แผนการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ป.4 เทอม 1

17

บนั ทกึ ลงั การเรียนการ อน
1. ผลการเรยี นรู้

2. ปญั าและอุป รรค

3. ข้อเ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปัญ า

ลงช่อื .....................................ผู้ อน
()
..../................../........

18

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2

ราย ิชาคณติ า ตร์ ชัน้ ประถม กึ าปีท่ี 4

น่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การบ ก ลบ คูณ ารจำน นนบั เ ลาเรียน 13 ชั่ โมง

เรอื่ ง การบ ก ลบ คูณ ารระคนท่ีมี งเลบ็ เ ลาเรยี น 1 ชั่ โมง

อน ันท.่ี ...... เดอื น.......................... พ. . ......... ภาคเรียนที่ 1 ปกี าร ึก า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจค าม ลาก ลายของการแ ดงจำน น ระบบจำน น การ

ดำเนนิ การของจำน น ผลทเี่ กดิ ขึ้นจากการดำเนนิ การ มบัติของการ

ดำเนินการ และการนำไปใช้

ตั ชี้ ดั
ค 1.1 ป.4/10 : าผลลัพธก์ ารบ ก ลบ คูณ ารระคนของจำน นนับ และ 0

าระ ำคญั
การบ ก ลบ คณู ารระคน แบบมี งเล็บ ต้อง าผลลัพธใ์ น งเลบ็ กอ่ น

จุดประ งค์การเรยี นรู้
1. อธบิ าย ลักการบ ก ลบ คูณ ารระคนทมี่ ี งเล็บได้ (K)
2. าผลลพั ธ์ของโจทยก์ ารบ ก ลบ คณู ารระคนท่มี ี งเล็บได้ (P)
3. นำค ามรู้เก่ีย กับการบ ก ลบ คณู ารระคนทีม่ ี งเล็บไปใช้แก้ปัญ าทางคณิต า ตร์

ได้ (A)

าระการเรียนรู้
การบ ก ลบ คูณ ารระคนที่มี งเลบ็

ทัก ะและกระบ นการทางคณติ า ตร์
1. ค าม ามารถในการ ่ือ ารและการ อ่ื ค าม มายทางคณิต า ตร์
2. ค าม ามารถในการใ ้เ ตผุ ล

19

คณุ ลัก ณะอนั พงึ ประ งค์
1. มี นิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

กจิ กรรมการเรียนรู้
ขน้ั นำเข้า บู่ ทเรียน
1. ครตู ดิ แถบบัตรโจทย์ปญั า ใ น้ ักเรียนช่ ยกนั คิดแกป้ ญั า

ครูแจก มดุ ใ น้ ักเรียน คนละ 6 เล่ม ใ น้ ักเรียน 5 คน และแจก มุดใ ้นกั เรียน
คนละ 4 เลม่ ใ ้นักเรียน 7 คน ครูแจก มุดร มก่ีเลม่

ครถู ามคำถามเพ่มิ เตมิ เชน่
- ครูแจก มดุ ใ ้นกั เรียน คนละ 6 เล่ม ใ น้ ักเรียน 5 คน ครูต้องใช้ มุดกีเ่ ล่ม (5
× 6 = 30 เลม่ )
- ครแู จก มดุ ใ น้ ักเรยี น คนละ 4 เล่ม ใ ้นกั เรยี น 7 คน ครูต้องใช้ มดุ กี่เลม่ (7
× 4 = 28 เลม่ )
- ร มแล้ ครแู จก มุดไปทง้ั มดกเ่ี ล่ม (30 + 28 = 58)
ครชู นนักเรยี นคุยเพ่มิ เตมิ ่าในการแกโ้ จทย์ปญั าน้ัน

ขัน้ ท่ี 1 นกั เรียนต้องคำน ณ าอะไรก่อน (ครตู อ้ งใช้ มุดก่ีเลม่ เพ่อื แจกใ ้
นกั เรียน 5 คน คนละ 6 เลม่ )

ข้นั ท่ี 2 นกั เรยี นคำน ณ าอะไรต่อ (ครูต้องใช้ มุดกเี่ ล่มเพือ่ แจกใ ้นักเรียน 7
คน คนละ 4 เลม่ )

ข้นั ที่ 3 ตอ้ งทำอย่างไรจึงจะได้จำน น มุดท้งั มดทค่ี รแู จกไป (นำจำน น มดุ ท่ี
ไดจ้ ากข้นั ท่ี 1 และ ข้ันท่ี 2 มาบ กกนั )

ดงั นั้น นกั เรียนเขียนประโยค ญั ลกั ณน์ ้ไี ด้อย่างไร (5 × 6) + (7 × 4) =
ขนั้ อน

2. ครูอธบิ ายเพ่ิมเตมิ ่า จากประโยค ัญลัก ณน์ ี้ (5 × 6) + (7 × 4) = นักเรียนได้
เ ็นแล้ ่าเราใ ่ งเลบ็ เพือ่ ระบุ ่าใ ้ าผลลพั ธ์ใน งเล็บกอ่ น และโจทยน์ ้เี ป็นการบ ก ลบ คูณ าร
ระคน ทีม่ ี 2 งเล็บ และร่ มกนั รุปกับนกั เรยี น า่ ถ้าต่อไปเจอโจทย์ปญั าลัก ณะน้ี จะต้อง า
คำตอบใน งเล็บกอ่ น

20

3. ครูติดแถบบตั รโจทย์ปญั า แล้ ใ น้ กั เรยี นช่ ยกนั คิดแก้ปัญ า

บา้ นของอารยาเปน็ นผลไม้ นั นที้ ุกคนในครอบครั ช่ ยกนั เกบ็ แตงโมและ ม้ โอ
ไปขาย มีแตงโม 250 ผล และ ้มโอ 150 ผล แตงโมขายผลละ 25 บาท และ ม้ โอ
ขายผลละ 40 บาท
ถา้ ขายผลไม้ มด ครอบครั ของอารยาจะได้เงนิ ก่บี าท

ครถู ามคำถามเพ่ิมเตมิ เช่น

- ขายแตงโม 250 ผล ผลละ 25 บาท ได้เงินก่ีบาท (250 × 25 = 6,250 บาท)

- ขาย ้มโอ 150 ผล ผลละ 40 บาท ไดเ้ งินก่ีบาท (150 × 40 = 6,000 บาท)

- ขายผลไมท้ ง้ั มดได้เงินเท่าไร (6,250 + 6,000 = 12,250 บาท)

- เขียนประโยค ัญลัก ณน์ ้ีได้อยา่ งไร (250 × 25) + (150 × 40) =

4. ใ น้ กั เรยี นแบ่งเปน็ กลมุ่ กลุม่ ละ 3-4 คน แจกกระดา แผ่นใ ญใ่ น้ กั เรยี น ุม่ ยบิ

โจทย์การบ ก ลบ คูณ ารระคน ท่ีมี 2 งเล็บ ดังต่อไปนี้

1. (12,500 ÷ 25) + (3,500 – 1,440) = (2,560)

2. (990 + 2,010) ÷ (150 × 4) = (5)

3. (9,932 – 885) – (323 ÷ 19) = (9,030)

4. (5,400 ÷ 15) + (22 × 14) = (668)

จากนัน้ ครูใ น้ กั เรยี นออกมานำเ นอ และร่ มกนั ตร จ อบค ามถูกต้อง

5. ครใู น้ ักเรียนทำใบงานที่ 2 การบ ก ลบ คณู ารระคนท่มี ี งเล็บ เมื่อเ ร็จแล้ ใ ้

นักเรยี นช่ ยกนั ตร จ อบค ามถกู ต้อง จากนน้ั ครแู ละนกั เรียนร่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 2

ขั้น รุป

6. ครแู ละนกั เรยี นร่ มกัน รปุ งิ่ ทไ่ี ด้เรยี นรู้ร่ มกัน ดงั นี้ การแก้โจทย์การบ ก ลบ คูณ

ารระคน ถา้ โจทย์ข้อใดมี งเล็บ ต้อง าผลลพั ธ์ใน งเลบ็

ื่อการเรยี นรู้
1. แถบบตั รโจทย์ปัญ า
2. กระดา แผน่ ใ ญ่
3. แถบบตั รโจทย์การบ ก ลบ คณู ารระคนแบบ 2 งเลบ็
4. ใบงานที่ 2 การบ ก ลบ คูณ ารระคนทมี่ ี งเลบ็

21

การ ดั ผลและประเมินผล

ิ่งท่ีต้องการ ดั ิธี ัด เคร่อื งมือ ัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ดา้ นค ามรู้ ตร จใบงานท่ี 2 ใบงานที่ 2 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ด้านทกั ะ ังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบ ังเกต ผ่านเกณฑ์ในระดบั พอใช้ขน้ึ
กระบ นการ ทกั ะกระบ นการ พฤติกรรมดา้ น ไป
ทกั ะกระบ นการ
3. ดา้ นคุณลกั ณะ ังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบ ังเกต ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 ทกุ
ท่ีพงึ ประ งค์ คณุ ลกั ณะท่พี ึงประ งค์ พฤตกิ รรมด้าน รายการข้นึ ไปถอื า่ ผ่าน
คุณลกั ณะ เกณฑ์
ที่พึงประ งค์

ค ามคดิ เ ็นผู้บริ าร

ลงช่อื .....................................ผูต้ ร จ
()

ผอู้ ำน ยการโรงเรียน
..../................../........

22

บนั ทกึ ลงั การเรียนการ อน
1. ผลการเรยี นรู้

2. ปญั าและอุป รรค

3. ข้อเ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปัญ า

ลงช่อื .....................................ผู้ อน
()
..../................../........

23

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3

ราย ิชาคณิต า ตร์ ชนั้ ประถม ึก าปีท่ี 4

น่ ยการเรียนรู้ที่ 4 การบ ก ลบ คูณ ารจำน นนบั เ ลาเรียน 13 ชั่ โมง

เรื่อง การบ ก ลบ คณู ารระคนทไี่ ม่มี งเลบ็ เ ลาเรียน 1 ช่ั โมง

อน ันท่.ี ...... เดอื น.......................... พ. . ......... ภาคเรียนท่ี 1 ปกี าร ึก า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจค าม ลาก ลายของการแ ดงจำน น ระบบจำน น การ

ดำเนินการของจำน น ผลทเ่ี กิดขนึ้ จากการดำเนนิ การ มบัติของการ

ดำเนนิ การ และการนำไปใช้

ตั ชี้ ดั
ค 1.1 ป.4/10 : าผลลัพธ์การบ ก ลบ คณู ารระคนของจำน นนบั และ 0

าระ ำคัญ
การ าผลลพั ธ์ของโจทย์การบ ก ลบ คูณ ารระคน แบบไมม่ ี งเลบ็ ถ้าเปน็ การบ กและการ

ลบอย่ดู ้ ยกัน รอื ถา้ เปน็ การคูณและการ ารอย่ดู ้ ยกัน ตอ้ งทำตามลำดบั จากซ้ายไปข า ถา้ เป็นการ
บ ก ลบ คณู และ ารอย่ดู ้ ยกัน ต้องทำตั ดำเนินการคูณและ ารกอ่ นตั ดำเนนิ การบ กและลบเ มอ

จดุ ประ งค์การเรยี นรู้
1. อธิบาย ลกั การบ ก ลบ คูณ ารระคนท่ีไม่มี งเลบ็ ได้ (K)
2. าผลลพั ธ์ของโจทยก์ ารบ ก ลบ คณู ารระคนที่ไม่มี งเล็บได้ (P)
3. นำค ามรู้เกี่ย กับการบ ก ลบ คูณ ารระคนที่ไม่มี งเล็บไปใช้แก้ปัญ าทาง

คณติ า ตร์ได้ (A)

าระการเรยี นรู้
การบ ก ลบ คูณ ารระคนท่ไี มม่ ี งเล็บ

ทัก ะและกระบ นการทางคณิต า ตร์
1. ค าม ามารถในการ อ่ื ารและการ อ่ื ค าม มายทางคณิต า ตร์
2. ค าม ามารถในการใ ้เ ตผุ ล

24

คุณลกั ณะอันพงึ ประ งค์
1. มี นิ ัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ มั่นในการทำงาน

กิจกรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นำเข้า ู่บทเรยี น
1. ครตู ิดแถบโจทยบ์ ก ลบ คูณ ารระคน ใ ้นักเรยี น าคำตอบ ดังต่อไปนี้
1. 8 – 4 + 4 =
2. 11 – 5 + 3 =
3. 12 ÷ 3 × 2 =
4. 20 ÷ 10 × 2 =
5. 3 × 4 ÷ 2 =
2. ครู มุ่ เลือกนักเรยี นใ บ้ อกคำตอบ ซึง่ บางกรณนี ักเรียนอาจไดค้ ำตอบแตกต่างกัน

เชน่
1. ตอบ 8 รือ 0
2. ตอบ 9 รอื 3
3. ตอบ 8 รือ 2
4. ตอบ 4 รือ 1
5. ตอบ 6

3. ครูช้ีใ น้ กั เรยี น ังเกต า่ เพราะเ ตใุ ดแตล่ ะคนจงึ ได้คำตอบไม่เ มอื นกัน แล้ แบบนี้
จะทำอย่างไร ใครถกู ใครผดิ

ขัน้ อน
4. ใ น้ ักเรียนแตล่ ะคนทีต่ อบแตกต่างกนั ในแต่ละขอ้ อธิบาย ิธีคิดและ ารอยู่ด้ ยกัน

ต้องทำตั ดำเนนิ การคณู และ ารกอ่ นตั ดำเนินการบ กและลบเ มอ
5. ครตู ั้งคำถาม
- ที่เพ่อื นไดค้ ำตอบแตกต่างกนั เปน็ เพราะอะไร (ครคู รช้แี นะใ น้ ักเรียนคิด ่า

เพราะ าผลลพั ธโ์ ดยเริ่มจากตั ดำเนินการที่ต่างกัน)
- แล้ โจทย์แบบน้ี แตกต่างจากโจทย์การบ ก ลบ คูณ ารระคนทผี่ า่ นมาอย่างไร

(ทีผ่ ่านมาจะมี งเล็บใ ้ แต่โจทย์เ ล่านี้ไมม่ ี งเลบ็ )

25

- ถ้าโจทย์ท่ไี มม่ ี งเลบ็ เราจะร้ไู ดอ้ ย่างไร ่าค ร าผลลัพธ์โดยเริม่ จากตั
ดำเนินการใดก่อน (นักเรยี นอาจจะมีทง้ั ที่รแู้ ละไม่รู้ ครูค รอธบิ าย ่า ถ้าเราไม่มขี อ้ ตกลงร่ มกนั เราก็
จะได้คำตอบท่ีแตกต่างกนั ดังน้ันเราค รจะมขี ้อตกลงร่ มกันทีเ่ ปน็ ท่ียอมรับกนั ทั่ โลก)

6. ครชู นนกั เรียน นทนา า่ ำ รบั โจทย์ทงั้ 5 ข้อ นั้น ากเราเรมิ่ คำน ณจากซ้ายไป
ข าตามลำดับ เราจะได้ผลลพั ธ์ทีเ่ มอื นกนั รือไม่ แล้ ใ ้นักเรียนคดิ าคำตอบด้ ยการทำจากซ้าย
ไปข า จะได้ ่า

1. 8 – 4 + 4 = 4 + 4 = 8
2. 11 – 5 + 3 = 6 + 3 = 9
3. 12 ÷ 3 × 2 = 4 × 2 = 8
4. 20 ÷ 10 × 2 = 2 × 2 = 4
5. 3 × 4 ÷ 2 = 12 ÷ 2 = 6
เป็นคำตอบทถี่ กู ต้อง
7. ครแู ละนักเรียนร่ มกัน รุปเกย่ี กบั การแก้โจทย์การบ ก ลบ คณู ารระคน ท่ไี มม่ ี
งเลบ็ า่
- ถา้ เปน็ การบ กและการลบอยู่ด้ ยกัน ตอ้ งทำตามลำดบั จากซ้ายไปข า
- ถ้าเปน็ การคณู และการ ารอยดู่ ้ ยกัน ตอ้ งทำตามลำดับจากซ้ายไปข า
8. ใ ้นักเรียนแบง่ เปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 3-4 คน แจกกระดา แผ่นใ ญใ่ ้นักเรยี น มุ่ ยบิ
โจทย์การบ ก ลบ คูณ ารระคน ท่ไี ม่มี งเล็บ ดังต่อไปน้ี
1. 24,987 – 3,525 + 45,900 = (67,362)
2. 11,098 – 5,123 + 398 = (6,373)
3. 3,185 ÷ 13 × 62 = (15,190)
4. 20,120 ÷ 10 × 24 = (48,288)
5. 136 × 42 ÷ 21 = (272)
จากนัน้ ครใู น้ กั เรียนออกมานำเ นอ และร่ มกนั ตร จ อบค ามถกู ตอ้ ง
9. ครใู ้นักเรียนทำใบงานที่ 3 การบ ก ลบ คูณ ารระคนท่ีมี งเลบ็ เม่ือเ ร็จแล้ ใ ้
นกั เรยี นช่ ยกันตร จ อบค ามถูกต้อง จากน้นั ครูและนกั เรียนร่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 3
ขนั้ รปุ
6. ครูและนักเรยี นร่ มกนั รุป ิง่ ท่ไี ด้เรียนรรู้ ่ มกนั เกยี่ กบั การแก้โจทย์การบ ก
ลบ คูณ ารระคน ทไี่ มม่ ี งเล็บ ดงั น้ี
- ถ้าเปน็ การบ กและการลบอยู่ด้ ยกัน ต้องทำตามลำดบั จากซา้ ยไปข า
- ถา้ เป็นการคณู และการ ารอย่ดู ้ ยกัน ต้องทำตามลำดบั จากซ้ายไปข า

26

อ่ื การเรยี นรู้
1. แถบบัตรโจทยก์ ารบ ก ลบ คณู ารระคนแบบไม่มี งเลบ็
2. ใบงานที่ 3 การบ ก ลบ คูณ ารระคนทมี่ ี งเลบ็

การ ดั ผลและประเมินผล

่งิ ท่ีต้องการ ดั ิธี ัด เครื่องมอื ัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ดา้ นค ามรู้ ตร จใบงานที่ 3 ใบงานท่ี 3 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ด้านทัก ะ ังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบ ังเกต ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใช้ขน้ึ
กระบ นการ ทัก ะกระบ นการ พฤตกิ รรมดา้ น ไป
ทกั ะกระบ นการ
3. ด้านคุณลกั ณะ ังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบ ังเกต ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ทกุ
ที่พึงประ งค์ คุณลกั ณะที่พึงประ งค์ พฤติกรรมด้าน รายการขนึ้ ไปถอื า่ ผ่าน
คณุ ลัก ณะ เกณฑ์
ทีพ่ ึงประ งค์

ค ามคิดเ น็ ผบู้ ริ าร

ลงชอื่ .....................................ผูต้ ร จ
()

ผอู้ ำน ยการโรงเรยี น
..../................../........

27

บนั ทกึ ลงั การเรียนการ อน
1. ผลการเรยี นรู้

2. ปญั าและอุป รรค

3. ข้อเ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปัญ า

ลงช่อื .....................................ผู้ อน
()
..../................../........

28

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4

ราย ิชาคณิต า ตร์ ชนั้ ประถม ึก าปีท่ี 4

น่ ยการเรียนรู้ที่ 4 การบ ก ลบ คูณ ารจำน นนบั เ ลาเรียน 13 ชั่ โมง

เรื่อง การบ ก ลบ คณู ารระคนทไี่ ม่มี งเลบ็ เ ลาเรียน 1 ช่ั โมง

อน ันท่.ี ...... เดอื น.......................... พ. . ......... ภาคเรียนท่ี 1 ปกี าร ึก า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจค าม ลาก ลายของการแ ดงจำน น ระบบจำน น การ

ดำเนินการของจำน น ผลทเ่ี กิดขนึ้ จากการดำเนนิ การ มบัติของการ

ดำเนนิ การ และการนำไปใช้

ตั ชี้ ดั
ค 1.1 ป.4/10 : าผลลัพธ์การบ ก ลบ คณู ารระคนของจำน นนบั และ 0

าระ ำคัญ
การ าผลลพั ธ์ของโจทย์การบ ก ลบ คูณ ารระคน แบบไมม่ ี งเลบ็ ถ้าเปน็ การบ กและการ

ลบอย่ดู ้ ยกัน รอื ถา้ เปน็ การคูณและการ ารอย่ดู ้ ยกัน ตอ้ งทำตามลำดบั จากซ้ายไปข า ถา้ เป็นการ
บ ก ลบ คณู และ ารอย่ดู ้ ยกัน ต้องทำตั ดำเนินการคูณและ ารกอ่ นตั ดำเนนิ การบ กและลบเ มอ

จดุ ประ งค์การเรยี นรู้
1. อธิบาย ลกั การบ ก ลบ คูณ ารระคนท่ีไม่มี งเลบ็ ได้ (K)
2. าผลลพั ธ์ของโจทยก์ ารบ ก ลบ คณู ารระคนที่ไม่มี งเล็บได้ (P)
3. นำค ามรู้เกี่ย กับการบ ก ลบ คูณ ารระคนที่ไม่มี งเล็บไปใช้แก้ปัญ าทาง

คณติ า ตร์ได้ (A)

าระการเรยี นรู้
การบ ก ลบ คูณ ารระคนท่ไี มม่ ี งเล็บ

ทัก ะและกระบ นการทางคณิต า ตร์
1. ค าม ามารถในการ อ่ื ารและการ อ่ื ค าม มายทางคณิต า ตร์
2. ค าม ามารถในการใ ้เ ตผุ ล

29

คุณลกั ณะอนั พงึ ประ งค์
1. มี นิ ัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

กิจกรรมการเรยี นรู้
ขนั้ นำเขา้ ่บู ทเรียน
1. ครตู ดิ แถบโจทย์บ ก ลบ คณู ารระคน ใ น้ ักเรียน าคำตอบ ดงั ตอ่ ไปนี้
1. 7 + 5 × 3 =
2. 13 – 2 × 3 =
3. 45 - 12 ÷ 3 =
4. 20 + 10 ÷ 2 =
5. 18 ÷ 2 + 6 × 3=
2. ครู ุ่มเลอื กนักเรยี นใ ้บอกคำตอบ ซ่งึ บางกรณนี ักเรียนอาจไดค้ ำตอบแตกตา่ งกนั

เช่น
1. ตอบ 36 รือ 22
2. ตอบ 33 รอื 7
3. ตอบ 11 รอื 41
4. ตอบ 15 รือ 25
5. ตอบ 45 รือ 27 รือ อน่ื ๆ

3. ครูชใ้ี น้ กั เรยี น งั เกต ่าเพราะเ ตุใดแต่ละคนจงึ ได้คำตอบไม่เ มอื นกนั แล้ แบบนี้
จะทำอย่างไร ใครถกู ใครผดิ

ขน้ั อน
4. ใ น้ กั เรียนแต่ละคนทีต่ อบแตกตา่ งกนั ในแตล่ ะขอ้ อธิบาย ิธคี ดิ
5. ครตู ้งั คำถาม
- โจทยใ์ นคร้ังนี้ ต่างจากโจทย์ไมม่ ี งเลบ็ ทีเ่ ราเคยเจอมาครั้งท่ีแล้ อย่างไร (คร้งั ท่ี

แล้ มเี ฉพาะการบ กและการลบอยูด่ ้ ยกนั รือ การคูณและการ ารอยู่ด้ ยกนั แต่ครั้งนีก้ ารบ ก
ลบ คูณและ ารอยูด่ ้ ยกนั )

- แล้ ถ้าโจทย์เปน็ การบ กและการลบอยู่ด้ ยกัน รอื ถา้ เป็นการคูณและการ
ารอยดู่ ้ ยกันเราต้องคำน ณอยา่ งไร (ต้องทำตามลำดบั จากซา้ ยไปข า)

30

- แล้ ครั้งนี้ ทำไมยังมเี พือ่ นได้คำตอบแตกตำ่ งากนั เป็นเพราะอะไร (ครคู ร

ช้แี นะใ ้นักเรียนคดิ า่ เพราะบางคนทำตามข้อตกลงจากซ้ายไปข า แตบ่ างคนทำการคูณและการ

ารก่อน แล้ จงึ ทำตามลำดบั จากซ้ายไปข า)

- แล้ ท่ถี กู ค รทำอยา่ งไร ครูแนะนำนักเรยี น า่ เราค รมีข้อตกลงเพ่ิมเติม ่าการ

แกโ้ จทย์ทมี่ ตี ั ดำเนนิ ทัง้ บ ก ลบ คณู และ าร อยูด่ ้ ยกัน กม็ ขี อ้ ตกลงร่ มกันก็คอื ตอ้ งทำตั

ดำเนินการคูณและ ารก่อนตั ดำเนนิ การบ กและลบเ มอ

6. ครูช นนักเรียน นทนา ่า ำ รบั โจทย์ทงั้ 5 ข้อ น้ัน ากเราทำตามขอ้ ตกลง จะได้

า่

1. 7 + 5 × 3 = 7 + 15 = 22

2. 13 – 2 × 3 = 13 – 6 = 7

3. 45 – 12 ÷ 3 = 45 – 4 = 41

4. 20 + 10 ÷ 2 = 20 + 5 = 25

5. 18 ÷ 2 + 6 × 3 = 9 + 18 = 27

เป็นคำตอบท่ถี กู ต้อง

7. ใ ้นกั เรยี นแบ่งเปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 3 – 4 คน แจกกระดา แผ่นใ ญ่ใ น้ กั เรียน ุ่ม

ยบิ โจทย์การบ ก ลบ คูณ ารระคนทไี่ มม่ ี งเล็บ ดังตอ่ ไปน้ี

1. 2,487 + 52 × 45 = (4,827)

2. 13,011 – 2,325 × 3 = (6,036)

3. 4,585 - 434 ÷ 62 = (4,578)

4. 12,012 + 225 ÷ 25 = (12,021)

5. 1365 ÷ 15 + 231 ÷ 21 = (102)

จากนน้ั ครูใ น้ กั เรยี นออกมานำเ นอ และร่ มกนั ตร จ อบค ามถูกต้อง

8. ครูใ น้ กั เรยี นทำใบงานท่ี 4 การบ ก ลบ คูณ ารระคนที่มี งเล็บ เมื่อเ ร็จแล้ ใ ้

นักเรยี นช่ ยกันตร จ อบค ามถกู ตอ้ ง จากนน้ั ครแู ละนักเรยี นร่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 4

ข้ัน รุป

9. ครูและนกั เรียนร่ มกัน รปุ ่ิงท่ีได้เรียนรรู้ ่ มกนั เกยี่ กับการแก้โจทยก์ ารบ ก ลบ

คณู ารระคน ทไ่ี มม่ ี งเล็บ ดังนี้

- ถา้ เป็นการบ กและการลบอยดู่ ้ ยกัน ตอ้ งทำตามลำดับจากซา้ ยไปข า

- ถา้ เปน็ การคูณและการ ารอยดู่ ้ ยกัน ต้องทำตามลำดับจากซ้ายไปข า

- ถ้าเป็นการบ ก ลบ คูณและ ารอยู่ด้ ยกัน ต้องทำตั ดำเนินการคูณและ าร

ก่อนตั ดำเนนิ การบ กและลบเ มอ

31

อ่ื การเรยี นรู้
1. แถบบัตรโจทยก์ ารบ ก ลบ คณู ารระคนแบบไม่มี งเลบ็
2. ใบงานที่ 4 การบ ก ลบ คูณ ารระคนทมี่ ี งเลบ็

การ ดั ผลและประเมินผล

่งิ ท่ีต้องการ ดั ิธี ัด เครื่องมอื ัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ดา้ นค ามรู้ ตร จใบงานที่ 4 ใบงานท่ี 4 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ด้านทัก ะ ังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบ ังเกต ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใช้ขน้ึ
กระบ นการ ทัก ะกระบ นการ พฤตกิ รรมดา้ น ไป
ทกั ะกระบ นการ
3. ด้านคุณลกั ณะ ังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบ ังเกต ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ทกุ
ที่พึงประ งค์ คุณลกั ณะที่พึงประ งค์ พฤติกรรมด้าน รายการขนึ้ ไปถอื า่ ผ่าน
คณุ ลัก ณะ เกณฑ์
ทีพ่ ึงประ งค์

ค ามคิดเ น็ ผบู้ ริ าร

ลงชอื่ .....................................ผูต้ ร จ
()

ผอู้ ำน ยการโรงเรยี น
..../................../........

32

บนั ทกึ ลงั การเรียนการ อน
1. ผลการเรยี นรู้

2. ปญั าและอุป รรค

3. ข้อเ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปัญ า

ลงช่อื .....................................ผู้ อน
()
..../................../........

33

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 5

ราย ิชาคณติ า ตร์ ช้ันประถม ึก าปีที่ 4

น่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 การบ ก ลบ คูณ ารจำน นนับ เ ลาเรียน 13 ชั่ โมง

เร่ือง การบ ก ลบ คณู ารระคน เ ลาเรยี น 1 ช่ั โมง

อน นั ที.่ ...... เดือน.......................... พ. . ......... ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการ กึ า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจค าม ลาก ลายของการแ ดงจำน น ระบบจำน น การ

ดำเนินการของจำน น ผลท่เี กดิ ขึน้ จากการดำเนนิ การ มบัติของการ

ดำเนินการ และการนำไปใช้

ตั ชี้ ดั
ค 1.1 ป.4/10 : าผลลพั ธ์การบ ก ลบ คณู ารระคนของจำน นนับ และ 0

าระ ำคญั
1. การ าผลลัพธ์ของโจทย์การบ ก ลบ คูณ ารระคน แบบมี งเล็บ ต้อง าผลลัพธ์ใน

งเล็บกอ่ น
2. การ าผลลัพธ์ของโจทย์การบ ก ลบ คูณ ารระคน แบบไม่มี งเล็บ ถ้าเป็นการบ ก

และการลบอยู่ด้ ยกัน รือถ้าเป็นการคณู และการ ารอยดู่ ้ ยกนั ตอ้ งทำตามลำดบั จากซ้ายไปข า ถ้า
เปน็ การบ ก ลบ คณู และ ารอยดู่ ้ ยกัน ต้องทำตั ดำเนนิ การคณู และ ารกอ่ นตั ดำเนินการบ กและ
ลบเ มอ

จุดประ งคก์ ารเรียนรู้
1. อธิบาย ลกั การบ ก ลบ คณู ารระคนได้ (K)
2. าผลลพั ธข์ องโจทย์การบ ก ลบ คูณ ารระคนได้ (P)
3. นำค ามร้เู กย่ี กบั การบ ก ลบ คณู ารระคนไปใช้แกป้ ัญ าทางคณิต า ตรไ์ ด้ (A)

าระการเรียนรู้
การบ ก ลบ คูณ ารระคน

34

ทัก ะและกระบ นการทางคณติ า ตร์
1. ค าม ามารถในการ อ่ื ารและการ อ่ื ค าม มายทางคณติ า ตร์
2. ค าม ามารถในการใ เ้ ตุผล

คุณลัก ณะอนั พึงประ งค์
1. มี นิ ัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. ม่งุ มั่นในการทำงาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ขัน้ นำเข้า ูบ่ ทเรยี น
1. ครทู บท นการบ ก ลบ คูณ ารระคน ท้ังแบบมี งเลบ็ และไมม่ ี งเลบ็ โดยครูติด

แถบบัตรโจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คูณ ารระคน

7,980 – 4,911 + 515 ÷ 5 7,980 – 4,911 + (515 ÷ 5)

แล้ ใ ้นักเรียนช่ ยกัน าผลลพั ธพ์ ร้อมเปรียบเทยี บคำตอบ
ขั้น อน

2. ใ ้นักเรียนบอกคำตอบพร้อมอธิบาย ิธีคิด โดยครูร่ มตร จ อบค ามถูกต้องและ
ทบท น ลักการของการแก้โจทย์การบ ก ลบ คณู ารระคน

3. จากโจทยท์ างดา้ นซา้ ย คอื 7,980 – 4,911 + 515 ÷ 5 ครูถามคำถาม
- นกั เรียนจะเร่ิมตน้ าคำตอบอย่างไร (มกี ารลบ บ ก และ ารอยู่ด้ ยกัน ต้องทำ

ตั ดำเนินการ ารกอ่ น จะได้ ่า 7,980 – 4,911 + 103)
- เมื่อทำตั ดำเนินการ ารแล้ นักเรียนจะทำอย่างไรต่อไป (มีการบ กและการ

ลบอยู่ด้ ยกัน ต้องทำตามลำดับจากซา้ ยไปข า จะได้ ่า 7,980 – 4,911 + 103 = 3,069 + 103 =
3172)

จากโจทย์ทางดา้ นข า คอื 7,980 – 4,911 + (515 ÷ 5) มีทงั้ ท้งั แบบมี งเล็บ และ
ไม่มี งเล็บ ครูถามคำถาม

- นักเรียนจะเร่มิ ต้น าคำตอบอย่างไร ( าผลลพั ธใ์ น งเล็บก่อน)
- นกั เรยี นเ ลือจำน นนอก งเลบ็ และการดำเนินการอะไรบ้าง (7,980 – 4,911
+ 103)

35

- นักเรยี นจะ าคำตอบตอ่ ไปอย่างไร ( าผลบ กก่อนแล้ ตามด้ ย าผลลบ)
จากคำตอบท่นี กั เรียนได้ ครถู ามคำถามตอ่ า่
- จาก โจทย์ 7,980 – 4,911 + 515 ÷ 5 และ 7,980 – 4,911 + (515 ÷ 5)
เท่ากนั รือไม่ (เท่ากนั )
4. ครูยกตั อยา่ งเพม่ิ เตมิ ใ ้นักเรียน าคำตอบ
- 2,420 ÷ 11 + 9 × 120 - 95 =
แล้ ครกู ำ นด งเล็บในรูปแบบท่ี ลาก ลาย ใ น้ ักเรียน าคำตอบ ไดแ้ ก่
- (2,420 ÷ 11. + 9 × 120 - 95 =
- 2,420 ÷ (11 + 9) × 120 - 95 =
- 2,420 ÷ 11 + (9 × 120) - 95 =
- 2,420 ÷ 11 + 9 × (120 – 95) =
5. ใ ้นักเรียนเปรียบเทียบคำตอบที่ได้ แล้ อธิบายประกอบกับ ลักการของการแก้
โจทย์การบ ก ลบ คูณ ารระคน ซึง่ ยงั ตอ้ งเน้นตาม ลักการแกโ้ จทย์การบ ก ลบ คณู ารระคนท้ัง
แบบมี งเล็บและไมม่ ี งเลบ็
6. ใ ้นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 - 4 คน แจกกระดา แผ่นใ ญ่ใ ้นักเรียน ุ่ม
ยิบโจทยก์ ารบ ก ลบ คูณ ารระคน ดงั ต่อไปน้ี

1. (450 + 125) × 25 =
2. 12 × 70 ÷ 10 + 2,517 =
3. (728 ÷ 13) + 412 × 15 =
4. 12,350 – 75 × (15 + 66) =
จากนน้ั ครใู ้นักเรยี นออกมานำเ นอ และร่ มกันตร จ อบค ามถูกตอ้ ง
7. ครใู ้นักเรยี นทำใบงานที่ 5 การบ ก ลบ คูณ ารระคนท่ีมี งเล็บ เม่ือเ ร็จแล้ ใ ้
นักเรยี นช่ ยกันตร จ อบค ามถกู ต้อง จากนัน้ ครูและนกั เรยี นร่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 5
ขน้ั รุป
8. ครแู ละนกั เรยี นร่ มกนั รปุ ง่ิ ทไี่ ด้เรยี นรรู้ ่ มกันเกยี่ กับการแกโ้ จทย์การบ ก ลบ
คูณ ารระคน ดงั นี้
- การแก้โจทย์การบ ก ลบ คูณ ารระคน แบบมี งเล็บ ตอ้ ง าผลลัพธ์ใน งเล็บ
กอ่ น

36

- การแก้โจทย์ การบ ก ลบ คูณ ารระคน แบบไม่มี งเลบ็ ถ้าเป็นการบ กและ
การลบอยู่ด้ ยกัน รือ ถ้าเป็นการคูณและการ ารอยู่ด้ ยกัน ต้องทำตามลำดับจากซ้ายไปข า ถ้า
เปน็ การบ ก ลบ คูณและ ารอยดู่ ้ ยกัน ตอ้ งทำตั ดำเนนิ การคูณและ ารก่อนตั ดำเนินการบ กและ
ลบเ มอ

อื่ การเรียนรู้
1. แถบบตั รโจทยก์ ารบ ก ลบ คูณ ารระคนแบบไม่มี งเล็บ
2. ใบงานที่ 5 การบ ก ลบ คณู ารระคนที่มี งเลบ็

การ ัดผลและประเมินผล

ิ่งท่ีต้องการ ัด ธิ ี ัด เครื่องมอื ดั เกณฑก์ ารประเมิน
1. ด้านค ามรู้ ตร จใบงานที่ 5 ใบงานท่ี 5 ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 70 ขน้ึ ไป
2. ด้านทัก ะ ังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบ ังเกต ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใชข้ น้ึ
กระบ นการ ทกั ะกระบ นการ พฤติกรรมดา้ น ไป
ทัก ะกระบ นการ
3. ด้านคุณลกั ณะ งั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบ ังเกต ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ทกุ
ทีพ่ ึงประ งค์ คุณลกั ณะท่พี งึ ประ งค์ พฤตกิ รรมดา้ น รายการขึ้นไปถอื ่าผ่าน
คณุ ลกั ณะ เกณฑ์
ทีพ่ ึงประ งค์

ค ามคดิ เ น็ ผบู้ ริ าร

ลงชอ่ื .....................................ผู้ตร จ
()

ผอู้ ำน ยการโรงเรยี น
..../................../........

บันทึก ลังการเรยี นการ อน

37

1. ผลการเรียนรู้

2. ปญั าและอปุ รรค

3. ขอ้ เ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปญั า

ลงชอ่ื .....................................ผู้ อน
()
..../................../........

38

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 6

ราย ิชาคณิต า ตร์ ชนั้ ประถม กึ าปที ี่ 4

น่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การบ ก ลบ คูณ ารจำน นนับ เ ลาเรยี น 13 ชั่ โมง

เรอื่ ง โจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คณู ารระคน เ ลาเรยี น 1 ช่ั โมง

อน นั ท่ี....... เดือน.......................... พ. . ......... ภาคเรียนท่ี 1 ปีการ ึก า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจค าม ลาก ลายของการแ ดงจำน น ระบบจำน น การ

ดำเนนิ การของจำน น ผลทเ่ี กดิ ข้ึนจากการดำเนินการ มบัติของการ

ดำเนนิ การ และการนำไปใช้

ตั ช้ี ัด
ค 1.1 ป.4/11 : แ ดง ิธี าคำตอบของโจทย์ปัญ า 2 ขั้นตอนของจำน นนับที่มากก ่า
100,000 และ 0

าระ ำคญั
การแก้โจทย์ปัญ าเริ่มจากการทำค ามเข้าใจปญั า างแผนแกป้ ัญ า ดำเนนิ ตามแผน และ

ตร จ อบค ามถกู ตอ้ งของคำตอบ

จดุ ประ งค์การเรยี นรู้
1. ามารถ เิ คราะ ์เขยี นประโยค ญั ลัก ณแ์ ละ าคำตอบโจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คณู

ารระคนได้ (K)
2. เขยี นประโยค ัญลัก ณ์และ าคำตอบได้จากโจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คูณ ารระคนได้

(P)
3. นำค ามร้เู กย่ี กับโจทย์ปญั าไปใช้แกป้ ัญ าในชี ติ จรงิ ได้ (A)

าระการเรียนรู้
โจทยป์ ัญ าการบ ก ลบ คูณ ารระคน

39

ทัก ะและกระบ นการทางคณิต า ตร์
1. ค าม ามารถในการแกป้ ัญ า
2. ค าม ามารถในการ อื่ ารและการ ่อื ค าม มายทางคณิต า ตร์
3. ค าม ามารถในการเชื่อมโยง
4. ค าม ามารถในการใ ้เ ตุผล

คุณลัก ณะอนั พงึ ประ งค์
1. มี ินัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มุ่งม่ันในการทำงาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั นำเขา้ ูบ่ ทเรยี น
1. ครตู ิดแถบบตั รโจทย์ปญั าและใ น้ ักเรยี นอ่านโจทยพ์ รอ้ มกนั

ฟา้ ฝน รุ้ง และ มอกไปรบั ประทานอา ารกลาง ันทรี่ ้านอา ารแ ง่ นึง่
ค่าอา ารร ม 180 บาท ากทั้ง จี่ ่ายเงินร มกนั ด้ ยธนบัตรฉบับละ 500
บาท จำน น 1 ใบ จะได้รบั เงนิ ทอนเท่าไร

2. ครูอาจเตรยี มธนบตั รจำลองไ ้ใ ้นกั เรยี นใช้ในการแก้ปญั า และใช้การถามตอบ
- ท้งั 4 คน ต้องจา่ ยคา่ อา ารเท่าไร (คา่ อา าร 180 บาท)
- จ่ายเงนิ ไปก่ีบาท (500 บาท)
- จะ าจำน นเงินทอนได้อยา่ งไร (จำน นเงินท่ีจ่าย ลบด้ ย ค่าอา าร ได้เท่ากับ

เงินทอนนั่นคือ 500 – 180 = )
- นักเรยี นเขยี นประโยค ัญลัก ณ์ได้อยา่ งไร (500 – 180 = )
- ใ ้นักเรียนคำน ณ าจำน นเงินทอนที่จะได้รับ และตร จ อบค ามถูกต้อง

ของคำตอบ (อาจนำค่าอา ารร มกบั เงนิ ทอน า่ ไดเ้ ท่ากับเงินทจี่ า่ ยไป รือไม)่

40

ขั้น อน
3. ครตู ิดแถบบตั รโจทย์ปญั าและใ น้ กั เรยี นอา่ นโจทย์พร้อมกนั

ฟ้า ฝน รงุ้ และ มอกไปรับประทานอา ารกลาง นั ทร่ี ้านอา ารแ ่ง นึ่ง ทงั้ ี่คน
่ังขา้ ราดกะเพราไก่เ มอื นกนั ในเมนเู ขยี นราคาไ ้ จานละ 35 บาท ากท้ัง ี่
จ่ายเงนิ ร มด้ ยธนบัตรฉบบั ละ 500 บาท จำน น 1 ใบ จะไดร้ ับเงินทอนเทา่ ไร

35) = ) ครูถาม า่
- จากโจทยข์ ้อน้ี โจทยถ์ ามอะไร (จะได้รับเงนิ ทอนเท่าไร)
- นักเรียน าเงนิ ทอนได้อยา่ งไร (เงินทจ่ี ่ายไป ลบด้ ย คา่ อา ารร ม)
- นักเรยี นยงั ไม่ทราบอะไร (ค่าอา ารร ม)
- นักเรียนจะ าคา่ อา ารร ม ไดอ้ ยา่ งไร (คา่ อา ารของท้ัง 4 คน มาร มกัน)
- คา่ อา ารของแต่ละคนเป็นเท่าไร (35 บาท)
- ดังนั้น ค่าอา ารร มเป็น (4 × 35 รือ 35 + 35 + 35 + 35)
- นักเรียนเขียนเป็นประโยค ัญลัก ณ์ เพื่อ าเงินทอนได้อย่างไร (500 – (4 ×

- นักเรยี น าคำตอบได้ ดังน้ี
ประโยค ัญลกั ณ์ 500 – (4 × 35) =
500 – (4 × 35) = 500 – (140)
= 360
ดงั นัน้ จะไดร้ ับเงนิ ทอน 360 บาท

และตร จ อบค ามถกู ตอ้ งของคำตอบกบั โจทย์ปัญ า
ไดร้ ับเงินทอน 360 บาท
ค่าอา ารของทัง้ 4 คน ราคาจานละ 35 บาท คดิ เป็นค่าอา ารร ม
4 × 35 = 140 บาท
เงนิ ทอน 360 บาท ร มกบั ค่าอา ารร ม 140 บาท ได้เป็นเงนิ ท่ีจา่ ยไป
360 + 140 = 500 บาท ซง่ึ ตรงกบั โจทย์
แ ดง า่ 360 บาท เป็นคำตอบที่ถกู ต้อง

41

4. ครูกำ นดโจทย์ปญั าที่ 3 เพมิ่ เติมใ ้นักเรียนช่ ยกัน าคำตอบ ดังน้ี

ฟ้า ฝน รุ้ง และ มอกไปรับประทานอา ารกลาง ันที่ร้านอา ารแ ง่ น่ึง ทั้ง ี่คน
ั่งขา้ ราดกะเพราไก่เ มอื นกัน ากทัง้ จ่ี ่ายเงนิ ร มด้ ยธนบัตรฉบบั ละ 500 บาท
จำน น 1 ใบ และไดร้ ับเงินทอน 300 บาท แตล่ ะคนต้องจ่ายคา่ อา ารคนละเทา่ ไร

5. ถา้ นกั เรียนไม่ ามารถ เิ คราะ โ์ จทยไ์ ด้ครูอาจถามคำถามดงั ตอ่ ไปนี้
- จากโจทยข์ ้อน้ี โจทยถ์ ามอะไร (แต่ละคนตอ้ งจ่ายค่าอา ารคนละเทา่ ไร)
- นกั เรยี น าคา่ อา ารร มไดอ้ ย่างไร (เงินท่จี า่ ยไป ลบด้ ย เงินทอน น่ันคอื 500

– 300 =200 บาท)
- นักเรียนจะ าค่าอา ารของแต่ละคนได้อย่างไร (ค่าอา ารร ม ารด้ ย

จำน นคน นัน้ คือ 200 ÷ 4 = 50 บาท)
- นกั เรยี นเขยี นเป็นประโยค ัญลัก ณ์ เพอ่ื า่ แตล่ ะคนต้องจ่ายค่าอา ารของแต่

ละคน ได้อย่างไร (500 – 300) ÷ 4 = )
- นกั เรยี น าคำตอบได้ ดงั นี้
ประโยค ญั ลกั ณ์ (500 – 300) ÷ 4 =
(500 – 300) ÷ 4 = 200 ÷ 4
= 50
ดังนนั้ จะตอ้ งจา่ ยค่าอา ารคนละ 50 บาท
และตร จ อบค ามถกู ต้องของคำตอบกับโจทย์ปัญ า
จา่ ยค่าอา ารคนละ 50 บาท
คา่ อา ารของทงั้ 4 คน คนละ 50 บาท คดิ เปน็ ค่าอา ารร ม
4 × 50 = 200 บาท
เงินทอน 300 บาท ร มกับคา่ อา ารร ม 200 บาท ได้เป็นเงนิ ที่จา่ ยไป
300 + 200 = 500 บาท ซ่งึ ตรงกบั โจทย์
แ ดง ่า 50 บาท เป็นคำตอบทถ่ี ูกต้อง

6. ครูใ ้นักเรียนทำใบงานท่ี 6 โจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คูณ ารระคน เมื่อเ ร็จแล้
ใ ้นกั เรยี นช่ ยกันตร จ อบค ามถูกต้อง จากนั้นครูและนกั เรยี นร่ มกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 6

42

ขั้น รปุ
7. ครูและนกั เรียนร่ มกนั รปุ ่งิ ท่ีได้เรียนรรู้ ่ มกันเกย่ี กบั การแกโ้ จทย์ปญั า ดังนี้
- เราค รอ่านโจทย์ปัญ าจนจบใ ้เข้าใจ ากคาไ นนักเรียนไม่เข้าใจ รือไม่

ทราบค าม มายใ ้ อบถามจากครู
- เราต้อง เิ คราะ ์โจทยป์ ญั า า่ “โจทย์ตอ้ งการใ ้ าอะไร” และใ ้บ้าง”
- จากนน้ั เราจงึ า ิธกี ารแกป้ ัญ า โดยอาจ ิเคราะ จ์ ากคา รอื ขอ้ ค ามในโจทย์

ในการเลอื กเครือ่ ง มาย และลำดับในการดาเนินการ และตร จ อบค ามถกู ต้องของคำตอบกับโจทย์
ปญั า

่อื การเรียนรู้
1. แถบบัตรโจทย์ปัญ า
2. ใบงานที่ 6 โจทย์ปญั าการบ ก ลบ คณู ารระคน

การ ัดผลและประเมินผล

ิง่ ที่ต้องการ ดั ธิ ี ดั เครือ่ งมอื ดั เกณฑ์การประเมิน
1. ด้านค ามรู้ ตร จใบงานท่ี 6 ใบงานท่ี 6 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ข้นึ ไป
2. ด้านทกั ะ ังเกตพฤติกรรมด้าน แบบ งั เกต ผา่ นเกณฑใ์ นระดบั พอใชข้ ้ึน
กระบ นการ ทัก ะกระบ นการ พฤตกิ รรมด้าน ไป
ทกั ะกระบ นการ
3. ดา้ นคุณลัก ณะ ังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบ ังเกต ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 2 ทกุ
ทพี่ ึงประ งค์ คณุ ลัก ณะที่พงึ ประ งค์ พฤติกรรมด้าน รายการขนึ้ ไปถอื า่ ผา่ น
คณุ ลัก ณะ เกณฑ์
ทพี่ งึ ประ งค์

ค ามคิดเ น็ ผู้บริ าร 43

บันทึก ลังการเรียนการ อน ลงช่ือ.....................................ผตู้ ร จ
1. ผลการเรียนรู้ ()

ผู้อำน ยการโรงเรยี น
..../................../........

2. ปัญ าและอปุ รรค

3. ขอ้ เ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปญั า

ลงชอื่ .....................................ผู้ อน
()
..../................../........

44

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 7

ราย ิชาคณิต า ตร์ ชนั้ ประถม กึ าปที ี่ 4

น่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การบ ก ลบ คูณ ารจำน นนับ เ ลาเรยี น 13 ชั่ โมง

เรอื่ ง โจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คณู ารระคน เ ลาเรยี น 1 ช่ั โมง

อน นั ท่ี....... เดือน.......................... พ. . ......... ภาคเรียนท่ี 1 ปีการ ึก า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจค าม ลาก ลายของการแ ดงจำน น ระบบจำน น การ

ดำเนนิ การของจำน น ผลทเ่ี กดิ ข้ึนจากการดำเนินการ มบัติของการ

ดำเนนิ การ และการนำไปใช้

ตั ช้ี ัด
ค 1.1 ป.4/11 : แ ดง ิธี าคำตอบของโจทย์ปัญ า 2 ขั้นตอนของจำน นนับที่มากก ่า
100,000 และ 0

าระ ำคญั
การแก้โจทย์ปัญ าเริ่มจากการทำค ามเข้าใจปญั า างแผนแกป้ ัญ า ดำเนนิ ตามแผน และ

ตร จ อบค ามถกู ตอ้ งของคำตอบ

จดุ ประ งค์การเรยี นรู้
1. ามารถ เิ คราะ ์เขยี นประโยค ญั ลัก ณแ์ ละ าคำตอบโจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คณู

ารระคนได้ (K)
2. เขยี นประโยค ัญลัก ณ์และ าคำตอบได้จากโจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คูณ ารระคนได้

(P)
3. นำค ามร้เู กย่ี กับโจทย์ปญั าไปใช้แกป้ ัญ าในชี ติ จรงิ ได้ (A)

าระการเรียนรู้
โจทยป์ ัญ าการบ ก ลบ คูณ ารระคน

45

ทกั ะและกระบ นการทางคณติ า ตร์
1. ค าม ามารถในการแกป้ ัญ า
2. ค าม ามารถในการ อ่ื ารและการ อ่ื ค าม มายทางคณติ า ตร์
3. ค าม ามารถในการเชือ่ มโยง
4. ค าม ามารถในการใ ้เ ตผุ ล

คณุ ลัก ณะอนั พึงประ งค์
1. มี ินัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน

กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นนำเขา้ ูบ่ ทเรยี น
1. ครูติดแถบบัตรโจทย์ปัญ า ดงั นี้

โรงงานผลิตยาแ ่ง นึง่ ผลติ ติ ามิน 3 ชนดิ คอื A B และ C ถา้ โรงงานแ ง่
น้ผี ลติ ติ ามนิ C ได้ นั ละ 287,000 เม็ด ผลิต ติ ามนิ B ได้ มากก า่ ติ ามิน
C อยู่ 1,800 เม็ด ผลิต ิตามนิ A ได้นอ้ ยก ่า ิตามิน B อยู่ 2,900 เมด็
โรงงานนี้ผลติ ิตามิน A ได้ นั ละกีเ่ ม็ด

2. ใ น้ กั เรียนอา่ นโจทยพ์ ร้อมกนั และครู นทนา ดังต่อไปนี้
- โรงงานนีผ้ ลิต ิตามินก่ชี นดิ อะไรบ้าง (3 ชนิด คอื A B และ C)
- ผลติ ิตามิน C ได้ นั ละ (ผลติ ได้ ันละ 287,000 เม็ด)
- ผลิต ติ ามิน A ได้ นั ละ (โจทยใ์ ้ า และทราบ า่ ผลติ ได้น้อยก ่า ิตามิน B อยู่

2,900 เมด็ )
- ผลิต ติ ามิน B ได้ ันละ (ผลิตได้ มากก ่า ติ ามิน C อยู่ 1,800 เม็ด)

ขั้น อน
3. จากโจทย์ปัญ าในข้ันนำ ครูและนักเรียนร่ มกนั ิเคราะ ์และแก้โจทยป์ ัญ า โดย

ครอู าจใชค้ ำถามกระต้นุ ดงั น้ี
- จะ าได้อยา่ งไร ่าผลิต ิตามิน B ได้กี่เม็ด (จำน นทีผ่ ลิต ิตามิน C ได้ บ กกบั

1,800 เม็ด นนั่ คอื 287,000 + 1,800 = )

46

- จะ าได้อย่างไร ่าผลติ ิตามิน A ได้กี่เม็ด (จำน นที่ผลิต ิตามิน B ได้ ักออก
2,900 เม็ด น่ันคือ (287,000 + 1,800) – 2,900 = )

- นักเรียนเขียนประโยค ัญลัก ณ์ได้อย่างไร (287,000 + 1,800) – 2,900 =
)

- ใ น้ กั เรยี นคำน ณ าจำน น ติ ามนิ A ทีโ่ รงงานแ ่งนผ้ี ลิตไดใ้ น ละ นั ดงั นี้
ประโยค ัญลกั ณ์ (287,000 + 1,800) – 2,900 =
(287,000 + 1,800) – 2,900 = 288,800 – 2,900
= 285,900
ดังน้นั โรงงานแ ่งนผ้ี ลิต ติ ามิน A ได้ ันละ 285,900 เม็ด

และตร จ อบค ามถูกต้องของคำตอบกับโจทย์ปัญ า
โรงงานแ ง่ น้ีผลติ ิตามิน A ได้ 285,900 เมด็
ผลิต ิตามิน B ได้ มากก า่ ิตามิน A อยู่ 2,900 เมด็ ดงั นน้ั ผลติ ิตามิน B ได้
285,900 + 2,900 = 288,800 เมด็
ผลิต ิตามิน B ได้ มากก า่ ิตามิน C อยู่ 1,800 เมด็ ดงั น้นั ผลติ ติ ามนิ C ได้
288,800 - 1,800 = 287,000 เมด็
ผลิต ิตามนิ C ได้ 287,000 เมด็ ซึง่ ตรงกับโจทย์
แ ดง ่า 287,000 เมด็ เปน็ คำตอบท่ถี ูกตอ้ ง

4. ครตู ดิ แถบบัตรโจทยป์ ัญ า ดงั น้ี

ลุงขา มขี า้ ารอยู่ 3,705 กโิ ลกรัม แบ่งใ ่ถงุ ถงุ ละ 15 กิโลกรัม แล้ ขาย
ถงุ ละ 520 บาท ลุงขา จะขายข้า ารได้เงนิ ทง้ั มดกีบ่ าท

5. ครูและนักเรียนร่ มกัน ิเคราะ ์และแก้โจทย์ปัญ า โดยครูอาจใช้คำถามกระตุ้น
ดงั ต่อไปน้ี

- ลุงขา มีขา้ ารอยูเ่ ท่าไร (3,705 กิโลกรมั )
- แบ่งใ ถ่ งุ ถงุ ละเทา่ ไร (15 กโิ ลกรมั )
- จะ าได้อย่างไร ่า ได้ข้า ารทั้ง มดกี่ถุง (นำน้ำ นักข้า ารที่มีอยู่ ารด้ ย
น้า นักข้า ารในแต่ละถงุ น่ันคือ 3,705 ÷ 15 = )
- ขายถงุ ละ เทา่ ไร (520 บาท)
- จะ าได้อย่างไร า่ ลุงขา จะขายข้า ารได้เงินทงั้ มดก่ีบาท (นำจำน นถุงของ
ข้า ารมาคณู ด้ ยราคาขาย น่นั คอื (3,705 ÷ 15) × 520 = )

47

- นกั เรยี นเขียนประโยค ญั ลกั ณไ์ ด้อยา่ งไร ((3,705 ÷ 15) × 520 = )
- ใ น้ ักเรียน าจำน นเงนิ ทล่ี ุงขา จะไดจ้ ากการขายขา้ าร ดงั นี้

ประโยค ญั ลัก ณ์ (3,705 ÷ 15) × 520 =
(3,705 ÷ 15) × 520 = 247 × 520
= 128,440

ดังนนั้ ลุงขา ขายข้า ไดเ้ งิน คอื 128,440 บาท
และตร จ อบค ามถกู ตอ้ งของคำตอบกับโจทยป์ ัญ าโดยใชเ้ คร่ืองคิด ดงั น้ี

ลุงขา ขายข้า ารได้เงิน 128,440 บาท ขายไปถุงละ 520 บาท ขายข้า ไป
ท้งั มดก่ถี งุ

ดังน้ัน ขายขา้ ไปท้งั มด 128,440 ÷ 520 = 247 ถงุ
ข้า าร 247 ถุง ถุงละ 15 กโิ ลกรัม คดิ เปน็ ขา้ ารท้งั มดกกี่ ิโลกรมั

247 × 15 = 3,705
ขา้ ารทัง้ มด 3,705 กิโลกรัม ซ่งึ ตรงกบั โจทย์
แ ดง า่ 3,705 บาท เปน็ คำตอบท่ีถกู ตอ้ ง
6. ใ ้นักเรยี นแบง่ เป็นกลมุ่ กลุ่มละ 3-4 คน แจกกระดา แผ่นใ ญ่ใ น้ ักเรียน ุ่ม ยิบ
โจทยป์ ญั าการบ ก ลบ คณู ารระคน ดังตอ่ ไปนี้ เพอื่ แ ดง ิธีคดิ และตร จคำตอบ

พ่อค้าลงทนุ ซอื้ ผลไมแ้ ละขนมมาขายเปน็ เงนิ 2,250 บาท จากนัน้ ขาย นิ ค้า
ท้ัง องชนดิ จน มดได้เงนิ จากการขายผลไม้ 1,735 บาท ไดเ้ งนิ จากการขาย
ขนม 1,590 บาท พ่อค้าได้กำไรจากการขายของครั้งนี้เท่าไร ((1,735 +
1,590) – 2,250 = ) (1,075)

มีผบู้ รจิ าคเงินเปน็ ทนุ การ ึก าใ ้โรงเรยี นทนุ ละ 450 บาท จำน น 20 ทุน
ถา้ นำเงนิ จำน นดงั กลา่ ไปจดั รรเป็นทนุ การ กึ าใ ้นกั เรยี น ทนุ ละ 225
บาท จะมีนกั เรียนก่คี นท่ีไดร้ ับทนุ การ ึก า ((20 × 450) ÷ 225 = )
(40)

การประชุมมีผู้เข้าร่ มประชุม 234 คน จ่ายค่าอา าร ่างคนละ 95 บาท
คา่ อา ารกลาง นั คนละ 240 บาท คดิ เป็นค่าใช้จ่ายทั้ง มดก่ีบาท (234 ×
(95 + 240) = )

48

ซ้อื เ ้ือ 15 ตั เป็นเงนิ 1,200 บาท ขายไปตั ละ 100 บาท ถา้ ขายท้ัง มด
จะได้กำไรเท่าไร ((15 × 100) – 1,200 = )

7. ครูใ ้นักเรียนทำใบงานท่ี 7 โจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คูณ ารระคน เมื่อเ ร็จแล้
ใ ้นกั เรยี นช่ ยกนั ตร จ อบค ามถูกตอ้ ง จากนั้นครแู ละนักเรยี นร่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 7

ข้นั รปุ
8. ครูและนักเรียนร่ มกัน รุป ิ่งที่ได้เรียนรู้ร่ มกันเกี่ย กับการแก้โจทย์ปัญ า ดังน้ี

การแก้โจทย์ปัญ าเริ่มจาก การทำค ามเข้าใจปัญ า างแผนแก้ปัญ า ดำเนินตามแผนและ
ตร จ อบค ามถกู ต้องของคำตอบกบั โจทยป์ ัญ า

่ือการเรยี นรู้
1. แถบบัตรโจทย์ปัญ า
2. ใบงานที่ 7 โจทย์ปญั าการบ ก ลบ คณู ารระคน

การ ัดผลและประเมนิ ผล

ง่ิ ทตี่ ้องการ ดั ิธี ัด เคร่ืองมือ ดั เกณฑ์การประเมนิ
1. ดา้ นค ามรู้ ตร จใบงานที่ 7 ใบงานท่ี 7 ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 70 ขึน้ ไป
2. ด้านทัก ะ งั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบ งั เกต ผา่ นเกณฑ์ในระดบั พอใชข้ น้ึ
กระบ นการ ทัก ะกระบ นการ พฤติกรรมดา้ น ไป
ทัก ะกระบ นการ
3. ด้านคุณลัก ณะ งั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบ ังเกต ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 2 ทุก
ท่พี งึ ประ งค์ คณุ ลัก ณะที่พงึ ประ งค์ พฤตกิ รรมดา้ น รายการข้นึ ไปถอื ่าผา่ น
คณุ ลกั ณะ เกณฑ์
ทพ่ี งึ ประ งค์

ค ามคิดเ น็ ผู้บริ าร 49

บันทึก ลังการเรียนการ อน ลงช่ือ.....................................ผตู้ ร จ
1. ผลการเรียนรู้ ()

ผู้อำน ยการโรงเรยี น
..../................../........

2. ปัญ าและอปุ รรค

3. ขอ้ เ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปญั า

ลงชอื่ .....................................ผู้ อน
()
..../................../........

50

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 8

ราย ชิ าคณิต า ตร์ ชน้ั ประถม กึ าปีท่ี 4

น่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การบ ก ลบ คูณ ารจำน นนับ เ ลาเรียน 13 ช่ั โมง

เรอ่ื ง โจทย์ปญั าการบ ก ลบ คูณ ารระคน เ ลาเรียน 1 ชั่ โมง

อน ันท.ี่ ...... เดอื น.......................... พ. . ......... ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการ ึก า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจค าม ลาก ลายของการแ ดงจำน น ระบบจำน น การ

ดำเนินการของจำน น ผลทีเ่ กดิ ข้ึนจากการดำเนินการ มบัติของการ

ดำเนินการ และการนำไปใช้

ตั ชี้ ัด
ค 1.1 ป.4/11 : แ ดง ิธี าคำตอบของโจทย์ปัญ า 2 ขั้นตอนของจำน นนับที่มากก ่า
100,000 และ 0

าระ ำคญั
การแกโ้ จทย์ปญั าเริ่มจากการทำค ามเข้าใจปญั า างแผนแกป้ ญั า ดำเนนิ ตามแผน และ

ตร จ อบค ามถูกตอ้ งของคำตอบ

จุดประ งค์การเรียนรู้
1. ามารถ ิเคราะ ์เขียนประโยค ัญลกั ณแ์ ละ าคำตอบโจทยป์ ญั าการบ ก ลบ คูณ

ารระคนได้ (K)
2. เขียนประโยค ัญลกั ณแ์ ละแ ดง ิธีทำจากโจทย์ปญั าการบ ก ลบ คณู ารระคนได้

(P)
3. นำค ามร้เู ก่ีย กับโจทยป์ ญั าไปใชแ้ ก้ปัญ าในชี ติ จรงิ ได้ (A)

าระการเรยี นรู้
โจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คณู ารระคน

51

ทัก ะและกระบ นการทางคณิต า ตร์
1. ค าม ามารถในการแก้ปัญ า
2. ค าม ามารถในการ อ่ื ารและการ ่ือค าม มายทางคณติ า ตร์
3. ค าม ามารถในการเช่ือมโยง
4. ค าม ามารถในการใ เ้ ตุผล

คุณลกั ณะอันพึงประ งค์
1. มี นิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

กิจกรรมการเรียนรู้
ข้ันนำเข้า ่บู ทเรียน
1. ครูติดแถบบตั รโจทย์ปัญ า ดังน้ี

จิตรามเี งินอยู่ 21,760 บาท ันน้ีขายทุเรยี นไดอ้ กี 139 กโิ ลกรัม ราคา
กโิ ลกรมั ละ 47 บาทจิตรามีเงนิ ทง้ั มดเท่าไร

2. ใ ้นกั เรียนร่ มกันอ่านโจทย์และ เิ คราะ ์ โดยครอู าจใชค้ ำถามกระตนุ้ ดังน้ี
- จติ รามีเงินอยู่แล้ ก่บี าท (21,760 บาท)
- ขายผลไมอ้ ะไรไดเ้ พิม่ อีก (ทุเรยี น)
- ขายไปก่กี โิ ลกรมั (139 กโิ ลกรัม)
- กิโลกรมั ละเท่าไร (47 บาท)

ข้ัน อน
3. จากโจทยป์ ญั าในข้ันนำ ครูใ ้นักเรียนจบั คกู่ นั เพือ่ ถามตอบเกี่ย กับปัญ า เพื่อทำ

ค ามเข้าใจปญั า ดงั น้ี
- จะ าได้อยา่ งไร ่า ขายทเุ รียนได้เงนิ เท่าไร (139 × 47 = 6,345 บาท)
- จะ าได้อยา่ งไร ่า จิตรามเี งนิ ท้งั มดเทา่ ไร (21,760 + 6,345 = 28,105 บาท)

52

- โดยนกั เรียน ามารถแ ดง ธิ ที ำได้ ดงั น้ี

ธิ ีทำ ขายทเุ รียนไปกโิ ลกรัมละ 47 บาท

ขายทเุ รียนไป 139 กิโลกรมั

ขายทุเรียนไปเป็นเงนิ 139 × 47 = 6,533 บาท

จติ รามีเงนิ 21,760 บาท

ร มจิตรามเี งนิ ทัง้ มด 21,760 + 6,533 = 28,293 บาท

ตอบ ๒๘,๒๙๓ บาท

และตร จ อบค ามถูกต้องของคำตอบกับโจทย์ปญั าโดยเคร่อื งคดิ เลข ดังน้ี

จติ รามีเงินท้ัง มด 28,105 บาท ักออกจากทม่ี ีอยเู่ ดมิ 21,760 คิดเปน็ เงินจากการ

ขายผล ไร

28,293 - 21,760 = 6,533

น่ันคือ ขายทเุ รยี น คิดเปน็ เงนิ 6,533 บาท กิโลกรัมละ 47 บาท ขายไปกกี่ ิโลกรมั

6,533 ÷ 47 = 139

ขายไป 139 กิโลกรัม ซงึ่ ตรงกับโจทย์

แ ดง า่ 139 กโิ ลกรัม เปน็ คำตอบทถี่ กู ตอ้ ง

4. ใ น้ กั เรียนแบง่ เป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3-4 คน แจกกระดา แผน่ ใ ญ่ใ น้ ักเรียน ุ่ม ยิบ

โจทยป์ ญั าการบ ก ลบ คูณ ารระคน ดังตอ่ ไปน้ี เพือ่ แ ดง ิธีคดิ และตร จคำตอบ

พอ่ ำร จราคาเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้า แต่ลืมจำราคาทั้ง มดไม่ได้ จำไดเ้ พยี ง า่ โทรทั น์
ราคา 12,500 บาท ตู้เย็นราคาถูกก ่าโทรทั น์ 4,790 บาท คอมพิ เตอร์ราคา
แพงก ่าตู้เย็น 21,700 บาท อยากทราบ ่า คอมพิ เตอร์ราคากี่บาท ((12,500
– 4,790) + 21,700 = ) (29,410)

้าง รรพ ินค้าแ ่ง นึง่ จดั รรพืน้ ที่ า่ ง า รบั แบ่งเช่าเพื่อขายของ เดมิ แบง่ ได้
เปน็ 30 น่ ยแต่ละ น่ ยมีเน้อื ท่ี 75 ตารางเมตร ถ้านาพนื้ ทีท่ ้ัง มดมาจัด รร
ใ ม่ เป็น น่ ยละ 50 ตารางเมตร จะจดั รรไดก้ ่ี น่ ย ((30 × 75. ÷ 50 =

) (45)

รา้ นอา ารแ ง่ นึ่ง ผู้จัดการร้านได้รบั เงินเดอื นเป็น 3 เท่าของพนกั งานรับ
รายการอา ารพนกั งานรับรายการอา ารไดร้ บั เงนิ เดอื นมากก า่ พนกั งานทำ
ค าม ะอาด 9,750 บาท ถ้าพนักงานทำค าม ะอาดได้รบั เงนิ เดือน 10,800
บาท ผจู้ ัดการร้านจะได้รบั เงนิ เดอื นกบี่ าท (3 × (10,800 + 9,750) = )
(61,650)

53

พ่อแบ่งเ รยี ญ ้าบาท 1,875 เ รียญ ที่ ะ มไ ้ ใ ้ลูก 5 คน คนละเท่า ๆ กัน
ถา้ ลูกคนโตมีเ รยี ญ า้ บาทอยู่แล้ 271 เ รียญ เมอื่ ไดร้ ับจากพ่อมาเพิ่ม ลูกคน
โตจะมีเ รยี ญ า้ บาททัง้ มดกีเ่ รียญ (271 + (1,875 ÷ 5) = ) (646)

มพรขายเ ื้อ 252 ตั ราคาตั ละ 125 บาท นำเงินไปฝากธนาคาร 8,700
บาท มพรเ ลอื เงินไ ใ้ ช้จา่ ยเทา่ ไร ((252 × 125. - 8,700 = ) (22,800)

พิมพ์ นัง ือ 15,000 เล่ม ขายไปแล้ 12,000 เล่ม ที่เ ลือนาไปฝากขายตาม
ร้าน นัง ือ ร้านละ 75 เล่ม จะต้องนำ นัง ือไปฝากขายกี่ร้าน ((15,000 –
12,000) ÷ 75 = ) (40)

จากนั้นครใู ้นักเรียนออกมานำเ นอ และร่ มกนั ตร จ อบค ามถกู ตอ้ ง
5. ครูใ ้นักเรียนทำใบงานที่ 8 โจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คูณ ารระคน เมื่อเ ร็จแล้
ใ น้ ักเรียนช่ ยกันตร จ อบค ามถูกตอ้ ง จากนน้ั ครแู ละนักเรียนร่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 8
ข้ัน รปุ
6. ครูและนักเรียนร่ มกัน รุป ิ่งที่ได้เรียนรู้ร่ มกันเกี่ย กับการแก้โจทย์ปัญ าและ
แ ดง ิธที ำ ดงั นี้ การแกโ้ จทยป์ ัญ าเร่ิมจาก การทำค ามเข้าใจปัญ า างแผนแกป้ ัญ า ดำเนินตาม
แผน และตร จ อบค ามถกู ต้องของคำตอบกบั โจทย์ปัญ า

อื่ การเรียนรู้
1. บัตรโจทยป์ ญั า
2. ใบงานที่ 8 โจทยป์ ัญ าการบ ก ลบ คูณ ารระคน

54

การ ดั ผลและประเมินผล

ิ่งท่ีต้องการ ดั ิธี ัด เคร่อื งมือ ัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ดา้ นค ามรู้ ตร จใบงานท่ี 8 ใบงานที่ 8 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ด้านทกั ะ ังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบ ังเกต ผ่านเกณฑ์ในระดบั พอใช้ขน้ึ
กระบ นการ ทกั ะกระบ นการ พฤติกรรมดา้ น ไป
ทกั ะกระบ นการ
3. ดา้ นคุณลกั ณะ ังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบ ังเกต ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 ทกุ
ท่ีพงึ ประ งค์ คณุ ลกั ณะท่พี ึงประ งค์ พฤตกิ รรมด้าน รายการข้นึ ไปถอื า่ ผ่าน
คุณลกั ณะ เกณฑ์
ที่พึงประ งค์

ค ามคดิ เ ็นผู้บริ าร

ลงช่อื .....................................ผูต้ ร จ
()

ผอู้ ำน ยการโรงเรียน
..../................../........

55

บนั ทกึ ลงั การเรียนการ อน
1. ผลการเรยี นรู้

2. ปญั าและอุป รรค

3. ข้อเ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปัญ า

ลงช่อื .....................................ผู้ อน
()
..../................../........

56

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 9

ราย ิชาคณติ า ตร์ ชน้ั ประถม กึ าปีท่ี 4

น่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 การบ ก ลบ คูณ ารจำน นนับ เ ลาเรยี น 13 ชั่ โมง

เรอ่ื ง การ รา้ งโจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คูณ ารระคน เ ลาเรียน 1 ชั่ โมง

จากประโยค ัญลัก ณ์

อน นั ท่ี....... เดือน.......................... พ. . ......... ภาคเรียนที่ 1 ปกี าร กึ า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจค าม ลาก ลายของการแ ดงจำน น ระบบจำน น การ

ดำเนนิ การของจำน น ผลทเ่ี กดิ ขึ้นจากการดำเนินการ มบัติของการ

ดำเนนิ การ และการนำไปใช้

ตั ช้ี ดั
ค 1.1 ป.4/12 : รา้ งโจทยป์ ัญ า 2 ขั้นตอน ของจำน นนบั และ 0 พร้อมทง้ั าคำตอบ

าระ ำคญั
การ รา้ งโจทย์ปัญ า ตอ้ งมีท้ัง ่ นที่โจทยบ์ อกและ ่ นทโี่ จทยถ์ าม นอกจากน้ีโจทยป์ ัญ าท่ี

รา้ งตอ้ งมีค ามเปน็ ไปได้

จุดประ งค์การเรียนรู้
1. รา้ งโจทยป์ ัญ าการบ ก ลบ คณู ารระคนได้ (K)
2. เขยี นแ ดงการ รา้ งโจทยป์ ัญ าการบ ก ลบ คูณ ารระคนได้ถกู ตอ้ ง (P)
3. เขยี นแ ดง ิธี าคำตอบจากโจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คูณ ารระคนที่ รา้ งขึ้นได้อย่าง

ถกู ตอ้ ง (P)
3. นำค ามร้เู ก่ีย กบั โจทย์ปัญ าไปใช้แก้ปญั าในชี ิตจริงได้ (A)

าระการเรียนรู้
การ ร้างโจทย์ปญั าการบ ก ลบ คณู ารระคนจากประโยค ัญลกั ณ์

57

ทัก ะและกระบ นการทางคณิต า ตร์
1. ค าม ามารถในการแกป้ ญั า
2. ค าม ามารถในการ ่อื ารและการ อื่ ค าม มายทางคณิต า ตร์
3. ค าม ามารถในการเชอ่ื มโยง
4. ค าม ามารถในการใ เ้ ตผุ ล

คุณลัก ณะอันพงึ ประ งค์
1. มี ินัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้นั นำเขา้ ู่บทเรยี น
1. ครูตดิ แถบบตั รโจทย์ปัญ า ดงั ตอ่ ไปนี้

นบั ดา มีเงินอยู่ 5,800 บาท และเมอื่ ขายนา้ ผลไม้ไป 135 แก้ แก้ ละ 30
บาท นบั ดา มเี งนิ ร มทัง้ มดเทา่ ไร

2. ใ น้ ักเรยี นช่ ยกนั เขยี นเปน็ ประโยค ญั ลัก ณ์ (5,800 + (135 × 30) = )

ขัน้ อน

3. ครูช นนักเรียน นทนา า่ จากโจทย์ปญั า เรา ามารถเขียนเป็นประโยค ัญลัก ณ์

ได้ จากนั้นครูยกตั อย่างประโยค ัญลัก ณ์ เช่น (5,765 + 1,200) - 6,500 = แล้ ใ ้นักเรียน

ช่ ยกัน รา้ งเป็นโจทย์ปญั าและ าคำตอบ เชน่

- มีเงนิ อยู่ 5,765 บาท ขายพ งมาลยั ได้เงนิ มาอีก 1,200 บาท จ่ายค่าเช่าบ้านไป

6,500 บาท จะเ ลือเงนิ กีบ่ าท (จะเ ลอื เงิน 465 บาท)

- ลงทนุ ซ้อื แตงโมและ ม้ โอไป 6,500 บาท ขายแตงโมไดเ้ งนิ 5,765 บาท ขาย ้ม

โอได้เงิน 1,200 บาท ไดก้ ำไรก่ีบาท (ไดก้ าไร 465 บาท)

ครูแนะนำเพิ่มเติม ่าโจทย์ปัญ าท่ี ร้างขน้ึ ตอ้ งมีค ามเปน็ ไปได้

4. ครูเตรียม ลากประโยค ัญลกั ณ์ ดงั ตอ่ ไปนี้

(2,701 + 3,099) ÷ 25 = (232)

80,291 – (435,104 ÷ 32) = (66,694)

(37,459 + 29,375) – 42,795 = (24,039)

58

50,000 - (41,779 + 7,568) = (653)

(102 × 180) ÷ 30 = (612)

5. ใ ้นักเรียนแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 – 4 คน แจกกระดา แผ่นใ ญ่ใ ้นักเรียน

ช่ ยกัน ร้างโจทย์ปญั าจากประโยค ญั ลกั ณ์ที่ ่มุ ยิบขึน้ มาได้ กลุ่มละ 1 ข้อ

6. จากโจทย์ปัญ าที่นักเรียน ร้างขึ้นมาจากประโยค ัญลัก ณ์ ใ ้ครูและนักเรียน

ร่ มกนั พิจารณาค าม มเ ตุ มผลของโจทยท์ ่ี ร้างข้นึ ากโจทยป์ ญั าใดยังไม่ มเ ตุ มผล ครูอาจ

ช่ ยนักเรยี นปรับแกใ้ ม้ ีค าม มเ ตุ มผลมากข้ึน

7. ครูใ ้นักเรียนทำใบงานที่ 9 การ ร้างโจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คูณ ารระคนจาก

ประโยค ัญลัก ณ์ เมื่อเ ร็จแล้ ใ ้นักเรียนช่ ยกันตร จ อบค ามถูกต้อง จากนั้นครูและนักเรียน

ร่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 9

ขน้ั รปุ

8. ครูและนกั เรยี นร่ มกัน รุป ิ่งทไ่ี ด้เรียนรรู้ ่ มกนั ดงั นี้

- โจทย์ปัญ าประกอบด้ ย 2 ่ น ลัก ๆ คือ ่ นที่โจทย์กำ นดข้อมูลมาใ ้

และ ่ นท่ีโจทยถ์ าม

- โจทย์ปัญ าทางคณิต า ตร์ ่ นใ ญ่มาจากปัญ าที่พบเจอได้ใน

ชี ิตประจำ ัน

อื่ การเรียนรู้
1. บัตรโจทยป์ ญั า
2. กระดา แผน่ ใ ญ่
3. ลากประโยค ัญลกั ณ์
4. ใบงานที่ 9 การ รา้ งโจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คณู ารระคนจากประโยค ญั ลกั ณ์

59

การ ดั ผลและประเมินผล

ิ่งท่ีต้องการ ดั ิธี ัด เคร่อื งมือ ัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ดา้ นค ามรู้ ตร จใบงานท่ี 9 ใบงานที่ 9 ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ด้านทกั ะ ังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบ ังเกต ผ่านเกณฑ์ในระดบั พอใช้ขน้ึ
กระบ นการ ทกั ะกระบ นการ พฤติกรรมดา้ น ไป
ทกั ะกระบ นการ
3. ดา้ นคุณลกั ณะ ังเกตพฤตกิ รรมด้าน แบบ ังเกต ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 ทกุ
ท่ีพงึ ประ งค์ คณุ ลกั ณะท่พี ึงประ งค์ พฤตกิ รรมด้าน รายการข้นึ ไปถอื า่ ผ่าน
คุณลกั ณะ เกณฑ์
ที่พึงประ งค์

ค ามคดิ เ ็นผู้บริ าร

ลงช่อื .....................................ผูต้ ร จ
()

ผอู้ ำน ยการโรงเรียน
..../................../........

60

บนั ทกึ ลงั การเรียนการ อน
1. ผลการเรยี นรู้

2. ปญั าและอุป รรค

3. ข้อเ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปัญ า

ลงช่อื .....................................ผู้ อน
()
..../................../........

61

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 10

ราย ชิ าคณติ า ตร์ ชั้นประถม กึ าปที ี่ 4

น่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 การบ ก ลบ คูณ ารจำน นนับ เ ลาเรียน 13 ชั่ โมง

เร่ือง การ รา้ งโจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คูณ ารระคนจากภาพ เ ลาเรียน 1 ช่ั โมง

อน นั ท่ี....... เดือน.......................... พ. . ......... ภาคเรียนที่ 1 ปีการ กึ า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจค าม ลาก ลายของการแ ดงจำน น ระบบจำน น การ

ดำเนินการของจำน น ผลท่ีเกดิ ข้ึนจากการดำเนนิ การ มบัติของการ

ดำเนินการ และการนำไปใช้

ตั ช้ี ัด
ค 1.1 ป.4/12 : ร้างโจทย์ปัญ า 2 ขั้นตอน ของจำน นนับและ 0 พรอ้ มทง้ั าคำตอบ

าระ ำคัญ
การ รา้ งโจทยป์ ัญ า ต้องมที ั้ง ่ นที่โจทยบ์ อกและ ่ นทโ่ี จทยถ์ าม นอกจากนีโ้ จทยป์ ัญ าท่ี

รา้ งตอ้ งมีค ามเป็นไปได้

จุดประ งค์การเรยี นรู้
1. รา้ งโจทย์ปญั าการบ ก ลบ คณู ารระคนได้ (K)
2. เขยี นแ ดงการ ร้างโจทยป์ ัญ าการบ ก ลบ คณู ารระคนได้ถกู ต้อง (P)
3. เขียนแ ดง ธิ ี าคำตอบจากโจทยป์ ัญ าการบ ก ลบ คูณ ารระคนท่ี รา้ งข้นึ ไดอ้ ยา่ ง

ถูกต้อง (P)
4. นำค ามรเู้ กยี่ กับโจทย์ปญั าไปใชแ้ กป้ ัญ าในชี ติ จริงได้ (A)

าระการเรียนรู้
การ ร้างโจทย์ปญั าการบ ก ลบ คณู ารระคนจากภาพ

62

ทกั ะและกระบ นการทางคณติ า ตร์
1. ค าม ามารถในการแกป้ ัญ า
2. ค าม ามารถในการ ื่อ ารและการ ือ่ ค าม มายทางคณิต า ตร์
3. ค าม ามารถในการเช่อื มโยง
4. ค าม ามารถในการใ ้เ ตผุ ล

คุณลกั ณะอนั พึงประ งค์
1. มี นิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

กิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั นำเขา้ บู่ ทเรียน
1. ครแู ละนักเรียนร่ มกันระดมค ามคดิ เกย่ี กับ ถานที่ รอื งิ่ ต่าง ๆ ท่ีนักเรยี น

ามารถพบเจอ เชน่ โฆ ณา นกั เรียน ามารถนำมา รา้ งเป็นโจทย์ปัญ าอะไรได้บ้าง
ขน้ั อน
2. ครใู ้นกั เรยี นดูภาพร้านผลไม้แล้ ช่ ยกัน รา้ งโจทย์ปญั า เชน่

- ร้านขายผลไม้มี ้ม 110 ผล ซื้อมาเพิ่มอีก 4 ลัง ลังละ 72 ผล ร้านขายผลไม้มี
้มกี่ผล

เขียนเปน็ ประโยค ญั ลัก ณ์ 110 + (4 × 72) =
แ ดง ่า ร้านขายผลไมม้ ี ้ม 398 ผล

63

- เพชรซื้อ ้มโอ 6 ผล ผลละ 45 บาท จ่ายเงินเป็นธนบัตร นึ่งพันบาท 1 ใบ
เพชรจะได้เงินทอนกีบ่ าท

เขียนเป็นประโยค ญั ลกั ณ์ 1,000 – (6 × 45) =
แ ดง ่า เพชรได้เงนิ ทอน 730 บาท
3. ใ ้นักเรยี น ลับกนั เิ คราะ ์และแกโ้ จทยป์ ญั าของกลุม่ เพอื่ น
4. ใ ้นักเรียนพจิ ารณาโจทยป์ ัญ าทก่ี ลุ่มตนเอง รา้ งข้ึน า่ กลุ่มเพ่ือนแก้โจทย์ปัญ าได้
อย่างที่กลุ่มนักเรียนต้องการ รือไม่ มีตรงไ นในโจทย์ปัญ าที่ทาใ ้เพื่อนเกิดข้อ ง ัย รือทาใ ้
เพ่ือนเข้าใจผดิ แล้ แกไ้ ขโจทยป์ ญั าของกลุ่มตนเองใ ้ดีขน้ึ
5. ลองใ ้เพื่อนกลุ่มอื่นที่ยังไม่เคยแก้โจทย์ปัญ าของกลุ่มนักเรียนมาก่อน ิเคราะ ์
และแกโ้ จทยป์ ญั าของกลุ่มนักเรียนอกี คร้งั
6. ครูใ น้ กั เรียนทำใบงานที่ 10 การ ร้างโจทยป์ ญั าการบ ก ลบ คณู ารระคนจาก
ภาพ เมื่อเ ร็จแล้ ใ ้นักเรียนช่ ยกันตร จ อบค ามถูกต้อง จากน้ันครูและนักเรียนร่ มกันเฉลย
กจิ กรรมในใบงานท่ี 10
ข้นั รุป
7. ครูและนกั เรยี นร่ มกนั รปุ งิ่ ท่ไี ดเ้ รยี นร้รู ่ มกัน ดังนี้
- โจทย์ปัญ าประกอบด้ ย 2 ่ น ลัก ๆ คือ ่ นที่โจทย์กำ นดข้อมูลมาใ ้
และ ่ นที่โจทย์ถาม
- โจทย์ปัญ าทางคณิต า ตร์ ่ นใ ญ่มาจากปัญ าที่พบเจอได้ใน
ชี ิตประจำ ัน

่อื การเรียนรู้
1. ภาพร้านผลไม้
2. ใบงานท่ี 10 การ ร้างโจทย์ปัญ าการบ ก ลบ คูณ ารระคนจากภาพ

64

การ ัดผลและประเมนิ ผล

ง่ิ ทตี่ อ้ งการ ดั ิธี ัด เครอ่ื งมอื ัด เกณฑ์การประเมนิ
1. ด้านค ามรู้ ตร จใบงานที่ 10 ใบงานที่ 10 ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70 ขนึ้ ไป
2. ด้านทกั ะ ังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบ งั เกต ผา่ นเกณฑใ์ นระดบั พอใช้ขน้ึ
กระบ นการ ทัก ะกระบ นการ พฤตกิ รรมดา้ น ไป
ทัก ะกระบ นการ
3. ดา้ นคุณลัก ณะ งั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบ งั เกต ได้ระดับคุณภาพ 2 ทกุ
ทีพ่ ึงประ งค์ คณุ ลัก ณะทพี่ งึ ประ งค์ พฤตกิ รรมด้าน รายการขนึ้ ไปถอื า่ ผ่าน
คณุ ลัก ณะ เกณฑ์
ท่ีพงึ ประ งค์

ค ามคิดเ น็ ผู้บริ าร

ลงชอื่ .....................................ผูต้ ร จ
()

ผอู้ ำน ยการโรงเรียน
..../................../........

65

บนั ทกึ ลงั การเรียนการ อน
1. ผลการเรยี นรู้

2. ปญั าและอุป รรค

3. ข้อเ นอแนะ/แน ทางในการแก้ปัญ า

ลงช่อื .....................................ผู้ อน
()
..../................../........

66

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 11

ราย ิชาคณติ า ตร์ ชน้ั ประถม ึก าปที ่ี 4

น่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 การบ ก ลบ คูณ ารจำน นนบั เ ลาเรยี น 13 ช่ั โมง

เรื่อง คา่ เฉลย่ี เ ลาเรยี น 1 ช่ั โมง

อน ันที.่ ...... เดอื น.......................... พ. . ......... ภาคเรียนท่ี 1 ปกี าร ึก า 2564

................................................................................................................................................................

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 : เข้าใจค าม ลาก ลายของการแ ดงจำน น ระบบจำน น การ

ดำเนินการของจำน น ผลที่เกิดขึน้ จากการดำเนินการ มบัติของการ

ดำเนนิ การ และการนำไปใช้

ตั ชี้ ัด
ค 1.1 ป.4/11 : แ ดง ิธี าคำตอบของโจทย์ปัญ า 2 ขั้นตอนของจำน นนับที่มากก ่า
100,000 และ 0

าระ ำคญั
การเฉลย่ี มายถงึ การแบ่งของทั้ง มดเปน็ ่ น ๆ ่ นละเท่า ๆ กนั ามารถคำน ณได้โดย

การนำผลบ กของจำน นต่าง ๆ ารด้ ยจำน นของจำน นทั้ง มดที่นำมาบ กกัน และผล ารท่ีได้
น้นั เรยี ก า่ คา่ เฉล่ยี ของจำน นเ ลา่ น้ัน

จดุ ประ งคก์ ารเรียนรู้
1. อธิบาย ธิ ีการ าคา่ เฉลยี่ ได้ (K)
2. าค่าเฉลี่ยของจำน นชุดเมอื่ กำ นดจำน นใ ้ชดุ นงึ่ ได้ (P)
3. แก้โจทยป์ ญั าเกย่ี กบั ค่าเฉลี่ยได้ (P)
4. นำค ามรู้เกย่ี กับคา่ เฉลีย่ ไปใช้แก้ปัญ าในชี ติ จริงได้ (A)

าระการเรยี นรู้
คา่ เฉล่ยี