The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.2
หนังสือ Spark

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by DanAngelo Q Bunlong, 2022-08-16 00:07:27

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.2

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.2
หนังสือ Spark

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.2

8. ครูอธิบายเกี่ยวกบั second conditional ว่า ใชก้ บั เหตุการณ์ทเี่ ป็นไปไมไ่ ดห้ รือเป็นไปไดย้ ากใน
ปัจจุบนั เช่น If I had a private jet, I would travel all over the world. และยงั ใชเ้ พอ่ื ให้คาแนะนา เช่น
If I were you, I would call her. ครูใหน้ กั เรียนสังเกตคากริยาในประโยคยอ่ ยท้งั สอง แลว้ ครูถามว่า
คากริยาในประโยคยอ่ ยทม่ี ี if ใช้ tense อะไร (Pastt simple) และคากริยาในอกี ประโยคยอ่ ยใชร้ ูป
อะไร (would + infinitive without to) จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปโครงสร้าง
second conditional: If + Past simple, would + infinitive without to
จากน้นั ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ วา่ ถา้ second conditional มี verb to be จะตอ้ งใช้ were กบั ประธานทุกตวั
ไม่ว่าจะเป็นเอกพจนห์ รือพหูพจน์ เช่น If she were rich, she would travel all over the world.

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 73 Ex. 8 ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่พูดถาม-ตอบโดยใชข้ อ้ มูลจากตารางเวลาและคาท่ี

กาหนดให้ จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คู่ พูดถาม-ตอบใหเ้ พื่อนฟัง

2 Are Meredith and Jenny going to Helen’s party on Thursday? No, they aren’t.
3 Is she having a ballet lesson on Wednesday? Yes, she is.
4 Is she having lunch with her aunt on Sunday? No, she isn’t.
5 Are Meredith and her mum going shopping on Friday? Yes, they are.

2. หนงั สือเรยี น หน้า 73 Ex. 10 นกั เรียนฝึกฝน zero conditional, first conditional โดยเปล่ียนคากริยา
ในวงเล็บให้อยใู่ นรูป Present simple หรือ Future simple พร้อมท้งั ระบุดว้ ยว่าแตล่ ะประโยคคอื zero
conditional หรือ first conditional

1 melts (type 0) 2 will go (type 1) 3 will visit (type 1)
4 get (type 0) 5 die (type 0) 6 will miss (type 1)

3. หนังสือเรยี น หน้า 73 Ex. 11 ครูใหน้ กั เรียนเขียนประโยคใหม่โดยใช้ unless แทน if … not จากน้นั
ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยค แลว้ นกั เรียนในช้นั ช่วยตรวจความถกู ตอ้ ง

394

2 Unless it rains, we’ll go out.
3 Unless we book our seats now, we won’t go on holiday.
4 Unless you work hard, you’ll fail the test.
5 Unless he is on time, he’ll miss the bus.

4. หนงั สือเรียน หน้า 73 Ex. 12 ครูใหน้ กั เรียนอ่านวธิ ีใช้ second conditional เพื่อทบทวนความเขา้ ใจ
จากน้นั ให้นกั เรียนเปลย่ี นคากริยาในวงเลบ็ ใหถ้ กู ตอ้ งตามโครงสร้างของ second conditional เม่อื ทา
เสร็จแลว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ

1 would go 2 found 3 could
4 would lose 5 would take up

ข้นั Production
1. หนังสือเรียน หน้า 73 Ex. 13 ครูให้นกั เรียนเขียนเตมิ ประโยค second conditional ตามความคิดของ

ตนเอง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านให้เพอื่ นฟัง

2 If I had one wish, I would wish for a sports car.
3 If I were rich, I would buy a house/villa.
4 If I were the Prime Minister for a day, I would help the poor.

2. ครูให้นกั เรียนเขียนประโยค zero conditional และ first conditional โครงสร้างละ 3 ประโยค
3. ครูให้นกั เรียนเขยี นตารางกิจกรรมของตนเองสาหรับอาทิตยน์ ้ี โดยดตู วั อยา่ งจาก Ex. 8 จากน้นั ให้

นกั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั พูดบอกแผนการของตนเองกบั เพอื่ น
4. นกั เรียนทา Grammar Bank 6 ในแบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 83-85 Exs. 5, 7-12
5. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 46-47 Exs. 4-8 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

395

7. การวัดและการประเมนิ ผล

วธิ กี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
สงั เกตการเปรียบเทียบการใชค้ ากริยา แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้
-
เพ่ือแสดงอนาคตในประโยค -
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ภาษาองั กฤษและและภาษาไทย
ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ตรวจการแต่งบทสนทนาส้ัน ๆ โดยใช้ สมดุ นกั เรียน

will และ be going to

ตรวจการเขียนประโยค conditional สมุดนกั เรียน

สงั เกตการพดู เกี่ยวกบั แผนการของ แบบสงั เกตพฤติกรรมการเรียนรู้

ตนเองสาหรบั อาทติ ยน์ ้ี

สังเกตความใฝ่ เรียนรู้ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ

อนั พงึ ประสงค์

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหัด SPARK 2 ม. 2

396

3 Skills 6c

2 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- บอกใจความสาคญั รายละเอยี ด และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องที่ฟังและอา่ นได้
- เขยี นอีเมลเกี่ยวกบั การไปทศั นศึกษาได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองท่ฟี ังและอา่ นพร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/4 พูดละเขยี นเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มูล บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องที่ฟัง
หรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตุการณท์ ีอ่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม

397

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้เกี่ยวกบั คาศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษา ช่วยใหส้ ามารถจบั ใจความสาคญั ใจความ

สนบั สนุนของเร่ืองทีฟ่ ังหรืออ่าน และสามารถนาคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษาไปใชใ้ นการเขียนส่ือสาร
ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verb (glow)

Nouns (cave, landscape, raft, tube, rope, equipment, footwear, worm,

stalactite, stalagmite)

Adjective (spectacular)

Functions: Describing school trip

We’re leaving on Saturday by coach. We’re staying at a nice hotel.

2) Language Skills

Listening: ฟังเพอ่ื จบั ใจความสาคญั

Reading: อา่ นเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขยี นสรุปเรื่องทอ่ี ่าน, เขยี นอีเมลเก่ียวกบั การจะไปทศั นศกึ ษา

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุง่ มนั่ ในการทางาน

398

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
ครูถามนกั เรียนถึงประสบการณใ์ นการทากิจกรรมผาดโผน (Extreme activities) ของนกั เรียน หาก
ไม่มี ครูให้นกั เรียนเลา่ กิจกรรมท่เี คยเห็น เช่น การปี นหนา้ ผา ลอ่ งแกง่ เป็นตน้ จากน้นั ครูใหน้ กั เรียน
แสดงความคดิ เห็นวา่ จะรู้สึกอยา่ งไรเมอ่ื ทากิจกรรมผาดโผน

ข้นั Pre-reading

1. ครูทบทวนโครงสร้างและการใช้ will, be going to และ Present continuous (future meaning) โดยให้

นกั เรียนช่วยกนั แตง่ ประโยคจากคากริยาท่คี รูกาหนด เช่น travel, watch, leave

2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั หาประโยคทีใ่ ช้ will, be going to และ Present continuous (future meaning)

ในบทอา่ น หนงั สือเรียน หนา้ 74

3. ครูให้นกั เรียนดูบทอา่ นซ่ึงเป็นจดหมาย แลว้ บอกวา่ ใครคอื ผูเ้ ขียนจดหมายน้ี (Ben) และเขยี นถงึ ใคร

(James) จากน้นั ให้นกั เรียนดภู าพประกอบ และบอกวา่ เห็นอะไรในภาพบา้ ง (e.g. cave, people do

extreme sports)

4. ครูให้นกั เรียนอา่ นคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 74 แลว้ ช่วยกนั อธิบาย

ความหมาย ถา้ คาใดไม่รู้ใหเ้ ปิ ดหาในพจนานุกรม หรือครูช่วยิธิบายความหมาย

spectacular (adj) = very impressive (ตน่ื ตา, น่าประทบั ใจ)

landscape (n) = everything you can see when you look across a large area of land,

especially in the country (ภมู ิประเทศ)

raft (n) = a small boat made of rubber or plastic that is filled with air (แพ)

tube (n) = The elongated space inside a wave when it is breaking (โพรง, ทาง

ใตด้ ิน)

glow (v) = to produce or reflect a soft steady light (เรืองแสง)

stalactite (n) = a sharp pointed object hanging down from the roof of a cave, which

is formed gradually by water that contains minerals as

it drops slowly from the roof (หินยอ้ ย)

stalagmite (n) = a sharp pointed object coming up from the floor of a cave, formed

by drops from a stalactite (หินงอก)

399

5. หนงั สือเรียน หน้า 74 Ex. 1 ครูให้นกั เรียนอ่านเฉพาะประโยคแรกของทุกยอ่ หนา้ แลว้ เดาวา่ เน้ือหา
ในจดหมายน้ีน่าจะเกี่ยวกบั เรื่องอะไร

ข้นั Reading
1. ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอา่ นจดหมายในหนงั สือเรียน หนา้ 74 ตามไปดว้ ย เพือ่ จบั ใจความ

สาคญั ของจดหมาย

The letter is about Ben’s holiday plans and the activities he is looking forward
to doing.

2. หนังสือเรียน หน้า 74 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนอา่ นประโยคและตวั เลอื กในแต่ละขอ้ แลว้ ลองเดาคาตอบ
จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านจดหมายและเลอื กคาตอบท่ถี ูกตอ้ ง แลว้ ครูเฉลยคาตอบ

1 with his cousins 2 rafts 3 all safety equipment
4 see insects 5 $50

ข้นั Post-reading
1. ครูให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 3 คน ช่วยกนั คดิ เหตผุ ลวา่ เหตุใดจึงควรไปเทีย่ ว Waitomo Cave โดย

ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ คดิ มา 2 เหตผุ ล จากน้นั ครูให้แต่ละกลุ่มบอกเหตผุ ลของตนเอง

You can go black water rafting. You can see the Glow Worm Caves.

2. หนังสือเรียน หน้า 74 Ex. 3 ครูให้นกั เรียนกลุม่ เดิมช่วยกนั เตมิ คาลงในประโยคให้ถูกตอ้ ง โดยไม่ให้
ดจู ดหมายเพอื่ ทบทวนคาศพั ทแ์ ละเน้ือเร่ือง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกหลาย ๆ กลมุ่ บอกคาตอบ แลว้ ครู
ตรวจความถูกตอ้ ง

400

1 spectacular 2 safety 3 famous
4 stalactite, cave 5 range

3. ครูให้นกั เรียนกลมุ่ เดิมช่วยกนั สรุปแผนการทอ่ งเทีย่ วของ Ben โดยจดบนั ทึกเป็นหวั ขอ้ เช่น Where,
With whom, Activities, Accommodation แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมาสรุปให้เพ่ือนและครูฟัง

4. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 48-49 Exs. 1-4 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

ชั่วโมงที่ 2

ข้นั Warm up
ครูทบทวนเน้ือหาในจดหมายที่อ่านในชวั่ โมงที่แลว้ จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ อยากจะทากิจกรรม
เหมือนในจดหมายหรือไม่ โดยใหน้ กั เรียนบอกเหตุผลว่าทาไมอยากทา หรือไม่อยากทา

ข้นั Pre-writing
1. นกั เรียนดโู ครงร่างอีเมลในหนงั สือเรียน หนา้ 74 แลว้ ครูถามวา่ อีเมลน้ีใชค้ าข้นึ ตน้ วา่ อยา่ งไร (Hi) ครู

ให้นกั เรียนช่วยกนั คิดคาข้นึ ตน้ คาอ่ืน (e.g. Hello, Dear) ครูถามตอ่ ว่าอเี มลน้ีใชค้ าลงทา้ ยว่าอยา่ งไร
(See you soon!) แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดคาลงทา้ ยคาอืน่ (e.g. Take care, Miss you, Love) จากน้นั
ครูถามว่านอกจากจะใช้ How are you? เพ่อื ถามทกุ ขส์ ุขแลว้ นกั เรียนสามารถใชส้ านวนใดไดอ้ กี
(e.g. I hope you’re well., How’s it going?)
2. ครูอธิบายภาระงานในหนงั สือเรียน หนา้ 74 Ex. 4 ว่า ใหน้ กั เรียนเขยี นอเี มลถึงเพอื่ นเพือ่ เลา่ วา่ ตนเอง
กาลงั จะไปทศั นศึกษา จากน้นั ครูให้นกั เรียนระดมสมองคิดว่า ถา้ จะเขียนเกี่ยวกบั การไปทศั นศกึ ษา
นกั เรียนนึกถงึ อะไรบา้ ง ครูเขียนคาตอบของนกั เรียนบนกระดาน เช่น สถานท่ีท่จี ะไป วนั และเวลา
ออกเดินทาง วธิ ีการเดินทาง กิจกรรมทท่ี า วนั เดินทางกลบั

ข้นั Writing
หนงั สือเรียน หน้า 74 Ex. 4 ครูให้นกั เรียนเขียนอเี มลถึงเพ่ือนเพื่อเลา่ ว่าตนเองกาลงั จะไปทศั นศกึ ษา
ความยาวประมาณ 60-80 คา

401

Hi Rosa,
How are you? I’m really excited. This week we’re going to Pirgos Dirou Caves
with my school. We’re leaving on Saturday by coach. We’re staying at a nice
hotel. We’re going to see colourful crystal stalactites and stalagmites as we
travel through the caves by boat. We’re coming back on Sunday 3rd May. I
can’t wait.
See you soon!
Maria

ข้นั Post-writing
1. ครูใหน้ กั เรียนตรวจทานงานเขยี นของตนเอง โดยดกู ารสะกดคา ไวยากรณ์ และการเขียนถกู ตอ้ งตาม

โครงสร้าง เช่น มีคาข้นึ ตน้ คาลงทา้ ย ชื่อผรู้ บั และผสู้ ่ง แลว้ ปรับแกใ้ ห้ถกู ตอ้ ง จากน้นั นาส่งครู ครู
เลอื กผลงานของนกั เรียน 2 คน ใหอ้ อกมาอา่ นให้เพอื่ นฟัง
2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 49 Ex. 5 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ เลอื กคาตอบทถี่ ูกตอ้ ง
3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 49 Ex. 6 ใหน้ กั เรียนฟัง CD แลว้ เติมคาลงในช่องว่าง
4. นกั เรียนทา Language Review 6c Exs. 3-4 ในหนงั สือเรียน หนา้ 110 เป็นการบา้ น

7. การวัดและการประเมนิ ผล

วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ร้อยละ 60
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ นหรือ แบบฝึกหดั (Workbook)
-
การฟัง
ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตรวจการเขียนสรุปแผนการท่องเท่ียว สมุดนกั เรียน
ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ของ Ben จากเรื่องทีอ่ า่ น

ประเมนิ การเขยี นอีเมลเล่าเกี่ยวกบั แบบประเมนิ การเขียน

การไปทศั นศึกษา

สังเกตความใฝ่ เรียนรู้และความมุง่ มนั่ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ

ในการทางาน อนั พึงประสงค์

402

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์

403

4 Everyday English 6d

2 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- ออกเสียงประโยคคาถามโดยข้นึ เสียงสูงและลงเสียงต่าไดถ้ ูกตอ้ ง
- บอกรายละเอยี ดของบทสนทนาทอี่ า่ นได้
- แสดงบทบาทสมมติในสถานการณท์ ่กี าหนดได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ และบทรอ้ ยกรองส้ัน ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองท่ฟี ังและอ่าน พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลี่ยนขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณ์ต่าง ๆ
ในชีวิตประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/3 พดู และเขียนแสดงความตอ้ งการ เสนอและใหค้ วามช่วยเหลอื ตอบรบั และปฏิเสธ
การให้ความช่วยเหลอื ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ อยา่ งเหมาะสม
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ

404

ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ

วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม. 2/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองท่ีเกิดข้ึนในหอ้ งเรียน
สถานศกึ ษา และชุมชน

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้เก่ียวกบั ประโยคและสานวนต่าง ๆ ในการขอและใหข้ อ้ มลู ตา่ ง ๆ ช่วยให้สามารถพดู

สื่อสารในชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ตลอดจนมคี วามเขา้ ใจในมารยาทและวฒั นธรรมของเจา้ ของ
ภาษา

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Sentences (What can I do for you? I’d like some information, please.

How much does it cost to get in? Enjoy your visit …)

Functions: Asking for & giving information

What exactly would you like to know?

Could you tell me your opening times at the weekend, please?

How much does it cost to get in?

Tickets are £12 for adults and £9 for children.

2) Language Skills

Listening: ฟังเพอื่ หาขอ้ มลู เฉพาะ, ฟังการออกเสียงประโยค

Speaking: พูดสนทนาเพ่ือขอและใหข้ อ้ มูลทต่ี อ้ งการ

Reading: อา่ นเพ่อื หาขอ้ มูลเฉพาะ

405

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน 2) ความสามารถในการคิด
1) ความสามารถในการส่ือสาร

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 2) มงุ่ มน่ั ในการทางาน
1) ใฝ่เรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
1. ครูถามนกั เรียนว่าเคยไปเทีย่ วพิพิธภณั ฑส์ ตั วน์ ้าหรือไม่ ครูอาจให้นกั เรียนท่ีเคยไปเลา่ ให้เพอ่ื นฟังวา่

พบเห็นอะไรที่นนั่ บา้ ง
2. ครูใหน้ กั เรียนคดิ ว่าถา้ จะไปเทย่ี วพิพิธภณั ฑส์ ัตวน์ ้า นกั เรียนจะโทรศพั ทไ์ ปถามขอ้ มลู อะไรบา้ งจาก

เจา้ หนา้ ท่ี เช่น เวลาเปิ ด-ปิ ด ราคาตว๋ั กิจกรรม

ข้นั Pre-reading

1. หนงั สือเรียน หน้า 75 Ex. 1a ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังการออกเสียงประโยคท่ีกาหนดให้ และ
ออกเสียงตามให้ถูกตอ้ ง โดยครูให้นกั เรียนออกเสียงตาม 2 คร้ัง

2. ครูอธิบายนกั เรียนวา่ ประโยคใน Ex. 1a มาจากบทสนทนาระหว่างพนกั งานตอ้ นรบั กบั Bill ให้
นกั เรียนช่วยกนั ระบวุ า่ ประโยคใดเป็นประโยคที่พนกั งานตอ้ นรับพูด และประโยคใดเป็นประโยคท่ี
Bill พูด

3. ครูบอกนกั เรียนวา่ จะให้ฟังบทสนทนาระหวา่ งพนกั งานตอ้ นรบั กบั Bill โดยใหฟ้ ังเพอื่ หาวา่ Bill
ตอ้ งการไปเทย่ี วพพิ ธิ ภณั ฑส์ ตั วน์ ้าเมือ่ ไร ครูถามนกั เรียนว่าคาตอบน่าจะเป็นขอ้ มลู ประเภทใด ให้
นกั เรียนช่วยกนั คิด เช่น เวลา วนั ท่ี วนั ในสัปดาห์ เดือน ช่วงเวลา จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง
บทสนทนา โดยเนน้ จบั ขอ้ มลู ทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั คาถาม จากน้นั ครูเฉลยคาตอบ

Bill wants to visit the aquarium at the weekend.

406

ข้นั Reading
หนงั สือเรียน หน้า 75 Ex. 2 นกั เรียนอา่ นประโยค 1-6 และขดี เส้นใตค้ าสาคญั ในแตล่ ะประโยค
จากน้นั อา่ นบทสนทนาเพ่ือหาคาพอ้ งความหมาย (synonym) คาที่มีความหมายตรงกนั ขา้ ม
(opposite) หรือกลุ่มคา/วลี ทม่ี ีความหมายเหมือนกนั หรือต่างกนั กบั คาสาคญั ทขี่ ีดเส้นใตไ้ ว้ แลว้ ตอบ
วา่ ประโยค 1-6 ถกู หรือผดิ ถา้ ประโยคใดผดิ ใหแ้ กไ้ ขให้ถกู ตอ้ งดว้ ย จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอา่ น
ประโยค พร้อมท้งั บอกคาตอบ

1 F He is visiting at the weekend.
2 F It is open from 10 am to 7 pm at the weekend.
3 F It costs £9 for children.
4T
5T
6T

ข้นั Post-reading
1. หนังสือเรยี น หน้า 75 Ex. 3a นกั เรียนอา่ นประโยค 1-4 พร้อมกนั แลว้ หาประโยคในบทสนทนาที่มี

ความหมายเหมอื นกบั ประโยคเหลา่ น้ี เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบ

1 What price is admission? – How much does it cost to get in?
2 Could you tell me where the aquarium is? – Where is the aquarium exactly?
3 Is that correct? – right?
4 Have a nice time … – Enjoy your visit …

2. หนังสือเรยี น หน้า 75 Ex. 3b ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงประโยคใน Ex. 1 อีกคร้ัง แลว้ ช่วยกนั
อธิบายความหมายเป็ นภาษาไทย

3. หนงั สือเรยี น หน้า 75 Ex. 4 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังบทสนทนาและอ่านออกเสียงตาม จากน้นั ให้
นกั เรียนจบั ค่กู นั ฝึกอา่ นบทสนทนา

407

4. ครูใหน้ กั เรียนดสู านวน My pleasure. ในบรรทดั สุดทา้ ยของบทสนทนา แลว้ ใหน้ กั เรียนเดา
ความหมาย จากน้นั ครูอธิบายว่า My pleasure. เป็นสานวนตอบกลบั คาขอบคณุ เพอื่ แสดงวา่ ผพู้ ูด
มีความยนิ ดีช่วยเหลอื แลว้ ครูให้นกั เรียนช่วยกนั คดิ สานวนทีม่ คี วามหมายเช่นเดียวกนั เพิ่มเติม
(e.g. It’s my pleasure. You’re welcome.)

5. หนังสือเรยี น หน้า 75 Ex. 5 ครูอธิบายนกั เรียนวา่ ภาษาองั กฤษเป็นภาษาที่มกี ารออกเสียงสูง-ต่า
สงั เกตไดช้ ดั เจนคือการออกเสียงประโยคคาถาม แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนต้งั ใจฟังวา่ คาถามขอ้ ใด
ข้ึนเสียงสูงทีท่ า้ ยประโยค และคาถามขอ้ ใดลงเสียงต่าทท่ี า้ ยประโยค จากน้นั ครูอธิบายวา่ คาถาม
Yes/No questions จะข้นึ เสียงสูงท่ที า้ ยประโยค ส่วนคาถาม Wh-questions จะลงเสียงต่าท่ที า้ ย
ประโยค แลว้ ครูใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงตาม CD 2 คร้งั

6. ครูให้นกั เรียนเปรียบเทียบว่า ภาษาไทยมกี ารข้นึ เสียงสูงและลงเสียงต่าทที่ า้ ยประโยคคาถาม
เหมอื นกบั ภาษาองั กฤษหรือไม่

7. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 50 Exs. 3-4 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น

ช่ัวโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
1. ครูทบทวนขอ้ มลู ของบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 75 โดยถามนกั เรียนวา่ ใครเป็นผพู้ ูดสนทนา

Bill จะไปไหน และเขาจะเดินทางไปไดอ้ ยา่ งไร
2. ครูแจง้ นกั เรียนวา่ ชว่ั โมงน้ีนกั เรียนจะไดแ้ สดงบทบาทสมมติ

ข้นั เตรียมการ
1. ครูทาความเขา้ ใจกบั นกั เรียนเก่ียวสถานการณ์ทนี่ กั เรียนตอ้ งแสดงบทบาทสมมติ โดยถามนกั เรียนวา่

จะแสดงบทบาทสมมติในสถานการณ์ใด
2. ครูให้นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 4 คน ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มทบทวนบทสนทนาทีจ่ ะใชแ้ สดงบทบาทสมมติ

จากน้นั แบง่ บทบาทกนั ว่าใครจะเป็น Bill พนกั งานตอ้ นรับ และผูบ้ อกบทเพอื่ น 2 คน โดยครูอธิบาย
นกั เรียนว่า เนื่องจากเวลาอนั จากดั ยากทผ่ี ูแ้ สดงจะจาบทไดท้ ้งั หมด จึงตอ้ งมีผรู้ ับหนา้ ท่คี นบอกบท
ซ่ึงมคี วามสาคญั ไมแ่ พน้ กั แสดง เพราะจะทาให้การแสดงมีอรรถรสและครบถว้ นใจความ แลว้ ครูให้
เวลานกั เรียนฝึกซอ้ มแสดง

408

3. ครูเตรียมนกั เรียนที่เป็นผูช้ ม โดยบอกนกั เรียนวา่ ควรชมการแสดงโดยสงั เกตวา่ ผแู้ สดงพูดบทเป็น
ธรรมชาติหรือไม่ มกี ารแสดงสีหนา้ ทา่ ทาง การใชน้ ้าเสียงอยา่ งไร แลว้ จดบนั ทกึ ขอ้ มูล

ข้นั แสดง
1. ก่อนการแสดงครูอาจให้นกั เรียนในช้นั ช่วยกนั จดั ฉากให้ดสู มจริง โดยอาจเป็นฉากงา่ ย ๆ ทใ่ี ชเ้ วลา

จดั ไม่นาน
2. ผแู้ สดงทกั ทายและแจง้ ให้ผชู้ มทราบถงึ บทบาทของตนกอ่ นการแสดง
3. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ หมุนเวยี นออกมาแสดง โดยทาตามข้นั ตอนคือ แนะนาบทบาทของตนกอ่ นเร่ิม

แสดง และผชู้ มสังเกตการแสดงและจดบนั ทกึ

ข้นั วิเคราะห์อภปิ รายผลการสดง
1. ครูใหผ้ แู้ สดงและผบู้ อกบทเล่าถงึ ปัญหาที่พบท้งั ก่อนการแสดงและขณะแสดง โดยครูแยกเป็น

มมุ มองของผแู้ สดงและมมุ มองของผบู้ อกบท
2. ครูสอบถามความรู้สึกของผแู้ สดงและผบู้ อกบทท้งั 2 บทบาท และเขยี นบนกระดาน แลว้ สอบถาม

ผชู้ มถงึ ขอ้ มลู ท่สี งั เกตไดใ้ นการชมการแสดง จากน้นั ใหน้ กั เรียนอภิปรายร่วมกนั เกี่ยวกบั ความรู้สึก
ของตวั ละครท้งั 2 บทบาท ผ่านมมุ มองการแสดงของนกั เรียน และส่ิงทีน่ กั เรียนไดเ้ รียนรู้จาก
พฤติกรรมของตวั ละครในการแสดง

7. การวัดและการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
วธิ ีการวดั แบบประเมินการอ่านออกเสียง ระดบั คุณภาพ พอใช้

ประเมินการอา่ นออกเสียงประโยค แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60
คาถามและบทสนทนา
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่าน แบบประเมนิ การแสดงบทสนทนา/ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
บทสนทนา บทบาทสมมติ
ประเมนิ การแสดงบทบาทสมมติ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน
อนั พงึ ประสงค์
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มน่ั
ในการทางาน

409

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหัด SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) อปุ กรณ์ในการแสดงบทบาทสมมติ

410

5 Across the curriculum 6e

2 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- จบั ใจความสาคญั และลาดบั เหตุการณ์เร่ืองทฟี่ ังและอา่ นได้
- เล่าเรื่องทีอ่ า่ นได้
- เขยี นเรื่องต่อจากตอนท่ีอ่านได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหัวขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องทฟี่ ังและอ่าน พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/4 พูดและเขียนเพอ่ื ขอและให้ขอ้ มลู บรรยาย และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องทฟ่ี ัง
หรืออา่ นอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาคญั /แกน่ สาระ หวั ขอ้ เร่ือง (topic) ที่ไดจ้ ากการวิเคราะห์
เร่ือง/ข่าว/เหตุการณท์ อ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม

411

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้เกี่ยวกบั การจบั ใจความสาคญั และการเรียงลาดบั เหตกุ ารณ์ และเขา้ ใจโครงสร้างของ

บทอา่ น จะช่วยให้สามารถเลา่ เร่ืองและเขยี นเรื่องไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภาพ ตลอดจนไดเ้ รียนรู้วรรณกรรม
ของเจา้ ของภาษา

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verbs (go mad, upset, look for, fall asleep, build, explore, shine)

Nouns (area, ape, creature)

Adjectives (dark, soft)

Functions: Narrating a story

The Time Traveller went into a big stone building. There were little

people in the hall.

2) Language Skills

Listening: ฟังเพื่อจบั ใจความสาคญั

Speaking: พูดเล่าเร่ืองทีอ่ า่ น

Reading: อา่ นแลว้ เรียงลาดบั เหตุการณ์

Writing: เขียนเรื่องต่อจากตอนท่ีอา่ น

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุง่ มน่ั ในการทางาน

412

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงที่ 1

ข้นั Warm up
ครูสนทนากบั นกั เรียนเก่ียวกบั การขา้ มเวลาไปยงั อดีตและอนาคต โดยถามนกั เรียนวา่ เคยไดย้ ิน
เครื่อง Time Machine จากภาพยนตร์หรือการ์ตูนเรื่องใดบา้ ง (เช่น โดราเอมอน) จากน้นั ให้นกั เรียน
แสดงความคิดเห็นวา่ ถา้ มีโอกาสใชเ้ คร่ือง Time Machine นกั เรียนจะขา้ มไปช่วงเวลาใด ให้นกั เรียน
บอกเหตผุ ล

ข้นั Pre-reading
1. ครูให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 76 แลว้ ช่วยกนั

อธิบายความหมาย
2. หนงั สือเรียน หน้า 76 Ex. 1a ครูถามนกั เรียนวา่ เคยไดย้ นิ ชื่อ H.G. Wells หรือไม่ เขาคือใคร และ

นกั เรียนคิดว่าเขามชี ื่อเสียงในดา้ นใด จากน้นั ให้นกั เรียนอ่านประวตั ิของ H.G. Wells เพือ่ หาคาตอบ
แลว้ ครูขออาสาสมคั รบอกคาตอบ

H.G. Wells is a famous science fiction writer. He is famous for his novels such
as The Time Machine and The Invisible Man.

3. หนงั สือเรียน หน้า 76 Ex. 1b ครูบอกนกั เรียนวา่ บทอา่ นน้ีเป็นบางส่วนท่ีดึงมาจากวรรณกรรมเรื่อง
The Time Machine ใหน้ กั เรียนเดาว่าบทอา่ นน้ีน่าจะเก่ียวกบั อะไร
จากน้นั ครูอธิบายว่า นกั เรียนจะไดฟ้ ังเพือ่ จบั ใจความสาคญั ซ่ึงนกั เรียนไมจ่ าเป็นตอ้ งฟังออกหรือฟัง
ทนั ทุกคา แตใ่ หส้ นใจเฉพาะความหมายโดยรวมของเน้ือเร่ือง แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง เม่อื ฟัง
จบครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน บอกใจความสาคญั ของงเรื่อง แลว้ ครูสรุปใหฟ้ ัง เสร็จแลว้ ครูถาม
นกั เรียนว่าภาพประกอบท้งั 2 ภาพคอื ภาพอะไร และเกี่ยวขอ้ งกบั บทอ่านอยา่ งไร

413

The extract is about the time traveller who has lost his time machine.
The pictures show the time machine and a grey ape with red eyes. They are both
mentioned in the extract.

4. ครูให้นกั เรียนอา่ นประโยคท่กี าหนดใหใ้ นหนงั สือเรียน หนา้ 76 Ex. 2 แลว้ ลองเรียงลาดบั เหตุการณ์
เรื่อง The Time Machine

ข้นั Reading
หนังสือเรียน หน้า 76 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนอ่านบทอา่ นเร่ือง The Time Machine แลว้ ดกู ารเรียงลาดบั
เหตุการณ์ที่นกั เรียนเรียงไว้ และปรบั แก้ เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนเปรียบเทียบกบั เพ่อื น จากน้นั ครูเฉลย
คาตอบ

3 He woke the little people up because he couldn’t find the Time Machine.
4 He got away and looked for the Time Machine.
8 He followed the creature.
7 A strange-looking creature appeared.
5 He fell asleep on the ground.
2 There were little people in the hall.
6 He woke up and went into a dark old house.

ข้นั Post-reading
1. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นเก่ียวกบั adverbs of manner ในกรอบ Checkpoint! แลว้ ครูอธิบายให้นกั เรียน

เขา้ ใจย่ิงข้ึนว่า เราใช้ adverbs of manner เพอื่ บรรยายลกั ษณะของคากริยาโดยครูยกตวั อยา่ งประโยค
เช่น He laughs loudly. คาว่า loudly บรรยายวา่ ประธานทากริยาอยา่ งไร ในทน่ี ้ีคือหวั เราะเสียงดงั
2. ครูให้นกั เรียนดบู ทอ่านอยา่ งรวดเร็วเพอ่ื หา adverbs of manner แลว้ พดู บอกครู

loudly, quickly, well, fast, carefully

414

3. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั เล่าเร่ือง The Time Machine โดยใชป้ ระโยคทีเ่ รียงลาดบั เหตกุ ารณถ์ กู ตอ้ งแลว้

The Time Traveller went into a big stone building. There were little people in
the hall. He woke the little people up because he couldn’t find the Time
Machine. He got away and looked for the Time Machine. He fell asleep on the
ground. He woke up and went into a dark old house. A strange-looking creature
appeared. He followed the creature.

4. นกั เรียนทา Language Review 6e & Prepositions Exs. 5-6 ในหนงั สือเรียน หนา้ 110 ร่วมกนั ในช้นั
5. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 50 Exs. 1-2 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
6. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 5-6 คน ครูมอบหมายให้แตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั แปลเร่ือง The Time Machine

เป็นภาษาไทย แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มออกมาเลา่ เรื่องในชวั่ โมงหนา้

ชั่วโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
ครูใหแ้ ตล่ ะกลุ่มจากชว่ั โมงท่แี ลว้ ออกมาเล่าเร่ือง The Time Machine เป็นภาษาไทย จากน้นั ให้
นกั เรียนร่วมกนั ตดั สินว่ากลมุ่ ใดเล่าเรื่องไดน้ ่าสนใจที่สุด

ข้นั Pre-writing
1. THINK! หนังสือเรียน หน้า 76 ครูอธิบายว่านกั เรียนจะไดเ้ ขียนเร่ือง The Time Machine ต่อจาก

ตอนในบทอา่ น แลว้ ครูให้นกั เรียนจบั คู่ร่วมกนั อภิปรายวา่ เน้ือเร่ืองจะดาเนินไปอยา่ งไร ผูป้ ระดิษฐ์
เครื่อง Time Machine จะหาเครื่อง Time Machine พบหรือไม่ ถา้ หาพบ พบไดอ้ ยา่ งไร ถา้ หาไมพ่ บ
เขาจะทาอยา่ งไร แลว้ ให้นกั เรียนจดบนั ทกึ ความคิดทีอ่ ภปิ ราย
2. ครูใหน้ กั เรียนดกู ารใช้ tense ในบทอ่าน หนา้ 76 แลว้ บอกวา่ ในเน้ือเรื่องใช้ tense ใดบา้ ง (Past
simple and Past continuous)
3. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั คดิ คาศพั ทท์ ี่จะใชเ้ ขียนเน้ือเร่ือง และครูเขยี นบนกระดาน เช่น found, escaped,
forest, attacked, ran away แลว้ ครูแนะนาให้นกั เรียนใช้ adverbs of manner ในการเขียนเร่ืองดว้ ย

415

ข้นั Writing
1. ครูใหน้ กั เรียนแต่ละคู่เขยี นร่างงานเขียน โดยนาเสนอเน้ือเร่ืองตามลาดบั เหตุการณ์ทีค่ ิดไว้ แลว้ ส่งให้

ครูตรวจและใหค้ าแนะนาเพมิ่ เตมิ
2. เมื่อครูส่งร่างงานเขียนคืนแลว้ ใหน้ กั เรียนเขียนเร่ืองตามร่างงานเขยี นของตนเอง

We think the inventor followed the creature to a place where there were hundreds
of other creatures. They attacked him and wanted to eat him. He escaped and ran
through a forest. Then he found his Time Machine and got away before the
creatures could catch him.

ข้นั Post-writing
1. นกั เรียนแต่ละค่อู า่ นตรวจทานงานเขียนเพือ่ ดูความถกู ตอ้ งของการสะกดคา ไวยากรณ์ การเพมิ่ เติม

ขอ้ มูลบางส่วนทห่ี ลงลมื ไปและการตดั ขอ้ มลู ท่ีเยนิ่ เยอ้
2. ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 คู่ อา่ นเรื่องใหเ้ พอ่ื นฟัง จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังเร่ืองตอ่ จากตอนใน

บทอา่ น
3. ครูถามนกั เรียนว่าคู่ใดเขียนเรื่องไดใ้ กลเ้ คยี งกบั เร่ืองทีฟ่ ังบา้ ง ถา้ มีครูให้นกั เรียนคดู่ งั กลา่ วอ่านเรื่อง

ให้เพอ่ื นฟัง

7. การวัดและการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60
วิธกี ารวดั
ตรวจการจบั ใจความสาคญั และ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เรียงลาดบั เหตกุ ารณเ์ ร่ืองท่อี ่านหรือฟัง แบบประเมินการเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้
สังเกตการเลา่ เรื่องที่อา่ น
ประเมินการเขยี นเรื่องตอ่ จากตอน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผ่าน
ท่อี ่าน อนั พึงประสงค์
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุง่ มนั่
ในการทางาน

416

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์

417

6 Writing 6f

2 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- เลือกหัวขอ้ เรื่องใหส้ ัมพนั ธก์ บั เร่ืองทอี่ ่านได้
- เขยี นอเี มลเก่ียวกบั ส่ิงท่ีกาลงั วางแผนจะทาในระหวา่ งวนั หยดุ ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรื่องท่ีฟังและอา่ น พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตุการณ์ท่อี ยใู่ นความสนใจของสงั คม

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้และเขา้ ใจการเขยี นอีเมลแบบไม่เป็นทางการ รวมท้งั การพสิ ูจน์อกั ษร จะช่วยให้สามารถ

เขยี นสื่อสารไดอ้ ยา่ งเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ

418

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verb (explore)

Noun (harbour)

Adjectives (chilly, popular, thrilling, fabulous)

Functions: Describing plans on holiday

We arrived in Edinburgh yesterday.

We’re going to see Edinburgh Castle.

2) Language Skills

Speaking: พูดนาเสนออีเมล

Reading: อ่านแลว้ เติมคาและจบั คหู่ ัวขอ้

Writing: เขยี นอเี มลเก่ียวกบั สิ่งที่กาลงั วางแผนจะทาในระหว่างวนั หยดุ

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมน่ั ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงที่ 1

ข้นั Warm up
ครูสนทนากบั นกั เรียนเก่ียวกบั วนั หยดุ โดยถามนกั เรียนว่าไปเทยี่ วท่ีใดบา้ ง ไปกบั ใคร สถานทที่ ่ี
ไปเท่ยี วมีอะไรน่าสนใจ นกั เรียนทากิจกรรมอะไรบา้ ง และนกั เรียนประทบั ใจหรือไม่

419

ข้นั Pre-writing
1. ครูใหน้ กั เรียนอา่ น Study Skills ในหนงั สือเรียน หนา้ 77 ให้นกั เรียนช่วยกนั อา่ นและสรุปแปลเป็น

ไทยว่าประโยชน์ของ Proofreading มีอยา่ งไรบา้ ง ตอบจากความเขา้ ใจและครูอธิบายซ้าเพอื่ ความ
เขา้ ใจอกี คร้งั
2. หนังสือเรยี น หน้า 77 Ex. 1 ครูใหน้ กั เรียนดอู เี มล แลว้ บอกว่าใครเป็นผเู้ ขียน และใครเป็นผอู้ ่าน
จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นประโยคแรกของยอ่ หนา้ แรก แลว้ บอกว่าผเู้ ขยี นอยทู่ ใี่ ด

Mario is writing the email. Steve is going to read it.
Mario is on holiday in Copenhagen.

Background information
โคเปนเฮเกน (Copenhagen) เป็นเมืองหลวงและเมืองทใ่ี หญท่ ่ีสุดของประเทศ
เดนมาร์ก มปี ระชากรประมาณ 583,525 คน โคเปนเฮเกนเป็นทตี่ ้งั ของศูนยก์ ลาง
การบริหารประเทศ รัฐสภา รฐั บาล และเป็นที่ต้งั พระราชวงั หลวงในพระราชวงศ์
เดนมาร์ก โคเปนเฮเกนถือว่าเป็นเมืองเก่าแก่เมืองหน่ึงของยโุ รป ก่อต้งั ราว
คริสตศ์ ตวรรษท่ี 10 และเป็นเมอื งทใ่ี หญ่ทีส่ ุดของประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย
ทมี่ า: https://th.wikipedia.org/wiki/โคเปนเฮเกน

3. ครูให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนง้ สือเรียน หนา้ 77 ช่วยกนั
อธิบายความหมาย ถา้ คาใดไมร่ ู้ให้เปิ ดพจนานุกรม
chilly (adj) = too cold to be comfortable (หนาวยะเยอื ก)
thrilling (adj) = interesting and exciting (น่าตน่ื เตน้ )
fabulous (adj) = extremely good (เยี่ยม)

4. หนงั สือเรยี น หน้า 77 Ex. 2 นกั เรียนอา่ นประโยค a-e จากน้นั อา่ นอเี มลโดยดวู า่ ยอ่ หนา้ น้นั กล่าวถงึ
เรื่องอะไร แลว้ นาประโยคไปเติมลงในช่องวา่ ง เสร็จแลว้ อ่านอเี มลท่เี ติมประโยคสมบูรณแ์ ลว้
เพ่อื ใหแ้ น่ใจว่าประโยคท่ีเติมลงไปในช่องว่างมีความสมเหตุสมผล จากน้นั ครูให้นกั เรียนฟัง CD
เพื่อตรวจคาตอบ

420

1d 2a 3b 4c 5e

5. หนังสือเรยี น หน้า 77 Ex. 3 ครูใหน้ กั เรียนอ่านอเี มล แลว้ ครูถามวา่ แต่ละยอ่ หนา้ กล่าวถงึ อะไร
จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คู่หัวขอ้ กบั ยอ่ หนา้ ให้ถูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ

Para 1: greetings/where people are
Para 2: fixed arrangements for today
Para 3: plans for tomorrow
Para 4: closing remarks

6. ครูอธิบายภาระงานในหนงั สือเรียน หนา้ 77 Ex. 4 วา่ นกั เรียนจะไดเ้ ขยี นอเี มลถงึ เพ่ือน โดยสมมตวิ ่า
นกั เรียนอยใู่ นช่วงหยดุ พกั ผอ่ น และเขียนอเี มลถงึ เพอ่ื นเพ่ือเลา่ ใหฟ้ ังวา่ กาลงั วางแผนจะทาอะไร

7. ครูให้นกั เรียนดูโครงร่างอีเมลในกรอบสีเขียวหนังสือเรียน หนา้ 77 ครูอธิบายว่าโครงร่างน้ีแบ่งเป็ น
3 ส่วน คอื คาข้ึนตน้ เน้ือหา และคาลงทา้ ย

8. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาทกั ทายคาอ่ืนทใ่ี ชแ้ ทนคาวา่ Dear ได้ เช่น Hi แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั
บอกคาลงทา้ ยคาอ่ืนที่ใชแ้ ทนคาวา่ Take care ได้ เช่น Love จากน้นั ครูถามนกั เรียนว่าในส่วนเน้ือหา
แบ่งเป็นกี่ยอ่ หนา้ แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั สรุปวา่ แตล่ ะยอ่ หนา้ เขยี นอะไรบา้ ง

ข้นั Writing
หนังสือเรียน หน้า 77 Ex. 4 ครูให้นกั เรียนเขยี นอีเมลถึงเพ่ือนเพือ่ เล่าให้ฟังว่ากาลงั วางแผนจะทา
อะไรในระหวา่ งช่วงหยดุ พกั ผอ่ น โดยเขียนตามตวั อยา่ งโครงร่าง ความยาวประมาณ 60-80 คา

Dear Christina,
Hi! How are you? We arrived in Edinburgh yesterday and we’re really excited
about being here. We are staying at a beautiful hotel in the city centre. The
weather is a bit chilly and rainy.

421

First of all, we’re going to see Edinburgh Castle. My mum and sister can’t wait to
go shopping. My dad and I are going to go on a tour of the city. I’m also going to
visit the museum.
That’s all my news. See you in a week.
Take care,
Nina

ข้นั Post-writing
1. ครูให้นกั เรียนอ่านกรอบ Study Skills เกี่ยวกบั การพสิ ูจนอ์ กั ษร (proofreading) เพอื่ ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจ

และเห็นความสาคญั ของการตรวจทานงานเขยี นก่อนส่งงาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนตรวจทานงานเขยี น
ของตนเอง โดยดูการสะกดคา ไวยากรณ์ การใชเ้ คร่ืองหมายวรรค-ตอน และปรบั แกง้ านเขียนให้
ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ นาส่งใหค้ รูตรวจ เม่ือครูตรวจและส่งงานคนื นกั เรียนแลว้ ให้นกั เรียนเตรียมตวั
ออกมาพดู นาเสนอในชวั่ โมงหนา้
2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 51 Exs. 1-4 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

ช่ัวโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
1. ครูสุ่มถามนกั เรียน 3-4 คน เกี่ยวกบั สถานทท่ี ่ีไปเทีย่ วซ่ึงนกั เรียนเขยี นในอเี มล
2. ครูสอบถามนกั เรียนถงึ การเตรียมความพร้อมสาหรับการนาเสนออเี มล เช่น ใครใชว้ ิธีฝึกพูด

หนา้ กระจกบา้ ง ใครฝึกพูดให้ผปู้ กครองฟังบา้ ง

ข้นั Pre-speaking
1. ครูทบทวนข้นั ตอนการพูดนาเสนอผลงาน โดยให้นกั เรียนช่วยกนั บอกลาดบั ข้นั ตอนต้งั แตเ่ ริ่มตน้

แลว้ ครูเขียนสรุปบนกระดาน พร้อมท้งั ใหน้ กั เรียนบอกสานวนภาษาทีใ่ ชใ้ นการกล่าวทกั ทาย เช่น
Good morning., Good afternoon., Hello everyone. การบอกวตั ถุประสงคข์ องการนาเสนอ เช่น I am
going to read my email to my penfriend. และการปิ ดทา้ ยการนาเสนอดว้ ยการกล่าวขอบคุณ เช่น
Thank you for your attention.

422

2. ครูย้าให้นกั เรียนปฏบิ ตั ติ ามมารยาททดี่ ีในการฟัง ซ่ึงครูและนกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายไปแลว้ ใน
หน่วยการเรียนรู้ทีผ่ ่านมา เช่น ต้งั ใจฟัง ไมค่ ยุ รบกวนการนาเสนอ สบตาผพู้ ดู ยกมือเมื่อมีคาถามหรือ
ตอ้ งการขดั จงั หวะ ปรบมอื เมือ่ จบการนาเสนอ

ข้นั Speaking
ครูให้นกั เรียนออกมาพดู นาเสนองานเขียนของตนเองทเ่ี ขียนไวเ้ มอ่ื ชว่ั โมงที่แลว้ โดยครูอาจเรียกตาม
เลขทเี่ ขณะที่นกั เรียนพดู นาเสนอครูสงั เกตและจดบนั ทกึ เพอ่ื เตรียมให้ผลยอ้ นกลบั

ข้นั Post-speaking
1. ครูใหผ้ ลยอ้ นกลบั (feedback) ดา้ นการใชภ้ าษา เช่น การออกเสียง ความคล่องแคลว่ ในการพูด

รวมถงึ การใชน้ ้าเสียงและภาษาท่าทาง เพอ่ื ให้นกั เรียนนาไปปรบั ปรุง
2. นกั เรียนทา Self-Check 6 ในหนงั สือเรียน หนา้ 118
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 51 Ex. 5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

7. การวัดและการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบประเมินการเขยี น ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
วิธีการวดั
ประเมนิ การเขยี นอเี มลเก่ียวกบั สิ่งที่ แบบประเมนิ การพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
กาลงั วางแผนจะทาในระหวา่ งวนั หยดุ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผ่าน
ประเมินการพูดนาเสนองานเขียน อนั พงึ ประสงค์
สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มน่ั
ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหัด SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์

423

7 ASEAN corner 6

1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรียนรู้
- บอกรายละเอียดของเรื่องทอ่ี า่ นได้
- ออกแบบสวนหรือฟาร์ม และคดิ แผนงานวธิ ีการแบบยง่ั ยืนได้
- พูดอภิปรายขอ้ ดีและขอ้ เสียของแผนงานที่คดิ ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/3 ระบุ/เขียนประโยคและขอ้ ความใหส้ ัมพนั ธก์ บั ส่ือท่ีไมใ่ ช่ความเรียงรูปแบบตา่ ง ๆ
ทอี่ า่ น
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองทฟ่ี ังและอ่าน พร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
งา่ ย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/5 พดู และเขียนแสดงความรู้สึกและความคดิ เห็นของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ
กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/2 พดู และเขยี นสรุปใจความสาคญั แกน่ สาระ หวั ขอ้ เรื่อง (topic) ที่ไดจ้ ากการวิเคราะห์
เร่ือง/ขา่ ว/เหตกุ ารณ/์ สถานการณ์ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสังคม

424

ต 1.3 ม. 2/3 พูดและเขยี นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั กิจกรรม เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั และ
ประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลส้นั ๆ ประกอบ

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด

การเรียนรู้เกี่ยวกบั ความยงั่ ยนื ดา้ นการทาเกษตร การใชน้ ้า รวมถงึ การอนุรกั ษพ์ นั ธุพ์ ชื โดยเฉพาะ
ในประเทศกลุม่ ประชาคมอาเซียน ก่อให้เกิดประโยชน์ตอ่ ส่ิงแวดลอ้ มและเศรษฐกิจ อีกท้งั ยงั ทาให้เห็น
คุณค่าและความสาคญั ของการรกั ษาสิ่งแวดลอ้ ม

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verbs (conserve, aim, divide)

Nouns (sustainability, gardening, farming, environment, electricity, solar

energy, pest, economy, tourism, theory, agriculture, rice paddies,

fertiliser, pond, stability, factor)

Adjective (unique)

2) Language Skills

Speaking: พดู อภปิ รายขอ้ ดีและขอ้ เสียของแผนงานทค่ี ิด

Reading: อ่านเพ่ือหาขอ้ มลู เฉพาะ

Writing: เขยี นแผนงานวธิ ีทาสวนหรือฟาร์มให้เป็นแบบยง่ั ยนื

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) ม่งุ มน่ั ในการทางาน

425

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm up
1. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นว่า ประเทศใดในกลมุ่ ประชาคมอาเซียนท่มี รี ะบบจดั การน้า

เพ่ือนากลบั มาใชใ้ หม่ทีม่ ปี ระสิทธิภาพ
2. ครูถามนกั เรียนว่าเคยไดย้ ินคาว่า “เกษตรทฤษฎีใหม่” หรือไม่ แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกขอ้ มูลที่รู้

ข้นั Pre-reading

1. ครูขียนคาว่า sustain และ ability บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนเปิ ดหาความหมายในพจนานุกรม

จากน้นั ครูเขียนคาว่า sustainability แลว้ ให้นกั เรียนเดาความหมาย

sustain (v) = to make something continue to exist or happen for a period of time

(รกั ษาไว,้ ทาให้มีต่อไป)

ability (n) = the state of being able to do something (ความสามารถ)

sustainability (n) = the ability to continue or be continued for a long time (ความยงั่ ยืน)

2. ครูให้นกั เรียนอา่ นช่ือเร่ือง Sustainability for the future และดูภาพประกอบในหนงั สือเรียน หนา้ 78

แลว้ แสดงความคิดเห็นว่าเร่ืองทจี่ ะไดอ้ า่ นนา่ จะเก่ียวขอ้ งกบั อะไร

3. ครูให้นกั เรียนอ่านบทอา่ นอยา่ งรวดเร็วเพื่อหาคาศพั ทย์ าก แลว้ พูดบอกครู โดยครูเขียนคาศพั ทท์ ่ี

นกั เรียนบอกบนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงพร้อมกนั แลว้ หาความหมายใน

พจนานุกรม หรือครูช่วยอธิบายความหมาย

conserve (v) = to protect something and prevent it from changing or being damaged

(อนุรักษ)์

aim (v) = to try or intend to achieve something (ต้งั เป้าหมาย)

pest (n) = an insect or animal that destroys plants, food etc. (สัตวท์ ่รี บกวนหรือ

ทาลาย)

unique (adj) = being the only one of its kind (เป็นเอกลกั ษณ์)

theory (n) = the principles on which a particular subject is based (ทฤษฎี)

divide (v) = to separate or make something separate into parts (แบง่ )

pond (n) = a small area of fresh water, especially one that is artificial (บอ่ น้า)

paddy (n) = a field in which rice is grown (นาขา้ ว)

fertiliser (n) = a substance added to soil to make plants grow more successfully (ป๋ ยุ )

factor (n) = one of several things that cause or influence something (ปัจจยั )

426

4. ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่กนั แลว้ อา่ นประโยค 1-5 ในหนงั สือเรียน หนา้ 78 Ex. 1 แลว้ ขดี เสน้ ใตค้ าสาคญั
ในประโยค จากน้นั ช่วยกนั คดิ วา่ ประโยคใดถกู และประโยคใดผดิ

ข้นั Reading
หนังสือเรยี น หน้า 78 Ex. 1 ครูใหน้ กั เรียนอา่ นบทอา่ น โดยมองหาคาพอ้ งความหมาย (synonym)
คาทีม่ ีความหมายตรงกนั ขา้ ม (opposite) หรือกลมุ่ คา/วลี ทม่ี คี วามหมายเหมือนกนั หรือตา่ งกนั กบั
คาสาคญั ที่ขดี เส้นใตไ้ ว้ แลว้ ปรบั แกค้ าตอบของตนเอง จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5 คู่ เฉลยคาตอบ

1T 2F 3F 4T 5T

ข้นั Post-reading

หนงั สือเรียน หน้า 78 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5-6 คน แลว้ ให้แตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั
ออกแบบสวนหรือฟาร์มของตนเอง โดยคดิ แผนงานสาหรบั ทาให้เป็นสวนหรือฟาร์มแบบยงั่ ยนื
จากน้นั ให้แต่ละกลุ่มร่วมกนั อภิปรายถึงขอ้ ดีและขอ้ เสียของแผนงานท่ีคิด เสร็จแลว้ ให้แตล่ ะกลุ่ม
นาเสนอผลงานการออกแบบ แผนงาน รวมถงึ ขอ้ ดีและขอ้ เสียของแผนงาน

7. การวดั และการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
สมดุ นกั เรียน ร้อยละ 60
วิธีการวดั แบบประเมนิ ชิ้นงาน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ น
ประเมินชิ้นงานออกแบบสวนหรือ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น
ฟาร์มแบบยงั่ ยืน อนั พึงประสงค์
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมน่ั
ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
3) พจนานุกรมออนไลน์

427

8 O-NET practice & Fun time 6

1 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- ทบทวนคาศพั ทแ์ ละไวยากรณ์ทเ่ี รียนมาแลว้ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 6
- เขยี น quiz เก่ียวกบั เน้ือหาทเ่ี รียนมาแลว้ ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหัวขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องทฟี่ ังและอา่ น พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ โครงสร้างภาษา ช่วยให้พดู /เขยี นสื่อสาร และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาได้

อยา่ งเหมาะสม

428

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: คาศพั ทใ์ นหน่วยการเรียนรู้ที่ 6

Grammar: ไวยากรณใ์ นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 6

2) Language Skills

Listening: ฟังเพือ่ หาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขียน quiz เกี่ยวกบั เน้ือหาทเี่ รียนมาแลว้

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
- มุ่งมน่ั ในการทางาน

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm up
ครูใหน้ กั เรียนเขียนคาศพั ทต์ ามท่คี รูบอก โดยครูบอกคาศพั ทท์ ้งั หมด 10 คา จากน้นั ครูสุ่มเรียก
นกั เรียนหลาย ๆ คน ออกมาเขียนคาศพั ทบ์ นกระดาน ครูตรวจความถูกตอ้ ง และให้นกั เรียนแลกกนั
ตรวจ เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นคาศพั ทพ์ ร้อมกนั

ข้นั Presentation
1. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาศพั ทท์ ่เี รียนในหน่วยการเรียนรู้น้ี
2. นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน ครูทบทวนไวยากรณท์ เ่ี รียนในหน่วยการเรียนรู้น้ี โดยใหน้ กั เรียนบอก

โครงสร้างและหลกั การใช้ ครูเขียนในรูป mind map

429

will

Conditiona ไวยากรณ์ be going to
ls (types 0, หน่วยการ
เรียนรู้ท่ี 6
1, 2)
Present
continuous

(future
meaning)

ข้นั Practice
1. หนังสือเรียน หน้า 80 Ex. 1 ครูแบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทีม ให้แตล่ ะทมี แขง่ กนั ออกมาเขยี นคาศพั ทบ์ น

กระดานให้ถูกตอ้ งตามภาพ ทมี ใดเขยี นเสร็จกอ่ นและเขยี นถูกตอ้ งท้งั หมดจะเป็นผชู้ นะ

1 castle 2 museum 3 aquarium
4 amusement park 5 shopping centre 6 art gallery

2. หนังสือเรยี น หน้า 80 Ex. 2 ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่กบั เพื่อน ช่วยกนั ทา quiz โดยหา้ มเปิ ดดเู น้ือหา
เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบคาตอบกบั คู่อ่นื จากน้นั ครูจึงเฉลยคาตอบ

1F 2T 3F 4T 5F 6F

3. หนงั สือเรียน หน้า 80 GAME ครูแบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทีม แลว้ ให้แตล่ ะทมี ส่งตวั แทนออกมาเลน่ เกม
คร้งั ละ 1 คน โดยใหต้ วั แทนทมี แรกพูดประโยคเง่ือนไขส่วนทมี่ ี if และตวั แทนอกี ทมี หน่ึงจะตอ้ งพดู
ประโยคส่วนท่เี หลือ ถา้ พูดประโยคไดถ้ กู ตอ้ งตามไวยากรณ์และมีความหมายสอดคลอ้ งกบั ประโยค
ท่ีมี if จะได้ 1 คะแนน ทีมใดไดค้ ะแนนมากกวา่ จะเป็นผชู้ นะ
Team A S1: If I mix red and yellow, …

430

Team B S1: I get orange.
If the weather isn’t fine, …

4. หนังสือเรยี น หน้า 80 Ex. 4 ครูให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน แลว้ เปิ ดเพลงให้นกั เรียนฟัง
พร้อมท้งั ดเู น้ือเพลงตามไปดว้ ย เม่ือฟังเพลงจบให้แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็นวา่ เน้ือเพลงท่ี
ร้องวา่ “Live in the moment, tomorrow’s too late” นกั ร้องหมายความวา่ อยา่ งไร จากน้นั ใหต้ วั แทน
แต่ละกลมุ่ พดู ความคดิ เห็นของกลมุ่ ใหค้ รูและกลมุ่ อ่ืนฟัง

I think the singer means that you should live life to the fullest. You should travel
and see the world before it’s too late.

5. หนงั สือเรยี น หน้า 79 O-NET practice ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ สอบ เสร็จแลว้ ตรวจคาตอบร่วมกนั
ถา้ นกั เรียนไม่เขา้ ใจ ให้ครูอธิบายเพ่มิ เตมิ

Ex. 1 1 A a, B c 2 A d, B c
Ex. 2 1 c 2 b 3 c 4 a 5 c

ข้นั Production
หนังสือเรียน หน้า 80 Ex. 3 นกั เรียนจบั คู่กนั แลว้ ครูแจกกระดาษให้คู่ละ 1 แผน่ ให้แตล่ ะคู่คดิ
คาถาม quiz 5-6 ขอ้ เก่ียวกบั เน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดดูเน้ือหาได้ และให้
นกั เรียนเขียนคาตอบไวด้ า้ นหลงั กระดาษ เมือ่ ทกุ คคู่ ูค่ ิดคาถามเสร็จแลว้ ให้แลกกนั ทา quiz กบั คู่อน่ื

1 Double-decker buses in London are black. (F)
2 H.G. Wells was a famous writer. (T)
3 You can see the Crown Jewels in Brussels. (F)
4 London is a good city to visit if you like shopping. (T)
5 You can see aquatic animals in an aquarium. (T)
6 Tivoli Gardens is in Copenhagen. (T)

431

7. การวัดและการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
- ร้อยละ 60
วธิ กี ารวดั
ตรวจการเขียน quiz เก่ียวกบั เน้ือหา แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น
ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 อนั พึงประสงค์
สงั เกตความมุ่งมน่ั ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2

432

7 Experiences

เวลาเรียน 14 ช่ัวโมง

1 สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ และบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การ
อ่าน
ต 1.1 ม. 2/3 ระบุ/เขยี นประโยคและขอ้ ความให้สมั พนั ธก์ บั ส่ือท่ไี ม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ
ทอ่ี ่าน
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองทฟี่ ังและอา่ น พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
งา่ ย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลีย่ นขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณต์ า่ ง ๆ
ในชีวติ ประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/4 พูดและเขียนเพอ่ื ขอและใหข้ อ้ มลู บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องท่ฟี ัง
หรืออา่ นอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/5 พดู และเขยี นแสดงความรู้สึกและความคดิ เห็นของตนเองเก่ียวกบั เร่ืองต่าง ๆ
กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลประกอบอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน

433

ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/

เหตกุ ารณ์ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 2/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาคญั /แก่นสาระ หัวขอ้ เรื่อง (topic) ที่ไดจ้ ากการวเิ คราะห์

เร่ือง/ข่าว/เหตุการณ์ท่อี ยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 2/3 พดู และเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั กิจกรรม เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั และ

ประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลส้นั ๆ ประกอบ
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและ

วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม. 2/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา

กับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ช้ีวดั
ต 2.2 ม. 2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียง

ประโยคชนิดต่าง ๆ และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศ
และภาษาไทย
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื และเป็ น
พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 2/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เท็จจริงท่ีเก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่ืน
จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพูด/การเขยี น
สาระที่ 4 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองทเี่ กิดข้นึ ในห้องเรียน
สถานศึกษา และชุมชน

434

2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การเรียนรู้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างภาษา จะช่วยให้เขา้ ใจใจความสาคญั สามารถบอก
รายละเอียด ลาดบั เหตุการณ์ และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เร่ืองที่อา่ นและฟัง รวมถึงสามารถนาส่ิงที่
เรียนรู้ไปใชใ้ นการพูด เขยี น แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ประสบการณ์ของบคุ คล เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั การ
ท่องเทย่ี วเชิงอนุรักษ์ รวมถงึ พูดแสดงความเห็นใจและเขยี นรายงานผลสารวจได้ นอกจากน้ียงั สามารถ
ใชส้ ื่อเทคโนโลยคี น้ ควา้ ขอ้ มลู ตลอดจนเขา้ ใจความเหมอื นและความแตกตา่ งของภาษาไทยกบั
ภาษาองั กฤษ

3 สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Special activities (ride in a hot-air balloon, feed sharks, dive from a
waterfall, fly a helicopter, climb Mount Everest, explore a rainforest,
swim with dolphins, try skydiving, ride a camel in the desert, do a bungee
jump, volunteer, overseas, ride an elephant, swim with dolphins, take
pictures underwater, run a marathon, drive a racing car, play rugby in
an international match, run with bulls)
Embarrassing situations (forget someone’s name, fall asleep during a
test, spill a drink on someone, get on the wrong train/bus, forget an
appointment, tear clothes, slip and fall down, take the wrong luggage,
walk into a glass door, break sth in a shop, think someone is waving at
you, eat something too spicy)
Adjectives describe activities (exciting, dangerous, challenging, scary,
exhausting, fun, difficult, tiring, risky, interesting)
Words/Phrases related to report statistics (half of, the majority of, some
of, a few of, very few of, most of, no one, everyone)
Verbs (destroy, let off a rocket, race, breed, protect, feed, decrease,
increase, prefer, like, conserve, trek)
Nouns (experience, adventurer, coral reef, space, species, diver, jungle
hike, view, hummingbird, ruins, resort, shopping mall, mirror, cheeks,
sliding doors, swollen nose, black eye, sight, crab, wet season, cliff,

435

Grammar: crossing, tunnel, migration, nest, algae, hunting, pollution, package tour,
Functions: survey report, classmates, result, per cent, ecotourism, environment,
well-being, local guide, jungle, kayaking, village lodge, homestay,
funeral, ritual)
Adjectives (curious, underwater, ancient, challenging, spectacular, rare,
embarrassing, naughty, shady, awesome, responsible, fantastic,
mysterious))
Adverb (overnight)
Asking for opinions (What do you think of …?, What’s your opinion?)
Expressing opinions (In my opinion, it’s dangerous., Personally, I think
… ., I see what you mean, … ., Good point, (but) … ., To tell you the truth
it’s … .)
Present perfect
just - already - yet - for - since - ever - never
Present perfect & Past simple
Question tags
Talking about experiences
Ian went to India last summer. He went with his two friends, Mark and
Tony.
Have you ever slipped and fallen down?
Yes, it was yesterday when I slipped and fell down and I felt very
embarrassed.
Giving opinions about activities
I’d like to do a bungee jump.
Me too. I think it would be exciting.
Expressing sympathy
I don’t believe it!
Oh dear!
Sharing opinions
What do you think of bungee jumping?
Personally, I think it’s dangerous.

436

Describing amazing sights

Red crabs in Australia race cross busy roads and climb over walls to get

to the beach to breed.

Reporting survey result

Most of the people like going to the cinema, but a few of them prefer

going to the theatre.

Pronunciation: intonation in question tags

She can’t come, can she?

Jane is here, isn’t she?

/I/: feel, these, he’s

/i:/: cliff, this, visit

2) Language Skills

Listening: ฟังและเรียงลาดบั เหตกุ ารณ์, ฟังการออกเสียงคาถาม Question tags,

ฟังเพื่อจบั ใจความสาคญั , ฟังการออกเสียงประโยค

Speaking: พูดแลกเปลย่ี นความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การทากิจกรรม, พูดถาม-ตอบเก่ียวกบั

ประสบการณ์, พดู สนทนาเก่ียวกบั ประสบการณ์ทนี่ ่าอายและแสดง

ความเห็นใจ, พดู สนทนาแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การกระโดดบนั จ้ีจมั พ,์

พูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั สถานทีท่ อ่ี ยากไปเที่ยวในเรื่องท่อี ่าน, พูด

นาเสนอรายงานผลสารวจ, พดู แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ส่ิงที่ควรทาและ

ไมค่ วรในการท่องเท่ยี วแบบ ecotourism

Reading: อ่านเพ่อื หาขอ้ มูลเฉพาะ, อ่านเพ่ือจบั ใจความสาคญั , อา่ นและเลอื กคาตอบ

Writing: เขียนแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ความประทบั ใจจากเร่ืองทีอ่ า่ น,

เขียนเลา่ เร่ืองจากเรื่องท่ีฟัง, เขียนประโยคเกี่ยวกบั ตนเองหรือสมาชิกใน

ครอบครัวตามโครงสร้างที่เรียน, เขยี นเกี่ยวกบั ประสบการณน์ ่าอายของ

ตนเอง, แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ทก่ี าหนด, เขยี นเก่ียวกบั สิ่งที่

นกั ท่องเทย่ี วควรจะมาดูในประเทศไทย, เขียนรายงานผลสารวจเก่ียวกบั

ภาพยนตท์ ี่เพอ่ื นชอบ

3) Cultures สถานที่ทอ่ งเทย่ี ว

437

4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มน่ั ในการทางาน

6 ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1) เขียนแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ความประทบั ใจจากเรื่องท่ีอา่ น
2) เขยี นเลา่ เรื่องจากเร่ืองทฟี่ ัง
3) เขียนประโยคเก่ียวกบั ตนเองหรือสมาชิกในครอบครัวตามโครงสร้างที่เรียน
4) พูดสนทนาเกี่ยวกบั ประสบการณ์ทนี่ ่าอาย
5) เขียนเล่าประสบการณ์ทนี่ ่าอายของตนเอง
6) แตง่ บทสนทนาตามสถานการณท์ ีก่ าหนด
7) พูดสนทนาตามสถานการณท์ ่กี าหนด
8) ทาโครงงาน “Amazing Sights!”
9) เขียนรายงานผลสารวจเกี่ยวกบั ภาพยนตร์ท่ีเพือ่ นชอบ
10) พดู นาเสนอรายงานผลสารวจ
11) ชิ้นงานโปสเตอร์แนะนานกั ทอ่ งเท่ียว

7 การวดั และการประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ ก่อนเรียน
7.2 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
7.3 การประเมินหลงั เรียน
7.4 การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

438

1 Reading 7a & Vocabulary 7a

2 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรียนรู้
- บอกรายละเอียด แสดงความคิดเห็น และลาดบั เหตุกาณ์เก่ียวกบั เรื่องทฟ่ี ังและอ่านได้
- พูดแลกเปล่ียนความคดิ เห็นเก่ียวกบั การทากิจกรรมได้
- เขียนบรรยายประสบการณ์ของบุคคลได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองท่ีฟังและอ่าน พร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/4 พดู และเขยี นเพ่ือขอและให้ขอ้ มลู บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองท่ีฟัง
หรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/5 พูดและเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกบั เรื่องต่าง ๆ
กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลประกอบอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขยี นบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และข่าว/
เหตุการณ์ทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสังคม

439

ต 1.3 ม. 2/3 พดู และเขียนแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั กิจกรรม เร่ืองต่างๆ ใกลต้ วั และ
ประสบการณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลส้นั ๆ ประกอบ

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างภาษา จะช่วยให้เขา้ ใจและสามารถบอกรายละเอยี ด

รวมถงึ ลาดบั เหตกุ ารณ์ของเรื่องทอ่ี ่านและฟังได้ นอกจากน้ียงั สามารถนาสิ่งทเี่ รียนรู้ไปใชใ้ นการพดู
เขยี น และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั ประสบการณ์ของบุคคลได้

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Special activities (ride in a hot-air balloon, feed sharks, dive from a
waterfall, fly a helicopter, climb Mount Everest, explore a rainforest,
swim with dolphins, try skydiving, ride a camel in the desert, do a bungee
jump, volunteer, overseas, ride an elephant, swim with dolphins, take
pictures underwater, run a marathon, drive a racing car, play rugby in
an international match, run with bulls)
Adjectives describe activities (exciting, dangerous, challenging, scary,
exhausting, fun, difficult, tiring, risky, interesting)
Verbs (destroy, let off a rocket)
Nouns (experience, adventurer, coral reef, space, species, diver, jungle
hike, view, hummingbird, ruins, resort)
Adjectives (curious, underwater, ancient, challenging, spectacular, rare)
Functions: Talking about experiences
Ian went to India last summer. He went with his two friends, Mark and
Tony.
Giving opinions about activities
I’d like to do a bungee jump.
Me too. I think it would be exciting.
2) Language Skills
Listening: ฟังและเรียงลาดบั เหตกุ ารณ์

440

Speaking: พูดแลกเปล่ยี นความคดิ เห็นเก่ียวกบั การทากิจกรรม
Reading: อ่านเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ
Writing: เขยี นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั ความประทบั ใจจากเรื่องทีอ่ า่ น,
เขยี นเล่าเร่ืองจากเร่ืองที่ฟัง

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมนั่ ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงที่ 1

ข้นั Warm up
1. นกั เรียนอา่ นชื่อหน่วยการเรียนรู้ (Experiences) ในหนงั สือเรียน หนา้ 81 แลว้ ร่วมกนั แสดงความ

คิดเห็นว่าน่าจะเก่ียวขอ้ งกบั อะไร
2. Find the page numbers for หน้า 81 ครูใหน้ กั เรียนหาว่าภาพท่เี ก่ียวขอ้ งกบั ท้งั 3 คาน้ีอยใู่ น

หนงั สือเรียนหนา้ ใด เมือ่ หาพบแลว้ ครูถามคาถามเพือ่ สนทนากบั นกั เรียน

pie charts (p. 89)
Do you use pie charts at school? If yes, in which subject?
Do you think they are useful? Why (not)?
an ancient city (p. 82)
What do you know about this city? Have you ever visited an ancient city?
Which one? When?

441

a blog (p. 86)
Do you write/read a blog? If yes, what’s it called? What’s it about?
If no, would you like to? Why (not)?

ข้นั Pre-reading
1. หนงั สือเรยี น หน้า 81 Ex. 1 นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน แลว้ ฟังวลีเกี่ยวกบั กิจกรรมพิเศษและออกเสียง

ตาม โดยครูเปิ ด CD ใหฟ้ ัง 2 คร้งั จากน้นั ให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน อา่ นออกเสียงวลีพร้อมกนั
และอธิบายความหมายโดยเดาจากภาพ
2. ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียง adjective ตามครู จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมาย คาใดไม่
รู้ ให้เปิ ดพจนานุกรม หรือครูช่วยอธิบาย

challenging (adj) = difficult in an interesting way that tests your ability (ที่ทา้ ทาย
ความสามารถ)

exhausting (adj) = making you feel very tired (ซ่ึงเหนด็ เหนื่อย)
3. ครูสอนโครงสร้างประโยคท่ีใชบ้ อกส่ิงทอ่ี ยากทาและไม่อยากทา โดยยกตวั อยา่ ง เช่น I would like to

watch a new film. I wouldn’t like to clean my bedroom. แลว้ ขีดเสน้ ใต้ would like อธิบายวา่ would
like หมายความว่า ตอ้ งการ, อยาก แลว้ ครูให้นกั เรียนสังเกตว่า would like จะตามดว้ ยอะไร (to +
infinitive)
4. ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ผลดั กนั พูดบอกกิจกรรมท่ีอยากทาและไมอ่ ยากทา พร้อมท้งั บอกเหตผุ ลโดยใช้
adjective ทเ่ี รียนไป

I’d like to ride in a hot-air balloon. I think it’s exciting.
I wouldn’t like to try skydiving. I think it’s scary.

5. หนังสือเรยี น หน้า 82 Ex. 1 ครูใหน้ กั เรียนดูภาพและจินตนาการว่าตนเองอยทู่ ีส่ ถานที่ในแต่ละภาพ
แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั บรรยายวา่ เห็นอะไร ไดย้ ินอะไร และไดก้ ลิน่ อะไร

442

The first picture shows a person scuba diving under the sea and a large fish
swimming in front of her. I can see a large yellow fish with white spots and some
smaller fish. I can’t hear anything except my own breathing and I can’t smell
anything.
The second picture shows an ancient ruined city on top of a mountain. I can see
stone buildings and green mountains. I can smell the fresh air and the green grass
and I can hear insects humming. I can feel a gentle breeze.
The third picture shows bulls and crowd of people. I can see bulls running on the
road. I can see men wearing white and red clothes running with bulls. I can hear the
hooves of the bulls clattering on the road and I can hear the men shouting and
cheering. I can smell an animal smell.

6. นกั เรียนอา่ นออกเสียงคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words แลว้ ช่วยกนั อธิบายความหมาย ถา้ คาใด

นกั เรียนไม่รู้ ครูช่วยอธิบาย

curious (adj) = wanting to know about something (อยากรู้อยากเห็น)

jungle hike (n) = a long walk in the thick tropical forest (การเดินป่ า)

spectacular (adj) = very impressive (ตืน่ ตา, น่าประทบั ใจ)

ruins (n) = the parts of a building that remain after it has been destroyed or

severely damaged (ซากปรักหกั พงั )

let off a rocket (phrv) = to make a rocket explode (จุดพลสุ ัญญาณ)

7. นกั เรียนอ่านชื่อสถานท่ที ้งั 3 แห่ง แลว้ ครูถามนกั เรียนว่ารู้จกั สถานที่เหล่าน้ีหรือไม่ จากน้นั ให้

นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 3 คน ให้แต่ละกลุ่มต้งั คาถามเกี่ยวกบั สถานทท่ี ้งั 3 แห่ง มาสถานทลี่ ะ

1 คาถาม เสร็จแลว้ ให้นาเสนอคาถามของตนเอง ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เลือกคาถามทีน่ ่าสนใจ

สถานที่ละ 1 คาถาม โดยครูเขยี นคาถามบนกระดาน

Where is the person scuba diving? (The Great Barrier Reef, Australia)
Where are these ancient ruins? (Peru)
Why are the bulls chasing the men? (It’s a festival)

443


Click to View FlipBook Version