The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.2
หนังสือ Spark

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by DanAngelo Q Bunlong, 2022-08-16 00:07:27

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.2

แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.2
หนังสือ Spark

Keywords: แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ม.2

ช่ัวโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
1. ครูถามนกั เรียนวา่ เม่อื ไปซ้ือตว๋ั รถไฟพนกั งานขายตว๋ั มกั จะถามขอ้ มลู อะไรบา้ ง ให้นกั เรียนช่วยกนั

ตอบ เช่น ตอ้ งการเดินทางไปทใี่ ด ตอ้ งการข้นึ รถเวลาใด ตอ้ งการตวั๋ เท่ียวเดียวหรือตว๋ั ไปกลบั
2. ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดหนงั สือเรียน หนา้ 63 แลว้ มองหาประโยคในบทสนทนาทีส่ นบั สนุนคาตอบของ

ตนเอง
3. ครูแจง้ นกั เรียนว่าชว่ั โมงน้ีนกั เรียนจะไดแ้ สดงบทบาทสมมติ

ข้นั เตรียมการ
1. ครูทาความเขา้ ใจกบั นกั เรียนเก่ียวกบั สถานการณท์ ี่นกั เรียนตอ้ งแสดงบทบาทสมมติ โดยถาม

นกั เรียนวา่ จะแสดงบทบาทสมมตใิ นสถานการณ์ใด
2. ครูให้นกั เรียนแต่ละคทู่ บทวนบทสนทนาท่ีจะใชแ้ สดงบทบาทสมมติ จากน้นั แบง่ บทบาทกนั วา่ ใคร

จะเป็นผูซ้ ้ือ ใครจะเป็นเจา้ หนา้ ทข่ี ายตว๋ั โดยอาจพิจารณาจากความเหมาะสม เช่น การพูดบท การ
แสดงทา่ ทาง แลว้ ครูให้เวลานกั เรียนฝึกซอ้ มแสดง
3. ครูเตรียมนกั เรียนทีเ่ ป็นผูช้ ม โดยบอกนกั เรียนว่าควรชมการแสดงโดยสงั เกตวา่ ผแู้ สดงพดู บทเป็น
ธรรมชาติหรือไม่ มกี ารแสดงสีหนา้ ท่าทาง การใชน้ ้าเสียงอยา่ งไร แลว้ จดบนั ทกึ ขอ้ มูล

ข้นั แสดง
1. กอ่ นการแสดงครูอาจใหน้ กั เรียนในช้นั ช่วยกนั จดั ฉากใหด้ สู มจริง โดยอาจเป็นฉากง่าย ๆ ที่ใชเ้ วลา

จดั ไมน่ าน
2. ผแู้ สดงทกั ทายและแจง้ ให้ผชู้ มทราบถงึ บทบาทของตนกอ่ นการแสดง
3. นกั เรียนแต่ละคหู่ มุนเวยี นออกมาแสดง โดยทาตามข้นั ตอนคือ แนะนาบทบาทของตนกอ่ นเร่ิมแสดง

และผชู้ มสงั เกตการแสดงและจดบนั ทกึ

ข้นั วเิ คราะห์อภปิ รายผลการแสดง
1. ครูสอบถามความรู้สึกของผแู้ สดงท้งั 2 บทบาท และเขียนบนกระดาน แลว้ สอบถามผชู้ มถงึ ขอ้ มลู ที่

สงั เกตไดใ้ นการชมการแสดง จากน้นั ใหน้ กั เรียนอภปิ รายร่วมกนั เก่ียวกบั ความรู้สึกของตวั ละครท้งั
2 บทบาท ผา่ นมุมมองการแสดงของนกั เรียน และส่ิงท่นี กั เรียนไดเ้ รียนรู้จากพฤติกรรมของตวั ละคร
ในการแสดง

344

2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรุปลกั ษณะของคนทางานบริการทดี่ ีควรเป็นอยา่ งไร เช่น ภาษา น้าเสียง กิริยา
ทา่ ทาง โดยครูเขียนสิ่งทีน่ กั เรียนเสนอบนกระดาน

3. ครูมอบหมายงานโดยใหน้ กั เรียนทางานเป็นกล่มุ คน้ ควา้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั ลกั ษณะของคนทางานบริการ
ทด่ี ี แลว้ นามาส่งครู

7. การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
วิธกี ารวดั แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียง ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60
ประเมินการอ่านออกเสียงบทสนทนา
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่าน แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้
บทสนทนา
ประเมินการแต่งบทสนทนาตาม แบบประเมินการแสดงบทสนทนา/ ระดบั คุณภาพ พอใช้
สถานการณท์ ี่กาหนด บทบาทสมมติ
ประเมนิ การแสดงบทบาทสมมติ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น
อนั พึงประสงค์
สังเกตความใฝ่เรียนรู้และความมงุ่ มน่ั
ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหัด SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) อุปกรณ์ในการแสดงบทบาทสมมติ

345

5 Across cultures 5e

2 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- บอกรายละเอยี ดของเร่ืองทอี่ ่านได้
- พดู สนทนาในสถานการณท์ ีก่ าหนดได้
- คน้ ควา้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั สถานท่ที ม่ี ีธรรมชาติสวยงามในประเทศไทยและนาเสนอได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั
สาระท่ี 1 ภาษาเพอ่ื การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ และบทรอ้ ยกรองส้ัน ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การ
อา่ น
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องท่ฟี ังและอ่าน พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปล่ยี นขอ้ มูลเก่ียวกบั ตนเอง เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณต์ ่าง ๆ
ในชีวิตประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และข่าว/
เหตกุ ารณท์ อ่ี ยใู่ นความสนใจของสังคม

346

สาระท่ี 2 ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ

วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กบั กล่มุ สาระการเรียนรู้อน่ื และเป็ น

พน้ื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทัศน์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 2/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เท็จจริงที่เก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่

จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขยี น

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ท์ ช่วยให้เขา้ ใจเร่ืองท่ีอ่านและบอกขอ้ มลู เฉพาะได้ อีกท้งั สามารถนาคาศพั ทแ์ ละ

ประโยคต่าง ๆ ทอ่ี ่านไปใชใ้ นการพดู /เขยี นสื่อสารไดถ้ ูกตอ้ งตามวตั ถุประสงคท์ ต่ี อ้ งการนาเสนอ

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verbs (exist, cross)

Nouns (freshwater lake, depth, nature, falls, sight, producer, electric

power)

Adjectives (clear, brave)

Functions: Talking about places

Niagara Falls is amazing. It’s the second largest falls in the world.

Pronunciation: silent letters

east, walk, talk, lake, water, listen, clear

2) Language Skills

Listening: ฟังคาศพั ทแ์ ละระบุ silent letters

Spaeking: พดู สนทนาทางโทรศพั ทเ์ ก่ียวกบั สถานทีท่ ่ไี ปเท่ยี ว

347

Reading: อ่านเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ
Writing: เขยี นเกี่ยวกบั สถานท่ที ี่มีธรรมชาติสวยงามในประเทศไทย

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
1) ความสามารถในการสื่อสาร 4) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
2) ความสามารถในการคดิ

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 2) มุ่งมน่ั ในการทางาน
1) ใฝ่เรียนรู้

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
1. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกชื่อสถานท่ีทอ่ งเท่ียวทางธรรมชาติในประเทศไทย เช่น ภเู ขา น้าตก
2. ครูถามนกั เรียนว่าใครชอบไปเที่ยวน้าตก/ภูเขา/ทะเลบา้ ง แลว้ ครูให้นกั เรียนที่ชอบเหมือนกนั ช่วยกนั

บอกเหตุผลท่ชี อบ

ข้นั Pre-reading
1. ครูเขียนคาว่า silent letters บนกระดาน แลว้ ถามนกั เรียนวา่ คอื อะไร ครูใหน้ กั เรียนอ่านกรอบ Study

Skills ในหนงั สือเรียน หนา้ 64 แลว้ ช่วยกนั อธิบาย จากน้นั ครูสรุปวา่ silent letters คือตวั อกั ษรที่
ปรากฏในคาศพั ท์ แตไ่ มอ่ า่ นออกเสียง
2. ครูยกตวั อยา่ งคาศพั ทบ์ นกระดาน ใหน้ กั เรียนอ่านออกเสียงพร้อมกนั และระบวุ า่ ตวั อกั ษรตวั ใดคือ
silent letters เช่น comb, knee, sandwich, what, write
3. หนังสือเรยี น หน้า 64 Ex. 3 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังคาศพั ท์ และขดี เส้นใตต้ วั อกั ษรที่เป็น silent
letters แลว้ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั เฉลยคาตอบ จากน้นั ครูเปิ ด CD อีก 2 คร้ัง ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียงตาม

where, listen, castle, whistle, salmon, receipt, muscle, two, know, doubt, climb,
thumb, almond

348

4. ครูให้นกั เรียนดบู ทอา่ นอยา่ งรวดเร็วเพอ่ื หาคาศพั ทท์ ี่มี silent letters โดยไมซ่ ้ากบั คาใน Ex. 3แลว้ พดู
บอกครู จากน้นั ครูเขียนบนกระดาน และให้นกั เรียนระบุ silent letters

wonder, name, come, live, sights, side, brave, power

5. นกั เรียนอา่ นออกเสียงคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 64 แลว้ ช่วยกนั อธิบาย
ความหมาย ถา้ คาใดไมร่ ู้ ใหน้ กั เรียนเปิ ดพจนานุกรม

6. ครูถามนกั เรียนว่ารู้หรือไมว่ ่า Lake Baikal และ Niagara Falls อยทู่ ีใ่ ด ครูนาลกู โลกหรือแผนท่ีโลก
มาช้ีใหน้ กั เรียนดูทีต่ ้งั ของสถานทีท่ ้งั 2 แห่ง

7. หนงั สือเรียน หน้า 64 Ex. 1 ให้นกั เรียนจบั คกู่ บั เพ่อื น อ่านประโยค 1-7 เกี่ยวกบั Lake Baikal และ
Niagara Falls แลว้ เดาว่าขอ้ มูลในประโยคใดทเ่ี ป็นจริง ครูสุ่มถามความคดิ เห็นของนกั เรียนหลาย ๆ
คู่ แลว้ บอกนกั เรียนว่าจะไดอ้ ่านบทอ่านเพ่อื หาคาตอบ

ข้นั Reading
1. ครูให้นกั เรียนฟังและอา่ นบทอา่ นเกี่ยวกบั Lake Baikal และ Niagara Falls ในหนงั สือเรียน หนา้ 64

ตามไปดว้ ย ขณะอา่ นให้นกั เรียนขีดเส้นใตข้ อ้ มลู ที่ตอ้ งการ
2. นกั เรียนแต่ละคู่ดูคาตอบของตนเอง และขอ้ มูลทข่ี ดี เส้นใตใ้ นบทอา่ น แลว้ ปรบั แกค้ าตอบให้ถกู ตอ้ ง

ถา้ ขอ้ มูลของประโยคใดไม่ไดก้ ลา่ วถงึ ในบทอา่ น ให้ตอบว่า doesn’t say จากน้นั ครูอา่ นทลี ะประโยค
และสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ พร้อมท้งั บอกว่านกั เรียนดขู อ้ มลู จากส่วนใดหรือบรรทดั ใด

1 T (and the world) 2 F 3 DS 4 F
5T 6T 7T

3. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นขอ้ มลู เพม่ิ เติมเก่ียวกบั Niangara Falls ในกรอบ Did you know?

ข้นั Post-reading
1. THINK! หนงั สือเรียน หน้า 64 ครูใหน้ กั เรียนคู่เดิม จินตนาการว่าตนเองอยทู่ ่ี Lake Bikal หรือ

Niagara Falls แลว้ นกั เรียนสนทนากบั เพือ่ นทางโทรศพั ท์ ซ่ึงเพ่อื นของนกั เรียนตอ้ งการรู้ขอ้ มูล
เก่ียวกบั สถานทด่ี งั กล่าว ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั ต้งั คาถามที่จะใชใ้ นบทสนทนา และครูเขยี นคาถาม

349

บนกระดาน เช่น Where are you? Who are you with? Where are you staying? What is Lake
Bikal/Niagara Falls like? แลว้ ให้นกั เรียนแตล่ ะคูค่ ดิ คาตอบ โดยจดเป็นคาส้ัน ๆ ใส่กระดาษ เพื่อใช้
พูดสนทนา เช่น Niagara Falls, my family, local hotel
2. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั คดิ ประโยคทกั ทายทางโทรศพั ท์ แลว้ ครูเขียนบนกระดาน ให้นกั เรียนอา่ น
พร้อมกนั เช่น Hello, Bill! It’s me, Meg. I’m at Niagara Falls. Hi, Bill! I’m/This is Meg. I’m at
Niagara Falls.
3. ครูแนะนาให้นกั เรียนนาขอ้ มลู จากบทอา่ นมาใชใ้ นการพดู สนทนาดว้ ย และแนะนาวา่ เนื่องจากเป็น
การสนทนาทางโทรศพั ทซ์ ่ึงไม่เห็นหนา้ ดงั น้นั นกั เรียนควรใชน้ ้าเสียงแสดงอารมณ์และความรู้สึก
ให้เหมาะสม เช่น ตืน่ เตน้ ประหลาดใจ จากน้นั ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคพู่ ดู สนนากนั ครูเดินสังเกตและให้
คาแนะนา แลว้ เลือกนกั เรียน 1 คู่ ท่ีพดู สนทนาไดด้ ีออกมาพดู สนทนาท่ีหนา้ ช้นั

A: Hello, Bill! It’s me, Meg. I’m at Niagara Falls. Can you believe it?
B: Wow! Who are you with?
A: I’m with my family; my dad, my mum and my sister, Fiona.
B: Where are you staying?
A: We are staying in a local hotel. It’s very nice.
B: So, what is Niagara Falls like?
A: Well, it’s amazing. I can’t believe how big it is. Did you know it is the

second largest falls in the world?
B: No, I didn’t. So are you enjoying it?
A: I love it!

4. นกั เรียนทา Language Review 5e & Prepositions Exs. 5-7 ในหนงั สือเรียน หนา้ 109 ร่วมกนั ในช้ัน
5. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 42 Exs. 1-2 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น
6. ครูใหน้ กั เรียนฝึกอ่านออกเสียงประโยคท่มี ี silent letters โดยเขา้ ไปที่

https://www.espressoenglish.net/silent-letters-in-english-pronunciation-practice/ แลว้ มาอ่านให้ครู
ฟังนอกเวลา

350

ชั่วโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
1. ครูถามนกั เรียนว่าชอบท่องเท่ยี วตามธรรมชาติหรือไม่ ใหน้ กั เรียนบอกสถานทีน่ กั เรียนเคยไป และ

กิจกรรมทน่ี กั เรียนทา
2. ครูถามวา่ สถานที่ทอ่ งเทีย่ วตามธรรมชาตทิ ใี่ ดทีน่ ักเรียนตอ้ งการไป ให้นกั เรียนบอกเหตผุ ลดว้ ยวา่

ทาไมจึงตอ้ งการไป

ข้นั กาหนดหัวข้อโครงงาน
1. หนงั สือเรยี น หน้า 64 Ex. 2 ครูกาหนดหัวขอ้ โครงงาน “A place of natural beauty” แลว้ ให้นกั เรียน

ระดมสมองคดิ สถานทที่ ี่มีธรรมชาตสิ วยงามในประเทศไทย ครูเขียนช่ือสถานที่ตามทน่ี กั เรียนบอก
บนกระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ กลมุ่ ละ 3-5 คน ให้แต่ละกลุม่ เลอื กสถานท่บี นกระดานมา
1 แห่ง เพือ่ ทาโครงงาน
2. ครูใหแ้ ต่ละกลุ่มระดมสมองคิดว่า ในโครงงานทเ่ี กี่ยวกบั สถานที่ทีม่ ธี รรมชาตสิ วยงามควรประกอบ
ดว้ ยเน้ือหาอะไรบา้ ง เช่น ทต่ี ้งั ส่ิงท่ีน่าสนใจ พนั ธุไ์ ม้ พนั ธุส์ ัตว์ กิจกรรม
3. ครูให้แต่ละกล่มุ นาเสนอเน้ือหาท่ีจะใส่ในโครงงาน จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายวา่
โครงงานน้ีจะประกอบดว้ ยเน้ือหาอะไรบา้ ง จากน้นั ให้แต่ละกลมุ่ ทา outline

ข้นั วางแผน
1. ครูให้แตล่ ะกล่มุ ระดมสมองคิดแหลง่ ขอ้ มลู เก่ียวกบั สถานท่ีซ่ึงจะทาโครงงาน เช่น อนิ เทอร์เนต็

สามารถคน้ ควา้ ขอ้ มลู ไดด้ ว้ ยการใชโ้ ทรศพั ท์หรือแทบ็ เล็ตส่วนตวั ใชค้ อมพิวเตอร์ในห้องเรียน ห้อง
คอมพิวเตอร์ ห้องสมดุ หรือคน้ ควา้ ขอ้ มลู จากนิตยสารนาเที่ยวในห้องสมุด จากน้นั ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ นา
ขอ้ มูลมาอภปิ รายร่วมกนั
2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั คิดคาศพั ทแ์ ละโครงสร้างภาษาทต่ี อ้ งใช้ โดยครูแนะนาประโยคที่เกี่ยวขอ้ ง
เช่น การบอกสถานท่ี (location) ตวั อยา่ ง Doi Phu Kha National Park is located in Nan province
which is in the north of Thailand. การบอกกิจกรรม (activities) ตวั อยา่ ง People can watch a rare
plant, Chompoo Phu Kha.
3. ครูให้แตล่ ะกล่มุ แบ่งหนา้ ทร่ี ับผิดชอบว่าใครทาหนา้ ท่ีอะไร เช่น ผูจ้ ดบนั ทึก ผูน้ าเสนอหนา้ ช้นั โดย
สมาชิกทุกคนเป็นผคู้ น้ ควา้ ขอ้ มูลร่วมกนั เป็นตน้

351

ข้นั ศึกษาค้นคว้า
ครูให้แตล่ ะกลุ่มคน้ ควา้ ขอ้ มลู ของสถานท่ีทีก่ ลมุ่ เลอื กตามโครงเน้ือหาทีไ่ ดก้ าหนดร่วมกนั แลว้ จด
บนั ทึกผลการคน้ ควา้ โดยครูกาหนดเวลาให้นกั เรียนประมาณ 10-15 นาที ข้นึ อยกู่ บั บริบทของ
นกั เรียน เช่น หากใช้โทรศพั ท์ หรือแท็บเลต็ ส่วนตวั หรือใชค้ อมพิวเตอร์ในหอ้ งเรียน หากใช้
คอมพวิ เตอร์ในห้องคอมพวิ เตอร์หรือห้องสมดุ อาจให้เวลา 15-20 นาที

ข้นั นาข้อมลู มาพฒั นาเป็ นผลงาน
เมอ่ื แต่ละกลมุ่ ไดข้ อ้ มลู แลว้ ให้นาขอ้ มลู มาเขยี นเรียบเรียงลงในกระดาษ A4 ครูคอยสงั เกตและให้
ความช่วยเหลอื เมอื่ นกั เรียนตอ้ งการ จากน้นั ให้นกั เรียนตกแตง่ ดว้ ยภาพประกอบ กระดาษสี หรือ
อปุ กรณอ์ นื่ เพอ่ื ให้น่าสนใจ

Name: Doi Phu Kha National Park

Location: Nan province, the north of Thailand

Interesting things: Chompoo Phu Kha trees, source of Nan river and Pua river

Activities: see Chompoo Phu Kha flowers, birdwatching, see beautiful

scenery, visit caves

Doi Phu Kha National Park is located in Nan province which is in the north of

Thailand. This national park is named after the Chompoo Phu Kha trees. They are

rare plants and can be found only in this park. This national park is source of Nan

river and Pua river. It is a great place for nature lovers to visit. You can see

Chompoo Phu Kha flowers in February and March. You can go birdwatching and

see beautiful scenery. Also, there are lots of caves that you can visit. Doi Phu Kha

National Park is one of the most beautiful places of natural beauty in Thailand

ข้นั นาเสนอโครงงาน
1. ครูให้ตวั แทนแตล่ ะกลุ่มออกมาพดู นาเสนอสถานที่ใหเ้ พ่อื นฟัง แลว้ ครูสุ่มเลือก 2 กลุ่ม พูดแสดง

ความคดิ เห็นว่าผลงานท่ีนาเสนอมคี วามน่าสนใจมากนอ้ ยเพยี งไร นกั เรียนตอ้ งการไปเที่ยวสถานทีท่ ี่
นาเสนอหรือไม่
2. ครูให้นกั เรียนทุกกลมุ่ นาผลงานมารวมกนั เพ่ือจดั ทาเป็นรูปเลม่

352

7. การวัดและการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบประเมนิ การอา่ นออกเสียง ระดบั คุณภาพ พอใช้
วิธีการวดั
ประเมนิ การอ่านออกเสียงประโยคที่มี แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60
silent letters แบบประเมนิ การพูด ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่าน
ประเมนิ การพูดสนทนาทางโทรศพั ท์ แบบประเมนิ ช้ินงาน ระดบั คุณภาพ พอใช้
เก่ียวกบั สถานที่ท่ีไปเท่ยี ว
ประเมนิ การทาโครงงาน “A place of แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผา่ น
natural beauty” อนั พึงประสงค์
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความม่งุ มน่ั
ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหัด SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์
6) ลูกโลกและแผนทีโ่ ลก
7) อนิ เทอร์เนต็
8) นิตยสาร

353

6 Writing 5f

2 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรียนรู้
- พูด/เขยี นประโยคโดยใชค้ าเช่ือม (linkers) ไดถ้ กู ตอ้ ง
- เขยี นอเี มลเปรียบเทียบสถานที่ได้
- พดู นาเสนองานเขยี นได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองทฟี่ ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหวั ขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรื่องท่ฟี ังและอา่ น พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
งา่ ย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และข่าว/
เหตุการณ์ท่อี ยใู่ นความสนใจของสังคม
ต 1.3 ม. 2/3 พดู และเขยี นแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั กิจกรรม เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั และ
ประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลส้ัน ๆ ประกอบ

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั การใชค้ าเชื่อม (linkers) ในการเขียนประโยค รวมท้งั การเขยี นอีเมล

แบบไมเ่ ป็นทางการ จะช่วยให้สามารถเขียนสื่อสารไดอ้ ยา่ งเหมาะสมและมปี ระสิทธิภาพ

354

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Nouns (ski slope, population, sightseeing)

Adjective (crowded)

Adverb (nearby)

Grammar: linkers (and, but, because, on the other hand, and then)

Functions: Comparing places

Mont Tremblant is much quieter than Quebec City.

Quebec City is much more exciting.

2) Language Skills

Speaking: พูดนาเสนออีเมล

Reading: อา่ นและเติมคา

Writing: เขยี นอีเมลเปรียบเทียบสถานทท่ี ชี่ ่ืนชอบในประเทศไทย

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมนั่ ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงที่ 1

ข้นั Warm up
ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 2 ทีม แลว้ แบง่ กระดานเป็น 2 ฝ่ัง คอื ฝ่ัง Positive และฝ่ัง Negative จากน้นั
ใหแ้ ตล่ ะทีมช่วยกนั คิด adjective ที่ใชบ้ รรยายสถานท่ี แลว้ แขง่ กนั ออกมาเขียนบนกระดานให้ถกู
ตามฝ่ัง (ให้แตล่ ะทีมใชป้ ากกา/ชอ็ ลก์ คนละสี หรือถา้ มีแคส่ ีเดียว อาจให้ 1 ทมี เขียนตวั อกั ษรตวั แรก

355

ดว้ ยตวั ใหญ่เพอ่ื ใหแ้ ตกต่างกนั ) ทีมใดเขยี นคาศพั ทไ์ ดถ้ ูกตอ้ งมากกว่าจะเป็นผชู้ นะเลิศ จากน้นั ให้
นกั เรียนอา่ น adjective บนกระดานพร้อมกนั

ข้นั Pre-writing
1. ครูยกตวั อยา่ งประโยคท่มี ีคาเช่ือม (linkers) บนกระดาน

She fell downstairs and broke her leg.
My brother worked hard, but he did not succeed.
The boy was absent because he was ill.
That job was not very interesting. On the other hand, it was well paid.
I have breakfast and then go to the cinema.
ใหน้ กั เรียนสงั เกตประโยคส่วนทอ่ี ยขู่ า้ งหนา้ และขา้ งหลงั คาเช่ือม แลว้ ครูถามวา่ คาใดเชื่อมขอ้ ความท่ี
ขดั แยง้ กนั (but, on the other hand) คาใดเช่ือมขอ้ ความทีเ่ ป็นเหตุเป็นผลกนั (because) คาใดเช่ือม
ขอ้ ความทคี่ ลอ้ ยตามกนั หรือเป็นไปในทานองเดียวกนั (and) คาใดเช่ือมขอ้ ความท่ีแสดงถงึ ลาดบั
เหตุการณ์ (and then)
2. ครูใหน้ กั เรียนบอกความหมายของคาเชื่อมแตล่ ะคา โดยครูช่วยอธิบายความหมายของ on the other
hand (ในทางกลบั กนั , ในทางตรงขา้ ม)
3. ครูอธิบายเพ่มิ เตมิ เกี่ยวกบั ความแตกต่างของการใช้ so และ because ซ่ึงท้งั 2 คาใชเ้ ช่ือมประโยคที่
เป็นเหตุเป็นผลกนั โดยยกตวั อยา่ งเช่น
ผล: The boy was absent.
เหต:ุ The boy was ill.
Because ใชบ้ อกสาเหตุของการกระทา (เชื่อมผลไปเหตุ) จึงเชื่อมประโยคไดว้ ่า
The boy was absent because he was ill.
So ใชบ้ อกผลของการกระทา (เชื่อมเหตุไปผล) จึงเชื่อมประโยคไดว้ า่
The boy was ill so he was absent.
4. ครูให้นกั เรียนอ่าน Study Skills ในหนงั สือเรียน หนา้ 65 เพ่อื ทบทวนความเขา้ ใจอีกคร้งั
5. หนงั สือเรยี น หน้า 65 Ex. 1 ครูให้นกั เรียนอ่านอเี มลอยา่ งรวดเร็ว และขดี เส้นใตช้ ื่อเมอื ง ครูให้
นกั เรียนอ่านออกเสียงช่ือเหลา่ น้ี ถา้ นกั เรียนอ่านไมไ่ ดค้ รูอา่ นนาเป็นตวั อยา่ ง จากน้นั ให้นกั เรียนอา่ น
อีเมลและเติมคาเชื่อมลงในช่องวา่ ง โดยให้นกั เรียนดูขอ้ ความที่อยขู่ า้ งหนา้ และขา้ งหลงั ช่องวา่ งวา่ มี
ใจความคลอ้ ยตามกนั ขดั แยง้ กนั หรือเป็นเหตุเป็นผลกนั แลว้ จึงเลอื กคาเช่ือมทถ่ี กู ตอ้ ง เสร็จแลว้
เปรียบเทยี บคาตอบกบั เพอื่ น จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน อา่ นอเี มลเพือ่ เฉลยคาตอบ

356

1 because 2 and 3 but
4 on the other hand 5 When 6 and

6. หนงั สือเรียน หน้า 65 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนเชื่อมประโยคโดยใชค้ าเช่ือมทกี่ าหนดให้ในวงเล็บ
เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยค และให้นกั เรียนในช้นั ช่วยกนั ตรวจความถกู ตอ้ ง

1 It’s very quiet here now, but it gets noisy in the summer.
2 We spent the mornings on the beach and then we went out for lunch.
3 I can’t ski well, but I love it.
4 He loves living in Manhattan because there is so much to do there.
5 We enjoy snorkelling and fishing.

7. ครูอธิบายภาระงานในหนงั สือเรียน หนา้ 65 Ex. 3 ว่านกั เรียนจะไดเ้ ขียนอเี มลเปรียบเทียบสถานที่
2 แห่งในประเทศไทยทนี่ กั เรียนช่ืนชอบ

8. ครูให้นกั เรียนดูโครงร่างของการเขยี นอเี มลเปรียบเทยี บสถานท่ี ซ่ึงมีอยู่ 4 ยอ่ หนา้ แลว้ นกั เรียน
ช่วยกนั บอกครูว่าแต่ละยอ่ หนา้ นกั เรียนตอ้ งเขยี นอะไร เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจของนกั เรียน
จากน้นั ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกคาทกั ทายและคาลงทา้ ยอีเมล ซ่ึงครูสอนไปแลว้

ข้นั Writing
หนังสือเรียน หน้า 65 Ex. 3 ครูใหน้ กั เรียนเขยี นอีเมลเปรียบเทียบสถานท่ี 2 แห่งในประเทศไทยที่
นกั เรียนชื่นชอบตามโครงร่างท่ีกาหนดให้ ความยาว 60-80 คา

357

Dear Bob,
There are so many beautiful places in my country. My two favourites are Samui
island and Doi Phu Kha.
Samui island is an island in the Gulf of Thailand. There are beautiful beaches.
Also, there are lots of restaurants, pubs and bangaroes. It’s a wonderful place for
visitors.
On the other hand, Doi Phu Kha is more peaceful than another place. It has lots of
birds and rare plants. It is famous for a rare plant, Chompoo Phu Kha.
What about you? Which places in your country do you like most? Why?
Write back soon.
Nisa

ข้นั Post-writing
1. ครูใหน้ กั เรียนตรวจทานงานเขยี นของตนเอง โดยดูการสะกดคา ไวยากรณ์ การใชค้ าเช่ือม การใช้

เคร่ืองหมายวรรคตอน และปรบั แกง้ านเขยี น แลว้ นาส่งครู เมื่อครูตรวจและส่งงานคืนนกั เรียนแลว้
ใหน้ กั เรียนแกไ้ ขงานเขยี นตามทีค่ รูตรวจอกี คร้ัง จากน้นั ใหน้ กั เรียนไปฝึกพดู นาเสนออีเมล เพ่ือมา
นาเสนอในชวั่ โมงหนา้
2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 43 Exs. 1-2 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น

358

ชั่วโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
1. ครูสุ่มถามนกั เรียน 3-4 คน เก่ียวกบั สถานทีท่ ชี่ ื่นชอบท่นี กั เรียนเขยี นในอีเมล
2. ครูสอบถามนกั เรียนถงึ การเตรียมความพร้อมสาหรบั การนาเสนออีเมล เช่น ใครใชว้ ิธีฝึกพูด

หนา้ กระจกบา้ ง ใครฝึกพูดให้ผปู้ กครองฟังบา้ ง

ข้นั Pre-speaking
1. ครูอธิบายข้นั ตอนการพดู นาเสนอผลงาน โดยให้เริ่มจากการกลา่ วทกั ทาย ครูแนะนาสานวนประโยค

ทจี่ าเป็น เช่น Good morning., Good afternoon., Hello everyone. จากน้นั ให้บอกวตั ถุประสงคข์ อง
การออกมานาเสนอหนา้ ช้นั วา่ จะนาเสนออะไร เช่น I am going to read my email to my penfriend.
และปิ ดทา้ ยการนาเสนอดว้ ยการกลา่ วขอบคณุ เช่น Thank you for your attention.
2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายว่ามารยาทผฟู้ ังที่ดีควรปฏิบตั อิ ยา่ งไร เช่น ต้งั ใจฟัง ไมค่ ยุ รบกวนการ
นาเสนอ สบตาผพู้ ูด ยกมอื เมือ่ มีคาถามหรือตอ้ งการขดั จงั หวะ ปรบมอื เมือ่ จบการนาเสนอ จากน้นั ครู
บอกนกั เรียนวา่ ในขณะที่ฟังเพ่ือนนาเสนอ นกั เรียนตอ้ งปฏิบตั ิตามมารยาทของผฟู้ ังท่ดี ี

ข้นั Speaking
ครูให้นกั เรียนออกมาพูดนาเสนออเี มลของตนเองท่ีเขียนไวเ้ มือ่ ชวั่ โมงทแ่ี ลว้ โดยครูอาจเรียกตาม
เลขที่ ขณะท่นี กั เรียนพดู นาเสนอครูสงั เกตและจดบนั ทกึ เพ่อื เตรียมให้ผลยอ้ นกลบั

ข้นั Post-speaking
1. ครูให้ผลยอ้ นกลบั (feedback) ดา้ นการใชภ้ าษา เช่น การออกเสียง ความคล่องแคล่วในการพดู

รวมถึงการใชน้ ้าเสียงและภาษาท่าทาง เพือ่ ให้นกั เรียนแตล่ ะคนนาไปปรบั ปรุง
2. นกั เรียนทา Self-Check 5 ในหนงั สือเรียน หนา้ 117
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 43 Exs. 3-5 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น

359

7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
สมุดนกั เรียน -
วิธกี ารวดั
ตรวจการเขียนประโยคโดยใชค้ าเช่ือม แบบประเมนิ การเขยี น ระดบั คุณภาพ พอใช้
(linkers)
ประเมินการเขียนอเี มลเปรียบเทียบ แบบประเมนิ การพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
สถานที่ 2 แห่งในประเทศไทย แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผา่ น
ประเมินการพดู นาเสนองานเขียน อนั พงึ ประสงค์
สังเกตความใฝ่ เรียนรู้และความมุ่งมน่ั
ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบส่ือฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหัด SPARK 2 ม. 2

360

7 ASEAN corner 5

1 ช่ัวโมง

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
- บอกรายละเอยี ดของเรื่องที่อา่ นได้
- พดู แสดงความคิดเห็นในประเดน็ ท่กี าหนดได้
- คน้ ควา้ ขอ้ มลู เก่ียวกบั ความหลากหลายทางชีวภาพ และเขยี นนาเสนอได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องทฟ่ี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตุผล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องทฟ่ี ังและอ่าน พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง
งา่ ย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลยี่ นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคิดเห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/5 พูดและเขยี นแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกบั เรื่องตา่ ง ๆ
กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลประกอบอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเรื่องต่าง ๆ โดยการพูด
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาคญั แก่นสาระ หัวขอ้ เรื่อง (topic) ทีไ่ ดจ้ ากการวเิ คราะห์
เรื่อง/ขา่ ว/เหตกุ ารณ์/สถานการณท์ อี่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 1.3 ม. 2/3 พูดและเขยี นแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั กิจกรรม เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั และ
ประสบการณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตุผลส้นั ๆ ประกอบ

361

สาระท่ี 3 ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อ่ืน
มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกล่มุ สาระการเรียนรู้อนื่ และเป็ น

พืน้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั น์ของตน
ตวั ช้ีวดั
ต 3.1 ม. 2/1 คน้ ควา้ รวบรวม และสรุปขอ้ มลู /ขอ้ เท็จจริงที่เก่ียวขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อืน่

จากแหลง่ การเรียนรู้ และนาเสนอดว้ ยการพดู /การเขียน

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้เกี่ยวกบั ความหลากหลายทางชีวภาพซ่ึงมีความสาคญั ตอ่ ระบบนิเวศน์ โดยเฉพาะใน

ประเทศกลุ่มประชาคมอาเซียน ก่อใหเ้ กิดการเห็นคุณค่าและความสาคญั ในการอนุรกั ษค์ วามหลากหลาย
ทางชีวภาพใหค้ งอยู่

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา

1) Language Features and Functions

Vocabulary: Verbs (observe, spoil)

Nouns (diversity, wildlife, gibbon, hornbill, reef, ecosystem, marine life,

whale, dolphin, shark, turtle, hawksbill)

Adjectives (biological, ecological, rare, extinct)

2) Language Skills

Speaking: พดู แสดงความคิดเห็นตามประเด็นที่กาหนด

Reading: อ่านเพ่อื หาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขยี นสรุปเกี่ยวกบั ความหลากหลายทางชีวภาพ ในประเทศไทยหรือ

ประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียน

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการสื่อสาร
2) ความสามารถในการใชค้ ิด
3) ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

362

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมน่ั ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm up
1. ครูนาภาพสตั วป์ ่ าชนิดตา่ ง ๆ มาใหน้ กั เรียนดู แลว้ ให้ช่วยกนั บอกชื่อสัตว์ เช่น ชะนี เสือ นกเงอื ก

ชา้ ง เกง้
2. ครูให้นกั เรียนช่วยกนั คิดวา่ ประเทศในกลุม่ ประชาคมอาเซียนประเทศใดบา้ งท่มี ีพนั ธุ์พชื และสัตว์

หายาก

ข้นั Pre-reading

1. ครูเขยี นคาว่า biological diversity บนกระดาน ใหน้ กั เรียนอา่ นออกเสียง แลว้ ครูอธิบายความหมาย

ทีละคา ใหน้ กั เรียนบอกความหมายโดยรวม

biological (adj) = relating to the natural processes performed by living things (เก่ียวกบั

ชีววิทยา)

diversity (n) = a range of many people or things that are very different from each

other (ความหลากหลาย)

2. ครูใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นวา่ biological diversity เก่ียวขอ้ งกบั ประเทศในกลมุ่

ประชาคมอาเซียนอยา่ งไร

3. ครูสอนคาศพั ทย์ ากในบทอา่ น โดยเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน เช่น biological, fundamental, observe,

gibbon, great hornbill, hawksbill, spoilt, extinct ให้นกั เรียนอ่านออกเสียงตามครู แลว้ หาความหมาย

ในพจนานุกรม โดยเลอื กความหมายทีส่ อดคลอ้ งกบั บริบทของเร่ืองทจี่ ะอา่ น

fundamental (adj) = very necessary and important (สาคญั )

observe (v) = to see and notice something (สังเกต)

gibbon (n) = a small animal like a monkey, with long arms and no tail, that

lives in trees in Asia (ชะนี)

great hornbill (n) = a tropical bird with a very large curved beak (นกเงือก)

hawksbill (n) = a small tropical sea turtle with hooked jaws and overlapping horny

plates on the shell, extensively hunted as the traditional source of

tortoiseshell (เตา่ กระ)

363

spoil (v) = to have a bad effect on something so that it is no
extinct (adj) longer attractive, enjoyable, useful etc. (ทาใหเ้ สียหาย)

= (of a type of plant, animal etc.) no longer in existence (สูญพนั ธุ์)

ข้นั Reading
หนงั สือเรียน หน้า 66 Ex. 1 นกั เรียนจบั คูก่ บั เพอ่ื น อ่านคาถาม และขดี เสน้ ใตค้ าสาคญั ในคาถาม
แต่ละขอ้ จากน้นั ให้นกั เรียนอ่านบทอ่านโดยมองหาเน้ือหาส่วนทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั คาสาคญั แลว้ ตอบ
คาถาม เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ และครูตรวจความถกู ตอ้ ง

1 Wild tigers, gibbons, great hornbills and elephants.
2 In the Philippines.
3 Whales, dolphins, sharks, turtles and hawksbills.
4 House-dwelling leaf-nosed bats, white-brown nuthatches, blue-brown birds

and Indo-Burman torrent frogs.
5 Because the health of an ecosystem depends on the variety of species that live

in it.

ข้นั Post-reading
1. หนังสือเรียน หน้า 66 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนอ่านคาถามและทาความเขา้ ใจ เมื่อเขา้ ใจแลว้ ให้นกั เรียนคู่

เดิมอภิปรายคาถาม และจดบนั ทึกคาตอบไวด้ ว้ ย จากน้นั ครูให้นกั เรียนท้งั ช้นั อภิปรายร่วมกนั แลว้ ครู
เขยี นคาตอบบนกระดาน
2. ครูให้นกั เรียนอภิปรายร่วมกนั ว่าการกระทาใดบา้ งทีส่ ่งผลให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทาง
ชีวภาพ เช่น การตดั ไม้ การเผาป่ า การจบั สตั วป์ ่ าไปขาย
3. หนังสือเรียน หน้า 66 Ex. 3 ครูใหน้ กั เรียนรวมกลมุ่ กนั ให้ได้ 4 คน แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มคน้ ควา้ ขอ้ มลู
จากอนิ เทอร์เนต็ เก่ียวกบั ความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity) ในประเทศไทย หรือประเทศอืน่
ในกลุม่ ประชาคมอาเซียนนอกเหนือจากฟิลิปปินส์และพมา่ แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มเขียนสรุปขอ้ มลู และ
นาส่งครูในชวั่ โมงหนา้

364

7. การวดั และการประเมนิ ผล เครื่องมือ เกณฑ์การผ่าน
สมุดนกั เรียน ร้อยละ 60
วธิ ีการวดั แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คุณภาพ พอใช้
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่าน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
สงั เกตการแสดงความคดิ เห็นตาม แบบประเมินการเขียน
ประเด็นท่ีกาหนด ระดบั คุณภาพ ผา่ น
ประเมินการเขยี นสรุปผลการคน้ ควา้ แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ
เก่ียวกบั ความหลากหลายทางชีวภาพ อนั พึงประสงค์
ในประเทศไทยหรือประเทศอ่นื ใน
กลุ่มประชาคมอาเซียน
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุ่งมนั่
ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
3) พจนานุกรมออนไลน์
4) อินเทอร์เน็ต
5) ภาพสตั วป์ ่ าชนิดต่าง ๆ

365

8 O-NET practice & Fun time 5

1 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรยี นรู้
- ทบทวนคาศพั ทแ์ ละไวยากรณท์ เี่ รียนมาแลว้ ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 5
- เขียน quiz เกี่ยวกบั เน้ือหาท่ีเรียนมาแลว้ ได้

1. สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชีว้ ัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การส่ือสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ฟี ังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหัวขอ้ เรื่อง ใจความสาคญั บอกรายละเอียดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เร่ืองทีฟ่ ังและอ่าน พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพนั ธ์ระหว่างภาษากับวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ได้
อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
การรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ โครงสร้างภาษา ช่วยให้พูด/เขียนส่ือสาร และเขา้ ร่วมกิจกรรมทางภาษา

ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

366

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Vocabulary: คาศพั ทใ์ นหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5

Grammar: ไวยากรณ์ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5

2) Language Skills

Listening: ฟังเพอื่ หาขอ้ มูลเฉพาะ

Writing: เขียน quiz เกี่ยวกบั เน้ือหาทเี่ รียนมาแลว้

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- มงุ่ มนั่ ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ข้นั Warm up
ครูใหน้ กั เรียนเขยี นคาศพั ทต์ ามทคี่ รูบอก โดยครูบอกคาศพั ท์ท้งั หมด 10 คา จากน้นั ครูสุ่มเรียก
นกั เรียนหลาย ๆ คน ออกมาเขยี นคาศพั ทบ์ นกระดาน ครูตรวจความถกู ตอ้ ง และให้นกั เรียนแลกกนั
ตรวจ เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนอ่านคาศพั ทพ์ ร้อมกนั

ข้นั Presentation
1. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกคาศพั ทท์ เ่ี รียนในหน่วยการเรียนรู้น้ี และออกมาเขยี นบนกระดาน
2. นกั เรียนปิ ดหนงั สือเรียน ครูทบทวนไวยากรณท์ เี่ รียนในหน่วยการเรียนรู้น้ี โดยให้นกั เรียนบอก

โครงสร้างและหลกั การใช้ ครูเขียนในรูป mind map

367

Comparatives
&

Superlatives

ไวยากรณ์
หน่วยการ
เรียนรู้ที่ 5
linkers too - enough

- very/really

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรยี น หน้า 68 Ex. 1 ครูให้นกั เรียนจบั คู่กนั อา่ นคาใบแ้ ลว้ เตมิ คาศพั ทใ์ นอกั ษรไขว้ เพื่อหา

ชื่อของภเู ขาไฟทใ่ี หญท่ ีส่ ุดในโลก ซ่ึงอยใู่ นกรอบสีมว่ ง ครูอาจใหน้ กั เรียนแต่ละคู่แขง่ ขนั กนั ค่ใู ดได้
คาตอบเร็วที่สุดจะเป็นผชู้ นะ จากน้นั ครูเฉลยคาตอบ

1 lake 2 mountain 3 coast
6 waterfall
4 island 5 volcano

Hidden word: Mauna Loa

2. หนงั สือเรยี น หน้า 68 Ex. 2 ครูใหน้ กั เรียนคู่เดิมช่วยกนั ทา quiz โดยหา้ มเปิ ดดูเน้ือหา เสร็จแลว้ ให้
นกั เรียนเปรียบเทียบคาตอบกบั เพอื่ น จากน้นั ครูจึงเฉลยคาตอบ

1F 2T 3F 4F 5T 6T

3. หนังสือเรยี น หน้า 68 GAME ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 ทีม แลว้ ใหแ้ ตล่ ะทมี ส่งตวั แทนออกมาเล่นเกม
คร้งั ละ 1 คน โดยให้ตวั แทนทมี แรกพูด adjective 1 คา และช่ือเพ่อื นในช้นั 1 คน ตวั แทนอีกทีมหน่ึง
จะตอ้ งแตง่ ประโยคเก่ียวกบั เพื่อนคนทีถ่ กู พดู ชื่อ โดยใช้ adjective ในรูป comparative หรือ
superlative ถา้ แต่งประโยคถูกตอ้ งจะได้ 1 คะแนน ทีมใดไดค้ ะแนนมากกวา่ จะเป็นผชู้ นะ

368

Team A S1: clever, Ann
Team B S1: Ann is clever than her brother.
4. หนงั สือเรียน หน้า 68 Ex. 4 นกั เรียนอ่านคาถาม What makes our world a ‘world of wonders’
accroading to the singer? แลว้ ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟังเพลงและดูเน้ือเพลงตามไปดว้ ยเพื่อหา
คาตอบ

According to the singer, our world is a ‘world of wonders’ because of ‘stunning
scenes of nature’.

5. หนังสือเรยี น หน้า 68 Ex. 5 ครูให้นกั เรียนทากิจกรรมโดยยืนลอ้ มวงกลม แลว้ ครูส่งลูกบอลให้
นกั เรียนคนหน่ึง จากน้นั ครูเปิ ดเพลง A World of Wonders ให้นกั เรียนส่งลกู บอลต่อไปรอบ ๆ วง
เมือ่ ครูหยดุ เพลง ลกู บอลอยทู่ ใี่ ครให้พูดประโยค Our world is ... because ... ใหส้ มบูรณ์ เช่น Our
world is great because there are amazing things to find in nature.

6. หนงั สือเรียน หน้า 67 O-NET practice ครูให้เวลานกั เรียนทาขอ้ สอบ เสร็จแลว้ ตรวจคาตอบร่วมกนั
ถา้ นกั เรียนไมเ่ ขา้ ใจ ให้ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ

Ex. 1 1 A c, B b 2 A d, B a 3 A a, B c 5c
Ex. 2 1 b 2 c 3 c 4 a

ข้นั Production
หนังสือเรยี น หน้า 68 Ex. 3 นกั เรียนจบั คู่กนั แลว้ ครูแจกกระดาษให้คู่ละ 1 แผน่ ให้แตล่ ะคูค่ ดิ
คาถาม quiz 5-6 ขอ้ เก่ียวกบั เน้ือหาในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ครูใหน้ กั เรียนเปิ ดดูเน้ือหาได้ และให้
นกั เรียนเขยี นคาตอบไวด้ า้ นหลงั กระดาษ เมือ่ ทุกคู่คดิ คาถามเสร็จแลว้ ให้แลกกนั ทา quiz กบั ค่อู ่นื

1 Mount Vesuvius is in Europe. (T)
2 The Grand Canyon is in Asia. (F)
3 Plitvice Lakes National Park is in Siberia. (F)

369

4 Death Valley is a mysterious place. (T)
5 Niagara Falls is the biggest falls in the world. (F)
6 Niagara Falls produces the most electric power. (T)

7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
- ร้อยละ 60
วธิ ีการวดั
ตรวจการเขียน quiz เก่ียวกบั เน้ือหา แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภาพ ผ่าน
ในหน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 อนั พงึ ประสงค์
สงั เกตความมุ่งมน่ั ในการทางาน

8. ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) ลกู บอล

370

6 Out and About

ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ 2 เวลาเรียน 14 ชั่วโมง

1 สาระ มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด

สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเร่ืองที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคดิ เห็น

อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ข่าว ประกาศ และบทรอ้ ยกรองส้ัน ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
ต 1.1 ม. 2/3 ระบุ/เขยี นประโยคและขอ้ ความให้สัมพนั ธ์กบั สื่อท่ีไมใ่ ช่ความเรียงรูปแบบตา่ ง ๆ

ทอ่ี ่าน
ต 1.1 ม. 2/4 เลือกหัวขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ

แสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เร่ืองทีฟ่ ังและอา่ นพร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที กั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ

ความคดิ เห็นอย่างมีประสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มูลเกี่ยวกบั ตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณ์ต่าง ๆ

ในชีวิตประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/3 พูดและเขยี นแสดงความตอ้ งการ เสนอและใหค้ วามช่วยเหลอื ตอบรับและปฏเิ สธ

การให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ตา่ ง ๆ อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/4 พูดละเขยี นเพื่อขอและใหข้ อ้ มูล บรรยาย และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องท่ฟี ัง

หรืออ่านอยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/5 พดู และเขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็นของตนเองเก่ียวกบั เรื่องต่าง ๆ

กิจกรรม และประสบการณ์ พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลประกอบอยา่ งเหมาะสม

371

มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคดิ รวบยอด และความคดิ เห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขยี น

ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และขา่ ว/

เหตุการณท์ อี่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 1.3 ม. 2/2 พดู และเขียนสรุปใจความสาคญั /แกน่ สาระ หัวขอ้ เร่ือง (topic) ที่ไดจ้ ากการวเิ คราะห์

เร่ือง/ข่าว/เหตกุ ารณ์ท่อี ยใู่ นความสนใจของสงั คม
ต 1.3 ม. 2/3 พูดและเขยี นแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั กิจกรรม เร่ืองต่าง ๆ ใกลต้ วั และ

ประสบการณ์ พร้อมท้งั ให้เหตุผลส้ัน ๆ ประกอบ
สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้

อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาทา่ ทางเหมาะกบั บคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คมและ

วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
ต 2.1 ม. 2/3 เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา

กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ช้ีวดั
ต 2.2 ม. 2/1 เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการออกเสียง

ประโยคชนิดต่าง ๆ และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม
ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จริง/สถานการณจ์ าลองทเ่ี กิดข้ึนในห้องเรียน
สถานศกึ ษา และชุมชน

372

2 สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้และเขา้ ใจคาศพั ท์ ประโยค โครงสร้างภาษา และการเรียงลาดบั เหตุการณ์ ช่วยใหเ้ ขา้ ใจ

ใจความสาคญั รายละเอียด และสรุปเรื่องทอี่ ่านและฟัง และสามารถแลกเปลย่ี นความคิดเห็น นาสิ่งท่ี
เรียนรู้ไปใชใ้ นการพดู และเขียนส่ือสารไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม ตลอดจนเขา้ ใจลกั ษณะของภาษาองั กฤษ
ที่มที ้งั ความเหมอื นและความตา่ งจากภาษาไทย และเขา้ ใจในมารยาทและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
รวมถงึ สามารถแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นเก่ียวกบั ประเทศกลมุ่ ประชาคมอาเซียน

3 สาระการเรียนรู้

3.1 ทกั ษะเฉพาะวชิ า
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Types of holidays (cruise, safari, sightseeing holiday, beach holiday,
skiing holiday, walking holiday)
Activities (sunbathe, take photographs, send postcards, swim in the sea,
buy souvenirs, sit by the pool, stay at a hotel/in a tent, go sightseeing,
visit museums, go to the beach, go skiing, eat local dishes, relax, play in
the snow, enjoy nature)
Tourist attractions (castle, art gallery, shopping centre, public gardens,
aquarium, museum, historic site, amusement park)
Verbs (miss, try, glow, go mad, upset, look for, fall asleep, build, explore,
shine, conserve, aim, divide)
Nouns (heritage, sight, attraction, Crown Jewels, ceremony, tube,
accommodation, cave, landscape, raft, tube, rope, equipment, footwear,
worm, stalactite, stalagmite, area, ape, creature, harbour, sustainability,
gardening, farming, environment, electricity, solar energy, pest,
economy, tourism, theory, agriculture, rice paddies, fertiliser, pond,
stability, factor)
Adjectives (cosmopolitan, precious, local, single, spectacular, dark, soft,
chilly, popular, thrilling, fabulous, unique)
Sentences (What can I do for you? I’d like some information, please.
How much does it cost to get in? Enjoy your visit …)

373

Grammar: will

be going to

present continuous (future meaning)

0, 1st, 2nd conditional

Functions: Discussing holiday plans

What are you planning to do this summer?

We’re going to travel to London.

Really? What are you going to do there?

I’m going to visit the Tower of London.

Talking about fixed arrangement

I’m cleaning my house on Saturday.

Describing school trip

We’re leaving on Saturday by coach. We’re staying at a nice hotel.

Asking for & giving information

What exactly would you like to know?

Could you tell me your opening times at the weekend, please?

Narrating a story

The Time Traveller went into a big stone building. There were little

people in the hall.

Describing plans on holiday

We arrived in Edinburgh yesterday.

We’re going to see Edinburgh Castle.

Pronunciation: contracted form of will

I’ll help you do the shopping.

I won’t go out tonight. I’ll stay in.

2) Language Skills

Listening: ฟังเพอื่ หาขอ้ มูลเฉพาะ, ฟังเพื่อจบั ใจความสาคญั , ฟังการออกเสียงประโยค

Speaking: พูดสนทนาเกี่ยวกบั แผนการในวนั หยดุ , พดู เก่ียวกบั กิจกรรมทีว่ างแผนจะ

ทาในอนาคตอนั ใกล,้ พดู สนทนาเพื่อขอและใหข้ อ้ มลู ทตี่ อ้ งการ,

พูดเล่าเร่ืองทีอ่ า่ น, พูดนาเสนออเี มล, พดู อภิปรายขอ้ ดีและขอ้ เสียของ

แผนงานทีค่ ิด

374

Reading: อา่ นเพือ่ หาขอ้ มูลเฉพาะ, อา่ นเพื่อหาจดุ ประสงคข์ องผเู้ ขยี น,
Writing: อ่านแลว้ เรียงลาดบั เหตุการณ์, อา่ นแลว้ เตมิ คาและจบั คู่หัวขอ้
เขยี นเก่ียวกบั สถานท่ที อ่ งเทยี่ วในประเทศไทย, เขยี นประโยคตาม
โครงสร้างท่ีเรียน, เขียนสรุปเรื่องท่ีอา่ น, เขยี นอเี มลเก่ียวกบั การจะไป
ทศั นศกึ ษา, เขยี นเร่ืองตอ่ จากตอนท่ีอ่าน, เขียนอเี มลเกี่ยวกบั สิ่งที่กาลงั
วางแผนจะทาในระหว่างวนั หยดุ , เขียนแผนงานวิธีทาสวนหรือฟาร์มให้
เป็นแบบยง่ั ยืน

4 สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น 2) ความสามารถในการคดิ

1) ความสามารถในการส่ือสาร
3) ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

5 คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1) ใฝ่เรียนรู้
2) มุ่งมนั่ ในการทางาน

6 ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

1) เขียนขอ้ ความเกี่ยวกบั สถานทท่ี อ่ งเท่ยี วในประเทศไทย
2) พดู เกี่ยวกบั แผนการของตนเองสาหรบั อาทติ ยน์ ้ี
3) เขยี นอเี มลเล่าเกี่ยวกบั การไปทศั นศึกษา
4) แสดงบทบาทสมมติ
5) เขียนเรื่องตอ่ จากตอนท่ีอา่ น
6) เขยี นอเี มลเก่ียวกบั สิ่งท่ีกาลงั วางแผนจะทาในระหว่างวนั หยดุ
7) พูดนาเสนองานเขียน
8) ช้ินงานออกแบบสวนหรือฟาร์มแบบยงั่ ยืน

7 การวดั และการประเมนิ ผล
7.1 การประเมินก่อนเรียน
7.2 การประเมินระหว่างการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
7.3 การประเมินหลงั เรียน
7.4 การประเมนิ ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

375

1 Reading 6a & Vocabulary 6a

2 ชั่วโมง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
- บอกรายละเอยี ด จดุ ประสงคข์ องผเู้ ขยี น แสดงความคิดเห็น และสรุปเร่ืองทอ่ี า่ นและฟังได้
- พดู สนทนาเก่ียวกบั แผนการในวนั หยดุ ได้
- เขียนบรรยายเกี่ยวกบั สถานทีท่ อ่ งเทย่ี วในประเทศไทยได้

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วัด
สาระที่ 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมเี หตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/4 เลอื กหวั ขอ้ เร่ือง ใจความสาคญั บอกรายละเอยี ดสนบั สนุน (supporting detail) และ
แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั เรื่องทีฟ่ ังและอ่านพร้อมท้งั ให้เหตผุ ลและยกตวั อยา่ ง
ง่าย ๆ ประกอบ
มาตรฐาน ต 1.2 มที ักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและ
ความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธภิ าพ
ตวั ช้ีวดั
ต 1.2 ม. 2/1 สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มลู เก่ียวกบั ตนเอง เรื่องต่าง ๆ ใกลต้ วั และสถานการณ์ต่าง ๆ
ในชีวติ ประจาวนั อยา่ งเหมาะสม
ต 1.2 ม. 2/4 พดู ละเขยี นเพื่อขอและใหข้ อ้ มลู บรรยาย และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกบั เรื่องทฟ่ี ัง
หรืออา่ นอยา่ งเหมาะสม
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เหน็ ในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขียน
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พดู และเขยี นบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และข่าว/
เหตกุ ารณท์ อ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม

376

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม
มาตรฐาน ต 2.1 เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากบั วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนาไปใช้ ได้

อย่างเหมาะสมกบั กาลเทศะ
ตวั ช้ีวดั
ต 2.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษา น้าเสียง และกิริยาท่าทางเหมาะกบั บุคคลและโอกาส ตามมารยาทสังคมและ

วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา
สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพนั ธ์กับชุมชนและโลก
มาตรฐาน ต 4.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่าง ๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสังคม

ตวั ช้ีวดั
ต 4.1 ม. 2/1 ใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จาลองทเี่ กิดข้ึนในหอ้ งเรียน

สถานศึกษา และชุมชน

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้คาศพั ทแ์ ละประโยคต่าง ๆ เก่ียวกบั วนั หยดุ ช่วยให้เขา้ ใจและบอกรายละเอียดของขอ้ มลู

ทอี่ ่านและฟัง รวมถงึ สามารถแลกเปลี่ยนความคดิ เห็น และนาสิ่งท่เี รียนรู้ไปใชใ้ นการพูด/เขียนสื่อสารได้
อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสม

3. สาระการเรียนรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: Types of holidays (cruise, safari, sightseeing holiday, beach holiday,
skiing holiday, walking holiday)
Activities (sunbathe, take photographs, send postcards, swim in the sea,
buy souvenirs, sit by the pool, stay at a hotel/in a tent, go sightseeing,
visit museums, go to the beach, go skiing, eat local dishes, relax, play in
the snow, enjoy nature)
Tourist attractions (castle, art gallery, shopping centre, public gardens,
aquarium, museum, historic site, amusement park)
Verbs (miss, try)
Nouns (heritage, sight, attraction, Crown Jewels, ceremony, tube,
accommodation)

377

Adjectives (cosmopolitan, precious, local, single)

Functions: Discussing holiday plans

What are you planning to do this summer?

We’re going to travel to London.

Really? What are you going to do there?

I’m going to visit the Tower of London.

2) Language Skills

Listening: ฟังเพ่ือหาขอ้ มลู เฉพาะ

Speaking: พูดสนทนาเก่ียวกบั แผนการในวนั หยดุ

Reading: อ่านเพอื่ หาขอ้ มลู เฉพาะ, อ่านเพื่อหาจดุ ประสงคข์ องผเู้ ขยี น

Writing: เขยี นเก่ียวกบั สถานท่ที ่องเที่ยวในประเทศไทย

4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคดิ

5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1) ใฝ่เรียนรู้
2) มงุ่ มน่ั ในการทางาน

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ช่ัวโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
1. ครูเขียนคาวา่ Holiday บนกระดาน ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็นวา่ คิดถงึ สิ่งใดบา้ ง
2. Find the page numbers for หน้า 69 ครูอธิบายคาวา่ author และ biography

author (n) = someone who has written a book (นกั เขียน, นกั ประพนั ธ)์
biography (n) = the story of a person’s life written by somebody else (ชีวประวตั )ิ
จากน้นั ใหน้ กั เรียนหาวา่ ภาพท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ท้งั 3 คาน้ีอยใู่ นหนงั สือ-เรียนหนา้ ใด เม่ือหาพบแลว้ ครู
ถามคาถามเพอ่ื สนทนากบั นกั เรียน

378

an author’s biography (p. 76)
Do you know this author? What do you know about him?
What sort of books do you think he wrote? Who is your favourite author?
an email (pp. 74, 77)
How often do you send emails? Who do you send them to?
How else do you communicate with, your friends/people who are far away?
a timetable (p. 73)
Do you have a timetable? What is it for?
Do you think timetables are useful? Why (not)?

ข้นั Pre-reading
1. หนังสือเรียน หน้า 69 Ex. 1 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังคาศพั ทเ์ ก่ียวกบั ประเภทของวนั หยดุ แลว้

ออกเสียงตาม โดยครูเปิ ด CD ให้ฟัง 2 คร้ัง จากน้นั ให้นกั เรียนออกเสียงดว้ ยตนเองพร้อมกนั และ
ทีละคน แลว้ ช่วยกนั อธิบายความหมายของคาศพั ท์ โดยเดาจากภาพ
2. ครูให้นกั เรียนอา่ นออกเสียงวลีเก่ียวกบั กิจกรรมวนั หยดุ แลว้ ช่วยกนั อธิบายความหมาย จากน้นั
นกั เรียนจบั คู่กนั ผลดั กนั พดู บอกประเภทของวนั หยดุ และกิจกรรมทชี่ อบทาในวนั หยดุ แลว้ ครูขอ
อาสาสมคั ร 2 คู่ พูดให้เพ่อื นฟัง

I like cruises. I usually sit by the pool, sunbathe, send postcards and relax.
I like safaris. I usually enjoy nature and take photographs.
I like sightseeing holidays. I usually stay at a hotel, go sightseeing, take
photographs, visit museums, buy souvenirs, send postcards and eat local dishes.
I like skiing holidays. I usually stay at a hotel, go skiing and play in the snow.
I like walking holidays. I usually stay in a tent, take photographs and enjoy
nature.

379

3. หนังสือเรยี น หน้า 70 Ex. 1 ครูให้นกั เรียนช่วยกนั บอกขอ้ มลู เก่ียวกบั London ทีน่ กั เรียนรู้ จากน้ัน
นกั เรียนอา่ นหวั ขอ้ ยอ่ ยในบทอ่าน แลว้ ช่วยกนั อธิบายว่าขอ้ มูลในแตล่ ะหวั ขอ้ น่าจะเก่ียวกบั อะไร
Sight and attractions (สถานท่ที อ่ งเท่ียว), Shopping (ร้านคา้ , แหล่งซ้ือของ), Eating (ร้านอาหาร,
อาหารข้นึ ช่ือ), Getting around (การคมนาคม, การเดินทาง) และ Accommodation (ที่พกั )

4. ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลมุ่ กลมุ่ ละ 3-5 คน ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ต้งั คาถามเก่ียวกบั London กลมุ่ ละ 5 ขอ้ โดย
ใหอ้ ยภู่ ายใตห้ ัวขอ้ ท้งั หา้ จากน้นั ให้แต่ละกลุ่มนาเสนอคาถาม แลว้ ให้นกั เรียนร่วมกนั เลือกคาถามมา
5 ขอ้ โดยครูเขียนคาถามบนกระดาน

5. ครูให้แตล่ ะกลุ่มอ่านบทอ่านเพ่อื หาคาตอบของคาถามบนกระดาน จากน้นั ครูถามนกั เรียนว่าตอบ
คาถามไดค้ รบทุกขอ้ หรือไม่ แลว้ ครูสุ่มเรียกทลี ะกลุม่ ใหบ้ อกคาตอบ

1 What can you see there? You can see famous landmarks such as Big Ben and
Westminster Abbey.

2 How many people live there? Doesn’t say.
3 How many shops does London have? Over 40,000.
4 What’s the best way to get around? By tube.
5 Where can you stay? In luxurious hotels or bed and breakfasts.

6. นกั เรียนอ่านคาศพั ทใ์ นกรอบ Check these words หนงั สือเรียน หนา้ 70 ถา้ คาใดอา่ นไมไ่ ดใ้ ห้ครู

อา่ นนาเป็นตวั ยอา่ ง แลว้ ช่วยกนั อธิบายความหมาย ถา้ คาใดไม่รู้ใหเ้ ปิ ดพจนานุกรม หรือครูช่วย

อธิบาย

heritage (n) = the traditional beliefs, values, customs etc of a family, country,

or society (มรดกทส่ี ืบทอดมา)

cosmopolitan (adj) = containing people of different types or from different countries,

and influenced by their culture (ซ่ึงประกอบดว้ ยหลายชาติ)

sight (n) = famous or interesting places that tourists visit (สถานท่ีทอ่ งเทย่ี ว)

attraction (n) = a place that many tourists visit (สถานทที่ อ่ งเท่ียว)

precious (adj) = rare and worth a lot of money (ล้าคา่ )

Crown Jewels (n) = the crown and other objects worn or carried by a king or queen on

formal occasions (เคร่ืองราชกกธุ ภณั ฑ)์

accommodation (n) = a place to live or stay in (ทพี่ กั )

380

ข้นั Reading
1. หนงั สือเรียน หน้า 70 Ex. 2 ครูให้นกั เรียนอ่านบทอา่ นให้จบทลี ะหวั ขอ้ เพือ่ ให้รู้เน้ือเร่ืองโดยรวมใน

หัวขอ้ น้นั แลว้ อา่ นประโยคทีเ่ วน้ ช่องวา่ งให้เติมคา และเลือกคามาเตมิ เมือ่ เติมคาเสร็จแลว้ ให้อ่าน
บทอ่านอกี คร้งั พร้อมคาทีเ่ ติม เพอ่ื พิจารณาวา่ คาตอบดงั กลา่ วทาให้เน้ือเรื่องมีความสมเหตสุ มผล
หรือไม่ เม่อื นกั เรียนเตมิ คาครบทกุ หวั ขอ้ แลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนบอกคาตอบ แลว้ ครูเฉลยคาตอบ
ทีถ่ ูกตอ้ ง

1B 2C 3C 4B 5A 6C 7B 8A

2. ครูอธิบายว่าการอา่ นงานเขยี นประเภทใดก็ตาม ถา้ เรารู้จดุ ประสงคข์ องผเู้ ขยี นวา่ เขียนเพอื่ อะไร จะ
ช่วยให้เขา้ ใจเน้ือหาในงานเขียนน้นั ไดด้ ีข้ึน แลว้ ครูให้นกั เรียนอา่ น Study Skills

3. หนงั สือเรยี น หน้า 70 Ex. 3 ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนฟังและอ่านบทอา่ น เพ่อื หาวา่ จุดประสงคข์ อง
ผเู้ ขยี นบทอ่านน้ีคอื อะไร เม่ืออา่ นจบแลว้ ครูถามคาถามเพอื่ ตรวจสอบวา่ นกั เรียนเขา้ ใจจุดประสงค์
ของผเู้ ขียน เช่น Is the text full of names and numbers which give us information? Is the text
amusing to make us laugh? Does the text give reasons and use explanatory words/phrases such as
‘due to’, ‘because’ or ‘the reason for this is’? Does the text encourage us to visit and emphasise
only the positive aspects of the place? Is the text written in the first person as a narration of the
writer’s visit to London? จากน้นั ครูให้นกั เรียนบอกว่าผเู้ ขยี นบทอ่านน้ีมีจุดประสงคอ์ ะไร

The writer’s main purpose is to give information about London.

ข้นั Post-reading
1. ครูให้นกั เรียนกลมุ่ เดิมจาก Ex. 1 ช่วยกนั คิดหัวขอ้ ใหม่เพอ่ื นาไปแทนหัวขอ้ เดิม ไดแ้ ก่ Sight and

attractions, Shopping, Eating, Getting around, Accommodation ในบทอ่าน ครูแนะนาวา่ หวั ขอ้ ที่
คดิ ใหม่ตอ้ งครอบคลมุ เน้ือหา โดยนกั เรียนอาจคดิ เป็นคาหรือวลกี ็ได้ จากน้นั ครูให้แต่ละกลมุ่
นาเสนอหวั ขอ้ ใหม่ และครูเขียนบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียนอภิปรายร่วมกนั เพ่อื เลือกหัวขอ้ ใหม่

381

Things to see and do
Shop till you drop
Eating out
Transport
Places to stay

2. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 44 Exs. 1-5 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

ช่ัวโมงที่ 2

ข้นั Warm up
ครูแบง่ นกั เรียนเป็น 2 ทมี แต่ละทมี ส่งตวั แทนออกมาเลน่ เกมคร้ังละ 1 คน โดยใหท้ มี หน่ึงพูด
ชื่อสถานทที่ อ่ งเทย่ี ว และอกี ทีมหน่ึงบอกกิจกรรมที่ทาทส่ี ถานทน่ี ้นั เช่น
Team A S1: Hua Hin Beach
Team B S1: I swim in the sea.

ข้นั Presentation
1. ครูให้นกั เรียนอ่านออกเสียงคาศพั ทเ์ กี่ยวกบั สถานท่ีในภาพ 1-8 หนงั สือเรียน หนา้ 71 แลว้ ช่วยกนั

บอกความหมายโดยเดาจากภาพ จากน้นั ครูถามนกั เรียนวา่ ทากิจกรรมอะไรทีส่ ถานทเ่ี หลา่ น้ีบา้ ง
2. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นวลี A-H ในหนงั สือเรียน หนา้ 71 Ex. 4 และบอกคาทไี่ มร่ ู้ความหมาย ครูช่วย

อธิบาย จากน้นั ให้นกั เรียนบอกความหมายของวลีเหล่าน้ีเป็นภาษาไทย
sculpture (n) = a work of art that is a solid figure or object made by carving or shaping
wood, stone, clay, metal etc. (รูปสลกั )
aquatic (adj) = living or growing in water (ซ่ึงอาศยั อยใู่ นน้า)
cannon (n) = an old type of large heavy gun, usually on wheels, that fires solid metal
or stone balls (ปื นใหญ)่
admire (v) = to look at something and think how beautiful or impressive it is (ช่ืนชม)

382

3. หนังสือเรยี น หน้า 71 Ex. 4 นกั เรียนจบั คคู่ าศพั ทส์ ถานที่ 1-8 กบั กิจกรรม A-H เสร็จแลว้ ครูเฉลย
คาตอบ

A2 B3 C5 D1
E6 F 7 G4 H8

4. นกั เรียนจบั คู่กบั เพ่อื นผลดั กนั พดู บอกกิจกรรมทที่ าที่สถานทีต่ า่ ง ๆ โดยใชโ้ ครงสร้างประโยคตาม
ตวั อยา่ ง จากน้นั ครูสุ่มเรียกนกั เรียนพูดประโยค

You can see paintings and sculptures in an art gallery.
You can go shopping in a shopping centre.
You can see fish and aquatic animals in an aquarium.
You can see statues, works of art and historical items in a museum.
You can admire ancient ruins and temples at a historic site.
You can admire beautiful plants and trees in a publicgarden.
You can go on rides at an amusement park.

5. หนังสือเรยี น หน้า 71 Ex. 5a นกั เรียนทบทวนคาศพั ทแ์ ละวลีจากบทอ่านในชว่ั โมงทแ่ี ลว้ โดยจบั คู่
คา 1-7 กบั a-g ใหเ้ ป็นวลที ถี่ ูกตอ้ ง เสร็จแลว้ ใหน้ ักเรียนเปิ ดดบู ทอา่ นเพื่อตรวจคาตอบของตนเอง
และปรบั แก้ จากน้นั ครูขออาสาสมคั รเฉลยคาตอบ

1d 2a 3e 4c
5b 6g 7f

383

ข้นั Practice
1. หนังสือเรยี น หน้า 71 Ex. 5b ใหน้ กั เรียนเขียนสรุปบทอ่าน หนา้ 70 โดยใชว้ ลใี น Ex. 5a เสร็จแลว้ ครู

สุ่มเรียกนกั เรียน 2 คน อ่านให้เพือ่ นฟัง

Do you want to visit a cosmopolitan city? Then go to London. You can see and
do many things there. You can see famous landmarks like the Tower of London
and see the precious Crown Jewels. You can also visit art galleries. While in
London you have to try the UK’s most famous dish, fish and chips. You can also
take a black cab to get around. London has a wide range of accommodation on
offer so you can stay at luxurious hotels or bed and breakfasts. Finding
somewhere to staywon’t be a problem.

2. หนังสือเรยี น หน้า 71 Ex. 6 ครูอธิบายภาระงานว่า ใหน้ กั เรียนสมมตวิ ่าตนเองและครอบครัวจะไป
เท่ียววนั หยดุ ท่ี London แลว้ ให้นกั เรียนอ่านบทสนทนาตวั อยา่ ง ครูถามว่าประโยคในบทสนทนาใช้
โครงสร้างอะไร ครูช่วยดว้ ยการเขยี นประโยค We’re going to travel to London. บนกระดาน แลว้
ชีดเส้นใต้ ’re going to เพ่ือใหน้ กั เรียนตอบวา่ be going to เม่อื นกั เรียนเขา้ ใจสถานการณแ์ ละ
โครงสร้างภาษาท่ีจะใชแ้ ลว้ ให้จบั คู่กนั พูดสนทนาโดยใชข้ อ้ มลู จากบทอา่ นในหนา้ 70 ครูเดินสังเกต
และคอยใหค้ าแนะนา จากน้นั ครูขออาสาสมคั ร 1 คู่ พูดสนทนาให้เพ่อื นฟัง

A: What are you planning to do this summer?
B: We’re going to travel to London.
A: Really? What are you going to do there?
B: I’m going to stay at a luxurious hotel.
A: Are you going to visit the Tower of London?
B: Definitely. I’m also going to visit Buckingham Palace and see the

Changing of the Guard. I can’t wait.etc.

384

3. หนงั สือเรยี น หน้า 71 Ex. 7 ครูอธิบายวา่ นกั เรียนจะไดฟ้ ังขอ้ มลู เกี่ยวกบั London aquarium แลว้ ให้
นกั เรียนอ่านหัวขอ้ ยอ่ ยเพือ่ ดวู า่ มขี อ้ มลู เก่ียวกบั อะไรบา้ ง ต่อมาครูเขียนคาศพั ทท์ น่ี กั เรียนจะไดฟ้ ังบน
กระดาน เช่น aquatic, displays, tank, exotic, coral reef, magnificent, shark แลว้ ใหน้ กั เรียนอา่ นออก
เสียงตามครู จากน้นั ครูเปิ ด CD ให้นกั เรียนฟัง และเตมิ ขอ้ มูลที่หายไปให้ถูกตอ้ ง ครูถามนกั เรียนวา่
เตมิ ขอ้ มูลไดค้ รบหรือไม่ ถา้ นกั เรียนยงั เตมิ ไมค่ รบให้ครูเปิ ด CD อีกคร้ัง เมื่อฟังจบครูเฉลยคาตอบ
โดยใหน้ กั เรียนแลกกนั ตรวจ

1 Pacific Ocean 2 coral 3 sharks
4 6:00 5 6.75

ข้นั Production

1. หนงั สือเรยี น หน้า 71 Ex. 8 ครูยกตวั อยา่ งสถานทที่ ่องเทย่ี วในประเทศไทยมา 1 แห่ง แลว้ ให้
นกั เรียนระดมสมองคิดขอ้ มลู เก่ียวกบั หัวขอ้ attractions, shopping, food, accommodation โดยครู
เขียนขอ้ มลู บนกระดานโดยใช้ mind map จากน้ันครูอธิบายภาระงานวา่ ใหน้ กั เรียนเขยี นขอ้ ความ
เก่ียวกบั สถานท่ที ่องเท่ยี ว 1 แห่ง ในประเทศไทย โดยกอ่ นเขียนใหน้ กั เรียนจดั ระบบขอ้ มลู ตาม
ตวั อยา่ งวิธีการทีค่ รูนาเสนอ เม่อื เขยี นเสร็จแลว้ ให้นกั เรียนตรวจทานงานเขยี นของตนเอง แลว้ จึง
นาส่งครู

Milan is in Northern Italy. It’s an amazing place and very popular with tourists.
There are a lot of things you can do there. You can visit museums, go to the theatre
or watch a football match. There’s the Duomo, which is a beautiful cathedral, and
the Teatro alla Scala as well as many beautiful parks. You can eat popular Italian
pasta dishes. You can also go shopping and find designer clothes and beautiful
souvenirs. You can stay at luxurious hotels.

2. นกั เรียนทา Language Review 6a Exs. 1-2 ในหนงั สือเรียน หนา้ 110 ร่วมกนั ในช้นั
3. แบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 45 Exs. 6-9 ใหน้ กั เรียนทาเป็นการบา้ น

385

7. การวัดและการประเมนิ ผล เคร่ืองมือ เกณฑ์การผ่าน
แบบฝึกหัด (Workbook) ร้อยละ 60
วิธีการวดั
ตรวจการตอบคาถามจากการอ่านหรือ แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
การฟัง
สงั เกตการอภิปรายเกี่ยวกบั หวั ขอ้ แบบประเมินการเขียน ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ในเรื่องทอี่ ่าน
ประเมนิ การเขียนขอ้ ความเกี่ยวกบั แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ ผ่าน
สถานทีท่ ่องเท่ียวในประเทศไทย อนั พึงประสงค์
สงั เกตความใฝ่เรียนรู้และความมุง่ มน่ั
ในการทางาน

8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน SPARK 2 ม. 2
2) Class Audio CDs ประกอบสื่อฯ ชุด SPARK 2 ม. 2
3) แบบฝึกหดั SPARK 2 ม. 2
4) พจนานุกรมองั กฤษ-องั กฤษ
5) พจนานุกรมออนไลน์

386

2 Grammar 6b

2 ช่ัวโมง

จุดประสงค์การเรียนรู้
- พดู และเขยี นประโยคโดยใช้ will, be going to และ Present continuous (future meaning)ได้

อยา่ งถกู ตอ้ ง
- พูดและเขียนประโยค 0, 1st, 2nd conditional ไดถ้ กู ตอ้ ง

1. สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วัด
สาระท่ี 1 ภาษาเพอื่ การสื่อสาร
มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเหน็
อย่างมีเหตผุ ล
ตวั ช้ีวดั
ต 1.1 ม. 2/2 อา่ นออกเสียงขอ้ ความ ข่าว ประกาศ และบทร้อยกรองส้นั ๆ ถูกตอ้ งตามหลกั การอา่ น
มาตรฐาน ต 1.3 นาเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู
และการเขยี น
ตวั ช้ีวดั
ต 1.3 ม. 2/1 พูดและเขียนบรรยายเก่ียวกบั ตนเอง กิจวตั รประจาวนั ประสบการณ์ และข่าว/
เหตุการณท์ ีอ่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม
สาระที่ 2 ภาษาและวฒั นธรรม
มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
กบั ภาษาและวัฒนธรรมไทย และนามาใช้อย่างถกู ต้องและเหมาะสม
ตวั ช้ีวดั
ต 2.2 ม. 2/1 เปรียบเทียบและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียง
ประโยคชนิดตา่ ง ๆ และการลาดบั คาตามโครงสร้างประโยคของภาษาต่างประเทศ
และภาษาไทย

387

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้และเขา้ ใจโครงสร้างทางภาษา ช่วยให้สามารถพูดและเขียนสื่อสารไดถ้ กู ตอ้ ง ตลอดจน

เขา้ ใจลกั ษณะของภาษาองั กฤษทีม่ ีท้งั ความเหมอื นและความต่างจากภาษาไทย

3. สาระการเรียนรู้

3.1 ทักษะเฉพาะวชิ า

1) Language Features and Functions

Grammar: will

be going to

present continuous (future meaning)

0, 1st, 2nd conditional

Functions: Talking about fixed arrangement

I’m cleaning my house on Saturday.

Pronunciation: contracted form of will

I’ll help you do the shopping.

I won’t go out tonight. I’ll stay in.

2) Language Skills

Speaking: พูดเก่ียวกบั กิจกรรมที่วางแผนจะทาในอนาคตอนั ใกล้

Writing: เขียนประโยคตามโครงสร้างที่เรียน

4. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รยี น
1) ความสามารถในการส่ือสาร
2) ความสามารถในการคิด

5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- ใฝ่เรียนรู้

388

6. กิจกรรมการเรียนรู้

ชั่วโมงท่ี 1

ข้นั Warm up
ครูสนทนากบั นกั เรียนเกี่ยวกบั แผนการในวนั หยดุ โดยถามวา่ What are you going to on hoiday?
ใหน้ กั เรียนตอบโดยพดู วา่ I’m going to …

ข้นั Presentation

1. ครูบอกนกั เรียนว่าจะไดฟ้ ังเพลง One Way or Another ของ Blondie จาก YouTube แลว้ ครูแจก

เน้ือเพลงให้นกั เรียนขีดเส้นใต้ will และ be going to จากน้นั ครูบอกนกั เรียนว่าเพลงน้ีมีการออกเสียง

ลดรูปอยหู่ ลายจดุ เช่น ya = you , getcha = get you, see ya = see you รวมถงึ going to ซ่ึงนกั เรียนจะ

ไดย้ นิ เป็น gonna แลว้ ครูเปิ ดเพลงใหน้ กั เรียนฟัง

2. หนงั สือเรียน หน้า 72 Ex. 1a นกั เรียนอา่ นตวั อยา่ งประโยคท่ใี ช้ will ในตาราง และช่วยกนั สรุป

โครงสร้าง

ประโยคบอกเลา่ Subject + will + infinitive without to

ประโยคปฏิเสธ Subject + will + not + infinitive without to

ประโยคคาถาม Will + subject + infinitive without to

ต่อมาใหน้ กั เรียนอ่านวิธีใช้ แลว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปวา่ เราใช้ will เพ่ือคาดเดาสิ่งทีค่ ิดว่าจะ

เกิดข้ึนในอนาคต หรือใชก้ บั การตดั สินใจในทนั ทีทนั ใด โดยครูอาจจะยกตวั อยา่ งประโยคเพิ่มเติม

บนกระดาน เช่น

I think it will be cold tonight.

I’m cold. I’ll close the window.

3. หนงั สือเรยี น หน้า 72 Ex. 1b ครูขออาสาสมคั ร 1 คน ออกมาเขยี นรูปยอ่ ของ will (’ll) และ will not

(won’t) บนกระดาน แลว้ ครูบอกนกั เรียนว่าจะใหฟ้ ังการออกเสียงรูปยอ่ ของ will และ will not

จากน้นั ครูเปิ ด CD ใหน้ กั เรียนออกเสียงตาม 2-3 คร้งั และให้นกั เรียนออกเสียงดว้ ยตนเอง แลว้ ครู

สุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน ให้ออกเสียง

4. หนงั สือเรยี น หน้า 72 Ex. 3 ครูยกตวั อยา่ งประโยคท่ีใช้ be going to บนกระดาน และให้นกั เรียน

ช่วยกนั สรุปโครงสร้าง

I am going to go on holiday in the summer.

I am not going to go on holiday in the summer.

Are you going to go on holiday in the summer?

389

ประโยคบอกเล่า Subject + verb to be + going to + infinitive without to

ประโยคปฏเิ สธ Subject + verb to be + not + going to + infinitive without to

ประโยคคาถาม Verb to be + subject + going to

ตอ่ มาครูให้นกั เรียนอ่านวธิ ีใชต้ าราง แลว้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปว่า เราใช้ be going to เพอ่ื

กล่าวถงึ แผนการหรือความต้งั ใจท่ีจะทาในอนาคต และยงั ใชค้ าดเดาเหตกุ ารณ์ท่ีจะเกิดข้ึนจาก

หลกั ฐานหรือส่ิงที่เห็น

5. ครูให้นกั เรียนอภปิ รายร่วมกนั เพ่ือเปรียบเทียบวา่ ในภาษาไทยมกี ารใชค้ ากริยาเพื่อแสดงอนาคต

เหมอื นในภาษาองั กฤษหรือไม่ (ในภาษาไทยมกี ารใชค้ าว่า “จะ” มาขยายคากริยาเพื่อแสดงอนาคต

ไม่ว่าจะเป็นแผนการทว่ี างไวห้ รือสิ่งทตี่ ดั สินใจในทนั ที เช่น แนนจะไปเชียงใหม่พรุ่งน้ี วนั น้ีร้อน

มาก ฉนั จะเปิ ดแอร์ แตถ่ า้ เป็นเหตุการณท์ จ่ี ะเกิดข้นึ ในไม่ชา้ จะมคี าว่า “กาลงั ” เพ่มิ เขา้ มา เช่น ฉนั คิด

วา่ ฝนกาลงั จะตก เรากาลงั จะถงึ บา้ นแลว้ )

ข้นั Practice
1. หนงั สือเรียน หน้า 72 Ex. 2 เพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจ ครูถามนกั เรียนวา่ สถานการณ์ที่เป็นการ

ตดั สินใจในทนั ทที นั ใด จะใช้ will หรือ be going to เมือ่ ไดค้ าตอบว่า will แลว้ ครูให้นกั เรียนเขียน
ประโยคโดยใช้ will ร่วมกบั คาในวงเล็บ เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนอ่านประโยค

2 I’ll help you. 3 I’ll come with you.
4 I’ll lend you some. 5 I’ll carry it for you.

2. หนังสือเรยี น หน้า 72 Ex. 4 ครูใหน้ กั เรียนเปลี่ยนคากริยาในวงเล็บให้อยใู่ นรูป be going to เสร็จแลว้
ครูใหน้ กั เรียนอ่านประโยคพร้อมกนั แลว้ ครูตรวจความถกู ตอ้ ง

2 is going to visit 3 are going to wake up
4 is going to spend 5 is going to try
6 are not going to stay 7 Are the Smiths going to buy

390

3. หนงั สือเรยี น หน้า 72 Ex. 5 นกั เรียนฝึกใช้ be going to โดยดภู าพแลว้ เขียนเติมประโยคโดยใช้
be going to ร่วมกบั คากริยาที่กาหนดให้ เสร็จแลว้ ครูขออาสาสมคั รอา่ นประโยค และครูตรวจ
ความถกู ตอ้ ง

2 ’re going to watch 3 ’s going to make 4 ’s going to wash
5 ’re going to play 6 ’s going to win

4. หนังสือเรยี น หน้า 72 Ex. 6 นกั เรียนฝึกใช้ will และ be going to โดยอ่านประโยคและเลอื กคาตอบท่ี
ถกู ตอ้ ง เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คน บอกคาตอบ พร้อมบอกเหตุผลในการเลือกคาตอบ
ดว้ ย

1 are going to 2 ’ll 3 ’s going to
4 ’re going to 5 ’ll

ข้นั Production
1. ครูใหน้ กั เรียนจบั คู่ ช่วยกนั แตง่ บทสนทนาส้ัน ๆ โดยใช้ will และ be going to มาโครงสร้างละ 2 บท

เสร็จแลว้ ครูสุ่มเรียกนกั เรียน 2 คู่ อ่านบทสนทนาให้เพอ่ื นฟัง

A: Oh, I forget my book. Will I borrow yours?
B: Yes, you will.

A: Anna, look at the black clouds.
B: It’s going to rain. Hurry up!

2. นกั เรียนทา Grammar Bank 6 ในแบบฝึกหดั (Workbook) หนา้ 82-83 Exs. 1-4, 6
3. แบบฝึกหัด (Workbook) หนา้ 46 Exs. 1-3 ให้นกั เรียนทาเป็นการบา้ น

391

ชั่วโมงท่ี 2

ข้นั Warm up
1. ครูทบทวน will และ be going to โดยใหน้ กั เรียนช่วยกนั อธิบายว่าท้งั 2 คาน้ีใชอ้ ยา่ งไร พร้อมกบั

ช่วยกนั ยกตวั อยา่ งประโยค
2. ครูให้นกั เรียนเลน่ เกมทีละแถว โดยใหค้ นแรกพูดประโยคบอกเลา่ ที่ใช้ will หรือ be going to กไ็ ด้

แลว้ คนท่ี 2 พดู ประโยคปฏิเสธ คนที่ 3 พูดประโยคคาถาม จากน้นั คนท่ี 4 เริ่มตน้ พูดประโยคบอก
เลา่ ใหม่ ทาเช่นน้ีไปเร่ือย ๆ จนถึงคนสุดทา้ ยของแถว เช่น

Line 1 S1: I will play badminton.
Line 1 S2: I will not (won’t) play badminton.
Line 1 S3: Will you play badminton?
Line 1 S4: I’m going to the party tomprrow.
Line 1 S5: I’m not going to the party tomprrow.

ข้นั Presentation
1. ครูยกตวั อยา่ งประโยคบนกระดาน ใหน้ กั เรียนระบวุ ่าประโยคใดคอื Present continuous

I read a book before go to bed.
I’m reading a book.
ครูใหน้ กั เรียนทบทวนว่า Present continuous ใช้อยา่ งไร จากน้นั ครูอธิบายวา่ Present continuous
นอกจากจะใชเ้ พอ่ื กลา่ วถงึ เหตกุ ารณท์ ก่ี าลงั เกิดข้นึ ขณะทีพ่ ดู ยงั ใชก้ บั เหตุการณ์ท่วี างแผนไวอ้ ยา่ ง
ชดั เจนในอนาคตอนั ใกลด้ ว้ ย โดยมกั จะมีคาบง่ บอกอนาคตกากบั อยดู่ ว้ ย เช่น I’m studying English
this weekend. He is seeing the dentist next month.
2. หนังสือเรียน หน้า 73 Ex. 7 นกั เรียนอ่านประโยค แลว้ ระบวุ า่ ประโยคใดเป็นเหตุการณท์ ก่ี าลงั
เกิดข้ึนตอนน้ี และประโยคใดเป็นเหตุการณ์ท่ีวางแผนไวอ้ ยา่ งชดั เจนในอนาคตอนั ใกล้

Jane is sunbathing now. - an action happening now
She is having a party tomorrow evening. - a fixed arrangement in the near future

392

3. ครูให้นกั เรียนอ่านบทอา่ นในหนงั สือเรียน หนา้ 70 อยา่ งรวดเร็ว เพอ่ื หาประโยค Present continuous
จากน้นั พูดบอกครู พร้อมท้งั ระบุดว้ ยว่าเป็นเหตกุ ารณท์ ี่กาลงั เกิดข้ึน หรือเหตุการณท์ ี่วางแผนไวใ้ น
อนาคตอนั ใกล้

Are you planning your next trip? - a fixed arrangement in the near future

4. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจว่า conditional sentences หรือ if-clause คอื ประโยคเงือ่ นไข ซ่ึง
ประกอบดว้ ยประโยคยอ่ ย 2 ประโยค คอื ประโยคทขี่ ้ึนตน้ ดว้ ย if (ประโยคทเี่ ป็นเหตุ) และประโยค
ที่ไมม่ ี if (ประโยคท่เี ป็นผล) ซ่ึงท้งั สองประโยคย่อยน้ีสามารถสลบั ที่กนั ได้ โดย conditional
sentences ท่ีจะไดเ้ รียนในบทน้ี คือ zero conditional, first conditional และ second conditional

5. ครูอธิบายเกี่ยวกบั zero conditional ว่า ใชก้ บั เหตุการณ์ท่ีเป็นความจริง คอื ถา้ เกิดสิ่งหน่ึง ตอ้ งเกิดอีก
ส่ิงหน่ึงเสมอ เช่น If water reaches100 degrees, it boils. ครูให้นกั เรียนสงั เกตคากริยาในประโยคยอ่ ย
ท้งั สอง แลว้ ครูถามวา่ คากริยาในประโยคยอ่ ยทม่ี ี if ใช้ tense อะไร (Present simple) และคากริยาใน
อกี ประโยคยอ่ ยใช้ tense อะไร (Present simple) จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปโครงสร้าง
zero conditional: If + Present simple, Present simple

6. ครูอธิบายเก่ียวกบั first conditional ว่า ใชก้ บั เหตุการณ์ทเ่ี ป็นเหตเุ ป็นผลซ่ึงกนั และกนั คือถา้ สิ่งหน่ึง
เกิดข้นึ อกี สิ่งหน่ึงจะเกิดข้ึนหรืออาจจะเกิดข้นึ เช่น If I have enough money, I will buy some new
shoes. ครูให้นกั เรียนสังเกตคากริยาในประโยคย่อยท้งั สอง แลว้ ครูถามวา่ คากริยาในประโยคยอ่ ยทม่ี ี
if ใช้ tense อะไร (Present simple) และคากริยาในอีกประโยคยอ่ ยใชร้ ูปอะไร (will + infinitive
without to) จากน้นั ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปโครงสร้าง
first conditional: If + Present simple, will + infinitive without to

7. หนงั สือเรยี น หน้า 73 Ex. 9 ครูใหน้ กั เรียนอา่ นวิธีใช้ zero conditional และ first conditional เพือ่
ทบทวนความเขา้ ใจ จากน้นั ครูอธิบายเพ่มิ เติมว่า เราสามารถใช้ unless (ถา้ ไม)่ แทน if ... not ได้ เช่น
If you don’t leave soon, you will miss the train.
Unless you leave soon, you will miss the train.
ใหน้ กั เรียนสงั เกตว่า ถา้ ใช้ unless แลว้ จะไมใ่ ช้ not

393


Click to View FlipBook Version