้ งสื่อ
2. นักเรยี นสามารถเผยแพรว่ ฒั นธรรมและประเพณีที่ดีงามของท้องถ่นิ ดอยเตา่ อย่างสรา้ งสรรค์
3. นกั เรยี นมที ักษะการทำงานเป็นทีม
4. นักเรยี นสามารถใชเ้ ทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์และมวี ิจารณญาณ
5. นักเรยี นเกดิ ความภาคภมู ใิ จ เกิดจิตสำนกึ ท่ีดี หวงแหน อนุรักษ์วฒั นธรรม ประเพณี และ

ความเช่อื ท่ีดีงามของทอ้ งถนิ่

กจิ กรรมการเรียนรู้
1. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

ขั้นนำ
1. นกั เรยี นตอบคำถามกระตุน้ ความรู้เก่ียวกับเรื่องราว สถานการณ์ ที่ผา่ นมา
2. ให้นักเรยี นเล่าเหตกุ ารณ์ท่นี ักเรียนไดพ้ บเจอ

ขั้นสอน
3. ให้นักเรยี นเขยี น Story Board
4. ให้นักเรยี นนำเสนอ Story Board และร่วมกนั วพิ ากษ์ระหว่างกล่มุ โดยครผู ู้เตมิ เต็ม

เน้ือหาใหก้ ระบวนการสมบรู ณ์
5. ให้นกั เรยี นจดั ทำสื่อโดยใชเ้ นอื้ หาจาก Story Board ดว้ ยภาษาไทย ภาษาองั กฤษ และ

ภาษาจีน จากนนั้ นำเสนอครงั้ ท่ี 1 เพอื่ รบั การวพิ ากษร์ ว่ มกันในชน้ั เรียน สำหรบั การปรับปรุงใหเ้ กิดช้นิ งาน
ส่ือสรา้ งสรรคท์ ส่ี มบรู ณ์

6. นกั เรยี นนำเสนอผลงานท่ีสมบรู ณ์ โดยใช้รปู แบบท่หี ลากหลาย
ขัน้ สรปุ

7. ใหน้ ักเรยี นอภปิ รายข้อค้นพบระหวา่ งการทำงาน
8. นักเรยี นรว่ มกนั สะทอ้ นข้อคิดเหน็ และครูใหค้ ำแนะนำเพื่อเกิดการพฒั นา

สอ่ื /แหล่งเรียนรู้
สอ่ื
1. หนังสืออา่ นเพิม่ เตมิ เรื่อง ประวตั ดิ อยเตา่
2. หนังสอื อา่ นเพมิ่ เติม เรื่อง เลา่ ขานตำนานดอยเตา่
3. คลปิ วีดทิ ศั น์การสรา้ ง Story Board จาก YouTube
4. แอปพลิเคชันสำหรับการตดั ต่อคลปิ วดี ิทศั น์ เช่น Capcut, TikTok, Kinemaster, iMovie

เป็นต้น

แหลง่ เรยี นรู้
1. ชาวบา้ นหนองอีป่ ้มุ ที่หนนี ้ำท่วม (ชาวบา้ นวังหม้อในปจั จุบัน)
2. ชาวบ้านทอี่ าศยั ในลุ่มนำ้ แม่ปิง และน้ำแม่หาดและอยูใ่ นช่วงเหตุการณ์อพยพหนนี ้ำท่วม

เขื่อนภมู ิพล

346

3. สมั ภาษณ์ นายอินพันธ์ ตน๋ั เป็ง ผรู้ วบรวมองคค์ วามรดู้ า้ นพระพุทธรปู เกา่ แก่ และเรื่องราว
ความเปน็ มาของดอยเตา่

4. ชาวบ้านชาตพิ ันธุท์ อ่ี าศัยอยใู่ นพ้นื ที่อำเภอดอยเตา่
5. นางเกดิ แก้วมา ผูม้ คี วามรู้ดา้ นพิธกี รรมลงผหี ม้อนงึ่
6. นางแกว้ นนิ จาติ ผู้ทรงความรู้ดา้ นพิธกี รรมการแกวง่ ขา้ ว
7. ศูนย์การเรียนรู้ผ้าทอกะเหร่ยี งบา้ นหลา่ ยแก้ว
8. ศูนยก์ ารเรียนรทู้ อผา้ จก บ้านช่ัง แปลง 8
9. ภาคีเครือขา่ ย(อำเภอดอยเต่า/เทศบาล/อบต.)
10. แหล่งพ้นื ทนี่ วตั กรรมเพื่อพัฒนาศกั ยภาพเยาวชนดอยเต่า

ชน้ิ งานหรือภาระงาน
1. Story Board
2. สื่อเผยแพร่ผลงงาน

การประเมนิ ผล
ชิ้นงาน Story Board (สมรรถนะดา้ นการสอื่ สาร)

347

การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ รหสั วชิ า ย31201
จำนวน 2 หนว่ ยกติ
รายวิชา เยาวชนดอยเตา่ หมู่เฮามดี ี ข่วงผญาภูมปิ ัญญาทอ้ งถิน่ ดอยเตา่ 1
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชวั่ โมง

ผลการเรยี นรู้
1. ผู้เรียนสามารถรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษาแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับ

ประวัตคิ วามเปน็ มาภมู ิปัญญาท้องถ่ินดอยเตา่
2. ผเู้ รยี นวิเคราะห์ความแตกต่างทางชาตพิ ันธุ์ ลำดบั การเกิดขน้ึ ของภูมปิ ญั ญาท้องถนิ่ ดอยเตา่ ได้
3. ผู้เรยี นสามารถสบื ค้นขอ้ มูลโดยใช้กระบวนการ Research Based Learning
4. ผู้เรยี นสามารถสรุปองค์ความรู้ และอภิปรายผล โดยใชส้ อื่ และเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์
5. ผู้เรียนมคี วามภาคภมู ิใจในภูมิปัญญาท้องถ่ินดอยเตา่

จุดประสงคเ์ ชงิ สมรรถนะ
1. ผู้เรียนใชก้ ระบวนการ Research Based Learning ในการสบื คน้ และรวบรวมข้อมูลอย่างเปน็

ระบบ
2. ผ้เู รียนประมวลผลขอ้ มลู วิเคราะห์อัตลกั ษณ์ เอกลกั ษณ์ของภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ สงั เคราะห์ จัด

หมวดหมู่ เกิดความภาคภมู ิใจ รักษ์ และหวงแหนท้องถิ่น
3. ผู้เรยี นออกแบบวธิ ีการนำเสนอข้อมูลอย่างสร้างสรรคต์ ามศกั ยภาพ และยอมรับฟังความเห็นท่ี

แตกตา่ ง
4. ผเู้ รยี นจัดทำคลังผญาภูมิปัญญาดอยเต่าในรูปแบบสื่ออเิ ล็กทรอนิกส์

สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
คลังผญาภูมิปัญญาท้องถิ่นดอยเต่า เป็นกระบวนการสบื ค้นและรวบรวมข้อมลู เก่ยี วกับภูมปิ ญั ญา

ทอ้ งถ่ินอยา่ งเป็นระบบ มีการวเิ คราะห์อตั ลักษณ์ เอกลกั ษณข์ องภูมปิ ญั ญาทอ้ งถ่ิน สังเคราะห์ จัดหมวดหมู่
จดั ทำคลังผญาภูมปิ ญั ญาดอยเต่าในรูปแบบสอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ออกแบบวิธีการนำเสนอขอ้ มูลอยา่ ง
สรา้ งสรรค์ เพอ่ื ให้ผู้เรียนเกดิ ความภาคภูมใิ จ รักษ์ และหวงแหนทอ้ งถน่ิ

สาระการเรียนรู้
1. แบ่งประเภทภูมปิ ัญญาทอ้ งถ่นิ
2. คน้ หาอัตลักษณ์
3. จดั ทำขอ้ มูลสารสนเทศ
4. ผลติ สื่อ

สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน
1. การจดั การตนเอง
2. การคดิ ขัน้ สูง
3. การสอ่ื สาร
4. การรวมพลังทำงานเป็นทีม

348

5. การเป็นพลเมืองที่เขม้ แขง็
6. การอยู่ร่วมกับธรรมชาตแิ ละวิทยาการอยา่ งยง่ั ยืน

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีจติ สำนกึ รัก หวงแหน เห็นคณุ คา่ เหน็ ประโยชน์ อนรุ ักษ์ ภมู ิใจในภูมิปญั ญาท้องถ่ินดอยเตา่
2. เปน็ พลเมืองรักษ์ถน่ิ

กิจกรรมการเรยี นรู้ (ระบุวิธีสอน Active Learning ประเภทใด)
1. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ จำนวน 40 ช่ัวโมง

ช่วั โมงท่ี 1 - 4
1. นักเรยี นเล่นเกม Bingo รายชื่อภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ ในอำเภอดอยเต่า แหลง่ เรียนร้ภู ูมิปัญญา

ทอ้ งถ่ิน ปราชญ์ชาวบา้ น ดังนี้
1.1 ครแู จกตาราง Bingo ให้นักเรียนและชีแ้ จงกติกาการเล่นเกม
1.2 นักเรียนเขียนชอื่ ภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ ในอำเภอดอยเต่า แหล่งเรยี นรภู้ มู ปิ ัญญาท้องถิน่ และ

ปราชญช์ าวบา้ นทน่ี ักเรยี นได้เรยี นรูใ้ นหนว่ ยทีแ่ ล้วลงในตาราง Bingo
1.3 ครูจับสลากรายชอ่ื ภูมปิ ัญญาท้องถ่ิน แหลง่ เรยี นรภู้ ูมปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ และปราชญช์ าวบา้ น

ในอำเภอดอยเตา่ หากนักเรียนมรี ายชือ่ นั้นให้ทำเครอื่ งหมาย X ทับในช่อง Bingo น้นั
1.4 นักเรยี นทีท่ ำเครื่องหมายได้ครบตามกติกา จะได้รับรางวลั

2. นักเรยี นแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับภูมิปญั ญาท้องถน่ิ แหล่งเรียนรู้ และปราชญช์ าวบา้ นท่ี
หลากหลายในอำเภอดอยเต่า ทั้งทน่ี ักเรียนเคยร้จู ัก และไม่เคยรูจ้ กั มากอ่ น หลงั จากได้ศกึ ษาแหล่งเรียนรู้
มาแลว้

3. นกั เรียนแต่ละห้องระดมความคดิ เห็น โดยการนำข้อมูลที่ได้จากการศึกษาแหล่งเรียนรู้
มาวิเคราะห์ เพ่ือจัดหมวดหมู่ของภูมิปัญญาท้องถ่นิ

ช่วั โมงที่ 5 - 8
1. นักเรยี นแต่ละห้องนำเสนอผลการระดมความคิดเหน็ หนา้ ชัน้ เรยี น โดยใหน้ กั เรยี นหอ้ งอน่ื ๆ

ร่วมแสดงความคิดเห็น
2. นักเรยี นหลอมองค์ความร้ปู ระเภทของภมู ปิ ัญญาท้องถน่ิ ท่อี ยู่ในอำเภอดอยเตา่ โดยวิธีการ

ระดมความคิดเหน็
3. นกั เรียนแตล่ ะคนเลอื กภูมิปญั ญาท้องถิน่ ทน่ี ักเรยี นสนใจมาคนละ 1 อยา่ ง โดยให้เขยี นลงใน

กระดาษโนต้ ทีค่ รแู จกให้ พร้อมเขยี นช่อื - นามสกลุ ให้เรียบร้อย
ชั่วโมงท่ี 9 – 12
1. นักเรียนนำภูมปิ ัญญาท้องถน่ิ ทนี่ กั เรียนเลอื กไปติดบนกระดานตามประเภทของภูมิปญั ญา

ทอ้ งถ่นิ ทน่ี กั เรียนได้ร่วมกนั แบ่งหมวดหมู่ไวแ้ ล้ว
2. นกั เรียนแบง่ กลุ่มตามความสนใจในหมวดหมู่ภมู ปิ ญั ญาทีไ่ ด้เลือกไว้
3. นกั เรียนแต่ละกล่มุ ศึกษาคน้ ควา้ เพ่ิมเติมเก่ยี วกับภมู ิปัญญาท้องถ่ินท่ีตนไดเ้ ลอื ก

ช่ัวโมงที่ 13 – 16
1. นักเรียนแต่ละกลุ่มวิเคราะห์อัตลักษณ์ เอกลักษณ์ของภมู ิปัญญาทอ้ งถ่นิ สังเคราะห์ข้อมูลท่ี

เกย่ี วข้องกับภูมิปัญญาท้องถิ่น

349

ชว่ั โมงที่ 17 – 20
1. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลการวเิ คราะห์ และรบั ฟงั ความคิดเห็นจากครูและเพื่อน เพื่อนำไป

ปรบั ปรุงพัฒนาผลงาน
ชว่ั โมงที่ 21 – 24
1. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลการวิเคราะห์ และรับฟงั ความคิดเห็นจากครูและเพ่ือน เพื่อนำไป

ปรบั ปรุงพฒั นาผลงาน (ต่อ)
ชัว่ โมงท่ี 25 – 28
1. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ปรบั ปรงุ พัฒนาผลงานของตน
ชั่วโมงท่ี 29 – 32
1. นักเรยี นแต่ละกลุ่มปรบั ปรุงพัฒนาผลงานของตน
ชวั่ โมงท่ี 33 – 36
1. นกั เรียนร่วมกนั ออกแบบรูปแบบการเก็บรวบรวมผลงานอย่างเปน็ ระบบในรปู แบบสอ่ื

อิเล็กทรอนกิ ส์
2. รวบรวมผลงานเปน็ คลงั ผญาภมู ิปัญญาท้องถ่นิ ดอยเตา่ ในรูปแบบส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์

ช่ัวโมงท่ี 37 - 40
1. ตรวจสอบข้อมูล และเผยแพร่สารสนเทศคลังผญาภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ินดอยเต่า ในชอ่ งทางที่

หลากหลาย
2. นักเรยี นร่วมกันประเมินคุณค่าของภมู ปิ ัญญาท้องถิน่ ตอ่ การดำรงชีวิตของคนในชุมชน และ

สืบสานภูมิปญั ญาให้ธำรงอยู่อย่างยง่ั ยืน
3. สะท้อนความคดิ ต่อการเรยี นในภาคเรียนที่ 1

สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้
1. แหลง่ เรียนรู้ผา้ ทอ
2. แหล่งเรยี นรู้การเกษตร
3. แหลง่ เรียนรู้ทะเลสาบดอยเตา่
4. แหล่งเรยี นร้วู ดั ในอำเภอดอยเต่า
5. แหลง่ เรยี นรหู้ ัตถกรรมจักสาน
6. แหลง่ เรยี นรู้ยาสมุนไพรพน้ื เมือง

ช้ินงานหรือภาระงาน
1. นำเสนอผลการระดมความคดิ เห็น เรื่อง ภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ ดอยเต่า
2. ช้ินงานนำเสนอภูมปิ ัญญาท้องถ่นิ
3. คลงั ผญาภูมปิ ญั ญาทอ้ งถิ่นดอยเตา่ ในรูปแบบส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์

การประเมนิ ผล
สมรรถนะการจัดการตนเอง

350

การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ รหัสวชิ า ย32201
รายวิชา เยาวชนดอยเต่าหมูเ่ ฮามดี ี นวัตวถิ เี ด็กดีดอยเตา่ 1 จำนวน 2 หนว่ ยกติ
ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 20 ชวั่ โมง

ผลการเรียนรู้
1. นักเรยี นสามารถใชเ้ ทคโนโลยีในการสืบค้นข้อมูลอย่างสร้างสรรค์
2. นักเรียนสำนึกรักษท์ ้องถิน่ และสิง่ แวดลอ้ ม เป็นคนดีมจี ติ สาธารณะ
3. นักเรยี นเกิดสมรรถนะหลักตามหลักสูตรการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน
4. นกั เรียนสามารถสร้างผลงานและนำเสนอผลงานอย่างสร้างสรรค์

จดุ ประสงค์เชงิ สมรรถนะ
1. นกั เรยี นสามารถรว่ มกันอภิปรายและวพิ ากษจ์ ดุ เดน่ จดุ ควรพฒั นา เอกลักษณเ์ พ่ือพฒั นาตอ่

ยอดผลติ ภณั ฑ์ สนิ ค้า อาชพี ท่องเทีย่ วเชงิ ระบบนิเวศและวัฒนธรรมในชุมชนและท้องถน่ิ
2. นกั เรียนสามารถพัฒนาต่อยอดผลติ ภัณฑ์ สินค้า อาชีพทอ่ งเท่ียวเชิงระบบนเิ วศและวฒั นธรรม

ในชมุ ชนและท้องถิ่นและนำเสนอโดยการใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างสร้างสรรค์
3. นักเรียนสามารถใชท้ รัพยากรธรรมชาตทิ ่ีมใี นท้องถิน่ ได้อย่างเหมาะสม เหน็ คุณค่า รกั ษ์หวง

แหนและมสี ว่ นรว่ มในท้องถนิ่

สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
การนำผลการวเิ คราะห์ จุดเด่น จุดควรพฒั นา (SWOT) ประเมนิ ค่าเอกลักษณ์ต่อยอดของ

ผลติ ภัณฑ์ สินคา้ อาชีพท่องเท่ยี วเชิงระบบนเิ วศและวฒั นธรรม ในชมุ ชนและท้องถ่นิ เพื่อสรา้ งสรรค์ผลงาน
การพัฒนาและต่อยอดของผลติ ภณั ฑ์ สินค้า อาชีพท่องเทย่ี วเชงิ ระบบนเิ วศและวฒั นธรรม ในชุมชนและ
ท้องถิน่

สาระการเรยี นรู้
1. Make it better (ทำให้ดกี ว่าเดิม) โดยให้ผู้เรยี นเลือกสิง่ ที่ต้องการพัฒนาต่อยอด (ผลติ ภัณฑ์

สินคา้ อาชพี ท่องเท่ียวเชงิ ระบบนเิ วศและวัฒนธรรม ในชมุ ชนและท้องถิ่น) ในรูปแบบที่สร้างสรรค์และ
แตกตา่ งจากวถิ เี ดิม

2. การใช้ภาษาในการนำเสนออยา่ งสรา้ งสรรค์

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
1. การจดั การตนเอง
2. การคดิ ข้ันสงู
3. การส่ือสาร
4. การรวมพลงั ทำงานเปน็ ทมี
5. การเปน็ พลเมอื งท่ีเข้มแขง็
6. การอยรู่ ่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอยา่ งยงั่ ยนื

351

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1. นกั เรียนมจี ติ สำนึกรักษท์ ้องถิ่นและสิ่งแวดล้อม
2. นักเรียนเป็นคนดี มจี ิตสาธารณะ มีคุณธรรม จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ

มวี ิจารณญาณในการวเิ คราะห์ข้อมลู และไม่ละเมดิ สิทธิทางปญั ญา
3. นกั เรียนมีเจตคติท่ดี ใี นการทำงานเป็นทมี

กจิ กรรมการเรียนรู้
กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้รูปแบบของการใช้ปัญหาเป็นฐาน

(PROBLEM-BASED LEARNING) เป็นมีจุดมุ่งหมายเพื่อฝึกทักษะการคดิ แกป้ ัญหาอย่างมีเหตุผลและเป็น
ระบบให้แก่นักเรียนโดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นทักษะกระบวนการคิดแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์
คิดวจิ ารณญาณ คิดวิเคราะห์ การสบื ค้น รวบรวมขอ้ มูล มกี ระบวนการกลุ่ม การบนั ทึกรายงานผลและการ
อภิปราย โดยครูผู้สอนจะทำหน้าที่สนับสนุนการเรียนรู้ของผู้เรียน คอยให้คำปรึกษา กระตุ้นผู้เรียน
พร้อมให้ขอ้ มลู ยอ้ นกลบั เพ่อื ให้ผเู้ รยี นได้เกดิ การพฒั นาตนเอง

กระบวนการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning โดยใช้รูปแบบของการใชโ้ ครงงานเป็นฐาน
(PROJECT-BASED LEARNING) การจัดการเรียนรู้ที่มีครูเป็นผู้กระตุ้นเพื่อนำความสนใจที่เกิดจากตัว
นักเรียนมาใช้ในการทำกิจกรรมค้นคว้าหาความรู้ด้วยตัวนักเรยี นเอง นำไปสู่การเพิ่มความรูท้ ่ีได้จากการลง
มือปฏิบัติ การฟังและการสังเกต สัมภาษณ์จากผู้เชี่ยวชาญ ปราชญ์ชาวบ้าน แหล่งเรียนรู้ต่างๆ
โดยนักเรียนมีการเรียนรู้ผ่านกระบวนการทำงานเป็นกลุ่ม ที่จะนำมาสู่การสรุปความรู้ใหม่ มีการเขียน
กระบวนการจัดทำโครงงานและได้ผลการจัดกิจกรรมเปน็ ผลงานแบบรปู ธรรม

1. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
สัปดาหท์ ี่ 15 (ชั่วโมงที่ 1-4) (2PBL)
ขนั้ สร้างความสนใจ
1. นกั เรยี นทำกิจกรรม “Bingo ของดดี อยเตา่ ” โดยใหน้ ักเรยี นเลือกคำศัพทจ์ ากคลังคำของดี

ดอยเตา่ เขยี นลงไปในกระดาษตารางบงิ โกท่ีครูแจกให้ (การจดั การเรียนการสอนในรปู แบบออนไลนใ์ ช้
แอปพลิเคชัน Padlet) จากน้ันจึงจบั สลากในคลังคำศัพท์เพ่อื หาผู้ชนะในกจิ กรรม “Bingo ของดดี อยเตา่ ”
เป็นการสร้างความสนใจ ความสนกุ สนานให้กบั นักเรียนก่อนทำกิจกรรมต่อไป

ข้นั กจิ กรรม/กระบวนการเรียนรู้
1. นักเรียนทกุ คนเขยี นเสนอประเดน็ ทส่ี นใจท่ีต้องการพฒั นาต่อยอดลงในกระดาษ Post it
2. นักเรยี นรว่ มกันวเิ คราะห์เพือ่ จำแนกหมวดหมูป่ ระเดน็ ท่ีนักเรยี นต้องการพฒั นาต่อยอด
3. นักเรียนเข้ากลุ่มตามความสนใจที่ได้นำเสนอข้างต้น ตั้งชื่อกลุ่มแล้วเลือกคณะทำงานและ
กำหนดบทบาทหนา้ ท่ขี องสมาชกิ กลมุ่
4. นักเรียนแต่ละกลมุ่ วพิ ากษเ์ พอ่ื เลอื กสิง่ ทต่ี อ้ งการพฒั นา
5. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวางแผนการเก็บรวบรวมข้อมูลที่นักเรียนต้องการศึกษาเพิ่มเติม
พรอ้ มท้งั สรา้ งหรือเลือกเคร่ืองมือเบอื้ งต้นท่ีใช้ในการเกบ็ ข้อมลู
6. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำเสนอผลการคัดเลือกสิ่งท่ีตอ้ งการพัฒนา สิ่งที่ต้องการศึกษาเพิม่ เติมและ
เคร่ืองมือในการเก็บขอ้ มูลเบอ้ื งตน้ ให้เพื่อนในช้ันเรยี นไดร้ ับรู้และรว่ มแสดงความคดิ เหน็

352

ขั้นสรปุ
1. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้และกำหนดภาระงานที่ได้รับมอบหมายเพื่อดำเนินการใน
สัปดาห์ตอ่ ไป

สัปดาห์ท่ี 16 (ชั่วโมงที่ 5-8) (2PBL)
ขั้นสร้างความสนใจ
1. นักเรียนแต่ละกลุ่มสร้างสรรค์เพลงและท่าประจำกลุ่มให้สอดคล้องกับสิ่งที่นักเรียนต้องการ

พฒั นาและตอ่ ยอด เพ่ือสรา้ งความเปน็ ทมี
2. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอเพลงและท่าประจำกลุม่ ให้กบั เพื่อนและครูไดร้ ับชมและรบั ฟงั โดยมี

การสุ่มตวั แทนนักเรยี นในกลา่ วชื่นชมเพื่อเสรมิ กำลังใจแกเ่ พื่อนในช้นั เรยี น
3. นักเรียนร่วมกันสร้างข้อตกลงในการลงพื้นที่ศึกษาค้นคว้า เก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้

ในโรงเรยี น นอกโรงเรียน เทคโนโลยสี ารสนเทศต่าง ๆ ตามแผนทีว่ างไว้ เพื่อนำไปปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม
ทัง้ ด้านความปลอดภัยและภาพลกั ษณ์ทีด่ ีของโรงเรยี น

ข้นั กจิ กรรม/กระบวนการเรยี นรู้
1. นักเรียนเลือกครูที่ปรึกษา(coaching) เพื่อส่งเสริม แนะนำและให้คำปรึกษากับนักเรียนในทุก
กระบวนการ มกี ารใหอ้ งค์ความร้เู รอื่ งการใชภ้ าษาในการนำเสนออย่างสรา้ งสรรค์
2. นักเรียนแต่ละกลุ่มลงมือศึกษาค้นคว้า เก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ในโรงเรียน นอก
โรงเรยี น เทคโนโลยสี ารสนเทศตา่ ง ๆ ตามแผนทีว่ างไว้
ขน้ั สรุป
1. นักเรียนมีการรายงานผลตามเครื่องมือเบื้องต้นที่นักเรียนได้สร้างขึ้นหรือเลือกใช้ในรูปแบบ
ออนไลน์

สปั ดาหท์ ่ี 17 (ชั่วโมงท่ี 9-12) (2PBL)
ขน้ั สร้างความสนใจ
1. นักเรียนร่วมกิจกรรม “คำขวัญจังหวัดอะไร” โดยให้นักเรียนดูแผ่นป้ายคำขวัญแล้วให้นักเรียน

ทายว่าคำขวัญที่อยู่ในแผ่นป้ายเป็นคำขวัญของจังหวัดอะไร เมื่อนักเรียนทายจังหวัดได้แล้ว ให้นักเรียน
อธิบายว่า ทำไมถงึ ตอบวา่ เปน็ จงั หวดั นัน้ ๆ เพอื่ วเิ คราะห์เช่ือมโยงถึงคณุ ค่าของแตล่ ะท้องถน่ิ

ข้นั กิจกรรม/กระบวนการเรยี นรู้
1. นักเรียนร่วมกนั วิเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษาค้นควา้
2. นกั เรียนวางแผนการดำเนนิ งานพฒั นาต่อยอดผลติ ภัณฑ์ สนิ คา้ อาชพี ทอ่ งเทยี่ วเชงิ ระบบนเิ วศ
และวัฒนธรรม ในชมุ ชนและท้องถน่ิ
3. นกั เรยี นลงมปี ฏิบตั ิงานตามแผนงานทีก่ ำหนด

สปั ดาห์ที่ 18 (ชั่วโมงท่ี 13-16) (2PBL)
ขน้ั กจิ กรรม/กระบวนการเรียนรู้
1. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มระดมสมองดำเนนิ การตามแผนและแก้ไขปัญหาระหว่างการดำเนนิ การโดยมี

ครทู ่ปี รึกษาตดิ ตามและใหก้ ำลังใจ

353

สัปดาหท์ ่ี 19 (ช่ัวโมงท่ี 17-20) (2PBL)
ข้ันสร้างความสนใจ
1. นกั เรียนทำกิจกรรม “ลอยเรือ” เพื่อสร้างความสนใจ สรา้ งพลังบวกและสรา้ งความสนุกสนาน

ในช้ันเรยี น และสุดทา้ ยกิจกรรมลอยเรือจะแบง่ กลุ่มให้นักเรยี นตามกลมุ่ การทำงาน
ขั้นกิจกรรม/กระบวนการเรยี นรู้
1. นกั เรียนนำเสนอผลงานสรา้ งสรรค์การพัฒนาต่อยอดผลติ ภัณฑ์ สนิ ค้า อาชพี ท่องเทยี่ วเชิง

ระบบนิเวศและวัฒนธรรม ในชุมชนและทอ้ งถิ่นและนำเสนอโดยการใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างสร้างสรรค์
2. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั โหวตผลงานทีน่ กั เรยี นช่ืนชอบ เพ่ือประกวดผลงาน Popular Vote

(ผลงานขวญั ใจมหาชนคนดอยเต่า)
ขน้ั สรุป
1. นกั เรียนทุกคนรว่ มกันสะทอ้ นองค์ความรู้ กระบวนการ ทกั ษะ คุณค่าที่ไดร้ บั จากหนว่ ยการ

เรยี นรู้ Make it better (ทำให้ดกี ว่าเดมิ )

สอ่ื /แหลง่ เรียนรู้
1. ภูมิปญั ญาท้องถ่นิ
2. ปราชญช์ าวบ้าน
3. ส่อื เทคโนโลยสี ารสนเทศ
4. แหลง่ เรยี นร้ใู นชุมชนและท้องถิ่น
5. หอ้ งสมดุ โรงเรียนดอยเต่าวิทยาคม
6. ห้องสมดุ อำเภอดอยเตา่
7. สถานประกอบการในชุมชนและทอ้ งถ่ิน

ช้นิ งานหรอื ภาระงาน
1. ผลงานสร้างสรรคจ์ ากการพัฒนาต่อยอดผลิตภณั ฑ์ สินคา้ อาชพี ท่องเที่ยวเชิงระบบนิเวศและ

วฒั นธรรม ในชุมชนและทอ้ งถน่ิ โดยมกี ารใชเ้ ทคโนโลยใี นการนำเสนออย่างสรา้ งสรรค์

การประเมนิ ผล
สมรรถนะการอย่รู ่วมกบั ธรรมชาติ และวทิ ยาการอย่างยัง่ ยืน

354

การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้

รายวิชา เยาวชนดอยเตา่ หมู่เฮามีดี สรา้ งสรรคป์ ั้นนวัตกรอาชพี 1 รหสั วชิ า ย33201
จำนวน 2 หน่วยกติ
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 12 ชวั่ โมง

ผลการเรยี นรู้
1. นกั เรียนสามารถเลือกและตัดสินใจ ประกอบอาชีพสุจรติ ท่ีตนเองสนใจได้
2. นกั เรยี นมคี ุณธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณ ของผู้ประกอบการ
3. นกั เรียนสามารถประกอบอาชีพของตนเองได้อยา่ งมคี วามสุข

จุดประสงค์เชิงสมรถนะ
สามารถเลือกและตดั สินใจ ประกอบอาชีพสจุ ริต ท่ตี นเองสนใจได้ โดยใชท้ ักษะการจดั การตนเอง

การคิดขั้นสูง การสอ่ื สาร การรวมพลังทำงานเปน็ ทมี การเป็นพลเมืองท่เี ข้มแข็ง การอยู่ร่วมกบั ธรรมชาติ
และวทิ ยาการอย่างย่ังยืน ยึดคุณสมบัติของผูป้ ระกอบการที่ดี และประกอบอาชีพของตนเองได้อย่างมี
ความสุข

สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
เลือกและตัดสนิ ใจประกอบอาชพี สจุ รติ ที่มีคุณธรรม ได้อย่างมคี วามสุข

สาระการเรยี นรู้
1. อาชพี ของชมุ ชนดอยเตา่
2. อาชพี ของจังหวัดเชียงใหม่
3. อาชีพในประเทศไทย (4ภาค)
4. อาชีพในต่างประเทศ
5. การวเิ คราะห์ขอ้ มูลแนวโน้มของการประกอบอาชพี ในอนาคต โดยใช้กระบวนการวิจัย

สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
การจดั การตนเอง การคดิ ขน้ั สูง การสื่อสาร การรวมพลงั ทำงานเปน็ ทีม การเปน็ พลเมืองทีเ่ ขม้ แข็ง

การอย่รู ่วมกับธรรมชาติและวิทยาการอยา่ งย่งั ยืน ยึดคณุ สมบัติของผูป้ ระกอบการท่ดี ี และประกอบอาชพี
ของตนเองไดอ้ ย่างมีความสขุ

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

คณุ สมบตั ิของผู้ประกอบการทีด่ ี มีใจรกั ในการทำงาน ภูมิใจในอาชีพ ใฝเ่ รยี นรู้ คดิ อยา่ ง

สร้างสรรค์ สรา้ งฝันให้ยงิ่ ใหญ่ ยดึ มนั่ ไม่ย่อท้อ เชอ่ื มัน่ ในตนเอง มีความสามารถในการตัดสินใจ กลา้

เปล่ียนแปลงถอื เปน็ โอกาส อดทนต่อความไม่แนน่ อน และการมจี รรยาบรรณในวิชาชีพ

กิจกรรมการเรยี นรู้
‐ อาชีพของชุมชนดอยเตา่
‐ อาชีพของจงั หวัดเชียงใหม่
‐ อาชีพในประเทศไทย (4ภาค)

355

‐ อาชีพในต่างประเทศ
‐ การวิเคราะห์ข้อมูลแนวโน้มของการประกอบอาชีพในอนาคต โดยใชก้ ระบวนการวจิ ยั

การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (ระบุชวั่ โมงสอดคลอ้ งตามโครงสร้างรายวิชา)
วิธีสอนโดยการเรียนรแู้ บบร่วมมอื (Collaborative Learning )
สปั ดาหท์ ี่ 1 (ช่วั โมงที่ 1-4)
ข้ันเตรียม
1. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม ออกเป็น 4 กลุ่มใหเ้ ท่ากนั ได้แก่ กลมุ่ อาชีพของชมุ ชนดอยเต่า กลมุ่ อาชพี

ของจังหวดั เชยี งใหม่ กลมุ่ อาชพี ในประเทศไทย (4ภาค) และกลมุ่ อาชพี ในตา่ งประเทศ พร้อมทั้งกำหนด
บทบาท หนา้ ทส่ี มาชิกในกลมุ่

2. แจ้งวัตถปุ ระสงค์ของการสำรวจอาชีพ ทั้ง 4 กลุ่ม
ข้นั กจิ กรรมกลุ่ม
1. สมาชกิ แต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ศึกษาหาข้อมลู จากส่ืออเิ ล็กทรอนิกสต์ ่างๆ ในหวั ข้อทกี่ ลุ่มตนเอง
ไดร้ บั มอบหมาย
2. แต่ละกลุ่มร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น อภปิ ราย แลกเปล่ยี นเรยี นรู้ ภายในกล่มุ ของตนเอง
ขนั้ ตรวจสอบผลงาน
1. แต่ละกล่มุ นำเสนอหวั ข้อของกล่มุ ตนเองตามทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
2. เพ่อื นต่างกลุ่มชว่ ย สะท้อนผล เสรมิ ความคิดสร้างสรรค์ ในหวั ข้อนั้นๆ
ขน้ั สรปุ บทเรยี น
1. นกั เรยี นและครู ร่วมกนั สรุปการสำรวจอาชพี ของแต่ละกลมุ่ พร้อมท้งั ช่วยกนั เสนอแนะ
จดุ เด่น จดุ ด้อย เพ่ือการวเิ คราะหข์ ้อมลู แนวโน้มของการประกอบอาชีพในอนาคต โดยใช้กระบวนการวจิ ยั
2. นกั เรยี นช่วยกนั ระดมความคิด กลุ่มอาชีพของชมุ ชนดอยเต่า ที่นักเรยี นสนใจ เพ่ือวางแผนลง
พืน้ ท่ีจรงิ ในการสำรวจในสปั ดาหต์ อ่ ไป

วธิ สี อนการเรยี นรจู้ ากการปฏบิ ัติ (Action Learning) ลีเวนส์
สัปดาหท์ ี่ 2 (ช่วั โมงท่ี 5-8)

1. นักเรียนแต่กล่มุ กำหนดบทบาท หน้าทีข่ องสมาชกิ ในกลุ่ม พร้อมทั้งใหน้ กั เรยี นเตรียมความ
พรอ้ มในบทบาทและหน้าทขี่ องตัวเองท่ไี ดร้ ับมอบหมายในกลมุ่ ในการลงพื้นทใ่ี นการสำรวจอาชพี ในชุมชน
ดอยเต่า

2. แต่ละกลุ่มลงพ้ืนท่จี ริงเพ่ือสำรวจอาชพี ในชมุ ชนดอยเต่าที่กล่มุ ตนเองสนใจ เพ่ือสัมภาษณ์
กลยทุ ธใ์ นทางการตลาด เช่น ปัญหาท่ีพบและแนวทางการแกไ้ ขปญั หา

3. นกั เรียนแต่ละกลุ่มช่วยกัน สรปุ ผลการลงพ้ืนทส่ี ำรวจอาชีพในชุมชนดอยเต่า
4. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ นำเสนอ พรอ้ ม สรุปผลการลงพ้ืนท่สี ำรวจอาชพี ในชุมชนดอยเตา่
5. แต่ละกลุ่มรว่ มกันสะท้อนผลการลงพน้ื ทีส่ ำรวจอาชีพในชมุ ชนดอยเตา่ พร้อมท้ังเสนอ
แนวทางการทำธรุ กิจในอนาคตต่อไป

356

วธี ีการสอนโดยใชผ้ งั ความคิด (Mind mapping)
สัปดาหท์ ี่ 3 (ชวั่ โมงท่ี 9-12)

1. นกั เรยี นแต่ละคน ตกผลกึ ความคิดของตวั เอง ในประเด็นที่ทำใหน้ กั เรียนสนใจในอาชีพนั้น
2. นักเรยี นวเิ คราะห์ Key Word /ประเด็นหลัก/ประเด็นรอง ของอาชีพที่ตนเองสนใจ
3. นกั เรียนออกแบบ รูปแบบการนำเสนออินโฟกราฟิกในอาชีพท่ีตนเองสนใจ
4. นกั เรยี นและครู ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้องของ อินโฟกราฟิกในอาชพี ท่ีตนเองสนใจ
5. นกั เรยี นแต่ละคน นำเสนออินโฟกราฟิกในอาชพี ที่ตนเองสนใจ โดยใชเ้ ทคโนโลยีทหี่ ลากหลาย

สื่อ/แหลง่ เรยี นรู้
1. ห้องสมดุ โรงเรยี นดอยเตา่ วิทยาคม
2. ห้องสมดุ อำเภอดอยเต่า
3. สถานประกอบการในอำเภอดอยเตา่
4. แหล่งเรยี นรู้ในอำเภอดอยเต่า
5. ส่ืออนิ เทอร์เนต็

ชิน้ งานหรือภาระงาน
1. รปู แบบการนำเสนออาชพี ทตี่ นเองสนใจ 1 รปู แบบ/1 คน

การวดั และประเมนิ ผล
1. ชน้ิ งาน
2. การสงั เกต
3. ประเมนิ พฤติกรรม

การประเมนิ ผล
สมรรถนะการเป็นพลเมอื งทเ่ี ขม้ แข็ง

357

เครือ่ งมอื วดั และประเมนิ ผลฐานสมรรถนะ

รายวิชา เยาวชนดอยเตา่ หมู่เฮามดี ี เลา่ ขานตำนานดอยเตา่ 1 รหสั วิชา ย20101

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 12 ชวั่ โมง จำนวน 2 หนว่ ยกติ

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานเปน็ ทีม

คำช้ีแจง
ใหผ้ ู้ประเมินสงั เกตพฤติกรรมของผ้เู รียนจากการทำกจิ กรรมแลว้ ทำเคร่ืองหมาย √ ลงในชอ่ งตาม

ความเปน็ จริง

เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล ปฏบิ ัติ ปฏบิ ัติ
บอ่ ยครง้ั บางคร้ัง
เครื่องมอื สงั เกตพฤติกรรมการทำงานเป็นทมี
(2) (1)
ปฏิบตั ิ
ท่ี รายการประเมนิ สม่ำเสมอ

(3)

การเป็นสมาชิกทด่ี ีและภาวะการเปน็ ผนู้ ำ

1 ใชจ้ ดุ เดน่ ของตนเองและสมาชกิ ในการทำงานเป็นทีม ใน
ภาระงานที่แตกตา่ ง สะท้อนการทำงานของตนเองพรอ้ มที่
จะปรบั เปลย่ี นหน้าทีแ่ ละบทบาท ชกั จูงใหส้ มาชิกทมี
ทำงานให้สำเรจ็ เพ่ือให้งานบรรลุเป้าหมาย

2 กล้าแสดงความคดิ เห็นของตนเอง และรับฟงั ความคดิ เหน็
ของผู้อ่ืน

3 สะทอ้ นการทำงานของตนเองและทีมตามความเป็นจริง
เพ่ือหาจุดเด่นและจุดพัฒนา ในการสนบั สนุนการทำงาน
ของทมี

4 ใช้ทักษะการทำงานเป็นทมี ในการดงึ ศักยภาพของสมาชกิ
ในการทำงานใหบ้ รรลุผลสำเรจ็ สะท้อนการทำงานและให้
ข้อเสนอแนะต่อสมาชิกทีม และสรา้ งแรงบันดาลใจใหก้ ัน
และกันในการทำงาน

5 เปน็ ผูน้ ำและเปน็ สมาชิกทีด่ ขี องทีม แสดงออกได้อยา่ ง
เหมาะสม มีแรงบันดาลใจ และสามารถวางแผนในการ
พัฒนาตนเองอยา่ งตอ่ เน่ือง จนไดร้ ับความไว้วางใจและ
ยอมรับจากสมาชกิ ทีม

6 สามารถวางแผนในการพฒั นาตนเองอย่างต่อเน่ือง จน
ไดร้ ับความไวว้ างใจและยอมรับจากสมาชิกทีม

358

เครอ่ื งมือสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานเปน็ ทีม ปฏบิ ตั ิ ปฏบิ ัติ
บอ่ ยครง้ั บางครง้ั
ปฏบิ ัติ
ท่ี รายการประเมนิ สมำ่ เสมอ (2) (1)

(3)

กระบวนการทำงานแบบร่วมมือ รวมพลงั

7 ร่วมกำหนดเปา้ หมายของทมี รบั รู้ รับผิดชอบเป้าหมายน้นั
และเหน็ ความเชื่อมโยงของหนา้ ทต่ี นเองกับเปา้ หมายของ
ทมี

8 ร่วมวางแผนขัน้ ตอนในการทำงานไปส่เู ป้าหมาย แบง่
บทบาทหน้าท่ี และการตัดสินใจร่วมกนั ในทีมได้

9 รูจ้ ักและใช้ประโยชนจ์ ากทรพั ยากรในชมุ ชนอยา่ งคุ้มคา่
และสรา้ งสรรค์

10 เขา้ ใจและยอมรับความสามารถของสมาชกิ ทีมที่แตกต่าง
กัน

11 รว่ มกำหนดเป้าหมาย วางแผนการทำงานเป็นทมี ลงมือ
ปฏิบตั ิ ทบทวน ประเมินผลและปรบั ปรุงการทำงานรว่ มกนั

12 เขา้ ใจกระบวนการทำงานเป็นทมี อย่างเปน็ องคร์ วมและ
ปรับบทบาทหนา้ ท่ีของตนเองใหเ้ หมาะสมกับสถานการณ์
เพ่อื ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมายของทีม

13 ไวว้ างใจและส่งเสริมสนบั สนุนซ่งึ กนั และกัน

14 เข้าใจและยอมรบั ความแตกต่าง และรับฟังความคิดเห็น
ของผู้อ่ืน

15 สนับสนุนด้านขอ้ มลู ส่งเสรมิ กระบวนการทำงาน และการ
จัดการอยา่ งเป็นระบบ ที่ใหส้ มาชกิ ทุกคนมีความรบั ผดิ ชอบ
ตอ่ บทบาทหน้าที่ของตนเองอย่างเตม็ ความสามารถ

16 ทำงานร่วมกบั ทมี ดว้ ยกระบวนการทำงานทเ่ี ปน็ ระบบ
โปร่งใส และตรวจสอบได้

17 เหน็ ภาพความสำเร็จของทีม ใหค้ วามรว่ มมอื ในการทำงาน
เปน็ ทีมด้วยความรับผิดชอบอย่างสุดความสามารถ
แลกเปล่ียนข้อมลู และทรัพยากรทจ่ี ำเป็น ตลอดจนร่วม
ตัดสนิ ใจกบั ทีม โดยคำนงึ ถงึ ประโยชน์ของทีมก่อน
ประโยชนส์ ว่ นตน

359

เคร่อื งมอื ประเมนิ สมรรถนะกระบวนการทำงานเปน็ ทีม

ท่ี รายการประเมนิ ปฏบิ ตั ิ ปฏบิ ัติ ปฏิบัติ
สม่ำเสมอ บ่อยคร้ัง บางคร้งั

การสร้างความสัมพนั ธ์และจัดการความขัดแย้ง

18 มที ัศนคติเชงิ บวกในการทำงานรว่ มกับผู้อื่น ชื่นชม และ

เห็นความทุ่มเทพยายามในการทำงานของสมาชิกทีม โดย

ไมเ่ ลอื กปฏิบัติ

19 ใช้วธิ ีการทีเ่ หมาะสมกับบคุ คลและสถานการณ์ เพื่อสรา้ ง

และรักษาความสัมพนั ธ์ที่ดีกบั ผ้อู ่ืน

20 ปฏิบตั ิตนตอ่ สมาชิกทีมดว้ ยความจริงใจ เคารพ เห็นอก

เห็นใจผอู้ ่ืนในฐานะทเี่ ป็นมนุษย์ดว้ ยกนั และให้ความเป็น

ธรรมตอ่ ทุกฝา่ ย

เกณฑ์การประเมนิ ผล ระดบั คุณภาพ
คะแนน ดี
41-60 ปานกลาง
21-40 พอใช้
1-20

เกณฑก์ ารแปลความหมายสมรรถนะด้านกระบวนการทำงานเป็นทมี

องค์ประกอบของ ค่าคะแนน

สมรรถนะด้านกระบวน เรม่ิ ตน้ กำลังพัฒนา สามารถ เหนอื ความ
การทำงานเป็นทีม คาดหวัง
15-18 คะแนน
1.การเปน็ สมาชิกที่ดีและ น้อยกว่า 4 คะแนน 5-9 คะแนน 10-14 คะแนน
ภาวะการเป็นผ้นู ำ 25-33 คะแนน

2.กระบวนการทำงานแบบ น้อยกวา่ 8 คะแนน 9-16 คะแนน 17-24 คะแนน 8-9 คะแนน
ร่วมมอื รวมพลงั มากกว่า 51

3.การสรา้ งความสมั พนั ธ์ น้อยกว่า 2 คะแนน 3-4 คะแนน 5-7 คะแนน คะแนน
และจัดการความขดั แยง้

ในภาพรวม นอ้ ยกวา่ 10 คะแนน 11-30 คะแนน 31-50 คะแนน

ผลการประเมนิ สมรรถนะดา้ นกระบวนการทำงานเปน็ ทีม

สมรรถนะด้านกระบวนการทำงานเปน็ ทมี คะแนนเฉลี่ย ระดบั คณุ ภาพ

1. การเป็นสมาชิกที่ดีและภาวะการเปน็ ผนู้ ำ

2. กระบวนการทำงานแบบร่วมมือ รวมพลัง

3. การสรา้ งความสัมพนั ธแ์ ละจดั การความขดั แยง้

รวม

360

เคร่อื งมือวดั และประเมินผลฐานสมรรถนะ

รายวชิ า เยาวชนดอยเต่าหมู่เฮามดี ี ดินแดนแห่งขุนเขาภูมิลำเนาแห่งการเสียสละ 2 รหสั วิชา ย22204

ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 16 ชวั่ โมง จำนวน 2 หน่วยกติ

การประเมนิ ผล

1. อินโฟกราฟิกสรุปความรู้ เรื่อง สภาพภมู ศิ าสตร์สถานท่ีท่องเท่ยี วสำคัญทางประวัติศาสตร์ใน
อำเภอดอยเต่า (สมรรถนะการคิดขนั้ สูง)

เกณฑ์การวัดและประเมินผล

ประเด็น 4 ระดับคณุ ภาพ 1
การประเมนิ เนื้อหาครบถ้วน เน้อื หาไมค่ รบถว้ น
1. เนอ้ื หาและ จดั หมวดหมู่ 32 ไมต่ รงประเด็น
การจดั หมวดหมู่ ไดต้ รงประเดน็ จัดหมวดหมไู่ ม่ได้
ใช้คำกระชบั เน้อื หาครบถ้วน เนื้อหาไม่ครบถ้วน ใช้คำไม่กระชับ
2. การออกแบบ ไดใ้ จความ แต่จดั หมวดหมไู่ ด้ จดั หมวดหมู่ไม่ได้ แต่ได้ใจความ
เขา้ ใจง่าย สามารถ ไม่ตรงประเด็น ใช้คำกระชับ
3. ความคดิ แปลความหมายได้ ใช้คำกระชับ ไดใ้ จความ การออกแบบ
สร้างสรรค์ การออกแบบมี ได้ใจความ ไม่สอดคล้อง
ความทนั สมัย กบั เน้ือหาและ
สอดคล้อง การออกแบบ การออกแบบ ไม่โดดเดน่
กบั เนื้อหา มีความ มีความทันสมยั มคี วามลา้ สมัย
ซับซอ้ น และ มี สอดคล้อง แตม่ คี วาม ไมส่ รา้ งสรรค์
ความโดดเดน่ กบั เน้อื หา สอดคลอ้ งกบั ภาพประกอบ
แตไ่ ม่โดดเด่น เนอ้ื หาบางส่วน ใช้สสี ันยงั ไม่
ประยุกต์ใช้ เท่าน้ัน แตไ่ ม่โดด หลากหลาย
ในชวี ติ ประจำวนั ประยกุ ต์ใช้ เด่น
สรา้ งสรรค์ ในชีวติ ประจำวัน
ภาพประกอบ สรา้ งสรรค์ สร้างสรรค์
ใช้สีสนั หลากหลาย ภาพประกอบ ภาพประกอบ
ใชส้ สี นั ยงั ไม่ ใชส้ สี นั ยังไม่
หลากหลาย หลากหลาย

ช่วงคะแนน 1-3 การแปลผลระดบั คุณภาพ
ช่วงคะแนน 4-6
ชว่ งคะแนน 7-9 ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรงุ พัฒนา
ช่วงคะแนน 10-12 ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ระดับคณุ ภาพ ดี
ระดบั คุณภาพ ดีมาก

361

แบบประเมินอนิ โฟกราฟกิ (สมรรถนะการคดิ ขัน้ สงู )

ประเด็นการประเมิน

ที่ ชอื่ กลุ่ม เนือ้ หาและ การออกแบบ ความคดิ รวม
การจัดหมวดหมู่ สรา้ งสรรค์ 12
1
2 44 4
3
4
5
6
7
8
9
10

362

เครอ่ื งมือวดั และประเมินผลฐานสมรรถนะ

รายวชิ า เยาวชนดอยเตา่ หมูเ่ ฮามีดี สบื ฮีตสานฮอยประเพณี วัฒนธรรมดอยเตา่ 2 รหัสวิชา ย23202

ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ภาคเรยี นท่ี 2 เวลา 56 ช่วั โมง จำนวน 2 หน่วยกติ

การประเมนิ ผล

1. ชน้ิ งาน Story Board (สมรรถนะด้านการสอื่ สาร)

เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล

ประเดน็ ระดบั คุณภาพ
การประเมิน
1. รปู แบบ 4 3 21
การนำเสนอ
ชิ้นงาน - สร้างและนำเสนอ - สรา้ งและนำเสนอ - สรา้ งและนำเสนอ - สรา้ งและ

2. ภาษา ชน้ิ งานได้ตรงประเดน็ ช้ินงานไดต้ รงประเดน็ ช้ินงานได้ นำเสนอช้นิ งานได้

3. เนอ้ื หา มากกวา่ เกณฑ์ท่ี ตามเกณฑท์ ่ีกำหนดไว้ - ชิน้ งานมี ไม่ค่อยตรง

กำหนดไว้ - ชิน้ งานมี ความเหมาะสม ประเด็น

- ชนิ้ งานมคี วาม ความเหมาะสม - มชี ิ้นงานส่ง

เหมาะสม สามารถ

นำไปใชไ้ ด้จริง

ภาษาที่ใชใ้ นส่ือการ ภาษาทใี่ ช้ในสือ่ การ ภาษาทีใ่ ช้ในส่อื การ ภาษาท่ใี ช้ในสอ่ื

นำเสนอมีความถูกต้อง นำเสนอมคี วามถกู ตอ้ ง นำเสนอมคี วามถูกตอ้ ง การนำเสนอพอ

สมบรู ณ์ และใช้ สมบูรณ์ และใช้คำศัพท์ สมบรู ณ์ เขา้ ใจได้

คำศัพท์ทเี่ หมาะสม ทเ่ี หมาะสม

ภาษาสละสลวย

- มกี ารจัดลำดับ - มีการจดั ลำดับ - มีการจัดลำดับ - มีการจัดลำดับ

ข้นั ตอนการนำเสนอ ข้ันตอนการนำเสนอ ขน้ั ตอนการนำเสนอ ขน้ั ตอนการ

ตรงตามโครงสรา้ ง ตรงตามโครงสรา้ ง ตรงตามโครงสรา้ ง นำเสนอไม่คอ่ ย

Story Board ท่ีวางไว้ Story Board ท่ีวางไว้ Story Board ที่วางไว้ ตรงตามโครงสรา้ ง

- การนำเสนอมีแนวคิด - การนำเสนอมแี นวคิด - การนำเสนอมี Story Board ท่ี

ที่แปลกใหม่ ทำให้เกดิ ท่แี ปลกใหม่ ทำให้เกิด แนวคดิ ที่แปลกใหม่ วางไว้

ความน่าสนใจ และไม่ ความน่าสนใจ

ซ้ำใคร

การแปลผลระดบั คุณภาพ

ชว่ งคะแนน 1-3 ระดบั คุณภาพ ปรับปรงุ พฒั นา
ชว่ งคะแนน 4-6 ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ชว่ งคะแนน 7-9 ระดบั คณุ ภาพ ดี
ช่วงคะแนน 10-12 ระดบั คณุ ภาพ ดมี าก

363

แบบประเมนิ ช้ินงาน

ประเดน็ การประเมิน

ท่ี ช่อื กลุ่ม รปู แบบ ภาษา เนือ้ หา รวม
การนำเสนอชนิ้ งาน

4 4 4 12
1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

364

เครื่องมอื วัดและประเมินผลฐานสมรรถนะ รหัสวิชา ย31201
จำนวน 2 หน่วยกติ
รายวชิ า เยาวชนดอยเต่าหม่เู ฮามีดี ข่วงผญาภมู ิปญั ญาทอ้ งถิน่ ดอยเต่า 1
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชัว่ โมง

การประเมินผล

สมรรถนะการจดั การตนเอง

เกณฑก์ ารประเมนิ ตนเอง

ประเดน็ 1 ระดับคุณภาพ 4
การประเมนิ
- มคี วามรู้สกึ ทด่ี ี 23 - มคี วามรู้สึกทดี่ ี
การเหน็ คณุ ค่าในตนเอง เก่ยี วกับตนเอง เกย่ี วกับตนเอง
- มีความรสู้ ึกท่ีดี - มคี วามรสู้ กึ ที่ดี - เขา้ รว่ มกจิ กรรม
เก่ยี วกับตนเอง เก่ยี วกับตนเอง ใหม่ ๆ ทไี่ มค่ นุ้ เคย
- เข้าร่วมกจิ กรรม - เข้ารว่ มกิจกรรม - ยอมรับคำวจิ ารณ์
ใหม่ ๆ ทไี่ ม่คนุ้ เคย ใหม่ ๆ ท่ีไม่คนุ้ เคย หรือความไมร่ ขู้ อง
ตนเอง
- ยอมรับคำวจิ ารณ์ - แสดงออกถึง
หรือ ความไมร่ ู้ของ ความสามารถทจ่ี ะ
ตนเอง รเิ ร่มิ สร้างสรรคแ์ ละ
ทำงานด้วยตัวเอง
การมเี ป้าหมายในชวี ิต - แสดงออกถึง - แสดงออกถึง - แสดงออกถงึ
ความสามารถ ความสามารถทีจ่ ะ ความสามารถทีจ่ ะ - แสดงออกถึง
รเิ ร่ิมสร้างสรรค์ รเิ ริม่ สรา้ งสรรค์และ ความสามารถท่จี ะ
และทำงานดว้ ย ทำงานด้วยตัวเอง รเิ ริ่มสร้างสรรคแ์ ละ
ตัวเอง - ตดิ ตามและ ทำงานด้วยตวั เอง
ประเมนิ ผล - ตดิ ตามและ
ประเมนิ ผล
การจดั การอารมณ์และ - ตระหนกั และ - ตระหนักและ - ตระหนักและ การดำเนนิ การ
สอื่ สารอารมณ์ สอ่ื สารอารมณ์ ไปยัง ตามขน้ั ตอน
ความเครยี ด สื่อสารอารมณ์ ไปยงั ผอู้ น่ื อยา่ ง ผอู้ ื่นอยา่ งเหมาะสม
เหมาะสม - การส่งเสริมสขุ - ตระหนักและ
ภาวะ ทางจิตของตน สอื่ สารอารมณ์ ไปยงั
ผู้อนื่ อยา่ งเหมาะสม
- สามารถบอกกลวธิ ี
ในการส่งเสริมสขุ
ภาวะทางจติ ของตน

365

ประเดน็ 1 ระดับคุณภาพ 4
การประเมิน
- ยอมรบั ผลที่ 23 - ยอมรบั ผลทเี่ กดิ ข้ึน
การจดั การปัญหาและ เกดิ ข้นึ จากการ จากการกระทำหรอื
ภาวะวิกฤต กระทำ - ยอมรบั ผลที่ - ยอมรบั ผลท่ีเกดิ ข้ึน ทางเลอื กในการ
เกิดข้ึนจากการ จากการกระทำหรือ แกป้ ัญหา
กระทำ ทางเลือกในการ - บอกวธิ ีฟน้ื คืนจาก
- บอกวิธีฟื้นคนื แกป้ ญั หา ภาวะวิกฤต
จากภาวะวกิ ฤต - ฟื้นคนื จากภาวะ

วิกฤต

ชว่ งคะแนน 1-4 การแปลผลระดับคุณภาพ
ชว่ งคะแนน 5-8
ชว่ งคะแนน 9-12 ระดบั คุณภาพ ปรบั ปรงุ พฒั นา
ชว่ งคะแนน 13-16 ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ระดบั คณุ ภาพ ดี
ระดับคณุ ภาพ ดมี าก

แบบประเมินตนเอง

ช่ือ-นามสกุล…………………………........………. ระดบั ช้นั ม.4 เลขท…่ี ..............…

ประเดน็ การประเมิน ระดับคณุ ภาพ รวม
1 2 34

1. การเหน็ คุณค่าในตนเอง
2. การมีเปา้ หมายในชวี ิต
3. การจัดการอารมณ์และความเครียด
4. การจดั การปัญหาและภาวะวิกฤต

รวมคะแนน

366

แบบสรปุ การประเมนิ ตนเอง

ประเดน็ การประเมนิ รวม

ท่ี ชื่อ-นามสกุล การเหน็ คณุ คา่ การมี การจดั การ การจดั การ
ในตนเอง เป้าหมายใน อารมณ์และ ปัญหาและ
ความเครียด ภาวะวกิ ฤต
ชีวิต

1

2

3

4

5

6

7

8

9

10

11

12

13

14

15

16

17

18

19

20


Click to View FlipBook Version