The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ ป.4 เทอม 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by santi muangdoo, 2021-07-31 06:57:04

แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ป.4 เทอม 1

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ ป.4 เทอม 1

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ ป.4

8

ตั ช้ี ดั
ค 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3, ป.4/4, ป.4/5, ป.4/6, ป.4/7, ป.4/8, ป.4/9, ป.4/10,
ป.4/11, ป.4/12, ป.4/13, ป.4/14, ป.4/14, ป.4/15, ป.4/16
ค 1.2 (มีการจัดการเรยี นการ อนเพอ่ื เปน็ พนื้ ฐานแตไ่ ม่ ัดผล)
ค 2.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/3
ค 2.2 ป.4/1, ป.4/2
ค 3.1 ป.4/1

ร ม 23 ตั ชี้ ดั

9

โครง ร้างเ ลาเรียน
กลุม่ าระการเรยี นรู้คณติ า ตร์ ชั้นประถม กึ าปีท่ี 4

บทท่/ี เรอ่ื ง เ ลา (ช่ั โมง)
ภาคเรยี นท่ี 1
บทที่ 1 จำน นนบั ทม่ี ากก า่ 100,000 15
บทที่ 2 การบ กและการลบจำน นนับท่ีมากก ่า 100,000 13
บทท่ี 3 การคูณ การ าร 31
บทที่ 4 การบ ก ลบ คูณ ารจำน นนบั 13
บทที่ 5 เ ลา 10
82
ร มภาคเรียนท่ี 1

10

โครง รา้ งราย ิชา

น่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการ าระ ำคญั เ ลา
เ ลา เรียนร/ู้ ตั ชี้ ัด (ชม.)

ค 2.1 การบอกระยะเ ลา ต้องใช้ค าม ัมพันธ์ของ 10

ป.4/1 น่ ยเ ลาและการดำเนินการของจำน น

ตารางเ ลา จะช่ ยใ ้อ่านข้อมูลได้ ะด กและ

ชดั เจนข้นึ และนำไปแก้ปัญ าเกย่ี กับเ ลา

11

กำ นดแผนการจดั การเรียนรู้ ช้ันประถม กึ าปีที่ 4
น่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เ ลา

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ เรอื่ ง จำน น
(ช่ั โมง)
1 การบอกระยะเ ลาเปน็ นาที ินาที
2 การบอกระยะเ ลาเป็นนาที ชั่ โมง ัน 1
3 การบอกระยะเ ลาเปน็ ินาที นาที ชั่ โมง นั ปั ดา ์ 1
1
เดอื น ปี
4 การเปรียบเทียบระยะเ ลา 1
5 การอา่ นตารางเ ลา 1
6 การ เิ คราะ ์และ าคำตอบจากโจทย์ปัญ าเก่ีย กบั นั 1

เดอื น ปี เ ลา 1
7 โจทยป์ ัญ าการบ กเกี่ย กับเ ลา 1
8 โจทย์ปญั าการลบเกีย่ กับเ ลา 1
9 โจทยป์ ญั าการคูณเก่ีย กับเ ลา 1
10 โจทย์ปัญ าการ ารเกี่ย กับเ ลา 10

รม

12

แผนการจดั การเรียนร้ทู ่ี 1

ราย ิชาคณติ า ตร์ ชัน้ ประถม กึ าปที ี่ 4

น่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เ ลา เ ลาเรยี น 10 ช่ั โมง

เร่อื ง การบอกระยะเ ลาเปน็ นาที ินาที เ ลาเรียน 1 ชั่ โมง

อน นั ท.่ี ...... เดือน.......................... พ. . ......... ภาคเรียนท่ี 1 ปกี าร ึก า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้นื ฐานเกี่ย กับการ ัด ัดและคาดคะเนขนาดข ง ิ่งที่ต้ งการ

ดั และนำไปใช้

ตั ช้ี ัด
ค 1.1 ป.4/1 : แ ดง ิธี าคำต บข งโจทยป์ ัญ าเก่ีย กบั เ ลา

าระ ำคญั
การบ กระยะเ ลาเป็น ินาที นาที เปน็ การบ กช่ งเ ลาในการทำกจิ กรรมซ่ึงใชค้ ามร้เู ร่ื ง

ค าม ัมพนั ธเ์ ลาคิดคำน ณระยะเ ลาท่ตี ้ งการ โดย
60 นิ าที เทา่ กบั 1 นาที

จดุ ประ งค์การเรยี นรู้
1. ธบิ าย ลักการบ กระยะเ ลาเป็นนาที ินาทีได้ (K)
2. เขียนแ ดง ลักการข งระยะเ ลาเปน็ นาที นิ าทีได้ (P)
3. นำค ามรู้เกีย่ กับการบ กระยะเ ลาไปใชแ้ กป้ ญั าทางคณติ า ตร์ได้ (A)

าระการเรยี นรู้
การบ กระยะเ ลาเปน็ นาที นิ าที

ทัก ะและกระบ นการทางคณติ า ตร์
1. ค าม ามารถในการ ่ื ารและการ ื่ ค าม มายทางคณิต า ตร์
2. ค าม ามารถในการแก้ปญั า
3. ค าม ามารถในการใ เ้ ตผุ ล
4. ค าม ามารถในการเช่ื มโยง

13

คุณลกั ณะอนั พงึ ประ งค์
1. มี ินัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั นำเข้า บู่ ทเรยี น
1. ครู นทนาเกีย่ กบั เ ลาในชี ิตประจำ นั เชน่ ต่ืนน นเ ลาใด เขา้ เรยี นชั่ โมงที่ น่ึง

เ ลาใดเข้าน นเ ลาใด เลิกเรียนเ ลาใด แล้ ุ่มนักเรียน กมา มุนเขม็ นาฬิกาจากนาฬิกาจำล ง
และเขียนบ กเ ลาโดยใช้จุดบนกระดานดำ

ขั้น อน
2. ครูยกตั ยา่ งเ ตกุ ารณใ์ นชี ิตจรงิ ทเ่ี ก่ีย กบั ระยะเ ลา เชน่ ระยะเ ลาในการเรียน

ิชาคณิต า ตรโ์ ดย ธิบายการ ่านเ ลาพร้ มทงั้ มุนเข็มนาฬกิ าจากนาฬิกาจำล ง และใช้การถาม
ต บ ดังน้ี

จากเ ลาบน น้าปัดนาฬิกาเป็นเ ลาที่เร่มิ เรียน ิชาคณิต า ตร์

- เราเรมิ่ เรยี น ชิ าคณิต า ตรเ์ ลาใด (9 นาฬกิ า30 นาที รื 9.30 น.)
- เขม็ นั้ ช้รี ะ ่างตั เลขใด (9 กบั 10)
- เขม็ ยา ช้ตี ั เลขใด (6)
- เขม็ ินาทชี ้ีตั เลขใด (12)
3. ครู มุนเข็ม ินาทมี าที่เลข 6 ครู ธิบายแนะนำและใชก้ ารถามต บจนนักเรยี นต บ
ได้ ่า เมื่ ระยะเ ลาผ่านไป 30 ินาที จะเปน็ เ ลา 9 นาฬกิ า 30 นาที 30 นิ าที

14

4. ครู มุนเขม็ ินาทมี าทเ่ี ลข 12 ครู ธิบายแนะนำและใชก้ ารถามต บจนนักเรียนต บ
ได้ ่า เมื่ ระยะเ ลาผ่านไป 60 ินาที เข็ม ินาที จะเดินครบ 1 ร บ และเข็มยา จะเดินไป 1 นาที
เปน็ เ ลา 9 นาฬกิ า 31 นาที

ในทำน งเดีย กัน ครูใ ้นักเรียน ังเกตจากการ มุนเข็ม ินาที ครบ นึ่งร บ ง
ร บ ามร บ รี่ บ และ ้าร บ เข็มยา จะเดิน ย่างไร แล้ ใช้การถามต บจนนักเรียนร่ มกัน รุป
ได้ ่า

เข็ม นิ าทเี ดินไป 5 ร บ เข็มยา เดินไป 5 ช่ งเลก็ เปน็ ระยะเ ลา 5 นาที
เขม็ นิ าทีเดินไป 4 ร บ เข็มยา เดนิ ไป 4 ช่ งเล็ก เปน็ ระยะเ ลา 4 นาที
เข็ม ินาทเี ดนิ ไป 3 ร บ เขม็ ยา เดินไป 3 ช่ งเลก็ เป็นระยะเ ลา 3 นาที
เขม็ นิ าทีเดินไป 2 ร บ เขม็ ยา เดนิ ไป 2 ช่ งเล็ก เปน็ ระยะเ ลา 2 นาที
เข็ม นิ าทเี ดินไป 1 ร บ เข็มยา เดนิ ไป 1 ช่ งเลก็ เปน็ ระยะเ ลา 1 นาที
แ ดง า่ เข็ม นิ าทเี ดนิ ครบ 1 ร บ เป็นระยะเ ลา 60 ินาที เขม็ ยา เดินไป 1 นาที
ดังนน้ั 60 ินาที เทา่ กบั 1 นาที
5. ครูติดแถบกระดา ธิบายแนะนำ
ระยะเ ลา มายถงึ ช่ งเ ลาที่ต่ เน่ื งจากเ ลา นงึ่ ถงึ กี เ ลา น่ึง
6. ครูยกตั ย่าง ถานการณ์นักเรียนไป ำ ม เพื่ ทำการตร จรัก าโรคในเ ลาเชา้
แล้ ใช้การถามต บ เชน่

15

- นักเรียนไปถึงคลินิกและรับบัตรคิ เ ลาใด (9 นาฬกิ า 20 นาที)
ครู มนุ เข็มนาฬกิ ามาทเี่ ลข 5 และ มุนเขม็ นิ าทีมาท่ีเลข 3

- พยาบาลเรียกใ ้นักเรียนไปพ ม เพื่ ทำการตร จรัก าเ ลาใด (9 นาฬิกา
25 นาที 15 นิ าท)ี

7. ครู าจจัดกิจกรรมในทำน งเดีย กัน ีก ลาย ๆ ครั้ง จน ังเกต ่า นักเรียนเขียน
บ กระยะเ ลาได้ถูกต้ ง

8. ครูยกตั ย่างระยะเ ลาเป็นนาที ินาที แล้ ใช้การถามต บใ ้นักเรียน ธบิ าย ิธี
คดิ ดงั น้ี

นิ ขจี่ ักรยานจากบา้ นไปตลาดใชเ้ ลา 3 นาที คิดเป็นกี่ ินาที
- 1 นาที คดิ เป็นก่ี นิ าที (60 นิ าท)ี
- 3 นาที จะมากก ่า รื น้ ยก ่า 60 ินาที เพราะเ ตุใด (มากก ่า 60 ินาที
เ ลา 3 นาที มากก ่าเ ลา 1 นาที)
- จะทำระยะเ ลา 3 นาที ใ ้เป็น ินาทีได้ ย่างไร (เขียนแผนภาพแ ดง ิธีคิด
ดังน)้ี

1 นาที 1 นาที 1 นาที
60 นิ าที 60 นิ าที 60 นิ าที

16

- เขียนแ ดง ธิ ี าคำต บได้ ยา่ งไร
เน่ื งจาก 1 นาที คิดเป็น 60 นิ าที
จะได้ 3 นาที คิดเป็น 60 + 60 + 60 = 180 นิ าที
รื 3 นาที คิดเป็น 3 × 60 = 180 นิ าที
ดังนน้ั 3 นาที คดิ เปน็ 180 นิ าที
ตอบ นิ ข่จี ักรยานจากบ้านไปตลาดใช้เ ลา ๑๘๐ ินาที

9. ครูใช้การถามต บใ น้ ักเรียนร่ มกัน ภปิ ราย ธิ ีคิดและครูเขียน ธิบายแนะนำตาม
ตั ยา่ งดงั นี้
ตั อย่าง 1 กล ยแขง่ ขัน ่ายน้ำ 200 เมตร ใชเ้ ลา4 นาที 20 นิ าที คดิ เป็นก่ี ินาที
ิธีคดิ

1 นาที 1 นาที 1 นาที 1 นาที

60 ินาที 60 นิ าที 60 ินาที 60 ินาที

เนื่ งจาก 1 นาที คดิ เป็น 60 นิ าที
จะได้ 4 นาที คดิ เป็น 60 + 60 + 60 + 60 = 240 นิ าที
รื 4 นาที คิดเป็น 4 × 60 = 240 ินาที
ดังนั้น 4 นาที 20 ินาที คิดเป็น 240 + 20 = 260 นิ าที
ตอบ กลอยแขง่ ขนั ่ายนำ้ ๒๐๐ เมตร ใชเ้ ลา ๒๖๐ ินาที

ตั อย่าง 2 พรา แข่งขนั ่ิงระยะทาง 400 เมตร ใช้เ ลา 225 ินาที พรา ใช้เ ลา ิ่งกน่ี าที กี่ ินาที
ิธีคดิ 1

225 นิ าที

60 นิ าที 60 ินาที 60 ินาที 45 ินาที

เนื่ งจาก 60 ินาที คิดเปน็ 1 นาที
ซ่งึ 225 = 60 + 60 + 60 +45 จะได้ า่ 225 ินาที คิดเปน็ 3 นาที 45 นิ าที
ดงั นั้น พรา ใชเ้ ลา ง่ิ 3 นาที 45 ินาที

17

ิธีคิด 2 เนื่ งจาก 60 นิ าที คดิ เปน็ 1 นาที
เปลี่ยน 225 นิ าที เป็นนาที โดยการแบง่ ครั้งละ 60 ินาที
ซง่ึ 225 ÷ 60 ได้ 3 เ 45 จะได้ า่ 225 นิ าที คิดเป็น 3 นาที 45 นิ าที
ดงั นั้น พรา ใช้เ ลา ่ิง 3 นาที 45 นิ าที

ตอบ ๓ นาที ๔๕ นิ าที
10. ครูใ ้นักเรียนทำใบงานที่ 1 การบ กระยะเ ลาเป็นนาที ินาที เมื่ เ ร็จแล้ ใ ้

นกั เรยี นช่ ยกันตร จ บค ามถกู ต้ ง จากนน้ั ครแู ละนกั เรียนร่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 1
ขนั้ รุป
11. ครแู ละนักเรยี นร่ มกัน รุป ่งิ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ร่ มกัน ดังนี้
- เราบ กเ ลาเป็นนาฬกิ า และนาที
- ระยะเ ลา มายถงึ ช่ งเ ลาทตี่ ่ เนื่ งจากเ ลา นง่ึ ถึง ีกเ ลา น่งึ
- เครื่ ง มาย รรคต นทีใ่ ช้บ กระยะเ ลา คื ท ิภาค ( : ) ใช้คั่นระ ่างนาที

กบั นิ าที
- 60 ินาที เทา่ กับ 1 นาที

่ือการเรียนรู้
1. นาฬิกาจำล ง รื นาฬิกาจรงิ (ค รมีทัง้ เข็ม น้ั เข็มยา และเขม็ ินาที)
2. แถบกระดา ค าม มายระยะเ ลา
3. ใบงานท่ี 1 การบ กระยะเ ลาเปน็ นาที นิ าที

18

การ ัดผลและประเมนิ ผล

งิ่ ที่ตอ้ งการ ัด ิธี ดั เครอื่ งมอื ัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านค ามรู้ ตร จใบงานท่ี 1 ใบงานท่ี 1 ผ่านเกณฑร์ ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ด้านทัก ะ งั เกตพฤติกรรมด้าน แบบ งั เกต ผ่านเกณฑ์ในระดบั พ ใช้ขน้ึ
กระบ นการ ทกั ะกระบ นการ พฤติกรรมด้าน ไป
ทัก ะกระบ นการ
3. ดา้ นคุณลัก ณะ งั เกตพฤติกรรมด้าน แบบ งั เกต ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ทุก
ทพี่ ึงประ งค์ คุณลัก ณะทพี่ งึ ประ งค์ พฤติกรรมดา้ น รายการขน้ึ ไปถื า่ ผา่ น
คุณลัก ณะ เกณฑ์
ท่ีพึงประ งค์

ค ามคดิ เ น็ ผบู้ ริ าร

ลงชื่ .....................................ผตู้ ร จ
()

ผู้ ำน ยการโรงเรยี น
..../................../........

19

บนั ทกึ ลงั การเรียนการ อน
1. ผลการเรยี นรู้

2. ปญั าและอุป รรค

3. ข้อเ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปญั า

ลงช่ื .....................................ผู้ น
()
..../................../........

20

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2

ราย ชิ าคณติ า ตร์ ช้นั ประถม ึก าปที ี่ 4

น่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 เ ลา เ ลาเรยี น 10 ช่ั โมง

เร่อื ง การบอกระยะเ ลาเป็นนาที ช่ั โมง ัน เ ลาเรยี น 1 ช่ั โมง

อน นั ท.่ี ...... เดอื น.......................... พ. . ......... ภาคเรียนท่ี 1 ปกี าร กึ า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 2.1 : เขา้ ใจพ้ืนฐานเก่ีย กับการ ัด ัดและคาดคะเนขนาดข ง ิ่งท่ีต้ งการ

ดั และนำไปใช้

ตั ชี้ ดั
ค 1.1 ป.4/1 : แ ดง ิธี าคำต บข งโจทยป์ ัญ าเก่ีย กับเ ลา

าระ ำคญั
การบ กระยะเ ลาเปน็ นาที ช่ั โมง ัน เปน็ การบ กช่ งเ ลาในการทำกิจกรรมซ่ึงใช้ค ามรู้

เรื่ ง ค าม มั พันธเ์ ลาคดิ คำน ณระยะเ ลาท่ีต้ งการ โดย
60 นาที เท่ากับ 1 ชั่ โมง
24 ชั่ โมง เทา่ กบั 1 ัน

จดุ ประ งคก์ ารเรียนรู้
1. ธิบาย ลกั การบ กระยะเ ลาเปน็ นาที ช่ั โมง นั ได้ (K)
2. เขียนแ ดง ลกั การข งระยะเ ลาเปน็ นาที ชั่ โมง นั ได้ (P)
3. นำค ามร้เู ก่ยี กบั การบ กระยะเ ลาไปใชแ้ ก้ปัญ าทางคณิต า ตร์ได้ (A)

าระการเรียนรู้
การบ กระยะเ ลาเปน็ นาที ชั่ โมง ัน

21

ทกั ะและกระบ นการทางคณติ า ตร์
1. ค าม ามารถในการ ่ื ารและการ ื่ ค าม มายทางคณติ า ตร์
2. ค าม ามารถในการแก้ปญั า
3. ค าม ามารถในการใ ้เ ตุผล
4. ค าม ามารถในการเชื่ มโยง

คุณลกั ณะอันพึงประ งค์
1. มี นิ ยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทำงาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นนำเขา้ ู่บทเรยี น
1. ครูทบท นเรื่ ง การบ กระยะเ ลาเปน็ นาที ินาที และการเขียนเป็นท ิภาค โดย

ใชก้ ารถามต บใ น้ กั เรยี น กมาเขยี นแ ดง ิธี าคำต บบนกระดาน เชน่
- 125 นิ าที คดิ เป็นกนี่ าที กี่ ินาที และเขยี นเปน็ ท ิภาค
เน่ื งจาก 60 ินาที เปน็ 1 นาที
จะได้ 125 นิ าที คิดเป็น 125 ÷ 60 ได้ 2 เ 5
ดังน้ัน 125 นิ าที คิดเปน็ 2 นาที 5 ินาที
เขียนเป็นท ิภาค 2 : 5
- 7 นาที 15 ินาที คดิ เป็นกี่ ินาที
เน่ื งจาก 1 นาที คิดเป็น 60 นิ าที
จะได้ 7 นาที 15 นิ าที คดิ เป็น (7 × 60) + 15 = 435 นิ าที
ดังนน้ั 7 นาที 15 นิ าที คิดเปน็ 435 นิ าที

ข้นั อน
2. ครูยกตั ย่างเ ตุการณ์ในชี ิตจริงที่เกี่ย กับระยะเ ลา โดย ธิบายการ ่านเ ลา

พร้ มทัง้ มุนเข็ม นาฬิกาจากนาฬกิ าจำล ง และใช้การถามต บ เชน่

22

1) จากเ ลาบน นา้ ปดั นาฬกิ าเปน็ เ ลาทีพ่ ่ จะ กจากบา้ นไปทำงาน

- พ่ กจากบา้ นไปทำงานเ ลาใด (6 นาฬิกา รื 6.00 น.)
- เขม็ ้ันชตี้ ั เลขใด (6)
- เขม็ ยา ชีต้ ั เลขใด (12)
- เขม็ นิ าทชี ้ีตั เลขใด (12)
2) ขณะน้พี ่ เดิน กจากบา้ นถึง น้าปากซ ยเพื่ ข้นึ รถรบั จ้าง

- พ่ เดินถงึ ปากซ ยเ ลาใด (6 นาฬกิ า 20 นาที รื 6.20 น.)
- พ่ ใช้เ ลาเดนิ จากบา้ นถงึ ปากซ ยกีน่ าที กี่ นิ าที (20 นาที 15 นิ าที)
- 20 นาที 15 นิ าที เขียนแ ดงโดยใช้ท ิภาคได้ ย่างไร (20 : 15)
3) ขณะนพ้ี ่ มาถงึ ถานทีท่ ำงาน

- พ่ เดนิ ทางถงึ ถานทีท่ ำงานเ ลาใด (7 นาฬกิ า รื 7.00 น.)
- พ่ ใชเ้ ลาเดินทางจาก น้าปากซ ยถงึ ถานทที่ ำงานกีน่ าที (40 นาท)ี
- พ่ ใช้เ ลาเดนิ ทางจากบ้านถงึ ถานที่ทำงานกี่นาที (60 นาที )
- พ่ ใช้เ ลาเดนิ ทางจากบ้านถึง ถานที่ทำงานกีช่ ั่ โมง (1 ชั่ โมง)

23

ครูใช้การถามต บเกี่ย กบั ค าม ัมพันธ์ข งนาทีกับชั่ โมง จนนักเรยี น รปุ ได้
่า 60 นาที คิดเป็น 1 ชั่ โมง

4) พ ถึง ถานที่ทำงานพ่ รับประทาน า ารเช้า และใช้เ ลา พักผ่ น ่าน
นัง ื พมิ พ์ จนถึงเ ลานี้เปน็ เ ลาท่ีพ่ เรมิ่ ทำงาน

- พ่ ใช้เ ลารับประทาน า ารเช้าและพักผ่ น ่าน นัง ื พิมพ์กี่ชั่ โมง กี่
นาที กี่ นิ าที (1 ชั่ โมง 25 นาที 40 ินาที )

ครู ธิบายแนะนำการเขียนระยะเ ลา 1 ชั่ โมง 25 นาที 40 ินาที โดยใช้
ท ภิ าคและ การ า่ นดังน้ี

1 : 25 : 40 า่ น า่ 1 ชั่ โมง 25 นาที 40 นิ าที
3. ครูใ ้นักเรียน ังเกตการ มุนเข็มยา และการเคลื่ นที่ข งเข็ม ั้น โดยใช้การถาม
ต บ จนนกั เรยี นร่ มกนั ภปิ รายได้ า่ เข็มยา เดินครบ 1 ร บ เป็นระยะเ ลา 60 นาที เข็ม ั้นเดินไป
1 ช่ งใ ญ่ เป็นเ ลา 1 ชั่ โมง และเข็ม ั้นเดินไป 24 ชั่ โมง จะเป็นเ ลา 1 ัน ครูใ ้นักเรียน รุป
ค าม มั พันธข์ งเ ลาดังนี้

60 นาที คิดเปน็ 1 ชั่ โมง
24 ช่ั โมง คดิ เป็น 1 นั
4. ครูยกตั ย่าง ถานการณ์ระยะเ ลาเป็นนาที ชั่ โมง ัน แล้ ใช้การถามต บใ ้
นกั เรียน ธบิ าย ธิ ีคดิ ดังน้ี
นักเรยี น กเดนิ ทางจากโรงเรียนเพ่ื ไปเข้าค่ายลูกเ ื – เนตรนารี ณ จัง ดั ราชบุรี
โดย ก เดินทางจากโรงเรียน นั ที่ 15 ตุลาคม 2560 เ ลา 8.00 น. และเดินทางกลับ
ถงึ โรงเรียน นั ที่ 17 ตุลาคม 2560 เ ลา 15.00 น. ในการเข้าคา่ ยลูกเ ื – เนตรนารี
ตัง้ แต่เดนิ ทาง กจากโรงเรียนจน กลบั ถงึ โรงเรียนใชเ้ ลาก่ชี ั่ โมง

- จะ าระยะเ ลาตัง้ แตเ่ ดนิ ทาง กจากโรงเรียนจนกลับถึงโรงเรียนเป็นก่ีช่ั โมง
จะต้ ง า ะไรก่ น (จำน น ันในการเขา้ ค่ายลูกเ ื เนตรนารี)

- ในการเขา้ ค่ายลูกเ ื เนตรนารี ใช้เ ลาก่ี ัน คดิ ได้ ย่างไร าจใช้เ ้นแ ดงเ ลา
ดงั นี้

24

1 ัน 1 นั
7 ช่ั โมง

15 ต.ค. 60 16 ต.ค. 60 17 ต.ค. 60 17 ต.ค. 60
8.00 น. 8.00 น. 8.00 น. 15.00 น.

ใชเ้ ลา 2 ัน 7 ช่ั โมง
- 1 นั คิดเป็นกชี่ ั่ โมง (24 ช่ั โมง)
- ในการเข้าค่ายลูกเ ื เนตรนารีครั้งนี้ ใช้เ ลามากก ่า รื น้ ยก ่า 24 ชั่ โมง
เพราะเ ตุใด (มากก า่ 24 ชั่ โมง เพราะเข้าคา่ ยลูกเ ื เนตรนารี มากก ่า 1 ัน)
- จะ า 2 นั 7 ช่ั โมง เป็นช่ั โมงได้ ยา่ งไร

เน่ื งจาก 1 นั คดิ เปน็ 24 ชั่ โมง
จะได้ 2 นั 7 ช่ั โมง คดิ เป็น (2 × 24) + 7 = 55 ช่ั โมง
ดังนน้ั 2 นั 7 ช่ั โมง คดิ เป็น 55 ชั่ โมง
ในการเข้าค่ายลูกเ ื – เนตรนารี ตั้งแต่เดินทาง กจากโรงเรียนจนกลับถึง
โรงเรียนใช้เ ลา 55 ช่ั โมง
ในทำน งเดีย กันครูใช้การถามต บใ ้นักเรียนร่ มกัน ภิปราย ิธีคิด จาก
ตั ย่างบนกระดาน ดงั น้ี

ช่างทา ีใช้เ ลาทา ีบ้าน 56 ชั่ โมง คิดเป็นกี่ ัน ก่ีชั่ โมง

ธิ ีคดิ 1
56 ชั่ โมง

24 ชั่ โมง 24 ช่ั โมง 8
(1 ัน) (1 นั )

เน่ื งจาก 24 ช่ั โมง คดิ เป็น 1 นั
และ 56 = 24 + 24 + 8
ดงั นัน้ 56 ช่ั โมง คดิ เปน็ 2 นั 8 ชั่ โมง
ตอบ ช่างทา ใี ชเ้ ลาทา ีบา้ น ๒ ัน ๘ ชั่ โมง

25

ธิ ีคดิ 2 เน่ื งจาก 24 ช่ั โมง คิดเปน็ 1 นั
และ 56 ÷ 24 ได้ 2 เ 8
ดังนั้น 56 ช่ั โมง คดิ เปน็ 2 ัน 8 ช่ั โมง

ตอบ ช่างทา ีใช้เ ลาทา บี ้าน ๒ นั ๘ ชั่ โมง

พ่ เดนิ ทาง กจากทที่ างานเ ลา 17.35 น. ถึงบ้านเ ลา 19.17 น. พ่ ใช้เ ลา
เดินทางนาน เท่าใด

ิธคี ดิ 1 ชั่ โมง

25 นาที 17 นาที

17.35 น. 18.00 น. 19.00 น. 19.17 น.
ตอบ พอ่ ใชเ้ ลาเดนิ ทาง ๑ ชั่ โมง ๔๒ นาที

10. ครใู ้นกั เรยี นทำใบงานที่ 2 การบ กระยะเ ลาเปน็ นาที ช่ั โมง ัน เม่ื เ รจ็ แล้ ใ ้
นกั เรยี นช่ ยกันตร จ บค ามถกู ต้ ง จากนนั้ ครูและนักเรียนร่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 2

ข้ัน รุป
11. ครแู ละนักเรยี นร่ มกัน รปุ ง่ิ ทไ่ี ดเ้ รียนรรู้ ่ มกัน ดังน้ี
- ระยะเ ลา มายถงึ ช่ งเ ลาที่ต่ เน่ื งจากเ ลา นงึ่ ถึง กี เ ลา นงึ่
- เครื่ ง มาย รรคต นทีใ่ ช้บ กระยะเ ลา คื ท ิภาค ( : ) ใช้คั่นระ ่างนาที

กบั นิ าที และช่ั โมงกับนาทกี บั ินาที
- 60 นิ าที เท่ากบั 1 นาที
- 24 ช่ั โมง คดิ เปน็ 1 นั

อ่ื การเรียนรู้
1. นาฬิกาจำล ง รื นาฬิกาจรงิ (ค รมีทง้ั เขม็ ัน้ เข็มยา และเขม็ ินาที)
2. ใบงานที่ 2 การบ กระยะเ ลาเปน็ นาที ชั่ โมง ัน

26

การ ัดผลและประเมนิ ผล

งิ่ ที่ตอ้ งการ ัด ิธี ดั เครอื่ งมอื ัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านค ามรู้ ตร จใบงานท่ี 2 ใบงานท่ี 2 ผ่านเกณฑร์ ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ด้านทัก ะ งั เกตพฤติกรรมด้าน แบบ งั เกต ผ่านเกณฑ์ในระดบั พ ใช้ขน้ึ
กระบ นการ ทกั ะกระบ นการ พฤติกรรมด้าน ไป
ทัก ะกระบ นการ
3. ดา้ นคุณลัก ณะ งั เกตพฤติกรรมด้าน แบบ งั เกต ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ทุก
ทพี่ ึงประ งค์ คุณลัก ณะทพี่ งึ ประ งค์ พฤติกรรมดา้ น รายการขน้ึ ไปถื า่ ผา่ น
คุณลัก ณะ เกณฑ์
ท่ีพึงประ งค์

ค ามคดิ เ น็ ผบู้ ริ าร

ลงชื่ .....................................ผตู้ ร จ
()

ผู้ ำน ยการโรงเรยี น
..../................../........

27

บนั ทกึ ลงั การเรียนการ อน
1. ผลการเรยี นรู้

2. ปญั าและอุป รรค

3. ข้อเ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปญั า

ลงช่ื .....................................ผู้ น
()
..../................../........

28

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3

ราย ิชาคณติ า ตร์ ชน้ั ประถม กึ าปที ่ี 4

น่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 เ ลา เ ลาเรยี น 10 ชั่ โมง

เรอ่ื ง การบอกระยะเ ลาเปน็ นิ าที นาที ชั่ โมง นั ัปดา ์ เดอื น ปี เ ลาเรยี น 1 ช่ั โมง

อน ันท.ี่ ...... เดอื น.......................... พ. . ......... ภาคเรียนท่ี 1 ปกี าร ึก า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 2.1 : เขา้ ใจพน้ื ฐานเกี่ย กับการ ัด ัดและคาดคะเนขนาดข ง ่ิงที่ต้ งการ

ดั และนำไปใช้

ตั ช้ี ดั
ค 1.1 ป.4/1 : แ ดง ิธี าคำต บข งโจทยป์ ญั าเก่ยี กับเ ลา

าระ ำคัญ
การบ กระยะเ ลาเป็น ินาที นาที ชั่ โมง ัน ัปดา ์ เดื น ปีเป็นการบ กช่ งเ ลาในการ

ทำกจิ กรรมซ่ึงใช้ค ามรู้เรื่ ง ค าม ัมพันธเ์ ลาคดิ คำน ณระยะเ ลาทตี่ ้ งการ โดย
1 นาที เท่ากับ 60 นิ าที
1 ชั่ โมเง เท่ากับ 60 นาที
1 นั เทา่ กบั 24 ช่ั โมง
1 ปั ดา ์ เทา่ กบั 7 ัน
1 เดื น เทา่ กบั 30 ัน รื 31 ัน
1 ปี เท่ากับ 12 เดื น
1 ปี เทา่ กบั 365 ัน รื 366 ัน

จุดประ งค์การเรยี นรู้
1. ธิบาย ลักการบ กระยะเ ลาเปน็ นิ าที นาที ชั่ โมง ัน ัปดา ์ เดื น ปีได้ (K)
2. เขยี นแ ดง ลักการข งระยะเ ลาเป็น ินาที นาที ชั่ โมง นั ปั ดา ์ เดื น ปีได้ (P)
3. นำค ามรูเ้ ก่ีย กับการบ กระยะเ ลาไปใช้แกป้ ัญ าทางคณติ า ตรไ์ ด้ (A)

าระการเรียนรู้
การบ กระยะเ ลาเปน็ นิ าที นาที ชั่ โมง ัน ัปดา ์ เดื น ปี

29

ทกั ะและกระบ นการทางคณิต า ตร์
1. ค าม ามารถในการ ื่ ารและการ ่ื ค าม มายทางคณติ า ตร์
2. ค าม ามารถในการแกป้ ญั า
3. ค าม ามารถในการใ เ้ ตผุ ล
4. ค าม ามารถในการเช่ื มโยง

คุณลกั ณะอันพึงประ งค์
1. มี ินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งม่นั ในการทำงาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นำเขา้ ูบ่ ทเรยี น
1. ครใู ชก้ ารถามต บทบท นเร่ื งค าม ัมพันธ์ข ง น่ ยเ ลาจนนกั เรียนบ กได้ ่า
1 นาที มี 60 ินาที
1 ชั่ โมง มี 60 นาที
1 ัน มี 24 ชั่ โมง
1 ปั ดา ์ มี 7 ัน
1 เดื น มี 30 นั รื 31 ัน
1 ปี มี 12 เดื น
1 ปี มี 365 นั รื 366 นั
1 ปี มี 52 ัปดา ์
2. ครู ธิบายแนะนำนกั เรียน า่ จำน น นั ใน 1 เดื น ถ้ำไมไ่ ดร้ ะบุ า่ เป็นเดื นใดใ ้ถื

า่ 1 เดื น มี 30 ัน และ 1 ปี มี 365 ัน รื 366 ัน ข้นึ ยู่กับ า่ เดื นกุมภาพนั ธม์ ี 28 ัน รื
29 นั โดยท่ั ไปถา้ ไม่ระบเุ ปน็ ปีใดใ ้ถื ่า ปนี ัน้ มี 365 นั และ 1 ปี มี 52 ปั ดา ์

ขั้น อน
3. ครูยกตั ย่าง ถานการณ์ต่ ไปนี้ ใช้การถามต บใ ้นักเรียนร่ มกันแ ดง ิธี า

คำต บดงั น้ี

ดุลยผ์ ่ น ง่ รถยนต์จนครบ ญั ญาเปน็ เ ลา 3 ปี 8 เดื น คิดเป็นก่ีเดื น

30

- ระยะเ ลา 1 ปี คิดเป็นกี่เดื น (12 เดื น)
- ระยะเ ลา 3 ปี จะมากก ่า รื น้ ยก า่ 12 เดื น เพราะเ ตุใด (มากก ่า 12
เดื น เพราะระยะเ ลา 3 ปี มากก ่า 1 ปี)
- จะ าระยะเ ลา 3 ปี 8 เดื น ใ ้เป็นเดื นได้ ย่างไร าจใชเ้ น้ แ ดงเ ลาดังน้ี

3 ปี 8 เดื น

1 ปี 1 ปี 1 ปี (8 เดื น)
(12 เดื น) (12 เดื น) (12 เดื น)

จะได้ 3 ปี 8 เดื น คดิ เปน็ 12 + 12 + 12 + 8 = 44 เดื น
รื 3 ปี 8 เดื น คดิ เปน็ (3 × 12) + 8 = 44 เดื น
ดังนน้ั ดลุ ยผ์ ่ น ่งรถยนตจ์ นครบ ญั ญาเปน็ เ ลา 44 เดื น

เก ตรกรใชเ้ ลาเล้ียงปลา 200 ัน จึงจะจับขายได้ เก ตรกรใชเ้ ลาเลีย้ ง
ปลาก่ีเดื น กี่ นั

- ระยะเ ลา 30 ัน คดิ เปน็ ก่ีเดื น (1 เดื น)
- ระยะเ ลา 200 นั จะมากก ่า รื น้ ยก ่า 1 เดื น (มากก ่า 1 เดื น)
- จะ าระยะเ ลา 200 ัน ใ ้เป็นเดื นได้ ยา่ งไร (นำ 30 ไป าร 200)
- จะแ ดง ธิ ี าคำต บได้ ย่างไร

จะได้ระยะเ ลา 200 นั คดิ เป็น 200 ÷ 30 ได้ 6 เ 20
แ ดง า่ ระยะเ ลา 200 นั คิดเป็น 6 เดื น 20 ัน
ดังนัน้ เก ตรกรใช้เ ลาเล้ียงปลา 6 เดื น 20 นั
4. ครูแบง่ นักเรยี นเปน็ กลุม่ ๆ ละ 3 – 4 คน ครนู ำบัตรโจทยเ์ ลาจำน น 4 ข้

1. ผู้รับเ มา ร้างถนน าย นึง่ เ ร็จในเ ลา 420 นั ผู้รับเ มา รา้ งถนน
เ ร็จกีป่ ี กเ่ี ดื น ก่ี นั

2. เครื่ งปนั่ ไฟฟา้ ทางานต่ เนื่ งเปน็ เ ลา 3 นั 17 ช่ั โมง คิดเป็นก่ีช่ั โมง

31

3. นิ ่ิงการกุ ลระยะทาง 30 กโิ ลเมตร ใชเ้ ลาท้ัง มด 2 ชั่ โมง 45 นาที
คดิ เป็นกี่นาที

4. ภีมไปฝึกงานทต่ี า่ งประเท เป็นเ ลา 112 ปั ดา ์ คดิ เป็นก่ีปี ก่ี ัน

มา างค ่าบนโต๊ะครแู ล้ ใ ้นักเรียนตั แทนกลุ่ม กมา ยิบบัตรโจทย์ปัญ ากลมุ่
ละ 1 ข้ ใ ้นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ช่ ยกนั คดิ ธิ ี าคาต บ โดยเขียนแ ดง ิธีคิดในกระดา ลังจากนั้น
ครู ุ่มใ ้นกั เรยี นตั แทนกลุม่ กมานำเ น ครูและนักเรียนช่ ยกันตร จ บค ามถูกต้ ง ครู าจ
ธบิ ายแนะนำเพ่ิมเตมิ ใ น้ กั เรยี นเข้าใจชดั เจนย่ิงข้ึน ซ่ึงคำต บข งแต่ละข้ เปน็ ดงั น้ี

ข้ 1 (1 ปี 1 เดื น 25 นั )
ข้ 2 (89 ช่ั โมง)
ข้ 3 (165 นาท)ี
ข้ 4 (2 ปี 56 ัน)
5. ครูใ ้นกั เรยี นทำใบงานที่ 3 การบ กระยะเ ลาเปน็ นิ าที นาที ชั่ โมง ัน ัปดา ์
เดื น ปี เมื่ เ ร็จแล้ ใ น้ กั เรียนช่ ยกนั ตร จ บค ามถูกต้ ง จากนั้นครูและนกั เรียนร่ มกันเฉลย
กจิ กรรมในใบงานท่ี 3
ขนั้ รุป
6. ครูและนกั เรียนร่ มกนั รปุ งิ่ ทีไ่ ดเ้ รยี นรรู้ ่ มกัน ดังน้ี ระยะเ ลา มายถงึ ช่ งเ ลา
ทตี่ ่ เน่ื งจากเ ลา นึง่ ถึง ีกเ ลา นง่ึ

ือ่ การเรยี นรู้
1. บตั รโจทย์เ ลา
2. ใบงานที่ 3 การบ กระยะเ ลาเป็น นิ าที นาที ช่ั โมง ัน ัปดา ์ เดื น ปี

32

การ ัดผลและประเมนิ ผล

งิ่ ที่ตอ้ งการ ัด ิธี ดั เครอื่ งมอื ัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านค ามรู้ ตร จใบงานท่ี 3 ใบงานท่ี 3 ผ่านเกณฑร์ ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ด้านทัก ะ งั เกตพฤติกรรมด้าน แบบ งั เกต ผ่านเกณฑ์ในระดบั พ ใช้ขน้ึ
กระบ นการ ทกั ะกระบ นการ พฤติกรรมด้าน ไป
ทัก ะกระบ นการ
3. ดา้ นคุณลัก ณะ งั เกตพฤติกรรมด้าน แบบ งั เกต ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ทุก
ทพี่ ึงประ งค์ คุณลัก ณะทพี่ งึ ประ งค์ พฤติกรรมดา้ น รายการขน้ึ ไปถื า่ ผา่ น
คุณลัก ณะ เกณฑ์
ท่ีพึงประ งค์

ค ามคดิ เ น็ ผบู้ ริ าร

ลงชื่ .....................................ผตู้ ร จ
()

ผู้ ำน ยการโรงเรยี น
..../................../........

33

บนั ทกึ ลงั การเรียนการ อน
1. ผลการเรยี นรู้

2. ปญั าและอุป รรค

3. ข้อเ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปญั า

ลงช่ื .....................................ผู้ น
()
..../................../........

34

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4

ราย ชิ าคณติ า ตร์ ชนั้ ประถม กึ าปที ี่ 4

น่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 เ ลา เ ลาเรยี น 10 ชั่ โมง

เรอ่ื ง การเปรียบเทยี บระยะเ ลา เ ลาเรียน 1 ชั่ โมง

อน นั ท่.ี ...... เดือน.......................... พ. . ......... ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการ กึ า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพน้ื ฐานเกี่ย กับการ ัด ดั และคาดคะเนขนาดข ง ่ิงที่ต้ งการ

ัดและนำไปใช้

ตั ช้ี ดั
ค 1.1 ป.4/1 : แ ดง ิธี าคำต บข งโจทย์ปญั าเก่ีย กับเ ลา

าระ ำคัญ
การบ กระยะเ ลาเปน็ ินาที นาที ชั่ โมง นั ัปดา ์ เดื น ปีเปน็ การบ กช่ งเ ลาในการ

ทำกิจกรรมซง่ึ ใช้ค ามรเู้ รื่ ง ค าม ัมพนั ธเ์ ลาคดิ คำน ณระยะเ ลาทต่ี ้ งการ โดย
1 นาที เท่ากบั 60 ินาที
1 ช่ั โมเง เท่ากับ 60 นาที
1 ัน เทา่ กบั 24 ชั่ โมง
1 ปั ดา ์ เท่ากบั 7 ัน
1 เดื น เทา่ กับ 30 นั รื 31 นั
1 ปี เท่ากบั 12 เดื น
1 ปี เทา่ กบั 365 ัน รื 366 ัน

จุดประ งค์การเรียนรู้
1. พจิ ารณาและ ธบิ าย ลักการเปรียบเทียบระยะเ ลาได้ (K)
2. ามารถเขียนและตร จ บได้ ่าระยะเ ลาที่โจทย์กำ นด มากก ่า น้ ยก ่า รื

เท่ากันได้ (P)
3. นำค ามรูเ้ กีย่ กับการเปรยี บเทียบระยะเ ลาไปใชแ้ กป้ ญั าทางคณติ า ตรไ์ ด้ (A)

35

าระการเรยี นรู้
การเปรียบเทียบระยะเ ลา

ทัก ะและกระบ นการทางคณิต า ตร์
1. ค าม ามารถในการ ่ื ารและการ ่ื ค าม มายทางคณติ า ตร์
2. ค าม ามารถในการแกป้ ญั า
3. ค าม ามารถในการใ ้เ ตผุ ล
4. ค าม ามารถในการเช่ื มโยง

คณุ ลกั ณะอนั พงึ ประ งค์
1. มี นิ ัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งม่นั ในการทำงาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำเข้า ู่บทเรียน
1. ครูยกตั ย่างค าม ัมพันธข์ ง น่ ยเ ลาบนกระดาน แล้ ใ น้ ักเรยี น กมาเขียน

คำต บบนกระดาน เช่น
1 นาที มี .......................................... นิ าที
1 ช่ั โมง มี .......................................... นาที
1 นั มี .......................................... ชั่ โมง
1 ปั ดา ์ มี .......................................... ัน
1 เดื น มี .......................................... นั
1 ปี มี .......................................... เดื น

ขน้ั อน
2. ครูติดแผนภูมิ ถานการณ์ในชี ิตจริงที่มีระยะเ ลาเขา้ มาเก่ีย ข้ ง แล้ ใช้การถาม

ต บเพ่ื ใ ้นกั เรียนช่ ยกันเปรยี บเทียบ เชน่

36

ในการแข่งขนั งิ่ 100 เมตร กี าภายในข งโรงเรยี นแ ง่ นึง่ มีผ้เู ข้า
แข่งขนั ่งิ เข้าเ ้นชัย 5 คน ดังน้ี

แดงใช้เ ลา 14 ินาที เขียนใชเ้ ลา 12 ินาที
เ ลื งใช้เ ลา 17 ินาที ้มใชเ้ ลา 20 นิ าที
ดำใช้เ ลา 15 นิ าที

เดยี กนั ) - ใครเปน็ ผชู้ นะเลิ เพราะเ ตใุ ด (เขยี เพราะใชเ้ ลา ง่ิ น้ ยที่ ุด)
- ใคร ่ิงเขา้ เ ้นชยั เปน็ คนที่ 5 เพราะเ ตุใด ( ม้ เพราะใชเ้ ลา ิ่งมากที่ ดุ )
- เรยี งลำดับผู้ใช้เ ลา ิง่ จากน้ ยไปมาก (เขยี แดง ดำ เ ลื ง ้ม)
- เพราะเ ตุใดนักเรียนจึงเปรียบเทียบระยะเ ลาได้ (โจทย์บ กเ ลาที่มี น่ ย

3. ครูยกตั ย่าง ถานการณ์ต่ ไปนีบ้ นกระดาน

ในการเดนิ ทางไกล ระยะทาง 5 กิโลเมตร ข งลูกเ ื โรงเรยี นแ ่ง นงึ่ พบ า่ ลกู เ ื
มู่ 1 ใช้เ ลา 145 นาที ลกู เ ื มู่ 2 ใช้เ ลา 2 ชั่ โมง 50 นาที

แล้ ใชก้ ารถามต บ เพ่ื ใ ้นกั เรียนเปรียบเทียบ เชน่
- ลูกเ ื มใู่ ดใช้เ ลาเดินทางไกลน้ ยก ่ากัน จะเปรียบเทียบกันได้ ย่างไร (ต้ ง
เปลยี่ น น่ ยเ ลาใ เ้ ปน็ น่ ยเดยี กนั )
ครู ธิบายและนกั เรียนร่ มกัน ภิปรายจน รปุ ได้ ่า การเปรียบเทยี บระยะเ ลาท่ีมี
น่ ยตา่ งกัน ต้ งเปลี่ยนใ ้เปน็ น่ ยเดีย กันก่ น แล้ จึงเปรียบเทยี บ ลังจากนั้นใช้การถามต บ
ใ น้ กั เรยี นร่ มกนั แ ดง ิธีคิดเปลีย่ น น่ ยเ ลา าจทำได้ดังน้ี
ธิ ีคดิ 1 เปล่ียน น่ ย 2 ชั่ โมง 50 นาที เป็นนาที
- 1 ช่ั โมงคดิ เป็นกีน่ าที
- จะเปล่ียน น่ ยชั่ โมงเปน็ นาที เขียนแ ดงเป็นแผนภาพได้ ยา่ งไร

1 ชั่ โมง 1 ช่ั โมง 50 นาที

60 นาที 60 นาที

37

- นักเรยี นจะเขยี นแ ดง ิธี าคำต บได้ ยา่ งไร
เน่ื งจาก 1 ช่ั โมง มี 60 นาที
จะได้ 2 ช่ั โมง คิดเป็น 2 × 60 = 120 นาที
แ ดง ่า 2 ช่ั โมง 50 นาที คดิ เปน็ 120 + 50 = 170 นาที
ซึง่ 170 นาที มากก ่า 145 นาที
ดังนน้ั ลกู เ ื มู่ 1 ใช้เ ลาเดนิ ทางไกลน้ ยก า่ ลกู เ ื มู่ 2

ิธคี ิด 2 เป็น น่ ย 145 นาที เป็นชั่ โมง
- 1 ชั่ โมงคดิ เป็นกี่นาที
- จะเปลีย่ น น่ ยนาทเี ป็นช่ั โมง เขยี นแ ดงเปน็ แผนภาพได้ ย่างไร

145 นาที

60 นาที 60 นาที 25 นาที
(1 ชั่ โมง) (1 ชั่ โมง)

- นกั เรียนจะเขียนแ ดง ธิ ี าคำต บได้ ยา่ งไร
เนื่ งจาก 60 นาที คดิ เปน็ 1 ช่ั โมง
จะได้ 145 ÷ 60 ได้ 2 เ 25
แ ดง า่ 145 นาที คดิ เปน็ 2 ช่ั โมง 25 นาที
ซง่ึ 2 ชั่ โมง 25 นาที น้ ยก ่า 2 ช่ั โมง 50 นาที
ดงั นัน้ ลูกเ ื มู่ 1 ใช้เ ลาเดนิ ทางไกลน้ ยก า่ ลกู เ ื มู่ 2

4. ครูแบ่งนกั เรยี นเป็นกลุ่มๆ ละ 3 คน แจกบตั รโจทย์เ ลาชุดเดีย กนั จาน น 3 ข้ ใ ้
นักเรยี นทกุ กลมุ่ ช่ ยกันแ ดง ิธคี ดิ ในการเปรยี บเทยี บระยะเ ลา เช่น

เตมิ คำ า่ “มากก า่ ” รื “น้ ยก า่ ” รื “เท่ากบั )
1. ปา้ ใช้เ ลาปลูกผักชี 38 ัน และเฝา้ ดูแลมะนา กด กจนเกบ็ ลกู ได้ใช้เ ลา 5 ปั ดา ์ 3

นั ดงั นนั้ ปลูกผกั ชีใชร้ ะยะเ ลา ........................... ระยะเ ลาข งมะนา กด กจนเก็บ
ลกู ได้
2. พีท่ ำ ัญญาเชา่ เรื เปน็ เ ลา 30 ดื น ลุงทำ ัญญาเชา่ ซ้ื รถยนต์เปน็ เ ลา 2 ปี 5 เดื น
ดงั นนั้ ระยะเ ลาเช่าเรื ข งพี่ .......................... ระยะเ ลาเชา่ ซ้ื รถยนต์ข งลงุ
3. ชา่ งก่ ร้างใชเ้ ลาทาร้ั บ้าน 4 ัน 7 ช่ั โมง ช่างซ่ มรถยนต์ใชเ้ ลาซ่ มรถทเ่ี ขา้ ู่ 107
ชั่ โมง ดงั นน้ั ชา่ งก่ รา้ งใช้เ ลาทาร้ั บ้าน ............................... ช่างซ่ มรถยนตเ์ ข้า ่ซู ่ ม

38

5. ครูใ ้นักเรียนทำใบงานที่ 4 การเปรียบเทียบระยะเ ลา เมื่ เ ร็จแล้ ใ ้นักเรียน
ช่ ยกนั ตร จ บค ามถูกต้ ง จากนน้ั ครแู ละนักเรยี นร่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 4

ข้นั รุป
6. ครูและนกั เรียนร่ มกนั รปุ งิ่ ที่ได้เรยี นรู้ร่ มกนั ดงั นี้ การเปรยี บเทียบระยะเ ลาท่ีมี

น่ ยต่างกนั ต้ งเปล่ยี นใ เ้ ป็น น่ ยเดีย กนั ก่ นแล้ จึงเปรียบเทยี บ

ื่อการเรียนรู้
1. แผนภูมิ ถานการณ์
2. ใบงานท่ี 4 การเปรยี บเทียบระยะเ ลา

การ ัดผลและประเมินผล

งิ่ ท่ีตอ้ งการ ัด ิธี ดั เครื่องมอื ดั เกณฑก์ ารประเมิน
1. ด้านค ามรู้ ตร จใบงานที่ 4 ใบงานที่ 4 ผ่านเกณฑ์ร้ ยละ 70 ขึ้นไป
2. ด้านทกั ะ ังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบ ังเกต ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พ ใช้ข้นึ
กระบ นการ ทกั ะกระบ นการ พฤตกิ รรมด้าน ไป
ทกั ะกระบ นการ
3. ด้านคุณลกั ณะ งั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบ ังเกต ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ทุก
ที่พึงประ งค์ คุณลกั ณะท่พี งึ ประ งค์ พฤติกรรมดา้ น รายการขนึ้ ไปถื า่ ผ่าน
คุณลกั ณะ เกณฑ์
ทพี่ ึงประ งค์

ค ามคิดเ น็ ผู้บริ าร 39

บันทึก ลังการเรียนการ อน ลงช่ื .....................................ผตู้ ร จ
1. ผลการเรียนรู้ ()

ผู้ ำน ยการโรงเรียน
..../................../........

2. ปัญ าและอปุ รรค

3. ขอ้ เ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปญั า

ลงช่ื .....................................ผู้ น
()
..../................../........

40

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5

ราย ชิ าคณติ า ตร์ ชนั้ ประถม กึ าปีท่ี 4

น่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เ ลา เ ลาเรียน 10 ชั่ โมง

เรอื่ ง การอา่ นตารางเ ลา เ ลาเรียน 1 ชั่ โมง

อน นั ที.่ ...... เดือน.......................... พ. . ......... ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี าร ึก า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 2.1 : เขา้ ใจพืน้ ฐานเกี่ย กับการ ัด ัดและคาดคะเนขนาดข ง ิ่งที่ต้ งการ

ดั และนำไปใช้

ตั ชี้ ดั
ค 1.1 ป.4/1 : แ ดง ิธี าคำต บข งโจทย์ปญั าเก่ยี กบั เ ลา

าระ ำคัญ
การ ่านตารางเ ลาใ ้ ่านตั เลขตรงจดุ ตัดในแน ตั้งและแน น นข ง ั ข้ ที่กำ นดตาม

ตาราง

จดุ ประ งค์การเรียนรู้
1. ามารถบ ก ลักการ รื ธิ กี าร า่ นตารางได้ถกู ต้ ง (K)
2. ามารถตร จ บและแก้ไขค ามถูกต้ งตามขั้นต นใน ่านตารางเ ลาที่กำ นดใ ้ได้

(P)
3. นำค ามรู้เกีย่ กับการเปรียบเทยี บระยะเ ลาไปใช้แกป้ ัญ าทางคณิต า ตร์ได้ (A)

าระการเรยี นรู้
การ ่านตารางเ ลา

ทัก ะและกระบ นการทางคณติ า ตร์
1. ค าม ามารถในการ ื่ ารและการ ่ื ค าม มายทางคณติ า ตร์
2. ค าม ามารถในการใ เ้ ตผุ ล
3. ค าม ามารถในการเชื่ มโยง

41

คุณลกั ณะอันพึงประ งค์
1. มี นิ ัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้

ขน้ั นำเข้า ู่บทเรยี น

1. ครูนำ นทนา เช่น

- ใน นึง่ ปั ดา น์ กั เรยี นเรยี น ิชาคณิต า ตร์ ันใดบา้ ง (...........................)

- ใน น่งึ ัปดา น์ กั เรียนเรียน ิชาคณิต า ตร์ทงั้ มดกี่ชั่ โมง (..........................)

- นักเรยี นทราบได้ ยา่ งไร (ดูจากตาราง น)

2. ครูติดตาราง นและ ธิบายแนะนำ ตาราง นเป็นตั ย่าง นึ่งข งตารางเ ลาที่

แ ดงรายละเ ียดในแต่ละระยะเ ลาข งแต่ละ ัน เรียน ิชาใดบ้างเพื่ ใ ้นักเรียนได้เตรียมเ ก าร

และทบท นบทเรยี นล่ ง นา้

ข้นั อน

3. ครูนำ นทนาโดยใ ้นักเรียนดรู ายละเ ียดจากตารางเรียนข งนักเรียนชั้น ป.4 บน

กระดาน แล้ ใช้การถามต บ เชน่

ตารางเรียนของนกั เรียนชั้น ป.4

เ ลา 8.30-9.30 9.30-10.30 10.30- 11.30- 12.30- 13.30- 14.30-
ัน 11.30 12.30 13.30 14.30 15.30

จนั ทร์ คณติ า ตร์ ทิ ยา า ตร์ ภา าไทย ังคม กึ า ดนตรี ภา า งั กฤ

อังคาร ภา าไทย ค มพิ เต ร์ คณติ า ตร์ ิทยา า ตร์ ภา าจีน ชุมนมุ

พุธ คณติ า ตร์ การงาน าชพี พัก ลกู เ ื
กลาง ัน ังคม ึก า ภา า ังกฤ ยุ กาชาด

พฤ ั บดี คณติ า ตร์ ประ ัติ า ตร์ ภา าไทย ภา า งั กฤ ิทยา า ตร์ นา้ ท่ี
พลเมื ง

กุ ร์ ุข ึก า ทิ ยา า ตร์ คณิต า ตร์ ิลปะ ภา าไทย พล ึก า

- ใน ันจนั ทรต์ ้ังแต่ช่ั โมงที่ 1 ถึงชั่ โมงที่ 5 เรียน ชิ าใดบ้าง นกั เรียนดไู ด้ ย่างไร
(ดตู ารางตรง ันจันทร์แล้ ดูรายละเ ียดตามแน น นตงั้ แต่ช่ั โมงที่ 1 ถงึ ช่ั โมงที่ 5 ทำใ ้ทราบ ่าใน

42

ันจันทร์ ชั่ โมงที่ 1 เรียน ิชาคณิต า ตร์ ชั่ โมงที่ 2 เรียน ิชา ิทยา า ตร์ ชั่ โมงที่ 3 เรียน ิชา
ภา าไทย ช่ั โมงท่ี 4 เรียน ชิ า ังคม กึ า และชั่ โมงท่ี 5 เรยี น ชิ าดนตรี)

- ในชั่ โมงที่ 3 ข งแต่ละ ันเรียน ิชาใดบ้าง นักเรียนดูได้ ย่างไร (ดูตารางตรง
ชั่ โมงที่ 3 แล้ ดูรายละเ ียดตามแน ตั้ง นตั้งแต่ ันจันทร์ถึง ัน ุกร์ ทำใ ้ทราบ ่า ใน ันจันทร์
ชั่ โมงที่ 3 เรียน ิชาภา าไทย ัน ังคาร ชั่ โมงที่ 3 เรียน ิชาคณิต า ตร์ ันพุธ ชั่ โมงท่ี 3 เรียน
ิชาการงาน าชีพ ันพฤ ั บดี ชั่ โมงที่ 3 เรียน ิชาภา าไทย ัน ุกร์ ชั่ โมงที่ 3 เรียน ิชา
คณติ า ตร์)

- ใน ันพุธ ชั่ โมงที่ 5 เรียน ิชาใด นักเรียนดูได้ ย่างไร (ดู ันพุธตามแน น น
และดชู ่ั โมงท่ี 5 ตามแน ต้ัง มาตรงกันที่ ชิ าภา า ังกฤ )

ลังจากครูใชก้ ารถามต บ จนนกั เรียนร่ มกนั ภปิ รายไดด้ ังนี้
- การดู ่า ันใดเรยี น ชิ า ะไรบ้าง ใ ด้ ูท่ีชื่ ันน้นั ไปตามแน น น
- การดู ่าเ ลาใดเรียน ชิ า ะไรบ้าง ใ ด้ ทู ีร่ ะยะเ ลานั้นไปตามแน ตงั้
- การดู ่า ันใด ระยะเ ลาใด เรียน ิชา ะไร ใ ้ดูที่จุดตัดระ ่าง ันและ
ระยะเ ลานนั้
ลงั จากน้นั ครู าจใช้การถามต บ เช่น
- นั จันทร์ ในแตล่ ะคาบเรยี น ิชาใดบา้ ง (คาบท่ี 1 เรียน ิชาคณติ า ตร์ คาบที่
2 เรยี น ชิ า ทิ ยา า ตร์ คาบท่ี 3 เรียน ิชาภา าไทย คาบที่ 4 เรียน ิชา ังคม ึก า คาบที่ 5 เรียน
ิชาดนตรี และคาบที่ 6 เรยี น ชิ าภา า ังกฤ )
- ในคาบที่ 4 ข งแต่ละ ันเรียน ิชาใดบ้าง ( ันจันทร์เรียน ิชา ังคม ึก า ัน
งั คารเรยี น ิชา ิทยา า ตร์ ันพธุ เรียน ิชา ังคม ึก า นั พฤ ั บดีเรยี น ชิ าภา า งั กฤ ัน ุกร์
เรียน ิชา ิลปะ)
- นั พฤ ั บดี คาบที่ 5 เรียน ิชาใด (เรยี น ชิ า ทิ ยา า ตร์)
- ิชาคณิต า ตร์ เรียนใน ันใด และคาบใดบ้าง ( ันจันทร์คาบที่ 1 ัน ังคาร
คาบท่ี 3 ันพุธคาบที่ 1 ันพฤ ั บดีคาบท่ี 1 และ นั กุ รค์ าบท่ี 3)
4. ครู นทนากับนักเรียนเกี่ย กับการเดินทาง พา นะที่ใช้ในการเดินทาง ซึ่งมี ลาย
ย่าง เช่น เครื่ งบิน รถโดย าร รถไฟ การใช้บริการด้ ยพา นะเ ล่านี้ผู้โดย ารจะต้ งทราบ
กำ นดเ ลาเข้า ก จากนั้นครูนำตั ย่างตารางการเดินรถไฟ ถานี ุตรดิตถ์มา ธิบายและใช้การ
ถามต บ ดังน้ี

ตารางการเดนิ รถไฟ ถานอี ุตรดติ ถ์ ยุด ออก ปลายทางถึง
กำ นดเ ลาขบ นรถขึน้

เลขขบ น ประเภทรถ ต้นทางออก เดนิ ระ ่างทาง ถงึ

43

13 ด่ นพเิ 19.35 กรงุ เทพฯ-เชยี งใ ม่ 03.05 3 03.08 08.40

107 เร็ 20.10 กรุงเทพฯ-เด่นชยั 04.02 3 04.05 05.15

105 เร็ 21.00 กรงุ เทพฯ- ลิ า า น์ 04.34 2 04.36 04.40

51 ด่ น 22.00 กรงุ เทพฯ-เชียงใ ม่ 06.03 3 06.06 12.10

403 ธรรมดา 05.55 พิ ณุโลก- ลิ า า น์ 07.34 3 07.37 07.40

407 ธรรมดา 05.00 นคร รรค์-เชียงใ ม่ 09.04 3 09.07 14.35

7 ปรนิ เต ร์ 08.30 กรงุ เทพฯ-เชยี งใ ม่ 14.22 5 14.27 19.30

111 เร็ 07.00 กรงุ เทพฯ-เด่นชัย 15.21 3 15.24 16.30

3 ปรนิ เต ร์ 10.50 กรงุ เทพ- รรคโลก- ิลา า น์ 19.07 5 19.12 19.15

109 เร็ 13.45 กรงุ เทพฯ-เชียงใ ม่ 22.20 3 22.23 04.05

ข้ มลู ณ นั ที่ 2 ธัน าคม 2560

- ลำดับที่ 1 เลขขบ นรถคื มายเลขใด เป็นรถประเภทใด กจากกรงุ เทพฯ เ ลา
ใดถงึ ุตรดิตถเ์ ลาใด (เลขขบ นรถ 13 เปน็ ประเภทรถด่ นพิเ กจากกรงุ เทพฯ เ ลา 19.35 น.
ถงึ ถานี ตุ รดติ ถ์ เ ลา 3.05 น.)

- ลำดับที่ 3 เลขขบ นรถคื มายเลขใด เป็นรถประเภทใด กจากกรุงเทพฯ เ ลา
ใดถึง ิลา า น์เ ลาใด (เลขขบ นรถ 105 เปน็ รถด่ นเร็ กจากกรงุ เทพฯ เ ลา 21.00 น. ถึง ิลา
า น์ เ ลา 04.34 น.)

- ถ้านักเรียนต้ งการเดินทางโดยรถไฟจากกรงุ เทพฯ ถึงเชียงใ ม่ โดยใ ้ถึงเชียงใ ม่
เ ลา 14.22 น. นักเรียนต้ งขน้ึ รถขบ นใด เปน็ รถประเภทใดและ กจากกรงุ เทพฯ เ ลาใด (ต้ งขน้ึ
รถขบ นที่ 7 เปน็ ประเภทรถ ปรนิ เต ร์ กจากกรุงเทพฯ เ ลา 08.30 น.)

- ถ้านกั เรียนต้ งการเดนิ ทางจากกรุงเทพฯ ไปถงึ เชยี งใ มก่ ่ นเ ลา 6.30 น. นักเรียน
ต้ งขึ้นรถขบ นใด เป็นรถประเภทใดและ กจากกรุงเทพฯ เ ลาใด (ต้ งขึ้นรถขบ นที่ 51 เป็น
ประเภทรถด่ น กจากกรงุ เทพฯ เ ลา 22.00 น.)

ครูแนะนำ ิธีการ ่านตารางเ ลา โดยดู ่า ถานีใด รถขบ นใดผา่ นเม่ื เ ลาใด รื มีรถ
ขบ นใดผา่ น ถานใี ด เม่ื เ ลาใด ใ ้ดูเ ลาที่เป็นจดุ ตัดระ า่ ง ถานแี ละขบ นน้ัน

5. ครู ธิบายแนะนำการคน้ าตารางการเดนิ ทางข งรถไฟ รถโดย ารประจำทาง รื
เครื่ งบนิ ไดจ้ ากเ ็บไซต์ต่างๆ เชน่

- เ ็บไซต์ข งการรถไฟแ ง่ ประเท ไทย http://www.railway.co.th
- เ บ็ ไซตข์ งบริ ทั ขน ง่ จำกดั http://transport.co.th

44

- เ ็บไซต์ข ง ายการบินต่างๆ http//www.thaiairways.com ( ายการบิน
ไทย) http://www.nokair.com ( ายการบินนกแ ร)์

6. ครูใ ้นักเรียนทำใบงานที่ 5 การ ่านตารางเ ลา เมื่ เ ร็จแล้ ใ ้นักเรียนช่ ยกัน
ตร จ บค ามถูกต้ ง จากน้ันครูและนกั เรยี นร่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 5

ขน้ั รปุ
7. ครูและนกั เรยี นร่ มกนั รุป ่งิ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ร่ มกัน ดงั นี้
- ตารางเ ลาเกี่ย ข้ งกบั เ ลาและระยะเ ลา
- การ ่านตารางเ ลาใ พ้ ิจารณาค ามเกี่ย ข้ งข งเ ลาและรายละเ ียดข ง ่ิง

ที่ ยูใ่ นตาราง

อื่ การเรยี นรู้
1. ตารางเรียนข งนักเรียนชน้ั ป.4
2. ตารางการเดนิ รถไฟ ถานี ุตรดติ ถ์
3. ใบงานท่ี 5 การ า่ นตารางเ ลา

การ ดั ผลและประเมินผล

่ิงที่ตอ้ งการ ดั ิธี ัด เคร่อื งมือ ัด เกณฑ์การประเมิน
1. ด้านค ามรู้ ตร จใบงานที่ 5 ใบงานที่ 5 ผ่านเกณฑ์ร้ ยละ 70 ข้นึ ไป
2. ด้านทกั ะ งั เกตพฤติกรรมด้าน แบบ งั เกต ผ่านเกณฑใ์ นระดับพ ใชข้ ้ึน
กระบ นการ ทัก ะกระบ นการ พฤตกิ รรมดา้ น ไป
ทัก ะกระบ นการ
3. ดา้ นคุณลัก ณะ งั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบ ังเกต ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ทกุ
ท่พี ึงประ งค์ คณุ ลกั ณะท่พี ึงประ งค์ พฤติกรรมด้าน รายการข้ึนไปถื ่าผ่าน
คุณลกั ณะ เกณฑ์
ทพี่ ึงประ งค์

ค ามคิดเ น็ ผู้บริ าร 45

บันทึก ลังการเรียนการ อน ลงช่ื .....................................ผตู้ ร จ
1. ผลการเรียนรู้ ()

ผู้ ำน ยการโรงเรียน
..../................../........

2. ปัญ าและอปุ รรค

3. ขอ้ เ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปญั า

ลงช่ื .....................................ผู้ น
()
..../................../........

46

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 6

ราย ชิ าคณิต า ตร์ ช้นั ประถม ึก าปที ่ี 4

น่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เ ลา เ ลาเรยี น 10 ชั่ โมง

เรอ่ื ง การ เิ คราะ แ์ ละ าคำตอบจากโจทยป์ ญั าเกีย่ กับ เ ลาเรียน 1 ชั่ โมง

นั เดอื น ปี เ ลา

อน นั ท่.ี ...... เดอื น.......................... พ. . ......... ภาคเรียนที่ 1 ปกี าร กึ า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 2.1 : เขา้ ใจพืน้ ฐานเกี่ย กับการ ัด ดั และคาดคะเนขนาดข ง ิ่งที่ต้ งการ

ดั และนำไปใช้

ตั ช้ี ดั
ค 1.1 ป.4/1 : แ ดง ิธี าคำต บข งโจทย์ปญั าเก่ีย กับเ ลา

าระ ำคัญ
การแกโ้ จทย์ปญั าการบ กการลบตั ง ่านทำค ามเข้าใจ ิเคราะ ์โจทย์ปัญ าและแ ดง ิธี

ทำในการคดิ ิเคราะ แ์ ละแ ดง ธิ ที ำ าจมี ธิ ีคิดทีแ่ ตกต่างกันได้

จุดประ งคก์ ารเรยี นรู้
1. ิเคราะ โ์ จทย์ างแผนแก้ปญั าโจทยป์ ญั าการบ ก การลบเกี่ย กับเ ลาได้ (K)
2. เขียนแ ดง ิธีทำตามขั้นต นและ าคำต บจากโจทย์ปัญ าการบ ก การลบเกี่ย กับ

เ ลาได้ (P)
3. นำค ามรู้เกี่ย กับโจทย์ปัญ าการบ ก การลบเกี่ย กับเ ลาไปใช้แก้ปัญ าทาง

คณิต า ตร์ได้ (A)

าระการเรียนรู้
การ เิ คราะ ์และ าคำต บจากโจทยป์ ญั าเกี่ย กบั นั เดื น ปี เ ลา

47

ทกั ะและกระบ นการทางคณิต า ตร์
1. ค าม ามารถในการ ื่ ารและการ ื่ ค าม มายทางคณติ า ตร์
2. ค าม ามารถในการแกป้ ญั า
3. ค าม ามารถในการใ เ้ ตุผล
4. ค าม ามารถในการเชื่ มโยง

คุณลัก ณะอนั พึงประ งค์
1. มี นิ ัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

กิจกรรมการเรยี นรู้

ข้นั นำเขา้ บู่ ทเรยี น

1. นักเรียนทบท นเกี่ย กับเ ลา โดยนักเรียนนั่งล้ มกันเป็น งกลมแล้ ร่ มกันร้ ง

เพลงและปรบมื ประก บจัง ะพร้ มทงั้ ง่ ลูกบ ลใ ้เพื่ นไปเรื่ ยๆ เมื่ ไดย้ นิ ัญญาณ า่ “ ยุด”

นักเรยี นที่ถื ลูกบ ล ย่จู ะต บคำถามคนละ 1 คำถาม ดังนี้

1 นาที มีกี่ นิ าที (60 ินาที) 1 ช่ั โมง มีกนี่ าที (60 นาท)ี

1 นั มกี ่ีชั่ โมง (24 ชั่ โมง) 1 ัปดา ์ มกี ี่ นั (7 ัน)

1 เดื น มกี ่ี ัน (30 นั ) 1 ปี มีกีเ่ ดื น (12 เดื น)

1 ปี มกี ่ี นั (365 นั )

ขนั้ อน

2. ครูยกตั ย่างโจทย์ปัญ าเกี่ย กับระยะเ ลาบนกระดานใช้การถามต บ จน

นักเรียนร่ มกัน ภปิ ราย าคำต บได้ เช่น

นุชเรม่ิ ทำข้ บเ ลา 13.50 น. และใช้เ ลาทำ 45 นาที นชุ ทำข้ บเ รจ็ เ ลาใด

- 1 ชั่ โมงมกี นี่ าที (60 นาที)
- นุชทำข้ บเ ร็จก่ น รื ลงั เ ลา 13.50 น. ( ลังเ ลา 13.50 น.)
- นุชทำข้ บเ ร็จก่ น รื ลงั เ ลา 14.50 น. เพราะเ ตุใด ( าจมีคำต บได้
ลาก ลาย เช่น ก่ นเ ลา 14.50 น. เพราะระยะเ ลา 13.50 น. ถึง 14.50 น. เป็นระยะเ ลา 1
ช่ั โมง แต่นขุ ใช้เ ลา 45 นาที ซง่ึ 45 นาที น้ ยก า่ 1 ชั่ โมง)

48

- จะ าคำต บได้ ยา่ งไร ( าจใชเ้ น้ แ ดงเ ลาในการ าคำต บ ดังนี)้

ิธคี ดิ 35 นาที
10 นาที

13.50 น. 14.00 น. 14.35 น.

ตอบ นชุ ทำขอ้ อบเ รจ็ เ ลา ๑๔.๓๕ น.

ปจั จุบันแม่มี ายุ 35 ปี 2 เดื น และลกู มี ายุ 11 ปี 10 เดื น แม่คล ดลกู เมื่ แม่มี
ายเุ ทา่ ใด

ิธีคดิ 11 ปี
8 เดื น 2 เดื น

แมค่ ล ดลกู 24 ปี 35 ปี ปจั จบุ นั แมม่ ี
เม่ื แมม่ ี ายุ ายุ 35 ปี 2 เดื น
23 ปี 4 เดื น

ตอบ แมค่ ลอดลูกเมื่อแมม่ ีอายุ ๒๓ ปี ๔ เดอื น

ระยะทางจากบ้านถงึ ตลาด 3 กโิ ลเมตร เตใ้ ช้เ ลาเดนิ 36 นาที เฉลี่ยแล้ ระยะทาง
1 กโิ ลเมตร เตใ้ ช้เ ลาเดินก่ีนาที

49

ธิ คี ดิ 36 นาที

12 นาที 12 นาที 12 นาที

1 กิโลเมตร 1 กโิ ลเมตร 1 กิโลเมตร
ตอบ เฉลยี่ แล้ ระยะทาง ๑ กโิ ลเมตร เตใ้ ชเ้ ลาเดนิ ๑๒ นาที

3. ครูใ ้นกั เรียนทำใบงานที่ 6 การ ิเคราะ ์และ าคำต บจากโจทย์ปัญ าเก่ีย กับ ัน
เดื น ปี เ ลา เม่ื เ รจ็ แล้ ใ ้นักเรียนช่ ยกนั ตร จ บค ามถูกต้ ง จากน้นั ครแู ละนักเรียนร่ มกัน
เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 6

ข้ัน รุป
4. ครแู ละนกั เรียนร่ มกนั รปุ ่งิ ทีไ่ ด้เรียนรรู้ ่ มกนั ดงั นี้
- ระยะเ ลา มายถึง ช่ งเ ลาท่ีต่ เนื่ งจากเ ลา น่ึงถึง ีกเ ลา นึ่ง
- การแก้โจทย์ปัญ า ค ร ่านทำค ามเข้าใจ ิเคราะ ์ปัญ าและ าคำต บใน

การคดิ เิ คราะ แ์ ละ าคำต บ าจมี ธิ คี ดิ ท่แี ตกตา่ งกันได้

่ือการเรียนรู้
1. ตารางเรยี น
2. ใบงานที่ 6 การ ิเคราะ ์และ าคำต บจากโจทย์ปญั าเกยี่ กบั ัน เดื น ปี เ ลา

50

การ ัดผลและประเมนิ ผล

งิ่ ที่ตอ้ งการ ัด ิธี ดั เครอื่ งมอื ัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านค ามรู้ ตร จใบงานท่ี 6 ใบงานท่ี 6 ผ่านเกณฑร์ ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ด้านทัก ะ งั เกตพฤติกรรมด้าน แบบ งั เกต ผ่านเกณฑ์ในระดบั พ ใช้ขน้ึ
กระบ นการ ทกั ะกระบ นการ พฤติกรรมด้าน ไป
ทัก ะกระบ นการ
3. ดา้ นคุณลัก ณะ งั เกตพฤติกรรมด้าน แบบ งั เกต ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ทุก
ทพี่ ึงประ งค์ คุณลัก ณะทพี่ งึ ประ งค์ พฤติกรรมดา้ น รายการขน้ึ ไปถื า่ ผา่ น
คุณลัก ณะ เกณฑ์
ท่ีพึงประ งค์

ค ามคดิ เ น็ ผบู้ ริ าร

ลงชื่ .....................................ผตู้ ร จ
()

ผู้ ำน ยการโรงเรยี น
..../................../........

51

บนั ทกึ ลงั การเรียนการ อน
1. ผลการเรยี นรู้

2. ปญั าและอุป รรค

3. ข้อเ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปญั า

ลงช่ื .....................................ผู้ น
()
..../................../........

52

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 7

ราย ิชาคณิต า ตร์ ช้ันประถม ึก าปที ี่ 4

น่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เ ลา เ ลาเรยี น 10 ช่ั โมง

เร่อื ง โจทย์ปัญ าการบ กเกย่ี กับเ ลา เ ลาเรียน 1 ชั่ โมง

อน ันท่.ี ...... เดือน.......................... พ. . ......... ภาคเรียนที่ 1 ปกี าร กึ า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 2.1 : เขา้ ใจพนื้ ฐานเก่ีย กับการ ัด ดั และคาดคะเนขนาดข ง ิ่งที่ต้ งการ

ัดและนำไปใช้

ตั ช้ี ดั
ค 1.1 ป.4/1 : แ ดง ิธี าคำต บข งโจทย์ปญั าเกี่ย กบั เ ลา

าระ ำคัญ
การแก้โจทย์ปญั าการบ กเกี่ย กับเ ลาตั ง ่านทำค ามเข้าใจ ิเคราะ ์โจทย์ปัญ าและ

แ ดง ธิ ที ำในการคดิ เิ คราะ ์และแ ดง ิธที ำ าจมี ิธีคิดทีแ่ ตกต่างกนั ได้

จดุ ประ งคก์ ารเรียนรู้
1. เิ คราะ ์โจทย์ างแผนแก้ปญั าโจทย์ปัญ าการบ กเกยี่ กบั เ ลาได้ (K)
2. เขียนแ ดง ธิ ที ำตามขั้นต นและ าคำต บจากโจทยป์ ัญ าการบ กเกย่ี กับเ ลาได้ (P)
3. นำค ามรู้เกี่ย กับโจทย์ปัญ าการบ กเกี่ย กับเ ลาไปใช้แก้ปัญ าทางคณิต า ตร์ได้

(A)

าระการเรียนรู้
โจทยป์ ญั าการบ กเกี่ย กับเ ลา

ทัก ะและกระบ นการทางคณิต า ตร์
1. ค าม ามารถในการ ื่ ารและการ ื่ ค าม มายทางคณติ า ตร์
2. ค าม ามารถในการแกป้ ัญ า
3. ค าม ามารถในการใ ้เ ตผุ ล
4. ค าม ามารถในการเช่ื มโยง

53

คุณลกั ณะอันพึงประ งค์
1. มี ินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำเขา้ ่บู ทเรยี น
1. ครทู บท นค าม มั พันธข์ ง น่ ยเ ลาและการเปลี่ยน น่ ยเ ลาจาก น่ ยใ ญ่ไป

เปน็ น่ ยย่ ย และเปลย่ี น น่ ยเ ลาจาก น่ ยย่ ยไปเป็น น่ ยใ ญ่ เช่น
- 8 ัปดา ์ คิดเปน็ กี่ ัน
ธิ ที ำ เนื่ งจาก 1 ปั ดา ์ มี 7 นั
ดังนั้น 8 ัปดา ์ คดิ เป็น 8 × 7 = 56 นั
- 15 เดื น คิดเป็นกป่ี กี ี่เดื น
ธิ ที ำ เนื่ งจาก 12 เดื น คิดเปน็ 1 ปี และเน่ื งจาก 15 ÷ 12 ได้ 1 เ 3
ดังน้นั 15 เดื น คิดเปน็ 15 ÷ 12 ได้ 1 ปี 3 เดื น

ขั้น อน
2. ครูยกตั ย่างบัตรโจทย์ปัญ าการบ กเกี่ย กับเ ลาบนกระดาน ใช้การถามต บ

เพื่ ใ น้ ักเรยี นร่ มกนั ภิปรายและ ิธที ำ เช่น

ช่างช่ มรถยนต์คนั ที่ นึ่งใช้เ ลา 1 เดื น 18 ัน และซ่ มรถยนต์คันที่ งใช้
เ ลา 1 เดื น 27 ัน ซ่ มรถยนต์ 2 คนั ใช้เ ลาก่ีเดื นก่ี นั

ครูใชค้ ำถามกระตุ้นนกั เรียน เชน่
- ซ่ มรถยนต์ 2 คัน ใช้เ ลามากก ่า รื น้ ยก ่า 2 เดื น เพราะเ ตุใด
(มากก ่า 2 เดื น เพราะซ่ มรถยนตแ์ ตล่ ะคันใชเ้ ลามากก า่ 1 เดื น)
- จะเขียนแ ดง ิธีคิดในการ าระยะเ ลาซ่ มรถยนต์ 2 คันได้ ย่างไร ( าจใช้
แผนภาพแ ดง ิธคี ิดได้ดังนี้)
ิธคี ิด

ซ่ มรถยนตค์ ันท่ี น่งึ ซ่ มรถยนตค์ นั ท่ี ง

1 เดื น 18 ัน 1 เดื น 27 ัน

54

- ในการ าระยะเ ลาข งการซ่ มรถยนต์ 2 คันนี้ จะ าได้ ย่างไร และเขียน
แ ดง ิธีทำได้ ย่างไร (นำระยะเ ลาข งการซ่ มรถยนต์แต่ละคันมาบ กกัน และ าจเขียนแ ดง ิธี
ทำไดด้ ังนี)้

ิธที ำ เดื น นั

ซ่ มรถยนตค์ นั ที่ นง่ึ 1 18 +
ซ่ มรถยนตค์ นั ที่ ง 1 27

ซ่ มรถยนต์ งคนั ใช้เ ลา 2 45 (45 ันคิดเปน็ 1 เดื น

รื 3 15 15 นั )

ดงั นั้น ซ่ มรถยนต์ งคนั ใช้เ ลา 3 เดื น 15 นั

ตอบ ซอ่ มรถยนต์ องคนั ใช้เ ลา ๓ เดอื น ๑๕ ัน

3. ครูใ ้นักเรียนทำใบงานที่ 7 โจทย์ปัญ าการบ กเกี่ย กับเ ลา เมื่ เ ร็จแล้ ใ ้

นกั เรยี นช่ ยกนั ตร จ บค ามถกู ต้ ง จากน้นั ครูและนกั เรยี นร่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 7

ข้ัน รปุ

7. ครูและนักเรียนร่ มกัน รปุ ิ่งที่ได้เรียนรู้ร่ มกัน ดังน้ี การแก้โจทย์ปัญ าการบ ก

่านทำค ามเข้าใจ เิ คราะ ์โจทยป์ ัญ า และแ ดง ิธีทำในการคิด ิเคราะ ์และแ ดง ิธีทำ าจมี ิธี

คิดทแี่ ตกตา่ งกนั ได้

ือ่ การเรียนรู้
1. บัตรโจทย์ปัญ าการบ กเก่ีย กบั เ ลา
2. ใบงานที่ 7 โจทย์ปัญ าการบ กเกีย่ กบั เ ลา

55

การ ัดผลและประเมนิ ผล

งิ่ ที่ตอ้ งการ ัด ิธี ดั เครอื่ งมอื ัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านค ามรู้ ตร จใบงานท่ี 7 ใบงานท่ี 7 ผ่านเกณฑร์ ้ ยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ด้านทัก ะ งั เกตพฤติกรรมด้าน แบบ งั เกต ผ่านเกณฑ์ในระดบั พ ใช้ขน้ึ
กระบ นการ ทกั ะกระบ นการ พฤติกรรมด้าน ไป
ทัก ะกระบ นการ
3. ดา้ นคุณลัก ณะ งั เกตพฤติกรรมด้าน แบบ งั เกต ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ทุก
ทพี่ ึงประ งค์ คุณลัก ณะทพี่ งึ ประ งค์ พฤติกรรมดา้ น รายการขน้ึ ไปถื า่ ผา่ น
คุณลัก ณะ เกณฑ์
ท่ีพึงประ งค์

ค ามคดิ เ น็ ผบู้ ริ าร

ลงชื่ .....................................ผตู้ ร จ
()

ผู้ ำน ยการโรงเรยี น
..../................../........

56

บนั ทกึ ลงั การเรียนการ อน
1. ผลการเรยี นรู้

2. ปญั าและอุป รรค

3. ข้อเ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปญั า

ลงช่ื .....................................ผู้ น
()
..../................../........

57

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 8

ราย ิชาคณติ า ตร์ ชัน้ ประถม ึก าปที ี่ 4

น่ ยการเรียนรู้ที่ 5 เ ลา เ ลาเรยี น 10 ชั่ โมง

เร่ือง โจทย์ปัญ าการลบเกี่ย กบั เ ลา เ ลาเรียน 1 ชั่ โมง

อน ันท่.ี ...... เดือน.......................... พ. . ......... ภาคเรียนท่ี 1 ปีการ กึ า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 2.1 : เขา้ ใจพ้ืนฐานเกี่ย กับการ ัด ัดและคาดคะเนขนาดข ง ิ่งท่ีต้ งการ

ดั และนำไปใช้

ตั ชี้ ดั
ค 1.1 ป.4/1 : แ ดง ธิ ี าคำต บข งโจทย์ปญั าเกย่ี กบั เ ลา

าระ ำคัญ
การแก้โจทย์ปัญ าการลบเกี่ย กับเ ลาตั ง ่านทำค ามเข้าใจ ิเคราะ ์โจทย์ปัญ าและ

แ ดง ิธที ำในการคิด เิ คราะ ์และแ ดง ิธที ำ าจมี ิธคี ดิ ที่แตกต่างกนั ได้

จุดประ งคก์ ารเรยี นรู้
1. ิเคราะ โ์ จทย์ างแผนแก้ปัญ าโจทยป์ ญั าการลบเกี่ย กบั เ ลาได้ (K)
2. เขยี นแ ดง ิธที ำตามขน้ั ต นและ าคำต บจากโจทย์ปญั าการลบเกี่ย กบั เ ลาได้ (P)
3. นำค ามรู้เกย่ี กับโจทย์ปัญ าการลบเกีย่ กบั เ ลาไปใช้แก้ปญั าทางคณิต า ตรไ์ ด้ (A)

าระการเรยี นรู้
โจทยป์ ัญ าการลบเก่ยี กบั เ ลา

ทัก ะและกระบ นการทางคณิต า ตร์
1. ค าม ามารถในการ ่ื ารและการ ่ื ค าม มายทางคณิต า ตร์
2. ค าม ามารถในการแก้ปญั า
3. ค าม ามารถในการใ ้เ ตผุ ล
4. ค าม ามารถในการเชื่ มโยง


Click to View FlipBook Version