The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ธัญญาดล อุปชิตกุล, 2020-05-06 02:43:47

แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

๔๘

ศิลปะการอ่านทานองเสนาะจึงขึ้นอยู่กบั ความสามารถของผู้อ่าน และความไพเราะของบทประพันธ์

แต่ละประเภท โดยเฉพาะอย่างยง่ิ ผู้อา่ นทานองเสนาะจึงตอ้ งศึกษาวิธีการอ่านให้ไพเราะและต้องหมัน่ ฝึกฝน

การอา่ นจนเกิดความชานาญ

อนึ่งศิลปะการอา่ นทานองเสนาะอยู่ท่ีตวั ผูอ้ ่านต้องรู้จกั วิธีการอา่ นทอดเสยี ง โดยผอ่ นจงั หวะให้ช้า

ลง การเอ้อื นเสียง โดยการลากเสียงชา้ ๆ เพ่ือให้เข้าจังหวะและให้หางเสียงให้ไพเราะ การครัน่ เสียง

โดยทาเสยี งสะดดุ สะเทอื นเพ่ือความไพเราะเหมาะสมกบั บทกวบี างตอน การหลบเสียง โดยการหักเหให้

พลิกกลบั จากเสียงสูงลงมาเป็นต่า หรอื จากเสยี งตา่ ขนึ้ ไปเปน็ เสียงสูง เนอ่ื งจากผู้อา่ นไมส่ ามารถทจี่ ะ

ดาเนนิ ตามทานองต่อไปไดเ้ ป็นการหลบหนจี ากเสียงที่เกินความสามารถ จึงต้องหกั เหทานองพลกิ กลับเขา้ มา

ดาเนนิ ทานองในเขตเสยี งของตน และ การกระแทกเสยี ง โดยการอา่ นกระชากเสียงให้ดังผดิ ปกตใิ นโอกาสที่

แสดงความโกรธหรือความไม่พอใจหรือเมื่อต้องการเนน้ เสยี ง

( มนตรี ตราโมท ๒๕๒๗ : ๕๐ )

๔. รสท่ใี ชใ้ นการอา่ นทานองเสนาะ

๔.๑ รสถ้อย ( คาพดู ) แตล่ ะคามีรสในคาของตนเอง ผูอ้ า่ นจะต้องอา่ นใหเ้ กดิ รสถ้อย

ตัวอยา่ ง

สกั วาหวานอ่นื มหี มน่ื แสน ไมเ่ หมือนแมน้ พจมานท่หี วานหอม

กล่นิ ประเทียบเปรียบดวงพวงพะยอม อาจจะน้อมจติ โนม้ ด้วยโลมลม

แมน้ ล้อลามหยามหยาบไมป่ ลาบปล้ืม ดังดูดดื่มบอระเพ็ดต้องเขด็ ขม

ผดู้ ไี พร่ไมป่ ระกอบชอบอารมณ์ ใครฟังลมเมนิ หนา้ ระอาเอย

( พระเจา้ บรมวงศ์เธอกรมหลวงบดินทร์ไพศาลโสภณ )

๔.๒ รสความ (เรือ่ งราวที่อา่ น) ขอ้ ความที่อ่านมีเร่ืองราวเกี่ยวกับอะไร เช่น โศกเศรา้

สนกุ สนาน ตน่ื เต้น โกรธ รกั เวลาอ่านตอ้ งอ่านให้มลี ีลาไปตามลักษณะของเนื้อเรอ่ื งนัน้ ๆ

ตวั อยา่ ง : บทโศกตอนที่นางวนั ทองไปส่งพลายงามให้ไปหายา่ ทองประศรีทส่ี ุพรรณบรุ ี

ลูกก็แลดูแมแ่ ม่ดูลูก ต่างพันผกู เพยี งว่าเลือดตาไหล

สะอืน้ ร่าอาลาดว้ ยอาลยั แล้วแขง็ ใจจากนางตามทางมา

เหลียวหลงั ยังเหน็ แม่แลเขม้น แม่กเ็ ห็นลูกน้อยละห้อยหา

แต่เหลียวเหลียวเล้ยี วลบั วับวญิ ญาณ์ โอเ้ ปลา่ ตาตา่ งสะอืน้ ยืนตะลงึ

( เสภาขุนชา้ งขุนแผน ตอนกาเนดิ พลายงาม : สุนทรภู่ )

ตัวอยา่ ง : บทสนุกสนาน ในนิราศพระบาท ขณะมีมวยปลา้

ละครหยดุ อุตลดุ ด้วยมวยปล้า ยนื ประจาหมายสู้เป็นคู่ขัน

มงคลใสส่ วมหวั ไม่กลวั กัน ตัง้ ประจนั จดจบั ขยับมอื

ตเี ขา้ ปับรบั โปกสองมือปิด ประจบตดิ เตะผางหม้อขวา้ งหวือ

กระหวัดหวิดหววิ ผวาเสียงฮาฮือ คนดูอ้อเออกันสนั่นองึ

๔๙

๔.๓ รสทานอง ( ระบบสูงต่าซึง่ มีจังหวะส้นั ยาว ) ในบทรอ้ ยกรองไทยจะประกอบดว้ ยทานอง

ตา่ ง ๆ เช่น ทานองโคลง ทานองฉนั ท์ ทานองกาพย์ ทานองกลอน และทานองร่าย เป็นต้น ผู้อ่าน

จะต้องอ่านให้ถกู ต้องตามทานองของร้อยกรองนั้น เช่น โคลงส่สี ุภาพ

สตั ว์ พวกหนงึ่ นชี้ ่อื พหบุ า ทาแฮ

มี อเนกสมญา ยอกย้อน

เทา้ เกดิ ยิ่งจัตวา ควรนับ เขานอ

มาก จวบหมน่ื แสนซ้อน สุดพ้นประมาณ ฯ

๔.๔ รสคลอ้ งจอง ในบทร้องกรองตอ้ งมีคาคล้องจองในคาคล้องจองนัน้ ต้องใหอ้ อกเสยี ง

ต่อเนื่องกัน โดยเน้นเสยี งสัมผัสนอกเป็นสาคัญ เช่น

ถงึ โรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง มีคันโพงผกู สายไว้ปลายเสา

โอ้บาปกรรมนา้ นรกเจยี วอกเรา ใหม้ วั เมาเหมือนหน่งึ บ้าเปน็ น่าอาย

ทาบุญบวชกรวดน้าขอสาเรจ็ พระสรรเพชญโพธญิ าณประมาณหมาย

ถึงสุราพารอดไมว่ อดตาม ไมใ่ กล้กรายแกลง้ เมินก็เกินไป

ไมเ่ มาหล้าแตเ่ รายงั เมารัก สุดจะหกั ห้ามจิตคิดไฉน

ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่มาใจนป้ี ระจาทุกคา่ คนื

( นริ าศภูเขาทอง : สนุ ทรภู่ )

๔.๕ รสภาพ เสยี งทาให้เกิดภาพ ในแตล่ ะคาจะแฝงไปด้วยภาพ ในการอา่ นใหเ้ ห็นภาพต้อง

ใช้เสยี ง สงู – ตา่ ดงั – ค่อย แล้วแตจ่ ะให้เกิดภาพอย่างไร เชน่

“ มดเอ๋ยมดแดง เล็กเล็กเรยี่ วแรงแข็งขยนั ”

“ สุพรรณหงสท์ รงพู่ห้อย งามชดชอ้ ยลอยหลงั สินธุ์ ”

“ อยธุ ยายศล่มแล้ว ลอยสวรรค์ ลงฤา ”

๕. หลกั การอ่านทานองเสนาะ มดี งั น้ี

๕.๑ กอ่ นอ่านทานองเสนาะใหแ้ บง่ คาแบง่ วรรคให้ถูกต้องตามหลักคาประพนั ธเ์ สียก่อน โดยต้อง

ระวงั ในเร่อื งความหมายของคาดว้ ย เพราะคาบางคาอ่านแยกคากนั ไม่ได้ เช่น

“ สรอ้ ยคอขนมยรุ ะ ยงู งาม ”

( ขน – มยุระ , ขนม – ยุระ )

“ หวนหว่ งมว่ งหมอนทอง อกี อกร่องรสโอชา ”

( อกี – อก – ร่อง , อี – กอ – กรอ่ ง )

“ ดเุ หว่าจับเต่าร้างรอ้ ง เหมือนจากห้องมาหยารัศมี ”

( เหมือน – มด , เหมอื น – มด – อด )

๕๐

๕.๒ อา่ นออกเสยี งธรรมดาใหค้ ล่องก่อน

๕.๓ อา่ นใหช้ ดั เจน โดยเฉพาะออกเสียง ร ล และคาควบกลา้ ให้ถูกต้อง เชน่

“ เกดิ เปน็ ชายชาตรีอยา่ ข้ีขลาด บรรยากาศปลอดโปรง่ โล่งสมอง

หยิบนา้ ปลาตราสับปะรดให้ทดลอง ไหนเล่านอ้ งครมี นวดหน้าทาให้ที

เนือ้ นนั้ มโี ปรตนี กินเขา้ ไว้ คนเคราะห์รา้ ยคลุ้มคลัง่ เร่อื งหนงั ผี

ใชน้ ้าคลองกรองเสยี ก่อนจงึ จะดี เหน็ มาลีคลี่บานหน้าบา้ นเอย ”

๕.๔ อา่ นใหเ้ อื้อสมั ผัส เรียกว่า คาแปรเสยี ง เพือ่ ใหเ้ กิดเสยี งทีไ่ พเราะ เชน่

พระสมุทรสดุ ลกึ ล้น คณนา

( อา่ นวา่ พระ – สะ – หมุด – สุด – ลกึ – ลน้ คน – นะ – นา )

ข้าขอเคารพอภวิ าท ในพระบาทบพิตรอดิสร

( ข้า – ขอ – เคา – รบ – อบ – พิ – วาด ใน – พระ – บาด – บอ – พดิ – อะ – ดดิ – สอน )

ขอสมหวงั ต้งั ประโยชน์โพธญิ าณ

( อา่ นวา่ ขอ – สม – หวงั – ตง้ั – ประ – โหยด – โพด – พิ – ยาน )

๕.๕ ระวงั ๓ ต อยา่ ให้ ตกหลน่ อย่าต่อเติม และอยา่ ตู่ตัว

๕.๖ อา่ นให้ถูกจงั หวะ คาประพันธแ์ ตล่ ะประเภทจะมจี งั หวะแตกต่างกนั ตอ้ งอ่านใหถ้ ูกวรรค

ตอนตามแบบแผนของคาประพันธน์ นั้ ๆ เชน่

มทุ งิ คนาฉันท์ ( ๒ - ๒ - ๓ )

“ ป๊ะโทน่ / ปะ๊ โทน / ปะ๊ โท่นโทน บรุ ษุ / สโิ อน / สะเอวไหว

อนงค์ / นาเคล่ือน / เขย้ือนไป สะบัด / สไป / วไิ ลตา ”

๕.๗ อ่านให้ถูกทานองของคาประพันธ์นั้น ๆ ( รสทานอง )

๕.๘ ผอู้ ่านตอ้ งใส่อารมณ์ตามรสความของบทประพนั ธ์น้นั ๆ รสรกั โศก ตื่นเตน้ ขบขัน

โกรธ แล้วใส่นา้ เสยี งใหส้ อดคล้องกับรสหรอื อารมณต์ ่าง ๆ เหล่านั้น

๕.๙ อ่านให้เสียงดงั ( พอทีจ่ ะได้ยินกันทั่วถึง ) ไมใ่ ชต่ ะโกน

๕.๑๐ ถ้าเปน็ ฉันท์ ต้องอ่านให้ถูกต้องตามบังคบั ของครุ - ลหุ ของฉันท์น้ัน ๆ

ลหุ คอื ทีผ่ สมดว้ ยสระเสยี งสน้ั และไม่มตี วั สะกด เช่น เตะ บุ และ เถอะ

ผัวะ ยกเวน้ ก็ บ่อ นอกจาก นีถ้ อื เปน็ คาครุ ( คะ – รุ ) ท้งั หมด

ลหุ ให้เคร่ืองหมาย ( ุ ) แทนในการเขียน

ครุ ใช้เครอ่ื งหมาย ( ั ) แทนในการเขยี น

ตัวอยา่ ง : วสันตดิลกฉนั ท์ ๑๔ มีครุ - ลหุ ดงั นี้

ัั ั ั ุ ั ุ ุ ุ ั ุุัุ ัั

ั ั ุ ัุ ุ ุ ั ุุ ัุ ั ั

๕๑

อ้าเพศก็เพศนชุ อนงค์ อรองค์กบั อบบาง

( อา่ นว่า อ้า – เพด – ก็ – เพด – นุ – ชะ – อะ – นง อะ – ระ – อง – ก้อ – บอบ – บาง )

ควรแต่ผดุงสริ ิสะอาง ศภุ ลกั ษณป์ ระโลมใจ

( อา่ นวา่ ควน – แต่ – ผะ – ดงุ – สิ – หริ – สะ – อาง สุ – พะ – ลกั – ประ – โลม – ใจ )

๕.๑๑ เวลาอ่านอา่ นอยา่ ใหเ้ สยี งขาดเปน็ ช่วง ๆ ต้องใหเ้ สยี งติดต่อกนั ตลอด เช่น

“ วนั น้ันจันทร์ มดี ารากร เปน็ บรวิ าร เหน็ สิ้นดินฟ้า ในป่าทา่ ธาร มาลีคลบี่ าน ใบกา้ น

อรชร ”

๕.๑๒ เวลาจบใหท้ อดเสียงช้า ๆ

๖. ประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับจากการอา่ นทานองเสนาะ

๖.๑ ชว่ ยให้ผู้ฟังเข้าถึงถงึ รสและเห็นความงามของบทร้อยกรองท่อี า่ น

๖.๒ ช่วยให้ผู้ฟงั ได้รับความไพเราะและเกิดความซาบซึง้ ( อาการรสู้ กึ จับใจอย่างลึกซ้งึ )

๖.๓ ช่วยให้เกิดความสนกุ สนาน ความเพลดิ เพลนิ

๖.๔ ช่วยใหจ้ าบทร้อยกรองได้รวดเรว็ และแม่นยา

๖.๕ ชว่ ยกลอ่ มเกลาจติ ใจใหเ้ ปน็ คนอ่อนโยนและเยือกเย็น

๖.๖ ช่วยสืบทอดวฒั นธรรม ในการอ่านทานองเสนาะไว้เปน็ มรดกต่อไป

๕๒

บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้

คาช้แี จง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มคัดเลือกคากลอนจากเร่ืองนิราศภูเขาทอง กลุ่มละ๓ บท แล้วถอดคากลอน
น้นั เปน็ ร้อยแกว้

คำกลอนที่คดั เลือกมำคือ.....
...................................................................................................................................
...................................................................................................................................
...................................................................................................................................
...................................................................................................................................
...................................................................................................................................
...................................................................................................................................
...................................................................................................................................
...................................................................................................................................
...................................................................................................................................
...................................................................................................................................
...................................................................................................................................

๕๓

บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้

คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นเขียนคาอา่ นและความหมายของคาจากบทเรยี น

ตรี ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
ธาตรี …………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
บังเหตุ ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
โสมนัสา ……………………………………………………………………………
สาเร็จมโนรถ ……………………………………………………………………………
สิน้ ท่า ……………………………………………………………………………
เจา้ ไตรโลกา ……………………………………………………………………………
พระส่กี ร ……………………………………………………………………………
วทิ ยา …………………………………………………………………………..
วทิ ยาธร ……………………………………………………………………………
สุบรรณ ……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………

๕๔

เฉลยบัตรกจิ กรรมการเรียนรู้

คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเขยี นคาอา่ นและความหมายของคาจากบทเรียน

ตรี ตรีศลู เปน็ อาวธุ สามงา่ มของพระอิศวร ในทน่ี ีเ้ ป็นอาวุธของพระนารายณ์
ธาตรี แผน่ ดิน โลก
บงั เหตุ ประมาท
โสมนสั า โสมนสั ยินดี
สาเรจ็ มโนรถ ไดต้ ามต้องการ
ส้ินท่า ครบทุกท่ารา
เจา้ ไตรโลกา หมายถึง พระอิศวร
พระสี่กร หมายถึง พระนารายณ์
วทิ ยาธร ชาวสวรรคพ์ วกหนงึ่ ที่มีวิชาอาคม ถือพระขรรคเ์ ปน็ อาวุธ
สุบรรณ ครุฑ

๕๕

บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้

คาช้ีแจง ให้นักเรียนเลือกบทประพนั ธ์ในบทละครเรื่อง รามเกยี รต์ิ ตอน นารายณป์ ราบนนทก ท่เี ห็นวา่
ไพเราะ นามาคกั ดว้ ยตวั คร่ึงบรรทัดใหส้ วยงามจานวน ๓ บทและฝกึ ท่องจา
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….

๕๖

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๑.๖

กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๒

หนว่ ยท่ี ๑ รามเกียรต์ิ เวลา ๘ ชั่วโมง

เรอ่ื ง อา่ นไพเราะเสนาะทานอง เวลา ๑ ชวั่ โมง

ใชส้ อนวันที่ ....................................................................................................................

มาตรฐานท่ี ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความร้แู ละความคิด เพ่ือนาไปใช้ตัดสนิ ใจแก้ปัญหา
มาตรฐานท่ี ท ๕.๑ ในการดาเนนิ ชีวิตและมีนสิ ัยรกั การอา่ น
เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณว์ รรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเหน็
คณุ คา่ และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตจริง

ตัวชีว้ ดั
ท ๑.๑ ม.๒/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกตอ้ ง
ท ๕.๑ ม.๒/๕ ทอ่ งจาบทอาขยานตามที่กาหนด และบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่าตามความสนใจ

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

ตวั ช้วี ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง/ท้องถิน่

ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลกั ษณะ (A)

ท ๑.๑ ม.๒/๑ อ่านออก - หลกั การอ่านออก - ฝึกทกั ษะการอา่ นออกเสยี ง -มมี ารยาทในการอ่าน

เสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบท เสียงร้อยแก้วและร้อย ร้อยแกว้ และร้อยกรอง -อ่านได้ถกู ต้องชัดเจน

ร้อยกรองได้ถูกต้อง กรอง ตามหลกั การอา่ น

ท ๕.๑ ม.๒/๕ ทอ่ งจาบท บทอาขยาน ทอ่ งจาบทอาขยาน - ซาบซง้ึ

อาขยานตามท่ีกาหนด บทร้อยกรอง บทร้อยกรอง - นาความรทู้ ่ไี ด้จาก

และบทร้อยกรองท่ีมีคณุ ค่า การอา่ นไปประยกุ ตใ์ ช้

ตามความสนใจ ในชีวิตจริง

๕๗

สาระสาคญั
การอ่านออกเสียงเป็นการส่อื สารทมี่ คี วามสาคัญ เพราะเปน็ การถ่ายทอดความรู้ ความคิด

ความรสู้ กึ และอารมณ์ของผ้สู ่งสารไปผรู้ บั สาร ดังน้นั หากรู้หลกั การอา่ นและมที ักษะในการอ่านย่อมจะทาให้
การส่อื สารเกดิ สัมฤทธผิ์ ล

สาระการเรียนรู้
การอ่านออกเสียงบทเรยี นเร่อื ง “ บทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก ” การอา่ น

ทานองเสนาะ การเลา่ เรื่อง การยอ่ เรื่อง

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
๑. ครูและนกั เรยี น การอ่านทานองเสนาะจากเรื่องรามเกยี รต์ิ แลว้ ครทู บทวนการอ่านทานอง

เสนาะ
๒. ครูใหน้ ักเรยี นศึกษาบัตรความรู้เรื่องการอ่านกลอนสุภาพและถามนักเรียนถึงหลักการอ่าน
๓. เปิดเคร่อื งบนั ทกึ เสียงการอา่ นทานองเสนาะเร่ือง “บทละครเร่ือง รามเกียรต์ิ ตอน นารายณ์

ปราบนนทก “ ใหน้ ักเรียนฟังพร้อมทง้ั สงั เกตท่วงทานองการอ่าน แลว้ ใหน้ กั เรียนทากจิ กรรมการอา่ น
ตามลาดับ ดังน้ี

- อ่านออกเสยี งธรรมดาใหถ้ ูกต้องตามอักขรวธิ ี พร้อมท้ังแบ่งวรรคตอนใหถ้ ูกต้อง
- ใหอ้ ่านทานองเสนาะพร้อม ๆ กัน ตามครูทลี ะบท
- ใหอ้ ่านทานองเสนาะพร้อม ๆ กัน ทง้ั ชัน้
- แบง่ กลุ่มให้อา่ นทานองเสนาะต่อกนั จนจบเรื่อง
- ใหอ้ า่ นทานองเสนาะเปน็ รายบคุ คล
๓. ครูและนักเรียนชว่ ยวจิ ารณ์การอ่านของแต่ละคนวา่ ถูกต้อง และมคี วามไพเราะ
เพยี งใด
๔. แบ่งนกั เรียนออกเป็นกลุ่ม (จานวนกลมุ่ และสมาชิกกลมุ่ ตามความเหมาะสม) แลว้
ให้ทากจิ กรรมอธิบายพฤติกรรมของตัวละครจากบทละครเรื่อง รามเกียรต์ิ ตอน นารายณป์ ราบนนทก ว่า เกิด
จากสาเหตุใด และมผี ลอยา่ งไรตามมา
๕. ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมาเสนอผลการคน้ คว้าหนา้ ช้ันเรยี น พรอ้ มส่งเอกสาร
ประกอบการรายงาน
๖. ครตู งั้ คาถามให้นักเรยี นชว่ ยกันตอบคาถามจากเรื่อง
๗. นกั เรยี นทาบัตรกิจกรรมการเรียนรู้

๕๘

สอื่ / แหล่งเรียนรู้

ลาดับที่ รายการสือ่ กจิ กรรมทใ่ี ช้ แหลง่ ทไ่ี ด้มา
๑ นักเรยี นทาบตั รกจิ กรรม ครจู ดั ทา
๒ บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้ นักเรียนดภู าพและฝึกอา่ น ครจู ัดหา

๓ หนงั สือเรียน ชุด วรรณคดี ตรวจสอบ ครูจัดทา
๔ วิจกั ษ์ ชนั้ ม.๒ บันทึกการสังเกตพฤติกรรม ครจู ดั ทา
เฉลยบตั รกิจกรรมการเรยี นรู้
๕ แบบประเมินการสงั เกต เพ่ิมความชดั เจนในเนอ้ื หา ครจู ดั เตรยี ม
พฤติกรรม
เคร่ืองบันทึกเสยี ง

การวดั ผลและประเมนิ ผล

กิจกรรม-พฤตกิ รรมท่ี เครื่องมอื ทใี่ ชใ้ น วิธกี ารประเมนิ เกณฑ์การประเมิน
ประเมนิ การประเมิน
๑. นักเรียนนาเสนอ
๒. นกั เรยี นทาบัตรกิจกรรม แบบประเมินรายกล่มุ สงั เกตรายกลมุ่ ร้อยละ ๗๐ ขน้ึ ไป
การเรียนรู้
แบบประเมนิ การสงั เกต ตรวจงานรายบคุ คล รอ้ ยละ ๗๐ ขน้ึ ไป
๓. ประเมินพฤติกรรมและ
ผลงานระหว่างเรยี น พฤติกรรม และแบบ

ประเมนิ ผลงาน

แบบประเมินพฤตกิ รรมและ ตรวจงานรายกล่มุ รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป

ผลงานระหว่างเรียน

กิจกรรมเสนอแนะ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ..........................

๕๙

บนั ทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
๑. ผลการจดั การเรยี นรตู้ ามผลการเรียนร้ทู คี่ าดหวัง
นกั เรียนทั้งหมด ....................คน
– ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ............ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ...............
– ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับปานกลาง – คน คดิ เป็นร้อยละ .................
– ไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดบั ปรบั ปรุง – คน คดิ เป็นร้อยละ ...............
๒. ผลการประเมนิ พฤติกรรมระหวา่ งเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................

๓. ปัญหาและอปุ สรรคระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
............................................................................................................................. ...........................
....................................................................................................................................................
๔. การปรบั ปรงุ แกไ้ ข
............................................................................................................................. ..............
...................................................................................................................................................... ...........
๕. ข้อคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะเพิม่ เตมิ
........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................

ลงช่อื ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวธัญญาดล อุปชติ กุล)
ครู วิทยฐานะครูชานาญการ/พิเศษ

๖๐

ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

........................................................................................................ ......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................

ลงชอ่ื .................................................ผตู้ รวจสอบ
( ................................................. )
ผอู้ านวยการโรงเรียนโคกโพธศิ์ กึ ษา

๖๑

บัตรความรู้
แผนผงั บังคับการสมั ผสั ของกลอนแปด

๑. ลกั ษณะบังคับ
๑ บท มี ๒ บาท ๑ บาท มี ๒ วรรค
๑ วรรค มี ๘ คา (อาจใช้ ๗ - ๙ พยางคก์ ็ได้)
๑ บท มี ๔ วรรค คือ
วรรคท่ี ๑ เรียกว่า วรรคสลบั วรรคที่ ๒ เรียกวา่ วรรครับ
วรรคที่ ๓ เรียกว่า วรรครอง วรรคที่ ๔ เรียกว่า วรรคส่ง

๒. ลักษณะสัมผสั
พยางค์สุดทา้ ยของวรรคที่ ๑ สัมผสั กบั พยางค์ท่ี ๓ หรอื ๕ ของวรรคที่ ๒
พยางคส์ ดุ ทา้ ยของวรรคที่ ๒ สมั ผัสกับพยางคส์ ดุ ท้ายของวรรคที่ ๓
พยางค์สุดทา้ ยของวรรคท่ี ๓ สัมผสั กับพยางค์ท่ี ๓ หรือ ๕ ของวรรคท่ี ๔
พยางคส์ ุดทา้ ยของวรรคที่ ๔ สมั ผสั กบั พยางค์สุดท้ายของวรรคที่ ๒
ในบทถดั ไป

๖๒

๓. คาสมั ผัส
คาสมั ผสั คือ คาคล้องจองกัน นิยมใชใ้ นคาประพนั ธ์ทุกชนิด แบง่ ออกเปน็ สองอยา่ ง คือ สัมผัสนอก

และสัมผัสใน
๑. สัมผัสนอก เปน็ สัมผสั บังคับของคาประพันธช์ นิดนั้นๆ ส่วนมากเป็นสัมผสั ตา่ งวรรค สัมผสั ทใ่ี ช้

ต้องเปน็ สระเดียวกนั ถา้ มีตัวสะกดก็ตอ้ งอยู่ในมาตราเดียวกนั หรือทเ่ี รียกว่า สมั ผัสสระ เช่น

อันความกรุณาปราณี จะมใี ครบังคับกห็ าไม่
หลงั่ มาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟา้ สุราลยั สแู่ ดนดิน

๒. สมั ผสั ใน คอื คาท่คี ล้องจองกนั ภายในวรรค ไม่ไดถ้ ือวา่ เปน็ ขอบงั คบั แต่ถา้ คาประพันธ์ใดมีสมั ผัส

ในก็ถือวา่ ไพเราะ สัมผสั ในนน้ั ใชท้ งั้ สมั ผสั สระ และสัมผสั พยัญชนะ เป็นการใชค้ าทมี่ ีพยญั ชนะเดยี วกนั เช่น

แพรว – พราว ฝัน – ฝน

ฟาก – ฟา้ แดน – ดนิ

มว้ ย – มรณ์ เชิญ – ช่วย

การอ่านกลอนแปด
การแบ่งคาจะเหมือนกนั ทกุ วรรค คือ 3 – 2 – 3 (บางคร้ังในกลอนแปด ในแต่ละวรรคอาจมี 9 –
10 คา ถา้ มี 9 คา ก็แบ่งอ่านเป็น 3 – 3 – 3 )
วธิ ีการอ่านกลอนแปด อา่ นได้ 3 แบบ คอื
 อา่ นทานองสามัญ
 อา่ นทานองเสนาะ
 อ่านทานองเพลงยาว คือ อา่ น 2 วรรคแรกเสยี งสูง วรรคหลงั ใหอ้ า่ นเสยี งตา่
ตัวอย่าง การใหจ้ งั หวะการอ่านกลอนแปด

ขาดอะไร / ในโลก / ไม่โศกเศรา้ เหมอื นกบั เรา / ท้ังชาติ / ขาดภาษา
คงตดิ ขดั / อัดอน้ั / ตนั อุรา มองในตา / ไม่ชัด / รหัสใจ

ยลศลิ า / จารกึ / นกึ แนจ่ ติ สงิ่ ศักดสิ์ ิทธ์ิ / ม่ิงขวญั / อันยิ่งใหญ่
เราชาวไทย / รคู้ ่า / ภาษาไทย เทิดทูนไว้ / คู่ชาติ / พิลาสเอย

( ฐะปะนีย์ นาครทรรพ )

๖๓

บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้

คาช้ีแจง ใหน้ ักเรียนอธบิ ายพฤติกรรมของตัวละครจากบทละครเร่ือง รามเกยี รต์ิ ตอน

นารายณ์ปราบนนทก วา่ เกิดจากสาเหตุใด และมีผลอย่างไรตามมา

๑. เทวดากลน่ั แกลง้ หยอกล้อนนทก ใหไ้ ดร้ ับความอบั อาย
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….

๒. นนทกโกรธแคน้ ผูกอาฆาตเทวดา
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….

๓. พระอศี วรประธานพรใหน้ นทกมนี ิ้วเพชร
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….

๖๔

๔. พระนารายณ์แปลงกายเปน็ เทพอปั สรล่อลวงนนทก
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….

๕. นนทก ลุ่มหลงในสตรีเพศ
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….

๖. นนทกโกรธแคน้ ผกู อาฆาตพระนารายณ์
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….

๖๕

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑.๗

กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒

หนว่ ยท่ี ๑ รามเกียรต์ิ เวลา ๘ ชั่วโมง

เรื่อง ร้อยกรองรอ้ ยความคิด เวลา ๑ ชว่ั โมง

ใชส้ อนวันที่ ....................................................................................................................

มาตรฐานที่ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคดิ เพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจแก้ปัญหา
มาตรฐานท่ี ท ๔.๑ ในการดาเนนิ ชวี ติ และมนี ิสัยรกั การอ่าน
เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและ
พลังของภาษาภูมิปญั ญาทางภาษาและรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ

ตัวชีว้ ัด
ท ๑.๑ ม.๒/๑ อ่านออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองไดถ้ ูกต้อง
ท ๔.๑ ม.๒/๓ แต่งบทรอ้ ยกรอง

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง

ตวั ชว้ี ดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง/ท้องถิ่น

ท ๑.๑ ม.๒/๑ อ่านออก ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลกั ษณะ (A)
เสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบท
ร้อยกรองได้ถูกต้อง - หลักการอ่านออก - ฝกึ ทักษะการอา่ นออกเสียง -มีมารยาทในการอ่าน
ท ๔.๑ ม.๒/๓ แต่งบท
รอ้ ยกรอง เสยี งร้อยแกว้ และรอ้ ย รอ้ ยแก้วและรอ้ ยกรอง -อา่ นได้ถกู ต้องชัดเจน

กรอง ตามหลกั การอา่ น

การแต่งกลอนสุภาพ ฝกึ แต่งกลอนสภุ าพ - แตง่ กลอนสุภาพ

การแตง่ โคลงส่ีสภุ าพ ฝึกแตง่ โคลงสีส่ ุภาพ -แตง่ โคลงส่ีสุภาพ

ได้ถูกตอ้ งตาม

ฉันทลกั ษณ์

๖๖

สาระสาคญั
๑ การอ่านบทร้อยกรองไดถ้ ูกต้องไพเราะสละสลวย และเขา้ ใจสาระการเรยี นรู้ทาให้

เห็นความงาม และคณุ ค่าของภาษาไทย เปน็ การสง่ เสริมศิลปวัฒนธรรมทางภาษาของชาติ
๒ การเขียนบทร้อยกรองโดยเขา้ ใจลักษณะฉนั ทลกั ษณ์ของคาประพันธ์ และเขยี นสาระ

การเรยี นรู้ได้เหมาะสม จะทาใหผ้ ู้อา่ นเกิดความซาบซึง้ และเหน็ คณุ ค่า ของภาษาไทยมากข้นึ

สาระการเรียนรู้
๑ การอา่ นบทเรียน เร่ือง บทละครเรื่อง รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก
๒ การฝึกเขยี นกลอนบทละคร

กระบวนการเรียนรู้
๑. นักเรียนและครูรว่ มกันสนทนาถึงการอนรุ ักษ์ภาษาไทยในฐานะทเี่ ปน็ ศลิ ปวฒั นธรรม

และเอกลักษณ์ของชาติ
๒. แบ่งนกั เรยี นออกเปน็ กลมุ่ (ตามความเหมาะสม) โดยให้แตล่ ะกลุม่ ศึกษาบทร้อยกรอง

บทละครเรื่อง รามเกียรต์ิ ตอน นารายณป์ ราบนนทก จากหนงั สอื เรียนภาษาไทย ชุดวรรณคดวี จิ ักษ์
ชัน้ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒ โดยดาเนินการ สารวจคาศัพท์หรือสานวนภาษา แล้วศกึ ษาคาอา่ นและ
ความหมายร่วมกัน จากนัน้ สมาชิกในกลุม่ อภปิ รายสรุปใจความสาคญั และข้อคิดทไี่ ด้จากบทร้อยกรอง เรือ่ ง
สงั คมคนไทย และนักเรยี นรว่ มกันฝกึ อา่ นบทรอ้ ยกรองเปน็ ทานองเสนาะ แนะนา ข้อบกพร่อง และ
แนวทางแก้ไขให้แกเ่ พ่ือนภายในกล่มุ จากนนั้ นักเรยี นผลัดเปล่ียนกนั อ่านบทร้อยกรองเป็นทานองเสนาะ และ
ให้เพื่อนในกล่มุ ทีเ่ หลอื ประเมินผลการอ่าน

๓. นักเรียนทุกกลุ่มช่วยกนั ลากเส้นโยงคาเสน้ สัมผสั ระหวา่ งวรรคของกลอนบทละคร
๔. นาแผนผังกลอนแปด ติดกระดานดา และใหท้ ุกกลมุ่ ตรวจสอบความถกู ต้องให้
สมาชกิ แต่ละกลมุ่ แขง่ ขันกนั เรยี งแถบข้อความใหถ้ ูกต้องตามลักษณะกลอนบทละคร ตามข้นั ตอน
๕. นักเรยี นและครชู ว่ ยกันสรปุ บทเรยี น เรือ่ ง การอา่ นบทร้อยกรองใหเ้ ปน็ ทานองเสนาะ
และสรปุ หลักเกณฑ์ในการแต่งบทรอ้ ยกรองประเภทกลอนบทละคร
๖. นักเรียนทาบัตรกิจกรรมการเรยี นรู้
๗. ให้นกั เรียนไปฝกึ อา่ นทานองเสนาะจนมีความไพเราะถูกทานอง

๖๗

สือ่ / แหล่งเรยี นรู้

ลาดบั ท่ี รายการสื่อ กจิ กรรมท่ีใช้ แหล่งทไ่ี ด้มา
๑ นักเรยี นทาบัตรกจิ กรรม ครูจัดทา
๒ บัตรกจิ กรรมการเรียนรู้ นกั เรียนดภู าพและฝกึ อา่ น ครูจดั หา

๓ หนังสอื เรยี น ชุด วรรณคดี ตรวจสอบ ครูจดั ทา
๔ วิจักษ์ ชนั้ ม.๒ บันทึกการสังเกตพฤติกรรม ครูจัดทา
เฉลยบตั รกจิ กรรมการเรียนรู้
แบบประเมินการสงั เกต
พฤติกรรม

การวดั ผลและประเมนิ ผล

กจิ กรรม-พฤติกรรมที่ เคร่ืองมอื ที่ใชใ้ น วิธกี ารประเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน
ประเมิน การประเมนิ
๑. นักเรยี นนาเสนอ
๒. นักเรยี นทาบัตรกิจกรรม แบบประเมนิ รายกลมุ่ สังเกตรายกลุม่ ร้อยละ ๗๐ ขึน้ ไป
การเรยี นรู้
แบบประเมินการสังเกต ตรวจงานรายบุคคล ร้อยละ ๗๐ ข้นึ ไป
๓. ประเมินพฤติกรรมและ
ผลงานระหวา่ งเรยี น พฤติกรรม และแบบ

ประเมนิ ผลงาน

แบบประเมนิ พฤตกิ รรมและ ตรวจงานรายกลุม่ ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป

ผลงานระหว่างเรียน

กจิ กรรมเสนอแนะ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ..........................

๖๘

บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
๑. ผลการจดั การเรยี นรู้ตามผลการเรยี นร้ทู ี่คาดหวัง
นักเรียนทั้งหมด ....................คน
– ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ............ คน คิดเปน็ ร้อยละ ...............
– ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดับปานกลาง – คน คดิ เป็นร้อยละ .................
– ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับปรับปรงุ – คน คิดเป็นรอ้ ยละ ...............
๒. ผลการประเมนิ พฤติกรรมระหวา่ งเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................

๓. ปัญหาและอปุ สรรคระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. ...........................
........................................................................................................ ............................................
๔. การปรบั ปรุงแกไ้ ข
............................................................................................................................. ..............
.................................................................................................................................................................
๕. ข้อคดิ เห็นและข้อเสนอแนะเพิม่ เติม
......................................................................................................... ...............................................
............................................................................................................................. .......................

ลงช่ือ..........................................................ผ้สู อน
(นางสาวธัญญาดล อปุ ชติ กุล)
ครู วิทยฐานะครชู านาญการ/พิเศษ

๖๙

ความเหน็ ของผู้อานวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

........................................................................................................ ......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................

ลงช่อื .................................................ผตู้ รวจสอบ
( ................................................. )

ผ้อู านวยการโรงเรยี นโคกโพธไิ์ ชยศึกษา

๗๐

บัตรกจิ กรรมการเรียนรู้

คาช้แี จง ให้นักเรียนอ่านคาประพันธ์และเลอื กตอนท่ไี พเราะ ใชภ้ าษามองเหน็ ภาพและใหค้ วามหมายลกึ ซงึ้
กนิ ใจ หรือให้แง่คิดในคณุ ค่า แล้วคดั คาประพนั ธน์ ั้นลงในสมดุ พร้อมบอกเหตผุ ลทช่ี อบ
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….

(อยใู่ นดลุ พินจิ ของครผู ูส้ อน)

๗๑

บัตรกจิ กรรมการเรียนรู้

คาช้ีแจง
ให้นกั เรยี นแตง่ กลอนบทละครตามประสบการณแ์ ละจนิ ตนาการ มาคนละ ๒ บท

.....................................................................................................................................................…………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.....................................................................................................................................................…………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.....................................................................................................................................................…………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.....................................................................................................................................................…………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

(อย่ใู นดุลพินจิ ของครผู ู้สอน)

๗๒

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑.๘

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๒

หนว่ ยท่ี ๑ รามเกียรติ์ เวลา ๘ ชว่ั โมง

เรื่อง อา่ นคิดสรปุ เรอื่ ง เวลา ๑ ช่ัวโมง

ใชส้ อนวันท่ี ....................................................................................................................

มาตรฐานที่ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคิด เพ่ือนาไปใช้ตัดสนิ ใจแก้ปญั หา
มาตรฐานที่ ท ๕.๑ ในการดาเนนิ ชีวิตและมนี สิ ัยรักการอา่ น
เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่าง
เหน็ คุณคา่ และนามาประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตจริง

ตวั ชว้ี ัด
ท ๑.๑ ม.๒/๔ อภปิ รายแสดงความคิดเห็นและข้อโต้แย้งเกย่ี วกบั เรือ่ งทีอ่ ่าน
ท ๕.๑ ม.๒/๑. สรุปเนอ้ื หาวรรณคดแี ละวรรณกรรมที่อ่านในระดับทยี่ ากขน้ึ
ท ๕.๑ ม.๒/๒ วเิ คราะห์และวิจารณ์วรรณคดวี รรณกรรม และวรรณกรรมท้องถ่นิ ที่อา่ น พร้อมยก

เหตผุ ลประกอบ
ท ๕.๑ ม.๒/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดแี ละวรรณกรรมทีอ่ า่ น

๗๓

สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง/ท้องถนิ่

ตวั ชี้วัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ คุณลักษณะ (A)

(P)

ท ๑.๑ ม.๒/๔ อภิปรายแสดง - นิยามหลักการ - ฝกึ อภิปรายแสดง - มมี ารยาทในการ

ความคดิ เห็นและข้อโต้แย้ง อภปิ รายแสดงความ ความคิดเหน็ และ อภิปรายและแสดง

เกย่ี วกบั เรือ่ งที่อ่าน คิดเห็นและข้อโต้แย้ง ขอ้ โต้แย้ง ความคดิ เห็น

ข้อโตแ้ ยง้

ท ๕.๑ ม.๒/๑. สรปุ เนอ้ื หา การจบั ใจความสาคญั - ฝกึ จับใจความสาคัญ - มมี ารยาทในการอา่ น

วรรณคดแี ละวรรณกรรมที่อ่าน - ฝกึ สรปุ เน้ือหา

ในระดับทยี่ ากขนึ้

ท ๕.๑ ม.๒/๒ วเิ คราะห์และ การวเิ คราะห์คณุ ค่า - ฝกึ วเิ คราะหค์ ุณค่า - เหน็ คณุ ค่าและซาบซง้ึ

วิจารณว์ รรณคดีวรรณกรรม และ ของวรรณคดีไทย ของวรรณคดีไทยและ

วรรณกรรมท้องถน่ิ ทอ่ี า่ น พร้อม และวรรณกรรม วรรณกรรมท้องถิ่น

ยกเหตผุ ลประกอบ ทอ้ งถ่ิน

ท ๕.๑ ม.๒/๓ อธบิ ายคุณค่า การวิเคราะห์คุณคา่ ฝึกเขียนอธิบาย - เห็นคุณค่าและซาบซึ้ง

ของวรรณคดีและวรรณกรรมที่ ของวรรณคดไี ทย วิเคราะหค์ ุณคา่ ของ

อา่ น และวรรณกรรม วรรณคดไี ทยและ

ทอ้ งถ่ิน วรรณกรรมท้องถิน่

สาระสาคัญ
๑. การอภิปรายบทเรยี น แสดงเหตผุ ลประกอบการพูด เปน็ การเพ่ิมทกั ษะด้านการวิเคราะห์ ทาให้

สรุปขอ้ คดิ จากบทเรยี นไดง้ ่ายและตรงประเดน็
๒. การย่อความจากเร่ืองทอ่ี ่าน โดยอาศยั แผนภาพโครงเรื่อง จะทาใหย้ อ่ เรื่องได้ง่ายและ

สมบูรณ์มากขนึ้

สาระการเรียนรู้
๑. การอภปิ รายขอ้ คิดจากบทเรยี น
๒. การเขยี นย่อความ
๓.การทดสอบหลังการเรยี นรู้

๗๔

กระบวนการเรยี นรู้
๑. นกั เรียนและครูรว่ มกนั สนทนาทบทวนเนื้อหาสาระการเรียนรูจ้ ากช่วั โมงทีผ่ ่านมา
๒. แบง่ นักเรียนออกเป็นกล่มุ (ตามความเหมาะสม) โดยใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั ศึกษา

วิเคราะห์ เน้ือหาจากบทเรียน แลว้ ดาเนินการอภปิ รายสรปุ ขอ้ คดิ จากบทเรียน แลว้ เขียนสรปุ ข้อคดิ
ลงในสมุดแบบฝกึ หดั

๓. นกั เรียนแลกเปล่ียนเรียนรู้การเขียนย่อความกบั เพ่ือนในกลมุ่ แลว้ เขยี นยอ่ ความจากบทเรียนลงใน
สมดุ และส่งตวั แทนกลมุ่ นาเสนอผลงานการเขียนสรุปขอ้ คิดจากบทเรยี น และย่อความของตนเองหนา้ ชั้นเรียน

๔. นกั เรียนและครรู ว่ มกนั อภปิ รายสรุปขอ้ คดิ จากบทเรียน เสนอแนะข้อบกพรอ่ งการ
เขียนยอ่ ความ และแนวทางปรับปรุงแก้ไข สนทนาถงึ การทางานกลุ่ม และการทางานรายบคุ คลของ
นักเรยี น

๕. นักเรยี นทาบตั รกิจกรรมการเรียนรู้
๖. นักเรียนทาแบบทดสอบหลังการเรียนรู้

สือ่ / แหล่งเรยี นรู้

ลาดบั ท่ี รายการสื่อ กิจกรรมทใ่ี ช้ แหลง่ ทไ่ี ด้มา

๒ แบบทดสอบกอ่ น-หลังเรียน นักเรยี นทาแบบทดสอบกอ่ นเรียน ครูจดั ทา
ครจู ดั ทา
แผนภมู ิความหมายของคาศัพท์ นักเรียนศกึ ษาและอา่ น
และสานวนจากเรอื่ ง

๓ หนงั สอื เรยี น ชดุ วรรณคดี นกั เรียนดภู าพและฝกึ อ่าน ครจู ดั หา
ครจู ัดทา
วจิ ักษ์ ชัน้ ม.๒

๔ เคร่ืองบันทึกเสียง นกั เรียนฝกึ การฟงั

๕ แบบประเมินการสังเกต บันทึกการสังเกตพฤติกรรม ครูจดั ทา
พฤติกรรม

๗๕

การวัดผลและประเมนิ ผล

กจิ กรรม-พฤติกรรมท่ี เคร่อื งมอื ทีใ่ ช้ใน วิธกี ารประเมิน เกณฑ์การประเมนิ
การประเมิน
ประเมิน
แบบทดสอบก่อนเรียน ตรวจงานรายบคุ คล รอ้ ยละ ๗๐ ขน้ึ ไป
๑. นกั เรียนทาแบบทดสอบ
หลงั เรียน แบบประเมินรายกลมุ่ สังเกตรายกลุม่ รอ้ ยละ ๗๐ ขน้ึ ไป

๒. นักเรียนนาเสนอหน้าช้ัน แบบประเมนิ พฤติกรรมและ ตรวจงานรายกลมุ่ ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป
เรยี น ผลงานระหว่างเรยี น
๓. ประเมนิ พฤติกรรมและ
ผลงานระหว่างเรยี น

กิจกรรมเสนอแนะ
ในกิจกรรมการสอนภาษาไทยทุกชัว่ โมง ครูตอ้ งกวดขันให้นักเรียนใชต้ ัวเลขไทย เพื่อใหเ้ กดิ ความ

เคยชนิ และติดเปน็ นสิ ัย อีกท้ังใหม้ คี วามภมู ิใจในการใชต้ วั เลขไทย อันเป็นสมบตั ิของชาติ

๗๖

บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
๑. ผลการจดั การเรยี นร้ตู ามผลการเรยี นรทู้ ค่ี าดหวัง
นักเรียนทั้งหมด ....................คน
– ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับดี ............ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ...............
– ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดับปานกลาง – คน คิดเปน็ ร้อยละ .................
– ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดบั ปรบั ปรุง – คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ...............
๒. ผลการประเมนิ พฤติกรรมระหวา่ งเรียน
............................................................................................................................. ...........................

..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
.........................................................................................................................

๓. ปัญหาและอปุ สรรคระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน
............................................................................................................................. ...........................
........................................................................................................ ............................................
๔. การปรบั ปรุงแกไ้ ข
............................................................................................................................. ..............
.................................................................................................................................................................
๕. ข้อคดิ เห็นและข้อเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
......................................................................................................... ...............................................
............................................................................................................................. .......................

ลงช่ือ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวธญั ญาดล อุปชติ กลุ )
ครู วทิ ยฐานะครูชานาญการ/พิเศษ

๗๗

ความเหน็ ของผู้อานวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

........................................................................................................ ......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................

ลงชือ่ .................................................ผตู้ รวจสอบ
( ................................................. )

ผู้อานวยการโรงเรียนโคกโพธไิ์ ชยศึกษา

๗๘

บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้

๑. คาชแ้ี จง จงอภปิ รายคณุ ค่าของบทละครเร่อื งรามเกยี รต์ิ ตอน นารายณ์ปราบนนทก

.........ค...ุณ...ค..่า..ด..้.า.น..............................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

คุณค่าด้านเนือ้ หา

.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

คุณค่าด้านการ
......................................................................................................................

.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

๗๙

๒. คาช้แี จง ให้นกั เรยี นยกตวั อยา่ งเหตุการณ์ในสงั คมโลกท่วี ุ่นวาย ความไมส่ งบ อันเกิดจาก
ความโกรธแค้น อาฆาตกัน และอภิปรายถึงผลของเหตุการณ์นน้ั
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

๓. คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นยอ่ ความบทละครเรือ่ ง รามเกยี รต์ิ ตอน นารายณป์ ราบนนทก ให้
ถูกต้องย่อบทละครเรื่อง รามเกียรต์ิ ตอน นารายณป์ ราบนนทก จาก หนงั สือเรยี นภาษาไทย
ชดุ วรรณคดวี ิจกั ษ์ ชนั้ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๒ หนา้ …….ถงึ . …..ความวา่ ………………………….
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

๘๐

บตั รความกจิ กรรมการเรียนรู้

๑. คาชี้แจง จงอภิปรายคณุ ค่าของบทละครเร่ืองรามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก

คุณค่าด้าน มีความดีเด่นทางดา้ นวรรณศิลป์ ท่ีก่อใหเ้ กิดความงามของ
กระบวนการพรรณนาท่ีเหมาะสม มีรสวรรณคดี ครบท้งั

๔ รส และโดดเด่นในดา้ นการใชถ้ อ้ ยคาและโวหาร เช่น การใชค้ าซ้า การใชค้ าอุปมา การ

หลากคา การใชถ้ อ้ ยคาที่แสดงใหเ้ ห็นอารมณ์โกรธ อารมณ์แคน้ อยา่ งชดั เจน

คุณค่าด้านเนือ้ หา เน้ือหาของเร่ืองรามเกียรต์ิ ตอน นารายณ์ปราบนนทก

ใหค้ วามบนั เทิงแก่ผอู้ ่านและแทรกขอ้ คิดคติธรรมท่ีเป็น
ประโยชน์ ท้งั น้ียงั สะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงความเชื่อของคนในเร่ืองของการกลบั ชาติมาเกิด ซ่ึงเป็น
คติความเชื่อของคนไทยท่ีมีสืบตอ่ กนั มาถึงปัจจุบนั และบทละครในตอนน้ียงั ใหค้ วามรู้
เกี่ยวกบั ทา่ ราพ้นื ฐานท่ีเป็นท่าราแมบ่ ทในนาฏศิลป์ ไทย

คุณค่าด้านการ รามเกียรต์ิ ตอน นารายณ์ปราบนนทก ใหค้ ุณคา่ และ
ขอ้ คิดในดา้ นการนาไปใช้ ดงั น้ี.................................

- ไมค่ วรรังแกผทู้ ี่อ่อนแอกวา่ และควรมอบอานาจให้แก่บุคคลท่ีเหมาะสม........................

- ความลุ่มหลงทาใหข้ าดสติในการพจิ ารณาไตร่ตรอง

๒. คาชแ้ี จง ให้นักเรียนยกตวั อย่างเหตุการณ์ในสงั คมโลกที่วนุ่ วาย ความไม่สงบ อนั เกิดจาก
ความโกรธแคน้ อาฆาตกนั และอภิปรายถึงผลของเหตุการณน์ นั้

( อยู่ในดลุ พนิ ิจของครู)

๘๑

๓. คาชี้แจง ใหน้ กั เรยี นยอ่ ความบทละครเรอื่ ง รามเกยี รติ์ ตอน นารายณป์ ราบนนทก
( อยใู่ นดุลพินิจของครู)

แบบทดสอบก่อนเรียน -หลงั เรียน

คาชี้แจง ให้นักเรียน เรียงลาดับข้อต่อไปน้ี ตามลาดับก่อนหลัง โดยเขียนหมายเลขต้ังแต่ ๑ ถึง
๑๐

............... พระอิศวรประทานใหต้ ามต้องการ นนทกจงึ มีน้วิ เพชรที่สามารถชี้สงั หารใคร ๆ ได้
............... นนทก น่ังประจาอยู่ท่ีเชิงเขาไกรลาส มีหน้าท่ีล้างเท้าให้เหล่าเทวดา ใคร ๆ ก็พึงพอใจท่ีได้รับ
บริการจากนนทก ยืน่ เท้าใหล้ า้ งแล้วยงั ไมพ่ อ ว่าง ๆ ก็ได้แหย่เย้าถอนผมนนทกเลน่
............... เพียงแต่ถูกหยอกเลน่ เหมือนทุกวัน นนทกก็โกรธเปน็ ฟืนเปน็ ไฟขึ้นมาทันที เทวดาที่มา
ยว่ั แหย่นนทกถกู สังหารเสยี มากมาย
............... ไม่ทันนาน นนทกกม็ ใี จกาเริบ ไมย่ ับย้งั ชงั่ ใจ และไม่ใคร่ครวญวา่ จะใช้นิว้ เพชรน้นั อยา่ งไร
............... ร้อนถึงพระอิศวรต้องมาแก้ที่ต้นเหตุ หลังจากใคร่ครวญดูแล้วก็เห็นว่า การที่จะตอบแทนความ
ดีความชอบด้วยการมอบอานาจให้นั้น คงจะเหมาะกับผู้ท่ีรู้จักใช้และควบคุมอานาจเท่านั้น แต่ถ้าผู้ใดได้รับ
รางวลั ตอนแทนแล้ว “กลับทรยศกระบถใจ ทาการหยาบใหญถ่ งึ เพียงนี้” กจ็ าจะตอ้ งถกู ลงโทษ
............... นนทกแค้นใจ แต่จะหาทางตอบโต้ก็ไม่ได้ เพราะไม่มีกาลัง หรืออานาจ จึงไปหาเจ้านายคือ
พระอศิ วร แล้วร้องเรียนวา่ ตนทาหน้าที่ดว้ ยความรับผิดชอบมานานแลว้ แตย่ ังไม่ได้ขอสิ่งใดเป็นรางวัลเลย วันนี้
จะมาทูลขอใหม้ ีฤทธ์ิสามารถลงโทษผ้ทู ีม่ ารงั แกตนได้
............... นนทกลงมาเกิดเป็นทศกัณฐ์ ส่วนพระนารายณ์อวตารลงมาเป็นพระรามและได้ทาศึกสงคราม
กนั ยาวนาน
............... ผู้ที่พระอิศวรขอใหม้ าลงโทษนนทกคือพระนารายณ์
............... นางรากลบั ร่างเปน็ พระนารายณ์แลว้ เหยียบทนนทกไว้เพื่อสังหาร นนทกจึงต่อว่าพระนารายณ์
ว่าเอาเปรียบมีถึงสี่มือแต่ก็ยังไม่กล้าสู้กันซ่ึง ๆ หน้า พระนารายณ์ท้าว่าขอให้นนทกไปเกิดใหม่มีสิบหน้า ยี่สิบ
มอื และมีอาวุธพร้อมสรรพ สว่ นพระองคจ์ ะไปเกดิ เปน็ มนษุ ยส์ องมือ จะได้สูก้ นั ในโลกมนษุ ยอ์ ีกครัง้ หนง่ึ
............... พระนารายณ์ไปปราบนนทกโดยแปลงร่างเป็นนางราไปรายั่วนนทกให้ราตามด้วยท่าต่าง ๆ
เมอื่ ถึงทา่ ชน้ี ้ิวลงท่ตี น้ ขา นนทกกข็ าหกั เพราะเดชน้วิ เพชรของตนเอง

๘๒

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน -หลงั เรียน

คาชี้แจง ให้นักเรียน เรียงลาดับข้อต่อไปน้ี ตามลาดับก่อนหลัง โดยเขียนหมายเลขต้ังแต่ ๑ ถึง
๑๐

๑. นนทก นั่งประจาอยู่ที่เชิงเขาไกรลาส มีหน้าที่ล้างเท้าให้เหล่าเทวดา ใคร ๆ ก็พึงพอใจที่ได้รับ
บรกิ ารจากนนทก ยน่ื เทา้ ใหล้ ้างแลว้ ยังไมพ่ อ วา่ ง ๆ ก็ได้แหยเ่ ยา้ ถอนผมนนทกเล่น

๒. นนทกแค้นใจ แต่จะหาทางตอบโต้ก็ไม่ได้ เพราะไม่มีกาลัง หรืออานาจ จึงไปหาเจ้านายคือ พระ
อิศวร แล้วร้องเรียนว่าตนทาหน้าท่ีด้วยความรับผิดชอบมานานแล้วแต่ยังไม่ได้ขอส่ิงใดเป็นรางวัลเลย วันน้ีจะ
มาทูลขอให้มฤี ทธ์สิ ามารถลงโทษผู้ทม่ี ารงั แกตนได้

๓. พระอศิ วรประทานให้ตามต้องการ นนทกจงึ มนี ิว้ เพชรทส่ี ามารถชี้สงั หารใคร ๆ ได้
๔. ไมท่ นั นาน นนทกกม็ ีใจกาเริบ ไมย่ บั ยง้ั ช่ังใจ และไม่ใคร่ครวญว่าจะใชน้ ้ิวเพชรน้ันอยา่ งไร
๕ . เพียงแต่ถกู หยอกเลน่ เหมอื นทุกวัน นนทกกโ็ กรธเป็นฟืนเปน็ ไฟข้นึ มาทนั ที เทวดาทีม่ า
ยั่วแหย่นนทกถกู สงั หารเสยี มากมาย
๖. ร้อนถึงพระอิศวรต้องมาแก้ท่ีต้นเหตุ หลังจากใคร่ครวญดูแล้วก็เห็นว่า การที่จะตอบแทนความดี
ความชอบด้วยการมอบอานาจให้นั้น คงจะเหมาะกับผู้ที่รู้จักใช้และควบคุมอานาจเท่านั้น แต่ถ้าผู้ใดได้รับ
รางวลั ตอนแทนแล้ว “กลบั ทรยศกระบถใจ ทาการหยาบใหญ่ถงึ เพียงนี้” กจ็ าจะต้องถูกลงโทษ
๗. ผ้ทู พ่ี ระอิศวรขอใหม้ าลงโทษนนทกคอื พระนารายณ์
๘. พระนารายณ์ไปปราบนนทกโดยแปลงร่างเป็นนางราไปรายั่วนนทกให้ราตามด้วยท่าต่าง ๆ เม่ือถึง
ทา่ ชีน้ ิว้ ลงทีต่ ้นขา นนทกกข็ าหกั เพราะเดชน้วิ เพชรของตนเอง
๙. นางรากลับร่างเป็นพระนารายณ์แล้วเหยียบทนนทกไว้เพ่ือสังหาร นนทกจึงต่อว่าพระนารายณ์ว่า
เอาเปรียบมีถึงส่ีมือแต่ก็ยังไม่กล้าสู้กันซ่ึง ๆ หน้า พระนารายณ์ท้าว่าขอให้นนทกไปเกิดใหม่มีสิบหน้า ย่ีสิบมือ
และมอี าวุธพรอ้ มสรรพ ส่วนพระองค์จะไปเกิดเป็นมนษุ ยส์ องมอื จะไดส้ ู้กนั ในโลกมนุษย์อกี ครงั้ หนึง่
๑๐. นนทกลงมาเกิดเป็นทศกณั ฐ์ ส่วนพระนารายณ์อวตารลงมาเป็นพระรามและได้ทาศึกสงครามกัน
ยาวนาน

๘๓

แบบประเมินหลงั แผนการจดั การเรียน

๘๔

แบบประเมนิ พฤติกรรมและผลงานระหวา่ งเรยี น

ความหมาย

๑. ตงั้ ใจ หมายถงึ ความมานะ อดทนทางานจนเสร็จ ( A )

๒. ความรว่ มมอื หมายถงึ สมาชิกในกลมุ่ ใหค้ วามร่วมมือทางานจนเสรจ็ ( A )

๓. ความมวี ินัย หมายถงึ ผลงาน หรอื การทางานเป็นระบบระเบียบเรียบร้อย สะอาด

สวยงาม และไดเ้ น้ือหาครบถ้วน ทันหรอื ตรงต่อเวลา ( A,K )

๔. คุณภาพของผลงาน หมายถงึ ผลงานเรียบรอ้ ย สวยงาม เนอื้ หาครบถว้ น

ภาษาทใ่ี ชเ้ หมาะสม (P – Product, K)

๕. การนาเสนอผลงาน หมายถึง การพูดอธบิ ายนาเสนอผลงานไดต้ ามลาดบั

และเน้อื หาถกู ต้อง ( P – Process, K )

เกณฑ์การประเมิน

๔ หมายถึง ทาไดด้ ีมาก ๓ หมายถึง ทาได้ดี

๒ หมายถึง ทาได้พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ

เลขที่ ความตั้งใจ ความรว่ มมอื ความมวี ินยั คุณภาพของ การนาเสนอ รวม

(๔) (๔) (๔) ผลงาน (๔) ผลงาน (๔) (๒๐)

๘๕

เกณฑ์การใหค้ ะแนนกระบวนการทางานกล่มุ

ประเด็นการประเมนิ เกณฑ์การให้คะแนน/ระดบั
๑. การกาหนด –
๓๒๑
เป้าหมายรว่ มกนั
สมาชกิ ทกุ คนมีส่วน สมาชิกส่วนใหญม่ ี สมาชกิ ส่วนน้อยมี
๒. การแบง่ หนา้ ที่
รบั ผดิ ชอบ ร่วมในการกาหนด สว่ นรว่ มในการกาหนด สว่ นร่วมในการกาหนด

๓. การปฏบิ ตั หิ น้าที่ เปา้ หมายการทางาน เป้าหมายในการ เปา้ หมายในการ
ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
อยา่ งชดั เจน ทางาน ทางาน
๔. การประเมนิ และ
ปรบั ปรงุ ผลงาน กระจายงานได้อย่าง กระจายงานได้ท่ัวถงึ กระจายงานไม่ทว่ั ถึง

ทวั่ ถงึ และตรงตาม แต่ไมต่ รงตาม

ความสามารถของ ความสามารถของ

สมาชิกทกุ คน สมาชิก

ทางานได้สาเร็จตาม ทางานได้สาเร็จตาม ทางานไมส่ าเร็จตาม

เปา้ หมายที่ไดร้ บั เปา้ หมายแตช่ า้ กว่า เปา้ หมาย

มอบหมาย ตาม เวลาทก่ี าหนด

ระยะเวลาท่ีกาหนด

สมาชกิ ทกุ คนรว่ ม สมาชิกบางส่วนมสี ว่ น สมาชกิ บางส่วนไม่มี

ปรกึ ษาหารือ ติดตาม ร่วมปรึกษาหารือแต่ไม่ ส่วนร่วมปรึกษาหารอื

ตรวจสอบและปรบั – ชว่ ยปรับปรุงผลงาน และไม่ช่วยปรับปรงุ

ปรงุ ผลงานเปน็ ระยะ ผลงาน

๘๖

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม

กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย วิชา ภาษาไทย
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ กล่มุ ท่ี …….....

ท่ี รายการประเมนิ คะแนน ข้อคิดเห็น
๓๒๑
๑. การกาหนดเป้าหมายรว่ มกนั
๒. การแบง่ หน้าทร่ี ับผิดชอบ
๓. การปฏิบตั ติ ามหน้าท่ีที่ได้รบั มอบหมาย
๔. การประเมินและปรับปรุงผลงาน

รวม

ลงชอ่ื ผู้ประเมนิ
( )

เกณฑ์การประเมนิ ดีมาก
๑๑ – ๑๒= ดี
๘ – ๑๐ = พอใช้
๕–๖ = ปรบั ปรุง
๐–๔ =

๘๗

เกณฑ์การประเมนิ การนาเสนอผลงาน

แนวทางการพจิ ารณา

หัวขอ้ การพจิ ารณา/ระดับการปฏบิ ตั หิ รือพฤติกรรม

ระดบั เนือ้ หา กลวิธกี าร ข้ันตอนการ การใชภ้ าษา ตอบคาถาม/
คะแนน นาเสนอ นาเสนอ เวลา
ตอบคาถามได้
๔ มีการเรยี งลาดบั มกี ารนาเข้าสู่ มกี ารนาเสนอ ออกเสยี งถูกตอ้ ง อยา่ งมภี มู ิรู้
และมคี วาม
เนื้อหาได้ดี เนอ้ื เรอ่ื ง มี อยา่ งต่อเนื่อง ตามอักขรวธิ แี ละ ชัดเจน มีแหล่ง
อ้างองิ
มีความต่อเนื่อง ความ สมั พนั ธ์ ราบรืน่ เปน็ ไป ดงั ชดั เจน ใช้ ใชเ้ วลาตาม
กาหนด
มปี ระโยชน์ กบั เนื้อเรื่อง เรา้ ตามขั้นตอน ภาษาเหมาะสม ตอบคาถามได้
ค่อนข้างชัด
ใหแ้ ง่คิด ใจผฟู้ งั เข้าใจงา่ ย มีการ เจน มแี หล่ง
อา้ งองิ
มคี วามม่นั ใจ ใชส้ านวนโวหาร ใช้เวลาเกนิ
กาหนด ๑
๓ มกี ารเรยี งลาดบั มีการนาเข้าสู่ การนาเสนอ ออกเสียงถูกตอ้ ง นาที
เนอื้ หาได้ดี เนื้อเร่ือง มี ต่อเนื่อง มีการ ตามอักขรวิธีและ ตอบคาถามได้
มคี วามต่อเนอ่ื ง ความ สัมพันธ์ ข้ามข้นั ตอน ดงั ชัดเจน ใช้ ไมค่ ่อยชัดเจน
มปี ระโยชน์ กับเนอ้ื เร่ือง เรา้ บ้าง ภาษาเหมาะสม มีแหล่งอ้างองิ
ให้แงค่ ดิ น้อย ใจผูฟ้ งั เข้าใจง่าย ไมม่ ี เป็นบางสว่ น
ไมม่ ีความมน่ั ใจ การนาเสนอ การใชส้ านวน ใช้เวลาเกนิ
๒ มีการเรยี งลาดับ ในการนาเสนอ ตอ่ เนือ่ ง ไม่มี โวหาร กาหนด
เนอ้ื หาได้ดี มกี ารนาเข้าสู่ ข้นั ตอนเป็น ออกเสียงถูกต้อง ๒ นาที
มีความต่อเนื่อง เน้ือเรอื่ ง มี ส่วนใหญ่ ตามอักขรวิธีและ ตอบคาถาม
มปี ระโยชน์น้อย ความ สมั พันธ์ ดงั ชัดเจน ใช้ ไม่ไดเ้ ป็น
ให้แงค่ ิดน้อย กบั เนอ้ื เร่ือง ไม่ การนาเสนอ ภาษาเข้าใจยาก สว่ นใหญ่
เร้าใจผู้ฟงั ไม่ต่อเน่อื ง ไม่มีการใช้ ใช้เวลาเกนิ
๑ มกี ารเรียงลาดับ ไม่มีความมน่ั ใจ นาเสนอสบั สน สานวนโวหาร กาหนด ๕
เน้ือหาได้ดี ในการนาเสนอ นาที
ไม่มีความ ออกเสยี งถกู ตอ้ ง
ต่อเนอ่ื ง มกี ารนาเข้าสเู่ นอ้ื ตามอักขรวธิ ีและดัง
มีประโยชน์น้อย เรอ่ื ง ไม่มีความ ชัดเจน ใช้ภาษาไม่
ใหแ้ ง่คิดน้อย สมั พันธก์ บั เนอื้ เหมาะสม เข้าใจ
เร่ือง ไม่เรา้ ใจผ้ฟู ัง ยาก ไมม่ ีการใช้
ไมม่ คี วามม่นั ใจใน สานวนโวหาร
การนาเสนอ

๘๘

แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน

กลมุ่ ท่.ี ...........................................................ห้อง.......................

เนื้อหา กลวธิ ี ขน้ั ตอนการ การใช้ การตอบ รวม

๔ การ นาเสนอ ภาษา คาถาม คะแนน

ประเด็น นาเสนอ ๔ ๔ /เวลา ๒๐

ชื่อ – สกลุ ๔๔
สมาชกิ
๑.
๒.
๓.
๔.
๕.
๖.
๖.
๘.

ลงชื่อ......................................................ผ้ปู ระเมนิ
()

วนั ที่......เดือน......................ป.ี ...............

เกณฑ์การประเมนิ ๔ หมายถงึ ดีมาก
๓ หมายถึง ดี
๒ หมายถงึ พอใช้
๑ หมายถงึ ต้องปรับปรุง

๘๙

แบบประเมนิ ก่อนเรยี นและหลังเรียน หนว่ ยที่ ๑

แบบทดสอบ แบบทดสอบ สรุป

เลขที่ ชือ่ – สกลุ ก่อนเรียน หลังเรยี น ผลต่าง

๑ ๒๐ ๒๐ ผา่ น ไมผ่ ่าน








๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
๑๗
๑๘
๑๙
๒๐
๒๑
๒๒
๒๓
๒๔

๙๐

แผนการจัดการเรยี นรวู้ ชิ าภาษาไทย

ภาคเรยี นท่ี ๑
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒
หนว่ ยที่ ๒ ท่องเวบ็ เก็บความรู้

โดย
นางสาวธญั ญาดล อปุ ชติ กลุ

โรงเรียนโคกโพธไิ์ ชยศึกษา

อาเภอโคกโพธิไ์ ชย จังหวัดขอนแก่น
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศกึ ษาเขต ๒๕

๙๑

แผนผงั ความคดิ การบูรณาการการเรยี นรู้
ภายในกลมุ่ สาระ

การฟัง การดู
การพดู

วรรณคดแี ละ การอ่าน
วรรณกรรม

การใช้ภาษา การเขียน

๙๒

แผนผงั ความคดิ การบรู ณาการ
นอกกลมุ่ สาระ การเรยี นรู้

คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สงั คมศึกษา ฯ
-การนบั จานวน - การคิดอยา่ งเป็ น
-การจดั กลมุ่ -สะทอ้ นสภาพสงั คมไทย
ระบบ -คณุ ธรรมและมารยาท
- การวิเคราะหเ์ รื่อง
- หลกั เศรษฐกจิ
พอเพยี ง

สขุ ศึกษาและ ทอ่ งเว็บ ภาษาองั กฤษ
พลศึกษา เก็บความรู้ -ความหมายของคา

-มนษุ ยสมั พนั ธ์ -เขยี นคาศัพท์
-การเคลอื่ นไหว -เขยี นสานวน
-การเลน่ เกม

การงานอาชีพ ศิลปะฯ
และเทคโนโลยี - การเรียนรู้
-การใชค้ อมพวิ เตอร์ วฒั นธรรม
-ใชใ้ ชอ้ ินเทอรเ์ น็ต - วาดภาพประกอบ

-ขบั รอ้ งทานองเสนาะ

๙๓

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒.๑

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๒

หนว่ ยท่ี ๒ ท่องเว็บเกบ็ ความรู้ เวลา ๔ ช่วั โมง

เร่ือง อ่านคิดพนิ จิ เร่ือง เวลา ๑ ชั่วโมง

ใชส้ อนวนั ที่ ....................................................................................................................

มาตรฐานท่ี ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรู้และความคิด เพื่อนาไปใช้ตัดสินใจ
แก้ปญั หาในการดาเนนิ ชีวิตและมีนิสยั รกั การอ่าน

ตัวช้วี ัด
ท ๑.๑ ม. ม.๒/๑ อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองได้ถกู ต้อง
ท ๑.๑ ม. ม.๒/๒ จับใจความสาคญั สรุปความและอธบิ ายรายละเอียด จากเร่ืองทอี่ ่าน

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

ตวั ชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง/ท้องถนิ่

ท ๑.๑ ม.๒/๑ อ่านออก ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลักษณะ (A)
เสียงบทรอ้ ยแกว้ และบท
รอ้ ยกรองได้ถกู ต้อง - หลกั การอ่านออก - ฝกึ ทักษะการอา่ นออกเสียง -มมี ารยาทในการอ่าน
ท ๑.๑ ม.๒/๒ จบั ใจความ
สาคัญ สรปุ ความและ เสียงร้อยแก้วและรอ้ ย รอ้ ยแกว้ และรอ้ ยกรอง -อ่านได้ถูกต้องชดั เจน
อธบิ ายรายละเอยี ด จาก
เรือ่ งท่ีอ่าน กรอง ตามหลกั การอ่าน

- หลักการอ่าน - ฝึกทกั ษะการอา่ นจับ - อ่านจับใจความและ

จบั ใจความและ ใจความและสรุปความ สรุปความได้ถูกต้อง

สรุปความ

สาระสาคญั
การอ่านเพ่ือจบั ใจความสาคญั เป็นพ้ืนฐานทจ่ี าเป็นในการศึกษาหาความรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนให้เกดิ ความ

ชานาญจนสามารถจับใจความสาคัญในงานเขียนทุกประเภท
สาระการเรยี นรู้

- การอ่านในใจ อ่านจบั ใจความบทเรียนเรอ่ื ง การค้นพบสมบตั ิของโลกลา้ นปี

๙๔

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. ครูแจ้งตวั ช้ีวดั
๒. ครูใหน้ กั เรยี นดภู าพขว้ั โลก เกาะกรีนแลนด์ แล้วสนทนาถึงลักษณะข้ัวโลก เก่ียวกับสมบัติ

ของโลกล้านปีท่ีนักเรยี นเคยไดย้ ินได้ฟังมา
๓. ให้นักเรียนอา่ นเร่ืองการค้นพบสมบตั ขิ องโลกล้านปจี ากหนังสือ
๔. นกั เรยี นอ่านจับใจความสาคัญของเร่ือง ว่าเก่ียวกับอะไร อย่างไร มีความสาคัญอย่างไร และ

มใี ครเกี่ยวข้องบา้ ง
๕ . เมอ่ื นักเรยี นอา่ นจบและเข้าใจดีแลว้ ให้นักเรยี นต้ังและตอบคาถาม จากเนื้อเร่ือง คนละ ๕

ข้อ ให้ปรึกษากบั เพื่อน หรือสอบถามกบั ครูผสู้ อน
๖. ครถู ามนักเรยี นว่าเขา้ ใจความหมายทผ่ี ู้เขียนต้องการสอื่ หรือไม่ จากน้นั ครูกับนักเรียน

รว่ มกันอภปิ รายเกี่ยวกับข้อคิดทีไ่ ด้จากเร่อื ง
๗. ใหน้ กั เรียนทากจิ กรรมบัตรกจิ กรรมการเรียนรู้
๘. ครูและนกั เรยี นช่วยกนั สรปุ บทเรียน รวมท้ังความร้ทู ี่ได้จากบทเรียนและการนาไปใช้ใน

ชวี ิตประจาวัน

สอื่ / แหล่งเรยี นรู้

ลาดบั ท่ี รายการส่อื กิจกรรมที่ใช้ แหล่งท่ีได้มา
๑ ภาพข้ัวโลก เกาะกรีนแลนด์ เพิม่ เติมความชดั เจนในเนื้อหา ครจู ัดเตรยี ม
นกั เรียนทาบตั รกจิ กรรม ครูจดั ทา
๒ บัตรกิจกรรมการเรยี นรู้ นักเรียนดูภาพและฝึกอ่าน ครจู ัดหา

๓ หนังสอื เรียน ชุด วิวธิ ภาษา
ชั้น ม. ๒

๔ เฉลยบัตรกิจกรรม ตรวจสอบแบบทดสอบ ครูจดั ทา
ตรวจสอบบตั รกจิ กรรม ครจู ัดทา
๕ แบบประเมินการสงั เกต บนั ทึกการสงั เกตพฤติกรรม
พฤติกรรม

๙๕

การวดั ผลและประเมนิ ผล

กจิ กรรม-พฤติกรรมที่ เครือ่ งมอื ท่ใี ชใ้ น วธิ ีการประเมิน เกณฑ์การประเมนิ
ประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายกล่มุ ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป
๒. นกั เรียนเลา่ เรื่องและตั้ง – ตรวจงานรายบคุ คล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป
แบบประเมนิ รายกลมุ่
ตอบคาถาม ตรวจงานรายกลมุ่ รอ้ ยละ ๗๐ ขึน้ ไป
๓. นักเรยี นทาบัตรกจิ กรรม แบบประเมินการสงั เกต
การเรยี นรู้ พฤติกรรม และแบบ
ประเมินผลงาน
๔. ประเมินพฤติกรรมและ แบบประเมินพฤติกรรมและ
ผลงานระหวา่ งเรยี น
ผลงานระหว่างเรยี น

กิจกรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………
………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……………
............................................................................................................................. .................................................

๙๖

บันทึกผลหลงั การจดั การเรียนรู้
๑. ผลการจัดการเรยี นรูต้ ามผลการเรยี นร้ทู คี่ าดหวัง
นักเรยี นทงั้ หมด ....................คน
– ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดับดี ............ คน คิดเปน็ ร้อยละ ...............
– ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดับปานกลาง – คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................
– ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั ปรับปรุง – คน คดิ เป็นร้อยละ ...............
๒. ผลการประเมินพฤตกิ รรมระหว่างเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................... .....................................................

๓. ปญั หาและอปุ สรรคระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน
.......................................................................................................................................... ..............
................................................................................................................... ..........................................................
๔. การปรบั ปรงุ แกไ้ ข
............................................................................................................................. ...........................
............................................................................................................................. ................................................
๕. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพ่มิ เติม
........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..............................................

ลงชอ่ื ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวธัญญาดล อุปชติ กุล)
ครู วทิ ยฐานะครชู านาญการพิเศษ

๙๗

ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรียน
............................................................................................................................. ...........................

........................................................................................................ ......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงช่อื .................................................ผูต้ รวจสอบ
( ................................................. )
ผู้อานวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศกึ ษา


Click to View FlipBook Version