1 festival 2 gratitude 3 respectful
4 golden 5 jealous 6 had prayed
7 embarrassed 8 drought, famine 9 traditional
10 celebrate, fancy parades
ข้นั Production
หนงั สือเรียน หน้า 30 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มคน้ ควา้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั ตานานในประเทศไทย
หรือในประเทศกล่มุ ประชาคมอาเซียนจากอนิ เทอร์เน็ต กลมุ่ ละ 1 ตานาน แลว้ นาขอ้ มลู มาจดั ทาเป็น
การ์ตนู ช่องเพื่อนาเสนอในคร้งั ตอ่ ไป
7. การวดั และการประเมนิ ผล
วิธีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ร้อยละ 60
ตรวจการตอบคาถามจากเร่ืองท่ีอ่าน สมุดนกั เรียน ระดบั คุณภาพ พอใช้
ประเมินชิ้นงานการ์ตูนช่องเกี่ยวกบั แบบประเมินช้ินงาน ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ตานานของไทยหรือประเทศกลุม่
ประชาคมอาเซียน
สังเกตความใฝ่ เรียนรู้และความมงุ่ มนั่ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ
ในการทางาน อนั พึงประสงค์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
3) พจนานุกรมออนไลน์
4) อนิ เทอร์เนต็
144
Whorksheet 1
Complete the sentences.
1. Boon Bung Fai is a famous in the countries along the Mekhong River.
2. During the festival, people launch the rockets into the sky to ask for rain and show
to the rain god ‘Phaya Thaen’.
3. The legend says that Phaya Thaen was the most god until the Lord Buddha was
born as ‘Phaya Khankhaak’.
4. Phaya Khankhaak was ugly but his skin was .
5. People become to pay respect to Phaya Khankhaak instead. Phaya Thaen felt angry and
, so he did not let the rain fall down to the earth for 8 years and 8 months.
6. Another legend says that Lord Buddha to Phaya Thaen to transform him, into a
man named ‘Phadaeng’, after that he fell in love with ‘Ai Kham’.
7. The couple became the king and the queen. People paid respect to the couple and forgot Phaya
Thaen. This caused him angry and .
8. Phaya Thaen with Phaya Naga stopped making the rain and this brought and
to the earth.
9. Since then, sending self-made rockets into the sky has become .
10. Nowadays, people the festival with , a stage performance
of the famous love story’Phadaeng-Nang Ai’ and other night entertainments.
145
8 O-NET practice & Fun time 2
1 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- ทบทวนคาศพั ทแ์ ละไวยากรณท์ ่ีเรียนมาแลว้ ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 2
- เขยี น quiz เก่ียวกบั เน้ือหาท่ีเรียนมาแลว้ ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพือ่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟี่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหัวขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองทฟี่ ังและอา่ น พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ โครงสร้างภาษา ช่วยให้พูด/เขียนส่ือสาร และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาได้
อยา่ งเหมาะสม
146
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: คาศพั ทใ์ นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 2
Grammar: ไวยากรณ์ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 2
2) Language Skills
Writing: เขยี น quiz เก่ียวกบั เน้ือหาทีเ่ รียนมาแลว้
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
- มงุ่ มนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm up
นกั เรียนเปิ ดดหู นงั สือเรียน หนา้ 31-32 แลว้ บอกครูว่ากิจกรรมท่ีนกั เรียนคิดว่าจะไดท้ าในชวั่ โมงน้ี
มีอะไรบา้ ง
ข้นั Presentation
1. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาศพั ทท์ เี่ รียนในหน่วยการเรียนรู้น้ี โดยแยกตามหมวดหมู่คาศพั ท์
2. นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน ครูทบทวนไวยากรณ์ท่ีเรียนในหน่วยการเรียนรู้น้ี โดยให้นกั เรียนบอก
โครงสร้างและหลกั การใช้ ครูเขยี นในรูป mind map จากน้นั สุ่มเรียกนกั เรียนแตง่ ประโยคโดยใช้
ไวยากรณท์ เ่ี รียน
147
Past simple
(regular &
irregular verbs
Prepositions ไวยากรณ์
of หน่วยการ
เรียนรู้ที่ 2
movement
Used to
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 32 Ex. 1 ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน ใหแ้ ต่ละกลมุ่ แขง่ กนั เลน่ เกม
โดยอา่ นคาใบท้ ใ่ี หม้ าแลว้ ทายวา่ คือใคร กลุม่ ใดทายไดค้ รบทุกขอ้ กอ่ นให้ยกมือข้นึ แลว้ ครูอา่ นคาใบ้
ใหก้ ลุม่ ดงั กลา่ วบอกชื่อบุคคล โดยให้กลมุ่ ทเ่ี หลอื ช่วยกนั ตรวจวา่ ถกู หรือไม่
1 Marie Curie 2 the Romans 3 Finn MacCool
4 Pocahontas 5 Abraham Lincoln
2. หนงั สือเรยี น หน้า 32 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนทา quiz โดยหา้ มเปิ ดดูเน้ือหา เพื่อทดสอบความจาของ
นกั เรียน จากน้นั ครูเฉลยคาตอบ และใหน้ กั เรียนปรบมอื ชมเชยเพ่ือนคนท่ตี อบถูกมากท่สี ุด
1 an American president 2 enemy 3 science-fiction
4 real name 5 1865
3. หนงั สือเรยี น หน้า 32 GAME ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 5 กลุม่ ให้แต่ละกลุ่มใชค้ าทกี่ าหนดให้ในกรอบ
ท้งั สองแตง่ ประโยคภายในเวลาทคี่ รูกาหนด เมอ่ื หมดเวลาครูให้ตวั แทนกลมุ่ อ่านประโยคทแ่ี ต่ง ถา้
แต่งประโยคถูกตอ้ งจะไดป้ ระโยคละ 1 คะแนน กลมุ่ ทม่ี ีคะแนนมากที่สุดจะเป็นผชู้ นะ
148
Pocahontas tried to promote peace.
Good parents teach their children to have good manners.
Ash from the volcanic eruption filled the atmosphere.
Angelina Jolie is famous for her full lips.
My sister has curly hair.
The Maya built magnificent stone buildings.
The Giant’s Causeway is a true wonder of nature.
The Maya was an ancient civilisation around Central America.
Of all Britain’s myths and legends, King Arthur is probably the most famous.
My brother is an honest person.
4. หนังสือเรียน หน้า 32 Ex. 4 นกั เรียนจบั ค่กู นั อา่ นเน้ือเพลง และเตมิ คาลงในช่องวา่ ง จากน้นั ครูเปิ ด
CD ให้นกั เรียนฟังเพลง เม่อื ฟังจบครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ
1 fight 2 around 3 true
4 strong 5 place
5. หนงั สือเรียน หน้า 31 O-NET Practice ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ สอบ เสร็จแลว้ ตรวจคาตอบร่วมกนั
ถา้ นกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจ ให้ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ
Ex. 1 1 A d, B b 2 A c, B a
Ex. 2 1 c 2 b 3 d 4 c 5 a
149
ข้นั Production
หนงั สือเรยี น หน้า 32 Ex. 3 นกั เรียนจบั คู่กนั แลว้ ครูแจกกระดาษให้คลู่ ะ 1 แผน่ ให้แต่ละคู่เขียน
quiz 5-6 ขอ้ เก่ียวกบั เน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 โดยดู Ex. 2 เป็นตน้ แบบ ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดดู
เน้ือหาได้ และยกตวั อยา่ งให้ดูบนกระดาน เช่น Pocahontas was from … . (Virginia, USA) โดยให้
นกั เรียนเขียนคาตอบไวด้ า้ นหลงั กระดาษ เมื่อทกุ คู่เขียนเสร็จแลว้ ใหแ้ ลกกนั ทา quiz กบั คอู่ น่ื
1 The Mayan civilisation lasted for … . (over 2,000 years)
2 Powhatan was … . (Pocahontas’ father and an important Indian chief)
3 John Cusack stars in … . (2012)
4 Benandonner was from ... . (Scotland)
5 Pocahontas married ... . (John Rolfe)
6 Abraham Lincoln was … President of the USA. (the 16th)
7. การวดั และการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
- ร้อยละ 60
วิธีการวดั
ตรวจการเขียน quiz เก่ียวกบั เน้ือหา แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ประสงค์
สงั เกตความมุ่งมนั่ ในการทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
150
3 Let’s Party!
ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 2 เวลาเรียน 14 ช่ัวโมง
1 สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ข่าว ประกาศ และบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม. 2/3 ระบุ/เขยี นประโยคและขอ้ ความใหส้ ัมพนั ธก์ บั ส่ือที่ไมใ่ ช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ
ท่ีอา่ น
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องที่ฟังและอ่านพร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลยี่ นขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณต์ า่ ง ๆ
ในชีวติ ประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/4 พูดและเขียนเพ่ือขอและใหข้ อ้ มลู บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองทฟ่ี ัง
หรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/5 พูดและเขยี นแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ
กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตกุ ารณท์ ่อี ยใู่ นความสนใจของสังคม
151
ต 1.3 ม. 2/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาคญั /แกน่ สาระ หวั ขอ้ เร่ือง (topic) ทไ่ี ดจ้ ากการวิเคราะห์
เรื่อง/ข่าว/เหตกุ ารณท์ อี่ ยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 2/3 พูดและเขยี นแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั กิจกรรม เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และ
ประสบการณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลส้นั ๆ ประกอบ
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม. 2/2 อธิบายเกี่ยวกบั เทศกาล วนั สาคญั ชีวติ ความเป็นอยู่ และประเพณีของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม. 2/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ช้ีวดั
ต 2.2 ม. 2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียง
ประโยคชนิดต่าง ๆ และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศ
และภาษาไทย
ต 2.2 ม. 2/2 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างชีวิตความเป็นอยแู่ ละ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของไทย
สาระที่ 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อืน่ และเป็ น
พ้ืนฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 2/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ขอ้ เท็จจริงที่เกี่ยวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อน่ื
จากแหล่งการเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขียน
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองท่ีเกิดข้นึ ในหอ้ งเรียน
สถานศึกษา และชุมชน
152
มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็ นเครื่องมอื พ้นื ฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และ
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับสังคมโลก
ตวั ช้ีวดั
ต 4.2 ม. 2/2 เผยแพร่/ประชาสัมพนั ธข์ อ้ มูลขา่ วสารของโรงเรียนเป็นภาษาตา่ งประเทศ
2 สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ ประโยค โครงสร้างภาษา และการเรียงลาดบั เหตุการณ์ ช่วยให้เขา้ ใจ
ใจความสาคญั รายละเอียด และสรุปเร่ืองท่ีอา่ นและฟัง และสามารถแลกเปลี่ยนความคดิ เห็น นาสิ่งที่
เรียนรู้ไปใชใ้ นการพดู และเขยี นส่ือสารเก่ียวกบั เทศกาลและการเฉลิมฉลองไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม
ตลอดจนเขา้ ใจในความเหมือนและความตา่ งของภาษาองั กฤษและภาษาไทย และเขา้ ใจในมารยาทและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา รวมถงึ เขา้ ใจในวฒั นธรรมและประเพณีในประเทศกลมุ่ ประชาคมอาเซียน
3 สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Festivals/Celebrations (eat a traditional meal, wear masks, watch a street
parade, wear traditional costumes, dance to music, open presents, listen
to a band, paint their faces, watch a fireworks display)
Feelings (thrilled, happy, disappointed, surprised, sad, tired, bored)
Expressing surprise (Incredible, isn’t it?, Are you kidding?, That’s
shocking., You must be kidding/joking., No way.)
Expressing regret/sympathy (Oh dear!, That’s too bad., I’m really sorry.,
That’s awful/terrible.)
Verbs (prepare, come alive, greet, come to life, organise, race, take
place, travel, move from side to side, wonder, step back, rely on, gather,
apologise)
Nouns (celebration, nut, feast, temple, snapshot, live music, parade,
mask, icing, bean, boat ride, fairytale castle, haunted house, parade,
pirate ship, roller coaster, merry-go-round, cartoon character, guest,
cowboy, ride, speed, buddy, wildlife project, regatta, competitor,
decoration, race, lake, bathtub, banks of the river, prize, winner, bucket,
153
Grammar: legend, journey, edge, log, gratitude, famine, cerebration, harvest,
Functions: respect, crop, harmony, purpose, pollution, campaign)
Adjectives (brilliant, gigantic, ancient, colourful, oval, scary, exhausted,
Pronunciation: wet, giant, excited, misty)
Phrases (believe my eyes, hold your breath, in horror)
Past simple
Past continuous
Past simple & Past continuous
Asking for opinions
Do you like the party?
What did you think of the party?
Expressing opinions
I was happy. I really liked it.
It was boring.
Describing actions were happening at a certain time in the past
Last Monday morning I was having an English lesson at school.
Describing Disneyland
I liked the parade. It was amazing with colourful clothes.
Narrating past events
We were celebrating Gibraltar National Day and we went walking
around the famous Gibraltar Rock. Everyone was wearing red and white
and holding hands.
Describing festivals
The International Bathtub Regatta takes place every August in Dinant,
Belgium.
Narrating a story
First, they started their journey to Loch Ness. Then they reached the lake
and John walked to the lake to take pictures.
Intonation (high rising tone to express disbelief & great surprise)
Wow!, That’s great!, Really?, How interesting!
154
2) Language Skills
Listening: ฟังเพอ่ื หาขอ้ มลู เฉพาะ, ฟังเพอ่ื จบั ใจความสาคญั
Speaking: พูดขอและแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เทศกาล, สนทนาเก่ียวกบั ส่ิงท่บี คุ คล
กาลงั ทาในอดีตทร่ี ะบุเวลาแน่นอน, พดู แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั การ
ไปเท่ียว Disneyland, พดู สนทนาตามสถานการณท์ ก่ี าหนด, แสดงความ
คดิ เห็นเก่ียวกบั การรกั ษาส่ิงแวดลอ้ มในโรงเรียน
Reading: อา่ นเพ่อื หาขอ้ มูลเฉพาะ
Writing: เขียนอเี มล, เขยี นบรรยายสิ่งทบี่ ุคคลกาลงั ทาในอดีตท่รี ะบุเวลาแน่นอน,
เขียนโฆษณาเกี่ยวกบั สวนสนุก, แต่งบทสนทนาตามสถานการณท์ ีก่ าหนด,
เขียนเกี่ยวกบั เทศกาล, เขยี นสรุปเรื่องทีอ่ า่ น, เขยี นเรื่องเล่า, เขียนสรุปผล
การอภปิ ราย
3) Cultures เทศกาล
4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5 คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มน่ั ในการทางาน
3) มจี ิตสาธารณะ
6 ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1) เขียนอีเมลเลา่ เหตกุ ารณเ์ กี่ยวกบั งานเทศกาล
2) พูดสนทนาขอและแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั งานเล้ยี งหรือเทศกาลท่เี ขา้ ร่วม
3) เขยี นบรรยายส่ิงท่สี มาชิกในครอบครัวทา
4) ชิ้นงาน Mini book
5) พูดแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั การไปเท่ียว Disneyland
6) ชิ้นงานโฆษณาสวนสนุก
7) เขยี นอเี มลเลา่ เกี่ยวกบั การไปเทีย่ วสวนสนุก
155
8) แสดงบทสนทนาตามสถานการณท์ ก่ี าหนด
9) เขียนนาเสนอเกี่ยวกบั เทศกาลของไทย
10) ชิ้นงานโปสเตอร์เกี่ยวกบั Loch Ness
11) เขยี นเรื่องเล่า
12) ชิ้นงานโปสเตอร์รณรงคร์ ักษาสภาพแวดลอ้ มในโรงเรียน
7 การวัดและการประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน
7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
7.3 การประเมินหลงั เรียน
7.4 การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
156
1 Reading 3a & Vocabulary 3a
2 ช่ัวโมง
จุดประสงค์การเรียนรู้
- อา่ นและบอกรายละเอยี ด รวมท้งั แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องทอ่ี า่ นได้
- เขียนอเี มลตามเร่ืองท่กี าหนดได้
- พดู แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เร่ืองทกี่ าหนดได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟี่ ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองทฟี่ ังและอ่านพร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/4 พูดละเขียนเพือ่ ขอและให้ขอ้ มูล บรรยาย และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เร่ืองทฟี่ ัง
หรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/5 พดู และเขยี นแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ
กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลประกอบอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และข่าว/
เหตุการณท์ ่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม
157
ต 1.3 ม. 2/3 พดู และเขียนแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั กิจกรรม เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และ
ประสบการณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลส้ัน ๆ ประกอบ
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จาลองท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียน
สถานศึกษา และชุมชน
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ทแ์ ละประโยคตา่ ง ๆ เก่ียวกบั เทศกาลและการเฉลิมฉลอง ช่วยในการจบั ใจความ
สาคญั และรายละเอียดของขอ้ มลู ทีอ่ ่านและฟัง รวมถึงสามารถนาสิ่งทเ่ี รียนรู้ไปใชใ้ นการพดู /เขยี นส่ือสาร
ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ตลอดจนมคี วามเขา้ ใจในวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Festivals/Celebrations (eat a traditional meal, wear masks, watch a street
parade, wear traditional costumes, dance to music, open presents, listen
to a band, paint their faces, watch a fireworks display)
Feelings (thrilled, happy, disappointed, surprised, sad, tired, bored)
Verbs (prepare, come alive)
Nouns (celebration, nut, feast, temple, snapshot, live music, parade,
mask, icing, bean)
Adjectives (brilliant, gigantic, ancient, colourful, oval)
158
Grammar: Past simple
Functions: Asking for opinions
Do you like the party?
What did you think of the party?
Expressing opinions
I was happy. I really liked it.
It was boring.
2) Language Skills
Speaking: พูดขอและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เทศกาล
Reading: อา่ นเพ่ือหาขอ้ มูลเฉพาะ
Writing: เขยี นอเี มล
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนใฝ่รู้
2) ม่งุ มนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงที่ 1
ข้นั Warm up
1. นกั เรียนอ่านช่ือหน่วยการเรียนรู้ (Let’s Party!) ในหนงั สือเรียน หนา้ 33 แลว้ ร่วมกนั แสดงความ
คดิ เห็นวา่ น่าจะเกี่ยวขอ้ งกบั อะไร
2. Find the page numbers for หน้า 33 จากน้นั ให้นกั เรียนหาว่าภาพท่เี กี่ยวขอ้ งกบั ท้งั 3 คาน้ีอยใู่ น
หนงั สือเรียนหนา้ ใด เมื่อหาพบแลว้ ครูถามคาถามเพื่อดึงความสนใจของนกั เรียนเขา้ สู่บทเรียน
159
an email (p. 35)
Do you write emails? How often? Who to? Why (not)?
a story (p. 41)
Do you like stories? What is your favourite type of story? Why?
funny boats (p. 40)
Do you have any funny boats in your country?
Where can you see them? How many types of boats do you know of?
ข้นั Pre-reading
1. ครูเขยี นคาว่า celebrations บนกระดาน ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกคาศพั ทท์ เี่ กี่ยวขอ้ ง เช่น street parade,
costumes, dance
2. หนงั สือเรยี น หน้า 33 Ex. 1 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังวลีเก่ียวกบั ประเพณีและการเฉลิมฉลอง แลว้
ออกเสียงตาม จากน้นั ครูให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงดว้ ยตนเองพร้อมกนั แลว้ ช่วยกนั นบอกความหมาย
ของวลเี หลา่ น้ี
3. หนงั สือเรียน หน้า 33 Ex. 2 ครูพดู บรรยายภาพท่ี 1-2 เป็นตวั อยา่ ง และเขียนประโยคบนกระดาน
They ate a traditional meal. They wore masks. ใหน้ กั เรียนสงั เกตคากริยาในประโยคว่าใช้ tense ใด
(Past simple) เมอื่ นกั เรียนเขา้ ใจแลว้ ว่าตอ้ งใชค้ ากริยาในรูปใด ครูให้นกั เรียนพดู บรรยายทีเ่ หลอื
3 They watched a street parade.
4 They wore traditional costumes.
5 They danced to music.
6 They opened presents.
7 They listened to a band.
8 They painted their faces.
9 They watched a fireworks display.
160
4. หนงั สือเรยี น หน้า 34 Ex. 1a ครูให้นกั เรียนนึกถงึ งานประเพณีคร้งั สุดทา้ ยท่ีนกั เรียนเขา้ ร่วม นกั เรียน
ทาอะไรและเห็นอะไรในงานน้นั บา้ ง และนกั เรียนชอบงานประเพณีน้นั หรือไม่ จากน้นั ครูสุ่มเรียก
นกั เรียน 3-4 พูดให้เพื่อนในช้นั ฟัง
5. นกั เรียนอ่าน Study Skills แลว้ ครูสรุปให้ฟังว่า การอา่ นชื่อเร่ือง คาเกร่ินนา และประโยคแรกของ
แตล่ ะยอ่ หนา้ จะช่วยให้เราคาดเดาไดว้ ่าเร่ืองทีจ่ ะอ่านน้นั เก่ียวกบั อะไร
6. หนงั สือเรยี น หน้า 34 Ex. 1b นกั เรียนอ่านชื่อเรื่อง คาเกร่ินนา และประโยคแรกของบทอ่านในแตล่ ะ
กรอบ แลว้ แสดงความคิดเห็นวา่ บทอ่านในแต่ละกรอบน่าจะเกี่ยวกบั อะไร
The first text is about Monkey Festival in Lopburi and another one is about the
Mardi Gras in New Orleans.
7. ครูให้นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน แลว้ ช่วยกนั ต้งั คาถามเกี่ยวกบั ประเพณีท้งั สองในบทอ่าน ครูเขียน
คาถามบนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนฟัง CD และจดบนั ทกึ ขอ้ มูลทเี่ ก่ียวขอ้ งกบั คาถาม เมื่อฟังจบครู
ถามวา่ จดขอ้ มูลทนั หรือไม่ ถา้ ไมท่ นั ครูใหน้ กั เรียนฟังอีกคร้งั แลว้ ร่วมกนั ตอบคาถาม
- What do people do at Mardi Gras? (They have parades, wear colourful
costumes and carnival masks and dance in the streets to music. They also eat
King Cake.)
- Is there any special food for the festival? (Yes, It’s King Cake.)
- Are there real monkeys at the Monkey Festival? (Yes, there are.)
- What do people do at the Monkey Festival? (They prepared a gigantic feast for
monkeys.)
8. นกั เรียนอ่านออกเสียงคาศพั ทแ์ ละวลีในกรอบ Check these words ถา้ คาใดอา่ นไมไ่ ดใ้ ห้อ่านตามครู
จากน้นั ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกความหมายของคาศพั ท์ ถา้ คาใดทีไ่ มร่ ู้ ให้นกั เรียนเปิ ดหาความหมาย
ในพจนานุกรม
gigantic (adj) = extremely big (ยงิ่ ใหญ่)
feast (n) = a large meal where a lot of people celebrate a special occasion
(อาหารท่นี ามาจดั เล้ยี ง)
161
snapshot (n) = a photograph taken quickly and often not very skilfully (ภาพที่
ถา่ ยอยา่ งรวดเร็ว)
come alive (idioms) = (of a subject or an event) to become interesting and seems real
(มีชีวิตชีวา)
oval (adj) = shaped like an egg (วงรี หรือรูปไข่)
icing (n) = a mixture made from very fine light sugar and liquid, used to
cover cakes (น้าตาลหรือครีมโรยหนา้ ขนม)
9. หนังสือเรยี น หน้า 34 Ex. 2 นกั เรียนจบั คูก่ นั อา่ นคาถาม แลว้ ขีดเสน้ ใตค้ าสาคญั ในคาถามแตล่ ะขอ้
จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 6 คู่ บอกคาสาคญั ในคาถามคลู่ ะ 1 ขอ้
ข้นั Reading
1. ครูให้นกั เรียนอ่านบทอ่านในหนงั สือเรียน หนา้ 34 เพ่อื หาเน้ือเรื่องส่วนทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั คาสาคญั ใน
คาถาม จากน้นั จึงตอบคาถามท่ีใหม้ า
2. ครูขออาสาสมคั ร 2 คู่ บอกคาตอบ ให้คู่แรกบอกคาตอบขอ้ 1-3 และคู่ท่ี 2 บอกคาตอบขอ้ 4-6 แลว้
ใหน้ กั เรียนในช้นั ช่วยกนั ตรวจคาตอบ
1 He went to the Monkey Festival in Lopburi, Thailand.
2 They prepare a gigantic feast for the monkeys and they have a big parade with
children in monkey costumes and play live music.
3 They wear monkey costumes.
4 In February
5 She watched parades, danced and tried the King Cake.
6 I buy the cake the next time.
ข้นั Post-reading
1. หนังสือเรยี น หน้า 35 Ex. 3 ครูใหน้ กั เรียนเตมิ คากริยาทกี่ าหนดใหล้ งในประโยค โดยใช้รูป Past
simple เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รออกมาเขียนคาตอบบนกระดาน แลว้ ครูตรวจความถูกตอ้ ง
162
1 had 2 came 3 wore 4 tried
5 were 6 prepared 7 took 8 was
2. หนังสือเรยี น หน้า 35 Ex. 4a ครูให้นกั เรียนหาคากริยารูป Past simple ในบทอ่าน หนา้ 34 แลว้
ช่วยกนั พูดบอกครู ครูเขียนบนกระดาน จากน้นั ให้นกั เรียนระบุว่าคาใดเป็น irregular
went, was, were, prepared, put, climbed, pulled, hurt, took, listened, had, came,
danced, tried
Irregular: went, was, were, put, hurt, took, had, came
3. หนงั สือเรยี น หน้า 35 Ex. 4b ครูใหน้ กั เรียนเติมคากริยาท่ีกาหนดให้ลงในประโยค โดยใชร้ ูป Past
simple เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รออกมาเขยี นคาตอบบนกระดาน จากน้นั ครูตรวจความถกู ตอ้ ง แลว้
ใหน้ กั เรียนอ่านประโยคพร้อมกนั
1 danced 2 laughed 3 celebrated
4 prepared 5 climbed
4. THINK! หนังสือเรียน หน้า 35 ครูให้เวลานกั เรียน 3 นาที เขยี นแสดงความคดิ เห็นวา่ นกั เรียน
ตอ้ งการเขา้ ร่วมประเพณีใดในบทอ่าน พร้อมบอกเหตุผล จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน อ่านให้
เพ่อื นฟัง
I would like to go to the Monkey Festival in Lopburi. I like monkeys and I love
watching parades. It sounds like fun.
I would like to attend Mardi Gras in New Orleans. I love watching parades and
dancing. It sounds very exciting.
163
5. หนงั สือเรยี น หน้า 35 Ex. 7 ครูใหน้ กั เรียนสมมติว่าตนเองไปงาน Monkey Festival แลว้ เขยี นอีเมล
เลา่ เหตุการณ์ให้เพอื่ นฟัง
Dear Sue,
I had a great time in Lopburi, Thailand. It was the Monkey Festival and I had a
wonderful time. People prepared a feast and they put lots of nuts and fruit on tables
for the monkeys at an ancient temple. I watched an amazing parade of children in
monkey costumes. I was very happy.
Yours
Jane
6. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 20-21 Exs. 1-5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
ช่ัวโมงที่ 2
ข้นั Warm up
1. ครูทบทวนคาศพั ทท์ ี่เรียนเม่ือชวั่ โมงทแ่ี ลว้ โดยแบง่ นกั เรียนเป็น 2 ทีม แลว้ ครูเขียนคาศพั ทบ์ น
กระดาน ซ่ึงเวน้ ช่องว่างไว้ ให้เติมตวั อกั ษร เช่น p _ e _ a _ e (prepare) p _ r _ d _ (parade)
ใหแ้ ตล่ ะทีมส่งตวั แทนออกมาเขยี นคาศพั ทท์ ่ีสมบูรณ์ พร้อมท้งั อา่ นออกเสียง และบอกความหมาย
ทีมท่ที าถูกตอ้ งท้งั หมดจะไดค้ าละ 1 คะแนน ทีมใดมคี ะแนนมากกวา่ จะเป็นผชู้ นะ
2. ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียงคาศพั ทบ์ นกระดานพร้อมกนั
ข้นั Presentation
1. หนงั สือเรยี น หน้า 35 Ex. 5 นกั เรียนดูภาพใบหนา้ แสดงความรู้สึกตา่ งๆ แลว้ อ่านออกเสียงคาศพั ท์
ใตภ้ าพตามครูคาละ 2 คร้งั ครูอธิบายว่าคาเหลา่ น้ีคือคาคุณศพั ทท์ ใี่ ชบ้ รรยายความรู้สึก
2. ครูเขียนหัวขอ้ Positive และ Negative บนกระดาน ครูใหน้ กั เรียนทาความเขา้ ใจ 2 หวั ขอ้ น้ี โดยเขียน
เคร่ืองหมาย + และ – ขา้ งหลงั หัวขอ้ จากน้นั ใหน้ กั เรียนจดั กล่มุ คาคุณศพั ทต์ ามหัวขอ้ แลว้ ครูเปิ ด CD
ให้ฟังเพ่ือตรวจวา่ นกั เรียนจดั กลมุ่ ถูกตอ้ งหรือไม่
164
Positive Negative
thrilled disappointed
happy surprised
surprised sad
tired
bored
3. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกความหมายของคาคณุ ศพั ทเ์ หล่าน้ี โดยเดาความหมายจากภาพใบหนา้
happy (มคี วามสุข), bored (รู้สึกเบื่อ), excited (รู้สึกต่นื เตน้ ), disappointed (รู้สึกผดิ หวงั ), tired (รู้สึก
เหน่ือย), thrilled (รู้สึกตืน่ เตน้ , พอใจ), surprised (รู้สึกประหลาดใจ) ถา้ คาใดนกั เรียนไม่รู้ใหห้ า
ความหมายจากพจนานุกรม แลว้ ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียงคาคุณศพั ท์ พร้อมท้งั บอกความหมาย
อีกคร้ ัง
4. ครูใหน้ กั เรียนแตง่ ประโยคบอกเหตุการณ์ทที่ าใหต้ นเองเกิดความรู้สึกตา่ ง ๆ เหลา่ น้ี จากน้นั ครูขอ
อาสาสมคั รอ่านประโยคให้เพือ่ นฟัง
I felt happy when I opened my presents.
I felt disappointed when I failed my test.
I felt surprised when he showed me his costume.
I felt sad when we moved house.
I felt tired when we finished the game.
I felt bored at the party.
5. ครูเขยี นตวั อยา่ งบทสนทนาบนกระดาน
A: Where did you go last weekend?
B: I went to Dinosaur Planet.
A: How was it?
B: It was exciting.
165
นกั เรียนอ่านบทสนทนาพร้อมกนั แลว้ ครูถามว่าประโยคใดเป็นการถามความคิดเห็น (How was it?)
ประโยคใดเป็นการแสดงความคิดเห็น (It was exciting.) จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนอา่ นสานวนท่ีใช้ใน
การขอและแสดงความคดิ เห็นในหนงั สือเรียน หนา้ 35 Ex. 6
6. ครูเขยี นประโยคบนกระดาน และขดี เส้นใตค้ าคณุ ศพั ท์
I’m excited. (ฉนั รู้สึกตน่ื เตน้ ) The film is exciting. (ภาพยนตร์เรื่องน้ีน่าตืน่ เตน้ )
She’s bored. (ฉันรู้สึกเบื่อ) The book is boring. (หนงั สือเล่มน้ีน่าเบอื่ )
ให้นกั เรียนสังเกตว่าคาคุณศพั ทท์ ่ลี งทา้ ยดว้ ย -ed และ -ing ใชต้ ่างกนั อยา่ งไร แลว้ ครูสรุปใหฟ้ ังวา่
คาคณุ ศพั ทท์ ่ีลงทา้ ยดว้ ย -ed ใชบ้ รรยายความรู้สึกหรืออารมณ์ของเราทม่ี ีต่อบางส่ิง ส่วนคาคณุ ศพั ทท์ ี่
ลงทา้ ยดว้ ย -ing ใชบ้ รรยายลกั ษณะของคน สิ่งของ หรือสถานการณ์ จากน้นั ครูบอกความหมายของ
ประโยคแถวแรกเพอื่ ให้นกั เรียนเขา้ ใจย่ิงข้นึ แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกความหมายประโยคแถวที่ 2
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 35 Ex. 6 ครูอธิบายภาระงานว่า ใหน้ กั เรียนเลือกงานเล้ียงหรือเทศกาลจากท่ี
กาหนดมา 1 งาน/เทศกาล แลว้ สมมตวิ า่ ตนเองไดไ้ ปร่วมงาน/เทศกาลน้นั เมอื่ วนั หยดุ สุดสัปดาห์ที่
ผา่ นมา จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คูก่ นั และเตรียมขอ้ มลู เพื่อใชพ้ ูดสนทนาขอและแสดงความคดิ เห็น
เกี่ยวกบั งานเล้ียงหรือเทศกาลดงั กล่าว
2. นกั เรียนแต่ละคู่กนั ฝึกพูดสนทนากนั โดยครูเดินสงั เกตนกั เรียนและใหข้ อ้ มลู ยอ้ นกลบั (feedback)
เรื่องการใชภ้ าษาของนกั เรียน เช่น ไวยากรณ์ การออกเสียง น้าเสียง กิริยาท่าทาง เพ่อื ให้นกั เรียน
นาไปปรับปรุงแกไ้ ขในคร้ังตอ่ ไป
3. ครูให้นกั เรียนจบั คกู่ บั เพ่อื นคนใหม่ และฝึกพูดสนทนา โดยครูเดินสงั เกตและให้ขอ้ มลู ยอ้ นกลบั
(feedback) จากน้นั ให้เวลานกั เรียนฝึกซ้อมเพอ่ื ปรบั ปรุงแกไ้ ขตามคาแนะนาของครู
ข้นั Production
1. ครูใหแ้ ตล่ ะคู่ออกมาพูดสนทนาที่หนา้ ช้นั โดยเนน้ ให้นกั เรียนแสดงท่าทางและใชน้ ้าเสียงให้เหมาะ
กบั สถานการณ์
A: Where were you last weekend?
B: I was at a wedding.
A: Did you enjoy yourself?
B: Oh yes. I was thrilled and I really liked it.
166
A: Where were you last weekend?
B: I was at the spring festival.
A: How was the festival?
B: It was disappointing.
A: Where were you last weekend?
B: I was at the fancy dress party.
A: What did you think of the party?
B: I was happy. I really liked it.
A: Where were you last weekend?
B: I was at the New Year’s Eve party.
A: What was the party like?
B: It was fun. I was thrilled.
2. นกั เรียนทา Language Review 3a Exs. 1-2 ในหนงั สือเรียน หนา้ 107 ร่วมกนั ในช้นั
3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 21 Exs. 6-9 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
167
7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60
วิธกี ารวดั สมุดนกั เรียน -
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่านหรือ แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้
การฟัง แบบประเมินการพดู ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตรวจการเขียนแสดงความคิดเห็น
เก่ียวกบั เรื่องทอี่ ่าน แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น
ประเมนิ การเขยี นอีเมลเล่าเหตกุ ารณ์ อนั พงึ ประสงค์
เกี่ยวกบั งานเทศกาล
ประเมนิ การพูดสนทนาขอและแสดง
ความคดิ เห็นเก่ียวกบั งานเล้ยี งหรือ
เทศกาลทเ่ี ขา้ ร่วม
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มนั่
ในการทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
168
2 Grammar 3b
2 ชั่วโมง
จุดประสงค์การเรยี นรู้
- พดู และเขยี นประโยค Past simple และ Past continuous ไดถ้ ูกตอ้ ง
- เปรียบเทียบโครงสร้างของภาษาองั กฤษกบั ภาษาไทยได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/3 ระบุ/เขียนประโยคและขอ้ ความให้สมั พนั ธก์ บั สื่อท่ีไม่ใช่ความเรียงรูปแบบตา่ ง ๆ
ทอี่ ่าน
มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลีย่ นขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณต์ ่าง ๆ
ในชีวิตประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตกุ ารณ์ท่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม
สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
กับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
169
ตวั ช้ีวดั เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสียง
ต 2.2 ม. 2/1 ประโยคชนิดตา่ ง ๆ และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศ
และภาษาไทย
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้และเขา้ ใจโครงสร้างทางภาษา จะช่วยใหส้ ามารถพดู และเขยี นประโยคตา่ ง ๆ ไดถ้ กู ตอ้ ง
และเหมาะสมตามสถานการณ์ ตลอดจนเกิดความเขา้ ใจในความเหมอื นและความต่างของภาษาองั กฤษ
และภาษาไทย
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Grammar: Past continuous
Past simple & Past continuous
Functions: Describing actions were happening at a certain time in the past
Last Monday morning I was having an English lesson at school.
2) Language Skills
Speaking: สนทนาเก่ียวกบั ส่ิงท่ีบุคคลกาลงั ทาในอดีตทีร่ ะบเุ วลาแน่นอน
Writing: เขยี นบรรยายส่ิงท่บี ุคคลกาลงั ทาในอดีตที่ระบเุ วลาแน่นอน
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด
5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) ม่งุ มนั่ ในการทางาน
170
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงท่ี 1
ข้นั Warm up
ครูทบทวน Past simple โดยใหน้ กั เรียนพูดบอกกิจกรรมทต่ี นเองทาเม่อื วานน้ีตอนเยน็ ครูเร่ิมตน้
เป็นตวั อยา่ ง เช่น I went to the shopping mall yesterday evening.
ข้นั Presentation
1. ครูแจกเน้ือเพลง Jealous Guy ของ John Lennon จาก https://www.siamzone.com/music/lyric/41824
ให้นกั เรียนทุกคน แลว้ ใหน้ กั เรียนขดี เสน้ ใต้ Past continuous
2. ครูอธิบายวา่ โครงสร้าง Past continuous คอื was/were + v-ing แลว้ ให้นกั เรียนดวู า่ ตนเองขีดเสน้ ใต้
เน้ือเพลงถูกตอ้ งหรือไม่
3. หนังสือเรยี น หน้า 36 Ex. 1 ครูให้นกั เรียนอา่ นประโยคในตาราง โดยสังเกตประโยคปฏิเสธและ
คาถาม ครูต้งั คาถามใหน้ กั เรียนคดิ ว่าจะทาเป็นประโยคปฏเิ สธและคาถามอยา่ งไร แลว้ สุ่มเรียก
นกั เรียน 2-3 คน บอกคาตอบ (ทาเป็นปฏิเสธโดยการเติม not หลงั was/were และทาเป็นคาถามโดย
ยา้ ย was/were มาข้ึนตน้ ประโยค) จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปโครงสร้าง Past continuous
4. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เปรียบเทยี บวา่ ในภาษาไทยมโี ครงสร้างเฉพาะเมอื่ กล่าวถงึ การกระทาทก่ี าลงั
ดาเนินอยู่ ณ เวลาช่วงหน่ึงช่วงใดในอดีตเหมอื นกบั ในภาษาองั กฤษหรือไม่ (ภาษาไทยไมม่ ีการ
เปลย่ี นรูปคากริยาเมอื่ กลา่ วถงึ อดีต ปัจจบุ นั และอนาคต แต่จะใชค้ าวิเศษณ์บอกเวลาท่ีเรียกวา่
กาลวิเศษณ์ และวลีบอกกาล ซ่ึงเป็นคาหลายคาเรียงกนั เช่น วนั น้ี เดือนน้ี ปี กลายน้ี)
กาลวเิ ศษณ์ คือ คาวเิ ศษณท์ ี่ประกอบบอกเวลา เช่น เชา้ สาย บ่าย เท่ียง เยน็ คา่ อดีต
ปัจจุบนั อนาคต ฯลฯ
ทม่ี า: กาชัย ทองหล่อ. หลักภาษาไทย. พิมพ์คร้ังที่ 54. บริษทั รวมสาสน์ (1977) จากดั .
กรุงเทพฯ
5. ครูอธิบายการใช้ Past continuous พร้อมท้งั ยกตวั อยา่ งบนกระดาน
- ใชก้ บั เหตกุ ารณท์ ่ีกาลงั เกิดข้ึนในอดีต ซ่ึงปกติจะมีเวลากากบั ไวแ้ น่นอน
I was doing my homework at nine o’clock last night.
171
- ใชก้ บั เหตุการณ์ 2 เหตกุ ารณ์ซ่ึงกาลงั เกิดข้ึนพร้อมกนั ในอดีต โดยมีคาว่า while เช่ือม
ระหวา่ ง 2 เหตกุ ารณ์
I was sleeping while my sister was doing her homework at ten last night.
6. ครูหาภาพบุคคลกาลงั ทาส่ิงต่าง ๆ จากอนิ เทอร์เน็ตหรือนิตยสารมาใหน้ กั เรียนดู 3-4 ภาพ โดยครู
แสดงภาพให้นกั เรียนดูทีละภาพ พร้อมท้งั พูดเวลา ให้นกั เรียนช่วยกนั แตง่ ประโยค เช่น ครูแสดงภาพ
เดก็ ๆ กาลงั เล่นฟุตบอล และพดู เวลา at five yesterday
- They were playing football at five yesterday.
7. นกั เรียนแบ่งกลุม่ กลมุ่ ละ 4 คน แลว้ ครูแจกกระดาษท่ีมีรายการคาใหก้ ลุม่ ละ 1 แผน่ ให้แต่ละกลมุ่
เรียงคาใหเ้ ป็นประโยค Present continuous ท่ถี ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบบนกระดาน ให้
นกั เรียนแลกกนั ตรวจกบั กลุ่มอนื่ จาดน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงประโยคพร้อมกนั
1 homework / was / last night / his / Bill / doing / at / ten o’clock / .
2 was / this / morning / at / Jill / seven / o’clock / playing tennis /.
3 at / were / last Sunday / you / 9 am / watching TV / ?
4 ten / was / pictures / at / yesterday morning / Laura / painting / .
5 nine / and / singing / not / last night / Bob / at / Bill / were / .
1 Bill was doing his homework at ten o’clock last night.
2 Jill was playing tennis at seven o’clock this morning.
3 Were you watching TV at 9 am last Sunday?
4 Laura was painting pictures at ten yesterday morning.
5 Bob and Bill were not singing at nine last night.
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 36 Ex. 2 นกั เรียนดภู าพ แลว้ เขียนประโยคบรรยายสิ่งทบ่ี ุคคลในภาพกาลงั ทา
โดยใชค้ ากริยาท่ีกาหนดให้ในรูป Past continuous เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รพูดประโยค ครูตรวจ
ความถกู ตอ้ ง แลว้ ให้นกั เรียนอ่านประโยคพร้อมกนั
172
1 Jane was drinking Coke.
2 Paul and Laura were dancing.
3 John was taking pictures.
4 Jim and Bob were eating sandwiches.
5 The clown was painting Jessie’s face.
2. หนังสือเรียน หน้า 36 Ex. 3 นกั เรียนดภู าพใน Ex. 2 แลว้ เขียนประโยคทกี่ าหนดใหใ้ หม่ให้ถกู ตอ้ ง
ตามภาพ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4 คน อา่ นประโยค แลว้ ให้นกั เรียนในช้นั ช่วยกนั ตรวจ
ความถกู ตอ้ ง
2 Paul wasn’t eating. He was dancing.
3 Jim and Bob weren’t dancing. They were eating sandwiches.
4 John wasn’t painting Jessie’s face. He was taking pictures.
5 Jane wasn’t dancing. She was drinking Coke.
3. หนงั สือเรยี น หน้า 36 Ex. 4 นกั เรียนแต่งประโยคคาถามจากคาทก่ี าหนดให้ พร้อมตอบคาถาม
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4 คู่ พูดถาม-ตอบกนั แลว้ ให้นกั เรียนในช้นั ช่วยกนั ตรวจความถูกตอ้ ง
2 Were John and Lucy watching a DVD?
No, they weren’t. They were playing computer games.
3 Was Tom eating a meal with his family?
No, he wasn’t. He was walking in the park with friends.
4 Was Jane sleeping?
No, she wasn’t. She was reading a book.
5 Were Andy and Mark playing football?
No, they weren’t. They were visiting a wildlife park.
173
4. หนังสือเรยี น หน้า 36 Ex. 5 ครูใหน้ กั เรียนนึกถงึ สถานท่ีทต่ี นเองอยเู่ มือ่ วนั อาทิตยท์ ผ่ี ่านในเวลา
9 am, 2 pm, 6 pm และส่ิงทีต่ นเองกาลงั ทาในเวลาดงั กล่าว แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นตวั อยา่ งการถาม-ตอบ
พร้อมกนั จากน้นั ให้นกั เรียนจบั คกู่ นั พูดถาม-ตอบเพื่อหาวา่ คขู่ องตนกาลงั ทาอะไร
A: Last Sunday at 2 pm I was at the park.
B: Were you playing football?
A: Yes, I was.
B: Last Sunday at 6 pm I was in the city centre.
A: Were you watching a film at the cinema?
B: No, I wasn’t.
A: Were you bowling at a bowling alley?
B: Yes, I was.
ข้นั Production
1. ครูให้นกั เรียนวาดภาพหรือหาภาพกิจกรรมท่คี รอบครวั ของนกั เรียนทาเม่ือวนั อาทติ ยท์ ี่ผ่านมา
ในเวลา 6 โมงเยน็ แลว้ เขยี นบรรยายสิ่งทส่ี มาชิกในครอบครัวทาโดยใช้ Past continuous
2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 22 Exs. 1-4 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
ช่ัวโมงท่ี 2
ข้นั Warm up
ครูให้นกั เรียนเล่มเกมทบทวน Past continuous โดยแบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทมี ใหแ้ ตล่ ะทีมผลดั กนั ส่ง
ตวั แทนออกมาแสดงทา่ ทางให้อีกทมี หน่ึงดู และทายวา่ กาลงั ทาอะไร จากน้นั ครูถามนกั เรียนท่แี สดง
ทา่ ทางว่ากาลงั ทาเหมอื นที่เพอื่ นพูดใช่หรือไม่ เช่น
Team A S1: แสดงทา่ ทางวาดภาพ
Team B S1: He’s painting a picture.
T: (ask Team A S1) Were you painting a picture?
Team A S1: Yes, I was.
174
ข้นั Presentation
1. ครูเขียนประโยคบนกระดาน
1) The baby slept two hours ago.
2) She was playing volleyball yesterday evening.
3) I watched TV last night.
4) They were watching a film at 2 pm last Sunday.
ให้นกั เรียนระบวุ ่าประโยคใดคือ Past simple (ประโยคที่ 1, 3) และประโยคใดคือ Past continuous
(ประโยคท่ี 2, 4) จากน้นั ใหน้ กั เรียนบอกโครงสร้างของ Past simple และ Past continuous
2. ครูอธิบายวา่ เราสามารถใช้ Past simple ควบคูก่ บั Past continuous ไดใ้ นกรณีทตี่ อ้ งการช้ีใหเ้ ห็นว่า
เกิดการกระทา 2 อยา่ งในช่วงเวลาเดียวกนั ในอดีต โดยการกระทาที่ใช้ Past simple จะเป็นการกระทา
ทม่ี าขดั จงั หวะในระหว่างที่การกระทาอกี อยา่ งหน่ึงกาลงั ดาเนินอยอู่ ยา่ งตอ่ เนื่อง ซ่ึงการกระทาที่
กาลงั ดาเนินอยจู่ ะใช้ Past continuous
จากน้นั ครูยกตวั อยา่ งประโยค I was studying English when the bell rang. ครูถามนกั เรียนวา่
เหตกุ ารณใ์ ดกาลงั ดาเนินอยู่ (I was studying English) และเหตกุ ารณ์ใดทีม่ าขดั จงั หวะ (the bell rang)
3. หนังสือเรยี น หน้า 37 Ex. 6 นกั เรียนอ่านการใช้ Past simple และ Past continuous ในกรอบ แลว้ ครู
และนกั เรียนร่วมกนั สรุปการใช้ จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกความหมายของประโยคตวั อยา่ งเป็น
ภาษาไทย
4. นกั เรียนหาตวั อยา่ ง Past simple และ Past continuous ในบทอา่ นหนา้ 34 แลว้ ช่วยกนั พดู บอกครู
Past simple: went, was, were, prepared, put, climbed, pulled, hurt, took, listened,
had, came, danced, tried
Past continuous: were wearing
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 37 Ex. 7 ครูใหน้ กั เรียนเปลย่ี นคากริยาในวงเลบ็ ใหอ้ ยูใ่ นรูป Past simple เสร็จแลว้
ครูสุ่มเรียกนกั เรียนเขยี นคาตอบบนกระดาน ให้นกั เรียนในช้นั ช่วยกนั ตรวจความถกู ตอ้ ง แลว้ ครูถาม
ว่าคากริยาคาใดเป็น irregular จากน้นั ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงจดหมายพร้อมกนั
175
1 went (I) 2 was (I) 3 snowed
4 had (I) 5 were (I) 6 danced
7 sang (I) 8 took (I) 9 wore (I)
10 let off (I) 11 enjoyed 12 did (I)
2. หนงั สือเรยี น หน้า 37 Ex. 8 ครูใหน้ กั เรียนเปลย่ี นคากริยาในวงเล็บใหอ้ ยใู่ น tense ทถ่ี ูกตอ้ ง
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกบอกคาตอบ พร้อมท้งั บอกเหตุผลทเ่ี ลอื กใช้ tense น้นั
1 were dancing, arrived 2 were watching, started
3 left, got, drove 4 arrived, was watching
5 saw, was walking 6 painted
7 were you doing 8 was cooking, was washing
ข้นั Production
1. หนงั สือเรียน หน้า 37 Ex. 9 ครูให้นกั เรียนใชค้ าทีก่ าหนดให้เขียนประโยคใหไ้ ดม้ ากท่สี ุดภายในเวลา
3 นาที เมอื่ ครบกาหนดเวลาใหน้ กั เรียนแลกเปลี่ยนกนั อา่ นประประโยคของเพ่อื น จากน้นั ครูสุ่มเรียก
นกั เรียนอ่านประโยคท่ีเขยี น
I finished my homework, then I watched TV.
Last Monday morning I was having an English lesson at school.
I was sitting on the school bus when I saw my friend’s brother.
Last Friday evening at 8:00, I was having fun at a party.
I was laughing and dancing while my friend was singing karaoke.
176
2. นกั เรียนเขียนประโยค Past simple และ Past continuous โดยใช้ when และ while เป็นคาเช่ือม ให้
เขียนคาละ 1 ประโยค เสร็จแลว้ นามาส่งให้ครูตรวจความถกู ตอ้ ง
เม่ือนกั เรียนไดร้ ับงานคนื แลว้ ใหจ้ บั กลุ่ม กลมุ่ ละ 5 คน ทาชิ้นงาน Mini book โดยเขียนประโยคใส่
กระดาษขนาด 15×15 เซนตเิ มตร ให้เขียน 1 แผ่น ตอ่ 1 ประโยค และตดิ ภาพหรือวาดภาพประกอบ
ประโยค หลงั จากทท่ี กุ คนทาเสร็จแลว้ ให้รวบรวมทาเล่ม พร้อมท้งั ตกแต่งใหน้ ่าสนใจ
While we were having a picnic, it rained.
Jane was painting a picture while Emma was reading a book.
ภาพ picnic จาก: https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Our_pre-July_4th_picnic_NOLA.jpg
ภาพอ่ืน ๆ จาก www.istockphoto.com
3. นกั เรียนทา Grammar Bank 3 ในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 76-77 Exs. 1-5 ร่วมกนั ในช้นั
4. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 23 Exs. 5-7 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
177
7. การวดั และการประเมนิ ผล
วิธีการวดั เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
สังเกตการเปรียบเทียบโครงสร้าง แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้
ระดบั คุณภาพ พอใช้
ภาษาไทยกบั ภาษาองั กฤษในการ -
ระดบั คุณภาพ พอใช้
กล่าวถึงการกระทาที่กาลงั ดาเนินอยู่ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ณ เวลาช่วงหน่ึงช่วงใดในอดีต
ประเมินการเขียนบรรยายส่ิงท่ีสมาชิก แบบประเมนิ การเขียน
ในครอบครัวทา
ตรวจการเขียนประโยคใชค้ าที่ สมดุ นกั เรียน
กาหนดให้
ประเมนิ การทาช้ินงาน Mini book แบบประเมินช้ินงาน
สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มน่ั แบบประเมินคุณลกั ษณะ
ในการทางาน อนั พึงประสงค์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) ภาพบคุ คลกาลงั ทาส่ิงตา่ ง ๆ จากอินเทอร์เน็ตหรือนิตยสาร
178
3 Skills 3c
2 ชั่วโมง
จุดประสงค์การเรยี นรู้
- ฟังเร่ืองและบอกรายละเอยี ดได้
- พูดแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั การไปเท่ียว Disneyland ได้
- เขยี นโฆษณาเกี่ยวกบั สวนสนุกได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหัวขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เร่ืองท่ฟี ังและอา่ น พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
งา่ ย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/5 พดู และเขยี นแสดงความรู้สึกและความคดิ เห็นของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองต่าง ๆ
กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และข่าว/
เหตกุ ารณ์ทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 1.3 ม. 2/3 พดู และเขยี นแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั กิจกรรม เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั และ
ประสบการณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลส้นั ๆ ประกอบ
179
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้เก่ียวกบั ใจความสาคญั ใจความสนบั สนุน และเขา้ ใจเกี่ยวกบั โครงสร้าง และสานวน
ภาษาในการเขียนอเี มล จะช่วยใหส้ ามารถนาคาศพั ทแ์ ละประโยคไปใชใ้ นการเขียนไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งตาม
โครงสร้าง
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verbs (greet, come to life)
Nouns (boat ride, fairytale castle, haunted house, parade, pirate ship,
roller coaster, merry-go-round, cartoon character, guest, cowboy, ride,
speed) buddy, wildlife project)
Adjectives (scary, exhausted)
Phrases (believe my eyes, hold your breath)
Functions: Describing Disneyland
I liked the parade. It was amazing with colourful clothes.
2) Language Skills
Listening: ฟังเพ่ือหาขอ้ มูลเฉพาะ
Speaking: พูดแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั การไปเทย่ี ว Disneyland
Writing: เขยี นโฆษณาเกี่ยวกบั สวนสนุก
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมน่ั ในการทางาน
180
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงท่ี 1
ข้นั Warm up
1. ครูใหน้ กั เรียนดูภาพสวนสนุก แลว้ ครูสนทนากบั นกั เรียน
T: What is it?
Class: It’s an amusement park.
T: Have you ever been there?
Class: Yes. / No.
T: Are there any amusement parks in Thailand?
Class: Yes.
T: What are their names?
Class: Dream World, Siam Park City etc.
2. นกั เรียนช่วยกนั บอกชื่อสวนสนุกท่มี ีชื่อเสียงเป็นทรี่ ู้จกั โดยทวั่ ไป แลว้ บอกขอ้ มลู เก่ียวกบั สวนสนุก
แห่งน้นั พอสังเขป
3. ครูให้นกั เรียนแสดงความคดิ เห็นว่าในบทเรียนน้ีจะไดเ้ รียนรู้เก่ียวกบั เร่ืองอะไร
ข้นั Pre-listening
1. หนังสือเรียน หน้า 38 Ex. 1 นกั เรียนอา่ นออกเสียงคาศพั ทท์ ีก่ าหนดใหพ้ ร้อมกนั ถา้ คาใดนกั เรียน
อา่ นไมไ่ ดใ้ หอ้ ่านตามครู แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกความหมาย โดยครูแสดงภาพใหน้ กั เรียนดูและ
เดาความหมาย boat ride (การนง่ั เรือท่องเที่ยว), fairly castle (ปราสาทเทพนิยาย), haunted house
(บา้ นผสี ิง), parade (ขบวนพาเหรด), pirate ship (เรือโจรสลดั ), roller coaster (รถไฟตีลงั กา),
merry-go-round (มา้ หมุน), cartoon character (ตวั แสดงทีเ่ ป็นการ์ตูน)
2. นกั เรียนดภู าพประกอบเก่ียวกบั Disneyland ในหนงั สือเรียน หนา้ 38 แลว้ บอกครูวา่ นกั เรียนเห็น
อะไรบา้ ง
I can see a fairytale castle, a roller coaster, a pirate ship, a merry-go-round and a
parade
181
3. ครูใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเห็นวา่ เม่อื ไป Disneyland นกั เรียนสามารถทากิจกรรมใดไดบ้ า้ ง ครู
เขยี นคาตอบของนกั เรียนบนกระดาน
4. ครูอธิบายวา่ นกั เรียนจะไดฟ้ ัง Penny เลา่ เกี่ยวกบั การไปเทย่ี ว Disneyland แลว้ ให้นกั เรียนอา่ น
ประโยค 1-7 ในหนงั สือเรียน หนา้ 38 Ex. 2 เพือ่ ใหร้ ู้ว่านกั เรียนตอ้ งฟังเพื่อหาขอ้ มลู อะไรบา้ ง ครูย้า
กบั นกั เรียนว่าไม่จาเป็นตอ้ งฟังออกทกุ คา แต่ให้เนน้ ฟังเพอื่ ขอ้ มูลเฉพาะทีต่ อ้ งการ
5. เพือ่ ใหค้ ุน้ เคยกบั คาศพั ทท์ ่จี ะฟัง ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียงคาศพั ทแ์ ละวลีในกรอบ Check these
words ถา้ คาใดอา่ นไม่ได้ ครูอ่านใหฟ้ ังเป็นตวั อยา่ ง แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั บอกความหมาย ถา้ คาใด
ไม่รู้ ครูช่วยอธิบาย จากน้นั นกั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความหมายอีกคร้งั
ข้นั Listening
1. หนงั สือเรยี น หน้า 38 Ex. 2 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังเรื่อง The Disneyland Dream และจดบนั ทึก
ขอ้ มูล เมอื่ ฟังจบให้นกั เรียนเตมิ คาลงในประโยค 1-7
2. ครูสอบถามวา่ นกั เรียนฟังเขา้ ใจ และเตมิ คาไดค้ รบทกุ ขอ้ หรือไม่ โดยครูอาจจะเปิ ด CD ให้นกั เรียน
ฟังอีกคร้งั ก่อนฟังครูย้าอีกคร้งั ว่านกั เรียนกาลงั ฟังเพ่อื หาขอ้ มูลเก่ียวกบั อะไร
ข้นั Post-listening
1. นกั เรียนใชข้ อ้ มูลทีจ่ ดบนั ทกึ เตมิ คาลงในประโยค 1-7 จากน้นั ครูขออาสมคั รบอกคาตอบ แลว้ ครู
เฉลยคาตอบท่ีถกู ตอ้ ง
1 family, fairytale 2 a hotel, western film 3 great
4 scary 5 the merry-go-round
6 the roller coaster, breath 7 a weekend
2. หนงั สือเรยี นหน้า 38 Ex. 3 ครูอธิบายภาระงานว่านกั เรียนจินตนาการว่าตนเองไปเทย่ี ว Disneyland
กบั Penny ครูให้นกั เรียนจบั คกู่ นั พดู แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั roller coaster rides, parade, hotel,
room, food, haunted house, trip โดยใชค้ าคณุ ศพั ทท์ ี่กาหนดให้ ครูแนะนาว่านกั เรียนสามารถใช้
คาคุณศพั ทค์ าอน่ื ทเ่ี คยเรียนไปแลว้ ได้ เช่น expensive, cheap, great, fantastic, terrible ครูเดินสังเกต
และคอยใหค้ าแนะนา จากน้นั สุ่มเรียกนกั เรียน 2 คน พูดให้เพอื่ นฟัง
182
I liked the parade. It was amazing with colourful clothes.
I liked the hotel. It was very comfortable and it was not expensive.
I liked the room. It was beautiful.
I liked the food. It was delicious.
I didn’t like the haunted house. It was scary.
I liked the trip. It was incredible because it was cheap and exciting
3. ครูแบง่ นกั เรียนเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 4-6 คน ใหแ้ ต่ละกลุ่มสมมตวิ า่ ตนเองเป็นเจา้ ของสวนสนุก และ
ตอ้ งการโฆษณาใหค้ นมาเท่ียวสวนสนุก ครูให้แตล่ ะกลมุ่ ระดมสมองต้งั ชื่อสวนสนุก คิดกิจกรรม
และเคร่ืองเล่นท่มี ใี นสวนสนุก วนั และเวลาเปิ ด-ปิ ด ครูแนะนาใหน้ กั เรียนจดั ขอ้ มลู ในรูป mind map
Rides • roller coaster
• water ride
Activities • haunted house
• fairytale castle
• parade
Dates & • Monday - Friday
Time 9 am - 6 pm
• Saturday - Sunday
8:30 am - 9 pm
4. ครูมอบหมายให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มนาขอ้ มลู จาก mind map มาเขยี นโฆษณาเชิญชวน โดยใส่
ภาพประกอบและใชส้ ีสนั ให้น่าสนใจ ครูอาจหาตวั อยา่ งโฆษณามาใหน้ กั เรียนดูเป็นตวั อยา่ ง แลว้ นา
ผลงานมาส่งในชวั่ โมงหนา้
183
Monday - Friday 9.00 am - 6.00 pm
Saturday - Sunday 8.30 am - 9.00 pm
ภาพจาก: Oast House Archive
5. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 24 Ex. 3 ใหน้ กั เรียนฟัง CD แลว้ จบั คบู่ คุ คลกบั กิจกรรมใหถ้ ูกตอ้ ง
6. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 24 Exs. 1-2 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น
ช่ัวโมงที่ 2
ข้นั Warm up
1. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 5-6 คน แลว้ ให้แต่ละกลมุ่ เขียนคาศพั ทท์ ีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั สวนสนุก
ซ่ึงเรียนไปเมอ่ื ชวั่ โมงทีแ่ ลว้ ใหไ้ ดม้ ากทสี่ ุดภายในเวลา 1 นาที เม่อื ครบกาหนดเวลาใหแ้ ลกกนั นบั
คาศพั ทก์ บั กลมุ่ อ่ืน กล่มุ ใดเขยี นคาศพั ทไ์ ดม้ ากทส่ี ุดครูใหส้ ่งตวั แทนมาเขยี นบนกระดาน
2. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั ตรวจว่าเพ่ือนเขยี นคาศพั ทถ์ ูกตอ้ งหรือไม่ ถา้ ไม่ถกู ตอ้ งให้ช่วยแกไ้ ข ถา้ คาศพั ท์
ทีเ่ ขียนบนกระดานยงั ไม่ครบ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาศพั ท์เพมิ่ เติม จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนอ่าน
ออกเสียงคาศพั ทบ์ นกระดานพร้อมกนั
ข้นั Pre-writing
1. ครูอธิบายภาระงานของ Ex. 4 หนงั สือเรียน หนา้ 38 ว่า นกั เรียนจะไดเ้ ขียนอเี มลถึงเพ่ือนโดยเล่า
เกี่ยวกบั การไปเทยี่ วสวนสนุกเมือ่ วนั หยดุ สุดสปั ดาหท์ ่ีผ่านมา
184
2. ครูนาตวั อยา่ งอีเมลจาก http://www.wikihow.com/Write-an-Email-to-Your-Friend-Who-has-Just-
Moved มาแสดงให้นกั เรียนดู
Greeting
Body
Closing
ใหน้ กั เรียนช่วยกนั วิเคราะห์โครงสร้างอเี มลว่ามอี งคป์ ระกอบอะไรบา้ ง โดยครูช่วยช้ีทลี ะส่วน แลว้
ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ระบุ จากน้นั ครูอธิบายวา่ การเขียนอีเมลหรือจดหมายจะประกอบดว้ ย 3 ส่วน คือ
คาข้ึนตน้ (greeting), เน้ือหา (body) และคาลงทา้ ย (closing) แลว้ ครูอธิบายเพมิ่ เตมิ ว่าสาหรับเน้ือหา
สามารถแบ่งเป็ น
ส่วนท่ี 1 ความนา จะเป็นการแนะนาตวั ถามทุกข-์ สุข หรือบอกสาเหตุที่เขียนอเี มลหรือ
จดหมายมา
ส่วนท่ี 2 เน้ือความ จะบอกวตั ถปุ ระสงคข์ องอเี มลหรือจดหมาย
ส่วนท่ี 3 สรุป จะเป็นการสรุปเรื่อง หรือความมงุ่ หวงั ในอนาคต
3. ครูนาเสนอสานวนภาษาทีใ่ ชใ้ นการเขยี นอีเมล โดยยกตวั อยา่ งบนกระดาน ใหน้ กั เรียนอา่ นพร้อมกนั
พร้อมท้งั อธิบายความหมาย
คาข้นึ ตน้ เน้ือหา คาลงทา้ ย
• Hi …, ความนา สรุป • Loves
• Hello …, • Take care
• Dear …, • How are you? • See you soon. • Your friend
• Cheers
• I hope you’re fine. • I can’t wait to
hear back from
you.
4. ครูถามนกั เรียนว่า การเขียนเกี่ยวกบั เหตุการณ์ท่ีสิ้นสุดไปแลว้ ในอดีตนกั เรียนจะใช้ tense ใด (Past
simple) แลว้ ครูให้นกั เรียนบอกโครงสร้างของ Past simple (Subject + v 2)
185
ข้นั Writing
หนงั สือเรียน หน้า 38 Ex. 4 ครูใหน้ กั เรียนเขียนอีเมลถงึ เพอ่ื นโดยเล่าเก่ียวกบั การไปเทีย่ วสวนสนุก
เมือ่ วนั หยดุ สุดสัปดาห์ทีผ่ ่านมา ความยาว 60-80 คา
Hi Lisa,
Last Saturday, I went to a theme park with my friend Susan. It was brilliant. We
went on a lot of rides. My favourite was the roller coaster and Susan really liked
the pirate ship. We also ate in a restaurant where the people were all cartoon
characters. My friend had a burger, but I had a pizza. We had a great time. How
was your weekend?
Yours friend,
Katy
ข้นั Production
1. นกั เรียนตรวจทานงานเขยี นของตนเอง โดยใหด้ ูเรื่องไวยากรณ์ การสะกดคา การเขียนถูกตอ้ งตาม
โครงสร้าง แลว้ แลกกนั ตรวจกบั เพื่อน จากน้นั ปรับแกง้ านเขียนของตนเอง
2. ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน อ่านอีเมลของตนเองใหเ้ พ่อื นฟัง
3. นกั เรียนทา Language Review 3c Ex. 3 ในหนงั สือเรียน หนา้ 107 ร่วมกนั ในช้นั
4. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 25 Ex. 6 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ เติมคาลงในช่องวา่ ง
5. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 25 Exs. 4-5 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น
186
7. การวัดและการประเมนิ ผล
วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
ร้อยละ 60
ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง แบบฝึกหดั (Workbook) ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมินการพดู แสดงความคดิ เห็น แบบประเมนิ การพดู ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
เกี่ยวกบั การไปเทย่ี ว Disneyland
ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น
ประเมนิ ชิ้นงานโฆษณาสวนสนุก แบบประเมนิ ชิ้นงาน
ประเมนิ การเขยี นอีเมลเลา่ เก่ียวกบั แบบประเมนิ การเขยี น
การไปเทยี่ วสวนสนุก
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มนั่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ
ในการทางาน อนั พงึ ประสงค์
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) ภาพสวนสนุกและเคร่ืองเลน่
7) ตวั อยา่ งโฆษณา
8) ตวั อยา่ งอีเมล
187
4 Everyday English 3d
2 ช่ัวโมง
จุดประสงค์การเรยี นรู้
- บอกใจความสาคญั และรายละเอยี ดของบทสนทนาท่ีฟังและอ่านได้
- พดู สนทนาตามสถานการณท์ ี่กาหนดได้
- แต่งบทสนทนาตามสถานการณท์ ก่ี าหนดให้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ และบทร้อยกรองส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหัวขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องทฟี่ ังและอา่ น พร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/5 พูดและเขยี นแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกบั เรื่องตา่ ง ๆ
กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลประกอบอยา่ งเหมาะสม
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และ นาไปใช้ ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
188
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ าลองทเี่ กิดข้นึ ในห้องเรียน
สถานศกึ ษา และชุมชน
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การจบั ใจความสาคญั การระบุรายละเอียด และการสรุปขอ้ มูลทีฟ่ ังและอา่ นตอ้ งมคี วามรู้เกี่ยวกบั
คาศพั ท์ สานวนและโครงสร้างประโยค เพอ่ื ช่วยใหส้ ามารถรบั สารจากการฟังไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง และ
สามารถส่ือสารไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Expressing surprise (Incredible, isn’t it?, Are you kidding?, That’s
shocking., You must be kidding/joking., No way.)
Expressing regret/sympathy (Oh dear!, That’s too bad., I’m really sorry.,
That’s awful/terrible.)
Functions: Narrating past events
We were celebrating Gibraltar National Day and we went walking
around the famous Gibraltar Rock. Everyone was wearing red and white
and holding hands.
Pronunciation: Intonation (high rising tone to express disbelief & great surprise)
Wow!, That’s great!, Really?, How interesting!
2) Language Skills
Listening: ฟังเพ่อื จบั ใจความสาคญั
Speaking: พูดสนทนาตามสถานการณ์ทีก่ าหนด
Reading: อ่านเพ่อื หาขอ้ มลู เฉพาะ
Writing: แตง่ บทสนทนาตามสถานการณ์ท่กี าหนด
189
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ
5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) ม่งุ มน่ั ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงท่ี 1
ข้นั Warm up
ครูทบทวน Past continuous โดยแบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทีม แลว้ ครูเขยี นประโยค Past continuous บน
กระดาน ใหแ้ ต่ละทีมผลดั กนั พูดประโยคบนกระดาน โดยเปลยี่ นประธานของประโยคตามทีค่ รูบอก
เช่น
T: Write sentence “I was sleeping last night.”
Team A, Tom
Team A S1: Tom was sleeping last night.
T: Team B, The dog
Team B S1: The dog was sleeping last night.
ข้นั Presentation
1. หนงั สือเรยี น หน้า 39 Ex. 1 นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังการออกเสียง
ประโยค ใหน้ กั เรียนต้งั ใจฟังการออกเสียงสูง-ต่า แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังและออกเสียงตาม
จากน้นั นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียนและออกเสียงประโยคพร้อมกนั แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกเสียง
ทลี ะคน
2. หนงั สือเรยี น หน้า 39 Ex. 2 ครูบอกนกั เรียนวา่ ประโยคใน Ex. 1 มาจากบทสนทนาของเพื่อน 2 คน
ใหน้ กั เรียนเดาว่าบทสนทนาน้ีน่าจะเก่ียวกบั เรื่องอะไร จากน้นั ครูให้นกั เรียนอ่านบทสนทนาเพ่ือ
ตรวจคาตอบ แลว้ ครูถามว่านกั เรียนเดาคาตอบถูกหรือไม่
190
The dialogue is about what happened to Betty on her holiday.
3. ครูเขยี นประโยคบนกระดาน
1) Are you kidding? 2) That’s too bad.
3) I’m really sorry. 4) That’s shocking.
ให้นกั เรียนช่วยกนั ระบวุ า่ ประโยคใดแสดงความประหลาดใจ (ประโยค 1, 4) ประโยคใดแสดง
ความเสียใจ/เห็นใจ (ประโยค 2, 3)
จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นประโยคในตาราง หนงั สือเรียน หนา้ 39 พร้อมกนั แลว้ ช่วยกนั อธิบาย
ความหมาย โดยครูช่วยอธิบายคาว่า kidding
kidding (v) = to be saying something that is not true, especially as a joke (ลอ้ เลน่ )
4. หนังสือเรียน หน้า 39 Ex. 6 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังการออกเสียงประโยค แลว้ ครูถามนกั เรียนว่า
ไดย้ ินการลงทา้ ยประโยคดว้ ยเสียงสูงหรือเสียงต่า ถา้ นกั เรียนยงั ตอบไม่ไดค้ รูใหฟ้ ังอกี คร้งั
5. ครูอธิบายว่าประโยคแสดงความประหลาดใจหรือความไม่เชื่อจะข้ึนเสียงสูงท่ที า้ ยประโยค แลว้ ครู
ให้นกั เรียนออกเสียงตาม CD 2 คร้ัง จากน้นั ให้นกั เรียนออกเสียงดว้ ยตนเอง
6. หนงั สือเรยี น หน้า 39 Ex. 3 นกั เรียนอา่ นประโยค 1-5 แลว้ หาประโยคที่มคี วามหมายเหมอื นกบั
ประโยคเหลา่ น้ีในบทสนทนา จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ
1 Did you enjoy your holiday? - How was your holiday?
2 What’s the matter? - What’s wrong?
3 That’s awful! - That’s terrible!
4 I know! It’s amazing. - Incredible, isn’t it?
5 That’s too bad. - I’m really sorry.
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 39 Ex. 4 นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน แลว้ ฟังบทสนทนาจาก CD ใหน้ กั เรียนต้งั ใจฟัง
การข้ึนเสียงสูงในประโยคแสดงความประหลาดใจ และการใชน้ ้าเสียงในการสนทนา
2. นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน เพ่ือฟัง CD และอ่านบทสนทนาตามไปดว้ ย จากน้นั ครูแบง่ นกั เรียนเป็น
2 กลุ่ม ให้กลุม่ ท่ี 1 อา่ นบทของ Olga และอีกกลมุ่ หน่ึงอา่ นบทของ Betty
191
ข้นั Production
ครูใหน้ กั เรียนจบั คกู่ นั แลว้ แบง่ บทบาทวา่ ใครจะรับบทเป็น Olga และ Betty เมือ่ แบง่ บทบาทกนั แลว้
ให้นกั เรียนอา่ นทบทวนบทพูดของตนเอง จากน้นั ใหแ้ ตล่ ะคูพ่ ดู สนทนากนั โดยแสดงสีหนา้ ทา่ ทาง
และใชน้ ้าเสียงใหเ้ หมาะกบั สถานการณ์ เช่น เศร้า ประหลาดใจ เห็นใจ ครูเดินสังเกตและให้
คาแนะนา เพื่อใหน้ กั เรียนนาไปปรบั
ชั่วโมงที่ 2
ข้นั Warm up
ครูทบทวนประโยคแสดงความประหลาดใจและความเห็นใจ โดยแบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทมี ผลดั กนั
ส่งตวั แทนออกมาพูดสนทนา โดยให้ทีมหน่ึงบอกเหตุการณ์ท่เี กิดข้ึน และอกี ทมี หน่ึงพดู แสดง
ความประหลาดใจหรือเห็นใจ เช่น
Team A S1: I lost my wallet.
Team B S1: Oh dear!
Team B S2: I saw a big snake in the garden.
Team A S2: That’s shocking.
ข้นั Presentation
1. ครูใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงประโยคในหนงั สือเรียน หนา้ 39 Ex. 1 พร้อมกนั แลว้ ครูสุ่มเรียก
นกั เรียนออกเสียงทีละคน ถา้ นกั เรียนยงั ออกเสียงไมถ่ กู ตอ้ ง ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและออกเสียง
ตาม
2. ครูแบง่ นกั เรียนในช้นั เป็น 2 ฝ่ัง ให้นกั เรียนอ่านออกเสียงประโยคในหนงั สือเรียน หนา้ 39 Ex. 6
ทีละฝั่ง โดยให้ฝั่งทไ่ี ม่ไดอ้ ่านออกเสียงฟังว่าเพอ่ื นข้นึ เสียงสูงทที่ า้ ยประโยคหรือไม่ จากน้นั ครูเปิ ด
CD ให้นกั เรียนฟังและอา่ นออกเสียงตามพร้อมกนั
3. ครูให้นกั เรียนทบทวนบทสนทนาในหนงั สือเรียน หนา้ 39 โดยฝั่งหน่ึงอ่านบทของ Olga และ
อกี ฝ่ังหน่ึงอ่านบทของ Betty
4. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 3-4 คน ใหท้ กุ คนปิ ดหนงั สือเรียน แลว้ ครูเขยี นประโยคเหล่าน้ี
บนกระดาน
192
That’s terrible! Wow, tell me more.
How was your holiday? Oh dear! I’m really sorry.
What’s wrong?
และแจกกระดาษทีม่ บี ทสนทนาในหนงั สือเรียนใหน้ กั เรียนทกุ กลมุ่ จากน้นั ครูอธิบายวา่ ให้แต่ละ
กลุ่มเลอื กประโยคบนกระดานไปเติมในบทสนทนาให้สมบรู ณ์ เสร็จแลว้ ให้แตล่ ะกลมุ่ แลกเปลยี่ น
กนั ตรวจ
Olga: Hi, Betty. 1) How was your holiday?
Betty: Hi, Olga. You’ll never guess what happened.
Olga: You don’t look very happy. 2) What’s wrong?
Betty: I lost my camera.
Olga: 3) That’s terrible! How did that happen?
Betty: We were celebrating Gibraltar National Day and we went walking
around the famous Gibraltar Rock. Everyone was wearing red and
white and holding hands.
Olga: 4) Wow, tell me more.
Betty: There were monkeys everywhere.
Olga: Are you kidding?
Betty: Incredible, isn’t it? When I was taking a picture, one of the monkeys
jumped onto my back and took my camera. I ran after him, but he was
too fast.
Olga: 5) Oh dear! I’m really sorry.
Betty: I felt so disappointed!
ข้นั Practice
หนังสือเรียน หน้า 39 Ex. 5 นกั เรียนจบั ค่ชู ่วยกนั แตง่ บทสนทนา โดยสมมติวา่ มปี ระสบการณท์ ่ี
ไมน่ ่าพอใจขณะอยใู่ นช่วงวนั หยดุ เม่อื แต่งบทสนทนาเสร็จแลว้ ให้ฝึกซ้อมเพ่ือนาเสนอหนา้ ช้นั เรียน
โดยครูเดินสังเกตและให้ feedback เช่น การออกเสียง การใชน้ ้าเสียง ท่าทาง เพื่อใหน้ กั เรียนปรบั แก้
193