The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ธัญญาดล อุปชิตกุล, 2020-05-06 02:43:47

แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

๓๙๘

แบบประเมินพฤติกรรมและผลงานระหว่างเรียน

ความหมาย

๑. ตง้ั ใจ หมายถงึ ความมานะ อดทนทางานจนเสรจ็ ( A )

๒. ความรว่ มมอื หมายถึง สมาชิกในกลมุ่ ให้ความรว่ มมือทางานจนเสรจ็ ( A )

๓. ความมีวนิ ัย หมายถึง ผลงาน หรือการทางานเป็นระบบระเบยี บเรียบร้อย สะอาด

สวยงาม และได้เนื้อหาครบถ้วน ทนั หรอื ตรงต่อเวลา ( A,K )

๔. คณุ ภาพของผลงาน หมายถงึ ผลงานเรยี บรอ้ ย สวยงาม เนอื้ หาครบถว้ น

ภาษาทใ่ี ช้เหมาะสม (P – Product, K)

๕. การนาเสนอผลงาน หมายถึง การพูดอธบิ ายนาเสนอผลงานได้ตามลาดบั

และเน้ือหาถูกต้อง ( P – Process, K )

เกณฑ์การประเมนิ

๔ หมายถงึ ทาไดด้ ีมาก ๓ หมายถึง ทาได้ดี

๒ หมายถึง ทาได้พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ

เลขท่ี ความต้งั ใจ ความรว่ มมอื ความมีวินัย คุณภาพของ การนาเสนอ รวม

(๔) (๔) (๔) ผลงาน (๔) ผลงาน (๔) (๒๐)

๓๙๙

เกณฑ์การให้คะแนนกระบวนการทางานกล่มุ

ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน/ระดับ
๑. การกาหนด –
๓๒๑
เปา้ หมายรว่ มกัน
สมาชิกทกุ คนมีสว่ น สมาชิกสว่ นใหญม่ ี สมาชิกส่วนน้อยมี
๒. การแบง่ หน้าท่ี
รับผดิ ชอบ ร่วมในการกาหนด สว่ นร่วมในการกาหนด ส่วนรว่ มในการกาหนด

๓. การปฏบิ ตั ิหน้าท่ี เปา้ หมายการทางาน เป้าหมายในการ เป้าหมายในการ
ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
อย่างชดั เจน ทางาน ทางาน
๔. การประเมนิ และ
ปรบั ปรงุ ผลงาน กระจายงานได้อย่าง กระจายงานไดท้ ัว่ ถงึ กระจายงานไม่ท่วั ถึง

ทวั่ ถงึ และตรงตาม แต่ไม่ตรงตาม

ความสามารถของ ความสามารถของ

สมาชกิ ทกุ คน สมาชกิ

ทางานได้สาเรจ็ ตาม ทางานไดส้ าเร็จตาม ทางานไมส่ าเร็จตาม

เปา้ หมายท่ีไดร้ ับ เป้าหมายแต่ชา้ กวา่ เป้าหมาย

มอบหมาย ตาม เวลาทก่ี าหนด

ระยะเวลาที่กาหนด

สมาชกิ ทกุ คนรว่ ม สมาชิกบางส่วนมีส่วน สมาชกิ บางส่วนไม่มี

ปรึกษาหารือ ตดิ ตาม รว่ มปรกึ ษาหารือแต่ไม่ สว่ นร่วมปรึกษาหารอื

ตรวจสอบและปรบั – ชว่ ยปรบั ปรุงผลงาน และไม่ช่วยปรับปรงุ

ปรงุ ผลงานเป็นระยะ ผลงาน

๔๐๐

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๒ กล่มุ ท่ี …….....

ท่ี รายการประเมนิ คะแนน ขอ้ คิดเหน็
๓๒๑
๑. การกาหนดเปา้ หมายร่วมกนั
๒. การแบ่งหน้าที่รับผดิ ชอบ
๓. การปฏิบตั ิตามหนา้ ท่ที ีไ่ ด้รับมอบหมาย
๔. การประเมินและปรับปรุงผลงาน

รวม

ลงชอื่ ผ้ปู ระเมิน
( )

เกณฑ์การประเมิน
๑๑ – ๑๒= ดมี าก
๘ – ๑๐ = ดี
๕ – ๖ = พอใช้
๐ – ๔ = ปรับปรุง

๔๐๑

เกณฑ์การประเมนิ การนาเสนอผลงาน

แนวทางการพจิ ารณา

หวั ข้อการพิจารณา/ระดบั การปฏบิ ตั หิ รอื พฤติกรรม

ระดับ เน้ือหา กลวธิ กี ารนาเสนอ ขน้ั ตอนการ การใชภ้ าษา ตอบคาถาม/
คะแนน นาเสนอ เวลา
๔ มีการเรียงลาดับ
เนอ้ื หาไดด้ ี มกี ารนาเข้าสเู่ นอ้ื มกี ารนาเสนอ ออกเสียงถูกตอ้ ง ตอบคาถามได้
มีความต่อเนอื่ ง เรื่อง มีความ อย่างมภี ูมิรู้
มีประโยชน์ สมั พันธ์กับเนอ้ื อย่างตอ่ เนื่อง ตามอกั ขรวิธแี ละดงั และมคี วาม
ใหแ้ ง่คดิ เรื่อง เร้าใจผู้ฟัง ชัดเจน มแี หลง่
มีความมน่ั ใจ ราบรนื่ เปน็ ไปตาม ชดั เจน ใช้ภาษา อา้ งอิง
ใช้เวลาตาม
ขัน้ ตอน เหมาะสม เข้าใจ กาหนด
ตอบคาถามได้
ง่าย มกี ารใช้ ค่อนขา้ งชัด เจน
มแี หลง่ อา้ งองิ
สานวนโวหาร ใช้เวลาเกิน
กาหนด ๑ นาที
๓ มีการเรียงลาดับ มีการนาเข้าสู่เน้อื การนาเสนอ ออกเสียงถูกตอ้ ง
เร่อื ง มีความ ต่อเนื่อง มีการ ตามอกั ขรวธิ ีและดงั ตอบคาถามไดไ้ ม่
เนือ้ หาไดด้ ี สัมพนั ธก์ ับเนื้อ ข้ามขัน้ ตอนบ้าง ชัดเจน ใช้ภาษา ค่อยชัดเจน
มคี วามต่อเนอ่ื ง เรื่อง เรา้ ใจผูฟ้ ัง เหมาะสมเข้าใจงา่ ย มีแหล่งอา้ งองิ
มีประโยชน์ ไมม่ คี วามมน่ั ใจใน การนาเสนอ ไม่มีการใช้สานวน เปน็ บางส่วน
ใหแ้ ง่คิดน้อย การนาเสนอ ต่อเน่อื ง ไมม่ ี โวหาร ใช้เวลาเกิน
มีการนาเขา้ สเู่ น้ือ ข้ันตอนเปน็ ส่วน ออกเสยี งถกู ต้อง กาหนด
๒ มกี ารเรยี งลาดบั เรื่อง มีความ ใหญ่ ตามอกั ขรวิธแี ละดงั ๒ นาที
สมั พนั ธ์กบั เนื้อ ชดั เจน ใช้ภาษา ตอบคาถามไมไ่ ด้
เนอ้ื หาไดด้ ี เรอ่ื ง ไม่ เรา้ ใจผู้ฟงั เขา้ ใจยาก ไม่มี เปน็
มคี วามตอ่ เนือ่ ง ไม่มีความมัน่ ใจใน การใช้สานวน ส่วนใหญ่
มีประโยชน์นอ้ ยให้ การนาเสนอ โวหาร ใชเ้ วลาเกิน
แง่คิดน้อย กาหนด ๕ นาที

๑ มกี ารเรยี งลาดับ มีการนาเขา้ สเู่ นอ้ื การนาเสนอ ออกเสยี งถูกต้อง
เรอ่ื ง ไม่มีความ ไมต่ อ่ เนอ่ื ง ตามอกั ขรวธิ แี ละดงั
เน้อื หาไดด้ ี สมั พนั ธก์ ับเน้อื นาเสนอสบั สน ชดั เจน ใช้ภาษาไม่
ไม่มคี วามตอ่ เนอ่ื ง เร่อื ง ไมเ่ ร้าใจผู้ฟัง เหมาะสม เขา้ ใจ
ไม่มคี วามมัน่ ใจใน ยาก ไมม่ ีการใช้
มีประโยชน์นอ้ ยให้ การนาเสนอ สานวนโวหาร

แงค่ ดิ น้อย

๔๐๒

แบบประเมินการนาเสนอผลงาน

กลุ่มที่............................................................ห้อง.......................

เนอื้ หา กลวธิ ี ขั้นตอนการ การใช้ การตอบ รวม

๔ การ นาเสนอ ภาษา คาถาม คะแนน

ประเดน็ นาเสนอ ๔ ๔ /เวลา ๒๐

ชือ่ – สกุล ๔๔
สมาชกิ
๑.
๒.
๓.
๔.
๕.
๖.
๖.
๘.

ลงช่อื ......................................................ผู้ประเมิน
()

วนั ท.่ี .....เดอื น......................ป.ี ...............

เกณฑก์ ารประเมนิ ๔ หมายถงึ ดีมาก
๓ หมายถึง ดี
๒ หมายถงึ พอใช้
๑ หมายถึง ตอ้ งปรับปรุง

๔๐๓

แผนการจัดการเรียนรูภ้ าษาไทย

ภาคเรยี นท่ี ๑
ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๒
หน่วยท่ี ๘ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

โดย
นางสาวธญั ญาดล อปุ ชติ กลุ

โรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา

อาเภอโคกโพธิไ์ ชย จังหวดั ขอนแก่น
สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษาเขต ๒๕

๔๐๔

แผนผงั ความคดิ การบูรณาการการเรยี นรู้
ภายในกลมุ่ สาระ

การฟงั การดู
การพูด

วรรณคดแี ละ การอ่าน
วรรณกรรม

การใช้ภาษา การเขยี น

๔๐๕

แผนผงั ความคดิ การบรู ณาการ
นอกกลมุ่ สาระ การเรยี นรู้

คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สงั คมศึกษา ฯ
-การนบั จานวน - การคิดอย่างเป็ น
-การจดั กลมุ่ -สะทอ้ นสภาพสงั คมไทย
ระบบ -คณุ ธรรมและมารยาท
- การวิเคราะหเ์ รื่อง
- หลกั เศรษฐกจิ
พอเพยี ง

สขุ ศึกษาและ กาพยห์ ่อโคลง ภาษาองั กฤษ
พลศึกษา ประพาส -ความหมายของคา

-มนษุ ยสมั พนั ธ์ ธารทองแดง -เขยี นคาศัพท์
-การเคลอื่ นไหว -เขยี นสานวน
-การเลน่ เกม

การงานอาชีพ ศิลปะฯ
และเทคโนโลยี - การเรียนรู้
-การใชค้ อมพวิ เตอร์ วฒั นธรรม
-ใชใ้ ชอ้ ินเทอรเ์ น็ต - วาดภาพประกอบ

-ขบั รอ้ งทานองเสนาะ

๔๐๖

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี ๘.๑

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๒

หนว่ ยที่ ๘ กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง เวลา ๗ ช่วั โมง

เรอ่ื ง ฟังคดิ พินจิ เร่ือง เวลา ๑ ช่วั โมง

ใช้สอนวนั ท่ี ....................................................................................................................

มาตรฐานท่ี ท ๓.๑ สามารถเลอื กฟังและดู อยา่ งมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้
ความคิด ความรู้สึกในโอกาสตา่ งๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์

ตวั ช้วี ัด
ท ๓.๑ ม.๒/๑ พูดสรุปใจความสาคญั ของเร่ืองที่ฟังและดู
ท ๓.๑ ม.๒/๒ วิเคราะหข์ อ้ เท็จจรงิ ขอ้ คดิ เหน็ และความน่าเชื่อถอื ของข่าวสารจากส่ือต่างๆ
ท ๓.๑ ม.๒/๖ มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด

สาระการเรียนรู้แกนกลาง

ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง/ท้องถนิ่

ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คุณลกั ษณะ (A)

ท ๓.๑ ม.๒/๑ พูดสรปุ การพูดสรุปความ ฝึกพดู สรปุ ความ - มีมารยาทในการพูด

ใจความสาคัญของเรอ่ื งท่ี - มีมารยาทในการฟัง

ฟงั และดู การดู

ท ๓.๑ ม.๒/๒ วิเคราะห์ วิเคราะห์ข้อเท็จจริง - ฝกึ พดู วิเคราะห์ข้อเทจ็ จริง - มีมารยาทในการพดู

ข้อเท็จจริง ขอ้ คิดเห็นและ และข้อคดิ เหน็ และข้อคดิ เหน็

ความนา่ เชอื่ ถือของ

ขา่ วสารจากสอ่ื ตา่ งๆ

ท ๓.๑ ม.๒/๖ มี หลักการฟัง การดู ฝกึ พูด ฟัง และดู -มมี ารยาทในการพูด

มารยาทในการฟัง การดู และการพูด การฟังและการดู

และการพูด

๔๐๗

สาระสาคญั
การฟังเชิงวเิ คราะห์ วิจารณ์ หมายถงึ การฟงั สารด้วยความเอาใจใส่พิจารณาไตรต่ รอง แยกแยะสาร

ออกเป็นส่วน ๆ อย่างถี่ถ้วน เพื่อให้เข้าใจเร่ืองในหลายแง่หลายมุมโดยแยก ขอ้ เทจ็ จริงและข้อคดิ เห็นออก
จากกันแลว้ ติ – ชม หรอื ประเมินค่าสง่ิ ที่ได้ฟงั นน้ั เพ่ือนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั

สาระการเรียนรู้
การฟังเร่ืองกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
๑. ครแู จ้งตัวช้ีวัดและให้นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนการเรยี นรู้
๒. สนทนากบั นักเรียนเรื่อง “กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง” ว่าความหมายอยา่ งไร มีประวตั ิ

และความเปน็ มาอย่างไร การอา่ นกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ควรอา่ นอย่างไรจึงจะเข้าใจลึกซึง้
๓. ครทู บทวนความรจู้ ากบัตรความรู้ เรื่อง การฟัง ใหน้ ักเรยี นอภปิ รายและตอบคาถาม
๔. ให้นกั เรียนคนใดคนหนง่ึ หรือหลายคนอา่ นเรื่อง “กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง” ให้

เพื่อน ๆ ฟงั หรอื ครเู ปิดเคร่ืองบันทึกเสยี ง เรอ่ื ง “กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง” ใหน้ ักเรยี นฟงั
๕. ครนู าแผนภมู ิความหมายของศพั ท์ และถ้อยคาสานวนจากเรอ่ื ง “กาพยห์ ่อโคลงประพาส

ธารทองแดง” มาตดิ บนกระดา ให้นักเรียนศึกษาความหมายของคาศัพท์
๖. แบง่ นกั เรียนออกเป็น ๔ กลุม่ ให้แต่ละกลุ่มศึกษาเร่ืองต่อไปน้ี
กลุ่ม ๑ บอกผแู้ ต่ง ที่มาของเรื่อง
กลุ่ม ๒ บอกจดุ ประสงค์ของเรื่อง
กลุ่ม ๓ ลาดับเหตุการณ์ของเรือ่ ง
กลมุ่ ๔ สรุปเนอ้ื เร่อื ง
๗. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนมารายงานหน้าชั้น พร้อมสง่ เอกสารท่ีครู
๘. นักเรยี นช่วยกันซกั ถามเรอื่ งราวทงั้ หมดจากกลมุ่ ต่าง ๆ เพอ่ื เปน็ การสรุปบทเรียน
๙. นักเรียนทาบัตรกิจกรรมการเรียนรู้

๔๐๘

สือ่ / แหล่งเรยี นรู้

ลาดบั ท่ี รายการสื่อ กิจกรรมที่ใช้ แหล่งที่ได้มา
๑ ครจู ัดทา
๒ แบบทดสอบก่อน-หลงั เรียน นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน ครจู ดั ทา

๓ แผนภมู ิความหมายของคาศัพท์ นกั เรยี นศกึ ษาและอ่าน ครูจัดหา

๔ และสานวนจากเรอ่ื ง ครจู ดั ทา

หนงั สอื เรียน ชุด วรรณคดี นักเรียนดูภาพและฝกึ อา่ น

วิจักษ์ ชั้น ม.๒

เคร่ืองบันทึกเสียง นักเรียนฝกึ การฟัง

๕ แบบประเมินการสังเกต บันทึกการสงั เกตพฤติกรรม ครจู ัดทา
พฤติกรรม

การวดั ผลและประเมินผล

กจิ กรรม-พฤติกรรมท่ี เคร่ืองมอื ที่ใชใ้ น วิธีการประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ
การประเมนิ
ประเมิน
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น ตรวจงานรายบุคคล ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป
๑. นักเรียนทาแบบทดสอบ
กอ่ นเรยี น แบบประเมนิ รายกลุ่ม สังเกตรายกล่มุ ร้อยละ ๗๐ ข้ึนไป

๒. นกั เรยี นนาเสนอหน้าชัน้ แบบประเมนิ พฤตกิ รรมและ ตรวจงานรายกลมุ่ ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป
เรยี น ผลงานระหว่างเรยี น
๓. ประเมินพฤติกรรมและ
ผลงานระหวา่ งเรียน

กิจกรรมเสนอแนะ
ในกิจกรรมการสอนภาษาไทยทกุ ชัว่ โมง ครูต้องกวดขันใหน้ กั เรียนใช้ตัวเลขไทย เพ่ือให้เกดิ ความ

เคยชนิ และติดเป็นนิสัย อีกทั้งใหม้ ีความภูมิใจในการใช้ตวั เลขไทย อนั เป็นสมบัตขิ องชาติ

๔๐๙

บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
๑. ผลการจดั การเรียนรตู้ ามผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวัง
นักเรยี นทง้ั หมด ....................คน
– ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ............ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ...............
– ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับปานกลาง – คน คดิ เป็นร้อยละ .................
– ไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับปรบั ปรงุ – คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ...............
๒. ผลการประเมนิ พฤตกิ รรมระหวา่ งเรียน
............................................................................................................................. ...........................

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

๓. ปัญหาและอุปสรรคระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. ...........................
............................................................................................................................. .................................................
๔. การปรับปรงุ แก้ไข
...........................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
๕. ขอ้ คิดเห็นและข้อเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
............................................................................................................................. ...........................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวธัญญาดล อปุ ชิตกุล)
ครู วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ

๔๑๐

ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

............................................................................................................................................................ ..................
................................................................................................................. .............................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................................. ............................
...................................................................................................... ........................................................................

ลงช่ือ.................................................ผ้ตู รวจสอบ
( ................................................. )

ผอู้ านวยการโรงเรยี นโคกโพธ์ิไชยศกึ ษา

๔๑๑

บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้

คาชี้แจง ให้นกั เรียนตอบคาถามต่อไปนี้ใหถ้ ูกต้อง

๑. นักเรียนคดิ วา่ สิ่งใดทสี่ าคญั ทีส่ ุดในเรื่อง“กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ”
………………………………………..……………………………………………………………..
…..…………………………………………………………………..………………………………

๒. นกั เรยี นคดิ ว่า“กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ”มีกลวธิ ีการเขียนอย่างไรบ้าง
………………………………………..……………………………………………………………..
…..…………………………………………………………………..………………………………
………………………………………..……………………………………………………………..
…..…………………………………………………………………..………………………………

๓. นกั เรียนคดิ ว่าเม่ืออ่านเรอ่ื ง “กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ”แล้วให้ประโยชนอ์ ย่างไรบ้าง
………………………………………..……………………………………………………………..
…..…………………………………………………………………..………………………………
………………………………………..……………………………………………………………..
…..…………………………………………………………………..………………………………

๔. นักเรียนคิดว่า เร่ือง “กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ” ใหข้ อ้ คิดอย่างไร
………………………………………..……………………………………………………………..
…..…………………………………………………………………..………………………………
………………………………………..……………………………………………………………..
…..…………………………………………………………………..………………………………

๔๑๒

แบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรียน

กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

คาช้ีแจง ให้นักเรียนเขียนเคร่ืองหมายถูกหน้าข้อความท่ีนักเรียนคิดว่าถูกต้อง และ เขียนเครื่องหมายผิด
หนา้ ขอ้ ท่นี กั เรยี นคิดว่าผิด

...............๑ กาพยห์ อ่ โคลงประพาสธารทองแดง เปน็ พระนพิ นธข์ องเจา้ ฟา้ ธรรมธเิ บศร
............... ๒ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง แต่งเป็นกาพย์โคลงห่อกาพย์ คือ แต่งโคลงสี่สุภาพหน่ึง
บทสลบั กับกาพย์ยานี ๑๑ หน่ึงบท
...............๓ หนังสือจินดามณีฉบับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศกล่าวไว้ว่า การแต่งกาพย์ห่อโคลงนั้นไม่
นยิ มแต่งล้อความกัน แต่จะเคร่งครดั เรอ่ื งคาเอกคาโท
...............๔ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงมีเนื้อหาเล่าเรื่องการเดินทางไปพระพุทธบาท และชม
ธรรมชาตอิ ันนา่ ตืน่ ตาตน่ื ใจที่พบเหน็ ระหว่างทาง
...............๕ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง เริ่มต้นจากบทชมร้ิวขบวนการเดินทาง บทชมสัตว์บกท้ัง
สตั วใ์ หญส่ ตั วเ์ ล็ก บทชมนก บทชมไม้ ทัง้ ไม้ดอกไมผ้ ล บทชมสัตว์น้า
...............๖ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ปิดท้ายด้วยการบอกข้อมูลเกี่ยวกับกวี จุดประสงค์ของ
กวี และวิธอี ่านโคลงใหไ้ พเราะ เปน็ จานวนกาพย์ทั้งสิน้ ๑๑๓ บท และโคลง ๑๐๘ บท
............... ๗ สว่ นทค่ี ดั มาใหเ้ รียนในหนังสอื เรยี นวรรณคดีวิจกั ษเ์ ป็นตัวอย่างบทที่ให้ความรู้เรื่องธรรมชาติ
อนั เปน็ ลกั ษณะเด่นของกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง
...............๘ การสรรคาและศิลปะในการประพันธข์ องกวี ทาให้ผู้อา่ นได้รบั ความรู้ และเข้าใจธรรมชาติของ
สตั ว์และพืชชนดิ ตา่ ง ๆ ได้เป็นอยา่ งดี กวใี ช้คาท่สี ลับซับซ้อน สอ่ื ความหมายกว้างขวาง
............... ๙ นอกจากการใช้คาเพื่อสร้างจินตภาพแล้ว ยังมีการเล่นเสียงสัมผัสอย่างไพเราะทั้งสัมผัส
พยัญชนะและสัมผัสสระ บทที่แสดงความเชี่ยวชาญของกวีได้อย่างดียิ่ง คือ บทหนูต่อสู้กับงู ซ่ึงเป็นการ
ประสานศิลปะในการเล่นเสียงสระ การเล่นเสียงพยัญชนะ การเล่นเสียงวรรณยุกต์ และการเล่นคาซ้าเข้า
ดว้ ยกนั อย่างกลมกลนื
............... ๑๐ ในเร่ือง กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง นักเรียนจะได้ศึกษาวิธีการใช้ถ้อยคาของกวีท่ี
สามารถเลือกสรรคาท่ีเข้าใจง่าย สื่อความหมายได้กระจ่างชัด ส่ือจินตภาพความเคลื่อนไหว สีและเสียง
ตลอดจนเล่นเสยี งคาอยา่ งไพเราะ ทาใหก้ ารเสนอภาพธรรมชาตดิ ังกล่าวมีชีวิตชวี าน่าสนใจ

๔๑๓

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรียน

กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

คาช้ีแจง ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมายถูกหน้าข้อความที่นักเรียนคิดว่าถูกต้อง และ เขียนเคร่ืองหมายผิด
หน้าข้อทน่ี กั เรียนคิดว่าผิด

...............๑ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง เป็นพระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมธเิ บศร
............... ๒ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง แต่งเป็นกาพย์โคลงห่อกาพย์ คือ แต่งโคลงสี่สุภาพ
หนงึ่ บทสลบั กับกาพย์ยานี ๑๑ หนง่ึ บท
...............๓ หนงั สอื จินดามณีฉบับสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวบรมโกศกลา่ วไว้ว่า การแตง่ กาพยห์ ่อโคลงน้ันไม่
นิยมแตง่ ลอ้ ความกนั แตจ่ ะเคร่งครัดเรอื่ งคาเอกคาโท
...............๔ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงมีเนื้อหาเล่าเร่ืองการเดินทางไปพระพุทธบาท และชม
ธรรมชาตอิ ันน่าตื่นตาตนื่ ใจทพี่ บเห็นระหว่างทาง
...............๕ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง เริ่มต้นจากบทชมริ้วขบวนการเดินทาง บทชมสัตว์บก
ทง้ั สัตวใ์ หญ่สัตวเ์ ล็ก บทชมนก บทชมไม้ ทง้ั ไมด้ อกไมผ้ ล บทชมสตั ว์นา้
...............๖ กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ปิดท้ายด้วยการบอกขอ้ มูลเกย่ี วกับกวี จดุ ประสงค์ของ
กวี และวิธอี า่ นโคลงให้ไพเราะ เปน็ จานวนกาพย์ทั้งสนิ้ ๑๑๓ บท และโคลง ๑๐๘ บท
............... ๗ ส่วนท่ีคัดมาให้เรียนในหนังสือเรียนวรรณคดีวิจักษ์เป็นตัวอย่างบทท่ีให้ความรู้เร่ือง
ธรรมชาติ อนั เป็นลักษณะเด่นของกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง
...............๘ การสรรคาและศิลปะในการประพันธ์ของกวี ทาให้ผู้อ่านได้รับความรู้ และเข้าใจธรรมชาติ
ของสัตว์และพชื ชนิดตา่ ง ๆ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี กวีใช้คาที่สลบั ซบั ซอ้ น สื่อความหมายกว้างขวาง
............... ๙ นอกจากการใช้คาเพื่อสร้างจินตภาพแล้ว ยังมีการเล่นเสียงสัมผัสอย่างไพเราะท้ังสัมผัส
พยัญชนะและสัมผัสสระ บทท่ีแสดงความเชี่ยวชาญของกวีได้อย่างดีย่ิง คือ บทหนูต่อสู้กับงู ซ่ึงเป็นการ
ประสานศิลปะในการเล่นเสียงสระ การเล่นเสียงพยัญชนะ การเล่นเสียงวรรณยุกต์ และการเล่นคาซ้าเข้า
ด้วยกันอยา่ งกลมกลืน
............... ๑๐ ในเร่ือง กาพยห์ อ่ โคลงประพาสธารทองแดง นักเรียนจะได้ศึกษาวิธีการใช้ถ้อยคาของกวี
ท่ีสามารถเลือกสรรคาที่เข้าใจง่าย ส่ือความหมายได้กระจ่างชัด สื่อจินตภาพความเคล่ือนไหว สีและเสียง
ตลอดจนเล่นเสยี งคาอยา่ งไพเราะ ทาให้การเสนอภาพธรรมชาตดิ งั กล่าวมีชีวติ ชวี าน่าสนใจ

๔๑๔

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๘.๒

กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๒

หนว่ ยท่ี ๘ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง เวลา ๗ ช่ัวโมง

เรือ่ ง อ่านคดิ วเิ คราะห์เรอ่ื ง เวลา ๑ ชัว่ โมง

ใช้สอนวันท่ี ....................................................................................................................

มาตรฐานท่ี ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความร้แู ละความคดิ เพ่ือนาไปใชต้ ัดสินใจ
มาตรฐานท่ี ท ๓.๑ แก้ปญั หาในการดาเนินชวี ิตและมนี ิสัยรกั การอา่ น
สามารถเลอื กฟังและดู อย่างมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้
ความคดิ ความรู้สึกในโอกาสต่างๆ อยา่ งมีวิจารณญาณและสรา้ งสรรค์

ตัวชี้วัด
ท ๑.๑ ม.๒/๒ จับใจความสาคัญ สรุปความและอธบิ ายรายละเอียด จากเรื่องทอี่ า่ น
ท ๑.๑ ม.๒/๘ มมี ารยาทในการอา่ น
ท ๓.๑ ม.๒/๕ พดู รายงานเร่ือง หรือประเด็นท่ีศกึ ษาคน้ ควา้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ตัวช้ีวัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง/ทอ้ งถน่ิ

ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A)

ท ๑.๑ ม.๒/๒ จับใจความ - หลักการอา่ น - ฝึกทกั ษะการอ่านจับ - อา่ นจบั ใจความและ

สาคัญ สรุปความและ จบั ใจความและ ใจความและสรุปความ สรปุ ความไดถ้ ูกต้อง

อธบิ ายรายละเอยี ด จาก สรุปความ

เร่อื งท่ีอา่ น

ท ๑.๑ ม.๒/๘ มีมารยาท - หลกั การอา่ น - ฝึกอ่านท้ังร้อยแกว้ - มมี ารยาทใน

ในการอ่าน และรอ้ ยกรอง การอ่าน

ท ๓.๑ ม.๒/๕ พดู หลักการพดู รายงาน ฝึกพดู รายงานจาก -มมี ารยาทในการพูด

รายงานเร่ือง หรือประเด็น การค้นควา้

ทศ่ี ึกษาคน้ คว้า

๔๑๕

สาระสาคัญ
การอ่านวิเคราะหเ์ นื้อหาจากบทเรียน เปน็ การเพ่อื จับใจความสาคญั แล้วแสดงความคิดเห็นเชงิ

วเิ คราะห์และประเมนิ ค่า เป็นพืน้ ฐานที่จาเป็นในการศึกษาหาความรู้ จึงควรฝกึ ฝนให้เกดิ ความชานาญ จน
สามารถวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็น ในงานเขยี นทุกประเภทได้

สาระการเรยี นรู้
การอา่ นบทวิเคราะหจ์ ากบทเรียนเรอื่ ง “กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง” : แสดงความคดิ เหน็

เชิงวเิ คราะหแ์ ละประเมินค่า

กระบวนการจัดการเรียนรู้
๑. ครแู ละนกั เรยี นสนทนาทบทวนบทเรียนจากช่ัวโมงที่ผา่ นมา
๒. แบง่ นักเรียนออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ ๕ - ๖ คน (ตามความเหมาะสม) แลว้ ให้แต่ละ

กลมุ่ อ่านบทวิเคราะหแ์ ลว้ สรปุ ใจความสาคัญและแสดงความคิดเหน็ เชงิ วเิ คราะห์จากเร่ือง “กาพยห์ อ่ โคลง
ประพาสธารทองแดง”

๓. ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลของการระดมสมองใหเ้ พ่ือนฟัง โดยใช้วิธจี ับฉลาก เมือ่
เสนอด้วยการพูดจบแลว้ ให้ทกุ กลุ่มสง่ รายงานท่ีครู

๔. ให้แตล่ ะกลุ่มมาแสดงให้นกั เรียนเหน็ ถึงโคลท่ีอ่านวา่ มีความหลากหลายของความคิดอยา่ งไร
ซึ่งขน้ึ อยู่กบั เหตผุ ล

๕. ใหน้ ักเรยี นทาบัตรกจิ กรรมการเรยี นรู้เรอ่ื ง “กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง” เสรจ็
แล้วส่งให้ครตู รวจ

๖. ครูและนกั เรยี นชว่ ยกนั สรปุ บทเรียน
๗. มอบหมายให้นักเรียนไปทาแบบฝกึ หัดเปน็ การบ้านและไปอ่านหนังสอื เพม่ิ เตมิ

สอ่ื / แหล่งเรยี นรู้

ลาดบั ที่ รายการสอื่ กจิ กรรมท่ีใช้ แหลง่ ทไ่ี ด้มา
นกั เรียนทาบัตรกจิ กรรม ครูจัดทา
๑ บัตรกิจกรรมการเรยี นรู้ นกั เรยี นดภู าพและฝึกอ่าน ครูจดั หา

๒ หนงั สอื เรยี น ชุด วรรณคดี ตรวจสอบ ครจู ดั ทา
วิจกั ษ์ ช้ัน ม.๒

๓ เฉลยบตั รกิจกรรมการเรยี นรู้

๔ แบบประเมินการสังเกต บันทกึ การสงั เกตพฤติกรรม ครูจัดทา
พฤติกรรม

๔๑๖

การวัดผลและประเมนิ ผล

กจิ กรรม-พฤติกรรมท่ี เครือ่ งมอื ที่ใชใ้ น วธิ ีการประเมิน เกณฑ์การประเมิน
ประเมิน การประเมิน
๑. นกั เรียนทากจิ กรรมกลุ่ม
๒. นกั เรยี นทาบตั รกิจกรรม แบบประเมินรายกลุม่ สงั เกตรายกลมุ่ ร้อยละ ๗๐ ขนึ้ ไป
การเรียนรู้
แบบประเมินการสังเกต ตรวจงานรายบคุ คล ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป
๓. ประเมนิ พฤติกรรมและ
ผลงานระหวา่ งเรยี น พฤติกรรม และแบบ

ประเมินผลงาน

แบบประเมนิ พฤตกิ รรมและ ตรวจงานรายกลุ่ม รอ้ ยละ ๗๐ ขนึ้ ไป
ผลงานระหว่างเรยี น

กจิ กรรมเสนอแนะ

............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ..........................

๔๑๗

บันทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
๑. ผลการจัดการเรยี นรตู้ ามผลการเรยี นร้ทู คี่ าดหวัง
นักเรียนท้งั หมด ....................คน
– ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ............ คน คดิ เป็นร้อยละ ...............
– ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดับปานกลาง – คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................
– ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับปรบั ปรุง – คน คิดเปน็ ร้อยละ ...............
๒. ผลการประเมนิ พฤติกรรมระหวา่ งเรียน
................................................................................................. .......................................................

............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................ ......................
............................................................................................................ ..................................................................

๓. ปัญหาและอุปสรรคระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. ...........................
............................................................................................................................. .................................................
๔. การปรบั ปรุงแกไ้ ข
...........................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
๕. ขอ้ คิดเหน็ และข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ
............................................................................................................................. ...........................
.......................................................................................................................................................................... ....

ลงชือ่ ..........................................................ผูส้ อน
(นางสาวธัญญาดล อุปชติ กลุ )
ครู วิทยฐานะครชู านาญการพิเศษ

๔๑๘

ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรียน
............................................................................................................................. ...........................

......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................... ...............................................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.................................................ผูต้ รวจสอบ
( ................................................. )

ผูอ้ านวยการโรงเรยี นโคกโพธ์ิไชยศึกษา

๔๑๙

บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้ที่ ๑

ใหน้ กั เรยี นทากจิ กรรม “ชมสัตวแ์ สนสาราญในประพาสธารทองแดง” โดยให้ค้นหาชอ่ื สตั ว์บกและ
สัตวน์ า้ จากกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงท่ีซอ่ นอย่ใู นตาราง ในแนวต้ัง แนวนอน และแนวทแยงมมุ
สามารถอา่ นกลบั ไปกลับมาได้ภายในแนวเดยี วกัน

ชมสัตวแ์ สนสาราญในประพาสธารทองแดง

ห น ว ด พ ร า ห ม ณ์ น
ยมขยอห เ ทพา ก
สุ ก ร ป่ า ม อ ย ม่ ง แ
ค สุ นั ข ใ น ส ย ลิ า ก้
ต ะ เ พี ย น า ส โ จ ว
ป ร น พ ช ส ป ลุ ผั ข่ ม
าตโ กวหลมดนง
ง ท พ ย ห มี า พ พ ก ะ
เ ย ขี จ แ ว้ ม้ ร ร้ ยู ป
ม เ ลี ย ง ผ า ฟ า ง ห
งู เ ห ลื อ ม น เ พ ร้ี ย

สตั วบ์ ก สตั ว์นา้
.................................................... ....................................................
.................................................... ....................................................
..................................................... .....................................................
..................................................... .....................................................
..................................................... .....................................................
..................................................... .....................................................
..................................................... .....................................................
...................................................... ......................................................
...................................................... ......................................................

๔๒๐

เฉลยบัตรกจิ กรรมการเรียนรู้ท่ี ๑

ให้นักเรียนทากจิ กรรม “ชมสัตว์แสนสาราญในประพาสธารทองแดง” โดยใหค้ ้นหาชอื่ สัตวบ์ กและ
สัตว์น้าจากกาพย์หอ่ โคลงประพาสธารทองแดงที่ซ่อนอย่ใู นตาราง ในแนวตง้ั แนวนอน และแนวทแยงมุม
สามารถอ่านกลับไปกลับมาได้ภายในแนวเดียวกนั

ชมสัตวแ์ สนสาราญในประพาสธารทองแดง

ห น ว ด พ ร า ห ม ณ์ น
ยมขยอห เ ทพา ก
สุ ก ร ป่ า ม อ ย ม่ ง แ
ค สุ นั ข ใ น ส ย ลิ า ก้
ต ะ เ พี ย น า ส โ จ ว
ป ร น พ ช ส ป ลุ ผั ข่ ม
าตโ กวหลมดนง
ง ท พ ย ห มี า พ พ ก ะ
เ ย ขี จ แ ว้ ม้ ร ร้ ยู ป
ม เ ลี ย ง ผ า ฟ า ง ห
งู เ ห ลื อ ม น เ พ รี้ ย

สัตวบ์ ก สตั วน์ ้า
๑. งเู หลือม ๑. เทโพ
๒. ลิง ๒. เทพา
๓. เลยี งผา ๓. ตะเพยี น
๔. หมี ๔. สลมุ พร
๕. งูเขยี วสายมา่ น ๕. ผัดพร้า
๖. นกหวา้ ๖. หนวดพราหมณ์
๗. นกยูง ๗. หอยโข่ง
๘. นกแก้ว ๘. หอยขม
๙. สกุ รปา่ ๙. เพร้ยี
๑๐. สุนัขใน ๑๐. ปลาม้า

๔๒๑

บัตรกจิ กรรมการเรียนรู้ท่ี ๒

คาชี้แจง ให้นักเรียนปฏบิ ัตกิ จิ กรรมต่อไปน้ี

ธารไหลใสสะอาด มัจฉาชาตดิ าษนานา

หวน่ั วา่ ยกนิ ไคลคลา ตามกันมาใหเ้ ห็นตวั

เที่ยวเล่นเปน็ เกษมสุข แสนสนกุ ปลุกใจหวัง

เร่ร่ายผายผาดผงั หัวรกิ ร่นื ชนื่ ชมไพร

นกั เรยี นคิดวา่ บทประพนั ธ์ข้างต้นนีบ้ รรยายเก่ียวกบั อะไรบ้าง และสง่ิ ที่บรรยายมี
ลกั ษณะอยา่ งไร ใหน้ ักเรียนทดลองวาดภาพประกอบตามจินตนาการ
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….

๔๒๒

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๘.๓

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๒

หนว่ ยที่ ๘ กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง เวลา ๗ ช่ัวโมง

เรอ่ื ง อา่ นคดิ พนิ จิ เรื่องราว ๑ เวลา ๑ ชั่วโมง

ใชส้ อนวันท่ี ....................................................................................................................

มาตรฐานท่ี ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจแกป้ ัญหา
มาตรฐานท่ี ท ๒.๑ ในการดาเนนิ ชีวติ และมนี สิ ัยรักการอา่ น
มาตรฐานท่ี ท ๔.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนสอ่ื สาร เขยี นเรียงความ ย่อความ และเขยี นเรอ่ื งราวในรปู แบบ
ตา่ งๆ เขียนรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมีประสิทธิภาพ
เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษาและพลัง
ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษาและรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติ

ตวั ชว้ี ดั
ท ๑.๑ ม.๒/๑ อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถูกตอ้ ง
ท ๒.๑ ม.๒/๗ เขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณแ์ ละแสดงความรู้ความคดิ เหน็ หรือโต้แยง้ ในเร่ืองท่ีอา่ นอย่างมี

เหตผุ ล
ท ๔.๑ ม.๒/๔ ใช้คาราชาศัพท์

สาระการเรียนรู้แกนกลาง

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง/ทอ้ งถนิ่

ตัวช้วี ดั ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ คุณลกั ษณะ (A)

(P)

ท ๑.๑ ม.๒/๑ อ่านออกเสยี งบท - หลกั การอ่านออก - ฝึกทกั ษะการอ่านออก -มมี ารยาทในการอ่าน

ร้อยแกว้ และบทร้อยกรองได้ เสยี งรอ้ ยแก้วและ เสยี งร้อยแก้วและรอ้ ย -อ่านได้ถูกต้องชัดเจน

ถูกต้อง รอ้ ยกรอง กรอง ตามหลักการอ่าน

๔๒๓

ท ๒.๑ ม.๒/๗ เขยี นวเิ คราะห์ - หลกั การเขยี น - ฝกึ เขียนวิเคราะห์ - เขียนถูกต้อง
วิจารณ์ แสดง สวยงาม
วิจารณ์และแสดงความรคู้ วาม วเิ คราะห์ วิจารณ์ ความคดิ เหน็ หรือ
โตแ้ ยง้ - มีมารยาทใน
คิดเห็นหรือโต้แยง้ และแสดงความ ฝึกใชค้ าราชาศัพท์ การเขียน

ในเร่อื งท่ีอ่านอยา่ งมีเหตุผล คิดเหน็ หรอื โต้แยง้ - ใช้คาราชาศพั ท์ได้
ถูกต้องเหมาะสม ตาม
ท ๔.๑ ม.๒/๔ ใช้คาราชาศัพท์ การใช้คาราชาศัพท์ ระดบั ของบคุ คล

สาระสาคญั
การอา่ นเพื่อจบั ใจความสาคัญ เปน็ พ้นื ฐานท่ีจาเปน็ ในการศึกษาหาความรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนให้เกดิ ความ

ชานาญจนสามารถจบั ใจความสาคญั ในงานเขยี นทุกประเภท

สาระการเรยี นรู้
การอา่ นบทวเิ คราะหจ์ ากบทเรยี นเรือ่ ง “กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง” : แสดงความคิดเหน็

เชงิ วเิ คราะหแ์ ละประเมินคา่

กระบวนการจัดการเรียนรู้

๑ . ครูและนกั เรยี นสนทนาทบทวนบทเรยี นโดยการถามความหมายจากบตั รคา

๒. แบง่ นักเรียนออกเป็นกล่มุ ๖ กลุ่ม กลุ่มละ ๕ - ๖ คน (คละความสามารถ) แล้ว

ใหแ้ ต่ละกลุ่มอา่ นในใจแลว้ สรปุ ใจความสาคญั และแสดงความคดิ เห็นจากเรอ่ื ง “กาพย์ห่อโคลงประพาสธาร

ทองแดง” โดยแต่ละกลุ่มอ่านแตล่ ะชว่ งตอ่ ไปน้ี

กลุ่มที่ ๑ ตอนต้นกล่าวถึงกระบวนเสดจ็

กลมุ่ ท่ี ๒ พรรณนาสตั วป์ ่าตามธรรมชาติของมัน

กลุ่มท่ี ๓ พรรณนาพวกนก

กลุ่มที่ ๔ พรรณนาพนั ธ์ไุ ม้

กลุ่มที่ ๕ พรรณนาลาธารและปลา

กล่มุ ที่ ๖ พรรณนาความสนุกรนื่ เรงิ ที่ธารทองแดง

๓. ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มออกมานาเสนอผลของการระดมสมองให้เพื่อนฟงั โดยใชว้ ธิ จี ับฉลาก เม่ือ
เสนอดว้ ยการพูดจบแล้ว ใหท้ ุกกลมุ่ สง่ รายงานท่ีครู ถ้าไมเ่ สรจ็ ให้นาเสนอในชว่ั โมงตอ่ ไป)

๕. ให้นกั เรียนทาบัตรกิจกรรมการเรยี นรู้เรื่อง “กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง” เสร็จ
แลว้ สง่ ใหค้ รูตรวจ

๔๒๔

๖. ครูและนักเรียนช่วยกนั สรปุ บทเรยี นและมอบหมายให้นักเรียนไปทาแบบฝึกหดั เปน็ การบ้าน

สอื่ / แหล่งเรยี นรู้

ลาดบั ท่ี รายการสอ่ื กิจกรรมท่ีใช้ แหลง่ ทไ่ี ด้มา
๑ นักเรยี นทาบัตรกจิ กรรม ครจู ัดทา
๒ บตั รคา นกั เรยี นทาบตั รกจิ กรรม ครูจัดทา
๓ นกั เรียนดูภาพและฝกึ อา่ น ครูจัดหา
บตั รกจิ กรรมการเรยี นรู้
๔ หนงั สอื เรียน ชดุ วรรณคดี ตรวจสอบ ครูจดั ทา
๕ วจิ ักษ์ ชัน้ ม.๒ บนั ทกึ การสงั เกตพฤติกรรม ครจู ดั ทา
เฉลยบตั รกิจกรรมการเรยี นรู้
แบบประเมนิ การสงั เกต
พฤติกรรม

การวัดผลและประเมินผล

กจิ กรรม-พฤติกรรมที่ เคร่อื งมือท่ใี ช้ใน วธิ กี ารประเมนิ เกณฑ์การประเมิน
ประเมิน การประเมนิ
๑. นักเรยี นนาเสนอ
๒. นกั เรยี นทาบัตรกิจกรรม แบบประเมนิ รายกลมุ่ สังเกตรายกลมุ่ ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป
การเรียนรู้
แบบประเมินการสงั เกต ตรวจงานรายบคุ คล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป
๓. ประเมินพฤติกรรมและ
ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และแบบ

ประเมนิ ผลงาน

แบบประเมินพฤตกิ รรมและ ตรวจงานรายกลมุ่ รอ้ ยละ ๗๐ ขน้ึ ไป

ผลงานระหวา่ งเรียน

กิจกรรมเสนอแนะ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ..........................

๔๒๕

บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
๑. ผลการจดั การเรียนรู้ตามผลการเรยี นรูท้ ีค่ าดหวัง
นกั เรียนทั้งหมด ....................คน
– ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดับดี ............ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ...............
– ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับปานกลาง – คน คิดเป็นร้อยละ .................
– ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมินระดับปรบั ปรุง – คน คดิ เปน็ ร้อยละ ...............
๒. ผลการประเมนิ พฤติกรรมระหว่างเรียน
........................................................................................................................................................

............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................

๓. ปัญหาและอุปสรรคระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน
..................................................................................................... ...................................................
............................................................................................................................. .................................................
๔. การปรับปรงุ แกไ้ ข
.................................................................................................................................... .......
........................................................................................................................... ...................................................
๕. ขอ้ คิดเหน็ และข้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ
............................................................................................................................. ...........................
......................................................................................................................................... .....................................

ลงชื่อ..........................................................ผ้สู อน
(นางสาวธัญญาดล อปุ ชิตกลุ )
ครู วิทยฐานะครชู านาญการพิเศษ

๔๒๖

ความเหน็ ของผู้อานวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

........................................................................................................ ......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชื่อ.................................................ผู้ตรวจสอบ
( ................................................. )

ผู้อานวยการโรงเรยี นโคกโพธิ์ไชยศึกษา

๔๒๗

บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้

๑. ใหน้ ักเรยี นเรียงลาดับกาพยย์ านี ๑๑ ต่อไปนี้ให้ถูกต้อง

ริมน้ำทำ่ หำเหยอ่ื แฝง ปลำวำ่ ยสวำยหำงแดง

ฉวยไดถ้ นดั กดั เร่กิน เสือปลำล่ำกินปลำ

กาพย์ยานี ๑๑
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
...........................................................
..........
๒. ให้นักเรียนเรียงลาดับโคลงส่ีสภุ าพต่อไปน้ีใหถ้ ูกต้อง

ปูกงุ้ หอยก่งกำ้ มไคลคลำเหลือหลำมยำ่ มเหยอื่ หำสู่ส้องหอย

โขง่ หอยขมตำววั เกลื่อนสำรพดั มีท่ีทอ้ งท่ำน้ำธำรสินธุ์

โคลงสี่สุภาพ
...................................................................
...................................................................
...................................................................
...................................................................
.....................................

๔๒๘

เฉลยบตั รกจิ กรรมการเรียนรู้

๑. ให้นกั เรียนเรียงลาดบั กาพยย์ านี ๑๑ ตอ่ ไปนใ้ี ห้ถกู ต้อง

ริมน้ำทำ่ หำเหยอ่ื แฝง ปลำวำ่ ยสวำยหำงแดง

ฉวยไดถ้ นดั กดั เร่กิน เสือปลำล่ำกินปลำ

กาพย์ยานี ๑๑
เสือปลำล่ำกินปลำ
ริมน้ำท่ำหำเหยอ่ื แฝง
ปลำวำ่ ยสวำยหำงแดง
ฉวยไดถ้ นดั กดั เร่กิน

๒. ให้นักเรียนเรียงลาดับโคลงสี่สภุ าพต่อไปน้ใี หถ้ ูกต้อง

ปูกงุ้ หอยก่งกำ้ มไคลคลำเหลือหลำมยำ่ มเหย่อื หำสู่ส้องหอย
โขง่ หอยขมตำววั เกล่ือนสำรพดั มีที่ทอ้ งทำ่ น้ำธำรสินธุ์

โคลงส่ีสุภาพ

ปกู ุง้ หอยก่งกำ้ ม ไคลคลำ

เหลือหลำมยำ่ มเหยอ่ื หำ สู่ส้อง

หอยโขง่ หอยขมตำ ววั เกล่ือน

สำรพดั มีที่ทอ้ ง ทำ่ น้ำธำรสินธุ์

๔๒๙

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ ๘.๔

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒

หนว่ ยที่ ๘ กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง เวลา ๗ ช่ัวโมง

เรอ่ื ง อา่ นคดิ พนิ จิ เรื่องราว ๒ เวลา ๑ ชั่วโมง

ใชส้ อนวันท่ี ....................................................................................................................

มาตรฐานท่ี ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิด เพื่อนาไปใชต้ ดั สินใจแกป้ ัญหา
มาตรฐานท่ี ท ๒.๑ ในการดาเนนิ ชีวติ และมีนสิ ัยรกั การอา่ น
มาตรฐานท่ี ท ๔.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนสอื่ สาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรอ่ื งราวในรปู แบบ
ตา่ งๆ เขียนรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมีประสิทธภิ าพ
เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลัง
ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษาและรกั ษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติ

ตวั ชว้ี ดั
ท ๑.๑ ม.๒/๑ อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองไดถ้ ูกตอ้ ง
ท ๒.๑ ม.๒/๗ เขยี นวเิ คราะห์ วจิ ารณแ์ ละแสดงความรู้ความคดิ เห็นหรือโต้แยง้ ในเร่ืองท่ีอา่ นอย่างมี

เหตผุ ล
ท ๔.๑ ม.๒/๔ ใช้คาราชาศัพท์

สาระการเรียนรู้แกนกลาง

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง/ทอ้ งถ่ิน

ตัวช้วี ดั ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ คุณลกั ษณะ (A)

(P)

ท ๑.๑ ม.๒/๑ อ่านออกเสยี งบท - หลกั การอา่ นออก - ฝกึ ทกั ษะการอา่ นออก -มมี ารยาทในการอ่าน

ร้อยแกว้ และบทร้อยกรองได้ เสยี งรอ้ ยแกว้ และ เสยี งร้อยแกว้ และร้อย -อา่ นได้ถูกต้องชัดเจน

ถูกต้อง รอ้ ยกรอง กรอง ตามหลักการอ่าน

๔๓๐

ท ๒.๑ ม.๒/๗ เขยี นวเิ คราะห์ - หลกั การเขียน - ฝกึ เขยี นวิเคราะห์ - เขียนถูกต้อง
วิจารณ์ แสดง สวยงาม
วิจารณแ์ ละแสดงความรู้ความ วเิ คราะห์ วิจารณ์ ความคิดเหน็ หรือ
โต้แย้ง - มีมารยาทใน
คิดเหน็ หรอื โต้แยง้ และแสดงความ ฝึกใชค้ าราชาศัพท์ การเขียน

ในเรอ่ื งท่ีอ่านอยา่ งมีเหตุผล คดิ เห็นหรือโต้แยง้ - ใชค้ าราชาศัพท์ได้
ถกู ต้องเหมาะสม ตาม
ท ๔.๑ ม.๒/๔ ใช้คาราชาศัพท์ การใช้คาราชาศัพท์ ระดับของบุคคล

สาระสาคญั
การอ่านเพ่ือจบั ใจความสาคญั เปน็ พ้นื ฐานทจ่ี าเป็นในการศึกษาหาความรู้ จงึ ควรฝึกฝนให้เกิดความ

ชานาญจนสามารถจับใจความสาคญั ในงานเขยี นทุกประเภท

สาระการเรยี นรู้
การอ่านบทวเิ คราะหจ์ ากบทเรียนเร่อื ง “กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง” : แสดงความคิดเห็น

เชิงวเิ คราะหแ์ ละประเมินคา่

กระบวนการจดั การเรียนรู้

๑ . ครูและนักเรียนสนทนาทบทวนบทเรยี นโดยการถามความหมายจากบัตรคาขา้ ต่างจากชั่วโมง

ท่ีแล้ว

๒. ให้นกั เรยี นเข้ากลมุ่ ๖ กลมุ่ ( เดมิ ) แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มอา่ นในใจแล้วสรุปใจความสาคญั

และแสดงความคดิ เหน็ จากเรื่อง “กาพย์หอ่ โคลงประพาสธารทองแดง” โดยแต่ละกลุ่มอา่ นแต่ละชว่ งตอ่ ไปน้ี

กลมุ่ ท่ี ๑ ตอนต้นกลา่ วถึงกระบวนเสด็จ

กลุม่ ที่ ๒ พรรณนาสตั ว์ป่าตามธรรมชาติของมัน

กลุม่ ที่ ๓ พรรณนาพวกนก

กลมุ่ ที่ ๔ พรรณนาพนั ธไุ์ ม้

กลมุ่ ท่ี ๕ พรรณนาลาธารและปลา

กลุ่มท่ี ๖ พรรณนาความสนุกร่นื เรงิ ทธ่ี ารทองแดง

๓. ให้แต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลของการระดมสมองให้เพื่อนฟัง โดยใช้วิธจี ับฉลากเมือ่

เสนอดว้ ยการพูดจบแล้ว ให้ทุกกล่มุ ส่งรายงานท่ีครู

๔. ให้นกั เรียนทาบัตรกจิ กรรมการเรยี นรู้เรือ่ ง “กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง” เสร็จ

แล้วส่งให้ครตู รวจ

๕. ครูและนกั เรยี นช่วยกันสรุปบทเรยี น

๔๓๑

สื่อ / แหล่งเรียนรู้

ลาดับท่ี รายการส่อื กิจกรรมทใี่ ช้ แหล่งทไี่ ดม้ า
๑ นักเรยี นทาบตั รกจิ กรรม ครูจดั ทา
๒ บัตรคา นกั เรยี นทาบัตรกิจกรรม ครจู ดั ทา
๓ นกั เรยี นดภู าพและฝึกอา่ น ครูจัดหา
บตั รกจิ กรรมการเรยี นรู้
๔ หนังสือเรียน ชดุ วรรณคดี ตรวจสอบ ครูจดั ทา
๕ วิจกั ษ์ ช้นั ม.๒ บันทึกการสังเกตพฤติกรรม ครจู ัดทา
เฉลยบตั รกจิ กรรมการเรียนรู้
แบบประเมินการสังเกต
พฤติกรรม

การวดั ผลและประเมนิ ผล

กจิ กรรม-พฤตกิ รรมท่ี เครอ่ื งมือท่ใี ชใ้ น วิธีการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมิน
ประเมิน การประเมนิ
๑. นกั เรียนนาเสนอ
๒. นักเรียนทาบัตรกิจกรรม แบบประเมนิ รายกลุ่ม สังเกตรายกลุ่ม รอ้ ยละ ๗๐ ขนึ้ ไป
การเรยี นรู้
แบบประเมนิ การสงั เกต ตรวจงานรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป
๓. ประเมนิ พฤติกรรมและ
ผลงานระหว่างเรียน พฤติกรรม และแบบ

ประเมนิ ผลงาน

แบบประเมนิ พฤตกิ รรมและ ตรวจงานรายกลุม่ รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป

ผลงานระหวา่ งเรยี น

กิจกรรมเสนอแนะ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ..........................

๔๓๒

บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
๑. ผลการจดั การเรียนรตู้ ามผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวัง
นักเรยี นทง้ั หมด ....................คน
– ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ............ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ...............
– ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับปานกลาง – คน คดิ เป็นร้อยละ .................
– ไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับปรบั ปรุง – คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ...............
๒. ผลการประเมนิ พฤตกิ รรมระหวา่ งเรียน
............................................................................................................................. ...........................

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

๓. ปัญหาและอุปสรรคระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. ...........................
............................................................................................................................. .................................................
๔. การปรับปรงุ แก้ไข
...........................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
๕. ขอ้ คิดเห็นและข้อเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
............................................................................................................................. ...........................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวธัญญาดล อปุ ชิตกุล)
ครู วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ

๔๓๓

ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

............................................................................................................................................................ ..................
................................................................................................................. .............................................................
............................................................................................................................. .................................................
.................................................................................................................................................. ............................
...................................................................................................... ........................................................................

ลงช่ือ.................................................ผ้ตู รวจสอบ
( ................................................. )

ผอู้ านวยการโรงเรยี นโคกโพธ์ิไชยศกึ ษา

๔๓๔

บัตรกจิ กรรมการเรียนรู้

๑. คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปนีใ้ หถ้ กู ต้อง

๑. ให้นักเรยี นยกตวั อย่างบทกวที ่พี รรณนาลักษณะของสัตว์และพชื นานาชนิด มา ๑ บท
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
๒. ใหน้ ักเรยี นยกตัวอยา่ งบทกวีทแ่ี สดงธรรมชาตกิ ารดาเนินชวี ิตของสตั ว์นานาชนิด มา ๒ บท
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….

๓. ให้นกั เรยี นยกตัวอย่างบทกวีทบ่ี รรยายอากปั กริยาของสตั ว์ทาใหไ้ ดภ้ าพทมี่ ีชวี ติ ชีวา มา ๓ บท
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….

๔๓๕

๒. คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนยกตวั อย่างคาประพันธ์ท่มี กี ารเลน่ คาพอ้ งของพืชและสัตว์ มาพร้อมกบั อธิบาย
และถอดคาประพันธม์ าพอเข้าใจ

……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….
……………………………………………………………………………………………………….

๔๓๖

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๘.๕

กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๒

หนว่ ยที่ ๘ กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง เวลา ๗ ชัว่ โมง

เรื่อง อ่านไพเราะเสนาะทานอง เวลา ๑ ชว่ั โมง

ใช้สอนวันที่ ....................................................................................................................

มาตรฐานที่ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพ่ือนาไปใชต้ ัดสินใจแก้ปัญหาในการ
มาตรฐานที่ ท ๒.๑ ดาเนนิ ชีวิตและมนี สิ ยั รกั การอา่ น
มาตรฐานท่ี ท ๕.๑ ใช้กระบวนการเขียนส่อื สาร เขยี นเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเรือ่ งราวในรปู แบบ
ต่างๆ เขยี นรายงานการศึกษาค้นคว้าอยา่ งมีประสิทธภิ าพ
เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเหน็ คณุ คา่
และนามาประยุกต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ

ตัวชวี้ ดั
ท ๑.๑ ม.๒/๑ อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถูกต้อง
ท ๒.๑ ม.๒/๑ คดั ลายมือตัวบรรจง ครึง่ บรรทัด

ท ๕.๑ ม.๒/๕ ทอ่ งจาบทอาขยานตามท่ีกาหนด และบทร้อยกรองท่มี ีคุณคา่ ตามความสนใจ

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นร้แู กนกลาง/ทอ้ งถนิ่

ท ๑.๑ ม.๒/๑ อ่านออก ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลกั ษณะ (A)
เสยี งบทร้อยแกว้ และบท
ร้อยกรองได้ถกู ต้อง - หลกั การอา่ นออก - ฝึกทกั ษะการอา่ นออกเสยี ง -มมี ารยาทในการอ่าน
ท ๒.๑ ม.๒/๑ คดั ลายมอื
ตัวบรรจง คร่งึ บรรทดั เสียงรอ้ ยแกว้ และรอ้ ย ร้อยแกว้ และร้อยกรอง -อา่ นได้ถูกต้องชัดเจน

กรอง ตามหลักการอา่ น

- หลักการเขียน - ฝกึ คดั ลายมือ - เขียนถกู ต้องและ

ตัวอกั ษรไทยและ ตวั บรรจง คร่งึ บรรทัด สวยงาม

เลขไทย

๔๓๗

ท ๕.๑ ม.๒/๕ ทอ่ งจาบท บทอาขยาน ท่องจาบทอาขยาน - ซาบซงึ้
อาขยานตามที่กาหนด บทรอ้ ยกรอง บทรอ้ ยกรอง - นาความรู้ที่ไดจ้ าก
และบทร้อยกรองท่ีมีคณุ ค่า การอา่ นไปประยุกต์ใช้
ตามความสนใจ ในชีวติ จริง

สาระสาคญั
การอา่ นออกเสียงเป็นการสอ่ื สารทมี่ ีความสาคัญ เพราะเป็นการถ่ายทอดความรู้ ความคิด

ความรสู้ กึ และอารมณ์ของผสู้ ่งสารไปผู้รับสาร ดังน้นั หากร้หู ลักการอ่านและมีทกั ษะในการอา่ นย่อมจะทาให้
การส่อื สารเกดิ สัมฤทธิผ์ ล

สาระการเรยี นรู้
การอ่านออกเสียงบทเรยี นเรือ่ ง “ กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ” การอา่ นทานองเสนาะ

การเลา่ เรอ่ื ง การยอ่ เร่ือง

กระบวนการจัดการเรยี นรู้

๑. ครูและนักเรียนร่วมกนั สนทนาบทเรยี นจากช่วั โมงท่ีผ่านมา จากน้ันครูนา
บัตรความรู้เรอื่ ง การอา่ นทานองเสนาะมาแจกนักเรียนทุกคน แลว้ ครอู ธิบายประกอบเพอื่ ให้
นักเรียนเข้าใจไดด้ ีย่ิงขึน้ ในหวั ข้อต่อไปน้ี

- ความหมายของการอา่ นทานองเสนาะ
- วัตถปุ ระสงค์ในการอา่ นทานองเสนาะ
- รสท่ีใชใ้ นการอ่านทานองเสนาะ
- หลกั การอา่ นทานองเสนาะ
- ประโยชน์ท่ีได้รบั จากการอ่านทานองเสนาะ
๒. เปิดเครอ่ื งบันทึกเสียงการอ่านทานองเสนาะการอา่ นออกเสียงบทเรียนเรอื่ ง “ กาพยห์ ่อ
โคลงประพาสธารทองแดง ” ใหน้ กั เรยี นฟงั พร้อมท้งั สังเกตทว่ งทานองการอา่ น แล้วให้ นักเรียนทากิจกรรม
การอา่ นตามลาดับ ดังน้ี
- อ่านออกเสียงธรรมดาใหถ้ ูกต้องตามอักขรวิธี พร้อมทง้ั แบ่งวรรคตอนให้
ถูกต้อง

- ให้อา่ นทานองเสนาะพร้อม ๆ กัน ตามครทู ลี ะบท
- ใหอ้ ่านทานองเสนาะพร้อม ๆ กนั ทง้ั ชนั้
- แบง่ กลุม่ ให้อ่านทานองเสนาะตอ่ กันจนจบเรื่อง

๔๓๘

- ใหอ้ า่ นทานองเสนาะเปน็ รายบุคคล
๓. ครูและนกั เรียนช่วยวจิ ารณ์การอ่านของแตล่ ะคนว่าถูกต้อง และมคี วามไพเราะ
เพียงใด
๔. แบง่ นักเรยี นออกเปน็ กลุ่ม (จานวนกลุม่ และสมาชิกกลุ่มตามความเหมาะสม) แลว้
ให้ทากิจกรรมคน้ หาความหมายของคาจากพจนานุกรม
๕. ให้แต่ละกลุ่มส่งตวั แทนมาเสนอผลการคน้ คว้าหน้าชน้ั เรียน พร้อมส่งเอกสาร
ประกอบการรายงาน
๖. ครตู ้งั คาถามให้นักเรียนชว่ ยกันตอบคาถามจากเร่ือง
๗. นักเรยี นทาบตั รกิจกรรมการเรยี นรู้
๘. ครูมอบหมายงานให้นักเรยี นไปฝึกทอ่ งจาคาประพันธแ์ ละ อา่ นออกเสียงบทเรียนเรื่อง “
กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ” การอ่านทานองเสนาะ

สอื่ / แหล่งเรียนรู้

ลาดบั ที่ รายการส่ือ กจิ กรรมท่ใี ช้ แหล่งทไี่ ด้มา
๑ เพิม่ เติมความชดั เจนในเน้ือหา ครจู ดั เตรยี ม
๒ เคร่ืองบันทกึ เสียง นกั เรยี นทาบตั รกจิ กรรม ครูจดั ทา
๓ นกั เรยี นดภู าพและฝกึ อา่ น ครูจัดหา
บัตรกจิ กรรมการเรียนรู้
๔ ตรวจสอบ ครูจัดทา
๕ หนังสอื เรียน ชดุ วรรณคดี เพม่ิ เติมความชัดเจนในเนื้อหา ครจู ัดเตรยี ม
วจิ กั ษ์ ชนั้ ม.๒
๖ เฉลยบัตรกิจกรรมการเรยี นรู้ บนั ทกึ การสงั เกตพฤติกรรม ครูจดั ทา
เครอ่ื งบันทึกเสยี งการอา่ น
ทานองเสนาะ
แบบประเมนิ การสังเกต
พฤติกรรม

๔๓๙

การวัดผลและประเมนิ ผล

กิจกรรม-พฤตกิ รรมท่ี เคร่ืองมอื ที่ใช้ใน วิธกี ารประเมิน เกณฑ์การประเมิน
ประเมิน การประเมนิ สงั เกตรายบุคคล ร้อยละ ๗๐ ข้นึ ไป
๑. นักเรยี นท่องจาคา
ประพันธ์ แบบประเมิน
๒. นักเรยี นทาบตั รกจิ กรรม
การเรยี นรู้ แบบประเมนิ การสงั เกต ตรวจงานรายบคุ คล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป
พฤติกรรม และแบบ
๓. ประเมินพฤติกรรมและ ประเมินผลงาน
ผลงานระหวา่ งเรยี น แบบประเมนิ พฤตกิ รรมและ ตรวจงานรายกลมุ่ ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป

ผลงานระหว่างเรียน

กจิ กรรมเสนอแนะ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ..........................

๔๔๐

บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
๑. ผลการจัดการเรยี นรู้ตามผลการเรยี นรู้ที่คาดหวัง
นักเรยี นท้งั หมด ....................คน
– ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ............ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ...............
– ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับปานกลาง – คน คิดเป็นร้อยละ .................
– ไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับปรับปรุง – คน คดิ เปน็ ร้อยละ ...............
๒. ผลการประเมินพฤตกิ รรมระหวา่ งเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

........................................................................................................ ......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................ ......................................

๓. ปัญหาและอปุ สรรคระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน
........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
๔. การปรับปรงุ แก้ไข
............................................................................................................................. ..............
..............................................................................................................................................................................
๕. ขอ้ คดิ เหน็ และข้อเสนอแนะเพม่ิ เติม
..................................................................................................... ...................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอื่ ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวธญั ญาดล อุปชิตกลุ )
ครู วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ

๔๔๑

ความเหน็ ของผู้อานวยการโรงเรยี น
........................................................................................................................................................

............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอื่ .................................................ผูต้ รวจสอบ
( ................................................. )

ผอู้ านวยการโรงเรยี นโคกโพธ์ิไชยศกึ ษา

๔๔๒

บัตรความรู้

๑. ความหมายของ “การอ่านทานองเสนาะ”
การอ่านทานองเสนาะคือวิธีการอ่านออกเสยี งอย่างไพเราะตามลีลาของบทร้อยกรองประเภท โคลง

ฉนั ท์ กาพย์ กลอน ( พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ หนา้ ๓๙๘ )
บางคนใหค้ วามหมายวา่ การอ่านทานองเสนาะคือ การอ่านตามทานอง ( ทานอง = ระบบเสียงสงู

ตา่ ซง่ึ มีจงั หวะสั้นยาว ) เพ่ือให้เกิดความเสนาะ ( เสนาะ , นา่ ฟัง , เพราะ , วงั เวงใจ )
๒. วัตถปุ ระสงค์ในการอา่ นทานองเสนาะ

การอ่านทานองเสนาะเปน็ การอ่านใหค้ นอ่นื ฟงั ฉะน้นั ทานองเสนาะตอ้ งอ่านออกเสยี ง เสยี งทาให้
เกดิ ความรสู้ กึ - ทาให้เห็นความงาม - เห็นความไพเราะ - เห็นภาพพจน์ ผฟู้ ังสัมผสั ด้วยเสียงจึงจะ
เขา้ ถึงรสและความงามของบทรอ้ ยกรอง ท่ีเรยี กวา่ อา่ นแล้วฟังพริ้ง – เพราะเสนาะโสด การอ่านทานอง
เสนาะจงึ มุ่งให้ผู้ฟงั เข้าถึงรสและเหน็ ความงามของบทร้อยกรอง
๓. ทม่ี าของการอ่านทานองเสนาะ

เขา้ ใจว่า การอ่านทานองเสนาะมมี านานแลว้ แตค่ รง้ั กรุงสุโขทัย เท่าทป่ี รากฎหลกั ฐานในศิลาจารกึ
พ่อขนุ รามคาแหง พุทธศกั ราช ๑๘๓๕ หลกั ทีห่ น่งึ บรรทัดที่ ๑๘ - ๒๐ ดังความว่า “ ……….. ด้วยเสียง
พาเสยี งพิณ เสยี งเล้ือน เสยี งขบั ใครจักมกั เลน่ เลน่ ใครจักมักหวั – หัว ใครมักจกั เล้ือน เลอื้ น
……………..”จากขอ้ ความดงั กล่าว ฉนั ทิชย์ กระแสสนิ ธ์ุ กล่าวว่า เสยี งเลื้อนเสยี งขับ คอื การรอ้ ง
เพลงทานองเสนาะ

ส่วน ทองสืบ ศภุ ะมารค ช้ีแจงวา่ “ เลอ้ื น ” ตรงกบั ภาษาไทยถ่ินว่า “ เลนิ่ ” หมายถงึ การ
อา่ นหนังสอื เอ้ือนเป็นทานอง ซง่ึ คลา้ ยกับทป่ี ระเสริฐ ณ นคร อธบิ ายวา่ เล้ือน เปน็ ภาษาถิ่น แปลว่า
อา่ นทานองเสนาะ โดยอ้างอิง บรรจบ พนั ธเุ มธา กลา่ ววา่ คานเี้ ป็นภาษาถิ่นของไทย ในพมา่ คือไทย
ในรฐั ฉานหรอื ไทยใหญ่น่ันเอง จากความคดิ เหน็ ของผรู้ ู้ ประกอบกับหลักฐาน พ่อขนุ หลามคาแหงดังกล่าว
ทาใหเ้ ชอ่ื ว่า การอ่านทานองเสนาะของไทยมีมานานหลายร้อยปีแลว้ โดยเรยี กเปน็ ภาษาถ่ินวา่ “ เลื้อน ”

ทมี่ าของตน้ เค้าของการอา่ นทานองเสนาะพอจะสันนิษฐานได้วา่ น่าจะมบี ่อเกดิ จากการดาเนินวิถี
ชีวิตของคนไทยสมยั กอ่ นท่มี คี วามเกย่ี วพันกบั การร้องเพลงทานองต่าง ๆ ตลอดมา ทงั้ นี้จากเหตุผลท่วี ่า คน
ไทยมีนิสยั ชอบพูดคาคล้องจองใหม้ ีจังหวะด้วยลกั ษณะสมั ผัสเสมอ ประกอบกบั คาภาษาไทยที่มวี รรณยกุ ต์
กากับจงึ ทาใหค้ ามีระดบั เสยี งสูงต่าเหมือนเสียงดนตรี เม่อื ประดษิ ฐท์ านองง่าย ๆ ใสเ่ ขา้ ไปก็ทาให้สามารถ
สร้างบทเพลงร้องขึน้ มาได้แล้ว ดังนน้ั คนไทยจงึ มีโอกาสไดฟ้ งั และชื่นชมกบั การร้องเพลงทานองต่าง ๆ ตั้งแต่
เกิดจนตายทีเดยี ว

๔๔๓

ศิลปะการอา่ นทานองเสนาะจึงขนึ้ อยู่กบั ความสามารถของผู้อ่าน และความไพเราะของบทประพันธ์

แตล่ ะประเภท โดยเฉพาะอย่างยิง่ ผู้อ่านทานองเสนาะจงึ ต้องศึกษาวิธกี ารอา่ นให้ไพเราะและต้องหมนั่ ฝึกฝน

การอ่านจนเกดิ ความชานาญ

อนึง่ ศลิ ปะการอา่ นทานองเสนาะอยู่ที่ตัวผอู้ า่ นต้องรู้จัก วธิ กี ารอา่ นทอดเสยี ง โดยผอ่ นจังหวะให้ช้า

ลง การเอือ้ นเสียง โดยการลากเสียงช้า ๆ เพื่อใหเ้ ข้าจังหวะและให้หางเสียงให้ไพเราะ การคร่นั เสยี ง

โดยทาเสียงสะดุดสะเทอื นเพื่อความไพเราะเหมาะสมกับบทกวีบางตอน การหลบเสียง โดยการหักเหให้

พลกิ กลับจากเสยี งสูงลงมาเป็นต่า หรอื จากเสยี งตา่ ข้นึ ไปเป็นเสียงสูง เนือ่ งจากผู้อา่ นไม่สามารถท่ีจะ

ดาเนินตามทานองต่อไปได้เป็นการหลบหนจี ากเสียงท่เี กินความสามารถ จึงตอ้ งหกั เหทานองพลกิ กลับเขา้ มา

ดาเนินทานองในเขตเสยี งของตน และ การกระแทกเสียง โดยการอ่านกระชากเสียงให้ดงั ผิดปกติในโอกาสที่

แสดงความโกรธหรือความไม่พอใจหรือเม่ือต้องการเน้นเสยี ง

( มนตรี ตราโมท ๒๕๒๗ : ๕๐ )

๔. รสท่ีใช้ในการอ่านทานองเสนาะ

๔.๑ รสถ้อย ( คาพดู ) แตล่ ะคามรี สในคาของตนเอง ผู้อ่านจะตอ้ งอา่ นใหเ้ กดิ รสถ้อย

ตัวอย่าง

สกั วาหวานอ่ืนมีหมืน่ แสน ไม่เหมือนแมน้ พจมานท่ีหวานหอม

กล่ินประเทยี บเปรียบดวงพวงพะยอม อาจจะน้อมจติ โน้มดว้ ยโลมลม

แม้นลอ้ ลามหยามหยาบไมป่ ลาบปลม้ื ดังดดู ดื่มบอระเพด็ ต้องเขด็ ขม

ผดู้ ีไพร่ไมป่ ระกอบชอบอารมณ์ ใครฟังลมเมินหน้าระอาเอย

( พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอกรมหลวงบดนิ ทรไ์ พศาลโสภณ )

๔.๒ รสความ (เรอื่ งราวทอ่ี ่าน) ขอ้ ความทีอ่ ่านมีเร่ืองราวเกยี่ วกับอะไร เชน่ โศกเศร้า

สนกุ สนาน ตน่ื เต้น โกรธ รกั เวลาอา่ นตอ้ งอ่านใหม้ ีลีลาไปตามลักษณะของเนื้อเรื่องนน้ั ๆ

ตวั อยา่ ง : บทโศกตอนท่ีนางวันทองไปสง่ พลายงามให้ไปหาย่าทองประศรีทส่ี ุพรรณบุรี

ลูกก็แลดแู ม่แม่ดลู ูก ตา่ งพนั ผกู เพยี งวา่ เลือดตาไหล

สะอ้นื รา่ อาลาดว้ ยอาลยั แลว้ แขง็ ใจจากนางตามทางมา

เหลียวหลังยงั เห็นแมแ่ ลเขมน้ แมก่ ็เหน็ ลกู น้อยละห้อยหา

แตเ่ หลยี วเหลียวเลยี้ วลับวบั วญิ ญาณ์ โอเ้ ปลา่ ตาต่างสะอืน้ ยนื ตะลงึ

( เสภาขนุ ชา้ งขนุ แผน ตอนกาเนิดพลายงาม : สนุ ทรภู่ )

ตวั อยา่ ง : บทสนุกสนาน ในนิราศพระบาท ขณะมีมวยปล้า

ละครหยุดอุตลดุ ดว้ ยมวยปล้า ยืนประจาหมายส้เู ป็นคู่ขัน

มงคลใส่สวมหัวไม่กลัวกัน ตง้ั ประจนั จดจับขยบั มอื

ตีเข้าปับรับโปกสองมือปดิ ประจบติดเตะผางหม้อขว้างหวือ

กระหวดั หวิดหววิ ผวาเสยี งฮาฮอื คนดูอ้อเออกันสนนั่ อึง

๔๔๔

๔.๓ รสทานอง ( ระบบสงู ต่าซึง่ มีจังหวะส้นั ยาว ) ในบทรอ้ ยกรองไทยจะประกอบด้วยทานอง

ตา่ ง ๆ เช่น ทานองโคลง ทานองฉนั ท์ ทานองกาพย์ ทานองกลอน และทานองร่าย เปน็ ตน้ ผู้อา่ น

จะตอ้ งอา่ นให้ถกู ตอ้ งตามทานองของร้อยกรองนน้ั เชน่ โคลงส่สี ุภาพ

สตั ว์ พวกหนง่ึ นช้ี ่อื พหุบา ทาแฮ

มอี เนกสมญา ยอกย้อน

เท้าเกิดยิง่ จตั วา ควรนบั เขานอ

มากจวบหมน่ื แสนซ้อน สดุ พ้นประมาณ ฯ

๔.๔ รสคลอ้ งจอง ในบทรอ้ งกรองตอ้ งมีคาคล้องจองในคาคลอ้ งจองนน้ั ต้องใหอ้ อกเสียง

ต่อเนอ่ื งกนั โดยเน้นเสยี งสัมผัสนอกเป็นสาคญั เช่น

ถงึ โรงเหลา้ เตากลัน่ ควนั โขมง มีคนั โพงผูกสายไว้ปลายเสา

โอบ้ าปกรรมนา้ นรกเจยี วอกเรา ให้มัวเมาเหมือนหน่ึงบ้าเป็นน่าอาย

ทาบุญบวชกรวดนา้ ขอสาเร็จ พระสรรเพชญโพธญิ าณประมาณหมาย

ถึงสรุ าพารอดไม่วอดตาม ไมใ่ กล้กรายแกล้งเมนิ กเ็ กนิ ไป

ไม่เมาหลา้ แตเ่ รายังเมารกั สุดจะหักห้ามจิตคดิ ไฉน

ถงึ เมาเหลา้ เชา้ สายก็หายไป แตม่ าใจนปี้ ระจาทุกค่าคืน

( นริ าศภเู ขาทอง : สนุ ทรภู่ )

๔.๕ รสภาพ เสียงทาให้เกดิ ภาพ ในแตล่ ะคาจะแฝงไปด้วยภาพ ในการอา่ นใหเ้ หน็ ภาพต้อง

ใชเ้ สยี ง สงู – ตา่ ดงั – ค่อย แลว้ แตจ่ ะให้เกิดภาพอย่างไร เช่น

“ มดเอ๋ยมดแดง เล็กเล็กเรย่ี วแรงแข็งขยัน ”

“ สุพรรณหงสท์ รงพูห่ อ้ ย งามชดชอ้ ยลอยหลงั สินธุ์ ”

“ อยุธยายศล่มแลว้ ลอยสวรรค์ ลงฤา ”

๕. หลักการอา่ นทานองเสนาะ มดี งั นี้

๕.๑ กอ่ นอา่ นทานองเสนาะใหแ้ บ่งคาแบง่ วรรคให้ถูกต้องตามหลกั คาประพนั ธ์เสียก่อน โดยตอ้ ง

ระวังในเรือ่ งความหมายของคาดว้ ย เพราะคาบางคาอ่านแยกคากันไม่ได้ เชน่

“ สรอ้ ยคอขนมยุระ ยงู งาม ”

( ขน – มยุระ , ขนม – ยรุ ะ )

“ หวนห่วงม่วงหมอนทอง อกี อกร่องรสโอชา ”

( อกี – อก – ร่อง , อี – กอ – กร่อง )

“ ดุเหวา่ จบั เต่าร้างร้อง เหมอื นจากห้องมาหยารัศมี ”

๔๔๕

( เหมือน – มด , เหมือน – มด – อด )

๕.๒ อ่านออกเสียงธรรมดาใหค้ ล่องก่อน

๕.๓ อ่านใหช้ ดั เจน โดยเฉพาะออกเสยี ง ร ล และคาควบกล้าใหถ้ กู ต้อง เช่น

“ เกิดเป็นชายชาตรอี ยา่ ขี้ขลาด บรรยากาศปลอดโปรง่ โลง่ สมอง

หยิบน้าปลาตราสับปะรดให้ทดลอง ไหนเล่านอ้ งครีมนวดหน้าทาใหท้ ี

เนอ้ื น้ันมโี ปรตีนกินเขา้ ไว้ คนเคราะห์รา้ ยคล้มุ คล่งั เรือ่ งหนงั ผี

ใชน้ ้าคลองกรองเสยี ก่อนจึงจะดี เหน็ มาลีคลี่บานหนา้ บา้ นเอย ”

๕.๔ อ่านให้เออื้ สัมผสั เรยี กวา่ คาแปรเสยี ง เพ่อื ใหเ้ กิดเสียงทไี่ พเราะ เชน่

พระสมุทรสุดลกึ ลน้ คณนา

( อ่านว่า พระ – สะ – หมดุ – สุด – ลึก – ลน้ คน – นะ – นา )

ขา้ ขอเคารพอภิวาท ในพระบาทบพติ รอดสิ ร

( ขา้ – ขอ – เคา – รบ – อบ – พิ – วาด ใน – พระ – บาด – บอ – พดิ – อะ – ดดิ – สอน )

ขอสมหวงั ต้งั ประโยชนโ์ พธิญาณ

( อา่ นวา่ ขอ – สม – หวัง – ตง้ั – ประ – โหยด – โพด – พิ – ยาน )

๕.๕ ระวงั ๓ ต อย่าให้ ตกหลน่ อย่าตอ่ เติม และอยา่ ตตู่ วั

๕.๖ อ่านให้ถูกจงั หวะ คาประพันธ์แต่ละประเภทจะมจี งั หวะแตกต่างกนั ต้องอา่ นให้ถูกวรรค

ตอนตามแบบแผนของคาประพันธ์นนั้ ๆ เชน่

มุทิงคนาฉันท์ ( ๒ - ๒ - ๓ )

“ ปะ๊ โท่น / ป๊ะโทน / ปะ๊ โท่นโทน บุรุษ / สิโอน / สะเอวไหว

อนงค์ / นาเคล่ือน / เขยื้อนไป สะบดั / สไป / วไิ ลตา ”

๕.๗ อ่านให้ถูกทานองของคาประพนั ธ์นั้น ๆ ( รสทานอง )

๕.๘ ผ้อู ่านต้องใสอ่ ารมณ์ตามรสความของบทประพันธ์น้นั ๆ รสรัก โศก ต่นื เตน้ ขบขัน

โกรธ แลว้ ใสน่ า้ เสียงให้สอดคลอ้ งกับรสหรืออารมณ์ต่าง ๆ เหลา่ น้นั

๕.๙ อา่ นให้เสยี งดัง ( พอท่จี ะได้ยินกันทวั่ ถึง ) ไม่ใชต่ ะโกน

๕.๑๐ ถ้าเป็นฉันท์ ต้องอ่านใหถ้ กู ต้องตามบังคบั ของครุ - ลหุ ของฉันทน์ ้นั ๆ

ลหุ คอื ที่ผสมดว้ ยสระเสยี งสั้น และไม่มีตัวสะกด เชน่ เตะ บุ และ เถอะ

ผวั ะ ยกเว้น ก็ บ่อ นอกจาก นีถ้ อื เป็นคาครุ ( คะ – รุ ) ทงั้ หมด

ลหุ ให้เครอื่ งหมาย ( ุ ) แทนในการเขียน

ครุ ใช้เคร่อื งหมาย ( ั ) แทนในการเขียน

๔๔๖

ตวั อยา่ ง : วสนั ตดิลกฉนั ท์ ๑๔ มีครุ - ลหุ ดังนี้

ัั ั ั ุ ั ุ ุ ุ ั ุุัุ ัั

ั ั ุ ัุ ุ ุ ั ุุ ัุ ั ั

อ้าเพศก็เพศนชุ อนงค์ อรองคก์ บั อบบาง

( อา่ นว่า อ้า – เพด – ก็ – เพด – นุ – ชะ – อะ – นง อะ – ระ – อง – ก้อ – บอบ – บาง )

ควรแต่ผดงุ สริ สิ ะอาง ศุภลักษณป์ ระโลมใจ

( อา่ นวา่ ควน – แต่ – ผะ – ดงุ – สิ – หริ – สะ – อาง สุ – พะ – ลกั – ประ – โลม – ใจ )

๕.๑๑ เวลาอ่านอ่านอยา่ ใหเ้ สียงขาดเป็นช่วง ๆ ต้องใหเ้ สยี งติดต่อกันตลอด เช่น

“ วนั นนั้ จนั ทร มีดารากร เป็นบริวาร เหน็ ส้นิ ดินฟ้า ในปา่ ทา่ ธาร มาลคี ลบี่ าน ใบก้าน

อรชร ”

๕.๑๒ เวลาจบใหท้ อดเสียงชา้ ๆ

๖. ประโยชน์ท่ไี ดร้ ับจากการอา่ นทานองเสนาะ

๖.๑ ชว่ ยให้ผูฟ้ งั เข้าถงึ ถงึ รสและเห็นความงามของบทรอ้ ยกรองท่อี า่ น

๖.๒ ชว่ ยใหผ้ ฟู้ งั ได้รบั ความไพเราะและเกดิ ความซาบซึ้ง ( อาการรสู้ กึ จบั ใจ

อยา่ งลกึ ซงึ้ )

๖.๓ ชว่ ยให้เกิดความสนุกสนาน ความเพลดิ เพลนิ

๖.๔ ช่วยให้จาบทรอ้ ยกรองได้รวดเร็วและแม่นยา

๖.๕ ช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้เป็นคนออ่ นโยนและเยอื นเยน็

๖.๖ ชว่ ยสืบทอดวฒั นธรรม ในการอ่านทานองเสนาะไวเ้ ป็นมรดกต่อไป

๔๔๗

บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้

๑. ให้นักเรียนทา “กิจกรรมคาศัพท์ลับสมอง” ตามข้นั ตอนดังนี้
- หาคาศพั ทจ์ ากเร่ืองประพาสธารทองแดงมาเตมิ ลงในตารางทงั้ แนวตั้งและแนวนอน โดยดจู าก
ความหมายทใี่ ห้มา
- แต่ละช่องเตมิ ได้ ๑ ตัวอักษร ในกรณีมี

เตมิ ไวใ้ น
ตัวอกั ษรช่องเดยี วกนั สว่ น ะ า ำ เ แ ไ ใ โ เตมิ แยกชอ่ งตา่ งหาก

คาศัพทล์ บั สมอง

ก๙ ร ๑ ะ จ้ อ ย ๔ เ๗

ง โ ๖ นี
ธ ๑๐ ง ฉ
ช า น๓ พิ ๑๑ น า ย

ก รี ม
ธ ๑๒ ง ไ กั ๕

โ ๑๓ ท ๒ น ชย น ส๘

ท อ ๑๔ ก อ
นั ก ส ง แดง

น้ิ

นม มู ๑๖ ทู ว

แนวตง้ั แนวนอน
........................................................................ ........................................................................
....................................................................... .......................................................................
...................................................................... ......................................................................
...................................................................... ......................................................................
...................................................................... ......................................................................
...................................................................... ......................................................................
....................................................................... .......................................................................
........................................................................ .......................................................................


Click to View FlipBook Version