แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชาคณิตศาสตร์ ค21101
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1
การฝกึ ประสบการณว์ ชิ าชีพครู
ชดุ วชิ า “การปฏบิ ัติการสอนในสถานศกึ ษา 1”
จดั ทำโดย
นายตันติกร บญุ ธรรม
รหัสนกั ศกึ ษา 6013106023
โรงเรียนท่ีผึก โรงเรียนนครไทย
อำเภอนครไทย จงั หวัดพษิ ณุโลก
สำนักงานเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษาพษิ ณโุ ลก อตุ รดิถต์
คณะครศุ าสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏพบิ ลู สงคราม
หน่วยที่ 1 เรอ่ื ง จำนวนเตม็
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 1 เรอื่ ง จำนวนเตม็
รายวชิ าคณิตศาสตร์1 รหสั วิชา ค21101 ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 เวลา 1 ชั่วโมง
วันท…ี่ ….เดือน……………………… พ.ศ. ………….. ครูผู้สอน นายตันตกิ ร บุญธรรม
…………………………………………………………………………………………………..……..…………………………………
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการ
ของจำนวน ผลที่เกดิ ขนึ้ จากการดำเนนิ การ สมบตั ิของการดำเนินการ และนำไปใช้
ตวั ช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้
ค1.1 ม.1/1 เข้าใจจำนวนตรรกยะและความสมั พนั ธ์ของจำนวนตรรกยะ และใชส้ มบตั ิ
ของจำนวนตรรกยะในการแก้ปญั หาคณิตศาสตรแ์ ละปัญหาในชวี ิตจริง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้
1. ระบุหรือยกตวั อยา่ งจำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์
ดา้ นทักษะ/ กระบวนการ
1. การส่อื สารและการสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน
สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแก้ปัญหา
สาระสำคัญ
จำนวนเต็ม แบง่ ออกเปน็ 3 ประเภท คือ จำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ และศนู ย์
สาระการเรยี นรู้
จำนวนเต็มบวก จำนวนเตม็ ลบ ศูนย์
หลกั ฐานการเรียนรหู้ รือภาระงาน
แบบฝึกหดั ท่ี 1 และใบงานที่ 1.1
การวัดและการประเมินผล
ประเด็นการประเมินผล วิธีการวัดผล เครอื่ งมือวดั ผล เกณฑก์ าร
ประเมนิ
ดา้ นความรู้ ตรวจแบบฝึกหัดท่ี 1
แบบฝึกหดั ที่ 1 นกั เรียนตอบ
1. ระบุหรือยกตวั อยา่ งจำนวน และใบงานท่ี 1.1 และใบงานที่ คำถามไดถ้ ูกต้อง
1.11.1 ผา่ นรอ้ ยละ 70
เต็มบวก จำนวนเต็มลบ และ
ขน้ึ ไป
ศนู ย์
แบบประเมินทักษะ นักเรยี นมคี ะแนน
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ ประเมินทักษะและ และกระบวนการ อยใู่ นเกณฑร์ ะดบั
ทางคณิตศาสตร์ ดีข้ึนไป
1. การสื่อสารและการสอ่ื กระบวนการทาง
ความหมายทางคณิตศาสตร์ คณติ ศาสตร์
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ประเมินพฤติกรรม แบบประเมนิ นักเรยี นมคี ะแนน
1. มวี ินยั รายบคุ คลดา้ น พฤติกรรม อยูใ่ นเกณฑ์ระดับ
2. ใฝ่เรียนรู้ คุณลกั ษณะอนั พงึ รายบคุ คลด้าน ดีขึน้ ไป
3. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน ประสงค์ คณุ ลักษณะอนั พงึ
ประสงค์
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ข้ันนำเข้าสู่บทเรยี น
1. ครกู ล่าวทักทายนักเรียนพร้อมทัง้ ช้ีแจงช่ือเรอื่ งของบทเรียนและจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ของ
บทเรียนใหน้ ักเรียนทราบ
2. ใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบความร้พู น้ื ฐานก่อนเรยี น
3. ครูทบทวนจำนวนนับ โดยให้นักเรียนนับเลขเพิ่มไปทีละ 1 จนครบจำนวนนักเรียน
ซึ่งเริ่มต้นนับต่อจากเลข 1 เช่น นักเรียนมี 40 คน คนที่ 1 ก็เริ่มนับ 2 คนที่ 2 ก็นับ 3 เป็นดังน้ี
2, 3, 4, , 40 จากนั้นครูให้นักเรียนคนสุดท้ายนับเลขลดลงทีละ 1 ซึ่งนับลดจาดเลข 40 เช่น
39, 38, 37, , 0
4. ครถู ามนกั เรยี นว่า เลข 0 ใช่จำนวนนบั หรอื ไม่
5. ครูเล่าสถานการณ์ให้นักเรียน นักเรียนรู้ไหมว่า วันนี้จังหวัดพิษณุโลกมีอุณหภูมิกี่องศา
นักเรียนช่วยกันตอนคำถาม และครูพร้อมเฉลยคำตอบว่า จังหวัดพิษณุโลกมีอุณหภูมิอยู่ที่ 38 องศา
เซลเซียส มีอากาศที่ร้อน ซึ่งแตกต่างจากฤดูหนาวที่บางจังหวัดมีอากาศหนาวเย็น เช่น จังหวัด
เชียงใหม่ทย่ี อดดอยอินทนนท์ มอี ุณหภูมอิ ยู่ −3 องศาเซลเซยี ส
6. ครูสอบถามนักเรียนว่า ตัวเลขที่แสดงอุณหภูมิของจังหวัดพิษณุโลกคือจำนวนอะไร
ใช่จำนวนนับหรือไม่ และสามารถเรียกจำนวนเหล่านั้นอีกอย่างหนึ่งวา่ จำนวนเต็มบวก แล้วตัวเลขท่ี
แสดงอุณหภูมิของยอดดอยอินทนนท์คือจำนวนอะไร ให้นักเรียนเก็บคำตอบของตนเองไว้ในใจ
แลว้ ครูจะมาเฉลยตอนท้ายคาบเรียน
ข้ันกิจกรรมการเรยี นรู้
1. นอกจากจำนวนนับหรือจำนวนเต็มบวกที่นักเรียนได้รู้จักกันมาแล้ว ยังมีจำนวนเต็มอีก 2
ประเภท คือ จำนวนเต็มลบ และศูนย์ ดังนั้น จำนวนเต็ม แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ จำนวนเต็ม
บวก จำนวนเต็มลบ และศนู ย์
2. ครูอธิบายเรือ่ งจำนวนเต็ม ซึ่งจำนวนเต็มบวกทีน่ ้อยท่ีสุด คือ 1 และจำนวนเต็มบวกอ่ืน ๆ
เกิดจากการนับเพิ่มทีละ 1 ไปทางขวา โดยครูจะให้ตัวแทนนักเรียนออกมาเขียนจำนวนที่เพิ่มทีละ 1
ลงบนเสน้ จำนวน หนา้ ชัน้ เรยี น ดงั ตอ่ ไปนี้
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12
และครูถามตั้งคำถามกระตุ้นความคิดนักเรียนว่า 1, 2, 3, 4, เรียกว่าจำนวนอะไร และจำนวน
เหล่านม้ี ีที่สิน้ สดุ หรือไม่ (แนวคำตอบ เรยี ก 1, 2, 3, 4, ว่า จำนวนเตม็ บวก ซ่งึ จำนวนเต็มบวกไม่
มีที่สิ้นสุดสามารถสังเกตได้จากเส้นจำนวน) พร้อมทั้งครูอธิบายเพิ่มเติมว่า จำนวนเต็มบวกจะไม่นิยม
เขียนเคร่อื งหมาย ( + ) นำหนา้ จำนวนเหล่าน้นั เชน่ 1, 2, 3, 4,
3. ครูอธิบายจำนวนเต็มลบและศูนย์ ว่า จาก 1 ถ้านับลดทีละ 1 เมื่อสังเกตจากเส้นจำนวน
จะได้ 0, -1, - 2, -3, - 4, สามารถแสดงดว้ ยเสน้ จำนวนทน่ี บั ถอยหลงั จาก 1 ไปทางซ้ายทลี ะ 1
ดงั น้ี
-6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
และครูตั้งคำถามกระตุ้นความคิดนักเรียนว่า -1, - 2, -3, - 4, เรียกว่าอะไร และจำนวนเหล่าน้ี
มีที่สิ้นสุดหรือไม่ (แนวคำตอบ -1, - 2, -3, - 4, เรียก จำนวนเต็มลบ ซึ่งจำนวนเต็มลบไม่มีท่ี
ส้ินสุด) พร้อมทงั้ ครอู ธิบายเพิ่มเติมวา่ จำนวนเต็มลบจะมีเครอ่ื งหมายลบ (−) นำหนา้ จำนวนเหล่าน้ัน
และเรียก 0 ว่าศูนย์ ซึ่งศูนย์จะไม่เป็นทั้งจำนวนเต็มบวก และจำนวนเต็มลบ และศูนย์ คือ จำนวน
ที่อยู่ระหว่างจำนวนเต็มบวกกับจำนวนเต็มลบ ซึ่งจำนวนเต็มบวกจะอยู่ทางด้านขวาของศูนย์
และจำนวนเต็มลบจะอยู่ทางด้ายซา้ ยของศนู ย์
4. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม แยกจำนวนเต็ม โดยครูจะให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 8 คน
และครูจะเขียนจำนวนเต็มขึ้นมา 1 จำนวน แล้วให้นักเรียนคนแรกของกลุ่มตอบว่าจำนวนนั้นเป็น
จำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ หรือศูนย์ เมื่อคนแรกตอบเสร็จก็เปลี่ยนให้เพื่อนถัดไปเป็นคนตอบ
กล่มุ ไหนได้คะแนนเยอะสุดถือว่าเป็นกลุ่มที่ชนะ เชน่ 5 เป็นจำนวนเต็มบวก −3 เป็นจำนวนเต็มลบ
−20 เป็นจำนวนเตม็ ลบ 0 เป็นจำนวนศนู ย์ เปน็ ตน้
ขัน้ สรุปบทเรียน
1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับจำนวนเต็ม ดังนี้ “จำนวนเต็มแบ่งออกได้
เป็นจำนวนเต็มบวก ศูนย์ และจำนวนเต็มลบ” และเขียนผังสรปุ ความรูบ้ นกระดาน
จำนวนเต็มประกอบด้วย จำนวนเต็มบวก จำนวนเตม็ ลบ และศนู ย์
จำนวนเต็ม
จำนวนเต็มลบ ศูนย์ จำนวนเตม็ บวก
2. ใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หดั ที่ 1 และใบงานท่ี 1.1
สอื่ การเรียนรู้
-
แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียนวิชาคณติ ศาสตรพ์ ้นื ฐาน ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1
กจิ กรรมเสนอแนะ/กจิ กรรมตอ่ เนอื่ ง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ความเหน็ ของผู้บังคบั บัญชาหรือผูท้ ีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้แล้วมีความคดิ เห็นดงั นี้
1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่
ดมี าก
✓ ดี
พอใช้
ต้องปรบั ปรุง
2. การจัดกจิ กรรมการเรียนรูไ้ ด้นำเอากระบวนการเรียนรู้
✓ ท่ีเนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
ที่ยังไมเ่ นน้ ผูเ้ รียนเปน็ สำคญั ควรปรับปรุงพฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการสอนที่
นำไปใช้ได้จริง
✓ ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .......................................................
( นางจริ ภัทร ชำนาญ )
ครพู ี่เลี้ยง
บนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
1. ด้านความรู้
1.1 นกั เรียนสามารถระบุหรอื ยกตวั อยา่ งจำนวนเต็มบวก จำนวนเตม็ ลบ และศูนย์ได้ถูกต้อง
อยู่ในระดบั ด(ี รอ้ ยละ 70 – 100 % )
จำนวน 92 คน คิดเปน็ ร้อยละ 79.31
1.2 นักเรยี นสามารถระบุหรือยกตวั อยา่ งจำนวนเตม็ บวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์ไดถ้ ูกต้อง
อยู่ในระดับพอใช้(ร้อยละ 50 – 69 % )
จำนวน 18 คน คดิ เป็นร้อยละ 15.52
1.3 นกั เรียนสามารถระบหุ รือยกตวั อยา่ งจำนวนเตม็ บวก จำนวนเต็มลบ และศนู ย์ได้ถกู ต้อง
อยู่ในระดบั ปรับปรงุ (ตำ่ กวา่ 50 % )
จำนวน 6 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5.17
2. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ
2.1 นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา ให้เหตุผล สื่อสารและสื่อความหมายทาง
คณิตศาสตรไ์ ด้ ในระดับดี(รอ้ ยละ 70 – 100 % ) จำนวน 93 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 80.17
2.2 นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา ให้เหตุผล สื่อสารและสื่อความหมายทาง
คณติ ศาสตรไ์ ด้ ในระดบั พอใช(้ รอ้ ยละ 50 – 69 % )
จำนวน 15 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 12.93
2.3 นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา ให้เหตุผล สื่อสารและสื่อความหมายทาง
คณติ ศาสตรไ์ ด้ ในระดบั ปรับปรงุ (ต่ำกว่า 50 % )
จำนวน 8 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 6.90
3. ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
3.1 นักเรียนมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน ในระดับดี(ร้อยละ 70 – 100 % )
จำนวน 92 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 79.31
3.2 นักเรียนมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งม่ันในการทำงาน ในระดบั พอใช้(ร้อยละ 50 – 69 % )
จำนวน 18 คน คดิ เป็นร้อยละ 15.52
3.3 นักเรียนมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน ในระดับปรับปรุง (ต่ำกว่า 50 % )
จำนวน 6 คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 5.17
4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน (ถ้าจุดประสงค์มคี รบ 3 ดา้ น ไมต่ ้องประเมินสมรรถนะสำคัญ
ได)้
.......................................................................................................................... ......................................
............................................................................................... .................................................................
................................................................................................................................................................
5. ปญั หาและแนวทางในการแก้ไข / พฒั นา
ปญั หาท่คี วรแก้ไข/พฒั นา วิธดี ำเนินการแก้ไข/พฒั นา ผลการแกไ้ ข/พัฒนา
- นกั เรยี นบางคนไม่ไดค้ ิด - อธิบายและยกตัวอยา่ ง - นกั เรยี นเข้าใจในส่วนนเ้ี พิม่
ผลลพั ธท์ า้ ยสดุ ก่อนคำตอบ เพิม่ เติม มากข้นึ โดยจะคดิ ผลลัพธ์
เป็นจำนวนเตม็ หรือไม่ ก่อนนำมาตอบเสมอ
ลงชอื่ .....................................................ผูส้ อน
(นายตันติกร บุญธรรม)
นักศึกษาฝึกประสบการณว์ ชิ าชพี ครู
แบบฝึกหดั ท่ี 1
1. ให้นกั เรียนบอกชนดิ ของจำนวนตอ่ ไปนี้ โดย
- ระบายสีเขียวเมื่อเป็นจำนวนเต็มบวก
- ระบายสีฟา้ เมือ่ เป็นจำนวนเตม็ ลบ
- ระบายสีชมพเู มือ่ เป็นศูนย์
−7 0 3.14 10
5 2
8 2×0 4 −8 3
3 4 9
เฉลยแบบฝึกหัดที่ 1
1. ใหน้ ักเรียนบอกชนิดของจำนวนตอ่ ไปน้ี โดย
- ระบายสีเขียวเม่ือเปน็ จำนวนเตม็ บวก
- ระบายสีฟา้ เมอื่ เป็นจำนวนเต็มลบ
- ระบายสชี มพเู มอ่ื เปน็ ศูนย์
−7 0 3.14 10
5 2
8 2×0 4 −8 3
3 4 9
ใบงานท่ี 1.1 จำนวนเต็ม
ช่อื ………………………………………………………………………………………ชน้ั ……………เลขที่……………
1. จงเขียนจำนวน 3 จำนวนตามเง่ือนไขที่กำหนดใหต้ ่อไปนี้
1. จำนวนที่ต่อจาก 0 โดยลดลงทีละ 3
ตอบ........................................................................................................................................
2. จำนวนทต่ี อ่ จาก 7 โดยลดลงทีละ 4
ตอบ............................................................................................................................. ...........
3. จำนวนท่ีตอ่ จาก -5 โดยเพิ่มข้ึนทลี ะ 2
ตอบ............................................................................................................................. ...........
4. จำนวนที่ต่อจาก -10 โดยเพมิ่ ขึน้ ทลี ะ 3
ตอบ........................................................................................................................................
2. กำหนดจำนวนตอ่ ไปนี้ใชต้ อบคำถาม
5 −17 −4 0 21 −9
จากจำนวนเต็มที่กำหนดให้ จงหาวา่
1. จำนวนเตม็ ท่ีกำหนดให้ทงั้ หมดท่ีอยูร่ ะหว่าง -17 และ 5
ตอบ........................................................................................................................................
2. จำนวนเตม็ ลบท่กี ำหนดให้ทงั้ หมดท่นี ้อยกว่า 21
ตอบ........................................................................................................................................
3. จำนวนเต็มท่กี ำหนดให้ทง้ั หมดที่มากกวา่ -4
ตอบ............................................................................................................................. ...........
เฉลยใบงานท่ี 1.1 จำนวนเต็ม .
ชื่อ……………………………………………………………………………………ช้ัน……………เลขท…่ี ………… .
1. จงเขยี นจำนวน 3 จำนวนตามเง่อื นไขที่กำหนดให้ต่อไปน้ี .
.
1. จำนวนที่ตอ่ จาก 0 โดยลดลงทีละ 3
ตอบ -3, -6, -9
2. จำนวนทีต่ อ่ จาก 7 โดยลดลงทีละ 4
ตอบ 3, -1, -5
3. จำนวนที่ต่อจาก -5 โดยเพ่ิมข้ึนทลี ะ 2
ตอบ -3, -1, 1
4. จำนวนที่ต่อจาก -10 โดยเพิ่มขึน้ ทลี ะ 3
ตอบ -7, -4, -1
2. กำหนดจำนวนตอ่ ไปนใ้ี ช้ตอบคำถาม
5 −17 −4 0 21 −9
จากจำนวนเต็มที่กำหนดให้ จงหาว่า .
1. จำนวนเต็มทกี่ ำหนดใหท้ ง้ั หมดท่ีอยู่ระหวา่ ง -17 และ 5 .
.
ตอบ -9, -4, 0
2. จำนวนเตม็ ลบท่ีกำหนดให้ทงั้ หมดทน่ี อ้ ยกว่า 21
ตอบ -17, -9, -4
3. จำนวนเต็มทก่ี ำหนดให้ทัง้ หมดทมี่ ากกวา่ -4
ตอบ 0, 5, 21
หน่วยที่ 1 เร่ือง จำนวนเตม็
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 เร่อื ง การเปรยี บเทยี บจำนวนเต็ม
รายวชิ าคณิตศาสตร์1 รหสั วชิ า ค21101 ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1
กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564 เวลา 1 ชวั่ โมง
วนั ท…่ี ….เดอื น……………………… พ.ศ. ………….. ครผู สู้ อน นายตันติกร บุญธรรม
…………………………………………………………………………………………………..……..…………………………………
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การ
ของจำนวน ผลที่เกดิ ข้ึนจากการดำเนนิ การ สมบัติของการดำเนนิ การ และนำไปใช้
ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้
ค1.1 ม.1/1 เข้าใจจำนวนตรรกยะและความสัมพันธข์ องจำนวนตรรกยะ และใช้สมบัติ
ของจำนวนตรรกยะในการแก้ปญั หาคณติ ศาสตรแ์ ละปัญหาในชวี ติ จรงิ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้
1. เปรียบเทยี บจำนวนเตม็ บวก จำนวนเตม็ ลบ และศูนย์
ด้านทักษะ/ กระบวนการ
1. การส่อื สารและการสอื่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งม่ันในการทำงาน
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
สาระสำคัญ
การพจิ ารณาเปรียบเทียบจำนวนเตม็ บวก ศนู ย์ และจำนวนเต็มลบบนเสน้ จำนวนน้ัน จำนวน
เต็มทอ่ี ยู่ทางขวามือจะมีค่ามากกว่าจำนวนเต็มท่ีอย่ทู างซ้ายมอื เสมอ
สาระการเรียนรู้
การเปรยี บเทยี บจำนวนเตม็
หลักฐานการเรียนรูห้ รือภาระงาน
แบบฝกึ หัดที่ 2
การวดั และการประเมนิ ผล
ประเด็นการประเมนิ ผล วิธีการวดั ผล เคร่ืองมือวัดผล เกณฑก์ าร
ประเมนิ
ดา้ นความรู้ แบบฝึกหดั ท่ี 2
แบบฝึกหดั ที่ 2 นักเรยี นตอบ
1. เปรียบเทยี บจำนวนเต็ม คำถามได้ถูกต้อง
ผ่านร้อยละ 70
บวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์ ข้ึนไป
ได้กำหนดให้ได้ แบบประเมินทักษะ นักเรียนมคี ะแนน
และกระบวนการ อยู่ในเกณฑ์ระดับ
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ประเมนิ ทักษะและ ทางคณิตศาสตร์ ดีขนึ้ ไป
1. การสอื่ สารและการสอื่ กระบวนการทาง
ความหมายทางคณิตศาสตร์ได้ คณิตศาสตร์
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ประเมนิ พฤติกรรม แบบประเมิน นักเรยี นมคี ะแนน
1. มีวินัย รายบคุ คลดา้ น พฤติกรรม อยใู่ นเกณฑร์ ะดับ
2. ใฝเ่ รยี นรู้ คณุ ลักษณะอันพึง รายบคุ คลดา้ น ดีข้นึ ไป
3. มงุ่ มั่นในการทำงาน ประสงค์ คณุ ลักษณะอันพงึ
ประสงค์
กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครูทบทวนความรูเ้ กีย่ วกับจำนวนเต็ม โดยถามนักเรยี นว่าจำนวนเต็มสามารถแบง่ ได้เป็นกี่
ประเภท อะไรบา้ ง (แนวคำตอบ จำนวนเตม็ บวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์) พร้อมทัง้ ให้นักเรยี น
ยกตวั อยา่ งของจำนวนเตม็ บวก จำนวนเตม็ ลบ และศูนย์ เช่น จำนวนเตม็ บวก ไดแ้ ก่ 1, 2, 3, 4, ...
จำนวนเตม็ ลบ ไดแ้ ก่ -1, - 2, -3, - 4, ... และศนู ย์ คอื 0
2. ครชู แี้ นะวา่ ถา้ นำจำนวนเตม็ บวก จำนวนเตม็ ลบ และศูนย์ มาลงจดุ บนเสน้ จำนวน จะได้
วา่ จำนวนเต็มทอ่ี ยทู่ างขวาของศูนยเ์ ปน็ จำนวนเต็มบวก และจำนวนเตม็ ท่ีอยูท่ างซา้ ยของศนู ยเ์ ป็น
จำนวนเต็มลบ
ขนั้ กิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครเู ขยี นเสน้ จำนวนบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนสงั เกตจำนวนที่แตกตา่ งกนั บนเส้นจำนวน
จากน้ันครตู ง้ั คำถาม ดงั น้ี
-6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
1 นอ้ ยกว่าหรอื มากกวา่ 4 เพราะเหตุใด (แนวคำตอบ 1 น้อยกวา่ 4 เพราะบนเสน้
จำนวน 1 อยู่ทางซา้ ยของ 4 ดงั นนั้ 1 จงึ นอ้ ยกวา่ 4 )
1 นอ้ ยกว่าหรอื มากกว่า −1 เพราะเหตใุ ด (แนวคำตอบ 1 มากกว่า −1 เพราะบนเส้น
จำนวน 1 อยู่ทางขวาของ −1 ดงั นน้ั 1 จึงมากกว่า −1)
−6 น้อยกวา่ หรอื มากกวา่ −1เพราะเหตใุ ด (แนวคำตอบ −6 นอ้ ยกวา่ −1 เพราะบนเสน้
จำนวน −6 อยทู่ างซา้ ยของ −1 ดงั นั้น −6 จึงน้อยกวา่ −1)
2. ครใู ห้นกั เรยี นชว่ ยกันอภิปรายว่า การเปรียบเทยี บจำนวนเตม็ สามารถพจิ ารณาไดจ้ ากเส้น
จำนวน โดยใชค้ วามสัมพนั ธ์ของจำนวนบนเสน้ จำนวน และคำตอบจากคำถามขา้ งตน้ ดงั น้ี
“จำนวนเต็มที่อยู่ทางขวามือจะมีค่ามากกว่าจำนวนเต็มที่อยู่ทางซ้ายมือเสมอ ดังนั้นจำนวนเต็มลบท่ี
อยู่ทางขวาจะมีค่ามากกว่าจำนวนเต็มลบที่อยู่ทางซ้าย หรือจำนวนเต็มลบที่อยู่ทางซ้ายจะมีค่าน้อย
กว่าจำนวนเต็มลบท่อี ยทู่ างขวา ”
3. ให้นักเรียนช่วยกันหาคำตอบของโจทย์ที่ครูยกตัวอย่างว่า จำนวนใดมีค่ามากกว่า หรือ
นอ้ ยกวา่ ดงั นี้
ตวั อยา่ งท่ี 1 14 0 (แนวคำตอบ 14 0) -4 6 (แนวคำตอบ −4 6 )
29 -30 (แนวคำตอบ 29 -30) -5 -10 (แนวคำตอบ -5 -10 )
-25 -21 (แนวคำตอบ -25 -21) 46 79 ( แ น ว ค ำ ต อ บ
46 79 )
ตัวอย่างที่ 2 จงเรยี งลำดับจำนวนเต็มตอ่ ไปนี้จากมากไปน้อย
1. -2, - 5, 8, 5 (แนวคำตอบ 8, 5, - 2, -5 )
2. -15, 11, - 9, 0, -19, 6 (แนวคำตอบ 11, 6, 0, - 9, -15, -19 )
4. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม “เสียงกระซิบจากฉันกับจำนวนเต็ม” โดยครูให้นักเรียน
แบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 8 คน ครูจะมีบัตรจำนวนเต็ม ให้นักเรียนคนแรกมาจับสลากว่ากลุ่มตนเองจะได้ใบ
ไหน เมื่อทำการจับสลากแล้วให้นักเรียนคนแรกกระซิบบอกเพื่อนว่า จำนวนเต็มในบัตรนั้นมีจำนวน
อะไรบ้าง โดยการบอกจำนวนเต็มต้องบอกทีละจำนวน ซึ่งกระซิบต่อกันไปเรือ่ ย ๆ แล้วให้คนสุดท้าย
ในกลุ่มเรียงลำดบั จำนวนเต็มท่ีมคี ่าจากมากไปน้อยหรือเรยี งลำดับจากน้อยไปมากใหถ้ ูกต้อง พร้อมท้ัง
มาเขียนคำตอบหน้ากระดาน ซึง่ ในการเล่น 1 บัตรจะใหเ้ วลากระซิบบตั รละ 2 นาที จะเล่นจำนวน 3
บัตรโจทย์ กลุ่มไหนที่ทำได้เร็ว ถูกต้องจะได้รับ 2 คะแนน กลุ่มที่ทำถูกต้องแต่ไม่ได้ทำได้เร็วที่สุดจะ
ไดร้ บั 1 คะแนน และกลุม่ ไหนที่ได้คะแนนมากทส่ี ุดจะเปน็ กล่มุ ท่ชี นะ
ขน้ั สรุปบทเรียน
1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปเรื่อง การเปรยี บเทียบจำนวนเตม็ ดงั น้ี
“จำนวนเต็มที่อยู่อยู่บนเส้นจำนวนทางขวาจะมีค่ามากกว่าจำนวนเต็มที่อยู่ทางซ้ายเสมอ
ดงั น้ันจำนวนเตม็ ลบทอ่ี ยู่ทางขวาจะมคี ่ามากกวา่ จำนวนเต็มลบที่อยู่ทางซา้ ย หรือจำนวนเต็มลบท่ีอยู่
ทางซา้ ยจะมีค่าน้อยกว่าจำนวนเตม็ ลบที่อยู่ทางขวา ”
2. ใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หดั ท่ี 2
สอ่ื การเรียนรู้
-
แหลง่ การเรยี นรู้
1. หนังสือเรยี นวชิ าคณิตศาสตร์พืน้ ฐาน ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
2. กจิ กรรม “เสยี งกระซิบจากฉันกบั จำนวนเตม็ ”
กจิ กรรมเสนอแนะ/กจิ กรรมตอ่ เนื่อง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ความเหน็ ของผู้บังคบั บัญชาหรือผูท้ ีไ่ ด้รับมอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรยี นร้แู ลว้ มีความคดิ เห็นดังนี้
1. เปน็ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่
ดมี าก
✓ ดี
พอใช้
ต้องปรบั ปรุง
2. การจัดกจิ กรรมการเรียนร้ไู ด้นำเอากระบวนการเรียนรู้
✓ ท่ีเนน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคญั ใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
ที่ยังไมเ่ นน้ ผูเ้ รียนเปน็ สำคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป
3. เปน็ แผนการสอนที่
✓ นำไปใช้ได้จริง
ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื .......................................................
( นางจริ ภทั ร ชำนาญ )
ครูพ่เี ล้ยี ง
บนั ทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้
1. ดา้ นความรู้
1.1 นักเรียนสามารถเปรียบเทียบจำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์ได้กำหนดให้ได้
ได้ถูกตอ้ ง อยู่ในระดับด(ี ร้อยละ 70 – 100 % )
จำนวน 88 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 75.86
1.2 นักเรียนสามารถเปรียบเทียบจำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์ได้กำหนดให้ได้
ได้ถกู ตอ้ ง อยูใ่ นระดบั พอใช้(ร้อยละ 50 – 69 % )
จำนวน 21 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 18.10
1.3 นักเรียนสามารถเปรียบเทียบจำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ และศูนย์ได้กำหนดให้ได้
ไดถ้ กู ต้อง อยู่ในระดบั ปรับปรงุ (ต่ำกว่า 50 % )
จำนวน 9 คน คิดเปน็ ร้อยละ 6.03
2. ด้านทักษะกระบวนการ
2.1 นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา ให้เหตุผล สื่อสารและสื่อความหมายทาง
คณิตศาสตรไ์ ด้ ในระดับด(ี ร้อยละ 70 – 100 % ) จำนวน 89 คน คิดเป็นร้อยละ 76.72
2.2 นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา ให้เหตุผล สื่อสารและสื่อความหมายทาง
คณติ ศาสตรไ์ ด้ ในระดบั พอใช้(รอ้ ยละ 50 – 69 % )
จำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 16.38
2.3 นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา ให้เหตุผล สื่อสารและสื่อความหมายทาง
คณิตศาสตร์ได้ ในระดับปรบั ปรงุ (ตำ่ กวา่ 50 % )
จำนวน 15 คน คดิ เป็นร้อยละ 12.93
3. ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
3.1 นักเรียนมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน ในระดับดี(ร้อยละ 70 – 100 % )
จำนวน 92 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 79.31
3.2 นกั เรียนมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ และมุง่ มน่ั ในการทำงาน ในระดับพอใช้(ร้อยละ 50 – 69 % )
จำนวน 18 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 15.52
3.3 นักเรียนมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน ในระดับปรับปรุง (ต่ำกว่า 50 % )
จำนวน 6 คน คิดเป็นร้อยละ 5.17
4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน (ถา้ จดุ ประสงค์มคี รบ 3 ด้าน ไม่ตอ้ งประเมินสมรรถนะสำคัญ
ได้)
................................................................................................... .............................................................
............................................................................................... .................................................................
.............................................................................................................................................................. ..
5. ปัญหาและแนวทางในการแก้ไข / พัฒนา
ปัญหาทีค่ วรแก้ไข/พฒั นา วธิ ดี ำเนินการแกไ้ ข/พฒั นา ผลการแกไ้ ข/พฒั นา
- นกั เรยี นบางคนยังไม่ - อธิบายหลกั การ จดั กจิ กรรม - นกั เรยี นเขา้ ใจการ
สามารถเปรยี บเทยี บจำนวน สง่ เสรมิ การเรียนร้กู าร เปรียบเทยี บจำนวนเตม็ เพม่ิ
เต็มบวก จำนวนเต็มลบได้ เปรียบเทียบจำนวนเตม็ มากขึ้น
และยกตวั อย่างเพิ่มเตมิ
ลงชื่อ.....................................................ผูส้ อน
(นายตันติกร บญุ ธรรม)
นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ิชาชพี ครู
แบบฝกึ หัดที่ 2
1. จงเตมิ เครื่องหมายเปรียบเทียบจำนวนเตม็ ต่อไปน้ี
1. 14 0
2. -3 5
3. 0 -1
4. 29 30
5. -9 9
6. -18 19
7. 11 -27
8. -3 -4
9. -2 0
10. 11 -12
11. -1 1
12. 0 -2
13. 20 -21
14. -13 -12
2. จงเรียงลำดับจำนวนเตม็ ต่อไปนี้
เรยี งลำดบั จำนวนจากมากไปนอ้ ย
1. -5, 1, 0, 3
ตอบ................................................................................................................... .....................
2. -6, -7, -4, -1
ตอบ..................................................................................................... ...................................
3. 9, -2, 0, 5, -6
ตอบ........................................................................................................................................
เรยี งลำดบั จำนวนจากนอ้ ยไปมาก
1. -2, 3, 4, 0
ตอบ........................................................................................................................................
2. 4, -7, -2, -3
ตอบ........................................................................................................................... .............
3. -7, 7, 0, -2, -4
ตอบ................................................................................. .......................................................
เฉลยแบบฝึกหดั ที่ 2 .
1. จงเตมิ เครื่องหมายเปรียบเทยี บจำนวนเต็มต่อไปนี้ .
.
1. 14 > 0
2. -3 < 5 .
3. 0 > -1 .
4. 29 < 30 .
5. -9 < 9
6. -18 < 19
7. 11 > -27
8. -3 > -4
9. -2 < 0
10. 11 > -12
11. -1 < 1
12. 0 > -2
13. 20 > -21
14. -13 < -12
2. จงเรียงลำดบั จำนวนเต็มต่อไปนี้
เรยี งลำดับจำนวนจากมากไปนอ้ ย
1. -5, 1, 0, 3
ตอบ 3, 1, 0, -5
2. -6, -7, -4, -1
ตอบ -1, -4, -6, -7
3. 9, -2, 0, 5, -6
ตอบ 9, 5, 0, -2, -6
เรยี งลำดบั จำนวนจากน้อยไปมาก
1. -2, 3, 4, 0
ตอบ -2, 0, 3, 4
2. 4, -7, -2, -3
ตอบ -7, -3, -2, 4
3. -7, 7, 0, -2, -4
ตอบ -7, -4, -2, 0, 7
บัตร “เสยี งกระซบิ จากฉนั กับจำนวนเต็ม”
-1 0 -5 8 4 5 -10 9 15 -2 1 8 -6 0 36 -11 -15 15
3 4
1 2 -4 -6 40 -11 0 17 0 3 -3 9 -1 -11 36 -5 7
8 6
-7 13 4 2 10 36 0 -12 15
4
-4 34 -1 16 -2 -47 0 -1 0 -5 44 53 -11 15
19 31 0 4 -3 -6 -10 6 -21 0 -35 8 4 5 -10 25
-1 0 -2 -27 3 5 18 -9
5 -17 -2 -27 8 21 18 -9 1 -11 -2 -10 3 5 9 -7
9 3 -7 -22 -3 -15 18 -9 7 -7 6 5 -5 4 3 -9
11 54 -6 5 -13 -5 -1 23
หน่วยท่ี 1 เร่อื ง จำนวนเตม็
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เร่ือง การบวกจำนวนเตม็
รายวิชาคณิตศาสตร์1 รหสั วิชา ค21101 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 1
กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564 เวลา 1 ชัว่ โมง
วนั ที…่ ….เดือน……………………… พ.ศ. ………….. ครูผู้สอน นายตนั ตกิ ร บญุ ธรรม
…………………………………………………………………………………………………..……..…………………………………
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การ
ของจำนวน ผลท่ีเกิดขึน้ จากการดำเนนิ การ สมบตั ิของการดำเนนิ การ และนำไปใช้
ตัวช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้
ค1.1 ม.1/1 เขา้ ใจจำนวนตรรกยะและความสมั พันธ์ของจำนวนตรรกยะ และใชส้ มบตั ิ
ของจำนวนตรรกยะในการแก้ปัญหาคณติ ศาสตร์และปัญหาในชวี ติ จรงิ
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ด้านความรู้
1. นกั เรยี นสามารถบวกจำนวนเตม็ โดยใชเ้ ส้นจำนวนได้
ดา้ นทักษะ/ กระบวนการ
1. การสื่อสารและการส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์
2. การเชอื่ มโยง
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. ม่งุ มั่นในการทำงาน
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการแก้ปัญหา
สาระสำคัญ
การบวกจำนวนเต็ม โดยใช้เส้นจำนวน
1. การบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเตม็ บวก ทำได้เชน่ เดียวกบั การบวกจำนวนนบั ด้วย
จำนวนนับ ซ่งึ ใชเ้ ส้นจำนวนแสดงการหาผลบวกโดยวิธีการนบั ตอ่ ไปทางขวา
2. การบวกจำนวนเต็มลบด้วยจำนวนเตม็ ลบ สามารถใชเ้ สน้ จำนวนแสดงการหาผลบวกโดย
วธิ ีการนับต่อไปทางซ้าย
3. การบวกกนั ของจำนวนเต็มบวกกับจำนวนเตม็ ลบ สามารถใชเ้ สน้ จำนวนแสดงการหา
ผลบวก โดยใชก้ ารนบั แบบยอ้ นทศิ ทางกัน
4. การบวกจำนวนเต็มใด ๆ กับศูนย์ จะไดผ้ ลบวกเปน็ จำนวนเต็มจำนวนน้นั
สาระการเรียนรู้
การบวกจำนวนเต็ม
หลักฐานการเรยี นร้หู รือภาระงาน
ใบงาน 1.2 เร่ือง การบวกจำนวนเตม็ โดยใชเ้ สน้ จำนวน
การวัดและการประเมนิ ผล
ประเด็นการประเมินผล วธิ กี ารวดั ผล เครือ่ งมอื วัดผล เกณฑก์ าร
ประเมิน
ดา้ นความรู้ ตรวจใบงาน 1.2 เรอื่ ง ตรวจใบงาน 1.2 ตรวจใบงาน 1.2
1. นกั เรยี นสามารถบวก การบวกจำนวนเต็ม เรือ่ ง การบวก เรือ่ ง การบวก
จำนวนเต็ม โดยใชเ้ สน้ จำนวน โดยใช้เสน้ จำนวน จำนวนเต็มโดยใช้ จำนวนเตม็ โดยใช้
ได้ เส้นจำนวน เสน้ จำนวน
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ประเมนิ ทักษะและ แบบประเมนิ ทักษะ นกั เรียนมคี ะแนน
1. การสื่อสารและการสื่อ กระบวนการทาง และกระบวนการ อยู่ในเกณฑร์ ะดบั
ความหมายทาง คณิตศาสตร์ ทางคณิตศาสตร์ ดีข้ึนไป
คณิตศาสตร์
2. การเชื่อมโยง
คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ประเมนิ พฤติกรรม แบบประเมนิ นกั เรยี นมคี ะแนน
1. มวี ินยั รายบุคคลดา้ น พฤติกรรม อย่ใู นเกณฑ์ระดับ
2. ใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลักษณะอนั พงึ รายบคุ คลดา้ น ดีขน้ึ ไป
3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน ประสงค์ คณุ ลกั ษณะอันพึง
ประสงค์
กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น
1. ครูทบทวนความรู้ เรอื่ ง จำนวนเต็มและการเปรยี บเทียบจำนวนเต็ม กลา่ วว่า จำนวนเต็ม
สามารถแบง่ ออกได้เปน็ 3 ประเภท ได้แก่ จำนวนเต็มบวก จำนวนเต็มลบ ศนู ย์ และเมอ่ื เราเขียนเสน้
จำนวน จะได้วา่ จำนวนเต็มบวกจะอยู่ทางขวาของศูนย์ จำนวนเตม็ ลบจะอยู่ทางซา้ ยของศูนย์ และ
จำนวนเต็มทางขวาจะมีค่ามากกกวา่ จำนวนเต็มทางซ้ายเสมอ
-6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
จำนวนเต็มลบ ศูนย์ จำนวนเตม็ บวก
ขั้นกจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ครใู ห้นักเรียนทำกิจกรรม การบวกของชาวจนี
- โดยใหน้ กั เรยี นแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 4 คน โดยแตล่ ะกล่มุ แบ่งออกเป็น 2 ฝา่ ย คือ ฝา่ ย ก และ
ฝา่ ย ข
- จากน้ันใหฝ้ ่าย ก ต้ังโจทยก์ ารบวกระหว่างจำนวนเตม็ บวกและจำนวนเต็มลบ โดยทจี่ ำนวน
เต็มบวกเป็นจำนวนที่ไมเ่ กนิ 10 และจำนวนเต็มลบเปน็ จำนวนท่ไี มน่ ้อยกว่า -10 แลว้ ให้ฝ่าย ข หา
ผลบวกโดยใช้แนวคิด คือ ให้ไมไ้ อศกรีมสแี ดง แทนจำนวนเตม็ บวก และใช้ไม้ไอศกรมี สีขาว แทน
จำนวนเตม็ ลบ แล้วใช้การหกั ออกเปน็ คู่ ๆ เช่น (−3) + 7 =
ใชไ้ ม้ไอศกรมี สีขาว 3 อัน แทน -3 และไม้ไอศกรมี สีแดง 7 อนั แทน 7
จากนน้ั จับคู่สที ่ตี า่ งกนั แล้วหักออก จะเหลือไม้สแี ดง 4 อัน
ดงั นัน้ ผลบวกของ (−3) + 7 คือ 4
- สลบั ใหฝ้ า่ ย ข เปน็ ผูต้ ั้งโจทย์ในลักษณะเดยี วกับฝา่ ย ก แล้วใหฝ้ า่ ย ก เปน็ ผูห้ าผลบวก ทำ
เช่นนจี้ นกระทง่ั แตล่ ะฝ่ายแก้ปัญหาครบ 2 ข้อ หมายเหตุ โจทยท์ ฝี่ า่ ย ก และ ฝา่ ย ข ต้ังจะต้องเขยี น
ลงบนกระดาษ พร้อมทั้งคำตอบของโจทย์น้ัน
- กลมุ่ ไหนแก้ปัญหาได้เสรจ็ ก่อนและคำตอบถูกตอ้ งท้งั 2 ฝ่าย จะถือว่าเปน็ กลุ่มทช่ี นะ
2. ครอู ธบิ าย เร่ือง การบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเตม็ บวก โดยใช้เสน้ จำนวน เชน่
4 + 2 = สามารถอธบิ ายได้วา่ เร่ิมต้นที่ 0 แล้วนบั ไปทางขวาถึง 4 และเม่ือบวกดว้ ย 2 ใหน้ ับ
ต่อไปทางขวาอกี 2 หนว่ ย ซึง่ จะไปสิ้นสดุ ท่ี 6
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7
ดงั น้ัน 4 + 2 = 6
3. ครูอธบิ าย เร่ือง การบวกจำนวนเตม็ ลบด้วยจำนวนเต็มลบ โดยใช้เส้นจำนวน เช่น
(−4) + (−2) = สามารถอธบิ ายได้วา่ เร่ิมตน้ ท่ี 0 แลว้ นับไปทางซา้ ยถึง −4 และเม่ือบวกดว้ ย
−2 ใหน้ ับต่อไปทางซา้ ยอีก 2 หนว่ ย ซ่งึ จะไปสิ้นสดุ ท่ี −6
-6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ดังนั้น (−4) + (−2) = −6
4. ครูอธิบายการบวกกันของจำนวนเต็มบวกกบั จำนวนเต็มลบ ใชเ้ ส้นจำนวนแสดงการหา
ผลบวก โดยใชก้ ารนบั แบบย้อนทิศทางกนั เช่น 4 + (−6) = สามารถอธิบายไดว้ า่ เร่มิ ต้นท่ี 0
แลว้ นับไปทางขวาถงึ 4 และเมื่อบวกดว้ ย −6 ให้นับไปทางซา้ ยอีก 6 หน่วย ซึง่ จะไปส้นิ สุดที่ −2
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6 7
ดังนน้ั 4 + (−6) = −2
5. ครูอธิบายการบวกจำนวนเต็มใด ๆ กับศูนย์ จะไดผ้ ลบวกเป็นจำนวนเต็มจำนวนนน้ั เช่น
(−6) + 0 = สามารถอธิบายได้ว่า เร่มิ ต้นที่ 0 แลว้ นับไปทางซา้ ยถึง −6 และเมื่อบวกดว้ ยศูนย์
หมายถงึ ไม่ตอ้ งนับตอ่ จงึ สน้ิ สดุ ที่ −6
ดงั นน้ั (−6) + 0 = −6 -6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
6. ครูยกตวั อยา่ งโจทย์การบวกจำนวนเตม็ โดยใช้เส้นจำนวน และให้นักเรยี นชว่ ยกนั หา
คำตอบ เชน่ 5 + (−4) 4 + (−4) เปน็ ตน้
ขัน้ สรุปบทเรยี น
1. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรทู้ ่ีได้เรยี น การบวกจำนวนเต็ม โดยใชเ้ สน้ จำนวน ดงั นี้
- การบวกจำนวนเตม็ บวกดว้ ยจำนวนเต็มบวก ทำได้เช่นเดียวกบั การบวกจำนวนนบั ดว้ ย
จำนวนนบั ซึง่ ใช้เส้นจำนวนแสดงการหาผลบวกโดยวิธีการนับต่อไปทางขวา
- การบวกจำนวนเตม็ ลบด้วยจำนวนเต็มลบ สามารถใชเ้ สน้ จำนวนแสดงการหาผลบวกโดย
วิธกี ารนบั ตอ่ ไปทางซา้ ย
- การบวกกนั ของจำนวนเตม็ บวกกบั จำนวนเต็มลบ สามารถใชเ้ ส้นจำนวนแสดงการหา
ผลบวก โดยใชก้ ารนับแบบยอ้ นทิศทางกัน
- การบวกจำนวนเตม็ ใด ๆ กับศูนย์ จะไดผ้ ลบวกเป็นจำนวนเต็มจำนวนนนั้
2. ใหน้ กั เรยี นทำใบงาน เรื่อง การบวกจำนวนเตม็ โดยใชเ้ ส้นจำนวน
ส่ือการเรียนรู้
-
แหล่งการเรยี นรู้
1. ใบงาน 1.2 เรือ่ ง การบวกจำนวนเต็ม โดยใชเ้ สน้ จำนวน
2. หนังสือเรียนรายวชิ าพนื้ ฐานคณิตศาสตร์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 1
3. กจิ กรรม การบวกชาวจนี
กิจกรรมเสนอแนะ/กจิ กรรมต่อเน่อื ง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ความเหน็ ของผูบ้ ังคับบัญชาหรือผูท้ ีไ่ ด้รับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรูแ้ ลว้ มคี วามคดิ เห็นดงั น้ี
1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดีมาก
✓ ดี
พอใช้
ตอ้ งปรบั ปรงุ
2. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้
✓ ท่ีเน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั ใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม
ที่ยงั ไม่เนน้ ผ้เู รียนเป็นสำคัญ ควรปรบั ปรุงพัฒนาตอ่ ไป
3. เป็นแผนการสอนที่
✓ นำไปใช้ได้จริง
ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอ่นื
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงช่ือ.......................................................
( นางจริ ภัทร ชำนาญ )
ครพู ่เี ลีย้ ง
บันทกึ ผลหลงั การจัดการเรยี นรู้
1. ดา้ นความรู้
1.1 นักเรียนสามารถบวกจำนวนเตม็ โดยใช้เส้นจำนวนไดถ้ กู ต้อง
อยู่ในระดับด(ี ร้อยละ 70 – 100 % ) จำนวน 88 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 75.86
1.2 นักเรียนสามารถบวกจำนวนเตม็ โดยใชเ้ ส้นจำนวนได้ถูกต้อง
อยู่ในระดบั พอใช(้ รอ้ ยละ 50 – 69 % ) จำนวน 18 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 15.52
1.3 นกั เรียนสามารถบวกจำนวนเตม็ โดยใชเ้ ส้นจำนวน
ได้ถูกตอ้ ง อยใู่ นระดบั ปรบั ปรุง (ตำ่ กวา่ 50 % ) จำนวน 10 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 8.62
2. ด้านทกั ษะกระบวนการ
2.1 นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา ให้เหตุผล สื่อสารและสื่อความหมายทาง
คณิตศาสตรไ์ ด้ ในระดับด(ี ร้อยละ 70 – 100 % ) จำนวน 93 คน คิดเปน็ ร้อยละ 80.17
2.2 นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา ให้เหตุผล สื่อสารและสื่อความหมายทาง
คณติ ศาสตร์ได้ ในระดบั พอใช้(รอ้ ยละ 50 – 69 % )
จำนวน 21 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 18.10
2.3 นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา ให้เหตุผล สื่อสารและสื่อความหมายทาง
คณิตศาสตรไ์ ด้ ในระดับปรับปรุง (ตำ่ กว่า 50 % )
จำนวน 2 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 1.72
3. ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์
3.1 นักเรียนมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน ในระดับดี(ร้อยละ 70 – 100 % )
จำนวน 95 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 81.90
3.2 นกั เรยี นมวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน ในระดับพอใช้(ร้อยละ 50 – 69 % )
จำนวน 18 คน คดิ เป็นร้อยละ 15.52
3.3 นักเรียนมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน ในระดับปรับปรุง (ต่ำกว่า 50 % )
จำนวน 3 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 2.59
4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน (ถา้ จุดประสงค์มคี รบ 3 ดา้ น ไมต่ ้องประเมินสมรรถนะสำคัญ
ได้)
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
5. ปัญหาและแนวทางในการแก้ไข / พฒั นา
ปัญหาทีค่ วรแกไ้ ข/พัฒนา วิธีดำเนินการแกไ้ ข/พฒั นา ผลการแก้ไข/พัฒนา
- นักเรยี นบางคนยังไม่ - อธิบายหลกั การ จัดกจิ กรรม - นกั เรียนเข้าใจการบวก
สามารถบวกจำนวนเตม็ ส่งเสรมิ การเรยี นร้กู ารบวก จำนวนเตม็ โดยใช้เส้น
โดยใช้เสน้ จำนวนได้ จำนวนเต็ม โดยใช้เส้น จำนวนเพ่มิ มากขึน้
จำนวนและยกตวั อยา่ ง
เพิ่มเติม
ลงชือ่ .....................................................ผสู้ อน
(นายตนั ตกิ ร บุญธรรม)
นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณว์ ิชาชีพครู
ใบงาน 1.2 เรือ่ ง การบวกจำนวนเต็มโดยใช้เส้นจำนวน
ชื่อ-สกุล…………………………………………………………………ชั้น……...............เลขท่ี…………………..
คำช้แี จง ใหน้ ักเรยี นแสดงการหาผลบวกต่อไปน้ีบนเสน้ จำนวน
1. 1+ (−2)
IIIIIIIIII
-3 -2 -1 0 1 2 3 4 5 6
ตอบ………………………………
2. (−2) + 2
IIIIIIIIII
-6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3
ตอบ………………………………
3. 0 + (−4)
IIIIIIIIII
-4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4 5
ตอบ………………………………
4. 3+1
IIIIIIIIII
-5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3 4
ตอบ………………………………
5. (−2) + (−4)
IIIIIIIIII
-6 -5 -4 -3 -2 -1 0 1 2 3
ตอบ………………………………
เฉลยใบงาน 1.2 เรอื่ ง การบวกจำนวนเต็มโดยใช้เสน้ จำนวน
ชื่อ-สกุล…………………………………………………………………ชัน้ ……...............เลขท่ี…………………..
คำช้แี จง ใหน้ กั เรยี นแสดงการหาผลบวกตอ่ ไปนบ้ี นเส้นจำนวน
1. 1+ (−2)
-3I -2I -1I 0I 1I 2I 3I 4I 5I 6I
ตอบ………-…1 ……………………
2. (−2) + 2
-6I -5I -4I -3I -2I -1I 0I 1I 2I 3I
ตอบ………0………………………
3. 0 + (−4)
-4I -3I -2I -1I 0I 1I 2I 3I 4I 5I
ตอบ………-…4 ……………………
4. 3+1
-5I -4I -3I -2I -1I 0I 1I 2I 3I 4I
ตอบ………-…4 ……………………
5. (−2) + (−4)
-6I -5I -4I -I3 -I2 -I1 0I 1I 2I 3I
ตอบ………-6………………………
หน่วยที่ 1 เร่ือง จำนวนเต็ม
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 เรื่อง การบวกจำนวนเตม็ (ต่อ)
รายวิชาคณิตศาสตร์1 รหัสวชิ า ค21101 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1
กลุม่ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 เวลา 1 ชั่วโมง
วันท่…ี ….เดอื น……………………… พ.ศ. ………….. ครูผสู้ อน นายตนั ตกิ ร บุญธรรม
…………………………………………………………………………………………………..……..…………………………………
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการ
ของจำนวน ผลทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการดำเนินการ สมบตั ิของการดำเนินการ และนำไปใช้
ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรียนรู้
ค1.1 ม.1/1 เข้าใจจำนวนตรรกยะและความสัมพันธข์ องจำนวนตรรกยะ และใชส้ มบัติ
ของจำนวนตรรกยะในการแก้ปัญหาคณิตศาสตร์และปัญหาในชีวิตจรงิ
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ดา้ นความรู้
1. นกั เรียนสามารถหาผลบวกของจำนวนเตม็ ทก่ี ำหนดให้ได้
2. ตระหนกั ถึงความสมเหตุสมผลของผลบวกของจำนวนเต็มที่ได้
ด้านทกั ษะ/ กระบวนการ
1. การสือ่ สารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์
2. การเชือ่ มโยง
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
สาระสำคญั
การบวกจำนวนเต็ม โดยใชเ้ ส้นจำนวน
1. การบวกจำนวนเตม็ บวกด้วยจำนวนเตม็ บวก ทำได้เชน่ เดยี วกบั การบวกจำนวนนบั ด้วย
จำนวนนับ ซง่ึ ใชเ้ สน้ จำนวนแสดงการหาผลบวกโดยวิธีการนบั ต่อไปทางขวา
2. การบวกจำนวนเตม็ ลบดว้ ยจำนวนเตม็ ลบ สามารถใช้เสน้ จำนวนแสดงการหาผลบวกโดย
วธิ ีการนับตอ่ ไปทางซา้ ย
3. การบวกกันของจำนวนเตม็ บวกกับจำนวนเต็มลบ สามารถใช้เส้นจำนวนแสดงการหา
ผลบวก โดยใชก้ ารนบั แบบย้อนทศิ ทางกัน
4. การบวกจำนวนเต็มใด ๆ กับศนู ย์ จะได้ผลบวกเป็นจำนวนเต็มจำนวนน้นั
สาระการเรยี นรู้
การบวกจำนวนเต็ม
หลกั ฐานการเรยี นรหู้ รือภาระงาน
ใบงาน 1.3 เร่ือง การบวกจำนวนเตม็
การวัดและการประเมนิ ผล
ประเด็นการประเมินผล วิธีการวดั ผล เคร่ืองมอื วดั ผล เกณฑก์ าร
ประเมนิ
ด้านความรู้ ตรวจใบงาน 1.3 เร่อื ง ใบงาน 1.3 เรื่อง นักเรียนตอบ
1. นกั เรยี นสามารถหาผลบวก การบวกจำนวนเตม็ การบวกจำนวนเตม็ คำถามไดถ้ ูกต้อง
ผา่ นรอ้ ยละ 70
ของจำนวนเตม็ ทีก่ ำหนดให้ได้ ข้นึ ไป
2. ตระหนักถึงความ
สมเหตสุ มผลของผลบวกของ
จำนวนเต็มที่ได้
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ ประเมนิ ทักษะและ แบบประเมนิ ทกั ษะ นักเรียนมีคะแนน
และกระบวนการ อยู่ในเกณฑ์ระดบั
1. การสื่อสารและการส่ือ กระบวนการทาง ทางคณิตศาสตร์ ดขี ้ึนไป
ความหมายทาง คณิตศาสตร์
คณติ ศาสตร์
2. การเชอื่ มโยง
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ประเมินพฤติกรรม แบบประเมิน นักเรยี นมีคะแนน
พฤติกรรม อย่ใู นเกณฑร์ ะดับ
1. มวี นิ ยั รายบคุ คลดา้ น รายบุคคลดา้ น ดีข้นึ ไป
คุณลักษณะอันพึง
2. ใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลักษณะอนั พึง ประสงค์
3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน ประสงค์
กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั นำเขา้ สูบ่ ทเรียน
1. ครูทบทวน เร่อื ง การบวกจำนวนเตม็ โดยใช้เส้นจำนวน เช่น
(−4) + (−2) =
เร่มิ ต้นท่ี 0 แล้วนบั ไปทางซา้ ยถงึ −4 และเมื่อบวกด้วย −2 ให้นับตอ่ ไปทางซ้าย
อกี 2 หนว่ ย ซ่งึ จะไปสน้ิ สุดท่ี −6 ดังน้ี
ดังน้ัน (−4) + (−2) = 6
(−5) + 9 =
เรม่ิ ต้นท่ี 0 แล้วนบั ไปทางซ้ายถึง −5 และเมื่อบวกดว้ ย 9 ให้นับตอ่ ไปทางขวาอกี
9 หน่วย ซึ่งจะไปส้ินสดุ ท่ี 4 ดังน้ี
ดังน้นั (−5) + 9 = 4
2. ครูกล่าวชักชวนนักเรียนเข้าสู่การบวกจำนวนเต็มโดยใช้ค่าสัมบูรณ์ “การบวกจำนวนเต็ม
โดยใช้เส้นจำนวนเป็นวิธีที่ช่วยให้นักเรียนเข้าใจได้ง่าย แต่ถ้าในกรณีจำนวนเต็มบวกมีค่ามาก หรือ
จำนวนเต็มลบที่มีค่าน้อย การบวกโดยใช้เส้นจำนวนอาจจะไม่สะดวก และเสียเวลา ดังนั้นจึงมีวิธีหา
ผลบวกของจำนวนเต็มโดยใช้ค่าสัมบูรณ์ของจำนวนเต็ม”
ข้ันกิจกรรมการเรียนรู้
1. ครูอธิบายความรู้เก่ยี วกับ ค่าสมั บรู ณ์ (absolute value) ของจำนวนเต็มจำนวนหนึง่ คอื
ระยะทจ่ี ำนวนเตม็ นน้ั อยู่หา่ งจาก 0 บนเสน้ จำนวน เชน่
IIIIIIII
จากรูป จะเหน็ วา่ 5 อยู่หา่ งจาก 0 เป็นระยะ 5 หนว่ ย ดังน้นั ค่าสมั บูรณข์ อง 5 เท่ากบั 5 หรือ
5 =5
IIIIIIII
จากรปู จะเห็นว่า −4 อยหู่ า่ งจาก 0 เปน็ ระยะ 4 หน่วย ดังน้ัน ค่าสัมบูรณ์ของ −4 เท่ากับ 4 หรอื
−4 = 4
ดงั นั้น คา่ สัมบรู ณ์ของจำนวนเต็มใด ๆ ที่ไมใ่ ชศ่ นู ย์จะเปน็ จำนวนเต็มบวก และคา่ สัมบรู ณ์
ของศูนยเ์ ทา่ กับศนู ยเ์ สมอ
2. ครอู ธบิ ายการบวกจำนวนเตม็ แบง่ ออกเป็น 2 ชนดิ คือ การบวกจำนวนเตม็ ชนิดเดียวกนั
และการบวกจำนวนเตม็ ต่างชนิดกนั และครูอธบิ ายความรเู้ ก่ยี วกับการบวกจำนวนเตม็ ชนิดเดยี วกัน
3. นกั เรยี นอา่ นหลกั การบวกจำนวนเตม็ ชนิดเดียวกัน
“ หลกั การ คือ ให้นำค่าสัมบรู ณข์ องจำนวนเต็มนนั้ มาบวกกัน ผลลพั ธท์ ่ไี ด้จะเป็นจำนวน
เต็มบวกหรือจำนวนเต็มลบ ตามชนดิ ของจำนวนทนี่ ำมาบวกกนั ” และครอู ธิบายตัวอย่างการบวก
จำนวนเต็มชนดิ เดียวกนั เช่น
15+17 ทำได้โดย นำคา่ สมั บูรณข์ อง 15 บวกดว้ ยค่าสมั บรู ณ์ของ 17 แล้วตอบเปน็
จำนวนเตม็ บวก ดงั นี้
คา่ สัมบูรณข์ อง 15 เท่ากบั 15
คา่ สมั บูรณ์ของ 17 เทา่ กับ 17
ดงั น้นั 15+17 =15+17
= 32
(−15) + (−17) ไดโ้ ดย นำคา่ สัมบูรณ์ของ −15 บวกดว้ ยค่าสัมบรู ณข์ อง −17 แล้ว
ตอบเป็นจำนวนเตม็ ลบ ดงั น้ี
คา่ สมั บรู ณ์ของ −15 เทา่ กบั 15
ค่าสัมบูรณ์ของ −17 เทา่ กับ 17
ดังน้นั (−15) + (−17) = −(15+17)
= −32
4. ครยู กตวั อย่างโจทย์การบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเตม็ บวก และการบวกจำนวนเตม็
ลบด้วยจำนวนเตม็ ลบ โดยใชค้ า่ สมั บูรณ์ แลว้ ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั คิดหาผลลัพธข์ องโจทย์ เช่น
ตวั อย่างที่ 1 23+13 =
วิธที ำ คา่ สัมบูรณข์ อง 23 เทา่ กับ 23
คา่ สัมบูรณข์ อง 13 เทา่ กับ 13
ดงั นัน้ 23+13 = 23+13
= 36
ตอบ 36
ตัวอยา่ งท่ี 2 (−12) + (−18) + (−12) =
วธิ ีทำ (−12) + (−18) + (−12) = −(12 +18) + (−12)
= −30 + (−12)
= −(30 +12)
= −42
ตอบ −42
ขัน้ สรุปบทเรียน
1. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรปุ ความคดิ รวบยอด ดังนี้
ค่าสัมบรู ณข์ องจำนวนเต็มจำนวนหนึง่ คอื ระยะท่ีจำนวนเต็มน้นั อยู่หา่ งจากศูนย์ (0) บนเส้น
จำนวน
การบวกจำนวนเต็ม โดยใช้ค่าสมั บรู ณ์
1. การบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มบวก ให้นำค่าสัมบูรณ์ของจำนวนเต็มบวกทั้งสอง
จำนวนมาบวกกัน แล้วตอบเปน็ จำนวนเต็มบวก
2. การบวกจำนวนเต็มลบด้วยจำนวนเต็มลบ ให้นำค่าสัมบูรณ์ของจำนวนเต็มลบทั้งสอง
จำนวนมาบวกกัน แล้วตอบเป็นจำนวนเตม็ ลบ
2. ใหน้ ักเรยี นทำใบงาน 1.3 เรื่อง การบวกจำนวนเตม็
สือ่ การเรยี นรู้
-
แหลง่ การเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี นรายวชิ าพ้นื ฐานคณติ ศาสตร์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
กิจกรรมเสนอแนะ/กิจกรรมต่อเนอ่ื ง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ความเหน็ ของผูบ้ ังคับบัญชาหรอื ผทู้ ไี่ ด้รับมอบหมาย
ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้แลว้ มคี วามคิดเหน็ ดงั น้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่
ดมี าก
✓ ดี
พอใช้
ตอ้ งปรบั ปรงุ
2. การจัดกจิ กรรมการเรียนรไู้ ด้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
✓ ทีเ่ นน้ ผู้เรยี นเป็นสำคญั ใชใ้ นการสอนได้อย่างเหมาะสม
ทยี่ งั ไมเ่ น้นผูเ้ รียนเปน็ สำคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป
3. เป็นแผนการสอนที่
✓ นำไปใช้ได้จรงิ
ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอน่ื
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ .......................................................
( นางจริ ภทั ร ชำนาญ )
ครูพ่เี ลย้ี ง
บนั ทกึ ผลหลังการจัดการเรียนรู้
1. ดา้ นความรู้
1.1 นักเรยี นสามารถหาผลบวกของจำนวนเตม็ ทีก่ ำหนดให้ได้ถูกต้อง
อยใู่ นระดบั ดี(ร้อยละ 70 – 100 % ) จำนวน 91 คน คดิ เป็นร้อยละ 78.45
1.2 นกั เรียนสามารถหาผลบวกของจำนวนเตม็ ทก่ี ำหนดให้ได้ถกู ต้อง
อยใู่ นระดบั พอใช้(รอ้ ยละ 50 – 69 % ) จำนวน 21 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 18.10
1.3 นกั เรียนสามารถหาผลบวกของจำนวนเต็มทก่ี ำหนดให้ไดถ้ ูกต้อง
อยู่ในระดบั ปรบั ปรงุ (ตำ่ กวา่ 50 % ) จำนวน 4 คน คิดเป็นร้อยละ 3.45
2. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ
2.1 นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา ให้เหตุผล สื่อสารและสื่อความหมายทาง
คณิตศาสตรไ์ ด้ ในระดบั ด(ี ร้อยละ 70 – 100 % ) จำนวน 89 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 76.72
2.2 นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา ให้เหตุผล สื่อสารและสื่อความหมายทาง
คณิตศาสตร์ได้ ในระดับพอใช้(รอ้ ยละ 50 – 69 % )
จำนวน 19 คน คดิ เป็นร้อยละ 16.38
2.3 นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา ให้เหตุผล สื่อสารและสื่อความหมายทาง
คณติ ศาสตร์ได้ ในระดบั ปรับปรงุ (ตำ่ กวา่ 50 % )
จำนวน 15 คน คดิ เป็นร้อยละ 6.90
3. ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
3.1 นักเรียนมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน ในระดับดี(ร้อยละ 70 – 100 % )
จำนวน 92 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 79.31
3.2 นักเรยี นมวี ินยั ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่นั ในการทำงาน ในระดบั พอใช้(ร้อยละ 50 – 69 % )
จำนวน 18 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 15.52
3.3 นักเรียนมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน ในระดับปรับปรุง (ต่ำกว่า 50 % )
จำนวน 8 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 6.90
4. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน (ถ้าจุดประสงค์มีครบ 3 ดา้ น ไม่ตอ้ งประเมินสมรรถนะสำคัญ
ได้)
................................................................................................................................................................
............................................................................................... ............................................................... ..
............................................................................................................................. ...................................
5. ปญั หาและแนวทางในการแกไ้ ข / พัฒนา
ปญั หาทีค่ วรแก้ไข/พฒั นา วธิ ดี ำเนินการแกไ้ ข/พัฒนา ผลการแก้ไข/พัฒนา
- นกั เรยี นบางคนยังไม่ - อธิบายหลกั การ จัดกิจกรรม - นักเรยี นเข้าใจการบวก
สามารถหาผลบวกของ สง่ เสริมการเรียนรกู้ ารบวก จำนวนเต็ม เพ่ิมมากขึน้
จำนวนเตม็ ที่กำหนดให้ได้ จำนวนเตม็ และยกตัวอย่าง
เพมิ่ เติม
ลงชอื่ .....................................................ผู้สอน
(นายตันตกิ ร บุญธรรม)
นกั ศึกษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพครู
ใบงาน 1.3 เรื่อง การบวกจำนวนเต็ม
ชื่อ…………………………………………………………………………….ชน้ั ………………………เลขท่ี…………..
จงหาผลบวก (โดยใชค้ ่าสมั บรู ณ์)
1. 25+ 0 (1 คะแนน)
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ................................................................
2. 14 +16 (1 คะแนน)
.................................................................................................................................................... ............
......................................................................................... .......................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
......................................................................................................................... .......................................
.................................................................................................... ............................................................
3. −125 + (−34) (1 คะแนน)
............................................................................................................................................. ...................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................................... ............................................................
4. −142 + (−18) (1 คะแนน)
.................................................................................................................................................... ............
......................................................................................... .......................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
......................................................................................................................... .......................................
................................................................................................... .............................................................
5. (−23) + (−12) + (−5) (2 คะแนน)
........................................................................................................................................ ........................
................................................................................................ ................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................................... ............................................................
................................................................................................................................................................
........................................................................................................................ ........................................
.................................................................................................... ............................................................
.......................................................................................... ......................................................................
........................................................................................................................ ........................................
6. (−55) + (−90) + (−34) (2 คะแนน)
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................... ............................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
.................................................................................................................... ............................................
.................................................................................................... ............................................................
................................................................................................................................................................
........................................................................................................................ ........................................
.................................................................................................... ............................................................
.................................................................................. ..............................................................................
........................................................................................................................ ........................................
7. (−23) + (−112) + (−4) (2 คะแนน)
............................................................................................................................. ...................................
....................................................................................... .........................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
....................................................................................................................... .........................................
.................................................................................................... ............................................................
................................................................................................................................................................
........................................................................................................................ ........................................
เฉลยใบงาน 1.3 เรอ่ื ง การบวกจำนวนเต็ม
ชอื่ …………………………………………………………………………….ชัน้ ………………………เลขท่ี…………..
จงหาผลบวกโดยใชค้ า่ สัมบรู ณ์ (10 คะแนน)
1. 25 + 0
วิธีทำ ค่าสมั บรู ณข์ อง 25 คือ 25 หรอื 25 = 25
คา่ สมั บรู ณข์ อง 0 คือ 0 หรอื 0 = 0
ดังนน้ั 25+ 0 = 25+ 0
= 25
ตอบ 25
3. 14 + 16 ค่าสมั บูรณข์ อง 14 คือ 14 หรือ 14 =14
ค่าสัมบูรณข์ อง 16 คือ 16 หรือ 16 =16
วธิ ีทำ ดงั นั้น 14 +16 =14 +16
ตอบ 30 = 30
10. -125 + (-34)
วธิ ีทำ ค่าสมั บรู ณ์ของ −125 คือ 125 หรอื −125 =125
คา่ สมั บูรณข์ อง −34 คือ 34 หรือ −34 = 34
ดงั น้ัน −125 + (−34) = −(125 + 34)
= −159
ตอบ −159
11. -142 + (-18)
วิธีทำ ค่าสัมบรู ณข์ อง −142 คอื 142 หรือ −142 =142
คา่ สมั บรู ณข์ อง −18 คือ 18 หรือ −18 =18
ดังนน้ั −142 + (−18) = −(142 +18)
= −160
ตอบ −160
5. (−23) + (−12) + (−5)
วธิ ที ำ คา่ สมั บรู ณข์ อง −23 คอื 23 หรอื −23 = 23
คา่ สมั บรู ณ์ของ −12 คอื 12 หรือ −12 =12
ค่าสัมบรู ณ์ของ −5 คือ 5 หรอื −5 = 5
ดงั นั้น (−23) + (−12) + (−5) = −(23+12) + (−5)
= −35 + (−5)
= −(35 + 5)
= −40
ตอบ −40
6. (−55) + (−90) + (−34)
วธิ ที ำ คา่ สัมบูรณ์ของ −55 คือ 55 หรือ −55 = 55
คา่ สมั บูรณ์ของ −90 คอื 90 หรือ −90 = 90
คา่ สมั บรู ณข์ อง −34 คือ 34 หรอื −34 = 34
ดงั นน้ั (−55) + (−90) + (−34) = −(55 + 90) + (−34)
= −145 + (−34)
= −(145 + 34)
= −189
ตอบ −189
7. (−23) + (−112) + (−4)
วิธที ำ ค่าสัมบรู ณ์ของ −23 คือ 23 หรือ −23 = 23
ค่าสมั บรู ณ์ของ −112 คอื 112 หรอื −112 =112
ค่าสัมบรู ณ์ของ −4 คือ 4 หรือ −4 = 4
ดงั นัน้ (−23) + (−112) + (−4) = −(23+112) + (−4)
= −135 + (−4)
= −(135 + 4)
= −139
ตอบ −139
หนว่ ยที่ 1 เร่อื ง จำนวนเตม็
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง การบวกจำนวนเต็ม (ต่อ)
รายวิชาคณิตศาสตร์1 รหสั วชิ า ค21101 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1
กล่มุ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564 เวลา 1 ชัว่ โมง
วันท…่ี ….เดือน……………………… พ.ศ. ………….. ครูผสู้ อน นายตนั ตกิ ร บุญธรรม
…………………………………………………………………………………………………..……..…………………………………
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การ
ของจำนวน ผลท่เี กิดขึน้ จากการดำเนินการ สมบตั ิของการดำเนินการ และนำไปใช้
ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้
ค1.1 ม.1/1 เขา้ ใจจำนวนตรรกยะและความสัมพันธข์ องจำนวนตรรกยะ และใชส้ มบัติ
ของจำนวนตรรกยะในการแก้ปัญหาคณิตศาสตรแ์ ละปัญหาในชวี ิตจรงิ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ด้านความรู้
1. นกั เรยี นสามารถหาผลบวกของจำนวนเต็มทก่ี ำหนดให้ได้
2. ตระหนกั ถึงความสมเหตสุ มผลของผลบวกของจำนวนเต็มที่ได้
ดา้ นทกั ษะ/ กระบวนการ
1. การสอื่ สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์
2. การเช่อื มโยง
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
สาระสำคญั
การบวกจำนวนเตม็ โดยใช้เสน้ จำนวน
1. การบวกจำนวนเต็มบวกดว้ ยจำนวนเตม็ บวก ทำได้เชน่ เดยี วกบั การบวกจำนวนนับด้วย
จำนวนนับ ซ่ึงใชเ้ ส้นจำนวนแสดงการหาผลบวกโดยวธิ ีการนบั ต่อไปทางขวา
2. การบวกจำนวนเตม็ ลบด้วยจำนวนเตม็ ลบ สามารถใช้เสน้ จำนวนแสดงการหาผลบวกโดย
วธิ ีการนับตอ่ ไปทางซา้ ย
3. การบวกกันของจำนวนเต็มบวกกบั จำนวนเต็มลบ สามารถใช้เส้นจำนวนแสดงการหา
ผลบวก โดยใชก้ ารนบั แบบย้อนทิศทางกนั
4. การบวกจำนวนเต็มใด ๆ กับศูนย์ จะไดผ้ ลบวกเป็นจำนวนเตม็ จำนวนน้นั
สาระการเรียนรู้
การบวกจำนวนเตม็
หลกั ฐานการเรียนรูห้ รือภาระงาน
ใบงาน 1.3
การวดั และการประเมินผล
ประเดน็ การประเมินผล วธิ ีการวดั ผล เครอ่ื งมือวดั ผล เกณฑก์ าร
ประเมิน
ด้านความรู้ ตรวจแบบฝึกหัด 1.2 แบบฝกึ หัด 1.2
เรือ่ ง การบวก นักเรียนตอบ
1. นักเรียนสามารถหาผลบวก เร่ือง การบวกจำนวน จำนวนเตม็ คำถามไดถ้ ูกต้อง
ของจำนวนเตม็ ท่ีกำหนดให้ได้ เต็ม ผา่ นร้อยละ 70
ข้นึ ไป
2. ตระหนกั ถงึ ความ
สมเหตสุ มผลของผลบวกของ
จำนวนเตม็ ทไ่ี ด้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ ประเมนิ ทักษะและ แบบประเมนิ ทกั ษะ นกั เรยี นมีคะแนน
และกระบวนการ อยใู่ นเกณฑร์ ะดบั
1. การสื่อสารและการส่ือ กระบวนการทาง ทางคณิตศาสตร์ ดีข้นึ ไป
ความหมายทาง คณิตศาสตร์
คณติ ศาสตร์
2. การเชื่อมโยง
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ประเมินพฤติกรรม แบบประเมนิ นักเรยี นมคี ะแนน
1. มวี นิ ยั รายบุคคลดา้ น พฤติกรรม อยใู่ นเกณฑร์ ะดับ
2. ใฝเ่ รียนรู้ คณุ ลักษณะอันพึง รายบคุ คลด้าน ดีขน้ึ ไป
คุณลกั ษณะอนั พงึ
3. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน ประสงค์ ประสงค์
กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
1. ครทู บทวนการบวกจำนวนเตม็ บวกด้วยจำนวนเต็มบวก และการบวกจำนวนเต็มลบดว้ ย
จำนวนเต็มลบ โดยใชค้ า่ สัมบรู ณ์ ซึ่งครูกำหนดโจทย์บนกระดาน แล้วให้นกั เรยี นชว่ ยกันหาคำตอบ
เชน่ 5 +11 =16 , −2 + −7 = −9, 6 +13 =19 , (−8) + (−56) = −64
ขั้นกิจกรรมการเรยี นรู้
1. ครูอธิบายให้นักเรียนทราบว่า การบวกจำนวนเต็มบวกกับจำนวนเต็มลบ และการบวก
จำนวนเต็มลบกับจำนวนเต็มบวก สามารถหาได้โดยการบวกค่าสัมบูรณ์ด้วยจำนวนเต็ม ซ่ึงมีวธิ ีการหา
ดังนี้
การบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มลบที่มีค่าสัมบูรณ์ไม่เท่ากัน ให้นำค่าสัมบูรณ์ท่ี
มากกวา่ ลบด้วยค่าสัมบรู ณ์ทีน่ ้อยกวา่ แล้วตอบเปน็ จำนวนเต็มชนิดเดยี วกับจำนวนเต็มที่มีค่าสัมบูรณ์
มากกวา่
ตัวอยา่ งที่ 1 จงหาผลบวกของ 6 + (−5)
วธิ ีทำ คา่ สัมบูรณข์ อง 6 เทา่ กบั 6
ค่าสัมบรู ณ์ของ −5 เทา่ กับ 5
และ 6 5 จึงไดค้ ำตอบเป็นจำนวนเตม็ บวก
ดงั นั้น 6 + (−5) = 6 − 5
ตอบ 1 =1
ตวั อย่างท่ี 2 จงหาผลบวกของ (−5) + 6
วิธีทำ ค่าสมั บรู ณข์ อง −5 เทา่ กบั 5
คา่ สัมบูรณ์ของ 6 เท่ากับ 6
และ 6 5 จึงไดค้ ำตอบเปน็ จำนวนเต็มบวก
ดังน้นั (−5) + 6 = 6 − 5
=1
ตอบ 1
ตวั อยา่ งที่ 3 จงหาผลบวกของ (−15) + 22 + (−35)
วิธีทำ (−15) + 22 + (−35) = (22 −15) + (−35)
= 7 + (−35)
= −(35 − 7)
= −28
ตอบ −28
2. การบวกจำนวนเต็มบวกกับจำนวนเต็มลบและการบวกจำนวนเต็มลบกับจำนวนเต็มบวกท่ี
มคี า่ สมั บรู ณ์เท่ากัน ผลบวกเท่ากบั 0
ตวั อย่างที่ 4 จงหาผลบวกของ (−28) + 28
วธิ ที ำ (−28) + 28 = (−28) − 28
= 28 − 28
=0
ตอบ 0
3. ครเู ขียนโจทย์บนกระดาน แล้วให้นักเรียนช่วยกันหาคำตอบ
จงหาผลบวกของ
1. 235 + (−101)
2. (−90) + 81
3. (−99) + 99
4. ครูให้นกั เรียนชว่ ยกันสงั เกตผลบวกที่ได้จากการบวกจำนวนเตม็ จำนวนเต็มแต่ละคู่ เพือ่ ให้
นกั เรยี นเกดิ ขอ้ สรปุ ทว่ี ่า ผลบวกทเ่ี กิดจากจำนวนเตม็ ตา่ งชนดิ กัน จะเปน็ จำนวนชนิดเดียวกบั จำนวน
ทีม่ ีค่าสมั บูรณม์ ากกว่า
5. ครใู หน้ กั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ทำใบกจิ กรรม เสน้ ทางการบวก เมอื่ ทำเสร็จแล้วให้
ตวั แทนสมาชิกในกลุ่มนำเสนอเส้นทางการบวกของตนเอง
ข้นั สรุปบทเรียน
1.ครูและนักเรียนรว่ มกันสรปุ เร่ือง การบวกจำนวนเตม็ บวกดว้ ยจำนวนเต็มลบ และการบวก
จำนวนเตม็ ลบดว้ ยจำนวนเตม็ บวก ดังนี้
- การบวกจำนวนเต็มบวกด้วยจำนวนเต็มลบที่มีค่าสัมบูรณ์ไม่เท่ากัน ให้นำค่าสัมบูรณ์ที่
มากกวา่ ลบด้วยคา่ สมั บูรณ์ทน่ี อ้ ยกวา่ แล้วตอบเป็นจำนวนเต็มชนิดเดียวกับจำนวนเต็มที่มีค่าสัมบูรณ์
มากกวา่
- การบวกจำนวนเต็มบวกดว้ ยจำนวนเตม็ ลบที่มคี ่าสัมบูรณ์เท่ากนั ผลบวกเทา่ กับ 0
- ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัด 1.2 เรอ่ื ง การบวกจำนวนเต็ม
สอ่ื การเรียนรู้
-
แหลง่ การเรียนรู้
1. แบบฝกึ หดั 1.2 เร่อื ง การบวกจำนวนเตม็
2. หนังสอื เรียนรายวิชาพืน้ ฐานคณิตศาสตร์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
3. กิจกรรม เสน้ ทางการบวก
กิจกรรมเสนอแนะ/กิจกรรมตอ่ เนอ่ื ง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ความเห็นของผู้บังคบั บัญชาหรอื ผ้ทู ไ่ี ด้รับมอบหมาย
ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนร้แู ล้วมคี วามคดิ เหน็ ดงั น้ี
1. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ที่
ดมี าก
✓ ดี
พอใช้
ต้องปรับปรุง
2. การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้
✓ ทเ่ี นน้ ผู้เรียนเป็นสำคัญ ใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม
ทย่ี ังไมเ่ นน้ ผเู้ รียนเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรงุ พัฒนาต่อไป
3. เป็นแผนการสอนท่ี
✓ นำไปใช้ไดจ้ รงิ
ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้
4. ขอ้ เสนอแนะอื่น
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอื่ .......................................................
( นางจริ ภัทร ชำนาญ )
ครพู เ่ี ล้ียง
บนั ทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้
1. ดา้ นความรู้
1.1 นักเรียนสามารถหาผลบวกของจำนวนเต็มที่กำหนดใหไ้ ดถ้ ูกต้อง
อยูใ่ นระดบั ดี(รอ้ ยละ 70 – 100 % ) จำนวน 85 คน คิดเปน็ ร้อยละ 73.28
1.2 นกั เรียนสามารถหาผลบวกของจำนวนเตม็ ท่ีกำหนดใหไ้ ดถ้ กู ต้อง
อยูใ่ นระดบั พอใช้(รอ้ ยละ 50 – 69 % ) จำนวน 20 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 17.24
1.3 นกั เรยี นสามารถหาผลบวกของจำนวนเต็มทก่ี ำหนดใหไ้ ดถ้ ูกต้อง
อยใู่ นระดับปรับปรุง (ตำ่ กว่า 50 % ) จำนวน 11 คน คิดเปน็ ร้อยละ 9.48
2. ด้านทกั ษะกระบวนการ
2.1 นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา ให้เหตุผล สื่อสารและสื่อความหมายทาง
คณติ ศาสตร์ได้ ในระดบั ดี(รอ้ ยละ 70 – 100 % ) จำนวน 87 คน คดิ เป็นร้อยละ 75.00
2.2 นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา ให้เหตุผล สื่อสารและสื่อความหมายทาง
คณิตศาสตรไ์ ด้ ในระดับพอใช้(รอ้ ยละ 50 – 69 % )
จำนวน 15 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 12.93
2.3 นักเรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา ให้เหตุผล สื่อสารและสื่อความหมายทาง
คณติ ศาสตรไ์ ด้ ในระดบั ปรับปรงุ (ตำ่ กว่า 50 % )
จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 12.07
3. ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
3.1 นักเรียนมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน ในระดับดี(ร้อยละ 70 – 100 % )
จำนวน 84 คน คิดเป็นร้อยละ 72.41
3.2 นกั เรียนมีวินยั ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ ม่ันในการทำงาน ในระดับพอใช้(ร้อยละ 50 – 69 % )
จำนวน 23 คน คิดเปน็ ร้อยละ 19.83
3.3 นักเรียนมีวินัย ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมั่นในการทำงาน ในระดับปรับปรุง (ต่ำกว่า 50 % )
จำนวน 9 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 7.76
4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน (ถา้ จดุ ประสงค์มีครบ 3 ด้าน ไม่ต้องประเมินสมรรถนะสำคัญ
ได)้
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................... .................................................................
5. ปัญหาและแนวทางในการแกไ้ ข / พฒั นา