The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

48พระธรรมเทศนา หลวงปู่ชา สุภัทโท

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by wonchai890, 2022-02-20 20:16:02

48พระธรรมเทศนา หลวงปู่ชา สุภัทโท

48พระธรรมเทศนา หลวงปู่ชา สุภัทโท

พอตอนเที่ยง นึกถึงต�ำส้มถั่วข้ึนมาเท่านั้น ขนหัวลุกซู่ รู้สึกแน่นขึ้นมาทันที
มันไม่ถูกกับไข้แน่ๆ มันจับไข้ ต�ำส้มถั่วแสลงไข้จริงๆ ละนี่ เอ้า แสลงก็แสลง
ถ้าไมถ่ ึงคราวตายของมนั มันกจ็ ะอาเจียนออกมาหรอก แน่นไปแน่นมาดนั ไปดันมา
สกั ประมาณบา่ ยหนง่ึ กอ็ าเจยี นออกมาจรงิ ๆ แนะ่ อาเจยี นออกมาจรงิ ๆ ไมถ่ งึ คราวมนั
หรือถ้าหากไม่อาเจียนก็ต้องมีคนมาแก้ แล้วก็อาเจียนออกมาจริงๆ พิจารณาไป
อยา่ งน้ัน

อยา่ ตามใจมนั หดั มนั เอาชวี ติ เขา้ แลกเลย ปฏบิ ตั นิ อ่ี ยา่ งนอ้ ยตอ้ งไดร้ อ้ งไห้ ๓ หน
นั่นแหละการปฏิบัติ ถ้ามันง่วงนอน อยากนอนก็อย่าให้มันนอน พอมันหายง่วง
จึงให้มนั นอน อยา่ งนนั้ แต่เรานะ โอย ปฏิบัตไิ ม่ได้หรอก บางคร้ังบณิ ฑบาตมา
กอ่ นจะฉนั กม็ านง่ั พจิ ารณาอยู่ มนั พจิ ารณาไมอ่ อก เหมอื นสนุ ขั บา้ นำ�้ ลายหกนำ้� ลายไหล
เพราะความอยาก จะพิจารณาอะไรก็พิจารณาไม่ออก บางทีพิจารณาก็ไม่ทันใจ
รีบตามมนั ก็ยิ่งรา้ ยใหญ่ ถ้ามันไม่ฟงั อดทนไมไ่ ดก้ ็ดนั บาตรออกไปเสยี อย่าให้มนั
ได้ฉนั หัดมัน ทรมานมนั

การปฏบิ ตั ินี่ อยา่ ทำ� ตามมันเรื่อยๆ ผลกั บาตรหนไี ป อยา่ ใหม้ นั ฉัน มนั อยาก
มากนักอยา่ ให้มนั ฉัน มันพดู ไม่ฟังความนี่ ฮึ น�้ำลายก็หยดุ ไหล พอรู้วา่ จะไม่ไดฉ้ ัน
มันเขด็ พอวันตอ่ มา มันไม่กวนหรอก มนั กลวั วา่ มันจะไมไ่ ดฉ้ นั เงียบ ลองๆ ท�ำดูซิ
ถา้ ไมเ่ ช่อื

คนเรานะมันไม่เชื่อไม่กล้าท�ำ ถึงว่าคนไม่มีศรัทธาจะท�ำ กลัวแต่มันจะหิว
กลัวแตม่ ันจะตาย ไม่ท�ำดทู ่ีนน่ั มันก็ไมร่ จู้ ัก ไม่กลา้ ทำ� หรอกพวกเรานะ ไมก่ ลา้ ท�ำดู
กลัวแตม่ นั จะเปน็ นั่น กลวั แตม่ ันจะเป็นน่ี เรื่องอาหารการขบฉนั เรอ่ื งนนั่ เร่ืองน่ีนะ
โอย ทุกขก์ บั มนั มามากจนรเู้ ทา่ วา่ มนั ทกุ ข์ นน่ั แหละเรือ่ งเลก็ ๆ น้อยๆ น่ี เรอื่ งการ
ปฏิบตั นิ ี่ ไม่ใช่เรื่องจะพิจารณาง่ายๆ ไมใ่ ชเ่ รอื่ งเบาๆ นะ

พิจารณาเรื่องอะไร เร่ืองอะไรละ่ ที่ส�ำคัญที่สดุ เรื่องอื่นไม่มีแลว้ มนั ตาย เรื่อง
นีส้ ำ� คัญ ตายจงึ เป็นเร่ืองส�ำคัญในโลก พจิ ารณาไป ท�ำไป หาไป กย็ ังไมพ่ บ ไม่มี
ผา้ นงุ่ ผา้ หม่ กย็ งั ไมต่ าย ไมม่ หี มากกนิ ไมม่ บี หุ รส่ี บู กย็ งั ไมต่ าย ถา้ ไมม่ ขี า้ ว ไมม่ นี ำ้� กนิ

194

นต่ี าย เหน็ เทา่ น้ี ของสำ� คญั ในโลกมขี า้ วกบั นำ�้ นสี่ ำ� คญั เลยี้ งรา่ งกายเลยไมส่ นใจเรอื่ งอน่ื
เอาแต่มันจะพอได้ ส่วนข้าวกับน้�ำน่ี พอไม่ตาย มีอายุปฏิบัติไปเท่านั้นก็เอาละ
เอาไหมล่ะ เอาเท่านี้ อย่างอื่นเรื่องเบ็ดเตล็ด น่ันถ้ามันจะได้หรือไม่ได้ก็ช่างมัน
จะมีจะพบก็ช่าง ข้อส�ำคัญมีแต่ข้าวกับน้�ำเท่านั้นก็พอ ถ้าอยู่ไปจะพอได้กินไหม
จะพอตายไหม พิจารณาไปอยา่ งน้ัน พอไดก้ นิ พอได้ใชอ้ ยหู่ รอก เข้าไปบณิ ฑบาต
บ้านไหนเขาคงจะใหห้ รอก ข้าวทลี ะก้อน น�้ำหากนิ มันจนไดแ้ หละ เอาสองอันเทา่ นี้
ไมค่ ิดจะรวยเทา่ ใดหรอก

เรื่องการปฏิบัติ เรื่องผิดเร่ืองถูกมันปนกันมาน่ันแหละ เราต้องกล้าท�ำต้อง
กลา้ ปฏบิ ตั ิ ปา่ ชา้ นะไมเ่ คยไปกต็ อ้ งหดั ไป ไปกลางคนื ไมไ่ ดก้ ต็ อ้ งไปกลางวนั แลว้ หดั
ไปค่�ำๆ บ่อยๆ ต่อไปตอนค�่ำก็ไปได้ แล้วจะเห็นประโยชน์ในการกระท�ำของตน
ทีน้ีกจ็ ะรเู้ รือ่ ง อันนอ้ี ะไร จติ ใจของเรามันไมร่ ูเ้ รอ่ื งราวมาตง้ั กภ่ี พ ก่ีชาติ อนั ไหน
เราไม่ชอบอันไหนเราไม่รัก ก็ไม่อยากให้มันประพฤติปฏิบัติ ปล่อยมันกลัวอย่างน้ี
แล้วว่าเราไดป้ ฏบิ ตั ิ มนั ยงั ไม่เรียกปฏิบัติหรอก

ถ้าปฏบิ ัตจิ ริงๆ ละก็ ชีวิตนั่นแหละ พดู งา่ ยๆ ถ้าต้ังใจจริงๆ จะไปสนใจทำ� ไม
กูได้น้อยมึงได้มาก มึงทะเลาะกู กูทะเลาะมึง ไม่มีหรอกเรื่องอย่างนั้นนะ เพราะ
ไมห่ าเอาเรอ่ื งอยา่ งนนั้ ใครจะทำ� อยา่ งไรกช็ า่ ง จะเขา้ วดั ไหนกต็ าม กไ็ มไ่ ดห้ าเอาเรอ่ื ง
เชน่ นี้ ไมไ่ ด้ไปเพ่งเอาเรอ่ื งเชน่ น้ี ใครจะปฏบิ ัติตำ่� ปฏบิ ัตสิ งู กไ็ มไ่ ด้หาเอาเรื่องเช่นน้นั
หาเอาเร่ืองของตนเท่าน้ัน อย่างนี้แหละกล้าประพฤติกล้าปฏิบัติ ปัญญาจะเกิด
ญาณจะเกดิ เพราะการปฏิบัติ

ถ้าหากว่าปฏิบัติถึงที่มันแล้ว มันปฏิบัติแท้ๆ กลางคืนกลางวันก็ตามก็ปฏิบัติ
กลางคนื กน็ งั่ สมาธเิ งยี บๆ แลว้ ลงมาเดนิ อยา่ งนอ้ ยกต็ อ้ งไดส้ องสามครง้ั เดนิ จงกรม
น่งั สมาธิ นั่งสมาธแิ ล้วลงมาเดินจงกรม มันไมอ่ ่มิ มนั เพลนิ

บางทีฝนตกพรำ� ๆ ไม่หนัก ให้นึกถึงเมื่อคราวทำ� นาโน่น กางเกงที่นุ่งทำ� งาน
กลางวนั ยงั ไมท่ นั แหง้ ตนื่ เชา้ มากต็ อ้ งสวมใสเ่ ขา้ ไปอกี ตงั้ แตเ่ ชา้ เขา้ ไปเอาควายในคอก
มองดคู วายขา้ งนอกเหน็ แตค่ อ ไปจบั เอาเชอื กควายมามแี ตข่ ค้ี วายเตม็ ไปหมด หางควาย

195

ตวดั แกวง่ เอาขี้ของมนั มาเปรอะเราเต็มไปหมด ตนี เป็นฮงั ก้า๑ ดว้ ย เดินไปทรมานไป
ทำ� ไมถงึ ทกุ ขท์ ำ� ไมถงึ ยากแท้ ทเี ราเดนิ จงกรมฝนตกแคน่ ม้ี นั จะเปน็ อะไร ทำ� นายง่ิ ทกุ ข์
ก็ยังท�ำได้ เดนิ จงกรมแคน่ ท้ี ำ� ไมจะท�ำไมไ่ ด้ มนั กลา้ ขนึ้ มาหรอกถา้ เราได้ท�ำ

ถา้ มนั ตกกระแสของมันแล้ว เรื่องการปฏบิ ัตินี่ ไมม่ อี ะไรจะขยนั เทา่ มนั หรอก
จะทกุ ขก์ ไ็ มท่ กุ ขเ์ ทา่ ผปู้ ฏบิ ตั ิ จะสขุ กไ็ มส่ ขุ เทา่ ผปู้ ฏบิ ตั ิ ขยนั กไ็ มข่ ยนั เทา่ ผปู้ ฏบิ ตั ิ ขเี้ กยี จ
กไ็ มข่ เี้ กยี จเทา่ พวกนี้ พวกนเ้ี ปน็ เลศิ เลศิ กวา่ เขา ขยนั กเ็ ลศิ เขา ขเ้ี กยี จกเ็ ลศิ เขา มแี ต่
เลศิ ทั้งนน้ั ถงึ วา่ ถา้ ต้งั ใจปฏิบตั แิ ลว้ มนั กน็ ่าดจู รงิ ๆ แต่พวกเราวา่ ปฏบิ ัตินะมันไม่ถึง
มนั ไม่ไดท้ �ำ เปรียบก็เท่ากบั วา่ ถ้าหลังคารั่วตรงนกี้ ข็ ยบั ไปนอนตรงนัน้ ถ้ารว่ั ตรงน้ัน
ก็ขยับมานอนตรงน้ี ท�ำอย่างไรจะไดบ้ า้ นไดช้ อ่ งดๆี กับเขาสักที น่ีถา้ มันรั่วทงั้ หลัง
กค็ งหนีเลย อยา่ งนี้ก็ไมน่ า่ เอา มนั กอ็ ย่างนัน้ แหละการปฏบิ ัติ

จติ ของเรา กเิ ลสของเรานะ ถา้ ไปทำ� ตามมนั กย็ งิ่ ไปกนั ใหญ่ ยง่ิ ทำ� ตามกย็ งิ่ หมด
ข้อวัตรปฏิบัติ เร่ืองการปฏิบัติน่ีจนมันอัศจรรย์ในจิตของตนนะ อัศจรรย์มันขยัน
หม่ันเพียร ไม่รู้เป็นอย่างไร ใครจะปฏิบัติก็ตามไม่ปฏิบัติก็ตาม ไม่ได้สนใจใคร
ทำ� ของตนปฏบิ ัติของตนไปสมำ่� เสมออย่างนั้น ใครจะไปใต้มาเหนือกช็ ่างเขา เราทำ�
ของเราอยูอ่ ยา่ งนั้น มนั ต้องดตู วั เองมนั จึงจะเปน็ การปฏบิ ัติ

ครนั้ ปฏบิ ตั ไิ ป ปฏบิ ตั แิ ลว้ ไมม่ เี รอ่ื งอะไรในใจ มแี ตเ่ รอื่ งธรรมะ ตรงไหนมนั ทำ�
ยงั ไมไ่ ด้ ตรงไหนมนั ขดั ขอ้ งอยู่ มนั กว็ นอยแู่ ตต่ รงนนั้ มนั ไมแ่ ตกแลว้ มนั ไมห่ นหี รอก
หมดอนั นแ้ี ลว้ ไปคาอยู่กับอะไรอกี มนั ก็ไปติดอยู่ตรงน้นั อกี ติดอยทู่ ่ีน่นั มันไม่หนี

ถา้ มันตดิ อยมู่ ันเอาจนแตกนั่นแหละ ถ้ามนั ไมเ่ สร็จมนั ก็ไม่ไป มนั ไม่สบายใจ
ถา้ มนั ไมเ่ สร็จหมด มันพจิ ารณาจอ่ อยทู่ ี่นน่ั นั่งกอ็ ยทู่ ่นี ่นั นอนก็อยู่ทนี่ ่ัน เดินก็อยู่
ทนี่ นั่ เปรยี บเหมอื นกบั เราทำ� นาไมเ่ สรจ็ นนั่ แหละ นาเราเคยดำ� ทกุ ปี แตป่ นี ตี้ รงนนั้ ยงั
ไม่เสรจ็ ใจมนั กเ็ ลยติดเป็นทุกข์อยู่ทนี่ น้ั ไม่สบาย เหมือนเราทำ� งานไมเ่ สร็จ ถงึ มา
อย่กู บั เพื่อนมากๆ ใจกไ็ มส่ บาย พะวงแตเ่ รอื่ งงานท่ีเราทำ� ไมเ่ สร็จอยู่น่ันแหละ

๑ ฮงั ก้า คือ โรคน�ำ้ กดั เท้า

196

หรือเหมอื นกับเราปล่อยลกู เลก็ ๆ ไว้บนบ้าน แต่เราให้อาหารหมูอยูใ่ ตถ้ ุนบา้ น
ใจมนั กค็ ดิ อยแู่ ตก่ บั ลกู กลวั ลกู จะตกบา้ น ทำ� อยา่ งอน่ื อยกู่ ค็ ดิ อยอู่ ยา่ งนน้ั เชน่ เดยี วกนั
กับข้อปฏิบัติของเรา มันไม่ลืมสักทีเลย ท�ำอย่างอื่นอยู่ก็ไม่ลืม พอจะออกจากมัน
มนั กป็ า๊ บเขา้ มาในใจทนั ที ตดิ ตามอยกู่ ระทงั่ คนื กระทงั่ วนั ไมไ่ ดล้ มื สกั ที เปน็ อยอู่ ยา่ งนนั้
มนั จงึ เปน็ ไปได้ ไมใ่ ช่ของงา่ ย

ตอนแรกกอ็ าศยั ครบู าอาจารยใ์ หท้ า่ นแนะนำ� เขา้ ใจแลว้ กท็ ำ� ครบู าอาจารยส์ อน
แลว้ กท็ ำ� ตามทที่ า่ นสอน พอเขา้ ใจแลว้ ทำ� ไดแ้ ลว้ ทา่ นกไ็ มไ่ ดส้ อนอกี เราทำ� ของเราเองละ
ทนี ี้ มนั จะเกดิ ประมาทอยตู่ รงไหน มนั จะเกดิ ไมด่ อี ยตู่ รงไหน มนั กร็ ขู้ องมนั เอง มนั ก็
สอนของมนั เอง มนั ก็ทำ� ของมนั เอง มนั เป็นผู้รู้ มนั เป็นปจั จตั ตัง

จิตมันเปน็ ของมนั เอง รู้เองวา่ ผดิ นอ้ ยผดิ มาก ผิดตรงไหนมนั ก็พยายามดูของ
มันอยู่อย่างน้ัน พยายามประพฤตปิ ฏิบตั เิ องของมนั เป็นอย่างนัน้ ละ ปฏบิ ัติคล้ายๆ
เปน็ บา้ หรอื เปน็ บ้าไปเลยก็ว่าได้ ปฏิบตั ิจริงๆ กเ็ ป็นบา้ นะ่ แหละ มนั เปลีย่ น มนั เปน็
สญั ญาวิปลาสแลว้ มนั เปล่ียนสัญญาน่นั ถา้ มันไม่เปลย่ี น มนั กด็ ุร้ายอยเู่ หมือนเดมิ
มนั กท็ ุกขอ์ ยเู่ หมอื นเดมิ

มันก็แสนจะทุกข์น่ันละการปฏิบัติ แต่ว่าทุกข์น่ันถ้ามันไม่รู้จักว่ามีทุกข์ มันก็
ไม่รู้จักทุกข์หรอก ถ้าเราจะพิจารณาทุกข์ เราจะฆ่าทุกข์น่ีมันก็ต้องพบกันก่อนซิ
จะไปยงิ นก ถา้ ไมเ่ จอนกแลว้ จะไดย้ งิ หรอื ทกุ ข์ พระพทุ ธเจา้ ทา่ นสอนวา่ ทกุ ข์ ชาตทิ กุ ข์
ชราปทิ กุ ข์ เกดิ ขึ้นมาแล้วไม่อยากให้มันทกุ ขม์ นั ก็ไมเ่ ห็นทกุ ข์ ไมเ่ หน็ ทุกข์ มนั กไ็ ม่
รู้จักทุกข์ ไม่รู้จักทกุ ข์ มนั กเ็ อาทุกข์ออกไม่ได้ อยา่ งน้ี

แล้วคนเราไม่อยากเหน็ ทกุ ข์ ไม่อยากไดท้ ุกข์ ทกุ ข์ตรงน้กี ็หนีไปนน้ั น่ันแหละ
ยง่ิ เอาทกุ ขไ์ ว้ ไมไ่ ดฆ้ า่ มนั ไมไ่ ดค้ ดิ ไมไ่ ดพ้ จิ ารณาดมู นั ทกุ ขต์ รงนห้ี นไี ปตรงนนั้ ทกุ ข์
ตรงนนั้ หนไี ปตรงน้ี หนแี ตท่ างกายเรา ครนั้ มนั หลงอยเู่ มอื่ ใดจะไปตรงไหนมนั กท็ กุ ข์
จะขนึ้ เครอ่ื งบนิ หนไี ปมนั กข็ นึ้ ไปดว้ ย แมจ้ ะมดุ ลงไปในนำ�้ มนั กม็ ดุ ไปดว้ ย เพราะทกุ ข์
มนั อยู่กบั เรา แต่เรามนั หลง มนั อยู่กบั เรา จะไปหนี จะไปละมนั ท่ีไหนได้

197

คนเรานะทุกข์ท่ีน้ีหนีไปท่ีน้ัน ทุกข์ที่นั้นหนีมาทางนี้ ว่าเราหนีทุกข์มันก็ไม่ใช่
ทกุ ขม์ นั ไปกบั เรา เราไปกบั ทกุ ข์ ไมร่ จู้ กั ทกุ ข์ ถา้ ไมร่ จู้ กั ทกุ ขก์ ไ็ มร่ จู้ กั เหตเุ กดิ ของทกุ ข์
ไมร่ จู้ กั เหตขุ องทุกข์ก็ไม่รูจ้ กั ความดับทุกข์ ที่ไหนมันจะดับได้ มนั ไม่มหี รอก

มนั ตอ้ งหมน่ั มาพจิ ารณาใหม้ นั แนน่ อน ตอ้ งกลา้ ประพฤตกิ ลา้ ปฏบิ ตั ิ อยกู่ บั เพอ่ื น
กบั ฝูงก็เหมอื นอยู่คนเดียว ไมก่ ลวั ใครจะข้เี กียจข้คี รา้ นก็ชา่ งเถอะ ผูใ้ ดเดนิ จงกรม
ท�ำความเพียรมากๆ ละรับรอง ใครจะไปไหนมาไหนก็ท�ำการปฏิบัติของตัวเองอยู่
อยา่ งนน้ั ทำ� ความเพยี รอยอู่ ยา่ งนน้ั ถา้ ทำ� จรงิ ๆ แลว้ กพ็ รรษาเดยี วเทา่ นน้ั การปฏบิ ตั นิ ี่
ใหท้ ำ� นะ ใหท้ ำ� อยา่ งทพ่ี ดู มาน่ี ใหฟ้ งั คำ� สอนของอาจารย์ อยา่ เถยี ง อยา่ ดอ้ื ทา่ นสงั่ ใหท้ ำ�
ทำ� ไปเลย ไมต่ ้องกลัวกับการปฏิบตั ิ มนั รูจ้ กั เพราะการกระท�ำ ไมต่ ้องสงสยั หรอก

การปฏิบัติน้ันเป็นปฏิปทาด้วย ปฏิปทาอย่างไร ปฏิบัติไปเร่ือยๆ สม่�ำเสมอ
ปฏบิ ตั เิ หมอื นหลวงตาเปไมไ่ ดน้ ะ ในพรรษาทา่ นกส็ มาทานไมพ่ ดู ไมพ่ ดู แตก่ เ็ อาหนงั สอื
มาเขยี น “พรงุ่ น้ปี ง้ิ ขา้ วเหนยี วให้สกั ก้อนนะ” อยากกนิ ขา้ วเหนียวป้ิง ทา่ นไม่พดู แต่
เอาหนังสอื มาเขียน ยิ่งยุ่งกว่าเดมิ อกี เดีย๋ วก็เขยี นเอาอันน้นั เดย๋ี วกเ็ ขียนเอาอันนี้
วนุ่ วายไปหมด ทา่ นสมาทานไมพ่ ูดแต่มาเขียนเอา นก่ี ไ็ ม่รูจ้ ะสมาทานไมพ่ ดู ไปทำ� ไม
ไมร่ จู้ กั การปฏิบตั ิของตนเอง

ความเปน็ จรงิ ปฏปิ ทาของเราเปน็ ผมู้ กั นอ้ ยเปน็ ผสู้ นั โดษ ปลอ่ ยไปตามธรรมดา
ปกตขิ องเรา อย่าไปสนใจมนั จะขีเ้ กียจ อย่าไปสนใจมันจะขยัน ปฏิบตั นิ ีอ่ ย่าว่าขยัน
อยา่ วา่ ขเี้ กยี จ ธรรมดาคนเรานน้ั นะขยนั จงึ จะทำ� ถา้ ขเ้ี กยี จแลว้ ไมท่ ำ� นป่ี กตขิ องคนเรา
แตพ่ ระทา่ นไมเ่ อาเชน่ นนั้ ขยนั กท็ ำ� ขเ้ี กยี จกท็ ำ� ไมส่ นใจอยา่ งอนื่ ตดั ไป ละไป หดั ไป
ทำ� ไปเรอื่ ยๆ ไม่วา่ วันหรอื คืน ปีนีป้ หี น้ายามไหนก็ตาม ไม่สนใจขยนั ไม่สนใจขีเ้ กียจ
ไมส่ นใจร้อนไม่สนใจหนาว ทำ� ไปเรื่อยๆ นท่ี า่ นเรียกวา่ สัมมาปฏปิ ทา

บางทีก็ขะมักเขม้นขึ้นมาคุมกันอยู่เสียหกวันเจ็ดวัน พอเห็นว่าไม่เข้าท่าก็หยุด
เลกิ ออกมาเลย ย่ิงไปกันใหญ่ ทั้งพดู ท้ังคุยไมร่ ้อู ะไรตอ่ อะไร พอนึกได้ทำ� เขา้ ไปอีก
สองวนั สามวนั เท่าน้ัน พอเลกิ แล้วนึกได้อกี ก็ท�ำอกี เหมือนกับคนท�ำงาน บทจะทำ�

198

ก็ท�ำเสยี จนไมร่ เู้ นื้อรตู้ วั เรอื่ งขุดไรข่ ดุ สวน ถางไรถ่ างภกู ด็ ี บทจะเลกิ จอบ เสียม
กไ็ มย่ อมเกบ็ ทงิ้ อยอู่ ยา่ งนนั้ หนไี ปเลย วนั ตอ่ มาดนิ จบั เกรอะไปหมด แลว้ กน็ กึ ขยนั
ท�ำอกี ทง้ิ ไปอีก อย่างน้ีไมเ่ ป็นไรไ่ มเ่ ปน็ นา ปฏบิ ัติน่กี เ็ หมอื นกันนน่ั แหละ

ปฏิปทาถ้าถือว่าไม่ส�ำคัญก็ไม่ส�ำเร็จ สัมมาปฏิปทาน่ีส�ำคัญมากจริงๆ คือเรา
ทำ� เรอื่ ยๆ อยา่ ไปวา่ มนั ไดอ้ ารมณด์ อี ารมณไ์ มด่ ี ดกี ช็ า่ งไมด่ กี ช็ า่ ง ชา่ งมนั พระพทุ ธเจา้
ทา่ นไมไ่ ดส้ นใจใครหรอก ทา่ นผา่ นมาหมดของดไี มด่ ี ของชอบไมช่ อบเหลา่ นี้ นนั่ แหละ
จงึ เปน็ การปฏบิ ตั ิ การปฏบิ ตั ทิ จ่ี ะเอาแตข่ องชอบ ของไมช่ อบไมเ่ อา อยา่ งนไ้ี มเ่ ปน็ การ
ปฏิบัติ มนั เป็นวบิ ตั ิ ไปที่ไหนกไ็ มส่ บาย อยู่ทไ่ี หนก็ไม่สบาย เป็นทกุ ขอ์ ยู่ตลอดกาล
ตลอดเวลา กระท�ำเพียรอย่างนี้ก็เหมือนกันกับพราหมณ์บูชายัญ ท�ำไมบูชายัญ
ก็เพราะเขาต้องการสิ่งที่เขาปรารถนา เรากระท�ำเพียรก็เหมือนกัน ท�ำไมเราจึงท�ำ
ความเพยี รละ่ ทำ� เพอ่ื มภี พมชี าติ ตอ้ งการตามใจ ตามปรารถนาจงึ เอา ไมไ่ ดต้ ามปรารถนา
ก็ไม่เอา เหมอื นกับพราหมณบ์ ูชายัญ เขาตอ้ งการเขาจงึ บูชายัญ

พระพุทธเจ้าท่านไม่ว่าอย่างน้ัน การกระท�ำเพียรก็เพ่ือละเพ่ือปล่อยเพ่ือเลิก
เพอื่ ถอน ไมต่ อ้ งการภพชาติ ไมต่ อ้ งการเอาน่นั เอาน่ี กว่าท่ที า่ นจะมาถกู ทาง ทา่ นก็
ปฏบิ ตั ิมาไม่รู้กี่อย่างต่อกีอ่ ยา่ ง

มพี ระเถระองคห์ นง่ึ ทา่ นบวชมหานกิ ายวา่ มนั ไมเ่ ครง่ กเ็ ปลย่ี นมาเปน็ ธรรมยตุ
คร้ันบวชธรรมยุตแล้วมาปฏิบัติ ปฏิบัติไปบางทีก็ไม่ยอมกินข้าวตั้ง ๑๕ วันนะ
ครั้นกินกก็ ินเฉพาะผักเฉพาะหญ้า กินสตั วน์ ะมนั บาป กินผกั กินหญ้าดีกว่า กนิ ฝกั
ลนิ้ ฟ้า๑ หมดทีละ ๔-๕ ฝกั แน่ะ กนิ อยา่ งนน้ั มนั กไ็ ด้แค่นั้น

ตอ่ มาสกั หน่อย เฮย้ เป็นพระไมด่ เี ป็นไปล�ำบาก รักษาวตั รมนั ยาก ลดลงมา
เป็นผ้าขาวดีกว่า เลยสึกจากพระมาเป็นผ้าขาว เพราะเก็บผักเก็บหญ้ากินเองก็ได้
ขดุ หวั เผอื กหวั มนั กนิ เองกไ็ ด้ เลยมาเปน็ ผา้ ขาว ทำ� ไปทำ� มา ไมร่ เู้ รอื่ งรรู้ าวเลยหมดไป
หมดไปจากพระจากผา้ ขาว หมดเลย เด๋ียวนไ้ี มร่ ู้ว่าไปอยา่ งไร ตายหรอื ยังกไ็ มร่ ู้

๑ ภาษาอีสาน หมายถึง ฝกั เพกา

199

นี่เพราะท�ำอย่างไรก็ไม่พอใจไม่หน�ำใจ เลยไม่รู้ว่าตัวเองก�ำลังท�ำตามกิเลส
กิเลสพาท�ำก็ไม่รู้จัก พระพุทธเจ้าน่ะท่านสึกเป็นผ้าขาวหรือเปล่า ท่านท�ำอย่างไร
ทา่ นปฏบิ ตั ิอย่างไรกไ็ ม่คดิ ดู ทา่ นพากินผักกินหญา้ เหมือนวัวเหมือนควายหรือเปล่า
เออ ครน้ั จะกินก็กินไปเถอะ เราทำ� ได้แค่ไหนกเ็ อาแคน่ ้นั

อย่าไปติคนอื่นอย่าไปว่าคนอื่น สบายอย่างใดก็เอาอย่างน้ัน อย่าไปเส้ียม
อยา่ ไปถาก อย่าไปฟนั เขามากเกินไป จะไมเ่ ปน็ คันกระบวย เลยไม่เป็นอะไร กท็ ิ้งไป
เสยี เฉยๆ อย่างน้ีก็มี อย่างการทำ� ความเพยี รเดนิ จงกรม ๑๕ วนั กเ็ ดนิ อยู่อย่างน้ัน
ไม่กินข้าวละ แข็งแรงอยู่ คร้ันเลิกท�ำแล้วทิ้ง นอนเรื่อยเปื่อยไม่ได้เรื่อง น่ีแหละ
มันไม่ได้คิดไตร่ตรองให้ดี ไปๆ มาๆ เป็นอะไรก็ไม่ถูกใจ เป็นพระก็ไม่ถูกใจ
เป็นเณรก็ไม่ถกู ใจ เป็นผ้าขาวก็ไมถ่ ูกใจ เลยไมเ่ ปน็ อะไร ไม่ไดอ้ ะไรเลย นี่แหละ
มนั ไมร่ ู้จักการปฏบิ ตั ขิ องตน ไม่พิจารณาเหตผุ ล จะปฏบิ ัติเพ่อื เอาอะไรใหค้ ิดดู

ที่ท่านใหป้ ฏบิ ัติน่ะปฏิบตั เิ พอื่ ทง้ิ มนั คดิ รกั คนนน้ั มันคดิ ชังคนน้ี อยา่ งนี้มีอยู่
แตอ่ ยา่ ไปสนใจมัน แล้วปฏิบัตเิ พือ่ อะไร เพ่อื ละสงิ่ เหลา่ น้นั มนั สงบก็ทิง้ ความสงบ
มันรู้แล้วก็ทิ้งมันเสียความรู้เหล่านั้น รู้แล้วก็แล้วไป ครั้นถือว่าตัวว่าตนว่ารู้แล้ว
กถ็ ือวา่ ตวั เกง่ กวา่ คนอ่นื เท่าน้นั ซิ ไปๆ มาๆ เลยอย่ไู มไ่ ด้ อย่ทู ่ีไหนเดือดรอ้ นที่นัน่
เรือ่ งปฏิบตั ไิ ม่ถูกหนทางมัน นีเ่ ราไมไ่ ด้ปฏิบตั ิ

ปฏิบตั พิ อสมควรตามกำ� ลงั ของเรา มนั นอนมากไหมกท็ รมานมนั ดู มันกินมาก
ก็ทรมานมนั เอามนั พอสมควร เอาแต่ศลี สมาธิ ปัญญา ไม่พอเอาธดุ งควัตรใสเ่ ข้า
ไปดว้ ย ธุดงควัตรนเ่ี พื่อเป็นเคร่ืองขดู เกลา เอาขนาดหนึง่ มันไมพ่ อนะ เอาธดุ งควัตร
เข้าใส่มันจึงแกไ้ ด้

ธุดงควัตรนี้ก็เป็นของส�ำคัญอยู่ บางคนเอาศีลเอาสมาธิฆ่ามันก็ไม่ได้ไม่เป็น
ต้องเอาธุดงควัตรเข้าช่วยอย่างนั้น ธุดงควัตรมันตัดหลายอย่าง เช่น บางทีให้อยู่
โคนตน้ ไม้ อยโู่ คนต้นไมก้ ็ไมผ่ ิดศลี อยปู่ ่าชา้ อยู่ปา่ ช้ากไ็ ม่ผิดศลี ถ้าตั้งธุดงควัตร
อยู่ป่าช้าแล้วไม่อยู่น่ะถึงผิด ไปอยู่ลองดูซิ ป่าช้านั่นมันจะเป็นอย่างไร มันจะเป็น
เหมอื นอยู่กบั หมูก่ ับพวกหรอื เปล่า มนั มปี ระโยชนท์ กุ ๆ อย่างน่ันแหละธดุ งควัตรน่ี

200

ธุ-ตัง-คะ ท่านว่าข้อวัตรปฏิบัติอันบุคคลปฏิบัติยาก เป็นข้อปฏิบัติของ
พระอรยิ เจ้า ผ้ใู ดตอ้ งการเป็นพระอรยิ เจา้ ตอ้ งมธี ุดงควัตรเปน็ เครือ่ งขดั เกลา ยากที่
คนจะท�ำได้และยากที่จะมีคนศรัทธาท�ำ เพราะมีแต่ส่ิงขัด มีแต่ขัดมีแต่ขืนทั้งน้ัน
อยา่ งถอื ผา้ กผ็ า้ สามผนื เทยี่ วบณิ ฑบาตมาฉนั บางทกี ฉ็ นั แตใ่ นบาตร เทยี่ วบณิ ฑบาตไป
อะไรตกบาตรก็ฉนั อันนัน้ เขาจะเอาอะไรมาถวายภายหลังไม่เอา เวลาบิณฑบาตเขา
ใสอ่ ะไรให้ก็ฉนั แต่อันนนั้

การที่ถอื ธดุ งคข์ ้อนีอ้ ยทู่ างภาคกลางดี สบาย เพราะเขาพรอ้ มอย่แู ล้ว แตถ่ า้ มา
ทางภาคอีสาน ธุดงค์ข้อนี้ได้ปฏิบัติละเอียดดี เพราะได้กินแต่ข้าวเปล่าๆ เท่าน้ัน
บ้านเราเขาใส่บาตรแต่ข้าวเปล่าๆ ทางโน้นเขาใส่บาตรใส่ข้าวใส่กับด้วย มาบ้านเรา
ท้ิงใส่ให้แต่ขา้ วเทา่ น้นั ธุดงคข์ ้อนอ้ี ยา่ งอุกฤษฏ์เลย เคร่งอยา่ งนนั้ บณิ ฑบาตมาฉัน
ฉันแล้วใครจะเอาอะไรมาถวายอีกก็ไม่ฉัน ธุดงควัตรนี่มันช่วยมาก ช่วยจริงๆ
ฉันหนเดยี ว ภาชนะอันเดียว อาสนะอันเดียว ลกุ ไปแล้ว ไม่ฉนั อกี อยา่ งนน้ั อันนี้
เรียกว่าธดุ งควัตร แล้วจะมีใครบา้ งที่ประพฤตปิ ฏบิ ัตไิ ด้ ยากที่จะมีคนศรทั ธาเพราะ
มนั ยากมันลำ� บากมาก ทา่ นจงึ วา่ ผู้ใดปฏิบตั ิธุดงควตั รน้ีมอี านิสงสม์ ากจรงิ ๆ

ท่ีเราวา่ ปฏิบัตนิ ะ มนั ยังไมเ่ รยี กว่าปฏบิ ัติหรอก ถา้ ปฏบิ ตั นิ ะมนั ไมใ่ ช่ของเบาๆ
มันไม่กล้าประพฤติไม่กล้าปฏิบัติหรอก คนเรานะ ท่ีไหนมันขัดมันไม่กล้าท�ำหรอก
อันไหนมันขัดหัวใจ ไมอ่ ยากทำ� ไมอ่ ยากปฏบิ ัติ ไม่อยากขัดกิเลส ไมอ่ ยากเกลามนั
ไม่อยากเอามันออก

ความเป็นจริงท่านว่า การปฏิบัติน้ัน อย่าท�ำตามใจของตนนัก ปฏิบัติให้
พิจารณาบ้าง ใจเรามันถูกล่อลวงมาหลายภพหลายชาติแล้ว ว่าเป็นใจของตน
มนั ไมใ่ ชห่ รอก มนั ลว้ นแตเ่ ปน็ ของปลอม มนั พาเราโลภ มนั พาเราโกรธ มนั พาเราหลง
มันพาปลน้ พาสะดม พาอยากได้ พาอิจฉาพยาบาท อย่างนมี้ นั ไมใ่ ช่ของเรา แล้วลอง
ถามดูใจของเราซิ อยากดีไหม มแี ต่อยากดีทงั้ นั้น แลว้ ท�ำอย่างนนั้ มันดไี หมล่ะ แน่ะ
ไปทำ� ไม่ดแี ต่มันอยากไดด้ ี ถึงว่าของที่มนั ไม่จริงมันกต็ ้องเปน็ อย่างนน้ั

201

พระพุทธเจา้ ท่านไม่ใหต้ ามมนั ให้ขัดมัน มันไปทางนัน้ หลบมาทางนี้ มันมา
ทางนห้ี ลบไปทางโนน้ นั่นแหละ พดู ง่ายๆ ก็เท่ากนั กับเรื่องเกา่ ทพ่ี ดู มาแตต่ ้น ใจเรา
มนั จะชอบอนั นเี้ อาไปโนน่ ใจมันจะชอบอนั โน้นเอามาน่ี เหมือนคนเคยเปน็ เพอื่ นกนั
มาก่อน แต่มาถึงวันนี้ก็มีความเห็นไม่ตรงกัน ไปคนละทาง แยกทางกัน พูดจา
ไมล่ งรอยกนั ทะเลาะกนั เลย มนั แยกไปอยา่ งนน้ั นน่ั แหละไมต่ ามใจของตน ถา้ ผใู้ ด
ท�ำตามใจของตน มันรักอันไหนมันชอบอันไหน ก็เอาไปตามเรื่องตามราวของมัน
นนั่ แหละ ยงั ไมไ่ ด้ปฏิบตั อิ ะไรเลยสักอยา่ ง ลองดกู ็ได้

นแี่ หละเขาวา่ ไดป้ ฏิบัติ มันไม่ใช่ มันวบิ ัติอยู่ ถา้ ไม่หยดุ ดูไมท่ �ำดูไม่ปฏิบตั ดิ ู
ก็ไม่เห็นไม่เป็น ปฏิบัตินี่พูดง่ายๆ มันก็ต้องเอาชีวิตนั่นแหละเข้าแลก ไม่ใช่มัน
ไม่ทกุ ข์นะปฏบิ ตั นิ ่ี มันตอ้ งทกุ ข์ ย่งิ พรรษาหน่ึงสองพรรษานแ่ี หละยงิ่ ทกุ ข์ พระหนมุ่
เณรนอ้ ยนยี่ ง่ิ ทกุ ขม์ าก ผมนมี่ นั เคยทกุ ขม์ ามาก ทกุ ขก์ บั อาหารการกนิ นก่ี ย็ งิ่ ทกุ ข์ กเ็ รา
อายุ ๒๐ ปีมาบวช มันก�ำลังกินก�ำลังนอน จะว่าอย่างไรกับมันล่ะ บางคร้ังก็ไป
น่ังเงียบคดิ ถงึ แตข่ องกนิ ของอยาก อยากกินตำ� กลว้ ยตานี อยากกินต�ำส้มมะละกอ
ทกุ อยา่ งนน่ั แหละ น้ำ� ลายอยา่ งนไ้ี หลยดื นแ่ี หละไดท้ รมานมนั ทุกส่งิ ทุกอย่างมนั
ไม่ใชข่ องง่ายนะ ถึงว่ามนั ไดพ้ าเราทำ� บาปมามากแลว้ เรือ่ งอาหารการกินนี่ คนก�ำลงั
กินก�ำลังนอนก�ำลังสนุก มายึดเอาไว้มาขังเอาไว้มันก็ย่ิงไปกันใหญ่ เท่ากับน�้ำก�ำลัง
ไหลไปขวางเอาไว้ย่งิ แตกใหญ่ เอาไวไ้ ด้ก็ดี เอาไว้ไม่ได้ก็พงั จนกว่ามันสบายจากสิ่ง
ท้งั หลายเหล่านีล้ ะกไ็ มย่ ากเลย

ภาวนาปแี รกไมไ่ ด้อะไร มีแต่ภาวนาของอยากของกิน วุน่ วายไปหมด แย่มาก
เหลือเกิน บางคร้ังน่ังอยู่เหมือนกับได้กินกล้วยจริงๆ รู้สึกเหมือนหักกล้วยเข้าปาก
อยูอ่ ยา่ งนนั้ มันเป็นของมนั เอง เหล่านมี้ ันมีแต่เรือ่ งการปฏิบตั ทิ ้งั หมดท้ังนัน้ แต่วา่
อย่าไปกลัวมัน มันเป็นมาหลายภพหลายชาตแิ ล้ว เราได้มาฝึกมาหัดมนั ทกุ อย่าง
แสนยากแสนลำ� บาก แต่ว่าอันไหนยากๆ น่ันแหละท�ำ อันไหนไม่ยากไปท�ำมันท�ำไม
ท�ำในสิง่ ที่มนั ยาก ท�ำท่ีมันได้ส่ิงง่ายๆ นะ ใครๆ ท�ำกเ็ ป็นหรอก สิง่ ทำ� ยากๆ นต่ี ้อง
ท�ำใหม้ นั ได้

202

พระพทุ ธเจา้ ของเรากเ็ ชน่ กนั ถา้ จะมาคอยพะวงญาตพิ น่ี อ้ ง พงศพ์ นั ธ์ุ ทรพั ยส์ มบตั ิ
ความร่าเริงบันเทิงต่างๆ รูปก็ดี เสียงกด็ ี กล่นิ กด็ ี รสก็ดี โผฏฐพั พะ ธรรมารมณ์
กด็ ี กไ็ มไ่ ดเ้ ปน็ พระพทุ ธเจา้ หรอก เหลา่ นม้ี นั ไมใ่ ชข่ องนอ้ ย คนเรากห็ าเอาแตส่ ง่ิ เหลา่ นี้
ทัง้ โลกนนั่ แหละ ออกบวชแตอ่ ายยุ งั นอ้ ย หนีจากมันไดม้ ันกต็ ายน่นั แหละ

บางคนก็ยังมาพูดว่า “ถ้าเหมือนหลวงพ่อก็ค่อยยังช่ัวหน่อย ไม่ได้สร้าง
ครอบครวั กส็ บาย ไมไ่ ดค้ ดิ อะไร” วา่ ไปนน่ั ผมวา่ “อยา่ มาพดู อยใู่ กลๆ้ นะ เดยี๋ วโดน
ไม้ค้อนหรอก” ยังกับเราไม่มหี ัวใจอย่างนัน้

เร่ืองของคนไม่ใช่เร่ืองย่อยๆ มันเรื่องชีวิตท้ังนั้นแหละ ถึงว่านักปฏิบัติเรา
กลา้ หาญฝึกเรง่ เข้าไป ไมเ่ ช่ืออย่างอื่น เชื่อพระพทุ ธเจา้ ทา่ นทรงสอนใหห้ าความสงบ
ใส่ตัวเอง พอมาภายหลังจึงรู้ ปฏิบตั ิไปพิจารณาไปไตร่ตรองไป ผลมันสะท้อนกลบั
มาท่ีน้ีเทา่ กนั มีเหตมุ ีผลเหมอื นกนั นักปฏบิ ตั ิของเราก็เช่นกนั อย่าไปยอมมัน

ทีแรกแค่เร่อื งการนอนมันกย็ งั ยาก วา่ จะลกุ ตนื่ ขน้ึ เวลานัน้ เวลานี้ มันก็ไมล่ กุ
นต่ี อ้ งหัดมัน ว่าจะลุกก็ลุกข้นึ มาทันที บางทมี นั ก็ได้ แต่บางทพี อรสู้ กึ ตัวว่าจะลกุ มนั
กไ็ มล่ กุ บางทีกจ็ ะใหม้ ันลุกว่า หนึ่ง สอง เอา้ ถา้ นับถึงสามแลว้ ไม่ลกุ ตอ้ งตกอเวจี
ตกนรกนะ บอกมนั อย่างนนั้ พอจะสามมันรีบลกุ ขึ้นทันที มันกลัวตกนรก อยา่ งนี้
ต้องหัดมัน ไม่หัดไม่ได้หรอก

มนั ตอ้ งหดั ทกุ ดา้ นทกุ มมุ จะอาศยั ครบู าอาจารย์ อาศยั หมู่ อาศยั เพอื่ นมาแนะนำ�
พร่�ำสอนเราอยู่เรื่อยๆ นะ โอย ไม่ได้กินหรอก อย่างนี้ไม่ต้องบอกกันมากหรอก
บอกทีสองทกี ็เลกิ ท�ำไปปฏบิ ตั ิไปของมนั เอง

จติ ทมี่ ันเป็นไปแลว้ มนั ไมท่ �ำผิดหรอก อยตู่ อ่ หนา้ คนมันกไ็ ม่ท�ำผิด อยลู่ บั หลงั
มันก็ไม่ท�ำผิด เรื่องจิตที่มันเป็นแล้วมันไม่มีที่ลับท่ีแจ้งสักแห่ง มันเป็นของมันอยู่
อยา่ งนน้ั ฉะน้นั พระอริยเจ้าทง้ั หลายทา่ นจงึ เช่อื จติ ของทา่ นว่ามนั เป็นเชน่ นั้น นเ่ี รา
ทัง้ หลายกเ็ หมือนกัน ข้อวตั รปฏิบัตเิ ลก็ ๆ น้อยๆ น้กี ็ยงั ไมร่ จู้ กั

203

บางคนตอ้ งการจะมาปฏบิ ตั เิ พอ่ื เอาความสขุ เฉยๆ สขุ มนั จะเกดิ มาจากไหนกอ่ น
อะไรเป็นเหตุมัน ความสุขทั้งหลายน่ะ มันต้องมีทุกข์ก่อนมันจึงจะเป็นสุข เราท�ำ
ทกุ สง่ิ ทำ� งานกอ่ นจงึ ไดเ้ งนิ มาซอื้ กนิ มใิ ชห่ รอื ทำ� นากอ่ นจงึ จะไดก้ นิ ขา้ ว มนั ตอ้ งผา่ น
ความทกุ ขม์ ากอ่ นทกุ อยา่ งนะแหละ บางคนมาบวชวา่ จะมาพกั ผอ่ นใหส้ บาย จะมานงั่
พักผ่อนเอาสบายเลย เขาว่าไม่ได้เรียนหนังสือมาก่อน จะมาจับหนังสืออ่านได้เลย
อยา่ งนัน้ หรอื ไมไ่ ด้หรอก

อยา่ งนี้แหละคนท่มี คี วามรสู้ ูงๆ เมื่อเขา้ มาบวชมาปฏิบตั ิไมค่ ่อยไดเ้ ร่ือง เพราะ
มนั ร้ไู ปคนละอย่างคนละทาง มันไมไ่ ดท้ รมานตัวเอง ไมไ่ ด้ดูตัวเอง หาเอาแตค่ วาม
ยงุ่ เหยิงมาใส่ใจของตน เอาแตส่ ่งิ ทไี่ มใ่ ชค่ วามสงบระงับ ส่วนด้านรขู้ องพระพทุ ธเจ้า
ของเรา ไมใ่ ชร่ ูด้ า้ นโลกีย์ ท่านร้ดู ้านโลกุตระ มนั รู้ไปคนละทาง

ฉะนนั้ ผเู้ ขา้ มาบวชในพระพทุ ธศาสนา ไมว่ า่ ผใู้ ดไมว่ า่ ชนั้ ใดภมู ใิ ดกต็ ามกใ็ หห้ ยดุ
กระทงั่ พระเจา้ อยหู่ วั มาบวชกห็ ยดุ เรอ่ื งนนั้ เรอ่ื งโลกไมไ่ ดเ้ อามาใกล้ ไมไ่ ดเ้ อามาอวด
มาอา้ ง ไมไ่ ดเ้ อาลาภนนั้ มา ไมไ่ ดเ้ อายศนน้ั มา ไมเ่ อาความรนู้ น้ั มา ไมเ่ อาอำ� นาจนนั้ มา
ไม่เอา

การปฏบิ ตั เิ ปน็ เรอ่ื งละ เปน็ เรอ่ื งวาง เปน็ เรอ่ื งถอน เปน็ เรอื่ งเลกิ ตอ้ งเขา้ ใจอยา่ งนนั้
ทกุ อย่างมันจงึ จะเปน็ ไปได้

เปน็ ไขย้ งิ่ ไมฉ่ ดี ยากนิ ยามนั จะหายหรอื ทไี่ หนมนั กลวั ตอ้ งเขา้ ไป ปา่ ชา้ ตรงไหน
มนั กลัวต้องเข้าไปดู หม่ ผ้าเขา้ ไปพิจารณา อนจิ จา วะตะ สังขารา ไปยนื แลว้ ก็เดนิ
จงกรมอย่ทู ่ีนนั้ ไปพจิ ารณาใหร้ ูใ้ หเ้ หน็ ว่า มันกลวั อยู่ตรงไหน แล้วมนั จะบอกมัน
จะรู้เอง มันให้รู้เท่าสังขาร อยู่ดูมันจนค�่ำจนมืดไปเร่ือยๆ ต่อไปดึกๆ ก็เข้าไปได้
แตน่ ่ีไมก่ ล้าไป กลวั มันไมก่ ล้าเขา้ ไปปฏิบัติ ถา้ ท�ำอยา่ งนัน้ นะ เขาเรียกปฏบิ ตั ิไมร่ ู้
เรอ่ื งการปฏบิ ตั ิ ไมร่ จู้ กั เรอ่ื งของมนั เราจะตอ้ งกลา้ ตอ้ งฝกึ ตอ้ งหดั อนั ใดทพ่ี ระศาสดา
ทรงบญั ญตั ไิ ว้ อนั นนั้ ตอ้ งเกดิ ประโยชน์ อนั นนั้ ตอ้ งมปี ระโยชน์ ทพ่ี ระพทุ ธเจา้ ทา่ นวา่

204

“ผใู้ ดเหน็ ธรรมผนู้ น้ั เหน็ เรา ผใู้ ดเหน็ เราผนู้ น้ั เหน็ ตถาคต ผใู้ ดเหน็ ตถาคตผนู้ น้ั
เหน็ พระนพิ พาน”
ไม่ปฏิบัติตามท่านจะเห็นธรรมได้อย่างไร ไม่เห็นธรรมจะรู้จักท่านได้อย่างไร
ไมร่ จู้ กั ทา่ นจะรจู้ กั คณุ ของทา่ นไดอ้ ยา่ งไร ถา้ ทำ� ตามทา่ นแลว้ กจ็ ะรจู้ กั วา่ พระพทุ ธเจา้
ทา่ นสั่งสอนมาแนน่ อนเหลอื เกินเรื่องสัจธรรมน้ี สจั ธรรมเปน็ ความจริงทส่ี ุด.

205

๑๙

ความสงบ บ่อเกดิ ปญั ญา

ในฐานะทพี่ วกเราทงั้ หลาย เปน็ ผตู้ งั้ อกตงั้ ใจมาบรรพชาอปุ สมบทในพระพทุ ธ-
ศาสนา ทุกท่านอยูค่ นละแห่งละหนก็มารวมกนั ณ วัดปา่ พงนี้ ซึง่ เปน็ พระประจ�ำอยู่
ทว่ี ดั นกี้ ม็ ี ทีเ่ ป็นอาคันตุกะเพิง่ มาอาศัยอย่กู ม็ ี กล็ ้วนแต่เป็นนักบวช ซึ่งได้พยายาม
หาความสงบดว้ ยกันทง้ั นน้ั

ความสงบท่ีแท้จริงนั้นพวกเราทั้งหลายจงเข้าใจ ความสงบอย่างแท้จริงน้ัน
พระพทุ ธองคต์ รสั วา่ ความสงบอยา่ งแทจ้ รงิ นน้ั ไมไ่ ดอ้ ยหู่ า่ งไกลจากพวกเรา มนั อยกู่ บั
พวกเรา แตเ่ ราทง้ั หลายมองขา้ มไปขา้ มมาอยเู่ สมอ ตา่ งคนกต็ า่ งมอี บุ ายทจี่ ะหาความสงบ
นน่ั เอง แต่ก็ยงั มคี วามฟงุ้ ซา่ นร�ำคาญ ไมถ่ นดั ใจอยู่ ก็ยังไม่ได้รบั ความพอใจในการ
ปฏบิ ตั ขิ องตนเอง คอื ยงั ไมถ่ งึ เปา้ หมาย เปรยี บประหนง่ึ วา่ เราเดนิ ทางออกจากบา้ นเรา
แล้วก็เร่ร่อนไปสารพัดแห่ง ไม่มีความสบาย แม้จะไปรถ จะไปเรือ จะไปท่ีไหน
อะไรกต็ ามที มนั ยงั ไมถ่ งึ บา้ นเรา เมอื่ เรายงั ไมถ่ งึ บา้ นเรานนั้ กไ็ มค่ อ่ ยสบาย ยงั มภี าระ
ผกู พนั อยเู่ สมอ นเี่ รยี กวา่ เดนิ ยงั ไมถ่ งึ ไมถ่ งึ จดุ หมายปลายทาง กเ็ รร่ อ่ นไปในทศิ ตา่ งๆ
เพอ่ื แสวงหาโมกขธรรม

ยกตัวอย่างเช่น พระภิกษุสามเณรเราน้ี ใครๆ ก็ต้องการความสงบ ตลอด
พวกทา่ นทง้ั หลาย ถงึ ผมกเ็ หมอื นกนั อยา่ งนนั้ หาความสงบ ไมเ่ ปน็ ทพ่ี อใจ ไปทไี่ หน

206

ก็ยังไม่เป็นที่พอใจ เข้าไปในป่านี้ก็ดี ไปกราบอาจารย์นั้นก็ดี ไปฟังธรรมใครก็ดี
ก็ยังไม่ได้รับความพอใจ อนั นีเ้ ปน็ เพราะอะไร

หาความสงบ ไปอยใู่ นทสี่ งบ ไมอ่ ยากจะใหม้ เี สยี ง ไมอ่ ยากจะใหม้ รี ปู ไมอ่ ยาก
จะใหม้ กี ล่นิ ไม่อยากจะให้มรี ส อย่เู งยี บๆ อยา่ งน้ี นึกว่ามันจะสบาย คิดว่าความ
สงบมนั อย่ตู รงนนั้

ซง่ึ ความเป็นจริงนั้น เราไปอย่เู งยี บๆ ไม่มอี ะไร มันจะรู้อะไรไหม มนั จะรสู้ ึก
อะไรไหม ลองคิดดูซิ ตาของเราน้ันนะ่ ถ้าไมเ่ หน็ รปู มันจะเป็นอยา่ งไรไหม จมกู น้ี
ก็ไมไ่ ด้กลน่ิ มันจะเป็นอย่างไรไหม ลิ้นของเราไมไ่ ดร้ ู้จกั รส มนั จะเปน็ อยา่ งไรไหม
รา่ งกายไม่กระทบโผฏฐัพพะทีถ่ ูกตอ้ งอะไร มันจะเป็นอะไรไหม ถ้ามันเปน็ อยา่ งนนั้
มนั กเ็ ปน็ คนตาบอดซิ คนหหู นวก คนจมกู ขาด ลนิ้ หลดุ ไป กายไมร่ บั รอู้ ะไรเปน็ อมั พาต
ไปเลย มนั จะมอี ะไรไหม แตใ่ ครกม็ กั จะคดิ อยา่ งนน้ั อยากจะไปอยทู่ ว่ี า่ มนั ไมม่ อี ะไร
ไอค้ วามคดิ อยา่ งนนั้ เคยคิด เคยคดิ มา

ในสมยั ทผ่ี มเปน็ พระปฏบิ ตั ใิ หมๆ่ จะนง่ั สมาธติ รงไหน เสยี งมนั กอ็ อื้ มนั ไมส่ งบเลย
คิดผา่ นไปผ่านมาเสมอว่า จะทำ� อยา่ งไรหนอ มนั ไม่สงบ จนต้องหาข้ีผ้งึ มาปัน้ กลมๆ
อุดเข้าไปในหูนี่ ไม่ได้ยินอะไร มีแต่เสียงอื้อเท่าน้ัน นึกว่ามันจะดี นึกว่ามันจะ
สงบ เปลา่ ความปรงุ แตง่ อะไรตอ่ อะไรตา่ งๆ น้ี มใิ ชอ่ ยทู่ หี่ ดู อก มนั เกดิ ภายในจติ ใจ
มนั จะมสี ารพดั อยา่ ง ตอ้ งคลำ� หามนั คน้ ควา้ หาความสงบ พดู งา่ ยๆ จะไปอยใู่ นเสนาสนะ
อะไรกด็ นี ะ คิดไม่อยากจะท�ำอะไร มันขัดข้อง ไม่ไดท้ ำ� ความเพียร อยากจะนง่ั ให้
มันสงบ ลานวัดก็ไม่อยากจะไปกวาดมัน อะไรก็ไม่อยากท�ำมัน อยากจะอยู่เฉยๆ
อยากหาความสงบอยา่ งนนั้ ครูบาอาจารยใ์ หช้ ่วยกจิ ของวัดท่เี ราอาศัยอยู่ กไ็ มค่ อ่ ย
จะเอาใจใส่มนั เพราะเห็นวา่ มันเป็นงานภายนอก

ผมเคยยกตัวอย่างให้ฟังบ่อยๆ เช่นว่า อาจารย์องค์หน่ึงซึ่งเป็นลูกศิษย์ผม
ทา่ นมศี รทั ธามากท่ีสุด ต้ังใจมาปฏบิ ัตลิ ะวาง หาความสงบ ผมก็สอนให้ละใหว้ าง
ท่านก็เข้าใจเหมือนกันว่า ละวางทั้งหมดมันคงจะดี ความเป็นจริงตั้งแต่มาอยู่ด้วย

207

ก็ไมอ่ ยากทำ� อะไร แม้หลงั คากฏุ ลิ มมันพดั ตกไปข้างหนง่ึ ทา่ นกเ็ ฉย ท่านวา่ อันนนั้
มนั เปน็ ของภายนอก แนะ่ ไมเ่ อาใจใส่ แดดฝนรวั่ ทางโนน้ ทา่ นกข็ ยบั มาทางน้ี ทา่ นวา่
ไมใ่ ชเ่ ร่ืองของทา่ น เร่ืองของทา่ นมันเรอ่ื งจิตสงบ หลงั คารวั่ มันไมใ่ ช่เรอ่ื งของท่าน
มนั ขัดข้อง วุน่ วาย ไม่ใหเ้ ปน็ ภาระ น่ีความเหน็ มนั เปน็ อยา่ งนน้ั

อกี วนั หนง่ึ ผมกเ็ ดินไป ไปพบหลังคามันตกลงมา ก็ถามวา่ “เอ กฏุ ิของใคร”
กไ็ ด้รับคำ� ตอบว่าเปน็ กุฏขิ องทา่ นอาจารย์องคน์ ั้น “ออื แปลกนะ” น่กี เ็ ลยไดพ้ ูดกัน
อธิบายอะไรต่ออะไรกนั หลายอยา่ ง เสนาสนวตั รนะ ที่อยขู่ องเราน้นั คนเรามนั ตอ้ ง
มีท่ีอยู่ ท่ีอยู่มันเป็นอย่างไรก็ต้องดูมัน การปล่อยวางไม่ใช่เป็นอย่างนั้น ไม่ใช่ว่า
เราปล่อยเราท้งิ อนั นั้นมันเปน็ ลักษณะคนที่ไม่ร้เู ร่ือง ฝนตกหลังคารั่ว ต้องขยับไป
ขา้ งโน้น แดดออก เอา้ ขยับมาข้างนอ้ี ีกแล้ว ท�ำไมเป็นอยา่ งนัน้ ล่ะ ท�ำไมไมป่ ล่อย
ไม่วางอยู่ตรงนนั้ ผมกเ็ ลยเทศน์ใหฟ้ ังกัณฑ์ใหญ่ ทา่ นกย็ งั มาเขา้ ใจวา่

“เออ หลวงพอ่ บางทีเทศน์ใหเ้ รายึดมั่น บางทเี ทศน์ใหเ้ ราปล่อยวาง ไมร่ จู้ ะเอา
อยา่ งไร ขนาดหลงั คากฏุ มิ ันตกลงไป เราก็ปล่อยวางขนาดน้ี ท่านกย็ ังวา่ ไมถ่ กู อกี
แตท่ ่านก็เทศน์วา่ ไม่ให้ยดึ ไมร่ วู้ ่าจะทำ� อย่างไรมันจึงจะถกู ”

ดซู คิ นเรา จิตมนั เป็นอยา่ งนี้ ในการปฏิบตั มิ นั โง่อย่างน้ี

ตาเรามันมีรูปไหมถ้าไม่อาศัยรูปข้างนอก รูปมีในตาไหม หูเรานี้มีเสียงไหม
ถ้าเสียงข้างนอกไม่มากระทบมันจะมีเสียงไหม ถ้าไม่อาศัยกลิ่นข้างนอก จมูกเรา
มันจะมีกลิ่นไหม ลน้ิ มนั จะมรี สไหม มันตอ้ งอาศยั รสภายนอกมากระทบ มนั จึงมรี ส
อย่างน้ัน เหตุมนั อยู่ตรงไหนนะ

เราพจิ ารณาดทู พ่ี ระทา่ นวา่ ธรรมมนั เกดิ เพราะเหตุ ถา้ หเู ราไมม่ แี ลว้ จะมโี อกาส
ได้ยินเสยี งไหม ตาเราไมม่ ีมันจะมเี หตุใหเ้ ราเห็นรปู ไหม ตา หู จมกู ล้นิ กาย ใจ
นมี่ นั คอื เหตุ พระทา่ นบอกวา่ ธรรมมนั เกดิ เพราะเหตุ เมอ่ื จะดบั กเ็ พราะเหตมุ นั ดบั กอ่ น
ผลมันจึงดับ เมือ่ ผลมันจะมขี น้ึ ก็มีเหตุมากอ่ นแล้วผลมนั จงึ ตามมา

208

ถ้าหากว่าเราเข้าใจวา่ ความสงบมันอยตู่ รงนน้ั มนั จะมปี ญั ญาไหม มนั จะมีเหตุ
มผี ลไหมสำ� หรบั ทเี่ ราจะตอ้ งปฏบิ ตั หิ าความสงบ มนั จะมอี ะไรไหม ถา้ เราจะไปโทษเสยี ง
ไปนง่ั ทไี่ หนมเี สยี งกไ็ มส่ บายแลว้ คดิ วา่ ทน่ี ไี้ มด่ ี ทไี่ หนมรี ปู กว็ า่ ทนี่ นั้ ไมด่ ไี มส่ งบ อยา่ งนนั้
ก็เปน็ คนอายตนะหายหมด ตาบอด หหู นวกหมด

ทีนผ้ี มทดลองดู กค็ ดิ ไป “เอ มนั ก็แปลกเหมือนกัน มันไมส่ บายเพราะตา หู
จมกู ลน้ิ กาย จติ นแ้ี หละ หรอื วา่ เราจะเปน็ คนทจ่ี กั ษบุ อดดนี ะ มนั ไมต่ อ้ งเหน็ อะไรดนี ะ
มนั จะหมดกเิ ลสทต่ี รงจกั ษมุ นั บอดละกระมงั หรอื วา่ หมู นั หนกั มนั ตงึ มนั จะหมดกเิ ลสที่
ตรงนน้ั ละมง้ั ” ลองๆ ดู กไ็ มใ่ ชท่ งั้ หมดนน้ั แหละ ถา้ อยา่ งนนั้ คนตาบอดกส็ ำ� เรจ็ อรหนั ตซ์ ิ
คนหหู นวกกส็ ำ� เรจ็ หมดแลว้ ตาบอดหหู นวกสำ� เรจ็ หมดถา้ หากวา่ กเิ ลสมนั เกดิ ตรงนนั้
อันน้ันคือเหตุของมัน อะไรมันเกิดจากเหตุ เราต้องดับตรงน้ัน เหตุมันเกิดตรงนี้
เราพจิ ารณาจากเหตนุ ี้

ความเปน็ จริงอายตนะ ตา หู จมกู ล้ิน กาย ใจ นเ้ี ป็นของทใ่ี ห้เกดิ ปัญญา
ถา้ เรารเู้ รอื่ งตามความเป็นจริง ถา้ เราไม่ร้เู รอื่ ง เราก็จะต้องปฏิเสธเลยวา่ ไม่อยากจะ
เห็นรูป ไม่อยากจะฟังเสียง ไม่อยากจะอะไรทั้งน้ันแหละ ว่ามันวุ่นวายอยู่ตรงนั้น
เราตดั เหตมุ นั ออกเสยี แลว้ จะเอาอะไรมาพจิ ารณาเลา่ ลองๆ ซิ อะไรจะเปน็ เหตุ อะไร
จะเปน็ เบอ้ื งตน้ ท่ามกลาง เบือ้ งปลาย มนั จะมีไหม น่ี อันนี้คือ ความคดิ ผดิ ของ
พวกเราทัง้ หลาย

ดังนั้น ครูบาอาจารยท์ า่ นจงึ ให้สำ� รวม การส�ำรวมนแี้ หละมันเป็นศลี ศลี สังวร
ตา หู จมกู ล้ิน กาย ใจ นี้เป็นศีล เป็นสมาธิ เหล่านี้ เราคดิ ดปู ระวัตพิ ระสารบี ตุ ร
เมอื่ ครงั้ ยงั ไม่บวช ทา่ นไปพบพระชือ่ อัสสชิ ด้วยตาของท่านเอง เหน็ พระอัสสชเิ ดิน
ไปบิณฑบาต เม่ือมองเหน็ แลว้ กเ็ กิดความรูส้ ึกว่า “แหม พระองคน์ แี้ ปลกเหลือเกิน
เดินไม่ช้าไม่เร็ว กลีบจีวรสีจีวรของท่านไม่ฉูดฉาด เรียบๆ เดินไปก็ไม่มองหน้า
มองหลงั สงั วรสำ� รวม” เกดิ แปลกขน้ึ ในใจ อนั นน้ั เปน็ เหตแุ กผ่ มู้ ปี ญั ญา ทา่ นสารบี ตุ ร
สงสัยกต็ รงเขา้ ไปกราบเรยี นถามทา่ น อยากจะรูว้ า่ ใครมาจากไหน อย่างนี้

209

“ท่านเป็นใคร”
“เราเปน็ สมณะ”
“ใครเปน็ ครเู ป็นอาจารย์ของทา่ น”
“พระโคดมเปน็ ครูเป็นอาจารย์ของเรา”
“พระโคดมนนั้ ท่านสอนวา่ อย่างไร”
“ทา่ นสอนว่า ธรรมทั้งหลายมันเกิดเพราะเหตุ เมอ่ื มนั จะดบั ก็เพราะเหตุมันดบั
ไปก่อน”

น่ีคือพระสารีบุตรนิมนต์ให้ท่านเทศน์ให้ฟัง ท่านก็อธิบายพอสังเขปเท่าน้ัน
ท่านยกเหตผุ ลข้ึนมา ธรรมเกดิ เพราะเหตุ เหตเุ กิดก่อนผลจึงเกดิ เมื่อผลมันจะดบั
เหตตุ อ้ งดบั กอ่ น เทา่ นนั้ เองพระสารบี ตุ รพอแลว้ ไดฟ้ งั ธรรมพอสงั เขปเทา่ นน้ั ไมต่ อ้ ง
พสิ ดาร เทา่ นน้ั แหละ

อันนีเ้ รยี กวา่ มนั เปน็ เหตุ เพราะในเวลานนั้ พระสารบี ตุ รทา่ นมตี า มีหู มีจมกู
มีลิ้น มกี าย มจี ติ อายตนะของทา่ นครบอยู่ ถ้าหากวา่ อายตนะของทา่ นไม่มี มนั จะ
มีเหตุไหม ท่านจะเกิดปญั ญาไหม ทา่ นจะรู้อะไรต่ออะไรไหม

แตพ่ วกเราทง้ั หลายกลวั มนั จะกระทบ หรือชอบให้มันกระทบ แต่ไม่มปี ญั ญา
ให้มันกระทบเรอื่ ยๆ ทางตา หู จมูก ลน้ิ กาย จิต เลยเพลนิ ไป เลยหลง น้มี นั
เป็นอยา่ งนี้ อายตนะนี้มันให้เพลินกไ็ ด้ ใหห้ ลงก็ได้ มนั ให้เกดิ ความรู้ มปี ญั ญากไ็ ด้
มันใหโ้ ทษและก็ใหค้ ณุ พรอ้ มกัน แลว้ แต่บคุ คลทีจ่ ะมปี ัญญา

อันนี้ให้เราเข้าใจวา่ เราเปน็ นักบวช เข้ามาปฏิบตั ิ ปฏบิ ตั ทิ กุ อย่าง ความชวั่ ก็ให้
รจู้ กั คนสอนงา่ ยกใ็ หร้ จู้ กั คนสอนยากกใ็ หร้ จู้ กั ทา่ นใหร้ จู้ กั ทงั้ หมด เพอื่ อะไร เพอื่ เรา
จะรู้ความจรงิ ทเ่ี ราจะตอ้ งเอามาปฏิบัติ ไม่ใช่วา่ เราปฏบิ ตั ิแต่ส่ิงท่ีว่ามันดมี นั ถูกใจเรา
เราจงึ จะชอบ มนั ไมใ่ ชอ่ ยา่ งนน้ั สงิ่ ในโลกนน้ี ะ่ บางสง่ิ เราชอบใจ บางสงิ่ เราไมช่ อบใจ
มนั มีอย่ใู นโลก มนั ไมม่ ีอย่ทู ี่อ่ืน

210

ธรรมดาส่ิงอะไรท่ีชอบใจเราก็ต้องการสิ่งน้ัน พระเณรอยู่ด้วยกันก็เหมือนกัน
ถ้าองค์ไหนไม่ชอบใจ ไมเ่ อา เอาแตอ่ งคท์ ่ีชอบ น่ีดซู ิ เอาแตส่ ิ่งที่ชอบ ไม่อยากจะรู้
ไมอ่ ยากจะเหน็ ไมอ่ ยากจะเปน็ อยา่ งนี้ ความเปน็ จรงิ พระพทุ ธองคใ์ หม้ ปี ระสบการณ์
โลกวทิ ู เราเกดิ มาดโู ลกอนั นใ้ี หแ้ จม่ แจง้ ใหช้ ดั เจน ถา้ เราไมร่ จู้ กั โลกตามความเปน็ จรงิ
ไปไหนไม่ไหว ไปไม่ได้ จ�ำเปน็ จะตอ้ งรู้จกั

อยูใ่ นโลกก็ตอ้ งรจู้ ักโลก พระอริยบุคคลสมัยก่อนกด็ ี พระพทุ ธเจ้าของเราก็ดี
ท่านก็อยกู่ บั พวกน้ี อยกู่ ับพวกปถุ ุชนนี้ อยใู่ นโลกนี้ ทา่ นก็เอาความจริงในโลกนเี้ อง
ไม่ใช่ว่าท่านไปเอาท่ีไหน ไม่ใช่ว่าท่านหนีโลกไปหาสัจธรรมที่อ่ืน แต่ท่านมีปัญญา
สังวรสำ� รวมอายตนะของทา่ นอยเู่ สมอ

การประพฤติปฏบิ ัตนิ คี้ อื การพิจารณาดูสิง่ ท้งั หลายเหลา่ นี้ รู้ตามความเปน็ จรงิ
วา่ มนั เปน็ อย่างน้ันอยู่ ให้รู้เรอื่ งมนั

ฉะนนั้ พระพทุ ธองคจ์ ึงให้รอู้ ายตนะเคร่ืองตอ่ ไต่ นัยนต์ ามนั ก็ตอ่ เอารปู เข้ามา
เปน็ อารมณ์ หูมันก็ตอ่ เอาเสยี งเข้ามา จมูกมนั ก็ตอ่ เอากลิ่นเข้ามา ลิ้นมนั ก็ตอ่ เอารส
เข้ามา รา่ งกายกต็ ่อเอาโผฏฐพั พะเข้ามา เกิดความรขู้ ึน้ ที่เกิดความรู้ขน้ึ น่ะ ใหเ้ รา
พิจารณาตามความจรงิ

ถา้ เราไมร่ จู้ กั ตามความเปน็ จรงิ เราจะชอบมนั ทสี่ ดุ หรอื เกลยี ดมนั ทส่ี ดุ ชอบมนั
อย่างยิ่ง เกลียดมันอย่างยิ่ง อารมณน์ ถ้ี ้ามันเกดิ ขึ้นมา นที่ เ่ี ราจะตรัสรู้ ท่ีปญั ญามัน
จะเกดิ ตรงนี้ แต่วา่ เราไมอ่ ยากจะให้เป็นอยา่ งนนั้

พระพุทธองค์ท่านให้สังวรส�ำรวม การสังวรส�ำรวมนั้นไม่ใช่ว่าไม่ให้เห็นรูป
ไมใ่ หไ้ ดย้ นิ เสียง ไมใ่ หไ้ ด้กล่นิ ไม่รู้จกั รส ไม่ร้จู กั โผฏฐพั พะ ไมร่ ้จู กั ธรรมารมณ์
ไม่ใช่อย่างน้ัน ถ้าผู้ประพฤติปฏิบัติไม่เข้าใจ พอเห็นรูปก็เสียว ฟังเสียงก็เสียว
หนเี รอื่ ย หนไี ปไมส่ ู้ หนไี ป นกึ วา่ มนั จะหมดฤทธหิ์ มดเดช นกึ วา่ มนั จะจบลง มนั จะพน้
มันไมพ่ น้ นะ อนั นั้นไม่พน้ หนีไปไม่รู้ตามความจรงิ ข้างหนา้ มันก็โผลข่ ้ึนอกี ต้องแก้
ปญั หาอีก

211

เชน่ พวกปฏบิ ตั นิ นี่ ะ อยใู่ นวดั กด็ ี อยใู่ นปา่ กด็ ี อยใู่ นเขากด็ ี ไมส่ บาย เดนิ ธดุ งค์
ไปดอู นั นน้ั ไปดูอันนส้ี ารพดั อยา่ ง วา่ จะสบายใจ ไปแล้วกลบั มาแลว้ กไ็ ม่เห็นอะไร
ลองขน้ึ ไปบนภเู ขา “เออ ตรงนส้ี บายนะ เอาละ่ ” ไมร่ สู้ บายกว่ี นั กเ็ บอ่ื อกี แลว้ เอา้ ลงไป
ทะเล “เออ ตรงนม้ี นั เยน็ ดี ตรงนพี้ อแลว้ เอาละ่ ” นานอกี กเ็ บอื่ ทะเลอกี เบอ่ื ปา่ เบอ่ื ภเู ขา
เบื่อทะเล เบื่อสารพดั อย่าง ไม่ใช่เบ่ือเป็นสัมมาทิฏฐิ เบ่อื เปน็ มจิ ฉาทฏิ ฐิ ความเหน็
ไมต่ รงตามความจริงอยา่ งน้นั กลบั มาถงึ วัดแล้ว “จะทำ� อยา่ งไรหนอ ไปแลว้ ไม่ได้
อะไรมา” แล้วกท็ งิ้ บาตร สึก

ทำ� ไมถึงสึก เพราะไม่มีเครอื่ งกนั สึก เหมอื นรองเทา้ เหน็ ไหม รองเทา้ อย่างดี
เขามเี ครอื่ งกนั สกึ ไปถกู หนิ ถกู ตอไมส่ กึ กนั สกึ เสยี แลว้ รองเทา้ ไมด่ ไี มม่ เี ครอ่ื งกนั สกึ
มันก็สึก พระเรากเ็ หมือนกนั ท�ำไมสกึ เพราะไม่เห็นอะไรเสยี แลว้ ไปทศิ ใต้กไ็ ม่เหน็
ไปทศิ เหนอื กไ็ มเ่ หน็ ลงทะเลกไ็ มเ่ หน็ ขน้ึ ภเู ขากไ็ มเ่ หน็ เขา้ อยใู่ นปา่ กไ็ มเ่ หน็ ไมม่ อี ะไร
หมดแลว้ ตาย นม่ี นั เปน็ อยา่ งนี้ คอื หนไี ป หนจี ากสงิ่ ทง้ั หลายเหลา่ นไ้ี ป ปญั ญาไมเ่ กดิ

เอาอยา่ งนี้นะ เอาใกลๆ้ เรานี้ เราอยากจะอยู่ในความสงบระงบั ที่สดุ ไม่อยาก
จะรู้เร่ืองพระเรื่องเณรเร่ืองอะไรตา่ งๆ หนีไปเรอ่ื ยๆ กบั อีกคนหนงึ่ ตงั้ ใจอยู่ ไม่หนี
อยปู่ กครองตัวเอง ร้เู ร่ืองของตัวเอง คนอื่นมาอยดู่ ว้ ยก็รเู้ ร่อื งทัง้ หมด แกป้ ญั หาอยู่
ตลอดเวลา เชน่ เจา้ อาวาส เปน็ เจา้ อาวาสนเี้ หตกุ ารณม์ อี ยทู่ กุ เวลา มอี ะไรมาใหพ้ จิ ารณา
ผูกใจเราอย่เู สมอ เพราะอะไร เพราะเขาถามปญั หาไมห่ ยดุ

ปัญหาไม่หยุดเรากม็ คี วามรูไ้ ม่หยดุ แก้ปญั หาไม่หยุด ปญั หาตนดว้ ย ปัญหา
คนอื่นด้วย สารพดั อยา่ ง นี่คือมันตน่ื อย่เู สมอ กอ่ นที่มนั จะหลับ มนั กต็ น่ื ข้นึ มาอกี
เปน็ เหตใุ หเ้ ราไดพ้ จิ ารณาไดร้ เู้ รอื่ ง เลยเปน็ คนฉลาด ฉลาดเรอื่ งของตนเอง ฉลาดเรอื่ ง
ของคนอน่ื ฉลาดหลายๆ อยา่ ง ความฉลาดอนั นเ้ี กดิ จากการกระทบ เกดิ จากการตอ่ สู้
เกดิ จากการไมห่ นี ไมห่ นดี ว้ ยกายแตห่ นที างใจ หนที างปญั ญาของเรา ใหร้ ดู้ ว้ ยปญั ญา
ของเราอยู่ตรงน้แี หละ ไม่หนมี ัน

อนั นเ้ี ปน็ เหตทุ จ่ี ะใหเ้ กดิ ปญั ญา จะตอ้ งทำ� จะตอ้ งคลกุ คลอี ยใู่ นสงิ่ ทงั้ หลายเหลา่ นี้
ก็เหมือนกันกับที่เราอยู่ในวัด ช่วยกันรักษาอะไรต่างๆ คลุกคลีอยู่อย่างน้ี มองดู

212

อยา่ งอืน่ เปน็ กเิ ลส อยู่กับพระกบั เณรมากๆ โยมมากๆ เป็นกเิ ลสมาก ใช่ ยอมรบั
แตต่ อ้ งอยไู่ ปใหป้ ญั ญาเกดิ สิ ให้มนั ลดความโง่ นัน่ มันจะไปตรงไหนละ่ เราอย่ไู ป
เพ่ือให้ลดความโง่ อย่าอยูไ่ ปเพื่อให้มันเพ่ิมความโงข่ ึน้ มา

ตอ้ งพจิ ารณา ตา หู จมกู ล้นิ กาย ใจ มนั กระทบเมื่อใด เปน็ ต้น กต็ อ้ งสงั วร
ส�ำรวม พจิ ารณา เม่ือทกุ ข์เกิดขึน้ มา ใครทกุ ข์ ทุกขน์ ้ที ำ� ไมมันจงึ เกดิ ทา่ นเจ้าอาวาส
ปกครองลูกศิษย์ลูกหาน่ีก็เป็นทุกข์ ต้องรู้จัก ทุกข์เกิดข้ึนมานะ ให้มันรู้จักทุกข์สิ
ทกุ ขม์ นั เกิดข้ึนมา เรากลัวทุกข์ ไมร่ ู้จักทุกข์ จะไปสูท้ ่ไี หนละ่ ถา้ ทกุ ขม์ าก็ไม่ร้อู ีก
จะไปสทู้ ุกขท์ ไ่ี หนละ่ นี่ เปน็ สง่ิ สำ� คญั มากทีส่ ุด ตอ้ งให้ร้จู ักทกุ ข์

การหนที กุ ขก์ ค็ อื ใหร้ จู้ กั พน้ ทกุ ข์ ไมใ่ ชม่ นั ทกุ ขท์ น่ี แ้ี ลว้ กว็ ง่ิ ไป หอบทกุ ขไ์ ปดว้ ย
อยทู่ น่ี น้ั ทกุ ขก์ เ็ กดิ ขน้ึ อกี กว็ งิ่ อกี นไ่ี มใ่ ชค่ นหนที กุ ข์ เปน็ คนไมร่ จู้ กั ทกุ ข์ ถา้ รจู้ กั ทกุ ข์
ต้องดเู หตุการณ์ ครบู าอาจารย์ทา่ นวา่ อธิกรณ์เกิดทีไ่ หนให้ระงบั ทน่ี ั้น

ทุกขม์ นั เกิดตรงนนั้ เร่อื งทไี่ ม่ทุกข์มนั ก็อยตู่ รงน้ัน เรือ่ งทีท่ กุ ข์ มนั จะหายกอ็ ยู่
ตรงท่ีมันเกิด ถา้ ทุกขเ์ กดิ ขน้ึ มาตอ้ งพิจารณา ไมต่ อ้ งหนนี ะ ตอ้ งแกอ้ ธิกรณ์ให้มนั จบ
รูเ้ รอ่ื งของมัน

ทกุ ขเ์ กดิ ตรงนเี้ ราหนไี ป กลวั ทกุ ข์ นแี้ หละคอื โงท่ ส่ี ดุ สรา้ งความโงข่ นึ้ ตลอดเวลา
เราตอ้ งรนู้ ะ ทกุ ขน์ ม้ี นั ไมใ่ ชอ่ ะไร ไมใ่ ชท่ กุ ขสจั หรอื เรอ่ื งทกุ ขน์ น้ั เราจะเหน็ ในแงไ่ มด่ ี
หรือ ทกุ ขสัจ สมุทยั สัจ นิโรธสัจ มรรคสจั ถา้ หนีจากส่ิงท้ังหลายเหล่านก้ี ไ็ มป่ ฏบิ ัติ
ตามสจั ธรรมเทา่ นนั้ แหละ มนั จะพบทกุ ขเ์ มอื่ ไร มนั จะรเู้ รอ่ื งเมอื่ ไร ถา้ หนที กุ ขเ์ รอื่ ยไป
เราไม่รจู้ กั ทกุ ข์ ทกุ ขน์ ีเ้ ปน็ สิ่งทคี่ วรก�ำหนดรู้ ถา้ ไม่กำ� หนด จะรมู้ นั เม่อื ไร ไมพ่ อใจ
หนีไป ไม่พอใจหนีไปเรือ่ ย อย่างนั้นตอ้ งท�ำสงครามหมดประเทศ พญามารเอาหมด
นี่มันกต็ ้องเป็นอย่างนั้น

พระพุทธองค์ท่านให้หนีด้วยปัญญา เปรียบประหน่ึงว่าเรามีเส้ียนหรือหนาม
น้อยๆ ต�ำเท้าเราอยู่ เดินไปปวดบ้างหายปวดบ้าง บางทีก็เดินไปสะดุดหัวตอเข้า
ปวดขนึ้ มากค็ ลำ� ดู คลำ� ไปคลำ� มาไมเ่ หน็ เลยขเี้ กยี จดมู นั กป็ ลอ่ ยมนั ไป ตอ่ ไปเดนิ ไป

213

ถูกปุม่ อะไรขนึ้ มาก็ปวดอกี มันเป็นอยา่ งนเี้ รือ่ ยไป เพราะอะไรนะ เพราะเสี้ยนหรือ
หนามนั้นมันยังอยู่ในเท้าเรา ยังไม่ออก ความเจ็บความปวดมันก็เป็นอยู่อย่างนั้น
เมอื่ มนั ปวดมากค็ ลำ� หามนั ไมเ่ หน็ กป็ ลอ่ ยไป นานๆ เจบ็ อกี กค็ ลำ� อกี อยอู่ ยา่ งนน้ั เรอื่ ยๆ

ทกุ ขท์ เ่ี กดิ ขนึ้ มานน้ั นะ เราตอ้ งกำ� หนดรมู้ นั ไมต่ อ้ งปลอ่ ยมนั ไป เมอ่ื มนั เจบ็ ปวด
ข้ึนมา “เออ ไอห้ นามนมี่ ันยังอยู่นีน่ ะ” เมอ่ื ความเจ็บปวดเกดิ ข้ึน ความคดิ ทว่ี ่าจะเอา
หนามออกจากเทา้ เรากม็ พี รอ้ มกนั มา ถา้ เราไมเ่ อามนั ออก ความเจบ็ ปวดมนั กเ็ กดิ ขนึ้
เด๋ียวกเ็ จบ็ เดี๋ยวก็เจบ็ อยู่อยา่ งนี้ ความสนใจที่จะเอาหนามออกจากเทา้ เรามนั มีอยู่
ตลอดเวลา

ผลทีส่ ุดวนั หนงึ่ ตอ้ งตัง้ ใจเอาหนามออกใหไ้ ด้ เพราะมันไม่สบาย อันนี้เรียกวา่
การปรารภความเพียรของเราตอ้ งเปน็ อย่างนน้ั มนั ขัดตรงไหน มันไมส่ บายตรงไหน
กต็ อ้ งพจิ ารณาทตี่ รงนน้ั แกไ้ ขทตี่ รงนน้ั แกไ้ ขหนามทมี่ นั ยอกเทา้ เรานนั่ แหละ งดั มนั
ออกเสีย

จิตใจของเรา มันตดิ อยู่ทีต่ รงไหน เราจะต้องร้จู กั อยูอ่ ยา่ งนนั้ คล�ำไปคลำ� มา
กร็ อู้ ยู่ เห็นอยู่ เปน็ อยอู่ ย่างน้นั แต่ว่าความเพียรของเราไมถ่ อยเหมอื นกัน ไม่หยดุ
ทา่ นเรยี กว่า วิริยารมั ภะ ปรารภความเพียรอยู่เสมอ เมอื่ ทกุ ขเวทนาเกดิ ข้ึนเม่ือไร
ในเทา้ ของเรานะ ปรารภวา่ จะเอาหนามออก จะบ่งหนามออกเสมอ ไม่ไดข้ าดเลย

ทกุ ขท์ างใจมนั เกดิ ขน้ึ มา เรอ่ื งกเิ ลสตณั หานี้ เรากม็ คี วามรสู้ กึ ปรารภความเพยี ร
อยเู่ สมอวา่ จะพยายามฆา่ มนั พยายามละมนั อยตู่ ลอดเวลา ตามไปไมห่ ยดุ อกี วนั หนง่ึ
มันก็จนมมุ เรา ถึงที่นัน้ เรากต็ ะครบุ มันได้

ฉะนน้ั เรอ่ื งสขุ ทกุ ขน์ เ้ี ราจะทำ� อยา่ งไร ถา้ ไมม่ สี ง่ิ ทงั้ หลายเหลา่ น้ี จะเอาอะไรเปน็ เหตุ
ถา้ ไมม่ เี หตุ ผลมนั จะเกดิ ตรงไหนเลา่ นเ่ี รยี กวา่ ธรรมมนั เกดิ เพราะเหตุ เมอ่ื ผลมนั จะ
ดบั ไปนน้ั เพราะเหตมุ นั ดบั ไปกอ่ น ผลมนั จงึ ดบั ไปดว้ ย มนั เปน็ ในทำ� นองอนั น้ี แตว่ า่
เราไม่ค่อยเข้าใจจรงิ อยากแตจ่ ะหนีทกุ ข์ รู้อยา่ งน้ีเรยี กว่าร้ไู มถ่ ึงมัน

214

ความเปน็ จรงิ แลว้ ทา่ นอยากจะใหร้ โู้ ลกทเ่ี ราอยนู่ ้ี ไมต่ อ้ งหนไี ปไหน จะอยกู่ ไ็ ด้
จะไปก็ได้ ให้มีความรสู้ กึ อย่างนนั้ ใหพ้ จิ ารณาให้ดี มันสุขมันทุกข์ มันอยตู่ รงไหน
อะไรท่เี ราไม่ยดึ หมายหรือไม่มน่ั หมายกับมัน อันนัน้ ไม่มี ทกุ ข์มันก็ไม่เกดิ ทกุ ขม์ นั
เกดิ จากภพ มนั มภี พทจ่ี ะเกดิ มนั กต็ อ้ งไปเกดิ ทภี่ พ ตวั อปุ าทานยดึ มน่ั ถอื มนั่ นแี้ หละ
มนั เปน็ ภพใหท้ กุ ขเ์ กดิ ทกุ ขม์ นั เกดิ ขนึ้ ดเู ถอะ อยา่ ไปดไู กลๆ ดปู จั จบุ นั นี้ ดกู ายดจู ติ
ของเราน้ี เมอ่ื ทกุ ขเ์ กดิ ขน้ึ มา เพราะอะไรมนั เปน็ ทกุ ข์ ดเู ดย๋ี วนแ้ี หละ เมอ่ื สขุ เกดิ ขน้ึ มา
มันเป็นอะไรมันจึงสุข ดูเด๋ียวนั้น มันเกิดตรงไหนให้มันรู้จักตรงนั้น ทุกข์เกิดที่
อปุ าทาน สขุ เกิดทอี่ ุปาทานทัง้ นนั้

พระโยคาวจรเจา้ ผปู้ ระพฤตปิ ฏบิ ตั ดิ แี ลว้ เหน็ จติ วา่ เปน็ อยอู่ ยา่ งนี้ มนั เกดิ ๆ ตายๆ
เป็นของไม่แน่นอนสักอยา่ งหนึง่ เลย ถา้ พจิ ารณาแลว้ ท่านดูมนั ทกุ วธิ ี มนั เปน็ ของมนั
อยา่ งนนั้ ไมม่ อี ะไรแนน่ อน เกดิ แลว้ กต็ าย ตายแลว้ เกดิ ไมม่ อี ะไรทเี่ ปน็ แกน่ สาร เดนิ ไป
ทา่ นกร็ สู้ กึ วา่ มนั เปน็ อยา่ งนนั้ นงั่ ทา่ นกร็ สู้ กึ วา่ มนั เปน็ อยา่ งนน้ั จะเอาตรงไหน มแี ตท่ กุ ข์
ทง้ั นนั้ เอาโลกกม็ แี ตท่ กุ ขท์ งั้ นน้ั เหมอื นแทง่ เหลก็ ใหญๆ่ ทเี่ ขาเอาเขา้ เตาหลอมแลว้ นนั้ แหละ
รอ้ นไปทงั้ แทง่ เลย ยกขน้ึ มาเอามอื ไปแตะดู ขา้ งบนมนั กร็ อ้ น ขา้ งๆ มนั กร็ อ้ น มนั รอ้ น
ทง้ั นน้ั ใชไ่ หม ทไี่ มร่ อ้ นไมม่ ี เพราะมนั ออกจากเตาหลอมมา เหลก็ ทง้ั แทง่ ไมม่ เี ยน็ เลย

อนั นถ้ี า้ หากวา่ เราไมพ่ จิ ารณาสงิ่ ทงั้ หลายเหลา่ น้ี ไมร่ เู้ รอื่ ง จะตอ้ งเหน็ ชดั จะตอ้ ง
ไม่เกดิ จะตอ้ งไมใ่ หม้ นั เกดิ ใหร้ ู้จกั การเกดิ แมแ้ ต่ที่ว่า “แหม คนนีท้ ำ� ไมถ่ กู ใจฉนั
ฉันเกลยี ดทีส่ ดุ ” ไม่มีแลว้ “คนนี้ท�ำฉันชอบท่สี ดุ ” ไมม่ ีแล้ว มีแต่อาการในโลกท่ีพูด
กันว่า ชอบท่สี ดุ ไม่ชอบท่สี ุดเท่านน้ั แตพ่ ดู อย่างใจอย่าง คนละเร่อื งกัน จะต้องเอา
สมมตุ ขิ องโลกมาพดู กนั ใหม้ นั รเู้ รอ่ื งกบั โลกเทา่ นน้ั ไมม่ อี ะไรแลว้ มนั เหนอื ตอ้ งใหม้ นั
เหนืออย่างนน้ั อันนั้นเปน็ ท่ีอยขู่ องพระ พวกเราท้ังหลายกเ็ หมอื นกันฉันนั้น จะต้อง
ปฏิบตั อิ ย่างน้นั ตอ้ งพยายาม อยา่ ไปสงสยั

ก่อนทีผ่ มจะปฏิบตั ินี่ คดิ วา่ ศาสนาตงั้ อยใู่ นโลก ท�ำไมบางคนทำ� บางคนไม่ทำ�
ทำ� แบบนดิ ๆ หนอ่ ยๆ แลว้ เลกิ มนั อะไรอยา่ งน้ี หรอื ผไู้ มเ่ ลกิ กไ็ มป่ ระพฤตปิ ฏบิ ตั เิ ตม็ ที่
น่มี ันเปน็ เพราะอะไร กไ็ ม่รู้นน่ั เองละ่

215

ผมจงึ ตอ้ งอธษิ ฐานในใจวา่ เอาละ่ ชาตนิ เ้ี ราจะมอบกายอนั นใี้ จอนั นใ้ี หม้ นั ตาย
ไปชาตหิ นง่ึ จะทำ� ตามคำ� สอนของพระพทุ ธเจา้ ทกุ ประการเลย จะทำ� ใหม้ นั รจู้ กั ในชาตนิ ้ี
ถา้ ไมร่ จู้ กั มนั กล็ �ำบากอกี จะปลอ่ ยวางมนั เสยี ทุกอย่าง จะพยายามทำ� ถงึ แมว้ า่ มนั จะ
ทกุ ข์มนั จะล�ำบากขนาดไหน ก็ตอ้ งท�ำ ไม่เชน่ นน้ั ก็จะสงสัยเรือ่ ยไป

คดิ อยา่ งนเ้ี ลยตงั้ ใจทำ� ถงึ แมม้ นั จะสขุ มนั จะทกุ ข์ จะลำ� บากขนาดไหนกต็ อ้ งทำ�
ชวี ติ ในชาตนิ ใ้ี หเ้ หมอื นวนั หนง่ึ กบั คนื หนงึ่ เทา่ นน้ั ทงิ้ มนั จะตามคำ� สอนของพระพทุ ธเจา้
จะตามธรรมะใหม้ นั รู้ ทำ� ไมมนั ยงุ่ มนั ยากนกั วฏั สงสารนี้ อยากรอู้ ยากจะเปน็ อยา่ งนน้ั
คดิ ปฏบิ ตั ิ

ในโลกนี้ นักบวชท้ิงอะไรไหม ถ้าเป็นนักบวชไม่สึกแล้วก็เป็นอันว่าทิ้งหมด
ทกุ อยา่ งเลย ไมม่ ีอะไรจะไม่ทงิ้ ท่โี ลกเขาต้องการเราก็ท้ิงหมดทัง้ น้ันแหละ รูป เสยี ง
กล่ิน รส โผฏฐัพพะทงิ้ หมด แตก่ ็กระทบท้ังหมดเช่นกนั

ฉะน้ัน เราเปน็ ผูป้ ฏบิ ตั ิจะต้องเป็นผู้มักนอ้ ยสนั โดษ ถงึ การพดู การจา การขบ
การฉนั การอะไร จะตอ้ งเปน็ คนทงี่ า่ ยทสี่ ดุ กนิ งา่ ย นอนงา่ ย อะไรๆ กง็ า่ ย แบบทเ่ี รยี กวา่
เป็นตาสีตาสาธรรมดา แบบง่ายๆ อย่างนี้ ทำ� ไป ย่งิ ทำ� มนั ก็ย่งิ ภมู ิใจ มันจะเห็นใน
จติ ใจของเรา ฉะนั้น ธรรมะน้ีจึงเปน็ ปัจจัตตงั รเู้ ฉพาะตัวเรา ถ้ารเู้ ฉพาะตัวเราแลว้
กต็ อ้ งปฏบิ ตั เิ อาเอง

แต่เราปฏบิ ตั นิ ีก้ จ็ ะตอ้ งอาศยั ครบู าอาจารย์ครึ่งหน่ึงเท่านนั้ อยา่ งวันนผ้ี มเทศน์
ใหฟ้ งั อนั นยี้ งั เปน็ ของใชไ้ มไ่ ดเ้ ลย แตเ่ ปน็ ของนา่ รบั ฟงั ไว้ ถงึ มใี ครมาเชอื่ เชอ่ื เพราะ
ผมพูด ยงั ไม่เกดิ ประโยชนเ์ ตม็ ที่ ถ้าใครเช่อื ที่ผมพูดเต็มที่ คนนั้นก็ยงั โง่

ถา้ หากวา่ ฟงั แลว้ มเี หตผุ ล เอาไปพจิ ารณาดใู หม้ นั เหน็ ชดั ในจติ ของตวั เอง ทำ� เอง
ละเอง อันน้ันแหละมีผลมากแล้ว รู้รสมันแล้ว คือมันรู้ด้วยตนเองจริงๆ อันน้ี
พระพทุ ธองคท์ า่ นถงึ ไมต่ รสั ลงไป คอื บอกชดั ไมไ่ ด้ เหมอื นกบั บอกสใี หค้ นตาบอดวา่
มันขาวเหลอื เกิน เหลอื งเหลือเกนิ บอกไมไ่ ด้ หรอื บอกก็ไดอ้ ยู่ แตท่ ่านวา่ มนั ไมเ่ กดิ
ประโยชน์ เพราะคนน้ันตาบอดแลว้

216

ดังนัน้ ทา่ นจงึ ยอ้ นกลบั มาให้เป็นปจั จตั ตัง ให้เห็นชัดกบั ตวั เอง เม่ือเห็นชัดกับ
ตัวเองแล้ว มันจึงจะเป็น สักขีภูโต เป็นพยานของเราแท้ๆ จะยืนก็ไม่สงสัย
นง่ั กไ็ มส่ งสยั นอนกไ็ มส่ งสยั ใครจะมาพดู วา่ “ทา่ นปฏบิ ตั อิ ยา่ งนไ้ี มถ่ กู ผดิ หมดแลว้ ”
มนั ก็สบายใจได้ เพราะมันมีหลกั

ผู้ปฏิบัติต้องเป็นอย่างน้ัน จะไปท่ีไหน ใครจะบอกให้ชัดเจนอย่างไรไม่ได้
นอกจากความร้สู กึ ของเรา การเห็นของเรา มันเกิดเป็นสมั มาทฏิ ฐขิ น้ึ เรื่องประพฤติ
ปฏบิ ตั มิ นั เปน็ อยา่ งนน้ั เราทกุ คนกเ็ หมอื นกนั เรอ่ื งปฏบิ ตั นิ น้ี ะ บวชอยตู่ ง้ั ๕ ปี ๑๐ ปี
จะปฏิบตั ิสกั เดือนหนึ่ง อย่างนี้มนั กย็ ากเหมอื นกนั

ความเปน็ จรงิ อายตนะทั้งหลายต้องต่อส้ตู ลอดเวลา สบายใจไมส่ บายใจก็รจู้ ัก
ชอบไม่ชอบกใ็ หร้ ูจ้ ัก ใหม้ นั รจู้ ักสมมุติ ใหม้ ันรจู้ กั วมิ ตุ ติ วิมตุ ติกบั สมมุติมนั จะมา
พร้อมกัน ให้ร้จู ักดี รูจ้ กั ชว่ั รู้จกั พรอ้ มกนั เกดิ ข้นึ พรอ้ มกนั อันน้เี ปน็ ผลงานท่ีเกดิ
ขึน้ จากการทำ� งานของผู้ปฏบิ ตั ิ

ฉะนนั้ สง่ิ ใดทม่ี นั เกดิ ประโยชนต์ นและเกดิ ประโยชนค์ นอนื่ สรา้ งประโยชนต์ นแลว้
สร้างประโยชน์คนอ่นื ชือ่ ว่าทำ� ตามพระพทุ ธเจ้า ผมเคยสอนเสมอ สิง่ ทีค่ วรท�ำน้ัน
กไ็ มค่ อ่ ยอยากจะทำ� กนั อยา่ งกจิ วตั ร ขอ้ วตั รอะไรตา่ งๆ ผมเคยพดู บอ่ ยๆ พดู ไปกไ็ มค่ อ่ ย
เอาใจใส่ เพราะคนมันไม่รู้ มนั ขเ้ี กียจบา้ ง มนั ร�ำคาญบ้าง วนุ่ วายบ้าง น่นั แหละ
มนั เป็นเหตุ

เราจะไปอยทู่ มี่ นั ไมม่ อี ะไร อยเู่ ฉยๆ จะเหน็ อะไรไหม อาหารกเ็ หมอื นกนั ฉนั ไปแลว้
มนั เฉยๆ จะเปน็ อะไรไหม อรอ่ ยไหม หมู นั ตงึ พดู แลว้ กเ็ ฉย มนั จะรเู้ รอื่ งไหม ถา้ ไมร่ เู้ รอ่ื ง
มนั จะมเี รอ่ื งไหม ไมม่ เี รอื่ ง มนั กไ็ มม่ เี หตุ มที แี่ กไ้ หม ใหเ้ ราเขา้ ใจการปฏบิ ตั อิ ยา่ งนนั้

สมยั กอ่ นผมไปอยเู่ หนอื ไปอยกู่ บั พระหลายองค์ พระแกๆ่ แบบหลวงพอ่ หลวงตา
๒-๓ พรรษา ผมน้ัน ๑๐ พรรษาแลว้ อย่กู ับพวกคนแกก่ ต็ ัง้ ใจปฏิบัติเลย รบั บาตร
ซกั จวี ร เทกระโถน สารพดั อยา่ ง ไมไ่ ดค้ ดิ วา่ อนั นที้ ำ� ใหอ้ งคน์ น้ั ไมไ่ ดค้ ดิ ทำ� ขอ้ ปฏบิ ตั ิ
ของเรา ใครไมท่ ำ� เรากท็ ำ� เป็นก�ำไรของเรา เป็นเรอ่ื งสบายใจ ภูมใิ จ

217

ถงึ วนั อโุ บสถ เรากร็ จู้ กั เราเปน็ พระหนมุ่ ไปจดั โรงอโุ บสถ ตงั้ นำ�้ ใชน้ ำ�้ ฉนั สารพดั อยา่ ง
สบาย พวกนน้ั ไมร่ ู้จกั กิจวัตรก็เฉย เรากไ็ มว่ ่าเขาเพราะเขาไม่รู้จัก อันน้เี รามาปฏิบัติ
เราทำ� แลว้ กภ็ มู ใิ จ ถงึ เวลาหม่ ผา้ เดนิ จงกรมสบาย มนั ภมู ใิ จเหลอื เกนิ มนั ดี มนั มกี ำ� ลงั

ขอ้ วตั รทั้งหลายมกี ำ� ลงั มาก ทไี่ หนในวัดทจ่ี ะทำ� ได้ ไมว่ ่าจะเป็นในกฏุ ขิ องเรา
ในกฏุ ิคนอืน่ ก็ดี ทมี่ ันสกปรกรกรงุ รัง ทำ� เลย ไม่ตอ้ งท�ำใหใ้ คร ไมต่ ้องทำ� เอาหน้า
เอาตาจากใคร ท�ำเพ่อื ข้อปฏบิ ัติของเรา กวาดกฏุ ิกวาดเสนาสนะใหม้ ันสะอาด ถา้ เรา
ท�ำเช่นน้ัน ก็เหมือนเรากวาดของสกปรกออกจากใจของเรา เพราะเราเป็นผู้ปฏิบัติ
อนั นี้ใหม้ นั มอี ยูใ่ นใจของพวกเราทกุ คน

ความสามัคคีนั้นไมต่ ้องเรยี กรอ้ งหรอก เปน็ เลย ให้มนั เปน็ ธรรมะ สงบระงบั
พยายามท�ำใจให้มันเป็นอย่างนั้น ไม่มีอะไรมันจะขัดแย้งเรา อะไรที่เป็นงานหนัก
งานหนา ชว่ ยกนั ทำ� ถา้ เราชว่ ยกนั ทำ� ไมน่ านหรอกกเ็ สรจ็ ชว่ ยกนั งา่ ยๆ แลว้ กแ็ ลว้ ไป
มันดีทส่ี ุด ผมก็เคยพบเหมอื นกนั แตว่ า่ ผมมีกำ� ไร คอื ไปอยูด่ ้วยกันมากๆ ทัง้ พระ
ทงั้ เณร “เอา้ วนั นยี้ อ้ มผา้ กนั นะ” ยอ้ มผา้ เราไปตม้ แกน่ ขนนุ มพี ระบางองคใ์ หเ้ พอ่ื น
ตม้ แกน่ ขนุนเสร็จแลว้ ก็เอาผ้ามาชุบๆ ยอ้ ม แล้วกห็ นีไปตากผ้า อย่กู ฏุ ินอนสบาย
ไมต่ อ้ งตม้ แก่นขนุน ไมต่ อ้ งมาลา้ งหม้อ ไม่ต้องจดั ทำ� อะไร เขานึกวา่ เขาสบาย เขาดี
อันน้นั คอื โง่ทสี่ ุดแล้ว สร้างความโงใ่ สต่ วั เอง เพราะเขาไมไ่ ด้ทำ� เพ่ือนเขาทำ� ถึงเวลา
ไม่ต้องท�ำอะไรเลย ง่าย นีย่ งิ่ เพม่ิ ความโงข่ น้ึ

ดูเถอะ อันนั้นไมไ่ ด้เกดิ ประโยชน์แก่เขาเลย นีค่ ือความคิดโง่ของคน กิจท่จี ะ
ต้องท�ำกไ็ ม่ทำ� คอื ถ้าไม่ท�ำได้ล่ะเป็นดีที่สดุ นัน่ แหละมนั โงท่ ี่สุด ถา้ เรามคี วามเหน็
อย่างนน้ั ในใจอยู่ เราอยไู่ ม่ได้

ฉะน้ัน จะพดู อะไร จะทำ� อะไร ก็ใหร้ ูส้ ึกว่าเรามาทำ� อะไรทีน่ ี้ อยากกนิ ดี นง่ั ดี
นอนดี อะไรทัง้ หลายนน้ั ไม่ได้ ทีเ่ รามาท�ำอะไร ถา้ เราคิดอย่างนอ้ี ยู่เสมอ มันกจ็ ะ
ผกู ใจเราตลอดเวลา ไมเ่ ผลอ ผกู ใจเสมอ แมท้ า่ นจะยนื อยู่ ทา่ นกจ็ ะปรารภความเพยี ร
จะเดนิ อยกู่ ป็ รารภความเพยี ร จะนอนอยกู่ ป็ รารภความเพยี ร ถา้ ไมไ่ ดป้ รารภความเพยี ร

218

ไมไ่ ดเ้ ปน็ อยา่ งนนั้ นง่ั อยกู่ น็ ง่ั ในบา้ น เดนิ กไ็ ปเดนิ ในบา้ น จะไปเลน่ อยใู่ นบา้ น เลน่ กบั
ประชาชนเขา ใจมันไปอย่างนั้น ไม่ไดป้ รารภความเพยี ร ไมไ่ ดห้ ักห้ามใจของเราอีก
เสียดว้ ย ก็ยิง่ ปล่อยมันไปตามลมตามอารมณ์ นี่เรียกว่าตามอารมณ์ ก็เหมือนเดก็
ในบ้าน เราไปตามใจมนั มนั จะดีไหม พ่อแมต่ ามใจเด็กในบา้ น มันจะดไี หม ถา้ ไป
ตามใจมันตงั้ แต่เปน็ เดก็ พอมนั รภู้ าษา เขาก็จะเฆ่ียนมนั เทา่ นั้นแหละ กลวั มันจะโง่

การฝกึ จติ ของเรากต็ อ้ งเปน็ อยา่ งนน้ั ตอ้ งรจู้ กั ตวั รจู้ กั ฝกึ จติ ของเรา ถา้ เราไมร่ จู้ กั
ฝกึ จิตของตัวเอง จะคอยคนอน่ื มาฝึกให้ ลำ� บากมาก ลำ� บากมากทีเดียวละ่

อยา่ เขา้ ใจวา่ อยนู่ ไี่ มไ่ ดท้ ำ� ความเพยี ร การทำ� ความเพยี รไมม่ ขี ดี ขน้ั จะยนื จะเดนิ
จะนง่ั จะนอน ไดห้ มดทง้ั น้นั แม้กวาดลานวดั อยูก่ ็บรรลุธรรมะได้ แมม้ องไปเห็น
แสงพยบั แดดเท่านน้ั กบ็ รรลธุ รรมะได้ จะตอ้ งให้สตมิ พี รอ้ มอยเู่ สมอ ท�ำไมจึงเปน็
อยา่ งนน้ั เพราะมนั มโี อกาสทจี่ ะบรรลธุ รรมอยทู่ กุ เวลา อยทู่ กุ สถานที่ เมอ่ื เราตงั้ ใจอยู่
พจิ ารณาอยู่

ฉะนัน้ เราจึงอย่าประมาท ให้ระวงั ใหร้ ู้ เดินไปบิณฑบาตอย่างนี้ มคี วามร้สู กึ
ตงั้ หลายอยา่ งกวา่ เราจะกลบั ถงึ วดั เรา เออ เอาสิ ธรรมะดๆี มนั จะเกดิ ขน้ึ เมอื่ มาถงึ วดั
มานงั่ ฉนั บณิ ฑบาต แหม มนั มธี รรมะดๆี ทเี่ กดิ ขน้ึ มาใหเ้ รารจู้ กั มนั ตอ้ งเกดิ อยอู่ ยา่ งนี้
ถา้ เราปรารภความเพยี รอยเู่ สมอ ไมใ่ ชว่ ่ามันเป็นอะไรนะ มันมีขอ้ คดิ มันมีปัญหา
มนั มธี รรมะ มนั เปน็ ธมั มวจิ ยะ สอดสอ่ งธรรมะอยตู่ ลอดเวลา มนั เปน็ โพชฌงค์ ถา้ เรา
ศึกษาอย่เู ป็นพหสู ตู

ศกึ ษาอยา่ งไร ศกึ ษาอารมณน์ ้ี ธรรมะนม้ี นั เกดิ ทจ่ี ติ ไมต่ อ้ งไปศกึ ษากบั ใครทไ่ี หน
ศกึ ษาอยทู่ เ่ี มอ่ื เรามสี ตอิ ยู่ มนั มขี อ้ ศกึ ษา โพชฌงั โค สตสิ งั ขาโต ธมั มานงั วจิ โย มสี ติ
มนั ก็มธี มั มวิจยะ มันติดต่อกนั เสมอ มนั เป็นองคต์ รัสรธู้ รรม ถ้าเรามีสตอิ ยู่ มันมี
ธัมมวิจยะ ไม่ได้อยูเ่ ฉยๆ เป็นองคธ์ รรมตรสั รู้

ถา้ อยใู่ นระบบนี้ ตรสั รธู้ รรมะอยตู่ รงน้ี ภายในจติ ของเรานี้ การปฏบิ ตั ไิ มม่ กี ลางวนั
ไมม่ กี ลางคนื ไม่มเี วลา ไมม่ เี ร่อื งอนื่ มาปน ปนก็ให้ร้จู กั ว่ามนั ปน มีธมั มวจิ ยะอยู่ใน

219

ใจเสมอ คอื ซอกธรรม เฟน้ ธรรมอยู่เสมอ มีสตวิ ิจัยธรรมอยู่ตลอดเวลา เรอ่ื งจติ
มนั เปน็ อยา่ งนน้ั ถา้ มนั ตกกระแสของมนั แลว้ ไมใ่ ชว่ จิ ยั ไปอยา่ งอนื่ จะไปเทยี่ งตรงโนน้
จะไปทางน้ที างนั้น สนุกจังหวัดนีจ้ ังหวดั น้ัน อันน้นั มันหลงโลก เดยี๋ วกต็ ายละ
ฉะนนั้ จงพากนั ตงั้ ใจ ไมใ่ ชว่ า่ นงั่ หลบั ตาอยา่ งเดยี วจงึ เกดิ ปญั ญา ตา หู จมกู ลน้ิ
กาย ใจ มนั มอี ยเู่ สมอ ตน่ื อยเู่ สมอ ศกึ ษาตลอดเวลา เหน็ ตน้ ไม้ เหน็ สตั วต์ า่ งๆ กไ็ ด้
ศกึ ษาอยตู่ ลอดเวลา นอ้ มเขา้ มาเปน็ โอปนยกิ ธรรม ใหเ้ หน็ ชดั ในตวั ของเราเปน็ ปจั จตั ตงั
จะมีอารมณภ์ ายนอกกระทบกระท่งั เขา้ มา มันกเ็ ปน็ ปัจจัตตังสมำ�่ เสมอ มันไม่ท้งิ
พดู งา่ ยๆ เหมอื นเขาเผาถา่ นเผาอฐิ เตาถา่ นเตาอฐิ เคยเหน็ ไหม กอ่ ไฟขนึ้ หนา้ เตา
สกั สองศอก หรอื เมตรหนง่ึ มนั จะดดู ควนั ไฟเขา้ ไปในเตาหมดเลย ดอู นั นนั้ กไ็ ด้ มนั เหน็
ชดั อยา่ งนน้ั อนั นม้ี นั เปน็ รปู เปรยี บเทยี บ ถา้ ทำ� เตาเผาถา่ นเผาอฐิ ใหถ้ กู เรอื่ ง ถกู ลกั ษณะ
ของมนั กอ่ ไฟอยหู่ นา้ เตาสกั สองสามศอก เมอื่ มคี วนั ขนึ้ มา มนั จะดดู เขา้ ไปในเตาหมด
ไมม่ เี หลอื เลย ความรอ้ นกจ็ ะเขา้ ไปบรรจใุ นเตาหมด ไมห่ นไี ปไหน ความรอ้ นจะเขา้ ไป
ท�ำลายเร็วที่สดุ นี่มันเป็นอยา่ งน้นั
ความรู้สึกของผู้ประพฤติปฏิบัติก็เหมือนกัน จะมีความรู้สึกดูดเข้าไปให้เป็น
สมั มาทฏิ ฐทิ ง้ั นนั้ ตาเหน็ รปู หฟู งั เสยี ง จมกู ดมกลน่ิ ลนิ้ ลมิ้ รสทง้ั หลาย มนั จะดดู เขา้ ไป
ใหเ้ ป็นสมั มาทฏิ ฐิทงั้ น้นั จะเปน็ สัมผัสทเี่ กิดปญั ญาอย่างน้นั สมำ�่ เสมอตลอดเวลา.

220

๒๐

ไมแ่ น่คอื อนจิ จงั

มพี ระฝร่ังองค์หนงึ่ เปน็ ลกู ศษิ ยข์ องผม เม่ือเหน็ พระไทยสามเณรไทยสึกก็ อุย๊
เสียดาย ท�ำไมถึงท�ำอย่างน้ัน ท�ำไมพระไทยเณรไทยถึงสึกกันนี่ เขาตกใจพากัน
ตน่ื เตน้ ในการสกึ ของพระไทยเณรไทย กเ็ พราะมาพบใหมๆ่ เขาตงั้ ใจ มศี รทั ธามาบวช
นี่มันดีแล้ว คิดว่าจะไม่สึกแล้ว ใครสึกก็โง่เท่านั้นแหละ มาเห็นพระไทยเณรไทย
เขา้ พรรษาก็บวชกัน ออกพรรษาแลว้ กส็ ึก โอ๊ย สลดใจตกใจ โอ้ สงสารเนอ้ สงสาร
พระไทย สงสารสามเณรไทย ท�ำไมถงึ ทำ� อยา่ งน้นั

พอดตี ่อมาพระฝรง่ั ก็อยากสึกบา้ ง เลยเหน็ เปน็ ของทไ่ี มส่ �ำคัญ ตอนแรกมาพบ
ใหมๆ่ มนั ต่ืนเต้น เห็นเป็นของสำ� คญั มาก

การบวชน่ะ นกึ ว่าจะท�ำเอางา่ ยๆ เมือ่ ใจของคนกำ� ลงั มศี รทั ธา มนั พรอ้ มหมด
ทกุ อยา่ ง คดิ อะไรมนั กด็ ี คดิ อะไรมนั กถ็ กู ไปทง้ั นน้ั แหละ ไมม่ ใี ครตดั สนิ คอื ตดั สนิ เอาเอง
นน่ั แหละ ไมร่ วู้ า่ ปฏปิ ทาของการปฏบิ ตั ทิ างจติ ใจนท่ี า่ นทำ� อยา่ งไร ทา่ นจะตอ้ งมรี ากฐาน
อนั มน่ั คงทีส่ ดุ ภายในจติ ของทา่ นแล้ว แต่ท่านกไ็ ม่พูดอะไรมาก

สว่ นผมบวชมาคร้งั แรกไมไ่ ดฝ้ กึ ฝนหรอก แตว่ า่ มันมีศรทั ธา มันจะเปน็ เพราะ
กำ� เนดิ กไ็ มร่ ู้ พระเณรทบ่ี วชพรอ้ มๆ กนั ออกพรรษาแลว้ กส็ กึ เรามองเหน็ วา่ “เอ พวกน้ี
มนั ยงั ไงกนั นอ้ ” แตเ่ ราไมก่ ลา้ พดู กบั เขา เพราะเรายงั ไมไ่ วใ้ จความรสู้ กึ ของเรา มนั ตนื่ เตน้

221

แตภ่ ายในจติ ของเรากว็ า่ นมี่ นั โงม่ าก บวชมนั บวชยาก สกึ มนั สกึ งา่ ย นมี่ บี ญุ นอ้ ย ไมม่ ี
บญุ มาก เหน็ ทางโลกมนั มปี ระโยชนม์ ากกวา่ ทางธรรม นเี่ รากเ็ หน็ ไป แตเ่ ราไมพ่ ดู เราก็
มองดูแต่ในจิตของตวั เอง

เห็นเพ่ือนภิกษทุ ่ีบวชพรอ้ มๆ กนั สกึ ไปเร่อื ยๆ บางทีก็เอาเครื่องแตง่ ตัวมาใส่
เขา้ มาเดนิ เราเหน็ มนั เปน็ บา้ หมดทกุ กระเบยี ดเลย แตเ่ ขาวา่ มนั ดี สวย สกึ แลว้ จะตอ้ งไป
ทำ� อยา่ งนน้ั อยา่ งน้ี แลว้ กม็ าเหน็ อยใู่ นใจของเรา ไมก่ ลา้ พดู ใหเ้ พอ่ื นเขา วา่ คดิ อยา่ งนนั้
มันผดิ กไ็ ม่กล้าพูด เพราะวา่ ตัวเรามนั ยงั เปน็ ของไมแ่ น่อยู่ ว่าศรทั ธาของเรานี้มันยัง
จะยดื ยาวไปถงึ ขนาดไหน อะไรๆ ก็ยังไมก่ ลา้ จะพูดกับใครเลย พิจารณาแตใ่ นจติ
ของตนเรื่อยๆ

พอเพอื่ นสกึ ไปแลว้ กท็ อดอาลยั ไมม่ ใี ครอยแู่ ลว้ นะ ชกั เอาหนงั สอื ปาฏโิ มกขม์ า
ดเู ลย ทอ่ งปาฏโิ มกขส์ บาย ไมม่ ใี ครมาลอ้ เลยี นเลน่ อะไรตอ่ ไป ตง้ั ใจเลย แตก่ ไ็ มพ่ ดู
ว่าอะไร เพราะเห็นวา่ การปฏบิ ตั ิตั้งแตน่ ไ้ี ปถึงชวี ติ หาไม่ บางทีก็อายุ ๗๐ ก็มี ๘๐ ก็มี
๙๐ ก็มี จะพยายามปฏิบตั ิให้มนั มีความนึกคิดเสมอ ไมใ่ ห้คลายความเพียร ไมใ่ ห้
คลายศรทั ธา จะให้มนั สม�ำ่ เสมออยา่ งนม้ี ันยากนัก จึงไมก่ ลา้ พดู

คนทีม่ าบวชกบ็ วชไป ทีส่ กึ ก็สึกไป เราดูมาเรือ่ ยๆ อยู่ไปกไ็ มว่ า่ จะสกึ กไ็ ม่วา่
ดูเพ่ือนเขาไป แต่ความรู้สึกภายในจิตใจของเราว่า พวกนมี้ ันไม่เห็นชัด พระฝรง่ั ท่ี
มาบวชคงเห็นอย่างนั้น เห็นพระบวชพรรษาหนึ่งก็ตกใจ ต่อมาๆ ก็เรียกว่า เบ่ือ
เบอ่ื ความเปน็ อยขู่ องพระภกิ ษสุ ามเณร เบอ่ื พรหมจรรย์ คลายความเพยี รออกมาเรอ่ื ยๆ
ผลที่สุดกส็ กึ ทำ� ไมสึกล่ะ แตก่ ่อนเห็นพระไทยสึก แหม เสยี ดาย...น่าสลดสังเวช
นา่ สงสาร ตวั เราสกึ ท�ำไมไม่สงสารตวั เราหรือนี่ ไมพ่ ูด ยิ้มๆ เทา่ นัน้ แหละ ไม่พูด

เร่ืองการปฏิบัติในจิตของตัวเองน้ีนะ ไม่มีอะไรจะเป็นเครื่องตัดสินได้ง่ายๆ
เพราะว่าพยานมันไม่มี เร่ืองราวต่างๆ มคี นอื่นเป็นพยาน มนั มีแบบมนั มีแผน เรายัง
อาศยั คนอนื่ เปน็ พยาน เรอ่ื งเอาธรรมะเปน็ พยานนน้ั เราเปน็ ธรรมแลว้ หรอื ยงั เราคดิ
อยา่ งนมี้ ันถกู แล้วหรือยงั ถา้ มันถูก เราท้งิ ความถกู ไดห้ รอื ยงั หรอื ยดึ ความถูกอยู่

222

มนั ตอ้ งคดิ คดิ ไปถงึ ทสี่ ดุ วา่ มนั ทง้ิ นนั่ แหละ จงึ เปน็ ของสำ� คญั จนกวา่ ทว่ี า่ ไมเ่ ปน็
อะไรทงั้ นนั้ โนน่ กไ็ มเ่ ปน็ นก่ี ไ็ มเ่ ปน็ ดกี ไ็ มเ่ ปน็ ชวั่ กไ็ มเ่ ปน็ มนั ทงิ้ คอื หมายความวา่
ใหม้ นั หมดนน่ั แหละ ถา้ อะไรมนั หมด มนั กห็ มดไมเ่ หลอื ถา้ อะไรมนั ยงั มอี ยู่ มนั กย็ งั
เหลืออยู่

ฉะนน้ั เรอ่ื งปฏิบตั ใิ นจิตของตนนวี่ า่ มนั ง่ายหรอก แต่วา่ มันพูดง่ายนะ แต่ว่า
มนั ท�ำยาก มันท�ำยาก ยากคือมันไม่ไดต้ ามปรารถนาของเรา บางครง้ั ทเ่ี ราปฏิบตั ไิ ป
มนั กม็ ดี ว้ ยนะ มนั เปน็ เทวบตุ รมารมนั ชว่ ย ใหด้ ไู ปใหถ้ กู พดู ไปใหถ้ กู อะไรๆ มนั ถกู ไป
ทง้ั น้นั แหละ อันน้ันก็ดี อนั น้ันกถ็ กู กไ็ ปยึดในความถูกน้ันอกี ผลสุดท้ายกผ็ ิดอกี
ถล�ำไปอกี แหละ อันนี้มนั เปน็ ของยากล�ำบาก ไม่มีอะไรจะวัดมนั

คนที่มศี รทั ธามากๆ คอื ประกอบไปด้วยศรัทธา มันประกอบไปดว้ ยความเชือ่
มันอ่อนด้วยปัญญา สมาธิก็เก่ง แต่ว่าวิปัสสนาไม่มี มันเห็นไปหน้าเดียว เห็นไป
รปู เดียวก็เปน็ ไป คิดอะไรกไ็ ม่รู้ มันมศี รทั ธา ในทางพระพุทธศาสนาท่านพดู ตาม
ตัวหนงั สือ ท่านวา่ ศรัทธาอธิโมกข์ มันมศี รทั ธากจ็ ริง แต่ว่าศรทั ธานมี้ นั ปราศจาก
ปญั ญา แตเ่ รากม็ องไมเ่ หน็ ในขณะนน้ั เราก็นกึ วา่ ปญั ญาเรากม็ ี อย่างน้ีมันกเ็ ลยมอง
ไม่เห็นความผดิ

ฉะนั้น ทา่ นจงึ ตรสั กำ� ลงั ทงั้ ห้า ไว้ว่า ศรทั ธา วริ ิยะ สติ สมาธิ ปญั ญา ศรทั ธา
คือความเชื่อ วิริยะคือความเพียร สติคือความระลึกได้ สมาธิคือความต้ังใจม่ัน
ปัญญาคอื ความรู้ท่ัว ปญั ญาความรู้ท่ัว อยา่ ไปพูดแต่เพียงว่า ปัญญาความรู้ ปัญญา
ความรอบรูท้ ั่วถงึ

ปราชญท์ า่ นจดั ธรรมทง้ั ๕ ประการนเ้ี ปน็ ตอนๆ เพอ่ื เราจะมองดปู รยิ ตั ทิ เ่ี รยี นแลว้
มาเปรยี บเทยี บกบั ขณะจติ ของเราทม่ี นั เปน็ อยู่ อยา่ งศรทั ธา คอื ความเชอื่ เราเชอ่ื ไหม
เราเป็นอย่างนนั้ แลว้ หรอื ยงั วริ ิยะ เรามคี วามเพยี รแลว้ หรอื ยงั ท่ีเราเพียรอยู่นีม่ ัน
ถกู หรอื ผิด อนั นเี้ ราต้องพิจารณา ใครกเ็ พยี รกนั หมดทั้งนน้ั แหละ แต่วา่ เพยี รนมี้ นั
ประกอบไปด้วยปัญญาหรือเปล่า

223

สติ น่กี ็เหมือนกนั แมวมนั กม็ สี ติ เห็นหนขู นึ้ มา สติมนั ก็รู้ขนึ้ มา ตามันจอ้ งดู
ของมัน มีสติของแมว อะไรมันกม็ ที กุ อยา่ งละ สตั วเ์ ดรจั ฉานมนั กม็ ี อนั ธพาลมันก็มี
ปราชญ์กม็ ี สมาธิ ความมงุ่ มัน่ ความต้ังใจมั่น อันนีม้ ันกม็ ีอกี แหละ แมวมันกม็ ี
มนั มน่ั ทจี่ ะตะครบุ หนกู นิ นี่ ความมงุ่ มน่ั ของมนั มี สตนิ นั้ กเ็ รยี กวา่ สตเิ หมอื นกนั สมาธิ
ความตง้ั ใจมั่นวา่ จะท�ำอย่างนั้น มันกม็ ีอยู่ ปัญญา ความรู้มันกม็ ี แต่วา่ มนั ไมร่ อบรู้
เหมือนมนษุ ย์ มันรอู้ ย่างสัตว์ มปี ัญญาเพื่อจะตะครบุ หนกู ินเปน็ อาหาร

ธรรมทั้ง ๕ ประการน้ี ทา่ นเรียกว่า “กำ� ลัง” สิ่งทั้ง ๕ ประการนีม้ ันเกดิ มาด้วย
สมั มาทฏิ ฐหิ รอื เปลา่ ศรทั ธา วริ ยิ ะ สติ สมาธิ ปญั ญา นม่ี นั เกดิ มาจากสมั มาทฏิ ฐหิ รอื เปลา่
สัมมาทิฏฐนิ ีเ้ ปน็ อยา่ งไร อะไรเป็นเครอื่ งตดั สินว่าเป็นสัมมาทฏิ ฐิ อันน้ีเราต้องรชู้ ดั

สมั มาทิฏฐิ คอื ความเข้าใจวา่ สงิ่ ทง้ั หลายเหล่านม้ี ันเป็นของไม่แนน่ อน ฉะน้ัน
พระอริยเจ้าและพระพุทธเจา้ ท่านจงึ ไมไ่ ด้ยึดมน่ั ทา่ นยึดไมใ่ ห้มน่ั ไมใ่ ชท่ า่ นยดึ ม่นั
ยึดไม่ให้มั่น คือยึดไม่ให้มันเป็นภพ ตัวยึดท่ีไม่ได้เป็นภพคือไม่มีตัณหาเข้าไป
ปะปน มนั ไมต่ อ้ งเปน็ นนั่ ไมต่ อ้ งเปน็ นี่ มนั หมดมนั สน้ิ ในการกระทำ� อยา่ งนน้ั เมอื่ มนั
ยดึ มาแล้ว มนั ยนิ ดีไหม มนั ยินรา้ ยไหม เมื่อมนั ยินดีแล้วมนั ยดึ ในความดีนนั้ ไหม
มันยดึ ในความรา้ ยนั้นไหม

ทฏิ ฐิ คือความเห็น หลักทจี่ ะเป็นทว่ี ัดใหเ้ รารอบรู้พอสมควร เพ่อื เราจะเรยี นรู้
เพอื่ เราจะพจิ ารณากม็ อี ยเู่ หมอื นกนั เชน่ ความเหน็ ทว่ี า่ เราดกี วา่ เขา เหน็ วา่ เราเสมอเขา
เห็นวา่ เราโงก่ วา่ เขา น่ีเปน็ ความเห็นอันผิดทั้งน้ัน แต่ท่านกเ็ ห็น ทา่ นเห็นแลว้ ท่านก็รู้
ดว้ ยปญั ญา เกดิ ขน้ึ แลว้ มนั กด็ บั ของมนั ไป เหน็ วา่ ตวั เราดกี วา่ เขา นกี่ ไ็ มใ่ ช่ เหน็ วา่ ตวั เรา
เสมอกบั เขานกี่ ไ็ ม่ใช่ เหน็ ว่าตัวนี้มันโง่กวา่ เขาก็ไมใ่ ช่

ความเหน็ ซงึ่ เปน็ สมั มาทฎิ ฐนิ มี่ นั ตดั ตน้ ตดั ปลายไปหมดละ่ มนั จะไปตรงไหนละ่
เหน็ วา่ เราดกี วา่ เพอ่ื น เรากท็ ะนงตวั มนั กม็ อี ยใู่ นนน้ั แหละ แตม่ นั ยงั ไมร่ จู้ กั เหน็ วา่ เราดี
เสมอกับเพอ่ื น มันกต็ เี สมอกันเทา่ นน้ั เห็นว่าเราเลวกวา่ เขานัน่ เราก็ตกใจ คิดอาภัพ
อบั จน มันก็อปุ าทานขนั ธ์ ๕ มนั เปน็ ภพชาตทิ ้งั นน้ั แหละ น่เี ป็นเครอ่ื งตัดสิน

224

อกี อยา่ งหนงึ่ เชน่ วา่ เราไดอ้ ารมณท์ ดี่ ี เราถงึ ดใี จ อารมณท์ ไี่ มด่ ี เรากเ็ สยี ใจ เราวดั
ดไู หมวา่ อารมณท์ เ่ี ราไมช่ อบกบั อารมณท์ เี่ ราชอบนน้ั มนั มรี าคาเทา่ กนั ไหม นี่ ใหเ้ อา
ไปวดั ดซู ี่ ทเ่ี ราอยทู่ กุ วนั น้ี อารมณท์ เ่ี ราอาศยั อยนู่ นี้ ะ เราไดอ้ ารมณท์ ช่ี อบใจแลว้ ใจเรา
เปลย่ี นไหม เมอ่ื กระทบอารมณท์ ไี่ มพ่ อใจแลว้ มนั เปลยี่ นไหม หรอื มนั คงท่ี ดตู รงนกี้ ไ็ ด้
เปน็ พยานอนั หนง่ึ นะ แตว่ า่ ใหร้ ตู้ วั ของตวั นะ อนั นเี้ ปน็ พยานของเรา อยา่ เพง่ิ ไปใหม้ นั
ตัดสินดว้ ยความอยาก บางทีมนั ก็เสริมข้ึนไปใหเ้ ราเป็นอยา่ งน้นั กไ็ ด้ ต้องระวัง

มันมีหลายแง่หลายมุมเหลือเกินท่ีเราจะต้องพิจารณา แต่ว่าในทางท่ีถูกต้อง
มันกเ็ รียกว่าไม่ใช่ตามตัณหา ไมใ่ ชต่ ามความอยาก มนั เปน็ ความจรงิ ทา่ นใหร้ ู้ทั้งดี
ทงั้ ชัว่ เม่ือรูแ้ ลว้ ทา่ นกใ็ ห้ละทงั้ ดที ง้ั ช่ัว ถ้าไมล่ ะมนั กย็ ังอยู่ เปน็ อยู่ มอี ยู่ ถา้ มอี ยู่
มันกเ็ หลืออยู่ มนั มภี พอยู่ มนั มชี าติอยอู่ ย่างน้ี

ฉะน้ัน พระพุทธองค์ท่านจึงให้ตัดสินเอาเฉพาะตัวเอง อย่าพึงไปตัดสินให้
คนอน่ื เลย จะดจี ะรา้ ยประการใด ทา่ นกพ็ ดู ใหฟ้ งั เทา่ นน้ั แหละ นเ่ี รอ่ื งความจรงิ มนั เปน็
อยูอ่ ย่างนี้ จติ ใจเราเป็นอย่างน้ันหรอื เปลา่ เชน่ วา่

มีพระองค์หน่ึงไปจับเอาของเขา ทนี ค้ี นอน่ื ก็ว่า “ทา่ นขโมยของผม”
“ผมไม่ไดข้ โมย ผมเอาเฉยๆ”
“ผมท�ำอย่างนนั้ อยู่ แตผ่ มไม่มเี จตนา”

ใครจะไปฟังได้อย่างนั้น มันก็ยาก ถ้าฟังไม่ได้ก็ท้ิงให้เจ้าของเดิมเขาเอาไว้
ตรงนั้นแหละ

แตว่ า่ ใหเ้ ขา้ ใจวา่ อะไรทม่ี นั เกดิ มใี นใจของเรานน้ั นะ่ เรอ่ื งปดิ ไมอ่ ยทู่ ง้ั นนั้ แหละ
เรื่องมันจะผิดมันก็ปิดไม่ได้ เร่ืองมันจะถูกมันก็ปิดไม่ได้ เร่ืองมันจะดีก็ปิดไม่ได้
จะช่วั มนั ก็ปิดของมันไม่ได้ คือมนั เปิดของมนั เอง มันเปิดของมนั เอง มนั มมี นั เอง
เปน็ มนั เอง มนั เปน็ อตั โนมตั อิ ยทู่ กุ อยา่ งละ่ มนั เปน็ เรอื่ งอยา่ งน้ี อยา่ คาดเอา อยา่ คะเนเอา
อยา่ เดาเอา

225

สิ่งท้งั หลายเหล่าน้ี อะไรมันเป็นอวิชชามันไม่หมด องคมนตรีเคยถามผม

“หลวงพอ่ พระอนาคามีนะ จิตเป็นประภัสสรหรือเปลา่ ”
“เป็นบา้ ง”
“เอ้า พระอนาคามีทา่ นละกามได้แล้ว ทำ� ไมจิตไม่เปน็ ประภัสสร”
“ทา่ นละกามได้ แตว่ า่ มเี หลอื อยใู่ ชไ่ หม อวชิ ชาโมหะเหลอื อยู่ อะไรทม่ี นั เหลอื อยู่
นน่ั แหละ มนั ยังมอี ยู”่

กเ็ หมือนบาตรของเราน่ันแหละ บาตรขนาดใหญ่อยา่ งใหญ่ บาตรขนาดใหญ่
อย่างกลาง บาตรขนาดใหญอ่ ย่างเล็ก บาตรขนาดกลางอย่างใหญ่ บาตรขนาดกลาง
อย่างกลาง บาตรขนาดกลางอย่างเล็ก บาตรขนาดเล็กอย่างใหญ่ บาตรขนาดเล็ก
อยา่ งกลาง บาตรขนาดเลก็ อยา่ งเลก็ มนั จะเลก็ เทา่ ไหรก่ ช็ า่ งมนั เถอะ ยงั มบี าตรอยู่ น่ี
มนั เป็นเสียอยา่ งนั้น

อยา่ งวา่ โสดา สกทิ าคา อนาคา ละกเิ ลสไดแ้ ลว้ นนั้ แตว่ า่ มนั หมดแตแ่ คน่ นั้ นะ
สิ่งท่ียังเหลืออยู่พวกนั้นมองไม่เห็น ถ้าอย่างน้ันก็เป็นพระอรหันต์หมดเท่านั้นแหละ
มนั มองไมเ่ หน็ อวชิ ชานมี่ นั มองไมเ่ หน็ อยนู่ นั่ แหละ ถา้ หากวา่ จติ พระอนาคามเี รยี บหมด
แลว้ กไ็ มใ่ ช่อนาคา มนั กห็ มดสิ อันนมี้ นั ยังเปน็ อยู่ จติ เปน็ ประภสั สรไหม กเ็ ปน็ บ้าง
แต่มนั ไมถ่ ึงร้อยเปอรเ์ ซน็ ต์ จะใหเ้ ราตอบอย่างไรล่ะ ทา่ นวา่ วันหลังจะมาเรยี นใหม่
เรยี นก็เรยี นซิ หลักมนั มอี ย่แู ลว้

อนั น้ีกเ็ หมือนกนั อย่าไปประมาท ระวงั องค์สัมมาสมั พุทธเจ้าของเราให้ระวงั
อนั นพ้ี ดู ถงึ เรอื่ งปฏบิ ตั ิ เรอ่ื งจติ ของเรา ผมกเ็ คยซวนเซมาหลายครง้ั เหมอื นกนั บางที
อยากจะทดลองหลายๆ อยา่ งเหมือนกัน แต่แลว้ มนั ไม่ถกู ทางทง้ั น้นั แหละ คือมนั
อวดดบิ อวดดขี น้ึ ในจติ มนั เปน็ มานะอนั หนงึ่ ทฏิ ฐคิ วามเหน็ มานะความยดึ ไว้ มนั มอี ยนู่ ่ี
พดู แต่เท่านม้ี ันกย็ งั ดูยากเหมอื นกนั

นผ่ี มเคยพดู ใหฟ้ งั โยมอะไรทม่ี าบวชเปน็ หลวงตา หอบผา้ ไตรจวี รมาแลว้ จะมา
บวชหนา้ ศพของโยมแม่ ไดผ้ า้ ไตรจีวรก็หอบเขา้ มาในวดั ยงั ไม่ไปกราบพระ พอวาง

226

ไตรจวี รกเ็ ดนิ จงกรมเลย เดนิ อยู่หนา้ ศาลาน่นั แหละ เดนิ กลบั ไปกลบั มา เดินอย่าง
เอาจรงิ เอาจงั เอ คนอยา่ งนีม้ ันก็ยงั มนี ะ น่คี ือศรัทธาอธโิ มกข์

เขาคดิ วา่ จะเอาใหต้ ะวนั ไมท่ นั ตกจะใหส้ ำ� เรจ็ กไ็ มร่ ู้ นกึ วา่ มนั งา่ ยนะ เรากป็ ลอ่ ย
ให้เขาเล่นอยู่น่ันละ ไม่ต้องมองใครละ เดินเอาจริงเอาจังอย่างนั้น เรามองเห็น
โอโ้ อย มนษุ ยเ์ อย๋ มนั คดิ วา่ จะงา่ ยๆ อยา่ งนน้ั หรอื พอดใี หอ้ ยไู่ ปกวี่ นั กไ็ มร่ ู้ ดเู หมอื น
ไม่ได้บวชหรอื บวชก็ไมร่ ู้ มันจะเป็นอะไรอยา่ งน้ันนะ

พอใจมันรู้อะไรปุ๊บส่งออกเลย มันรู้อะไรมาปุ๊บก็ส่งออกเลย ตัวจิตสังขาร
มันปรุงแต่งก็ไม่รู้เร่ืองของมัน มันก็ว่าฉันเป็นปัญญา มันปรุงแต่งแยกขยายหลาย
อยา่ งหลายประการ ชน้ิ เลก็ ชน้ิ ใหญห่ ลายอยา่ ง ละเอยี ด ก็ จติ สงั ขารนมี้ นั กค็ ลา้ ยกบั
ปญั ญา ถา้ คนไมร่ ้มู ันกว็ า่ ปัญญาดีๆ นแี่ หละ แต่วา่ เม่อื ถงึ คราวมนั แลว้ หาความจรงิ
ไมม่ อี ะไร เมอื่ อารมณท์ ไ่ี มพ่ อใจเปน็ ทกุ ขเ์ กดิ ขน้ึ ได้ อยนู่ นั่ มนั จะเปน็ อะไร มนั จะเปน็
ปัญญาอะไรไหม มนั เป็นตวั สังขารท้ังน้ันแหละ

ดังนัน้ อิงพระเสยี ดกี วา่ ที่ผมเคยเล่าใหฟ้ ังเรือ่ ยๆ ปฏิบัตนิ น่ั แหละ แอบเข้าไป
หาพระพุทธเจ้า พระพทุ ธเจ้าอยตู่ รงไหนนะ ยังอยทู่ ุกวนั นี้ แอบเขา้ ไปหาทา่ นเถอะ
อะไรละ่ คอื อนจิ จงั แอบเขา้ ไปหาทา่ น ไปกราบทา่ นซิ อนจิ จงั มนั ของไมแ่ นน่ น่ั แหละ
เอาตรงน้นั แหละ หยุดไดต้ รงนน้ั แหละกอ่ น

ถา้ มันบอกว่า ฉันเป็นโสดาบนั แล้ว ไปกราบทา่ นเถอะ ไม่แนเ่ ลย ไปกราบทา่ น
ทา่ นจะบอกวา่ มนั ไมแ่ น่ สกทิ าคาแลว้ กก็ ราบทา่ นเถอะ ทา่ นเหน็ แลว้ กจ็ ะบอกวา่ มนั ไมแ่ น่
เปน็ อนาคามไี ปกราบทา่ นเถอะ ทา่ นจะบอกอยคู่ ำ� เดยี ววา่ มนั ไมแ่ น่ ไปถงึ พระอรหนั ต์
ไปกราบท่าน ทา่ นกย็ ิ่งเอาใหญ่ ยิง่ ไม่แน่

เราจะไดฟ้ งั คำ� ของพระบา้ ง คอื ไมแ่ น่ แลว้ กไ็ มย่ ดึ นนั่ เองแหละ อยา่ ไปยดึ งๆู ปลาๆ
อย่ายึดแล้วไม่วาง อย่าจับไม่วาง ยึดมาดูเป็นสมมุติเฉยๆ ผลท่ีสุดก็ส่งให้วิมุตติ
มนั เป็นไปแต่อยา่ งนั้น ต้องมสี มมตุ ิ ตอ้ งมีวิมุตติ

227

เรอ่ื งจรติ ของเรา เรอื่ งอารมณข์ องเรา มนั กค็ ลา้ ยกบั คนๆ หนงึ่ นนั่ แหละ พดู งา่ ยๆ
มนั คลา้ ยกบั คนๆ หนงึ่ คนบางคนมนั ชอบจรติ เรากม็ ี บางคนทไี่ มช่ อบจรติ ของเรากม็ ี
ไอส้ ง่ิ ทม่ี นั เปน็ มาขา้ งนอก มนั กเ็ หมอื นกนั อยา่ งนนั้ แหละ มนั ไมแ่ ปลกอะไรสกั คนหนงึ่
ท่เี รยี กวา่ อารมณ์น้ี ความเปน็ จรงิ มนั ก็เปน็ อยทู่ ี่เจ้าของนน่ั อารมณน์ นั้ มันกไ็ มม่ อี ะไร
มนั เป็นสกั แต่ว่าอารมณ์ เรามาคดิ เอาเองหรอก ว่าเราดี ว่าเราชัว่ วา่ เราผิด วา่ เราถูก
เหลา่ นม้ี นั เกดิ ความรสู้ กึ นกึ คดิ ขน้ึ เอง วา่ ขนึ้ เอง ผดุ ขน้ึ มาอยา่ งนน้ั ธรรมนจ้ี งึ เปน็ เครอ่ื ง
วจิ ารณว์ จิ ัยได้ยากเหลือเกิน

ผมจงึ บอกวา่ ใหแ้ อบไปหาพระพทุ ธเจา้ พระพทุ ธเจา้ คอื ใคร กค็ อื ธรรมะนน่ั แหละ
ธรรมะในสกลโลกนี้ท้ังหมดมันมารวมอยู่ท่ีธรรมะตัวเดียวคือ อนิจจัง ลองดูซิ
ใครจะเป็นนกั ปฏิบตั เิ ถอะ ผมคน้ มาตลอด ๒๐-๔๐ พรรษาน่ี ผมเห็นเทา่ น้ันแหละ
แล้วก็อดทนอันหน่ึง แลว้ กเ็ ข้าใกลธ้ รรมะของทา่ น

อนิจจัง มนั ไมแ่ น่ ใจมันว่าแน่ขนาดไหน กบ็ อกวา่ มันไมแ่ น่ ใจมันจะยดึ ม่ันวา่
มันแน่ท่ีไหน ก็วา่ มันไมแ่ น่ มนั ไม่เทย่ี ง ดันมันอยอู่ ยา่ งน้แี หละ อาศยั ธรรมะของ
พระพทุ ธเจา้ กด็ นั ไปอยอู่ ยา่ งนแ้ี หละ ตลอดมาทกุ วนั นี้ ไมใ่ ชว่ า่ มนั ประเดย๋ี วประดา๋ วนะ
ยืนก็เป็นอยู่อย่างน้ัน น่ังก็เป็นอยู่อย่างน้ัน นอนก็เป็นอยู่อย่างน้ัน ไอ้ความรู้สึกท่ี
ชอบใจเกิดข้ึน มันก็เป็นอยู่อย่างนั้น ท่ีไม่ชอบใจเกิดขึ้น มันก็เป็นอยู่อย่างน้ัน
มันเขา้ ใกลพ้ ระ เขา้ ใกลธ้ รรมะ มันเป็นอยอู่ ยา่ งนัน้

อันนี้ผมว่ามนั จะมีราคามากกว่าทเ่ี ราปฏบิ ตั มิ า เท่าที่ผมปฏิบตั มิ าตงั้ แต่โน่นถงึ
ขณะนี้ อาศัยอยา่ งนี้แหละ อาศยั ต�ำราหรอื กไ็ ม่ใช่ ไมอ่ าศยั ต�ำราหรือ กไ็ ม่ใช่ อาศัย
ครบู าอาจารย์จริงหรอื กไ็ มใ่ ช่ ไม่อาศัยครูบาอาจารยจ์ รงิ หรือ กไ็ ม่ใช่ มันเปน็ ของ
ก�้ำกึง่ อยู่อย่างนี้ ถ้าพูดตามความจรงิ กเ็ รียกวา่ ใหม้ นั หมด คอื ทำ� ใหม้ ันหมด ทำ� ให้
มันเกิดขึน้ มาแล้วก็ทำ� ใหม้ นั หมดไป ทำ� ใหม้ นั มีสมมตุ ิ แลว้ กใ็ ห้มนั มีวมิ ตุ ติ

ผมเคยพูดให้พระฟังส้ันๆ แต่บางคนก็อาจจะสนใจ ถ้าหากว่าคนปฏิบัติอยู่
พจิ ารณาอยเู่ รอื่ ยไป ตอนปลายถงึ จะรจู้ กั มนั จะไปลงตรงนนั้ แนน่ อน ไมไ่ ปทไี่ หน ผมเคย
พดู วา่ รบี เดนิ ไป แล้วก็รบี กลบั มา แลว้ กร็ ีบหยุดอยู่ นเี่ บื้องแรกมนั เป็นอย่างนี้

228

ท�ำอย่างน้ีไปเร่อื ยๆ แล้วผลทีส่ ดุ จะเกิดความรู้สึกข้ึนในท่นี ัน้ วา่ เดินไปก็ไม่ใช่
กลับมากไ็ ม่ใช่ หยดุ อยู่กไ็ มใ่ ช่ หมด มันหมดแลว้ อยา่ ไปหวงั อะไรมันมากอกี แลว้
มนั หมดแค่นนั้ แหละ มนั ส้นิ แลว้ ขีณาสะโว คอื สิน้ แลว้ ไม่ต้องเดนิ ไมต่ อ้ งถอย
ไมต่ อ้ งหยดุ หยดุ กไ็ มม่ ี เดนิ กไ็ มม่ ี ถอยก็ไมม่ ี หมด อนั นใ้ี ห้เอาไปพจิ ารณาไวใ้ ห้
มันชัดในจิตของตนเอง ตรงนนั้ มนั จะไมม่ อี ะไรจรงิ ๆ

อนั นมี้ นั กใ็ หมห่ รอื เกา่ มนั กเ็ ปน็ กบั ผทู้ ม่ี ปี ญั ญามคี วามฉลาด ผทู้ ไี่ มม่ ปี ญั ญาไมม่ ี
ความฉลาดนน้ั กแ็ กไ้ มไ่ ดเ้ หมอื นกนั จะดสู ภาพตน้ ไมก้ ไ็ ด้ ตน้ มะมว่ งกด็ ี ตน้ ขนนุ กด็ ี
ทกุ ตน้ ถา้ มนั เกดิ แอบๆ กนั อยนู่ ะ บางทตี น้ หนงึ่ มนั โตกวา่ ตน้ เลก็ มนั นอ้ มหนไี ปโนน้
ทำ� ไมมันเป็นอย่างนน้ั ใครไปบอกมนั นคี่ อื ธรรมชาติ

ธรรมชาติน่ีมันมที งั้ ดีทัง้ ช่ัว ท้งั ผิดทง้ั ถกู นะ มนั วนไปทางถกู ก็ได้ วนไปทางผดิ
ก็ได้ ตน้ ไมธ้ รรมดาถา้ เราปลูกตดิ ๆ กัน แล้วกต็ น้ หนึ่งมนั โตก่อน ต้นที่มนั โตทีหลงั
ชอบแอบๆ ไปขา้ งนอก โอนออกไป ทำ� ไมมนั เปน็ อยา่ งนนั้ ใครไปบอกมนั ไหม ใครไป
แตง่ มนั ไหม นนั่ คือธรรมชาติ มันเป็นธรรมะ

อยา่ งตณั หาคอื ความอยากนำ� เราไปสทู่ กุ ขอ์ ยา่ งนี้ ถา้ เราพจิ ารณาแลว้ นะ มนั จะโอน
ออกไปจากตณั หา มันพิจารณาตณั หา มันจะเขย่าตณั หานั้นใหห้ มด ให้เบาให้บาง
ไปเอง เหมอื นกบั ธรรมชาตติ น้ ไมต้ า่ งๆ นนั่ แหละ ใครไปบอกมนั ใครไปสะกดิ มนั ไหม
มนั กพ็ ดู ไมไ่ ด้ มนั กท็ ำ� ไมไ่ ด้ แตว่ า่ มนั ออกไปได้ ตรงนมี้ นั คบั มนั แคบมนั ไมเ่ กดิ อะไร
มนั ก็โอนออกไปขา้ งนอก ดูอยา่ งน้กี เ็ ป็นธรรมะแลว้ ไม่ตอ้ งไปดูอะไรมากมายหรอก

ผูท้ ่มี ีปญั ญานะ เท่าน้กี ร็ จู้ ักวา่ มันเป็นธรรมะ สญั ชาตญาณของตน้ ไม้ มันไม่
รจู้ กั อะไร แต่มนั มคี วามรอู้ ยใู่ นมันน่นั แหละ ทำ� ให้วง่ิ ออกจากอนั ตรายได้ เลือกที่
เหมาะสมของมนั ได้ ผู้มปี ัญญาเรากเ็ หมอื นกันนั่นแหละ

เราบวชมาประพฤติพรหมจรรย์น้ี เพ่ือหวังว่ามันจะพ้นทุกข์ อะไรมันพาเรา
เปน็ ทกุ ข์ เรายำ้� เขา้ ไปจะเหน็ ไหม สงิ่ ทเี่ ราชอบใจไมช่ อบใจนกี่ เ็ ปน็ ทกุ ข์ มนั เปน็ ทกุ ขก์ ็
อย่าเข้าไปใกลม้ ันซิ จะไปรักมันหรือ จะไปเกลียดมันหรือ มนั ไม่แนท่ งั้ น้นั เรากแ็ อบ

229

เขา้ หาพระก็หมด อยา่ ลืมอันนี้ แลว้ กอ็ ดทนอย่างหน่งึ เท่าน้แี หละดีมากท่ีสุด ถา้ คน
มปี ัญญาอยา่ งนี้ละมนั ดมี าก

ความเปน็ จรงิ ตวั ผมทไี่ ดป้ ฏบิ ตั มิ านน้ี ะ ไมม่ คี รบู าอาจารยช์ ว่ ยฉดุ ลากขนาดพระ
ทงั้ หลายทผี่ มสอนมาหรอก ไมค่ อ่ ยมหี รอก บวชกบ็ วชอยวู่ ดั บา้ นธรรมดา อยวู่ ดั บา้ น
นแี่ หละ จติ มนั คดิ อยากจะทำ� มนั คดิ อยากจะเปน็ มนั คดิ อยากจะฝกึ ไมม่ ใี ครมาเทศน์
ทีว่ ัด ไมม่ ใี ครหรอก ศรทั ธามนั เกิดในใจ ไปลองดู ไปพิจารณา เดนิ ไปดู ไปหาดู
หมู กี ฟ็ งั ไป ตามกี ด็ ไู ป ทางหไู ดย้ นิ กว็ า่ เออ มนั ไมแ่ น่ ทางตาเหน็ กไ็ มแ่ น่ จมกู ไดก้ ลน่ิ
มนั กบ็ อกวา่ อนั นม้ี นั ไมแ่ น่ ลนิ้ มนั ไดร้ สมา เปรยี้ วหวานมนั เคม็ ชอบไมช่ อบ กบ็ อกวา่
อันนีม้ นั กไ็ ม่แน่ โผฏฐพั พะถกู ตอ้ งทางรา่ งกายมนั สบายหรอื เป็นทุกขก์ บ็ อกว่า อันนี้
มันก็ไมแ่ น่ นคี่ อื เราได้อยดู่ ้วยธรรมะ

ตามเปน็ จรงิ มนั ไมแ่ น่ แตต่ ณั หาของเราวา่ มนั แน่ ทำ� อยา่ งไรละ่ ตอ้ งอดทน ตวั แมบ่ ท
ของมนั กค็ อื ขนั ติ ความอดทน ทนมนั ไปเถอะ แตอ่ ยา่ ไปทงิ้ พระนะ ทเ่ี รยี กวา่ มนั ไมแ่ นน่ ะ่
อยา่ ไปทง้ิ นะ เดนิ ไปในสถานทต่ี า่ งๆ ในโบสถใ์ นวหิ ารเกา่ สถาปนกิ เขาทำ� อยา่ งดี บางแหง่
มนั รา้ ว กม็ เี พอื่ นพดู วา่ “มนั นา่ เสยี ดายนะ มนั รา้ วหมดนะ” ผมเลยพดู วา่ “ถา้ อยา่ งนนั้
พระพทุ ธเจา้ ก็ไม่มซี ิ ธรรมะอันจริงกไ็ ม่มสี ิ มันมอี ย่างน้ีก็เพราะพระพุทธเจ้าวางรอย
ไว้อย่างนล้ี ่ะ”

ทงั้ ๆ ทตี่ วั เราบางทกี ย็ งั นกึ เสยี ดายอยทู่ มี่ นั รา้ วอยา่ งนนั้ นะ กย็ งั ปกั ใจขนึ้ มา พดู ให้
มันเป็นประโยชน์แก่เพื่อนและแก่ตัวด้วย บางทีก็เสียดายเหมือนกันนะ แต่ก็ยัง
มกั เขา้ ไปหาธรรมะ “อยา่ งนน้ั พระพทุ ธเจา้ กไ็ มม่ สี ิ ถา้ มนั ไมเ่ ปน็ อยา่ งนน้ั นะ” พดู แรงๆ
เข้าไปใหเ้ พ่อื นไดย้ ิน หรอื บางคนก็คงจะไมไ่ ด้ยนิ หรอก ไม่ไดย้ นิ เราก็ได้ยนิ ของเรา
น่นั แหละ

อนั นมี้ นั เปน็ ประโยชน์ แลว้ กม็ ปี ระโยชนห์ ลายๆ อยา่ ง เชน่ วา่ เรานงั่ อยเู่ ฉยๆ อยา่ งน้ี
ถา้ มเี พอื่ นบอก “หลวงพอ่ โยมคนนนั้ วา่ ใหห้ ลวงพอ่ อยา่ งนน้ั ๆ พระองคน์ น้ั วา่ ใหห้ ลวงพอ่
อยา่ งนนั้ ๆ” อยา่ งนเ้ี ปน็ ตน้ โอย๊ มนั สน่ั ขน้ึ มานะ ไดย้ นิ เขาวา่ มนั สนั่ ขนึ้ มานี่ นค่ี อื อารมณ์

230

เราก็ต้องรู้มันทุกกระเบียดนิ้วแหละอารมณ์น่ะ พอมันรู้จัก บางทีมันก็ตั้งใจ
เหย้ี มโหดขนึ้ มาในจติ ของเรา แตก่ บ็ างทเี ราไปสบื สวนเรอ่ื งนน้ั จรงิ ๆ กเ็ ปลา่ มนั คนละ
เรอ่ื งกันอีกแล้ว มันเลยไม่แน่ไปอีกแล้ว แล้วจะเชอ่ื อะไรมันทำ� ไม เราจะเชือ่ คนอ่ืน
อะไรมากมายท�ำไม เราก็รู้ ก็ฟงั อดทน พิจารณา มนั ก็ไปตรงเทา่ นั้นแหละ

ไมใ่ ชว่ ่ามีอะไรกเ็ ขยี นออก เขียนออก เขียนออกท้ังน้ัน จนมันหมด คำ� พดู ท่ี
ปราศจากอนิจจงั ค�ำพูดอันน้ันไมใ่ ชค่ �ำพูดของนกั ปราชญ์ นจ่ี �ำไว้ ตวั เราเองถา้ ไปทง้ิ
อนิจจังเสยี ก็ไม่ใชน่ ักปราชญเ์ หมอื นกัน ไม่ใช่นักปฏบิ ตั ิ

ถ้าเห็นอารมณ์ได้ยินอารมณ์พบประสบอะไรมากมายข้ึนมา มันจะเป็นเหตุ
ให้เพลนิ ใจกต็ าม เป็นเหตใุ หเ้ ศร้าใจกต็ าม ก็ว่า “อนั นี้มนั ไมแ่ น่” กระทงุ้ มนั แรงๆ
เขา้ ไปเถอะ จับมนั ตอนเดียวเทา่ น้ีแหละ อย่าไปเอาอะไรมันมาก เอาอันเดยี วนีแ่ หละ

จุดน้ีเป็นจดุ ทสี่ ำ� คญั จดุ ตายดว้ ยนะนี่ ฮึ นค่ี อื จดุ ตาย นกั ปฏบิ ัตอิ ยา่ ไปทิง้ มนั
ถ้าท้ิงอันนี้หวังได้ว่ามีทุกข์ หวังได้ว่าผิดเป็นประมาณเทียว ถ้าไม่เอาอันนี้เป็นหลัก
ปฏบิ ตั ขิ องตนแลว้ เชอื่ แนว่ า่ มนั ผดิ แลว้ มนั กถ็ กู อยไู่ ดอ้ กี ตอ่ ไป เพราะหลกั นม้ี นั ดมี าก
นี่ความเป็นจริงมันเป็นอย่างนั้น ว่าธรรมะท่ีแท้จริง คือพูดขึ้นในวันนี้มันก็เท่านี้
มนั ไม่มอี ะไรมาก เห็นอะไรก็เหน็ สกั วา่ รูป สักวา่ เวทนา สักว่าสญั ญา สักว่าสงั ขาร
สักวา่ วญิ ญาณ มันเป็นของสกั ว่าเท่านั้นแหละ มนั จะแน่นอนอะไรเลา่

ถา้ เรามารเู้ รอื่ งตามเปน็ จรงิ เชน่ นแ้ี ลว้ มนั กค็ ลายความกำ� หนดั คลายความรกั ใคร่
คลายความยึดม่นั คลายความถอื ม่นั ท�ำไมถึงคลาย เพราะมันเข้าใจ เพราะมันรู้
มนั เปล่ียนออกจากอวิชชามาเปน็ วชิ ชา มนั ก็เปลยี่ นออกมาจากนนั้ แหละ

ตวั วชิ ชานแี่ หละมนั คลอดออกจากอวชิ ชา มาเปน็ ตวั วชิ ชาขนึ้ ตวั รนู้ ม่ี นั จะคลอด
ออกจากความไม่รู้ ตวั สะอาดน่มี ันจะคลอดออกจากความสกปรก มนั เปน็ ไปอยา่ งน้ี
ถา้ เราไมท่ ง้ิ อนิจจัง คอื พระ นีท่ เ่ี รียกวา่ พระพุทธองคน์ นั้ ยงั อยู่ ท่ีวา่ พระพุทธองค์
ของเรานพิ พานแลว้ นะ อย่างหนงึ่ กไ็ มใ่ ช่ ถา้ เปน็ ส่วนลึกเข้าไปนะพระพทุ ธเจ้ายงั อยู่

231

กเ็ หมอื นกนั กบั คำ� วา่ “ภกิ ข”ุ ถา้ แปลวา่ ผขู้ อ แลว้ มนั กก็ วา้ ง เอามาใชไ้ ดเ้ หมอื นกนั
แตว่ า่ ใชม้ ากๆ กผ็ ดิ นะ คอื มนั ขอเรอ่ื ยๆ นี่ ถา้ เราพดู ไปใหซ้ งึ้ ดกี วา่ นน้ั อกี ภกิ ขุ แปลวา่
ผ้เู ห็นภัยในสงสาร มันซึ้งไหมล่ะ เอ้อ มนั ไมไ่ ปในรูปนัน้ เสยี มนั ซึ้งกวา่ กนั อย่างนัน้

การปฏบิ ตั ธิ รรมมนั กอ็ ยา่ งนน้ั เขา้ ใจในธรรมะไมท่ ว่ั ถงึ มนั กเ็ ปน็ อยา่ งหนง่ึ ธรรมะ
เข้าไปทั่วถงึ มันก็เป็นอย่างหนงึ่ มนั มีคณุ ค่ามากท่สี ุด

อนั นเ้ี ราใหม้ นั อม่ิ อยดู่ ว้ ยธรรมะ ถา้ เรามสี ตอิ ยเู่ มอ่ื ไร เรากอ็ ยใู่ กลธ้ รรมะเมอื่ นนั้
ถ้าเรามีสติอยู่เราก็เห็นอนิจจังของไม่เที่ยงอยู่ตราบนั้น เมื่อเราเห็นของไม่เท่ียงอยู่
ตราบใด เรากเ็ หน็ พระพทุ ธเจา้ ตราบนน้ั แลว้ เราจะพน้ ความทกุ ขใ์ นวฏั สงสารมวิ นั ใด
กว็ ันหน่ึง

ถ้าเราไปท้ิงคุณพระ ไปท้ิงพระพุทธเจ้าหรือไปท้ิงธรรมะอันนี้ มันก็เปล่าจาก
ประโยชน์ที่เราท�ำอยู่ อย่างไรก็ต้องติดตามติดต่อเรื่องการปฏิบัติของเราอย่างน้ีอยู่
ตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะทำ� งานอะไรอยู่ เราจะนง่ั หรอื จะนอนอยู่ ตาจะเห็นรปู หจู ะ
ฟังเสียง จมูกดมกล่นิ ล้นิ ล้ิมรส โผฏฐพั พะถูกตอ้ งทางกาย สารพัดอย่าง อยา่ ไป
ท้งิ พระ อยา่ ห่างจากพระ

น่ีก็เรียกว่าผู้ท่ีเข้าถึงพระ ได้ไหว้พระอยู่ทุกเวลา ตอนเช้าเราก็ไปไหว้ อรหัง
สัมมาสมั พุทโธ ภควา กจ็ รงิ อยู่ แตว่ า่ มันจะไหวไ้ ม่มีความหมายถงึ ขนาดนี้ มันจะ
เหมอื นกันกบั คำ� วา่ ภิกขุ นนั่ แหละ แปลว่าผขู้ อก็ขอเรอื่ ยไป ก็เพราะแปลอย่างนั้น
ถา้ หากแปลอย่างดที ีส่ ดุ ภกิ ขกุ แ็ ปลว่า ผเู้ หน็ ภัยในสงสาร อยา่ งน้ีกเ็ หมอื นกัน

อยา่ งแบบเราทำ� วตั รสวดมนตต์ อนเชา้ ตอนเยน็ ไหวพ้ ระ อยา่ งน้ี มนั กจ็ ะเทยี บได้
ว่า ภิกขุ ผขู้ อ ถ้าเราเข้าไปใกลช้ ิดอนจิ จงั ทุกขัง อนตั ตา อยทู่ กุ เวลา เมอ่ื ตาเห็นรูป
หฟู งั เสยี ง จมกู ดมกลนิ่ ลน้ิ ลมิ้ รสอยู่ มนั จะเทยี บกบั ศพั ทท์ วี่ า่ ภกิ ขุ ผเู้ หน็ ภยั ในสงสาร
คอื มนั ซง้ึ กวา่ กนั อยา่ งนี้ แลว้ กม็ นั ตดั หลายๆ สงิ่ หลายๆ อยา่ ง ถา้ มนั เหน็ ธรรมะอนั นแ้ี ลว้
มนั จะมีความรูม้ ปี ัญญาตอ่ ไปเรอ่ื ย

232

อนั นเ้ี รยี กวา่ ปฏปิ ทา ใหม้ คี วามรสู้ กึ อยา่ งนใ้ี นการประพฤตปิ ฏบิ ตั ขิ องเรา มนั จะมี
ความถูกต้องดีกว่า ถ้าคิดเช่นน้ีพิจารณาเช่นน้ีอยู่ในใจ ถึงแม้ว่ามันไกลจากครูบา
อาจารยม์ ันก็ยงั ใกล้ครูบาอาจารยอ์ ยนู่ ่ันแหละ

ถ้าหากว่าคนเราอยู่ใกล้ครูบาอาจารย์แต่ร่างกายของเรา แต่จิตใจมันไม่เข้าถึง
มันอยู่ไปก็เพง่ โทษครบู าอาจารย์ สรรเสรญิ ครบู าอาจารย์ ครูบาอาจารยท์ �ำถูกใจเรา
ก็วา่ ทา่ นดี ถ้าท�ำไมถ่ กู ใจเราก็ว่าไม่ดี ก็ไปปฏิบตั อิ ยแู่ คน่ ัน้ แหละ ไมเ่ หน็ มนั ไดอ้ ะไร
ไปมองดคู นอ่ืนว่าคนน้นั ดี คนน้ันไมด่ ีอยู่อย่างน้นั แหละ ไม่เหน็ มันไดอ้ ะไรมากมาย
ถา้ เราเขา้ ใจในธรรมะขอ้ นี้ เราจะเป็นพระข้ึนเดี๋ยวนแี้ หละ

ฉะนั้น เหตุผลที่ว่าผมห่างไกลจากลูกศิษย์ปีนี้พรรษาน้ี ทั้งพระเก่าพระใหม่
พระนวกะ ไม่ค่อยให้ความรู้ความเห็น ก็เพื่อให้พิจารณาเอาเองให้มันมากน่ันเอง
พระใหมท่ จ่ี ะเขา้ มาผมบอกขอ้ กฎอยหู่ มดแลว้ วา่ อยา่ ไปคยุ กนั อยา่ ไปฝา่ ฝนื ขอ้ กตกิ า
ท่ีท�ำไวแ้ ลว้ นน่ั นะ คอื ทางมรรคผลนพิ พานนัน่ แหละ ถา้ ใครไปฝ่าฝนื ข้อกติกาอย่มู นั
กไ็ ม่ใชพ่ ระ ไมใ่ ชค่ นต้งั ใจมาปฏบิ ัติเท่านน้ั แหละ มันจะเห็นอะไร ถงึ แมจ้ ะนอนอยู่
กับผมทุกคืนทุกวัน ก็ไม่เห็นผมหรอก จะนอนอยู่กับพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้เห็น
พระพุทธเจ้าหรอก ไมไ่ ดป้ ฏบิ ตั ิ เท่านแี้ หละ

ฉะน้นั การรู้ธรรมะ การเห็นธรรมะ มันอยทู่ ี่การปฏบิ ตั ิ ขอใหเ้ รามศี รทั ธาเถอะ
เราต้องทำ� จิตของเราให้มนั ดีเถอะ คนในวดั ทัง้ วัดน้ัน ท�ำใจใหร้ ู้สม่�ำเสมอกนั ทกุ คน
เราจะไมต่ อ้ งไปใหโ้ ทษใคร ไมต่ อ้ งไปใหค้ ณุ ใคร ไมต่ อ้ งไปรงั เกยี จใคร ไมต่ อ้ งไปรกั ใคร
ถ้ามันเกิดโกรธเกิดเกลียดขึ้น ให้มันมีอยู่ที่ใจ ให้มันดูถนัดเท่านั้นแหละ ให้ดูไป
เท่านั้นแหละ ดไู ปเถอะ

ถ้าอะไรมันยังมีอยใู่ นนี้ ก็เรียกว่า นัน้ แหละ ตอ้ งขดู มนั ตรงน้นั เราจะไปพดู วา่
“ตดั ไมไ่ ด้ ตดั ไมไ่ ด”้ ถา้ พดู อยา่ งนนั้ มนั กเ็ ปน็ นกั เลงโตกนั หมดเทา่ นน้ั แหละ อาศยั ทว่ี า่
มนั ตดั ไมไ่ ด้ ตอ้ งพยายาม ตดั ไมไ่ ดต้ อ้ งขดู มนั สิ ขดู กเิ ลสเกลากเิ ลสนน่ั แหละ ขดู มนั
ออกซิ มันเหนยี วแนน่ น่ี มันเปน็ อยา่ งน้ันเสยี

233

ไมใ่ ชว่ า่ มนั เปน็ ของไดต้ ามปรารถนาตามใจของเรานะ ธรรมะ จติ มนั เปน็ อยา่ งหนงึ่
ความจรงิ มนั เปน็ อยา่ งหนงึ่ ตอ้ งระวงั ขา้ งหนา้ ตอ้ งระวงั ขา้ งหลงั ฉะนน้ั ทา่ นจงึ บอกวา่
มันไม่เท่ียง มันไมแ่ น่ ท่านยำ้� เขา้ ไปอยูเ่ ร่ือยๆ อยา่ งนี้
ความจรงิ คอื ความไมเ่ ทยี่ งนี้ ความจรงิ ทม่ี นั สนั้ ๆ กวา้ งๆ ถกู ๆ นไี้ มค่ อ่ ยพจิ ารณากนั
เห็นไปอย่างอื่นเสีย ดีกอ็ ยา่ ไปติดดี รา้ ยกอ็ ย่าไปตดิ รา้ ย ส่งิ เหลา่ นีม้ ันมอี ย่ใู นโลก
เราจะปฏบิ ตั เิ พอ่ื หนจี ากโลกอนั นี้ ใหม้ นั สนิ้ สงิ่ ทงั้ หลายเหลา่ น้ี ฉะนนั้ พระพทุ ธเจา้ ทา่ นจงึ
ให้วาง ใหล้ ะ กเ็ พราะอันนมี้ นั ประกอบใหท้ กุ ขเ์ กิดข้ึนน่ันเอง ไม่ใชอ่ ยา่ งอืน่ หรอก.

234

๒๑

วิมตุ ติ

เม่ือพระปัญจวัคคีย์หนีจากพระพุทธองค์แล้ว ท่านเห็นว่าเป็นลาภเป็นโชค
ของท่าน จะได้มีโอกาสท�ำความเพียร คร้ันเมื่อพระปัญจวัคคีย์อยู่ก็วุ่นวายก่อกวน
หลายอารมณ์ บดั นพ้ี ระปญั จวคั คยี อ์ อกจากทา่ น พระปญั จวคั คยี เ์ หน็ วา่ พระพทุ ธองคน์ น้ั
คลายออกจากความเพยี ร เวยี นมาหาความมกั มาก เพราะวา่ สมยั กอ่ นนน้ั เอาจรงิ เอาจงั
เรื่องอัตตกิลมถานุโยโค เร่ืองการทรมาน เรื่องการขบเรื่องการฉัน เร่ืองการหลับ
การนอน เอาแทๆ้ เมื่อถงึ คราวอนั นีแ้ ล้ว พอมาพจิ ารณาแล้ว มันไม่เป็นไป ประพฤติ
ด้วยทิฏฐิ ประพฤติด้วยมานะ ดว้ ยความยดึ มนั่ ถือม่นั คิดปรารภโลกวา่ เป็นธรรม
คดิ ปรารภตนว่าเปน็ ธรรม มันไม่ไดป้ รารภธรรมะ

อยา่ งวา่ เราจะทรมาน ปฏิบตั ิดปี ฏิบัติชอบ กอ่ นจะทำ� อย่างนัน้ ก็ปรารภวา่ ให้
โลกสรรเสรญิ ให้เขาวา่ น้ีแหละเปน็ คนเอาจรงิ เอาจงั ก็เลยท�ำอันนน้ั เปน็ โลกหมด
ท�ำเพ่ือความยกย่องสรรเสริญ ให้เขาว่าดี ใหเ้ ขาวา่ เลศิ ใหเ้ ขาวา่ ประเสรฐิ ให้เขาว่า
ปฏิบัติดปี ฏบิ ัติชอบ คดิ อยา่ งนแี้ ลว้ จงึ ท�ำ เรียกว่ามันปรารภโลก

อกี อยา่ งหน่ึงคอื ปรารภตนเอง เชือ่ ม่นั ในความเหน็ ของตนเอง เชอื่ มั่นในการ
ประพฤตปิ ฏบิ ตั ขิ องตน ใครจะวา่ ผดิ กช็ า่ งถกู กต็ าม ไมเ่ อาเปน็ ประมาณ ชอบอยา่ งไร
กท็ ำ� อย่างนั้น ไม่ได้คลำ� หนา้ คล�ำหลัง น่ปี รารภตนเองอกี ประเภทหน่ึง

235

เร่ืองปรารภโลกกับปรารภตนนี้ มันมีแต่เรื่องอุปาทานแน่นหนาอยู่เท่านั้น
พระพทุ ธองคพ์ จิ ารณาเหน็ วา่ เรอื่ งทจี่ ะปรารภธรรมะ คอื ใหม้ นั ถกู ธรรมะแลว้ จงึ ทำ� ไมม่ ี
ฉะนนั้ การปฏบิ ตั ิจงึ เปน็ หมัน ละกิเลสไมไ่ ด้ ทา่ นกห็ วนมาพจิ ารณาใหม่ คอื ท่ที �ำงาน
ต้ังแต่ต้น ท่านก็มาดูผลงานมัน สิ่งที่ประพฤติปฏิบัตินั้น ผลที่เกิดจากเหตุที่ท่าน
กระทำ� นน้ั เปน็ อยา่ งไร ภาวนาแลว้ คดิ ไปลกึ ซง้ึ แลว้ เหน็ วา่ มนั ไมถ่ กู มแี ตเ่ รอ่ื งตนเทา่ นนั้
เรอื่ งโลกเทา่ นน้ั เรอ่ื งธรรมะเรอ่ื งอนตั ตานไี้ มม่ ี เรอื่ งสญู เรอื่ งวา่ ง เรอื่ งปลอ่ ย เรอื่ งวาง
ไมม่ ี คอื เรอื่ งปล่อยวางมันมีอยู่ แต่ว่าปล่อยโดยความยึดม่ันถอื มนั่

ทา่ นกค็ ดิ ไปคดิ มาพจิ ารณาดแู ลว้ ถงึ จะสอนลกู ศษิ ยเ์ ขากเ็ หน็ ไมไ่ ด้ ไมใ่ ชส่ ง่ิ ทจี่ ะ
บอกใหล้ กู ศษิ ยเ์ ขา้ ใจกนั ไดง้ า่ ย เพราะวา่ ลกู ศษิ ยน์ นั้ เขาแนน่ เหลอื เกนิ ในการกระทำ�
อยา่ งนน้ั ในการสอนอยา่ งนนั้ ในความเหน็ อยา่ งนน้ั พระพทุ ธเจา้ ของเราทา่ นกเ็ หน็ วา่
ทำ� อยา่ งนนั้ กท็ ำ� ตายเปลา่ อดตายเปลา่ ทำ� ตามโลก ทำ� ตามตน ทา่ นกพ็ จิ ารณาใหม่ หาสงิ่
ทม่ี นั พอดี เปน็ สมั มาปฏิปทา ส่วนจิตกเ็ ป็นจิต สว่ นกายกเ็ ปน็ กาย

เรื่องกายน้ีมันไม่ใช่กิเลสตัณหากับใครหรอก ถ้าจะไปฆ่าอันน้ันเฉยๆ มันก็
ไมห่ มดกเิ ลส มนั ไมใ่ ชท่ ข่ี องมนั แมจ้ ะอดขบอดฉนั อดหลบั อดนอนใหม้ นั เหยี่ วมนั แหง้
วา่ จะใหม้ นั หมดกเิ ลสอยา่ งนนั้ มนั หมดไมไ่ ด้ แตค่ วามเขา้ ใจทีว่ ่ามนั ไดส้ ่งั สอนในการ
ทรมานน้ี พระปัญจวคั คยี ต์ ดิ มาก

ตอ่ น้ันพระพุทธเจ้ากก็ ลับมาฉันจงั หันใหม้ ากข้นึ ให้มันธรรมดา อะไรก็ใหม้ นั
ธรรมดาๆ มากขน้ึ พอพระปญั จวคั คยี เ์ หน็ การประพฤตปิ ฏบิ ตั ขิ องพระพทุ ธองคเ์ คลอ่ื น
จากของเกา่ มนั เปลย่ี นจากการปฏบิ ตั นิ นั้ มา กเ็ ลยพากนั เขา้ ใจวา่ พระพทุ ธองคน์ น้ั คลาย
ความเพยี ร เวยี นมาหาความมักมาก ความเหน็ ผู้หนึง่ มันจะเลอื่ นข้นึ ไปขา้ งบน คือ
พ้นสมมุติ อกี ผูห้ นง่ึ เห็นว่ามันจะเลอ่ื นลงไปข้างลา่ ง คอื คลายความเพยี รเวียนมาหา
ความมกั มาก

การทรมานตนเองมันแน่นอนอยู่ในหัวใจของพระปัญจวัคคีย์ท้ังหลาย เพราะ
พระพทุ ธองคก์ เ็ คยสอนอยา่ งนนั้ ปฏบิ ตั มิ าอยา่ งนน้ั สอนมาอยา่ งนนั้ จนกวา่ ทา่ นไดเ้ หน็

236

โทษมนั เหน็ โทษมนั ชดั เจนทา่ นจงึ ละมนั ได้ เมอื่ ละมนั ไดแ้ ลว้ ทา่ นกเ็ หน็ ประโยชนใ์ น
การละนั้น ท่านจงึ กระทำ� อยา่ งนนั้ โดยมไิ ด้ลงขอผอู้ ืน่ เลย

พอพระปัญจวัคคีย์เห็นพระพุทธเจ้าท�ำอย่างนั้น ก็พากันหนีจากท่าน เห็นว่า
มนั ไมถ่ กู ไมท่ ำ� ตาม กเ็ หมอื นนกทห่ี นจี ากตน้ ไม้ เหน็ วา่ ตน้ ไมไ้ มม่ กี งิ่ หรอื กา้ นกวา้ งขวาง
ไม่มรี ่มมีเยน็ หรอื ปลาจะหนีจากน้ำ� ก็เห็นว่านำ�้ มันนอ้ ย ไม่เยน็ มนั เบ่อื วา่ อยา่ งนั้น
ความเห็นเปน็ อยา่ งน้ัน กเ็ ลยเลกิ กนั จากพระพุทธเจ้า

ทนี ้ี พระองคก์ ไ็ ดพ้ จิ ารณาธรรม ทา่ นกเ็ ลยฉนั ใหส้ บาย อยใู่ หส้ บาย จติ กใ็ หม้ นั
เปน็ จติ กายกใ็ หม้ นั เปน็ กาย จติ มนั กเ็ ปน็ เรอ่ื งของจติ กายมนั กเ็ ปน็ เรอ่ื งของกาย ทา่ นกไ็ มไ่ ด้
บบี มันเท่าไร ไมไ่ ด้บังคบั มันเท่าไร พอแตจ่ ะทำ� ราคะโทสะโมหะใหบ้ รรเทาลง

แตก่ อ่ นทา่ นกเ็ ดนิ อยสู่ องทาง กามสขุ ลั ลกิ านโุ ยโค มคี วามสขุ มคี วามรกั เกดิ ขนึ้
มาแลว้ กส็ นใจ เกาะดว้ ยอปุ าทาน เปน็ ตวั เปน็ ตนขน้ึ มา ไมไ่ ดป้ ลอ่ ยไมไ่ ดว้ าง กระทบ
ความสขุ กต็ ดิ ในความสขุ กระทบความทกุ ขก์ ต็ ดิ ในความทกุ ข์ เปน็ กามสขุ ลั ลกิ านโุ ยโค
กับอตั ตกิลมถานโุ ยโค พระองคต์ ดิ อย่ใู นสงั ขาร

ท่านมองพิจารณาเห็นชัดเจนเข้าไปว่า อันน้ีไม่ใช่หน้าท่ีของสมณะที่จะเดินไป
ในทางน้ัน สุขแล้วก็ยึดสุด ทุกข์แล้วก็ยึดทุกข์ คุณสมบัติของผู้เป็นสมณะไม่ใช่
อย่างน้ัน ไม่ใชเ่ ร่ืองยดึ เรื่องมั่นเรอื่ งหมายในสิ่งทั้งหลายเหล่านนั้

ครั้นติดอยู่ในน้ันมันก็เป็นตัวเป็นตน มันก็เป็นโลก ถ้าปฏิบัติบากบ่ันในส่ิง
ทงั้ หลายเหลา่ นน้ั กย็ งั ไมเ่ ปน็ โลกวทิ ู ไมร่ แู้ จง้ โลก วง่ิ ทางซา้ ยวง่ิ ทางขวาอยตู่ ลอดเวลา

บดั นี้ ทา่ นเพง่ ถงึ สว่ นจติ จรงิ ๆ ตามรกั ษาจติ ของตนลว้ นๆ สอนจติ ของตนลว้ นๆ

เรอ่ื งธรรมชาตทิ กุ อยา่ งมนั เปน็ ไปตามเรอื่ งของมนั ไมไ่ ดเ้ ปน็ อะไร เหมอื นกนั กบั
โรคในรา่ งกายเรานี้ เปน็ เจบ็ เปน็ ไขเ้ ปน็ หวดั เปน็ ไอ เปน็ โรคนน้ั โรคนี้ กเ็ ปน็ ในรา่ งกาย
ของเรา ความเปน็ จรงิ คนเรากห็ วงแหนกายของเราจนเกนิ ขอบเขตเหมอื นกนั กอ่ นทมี่ นั

237

จะหวงแหน กเ็ นอื่ งจากความเหน็ ผดิ มนั จงึ ปลอ่ ยไมไ่ ด้ อยา่ งศาลาเราอยเู่ ดย๋ี วน้ี เราสรา้ ง
มนั ขึน้ เป็นศาลาของเรา จ้งิ เหลนมันกม็ าอยู่ จ้งิ จกมนั กม็ าอยู่ หนมู นั ก็มาอยู่ เราก็
เบยี ดเบยี นแตม่ นั เพราะเราเหน็ วา่ ศาลาของเรา ไมใ่ ชจ่ งิ้ เหลนจง้ิ จก เลยเบยี ดเบยี นมนั

เหมอื นกนั กบั โรคในรา่ งกายเราทเี่ ปน็ อยู่ รา่ งกายเราถอื วา่ เปน็ บา้ น เปน็ ของๆ เรา
ถา้ จะมาเจบ็ หวั ปวดทอ้ งนดิ หนง่ึ กท็ รุ นทรุ าย ไมอ่ ยากใหม้ นั เจบ็ ไมอ่ ยากใหม้ นั เปน็ ทกุ ข์
ขาก็ขาของเรา ไม่อยากให้มันเจ็บ แขนกแ็ ขนของเรา ไม่อยากให้มนั เจ็บ หวั นี่ก็หวั
ของเรา ไม่อยากให้มนั เจบ็ ไมอ่ ยากให้มนั เปน็ อะไรเลยท่นี ี่ รักษามนั ให้ได้ หลงไป
หลงจากความจรงิ มา เรากจ็ รเขา้ มาอยกู่ บั สงั ขารนเ้ี หมอื นกนั ศาลานไ้ี มใ่ ชศ่ าลาของเรา
ตามความจริงนะ เรากเ็ ปน็ เจ้าของช่ัวคราว หนูมันก็เป็นเจา้ ของชว่ั คราว จ้งิ เหลนมัน
กเ็ ป็นเจ้าของช่วั คราว จงิ้ จกมนั ก็เปน็ เจ้าของช่วั คราวเทา่ น้นั แต่มันไมร่ ้จู ักกนั

รา่ งกายนกี้ เ็ หมอื นกนั ความเปน็ จรงิ พระพทุ ธเจา้ ทา่ นสอนวา่ ไมม่ ตี วั ไมม่ ตี นอยนู่ ี้
เรากม็ ายึดสังขารก้อนนี้ว่าเปน็ ตัวเป็นตน เปน็ เราเปน็ เขาแนน่ อนเข้าไป ทีนส้ี ังขารจะ
เปลยี่ นแปลงกไ็ มอ่ ยากใหเ้ ปลย่ี น บอกเทา่ ไรกไ็ มเ่ ขา้ ใจ พดู เทา่ ไรกไ็ มเ่ ขา้ ใจ บอกจรงิ ๆ
กย็ ง่ิ หลงจริงๆ อนั นีไ้ มใ่ ช่ตวั วา่ อย่างน้ัน กย็ งิ่ หลงใหญ่ ยง่ิ ไม่รเู้ รื่อง

เรามาภาวนาใหม้ นั เปน็ ตวั เปน็ ตน ฉะนนั้ คนโดยมากไมเ่ หน็ ตวั ตน ผทู้ เ่ี หน็ ตวั ตน
จรงิ ๆ กค็ อื ผทู้ เี่ หน็ วา่ มใิ ชต่ วั มใิ ชต่ น คอื เหน็ ตนตามธรรมชาติ ผทู้ เ่ี หน็ ตวั ดว้ ยอปุ าทาน
วา่ นเ้ี ปน็ ตวั เปน็ ตน ผนู้ นั้ ไมเ่ หน็ มนั กา้ วกา่ ยอยอู่ ยา่ งนนี้ ะ จะทำ� อยา่ งไร มนั ไมเ่ หน็ งา่ ยๆ
กอ้ นนี้ อุปาทานมนั ยึดไว้

ฉะนน้ั ทา่ นจงึ บอกวา่ ใหพ้ จิ ารณารเู้ ทา่ ดว้ ยปญั ญา ใหเ้ หน็ ดว้ ยปญั ญา คอื พจิ ารณา
สงั ขารวา่ มนั จรงิ อยา่ งไรกใ็ หเ้ หน็ ตามเปน็ จรงิ อนั นนั้ อาศยั ปญั ญา รตู้ ามเปน็ จรงิ ของ
สังขาร เรยี กวา่ ตัวปัญญา ถ้ารู้ไมต่ ามเปน็ จรงิ ของสงั ขารนัน้ ก็ไปแยง้ กนั ไปขดั กัน

สงั ขารน้มี นั สมควรท่จี ะปล่อยไปแล้ว กย็ ังจะไปกางไปกนั้ มนั ไว้ ไปรอ้ งขอให้
เป็นอยอู่ ยา่ งนนั้ หาส่ิงของสารพดั อยา่ งมาแก้มนั มาไถม่ าถอนเอาสารพัด ถา้ มนั เจ็บ

238

มนั ไข้แล้วไม่อยากไป จึงคน้ หาสูตรอะไรต่างๆ พากนั มาสวดสตู รโพชฌงั โค ธมั มจัก
อนตั ตลกั ขณสตู ร ไมอ่ ยากใหม้ นั เปน็ อยา่ งนน้ั พากนั กน้ั พากนั หา้ ม กเ็ ลยไปพธิ รี ตี องไป
ยดึ มน่ั ถอื มนั่ ยงิ่ ไปกนั ใหญ่ บทสวดตา่ งๆ เอามาสวดใหม้ นั หายโรค เอามาสวดตอ่ อายกุ นั
เอามาสวดใหม้ นั ยนื ยาวสารพัดอย่าง

ความเปน็ จรงิ ทา่ นใหส้ วดเพอื่ เหน็ ชดั แตเ่ รามาสวดใหห้ ลง รปู งั อนจิ จงั เวทนา
อนจิ จา สญั ญา อนจิ จา สงั ขารา อนจิ จา วญิ ญาณงั อนจิ จงั บททส่ี วดนน้ั ไมใ่ ชจ่ ะสวด
ใหเ้ ราหลงนะ สวดใหเ้ รารเู้ รอื่ งตามความเปน็ จรงิ ของมนั อยา่ งนนั้ จะไดป้ ลอ่ ยจะไดว้ าง
จะไดไ้ มเ่ สยี ใจ จะไดท้ อดอาลยั อนั นนั้ มนั จะสนั้ แตเ่ รามาสวดใหม้ นั ยาวออก ถา้ มนั ยาว
อยากจะใหม้ นั สัน้ บงั คบั ธรรมชาตใิ ห้มันเป็นไป หลงกันหมด ท่มี าทำ� กนั ในศาลาน้นั
กม็ าหลงกนั หมดทกุ คนเลยนะ คนทสี่ วดกห็ ลง คนทนี่ อนฟงั อยกู่ ห็ ลง ใครทไ่ี หนกห็ ลง
ท้ังนั้น

ทำ� อยา่ งไรจงึ จะไมเ่ ปน็ ทกุ ข์ คดิ อยา่ งนน้ั จะปฏบิ ตั ทิ ไี่ หนกนั จงึ ปฏบิ ตั ใิ หม้ นั หลง
ไปแกค้ วามจรงิ มนั ในเรอ่ื งอยา่ งนถ้ี า้ มนั เกดิ ขนึ้ แลว้ ทา่ นผรู้ ทู้ งั้ หลายเหน็ วา่ มนั ไมม่ อี ะไร
เกดิ มาแลว้ ตอ้ งมโี รคอยา่ งน้ี แตว่ า่ พระพทุ ธเจา้ กด็ ี อรยิ สาวกของทา่ นกด็ ี ถา้ เจบ็ ถา้ ไข้
มาเปน็ ธรรมดา ทา่ นกร็ กั ษา ฉนั ยาเปน็ ธรรมดา เทา่ นนั้ แหละ มนั เปน็ เรอ่ื งแกธ้ าตุ แต่
ความเปน็ จรงิ ทา่ นไมไ่ ดถ้ อื มนั่ ถอื ลางถอื ขลงั ยดึ มนั่ จนเกนิ ไปหรอก ทา่ นกร็ กั ษามนั ดว้ ย
ความเหน็ ชอบ ไมใ่ ชร่ กั ษาดว้ ยความหลง มนั หายกห็ าย ไมห่ ายกไ็ มห่ าย เปน็ อยา่ งนน้ั

อนั นแ้ี หละ เขาวา่ ศาสนาในประเทศไทยเรามนั เจรญิ แตผ่ มวา่ มนั เสอ่ื มจนถงึ ทส่ี ดุ
มนั แลว้ ในศาลามแี ตห่ ฟู งั ทงั้ นน้ั หมดศาลาเลย เอยี งหฟู งั มนั เอยี งซา้ ยเลยนะ ตลอด
ผ้ใู หญ่ผโู้ ตก็ท�ำอยา่ งนนั้ อยู่ วา่ มนั เปน็ อย่างนน้ั มนั เลยหลงตามกันหมดทกุ อยา่ งเลย
ฉะนน้ั ถา้ เราไปเหน็ อยา่ งนน้ั แลว้ กเ็ ลยพดู อะไรไมอ่ อก มนั คนละเรอื่ งกนั แลว้ จะใหม้ นั
พ้นทกุ ขก์ นั ท่ไี หน

ทา่ นใหส้ วดเพอื่ ใหม้ นั แจง้ เรามาสวดใหม้ นั มดื มนั หนั หลงั ใสก่ นั เลย ผหู้ นง่ึ เดนิ ไป
ทางตะวันตก อีกผู้หน่ึงเดินไปทางตะวันออก จะพบกันได้อย่างไร มันไม่ใกล้เลย

239

เรอื่ งเหลา่ น้ี ถา้ หากวา่ เราไดภ้ าวนาแลว้ มนั เปน็ อยา่ งนน้ั ตามความเปน็ จรงิ มนั เปน็ อยา่ งนนั้
มนั ก�ำลงั หลงกนั ไมร่ ู้จะวา่ กนั ได้อยา่ งไร อะไรกเ็ ป็นพธิ รี ีตองไปหมดทกุ อยา่ ง

สวดอยู่ แตว่ า่ สวดดว้ ยความโง่ ไมใ่ ชส่ วดดว้ ยปญั ญา เรยี นแตเ่ รยี นดว้ ยความโง่
ไมไ่ ดเ้ รยี นดว้ ยปญั ญา รกู้ ร็ ดู้ ว้ ยความโง่ ไมไ่ ดร้ ดู้ ว้ ยปญั ญา มนั เลยไปกไ็ ปดว้ ยความโง่
อยกู่ อ็ ยดู่ ว้ ยความโง่ รกู้ ร็ ดู้ ว้ ยความโง่ มนั กเ็ ปน็ อยา่ งนน้ั ทส่ี อนกนั ทกุ วนั นี้ กเ็ รยี กวา่
สอนใหค้ นโงท่ ง้ั นน้ั แหละ แตเ่ ขาวา่ สอนใหค้ นฉลาด สอนใหค้ นรู้ แตห่ ลกั ความเปน็ จรงิ
ฟังๆ ดูแล้วกส็ อนให้คนหลงงมงาย

ความเปน็ จรงิ หลกั ธรรมะทา่ นสอนใหพ้ วกเราทง้ั หลายปฏบิ ตั เิ พอื่ เหน็ อตั ตา คอื
เห็นตวั ตนนวี้ ่ามันเปน็ ของว่าง ไม่ใช่เปน็ ของมีตัวมีตน เป็นของวา่ งจากตัวตน แต่เรา
กม็ าเรยี นกนั ใหม้ นั เปน็ ตวั เปน็ ตน กเ็ ลยไมอ่ ยากจะใหม้ นั ทกุ ข์ ไมอ่ ยากจะใหม้ นั ลำ� บาก
อยากจะให้มนั สะดวก อยากจะใหพ้ น้ ทกุ ข์

ถา้ มตี วั มตี นมนั จะพน้ ทกุ ขเ์ มอื่ ไร ดซู ิ อยา่ งเรามขี องชน้ิ หนง่ึ ทมี่ รี าคามาก เมอื่ เรา
ไดร้ บั มาเปน็ ของเราแลว้ เปลยี่ นเสยี จติ ใจเปลยี่ นแลว้ ตอ้ งหาทว่ี างมนั จะเอาไวต้ รงไหน
ดหี นอ เอาไวต้ รงนนั้ ขโมยมนั จะยอ่ งเอาไปกระมงั คดิ จนเลกิ คดิ แลว้ หาทซี่ อ่ นของนะ
แลว้ จิตมนั เปลี่ยนเม่อื ไร

มนั เปลยี่ นเมอ่ื เราไดว้ ตั ถอุ นั นเี้ อง ทกุ ขแ์ ลว้ เอาไวต้ รงนกี้ ไ็ มค่ อ่ ยสบายใจ เอาไว้
ตรงนนั้ กไ็ มค่ อ่ ยสบายใจ เลยวนุ่ กนั จนหมดละ่ นง่ั กท็ กุ ข์ เดนิ กท็ กุ ข์ นอนกท็ กุ ข์ นท่ี กุ ข์
เกดิ ขนึ้ มาแลว้ มนั เกดิ เมอื่ ไร มนั เกดิ ในเมอื่ เราเขา้ ใจวา่ ของๆ เรา มนั มมี าแลว้ ไดม้ าแลว้
ทุกขอ์ ยู่เดี๋ยวนี้ แต่ก่อนไม่มีมันกไ็ มเ่ ปน็ ทุกข์ ทกุ ขย์ งั ไมเ่ กดิ ไม่มีอะไรขึน้ ท่ีจะจบั มนั

อตั ตานี้กเ็ หมือนกนั ถ้าเราเขา้ ใจว่าตวั ของเราตนของเรา สภาพส่งิ แวดล้อมนัน้
มนั กเ็ ปน็ ของตนไปดว้ ยของเราไปดว้ ย มนั กเ็ ลยวนุ่ ขน้ึ ไป เพราะอะไร ตน้ เหตคุ อื มนั มี
ตวั มตี น ไมไ่ ดเ้ พกิ สมมตุ อิ นั นอ้ี อกใหเ้ หน็ วมิ ตุ ติ ตวั ตนนมี้ นั เปน็ ของสมมตุ ิ ใหเ้ พกิ ใหร้ อ้ื
สมมุติอนั นอ้ี อก ใหเ้ หน็ แก่นมันคอื วิมุตติ พลกิ สมมุตอิ นั นก้ี ลบั ใหเ้ ป็นวิมตุ ติ

240

อนั นถ้ี า้ เปรยี บกบั ขา้ ว กเ็ รยี กวา่ ขา้ วยงั ไมไ่ ดซ้ อ้ ม ขา้ วนนั้ กนิ ไดไ้ หม กนิ ได้ แตเ่ ราไป
ปฏบิ ตั มิ ันสิ คอื ให้เอาไปซ้อมมัน ใหถ้ อดเปลอื กออกไปเสีย มนั ก็จะเจอขา้ วสารอยู่
ตรงน้ันแหละ

ทีน้ี ถ้าเราไม่ได้สีมันออกจากเปลือกของมันก็ไม่เป็นข้าวสาร ความเห็นเช่นน้ี
กเ็ หมอื นกนั กบั สนุ ขั สนุ ขั มนั นอนอยบู่ นกองขา้ วเปลอื กนนั่ แหละ ทอ้ งรอ้ งจอ๊ ก จอ๊ ก จอ๊ ก
มนั กม็ วั แตน่ อนอยนู่ น่ั แหละ จติ มนั หวนั่ วติ ก จะไปหากนิ ทไี่ หนหนอ แนะ่ ทอ้ งมนั หวิ
มนั กโ็ จนออกจากกองขา้ วเปลอื ก วงิ่ ไปหากนิ อาหารเศษๆ ทง้ั หลายเหลา่ นน้ั แหละ ทง้ั ๆ ที่
มันนอนทบั อยู่

อาหารมันอยู่ตรงนั้นแต่มันไม่รู้จัก เพราะอะไร มันไม่เห็นข้าว สุนัขมันกิน
ขา้ วเปลือกไมไ่ ด้ อาหารมนั มอี ยู่ แต่มนั กนิ ไม่ได้

ความรเู้ รามอี ยู่ ถา้ เราไมเ่ อาไปปฏบิ ตั เิ รากไ็ มร่ เู้ รอ่ื งเหมอื นกนั โงข่ นาดสนุ ขั มนั นอน
อยบู่ นกองขา้ วเปลือก นอนทบั อาหารอยู่ได้ แต่ว่าไมร่ จู้ ักกินอาหารที่มนั นอนทบั อยู่
เมอื่ หวิ อาหาร ก็ตอ้ งโจนจากข้าวว่งิ ไปหากนิ ท่ีอ่นื อนั นี้มนั ก็น่าสงสารอยูเ่ หมือนกัน

อนั น้ีก็เหมือนกนั ฉันน้นั ขา้ วสารมอี ยู่ อะไรมนั ปิด เปลือกขา้ วมนั ปดิ สนุ ัขมัน
กนิ ไมไ่ ด้ วมิ ตุ ติกม็ ีอยู่ อะไรมันปิดไว้ สมมตุ มิ นั ปดิ ไมใ่ หเ้ ห็นวมิ ุตติ ให้พุทธบริษัท
ทงั้ หลายนง่ั ทบั ไมร่ จู้ กั ขา้ ว ไมร่ จู้ กั การประพฤตปิ ฏบิ ตั ิ นนั่ จงึ ไมเ่ หน็ วมิ ตุ ติ มนั กจ็ งึ ตดิ
สมมตุ อิ ย่ตู ลอดกาลตลอดเวลา เมือ่ มนั ติดอยู่ในสมมุติ มันกเ็ กดิ ทุกข์ขึ้นมา เกดิ ภพ
ขน้ึ มา เกดิ ชาติขนึ้ มา ชรา พยาธิ มรณะ ถึงวนั ตายตามขึ้นมา

ฉะนนั้ มันไมม่ อี ะไรบังอยหู่ รอก มนั บงั อย่ตู รงนี้ เราเรียนธรรมะไม่รจู้ ักธรรมะ
ก็เหมือนกับสุนัขนอนอยู่บนข้าวเปลือกไม่รู้จักข้าว หิวจวนจะตายมันก็ตายทิ้งเฉยๆ
นน่ั แหละ ไม่มอี ะไรจะกนิ ขา้ วเปลอื กมนั กินไม่ได้ มนั ไมร่ จู้ ักหาอาหารของมนั เลย
นานๆ ไปไมม่ อี ะไรกิน มนั ก็ตายไปบนกองข้าวเปลอื กน่นั แหละ บนอาหารน่ัน

241

มนุษย์เราน้ีก็เหมือนกัน ธรรมะที่เราเรียนมา ธรรมะท่ีพระพุทธองค์ตรัสไว้
ถงึ จะศกึ ษาธรรมะเทา่ ไรกต็ ามทเี ถดิ ถา้ ไมป่ ระพฤตปิ ฏบิ ตั แิ ลว้ กไ็ มเ่ หน็ ไมเ่ หน็ แลว้ กไ็ มร่ ู้
ไม่รู้กไ็ มร่ ู้จกั ข้อปฏิบัติ อย่าพึงวา่ เราเรียนมากๆ เรารู้มากๆ แล้วเราจะเห็นธรรมะของ
พระพุทธเจา้

กเ็ หมอื นเรามตี าอยา่ งน้ี กน็ กึ วา่ เราเหน็ ทกุ อยา่ ง เพราะวา่ เรามองไปแลว้ หรอื จะ
นกึ วา่ เราไดย้ นิ แลว้ ทกุ อยา่ ง เพราะเรามหี อู ยแู่ ลว้ มนั เหน็ ไมถ่ งึ ทสี่ ดุ ของมนั มนั กเ็ ปน็
ตานอกไป ทา่ นไมจ่ ดั วา่ เปน็ ตาใน หกู เ็ รยี กวา่ หนู อก ไมไ่ ดเ้ รยี กวา่ หใู น ฉะนนั้ ถา้ ทา่ น
พลกิ สมมตุ เิ ขา้ ไปเหน็ วมิ ตุ ตแิ ลว้ กเ็ หน็ ของจรงิ เหน็ ชดั ถอนทนั ที มนั จงึ ถอนสมมตุ อิ อก
ถอนความยดึ ม่ันถือมั่นออก ถอนทกุ สงิ่ ทุกอยา่ ง

เหมอื นกบั ผลไมห้ วานๆ ใบหนง่ึ ผลไมน้ นั้ มนั หวานอยกู่ จ็ รงิ แตว่ า่ มนั ตอ้ งอาศยั
การกระทบประสบจึงรู้ว่ามนั หวานหรอื มันเปรีย้ วจริง ผลไม้น้นั ถา้ ไมม่ อี ะไรกระทบ
มันก็หวานอยตู่ ามธรรมชาติ หวานแตไ่ มม่ ใี ครรจู้ กั เหมอื นธรรมะของพระพทุ ธเจ้า
ของเรา เปน็ สจั ธรรมจรงิ อยกู่ ต็ าม แตส่ ำ� หรบั คนทไี่ มร่ จู้ รงิ นน้ั กเ็ ปน็ ของไมจ่ รงิ ถงึ มนั
จะดเี ลิศประเสรฐิ สักเท่าไรกต็ ามทีเถอะ มันไมม่ รี าคาเฉพาะกบั คนทีไ่ มร่ ูเ้ ร่ือง

ฉะนน้ั จะไปเอาทุกข์ทำ� ไม ใครในโลกนอ้ี ยากเอาทกุ ข์ใส่ตัว มีไหม ไม่มีใคร
ทั้งน้ันแหละ ไม่อยากได้ทุกข์แต่ว่าสร้างเหตุให้ทุกข์เกิดขึ้นมา มันก็เท่ากับเราไป
แสวงหาความทุกข์นน่ั เอง แต่ใจจรงิ ของเราแสวงหาความสุขไม่อยากไดท้ กุ ข์ นี่มันก็
เปน็ ของมันอยู่อย่างนี้ ท�ำไมจิตใจของเรามนั สรา้ งเหตุให้ทุกข์เกดิ ขนึ้ มาได้ เรารูเ้ ทา่ นี้
กพ็ อแลว้

ใจเราไมช่ อบทกุ ข์ แตเ่ ราสรา้ งความทกุ ขข์ น้ึ มาเปน็ ตวั ของเราทำ� ไม มนั เหน็ งา่ ยๆ
ก็คือคนท่ไี มร่ ูจ้ กั ทกุ ขน์ น่ั เอง ไม่รู้จักทุกข์ ไมร่ ู้จกั เหตุเกิดของทกุ ข์ ไม่ร้คู วามดับทกุ ข์
ไมร่ ขู้ อ้ ปฏบิ ตั ใิ หถ้ งึ ความดบั ทกุ ข์ จงึ ประพฤตอิ ยา่ งนน้ั จงึ เหน็ อยา่ งนน้ั จะไมม่ คี วามทกุ ข์
ได้อย่างไร ก็เพราะคนไปท�ำอยา่ งนน้ั

242

ถา้ มนั เป็นเช่นน้นั มันก็เป็นมจิ ฉาทฏิ ฐทิ ง้ั ดุน้ นัน่ แหละ แต่ว่าเราไม่เข้าใจว่าเป็น
มจิ ฉาทฏิ ฐิ อะไรทเ่ี ราไดพ้ ดู เราไดเ้ หน็ เราไดท้ ำ� แลว้ เปน็ ทกุ ข์ อนั นนั้ เปน็ มจิ ฉาทฏิ ฐทิ ง้ั นนั้
ถา้ ไมเ่ ปน็ มจิ ฉาทฏิ ฐิ มนั ไมท่ กุ ขอ์ ยา่ งนน้ั หรอก มนั ไมย่ ดึ ในความทกุ ขอ์ นั นน้ั มนั ไมย่ ดึ
ในความสุขน้ันๆ ไม่ได้ยึดตามอาการทั้งหลายเหล่าน้ัน มันจะปล่อยวางตามเร่ือง
ของมนั

เชน่ กระแสนำ้� ทม่ี นั ไหลมา ไมต่ อ้ งกางกนั้ มนั ใหม้ นั ไหลไปตามสะดวกของมนั
นนั้ แหละ เพราะมนั ไหลอยา่ งนนั้ กระแสธรรมกเ็ ปน็ อยา่ งนนั้ กระแสจติ ของเราทไี่ มร่ จู้ กั
มนั ไปกางกน้ั ธรรมะดว้ ย ทว่ี า่ เปน็ มจิ ฉาทฏิ ฐิ แลว้ ไปตะโกนโนน้ มจิ ฉาทฏิ ฐอิ ยทู่ โี่ นน้
คนโนน้ เปน็ มจิ ฉาทฏิ ฐิ แตต่ วั เราเองเปน็ มจิ ฉาทฏิ ฐิ คอื ทกุ ขเ์ กดิ ขน้ึ มาเพราะเราเปน็ มจิ ฉา-
ทฏิ ฐิ อันน้นั เราไม่ร้เู รือ่ ง อันน้กี ็นา่ สังเกตน่าพิจารณาเหมอื นกนั นะ ถา้ เป็นมิจฉาทฏิ ฐิ
เมื่อไร ก็เปน็ ทกุ ข์เมื่อน้ัน ไมท่ กุ ขใ์ นเวลาปัจจุบันนน้ั ตอ่ ไปมันกใ็ หผ้ ลมาเปน็ ทกุ ข์

อนั นพี้ ดู เฉพาะคนเรามนั หลงเทา่ นนั้ อะไรมนั ปดิ ไว้ อะไรมนั บงั ไว้ สมมตุ มิ นั บงั
วมิ ตุ ตใิ หค้ นมองไมเ่ หน็ ชดั ในธรรมทง้ั หลาย ตา่ งคนกต็ า่ งศกึ ษา ตา่ งคนกต็ า่ งเลา่ เรยี น
ตา่ งคนกต็ า่ งทำ� แตท่ ำ� ดว้ ยความไมร่ จู้ กั กเ็ หมอื นกนั กบั คนหลงตะวนั นนั้ แหละ เดนิ ไป
ทางตะวนั ตก เขา้ ใจวา่ เดนิ ไปทางตะวนั ออก หรอื เดนิ ไปทศิ เหนอื เขา้ ใจวา่ เดนิ ไปทศิ ใต้
มนั หลงขนาดน้ี

เราปฏบิ ตั นิ ม้ี นั กเ็ ลยเปน็ ขขี้ องการปฏบิ ตั ิ โดยตรงแลว้ มนั กเ็ ปน็ วบิ ตั ิ วบิ ตั นิ ี้ คอื
มนั พลกิ ไปคนละทาง หมดจากความมงุ่ หมายของธรรมะทถ่ี กู ตอ้ ง สภาพอนั นเี้ ปน็ เหตุ
ใหท้ กุ ข์เกิด เราก็เขา้ ใจว่า อนั นี้ ถ้าท�ำขนึ้ ถ้าบน่ ข้ึน ถา้ ท่องขึ้น ถ้าร้เู รื่องอันนี้ มนั จะ
เปน็ เหตุให้ทุกขด์ ับ

กเ็ หมอื นกนั กบั คนทอ่ี ยากไดม้ ากๆ นนั้ แหละ อะไรๆ กห็ ามามากๆ ถา้ เราไดม้ ากแลว้
มนั กด็ บั ทกุ ข์ จะไมม่ ที กุ ข์ ความเขา้ ใจของคนมนั เปน็ อยา่ งน้ี แตว่ า่ มนั คดิ ไปคนละทาง
เหมือนกนั กับคนนไี้ ปทิศเหนอื คนน้ันไปทิศใต้ นึกวา่ ไปทางเดียวกนั

243


Click to View FlipBook Version