2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm up
ครูถามนกั เรียนวา่ เคยดูการแขง่ ขนั กีฬาซีเกมส์ซ่ึงเป็นการแข่งขนั กีฬาระหว่างกลุ่มประเทศในภมู ิภาค
เอเชียตะวนั ออกเฉียงใตห้ รือไม่ กีฬาชนิดใดทนี่ กั เรียนชอบดู
ข้นั Pre-reading
1. ครูให้นกั เรียนดูภาพกีฬาในหนงั สือเรียน หนา้ 54 และบอกวา่ คอื กีฬาชนิดใด (Sepak Takraw)
2. ครูบอกนกั เรียนว่าจะไดอ้ า่ นบทอา่ นเกี่ยวกบั กีฬาเซปักตะกร้อซ่ึงเป็นหน่ึงในกีฬาที่เป็นท่นี ิยมใน
ภูมภิ าคอาเซียน
3. ครูนาเสนอคาศพั ทท์ ่ีนกั เรียนควรรู้ก่อนอ่านโดยเขยี นบนกระดาน และให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงตาม
ครู
court, rattan ball, opponent, unreturnable, aim, creative, evidence, existence, relationship,
formation
จากน้นั ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็นกลมุ่ ยอ่ ย และให้แต่ละกลมุ่ ช่วยกนั หาความหมายจากพจนานุกรม
หรือพจนานุกรมออนไลน์
4. ครูให้นกั เรียนแต่ละกล่มุ อา่ นออกเสียงพร้อมกนั พร้อมท้งั บอกความหมายของคาศพั ทแ์ ตล่ ะคา
court (n) = an area drawn out on the ground that is used for playing sports such
as tennis and basketball (สนาม)
rattan (n) = a tropical climbing plant with thin, tough stems (หวาย)
opponent (n) = a person who someone is competing against in a sports event
(ค่แู ขง่ )
unreturnable (adj) = cannot be returned (กลบั มาไมไ่ ด)้
aim (n) = a result that your plans or actions are intended to achieve
(จุดมุ่งหมาย)
294
creative (adj) = producing or using original and unusual ideas (มคี วามคิด
สร้างสรรค)์
evidence (n) = one or more reasons for believing that something is or is not true
(หลกั ฐาน)
existence (n) = the fact of something or someone existing (การดารงอย)ู่
relationship (n) = the way in which two things are connected (ความสมั พนั ธ์)
formation (n) = the development of something into a particular thing (การสร้าง)
5. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นประโยคที่กาหนดใหใ้ นหนงั สือเรียน หนา้ 54 Ex. 1 และขดี เส้นใตค้ าสาคญั ใน
แตล่ ะประโยค
ข้นั Reading
หนงั สือเรียน หน้า 54 Ex. 1 ครูให้นกั เรียนอา่ นบทอ่านเพ่อื มองหาคาพอ้ งความหมาย (synonym)
คาท่มี ีความหมายตรงกนั ขา้ ม (opposite) หรือกลมุ่ คา/วลที มี่ คี วามหมายเหมือนกนั หรือต่างกนั กบั
คาสาคญั ทข่ี ดี เส้นใตไ้ ว้ เพ่ือหาคาตอบ เสร็จแลว้ ครูเฉลยคาตอบ
1T 2F 3T 4F 5F
ข้นั Post-reading
1. ครูบอกนกั เรียนวา่ กีฬาเป็นส่วนหน่ึงของวฒั นธรรม โดยจะเห็นไดว้ ่าประเทศทม่ี วี ฒั นธรรม
คลา้ ยคลงึ กนั อยา่ งประเทศในภูมภิ าคอาเซียนจะเล่นกีฬาทมี่ ลี กั ษณะคลา้ ยกนั อยา่ งเซปักตะกร้อ
จากน้นั ครูให้นกั เรียนแสดงความคิดเห็นวา่ เซปักตะกร้อเป็นที่นิยมในประเทศตะวนั ตกหรือไม่
เพราะเหตุใด และกีฬาชนิดใดบา้ งทีน่ กั เรียนคดิ วา่ เป็นท่ีนิยมในประเทศตะวนั ตก
2. หนังสือเรียน หน้า 54 Ex. 2 ครูใหน้ กั เรียนศกึ ษาวธิ ีการเล่นเซปักตะกร้อในบทอา่ นอีกคร้ัง แลว้ จบั คู่
กบั เพื่อนผลดั กนั บอกวิธีเลน่ เซปักตะกร้อ ครูเดินสังเกตรอบ ๆ ช้นั เรียน เมอ่ื แน่ใจวา่ นกั เรียนเขา้ ใจวิธี
เลน่ แลว้ ครูให้นกั เรียนร่วมกนั สรุปวิธีเลน่ เซปักตะกร้อ
3. หนังสือเรยี น หน้า 54 Ex. 3 ครูให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5 คน ให้แตล่ ะกลมุ่ อภิปรายคาถามท่ี
กาหนดให้ จากน้นั ครูให้แตล่ ะกล่มุ รายงานผลการอภปิ ราย
4. หนงั สือเรียน หน้า 54 Ex. 4 ครูแบ่งนกั เรียนออกเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 4-5 คน และมอบหมายให้แตล่ ะ
กลุ่มเลอื กคน้ ควา้ ขอ้ มลู จากอนิ เทอร์เน็ตเกี่ยวกบั ส่ิงที่ประเทศในกลุม่ ประชาคมอาเซียนมีคลา้ ยกนั มา
1 หัวขอ้ จากที่กาหนดให้
295
จากน้นั ครูให้นกั เรียนเขียนสรุปขอ้ มลู ที่คน้ ควา้ พร้อมท้งั หาภาพมาติดประกอบ พร้อมตกแต่งให้
น่าสนใจเพือ่ นาเสนอตอ่ เพื่อนร่วมช้นั
7. การวัดและการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
สมกุ นกั เรียน ร้อยละ 60
วิธีการวดั แบบประเมินการสารวจ/คน้ ควา้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่าน
ประเมนิ การคน้ ควา้ เก่ียวกบั ส่ิงที่ แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียนมี อนั พงึ ประสงค์
คลา้ ยกนั และเขยี นนาเสนอ
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มนั่
ในการทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
3) พจนานุกรมออนไลน์
4) อินเทอร์เนต็
296
8 O-NET practice & Fun time 4
1 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- ทบทวนคาศพั ทแ์ ละไวยากรณ์ทเ่ี รียนมาแลว้ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 4
- เขยี น quiz เก่ียวกบั เน้ือหาทเ่ี รียนมาแลว้ ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหัวขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องทฟี่ ังและอา่ น พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ โครงสร้างภาษา ช่วยให้พดู /เขยี นสื่อสาร และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษาได้
อยา่ งเหมาะสม
297
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: คาศพั ทใ์ นหน่วยการเรียนรู้ที่ 4
Grammar: ไวยากรณ์ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 4
2) Language Skills
Listening: ฟังเพ่ือหาขอ้ มูลเฉพาะ
Writing: เขียน quiz เก่ียวกบั เน้ือหาท่เี รียนมาแลว้
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคิด
5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
- มงุ่ มน่ั ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั Warm up
ครูถามนกั เรียนว่า สามารถจดจาเน้ือหาทเ่ี รียนไปแลว้ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ไดห้ รือไม่ มหี วั ขอ้
อะไรบา้ ง โดยใหน้ กั เรียนแลกเปลยี่ นสิ่งทต่ี นเองจาไดก้ บั เพ่ือนร่วมช้นั
ข้นั Presentation
1. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาศพั ทท์ ่ีเรียนในหน่วยการเรียนรู้น้ีตามหวั ขอ้ ทค่ี รูเขยี นบนกระดาน
ไดแ้ ก่ chores, free-time activities, sports
2. นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน ครูทบทวนไวยากรณ์ทีเ่ รียนในหน่วยการเรียนรู้น้ี โดยให้นกั เรียนบอก
ไวยากรณท์ เี่ รียนและหลกั การใช้ ครูเขียนในรูป mind map
298
must/mustn’t -
have to/don’t
have to
ไวยากรณ์ can/could -
หน่วยการ may/might -
เรียนรู้ที่ 4
should -
relative ought to
pronouns
ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 56 Ex. 1 นกั เรียนทบทวนวลเี กี่ยวกบั งานบา้ น โดยสลบั ท่ีคาท่ีพมิ พต์ วั หนาให้เป็น
วลีทถี่ ูกตอ้ ง จากน้นั ครูขออาสาสมคั รบอกคาตอบ
take out the rubbish do the shopping
cook my dinner hoover the carpet
clean the windows lay the table
mop the floor iron the clothes
2. หนงั สือเรียน หน้า 56 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนจบั คู่กบั เพื่อน ช่วยกนั ทา quiz โดยห้ามเปิ ดดูเน้ือหา
เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบคาตอบกบั คูอ่ นื่ จากน้นั ครูจึงเฉลยคาตอบ
1F 2T 3F 4T 5F
3. หนงั สือเรียน หน้า 56 GAME ครูสุ่มเรียกนกั เรียนออกมาแสดงทา่ ทางใบค้ าเก่ียวกบั งานบา้ น แลว้ ให้
เพื่อนร่วมช้นั ช่วยกนั บอกว่าคนที่ใบค้ าตอ้ งทางานบา้ นอะไร หรือครูอาจใหน้ กั เรียนเล่นเป็นคกู่ ็ได้
299
4. หนงั สือเรียน หน้า 56 Ex. 4 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังเพลง เพอ่ื หาคาตอบของคาถาม What are rules
for? เม่ือฟังจบให้ช่วยกนั บอกคาตอบ จากน้นั ครูถามนกั เรียนว่า Do you agree with the singer’s
opinion?
• What are rules for?
Rules are kept to keep us safe, make our lives easier, keep us out of trouble
and help us be good people.
• Do you agree with the singer’s opinion?
I agree with the singer’s opinion because I also believe that we must follow
rules to be safe and to respect other people.
5. หนงั สือเรียน หน้า 56 Ex. 5 ครูใหน้ กั เรียนเขยี นแสดงความคดิ เห็นวา่ กฎระเบียบสาคญั เพราะอะไร
จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน บอกความคิดเห็นของตนเอง
Rules are important because they protect us from danger and help us to respect other
people and always do what is right.
6. หนังสือเรยี น หน้า 55 O-NET practice ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ สอบ เสร็จแลว้ ตรวจคาตอบร่วมกนั
ถา้ นกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจ ใหค้ รูอธิบายเพมิ่ เติม
Ex. 1 1 A b, B c 2 A d, B d 3 A c, B a 5b
Ex. 2 1 c 2 b 3 d 4 b
ข้นั Production
หนังสือเรียน หน้า 56 Ex. 3 นกั เรียนจบั คู่กนั แลว้ ครูแจกกระดาษใหค้ ู่ละ 1 แผ่น ให้แตล่ ะคู่คดิ
คาถาม quiz เก่ียวกบั เน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ครูให้นกั เรียนเปิ ดดเู น้ือหาได้ และใหน้ กั เรียน
เขียนคาตอบไวด้ า้ นหลงั กระดาษ เมอื่ ทกุ คูค่ ู่คิดคาถามเสร็จแลว้ ใหแ้ ลกกนั ทา quiz กบั คู่อื่น
300
1. The three Rs of being eco-friendly are reuse, repair and redo. (F)
2. You cannot use a toy iron to do extreme ironing. (T)
3. At night-time you don’t need to have a light on your bike. (F)
4. There is an extreme ironing competition twice every year. (F)
5. It’s not a good idea to wear loose clothes for cycling. (T)
7. การวัดและการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
- ร้อยละ 60
วิธีการวดั
ตรวจการเขียน quiz เกี่ยวกบั เน้ือหา แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน
ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 อนั พึงประสงค์
สังเกตความมุ่งมน่ั ในการทางาน
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
301
5 Our Wonderful World
ช้ันมัธยมศึกษาปี ที่ 2 เวลาเรียน 14 ชั่วโมง
1 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองส้ัน ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การ
อ่าน
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหัวขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองท่ฟี ังและอ่าน พร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
งา่ ย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปล่ยี นขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณต์ ่าง ๆ
ในชีวิตประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/4 พดู และเขยี นเพื่อขอและให้ขอ้ มลู บรรยาย และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองที่ฟัง
หรืออา่ นอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/5 พูดและเขยี นแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกบั เรื่องตา่ ง ๆ
กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตผุ ลประกอบอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/
เหตกุ ารณท์ ่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม
302
ต 1.3 ม. 2/2 พดู และเขยี นสรุปใจความสาคญั แก่นสาระ หัวขอ้ เรื่อง (topic) ทีไ่ ดจ้ ากการวเิ คราะห์
เร่ือง/ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/สถานการณ์ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 1.3 ม. 2/3 พดู และเขยี นแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั กิจกรรม เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และ
ประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลส้ัน ๆ ประกอบ
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม. 2/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ช้ีวดั
ต 2.2 ม. 2/1 เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างการออกเสียง
ประโยคชนิดต่าง ๆ และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศ
และภาษาไทย
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็ น
พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 2/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มูล/ ขอ้ เทจ็ จริงที่เก่ียวขอ้ งกบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื
จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณ์จาลองท่ีเกิดข้ึนในห้องเรียน
สถานศกึ ษา และ ชุมชน
303
2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างภาษา จะช่วยใหเ้ ขา้ ใจและบอกรายละเอยี ดของเรื่องท่ี
อา่ นและฟังได้ นอกจากน้ียงั ช่วยใหส้ ามารถนาสิ่งท่ีเรียนรู้ไปใชใ้ นการพูดและเขยี นสื่อสาร เปรียบเทยี บ
และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั สถานที่และสิ่งแวดลอ้ มรอบตวั ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ตลอดจนมคี วามเขา้ ใจใน
มารยาทและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
3 สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Geographical features (coast, forest, mountain, river, island, valley,
desert, lake, waterfall, volcano)
Continents (Africa, Asia, Europe, Australia, North America, South
America)
Means of transport (bike, boat, car, helicopter, bus, lorry, motorbike,
scooter, plane, ferry, ship, train, tram, van, hovercraft, underground
train, coach, snowmobile)
Verbs related to travel (drive, take, catch, travel, ride, get on, get off)
Verbs (bury, melt, freeze, leave tracks, exist, cross, observe, spoil)
Nouns (wind, archaeologist, condition, temperature, jets of steam,
volcano, mummies, magnetic force, freshwater lake, depth, nature, falls,
sight, producer, electric power, ski slope, population, sightseeing,
diversity, wildlife, gibbon, hornbill, reef, ecosystem, marine life, whale,
dolphin, shark, turtle, hawksbill)
Adjectives (comfortable, safe, fast, expensive, slow, cheap, expensive,
noisy, small, beautiful, crowded, quiet, green, dirty, relaxing, exciting,
bad, deep, big, large, high, dry, sunny, extreme, dry, average, clear,
brave, biological, ecological, rare, extinct)
Adverbs (seldom, instantly, nearby)
Sentences (Can I help you? Single or return? What time would you like
to leave? Which platform does the train leave from? You’re welcome.)
304
Grammar: both…and, neither…nor, either…or
Functions: comparative and superlatives
as … as
Pronunciation: much + comparative
too + adjective
very/really + adjective
adjective + enough/enough + noun
linkers (and, but, because, on the other hand, and then)
Describing journey to school
I go to school by bus.
I ride my bike to school.
Comparing things and means of transport
Mountains are more beautiful than beaches.
Planes are much more expensive than trains.
Planes are noisier than trains.
Comparing places
Nan isn’t as cold as the Antarctic.
Death Valley is much hotter than Kanchanaburi.
Mont Tremblant is much quieter than Quebec City.
Quebec City is much more exciting.
Buying a train ticket
I’d like an adult’s ticket to Brington, please.
Single or return?
Talking about places
Niagara Falls is amazing. It’s the second largest falls in the world.
/ǝ/
The weather in Los Angeles is better than in London.
silent letters
east, walk, talk, lake, water, listen, clear
305
2) Language Skills
Listening: ฟังเพอื่ หาขอ้ มลู เฉพาะ, ฟังการออกเสียงประโยค,
ฟังคาศพั ทแ์ ละระบุ silent letters
Speaking: พดู เกี่ยวกบั วธิ ีการเดินทางไปโรงเรียน, พดู เปรียบเทียบส่ิงรอบตวั และ
สถานท,่ี พูดแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ขอ้ มลู ท่ีอา่ น, พูดสนทนาเพือ่ ซ้ือ
ตว๋ั รถไฟ, พูดสนทนาทางโทรศพั ทเ์ กี่ยวกบั สถานทท่ี ไ่ี ปเทย่ี ว, พูดนาเสนอ
อเี มล, พดู แสดงความคดิ เห็นตามประเด็นทกี่ าหนด
Reading: อ่านเพ่อื หาขอ้ มลู เฉพาะ, อา่ นและเตมิ คา
Writing: เขยี นโปสการ์ด, เขยี นเปรียบเทียบสถานท่,ี เขียนเกี่ยวกบั extreme places,
แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ท่กี าหนด, เขียนเก่ียวกบั สถานทที่ ม่ี ี
ธรรมชาตสิ วยงามในประเทศไทย, เขยี นอเี มลเปรียบเทียบสถานท่ีทช่ี ่ืน
ชอบในประเทศไทย, เขียนสรุปเกี่ยวกบั ความหลากหลายทางชีวภาพใน
ประเทศไทยหรือประเทศอน่ื ในกลุ่มประชาคมอาเซียน
4 สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
4) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
5 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุง่ มนั่ ในการทางาน
6 ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
1) เขยี นโปสการ์ด
2) เขยี นประโยคเปรียบเทยี บสถานทที่ ่องเท่ียวในประเทศตะวนั ตกกบั ของไทย
3) คน้ ควา้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั extreme places และเขียนนาเสนอ
4) เขยี นเปรียบเทียบขอ้ มลู ของประเทศในกลมุ่ ประชาคมอาเซียน
5) แต่งบทสนทนาตามสถานการณท์ ่ีกาหนด
6) แสดงบทบาทสมมติ
306
7) พดู สนทนาทางโทรศพั ทเ์ ก่ียวกบั สถานทท่ี ี่ไปเท่ียว
8) ทาโครงงาน “A place of natural beauty”
9) เขยี นอเี มลเปรียบเทียบสถานท่ี 2 แห่งในประเทศไทย
10) พูดนาเสนองานเขียน
11) เขยี นสรุปผลการคน้ ควา้ เกี่ยวกบั ความหลากหลายทางชีวภาพ ในประเทศไทยหรือประเทศอน่ื ใน
กล่มุ ประชาคมอาเซียน
7 การวดั และการประเมนิ ผล
7.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน
7.2 การประเมนิ ระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
7.3 การประเมนิ หลงั เรียน
7.4 การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
307
1 Reading 5a & Vocabulary 5a
2 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- บอกรายละเอียดและแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องทีฟ่ ังและอ่านได้
- พูดเก่ียวกบั การเดินทางมาโรงเรียนได้
- เขยี นโปสการ์ดบรรยายสถานทพี่ กั ผอ่ นในวนั หยุดได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ฟี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เร่ืองที่ฟังและอ่าน พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
งา่ ย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณ์ต่าง ๆ
ในชีวิตประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/4 พูดและเขยี นเพือ่ ขอและใหข้ อ้ มลู บรรยาย และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองท่ฟี ัง
หรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และข่าว/
เหตกุ ารณ์ท่ีอยใู่ นความสนใจของสังคม
308
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ าลองที่เกิดข้ึนในหอ้ งเรียน
สถานศึกษา และ ชุมชน
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ท์ สานวน และโครงสร้างภาษา จะช่วยให้เขา้ ใจและบอกรายละเอียดของเรื่องท่ี
อา่ นและฟังได้ นอกจากน้ียงั ช่วยใหส้ ามารถนาสิ่งทเ่ี รียนรู้ไปใชใ้ นการพูดและเขียนส่ือสารไดอ้ ยา่ ง
ถูกตอ้ ง
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Geographical features (coast, forest, mountain, river, island, valley,
desert, lake, waterfall, volcano)
Continents (Africa, Asia, Europe, Australia, North America, South
America)
Means of transport (bike, boat, car, helicopter, bus, lorry, motorbike,
scooter, plane, ferry, ship, train, tram, van, hovercraft, underground
train, coach, snowmobile)
Verbs related to travel (drive, take, catch, travel, ride, get on, get off)
Adjectives (comfortable, safe, fast, expensive, slow, cheap)
Grammar: both…and, neither…nor, either…or
Functions: Describing journey to school
I go to school by bus.
I ride my bike to school.
2) Language Skills
Listening: ฟังเพอ่ื หาขอ้ มูลเฉพาะ
Speaking: พูดเก่ียวกบั วิธีการเดินทางไปโรงเรียน
Reading: อ่านเพ่ือหาขอ้ มูลเฉพาะ
309
Writing: เขยี นโปสการ์ด
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ
5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) ม่งุ มนั่ ในการทางาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงที่ 1
ข้นั Warm up
1. นกั เรียนอา่ นช่ือหน่วยการเรียนรู้ (Our Wonderful World) ในหนงั สือเรียน หนา้ 57 แลว้ ร่วมกนั
แสดงความคดิ เห็นว่าน่าจะเกี่ยวขอ้ งกบั อะไร
2. Find the page numbers for หน้า 57 ครูให้นกั เรียนหาวา่ ภาพทเ่ี ก่ียวขอ้ งกบั ท้งั 3 คาน้ีอยใู่ น
หนงั สือเรียนหนา้ ใด เมอ่ื หาพบแลว้ ครูถามคาถามเพ่ือสนทนากบั นกั เรียน
a desert (p. 62)
Do you know any famous deserts?
Do you know what the weather is like in desert?
a famous waterfall (p. 64)
Do you know where this waterfall is? Is there a famous waterfall in your country?
What’s it called? Where is it? Do you know any other famous waterfalls?
a song (p. 68)
What is the difference between a song and a poem?
Do you prefer songs or poems? Why?
310
ข้นั Pre-reading
1. หนงั สือเรยี น หน้า 57 Ex. 1 นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน แลว้ ฟังคาศพั ท์เกี่ยวกบั ลกั ษณะทางภูมิศาสตร์
และออกเสียงตาม โดยครูเปิ ด CD ใหฟ้ ัง 2 คร้ัง จากน้นั ใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน อ่านออกเสียง
คาศพั ทพ์ ร้อมกนั และอธิบายความหมายโดยเดาจากภาพ
2. หนงั สือเรียน หน้า 57 Ex. 2 นกั เรียนอ่านชื่อสถานที่ 1-10 และชื่อทวปี A-F พร้อมกนั คาใดอา่ น
ไม่ได้ ครูอา่ นเป็นตวั อยา่ ง แลว้ ให้นกั เรียนจบั คู่ช่ือสถานทกี่ บั ช่ือทวปี ที่สัมพนั ธก์ นั จากน้นั ครูให้
นกั เรียนฟัง CD เพอื่ ตรวจคาตอบ
2 F Angel Falls is in South America.
3 E The Grand Canyon is in North America.
4 C Malta is in Europe.
5 C Lake Geneva is in Europe.
6 A The river Nile is in Africa.
7 E Niagara Falls is in North America.
8 B The Gobi Desert is in Asia.
9 D Ayers Rock is in Australia.
10 C Mount Vesuvius is in Europe.
3. หนังสือเรยี น หน้า 57 Ex. 3 นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นวา่ ลกั ษณะทางภูมิศาสตร์แบบใดบา้ ง
ท่มี ีในประเทศไทย
Phuket is a famous island in the south of Thailand.
Thi Lo Su is one of the highest waterfalls in Thailand.
4. ครูให้นกั เรียนอ่านช่ือเรื่องและดูภาพประกอบในหนงั สือเรียน หนา้ 58 แลว้ เดาวา่ เร่ืองทจี่ ะอ่านน่าจะ
เกี่ยวขอ้ งกบั อะไร
5. นกั เรียนอา่ นออกเสียงชื่อสถานทที่ ้งั สองแห่ง พร้อมท้งั ดภู าพประกอบ แลว้ แสดงความคดิ เห็นว่า
แตล่ ะสถานทมี่ ลี กั ษณะทางภมู ศิ าสตร์แบบใด
311
6. หนงั สือเรียน หน้า 58 Ex. 1a นกั เรียนสนทนากบั เพอ่ื นท่นี ง่ั ขา้ ง ๆ เก่ียวกบั สถานทที่ นี่ กั เรียนไปใน
วนั หยดุ และกิจกรรมท่ีทาที่นน่ั จากน้นั ครูสุ่มถามนกั เรียน 2-3 คน
7. นกั เรียนอ่านออกเสียงคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words แลว้ ช่วยกนั อธิบายความหมาย ถา้ คาใด
นกั เรียนไมร่ ู้ ครูช่วยอธิบาย
hot spring (n) = a place where hot water comes up naturally from the ground (น้าพรุ ้อน)
sunset (n) = the time of day when the sun disappears and night begins (พระอาทิตย์
ตก)
rare (adj) = not seen or found very often (หายาก)
hike (n) = a long walk in the mountains or countryside (การเดินทอ่ งเท่ยี วตาม
เทือกเขา)
8. หนงั สือเรียน หน้า 58 Ex. 1b นกั เรียนดูภาพสถานท่ีท้งั สองแห่ง แลว้ ร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นว่า
แตล่ ะสถานทมี่ ชี ่ือเสียงเก่ียวกบั อะไรบา้ ง จากน้นั ใหน้ กั เรียนฟัง CD และอ่านอเี มลเพื่อตรวจคาตอบ
Santorini is famous for its sunset, black sandy beaches and volcano.
Plitvice Lakes National Park is famous for its rare birds, lakes and waterfalls.
ข้นั Reading
หนังสือเรียน หน้า 58 Ex. 2 นกั เรียนอ่านประโยค 1-6 และคิดวา่ ขอ้ มลู ทจ่ี ะนามาเตมิ น่าจะเกี่ยวกบั
อะไร หรือเป็นคาประเภทใด (e.g. 1 - adjective; weather, 2 - noun etc.) จากน้นั ใหน้ กั เรียนอา่ นอเี มล
และขีดเส้นใตข้ อ้ มูลท่ตี อ้ งการ แลว้ ใหน้ กั เรียนเติมประโยค 1-6 ใหส้ มบรู ณ์ และอา่ นประโยคอีกคร้งั
เพอ่ื ดวู า่ ขอ้ มลู ท่ีเตมิ ทาให้ประโยคมคี วามสมเหตสุ มผลหรือไม่ จากน้นั ครูขออาสาสมคั รอ่าน
ประโยค และครูตรวจคาตอบ
1 hot and sunny
2 its many museums, black sandy beaches and beautiful sunsets
3 a beach with red sand
4 Croatia
5 sixteen lakes connected by waterfalls
6 deer, rare birds and bears
312
ข้นั Post-reading
1. THINK! หนังสือเรียน หน้า 58 ครูเปิ ด CD ให้นักเรียนฟังดนตรี และจินตนาการตามเสียงดนตรีว่า
ตนเองอยทู่ ่ีไหน กาลงั ทาอะไร รู้สึกอยา่ งไร เห็นหรือไดก้ ลนิ่ อะไรบา้ ง เมือ่ ฟังจบให้นกั เรียนเขยี น
บรรยายถึงส่ิงท่จี ินตนาการ จากน้นั ครูสุ่มเรียกนักเรียน 3-4 คน อา่ นใหเ้ พือ่ นฟัง
I am in Santorini with my family. We are watching a beautiful sunset. I feel happy
and relaxed. I can see the beautiful colours in the sky and smell the sea breeze.
2. หนงั สือเรียน หน้า 59 Ex. 3 นกั เรียนทางานคู่กบั เพื่อน โดยจบั คู่คาศพั ทเ์ พอ่ื ให้ไดว้ ลีทพี่ บในอเี มล
จากน้นั ครูเฉลยคาตอบ
1 sandy 2 boat 3 hot
4 tourist 5 guided 6 rare
3. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะคู่นาวลที ี่จบั ค่ถู ูกตอ้ งแลว้ มาแต่งประโยค จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน
อ่านใหเ้ พือ่ นฟัง
1 Santorini has got black sandy beaches.
2 You can go on a boat tour in Santorini.
3 You can also visit hot springs there.
4 Plitvice Lakes is the most popular tourist attraction in Croatia.
5 You can go on a guided hike through the forest.
6 There are lots of rare birds there.
4. ครูให้นกั เรียนอภิปรายร่วมกนั ว่าชอบสถานที่ใดระหวา่ ง Santorini, Greece และ Plitvice Lakes
National Park, Croatia โดยให้นกั เรียนบอกเหตุผลประกอบดว้ ย
5. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 36 Exs. 1-2 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
313
ช่ัวโมงท่ี 2
ข้นั Warm up
ครูสนทนากบั นกั เรียนเกี่ยวกบั สถานท่ีที่นกั เรียนไปเทย่ี วในวนั หยดุ และวิธีการเดินทางไปท่นี น่ั
โดยสุ่มถามนกั เรียนหลาย ๆ คน เช่น
T: Where did you go last holiday?
S1: I went to Rayoung.
T: How did you go there?
S1: I went there by car.
ข้นั Pre-writing
1. หนงั สือเรยี น หน้า 59 Ex. 4a ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ยานพาหนะ แลว้ ออกเสียง
ตาม โดยครูเปิ ด CD 2 คร้งั จากน้นั ใหน้ กั เรียนออกเสียงคาศพั ทด์ ว้ ยตนเองพร้อมกนั แลว้ ครูสุ่มเรียก
นกั เรียนออกเสียงทลี ะคน
2. นกั เรียนช่วยกนั บอกความหมายของคาศพั ท์ สาหรบั คาศพั ทย์ าก ครูนาภาพมาให้นกั เรียนดูและเดา
ความหมาย ไดแ้ ก่ tram (รถราง), hovercraft (ยานพาหนะที่แล่นไดท้ ้งั ในน้าและบนบก),
snowmobile (รถสาหรับเคลอ่ื นบนหิมะ)
3. นกั เรียนดภู าพ A-D แลว้ ช่วยกนั ระบวุ า่ ในภาพคือยานพาหนะชนิดใดบา้ ง
A - a hovercraft B - an underground train
C - a bus D - a motorbike
4. หนงั สือเรยี น หน้า 59 Ex. 4b ครูใหน้ กั เรียนฟังเสียงยานพาหนะ และระบวุ ่าคอื ยานพาหนะชนิด
ใดบา้ ง แลว้ เปรียบเทียบคาตอบกบั เพอื่ น จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้ฟังอีกคร้งั เพื่อตรวจคาตอบ
1 car 2 helicopter 3 scooter
4 plane 5 ship
314
5. ครูเขียนคากริยา drive, take, catch, travel, ride, get on, get off บนกระดาน และอธิบายว่าเราใช้
คากริยาเหล่าน้ีกบั ยานพาหนะต่าง ๆ เพ่ือบอกวิธีการเดินทาง แลว้ ครูยกตวั อยา่ งประโยคบนกระดาน
ใหน้ กั เรียนอ่านและช่วยกนั อธิบายความหมาย
Let’s get on the bus. We’re going to leave.
Get on a number 73 bus at the corner.
We must get off the bus here.
Let’s take a cab.
We catch the 10:20 from London.
I catch the train to school.
She rides a bike to the market.
I drive to work every day.
ครูอธิบายเพมิ่ เติมว่า ride ใชก้ บั bike และ motorbike
6. หนงั สือเรยี น หน้า 59 Ex. 5 นกั เรียนเติมคากริยาทกี่ าหนดให้ลงในประโยคใหไ้ ดใ้ จความสมบูรณ์
โดยเปลยี่ นคากริยาให้อยใู่ น tense ทถี่ ูกตอ้ งดว้ ย เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รอ่านประโยค แลว้ ครู
ตรวจคาตอบ
1 catches 2 rides 3 drives
4 takes 5 Get on 6 travel
7. หนงั สือเรียนหน้า 59 Ex. 6 นกั เรียนอา่ นออกเสียง adjeactive ทีก่ าหนดใหพ้ ร้อมกนั แลว้ ช่วยกนั
อธิบายความหมาย จากน้นั ให้นกั เรียนเตมิ adjeactive ลงในประโยคตามความคิดของนกั เรียน แลว้
ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยค
1 safe/expensive 2 comfortable/cheap/safe
3 slow/cheap 4 boat, it is slow
8. ครูเขียนตวั อยา่ งประโยคท่ใี ช้ both…and, neither…nor, either…or บนกระดาน และขดี เส้นใตค้ า
เหลา่ น้ี
Both Sam and Bella are students. (ท้งั Sam และ Bella เป็นนกั เรียน)
315
Either Joe or Sandy goes to the library. (ไม่ Joe ก็ Sandy ไปทหี่ ้องสมุด)
Neither my sisters nor my brothers like doing ironing. (พสี่ าวและพี่ชายของฉันไม่ชอบรีดผา้ )
ครูอธิบายความหมายของ both…and (ท้งั สอง), either…or (ไมอ่ ยา่ งใดกอ็ ยา่ งหน่ึง), neither…nor
(ไม่ท้งั สอง) แลว้ ใหน้ กั เรียนดคู ากริยาในแต่ละประโยค ครูอธิบายว่าเม่อื ใช้ both…and เช่ือมคาที่เป็น
ประธานของประโยค ทาให้กลายเป็นประธานพหูพจน์ คากริยาจึงใช้ are แต่เม่อื ใช้ neither…nor,
either…or เชื่อมคาทเ่ี ป็นประธานของประโยค คากริยาจะผนั ตามประธานทอ่ี ยใู่ กลก้ บั คากริยาน้นั
คือ goes ผนั ตาม Sandy และ like ผนั ตาม my brothers จากน้นั ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบาย
ความหมายของประโยคบนกระดาน
9. หนงั สือเรียน หน้า 59 Ex. 7 นกั เรียนเติม both…and, neither…nor, either…or ลงในประโยคให้
ถูกตอ้ ง จากน้นั ครูขออาสาสมคั รบอกคาตอบ ครูตรวจความถกู ตอ้ ง แลว้ ให้นกั เรียนอา่ นประโยค
พร้อมกนั และช่วยกนั อธิบายความหมาย
1 Both, and 2 Neither, nor 3 either, or
4 Both, and 5 both, and
10. หนังสือเรียน หน้า 59 Ex. 8 ครูบอกนกั เรียนว่าจะไดฟ้ ัง James และ Stella พดู เกี่ยวกบั การเดินทางมา
โรงเรียนของพวกเขา ใหน้ กั เรียนฟังวา่ แต่ละคนเดินทางดว้ ยวธิ ีใด และใช้เวลาเท่าไร ก่อนฟังครู
ทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ยานพาหนะ และคากริยา catch, take, ride, get off จากน้นั เปิ ด CD ให้
นกั เรียนฟังและจดบนั ทึกขอ้ มลู เมอื่ ฟังจบครูถามนกั เรียนว่าตอบคาถามไดห้ รือไม่ ถา้ นกั เรียนยงั
ตอบไมไ่ ดค้ รูเปิ ด CD ให้ฟังอกี คร้งั แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ
James goes to school by bus. It takes him 30 minutes to go to school.
Stella goes to school on foot. It takes her 10 minutes to go to school.
11. ครูเขยี นประโยคที่ใชบ้ อกวิธีการเดินทางไปยงั สถานท่ีตา่ ง ๆ บนกระดาน เช่น
I go to my friend’s house by train.
He rides his bike to work.
Dad drives me to school in his car.
She catches the bus to shopping mall.
316
ให้นกั เรียนอา่ นพร้อมกนั จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 4-5 คน พดู ประโยคบนกระดานใหม่โดย
เปลยี่ นประธานของประโยคเป็นคาอน่ื
12. หนงั สือเรียน หน้า 59 Ex. 9 ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ ผลดั กนั พูดเก่ียวกบั วิธีการเดินทางมาโรงเรียนให้คู่
ของตนฟัง จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คน พูดใหเ้ พอ่ื นฟัง
A: I go to school by bus. How about you?
B: My mum drives me to school in her car.
13. ครูนาตวั อยา่ งโปสการ์ดจาก https://learnenglishkids.britishcouncil.org/en/writing-practice/postcard-
london มาใหน้ กั เรียนดู และช่วยกนั บอกว่าในโปสการ์ดน้ีประกอบดว้ ยส่วนตา่ ง ๆ อะไรบา้ ง (ท่อี ยู่
ผรู้ ับ, แสตมป์ , ขอ้ ความ) ตอ่ มาครูถามนกั เรียนว่าใครคอื ผสู้ ่งโปสการ์ดน้ี (Lucy) ใครคอื ผรู้ ับ (Mrs
Jones) ใชภ้ าษาแบบเป็นทางการหรือไม่ ดจู ากอะไร (ไมเ่ ป็นทางการ มกี ารใชร้ ูปยอ่ เช่น ’m, didn’t,
it’s) ใชค้ าทกั ทายวา่ อยา่ งไร (Dear) และใชค้ าลงทา้ ยวา่ อยา่ งไร (See you soon)
14. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาทกั ทายและคาลงทา้ ยอ่ืน ๆ สาหรับเขียนถึงเพื่อนหรือบคุ คลท่สี นิท
แลว้ ครูเขียนบนกระดาน เช่น Hi, Hello, Wish you were here!, Love, Miss you so.
ข้นั Writing
หนงั สือเรียน หน้า 59 Ex. 10 นกั เรียนเขยี นโปสการ์ดถึงเพ่ือน โดยสมมติว่าตนเองอยใู่ นช่วง
ท่องเท่ยี ววนั หยดุ ในประเทศไทย
317
Dear Greg,
Greetings from Phuket.
It’s a beautiful place and the weather is great. There are lots of things to see here.
You can walk on the sandy beaches or sample the local dishes. Yesterday, we went
on a bus tour to Chalong Temple. I’ve got lots of photographs.
See you soon,
Spiros
ข้นั Post-writing
1. นกั เรียนแลกกนั ตรวจงานเขยี นกบั เพื่อน โดยดกู ารสะกดคา ไวยากรณ์ และเครื่องหมายวรรคตอน
แลว้ ปรบั แก้ จากน้นั ให้นกั เรียนนาส่งครู
2. ครูเลือกผลงานของนกั เรียน 2-3 คน ให้ออกมาอา่ นใหเ้ พอื่ นฟังทห่ี นา้ ช้นั
3. นกั เรียนทา Language Review 5a Exs. 1-2 ในหนงั สือเรียน หนา้ 109 ร่วมกนั ในช้นั
4. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 36-37 Exs. 3-7 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบฝึกหดั (Workbook) ร้อยละ 60
วธิ กี ารวดั
ตรวจการตอบคาถามจากการอา่ นหรือ แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
การฟัง
สงั เกตการอภิปรายเกี่ยวกบั สถานท่ี แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ทช่ี อบในเรื่องท่อี า่ น
สงั เกตการพูดเกี่ยวกบั วิธีการเดินทาง แบบประเมินการเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้
มาโรงเรียน แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ประเมินการเขียนโปสการ์ด อนั พึงประสงค์
สังเกตความใฝ่ เรียนรู้และความมุ่งมน่ั
ในการทางาน
318
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) ภาพยานพาหนะต่าง ๆ
319
2 Grammar 5b
2 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- พดู และเขียนประโยคเปรียบเทียบโดยใช้ comparative, superlative, as … as ได้
- เปรียบเทยี บการใชค้ าคุณศพั ทเ์ พ่อื เปรียบเทียบในภาษาองั กฤษและภาษาไทยได้
- เขียนประโยคโดยใช้ too + adjective, very/really + adjective และ adjective + enough/enough +
noun ได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข่าว ประกาศ และบทรอ้ ยกรองส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
มาตรฐาน ต 1.2 มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เหน็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/5 พูดและเขยี นแสดงความรู้สึกและความคดิ เห็นของตนเองเกี่ยวกบั เร่ืองตา่ ง ๆ
กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลประกอบอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และข่าว/
เหตุการณ์ท่ีอยใู่ นความสนใจของสงั คม
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
กับภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
320
ตวั ช้ีวดั เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียง
ต 2.2 ม. 2/1 ประโยคชนิดต่าง ๆ และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้และเขา้ ใจคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างทางภาษา ช่วยให้สามารถพูดและเขยี นเปรียบเทียบ
สถานที่และส่ิงแวดลอ้ มรอบตวั ไดถ้ กู ตอ้ ง
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Adjectives (expensive, noisy, small, beautiful, crowded, quiet, green,
dirty, fast, comfortable, safe, relaxing, exciting, bad, deep, big, large,
high, dry, sunny)
Grammar: comparative and superlatives
as … as
much + comparative
too + adjective
very/really + adjective
adjective + enough/enough + noun
Functions: Comparing things and means of transport
Mountains are more beautiful than beaches.
Planes are much more expensive than trains.
Planes are noisier than trains.
Pronunciation: /ǝ/
The weather in Los Angeles is better than in London.
2) Language Skills
Speaking: พดู เปรียบเทยี บส่ิงรอบตวั และสถานท่ี
Writing: เขียนเปรียบเทียบสถานที่
321
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการคดิ
5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
- ใฝ่เรียนรู้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงท่ี 1
ข้นั Warm up
ครูทบทวนคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ยานพาหนะดว้ ยการให้นกั เรียนเล่นเกม Bingo ครูใหน้ กั เรียนเขยี นตาราง
9 ช่อง ลงในสมดุ และเขยี นคาศพั ทล์ งไปช่องละ 1 คา จากน้นั เริ่มเลน่ เกม โดยครูพดู คาศพั ทท์ ลี ะคา
ถา้ ในตารางของนกั เรียนมคี าศพั ทต์ ามที่ครูพูดให้กากบาททบั ช่องน้นั ใครที่กากบาทไดต้ ดิ กนั 3 ช่อง
ก่อน ในแนวใดก็ได้ ให้ตะโกนว่า Bingo
ข้นั Presentation
1. ครูบอกนกั เรียนวา่ จะให้ฟังเพลง My love ของ Petula Clark จาก YouTube โดยให้นกั เรียนจบั คู่กนั
ครูแจกกระดาษเน้ือเพลงให้คลู่ ะ 1 แผน่ ครูเปิ ดเพลง แลว้ ให้นกั เรียนแต่ละคู่ขดี เส้นใต้ comparative
และ superlative
2. หนงั สือเรยี น หน้า 60 Ex. 1 ครูใหน้ กั เรียนดูตวั อยา่ งการเปล่ยี นรูป adjective ในตาราง สังเกตความ
แตกตา่ ง แลว้ ช่วยกนั สรุปวธิ ีทาเป็น comparative และ superlative โดยครูช่วยเสริมให้ครบ และย้าวา่
comparative ตอ้ งตามดว้ ย than และ superlative ตอ้ งมี the นาหนา้ เสมอ จากน้นั ครูอธิบายเพ่มิ เตมิ ว่า
เราสามารถใช้ much นาหนา้ comparative เม่ือตอ้ งการทาให้การเปรียบเทียบน้นั ดหู นกั แน่น
ย่ิงข้ึน เช่น He is much taller than his father. (เขาสูงกวา่ พอ่ ของเขามาก)
หลกั การเปล่ียน adjective เป็น comparative และ superlative
1) adjective ทม่ี ีพยางคเ์ ดียว ใหเ้ ติม -er เม่อื ทาเป็น comparative และเตมิ -est เมื่อทาเป็น
superlative เช่น
322
cheap - cheaper - cheapest, young - younger - youngest
ถา้ adjective คาใดมสี ระเสียงส้ันและมีตวั สะกดตวั เดียว ให้เพ่ิมตวั สะกดอีก 1 ตวั
แลว้ จึงเติม -er หรือ -est เช่น
hot - hotter - hottest, thin - thinner – thinnest
2) adjective ทีม่ ี 2 พยางค์ และลงทา้ ยดว้ ย y ให้เปลี่ยน y เป็น i แลว้ จึงเตมิ -er หรือ -est
เช่น
dirty - dirtier - dirtiest, easy - easier - easiest
3) adjective ทมี่ ี 2 พยางค์ หรือมากกวา่ ให้เตมิ more เมือ่ ทาเป็น comparative และ
เติม most เม่ือทาเป็น superlative เช่น
modern - more modern - most modern
dangerous - more dangerous - most dangerous
4) irregular adjective เม่อื ทาเป็น comparative และ superlative จะเปล่ยี นรูปไปเลย เช่น
good - better - betterest, little - less - least
3. ครูให้นกั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน หนา้ 58 และหา comparative และ superlative ในอีเมล จากน้นั
ช่วยกนั พดู บอกครู
Superlative: the most beautiful, the most popular, the highest
4. ครูให้นกั เรียนร่วมกนั เปรียบเทียบวา่ ในภาษาไทยมีการเปลย่ี นรูปคาคณุ ศพั ทเ์ มือ่ ทาเป็นข้นั กว่าและ
ข้นั สูงสุดหรือไม่ ถา้ ไม่มี ให้อธิบายว่าภาษาไทยมกี ารเปรียบเทียบอยา่ งไร (ถา้ เปรียบเทียบ 2 ส่ิง จะ
เตมิ คาวา่ “กว่า” หลงั คาคณุ ศพั ท์ เช่น สูงกว่า ดีกว่า และถา้ เปรียบเทยี บมากกว่า 2 สิ่ง จะเติมคาวา่
“ทส่ี ุด” หลงั คาคณุ ศพั ท์ เช่น สูงที่สุด ดีทส่ี ุด)
5. ครูเขียนตวั อยา่ งประโยคเปรียบเทียบทีใ่ ช้ as … as และ not as … as บนกระดาน
Tom is as tall as Mark.
The red shirt is as big as the blue shirt.
A bike is not as expensive as a motorbike.
ให้นกั เรียนสงั เกตวา่ คาท่อี ยรู่ ะหวา่ ง as … as คอื คาประเภทใด (adjective) แลว้ ครูอธิบายวา่ as … as
ใชเ้ ปรียบเทยี บ 2 ส่ิงท่ีเทา่ กนั แต่ถา้ ตอ้ งการบอกว่า 2 สิ่งไมเ่ ทา่ กนั จะเติม not ขา้ งหนา้ as … as
323
5. ครูอธิบายนกั เรียนวา่ ในภาษาองั กฤษมีเสียงสระซ่ึงออกเสียงเบา เรียกวา่ schwa จะออกเสียงคลา้ ย
“เออะ” เบา ๆ มกั จะปรากฏในพยางคท์ ่ไี ม่เนน้ ซ่ึงถา้ นกั เรียนเปิ ดดกู ารออกเสียงในพจนานุกรม
องั กฤษ-องั กฤษ จะใชส้ ญั ลกั ษณ์คอื /ǝ/
จากน้นั ครูยกตวั อยา่ งคาที่มเี สียง schwa บนกระดาน เช่น about, happen, paper, and, cancel แลว้
ออกเสียงให้นกั เรียนฟังและออกเสียงตาม ถา้ ในช้นั เรียนมีคอมพวิ เตอร์ท่ีเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตครู
อาจจะเปิ ดใหฟ้ ังจากพจนานุกรมออนไลน์ หรือเปิ ดให้ฟังจากโทรศพั ทก์ ็ได้
6. ครูเขยี นประโยคบนกระดานท่ีมเี สียง /ǝ/ อยใู่ นประโยค แลว้ ให้นกั เรียนช่วยกนั ระบุวา่ พยางคใ์ ดที่
ออกเสียง /ǝ/ เช่น
I can have a glass of milk and an apple.
I want some becon and melon for breakfast.
จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ นประโยคบนกระดานพร้อมกนั
7. หนงั สือเรียน หน้า 60 Ex. 5 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังประโยค โดยใหน้ กั เรียนต้งั ใจฟังเสียง /ǝ/ แลว้
ครูเปิ ด CD อีก 2-3 คร้งั ใหน้ กั เรียนฝึกออกเสียงตาม จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านออกเสียง
ประโยคทลี ะคน แลว้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั คิดคาอืน่ ๆ ทีม่ เี สียง /ǝ/
teacher, about, available
ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 60 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนเตมิ ประโยคให้สมบรู ณ์ดว้ ย adjective ในวงเลบ็ โดย
เปลีย่ นให้เป็น comparative เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รเขยี นคาตอบบนกระดาน
1 more expensive 2 noisier 3 smaller
4 more beautiful 5 more crowded 6 quieter
7 greener 8 dirtier
2. หนังสือเรยี น หน้า 60 Ex. 3 นกั เรียนดภู าพและบอกว่าคือยานพาหนะชนิดใด (plane and train) แลว้
ให้นกั เรียนเปรียบเทียบยานพาหนะท้งั สองชนิดน้ีโดยใช้ as … as, much + comparative,
comparative + than ร่วมกบั adjective ท่กี าหนดให้ จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยคคนละ 1
ประโยค
324
Planes are much more expensive than trains./Trains aren’t as expensive as planes.
Planes are noisier than trains./Trains aren’t as noisy as planes.
Planes are more comfortable than trains./Trains aren’t as comfortable as planes.
Trains are safer than planes./Planes aren’t as safe as trains.
Trains are more relaxing than planes./Planes aren’t as relaxing as trains.
Planes are more exciting than trains./Trains aren’t as exciting as planes.
3. หนังสือเรียน หน้า 60 Ex. 4 นกั เรียนแต่งประโยคเปรียบเทยี บตามความคิดเห็นของตนเอง เสร็จแลว้
ครูขออาสาสมคั รอ่านใหเ้ พื่อนในช้นั ฟัง และครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกวา่ เห็นดว้ ยกบั เพอ่ื นหรือไม่ ถา้
เห็นดว้ ยให้บอกวา่ I agree. หรือ I think so. แต่ถา้ ไม่เห็นดว้ ยใหบ้ อกว่า I disagree. หรือ I don’t think
so.
2 In my opinion, a car is more comfortable than a bus./A bus isn’t as comfortable
as a car.
3 In my opinion, basketball is more exciting than football./Football isn’t as
exciting as basketball.
4 In my opinion, snow is worse than rain./Rain isn’t as bad as snow.
5 In my opinion, mountains are more beautiful than beaches./Beaches aren’t as
beautiful as mountains.
6 In my opinion, pizza is nicer than hamburgers./Hamburgers aren’t as nice as
pizza.
4. หนังสือเรยี น หน้า 61 Ex. 6 นกั เรียนจบั คู่กบั เพ่ือนและช่วยกนั เปลี่ยน adjective ในวงเล็บใหเ้ ป็น
superlative แลว้ เลอื กชื่อทใี่ หม้ าเตมิ ลงในประโยคให้ถูกตอ้ ง จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหฟ้ ังเพอ่ื ตรวจ
คาตอบ แลว้ ขออาสาสมคั รบอกคาตอบ ใหน้ กั เรียนในช้นั ตรวจความถกู ตอ้ ง
325
1 The deepest ocean in the world is the Pacific.
2 The biggest country in the world is Russia.
3 The largest animal in the world is the Blue Whale.
4 Angel Falls is the highest waterfall in the world.
5 The Vatican City is the smallest country in the world.
6 Shanghai is the city with the largest population in the world.
7 The deepest lake in the world is Lake Baikal in Russia.
8 The Atacama Desert in Chile is the driest place in the world.
9 Niger is the sunniest country in the world.
5. หนงั สือเรียน หน้า 61 Ex. 7 ครูให้นกั เรียนคู่เดิมผลดั กนั พดู เปรียบเทียบสิ่งทก่ี าหนดให้ โดยครูให้
นกั เรียน 1 คู่ อ่านตวั อยา่ งใหเ้ พอ่ื นฟังกอ่ น จากน้นั ใหน้ กั เรียนทากิจกรรม ครูเดินสังเกตและคอยให้
คาแนะนา
2 A: Cars are very fast.
B: Yes, but trains are faster than cars.
A: Planes are the fastest of all.
3 A: Russia is very cold.
B: Yes, but Greenland is colder than Russia.
A: Antarctica is the coldest of all.
4 A: The United Kingdom is really expensive.
B: Yes, but Norway is much more expensive than the United Kingdom.
A: Japan is the most expensive of all.
5 A: The Yangtze river is very long.
B: Yes, but the Amazon river is longer than the Yangtze river.
A: The river Nile is the longest river of all.
326
6 A: English is old.
B: Yes, but Greek is older than English.
A: Sanskrit is the oldest of all.
6. หนังสือเรียน หน้า 61 Ex. 8 นกั เรียนใชข้ อ้ มูลในตารางเขยี นเปรียบเทียบรถยนตข์ องบคุ คล เสร็จแลว้
ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นประโยค และให้นกั เรียนในช้นั ช่วยตรวจความถูกตอ้ ง
Mark’s car is fast.
John’s car isn’t as fast as Bob’s.
John’s car is faster than Mark’s.
Bob’s car is the fastest of all.
Bob’s car is comfortable.
John’s car isn’t as comfortable as Mark’s.
John’s car is more comfortable than Bob’s.
Mark’s car is the most comfortable of all.
John’s car is small.
Mark’s car isn’t as small as Bob’s.
Mark’s car is smaller than John’s.
Bob’s car is the smallest of all.
ข้นั Production
1. ครูให้นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กล่มุ ละ 3 คน ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มแต่งประโยคเปรียบเทยี บสถานทที่ อ่ งเทย่ี วใน
ประเทศตะวนั ตกกบั ของไทย มา 3 สถานท่ี โดยใช้ comparative และ (not) as…as เสร็จแลว้ ครูสุ่ม
เรียกแต่ละกลมุ่ อ่านใหเ้ พอื่ นร่วมช้นั ฟัง
2. นกั เรียนทาแบบฝึกหดั หนา้ 38-39 Exs. 1-6 เป็นการบา้ น
327
ชั่วโมงที่ 2
ข้นั Warm up
ครูเตรียมบตั รคา adjective แลว้ แบ่งนกั เรียนเป็น 2 ทีม ครูให้แต่ละทมี ส่งตวั แทนออกมาคร้งั ละ 1 คน
เพอ่ื เขยี นคาบนกระดาน เม่อื ครูแสดงบตั รคา ให้นกั เรียนท้งั สองทีมอ่านออกเสียง adjective แลว้ ให้
ตวั แทนแต่ละทมี เขียนรูป comparative และ superlative ทมี ใดเขียนเสร็จก่อนและถูกตอ้ ง จะได้
1 คะแนน เมอ่ื ครูแสดงบตั รคาหมดทมี ท่มี ีคะแนนมากกว่าจะเป็นผชู้ นะ
ข้นั Presentation
1. ครูแจกกระดาษเน้ือเพลง Strong Enough ของ Matthew West ใหน้ กั เรียน แลว้ ครูเปิ ดเพลงจาก
YouTube ให้นกั เรียนฟังและขดี เส้นใตป้ ระโยคที่มีคาว่า enough แลว้ วเิ คราะหโ์ ครงสร้าง
2. ครูยกตวั อยา่ งประโยคท่ีใช้ too + adjective บนกระดาน
We can’t go to Psris. The tickets are too expensive.
The weather is too hot.
ใหน้ กั เรียนสงั เกตวา่ คาทต่ี ามหลงั too คือคาชนิดใด (adjective) แลว้ ครูอธิบายว่า too เมอ่ื ใชน้ าหนา้
adjective มคี วามหมายว่า “มากเกินไป” แสดงถงึ การมีบางส่ิงท่มี ากเกินจาเป็น จากน้นั ใหน้ กั เรียน
ช่วยกนั อธิบายความหมายของประโยคบนกระดาน
3. ครูยกตวั อยา่ งประโยคที่ใช้ very/really + adjective
The movie was very exciting.
It’s really cold today.
ใหน้ กั เรียนสังเกตวา่ very/really วางอยูใ่ นตาแหน่งใด (หนา้ adjective) แลว้ ครูอธิบายวา่
very/really ใชเ้ มอ่ื ตอ้ งการเนน้ adjective โดย very มีความหมายว่า “มาก” และ really มคี วามหมาย
ว่า “จริง ๆ” จากน้นั ให้นกั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมายของประโยคบนกระดาน
4. ครูยกตวั อยา่ งประโยคท่ีใช้ adjective + enough และ enough + noun
You can go to school when you’re old enough.
This house is big enough for us.
We have enough strawberries, so we can make a cake.
ใหน้ กั เรียนสงั เกตวา่ enough วางอยใู่ นตาแหน่งใด (หลงั adjective และหนา้ คานาม) แลว้ ครูอธิบาย
วา่ enough มีความหมายว่า “พอ” ใชแ้ สดงถงึ การมีบางสิ่งเพียงพอต่อความตอ้ งการ จากน้นั ให้
นกั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมายของประโยคบนกระดาน
328
5. หนังสือเรียน หน้า 61 Ex. 9 ครูใหน้ กั เรียนอา่ นตวั อยา่ งประโยคและการใช้ too + adjective,
very/really + adjective, adjective + enough และ enough + noun
ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 61 Ex. 9 นกั เรียนฝึกใช้ too, very/really, enough กบั adjective โดยเลอื กคาท่ี
ถกู ตอ้ ง จากน้นั ครูสุ่มเรียกบอกคาตอบ และครูตรวจความถูกตอ้ ง
1 very 2 enough 3 very
4 too 5 really 6 too
2. หนงั สือเรียน หน้า 61 Ex. 10 ครูให้นกั เรียนแต่งประโยคเปรียบเทียบสถานท่ี 3 แห่งในประเทศไทย
โดยใช้ adjective ที่กาหนดใหอ้ ยา่ งนอ้ ย 5 คา เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 5-6 คน อา่ นประโยคให้
เพือ่ นฟัง
Chiang Mai is hot. Phuket is not as hot as Chiang Mai. Bangkok is hotter than Phuket.
Chiang Mai is noisy. Phuket is noisier than Chiang Mai. Bangkok is the noisiest of all.
Chiang Mai is expensive. Bangkok is more expensive than Chiang Mai. Phuket is the
most expensive of all.
Bangkok is beautiful. Chiang Mai is as beautiful as Bangkok. Phuket is the most
beautiful of all.
Chiang Mai is interesting. Phuket is more interesting than Chaing Mai. Bangkok is the
most interesting of all.
ข้นั Production
1. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกช่ือสถานที่ทอ่ งเทย่ี วท่ีมีชื่อเสียงในประเทศไทย และครูเขยี นบนกระดาน
จากน้นั ให้นกั เรียนแตง่ ประโยคเก่ียวกบั สถานท่บี นกระดานโดยใชโ้ ครงสร้างภาษาท่เี รียน ไดแ้ ก่
comparative, superlative, as … as, too/enough/very/really + adjective โครงสร้างละ 2 ประโยค
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอา่ นคนละ 2 ประโยค
2. นกั เรียนทา Grammar Bank 5 ในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 81 Exs. 1-4 ร่วมกนั ในช้นั
329
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 39 Exs. 7-9 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
วิธีการวดั
สงั เกตการเปรียบเทียบการใช้ สมุดนกั เรียน -
คาคุณศพั ทเ์ พ่อื เปรียบเทียบใน
ประโยคภาษาองั กฤษและภาษาไทย สมดุ นกั เรียน -
ตรวจการเขียนประโยคเปรียบเทียบ
สถานท่ที ่องเท่ยี วในประเทศตะวนั ตก แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น
กบั ของไทย อนั พงึ ประสงค์
ตรวจการเขียนประโยคเก่ียวกบั
สถานท่ีท่องเท่ยี วในประเทศไทยโดย
ใชโ้ ครงสร้างภาษาที่เรียน
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) อินเทอร์เนต็
7) บตั รคา adjectives
330
3 Skills 5c
2 ชั่วโมง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- บอกรายละเอียดและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เร่ืองทฟี่ ังได้
- คน้ ควา้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั extreme places และเขียนนาเสนอได้
- เขยี นเปรียบเทียบขอ้ มูลของประเทศในกลมุ่ ประชาคมอาเซียนได้
1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น
อย่างมเี หตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เร่ืองทฟี่ ังและอา่ นพร้อมท้งั ให้เหตุผลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/4 พดู ละเขยี นเพ่อื ขอและให้ขอ้ มลู บรรยาย และแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เร่ืองท่ฟี ัง
หรืออา่ นอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และข่าว/
เหตุการณท์ อี่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม
331
สาระท่ี 3 ภาษากับความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่นื และเป็ น
พนื้ ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 2/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู / ขอ้ เทจ็ จริงท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่นื
จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขียน
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้เก่ียวกบั คาศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษา ช่วยใหเ้ ขา้ ใจใจความสาคญั ใจความสนบั สนุนของ
เร่ืองที่ฟัง และสามารถนาคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษาไปใชใ้ นการเขยี นไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Verbs (bury, melt, freeze, leave tracks)
Nouns (wind, archaeologist, condition, temperature, jets of steam,
volcano, mummies, magnetic force)
Adjectives (extreme, dry, average)
Adverbs (seldom, instantly)
Functions: Comparing places
Nan isn’t as cold as the Antarctic.
Death Valley is much hotter than Kanchanaburi.
2) Language Skills
Listening: ฟังเพอื่ หาขอ้ มูลเฉพาะ
Speaking: พูดแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั ขอ้ มูลทอ่ี า่ น
Writing: เขยี นเกี่ยวกบั extreme places
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
332
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มนั่ ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ช่ัวโมงที่ 1
ข้นั Warm up
1. ครูเขยี น “Extreme Places” บนกระดาน ให้นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นวา่ น่าจะเป็นสถานท่ี
แบบใด โดยครูช่วยอธิบายความหมายของ extreme not ordinary or usual; serious or severe
extreme (adj) = not ordinary or usual; serious or severe (ไม่ธรรมดา, รุนแรง)
2. ครูนาภาพของสถานที่ตา่ ง ๆ เช่น ภาพภเู ขา ชายหาด ทะเลทราย ข้วั โลก มาแสดงให้นกั เรียนดู และ
ถามว่า Is this an extreme place?
ข้นั Pre-listening
1. ครูทบทวน comparative และ superlative โดยให้นกั เรียนช่วยกนั บอกโครงสร้าง แลว้ ครูกาหนด
คาศพั ทค์ ร้งั ละ 3 คา เช่น คาว่า Thailand, China, Singapore ให้นกั เรียนพดู เปรียบเทียบท้งั 3 คาน้ี เช่น
Thailand is big. Thailand is bigger than Singapore. China is the biggest of all.
2. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 62 คาใดอา่ นไมไ่ ดค้ รูอา่ น
นาเป็นตวั อยา่ ง จากน้นั ใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายความหมาย โดยครูช่วยอธิบายคาทน่ี กั เรียนไมร่ ู้
archaeologist (n) = a person who studies ancient societies by examining what remains
of their buildings, graves, tools etc. (นกั โบราณคดี)
bury (v) = to put someone who has died in a grave (ฝัง)
leave track (phrv) = to make the marks after someone or somthing move away
(ทงิ้ ร่องรอย)
instantly (adv) = immediately (โดยทนั ที)
magnetic force (n) = the physical force that makes two metal objects pull towards each
other or push each other apart (แรงแม่เหลก็ )
333
3. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นชื่อสถานที่ท้งั 3 ภาพ ในหนงั สือเรียน หนา้ 62 และช่วยกนั แสดงความคดิ เห็นวา่
เป็นภาพเกี่ยวกบั อะไรบา้ ง แลว้ ครูบอกนกั เรียนว่าท้งั 3 สถานท่นี ้ีมีช่ือเสียงในดา้ นสภาพอากาศท่ี
รุนแรง จากน้นั ใหน้ กั เรียนอ่านหัวขอ้ Fact or Fiction? ครูอธิบายความหมายของ fiction แลว้ ให้
นกั เรียนแสดงความคดิ เห็นวา่ หัวขอ้ น้ีน่าจะเก่ียวขอ้ งกบั เร่ืองท่จี ะฟังอยา่ งไร
fiction (n) = a thing that is invented or imagined and is not true (ส่ิงทแ่ี ต่งข้นึ หรือ
จินตนาการ)
4. หนังสือเรยี น หน้า 62 Ex. 1a ใหน้ กั เรียนแบง่ กล่มุ กลมุ่ ละ 3 คน ช่วยกนั เตมิ ช่องวา่ งในประโยคดว้ ย
คาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words แลว้ ครูเฉลยคาตอบ
1 dry 2 archaeologists, mummies, condition
3 temperatures 4 volcano, jets of steam, instantly
5 moving, leave tracks 6 wind, magnetic force
5. หนงั สือเรียน หน้า 62 Ex. 1b นกั เรียนอ่านประโยค 1-6 พร้อมกนั แลว้ ให้แต่ละกล่มุ อภปิ รายร่วมกนั
วา่ ประโยคใดคือขอ้ มูลท่ีเป็นเรื่อง จากน้นั ครูถามความคดิ เห็นของแตล่ ะกลุม่ กลุ่มละ 1 ประโยค ให้
นกั เรียนบอกความคดิ เห็น พร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ
6. ครูบอกนกั เรียนว่าจะใหฟ้ ังขอ้ มูลเกี่ยวกบั สถานทีท่ ้งั 3 แห่ง คือ The Atacama Desert, Mount Erebus
และ Death Valley ให้นกั เรียนฟังเพอื่ ตรวจวา่ ขอ้ มูลในประโยค 1-6 ถูกตอ้ งหรือไม่ ถา้ ไม่ถกู ตอ้ งให้
นกั เรียนจดบนั ทกึ ขอ้ มลู ทถี่ กู ตอ้ งไวด้ ว้ ย
ข้นั Listening
1. ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังขอ้ มูลเก่ียวกบั สถานทีท่ ้งั 3 แห่ง และจดบนั ทกึ ขอ้ มูล เมอื่ ฟังจบครูถาม
นกั เรียนวา่ ฟังขอ้ มูลไดค้ รบหรือไม่ ถา้ นกั เรียนฟังไมท่ นั ครูเปิ ด CD ใหฟ้ ังอกี คร้ัง จากน้นั ครูให้
นกั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบใน Ex. 1b
1T 2T
3T 4T
5 F (It is the second hottest place on Earth) 6T
334
2. หนังสือเรียน หน้า 62 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนกล่มุ เดิมอา่ นคาถาม และขดี เส้นใตค้ าสาคญั เพ่อื ใหร้ ู้วา่ จะ
ฟังเพ่ือหาอะไร แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง
ข้นั Post-listening
1. เมอ่ื ฟังจบให้นกั เรียนตอบคาถามใน Ex. 2 แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ กลมุ่ ละ 1 ขอ้ และให้
กล่มุ ทเ่ี หลือช่วยกนั เฉลยคาตอบ
1 The Atacama Desert got its name from the Atacama Indians.
2 The dry climate kept the mummies’ bodies in excellent condition.
3 It’s freezing cold.
4 Because it stands in the middle of snow and ice and creates ‘chimneys’ of ice.
5 Over 45°C.
6 We don’t know. Some scientists say the stones move because of the wind or due
to magnetic force.
2. หนังสือเรียน หน้า 62 Ex. 3 ครูให้แต่ละกลมุ่ ใชค้ าท่ีกาหนดใหแ้ ตง่ ประโยคเก่ียวกบั สภาพอากาศของ
สถานท่ที ้งั 3 แห่งในภาพ จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2-3 กลุ่มอ่านประโยค
The climate in the Atacama Desert is dry.
It is freezing cold in the Antarctic.
It is scorching hot in Death Valley in California.
The average temperature in summer in Death Valley is above 45°C.
Some people think the wind moves the stones in Death Valley.
3. หนงั สือเรียน หน้า 62 Ex. 5 ครูให้นกั เรียนกลุ่มเดิมคน้ ควา้ รวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกบั extreme places
อยา่ งนอ้ ย 2 แห่ง จากอินเทอร์เนต็ โดยใชค้ าสาคญั ในการคน้ ควา้ ขอ้ มูลคอื extreme places แลว้ เขียน
สรุปขอ้ มลู ส้นั ๆ พร้อมติดภาพประกอบ แลว้ ออกมานาเสนอในชว่ั โมงหนา้
335
The Mariana Trench is the lowest point on Earth at 10,924 metres below sea
level. It is in the Pacific Ocean. It is 2,550 km long.
Oymyakon in Russia is the coldest inhabited place on Earth. The temperature there
can go as low as -71.2°C.
4. นกั เรียนทา Language Review 5c Exs. 3-4 ในหนงั สือเรียน หนา้ 109 ร่วมกนั ในช้นั
5. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 40 Exs. 1-3 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น
ช่ัวโมงท่ี 2
ข้นั Warm up
ครูใหน้ กั เรียนออกมาพูดนาเสนอภาระงานจากชวั่ โมงทแ่ี ลว้ เก่ียวกบั extreme places โดยให้แตล่ ะ
กลุ่มพูดนาเสนอกลมุ่ ละ 2 สถานที่
ข้นั Presentation
1. ครูเขียนประโยคท่ีมี comparatives และ superlatives จากขอ้ มลู ท่ีนกั เรียนไดฟ้ ังเมื่อชวั่ โมงทแี่ ลว้ บน
กระดาน แลว้ ให้นกั เรียนระบุว่าคาใดคอื comparatives หรือ superlatives แลว้ ครูขีดเสน้ ใต้
It is the driest place on Earth!
They are much lower in winter.
The second hottest place on Earth is in Death Valley in California.
Death Valley is one of the most mysterious places in the world.
2. ครูเขยี นตารางบนกระดาน ให้นกั เรียนลอกลงในสมดุ และเติม adjective, comparatives และ
superlatives ลงในตารางให้ถกู ตอ้ ง
336
Adjectives Comparatives Superlatives
large less
cheapest
hot expensive most crowed
more beautiful
ข้นั Practice
หนังสือเรยี น หน้า 62 Ex. 4 ให้นกั เรียนจบั ค่กู นั เขยี นเปรียบเทียบสถานที่ในประเทศไทยกบั สถานที่
ท้งั 3 แห่งในภาพ จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 3-4 คู่ อา่ นให้เพ่อื นฟัง
Sakon Nakhon isn’t as dry as the Atacama Desert.
Nan isn’t as cold as the Antarctic.
Death Valley is much hotter than Kanchanaburi.
ข้นั Production
1. ครูให้นกั เรียนแบ่งกล่มุ กลมุ่ ละ 3-4 คน ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ คน้ ควา้ ขอ้ มลู ของประเทศในกลุม่ ประชาคม
อาเซียน 3 ประเทศ จากอินเตอร์เนต็ เพ่ือนาขอ้ มลู มาเขยี นเปรียบเทียบกนั ครูแนะนาวา่ นกั เรียน
อาจจะคน้ ควา้ ในหัวขอ้ Population, Area, Capital city จากน้นั ครูให้นกั เรียนช่วยกนั คิด adjective ที่
จะนามาเปรียบเทยี บประเทศท้งั สาม แลว้ ครูเขียนบนกระดาน เช่น large, big, small, beautiful,
expensive, crowed
2. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 40 Ex. 4 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ เลือกคาตอบท่ถี กู ตอ้ ง
3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 41 Ex. 7 ให้นกั เรียนฟัง CD แลว้ เติมคาลงในช่องว่าง
4. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 41 Exs. 5-6 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
337
7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60
วธิ กี ารวดั แบบประเมินการสารวจ/คน้ ควา้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตรวจการตอบคาถามจากการฟัง
ประเมินการคน้ ควา้ ขอ้ มูลเก่ียวกบั แบบประเมนิ การเขียน ระดบั คุณภาพ พอใช้
extreme places และเขียนนาเสนอ
ประเมินการเขยี นเปรียบเทยี บขอ้ มูล แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ของประเทศในกลมุ่ ประชาคม อนั พงึ ประสงค์
อาเซียน
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมนั่
ในการทางาน
8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) อินเทอร์เนต็
338
4 Everyday English 5d
2 ช่ัวโมง
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- บอกรายละเอยี ดของบทสนทนาทอ่ี า่ นได้
- แต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ที่กาหนดได้
- แสดงบทบาทสมมติในสถานการณ์ซ้ือตวั๋ รถไฟได้
1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชีว้ ัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เหน็
อย่างมเี หตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/2 อ่านออกเสียงขอ้ ความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองส้นั ๆ ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องทฟี่ ังและอา่ น พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเหน็ อย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มลู เกี่ยวกบั ตนเอง เรื่องตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณต์ า่ ง ๆ
ในชีวิตประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้
อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
339
ต 2.1 ม. 2/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
สาระที่ 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ าลองทเี่ กิดข้นึ ในหอ้ งเรียน
สถานศกึ ษา และชุมชน
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้และเขา้ ใจคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั เคร่ืองแต่งกาย และประโยคช่ืนชมเคร่ืองแต่งกาย ช่วยให้
สามารถพดู /เขยี นส่ือสารในชีวิตประจาวนั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ตลอดจนมคี วามเขา้ ใจในมารยาทและ
วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Sentences (Can I help you? Single or return? What time would you like
to leave? Which platform does the train leave from? You’re welcome.)
Functions: Buying a train ticket
I’d like an adult’s ticket to Brington, please.
Single or return?
2) Language Skills
Listening: ฟังเพอ่ื หาขอ้ มลู เฉพาะ, ฟังการออกเสียงประโยค
Speaking: พูดสนทนาเพือ่ ซ้ือตวั๋ รถไฟ
Reading: อ่านเพื่อหาขอ้ มูลเฉพาะ
Writing: แต่งบทสนทนาตามสถานการณท์ ก่ี าหนด
4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด
340
5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มนั่ ในการทางาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงท่ี 1
ข้นั Warm up
1. ครูถามนกั เรียนว่า How can we go to (place)? เพื่อให้นกั เรียนตอบยานพาหนะต่าง ๆ เมอื่ มีนกั เรียน
ตอบว่า train ครูถามคาถามตอ่ วา่ Who want to go to (place) by train? What do you do before
travelling by train? ครูกระตนุ้ ให้นกั เรียนตอบว่า buy ticket
2. ครูบอกนกั เรียนว่าในบทเรียนน้ีนกั เรียนจะไดอ้ ่านและฝึกพูดสนทนาในสถานการณ์ซ้ือตว๋ั รถไฟ
ข้นั Pre-speaking
1. หนงั สือเรียน หน้า 63 Ex. 1a ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังการออกเสียงประโยคทีก่ าหนดให้ และ
ออกเสียงตามใหถ้ ูกตอ้ ง โดยครูให้นกั เรียนออกเสียงตาม 2 คร้งั
2. ครูอธิบายนกั เรียนวา่ ประโยคใน Ex. 1a มาจากบทสนทนาระหวา่ ง Mr Harris กบั พนกั งานขายตวั๋
รถไฟ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ระบวุ า่ ประโยคใดเป็นประโยคท่ี Mr Harris พูด และประโยคใดเป็น
ประโยคท่พี นกั งานขายตว๋ั พดู
3. หนงั สือเรยี น หน้า 63 Ex. 1b ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังบทสนทนา เพ่ือหาว่า Mr Harris ตอ้ งการ
เดินทางไปท่ีใด จากน้นั ครูขออาสาสมคั รบอกคาตอบ
Mr Harris wants to go to Brighton.
4. หนังสือเรียนหน้า 63 Ex. 2 นกั เรียนอา่ นประโยค 1-4 และขีดเสน้ ใตค้ าสาคญั ในแต่ละประโยค
จากน้นั อ่านบทสนทนาเพอ่ื หาคาพอ้ งความหมาย (synonym) คาท่ีมีความหมายตรงกนั ขา้ ม
(opposite) หรือกลมุ่ คา/วลี ทมี่ ีความหมายเหมือนกนั หรือต่างกนั กบั คาสาคญั ทขี่ ีดเสน้ ใตไ้ ว้ แลว้ ตอบ
วา่ ประโยค 1-4 ถกู หรือผิด หรือไม่ไดก้ ลา่ วถึงในบทสนทนา เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอา่ น
ประโยค พร้อมท้งั บอกคาตอบ
341
1 F 2 DS 3 F 4 DS
5. หนังสือเรียน หน้า 63 Ex. 3 นกั เรียนอา่ นประโยค 1-4 พร้อมกนั แลว้ หาประโยคในบทสนทนาท่ีมี
ความหมายเหมอื นกบั ประโยคเหล่าน้ี เสร็จแลว้ ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบ
1 May I help you? – Can I help you?
2 The cost is £54. – That’s £54.
3 My pleasure. – You’re welcome.
4 Enjoy your day. – Have a nice day.
6. ครูให้นกั เรียนอา่ นบทสนทนาระหว่างใน Ex. 2 โดยเปลีย่ นประโยคในบทสนทนาเป็นประโยคใน
Ex. 3 ทีม่ คี วามหมายเหมือนกนั
7. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นประโยคในกรอบสีแดง หนงั สือเรียน หนา้ 63 แลว้ ครูอธิบายวา่ ประโยคเหลา่ น้ีใช้
พดู ส่ือสารในสถานการณ์ซ้ือตว๋ั รถไฟ จากน้นั ครูยกตวั อน่างประโยค ให้นกั เรียนช่วยกนั อธิบาย
ความหมาย เช่น
I’d like to a ticket to London.
Can I have a ticket to London?
What time does the train leave?
8. ครูให้นกั เรียนหาประโยคในบทสนทนาท่มี ีคาวา่ sir และ please แลว้ ครูถามนกั เรียนว่าท้งั 2 คาน้ีใช้
อยา่ งไร จากน้นั ครูอธิบายใหฟ้ ังว่า sir ใชเ้ รียกคู่สนทนาทีเ่ ป็นเพศชาย เพ่อื แสดงถึงการให้เกียรติ
เนื่องจากเป็นผมู้ ารบั บริการ ในกรณีเป็นเพศหญงิ จะใช้ madam หรือรูปยอ่ ma’am ส่วน please ใช้
ตอ่ ทา้ ยประโยคเพือ่ แสดงการขอร้องอยา่ งสุภาพ ซ่ึงถือว่าเป็นมารยาททีจ่ าเป็นในภาษาองั กฤษท่พี งึ
กระทาต่อกนั ระหว่างผใู้ หบ้ ริการและผมู้ ารบั บริการ
9. ครูให้นกั เรียนสังเกตการบอกเวลาเดินรถไฟในบทสนทนา ซ่ึงใช้ 15:45 ครูถามนกั เรียนว่าเป็นการ
บอกเวลาแบบ 12 ชวั่ โมง หรือ 24 ชวั่ โมง เมื่อไดค้ าตอบวา่ 24 ชวั่ โมงแลว้ ครูอธิบายวา่ สาหรบั
ตารางเวลาจะใชก้ ารบอกเวลาแบบ 24 ช่วั โมง เพื่อป้องกนั ความสบั สนและขอ้ ผดิ พลาด เช่น เวลา
เทย่ี งวนั จะใช้ 12:00 และเวลาเท่ียงคนื จะใช้ 00:00
10. ครูให้นกั เรียนอา่ นประโยคใน Ex. 1a พร้อมกนั แลว้ ช่วยกนั อธิบายความหมาย
342
ข้นั Speaking
หนังสือเรยี น หน้า 63 Ex. 4 ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังบทสนทนาใน Ex. 2 แลว้ ฝึกพดู ตาม จากน้นั
ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน ให้แต่ละกลุ่มฝึกแสดงบทสนทนา โดยให้สลบั กนั เป็นผแู้ สดง
2 คน และผบู้ อกบทเพ่อื น 2 คน เพ่ือไม่ให้นกั เรียนพดู ประโยคในบทสนทนาจากการอ่าน ขณะท่ี
นกั เรียนฝึกพดู ครูเดินสังเกตรอบๆ ช้นั เรียน
ข้นั Post-speaking
1. ครูใหข้ อ้ มลู ยอ้ นกลบั (feedback) แตล่ ะกลุ่ม เร่ืองการใชภ้ าษาของนกั เรียน เช่น ไวยากรณ์ การ
ออกเสียง น้าเสียง กิริยาท่าทาง เพื่อใหน้ กั เรียนนาไปปรบั ปรุงแกไ้ ขในคร้ังตอ่ ไป
2. ครูเลอื กนกั เรียน 1 กล่มุ ที่แสดงบทสนทนาไดอ้ ยา่ งเป็นธรรมชาติมากทีส่ ุดออกมาแสดงเป็นตวั อยา่ ง
ใหเ้ พือ่ นดู
3. หนังสือเรียน หน้า 63 Ex. 5 ครูมอบหมายภาระงานใหท้ าเป็นการบา้ น ใหน้ กั เรียนทางานคู่ แตง่
บทสนทนาโดยสมมติว่านกั เรียนอยทู่ ส่ี ถานีรถไฟและตอ้ งการซ้ือตว๋ั โดยสารกบั เจา้ หนา้ ที่ ให้
นกั เรียนใชข้ อ้ มลู เกี่ยวกบั สถานีและราคาตว๋ั ตามทีก่ าหนด เมื่อแตง่ บทสนทนาเสร็จแลว้ ส่งให้ครู
ตรวจ หลงั จากไดร้ บั บทสนทนาคืนแลว้ ให้นกั เรียนเตรียมอปุ กรณ์ที่จาเป็น และฝึกซอ้ มการแสดง
บทบาทสมมตเิ พ่อื แสดงในชว่ั โมงหนา้
A: Good morning. Can I help you?
B: Yes, I’d like a ticket to Cambridge, please?
A: What time would you like to leave?
B: The 12:30 train.
A: Single or return?
B: Return, please.
A: That’s £90, please.
B: Here you are. Which platform does the train leave from?
A: It leaves from Platform 2.
B: Thank you.
A: You’re welcome. Have a nice day.
4. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 42 Exs. 3-5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น
343