๓๔๘
แบบประเมินพฤติกรรมและผลงานระหว่างเรียน
ความหมาย
๑. ตง้ั ใจ หมายถงึ ความมานะ อดทนทางานจนเสรจ็ ( A )
๒. ความรว่ มมอื หมายถึง สมาชิกในกลมุ่ ให้ความรว่ มมือทางานจนเสรจ็ ( A )
๓. ความมีวนิ ัย หมายถึง ผลงาน หรือการทางานเป็นระบบระเบยี บเรียบร้อย สะอาด
สวยงาม และได้เนื้อหาครบถ้วน ทนั หรอื ตรงต่อเวลา ( A,K )
๔. คณุ ภาพของผลงาน หมายถงึ ผลงานเรยี บรอ้ ย สวยงาม เนอื้ หาครบถว้ น
ภาษาทใ่ี ช้เหมาะสม (P – Product, K)
๕. การนาเสนอผลงาน หมายถงึ การพูดอธบิ ายนาเสนอผลงานได้ตามลาดับ
และเน้ือหาถูกต้อง ( P – Process, K )
เกณฑ์การประเมนิ
๔ หมายถงึ ทาไดด้ ีมาก ๓ หมายถึง ทาได้ดี
๒ หมายถึง ทาได้พอใช้ ๑ หมายถึง ควรปรับปรงุ
เลขท่ี ความต้งั ใจ ความรว่ มมอื ความมีวินัย คุณภาพของ การนาเสนอ รวม
(๔) (๔) (๔) ผลงาน (๔) ผลงาน (๔) (๒๐)
๓๔๙
เกณฑ์การให้คะแนนกระบวนการทางานกล่มุ
ประเด็นการประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน/ระดับ
๑. การกาหนด –
๓๒๑
เปา้ หมายรว่ มกัน
สมาชิกทกุ คนมีสว่ น สมาชิกสว่ นใหญม่ ี สมาชิกส่วนน้อยมี
๒. การแบง่ หน้าท่ี
รับผดิ ชอบ ร่วมในการกาหนด สว่ นร่วมในการกาหนด ส่วนรว่ มในการกาหนด
๓. การปฏบิ ตั ิหน้าท่ี เปา้ หมายการทางาน เป้าหมายในการ เป้าหมายในการ
ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
อย่างชดั เจน ทางาน ทางาน
๔. การประเมนิ และ
ปรบั ปรงุ ผลงาน กระจายงานได้อย่าง กระจายงานไดท้ ัว่ ถงึ กระจายงานไม่ท่วั ถึง
ทวั่ ถงึ และตรงตาม แต่ไม่ตรงตาม
ความสามารถของ ความสามารถของ
สมาชกิ ทกุ คน สมาชกิ
ทางานได้สาเรจ็ ตาม ทางานไดส้ าเร็จตาม ทางานไมส่ าเร็จตาม
เปา้ หมายท่ีไดร้ ับ เป้าหมายแต่ชา้ กวา่ เป้าหมาย
มอบหมาย ตาม เวลาทก่ี าหนด
ระยะเวลาที่กาหนด
สมาชกิ ทกุ คนรว่ ม สมาชิกบางส่วนมีส่วน สมาชกิ บางส่วนไม่มี
ปรึกษาหารือ ตดิ ตาม รว่ มปรกึ ษาหารือแต่ไม่ สว่ นร่วมปรึกษาหารอื
ตรวจสอบและปรบั – ชว่ ยปรบั ปรุงผลงาน และไม่ช่วยปรับปรงุ
ปรงุ ผลงานเป็นระยะ ผลงาน
๓๕๐
แบบประเมนิ กระบวนการทางานกลุ่ม
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย วิชา ภาษาไทย
ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๒ กล่มุ ท่ี …….....
ท่ี รายการประเมิน คะแนน ขอ้ คิดเหน็
๓๒๑
๑. การกาหนดเป้าหมายร่วมกนั
๒. การแบ่งหน้าทร่ี ับผิดชอบ
๓. การปฏิบตั ิตามหนา้ ท่ที ี่ได้รับมอบหมาย
๔. การประเมินและปรับปรุงผลงาน
รวม
ลงชอื่ ผ้ปู ระเมิน
( )
เกณฑ์การประเมิน ดมี าก
๑๑ – ๑๒= ดี
๘ – ๑๐ = พอใช้
๕–๖ = ปรบั ปรงุ
๐–๔ =
๓๕๑
เกณฑ์การประเมนิ การนาเสนอผลงาน
แนวทางการพิจารณา
หัวข้อการพิจารณา/ระดบั การปฏบิ ตั หิ รอื พฤติกรรม
ระดับ เน้อื หา กลวิธีการนาเสนอ ขน้ั ตอนการ การใชภ้ าษา ตอบคาถาม/
คะแนน นาเสนอ เวลา
๔ มีการเรียงลาดบั
เนอ้ื หาไดด้ ี มกี ารนาเข้าสเู่ นอ้ื มกี ารนาเสนอ ออกเสียงถูกตอ้ ง ตอบคาถามได้
มีความตอ่ เนือ่ ง เรื่อง มีความ อย่างมภี ูมริ ู้
มีประโยชน์ สมั พนั ธ์กับเนอ้ื อย่างตอ่ เนื่อง ตามอกั ขรวิธแี ละดงั และมคี วาม
ให้แงค่ ดิ เรื่อง เร้าใจผู้ฟัง ชัดเจน มแี หลง่
มีความมน่ั ใจ ราบร่นื เปน็ ไปตาม ชดั เจน ใช้ภาษา อา้ งอิง
ใช้เวลาตาม
ขัน้ ตอน เหมาะสม เข้าใจ กาหนด
ตอบคาถามได้
ง่าย มกี ารใช้ ค่อนขา้ งชัด เจน
มแี หลง่ อา้ งองิ
สานวนโวหาร ใช้เวลาเกิน
กาหนด ๑ นาที
๓ มีการเรียงลาดับ มีการนาเข้าสู่เน้อื การนาเสนอ ออกเสียงถูกตอ้ ง
เร่อื ง มีความ ต่อเนื่อง มีการ ตามอกั ขรวธิ ีและดงั ตอบคาถามไดไ้ ม่
เนือ้ หาไดด้ ี สัมพนั ธก์ ับเนื้อ ข้ามขน้ั ตอนบา้ ง ชัดเจน ใช้ภาษา ค่อยชัดเจน
มคี วามต่อเน่อื ง เรื่อง เรา้ ใจผูฟ้ ัง เหมาะสมเข้าใจงา่ ย มีแหล่งอา้ งองิ
มีประโยชน์ ไมม่ คี วามมน่ั ใจใน การนาเสนอ ไม่มีการใช้สานวน เปน็ บางส่วน
ใหแ้ ง่คดิ น้อย การนาเสนอ ต่อเนอื่ ง ไมม่ ี โวหาร ใช้เวลาเกิน
มีการนาเขา้ สเู่ น้ือ ข้ันตอนเปน็ ส่วน ออกเสยี งถกู ต้อง กาหนด
๒ มกี ารเรยี งลาดบั เรื่อง มีความ ใหญ่ ตามอกั ขรวิธแี ละดงั ๒ นาที
สมั พนั ธ์กบั เนื้อ ชดั เจน ใช้ภาษา ตอบคาถามไมไ่ ด้
เนอ้ื หาไดด้ ี เรอ่ื ง ไม่ เรา้ ใจผู้ฟงั เขา้ ใจยาก ไม่มี เปน็
มคี วามต่อเนอื่ ง ไม่มีความมัน่ ใจใน การใช้สานวน ส่วนใหญ่
มีประโยชน์น้อยให้ การนาเสนอ โวหาร ใชเ้ วลาเกิน
แง่คดิ นอ้ ย กาหนด ๕ นาที
๑ มกี ารเรยี งลาดับ มีการนาเขา้ สเู่ นอ้ื การนาเสนอ ออกเสยี งถูกต้อง
เรอ่ื ง ไม่มีความ ไมต่ อ่ เน่อื ง ตามอกั ขรวธิ แี ละดงั
เน้อื หาไดด้ ี สมั พนั ธก์ ับเน้อื นาเสนอสบั สน ชดั เจน ใช้ภาษาไม่
ไม่มคี วามตอ่ เนื่อง เร่อื ง ไมเ่ ร้าใจผู้ฟัง เหมาะสม เขา้ ใจ
ไม่มีความมัน่ ใจใน ยาก ไมม่ ีการใช้
มีประโยชน์นอ้ ยให้ การนาเสนอ สานวนโวหาร
แงค่ ิดนอ้ ย
๓๕๒
แบบประเมินการนาเสนอผลงาน
กลุ่มที่............................................................ห้อง.......................
เนอื้ หา กลวธิ ี ขัน้ ตอนการ การใช้ การตอบ รวม
๔ การ นาเสนอ ภาษา คาถาม คะแนน
ประเดน็ นาเสนอ ๔ ๔ /เวลา ๒๐
ชือ่ – สกุล ๔๔
สมาชกิ
๑.
๒.
๓.
๔.
๕.
๖.
๖.
๘.
ลงช่อื ......................................................ผ้ปู ระเมิน
()
วนั ที่......เดือน......................ปี................
เกณฑก์ ารประเมนิ ๔ หมายถงึ ดีมาก
๓ หมายถึง ดี
๒ หมายถงึ พอใช้
๑ หมายถึง ตอ้ งปรับปรุง
๓๕๓
แผนการจัดการเรยี นรู้ภาษาไทย
ภาคเรยี นท่ี ๑
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๒
หน่วยที่ ๗ ปารต์ บี้ าบคี ิว
โดย
นางสาวธัญญาดล อปุ ชิตกลุ
โรงเรียนโคกโพธไ์ิ ชยศึกษา
อาเภอโคกโพธ์ไิ ชย จังหวดั ขอนแก่น
สานกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามธั ยมศึกษาเขต ๒๕
๓๕๔
แผนผงั ความคดิ การบูรณาการการเรยี นรู้
ภายในกลมุ่ สาระ
การฟงั การดู
การพูด
วรรณคดแี ละ การอ่าน
วรรณกรรม
การใช้ภาษา การเขยี น
๓๕๕
แผนผงั ความคดิ การบรู ณาการ
นอกกลมุ่ สาระ การเรยี นรู้
คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สงั คมศึกษา ฯ
-การนบั จานวน - การคิดอยา่ งเป็ น
-การจดั กลมุ่ -สะทอ้ นสภาพสงั คมไทย
ระบบ -คณุ ธรรมและมารยาท
- การวิเคราะหเ์ ร่ือง
- หลกั เศรษฐกจิ
พอเพยี ง
สขุ ศึกษาและ ปารต์ ี้ ภาษาองั กฤษ
พลศึกษา บาบีคิว -ความหมายของคา
-มนษุ ยสมั พนั ธ์ -เขยี นคาศพั ท์
-การเคลอื่ นไหว -เขยี นสานวน
-การเลน่ เกม
การงานอาชีพ ศิลปะฯ
และเทคโนโลยี - การเรียนรู้
-การใชค้ อมพิวเตอร์ วฒั นธรรม
-ใชใ้ ชอ้ นิ เทอรเ์ น็ต - วาดภาพประกอบ
-ขบั รอ้ งทานองเสนาะ
๓๕๖
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๗.๑
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๒
หน่วยที่ ๗ ปาร์ตี้บาบีควิ เวลา ๔ ช่ัวโมง
เรอื่ ง อา่ นคดิ พนิ จิ เร่อื ง เวลา ๑ ชัว่ โมง
ใช้สอนวนั ท่ี ....................................................................................................................
มาตรฐานท่ี ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคิด เพ่ือนาไปใชต้ ัดสนิ ใจ
แกป้ ัญหาในการดาเนนิ ชวี ติ และมีนสิ ัยรกั การอ่าน
ตวั ชวี้ ัด
ท ๑.๑ ม. ม.๒/๑ อา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรองได้ถกู ต้อง
ท ๑.๑ ม. ม.๒/๒ จบั ใจความสาคัญ สรปุ ความและอธิบายรายละเอยี ด จากเรอื่ งท่อี ่าน
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/ทอ้ งถิน่
ม.๒/๑ อ่านออกเสียงบท ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลักษณะ (A)
ร้อยแก้วและบทร้อยกรอง
ไดถ้ ูกต้อง - หลกั การอ่านออก - ฝกึ ทกั ษะการอา่ นออกเสียง -มีมารยาทในการอ่าน
ม.๒/๒ จบั ใจความสาคญั
สรปุ ความและอธิบาย เสยี งรอ้ ยแก้วและรอ้ ย ร้อยแก้วและร้อยกรอง -อา่ นได้ถกู ต้องชดั เจน
รายละเอียด จากเรือ่ งที่
อา่ น กรอง ตามหลักการอ่าน
- หลักการอ่าน - ฝึกทักษะการอ่านจับ - อ่านจบั ใจความและ
จบั ใจความและ ใจความและสรุปความ สรปุ ความได้ถูกต้อง
สรุปความ
สาระสาคญั
การอา่ นเพื่อจับใจความสาคัญ เป็นพนื้ ฐานทจ่ี าเป็นในการศึกษาหาความรู้ จงึ ควรฝึกฝนใหเ้ กดิ ความ
ชานาญจนสามารถจบั ใจความสาคญั ในงานเขยี นทุกประเภท
สาระการเรียนรู้
- การอ่านในใจ อ่านจับใจความบทเรียนเรอื่ ง ปารต์ บ้ี ารบ์ ีคิว
๓๕๗
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
๑. ครูแจ้งตวั ชวี้ ดั และทดสอบก่อนเรียน
๒. ครูสนทนากับนกั เรยี นเก่ียวกับคาท่ีเราใช้ในภาษาไทย ว่ามีหลายภาษาปะปนกัน ครูใช้บัตร
คาใหน้ ักเรยี นทายว่ามาจากภาษใด
๓. ครูสนทนากบั นักเรียนเกี่ยวกับรายการวิทยุที่นักเรียนเคยฟัง จากน้ันแล้วถึง ภาษาพูดที่ใช้ใน
การจัดรายการวทิ ยุส่วนใหญว่ ่าเป็นอยา่ งไร
๔ . แลว้ ใหน้ ักเรยี นอา่ นจับใจความในเรือ่ ง ปาร์ต้ีบารบ์ ีคิวเม่ือนักเรียนอา่ นจบและเข้าใจดแี ล้ว
แต่ถ้ายังมีคาถามหรอื ขอ้ สงสยั ใหป้ รกึ ษากับเพื่อน หรอื ครผู สู้ อน
๔. ครถู ามนักเรียนว่าเข้าใจท่ผี เู้ ขียนต้องการสื่อหรอื ไม่ เป็นการจดั รายการรูปแบบใด มกี ารใช้
คาพูดอยา่ งไรบ้าง
๖. ใหน้ ักเรยี นทากิจกรรมบัตรกจิ กรรมการเรยี นรู้
๗. ครูและนักเรียนช่วยกันสรปุ บทเรยี น รวมท้ังสรุปพฤติกรรมทีไ่ ดจ้ ากบทเรยี นและการนาไปใช้
ในชีวติ ประจาวัน
สือ่ / แหล่งเรียนรู้
ลาดบั ที่ รายการสอ่ื กิจกรรมทีใ่ ช้ แหลง่ ท่ไี ด้มา
๑ บัตรคา เพ่มิ เติมความชดั เจนในเน้ือหา ครูจดั เตรยี ม
๒ นกั เรียนทาบตั รกิจกรรม ครูจัดทา
๓ บตั รกจิ กรรมการเรยี นรู้ นกั เรียนดภู าพและฝึกอ่าน ครจู ดั หา
หนังสือเรยี น ชุด ววิ ิธภาษา
ช้นั ม. ๒
๔ เฉลยบตั รกจิ กรรม ตรวจสอบแบบทดสอบ ครจู ดั ทา
ตรวจสอบบตั รกจิ กรรม ครจู ดั ทา
๕ แบบประเมนิ การสังเกต บนั ทกึ การสังเกตพฤติกรรม
พฤติกรรม
๓๕๘
การวดั ผลและประเมนิ ผล
กจิ กรรม-พฤติกรรมที่ เครอ่ื งมอื ท่ีใชใ้ น วิธีการประเมิน เกณฑ์การประเมนิ
ประเมนิ การประเมิน สังเกตรายกล่มุ ร้อยละ ๗๐ ข้ึนไป
๒. นกั เรียน
แบบประเมนิ รายกล่มุ
ตอบคาถาม
๓. นกั เรียนทาบตั รกิจกรรม แบบประเมินการสงั เกต ตรวจงานรายบคุ คล รอ้ ยละ ๗๐ ข้นึ ไป
การเรยี นรู้ พฤติกรรม และแบบ
ประเมินผลงาน
๔. ประเมินพฤติกรรมและ แบบประเมนิ พฤติกรรมและ ตรวจงานรายกล่มุ รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป
ผลงานระหวา่ งเรียน
ผลงานระหว่างเรียน
กิจกรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………
………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……………
………………………………………………………………………………….…………………………………………………….
๓๕๙
บันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้
๑. ผลการจัดการเรียนรูต้ ามผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวัง
นกั เรียนทง้ั หมด ....................คน
– ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ............ คน คิดเป็นร้อยละ ...............
– ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับปานกลาง – คน คิดเป็นร้อยละ .................
– ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับปรับปรุง – คน คิดเป็นรอ้ ยละ ...............
๒. ผลการประเมนิ พฤติกรรมระหว่างเรยี น
............................................................................................................................. ...........................
...................................................................................................................................................... ........................
........................................................................................................... ...................................................................
............................................................................................................................. .................................................
๓. ปัญหาและอปุ สรรคระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน
............................................................................................................................. ...........................
............................................................................................................................................................................ ..
๔. การปรับปรุงแกไ้ ข
.......................................................................................................... .................................
............................................................................................................................. .................................................
๕. ข้อคิดเหน็ และข้อเสนอแนะเพมิ่ เตมิ
..................................................................................................................................... ...................
............................................................................................................... ...............................................................
ลงช่ือ..........................................................ผสู้ อน
(นางสาวธัญญาดล อปุ ชติ กลุ )
ครู วทิ ยฐานะครูชานาญการพิเศษ
๓๖๐
ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรยี น
........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
ลงชอ่ื .................................................ผูต้ รวจสอบ
( ................................................. )
ผอู้ านวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา
๓๖๑
บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้
ใหน้ ักเรยี น รวบรวมคายมื ภาษาต่างประเทศทีป่ รากฏอยู่ในเนอ้ื ความที่ไดอ้ า่ น
………………….
………………….
………………….
………………….
………………….
………………….
………………….
………………….
………………….
………………….
………………….
………………….
………………….
๓๖๒
แบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรียน
ใหน้ ักเรยี นบอกว่าเปน็ คายืมมาจากภาษาใด
๑. จนี ๒. ญปี่ นุ่ ๓. องั กฤษ
....................... ๑. แกลลอน
....................... ๒.บะฉ่อ
....................... ๓. คลนิ กิ
....................... ๔. ซซู ิ
....................... ๕.ถัว่ ลันเตา
....................... ๖. ซอส
....................... ๗. กยุ เฮง
....................... ๘. อะลมู ิเนยี ม
....................... ๙. วาซาบิ
....................... ๑๐. สลัม
....................... ๑๑.กะหล่า
....................... ๑๒. กอ๊ ก
....................... ๑๓. สุกี้ยากี้
....................... ๑๔. บังกะโล
....................... ๑๕.เกาเหลา
....................... ๑๖. ซาบะ
....................... ๑๗.คัตชู
....................... ๑๘. ตรา
....................... ๑๙ เทปรุ ะ
....................... ๒๐.โอเลย้ี ง
๓๖๓
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรียน
ใหน้ ักเรยี นบอกวา่ เปน็ คายืมมาจากภาษาใด
๑. จนี ๒. ญี่ปนุ่ ๓. อังกฤษ
องั กฤษ ๑. แกลลอน
จนี ๒.บะฉอ่
องั กฤษ ๓. คลินกิ
ญป่ี นุ่ ๔. ซซู ิ
จีน. ๕.ถ่ัวลันเตา
อังกฤษ ๖. ซอส
จนี ๗. กุยเฮง
องั กฤษ ๘. อะลูมิเนียม
ญปี่ ุ่น. ๙. วาซาบิ
องั กฤษ ๑๐. สลมั
จีน ๑๑.กะหล่า
อังกฤษ ๑๒. ก๊อก
ญ่ีปุน่ ๑๓. สุกยี้ าก้ี
องั กฤษ ๑๔. บังกะโล
จนี ๑๕.เกาเหลา
ญปี่ ุน่ ๑๖. ซาบะ
อังกฤษ ๑๗.คตั ชู
จีน ๑๘. ตรา
ญีป่ นุ่ ๑๙ เทปรุ ะ
จีน ๒๐.โอเลยี้ ง
๓๖๔
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี ๗.๒
กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๒
หนว่ ยท่ี ๗ ปาร์ตี้บาบคี วิ เวลา ๔ ชัว่ โมง
เร่อื ง รู้เฟ่ืองเร่ืองคาภาษาต่างประเทศ เวลา ๑ ชว่ั โมง
ใช้สอนวนั ท่ี ....................................................................................................................
มาตรฐานท่ี ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษา
และพลังของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษาและรกั ษาภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติ
ตวั ชีว้ ดั
ท ๔.๑ ม.๒/๕ รวบรวม และอธิบายความหมายของคาภาษาตา่ งประเทศทใี่ ชใ้ นภาษาไทย
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ตวั ชี้วดั สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง/ทอ้ งถ่ิน
ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลกั ษณะ (A)
ท ๔.๑ ม.๒/๕ รวบรวม หลกั สงั เกตคาท่มี า - ฝกึ สงั เกตและจาแนกคา จาแนกคาที่มาจาก
และอธบิ ายความหมาย จากภาษาต่างประเทศ ท่ีมาจากภาษาต่างประเทศท่ี ภาษาตา่ งประเทศที่ใช้
ของคาภาษาตา่ งประเทศท่ี ท่ีใชใ้ นภาษาไทย ใช้ในภาษาไทย ในภาษาไทย
ใช้ในภาษาไทย ไดถ้ ูกตอ้ งตาม
หลักเกณฑ์
สาระสาคัญ
ในภาษาไทยมีการยืมคาจากภาษาอืน่ มาใช้ เช่น คาจากภาษา จีน ญปี่ ุ่น ภาษาอังกฤษ เปน็ ตน้
สาระการเรียนรู้
คายมื ภาษาต่างประเทศ
๓๖๕
กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. ครูและนักเรียนสนทนาเร่ือง คาในภาษาไทย บางคา ท่ีเป็นคาที่มาจากภาษอ่ืน ๆ เช่น คา
ทมี่ าจากภาษาอังกฤษ ใหน้ กั เรยี นเล่นเกม “แขง่ ขันตอบคาถาม”
๒. ครูแนะนาคาท่ีมาจากภาษาอื่น ๆ แล้วแจกบัตรความรู้เร่ืองภาษาต่างประเทศในภาษาไทย
เพ่ือให้นักเรียนได้อ่านทาความเข้าใจ จากนั้นเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับคาต่าง ๆ ท่ี
นกั เรียนไดศ้ ึกษา
๓ . เมือ่ นกั เรียนแสดงความคิดเหน็ แล้ว ครสู นทนาเกี่ยวกับคาที่ใช้ในภาษาไทย โดยเฉพาะการใช้
ภาษาวรรณศิลป์ ท่ีมีการเลือกสรรคาจากภาษาอน่ื ๆ มาใช้
๔. ครูอธิบายเรื่องคาต่าง ๆ ตามบัตรความรู้ ให้นักเรียนฟัง พร้อมยกตัวอย่างคาท่ีใช้ในบริบท
ต่าง ๆ ถ้านักเรียนยังไม่เข้าใจ ว่าคาน้ัน ๆ ใช้ในความหมายอย่างไร ให้ซักถามกับครูเป็นราย ๆ หรือถามกับ
เพ่ือนทเ่ี ขา้ ใจแล้ว
๖. ใหน้ ักเรยี นทากิจกรรมบตั รกจิ กรรมการเรียนรู้
๗. ครูและนกั เรยี นช่วยกนั สรุปบทเรยี น
ส่อื / แหล่งเรยี นรู้
ลาดบั ท่ี รายการสือ่ กิจกรรมท่ีใช้ แหล่งท่ไี ดม้ า
๑
๒ บัตรความรู้ เพ่มิ เติมความชดั เจนในเนื้อหา ครูจดั เตรียม
๓ บัตรกิจกรรมการเรยี นรู้ นักเรยี นทาบตั รกิจกรรม ครจู ดั ทา
หนังสือเรยี น ชุด ววิ ิธภาษา นักเรยี นดภู าพและฝกึ อ่าน ครจู ดั หา
๔ ชน้ั ม. ๒
เฉลยบตั รกจิ กรรมการเรียนรู้ ตรวจสอบ ครจู ดั ทา
๕ แบบประเมนิ การสงั เกต บนั ทึกการสงั เกตพฤติกรรม ครูจดั ทา
พฤติกรรม
๓๖๖
การวดั ผลและประเมินผล
กจิ กรรม-พฤตกิ รรมท่ี เครือ่ งมือท่ีใชใ้ น วธิ ีการประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ
ประเมนิ การประเมิน
๑. นกั เรยี นนาเสนอ
๒. นักเรยี นทาบตั รกิจกรรม แบบประเมินรายกลุม่ สังเกตรายกลุ่ม รอ้ ยละ ๗๐ ข้นึ ไป
การเรียนรู้
แบบประเมนิ การสังเกต ตรวจงานรายบุคคล รอ้ ยละ ๗๐ ขนึ้ ไป
๓. ประเมินพฤติกรรมและ พฤติกรรม และแบบ
ผลงานระหวา่ งเรยี น
ประเมินผลงาน
แบบประเมนิ พฤติกรรมและ ตรวจงานรายกลุ่ม รอ้ ยละ ๗๐ ข้ึนไป
ผลงานระหว่างเรยี น
กิจกรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………
………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……………
………………………………………………………………………………….……………………………………………………..
๓๖๗
บันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้
๑. ผลการจดั การเรียนรตู้ ามผลการเรยี นรทู้ ีค่ าดหวัง
นกั เรียนทงั้ หมด ....................คน
– ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ระดับดี ............ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ...............
– ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับปานกลาง – คน คดิ เปน็ ร้อยละ .................
– ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับปรับปรงุ – คน คิดเปน็ ร้อยละ ...............
๒. ผลการประเมนิ พฤติกรรมระหว่างเรียน
............................................................................................................................. ...........................
.......................................................................................................................................... ....................................
............................................................................................... ...............................................................................
............................................................................................................................. .................................................
๓. ปญั หาและอุปสรรคระหว่างการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน
............................................................................................................................. ...........................
............................................................................................................................................................................ ..
๔. การปรบั ปรงุ แกไ้ ข
.......................................................................................................... .................................
............................................................................................................................. .................................................
๕. ขอ้ คิดเห็นและข้อเสนอแนะเพ่มิ เติม
..................................................................................................................................... ...................
............................................................................................................... ...............................................................
ลงช่อื ..........................................................ผสู้ อน
(นางสาวธัญญาดล อุปชิตกุล)
ครู วิทยฐานะครชู านาญการพิเศษ
๓๖๘
ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรียน
........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
ลงช่ือ.................................................ผูต้ รวจสอบ
( ................................................. )
ผ้อู านวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา
๓๖๙
บตั รความรู้
ภาษาแต่ละภาษา ไทยเรามีวธิ ีรับมาใช้แตกตา่ งกัน พอสรปุ ได้ดังน้ี
ภาษาจีน
การรับภาษาจีนเข้ามาใช้ในภาษาไทยนั้น ไทยรับเข้ามาในรูปของคามาจากภาษาพูด ไม่ใช่มาจาก
ภาษาเขยี น และคาส่วนมากเปน็ คาในเรอื่ งอาหาร เครอ่ื งใช้ เรามวี ิธกี ารรับเอาภาษาจนี มาใชด้ งั น้ี
๑. โดยการทับศพั ท์ คือ ออกเสียงตามคาเดมิ อาจผดิ เพี้ยนไปบา้ งก็แตเ่ สยี งสงู ต่า
ส่วนความหมายของคาคงเดิม เช่น เต้าหู้ เต้าส่วน เต้าเจ้ียว เต้าฮวย อั้งโล่ งิ้ว โอเล้ียง บะฉ่อ บ๊วย
จับฉ่าย จับกัง เจ๊า เจ๊ง จ๋อ โจ๊ก เฉ่ง หวย หน หุ้น ยา กั๊ก ก๋กก่ัน เก้าอ้ี เก๊ เก่ง เก๊ียะ เก้ียมไฉ่
เกย๊ี ว กงสี กัง กว๋ ยเตี๋ยว เขง่ กุยเฮง แปะ๊ เจยี๊ โปะ โป๋ ปุ๋ย ซอี ว้ิ โสหุ้ย ซวย ต้ิว โต๊ะ ตั๋ว ตุ๋น ยี่ห้อ
เตียง หุ่น ลนิ้ จี่ ตรา แฉ ฉาง แจว เจ๊ยี บ กะหลา่ ลน่ิ จี่
๒. มีการกลายเสยี งไปบ้าง เช่น ตู๊ ไทย ตู,้ ฮง้ั ไทย หา้ ง, ปุ้งกี่ ไทย ปุ้งก,๋ี เตียว
หลิว ไทย ตะหลิว, ท้ัง ไทย ถัง, บ๊ะบี่ ไทย บะหม่ี
๓. มีการกลายความหมายไปบ้าง เซง้ (ชวี ิต) ไทยใช้ หมายถงึ ขาย, เกาเหลา (ตึกสบู )
ไทยใช้ หมายถึง อาหารแกงจืด, กุ๊ย (ผีเปรต) ไทยใช้หมายถึงคนเลว เก๋ (คัดเลือกดีแล้ว) ไท ยใช้
หมายถงึ เหมาะสม สวย, เขียม (เปน็ หนี)้ ไทยใชห้ มายถงึ ประหยัด
๔. นาคาภาษาจนี มาผสมกบั คาไทย เชน่ ขนมโก๋, ขนมเป๊ียะ, ลกู เต๋า, ผ้าผวย, รา้ นชา,
ถว่ั ลันเตา
ภาษาอังกฤษ มวี ธิ กี ารนามาใชด้ ังน้ี
๑. ใช้ตามคาเดิม ออกเสียงตามรูปท่ีเขียน เช่น ลอนดอน กรัม ลติ ร ฟุต วิตามนิ
อะลูมเิ นยี ม ลินิน วคั ซีน สลมั ตอร์ปโิ ด ดวล เบนซิน ฟอรม์ , ววิ , สวติ ช์
๒. ใชต้ ามคาเดิมในภาษาเขียน แต่ออกเสยี งใหผ้ ิดไปจากรปู ทีเ่ ขียน เชน่ เมตร อา่ นวา่
เมด็ , ยโุ รป อา่ นวา่ ยุ – โหรบ, คลินิก อา่ นวา่ คลิ – หนกิ , เซนตเิ มตร อ่านว่า เซน็ – ติ – เมด็
๓. เปล่ียนคาและเสียงใหม่ เพื่อใหส้ ะดวกปากของคนไทย และเปลย่ี นความหมาย
ด้วย เชน่
pipe เปน็ แปบ๊ , suit เป็น ชุด
sign เป็น เซน็ , gay เป็น เก๋
๔. เปล่ยี นรูปคาและเสียงใหม่ stew เป็น สตู
jug เป็น เหยือก,
๓๗๐
court – shoes เป็น คตั ชู, glue เป็น กาว
soup เป็น ซปุ
๕. บัญญัตศิ ัพทข์ ึ้นใหม่ ตามความหมายภาษาองั กฤษ โดยใชร้ ปู คาภาษาบาลี
สันสกฤตบางคามีเสยี งคลา้ ยคาเดมิ
seminar เป็น สัมมนา, telephone เป็น โทรศพั ท์
meter เป็น มาตร, trigonometry เป็น ตรโี กณมิติ
symmetry เป็น สมมาตร, television เป็น โทรทศั น์
temperature เป็น อุณหภมู ,ิ restaurant เป็น ภัตตาคาร
pollution เป็น มลพษิ , personnel เป็น บคุ ลากร
๖. สร้างคาใหม่ โดยการแปลความหมายออกมาสรา้ งเปน็ คาไทย เชน่
map เป็น แผนที่ Acid – soil เป็น ดนิ เปรยี้ ว
air – condition เปน็ เครอ่ื งปรบั อากาศ sheet เป็น แผน่ ปลิว
form เป็น แบบ pattern เป็น แบบรปู
๗. นาคาภาษาอังกฤษมาทับศัพท์ โดยคานึงถงึ ความสะดวก แกก่ ารออกเสยี งของ
คนไทย วิธที ับศพั ท์ มีดังนี้
๗.๑ ถอดเทา่ ท่ตี วั อกั ษรปรากฏ เพอ่ื รักษารปู ศัพทเ์ ดิมไว้ เชน่
corruption - คอร์รปั ชนั , gallon - แกลลอน
credit - เครดิต, bonus - โบนสั
ping – pong - ปงิ ปอง, tennis - เทนนสิ
๗.๒ ตดั ตวั อกั ษรท่ไี มจ่ าเป็น คอื ไม่ไดใ้ ช้ในการออกเสยี งออก เช่น
bow - โบ, foul - ฟาว
foot – ball - ฟตุ บอล
๗.๓ ใชไ้ มท้ ัณฑฆาตบนพยญั ชนะท่ไี ม่ออกเสียง เชน่
chalk - ชอล์ก, film - ฟลิ ม์
card - การ์ด, bungalo - บงั กะโล
farm - ฟาร์ม, mail - เมล์
bear - เบยี ร์
๓๗๑
๗.๔ ใช้วรรณยกุ ตก์ ากบั เสยี ง เพื่อให้อ่านได้ชดั เจนหรอื มเี สยี งนา่ ฟัง ทงั้ น้ตี ้อง
คานึงถึงการไม่รกตา เช่น โค้ก โน้ต ก๊าซ แฟช่ัน เชิ้ต บรั่นดี สเต๊ก สต๊อก แก๊ป (คาภาษาต่างประเทศ
ไม่นิยมใส่วรรณยุกต์กากับเสียง เพราะอ่านออกเสียงไม่แน่นอน จะออกเสียงอย่างไร ย่อมแล้วแต่ประโยค
หรือตาแหน่งของคาในประโยค เช่น เนกไท ยรี าฟ เฮลิคอปเตอร์ คอลมั น์ นอต ออฟฟศิ การด์ เทคนิค)
๗.๕ คาบางคาต้องการออกเสยี งส้ัน อาจใชไ้ มไ้ ต่คกู้ ากับ เช่น เช็ค, บล็อก,
ลอตเตอร่ี, แทก็ ซ่,ี เต็นท์, ช็อกโกเลต, แร็กเกต, โฮเตล็
๘. ไทยรับสานวนภาษาอังกฤษมาใช้ ทั้งในการพูดและการเขยี น เช่น
เขาจับรถไฟไปเชยี งใหม่ (He wants to catch the train to Chiang – Mai.)
เขาพลาดรถไฟ (he missed the train.)
เขามาภายใตก้ ารนาของหัวหนา้ (He came under order of his boss.)
เธอมาในชุดสีน้าเงิน (She wore a blue dress.)
ผมถูกเชญิ ให้ไปชว่ ยในงานเลีย้ ง(I was invited to the party.)
๓๗๒
บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้
จากการอา่ นบัตรกิจกรรมการเรยี นรู้ ให้นกั เรียนรวบรวมคายมื ท่ีมีการใช้คาจากภาษาอน่ื
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
………………………………………………………………………
…………………………………………………………………….
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
๓๗๓
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๗.๓
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๒
หนว่ ยที่ ๗ ปาร์ต้บี าบีควิ เวลา ๔ ช่ัวโมง
เร่อื ง ร้เู ฟ่อื งเรื่องคายืมภาษาจนี และภาษาญป่ี นุ่ เวลา ๑ ชัว่ โมง
ใช้สอนวันที่ ....................................................................................................................
มาตรฐานท่ี ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา
และพลงั ของภาษา ภมู ิปญั ญาทางภาษาและรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิ
ตัวช้วี ดั
ท ๔.๑ ม.๒/๕ รวบรวม และอธิบายความหมายของคาภาษาตา่ งประเทศทีใ่ ช้ในภาษาไทย
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ตัวชวี้ ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง/ทอ้ งถ่ิน
ความรู้ (K) ทกั ษะ/กระบวนการ (P) คุณลกั ษณะ (A)
ท ๔.๑ ม.๒/๕ รวบรวม หลกั สังเกตคาท่มี า - ฝึกสังเกตและจาแนกคา จาแนกคาท่มี าจาก
และอธิบายความหมาย จากภาษาต่างประเทศ ท่มี าจากภาษาต่างประเทศที่ ภาษาต่างประเทศที่ใช้
ของคาภาษาตา่ งประเทศที่ ท่ีใชใ้ นภาษาไทย ใช้ในภาษาไทย ในภาษาไทย
ใช้ในภาษาไทย ไดถ้ ูกต้องตาม
หลักเกณฑ์
สาระสาคัญ
ในภาษาไทยมีการยืมคาจากภาษาอื่นมาใช้ เช่น คาจากภาษา จนี ญป่ี ุ่น ภาษาองั กฤษ เป็นต้น
สาระการเรยี นรู้
คายืมภาษาจีน และญปี่ ุ่น
๓๗๔
กระบวนการจดั การเรยี นรู้
๑. ครูและนักเรียนสนทนาเรื่อง คาในภาษาไทย บางคา ที่เป็นคาที่มาจากภาษอ่ืน ๆ เช่น คา
ทม่ี าจากภาษาจนี ภาษาญีป่ ่นุ
๒. ครูแนะนาคาท่ีมาจากภาษาอื่น ๆ แลว้ แจกบัตรความรเู้ รอ่ื งคายมื ภาษาจนี และญ่ปี นุ่
ในภาษาไทย เพ่ือให้นักเรียนได้อ่านทาความเข้าใจ จากน้ันเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ
คาต่าง ๆ ท่ีนกั เรยี นได้ศึกษา
๓ . เม่ือนกั เรยี นแสดงความคิดเห็นแลว้ ครสู นทนาเกี่ยวกับคาท่ีใช้ในภาษาไทย โดยเฉพาะการใช้
ภาษาพดู ทม่ี ีการเลือกสรรคาจากภาษาอนื่ ๆ มาใช้
๔. ครูอธิบายเร่ืองคาต่าง ๆ ตามบัตรความรู้ ให้นักเรียนฟัง พร้อมยกตัวอย่างคาท่ีใช้ในบริบท
ต่าง ๆ ถ้านักเรียนยังไม่เข้าใจ ว่าคานั้น ๆ ใช้ในความหมายอย่างไร ให้ซักถามกับครูเป็นราย ๆ หรือถามกับ
เพอ่ื นท่เี ขา้ ใจแลว้
๖. ให้นกั เรยี นทากจิ กรรมบัตรกิจกรรมการเรยี นรู้
๗. ครูและนักเรยี นชว่ ยกันสรปุ
สือ่ / แหล่งเรยี นรู้
ลาดบั ท่ี รายการสอื่ กิจกรรมท่ีใช้ แหล่งท่ีได้มา
๑
๒ บัตรความรู้ เพ่ิมเติมความชัดเจนในเนื้อหา ครจู ดั เตรยี ม
๓ บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้ นักเรยี นทาบัตรกจิ กรรม ครจู ดั ทา
หนงั สอื เรียน ชดุ ววิ ิธภาษา นกั เรยี นดภู าพและฝึกอ่าน ครูจัดหา
๔ ชั้น ม. ๒
เฉลยบตั รกิจกรรมการเรียนรู้ ตรวจสอบ ครูจัดทา
๕ แบบประเมินการสังเกต บนั ทึกการสังเกตพฤติกรรม ครูจดั ทา
พฤติกรรม เพิม่ เติมความชัดเจนในเน้ือหา ครูจัดเตรยี ม
๖ บัตรคา
๓๗๕
การวัดผลและประเมนิ ผล
กิจกรรม-พฤติกรรมที่ เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ใน วิธีการประเมิน เกณฑก์ ารประเมนิ
ประเมิน การประเมนิ
๑. นักเรยี นแสดงความคิดเหน็ แบบประเมินรายกลุ่ม สังเกตรายกลมุ่ ร้อยละ ๗๐ ขน้ึ ไป
๒. นกั เรยี นทาบัตรกิจกรรม แบบประเมินการสังเกต ตรวจงานรายบุคคล ร้อยละ ๗๐ ขนึ้ ไป
การเรียนรู้ พฤติกรรม และแบบ
ประเมินผลงาน
๓. ประเมนิ พฤติกรรมและ แบบประเมินพฤติกรรมและ ตรวจงานรายกลุ่ม ร้อยละ ๗๐ ขึ้นไป
ผลงานระหวา่ งเรยี น ผลงานระหว่างเรียน
กิจกรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………
………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……………
………………………………………………………………………………….……………………………………………………..
๓๗๖
บันทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
๑. ผลการจดั การเรียนรตู้ ามผลการเรียนรทู้ ค่ี าดหวัง
นักเรยี นทง้ั หมด ....................คน
– ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับดี ............ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ ...............
– ผ่านเกณฑ์การประเมินระดับปานกลาง – คน คิดเป็นร้อยละ .................
– ไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินระดับปรบั ปรุง – คน คดิ เปน็ ร้อยละ ...............
๒. ผลการประเมินพฤติกรรมระหวา่ งเรยี น
........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
๓. ปัญหาและอปุ สรรคระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน
...................................................................................... ..................................................................
............................................................................................................................. .................................................
๔. การปรับปรงุ แก้ไข
............................................................................................................................. ..............
............................................................................................................ ..................................................................
๕. ขอ้ คิดเห็นและข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ
............................................................................................................................. ...........................
............................................................................................................................. .................................................
ลงชือ่ ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวธัญญาดล อปุ ชติ กุล)
ครู วิทยฐานะครชู านาญการพิเศษ
๓๗๗
ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรยี น
.................................................................................................................... ....................................
............................................................................................................................. .................................................
........................................................................................................................................................................... ...
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
................................................................................................................................................................ ..............
ลงชอื่ .................................................ผตู้ รวจสอบ
( ................................................. )
ผอู้ านวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศกึ ษา
๓๗๘
บัตรความรู้
ภาษาแตล่ ะภาษา ไทยเรามวี ธิ ีรบั มาใชแ้ ตกตา่ งกนั พอสรุปไดด้ งั นี้
ภาษาจนี
การรับภาษาจีนเข้ามาใช้ในภาษาไทยน้ัน ไทยรับเข้ามาในรูปของคามาจากภาษาพูด ไม่ใช่มาจาก
ภาษาเขยี น และคาสว่ นมากเป็นคาในเรื่องอาหาร เครื่องใช้ เรามีวิธกี ารรับเอาภาษาจีนมาใชด้ งั น้ี
๑. โดยการทบั ศัพท์ คอื ออกเสียงตามคาเดิม อาจผดิ เพย้ี นไปบ้างกแ็ ต่เสียงสงู ตา่
ส่วนความหมายของคาคงเดิม เช่น เต้าหู้ เต้าส่วน เต้าเจ้ียว เต้าฮวย อั้งโล่ งิ้ว โอเล้ียง บะฉ่อ บ๊วย
จับฉ่าย จับกัง เจ๊า เจ๊ง จ๋อ โจ๊ก เฉ่ง หวย หน หุ้น ยา กั๊ก ก๋กก่ัน เก้าอ้ี เก๊ เก่ง เก๊ียะ เกี้ยมไ ฉ่
เก๊ยี ว กงสี กงั ก๋วยเต๋ียว เขง่ กยุ เฮง แปะ๊ เจี๊ย โปะ โป๋ ปยุ๋ ซีอ้วิ โสหุ้ย ซวย ติ้ว โต๊ะ ตั๋ว ตุ๋น ย่ีห้อ
เตยี ง หุ่น ลิ้นจี่ ตรา แฉ ฉาง แจว เจยี๊ บ กะหล่า ลน่ิ จ่ี
๒. มกี ารกลายเสยี งไปบา้ ง เชน่ ตู๊ ไทย ต้,ู ฮงั้ ไทย ห้าง, ปุ้งกี่ ไทย ปุ้งก,ี๋ เตยี ว
หลวิ ไทย ตะหล่วิ , ท้งั ไทย ถัง, บ๊ะบี่ ไทย บะหม่ี
๓. มีการกลายความหมายไปบา้ ง เซง้ (ชีวิต) ไทยใช้ หมายถงึ ขาย, เกาเหลา (ตึกสูบ)
ไทยใช้ หมายถึง อาหารแกงจืด, กุ๊ย (ผีเปรต) ไทยใช้หมายถึงคนเลว เก๋ (คัดเลือกดีแล้ว) ไทยใช้
หมายถงึ เหมาะสม สวย, เขยี ม (เปน็ หน้ี) ไทยใช้หมายถึงประหยดั
๔. นาคาภาษาจนี มาผสมกบั คาไทย เช่น ขนมโก๋, ขนมเป๊ียะ, ลกู เต๋า, ผ้าผวย, ร้านชา,
ถ่ัวลนั เตา
ตวั อย่าง : คาศพั ทภ์ าษาจนี ในภาษาไทย
กก๊ พวก หมู่ เหลา่ ประเทศ
กงไฉ่ ผักกาดเคม็ ชนิดหน่งึ ของจีน
กงเตก๊ การทาบุญใหแ้ กผ่ ู้ตายตามพิธีของนักบวชในพทุ ธศาสนาแหง่ นกิ ายจนี และญวน
กงสี ของกลาง ของทใ่ี ชร้ วมกนั สาหรับคนหมู่หน่ึงๆ หนุ้ สว่ น บรษิ ทั บริษทั ทาการคา้
กวยจ๊ับ ช่อื อาหารชนิดหนง่ึ ทาดว้ ยแปง้ ทใ่ี ชท้ าเสน้ กว๋ ยเตยี๋ ว แตห่ ่ันเปน็ ชนิ้ ใหญๆ่
กงั ฉนิ ทรยศ คดโกง อามาตยท์ รยศ
กยุ ชา่ ย ชอื่ ขนมชนิดหนงึ่
กยุ เฮง เส้ือนอกแบบจนี
เก๊ก ขบั ไล่
เกาลัด เมล็ดผลไมช้ นดิ หน่งึ
เกาเหลา ๓๗๙
เกาเหลยี ง
เก้ียมอี๋ แกงมีลักษณะอย่างแกงจืด
โก๋ ชื่อเหลา้ จนี ชนิดหน่ึง
ขากว๊ ย ชื่ออาหารชนิดหนง่ึ คู่กบั กว๋ ยเต๋ยี วทาด้วยแปง้ ข้าวเจ้า
ขนึ้ ฉ่าย ชอ่ื ขนมอย่างหน่งึ ของจนี
จับกงั กางเกงจีนขาสน้ั
จับเจ๋ยี ว ผกั ชนดิ หน่งึ รสฉุน
จับฉ่าย งานกุลี คนทางานกุลี
จบั ยก่ี ี หม้อดินเล็กๆ มพี วย สาหรับต้มนา้
เจยี๋ น ช่อื แกงจนี ทีใ่ ส่ผักหลายอยา่ งของตา่ งๆ ทีป่ ะปนกันไปไม่เปน็ สาหรับ ไมเ่ ป็นชดุ
จีนเต็ง การเล่นพนนั ชนิดหน่ึงของจีน
จีนแส ชื่อกับข้าวชนดิ หน่งึ มปี ลาทอด ทอดแล้วปรุงดว้ ยเครอ่ื งตา่ งๆ
เฉากว๊ ย หวั หนา้ คนงานทเ่ี ป็นคนจีน
เซ้ง หมอ ครู
เซียน ชอ่ื ขนมชนิดหน่ึง
แซ่ รบั ช่วงโดยเสียเงินใหเ้ พือ่ ถอื สทิ ธใิ นโรงรา้ น เปน็ ต้น
แซยิด ผวู้ เิ ศษ ผู้สาเร็จ
ซวย โคตร วงศ์ เช้อื สาย
ตงฉนิ ทาบุญเม่ืออายุครบ ๖๐ ปีบริบูรณ์
ตงั โอ๋ เคราะหร์ ้าย อาภัพ
ตั้วโผ ซือ่ ตรง ซื่อสัตย์ อามาตยซ์ ่ือสัตย์
ต้วั เหี่ย ผกั ชนดิ หน่งึ ใบเลก็ หนา มีกลน่ิ หอม
ตนุ๋ หวั หนา้ ละครหรืองว้ิ เจา้ ของมหรสพ
ตยุ๊ ตาแหนง่ หัวหน้าอั้งยี่ องั้ ยี่
เต็ง เอาของใส่ภาชนะวางบนนา้ ร้อนเพอ่ื ให้สกุ
ไต้กง๋ เอาหมัดกระแทก เชน่ ตุ๊ยท้อง
เถา้ แก่ เครื่องช่งั น้าหนัก มีลกู ตุ้มถ่วง มตี าเตง็ เปน็ จุดๆ ไว้สาหรบั นบั
แท่ นายทา้ ยเรือสาเภา
มี่สว้ั ตาแหน่งราชการฝ่ายใน, ผเู้ ปน็ ประธานในการหมัน้ และขนั หมาก, จีนท่ีเป็นผ้ใู หญ่
ย่ีห้อ เน้อื แมงกะพรนุ หมกั เกลือทาเปน็ แผ่นใช้เปน็ อาหาร
หนุ เสน้ หม่ีขนาดเล็ก ทาด้วยแปง้ สาลี
เครื่องหมายสาหรบั รา้ นคา้ หรอื การคา้ ช่ือเสยี ง
ชอ่ื มาตราวัดหรอื ตวง คอื ๑๐ หลเี ป็นหนึง่ หนุ
๓๘๐
หุ้น ส่วนท่ีลงทนุ เทา่ กนั ในการค้าขายเปน็ ตน้
หุ้นส่วน ทุนทเี่ ขา้ กันเพือ่ ประกอบกจิ การตา่ งๆ
โสหยุ้ คา่ ใช้จา่ ย
อ๋อง เจ้า
อ้ังย่ี ซ่องลบั สมาคมที่ไมถ่ ูกตอ้ งดว้ ยกฎหมาย
อ๋ี ขนมของจนี ชนดิ หนึง่ ทาด้วยแป้ง เปน็ เม็ดๆ
เอ้ยี มจ้นุ เรอื ขนาดใหญ่สาหรับถ่ายขนและบรรทุกสนิ คา้ ในลานา้
เอีย๊ ม ผ้าคาดอกเด็กเล็ก ฯลฯ
คายืมภาษาญี่ปุ่น
๑. ช่ืออาหาร เชน่ สกุ ี้ยากี้ ซาบะ วาซาบิ โมจิ ยาโซบะ ซูซิ เทม็ ปรุ ะ กมิ จิ
๒. ชื่อกฬี า เช่น ยูโด คาราเต้ ซูโม่
๓. คาอน่ื ๆ เชน่ กิโมโน สึนามิ คาราโอเกะ ซาโยนาระ ซูบารุ อาโนเนะ
๓๘๑
บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้
จาการอ่านบัตรกิจกรรมการเรียนรู้ ให้นกั เรียนรวบรวมคายืมที่มีการใช้คาจากภาษาอ่ืน
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
………………………………………………………………………
…………………………………………………………………….
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
……………………………………………………………………
๓๘๒
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๗.๔
กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๒
หนว่ ยท่ี ๗ ปาร์ตบี้ าบคี ิว เวลา ๔ ชวั่ โมง
เร่ือง รู้เฟอื่ งเรอ่ื งคาภาษาอังกฤษ เวลา ๑ ช่ัวโมง
ใชส้ อนวนั ที่ ....................................................................................................................
มาตรฐานที่ ท ๔.๑ เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษา
และพลงั ของภาษา ภมู ิปัญญาทางภาษาและรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบตั ิของชาติ
ตวั ชี้วดั
ท ๔.๑ ม.๒/๕ รวบรวม และอธิบายความหมายของคาภาษาต่างประเทศท่ีใช้ในภาษาไทย
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง/ทอ้ งถ่ิน
ความรู้ (K) ทักษะ/กระบวนการ (P) คณุ ลักษณะ (A)
ท ๔.๑ ม.๒/๕ รวบรวม หลกั สงั เกตคาทม่ี า - ฝึกสังเกตและจาแนกคา จาแนกคาที่มาจาก
และอธิบายความหมาย จากภาษาต่างประเทศ ทมี่ าจากภาษาต่างประเทศที่ ภาษาต่างประเทศทีใ่ ช้
ของคาภาษาตา่ งประเทศที่ ทใ่ี ชใ้ นภาษาไทย ใช้ในภาษาไทย ในภาษาไทย
ใช้ในภาษาไทย ไดถ้ ูกต้องตาม
หลักเกณฑ์
สาระสาคญั
ในภาษาไทยมีการยืมคาจากภาษาอนื่ มาใช้ เช่น คาจากภาษา จีน ญปี่ นุ่ ภาษาองั กฤษ เปน็ ตน้
สาระการเรียนรู้
คายืมภาษาต่างอังกฤษ
๓๘๓
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
๑. ครูและนักเรียนสนทนาเร่ือง คาในภาษาไทย บางคา ท่ีเป็นคาที่มาจากภาษอื่น ๆ เช่น คา
ท่มี าจากภาษาองั กฤษ ให้นักเรียนดบู ัตรคาแลว้ ทายว่ามาจากภาษาใดประมาณ ๑๐ คา
๒. ครูแนะนาคาที่มาจากภาษาอ่ืน ๆ แล้วแจกบัตรความรู้เรื่องภาษาอังกฤษภาษาไทย เพื่อให้
นักเรยี นไดอ้ ่านทาความเข้าใจ จากน้ันเปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็นเก่ียวกับคาต่าง ๆ ท่ีนักเรียน
ไดศ้ กึ ษา
๓ . เมอ่ื นกั เรยี นแสดงความคิดเห็นแล้ว ครูสนทนาเก่ียวกับคาท่ีใช้ในภาษาไทย โดยเฉพาะการใช้
ภาษาวรรณศลิ ป์ ท่ีมกี ารเลือกสรรคาจากภาษาอนื่ ๆ มาใช้
๔. ครูอธิบายเรื่องคาต่าง ๆ ตามบัตรความรู้ ให้นักเรียนฟัง พร้อมยกตัวอย่างคาท่ีใช้ในบริบท
ต่าง ๆ ถ้านักเรียนยังไม่เข้าใจ ว่าคาน้ัน ๆ ใช้ในความหมายอย่างไร ให้ซักถามกับครูเป็นราย ๆ หรือถามกับ
เพอื่ นที่เขา้ ใจแล้ว
๕. นกั เรียนจบั คกู่ ัน ตง้ั และตอบคาถามและนามาทายเพือ่ น
๖. ให้นักเรียนทากิจกรรมบัตรกิจกรรมการเรยี นรู้
๗. ครูและนกั เรียนชว่ ยกนั สรปุ บทเรียนลกั ษณะคาภาษาองั กฤษ
ส่อื / แหล่งเรยี นรู้
ลาดับที่ รายการสื่อ กจิ กรรมที่ใช้ แหลง่ ที่ไดม้ า
๑
๒ บัตรความรู้ เพ่ิมเติมความชดั เจนในเน้ือหา ครูจัดเตรียม
๓ บัตรกิจกรรมการเรียนรู้ นักเรียนทาบตั รกิจกรรม ครจู ัดทา
หนังสือเรยี น ชุด วิวิธภาษา นักเรียนดูภาพและฝกึ อา่ น ครูจัดหา
๔ ช้นั ม. ๒
เฉลยบตั รกจิ กรรมการเรียนรู้ ตรวจสอบ ครูจดั ทา
๕ แบบประเมินการสังเกต บันทกึ การสังเกตพฤติกรรม ครูจดั ทา
พฤติกรรม เพ่มิ เติมความชดั เจนในเน้ือหา ครจู ดั เตรยี ม
๖ บตั รคา
๓๘๔
การวดั ผลและประเมินผล
กิจกรรม-พฤตกิ รรมท่ี เครอื่ งมอื ทใี่ ชใ้ น วิธีการประเมนิ เกณฑก์ ารประเมนิ
ประเมนิ การประเมิน
๑. นกั เรยี นตอบคาถาม
๒. นักเรยี นทาบัตรกิจกรรม แบบประเมนิ รายกล่มุ สงั เกตรายกลุ่ม ร้อยละ ๗๐ ข้นึ ไป
การเรยี นรู้
แบบประเมินการสังเกต ตรวจงานรายบุคคล ร้อยละ ๗๐ ขึน้ ไป
๓. ประเมินพฤติกรรมและ พฤติกรรม และแบบ
ผลงานระหว่างเรยี น
ประเมินผลงาน
แบบประเมนิ พฤติกรรมและ ตรวจงานรายกลุ่ม รอ้ ยละ ๗๐ ขึ้นไป
ผลงานระหวา่ งเรยี น
กจิ กรรมเสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………….………………………………………………………
………………………………………….………………………………………………………………………………………………….……………
………………………………………………………………………………….………………………
๓๘๕
บันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้
๑. ผลการจัดการเรยี นรูต้ ามผลการเรยี นรู้ท่คี าดหวัง
นกั เรยี นท้ังหมด ....................คน
– ผา่ นเกณฑ์การประเมินระดับดี ............ คน คิดเป็นรอ้ ยละ ...............
– ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ระดับปานกลาง – คน คดิ เป็นร้อยละ .................
– ไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมินระดบั ปรบั ปรงุ – คน คิดเป็นร้อยละ ...............
๒. ผลการประเมินพฤติกรรมระหว่างเรียน
............................................................................................................................. ...........................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
๓. ปญั หาและอุปสรรคระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน
........................................................................................................................................ ................
.................................................................................................................. ............................................................
๔. การปรับปรุงแกไ้ ข
............................................................................................................................. ..............
.............................................................................................................................................................. ................
๕. ขอ้ คดิ เห็นและข้อเสนอแนะเพ่ิมเตมิ
........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
ลงช่ือ..........................................................ผู้สอน
(นางสาวธญั ญาดล อุปชิตกลุ )
ครู วทิ ยฐานะครชู านาญการพิเศษ
๓๘๖
ความเห็นของผู้อานวยการโรงเรียน
........................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
ลงชอ่ื .................................................ผู้ตรวจสอบ
( ................................................. )
ผ้อู านวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา
๓๘๗
บัตรความรู้
ภาษาองั กฤษ มีวธิ กี ารนามาใช้ดังน้ี
๑. ใชต้ ามคาเดิม ออกเสยี งตามรปู ทีเ่ ขยี น เชน่ ลอนดอน กรัม ลติ ร ฟตุ วิตามิน
อะลมู ิเนียม ลนิ ิน วัคซีน สลมั ตอรป์ โิ ด ดวล เบนซิน ฟอร์ม, ววิ , สวติ ช์
๒. ใชต้ ามคาเดมิ ในภาษาเขยี น แตอ่ อกเสยี งให้ผิดไปจากรูปทีเ่ ขยี น เช่น เมตร อ่านว่า
เมด็ , ยุโรป อ่านว่า ยุ – โหรบ, คลินิก อ่านว่า คลิ – หนกิ , เซนติเมตร อ่านว่า เซน็ – ติ – เมด็
๓. เปล่ียนคาและเสยี งใหม่ เพ่อื ให้สะดวกปากของคนไทย และเปลี่ยนความหมาย
ด้วย เชน่
pipe เป็น แปบ๊ , suit เป็น ชดุ
sign เป็น เซน็ , gay เป็น เก๋
๔. เปลี่ยนรปู คาและเสียงใหม่
jug เป็น เหยอื ก, stew เป็น สตู
court – shoes เป็น คตั ชู, glue เป็น กาว
soup เป็น ซปุ
๕. บญั ญตั ศิ ัพท์ข้นึ ใหม่ ตามความหมายภาษาองั กฤษ โดยใช้รูปคาภาษาบาลี
สนั สกฤตบางคามีเสยี งคล้ายคาเดมิ
seminar เป็น สมั มนา, telephone เป็น โทรศพั ท์
meter เป็น มาตร, trigonometry เป็น ตรีโกณมิติ
symmetry เป็น สมมาตร, television เป็น โทรทัศน์
temperature เป็น อณุ หภูม,ิ restaurant เป็น ภัตตาคาร
pollution เป็น มลพษิ , personnel เป็น บคุ ลากร
๖. สร้างคาใหม่ โดยการแปลความหมายออกมาสรา้ งเปน็ คาไทย เช่น
map เป็น แผนท่,ี Acid – soil เป็น ดินเปรย้ี ว
air – condition เปน็ เคร่ืองปรับอากาศ, sheet เป็น แผ่นปลวิ
form เป็น แบบ, pattern เป็น แบบรปู
๗. นาคาภาษาองั กฤษมาทับศพั ท์ โดยคานึงถงึ ความสะดวก แกก่ ารออกเสยี งของ
คนไทย วธิ ที ับศัพท์ มดี งั น้ี
๗.๑ ถอดเท่าท่ตี ัวอักษรปรากฏ เพอื่ รกั ษารูปศพั ท์เดิมไว้ เชน่
corruption - คอรร์ ัปชนั , gallon - แกลลอน
credit - เครดิต, bonus - โบนสั
ping – pong - ปิงปอง, tennis - เทนนิส
๓๘๘
๗.๒ ตัดตวั อกั ษรทไ่ี ม่จาเปน็ คือ ไมไ่ ด้ใช้ในการออกเสยี งออก เชน่
bow - โบ, foul - ฟาว
foot – ball - ฟตุ บอล
๗.๓ ใช้ไม้ทณั ฑฆาตบนพยัญชนะทไี่ มอ่ อกเสียง เชน่
chalk - ชอลก์ , film - ฟลิ ์ม
card - การ์ด, bungalo - บงั กะโล
farm - ฟาร์ม, mail - เมล์
bear - เบียร์
๗.๔ ใชว้ รรณยกุ ต์กากบั เสยี ง เพือ่ ใหอ้ า่ นไดช้ ดั เจนหรือมเี สียงน่าฟัง ทง้ั น้ตี อ้ ง
คานึงถึงการไม่รกตา เช่น โค้ก โน้ต ก๊าซ แฟชั่น เช้ิต บร่ันดี สเต๊ก สต๊อก แก๊ป (คาภาษาต่างประเทศ
ไม่นิยมใส่วรรณยุกต์กากับเสียง เพราะอ่านออกเสียงไม่แน่นอน จะออกเสียงอย่างไร ย่อมแล้วแต่ประโยค
หรือตาแหน่งของคาในประโยค เชน่ เนกไท ยีราฟ เฮลคิ อปเตอร์ คอลมั น์ นอต ออฟฟิศ การ์ด เทคนิค)
๗.๕ คาบางคาต้องการออกเสยี งสนั้ อาจใช้ไม้ไตค่ กู้ ากับ เช่น เช็ค, บลอ็ ก,
ลอตเตอร,่ี แท็กซี่, เตน็ ท์, ชอ็ กโกเลต, แรก็ เกต, โฮเต็ล
๘. ไทยรบั สานวนภาษาอังกฤษมาใช้ ทั้งในการพูดและการเขยี น เชน่
เขาจบั รถไฟไปเชียงใหม่ (He wants to catch the train to Chiang – Mai.)
เขาพลาดรถไฟ (he missed the train.)
เขามาภายใต้การนาของหัวหน้า (He came under order of his boss.)
เธอมาในชุดสนี ้าเงิน (She wore a blue dress.)
ผมถกู เชญิ ให้ไปชว่ ยในงานเล้ียง(I was invited to the party.)
๓๘๙
ตัวอย่าง : คาศพั ท์ภาษาองั กฤษในภาษาไทย
คาศพั ท์ ภาษาองั กฤษ ความหมาย
กงสุล
consul เจ้าพนกั งานผ้มู หี นา้ ทดี่ ูแลผลประโยชนแ์ ละคนในสงั คมใน
กรอส
กรมั ตา่ งประเทศ
กราฟ
gross จานวนนับเท่ากับ ๑๒ โหล
กลูโคส
ก๊อก gramme หน่วยวัดน้าหนกั ระบบเมตริก
กอ๊ ซ
ก๊อบป้ี graph แผนภูมิท่ใี ชเ้ ส้น, จุดหรือภาพเพื่อแสดงความเปลี่ยนแปลงหรอื
กัปตนั
กา๊ ซ,แกส๊ เปรียบเทียบ
การต์ นู
เกม glucose น้าตาลชนดิ หนึง่
เกาต์
เกยี , เกียร์ cock เครื่องปดิ เปดิ นา้ จากทอ่ หรือภาชนะ
แกง๊
แก๊ป gauze ผ้าโปร่งบางใช้พนั แผล
ไกด์
คลอโรฟิลล์ copy กระดาษท่ีใช้ทาสาเนา, การทาซ้า
คลัตซ์
คลนิ กิ captain นายเรือ
คอร์รัปชนั
คอเลสเทอรอล gas อากาศธาตุ
คาร์โบไฮเดรต
คกุ ก้ี gartoon ภาพล้อ, ภาพตลก
เค้ก
game การแขง่ ขนั
เคาน์เตอร์
gout ช่ือโรคชนดิ หนึง่ เกิดข้นึ เพราะมกี รดยรู ิกในเลือดมากเกนิ ไป
gear สว่ นหน่ึงของรถยนต์ หรอื รถจกั รยานยนต์ ทาหนา้ ทท่ี ดรอบ
gang กลุ่มท่ีตั้งขนึ้ เป็นก๊กเปน็ เหล่า (มกั ใช้ในความหมายท่ีไมด่ ี)
cap ช่ือหมวกชนิดหนง่ึ มกี ระบังหนา้
guide มคั คเุ ทศก์
chlorophyll สารประกอบที่มธี าตุคลอรนี ผสมอยดู่ ้วย
clutch อุปกรณ์ทาหนา้ ท่ีส่งพลงั งานถ่ายทอดไปยังเกยี ร์
clinic สถานรกั ษาพยาบาลของเอกชน
corruption ฉอ้ ราษฎรบ์ งั หลวง
cholesterol สารสขี าวพบในไขมันสัตว์ เลอื ด เป็นตน้
carbohydrate สารอาหารชนดิ หนึ่ง
cookie ขนมฝร่งั ชนดิ หน่งึ ทาดว้ ยแป้งสาลี ไข่ เนย นา้ ตาล
cake ขนมฝรัง่ ชนิดหนึ่ง ทาด้วยแป้งสาลี ไข่ เนย น้าตาล เป็นต้น
แล้วผิงหรืออบใหส้ ุก
counter ทสี่ าหรบั วางสง่ิ ของ
๓๙๐
แคปซลู capsule หลอดเลก็ ทาดว้ ยสารที่ไม่มพี ิษ และละลายนา้ ไดง้ ่าย
แคลเซยี ม calcium สารทีเ่ ป็นองคป์ ระกอบท่สี าคัญของกระดูกหรอื ฟัน
แคลอรี calorie หนว่ ยวัดปริมาณความร้อน
โควตา quota การกาจดั จานวนโดยวางกฎเกณฑ์ไว้
ช็อกโกแลต, ช็อกโกเลต chocolate ขนมหวานทาจากเมลด็ โกโก้ และน้าตาล
ชอล์ก chalk เครอ่ื งเขยี นกระดานดาชนดิ หน่ึง
เช็ค cheque ตวั๋ เงนิ ชนดิ หนึง่
เชลแลก็ shellac ของแข็งที่สกดั ได้จากน้าครั่ง
เช้ติ shirt เส้ือคอปกชนดิ หน่ึง
ซอส sauce เครื่องปรุงรส
ซิกแซ็ก zigzag คดไปคดมา
ซปิ zipper เครอ่ื งรดู ปดิ ให้ริมผ้า ๒ ชน้ิ ประสานกนั
เซ็น sign ลงลายมือชอ่ื
เซรามิก ceramic กระเบื้องเคลือบ
เซลเซยี ส celsius ชื่อองศาท่ีใช้วัดอุณหภูมิ
แซนดว์ ชิ sandwich ชอ่ื ขนมฝรั่งชนิดหนึง่
ดราฟต์ draft ตราสารซงึ่ ธนาคารเปน็ ผ้อู อก
ดอลลาร์ dollar ช่อื หนว่ ยเงนิ ตราอย่างหนง่ึ
ดีเปรสชัน depression ชื่อพายหุ มุนทม่ี ีกาลังอ่อน ทาให้ฝนตก
เต็นท์ tent ทพี่ ักอาศัยชั่วคราวยา้ ยไปได้
ทอนซลิ tonsil ปุม่ เป็นเนื้อเย่ือน้าเหลอื งอยู่ในบรเิ วณลาคอ
ทอฟฟี่ toffee ของหวานท่ีมนี ้าตาลเป็นส่วนผสมสาคญั ใชอ้ ม
ทาวน์เฮาส์ town house เรอื นแถวสาหรบั พักอาศัย
เทคโนโลยี technology วิทยากรสมยั ใหม่ท่นี าเอาวิทยาศาสตร์มาประยกุ ต์ใช้
แท็กซ่ี taxi รถยนตร์ ับจา้ งสาธารณะ
แทง็ ก์ tank ถังขนาดใหญใ่ ชบ้ รรจขุ องเหลว
นอต knot ท่อนหรือแผน่ โลหะส้นั ๆ มรี เู กลียวตรงกลางสาหรับสวมเข้ากบั
ปลายสลักเกลียว
เนกไท necktie ผา้ ผูกคอชนดิ มีชายใช้กับเสือ้ คอเชิ้ต
โน้ต note การจดบันทกึ เพ่ือชว่ ยความจา
ไนต์คลบั night club สถานเรงิ รมยอ์ ย่างหนึ่ง
บัคเตร,ี แบคทีเรยี bacteria พชื ชัน้ ตา่ เซลลเ์ ดียวชนดิ หน่งึ
๓๙๑
บังกะโล bungalow บ้านพกั พ้ืนชั้นเดยี ว มรี ะเบียงกว้าง
บาสเกตบอล basketball ชอ่ื กีฬาชนิดหนงึ่
แบดมินตนั badminton ชือ่ กฬี าชนดิ หนง่ึ ใช้แร็กเกตตลี กู ขนไก่ใหข้ ้ามตาข่าย
แบตเตอรี่ battery หมู่ของเซลลไ์ ฟฟ้า ซง่ึ ต่อกนั อยา่ งขนาน
โบ bow เงื่อนกระตกุ ผกู เป็นรปู หูกระตา่ ย
ปร๊ฟู proof กระดาษท่ีใช้พมิ พ์มีคุณภาพต่า
ปาร์เกต์ parquet ไม้แผ่นเลก็ ๆ ท่ีใช้ปพู ้ืน
ปกิ นกิ picnic การไปเท่ยี วชั่วระยะเวลาสั้น และมีของกินไปดว้ ย
เปอร์เซน็ ต์ percent จานวนเทยี บเปน็ รอ้ ยละ
พลาสติก plastic สารประกอบสังเคราะห์ใชแ้ ทนวสั ดุธรรมชาติ
ฟุลสแกป๊ foolscap กระดาษสขี าวมเี สน้ บรรทดั พับทบตรงกลาง
แฟชน่ั fashion สมยั นิยม
ยปิ ซัม gypsum แรช่ นดิ หนง่ึ
ริบบ้นิ ribbon แกนแพรไหมสีตา่ งๆ
รูเลต็ ต์ roulette ช่อื การพนนั ชนิดหนึง่
แร็กเกต racket จ้เี ปน็ รปู ตลับเล็กๆ
ล็อกเกต locket จเี้ ปน็ รูปตลับเล็กๆ
ลอตเตอรี่ lottery สลากกนิ แบง่ รัฐบาล
ลิกไนต์ lignite ถ่านหินชนิดหนึ่ง
ลิปสติก lipstick เครอ่ื งสาอางชนดิ หนึ่ง
ลิฟต์ lift หอ้ งเล็กๆ แขวนอย่บู นลวดสลงิ เคลอื่ นทีด่ ้วยพลังงานไฟฟ้า
วอลเลย์บอล valley ball กฬี าชนดิ หนงึ่
วคั ซนี vaccine สารสกัดผลติ มาเพ่ือฉีดป้องกันโรค
วิตามิน, ไวตามนิ vitamin สารอาหารทีจ่ าเปน็ ต่อรา่ งกาย
วสิ ก้ี whisky เครือ่ งด่ืมชนิดหนง่ึ
เว็บไซต์ website สถานเี ป็นเครือข่ายข้อมูลข่าวสารทางอนิ เทอร์เนต็
สเกต skate การเล่นอย่างหน่ึง
สตอ๊ ก stock สนิ ค้าท่นี ามาเกบ็ ไว้ เพ่ือสารองรอจาหน่าย
สตฟั ฟ์ stuff การทาวัสดบุ รรจใุ นโครงหนังสตั ว์ ซงึ่ ผา่ นกรรมวิธที างเคมี
สเต็ก steak เน้อื หรือปลาช้ินหนา สาหรับทอดหรือย่าง
สนุกเกอร์ snooker กฬี าชนิดหนึ่ง
สแลง slang ถอ้ ยคาสานวนท่ีเขา้ ใจกนั เฉพาะกลุ่ม
๓๙๒
สวิตช์ switch อปุ กรณ์เปิดปิดไฟฟา้
ออกซเิ จน oxygen แก๊สชนดิ หนงึ่
ออฟฟิศ office สานกั งาน
อินเทอรเ์ น็ต internet เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ทีเ่ ชื่อมโยงกันทวั่ โลก
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ electronic เครื่องอุปกรณ์ไฟฟ้าท่ีสลบั ซับซอ้ น
อเี มล e-mail ไปรษณยี ์อิเลก็ ทรอนิกส์
เอกซเรย์ x-ray การถ่ายภาพภายใน โดยใชร้ ังสแี มเ่ หล็กไฟฟา้
แอโรบิก aerobic การออกกาลังกายอยา่ งหน่ึง
อก๊ oak ช่ือตน้ ไม้ชนิดหนึง่
โอ๊ต oat ชื่อพันธ์ขุ ้าวชนิดหนง่ึ
โอทอป OTOP สนิ ค้าหน่ึงตาบลหนึ่งผลติ ภัณฑ์
โอลิมปกิ Olympic ชื่อการแข่งขันกฬี าระหว่างประเทศ
โฮเต็ล hotel โรงแรม
โฮมเพจ home page หน้าของแต่ละเว็บไซต์
๓๙๓
บตั รกจิ กรรมการเรียนรู้
จงเขยี นคาภาษาอังกฤษตอ่ ไปนใ้ี ห้ถกู ต้องตามอักขรวธิ ีไทยพร้อมนามาแตง่ ประโยคให้
สละสลวย
COMMANDO SHIRT DIESEL GORILLA CREDIT
GALAXY
CHLORINE QUILLOTINE COCK CHEQUE
๑. COMMANDO เขยี นแบบไทย คอื
ประโยค
๒. SHIRT เขยี นแบบไทย คือ
ประโยค
๓. DIESEL เขียนแบบไทย คอื
ประโยค ………………………………………………………………………………
๔. GORILLA เขยี นแบบไทย คอื
ประโยค
๕. CREDIT เขียนแบบไทย คอื
ประโยค
๖. GALAXY เขยี นแบบไทย คอื
ประโยค
๗. CHLORINE เขยี นแบบไทย คอื
ประโยค
๘. QUILLOTINE เขยี นแบบไทย คือ
ประโยค
๙. COCK เขยี นแบบไทย คือ
ประโยค
๑๐. CHEQUE เขียนแบบไทย คอื
ประโยค
๓๙๔
เฉลยบตั รกจิ กรรมการเรียนรู้
จงเขียนคาภาษาองั กฤษตอ่ ไปน้ใี ห้ถกู ตอ้ งตามอักขรวธิ ีไทยพร้อมนามาแต่งประโยคให้
สละสลวย
COMMANDO SHIRT DIESEL GORILLA CREDIT
GALAXY
CHLORINE QUILLOTINE COCK CHEQUE
๑. COMMANDO เขยี นแบบไทย คือ คอมมานโด
ประโยค หน่วยคอมมานโดบุกจโู่ จมจบั คนร้ายได้สาเร็จ
๒. SHIRT เขยี นแบบไทย คือ เชต้ิ
ประโยค เสื้อเช้ิตสฟี ้าเหมาะกับเธอมากนะ
๓. DIESEL เขียนแบบไทย คอื ดเี ซล
ประโยค วนั นี้ราคาน้ามนั ดีเซลเพิ่มขึ้นลิตรละ ๒๕ สตางค์
๔. GORILLA เขียนแบบไทย คือ กอริลลา
ประโยค ลงิ กอริลลาเป็นลิงที่ดุร้ายมาก
๕. CREDIT เขียนแบบไทย คอื เครดิต
ประโยค ถา้ ฉันไมท่ าตามสัญญาฉันกเ็ สยี เครดิตหมดน่ะซ่ี
๖. GALAXY เขยี นแบบไทย คอื กาแล็กซี่
ประโยค โลกของเราอยใู่ นกาแล็กซ่ที างชา้ งเผือก
๗. CHLORINE เขียนแบบไทย คือ คลอรนี
ประโยค น้าประปาจะสะอาดถ้าเตมิ สารคลอรีนลงไป
๘. QUILLOTINE เขียนแบบไทย คือ กโิ ยตนี
ประโยค ในยโุ รปสมยั กอ่ นมีการประหารชีวิตนักโทษด้วยกโิ ยตีน
๙. COCK เขียนแบบไทย คอื ก๊อก
ประโยค ใครเปดิ ก๊อกนา้ ท้ิงไว้
๑๐. CHEQUE เขยี นแบบไทย คือ เช็ค
ประโยค พี่ได้รับเช็คของขวัญจากหา้ งสรรพสนิ คา้ แหง่ หน่ึง
๓๙๕
แบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรียน
ให้นักเรยี นบอกว่าเป็นคายืมมาจากภาษาใด
๒. จนี ๒. ญปี่ ุ่น ๓. องั กฤษ
....................... ๑. แกลลอน
....................... ๒.บะฉ่อ
....................... ๓. คลนิ กิ
....................... ๔. ซซู ิ
....................... ๕.ถัว่ ลันเตา
....................... ๖. ซอส
....................... ๗. กยุ เฮง
....................... ๘. อะลูมเิ นยี ม
....................... ๙. วาซาบิ
....................... ๑๐. สลัม
....................... ๑๑.กะหล่า
....................... ๑๒. กอ๊ ก
....................... ๑๓. สุกีย้ ากี้
....................... ๑๔. บังกะโล
....................... ๑๕.เกาเหลา
....................... ๑๖. ซาบะ
....................... ๑๗.คัตชู
....................... ๑๘. ตรา
....................... ๑๙ เทปรุ ะ
....................... ๒๐.โอเลย้ี ง
๓๙๖
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน-หลงั เรียน
ใหน้ ักเรยี นบอกวา่ เปน็ คายืมมาจากภาษาใด
๒. จนี ๒. ญี่ปนุ่ ๓. อังกฤษ
องั กฤษ ๑. แกลลอน
จนี ๒.บะฉอ่
องั กฤษ ๓. คลินกิ
ญป่ี นุ่ ๔. ซซู ิ
จีน. ๕.ถ่ัวลันเตา
อังกฤษ ๖. ซอส
จนี ๗. กุยเฮง
องั กฤษ ๘. อะลูมิเนียม
ญปี่ ุ่น. ๙. วาซาบิ
องั กฤษ ๑๐. สลมั
จีน ๑๑.กะหล่า
อังกฤษ ๑๒. ก๊อก
ญ่ีปุน่ ๑๓. สุกยี้ าก้ี
องั กฤษ ๑๔. บังกะโล
จนี ๑๕.เกาเหลา
ญปี่ ุน่ ๑๖. ซาบะ
อังกฤษ ๑๗.คตั ชู
จีน ๑๘. ตรา
ญีป่ นุ่ ๑๙ เทปรุ ะ
จีน ๒๐.โอเลยี้ ง
๓๙๗
แบบประเมินหลงั แผนการจดั การเรียน