พระราชพิธีราชาภิเษก
คัดจากอรรถกถาสิงหล
48 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ค�ำอธิบาย
การตรวจสอบช�ำระในคร้ังน้ีได้พบต้นฉบับหนังสือสมุดไทยเร่ือง พระราชพิธีราชาภิเษก คัดจากอรรถ
กถาสิงหล ๒ เล่ม คือ หนังสือสมุดไทย หมู่พระราชพิธี เลขที่ ๔๖๓ เร่ือง “พระสมุดพระราชพิทธีราชาภิเศก
คัดออกจากอัถคาถาสิงหล” ตามประวัติระบุว่าหอพระสมุดวชิรญาณได้มาจากกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
และหนังสือสมุดไทย หมู่พระราชพิธี เลขที่ ๔๖๖ เร่ือง “หมายรับส่ังพระราชพิธีปราบดาภิเษก รัชกาลท่ี ๒
จ.ศ. ๑๑๗๑ พ.ศ. ๒๓๕๒” โดยเรื่อง “พระสมุดพระราชพิธีราชาภิเษก คัดออกจากอัถคาถาสิงหล” อยู่ต่อจาก
เรื่อง “หมายรับส่ังพระราชพิธีปราดาภิเษก รัชกาลที่ ๒ จ.ศ. ๑๑๗๑ พ.ศ. ๒๓๕๒” ซ่ึงพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระนเรศรวรฤทธ์ิ ประทานแก่หอพระสมุดวชิรญาณ เอกสารทั้งสองช้ินมีรายละเอียดเน้ือหาตรงกัน
และเนอื่ งจากเรอ่ื งดงั กลา่ วยงั ไมพ่ บวา่ ไดเ้ คยพมิ พเ์ ผยแพรม่ ากอ่ นจึงได้น�ำมาพิมพ์ไว้ต่อจากเร่ืองปัญจราชาภิเษก
พร้อมทั้งน�ำต้นฉบับหนังสือสมุดไทยมาพิมพ์ต่อไว้ในตอนท้ายด้วย
ในการนี้ กรมศิลปากร โดยคณะท�ำงานจัดท�ำหนังสือประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
มอบหมายให้ นายจุง ดิบประโคน นักภาษาโบราณช�ำนาญการพิเศษ กลุ่มหนังสือตัวเขียนและจารึก
ส�ำนักหอสมุดแห่งชาติ ถ่ายถอดจากต้นฉบับหนังสือสมุดไทย เลขท่ี ๔๖๓ ซ่ึงมีลายมือเขียนบรรจงและต้นฉบับ
มีความสมบูรณ์กว่าต้นฉบับหนังสือสมุดไทย เลขที่ ๔๖๖ พร้อมทั้งได้น�ำรูปถ่ายหนังสือสมุดไทยดังกล่าวมาพิมพ์
ต่อท้ายและได้จัดท�ำเชิงอรรถอธิบายความเพิ่มเติมเพื่อความสมบูรณ์ของเน้ือหา อันจะท�ำให้ผู้อ่านเข้าใจ
เร่ืองราวในเอกสารได้ชัดเจนย่ิงขึ้น
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 49
พระราชพิธีราชาภิเษก
คัดจากอรรถกถาสิงหล
๏ ราชาภิเษกพิธีนั้น ตรัสเทศนาไว้ในสีหลัฏฐกถาเป็นอาทิโดยนัยวิตถารว่า อภิเสกวิธานญฺเจตฺถ เอวํ
เวทิตพฺพํ ฯ อภิเสกมงฺคลตฺถํ ฯ ล ฯ วฏฺฏตีติ อาทินา วุตฺตนฺติ วทนฺติ1 ฯ แปลเนื้อความว่า เมื่อท้าวพระยา
ท้ังหลายจะกระท�ำพิธีราชาภิเษกน้ัน ควรจะหาให้ได้ซ่ึงของท้ังสามสิ่งน้ีก่อน คือ พระมหาสุวรรณรัตนสังข์ ๑
พระมหาหิรัญรัตนสังข์ ๑ พระมหาสังขทักษิณาวัฏ ๑ แลน�้ำในแถวน้�ำคงคาใหญ่ ๑ แลนางขัตติยราชกัญญา
๑ แลของท้ังสามส่ิงนี้เป็นต้นในราชพิธีราชาภิเษก แล้วจึงเชิญเสด็จบรมกษัตริย์อันควรจะราชาภิเษก ให้เสด็จ
ขึ้นนิสัชชนานั่งเหนือพระที่น่ังอุทุมพรพรรฒปปฤฐ2 อันประดิษฐานตั้งในอุทุมพรสาขมณฑป อันตั้งอยู่ภายใน
พระมหามณฑปใหญ่ อันตกแต่งประดับประดาด้วยเคร่ืองราชลังการอันเป็นมหามงคลแล้ว จึงนางราชกัญญา
อันอุดมด้วยชาติ ประดับด้วยราชมังคลาภรณภูษิตก่อนแล้ว จึงทรงถือพระมหาสังขทักษิณาวัฏอันเต็มไปด้วย
พระสุธารสมหาคงคา ด้วยพระหัตถ์ท้ังสองโดยสักกัจจะเคารพยกขึ้นประดิษฐานไว้เหนืออุตตมางคศิโรตม
แล้วจึงถวายภิสิญจนาการมุทธาภิเสโกทกแห่งสมเด็จพระมหากษัตราธิราชเจ้า ด้วยพระคงคาสุธารสใน
พระมหาสงั ขทกั ษณิ าวฏั นน้ั แลว้ จงึ กราบทลู พระมหากษตั รยิ ด์ งั น้ี เทว3 ขา้ แตพ่ ระองคผ์ เู้ ปน็ วงศม์ หาสมมตุ เิ ทวราช
อันประเสริฐ ข้าพระพุทธิเจ้าขัตติยคณานิกรท้ังปวง มากระท�ำอภิเษกพระองค์ ให้สถิตอยู่ในท่ีสมเด็จพระมหา
กษัตราธิราชด้วยราชพิธีอภิเษกน้ี เพ่ือจะรักษาซึ่งอาตมแห่งตูข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระองค์สถิตอยู่ใน
ราชวัตรจงเสวยราชสมบัติโดยทศพิธราชธรรมอันเสมอพระองค์จงมีพระราชหฤทัยกอปรด้วยอนุกัมปกรุณา
เสน่หาเมตตาธรรมในนิกรกษัตริย์ขัตติยวงศ์ทั้งหลาย ด้วยรักษาส�ำรวมราชธรรมไว้ในภายในพระราชสันดาน
ไดช้ อื่ วา่ พระองคท์ รงพระกรณุ ารกั ษาตขู า้ พระพทุ ธเิ จา้ ผเู้ ผา่ พงศบ์ พติ รอนั เปน็ บรมกษตั ราธริ าชอนั ประเสรฐิ ฉะนี้
๏ ล�ำดับน้ัน จึงมหาอรรคราชปโรหิตาจาริย์พราหมณ์ประดับกายด้วยอลงกาภรณ์อันควรคุณานุรูปราช
ปโรหิตแล้ว จึงเอางานด้วยสักกัจจะเคารพรับพระมหาหิรัญรัตนสังข์อันเต็มด้วยคังโคทกธาราด้วยหัตถ์ทั้งสอง
ประคองต้ังเหนืออุตตมางคสิโรตมะแล้วก็ถวายน�้ำมุทธาภิเสกุทกธาราภิสิญจนาการ แก่สมเด็จพระมหากษัตรา
ธริ าชแลว้ กถ็ วายบงั คมกราบทลู วา่ ขา้ แตพ่ ระองคผ์ ทู้ รงศกั ดม์ิ หาสมมตุ เิ ทวราช ขา้ พระบาทบรมบพติ รคณาจารย์
พราหมณ์ท้ังปวง ถวายมังคลาภิเษกสมมติบพิตรให้สถิตในอรรคฐานที่สมเด็จพระมหากษัตราธิราชด้วยศาสตร์
พิธีอภิเษกนี้ เพื่อจะรักษาอาตมตูข้าพระพุทธิเจ้าพราหมณ์ท้ังหลาย ๆ ว่าเหมือนกันกับนางกษัตริย์อันรดก่อน
๚ ล�ำดับน้ัน จึงถึงเศรษฐีประดับด้วยเคร่ืองอลังการเสฐยานุรูปจบค�ำรบรับซึ่งพระมหาสังข์สุพรรณรัตนอันเต็ม
ด้วยคงโคทกธารา ด้วยหัตถ์ซ้ายขวาทูลเหนือเศียรเกล้าอาตมแล้ว จึงถวายมุทธาภิเษกสิญจนาการแก่สมเด็จ
1 ตน้ ฉบับหนงั สอื สมุดไทย เป็นอกั ษรขอม ภาษาบาลี
2 คอื พระทนี่ งั่ อทุ มุ พรภทั รบิฐ
3 ต้นฉบบั หนงั สอื สมุดไทย เป็นอักษรขอม ภาษาบาลี
50 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระมหากษัตราธริ าชแลว้ กถ็ วายบงั คมกราบทลู ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เปน็ สรุ ิยพงศ์สมมุติวงศเ์ ทวราช ขา้ พระบาท
หมู่เศรษฐีท้ังหลาย ถวายมังคลาภิเษกด้วยอภิเษกพิธีนี้ เชิญพระองค์ให้เสด็จในที่สมเด็จพระมหากษัตราธิราช
ผู้ประเสริฐ จงประดิษฐานอยู่ให้ในราชวัด เสวยราชสมบัติโดยราชธรรมอันเสมอ จงมีพระราชหฤทัยกอปรด้วย
เมตตานุกัมปะเสน่หาท่ีจะให้เป็นประโยชน์ในหมู่ตูข้าพระพุทธิเจ้าท้ังหลาย ประดุจเขตรชบุตรแห่งพระองค์ด้วย
รักษาธรรมภายนอกภายในป้องกันไว้โดยราชธรรม ได้ช่ือว่าพระองค์รักษาซึ่งตูข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายนั้น ฯ
แลเม่ือหมู่ขัตติยพราหมณ์เศรษฐีทั้งหลาย กราบทูลแก่สมเด็จพระมหากษัตราธิราชเจ้า ด้วยถ้อยค�ำอัญเชิญให้
สถิตอยู่ในราชวัตรปฏิบัติดังพรรณนามาน้ี นักปราชญ์พึงเข้าใจว่า ประดุจสาบานพระมหากษัตริย์ด้วยถ้อยค�ำ
ดังนี้ว่า ถ้าพระองค์เสวยราชสมบัติโดยธรรม อันสมควรด้วยถ้อยค�ำตูข้าพระพุทธิเจ้าทังหลายถวายภิเษก
ประสิทธิวาจาอาราธนาพระองค์นี้ ก็เป็นพระราชกุศลปราศจากโทษให้ผลเป็นสุขไป ในทิฐสัมปรายิกสมัยเป็น
แมน่ มน่ั แมพ้ ระองคม์ ไิ ดต้ ง้ั อยใู่ นทศพธิ ราชธรรม อนั วา่ มทุ ธาศแหง่ พระองคจ์ งภนิ ทนาการออกดว้ ยภาคเจด็ เถดิ ๚
แลฎีกาจารย์กล่าวซ่ึงเนื้อความมังคลาภิเษกพิธีน้ัน เพื่อภาวะจะให้ผู้สดับฟังฉลาดรู้ในเร่ืองราชประเวณี
พิธีราชาภิเษกในที่นี้ ๚ ในวัฒกีสุกรชาดก1 นั้นมีพระบาลีว่า วฑฺฒกีสูกรํ อุทุมฺพรขนฺเธเยว นิสีทาเปตฺวา ฯลฯ
ตีหิ สํเขหิ อภิสิญฺจนฺติ2 ฯ แปลเนื้อความว่า เม่ือสุกรท้ังปวงฆ่าเสือโคร่งตายแล้ว แลดาบสโกหกหนีข้ึนไปสู่
ต้นหมากเดื่อ สุกรพร้อมกันดุด3 ต้นหมากเดื่อล้มลง แล้วฆ่าดาบสให้ถึงแก่ความตาย สุกรทั้งหลายจึงให้
วัฒกีสุกรนั่งเหนือต้นหมากเดื่อ แล้วก็เอาสังข์ใส่น�้ำของพระดาบสไปตักน�ำมากระท�ำมุทธาภิเษกสมมุติ
วัฒกีสุกรให้เป็นพระยาแล้วจึงอภิเษกนางสุกรตัวหนึ่งให้เป็นอัครมเหสี อาศัยเหตุอันน้ี กษัตริย์ทั้งปวง
เมื่อจะกระท�ำมงคลการราชาภิเษกน้ันจึงให้กษัตริย์ซึ่งควรจะราชาภิเษกนั้น น่ังเหนืออุทุมพรภัทปฤถ4
แล้วจึงถวายมุทธาภิเษกด้วยสังข์สามประการ จับเดิมแต่นั้นมาตราบเท่าจนทุกวันนี้ ๚ะ๛
1 ดูรายละเอียดเพ่ิมเติมใน “๒๘๓ วัฑฒกีสุกรชาดก,” ใน นิบาตชาดก เล่ม ๓ ติกนิบาต จตุกกนิบาต (กรุงเทพฯ:
กองวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร, ๒๕๔๑, คณะกรรมการอ�ำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี
จดั พิมพเ์ ปน็ ทรี่ ะลึกเนื่องในมหามงคลสมัยฉลองสริ ริ าชสมบัตคิ รบ ๕๐ ปี พุทธศักราช ๒๕๓๙), หนา้ ๑๔๒ - ๑๔๙.
2 ตน้ ฉบบั หนงั สือสมดุ ไทย เป็นอกั ษรขอม ภาษาบาลี
3 หมายถึง กิริยาทหี่ มเู อาจมูกดุนดิน ซึ่งปัจจบุ นั ศัพท์ค�ำนย้ี ังคงใชอ้ ยู่ในภาษาไทยถิ่นใต้
4 คือ อทุ ุมพรภทั รบิฐ
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 51
ต้นฉบับหนังสือสมุดไทย
เร่ือง
พระราชพิธีราชาภิเษก คัดจากอรรถกถาสิงหล
52 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
หมู่ พระราชพิธี พระสมุดราชพิธีราชาภิเศก คัดจากอัถคาถาสิงหล
เลขท่ี ๔๖๓ ประวัติ ได้มาจากกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ๕ มกราคม ๒๔๗๙
ปกและหน้าต้น ๑
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 53
หน้าต้น ๒ - ๓
หน้าต้น ๔ - ๕
54 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
หน้าต้น ๖ - ๗
หน้าต้น ๘ - ๙
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 55
หน้าต้น ๑๐ - ๑๑
หน้าต้น ๑๒ - ๑๓
56 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
หน้าต้น ๑๔ - ๑๕
หน้าต้น ๑๖ - ๑๗
ราชาภิเษก
ครั้งกรุงศรีอยุธยา
58 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ค�ำอธิบาย
เรอ่ื ง“ราชาภเิ ษกครงั้ กรงุ ศรอี ยธุ ยา”พมิ พเ์ ผยแพรค่ รง้ั แรกรวมกบั เรอื่ ง“ปญั จราชาภเิ ษก”และ“ราชาภเิ ษก
ในกรงุ รตั นโกสนิ ทร” เมอื่ พ.ศ. ๒๔๑๔ ทโี่ รงพมิ พห์ ลวง ในพระบรมมหาราชวงั ตอ่ มาใน พ.ศ. ๒๔๗๐ พมิ พร์ วมเลม่
กับเร่ืองอื่น ๆ ในหนังสือชุดลัทธิธรรมเนียมต่าง ๆ ภาคที่ ๑๙ ซ่ึงมีเน้ือหาว่าด้วยแบบธรรมเนียมในราชส�ำนัก
ครั้งกรุงศรีอยุธยา ในช่ือว่า “ต�ำราแบบธรรมเนียมในราชส�ำนักครั้งกรุงศรีอยุธยา” เพ่ือแจกเมื่อมหาเสวกตรี
พระยาอิศรพัลลภ (สนิท จารุจินดา) เป็นพระยายืนชิงช้า หลังจากนั้นมีการพิมพ์เผยแพร่อีกหลายครั้ง เช่น
พ.ศ. ๒๔๗๙ พิมพ์รวมกับเร่ืองที่เกี่ยวกับราชาภิเษกเรื่องต่าง ๆ เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทาน
เพลิงศพหม่อมเจ้าหญิงเม้า ทองแถม ใช้ช่ือว่า “เร่ืองราชาภิเษก”
พ.ศ. ๒๕๐๙ พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพนาวาอากาศตรี สมภพ สุตสุนทร
ณ ฌาปนสถานกองทัพบก วัดโสมนัสวิหาร วันท่ี ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๙ โดยน�ำจดหมายเหตุพระราชพิธี
บรมราชาภิเษกรชั กาลที่ ๕ มาต่อท้าย ใชช้ อ่ื ว่า “เร่ืองราชาภเิ ษก และจดหมายเหตบุ รมราชาภิเษก รชั กาลท่ี ๕”
พ.ศ. ๒๕๓๙ กองวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร ได้น�ำมารวมพิมพ์ในหนังสือ “ต�ำรา
แบบธรรมเนียมในราชส�ำนักครั้งกรุงศรีอยุธยา กับพระวิจารณ์ของสมเด็จฯ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ”
พ.ศ. ๒๕๔๖ พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพพลอากาศตรี จ�ำนง ผุสสราค์มาลัย
ณ ฌาปนสถานกองทัพอากาศ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร วันท่ี ๑๓
ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๖ การจัดพิมพ์ในคร้ังนี้ใช้ชื่อว่า “รวมเร่ืองราชาภิเษก ธรรมเนียมราชตระกูลในกรุงสยาม
พระราชานุกิจ และอธิบายว่าด้วยยศเจ้า” ซึ่งในส่วนของรวมเร่ืองราชาภิเษกประกอบด้วยเร่ืองปัญจราชาภิเษก
ราชาภเิ ษกครงั้ กรงุ ศรอี ยธุ ยา ราชาภเิ ษกครงั้ กรงุ รตั นโกสนิ ทร์ (รชั กาลท่ี ๔) จดหมายเหตบุ รมราชาภเิ ษก รชั กาลที่ ๕
(ครั้งแรกและครั้งหลัง)
อนึ่ง จากการตรวจสอบต้นฉบับสมุดไทยซึ่งเก็บรักษาไว้ ณ ส�ำนักหอสมุดแห่งชาติ ได้พบบัญชีรายชื่อ
หนังสือสมุดไทย หมวดจดหมายเหตุกรุงศรีอยุธยา เลขท่ี ๒๓ เลขที่ ๒๓/ก และเลขที่ ๕๖ ซ่ึงเป็นค�ำคัด
มีเนื้อความเก่ียวกับราชาภิเษกครั้งกรุงศรีอยุธยา แต่เนื้อความขาดหายไม่ตรงกับฉบับพิมพ์เผยแพร่ ภายหลัง
เม่ือตรวจสอบหนังสือสมุดไทย หมวดพระราชพิธี เลขที่ ๔๖๖ หมายรับส่ังพระราชพิธีปราบดาภิเษก รัชกาลท่ี ๒
จ.ศ. ๑๑๗๑ พ.ศ. ๒๓๕๒ ว่าด้วยหมายก�ำหนดการพระราชพิธีปราบดาภิเษก รัชกาลที่ ๒ พบว่า ในตอนท้าย
ของหนังสือสมุดไทยเล่มดังกล่าวมีเนื้อความตรงกับเรื่องราชาภิเษกคร้ังกรุงเก่า จึงเข้าใจว่าฉบับที่เคยน�ำมา
จดั พมิ พท์ กุ ครงั้ น่าจะใช้เน้ือความจากหนังสือสมุดไทยน้ีเป็นต้นฉบับในการจัดพิมพ์
ในการนี้ กรมศลิ ปากร โดยคณะทำ� งานจดั ทำ� หนงั สอื ประมวลเอกสารพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก ไดน้ ำ� ตน้ ฉบบั
เร่ือง “ราชาภิเษกครั้งกรุงศรีอยุธยา” จัดพิมพ์เนื่องในงานพระราชทานเพลิงศพหม่อมเจ้าหญิงเม้า ทองแถม
เม่ือ พ.ศ. ๒๔๗๙ ซึ่งพิมพ์ตามต้นฉบับโรงพิมพ์หลวง พ.ศ. ๒๔๑๔ มาจัดพิมพ์เผยแพร่ พร้อมกับได้น�ำรูปถ่าย
หนังสือสมุดไทย หมวดพระราชพิธี เลขท่ี ๔๖๖ ว่าด้วยเรื่องราชาภิเษกครั้งกรุงศรีอยุธยามาพิมพ์รวมไว้
ในตอนท้าย เพ่ือประโยชน์ในการศึกษาด้านอักษรศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และจารีตประเพณี
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 59
ราชาภิเษกครั้งกรุงศรีอยุธยา
ณ วันเดือนย่ีขึ้น ๑๐ ค่�ำ จุลศักราช ๑๑๔๕ ปีเถาะ เบ็ญจศก1 เจ้าพระยาเพ็ชรพิไชย เจ้าพระยาสุธรรม
มนตรี พระยาราชสงคราม พระยาอุไทยมนตรี น่ังพร้อมกันแต่งกฎหมายซึ่งท�ำการพระราชพิธีราชาภิเษก
คร้ังในหลวงวัดประดู่ไว้ส�ำหรับหอหลวงฉะบับ ๑ ตั้งเตียงแว่นฟ้า มีเสาส่ีเสา มีเพดาน ต้ังบนพระที่น่ังสรรเพชญ
ปราสาท มีพิธีสงฆ์ พิธีพราหมณ์ เทียนไชยพระสังฆราชจุด เทียนราวในหลวงทรงจุดบูชาพระ พระไชย
พระชันษา พระมนตร์ภิเษก พระเต้าเงิน ๑ พระเต้าทอง ๑ พระเต้านาก ๑ พระเต้าสัมฤทธิ ๒ พระนพ ๑
พระมหาสังข์ทักขิณาวัฏ ๑ พระเสมาธิปัตร ๑ พระฉัตรไชย ๑ พระเกาวผ้าย ๑ พระมหาธงไชย ๑ กระบี่ธุช ๑
พระแสงง้าวเจ้าพระยาแสนพลพ่าย ๑ พระแสงขอตีช้างล้ม ๑ เครื่องต้ังบนเตียงแว่นฟ้า หีบพระธ�ำมรงค์
ลุ้งพระมาลาเบ่ียง ฉลองพระองค์เกราะ ๑ ฉลองพระองค์นวม ๑ พระเต้าเบ็ญจครรภ มีพระยันต์รองห้า
พระมหาสังวาลพราหมณ์สร้อยอ่อน เศวตฉัตร ๑ ผ้ารัตตกัมพล ๑ เบ็ญจกกุธภัณฑ์ พระมหามงกุฎ ๑
พระขรรค์ไชยศรี ๑ พัชนีฝักมะขาม ๑ ธารพระกร ๑ ฉลองพระบาท ๑ เป็น ๕ สิ่ง พระแสงปืนคาบชุดข้าม
แม่น้�ำสะโตง พระแสงหอกไชย พระแสงของ้าว พระแสงดาบชะเลย พระแสงเขนมีดาบด้วย พระแสงจักร
พระแสงตรีศูล พระแสงเกาทัณฑ์ ชีพ่อพราหมณ์ตั้งพระอิศวร ๑ นางอุมาภัควดี ๑ พระนารายน์ ๑ นางลักษมี ๑
เป็น ๔ ท�ำพิธีพราหมณ์ด้วยสามวัน
เจ้าพนักงานปลูกโรงพระกระยาสนานข้างพระท่ีนั่งสรรเพชญปราสาทเป็นพระมณฑป มีนาคช่อห้อย
ช่อต้ังมีใบโพห้อย หลังคาบุแผงปูผ้าขาวนอก มีเพดานผ้าขาว มีดอกจ�ำปาทองห้อย มีม่านขาวและมณฑปหุ้ม
ผ้าขาว มีราชวัฏิฉัตรธง ฉัตรเงิน ฉัตรทอง ฉัตรนาก ฉัตรเบ็ญจรงค์ ต้นกล้วย ต้นอ้อย ดอกหมาก ดอกมะพร้าว
ประดับตามธรรมเนียม มีเตียงลาดเส่ืออ่อน ผ้าขาวปูบนเส่ืออ่อน ถาดทองแดงปากกว้างสามศอกต้ังบนผ้าขาว
เมื่อแรกต้ังการพระราชพิธีสามวันน้ัน ในหลวงทรงพระภูษาลายพ้ืนขาว ฉลองพระองค์กรองทอง ทรงพระมาลา
พระเส้าสูงสีกุหร่า เสด็จเวลาบ่ายไปทรงฟังสวดท้ังสามวัน ทรงพระมหามงคล คร้ันวันรุ่งขึ้น ถึงพระฤกษ์
จะราชาภิเษกน้ัน ในหลวงเสด็จข้ึนไปแต่เวลาเช้า ทรงศีล ทรงประเคนส�ำรับพระสงฆ์แล้ว เมื่อจะเสด็จลงไป
โรงพระกระยาสนานนั้น พระมหาราชครูเชิญเสด็จ ทรงเสื้อถอดทรงผ้าถอด พราหมณ์เชิญพระไชยน�ำเสด็จ
และพระสงฆ์ก็ลงไปด้วยคอยพระฤกษ์อยู่ ครั้นได้พระฤกษ์แล้วให้โหรชักกล่อม ชาวพระภูษามาลาถวาย
เครอ่ื งพระมรุ ธาภเิ ษกแลว้ ชาวพระภษู ามาลาขนุ ศรสี ยมุ พรหลง่ั นำ้� สหสั ธาราครน้ั สรงแลว้ พระสงฆร์ าชาคณะอธกิ าร
ฝ่ายสมถะรดน�้ำในพระเต้าเงิน พระเต้าทอง พระเต้านาก พระเต้าสัมฤทธิ์ แล้วพราหมณ์ถวายน้�ำพระกลศ
น�้ำพระสังข์ เสดาะพระเคราะห์แล้ว ทรงพระภูษาลายพ้ืนแดง ฉลองพระองค์กรองทอง เสด็จขึ้นบนพระท่ีนั่ง
เสด็จข้ึนน่ังบนตั่งไม้มะเดื่อ กว้างจตุรัสศอกคืบ ปูผ้าขาวโรยแป้ง วางหญ้าคา ผ้าขาวปกบน ผันพระพักตร์ไป
ทิศอิศาน มีต่ังน้อยกว้างศอกหน่ึง ตั้งพระอัฐทิศ ต้ังกลศ ตั้งสังข์ทั้ง ๘ ทิศดังน้ี
1 พ.ศ. ๒๓๒๖
60 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
(แผนที่พระท่ีน่ังอัฐทิศ)
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 61
มีผ้าขาวปูรองพระ พราหมณ์ถวายน�้ำพระมหาสังข์ทักขิณาวัฏ ในหลวงทรงรับด้วยพระหัตถ์
สรงพระพักตร์แล้วเสวยหน่อยหน่ึง พราหมณ์ถวายราชสมบัติ ถวายเวท ถวายมนตร์ ถวายไชย ผันพระองค์ไป
รอบทั้ง ๘ ทิศ แล้วจึงเสด็จข้ึนบนพระภัทรบิฐ มีผ้าขาวปูแล้วโรยแป้งวางหญ้าคา แล้วปูแผ่นทองที่เขียนรูป
ราชสีห์ด้วยชาดหอรคุณปกบนผ้าขาวดังนี้
พราหมณ์ถวายพระสุพรรณบัตร ถวายพระมหาสังวาล
สร้อยอ่อน ถวายพระเศวตฉัตร ถวายผ้ารัตตกัมพล ถวาย
พระมหามงกุฎ ถวายพระขรรค์ไชยศรี ถวายฉลองพระบาท
๗ สิ่ง แล้วถวายอัษฎาวุธ พระแสงปืน พระแสงหอกไชย
พระแสงดาบชะเลย พระแสงของ้าว พระแสงจักร พระแสง
ตรีศูล พระแสงเขน พระแสงเกาทัณฑ์ ๘ สิ่ง แล้วพราหมณ์
ถวายไชย ถวายพร แล้วจึงมีรับส่ังแก่พระมหาราชครูผู้ใหญ่ว่า
พรรณพฤกษ์และส่ิงของทั้งปวงซึ่งมีในแผ่นดิน ทั่วขอบเขตต์
แดนพระนคร ซึ่งหาเจ้าของหวงแหนมิได้น้ัน ตามแต่
สมณชีพราหมณ์ และอาณาประชาราษฎรจะปรารถนาเถิด
จงึ พระมหาราชครผู ใู้ หญ่ ซงึ่ มตี ระกลู รบั พระราชโองการเปน็ ฤกษก์ อ่ น แตเ่ วลานนั้ สบื ไป ขา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท
จึงได้รับพระราชโองการสืบไปได้ ในหลวงทรงโปรยดอกพิกุลเงิน พิกุลทอง แล้วพราหมณ์เป่าพระมหาสังข์
ตีฆ้องไชยกลองอินทรเภรี ประโคมมะโหระทึกแตรสังข์มะโหรี ขับไม้ประโคมแล้ว ในหลวงเสด็จไปทรงเคร่ือง
ชาวพระภูษามาลาถวายพระสนับเพลาเชิงงอนสองชั้น พระภูษาริ้ววระวยี่จีบโจงโยคี รัดพระองค์หนามขนุน
ทรงฉลองพระองค์พระกรน้อย ทรงฉลองพระองค์สีย่นนอก รัดพระองค์แครง เหน็บพระแสงก้ันหยั่นพู่นิล
ทรงพระธ�ำมรงค์พลอยต่างกัน ทรงพระชฎาพระเก้ียวแหวนแดง ๙ สิ่ง
มหาดเล็กถวายพระแสงใจเพ็ชรฉลองพระบาท เสด็จข้ึนพระราชยานแห่เคร่ืองสูงเป็นกระบวน
ลงมาพระต�ำหนักสวนกระต่าย เสร็จการราชาภิเษกแล
มีกฎหมายจม่ืนไวยวรนาถ ท�ำโคลงไว้ว่า เมื่อล้นเกล้าล้นกระหม่อมในพระบรมโกษ ข้ึนปราบดาภิเษก
ปีฉลูเอกศกนั้น1 ต้ังการพระราชพิธีสงฆ์ พิธีพราหมณ์ บนพระท่ีน่ังพิมานรัตยาวังหน้า เจ้าพนักงานท�ำการและ
ต้ังเคร่ืองทั้งปวงเหมือนกัน ผิดกันแต่ไม่ต้ังพระภัทรบิฐ ไม่ถวายเบ็ญจกกุธภัณฑ์ ตั้งแต่ต่ังใหญ่น้อย ๘ ทิศ เสด็จ
ข้ึนบนต่ังกลาง พราหมณ์ถวายน้�ำพระมหาสังข์ ถวายราชสมบัติ ถวายเมือง ถวายเวทมนตร์ แล้วถวายไชย
1 หากใช้เกณฑว์ ่าพทุ ธศกั ราชมากกวา่ จลุ ศกั ราช ๑,๑๘๑ ปี ข้อความนีน้ ่าจะหมายถงึ จุลศกั ราช ๑๐๗๑ ปฉี ลู (พ.ศ. ๒๒๕๒)
ตรงกบั ปที ส่ี มเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทา้ ยสระขน้ึ ครองราชย์ (พ.ศ. ๒๒๕๒ - ๒๒๗๕) และหากคำ� วา่ “ลน้ เกลา้ ลน้ กระหมอ่ มในพระบรมโกษ”
หมายถึง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (พ.ศ. ๒๒๗๕ - ๒๓๐๑) ดังเน้ือความในตอนท้าย ดูเหมือนว่า ศักราชท่ีระบุไว้กับล�ำดับ
เรือ่ งราวไมส่ อดคล้องกนั
62 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เมื่อครั้งในหลวงพระที่นั่งสุริยามรินทร์ขึ้นผ่านพิภพนั้น หาเสด็จขึ้นบนพระภัทรบิฐไม่ เสด็จขึ้นแต่บนตั่ง
อัฐทิศ ท�ำอย่างในหลวงในพระบรมโกษ ข้าพเจ้าจ�ำได้แต่เพียงน้ี แล้วแต่จะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
เม่ือคร้ังปีฉลูนพศก ในหลวงพระบรมโกศ1 ทรงพระกรุณาส่ังกรมพระเทพพิพิธว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟา้ กรมขุนพรพินิตน้ัน ให้ยกข้ึนเป็นกรมพระราชวงั บวรสถานมงคล ครั้งนัน้ ตง้ั พธิ ีสวดพระพทุ ธมนตพ์ ระทน่ี ่ัง
สรรเพชญปราสาท ๓ วัน ตั้งเคร่ืองท้ังปวงอย่างเฉลิมพระต�ำหนัก ปลูกโรงริมพระที่น่ังสรรเพชญปราสาท
ต้ังเตียงท่ีสรงมีราชวัฏิฉัตรธง ฉัตรเงิน ฉัตรทอง ฉัตรนาก ฉัตรเบ็ญจรงค์ ตามธรรมเนียม ครั้นเข้าท่ีสรงแล้ว
พระสงฆร์ ดนำ�้ พระพทุ ธมนตแ์ ลว้ พราหมณถ์ วายนำ�้ กลศ นำ�้ สงั ข์ แลว้ ทรงพระภษู าลายเขยี นทอง จบี โยงหางหงส์
ทรงฉลองพระองค์กรองทอง ทรงพระมาลาพระเส้าสูงสีแสด ทรงพระเสลี่ยงแห่เคร่ืองสูงสามช้ัน ลงมา
พระท่ีน่ังบรรยงค์รัตนาสน์ เกณฑ์แห่หยุดอยู่ เสด็จลงจากพระเสลี่ยง เปลื้องเครื่องแต่เครื่องต้นออกเสียแล้ว
จึงเสด็จขึ้นไปเฝ้าในหลวงบนพระท่ีน่ัง เมื่อเสด็จกลับลงมาน้ัน เห็นทรงพระแสงดาบยี่ปุ่นฝักมะขาม ส�ำหรับ
พระราชวังบวรทรงอยู่แต่ก่อนนั้นลงมา แล้วขึ้นพระเสลี่ยงแห่ไปต�ำหนักสวนกระต่าย แล้วเจ้ากรมเทพพิพิธ
ลงมาสั่งหม่ืนเสมอใจราชมหาดเล็ก ว่าสมเด็จพระเจ้าลูกเธอขึ้นไปเฝ้าบนพระท่ีนั่ง ล้นเกล้าล้นกระหม่อม
พระราชทานพระแสงส�ำหรับพระราชวังบวรให้แล้ว พระราชทานพระพรอวยพระไชยให้เป็นเจ้ากรมพระราชวัง
บวรสถานมงคล ให้รับพระบัณฑูร ให้หมายบอกแก่ข้าทูลละอองธุลีพระบาทฝ่ายทหารพลเรือนให้รู้ทั่วกัน
ได้ทราบเกล้าทราบกระหม่อมแต่เท่านี้
1 หากใช้เกณฑ์ว่าพุทธศักราชมากกว่าจุลศักราช ๑,๑๘๑ ปี พบว่าในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีปีฉลู นพศก
เพยี งคร้งั เดยี ว คือ จลุ ศกั ราช ๑๑๑๙ ตรงกบั พ.ศ. ๒๓๐๐
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 63
ต้นฉบับหนังสือสมุดไทย
เร่ือง
ราชาภิเษกคร้ังกรุงศรีอยุธยา
64 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
หมู่ พระราชพิธี เร่ือง หมายรับส่ังพระราชพิธีปราบดาภิเษก รัชกาลท่ี ๒ จ.ศ. ๑๑๗๑ พ.ศ. ๒๓๕๒ เลขท่ี ๔๖๖
ประวัติ กรมพระนเรศวรฤทธ์ิ ๑๒ ธันวาคม ๒๔๖๘ หน้าปลายท้ังหมด ๔๕ หน้า
หน้าปลาย ๑๙
หน้าปลาย ๒๐
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 65
หน้าปลาย ๒๑ - ๒๒
หน้าปลาย ๒๓ - ๒๔
66 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
หน้าปลาย ๒๕ - ๒๖
หน้าปลาย ๒๗ - ๒๘
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 67
หน้าปลาย ๒๙ - ๓๐
หน้าปลาย ๓๑ - ๓๒
68 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
หน้าปลาย ๓๓ - ๓๔
หน้าปลาย ๓๕ - ๓๖
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 69
หน้าปลาย ๓๗ - ๓๘
หน้าปลาย ๓๙ - ๔๐
70 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
หน้าปลาย ๔๑ - ๔๒
หน้าปลาย ๔๓ - ๔๔
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ประดิษฐานที่ผนังมุขกระสันตะวันออก พระที่น่ังจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 73
ค�ำอธิบาย
เอกสารช้ันต้นว่าด้วยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
ที่น�ำมาพิมพ์รวมในหนังสือเล่มน้ี เป็นเนื้อความส่วนหน่ึงในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑
ของเจา้ พระยาทพิ ากรวงศมหาโกษาธบิ ดี (ขำ� บนุ นาค) ซง่ึ นำ� ตน้ ฉบบั มาจากหนงั สอื สมดุ ไทยทม่ี ลี กั ษณะเรอ่ื งราว
เป็นบันทึกเหตุการณ์ตามล�ำดับเวลา ภายหลังเมื่อมีการตรวจสอบช�ำระและพิมพ์เผยแพร่จึงได้เพ่ิมหัวเรื่อง
ส�ำคัญเพ่ือให้สะดวกในการอ่าน พระราชพงศาวดารฉบับนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีพระบรมราชโองการให้กรมราชเลขาธิการจัดพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๔ และต่อมามีการ
จัดพิมพ์อีกหลายครั้ง
ในการน้ี คณะท�ำงานจัดท�ำหนังสือประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มอบหมายให้
นายบัณฑิต ลิ่วชัยชาญ นักอักษรศาสตร์ช�ำนาญการพิเศษ กลุ่มประวัติศาสตร์ ส�ำนักวรรณกรรมและ
ประวัติศาสตร์ ตรวจสอบช�ำระโดยใช้ต้นฉบับหนังสือสมุดไทย หมวดพงศาวดาร หมู่กรุงรัตนโกสินทร์
รัชกาลที่ ๑ เลขที่ ๑๖ ซึ่งกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมอบให้หอพระสมุดวชิรญาณเป็นหลัก สอบทาน
ร่วมกับเอกสารต่าง ๆ ได้แก่ ต้นฉบับหนังสือสมุดไทย หมวดพงศาวดาร หมู่กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑
เลขท่ี ๒๘ ซึ่งต้นฉบับเป็นสมบัติเดิมของหอพระสมุดวชิรญาณ หนังสือพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์
รัชกาลที่ ๑ ของเจา้ พระยาทพิ ากรวงศ์ (ขำ� บุนนาค) ฉบับพมิ พค์ รั้งท่ี ๘ พ.ศ. ๒๕๕๒ โดยคณะสงฆ์วดั พระเชตพุ น
วิมลมังคลารามและมูลนิธิ “ทุนพระพุทธยอดฟ้า” ในพระบรมราชูปถัมภ์ หนังสือพระราชพงศาวดาร
กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลท่ี ๑ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับตัวเขียน จัดพิมพ์โดยส�ำนักพิมพ์อมรินทร์
วิชาการ พ.ศ. ๒๕๓๙ และหนังสือพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑ เจ้าพระยาทิพากรวงศ์
(ข�ำ บุนนาค) เรียบเรียง สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ ทรงตรวจสอบช�ำระ
และทรงพระนิพนธ์อธิบาย พิมพ์คร้ังท่ี ๗ พ.ศ. ๒๕๔๕ โดยกองวรรณคดีและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร
จากการตรวจสอบพบว่า เน้ือความในต้นฉบับหนังสือสมุดไทย เลขท่ี ๑๖ ตรงกับเนื้อความในหนังสือ
ท่ีพิมพ์เผยแพร่ฉบับต่าง ๆ เพียงแต่มีอักขรวิธีที่แตกต่างกันเท่านั้น ส่วนต้นฉบับหนังสือสมุดไทย เลขที่ ๒๘
มีเน้ือความไม่สมบูรณ์ ยกเว้นฉบับที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ ทรงตรวจสอบ
ช�ำระและทรงพระนิพนธ์อธิบายมีรายละเอียดของเน้ือความท่ีแตกต่างกัน การจัดพิมพ์ในครั้งน้ี จึงใช้ต้นฉบับ
หนังสือสมุดไทย เลขที่ ๑๖ ซึ่งเป็นเอกสารช้ันต้นท่ีมีเนื้อหาสมบูรณ์มาพิมพ์เผยแพร่ โดยคงอักขรวิธีส่วนใหญ่
ไว้ตามต้นฉบับเดิม พร้อมทั้งจัดท�ำเชิงอรรถอธิบายความเพ่ิมเติมในส่วนท่ีแตกต่างกับฉบับท่ีสมเด็จพระเจ้า
บรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ ทรงตรวจสอบช�ำระและทรงพระนิพนธ์อธิบาย โดยใช้ค�ำย่อ
ในเชิงอรรถว่า “ฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพฯ ” เพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหา
อันจะท�ำให้ผู้อ่านเข้าใจเร่ืองราวในเอกสารได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
74 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช พุทธศักราช ๒๓๒๘
ในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๑
ของเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ข�ำ บุนนาค)
บดั นี้ได้ทำ� การสรา้ งพระนครขน้ึ ใหม่ ใหก้ ว้างใหญ่ไพศาลสมบรู ณง์ ามดขี ้นึ แล้ว ควรจะทำ� พระราชพิธบี รม
ราชาภิเษกใหม่1 จะได้เป็นพระเกียรติยศ แลเป็นศรีสวัสดิมงคลแก่บ้านเมือง เป็นท่ีเจริญสุขแก่ไพร่ฟ้าประชา
ราษฎรทั่วไปในพระราชอาณาเขต จึงโปรดเกล้าฯ ให้ประชุมพระราชวงศานุวงศ์ แลเสนาพฤฒามาตย์ แลกระวี
ชาติราชบัณฑิตยาจาริย ชีพ่อพราหมณ์ปรึกษาพร้อมเห็นสมควรแล้ว จึ่งมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ
ให้จัดการทั้งปวงให้พร้อมจะได้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกใหม่2
คร้ันถึงวันมหามหุรตีมงคลฤกษ์ จึ่งได้3 ต้ังพระมณฑปท่ีสรงพระกระยาสนานที่ชั้นพระชาลาข้างใน
ระหว่างพระที่น่ังจักรพรรดิพิมาน พระมหามณเฑียรเบื้องบุรพทิศ4 เสาบันทวยนาคช่อห้อยช่อต้ังใบโพห้อย
แลยอดซุ้มหุ้มด้วยผ้าโขมพัตรมีท่อธารสัณฐานดังฝักอุบลท�ำด้วยเงิน คั่งน�้ำ5 เบญจสุทธิคงคาไว้บนเพดาน
ผ้าขาวมีนามว่าสหัสธารา เพดานนั้นประดับด้วยดาวทองแลพวงพู่กล่ินล้วนสุวรรณมาลาดอกจ�ำปาทอง
แลพระวิสูตรพื้นผ้าโขมพัตรจ�ำหลักลอยดอกสุวรรณ6 ประจ�ำทั้งส่ีด้าน แลมีเตียงเล็กส�ำหรับต้ังพระปฏิมาไชย7
เมื่อเวลาสรง ต้ังราชวัตรแลฉัตรทอง ฉัตรนาค ฉัตรเงินเจ็ดชั้น ท่ีเสาราชวัตรประดับด้วยต้นกล้วย ต้นอ้อย
ดอกหมาก ดอกมะพร้าว ล้อมรอบพระมณฑป ภายในพระมณฑปลาด8 ผ้าโขมพัตรตั้งถาดทอง แล้วมีตั่งท�ำด้วย
1 ฉบบั สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานุภาพฯ ใช้วา่ “บดั นี้ กไ็ ดท้ รงสรา้ งพระนคร และพระราชมนเทียร
สถานขนึ้ ใหม่ ควรจะทำ� พระราชพิธบี รมราชาภเิ ษกให้เตม็ ตามแบบแผนโบราณราชประเพณี...”
2 ฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพฯ ใช้ว่า “จึงมีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้จัดการ
พระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษก...”
3 ข้อความ “ครั้นถึงวันมหามหุรตีมงคลฤกษ์ จ่ึงได้” ไม่ปรากฏในฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรง
ราชานุภาพฯ
4 ฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพฯ ใช้ว่า “...ท่ีชั้นพระชาลา ข้างพระท่ีนั่งอมรินทราภิเษก
เบ้ืองบูรพาทิศ...” เดิมหมู่พระมหามณเฑียรภายในพระบรมมหาราชวังเรียกรวมกันว่า “พระท่ีนั่งจักรพรรดิพิมาน” เมื่อออกนาม
เพ่ือระบุต�ำแหน่งจึงมีค�ำขยายตามลักษณะท่ีตั้งหรือลักษณะด้านสถาปัตยกรรมว่า “พระที่น่ังจักรพรรดิพิมานข้างหน้า” (พระที่นั่ง
อมรินทรวินิจฉัย) “พระท่ีนั่งจักรพรรดิพิมาน ๑๑ ห้อง” (พระที่น่ังไพศาลทักษิณ) ต่อมาพระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ ๓ พระราชทานนามพระทนี่ ่งั แยกเป็น ๓ องค์ ดงั ปรากฏในปจั จบุ ัน
5 ฉบบั สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ ใชว้ ่า “...ดังฝักประทุมทำ� ดว้ ยเงนิ ขงั น�ำ้ ...”
6 ฉบับสมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ ใช้ว่า “...ลายดอกสุวรรณ...”
7 ฉบบั สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานุภาพฯ ใช้วา่ “...พระพุทธปฏมิ าไชย...”
8 ฉบบั สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ ใช้ว่า “...ปลู าด...”
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 75
ไม้มะเดื่อแลไม้ชัยพฤกษ์ ลาดใบไม้ข่มนามตั้งบนถาดนั้นเป็นท่ีเสด็จสรง รอบพระมหามณเฑียรแลพระที่น่ัง
จักรพรรดิพิมานข้างหน้า1 รายด้วยฉัตรเบญจรงค์เจ็ดชั้น ท่ีเสาราชวัตรประดับด้วยต้นกล้วย ต้นอ้อย ดอกหมาก
ดอกมะพร้าว ในพระที่น่ังจักรพรรดิพิมานสิบเอ็ดห้อง2 ด้านบุรพทิศต้ังเตียงแว่นฟ้ามีเพดานระบายรอบ
เปน็ เตยี งพระมณฑล ตง้ั เตียงเลก็ ตง้ั พระบรมธาตหุ นง่ึ ตง้ั พระพทุ ธปฏมิ าไชยหนง่ึ พระพทุ ธปฏมิ าหา้ มสมทุ รหนง่ึ
แล้วตั้งเตียงรองพระเครื่อง ตั้งพานทองรองดวงพระชนมพรรษา แลพานทองสองชั้นตั้งพระสุพรรณบัตร
มีคลุม แลต้ังพระมหาอุณาโลมท�ำแท่ง พระภูษารัตกัมพล แลสร้อยธุร�่ำคือสังวาลพราหมณ์ ตั้งเคร่ืองพระเต้า
เบญจครรภมีแผ่นยันต์ห้ารอง แลพระเต้าประทุมนิมิตรทององค์หนึ่ง นาคองค์หนึ่ง เงินองค์หน่ึง สัมฤทธ์ิ
องคห์ นงึ่ พระมหามงคลพระนพ พระมหาสงั ขทกั ษณิ าวฏั แลพระเครอื่ งตน้ ราชกกุ กธุ ภณั ฑ์ พระมหาพไิ ชยมงกฎุ
พระแสงขรรค์ไชยศรี พัดวาลวิชนี ธารพระกร ฉลองพระบาทเชิงงอนประดับเพชร พระมหาชฎา มหามาลา
ประดับเพชร พานพระขันหมาก พระเต้าลงยาราชาวดี พระสุพรรณราช พระสุพรรณศรีกลีบบัวแฉก พัดวิชนี
ฝักมะขาม แลเคร่ืองพระมหาพิไชยสงคราม พระมาลาเบ่ียง ฉลองพระองค์เกราะนวมสามสิบสองชั้น
เคร่ืองพระมุรธาภิเษก หีบพระธ�ำมรงค์ พระมหาสังวาลสร้อยอ่อน พระมหาสังวาลพราหมณ์ พระเสมาธิบัตร
ฉัตรไชย พระเกาวพ่าย ธงราชกระบ่ีธุช ครุฑพาหะ พระมหาเศวตฉัตร พระแสงหอก พระแสงดาบเชลย
พระแสงเขนมีดาบด้วย พระแสงปืนคาบชุดข้ามแม่น้�ำสะโตง พระแสงจักร พระแสงตรีศูล พระแสงเกาทัณฑ์
พระแสงของ้าวเจ้าพระยาแสนพลพ่าย พระแสงชนัก แลพระแสงวิเศษ คือ พระแสงดาบคาบค่าย พระแสงดาบ
ใจเพชร พระแสงกระบี่ พระแสงกั้นหยั่น พระแสงปืนคาบศิลาท่ีเคยทรง พระแสงทวน พระแสงง้าว พระแสง
ตรีคันยาว พระแสงขอคร่�ำ3
แลตั้งตั่งใหญ่ไม้มะเด่ือแปดเหล่ียมช่ืออัฐทิศ ก้ันพระมหาเศวตฉัตรเจ็ดชั้น4 แลตั่งน้อยประจ�ำทิศ
ท�ำด้วยไม้ฤาษีสุก ตั้งน้�ำกรดน�้ำสังข์ แลมีรูปเขียนเทพดาท้ังแปดองค์ผู้ทรงฤทธิ์ประจ�ำทิศท้ังแปด หน้าเตียง
พระมณฑล ต้ังเคร่ืองนมัสการเครื่องทองใหญ่5 หลังเตียงพระมณฑลตั้งบาตรน้�ำพระพุทธมนตร์ห้า
บาตรทรายห้า
1 ฉบบั สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ ใช้ว่า “พระท่นี ั่งอมรนิ ทราภเิ ษกข้างหน้า”
2 ฉบบั สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานุภาพฯ ใช้วา่ “พระทน่ี งั่ อมรนิ ทราภิเษก”
3 ฉบบั สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานุภาพฯ รายละเอียดของเคร่ืองบรมราชาภเิ ษกบนพระแท่นมณฑล
มกี ารจัดเรยี งลำ� ดบั กอ่ นหลังทแี่ ตกต่างกนั และค�ำศพั ท์บางค�ำเรยี กแตกตา่ งกัน
4 ตน้ ฉบบั หนงั สอื สมดุ ไทยดา้ นลา่ งหรอื ดา้ นบนของคำ� วา่ “มหา” มลี ายมอื เขยี นเพม่ิ เตมิ วา่ “บวร” ทกุ แหง่ และในฉบบั สมเดจ็
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานภุ าพฯ ใชว้ า่ “บวรเศวตฉัตรเจด็ ชน้ั ”
5 ขอ้ ความ “เครื่องทองใหญ”่ ไมป่ รากฏในฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานุภาพฯ
76 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ด้านปราจิณทิศ1 ต้ังเตียงมีโครงเพดานดาดผ้าขาว ท่ีส�ำหรับพระสงฆ์จะได้สวดภาณวารแลมหาไชย
ส�ำหรับพระราชพิธี มีเคร่ืองทรงนมัสการตะบะมุก แลต้ังเทียนไชยมีกระโจมหุ้มผ้าขาว แลต้ังพระที่น่ังภัทรบิฐ
ท�ำด้วยไม้มะเด่ือหุ้มเงินองค์หนึ่งลาดหญ้าคาแลโรยด้วยแป้งข้าวสาลี มีแผ่นทองค�ำเขียนรูปราชสีห์ด้วยเส้นชาติ
หรคุณทับบนหญ้าคาท่ามกลางพระภัทรบิฐแล้วคลุมลงด้วยผ้าขาว2 ก้ันพระมหาเศวตฉัตรเจ็ดชั้น
ณ พระแท่นท่ีพระบรรทม ท่ีพระมหามณเฑียรข้างใน แต่งอาสนะปูลาดพรมเจียม ส�ำหรับเป็นท่ีพระสงฆ์
ราชาคณะสมถะห้ารูปสวดพระปริตรพุทธมนต์ แลกรมพระโหรต้ังเครื่องบัดพลี บูชาเทวดานวะเคราะห์
เพื่อเจริญพระชนมายุกาล แลวงด้ายสายสิญจน์สูตร โยงไปโดยท่ามกลางสายหน่ึง แลวงล่ามไปท่ัวพระแท่น
เตียงพระมณฑล แลเตียงพระปฏิมาไชย สรรพเครื่องสาตราวุธ ตั่งอัฐทิศแลพระท่ีนั่งภัทรบิฐ ท้ังพระมณฑป
ท่ีสรงพระกระยาสนาน ตลอดมาพระท่ีนั่งจักรพรรดิพิมานข้างหน้า3 แลต้ังโรงพิธีพราหมณ์หน้าพระท่ีน่ัง
ดุสิดาภิรมย์4 ประดับราชวัตรฉัตรกระดาษห้าชั้น มีต้นกล้วย ต้นอ้อย แลดอกหมาก ดอกมะพร้าว ห้อยตามมุม
ราชวัตรแล้วเชิญเทวรูปทั้งเจ็ดออกต้ัง คือพระปรเมศวร พระพรหมธาดา พระนารายน์ พระเทวกรรม
พระพิฆเนศวร พระอุมาภัควดี พระลักษมี ตั้งเคร่ืองเบญจครรภ นพพวรรค หม้อกุณฑ์ เตากุณฑ์โหมเพลิง
แลโตรทวารท�ำด้วยไม้ซีกประดับด้วยไม้ไผ่อุนาเทวา พรหมโองการทิศละสามอันท้ัง ๘ ทิศ ต้ังกรดสังข์
คร้ันถึงวันพระฤกษ์เวลาบ่ายสามโมงเศษ พระราชาคณะสงฆ์ส่ีสิบสามรูป ประชุมพร้อมในพระที่น่ัง
จักรพรรดิพิมาน5 แล้ว จึ่งประโคมสังคีตดุริยางคดนตรีมโหรีพิณพาทย์สัปท์นฤนาท จ่ึงพระบาทสมเด็จ
บรมนารถบรมบพิตรพระเจ้าอยู่หัวทรงพระภูษาเขียนทอง ทรงรัดพระองค์ประดับเพชร ฉลองพระองค์ครุย
กรองทอง ทรงพระแสงเวียด6 เสด็จออกทรงนมัสการพระศรีรัตนตรัย ด้วยเบญจางคประดิษฐ์ ทรงจุดเทียน
เคร่ืองนมัสการ สมเด็จพระอริยวงษาคตญาณ จุดเทียนไชย ทรงรับพระไตรสรณาคมน์แลเบญจศีลเสร็จ
เสด็จข้ึนในพระมหามณเฑียรที่ห้องพระบรรทม ทรงจุดเทียนเคร่ืองนมัสการแล้วสรวมพระมหามงคล
สอดด้ายสายสิญจน์สูตร ทรงสดับพระราชาคณะสงฆ์สมถะห้ารูป สวดพระจตุภาณวาร จบพระต�ำนานแล้ว7
ประโคมแตรสังข์ฆ้องไชยกังสดาลดุริยดนตรีมโหรีพิณพาทย์
1 ต้นฉบับหนังสือสมุดไทยด้านล่างของค�ำว่า “ปราจิณ” มีลายมือเขียนเพ่ิมเติมว่า “ประจิม” ซ่ึงค�ำว่า “ปราจิณ”
หมายถึงทิศตะวันออก ส่วน “ประจมิ ” หมายถึง ทิศตะวันตก และในฉบับสมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ
ใช้วา่ “ประจมิ ทิศ”
2 ฉบบั สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานุภาพฯ ใช้ว่า “...ทบั บนเสน้ หญา้ คา แล้วคลุมด้วยผ้าขาว...”
3 ฉบับสมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานุภาพฯ ใช้วา่ “...ตลอดมาถงึ ท้องพระโรงข้างหน้า...”
4 ฉบับสมเด็จพระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานุภาพฯ ไม่ระบุนามพระท่ีนั่ง ระบแุ ต่เพยี งวา่ “ตง้ั โรงพิธีพราหมณ์
หนา้ พระทีน่ งั่ ”
5 ฉบบั สมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานุภาพ ฯ ใชว้ ่า “...พระท่นี ั่งอมรินทราภิเษก...”
6 เนื้อความ “...ทรงพระภูษาเขียนทอง ทรงรัดพระองค์ประดับเพชร ฉลองพระองค์ครุยกรองทอง ทรงพระแสงเวียด...”
ไม่ปรากฏในฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ
7 ฉบับสมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานุภาพฯ ใชว้ า่ “...สวดพระพทุ ธมนตจ์ บแลว้ ...”
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 77
รุ่งขึ้นเวลาเช้าเสด็จออกทรงปฏิบัติพระราชาคณะสงฆ์ ทรงพระราชอุทิศเป็นสังฆทานวัตร พระสงฆ์
รับท�ำภัตตากิจเสร็จแล้ว ถวายอติเรก ถวายพระพรลา ครบสามวารเป็นก�ำหนด
คร้ันรุ่งขึ้นวันเคารพ สี่ เวลาเช้า ได้อุดมมหาไชยมงคลราชาฤกษ์1 ต้องอย่างโบราณขัตติยราชประเพณี
แต่ก่อนมา หลวงโลกทีปแลพระมหาราชครูจึ่งทูลอัญเชิญเสด็จสรง เจ้าพนักงานชาวพระภูษามาลาถวาย
พระภูษาถอดแล้ว พระยาราชโกษาเชิญพระไชย หลวงสิทธิไชยพระหมอเถ้าเชิญพระพิฆเนศวร พระมหา
ราชครู พระครูอัศดาจาริยโปรยเข้าตอก หลวงราชมณี2 หลวงศีวาจาริย เป่าพระมหาสังขทักษิณาวัฎ
น�ำเสด็จเบ้ืองมุขประเทศ ไปสู่มณฑปพระกระยาสนาน เสด็จสถิตย์เหนืออุทุมพรราชอาสน์ ผันพระพักตร์สู่
ทิศอีสาน3 จ่ึงพระยาราชโกษาถวายเคร่ืองพระกระยาสนาน หลวงราชวงษาไขสหัสธารา สรงสหัสธาราแล้ว
หลวงสิทธิไชย พระหมอเถ้าถวายพระสังข์ทักษิณาวัฎ พระมหาราชครูพิธีถวายพระเต้าเบญจครรภ พระครู
อัศดาจาริยถวายพระมหาสังข์ทอง แลพราหมณ์มีชื่อถวายพระมหาสังข์เงิน พระมหาสังข์นาก พระมหาสังข์
งาเจริญ ทรงรับด้วยพระหัตถ์4 ขุนรักษนารายน์ ขุนราชธาดา เป่าพระมหาสังข์ทักษิณาวัฎสององค์ ขุนหมื่น
มีชื่อเป่าสังขอุตราวัฎหกองค์ เจ้าพนักงานประโคมดุริยางคดนตรีมโหระทึกแตรสังขบัณเฑาะว์
ครั้นสรงเสร็จแล้ว พระยาราชโกษาถวายพระภูษาทรงผลัดลายพื้นเหลืองเขียนทองทรงฉลอง
พระองค์ครุยกรองทอง เสด็จกลับมาสถิตย์เหนืออุทุมพรราชอาสน์ มีพระมหาเศวตฉัตรเจ็ดชั้น ท่ีต่ังอัฐทิศ
ล้อมผันพระพักตร์ไปอุดรทิศเป็นประถม (พราหมณ์ถวายน้�ำพระมหาสังข์ทักษิณาวัฏน้�ำกลศ)5
ทรงรับมาสรงพระพักตร์แล้วรับเสวยหน่อยหน่ึง แล้วผันพระองค์ไปตามทิศอาคเนย์โดยทักษิณาวัฏ ทรงรับ
น�้ำพระพุทธมนต์น้�ำสังข์ทั้งแปดทิศ แล้วพระมหาราชครูประคองพระองค์ เชิญเสด็จพระราชด�ำเนินมา
ข้ึนบนพระที่นั่งภัทบิฐ มีพระมหาเศวตฉัตรเจ็ดชั้น เสด็จประทับเหนือแผ่นทองที่เขียนเป็นรูปราชสีห์อันมี
มหันตเดช ผันพระพักตร์สู่ทิศอีสาน พระมหาราชครูโหรดาจารย์อ่านพระเวทสรรเสริญไกรลาศแล้ว6 ถวาย
พระสุพรรณบัตร เบญจราชกกุธภัณฑ์คือ พระมหามงกุฎ พระแสงขรรค์ ธารพระกร พัดวาลวิชนี
ฉลองพระบาท แล้วถวายพระแสงอัษฎาวุธ แลเครื่องราโชประโภคประกอบด้วยวิษณุเวทอิศวรมนต์คือ
๑.พระแสงหอก ๒.พระแสงดาบเชลย ๓.พระแสงเขนมีดาบ ๔.พระแสงปืนคาบชุดข้ามแม่น้�ำสโตง
1 ฉบับสมเด็จพระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานุภาพฯ ใชว้ า่ “วันคำ� รบ ๔ ได้มหาพไิ ชยมงคลฤกษ์...”
2 ฉบับสมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ ใชว้ า่ “หลวงราชมนุ ี”
3 ข้อความ “ผันพระพักตรส์ ่ทู ิศอีสาน” ไม่ปรากฏในฉบับสมเด็จพระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานุภาพฯ
4 ข้อความ “พระมหาสังข์นาก พระมหาสังข์งาเจริญ ทรงรับด้วยพระหัตถ์” ไม่ปรากฏในฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพฯ
5 ข้อความในวงเล็บไม่มีในต้นฉบับหนังสือสมุดไทย แต่มีในฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพฯ
รวมทงั้ รายละเอยี ดเนอื้ ความกอ่ นหนา้ แตกตา่ งกบั หนงั สอื สมดุ ไทยดงั นี้ “...ครน้ั สรงเสรจ็ แลว้ พระยาราชโกศาถวายพระภษู าทรงผลดั
ลายเขยี นทอง ฉลองพระองค์ครุยทอง เสด็จกลับมาสถติ เหนือพระที่น่งั อัฐทศิ ผนั พระพกั ตรไ์ ปสู่ทิศอดุ รเป็นปฐม พราหมณถ์ วาย...”
6 ฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพฯ มีรายละเอียดเน้ือความแตกต่างกับหนังสือสมุดไทยดังนี้
“...ทรงรับน�้ำพระพุทธมนต์ น�้ำสังข์ทั้ง ๘ ทิศ แล้วเสด็จพระราชด�ำเนินมายังพระที่นั่งภัทรบิฐ พระมหาราชครูจึงประคองพระองค์
ข้ึนเสดจ็ ประทบั พระทีน่ ง่ั ภัทรบิฐเหนอื แผน่ ทองรูปราชสหี อ์ ันมมี หนั ตเดช พระมหาราชครูพธิ ีอา่ นเวทสรรเสริญไกรลาศแล้ว...”
78 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
๕.พระแสงจักร ๖.พระแสงตรีศูล ๗.พระแสงเกาทัณฑ์ ๘.พระแสงง้าวเจ้าพระยาแสนพลพ่าย ทรงรับแล้วส่งให้
พระยาราชโกษา1 พระยาราชโกษารับต่อพระหัตถ์แล้วส่งให้เจ้าพนักงาน แต่ฉลองพระบาทน้ันพระมหา
ราชครูรับมาสอดถวายแล้วถวาย ไพชยร เสรจแล้ว
พระมหาราชครูพิธีกราบบังคมทูลว่า ขอเดชะฝ่าละอองฯ ปกเกล้าฯ2 สิริราชสมบัติอันหาพระมหา
กระษัตรจะครอบครองมิได้ ข้าพระพุทธเจ้ากับเสนาบดีมนตรีมุขท้ังปวง ขอพระราชทานทูลเกล้า ฯ ถวายแด่
พระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตร พระเจ้าอยู่หัวเป็นที่พึ่งแก่สมณพราหมณาจาริยอาณาประชาราษฎร
สืบไป ขอเดชะ ๚
หลวงสิทธิไชยพระหมอเถ้ากราบบังคมทูลว่า ขอเดชะฝ่าละอองฯ ปกเกล้า ข้าพระพุทธเจ้า
ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ3 ถวายพระมหาเศวตฉัตรเป็นที่เฉลิมสิริราชสมบัติ ส�ำหรับบรมกระษัตรสืบมา
แด่พระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตรพระเจ้าอยู่หัว ขอเดชะ๚
เสร็จแล้ว จ่ึงมีพระราชโองการด�ำรัสส่ังแก่พระมหาราชครูผู้ใหญ่ว่า พรรณพฤกษ ชลธี แลส่ิงของ
ในแผ่นดินท่ัวทั้งพระราชอาณาเขตร ซึ่งหาผู้หวงแหนมิได้น้ัน ตามแต่สมณชีพราหมณาจาริย ราษฎรจะ
ปราถนาเถิด
จึ่งพระมหาราชครูผู้ใหญ่รับพระราชโองการ เป็นฤกษ์ก่อนว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอรับพระราชโองการ
มารบัณฑูรสุรสิงหนาทด้วยเกล้าฯ ขอเดชะ ๚
แล้วทรงโปรยดอกพิกุลทอง พิกุลเงิน แล้วทรงหลั่งน้�ำทักษิโณทก ทรงพระอธิษฐานตามพระอัธยาศัย
แล้วพราหมณ์เป่าพระมหาสังข์ประโคมดนตรีมโหระทึก สุดเสียงประโคมแล้ว (สมเด็จพระสังฆราช
ดับเทียนไชย)4 เสด็จทรงถวายไทยทาน แก่พระสงฆ์ ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน สมเด็จพระสังฆราช
ถวายอติเรก พระสงฆ์ราชาคณะถวายสัพพุทธา แล้วถวายพระพรลา
1 ฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพฯ มีรายละเอียดเน้ือความแตกต่างกับหนังสือสมุดไทยดังน้ี
“...แลว้ ถวายพระแสงอษั ฎาวธุ คอื พระแสงหอกไชย พระแสงดาบเชลย พระแสงดาบมเี ขน พระแสงปนื คาบชดุ ขา้ มแมน่ ำ�้ สะโตง พระแสงจกั ร
พระแสงตรีศูล พระแสงเกาทัณฑ์ พระแสงของ้าวเจ้าพระยาแสนพลพ่าย และเครื่องราชูปโภค ประกอบด้วยวิษณุเวท อิศวรมนต์
ทรงรับส่งใหพ้ ระรายาราชโกศา...”
2 ฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพฯ ใช้ว่า “...ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้า
ปกกระหม่อม...”
3 ฉบบั สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ ใชว้ า่ “...หลวงสทิ ธไิ ชยพระหมอเฒา่ ถวายพระมหาเศวตฉตั ร
ต่อพระหตั ถ์ แล้วกราบทลู ว่า “ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อมข้าพระพทุ ธเจ้าขอพระราชทานทลู เกลา้ พระมหา
เศวตฉตั ร...”
4 ขอ้ ความในวงเลบ็ ไมป่ รากฏในหนงั สอื สมดุ ไทย แตป่ รากฏในฉบบั สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ
รวมทงั้ รายละเอยี ดเนอ้ื ความหลงั จากนแ้ี ตกตา่ งกบั หนงั สอื สมดุ ไทยดงั นี้ “...แลว้ เสดจ็ ทรงถวายไทยธรรมแกพ่ ระสงฆ์ สมเดจ็ พระสงั ฆราช
ถวายอดิเรก พระสงฆถ์ วายสพั พทุ ธาแล้วถวายพระลา จึงพระราชครพู ธิ ีพระหมอเฒ่า...”
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 79
จึ่งพระครูราชพิธี พระหมอเถ้าไปประพรมน�้ำกรด น�้ำสังข์ รอบพระมหามณเฑียรข้างใน ข้างหน้า
อวยไชยถวายพระพรแลว้ จงึ่ ทรงผลดั พระภษู ารดั พระองคก์ รองทองฉลองพระองคค์ รยุ สที องทรงพระแสงเวยี ด1
เสด็จออกข้างหน้าขึ้นสู่พระท่ีน่ังมหาเศวตฉัตรเก้าชั้น ขณะน้ันพระบรมวงศานุวงศ์แลข้าทูลละอองธุลีพระบาท
ผู้ใหญ่ ผู้น้อย ฝ่ายทหาร พลเรือน เข้าเฝ้าพร้อมกัน ๚
จ่งึ พระยารัตนาพิพธิ ท่สี มหุ นายกกราบทลู วา่ ข้า (ขอเดชะฝ่าละอองธลุ พี ระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม)2
พระพุทธเจ้า ขอพระราชทานทูลเกล้า ฯ ถวายพระยาช้างพระที่นั่งต้น พระยาม้าพระที่นั่งต้น กับเมืองเอก,
โท, ตรี, จัตวา, ทั้งไพร่พลฝ่ายพลเรือน แด่พระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตรพระเจ้าอยู่หัว ขอเดชะ ๚
เจ้าพระยาอรรคมหาเสนา ท่ีสมุหพระกระลาโหม กราบทูลว่า (ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท
ปกเกล้าปกกระหม่อม)3 ข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานทูลเกล้า ฯ ถวายพระมหาพิไชยราชรถ เรือพระท่ีนั่ง
สีสมัรถไชย ไกรสรมุข เรือกระบวนใหญ่น้อย แลเคร่ืองสรรพยุทธท้ังปวง เมืองเอก, โท, ตรี, จัตวา, ทั้งไพร่พล
ฝ่ายทหาร แด่พระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตรพระเจ้าอยู่หัว ขอเดชะ ๚
เจ้าพระยาธรรมาธิกรณบดีกราบทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานทูลเกล้า ฯ ถวายพระมหา
มณเฑยี รปราสาทราชนิเวศมหาสถาน พระราเชนทรร์ าชยาน ทัง้ เครอื่ งสูงเฉลิมพระเกยี รติยศแดพ่ ระบาทสมเดจ็
บรมนารถบรมบพิตรพระเจ้าอยู่หัว ขอเดชะ ๚
พระยายมราชกราบทูลว่า (ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม)4 ข้าพระพุทธเจ้า
ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายกรุงเทพมหานครศรีอยุทธยา แด่พระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตร
พระเจ้าอยู่หัว ขอเดชะ ๚
พระยาโกษาธิบดีกราบทูลว่า (ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม)5 ข้าพระพุทธเจ้า
ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายเครื่องพระพัทธยากรราชสมบัติทั้งสิบสองพระคลังแด่พระบาทสมเด็จ
บรมนารถบรมบพิตรพระเจ้าอยู่หัว ขอเดชะ ๚
พระยาพลเทพกราบทูลว่า (ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม)6 ข้าพระพุทธเจ้า
ขอพระราชทานทูลเกล้าฯ ถวายธัญญาหารแดนสถานลานนาเขตประเทศทุกต�ำบล แด่พระบาทสมเด็จ
บรมนารถบรมบพิตร พระเจ้าอยู่หัว ขอเดชะ ๚
1 ข้อความ “...ทรงผลัดพระภูษารัดพระองค์กรองทองฉลองพระองค์ครุยสีทอง ทรงพระแสงเวียด...” ไม่ปรากฏในฉบับ
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพฯ รวมทั้งรายละเอียดเนื้อความหลังจากน้ีแตกต่างกับหนังสือสมุดไทยดังน้ี
“...จึงเสดจ็ ออกทอ้ งพระโรงหนา้ ประทับพระแทน่ เศวตฉัตร...”
2 ขอ้ ความในวงเลบ็ ไมป่ รากฏในหนงั สอื สมดุ ไทย แตป่ รากฏในฉบบั สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ
3 ขอ้ ความในวงเลบ็ ไมป่ รากฏในหนงั สอื สมดุ ไทย แตป่ รากฏในฉบบั สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ
4 ขอ้ ความในวงเลบ็ ไมป่ รากฏในหนงั สอื สมดุ ไทย แตป่ รากฏในฉบบั สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ
5 ขอ้ ความในวงเลบ็ ไมป่ รากฏในหนงั สอื สมดุ ไทย แตป่ รากฏในฉบบั สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ
และขอ้ ความต่อมาใชว้ า่ “...ทูลเกลา้ ทูลกระหมอ่ มถวาย...”
6 ขอ้ ความในวงเลบ็ ไมป่ รากฏในหนงั สอื สมดุ ไทย แตป่ รากฏในฉบบั สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ
และขอ้ ความต่อมาใชว้ า่ “...ทลู เกล้าทูลกระหม่อมถวาย...”
80 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
แล้วจึ่งมีพระราชโองการปฏิสัณฐานแก่เจ้าพระยาแลพระยาทั้งปวงว่า ส่ิงของท้ังน้ีจงจัดแจงท�ำนุบ�ำรุง
ไว้ให้จงดี1 จะได้ป้องกันรักษาแผ่นดิน ท�ำนุบ�ำรุงพระพุทธศาสนาแลพระราชอาณาเขตสืบไป แล้วอรรคมหา
เสนาบดีรับพระราชโองการกราบถวายบังคมทูลว่า ข้าพระพุทธเจ้า ขอรับพระราชโองการมารพระบัณฑูร
สุรสิงหนาทใส่เกล้า ฯ
แล้วเสด็จกลับข้ึนพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน2 เสด็จประทับเหนือพระภัทบิฐ
ทา้ ววรจนั ทรก์ ราบทลู วา่ ขา้ พระพทุ ธเจา้ ทา้ ววรจนั ทรข์ อพระราชทานทลู เกลา้ ฯ ถวาย3 พระสนมสบิ สอง
พระก�ำนัลแด่พระบาทสมเด็จบรมนารถบรมบพิตรพระเจ้าอยู่หัว ขอเดชะ ๚
ทรงพระราชปฏิสัณฐานตามพระอัธยาศัยเสร็จแล้ว คร้ันได้พระฤกษ์เจ้าพนักงานจึ่งประโคม
ดุริยางคดนตรีแตรสังข์พิณพาทย์มโหรีมี่สน่ันประนังศัพท์นฤนาท เสด็จพระราชด�ำเนินข้ึนสู่พระมหามณเฑียร
ทรงโปรยดอกพิกุล ทเงอินง มีนางช�ำระพระบาทสอง นางเชิญเครื่องราชูประโภคครบตามอย่าง4 แลมี
นางเชื้อพระวงศ์หก อุ้มวิลา ๑ อุ้มศิลาบด ๑ อุ้มฟักเขียว ๑ ถือขันข้าวเปลือก ๑ ถือถ่ัวทอง ๑ ถืองา ๑
คร้ันเสด็จถึงในท่ีทรงจุดเทียนนมัสการก่อน แล้วเสด็จขึ้นพระแท่นท่ีพระบรรทม พระบรมวงศผู้ใหญ่5
ฝ่ายในถวายดอกหมากท�ำด้วยทองค�ำหนัก ๕6 ทรงรับแล้ววางไว้ข้างที่ แล้วท้าวทรงกันดารถวายลูกกุญแจ
แล้วเอนพระองค์ลงบรรทมเหนือพระแท่นที่ โดยทักษิณปรัศเบื้องขวาเป็นฤกษ์ก่อน (แล้ว)7 แลพระวงศ์ฝ่ายใน
ผู้ทรงพระชนมายุ ถวายพระพรก่อน แล้วพระวงศานุวงศ์ท้าวนางข้างในถวายพระพรพร้อมกัน แล้วให้ประโคม
ดุริยางคดนตรี ครั้นสุดเสียงประโคมแล้วเสด็จข้ึน
ใหญ่ ฝ่าย หนใน้า แลข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือน
คร้ันเวลาบ่ายพระบรมราชวงษานุวงษ8 ผู้ น้อย
พร้อมกันเวียนพระเทียนเฉลิมพระมหามณเฑียร ตามโบราณราชประเพณีแต่ก่อนมา
1 ฉบบั สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ ใชว้ า่ “...จงจัดทำ� นุบ�ำรุงไว้ให้จงด.ี ..”
2 ฉบบั สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานุภาพฯ ใชว้ ่า “...แล้วเสด็จกลับขน้ึ ขา้ งใน...”
3 ฉบบั สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ และขอ้ ความตอ่ มาใชว้ า่ “...ทลู เกลา้ ทลู กระหมอ่ มถวาย...”
4 ข้อความ “...ครบตามอยา่ ง...” ไมป่ รากฏในฉบบั สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ
5 ฉบับสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ ใช้วา่ “พระราชวงศ์ผูใ้ หญ”่
6 อ่านว่า ๕ ต�ำลงึ
7 ขอ้ ความในวงเลบ็ ไมป่ รากฏในหนงั สอื สมดุ ไทย แตป่ รากฏในฉบบั สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ
8 ฉบบั สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำ� รงราชานภุ าพฯ ใชว้ ่า “พระราชวงศานวุ งศ”์
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
ประดิษฐานท่ีผนังมุขกระสันตะวันออก พระท่ีนั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 83
ค�ำอธิบาย
เอกสารชั้นต้นว่าด้วยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ท่ีน�ำมา
พิมพ์รวมในหนังสือเล่มน้ี เป็นเน้ือความส่วนหนึ่งในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒
ของเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ข�ำ บุนนาค) ซึ่งน�ำมาจากต้นฉบับหนังสือสมุดไทยท่ีมีรายละเอียด
ของเนื้อหาแตกต่างกันไปในแต่ละฉบับ โดยเร่ืองราวมีลักษณะเป็นบันทึกเหตุการณ์ตามล�ำดับเวลา ภายหลัง
เมื่อมีการตรวจสอบช�ำระและจัดพิมพ์เผยแพร่จึงได้เพิ่มหัวเรื่องส�ำคัญเพื่อให้สะดวกในการอ่าน พระราช
พงศาวดารฉบับน้ี องค์การค้าของคุรุสภาจัดพิมพ์จ�ำหน่ายครั้งแรกเม่ือ พ.ศ. ๒๕๐๔ ต่อมาส�ำนักพิมพ์
อมรินทร์วิชาการ ได้ตรวจสอบช�ำระและจัดพิมพ์เผยแพร่ใช้ชื่อหนังสือว่า พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์
รัชกาลที่ ๒ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับตัวเขียน เม่ือ พ.ศ. ๒๕๔๘
ในการน้ี คณะท�ำงานจัดท�ำหนังสือประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มอบหมายให้
นายบัณฑิต ล่ิวชัยชาญ นักอักษรศาสตร์ช�ำนาญการพิเศษ กลุ่มประวัติศาสตร์ ส�ำนักวรรณกรรมและ
ประวัติศาสตร์ ตรวจสอบช�ำระโดยใช้ต้นฉบับหนังสือสมุดไทย หมวดพงศาวดาร หมู่กรุงรัตนโกสินทร์
รัชกาลท่ี ๒ เลขที่ ๒๕ ซ่ึงกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมอบให้หอพระสมุดวชิรญาณ สอบทานกับฉบับ
พิมพ์คร้ังแรกขององค์การค้าของคุรุสภาร่วมกับหนังสือพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒
ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับตัวเขียน
จากการตรวจสอบช�ำระพบวา่ ฉบบั พมิ พข์ ององคก์ ารคา้ ของครุ สุ ภาไมป่ รากฏรายละเอยี ดการเสดจ็ เลยี บ
พระนคร แต่ปรากฏเน้ือความส่วนน้ีในต้นฉบับหนังสือสมุดไทย เลขท่ี ๒๕ และในหนังสือพระราชพงศาวดาร
กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับตัวเขียน การจัดพิมพ์ในครั้งน้ีจึงใช้ต้นฉบับ
หนังสือสมุดไทย เลขท่ี ๒๕ ซึ่งเป็นเอกสารช้ันต้นที่มีเนื้อหาสมบูรณ์ อีกทั้งมีเน้ือความเดียวกันกับหนังสือ
พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลท่ี ๒ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศ์ ฉบับตัวเขียน มาพิมพ์เผยแพร่
โดยคงอักขรวิธีส่วนใหญ่ไว้ตามต้นฉบับเดิม พร้อมท้ังจัดท�ำเชิงอรรถอธิบายความเพิ่มเติมเพ่ือความสมบูรณ์
ของเน้ือหา อันจะท�ำให้ผู้อ่านเข้าใจเร่ืองราวในเอกสารได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
84 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พุทธศักราช ๒๓๕๒
ในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๒
ของเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ข�ำ บุนนาค)
พระราชวงศานุวงศ์เสนาบดีแลสมเด็จพระสังฆราช พระราชาคณะผู้ใหญ่ผู้น้อยพร้อมกัน เชิญเสด็จ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกรมพระราชวังบวรสถานมงคลข้ึนเถลิงถวัลราชสมบัติปราบดาภิเษกเป็นพระองค์
เอกอรรคมหาราชาธิราชด�ำรงพิภพสยามประเทศ จึ่งตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก1 พิธีสงฆ์พิธีพราหมณ์
เจริญพระปริตพุทธมนตร์ ณ วันพฤหัสบดี เดือนสิบ ขึ้นหกค่�ำ ขึ้นเจ็ดค�่ำ ขึ้นแปดค่�ำ2 ครั้น ณ วันอาทิตย์
เดือนสิบ ขึ้นเก้าค่�ำ3 เวลาได้พระฤกษ์จะได้สรงสหัสธาราปัญจสุทธิมหานทีมุรธาภิเษก ทรงผลัดเครื่องขาวเสด็จ
ยังท่ีสรงเสร็จแล้วเสด็จขึ้นบนพระตั่งอัฐทิศ รับน�้ำกรดน�้ำสังข์ท้ังแปดทิศแล้วเสด็จไปประทับพระที่นั่งภัทธบิฐ
พระมหาราชครู พราหมณ์โหรดาจารย์ถวายพระราชสุพรรณบัตร จารึกพระนามแลเครื่องราชกกุธภัณฑ์
ท้ังพระแสงขรรค์พระแสงอัษฎาวุธเครื่องสรรพยุทธท้ังปวงตามเย่ียงอย่างพระราชพิธีสมเด็จพระเจ้าแผ่นดิน
เสวยราชสมบัติใหม่ ทรงพระนามว่าสมเด็จพระเจ้ากรุงมหานครศรีอยุทธยา อย่างพระนามในพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัวซึ่งเสด็จสวรรคตแล้วไม่ยักเยื้องอะไร พระนามวิเศษนั้นแจ้งอยู่ในพระสุพรรณบัตรนั้นแล้ว
รุ่งข้ึนพระราชวงศานุวงศ์ ข้าทูลละอองธุลีพระบาทผู้ ใหญ่ ฝ่ายทหารพลเรือน ก็ได้ถือน�้ำพระพิพัฒ
น้อย
สัตยาแล้วถวายดอกไม้ธูปเทียน ขอยอมกายถวายตัวเป็นข้าพระเจ้าแผ่นดินไปจนตราบเท่าส้ินชีวิต
1 รายละเอียดของการพระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก ซงึ่ ในเอกสารใชค้ ำ� วา่ “พระราชพธิ มี หาปราบดาภเิ ษก” มเี อกสาร ๓ เรื่อง
ได้แก่ เร่ืองแรก หมายรับส่ัง ต้นฉบับเป็นสมุดไทย จ�ำนวน ๔ ฉบับ มีเน้ือความเดียวกัน แต่มีข้อความแตกต่างกันในบางแห่ง
คณะกรรมการพจิ ารณาและจดั พมิ พเ์ อกสารทางประวตั ศิ าสตรไ์ ดน้ ำ� มาจดั พมิ พร์ วมไวเ้ มอื่ พ.ศ. ๒๕๒๘ ในหนงั สอื “ประชมุ หมายรบั สง่ั
ภาคที่ ๓ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย” เรื่องท่ี ๒ โคลงยอพระเกียรติ พระราชนิพนธ์
ในพระบาทสมเดจ็ พระนงั่ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ตน้ ฉบบั เปน็ สมดุ ไทย พมิ พเ์ ผยแพรค่ รงั้ แรกเมอ่ื พ.ศ. ๒๔๒๐ ในหนงั สอื “มวิ เซยี ม ฤา รตั นโกษ
เล่ม ๒ อาสาฒมาศคอื เดือนแปดปี ๑๒๓๙” และเรอื่ งท่ี ๓ คือ พระนพิ นธข์ องสมเดจ็ พระเจ้าบรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาด�ำรงราชานภุ าพ
ทรงเรยี บเรยี งไว้ในพระราชพงศาวดาร รชั กาลที่ ๒ พิมพเ์ ผยแพรค่ รง้ั แรกเม่อื พ.ศ. ๒๔๕๙
2 ตรงกับวันท่ี ๑๔ วันที่ ๑๕ และวันที่ ๑๖ กนั ยายน พ.ศ. ๒๓๕๒
3 ตรงกับวันท่ี ๑๗ กนั ยายน พ.ศ. ๒๓๕๒
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 85
แล้วมีพระบรมราชโองการให้เจ้าพนักงานสั่งหมายกระบวนเสด็จพระราชด�ำเนินเลียบพระนคร
ให้ราษฎรถวายบังคมท่ัวกัน โดยเย่ียงอย่างโบราณราชประเพณี1 เจ้าพนักงานได้จัดการแต่งทางสถลมารค
เกล่ียทรายรื่นราบทั่วไป ปักฉัตรเบญจรงค์เจ็ดช้ันราชวัดรายไปสองฟากทาง ต้ังร้านน�้ำปักต้นกล้วยต้นอ้อย
แลธงกระดาษตามราชวัด แลมีปี่พาทย์กลองแขกประจ�ำตามระยะ ๆ กรมอาสาหกเหล่าซ้ายขวาตั้งกอง
กอง
จุกช่องรักษาพระองค์ก�ำกับประจ�ำทุก ๆ ทาง กระบวนแห่พยุห ๘ แถวกระบวนหน้าขุนหมื่นกรมมหาดไทย
แต่งตัวนุ่งสนับเพลาสรวมเสื้อต่างสีโพกผ้าขลิบขัดดาบขึ้นม้าถือธงฉานน�ำหน้ากระบวน คู่หน่ึงขุนหม่ืน
กรมม้าแต่งตัวนุ่งสนับเพลาสรวมเสื้ออัตลัดโพกผ้าขลิบขัดดาบข้ึนหลังม้าผูกแพนหางนกยูงมีหอกซัดทุกม้า
กรมอาษาเกณฑ์หัดเจ้ากรมปลัดกรมสรวมเส้ือทรงประพาสหมวกตุ้มปี่ขัดกระบี่บ้ัง เงิน ขุนหม่ืนพัน นายเวร
ทอง
แลไพร่นุ่งกางเกงสวมเสื้อเสนากุฎ หมวกหนัง ถือปืนคาบศิลาปลายหอกรางแดงหมู่หนึ่ง กรมทะลุถือธนู
หมู่หน่ึง กรมทวนทองถือทวนหมู่หน่ึง กรมทหารในถือง้าวหมู่หน่ึง กรมดาบสองมือถือดาบสองมือหมู่หน่ึง
กรมล้อมพระราชวังถือโล่แบกดาบหมู่หนึ่ง กรมดั้งทองถือดั้งทองหมู่หน่ึง กรมเขนทองถือเขนทองหมู่หน่ึง
กรมอาษาใหญ่ถือดาบเชลยหมู่หน่ึง กรมอาษารองถือตรีหมู่หน่ึง กรมเรือกันถือกระบองทองหมู่หน่ึง กรมอาษา
ยี่ปุ่นถือขวานจีนหมู่หน่ึง เกณฑ์หัดอย่างฝรั่งถือปืนหลังม้าหมู่หน่ึง กรมอาษาจามถือหอกคู่ กรมแขกมุหงิด
สรวมเสื้อวิลาศโพกผ้าตะบิด ร้ิวทองเหน็บกฤชหมู่หนึ่ง กรมคู่ชักกรมรักษาพระองค์สรวมเส้ือตามบรรดาศักด์ิ
ซ้าย
โพกผา้ สถี อื หอกเดนิ กระบวน ๔ รวิ้ แตก่ ระบวนนน้ั ๆ มธี งยนั ตน์ �ำรว้ิ ขวา ทกุ กระบวน แลว้ จงึ่ ถงึ หมขู่ นุ ตำ� รวจ
ทั้ง ๘ กรม แต่งตัวตามยศโพกผ้าขลิบขัดดาบเดิน ๔ ริ้ว ถัดมาร้ิวในกรมมหาดเล็กหัวหมื่นจ่านายเวรหุ้มแพร
นุ่งสมปักลายสรวมเส้ือครุยโพกผ้าขลิบมีครุยขัดดาบบ้ังทอง ริ้วนอกเจ้ากรมปลัดกรมพระต�ำรวจนุ่งสมปักลาย
เกี้ยวสนับเพลาเจียระบาด สรวมเส้ือเข้มขาบอัตลัดเสื้อครุยโพกผ้าขลิบมีครุย ขัดกระบี่บั้งทองสรวมประค�ำทอง
หมู่แตรสังข์แตร งฝอรน่ัง กลองชนะ กลอง ทเงอินง จ่าปี่จ่ากลองนุ่งกางเกงสรวมเสื้อปสะตูแดงหมวกแดง
เดินในกลางริ้ว กรมอภิรมย์เชิญเคร่ืองสูงห้าชั้นเจ็ดชั้น บังแทรกบังสูริย์พระกลดพัดโบก นุ่งกางเกงยกสรวมเส้ือ
มัสรู่มีเจียรบาด สวมพอกแดงดูสลับสลอน แลมหาดเล็กเชิญพระแสงวางเคร่ืองนุ่งสมปักลายสรวมเสื้อเข้มขาบ
สรวมเส้ืออัตลัดเส้ือครุยโพกผ้าขลิบมีครุย อินทรพรหมนุ่งสนับเพลาสรวมเสื้อสี เขแียดวง สรวมเชิดแห่ข้างละ
1 ฉบับพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๐๕ ขององค์การค้าของคุรุสภา มีข้อความว่า “...ถวายตัวเป็นข้าพระเจ้าแผ่นดินไปจนกราบเท่าชีวิต
แล้วก็ได้จัดการกระบวนแห่เลียบพระนครตามอย่างธรรมเนียมโบราณราชประเพณีสืบมาแต่ก่อน เม่ือได้เถลิงถวัลยราชสมบัติน้ัน
พระชนมายไุ ด้สสี่ ิบสามพรรษา...” จบเน้ือความพระราชพิธีบรมราชาภิเษกแตเ่ พียงเทา่ น้ี
86 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
๔ คู่ ออกญาปลดั ทลู ฉลองนงุ่ สมปกั ลายเกย้ี วสนบั เพลาเจยี รบาดสรวมเสอื้ เขม้ ขาบเสอ้ื ครยุ โพกผา้ ขลิบกรองทอง
หกคู่ขัดดาบบ้ังทองเคียงสองข้างพระราชยานกระบวนหลังเดิน ๔ แถว กรมทหารในกรมพระต�ำรวจพลพัน
กรมทนายเลอื ก กรมรกั ษาพระองคล์ ว้ นนงุ่ สมปกั ลายสนบั เพลาสรวมเสอ้ื เขม้ ขาบเสอื้ อตั ลดั เสอื้ ครยุ โพกผา้ ขลบิ
กรองทองขดั ดาบบง้ั ทองเครอื่ งสงู หา้ ชนั้ เจด็ ชนั้ บงั แทรกมหาดเลก็ เชญิ พระแสงวางเครอื่ งพระแสงงา้ วพระแสงหอกงา่ ม
เชิญเคร่ืองพานพระขันหมาก พระเต้า พระสุพรรณศรี กรมแสงปืนเชิญพระแสงปืน กรมแสงหอกดาบเชิญ
พระแสงทวน กรมม้าผูกม้าเทศพระที่น่ัง เครื่องกุด่ันเบาะผ้าลาดจูงตามสองม้า พวกขุนหม่ืนพันทนายละหมู่
ละกรมล้วนนุ่งกางเกงสรวมเสื้อเสนากุฏหมวกหนังถือสรรพสาตราวุธต่าง ๆ สล้างสลอน พร้อมสะพร่ังส้ินสุด
ริ้วแล้ว กรมฝร่ังทหารแม่นปืนลากปืนจ่ารงตามท้ายกระบวนหลังคู่หนึ่งดูสง่า ส้ินกระบวนข้าราชการแล้ว
จ่ึงพระบรมราชวงศานุวงศ์ ทรงพระภูษาลายเขียนทองฉลองพระองค์กรองทองรัดพระองค์ทรงพระมาลา
ข้ึนทรงม้าแต่งเคร่ืองกุดั่นกั้นกลดหักทองขวาง ตามท้ายกระบวนเป็นคู่ ๆ หมู่มหาดเล็กเชิญเครื่องยศ
ตามสะพร่ังพร้อมแล้ว เจ้าพระยาสมุหนายกข้ึนแคร่ พวกขุนหม่ืนพันทนายถือเคร่ืองยศตามสกัดกระบวนเป็น
ที่สุด
ครั้นได้เวลาเช้านาฬิกาสองโมงเศษ พระบาทสมเด็จบรมนาถบรมบพิตรพระเจ้าอยู่หัวเสด็จ
ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน แล้วทรงราชวิภูษณาภรณ์ทรงพระสนับเพลาเชิงงอนพระภูษาลายสุวรรณ
กนกแย่ง รัดพระองค์เนาวรัตน์ฉลองพระองค์ต่างอย่างเทศ เจียรบาดเกี้ยวชายกระหวัด ทรงพระสังวาลย์
พระนพรัตนเพชร พระธำ�มรงค์เพชรมีราคาครบนิ้วพระหัตถ์ ทรงพระมาลาเพชรทรงเหน็บพระแสงกั้นหยั่น
แลพระแสงเวียดสำ�หรับพระองค์ แล้วเสด็จประทับเกยหน้าพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระราชยานประทับ
รับเสด็จ แตรสังข์กระทั่ง1 เสียงอุโฆษนฤนาท พระยา พระ หลวง ขุน หมื่นกราบถวายบังคมสามลา กระบวน
หน้าก็คลี่คลายขยายกระบวนพยุหยาตรา หลวงอินท์เภรีก็ตีประนังศับทสำ�เนียงคฤ้านคฤกพิฦกลั่น นี่สนั่น
ด้วยเสียงกาหฬดนตรี พิณพาทย์ฆ้องกลอง ออกทางประตูวิเสศไชยศรีมาตามสถลรัฐยา ทรงโปรยหิรัญแก่
ไพร่ฟ้าประชาชนราษฎร ซึ่งมาแซ่ซ้องเชยชมพระบรมเดชาภินิหารอยู่สองคราบข้างสถลวิถี บ้างก็ยกอัญชลี
ถวายไชยพรพร้อมสะพรั่ง บางพวกที่มั่งคั่งผู้ดีมีทรัพย์สมบัติ ก็จัดเครื่องสักการบูชาเทียนธูปบุบผามาลาวิกัติ
ต่าง ๆ ตามระยะทางเสด็จพระราชดำ�เนินไปโดยรอบพระราชวัง
คร้ันเสด็จถึงเกยท่ีประทับแล้วเสด็จเขา้ สูพ่ ระมหามณเฑยี รมีพระบรมราชโองการด�ำรสั ส่ังให้เจ้าพนักงาน
พระคลัง แจกเงินให้ถ้วนท่ัวกระบวนแห่เสด็จพระราชด�ำเนินทั้ง ซข้าวยา กระบวน หหนล้าัง รวมเป็นคน ๘๐๐๐
แลเม่ือเวลาได้เถลิงถวัลย์ราชสมบัตินั้น พระชนมายุได้สี่สิบสามพรรษา
1 ตน้ ฉบับหนังสอื สมดุ ไทยดา้ นลา่ งคำ� น้ีมรี อยแก้เปน็ ประนัง
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระมหาเจษฎาราชเจ้า
พระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า
ประดิษฐานที่ผนังมุขกระสันตะวันออก พระที่น่ังจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 89
ค�ำอธิบาย
เอกสารชั้นต้นว่าด้วยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวที่น�ำมาพิมพ์
รวมในหนังสือเล่มนี้ เป็นเนื้อความส่วนหนึ่งในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลท่ี ๓ ของเจ้าพระยา
ทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ข�ำ บุนนาค) ซึ่งน�ำต้นฉบับมาจากหนังสือสมุดไทยท่ีมีลักษณะเรื่องราวเป็นบันทึก
เหตุการณ์ตามล�ำดับเวลา ภายหลังเม่ือมีการตรวจสอบช�ำระและพิมพ์เผยแพร่จึงได้เพ่ิมหัวเรื่องส�ำคัญเพื่อให้
สะดวกในการอ่าน พระราชพงศาวดารฉบับน้ีพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๗ ในงานพระราชทาน
เพลิงศพ มหาอ�ำมาตย์โท พระยาไพบูลย์สมบัติ (เดช บุนนาค) และต่อมามีการพิมพ์เผยแพร่อีกหลายครั้ง
ในการนี้ คณะท�ำงานจัดท�ำหนังสือประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก มอบหมายให้
นายบัณฑิต ลิ่วชัยชาญ นักอักษรศาสตร์ช�ำนาญการพิเศษ กลุ่มประวัติศาสตร์ ส�ำนักวรรณกรรมและ
ประวตั ศิ าสตร์ ตรวจสอบชำ� ระโดยใชต้ น้ ฉบบั หนงั สอื สมดุ ไทย หมวดพงศาวดาร หมกู่ รงุ รตั นโกสนิ ทร์ รชั กาลที่ ๓
เลขที่ ๑๖ ซึ่งกรมเลขาธิการคณะรัฐมนตรีมอบให้หอพระสมุดวชิรญาณ เป็นหลัก สอบทานกับต้นฉบับ
หนังสือสมุดไทย หมวดพงศาวดาร หมู่กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลท่ี ๓ เลขท่ี ๖ ซึ่งพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระนเรศรวรฤทธิ์ ประทานแก่หอพระสมุดวชิรญาณ และหนังสือพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์
รัชกาลท่ี ๓ ของเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี ฉบับพิมพ์คร้ังท่ี ๗ พ.ศ. ๒๕๔๗ จัดพิมพ์เผยแพร่โดย
ส�ำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร
จากการตรวจสอบพบว่า เนื้อความในต้นฉบับหนังสือสมุดไทย เลขท่ี ๑๖ ตรงกับเนื้อความในฉบับพิมพ์
เผยแพร่ เพียงแต่มีอักขรวิธีท่ีแตกต่างกันเท่าน้ัน เช่น “สุวรรณบัตร” ปรับเป็น “สุพรรณบัฏ”, “กะลาโหม”
ปรับเป็น “กลาโหม”, “อัศฎาวุธ” ปรับเป็น “อัษฎาวุธ”, “ท้าวทรงกันดาร” ปรับเป็น “ท้าวทรงกันดาล” ฯลฯ
รวมท้ังจ�ำนวนนับซึ่งต้นฉบับหนังสือสมุดไทยเขียนเป็นตัวอักษร ส่วนในฉบับพิมพ์เผยแพร่เขียนเป็นตัวเลข
เช่น “เดือนเก้า ขึ้นส่ีค่�ำ” ปรับเป็น “เดือน ๙ ข้ึน ๔ ค่�ำ”, “พระสงฆ์เจริญพระปริตรพุทธมนต์สามวัน” ปรับเป็น
“พระสงฆ์เจริญพระปริตรพุทธมนต์ ๓ วัน”, “ทั้งแปดทิศ” ปรับเป็น “ทั้ง ๘ ทิศ”, “พระชนมายุได้สามสิบ
แปดพรรษา” ปรับเป็น “พระชนมายุได้ ๓๘ พรรษา” ฯลฯ
ข้าราชกนาอรกผจู้ าในกห้อนญย้ีใน่ ห แนลังะสือทส�ำมรุดาไชทกยาใรชฉ้เคลรอ่ืองงพหรมะายเคดุณชใน ก สาร่วบนันในทฉึกบเนับ้ือพคิมวพาม์เผไยดแ้แพก่รท่ปรรงับโปเปรย็นด“อทกพรงิกโุลปรทยเงอดินงอ ก ,
พิกุลทอง ดอกพิกุลเงิน” “ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อย” และ “ท�ำราชการฉลองพระเดชพระคุณ” ตามล�ำดับ
90 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ดังนั้นจึงเข้าใจว่า ฉบับพิมพ์เผยแพร่น�ำเนื้อความมาจากต้นฉบับหนังสือสมุดไทย เลขท่ี ๑๖
ส่วนเนื้อความในต้นฉบับหนังสือสมุดไทย เลขท่ี ๖ มีรายละเอียดที่แตกต่างกับต้นฉบับหนังสือสมุดไทย
เลขท่ี ๑๖ แต่เนื้อความที่แตกต่างกันน้ัน มีลายมือแก้ไขที่ตรงกับเน้ือความในหนังสือสมุดไทย เลขท่ี ๑๖
การจัดพิมพ์ในคร้ังนี้จึงใช้ต้นฉบับหนังสือสมุดไทย เลขที่ ๑๖ น�ำมาพิมพ์เผยแพร่ โดยคงอักขรวิธีส่วนใหญ่ไว้
ตามต้นฉบับเดิม พร้อมทั้งจัดท�ำเชิงอรรถอธิบายความเพิ่มเติมในส่วนของเน้ือความท่ีแตกต่างเพ่ือความ
สมบูรณ์ของเน้ือหา อันจะท�ำให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องราวในเอกสารได้ชัดเจนย่ิงข้ึน
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 91
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระน่ังเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า พุทธศักราช ๒๓๖๗
ในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๓
ของเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ข�ำ บุนนาค)
แล้วจึ่งมีรับส่ังให้เสนามุขมนตรีเจ้าพนักงานจัดการพิธีบรมราชาภิเษกเถลิงถวัลยราชสมบัติ โดย
เยี่ยงอย่างบรรพราชประเพณี1 สืบ ๆ มา พระโหราค�ำนวณพระฤกษ์แล้วให้ตั้งการพิธีสงฆ์พิธีพราหมณ์
เม่ือวันพฤหัสบดี เดือนเก้า ข้ึนส่ีค่�ำ2 พระสงฆ์เจริญพระปริตรพุทธมนต์สามวัน ครั้น ณ วันอาทิตย์ เดือนเก้า
ขึ้นเจ็ดค�่ำ3 ได้พระฤกษ์สรงน�้ำปัญจมหานทีมุรธาภิเษก พระเต้าประทุมนิมิตร แล้วผลัดเคร่ืองสีแดง เสด็จขึ้นยัง
ทตี่ ง้ั อฐั ทศิ รบั นำ�้ กรด นำ้� สงั ขท์ ง้ั แปดทศิ แลว้ เสดจ็ มาพระทนี่ งั่ ภทั รบฐิ รบั พระสวุ รรณบตั ร แลเครอื่ งราชกกธุ ภณั ฑ์
อัศฎาวุธเสร็จแล้ว เสด็จขึ้นพระมหามณเฑียรปฏิบัติพระสงฆ์ฉัน ถวายไทยธรรมแล้วเสด็จออกพระที่นั่ง
จักรพรรดิพิมาน4 ภายใต้พระมหาเศวตฉัตร ข้าราชการเข้าเฝ้ากราบถวายบังคมพร้อมกัน แล้วเจ้าพระยา
ที่สมุหนายกสมุหกระลาโหมแลเจ้าพระยาจตุสดมภ์ท้ังส่ี ก็ได้กราบทูลถวายสรรพส่ิงท้ังปวงตามท่ีในต�ำแหน่ง
ราชการ ก็ทรงปฏิสันถารโดยสมควร5 แล้วเสด็จขึ้นข้างในประทับพระท่ีน่ังภัทรบิฐ ท้าวสมศักดิ (ช่ือคุณมณี)6
ก็ทูลถวายสิบสองพระก�ำนัลแลสรรพส่ิงต่าง ๆ ฝ่ายในแล้ว เสด็จข้ึนข้างในที่พระมหามณเฑียร7
1 ตน้ ฉบบั หนงั สอื สมดุ ไทย เลขท่ี ๖ ใชว้ า่ “...พระมหากษตั ราธริ าชเจา้ ...” ดา้ นลา่ งมลี ายมอื แกไ้ ขวา่ “...บรรพราชประเพณ.ี ..”
2 ตรงกับวันท่ี 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2367
3 ตรงกบั วนั ที่ ๑ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๓๖๗
4 ต้นฉบับหนังสือสมดุ ไทย เลขที่ ๖ ใช้ว่า “ ...อมรินทรวินิจฉยั ...” ดา้ นล่างมีลายมือแก้ไขวา่ “...จักรพรรดพิ ิมาน...”
5 ต้นฉบบั หนังสือสมุดไทย เลขท่ี ๖ ใชว้ ่า “...พอควรแก่การ...” ด้านบนมลี ายมอื แก้ไขว่า “...โดยสมควร...”
6 ต้นฉบับหนงั สอื สมุดไทย เลขท่ี ๖ ใชว้ า่ “...ท้าวนางผู้ใหญ่...” ดา้ นล่างมีลายมอื แกไ้ ขวา่ “...ทา้ วสมศักดิ ชอ่ื คุณมณี...”
7 ต้นฉบับหนังสือสมุดไทย เลขที่ ๖ มีข้อความตอ่ ว่า “...เอนพระองค์ลงบรรทมเปน็ ฤกษห์ นอ่ ยหนงึ่ พระบรมวงศ์เธอผู้ใหญ่
กไ็ ดถ้ วายดอกหมากทองคำ� ...” ดา้ นบนมีลายมือแก้ไขว่า “...สมเดจ็ พระพรรษากไ็ ดท้ รงจัดการทงั้ ปวงข้างใน...”
92 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
สมเด็จพระพรรษาก็ได้ทรงจัดการท้ังปวงข้างใน พระบรมวงศ์เธอผู้ใหญ่ก็ได้ถวายดอกหมากทองค�ำ
ทา้ วทรงกนั ดารถวายลกู กญุ แจ แลว้ กเ็ สวยพระกระยาหารเสรจ็ 1 กเ็ สดจ็ ไปทางขา้ งใน ทรงโปรยดอกพกิ ลุ ทเงอินง
แลเงินสลึง ตามทางเสด็จพระราชด�ำเนินจนถึงพระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาท ถวายบังคมพระบรมศพ สดับปกรณ์
แล้วเสด็จกลับ ทรงโปรยดอกพิกุลทองเงินมาตามทางข้างใน เสด็จยังพระมหามณเฑียร เสร็จการ
บรมราชาภิเษกแล้ว จึงเวียนเทียนพระท่ีนั่งจักรพรรดิพิมาน
ในห้อญย่ พร้อมกันถือน้�ำพระพิพัฒสัตยา2
รุ่งข้ึนพระบรมราชวงศานุวงศ์ ข้าราชการผู้ ถวายตัวเป็นข้า
ท�ำราชการฉลองพระ เดช สืบต่อไป
คุณ
เม่ือได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ พระชนมายุได้สามสิบแปดพรรษา คิดอายุโหราได้สามสิบหกปี
ส่ีเดือน สิบสองวัน แล้วจัดการต้ังกระบวนแห่เลียบพระนครเสร็จแล้ว
1 ตน้ ฉบบั หนงั สอื สมดุ ไทยเลขที่๖ใชว้ า่ “...แลว้ เสดจ็ ออกทางฉนวนนมสั การพระพทุ ธปฏมิ ากรแกว้ มรกฎสดบั ปกรณพ์ ระบรมอฐั ิ
ในพระอุโบสถเสร็จแลว้ ก็เสด็จไปพระที่นงั่ ดสุ ิดามหาปราสาท...”
2 ต้นฉบับหนังสือสมุดไทย เลขที่ ๖ ใช้ว่า “...รงุ่ ขนึ้ พระบรมราชวงศานวุ งศ์ขา้ ราชการกไ็ ด้ถือนำ�้ พระพิพฒั สตั ยาอีกครัง้ หนง่ึ
แลว้ กไ็ ด้ถวายดอกไม้ธปู เทียน...”
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ
พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช
ทรงเคร่ืองบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ประทับเหนือพระท่ีนั่งพุตตานกง แวดล้อมด้วยเครื่องบรมขัตติยราชูปโภค
ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช ๒๓๙๔
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 95
ค�ำอธิบาย
เอกสารชั้นต้นว่าด้วยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประกอบด้วย
เอกสาร ๓ เรื่อง ได้แก่ พระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช ๒๓๙๔
ถ่ายถอดจากหนังสือสมุดไทย เลขท่ี ๔๕๙ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๔ ในพระราชพงศาวดาร
กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๔ ของเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ข�ำ บุนนาค) และ “ประกาศเทวดา
บรมราชาภิเศก รัชกาลที่ ๔” พร้อมค�ำอธิบาย พระนิพนธ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระสมมตอมรพันธุ์
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช ๒๓๙๔
ถ่ายถอดจากหนังสือสมุดไทย เลขท่ี ๔๕๙
การตรวจสอบช�ำระในครั้งนี้ ได้พบต้นฉบับหนังสือสมุดไทย เลขท่ี ๔๕๙ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระ
นเรศรวรฤทธิ์ ประทานแก่หอพระสมุดวชิรญาณ เนื้อความว่าด้วยการค�ำนวณพระฤกษ์และหมายก�ำหนดการ
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เอกสารนี้ยังไม่เคยพิมพ์เผยแพร่ จึงได้น�ำ
มาพิมพ์ไว้เป็นเร่ืองแรกในเอกสารว่าด้วยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช ๒๓๙๔
ในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๔ ของเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ข�ำ บุนนาค)
เอกสารช้ันต้นเก่ียวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่เคย
พิมพ์เผยแพร่แล้วมี ๒ เรื่องคือ “ราชาภิเษกในกรุงรัตนโกสินทร์” และ “พระราชพิธีบรมราชาภิเษกในกรุง
รัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๔” ซ่ึงเป็นส่วนหนึ่งในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลท่ี ๔ ฉบับเจ้าพระยา
ทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ข�ำ บุนนาค)
เร่ือง “ราชาภิเษกในกรุงรัตนโกสินทร์” มีเนื้อหาว่าด้วยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จ
พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๔ พิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๔ ที่โรงพิมพ์หลวง ในพระบรม
มหาราชวัง โดยพิมพ์ต่อท้ายจากเรื่อง ปัญจราชาภิเษก และราชาภิเษกคร้ังกรุงศรีอยุธยา ต่อมาเม่ือ พ.ศ.
๒๔๗๙ พิมพ์เผยแพร่ครั้งที่ ๒ เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพหม่อมเจ้าหญิงเม้า ทองแถม ใช้ชื่อว่า
“เร่ืองราชาภิเษก” หลังจากน้ันได้มีการน�ำมารวมพิมพ์อีกหลายคร้ัง เช่น
เมอื่ พ.ศ. ๒๕๐๙ พมิ พเ์ ปน็ อนสุ รณใ์ นงานพระราชทานเพลงิ ศพนาวาตรี สมภพ สตุ สนุ ทร ณ ฌาปนสถาน
กองทัพบก วัดโสมนัสวิหาร วันท่ี ๒๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๙ การจัดพิมพ์ในครั้งนี้ได้น�ำจดหมายเหตุพระราชพิธี
บรมราชาภิเษก รชั กาลที่ ๕ มาตอ่ ท้าย ใช้ชอื่ วา่ “เรอ่ื งราชาภิเษก และจดหมายเหตุบรมราชาภิเษก รชั กาลท่ี ๕”
เม่ือ พ.ศ. ๒๕๔๖ พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทานเพลิงศพพลอากาศตรี จ�ำนง ผุสสราค์มาลัย
ณ ฌาปนสถานกองทพั อากาศ วดั พระศรมี หาธาตวุ รมหาวหิ าร บางเขน กรงุ เทพมหานคร วนั ท่ี ๑๓ ธนั วาคม พ.ศ.
96 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
๒๕๔๖ การพิมพ์ในครั้งน้ีใช้ช่ือว่า “รวมเรื่องราชาภิเษก ธรรมเนียมราชตระกูลในกรุงสยาม พระราชานุกิจ
และอธิบายว่าด้วยยศเจ้า” ซึ่งในส่วนของรวมเร่ืองราชาภิเษกประกอบด้วยเร่ืองปัญจราชาภิเษก ราชาภิเษก
คร้ังกรุงศรีอยุธยา ราชาภิเษกคร้ังกรุงรัตนโกสินทร์ (รัชกาลท่ี ๔) จดหมายเหตุบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ ๔
(ครั้งแรกและคร้ังหลัง)
ส่วนเร่ือง “พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๔” เป็นส่วนหน่ึงในพระราช
พงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๔ ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ข�ำ บุนนาค) ซ่ึงบรรยาย
การพระราชพิธีบรมราชาภิเษกไว้อย่างละเอียด
อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบพบว่า “ราชาภิเษกในกรุงรัตนโกสินทร์” ที่พิมพ์เผยแพร่คร้ังแรกเม่ือ
พ.ศ. ๒๔๑๔ ดังท่ีได้กล่าวในข้างต้นน้ัน เป็นส่วนหน่ึงในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ ๔
ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ข�ำ บุนนาค) แต่ไม่ได้น�ำเนื้อความท่ีเก่ียวข้องกับพระราชพิธีบรม
ราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในพระราชพงศาวดารมาทั้งหมด
“ประกาศเทวดาบรมราชาภิเศก รัชกาลที่ ๔ ” พร้อมค�ำอธิบาย พระนิพนธ์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระสมมตอมรพันธุ์
เอกสารดังกล่าวคัดมาจากหนังสือ “ประกาศพระราชพิธี เล่ม ๒ ส�ำหรับพระราชพิธีประจ�ำปี”
เน้ือหาว่าด้วยการพระราชพิธีจรต่าง ๆ พิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเน่ืองในงานพระศพพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระสมมตอมรพันธุ์ การจัดพิมพ์ในคร้ังน้ีคงอักขรวิธีตามฉบับพิมพ์คร้ังแรก
ในการนี้ คณะท�ำงานจัดท�ำหนังสือประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมอบหมายให้
นายบัณฑิต ลิ่วชัยชาญ นักอักษรศาสตร์ช�ำนาญการพิเศษ กลุ่มประวัติศาสตร์ ส�ำนักวรรณกรรมและ
ประวัติศาสตร์ และนายจุง ดิบประโคน นักภาษาโบราณช�ำนาญการพิเศษ กลุ่มหนังสือตัวเขียนและจารึก
ส�ำนักหอสมุดแห่งชาติ ด�ำเนินการถ่ายถอดจากหนังสือสมุดไทย เลขที่ ๔๕๙ โดยได้น�ำรูปถ่ายหนังสือสมุดไทย
ดังกล่าวมาพิมพ์ต่อท้ายไว้ด้วย ส่วนพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พุทธศักราช ๒๓๙๔ ในพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๔ ของเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษา
ธิบดี (ข�ำ บุนนาค) ตรวจสอบช�ำระโดยใช้ต้นฉบับหนังสือสมุดไทย หมวดพงศาวดาร หมู่กรุงรัตนโกสินทร์
รัชกาลที่ ๔ เลขท่ี ๑๑, ๒๕, ๒๖ และ ๓๘ ร่วมกับพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๔ ฉบับ
เจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ข�ำ บุนนาค) ฉบับพิมพ์ครั้งที่ ๑ พิมพ์เป็นที่ระลึกในงานพระราชทาน
เพลิงศพคุณหญิงธรรมสาเนติ (อบ บุนนาค) วันท่ี ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๗ พร้อมท้ังจัดท�ำเชิงอรรถอธิบาย
ความเพ่ิมเติมเพื่อความสมบูรณ์ของเน้ือหา อันจะท�ำให้ผู้อ่านเข้าใจเร่ืองราวในเอกสารได้ชัดเจนย่ิงข้ึน