The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ธัญญาดล อุปชิตกุล, 2020-05-06 02:43:47

แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

๔๔๘

๒. คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นแต่งประโยคจากคาที่กาหนดใหจ้ ากบทเรียนเร่อื ง “กาพย์หอ่ โคลงประพาส

ธารทองแดง”

เกษม ……………………………………………………………………………

พฤกษา ……………………………………………………………………………

สาอาง ……………………………………………………………………………

สาลกิ า ……………………………………………………………………………

โนรี ……………………………………………………………………………

มจั ฉา ……………………………………………………………………………

กระจิด ……………………………………………………………………………

กระจ้ยุ ……………………………………………………………………………

เคี่ยว ……………………………………………………………………………

ไคล ……………………………………………………………………………

จอก ……………………………………………………………………………

ฉวาง ……………………………………………………………………………

ช้อย ……………………………………………………………………………

ซรอ้ งนงพงา ……………………………………………………………………………

ตน้ พวา ……………………………………………………………………………

แปล้ ……………………………………………………………………………

ไปล่ ……………………………………………………………………………

ผาดผัง ……………………………………………………………………………

เพรา ……………………………………………………………………………

รางชาง ……………………………………………………………………………

๔๔๙

เฉลยบัตรกจิ กรรมการเรียนรู้

๑. ให้นักเรยี นทา “กิจกรรมคาศัพทล์ บั สมอง” ตามข้นั ตอนดงั นี้

- หาคาศัพท์จากเรื่องประพาสธารทองแดงมาเติมลงในตารางท้งั แนวตง้ั และแนวนอน โดยดูจาก

ความหมายที่ให้มา

- แต่ละช่องเตมิ ได้ ๑ ตัวอักษร ในกรณีมี

เติมไว้ใน

ตัวอักษรช่องเดยี วกัน สว่ น ะ า ำ เ แ ไ ใ โ เตมิ แยกช่องตา่ งหาก

คาศัพท์ลบั สมอง เ๗
ก๙ ร ๑ ะ จ้ อ ย ๔

า ง โ ๖ นี

ธ ๑๐ ง ฉ า น ๓ พิ ๑๑ น า ย

ชก รี ม

า กั ๕ ส๘
ธ ๑๒ ง ไ ช ย น

โ ๑๓ ท ๒ น กอ

ทอ ง แดง

๑๔

อ มู ๑๖ ทู นิ้
นั ก ส น ม ว

แนวตั้ง แนวนอน
๑. งาม สวย ๑๐. ธงนาหนา้ กองทพั
๒. ช้างตัวใหญ่ทีเ่ ป็นจา่ ฝูง ๑๑. ชา้ งตวั เมยี ท่ธี รรมชาตสิ รา้ งให้ผิดประหลาด
๓. สัตว์ปีก ใช้ปกี บินบนท้องฟ้า
๔. กลา้ หาญ มีงางอกออกมาด้านซา้ ยนดิ เดียว
๕. ลอ้ มวง , กนั รอบ ๑๒. ธงซงึ่ เปน็ เคร่ืองหมายของชยั ชนะ
๖. นกปากขอ มลี กั ษณะคล้ายนกแก้ว ๑๓. โดดเด่ียว ชา้ งท่ชี อบแยกฝูงออกไปหากินตวั
๗. เรียกชา้ งทม่ี ีงาที่ใหญ่ แต่ส้ันมักจะชต้ี รง เดยี ว
๘. ชน้ี ว้ิ ๑๔. ชา้ งตระกูลหน่งึ มีสกี ายเปน็ สีทองแดง
๙. เล็กนอ้ ย ๑๕. หญงิ คนใช้ในวงั
๑๖. มทู่ ู่ ป้าน ไมแ่ หลม

๔๕๐

๒. คาชี้แจง ให้นักเรยี นแตง่ ประโยคจากคาท่ีกาหนดใหจ้ ากบทเรยี นเรือ่ ง “กาพยห์ อ่ โคลงประพาส

ธารทองแดง”

เกษม ……………………………………………………………………………

พฤกษา ……………………………………………………………………………

สาอาง ……………………………………………………………………………

สาลิกา ……………………………………………………………………………

โนรี ……………………………………………………………………………

มจั ฉา ……………………………………………………………………………

กระจดิ ……………………………………………………………………………

กระจุ้ย ……………………………………………………………………………

เค่ยี ว ……………………………………………………………………………

ไคล ……………………………………………………………………………

จอก ……………………………………………………………………………

ฉวาง ……………………………………………………………………………

ชอ้ ย ……………………………………………………………………………

ซรอ้ งนงพงา ……………………………………………………………………………

ตน้ พวา ……………………………………………………………………………

แปล้ ……………………………………………………………………………

ไปล่ ……………………………………………………………………………

ผาดผัง ……………………………………………………………………………

เพรา ……………………………………………………………………………

รางชาง ……………………………………………………………………………

(อยใู่ นดลุ พนิ จิ ของครูผสู้ อน)

๔๕๑

แบบสังเกตพฤติกรรมการอา่ น
คาชแ้ี จง ให้ทาเครื่องหมาย / ลงในช่องรายการสงั เกตพฤติกรรมที่กาหนด

รายการสังเกตความสนในเร่ือง
่ีท ่อาน
เลข ชอ่ื – สกลุมีมารยาทใน
ท่ี การ ่อาน
มีสมา ิธในการ
๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑ ๐๒๑๐อ่าน
๑ อ่านคา ูถก ้ตอง
๒ น้าเสียงชัดเจน
๓ ูถก ้ตอง
๔ อ่านไ ่มกดหรือ
๕ เ ิตมคา
๖ ัจบหนังสือไ ้ด
๗ ูถกต้อง
๘ สรุปผลการประเ ิมน

๑๐ ผ่าน / ไม่ผ่าน
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ๒= ดี, ๑ = ปานกลาง, ๐ = ต้องปรบั ปรงุ แกไ้ ข
(ลงช่อื )……………………………………….ผู้ประเมนิ
วนั ท่ี……….เดอื น…………………….พ.ศ………………

๔๕๒

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๘.๖

กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ ๒

หน่วยท่ี ๘ กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง เวลา ๗ ชว่ั โมง

เรอื่ ง รอ้ ยกรองร้อยความคดิ เวลา ๑ ช่ัวโมง

ใช้สอนวนั ท่ี ....................................................................................................................

มาตรฐานที่ ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพ่ือนาไปใชต้ ดั สนิ ใจแก้ปัญหาในการ
มาตรฐานท่ี ท ๔.๑ ดาเนนิ ชีวิตและมนี สิ ยั รกั การอ่าน
เขา้ ใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลยี่ นแปลงของภาษาและพลังของ
ภาษา ภมู ปิ ัญญาทางภาษาและรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติ

ตัวช้วี ดั
ท ๑.๑ ม.๒/๑ อ่านออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถูกตอ้ ง
ท ๔.๑ ม.๒/๓ แตง่ บทร้อยกรอง

สาระการเรียนร้แู กนกลาง

ตัวชวี้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง/ท้องถิน่

ท ๑.๑ ม.๒/๑ อ่านออก ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลกั ษณะ (A)
เสียงบทร้อยแก้วและบท
รอ้ ยกรองได้ถกู ต้อง - หลกั การอ่านออก - ฝกึ ทักษะการอ่านออกเสยี ง -มมี ารยาทในการอ่าน
ท ๔.๑ ม.๒/๓ แต่งบท
รอ้ ยกรอง เสยี งร้อยแก้วและรอ้ ย รอ้ ยแกว้ และร้อยกรอง -อา่ นได้ถูกต้องชัดเจน

กรอง ตามหลกั การอา่ น

การแตง่ กลอนสุภาพ ฝึกแต่งกลอนสภุ าพ - แต่งกลอนสุภาพ

การแตง่ โคลงส่สี ภุ าพ ฝึกแต่งโคลงสส่ี ุภาพ -แตง่ โคลงสีส่ ภุ าพ

ได้ถูกตอ้ งตาม

ฉนั ทลักษณ์

๔๕๓

สาระสาคญั
๑. การอ่านบทรอ้ ยกรองได้ถูกตอ้ งไพเราะสละสลวย และเข้าใจสาระการเรยี นรู้ทาให้

เห็นความงาม และคณุ ค่าของภาษาไทย เป็นการสง่ เสรมิ ศลิ ปวฒั นธรรมทางภาษาของชาติ
๒. การเขยี นบทร้อยกรองโดยเขา้ ใจลกั ษณะฉนั ทลักษณ์ของคาประพนั ธ์ และเขยี นสาระ

การเรยี นรูไ้ ดเ้ หมาะสม จะทาให้ผูอ้ ่านเกิดความซาบซึง้ และเหน็ คุณคา่ ของภาษาไทยมากขน้ึ

สาระการเรียนรู้
๑. การอ่านบทเรยี น เรื่อง กาพยห์ อ่ โคลงประพาสธารทองแดง
๒. การฝึกแต่งคาประพันธ์ประเภทบทพากย์

กระบวนการเรยี นรู้
๑. นักเรียนและครูร่วมกันสนทนาถงึ การอนรุ ักษภ์ าษาไทยในฐานะท่เี ป็นศิลปวฒั นธรรม

และเอกลักษณ์ของชาติ
๒. แบง่ นกั เรียนออกเปน็ กลมุ่ (ตามความเหมาะสม) โดยใหแ้ ต่ละกลุ่มศึกษาบทร้อยกรอง

กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง จากหนงั สอื เรียนภาษาไทย ชุดวรรณคดวี ิจักษ์ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่
๒ โดยดาเนนิ การ

-สารวจคาศพั ท์หรือสานวนภาษา
-ศกึ ษาคาอ่านและความหมายร่วมกัน
-สมาชกิ ในกลมุ่ อภปิ รายสรปุ ใจความสาคญั และข้อคดิ ที่ได้จากบทร้อยกรอง เรอ่ื ง สังคมคน
ไทย
-นักเรียนร่วมกนั ฝึกอา่ นบทร้อยกรองเปน็ ทานองเสนาะ แนะนา ขอ้ บกพร่อง และ
แนวทางแก้ไขใหแ้ ก่เพื่อนภายในกลุม่
-นักเรยี นผลดั เปลย่ี นกันอา่ นบทร้อยกรองเปน็ ทานองเสนาะและให้เพื่อนในกลุ่มทีเ่ หลือ
ประเมนิ ผลการอ่าน
๓. นกั เรยี นทุกกลมุ่ ชว่ ยกนั ลากเสน้ โยงคาเสน้ สัมผสั ระหวา่ งวรรคของคาประพันธป์ ระเภท
บทพากย์ จากแบบฝกึ หัด
๔. นาแผนผงั คาประพนั ธบ์ ทพากย์ ตดิ กระดานดา และให้ทกุ กลมุ่ ตรวจสอบความถูกต้อง
ให้สมาชกิ แตล่ ะกล่มุ แข่งขนั กันเรยี งแถบขอ้ ความให้ถูกต้องตามลกั ษณะกลอนแปด ตามข้นั ตอน
๕. นักเรยี นและครูชว่ ยกันสรปุ บทเรียน เร่อื ง การอ่านบทร้อยกรองให้เป็นทานองเสนาะ
และสรุปหลกั เกณฑใ์ นการแต่งคาประพันธ์ประเภทบทกาพย์
๖. นกั เรียนทาบัตรกจิ กรรมการเรียนรู้

๔๕๔

ส่ือ / แหล่งเรียนรู้

ลาดับที่ รายการส่อื กิจกรรมทใ่ี ช้ แหล่งทีไ่ ด้มา
๑ นกั เรียนทาบัตรกจิ กรรม ครูจัดทา
๒ บัตรกจิ กรรมการเรยี นรู้ นกั เรยี นดูภาพและฝกึ อ่าน ครจู ัดหา

๓ หนังสอื เรยี น ชุด วรรณคดี ตรวจสอบ ครูจดั ทา
๔ วิจกั ษ์ ช้ัน ม.๒ บนั ทกึ การสงั เกตพฤติกรรม ครจู ัดทา
เฉลยบตั รกิจกรรมการเรียนรู้
แบบประเมนิ การสังเกต
พฤติกรรม

การวัดผลและประเมนิ ผล

กิจกรรม-พฤติกรรมท่ี เคร่อื งมอื ทีใ่ ชใ้ น วธิ กี ารประเมนิ เกณฑ์การประเมิน
ประเมนิ การประเมิน
๑. นกั เรียนนาเสนอ
๒. นกั เรยี นทาบตั รกิจกรรม แบบประเมินรายกลุ่ม สังเกตรายกลมุ่ รอ้ ยละ ๗๐ ขึน้ ไป
การเรียนรู้
แบบประเมนิ การสังเกต ตรวจงานรายบุคคล ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป
๓. ประเมนิ พฤติกรรมและ
ผลงานระหวา่ งเรียน พฤติกรรม และแบบ

ประเมินผลงาน

แบบประเมนิ พฤติกรรมและ ตรวจงานรายกลุ่ม รอ้ ยละ ๗๐ ข้นึ ไป

ผลงานระหวา่ งเรียน

กิจกรรมเสนอแนะ
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ..........................

๔๕๕

บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
๑. ผลการจดั การเรียนรู้ตามผลการเรียนรทู้ ่คี าดหวัง
นักเรียนทง้ั หมด ....................คน
– ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับดี ............ คน คิดเป็นร้อยละ ...............
– ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับปานกลาง – คน คดิ เป็นร้อยละ .................
– ไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดบั ปรับปรงุ – คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ...............
๒. ผลการประเมนิ พฤตกิ รรมระหวา่ งเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

๓. ปญั หาและอปุ สรรคระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนการสอน
............................................................................................................................. ...........................
.......................................................................................... ....................................................................................
๔. การปรบั ปรงุ แก้ไข
............................................................................................................................. ..............
...................................................................................................................................... ........................................
๕. ขอ้ คิดเหน็ และข้อเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
............................................................................................................................. ...........................
....................................................................................................... .......................................................................

ลงช่ือ..........................................................ผูส้ อน
(นางสาวธญั ญาดล อุปชติ กลุ )
ครู วทิ ยฐานะครูชานาญการพิเศษ

๔๕๖

ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรียน
............................................................................................................................. ...........................

..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชอ่ื .................................................ผตู้ รวจสอบ
( ................................................. )

ผอู้ านวยการโรงเรียนโคกโพธ์ิไชยศึกษา

๔๕๗

บตั รความรู้

เร่อื ง “การแต่งโคลงสี่สภุ าพ”

โคลง คือ คาประพันธ์ซ่ึงวิธีเรียงร้อยถ้อยคาเข้าคณะ มีกาหนดเอกโทและสัมผัสโคลงมีลักษณะ
บังคับ ๖ อย่างไดแ้ ก่ คณะ พยางค์ สมั ผัส คาเอก คาโท คาเปน็ คาตาย และคาสร้อย

ในใบความรู้ประกอบน้จี ะกล่าวถึงเฉพาะ “โคลงสสี่ ุภาพ” เทา่ นน้ั
คา “สุภาพ” ในโคลงน้ัน อาจารย์กาชัย ทองหล่อ ได้อธิบายไว้ว่า มีความหมายเป็น ๒ อย่าง
คือ
๑. หมายถงึ คาทไ่ี มม่ เี คร่อื งหมายวรรณยุกต์เอกโท (คือ คาธรรมดาท่ีไมก่ าหนดเอก
โทจะมีหรือไม่มกี ไ็ ด)้
๒. หมายถึง การบงั คบั คณะและสัมผัสอย่างเรยี บๆ ไม่โลดโผน โคลงสภุ าพทง้ั ๗
ชนดิ มลี ักษณะแตกตา่ งกัน ดงั จะไดอ้ ธบิ ายตอ่ ไป
กอ่ นอนื่ นกั เรียนควรรจู้ กั ลักษณะระดบั ของโคลง ซงึ่ มีดงั นี้
๑. คณะ คือ ขอ้ กาหนดเก่ียวกับรปู แบบของคาประพนั ธ์แต่ละชนดิ วา่ จะต้อง
ประกอบดว้ ยสว่ นยอ่ ยๆ อะไรบ้าง
คาทเี่ ป็นคายอ่ ยของคณะ ได้แก่ บท บาท วรรค คา
ลักษณะบงั คับข้อน้สี าคัญมาก คาประพนั ธท์ กุ ชนดิ จะตอ้ งมคี ณะ ถา้ ไมม่ ีก็ไม่เป็นคาประพันธ์ คณะท่ี
เป็นสิ่งทช่ี ่วยกาหนดรูปแบบของคาประพนั ธแ์ ต่ละชนดิ ใหเ้ ปน็ ระเบยี บเพ่ือใชเ้ ปน็ หลกั ในการแต่งต่อไป
๒. พยางค์ คือ เสียงที่เปล่งออกมาครงั้ หนงึ่ ๆ บางทีกม็ ีความหมาย เชน่ เมืองไทยนี้ดี
บางทีก็ไม่มีความหมาย แต่เป็นส่วนหน่ึงของคา เช่น ภิ ในคา อภินิหาร ยุ ในคายุวชน กระ ในคา
กระถาง เปน็ ตน้
เน่ืองจากคนไทยเราแต่เดิมมีพยางค์เดียวโดยมาก ฉะนั้นในการแต่งคาประพันธ์เราถือว่าพยางค์ก็คือ
คาน่นั เอง ในคาประพันธแ์ ตล่ ะชนดิ มกี ารกาหนดพยางค์ (คา) ไว้แนน่ อน ว่าวรรคหน่ึงมกี ี่พยางค์ (คา)
ในคาประพนั ธป์ ระเภทฉนั ท์ ซึง่ ถือ ครุ ลหุ เป็นสาคัญ เรานับแต่ละพยางค์เป็น ๑ คาเสมอ เช่น
สจุ รติ นบั เปน็ ๓ พยางค์ (๓ คา) แต่ถ้าสุจรติ ไปอยู่ในโคลง เชน่
“สุจริต คือ เกราะบัง ศาสตร์พ้อง” เรานับเพียง ๒ คาเท่านั้น คือ ให้รวมเสียง ลหุ ๒
พยางคท์ ่ีอยใู่ กล้กัน เป็น ๑ คา
และในทานองเดียวกัน ถ้าคาใดมี ๒ พยางค์ เป็นลหุพยางค์หน่ึง เช่น กระถาง สมัคร ตลอด
สะบดั กอ็ นุโลมให้นับเปน็ ๑ พยางค์ (คา) ได้

๔๕๘

จะเห็นได้ว่าในการนับพยางค์ (คา) น้ันต้องแล้วแต่ลักษณะบังคับของร้อยกรองแต่ละประเภท ซ่ึงผู้
แต่งคาประพนั ธ์จะตอ้ งสงั เกตใหด้ ี

๓. สัมผัส คอื ลกั ษณะที่ยงั บงั คับให้ใช้คาคลอ้ งจองกนั สมั ผสั เปน็ ลักษณะท่สี าคัญ
ที่สุดในคาประพันธ์ของไทย คาประพันธ์ทกุ ชนิดจาเป็นตอ้ งมีสัมผัส

๔. คาเอก คาโท หมายถึง พยางคท์ ่บี งั คบั ด้วย ไม้เอก และไม้โท สาหรับใชก้ ับ
คาประพนั ธป์ ระเภทโคลงเท่านน้ั มีขอ้ กาหนดดังนี้

คาเอก ได้แก่ พยางคท์ ีม่ ีไม้เอกบงั คบั ทั้งหมด เชน่ จา่ ป่ี ขี่ ส่อ น่า ค่ี และพยางค์ที่เป็นคาตาย
ท้ังหมด จะมเี สยี งวรรณยุกต์ใดก็ได้ เชน่ กาก บอก มาก โชค คิด รัก

คาเอกโทษ คือ คาท่ไี มเ่ คยใช้ไม้เอกแต่เอามาแปลงใช้โดยเปลี่ยนวรรณยุกต์ เป็นเอกเพื่อให้
ได้เสียงเอกตามบังคับ เช่น เส้ียม เปลี่ยนเป็น เซี่ยม, สร้าง เปลี่ยนเป็น ซ่าง คาเช่นนี้ อนุโลมให้เป็นคา
เอกได้

คาโท ไดแ้ ก่ พยางค์ท่มี ีไม้โทบงั คบั ทง้ั หมด เชน่ ถ้า ป้า นา้ นอ้ ย ป้อม ยิม้
คาโทโทษ คอื คาที่ไม่เคยใชไ้ มโ้ ท แตเ่ อาแปลงใช้โดยเปลยี่ นวรรณยุกต์เป็นโท เพ่ือได้เสียง

โทตามบงั คบั เชน่ เล่น เปล่ียนเป็น เหลน้ , ช่วย เปลีย่ นเป็นฉว้ ย คาเช่นน้อี นุโลมใหเ้ ปน็ คาโทได้
๕. คาเป็น คาตาย
คาเป็น ได้แก่ พยางค์ที่ผสมด้วยสระเสียงยาวในมาตราแม่ ก กา เช่น มา ข่ี ถือ เมีย กับ

พยางค์ท่ีผสมด้วย สระ อา ไอ ใอ เอา เช่น ทา ไม่ เขา และพยางค์ที่สะกดด้วยมาตราแม่ กง กน
เกย เกอว เชน่ สงั่ ถ่าน ลม้ ตาย เรว็

คาตาย ได้แก่ พยางค์ที่ผสมด้วยสระเสียงส้ัน ในมาตราแม่ ก กา เช่น จะ ติ และพยางค์ที่
สะกดดว้ ยมาตราแม่ กก กด กบ เชน่ ปกั นาค คิด มอื เกบ็ สาป คาตายนีใ้ ช้แทนคาเอกในโคลงได้

๖. คาสรอ้ ย คอื คาท่ีใช้เติมลงท้ายวรรค ท้ายบาท หรือทา้ ยบท เพ่ือความไพเราะ
หรอื เพอ่ื ใหค้ รบจานวนคาตามลกั ษณะบังคับ บางแหง่ ก็ใชเ้ ป็นคาถาม หรอื ใช้ย้าความ คาสร้อยน้ีใช้เฉพาะใน
โคลงและรา่ ย และมักจะเป็นคาเปน็ เช่น แลนา พเี่ อย ฤาพ่ี แมแ่ ล น้อยเฮ หน่ึงรา

ตัวอย่าง : คาสร้อย โคลง ๔
อวดองค์ อรเอย
เอยี งอกเทออกอา้ ง เลขแต้ม
เมรชุ ุบสมทุ รดินลง จารึก พอฤา
อากาศจดั จารผจง อยู่รอ้ ยฤาเห็น
โฉมแม่หยาดฟ้าแย้ม (นิราศนรนิ ทร)์

๔๕๙

โคลงสสี่ ภุ าพ
ผังภมู ิ :

สร้อย

สร้อย

ตัวอยา่ ง ๑

เสยี งลือเสยี งเล่าอา้ ง อนั ใด พีเ่ อย

เสยี งย่อมยอยศใคร ท่วั หล้า

สองเขือพหี่ ลับใหล ลืมตืน่ ฤาพ่ี

สองพีค่ ดิ เองอ้า อย่าได้ถามเผือ

(ลลิ ติ พระลอ)

ตัวอย่าง ๒

จากมามาลิ่วล้า ลา บาง

บางย่เี รือราพลาง พพ่ี รอ้ ง

เรอื แผงช่วยพานาง เมียงม่าน มานา

บางบ่รบั คาคล้อง คล่าวนา้ ตาคลอ

(นิราศนรนิ ทร์)

หมายเหตุ : โคลงสองบทนี้ ถือเป็นโคลงส่ีสุภาพแม่บทท่ีมีบังคับสัมผัสเอกโทถูกต้องตามลักษณะบังคับ

ของโคลงสีส่ ภุ าพทกุ อยา่ ง นกั เรยี นควรทอ่ งจาไวใ้ ห้ได้

๔๖๐

กฎ :

๑. คณะ มดี ังน้ี

โคลงสี่สภุ าพบทหน่ึงมี ๔ บาท บาทหนงึ่ มี ๒ วรรค คือ วรรคหน้ากบั วรรค

หลัง วรรคหลังของทุกบาท มีวรรคละ ๕ คา วรรคหลังของบาทท่ี ๑, ๒ และ ๓ มีวรรคละ ๒ คา

สว่ นของบาทที่ ๔ มี ๔ คา รวมโคลงส่ีสภุ าพ บทหนง่ึ มี ๓๐ คา

๒. สมั ผัส มีดังนี้

คาที่ ๗ ของบาทท่ี ๑ สมั ผัสกับคาท่ี ๕ ของบาทที่ ๒ และ ๓ คาท่ี ๗ ของบาท

ที่ ๒ สัมผสั กับคาท่ี ๕ ของบาทที่ ๔

ถา้ จะใหโ้ คลงท่ีแตง่ ไพเราะยิง่ ขน้ึ ควรมสี มั ผัสใน และสมั ผสั อักษรระหวา่ งวรรค

ด้วย กล่าวคือ ควรให้คาสุดท้ายของวรรคหน้า สัมผัสอักษรกับคาหน้าของวรรคหลัง จากตัวอย่างในโคลง

ได้แก่ คา “อ้าง” กบั “อัน” “ใหล” กับ “ลืม”

๓. คาเอกคาโทและคาเป็นคาตาย มีดงั นี้

๑) ตอ้ งมีคาเอก ๗ แห่ง และคาโท ๔ แหง่ ตามตาแหนง่ ที่เขียนไว้ในแผนผังภมู ิ

๒) ตาแหนง่ คาเอก และโท ในบาทที่ ๑ อาจสลบั ทก่ี ันได้ คอื เอาคาเอกไปไว้ใน

คาท่ี ๕ และเอาคาโทมาไว้ในคาที่ ๔ เช่น

อยา่ โทษไททา้ วทว่ ย เทวา

อย่าโทษสถานภูผา ยา่ นกวา้ ง

อยา่ โทษหมู่วงศา มิตรญาติ

โทษแตก่ รรมเองสรา้ ง สง่ ให้เปน็ เอง

(โคลงโลกนิต)ิ

๓) คาที่ ๗ ของบาทที่ ๑ และคาท่ี ๕ ของบาทท่ี ๒ และ ๓ หา้ ใช้คาที่มรี ปู

วรรณยกุ ต์

๔) ห้ามใชค้ าตายท่ีผันด้วยวรรณยกุ ต์โท ในตาแหน่งโท

๕) คาสดุ ท้ายของบท หา้ มใชค้ าตาย และคาทมี่ รี ูปวรรณยุกต์ และเสียงท่ีนิยม

กันว่าไพเราะ คือ เสียงจัตวาไม่มีรูป หรือจะใช้เสียงสามัญก็ได้เพราะเป็นคาจบ จะต้องอ่านเอื้อนลากเสียง

ยาว

๔๖๑

บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้

คาชแ้ี จง นักเรยี นลากเส้นโยงคาสัมผัสในแผนภูมิโคลงส่ีสภุ าพให้ถกู ต้อง แลว้ ฝกึ แตง่ โคลงสี่สภุ าพคนละ ๒ บท
ตามความชอบและจนิ ตนาการของนกั เรียนเอง

โคลงส่ีสภุ าพ
ผงั ภมู ิ :

สร้อย

สร้อย

............................... .....................
............................................. .....................
............................................ .....................
........................................... .....................

............................... ......................
............................................. ......................
............................................. ......................
............................................. ......................

๔๖๒

เฉลยบตั รกจิ กรรมการเรียนรู้

คาชี้แจง นักเรยี นลากเส้นโยงคาสัมผสั ในแผนภูมโิ คลงสีส่ ภุ าพให้ถูกตอ้ ง แลว้ ฝกึ แตง่ โคลงส่ีสภุ าพคนละ ๒ บท
ตามความชอบและจินตนาการของนกั เรียนเอง

โคลงสีส่ ภุ าพ
ผงั ภมู ิ :

สร้อย

สร้อย

( การแตง่ อยู่ในดุลพินิจของครผู ูส้ อน )

๔๖๓

บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้

ให้นักเรียนทากิจกรรมต่อไปน้เี ป็นการบา้ น
๑. ให้นักเรยี นเลอื กคาประพนั ธ์ตอนทนี่ ักเรยี นสนใจ ๓ - ๕ บท แล้วถอดความด้วยภาษาท่ี

กระชับสละสลวย
……………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………
……..……………………………………………………………………………………………………………………..……………………………

๒. ใหน้ ักเรยี นรวบรวมคาท่ีมีวรรณยกุ ต์โท แตใ่ ช้ในความหมายของคาเดิมที่มีรปู วรรณยกุ ต์เอก
(โทโทษ) เช่น เหนอื้ ง – เนอื่ ง เป็นต้น
……………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………
………………………………………….………………………………………………………………………………………………………………
…….……………………………………………………………………………………………………………………..……………………………

๓. ให้นกั เรยี นรวบรวมข้อความท่ีเข้าใจยากมาช่วยกันตีความ เชน่ มเี ข้ยี วน้อยสร้อยแนมสอง
……………………………………………………………………………………………………………………..……………………………………
………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………
……..……………………………………………………………………………………………………………………..……………………………
………………………………………………………………………………………..…………………………………………………………………

๔๖๔

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๘.๗

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๒

หนว่ ยท่ี ๘ กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง เวลา ๗ ช่วั โมง

เร่ือง อา่ นคดิ สรุปเรอื่ ง เวลา ๑ ชั่วโมง

ใชส้ อนวันที่ ....................................................................................................................

มาตรฐานท่ี ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคดิ เพ่ือนาไปใช้ตัดสนิ ใจแก้ปญั หาในการ
มาตรฐานท่ี ท ๕.๑ ดาเนนิ ชีวติ และมนี ิสัยรักการอ่าน
เขา้ ใจและแสดงความคดิ เห็น วจิ ารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณคา่
และนามาประยุกต์ใชใ้ นชีวิตจรงิ

ตัวชี้วัด
ท ๑.๑ ม.๒/๔ อภิปรายแสดงความคดิ เหน็ และข้อโต้แย้งเกีย่ วกับเร่ืองทีอ่ ่าน
ท ๕.๑ ม.๒/๑. สรปุ เนอื้ หาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านในระดบั ท่ยี ากขนึ้
ท ๕.๑ ม.๒/๒ วเิ คราะห์และวจิ ารณว์ รรณคดวี รรณกรรม และวรรณกรรมท้องถนิ่ ที่อา่ น พร้อมยก

เหตผุ ลประกอบ
ท ๕.๑ ม.๒/๓ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมทีอ่ า่ น

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง/ทอ้ งถิน่

ตัวชี้วัด ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ คุณลกั ษณะ (A)

ท ๑.๑ ม.๒/๔ อภปิ รายแสดง (P)
ความคดิ เหน็ และข้อโต้แยง้
เกีย่ วกบั เรอื่ งทอ่ี ่าน - นยิ ามหลกั การ - ฝึกอภิปรายแสดง - มมี ารยาทในการ

ท ๕.๑ ม.๒/๑. สรปุ เน้ือหา อภิปรายแสดงความ ความคิดเห็นและ อภปิ รายและแสดง
วรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ีอา่ น
ในระดับทยี่ ากขนึ้ คดิ เหน็ และขอ้ โตแ้ ยง้ ขอ้ โต้แยง้ ความคดิ เห็น

ขอ้ โตแ้ ย้ง

การจบั ใจความสาคญั - ฝึกจบั ใจความสาคัญ - มมี ารยาทในการอา่ น

- ฝกึ สรปุ เน้อื หา

๔๖๕

ท ๕.๑ ม.๒/๒ วเิ คราะหแ์ ละ การวิเคราะห์คณุ ค่า - ฝึกวิเคราะห์คณุ ค่า - เห็นคุณคา่ และซาบซง้ึ
ของวรรณคดไี ทยและ - เห็นคุณค่าและซาบซึง้
วจิ ารณ์วรรณคดีวรรณกรรม และ ของวรรณคดีไทย วรรณกรรมท้องถิ่น

วรรณกรรมท้องถ่ินท่อี า่ น พร้อม และวรรณกรรม ฝึกเขียนอธบิ าย
วเิ คราะห์คุณค่าของ
ยกเหตุผลประกอบ ท้องถิ่น วรรณคดไี ทยและ
วรรณกรรมท้องถนิ่
ท ๕.๑ ม.๒/๓ อธบิ ายคุณค่า การวิเคราะห์คณุ ค่า

ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมท่ี ของวรรณคดไี ทย

อ่าน และวรรณกรรม

ท้องถ่ิน

สาระสาคัญ
๑. การอภปิ รายบทเรียน แสดงเหตผุ ลประกอบการพดู เป็นการเพ่ิมทกั ษะด้าน

การวิเคราะห์ ทาให้สรุปขอ้ คิดจากบทเรียนไดง้ า่ ยและตรงประเดน็
๒. การยอ่ ความจากเรื่องทอี่ า่ น โดยอาศัยแผนภาพโครงเร่ือง จะทาให้ยอ่ เร่ืองไดง้ ่ายและ

สมบูรณม์ ากขึ้น

สาระการเรยี นรู้
๑. การอภปิ รายขอ้ คิดจากบทเรยี น
๒. การเขยี นย่อความ
๓. การทดสอบหลงั การเรียนรู้

กระบวนการเรียนรู้
๑. นักเรยี นและครูร่วมกนั สนทนาทบทวนเนื้อหาสาระการเรยี นร้จู ากชัว่ โมงที่ผา่ นมา
๒. แบง่ นกั เรยี นออกเปน็ กลมุ่ (ตามความเหมาะสม) โดยใหน้ ักเรียนร่วมกันศึกษา

วิเคราะห์ เนอื้ หาจากบทเรียน แลว้ ดาเนนิ การอภปิ รายสรปุ ข้อคดิ จากบทเรียน แล้วเขียนสรุปขอ้ คิด
ลงในสมุดแบบฝึกหดั

๓. นกั เรียนแลกเปล่ยี นเรียนรู้การเขยี นย่อความกับเพื่อนในกลุ่มแล้วเขยี นยอ่ ความจากบทเรยี นลงใน
สมุดและส่งตัวแทนกลุ่มนาเสนอผลงานการเขยี นสรุปข้อคิดจากบทเรยี น และยอ่ ความของตนเองหนา้ ช้ัน
เรยี น

๔. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายสรปุ ข้อคิดจากบทเรียน และ เสนอแนะข้อบกพรอ่ งการ
เขียนย่อความ และแนวทางปรบั ปรุงแก้ไข สนทนาถงึ การทางานกลมุ่ และการทางานรายบุคคลของนกั เรียน

๕. นักเรียนทาบัตรกิจกรรมการเรียนรู้

๔๖๖

๖. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั การเรียนรู้
๗. มอบหมายใหน้ ักเรยี นไปอ่านหรอื ศึกษาคน้ ควา้ เพิ่มเติม เปน็ การบา้ น

สอ่ื / แหล่งเรยี นรู้

ลาดบั ท่ี รายการสื่อ กิจกรรมที่ใช้ แหล่งที่ไดม้ า
๑ ครจู ดั ทา
๒ แบบทดสอบกอ่ น-หลงั เรยี น นักเรียนทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ครูจัดทา

๓ แผนภมู คิ วามหมายของคาศัพท์ นักเรียนศกึ ษาและอ่าน ครจู ัดหา

๔ และสานวนจากเรือ่ ง ครูจดั ทา

หนงั สือเรียน ชุด วรรณคดี นักเรียนดภู าพและฝึกอา่ น

วจิ ักษ์ ชนั้ ม.๒

แบบประเมนิ การสังเกต บนั ทกึ การสังเกตพฤติกรรม

พฤติกรรม

การวดั ผลและประเมนิ ผล

กิจกรรม-พฤตกิ รรมท่ี เคร่ืองมือท่ีใช้ใน วิธกี ารประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ
การประเมนิ
ประเมิน
แบบทดสอบก่อนเรยี น ตรวจงานรายบคุ คล รอ้ ยละ ๗๐ ขน้ึ ไป
๑. นักเรียนทาแบบทดสอบ
หลงั เรยี น แบบประเมนิ รายกลุ่ม สงั เกตรายกลุม่ รอ้ ยละ ๗๐ ขนึ้ ไป

๒. นกั เรียนนาเสนอหนา้ ช้นั แบบประเมินพฤตกิ รรมและ ตรวจงานรายกลุ่ม ร้อยละ ๗๐ ข้ึนไป
เรียน ผลงานระหวา่ งเรยี น
๓. ประเมนิ พฤติกรรมและ
ผลงานระหวา่ งเรยี น

กจิ กรรมเสนอแนะ
ในกิจกรรมการสอนภาษาไทยทกุ ชวั่ โมง ครูต้องกวดขนั ใหน้ ักเรยี นใชต้ ัวเลขไทย เพื่อให้เกดิ ความ

เคยชนิ และติดเป็นนสิ ัย อีกทั้งให้มคี วามภูมิใจในการใชต้ วั เลขไทย อันเปน็ สมบตั ขิ องชาติ

๔๖๗

บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
๑. ผลการจดั การเรียนรู้ตามผลการเรียนรทู้ ่ีคาดหวัง
นักเรยี นทง้ั หมด ....................คน
– ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับดี ............ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ...............
– ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับปานกลาง – คน คดิ เป็นร้อยละ .................
– ไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับปรบั ปรงุ – คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ...............
๒. ผลการประเมนิ พฤตกิ รรมระหวา่ งเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

๓. ปัญหาและอุปสรรคระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. ...........................
............................................................................................................................. .................................................
๔. การปรับปรงุ แก้ไข
...........................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
๕. ขอ้ คิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิม่ เตมิ
............................................................................................................................. ...........................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวธัญญาดล อปุ ชิตกุล)
ครู วิทยฐานะครูชานาญการพิเศษ

๔๖๘

ความเหน็ ของผู้อานวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

........................................................................................................ ......................................................................
............................................................................................................................. .................................................
......................................................................................................................................... .....................................
.............................................................................................. ................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงชื่อ.................................................ผู้ตรวจสอบ
( ................................................. )

ผู้อานวยการโรงเรยี นโคกโพธิ์ไชยศึกษา

๔๖๙

บัตรกจิ กรรมการเรียนรู้

คาช้ีแจง ใหน้ กั เรียนเขียนอภิปรายและแสดงความคดิ เหน็ ในหวั ขอ้ ต่อไปนี้
๑. สภาพชีวติ ของสัตวแ์ ละพืชในปัจจุบัน
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
๒. ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมนุษยก์ ับธรรมชาติ
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

๓. ให้นกั เรยี นศึกษาธรรมชาตขิ องสัตว์และพชื ทน่ี กั เรยี นสนใจ อาจอยู่ใน
บทประพันธก์ าพย์ห่อโคลงประพาสทองแดงหรือไม่กไ็ ด้
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

๔๗๐

บัตรกจิ กรรมการเรียนรู้

คาช้แี จง ใหน้ ักเรียนยอ่ ความกาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ให้ถูกต้อง ( ทาเป็นการบา้ น )
ยอ่ กาพยห์ อ่ โคลงประพาสธารทองแดง จาก หนงั สอื เรยี นภาษาไทย ชุดวรรณคดีวจิ กั ษ์

ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒ หน้า…….ถึง. …..ความว่า………………………….
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

๔๗๑

แบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรียน

กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

คาช้ีแจง ให้นักเรียนเขียนเคร่ืองหมายถูกหน้าข้อความที่นักเรียนคิดว่าถูกต้อง และ เขียนเครื่องหมายผิด
หนา้ ขอ้ ท่นี กั เรยี นคิดว่าผิด

...............๑ กาพยห์ อ่ โคลงประพาสธารทองแดง เปน็ พระนพิ นธ์ของเจ้าฟา้ ธรรมธเิ บศร
............... ๒ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง แต่งเป็นกาพย์โคลงห่อกาพย์ คือ แต่งโคลงส่ีสุภาพหน่ึง
บทสลบั กับกาพย์ยานี ๑๑ หน่ึงบท
...............๓ หนังสือจินดามณีฉบับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศกล่าวไว้ว่า การแต่งกาพย์ห่อโคลงน้ันไม่
นยิ มแต่งล้อความกัน แต่จะเคร่งครดั เรอ่ื งคาเอกคาโท
...............๔ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงมีเนื้อหาเล่าเร่ืองการเดินทางไปพระพุทธบาท และชม
ธรรมชาตอิ ันนา่ ตืน่ ตาตน่ื ใจที่พบเหน็ ระหว่างทาง
...............๕ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง เริ่มต้นจากบทชมร้ิวขบวนการเดินทาง บทชมสัตว์บกทั้ง
สตั วใ์ หญส่ ตั วเ์ ล็ก บทชมนก บทชมไม้ ทัง้ ไม้ดอกไมผ้ ล บทชมสัตว์นา้
...............๖ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง ปิดท้ายด้วยการบอกข้อมูลเก่ียวกับกวี จุดประสงค์ของ
กวี และวิธอี ่านโคลงใหไ้ พเราะ เปน็ จานวนกาพย์ทั้งสิน้ ๑๑๓ บท และโคลง ๑๐๘ บท
............... ๗ สว่ นทค่ี ดั มาใหเ้ รียนในหนงั สอื เรยี นวรรณคดีวจิ ักษเ์ ป็นตัวอย่างบทท่ีให้ความรู้เรื่องธรรมชาติ
อนั เปน็ ลกั ษณะเด่นของกาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง
...............๘ การสรรคาและศิลปะในการประพันธข์ องกวี ทาใหผ้ ้อู ่านได้รบั ความรู้ และเข้าใจธรรมชาติของ
สตั ว์และพืชชนดิ ตา่ ง ๆ ได้เป็นอยา่ งดี กวใี ช้คาท่สี ลับซับซ้อน ส่ือความหมายกว้างขวาง
............... ๙ นอกจากการใช้คาเพื่อสร้างจินตภาพแล้ว ยังมีการเล่นเสียงสัมผัสอย่างไพเราะทั้งสัมผัส
พยัญชนะและสัมผัสสระ บทที่แสดงความเชี่ยวชาญของกวีได้อย่างดียิ่ง คือ บทหนูต่อสู้กับงู ซึ่งเป็นการ
ประสานศิลปะในการเล่นเสียงสระ การเล่นเสียงพยัญชนะ การเล่นเสียงวรรณยุกต์ และการเล่นคาซ้าเข้า
ดว้ ยกนั อย่างกลมกลนื
............... ๑๐ ในเร่ือง กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง นักเรียนจะได้ศึกษาวิธีการใช้ถ้อยคาของกวีท่ี
สามารถเลือกสรรคาท่ีเข้าใจง่าย สื่อความหมายได้กระจ่างชัด สื่อจินตภาพความเคลื่อนไหว สีและเสีย ง
ตลอดจนเล่นเสยี งคาอยา่ งไพเราะ ทาใหก้ ารเสนอภาพธรรมชาตดิ ังกล่าวมีชวี ิตชีวานา่ สนใจ

๔๗๒

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรียน

กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง

คาช้ีแจง ให้นักเรียนเขียนเครื่องหมายถูกหน้าข้อความที่นักเรียนคิดว่าถูกต้อง และ เขียนเคร่ืองหมายผิด
หน้าข้อทน่ี กั เรียนคิดว่าผิด

...............๑ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง เป็นพระนิพนธข์ องเจ้าฟ้าธรรมธเิ บศร
............... ๒ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง แต่งเป็นกาพย์โคลงห่อกาพย์ คือ แต่งโคลงส่ีสุภาพ
หนงึ่ บทสลบั กับกาพย์ยานี ๑๑ หนง่ึ บท
...............๓ หนงั สอื จินดามณีฉบับสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวบรมโกศกล่าวไว้ว่า การแตง่ กาพยห์ ่อโคลงน้ันไม่
นิยมแตง่ ลอ้ ความกนั แตจ่ ะเคร่งครัดเรอื่ งคาเอกคาโท
...............๔ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดงมีเนื้อหาเล่าเรื่องการเดินทางไปพระพุทธบาท และชม
ธรรมชาตอิ ันน่าตืน่ ตาตนื่ ใจทพี่ บเห็นระหว่างทาง
...............๕ กาพย์ห่อโคลงประพาสธารทองแดง เริ่มต้นจากบทชมร้ิวขบวนการเดินทาง บทชมสัตว์บก
ทง้ั สัตวใ์ หญ่สัตวเ์ ล็ก บทชมนก บทชมไม้ ทง้ั ไมด้ อกไมผ้ ล บทชมสตั ว์น้า
...............๖ กาพยห์ ่อโคลงประพาสธารทองแดง ปิดท้ายดว้ ยการบอกข้อมูลเกย่ี วกบั กวี จดุ ประสงค์ของ
กวี และวิธอี า่ นโคลงให้ไพเราะ เปน็ จานวนกาพย์ทั้งสนิ้ ๑๑๓ บท และโคลง ๑๐๘ บท
............... ๗ ส่วนท่ีคัดมาให้เรียนในหนังสือเรียนวรรณคดีวิจักษ์เป็นตัวอย่างบทที่ให้ความรู้เร่ือง
ธรรมชาติ อนั เป็นลักษณะเด่นของกาพยห์ อ่ โคลงประพาสธารทองแดง
...............๘ การสรรคาและศิลปะในการประพันธ์ของกวี ทาให้ผู้อ่านได้รับความรู้ และเข้าใจธรรมชาติ
ของสัตว์และพชื ชนิดตา่ ง ๆ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี กวีใช้คาที่สลบั ซบั ซอ้ น สอ่ื ความหมายกว้างขวาง
............... ๙ นอกจากการใช้คาเพื่อสร้างจินตภาพแล้ว ยังมีการเล่นเสียงสัมผัสอย่างไพเราะทั้งสัมผัส
พยัญชนะและสัมผัสสระ บทท่ีแสดงความเชี่ยวชาญของกวีได้อย่างดียิ่ง คือ บทหนูต่อสู้กับงู ซึ่งเป็นการ
ประสานศิลปะในการเล่นเสียงสระ การเล่นเสียงพยัญชนะ การเล่นเสียงวรรณยุกต์ และการเล่นคาซ้าเข้า
ด้วยกันอยา่ งกลมกลืน
............... ๑๐ ในเร่ือง กาพยห์ อ่ โคลงประพาสธารทองแดง นักเรียนจะได้ศึกษาวิธีการใช้ถ้อยคาของกวี
ท่ีสามารถเลือกสรรคาที่เข้าใจง่าย ส่ือความหมายได้กระจ่างชัด ส่ือจินตภาพความเคลื่อนไหว สีและเสียง
ตลอดจนเล่นเสยี งคาอยา่ งไพเราะ ทาให้การเสนอภาพธรรมชาตดิ ังกลา่ วมีชวี ิตชีวานา่ สนใจ

๔๗๓

แบบประเมินหลงั แผนการจดั การเรียน

๔๗๔

แบบประเมินพฤติกรรมและผลงานระหว่างเรียน

ความหมาย

๑. ตง้ั ใจ หมายถงึ ความมานะ อดทนทางานจนเสรจ็ ( A )

๒. ความรว่ มมอื หมายถึง สมาชิกในกลมุ่ ให้ความรว่ มมือทางานจนเสรจ็ ( A )

๓. ความมีวนิ ัย หมายถึง ผลงาน หรือการทางานเป็นระบบระเบยี บเรียบร้อย สะอาด

สวยงาม และได้เนื้อหาครบถ้วน ทนั หรอื ตรงต่อเวลา ( A,K )

๔. คณุ ภาพของผลงาน หมายถงึ ผลงานเรยี บรอ้ ย สวยงาม เนอื้ หาครบถว้ น

ภาษาทใ่ี ช้เหมาะสม (P – Product, K)

๕. การนาเสนอผลงาน หมายถึง การพูดอธบิ ายนาเสนอผลงานได้ตามลาดับ

และเน้ือหาถูกต้อง ( P – Process, K )

เกณฑ์การประเมนิ

๔ หมายถงึ ทาไดด้ ีมาก ๓ หมายถึง ทาได้ดี

๒ หมายถึง ทาได้พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ

เลขท่ี ความต้งั ใจ ความรว่ มมอื ความมีวินัย คุณภาพของ การนาเสนอ รวม

(๔) (๔) (๔) ผลงาน (๔) ผลงาน (๔) (๒๐)

๔๗๕

เกณฑ์การให้คะแนนกระบวนการทางานกล่มุ

ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน/ระดับ
๑. การกาหนด –
๓๒๑
เปา้ หมายรว่ มกัน
สมาชิกทกุ คนมีสว่ น สมาชิกสว่ นใหญม่ ี สมาชิกส่วนน้อยมี
๒. การแบง่ หน้าท่ี
รับผดิ ชอบ ร่วมในการกาหนด สว่ นร่วมในการกาหนด ส่วนรว่ มในการกาหนด

๓. การปฏบิ ตั ิหน้าท่ี เปา้ หมายการทางาน เป้าหมายในการ เป้าหมายในการ
ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
อย่างชดั เจน ทางาน ทางาน
๔. การประเมนิ และ
ปรบั ปรงุ ผลงาน กระจายงานได้อย่าง กระจายงานไดท้ ัว่ ถงึ กระจายงานไม่ท่วั ถึง

ทวั่ ถงึ และตรงตาม แต่ไม่ตรงตาม

ความสามารถของ ความสามารถของ

สมาชกิ ทกุ คน สมาชกิ

ทางานได้สาเรจ็ ตาม ทางานไดส้ าเร็จตาม ทางานไมส่ าเร็จตาม

เปา้ หมายท่ีไดร้ ับ เป้าหมายแต่ชา้ กวา่ เป้าหมาย

มอบหมาย ตาม เวลาทก่ี าหนด

ระยะเวลาที่กาหนด

สมาชกิ ทกุ คนรว่ ม สมาชิกบางส่วนมีส่วน สมาชกิ บางส่วนไม่มี

ปรึกษาหารือ ตดิ ตาม รว่ มปรกึ ษาหารือแต่ไม่ สว่ นร่วมปรึกษาหารอื

ตรวจสอบและปรบั – ชว่ ยปรบั ปรุงผลงาน และไม่ช่วยปรับปรงุ

ปรงุ ผลงานเป็นระยะ ผลงาน

๔๗๖

แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม

กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย วิชา ภาษาไทย
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ กล่มุ ท่ี …….....

ท่ี รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเหน็
๓๒๑
๑. การกาหนดเปา้ หมายร่วมกัน
๒. การแบง่ หน้าท่รี ับผดิ ชอบ
๓. การปฏบิ ัติตามหน้าทท่ี ่ไี ดร้ ับมอบหมาย
๔. การประเมินและปรับปรุงผลงาน

รวม

ลงชอื่ ผ้ปู ระเมิน
( )

เกณฑ์การประเมนิ ดมี าก
ดี
๑๑ – ๑๒= พอใช้
๘ – ๑๐ = ปรบั ปรุง
๕–๖ =
๐–๔ =

๔๗๗

เกณฑ์การประเมนิ การนาเสนอผลงาน

แนวทางการพิจารณา

หัวข้อการพิจารณา/ระดบั การปฏบิ ตั หิ รอื พฤติกรรม

ระดับ เน้อื หา กลวิธีการนาเสนอ ขน้ั ตอนการ การใชภ้ าษา ตอบคาถาม/
คะแนน นาเสนอ เวลา
๔ มีการเรียงลาดบั ตอบคาถามได้
เนอ้ื หาไดด้ ี มกี ารนาเข้าสเู่ นอ้ื มกี ารนาเสนอ ออกเสียงถูกตอ้ ง อย่างมีภูมริ ู้
มีความตอ่ เนือ่ ง และมคี วาม
มีประโยชน์ เรื่อง มีความ อย่างตอ่ เนื่อง ตามอกั ขรวิธแี ละดงั ชัดเจน มแี หลง่
ให้แงค่ ดิ อา้ งอิง
สมั พนั ธ์กับเนอ้ื ราบร่นื เปน็ ไปตาม ชดั เจน ใช้ภาษา ใช้เวลาตาม
กาหนด
เรื่อง เร้าใจผู้ฟัง ขัน้ ตอน เหมาะสม เข้าใจ ตอบคาถามได้
ค่อนขา้ งชัด เจน
มีความมน่ั ใจ ง่าย มกี ารใช้ มแี หลง่ อา้ งองิ
ใช้เวลาเกิน
สานวนโวหาร กาหนด ๑ นาที

๓ มีการเรียงลาดับ มีการนาเข้าสู่เน้อื การนาเสนอ ออกเสียงถูกตอ้ ง ตอบคาถามไดไ้ ม่
เนือ้ หาไดด้ ี เร่อื ง มีความ ต่อเนื่อง มีการ ตามอกั ขรวธิ ีและดงั ค่อยชัดเจน
มคี วามต่อเน่อื ง สัมพนั ธก์ ับเนื้อ ข้ามขน้ั ตอนบ้าง ชัดเจน ใช้ภาษา มีแหล่งอา้ งองิ
มีประโยชน์ เรื่อง เรา้ ใจผูฟ้ ัง เหมาะสมเข้าใจงา่ ย เปน็ บางส่วน
ใหแ้ ง่คดิ น้อย ไมม่ คี วามมน่ั ใจใน การนาเสนอ ไม่มีการใช้สานวน ใช้เวลาเกิน
การนาเสนอ ต่อเนอื่ ง ไมม่ ี โวหาร กาหนด
๒ มกี ารเรยี งลาดบั มีการนาเขา้ สเู่ น้ือ ข้ันตอนเปน็ ส่วน ออกเสยี งถกู ต้อง ๒ นาที
เนอ้ื หาไดด้ ี เรื่อง มีความ ใหญ่ ตามอกั ขรวิธแี ละดงั ตอบคาถามไมไ่ ด้
มคี วามต่อเนอื่ ง สมั พนั ธ์กบั เนื้อ ชดั เจน ใช้ภาษา เปน็
มีประโยชน์น้อยให้ เรอ่ื ง ไม่ เรา้ ใจผู้ฟงั เขา้ ใจยาก ไม่มี ส่วนใหญ่
แง่คดิ นอ้ ย ไม่มีความมัน่ ใจใน การใช้สานวน ใชเ้ วลาเกิน
การนาเสนอ โวหาร กาหนด ๕ นาที

๑ มกี ารเรยี งลาดับ มีการนาเขา้ สเู่ นอ้ื การนาเสนอ ออกเสยี งถูกต้อง
เน้อื หาไดด้ ี เรอ่ื ง ไม่มีความ ไมต่ อ่ เน่อื ง ตามอกั ขรวธิ แี ละดงั
ไม่มคี วามตอ่ เนื่อง สมั พนั ธก์ ับเน้อื นาเสนอสบั สน ชดั เจน ใช้ภาษาไม่
มีประโยชน์นอ้ ยให้ เร่อื ง ไมเ่ ร้าใจผู้ฟัง เหมาะสม เขา้ ใจ
แงค่ ิดนอ้ ย ไม่มีความมัน่ ใจใน ยาก ไมม่ ีการใช้
การนาเสนอ สานวนโวหาร

๔๗๘

แบบประเมินการนาเสนอผลงาน

กลุ่มที่............................................................ห้อง.......................

เนอื้ หา กลวธิ ี ขัน้ ตอนการ การใช้ การตอบ รวม

๔ การ นาเสนอ ภาษา คาถาม คะแนน

ประเดน็ นาเสนอ ๔ ๔ /เวลา ๒๐

ชือ่ – สกุล ๔๔
สมาชกิ
๑.
๒.
๓.
๔.
๕.
๖.
๖.
๘.

ลงช่อื ......................................................ผ้ปู ระเมิน
()
วนั ที่......เดือน......................ปี................

เกณฑก์ ารประเมนิ ๔ หมายถงึ ดีมาก
๓ หมายถึง ดี
๒ หมายถงึ พอใช้
๑ หมายถึง ตอ้ งปรับปรุง

๔๗๙

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการอ่าน
คาชีแ้ จง ใหท้ าเครอื่ งหมาย / ลงในชอ่ งรายการสงั เกตพฤติกรรมทีก่ าหนด

รายการสังเกต

เลขท่ี ช่ือ – สกุล
ความสนในเร่ือง
ี่ท ่อาน
ีมมารยาทในการ
อ่าน
ีมสมาธิในการอ่าน
อ่านคาถูก ้ตอง
้นาเสียง ัชดเจน
ถูกต้อง
อ่านไม่กดหรือเติม
คา
จับห ันงสือได้
ถูก ้ตอง
สรุปผลการประเมินผ่าน

/ ไม่ผ่าน

๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑๐๒๑ ๐๒๑๐










๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
๑๗
๑๘
๑๙
๒๐

เกณฑก์ ารให้คะแนน ๒= ด,ี ๑ = ปานกลาง, ๐ = ต้องปรับปรุงแก้ไข
(ลงช่ือ)……………………………………….ผปู้ ระเมนิ
วันที่……….เดอื น…………………….พ.ศ………………

๔๘๐

แบบประเมินก่อนเรยี นและหลังเรยี น หนว่ ยท่ี ๘

แบบทดสอบ แบบทดสอบ สรปุ

เลขท่ี ชอื่ – สกลุ ก่อนเรียน หลังเรยี น ผลตา่ ง

๑ ๒๐ ๒๐ ผา่ น ไมผ่ า่ น








๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
๑๗
๑๘
๑๙
๒๐

๔๘๑

แผนการจัดการเรียนรูภ้ าษาไทย

ภาคเรียนท่ี ๑
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒
หน่วยที่ ๙ โชคดีมีภาษาไทย

โดย

นางสาวธัญญาดล อปุ ชิตกลุ

โรงเรียนโคกโพธไ์ิ ชยศึกษา

อาเภอโคกโพธไ์ิ ชย จังหวดั ขอนแก่น
สานกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษามัธยมศกึ ษาเขต ๒๕

๔๘๒

แผนผงั ความคดิ การบูรณาการการเรยี นรู้
ภายในกลมุ่ สาระ

การฟงั การดู
การพูด

วรรณคดแี ละ การอ่าน
วรรณกรรม

การใช้ภาษา การเขยี น

๔๘๓

แผนผงั ความคดิ การบรู ณาการ
นอกกลมุ่ สาระ การเรยี นรู้

คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สงั คมศึกษา ฯ
-การนบั จานวน - การคดิ อย่างเป็ น
-การจดั กลมุ่ -สะทอ้ นสภาพสงั คมไทย
ระบบ -คณุ ธรรมและมารยาท
- การวเิ คราะหเ์ ร่ือง
- หลกั เศรษฐกจิ
พอเพยี ง

สขุ ศึกษาและ โชคดมี ี ภาษาองั กฤษ
พลศึกษา ภาษาไทย -ความหมายของคา

-มนษุ ยสมั พนั ธ์ -เขยี นคาศพั ท์
-การเคลอื่ นไหว -เขยี นสานวน
-การเลน่ เกม

การงานอาชีพ ศิลปะฯ
และเทคโนโลยี - การเรียนรู้
-การใชค้ อมพิวเตอร์ วฒั นธรรม
-ใชใ้ ชอ้ ินเทอรเ์ น็ต - วาดภาพประกอบ

-ขบั รอ้ งทานองเสนาะ

๔๘๔

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๙.๑

กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒

หนว่ ยที่ ๙ โชคดีมภี าษาไทย เวลา ๔ ชวั่ โมง

เรื่อง อา่ นคิดพนิ จิ เรอ่ื ง เวลา ๑ ช่วั โมง

ใช้สอนวันที่ ....................................................................................................................

มาตรฐานที่ ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคดิ เพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจ
แกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชวี ิตและมนี ิสัยรกั การอ่าน

ตวั ช้วี ัด
ท ๑.๑ ม. ม.๒/๑ อา่ นออกเสยี งบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองได้ถกู ต้อง
ท ๑.๑ ม. ม.๒/๒ จับใจความสาคัญ สรปุ ความและอธิบายรายละเอยี ด จากเรื่องท่ีอ่าน

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง/ท้องถน่ิ

ม.๒/๑ อ่านออกเสยี งบท ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลักษณะ (A)
ร้อยแก้วและบทร้อยกรอง
ได้ถูกต้อง - หลักการอา่ นออก - ฝึกทักษะการอ่านออกเสยี ง -มีมารยาทในการอ่าน
ม.๒/๒ จับใจความสาคญั
สรปุ ความและอธิบาย เสียงรอ้ ยแกว้ และร้อย ร้อยแกว้ และรอ้ ยกรอง -อา่ นได้ถูกต้องชัดเจน
รายละเอียด จากเรอื่ งท่ี
อ่าน กรอง ตามหลักการอ่าน

- หลกั การอา่ น - ฝึกทกั ษะการอา่ นจบั - อา่ นจบั ใจความและ

จับใจความและ ใจความและสรุปความ สรุปความไดถ้ ูกต้อง

สรุปความ

สาระสาคญั
การอ่านเพื่อจบั ใจความสาคัญ เปน็ พ้ืนฐานทจี่ าเป็นในการศึกษาหาความรู้ จึงควรฝึกฝนใหเ้ กิดความ

ชานาญจนสามารถจบั ใจความสาคัญในงานเขียนทุกประเภท
สาระการเรยี นรู้

- การอา่ นในใจ อ่านจบั ใจความบทเรียนเรอ่ื ง “โชคดีทีม่ ีภาษาไทย”

๔๘๕

กระบวนการจัดการเรยี นรู้
๑. ครูแจง้ ตวั ชี้วดั ในหนว่ ยที่ ๙ ให้นักเรยี นทราบ
๒. ครนู าบตั รตัวอยา่ งพระบรมราโชวาทให้นักเรียนได้ฟังและเรียนร้ฟู ัง
๓ . ครูและนักเรียนสนทนาเก่ยี วกบั พระราชดารสั ทีน่ กั เรียนรูจ้ กั วา่ มีเร่ืองอะไรอีกบา้ ง
๔. ครูทบทวนหลักการอา่ นในใจ พร้อมทั้งใหน้ กั เรยี นอา่ นในใจ พระราชดารสั
๕. นักเรียนแต่ละกล่มุ เขยี นแผนภาพโครงเร่ือง สรุปใจความสาคัญจากเร่ือง “พระราชดารัส ”

พร้อมท้งั ออกมานาเสนอหน้าชัน้ เรยี นแล้วนาผลงานส่งครู
๖. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปนาส่ิงทเ่ี หมือนกนั และแตกต่างกัน ของแต่ละกลมุ่ มาแสดงใหเ้ หน็

ถึงความหลากหลายของความคดิ ซ่งึ ขึน้ อยู่กับเหตผุ ล พร้อมท้งั ชว่ ยกนั วิเคราะหถ์ ึงการดาเนินชีวิตของตัว
ละครว่าดาเนินชีวติ แบบพอเพียงหรอื ไหม อยา่ งไร

๗. นักเรียนทาบตั รกจิ กรรมการเรียนรู้เร่อื ง “พระราชดารัส” ส่งใหค้ รูตรวจ

สื่อ / แหล่งเรยี นรู้

ลาดับท่ี รายการส่อื กจิ กรรมท่ีใช้ แหลง่ ที่ได้มา
๑ บัตรตัวอย่างพระบรมราโชวาท เพิ่มเติมความชดั เจนในเน้ือหา ครจู ดั เตรียม
๒ นักเรียนทาบัตรกจิ กรรม ครจู ัดทา
๓ บตั รกจิ กรรมการเรยี นรู้ นักเรียนดภู าพและฝกึ อา่ น ครูจดั หา

หนังสอื เรยี น ชดุ ววิ ิธภาษา
ชัน้ ม. ๒

๔ เฉลยบตั รกิจกรรม ตรวจสอบแบบทดสอบ ครูจัดทา
ตรวจสอบบัตรกิจกรรม ครูจดั ทา
๕ แบบประเมนิ การสังเกต บนั ทึกการสงั เกตพฤติกรรม
พฤติกรรม

๔๘๖

การวัดผลและประเมนิ ผล

กจิ กรรม-พฤติกรรมที่ เคร่ืองมือทีใ่ ชใ้ น วธิ กี ารประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ
ประเมนิ การประเมิน สงั เกตรายกลุ่ม ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป
๒. นกั เรยี นเขยี นแผนภาพ
โครงเรอื่ ง แบบประเมนิ รายกลมุ่
๓. นักเรียนทาบัตรกจิ กรรม
การเรียนรู้ แบบประเมินการสังเกต ตรวจงานรายบคุ คล รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป
พฤติกรรม และแบบ
๔. ประเมนิ พฤติกรรมและ ประเมนิ ผลงาน
ผลงานระหวา่ งเรียน แบบประเมนิ พฤติกรรมและ ตรวจงานรายกลุม่ ร้อยละ ๗๐ ขน้ึ ไป

ผลงานระหว่างเรียน

กิจกรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………
………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……………
………………………………………………………………………………….………………………………………………………

๔๘๗

บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
๑. ผลการจัดการเรยี นรตู้ ามผลการเรยี นรู้ทีค่ าดหวัง
นักเรยี นท้ังหมด ....................คน
– ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ............ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ...............
– ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับปานกลาง – คน คดิ เป็นร้อยละ .................
– ไมผ่ ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ระดบั ปรบั ปรงุ – คน คิดเป็นร้อยละ ...............
๒. ผลการประเมนิ พฤติกรรมระหวา่ งเรียน
........................................................................................................................ ................................

............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................

๓. ปญั หาและอปุ สรรคระหวา่ งการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน
............................................................................................................................. ...........................
................................................................................................................................. .............................................
๔. การปรบั ปรุงแกไ้ ข
...........................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
๕. ขอ้ คิดเห็นและข้อเสนอแนะเพม่ิ เตมิ
............................................................................................................................. ...........................
..............................................................................................................................................................................

ลงช่ือ..........................................................ผ้สู อน
(นางสาวธญั ญาดล อปุ ชิตกุล)
ครู วทิ ยฐานะครูชานาญการพิเศษ

๔๘๘

ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

................................................................................................................................................................ ..............
..................................................................................................................... .........................................................
............................................................................................................................. .................................................
...................................................................................................................................................... ........................
.......................................................................................................... ....................................................................

ลงชือ่ .................................................ผ้ตู รวจสอบ
( ................................................. )

ผู้อานวยการโรงเรยี นโคกโพธ์ิไชยศึกษา

๔๘๙

บตั รตัวอย่างพระบรมราโชวาท

๔๙๐

๔๙๑

คาช้ีแจง บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้
ให้นักเรยี นตอบคาถามต่อไปน้ีให้ถกู ต้อง

๑. นกั เรียนคิดว่าสิง่ ใดทส่ี าคัญที่สดุ ใน“พระราชดารัส”
………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………….
๒. นักเรียนคิดวา่ “พระราชดารสั ”มกี ลวิธีการเขยี นอย่างไรบา้ ง
………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………….
๓. ให้นักเรยี นเขยี นขอ้ คิดที่ได้จากเรื่อง
………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………….

(อยใู่ นดุลพินิจของครู)

๔๙๒

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ ๙.๒

กล่มุ สาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒

หนว่ ยที่ ๙ โชคดีมีภาษาไทย เวลา ๔ ช่วั โมง

เรอื่ ง รเู้ ฟื่องเรื่องคาราชาศพั ท์ เวลา ๑ ชว่ั โมง

ใช้สอนวนั ท่ี ....................................................................................................................

มาตรฐานท่ี ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความร้แู ละความคดิ เพ่ือนาไปใชต้ ัดสินใจแก้ปัญหาใน
มาตรฐานที่ ท ๔.๑ การดาเนนิ ชีวิตและมีนสิ ยั รกั การอ่าน
เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษา
และพลงั ของภาษา ภูมปิ ญั ญาทางภาษาและรักษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติ

ตวั ช้วี ดั
ท ๑.๑ ม.๒/๒ จับใจความสาคัญ สรปุ ความและอธิบายรายละเอยี ด จากเรื่องทอ่ี ่าน
ท ๔.๑ ม.๒/๔ ใช้คาราชาศัพท์

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ตวั ช้ีวดั ความรู้ (K) สาระการเรยี นรู้แกนกลาง/ท้องถน่ิ
ท ๑.๑ ม.๒/๒ จบั ใจความ - หลักการอา่ น ทักษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลกั ษณะ (A)
สาคัญ สรปุ ความและ จับใจความและ
อธิบายรายละเอยี ด จาก สรปุ ความ - ฝกึ ทักษะการอา่ นจับ - อ่านจบั ใจความและ
เรือ่ งที่อ่าน ใจความและสรปุ ความ สรปุ ความได้ถูกต้อง
ท ๔.๑ ม.๒/๔ ใชค้ า การใช้คาราชาศัพท์
ราชาศัพท์ ฝกึ ใช้คาราชาศัพท์ - ใช้คาราชาศพั ท์ได้
ถูกต้องเหมาะสม ตาม
ระดับของบุคคล

๔๙๓

สาระสาคัญ
ภาษาไทยมีคาราชาศัพท์ท่ใี ช้พูดกบั พระราชาและเจา้ นายช้ันผใู้ หญ่ จนเกอื บจะเปน็ อกี ภาษาหนึ่ง

โดยเฉพาะ และมีคาสุภาพใช้กับบคุ คลตามฐานะ นับเปน็ สมบัตลิ า้ คา่ ของชาติ เพราะเปน็ ภาษาที่บรรเจิด
บรรจง แสดงให้เห็นถงึ ความประณตี และจติ ใจอนั สงู สง่ ของผูใ้ ช้ นอกจากนยี้ ังแสดงใหเ้ ห็นถงึ ความมี
อารยธรรม และมปี ระเพณวี ัฒนธรรมอันดขี องชนชาวไทย

สาระการเรยี นรู้
- คาราชาศัพท์

กระบวนการจดั การเรียนรู้
๑. ครูสนทนากับนักเรียนถึงคาราชาศัพท์ โดยใหน้ ักเรียนช่วยกันยกตวั อย่าง
๒. นักเรยี นอ่านบตั รความรู้ เรือ่ งคาราชาศัพท์
๓. ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกนั หาคาราชาศัพท์ พร้อมความหมาย จากเรอ่ื ง “โชคดีมภี าษาไทย” ใคร
หาได้คาอะไรให้ออกมาเขยี นบนกระดานดา เช่น
พระราชทรัพย์ หมายถงึ สมบัติ สว่ นพระองค์ หมายถงึ ส่วนตวั
ทรงได้รับ หมายถึง ได้รบั เสด็จสวรรคต หมายถงึ ตาย
๔. นักเรยี นทาบตั รกจิ กรรมการเรยี นรู้ แลว้ นาสง่ ครู
๕. ใหน้ ักเรยี นจัดทา โครงงาน เก่ียวกบั คาราชาศัพท์ นกั เรียนนาเสนอโครงงานหน้าช้นั และจดั

แสดงหน้าชน้ั เพอื่ นๆชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง (ทานอกเวลาเรยี น)

สื่อ / แหล่งเรียนรู้

ลาดับท่ี รายการส่ือ กิจกรรมทีใ่ ช้ แหล่งทไ่ี ดม้ า

๒ บัตรความรู้ เพิม่ เติมความชัดเจนในเนื้อหา ครจู ดั เตรียม
๓ บัตรกิจกรรมการเรยี นรู้ นกั เรียนทาบตั รกิจกรรม ครูจัดทา
หนงั สอื เรียน ชุด ววิ ธิ ภาษา นกั เรยี นดภู าพและฝกึ อ่าน ครจู ัดหา
๔ ชน้ั ม. ๒
เฉลยบตั รกิจกรรมการเรียนรู้ ตรวจสอบ ครูจัดทา

๕ แบบประเมนิ การสังเกต บันทึกการสงั เกตพฤติกรรม ครูจัดทา
พฤติกรรม

๔๙๔

การวดั ผลและประเมินผล

กจิ กรรม-พฤตกิ รรมท่ี เครือ่ งมือท่ีใช้ใน วธิ ีการประเมิน เกณฑ์การประเมนิ
ประเมนิ การประเมิน
๑. นกั เรยี นนาเสนอ
๒. นักเรยี นทาบตั รกิจกรรม แบบประเมินรายกลุ่ม สงั เกตรายกลุ่ม ร้อยละ ๗๐ ขน้ึ ไป
การเรียนรู้
แบบประเมนิ การสังเกต ตรวจงานรายบุคคล ร้อยละ ๗๐ ขนึ้ ไป
๓. ประเมินพฤติกรรมและ พฤติกรรม และแบบ
ผลงานระหวา่ งเรยี น
ประเมินผลงาน

แบบประเมนิ พฤติกรรมและ ตรวจงานรายกลุ่ม ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป
ผลงานระหว่างเรยี น

กิจกรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………
………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……………
………………………………………………………………………………….……………………………………………………..

๔๙๕

บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรียนรู้
๑. ผลการจดั การเรยี นรู้ตามผลการเรียนรทู้ ีค่ าดหวัง
นักเรียนทงั้ หมด ....................คน
– ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดับดี ............ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ...............
– ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับปานกลาง – คน คดิ เป็นร้อยละ .................
– ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมินระดับปรับปรงุ – คน คิดเป็นรอ้ ยละ ...............
๒. ผลการประเมินพฤตกิ รรมระหว่างเรยี น
............................................................................................................................. ...........................

..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

๓. ปัญหาและอุปสรรคระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. ...........................
............................................................................................................................................................................ ..
๔. การปรับปรงุ แก้ไข
.......................................................................................................... .................................
............................................................................................................................. .................................................
๕. ข้อคิดเหน็ และข้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ
..................................................................................................................................... ...................
............................................................................................................... ...............................................................

ลงชือ่ ..........................................................ผสู้ อน
(นางสาวธัญญาดล อุปชติ กุล)
ครู วิทยฐานะครชู านาญการพิเศษ

๔๙๖

ความเหน็ ของผู้อานวยการโรงเรียน
........................................................................................................................................................

............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................

ลงช่ือ.................................................ผตู้ รวจสอบ
( ................................................. )

ผ้อู านวยการโรงเรียนโคกโพธ์ิไชยศกึ ษา

๔๙๗

บัตรความรู้

เร่อื ง คาราชาศัพท์

ภาษาไทยมีคาราชาศัพท์ทใี่ ช้พดู กบั พระราชาและเจา้ นายชั้นผ้ใู หญ่ จนเกอื บจะเป็นอีกภาษาหนึ่ง
โดยเฉพาะ และมีคาสุภาพใชก้ ับบคุ คลตามฐานะ นบั เป็นสมบตั ลิ ้าคา่ ของชาติ เพราะเป็นภาษาทีบ่ รรเจิด
บรรจง แสดงให้เห็นถึงความประณีตและจติ ใจอนั สงู สง่ ของผใู้ ช้ นอกจากนี้ ยงั แสดงให้เหน็ ถงึ ความมี
อารยธรรม และมปี ระเพณวี ัฒนธรรมอนั ดขี องชนชาวไทย
ความหมายและความสาคญั ของราชาศัพท์

ราชาศัพท์ หมายถึง ถ้อยคาจาพวกหนง่ึ ที่มลี ักษณะพิเศษแตกต่างกว่าคาพูดในภาษา
ธรรมดา เป็นคาท่ใี ช้สาหรบั พระราชาและเจา้ นาย เช่น คาว่า พระเนตร พระกรรณ พระบาท พระ
หตั ถ์ สรง เสวย

อันท่จี รงิ ราชาศพั ท์ มไิ ด้หมายถึงถอ้ ยคาทีใ่ ช้กับพระราชาเท่านั้น หากแต่หมายถึงถ้อยคาทใ่ี ช้
พูดถงึ บุคคล เรอ่ื งราวและส่ิงทงั้ ปวงท่กี ลา่ วหรือเขยี นอยา่ งถกู หลักเกณฑ์ เปน็ คาสภุ าพไม่หยาบกระดา้ งน่า
รงั เกยี จ สมควรจะกราบบังคมทูลพระกรณุ าหรอื ใชเ้ ป็นภาษาทางการ เปน็ ภาษาแบบแผน เช่นใชว้ ่าเจ้านาย
ตรสั คนพดู นกรอ้ ง สุนขั เห่า ราชาศัพทโ์ ดยความหมายอยา่ งกว้าง จึงหมายถงึ ถ้อยคาภาษาท่ีสภุ าพถกู
แบบแผน สาหรบั ใช้กบั บุคคลทุกประเภท ตลอดจนเทพยดา อมนษุ ย์ แมก้ ระท่ังสัตวจ์ ตุบาททวิบาท และ
สรรพสง่ิ เรอ่ื งราวทั้งปวง

ราชาศพั ท์มีหลักเกณฑ์เปน็ ระบบเหมาะกบั ยุคสมยั และบรบิ ททางสังคม สอดคล้องกบั ธรรมชาตขิ อง
ภาษา เปน็ ทน่ี ยิ มยอมรับรว่ มกัน ราชาศพั ท์ประกอบด้วยคาศัพท์และสานวนท่ีมีความหมาย
กระชบั เหมาะสม ถูกตอ้ งตามหลักภาษาไทย และมคี วามไพเราะนา่ ฟัง สื่อความหมายได้อย่างมี
ประสทิ ธิผล ฉะนนั้ การใชร้ าชาศพั ท์ นอกจากจะเป็นการรกั ษาแบบแผนทางภาษาที่ดงี ามไว้แลว้ ยงั เป็นการ
แสดงออกถึงความเคารพทบี่ ุคคลพงึ มีต่อบุคคลอนื่ ทีค่ วรเคารพ

สรุปได้วา่ ราชาศพั ท์มคี วามสาคัญทั้งทางสงั คมและวัฒนธรรม รวมทั้งสุนทรีลกั ษณเ์ ชิงภาษาอีก
ดว้ ย ดังตัวอยา่ งต่อไปน้ี

ทีม่ าของราชาศพั ท์
ทีม่ าของราชาศัพท์อาจพิจารณาได้ ๒ ทาง คอื ทม่ี าทางสงั คมและประวัติศาสตร์ทางหนึ่ง กบั

ทางภาษาอกี ทางหนงึ่ ในทางประวัตศิ าสตร์ ราชาศพั ทเ์ กิดขึน้ ช้ันแรกเพื่อเทดิ พระเกยี รติพระราชาธบิ ดีหรือ
พระเจ้าอยหู่ ัวในฐานะท่ีทรงเปน็ ประมุขของชาตใิ หส้ งู กวา่ คนในชาติ

ในทางภาษาหากพจิ ารณาคาราชาศัพท์จะเห็นวา่ คาศัพทท์ ่ใี ช้เรียกเครอื ญาติ ส่วนตา่ ง ๆ ของ
ร่างกาย สง่ิ ของ กริ ยิ าอาการและกิจกรรมต่าง ๆ ของพระเจ้าแผน่ ดนิ และพระราชวงศ์ มีทงั้ ท่ีมาจากคาไทย


Click to View FlipBook Version