ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 297
การเล้ียงท่ีกระทรวงการต่างประเทศ
เวลาค่�ำวันน้ี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระเทวะวงศ์วโรปการ เสนาบดีกระทรวงว่าการต่างประเทศ
ได้มีการเลี้ยงเจ้านานาประเทศ พระบรมวงศานุวงศ์ ท้ังเอกอรรคราชทูตกับอรรคราชทูตพิเศษทูตานุทูต
แลข้าราชการที่ศาลาว่าการต่างประเทศ เฉลิมพระเกียรติยศในงารพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ จะเสด็จประทับโต๊ะเสวยให้เปนพระเกียรติยศ
ในสมาคมน้ันด้วย
เวลา ๒ ทุ่ม1 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเคร่ืองราตรีสโมสรทหารเรือ ทรงประดับเครื่องราช
อิศริยาภรณ์มหาจักรีบรมราชวงศ์ เสด็จออกทางพระท่ีนั่งจักรีมหาปราสาท พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้า
น้องนางเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเพ็ชรบุรีราชสิรินธร ประทับรถพระที่นั่งเทียมม้า ๔ เสด็จพระราชด�ำเนิรออกประตู
พิมานไชยศรี มีขบวรทหารม้าแห่น�ำตามเสด็จเลี้ยวทางหน้าศาลาลูกขุนในไปหยุดประทับรถพระท่ีน่ังหน้าศาลา
ว่าการต่างประเทศ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระเทวะวงศ์วโรปการ เสนาบดีกระทรวงว่าการต่างประเทศ
รับเสด็จขึ้นประทับยังห้องสโมสร มีพระราชประฏิสันถารด้วยเจ้านานาประเทศ แลพระบรมวงศานุวงศ์
ข้าราชการตามสมควรแล้ว ประทับโต๊ะเสวยพร้อมด้วยเจ้านานาประเทศกับพระบรมวงศานุวงศ์
แลเอกอรรคราชทูตกับอรรคราชทูตพิเศษทูตานุทูตแลข้าราชการ เมื่อเสวยแลเล้ียงแล้ว ประทับมีพระราช
ด�ำรัสด้วยพระบรมวงศานุวงศ์เจ้านานาประเทศตามสมควร ในขณะนี้เจ้านานาประเทศแลเอกอรรคราชทูต
กับอรรคราชทูตพิเศษพร้อมกันได้ทูลลา เพ่ือกลับยังประเทศของตนตามโอกาศอันเหมาะที่กลับได้ก็ต่างจะ
ทูลลาไปนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชด�ำรัสแสดงความขอบพระไทยแก่เจ้าแลเอกอรรคราชทูต
กับอรรคราชทูตพิเศษโดยฉเพาะองค์แลฉเพาะตน
การราตรีสโมสรท่ีกระทรวงทหารเรือ
เม่ือเสร็จการเล้ียงท่ีศาลากระทรวงการต่างประเทศแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จทรงรถม้า
พระท่ีนั่งพร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงเพ็ชรบุรีราชสิรินธร กองทหารม้าแห่น�ำ
ตามเสด็จ ๆ พระราชด�ำเนิรออกทางประตูพิมานเทเวศร์ เลี้ยวขวาไปตามถนนหน้าพระลาน ถนนสนามไชย
เล้ียวถนนท้ายวังแลถนนมหาราช หยุดรถพระที่นั่งท่ีพลับพลายกในสนามหน้าท่ีว่าการกรมเรือกลแลป้อม
สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนครสวรรค์วรพินิต เสนาบดีกระทรวงทหารเรือเฝ้ารับเสด็จ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นพลับพลาประทับท่ีมุข ทหารกองเฉลิมพระเกียรติยศทหารเรือต้ังอยู่ท้าย
พลับพลาถวายวันทยาวุธ นายทหารกับพลทหารเรือซ่ึงยืนเฝ้าอยู่ในสนามหน้าพลับพลาถวายวันทยหัดถ์ แตรวง
บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเจ้านานาประเทศกับพระบรมวงศานุวงศ์เฝ้าบนพลับพลา เอกอรรคราชทูตกับ
1 เวลา ๒๐.๐๐ น.
298 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระรูปหมู่เจ้านายต่างประเทศท่ีมาช่วยงาร
ยืนแถวหลัง ปรินซ อักเซล เดนมาร์ก ปรินซ ฟุชิมิ ญ่ีปุ่น ปรินซ โอเค เดนมาร์ก ปรินซ เอริก เดนมาร์ก
นั่งแถวหน้า ปรินซ อาเลกซานเดอร์ ออฟ เต๊ก อังกฤษ แครนดยุกบอริส รุสเซีย ปรินเซส วิลเลียม สวีเดน
ปรินเซส อาเลกซานเดอร์ ออฟ เต็ก อังกฤษ ปรินซ วัลเดมา เดนมาร์ก ปรินซ วิลเลียม สวีเดน
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 299
อรรคราชทูตพิเศษทูตานุทูต แลข้าราชการเฝ้าท่ีปร�ำท้ายพลับพลาเมื่อสุดเสียงแตรวงแล้ว แตรยาวกับกลองคู่
ได้กระท่ังเพลงประกาศพอจบลงแล้ว สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนครสวรรค์วรพินิต เสนาบดี
กระทรวงทหารเรือ อ่านค�ำถวายฉลองพระเนตรทหารเรือแลถวายไชยมงคล ดังน้ี
ค�ำถวายไชยมงคลทหารเรือ
ขอเดชะฝ่าลอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม
ในวาระนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาศกราบบังคมทูล ในนามของนายทหาร
แลพลทหารเรือ ผู้เปนข้าทูลลอองธุลีพระบาท พร้อมส่�ำเสนามาตย์ราชบุรุษฝ่ายนาวายุทธกรรม
ด้วยกาละน้ีได้ก�ำหนดขวบฉน�ำ จ�ำเดิมแต่ใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาทสถิตย์ในรัตนราชัยมไหศวริยราชสมบัติ
เปนบรมกระษัตริย์สืบสันติวงศ์ สนองพระองค์สมเด็จพระบรมราชชนกาธิเบศร์ ผ่านพิภพสยามประเทศทรง
มเหศรศักดิ์ เปนท่ีพ่ึงพ�ำนักแก่สมณชีพราหมณาจารย์ พร้อมสรรพทวยหาญเสวกามาตย์ราชนิกรประชา
ซึ่งอาศรัยในพระบรมโพธิสัมภารบารมี ท่ัวสยามปฤถวีทุกจังหวัดนิคมสถาน ดุจจะดวงพระสุริฉานส่องหล้า
นภากาศ เพ่ือประโยชน์แก่สัตวชาติในสากลเมทนี เมื่อถึงวาระดิถีศุภมงคลการ งารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
สมโภชควรปรีดาปราโมทย์ชื่นชมพระราชบุญญาภินิหาร เปนประการที่หนึ่ง
เม่ือได้ระฦกไปถึงพระราชจริยานุวัตร ก็ย่อมประจักษ์ชัดว่าพระองค์ด�ำรงอยู่ในทศพิธราชธรรมอันควร
แก่พระมหากระษัตริย์ มีพระราชหฤทัยประดิพัทธมุ่งต่อความไพบูลย์แห่งชาติ จึงพระราชทานพระบรม
ราโชวาทานุสาสน์แก่ราชบริพารท้ังฝ่ายทหารแลพลเรือน เตือนให้ทรงไว้ซึ่งความสัตย์สุจริต คิดแต่การท่ีเปน
ประโยชน์วัฒนานุเคราะห์ให้เกิดมีแด่ฉเพาะชาติแลบ้านเมือง ให้รุ่งเรืองอิศรภาพตราบชั่วกัลปาวสาน
พระคุณสมบัติอันนี้ไซร้เปนแต่เอกเทศแห่งพระคุณพิเศษอย่างอ่ืนอีกอเนกประการ เปนพระราชธรรมาภินิหาร
ควรมนสิการปรีดีในวาระครั้งน้ีเปนประการที่ค�ำรบสอง
ฝ่ายราชกิจปกครองพระราชอาณาจักร์น้ันไซร้ ถึงแม้จะอยู่ภายในเวลาอันน้อยเพียงเท่านี้ ก็ได้ทรง
พระอุสาหะแสวงหาอุบายอันดี ท่ีจะขยายการอันด�ำเนิรอยู่แล้วให้เจริญย่ิงขึ้นตามความสมควรแก่กาลสมัย
สิ่งใดท่ีพ้นความสมควรแก่สมยวาร ได้โปรดเกล้าฯ มีพระราชปริหารให้เลิกถอนอนุโลมตามสมควรแก่เหตุ
ส่วนการป้องกันพระราชอาณาเขตรมีพระปัจจเวกขณ์เห็นตระหนัก ว่าความพรักพร้อมแห่งก�ำลังทหารย่อมเปน
การส�ำคัญในความมั่นคงของชาติ จ่ึงมีพระบรมราชโองการด�ำรัสสั่งให้ต้ังสภาการทัพ ส�ำหรับหน้าท่ีด�ำริห์
การป้องกันพระราชอาณาจักร์สยามประเทศ ยังการยุทธนาเวศให้ประสานกับทหารบก ยกกรมทหารเรือขึ้น
เปนกระทรวง ด�ำเนิรการให้ลุล่วงส�ำเร็จไปโดยเต็มก�ำลังของบ้านเมืองควรท�ำได้ แลในขวบหลังน้ีไซร้ ได้ทรง
พระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ต่อการสร้างเรือรบเพิ่มก�ำลังทหารเรือ มีเรือพิฆาฏเสือค�ำรณสินธุ์
เปนอาทิ อีกพระราชกรณียกิจส่วนราชการุญ ทรงอุดหนุนแก่เหล่าทหารยุทธนาวาด้วยพระราชานุเคราะห์
บ�ำเหน็จบ�ำนาญ ได้มีพระบรมราชโองการด�ำรัสสั่ง ให้ยกเหล่าทหารประจ�ำเรือพระที่น่ังต้ังข้ึนเปนกองทหาร
รักษาพระองค์ ทรงไว้วางพระราชหฤทัยในความสวามิภักดิ์ ทั้งได้โปรดเกล้าฯ ต้ังต�ำแหน่งราชองครักษ์
300 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ฝ่ายทหารเรือ เพ่ือรับราชการใกล้ชิดพระองค์ จัดว่าได้ทรงพระกรุณาพระราชทานเกียรติยศอันใหญ่หลวง
แก่บรรดาทหารเรือท้ังปวงท่ัวคณะท่ัวหน้า ทั้งน้ีเปนพระราชกฤษฎาภินิหาร ยังใจให้ชื่นบานเปรมปรีดี
ในวาระนี้เปนประการที่ค�ำรบสาม
บัดน้ีข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายผู้มีความสวามิภักด์ิจงรักในเบ้ืองยุคลบาท ขอพระราชทานพระบรมราช
วโรกาศกราบบังคมทูลอัญเชิญ ทรงรับฉลองพระเนตรทองค�ำราชาวดีแห่งเหล่านาวิกเสนีได้ร่วมสมานจิตร
ให้ช่างประดิษฐบรรจงถวาย ถ่ายเปนรูปพระเพ็ชราวุธ หวังให้เปนเคร่ืองอุตมมังคลราชสักการ ขออ�ำนาจ
พระรัตนตรัยแลอมรเทเวศร์ทุกสถาน จงอภิบาลรักษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ส�ำราญในพระราชอิริยาบถปรากฎเดชผริตสถิตย์เนานานในพิไชยราชบัลลังก์รัตน์
เปนมิ่งมหามงกุฎกระษัตริย์พิสิษฐ์ศักดิ์เดโชไชย ขอจงสรรพอุปัทวภัยประลาตไกลสยามรัฐมณฑล ให้ยืนยง
คงทนในอิศรานุภาพไพบูลย์ จรูญด้วยโภคทรัพย์ศฤงคารจงทั่วทุกสถานสยามรัฐชนบท ขอพระเกียรติคุณ
อดุลยยศจงปรากฎทั่วทิศานุทิศในสาธุดลสากลโลก
ได้มหาพิไชยสิทธิโชคอันอุดม เหล่าทวยหาญทุกหมู่กรมจงพร้อมกันเปล่งอุทาน โห่ร้องก้องกัมปนาท
สาธุการถวายพระพรชยประสิทธ์ิแด่สมเด็จบรมนาถบพิตรเจ้าหล้า ณกาลบัดน้ี เทอญ
เมื่ออ่านค�ำถวายฉลองพระเนตรแลถวายไชยมงคลตลอดแล้วนายทหารกับพลทหารเรือพร้อมกันโห่
ถวายไชย แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีอีกครั้งหนึ่ง เมื่อสุดเสียงแตรวงแล้ว แตรยาวกลองคู่ได้กระทั่ง
เพลงประกาศอีกคร้ังหน่ึงแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชด�ำรัสตอบตามควร
เม่ือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชด�ำรัสตอบแล้ว บรรดาทหารเรือท้ังหมดได้ถวายวันทยาวุธ
แลวันทยหัดถ์ แตรวงบรรเลงเพลงมหาไชยจบ ๑ แล้วท�ำเพลงเดิร บรรดาทหารซึ่งประชุมเฝ้าทูลลอองธุลี
พระบาทอยู่หน้าพลับพลา ได้ถอยออกไปทางด้านเหนือแลด้านใต้แล้วเจ้าพนักงารได้เปิดเคร่ืองแต่งประทีป
กลางสนามแลแตรวงบรรเลงเพลงสังคีตต่อไป
เวลา ๕ ทมุ่ ครงึ่ 1 พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั เสดจ็ พระราชดำ� เนริ โดยทางลาดพระบาท มรี าชองครกั ษ์
ทหารเรอื ค่หู นึ่ง กบั กรมพระต�ำรวจน�ำเสด็จแตพ่ ลับพลาส่พู ระที่นง่ั ราชกจิ วินจิ ฉยั เจ้านานาประเทศกบั พระบรม
วงศานุวงศ์ตามเสด็จ ข้าราชการเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทตลอดรายทาง ประทับโต๊ะเสวยเคร่ืองว่างพร้อมด้วย
เจ้านานาประเทศกับพระบรมวงศานุวงศ์ แลเอกอรรคราชทูตกับอรรคราชทูตพิเศษท้ังข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
ณพระที่น่ังราชกิจวินิจฉัย แลได้เลี้ยงทูตานุทูตกับข้าราชการช้ันผู้น้อยท่ีปร�ำข้างเหนือพระท่ีนั่งราชกิจวินิจฉัย
ในขณะน้ีได้เร่ิมการมหรศพสมโภชท่ีสนามท่าพระ
เมื่อเสวยแลเลี้ยงแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จโดยทางลาดพระบาท พร้อมด้วยเจ้านานา
ประเทศ พระบรมวงศานุวงศ์ตามเสด็จประทับพลับพลาพระฉนวนท่าราชวรดิษฐ์ เอกอรรคราชทูตแลอรรค
ราชทูตพิเศษ กับข้าราชการช้ันผู้ใหญ่ตามลงไปเฝ้าณท่ีนั้นด้วยข้าราชการช้ันผู้น้อยไปสโมสรท่ีสนามด้วย
1 เวลา ๒๓.๓๐ น.
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 301
ข้าราชการทหารเรือ เจ้าพนักงารได้จุดดอกไม้เพลิงพุ่มขึ้นเปนสัญญาแล้ว เจ้าพนักงารปล่อยเรือกิ่งเรือพระท่ีน่ัง
ศรสี พุ รรณหงส์ กบั เรอื พระทนี่ ง่ั อนนั ตนาคราช ซง่ึ ตามประทปี ตลอดล�ำพายขนึ้ มา เมอื่ เรอื พระทนี่ งั่ ศรสี พุ รรณหงส์
พายข้ึนมาถึงหน้าพระที่น่ัง หยุดเกร่ินถวายไชยแล้ว ลงพายเหข้ึนไปเหนือน�้ำอ้อมทุ่นสายกลางน�้ำพายล่อง
ลงไปแล้ว พายวนกลับข้ึนมาผ่านหน้าพระท่ีน่ังวงรอบทุ่น ๓ ครั้ง ในระหว่างเห่เรือน้ันเจ้าพนักงารได้จุด
ดอกไม้เพลิงพุ่มของพระราชาคณะที่จัดมาฉลองพระเดชพระคุณเฉลิมพระเกียรติยศ กับท้ังดอกไม้เพลิงต่าง ๆ
ข้ึนที่เรือทุ่นกลางล�ำน�้ำถวายทอดพระเนตรเปนล�ำดับตลอดไป แล้วได้ปล่อยเรือแจวเรือพายของประชาชน
ท่ีแต่งประทีปโคมไฟเข้ามาเกาะทุ่นเรือดอกไม้เพลิงเพ่ือเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทแลดูการมหรศพน้ันด้วย
ทอดพระเนตรอยพู่ อสมควรแลว้ เวลา ๘ ทมุ่ 1 เสดจ็ ขนึ้ ประทบั รถมา้ พระทนี่ งั่ พรอ้ มดว้ ยสมเดจ็ พระเจา้ นอ้ งนางเธอ
เจ้าฟ้ากรมหลวงเพ็ชรบุรีราชสิรินธร จะเสด็จพระราชด�ำเนิรกลับเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง นายทหารแล
พลทหารเรือได้แสดงความปีติยินดีจงรักสวามิภักดิ์ต่อใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท พร้อมกันโห่ร้องถวายไชย
เขา้ หอ้ มลอ้ มรถพระทนี่ งั่ แลปลดมา้ เทยี มพระทน่ี งั่ ออกพรอ้ มใจกนั เปนราชพาหนะชกั รถพระทน่ี ง่ั ทง้ั เบยี ดเสยี ด
กันเข้าประคองคันรถพระที่นั่งแวดล้อมโห่ร้องถวายไชยตลอดทางไปส่งเสด็จ ตั้งแต่หน้าพระที่น่ังราชกิจวินิจฉัย
ไปตามถนนมหาราช เล้ียวถนนหน้าพระลาน เข้าประตูวิเศษไชยศรี ประตูพิมานไชยศรี จนถึงหน้าอัฒจันท์
พระท่ีน่ังจักรีมหาปราสาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชด�ำรัสชมเชยความจงรักสวามิภักด์ิของ
นายทหารแลพลทหารเรืออันเปนที่พอพระราชหฤทัยแล้ว เสด็จข้ึนบนพระท่ีน่ังเข้าสู่พระราชมณเฑียรสถาน
วันที่ ๙ ธันวาคม รัตนโกสินทรศก ๑๓๐ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอเจ้าฟ้ากรมหลวงนครสวรรค์วรพินิต
ได้เชิญเจ้าประเทศสวิเดน เจ้าประเทศรัซเซียกับเจ้าประเทศอังกฤษไปเสวยพระอาหารกลางวันที่วัง แลสมเด็จ
พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานาถได้เชิญเจ้าประเทศย่ีปุ่น กับเจ้าประเทศเดนมารค
ไปเสวยพระอาหารกลางวันที่วังทั้ง ๒ แห่ง
เสด็จออกตรวจพลสวนสนามเสือป่า
เวลาบ่ายวันน้ีสมาชิกกองเสือป่า ได้ประชุมเสือป่าในกรุงเทพฯ แลหัวเมืองเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท
ถวายไชยมงคลในสมัยพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช ท่ีสโมสรเสือป่าพระราชวังสวนดุสิต
เวลาบ่าย ๓ โมง2 ผู้ที่ได้รับเชิญกองเสือป่าได้มาพร้อมกันท่ีสโมสรเสือป่า
เวลาบ่าย ๓ โมงครึ่ง3 เจ้านานาประเทศที่ยังไม่ได้เสด็จกลับเสด็จมาประทับที่มุขใหญ่สโมสรเสือป่า
เวลาบ่าย ๓ โมง ๔๕ นาฑี สมเด็จพระบรมราชินีพระพันปีหลวง เสด็จพระราชด�ำเนิรโดยรถพระท่ีน่ังยนตร์
กบั สมเดจ็ พระเจา้ นอ้ งนางเธอ เจา้ ฟา้ กรมหลวงเพช็ รบรุ รี าชสริ นิ ธร แตใ่ นพระบรมมหาราชวงั ไปยงั สโมสรเสอื ปา่
1 เวลา ๐๒.๐๐ น.
2 เวลา ๑๕.๐๐ น.
3 เวลา ๑๕.๓๐ น.
302 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
รถพระท่ีน่ังเข้าทางประตูด้านเหนือปลายถนนใบพร มาประทับรถพระท่ีนั่งท่ีมุขหน้าพระต�ำหนักเสด็จขึ้น
ประทับบนพระต�ำหนัก
เวลาบ่าย ๔ โมง1 กองเสือป่าได้เดิรขบวรเข้าไปตั้งแถวอยู่ในสนามสโมสรเสือป่าคอยรับเสด็จ
เวลาบ่าย ๔ โมงเศษ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเคร่ืองคร่ึงยศเสือป่า (เสด็จออกพระท่ีน่ังจักรี
มหาปราสาท ประทับรถพระท่ีนั่งยนตร์ เสด็จพระราชด�ำเนิรไปประทับท่ีโรงทหารราบท่ี ๑ ถนนดวงตวัน)
ทรงม้าพระที่น่ังพร้อมด้วยกองม้าเสือป่า นายหมู่เสือป่าเชิญธงไชยราชกระบี่ธุช พระครุฑพาหน�ำเสด็จ
พระราชด�ำเนิร สพรั่งพร้อมไปด้วยม้าราชองครักษ์ กับม้าเสือป่ากองม้าหลวงรักษาพระองค์หมวด ๑ ถือทวนภู่
จามรีตามเสด็จ ๆ เข้าในบริเวณสโมสรเสือป่าทางหน้าพระลาน นายกองเอก พระยาสุรเสนา ปลัดกองเสือป่า
รับเสด็จ แลกราบบังคมทูลรายงารจ�ำนวนเสือป่าที่มาตั้งแถวเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทอยู่ในสนาม พระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชด�ำเนิรผ่านหน้าสโมสรเลี้ยวเข้าในสนาม กองเสือป่าถวายวันทยาวุธแล
วันทยหัดถ์แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญเสือป่า แล้วเสด็จตรวจพลท่ัวทุกกองแล้วประทับยืนม้าพระท่ีนั่ง
อยทู่ า่ มกลางกองเสอื ปา่ นายกองเอก พระยาสรุ เสนา กราบบงั คมทลู พระกรณุ าถวายไชยมงคลในนามของเสอื ปา่
ตลอดแล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชด�ำรัสตอบ แลพระราชทานพระบรมราโชวาทตามสมควร
แลทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเข็มไอยราพตแก่นายกองนายหมู่เสือป่า รวมไปแจกสมาชิกเสือป่า
ทุกหมู่ทุกกองทั่วกันแล้ว เสด็จพระราชด�ำเนิรกลับโดยม้าพระท่ีน่ัง แลม้ากองเสือป่าม้าหลวงรักษาพระองค์
ตามทางเสด็จเดิมเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง
เวลาค่�ำวันนี้ อรรคราชทูตอังกฤษได้เชิญเสด็จเจ้าประเทศอังกฤษไปเสวยท่ีสถานราชทูตอังกฤษ
แลอรรคราชทูตรัซเซีย ได้เชิญเสด็จเจ้าประเทศรัซเซียกับเจ้าประเทศสวิเดนท้ัง ๒ ประเทศไปเสวยที่สถาน
ราชทูตรัซเซียด้วย
การเล้ียงถวายเฉลิมพระเกียรติยศนายกเสือป่า
แลการราตรีสโมสรเสือป่าท่ีสโมสรเสือป่า
พระราชวังสวนดุสิต
ด้วยนายกอง นายหมู่ กองเสือป่า ได้มีการเล้ียงถวายเฉลิมพระเกียรติยศนายกเสือป่า แลมีการราตรี
สโมสรสมาชิกเสือป่าท่ัวไปณสโมสรเสือป่า ได้จัดการแต่งจุดประทีบประดับธงแลปักร้ัวผูกโคมกระดาษ
ห้อยธงตามถนนเปนซุ้มในบริเวณสโมสรเสือป่าอย่างงดงาม แลปลูกปร�ำร้านไว้สิ่งของเสือป่า ๆ ทุกหมู่ได้
จัดของมาทูลเกล้าฯ ถวายเฉลิมพระเกียรติยศในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช เปนของส�ำหรับเล้ียง
แลแจกสมาชิกเสือป่าทั่วไป
1 เวลา ๑๖.๐๐ น.
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 303
รูปเสด็จออกสวนสนามเสือป่า ท่ีสวนดุสิต
304 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
วันท่ี ๑๐ ธันวาคม รัตนโกสินทรศก ๑๓๐ เวลาทุ่มหนึ่ง1 นายกอง นายหมู่ที่ได้รับเชิญเล้ียงแต่งเคร่ือง
สโมสรเสือป่ามายังสโมสร ครั้นเวลาใกล้ ๒ ทุ่ม2 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายกเสือป่าทรงเครื่อง
สโมสรเสือป่า เสด็จพระราชด�ำเนิรโดยรถพระที่น่ังยนตร์แต่ในพระบรมมหาราชวัง ไปประทับณสโมสรเสือป่า
เวลา ๒ ทุ่มเศษประทับโต๊ะเสวยพร้อมด้วยนายกองนายหมู่เสือป่า เมื่อเล้ียงถึงของหวาน พระยาสุรเสนา
นายกองเอก ปลัดกองเสือป่ากราบบังคมทูลถวายไชยมงคลแล้วโห่ถวายไชย ๓ ลา แตรวงบรรเลงเพลง
สรรเสริญพระบารมี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นายกเสือป่ามีพระราชด�ำรัสตอบตามสมควรแล้วเสือป่า
ได้โห่อิก ๓ ลา แตรวงบรรเลงเพลงสรรเสริญเสือป่า เมื่อเล้ียงแล้วได้รับพระราชทานฉลากของแจกทั่วกัน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชด�ำเนิรประพาศทอดพระเนตรร้านของต่าง ๆ ซ่ึงสมาชิกเสือป่า
ไดจ้ ดั มาทลู เกลา้ ฯ ถวาย เปนของเลย้ี งแลของแจกสมาชกิ เสอื ปา่ ทว่ั ไป สว่ นสมาชกิ เสอื ปา่ กองนอก ไดพ้ รอ้ มใจกนั
จดั ดอกไมเ้ พลงิ มาฉลองพระเดชพระคณุ เฉลมิ พระเกยี รตยิ ศในงารพระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกสมโภช เวลา ๒ ยาม
ไดจ้ ดุ ดอกไมเ้ พลิงต่าง ๆ เวลา ๗ ทุ่มเศษพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จกลับโดยรถพระท่ีนั่งเข้าสู่พระบรม
มหาราชวัง เปนเสร็จการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชเพียงน้ี
แจ้งความ
จดหมายเหตุน้ี พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศวรฤทธิได้ทรงรวบรวมไว้แต่เมื่อยังเสด็จด�ำรง
ต�ำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมุรธาธร3 เม่ือจะพิมพ์คราวน้ีก็ได้ทรงรับเปนพระธุระตรวจต้นฉบับด้วย
หอพระสมุดวชิรญาณส�ำหรับพระนคร
วันท่ี ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๖
1 เวลา ๑๙.๐๐ น.
2 เวลา ๒๐.๐๐ น.
3 กระทรวงมุรธาธร ก่อตั้งขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. ๒๔๓๕ มีหน้าที่รักษา
พระราชลัญจกร เคร่ืองราชูปโภค รักษาพระราชก�ำหนดกฏหมายและหนังสือราชการท้ังปวง ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๓๙ มีพระราชด�ำริ
ยุบกระทรวงมุรธาธร และให้โอนราชการในหน้าที่ของกระทรวงมุรธาธรไปข้ึนอยู่ในกรมราชเลขานุการ ส่วนราชการที่เป็นแผนก
ในกระทรวงมุรธาธรเปลี่ยนเป็นกรมพระอาลักษณ์ ขึ้นกับสภานายกรัฐมนตรี ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงต้ังกระทรวงมุรธาธรข้ึนใหม่โดยรวมกรมพระอาลักษณ์และกรมราชเลขานุการเข้าด้วย ด้วยมีพระราชด�ำริว่าข้อราชการ
ในกรมพระอาลักษณ์และกรมราชเลขานุการมีรายละเอียดและปริมาณงานมาก เกินก�ำลังข้าราชการที่มีอยู่จะปฏิบัติราชการให้
เรียบร้อยได้ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐบาลมีปัญหาสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ จึงยุบกระทรวงมุรธาธร
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๙ ให้โอนราชการทั้งหมดไปรวมในกรมราชเลขาธิการ โดยให้มีฐานะเป็นทบวงเทียบเท่ากระทรวง ต่อมาได้มี
พระบรมราชโองการต้ังกระทรวงมรุ ธาธรขึน้ ใหมเ่ มอื่ วันท่ี ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๕ ภายหลงั การเปลย่ี นแปลงการปกครอง ไดเ้ ปลย่ี น
นามเสนาบดีกระทรวงมุรธาธรเปน็ ราชเลขาธกิ าร และมีกรมราชเลขาธกิ ารท�ำหนา้ ท่ตี ดิ ตอ่ กับกระทรวงต่าง ๆ เมือ่ วนั ที่ ๒๙ มถิ นุ ายน
พ.ศ. ๒๔๗๕ และมีพระบรมราชโองการยุบเลิกกรมราชเลขาธิการ เมื่อวันท่ี ๑๔ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๕ และต้ังกรมเลขาธิการ
คณะกรรมการราษฎรขน้ึ แทน หน่วยงานดังกลา่ วได้พฒั นาเป็นสำ� นกั นายกรัฐมนตรใี นเวลาตอ่ มา
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 305
ค�ำประกาศเทวดาในงารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
รัชกาลปัตยุบันน้ี ฯ สมเดจพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงพระนิพนธ์
๏ สรัช์ชํ สเสนํ สพัน์ธํุ นริน์ทํ ปริต์ตานุภาโว สทา รัก์ขตูติ ผริต�วาน เมต์ตํ สเมต์ตา ภทัน์ตา อวิก์ขิต์ต
จิต์ตา ปริต์ตํ ภณัน์ตุ ฯ
๏ ภทัน์ตา ข้าแต่พระผู้เปนเจ้าท้ังหลาย นิมนต์พระผู้เปนเจ้า ส�ำรวมจิตต์อย่าให้ส่ายในอารมณ์ จงกอบ
ด้วยเมตตาพรหมวิหารแผ่ไปในพระบรมราชวงศ์แล้วจงสวดพระปริตร อธิฐานจิตต์ว่า ขออานุภาพพระปริตร
นี้ จงคุ้มครองป้องกันรักษาสมเดจบรมกษัตริย์ กับทั้งราชมไหศวรรยสมบัติ แลพระราชวงศานุวงศ์เสนาพฤฒา
มาตย์ ให้ปราศจากสรรพอุปัทวทุกข์ เจริญสุขสิริสวัสด์ิเปนนิพัทธนิรันดรเทอญ ฯ
๏ สัค์เค กาเม จ รูเป ฯลฯ สาธโว เม สุณัน์ตุ ฯ
๏ โภน์โต เทวสํฆา ดูกรหมู่เทพยอมรนิกรยักษ์คนธรรพ์กุมภัณฑ์นาคทั้งหลาย มีอาทิคือ ท้าวธตรฐ
ราช ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักษ์ แลท้าวกุเวรราช กับท้ังสมเดจวัชรินทรเทพโกสีย์ผู้มีมหิทธิอ�ำนาจ มีทิพยโศรต
ทิพยจักษุอันประเสริฐ บังเกิดอยู่ในทิพยพิมานมาส แลเทพยซึ่งเนาว์อยู่ในภูมิพฤกษบรรพตากาศฉกามาวจร
โสฬศพรหมพิภพ อิกองค์มหิศวรวิษณุนพเคราะห์เทพยดาทวาทศราศีสถิต กับท้ังเทพยสัปตพิศนักษัตรดารา
แลเทพไทยอันอภิบาลบ�ำรุงรักษาพระนคร พระบรมมหาราชวัง พระท่ีน่ังเสวตรฉัตรมณฑิรรัตนปราสาท จง
มาสโมสรสันนิบาตในพระราชนิเวศน์มหาสถาน สมาทานเบญจางคิกศีลสดับรับรศพระสัทธรรมพุทโธวาท
ศาสนกถา แล้วจงปรีดารับราชพลีทั้งสองประการ คือ อามิสพลี มีต้นว่าธูปเทียนสุคนธบุบผชาติโภชนาหาร
อันเอมโอช ที่โปรดให้จัดสรรเปนเครื่องสักการพิธี แลธรรมพลี คือพระราชกุศลที่ทรงบ�ำเพ็ญในงารพระบรม
ราชาภิเษกครั้งนี้ มีต้นว่าทรงบูชาพระศรีรัตนไตรย์ ทรงบริจาคไทยธรรมไตรจีวรพัสตร์ขัชชะโภชนาหารแล
สมณะปริขารอันประณีตแก่พระภิกษุสงฆ์ แล้วทรงพระราชูทิศแก่เทพยท้ังปวงเปนธรรมบรรณาการ แล้วจง
มีไมตรีจิตต์สถิตเปนสักขีพยานในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกนี้ ฯ
๏ จ�ำเดิมแต่สมเดจพระบรมนราธิบดีประถมกษัตริย์ในพระบรมวงศ์ ทรงสถาปนากรุงเทพมหานครอมร
รัตนโกสินทรมหินทรายุทธยานี้มา คณนาได้ถึง ๑๒๙ ปี มีบรมกษัตริย์ได้เสวยไอศวรรยาธิปัตย์สืบสุริยสันตติ
วงศ์ถึง ๕ พระองค์ล่วงแล้วมา ทุกพระองค์ได้ทรงปกครองแผ่นดินโดยผาสุกสวัสดิ คลาดแคล้วจากสรรพพิบัติ
อุปัทวภยันตราย พระราชอาณาจักรปราศจากรส�่ำรสายสงบราบคาบ ทั้งน้ีก็เห็นแท้แน่ว่าเปนด้วยอานุภาพ
เทพไทยท้ังปวงช่วยอภิบาลรักษาฯ
๏ กาลบัดนี้ พระราชวงศานุวงศ์เสนาบดีมนตรีมุขสมณะพรหมณาจารย์ มีสมานฉันท์ประชุมกันต้ัง
พระราชพิธีถวายพระบรมราชาภิเษก แด่สมเดจบรมบพิตรพระราชสมภารพระองค์สมเดจพระบรมโอรสาธิราช
ซ่ึงเสดจผ่านพิภพฉลองพระองค์สมเดจพระบรมชนกนารถ สืบสุริยสันตติวงศ์อันจะได้ทรงพระปรมาภิไษย
ประกาสิตว่า พระบาทสมเดจพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ เอกอรรคมหาบุรุษบรมนราธิราช พินิตประชานารถ
มหาสมมตวงศ์อติศัยพงศ์วิมลรัตน์ วรขัตติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาศ อุภโตสุชาติ
306 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
สังสุทธเคราะหณี จักรีบรมนารถ จุฬาลงกรณ์ราชวรางกูร บรมมกุฎนเรนทร์สูรสันตติวงศวิสิฐ สุสาธิตบุรพา
ธิการ อดุลยกฤษฎาภินิหารอติเรกบุญฤทธิธัญลักษณวิจิตรโสภาคยสรรพางค์ มหาชโนตตะมางคประนต
บาทบงกชยคุ ล ประสทิ ธสิ รรพศภุ ผลอดุ มบรมสขุ มุ าลย์ ทพิ ยเทพาวตารไพศาลเกยี รตคิ ณุ อดลุ ยพเิ ศษ สรรพเทเวศ
รานุรักษ์บุริมศักดิสมญาเทพทวาราวดี ศรีมหาบุรุษสุตสมบัติ เสนางคนิกรรัตน์อัศวโกศล ประพนธปรีชามัทว
สมาจาร บริบูรณคุณสารสยามาทินคร วรุตเมกราชดิลก มหาปริวารนายกอนันต์มหันตวรฤทธิเดช สรรพวิเศษ
ศิรินธร บรมชนกาดิศรสมมตประสิทธิวรยศมโหดมบรมราชสมบัติ นพปดลเสวตรฉัตราดิฉัตร ศิริรัตโนปลักษณ
มหาบรมราชาภิเศกาภิสิต สรรพทศทิศวิชิตไชย สกลมไหศวริยมหาสวามินทร์ มเหศวรมหินทรมหารามาธิราช
วโรดม บรมนารถชาติอาชาวไศรย พุทธาทิไตรรัตนสรณารักษ์ อดุลยศักดิอรรคนเรศรามาธิบดี เมตตากรุณา
สีตลหฤไทย อโนปไมยบุญการ สกลไพศาลมหารัษฎาธิเบนทร์ ปรเมนทรธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนารถ
บพิตรพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานครอมรรัตนโกสินทร
มหินทรายุทธยา มหาดิลกภพนพรัตนราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถาน อภิบาลสยามรัฐมหามณฑลฯ
๏ ขอเทพยเจ้าท้ังหลาย มีกมลประกอบด้วยเมตตา ช่วยกันคุ้มครองรักษาสมเดจบรมบพิตรพระราช
สมภารพระองค์ สมเดจพระบรมโอรสาธิราช ให้ทรงพระเจริญในศิริราชสมบัติ ชัชวาลด้วยพระราชศักดา
ดิเรกยศ ปรากฏแผ่ไพศาลไปในนานาประเทศ ทุกเขตรขันธรัชสีมา ปราศจากสรรพภัยพยาธิทุกข์เสวย
ไอศวรรยสุขทีฆายุศม์ชนมสวัสดิ์ จงขจัดสรรพทุกขาดูร พูลสุขเกษมเปรมปรีดี ตลอดถึงพระองค์สมเดจพระบรม
ราชชนนีราชินีนารถ แลพระราชวงศานุวงศ์เสนามาตย์ราชบริพาร สมณพราหมณาจารย์ประชานิกร ทั้งใน
กรุงเทพมหานครทั้งในหัวเมืองมณฑลช้ันในช้ันนอก ปันออกเปนเมืองเอกโทตรีจัตวา อิกท้ังในประเทศราช
ธานีท่ัวรัชสีมาอาณาเขตร ฯ
๏ อนึ่งขออานุภาพเทพยมเหศวรศักด์ิ แลเทพยผู้อภิรักษก์พระมหานครราชธานีน้ี มีพระสยามเทวา
ธิราช พระกาฬไชยศรี แลพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง เทพารักษ์หลักพระนครเปนต้นไป จงบันดาลบรรดาไพรัช
ประเทศต่างเขตรขันธสีมา ให้มีหิตูปเทศจิตต์ไกลจากวิหิงสา ไม่ก่อกิจอมิตรไพรีมารันท�ำ กลับเปนสัมพันธมิตร
สนิทสนม น้อมน�ำประโยชน์มาสู่พระมหานครให้สมบูรณ์พูลสวัสด์ิ ยังหมู่เสนาพลนิกายให้มีมนัสร่วมสามัคคี
ธรรมเปนน�้ำหน่ึงใจเดียวกัน มั่นคงในความสวามิภักดิ์ เปนก�ำลังพิทักษ์รักษารัชสีมาให้ราบคาบ มีสุรภาพเห้ียม
หาญพอจะต่อยุทธชิงไชยจากศัตรู เมื่อถึงเวลาจะเข้าสู้สงคราม เชิดชูความเปนเอกราชย์ของชาติให้ยืนยง ยัง
หมู่พระราชวงศานุวงศ์เสวกามาตย์ราชบริพาร ให้พรักพร้อมสมัคสมานร่วมสมานฉันท์ช่วยกันปฏิบัติราชกิจ
ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตกตัญญู เปนก�ำลังค้�ำชูพระราชอาณาจักรให้เจริญม่ัน ยังสรรพอุปัทวอย่าให้เกิดมีแก่
ประชาชน ยังฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล เก้ือกูลแก่สรรพธัญญาหารพืชผลพฤกษาลดาชาติ ยังเหล่าสัตว์จตุบท
ทวิบาทให้ปราศจากอันตราย เกิดสืบพืชพันธุ์เจริญแพร่หลายเปนอุปการแก่มนุษนิกร ยังพระมหานครให้
สมบูรณ์ด้วยโภคสมบัติ ไหลหลั่งถ่ังมามิได้ขัดทั่วทิศานุทิศ ขอจงประสิทธิศุภมนุญผลโดยนัยประกาศ อันอาตม
พรรณามาฉน้ี ฯ
๏ ส่ง ธัม์มัส์สวนกาโล อยัม์ภทัน์ตา ๓ หน ฯ
_________________
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 307
ประกาศเทวดาถวายราชสักการในมหาเจดียสถานหกแห่ง
หลวงธรรมาภิมณฑ์ ถึก แต่งทั้งหมด
ข้ึนต้นแปลกกัน ต่อไปเหมือนกันทั้งหกแห่ง
ประกาศ
เทวดาพระปฐมเจดีย์
๏ ข้าแต่เทพยเจ้าท้ังหลาย มีเทวมหิทธินิกายผู้ประจ�ำอยู่พิทักษ์รักษาซึ่งพระปฐมเจดีย์ อันเปน
ประธานภพสถูปที่สถิตย์ถาวราการประดิษฐเนาว์ในสถานเปนหลักโลกย์แหล่งทิศน้ีเปนต้น เปนที่สักการ
กอบโลกุตรผลเจริญคุณปฏิบัติ เพื่อศรัทธานุสรณธรรมบ�ำรุงจิตรให้เลื่อมใส ในพระพุทธศาสนาให้ปรากฏ
ก�ำหนดเทพยโดยด�ำแหน่งเนาว์อภิบาลอยู่เนืองนิตย์ อิกเทพยพิทักษ์ทุกสถานทิศแลมณฑล ต�ำบลประเทศ
เขตรรอบขอบขันธสีมา จบท่ัวพระราชอาณาจักร บรรดาเทพยสิงสถิตย์ทุกส�ำนักพนัศพนมเนินอรัญราวไพร
ภูมิพฤกษไศลสิขรขันธอรรชฎากาศ ทิพรัตนพิมานมาศทุกหมู่อมรสรรค์ ช้ันกามาพจรภพจบพรหมโลก
ตลอดพ้นื สุธาวาศ จงเง่ยี ทิพยโสตรสดบั คำ� ประกาศประกอบในธรรมสุจริต ด้วยบดั นบี้ รมบพิตร พระบาทสมเด็จ
พระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณธรรมอันประเสริฐย่ิงอเนกมหันต์เสด็จ
เถลิงถวัลยราชสมบัติ ณ กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุทธยา มหานครราชสถาน ทรงอภิบาล
บ�ำรุงรัฐสยามพิภพสืบสันตติพงษ์ สนององค์สมเด็จพระบรมชนกาธิราช พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา
จุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซ่ึงเสด็จสวรรคตคืนสู่ทิพยโลกโดยนิยมก�ำหนด บัดน้ีพระบาทผู้เปน
พระบรมเอกอรรคมหาราชปิเยารส เสด็จด�ำรงรับรัชทายาทเปนใหญ่ในสยามภพ จบประเทศเขตรพระราช
อาณาประวัติ ทรงพระกมลประสาทโสมนัศยิ่งด้วยพระราชศรัทธา ตั้งพระไทยอุปถัมภกพุทธศาสนา แลบ�ำรุง
พระราชอาณาจักรเปนต้น ทรงพระเมตตาเผื่อแผ่แก่ชาวชนทุกชนิดชาติแลศาสนา มีสมณะพราหมณา
เปนอาทิ แลพระบาททรงพระดำ� รหิ โ์ ดยพระราชปสนั นาการ มารพระบณั ฑรู สรุ สงิ หนาทดำ� รสั เหนอื เกลา้ ฯ โปรด
ให้ข้าพระพุทธเจ้าราชบุรุษย์ผู้พนักงาน เชิญพุทธบรรณาการมาบูชาซ่ึงพระปฐมเจดีย์ ณ คร้ังนี้ เปนพุทธา
ธิคุณพลีโลกุตรประโยชน์ขอเทพยท้ังหลายจงปราโมทย์ภิรมย์รับ ส่วนกุศลซึ่งทรงพระราชอุทิศ แล้วจงตั้งกมลมี
ไมตรจี ติ รบำ� รงุ รกั ษา ซง่ึ พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรมหาวชริ าวธุ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ใหท้ รงพระเกษมศขุ
สมบูรณ์สบายพระราชหฤไทย ขอให้ทรงเจริญพระชนมายุยืนยง ด�ำรงราชมไหสวรรยาธิปัติพัฒนาการ
อนึ่งขอเทพยเจ้าจงอภิบาลพระบรมราชวงษานุวงษ์ จงตลอดท่ัวข้าทูลลอองธุลีพระบาททั้งฝ่ายหน้าฝ่ายใน
พร้อมทั้งไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินส้ินท้ังสมณชีพราหมณาจารย์ ตลอดท่ัวท้ังสรรพพาหนะยานอเนกนิกรสัตวชาติ
ให้พ้นไภยบ�ำราศสรรพพิบัติอุปัทวทุกข์ทุกประการ ด้วยอ�ำนาจพุทธาทิรัตนไตรยาธิคุณภินิหาร แลอานุภาพ
เทพยบ�ำรุงรักษาให้อยู่เย็นเปนอุดมศุขาผาสุกสิ้นด้วยกัน ทั้งพระมหานครราชสถานมณฑลรอบขอบเขต
ขันธสีมา โดยนัยประกาศแก่เทพยเจ้าดุจพรรณนามาฉะนี้
_________________
308 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ประกาศ
เทวดาบูชาพระพุทธชินราชพิศณุโลก
๏ ข้าแต่เทพยเจ้าท้ังหลาย มีอมรมหิทธินิกายผู้ประจ�ำส�ำนักรักษาซ่ึงพระพุทธชินราช
อาจให้เห็นเปนถาวรสถิตย์เนาว์ในพิศณุโลกนี้เปนต้น เปนที่ก่อเกิดกัลยาณผลเจริญคุณประฏิบัติ
เพื่อศรัทธานุสรณธรรมภิรัตบ�ำรุงจิตรเล่ือมใส ในพระพุทธศาสนาให้ปรากฏ ก�ำหนดเทพยโดยด�ำแหน่ง
เนาว์ภิบาลอยู่เนืองนิตย์ อิกเทพยพิทักษ์ทุกสถานทิศ แลมณฑลประเทศ เขตรรอบขอบขันธสีมาจบ
ทั่วพระราชอาณาจักร บรรดาเทพยสิงสถิตย์ทุกส�ำนักพนัศพนมเนินอรัญราวไพร ภูมิพฤกษไศลสีขรขันธ์
อรรชฎากาศ ทิพรัตนพิมานมาศทุกหมู่อมรสรรค์ ช้ันกามาพจรภพจบพรหมโลกตลอดพ้ืนสุธาวาศ จงเง่ียทิพย
โสตรสดับค�ำประกาศประกอบในธรรมสุจริต ด้วยบัดนี้บรมบพิตรพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณธรรมอันประเสริฐยิ่งอเนกมหันต์ เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ
ณ กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุทธนา มหานครราชสถาน ทรงบ�ำรุงรัฐภิบาลสยามพิภพสืบ
สันตติพงษ์ สนององค์สมเด็จพระบรมชนกาธิราช พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซ่ึงเสด็จสวรรคตคืนสู่ทิพยโลกโดยนิยมก�ำหนด บัดน้ีพระบาทผู้เปนพระบรม
เอกอรรคมหาราชปิเยารส เสด็จด�ำรงรับรัชทายาทเปนใหญ่ในสยามภพ จบประเทศเขตรพระราช
อาณาจักร ทรงพระกมลประสาทโสมนัศด้วยพระราชศรัทธา ต้ังพระไทยอุปถัมภกพุทธศาสนา และบ�ำรุง
พระราชอาณาจักรเปนต้น ทรงพระเมตตาเผ่ือแผ่แก่ชาวชนทุกชนิดชาติแลศาสนา มีสมณะพราหมณา
เปนอาทิ แลพระบาททรงพระด�ำริห์โดยพระราชปสันนาการ มารพระบัณฑูรสุรสิงหนาท ด�ำรัสเหนือเกล้าฯ
โปรดให้ข้าพระพุทธเจ้าราชบุรุษย์ผู้พนักงานเชิญพุทธบรรณาการมาบูชา พระพุทธชินราช ณ ครั้งน้ี อันเปน
พุทธาธิคุณพลีโลกุตรประโยชน์ ขอเทพยทั้งหลายจงปราโมทย์ภิรมย์รับ ส่วนกุศลซ่ึงทรงพระราชอุทิศ แล้วจง
ตั้งกมลมีไมตรีจิตรบ�ำรุงรักษา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ทรง
พระเกษมศุขสมบูรณ์สบายพระราชหฤไทย ขอให้ทรงเจริญพระชนมายุยืนยง ด�ำรงราชมไหสวรรยาธิปัติ
พัฒนาการ อน่ึงขอเทพยเจ้าจงอภิบาลพระบรมราชวงษานุวงษ์ จงตลอดทั่วข้าทูลลอองธุลีพระบาทฝ่ายหน้า
ฝ่ายใน พร้อมทั้งไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ส้ินท้ังสมณะชีพราหมณาจารย์ ตลอดทั่วท้ังสรรพพาหนะยานอเนกนิกร
สัตวชาติ ให้พ้นไภยบ�ำราศสรรพพิบัติอุปัทวทุกข์ทุกประการ ด้วยอ�ำนาจพุทธาทิรัตนไตรยาธิคุณภินิหาร
แลอานุภาพเทพยบ�ำรุงรักษา ให้อยู่เย็นเปนอุดมศุขาผาสุกสิ้นด้วยกัน ท้ังพระมหานครราชสถานมณฑล
รอบขอบเขตรขันธสีมา โดยนัยประกาศแก่เทพยเจ้าดุจพรรณนามาฉนี้
_________________
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 309
ประกาศ
เทวดาบูชาพระพุทธบาท
๏ ข้าแต่เทพยเจ้าท้ังหลาย หมายเปนอาทิคือเทพยดาผู้สิงสู่อยู่ประจ�ำรักษาซ่ึงพระพุทธบาท อัน
เปนประธานภพเพื่อสามารถแห่งความเจริญคุณประฏิบัติ ผดุงศรัทธานุสรณธรรมบ�ำรุงจิตรเลื่อมใส
ในพระพุทธศาสนาให้ปรากฏ ก�ำหนดเทพยโดยด�ำแหน่งเนาว์อภิบาลอยู่เนืองนิตย์ อิกเทพยพิทักษ์ทุกสถาน
ทิศแลมณฑล ต�ำบลประเทศเขตรรอบขอบนิคมคามขันธสีมา จบท่ัวพระราชอาณาจักร บรรดาเทพยสิงสถิตย์
ทุกส�ำนักพนัศพนมเนินอรัญราวไพร ภูมิพฤกษไศลสีขรขันธ์อรรชฎากาศ ทิพรัตนพิมานมาศทุกหมู่อมรสรรค์
ช้ันกามาพจรภพจบพรหมโลกตลอดพ้ืนสุธาวาศ จงเง่ียทิพยโสตรสดับค�ำประกาศประกอบในธรรมสุจริต
ด้วยบัดน้ีบรมบพิตรพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณธรรม
อันประเสริฐย่ิงอเนกมหันต์ เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ณ กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุทธ
ยา มหานครราชสถาน ทรงบริบาลบ�ำรุงรัฐสยามพิภพสืบสันตติพงษ์ สนององค์สมเด็จพระบรมชนกาธิราช
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเสด็จสวรรคตคืนสู่ทิพยโลก
โดยนิยมก�ำหนด บัดนี้พระบาทผู้เปนพระบรมเอกอรรคมหาราชปิเยารส เสด็จด�ำรงรับรัชทายาทเปนใหญ่
ในสยามภพ จบประเทศเขตรพระราชอาณาประวัติ ทรงพระกมลประสาทโสมนัศย่ิงด้วยพระราชศรัทธา
ตั้งพระไทยอุปถัมภกพุทธศาสนา และบ�ำรุงพระราชอาณาจักรเปนต้น ทรงพระเมตตาเผื่อแผ่แก่ชาวชน
ทุกชนิดชาติแลศาสนา มีสมณะพราหมณาเปนอาทิ และพระบาททรงพระด�ำริห์โดยพระราชปสันนาการ
มารพระบณั ฑรู สรุ สิงหนาทด�ำรสั เหนือเกลา้ ฯ โปรดใหข้ ้าพระพทุ ธเจา้ ราชบุรุษย์ ผพู้ นกั งานเชิญพุทธบรรณาการ
มาบูชาพระพุทธบาท ณ ครั้งนี้ อันเปนพุทธาธิคุณพลีโลกุตรประโยชน์ ขอเทพยทั้งหลายจงปราโมทย์ภิรมย์
รับส่วนกุศลซ่ึงทรงพระราชอุทิศ แล้วจงต้ังกมลมีไมตรีจิตรบ�ำรุงรักษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร
มหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ทรงพระเกษมศุขสมบูรณ์สบายพระราชหฤไทย ขอให้ทรงเจริญ
พระชนมายุยืนยง ด�ำรงราชมไหสวรรยาธิปัติพัฒนาการ อนึ่งขอเทพยเจ้าจงอภิบาลพระบรมราชวงษานุวงษ์
จงตลอดทั่วข้าทูลลอองธุลีพระบาทท้ังฝ่ายหน้าฝ่ายใน พร้อมทั้งไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน สิ้นทั้งสมณะชี
พราหมณาจารย์ ตลอดท่ัวทั้งสรรพพาหนะยานอเนกนิกรสัตวชาติ ให้พ้นไภยบ�ำราศสรรพพิบัติ อุปัทวทุกข์
ทุกประการ ด้วยอ�ำนาจพุทธาทิรัตนไตรยาธิคุณภิหาร แลอานุภาพเทพยบ�ำรุงรักษา ให้อยู่เย็นเปนอุดม
ศุขาผาสุกส้ินด้วยกัน ท้ังพระมหานครราชสถานมณฑลรอบขอบเขตรขันธสีมา โดยนัยประกาศแก่เทพยเจ้า
ดุจพรรณนามาฉะน้ี
_________________
310 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ประกาศ
เทวดาพระธาตุนครศรีธรรมราช
๏ ข้าแต่เทพยเจ้าทั้งหลาย มีอมรมหิทธินิกายประจ�ำรักษาซึ่งพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราชบูรพ์
สถิตย์ เปนประธานสถาวรประดิษฐอยู่ในภพโลกแหล่งนี้เปนต้น เปนท่ีเคารพเพ่ือผดุงผลเจริญคุณประฏิบัติ
ยังศรัทธานุสรณธรรมบ�ำรุงจิตรให้เล่ือมใส ในพระพุทธศาสนาให้ปรากฏ ก�ำหนดเทพยโดยด�ำแหน่งเนาว์
อภิบาลอยู่เนืองนิตย์ อิกเทพยพิทักษ์ทุกสถานทิศทั่วมณฑล ต�ำบลประเทศเขตรรอบขอบนิคมคามขันธสีมา
จบท่ัวพระราชอาณาจักร บรรดาเทพยสิงสถิตย์ทุกส�ำนักพนัศพนมเนินอรัญราวไพร ภูมิพฤกษไศลสีขรขันธ์
อรรชฎากาศ ทิพรัตนพิมานมาศทุกหมู่อมรสรรค์ ช้ันกามาพจรภพจบพรหมโลกตลอดพื้นสุธาวาศ จงเงี่ย
ทิพยโสตรสดับค�ำประกาศประกอบในธรรมสุจริต ด้วยบัดน้ีบรมบพิตรพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร
มหาวชริ าวธุ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ผทู้ รงพระคณุ ธรรมอนั ประเสรฐิ ยง่ิ อเนกมหนั ต์ เสดจ็ เถลงิ ถวลั ยราชสมบตั ิ
ณ กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุทธยา มหานครราชสถาน ทรงบริบาลบ�ำรุงรัฐสยาม พิภพ
สืบสันตติพงษ์ สนององค์สมเด็จพระบรมชนกาธิราช พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซ่ึงเสด็จสวรรคตคืนสู่ทิพยโลกโดยนิยมก�ำหนด บัดน้ีพระบาทผู้เปนพระบรม
เอกอรรคมหาราชปิเยารส เสด็จด�ำรงรับรัชทายาทเปนใหญ่ในสยามภพ จบประเทศเขตรพระราชอาณา
ประวัติ ทรงพระกมลประสาทโสมนัศยิ่งด้วยพระราชศรัทธา ตั้งพระไทยอุปถัมภกพุทธศาสนา แลบ�ำรุง
ราชอาณาจักรเปนต้น ทรงพระเมตตาเผ่ือแผ่แก่ชาวชนทุกชนิดชาติแลศาสนา มีสมณะพราหมณาเปนอาทิ
แลพระบาททรงพระด�ำริห์โดยพระราชปสันนาการ มารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทด�ำรัสเหนือเกล้าฯ โปรด
ให้ข้าพระพุทธเจ้าราชบุรุษผู้พนักงาน เชิญพุทธบรรณาการมาบูชา ซ่ึงพระบรมธาตุ อันประดิษฐานเนาว์
ในนครศรีธรรมราช ณ ครั้งนี้ เปนพุทธาธิคุณพลีโลกุตรประโยชน์ ขอเทพยทั้งหลายจงปราโมทย์ภิรมย์รับ
ส่วนกุศลซึ่งทรงพระราชอุทิศ แล้วจงต้ังกมลมีไมตรีจิตรบ�ำรุงรักษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ทรงพระเกษมศุขสมบูรณ์สบายพระราชหฤไทย ขอให้ทรงเจริญพระชนมายุ
ยืนยง ด�ำรงราชมไหสวรรยาธิปัติพัฒนาการ อนึ่งขอเทพยเจ้าจงอภิบาลพระบรมราชวงษานุวงษ์ จงตลอดทั่ว
ข้าทูลลอองธุลีพระบาททั้งฝ่ายหน้าฝ่ายใน พร้อมทั้งไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ส้ินทั้งสมณะชีพราหมณาจารย์
ตลอดท่ัวท้ังสรรพพาหนะยานอเนกนิกรสัตวชาติ ให้พ้นไภยบาราศสรรพพิบัติอุปัทวทุกข์ทุกประการ
ด้วยอ�ำนาจพุทธาทิรัตนไตรยาธิคุณภินิหาร แลอานุภาพเทพยบ�ำรุงรักษา ให้อยู่เย็นเปนอุดมศุขาผาสุก
สิ้นด้วยกัน ทั้งพระมหานครราชสถานมณฑลรอบขอบเขตรขันธสีมา โดยนัยประกาศแก่เทพยเจ้าดุจพรรณ
นามาฉน้ี
_________________
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 311
ประกาศ
เทวดาพระธาตุหริภุญไชย
๏ ข้าแต่เทพยเจ้าทั้งผอง มีอมรมเหศรมหิทธิจ�ำนองเนาว์ประจ�ำพิทักษ์ รักษาซ่ึงพระบรมธาตุ
หริภุญไชย อันเปนประธานภพสถิตยถาวรในสถานโลกแหล่งน้ีเปนต้น เปนที่ยังประโยชน์โลกุตรผลผดุง
ความเจริญคุณปฏิบัติ เพ่ิมศรัทธานุสรณธรรมบ�ำรุงจิตรให้เล่ือมใส ในพุทธศาสนะไกรให้ปรากฏ ก�ำหนด
เทพยโดยด�ำแหน่งเนาว์อภิบาลอยู่เนืองนิตย์ อิกเทพยพิทักษ์ทุกสถานทิศแลมณฑลประเทศ เขตรรอบขอบ
นิคมคามขันธสีมาจบทั่วพระราชอาณาจักร บรรดาเทพยสิงสถิตย์ทุกส�ำนักพนัศพนมเนินอรัญราวไพร ภูมิ
พฤกษไศลสิขรขันธอรรชฎากาศ ทิพรัตนพิมานมาศทุกหมู่อมรสรรค์ ชั้นกามาพจรภพจบพรหมโลกตลอดพื้น
สุธาวาศ จงเง่ียทิพยโสตรสดับค�ำประกาศประกอบในธรรมสุจริต ด้วยบัดนี้บรมบพิตรพระบาทสมเด็จ
พระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณธรรมอันประเสริฐยิ่งอเนกมหันต์ เสด็จเถลิง
ถวลั ยราชสมบตั ิ ณ กรงุ เทพมหานคร อมรรตั นโกสนิ ทร์ มหนิ ทรายทุ ธยา มหานครราชสถาน ทรงบรบิ าลบำ� รงุ รฐั
สยามพิภพสืบสันตติพงษ์ สนององค์สมเด็จพระบรมชนกาธิราช พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเสด็จสวรรคตคืนสู่ทิพยโลกโดยนิยมก�ำหนด บัดน้ีพระบาทผู้เปนพระบรม
เอกอรรคมหาราชปิเยารส เสด็จด�ำรงรับรัชทายาทเปนใหญ่ในสยามภพ จบประเทศเขตรพระราชอาณา
ประวัติ ทรงพระกมลประสาทโสมนัศย่ิงด้วยพระราชศรัทธา ตั้งพระไทยอุปถัมภกพุทธศาสนา แลบ�ำรุง
พระราชอาณาจักรเปนต้น ทรงพระเมตตาเผื่อแผ่แก่ชาวชนทุกชนิดชาติศาสนา มีสมณะพราหมณาเปนอาทิ
แลพระบาททรงพระด�ำริห์โดยพระราชปสันนาการ มารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทด�ำรัสเหนือเกล้าฯ โปรดให้
ข้าพระพุทธเจ้าราชบุรุษผู้พนักงาน เชิญพุทธบรรณาการมาบูชาซึ่งพระบรมธาตุหริภุญไชยในคร้ังน้ี อันเปน
พทุ ธาธิคณุ พลีโลกตุ รประโยชน์ ขอเทพยทง้ั หลายจงปราโมทย์ภิรมยร์ ับ สว่ นกุศลซ่งึ พระราชอทุ ศิ แลว้ จงตั้งกมล
มีไมตรีจิตรบ�ำรุงรักษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ทรงพระเกษม
ศุขสมบูรณ์สบายพระราชหฤไทย ขอให้ทรงเจริญพระชนมายุยืนยง ด�ำรงราชมไหสวรรยาธิปัติพัฒนาการ อนึ่ง
ขอเทพยเจ้าจงอภิบาลพระบรมราชวงษานุวงษ์ จงตลอดท่ัวข้าทูลลอองธุลีพระบาทฝ่ายน่าฝ่ายใน พร้อมทั้ง
ไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน ส้ินทั้งสมณะชีพราหมณาจารย์ ตลอดทั่วท้ังสรรพพาหนะยานอเนกนิกรสัตวชาติ ให้พ้น
ไภยบ�ำราศสรรพพิบัติอุปัทวทุกข์ทุกประการ ด้วยอ�ำนาจพุทธาทิรัตนไตรยาธิคุณภินิหาร แลอานุภาพเทพย
บ�ำรุงรักษา ให้อยู่เย็นเปนบรมศุขาผาสุกส้ินด้วยกัน ท้ังพระมหานครราชสถานมณฑลรอบขอบเขตขันธสีมา
โดยนัยประกาศแก่เทพยเจ้าดุจพรรณนามาฉนี้ ฯ
_________________
312 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ประกาศ
เทวดาพระธาตุพนม
๏ ข้าแต่เทพยเจ้าท้ังหลาย อ้างออกอมรนิกายสุรารักษ์ศักดิ์สิทธ์ิ มีมหิทธิเทพยผู้ประจ�ำพิทักษ์ รักษา
ซึ่งพระธาตุพนม นิยมสถานเสถียรสถาวรสถิตย์ เปนประธานภพประดิษฐ์เนาว์ในโลกแหล่งน้ีเปนต้น
เปนท่ีทักขิไณยเคารพแห่งเทวมนุษย์ชนเฉลิมสิ่งเจริญคุณปฏิบัติ เพ่ือศรัทธานุสรณธรรมปรมัตถ์บ�ำรุงจิตร
ให้เลื่อมใส ในพุทธาทิรัตนไตรยให้ปรากฏ ก�ำหนดอมรด�ำแหน่งเนาว์อภิบาลอยู่เนืองนิตย์ อิกเทพยพิทักษ์
ทุกสถานทิศท่ัวมณฑล ด�ำบลประเทศเขตรรอบขอบนิคมคามขันธสีมา จบทั่วพระราชอาณาจักร บรรดา
เทพยสิงสถิตย์ทุกส�ำนักพนัศพนมเนินอรัญราวไพร ภูมิพฤกษไศลสีขรขันธ์อรรชฎากาศ ทิพรัตนพิมานมาศทุก
หมู่อมรสรรค์ ช้ันกามาพจรภพจบพรหมโลกตลอดพื้นสุธาวาศ จงเงี่ยทิพยโสตรสดับค�ำประกาศประกอบใน
ธรรมสุจริต ด้วยบัดนี้บรมบพิตรพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรง
พระคุณธรรมอันประเสริฐยิ่งอเนกมหันต์ เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ณ กรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์
มหินทรายุทธยา มหานครราชสถาน ทรงบริบาลบ�ำรุงรัฐสยามพิภพสืบสันตติพงษ์ สนององค์สมเด็จพระบรม
ชนกาธิราช พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งเสด็จสวรรคตคืนสู่
ทิพยโลกโดยนิยมก�ำหนด บัดนี้พระบาทผู้เปนพระบรมเอกอรรคมหาราชปิเยารส เสด็จด�ำรงรับรัชทายาท
เปนใหญ่ในสยามภพ จบประเทศเขตรพระราชอาณาประวัติ ทรงพระกมลประสาทโสมนัศยิ่งด้วยพระราช
ศรัทธา ตั้งพระไทยอุปถัมภกพุทธศาสนาแลบ�ำรุงพระราชอาณาจักรเปนต้น ทรงพระเมตตาเผื่อแผ่แก่
ชาวชนทุกชนิดชาติแลศาสนา มีสมณะพราหมณาเปนอาทิ และพระบาททรงพระด�ำริห์โดยพระราชปสันนาการ
มารพระบัณฑูรสุรสิงหนาทด�ำรัสเหนือเกล้าฯ โปรดให้ข้าพระพุทธเจ้าราชบุรุษผู้พนักงาน เชิญพุทธบรรณาการ
มาบูชาซึ่งพระบรมธาตุพนม ณ คร้ังน้ี อันเปนพุทธาธิคุณพลีโลกุตรประโยชน์ ขอเทพยท้ังหลายจงปราโมทย์
ภิรมย์รับ ส่วนกุศลซ่ึงพระราชอุทิศ แล้วจงตั้งกมลมีไมตรีจิตรบ�ำรุงรักษา ซ่ึงพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร
มหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้ทรงพระเกษมศุขสมบูรณ์สบายพระราชหฤไทย ขอให้ทรงเจริญพระ
ชนมายุยืนยง ด�ำรงราชมไหสวรรยาธิปัติพัฒนาการ อน่ึงขอเทพยเจ้าจงอภิบาลพระบรมราชวงษานุวงษ์ จง
ตลอดทั่วข้าทูลลอองธุลีพระบาทท้ังฝ่ายน่าฝ่ายใน พร้อมท้ังไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน สิ้นท้ังสมณะชีพราหมณาจารย์
ตลอดทั่วทั้งสรรพพาหนะยานอเนกนิกรสัตวชาติ ให้พ้นไภยบ�ำราศสรรพพิบัติอุปัทวทุกข์ทุกประการ ด้วย
อ�ำนาจพุทธาทิรัตนไตรยาธิคุณภินิหาร แลอานุภาพเทพยบ�ำรุงรักษา ให้อยู่เย็นเปนอุดมศุขาผาสุกสิ้นด้วยกัน
ทั้งพระมหานครราชสถานมณฑลรอบขอบเขตขันธสีมา โดยนัยประกาศแก่เทพยเจ้าดุจพรรณนามาฉนี้ ฯ
_________________
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 313
ประกาศเทวดา
เริ่มปริภาวนพิธี ท�ำน�้ำพระกระยาสนาน สรงในงานพระราชพิธี
บรมราชาภิเศกสมโภช สมเด็จกรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงแต่ง
๏ สุณัน์ตุ ทิพ์พโสเตน อัม�หํ อุค์โฆสนํ อิมํ
สมัน์ตา จัก์กวาเฬสุ ยัต์ถกัต์ถจิ สัณ์ฐิตา
สัพ์เพ มหิท์ธิกา เทวา ภุม์มา จ สัค์ควาสิโน
ยัก์ขคัน์ธัพ์พกุม์ภัณ์ฑ นาคาทิกายิกาปิ จ
เมต์ตจิต์ตา มนุส์เสสุ กิจ์จากิจ์เจสุ สาทรา
สุวัต์ถิสาธนัต์ถาย อายัน์ตุ วิธิมัณ์ฑเล ฯ
๏ ดูกรหมู่เทพยอมร แต่บันดามีในสมันตจักรวาฬ ผู้สถิตย์ ณ สถานนั้นๆ นับเปนชั้นภุมเทวดา เนาว์อยู่
ในพสุธาพฤกษอรัญบรรพต แลคามชนบทนครราชธานี ท้ังเทพยที่สิง ณ ทวีปน้อยใหญ่ แลอากาสัฏฐะเนาว์ใน
สวรรค์ช้ันกามาพจรแลพรหมภพ ทั้งทานพคนธรรพ์กุมภัณฑ์นาคทั้งปวง ผู้มีฤทธ์ิใหญ่หลวง มีทิพยจักษุทิพย
โศตรอันประเสริฐ ขอเทพยอันล้�ำเลิศท่ีกล่าวถึง จงสดับซ่ึงค�ำประกาศของอาตมะน้ี ด้วยทิพยโศตรประสาท
๏ ด้วยบัดน้ีพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ เอกอรรคมหาบุรุษบรมนราธิราช พินิตประชา
นารถมหาสมมตวงศ์อติสัยพงศ์วิมลรัตน์ วรขัตติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหาจักรพรรดิราชสังกาศ อุภโต
สุชาตสังสุทธเคราะหณี จักรีบรมนารถ จุฬาลงกรณราชวรางกูร บรมมกุฎนเรนทร์สูรสันตติวงศ์วิสิฐ สุสาธิต
บุรพาธิการ อดุลยกฤษฎาภินิหารอติเรกบุญฤทธิ ธัญลักษณวิจิตรโสภาคยสรรพางค์ มหาชโนตตะมางคประณต
บาทบงกชยุคลประสิทธิสรรพศุภผลอุดมบรมสุขุมาลย์ ทิพยเทพาวตาร ไพศาลเกียรติคุณอดุลยพิเศษ สรรพ
เทเวศรานุรักษ์ บุริมศักดิสมญาเทพทวาราวดี ศรีมหาบุรุษสุตสมบัติ เสนางคนิกรรัตน์อัศวโกศล ประพนธปรีชา
มัทวสมาจาร บริบูรณ์คุณสารสยามาทินนครวรุตเมกราชดิลก มหาปริวารนายกอนันต์ มหันตวรฤทธิเดชสรรพ
วิเศษศิรินธร บรมชนกาดิศรสมมติประสิทธิวรยศมโหดมบรมราชสมบัติ นพปฎลเสวตรฉัตราดิฉัตรศิริรัตโน
ปลักษณมหาบรมราชาภิเศกาภิสิต สรรพทศทิศวิชิตไชย สกลมไหศวริยมหาสวามินทร์ มเหศวรมหินทรมหา
รามาธิราชวโรดม บรมนารถชาติอาชาวไศรยพุทธาทิไตรรัตนสรณารักษ์ อดุลย์ศักด์ิอรรคนเรศรามาธิบดี เมตตา
กรุณาสีตลหฤไทย อโนปไมยบุญการ สกลไพศาลมหารัษฎาธิเบนทร์ ปรเมนทรธรรมิกมหาราชาธิราช บรม
นารถบพติ รพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ไดเ้ สดจ็ เถลงิ ถวลั ยราชสมบตั ดิ ำ� รงสยามราชอาณาจกั ร ฉลองพระองคส์ มเดจ็
พระบรมชนกาธิราช สืบสุริยสันตติวงศ์ แลได้ทรงรับพระบรมราชาภิเศก ตามราชประเพณีอันมีสืบมา ฯ
ในกาลนี้ พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ จะตั้งพระราชพิธีบรมราชาภิเศกสมโภช เพื่อเจริญศรีสวัสดิ์แด่รัชกาล
แลมณฑล (ออกช่ือมณฑล) นี้ จะได้ถวายน้�ำพระกระยาสนานในงานพระราชพิธีนั้นจึงพระสงฆ์แลข้าราชการ
ตลอดถึงทวยราษฎร์ พร้อมกันเริ่มต้ังปริภาวนพิธีเศกน้�ำพระปริตรเปนกิจเบื้องต้นไว้ในวันนี้
314 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
๏ ขอเชิญเทพยนิกรผู้มีจิตต์เมตตาในหมู่มนุษย์ คอยอารีอุดหนุนในกิจน้อยใหญ่ทุกประการ จงมาเปน
สหาย ณ สันนิบาตสถานท่ีต้ังมงคลพิธีนี้ เพ่ือช่วยประสิทธิ์สวัสด์ิในน้�ำพระพุทธมนต์ด้วยเทวฤทธ์ิ ฯ อนึ่งขอหมู่
อมรผู้ศักดิ์สิทธ์ิ ตั้งต้นแต่เทพยดาเจ้าผู้เนาว์ ณ (ออกชื่อสถานที่ท�ำการพิธี) เจดีย์สถานน้ี แลเทพยดาผู้สถิตย์ใน
บุรีทุกต�ำบล จงมีกมลปราโมทย์ รับพลีท้ังสองประการ คือ อามิสพลีมีต้นว่าโภชนาหารแลสักการะภัณฑ์ ธรรม
พลี คือ กุศลขันธ์ซ่ึงจะได้บ�ำเพ็ญในงานน้ี แลจงมีไมตรีจิตต์ อภิบาลสมเด็จบรมนารถบพิตร พระมงกุฎเกล้าเจ้า
สยาม ปรากฏไปนานาประเทศทุกเขตร์ขันธ์รัชสิมา ปราศจากสรรพภัยพยาธิทุกข์เสวยไอศวรรยศุขทีฆายุศม
ชนมสวัสด์ิ ตลอดถึงพระองค์สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนี แลพระราชวงษา
นุวงษ์มนตรีมุขเสนามาตย์ราชบรพิ าร สมณพราหมณาจารยป์ ระชาชนนิกรทง้ั ในกรุงเทพมหานคร ท้ังในหวั เมอื ง
มณฑลช้ันในชั้นนอกทุกจังหวัดท่ัวรัชสีมาอาณาเขตร์ ฯ อนึ่งขอจงบันดาลไพรัชประเทศให้เปนสัมพันธมิตร
สนิทสนม น้อมน�ำประโยชน์มาสู่พระนครให้สมบูรณ์ภูลสวัสด์ิ ยังหมู่เสนาให้มีมนัสร่วมสามัคคีธรรมเปน
น้�ำหน่ึงใจเดียวกัน ม่ันคงในความสวามิภักด์ิ เปนก�ำลังรักษารัชสิมาให้ราบคาบ มีสุรภาพเหี้ยมหาญพอจะต่อ
ยุทธชิงชัยจากศัตรู เมื่อถึงเวลาจะเข้าสู้สงครามไม่ขามขยาด ยังหมู่มาตย์ให้พรักพร้อมสมานะฉันท์ ช่วยกัน
ปฏิบัติราชกิจ ด้วยความสัตยสุจริตกตัญญู เปนก�ำลังค้�ำชูพระราชอาณาจักรให้เจริญมั่น ยังสรรพอุปัทวะอย่า
ให้เกิดมีแก่ประชาชน ยังฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล เกื้อกูลแก่สรรพธัญญาหารพืชผลพฤกษาลดาชาติ ยังเหล่า
สัตว์จตุบททวิบาทให้ปราศจากภยันตราย เกิดสืบพืชพันธุเจริญแพร่หลาย เปนอุปการแก่มนุษย์นิกร ยังพระ
มหานครให้สมบูรณโดยโภคสมบัติไหลหลั่งถั่งมาท่ัวทิศานุทิศ ขอจงประสิทธิศุภมนุญผล โดยนัยประกาศอัน
อาตมะพรรณามาฉนี้ ฯ
_________________
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 315
พิธีท�ำน้�ำพระกระยาสนาน
ท่ีจะสรงในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเศก
๏ วันท่ี ๘ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๓๐ (พ.ศ. ๒๔๕๔) ก�ำหนดเริ่มต้นพิธีท�ำน�้ำพระกระยาสนาน ที่มหาเจดีย์
สถานในพระราชอาณาจักรทั้ง ๗ แห่ง คือ
(๑) ท่ีพระพุทธบาทในมณฑลกรุงเก่า อันเปนมหาเจดีย์สถานสถิตย์ในมณฑลประเทศท่ีตั้งพระนครละโว้
แลกรุงศรีอยุทธยามหานครอันเคยเปนโบราณราชธานีด้วยกันแห่ง ๑
(๒) ในพระวิหารพระพุทธชินราช ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ เมืองพระพิศณุโลก อันเปนมหาเจดีย์สถาน
อยู่ในโบราณราชธานีฝ่ายเหนือแห่ง ๑
(๓) ท่ีวัดพระมหาธาตุเมืองสวรรคโลก อันเปนมหาเจดีย์สถานในโบราณราชธานีคร้ังสมเด็จพระร่วง
เจ้าแห่ง ๑
(๔) ท่ีพระประฐมเจดีย์เมืองนครไชยศรี อันเปนโบราณมหาเจดีย์ในประเทศที่ตั้งพระนครศรีวิไชย
ราชธานีแห่ง ๑
(๕) ท่ีวัดพระมหาธาตุเมืองนครศรีธรรมราช อันเปนมหาเจดีย์สถานอยู่ในโบราณราชธานีศรีธรรมราช
แห่ง ๑
(๖) ทวี่ ดั พระธาตหุ รภิ ญุ ไชยเมอื งนครล�ำพูน ในมณฑลพายพั อันเปนมหาเจดียส์ ถาน ในแวน่ แควน้ โบราณ
ราชธานีท้ังหลายฝ่ายเหนือ คือ นครหริภุญไชย นครเชียงใหม่ นครเชียงแสน นครเชียงราย แลนครพเยาแห่ง ๑
(๗) ท่ีพระธาตุพนมเมืองนครพนมในมณฑลอุดร อันเปนมหาเจดีย์สถานอยู่ในประเทศท่ีต้ังโบราณ
ราชธานีโคตรบูรณ์หลวงแห่ง ๑
๏ พธิ ที ำ� นำ้� พระกระยาสนานนนั้ เทศาภบิ าลจะไดจ้ ดั ใหร้ าชบรุ ษุ ไปพลกี รรมตกั นำ�้ ทเ่ี ปนศริ มิ งคลในมณฑล
นั้นๆ คือ น�้ำ ณ สถานท่ีศักดิ์สิทธ์ิ แลน้�ำในประเทศท่ีเคยได้ใช้เปนน้�ำสรงมุรธาภิเศกของอดีตมหาราช
แต่ก่อนมาทุกๆ แห่ง มารวมลงหม้อเตรียมไว้ให้พร้อมแต่ก่อนวันงาน
วันที่ ๘ พฤศจิกายน
เวลาเช้า พระสงฆ์ท่ีจะท�ำการพิธีรวม ๒๕ รูป มีสังฆนายกในมณฑลนั้นเปนประธาน กับข้าราชการ
ทงั้ ฝา่ ยทหารพลเรอื น มขี า้ หลวงสำ� เรจ็ ราชการมณฑล เปนหวั หนา้ ประชมุ พรอ้ มกนั ณะ พธิ สี ถาน เวลาเชา้ โมงครงึ่
สังฆนายกจะได้ประกาศเทวดา แลเวลา ๒ โมงเช้าสังฆนายกจุดเทียนไชยเริ่มการพิธีแล้ว ข้าราชการจัดอาหาร
บิณฑบาตเลี้ยงพระสงฆ์ท่ีท�ำพิธีเลี้ยงพระแล้ว พระพิธีธรรมข้ึนเตียงสวดภาณวารตลอด ๓ วัน ๓ คืน เวลา
บ่าย ๔ โมง พระสงฆ์แลข้าราชการประชุมพร้อมกัน พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เปนวันต้นในการพระราชพิธี
316 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
วันที่ ๙ ท่ี ๑๐ พฤศจิกายน
เวลาเช้าข้าราชการประชุมพร้อมกันเล้ียงพระ แลในเวลาบ่ายมีสวดมนต์เย็นเหมือนกับวันที่ ๘
วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน
เวลาเช้าข้าราชการประชุมพร้อมกัน เลี้ยงพระเหมือนวันก่อน เม่ือเสร็จเลี้ยงพระ แลเวลาท่ีได้ท�ำพิธี
ครบ ๓ วัน ๓ คืนแล้ว สังฆนายกดับเทียนไชย แลพระสงฆ์สวดอนุโมทนาประสิทธิพระพรแล้ว สังฆนายกจะ
ได้มอบหม้อน�้ำพระกระยาสนาน แก่ข้าหลวงเทศาภิบาล ข้าราชการจะได้ตั้งบายศรีเวียนเทียนสมโภชน�้ำพระ
กระยาสนานแล้ว ข้าหลวงเทศาภิบาลจะได้แต่งให้ข้าราชการเชิญน้�ำเข้ามาส่งยังกรุงเทพฯ ให้ถึงภายในเดือน
พฤศจิกายน
๏ ในการพิธีท�ำน�้ำพระกระยาสนานน้ี ข้าราชการฝ่ายทหารพลเรือนแต่งเต็มยศขาวไปประชุมท่ีพิธีสถาน
เวลาเลี้ยงพระแลสวดมนต์เย็นทุกวัน แลมีเจ้าพนักงานผลัดเปลี่ยนกันอยู่ประจ�ำพิธีสถานที่ปฏิบัติพระสงฆ์เล้ียง
อาหารเช้าเพล แลถวายเภสัชจนตลอดการพิธี
วันที่ ๑๕ พฤศจิกายน
มณฑลอ่ืนนอกจากมณฑลที่มีมหาเจดีย์สถานท้ัง ๗ แห่ง ที่กล่าวมาแล้ว เริ่มต้นท�ำพิธีน�้ำพระกระยา
สนาน ก�ำหนดจุดเทียนไชยเริ่มการพิธี ในวันที่ ๑๕ พฤศจิกายนเวลาเช้า ดับเทียนไชยวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน
มณฑลนครสวรรค์ ท�ำท่ีวัดพระบรมธาตุ เมืองไชยนาท
มณฑลเพชรบูรณ์ ท�ำที่วัดพระมหาธาตุ เมืองเพชรบูรณ
มณฑลนครราชสีมา ท�ำที่วัดกลาง เมืองนครราชสีมา
มณฑลอิสาณ ท�ำท่ีวัดสีทอง เมืองอุบลราชธานี
มณฑลปราจิณ ท�ำท่ีวัดยโสธร เมืองฉเชิงเทรา
มณฑลจันทบุรี ท�ำที่วัดพลับ เมืองจันทบุรี
มณฑลปัตตานี ท�ำท่ีวัดตานีนรสโมสร เมืองตานี
มณฑลภูเก็จ ท�ำที่วัดพระทอง เมืองถลาง
มณฑลชุมพร ท�ำที่วัดพระมหาธาตุ เมืองไชยา
มณฑลราชบุรี ท�ำที่วัดพระมหาธาตุ เมืองเพชรบุรี
ระเบียบการพิธีเหมือนกับท่ีมหาเจดีย์สถานท้ัง ๗ แห่งน้ันทุกอย่าง ผิดกันแต่ก�ำหนดวันท่ีท�ำการพิธี ฯ
_________________
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 317
ค�ำประกาศเทวดา
ในงารพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภช
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาวชิรญาณวโรรสทรงนิพนธ์
๏ สรัช์ชํ สเสนํ สพัน์ธํุ นริน์ทํ ปริต์ตานุภาโว สทา รัก์ขตูติ ผริต�วาน เมต์ตํ สเมต์ตา ภทัน์ตา อวิก์ขิต์ต
จิต์ตา ปริต์ตํ ภณัน์ตุ ฯ
๏ ภทัน์ตา ข้าแต่พระผู้เปนเจ้าท้ังหลาย นิมนต์พระผู้เปนเจ้า ส�ำรวมจิตต์อย่าให้ส่ายตามอารมณ์
จงกอบด้วยเมตตาพรหมวิหารแผ่ไปในพระบรมราชวงศ์ แล้วจงสวดพระปริต อธิษฐานจิตต์ว่า ขออานุภาพ
พระปรติ น้ี จงคมุ้ ครองปอ้ งกนั รกั ษาสมเดจ็ บรมนรนิ ทราธบิ ดเี อกกระษตั รยิ ์ กบั ทง้ั ราชมไหศวรรยสมบตั ิ พระราช
วงศานุวงศ์ เสนามาตย์ราชเสวกท้ังปวง ให้ล่วงสรรพอุปัทวทุกข์ เจริญศุขศิริสวัสดิ์ เปนนิรันดร เทอญ ฯ
๏ สัค์เค กาเม จ รูเป คิริสิขรตเฏ จัน์ตลิก์เข วิมาเน
ทีเป รัฏ์เฐ จ คาเม ตรุวนคหเน เคหวัต์ถุม�หิ เขต์เต
ภุม์มา จายัน์ตุ เทวา ชลถลวิสเม ยัก์ขคัน์ธัพ์พนาคา
ติฏ์ฐัน์ตา สัน์ติเก ยํ มุนิวรวจนํ สาธโว เม สุณัน์ตุ ฯ
๏ โภน์โต เทวสังฆา ดูกรหมู่เทพยอมรแต่บันดามีในสมันตจักรวาฬ ผู้สถิตย์ ณะ สถานน้ันๆ คือเทพยเจ้า
ชาวสวรรค์ชั้นฉกามาพจร มีต้นว่าองค์อมรผู้เปนใหญ่ในภพจาตุมหาราช ตั้งอยู่ด้วยสามารถมีเมตตา อภิบาล
รักษาโลกท้ังสี่ทิศ มีนามประกาศิต ท้าวธตรฐ ท้าววิรุฬหก ท้าววิรูปักษ์ ท้าวกุเวรราช อิกองค์สมเดจวัชรินทร์
ผู้ทรงมหิทธิอ�ำนาจ จอมเทวดาดาวดึงศ์สวรรค์ แลเทพยทั้งหลายผู้เนาวในชั้นโสฬศพรหมภพ อิกเทพยดานพ
เคราะห์ ทวาทศราศสี ปั ตพศิ นกั ษัตรดารา แตบ่ ันดาอภริ มย์ในอากาศพิมาน แลทวยเทพยสถติ ย์ ณะ ภมู ิสถานครี ี
ศิขรโกรกผา อีกเนาวในไพรพฤกษ์ป่าระหงดงชัฏ ณะ จังหวัดเกาะน้อยใหญ่ ในคามเกษตรเคหวัตถุสถาน อิกท้ัง
เทพยเจ้าผู้อภิบาลรัฐมณฑลพระมหานครราชธานี มีอาทิคือ พระสยามเทวาธิราช พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง
พระกาฬอันเรืองฤทธิ์ แลเทพยสถิตย์รักษาพระบรมมหาราชวัง พระที่น่ังเสวตรฉัตรมณฑิรรัตนมหาปราสาท
มหาเจดีย์ กับท้ังคนธรรพ์กุมภัณฑ์นาคยักษ์ผู้มีฤทธ์ิ สถิตย์ในลุ่มดอนบกน�้ำทุกต�ำบล ขอบันดาสุรนิกรผู้มีกมล
เมตตาในหมู่มนุษย์ คอยอารีอุดหนุนในกิจจานุกิจทุกประการ จงมาสโมสร ณะ มหาสันนิบาตสถานท่ีตั้งมงคล
ราชพิธี เฉพาะพระพักตร์พระมหามณีรัตนปฏิมา พร้อมด้วยพระราชาคณะสงฆ์ จงมีอัธยาศัยเปนสาธุสัตบุรุษ
ต้ังโศรตประสาทสดับรับรสพระสัทธรรมพุทโธวาทศาสนกถา ฯ
๏ อน่ึงขอหมู่เทพดาอันศักดิ์สิทธิ์ จงมีจิตรปราโมทย์รับราชพลีท้ังสองประการ คืออามิษพลี มีต้นว่าธูป
เทียนสุคนธบุบผชาติโภชนาหารอันเอมโอช ท่ีโปรดให้จัดสรรเปนเคร่ืองสักการพิธี แลธรรมพลี คือพระราช
กุศลที่ทรงบ�ำเพ็ญในงารบรมราชาภิเษกสมโภช ณะ คร้ังนี้ เปนต้นว่าทรงบูชาพระศรีรัตนไตรย ทรงบริจาค
ไทยธรรมไตรจีวรพัสตร์ ชัชชโภชาหารแลสมณปริขารอันประณีตแก่พระภิกษุสงฆ์ แล้วทรงอุทิศแก่เทพยทั้ง
ปวงเปนธรรมบรรณาการ แล้วจงมีไมตรีจิตรสถิตย์เปนสักขีพยาน ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมโภชน้ี ฯ
318 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
๏ ด้วยสมเดจภูบดีสยามประชานารถ พระบาทสมเดจพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ เอกอรรคมหาบุรุษ
บรมนราธิราช พินิตประชานารถมหาสมมตวงศ์ อติศัยพงษ์วิมลรัตน์ วรขัติยราชนิกโรดม จาตุรันตบรมมหา
จักรพรรดริ าชสังกาศ อภุ โตสชุ าตสิ ังสุทธเคราะหณี จักรบี รมนารถ จุฬาลงกรณราชวรางกูร บรมมกุฏนเรนทรส์ ูร
สันตติวงศ์วิสิฐ สุสาธิตบุรพาธิการ อดุลยกฤษฎาภินิหารอติเรกบุญฤทธิ์ ธัญลักษณวิจิตรโสภาคยสรรพางค์
มหาชโนตตมางคประณต บาทบงกชยุคล ประสิทธิสรรพศุภผลอุดมบรมสุขุมาลย์ ทิพยเทพาวตารไพศาล
เกียรติคุณอดุลยพิเศษ สรรพเทเวศรานุรักษ์ บุริมศักดิสมญาเทพทวาราวดี ศรีมหาบุรุษสุตสมบัติ เสนางคนิกร
รัตน์อัศวโกศล ประพนธปรีชามัทวสมาจาร บริบูรณ์คุณสารสยามาทินคร วรุตเมกราชดิลก มหาปริวารนายก
อนันต์ มหันตวรฤทธิเดช สรรพวิเศษสิรินธร บรมชนกาดิศรสมมต ประสิทธิวรยศมโหดมบรมราชสมบัติ นพ
ปดลเสวตรฉัตราดิฉัตร สิริรัตโนปลักษณมหาบรมราชาภิเสกาภิสิต สรรพทศทิศวิชิตไชย สกลมไหศวริยมหา
สวามินทร์ มเหศวรมหินทรมหารามาธิราชวโรดม บรมนารถชาติอาชาวไศรย พุทธาทิไตรรัตนสรณารักษ์ อดุลย
ศักด์ิอรรคนเรศรามาธิบดี เมตตากรุณาสีตลหฤไทย อโนปไมยบุญการ สกลไพศาลมหารัษฎาธิเบนทร์ ปรเมนทร
ธรรมิกมหาราชาธิราช บรมนารถบพิตร พระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ด�ำรงสยาม
ราชอาณาจักร ฉลองพระองค์สมเดจพระบรมชนกาธิราช สืบสุริยสันตติวงศ์ ได้ทรงรับบรมราชาภิเษกเฉลิม
พระปรมาภิไธย ตามราชประเพณีอันมีสืบมา ฯ ในกาลนี้ มีพระราชประสงค์ต้องกับความจ�ำนงของพระบรม
วงศ์เสนาบดีมนตรีมุขสมณพราหมณาจารย์ จะให้เจริญศรีสวัสด์ิแก่รัชกาลปัตยุบันนี้ จึงทรงเร่ิมต้ังพระราชพิธี
บรมราชาภิเษกสมโภชอิกวาระหน่ึง ร่วมกับงานสมโภชพระมหามณีรัตนปฏิมาแลพระมหานคร ฯ
๏ ขอเทพยนิกรทุกเหล่า จงตั้งเมตตาจิตต์ ช่วยคุ้มกันรักษาสมเดจบรมนารถบพิตร พระมงกุฏเกล้า
เจ้าสยาม ให้ทรงพระเจริญในสิริราชสมบัติ ชัชวาลด้วยพระราชวรฤทธิ์พระราชอิศริยยศ ปรากฏไปนานา
ประเทศทุกเขตต์ขันธรัชสิมา ปราศจากสรรพภัยพยาธิทุกข์ เสวยไอสวรรยสุขทีฆายุศมชนมสวัสดิ์ ตลอดถึง
พระองค์สมเดจพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนารถ พระบรมราชชนนี แลพระราชวงศานุวงศ์เสนาบดีมนตรีมุข
เสนามาตย์ราชบริพาร สมณพราหมณาจารย์ประชานิกร ทั้งในกรุงเทพมหานคร ทั้งในหัวเมืองในนครมณฑล
ช้ันในชั้นนอกทุกจังหวัดท่ัวรัชสิมาอาณาเขตต์ ฯ อน่ึงขอจงบันดานไพรัชประเทศให้เปนสัมพันธมิตร
สนิทสนม น้อมน�ำประโยชน์มาสู่พระนครให้สมบูรณ์พูลสวัสด์ิ ยังหมู่เสนาให้มีมนัสร่วมสามัคคีธรรมเปนน้�ำหน่ึง
ใจเดียวกัน ม่ันคงในความสามิภักดิ์เปนก�ำลังรักษารัชสิมาให้ราบคาบ มีสุรภาพเห้ียมหาญอาจต่อยุทธชิงไชย
จากศัตรู เมื่อถึงเวลาจะเข้าสู้สงครามไม่ขามขยาด ยังพระราชวงศานุวงศ์มวญอมาตย์ราชเสวกให้พรักพร้อม
ร่วมสมานฉันท์ ช่วยกันปฏิบัติราชกิจ ด้วยความสัตย์สุจริตกตัญญู เปนก�ำลังค้�ำชูพระราชอาณาจักรให้เจริญ
ม่ัน ยังสรรพอุปัทวอย่าให้เกิดมีแก่ประชาชน ยังฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล เกื้อกูลแก่สรรพธัญญาหารพืชผล
พฤกษาลดาชาติ ยังส�่ำสัตวจตุบททวิบาทให้ปราศจากภยันตราย เกิดสืบพืชพันธุ์เจริญแพร่หลายเปนอุปการ
แก่มนุษยนิกร ยังพระมหานครให้สมบูรณ์ด้วยโภคสมบัติ ไหลหล่ังถ่ังมาท่ัวทิศานุทิศ ขอจงประสิทธิศุภมนุญผล
โดยนัยประกาศอันอาตมพรรณนามาฉะนี้ ฯ
ส่ง ธัม์มัส์สวนกาโล อยัม์ภทัน์ตา ๓ หน ฯ
_________________
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเคร่ืองบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์
ประทับเหนือพระท่ีนั่งพุดตานทองค�ำรัตนสิงหาสน์ แวดล้อมด้วยเครื่องบรมขัตติยราชูปโภค
ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันท่ี ๒๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๖๘
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 321
ค�ำอธิบาย
เอกสารเร่ือง “ราชกิจจานุเบกษาพิเศษ กรุงเทพมหานครในพระบรมมหาราชวัง ณ วันท่ี ๒๕
กุมภาพันธ์ ถึงวันท่ี ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๘” กล่าวถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เฉลิมพระราชมณเฑียร
ปีฉลูสัปตศก พุทธศักราช ๒๔๖๘ (จุลศักราช ๑๒๘๗ รัตนโกสินทรศก ๑๔๔) โดยพระยาประกาศอักษรกิจ
(เสง่ียม รามนันทน์) เรียบเรียง พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต ทรงช่วยตรวจแก้ พิมพ์โดยกระแส
พระบรมราชโองการ เป็นการพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรก พิมพ์ที่โรงพิมพ์บ�ำรุงนุกูลกิจ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๘ ภายหลัง
สมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าฯ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดชทรงทักท้วงว่ามีที่ผิดหลายแห่ง
ท่ีส�ำคัญ หากทิ้งไว้จะเสียหลักราชประเพณีและประวัติศาสตร์ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรด
ให้พิมพ์ข้อทักท้วงแก้ไขเป็นราชกิจจานุเบกษาฉบับพิเศษเพิ่มเติม
อน่ึง วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๘ ซึ่งเป็นวันประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จ
พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวตามท่ีระบุในเอกสารนี้ หากนับวันท่ี ๑ มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่อย่างปัจจุบัน
จะตรงกับวันท่ี ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๙ เนื่องจากในสมัยน้ันนับวันท่ี ๑ เมษายน เป็นวันข้ึนปีใหม่
ราชกิจจานุเบกษาพิเศษดังกล่าวน้ี เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้น�ำมาเผยแพร่ในส่ืออิเล็กทรอนิกส์ด้วย
มีการจัดเรียงหน้าท่ีแตกต่างกันไปจากหนังสือท่ีพิมพ์เผยแพร่ คือ ได้น�ำดวงพระฤกษ์บรมราชาภิเษกที่อยู่ใน
ตอนต้นของเนื้อหาไปไว้ในส่วนท้ายของเน้ือหา เป็นต้น
ต่อมาเม่ือ พ.ศ. ๒๔๙๒ สมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลท่ี ๗ ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์พระราชทานเพื่อเป็นที่ระลึกในการเชิญพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
กลับประเทศไทย ใช้ช่ือว่า “จดหมายเหตุบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช
๒๔๖๘” พระยาประกาศอักษรกิจ (เสง่ียม รามนันทน์) เรียบเรียง โดยแก้ไขตามพระด�ำริ สมเด็จพระราชปิตุลา
บรมพงศาภิมุข ซ่ึงโปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษา ฉบับเพ่ิมเติม พร้อมทั้งได้น�ำจดหมายเหตุ
ภาษาอังกฤษซ่ึงโปรดเกล้าฯ ให้พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัตเขียนค�ำอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ ท�ำนอง
หนังสือคู่มือข้ึนเล่มหนึ่ง ชื่อว่า “THE CORONATION OF HIS MAJESTY PRAJADHIPOK KING OF SIAM”
เพื่อเผยแพร่แก่ชาวต่างชาติที่เข้าร่วมพระราชพิธี
ต่อมาคณะวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม จัดพิมพ์โดยเสด็จพระราชกุศลในการพระราชพิธี
ถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลท่ี ๗ ณ พระเมรุมาศ
ท้องสนามหลวง วันที่ ๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๒๘ พิมพ์ท่ีโรงพิมพ์มหามกุฏราชวิทยาลัย เป็นการน�ำ
“จดหมายเหตุบรมราชาภิเษก พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พุทธศักราช ๒๔๖๘” ฉบับพิมพ์
เม่ือ พ.ศ. ๒๔๙๒ มาพิมพ์ใหม่ และเพ่ิมเติมรายละเอียดอ่ืน ๆ ได้แก่ พระราชประวัติสมเด็จพระนางเจ้า
ร�ำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ พร้อมภาพประกอบ, พระราชพิธีรับพระบรมอัฐิ-บรรจุพระบรม
ราชสรีรังคารพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ (๒๔๙๒), คณะวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม
322 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
บ�ำเพ็ญพระกุศลถวายพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ ณ พระท่ีนั่ง
ดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง วันเสาร์ ที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๗ และหมายก�ำหนดการถวาย
พระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ ณ พระเมรุมาศ
ท้องสนามหลวง เมษายน พุทธศักราช ๒๕๒๘
ในการนี้ คณะท�ำงานจัดท�ำหนังสือประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษกมอบหมายให้
นางสาวรุ่งนภา สงวนศักดิ์ศรี นักอักษรศาสตร์ปฏิบัติการ กลุ่มจารีตประเพณี ส�ำนักวรรณกรรม
และประวตั ศิ าสตร์ ดำ� เนนิ การตรวจสอบชำ� ระเอกสารเรอื่ งดงั กลา่ ว โดยใชเ้ อกสารเรอื่ ง “ราชกจิ จานเุ บกษาพเิ ศษ
กรุงเทพมหานครในพระบรมมหาราชวัง ณ วันท่ี ๒๕ กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๘”
พระยาประกาศอักษรกิจ (เสง่ียม รามนันทน์) เรียบเรียง พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต ทรงช่วยตรวจแก้
พิมพ์โดยกระแสพระบรมราชโองการ ซึ่งเป็นการพิมพ์ครั้งแรก เม่ือ พ.ศ. ๒๔๖๘ เป็นหลักในการตรวจสอบ
ช�ำระสอบทานกับฉบับพิมพ์คร้ังอื่น ๆ ได้แก่ ฉบับพิมพ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ สมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณีฯ
โปรดเกล้าฯ ให้พิมพ์เป็นที่ระลึก ในการเชิญพระบรมอัสถิ เสด็จคืนเข้าสู่พระนคร พุทธศักราช ๒๔๙๒
และฉบับพิมพ์ พ.ศ. ๒๕๒๘ ที่คณะวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พิมพ์โดยเสด็จพระราชกุศลในการพระราชพิธี
ถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระนางเจ้าร�ำไพพรรณี พระบรมราชินี ในรัชกาลที่ ๗ ณ พระเมรุมาศ
ท้องสนามหลวง วันท่ี ๙ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๒๘
ในการจัดพิมพ์ครั้งน้ี ได้คงการสะกดตามอักขรวิธีฉบับพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. ๒๔๖๘ ส�ำหรับในส่วนของ
สารบานตามฉบับพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2468 ได้แบ่งสารบานเป็น 2 ส่วน ในส่วนแรกเป็นสารบานหลัก และใน
ส่วนท้ายเป็นสารบานค�ำถวายชัยมงคลและพระราชด�ำรัสตอบในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พ.ศ. 2468
ซง่ึ ในการจดั พมิ พค์ รง้ั นไ้ี ดน้ ำ� สารบานทง้ั 2 สว่ นมารวมกนั และไดป้ รบั ปรงุ หมายเลขหนา้ ใหส้ อดคลอ้ งกบั เนอื้ หา
แต่ละส่วน เพ่ือความสะดวกในการศึกษาค้นคว้า
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 323
ราชกิจจานุเบกษาพิเศษ
กรุงเทพมหานครในพระบรมมหาราชวัง
ณ วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๖๘
พระราชพิธี
บรมราชาภิเษก เฉลิมพระราชมณเฑียร
ปีฉลูสัปตศก พุทธศักราช ๒๔๖๘
(จุลศักราช ๑๒๘๗ รัตนโกสินทรศก ๑๔๔)
พระยาประกาศอักษรกิจ (เสง่ียม รามนันทน์) เรียบเรียง
พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าธานีนิวัต ทรงช่วยตรวจแก้
พิมพ์โดยกระแสพระบรมราชโองการ
ฉบับตรวจสอบช�ำระและเพิ่มเติมเชิงอรรถ พุทธศักราช ๒๕๖๑
324 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก หน้า 325
” 326
สารบาน ” 336
” 341
ฎีกาโหรค�ำณวนพระฤกษ ” 354
เตรียมการพระราชพิธี ” 363
งานบรมราชาภิเษก – ” 373
(ก) พิธีเบ้ืองต้น
(ข) พิธีบรมราชาภิเษก ” 377
(ค) พิธีเบ้ืองปลาย ” 379
เลียบเมือง ” 379
นานาประเทศแสดงอัชฌาสัย ” 380
ภาคผนวก – ” 381
(ก) ค�ำถวายชัยมงคลและพระราชด�ำรัสตอบ ” 381
๑. ค�ำถวายพระพรชัยมงคลฝ่ายหน้า ” 382
๒. พระราชด�ำรัสตอบฝ่ายหน้า ” 383
๓. ค�ำถวายพระพรชัยมงคลฝ่ายใน ” 384
๔. พระราชด�ำรัสตอบฝ่ายใน ” 386
๕. ค�ำแปล ค�ำกราบบังคมทูล ของคณะทูตานุทูต ” 387
๖. พระราชด�ำรัสตอบคณะทูตานุทูต ” 387
๗. ค�ำถวายชัยมงคลของคณะมิซซังโรมันกาทอลิก ” 388
๘. ค�ำแปลค�ำถวายชัยมงคลของคณะเปรสบิเตียเรียน ” 389
๙. ค�ำถวายชัยมงคลของพ่อค้าไทย ” 390
๑๐. ค�ำแปลค�ำถวายชัยมงคลของพ่อค้าฝรั่ง ” 392
๑๑. ค�ำแปลค�ำถวายชัยมงคลของพ่อค้าญ่ีปุ่น ” 393
๑๒. ค�ำถวายชัยมงคลของพ่อค้าจีน ” 394
๑๓. ค�ำถวายชัยมงคลของพ่อค้าชาวอิสลาม ” 400
๑๔. ค�ำแปลค�ำถวายชัยมงคลของพ่อค้าชาติสิกข
๑๕. ค�ำแปลค�ำถวายชัยมงคลของพ่อค้าชาติฮินดู
๑๖. ค�ำแปลค�ำถวายชัยมงคลของคณะดาวูดีโบหรา มหะหมัด
๑๗. พระราชด�ำรัสตอบพ่อค้าประชาชน
(ข) บัญชีพระสงฆ์ท่ีเข้างาน
(ค) ค�ำประกาศเทวดาในพระท่ีน่ังไพศาลทักษิณ
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 325
กรมพระราชพิธี กระทรวงวัง
วันท่ี ๒๙ พฤศจิกายน พระพุทธศักราช ๒๔๖๘
ข้าพระพุทธเจ้า เสวกโท พระยาโหราธิบดี1 กับโหรมีช่ือพร้อมกันขอพระราชทานค�ำณวนพระฤกษ์2
บรมราชาภเิ ษก ขน้ึ กราบบงั คมทลู พระกรณุ าโดยทางสรุ ยิ คตกิ าลแลจนั ทรคตวิ ารดฤถี ตามคำ� ภรี ฎ์ กี าโหราศาสตร
นิยมว่า พระฤกษ์วันน้ีได้จัตุรงคโชค3 ประกอบด้วยราชา แลลาภฤกษ์แลศรีจร ร่วมพระราชลักขณาแลเปน
ลาภกับพระฤกษ์ทั้งกาลกิณีจรเปนมรณ นับว่าพระฤกษ์วันนี้สมบูรณ์ดีย่ิงทุกประการซึ่งจะหาพระฤกษ์
วันใดมาเทียบเทียมมิได้ ในค�ำภีร์กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจักทรงพระเจริญตะบะเดชะเกริกไกรพระราช
กฤษฎาภินิหารไพศาลไปในทิศานุทิศ ราชศัตรูหมู่ปัจจามิตรภายนอกภายในจักพ่ายแพ้พระบรมเดชานุภาพ
ทุกเม่ือ อีกพระบรมวงศานุวงศแลสมณชีพราหมณไพร่ฟ้าข้าแผ่นดินท้ังหลาย จักร่มเย็นเปนสุขโดยพระบรม
โพธิสมภารปกเกล้าฯ ท่ัวพระราชอาณาจักรสยาม
เพราะฉนั้น ขอพระราชทานกราบบังคมทูลพระกรุณาว่าวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พระพุทธศักราช
๒๔๖๘ ตรงกับเดือน ๔ ขึ้น ๑๔ ค�่ำ ได้มหาศุภมงคลพระฤกษ์เวลา ๙ นาฬิกากับ ๕๓ นาฑี ๕๒ วินาฑี
ก่อนเที่ยง ขอพระราชทานอัญเชิญเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จสู่พระแท่นสรงทรงแปรพระพักตร์สู่เบื้อง
มหามงคลทศิ อศิ าณ4 พราหมณจะไดถ้ วายนำ้� กลด5 แลนำ้� พระมหาศงั ขชำ� ระพระองค์ ทรงเครอ่ื งพระมรู ธาภเิ ษก
สนานตามจารีตแบบอย่างสมเด็จพระบรมมหาจักรพรรดิกษัตราธิราชเจ้าสืบ ๆ มา
1 แหยม วชั รโชติ
2 ในเอกสารน้ีปรากฏการใช้ 2 แบบ คือ “พระฤกษ”์ และ “พระฤกษ“
3 วิธีการหน่ึงทางโหราศาสตร์ โดยใช้ทักษาเพื่อสืบหาของหาย หรือใช้ประกอบพิธีกรรมได้ จัตุรงคโชคเป็นส่ิงท่ีมีอิทธิพลให้
เกดิ เหตกุ ารณ์ดรี ้ายในชวี ิตได้ กำ� หนดไว้ ๔ อย่าง ไดแ้ ก่ ทศิ (ชยั ภูมิ) อักษร (ช่อื ) สี (อาภรณภ์ ณั ฑ)์ แสง (อญั มณี)
4 ทิศตะวันออกเฉยี งเหนอื
5 น้�ำเทพมนตร์ของพราหมณ์ โดยภาชนะใส่น้�ำเทพมนตร์มีลักษณะเหมือนคนโท มีฝาปิด มีพวยอย่างกาน้�ำ เรียกว่า กลด
หรือกลศ
326 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
คร้ันถึงเวลา ๑๐ นาฬิกากับ ๕๒ นาฑี ๕๒ วินาฑีก่อนเท่ียงเปนประถมพระฤกษ ขอพระราชทานเชิญ
เสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงพระแท่นภัทรบิฐ1 ไปจนถึงเวลา ๑๑ นาฬิกากับ ๑๒ นาฑี ๕๒ วินาฑี
ก่อนเที่ยงเปนท่ีสุดแห่งพระฤกษ์
เพื่อทรงพระเจริญพระราชสิริสวัสดิพิพัฒนมงคล เมทนีดลสกลราชศัตรูกษัย
ควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ข้าพระพุทธเจ้า
(เซ็นนาม) เสวกโท พระยาโหราธิบดี
เสวกตรี พระญาณเวท2
รองเสวกเอก หลวงโลกทีป3
รองเสวกโท หลวงไตรเพทพิสัย
รองเสวกโท ขุนโลกพยากรณ์
เตรียมการพระราชพิธี
ในพระวอันุโบทส่ี ๓ถวกัดุมพภราะพศันรธีร์ัตพนุทศธาศสักดราารชาม๒๔ต๖้ังโ๘ต๊ะ(วจัน�ำล๔ักลฯ๖าย๓ปคิด�่ำทปอีฉงบลู)น4ธกร�ำรหมนาศดนส์ศวดิลมา5นตหรน์จ้าาบรุษึกบพกระพสรุพะมรรหณามบณัฏี
รัตนปฏิมากร ประดิษฐานแผ่นทองค�ำส�ำหรับจารึกพระสุพรรณบัฏบรมนามาภิไธย และแผ่นทองค�ำที่จะจารึก
พระดวงพระชนมพรรษาและงากลึงส�ำหรับแกะพระราชลัญจกรส�ำหรับแผ่นดิน ประดิษฐานบนพานทอง
สองช้ันส�ำรับใหญ่ตั้งบนโต๊ะน้ัน มีเคร่ืองนมัสการทองใหญ่6 กับพระแท่นทรงกราบตรงหน้าธรรมาศน์ศิลา
ออกมา และต้ังอาศน์สงฆ์ข้างผนังด้านเหนือในพระอุโบสถ ท่ีชาลาหน้าพระอุโบสถตั้งศาลบูชาเทวดาคู่หนึ่ง
1 เป็นพระแทน่ ราชบัลลังก์ อยู่ในพระทนี่ ง่ั ไพศาลทักษณิ
2 ศุข ศุขโชติ
3 สุด ภาณุทัต
4 วนั พุธ เดือน ๓ แรม ๖ คำ�่ ปีฉลู
5 ธรรมาศน์ศิลาตั้งอยู่เบื้องหน้าฐานชุกชีพุทธบัลลังก์บุษบกที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ใช้เป็นท่ีพระสงฆ์
ขึ้นแสดงพระธรรมเทศนาในงานหลวง รวมถึงใช้เป็นท่ีประดิษฐานปูชนียวัตถุในพระราชพิธีต่าง ๆ เช่น ประดิษฐานพระพุทธปฏิมา
ชัยวัฒน์ พระพุทธคนั ธารราษฎร์ และเทวรปู องค์สำ� คญั ในการพระราชพิธพี ืชมงคล เป็นตน้
6 เครื่องนมัสการทองใหญ่ เป็นเคร่ืองนมัสการของหลวง ส�ำรับหน่ึงประกอบด้วย เชิงทองปักธูปไม้ระก�ำ ๕ เชิง เชิงทอง
ปักเทียน ๕ เชงิ พานทองคำ� สลกั ลายใสพ่ มุ่ ข้าวตอก ๕ พาน และพานทองค�ำสลักลายใสพ่ ุ่มดอกไม้ ๕ พาน ต้ังบนโต๊ะเทา้ คู้สลักลาย
ปิดทอง
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 327
เวลา ๕ ล.ท.1 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหม่ืนวิวิธวรรณปรีชา2 เสด็จยังในพระอุโบสถ ทรงจุดเทียน
เคร่ืองนมัสการแทนพระองค์ พระสงฆ์ราชาคณะ ๑๐ รูป มีพระธรรมวโรดมเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพน
เปนประธานเจริญพระพุทธมนตร์ โหรบูชาเทวดา
วันรุ่งข้ึนเจ้าพนักงานได้ตั้งโต๊ะจ�ำลักลายปิดทอง ตรงประตูกลางในพระอุโบสถตั้งบายศรีแก้ว ทอง
เงิน3 ส�ำรับใหญ่พร้อมด้วยเคร่ืองส�ำหรับเวียนเทียนสมโภช และบายศรีตองลองทองขาวขวาซ้ายคู่หนึ่ง4 กับ
มะพร้าวอ่อนศีร์ษะสุกรซ้ายขวาคู่หนึ่ง ส�ำหรับบูชาพระฤกษ์ เวลา ๑๐ ก.ท.5 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่น
วิวิธวรรณปรีชา เสด็จมาทรงจุดเทียนเคร่ืองนมัสการ พระราชาคณะ ๑๐ รูปถวายพรพระ คร้ันเวลาใกล้
พระฤกษ์ ทรงจุดเทียนทองธูปเงินที่โต๊ะทองส�ำหรับจารึกซ่ึงตั้งอยู่ตรงหน้าอาศน์สงฆ์ตอนต้นเรียงกันอยู่ ๓ โต๊ะ
โต๊ะส�ำหรับจารึกพระสุพรรณบัฏพระบรมนามาภิไธยอยู่กลาง โต๊ะส�ำหรับจารึกพระดวงพระชนมพรรษาอยู่
ด้านเหนือต่อหน้าอาศน์สงฆ์ โต๊ะส�ำหรับแกะพระราชลัญจกรอยู่ข้างด้านทิศทักษิณ6 ผู้จารึกแต่งตัวนุ่งห่มขาว
ห่มผ้าเฉียงบ่า นมัสการพระมหามณีรัตนปฏิมากรแล้วบ่ายหน้ากราบถวายบังคมสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว
พาดด้ายสายสิญจน์คล้องคอผันหน้าสู่มงคลทิศอิศาณ โหรบูชาพระฤกษ์ ถึงเวลาพระฤกษ์ ๑๐.๓๔ ก.ท.7
พระยาโหราธิบดีล่ันฆ้องชัย พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา พราหมณ์เป่าศังข์ พนักงานประโคมแตรศังข์ดุริยางค
ดนตรี จางวางโท พระยามหานามราช (หม่อมราชวงศ์จ�ำนง นพวงศ์ ณ อยุธยา) เปรียญ ปลัดพระมุรธาธร
ในหน้าท่ีสมุหพระอาลักษณจารึกพระสุพรรณบัฏพระบรมนามาภิไธยลงในแผ่นทองค�ำเนื้อ ๘ กว้าง
๖ น้ิวฟุต ยาว ๑๖ น้ิวฟุต ทองหนัก ๓ ต�ำลึง ๓ บาท ๔๖ กรัม อ�ำมาตย์ตรี พระญาณวิจิตร (สิทธิ์
โลจนานนท์) เปรียญ ราชบัณฑิต จารึกดวงพระชะตาพระชนมพรรษาลงในแผ่นทองค�ำเน้ือ ๘ กว้าง
1 ตรงกบั เวลา ๑๗ นาฬกิ า
2 พระองค์เจ้าชายจันทรทัตจุฑาธาร (พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหม่ืนวิวิธวรรณปรีชา) พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จ
พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๔ (ท่ี ๒ ในเจ้าจอมมารดาโหมด พระสนมโท) ประสูติเม่ือวันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๐๓
ในรชั กาลท่ี ๕ เมือ่ พ.ศ. ๒๔๒๓ ทรงรับราชการเปน็ ผูช้ ่วยแผนกต่างประเทศ กรมราชเลขานุการ ต่อมาทรงเปน็ อธิบดีกรมศึกษาธิการ
อธิบดีกรมพยาบาล ทรงเป็นกรรมการศาลรับสั่งพิเศษ กองท่ี ๑ กระทรวงยุติธรรม ทรงสถาปนาเป็นพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหม่ืน
ววิ ิธวรรณปรชี า เมอ่ื วันท่ี ๑๑ พฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๔๓๙ ถึงรชั กาลที่ ๖ เม่อื พ.ศ. ๒๔๕๖ ทรงด�ำรงต�ำแหน่งผู้พิพากษาในกระทรวง
ยุติธรรม ส้นิ พระชนม์ในรัชกาลที่ ๗ เมอื่ วนั ที่ ๑๐ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๔๗๕ เวลา ๐๙.๑๔ น. พระชนั ษา ๗๒ ปี พระราชทานเพลิงพระศพ
ณ พระเมรุวดั เทพศริ ินทราวาส วนั ท่ี ๑๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ เป็นตน้ ราชสกลุ จันทรทตั
3 บายศรีแก้ว ทอง เงิน เป็นบายศรีของหลวงชนิดหน่ึงประกอบด้วยพานแก้ว พานทอง และพานเงิน ขนาดใหญ่เล็ก
วางซอ้ นกนั ขึ้นไปตามลำ� ดบั เป็นชน้ั ๆ ๕ ชน้ั โดยจะตง้ั บายศรีแกว้ ไวต้ รงกลาง บายศรีทองทางขวา และบายศรเี งินตั้งทางซ้ายของผ้รู บั
การสมโภช
4 เป็นบายศรที ท่ี ำ� ดว้ ยใบตองอย่างบายศรใี หญ่ของราษฎร มีลกั ษณะเป็น ๕ ชนั้ หรือ ๗ ช้ัน แต่โดยมากมกั ทำ� ๗ ชนั้ บายศรี
ตองชนดิ นม้ี ักตง้ั บนพานใหญ่ซ่งึ เป็นโลหะทองขาว จึงเรียกวา่ บายศรตี องรองทองขาว สว่ นใหญจ่ ะตัง้ คกู่ บั บายศรแี กว้ ทอง เงนิ มักใช้
ในงานพระราชพิธีใหญ่ เชน่ พระราชพธิ ีสมโภชเดือนและขนึ้ พระอู่ พระราชพิธสี มโภชขนึ้ ระวางช้างสำ� คญั เปน็ ตน้
5 ตรงกับเวลา ๑๐ นาฬิกา
6 ทศิ ใต้
7 ตรงกบั เวลา ๑๐ นาฬิกา ๓๔ นาที
328 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
๖ นิ้วฟุต ยาว ๑๒ น้ิวฟุต หนัก ๓ ต�ำลึงถ้วน ว่าที่รองเสวกตรี จ�ำรัส ทิพโยชา1 ช่างแกะกรมศิลปากร
แกะพระราชลัญจกรประจ�ำรัชกาล เม่ือจารึกและแกะเสร็จแล้ว กรมหมื่นวิวิธวรรณปรีชาทรงประเคน
อาหารภัตต์เลี้ยงพระสงฆ์ เสวกโท พระยาโหราธิบดี (แหยม วัชรโชติ) เสวกตรี พระญาณเวท (ศุข ศุขโชติ)
โหรถวายเจิมจุรณ์2 พราหมณ์ มหาเสวกตรี พระราชครูวามเทพมุนี (หว่าง รังสิพราหมณกุล) เสวกเอก
พระสทิ ธชิ ยั บดี (อนิ ศริ พิ ราหมณกลุ ) หลง่ั นำ�้ ศงั ขท์ พ่ี ระสพุ รรณบฏั และแผน่ ทองคำ� จารกึ พระดวงพระชนมพรรษา
และที่พระราชลัญจกร จึงพระราชครูวามเทพมุนีพราหมณ์พิธีม้วนแผ่นพระสุพรรณบัฏพันไหมเบญจพรรณ์
และพันผ้าแพรแดง พระยาโหราธิบดีม้วนแผ่นทองจารึกดวงพระชตาพระชนมพรรษาพันด้วยไหม
เบญจพรรณ์และพันผ้าแพรแดง เชิญถวายกรมหมื่นวิวิธวรรณปรีชา ทรงรับบรรจุในพระราชกรันฐ์3 ทองค�ำ
จ�ำลักลายลงยาราชาวดีทั้งสองนั้น แล้วเชิญลงรวมในพระหีบทองค�ำลงยาสวมถุงโหมด4 ผูกประจ�ำตราไว้
แล้วเชิญประดิษฐานบนพานทองสองช้ันส�ำรับใหญ่ปิดคลุมพื้นตาดปักด้ินเลื่อม พระยาอุทัยธรรมภูษามาลา
เชิญขึ้นประดิษฐานบนโต๊ะจ�ำลักปิดทองเหนือธรรมาศน์ศิลา กรมหมื่นวิวิธวรรณปรีชาทรงประเคน
เคร่ืองไทยธรรมแก่พระสงฆ์ ๆ ๑๐ รูปถวายอนุโมทนากลับไป พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียน ข้าทูลลอองธุลี
พระบาทรับแว่นเวียนเทียนสมโภชและเจิมจุรณแล้ว คงประดิษฐานพระสุพรรณบัฏและดวงพระชนมพรรษา
ไว้ในพระอุโบสถ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
ในวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๖๘ นี้ ท่ีหัวเมืองมณฑลต่าง ๆ ในพระราชอาณาจักร์ได้ตั้งพิธี
เษกน�้ำมุรธาภิเษก คือ
๑ มณฑลอยุธยา ตั้งที่พระพุทธบาท
๒ มณฑลพษิ ณโุ ลก ตง้ั ทวี่ หิ ารพระพทุ ธชนิ ราช วดั พระมหาธาตุ จงั หวดั พษิ ณโุ ลกแหง่ ๑ ทว่ี ดั พระมหาธาตุ
จังหวัดสวรรคโลก5 อีกแห่ง ๑
๓ มณฑลนครชัยศรี ตั้งท่ีพระปฐมเจดีย์
๔ มณฑลนครศรีธรรมราช ต้ังที่พระมหาธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช
๕ มณฑลพายัพ ต้ังท่ีพระธาตุหริภุญชัย วัดพระมหาธาตุ จังหวัดนครล�ำพูน
๖ มณฑลอุดร ตั้งท่ีพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม
๗ มณฑลมหาราษฎร์ ต้ังท่ีพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่
1 ฉบับพิมพ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ และ พ.ศ. ๒๕๒๘ ใช้ชื่อว่า ว่าท่ีรองเสวกตรี จ�ำรัส ทิพโยธา ในหนังสือจดหมายเหตุพระราชกิจ
รายวันพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาประชาธิปก พระปกเกลา้ เจ้าอยูห่ ัว รัชกาลท่ี ๗ กลา่ ววา่ “...ร.ส.ต.จำ� รสั ทิพโยธา ชา่ งแกะ
ศลิ ปากร แกะพระราชลญั ฉกร ประจำ� รัชชกาลเสรจ็ แล้ว...”
2 หนังสือจดหมายเหตุพระราชกิจรายวันพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๗
กลา่ วว่า “...กรมหมน่ื ววิ ิธทรงประเคนอาหารบณิ ฑบาตโหรจุรณเจิม...”
3 ภาชนะมฝี าปดิ (กรณั ฑ, กรัณฑ์ กเ็ รยี ก)
4 โหมด คอื ผา้ ชนดิ หนง่ึ ซง่ึ เดมิ ทำ� ดว้ ยกระดาษทองตดั เปน็ เสน้ เหมอื นเสน้ ทอง แลว้ ทอกบั ไหม ตอ่ มาใชก้ ระดาษเงนิ กระดาษทอง
พนั กับเสน้ ไหมทอกบั ไหมสี
5 ปัจจุบันคอื อ�ำเภอในจงั หวัดสโุ ขทัย
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 329
๘ มณฑลร้อยเอ็จ ตั้งที่บึงพระลานชัย จังหวัดร้อยเอ็จ
๙ มณฑลราชบุรี ตั้งท่ีวัดพระมหาธาตุ จังหวัดเพ็ชร์บุรี
๑๐ มณฑลนครสวรรค์ ตั้งที่วัดพระบรมธาตุ จังหวัดชัยนาท
๑๑ มณฑลปราจิณ ตั้งที่วัดโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา
๑๒ มณฑลนครราชสีมา ตั้งท่ีวัดกลาง จังหวัดนครราชสีมา
๑๓ มณฑลอุบล ต้ังท่ีวัดศรีทอง จังหวัดอุบลราชธานี
๑๔ มณฑลจันทบุรี ตั้งที่วัดพลับ จังหวัดจันทบุรี
๑๕ มณฑลสุราษฎร์ ต้ังท่ีวัดพระมหาธาตุ จังหวัดไชยา
๑๖ มณฑลปัตตานี ตั้งที่วัดตานีนรสโมสร จังหวัดปัตตานี
๑๗ มณฑลภูเก็ต ต้ังที่วัดพระทอง จังหวัดถลาง
รวม ๑๗ มณฑล ๑๘ แห่ง1 ในวันน้ีได้มีประชุมสงฆนายกในมณฑลนั้นเปนประธาน พร้อมด้วยอุปราช
สมุหเทศาภิบาลในมณฑลนั้น ๆ และข้าราชการทุกหมู่เหล่าแต่งกายด้วยเคร่ืองเต็มยศขาว พระสงฆนายก
ประกาศเทวดาแล้วจุดเทียนชัย พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนตร์ และสวดภาณวาร2 จนเสร็จการพระราชพิธี
คร้ันรุ่งขึ้นเล้ียงอาหารภัตต์แก่พระสงฆ์ พระสังฆานุนายกดับเทียนชัย พระสังฆนายกในมณฑลนั้น ๆ
เษกน�้ำพระพุทธมนตร์เจือลงในน�้ำที่เข้าพระราชพิธีด้วยอีกคร้ัง ๑ แล้วมอบให้ผู้เปนประธานในมณฑล
นั้นจัดการเวียนเทียนสมโภชอีกตอนหนึ่ง เสร็จแล้วจัดให้ข้าราชการเชิญน้�ำพระพุทธมนตร์เข้ามากรุงเทพ
พระมหานครรอคอยวันพระราชพิธี
วนั ที่ ๒๐ กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๔๖๘ เวลา ๕ นาฬกิ า ๓๐ นาฑี หลงั เทย่ี ง สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงเครอ่ื งขาว
เสด็จออกพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงบ�ำเพ็ญพระราชกุศลประจ�ำวันตามราชประเพณี แล้วเสด็จ
พระราชด�ำเนิร ณ หอพระธาตุมณเฑียร3 ทรงจุดเทียน ทอง เงิน มีพานทองประดับดอกไม้สดด้วย ๖ ส�ำรับ
กราบถวายบังคมพระบรมอัสถิ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชินีในพระราชวงศ์จักรี ๓ รัชกาล
1 จากการตรวจสอบกบั “จดหมายเหตพุ ระราชพธิ บี รมราชาภเิ ษกสมเดจ็ พระรามาธบิ ดศี รสี นิ ทรมหาวชริ าวธุ พระมงกฎุ เกลา้
เจา้ อยหู่ วั ” มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากรจดั พมิ พเ์ พอื่ เฉลมิ พระเกยี รตวิ าระ ๑๐๐ ปี บรมราชาภเิ ษก พระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั
๑๑ พฤศจกิ ายน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ พบวา่ สถานทตี่ ง้ั พธิ เี สกนำ�้ มรุ ธาภเิ ษกของพระบาทสมเดจ็ พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั และพระบาทสมเดจ็
พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวมีความคล้ายคลึงกัน แต่มีสถานท่ีต่างกัน คือ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการท�ำ
พธิ เี สกนำ�้ อภเิ ษกทมี่ ณฑลเพช็ รบรู ณ์ ทำ� ทว่ี ดั พระมหาธาตเุ มอื งเพช็ รบรู ณ์ ซง่ึ ไมป่ รากฏสถานทนี่ ใี้ นการตง้ั พธิ เี สกนำ�้ มรุ ธาภเิ ษกในสมยั
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้มีการเพ่ิมสถานที่อีก ๒ แห่ง เข้ามาในการต้ังพิธีเสกน�้ำมุรธาภิเษกในสมัย
พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั คอื มณฑลมหาราษฎร์ ตง้ั ทพี่ ระธาตชุ อ่ แฮ จงั หวดั แพร่ และมณฑลรอ้ ยเอจ็ ตง้ั ทบี่ งึ พระลานชยั
จงั หวดั ร้อยเอจ็
2 ภาณวาร คือ ข้อธรรมท่จี ัดไวเ้ ปน็ หมวด, ขอ้ ธรรมหมวดหนึ่ง ๆ สำ� หรับสาธยาย
3 หอพระธาตมุ ณเฑยี ร (หอพระบรมอฐั )ิ ประดษิ ฐานพระบรมอฐั สิ มเดจ็ พระบรมราชบพุ การี ตง้ั อยดู่ า้ นตะวนั ตกของพระทนี่ งั่
ไพศาลทักษิณ
330 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
กับพระอัสถิสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนกด้วย เปนเคารพในการที่จะเสด็จเข้าพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
แล้วเสด็จขึ้นสู่พระวิมานท่ี1 ประดิษฐานพระบรมอัสถิสมเด็จพระบรมไอยกาธิราช สมเด็จพระบรมชนกนาถ
และพระราชนิ ที ง้ั สองรชั กาล2 แลว้ จงึ เสดจ็ พระราชดำ� เนริ สพู่ ระทน่ี ง่ั ดสุ ติ มหาปราสาท ทรงบำ� เพญ็ พระราชกศุ ล
ทรงจุดเทียน ทอง เงิน มีพานดอกไม้สดกราบถวายบังคมพระบรมศพอีกเปนพิเศษเพ่ือเคารพในการท่ีจะ
เสด็จเข้าพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เสร็จแล้วเสด็จกลับ
พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
การแต่งสถานท่ี วันท่ี ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๘ ตรงกับ (วัน ๑ ๑ฯ๐๔ ค่�ำ ปีฉลู3 จ.ศ. ๑๒๘๗)
เปนวันต้ังน้�ำวงด้าย เริ่มการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเฉลิมพระราชมณเฑียร ซึ่งตั้งการที่พระมหามณเฑียร
คือ พระที่น่ังอมรินทรวินิจฉัย พระที่นั่งไพศาลทักษิณ และพระท่ีน่ังจักรพรรดิพิมาน อันเปนสถานที่ได้กระท�ำ
พระราชพิธีบรมราชาภิเษกมาแต่ก่อน
ในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เชิญพระสัมพุทธพรรณี4 พระมณีรัตนปฏิมากรแก้วมรกฎน้อย5
ประดิษฐานในพระท่ีนั่งบุษบกมาลา6 มีเทียนทอง เทียนเงิน หนักเล่มละ ๘ บาท ตั้งในบุษบกท้ัง ๔ มุม ๒ คู่
ที่เกรินข้างบุษบกทั้งสองข้างต้ังโต๊ะทองรองพานทองสองชั้นส�ำรับใหญ่มีพุ่มดอกไม้สดท้ังสองข้างคู่ ๑ ที่ฐาน
ช้ันลดลงมามีเทียนทอง เทียนเงิน หนักเล่มละ ๘๐ บาท ๒ คู่ หน้าพระท่ีนั่งบุษบกต้ังโต๊ะทองจ�ำลักลาย
มีพานทองจัดดอกไม้สดตามล�ำดับชั้นเปนหล่ันลงมา มีเทียนพระมหามงคลคู่ ๑ มีเทียนเท่าพระองค์ในตู้ขวา
ซ้ายคู่ ๑ มีต้นไม้ทองเงินสองข้างคู่ ๑ ต่อออกมาทอดเคร่ืองนมัสการพานทองสองช้ัน และพระแท่นทรงกราบ
1 ฉบับพิมพ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ และ พ.ศ. ๒๕๒๘ ปรากฏขอ้ ความว่า “แล้วเสด็จเขา้ สพู่ ระวิมานในพระทีน่ ั่งจกั รมี หาปราสาทซงึ่ ”
2 ฉบบั พิมพ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ และ พ.ศ. ๒๕๒๘ ปรากฏขอ้ ความเพม่ิ เตมิ วา่ “ทรงสักการเชน่ เดยี วกัน”
3 วนั อาทิตย์ เดือน ๔ ขึ้น ๑๐ คำ่� ปีฉลู
4 พระสัมพุทธพรรณี เป็นพระพุทธรูปประทับขัดสมาธิราบ ปางสมาธิ ครองจีวรตามแบบพระภิกษุในธรรมยุติกนิกาย
พาดสังฆาฏิ จีวรท�ำเป็นร้ิวตามธรรมชาติ องค์พระไม่มีพระเมาลี หรือพระเกตุมาลา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเมื่อคร้ัง
ทรงผนวชเป็นพระวชิรญาณเถระ โปรดเกล้าฯ ให้หล่อข้ึน ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ท่ีฐานชุกชีช้ันล่างของบุษบกพระพุทธมหามณีรัตน
ปฏมิ ากร อนง่ึ ในการพระราชพิธีเปล่ียนเครอื่ งทรงพระพทุ ธมหามณีรัตนปฏิมากรจะทรงเปลยี่ นพระรัศมถี วายในแตล่ ะฤดดู ว้ ย
5 หมายถึง พระพุทธมณีรัตนปฏิมากร หรือพระแก้วมรกตน้อย สร้างในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ผลงานของหา้ งฟาแบรเ์ ช่ ประเทศรสั เซยี สรา้ งจากหยกสเี ขยี วขนาดใหญเ่ ปน็ พระพทุ ธรปู ประทบั ขดั สมาธเิ พชร ปางมารวชิ ยั ประทบั บน
ฐานบวั ควำ�่ บัวหงายแบบบัวฟนั ยักษ์ตกแต่งดว้ ยเกสรบวั พระศกเป็นกน้ หอยใหญ่ และพระเกตมุ าลาเป็นดอกบัวตมู ทรงคลอ้ งสงั วาล
เฉวียงพระอังสะซ้าย ๒ องค์ จ�ำลองแบบจากพระมหาสังวาลนพรัตน์และพระสังวาลพระนพ ประดิษฐานบนพุทธสิงหาสน์ ด้านหลัง
พทุ ธสงิ หาสนม์ พี ระมหาเศวตฉตั รคนั ดาลกางกนั้ ถวายพระพทุ ธรปู ทง้ั หมดประดษิ ฐานบนฐานเขยี ง รองรบั ดว้ ยฐานสงิ หแ์ บกจำ� ลองจาก
พระแท่นมนังคศิลาอาสน์ ปรากฏการเชิญพระพุทธรูปองค์น้ีมาประดิษฐานในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกคู่กับพระสัมพุทธพรรณี
ต้งั แตร่ ชั กาลที่ ๗ เป็นตน้ มา
6 คอื พระทนี่ งั่ บษุ บกมาลามหาจกั รพรรดพิ มิ าน ตงั้ อยตู่ อนในสดุ ของพระทน่ี งั่ อมรนิ ทรวนิ จิ ฉยั ตรงพระทวารเทวราชมเหศวร์
ในสมยั รัชกาลที่ ๖ โปรดใช้เปน็ ทีป่ ระทบั เสดจ็ ออกมหาสมาคมในพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 331
พระท่ีนั่งมหาเศวตฉัตรลาดด้วยหนังไกรสรราชสีห์ท้ังผืน มีศีร์ษะและมือยื่นออกมาที่เก็จ ต้ังพระท่ีน่ัง
พุดตาลทองค�ำรัตนสิงหาศน1์ บนแผ่นหนังไกรสรราชสีห์ ท่ีประทับเสด็จออกทรงรับค�ำถวายชัยมงคล มีโต๊ะทอง
ส�ำหรับตั้งเครื่องราชูปโภค2อยู่ข้างบนนั้นทั้งสองข้าง ท่ีมุมพระแท่นลารองพระท่ีน่ังมหาเศวตฉัตรตั้งต้นไม้
ทองเงินสี่มุม ๆ ละต้นเปน ๒ คู่ พระมหานพปฎลเศวตฉัตรลดลงแต่งใหม่ ทอดไว้บนขาทรายเบ้ืองหลัง
ข้างตวันออก เพ่ือจะยกข้ึนพร้อมกันกับพระฤกษ์สรงพระมูรธาภิเษก
ตั้งเครื่องสูงหักทองขวางห้าชั้นหน้าเสาตอนข้างหน้าพระท่ีน่ังมหาเศวตฉัตร ๔ คู่ หน้าเสาตอนข้างหลัง
พระที่น่ังมหาเศวตฉัตรตั้งชุมสาย3เปนคู่กัน ๒ คู่ ต้ังพระราชบัลลังก์ตรงหน้าพระท่ีน่ังมหาเศวตฉัตร เปนที่
เสด็จออกประทับ พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าทูลลอองธุลีพระบาทเฝ้า ทอดเครื่องพานพระขันหมากส�ำรับใหญ่
มีพระแสงง้าว4 พระแสงปืน5ทอดราวข้างหลังพระราชบัลลังก์
พระสูตร์6สายเล่ือนติดตรงเสาคู่หน้าพระที่นั่งมหาเศวตฉัตร เพื่อส�ำหรับไขพระสูตร์เวลาเสด็จออก
ทรงรับค�ำถวายชัยมงคล
ต้ังพระแท่นเปนเตียงพระสงฆ์สวดภาณวารด้านเหนือชิดกับพระทวารกลาง มีพระราชาคณะ
น่ังปรกอยู่ข้างทิศตวันออกแห่งพระแท่นเตียงสวดภาณวาร ราชบัณฑิตย์ถือสายสิญจน์ชักลูกประค�ำข้างเตียง
สวดด้านตวันตก ตั้งกระโจมเทียนชัยขึงผ้าขาวบางปักทองแร่งตรงหน้าพระแท่นเตียงสวดภาณวาร
ตั้งอาศน์สงฆ์หน้าเสานอกเคร่ืองสูงห้าชั้นหักทองขวางกับระหว่างเสา และท่ีพระเฉลียงหลังเสาด้วย
เปน ๔ แถว
ต้ังท่ีพระบรมวงศานุวงศ์เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทตรงพระที่น่ังมหาเศวตฉัตร ณ พระเฉลียงและที่มุข
ทิศปัศจิม ข้าทูลลอองธุลีพระบาทในพระราชส�ำนัก และทหารมหาดเล็กราชองครักษ์ยืนเฝ้าที่พระเฉลียง
ทิศวันออก7ตรงพระท่ีน่ังมหาเศวตฉัตร์ ระหว่างกลางพระที่นั่งหน้าพระราชบัลลังก์ ข้าทูลลอองธุลีพระบาท
เปนสองหมู่ส�ำหรับเสนาอ�ำมาตย์เฝ้า มีช่องทางเดินกลาง และหน้าอาศน์สงฆ์เปนสองทาง บนเพดานมี
1 ปัจจุบันใช้ชื่อว่า “พระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์” สันนิษฐานว่าสร้างข้ึนในรัชกาลท่ี ๑ เพราะพบอยู่ในเร่ืองพระบรม
ราชาภเิ ษกรชั กาลที่ ๒ (โคลงยอพระเกยี รตพิ ระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั ) ซง่ึ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 3 ทรง
พระราชนพิ นธ์ มขี อ้ ความแสดงวา่ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 2 ทรงพระราชยานพดุ ตานเสดจ็ เลยี บพระนคร ตอ่ มารชั กาลที่ ๔
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ ให้หุ้มทอง เรียกว่า “พระท่ีน่ังพุดตานทอง” หรือ “พระท่ีน่ังพุดตานกาญจน
สงิ หาสน์” (แปลว่าพระทน่ี งั่ พดุ ตานทองฐานสิงห์) เมื่อสอดคานแตง่ เป็นพระราชยาน เรยี กว่า “พระราชยานพุดตานทอง”
2 เครอื่ งใชต้ ามปกตขิ องพระมหากษตั รยิ ์ มหี ลายสงิ่ ดว้ ยกนั แตอ่ งคท์ ส่ี ำ� คญั ซง่ึ เปน็ เครอ่ื งประกอบพระราชอสิ รยิ ยศทใี่ ชต้ ง้ั แตง่
ในงานพระราชพิธี ไดแ้ ก่ พานพระขนั หมาก พระมณฑปรัตนกรณั ฑ์ พระสุพรรณราช และพระสุพรรณศรบี วั แฉก
3 เครอื่ งสงู ชนดิ หนง่ึ เปน็ ฉตั รทรงใหญ่ ๓ ชน้ั ทำ� ดว้ ยผา้ ปกั หกั ทองขวางและมสี ายไหมถกั หา่ ง ๆ คลมุ ทบั กนั ลมตกี ลบั มพี หู่ อ้ ย
ที่ระบายช้นั ล่าง สำ� รบั หน่ึงมี ๔ คัน ส�ำหรบั ปักและแห่เสดจ็ พระราชดำ� เนินหลงั ฉตั ร ๕ ชนั้
465 งปเป้านื ว็นคำ� ราชาศพั ท์ ปจั จุบนั ใช้วา่ “พระวิสตู ร, พระสตู ร” หมายถึง มา่ น
7 ฉบับพิมพ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ และ พ.ศ. ๒๕๒๘ ปรากฏข้อความวา่ “ทิศตะวนั ออก”
332 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พวงดอกไม้ร้อยกรองเปนระย้าขนาดใหญ่ ระหว่างระย้าโคมแก้วเปนสองแถว ๆ ละ ๕ พวง พวงระย้าร้อยกรอง
ด้วยดอกไม้ขนาดย่อม ที่ช่องพระบัญชรและช่องพระทวารทุกช่อง
ในพระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ ตั้งพระแท่นมณฑลท่ีริมผนังด้านตวันออกทางมุมผนังข้างเหนือ มีโต๊ะหมู่
จ�ำลักลายทองประดิษฐานพระพุทธปฏิมากร พระพุทธบุษยรัตนองค์ใหญ่และองค์น้อย1 พระชัยวัฒน์ประจ�ำ
รัชกาลท้ัง ๖ รัชกาล พระชัยเนาวโลหของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระนิรันตราย พระเรือนแก้ว
พระแก้วอุ้มบาตร์ พระเจดีย์ลังกาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระธรรมคัมภีร์ พระสุพรรณบัฏกับ
ดวงพระชนมพรรษา ซ่ึงได้เชิญแห่มาจากพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และเคร่ืองราชกกุธภัณฑ์2
เคร่ืองพระบรมราชาภรณ์และเครื่องราชูปโภค รูปเทวดาเชิญหีบพระราชลัญจกร และเชิญพระแสง
ต้ังพระขันหยก พระครอบพระกร่ิง พระมหาศังข์ มีเชิงเทียน ทอง เงิน หนักเล่มละ ๘ บาทตั้งส�ำหรับพระราชพิธี
กับประดับพระแสงส�ำหรับแผ่นดิน พระแสงประจ�ำรัชกาล พระแสงอัษฎาวุธ ที่ราวหลังในพระแท่นมณฑล
ท่ีเสาพระแท่นมณฑลมีพระมหาเศวตฉัตรพระกันภิรมย์3 ธงชัยราชกระบี่ธุช พระครุฑพ่าห์ ธงมหาราช
ธงมหาไพชยนต์ พระเต้าน้�ำพระพุทธมนตร์ต่าง ๆ เหมปักแว่นเวียนเทียน และเทียนทอง เทียนเงิน หนักเล่มละ
๘ บาท ที่เตียงลารองพระแท่นมณฑล มีเทียนพระมหามงคลคู่ ๑ มีเชิงเทียนทอง เทียนเงิน หนักเล่มละ ๘ บาท
สลับกับหม้อน้�ำพระพุทธมนตร์ และพานทองจัดดอกไม้ ๖ คู่ มีตู้เทียนเท่าพระองค์อยู่เบื้องขวาเบื้องซ้าย
พระแทน่ มณฑลคู่ ๑ หนา้ พระแทน่ มณฑลตงั้ เครอื่ งนมสั การลงยาราชาวดี มพี ระแทน่ ทรงกราบ วงดา้ ยสายสญิ จน์
สพานจากพระแท่นมณฑลแยกเลียบไปตามบัวผนังเหนือช่องพระบัญชรทั้งสองด้าน ไปออกช่องพระทวาร
เทวราชมเหศวร์ตรงพระท่ีน่ังบุษบกมาลา แล้วแยกไปตามเสาพระท่ีนั่งอมรินทรวินิจฉัยท้ังสองข้าง แล้วแยก
เล้ียวเข้าที่กระโจมเทียนชัยและพระแท่นเตียงสวดภาณวาร โยงสายสิญจน์จากสพานมายังอาศน์สงฆ์
เจริญพระพุทธมนตร์ในพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย และพระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ พระท่ีนั่งจักรพรรดิพิมานทุกสาย
ตามสถานท่ีเจริญพระพุทธมนตร์ แล้วโยงสายสิญจน์ไปวงรอบพระราชมณเฑียรท่ีท�ำพระราชพิธี และวงไปยัง
พระมณฑปพระกระยาสนานสรงพระมูรธาภิเษก และวงต่อออกไปยังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามด้วย
1 พระพุทธบุษยรัตนองค์ใหญ่ คือ พระพุทธบุษยรัตนจักรพรรดิพิมลมณีมัย เป็นพระพุทธปฏิมาท่ีพระบาทสมเด็จพระพุทธ
เลิศหล้านภาลัยทรงได้รับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพียงองค์เดียวตลอดรัชสมัยของพระองค์ พระพุทธรูปเป็นแก้วผลึกสีขาว
พระพุทธบุษยรัตนองค์น้อย คือ พระพุทธบุษยรัตน์น้อย เป็นพระพุทธปฏิมาท่ีพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงได้รับ
การทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายจากนายเพ่ิมไพร่หลวงรักษาพระองค์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหม่ืนภูธเรศธ�ำรงศักด์ิ กับพระรจนารังสรรค์แก้พระพักตร์ให้งดงามกว่าเดิม
อกี ทงั้ ทำ� ฉัตรกับฐานถวาย เปน็ พระแก้วผลกึ สีขาวใส สำ� หรบั ต้ังในพระราชพิธี และเปน็ พระแกว้ ประจำ� รชั กาลดว้ ย
2 เป็นเครื่องประกอบพระบรมราชอิสริยยศของพระมหากษัตริย์ ซ่ึงเทวาธิราช ป. มาลากุล สมุหพระราชพิธี อธิบายว่า
ในงานพระราชพธิ รี าชาภิเษก เจ้าพนกั งานทูลถวาย ดงั นี้ ชุดแรก คอื มงกุฎ พระแสงขรรค์ ธารพระกร พดั หรอื แส้ และฉลองพระบาท
และชดุ หลัง คือ พระมหาเศวตฉัตร
3 พระกันภิรมย์ หรือ พระกรรม์ภิรมย์ เป็นช่ือที่ใช้เรียกฉัตร ๓ ฉัตรรวมกัน คือ พระเสนาธิปัต (พระเสมาธิปัตย์,
พระเสนาธิปัตย) พระฉตั รชยั พระเกาวพา่ ห์ มลี ักษณะเป็นฉตั รแพรขาวลงยันตเ์ ดนิ ทอง
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 333
พระท่ีนั่งอัฐทิศอุทุมพรราชอาศน์ มีพระบวรเศวตฉัตรปักอยู่ท่ามกลาง ต้ังอยู่ตรงหน้าพระทวาร
ท่ีลงจากหอพระสุราลัยพิมาน1 มีตั่งอัฐทิศท�ำด้วยไม้ไผ่สีสุกพันผ้าขาวปูผ้าขาวต้ังเทวรูปอธิไทโพธิบาต2
และเทวรูปนพเคราะห์ประจ�ำทิศ3 มีเต้าน�้ำศิลา พระถ้วยศิลาจารึกอักษรคลุมตาด และกรดศังข์ของพราหมณ์
มีเคร่ืองนมัสการถ้วยแก้วเชิงจัดพุ่มดอกไม้สดตามสีเทวดานพเคราะห์ และมีเทียนทอง เทียนเงินคู่ ๑ ทั้ง ๘ ทิศ
เทวรูปพระเกตุต้ังอยู่เหนือต่ังไม้สีสุกพันผ้าขาวปูผ้าขาวบนพระแท่นลาข้างหน้าพระท่ีนั่งอัฐทิศมีเครื่องบูชา
ทิศกลางเทียนทอง เทียนเงิน หนักเล่มละ ๘ บาท บูชาพระเศวตฉัตรคู่ ๑ ท้ัง ๓ วัน ถึงวันเสด็จข้ึนอัฐทิศ
ย้ายเทวรูปเทวดาองค์อ่ืนมารวมอยู่บนตั่งข้างหน้า วันเจริญพระพุทธมนตร์ ๓ วัน ต้ังบัดยอดมณฑปจ�ำลักลาย
ปิดทอง โหรบูชานพเคราะห์ และมีขันพระสาครเงินน�้ำพระพุทธมนตร์ส�ำหรับโหรจุดเทียนติดบูชานพเคราะห์
อยู่ข้างหน้าด้วยพระขัน ๑
พระท่ีน่ังภัทรบิฐ มีพระบวรเศวตฉัตรประดิษฐานอยู่ตรงหน้าพระทวารที่ลงจากหอพระธาตุมณเฑียร
มีโต๊ะต้ังข้างพระท่ีน่ังภัทรบิฐ ท้ังสองข้างส�ำหรับตั้งเคร่ืองราชูปโภค มีพานทองจัดพุ่มดอกไม้ ขวดทอง
ปักดอกไม้คู่ ๑ เทียนทอง เทียนเงิน หนักเล่มละ ๘ บาทคู่ ๑ ต้ังบนพระแท่นลารองพระท่ีนั่งภัทรบิฐบูชา
พระบวรเศวตฉัตรนั้น
ตั้งโต๊ะปิกจีน เคร่ืองลายครามท่ีบูชา ณ ท่ีประดิษฐานพระสยามเทวาธิราช4 ตรงลับแลพระทวาร
เทวราชมเหศวร์ ต้ังโต๊ะเครื่องบูชาต่อมาข้างหน้าอีกโต๊ะ ๑ มีเทียนทองเงินหนัก ๓ ต�ำลึงคู่ ๑5
ในพระท่ีน่ังไพศาลทักษิณน้ี มียันต์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอักขระขอมตัวทองแขวนห้อยอยู่กับระย้าแก้ว
ไฟฟ้าตรงหน้าโต๊ะท่ีบูชาพระสยามเทวาธิราช มีสายสิญจน์ต่อจากสพานมาที่ยันต์ ห้อยลงมาส�ำหรับพระราชา
คณะผใู้ หญถ่ อื เวลาประกาศเทวดา มยี นั ตพ์ ระอรยิ สาวกอคั ระคาถาตวั ทองแขวนทผ่ี นงั ตามแนวลวดบวั ประจำ� ทศิ
ทั้ง ๘ ต่อสายสิญจน์จากสพานมาผูกที่ยันต์ทั้ง ๘ ยันต์ เพดานพระที่นั่งมีพวงดอกไม้ร้อยกรองเปนระย้า
สองแถว ๆ ละ ๗ มีพวงมาลัยเปียผูกห้อยท่ีพระบวรเศวตฉัตร พระที่น่ังอัฐทิศ และพระท่ีนั่งภัทรบิฐโยงด้าย
สายสิญจน์จากสพานมายังพระบวรเศวตฉัตรท้ังสองแห่ง และมีพวงระย้าดอกไม้ขนาดย่อมห้อยตามพระบัญชร
และพระทวาร
1 เอกสารบางฉบับใช้ว่า “หอพระสุลาลัยพิมาน” เป็นหอพระ สร้างขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก
มหาราช ซง่ึ ในรชั กาลพระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลศิ หลา้ นภาลยั ไดท้ รงบรู ณะครง้ั ใหญไ่ ว้ ตงั้ อยดู่ า้ นตะวนั ออกของพระทน่ี ง่ั ไพศาลทกั ษณิ
เป็นสถานทีส่ �ำหรบั ประดษิ ฐานปชู นียวัตถุ ได้แก่ พระพุทธปฏมิ ากรส�ำคัญ ๆ
2 เทวรูปอธิไทโพธิบาต เป็นเทวดารักษาทิศท้ังแปด คือ พระอินทร์ พระเพลิง พระยม พระนารายณ์ พระพิรุณ พระพาย
พระโสม3แ ลเทะวพรรูปะนไพพศเครพราณะ์ห(อ์ปธรไิ ะทจโ�ำพทธิศบิ าคทือว์ หรอื เทวดาโพไทธบิ าต ก็เรียก)
เทพท้ัง ๙ องค์ ผู้ครองเรือนชะตาของมนุษย์ซึ่งให้คุณและโทษกับมนุษย์ ประกอบด้วย
พระอาทติ ย์ พระจันทร์ พระอังคาร พระพธุ พระพฤหัสบดี พระศุกร์ พระเสาร์ พระราหู และพระเกตุ
4 ฉบบั พมิ พ์ พ.ศ. 2492 และ พ.ศ. 2528 ปรากฏขอ้ ความว่า “จดั โตะ๊ เคร่อื งบูชา ณ ที่ประดษิ ฐานพระสยามเทวาธิราช”
5 ฉบับพิมพ์ พ.ศ. 2492 และ พ.ศ. 2528 ปรากฏขอ้ ความวา่ “ข้างหนา้ โตะ๊ มีเทยี นทอง เงนิ หนัก 3 ต�ำลงึ คู่ 1”
334 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ทอดพระราชบัลลังก์ท่ีประทับต่อหน้าพระที่นั่งอัฐทิศออกมาตามผนังด้านทักษิณช่องที่สาม
ทอดเคร่ืองพานพระขันหมากทองค�ำลงยาราชาวดี และพระแสงง้าว พระแสงปืนทอดราวอยู่หลังพระราช
บัลลังก์
ต้ังอาศน์สงฆ์ข้างแนวผนังด้านเหนือหน้าพระแท่นมณฑลออกมาเปนสองแถว ต่อจากพระทวาร
เทวราชมเหศวร์ข้างตวันตกแถวเดียว
พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการท่ีได้รับพระราชทานพานทอง1 เผ่าทูลลอองธุลีพระบาทหน้าแถว
อาศน์สงฆ์ตอนตวันตก ผันหน้าไปยังที่ประทับทิศตวันออก
หลังพระที่นั่งภัทรบิฐและที่พระเฉลียงชานพักด้านใต้ เปนที่มหาดเล็กและเจ้าพนักงานกรมต่าง ๆ ผู้ที่
มีหน้าท่ีเก่ียวกับพระราชพิธีเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท
ชานพักท้องพระโรงหน้าพระที่น่ังจักรพรรดิพิมานเปนท่ีพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายในเฝ้าทูลลอองธุลี
พระบาท ท้าวนางเถ้าแก่เฝ้าตามพระเฉลียงท้องพระโรงหน้าท้ังสองข้าง
พระท่ีนั่งจักรพรรดิพิมาน ตั้งพระแท่นบรรธมในพระฉากด้านตวันออกตอนข้างเหนือมีนพปฎลเศวตฉัตร
แขวนลอยบนเพดานเหนือพระแท่นบรรธม ลดแต่งใหม่ทอดอยู่บนขาทรายโยงด้ายสายสิญจน์ผูกไว้ เมื่อเวลา
พระมหามงคลฤกษ์สรงพระมูรธาภิเษกสนานจะได้ยกขึ้นแขวน บนพระแท่นลดพระยี่ภู่พับคลุมเย่ียระบับ
ไว้พร้อมด้วยพระเขนยทองบนพานแว่นฟ้า บนพระแท่นบรรธมต้ังม้าหมู่เชิญพระชัยเนาวโลหรัชกาลท่ี ๕
ประดิษฐานพร้อมด้วยพานทองประดับดอกไม้สดและเทียนทองเงินหนัก ๘ บาท ๒ คู่ เคร่ืองสักการบูชา
มีเครื่องเฉลิมพระราชมณเฑียรตั้งอยู่พร้อม คือ ศิลาบดโมรา พรรณพืช เข้าเปลือก2 ถั่ว งา เมล็ดพรรณผักกาด
เมลด็ ฝา้ ย วลิ าร3์ แตง่ ประดบั ดว้ ยเครอ่ื งทองฝงั เพช็ รพ์ ลอย4 ปลู าดอาศนบนพระแทน่ บรรธมสำ� หรบั พระราชาคณะ
๕ รูปเจริญพระพุทธมนตร์บนพระแท่น ตั้งเครื่องนมัสการเคร่ืองแก้วเจียรไนยหน้าพระแท่นบรรธม
ปูราชอาศน์นมัสการ มีพระฉากก้ัน ห้องกลางทอดพระราชอาศน์ท่ีประทับทรงสดับพระราชาคณะ ๕ รูป
เจริญพระพุทธมนตร์ ทอดเคร่ืองพานพระศรีลงยาราชาวดีของเดิม มีพระมณฑปพระมหามงคลส�ำหรับทรง
เม่ือเวลาพระราชาคณะเจริญพระพุทธมนตร์และถาดสรงพระพักตร์ มีขันพระนพในเวลาพระสงฆ์ราชาคณะ
เจริญพระพุทธมนตร์เษกน้�ำพระพุทธมนตร์ทั้ง ๓ วันน้ันด้วย
ในพระฉากตอนใต้ห้องทรงเคร่ือง ตั้งพระแท่นลาดราชอาศน์ ตั้งเคร่ืองสรงพระพักตร์และ
เคร่ืองพระส�ำอางพร้อม มีนพปฎลเศวตฉัตรแขวนลอยเหนือพระแท่น ลดแต่งใหม่ทอดอยู่บนขาทราย
โยงด้ายสายสิญจน์มาผูกไว้ จะได้ยกข้ึนเม่ือเวลาพระมหามงคลพระฤกษ์สรงพระมูรธาภิเษกสนานพร้อมกัน
และมีฉากห้องสรงต่อเน่ืองกัน
1 ฉบบั พมิ พ์ พ.ศ. ๒๕๒๘ ปรากฏขอ้ ความวา่ “พระบรมวงศานวุ งศแ์ ละขา้ ราชการทไ่ี ดร้ บั พระราชทานเครอื่ งราชอศิ รยิ าภรณ์
ชน้ั สูงต้ังแต่ประถมาภรณช์ ้างเผอื กขึ้นไป”
32 แขมา้ ววเปปลจั ือจกุบันเขยี นวา่ วฬิ าร์ หรอื วฬิ าร
4 ฉบบั พมิ พ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ และ พ.ศ. ๒๕๒๘ ปรากฏวา่ มี “พระแสห้ างชา้ งเผอื ก จน่ั หมากทอง ธารพระกรศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ กญุ แจทอง”
เพ่มิ เขา้ มาด้วย
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 335
มณฑปพระกระยาสนาน
มณฑปพระกระยาสนาน ปลูกที่ชาลาหน้าชานพักด้านตวันออกยกพ้ืนชั้นหนึ่ง ตั้งพระมณฑปพื้นขาว
ยอดพื้นขาวมีนาคช่อห้อยช่อตั้งกระจังปิดทอง มีเฟื่องอุบะจ�ำปาทองรอบ เพดานผ้าขาวปิดทองช�ำลุลาย
มีอุบะจ�ำปาทองห้อยกลาง มีพระสูตร์ขาวทองแผ่ลวดลายแย่งทรงเข้าบิณฑ์ท้ัง ๔ ด้าน ตั้งต่ังไม้อุทุมพร
บนถาดทองในมณฑป วันสรงพระมูรธาภิเษกสนานจะได้ต้ังถาดทองเคร่ืองสรงพระพักตร์ลงยาราชาวดี
มพี ระครอบมรู ธาภเิ ษกสนาน และมใี บตะขบซงึ่ เปนใบไมก้ าลกณิ สี ำ� หรบั ทรงเหยยี บ และทย่ี กพน้ื ฐานพระมณฑป
มีราชวัตร์พื้นขาวลายดวงทองมีเครื่องสูงทองแผ่ลวด ๗ ชั้นพ้ืนโหมดสีทอง นาก เงิน ปักทั้ง ๔ มุม ๆ ละ
๓ องค์ ที่ราชวัตร์ประดับผูกต้นกล้วย ต้นอ้อย จั่นหมาก จั่นมะพร้าว มีช่องทางขึ้นท้ัง ๔ ด้าน
ตั้งบุษบกน้อยลายสลักปิดทองส�ำหรับต้ังพระชัยเนาวโลหทิศบูรพา ตั้งบุษบกน้อยลายสลักปิดทอง
ส�ำหรับต้ังพระพิฆเณศทิศปัศจิม ส�ำหรับเวลาเชิญน�ำเสด็จสู่ที่พระมณฑปสรงพระมูรธาภิเษกสนานจะได้
ประดิษฐานในมณฑป มีศาลเทวดาบูชาฤกษ์จตุโลกบาลทั้ง ๔ ศาลพระอินทร์อยู่กลางมณฑป โหรเริ่มบูชาตั้งแต่
วันที่ ๒๒ ท่ี ๒๓ ที่ ๒๔ ทั้ง ๓ วัน ถึงวันท่ี ๒๕ จะได้เสด็จสู่พระแท่นสรงพระมูรธาภิเษกสนาน เจ้าพนักงาน
จึงย้ายศาลพระอินทร์ไปต้ังที่ชาลาหน้ามณฑปทิศบูรพา ส่วนศาลจตุโลกบาลท้ัง ๔ ย้ายไปเข้าต้ังตามราชวัตร์
ทั้ง ๔ มุม เว้นช่องทางข้ึนลงให้เปนการสดวก กับต้ังโต๊ะเครื่องสังเวยเทวดากลางหาวท่ีหลังศาลพระอินทร์
ที่ชาลาทิศบูรพา มีกระถางธูปและเทียนทองเงินหนักเล่มละ ๖ บาทคู่ ๑
และปลูกปะร�ำมียกพื้นข้างพระเฉลียงพระมหามณเฑียรด้านตวันออก เปนที่ประทับพระบรมวงศานุวงศ์
ฝ่ายในเฝ้าเวลาสรงพระมูรธาภิเษกสนาน
ปลูกปะร�ำมียกพื้นข้างพระเฉลียงพระมหามณเฑียรด้านตวันตก เปนที่ข้าทูลลอองธุลีพระบาทภรรยา
ข้าราชการเฝ้า
โรงพระราชพิธีพราหมณ์
มีโรงพระราชพิธีพราหมณ์ ที่ริมก�ำแพงนอกฉนวนทางข้างพระท่ีน่ังอมรินทรวินิจฉัยด้านตวันออก
กับด้านทิศตวันตกแห่งพระท่ีน่ังบรมพิมาน ผันหน้าโรงพระราชพิธีไปทางทิศใต้ มีช่อฟ้าใบระกาหางหงษ์ท�ำด้วย
ไม้จริงปิดทองน�้ำตะโก หลังคาดาดผ้าขาว เพดานผ้าขาว ฝ่าบุผ้าขาว มีไม้โขลนทวารปักราชวัตร์ตาชะแลง
ทาขาวมีฉัตรธงกระดาษ ๕ ช้ัน ประดับด้วยต้นกล้วย ต้นอ้อย จ่ันหมาก จ่ันมะพร้าว ตั้งเตียงมณฑลเล็กประดับ
กระจกในโรงพระราชพิธี มีโต๊ะทองตั้งพระอิศวร พระอุมา พระนารายน์ พระลักษมี พระมเหศวรี พระพรหม
336 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระมหาพิฆเณศ กับต้ังโต๊ะเทวดานพเคราะห์และตั้งโต๊ะเบ็ญจครรภ์ ตั้งหม้อกุณฑ ๙ หม้อ อยู่เบ้ืองขวา
เตียงมณฑล ตั้งเตาโหมกุณฑ1อยู่เบ้ืองซ้ายไว้พร้อม
ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีเทียนพระมหามงคลวันละคู่ ๑ เทียนเท่าพระองค์วันละคู่ ๑
มีเครื่องนมัสการพานทองใหญ่ส�ำหรับบูชาในวันพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนตร์ วันท่ี ๒๒ วันที่ ๒๓ วันท่ี ๒๔
กุมภาพันธ์นั้นด้วยท้ัง ๓ วัน
งานบรมราชาภิเษก
(ก) พิธีเบื้องต้น วันท่ี ๒๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๘ เวลา ๖ ล.ท.2 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเคร่ือง
คร่ึงยศทหารบก เสด็จออกเกยหน้าพระที่น่ังบรมพิมานประทับพระราชยานกง เสด็จโดยขบวนราบแต่เกย
หน้าพระท่ีน่ังบรมพิมาน หัวหม่ืนพระยามานพนริศร์3 มหาดเล็กเชิญพระแสงฝักทองเกล้ียงตามเสด็จ
และเปนผู้เชิญตามเสด็จต่อไปทุกเวลา ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ตั้งกองเกียรติยศหน้ากระทรวงวัง
พร้อมด้วยแตรวงธงประจ�ำกอง เทียบพระราชยานที่เกยหน้าพระทวารเทเวศรรักษา เสด็จในพระที่น่ัง
อมรินทรวนิ จิ ฉัย พระบรมวงศานุวงศ์ ขา้ ราชการเฝ้าทลู ลอองธลุ ีพระบาทโดยลำ� ดบั ทรงจุดเทยี นเครือ่ งนมัสการ
บูชาพระสัมพุทธพรรณี พระพุทธมณีรัตนปฏิมากรน้อยซ่ึงประดิษฐานอยู่ ณ พระที่น่ังบุษบกมาลาแล้ว
เสดจ็ ทางพระทวารเทวราชมเหศวร์ เจา้ กรมพระต�ำรวจหลวงนำ� เสดจ็ มหาดเลก็ เชญิ เครอ่ื งและจางวางมหาดเลก็ 4
ตามเสด็จข้ึนประทับในพระท่ีน่ังไพศาลทักษิณ ประทับพระราชบัลลังก์ เจ้าพนักงานประโคมแตรศังข์
ดุริยดนตรี สังฆการีอาราธนาสมเด็จพระราชาคณะพระราชาคณะ ๓๐ รูป มีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่น
ชินวรสิริวัฒน สมเด็จพระสังฆราชเจ้าเปนประธาน ซ่ึงจะได้เจริญพระพุทธมนตร์ต้ังน้�ำวงด้ายเข้าทาง
ประตูสนามราชกิจ พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการช้ันได้รับพระราชทานพานทอง5 และผู้มีหน้าท่ี
เข้าไปเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท พร้อมกับพระสงฆ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ
หน้าพระแท่นมณฑล สมเด็จพระสังฆราชเจ้าถวายศีลแล้ว พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนตร์ ทรงจุดเทียนทองเงิน
บูชาพระบวรเศวตฉัตรที่พระแท่นอัฐทิศ และเทียนที่โต๊ะเคร่ืองบูชาพระสยามเทวาธิราช และเทียนทองเงิน
บูชาพระเศวตฉัตรท่ีพระท่ีน่ังภัทรบิฐแล้วประทับพระราชบัลลังก์ พระราชครูวามเทพมุนี6 เจ้ากรมพราหมณ์
พิธีถวายน�้ำพระมหาศังข์ พราหมณ์เป่าศังข์ เม่ือพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนตร์จบ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า
ถวายพระพรลา เวลา ๗.๔๐ ล.ท.7 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับโดยขบวรราบตามทางเดิมขึ้นประทับ
1 ปัจจุบนั ใช้ว่า กูณฑ์ เป็นคำ� ในภาษาสันสกฤต แปลวา่ ไฟ, หลมุ ไฟ, หม้อไฟ ซงึ่ การบชู ากณู ฑ์และโหมกณู ฑ์เป็นพธิ พี ราหมณ์
อนั เนื่องมาจากคตกิ ารบชู าไฟ
2 ตรงกับเวลา ๑๘ นาฬกิ า
3 ทองเจือ ทองเจือ
4 ฉบบั พมิ พ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ และ พ.ศ. ๒๕๒๘ ปรากฏขอ้ ความเพ่ิมเติมว่า “กับสมหุ ราชองครักษ”
765 หฉตบรวงา่บั กงพบั ริมเงัวพสล์พิพาร.๑ศาห.๙๒มน๔ณา๙กฬ๒ุลกิ าแล๔ะ๐พน.ศา.ท๒ี ๕๒๘ ปรากฏขอ้ ความว่า “เคร่ืองราชอิศริยาภรณช์ ั้นสูง ตั้งแตป่ ระถมาภรณช์ ้างเผอื ก”
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 337
พระท่ีน่ังบรมพิมาน
วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ เวลาเช้าพระสงฆ์ได้มานั่ง ณ อาศน์สงฆ์พร้อมอยู่ในพระท่ีนั่งอมรินทรวินิจฉัย
เข้าพระราชพิธี รวม ๘๐ รูป เวลา ๙.๔๐ ก.ท.1 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเคร่ืองครึ่งยศทหารบกประดับ
เคร่ืองราชอิศริยาภรณ์เสด็จพระราชด�ำเนิรโดยขบวรราบแต่หน้าพระท่ีน่ังบรมพิมานเข้าสู่พระท่ีน่ังอมรินทร
วินิจฉัย พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการเฝ้าตามต�ำแหน่ง จึงทรงจุดเทียนเคร่ืองนมัสการพระ สมเด็จ
พระสังฆราชเจ้าถวายศีล ถึงเวลาอุดมมหามงคลฤกษ์ ๑๐.๐๔ ก.ท.2 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดเทียนทอง
ชนวนด้วยไฟฟ้า ทรงต้ังสัตยาธิษฐาน แล้วถวายเทียนทองแด่สมเด็จพระสังฆราชเจ้า ทรงจุดเทียนชัย
พระสงฆ์ ๘๐ รูปพร้อมกันสวดคาถาจุดเทียนชัย พระยาโหราธิบดี3 ลั่นฆ้องชัย พราหมณ์เป่าศังข์ กรมแสงใน
ขับไม้บัณเฑาะว์ พนักงานประโคมแตรศังข์เครื่องดุริยดนตรี เม่ือจุดเทียนชัยแล้ว ทรงจุดเทียนชนวน
เคร่ืองสังเวย ให้มหาดเล็กกองต้ังเครื่อง เชิญเคร่ืองสังเวยไปตั้งสังเวย ตามสถานที่ส�ำคัญต่าง ๆ คือ
๑. ที่พระสยามเทวาธิราชในพระที่น่ังไพศาลทักษิณ ๒. ที่พระที่นั่งเศวตฉัตรในพระท่ีน่ังอมรินทรวินิจฉัยน้ัน
๓. ท่ีพระมหาเศวตฉัตรในพระท่ีนั่งดุสิตมหาปราสาท ๔. ท่ีพระมหาเศวตฉัตรในพระที่น่ังจักรีมหาปราสาท
๕. ท่ีพระมหาเศวตฉัตรในพระที่น่ังอนันตสมาคม ๖. ท่ีพระนเรศวรเปนเจ้า ณ ห้องภูษามาลา ๗. ท่ีเทวสถาน
พระอิศวร ๘. ที่เทวสถานพระนารายน์ ๙. ท่ีเทวสถานพระคเณศ ๑๐. ท่ีเทวรูป ณ หอเชือก ๑๑. ท่ีพระหลักเมือง
๑๒. ที่พระเสื้อเมือง ๑๓. พระกาฬชัยศรี ๑๔. พระเพลิง ๑๕. พระเจตคุปต์ ๑๖. ที่เทวรูป ณ หอแก้วพระภูมิ
กับ ๑๗. เทวรูปท่ีตึกดิน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงประเคนไตรแพร ย่ามแพรลายก้านแย่งทรงเข้าบิณฑ์
แกพ่ ระสงฆพ์ รอ้ มดว้ ยเหรยี ญบรมราชาภเิ ษก ทำ� ดว้ ยโลหทองแดงเปนทรี่ ะลกึ แกพ่ ระสงฆพ์ ระราชาคณะ ๘๐ รปู
แล้ว เสด็จข้ึนพระที่นั่งไพศาลทักษิณ เจ้ากรมพระต�ำรวจหลวงทั้ง ๔ คือ พระยามหาเทพ4 พระยามหามนตรี5
พระอินทรเทพ6 พระพิเรนทรเทพ7 น�ำเสด็จขึ้นทางพระทวารเทวราชมเหศวร์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จข้ึนพระที่นั่งไพศาลทักษิณ ประทับพระราชบัลลังก์ เจ้าพนักงานสังฆการีอาราธนาพระสงฆ์ ๓๐ รูป
ท่ีจะได้เจริญพระพุทธมนตร์ไปในพระที่น่ังไพศาลทักษิณ อีก ๕๐ รูปนั้นรับพระราชทานฉันในพระท่ีน่ัง
อมรินทรวินิจฉัย คร้ันเสร็จ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระท่ีนั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดเทียน
เคร่ืองนมัสการบูชาพระธรรมที่พระแท่นเตียงสวด พระราชาคณะขึ้นเตียงน่ังปรก ๑ รูป ขึ้นพระแท่น
สวดภาณวาร ๔ รูป เริ่มสวดภาณวารต้ังแต่วันน้ีเปนต้นไปจนตลอดการพระราชพิธี เวลา ๑๑.๑๕ ก.ท.8
1 ตรงกับเวลา ๙ นาฬกิ า ๔๐ นาที
2 ตรงกับเวลา ๑๐ นาฬิกา ๔ นาที
3 แหยม วัชรโชติ
4 เจก๊ รัตนทัศนยี
5 นนท์ บุณยรตั พันธ์ุ
6 คุ้น พหลโยธนิ
7 เนยี น เกตุทตั
8 ตรงกับเวลา ๑๑ นาฬิกา ๑๕ นาที
338 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชด�ำเนิรโดยขบวรราบกลับข้ึนสู่พระท่ีนั่งบรมพิมาน
ครน้ั เวลา ๖ ล.ท.1 สมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงเครอ่ื งเตม็ ยศจอมพลทหารบก ประดบั เครอื่ งราชอศิ รยิ าภรณ์
ทรงสายสพายมหาวชิรมงกุฎ เสด็จโดยขบวรราบมายังพระท่ีน่ังอมรินทรวินิจฉัย บรรดาข้าราชบริพาร
แต่งเต็มยศสวมครุยตามฐานันดรศักด์ิแห่น�ำตามเสด็จ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับพระราชบัลลังก์ในพระที่นั่ง
อมรินทรวินิจฉัย พระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทตามต�ำแหน่ง สมเด็จพระเจ้า
บรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศวรเดช พร้อมด้วยท่ีปรึกษาคณาภยันดรอันมีศักดิ์รามาธิบดี
กราบบังคมทูลถวายเครื่องราชอิศริยาภรณ์เสนางคบดีอันมีศักด์ิ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับแล้วเสด็จใน
พระสูตร์ ทรงสายสพายรามาธิบดีแล้วเสด็จออก ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ทั้ง ๒ ซ่ึงตั้งอยู่ซ้ายขวาแห่ง
พระที่นั่งบุษบกมาลา ทรงจุดเทียนนมัสการพระแล้ว ทรงจุดเทียนชนวนด้วยไฟฟ้า พระราชทานพระเจ้า
บรมวงศ์เธอ กรมหม่ืนวิวิธวรรณปรีชา เสด็จไปทรงจุดในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เจ้ากรม
พระต�ำรวจหลวง ๔ นายน�ำเสด็จขึ้นพระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้ทั้ง ๒ ข้างพระแท่น
มณฑลแล้วประทับพระราชบัลลังก์ พระยามานพนริศร์2 เชิญพระแสงฝักทองเกลี้ยงยืนอยู่หลัง
พระราชบัลลังก์ พระราชาคณะที่จะเจริญพระพุทธมนตร์เข้าทางประตูสนามราชกิจ เข้าน่ังยังอาศน์
ในพระแท่นบรรธม ๕ รูป ในพระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ ๓๐ รูป มีสมเด็จพระสังฆราชเจ้าเปนประธาน และ
เจริญพระพุทธมนตร์ในพระท่ีนั่งอมรินทรวินิจฉัย ๔๕ รูป สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดเทียนเคร่ืองนมัสการ
ที่หน้าพระแท่นมณฑลพระที่น่ังไพศาลทักษิณทรงศีลแล้วทรงจุดเทียนทองเงิน ธูป เครื่องบูชาที่โต๊ะ
พระสยามเทวาธิราช และเทียนทองเงิน บูชาท่ีพระที่นั่งอัฐทิศ กับพระท่ีน่ังภัทรบิฐ พระสาสนโสภณ3
วัดเทพสิรินธราวาส ยืนบนผ้าขาวลาดอาศน์ท่ีหน้าโต๊ะพระสยามเทวาธิราช ตรงใต้ยันต์พระสัมมา
สมั พทุ ธเจา้ จบั ดา้ ยสายสญิ จนซ์ งึ่ โยงมาจากสายสพานมาทยี่ นั ต์ อา่ นประกาศเทวดา พระสงฆเ์ จรญิ พระพทุ ธมนตร์
พระราชครูวามเทพมุนีเจ้ากรมพราหมณ์พิธีถวายน�้ำพระมหาศังข์ พราหมณ์เป่าศังข์ แล้วถวายใบไม้สมิทธ4ิ์
๓ อย่างพันด้วยผ้าขาวข้างต้นส�ำหรับทรงจับปัดพระองค์ คือใบมะม่วง ๒๕ ใบ ส�ำหรับทรงปัดได้แก่ภยันตราย
ใบทอง ๓๒ ใบ ส�ำหรับได้แก่อุปัทวันตราย ใบตะขบ ๙๖ ใบ ส�ำหรับได้แก่โรคันตราย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงรบั ปดั พระองคท์ งั้ ๓ อยา่ ง แลว้ พราหมณพ์ ระราชครวู ามเทพมนุ รี บั พระราชทานกลบั ไปกระทำ� ศาสตรปณุ ยา
ชุบโหมเพลิง5ยังโรงพระราชพิธี พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชการท่ีทรงนับว่าเปนราชบัณฑิตได้เข้าบูชาทิศ
ณ พระท่ีนงั่ อฐั ทิศครบท้งั ๘ ทศิ (ดังรายนามปรากฎข้างหน้า) พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมหม่ืนววิ ธิ วรรณปรีชาทรง
บูชาทิศกลางด้วย แล้วโหรบูชาเทวดาโพไทธิบาต6 และบูชานพเคราะห์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จประทับใน
1 ตรงกับเวลา ๑๘ นาฬกิ า
2 ทองเจือ ทองเจือ
3 เจรญิ ญาณวร
4 ปัจจบุ ันใชว้ า่ ใบไม้สมิต
5 ศาสตรปุณยาชุบโหมเพลิง คือพิธีน�ำใบสมิตท่ีทรงปัดแล้วมาเผาในเตากูณฑ์ให้เป็นเถ้าธุลีเพื่อให้สรรพอันตรายในพระองค์
สูญไปและจะนำ� เถา้ ใบสมติ ไปลอยน้�ำต่อไป
6 เทวดาโพไทธิบาต เป็นเทวดารักษาทิศทั้งแปด คือ พระอินทร์ พระเพลิง พระยม พระนารายณ์ พระพิรุณ พระพาย
พระโสม และพระไพศรพณ์ (อธไิ ทโพธบิ าทว์ หรือเทวรูปอธิไทโพธบิ าต ก็เรยี ก)
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 339
พระท่ีนั่งจักรพรรดิพิมาน เจ้ากรมพระต�ำรวจ ๔ น�ำ มหาดเล็กเชิญเคร่ืองตามเสด็จประทับในห้องพระบรรธม
ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการแก้วเจียระนัยแล้วประทับพระราชอาศน์ห้องกลาง ทรงพระมหามงคลสดับ
พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนตร์ เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนตร์ท่ีในพระแท่นบรรธมจบ ทรงเปลื้อง
พระมหามงคล เสด็จออกประทับพระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ สมเด็จพระสังฆราชเจ้าถวายพระพรลากลับ
แลว้ เสดจ็ ออกพระทน่ี ง่ั อมรนิ ทรวนิ จิ ฉยั ทรงจดุ เทยี นเครอ่ื งนมสั การบชู าพระธรรมทพี่ ระแทน่ เตยี งสวดภาณวาร
พระราชาคณะนั่งปรกและสวดภาณวารต่อไป เสด็จออกเกยหน้าพระทวารเทเวศรรักษา ประทับพระราชยาน
กลับทางเดิม เวลา ๗.๕๐ ล.ท.1 ในระหว่างสวดมนตร์วันนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน
เครื่องราชอิศริยาภรณ์ปฐมจุลจอมเกล้าวิเศษ แด่พระมเหษีหม่อมเจ้าร�ำไพพรรณี
วันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเคร่ืองคร่ึงยศทหารเรือประดับเครื่องราชอิศริยาภรณ์
เวลา ๑๐.๑๐ ก.ท.2 เสด็จโดยขบวรราบเหนือพระราชยานสู่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดเทียน
เครื่องนมัสการพระแล้ว ต�ำรวจ ๔ น�ำเสด็จข้ึนประทับพระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ พระราชาคณะ ๓๐ รูปกระท�ำ
ภักตกฤตย์ ทรงจุดเทียนทองเงินที่พระท่ีน่ังอัฐทิศและท่ีโต๊ะบูชาพระสยามเทวาธิราช ที่พระท่ีน่ังภัทรบิฐ
พระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้ว ถวายอนุโมทนาถวายพระพรลากลับ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่น่ัง
อมรินทรวินิจฉัย ทรงจุดเทียนเคร่ืองนมัสการบูชาพระธรรมที่พระแท่นสวดภาณวาร พระราชาคณะนั่งปรก
และสวดภาณวารต่อไป แล้วเสด็จกลับโดยขบวรราบเวลาเท่ียงวัน
เวลา ๖ ล.ท.3 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องเต็มยศทหารม้านครราชสีมา ทรงประดับเคร่ืองราช
อศิ รยิ าภรณ์ ทรงสายสพายมหาปรมาภรณช์ า้ งเผอื ก ทรงพระคฑาจอมพล ประทบั พระราชยานยาตราขบวรราบ
มาพระทน่ี ง่ั อมรนิ ทรวนิ จิ ฉยั ประทบั พระราชบลั ลงั ก์ พระบรมวงศานวุ งศ์ และขา้ ราชการเฝา้ ทลู ลอองธลุ พี ระบาท
มหาเสวกโทพระยาเทเวศรวงศ์วิวัฒน์4 สมุหพระราชมณเฑียร กราบบังคมทูลพระกรุณา5เบิกอุปราช
สมุหเทศาภิบาลเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาท นายพลตรีพระยาพระกฤษณรักษ์6 ปลัดทูลฉลองกระทรวง
กระลาโหม7 เบิกข้าราชการฝ่ายเสนาที่รับราชการอยู่หัวเมือง มหาอ�ำมาตย์โท พระยาศรีธรรมาธิราช8
ปลัดทูลฉลองกระทรวงมหาดไทย เบิกข้าราชการฝ่ายอ�ำมาตย์ ซึ่งรับราชการอยู่หัวเมืองแล้ว สมเด็จ
1 ตรงกบั เวลา ๑๙ นาฬิกา ๕๐ นาที
2 ตรงกบั เวลา ๑๐ นาฬิกา ๑๐ นาที
3 ตรงกับเวลา ๑๘ นาฬกิ า
4 ม.ล. วราห์ กุญชร
5 ขอ้ ความ “กราบบงั คมทูลพระกรณุ า” ไม่ปรากฏในต้นฉบบั พิมพ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ และ พ.ศ. ๒๕๒๘
6 สวาสดิ บุนนาค
7 ฉบบั พิมพ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ และ พ.ศ. ๒๕๒๘ ใช้ว่า “กระทรวงกลาโหม”
8 เจมิ บณุ ยรตั พันธุ์
340 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
พระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์1ทั้งสองตู้ และเทียนพระมหามงคล2 เทียนทองเงินบนพระท่ีนั่ง
บุษบกมาลากับทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการแล้ว ทรงเทียนชนวนพระราชทานแก่พระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมหมื่นวิวิธวรรณปรีชา เสด็จไปทรงจุดเทียนในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามเหมือนวันก่อน
ต�ำรวจ ๔ น�ำเสด็จข้ึนพระที่น่ังไพศาลทักษิณ ทรงจุดเทียนเท่าพระองค์ในตู้เบ้ืองซ้ายขวาพระแท่นมณฑล
แล้วประทับพระราชบัลลังก์ พนักงานประโคมแตรศังข์เคร่ืองดุริยดนตรี จึงพระราชาคณะเข้านั่งอาศน์
ในพระท่ีน่ังจักรพรรดิพิมาน ๕ รูป ในพระท่ีน่ังไพศาลทักษิณ ๓๐ รูป คงเจริญพระพุทธมนตร์ในพระท่ีน่ัง
อมรนิ ทรวนิ จิ ฉัย ๔๕ รปู สมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั ทรงจุดเทียนพระมหามงคลทพ่ี ระแทน่ มณฑล และเครอ่ื งนมสั การ
หน้าพระแท่นมณฑลในพระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ ทรงศีล แล้วทรงจุดเทียนทองเงินท่ีโต๊ะบูชาพระสยามเทวาธิราช
และท่ีพระบวรเศวตฉัตรพระท่ีน่ังอัฐทิศ พระที่น่ังภัทรบิฐแล้ว พระสาสนโสภณประกาศเทวดา พระสงฆ์เจริญ
พระพุทธมนตร์ พระราชครูวามเทพมุนีพราหมณ์ถวายน�้ำพระมหาศังข์ พราหมณ์เป่าศังข์ แล้วถวายใบไม้สมิทธ์ิ
ทรงปัดพระองค์อย่างวันก่อน ทรงปัดพระองค์แล้ว พราหมณ์รับพระราชทานกลับไปกระท�ำศาสตร์ปุณยาชุบ
โหมเพลิง ราชบัณฑิตเข้าบูชาอัฐทิศ โหรบูชาเทวดาโพไทธิบาต และเทวดานพเคราะห์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จประทับในพระท่ีนั่งจักรพรรดิพิมาน ณ ห้องบรรธม ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการพระแล้ว
พระราชาคณะ ๕ รูปเจริญพระพุทธมนตร์ ประทับพระราชอาศน์ทรงสดับพระพุทธมนตร์เหมือนวานน้ี
ครั้นเสร็จเสด็จออกประทับพระท่ีน่ังไพศาลทักษิณ และอมรินทรวินิจฉัยโดยนัยดังวันก่อนเปนเสร็จการ เวลา
๗.๐๕ ล.ท.3เสด็จพระราชด�ำเนิรกลับพระที่น่ังบรมพิมาน
วันท่ี ๒๔ กุมภาพันธ์ เวลา ๑๑ นาฬิกาก่อนเที่ยง4 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องครึ่งยศทหารบก
ประดับเคร่ืองราชอิศริยาภรณ์ เสด็จบ�ำเพ็ญพระราชกุศลเช่นวันก่อนทุกประการ เวลาเท่ียงวันเสด็จ
พระราชด�ำเนิรกลับโดยขบวรราบตามทางเดิม
คร้ันเวลา ๖ ล.ท.5 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเครื่องเต็มยศทหารปืนใหญ่ประดับเครื่องราชอิศริยาภรณ์
ทรงสายสพายจักรีบรมราชวงศ์ ประทับพระราชยานยาตราขบวรราบมาสู่พระท่ีน่ังอมรินทรวินิจฉัย ปลัด
ทูลฉลองกระทรวงกระลาโหม6กราบบังคมทูลพระกรุณาเบิกนายทหารท่ีรับราชการอยู่หัวเมืองเฝ้าทูลลออง
ธุลีพระบาท แล้วทรงกระท�ำราชสักการตามราชประเพณีและทรงเทียนชนวนพระราชทาน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ
กรมหม่ืนวิวิธวรรณปรีชาเสด็จไปทรงจุดเทียน7ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แล้วเสด็จขึ้น
1 เทียนเท่าพระองค์ คือ เทียนท่ีมีขนาดสูงเท่าพระองค์ วัดต้ังแต่พระบาทถึงพระเศียร ๑ คู่ จุดคู่กับเทียนพระมหามงคล
อน่ึง ในพระราชพธิ ีบรมราชาภเิ ษกรชั กาลที่ ๖ และรชั กาลที่ ๗ ทรงจดุ เทยี นเท่าพระองค์กอ่ น แลว้ จึงจดุ เทียนพระมหามงคล
2 เทยี นพระมหามงคล คอื เทยี นทม่ี ขี นาดยาวเท่ารอบพระเศียร จุดในการพระราชพิธีมงคล เชน่ การเฉลิมพระชนมพรรษา
พระราชพิธีหล่อพระพทุ ธรปู ประจำ� พระชนมวาร ซ่งึ หากเปน็ ประเพณหี ลวงจะตงั้ คู่ จดุ คูก่ ับเทยี นเทา่ พระองค์
3 ตรงกับเวลา ๑๙ นาฬกิ า ๕ นาที
45 ตตรรงงกกัับบเเววลลาา ๑๑ นาฬกิ า
๑๘ นาฬกิ า
6 ฉบับพมิ พ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ และ พ.ศ. ๒๕๒๘ ใช้วา่ “กระทรวงกลาโหม”
7 ฉบบั พิมพ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ และ พ.ศ. ๒๕๒๘ ไมป่ รากฏค�ำวา่ “เทยี น”
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 341
พระท่ีน่ังไพศาลทักษิณและพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน บ�ำเพ็ญพระราชกุศลจริยาวัตรดุจวันก่อนทุกประการ
เสด็จกลับเวลา ๗.๕๐ ล.ท.1
ในเวลาสวดมนตร์ณพระทนี่ ง่ั ไพศาลทกั ษณิ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯพระราชทานเครอ่ื งราชอศิ รยิ าภรณ์
อันเปนท่ีเชิดชูย่ิง มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก แด่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เณจ้าวฟัน้าก๕รม๑ฯพ๔ร๔ะนคร่�ำิศรปาีฉนลุวูสัดัปตติวศงกศ2์
(ข) พิธีบรมราชาภิเษก วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๘ ตรงกับ
ในวันน้ีมีฝนตกโปรยปรายมาต้ังแต่ ๑.๒๕ ก.ท.3 คร้ันใกล้จะถึงอุดมฤกษ์สรงพระมูรธาภิเษกฝนหยุด
ไปจนเสด็จออกทรงรับค�ำถวายพระชยมงคล4แล้ว ฝนได้ตกอีก คร้ันจวนใกล้จะเสด็จพระราชด�ำเนิร
โดยขบวรพยุหยาตรา ออกไปทรงกระท�ำสักการนมัสการพระมหามณีรัตนปฏิมากรวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
โดยเดชะพระบารมี ฝนหยุดลงอีกเปนมหัศจรรย์
เวลา ๙.๑๕ ก.ท.5 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องเต็มยศทหารเรือประดับเคร่ืองราชอิศริยาภรณ์
ทรงสายสพายนพรัตนราชวราภรณ์ เสด็จโดยขบวรราบแต่พระที่นั่งบรมพิมานมาสู่พระท่ีน่ังอมรินทรวินิจฉัย
ทรงจุดเทียนเคร่ืองนมัสการพระแล้ว เสด็จขึ้นประทับพระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ เจ้าพนักงานสังฆการีอาราธนา
พระสงฆ์ฉะเพาะ ๕ รูป คือ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์6 สมเด็จพระวันรัต7
สมเด็จพระพุฒาจารย8 พระพรหมมุนี9 เข้าน่ัง ณ อาศน์ในพระที่น่ังไพศาลทักษิณ (อีก ๓๐ รูปไปน่ังในพระที่นั่ง
จักรพรรดิพิมาน เพื่อรับพระราชทานอาหารบิณฑบาต) ทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการในพระที่น่ังไพศาลทักษิณ
สมเด็จพระสังฆราชเจ้าถวายศีลแล้ว เสด็จข้ึนประทับ ณ หอพระสุราลัยพิมาน ผลัดทรงเศวตพัสตร์สพักขาว
ขลิบทองแผ่ลวด ครั้นถึงอุดมฤกษ์โหรบูชาเทวดาพระฤกษ์ ท่ีศาลทั้ง ๕ ณ พระมณฑปมูรธาภิเษกสนาน
มีศีร์ษะสุกร มะพร้าวอ่อน บายศรีตองท้ัง ๕ ศาล เวลา ๙.๕๓ ก.ท.10 เปนปฐมฤกษ์ พระราชครูวามเทพมุนี
เจ้ากรมพราหมณ์พิธีกราบบังคมทูลอัญเชิญเสด็จสู่พระมูรธาภิเษกสนาน เสด็จลงจากหอพระสุราลัยพิมาน
ทางพระทวารทิศใต้ริ้วขบวรน�ำเสด็จคือ
1 ตรงกับเวลา ๑๙ นาฬิกา ๕๐ นาที
2 วนั พฤหสั บดี เดอื น ๔ ขึน้ ๑๔ คำ�่ ปีฉลู จลุ ศักราช ๑๒๘๗
3 ตรงกับเวลา ๑ นาฬกิ า ๒๕ นาที
4 ฉบับพมิ พ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ และ พ.ศ. ๒๕๒๘ ใชว้ า่ “คำ� ถวายพระพรชยั มงคล”
5 ตรงกบั เวลา ๙ นาฬิกา ๑๕ นาที
6 ม.ร.ว. เจรญิ ญาณจฺฉนฺท
7 จา่ ย ปณุ ฺณทตตฺ
8 แพ ตสิ ฺสเทว
9 แย้ม อปุ วิภาส
10 ตรงกับเวลา ๙ นาฬกิ า 53 นาที
342 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ซ้าย ขวา
๑. หลวงเทพาจารย1 หม่อมเจ้าพร้อม2
พราหมณพฤฒิบาศ ราชบัณฑิต เชิญ
เชิญพระพิฆเณศ พระชัยเนาวโลหะ
๒. พราหมณสุก เป่าศังขอุตตราวัฏ พราหมณลไม รัตนพราหมณ
โกมลเวทิน พราหมณตาด จารุเสน
๓. พราหมณเผย เป่าศังขอุตตราวัฏ พระครูสตานันทมุนี4
เศตพราหมณ พระครูอัษฎาจารย6
๔. หลวงสุริยาเทเวศร3 เป่าศังข์ทักษิณาวัฏ พระราชครูวามเทพมุนี
๕. หลวงราชมุนี5 โปรยเข้าตอก เจ้ากรมพราหมณ์พิธี
๖. พระสิทธิชัยบดี7
เจ้ากรมพราหมณพฤฒิบาศ
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงจุดเทียนสังเวยเทวดากลางหาวแล้วเสด็จขึ้นประทับตั่งไม้อุทุมพรพันผ้าขาว
ทรงเหยียบใบไม้ตะขบผันพระพักตร์สู่มงคลทิศอิศาณ หม่อมเจ้าพร้อมเชิญพระชัยเนาวโลหะประดิษฐาน
ในบุษบกตวันออก หลวงเทพาจารย์เชิญพระพิฆเณศประดิษฐานในบุษบกทิศปัศจิม พระยาโหราธิบดีลั่นฆ้องชัย
พนักงานประโคมศังข์แตรเคร่ืองดุริยดนตรี ทหารกองแก้วจินดายิงปืนมหาฤกษ์ มหาไชย มหาจักร์
มหาปราบยุค เปนพระฤกษ์ พระยาอุทัยธรรมถวายเครื่องพระกายะสนานและไขสหัสธารา พระเจ้าวรวงศ์เธอ
กรมหมื่นชินวรสิริวัฒน์ถวายน้�ำพระพุทธมนตร์ด้วยพระครอบพระกริ่ง ท่ีพระอังษาและพระหัดถ์8 สมเด็จ
พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ เจา้ ฟา้ กรมพระยาภาณพุ นั ธวุ งศว์ รเดชถวายพระเตา้ เบญ็ จครรภนอ้ ย สมเดจ็ พระเจา้ พย่ี าเธอ
เจ้าฟ้ากรมหลวงนครสวรรค์วรพินิต9ถวายพระเต้าหยก พระยาอุทัยธรรมถวายพระเต้าน้�ำพระพุทธมนตร์
ต่าง ๆ พระยาอัพภันตริกามาตย์10ถวายพระเต้าประทุมนิมิตร์น้�ำพระพุทธมนตร์ ทอง นาก เงิน
1 มี วสุพราหมณ์
2 ในกรมหมื่นภมู นิ ทรภกั ดี
3 สต ศตเวทนิ
4 แขก นาคเวทิน
5 สวาสดิ รงั สิพราหมณกลุ
6 ปลอด สวสั ดิเวทิน
7 วนิ ศริ พิ ราหมณกลุ
98 พฉบระับรพามิชพโอ์ พรส.ศใน. ๒พ๔ระ๙บ๒าทใชสค้มำ�เดว่าจ็ พ“รพะรจะลุ หจดั อถม์”เกแลตา้ ่ฉเจบ้าบั อพยิมหู่ พวั ์ พ.ศ. ๒๕๒๘ ใช้คำ� วา่ “พระหัตถ”์
ที่ ๒ ในสมเด็จพระปิตจุ ฉาเจา้ สขุ มุ าลมารศรี พระอคั รราชเทวี
ประสูติเมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๒๔ ในรัชกาลที่ ๗ ทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระเจ้าพ่ียาเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์
กรมพระนครสวรรค์วรพินติ ส้ินพระชนมใ์ นรัชกาลท่ี ๘ เมอื่ วนั ที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๗
10 จา่ ง ภาณทุ ัต
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 343
พระยาโหราธิบดีถวายน�้ำด้วยพระเต้านพเคราะห์ พราหมณ์ถวายน้�ำด้วยพระมหาศังข์ นาก ทอง เงิน
และพระครอบไสยศาสตร์ พระยาอุทัยธรรมถวายพระมหาศังข์ สรงเสร็จแล้วเสด็จขึ้น พระยาวงศาภรณ์
ภษู ติ 1 ถวายทรงคลมุ ซบั นำ้� พระยาบรหิ ารราชมานพ2 สอดฉลองพระบาทถวายแลว้ เสดจ็ ขน้ึ จากพระมณฑปสรง
ขึ้นสู่หอพระสุราลัยพิมาน ขณะเมื่อสรงพระมูรธาภิเษกนั้น พระบรมวงศานุวงศ์และผู้แทนพระราชาธิบดี
และประธานาธิบดีนานาประเทศฉะเพาะงานพระบรมราชาภิเษก ๘ นาย เฝ้าอยู่ที่ชานพักท้องพระโรง
หน้าพระท่ีน่ังจักรพรรดิพิมาน เมื่อเสด็จขึ้นจากพระมณฑปสรงแล้ว พระบรมวงศานุวงศ์ ทูตานุทูต ผู้แทน
นานาประเทศได้ไปคอยเฝ้าอยู่ในพระท่ีนั่งไพศาลทักษิณ3
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเครื่องบรมราชภูษิตาภรณ์4 เสด็จจากหอพระสุราลัยพิมานลงสู่พระที่น่ัง
ไพศาลทักษิณ หม่อมเจ้าพร้อมเชิญพระชัยเนาวโลหะน�ำเบื้องขวา หลวงเทพาจารย์พราหมณ์พฤฒิบาศ
เชิญพระพิฆเณศน�ำเบ้ืองซ้าย ประทับพระราชอาศน์พระท่ีนั่งอัฐทิศภายใต้พระบวรเศวตฉัตร ผันพระพักตร์
สู่มงคลทิศบูรพา พระยาอุทัยธรรมทูลเกล้าฯ ถวายพระเต้าเบ็ญจครรภ ส�ำหรับทรงรับน�้ำอภิเษกของ
ราชบัณฑิตและพราหมณ์ผู้ถือพรต พระบรมวงศานุวงศ์ ผู้แทนพระราชาธิบดีและประธานาธิบดีนานาประเทศ
และข้าราชการผู้ใหญ่ต้ังแต่ชั้นสายสพาย5เฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทอยู่ในพระที่น่ังไพศาลทักษิณทางแนวผนัง
ด้านเหนือ6 เมื่อประทับพระท่ีน่ังอัฐทิศแล้ว พราหมณ์เข้าประจ�ำทิศเพื่อถวายน�้ำศังข์ พระบรมวงศานุวงศ์
และข้าราชการซึ่งนับว่าเปนราชบัณฑิตกับพราหมณ์ น่ังหันหน้าหมอบเฝ้าทูลลอองธุลีพระบาทประจ�ำอยู่ตาม
ทิศเปนคู่ ๆ กัน
จึงพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหม่ืนวิวิธวรรณปรีชา ราชบัณฑิตประจ�ำทิศบูรพาประทับคู้พระชงฆ์
กราบบังคมทูลถวายน�้ำอภิเษกเปนมคธภาษาแล้วกล่าวแปลเปนสยามภาษาอีกเคารพหน่ึงดังน้ี –
ยคฺเฆ เทโว ชยํ วตฺตุ อนุชานาตุ โน อิธ
รชฺชาภิมงฺคลตฺถาย ปุนปิ อภิสิญฺจิโต
ปุรตฺถาภิมุโขทานิ นิสินฺโน ราชปิฐเก
ตนฺนิพทฺธา จ เย เทสา เย ปาณา ตนฺนิวาสิโน
คุตฺตํิ เตสํ ปสาเรนฺโต อาณํ วตฺเตตุ ราชกํ
1 ร่นื วชั โรทยั
2 เนียร สาคริก
3 ในต้นฉบับพมิ พ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ และ พ.ศ. ๒๕๒๘ หลังจากน้ีปรากฏขอ้ ความวา่
“อน่ึง ในมหาอุดมมงคลฤกษเมื่อเวลาสรงมุรธาภเิ ษกนน้ั เจ้าพนักงานได้ยกพระมหาเศวตฉตั รในพระทน่ี ั่งอมรินทรวินิจฉัย
พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน ๒ องค์ และท่ีพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระท่ีนั่งจักรีมหาปราสาท พระที่น่ังอนันตสมาคม และสมเด็จ
พระมาตจุ ฉาเจ้าได้ทรงลาดพระยี่ภู่ ณ ท่พี ระบรรธมในพระทีน่ งั่ จักรพรรดิพมิ านพรอ้ มกนั ดว้ ย”
4 ในต้นฉบับพิมพ์ พ.ศ. ๒๔๙๒ และ พ.ศ. ๒๕๒๘ หลังจากนี้ปรากฏข้อความว่า “ส�ำหรับพระบรมราชาภิเษกเต็มที่ตามสี
พิชัยสงคราม (วันพฤหัสบดีสีน้�ำเงิน) พร้อมเสร็จถึงพระฤกษ์”
5 ในตน้ ฉบบั พ.ศ. ๒๔๙๒ และ พ.ศ. ๒๕๒๘ ระบุว่า “สายสพายชา้ งเผือก”
6 ในต้นฉบับ พ.ศ. ๒๔๙๒ และ พ.ศ. ๒๕๒๘ ระบวุ ่า “ตั้งตน้ แถวอยู่ทางพระทนี่ ่ังภัทรบฐิ ”
344 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ภิยฺโย อิทฺธญฺจิมํ รฏฺ ภิยฺโย จ พุทฺธสาสนํ
ภิยฺโย ปชญฺจ ปาเลนฺโต อชฺฌาวสตุ เมทนํิ
จิรํ รชฺเช ปติฏฺาตุ สพฺพโรควิวชฺชิโต
สมิทฺธํิ ปาปุณนฺโตว ชีวตุ สรโทสตํ
ปุรตฺถาธิปตี ราชา ธตรฏฺโติ วิสฺสุโต
สรฏฺฐมณฺฑลํ เทวํ อภิปาเลตุ สาทรํ
ปุรตฺถิเม ทิสาภาเค เย เต อนตฺถกาการกา
สพฺเพ เต สตฺตโว สมฺมา เทโว ชยตุ เตชสาฯ
ค�ำแปล
ขอเดชะฝ่าลอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ขอเทวดา (ใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท) จงทรงพระบรม
ราชานุญาตให้ข้าพระพุทธเจ้ากล่าวถวายชัยมงคล ณ ท่ีน้ี พระองค์ทรงพระบรมราชาภิเษกใหม่ เพ่ือประโยชน์
แก่การมงคลย่ิงในราชสมบัติ เสด็จประทับบนพระราชบิฐ ผินพระพักตร์ฉเพาะทิศบูรพา ณ บัดนี้ ประเทศ
ทั้งหลายเหล่าใดซึ่งตั้งประจ�ำอยู่ทิศน้ันก็ดี สัตว์ทั้งหลายเหล่าใดท่ีอาศัยอยู่ในทิศน้ันก็ดี ขอพระองค์จงทรงแผ่
ความปกครองและยังพระราชอาณาให้เปนไปแก่ประเทศและสัตว์ท้ังหลายเหล่าน้ัน ขอพระองค์จงทรงรักษา
แว่นแคว้นน้ี กับท้ังพระพุทธศาสนาและประชาราษฎร์ ปกครองเมทนีดลให้ส�ำเร็จโดยภียโยภาพ ขอพระองค์
จงเสด็จสถิตย์อยู่ในราชสมบัติสิ้นกาลนาน ปราศจากสรรพโรคาพาธ ทรงบัลลุผลส�ำเร็จ มีพระชนมชีพยืนนาน
ตลอดร้อยสรทกาล (ปี) ขอพระราชาผู้เปนอธิบดีในบุรพทิศซ่ึงปรากฎพระนามว่า ธตรฐ จงอภิบาลรักษาเทวดา
(ใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท) พร้อมกับรัฐมณฑลโดยเอ้ือเฟื้อ ศัตรูท้ังหลายเหล่าใดผู้ใคร่กระท�ำอนัตถพินาศ
ในปุรัตถิมทิศาภาค (ทิศบูรพา) ขอเทวดา (ใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาท) จงทรงช�ำนะปวงอริราชศัตรูเหล่าน้ันด้วยดี
โดยพระบรมเดชานุภาพ.
แล้วถวายน้�ำ เสกด้วยคาถาดังน้ี
รตนตฺตยานุภาเวน อวสิตฺเตน วารินา
สิทฺธมตฺถุ สิทฺธมตฺถุ สิทฺธมตฺถุ ยถากถํ
ค�ำแปล
ด้วยพระรัตนัตยานุภาพและน้�ำมูรธาวสิต ขอจงเปนผลส�ำเร็จ จงเปนผลส�ำเร็จ จงเปนผลส�ำเร็จ
ตามค�ำท่ีข้าพระพุทธเจ้าถวายพระพร
ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 345
จึงมีพระราชด�ำรัสตอบว่าดังนี้ –
มงฺคลํ เม ภเณ วุตฺตํ ราชูนํ หทยงฺคมํ
วรํ เต สมฺปฏิจฺฉามิ ตถา โหตุ ยถา วโจ
ปุรตฺถายํ จ เย เทสา เย ปาณา ตนฺนิวาสิโน
คุตฺตํิ เตสํ ปสาเรนฺโต อาณํ วตฺเตมิ ราชกํ
ภิยฺโย อิทฺธญฺจิมํ รฏฺฐํ ภิยฺโย จ พุทฺธสาสนํ
ภิยฺโย ปชญฺจ ปาเลนฺโต อชฺฌาวสามิ เมทนํิ
ค�ำแปล
ดูกรพนาย ค�ำมงคลที่ถึงพระหทัยของพระราชาท้ังหลายท่ีเจ้ากล่าวแก่เรา เรารับพรของเจ้า ขอจงเปน
ดังวาจา ประเทศเหล่าใดท่ีตั้งอยู่ในทิศบูรพาก็ดี สัตว์ทั้งหลายเหล่าใดท่ีอาศัยอยู่ในทิศน้ันก็ดี เราจะปกแผ่
คุ้มครองและยังพระราชอ�ำนาจให้เปนไปแก่ประเทศและสัตว์เหล่านั้น เราจะรักษาปกครองแว่นแคว้นนี้
กับทั้งพระพุทธศาสนาและประชาราษฎร์ และเมทนีดลให้ส�ำเร็จผลโดยภียโยภาพ
พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหม่ืนวิวิธวรรณปรีชา รับพระบรมราชโองการว่า –
สาธุ เทว
ค�ำแปล
ดีแล้ว ขอเดชะ
ลำ� ดบั นพี้ ราหมณท์ ย่ี นื ประจำ� รวิ้ เปา่ ศงั ข์ จงึ พระราชครวู ามเทพมนุ ซี งึ่ ประจำ� ทศิ บรู พาถวายนำ�้ พระมหาศงั ข์
พระสิทธิไชยบดี เจ้ากรมพราหมณ์พฤฒิบาศถวายน�้ำพระครอบส�ำฤทธ์ิด้วย แล้วคลานเวียนตามไปถวาย
ทุกทิศ เมื่อทรงรับน้�ำแล้ว พราหมณ์เป่าศังข์ ผันพระองค์ไปโดยทักษิณาวัฏ ประทับราชอาศน์ทิศอาคเณย์
ราชบัณฑิตและพราหมณ์ประจ�ำทิศถวายน้�ำอภิเษก ทรงรับและปฏิบัติโดยนัยเดียวกันกับทิศบูรพาจนรอบ
พระท่ีนั่งอัฐทิศโดยล�ำดับตามรายช่ือต่อไปน้ี -
346 ประมวลเอกสารพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
ทิศ ราชบัณฑิต พราหมณ์
อาคเณย์ หลวงธรรมนิเทศทวยหาญ1 พระครูอัษฎาจารย์2
ทักษิณ พระยาวิจิตรธรรมปริวัตร3 พระครูสตานันทมุนี4
หรดี พระราชาภิรมย์5 หลวงเทพมุนี6
ปัศจิม พระยามหานามราช7 หลวงราชมุนี8
พายัพ พระญาณวิจิตร9 หลวงสุริยาเทเวศร10
อุดร เจ้าพระยายมราช11 พราหมณ์นาค โกมลเวทิน
อิสาณ พระยาปริยัติธรรมธาดา12 พราหมณ์ผล เศตะพราหมณ์
จงึ เสด็จผนั พระองคค์ ืนมาประจำ� ทศิ บูรพา พระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมหมน่ื ววิ ิธวรรณปรีชา กราบบังคมทลู
ถวายพระพรรวบยอดอีกคร้ังหน่ึงว่า –
ทิสา จตสฺโส วิทิสา จตสฺโส
อุทฺธํ อโธ ทส ทิสา อิมาโย
สพฺเพสุ ภาเคสุ มรุคฺคเณหิ
สมฺมาภิคุตฺโต ปรมินฺทภูโต
เขมี ปตีโต จ หตนฺตราโย
ทีฆายุกลฺยาณสมงฺคิภูโต
ราชิทฺธิเตเชน อโนปเมน
ธมฺเมน ปาเรตุ สิยามรฏฺํ
1 อยู่ อดุ มศิลป์
2 ปลอด สวสั ดิเวทนิ
3 ค�ำ พรหมกสกิ ร
4 แขก นาคเวทนิ
5 แจม่ บูรณะนนท์
6 เรือง รงั สิพราหมณกลุ
7 ม.ร.ว. จ�ำนง นพวงศ์
8 สวาสดิ รังสิพราหมณกลุ
9 สทิ ธิ โลจนานนท์
10 สด ศตเวทิน
11 ป้ัน สขุ ุม
12 แพ ตาละลกั ษมณ