แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

๙๘

บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้

๑. ใหน้ ักเรียนตอบคาถามแล้วเตมิ ลงในช่องวา่ งให้สมบูรณ์

 

อินเทอร์เน็ตคือ........................................... ขอ้ มลู ท่ีปรากฏทางอินเทอร์เน็ตมี
.................................................................... อะไรบา้ ง
.................................................................... ................................................................
…………………………………………… ................................................................
................................................................... ........……………………………………
………....................................................
...............



บอกคาศพั ทส์ าคญั ทางอินเทอร์เน็ต ๓ คา พร้อมความหมายส้นั ๆ
........................................................................................................................................
……………………………………………...................................................................

 

กา รศึ ก ษ าโด ย ใช้ส่ื ออิ เ ล็ กท รอนิ ก ส์ ที่ การสื บค้นข้อมูลทางอินเทอร์ เน็ ต
นิยมมากในปัจจุบนั ไดแ้ ก่ ปัจจุบนั นิยมคน้ หาแบบใด ยกตวั อย่าง
................................................................ เว็บไซต์เก่ียวกับการสืบค้นข้อมูล ๓
................................................................ เวบ็ ไซต์
........…………………………………… ................................................................
……….................................................... ................................................................
. .......……………………………………
………....................................................
.....

๙๙

๒. ให้นักเรยี น อา่ นจับใจความ แลว้ ตอบคาถามต่อไปนี้

๑. เรอ่ื งที่อ่านเป็นเร่อื งเกีย่ วกบั อะไร
.......................................................................................................................................................
๒. การคน้ พบสมบตั เิ กดิ ข้นึ เมอื่ ใด
.......................................................................................................................................................
๓. ใครเป็นผคู้ น้ พบ
.......................................................................................................................................................
๔. คน้ พบที่ใด
.......................................................................................................................................................
๕. ผูค้ น้ พบมคี วามประหลาดใจเรอื่ งใด
.......................................................................................................................................................
๖. คณะผู้ค้นพบ เรียกโครงการน้วี า่
.......................................................................................................................................................
๗. หวั หนา้ คณะคอื ใคร
.......................................................................................................................................................
๘. หัวหนา้ คณะกล่าวว่าอย่างไร
.......................................................................................................................................................

๑๐๐

เฉลยบัตรกจิ กรรมการเรียนรู้

ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามเติมลงในชอ่ งวา่ งให้สมบรู ณ์ 

 ขอ้ มูลที่ปรากฏทางอินเทอร์เน็ตมี
อินเทอร์เน็ตคือ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ท่ีใหญ่ อะไรบา้ ง
ที่สุด ใชเ้ ทคโนโลยปี ระกอบดว้ ย - ขอ้ มูลแบบตวั อกั ษร
คอมพวิ เตอร์ชนิดตา่ งๆ เช่ือมตอ่ เขา้ ดว้ ยกนั - ภาพน่ิง
มีการติดต่อสื่อสารแลกเปล่ียนขอ้ มูล โดยใช้ - ภาพเคลื่อนไหว
มาตรฐานการรับ-ส่ง ที่เหมือนกนั - เสียง



บอกคาศพั ทส์ าคญั ทางอินเทอร์เน็ต ๓ คา พร้อมความหมายส้ันๆ
Homepage (โฮมเพจ) หนา้ แรกท่ีพบเมื่อเปิ ดเวบ็ ไซต์
Link (ลิงค)์ ขอ้ ความ รูปภาพ หรือป่ ุมกดต่างๆ ท่ีมีเส้นทางการเชื่อมโยงกนั
E - mail (ไปรษณียอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์) คลา้ ยกบั การส่งจดหมายทว่ั ไป คือ มีผรู้ ับและผสู้ ่ง

 

กา รศึ ก ษ าโด ย ใช้ส่ื ออิ เ ล็ กท รอนิ ก ส์ ที่ การสื บค้นข้อมูลทางอินเทอร์ เน็ ต
นิยมมากในปัจจุบนั ไดแ้ ก่ ปัจจุบนั นิยมคน้ หาแบบใด ยกตวั อย่าง
เว็บไซต์เกี่ยวกับการสืบค้นข้อมูล ๓
E - learning เวบ็ ไซต์
E - book นิยมค้นหาแบบใส่คาหรื อข้อความท่ี
E - library ต้องการลงไป เว็บไซต์ช่วยค้นข้อมูล
E - classroom เ ช่ น www.google.com,
www.yahoo.com
www.sanook.com

๑๐๑

แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๒.๒

กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒

หน่วยที่ ๒ ท่องเวบ็ เกบ็ ความรู้ เวลา ๔ ช่วั โมง

เร่ือง ร้เู ฟ่ืองเร่ืองเขียนสรุปความ เวลา ๑ ชัว่ โมง

ใชส้ อนวนั ที่ ....................................................................................................................

มาตรฐานที่ ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขยี นสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว
มาตรฐานท่ี ท ๓.๑ ในรูปแบบตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ ควา้
อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณและพูดแสดงความรู้ ความคิด และ
ความรู้สกึ ในโอกาสตา่ งๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์

ตัวช้วี ดั
ท ๒.๑ ม.๒/๗ เขียนวิเคราะห์ วิจารณแ์ ละแสดงความรู้ความคิดเห็นหรือโต้แย้งในเร่ืองท่ีอา่ นอย่างมี

เหตผุ ล
ท ๒.๑ ม.๒/๘ มมี ารยาทในการเขียน
ท ๓.๑ ม.๒/๑ พูดสรุปใจความสาคญั ของเร่ืองที่ฟังและดู

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ตัวชว้ี ัด ความรู้ (K) สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/ท้องถิน่
ท ๒.๑ ม.๒/๗ เขียน - หลักการเขียน
วเิ คราะห์ วิจารณแ์ ละ วิเคราะห์ วจิ ารณ์ ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลักษณะ (A)
แสดงความรู้ความคิดเห็น และแสดงความ
หรือโตแ้ ยง้ ในเรื่องท่ีอ่าน คิดเหน็ หรือโต้แย้ง - ฝกึ เขยี นวิเคราะห์ - เขยี นถูกต้อง
อย่างมีเหตผุ ล
ท ๒.๑ ม.๒/๘ มมี ารยาท - หลกั การเขยี น วิจารณ์ แสดง สวยงาม
ในการเขียน
ท ๓.๑ ม.๒/๑ พูดสรปุ การพูดสรุปความ ความคิดเห็นหรือ - มมี ารยาทใน
ใจความสาคัญของเร่อื งท่ี
ฟงั และดู โตแ้ ย้ง การเขยี น

- ฝกึ เขยี น - มีนิสัยรกั การเขยี น

ฝึกพูดสรุปความ - มีมารยาทในการพูด
- มมี ารยาทในการฟงั

การดู

๑๐๒

สาระสาคญั
การเขียนบรรยายขอ้ ความ จากภาษาท่ใี ช้ในอินเทอร์เน็ต มักเป็นภาษาท่เี ขียนเป็นข้อความส้นั ๆ

มากกว่ามุ่งใหร้ ายละเอยี ดของสาระ

สาระการเรียนรู้
- การเขยี นอธบิ ายเรอ่ื งราว

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. ครสู นทนากบั นักเรียนเกยี่ วกับที่มาของเร่ืองทีน่ ักเรยี นได้อ่านไปในช่วั โมงที่แล้วและ

ภาพประกอบว่าน่าจะมาจากแหล่งใด มกี ารได้มาของข้อมูลอย่างไรบา้ ง
๒. นักเรียนอ่าน ความรู้จากเรื่อง ในหนังสือวิวิธภาษา หน้า ๑๐๐ พร้อมท้ังสรุปใจความสาคัญ

ของเรือ่ งอย่างสน้ั ๆ
๓. ครสู นทนากับนกั เรียนเร่ืองการเขยี นอธบิ ายเรื่องราว จากเร่ืองที่ได้อ่าน โดยมีข้อสังเกตว่า การ

เขียนบรรยายข้อความ จากภาษาที่ใช้ในอินเทอร์เน็ต มักเป็นภาษาที่เขียนเป็นข้อความสั้น ๆ มากว่ามุ่งให้
รายละเอียดของสาระ ภาษาท่ีใช้สนทนากันทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ และกระทู้ต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ตมัก
เปน็ ภาษาระดบั กนั เอง

๔. ครูเขียนตัวอย่างการเขียนบรรยายหรือการสนทนาทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ บนกระดานดา
พร้อมท้ังเขยี นอธิบายใหน้ กั เรียนดเู ป็นตวั อย่าง แลว้ ถามนักเรยี นว่าเขา้ ใจทีค่ รเู ขียนอธบิ ายหรือไม่

๕. นักเรียนฝึกเขียนบรรยายและวาดภาพตามจินตนาการ ตามทีน่ กั เรียนเข้าใจอยา่ งงา่ ย ๆ
๖. นักเรยี นทุกคนลองเลือกเขยี นคาอธิบาย
๗. เม่ือเขยี นอธิบายเสร็จแล้วให้มีการตรวจสอบโดยการอ่านให้เพ่ือนฟัง แล้วแก้ไข ก่อนที่จะนามาส่ง
ครู
๘. นักเรยี นทาบตั รกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่ครูแจกให้ ส่งในช่วั โมงถดั ไป

๑๐๓

สอ่ื / แหล่งเรียนรู้

ลาดบั ท่ี รายการสื่อ กิจกรรมท่ใี ช้ แหล่งทีไ่ ด้มา
๑ ภาพข้ัวโลก เกาะกรีนแลนด์ เพ่ิมเติมความชัดเจนในเนื้อหา ครจู ดั เตรียม
๒ นักเรียนทาบตั รกิจกรรม ครูจัดทา
๓ บตั รกจิ กรรมการเรยี นรู้ นกั เรียนดภู าพและฝึกอา่ น ครจู ดั หา

๔ หนังสือเรยี น ชดุ วิวธิ ภาษา ตรวจสอบแบบทดสอบ ครจู ดั ทา
ชั้น ม. ๒ ตรวจสอบบัตรกิจกรรม
เฉลยบตั รกจิ กรรม บันทกึ การสังเกตพฤติกรรม ครจู ัดทา

๕ แบบประเมนิ การสังเกต
พฤติกรรม

การวัดผลและประเมินผล

กิจกรรม-พฤตกิ รรมท่ี เครอ่ื งมอื ทใ่ี ช้ใน วธิ ีการประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ
ประเมิน
๑. นักเรียนพูดสรปุ ความ การประเมิน
๒. นักเรียนทาบัตรกิจกรรม
การเรียนรู้ แบบประเมินรายกลุ่ม สงั เกตรายกล่มุ รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป

๓. ประเมินพฤติกรรมและ แบบประเมินการสังเกต ตรวจงานรายบคุ คล รอ้ ยละ ๗๐ ข้นึ ไป
ผลงานระหว่างเรียน
พฤติกรรม และแบบ

ประเมินผลงาน

แบบประเมินพฤติกรรมและ ตรวจงานรายกลุ่ม รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป

ผลงานระหว่างเรยี น

กจิ กรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………
………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……………
………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……………

๑๐๔

บันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้
๑. ผลการจดั การเรยี นรูต้ ามผลการเรยี นร้ทู ี่คาดหวัง
นักเรียนทงั้ หมด ....................คน
– ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดับดี ............ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ...............
– ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดับปานกลาง – คน คดิ เป็นร้อยละ .................
– ไมผ่ า่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับปรับปรุง – คน คดิ เปน็ ร้อยละ ...............
๒. ผลการประเมนิ พฤตกิ รรมระหว่างเรียน
............................................................................................................................. ...........................

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................

๓. ปัญหาและอุปสรรคระหวา่ งการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. ...........................
....................................................................................................................................................
๔. การปรบั ปรงุ แกไ้ ข
............................................................................................................................. ..............
....................................................................................................................................................... ..........
๕. ข้อคดิ เห็นและข้อเสนอแนะเพม่ิ เติม
........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................

ลงชอื่ ..........................................................ผูส้ อน
(นางสาวธญั ญาดล อุปชติ กุล)
ครู วทิ ยฐานะครูชานาญการพิเศษ

๑๐๕

ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรียน
............................................................................................................................. ...........................

........................................................................................................ ......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชื่อ.................................................ผู้ตรวจสอบ
( ................................................. )
ผอู้ านวยการโรงเรยี นโคกโพธ์ไิ ชยศกึ ษา

๑๐๖

บัตรกจิ กรรมการเรียนรู้

๑. ให้นักเรียนทากจิ กรรม “ขุมทรพั ย์สารสนเทศ” ดังตอ่ ไปนี้

ในเวบ็ ไซตท์ ่ีใหบ้ ริการสืบคน้ ขอ้ มูล จะมีสารบญั หลกั ๆ เพือ่ ช่วยในการคน้ หา ใหน้ กั เรียน
นาขอ้ มูลท่ีกาหนดให้ จดั ให้เขา้ หมวดหมู่

ฟุตบอล เกมส์ สถานกงสุล ภาพยนตร์

สมาคมมูลนิธิ กอลฟ์ สถานทตู ซอฟทแ์ วร์

ผลิตภณั ฑแ์ ละอุปกรณ์กีฬา การเขียนโปรแกรม ดาราและนกั ร้อง

ศลั ยกรรม กระทรวง สมาคมกีฬา ความรู้เก่ียวกบั คอมพิวเตอร์

เพลงและดนตรี โรงพยาบาล ดูดวงและโหราศาสตร์

สายตา โรคและการดูแลสุขภาพ ดวงตา

กฬี า คอมพวิ เตอร์

หน่วยงานราชการ บนั เทงิ และนันทนาการ
และองค์กร

การแพทย์และสุขภาพ

๑๐๗

๒. คาช้ีแจง นักเรียนเขยี นอธิบายขอ้ ความจากเรือ่ ง การคน้ พบสมบัติของโลกล้านปี ทีไ่ ดอ้ า่ น

............................................................................................................................. .
............................................................................................................................. .
............................................................................................................................. .
............................................................................................................................. .
..............................................................................................................................
............................................................................................................................. .
..............................................................................................................................
............................................................................................................................. .
..............................................................................................................................
............................................................................................................................. .
..............................................................................................................................
............................................................................................................................. .

๑๐๘

เฉลยบตั รกจิ กรรมการเรียนรู้
๑. ใหน้ ักเรียนทากิจกรรม “ขมุ ทรพั ยส์ ารสนเทศ” ดังตอ่ ไปน้ี

“จัดให้เป็ นหมวดหมู่”

กฬี า คอมพวิ เตอร์
ฟุตบอล กอลฟ์ เกมส์ ซอฟแวร์
สมาคมกีฬา การเขียนโปรแกรม
ผลิตภณั ฑแ์ ละ ความรู้เก่ียวกบั
อุปกรณ์กีฬา คอมพวิ เตอร์

บันเทงิ และนันทนาการ หน่วยงานราชการ
ภาพยนตร์ ดาราและนกั ร้อง
และองค์กร
เพลงและดนตรี สถานกงสุล
ดูดวงและโหราศาสตร์ สถานทตู
กระทรวง
สมาคมมลู นิธิ

การแพทย์และสุขภาพ
ศลั ยกรรม

โรคและการดูแล
สุขภาพ

ดวงตา สายตา
โรงพยาบาล

๒. คาชีแ้ จง นักเรยี นเขียนอธบิ ายขอ้ ความจากเรอ่ื ง การคน้ พบสมบัติของโลกล้านปี ทไ่ี ด้อ่าน
(อยูใ่ นดุลพินิจของครผู สู้ อน)

๑๐๙

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๒.๓

กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒

หนว่ ยท่ี ๒ ท่องเวบ็ เก็บความรู้ เวลา ๔ ช่ัวโมง

เร่อื ง สืบค้นหาความรู้ เวลา ๑ ช่วั โมง

ใชส้ อนวนั ที่ ....................................................................................................................

มาตรฐานท่ี ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพื่อนาไปใช้ตัดสินใจแก้ปญั หาใน
มาตรฐานท่ี ท ๓.๑
การดาเนินชีวิตและมีนิสัยรกั การอา่ น
สามารถเลือกฟังและดอู ย่างมีวิจารณญาณและพดู แสดงความรู้ ความคดิ และความรู้สึกในโอกาส
ตา่ งๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์

ตัวชีว้ ดั
ท ๑.๑ ม.๒/๗ อ่านหนงั สอื บทความ หรอื คาประพนั ธอ์ ยา่ งหลากหลายและประเมนิ คุณคา่ หรอื

แนวคดิ ท่ไี ดจ้ ากการอ่าน เพือ่ นาไปใช้แกป้ ัญหาในชวี ิต
ท ๓.๑ ม.๒/๕ พดู รายงานเรื่อง หรือประเด็นที่ศกึ ษาคน้ ควา้

สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

ตัวชี้วัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง/ทอ้ งถน่ิ

ท ๑.๑ ม.๒/๗ อ่าน ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A)
หนังสือ บทความ หรอื คา - หลกั การอา่ นและ
ประพนั ธ์อย่างหลากหลาย ประเมนิ ค่า แนวคดิ - ฝึกอ่านและฝึก - มนี สิ ัยรักการอา่ น
และประเมนิ คุณคา่ หรือ
แนวคดิ ที่ได้จากการอา่ น หลกั การพดู รายงาน ประเมินคา่
เพือ่ นาไปใช้แกป้ ัญหาใน
ชวี ิต ฝึกพดู รายงานจาก -มมี ารยาทในการพูด
ท ๓.๑ ม.๒/๕ พูด การคน้ คว้า
รายงานเร่อื ง หรือประเด็น
ทีศ่ กึ ษาค้นคว้า

๑๑๐

สาระสาคัญ
การค้นควา้ หาความรู้ ทาใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจมากขึ้นและกว้างไกลขึน้ ปจั จุบันมีสื่อและ

แหล่งเรยี นรูม้ ากมาย อาทิ เช่น ส่อื จากอิเล็กทรอนิกส์

สาระการเรยี นรู้
- การใชส้ ื่อช่วยค้นหาความรู้

กระบวนการเรยี นรู้
๑. ครูสนทนากับนักเรียนถึงสอื่ และแหล่งเรยี นรู้ต่างๆท่จี ะช่วยใหเ้ ราเกดิ ความรู้ ความเข้าใจ และให้

นกั เรียนชว่ ยกันยกตวั อย่าง
๒. ครูนาสนทนาถึงเร่ือง การรบั สาร ผา่ นอนิ เทอรเ์ น็ต เช่น การเรียนด้วยตนเองทใ่ี ชส้ ือ่

อเิ ลก็ ทรอนิกส์ หนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ จะหาความรไู้ ด้จากท่ีใดได้บา้ ง
๓. แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุม่ ๔ กลุม่ ให้แตล่ ะกลุ่มศึกษา ค้นคว้าเกีย่ วกบั เร่ืองต่อไปน้จี ากส่ือ

อเิ ลก็ ทรอนิกส์
กลมุ่ ท่ี ๑ e - learning
กลมุ่ ท่ี ๒ e - book
กลมุ่ ท่ี ๓ e - libary
กลมุ่ ที่ ๔ e - classroom

๔. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มไปศึกษาหาความร้จู าก ส่อื อิเล็กทรอนกิ สใ์ นห้องคอมพวิ เตอร์ โดยใหแ้ ต่ละ
กลมุ่ จัดทารูปเล่มเป็นแบบรายงาน พร้อมท้งั นาเสนอผลงานหน้าช้ัน

๕. นกั เรียนและครชู ่วยกนั สรุปบทเรยี น เก่ียวกับการศึกษาค้นคว้าจากสื่ออเิ ล็กทรอนิกส์
ทั้งยังสรุปถึงพฤติกรรมความพอเพียงท่ีนักเรียนใช้ในการทางาน โดยนักเรียนต้องให้ความสาคัญและนามาใช้
ในชวี ิตประจาวัน

๑๑๑

สื่อ / แหล่งเรยี นรู้

ลาดบั ท่ี รายการสอ่ื กิจกรรมทใี่ ช้ แหล่งที่ไดม้ า
๑ ภาพขว้ั โลก เกาะกรนี แลนด์ เพมิ่ เติมความชัดเจนในเน้ือหา ครูจดั เตรยี ม

๒ บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้ นกั เรียนทาบตั รกิจกรรม ครูจดั ทา

๓ หนังสอื เรียน ชุด ววิ ิธภาษา นกั เรียนดภู าพและฝึกอ่าน ครูจดั หา
ครจู ัดทา
ช้นั ม. ๒ ครูจัดทา

๔ เฉลยบัตรกจิ กรรม ตรวจสอบแบบทดสอบ

ตรวจสอบบัตรกจิ กรรม

๕ แบบประเมินการสงั เกต บันทึกการสงั เกตพฤติกรรม

พฤติกรรม

การวดั ผลและประเมนิ ผล

กิจกรรม-พฤตกิ รรมที่ เครอ่ื งมือที่ใช้ใน วธิ ีการประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ
ประเมิน
๑. นักเรียนพดู สรุปความ การประเมนิ
๒. นักเรยี นทาบัตรกจิ กรรม
การเรียนรู้ แบบประเมนิ รายกลุ่ม สังเกตรายกลุ่ม รอ้ ยละ ๗๐ ข้นึ ไป

๓. ประเมินพฤติกรรมและ แบบประเมนิ การสงั เกต ตรวจงานรายบคุ คล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป
ผลงานระหวา่ งเรียน
พฤติกรรม และแบบ

ประเมนิ ผลงาน

แบบประเมินพฤตกิ รรมและ ตรวจงานรายกล่มุ รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป

ผลงานระหวา่ งเรยี น

กิจกรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………
………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……………
………………………………………………………………………………….………………………

๑๑๒

บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
๑. ผลการจัดการเรยี นรู้ตามผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวัง
นกั เรยี นท้ังหมด ....................คน
– ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ............ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ...............
– ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับปานกลาง – คน คดิ เป็นร้อยละ .................
– ไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมินระดับปรับปรุง – คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ...............
๒. ผลการประเมนิ พฤติกรรมระหวา่ งเรียน
......................................................................................................... ...............................................

............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................................ ..............
.................................................................................................................... ..........................................................

๓. ปัญหาและอุปสรรคระหว่างการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. ...........................
....................................................................................................... .......................................................................
๔. การปรับปรงุ แกไ้ ข
............................................................................................................................. ..............
............................................................................................................................. .................................................
๕. ข้อคดิ เหน็ และข้อเสนอแนะเพิม่ เติม
........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอ่ื ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวธญั ญา ดลอุปชติ กลุ )
ครู วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ

๑๑๓

ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรียน
............................................................................................................................. ...........................

........................................................................................................ ......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชื่อ.................................................ผู้ตรวจสอบ
( ................................................. )
ผอู้ านวยการโรงเรยี นโคกโพธ์ไิ ชยศกึ ษา

๑๑๔

บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้

๑. ถา้ นักเรยี นตอ้ งการอ่านข่าวจากหนังสอื พิมพ์ สามารถติดตามอ่านไดจ้ ากเว็บไซต์ใดบ้าง

หนังสือพมิ พ์
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………….

……….

๒. ให้นักเรยี นแสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั คุณและโทษของอนิ เทอร์เนต็

ประโยชน์ของอนิ เทอร์เน็ต โทษของอนิ เทอร์เน็ต
……………………………………………… ……………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………
……………………………………………… ……………………………………………

๑๑๕

๓. “เวบ็ ไซต์ในดวงใจ” ให้นกั เรยี นบอกช่อื เวบ็ ไซตท์ ี่นกั เรยี นชอบมากท่สี ดุ เรียงลาดบั ๑ – ๓ บอก
เหตผุ ลประกอบ

……………………………………………………
……………………………………………………
……………………………………………………
……………………………………………………
……………………………………………………
……………………………………………………
……………………………………………………

…………………………………………………
…………………………………………………
…………………………………………………
…………………………………………………
…………………………………………………
…………………………………………………
…………………………………………………
…………………………………………………

…………………………………………………
…………………………………………………
…………………………………………………
…………………………………………………
…………………………………………………
…………………………………………………
…………………………………………………

๑๑๖

เฉลยบัตรกจิ กรรมการเรียนรู้

๑. ถ้านักเรยี นต้องการอ่านข่าวจากหนงั สือพิมพ์ สามารถตดิ ตามอ่านไดจ้ ากเว็บไซต์ใดบ้าง

หนังสือพมิ พ์

๑. http://www.thairath.co.th/ - เวบ็ ไซตห์ นงั สือพิมพไ์ ทยรัฐ

๒. http://www.manager.co.th/ - เวบ็ ไซตห์ นงั สือพิมพผ์ จู้ ดั การ

๓. http://www.dailynews.co.th/ - เวบ็ ไซตห์ นงั สือพมิ พเ์ ดลินิวส์

๔. http://www.komchadluek.net/ - เวบ็ ไซตห์ นงั สือพมิ พค์ มชดั ลึก

๕. http://www.matichon.co.th/matichon/ - เวบ็ ไซตห์ นงั สือพมิ พม์ ติชน

๖. http://www.matichon.co.th/Khaosod/ - เวบ็ ไซตห์ นงั สือพิมพข์ า่ วสด

๗. http://www.bangkbiznews.com/ - เวบ็ ไซตห์ นงั สือพิมพก์ รุงเทพธุรกิจ

๘. http://www.thannews.th.com/ - เวบ็ ไซตห์ นงั สือพิมพฐ์ านเศรษฐกิจ

๙. http://www.posttoday.com/ - เวบ็ ไซตห์ นงั สือพมิ พโ์ พสตท์ เู ดย์

๑๐. http://www.matichon.co.th/prachachat - เวบ็ ไซตห์ นงั สือพิมพก์ รุงเทพธุรกิจ

๒. ใหน้ ักเรยี นแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับคุณและโทษของอนิ เทอร์เน็ต

ประโยชน์ของอนิ เทอร์เน็ต โทษของอนิ เทอร์เน็ต
๑. ประหยดั คา่ ใชจ้ า่ ย ลดระยะเวลาในการ ๑. สิ้นเปลืองเวลา
ส่ือสาร ๒. สิ้นเปลืองทรัพยส์ ิน
๒. สืบคน้ และดาวนโ์ หลดขอ้ มลู ไดต้ าม ๓. ผลเสียต่อสุขภาพ
ตอ้ งการ ๔. อาจถูกล่อลวงไปในทางเสื่อมเสีย
๓. อา่ นขอ้ มูลท้งั ในปัจจุบนั และอดีต ๕. จดจาขอ้ มูลหรือภาษาที่ไม่ถูกตอ้ งไปใช้
๔. แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกลุ่มท่ี แบบผดิ ๆ
สนใจในเร่ืองเดียวกนั
๕. สามารถท่องเที่ยวไปที่ต่างๆ ไดอ้ ยา่ ง
อิสระตามตอ้ งการ

๑๑๗

๓. “เว็บไซต์ในดวงใจ” ให้นกั เรียนบอกชื่อเว็บไซต์ทนี่ กั เรียนชอบมากท่ีสดุ เรยี งลาดบั ๑ – ๓ บอก
เหตผุ ลประกอบ

๑. http://www.pantip.com

เพราะเป็ นเว็บไซต์ท่ีมีความหลากหลายให้
เลือกเขา้ ไปอ่านตามความสนใจ มีการแสดงความ
คิดเห็นในประเด็นต่างๆ ทาให้เป็ นคนทนั เหตุการณ์
เช่น ถา้ อยากพูดคุยหรือรู้ข่าวสารเกี่ยวกบั กีฬาก็เขา้
ไปท่ีหอ้ งสนามศุภชลาศยั

๒. http://www.hotmail.com

เ ป็ น เ ว็บ ไ ซ ต์ท่ี มี ป ร ะ โ ย ช น์ ม า ก ๆ
ให้บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ทา
ให้สมาชิกติดต่อส่ือสารกบั ผูอ้ ื่นไดอ้ ย่างรวดเร็ว
และยงั ใหบ้ ริการ MSN สามารถเขา้ หอ้ งสนทนา
พูดคุยพบปะกับเพื่อนใหม่ๆ ที่มีความสนใจ
ตรงกนั

๓. http://www.google.co.th

เป็ นเว็บไซต์ที่ใช้ในการสืบค้นข้อมูล
ข่าวสารความรู้ต่างๆ ทาให้การสืบค้นรวดเร็ว
และไดข้ อ้ มูลตามที่ตอ้ งการ โดยไม่ตอ้ งเสียเวลา
ในการสื บค้นหลายแหล่ง มีประโยชน์ต่อ
การศึกษาความรู้และการค้นควา้ เพื่อประกอบ
รายงาน

๑๑๘

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี ๒.๔

กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒

หนว่ ยที่ ๒ ท่องเว็บเก็บความรู้ เวลา ๔ ชัว่ โมง

เร่ือง สืบคน้ หาความรู้ เวลา ๑ ช่ัวโมง

ใชส้ อนวนั ที่ ....................................................................................................................

มาตรฐานที่ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพ่ือนาไปใชต้ ัดสินใจแก้ปญั หาใน
มาตรฐานท่ี ท ๔.๑
การดาเนนิ ชีวติ และมีนสิ ยั รักการอ่าน
เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษาและพลงั
ของภาษา ภูมิปญั ญาทางภาษาและรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบัติของชาติ

ตวั ช้ีวดั
ท ๑.๑ ม.๒/๗ อ่านหนงั สือ บทความ หรือคาประพนั ธ์อย่างหลากหลายและประเมนิ คุณค่าหรอื

แนวคิดทไี่ ดจ้ ากการอา่ น เพื่อนาไปใช้แก้ปัญหาในชีวติ
ท ๔.๑ ม.๒/๕ รวบรวม และอธิบายความหมายของคาภาษาต่างประเทศทีใ่ ชใ้ นภาษาไทย

สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

ตัวช้วี ดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง/ท้องถิ่น

ท ๑.๑ ม.๒/๗ อา่ นหนงั สอื ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คุณลกั ษณะ (A)
บทความ หรือคาประพนั ธอ์ ย่าง - หลักการอา่ น
หลากหลายและประเมินคุณค่า และประเมินคา่ - ฝกึ อ่านและฝึก - มนี ิสยั รักการอา่ น
หรอื แนวคดิ ที่ไดจ้ ากการอา่ น แนวคดิ
เพอื่ นาไปใช้แก้ปญั หาในชีวติ ประเมินคา่
ท ๔.๑ ม.๒/๕ รวบรวม และ
อธบิ ายความหมายของคา หลักสงั เกตคา - ฝกึ สังเกตและจาแนกคา จาแนกคาทม่ี าจาก
ภาษาต่างประเทศทใ่ี ชใ้ น
ภาษาไทย ทม่ี าจาก ทีม่ าจากภาษาต่างประเทศที่ ภาษาตา่ งประเทศที่ใช้

ภาษาตา่ งประเทศ ใชใ้ นภาษาไทย ในภาษาไทย

ทใ่ี ช้ในภาษาไทย ได้ถกู ตอ้ งตามหลักเกณฑ์

๑๑๙

สาระสาคญั
การคน้ ควา้ หาความรู้ ทาใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจมากข้นึ และกว้างไกลข้นึ ปจั จุบันมสี ่ือและ

แหลง่ เรียนรู้มากมาย อาทิ เช่น สือ่ จากอเิ ลก็ ทรอนิกส์

สาระการเรียนรู้
- การใช้สือ่ เทคโนโลยีสารสนเทศ

กระบวนการเรียนรู้
๑. ครูสนทนากบั นักเรยี นถึงสื่อและแหลง่ เรียนรู้ต่างๆทจ่ี ะช่วยให้เราเกดิ ความรู้ ความเข้าใจ และให้

นักเรยี นช่วยกันยกตัวอย่าง
๒. ครนู าสนทนาถงึ เร่อื ง การรบั สาร ผ่านอนิ เทอร์เนต็ เช่น การเรียนดว้ ยตนเองที่ใช้ส่ือ

อิเล็กทรอนกิ ส์ หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ จะหาความร้ไู ดจ้ ากที่ใดไดบ้ ้าง
๓. ครใู หน้ ักเรียนดูตวั อยา่ งรายงานของรุ่นพ่ี
๔. แบ่งนกั เรยี นออกเป็นกลุ่ม ๔ กลมุ่ ให้แตล่ ะกลุ่มศกึ ษา ค้นควา้ เกยี่ วกับเร่ืองต่อไปนจ้ี ากสือ่

อเิ ล็กทรอนกิ ส์ คน้ หาข้อมลู จากเว็บไซต์ต่าง ๆ ในหัวขอ้ ต่อไปน้ี โดยเลอื กข้อมูลท่สี ามารถนามาอ้างองิ ได้ นา
ขอ้ มลู มาเรยี บเรยี งแลว้ รายงานแกเ่ พ่ือนๆ อาจนาข้อมูลเดิมจากเว็บไซต์มาแสดงด้วย

- การรกั ษาสุขภาพ
- การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ
- พระราชกรณยี กจิ
- ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๕. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มไปศึกษาหาความรูจ้ าก สื่ออเิ ล็กทรอนิกสใ์ นห้องคอมพวิ เตอร์ โดยให้แต่ละ
กลมุ่ จดั ทารปู เลม่ เป็นแบบรายงาน พรอ้ มทงั้ นาเสนอผลงานหน้าชน้ั
๖. นกั เรียนและครชู ว่ ยกนั สรุปบทเรียน เกยี่ วกับการศกึ ษาค้นควา้ จากสื่ออเิ ล็กทรอนิกส์
ท้ังยังสรุปถึงพฤติกรรมความพอเพียงท่ีนักเรียนใช้ในการทางาน โดยนักเรียนต้องให้ความสาคัญและนามาใช้
ในชีวิตประจาวัน

๑๒๐

ส่ือ / แหล่งเรียนรู้

ลาดบั ท่ี รายการสื่อ กจิ กรรมที่ใช้ แหล่งท่ีไดม้ า
๑ ตวั อยา่ งรายงาน เพิ่มเติมความชัดเจนในเนื้อหา ครูจัดเตรียม

๒ บตั รกจิ กรรมการเรยี นรู้ นกั เรียนทาบัตรกจิ กรรม ครจู ัดทา

๓ หนงั สอื เรยี น ชุด ววิ ิธภาษา นกั เรยี นดูภาพและฝึกอา่ น ครูจัดหา
ครจู ดั ทา
ชนั้ ม. ๒ ครจู ัดทา

๔ เฉลยบตั รกจิ กรรม ตรวจสอบแบบทดสอบ

ตรวจสอบบตั รกิจกรรม

๕ แบบประเมนิ การสงั เกต บนั ทกึ การสังเกตพฤติกรรม

พฤติกรรม

การวัดผลและประเมนิ ผล

กิจกรรม-พฤติกรรมท่ี เคร่อื งมอื ท่ีใช้ใน วิธกี ารประเมนิ เกณฑ์การประเมิน
ประเมิน
๑. รายงาน การประเมิน
๒. นักเรยี นทาบตั รกิจกรรม
การเรยี นรู้ แบบประเมนิ รายกลมุ่ สังเกตรายกลมุ่ รอ้ ยละ ๗๐ ขน้ึ ไป

๓. ประเมนิ พฤติกรรมและ แบบประเมินการสังเกต ตรวจงานรายบุคคล ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป
ผลงานระหว่างเรียน
พฤติกรรม และแบบ

ประเมนิ ผลงาน

แบบประเมนิ พฤตกิ รรมและ ตรวจงานรายกล่มุ รอ้ ยละ ๗๐ ขน้ึ ไป

ผลงานระหวา่ งเรียน

กจิ กรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………
………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……………
............................................................................................................................. .................................................

๑๒๑

บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรยี นรู้
๑. ผลการจดั การเรยี นร้ตู ามผลการเรยี นรูท้ ค่ี าดหวัง
นกั เรยี นทงั้ หมด ....................คน
– ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ............ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ...............
– ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับปานกลาง – คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................
– ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดบั ปรับปรุง – คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ...............
๒. ผลการประเมนิ พฤติกรรมระหวา่ งเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

............................................................................................................................................................ ..................
................................................................................................................. .............................................................
............................................................................................................................. .................................................

๓. ปัญหาและอปุ สรรคระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. ...........................
..............................................................................................................................................................................
๔. การปรบั ปรุงแก้ไข
............................................................................................................................. ..............
.................................................................................................................... .............................................
๕. ขอ้ คดิ เห็นและข้อเสนอแนะเพ่มิ เติม
............................................................................................................................. ...........................
.............................................................................................................................................. ................................

ลงชอื่ ..........................................................ผ้สู อน
(นางสาวธญั ญาดล อปุ ชติ กุล )
ครู วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ

๑๒๒

ความเหน็ ของผู้อานวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงช่ือ.................................................ผู้ตรวจสอบ
( ................................................. )

ผอู้ านวยการโรงเรยี นโคกโพธ์ิไชยศึกษา

๑๒๓

บัตรกจิ กรรมการเรียนรู้

คาชีแ้ จง ให้นักเรยี นจับกลุ่ม ช่วยกนั ศึกษา ค้นควา้ เกีย่ วกบั หวั ข้อท่ีกล่มุ ของนกั เรยี นรับผดิ ชอบเปน็
รูปเล่มรายงาน พร้อมท้งั การนาเสนอ

...........................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

๑๒๔

แบบประเมินหลงั แผนการจดั การเรียน

๑๒๕

แบบประเมินพฤติกรรมและผลงานระหว่างเรียน

ความหมาย

๑. ตง้ั ใจ หมายถงึ ความมานะ อดทนทางานจนเสรจ็ ( A )

๒. ความรว่ มมอื หมายถึง สมาชิกในกลมุ่ ให้ความรว่ มมือทางานจนเสรจ็ ( A )

๓. ความมีวนิ ัย หมายถึง ผลงาน หรือการทางานเป็นระบบระเบยี บเรียบร้อย สะอาด

สวยงาม และได้เนื้อหาครบถ้วน ทนั หรอื ตรงต่อเวลา ( A,K )

๔. คณุ ภาพของผลงาน หมายถงึ ผลงานเรยี บรอ้ ย สวยงาม เนอื้ หาครบถว้ น

ภาษาทใ่ี ช้เหมาะสม (P – Product, K)

๕. การนาเสนอผลงาน หมายถึง การพูดอธบิ ายนาเสนอผลงานได้ตามลาดับ

และเน้ือหาถูกต้อง ( P – Process, K )

เกณฑ์การประเมนิ

๔ หมายถงึ ทาไดด้ ีมาก ๓ หมายถึง ทาได้ดี

๒ หมายถึง ทาได้พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ

เลขท่ี ความต้งั ใจ ความรว่ มมอื ความมีวินัย คุณภาพของ การนาเสนอ รวม

(๔) (๔) (๔) ผลงาน (๔) ผลงาน (๔) (๒๐)

๑๒๖

เกณฑ์การให้คะแนนกระบวนการทางานกล่มุ

ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน/ระดับ
๑. การกาหนด –
๓๒๑
เปา้ หมายรว่ มกัน
สมาชิกทกุ คนมีสว่ น สมาชิกสว่ นใหญม่ ี สมาชิกส่วนน้อยมี
๒. การแบง่ หน้าท่ี
รับผดิ ชอบ ร่วมในการกาหนด สว่ นร่วมในการกาหนด ส่วนรว่ มในการกาหนด

๓. การปฏบิ ตั ิหน้าท่ี เปา้ หมายการทางาน เป้าหมายในการ เป้าหมายในการ
ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
อย่างชดั เจน ทางาน ทางาน
๔. การประเมนิ และ
ปรบั ปรงุ ผลงาน กระจายงานได้อย่าง กระจายงานไดท้ ัว่ ถงึ กระจายงานไม่ท่วั ถึง

ทวั่ ถงึ และตรงตาม แต่ไม่ตรงตาม

ความสามารถของ ความสามารถของ

สมาชกิ ทกุ คน สมาชกิ

ทางานได้สาเรจ็ ตาม ทางานไดส้ าเร็จตาม ทางานไมส่ าเร็จตาม

เปา้ หมายท่ีไดร้ ับ เป้าหมายแต่ชา้ กว่า เป้าหมาย

มอบหมาย ตาม เวลาทก่ี าหนด

ระยะเวลาที่กาหนด

สมาชกิ ทกุ คนรว่ ม สมาชิกบางส่วนมีส่วน สมาชกิ บางส่วนไม่มี

ปรึกษาหารือ ตดิ ตาม รว่ มปรกึ ษาหารือแต่ไม่ สว่ นร่วมปรึกษาหารอื

ตรวจสอบและปรบั – ชว่ ยปรบั ปรุงผลงาน และไม่ช่วยปรับปรงุ

ปรงุ ผลงานเป็นระยะ ผลงาน

๑๒๗

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๒ กล่มุ ท่ี …….....

ท่ี รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเหน็
๓๒๑
๑. การกาหนดเป้าหมายร่วมกนั
๒. การแบ่งหน้าทร่ี ับผิดชอบ
๓. การปฏิบตั ิตามหนา้ ท่ที ี่ได้รับมอบหมาย
๔. การประเมินและปรับปรุงผลงาน

รวม

ลงชอื่ ผ้ปู ระเมิน
( )

เกณฑ์การประเมิน ดมี าก
๑๑ – ๑๒= ดี
๘ – ๑๐ = พอใช้
๕–๖ = ปรบั ปรงุ
๐–๔ =

๑๒๘

เกณฑ์การประเมนิ การนาเสนอผลงาน

แนวทางการพจิ ารณา

หวั ขอ้ การพจิ ารณา/ระดับการปฏบิ ัติหรอื พฤติกรรม

ระดบั เนื้อหา กลวิธีการนาเสนอ ขัน้ ตอนการ การใชภ้ าษา ตอบคาถาม/
คะแนน นาเสนอ เวลา
๔ มกี ารเรยี งลาดับ
เน้อื หาไดด้ ี มกี ารนาเขา้ สูเ่ นอ้ื มกี ารนาเสนอ ออกเสียงถูกต้อง ตอบคาถามได้
มคี วามต่อเนอ่ื ง เรอ่ื ง มีความ อย่างมีภมู ริ ู้
มปี ระโยชน์ สัมพันธ์กับเนอ้ื อย่างต่อเนอ่ื ง ตามอักขรวิธแี ละดงั และมคี วาม
ให้แง่คิด เรื่อง เรา้ ใจผู้ฟงั ชัดเจน มีแหล่ง
มีความมัน่ ใจ ราบรน่ื เปน็ ไปตาม ชัดเจน ใชภ้ าษา อ้างองิ
ใชเ้ วลาตาม
ขน้ั ตอน เหมาะสม เข้าใจ กาหนด
ตอบคาถามได้
ง่าย มีการใช้ คอ่ นข้างชดั
เจน มแี หลง่
สานวนโวหาร อ้างองิ
ใช้เวลาเกนิ
๓ มีการเรยี งลาดับ มกี ารนาเขา้ ส่เู นื้อ การนาเสนอ ออกเสยี งถูกตอ้ ง กาหนด ๑
เรอ่ื ง มีความ ต่อเนอ่ื ง มีการ ตามอกั ขรวิธีและดงั นาที
เน้ือหาไดด้ ี สัมพนั ธก์ ับเนือ้ ขา้ มข้นั ตอนบา้ ง ชัดเจน ใชภ้ าษา ตอบคาถามได้
เร่อื ง เรา้ ใจผฟู้ ัง เหมาะสมเขา้ ใจงา่ ย ไมค่ ่อยชัดเจน
มคี วามต่อเนือ่ ง ไมม่ ีความมัน่ ใจใน ไมม่ ีการใช้สานวน มีแหล่งอา้ งองิ
การนาเสนอ โวหาร เปน็ บางสว่ น
มีประโยชน์ ใช้เวลาเกิน
กาหนด
ให้แง่คดิ นอ้ ย ๒ นาที
ตอบคาถาม
๒ มีการเรยี งลาดับ มกี ารนาเขา้ สเู่ นื้อ การนาเสนอ ออกเสยี งถกู ตอ้ ง ไมไ่ ด้เป็น
เรื่อง มคี วาม ตอ่ เนอื่ ง ไม่มี ตามอกั ขรวิธีและดงั สว่ นใหญ่
เนื้อหาไดด้ ี สัมพนั ธ์กบั เนอื้ ขน้ั ตอนเปน็ สว่ น ชัดเจน ใชภ้ าษา ใช้เวลาเกิน
เรอ่ื ง ไม่ เรา้ ใจผฟู้ ัง ใหญ่ เขา้ ใจยาก ไมม่ ี กาหนด ๕
มคี วามต่อเนอ่ื ง ไมม่ ีความมัน่ ใจใน การใชส้ านวน นาที
การนาเสนอ โวหาร
มปี ระโยชนน์ ้อยให้

แง่คดิ นอ้ ย

๑ มกี ารเรยี งลาดบั มีการนาเขา้ สู่เน้อื การนาเสนอ ออกเสียงถูกต้อง
เรื่อง ไมม่ ีความ ไมต่ ่อเนอื่ ง ตามอกั ขรวธิ ีและดัง
เน้อื หาไดด้ ี สมั พนั ธ์กับเนอ้ื นาเสนอสับสน ชดั เจน ใช้ภาษาไม่
เรอ่ื ง ไมเ่ ร้าใจผูฟ้ งั เหมาะสม เข้าใจ
ไม่มคี วามต่อเนื่อง ไมม่ ีความมั่นใจใน ยาก ไมม่ กี ารใช้
การนาเสนอ สานวนโวหาร
มปี ระโยชนน์ อ้ ยให้

แงค่ ิดน้อย

๑๒๙

แบบประเมินการนาเสนอผลงาน

กลุ่มที่............................................................ห้อง.......................

เนอื้ หา กลวธิ ี ขัน้ ตอนการ การใช้ การตอบ รวม

๔ การ นาเสนอ ภาษา คาถาม คะแนน

ประเดน็ นาเสนอ ๔ ๔ /เวลา ๒๐

ชือ่ – สกุล ๔๔
สมาชกิ
๑.
๒.
๓.
๔.
๕.
๖.
๖.
๘.

ลงช่อื ......................................................ผ้ปู ระเมิน
()
วนั ที่......เดือน......................ปี................

เกณฑก์ ารประเมนิ ๔ หมายถงึ ดีมาก
๓ หมายถึง ดี
๒ หมายถงึ พอใช้
๑ หมายถึง ตอ้ งปรับปรุง

๑๓๐

แผนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย

ภาคเรียนท่ี ๑
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒
หนว่ ยที่ ๓ ถกประเด็นทาเปน็ รายงาน

โดย

นางสาวธัญญาดล อปุ ชิตกุล

โรงเรียนโคกโพธไิ์ ชยศึกษา

อาเภอโคกโพธไ์ิ ชย จังหวัดขอนแก่น
สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษาเขต ๒๕

๑๓๑

แผนผงั ความคดิ การบูรณาการการเรยี นรู้
ภายในกลมุ่ สาระ

การฟงั การดู
การพูด

วรรณคดแี ละ การอ่าน
วรรณกรรม

การใช้ภาษา การเขยี น

๑๓๒

แผนผงั ความคดิ การบรู ณาการ
นอกกลมุ่ สาระ การเรยี นรู้

คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สงั คมศึกษา ฯ
-กำรนบั จำนวน - กำรคิดอยำ่ งเป็ น
-กำรจดั กลมุ่ -สะทอ้ นสภำพสงั คมไทย
ระบบ -คณุ ธรรมและมำรยำท
- กำรวเิ ครำะหเ์ รื่อง
- หลกั เศรษฐกิจ
พอเพยี ง

สขุ ศึกษาและ ถกประเด็น ภาษาองั กฤษ
พลศึกษา ทำเป็ น -ควำมหมำยของคำ
รำยงำน
-มนษุ ยสมั พนั ธ์ -เขยี นคำศัพท์
-กำรเคลอ่ื นไหว -เขยี นสำนวน
-กำรเลน่ เกม

การงานอาชีพ ศิลปะฯ
และเทคโนโลยี - กำรเรียนรู้
-กำรใชค้ อมพิวเตอร์ วฒั นธรรม
-ใชใ้ ชอ้ ินเทอรเ์ น็ต - วำดภำพประกอบ

-ขบั รอ้ งทำนองเสนำะ

๑๓๓

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๓.๑

กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๒

หน่วยที่ ๓ ถกประเด็นทาเปน็ รายงาน เวลา ๔ ชั่วโมง

เรือ่ ง อ่านคดิ พนิ ิจเรื่อง เวลา ๑ ช่ัวโมง

ใช้สอนวนั ที่ ....................................................................................................................

มาตรฐานที่ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรูแ้ ละความคิด เพื่อนาไปใช้ตดั สินใจ
แกป้ ัญหาในการดาเนนิ ชวี ติ และมีนิสัยรักการอา่ น

ตัวช้วี ดั
ท ๑.๑ ม. ม.๒/๑ อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถกู ต้อง
ท ๑.๑ ม. ม.๒/๒ จบั ใจความสาคัญ สรุปความและอธิบายรายละเอียด จากเรอ่ื งทอี่ ่าน

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/ท้องถ่ิน

ม.๒/๑ อ่านออกเสียงบท ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A)
ร้อยแก้วและบทร้อยกรอง
ได้ถูกต้อง - หลักการอ่านออก - ฝึกทักษะการอ่านออกเสยี ง -มีมารยาทในการอ่าน
ม.๒/๒ จับใจความสาคญั
สรปุ ความและอธิบาย เสียงรอ้ ยแก้วและร้อย รอ้ ยแก้วและรอ้ ยกรอง -อ่านได้ถกู ต้องชัดเจน
รายละเอียด จากเรื่องที่
อ่าน กรอง ตามหลกั การอ่าน

- หลกั การอา่ น - ฝึกทักษะการอ่านจับ - อา่ นจับใจความและ

จบั ใจความและ ใจความและสรปุ ความ สรุปความไดถ้ ูกต้อง

สรุปความ

สาระสาคญั
การอา่ นเพ่ือจับใจความสาคัญ เปน็ พื้นฐานท่ีจาเปน็ ในการศึกษาหาความรู้ จึงควรฝกึ ฝนให้เกิดความ

ชานาญจนสามารถจบั ใจความสาคญั ในงานเขียนทุกประเภท

สาระการเรยี นรู้
- การอา่ นในใจ อ่านจบั ใจความบทเรยี นเรือ่ ง ถกประเด็นทาเป็นรายงาน

๑๓๔

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
๑. ครูแจง้ ตวั ชี้วดั ในหนว่ ยท่ี ๓ ใหน้ กั เรยี นทราบ
๒. ครูสนทนากับนักเรียนเก่ียวกับ รายงาน การประชุม และคาศัพท์ท่เี กี่ยวข้อง วา่ มี

ความหมายอยา่ งไรแล้วครูให้นกั เรยี นศึกษาตวั อย่างรายงายการประชุม
๓. นักเรียนอ่านจับใจความสาคัญของเรื่องสถานการณ์จาลองการประชุม ในหนังสือเรียน วิวิธ

ภาษา หน้า ๑๐๕
๔ . เม่อื นกั เรยี นอา่ นจบและเข้าใจดแี ลว้ แตถ่ า้ ยังมีคาถามหรือข้อสงสยั หรอื ปรึกษากบั เพ่ือน

หรอื สอบถามกับครูผู้สอน
๕. ครูถามนักเรยี นวา่ เขา้ ใจทผ่ี ู้เขียนตอ้ งการส่อื หรือไม่ จากนั้นครกู ับนักเรยี นรว่ มกนั อภิปราย

เกี่ยวกับข้อคิดท่ไี ด้จากเร่ือง
๖. ให้นกั เรยี นทากิจกรรมบัตรกจิ กรรมการเรียนรู้
๗. ครูและนักเรียนช่วยกนั สรุปบทเรยี น ด้วยการแขง่ ขนั กนั ตอบคาถามจากเรื่องรวมท้งั สรุป

ความรูท้ ีไ่ ด้จากบทเรียนและการนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวัน

สื่อ / แหล่งเรยี นรู้

ลาดับท่ี รายการส่ือ กจิ กรรมที่ใช้ แหลง่ ที่ได้มา
๑ ตัวอยา่ งรายงานการประชมุ เพิม่ เติมความชดั เจนในเนื้อหา ครจู ดั เตรียม
นกั เรยี นทาบัตรกจิ กรรม ครูจัดทา
๒ บตั รกจิ กรรมการเรยี นรู้ นกั เรยี นดูภาพและฝึกอา่ น ครูจัดหา

๓ หนังสอื เรียน ชุด ววิ ธิ ภาษา
ชนั้ ม. ๒

๔ เฉลยบัตรกจิ กรรม ตรวจสอบแบบทดสอบ ครจู ดั ทา
ตรวจสอบบตั รกิจกรรม ครจู ดั ทา
๕ แบบประเมินการสังเกต บนั ทกึ การสงั เกตพฤติกรรม
พฤติกรรม

๑๓๕

การวดั ผลและประเมินผล

กิจกรรม-พฤติกรรมที่ เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ใน วิธกี ารประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ
ประเมิน
๒. นกั เรยี นตอบคาถาม การประเมิน
๓. นักเรยี นทาบตั รกิจกรรม
การเรยี นรู้ แบบประเมนิ รายกล่มุ สังเกตรายกลมุ่ รอ้ ยละ ๗๐ ขน้ึ ไป

๔. ประเมนิ พฤติกรรมและ แบบประเมนิ การสงั เกต ตรวจงานรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป
ผลงานระหว่างเรียน
พฤติกรรม และแบบ

ประเมินผลงาน

แบบประเมินพฤตกิ รรมและ ตรวจงานรายกลมุ่ รอ้ ยละ ๗๐ ขน้ึ ไป

ผลงานระหวา่ งเรยี น

กจิ กรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………
………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……………
............................................................................................................................. .................................................

๑๓๖

บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
๑. ผลการจัดการเรยี นรูต้ ามผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวัง
นักเรยี นท้ังหมด ....................คน
– ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดับดี ............ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ...............
– ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับปานกลาง – คน คิดเป็นร้อยละ .................
– ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ปรบั ปรุง – คน คดิ เปน็ ร้อยละ ...............
๒. ผลการประเมินพฤติกรรมระหว่างเรียน
............................................................................................................................. ...........................

..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

๓. ปัญหาและอุปสรรคระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน
.......................................................................................................................................... ..............
.................................................................................................................... ..........................................................
๔. การปรับปรุงแกไ้ ข
............................................................................................................................. ..............
................................................................................................................................................................ ..............
๕. ข้อคดิ เห็นและข้อเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงช่ือ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวธญั ญาดล อุปชิตกุล)
ครู วทิ ยฐานะครชู านาญการพิเศษ

๑๓๗

ความเหน็ ของผู้อานวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

........................................................................................................ ......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชื่อ.................................................ผู้ตรวจสอบ
( ................................................. )

ผู้อานวยการโรงเรยี นโคกโพธิ์ไชยศึกษา

๑๓๘

บัตรกจิ กรรมการเรียนรู้

คาชี้แจง ให้นักเรยี น อา่ นสถานการณล์ องจากเรื่อง ถกประเดน็ ทาเปน็ รายงานแลว้ สรปุ ใจความสาคัญดังน้ี

เป็นการประชุมของกล่มุ ใด
..........................................................................................................................................
ผทู้ าหนา้ ท่ีจดบันทึกเรอ่ื งราวที่ประชมุ คอื
..........................................................................................................................................
มีใครอยใู่ นทปี่ ระชุมบา้ ง
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
มีการประชุมในหวั ขอ้ ใดบ้าง
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
ใครได้พูดแสดงความคดิ เห็นบ้าง
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................

๑๓๙

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๓.๒

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒

หนว่ ยท่ี ๓ ถกประเดน็ ทาเป็นรายงาน เวลา ๔ ชว่ั โมง

เร่ือง ร้เู ฟอ่ื งเร่ืองเขยี นรายงานการประชุม เวลา ๑ ชั่วโมง

ใชส้ อนวันที่

...................................................................................................................................................

มาตรฐานท่ี ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขียนเรื่องราว
มาตรฐานท่ี ท ๓.๑ ในรปู แบบตา่ งๆ เขยี นรายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้
อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
สามารถเลอื กฟังและดอู ย่างมีวิจารณญาณและสอนพดู แสดงความรู้ ความคิด และ
ความรสู้ กึ โอกาสต่างๆ อย่างมวี ิจารณญาณและสรา้ งสรรค์

ตัวชวี้ ดั
ท ๒.๑ ม.๒/๕ เขียนรายงานจากการศึกษาคน้ ควา้
ท ๒.๑ ม.๒/๘ มีมารยาทในการเขียน
ท ๓.๑ ม.๒/๑ พดู สรุปใจความสาคญั ของเร่ืองท่ีฟงั และดู

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง

ตัวชี้วดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง/ท้องถ่ิน

ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A)

ท ๒.๑ ม.๒/๕ เขียน - นิยามและตวั อยา่ ง - ฝึกวิเคราะห์ จาแนก - มีมารยาทในการอ่าน

รายงานจากการศกึ ษา ขอ้ เท็จจรงิ ข้อเทจ็ จริง ข้อคดิ เห็น

คน้ ควา้ ข้อคดิ เหน็

ท ๒.๑ ม.๒/๘ มมี ารยาท - หลกั การเขยี น - ฝึกเขียน - มนี ิสยั รกั การเขียน

ในการเขียน

ท ๓.๑ ม.๒/๑ พูดสรปุ การพดู สรุปความ ฝกึ พดู สรปุ ความ - มมี ารยาทในการพดู

ใจความสาคัญของเรอื่ งที่ - มีมารยาทในการฟงั

ฟงั และดู การดู

๑๔๐

สาระสาคัญ
เรยี นรู้เรอื่ งรายงานการประชุม

สาระการเรียนรู้
- รายงานการประชมุ

กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. ครูสนทนากบั นกั เรียนเกย่ี วกับ รายงาน และการประชุม
๒. นักเรียนอ่านจับใจความสาคัญของเรื่องรายงานการประชุม ในหนังสือเรียน วิวิธภาษา หน้า

๑๐๙
๓ . เมื่อนกั เรยี นอา่ นจบและเข้าใจดีแล้ว ให้นกั เรียนตงั้ และตอบคาถามจากเรื่อง คนละ ๕ ข้อ

ใหป้ รกึ ษากบั เพื่อนแลว้ แลกเปลย่ี นกนั ตอบคาถาม
๔. ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกนั สรุปบทเรยี น จากการแข่งขนั กันเขยี นคา และกลมุ่ คา

บนกระดานดา โดยให้นักเรียนตอบคาถาม ดงั น้ี

- นักเรยี นรไู้ หมว่าคาเหล่านี้เป็นคาชนดิ ใด
- คาเหลา่ นที้ าหนา้ ท่ีในประโยคอะไรไดบ้ ้าง
- คาเหล่านส้ี ามารถนาไปใชแ้ ต่งประโยคได้อย่างไรบา้ ง
- นักเรียนคดิ ว่าจะนาคาเหล่านี้ไปใช้เปน็ ประโยชนท์ างภาษาไดอ้ ย่างไรหรือไม่ ฯลฯ
๕. ใหน้ ักเรียนทากจิ กรรมบตั รกจิ กรรมการเรียนรู้
๖. ครูและนกั เรยี นช่วยกนั สรปุ บทเรยี น รวมทัง้ สรปุ พฤติกรรมความพอเพียงด้านต่างๆที่ได้จาก
บทเรยี นและการนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั

ส่อื / แหล่งเรยี นรู้

ลาดับท่ี รายการสอื่ กจิ กรรมทใ่ี ช้ แหลง่ ทีไ่ ด้มา
เพมิ่ เติมความชดั เจนในเนื้อหา ครูจัดเตรยี ม
๑ ขอ้ คาถาม นกั เรยี นทาบัตรกจิ กรรม ครจู ดั ทา
นักเรียนดูภาพและฝึกอ่าน ครจู ดั หา
๒ บัตรกจิ กรรมการเรียนรู้
ตรวจสอบแบบทดสอบ ครจู ดั ทา
๓ หนังสือเรยี น ชุด วิวิธภาษา ตรวจสอบบัตรกิจกรรม
ชน้ั ม. ๒ บนั ทึกการสงั เกตพฤติกรรม ครูจัดทา

๔ เฉลยบัตรกิจกรรม

๕ แบบประเมนิ การสงั เกต
พฤติกรรม

๑๔๑

การวดั ผลและประเมินผล

กิจกรรม-พฤตกิ รรมที่ เครื่องมอื ที่ใชใ้ น วธิ ีการประเมิน เกณฑ์การประเมนิ
ประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายกลุม่ รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป
๑. นกั เรยี นตง้ั และตอบ
คาถาม แบบประเมนิ รายกลุ่ม
๒. นักเรียนทาบัตรกิจกรรม
การเรียนรู้ แบบประเมนิ การสังเกต ตรวจงานรายบคุ คล ร้อยละ ๗๐ ขึน้ ไป
พฤติกรรม และแบบ
๓. ประเมินพฤติกรรมและ ประเมนิ ผลงาน
ผลงานระหว่างเรียน แบบประเมินพฤตกิ รรมและ ตรวจงานรายกลุม่ ร้อยละ ๗๐ ขน้ึ ไป

ผลงานระหวา่ งเรยี น

กิจกรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………
………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……………
............................................................................................................................. .................................................

๑๔๒

บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
๑. ผลการจดั การเรยี นร้ตู ามผลการเรียนรทู้ ค่ี าดหวัง
นักเรยี นทง้ั หมด ....................คน
– ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ............ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ...............
– ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับปานกลาง – คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................
– ไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั ปรับปรงุ – คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ...............
๒. ผลการประเมนิ พฤตกิ รรมระหวา่ งเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

๓. ปัญหาและอุปสรรคระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. ...........................
....................................................................................................... .......................................................................
๔. การปรับปรงุ แก้ไข
............................................................................................................................. ..............
............................................................................................................................. .................................................
๕. ขอ้ คิดเห็นและข้อเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชือ่ ..........................................................ผูส้ อน
(นางสาวธัญญาดล อุปชติ กลุ )
ครู วิทยฐานะครชู านาญการพิเศษ

๑๔๓

ความเหน็ ของผู้อานวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

........................................................................................................ ......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชื่อ.................................................ผู้ตรวจสอบ
( ................................................. )

ผู้อานวยการโรงเรยี นโคกโพธิ์ไชยศึกษา

๑๔๔

บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้

ให้นักเรยี น เขยี นสรปุ รูปแบบรายงานการประชุม

..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................
..........................................................................................................................................

๑๔๕

เฉลยบตั รกจิ กรรมการเรียนรู้

รายงานการประชุมคณะกรรมการ....................
คร้ังท่ี.....................

วนั .....................ที่..........เดือน...........................พ.ศ. ..............เวลา...........น.
ผมู้ าประชุม

๑. ............................................................ประธานกรรมการ
๒. ............................................................กรรมการ
๓. ............................................................กรรมการ
๔. ............................................................กรรมการ
๕. ............................................................กรรมการและเลขานุการ
ผไู้ ม่มาประชุม
๑. ............................................................เหตุผลที่ไม่มาประชุม
เริ่มประชุมเวลา................................. น.
ระเบียบวาระที่ ๑ เรื่องแจง้ เพ่อื ทราบ

..........................................................................................
ระเบียบวาระท่ี ๒ เร่ืองรับรองรายงานการประชุมคร้ังท่ีผา่ นมา

..........................................................................................
ระเบียบวาระที่ ๓ เร่ืองสืบเน่ือง

..........................................................................................
ระเบียบวาระที่ ๔ เร่ืองเสนอเพอื่ พิจารณา

..........................................................................................
ระเบียบวาระท่ี ๕ เรื่องอ่ืนๆ (ถา้ มี)

..........................................................................................
ปิ ดประชุมเวลา.........................................น .

(ลงช่ือ).......................................
(นาย/นาง/นางสาว.......................)

ผบู้ นั ทึกการประชุม

๑๔๖

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๓.๓

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๒

หนว่ ยท่ี ๓ ถกประเดน็ ทาเป็นรายงาน เวลา ๔ ชั่วโมง

เรือ่ ง อา่ นคดิ วิเคราะหค์ าศัพท์ เวลา ๑ ชัว่ โมง

ใชส้ อนวันที่ ............................................................................................................................................

มาตรฐานที่ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความร้แู ละความคิด เพ่ือนาไปใช้ตัดสนิ ใจ
มาตรฐานที่ ท ๓.๑ แกป้ ัญหาในการดาเนินชีวิตและมนี ิสยั รักการอา่ น
สามารถเลอื กฟังและดู อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้
ความคิด ความรู้สึกในโอกาสต่างๆ อย่างมีวจิ ารณญาณและสรา้ งสรรค์

ตัวชี้วดั
ท ๑.๑ ม.๒/๒ จับใจความสาคญั สรปุ ความและอธิบายรายละเอยี ด จากเรอ่ื งทอี่ ่าน
ท ๑.๑ ม.๒/๕ วเิ คราะหแ์ ละจาแนกข้อเท็จจรงิ ข้อมูลสนับสนนุ และขอ้ คิดเหน็ จากบทความทอี่ ่าน
ท ๓.๑ ม.๒/๕ พูดรายงานเรอื่ ง หรอื ประเดน็ ที่ศกึ ษาคน้ คว้า

สาระการเรียนรู้แกนกลาง

ตัวช้ีวัด ความรู้ (K) สาระการเรยี นรู้แกนกลาง/ท้องถิ่น
- หลักการอา่ น ทักษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A)
ท ๑.๑ ม.๒/๒ จับ จับใจความและ
ใจความสาคญั สรปุ ความ สรปุ ความ - ฝกึ ทักษะการอา่ นจบั - อา่ นจบั ใจความและ
และอธบิ ายรายละเอยี ด ใจความและสรปุ ความ สรปุ ความได้ถูกต้อง
จากเรอ่ื งท่อี า่ น
ท ๑.๑ ม.๒/๕ วิเคราะห์ - นยิ ามและตัวอยา่ ง - ฝึกวิเคราะห์ จาแนก - มีมารยาทในการอ่าน
และจาแนกขอ้ เท็จจรงิ ขอ้ เท็จจรงิ ข้อเทจ็ จริง ขอ้ คิดเหน็
ข้อมูลสนบั สนุนและ ขอ้ คิดเหน็
ข้อคิดเหน็ จากบทความท่ี
อา่ น

ท ๓.๑ ม.๒/๕ พูด หลักการพูดรายงาน ฝึกพูดรายงานจาก -มีมารยาทในการพูด
รายงานเร่อื ง หรือประเด็น การคน้ คว้า
ท่ศี ึกษาค้นควา้

๑๔๗

สาระสาคญั
จุดมุ่งหมายของการประชุม ภาษาในการประชุม และมารยาทในการประชุม

สาระการเรยี นรู้
ศัพท์ท่เี กย่ี วข้องกบั การประชมุ

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเก่ียวกับ รายงาน และการประชมุ มารยาทในการประชุม
๒. นักเรียนอ่านจับใจความสาคัญของเร่ืองศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการประชุมในหนังสือเรียน วิวิธ

ภาษา หน้า ๑๑๕
๓. นกั เรยี นเลม่ เกม “การเลือกใช้คาแตง่ ประโยค” (ยดื หยนุ่ ตามความเหมาะสม)
๔. นกั เรียนแบ่งกล่มุ ออกเป็นกลุ่มตามความสมัครใจ (ตามความเหมาะสม)
๕. นาบตั รคาใหม่และคายากในบทเรียน ตดิ ท่กี ระเป๋าผนงั และใหน้ ักเรยี นทุกคนฝึกอ่าน

รว่ มกนั อภปิ รายความหมายบันทกึ ลงสมดุ
๖. แจกบตั รคาใหม่คายากในบทเรียนใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ ได้ศึกษาและฝึกอ่าน
๗. นกั เรียนทุกกลมุ่ หาคาใหม่ศัพทจ์ ากเร่ือง แลว้ ช่วยกนั แตง่ ประโยคใหม่ โดยไมใ่ ห้ซา้ กนั กลุม่

ละ ๕ คา แลว้ บันทึกลงสมุด แล้วสง่ ตวั แทนกลมุ่ นาเสนอผลงานหน้าชนั้ เรยี น
๘. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจผลงานของแตล่ ะกล่มุ พร้อมท้ังอภิปรายสรุปการเลือกใช้คาให้

ถูกต้องตามความหมาย ปรบมอื และกลา่ วใหค้ าชมเชยกลุม่ ท่ีแตง่ ประโยค ไดถ้ กู ต้อง
๙. นักเรียนแข่งขันกนั เขยี นคา กลุ่มคา สานวนภาษา บนกระดานดากลุม่ ใดเขยี นได้มาก

เขียนถูกต้อง เปน็ ฝา่ ยชนะ
๑๐. ใหน้ ักเรียนทากิจกรรมบัตรกจิ กรรมการเรียนรู้