หลวงตาพดู ไมไ่ ดเ้ ลย มนั ไปคนละเรอื่ งกนั หลวงตาวา่ จะเอาไปทำ� พนั ธ์ุ เณรนอ้ ยวา่
เอาไปตม้ มันก็หมดไม่เหลือ รสมันดี มันอรอ่ ย เราก็รูจ้ ัก เมลด็ มันนา่ เอาไปท�ำพชื
ทำ� พนั ธ์ุ แตน่ เี่ อาไปตม้ เลย มนั กเ็ สรจ็ เทา่ นนั้ แหละ ไมม่ เี หลอื นม่ี นั สนั้ ขนาดน้ี คดิ ๆ ดู
กข็ นั เหมอื นกนั นะมนษุ ยเ์ ราน่ี อยา่ งคำ� วา่ “โลก” น่ี แตก่ อ่ นอาตมากเ็ ถยี งพระพทุ ธเจา้
เหมอื นกนั นะ ทา่ นวา่ “มนั ไมใ่ ชต่ น มนั ไมใ่ ชข่ องๆ ตน” เรากฟ็ งั ไมไ่ ด้ คอื ความอยาก
มันหลาย มนั ก็ทบั ไปเลย ความเปน็ จริง พวกทีเ่ ขามีธรรมะแล้วเขาเอาธรรมะมาใช้
มนั กย็ งิ่ รวยอยอู่ ยา่ งเกา่ นนั่ แหละ ยง่ิ สบาย ยงิ่ มปี ญั ญายง่ิ แปรเปลยี่ นไมไ่ ด้ ไมใ่ ชม่ นั
เสยี หายไปตรงไหน ไดป้ ระโยชนเ์ สยี ดว้ ย คนทไี่ มม่ ธี รรมะนนั่ ซมิ นั ทกุ ข์ หาจนไมร่ จู้ กั
หยดุ ไมร่ จู้ กั ถอย ทำ� แตง่ าน ไมต่ อ้ งกนิ ผลงาน ทำ� แตง่ านเทา่ นนั้ แหละ ฉะนนั้ พวกเรา
ทกุ คนทเ่ี รยี กวา่ มนั พอสมควรแลว้ กเ็ บาลง พยายามทำ� ใหม้ นั เบา พยายามทำ� สงิ่ ใดทม่ี นั
ไม่เปน็ บาปนน่ั ละ่
อาตมาเคยไปพบพรานคนหน่ึงอยู่ท่ีต่อเขต เป็นนายพรานต้ังแต่อายุสิบหกปี
จนแก่ อาตมาไปเหน็ โอ้ บา้ นเปน็ กระตอ๊ บเลก็ กบั มกี ระบอกปนื แกไมเ่ อาอะไร โยม
เอาแตไ่ ปยงิ ชา้ งเอางามนั อาตมากม็ าคดิ วา่ “โอ เราน่ี ถา้ หากวา่ จะโปรดคนๆ นไี้ ดแ้ ลว้
เห็นวา่ จะไดบ้ ญุ หลายละมั้ง” กเ็ ลยแวะเข้าไปทเ่ี ขาอยู่ อาตมากเ็ ลยไปพูด
“โยม ทกุ วนั น้ที ำ� อะไร ทำ� มาหากินอะไร”
แกกว็ า่ “ยงิ ชา้ งเอางามนั ไปขาย”
“โอ้ แลว้ กนั ฟนั ของโยมนะ่ เสยี ดายไหม มคี นมาถอนจะวา่ อยา่ งไรไหม อาตมาวา่
เปล่ยี นอาชีพอื่นไมไ่ ดห้ รอื โยม งาช้างน้ัน กวา่ มนั จะไดเ้ มตรหน่งึ หรือห้าสิบเจ็ดสบิ น่ี
ชา้ งมนั รักษาของมันอย่ไู มร่ ู้ก่ีสบิ ปีนะ” เราอธิบายให้ฟงั
เขาก็น่ังฟังแล้วก็ตอบวา่ “โอ้ย กม็ ันอยากไดน้ น่ี า้ ”
เรากอ็ ธิบายไปอีก มนั กว็ ่าแตค่ วามเดยี ว “มนั อยากได้น่ีน้า”
เรากอ็ ธบิ ายไปอกี มนั กไ็ ปไม่ได้ “มนั อยากได้นนี่ า้ ”
494
มันก็ว่ามนั อยากได้อยู่อยา่ งนัน้ มนั แน่น มันหนา มันไมม่ ีทางไปได้ ปลกู พชื
ปลูกผัก มันกไ็ ดก้ ินแลว้ นไี่ ปหายงิ ช้างหลายปี ก็ไมค่ อ่ ยจะได้งามนั มนั เป็นกรรม
พระพุทธองคท์ า่ นสอนให้เราทำ� มาหากนิ ไปในทางทช่ี อบ สมั มาอาชวี ะ อยา่ ไปท�ำบาป
เบยี ดเบยี นตน เบยี ดเบยี นผอู้ น่ื มนั กม็ ที างพอหาได้ แตว่ า่ มนั ไมห่ าไมท่ ำ� มนั จะเอาแต่
สงิ่ ทีม่ ันเปน็ บาปนนั่ ล่ะ มนั ไม่เห็น จะพูดอยา่ งไร มนั ก็ไมเ่ ห็น คอื มนั ไม่ได้ภาวนากนั
นัน่ เอง
อยา่ งพวกเราทพี่ ากนั มาเขา้ วดั อยา่ งนี้ มนั กบ็ างไปพอสมควรแลว้ พอรเู้ รอ่ื งแลว้
ถงึ ละบาปยงั ไมห่ มด กพ็ อครง่ึ ๆ กลางๆ จะพยายามละ พยายามถอน ถงึ วนั นย้ี งั ไมไ่ ด้
พรงุ่ นก้ี พ็ ยายามอยเู่ รอ่ื ยๆ ทำ� ใหม้ นั เปน็ นสิ ยั ใหม้ นั เปน็ ปจั จยั ถา้ เรานบั ถอื พระพทุ ธ
พระธรรม พระสงฆ์แล้ว แตเ่ ราไมท่ �ำความดีอย่างนี้ มนั กไ็ มเ่ กิดประโยชนอ์ ะไร ไม่มี
ความหมาย ดงั นนั้ ทา่ นจงึ ใหล้ ะ พดู งา่ ยๆ วา่ ละบาป บำ� เพญ็ บญุ แตเ่ ดย๋ี วน้ี มนั ละบญุ
บำ� เพญ็ บาป กนั เสยี แลว้ แตก่ อ่ นมนั เอามา้ ออกหนา้ รถ แตเ่ ดย๋ี วนม้ี นั เอารถออกหนา้ มา้
ทา่ นสอนวา่ ละบาป บำ� เพญ็ บญุ มนั กท็ ำ� มาๆ มนั ไมท่ นั ใจ มนั กล็ ะบญุ บำ� เพญ็ บาป เลย
มันกลับไปซะ มันเป็นอยา่ งนี้
495
๔๓
การปล่อยวาง
การทเ่ี ราอยรู่ ว่ มกนั นจ้ี ะตอ้ งมรี ะเบยี บ ระเบยี บเปน็ สง่ิ ทจี่ ำ� เปน็ สำ� หรบั คนหมมู่ าก
ไมใ่ ชจ่ ำ� เปน็ เฉพาะบคุ คลเทา่ นน้ั อยคู่ นเดยี วกต็ อ้ งมรี ะเบยี บ อยา่ งพระวนิ ยั พระวนิ ยั
สมยั กอ่ นนีม้ ีนดิ เดยี ว พระสงฆ์ทีม่ าบวชในพระพุทธศาสนามมี ากขน้ึ ต่างคนต่างจะ
ทำ� อะไร กม็ หี ลายเรอ่ื ง บางคนอยากจะทำ� อยา่ งนนั้ บางคนอยากจะทำ� อยา่ งน้ี กม็ กี นั
มาเรื่อยๆ เป็นเหตุให้พระพุทธเจ้าของเราต้ังข้อกติกาคือพระวินัยขึ้นมาเพ่ือเป็นข้อ
ปฏบิ ตั ิ อยไู่ ปนานๆ กม็ คี นบางคนกท็ ำ� เรอื่ งมาอกี หลายอยา่ ง ดงั นนั้ พระวนิ ยั จงึ ไมม่ ี
ทางจบส้นิ หลายล้านสกิ ขาบท แตก่ ็ยงั ไม่จบ พระวนิ ยั ไม่มีทางจบส้นิ แตถ่ า้ พดู ถงึ
เรอื่ งธรรม เรอื่ งธรรมะนม่ี ที างจบ กค็ อื “การปลอ่ ยวาง” เรอื่ งพระวนิ ยั กค็ อื เอาเหตผุ ลกนั
ถา้ เอาเหตผุ ลกันแลว้ ไมจ่ บหรอก
สมัยหนึ่งอาตมาไปบริหารพระ ๓-๔ องค์ ไปอยู่ในป่า ไฟไม่ค่อยจะมี เพราะ
อยบู่ า้ นปา่ องคห์ นง่ึ กไ็ ดห้ นงั สอื ธรรมะมาอา่ น อา่ นอยทู่ ห่ี นา้ พระประธานทที่ ำ� วตั รกนั
อา่ นอยกู่ ท็ ง้ิ ตรงนน้ั แลว้ กห็ นไี ป ไฟไมม่ ี มนั กม็ ดื พระองคท์ มี่ าทหี ลงั กม็ าเหยยี บหนงั สอื
จบั หนังสอื ขน้ึ มากโ็ วยวายขน้ึ ว่า
“พระองคไ์ หนนไ่ี มม่ สี ติ ทำ� ไมไมร่ จู้ กั ทเี่ กบ็ หนงั สอื ” สอบสวนถามไปถงึ พระองคน์ น้ั
พระองค์น้นั กร็ บั ปากวา่
496
“ผมเอาหนงั สือเลม่ นี้ไวท้ ่นี ่”ี
“ท�ำไมทา่ นไม่รจู้ ักท่ีเก็บหนงั สือ ผมเดนิ มา ผมเหยยี บหนงั สือนี้”
“โอ...อนั น้ันเปน็ เพราะท่านไม่สำ� รวมต่างหากเลา่ ”
เหน็ ไหม มนั มเี หตผุ ลอยา่ งนนั้ จงึ เถยี งกนั องคน์ น้ั บอกวา่ “เพราะทา่ นไมเ่ อาไปไว้
ในทเ่ี กบ็ ท่านไมร่ ู้จักเกบ็ หนงั สอื ท่านจึงไว้อยา่ งน้”ี องค์นีบ้ อกวา่ “เป็นเพราะท่านไม่
สำ� รวม ถา้ ทา่ นสำ� รวมแลว้ คงไมเ่ ดนิ เหยยี บหนงั สอื เลม่ น”ี้ มเี หตผุ ลวา่ อยา่ งนน้ั มนั ก็
เกิดเร่อื งทะเลาะกนั ทะเลาะกนั ไม่จบด้วยเรื่องเหตุผล
เร่อื งธรรมะทแ่ี ทจ้ ริงนน้ั ต้องท้ิงเหตทุ ้งิ ผล คอื ธรรมะมันสงู กวา่ น้นั ธรรมะที่
พระพทุ ธองคท์ า่ นตรสั รู้ ระงบั กเิ ลสทงั้ หลายไดน้ น้ั มนั อยนู่ อกเหตเุ หนอื ผล ไมอ่ ยใู่ นเหตุ
อยเู่ หนอื ผล ทกุ ขม์ นั จงึ ไมม่ ี สขุ มนั จงึ ไมม่ ี ธรรมนนั้ ทา่ นเรยี กวา่ ระงบั ระงบั เหตุ ระงบั ผล
ถ้าพวกใชเ้ หตุผลอย่อู ยา่ งน้ี เถียงกนั ตลอดจนตายเหมอื นพระสององค์นั้น
ธรรมที่พระพุทธองค์ท่านตรัสรู้ ต้องอยู่นอกเหตุเหนือผล นอกสุขเหนือทุกข์
นอกเกดิ เหนอื ตาย ธรรมน้เี ป็นธรรมท่ีระงบั คนเรากม็ าสงสัยอยนู่ ี่แหละ ผ้ชู ายย่ิง
สงสยั มาก ความสงสยั นตี่ วั สำ� คญั มเี หตผุ ลอยา่ งนนั้ อยา่ งน้ี มนั จะตายอยแู่ ลว้ มนั ไมใ่ ช่
ธรรมของพระพทุ ธองค์ ธรรมนนั้ เปน็ ขอ้ ปฏบิ ตั ิ เปน็ ทางเดนิ เดนิ ไปเทา่ นน้ั ถา้ มวั คดิ วา่
เมอ่ื ไปถงึ น้ี ฉนั นส้ี ขุ เหลอื เกนิ ไมไ่ ด้ ฉนั นที้ กุ ขเ์ หลอื เกนิ ไมไ่ ด้ แตถ่ า้ ฉนั ไมม่ สี ขุ ไมม่ ที กุ ข์
นคี่ ือมนั ระงบั แลว้ สงสยั ไมม่ ี
ตรงโนน้ มนั จะมอี ยทู่ ตี่ รงไหน มนั กอ็ ยตู่ รงทป่ี ฏบิ ตั ไิ ปเรอ่ื ยๆ สขุ เกดิ ขน้ึ มาทกุ ข์
เกดิ ขนึ้ มา เรารมู้ นั ทง้ั สองอยา่ งน้ี สขุ นก้ี ส็ กั วา่ สขุ ทกุ ขน์ กี้ ส็ กั วา่ ทกุ ขเ์ ทา่ นนั้ ไมใ่ ชส่ ตั ว์
ไมใ่ ชต่ วั ตนเราเขา ธรรมนเ้ี กดิ ขน้ึ แลว้ ดบั ไป เกดิ ขน้ึ มาดบั ไปเทา่ นนั้ จะเอาอะไรกบั มนั
สงสยั ทำ� ไมมนั เกดิ อยา่ งนน้ั เมอื่ เกดิ อกี ทำ� ไมมนั ไปอยา่ งนน้ั ละ่ สงสยั อยา่ งนมี้ นั เปน็ ทกุ ข์
ปฏิบตั ไิ ปจนตายก็ไมร่ เู้ รอ่ื ง มนั ทำ� ให้เกดิ เหตุ ไมร่ ะงับเหตุของมนั
497
ความเปน็ จรงิ ธรรมทพ่ี วกเราปฏบิ ตั อิ ยทู่ กุ วนั นี้ ธรรมนนี้ ำ� เราไปสคู่ วามสงบ สงบ
จากอะไร จากสงิ่ ทชี่ อบใจ จากสง่ิ ทไี่ มช่ อบใจ ถา้ เราชอบสงิ่ ทเี่ ราชอบใจ ไมช่ อบสงิ่ ทเี่ รา
ไมช่ อบใจ มนั ไมห่ มด ธรรมนไ้ี มใ่ ชธ่ รรมระงบั ธรรมนเ้ี ปน็ ธรรมกอ่ ทกุ ขข์ นึ้ มา ใหเ้ ขา้ ใจ
อยา่ งนัน้
ฉะนนั้ เราจงึ สงสยั ตลอดเวลา แหม วันน้ีฉันไดม้ าแลว้ พรุง่ น้ที �ำไมหายไปแลว้
มนั หายไปไหน ฉนั นงั่ เมอื่ วานนี้ มนั สงบดเี หลอื เกนิ วนั นท้ี ำ� ไมมนั วนุ่ วาย มนั ไมส่ งบ
เพราะอะไร อยา่ งนกี้ เ็ พราะเราไมร่ เู้ หตขุ องมนั ครน้ั ปลอ่ ยวางวา่ มนั เปน็ ของมนั อยอู่ ยา่ งนี้
เหน็ ไหม มนั เปน็ อยขู่ องมนั อยา่ งนี้ วนั นม้ี นั สงบแลว้ เออ ไมแ่ นน่ อนหนอ เราตอ้ งเหน็ โทษ
มนั อย่างนี้ สงบแล้วมนั ก็ไม่แนน่ อน ฉันไมย่ ึดมั่นไว้ สงบกส็ งบเถอะ ความไม่สงบ
กไ็ มแ่ นน่ อนเหมอื นกนั ฉนั ไมว่ า่ ฉนั เปน็ ผดู้ เู ทา่ นนั้ ทส่ี งบ ฉนั กร็ วู้ า่ เรอื่ งมนั สงบ ทไี่ มส่ งบ
ฉันก็รู้ว่าไม่สงบ แต่ว่าฉันไม่ยึดมั่นถือม่ันในเร่ืองที่ว่ามันสงบหรือไม่สงบ เห็นไหม
เรอ่ื งมนั เปน็ อยขู่ องมนั อยา่ งนนั้ อยา่ งนมี้ นั กร็ ะงบั มนั กไ็ มว่ นุ่ วาย มนั จะสงบ ฉนั กร็ วู้ า่
มันเรอ่ื งของมัน ฉนั จะดูอย่แู คน่ ีแ้ หละ ดูเรอ่ื งทมี่ นั สงบ มันกไ็ ม่แน่นอน ดเู รอ่ื งทมี่ นั
วนุ่ วาย มนั กไ็ มแ่ นน่ อน มนั แนน่ อนอยแู่ ตว่ า่ มนั จะเปน็ ของมนั อยอู่ ยา่ งนนั้ เราอยา่ ไป
เปน็ กบั มนั เลย
ถา้ อยา่ งนี้ มนั กส็ บายและสงบ เพราะเรารเู้ รอ่ื งมนั ไมใ่ ชว่ า่ เราอยากจะใหเ้ รอ่ื งนน้ั
เปน็ อยา่ งนนั้ อยากใหเ้ รอื่ งนเ้ี ปน็ อยา่ งน้ี มนั สงบ เพราะเรารเู้ รอื่ งวา่ เปน็ อยา่ งนน้ั แลว้ กม็ ี
การปลอ่ ยวาง เราคดิ ดซู วิ า่ ถา้ คนทกุ คนต้องพูดใหถ้ ูกใจฉนั คนทกุ คนต้องทำ� ให้ถูก
ใจฉัน ฉนั จึงจะสงบ ฉันจงึ จะสบาย คนทง้ั โลกจะให้เขามาพูดถูกใจเรามไี หม จะมา
ทำ� ถูกใจเราทุกคนมีไหม ไม่มี เมื่อไม่มี เราก็เปน็ ทกุ ข์อยู่ตลอดเวลา ถา้ เราไม่มกี าร
ปลอ่ ยวาง เราเกดิ มาในชวี ติ หนงึ่ เราจะหาความสงบวา่ คณุ ตอ้ งพดู ใหถ้ กู ใจฉนั คณุ ตอ้ ง
ท�ำให้ถูกใจฉัน ฉันจึงจะสบาย ในชีวิตหน่ึงจะได้สบายไหมคนเรา คุณต้องพูดให้
ถูกใจฉัน คณุ ตอ้ งท�ำให้ถูกใจฉัน ฉนั จึงจะสงบ ถา้ ไม่อยา่ งนน้ั ฉนั กไ็ มส่ งบ คนๆ น้ี
เกดิ มาไมร่ กู้ ชี่ วี ติ กไ็ มม่ คี วามสงบ เพราะคนหลายคน ใครจะมาพดู ใหถ้ กู ใจเราทกุ คน
ใครจะมาทำ� ใหด้ ที กุ หน มนั ไมม่ หี รอกอยา่ งนี้ นม่ี นั เปน็ ธรรมะ เราจะตอ้ งศกึ ษาอยา่ งน้ี
498
ฉะนนั้ เราจะตอ้ งอดทน อดทนตอ่ อารมณท์ มี่ นั เกดิ ขนึ้ มา อยา่ ไปหมายมนั่ อยา่ ไป
ยดึ มัน่ จับมาดูแล้วรเู้ ร่ือง เราก็ปล่อยมันไปเสยี
อยา่ งนางเตยน้ี เหน็ ไหม มนั ทำ� อยา่ งนน้ั มนั ถกู ใจเราไหม บางทกี ไ็ ปในวดั และ
กเ็ ขา้ หอ้ งนำ้� เสยี ฉนั จะปลงสงั ขารเดย๋ี วนี้ ฉนั ไมห่ นหี รอก จะตอ้ งไปรอ้ื สว้ ม เอามนั ออกมา
ต่อมามันกท็ ำ� อีก เพราะคนมันเปน็ บา้ เสียแล้ว จำ� เปน็ มนั ก็ต้องปล่อยไป นางเตยนะ่
มนั เป็นบา้ เสยี แลว้ เราต้องรูเ้ ร่ืองกนั วา่ มันเปน็ บ้า มนั สติไม่ดี มันเสยี สติ อย่าไปถือ
มนั เลย เขาจะพดู อยา่ งไรกร็ บั ฟงั มนั ไปเถอะ มนั จะทำ� อยา่ งไรกร็ ะวงั ไว้ มนั เปน็ อยา่ งนนั้
ของมัน เราตอ้ งถอยกลบั มาอยู่ตรงน้ี เราก็มคี วามสบาย
อารมณก์ เ็ หมอื นกนั ฉนั นนั้ ทมี่ นั มากระทบเราอยทู่ กุ วนั นี้ บางทกี ร็ า้ ย บางทกี ด็ ี
บางทกี ช็ อบใจ บางทกี ไ็ มช่ อบใจ คนทกุ ๆ คนนงั่ อยใู่ นนกี้ เ็ หมอื นกนั จะทำ� ใหถ้ กู ใจเรา
ทกุ คนมไี หม มนั ไมไ่ ด้ นอกนจากเราปฏบิ ตั ธิ รรมะใหร้ วู้ า่ คนๆ นมี้ นั เปน็ อยา่ งน้ี นานา
จิตตัง ไม่เหมอื นกนั
เราจำ� เปน็ ตอ้ งอบรมใจของเราทกุ ๆ คน เมอื่ มนั โกรธขน้ึ กด็ คู วามโกรธ ความโกรธ
นม้ี นั มาจากไหน เราใหม้ นั โกรธหรอื เปลา่ ดวู า่ มนั ดไี หม ทำ� ไมเราถงึ ชอบมนั ทำ� ไมเรา
ถงึ ไมท่ งิ้ มนั เมอื่ โกรธขนึ้ มาแลว้ ไมด่ ี ไมด่ เี ราเกบ็ มนั ไวท้ ำ� ไม กเ็ ปน็ บา้ เทา่ นน้ั ทงิ้ มนั เสยี
ถ้าเหน็ ว่ามนั ไม่ดี มนั กจ็ ะทำ� ไปในท�ำนองนี้
เมอื่ อยดู่ ว้ ยกนั กบั คนมากๆ มนั กย็ งิ่ ใหก้ ารศกึ ษาเรามากทสี่ ดุ ใหม้ นั วนุ่ วายเสยี กอ่ น
ใหร้ เู้ รอื่ งของความวนุ่ วายเสยี กอ่ น มนั จงึ จะถงึ ความสงบ อยา่ หนไี ปทไ่ี หน พระอานนท์
กับพระพุทธเจ้าของเราในสมยั ก่อน ไปบณิ ฑบาตบ้านมิจฉาทฏิ ฐิ พอไปถงึ หน้าบ้าน
พระพุทธองค์กส็ ะพายบาตรยืนเฉย ทา่ นกส็ บาย เพราะทา่ นเขา้ ใจว่าเรายนื อย่เู ฉยๆ
มนั ไมบ่ าปหรอก เขาจะใหก้ ไ็ มเ่ ปน็ ไร เขาจะไมใ่ หก้ ไ็ มเ่ ปน็ ไร ทา่ นยนื อยเู่ ฉยๆ พระอานนท์
เดนิ ยำ่� เทา้ ไปมา อายเขา คดิ วา่ พระพทุ ธองคน์ อี้ ยทู่ ำ� ไม ถา้ เขาไลก่ น็ า่ จะหนไี ป เขาไมใ่ ห้
กย็ งั ทนอยู่ ไมก่ อ่ ประโยชนอ์ ะไรเลย พระพทุ ธองคก์ เ็ ฉย จนกวา่ สดุ วสิ ยั แลว้ กไ็ ป บางที
เขากใ็ ห้ ใหใ้ นฐานทไี่ มเ่ คารพ พระพทุ ธเจา้ กเ็ อา เขาใหพ้ ระพทุ ธเจา้ กเ็ อา ทา่ นไมห่ นไี ปไหน
ไมเ่ หมือนพระอานนท์
499
พอกลับมาถงึ อาราม พระอานนท์กก็ ราบพระพทุ ธองค์ ถามว่า
“ขา้ แตพ่ ระผมู้ พี ระภาคเจา้ ตรงไหนทเี่ ขาไมใ่ สบ่ าตรใหเ้ รา เราจะไปยนื อยทู่ ำ� ไม
มนั เปน็ ทุกข์ อายเขา เขาไม่ให้ ก็รีบไปทอ่ี นื่ เสยี ดีกวา่ ”
พระพทุ ธองคต์ รสั “อานนท์ ตรงนถี้ า้ เรายงั ไมช่ นะมนั ไปทอ่ี น่ื กไ็ มช่ นะ ถา้ เราชนะ
อยูท่ ี่น่ี ไปท่อี น่ื เรากช็ นะ”
พระอานนทว์ า่ “ชนะไม่ชนะไม่รู้เรอื่ งแหละ อายเขา”
“อายทำ� ไมอานนท์ อยา่ งนมี้ ันผดิ หรือเปล่า เปน็ บาปไหม เรายืนอยู่ เขาไมใ่ ห้
ก็ไม่เป็นไร”
พระอานนท์บอกว่า “อาย”
“อายทำ� ไม เรายืนอยเู่ ฉยๆ มนั เป็นบาปที่ไหน อานนทเ์ ราจะต้องทำ� อยู่อยา่ งน้ี
ถา้ เราชนะมนั ตรงนี้ ไปทไี่ หนมนั กช็ นะ แตถ่ า้ เขาไมใ่ ห้ เรากไ็ ปทโี่ นน่ ถา้ ไปทโี่ นน่ แลว้
เขาไมใ่ ห้ เราจะไปไหน อานนท์”
“ไปอีก ไปบ้านโนน้ อีก”
“ถา้ หากบ้านโนน้ เขากไ็ มใ่ ห้ เราจะไปตรงไหน”
“ไปตรงโน้นอกี ”
“เลยไม่มที ีห่ ยดุ เลย อานนท์ ถา้ เราไมช่ นะตรงน้ี ไปขา้ งหนา้ มนั ก็ไม่ชนะ ถา้ เรา
ชนะอยู่ทนี่ แ่ี ห่งเดยี ว ไปทอี่ ืน่ มันกช็ นะท้งั นน้ั อานนท์เข้าใจผดิ แล้ว ไมต่ อ้ งอายซิ”
พระองคต์ รสั วา่ อะไรเปน็ บาป อนั นนั้ ทา่ นใหอ้ าย อะไรทไี่ มเ่ ปน็ บาป จะอายทำ� ไม
ใครอายก็โงเ่ ท่านัน้ ภาวนายังไมเ่ ป็นเลย ถา้ อายอย่างนั้น เราจะไปอยู่ตรงไหน ถงึ จะ
มปี ญั ญา ถา้ ไปอยคู่ นเดยี ว ไมม่ ใี ครพดู ดพี ดู ชวั่ ให้ มนั กส็ บาย แตเ่ ราจะไมร่ เู้ รอื่ ง สบาย
อยา่ งนี้มนั ไมม่ ีปัญญา ถ้าถกู อารมณแ์ ล้วปัญญามันไมม่ ี กเ็ ป็นทุกขอ์ ย่างน้นั
500
ฉะนั้น เราอยู่ในโลกก็ต้องมีความสัมพันธ์กับมนุษย์เรื่อยไปเป็นธรรมดา
ไมอ่ ยากเปน็ มนั กเ็ ปน็ ไมอ่ ยากจะอยู่ มนั กอ็ ยู่ เปน็ ไปอยอู่ ยา่ งนนั้ ใหเ้ รามาพจิ ารณาอยา่ งนนั้
เราต้องกลบั มายอ้ นพิจารณาอารมณท์ ่ที ่านตรัสวา่ นนิ ทา สรรเสรญิ มนั เปน็ คู่กนั มา
เรอื่ งนนิ ทา เรอื่ งสรรเสรญิ เปน็ ธรรมดาของโลก ถา้ ไมด่ ี เขากน็ นิ ทา ถา้ ดี เขากส็ รรเสรญิ
พระพุทธองคท์ ่านไมเ่ ห็นแกน่ นิ ทา ไม่เหน็ แกส่ รรเสริญ จงเรยี นสรรเสริญให้มันรู้จกั
จงมาเรยี นนนิ ทาใหม้ นั รจู้ กั ใหร้ จู้ กั สรรเสรญิ กบั นนิ ทา สรรเสรญิ นนิ ทา มนั กม็ ผี ลมเี หตุ
เทา่ กัน นนิ ทาเราก็ไมช่ อบ นีเ่ ปน็ เรือ่ งธรรมดาของโลก ถ้าสรรเสรญิ เราชอบ
สง่ิ ทเี่ ราชอบ มนั พาใหเ้ ราทกุ ขม์ ไี หม เชน่ วา่ เรามเี พชรสกั กอ้ นหนงึ่ เราชอบมาก
ชอบกวา่ กอ้ นหนิ ธรรมดา เอาวางไว้ ถา้ มขี โมยมาหยบิ เอากอ้ นเพชรไป เราจะเปน็ อยา่ งไร
น่นั ของดมี ันหาย ท�ำให้เราเปน็ ทุกขไ์ ดเ้ หมือนกัน
ดังนน้ั เราตอ้ งอดทนต่อสู้ ใหเ้ รามีสตคิ ุ้มครองจิตของเรา สตคิ อื ความระลกึ
ได้ สมั ปชญั ญะคอื ความรตู้ วั อนั นช้ี ว่ ยประคบั ประคองดวงใจของเราใหอ้ ยกู่ บั ธรรมะ
สติระลึกได้ว่า บัดน้ีเราจะจับไม้เท้า เม่ือเราจับไม้เท้าอยู่ก็รู้ว่าเราจับไม้เท้า นี่เป็น
สมั ปชญั ญะ ถา้ เรารอู้ ยใู่ นขณะน้ี ขณะเมอ่ื เราจะทำ� หรอื เมอื่ เราทำ� อยู่ กร็ ตู้ ามความจรงิ
ของมนั อยอู่ ยา่ งนนั้ อนั นแ้ี หละทจ่ี ะชว่ ยประคบั ประคองใจของเราใหร้ ธู้ รรมะทแี่ ทจ้ รงิ
ทนี ี้ ถา้ หากวา่ เราเผลอไปนาทหี นง่ึ กเ็ ปน็ บา้ นาทหี นงึ่ เราไมม่ สี ตสิ องนาที เรากเ็ ปน็
บ้าสองนาที ถ้าไมม่ สี ตคิ รึ่งวนั เราก็เป็นบา้ อยคู่ รงึ่ วนั เป็นอย่างน้ี
สติ น้ี คอื ความระลกึ ได้ เมอ่ื เราจะพดู อะไรทำ� อะไร ตอ้ งรตู้ วั เราทำ� อยู่ เรากร็ ตู้ วั อยู่
ระลกึ ไดอ้ ยอู่ ยา่ งนี้ คลา้ ยๆ กบั เราขายของอยใู่ นบา้ นเรา เรากด็ ขู องของเราอยู่ คนจะเขา้
มาซอ้ื ของหรอื ขโมยของของเรา ถา้ เราสะกดรอยมนั อยเู่ สมอ เรากร็ เู้ รอ่ื งวา่ คนๆ นม้ี นั มา
ทำ� ไม เราจบั อาวธุ ของเราไวอ้ ยอู่ ยา่ งนี้ คอื เรามองเหน็ พอขโมยมนั เหน็ เรา มนั กไ็ มก่ ลา้
จะท�ำเรา
อารมณ์กเ็ หมอื นกนั ถ้ามสี ตริ อู้ ยู่ มนั จะท�ำอะไรเราไม่ได้ อารมณ์มันจะทำ� ให้
เราดใี จอยอู่ ยา่ งนต้ี ลอดไปไมไ่ ด้ มนั ไมแ่ นน่ อนหรอก เดยี๋ วมนั กห็ ายไป จะไปยดึ มนั่
501
ถอื มนั่ ทำ� ไม อนั นฉี้ นั ไมช่ อบ อนั นกี้ ไ็ มแ่ นน่ อนหรอก ถา้ อยา่ งนอี้ ารมณน์ นั้ กเ็ ปน็ โมฆะ
เทา่ นนั้ เราสอนตวั ของเราอยู่ เรามสี ตอิ ยา่ งน้ี เรากร็ กั ษาอยา่ งนเี้ รอื่ ยๆ ไป ตอนกลางวนั
ตอนกลางคนื ตอนไหนๆ กต็ าม
เมอื่ เรายงั มสี ตอิ ยู่ เมอื่ นนั้ แหละเราไดภ้ าวนาอยู่ การภาวนาไมใ่ ชว่ า่ เราจะนง่ั สมาธิ
อยา่ งเดยี ว ยนื เดนิ นง่ั อยเู่ รากร็ จู้ กั นอนอยเู่ รากร็ จู้ กั เรารจู้ กั ตวั ของเราอยเู่ สมอ จติ เรา
มีความประมาทเราก็รจู้ กั ไมม่ ีความประมาทเราก็รู้จกั ของเราอยู่ ความร้อู นั นแี้ หละ
ทเ่ี รียกว่า “พุทโธ” เรารเู้ ห็นนานๆ พจิ ารณาดๆี มนั กร็ ู้จักเหตผุ ลของมนั มันก็รเู้ รอ่ื ง
ยกตัวอย่างเช่น ชาวตะวันตกมาอยู่ในประเทศไทย อยู่ไปเฉยๆ อย่างนั้น
ความท่อี ยู่ติดต่อใกลช้ ดิ กันไป ถงึ แมภ้ าษาพดู ไมร่ ูเ้ รื่องก็ตาม แตม่ นั รเู้ รอื่ งเข้าใจได้
เหน็ ไหม มองดหู น้ากันร้เู รอื่ งกนั ถงึ พดู ภาษาไม่รเู้ รือ่ ง แต่ก็อย่กู นั ไปได้ มนั รูก้ ัน
ดว้ ยวธิ นี ้ี ไมต่ อ้ งพดู กนั ทำ� งานกต็ า่ งคนตา่ งทำ� ทำ� อยใู่ กลๆ้ กนั นนั่ แหละ ไมร่ จู้ กั พดู กนั
มนั กย็ งั รเู้ รอื่ งกนั อยดู่ ว้ ยกนั ได้ รไู้ ดโ้ ดยอากปั กริ ยิ าทวี่ า่ รกั กนั หรอื ชอบกนั อะไรมนั กร็ ู้
ของมันอย่อู ย่างนี้ เป็นอยา่ งน้นั เหมือนกนั กับแมวกบั สุนขั มนั ไมร่ ู้ภาษา แต่วา่ มนั
ก็รู้จักรักเจ้าของเหมือนกนั แมวหรือสุนขั อยบู่ ้านเรา ถ้าเรามาถึงบา้ น สนุ ัขมนั กว็ ง่ิ ไป
ทำ� ความขอบคณุ ดว้ ย เหน็ ไหม ถา้ เรามาจากตลาดหรอื มาจากทอ่ี น่ื มาถงึ บา้ น แมวอยทู่ ี่
บา้ นเรา มนั กม็ าทำ� ความขอบคณุ มนั จะรอ้ งวา่ เหมยี วๆ มนั มาเสยี ดมาสเี รา แตภ่ าษา
มันไมร่ ู้ แต่จิตมนั รูอ้ ย่างนนั้
อนั นเ้ี รากอ็ ยไู่ ปไดอ้ ยา่ งนน้ั เราตอ้ งใหเ้ ขา้ ใจกนั อยา่ งนน้ั เราปฏบิ ตั ธิ รรมะบอ่ ยๆ
จิตมันก็คุ้นเคยกับธรรมะ เช่นว่าความโกรธเกิดขึ้นมามันเป็นทุกข์ พระท่านว่ามัน
เปน็ ทุกข์มาแล้ว ชอบทุกขไ์ หม ไมช่ อบ แลว้ เอาไวท้ �ำไม ถา้ ไมช่ อบจะยดึ เอาไวท้ �ำไม
ทง้ิ มนั ไปสิ ถา้ ทกุ ขม์ ันเกิดล่ะ คุณชอบทุกขห์ รอื เปล่า ไม่ชอบ เมอ่ื ไม่ชอบทุกข์แล้ว
ยึดไวท้ �ำไม ก็ท้ิงมนั เสยี สิ ท่านกส็ อนทุกวนั ๆ กร็ เู้ ข้าไปๆ ทกุ ข์มันเกดิ ขน้ึ มาครัง้ หนง่ึ
เรากร็ คู้ ำ� สอนครง้ั หนง่ึ ทกุ ขเ์ รากไ็ มช่ อบ ไมช่ อบทกุ ขแ์ ตเ่ ราไปยดึ ไวท้ ำ� ไม สอนอยเู่ รอ่ื ยๆ
บางทกี เ็ หน็ ชดั เหน็ ชดั กค็ อ่ ยๆ วาง วางไปกเ็ ปน็ เรอื่ งธรรมดาอยา่ งเกา่ ทหี นงึ่ กด็ ี สองทกี ด็ ี
สามทกี ็ดี มันกเ็ กดิ ประโยชน์แลว้ เกิดรู้เรือ่ งข้ึนแล้ว
502
เมือ่ มนั เกดิ มาความรเู้ ฉพาะตัวของเรา เราจะนั่งอยูก่ ็ดี เดนิ อยูก่ ด็ ี นอนอยกู่ ็ดี
พดู ภาษาไมเ่ ปน็ แตจ่ ติ เรารภู้ าษาธรรมะ เราปดิ ปากตรงนไี้ ว้ ปดิ ปากกาย แตเ่ ปดิ ปากใจ
นไี้ ว้ ใจมนั พดู นงั่ อยเู่ งยี บๆ ยง่ิ พดู ดี พดู กบั อารมณ์ รอู้ ารมณเ์ สมอ นเี่ รยี กวา่ “ปากใน”
นง่ั อยเู่ ฉยๆ เรากร็ จู้ กั พดู อยขู่ า้ งใน รอู้ ยขู่ า้ งใน ไมใ่ ชค่ นโง่ คนรอู้ ยขู่ า้ งใน รจู้ กั อารมณ์
สง่ั สอนตวั เองก็เพราะอนั นี.้ ..
ชวี ติ ของเราน้ี มนั แกท่ กุ วนั เกดิ มามกี ารยกเวน้ ไมแ่ กบ่ า้ งไหม วันคนื ของเราน้ี
ตอนเช้า ตอนเทยี่ ง ตอนเยน็ ตอนคำ�่ มันยกเวน้ อายเุ ราไหม วันน้มี นั ก็ให้แก่ พรงุ่ น้ี
มนั กใ็ หแ้ ก่ นอนหลบั อยมู่ นั กใ็ หแ้ ก่ ตนื่ อยกู่ ใ็ หโ้ ตขน้ึ ตามเรอ่ื งของมนั เรยี กวา่ ปฏปิ ทา
ของมนั สมำ�่ เสมอเหลอื เกนิ เราจะนอนอยู่ มนั กท็ ำ� งานของมนั อยู่ เราจะเดนิ มนั กท็ ำ� งาน
คอื ความโตของเรานแี่ หละ กลางวนั มนั กโ็ ต กลางคนื มนั กโ็ ต จะนงั่ จะนอนมนั มคี วามโต
ของมนั อยู่ เพราะชวี ติ ประจำ� วนั มนั เปลย่ี นแปลงอยเู่ สมอ รา่ งกายของเรามนั ไดอ้ าหาร
มนั กเ็ ปลย่ี นไปเรอ่ื ยๆ นเี่ รยี กวา่ ปฏปิ ทาของมนั มนั จงึ ทำ� ใหเ้ ราโตจนไมร่ สู้ กึ ดเู หมอื นกบั
ไม่ได้ท�ำอะไรเลย มนั ก็โตของมนั เอง แต่ส่งิ ทีเ่ ราทำ� คือ เรากนิ อาหาร กนิ ข้าว ด่ืมน�้ำ
นนั่ เปน็ เรอื่ งของเรา เรอื่ งรา่ งกายมนั จะโตจะอว้ น มนั กเ็ ปน็ ของมนั เรากท็ ำ� งานของเรา
สังขารก็ทำ� งานของสงั ขาร มนั ไม่พลกิ แพลงอะไร น่ีปฏิปทามันตดิ ต่อกนั อยู่เสมอ
การทำ� ความเพยี รของเรากเ็ หมอื นกนั ตอ้ งพยายามอยอู่ ยา่ งนนั้ เราจะตอ้ งมสี ติ
ตดิ ตอ่ กนั อยอู่ ยา่ งนนั้ เสมอ มคี วามรตู้ ดิ ตอ่ กนั อยเู่ สมอเปน็ วงกลม จะไปถอนหญา้ กไ็ ด้
จะนง่ั อยกู่ ไ็ ด้ จะทานอาหารกไ็ ด้ จะกวาดบา้ นอยกู่ ไ็ ด้ ตอ้ งไมล่ มื มคี วามรตู้ ดิ ตอ่ อยเู่ สมอ
ตวั นม้ี นั รู้ธรรมะ มันจะพดู อยเู่ รื่อยๆ ใจขา้ งในมนั จะพูดอยู่เร่อื ยๆ เป็นอย่อู ย่างนั้น
มีความรู้อยู่ มีความต่ืนอยู่ มีความเบิกบานอยู่สม�่ำเสมออย่างน้ัน น้ันเรียกว่าเป็น
ประโยชนม์ าก ไมต่ อ้ งสงสยั อะไรเลย อะไรมนั เกดิ ขนึ้ มา เรากเ็ หน็ วา่ อนั นม้ี นั ไมแ่ นน่ อน
มนั ไมเ่ ทย่ี ง อนั นนั้ กด็ ี แตว่ า่ มนั ไมแ่ นน่ อน มนั ไมเ่ ทย่ี ง เทา่ นล้ี ะ เรากร็ ขู้ องเราไปเรอ่ื ยๆ
เท่านั้นแหละการปฏิบัติของเรา
มคี นถามวา่ การทำ� ภาวนาน้ี ตอ้ งอธษิ ฐานหรอื ไมว่ า่ จะทำ� เวลานานเทา่ ไร ๕ หรอื
๑๐ นาที อาตมาเลยบอกวา่ ไมแ่ นน่ อน บางทีอธษิ ฐานว่าฉนั จะนัง่ สามชั่วโมง น่งั ไป
503
ไดส้ บิ นาทกี เ็ ดอื ดรอ้ นแลว้ ไมถ่ งึ ชวั่ โมงกห็ นไี ปแลว้ เมอ่ื หนไี ปแลว้ กม็ านงั่ คดิ วา่ แหม
เรานพ้ี ดู โกหกตวั เราเอง เอาแตโ่ ทษตวั เองอยู่ ไมส่ บายใจ บางทกี เ็ อาธปู สกั ดอกหนงึ่ มาจดุ
อธิษฐานจิตใจวา่ ไฟจุดธูปดอกน้ไี ม่หมด ฉันจะไม่ลุกหนี ฉนั จะพยายามอยู่อยา่ งนี้
พอทา่ นพดู อยา่ งน้ี พญามารกม็ าแลว้ นง่ั เขา้ ไปสกั นดิ นน่ั ทกุ ขห์ ลายเหลอื เกนิ เดย๋ี วมดกดั
เดย๋ี วยงุ กดั มนั วนุ่ ไปหมด จะลกุ หนไี ปกอ็ ธษิ ฐานแลว้ นมี่ นั ตกนรก นกึ วา่ นานเตม็ ทแี ลว้
ลมื ตามองดูธปู กย็ ังไม่ถงึ ครึ่งเลย หลบั ตาอธิษฐานใหม่ต่อไปอีก สามทสี ีท่ ี ธูปก็ยัง
ไมห่ มด เลยกม็ าคิด เรานมี่ ันไม่ดีเหลอื เกิน โกหกตัวของตัวอยเู่ ลยวุ่นย่งิ กวา่ เก่าอกี
เรานเี้ ปน็ คนไมด่ ี เปน็ คนอปั รยี จ์ ญั ไร เปน็ คนโกหกพระพทุ ธเจา้ โกหกตวั เราเอง เกดิ บาป
ข้ึนมาอีก อาตมาเห็นว่า ต้องพยายามท�ำไปเรื่อยๆ พอสมควรที่จะเลิกก็เลิก
เหมือนกนั กบั เราทานขา้ ว เราอธษิ ฐานมันเมื่อไร ทานไป ทานไป มันจวนจะอ่ิมจะพอ
เราก็เลกิ เม่ือนัน้ กินมากไปก็อาเจียนออกเทา่ นนั้ แหละ ใหม้ นั พอดีอย่างน้ัน
เราเหมอื นพ่อค้าเกวยี น ต้องรจู้ ักก�ำลงั โคของเรา ตอ้ งรจู้ กั ก�ำลังเกวียนของเรา
โคของเรามกี ำ� ลงั เทา่ ไร เกวยี นของเรารบั นำ้� หนกั ไดเ้ ทา่ ไร ตอ้ งรจู้ กั ตอ้ งเอาตามกำ� ลงั โค
ต้องเอาก�ำลังเกวียนของเรา อย่าเอาตามความอยากของเราสิ เรามีเกวียนเล่มเดียว
อยากจะบรรทกุ หนักให้ขนาดรถสบิ ล้อ มนั ก็พงั เท่านนั้ ก็ตายน่ะสิ มนั ตอ้ งค่อยๆ ไป
คอ่ ยๆ ทำ� อยา่ งนใี้ หร้ จู้ กั ของเรา ปฏปิ ทาเราทำ� ไปเรอ่ื ยๆ กส็ บาย มนั วนุ่ วายกต็ ง้ั ใหม่
มันวุ่นวายไปก็ต้ังใหม่ ถ้ามันวุ่นวายนัก ก็ลุกเดินจงกรมเสียสิ เดินมันจนเหน่ือย
พอเหนอ่ื ยก็มานงั่ นง่ั ก�ำหนด มนั เหน่ือย มันจะสงบระงับ ถ้าเดินก็พอแรง น่ังก็
สมควรแลว้ อยากจะพกั ผอ่ นกพ็ กั ผอ่ นเสยี แตว่ า่ จติ ใจอยา่ ลมื มสี ตอิ ยทู่ ง้ั เดนิ ทง้ั นงั่
ท้ังนอน อยใู่ ห้สม่�ำเสมออยา่ งนน้ั ใหเ้ ราเข้าใจอย่างนั้น
การประพฤติปฏิบัติธรรมต้องไม่ย่อหย่อน จะต้องท�ำความพยายามอย่างนั้น
ความอยากจะเรว็ ของเรา อนั นไ้ี มใ่ ชธ่ รรมะ มนั เปน็ ความอยากของเรา ใจอยากจะเรว็
ทสี่ ดุ แตม่ นั ทำ� ไมไ่ ด้ ธรรมชาตเิ ปน็ อยอู่ ยา่ งนนั้ เรากก็ ำ� หนดจติ ปฏบิ ตั ติ ามธรรมชาติ
ของมันอย่างน้ัน อยากจะให้มันเร็วท่ีสุดน้ันไม่ใช่ธรรม มันคือความอยากของเรา
เราจะท�ำตามความอยากของเราน้ันไมจ่ บ
504
ให้รู้จักดูประวตั ขิ องพระอานนท์ พระอานนทน์ ั้นมศี รทั ธามากท่สี ดุ พรงุ่ นเ้ี ขา
กำ� หนดใหพ้ ระอรหนั ตท์ ำ� ปฐมสงั คายนาแลว้ คณะสงฆก์ ก็ ำ� หนดพระอานนทอ์ งคห์ นงึ่ วา่
จะเอาไปร่วมทำ� สังคายนา แตจ่ ะเอาเฉพาะพระอรหันตท์ ้งั นัน้ พระอานนท์เหลือเพยี ง
องคเ์ ดยี วเทา่ นนั้ ยงั ไมเ่ ปน็ พระอรหนั ต์ ไมร่ จู้ ะทำ� อยา่ งไร พระอานนทก์ อ็ าศยั ความอยาก
นกึ วา่ เราจะตอ้ งทำ� อะไรหนอจงึ จะสำ� เรจ็ เปน็ พระอรหนั ต์ พรงุ่ นเี้ ขาจะนบั เขา้ อนั ดบั แลว้
จะประชมุ สงฆท์ ำ� สงั คายนา ตอนกลางคนื กต็ งั้ ใจนง่ั ไมไ่ ดน้ อนทง้ั คนื นงั่ ทำ� อยอู่ ยา่ งนนั้
อยากจะเปน็ พระอรหนั ต์ กลัวจะไมท่ ันเพ่ือนเขา ทำ� ไปทกุ อย่าง คดิ ไปทางนี้ก็มีแต่
ปัญญาหยาบ คิดไปทางโนน้ กม็ แี ต่ปัญญาหยาบ คดิ ไปทางไหนก็มีแตป่ ญั ญาหยาบ
ทง้ั นน้ั วนุ่ วายไปหมด คดิ ไปกจ็ วนจะสวา่ ง เรานแ่ี ย่ เราจะทำ� อยา่ งไรหนอ เพอื่ นสหธรรมกิ
ทงั้ หลายจะทำ� สงั คายนาแลว้ เรายงั เปน็ ปถุ ชุ นจะทำ� อยา่ งไรหนอ ธรรมทพี่ ระพทุ ธองค์
ท่านแสดงไว้ เราพิจารณาทุกอย่างไม่ขัดข้อง แต่เรายังตัดกิเลสไม่ได้ ยังไม่เป็น
พระอริยเจา้ ทำ� อยา่ งไรหนอ เลยคดิ วา่ เรากท็ �ำความเพียรมาตงั้ แต่ย�ำ่ ค�ำ่ จนถงึ บดั นี้
หรอื มนั จะเหนอ่ื ยไปมากกระมงั คดิ วา่ ควรจะพกั ผอ่ นสกั พกั หนง่ึ เลยเอาหมอนมาจะ
พกั ผอ่ น เมอื่ จะพกั ผอ่ น กป็ ลอ่ ยวางทอดธรุ ะหมดเทา่ นน้ั ศรี ษะยงั ไมท่ นั ถงึ หมอนเลย
พอเท้าพ้นพ้ืนเท่านั้น ตอนน้ันขณะจิตเดียว พอดีจิตรวมได้ ท่ีตั้งใจว่าจะพักผ่อน
มนั ปลอ่ ยวางทอดธรุ ะ ตอนนนั้ เองพระอานนทไ์ ดต้ รสั รธู้ รรม ตอนทว่ี า่ อยากจะใหม้ นั
เปน็ อยา่ งนน้ั อยากจะใหม้ นั เปน็ อยา่ งน้ี ไมม่ เี วลาทจ่ี ะพกั ผอ่ น ไมป่ ลอ่ ยวาง กเ็ ลยไมม่ ี
โอกาสทจ่ี ะตรัสร้ธู รรม
ใหเ้ ขา้ ใจวา่ การทต่ี รสั รธู้ รรมนนั้ มนั พรอ้ มกบั การปลอ่ ยวางดว้ ยสตดิ ว้ ยปญั ญา
ไมใ่ ชว่ า่ เราจะเรง่ ใหม้ นั เปน็ อยา่ งนน้ั แตด่ ว้ ยเหน็ วา่ มนั ไมใ่ ชอ่ ยา่ งนนั้ พอพกั ผอ่ น พอวาง
เขา้ ปบุ๊ ตรงนนั้ ไมม่ อี ะไรเขา้ มายงุ่ ไมม่ คี วามอยากเขา้ มายงุ่ เลยสงบตรงนน้ั เลย พอจติ
ตอนน้ันรวมดี กเ็ ป็นโอกาสพบตรงนั้น พระอานนทเ์ กอื บจะไมร่ ตู้ ัว รตู้ ัวว่ามนั เปน็
อย่างนั้นเทา่ นน้ั ทพี่ ระอานนทอ์ ยากจะตรสั รูใ้ ห้มันเป็นอยา่ งนไี้ มไ่ ด้ นค่ี อื ความอยาก
แตพ่ อรู้จักวาง ตรงน้นั แหละคือการตรัสร้ธู รรมะ
คนไมร่ จู้ กั มนั กท็ ำ� ยาก เชน่ วา่ ตรงนน้ั ไมใ่ ชท่ อ่ี ยขู่ องคน ความวติ กของปถุ ชุ นจะไป
วติ กตรงนน้ั กไ็ มไ่ ด้ เชน่ วา่ นพี่ น้ื นน่ั หลงั คา ตรงน้ี (ระหวา่ งหลงั คากบั พนื้ ) ไมม่ อี ะไร
505
เหน็ ไหม ตรงนไี้ มม่ ภี พ ภพคอื หลงั คากบั พนื้ ระยะกลางนี้ เรยี กวา่ ไมม่ ภี พ ถา้ คนจะอยู่
ก็ต้องอยู่ข้างล่างหรือข้างบน ตรงน้ีไม่มีคนท่ีจะอยู่ ไม่มีใครที่จะอยู่ เพราะว่ามัน
ไมม่ ภี พ ตรงนค้ี นไมส่ นใจ การปลอ่ ยวางอยา่ งน้ี คนไมส่ นใจวา่ การปลอ่ ยวางมนั จะเกดิ
อะไรไหม เมอื่ ขึ้นไปถึงโน้นเป็นภพเคยอยู่ ลงมาทางนกี้ ็เปน็ ภพเคยอยู่ ข้ึนไปขา้ งบน
นี้หน่อยก็สุขสบาย หล่นลงมาตูมก็เจ็บ แล้วเป็นทุกข์ มีแต่ทุกข์กับสุข แต่ที่มัน
จะวางใหเ้ ปน็ ปกติไม่มี เพราะว่าทไ่ี มม่ ีภพนั้นคนไม่สนใจ แม้จิตจะวิตก กใ็ ห้วติ กไป
ในปกติ ไมม่ ีภพ
ท่พี ระพุทธองค์ตรสั วา่ ไมม่ ีภพ ไมม่ ชี าติ คอื ไม่มอี ุปาทานนั่นเอง อุปาทาน
เป็นเหตุให้ทุกข์เกิด ถ้าอุปาทานน้ันเราปล่อยไม่ได้ เราอยากจะสงบมันก็ไม่สงบ
คนเราอยกู่ ับภพ ถา้ ไม่มีภพ คดิ ไมไ่ ด้ เพราะนิสัยของคนมนั เป็นอย่างนั้น กิเลสของ
คนเปน็ อยา่ งนน้ั พระนพิ พานทพ่ี ระพทุ ธองคท์ า่ นวา่ พน้ จากภพชาติ ฟงั ไมไ่ ด้ ไมเ่ ขา้ ใจ
มันเข้าใจแต่ว่าต้องมีภพชาติ ถ้าไม่มีภพ ถ้าไม่มีที่อยู่ ฉันจะอยู่อย่างไร ย่ิงคน
ธรรมดาๆ อยา่ งเราแลว้ ฉนั จะอยอู่ ยา่ งนไ้ี มด่ กี วา่ หรอื อยากจะเกดิ อกี แตก่ ไ็ มอ่ ยากตาย
มนั ขดั กนั เสยี อยา่ งนี้ ฉนั อยากเกดิ แตฉ่ นั ไมอ่ ยากตาย มนั พดู เอาคนเดยี วตามภาษาคน
แต่การเกิดแล้วไม่ตายน้ันมีไหมในโลกนี้ เมื่อคนอยากเกิดก็คือคนนั้นอยากตาย
นนั่ เอง แตเ่ ขาพดู วา่ ฉนั อยากเกดิ แตฉ่ นั ไมอ่ ยากตาย มนั คดิ สงิ่ ทเ่ี ปน็ ไปไมไ่ ด้ เขากไ็ ป
คดิ ให้มันทุกข์
ทำ� ไมเขาจงึ คดิ อยา่ งนนั้ เพราะเขาไมร่ จู้ กั ทกุ ข์ เขาจงึ คดิ อยา่ งนนั้ พระพทุ ธองค์
ทา่ นว่า ตายน้ีมาจากความเกดิ ถ้าไม่อยากตาย อย่าเกดิ สิ แต่น่ีอยากเกิดอกี แตว่ า่
ไมอ่ ยากตาย พดู กบั กเิ ลสตณั หานม้ี นั กย็ ากมนั กล็ ำ� บาก มนั ถงึ มกี ารปลอ่ ยวางไดย้ าก
มกี ารปล่อยวางไม่ได้อยา่ งนี้ กเิ ลสตณั หามันเป็นอยา่ งน้นั
ฉะนน้ั ทพ่ี ระพทุ ธองคท์ า่ นตรสั วา่ ไมม่ ยี างตน้ เสาอนั น้ี อะไรไปเกาะ ไมม่ ที เี่ กาะ
จงึ ไมม่ ภี พไมม่ ชี าติ ถา้ พดู ถงึ วา่ เราไมม่ ภี พมชี าติ เราฟงั ไมไ่ ด้ จนกระทงั่ ทา่ นยำ�้ เขา้ ไป
ถึงตัวตนนี้ว่า ไม่มีตัวมีตน ตัวตนน้ันเป็นเร่ืองสมมุติทั้งนั้น มันจริงอยู่ มันก็จริง
โดยสมมตุ ิ ถา้ พูดถงึ วมิ ตุ ติ ตวั ตนก็ไมม่ ี เป็นธรรมธาตุอนั หนง่ึ เกดิ ขนึ้ มาเพราะเหตุ
506
เพราะปัจจยั เกิดขนึ้ มาเท่านัน้ เรากไ็ ปสมมุตวิ า่ มันเป็นตวั เป็นตนเกดิ ขนึ้ มา เมอื่ เป็น
สมมตุ เิ ปน็ ตวั เปน็ ตน กย็ ดึ ตวั ยดึ ตนนน้ั อกี เลยเปน็ คนมตี น ถา้ มี “ตน” กม็ ี “ของตน”
ถา้ ไมม่ ี “ตน” “ของตน” กไ็ มม่ ี ถา้ มี “ตน” มนั กม็ สี ขุ มที กุ ข์ ถา้ มี “ตน” มนั กม็ ี “ของตน”
พร้อมกันขน้ึ มาเลย เราไมร่ ู้เร่อื งอยา่ งน้ัน ฉะน้นั คนเราจึงไปคิดว่าอยากเกดิ แต่ไม่
อยากตาย
พดู ถงึ เรอื่ งกระแสพระนพิ พานแลว้ ถา้ ไมร่ ปู้ จั จตั ตงั แลว้ กไ็ มม่ ใี ครทจี่ ะปรารถนา
อะไร ถงึ พระนพิ พานนก้ี ไ็ มใ่ ชเ่ ปน็ เรอ่ื งปรารถนาอกี ดว้ ย พระนพิ พานปรารถนาไมไ่ ด้
เหมือนกัน อย่างนี้มันเป็นลักษณะที่เข้าใจยาก ถึงเราจะเข้าใจในเร่ืองพระนิพพาน
แตจ่ ะพดู ให้คนอื่นฟังกไ็ ม่เขา้ ใจเหมอื นกนั มนั ไมเ่ ขา้ ใจ เพราะธรรมอันนี้ ถ้าแบ่งให้
กนั ได้ มนั กส็ บายละสิ แตธ่ รรมนมี้ นั เปน็ ปจั จตั ตงั มนั รเู้ ฉพาะตวั ของเราเอง บอกคนอนื่ ได้
แต่มีปัญหาอยวู่ า่ คนอน่ื จะรู้ไหม
ฉะนนั้ พระพทุ ธองคจ์ งึ ตรสั วา่ อกั ขาตาโร ตถาคตา แปลวา่ พระตถาคตเปน็ แต่
ผบู้ อก นน่ั กเ็ หมอื นกบั เราทกุ วนั นแ้ี หละ เปน็ ผบู้ อก ไมใ่ ชผ่ ทู้ ำ� ให้ บอกแลว้ ใหเ้ อาไปทำ�
จงึ จะเกดิ ความมหศั จรรยข์ นึ้ เกดิ ความเปน็ จรงิ ขนึ้ เฉพาะตนเปน็ ปจั จตั ตงั เวทติ พั โพ
วิญญหู ิ วิญญูชนรูเ้ ฉพาะตัวเองทง้ั นน้ั อย่างพดู วันนี้ จะมาเชอ่ื อาตมาน้นั ก็ยงั ไมใ่ ช่
ของดี มนั ยงั ไมใ่ ชข่ องแท้ คนทเี่ ชอ่ื คนอนื่ อยู่ พระพทุ ธองคท์ า่ นวา่ ยงั โงอ่ ยู่ พระพทุ ธองค์
ทา่ นใหร้ บั รไู้ ว้ แลว้ ไปพจิ ารณาใหม้ นั เกดิ ขนึ้ มาโดยเฉพาะตวั เราเอง ธรรมนม้ี นั จงึ เปน็
ปจั จัตตงั อย่างนน้ั
ทีนี้ในเรื่องการฟังธรรม ก็ให้ท�ำความเข้าใจว่าต้องไม่ปฏิเสธรับฟัง ไม่เช่ือก็
พจิ ารณาดู ไมเ่ ชอื่ กไ็ มว่ า่ เชอ่ื กไ็ มว่ า่ วางไวก้ อ่ น เราจะรโู้ ดยใหเ้ กดิ ปญั ญา อะไรทกุ อยา่ ง
ถา้ ไม่มีเหตผุ ลเพยี งพอในใจของเราเอง ก็ยังไมป่ ล่อยวาง คือว่ามีสองขา้ ง น่ีขา้ งหนงึ่
น่ีกข็ ้างหนง่ึ คนเรานั้นจะแอบเดนิ มาขา้ งนี้ หรอื แอบเดนิ ไปข้างนั้น ทเี่ ดินไปกลางๆ
ไมค่ อ่ ยเดนิ หรอก มนั เปน็ ทางเปลยี่ ว เดยี๋ วรกั กไ็ ปทางรกั พอชงั กไ็ ปทางชงั จะปลอ่ ย
การรกั การชังนไี้ ป มันเป็นทางเปล่ยี ว มันไม่ยอมไป
507
เมอื่ พระพุทธองคต์ รสั รธู้ รรมะ ทรงเทศน์เปน็ ปฐมเทศนาเลยตรงนี้
ทางหนง่ึ เปน็ ทางสขุ ของกาม ทางหนง่ึ เปน็ ทางทกุ ขท์ รมานตน สองทางนไี้ มใ่ ชท่ าง
ทสี่ งบ ทา่ นพดู วา่ ไมใ่ ชท่ างของสมณะ สมณะนค้ี อื ความสงบ สงบจากสขุ ทกุ ข์ ไมใ่ ชม่ ี
ความสุขแล้วมันสงบ ไม่ใช่มคี วามทุกขแ์ ล้วมันสงบ ต้องปราศจากสขุ หรือทกุ ข์มันจึง
เปน็ เร่ืองความสงบ ถ้าเราท�ำอยา่ งนั้นแล้วมีสขุ ใจเหลือเกิน อันนกี้ ไ็ ม่ใชธ่ รรมะทดี่ นี ะ
แต่เราต้องวางสุขหรือทุกข์ไว้สองข้าง ความรสู้ กึ ต้องไปกลางๆ เดนิ ผา่ นมันไปกลางๆ
เรากม็ องดู สขุ กเ็ หน็ ทกุ ขก์ เ็ หน็ แตเ่ ราไมป่ รารถนาอะไร เดนิ มนั เรอื่ ยไป เราไมต่ อ้ งการ
สขุ เราไมต่ ้องการทุกข์ เราตอ้ งการความสงบจิตใจของเรา ไมต่ ้องแวะไปหาความสุข
ไมต่ อ้ งแวะไปหาความทกุ ข์ กเ็ ดนิ มนั ไปเรอื่ ย เปน็ สมั มาปฏปิ ทา เปน็ มรรค มอี งคแ์ ปด
มสี มั มาทฏิ ฐิ ความเหน็ ชอบเกดิ ขน้ึ แลว้ สมั มาสงั กปั ปะ คอื ความดำ� รวิ ติ กวจิ าร มนั กช็ อบ
ท้งั นั้น อันนเ้ี ป็นสมั มามรรค เปน็ มรรคปฏปิ ทา ถ้าจะทำ� อย่างนีใ้ ห้เกิดอยา่ งนั้น
ทนี เ้ี ราไดฟ้ งั เรากไ็ ปคดิ ดู ธรรมะทง้ั หมดนท้ี า่ นตอ้ งการใหป้ ลอ่ ยวาง ปลอ่ ยวางจะ
เกดิ ขนึ้ มานน้ั ตอ้ งรคู้ วามเปน็ จรงิ ถงึ จะปลอ่ ยวางได้ ถา้ ความรไู้ มเ่ กดิ กต็ อ้ งมกี ารอดทน
มกี ารพยายาม มกี ารปฏบิ ตั ธิ รรมอยู่ มนั ตอ้ งใชท้ นุ อยเู่ สมอทเี ดยี ว เรยี กวา่ ตอ้ งปฏบิ ตั ิ
ธรรม
แต่เมื่อมันรู้เห็นหมดแล้ว ธรรมะก็ไม่ได้แบกเอาไปด้วย อย่างเลื่อยคันนี้
เขาจะเอาไปตดั ไม้ เมอ่ื เขาตดั ไมห้ มดแลว้ อะไรกห็ มดแลว้ เลอ่ื ยกเ็ อาวางไวเ้ ลย ไมต่ อ้ ง
ไปใช้อกี เล่อื ยคือธรรมะ ธรรมะตอ้ งเอาไปปฏิบตั เิ พื่อให้บรรลมุ รรคผล ถา้ หากว่า
มันเสร็จแล้วธรรมะที่อยู่ก็วางไว้เหมือนเล่ือยที่เขาตัดไม้ ท่อนนี้ก็ตัดท่อนนี้ก็ตัด
ตัดเสร็จแล้วก็วางไว้ท่ีน่ี อย่างน้ันเล่ือยก็ต้องเป็นเล่ือย ไม้ก็ต้องเป็นไม้ น่ีเรียกว่า
ถึงจุดแล้ว ถึงจุดของมันที่ส�ำคัญแล้ว ส้ินการตัดไม้ ไม่ต้องตัดไม้ ตัดพอแล้ว
เอาเลอื่ ยวางไว้
การประพฤติปฏิบตั ติ อ้ งอาศัยธรรมะ ถา้ หากว่าพอแลว้ ไม่ตอ้ งเพิม่ มนั ไมต่ ้อง
ถอนมนั ไม่ตอ้ งทำ� อะไร ปล่อยวางอย่อู ย่างน้ัน เป็นไปตามธรรมชาตอิ นั นั้น ถ้าไป
508
ยึดม่นั หมายมนั่ สงสยั อันนีเ้ ปน็ อยา่ งนั้น มนั อยู่ไกลเหลือเกนิ อยู่ไกลมากทีเดียว
ยงั เปน็ เดก็ ๆ อยู่ ยงั เปน็ เดก็ อมมอื อยนู่ นั่ แหละ ทำ� อะไรไมถ่ กู อยนู่ น่ั ไมเ่ อาแลว้ อยา่ งนนั้
มนั เปน็ ทกุ ข์ ตอ้ งดู ตอ้ งดอู อกจากจติ ใจของเรา ดมู นั ปลอ่ ยมนั ดวู า่ อะไรมนั เกดิ ขน้ึ
กร็ วู้ า่ อนั นไี้ มแ่ น่ อนั นเ้ี กดิ ไมจ่ รงิ อนั นมี้ นั ปลอม ความจรงิ มนั กอ็ ยอู่ ยา่ งนนั้ ทเ่ี ราอยาก
ให้อันนน้ั เป็นอันนี้ อนั นีเ้ ปน็ อันน้นั น่นั ไมใ่ ชท่ าง มันเปน็ อย่อู ย่างนนั้ กว็ างมนั เสีย
ความสงบเกดิ ขน้ึ ได้ เราขา้ มไปขา้ มมา มนั ไมร่ เู้ รอื่ ง กเ็ ปน็ ทกุ ขต์ ลอดเวลา หายสงสยั เสยี
อยา่ ไปสงสยั มนั เลกิ มนั เถอะ อยา่ ไปเปน็ ทกุ ขห์ ลาย พอแลว้ ปลอ่ ยวางมนั เสยี (หวั เราะ).
509
๔๔
กบเฒ่านง่ั เฝ้ากอบวั
พวกเราเปน็ ผมู้ บี ญุ วาสนามาก เพราะพระพทุ ธเจา้ ตรสั วา่ การทพ่ี ระพทุ ธเจา้ จะมา
ตรัสรู้ในโลกนี้ เป็นส่ิงทเี่ กิดขึ้นไดย้ าก
เราจะไดพ้ บทา่ นกย็ าก เมอ่ื พบทา่ นแลว้ จะไดฟ้ งั ธรรมทา่ นกย็ าก ไดฟ้ งั ธรรมแลว้
จะได้บวชปฏิบัติอยู่ใกล้ท่านก็ยาก หรือแม้แต่บวชแล้ว จะมีศรัทธาก็ยากก็ล�ำบาก
ทา่ นวา่ อยา่ งนน้ั ผบู้ วชแลว้ เขา้ ไมถ่ งึ พระพทุ ธเจา้ กม็ นี ะ อยา่ นกึ วา่ ถา้ บวชแลว้ จะไดเ้ ขา้
ใกล้พระพุทธเจ้า ถ้าไม่ได้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยของท่าน ก็ไม่ได้ช่ือว่าเข้าใกล้
พระพทุ ธเจา้ ใหพ้ ากนั เขา้ ใจ ดงั นน้ั ผรู้ จู้ ะเกดิ ขน้ึ ภายในจติ ใจของมนษุ ย์ ใหร้ แู้ จง้ แทง
ตลอดนี้ จงึ หาไดย้ าก บคุ คลทม่ี เี จตนามศี รทั ธามาสอนพวกเราใหเ้ กดิ ความรคู้ วามเหน็
ในความดคี วามชวั่ ในบุญในบาป นีก้ ็ยาก และจะไดฟ้ งั ธรรมของทา่ นน้ันก็ยาก
อยา่ งเราฟงั ธรรมกนั โดยทวั่ ไปทกุ วนั นี้ กฟ็ งั แตน่ ทิ านพน้ื บา้ นเรอ่ื งการะเกดบา้ ง
สินชัยบ้าง แตงอ่อนแตงแก่บ้าง ฟังกันเล่นๆ อันน้ันไม่ใช่ธรรมะของพระพุทธเจ้า
เปน็ นยิ ายฟงั กนั สนกุ เฉยๆ ถา้ ฟงั ธรรมพระพทุ ธเจา้ มนั ไดบ้ ญุ นะ ไดใ้ นปจั จบุ นั นนี้ แี่ หละ
ธรรมทจี่ ะสอนสตั วท์ งั้ หลายนนั้ ไมใ่ ชง่ า่ ย ถา้ คำ� สอนใดไมเ่ ปน็ ไปเพอื่ หายพยศ ลดมานะ
ละความชวั่ แลว้ กไ็ มใ่ ชธ่ รรมของพระพทุ ธเจา้ เปน็ ธรรมของพวกเดยี รถยี ์ ของพวกชาว
นคิ รนถ์ มนั ไมไ่ ดเ้ ปน็ ความจรงิ ไมไ่ ดร้ ะบายความทกุ ขอ์ อกจากใจ ไมห่ ายสงสยั ยงั ไมถ่ กู
ธรรมะ
510
ผู้ไมไ่ ด้ปฏบิ ตั ธิ รรมะ ฟังธรรมะแลว้ จะปฏิบตั ธิ รรมนั้นยาก มันยากจะได้เห็น
ยากจะไดฟ้ งั ธรรมะของพระพทุ ธเจา้ นน้ั ควรรไู้ ด้ ไตรต่ รองและเหน็ ตามความเปน็ จรงิ ได้
ทา่ นไมไ่ ดส้ อนตำ�่ สอนสงู อะไร ทา่ นสอนพอดี สอนธรรมดาตามบคุ คล เหมอื นอยา่ งเดก็
ตวั เล็กๆ มกี �ำลังนอ้ ย ทา่ นกไ็ มใ่ หแ้ บกหนกั ให้แบกพอดี มันก็แบกไปได้ ผู้ใหญม่ ี
กำ� ลงั มาก ทา่ นก็ใหแ้ บกสมกับกำ� ลงั ของผ้ใู หญ่ น้ีก็ได้ประโยชน์ เร่อื งมันเปน็ อยา่ งนี้
อันนฉี้ นั ใด พวกเราจะมวี ัดวาอารามปฏิบัตอิ ยา่ งนก้ี ห็ ายาก ไมม่ ที ุกกาลนะโยม
มีเปน็ บางคร้ังบางคราว นานๆ เราจึงจะไดพ้ บครัง้ หนงึ่ บางคนบญุ ไม่มี วาสนาไม่ถึง
กไ็ มเ่ หน็ อยา่ งนกี้ ม็ ี
อาตมาเหน็ โยมคนหนง่ึ อยบู่ า้ นอาตมา (บา้ นกอ่ ) บา้ นอยรู่ มิ วดั แกไปไหนมาไหน
กเ็ ดนิ ผา่ นวดั ทกุ วนั แตไ่ มร่ จู้ กั อะไร แกเคยฟงั เทศน์ กฟ็ งั แตแ่ หลม่ ทั รี แหลใ่ สห่ ู จนหู
จะหนวก กไ็ มร่ จู้ กั ธรรมะ ตอ่ มายา้ ยบา้ นไปอยอู่ ำ� เภอวานรนวิ าส โชคดที ไ่ี ดไ้ ปฟงั ธรรม
เหน็ บญุ เหน็ บาป เหน็ อนจิ จงั ทกุ ขงั อนตั ตา กลบั มาคราวนเ้ี ลยบวชเปน็ พระ แกบอกวา่
“มนั ชวั่ จรงิ ๆ ครบั ทา่ นอาจารย”์ นแ่ี หละอยใู่ กลว้ ดั นา่ จะไดบ้ ญุ ไดก้ ศุ ล แตไ่ มร่ เู้ รอื่ ง สมกบั
ทท่ี า่ นวา่
กบเฒา่ นัง่ เฝา้ กอบัว อยู่บนหัวกลิ่นบวั บ่ตอ้ ง
แมงภู่ง่องบนิ ผ่านแอว่ มา เอาเกษาดอกบวั ไปจอ้ ย
กบอยกู่ อบวั แตไ่ มร่ จู้ กั บวั ดอกบวั จะบานจะตมู จะรว่ งจะโรยกไ็ มร่ เู้ รอ่ื ง วนั ดคี นื ดี
อาจโดนดา้ มเสยี มเขาหรอก นฉ้ี นั ใด ตาแกค่ นนน้ั กเ็ หมอื นกนั อาตมาเคยเทศนใ์ หฟ้ งั วา่
กบเฒ่านงั่ เฝ้ากอบวั นบ่ี รรพบุรุษเราท่านวา่ ไว้ถกู อยู่ใกลว้ ัดใกลว้ านา่ จะรู้จกั ธรรมะ
แตไ่ มร่ เู้ รอื่ งเลย หนจี ากบา้ นไปอยทู่ อี่ ำ� เภอวานรฯ จงึ ไดไ้ ปฟงั เทศนพ์ ระกรรมฐานทโี่ นน่
นที้ า่ นวา่ ธมั โม จะ ทลุ ละโภ โลเก การทจ่ี ะไดฟ้ งั ธรรมพระพทุ ธเจา้ เปน็ การยาก การทำ� บญุ
จะถกู บญุ นกี้ ย็ าก นก้ี ล็ ำ� บาก บญุ กศุ ลจะเกดิ ขน้ึ กบั จติ ใจกย็ ากลำ� บาก เพราะอะไร เพราะ
กระจกเรามนั ไมส่ ว่าง ยงั ไม่มีปัญญา พวกเราจงเข้าใจ
511
พระพุทธเจ้าของเราทรงเคยเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง ต้ังแต่เป็นสัตว์สาวาส่ิงขนาด
นกกระจาบ โตถงึ ชา้ ง หรอื ในระหวา่ งทเ่ี ปน็ มนษุ ย์ ทา่ นกเ็ ปน็ หมดทกุ อยา่ ง เปน็ คนรำ่�
คนรวย เปน็ คนยากคนจน ทา่ นกไ็ ดผ้ า่ นมา เรากเ็ หมอื นกนั จะอยปู่ า่ อยเู่ ขา ไมร่ จู้ กั ศลี
รจู้ กั ธรรมกไ็ มต่ อ้ งนอ้ ยอกนอ้ ยใจ เพราะบญุ ของเรามอี ยเู่ ทา่ นนั้ แตเ่ ราสามารถทำ� ดไี ด้
ถา้ จะทำ� มอื เรากม็ ี รา่ งกายเรากม็ ี ตาหเู รากม็ ี ไดเ้ หน็ ไดย้ นิ ไดฟ้ งั มผี แู้ นะนำ� พรำ่� สอนอยู่
นเี้ รยี กวา่ สะสมทนุ ของเรา คอื เราจะลงมอื ทำ� มาคา้ ขายวนั ไหนกไ็ ด้ เพราะสมบตั เิ รามแี ลว้
มีสมบตั ิแล้ว มีเครอื่ งรบั แล้ว เม่อื ไดข้ องไมด่ ี เราท�ำให้มนั ดีได้ มันผิด ทำ� ใหถ้ ูกก็ได้
มนั แกไ้ ด้
พระพทุ ธเจา้ หรือสาวกทง้ั หลายกด็ ี ทา่ นไมไ่ ด้เปน็ พระอรหันตม์ าก่อน ทา่ นเคย
เป็นชาวไร่ชาวนา ขีเ้ หล้าเมายา เป็นคนลักเลก็ ขโมยนอ้ ยมาเหมอื นกนั คือยงั ไม่ร้จู กั
บาป บญุ คณุ โทษ คนไมร่ จู้ กั กท็ ำ� อะไรไดท้ กุ อยา่ ง แตเ่ มอื่ รแู้ ลว้ ทา่ นกเ็ ลกิ ทา่ นกล็ ะ
ถอนออกมาได้ ฟงั ธรรมแลว้ เข้าใจ รูน้ ั่นรู้น่ี ตรสั รธู้ รรมะได้
เรอ่ื งตรสั รธู้ รรมะ เราไดย้ นิ วา่ พระพทุ ธเจา้ ตรสั รธู้ รรมะ กน็ กึ วา่ เปน็ เรอื่ งของทา่ น
ทกุ อยา่ ง ไมใ่ ชน่ ะ เปน็ เรอื่ งของเราทกุ คนกไ็ ด้ อนั ไหนรแู้ ลว้ ละนน่ั แหละเปน็ เครอื่ งหมาย
ของเรา เหมอื นเราเคย้ี วกนิ อะไรบางอยา่ ง รสู้ กึ คนั รแู้ ลว้ กค็ ายทง้ิ ความรชู้ นดิ นแ้ี หละ
ปุถชุ นเราควรรู้ เหมือนหวั กลอย เมือ่ รวู้ ่ามนั คนั กินไมไ่ ด้ เรายงั จะกินอย่หู รือ ก็มีแต่
จะทิ้งเท่านั้น มันรู้อย่างนี้แหละ
ทนี ร้ี ซู้ ง้ึ เขา้ ไปกวา่ นน้ั อกี รวู้ า่ อนั นด้ี ี อนั นไ้ี มด่ ี มนั ผดิ ไมเ่ ปน็ ประโยชน์ เดอื ดรอ้ น
ท้งั แกต่ นและผ้อู นื่ พจิ ารณาแล้วรูไ้ ด้ นี้เรียกวา่ ความรู้อนั หน่ึง ถ้ามันรูต้ ามความเป็น
จรงิ แลว้ ไมม่ อี ะไรสามารถคลคี่ ลายจติ ใจของเราได้ อยา่ งเราจะทำ� ดี ใครวา่ ไมด่ อี ยา่ งไร
เรากไ็ มท่ ง้ิ เราทำ� ถกู อยู่ ใครวา่ ผดิ เรากไ็ มท่ ง้ิ เราไมบ่ า้ เขาวา่ บา้ เรากไ็ มท่ ง้ิ ไปเปน็ บา้
อยา่ งเขาวา่ แตค่ นเราชอบทง้ิ เจา้ ของ เราไมบ่ า้ เขาวา่ บา้ กโ็ กรธ เลยเปน็ บา้ อยา่ งเขาวา่
เราทำ� ดเี ขาวา่ ไมด่ ี ไปโกรธเขา เลยไปเอาของไม่ดกี ับเขา มนั ท้งิ เจา้ ของอย่างนแี้ หละ
ไมร่ ูต้ ามความเปน็ จรงิ ของเจา้ ของ
512
ภาษาธรรมะที่พระพุทธเจ้าท่านสอนนั้น ก็สอนให้แก่พวกเราท้ังหลายน้ีแหละ
พวกเราทเี่ ปน็ ปถุ ชุ นใหเ้ ปน็ อรยิ ชน เหมอื นเราจะสรา้ งบา้ นเรอื น เรากต็ อ้ งหาสง่ิ ทย่ี งั ไม่
ส�ำเร็จ จะเป็นเสาเป็นขื่อเปน็ แป ฯลฯ มันไมไ่ ดส้ �ำเร็จมาเลยทเี ดยี วหรอก เราต้องไป
แปลงสภาพมนั ขึ้นมา เสาเรือนกด็ ี เดิมเกิดจากไม้ท่มี ันยาวมนั คดอยู่ ซึ่งรวมอยกู่ ับ
ตน้ ไมน้ น่ั แหละ เราตอ้ งไปเลอ่ื ย ไปแปรรปู ออกมา คนฉลาดกส็ ามารถนำ� เอามา สรา้ ง
บ้านเรือนได้
เรากเ็ หมอื นกนั ยงั เปน็ ปถุ ชุ นอยู่ มลี กู มเี มยี มอี ะไรตา่ งๆ เปน็ ธรรมดาของโลก
แตถ่ า้ เรารจู้ กั การภาวนา รจู้ กั ธรรมะแล้ว ก็สามารถระบายสิ่งทีไ่ มด่ ี สิง่ ทผี่ ิดออกได้
ไม่วนั น้ีกพ็ รงุ่ น้ี ไม่น้อยกม็ าก เหมือนกับเราแบกของหนัก เมอ่ื เอาทิง้ ไปทีละนอ้ ยๆ
ท้ิงบ่อยๆ มันก็เบาได้ เม่ือท้ิงไปๆ ผลท่ีสุดก็วางหมด เหมือนกับเราแบกไม้ฟืน
นนั่ แหละ เมอื่ ถงึ กระท่อมก็ทง้ิ โครมเลย มนั ก็เบาเห็นไหมล่ะ นค่ี วามเบาเปน็ อยา่ งนี้
ความชวั่ ทง้ั หลายทเ่ี ราทำ� มามนั หนกั ใจของเรา เราคอ่ ยฝกึ หดั ปฏบิ ตั ไิ ปๆ ใจมนั
ก็คอ่ ยสว่างไสว ของยากกเ็ ลยกลายเป็นของงา่ ย ของมดื มันกส็ ว่าง ของสกปรกมัน
กส็ ะอาด รจู้ กั หลักประพฤตปิ ฏิบตั ิอย่างน้ัน ร้เู ร่อื งอย่างน้ันก็คือธรรมะ ถ้าไมร่ ู้เร่อื ง
ท่านบอกว่า อนจิ จงั ทกุ ขงั อนตั ตา อยา่ งนี้ เราก็ไมร่ ้อู ะไร
คนเราถา้ ไมไ่ ดอ้ บรมธรรมะ กเ็ หมอื นกบั นกั มวยทไ่ี มไ่ ดซ้ อ้ ม หรอื เหมอื นหมอลำ�
ทไี่ มไ่ ดเ้ รยี น ถงึ เวลากข็ นึ้ เวทเี ลยจะเปน็ อยา่ งไร จะนา่ ฟงั ไหม จะนา่ ฟงั ไดอ้ ยา่ งไร เพราะ
ไมไ่ ดท้ อ่ งกลอนลำ� เลย มวยไมไ่ ดซ้ อ้ มกเ็ ชน่ กนั พอขน้ึ เวที คชู่ กเขากจ็ ะเลอื กชกเอาตาม
ใจชอบ นนั่ แหละ
ฉนั ใด เราอยกู่ บั ลกู หลาน กบั สงิ่ ของ สกนธร์ า่ งกาย ลว้ นแตเ่ ปน็ ของไมจ่ รี งั ยง่ั ยนื
เปน็ อนจิ จงั คอื ไมเ่ ทยี่ ง วนั นเี้ สยี ไป พรงุ่ นไ้ี ดม้ า วนั นดี้ ใี จ พรงุ่ นเ้ี สยี ใจ มนั เปน็ อยา่ งนี้
เปล่ียนไปเปล่ียนมา เพราะอนิจจัง มันไม่เที่ยง ไม่แน่นอน ทั้งภายนอกภายใน
สกนธ์ร่างกาย ไม่แน่นอนทั้งน้ัน วันนี้ดี พรุ่งน้ีอาจเจ็บโน่นปวดน่ีก็ได้ มันเป็น
อยู่อย่างน้ัน ถ้าคนไม่เข้าใจก็น้อยอกน้อยใจในส่ิงเหล่านี้ว่า ท�ำไมจึงเป็นอย่างน้ี
513
อชั ฌตั ตา ธมั มา ธรรมภายใน ของภายในคอื สกนธร์ า่ งกายของเรานี้ บางทเี จบ็ โนน่ ปวด
นี่ เจ็บขา ปวดท้อง มันไมแ่ น่นอน พหทิ ธา ธัมมา ธรรมภายนอก คือของผู้อ่นื หรอื
สง่ิ ของต่างๆ เชน่ ต้นไม้ ภูเขา เป็นต้น
พวกเรามที ง้ั โยมผหู้ ญงิ โยมผชู้ ายกเ็ หมอื นกนั ถา้ พดู ไมถ่ กู ใจกโ็ กรธ ถา้ พดู ถกู ใจ
กห็ วั เราะ เอามะขามเปรยี้ วมาใหท้ าน กห็ ลบั ตาหยไี ปทกุ คนเหมอื นกนั นน่ั แหละ ถา้ หวาน
กห็ วานเหมอื นกนั มนั เหมอื นกนั โดยสณั ฐาน ลกั ษณะจติ ใจนกี้ เ็ หมอื นกนั สงิ่ ทง้ั หลาย
เหลา่ นี้แหละท่เี ราอาศยั อยู่ เคยรู้เรื่อง แต่คนเราไมเ่ ป็นอย่างนั้น อันนี้ของเรา อันนน้ั
ของเขา อนั นขี้ องฉนั อนั นนั้ ของคณุ เกดิ เรอ่ื งเกดิ ราวจนยงิ กนั ฆา่ กนั ความจรงิ มนั ไมม่ ี
อะไรสกั อยา่ ง เมอื่ ยงั อยกู่ ท็ ำ� มาหากนิ ไป ผลทสี่ ดุ แลว้ กไ็ มไ่ ดเ้ อาอะไรไปหรอก ตอนมา
กไ็ มไ่ ดเ้ อาอะไรมา เวลาไปกไ็ มไ่ ดเ้ อาอะไรไป ทำ� มาไวต้ รงนกี้ ท็ งิ้ ตรงนี้ ถา้ คนรจู้ กั ธรรมะ
แล้วก็ผ่อนผนั ได้ อภยั กนั ได้ บางสงิ่ บางอยา่ งผไู้ ม่ร้อู ะไรก็เอาแลว้ ไม่ยอมกัน
อาตมาเคยเหน็ หมาตวั หนงึ่ เอาขา้ วใหม้ นั กนิ มนั กนิ แลว้ กนิ ไมห่ มด มนั กน็ อนเฝา้
อยูต่ รงน้ัน อิ่มจนกนิ ไมไ่ ดแ้ ลว้ กย็ งั นอนเฝา้ อยตู่ รงนัน้ แหละ นอนซมึ ประเดี๋ยวก็
ชำ� เลอื งตาดอู าหารทเ่ี หลอื ถา้ หมาตวั อนื่ จะมากนิ ไมว่ า่ ตวั เลก็ ตวั ใหญก่ ข็ .ู่ .. โอ.้ ..ไกจ่ ะ
มากนิ ก.็ ..โฮง่ ๆๆ ทอ้ งจะแตกอย่แู ล้ว จะใหเ้ ขากินก็ไมไ่ ด้ หวงไว้
มาดคู นกเ็ หมอื นกนั ถา้ ไมร่ จู้ กั ธมั มะธมั โม กไ็ มร่ จู้ กั ผนู้ อ้ ยผใู้ หญ่ ถกู กเิ ลสคอื โลภะ
โทสะ โมหะ เข้าครอบงำ� จิตใจ แมจ้ ะมสี มบตั มิ ากมายก็หวงไว้ ไม่ร้จู กั เฉลีย่ เจอื จาน
แม้แต่จะใหท้ านแกเ่ ดก็ ยากจน หรือคนชราท่ไี มม่ จี ะกนิ กย็ าก อาตมามาคดิ ดูว่ามัน
เหมอื นสัตว์จรงิ หนอ คนพวกนไ้ี มม่ ีคณุ สมบตั ิของมนษุ ยเ์ ลย พระพทุ ธองค์ตรัสว่า
มนษุ ยด์ ริ จั ฉาโน มนษุ ยเ์ หมอื นสตั วด์ ริ จั ฉาน เปน็ อยา่ งน้ี เพราะขาดความเมตตา กรณุ า
มุทติ า อุเบกขา
ฉะนน้ั พระพทุ ธเจา้ จงึ วา่ ใหพ้ ากนั มศี ลี ความมศี ลี ดอี ยา่ งไร บางคนวา่ มศี ลี แลว้
จะไปสวรรค์ ไปนพิ พาน เรอ่ื งสวรรคเ์ รอ่ื งนพิ พาน กค็ อื เรอื่ งความสขุ หรอื ความดที งั้ หลาย
ถ้ามีศีลธรรมแล้วอยู่กันสบาย ไม่ก่อกวน ไม่สร้างความเดือดร้อนใส่หมู่ใส่คณะ
514
ใสบ่ ้านใสเ่ มอื ง ใส่พี่ปา้ นา้ อา ใส่เจา้ ใสน่ าย บา่ วไพร่ ราษฎร ไม่มี ถ้าเรามีศีลธรรม
ก็อยู่เย็นเป็นสุข สมกบั ทีพ่ ระท่านวา่
สีเลนะ สุคะติง ยันติ สีเลนะ โภคะสัมปะทา
สเี ลนะ นพิ พุติง ยันต ิ ตสั มา สลี ัง วิโสธะเย
เวลาใหศ้ ลี สดุ ทา้ ย ทา่ นสรปุ อยา่ งน้ี พวกเราวา่ มว้ นศลี (สรปุ หรอื บอกอานสิ งส)์
ทำ� ไมจงึ วา่ มว้ นศลี กเ็ หมอื นเราสานตะกรา้ นน่ั แหละ สานแลว้ เรากม็ ว้ น (ขมวด) ปากมนั
แลว้ ท�ำหใู ส่ ท�ำสายใส่
สเี ลนะ สคุ ะตงิ ยนั ติ จะมคี วามสขุ เพราะศลี มคี วามสขุ เพราะทำ� ถกู นายจา้ งกบั
ลกู จา้ งมคี วามซ่ือสตั ยต์ อ่ กัน หรือบ่าวไพร่ราษฎร พีน่ อ้ งก็ซ่ือสัตยต์ อ่ กัน มันก็สบาย
เทา่ นนั้ สเี ลนะ โภคะสมั ปะทา สมบตั ทิ งั้ หลายกม็ ขี นึ้ มา ถงึ มนี อ้ ยกส็ บาย มหี ลายกไ็ ม่
ลำ� บาก ไม่แกง่ แย่งกนั นี่คือความสบาย
ถา้ พดู ถงึ ศลี เอากระเปา๋ วางไวร้ มิ ทางกไ็ มห่ าย ของอยบู่ า้ นกไ็ มห่ าย สบาย ถา้ คน
ไมม่ ศี ลี ละ่ อยใู่ นกระเปา๋ กางเกงมนั ยงั แยง่ เอาเลย คนแกข่ น้ึ รถไฟเอาสตางคใ์ สก่ ระเปา๋
เสรจ็ พวกนนั้ คนแกต่ กรถเลย นี่ ถา้ ไมม่ ศี ลี มนั เดอื ดรอ้ นอยา่ งนี้ มนั เปน็ ทกุ ขะตงิ ยนั ติ
ไมใ่ ช่ สุคะตงิ ยันติ ทุกขเ์ พราะเบียดเบียนกัน กูเอาของมึง มงึ เอาของกู ท่านวา่
สีเลนะ สคุ ะตงิ ยันติ สเี ลนะ โภคะสมั ปะทา เพราะฉะนนั้ ผู้มนี อ้ ยก็สบายตามนอ้ ย
ผมู้ มี ากกส็ บายตามมาก เหมอื นสตั วห์ รอื แมลงบางจำ� พวก มี ๒ ขาเทา่ มนษุ ยน์ กี้ ส็ บาย
มสี ขี่ ากส็ บาย มหี ลายขาเหมอื นกง้ิ กอื มนั กส็ บาย โดยเฉพาะในกลมุ่ ผมู้ ศี ลี ใครมมี าก
กส็ บาย ใครมนี อ้ ยกส็ บาย จะไปหาทไ่ี หนกนั ละ่ ไมใ่ ชช่ าตหิ นา้ ไมใ่ ชช่ าตไิ หน ชาตปิ จั จบุ นั
นแ้ี หละ ถา้ พากนั สรา้ งบญุ สรา้ งกศุ ลคอื สรา้ งจติ ใจของตน คนทกุ วนั นสี้ รา้ งบญุ ไมร่ จู้ กั วา่
บญุ อยตู่ รงไหน ไมร่ เู้ รอ่ื ง พากนั ไปทำ� บญุ กไ็ ปรน่ื เรงิ สนกุ สนาน กนิ เหลา้ เมายา กเ็ สรจ็ กนั
แค่น้นั สนกุ เท่านน้ั
บุญกุศลคือความดี ไม่ก่อกวน ไม่สร้างความเดือดร้อนวุ่นวาย ดังน้ันจึงว่า
เราไมเ่ คยไดฟ้ งั ธรรมพระพทุ ธเจา้ เลย เวลาของหาย ลกู ตายเมยี ตาย จงึ พากนั รอ้ งไห้
515
ตาเปยี กตาแฉะ ทำ� ไมถึงเป็นอย่างน้นั เพราะไมไ่ ด้ฝกึ ไว้ ไมไ่ ด้ซ้อมไว้ ไมร่ วู้ า่ ของมนั
เกดิ ได้ตายได้ มนั หายเป็น มันเป็นเรอ่ื งธรรมดาจริงๆ นะ ดูซิ บา้ นไหนเมอื งไหน
มนั ก็เป็นอยา่ งน้ี
พระพทุ ธเจ้าทา่ นใหม้ าภาวนา ภาวนาคืออะไร คอื มาท�ำจิตใจให้สงบเสียกอ่ น
ปกตใิ จมนั มอี ะไรหมุ้ หอ่ อยู่ เปน็ ใจทยี่ งั เชอ่ื ไมไ่ ด้ ถา้ มาทำ� ใหส้ งบแลว้ มนั จะเกดิ ความ
รสู้ กึ ขนึ้ มา ใจมนั สบาย สงบ มนั จะแสดงอะไรออกมา เหน็ รปู เหน็ เวทนา เหน็ สญั ญา
เห็นสังขาร เหน็ วญิ ญาณ มนั จะคอ่ ยพิจารณาไป เกดิ ความรวู้ ่า อันนม้ี ันพาดีพาไมด่ ี
พาผดิ พาถกู ทา่ นใหพ้ จิ ารณาอนั นก้ี อ่ น เรยี กวา่ สมถภาวนา เมอื่ ใจเราสบาย มนั สวา่ ง
มันขาว มันสงบ ความนึกคิดที่จิตใจก็สบายขึ้น มันต่างจากความนึกคิดของคนท่ี
ไมส่ บายใจ มคี วามโลภ ความโกรธ ความหลงอยใู่ นใจ คอื คนนกึ คดิ ไมด่ ี ใจไมส่ บาย
คดิ ไปทวั่ คดิ จนไมไ่ ดห้ ลบั ไมไ่ ดน้ อน คดิ ไปสารพดั คดิ แตเ่ รอ่ื งไมส่ บายนนั่ แหละ ถา้ ใจ
สบายละ่ คิดไปไหนก็มแี ตเ่ รอื่ งสบายเรื่องสงบ เรอ่ื งระงับ มแี ต่เรอ่ื งเป็นประโยชน์
ทั้งน้นั ถา้ จติ ใจมันเป็นแลว้ กเ็ ป็นอย่างนั้น ดังน้ันทา่ นจงึ ให้พิจารณาเรียกว่า ภาวนา
อยา่ งพวกเราทง้ั หลายทพ่ี ากนั ทำ� วนั นี้ บางคนอาจไมเ่ คยทำ� เลย เคยแตไ่ ปเรยี น
เอาคาถากบั คนนนั้ คนน้ี ไดค้ าถาแลว้ กไ็ ปภาวนาใหพ้ อ่ ใหแ้ ม่ ใหค้ นโนน้ คนนี้ สตั วโ์ นน้
สตั วน์ ี้ ใหต้ นเองไม่มี ตนไมม่ คี วามดแี ตจ่ ะใหค้ วามดีแก่คนอื่น จะเอาความดที ี่ไหน
ไปใหเ้ ขา อยา่ งเราจะภาวนาใหพ้ อ่ แมห่ รอื ใครกต็ าม ทงั้ ทม่ี ชี วี ติ อยหู่ รอื ลว่ งลบั ไปแลว้
เบื้องแรกเราต้องภาวนาให้ตัวเองก่อน เพ่ือช�ำระความช่ัวออกจากจิตใจ ให้ความดี
ปรากฏขนึ้ ในตวั เรา ตอ่ จากนนั้ จงึ แผค่ วามดที ต่ี นมตี นไดใ้ หแ้ กค่ นอน่ื อยา่ งนจี้ งึ จะสำ� เรจ็
ประโยชนไ์ ด้ ไม่ใชว่ า่ ใหท้ ัง้ ๆ ท่ตี นเองไม่มี นี่คือความเขา้ ใจผิด ภาวนาแลว้ กไ็ ม่เกดิ
ประโยชน์อะไร
การภาวนา คอื ทำ� ใหเ้ กดิ ขน้ึ มขี นึ้ ทไ่ี มร่ ทู้ ำ� ใหม้ นั รู้ ทไ่ี มด่ ที ำ� ใหม้ นั ดี ใจเปน็ บาป
เป็นกรรมท�ำให้เป็นบุญเป็นกุศล การสร้างบุญ ไม่ใช่ท�ำโดยการให้ทานอย่างเดียว
การรกั ษาศลี การเจรญิ เมตตาภาวนา การฟงั ธรรมเหลา่ นเี้ ปน็ บญุ ทง้ั หมด เปน็ เหตทุ จ่ี ะ
ใหบ้ ุญเกิด บางคนจะท�ำบุญแต่ละที กค็ อยแต่จะใหม้ ีเงนิ มากๆ เสยี ก่อน เลยไมไ่ ด้
516
ท�ำสกั ที เห็นคนอื่นทำ� ก็ออนซอน๑ กับท่าน คดิ วา่ เพิ่นบญุ หลายหนอ คนไม่รู้จักบญุ
บญุ ไมใ่ ชอ่ ยา่ งนน้ั การละความชว่ั ละความผดิ มนั กเ็ ปน็ บญุ แลว้ การรกั ษาศลี การเจรญิ
ภาวนา การฟงั พระธรรมเทศนา ทำ� ใหเ้ กดิ ความเฉลยี วฉลาดขน้ึ มา เหลา่ นกี้ ท็ ำ� ใหเ้ กดิ
บญุ ขน้ึ ได้ แลว้ คนเราสมยั นเ้ี ขา้ ใจวา่ การทำ� บญุ กค็ อื การใหท้ านเทา่ นน้ั เพราะสว่ นมาก
ไดย้ นิ พระทา่ นเทศนเ์ รอ่ื งทานบารมี ทานอปุ บารมี ทานปรมตั ถบารมี แตไ่ มไ่ ดอ้ ธบิ ายให้
เกิดความเข้าใจ
คนสว่ นมากจงึ มกั เขา้ ใจกนั วา่ การทำ� บญุ คอื การนำ� เอาสงิ่ ของไปถวายพระมากๆ
คนยากคนจนกเ็ ลยท�ำไมไ่ ด้ เพราะไมเ่ ขา้ ใจภาษาบาลีดงั ทกี่ ล่าว
ความจรงิ เรอ่ื งการใหท้ านทา่ นแบง่ ไว้ ๓ ระดบั คอื การเสยี สละสง่ิ ของภายนอก
จดั เปน็ ทานบารมี การสละอวยั วะ จดั เปน็ ทานอปุ บารมี การสละชวี ติ จดั เปน็ ทานปรมตั ถ-
บารมี หรอื อกี อยา่ งหนง่ึ วา่ ยอมเสยี ทรพั ยเ์ พอ่ื รกั ษาอวยั วะ ยอมเสยี อวยั วะเพอื่ รกั ษาชวี ติ
ยอมเสียชีวติ เพ่อื รกั ษาธรรม
เหล่าน้ี ถ้าเราเขา้ ใจก็ไมม่ ปี ญั หา ไมว่ า่ คนรวยคนจนก็สามารถท�ำบุญใหท้ านได้
โดยเฉพาะทานทไ่ี มต่ อ้ งสน้ิ เปลอื งทรพั ยส์ นิ เงนิ ทองคอื อภยั ทาน ซงึ่ ทกุ คนสามารถทำ� ได้
และทานชนิดนพี้ ระพุทธเจา้ ทรงสรรเสริญด้วย ดังนนั้ การสร้างคณุ งามความดมี อี ยู่
หลายอยา่ ง ใหพ้ ากนั เขา้ ใจ บางคนคดิ วา่ การทำ� บญุ ใหท้ านไดผ้ ลอานสิ งสม์ าก กท็ มุ่ เทใส่
จนหมดเนื้อหมดตัว ไม่รเู้ รือ่ ง
สว่ นคนรเู้ รอื่ ง มขี นาดไหนกใ็ ชไ้ ปขนาดนนั้ มนั อยทู่ กี่ ารกระทำ� ถา้ ทำ� ถกู มนั เปน็ บญุ
เปน็ กศุ ลอยา่ งนนั้ แหละ ตวั อยา่ งเชน่ การชว่ ยเขาขดุ บอ่ นำ�้ รมิ ถนน เราผา่ นไปกไ็ ดเ้ หน็
เขาทำ� อะไรกช็ ว่ ยทำ� ถามวา่ ได้บุญไหม ตอบวา่ ได้ ไดอ้ ยา่ งไร การช่วยเขาขุดบอ่ นำ�้
ตอ่ ไปภายหนา้ เรากไ็ มต่ อ้ งซอ้ื นำ�้ ใครผ่านมากไ็ มต่ ้องซือ้ กนิ เพราะเป็นน�ำ้ สาธารณะ
ใหค้ วามสุขแกม่ นุษยท์ ่ัวๆ ไป อย่างนเี้ ป็นตน้
๑ ไมส่ ามารถใหค้ วามหมายในภาษากลางไดอ้ ยา่ งลกึ ซงึ้ จงึ รกั ษาศพั ทเ์ ดมิ ไว้ ความหมายคลา้ ยกบั พลอยยนิ ดี
กับคนอ่นื ในสิง่ ที่เขาทำ� ได้ แตต่ นเองไมม่ วี าสนา แตแ่ ฝงด้วยความอยากมีอยากเป็นเชน่ น้ัน
517
อย่างเราอยู่ศาลาก็ช่วยเขาปัดกวาด เขาถอนหญ้าเราก็ช่วย เขาท�ำอะไรก็ช่วย
ไปอาศยั บา้ นเขาอยกู่ เ็ หมอื นกนั จะเปน็ ๒ วนั ๓ วนั กต็ อ้ งชว่ ยเขาทำ� ในสงิ่ ทเ่ี ราทำ� ได้
นเี้ รยี กวา่ บญุ บญุ มนั อยทู่ ใ่ี จของเรา บา้ นไหนมบี ญุ เรารไู้ ด้ คนในบา้ นรจู้ กั เคารพพอ่ แม่
เคารพผ้เู ฒ่าผ้แู ก่ ท�ำอะไรกม็ ีความสขุ มีความหมาย คนไมร่ จู้ กั บญุ กว็ ุ่นวายอยนู่ ัน่
จะท�ำบุญแต่ละคร้ังต้องฆ่าเป็ด ฆ่าไก่ ฆ่าวัว ไม่รู้จักเสียเลยจริงๆ บุญไม่ล�ำบาก
อยา่ งนน้ั นะ งา่ ยๆ ทำ� ไปแลว้ สบาย คดิ ขนึ้ มาตอนไหนกส็ บายใจ จะอยบู่ า้ นไหนเมอื งไหน
กส็ บาย ไมท่ ะเลาะเบาะแวง้ กนั ถา้ เขา้ ถงึ ธรรมะแลว้ เปน็ อย่างนัน้
โยมผู้ชายก็รู้เรื่องโยมผู้หญิง โยมผู้หญิงก็รู้เรื่องโยมผู้ชาย คนหน่ึงโมโห
อีกคนหนึ่งก็เฉยเสีย ปล่อยเสีย มันก็สบาย ถ้าไม่รู้จักศีลรู้จักธรรมก็ทะเลาะกัน
ทง้ั เชา้ ทง้ั เยน็ กหู นงึ่ มงึ สอง ไมร่ จู้ กั หยดุ ผลทส่ี ดุ กพ็ งั มนั กเ็ ดอื ดรอ้ น ถา้ รจู้ กั ศลี รจู้ กั
ธรรม ไมต่ อ้ งเถยี งกนั หรอก พดู กนั คำ� สองคำ� กร็ เู้ รอ่ื ง หยดุ มคี วามเคารพกนั อยา่ งนนั้
ผไู้ มม่ ศี ีลมีธรรมกด็ นั กนั อยูน่ ั้นแหละ กสู อง มงึ สาม กูสี่ มึงห้า เอาตลอดคนื เลย
อย่างน้ีเรียกว่าหาความไม่ดีมาใส่ตัวเอง คือยังไม่เข้าใจธรรมะ ถ้ารู้จักธรรมะแล้ว
โยมผู้หญงิ ผชู้ ายอยดู่ ้วยกนั สบาย ซ่อื สัตย์ตอ่ กัน จะพูดอะไรก็พดู แตค่ ำ� จริงค�ำสัตย์
ไม่นอกใจกนั อันไหนผิดไปแลว้ กใ็ หม้ นั แล้วกนั ไป อย่าเกบ็ เอามาพดู มันกจ็ บ อนั น้ี
ไมอ่ ย่างน้ัน ของเก่าต้งั แต่สมัยไหนกข็ ดุ ค้นมาวา่ กนั จนเกดิ ทะเลาะกันวุ่นวาย
อยู่ในวัดวาอาราม พระเจ้าพระสงฆ์มีความสามัคคีกัน องค์หนึ่งพูดแล้วก็จบ
ไม่มปี ญั หา อยู่ในบา้ นในเรือนก็เหมอื นกนั พอ่ แมพ่ ูดแลว้ กแ็ ลว้ กนั น้เี รียกวา่ อ�ำนาจ
ของศลี ของธรรม ถา้ มศี ลี มธี รรมมนั งา่ ยอยา่ งน้ี สเี ลนะ สคุ ะตงิ ยนั ต.ิ .. เราจะมปี ญั ญา
พน้ จากทุกข์ไดก้ ็เพราะศีลนแี่ หละ ให้เราพิจารณาอยา่ งน้ี
เมอ่ื กอ่ น มโี ยมคนหนง่ึ เปน็ ชาวสว่ ยมาหาอาตมา ถามวา่ “ครบู าอาจารยใ์ หข้ า้ นอ้ ย
รกั ษาศลี จะให้กนิ อะไร” อาตมาตอบว่า “กก็ นิ ศีลนนั่ แหละ” กินอย่างไร แกสงสัย
เลยบอกว่า รักษาไปเถอะ เดี๋ยวกไ็ ดก้ ินหรอก แกคดิ ไมอ่ อก แยจ่ ริงๆ วันหนง่ึ แกมา
รกั ษาอโุ บสถ แกบอกว่า ไมร่ ้คู ดิ อยา่ งไรหนอ จงึ ไมใ่ ห้กนิ ข้าวเย็น ลองกนิ ดกู ็ไมเ่ หน็
เปน็ อะไร เหน็ แตม่ นั อรอ่ ยเทา่ นนั้ แกวา่ แลว้ ทำ� ไมจงึ ไมใ่ หก้ นิ แกคดิ ไป เลยลองกนิ
518
ดูว่ามันจะผิดเหมือนผีเข้าจ้าวศูนย์หรือเปล่า กินดูแล้วก็ไม่เห็นเป็นอะไร ดีเสียอีก
แกว่า ชว่ั ขนาดนนั้ กม็ ีนะคนเรา แกมารักษาศีล อาตมาเลยบอกว่า เอา้ ใหร้ ักษากัน
จรงิ ๆ ลองดู ทกุ วนั นร้ี จู้ กั แลว้ อาตมากลบั ไปเยยี่ มทภ่ี ดู นิ แดง (สาขาท่ี ๓) แกมากราบ
ทกุ ปี มาสารภาพกบั อาตมาวา่ “โอย๊ ครบู าจารย์ แตก่ อ่ นผมไมร่ เู้ รอื่ งจรงิ ๆ ครบู าจารย์
วา่ ให้กินศีล ผมไมร่ ู้เร่ือง เด๋ียวนีค้ ดิ ไดแ้ ลว้ ก็กินศลี อย่างครูบาจารย์ว่า ทกุ วนั น้ีเลย
สบาย”
คนเราใหร้ ักษาศลี รกั ษาธรรม ก็กลวั แตท่ กุ ข์ยากลำ� บาก มนั ไมใ่ ช่อยา่ งน้นั นะ
ศลี ธรรมใหค้ วามเบาความสบายแกเ่ รา ไมม่ โี ทษไมม่ ภี ยั คดิ ไปขา้ งหนา้ คดิ ไปขา้ งหลงั
กส็ บาย ถา้ มศี ลี ธรรม คดิ ไปขา้ งหลงั ความผดิ เรากร็ จู้ กั เมอ่ื รจู้ กั เรากล็ ะพวกนน้ั ตอ่ ไป
กบ็ ำ� เพญ็ คณุ งามความดี มองไปขา้ งหนา้ กส็ บาย มองไปขา้ งหลงั กส็ บาย ดงั นนั้ ความทกุ ข์
ทงั้ หลายมนั อยทู่ คี่ วามเหน็ ผดิ ถา้ เหน็ ผดิ มที กุ ขท์ นั ที ถา้ เหน็ ถกู แลว้ กส็ บาย พระศาสดา
ทา่ นจงึ ใหส้ รา้ งความเหน็ การฟงั เทศนฟ์ งั ธรรมกเ็ พอ่ื สรา้ งความเหน็ ของเรา คอื เรายงั เหน็
ไม่ถกู ตอ้ ง
ความจรงิ สงิ่ ทงั้ หลายทงั้ ปวงนน้ั มนั พอดี มนั สมำ่� เสมออยทู่ กุ สงิ่ ทกุ อยา่ ง เหมอื น
ตน้ ไมใ้ นปา่ นน่ั แหละ ตน้ ยาวกม็ ี ตน้ สน้ั กม็ ี ตรงกม็ ี คดกม็ ี ตน้ ทมี่ โี พรงกม็ ี มที กุ อยา่ ง
มันพอดขี องมนั คนต้องการตน้ คดก็ไปเอา ต้องการตน้ ตรงก็ไปเอา อยากไดต้ ้นสนั้
ตน้ ยาวกไ็ ปเอา มนั เลยพอดขี องมนั ในโลกนกี้ เ็ หมอื นกนั มที กุ สง่ิ ทกุ อยา่ ง แตเ่ ราไมร่ จู้ กั
เอามาใช้ ถา้ เอามดี มาใช้ กเ็ อาสนั มนั มาใช้ มดี เลม่ เดยี วกนั นนั่ แหละ ใชไ้ มเ่ ปน็ กไ็ มเ่ กดิ
ประโยชน์
ธรรมทง้ั หลายกเ็ หมอื นกนั ถา้ เราพจิ ารณาไมถ่ กู เรอื่ งกไ็ มไ่ ดบ้ ญุ ไมไ่ ดป้ ระโยชน์
เหมือนคนฟังธรรมไม่เข้าใจ ไม่ได้ธรรมะ ปัญญาก็ไม่เกิด เมื่อปัญญาไม่เกิด
ความเห็นถูกมันก็ไม่มี ถ้าความเห็นไม่ถูกต้อง การปฏิบัติก็ไม่เป็นผล ผลสุดท้าย
ฟังเทศนฟ์ ังธรรมก็เลยเบื่อ เพราะฟงั แลว้ ไมไ่ ด้อะไร อยา่ งนีก้ ม็ ี อันน้ีเพราะความไม่
เข้าใจในธรรมะ ถ้าเขา้ ใจในธรรมะแลว้ ไม่มีปัญหา สบาย
519
นั่นแหละทา่ นจงึ บอกวา่ ธัมโม จะ ทุลละโภ โลเก การท่ีจะไดฟ้ ังธรรมของ
พระพทุ ธเจา้ นก้ี ย็ าก คนพดู คนเทศนม์ เี ยอะ ทไี่ หนๆ กม็ ี ไมร่ วู้ า่ พดู ขนาดไหน คนปฏบิ ตั ิ
กเ็ ยอะ ไมร่ ูป้ ฏิบตั ขิ นาดไหน ไมร่ ถู้ กู หรือผิด มนั ยาก
ปพั พะชโิ ต จะ ทลุ ละโภ ฟงั ธรรมแลว้ จะไดบ้ วช ในพระศาสนานกี้ ย็ าก เหมอื นกบั
ญาตโิ ยมจะบวชลกู บวชหลานแตล่ ะที มนั หาโอกาสยาก ครน้ั บวชแลว้ จะมศี รทั ธาประพฤติ
ปฏบิ ัตติ ามธรรมค�ำสอนของพระพทุ ธเจา้ นั้นกย็ าก ดังนัน้ ทกุ วนั นม้ี ันจึงน้อยลงไปๆ
พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนให้เป็นคนมีปัญญา ถ้าไม่มีปัญญาไม่รู้เร่ืองจริงๆ
เหมอื นกบั สมยั กอ่ น มปี ระเพณกี ารทำ� ตน้ ดอกผงึ้ การทำ� บญุ ตน้ ดอกผงึ้ เปน็ ความเชอ่ื วา่
ถา้ บดิ ามารดาหรอื ญาตสิ ายโลหติ สนิ้ ชวี ติ ไปแลว้ เกรงวา่ จะไมม่ ที อี่ ยู่ แลว้ จะไดร้ บั ความ
ลำ� บาก หากลกู หลานสรา้ งปราสาทดอกผงึ้ อทุ ศิ ไปใหแ้ ลว้ กจ็ ะไดม้ วี มิ านหรอื ปราสาท
อยอู่ ยา่ งสบาย ไมน่ อ้ ยหนา้ ใครในเทวโลก กท็ ำ� กนั ไปตามประเพณี บางทที ำ� หมดขผี้ งึ้
เทา่ กำ� ปัน้ น้ี แต่เอาควายมาฆ่า เหล้าหมดไม่รกู้ ่ลี งั ท�ำกนั อย่างน้ีจะไดบ้ ญุ เม่อื ไร
ถา้ สมมตุ วิ า่ เราตาย ลกู หลานทำ� ตน้ ดอกผง้ึ ไปให้ เราจะตอ้ งการไหม นกึ อยา่ งน้ี
ก็น่าจะเขา้ ใจนะพวกเรา ตน้ ดอกผง้ึ มันจะพาไปสวรรคไ์ ปนพิ พานไดเ้ มื่อไร มนั เรอื่ ง
เกจอิ าจารย์เขยี นกันข้นึ มาว่า ท�ำอย่างน้ีได้บญุ หลาย ใครท�ำแล้วจะไดไ้ ปเกดิ เป็นน่นั
เปน็ นี่ เราลองมาพจิ ารณาดซู วิ า่ มนั มเี หตมุ ผี ลแคไ่ หน นแี่ หละคอื การทำ� ตามประเพณี
ใครๆ ก็ทำ� กนั มาอยา่ งน้ัน แลว้ ก็มกั อ้างว่าท�ำกนั มาตง้ั แต่สมยั ปู่ย่าตายาย อาตมาวา่
จะทำ� มาต้ังแต่สมัยไหนก็ตามทีเถอะ ถา้ มนั ไม่ถูกกต็ ้องทงิ้ มันท้ังหมดนีแ้ หละ
พระพทุ ธเจา้ ทา่ นใหม้ ปี ญั ญา คอื ใหร้ ตู้ ามความเปน็ จรงิ ความจรงิ ไมใ่ ชอ่ ยทู่ ก่ี าร
กระทำ� สืบๆ กนั มา ความจริงอยทู่ ่คี วามจริง เหมือนจิตใจมนั โลภ มันโกรธ มนั หลง
มนั ไม่มตี วั รู้ มนั กท็ �ำไปตามจิตท่ีมนั หลงน่นั แหละ กเ็ ลยกลายเปน็ ประเพณถี ือกนั มา
อยา่ งนนั้ อนั นน้ั มนั ประเพณขี องคน ไมใ่ ชอ่ รยิ ประเพณี ไมใ่ ชป่ ระเพณขี องพระพทุ ธเจา้
ทำ� ไปก็ไมเ่ กดิ ประโยชน์ น่ีแหละทา่ นว่าฟังธรรม แตไ่ ม่ได้ฟงั ธรรมของพระพุทธเจ้า
ฟังธรรมจากเกจิอาจารย์ เลยทำ� กนั ไปอยา่ งน้ัน
520
อย่างถึงเดือนห้าเดือนหกก็เหมือนกัน ก็ท�ำพิธีสะเดาะเคราะห์โดยท�ำกระทง
หน้าวัว ขุดเล็บมือเล็บเท้าใส่ไป ส่วนมากจะท�ำกันตามท่ีท่ีมีความเช่ือว่าจะมีผีหรือ
วญิ ญาณสงิ สถติ อยู่ เชน่ ตามทางแยกหรอื ตน้ ไมใ้ หญ่ ถา้ เปน็ สมยั นก้ี ต็ รงทม่ี อี บุ ตั เิ หตุ
เกดิ ขน้ึ บอ่ ยๆ วธิ ที ำ� คอื นำ� เอาตน้ กลว้ ยมาทำ� เปน็ กระทงสามเหลย่ี มบา้ ง สเี่ หลย่ี มบา้ ง
ตามความนยิ ม แลว้ ปกั ธงเลก็ ๆ ไวโ้ ดยรอบ ภายในมเี ครอื่ งสงั เวย เชน่ ขา้ วดำ� ขา้ วแดง
ต่อจากนั้นกเ็ ชิญหมอผหี รือคนทรงมาท�ำพิธีสวดเซน่ ผหี รือวิญญาณ มนั ไมถ่ กู หรอก
เหล่าน้ีมีแตเ่ รื่องนอกรีตนอกรอย คนอน่ื ทำ� ก็ทำ� กนั เลยไม่รเู้ รื่อง
นแ่ี หละ เพราะไมไ่ ดฟ้ งั ธรรมะของพระพทุ ธเจา้ ไปฟงั แตอ่ ยา่ งอนื่ ลว้ นแตท่ ำ� แลว้
ไมเ่ กิดประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและผู้อ่ืน ไม่มคี วามหมายอะไร สงิ่ ท้ังหลายเหล่านีม้ นั
เน่ืองจากการฟัง ทา่ นจงึ ใหฟ้ งั เหตุ ปจั จะโย อารมั มะณะปัจจะโย พระพทุ ธเจา้ ท่าน
สอนวา่ สง่ิ ตา่ งๆ มีเหตุมีปัจจัย ถ้าเหตุดผี ลก็ดี ถา้ เหตุไม่ดผี ลก็ไม่ดี เหตถุ กู ผลก็ถูก
เหตไุ ม่ถูกผลก็ไมถ่ ูก ให้ดูเหตุของมนั ผู้มปี ญั ญากต็ รสั ร้ธู รรมะ เราตอ้ งพิจารณาวา่
สมเหตสุ มผลหรอื ไม่ เหมอื นทกี่ ลา่ วมานนั้ แหละ การทำ� ตน้ ดอกผง้ึ นนั้ จะกนั นรกอเวจี
ไดไ้ หม อาตมาว่า ถา้ ไมห่ ยดุ ท�ำความช่วั แล้ว มนั หยุดความผดิ ไม่ได้ ใหเ้ ราพจิ ารณา
อย่างนี้ ถ้าเรามหี ลักพิจารณาอย่างนจ้ี ะสบาย บญุ ก็จะคอ่ ยเกดิ ขนึ้ จะคอ่ ยรคู้ ่อยเหน็
เร่ือยๆ ไป
ทกุ วนั นบี้ รษิ ทั บรวิ ารของพวกเราทง้ั หลาย คอื ภกิ ษุ ภกิ ษณุ ี สามเณร สามเณรี
อบุ าสก อบุ าสกิ า พระ เณร อบุ าสก อบุ าสกิ า บรษิ ทั ๔ ยงั มอี ยู่ แตก่ น็ อ้ ยไป หมดไป
เราสังเกตได้ง่ายๆ ว่า ทุกวันน้ีนักบวชนักพรตที่เป็นเนื้อนาบุญของพวกเราท่ีเป็น
สปุ ฏปิ นั โน ปฏบิ ตั ดิ ี อชุ ปุ ฏปิ นั โน ปฏบิ ตั ติ รง ญายปฏปิ นั โน เปน็ ผปู้ ฏบิ ตั เิ พอื่ พน้ ทกุ ข์
หาดซู ิ มีไหม
ทกุ วันนี้เราอ่านธรรมะกนั ท้งั นน้ั แหละ แต่เป็นธรรมทีแ่ ต่งขนึ้ ภายหลัง เราฟัง
ไมเ่ ขา้ ใจ หรอื เขา้ ใจไปอยา่ งอน่ื อยา่ งบางตำ� รากลา่ ววา่ พระยาธรรมจะมาตรสั และจะ
นำ� ตะแกรงทองคำ� มารอ่ น เรากเ็ ข้าใจวา่ เปน็ ตะแกรงทองค�ำจรงิ ๆ ซง่ึ เปน็ ความเข้าใจ
ที่ไม่ถูกต้อง แม้แต่เร่ืองพระยาธรรมก็เช่นกัน พากันเข้าใจว่าจะต้องคอยจนกว่า
521
พระศรีอารยเมตไตรยมาตรสั อันนมี้ ันไกลไป ไม่ใช่พระยาธรรมองค์นั้น ในท่นี ้ที า่ น
หมายถงึ จะมีครบู าอาจารย์ท่ีประพฤติดปี ฏิบัติชอบมาประกาศธรรมะ มาชว่ ยบอกว่า
อนั นน้ั ผดิ อนั นั้นถกู เรยี กว่ารอ่ น คนไหนปญั ญาน้อย นกึ ไมถ่ ึง ไม่เช่ือกห็ ลุดไปๆ
พระยาธรรมก็คอื เรือ่ งธรรมะนนั่ เอง คือธรรมะอันแท้จริงจะคอ่ ยพ้นขน้ึ มา
สิ่งทง้ั หลายทั้งปวง เม่อื เจรญิ ขน้ึ มนั กเ็ สอ่ื ม เหมอื นมะมว่ ง ขนนุ เมอื่ สุกเตม็ ที่
มนั กห็ ลน่ พอเมลด็ ถกู ดนิ กเ็ ปน็ ตน้ งอกขน้ึ มาใหมอ่ กี ฉนั ใด ธรรมะถา้ เสอ่ื มเตม็ ทแี่ ลว้
กจ็ ะเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าขน้ึ มา สาวกของพระพทุ ธเจา้ กย็ งั มอี ยู่ พระศาสนาของพระองคย์ งั ไม่
จบสนิ้ เปน็ เหตใุ หก้ อ่ ธรรมทแ่ี ทจ้ รงิ ขน้ึ มาประกาศได้ เรยี กวา่ นำ� ตะแกรงทองคำ� มารอ่ น
คือน�ำธรรมะมาอธิบายแนะน�ำพร�่ำสอนประชาชนพุทธบรษัทให้เกิดความเข้าใจ ผู้ท่ี
มดื หนาปญั ญาหยาบกไ็ มค่ า้ ง เพราะไมเ่ ชอื่ ไมม่ ศี รทั ธา ไมไ่ ดพ้ จิ ารณา ถา้ ผมู้ บี ญุ วาสนา
พิจารณาดูมันจริง น้ีคือผู้ท่ีค้างตะแกรงทองท�ำ ไม่ใช่ตะแกรงที่ท�ำจากไม้ไผ่ตาม
ธรรมชาตบิ า้ นเรา ไมใ่ ชอ่ ยา่ งนนั้ คำ� สอนของพระพทุ ธเจา้ จะมาชกั จงู พวกเราทง้ั หลาย
หมายความวา่ ธรรมะจะเจรญิ ขน้ึ ๆ ท่ีจมก็จมไป ทีฟ่ ูก็ฟขู ้นึ
เดย๋ี วนเี้ ราจะหาทพี่ งึ่ ไมไ่ ดแ้ ลว้ อยา่ งนกั บวชนกั พรต ลกู หลานของเรามาบวชกนั
ทกุ วนั น้ี สว่ นมากกบ็ วชเจด็ วนั สบิ หา้ วนั เทา่ นน้ั แหละ แลว้ กส็ กึ ไปๆ เลยไมม่ ใี ครอยวู่ ดั
วดั เลยไมเ่ ปน็ วดั เพราะไมม่ ใี ครอบรมสง่ั สอนกนั ไมม่ ที เี่ กาะทยี่ ดึ ทมี่ น่ั หมาย เพราะขาด
กรรมฐาน ขาดการภาวนา ขาดการอบรมบ่มนิสัย มันขาดอย่างนี้ เลยมีแต่เร่ือง
เดอื ดรอ้ นกระวนกระวาย การบวชสว่ นมาก กบ็ วชกันตามประเพณีช่ัวคราว ทกุ วนั นี้
วดั กเ็ ลยเปน็ เหมอื นคกุ เหมอื นตะราง เขา้ ไปกร็ อ้ นทนั ทอี ยไู่ มไ่ ด้ ทที่ ม่ี นั เยน็ เลยกลบั เปน็
ทรี่ อ้ นทุกวันนี้ ท่ีถกู ก็เลยกลายเป็นผิด เพราะคนไม่ได้อบรมธรรมะ ดังน้ัน พวกเรา
ทั้งหลายจึงขอใหเ้ อาไปพินจิ พจิ ารณาให้มันดีๆ
ทกุ วนั นน้ี บั วนั จะยาก เพราะโลกกบั ธรรมะมนั แขง่ กนั ฝา่ ยโลกเขามอี ะไรบา้ ง ของกนิ
มหี ลายสงิ่ หลายอยา่ ง ของทจ่ี ะฟงั กเ็ ยอะ สงิ่ ทจ่ี ะดกู เ็ ยอะแยะไมเ่ หมอื นสมยั กอ่ น ทนี ้ี
หนั มาดทู างธรรมะมอี ะไรบา้ ง มแี ตเ่ รอื่ งปญั ญาบารมี ปญั ญาอปุ บารมี ปญั ญาปรมตั ถบารมี
ฟงั กันไมร่ ู้เร่อื ง มันจึงไม่เข้าถึงสนั หลังของมนษุ ย์ทุกวันนี้ เลยไม่รูเ้ รอ่ื งรรู้ าว
522
ความจรงิ เรอ่ื งปญั ญาบารมี กร็ วมอยใู่ นบารมี ๑๐ มี ทาน ศลี เนกขมั มะ ปญั ญา
วริ ยิ ะ ขนั ติ สจั จะ อธษิ ฐาน เมตตา อเุ บกขา บารมเี หลา่ นแี้ ยกออกเปน็ ๓ หมวด คอื
บารมี อปุ บารมี ปรมตั ถบารมี รวมเป็นบารมี ๓๐ ทศั ท่ีพระโพธสิ ตั วก์ อ่ นที่จะตรสั รู้
ตอ้ งบำ� เพญ็ ใหไ้ ดค้ รบบรบิ รู ณท์ กุ ๆ พระองค์ ปญั ญาบารมกี แ็ ยกเปน็ ๓ ระดบั เหมอื นกบั
ทานบารมี คือ ปัญญาระดับปกติธรรมดา ระดับกลาง และระดับสูงสดุ ตวั อย่างเช่น
ปญั ญาระดบั ศลี ขจดั กเิ ลสสว่ นหยาบ ปญั ญาระดบั สมาธิ ขจดั กเิ ลสสว่ นกลาง ปญั ญา
ระดบั สูง ขจัดกเิ ลสสว่ นละเอียด แตโ่ ดยมากฟังกนั ไม่รู้เรอ่ื ง จึงมกั จะมีปัญหา
เวลาทำ� บญุ กเ็ หมอื นกนั นมิ นตพ์ ระไปสวดมนต์ สวดมงคล สวดยงั กะอง่ึ รอ้ ง ผฟู้ งั
ไม่รเู้ ร่ืองเพราะไม่ได้อธบิ ายให้คนฟงั เข้าใจ เลยเรง่ ใหพ้ ระสวดจะไดจ้ บเรว็ ๆ แล้วรีบ
กลบั วัด เขากจ็ ะไดฟ้ งั หมอล�ำกนั สนกุ สนาน เฮฮากนั ทงั้ คนื มันจะเหลืออะไรพวกเรา
เพราะโลกมันทับถมหมดแล้ว ลกู หลานของเราทุกวันนีย้ นิ ดีในรปู เสียง กลนิ่ รส
โผฏฐพั พะ ธรรมารมณ์ เปน็ คนมกั ใหญใ่ ฝส่ งู สอนกนั ไมฟ่ งั เพราะขาดธรรมะ ฉะนนั้
ผทู้ ่ีจะได้มาอบรมบ่มนสิ ยั ทกุ วันนจี้ ึงหายาก
อาตมาถึงว่าญาติโยมเป็นผู้มีบุญมากที่มีวัดปฏิบัติอยู่ใกล้ เหมือนกับเรามี
ทนายความไวป้ ระจำ� บา้ น หรอื มแี พทยม์ หี มอประจำ� เรอื น เมอ่ื ตวั เรากด็ ี ลกู เมยี พน่ี อ้ งเรา
ไมส่ บาย กจ็ ะไดไ้ ปหาแพทยห์ าหมออนุ่ ใจ อนั นฉี้ นั ใด ความทกุ ข์ ความไมส่ บาย ความ
เดอื ดรอ้ นตา่ งๆ เราจะไดห้ าโอกาสไปฟงั เทศนฟ์ งั ธรรมตามกาลเวลา อยา่ งนอ้ ย ๗ วนั
ครง้ั หนงึ่ กย็ งั ดี ไดม้ าอบรมบม่ นสิ ยั มาไดย้ นิ ไดฟ้ งั จะไดท้ ำ� ลายความคดิ ผดิ ความเหน็ ผดิ
ของเรา ตลอดลูกหลานของเรากจ็ ะได้สร้างนิสัยปัจจยั ไปในทางคณุ งามความดี แม้
ความผิดจะมอี ยู่ กจ็ ะมีปัญญาพิจารณาเลิกละไปในวันข้างหนา้ ได้
อย่างบ้านหาดเราน้ี อาตมาเคยมาสมัยกอ่ นได้ฝกึ หัดเอาไว้ ปจั จบุ ันน้ีเดก็ ๆ ดี
ขนึ้ เยอะ พอเหน็ พระ ประณมมอื กนั เปน็ แถว แมแ้ ตเ่ ดก็ ยงั ไมน่ งุ่ ผา้ กย็ งั รจู้ กั ประนมมอื
นต่ี อ้ งหดั เอา ฝกึ เอา มนั ไดย้ นิ ไดฟ้ งั ไดร้ บั คำ� แนะนำ� พรำ�่ สอน มนั จงึ เกดิ มนั จงึ เปน็ ขน้ึ
คอ่ ยฝกึ คอ่ ยหดั จากคนหนงึ่ เปน็ สองคน นานเขา้ เลยเรยี บรอ้ ยสวยงามขนึ้ มา ทงั้ นเ้ี พราะ
อาศัยการฝึกหัด อย่างน้ีท่านเรยี กวา่ อานิสงสข์ องการอยู่ใกลว้ ัด
523
ใจเรากเ็ หมอื นกนั เราฟงั เทศนฟ์ งั ธรรมจงึ เกดิ ความรคู้ วามเหน็ ขนึ้ มา เวลากระทบ
ส่ิงโน้นสิ่งนก้ี ็มีความรู้ มปี ญั ญาพจิ ารณา การประพฤติปฏิบัติกค็ ือส่ิงเหลา่ น้ี ส่งิ ไม่ดี
ทเี่ ราทำ� มานานกค็ อ่ ยละคอ่ ยถอนมนั ไป เรยี กวา่ การประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ การปฏบิ ตั ไิ มใ่ ช่
ปฏบิ ตั เิ ฉพาะนกั บวชเทา่ นน้ั ในครงั้ พทุ ธกาลอยบู่ า้ นอยเู่ รอื น กเ็ ปน็ ผถู้ งึ พระรตั นตรยั
ถึงไตรสรณคมน์ เปน็ โสดาบัน สกทิ าคามี อนาคามี มีเยอะแยะ
บางคนคดิ วา่ จะไปทำ� บญุ ใหท้ านกไ็ มม่ เี วลา มนั ยงุ่ ยาก คนไมร่ จู้ กั บญุ บญุ เปน็ เรอ่ื ง
สรา้ งคณุ งามความดใี หเ้ จา้ ของ การสรา้ งความดไี มเ่ หน็ ยากอะไร อยา่ งเดนิ ไปเหน็ ของเขา
นกึ อยากจะได้ แตไ่ มเ่ อาเพราะกลวั ความผดิ กลวั บาป กลวั คกุ กลวั ตะราง นก้ี เ็ ปน็ การ
สร้างความดีแล้ว เป็นการสร้างความดีให้แก่ตนเอง ถ้าไม่ได้ยินไม่ได้ฟัง ก็ไปลัก
ไปฉอ้ โกงเขา กเ็ ทา่ กบั สรา้ งความชว่ั ใหแ้ กต่ วั เอง มนั บาปอยตู่ รงนน้ั บญุ อยตู่ รงนนั้ และ
การปฏบิ ตั กิ อ็ ยตู่ รงนนั้ เหน็ ความผดิ กไ็ มท่ ำ� ไปทไ่ี หนใจกเ็ ปน็ บญุ ทนี่ น้ั มคี วามฉลาด
อยใู่ นจิตของตนเอง อนั น้ีแหละทา่ นเรียกวา่ ธรรมยอ่ มรักษาผู้ปฏบิ ัติไม่ใหต้ กไปใน
ท่ีชวั่
ไมใ่ ชธ่ รรมทเี่ ราไปเรยี นเอาวชิ าอาคม ไดม้ าแลว้ กบ็ น่ กเ็ สกใสก่ อ้ นหนิ กอ้ นกรวด
แล้วก็หว่านไปให้มารกั ษาเรา ไมใ่ ช่อย่างนน้ั ที่ว่าพระธรรมย่อมรักษาผปู้ ฏิบัติไมใ่ ห้
ตกไปในทช่ี ว่ั พระธรรมคอื ใจทร่ี วู้ า่ อนั นผ้ี ดิ อนั นถ้ี กู อยา่ งนเี้ ปน็ ไปเพอื่ เบยี ดเบยี นตน
เบยี ดเบยี นคนอนื่ รอู้ ยา่ งนคี้ วามผดิ ความชว่ั กไ็ มก่ ลา้ ทำ� ทำ� ไม เพราะใจมนั รู้ รจู้ กั ผดิ
รจู้ กั ถกู นน่ั คอื ธรรมะ ถา้ เราไมท่ ำ� ผดิ ทำ� ชว่ั ธรรมะกค็ มุ้ ครองเรา ใจเรานน่ั แหละเปน็ ผรู้ จู้ กั
ธรรมะ นเี้ รยี กวา่ พระธรรมยอ่ มตามรักษา เราปฏบิ ตั ธิ รรม พระธรรมก็ตามรกั ษาเรา
ใครไมร่ จู้ กั ธรรมะ ธรรมะกไ็ มร่ กั ษา นเี้ รยี กวา่ ของรกั ษา ของรกั ษาอยทู่ ไี่ หน อยใู่ นธรรม
นัน้ แหละ
แต่คนเรามักเช่อื ของรกั ษาในท�ำนองไสยศาสตร์ โดยเฉพาะเมือ่ เจอพระธดุ งค์
มกั จะมโี ยมไปขอของรักษา คือคาถาอาคมกันภตู ผปี ีศาจเพอื่ ใหต้ นแคลว้ คลาดจาก
ภยันตราย ในท�ำนองเดียวกันก็มีการเอาอกเอาใจผีบ้านผีเรือนโดยการท�ำหิ้งบูชา
ซ่งึ แฝงตวั ปรศิ นาวา่ ขันห้า ขันแปด (นา่ จะมคี วามหมายว่า ศลี ห้า ศีลแปด) เพราะ
524
คนรักษาศีล ศีลก็จะรักษาเขาเอง แต่ก็เพ้ียนไปเป็นเร่ืองผีสางเทวดา จึงต้องบูชา
ด้วยวัตถุ โดยการเอาดอกไมส้ ีด�ำสีแดงไปกอง เอาข้าวแห้งไปบูชาอยทู่ ุกวัน มีแตห่ นู
เทา่ นน้ั แหละจะไปยนั ลงมาใสห่ วั เวลากลางคนื นะ อนั นน้ั มนั จะรอู้ ยา่ งไรวา่ เราดเี ราชว่ั
ของอยา่ งนน้ั มนั จะรกั ษาคนไดอ้ ยา่ งไร รบี รอื้ ทงิ้ ทำ� ใหม้ นั สะอาด แลว้ เอาพระพทุ ธรปู
สวยๆ ไปใส่ไว้แทนจะดกี ว่า
ของรกั ษาเรากค็ อื ใจของเรา รู้จักว่าอันนี้มนั ผดิ ตามทีค่ รบู าอาจารยท์ ่านแนะน�ำ
ถึงทา่ นไมบ่ อก มันก็ผิดอยู่ พยายามละ อยา่ ท�ำอย่าพดู นี้เรียกว่าพระธรรม ใจเรา
ทีร่ ้จู กั ผิดรูจ้ ักถูกน่แี หละ ธรรมะความดีของเรานีแ้ หละตามรกั ษา คือใจเรามันสงู เอง
มนั ละเอง ประพฤตปิ ฏบิ ตั เิ อง อนั ไหนชวั่ อนั ไหนผดิ กไ็ มท่ ำ� นแ่ี หละเรยี กวา่ พระธรรม
ตามรกั ษา ไมใ่ ช่พระธรรมอยูบ่ นขันกระหยอ่ งนะ อันนม้ี ันขันขา้ วแหง้ จะตามรักษา
ใครได้ มแี ตห่ นูเท่าน้นั แหละจะไปกนิ เรื่องมนั เป็นอยา่ งนี้
อามสิ บชู ากบั ปฏบิ ตั บิ ชู า อามสิ บชู า คอื บชู าดว้ ยคอื สงิ่ ของ จะบชู าอะไรกไ็ ดท้ เ่ี หน็ วา่
เปน็ คณุ อยา่ งถา้ เราเปน็ ไขไ้ มส่ บาย มคี นเอาหยกู ยามาใหก้ ส็ บาย เราจน มคี นเอาเสอื้ ผา้
อาภรณม์ าใหก้ ส็ บาย หรอื เวลาหวิ มคี นเอาขา้ วมาใหก้ นิ กเ็ ปน็ บญุ นคี่ อื อามสิ บชู า ใหค้ น
ไมม่ ี ใหค้ นยากจน ถวายของแกส่ มณชพี ราหมณต์ ลอดถงึ สามเณรตามมตี ามได้ เปน็
อามสิ บชู า
การปฏบิ ตั บิ ชู า คอื การละความชวั่ ออกจากจติ ใจ อาการประพฤตปิ ฏบิ ตั เิ รยี กวา่
ปฏบิ ตั บิ ชู า ใหพ้ ากนั เขา้ ใจอยา่ งนน้ั ทนี ข้ี องรกั ษากค็ อื ใจของเรา ไมม่ ใี ครมารกั ษาเราได้
นอกจากเรารกั ษาเราเอง พระอนิ ทร์ พระพรหม พญายม พญานาคทงั้ หลายไมม่ ี ถา้ เรา
ไม่ดแี ลว้ ไม่มใี ครมารกั ษาเราหรอก พระพุทธเจ้าสอนอยา่ งนน้ั จรงิ ๆ นะ ไม่ใชว่ า่ เรา
ทำ� ผิดขนาดไหน กย็ งั เรยี กหาคุณครูบาอาจารย์ คณุ มารดาบดิ าใหม้ าช่วย ไปขโมย
ควายเขา กย็ งั ประณมมอื ใหพ้ ระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์ มาชว่ ย “สาธุ ขอใหเ้ อาไปได้
ตลอดรอดฝง่ั เถอะ” ผบี า้ ใครจะตามรกั ษาคนชว่ั ขนาดนน้ั ทา่ นบอกวา่ อยา่ ทำ� กไ็ มฟ่ งั
นค่ี อื ความเขา้ ใจผดิ ของคน มนั เปน็ อยา่ งนี้ มนั หลงถงึ ขนาดน้ี จะวา่ อยา่ งไร พระพทุ ธเจา้
สอนวา่ ใหด้ ูเจ้าของ เรานแ่ี หละเป็นผรู้ ักษาเจ้าของ
525
อตั ตา หิ อตั ตะโน นาโถ โก หิ นาโถ ปะโร สยิ า เราเปน็ ทพี่ งึ่ ของเราเอง คนอนื่
เป็นทีพ่ ง่ึ ของเราไมไ่ ด้ เราตอ้ งท�ำเอง สรา้ งเอง กนิ เอง ทำ� ผดิ แลว้ ท�ำถกู เอง ทำ� ชวั่ แลว้
ละเอาเอง เปน็ เร่อื งของเจา้ ของ ท่านจงึ บอกว่า ทำ� ดไี ดด้ ี ทำ� ช่วั ได้ช่วั มนั ถกู ท่สี ดุ แล้ว
เรามวั แต่ไปหาของดีกับคนอื่น พระพทุ ธเจา้ สอนแลว้ สอนอกี สอนใหท้ �ำเองปฏิบัตเิ อง
พระพุทธเจ้าทา่ นแนะนำ� ชกั จงู อย่างน้ี
อยา่ งทกุ วนั น้ี พอญาตพิ นี่ อ้ งตาย ทา่ นวา่ ใหช้ กั จงู เรากเ็ อาพระไปจงู เอาฝา้ ยตอ่ ไหม
เอาไหมตอ่ ฝ้าย ดงึ กันมะนงุ มะนัง เข้าปา่ ช้าโน้น ไม่ใชจ่ ูงอยา่ งนนั้ อาตมาวา่ รีบหาม
ไปเรว็ ๆ นน่ั แหละดี มนั จะไดไ้ มห่ นกั บางทกี ย็ งุ่ อยกู่ บั จว่ั นอ้ ย (เณรนอ้ ย) พะรงุ พะรงั
อยกู่ บั จวี ร เด็กตัวเลก็ ๆ ก�ำลงั เลย้ี งควายอยกู่ เ็ รียกมาบวช บวชจงู พ่อจงู แม่ จงู กจ็ ะ
ไมไ่ หวแลว้ เดย๋ี วหวิ ขา้ ว หวิ นำ้� รอ้ งไห้ นน่ั ไปจงู กนั อยา่ งนน้ั นแ่ี หละคอื ความเหน็ ผดิ
เรอื่ งการชกั จงู กเ็ หมอื นกบั อาตมากำ� ลงั จงู อยเู่ ดยี๋ วนแ้ี หละ คอื การแนะนำ� พรำ่� สอน
บอกทางไปสวรรค์ บอกทางไปนรกให้ แนะนำ� ใหเ้ ลกิ สงิ่ นนั้ ใหป้ ระพฤตสิ งิ่ นี้ อยา่ งนี้
เรยี กวา่ ชกั จงู แนะนำ� พรำ่� สอน จงู ตอ้ งจงู ในขณะยงั มชี วี ติ อยนู่ แี่ หละใหไ้ ปคดิ พจิ ารณา
เอาไปภาวนาดูวา่ มันถูกไหม ถ้าสงสยั ก็มาฟังอีก จะบอกใหช้ ใ้ี ห้แนะนำ� พร่�ำสอนให้
นเ้ี รยี กวา่ ชกั จงู คน ไมใ่ ชเ่ อาไหมตอ่ ฝา้ ย เอาฝา้ ยตอ่ ไหม จงู กนั วนุ่ วาย ไมไ่ ดค้ วามอะไร
มนั นา่ หัวเราะ จงู อยา่ งน้ันมนั จูงไมไ่ ด้
บางทกี เ็ อาขา้ วตอกมาหวา่ นในขณะจงู ศพไปปา่ ชา้ โดยมคี วามเชอื่ วา่ พวกผหี รอื
เปรตทคี่ อยรบั สว่ นบญุ มอี ยู่ เพอื่ จะไมใ่ หพ้ วกนนั้ รบกวนผตู้ าย จงึ มกี ารหวา่ นขา้ วตอก
ไปดว้ ย
ความจริงบรรพบุรุษท่านสอนวา่ คนเราเหมือนข้าวตอก เวลาหวา่ นไป มนั ก็
กระจดั กระจายไป เหมอื นสงั ขารรา่ งกายน้ี มลี กู มเี มยี มลี กู เตา้ เหลา่ หลาน มเี นอ้ื มหี นงั
มแี ขน ขา หู ตา เปน็ ตน้ ผลสดุ ทา้ ยกก็ ระจดั กระจายกนั ไปอยา่ งนี้ แตกกระสานซา่ นเซน็
ไปตามสภาวะ เกิดในโลกน้ีมันก็มีแค่น้ี เหมือนข้าวตอกดอกไม้นี้แหละท่ีเรี่ยราด
ไปตามดนิ ตามหญา้ สงั ขารรา่ งกายนมี้ นั กแ็ คน่ ี้ ทา่ นใหพ้ จิ ารณาอยา่ งน้ี แตเ่ รากม็ าหวา่ น
526
ใหผ้ ีกิน ไปคนละเรือ่ งอกี แลว้ เร่ืองเหลา่ นีพ้ ิจารณาให้มากๆ หน่อย พิจารณาให้ดี
ถา้ เราเขา้ ใจตวั เราแลว้ สบาย นลี่ ะ่ การประพฤตปิ ฏบิ ตั มิ นั ถงึ ตา่ งกนั ถา้ เรานำ� ไปพจิ ารณา
แลว้ จะเหน็ เหน็ ไดจ้ รงิ ๆ เหน็ ในใจของเรานแ้ี หละ แลว้ มนั จะคอ่ ยสวา่ งขน้ึ คอ่ ยขาวขน้ึ
คอ่ ยรขู้ ึน้ มา
เหมอื นกบั เราเรยี นหนงั สอื แตก่ อ่ นกวา่ จะรอู้ ะไร ครจู บั ไปเขยี น ก ข ไมร่ เู้ ขยี นอะไร
ไม่รเู้ รอ่ื ง แตก่ เ็ ขียนไปตามครู พอเขียนพยญั ชนะได้ กเ็ ขยี นสระอะ สระอา สระอิ
สระอี แตก่ ย็ งั ไมร่ เู้ รอ่ื งหรอก ขเี้ กยี จกข็ เ้ี กยี จ พอเขยี นเปน็ แลว้ กเ็ อาพยญั ชนะกบั สระ
มาผสมกนั เอาสระอาใส่ตวั ก อ่านว่า กา ใส่ตัว ข อ่านวา่ ขา ว่าไปตามครู เรยี นไป
ศึกษาไป ต่อมาก็เลยรเู้ รอื่ ง เลยกลายเป็นคนอา่ นออกเขียนได้
อนั นเี้ ราลองพจิ ารณาดู การทจ่ี ะรจู้ กั บญุ รจู้ กั บาป ตอนแรกกอ็ าศยั คนอนื่ นแ้ี หละ
ต่อไปมนั จะรู้เอง ท่านจงึ วา่ ความดีความชว่ั อยู่ที่ตวั เจา้ ของ แมแ้ ตพ่ ระพทุ ธเจา้ ก็เอา
ใหใ้ ครไมไ่ ด้ ใหไ้ ด้ก็คือบอกให้ท�ำอยา่ งนน้ั ๆ แล้วเรากป็ ระพฤตปิ ฏิบตั ไิ ปตามศรทั ธา
จะเปน็ ประโยชนแ์ กเ่ รามาก อยา่ พากนั หลงงมงาย ใหถ้ งึ พระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ์
ผู้ถงึ พระรตั นตรัยไม่ต้องถือภตู ผปี ศี าจ
อย่างอาตมาไปภาวนาอยู่ท่ีไหนก็สบาย ด้วยความซื่อสัตย์ ด้วยความเชื่อ
พระพทุ ธเจา้ ของเราน่ันเอง เชอ่ื อยา่ งไร เชื่อว่าไม่มีตรงไหนทพ่ี ระองค์สอนใหค้ นชั่ว
สอนใหค้ นทำ� ผดิ ไมม่ ี ในสตู รในตำ� ราไหนกไ็ มม่ ี อาตมาอา่ นแลว้ ถงึ วา่ พระพทุ ธเจา้ นี้
เปน็ ผเู้ ลศิ ประเสรฐิ จรงิ ๆ อาตมาเชอ่ื ทา่ น ทา่ นวา่ ใหส้ อนตนเองใหพ้ ง่ึ ตนเอง กพ็ ง่ึ ตนเอง
จรงิ ๆ ทำ� ตามทา่ น ไปทำ� อยทู่ ไ่ี หนกส็ บาย อยใู่ นถำ้� ในปา่ ในเขา จะอยทู่ ไ่ี หนกไ็ มม่ อี ะไร
สบาย เพราะความซอื่ สตั ยส์ จุ รติ นแ่ี หละ เลยเชอ่ื มน่ั วา่ พระพทุ ธเจา้ สอนใหพ้ ง่ึ ตนเองนี้
ถกู แลว้ เรากเ็ หมอื นกนั แมจ้ ะเปน็ ฆราวาสอยบู่ า้ นครองเรอื น กอ็ ยา่ พากนั สงสยั อะไร
เพราะความดคี วามชวั่ อยู่ทต่ี วั เรา
อตั ตะนา โจทะยตั ตานงั จงเตอื นตนดว้ ยตนเอง คอ่ ยทำ� ไป ดแู ตห่ นิ กอ้ นใหญๆ่
ทุบไปเร่ือยๆ มันกแ็ ตก พวกเรายงั ไมร่ ู้ ค่อยสอนค่อยปฏบิ ัติก็จะร้ขู ึ้นมาได้
527
ชวี ติ ของเรามนั ไมน่ านนะ กาลเวลาไมอ่ ยทู่ เ่ี ดมิ วนั นม้ี นั กก็ นิ ไปแลว้ หมดไปแลว้
กินไปตลอดวนั ตลอดคนื กนิ ไปเรื่อยๆ มันไม่หมดไปเฉพาะเดือน เฉพาะปีเท่านั้น
สงั ขารเรากร็ ว่ งโรยไปดว้ ย เชน่ ผม เดยี๋ วนผ้ี มยงั ไมห่ งอก ตอ่ ไปมนั จะหงอก มนั จะแก่
หแู ก่ ตาแก่ เนอื้ หนงั มงั สาไปดว้ ย แกไ่ ปหมดทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ ง นแ่ี หละทา่ นถงึ วา่ ความเกดิ
แก่ เจบ็ ตาย มนั แก่ไป ตายไป ฉะนัน้ ขอให้พากนั เชื่อม่ันในตนเอง ยดึ เอาคุณ
พระศรีรตั นตรยั ผูเ้ ข้าถึงพระรัตนตรยั ไมม่ อี ะไรจะมาทำ� รา้ ยได้
นแี่ หละการใหท้ ำ� ความเพยี รวนั นี้ ไปถงึ บา้ นกใ็ หท้ ำ� บางทยี งุ่ กบั ลกู หลานมากๆ
นอนต่ืนแล้วก็มาน่ังภาวนา พทุ โธๆๆ อันนีถ้ า้ จติ สงบแลว้ ก็เรยี กวา่ ใกล้พระนิพพาน
น่แี หละเร่ืองภาวนา ไม่ใช่ภาวนาอยูแ่ ตใ่ นวัด อยูบ่ า้ นเรากท็ ำ� ได้ วา่ งๆ เราก็ทำ� แมจ้ ะ
ทำ� มาคา้ ขาย ทำ� นาทำ� ไรก่ ท็ ำ� ได้ หรอื แมแ้ ตข่ ดุ ดนิ ถอนหญา้ เวลาเมอ่ื ยเขา้ ไปพกั ใตร้ ม่ ไม้
กท็ ำ� ได้ นงั่ ภาวนาพทุ โธๆๆ เดย๋ี วกจ็ ะไดด้ จี นได้ หมนั่ ระลกึ ถงึ คณุ ครบู าอาจารย์ แลว้ ตง้ั
จติ พจิ ารณา พทุ โธๆๆ สบาย นเี้ รอ่ื งทพี่ ระพทุ ธเจา้ สอน ใหพ้ ากนั จดจำ� เอาไว้ สอนไป
มากกม็ าก เดี๋ยวบญุ จะหมด ให้ดูทเ่ี รานะ อย่าไปดูทอ่ี น่ื มันจะดีจะชว่ั ให้ดูทีต่ ัวเรา
นแ่ี หละคำ� แนะนำ� พรำ่� สอน วนั นใ้ี หเ้ อาไปคดิ พจิ ารณาดู คอ่ ยทำ� ไป ดวู นั ละนดิ เดย๋ี วมนั
ก็สะอาดหรอก
วนั นเ้ี ชอ่ื วา่ พวกเราทงั้ หลายไดบ้ ำ� เพญ็ ทาน รกั ษาศลี ไดเ้ จรญิ ภาวนา ไดฟ้ งั ธรรม
เทศนาหลายอยา่ ง เทา่ นกี้ เ็ ปน็ บญุ แล้วล่ะ ได้สร้างบุญแลว้ ไดค้ วามเขา้ อกเข้าใจแลว้
ตอ่ ไปเราจะไปทำ� ภารกจิ การงานทบี่ า้ นไหนเมอื งไหน ภาวะทอ่ี าตมาไดพ้ ดู ไดก้ ลา่ วไปน้ี
มนั ถกู อยู่หรอก มันจะคอ่ ยๆ รู้จักไป
เอา้ วนั น้สี มควรแก่เวลา.
528
๔๕
คำ� ถามและคำ� ตอบแนวการปฏิบัตธิ รรม
๑. ผมไดพ้ ากเพยี รอย่างหนักในการปฏบิ ตั กิ รรมฐาน แตย่ ังไม่มีท่าวา่ จะได้ผล
คบื หนา้ เลย
เรอื่ งน้ีสำ� คัญมาก อย่าพยายามทจ่ี ะเอาอะไรๆ ในการปฏบิ ัติ ความอยากอย่าง
แรงกล้าที่จะหลุดพ้นหรอื ร้แู จง้ นน้ั จะเป็นความอยากท่ขี วางกั้นท่านจากการหลดุ พน้
ทา่ นจะเพยี รพยายามอยา่ งหนกั ตามใจทา่ นกไ็ ด้ จะเรง่ ความเพยี รทง้ั กลางคนื กลางวนั
ก็ได้ แต่ถ้าการฝึกปฏิบัตินั้นยังประกอบด้วยความอยากท่ีจะบรรลุเห็นแจ้งแล้ว
ทา่ นจะไมม่ ีทางท่ีจะพบความสงบไดเ้ ลย แรงอยากจะเปน็ เหตุใหเ้ กดิ ความสงสัยและ
ความกระวนกระวายใจ ไมว่ า่ ทา่ นจะฝกึ ปฏบิ ตั มิ านานเทา่ ใดหรอื หนกั เพยี งใด ปญั ญา
(ท่แี ท)้ จะไมเ่ กดิ ขนึ้ จากความอยากนนั้ ดังนน้ั จงเพียงแต่ละความอยากเสยี จงเฝา้
ดจู ติ และกายอยา่ งมสี ติ แตอ่ ยา่ มงุ่ หวงั ทจ่ี ะบรรลถุ งึ อะไร อยา่ ยดึ มนั่ ถอื มนั่ แมใ้ นเรอื่ ง
การฝกึ ปฏิบัติหรอื ในการรูแ้ จ้ง
๒. เร่อื งการหลบั นอนล่ะครบั ผมควรจะนอนมากน้อยเพยี งใด
พระสญุ ฺโภิกขฺ ุ พระภกิ ษชุ าวอเมริกนั จดบนั ทึกเปน็ ภาษาองั กฤษ เมือ่ ลาสกิ ขาแลว้ ท่านได้พมิ พ์เผยแพร่
เปน็ ธรรมทาน ตอ่ มามีผู้แปลเป็นภาษาไทย และหลวงพอ่ ชาใหพ้ ระวีรพล เตชปญโฺ แห่งวดั หนองป่าพง
สอบทานแลว้ จึงได้พมิ พฉ์ บบั ภาษาไทย
529
อยา่ ถามผมเลย ผมตอบใหท้ า่ นไมไ่ ด้ บางคนหลบั นอนคนื ละประมาณ ๔ ชว่ั โมง
ก็พอ อยา่ งไรกต็ ามสงิ่ ทสี่ ำ� คญั ก็คือ ทา่ นเฝา้ ดแู ละร้จู ักตัวของท่านเอง ถา้ ทา่ นนอน
นอ้ ยจนเกนิ ไป ทา่ นกจ็ ะไมส่ บายกาย ทำ� ใหค้ มุ สตไิ วไ้ ดย้ าก ถา้ นอนมากเกนิ ไป จติ ใจ
ก็จะตือ้ เฉ่อื ยชา หรือซดั สา่ ย จงหาสภาวะทพ่ี อเหมาะกบั ตวั ท่านเอง ต้งั ใจเฝ้าดูกาย
และจติ จนทา่ นรรู้ ะยะเวลาหลบั นอนทพี่ อเหมาะสำ� หรบั ทา่ น ถา้ ทา่ นรสู้ กึ ตวั ตน่ื แลว้ และ
ยงั ซกุ ตวั ของบี ตอ่ ไปอกี นเ่ี ปน็ กเิ ลสเครอ่ื งเศรา้ หมอง จงมสี ตริ ตู้ วั ทนั ทที ล่ี มื ตาตน่ื ขนึ้
๓. เรอ่ื งการขบฉนั ล่ะครับ ผมควรจะฉนั อาหารมากน้อยเพียงใด
การขบฉนั ก็เหมือนกบั การหลับนอน ท่านต้องรู้จักตัวของทา่ นเอง อาหารต้อง
บริโภคให้เพียงพอตามความต้องการของร่างกาย จงมองอาหารเหมือนยารักษาโรค
ทา่ นฉนั มากไปจนง่วงนอนหลังฉนั อาหารหรอื เปล่า และท่านอ้วนข้ึนทกุ วันหรือเปล่า
จงหยดุ แลว้ สำ� รวจกายและจติ ของทา่ นเอง ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งอดอาหาร จงทดลองฉนั อาหาร
ตามปรมิ าณมากนอ้ ยตา่ งๆ หาปรมิ าณทพ่ี อเหมาะกบั รา่ งกายของทา่ น ใสอ่ าหารทจ่ี ะฉนั
ทั้งหมดลงในบาตรตามแบบธุดงควัตร แล้วท่านจะกะปริมาณอาหารที่จะฉันได้ง่าย
เฝา้ ดตู วั ทา่ นเองอยา่ งถถ่ี ว้ นขณะทฉ่ี นั จงรจู้ กั ตวั เอง สาระสำ� คญั ของการฝกึ ปฏบิ ตั ขิ อง
เราเปน็ อยา่ งนี้ ไมม่ อี ะไรพเิ ศษ ทต่ี อ้ งทำ� มากไปกวา่ น้ี จงเฝา้ ดเู ทา่ นนั้ สำ� รวจตวั ทา่ นเอง
เฝ้าดูจิต แลว้ ทา่ นจึงจะรวู้ า่ อะไรคือสภาวะท่พี อเหมาะส�ำหรบั การฝกึ ปฏิบัตขิ องทา่ น
๔. จติ ของชาวเอเชียและชาวตะวันตก แตกตา่ งกันหรือไมค่ รับ
โดยพน้ื ฐานแลว้ ไมแ่ ตกตา่ งกนั ดจู ากภายนอกขนบธรรมเนยี มประเพณแี ละภาษา
ท่ใี ช้อาจดตู า่ งกนั แตจ่ ิตของมนุษย์นัน้ เปน็ ธรรมชาติซึง่ เหมอื นกนั หมด ไม่ว่าชาติใด
ภาษาใด ความโลภและความเกลยี ดก็มเี หมอื นกนั ทัง้ ในจิตของชาวตะวนั ออกหรือ
ชาวตะวันตก ความทกุ ข์และความดบั แหง่ ทกุ ข์กเ็ หมือนกนั ในทุกๆ คน
๕. เราควรอา่ นตำ� รบั ตำ� รามากๆ หรอื ศกึ ษาพระไตรปฎิ กดว้ ยหรอื ไมค่ รบั ในการ
ฝกึ ปฏิบัติน่ี
530
พระธรรมของพระพทุ ธเจา้ นน้ั ไมอ่ าจคน้ พบไดด้ ว้ ยตำ� ราตา่ งๆ ถา้ ทา่ นตอ้ งการจะ
รเู้ หน็ จรงิ ดว้ ยตวั ของทา่ นเองวา่ พระพทุ ธเจา้ ตรสั สอนอะไร ทา่ นไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งวนุ่ วาย
กบั ตำ� รบั ตำ� ราเลย จงเฝา้ ดจู ติ ของทา่ นเอง พจิ ารณาใหร้ เู้ หน็ วา่ ความรสู้ กึ ตา่ งๆ (เวทนา)
เกดิ ขน้ึ และดบั ไปอยา่ งไร ความนกึ คดิ เกดิ ขน้ึ และดบั ไปอยา่ งไร อยา่ ไดผ้ กู พนั อยกู่ บั
สงิ่ ใดเลย จงมีสตอิ ยู่เสมอ เม่อื มอี ะไรๆ เกิดข้ึนให้ได้รูไ้ ดเ้ ห็น นี่คอื ทางที่จะบรรลุ
ถึงสัจธรรมของพระพุทธองค์ จงเป็นปกติธรรมดาตามธรรมชาติ ทุกสิ่งทุกอย่าง
ทที่ า่ นทำ� ขณะอยทู่ น่ี เ่ี ปน็ โอกาสแหง่ การฝกึ ปฏบิ ตั ิ เปน็ ธรรมะทงั้ หมด เมอื่ ทา่ นทำ� วตั ร
สวดมนตอ์ ยู่ พยายามใหม้ สี ติ ถา้ ทา่ นกำ� ลงั เทกระโถนหรอื ลา้ งสว้ มอยู่ อยา่ คดิ วา่ ทา่ น
กำ� ลงั ทำ� บญุ ทำ� คณุ ใหก้ บั ผหู้ นง่ึ ผใู้ ด มธี รรมะอยใู่ นการเทกระโถนนนั้ อยา่ รสู้ กึ วา่ ทา่ น
กำ� ลงั ฝกึ ปฏบิ ตั อิ ยเู่ ฉพาะเวลานงั่ ขดั สมาธเิ ทา่ นนั้ พวกทา่ นบางคนบน่ วา่ ไมม่ เี วลาพอที่
จะทำ� สมาธภิ าวนา แลว้ เวลาหายใจเลา่ มเี พยี งพอไหม? การทำ� สมาธภิ าวนาของทา่ นคอื
การมสี ตริ ะลกึ รู้ และการรกั ษาจติ ใหเ้ ปน็ ปกตติ ามธรรมชาตใิ นการกระทำ� ทกุ อริ ยิ าบถ
๖. ทำ� ไมพวกเราจงึ ไมม่ กี ารสอบอารมณก์ บั อาจารยท์ ุกวนั เลา่ ครับ
ถ้าท่านมีค�ำถาม เชิญมาถามได้ทุกเวลา แต่ที่น่ีเราไม่จ�ำเป็นจะต้องมีการสอบ
อารมณก์ นั ทกุ วนั ถา้ ผมตอบปญั หาเลก็ ๆ นอ้ ยๆ ทกุ ปญั หาของทา่ น ทา่ นกจ็ ะไมม่ ที าง
รเู้ ทา่ ทนั ถงึ การเกดิ ดบั ของความสงสยั ในใจของทา่ น เปน็ สง่ิ จำ� เปน็ อยา่ งยงิ่ ทท่ี า่ นตอ้ ง
เรยี นรทู้ จ่ี ะสำ� รวจตวั ทา่ นเอง สอบถามตวั ทา่ นเอง จงตง้ั ใจฟงั พระธรรมเทศนาทกุ ๆ ครงั้
แลว้ จงนำ� เอาคำ� สอนนไี้ ปเปรยี บเทยี บกบั การฝกึ ปฏบิ ตั ขิ องทา่ นเองวา่ เหมอื นกนั หรอื ไม่
ต่างกันหรือไม่ ท�ำไมท่านจึงมีความสงสัยอยู่ ใครคือผู้ท่ีสงสัยนั้น โดยการส�ำรวจ
ตัวเองเท่าน้นั จะทำ� ใหท้ ่านเข้าใจได้
๗. บางครง้ั ผมกงั วลใจอยกู่ บั พระวนิ ยั ของพระสงฆ์ ถา้ ผมฆา่ แมลงโดยบงั เอญิ
แลว้ จะผดิ ไหมครบั
ศีลหรือพระวินัยและศีลธรรม เป็นส่ิงจ�ำเป็นอย่างย่ิงต่อการฝึกปฏิบัติของเรา
แต่ทา่ นต้องไมย่ ึดม่นั ถอื ม่นั ในกฎเกณฑ์ตา่ งๆ อย่างงมงาย ในการฆ่าสัตวห์ รือการ
531
ละเมิดข้อห้ามอนื่ ๆ นน้ั มันส�ำคัญท่เี จตนา ท่านย่อมร้อู ยู่แก่ใจของท่านเอง อย่าได้
กงั วลกบั เรอ่ื งพระวนิ ยั ใหม้ ากจนเกนิ ไป ถา้ นำ� มาปฏบิ ตั อิ ยา่ งถกู ตอ้ ง กจ็ ะชว่ ยสง่ เสรมิ
การฝกึ ปฏบิ ตั ิ แตพ่ ระภกิ ษบุ างรปู กงั วลกบั กฎเกณฑเ์ ลก็ ๆ นอ้ ยๆ มากเกนิ ไป จนนอน
ไมเ่ ปน็ สขุ พระวินยั ไม่ใชภ่ าระท่ีตอ้ งแบก
ในการปฏบิ ตั ิของเราที่นม่ี ีรากฐานคือพระวนิ ัย พระวินัยรวมทั้งธดุ งควัตรและ
การปฏิบัติภาวนา การมีสติและการส�ำรวมระวังในกฎระเบียบต่างๆ ตลอดจนใน
ศีล ๒๒๗ ขอ้ นนั้ ให้คุณประโยชนอ์ ันใหญ่หลวง ท�ำให้มคี วามเปน็ อยู่อย่างเรยี บง่าย
ไม่ต้องพะวงวา่ จะตอ้ งท�ำตนอยา่ งไร ดงั น้ัน ทา่ นก็หมดเรอ่ื งต้องครุ่นคดิ และมีสติ
ดำ� รงอยแู่ ทน พระวนิ ยั ทำ� ใหพ้ วกเราอยดู่ ว้ ยกนั อยา่ งกลมกลนื และชมุ ชนกด็ ำ� เนนิ ไป
อยา่ งราบรน่ื ลกั ษณะภายนอกทกุ ๆ คนดเู หมอื นกนั และปฏบิ ตั อิ ยา่ งเดยี วกนั พระวนิ ยั
และศลี ธรรมเปน็ บนั ไดอนั แขง็ แกร่ง น�ำไปสูส่ มาธิย่งิ และปญั ญาย่งิ โดยการปฏบิ ตั ิ
อยา่ งถกู ตอ้ งตามพระวนิ ยั ของพระสงฆแ์ ละธดุ งควตั ร ทำ� ใหเ้ รามคี วามเปน็ อยอู่ ยา่ งงา่ ยๆ
และตอ้ งจำ� กดั จำ� นวนบรขิ ารของเราดว้ ย ดังน้นั ท่นี ่ีเราจึงมีการปฏิบัตทิ ีค่ รบถ้วนตาม
แบบของพระพุทธเจ้า คือ การงดเว้นจากความช่ัวและท�ำความดี มีความเป็นอยู่
อยา่ งงา่ ยๆ ตามความจำ� เปน็ ขนั้ พนื้ ฐาน ชำ� ระจติ ใหบ้ รสิ ทุ ธิ์ โดยการเฝา้ ดจู ติ และกาย
ของเราในทกุ ๆ อริ ิยาบถ เมื่อน่ังอยู่ ยนื อยู่ เดินอยู่ หรือนอนอยู่ จงร้ตู วั ของท่านเอง
๘. ผมควรจะทำ� อยา่ งไรครบั เมอ่ื ผมสงสยั บางวนั ผมวนุ่ วายใจดว้ ยความสงสยั
ในเรอ่ื งการปฏิบตั ิ หรอื ในความคบื หนา้ ของผม หรือในอาจารย์
ความสงสยั นน้ั เปน็ เรอื่ งปกตธิ รรมดา ทกุ คนเรม่ิ ตน้ ดว้ ยความสงสยั ทา่ นอาจได้
เรียนรูอ้ ยา่ งมากมายจากความสงสัยนั้น ที่ส�ำคัญกค็ อื ท่านอยา่ ถือเอาความสงสัยนั้น
เป็นตัวเป็นตน นั่นคืออย่าตกเป็นเหย่ือของความสงสัย ซึ่งจะท�ำให้จิตใจของท่าน
หมุนวนเป็นวฏั ฏะอันไม่มที ส่ี ิ้นสุด แทนท่จี ะเป็นเชน่ นัน้ จงเฝ้าดกู ระบวนการเกิดดับ
ของความสงสยั ของความฉงนสนเทห่ ์ ดวู า่ ใครคอื ผทู้ สี่ งสยั ดวู า่ ความสงสยั นน้ั เกดิ ขน้ึ
และดบั ไปอยา่ งไร แลว้ ทา่ นจะไมต่ กเปน็ เหยอื่ ของความสงสยั อกี ตอ่ ไป ทา่ นจะหลดุ พน้
ออกจากความสงสัยและจิตของท่านก็จะสงบ ท่านจะเห็นว่าส่ิงท้ังหลายเกิดข้ึนและ
532
ดบั ไปอยา่ งไร จงปลอ่ ยวางสง่ิ ตา่ งๆ ทท่ี า่ นยงั ยดึ มน่ั อยู่ ปลอ่ ยวางความสงสยั ของทา่ น
และเพยี งแต่เฝ้าดู นี่คือท่สี ้นิ สดุ ของความสงสัย
๙. ทา่ นอาจารยม์ คี วามเหน็ เกย่ี วแกว่ ธิ ฝี กึ ปฏบิ ตั ิ (วธิ ภี าวนา) วธิ อี น่ื ๆ อยา่ งไรครบั
ทกุ วนั นดี้ เู หมอื นวา่ จะมอี าจารยม์ ากมาย และมแี นวทางการทำ� สมาธวิ ปิ สั สนาหลายแบบ
จนท�ำใหส้ ับสน
มนั กเ็ หมอื นกบั การจะเขา้ ไปในเมอื ง บางคนอาจจะเขา้ เมอื งทางทศิ เหนอื ทางทศิ
ตะวนั ออกเฉยี งใต้ ฯลฯ ทางถนนหลายสาย โดยมากแลว้ แนวทางภาวนากแ็ ตกตา่ งกนั
เพียงรปู แบบเท่านั้น ไม่วา่ ทา่ นจะเดนิ ทางสายหน่งึ สายใด เดินชา้ หรือเดินเรว็ ถ้าท่าน
มีสติอยู่เสมอ มันก็เหมือนกันทั้งน้ัน ข้อส�ำคัญท่ีสุดก็คือ แนวทางภาวนาที่ดีและ
ถกู ตอ้ งจะตอ้ งนำ� ไปสกู่ ารไมย่ ดึ มน่ั ถอื มนั่ ลงทา้ ยแลว้ กต็ อ้ งปลอ่ ยวางแนวทางภาวนา
ทุกรูปแบบด้วย ผู้ปฏิบัติต้องไม่ยึดม่ันแม้ในตัวอาจารย์ แนวทางใดที่น�ำไปสู่การ
ปลอ่ ยวาง สู่การไม่ยดึ มน่ั ถอื มน่ั กเ็ ปน็ ทางปฏบิ ัตทิ ่ถี กู ต้อง
ทา่ นอาจจะอยากเดนิ ทางไปเพอ่ื ศกึ ษากบั อาจารยท์ า่ นอนื่ อกี และลองปฏบิ ตั ติ าม
แนวทางอ่นื บ้างก็ได้ พวกท่านบางคนกท็ ำ� เช่นนัน้ น่เี ป็นความต้องการตามธรรมชาติ
ทา่ นจะรวู้ า่ แมไ้ ดถ้ ามคำ� ถามนบั พนั คำ� ถามกแ็ ลว้ และมคี วามรเู้ รอ่ื งแนวทางปฏบิ ตั อิ นื่ ๆ
กแ็ ลว้ กไ็ มอ่ าจจะนำ� ทา่ นเขา้ ถงึ สจั ธรรมได้ ในทส่ี ดุ ทา่ นกจ็ ะรสู้ กึ เบอ่ื หนา่ ย ทา่ นจะรวู้ า่
เพยี งแตห่ ยดุ และสำ� รวจตรวจสอบดจู ติ ของทา่ นเองเทา่ นนั้ ทา่ นกจ็ ะรวู้ า่ พระพทุ ธเจา้
ตรสั สอนอะไร ไมม่ ปี ระโยชนท์ จ่ี ะแสวงหาออกไปนอกตวั เอง ผลทส่ี ดุ ทา่ นตอ้ งหนั กลบั
มาเผชิญหน้ากบั สภาวะท่แี ทจ้ ริงของตวั ท่านเอง ตรงนีแ้ หละท่ีทา่ นจะเขา้ ใจธรรมะได้
๑๐. มีหลายครั้งหลายหนที่ดูเหมือนว่าพระหลายรูปท่ีนี่ไม่ฝึกปฏิบัติ ดูท่าน
ไมใ่ สใ่ จทำ� หรือขาดสติ เรอื่ งน้ีกวนใจผม
มนั ไมถ่ กู ตอ้ งทจี่ ะคอยจบั ตาดผู อู้ น่ื นไ่ี มช่ ว่ ยการฝกึ ปฏบิ ตั ขิ องทา่ นเลย ถา้ ทา่ น
รำ� คาญใจกจ็ งเฝา้ ดคู วามรำ� คาญในใจของทา่ น ถา้ ศลี ของผอู้ น่ื บกพรอ่ งหรอื เขาเหลา่ นน้ั
ไม่ใช่พระทีด่ ี ก็ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งของท่านท่จี ะไปตัดสนิ ท่านจะไม่เกดิ ปญั ญาจากการจบั ตา
533
ดผู ู้อืน่ พระวินยั เป็นเครอ่ื งช่วยในการทำ� สมาธภิ าวนาของท่าน ไมใ่ ชอ่ าวธุ สำ� หรบั ใช้
ติเตียนหรอื จับผดิ ผ้อู นื่ ไม่มีใครสามารถฝึกปฏบิ ตั ิใหท้ ่านได้ หรือทา่ นก็ไมส่ ามารถ
ปฏิบัติให้ผู้อ่ืนได้ จงมีสติใส่ใจในการฝึกปฏิบัติของตัวท่านเอง และน่ีคือแนวทาง
ของการปฏบิ ัติ
๑๑. ผมระมัดระวังอยา่ งย่งิ ท่จี ะส�ำรวมอินทรยี ์ ผมทอดสายตาลงตำ่� เสมอและ
ก�ำหนดสติอยู่กับการกระท�ำทุกอย่าง แม้ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น ขณะที่ก�ำลัง
ฉนั อาหารอยู่ ผมใชเ้ วลานานและพยายามรสู้ มั ผสั ทกุ อยา่ ง เปน็ ตน้ วา่ เคยี้ ว รรู้ ส กลนื ฯลฯ
ผมกำ� หนดรดู้ ว้ ยความตง้ั ใจทกุ ขนั้ ตอนและระมดั ระวงั ผมปฏบิ ตั ถิ กู ตอ้ งหรอื ไมค่ รบั
การส�ำรวมอินทรีย์นั้นเป็นการปฏิบัติถูกต้องแล้ว เราจะต้องมีสติในการฝึก
เช่นน้ันตลอดท้ังวนั แตอ่ ยา่ ควบคุมใหม้ ากเกินไป เดิน ฉนั และปฏิบัตติ นให้เป็น
ธรรมชาติ ใหม้ สี ตริ ะลกึ รตู้ ามธรรมชาติ ถงึ สงิ่ ทกี่ ำ� ลงั เปน็ ไปในตวั ทา่ น อยา่ บบี บงั คบั
การท�ำสมาธิภาวนาของท่าน และอยา่ บบี บงั คับตนเองไปจนดนู ่าขัน ซึง่ กเ็ ปน็ ตัณหา
อีกอย่างหนึง่ จงอดทน ความอดทนและความทนได้เป็นส่งิ จ�ำเปน็ ถา้ ทา่ นปฏิบัติตน
เป็นปกติตามธรรมชาติและมีสติระลึกรู้อยู่เสมอ ปัญญาท่ีแท้จะเกิดขึ้นเองตาม
ธรรมชาตดิ ว้ ย
๑๒. จ�ำเปน็ ไหมครับทีจ่ ะตอ้ งนั่งภาวนาใหน้ านๆ
ไมจ่ ำ� เป็นต้องนั่งภาวนานานนบั เป็นหลายๆ ชัว่ โมง บางคนคิดวา่ ย่งิ นั่งภาวนา
นานเท่าใด ก็จะยิ่งเกิดปัญญามากเท่านั้น ผมเคยเห็นไก่กกอยู่ในรังของมันท้ังวัน
นบั เปน็ วนั ๆ ปญั ญาทแี่ ทเ้ กดิ จากการทเี่ รามสี ตใิ นทกุ ๆ อริ ยิ าบถ การฝกึ ปฏบิ ตั ขิ องทา่ น
ต้องเริ่มขึ้นทนั ทีท่ที า่ นต่นื นอนตอนเชา้ และตอ้ งปฏบิ ัตใิ หต้ ่อเนอ่ื งไปจนกระท่ังนอน
หลบั ไป อย่าไปห่วงวา่ ท่านต้องน่ังภาวนาใหน้ านๆ สิง่ สำ� คญั กค็ อื ทา่ นเพียงแตเ่ ฝา้ ดู
ไม่วา่ ทา่ นจะเดินอยหู่ รือน่งั อยู่ หรอื กำ� ลงั เขา้ ห้องน้�ำอยู่
แต่ละคนต่างกม็ ที างชีวิตของตนเอง บางคนต้องตายเม่ือมีอายุ ๕๐ ปี บางคน
เมอ่ื อายุ ๖๕ ปี และบางคนเมอ่ื อายุ ๙๐ ปี ฉนั ใดก็ฉนั น้นั ปฏปิ ทาของท่านทงั้ หลาย
534
ก็ไม่เหมือนกัน อย่าคิดมากหรือกังวลใจในเร่ืองน้ีเลย จงพยายามมีสติและปล่อย
ทุกส่ิงให้เป็นไปตามปกติของมัน แลว้ จิตของทา่ นก็จะสงบมากขน้ึ ๆ ในส่ิงแวดลอ้ ม
ทงั้ ปวง มนั จะสงบนง่ิ เหมอื นหนองนำ้� ใสในปา่ ทซ่ี ง่ึ บรรดาสตั วป์ า่ ทส่ี วยงามและหายาก
จะมาดม่ื นำ�้ ในสระนนั้ ทา่ นจะเขา้ ใจถงึ สภาวธรรมของสง่ิ ทง้ั ปวง (สงั ขาร) ในโลกอยา่ ง
แจม่ ชดั ทา่ นจะไดเ้ หน็ ความมหศั จรรยแ์ ละแปลกประหลาดทงั้ หลายเกดิ ขนึ้ และดบั ไป
แตท่ า่ นกจ็ ะยังคงสงบอยู่เช่นเดิม ปญั หาทั้งหลายจะบังเกดิ ข้นึ แต่ท่านจะรู้ทนั มนั ได้
ทนั ที นแ่ี หละคอื ศานตสิ ุขของพระพุทธเจา้
๑๓. ผมยังคงมีความนกึ คิดตา่ งๆ มากมาย จิตของผมฟงุ้ ซา่ นมากทงั้ ๆ ทผี่ ม
พยายามจะมสี ตอิ ยู่
อยา่ วติ กในเรอื่ งนเ้ี ลย พยายามรกั ษาจติ ของทา่ นใหอ้ ยกู่ บั ปจั จบุ นั เมอื่ เกดิ รสู้ กึ
อะไรขึ้นมาภายในจิตก็ตาม จงเฝ้าดูมันและปล่อยวาง อย่าแม้แต่หวังท่ีจะไม่ให้มี
ความนกึ คดิ เกดิ ขน้ึ เลย แลว้ จติ กจ็ ะเขา้ ถงึ สภาวะปกตติ ามธรรมชาตขิ องมนั ไมม่ กี าร
แบง่ แยกระหวา่ งความดแี ละความชวั่ รอ้ นและหนาว เรว็ หรอื ชา้ ไมม่ เี รา ไมม่ เี ขา ไมม่ ี
ตวั ตนเลย อะไรๆ ก็เป็นของมนั อยู่อย่างนั้น เมือ่ ท่านเดนิ บณิ ฑบาต ไมจ่ ำ� เปน็ ตอ้ ง
ทำ� อะไรเปน็ พเิ ศษ เพยี งแตเ่ ดนิ และเหน็ ตามทเ่ี ปน็ อยู่ อยา่ ยดึ มนั่ อยกู่ บั การแยกตวั ไป
อย่แู ตล่ �ำพงั หรอื กับการเก็บตัว ไมว่ ่าท่านจะอยู่ที่ใด จงรจู้ กั ตวั เองดว้ ยการปฏิบตั ติ น
เปน็ ปกตติ ามธรรมชาติ และเฝา้ ดู เมอ่ื เกดิ สงสยั จงเฝา้ ดมู นั เกดิ ขน้ึ และดบั ไป มนั กง็ า่ ยๆ
อยา่ ยึดมัน่ ถอื มั่นกบั สิง่ ใดท้ังสิน้
เหมอื นกับว่าท่านก�ำลงั เดนิ ไปตามถนน บางขณะท่านจะพบสิ่งกีดขวางทางอยู่
เมื่อท่านเกิดกิเลสเคร่ืองเศร้าหมอง จงรู้ทันมันและเอาชนะมันโดยปล่อยให้มันผ่าน
ไปเสีย อย่าไปค�ำนึงถึงส่ิงกีดขวางที่ท่านได้ผ่านมาแล้ว อย่าวิตกกังวลกับสิ่งที่ยัง
ไมไ่ ดพ้ บ จงอยกู่ บั ปจั จบุ นั อยา่ สนใจกบั ระยะทางของถนนหรอื กบั จดุ หมายปลายทาง
ทกุ สงิ่ ทุกอย่างย่อมเปลีย่ นแปลงไป ไมว่ ่าท่านผา่ นอะไรไป อยา่ ไปยดึ ม่ันไว้ ในทสี่ ดุ
จติ จะบรรลถุ งึ ความสมดลุ ตามธรรมชาตขิ องจติ และเมอื่ นน้ั การปฏบิ ตั กิ จ็ ะเปน็ ไปเอง
โดยอัตโนมัติ ทกุ สิ่งทุกอย่างจะเกิดข้ึนและดับไปในตวั ของมันเอง
535
๑๔. ท่านอาจารย์เคยพิจารณา “สูตรของเว่ยหล่าง” ของพระสังฆปริณายก
(นกิ ายเซน) องค์ทห่ี ก บ้างไหมครบั (ท่านเวย่ หล่างหรือท่านฮุยเหนิง)
ท่านฮุยเหนิงมีปัญญาเฉียบแหลมมาก ค�ำสอนของท่านลึกซึ้งย่ิงนัก ซึ่งไม่ใช่
ของงา่ ยทผี่ เู้ รมิ่ ตน้ ปฏบิ ตั จิ ะเขา้ ใจได้ แตถ่ า้ ทา่ นปฏบิ ตั ติ ามศลี และดว้ ยความอดทน และ
ถา้ ทา่ นฝกึ ทจี่ ะไมย่ ดึ มน่ั ถอื มนั่ ทา่ นกจ็ ะเขา้ ใจไดใ้ นทส่ี ดุ ครงั้ หนงึ่ ลกู ศษิ ยผ์ มคนหนง่ึ
อาศยั อยใู่ นกฏุ หิ ลงั คามงุ แฝก ฤดฝู นนน้ั ฝนตกชกุ และวนั หนงึ่ พายกุ พ็ ดั เอาหลงั คาโหว่
ไปคร่งึ หนึง่ เขาไม่ขวนขวายทจ่ี ะมงุ มนั ใหม่ จงึ ปล่อยให้ฝนร่วั อยอู่ ย่างนัน้ หลายวัน
ผ่านไป และผมได้ถามถึงกุฏิของเขา เขาตอบว่า เขาก�ำลังฝึกการไม่ยึดม่ันถือมั่น
นี่เป็นการไม่ยึดม่ันถือมั่นโดยไม่ใช้หัวสมอง มันก็เกือบจะเหมือนกับความวางเฉย
ของควาย ถา้ ท่านมคี วามเปน็ อยูด่ แี ละเป็นอยู่ง่ายๆ ถา้ ทา่ นอดทนและไมเ่ หน็ แกต่ ัว
ทา่ นจึงจะเขา้ ใจซง้ึ ถงึ ปญั ญาของทา่ นฮยุ เหนิงได้
๑๕. ทา่ นอาจารย์เคยสอนว่า สมถะหรอื สมาธิ และวปิ สั สนาหรอื ปญั ญา น้ีเป็น
ส่งิ เดยี วกัน ขอทา่ นอาจารย์อธบิ ายเพม่ิ เติมได้ไหมครับ
นก่ี เ็ ปน็ เรอื่ งงา่ ยๆ นเี่ อง สมาธิ (สมถะ) และปญั ญา (วปิ สั สนา) น้ี ตอ้ งควบคกู่ นั ไป
เบ้ืองแรกจิตจะต้ังมั่นเป็นสมาธิอยู่ได้โดยอาศัยอารมณ์ภาวนา จิตจะสงบต้ังมั่นอยู่
ได้เฉพาะขณะทท่ี ่านน่งั หลบั ตาเทา่ นน้ั นค่ี อื สมถะ และอาศยั สมาธเิ ปน็ พื้นฐานช่วย
ใหเ้ กิดปัญญา หรือวิปัสสนาไดใ้ นท่สี ดุ แล้วจติ ก็จะสงบ ไมว่ ่าทา่ นจะน่งั หลับตาอยู่
หรอื เดนิ อยใู่ นเมอื งทวี่ นุ่ วาย เปรยี บเหมอื นกบั วา่ ครงั้ หนง่ึ ทา่ นเคยเปน็ เดก็ บดั นที้ า่ น
เปน็ ผใู้ หญ่ แลว้ เดก็ กบั ผใู้ หญน่ เ้ี ปน็ บคุ คลคนเดยี วกนั หรอื เปลา่ ทา่ นอาจจะพดู ไดว้ า่
เป็นคนคนเดียวกัน หรือถ้ามองอีกแง่หนึ่งท่านก็อาจจะพูดได้ว่าเป็นคนละคนกัน
ในทำ� นองเดยี วกนั สมถะกบั วปิ สั สนากอ็ าจจะพดู ไดว้ า่ เปน็ คนละเรอื่ งกนั หรอื เปรยี บ
เหมอื นอาหารกบั อจุ จาระ อาจจะเรยี กไดว้ า่ เปน็ สงิ่ เดยี วกนั และถา้ มองอกี แงห่ นง่ึ กอ็ าจ
จะเรยี กไดว้ ่าเป็นคนละส่ิงกนั
536
อยา่ เพ่งิ เชือ่ ส่งิ ท่ผี มพดู มาน้ี จงฝกึ ปฏบิ ัตติ ่อไปและเหน็ จรงิ ดว้ ยตัวของทา่ นเอง
ไมต่ อ้ งทำ� อะไรพเิ ศษไปกวา่ น้ี ถา้ ทา่ นพจิ ารณาวา่ สมาธแิ ละปญั ญาเกดิ ขน้ึ ไดอ้ ยา่ งไรแลว้
ท่านจะรู้ความจรงิ ได้ดว้ ยตวั ของทา่ นเอง
ทุกวันนี้ผู้คนไปยึดม่ันอยู่กับชื่อเรียก ผู้ท่ีเรียกการปฏิบัติของพวกเขาว่า
“วิปัสสนา” สมถะก็ถูกเหยียดหยาม หรือผู้ท่เี รยี กการปฏบิ ัติของพวกเขาวา่ “สมถะ”
กจ็ ะพดู ว่า จำ� เป็นต้องฝึกสมถะกอ่ นวปิ ัสสนา เหลา่ นเี้ ป็นเรื่องไร้สาระ อยา่ ไปวุน่ วาย
คดิ ถึงมันเลย เพียงแตฝ่ ึกปฏิบตั ิไป แล้วท่านจะรู้ไดด้ ้วยตัวทา่ นเอง
๑๖. ในการปฏบิ ัติของเรา จำ� เป็นทจ่ี ะตอ้ งเข้าถึงฌานหรือไม่ครับ
ไม่ ฌานไมใ่ ชเ่ รอื่ งจำ� เปน็ ทา่ นตอ้ งฝกึ จติ ใจใหม้ คี วามสงบ และมอี ารมณเ์ ปน็ หนง่ึ
(เอกคั คตา) แลว้ อาศยั อนั นสี้ ำ� รวจตนเอง ไมต่ อ้ งทำ� อะไรพเิ ศษไปกวา่ น้ี ถา้ ทา่ นไดฌ้ าน
ในขณะฝกึ ปฏบิ ตั นิ ก้ี ใ็ ชไ้ ดเ้ หมอื นกนั แตอ่ ยา่ ไปหลงตดิ อยใู่ นฌาน หลายคนชะงกั ตดิ อยู่
ในฌาน มันทำ� ใหเ้ พลดิ เพลนิ ได้มากเม่อื ไปเลน่ กบั มัน ทา่ นต้องรูข้ อบเขตที่สมควร
ถา้ ทา่ นฉลาด ทา่ นกจ็ ะเหน็ ประโยชนแ์ ละขอบเขตของฌาน เชน่ เดยี วกบั ทที่ า่ นรขู้ น้ั ความ
สามารถของเด็ก และข้ันความสามารถของผู้ใหญ่
๑๗. ทำ� ไมเราตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามธดุ งควตั ร เชน่ ฉนั อาหารเฉพาะแตใ่ นบาตรเทา่ นนั้
เลา่ ครับ
ธุดงควัตรทั้งหลาย ล้วนเป็นเครื่องช่วยเราให้ท�ำลายกิเลสเคร่ืองเศร้าหมอง
การปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ทว่ี า่ ใหฉ้ นั แตอ่ าหารในบาตร ทำ� ใหเ้ รามสี ตมิ ากขนึ้ ระลกึ วา่ อาหารนน้ั
เป็นเสมือนยารักษาโรค ถ้าเราไม่มีกิเลสเครื่องเศร้าหมองแล้ว มันก็ไม่ส�ำคัญว่า
เราจะฉันอย่างไร แต่เราอาศัยธุดงควัตรท�ำให้การปฏิบัติของเราเป็นไปอย่างง่ายๆ
พระพุทธองค์ไม่ได้ทรงบัญญัติธุดงควัตรไว้ว่าเป็นสิ่งจ�ำเป็นส�ำหรับพระภิกษุทุกองค์
แต่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติธุดงควัตร ส�ำหรับพระภิกษุผู้ประสงค์จะปฏิบัติอย่าง
เคร่งครัด ธดุ งควตั รเปน็ สว่ นทเ่ี พ่มิ ขึ้นมาในศีล เพราะฉะน้นั จะช่วยเพมิ่ ความม่ันคง
และความเข้มแข็งของจิตใจเรา ขอ้ วตั รท้ังหลายเหลา่ นม้ี ไี ว้ใหท้ ่านปฏบิ ัติ อยา่ คอย
537
จบั ตาดวู า่ ผอู้ นื่ ปฏบิ ตั อิ ยา่ งไร จงเฝา้ ดจู ติ ของตวั ทา่ นเอง และดวู า่ อะไรจะเปน็ ประโยชน์
ส�ำหรับท่าน กฎข้อที่ว่าเราต้องไปอยู่กุฏิ จะกุฏิใดก็ตามท่ีก�ำหนดไว้ให้เรา เป็นกฎ
ที่เป็นประโยชน์เช่นเดียวกัน มันช่วยกันไม่ให้พระติดที่อยู่ ถ้าผู้ใดจากไปแล้วและ
กลบั มาใหม่ ก็จะตอ้ งไปอย่กู ฏุ ิใหม่ การปฏบิ ตั ิของพวกเราเป็นเช่นนี้ คือไมย่ ดึ มั่น
ถือม่นั ในสิง่ ใด
๑๘. ถ้าหากว่าการใส่อาหารทุกอย่างรวมลงในบาตรเป็นสิ่งจ�ำเป็นแล้ว ท�ำไม
ทา่ นอาจารยจ์ งึ ไมป่ ฏบิ ตั ดิ ว้ ยเชน่ เดยี วกนั ครบั ทา่ นคดิ วา่ ไมส่ ำ� คญั หรอื ครบั ทอ่ี าจารย์
จะตอ้ งทำ� เปน็ ตัวอยา่ งแก่ศษิ ย์
ถกู แลว้ อาจารยค์ วรจะทำ� เปน็ ตวั อยา่ งแกล่ กู ศษิ ยข์ องตน ผมไมถ่ อื วา่ ทา่ นตผิ ม
ทา่ นซกั ถามไดท้ กุ อยา่ งทอ่ี ยากทราบ แตว่ า่ มนั กส็ ำ� คญั ทที่ า่ นตอ้ งไมย่ ดึ อยกู่ บั อาจารย์
ถา้ ดจู ากภายนอก ผมปฏบิ ัตดิ พี รอ้ มหมดก็คงจะแยม่ าก พวกทา่ นทกุ คนกจ็ ะพากัน
ยึดติดในตัวผมยิ่งข้ึน แม้พระพุทธเจ้าเอง บางคร้ังก็ตรัสให้บรรดาสาวกปฏิบัติ
อย่างหนึ่ง และพระองค์เองกลับปฏิบัติอีกอย่างหนึ่ง ความไม่แน่ใจในอาจารย์ของ
ทา่ นกช็ ว่ ยทา่ นได้ ทา่ นควรเฝา้ ดปู ฏกิ ริ ยิ าของตวั เอง ทา่ นไมค่ ดิ บา้ งหรอื วา่ อาจจะเปน็
ไปไดว้ า่ ท่ีผมแบ่งอาหารจากบาตรใสจ่ านไว้ก็เพื่อเล้ยี งดูชาวบา้ นทีม่ าช่วยท�ำงานวดั
ปัญญาคือสิ่งที่ท่านต้องเฝ้าดูและท�ำให้เจริญข้ึน รับเอาแต่สิ่งที่ดีจากอาจารย์
จงรเู้ ทา่ ทนั การฝกึ ปฏบิ ตั ขิ องทา่ นเอง ถา้ ผมพกั ผอ่ นในขณะทพ่ี วกทา่ นทกุ องคต์ อ้ งนงั่
ทำ� ความเพยี รแล้ว ท่านจะโกรธหรือไม่ ถา้ ผมเรยี กสนี ำ้� เงินว่าแดง หรือเรยี กผู้ชายวา่
ผู้หญิง ก็อยา่ เรยี กตามผมอย่างหลบั หหู ลบั ตา
อาจารยอ์ งคห์ นง่ึ ของผมฉนั อาหารเรว็ มาก และฉนั เสยี งดงั แตท่ า่ นสอนใหพ้ วกเรา
ฉนั ชา้ ๆ และฉนั อยา่ งมสี ติ ผมเคยเฝา้ ดทู า่ นและรสู้ กึ ขดั เคอื งใจมาก ผมเปน็ ทกุ ข์ แตท่ า่ น
ไมท่ กุ ขเ์ ลย ผมเพง่ เลง็ แตล่ กั ษณะภายนอก ตอ่ มาผมจงึ ไดร้ ู้ บางคนขบั รถเรว็ มาก แต่
ระมดั ระวงั บางคนขบั ชา้ ๆ แตม่ อี บุ ตั เิ หตบุ อ่ ยๆ อยา่ ยดึ มน่ั ถอื มนั่ ในกฎระเบยี บและรปู
แบบภายนอก ถา้ ทา่ นใชเ้ วลาอยา่ งมากเพยี งสบิ เปอรเ์ ซน็ ตม์ องดผู อู้ นื่ แตเ่ ฝา้ ดตู วั เอง
เกา้ สบิ เปอรเ์ ซ็นต์ อยา่ งนี้เป็นการปฏิบัติทีถ่ กู ต้องแล้ว
538
แรกๆ ผมคอยเฝา้ สงั เกตอุ าจารยข์ องผมคอื อาจารยท์ องรตั น์ และเกดิ สงสยั ใน
ตัวท่านมาก บางคนถงึ กบั คิดว่าทา่ นบา้ ทา่ นมกั จะทำ� อะไรแปลกๆ หรอื เกร้ียวกราด
เอากบั บรรดาลกู ศษิ ยข์ องทา่ น อาการภายนอกของทา่ นโกรธ แตภ่ ายในใจทา่ นไมม่ อี ะไร
ไมม่ ตี ัวตน ทา่ นนา่ เล่ือมใสมาก ทา่ นเป็นอยู่อย่างรแู้ จ้งและมีสติ จนถงึ วาระทท่ี า่ น
มรณภาพ
การมองออกไปนอกตวั เปน็ การเปรยี บเทยี บแบง่ เขาแบง่ เรา ทา่ นจะไมพ่ บความสขุ
โดยวิธีนี้ และท่านจะไม่พบความสงบเลย ถ้าท่านมัวเสียเวลาแสวงหาคนท่ีดีพร้อม
หรอื ครูท่ีดพี รอ้ ม พระพทุ ธเจ้าทรงสอนใหเ้ ราดูท่ีธรรมะ ทีส่ จั ธรรม ไมใ่ ชค่ อยจับตา
ดูผอู้ ื่น
๑๙. เราจะเอาชนะกามราคะท่ีเกิดขึ้นระหว่างการฝึกปฏิบัติได้อย่างไรครับ
บางคร้ังผมรสู้ กึ เปน็ ทาสของความตอ้ งการทางเพศ
กามราคะจะบรรเทาลงไดด้ ว้ ยการเพง่ พจิ ารณาถงึ ความนา่ เกลยี ดโสโครก (อสภุ ะ)
การยดึ ตดิ อยกู่ บั รปู รา่ งกายเปน็ สดุ โตง่ ขา้ งหนง่ึ ซงึ่ เราตอ้ งมองในทางตรงขา้ ม จงพจิ ารณา
รา่ งกายเหมอื นซากศพ และเหน็ การเปลยี่ นแปลงเนา่ เปอ่ื ย หรอื พจิ ารณาอวยั วะตา่ งๆ
ของรา่ งกาย เชน่ ปอด มา้ ม ไขมนั อจุ จาระ และอน่ื ๆ จ�ำอันนไี้ วแ้ ละพิจารณาให้
เหน็ จรงิ ถงึ ความนา่ เกลยี ดโสโครกของรา่ งกาย เมอื่ มกี ามราคะเกดิ ขน้ึ กจ็ ะชว่ ยใหท้ า่ น
เอาชนะกามราคะได้
๒๐. เมอ่ื ผมโกรธ ผมควรจะท�ำอยา่ งไรครับ
ทา่ นตอ้ งแผเ่ มตตา ถา้ ทา่ นมโี ทสะในขณะภาวนา ใหแ้ กด้ ว้ ยเมตตาจติ ถา้ มใี คร
ทำ� ไมด่ หี รอื โกรธ อยา่ โกรธตอบ ถา้ ทา่ นโกรธตอบทา่ นจะโงย่ งิ่ กวา่ เขา จงเปน็ คนฉลาด
สงสารเห็นใจเขา เพราะว่าเขาก�ำลังได้ทุกข์ จงมีเมตตาเต็มเปี่ยมเหมือนหน่ึงว่าเขา
เปน็ น้องชายท่รี ักยงิ่ ของทา่ น เพ่งอารมณเ์ มตตาเป็นอารมณภ์ าวนา แผเ่ มตตาไปยงั
สรรพสัตว์ท้งั หลายในโลก เมตตาเท่านนั้ ทจี่ ะเอาชนะโทสะและความเกลยี ดได้
539
บางคร้ังทา่ นอาจจะเห็นพระภิกษรุ ปู อ่นื ปฏิบตั ิไม่สมควร ทา่ นอาจจะรำ� คาญใจ
ทำ� ใหเ้ ปน็ ทกุ ขโ์ ดยใชเ่ หตุ นไี้ มใ่ ชธ่ รรมะของเรา ทา่ นอาจจะคดิ อยา่ งนว้ี า่ “เขาไมเ่ ครง่ เทา่ ฉนั
เขาไม่ใช่พระกรรมฐานที่เอาจริงเอาจังเช่นฉัน เขาไม่ใช่พระที่ดี” น่ีเป็นกิเลสเครื่อง
เศรา้ หมองอยา่ งยงิ่ ของตวั ทา่ นเอง อยา่ เปรยี บเทยี บ อยา่ แบง่ เขาแบง่ เรา จงละทฏิ ฐขิ อง
ทา่ นเสยี และเฝา้ ดตู วั ทา่ นเอง นแ่ี หละคอื ธรรมะของเรา ทา่ นไมส่ ามารถบงั คบั ใหท้ กุ คน
ประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ ามทท่ี า่ นตอ้ งการ หรอื เปน็ เชน่ ทา่ นได้ ความตอ้ งการเชน่ นมี้ แี ตจ่ ะทำ�
ใหท้ า่ นเปน็ ทกุ ข์ ผปู้ ฏบิ ตั ภิ าวนามกั จะพากนั หลงผดิ ในขอ้ น้ี การจบั ตาดผู อู้ น่ื ไมท่ ำ� ให้
เกดิ ปญั ญาได้ เพียงแต่พจิ ารณาตนเองและความรู้สกึ ของตน แล้วทา่ นกจ็ ะเข้าใจ
๒๑. ผมง่วงเหงาหาวนอนอยู่มากครบั ทำ� ให้ภาวนาลำ� บาก
มีวิธีเอาชนะความง่วงได้หลายวิธี ถ้าท่านน่ังอยู่ในที่มืด ย้ายไปอยู่ท่ีสว่าง
ลมื ตาขนึ้ ลกุ ไปลา้ งหนา้ ตบหนา้ ตนเอง หรอื ไปอาบนำ�้ ถา้ ทา่ นยงั งว่ งอยอู่ กี ใหเ้ ปลยี่ น
อริ ิยาบถ เดนิ จงกรมให้มากหรอื เดินถอยหลงั ความกลัวว่าจะไปชนอะไรเข้าจะทำ� ให้
ท่านหายง่วง ถ้ายังง่วงอยู่อีก ก็จงยืนน่ิงๆ ท�ำใจให้สดช่ืน และสมมุติว่าขณะนั้น
สวา่ งเปน็ กลางวนั หรอื นงั่ รมิ หนา้ ผาสงู หรอื บอ่ ลกึ ทา่ นจะไมก่ ลา้ หลบั ถา้ ทำ� อยา่ งไรๆ
ก็ไม่หายงว่ ง ก็จงนอนเสีย เอนกายลงอยา่ งสำ� รวมระวัง และรู้ตวั อยู่จนกระทัง่ ท่าน
หลบั ไป เมอื่ ทา่ นรสู้ กึ ตวั ตน่ื ขน้ึ จงลกุ ขน้ึ ทนั ที อยา่ มองดนู าฬกิ าหรอื หลบั ตาอกี เรม่ิ ตน้
มีสติระลกึ รทู้ นั ทีท่ีทา่ นต่นื
ถา้ ท่านงว่ งนอนอยทู่ ุกวนั ลองฉนั อาหารให้น้อยลง ส�ำรวจตัวเอง ถ้าอีกหา้ คำ�
ท่านจะอม่ิ จงหยดุ แลว้ ด่ืมนำ�้ จนอมิ่ พอดี แล้วกลบั ไปนง่ั ดูใหม่อีก เฝา้ ดคู วามงว่ งและ
ความหวิ ทา่ นตอ้ งกะฉนั อาหารใหพ้ อดี เมอ่ื ทา่ นฝกึ ปฏบิ ตั ติ อ่ ไปอกี ทา่ นจะรสู้ กึ กระปรี้
กระเปรา่ ขึ้น และฉนั นอ้ ยลง ทา่ นต้องปรบั ตวั ของทา่ นเอง
๒๒. ท�ำไมเราจงึ ต้องกราบกันบอ่ ยๆ ครับ ท่นี ี่
การกราบน้ีเป็นสิ่งส�ำคัญมาก เป็นรูปแบบซ่ึงเป็นส่วนหน่ึงของการปฏิบัติ
การกราบน้ตี อ้ งท�ำใหถ้ ูกต้อง ก้มลงจนหน้าผากจรดพ้นื วางศอกให้ชิดกับเขา่ ฝา่ มือ
540
ทั้งสองราบอยู่ท่ีพ้ืน ห่างกันประมาณสามนิ้ว กราบลงช้าๆ มีสติรู้อาการของกาย
การกราบชว่ ยแกค้ วามถอื ตวั ของเราไดเ้ ปน็ อยา่ งดี เราควรกราบบอ่ ยๆ เมอ่ื ทา่ นกราบ
สามหน ท่านควรตั้งจิตระลึกถึงพระคณุ ของพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์
น่ันคือคุณลักษณะแห่งจิตอันสะอาด สว่างและสงบ ดังนั้น เราจึงอาศัยรูปแบบน้ี
ฝกึ ฝนตน กายและจติ จะประสานกลมกลนื กนั อยา่ ไดห้ ลงผดิ ไปจบั ตาดวู า่ ผอู้ น่ื กราบ
อยา่ งไร ถา้ สามเณรนอ้ ยดไู มใ่ สใ่ จ และพระผเู้ ฒา่ ดขู าดสติ กไ็ มใ่ ชเ่ รอ่ื งทที่ า่ นจะตดั สนิ
บางคนอาจจะสอนยาก บางคนเรยี นไดเ้ รว็ บางคนเรยี นไดช้ า้ การพจิ ารณาตดั สนิ ผอู้ นื่
มแี ตจ่ ะเพ่มิ ความหย่งิ ทะนงตน จงเฝา้ ดตู ัวเอง กราบบ่อยๆ ขจดั ความหยิ่งทะนงตน
ออกไป
ผทู้ ่ีเขา้ ถึงธรรมะได้อยา่ งแท้จรงิ แลว้ ท่านจะอย่เู หนอื รปู แบบ ทกุ ๆ อยา่ งทท่ี ่าน
ทำ� ก็มีแต่การออ่ นนอ้ มถอ่ มตน เดินกถ็ อ่ ม ฉันกถ็ อ่ ม ขบั ถ่ายก็ถอ่ ม ท้ังนี้ก็เพราะวา่
ทา่ นพ้นจากความเห็นแก่ตวั เสียแล้ว
๒๓. อุปสรรคใหญ่ของลูกศษิ ย์ใหม่ของท่านอาจารยค์ อื อะไรครับ
ทฏิ ฐิ ความเหน็ และความนกึ คดิ เกยี่ วกบั สงิ่ ทง้ั ปวง เกย่ี วกบั ตวั เขาเอง เกย่ี วกบั
การปฏิบัติภาวนา เกยี่ วกับคำ� สอนของพระพุทธเจา้ หลายๆ ท่านทมี่ าท่นี ีม่ ีต�ำแหนง่
การงานสงู ในสงั คม บางคนเปน็ พอ่ คา้ ทม่ี ง่ั คงั่ หรอื ไดป้ รญิ ญาตา่ งๆ ครแู ละขา้ ราชการ
สมองของเขาเต็มไปด้วยความคิดเห็นต่อส่ิงต่างๆ เขาฉลาดเกินกว่าท่ีจะฟังผู้อ่ืน
เปรยี บเหมอื นนำ�้ ในถว้ ย ถา้ ถว้ ยมนี ำ้� สกปรกอยเู่ ตม็ ถว้ ยนำ�้ กใ็ ชป้ ระโยชนอ์ ะไรไมไ่ ด้
เมอ่ื ไดเ้ ทนำ้� เกา่ นนั้ ทง้ิ ไปแลว้ เทา่ นนั้ ถว้ ยนนั้ กจ็ ะใชป้ ระโยชนไ์ ด้ ทา่ นตอ้ งทำ� จติ ใหว้ า่ ง
จากทิฏฐิ แล้วท่านจึงจะได้เรียนรู้ การปฏิบัติของเราน้ันอยู่เหนือความฉลาดหรือ
ความโง่ ถา้ ทา่ นคดิ วา่ ฉนั เกง่ ฉนั รวย ฉนั เปน็ คนใหญค่ นโต ฉนั เขา้ ใจพระพทุ ธศาสนา
แจม่ แจง้ ทงั้ หมดเชน่ นแี้ ลว้ ทา่ นจะไมเ่ หน็ ความจรงิ ในเรอื่ งของอนตั ตาหรอื ความไมใ่ ช่
ตัวตน ท่านจะมีแต่ตัวตน ตัวฉัน ของฉัน แต่พระพุทธศาสนาคือการละตัวตน
เป็นความวา่ ง เปน็ ความไมม่ ที ุกข์ เป็นนพิ พาน
541
๒๔. กเิ ลสเครอ่ื งเศรา้ หมอง เชน่ ความโลภหรอื ความโกรธ เปน็ เพยี งมายา หรอื วา่
เปน็ ของจริงครบั
เปน็ ทง้ั สองอย่าง กเิ ลสที่เราเรียกวา่ ราคะหรือความโลภ ความโกรธ และความ
หลงน้ัน เป็นแต่เพียงชื่อ เป็นสิ่งท่ีปรากฏขึ้นมา เช่นเดียวกับท่ีเราเรียกชามใหญ่
ชามเลก็ สวย หรืออะไรก็ตาม น่ไี มใ่ ช่สภาพทเ่ี ป็นจริง แต่เป็นความคิดปรุงแต่งที่
เราคดิ ปรงุ ขน้ึ จากตณั หา ถา้ เราต้องการชามใหญ่ เรากว็ า่ อนั นีเ้ ล็กไป ตณั หาทำ� ให้เรา
แบง่ แยก ความจริงกค็ ือ มนั ก็เป็นของมนั อยู่อยา่ งนนั้ ลองมามองแง่น้บี ้าง ท่านเปน็
ผูช้ ายหรอื เปล่า ท่านตอบวา่ เป็น นเ่ี ป็นเพียงรปู ปรากฏของสิ่งตา่ งๆ แทจ้ ริงแลว้ ทา่ น
เป็นส่วนประกอบของธาตุและขนั ธ์ ถ้าจติ เป็นอิสระแล้ว จิตจะไม่แบ่งแยก ไม่มใี หญ่
ไมม่ เี ลก็ ไมม่ เี ขา ไมม่ เี รา ไมม่ อี ะไรจะเปน็ อนตั ตา หรอื ความไมใ่ ชต่ วั ตน แทจ้ รงิ แลว้
ในบนั้ ปลายกไ็ ม่มีทง้ั อตั ตาและอนตั ตา (เปน็ แตเ่ พยี งชอื่ เรยี ก)
๒๕. ขอความกรุณาท่านอาจารยอ์ ธิบายเพิ่มเตมิ เกย่ี วกับกรรมดว้ ยครบั
กรรมคอื การกระทำ� กรรมคอื การยดึ มนั่ ถอื มน่ั กาย วาจา และใจ ลว้ นสรา้ งกรรม
เมอ่ื มกี ารยดึ มน่ั ถอื มนั่ เราทำ� กนั จนเกดิ ความเคยชนิ เปน็ นสิ ยั ซงึ่ จะทำ� ใหเ้ ราเปน็ ทกุ ข์
ได้ในกาลขา้ งหน้า นีเ่ ป็นผลของการยดึ มน่ั ถอื มั่นและของกเิ ลสเคร่ืองเศรา้ หมองของ
เราทีเ่ กิดข้นึ แลว้ ในอดตี ความยึดม่นั ทั้งหลายจะทำ� ใหเ้ ราสร้างกรรม สมมุติวา่ ทา่ น
เคยเปน็ ขโมย กอ่ นท่ีจะบวชเป็นพระ ท่านขโมยเขา ทำ� ใหเ้ ขาไม่เปน็ สขุ ท�ำให้พ่อแม่
หมดสขุ ตอนนีท้ า่ นเป็นพระ แต่เวลาที่ทา่ นนกึ ถงึ เร่อื งทที่ ่านท�ำให้ผู้อืน่ หมดสุขแลว้
ท่านกไ็ มส่ บายใจและเป็นทกุ ขแ์ มจ้ นทกุ วันน้ี
จงจ�ำไว้ว่าทั้งกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรมจะเป็นเหตุปัจจัยให้เกิดผล
ในอนาคตได้ ถ้าท่านเคยสร้างกรรมดไี วใ้ นอดีต และวันน้กี ย็ งั จำ� ได้ ทา่ นก็เปน็ สุข
ความสขุ ใจเปน็ ผลจากกรรมในอดีต สิง่ ท้ังปวงมเี หตเุ ปน็ ปัจจัย ทง้ั ในระยะยาว และ
ถ้าใคร่ครวญดแู ลว้ ท้ังในทุกๆ ขณะด้วย แต่ท่านอย่าไปนึกถงึ อดีตหรือปัจจบุ นั หรือ
อนาคต เพยี งแต่เฝ้าดกู ายและจิต ท่านจะต้องพิจารณาจนเหน็ จริงในเร่ืองกรรมด้วย
542
ตวั ของทา่ นเอง จงเฝา้ ดจู ติ ปฏบิ ตั แิ ลว้ ทา่ นจะรอู้ ยา่ งแจม่ แจง้ อยา่ ลมื วา่ กรรมของใคร
ก็เป็นของคนนั้น อย่ายึดม่ันและอย่าจับตาดูผู้อื่น ถ้าผมด่ืมยาพิษ ผมก็ได้ทุกข์
ไมใ่ ชเ่ รอื่ งทท่ี า่ นจะมาเปน็ ทกุ ขด์ ว้ ย จงรบั เอาแตส่ ง่ิ ดที อี่ าจารยส์ อน แลว้ ทา่ นจะเขา้ ถงึ
ความสงบ จติ ของทา่ นจะเปน็ เชน่ เดยี วกนั กบั จติ ของอาจารย์ ถา้ ทา่ นพจิ ารณาดู ทา่ นก็
จะรไู้ ด้ แมว้ า่ ขณะนท้ี า่ นจะยงั ไมเ่ ขา้ ใจ เมอื่ ทา่ นปฏบิ ตั ติ อ่ ไปมนั กจ็ ะแจม่ แจง้ ขนึ้ ทา่ นจะรู้
ไดด้ ว้ ยตนเอง ได้ชื่อวา่ ปฏิบัตธิ รรม
เม่อื เรายงั เลก็ พอ่ แมว่ างกฎระเบยี บกบั เรา และหวั เสียกบั เรา แท้จรงิ แล้วท่าน
ตอ้ งการจะชว่ ยเรา กวา่ เราจะรกู้ ต็ อ่ มาอกี นาน พอ่ แมแ่ ละครบู าอาจารยด์ วุ า่ เราและเรา
กไ็ มพ่ อใจ ตอ่ มาเราจงึ เขา้ ใจวา่ ทำ� ไมเราจงึ ถกู ดุ ปฏบิ ตั ไิ ปนานๆ แลว้ ทา่ นกจ็ ะเหน็ เอง
สว่ นผู้ทีค่ ิดวา่ ตนฉลาดล้�ำก็จะจากไปในเวลาอันส้ัน เขาไม่มวี นั จะไดเ้ รียนรู้ ทา่ นต้อง
ขจดั ความคดิ ว่าตวั ฉลาดสามารถออกไปเสยี ถา้ ทา่ นคิดว่าท่านดีกว่าผอู้ นื่ ทา่ นก็จะมี
แตท่ ุกข์ เปน็ เรอ่ื งน่าสงสาร อย่าขนุ่ เคืองใจ แตจ่ งเฝา้ ดตู นเอง
๒๖. บางครงั้ ดเู หมอื นวา่ ตง้ั แตผ่ มบวชเปน็ พระมานี้ ผมประสบความยากลำ� บาก
และความทกุ ข์มากขึ้น
ผมรู้ว่าพวกท่านบางคนมีภูมิหลังท่ีสะดวกสบายทางวัตถุมาก่อนและมีเสรีภาพ
เมอ่ื เปรยี บกนั แลว้ ขณะนที้ า่ นตอ้ งเปน็ ผอู้ ยอู่ ยา่ งสำ� รวมตนเองและมกั นอ้ ยยง่ิ นกั ซำ�้ ใน
การฝกึ ปฏิบัตนิ ้ี ผมยังให้ท่านนัง่ นานและคอยหลายชัว่ โมง อาหารและดินฟ้าอากาศ
ก็ต่างกันไปกับบ้านเมืองของท่าน แต่ทุกคนก็ต้องผ่านความทุกข์ยากกันบ้าง นี่คือ
ความทุกข์ทจี่ ะนำ� ไปสคู่ วามดับทกุ ข์ อยา่ งนแี้ หละทจ่ี ะทำ� ให้ท่านไดเ้ รียนรู้ เมอ่ื ทา่ น
นึกโกรธหรือนึกสงสารตัวเอง นั่นแหละเป็นโอกาสเหมาะที่จะเข้าใจเร่ืองของจิต
พระพทุ ธเจา้ ตรสั ว่า กเิ ลสทั้งหลายเปน็ ครูของเรา
ศษิ ยท์ ุกคนกเ็ หมือนลกู ของผม ผมมีแต่เมตตากรณุ าและความปรารถนาดีตอ่
ทกุ คน ถา้ ผมทำ� ใหท้ า่ นทกุ ขย์ ากกเ็ พอื่ ประโยชนข์ องทา่ นเอง ผมรวู้ า่ พวกทา่ นบางคนมี
การศกึ ษาดแี ละมคี วามรสู้ งู ผทู้ ม่ี กี ารศกึ ษานอ้ ยและมคี วามรทู้ างโลกนอ้ ยจะฝกึ ปฏบิ ตั ิ
543