3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: คาศพั ทใ์ นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 7
Grammar: ไวยากรณ์ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 7
2) Language Skills
Listening: ฟังเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ
Writing: เขยี น quiz เก่ียวกบั เน้ือหาที่เรียนมาแลว้
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- มุ่งมนั่ ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm up
ครูใหน้ กั เรียนเขยี นคาศพั ทต์ ามทค่ี รูบอก โดยครูบอกคาศพั ทท์ ้งั หมด 10 คา จากน้นั ครูสุ่มเรียก
นกั เรียนหลาย ๆ คน ออกมาเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน ครูตรวจความถกู ตอ้ ง และใหน้ กั เรียนแลกกนั
ตรวจ เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นคาศพั ทพ์ ร้อมกนั
ข้นั Presentation
1. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาศพั ทท์ ี่เรียนในหน่วยการเรียนรู้น้ี และออกมาเขียนบนกระดาน
2. นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน ครูทบทวนไวยากรณท์ ี่เรียนในหน่วยการเรียนรู้น้ี โดยให้นกั เรียนบอก
โครงสร้างและการใช้ ครูเขียนในรูป mind map
494
Present
perfect
ไวยากรณ์
หน่วยการ
เรียนรู้ท่ี 7
Question Past simple
tags
ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 92 Ex. 1 นกั เรียนดูภาพแลว้ เขียนคาศพั ทล์ งในอกั ษรรไขวใ้ หถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครู
เฉลยคาตอบ
1 desert 2 waterfall 3 rainforest
4 marathon 5 wildlife 6 coral reef
2. หนังสือเรียน หน้า 92 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนทา quiz โดยหา้ มเปิ ดดูเน้ือหา เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียน
เปรียบเทยี บคาตอบกบั เพ่อื น จากน้นั ครูจึงเฉลยคาตอบ
1 In the mountains in Peru.
2 About 120 million.
3 To make their nests and feed on the algae.
4 It is 2,000 km long.
5 The flamingo population decreased because of hunting and pollution.
6 Over 1,500.
7 4 days.
495
3. หนงั สือเรยี น หน้า 92 GAME ครูแบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทีม แลว้ ใหแ้ ต่ละทมี ส่งตวั แทนออกมาเล่นเกม
คร้ังละ 1 คน โดยใหต้ วั แทนทมี แรกพูด irregular verb 1 คา (ดู irregular verb ทา้ ยเลม่ แบบฝึกหัด)
และตวั แทนอีกทีมหน่ึงจะตอ้ งแตง่ ประโยคโดยใช้ irregular verb ท่เี พอ่ื นพูดในรูป Present perfect
ถา้ แตง่ ประโยคถกู ตอ้ งจะได้ 1 คะแนน ทีมใดไดค้ ะแนนมากกวา่ จะเป็นผชู้ นะ
Team A S1: ride
Team B S1: Have you ever ridden a bike to school?
4. หนงั สือเรยี น หน้า 92 Ex. 4 นกั เรียนอ่านออกเสียงคาทีก่ าหนดให้ ครูอธิบายว่าคาเหลา่ น้ีปรากฏอยู่
ในเน้ือเพลง ใหน้ กั เรียนเดาวา่ เพลงน้ีน่าจะเกี่ยวขอ้ งกบั อะไร จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังเพลง
เพ่อื จบั ใจความสาคญั แลว้ ครูเฉลยคาตอบ
The song is about when good and bad things happen and how we should react.
5. หนังสือเรยี น หน้า 92 Ex. 5 ครูให้นกั เรียนจบั คู่ ช่วยกนั วิเคราะหว์ า่ นกั ร้องเป็นคนมองโลกในแงด่ ี
หรือแงร่ ้าย โดยใชเ้ น้ือเพลงสนบั สนุนความคดิ เห็นของนกั เรียน
The singer is optimistic. The singer says that someone may help you when you
forget your umbrella, and they say that things will end happily. The singer says that
all things happen for the best and good things happen in the end.
6. หนงั สือเรียน หน้า 91 O-NET practice ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ สอบ เสร็จแลว้ ตรวจคาตอบร่วมกนั
ถา้ นกั เรียนไม่เขา้ ใจ ใหค้ รูอธิบายเพม่ิ เตมิ
Ex. 1 1 c 2d
Ex. 2 1 d 2 b 3 b 4 a 5 d
496
ข้นั Production
หนังสือเรยี น หน้า 92 Ex. 3 นกั เรียนจบั คู่กนั แลว้ ครูแจกกระดาษให้คู่ละ 1 แผน่ ให้แตล่ ะคู่คิด
คาถามเกี่ยวกบั เน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดดเู น้ือหาได้ และให้นกั เรียนเขยี น
คาตอบไวด้ า้ นหลงั กระดาษ เม่ือทุกคคู่ คู่ ิดคาถามเสร็จแลว้ ใหแ้ ลกกนั ทา quiz กบั คู่อื่น
1 When did people start running with bulls in Pamplona? (In the 14th century)
2 How high is Machu Picchu? (2,430 metres above sea level)
3 Where is the Great Barrier Reef? (In Australia)
4 How far off the coast of Australia is Christmas Island? (2,600 km)
5 When did Melinda write her blog? (03/09)
6 Where is Lake Nakuru? (Kenya)
7. การวดั และการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
- ร้อยละ 60
วิธีการวดั
ตรวจการเขียน quiz เก่ียวกบั เน้ือหา แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผ่าน
ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 7 อนั พงึ ประสงค์
สงั เกตความมงุ่ มน่ั ในการทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
497
8 Places around Us
ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 2 เวลาเรียน 14 ช่ัวโมง
1 สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
ตวั ช้ีวดั อย่างมเี หตุผล
ต 1.1 ม. 2/2
ต 1.1 ม. 2/3 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ และบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การ
ต 1.1 ม. 2/4 อา่ น
ระบุ/เขียนประโยคและขอ้ ความให้สมั พนั ธก์ บั ส่ือท่ีไม่ใช่ความเรียงรูปแบบตา่ ง ๆ
มาตรฐาน ต 1.2 ที่อ่าน
เลือกหัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail)
ตวั ช้ีวดั และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองทีฟ่ ังและอ่านพร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและ
ต 1.2 ม. 2/1 ยกตวั อยา่ งง่าย ๆ ประกอบ
ต 1.2 ม. 2/2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสารแสดงความรู้สึกและ
ต 1.2 ม. 2/4 ความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ต 1.2 ม. 2/5 สนทนาแลกเปลีย่ นขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณ์
ตา่ ง ๆ ในชีวิตประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 ใชค้ าขอร้อง ให้คาแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบายตามสถานการณ์
พูดและเขียนเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มลู บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่อง
ทีฟ่ ังหรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
พดู และเขยี นแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ
กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม
นาเสนอข้อมลู ข่าวสารความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการ
พูดและการเขียน
498
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตกุ ารณ์ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 2/2 พดู และเขยี นสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ หวั ขอ้ เรื่อง (topic) ที่ไดจ้ ากการ
วิเคราะหเ์ รื่อง/ข่าว/เหตกุ ารณ์ที่อยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 2/3 พูดและเขยี นแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั กิจกรรม เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั และ
ประสบการณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลส้นั ๆ ประกอบ
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษาและนาไปใช้ ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาน้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคม
และวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม. 2/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่ และเป็ น
พื้นฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 2/1 คน้ ควา้ รวบรวมและสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจริงที่เกี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื
จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ าลองทีเ่ กิดข้ึนในห้องเรียน
สถานศึกษา และชุมชน
2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างภาษา จะช่วยให้เขา้ ใจใจความสาคญั สามารถบอก
รายละเอยี ด และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองทอ่ี า่ นและฟัง รวมถงึ สามารถนาส่ิงที่เรียนรู้ไปใชใ้ นการ
พูดและเขยี นสื่อสาร แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั ส่ิงแวดลอ้ มใกลต้ วั พดู และเขยี นแสดงความรู้สึกชอบ
หรือไม่ชอบในเร่ืองต่าง ๆ รวมถงึ การพดู สือสารในการซ้ือสินคา้ การถามและบอกเสน้ ทาง นอกจากน้ียงั
499
สามารถใชส้ ่ือเทคโนโลยคี น้ ควา้ ขอ้ มลู ตลอดจนมคี วามรู้ดา้ นภมู ศิ าสตร์ ภูมอิ ากาศ และวฒั นธรรมของ
ประเทศกลมุ่ ประชาคมอาเซียน กอ่ ให้เกิดความเขา้ ใจในดา้ นวฒั นธรรมท่คี ลา้ ยคลึงกนั และแตกตา่ งกนั
3 สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Shops (café, butcher’s, newsagent’s, clothes shop, bakery, florist’s,
supermarket, jeweller’s, music shop, bookshop, sports shop, optician’s,
chemist’s, toy shop)
Places in a city (library, street, playground, aquarium, school, park,
cinema, bank, hospital, police station, department store, fast food
restaurant, post office, leisure centre)
Partitives (box, bag, can, jar, bottle, packet, carton)
Asking for directions (Where’s the …?, How do I get to …?, Could you
tell me how to get to …?)
Giving directions (Go up/down/past/through …, It’s on your right/left…,
Turn left/right …, It’s on the corner of …, It’s next
to/near/opposite/between …)
Verbs (serve, develop, wonder, clean up, reuse, recycle, pick up, move
house, shape, vary, worship)
Nouns (trail, hiking, city walls, tower, bridge, shop, cathedral, elevator,
steel, living space, beam, sailor, mast, skyline, area, harmful gas, public
transport, bin, block of flats, view, balcony, neighbourhood, geography,
climate, impact, border, plateau, drought)
Adjectives (picturesque, tree-lined, cosy, cosmopolitan, trendy)
Adverb (nearby)
Phrases (nature lover, the sky is the limit, set an example)
Grammar: Prepositions of place
Linkers (whereas, but, however)
Countable/Uncountable nouns and quantifiers
a/an - some/any - every & their compounds
The passive
500
Functions: Buying products
How can I help you?
I’d like a bunch of roses, please.
Expressing likes/dislikes
I like going to the cinema.
I hate eating mushrooms.
Asking for and giving directions
Excuse me. Could you tell me how to get to the hospital?
Yes, certainly. Go up Kingswell Street and turn left onto Eation Road.
Talking about the ways to keep the planet clean
We need to reuse and recycle things.
Turn off the lights when not in use.
Talking about geography and climate on your country
In southern Thailand the weather is hot and humid.
2) Language Skills
Listening: ฟังเพอ่ื หาขอ้ มลู เฉพาะ, ฟังการออกเสียงประโยค
Speaking: พูดสนทนาซ้ือสินคา้ , สัมภาษณเ์ พ่ือนเก่ียวกบั สิ่งที่ชอบและไมช่ อบ, พูด
สนทนาถามและบอกเสน้ ทาง, พดู แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั สิ่งทต่ี อ้ งการ
ทาเพอ่ื ช่วยใหช้ ุมชนสะอาด, พูดนาเสนอเกี่ยวกบั วิธีดแู ลรกั ษาโลกของเรา
ใหส้ ะอาด, พดู อภิปรายภมู ศิ าสตร์และภูมอิ ากาศในประเทศไทย
Reading: อ่านเพอื่ หาขอ้ มลู เฉพาะ, อา่ นและเติมประโยค
Writing: เขียนเปรียบเทียบจงั หวดั ท่ีตนเองอาศยั อยกู่ บั เมือง Verona ในอิตาล,ี เขยี น
ประโยคโดยใช้ passive, เขียนขอ้ ความเกี่ยวกบั อนุสาวรียใ์ นประเทศไทย
โดยใช้ passive, เขียนเกี่ยวกบั skyscraper, แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์
ที่กาหนด, เขยี นเก่ียวกบั วิธีดแู ลรักษาโลกของเราใหส้ ะอาด, เขียนอเี มล
เกี่ยวกบั บา้ นใหม่และละแวกบา้ นของตนเอง, เขยี นตารางเปรียบเทียบ
ภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศ และวฒั นธรรมของประเทศในกลมุ่ ประชาคม
อาเซียนทค่ี ลา้ ยคลึงกนั
501
4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5 คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มน่ั ในการทางาน
6 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1) เขยี นเปรียบเทียบจงั หวดั ทตี่ นเองอาศยั อยกู่ บั เมือง Verona ในอิตาลี
2) เขยี นขอ้ ความเก่ียวกบั อนุสาวรียใ์ นประเทศไทยโดยใชร้ ูป passive
3) คน้ ควา้ ขอ้ มลู และเขยี นสรุปเก่ียวกบั skyscraper
4) อา่ นออกเสียงบทสนทนา
5) แตง่ บทสนทนาตามสถานการณท์ ่ีกาหนด
6) พูดสนทนาถามและบอกเสน้ ทาง
7) ทา mind map สรุปสิ่งท่จี าเป็นตอ้ งทาเพ่อื ให้ชุมชนสะอาด
8) พูดนาเสนอเกี่ยวกบั วธิ ีดแู ลรกั ษาโลกให้สะอาด
9) เขยี นอีเมลเกี่ยวกบั บา้ นใหมแ่ ละละแวกบา้ นของตนเอง
10) เขยี นตารางเปรียบเทียบภูมศิ าสตร์ ภมู อิ ากาศ และวฒั นธรรมของประเทศในกลมุ่ ประชาคม
อาเซียนทีค่ ลา้ ยคลงึ กนั
7 การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 การประเมินก่อนเรียน
7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
7.3 การประเมินหลงั เรียน
7.4 การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
502
1 Reading 8a & Vocabulary 8a
2 ชั่วโมง
จุดประสงค์การเรียนรู้
- บอกรายละเอียดและแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องทฟ่ี ังและอ่านได้
- พูดสนทนาในการซ้ือสินคา้ ได้
- เขยี นเปรียบเทียบสถานท่ีได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟี่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหวั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองทฟ่ี ังและอา่ น พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
งา่ ย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณ์ตา่ ง ๆ
ในชีวติ ประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/4 พดู และเขียนเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู บรรยาย และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องที่ฟัง
หรืออา่ นอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และข่าว/
เหตกุ ารณ์ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม
503
สาระท่ี 4 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองที่เกิดข้ึนในห้องเรียน
สถานศึกษา และชุมชน
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ท์เก่ียวกบั สถานที่ สานวนภาษาท่ใี ชใ้ นการซ้ือสินคา้ และการใชค้ าเชื่อมเพ่ือแสดง
ขอ้ มูลทขี่ ดั แยง้ กนั จะช่วยใหเ้ ขา้ ใจและสามารถบอกรายละเอยี ดของเรื่องท่ีอา่ นและฟังได้ นอกจากน้ียงั
สามารถนาส่ิงทีเ่ รียนรู้ไปใช้ในการพดู และเขยี นส่ือสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Shops (café, butcher’s, newsagent’s, clothes shop, bakery, florist’s,
supermarket, jeweller’s, music shop, bookshop, sports shop, optician’s,
chemist’s, toy shop)
Places in a city (library, street, playground, aquarium, school, park,
cinema, bank, hospital, police station, department store, fast food
restaurant, post office, leisure centre)
Verb (serve)
Nouns (trail, hiking, city walls, tower, bridge, shop)
Adjectives (picturesque, tree-lined, cosy, cosmopolitan, trendy)
Phrase (nature lover)
Grammar: Prepositions of place
Linkers (whereas, but, however)
Functions: Buying products
How can I help you?
I’d like a bunch of roses, please.
504
2) Language Skills
Listening: ฟังเพือ่ หาขอ้ มลู เฉพาะ
Speaking: พดู สนทนาซ้ือสินคา้
Reading: อา่ นเพือ่ หาขอ้ มูลเฉพาะ
Writing: เขยี นเปรียบเทียบจงั หวดั ทตี่ นเองอาศยั อยกู่ บั เมอื ง Verona ในอติ าลี
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด
5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) ม่งุ มน่ั ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงที่ 1
ข้นั Warm up
1. ครูเขียนคาว่า Places around us บนกระดาน แลว้ แบ่งนกั เรียนออกเป็น 2 ทีม ให้แต่ละทีมช่วยกนั
นึกถงึ สถานที่ตา่ ง ๆ ภายในชุมชน แลว้ ออกมาเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน ภายในเวลา 1 นาที ทีมใด
เขยี นคาศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ งมากกวา่ จะเป็นผูช้ นะ
2. ครูให้นกั เรียนแสดงความคิดเห็นวา่ ในบทเรียนน้ีนกั เรียนจะไดเ้ รียนเกี่ยวกบั เรื่องอะไร
3. Find the page numbers for หน้า 93 ครูใหน้ กั เรียนหาว่าภาพท่เี กี่ยวขอ้ งกบั ท้งั 3 คาน้ีอยใู่ น
หนงั สือเรียนหนา้ ใด เมอื่ หาพบแลว้ ครูถามคาถามเพ่ือสนทนากบั นกั เรียน
a street map (pp. 93, 99)
What information does a street map include?
Do you use a street map to find your places in a town or city?
How useful do you think they are?
505
signs (p. 95)
Can you see signs like these when you do the shopping?
Do you think signs like these are important? Why (not)?
skyscrapers (p. 98)
What is a skyscraper?
Are there skyscrapers in your town/city?
ข้นั Pre-reading
1. หนงั สือเรียน หน้า 93 Ex. 1 นกั เรียนฟังการออกเสียงคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั สถานที่และออกเสียงตาม ครู
เปิ ด CD ให้ฟัง 2 คร้ัง โดยเนน้ ใหน้ กั เรียนออกเสียงเนน้ หนกั ในคาให้ถูกตอ้ ง ซ่ึงทุกคาจะเนน้ หนกั ท่ี
พยางคแ์ รก ยกเวน้ คาวา่ optician’s จะเนน้ หนกั ที่พยางคท์ ่ี 2 แลว้ ให้นกั เรียนอธิบายความหมาย
จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกวา่ สถานท่ใี ดบา้ งท่สี ามารถซ้ือสินคา้ ได้ และสามารถซ้ือสินคา้ อะไร
ไดบ้ า้ ง
You can buy bread at a baker’s.
You can buy flowers at a florist’s.
You can buy stamps at a post office.
You can buy trousers at a clothes shop.
You can buy football boots at a sports shop.
You can buy glasses at an optician’s.
You can buy books at a bookshop.
You can buy magazines at a newsagent’s.
You can buy musical instruments at a music shop.
You can buy food at a supermarket.
You can buy a (gold) ring at a jeweller’s.
2. หนงั สือเรยี น หน้า 93 Ex. 2 นกั เรียนทบทวน prepositions of place โดยอ่านออกเสียงพร้อมกนั และ
บอกความหมาย แลว้ ครูขออาสาสมคั ร 2 คน อ่านตวั อยา่ งประโยคโตต้ อบ โดยให้นกั เรียนที่เหลือดู
แผนที่ตามทไ่ี ปดว้ ย จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั พูดถามและบอกทางของสถานทีต่ ่าง ๆ ในแผนที่
506
A: Excuse me. Where is the clothes shop?
B: It’s on Apple Street next to the jeweller’s.
A: Excuse me. Where is the optician’s?
B: It’s on Milton Street in front of the sports shop.
A: Excuse me. Where is the newsagent’s?
B: It’s on Apple Street behind the music shop.
A: Excuse me. Where is the music shop?
B: It’s on Apple Street between the supermarket and the newsagent’s.
A: Excuse me. Where’s the bank?
B: It’s on Harper Street opposite the jeweller’s.
3. ครูใหน้ กั เรียนอ่านคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 94 แลว้ อา่ นบทอ่านอยา่ ง
รวดเร็วเพื่อหาคาเหล่าน้ี จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมายโดยเดาจากบริบท
picturesque (adj) = pretty and interesting in an old-fashioned way (สวยและมีเสน่ห์ใน
แบบสมยั เก่า)
tree-lined (adj) = having trees on both sides of road ((ถนน) ทีม่ ีตน้ ไมท้ ้งั สองขา้ งทาง)
trail (n) = a path through acountryside, mountain or forest area (ทางเดินผ่าน
ชนบท ภูเขา หรือป่ า)
hiking (n) = the activity of going for long walks in the countryside (การเดิน
เที่ยวระยะไกลในชนบท)
cosy (adj) = warm and comfortable (อุ่นสบาย)
cosmopolitan (adj) = containing people of different types or from different countries,
and influenced by their culture (ซ่ึงประกอบดว้ ยหลายชาติ)
serve (v) = to give somebody food or drink, for example at a restaurant or
during a meal (บริการ)
4. หนงั สือเรียน หน้า 94 Ex. 1 นกั เรียนดภู าพของเมือง 2 เมอื ง ครูบอกวา่ ท้งั สองเมืองน้ีมีชื่อเหมือนกนั
คอื Verona แลว้ ใหน้ กั เรียนอ่านช่ือเร่ืองและขอ้ ความเกริ่นนาเร่ือง ครูถามนกั เรียนว่า คดิ วา่ แต่ละ
เมอื งมีลกั ษณะเป็นอยา่ งไร และท้งั สองเมืองน้ีแตกตา่ งกนั อยา่ งไร จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง
เพื่อตรวจว่าเดาคาตอบถกู หรือไม่
507
Verona, USA is small and quiet. Verona, Italy is large and cosmopolitan.
ข้นั Reading
หนังสือเรยี น หน้า 94 Ex. 2a นกั เรียนอ่านประโยคทก่ี าหนดให้ และขีดเส้นใตค้ าสาคญั ในแต่ละ
ประโยค จากน้นั อา่ นบทอา่ นเพ่ือมองหาคาพอ้ งความหมาย (synonym) คาท่ีมคี วามหมายตรงกนั ขา้ ม
(opposite) หรือกล่มุ คา/วลีทมี่ ีความหมายเหมอื นกนั หรือตา่ งกนั กบั คาสาคญั ที่ขดี เสน้ ใตไ้ ว้ แลว้ ตอบ
วา่ ประโยคถูก หรือผดิ หรือไมไ่ ดก้ ล่าวถงึ ในบทอา่ น จากน้นั ครูสุ่มเรียกหลาย ๆ คนบอกคาตอบ แลว้
ครูเฉลยคาตอบ
A 1 F It is a small town in the USA.
2T
3T
4 DS
B 5T
6 F Thousands of tourists visit every summer.
7 F Restaurants serve local and international dishes.
8 F The nightlife there is exciting.
ข้นั Post-reading
1. หนังสือเรียน หน้า 94 Ex. 2b ครูให้นกั เรียนทบทวนวลที ีพ่ บในบทอ่าน โดยเติมคาลงในช่องว่างให้
ถูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ
1 tree-lined 2 clothes 3 local 4 cosy
5 cosmopolitan 6 ancient 7 nature
508
2. หนงั สือเรยี น หน้า 94 Ex. 2c ครูถามนกั เรียนวา่ ถา้ ให้ไปอาศยั อยทู่ ี่หน่ึงในสองเมอื งน้ี นกั เรียนจะ
เลอื กไปอาศยั อยใู่ นเมอื งใด ครูใหน้ กั เรียนเขียนความคิดเห็นของตนเอง พร้อมท้งั บอกเหตุผล โดย
สามารถใชว้ ลีจาก Ex. 2b ในการเขยี นได้ จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน อ่านใหเ้ พ่อื นฟัง
I would live in Verona, USA, because I like quiet neighbourhoods. It would be nice
to be close to nature.
I would live in Verona, Italy because I like big cities. It would be nice to have an
energetic lifestyle.
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 60 Ex. 1 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น
ช่ัวโมงที่ 2
ข้นั Warm up
ครูทบทวนคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สถานทท่ี ีเ่ รียนไปเมือ่ ชว่ั โมงทแี่ ลว้ โดยนาภาพมาแสดง และให้นกั เรียน
บอกคาศพั ท์
ข้นั Presentation
1. หนังสือเรยี น หน้า 95 Ex. 3 ครูให้นกั เรียนอ่านช่ือสถานที่ 1-5 และบอกความหมาย โดยครูอาจช่วย
อธิบายความหมายคาวา่ aquarium
aquarium (n) = a building where people go to look at fish and other water animals
(พพิ ิธภณั ฑส์ ตั วน์ ้า)
จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านขอ้ ความในป้าย A-D แลว้ จบั คู่ป้ายกบั สถานท่ีใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ช่วยกนั
เฉลยคาตอบ
1C 2A 3D 4E 5B
509
2. หนงั สือเรียน หน้า 95 Ex. 4 นกั เรียนอา่ นคาศพั ท์ a-g พร้อมกนั และบอกความหมาย แลว้ ครูให้
นกั เรียนอา่ นประโยคขอ้ 1-8 โดยครูถามวา่ คาใดท่ไี ม่รู้ความหมาย ครูช่วยอธิบาย เช่น
aisle (n) = a passage between rows of shelves in a supermarket (ทางเดิน
ระหว่างช้นั วางสินคา้ ในร้านขายของ, ซูเปอร์มาร์เก็ต)
window (n) = shop window (กระจกดา้ นหนา้ ของร้านสาหรับโชวส์ ินคา้ )
mincemeat (n) = meat, especially beef, that has been cut into very small pieces using
a special machine (เน้ือสบั /บด)
จากน้นั ใหน้ กั เรียนจบั คู่ประโยคกบั คาศพั ทท์ สี่ มั พนั ธ์กนั เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนบอกคาตอบ และครู
ตรวจคาตอบ
1g 2f 3d 4c 5h 6e 7a 8b
3. ครูนาเสนอสานวนภาษาทีใ่ ชใ้ นการซ้ือขายสินคา้ โดยครูพูดสานวนภาษา และให้นกั เรียนบอกว่า
เป็นประโยคท่ผี ขู้ ายพูด หรือผูซ้ ้ือพดู แลว้ ครูเขยี นสานวนภาษาบนกระดาน ใหน้ กั เรียนอ่านพร้อมกนั
แลว้ ครูและนกั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมาย
Shop assistant/Owner - What can I do for you?
- Can I help you?
- How can I help you?
- Do you like these?
- That’s £11
Customer - I’d like a bunch of roses, please.
- I’ll take this.
- How much is it?
4. ครูสอนการใช้ whereas (แต,่ แตท่ วา่ ), but (แต่), however (อยา่ งไรก็ตาม) เชื่อมประโยค โดย
ยกตวั อยา่ งบนกระดาน เช่น
I like horror films whereas my sister never watches them.
Jane likes red, but Ann likes blue.
Bungee jumping is exciting. However, it’s dangerous.
ครูถามนกั เรียนว่า ประโยคท้งั สองส่วนท่ีเช่ือมดว้ ย whereas, but, however มใี จความคลอ้ ยตามกนั
หรือขดั แยง้ กนั แลว้ ครูสรุปวา่ whereas, but, however ใชเ้ ชื่อมประโยคท่ีขดั แยง้ กนั
5. หนังสือเรยี น หน้า95 Ex. 7a นกั เรียนอา่ นประโยคพร้อมกนั และพูดประโยคเหล่าน้ีเป็นภาษาไทย
510
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 95 Ex. 5 นกั เรียนดภู าพ A-C และบอกวา่ แต่ละภาพคือสถานท่ีใด (A - butcher’s,
B - clothes shop, C chemist’s) ตอ่ มาครูบอกนกั เรียนว่าจะไดฟ้ ังบทสนทนาส้ัน ๆ 3 บท แลว้ ระบวุ า่
แต่ละบทสนทนาเกิดข้นึ ที่สถานท่ีใดในภาพ ครูบอกนกั เรียนว่าใหเ้ นน้ ฟังคา/วลีที่เก่ียวขอ้ งกบั
สถานท่ี จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้ฟัง 2 คร้งั เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนบอกคาตอบ และครูถามวา่ คาใดที่
ทาให้นกั เรียนระบสุ ถานท่ีได้
1 A butcher’s 2 C chemist’s 3 B clothes shop
2. หนังสือเรยี น หน้า 95 Ex. 6 นกั เรียนอ่านตวั อยา่ งบทสนทนาพร้อมกนั แลว้ ครูให้นกั เรียนจบั คู่พูด
สนทนาซ้ือสินคา้ จากร้านต่าง ๆ ครูเดินสังเกตการทากิจกรรม แลว้ ใหน้ กั เรียน 2 คู่ ออกมาสนทนาท่ี
หนา้ ช้นั
A: Can I help you?
B: I’d like a cup of tea, please.
A: Certainly!
3. หนงั สือเรียน หน้า 95 Ex. 7b นกั เรียนยอ้ นไปอ่านบทอา่ น หนา้ 94 แลว้ ครูเขียนตารางบนกระดาน
โดยใส่ชื่อเมอื ง Verona, USA และ Verona, Italy แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกขอ้ มลู ของท้งั สองเมือง
น้ี ครูเขียนขอ้ มูลลงในตาราง เช่น
Verona, USA Verona, Italy
small large
quiet neighbourhoods cosmopolitan city
has a lot of parks, tree-lined streets famous for ancient city walls, towers,
no has tall buildings bridge, palaces
has pretty houses with big gardens has a lots of reataurants, nightclubs, café
has local reataurants and cosy café
511
ครูใหน้ กั เรียนเขียนเปรียบเทยี บเมือง Verona, USA และ Verona, Italy โดยใชข้ อ้ มูลจากตารางบน
กระดาน เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รอา่ นให้เพอ่ื นฟัง
There aren’t any tall buildings in Verona, USA, but there are pretty houses with
big gardens.
Verona in Italy is an ancient city. However, it has a lot of trendy nightclubs and
cafés.
ข้นั Production
1. หนงั สือเรียน หน้า 95 Ex. 8 ครูใหน้ กั เรียนเขยี นย่อหนา้ ส้ัน ๆ เปรียบเทยี บจงั หวดั ทีต่ นเองอาศยั อยู่
กบั เมือง Verona ในอิตาลี
My town is small, but Verona is largre.
My town is famous for its beautiful beaches, whereas Verona is famous for its
ancient city walls, towers and bridges and palaces.
In my town there are lots of restaurants that serve local and sea food, whereas in
Verona there are lots of restaurants that serve local and international dishes.
2. นกั เรียนทา Language Review 8a Exs. 1-2 ในหนงั สือเรียน หนา้ 112 ร่วมกนั ในช้นั
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 60-61 Exs. 2-7 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
512
7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60
วธิ ีการวดั สมดุ นกั เรียน -
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่านหรือ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
การฟัง แบบประเมินการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจการเขียนแสดงความคดิ เห็น
เก่ียวกบั เร่ืองที่อา่ น แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน
สังเกตการพดู สนทนาซ้ือสินคา้ จากร้าน อนั พงึ ประสงค์
ต่าง ๆ
ประเมินการเขียนเปรียบเทยี บจงั หวดั
ทต่ี นเองอาศยั อยกู่ บั เมอื ง Verona ใน
อติ าลี
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมน่ั
ในการทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) อินเทอร์เน็ต
7) ภาพสถานท่ีตา่ ง ๆ
513
2 Grammar 8b
2 ชั่วโมง
จุดประสงค์การเรียนรู้
- พดู และเขยี นประโยคโดยใช้ Countable and Uncountable nouns, Quantifiers, some/any/every &
their compounds ไดถ้ ูกตอ้ ง
- พูดและเขียนประโยคในรูป passive ไดถ้ กู ตอ้ ง
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/3 ระบุ/เขยี นประโยคและขอ้ ความใหส้ มั พนั ธก์ บั สื่อทีไ่ ม่ใช่ความเรียงรูปแบบตา่ ง ๆ
ท่อี ่าน
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตุการณท์ ่อี ยใู่ นความสนใจของสังคม
สาระที่ 3 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็ น
พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 2/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู / ขอ้ เทจ็ จริงที่เกี่ยวขอ้ งกบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น
จากแหล่งการเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น
514
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้และเขา้ ใจโครงสร้างภาษา (Countable and Uncountable nouns, Quantifiers, a/an -
some/any - every & their compounds, The passive) ช่วยให้สามารถพูดและเขียนสื่อสารเก่ียวกบั
สิ่งแวดลอ้ มใกลต้ วั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Partitives (box, bag, can, jar, bottle, packet, carton)
Grammar: Countable/Uncountable nouns and quantifiers
a/an - some/any - every & their compounds
The passive
2) Language Skills
Writing: เขียนประโยคโดยใช้ passive,
เขียนขอ้ ความเกี่ยวกบั อนุสาวรียใ์ นประเทศไทยโดยใช้ passive
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด
5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุง่ มนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงที่ 1
ข้นั Warm up
ครูพูดคานามทลี ะคา เช่น apple, sugar, rice, book ให้นกั เรียนบอกวา่ เป็น countable noun หรือ
uncountable noun
515
ข้นั Presentation
1. ครูทบทวนเรื่องคานามนบั ไดแ้ ละนบั ไม่ได้ โดยให้นกั เรียนช่วยกนั บอกลกั ษณะของคานามนบั ได้
และนบั ไมไ่ ด้ จากน้นั ครูทบทวนการใช้ a, an, some กบั คานาม โดยใหน้ กั เรียนช่วยกนั ยกตวั อยา่ ง
เช่น a book, an apple, some milk แลว้ สรุปวิธีใช้ร่วมกนั
2. หนงั สือเรียน หน้า 96 Ex. 1 ครูให้นกั เรียนอ่านตาราง และบอกความหมายของคาบอกปริมาณแตล่ ะ
คา จากน้นั ให้นกั เรียนหาคาบอกปริมาณที่ใชร้ ่วมกบั คานามนบั ไดแ้ ละคานามนบั ไมไ่ ดใ้ นบทอา่ น
หนา้ 94
many quiet neighbourhoods, a lot of parks, any tall buildings, some very nice
clothes shops, a lot of restaurants
3. ครูอธิบายนกั เรียนวา่ เราสามารถทาใหค้ านามนบั ไม่ไดเ้ ป็นคานามนบั ไดโ้ ดยการเติมคาบอกปริมาณ
หรือจานวน เช่น a box of, a bag of, a can of, a jar of, a bottle of, a packet of, a carton of ขา้ งหนา้
คานามนบั ไมไ่ ด้ แลว้ ครูยกตวั อยา่ งบนกระดาน เช่น a bottle of milk, a jar of jam จากน้นั ครูนาภาพ
มาแสดงให้นกั เรียนดูและพดู บอกปริมาณ/จานวน เช่น
T: แสดงภาพนม 1 ขวด
Class: A bottle of milk
T: แสดงภาพแยม 1 กระปุก
Class: A jar of jam
4. หนงั สือเรียน หน้า 96 Ex. 5 ครูใหน้ กั เรียนอ่านวิธีใช้ a, an, some, any, every และสรุปร่วมกนั แลว้
ใหน้ กั เรียนพดู ประโยคตวั อยา่ งท่ีให้มาเป็นภาษาไทย
ตอ่ มาให้นกั เรียนดูการใช้ some, any, every ร่วมกบั compound ในตาราง และบอกความหมายของคา
ในตาราง จากน้นั อ่านตวั อยา่ งพร้อมกนั แลว้ พดู ประโยคตวั อยา่ งทใ่ี หม้ าเป็นภาษาไทย
ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 96 Ex. 2 นกั เรียนเตมิ a/an หรือ some หนา้ คานามให้ถูกตอ้ ง พร้อมท้งั ระบุว่าเป็น
คานามนบั ไดห้ รือนบั ไมไ่ ด้ เสร็จแลว้ ร่วมกนั เฉลยคาตอบ
516
2 some – U 3 some – U 4 a–C
5 some – U 6 an – C 7 some – U
8 an – C 9 some – U 10 some – U
11 some – U 12 a – C
2. หนังสือเรยี น หน้า 96 Ex. 3 นกั เรียนอา่ นประโยค และเลือกคาตอบทถ่ี กู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียก
นกั เรียนอ่านประโยคเพื่อตรวจคาตอบ
1 How much 2 a little 3 Not much 4 much
5 much, a few 6 a few 7 much
3. หนังสือเรยี น หน้า 96 Ex. 4 นกั เรียนฝึกใชค้ าบอกปริมาณหรือจานวน โดยดูภาพและเติมคาให้
ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเปิ ด CD ใหฟ้ ังเพือ่ ตรวจคาตอบ และอาจเปิ ด CD อีกคร้งั ให้นกั เรียนออกเสียง
ตาม
1 box 2 bottle 3 bag 4 packet
5 jar 6 can 7 carton
4. หนังสือเรยี น หน้า 97 Ex. 6 นกั เรียนฝึกใช้ a, an, some, any โดยเติมคาลงในประโยคใหถ้ ูกตอ้ ง
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยค และใหน้ กั เรียนในช้นั ช่วยกนั ตรวจคาตอบ
A 1 some 2 some 3a 4 any
B1 a 2 some 3 An
C 1 any 2 any 3 some
517
5. หนังสือเรยี น หน้า 97 Ex. 7 นกั เรียนฝึกใช้ some, any, every และ compound โดยเติมคาลงใน
โปสการ์ดใหถ้ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ และใหน้ กั เรียนอา่ นโปสการ์ดพร้อมกนั
1 Everything 2 something 3 every
4 Everyone 5 everyone 6 anything
ข้นั Production
1. ครูให้นกั เรียนวาดภาพโต๊ะอาหาร ซ่ึงมีผลไมแ้ ละอาหารตา่ ง ๆ เช่น นม คุกก้ี กาแฟ น้าผลไม้ ตาม
จินตนาการของตนเอง แลว้ เขยี นประโยคบรรยายผลไมแ้ ละอาหารทีม่ ใี นภาพโดยใชโ้ ครงสร้างภาษา
ท่เี รียนไป เช่น There is a glass of orange juice. There are some apples and some oranges.
2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 62 Exs. 1-4 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
ช่ัวโมงท่ี 2
ข้นั Warm up
1. ครูทบทวนเร่ืองที่อา่ นเมือ่ ชว่ั โมงทีแ่ ลว้ โดยใหน้ ักเรียนช่วยกนั บอกขอ้ มลู ของสถานที่ท้งั 3 แห่ง
2. ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน (โดยไม่ซ้ากบั คนทเ่ี รียกไปเมอื่ ชวั่ โมงทแ่ี ลว้ ) ใหเ้ ลา่ ประสบการณท์ ่ี
น่าประทบั ใจของตนเองให้เพ่ือนฟัง
ข้นั Presentation
1. ครูยกตวั อยา่ งประโยค passive บนกระดาน และอธิบายว่าประโยค passive คือ ประโยคท่ีประธาน
เป็นผถู้ กู กระทา
Dinner is cooked by mom.
The postcard was written by Jane.
The supermarket is opened at 10 am.
ครูขีดเส้นใตค้ ากริยาในประโยค ให้นกั เรียนสังเกตและช่วยกนั บอกโครงสร้างของประโยค passive
จากน้นั ครูสรุปว่า โครงสร้างของประโยค passive คือ verb to be + past participle
518
2. ครูอธิบายวธิ ีการเปลย่ี นประโยค active เป็นประโยค passive ดงั น้ี
- นากรรมของประโยค active มาเป็นประธานในประโยค passive
- เปลย่ี นคากริยาให้อยใู่ นรูป passive คอื verb to be + past participle
- ประธานของประโยค active จะกลายเป็นผกู้ ระทาในประโยค passive ซ่ึงจะนาหนา้ ดว้ ย by
แลว้ ครูยกตวั อยา่ งให้นกั เรียนดูบนกระดาน
ประธาน กริยา กรรม
Active: Ann reads a book.
ประธาน กริยา ผกู้ ระทา
Passive: A book is read by Ann.
จากน้นั ครูให้นกั เรียนช่วยกนั เปลีย่ นประโยค passive ให้เป็นประโยค active
3. หนังสือเรียน หน้า 97 Ex. 8 ครูให้นกั เรียนอา่ นตารางเพื่อทบทวนความเขา้ ใจเร่ือง passive จากน้นั หา
ตวั อยา่ ง passive ในบทอา่ น หนา้ 94
was built, is situated,
ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 97 Ex. 9 ใหน้ กั เรียนเติม is, are, was หรือ were เพ่อื ทาให้เป็นประโยค passive
เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ
1 is 2 were 3 were 4 was 5 are
2. ครูใหน้ กั เรียนจบั ค่กู บั เพอ่ื น แลว้ ครูแจกกระดาษเร่ือง STORY OF THE HAMBURGER ให้คลู่ ะ
1 แผ่น (จาก http://www.tolearnenglish.com/exercises/exercise-english-2/exercise-english-
62359.php) ใหน้ กั เรียนเปลีย่ นคากริยาในวงเลบ็ เป็นรูป passive ให้ถูกตอ้ ง
519
STORY OF THE HAMBURGER
The first hamburgers (1) _______________ (make) in 1895. Louis Lassen
(2) _______________ (call) them hamburgers because he (3) _______________ (give)
the recipe by sailors. Hamburgers (4) _______________ (become) his favourite meal.
Their popularity (5) ______________ (grow) even more when they (6) ______________
(buy) in large quantities by teenagers who (7) _______________ (prefer) fast food. Dick
and Mac MacDonald (8) _______________ (open) a drive-in hamburger restaurant.
25,000 McDonald’s restaurants (9) _______________ (open) worldwide. More than 35
million hamburgers (10) _______________ (eat) every day.
เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รออกมาเขียนคาตอบบนกระดาน ให้นกั เรียนตรวจคาตอบ จากน้นั อ่าน
เรื่องพร้อมกนั
1 were made 2 called 3 was given 4 became
7 preferred 8 opened
5 grew 6 were bought 10 are eaten
9 have been opened
STORY OF THE HAMBURGER
The hamburger is the most eaten food in the whole world. The first hamburgers were
made and sold in Connecticut in 1895 by an American called Louis Lassen. Louis called
them hamburgers because he was given the recipe by sailors from Hambourg in
Germany. Hamburgers became a favourite meal in America in the early part of the
twentieth century. Their popularity grew even more after the Second World War, when
they were bought in large quantities by teenagers who preferred fast food to family
meals. In 1948, two brothers Dick and Mac Donald opened a drive-in hamburger
restaurant in San Bernardino, California. Since then over 25,000 Mcdonald’s restaurants
have been opened worldwide and now, 35 million MacDonald's hamburgers are
eaten every day in 115 countries from India to the Artic Circle.
520
3. หนงั สือเรยี น หน้า 97 Ex. 10 ให้นกั เรียนเปลย่ี นประโยคท่ีกาหนดให้เป็น passive เสร็จแลว้ ครู
สุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นประโยค และให้นกั เรียนในช้นั ช่วยกนั ตรวจความถกู ตอ้ ง
1 It was made with white marble in 190 BC.
2 It was discovered on the island of Samothrace in 1863 by a French archaeologist.
3 It was sent to Paris in 1863.
4 It is kept in the Louvre.
5 It is admired by thousands of tourists every day.
ข้นั Production
1. หนงั สือเรยี น หน้า 97 Ex. 11 ครูใหน้ กั เรียนทางานคู่ คน้ ควา้ ขอ้ มลู จากอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกบั
อนุสาวรียใ์ นประเทศไทย 1 แห่ง เช่น อนุสาวรียช์ ยั สมรภูมิ อนุสาวรียพ์ ระบรมรูปทรงมา้ แลว้ เขียน
ขอ้ ความส้นั ๆ เกี่ยวกบั อนุสาวรียด์ งั กล่าวโดยใช้รูป passive พร้อมท้งั หาภาพประกอบ จากน้นั ให้
แตล่ ะค่เู ตรียมตวั ออกมาอ่านให้เพ่ือนฟังในชว่ั โมงถดั ไป
The Aphrodite of Milos is best known as the Venus de Milo. It was made between
130-100 BC. It was found on the island of Milos in 1820. It is kept in the Louvre.
It is admired by thousands of tourists every day.
2. นกั เรียนทา Grammar Bank 8 ในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 89-91 Exs. 1-11 ร่วมกนั ในช้นั
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 63 Exs. 5-8 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น
521
7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
สมุดนกั เรียน -
วธิ กี ารวดั ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจการวาดภาพโตะ๊ อาหารและ แบบประเมนิ การเขียน
เขียนประโยคบรรยายภาพ ระดบั คุณภาพ ผ่าน
ประเมินการเขยี นขอ้ ความเกี่ยวกบั แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ
อนุสาวรียใ์ นประเทศไทยโดยใชร้ ูป อนั พึงประสงค์
passive
สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มน่ั
ในการทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) แบบฝึกหัด SPARK 2 ม. 2
3) อนิ เทอร์เนต็
4) ภาพคานาม เช่น นม 1 ขวด, แยม 1 กระปุก
522
3 Skills 8c
2 ชั่วโมง
จุดประสงค์การเรยี นรู้
- บอกรายละเอียดและแสดงความคดิ เห็นเก่ียบวกบั เร่ืองท่ีอา่ นได้
- พดู และเขียนแสดงความรู้สึกเกี่ยวกบั เรื่องใกลต้ วั ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหัวขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองทฟี่ ังและอา่ นพร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
งา่ ย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณ์ตา่ ง ๆ
ในชีวิตประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/4 พดู และเขียนเพื่อขอและให้ขอ้ มลู บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองทฟ่ี ัง
หรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/5 พูดและเขียนแสดงความรู้สึกและความคดิ เห็นของตนเองเก่ียวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ
กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลประกอบอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขยี น
523
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตุการณ์ท่อี ยใู่ นความสนใจของสังคม
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ทช์ ่วยให้สามารถบอกรายละเอยี ดและแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องทอี่ ่านได้
อยา่ งเหมาะสม รวมถงึ การเรียนรู้สานวนภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบ ช่วยให้
สามารถพดู และเขยี นแสดงความรู้สึกของตนเองในเรื่องต่าง ๆ ได้
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verb (develop)
Nouns (cathedral, elevator, steel, living space, beam, sailor, mast,
skyline)
Phrase (the sky is the limit)
Functions: Expressing likes/dislikes
I like going to the cinema.
I hate eating mushrooms.
2) Language Skills
Speaking: สมั ภาษณ์เพอื่ นเก่ียวกบั ส่ิงทชี่ อบและไม่ชอบ
Reading: อา่ นเพอ่ื หาขอ้ มลู เฉพาะ
Writing: เขียนเก่ียวกบั skyscraper
524
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมน่ั ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงท่ี 1
ข้นั Warm up
1. ครูใหน้ กั เรียนออกมาอ่านขอ้ มลู เก่ียวกบั อนุสาวรียท์ นี่ กั เรียนคน้ ควา้ มาเมือ่ ชวั่ โมงท่ีแลว้ ให้เพอื่ นฟัง
2. ครูให้นกั เรียนแสดงความคดิ เห็นว่า ถา้ ในอีก 100 ปี ขา้ งหนา้ มจี านวนประชากรเพิม่ ข้นึ แบบทวีคูณ
และมเี ทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดข้นึ บา้ นท่เี ราอาศยั อยจู่ ะมีลกั ษณะเป็นอยา่ งไร
ข้นั Pre-reading
1. นกั เรียนดูภาพในหนงั สือเรียน หนา้ 98 แลว้ บอกครูว่าเห็นภาพอะไร (tall buildings)
2. หนังสือเรยี น หน้า 98 Ex. 1 ครูเขียนคาวา่ skyscrapers บนกระดาน แลว้ ถามนกั เรียนว่ารู้ความหมาย
หรือไม่ ครูอธิบายความหมาย แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกขอ้ มูลทรี่ ู้เกี่ยวกบั skyscrapers และคดิ วา่
คาน้ีมีที่มาจากอะไร
skyscraper (n) = a very tall building in a city (ตึกระฟ้า)
จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟัง และอา่ นบทอ่านเพอ่ื ตรวจว่านกั เรียนคาดเดาถูกตอ้ งหรือไม่
Skyscrapers are tall buildings made from steel.
The word ‘skyscraper’ comes from the name sailors gave to the tallest mast on a ship.
525
3. ครูให้นกั เรียนอ่านคา/วลีในกรอบ Check these words ถา้ คา/วลีใดอ่านไมไ่ ดใ้ ห้อ่านตามครู แลว้ ให้
นกั เรียนช่วยกนั บอกความหมาย ถา้ คา/วลใี ดไมร่ ู้ให้นกั เรียนหาคา/วลคี าน้นั ในบทอา่ น แลว้ ลองเดา
ความหมายจากบริบท จากน้นั ครูช่วยสรุปความหมายทถี่ กู ตอ้ ง
cathedral (n) = the main church of a district, under the care of a bishop (โบสถส์ าคญั )
beam (n) = a long heavy piece of wood or metal used in building houses, bridges etc.
(คานรบั น้าหนกั )
mast (n) = a tall pole on a boat or ship that supports the sails (เสากระโดงเรือ)
skyline (n) = the outline of buildings, trees, hills, etc. seen against the sky (เส้นขอบฟ้า)
ข้นั Reading
หนงั สือเรียน หน้า 98 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนอ่านคาถามทใ่ี หม้ า แลว้ ดูคาสาคญั ในคาถามแต่ละขอ้
จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นบทอา่ นเพ่ือหาเน้ือเรื่องส่วนท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั คาสาคญั ในคาถาม แลว้ จึงตอบ
คาถามทใ่ี หม้ า เสร็จแลว้ ครูขออาสามาสมคั รบอกคาตอบ และครูตรวจคาตอบ
1 Bricks weren’t strong enough and they didn’t have steel or elevators.
2 From the 1880s.
3 People could get to the top easily and safely.
4 They needed living space and offices.
5 Because many ex-sailors worked on them and it is their word for the tallest
mast on a ship.
ข้นั Post-reading
1. ครูใหน้ กั เรียนเขียน 3 สิ่งจากเรื่องทีอ่ ่านที่ทาให้นกั เรียนรู้สึกชื่มชมหรือประทบั ใจ แลว้ ครูสุ่มเรียก
นกั เรียน 2-3 คน พูดให้เพือ่ นฟัง
I was impressed that the lift was invented in 1852.
I was impressed that ex-sailors and Mohawk Indians built the skyscrapers.
I was impressed that today there is a building with 1,200 stores.
526
2. ครูให้นกั เรียนจินตนาการวา่ ถา้ นกั เรียนตอ้ งเดินบนไมค้ านแคบ ๆ ทส่ี ูงจากพ้ืนดินหลายร้อยฟุต
นกั เรียนจะรู้สึกอยา่ งไร แลว้ ใหน้ กั เรียนผลดั กนั พดู บอกความรู้สึกให้เพือ่ นท่ีนง่ั ขา้ ง ๆ ฟัง
It is dangerous when I am hundreds of feet above the ground. I’m afraid that I
fall off the beams./
I am hundreds of feet above the city and the sky is blue and the air is clear. I am
not afraid and I am enjoying the great view.
3. นกั เรียนทา Language Review 8c Ex. 3 ในหนงั สือเรียน หนา้ 112 ร่วมกนั ในช้นั
4. ครูให้นกั เรียนแบง่ กลุม่ กล่มุ ละ 4 คน ไปคน้ ควา้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั skyscraper มา 1 แห่ง แลว้ เขยี นสรุป
ขอ้ มูลโดยใหม้ ีรายละเอยี ดเกี่ยวกบั ชื่อ ลกั ษณะ สถานที่ต้งั ปี ที่สร้าง ผูอ้ อกแบบ ความสูง จานวนช้นั
แลว้ นาเสนอในชว่ั โมงถดั ไป
5. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 64 Exs. 1-2 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น
ช่ัวโมงท่ี 2
ข้นั Warm up
ครูให้นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอขอ้ มูลเก่ียวกบั skyscraper ที่ไดไ้ ปคน้ ควา้ มาเมอื่ ชว่ั โมง
ทแี่ ลว้
ข้นั Presentation
1. ครูยกตวั อยา่ งประโยคท่แี สดงความชอบและไมช่ อบบนกระดาน
I like swimming.
I don’t like drinking coffee.
I hate getting up early.
I enjoy watching the football match.
ครูให้นกั เรียนสงั เกตว่าคาทต่ี ามหลงั คากริยาแสดงความชอบและไม่ชอบคอื คาประเภทใด (คากริยา
เติม -ing) จากน้นั ครูอธิบายว่าคากริยา like, love, enjoy, don’t mind, don’t like, hate จะตามดว้ ย
คากริยาเติม -ing หรือท่เี รียกวา่ gerund ซ่ึงทาหน้าทีเ่ ป็นคานาม
527
2. ครูยกตวั อยา่ งประโยคบอกความตอ้ งการทใ่ี ช้ want
I want to watch this film.
I want to eat pizza.
ครูให้นกั เรียนสงั เกตคาท่ีตามหลงั want และบอกครูวา่ คือคาประเภทใด (to-infinitive หรือ to + v 1)
3. ครูใหน้ กั เรียนอา่ น Note ในหนงั สือเรียน หนา้ 98 เพอ่ื ทบทวนความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การใชค้ ากริยา
แสดงความชอบ/ไมช่ อบ และคากริยา want
ข้นั Practice
หนังสือเรียน หน้า 98 Ex. 3 นกั เรียนอา่ นคา/วลีทอ่ี ยใู่ นกรอบท้งั สองกรอบพร้อมกนั จากน้นั ให้
นกั เรียนแตง่ ประโยคแสดงความชอบ/ไม่ชอบ 5 ประโยค และประโยคบอกความตอ้ งการ 3 ประโยค
โดยใชค้ า/วลที อี่ ยใู่ นกรอบ เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพื่อนผลดั กนั พูด จากน้นั ครูใหน้ กั เรียน
หลาย ๆ คน พูดให้เพื่อนฟัง
I love playing football.
I hate eating out.
I enjoy eating out.
I like buying books.
I don’t like visiting the theme park.
I don’t mind going shopping.
I want to eat out.
ข้นั Production
1. ครูให้นกั เรียนสมั ภาษณเ์ พอ่ื นร่วมช้นั 5 คน เก่ียวกบั สิ่งที่ชอบและไม่ชอบ โดยอาจใชค้ าถาม What
do you like/don’t like? และจดบนั ทึกคาตอบของเพอ่ื นไวด้ ว้ ย โดยนกั เรียนอาจทาเป็นตารางขอ้ มลู
Name Likes Dislikes
Nan eat pizza, listen to music eat carrots
528
เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนเขียนสรุปรายงานผลสัมภาษณ์ เช่น Nan likes eating pizza and listening to
music. She doesn’t like eating carrots. แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2 คน พดู รายงานผลสัมภาษณใ์ ห้
เพื่อนฟัง
2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 65 Ex. 5 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ จบั คู่ให้ถกู ตอ้ ง
3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 65 Ex. 6 ใหน้ กั เรียนฟัง CD แลว้ เตมิ คาลงในช่องว่าง
4. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 65 Exs. 3-4 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60
วิธีการวดั แบบประเมนิ การสารวจ/คน้ ควา้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น
ประเมินการคน้ ควา้ ขอ้ มูลและเขียน แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
สรุปเกี่ยวกบั skyscraper
สังเกตการสัมภาษณ์เพื่อนร่วมช้นั แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น
เก่ียวกบั สิ่งทีช่ อบและไมช่ อบ อนั พงึ ประสงค์
สังเกตความใฝ่ เรียนรู้และความมุ่งมนั่
ในการทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหัด SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
529
4 Everyday English 8d
2 ช่ัวโมง
จุดประสงค์การเรียนรู้
- บอกรายละเอียดของเรื่องท่ีอา่ นและฟังได้
- แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ทกี่ าหนดได้
- พดู ถามและบอกทางไปยงั สถานท่ตี ่าง ๆ ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ และบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองท่ฟี ังและอ่าน พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณต์ า่ ง ๆ
ในชีวิตประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/2 ใชค้ าขอร้อง ใหค้ าแนะนา คาช้ีแจง และคาอธิบายตามสถานการณ์
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
530
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จาลองทเี่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรียน
สถานศกึ ษา และชุมชน
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้และเขา้ ใจเก่ียวกบั ประโยคและสานวนต่าง ๆ ในการถามและบอกเส้นทาง ช่วยให้
สามารถพดู สื่อสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Asking for directions (Where’s the …?, How do I get to …?, Could you
tell me how to get to …?)
Giving directions (Go up/down/past/through …, It’s on your right/left…,
Turn left/right …, It’s on the corner of …, It’s next
to/near/opposite/between …)
Functions: Asking for and giving directions
Excuse me. Could you tell me how to the get to the hospital?
Yes, certainly. Go up Kingswell Street and turn left onto Eation Road.
2) Language Skills
Listening: ฟังเพอ่ื หาขอ้ มูลเฉพาะ, ฟังการออกเสียงประโยค
Speaking: พูดสนทนาถามและบอกเส้นทาง
Reading: อา่ นเพ่ือหาขอ้ มลู เฉพาะ
Writing: แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ที่กาหนด
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด
531
5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มน่ั ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงที่ 1
ข้นั Warm up
1. ครูถามนกั เรียนวา่ ถา้ ตอ้ งเดินทางไปยงั สถานที่ทไ่ี ม่เคยไป และไม่รู้เสน้ ทาง นกั เรียนจะทาอยา่ งไร
2. ครูถามนกั เรียนว่า เคยมปี ระสบการณก์ ารถามทางผอู้ ่ืน หรือบอกทางผอู้ นื่ หรือไม่ และในการถาม
ทางนกั เรียนถามขอ้ มลู อะไรบา้ ง
ข้นั Presentation
1. ครูนาเสนอสานวนทใ่ี ชใ้ นการถามและบอกทาง โดยเขียนบทสนทนาส้ัน ๆ บนกระดาน แลว้ ให้
นกั เรียนอ่านพร้อมกนั
A: Excuse me. Could you tell me how to get to the post office?
B: Go up this road and turn left at the crossroads. Walk around 100 metres. The post
office is on your left.
A: Thank you very much.
B: That’s all right.
ครูถามนกั เรียนวา่ ประโยคใดในบทสนทนาใชถ้ ามทาง และประโยคใดเป็นการบอกทาง จากน้นั ครู
นาเสนอสานวนท่ีใชใ้ นการถามเพม่ิ เตมิ แลว้ ให้นกั เรียนอ่านออกเสียงพร้อมกนั
Where is the post office?
How do I get to the post office?
ตอ่ มาครูสอนสานวนทใี่ ชบ้ อกทาง โดยวาดภาพง่าย ๆ บนกระดาน และเขียนคาศพั ทไ์ วใ้ ตภ้ าพ แลว้
ให้นกั เรียนอ่านพร้อมกนั
crossroad
532
2. ครูวาดแผนทง่ี า่ ย ๆ บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั แต่งบทสนทนาโดยใชบ้ ทสนทนาบน
กระดานเป็นตน้ แบบ เช่น
A: Excuse me. How do I get to the bank?
B: Go up this road and turn right at the
crossroads. The bank is on your right. It’s
opposite the bookshop.
BANK BOOKSHOP A: Thank you very much.
B: That’s all right.
3. หนงั สือเรียน หน้า 99 Ex. 1 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังการออกเสียงประโยคทใี่ ชใ้ นการถามและบอก
ทาง โดยใหน้ กั เรียนต้งั ใจฟังและขดี เสน้ ใตค้ าทีล่ งเสียงหนกั แลว้ ครูเปิ ด CD อกี คร้ัง โดยหยดุ ทีละ
ประโยค ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกคาท่ีลงเสียงหนกั จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนออกเสียงตาม
Excuse me.
Could you tell me how to get to the hospital?
I’m sorry, what road was that?
On the right, did you say?
Thank you very much.
4. หนงั สือเรยี น หน้า 99 Ex. 2 ครูบอกนกั เรียนวา่ ประโยคใน Ex. 1 มาจากบทสนทนาทนี่ กั เรียนจะได้
อา่ นใน Ex. 3 ให้นกั เรียนคิดว่า John ตอ้ งการไปทีใ่ ด จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังบทสนทนา
เพื่อหาสถานท่ที ี่ John ไป เมอ่ื ฟังจบครูถามว่าใครคาดเดาคาตอบถูกบา้ ง
John wants to go to the hospital.
533
จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกความหมายของประโยคใน Ex. 1 เป็นภาษาไทย
ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 99 Ex. 3 ครูให้นกั เรียนอา่ นบทสนทนาเพือ่ หาวา่ John อยทู่ ่ีไหน โดยใหน้ กั เรียน
ดแู ผนทีป่ ระกอบดว้ ย เมือ่ อา่ นจบครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน ให้บอกคาตอบ จากน้นั ครูเฉลยคาตอบ
โดยอ่านบทสนทนาและเดินตามแผนทไ่ี ปพร้อมกบั นกั เรียน
John is in Kingswell Street.
2. ครูให้นกั เรียนจบั ค่กู นั ฝึกพดู บทสนทนาใน Ex. 3 โดยใหส้ ลบั บทบาทเป็นท้งั John และคนบอกทาง
ครูย้าใหน้ กั เรียนใชเ้ สียงสูง-ต่าในการพดู สนทนาดว้ ย เพ่อื ให้สนทนาไดอ้ ยา่ งเป็นธรรมชาติ ครูเดิน
สงั เกตการสนทนาของนกั เรียน และสุ่มเรียกนกั เรียน 1 คู่ ออกมาสนทนาใหเ้ พอื่ นดู
ข้นั Production
หนงั สือเรียน หน้า 99 Ex. 4 ครูใหน้ กั เรียนจบั ค่กู บั เพือ่ นช่วยกนั แต่งบทสนทนาเก่ียวกบั การถามและ
บอกทางไปยงั สถานท่ตี า่ ง ๆ ในแผนท่ี ดงั น้ี the hospital to the post office, the park to the café, the
car park to the library, the police station to the café โดยครูอาจจะกาหนดสถานท่ีใหน้ กั เรียนแต่ละคู่
แตง่ บทสนทนาเพยี ง 1 บท หรือให้นกั เรียนเลือกเอง เมอื่ แตง่ บทสนทนาเสร็จแลว้ ให้นกั เรียนส่งครู
เพอ่ื ตรวจความถูกตอ้ ง หลงั จากครูส่งงานคนื แลว้ ใหน้ กั เรียนแตล่ ะค่ไู ปฝึกซอ้ มพูดบทสนทนาทแ่ี ตง่
เพื่อนาเสนอในชว่ั โมงถดั ไป
The hospital to the post office
A: Excuse me. Could you tell me how to get to the post office?
B: Yes, certainly. Go up Eaton Road and turn right into Marple Crescent.
A: I’m sorry, what road was that?
B: Marple Crescent. The post office is behind the square.
A: Behind the square, did you say?
B: Yes, that’s right. It’s on the corner of Green Road.
534
A: OK. Thank you very much.
B: You’re welcome.
The park to the café
A: Excuse me. How do I get to the café?
B: Turn right into Eaton Road.
A: I’m sorry, what road was that?
B: Eaton Road. Then take the second road on the right.
A: The second road, did you say?
B: Yes. The café is opposite the fast food restaurant.
A: OK. Thank you very much.
B: You’re welcome.
The car park to the library
A: Excuse me. Where’s the library?
B: Go across Kingswell Street and into Green Road.
A: I’m sorry, what road was that?
B: Green Road. Then the library is behind the square in Marple Crescent.
A: Behind the square, did you say?
B: Yes, that’s right.
A: OK. Thank you very much.
B: You’re welcome.
The police station to the café
A: Excuse me. Could you tell me how to get to the café?
B: Yes, certainly. Go up Eaton Road and turn right into Kingswell Street.
A: I’m sorry, what road was that?
B: Kingswell Street. Then the café is on the corner of Green Road.
A: On the corner, did you say?
B: Yes, that’s right. It’s opposite the fast food restaurant.
A: OK. Thank you very much.
B: You’re welcome.
535
ช่ัวโมงที่ 2
ข้นั Warm up
ครูนาภาพการกระโดดบนั จ้ีจมั พม์ าใหน้ กั เรียนดู แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกวา่ คอื กิจกรรมอะไร จากน้นั ให้
นกั เรียนช่วยกนั บอกว่าการกระโดดบนั จ้ีจมั พต์ อ้ งทาอยา่ งไรบา้ ง
ข้นั Pre-speaking
1. ครูทบทวนสานวนภาษาทใี่ ช้ในการถามและบอกทาง โดยครูวาดแผนที่บนกระดาน หรือครูอาจ
ดาวน์โหลดจาก http://clipart-library.com/neighborhood-cliparts.html แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอก
ทาง
2. ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 99 Ex. 3 โดยใหน้ กั เรียนฟังการใช้
น้าเสียง การออกเสียงสูง-ต่า ในประโยค
3. ครูให้เวลานกั เรียนแตล่ ะคู่ทบทวนบทสนทนาของตนเองเพ่อื เตรียมความพร้อม
ข้นั Speaking
1. ก่อนการพดู สนทนา ครูใหน้ กั เรียนทกั ทายเพือ่ นและแนะนาตนเอง
2. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะคู่หมุนเวียนกนั ออกมาพูดสนทนาจนครบทกุ คู่ โดยครูอาจเรียกตามลาดบั เลขที่
หรือเรียกตามแถวที่นง่ั ขณะทีน่ กั เรียนพูดสนทนาครูคอยสังเกตการพูดและจดบนั ทึก
ข้นั Post-speaking
1. ครูใหข้ อ้ มลู ยอ้ นกลบั (feedback) แตล่ ะคู่เรื่องการใชภ้ าษาของนกั เรียน เช่น ไวยากรณ์ การออกเสียง
น้าเสียง กิริยาทา่ ทาง เพื่อใหน้ กั เรียนนาไปปรับปรุงแกไ้ ขในคร้ังตอ่ ไป
2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 66 Exs. 3-5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
536
7. การวัดและการประเมนิ ผล
วธิ กี ารวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประเมนิ การอา่ นออกเสียงบทสนทนา แบบประเมินการอา่ นออกเสียง ร้อยละ 60
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่าน แบบฝึกหดั (Workbook) ระดบั คุณภาพ พอใช้
บทสนทนา ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมินการแต่งบทสนทนาตาม แบบประเมินการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น
สถานการณท์ ก่ี าหนด
ประเมินการพูดสนทนาถามและบอก แบบประเมนิ การพดู
เส้นทาง
สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมน่ั แบบประเมินคุณลกั ษณะ
ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) แผนท่ี
537
5 Across the curriculum 8e
2 ชั่วโมง
จุดประสงค์การเรยี นรู้
- บอกรายละเอียดและแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องทีอ่ ่านได้
- คน้ ควา้ เก่ียวกบั วิธีดแู ลรกั ษาโลกของเราและพูด/เขยี นนาเสนอได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองทฟ่ี ังและอ่าน พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
งา่ ย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/2 พดู และเขยี นสรุปใจความสาคญั /แกน่ สาระ หัวขอ้ เรื่อง (topic) ทไี่ ดจ้ ากการวิเคราะห์
เรื่อง/ข่าว/เหตุการณ์ที่อยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 1.3 ม. 2/3 พูดและเขยี นแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั กิจกรรม เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และ
ประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลส้นั ๆ ประกอบ
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่ และเป็ น
พ้ืนฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 2/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่
จากแหล่งการเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขียน
538
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ท์ ช่วยให้เขา้ ใจเร่ืองทอี่ า่ น บอกรายละเอียด และแสดงความคดิ เห็นได้ รวมท้งั
สามารถใชส้ ื่อเทคโนโลยคี น้ ควา้ ขอ้ มลู และพูด/เขียนนาเสนอได้
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verbs (wonder, clean up, reuse, recycle, pick up)
Nouns (area, harmful gas, public transport, bin)
Phrase (set an example)
Functions: Talking about the ways to keep the planet clean
We need to reuse and recycle things.
Turn off the lights when not in use.
2) Language Skills
Speaking: พดู แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั สิ่งท่ตี อ้ งการทาเพ่ือช่วยให้ชุมชนสะอาด,
พูดนาเสนอเก่ียวกบั วธิ ีดูแลรักษาโลกของเราให้สะอาด
Reading: อา่ นเพือ่ หาขอ้ มลู เฉพาะ
Writing: เขียนเกี่ยวกบั วิธีดูแลรกั ษาโลกของเราใหส้ ะอาด
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมนั่ ในการทางาน
539
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงท่ี 1
ข้นั Warm up
1. ครูถามนกั เรียนวา่ ทบ่ี า้ นของนกั เรียนมีการแยกขยะกอ่ นทิง้ หรือไม่ ถา้ มี มีวธิ ีการแยกขยะอยา่ งไร
2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดว่าสิ่งของรอบตวั อะไรบา้ งทส่ี ามารถนากลบั มาใชซ้ ้าได้ เช่น กระดาษ
ถงุ พลาสติก
ข้นั Pre-reading
1. หนงั สือเรียน หน้า 100 Ex. 1 ครูใหน้ กั เรียนดภู าพ แลว้ บอกว่าภาพใดแสดงถึงคนกาลงั ปลูกตน้ ไม้
ภาพใดแสดงถึงคนกาลงั ทง้ิ ขยะลงในถงั ขยะรีไซเคิล และภาพใดแสดงถึงคนกาลงั ทาความสะอาด
ถนน
C someone planting a tree
B someone putting rubbish in a recycling bin
A some people cleaning the road
จากน้นั ใหน้ กั เรียนคดิ วา่ ภาพเหล่าน้ีเกี่ยวขอ้ งกบั บทอา่ นอยา่ งไร ครูขออาสาสมคั รบอกคาตอบ 2-3
คน และครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและอ่านบทอ่าน แลว้ ครูบอกคาตอบ
The pictures are related to the text because the text is about how to help our
planet by cleaning up rubbish, recycling rubbish and planting trees.
2. ครูให้นกั เรียนอา่ นคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words แลว้ ช่วยกนั อธิบายความหมาย ถา้ คาใด
นกั เรียนไม่รู้ ครูให้เดาความหมายจากบริบทของเร่ืองท่จี ะอ่าน
540
ข้นั Reading
หนงั สือเรยี น หน้า 100 Ex. 2 ครูใหน้ กั เรียนอา่ นคาถามขอ้ 1-6 และขดี เสน้ ใตค้ าสาคญั ในคาถาม
แต่ละขอ้ จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นบทอา่ นเพอื่ หาเน้ือเร่ืองส่วนที่เก่ียวขอ้ งกบั คาสาคญั เมอ่ื พบแลว้ ให้
อ่านประโยคท่ีมคี าสาคญั และประโยคแวดลอ้ ม 1-2 ประโยคกอ่ นหนา้ หรือถดั ไป หลงั จากอา่ นเขา้ ใจ
แลว้ จึงตอบคาถาม แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ และใหน้ กั เรียนในช้นั ช่วยกนั ตรวจความ
ถูกตอ้ ง
1 If we can’t use an item again, we should recycle it.
2 Neighbours and friends can help to clean up our neighbourhood.
3 Trees are important because they give us oxygen and make our air cleaner too.
4 We should avoid using our cars because they give out harmful gases.
5 Public transport, bicycles and walking are less harmful to the environment.
6 If we see rubbish on the ground, we should pick it up and throw it in the bin.
ข้นั Post-reading
1. หลงั จากอา่ นบทอา่ นจบครูให้นกั เรียนเดาความหมายของคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words ที่
นกั เรียนไมร่ ู้ แลว้ ครูช่วยสรุปอกี คร้งั
2. THINK! หนังสือเรียน หน้า 100 ครูอ่านคาถามขอ้ 7 แลว้ ให้นกั เรียนจบั คู่กบั เพอื่ นช่วยกนั คิดและ
เขยี นสิ่งทจ่ี าเป็นตอ้ งทาเพอื่ ให้ชุมชนของนกั เรียนสะอาด เป็นชุมชนปลอดขยะ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียก
นกั เรียน 2-3 คู่ อา่ นให้เพ่อื นฟัง
We need to reuse and recycle things. We need to clean up rubbish and plant
flowers, we need to walk more and pick up any rubbish we see. This would keep
our neighbourhood clean and if everyone did this, the planet would be cleaner too.
3. ครูใหน้ กั เรียน 2 คู่ รวมเป็นกล่มุ เดียวกนั แลว้ ให้แต่ละกลมุ่ ทา mind map สรุปส่ิงท่ีจาเป็นตอ้ งทา
เพอ่ื ใหช้ ุมชนของนกั เรียนสะอาด โดยให้นกั เรียนออกแบบ mind map ใหน้ ่าสนใจ ครูอาจหา
ตวั อยา่ ง mind map จากอนิ เทอร์เน็ตมาให้นกั เรียนดูเป็นตวั อยา่ ง
541
4. หนงั สือเรียน หน้า 100 Ex. 3 นกั เรียนแบ่งกลมุ่ กล่มุ ละ 4-5 คน ครูมอบหมายใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ไป
คน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกบั วธิ ีดแู ลรักษาโลกของเราให้สะอาด โดยให้นกั เรียนเตรียมขอ้ มลู ที่
คน้ ควา้ มาในชว่ั โมงหนา้
5. นกั เรียนทา Language Review 8e & Prepositions Exs. 4-5 ในหนงั สือเรียน หนา้ 112
6. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 66 Exs. 1-2 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น
ชั่วโมงท่ี 2
ข้นั Warm up
ครูสนทนากบั นกั เรียนเกี่ยวกบั ปัญหาส่ิงแวดลอ้ มในโลกของเรา แลว้ ครูเขยี นปัญหาตา่ ง ๆ บน
กระดาน
ข้นั Pre-speaking
1. ครูสอบถามนกั เรียนว่าภาระงานท่ีครูมอบหมายให้ไปคน้ ควา้ ขอ้ มลู ในชว่ั โมงทแี่ ลว้ คืออะไร (วธิ ีดูแล
รักษาโลกของเราใหส้ ะอาด) เพือ่ ตรวจสอบวา่ นกั เรียนทุกกลมุ่ คน้ ควา้ ขอ้ มูลตามหวั ขอ้ ท่คี รูกาหนด
2. ครูใหแ้ ตล่ ะกลุม่ นาขอ้ มลู ทคี่ น้ ควา้ ไดม้ าทาโปสเตอร์ โดยอาจจดั ขอ้ มลู เป็นหัวขอ้ Dos และ Don’ts
พร้อมท้งั ช่วยกนั ต้งั ช่ือเรื่อง และตกแต่งโปสเตอร์ใหน้ ่าสนใจดว้ ยการวาดภาพประกอบ การใชส้ ี
เป็ นตน้
Dos Turn off the lights when not in use.
Walk or ride your bike to work, school and anywhere you can.
Plant trees.
Don’ts Don’t litter.
Don't use plastic bags.
Don’t use toxic chemicals.
3. เม่อื แต่ละกล่มุ ทาโปสเตอร์เสร็จแลว้ ให้เตรียมตวั พูดนาเสนอที่หนา้ ช้นั
ข้นั Speaking
ครูนกั เรียนแตล่ ะกล่มุ ส่งตวั แทนออกมาพดู นาเสนอขอ้ มูลให้ครูและเพอ่ื นฟังทห่ี นา้ ช้นั พร้อมท้งั
แสดงโปสเตอร์ใหด้ ดู ว้ ย
542
ข้นั Post-speaking
1. ครูให้ผลยอ้ นกลบั (feedback) ดา้ นการใชภ้ าษา เช่น การออกเสียง ไวยากรณ์ ภาษาท่าทาง เพ่ือให้
นกั เรียนนาไปปรับปรุงแกไ้ ขในการพูดคร้งั ตอ่ ไป
2. ครูให้นกั เรียนร่วมกนั ตดั สินวา่ โปสเตอร์ของกลมุ่ ใดน่าสนใจมากที่สุด จากน้นั ให้นกั เรียนร่วมกนั จดั
บอร์ดแสดงผลงาน
7. การวัดและการประเมนิ ผล
วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ร้อยละ 60
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น แบบทดสอบ ระดบั คุณภาพ พอใช้
สังเกตการพดู แสดงความคดิ เห็น แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
เก่ียวกบั ประเดน็ ในเร่ืองทอ่ี า่ น ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประเมนิ การทา mind map สรุปสิ่งท่ี แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น
จาเป็นตอ้ งทาเพ่อื ใหช้ ุมชนสะอาด
ประเมินการพดู นาเสนอเกี่ยวกบั วธิ ีดแู ล แบบประเมนิ การพูด
รักษาโลกให้สะอาด
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มนั่ แบบประเมินคุณลกั ษณะ
ในการทางาน อนั พึงประสงค์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) อินเทอร์เนต็
543